เปิดตำนาน Porsche 911 คืนชีพ ในนิทรรศการ INSPIRED BY PASSION

เอาใจคนรักรถ ปลุกตำนานรถยนต์รุ่นดังอย่าง Porsche 911 คืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง งานนี้คนรักรถคลาสสิก และรักรถพอร์ช ตื่นตาตื่นใจกันแน่นอน

 “INSPIRED BY PASSION” (อินสไปร์ บาย แพชชั่น) นิทรรศการที่น่าดูที่สุดอีกงานหนึ่งในช่วงสุดสัปดาห์นี้ สำหรับใครว่างในช่วงวันหยุด ยิ่งถ้าเป็นคนรักรถ หรือรักการแต่งรถด้วยแล้ว พลาดไม่ได้เด็ดขาด เพราะทางเซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ ได้นำเอารถคลาสสิกเมื่อ 50 ปีที่แล้ว อย่าง Porsche รุ่น 911  ปี 1966 มาอวดโฉมจัดแสดงการปลุกรถยนต์คันนี้ให้มีชีวิตขึ้นอีกครั้ง

Porsche 911

โดยนิทรรศการINSPIRED BY PASSION” จะมีการจัดแสดง แบ่งเป็น 5 โซน ดังนี้

  • Beginnings Zone : เล่าถึงเรื่องราวตั้งแต่ค้นพบและจัดแสดงรถเก่า Porsche ก่อนนำมาบูรณะ กับ Porsche รุ่น1966 911 SWB ในสไตล์ Vintage เสมือนทุกท่านได้อยู่ในประสบการณ์จริง
  • Researching & developing Zone : แสดงการศึกษาหาข้อมูล วางแผน และร่างแบบ ก่อนบูรณะรถยนต์ โดยจำลองห้องทำงาน โชว์แบบร่าง ก่อนจะผลิตจริง
  • Pieces of the puzzle Zone: จัดแสดงการผลิตอะไหล่และชิ้นส่วนของรถยนต์ก่อนนำมาประกอบ ซึ่งต่อเนื่องมาจากโซนการวิเคราะห์และการร่างแบบ
  • Sum of the Parts Zone:จำลองเหตุการณ์ให้ทุกท่านเสมือนอยู่ในอู่รถยนต์ โดยจัดแสดงโครงสร้างของ Porsche รุ่น 1973 911 RS ก่อนตกแต่งพร้อมทั้งอุปกรณ์การบูรณะรถยนต์
  • Final Vision Realised Zone : จัดแสดงรถยนต์ Porsche รุ่น 1969 911E และรุ่น 1979 911 SC ที่ผ่านการบูรณะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการบูรณะเป็นสองแบบนั้นก็คือ แบบดั้งเดิม และ แบบ HOT ROD (กระบวนการบูรณะรถยนต์ในทุกมิติ ทั้งการเปลี่ยนแปลงให้ดูดีขึ้นกว่าแบบดั้งเดิม พร้อมเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ เพื่อเพิ่มแรงม้าของรถ เพื่อให้มีสมรรถนะมากขึ้น)มาให้ทุกท่านได้ชื่นชมความงดงามในแบบ 360 องศา

นิทรรศการ “INSPIRED BY PASSION” จะเปิดให้ชมและศึกษา โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ณ บริเวณชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ระหว่างวันที่ 14-26 มิ.ย. 2559 เวลา 10:00-22:00 น.

 

เรื่อง : sriploi

ภาพ : Central Embassy

 

เช็คอิน 5 บ้านพักตากอากาศสุดหรู แบบนี่ที่เมืองไทยก็มีนะ

เช็คอิน 5 บ้านพักตากอากาศสุดหรู แบบนี่ที่เมืองไทยก็มีนะ

เห็นข่าวกอซซิปของต่างประเทศที่เหล่าเซเลบริตี้ระดับโลกเขาแอบไปพักผ่อนตาม บ้านพักตากอากาศสุดหรู นึกแล้วก็น่าอิจฉามากๆ เพราะดูเป็นส่วนตัว อีกทั้งแต่ละแห่งเห็นวิวทะเลเต็มตาและธรรมชาติป่าเขากันแบบใกล้แค่เอื้อม

อีกหนึ่งความใฝ่ฝันของชีวิตนอกจากจะมีบ้านหลังแรกเป็นที่พักอาศัยเติมเต็มความอบอุ่นให้กับครอบครัวแล้ว บ้านพักตากอากาศก็นับว่าเป็นบ้านในฝันหลังที่สองของคนยุคนี้ จากการทำงานอย่างหนักหน่วงตลอดชีวิต พอถึงเวลาที่ต้องการพักผ่อน ถ้าได้นอนเอนกายสัมผัสกับธรรมชาติอย่าใกล้ชิดบนพื้นที่ส่วนตัวที่เพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบาย ก็นับว่าเป็นโบนัสก้อนโตแล้ว และบ้านพักตากอากาศทั้ง 5 แห่งนี้ จะเรียกว่าเป็นสวรรค์ที่มีอยู่จริงไม่ผิด อีกทั้งแต่ละแห่งก็อยู่ในประเทศไทย สามารถเดินทางไปได้สะดวกสบายด้วย

The Valley หมู่บ้านกลางหุบเขา

1
(ภาพ the Valley เขาใหญ่)

จากกรุงเทพเดินทางเพียง 2 ชั่วโมง สู่เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งโอโซนอันดับ 7 ของโลก อย่างเขาใหญ่ที่ The Valley คอนโดมิเนียมที่รายล้อมไปด้วยภูเขาสีเขียว เปรียบเสมือนหมู่บ้านกลางหุบเขา มีทั้งเกาะแก่ง ลำธารจากธรรมชาติ หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับสถาปัตยกรรมของตัวคอนโดได้อย่างกลมกลืน ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว สงบ ร่มรื่น และสะดวกสบาย

15_11 The Valley_005

บ้านพักตากอากาศสุดหรู

ภายในห้องพักถูกออกแบบให้ดูอบอุ่น สอดคล้องกับธรรมชาติที่อยู่ด้านนอก เน้นการตกแต่งด้วยงานไม้ ผสมผสานกับโทนสีขาวและเอิร์ธโทนเป็นหลัก พื้นที่ส่วนตัวภายในห้องพักถูกจัดสรรไว้อย่างลงตัว สามารถมองเห็นวิวภูเขาและสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอด

 

บ้านพักตากอากาศสุดหรู

บ้านพักตากอากาศสุดหรู

ในส่วนของพื้นที่ใช้สอยส่วนกลาง เน้นความโปรงโล่ง เปิดรับกับธรรมชาติให้มากที่สุดทั้งในส่วนของOutdoor และIndoor เพื่อให้การทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งการเล่นฟิตเนส,ว่ายน้ำ หรือแม้กระทั่งการรับลมเย็นๆจากสวนลอยฟ้า Sky Garden ก็สามารถเติมเต็มการพักผ่อนได้สมบูรณ์แบบ

Rain Cha am – Hua hin

บ้านพักตากอากาศสุดหรู

โครงการรีสอร์ทคอนโดมิเนียมเพียงไม่กี่ก้าวสู่ทะเล ที่ถูกออกแบบมาในสไตล์ TROPICAL RAIN FOREST เต็มไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ให้ร่มเงาทั่วบริเวณ ให้คุณรู้สึกสดชื่นเย็นสบาย พร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 4,700 ตารางเมตร ตอบโจทย์ทุกการพักผ่อนของทุก ๆ คนในครอบครัวได้อย่างเต็มที่ โดยห้องพักแบ่งเป็น 2 แบบคือ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และ2ห้องนอน 2 ห้องน้ำ

บ้านพักตากอากาศสุดหรู

บ้านพักตากอากาศสุดหรู

ทั้งนี้ห้องพักชั้นล่างออกแบบให้มีการเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำโดยตรง เพื่อให้การพักผ่อนเป็นไปอย่างส่วนตัว เสมือนว่ายน้ำอยู่ท่ามกลางความร่มรื่นของธรรมชาติ ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางให้ความรู้สึกเย็นสบายร่มรื่น เนื่องจากมีสวนสีเขียวรายล้อมรอบด้าน สอดรับกับกิจกรรมต่างๆ ของที่นี่ไม่ว่าจะเป็น ว่ายน้ำที่มีทั้งสระเด็กและผู้ใหญ่ จากุซซี่ และห้องออกกำลังกาย รวมถึงสำหรับผู้ที่ต้องการปาร์ตี้ที่นี่ก็มีสเปซกลางที่ให้บริการด้วยเช่นกัน

บ้านพักตากอากาศสุดหรู

บ้านพักตากอากาศสุดหรู

บ้านปลายหาด พัทยา

บ้านปลายหาด  พัทยา รีสอร์ทคอนโดมิเนียมที่ให้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน

โดยออกแบบในสไตล์โมเดิร์นรีสอร์ท ที่เกิดจากการสผสมผสานความทันสมัยของตัวอาคารให้กลายเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติรอบด้านได้อย่างโดดเด่นจนได้รับจนได้รับรางวัล TOP TEN Architects in Thailand 2013”, By BCI Asia Award มาแล้ว ในส่วนของการออกแบบแลนด์สเคปยังได้บริษัทฝีมือดีอย่าง T.R.O.P มาช่วยเนรมิตให้พื้นที่โดยรอบสวยงามไปตามแนวทางเดียวกับภาพรวมของที่นี่

 

บ้านพักตากอากาศสุดหรู

บ้านพักตากอากาศสุดหรู

ในทุกตารางนิ้วของบ้านปลายหาด พัทยา นอกจากจะได้ดื่มด่ำกับท้องทะเลอย่างใกล้ชิด อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นไฮไลท์ก็คือ การจัดสรรให้พื้นที่ส่วนกลางสามารถพักผ่อนได้อย่างไร้ขอบเขต ทั้งห้องฟิตเนสที่มีมุมมองแบบพาโนรามาเห็นวิวท้องฟ้าแบบรอบด้าน,สระว่ายน้ำที่ออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งกับสวนและต้นไม้ไว้อย่างกลมกลืน,พื้นที่จากุซซี่เชื่อมต่อชายหาดที่สวยที่สุดของพัทยา และ Infinity Sky Pool ซึ่งถูกเนรมิตให้ผืนน้ำเป็นหนึ่งเดียวกับแผ่นฟ้าเชื่อมโยงทุกความรู้สึกของการพักผ่อน

บ้านพักตากอากาศสุดหรู

นอกจากนี้ยังอำนวยความสะดวกให้กับผู้มาพักได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งหนุ่มสาว คนชรา ผู้พิการ และเด็ก เพราะได้มีการจัดเตรียมลิฟท์ และพื้นที่เชื่อมต่อกับหาดให้สามารถเดินทางได้อย่างสบายและปลอดภัย

บ้านพักตากอากาศสุดหรู

The Deck ป่าตอง ภูเก็ต

ลงใต้ไปที่ภูเก็ตกันบ้างที่ The Deck ป่าตอง ที่พักสำหรับคนที่ชื่นชอบการอาบผิวแทนแบบส่วนตัว เพราะทุกห้องพักออกแบบให้มีระเบียงพื้นที่กว้างขวาง สำหรับนอนพักผ่อนชิลๆ โดยไม่ต้องแคร์สายตาใคร ภายในถูกดีไซน์ให้ดูโปร่งโล่ง สบาย ไม่อึดอัด มีพื้นที่ใช้สอยครบถ้วน ทั้งห้องนอน ห้องน้ำ และห้องนั่งเล่น พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งเฟอร์นิเจอร์นิเจอร์ครบชุด และเครื่องใช้ไฟฟ้า

 

บ้านพักตากอากาศสุดหรู

บ้านพักตากอากาศสุดหรู

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางความพิเศษอยู่ที่โซนกลางแจ้งที่มีทั้ง พื้นที่พักผ่อน สระว่ายน้ำและส่วนอาบแดดลอยฟ้าที่ได้บรรยากาศจากธรรมชาติสุดๆ ส่วนห้องออกกำลังกายก็มีอุปกรณ์มากมายให้เลือกเล่นได้อย่างเพลิดเพลิน

บ้านพักตากอากาศสุดหรู

บ้านไม้ขาว ภูเก็ต

เงียบสงบและหรูหราจนยากที่จะลืมเลือนกับบรรยากาศสุดพิเศษแบบนี้ ที่บ้านไม้ขาว ภูเก็ต  ห้องพักที่สะท้อนแนวคิดการออกแบบให้เกิดกลิ่นอายของสายลม แสงแดด และหาดทรายของหาดไม้ขาว จ. ภูเก็ต  มีล็อบบี้แบบ Semi-Outdoor เปิดมุมมองที่สามารถทอดสายตาสู่หาดทรายความยาวถึง 70 เมตร โดยบอกเล่าถึงพันธุ์ไม้ท้องถิ่นเอกลักษณ์ของหาดไม้ขาวผ่านต้นเสม็ดขาวและหว้าหินให้ต่อเนื่องการกับออกแบบโครงสร้างสถาปัตยกรรมภายในและภายนอกในสไตล์ Heritage สุดหรูหรา ที่ผสมผสานศิลปะชิโนโปรตุกีส ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเมืองภูเก็ตได้อย่างเข้ากัน สอดแทรกด้วยการใช้สีสันและลวดลายจากธรรมชาติจากต้นไม้หลายสายพันธุ์มาช่วยสร้างบรรยากาศให้ร่มรื่นมากขึ้น

บ้านพักตากอากาศสุดหรู

สำหรับห้องพักได้แรงบันดาลใจมาจากความงามของทะเลอันดามัน และธรรมชาติของเกาะภูเก็ต โดยห้องแต่ละแบบเน้นความสวยงามหรูหรา คัดสรรแต่เฟอร์นิเจอร์ที่มีระดับมาตกแต่ง ส่วนพื้นที่ต่างๆ ก็สามารถใช้สอยได้ทุกตารางเมตร เช่น ห้องแบบGreen Apple 3 Bedrooms ห้องพักขนาดใหญ่ที่มาได้กันทั้งครอบครัว ภายในนำเอาบรรยากาศของธรรมชาติมาผสมผสานกับความคลาสสิกในการตกแต่ง จุดเด่นคือการใช้งานไม้ฉลุลาย และเฟอร์นิเจอร์หวายมาใช้ร่วมด้วย

บ้านพักตากอากาศสุดหรู

ห้องแบบ Duplex: Scan Glam ตกแต่งอย่างเรียบง่าย ใช้โทนสีพาสเทล อย่างสีฟ้าอ่อน ชมพู และเทาเป็นหลัก ผสมผสานกับสีไม้โอ๊คให้ดูเป็นธรรมชาติ และสบายตา

บ้านพักตากอากาศสุดหรู

ท้ายสุดที่ห้องพักแบบ White and Blue ตกแต่งด้วยโทนสีขาว และสี Navy Blue ที่ให้บรรยากาศของการเป็นบ้านพักริมทะเล ความพิถีพิถันของห้องนี้อยู่ที่การคัดสรรเฟอร์นิเจอร์ เลือกที่มีความโดดเด่นทั้งด้านดีไซน์และประโยชน์ใช้สอย ซึ่งความละเอียดในเรื่องการออกแบบของที่นี่ที่ใส่ใจในทุกจุดจึงทำให้ได้รับรางวัลรางวัลชนะเลิศเป็นครั้งที่ 2 ในสาขา Best Condo Development( Phuket) จาก Thailand Property Awards ปี 2014

ทั้ง สถานที่ก็ล้วนมีความสวยงามและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ไม่น่าเชื่อว่าที่เมืองไทยก็มีที่พักสวยๆ แบบนี้ให้ไปพักผ่อน อีกทั้งยังเดินทางง่าย ที่สำคัญได้สัมผัสกับธรรมชาติอันสมบูรณ์อย่างใกล้ชิด แต่ยังพร้อมไปด้วยความสะดวกสบาย ตอบโจทย์ให้กับคนยุคนี้ได้มากทีเดียว

 Life is meant to be designed. ชีวิต เกิดมาให้ออกแบบได้
แสนสิริออกแบบบ้าน สภาพแวดล้อม ทุกพื้นที่ เพื่อให้คุณสร้างชีวิต สร้างความสุข ตามที่คุณได้ออกแบบไว้

ขอบคุณภาพจาก : โครงการ the Valley เขาใหญ่ , Rain Cha am HuaHin , บ้านปลายหาด พัทยา , The Deck , บ้านไม้ขาว ภูเก็ต สนใจโทร 1685 หรือ www.sansiri.com

 

 

7 สัญญาณ รู้ไว้เตรียมตัด ‘ทอนซิล’ เหตุเป็นหวัด คออักเสบเรื้อรัง

เข้าหน้าฝนมาสักพักใหญ่แล้ว สาวๆ หลายคนอาจจะป่วย เป็นไข้หวัด ไอ จามกันถ้วนหน้า ยิ่งถ้าหากไอบ่อยๆ เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่หายเสียที ก็อาจส่งผลให้คออักเสบเรื้อรัง รวมถึงเกิดโรคสำคัญอย่าง ทอนซิลอักเสบ ได้ด้วย

ทอนซิลอักเสบ เกิดจากพวกเศษเชื้อโรค เศษหนอง ฝังตัวเข้าไปในเนื้อของทอนซิล ทำให้ตัวทอนซิลโตขึ้นและอ่อนแอลง ซึ่งจะทำให้ความสามารถในการต่อสู้กับเชื้อโรคลดลงด้วย ส่งผลให้อาการอักเสบเกิดบ่อยขึ้นไปอีก และเกิดการอุดกั้นทางเดินทายใจส่วนต้นได้ นอกจากนี้ ยังทำให้เรานอนกรน รวมถึงอ้าปากแล้วเกิดกลิ่นปากได้เช่นกัน

ทอนซิลอักเสบสาวๆ บางคนอาจจะมองว่า อาการเหล่านี้ดูไม่น่าห่วงเท่าไหร่ แต่ขอแนะไว้เลยว่า ถ้าเกิดอาการเหล่านี้แล้ว ควรพบแพทย์เพื่อพูดคุยเรื่องตัดทอนซิลออกเลย แต่ใช่ว่า อยู่ๆ ไปคุยจะได้ตัดเลยนะ เพราะเขาจะมี ‘7 สัญญาณ’ บอกให้รู้ก่อนว่า เราควรตัดทอนซิลออกแล้วหรือยัง ซึ่งสัญญาณเหล่านั้นมีตามนี้เลย

1. เป็นทอนซิลอักเสบบ่อยๆ มากกว่า 3 ครั้งต่อปี และทุกครั้งที่เป็นไข้ เป็นหนองบริเวณทอนซิล ควรจะให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัยอย่าเข้าใจเองว่าเจ็บคอแล้วต้องเป็นทอนซิลอักเสบ
2. เป็นทอนซิลอักเสบที่ทำให้เกิดอาการชักเวลามีไข้
3. เป็นฝีที่ช่องข้างทอนซิล
4. เป็นพาหะของโรคคอตีบ
5. ทอนซิลโตมากจนอุดกั้นทางเดินหายใจส่วนต้น
6. สงสัยว่าเป็นโรคมะเร็ง
7. มีโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้นบ่อย เช่นไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบบ่อยๆ ถ้าเกิดในเด็กอาจตัดต่อมอะดีนอยด์ร่วมด้วย

ทอนซิลอักเสบสำหรับคนที่เป็นโรคเลือด อย่าง โลหิตจาง เลือดหยุดยาก โรคมะเร็ง เกร็ดเลือดต่ำ โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือมีโรคประจำตัวร้ายแรงควบคุมไม่ได้อย่าง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคลมชัก คุณหมอจะไม่ผ่าตัดให้ และหลังผ่าตัดแล้ว อาจจะมีโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะเป็น เจ็บคอมากหลังผ่าตัด มีเลือดออกหลังผ่าตัด หรือติดเชื้อ แต่ถ้าเราอยู่ในความดูแลของคุณหมอ โอกาสก็เกิดขึ้นได้น้อย

และหมดกังวลได้ เมื่อผ่าตัดทอนซิลออกแล้ว ร่างกายเราจะยังแข็งแรง ไม่ป่วย แม้ว่าทอนซิลจะเป็นอวัยวะที่สร้างภูมิต้านทาน แต่ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราก็ยังมีทอนซิลอื่นๆ และต่อมน้ำเหลืองขนาดเล็ก มาคอยสร้างภูมิต้านทานทดแทนให้ได้

อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยมากช่วงนี้ สุขภาพเรา เราก็ต้องคอยดูแลกันมากๆ นะ

เรื่อง : Gingyawee_แพรวดอทคอม
ข้อมูล : นพ.ประเสริฐ สินธุรัตเวช อายุรแพทย์หู คอ จมูก โรงพยาบาลเวชธานี ลาดพร้าว 111
ภาพ : www.pinterest.com

เล่าเรื่องผ่านกล้อง “จำนงค์ ภิรมย์ภักดี” เปิดกรุของสะสมระดับตำนานที่หาชมได้ยาก

พาไปดูนิทรรศการกล้องไลก้า รวบรวมกล้องและอุปกรณ์ ไอเท็มหายากระดับตำนานของนักสะสมกิตติมศักดิ์ จำนงค์ ภิรมย์ภักดี

กล้องไลก้าถือเป็นแบรนด์กล้องระดับโลก ที่มีความเป็นมายาวนาน มีเรื่องราวที่น่าหลงใหล จดจำตลอดระยะเวลากว่าร้อยปีที่ผ่านมา ในปีนี้ เอ-ลิส ไพรเวท ในฐานะผู้ที่นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์ไลก้ารายล่าสุด ได้จัดแสดงกล้องไลก้ารุ่นพิเศษสุดเฮอริเทจครั้งใหญ่ขึ้น โดยมีกล้องและอุปกรณ์ไอเท็มหายาก มาให้ได้ชมกัน แต่ละตัวล้วนมีเรื่องราวความเป็นมาที่สำคัญที่นักสะสมกิตติมศักดิ์แต่ละท่าน เลือกเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำสุดพิเศษของตำนานไลก้า ไฮไลต์ของนิทรรศการนี้ที่พลาดชมไม่ได้ คือ กล้องถ่ายภาพไลก้ารุ่นพิเศษสุดลิมิเต็ดจากคอลเลคชั่นสะสมของคุณจำนงค์ ภิรมย์ภักดี

กล้องไลก้ากล้องไลก้ากล้อง Leica M6 รุ่นกาญจนาภิเษก ฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี (No.55/700)

กล้องรุ่นนี้ผลิตขึ้นในปี พ.ศ.2539 โดยกล้องของคุณจำนงค์นั้นเป็นเครื่องที่ 55 จากจำนวนทั้งหมด 700 ตัวเท่านั้น กล้องรุ่นกาญจนาภิเษกนั้น ถูกผลิตขึ้นเป็นพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ทั้งตัวกล้องและและเลนส์ Summicron 50mm f/2 ชุบด้วยทองคำ 24 กะรัตและหุ้มด้วยหนังสีแดงชั้นดี ราคาอยู่ที่เครื่องละ 10,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 354,000 บาทโดยเงินของผู้ซื้อจะถูกมอบให้กับทางมูลนิธิพัฒนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อนำเงินมาพัฒนาสิ่งแวดล้อมภายในกรุงเทพ มหานคร  ความพิเศษอยู่ที่รหัสระบุรุ่น HM-XXX ซึ่งมีเฉพาะรุ่นนี้เท่านั้นที่ถูกสลักรหัสเลขไว้ที่ช่องเสียบอุปกรณ์ด้านหนึ่ง และรหัสการผลิตแบบปกติอยู่อีกด้านหนึ่ง อีกทั้งยังมีรหัสรุ่น HM-XXX ที่ถูกพิมพ์ไว้ที่วงแหวนของเลนส์พร้อมกับหมายเลขประจำของเลนส์อีกด้วย (ตามปกติแล้วตัวเลขที่อยู่บนเลนส์ของกล้องไลก้าจะไม่ตรงกับเลขที่อยู่บนช่องเสียบอุปกรณ์) ทั้งนี้ตัวอักษร HM ข้างหน้าตัวเลขนั้นย่อมาจาก “His Majesty” เพื่อเป็นการสื่อถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นั่นเอง

กล้องไลก้าLeica M3 และเลนส์ Summicron 90 mm f/2 (กล้องที่คุณจำนงค์ ใช้พกพาสำหรับตามรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว)

กล้อง Leica M3 เป็นกล้องรุ่นต้นกำเนิดของกล้องไลก้า ซีรียส์ M ที่ผลิตขึ้นในปีพ.ศ. 2497 เป็นกล้อง rangefinder 35 มิลลิเมตรเครื่องแรกที่สามารถกะระยะโฟกัส (rangefinder) และช่องมองภาพ (viewfinder) ได้พร้อมกันและยังเปลี่ยน framelinesได้โดยอัตโนมัติอีกด้วยตัวกล้องถูกออกแบบให้มีวงแหวนตรงเม้าท์ของตัวกล้อง (screwmouth) ไว้สำหรับเปลี่ยนเลนส์ ส่วนระบบเลื่อนฟิล์มนั้นก็ถูกพัฒนาให้ใช้งานได้ง่ายและรวดเร็วด้วยคันโยกแบบหมุนในการกดชัตเตอร์(wind-on lever) โดยคุณจำนงค์จะนำกล้อง Leica M3 นี้ใช้คู่กับเลนส์ Summicron 90 f/2 พกพาตามรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเฉพาะ ซึ่งเลนส์นี้ถูกผลิตขึ้นสำเร็จในปี พ.ศ.2500 โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเลนส์ที่โด่งดังอย่าง ดร.วอลเตอร์ แมนด์เลอร์ (Dr.Walter Mandler) ณ ศูนย์วิจัยเลนส์ไลก้า,   รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา ซึ่งเลนส์ตัวนี้เป็นเลนส์รุ่นแรกที่ใช้กระจกเลนส์แลนทานัม ออกไซด์ (Lanthanum Oxide) ในการผลิต ซึ่งทำให้เป็นหนึ่งในเลนส์ที่มีคุณภาพเยี่ยมและเฉียบคมที่สุดในโลกก็ว่าได้

กล้องไลก้ากล้อง Leica M6 Colombo’92 500th Anniversary Special Limited Edition (รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 500ปี ของ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส)

ในปี พ.ศ. 2535 บริษัท Polyphoto S.P.A. ผู้แทนจำหน่ายแบรนด์ไลก้าในประเทศอิตาลีได้สั่งผลิตกล้อง Leica M6Colombo’92 จำนวน 200 ตัวเป็นกรณีพิเศษ เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 500 ปีที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus) นักสำรวจชาวอิตาลีเดินเรือรอบโลกจนค้นพบทวีปอเมริกาเป็นครั้งแรก โดยกล้องรุ่นนี้มาพร้อมกับเลนส์ที่เข้าเซ็ทกันอย่างเลนส์  Summicron-M 2/50mm “Columbo 92” ที่มีการสลักรหัสเลขเครื่อง 1-200 ตามจำนวนกล้องที่ผลิตในครั้งนี้ อีกทั้งยังมีการสลักทางด้านบนและด้านหลังของตัวกล้อง เป็นข้อความว่า “500 Columbo’92” และ “1492~1992 500′ SCOPERTA DELL ‘AMERICA, ITALIA” ไว้เป็นที่ระลึกความทรงจำอีกด้วย

กล้องไลก้ากล้อง Leica M (Typ 240) Edition “Leica 60” รุ่นฉลอง Leica M ครบรอบ 60 ปี (No. 9/600)

กล้องสุดพิเศษรุ่นนี้นั้นผลิตขึ้นในปี พ.ศ.2557 เพียงจำนวน 600 ตัวเท่านั้น และกล้องของคุณจำนงค์เป็นตัวที่ 9 ซึ่งนับเป็นลำดับต้นๆของการผลิตเลยทีเดียว กล้องรุ่นนี้ถูกผลิตขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปีที่แบรนด์ไลก้าเปิดตัวกล้องถ่ายภาพรุ่นแรกแห่งตระกูล M ซึ่งในช่วงงานเทศกาลถ่ายภาพระดับโลกโฟโตกินา (Photokina) ประจำปี พ.ศ. 2557 ณ เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนีนั้น ทางแบรนด์ได้ถือเป็นโอกาสพิเศษในการเปิดตัวกล้องถ่ายภาพรุ่นนี้ โดยนำเสนอความพิเศษเฉพาะตัวของรุ่นลิมิเต็ทอิดิชั่นนี้ ซึ่งก็คือพัฒนาการของทั้ง 4 ระบบหลักสำคัญของตัวเครื่องทั้งความสามารถปรับตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์(Shutter speed), รูรับแสง (Aperture), ระบบโฟกัส และระบบการควบคุมปริมาณแสงของกล้อง (ISO Sensitivity) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของภาพถ่ายให้เหนือระดับกว่าที่เคย  ตัวกล้องนั้นดีไซน์โดย Audi และใช้วัสดุที่ทำมาจาก สแตนเลสสตีลเพื่อความสวยงามสุดคลาสสิคและคงทนส่วนตัวเครื่องนั้นไม่มีจอภาพ เพื่อให้ผู้ใช้ได้ย้อนกลับไปสัมผัสถึงบรรยากาศเมื่อครั้งที่เปิดตัวกล้องซีรีส์ M ในยุคเริ่มต้น กล้องรุ่นนี้มาพร้อมกับเลนส์ Summilux-M 35mm f/1.4ASPH และเพื่อแสดงความลิมิเต็ทนี้ แต่ละเครื่องจะถูกสลักด้วยคำว่า ‘Leica 60’, ‘Leica Camera Wetzlar’ และสลักชุดรหัสตัวเลข  001/600  ถึง 600/600  เพื่อระบุหมายเลขที่ผลิตขึ้นในโอกาสพิเศษนี้ เซ็ทกล้อง Leica M ‘Edition 100’ รุ่นฉลองแบรนด์ไลก้าครบรอบ 100 ปี

เรื่อง : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : Leica Store Bangkok

 

BASIC T-SHIRT 16 ลุคเสื้อยืดขาว เทา ดำ เก๋ปังในวันฝนโปรย

BASIC T-SHIRT  16 ลุคเสื้อยืดขาว เทา ดำ เก๋ปังในวันฝนโปรย

อากาศไม่ปกติแบบนี้เดี๋ยวอบอ้าวเดี๋ยวชื้น ถ้าจะพาลให้จู่ๆ เกิดอาการเบื่อหน่ายเซ็งก็ไม่แปลก เอาเป็นว่าวันนี้ลิลี่จะมาชวนแต่งตัวกันง่ายๆ กับไอเท็ม BASIC T-SHIRT นี่แหล่ะ #เวิร์คสุด

เจ้าเสื้อยืดเบสิก สีเพลน สีเรียบ มีเสน่ห์เกินกว่าคาดเดา ยิ่งหยิบมาแมทช์กับยีนส์หรือกางเกงเท่านี้ก็ได้ลุคเท่ๆฟีลลิ่งแบบไม่ต้องพยายาม ว่าแล้วจะรอช้ากันทำไม… ไปดูไอเดียแต่ง 20 ลุค Wow Wow! กับเสื้อยืดขาว เทาดำ กันได้เลย

เนี๊ยบเกินไปก็น่าเบื่อ มาเก็บชายเสื้อในกางเกงแบบไม่ต้องจงใจแบบนี้ดีกว่า

BASIC T-SHIRT

แอ็กเซสซอรี่ส์เพิ่มเติมความปัง สร้อยแบบโชคเกอรมาแรงแถมยังให้อารมณ์ก่ากั๋นนิดๆ

BASIC T-SHIRT

ผูกม้วนชายเสื้อขึ้นโชว์หน้าท้องเฟิร์ม เหมาะกับสาวฟิตเนสตัวยง มีหุ่นดีต้องโชว์กันหน่อย

BASIC T-SHIRT

เสื้อยืดโอเวอร์ไซส์ ขนาดไม่พอดิบพอดีแบบนี้เป็นอีกหนึ่งเทคนิคสร้างความคูลให้การแต่งตัวได้นะ

BASIC T-SHIRT

ลุคทำงานในออฟฟิศที่ไม่สตริคเข้มงวดมาก หยิบมาจับคู่กับเบลเซอร์สีเรียบ ได้อีกลุคเก๋โปรๆ

BASIC T-SHIRT

เพิ่มความปังไปอีกเสต็ปด้วยเสื้อคลุมชิ้นเด่น ลิลี่ขอแนะนำเสื้อคลุมตัวยาว ดีไซน์เก๋ จะพิมพ์ลาย เนื้อผ้าลูกไม้สวยหรือมีงานห้อยชายพู่พลิ้วสไตล์โบฮีเมียน ไม่มีคำว่าธรรมดา

BASIC T-SHIRT

ประโคมลุคหวือหวาจัดเต็มมากเกินก็เลี่ยน เปลี่ยนมาโหมดเพลาๆ เบาๆ บ้าง ลี่ลี่ว่าดีนะ 

เรื่อง : lynlry_praewnista

Photo : Pinterest

 

ติดตามอัพเดตเรื่องราวต่างๆจากนิตยสารแพรวให้สนุกยิ่งขึ้นได้ที่

www.facebook.com/praewmagazine

Instagram : @praewmag

และติดตามอ่าน แพรว E-Magazine ได้แล้ววันนี้เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น

  • Praew E-magazine
  • NaiinPann
  • Ookbee

Tadashi Shoji ดีไซเนอร์เชื้อสายญี่ปุ่น เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า ขวัญใจคนดังระดับโลก

พูดคุยกับดีไซน์เนอร์เชื้อสายญี่ปุ่น Tadashi Shoji เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังที่รังสรรค์เสื้อผ้าขึ้นมาอย่างประณีตดุจงานศิลป์ชิ้นสำคัญ และนั่นก็คือสาเหตุที่ทำให้ชุดของแบรนด์นี้ครองใจดารา ดังคน และเซเลบริตี้ระดับโลกจำนวนมาก

เมื่อเราถาม Tadashi Shoji ว่าหากการออกแบบเดรสของเขาเปรียบเสมือนกับอาหารเมนูใด  เขากลับตอบมาโดยเปรียบเทียบการทำงานของเขากับการปรุงแต่งอาหารชั้นเลิศ ที่ไม่ใช่ว่าจะทำให้รสชาติออกมาอร่อยถูกปากเพียงอย่างเดียว แต่ต้องออกแบบการจัดวางให้ดูน่าสนใจ เหมือนกับการออกแบบเดรสของเขาที่มักจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้ได้เห็นอยู่เสมอ ใช่จะมีแค่เพียงการตัดเย็บที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น

ดีไซเนอร์ชั้นนำอย่าง Tadashi Shoji ไม่ได้มีความสามารถเพียงแค่การออกแบบเสื้อผ้าที่สวยงาม จากบทสัมภาษณ์ในครั้งนี้ ยังถือได้ว่าเขาคือผู้เป็นเลิศทางความคิดที่แยบยลอีกด้วย

เทคนิคใดที่คุณมักใช้ในการตัดเย็บ จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์?

เทคนิคในการตัดเย็บที่เป็นเอกลักษณ์ของเราคือ การใช้เส้นสายลวดลายเส้นตรงต่างๆ ซึ่งจะทำให้เกิดเทคนิคการพรางรูปร่างจนทำให้ดูมีทรวดทรงที่ดีขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างแบบไหนก็ตาม การตกแต่งช่วงคอเสื้อด้วยผ้าโปร่งบางจะช่วยให้ช่วงแขนดูเรียว ขณะเดียวกันก็เสริมลุคให้ดูเซ็กซี่ เทคนิคการตัดเย็บรูปทรงกากบาทช่วงกลางลำตัวจะช่วยทำให้คุณดูมีส่วนโค้งเว้า จึงเหมาะมากกับคนไม่ได้มีหุ่นทรงนาฬิกาทราย ผมมักจะใช้เทคนิคแบบนี้เพื่อส่งเสริมรูปร่างของผู้สวมใส่ ซึ่งนั่นจะทำให้เดรสชุดนั้นมีความสมบูรณ์แบบในตัวของมันเอง

อยากให้คุณช่วยแนะนำวิธีการเลือกเดรสสำหรับสวมใส่ในชีวิตประจำอย่างง่ายๆให้หน่อย?

กุญแจสำคัญในการเลือกเดรสสำหรับสวมใส่ในชีวิตประจำวันนั่นก็คือ คุณต้องเลือกเดรสที่ใช้ผ้าที่ทำโครงสร้างร่างกายของคุณดูดีขึ้น แต่ไม่จำเป็นต้องเข้ารูปหรือทำให้คุณรู้สึกอึดอัดจนเกินไป ควรจะเป็นเดรสที่มีความยืดหยุ่นสวมใส่สบาย ยกตัวอย่างเช่นเดรสผ้ายืดของเราที่สามารถสวมใส่ได้ในทุกๆวัน แต่ก็ไม่เรียบจนเกินไปด้วยรายละเอียดตกแต่งด้วยลูกไม้และลายปักสีฉูดฉาดสะดุดตา

Tadashi Shoji

หากเปรียบเทียบเดรสของคุณกับอาหาร ควรเป็นเมนูใด เพราะอะไร?

เป็นคำถามที่สนุกดีครับ… เชฟที่ดีไม่ได้มีหน้าที่เพียงแค่ปรุงแต่งอาหารให้มีรสชาติที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น หากต้องสร้างสรรค์ให้เมนูจานนั้นดูดีน่าทานอีกด้วย  พ่อครัวแม่ครัวส่วนมากมักจะเลือกทำเมนูที่ตนเองคิดไว้อย่างดีแล้ว จากนั้นก็เริ่มปรุงแต่งด้วยส่วนผสมต่างๆเข้าด้วยกัน ระหว่างนั้นหากชิมดูแล้วรสชาติยังไม่ดีเท่าไหร่นัก เชฟก็จะใส่เครื่องปรุงเพิ่มลงไปจนกว่าอาหารจะมีรสชาติที่ดี เช่นเดียวกันกับการออกแบบเสื้อผ้าที่เริ่มต้นจากจินตนาการ แล้วค่อยๆลงมือสร้างมันขึ้นมาในแบบที่ต้องการ แน่นอนว่าต้องมีการลองผิดลองถูกแต่จุดหมายก็เหมือนกับการปรุงอาหารนั่นแหละคือจะต้องได้ผลลัพธ์ที่พอดีลงตัวและดูน่าตื่นตาตื่นใจ

ในเวลาทำงาน มักมีสิ่งใดมาขัดจังหวะบ่อยๆ ซึ่งคุณก็ชอบเผลอใจไปกับสิ่งนั้นด้วย?

แน่นอนสิ่งนั้นก็คือไอแพดของผมเองนั่นเอง มันอยู่ข้างกายผมเสมอ ผมชอบที่จะสอดส่องดูนั่นดูนี่ในโลกโซเชียลมีเดีย แน่นอนว่าหลายๆคนมองว่าโลกโซเชียลเป็นสิ่งไร้สาระ แต่ผมกลับคิดว่ามันเป็นแหล่งต้นกำเนิดของแรงบันดาลใจที่สำคัญอีกทางหนึ่ง เพียงแค่คุณคลิกเข้าไปดูคุณก็จะพบกับมัน

คุณชื่นชอบ couturier คนใดเป็นพิเศษเพราะเหตุใด?

นักออกแบบเสื้อผ้าชั้นสูง ที่ผมชื่นชมคือ Madeleine Vionnet นักออกแบบเสื้อผ้าชั้นสูงชาวฝรั่งเศส ที่รู้จักกันในนาม “Queen of the bias cut” หรือ ราชินีแห่งการตัดเย็บแนวเฉียง Madeleine เป็นนักออกแบบเสื้อผ้าชั้นสูงคนแรกที่เข้าถึงการตัดเย็บเสื้อผ้าให้เข้ากับสรีระของผู้หญิงอย่างแท้จริง เทคนิคการจับเดรปและการขึ้นรูปทรงเสื้อผ้าของเธอเป็นแรงบันดาลใจให้กับวิธีการออกแบบเสื้อผ้าของผม

หากวันนี้คุณไม่ได้ออกแบบเดรสอย่างที่คุณทำอยู่ อาชีพใดที่คุณคิดว่าเหมาะกับตัวคุณ และเพราะอะไร?

คงจะต้องย้อนกลับไปในสมัยที่ผมยังเด็ก ซึ่งผมชอบวาดรูปมากที่สุดจนถึงตอนนี้ก็ยังลงมือสเกตแบบทุกชิ้นด้วยตัวเอง ดังนั้นหากผมไม่ได้เป็นแฟชั่นดีไซเนอร์อย่างทุกวันนี้ ก็คงจะประกอบอาชีพเป็นศิลปิน

หากวันหนึ่งมีลูกค้าซึ่งเป็นสุภาพบุรุษมาขอให้คุณออกแบบเดรส คุณคิดว่าเดรสตัวนั้นจะออกมาเป็นอย่างไร?

มันก็แล้วแต่โอกาสที่จะนำไปใช้ว่าจะเป็นเดรสแบบเป็นทางการหรือแบบทั่วไปที่ใส่ได้ทุกวัน ตามหลักการผมจะออกแบบเดรสที่ช่วยเน้นความงามของผู้สวมใส่ให้เด่นชัด โดยจะอวดให้เห็นเนื้อหนังบางส่วน ผ่าเป็นทางยาวด้านหน้ ที่สำคัญมันต้องเป็นเดรสที่สวมใส่สบาย  เหมือนกับที่ผมออกแบบเดรส Charlie Gown จากคอลเลคชั่น Fall 2016  แต่ถ้าเป็นเดรสสำหรับโอกาสโรแมนติกหน่อย ก็คงจะเป็นค็อกเทลเดรสปักลายดอกไม้ทั้งตัว เหมือนกับชุด Shunkoo Dress สีม่วงน้ำเงิน เดรสเหล่านี้น่าจะเป็นตัวเลือกที่ง่ายที่สุด

Tadashi Shoji
Photographed in his Los Angeles design studio.

คนดังคนใดที่คุณร่วมงานด้วยแล้วจำไม่เคยลืม และเพราะเหตุใด?

หนึ่งในคนดังที่เป็นคนโปรดของผมคือ Octavia Spencer ผมประทับใจในตัวเธอจากที่เราก็รู้จักกันมาสักพัก  รวมถึง  Janelle Monáe ที่ผมตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ร่วมงานกับเธอ เราเคยร่วมงานกันในงาน CFDA Awards ในปี 2015 ซึ่งเป็นครั้งแรกสำหรับผม และบุคคลที่ผมไม่อาจลืมได้เลยก็คือ Michelle Obama สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐอเมริกา เธอคือไฮไลท์สำคัญของผมในปีนี้

สถานที่ใดที่คุณมักจะไปพักผ่อนอยู่เป็นประจำ?

ผมชอบประเทศฟิลิปปินส์ หนึ่งในที่โปรดของผมคือ เกาะเอล นิโด ในหมู่เกาะปาลาวัน ที่เกาะเอล ดิโนนั้นมีสถานที่ทางธรรมชาติที่สวยงามมากมายมีหน้าผาหินอ่อนที่งดงาม มีทะเลสาบและหาดทรายขาว อีกที่นึงที่น่าสนใจในฟิลิปปินส์ที่ต้องไปคือ The Farm at San Benito ในเมือง Batangas  เป็นโยคะรีสอร์ทสุดหรูที่ทำให้ผมผ่อนคลายได้มากเลยทีเดียว

และคำถามสุดท้าย คุณคิดว่าเครื่องประดับมีความจำเป็นในการสวมใส่เดรสหรือไม่?

หากเดรสนั้นค่อนข้างเรียบสิ่งจำเป็นที่จะช่วยทำให้คุณดูน่าสนใจมากขึ้นก็คือเครื่องประดับ ทำไมเราไม่เพิ่มความมีระดับและสร้างลุคให้ดูสนุกสนานขึ้นด้วยการนำสร้อยคอหรือกำไลมาช่วยล่ะ จริงๆแล้วเครื่องประดับยังเป็นตัวสะท้อนบุคลิกและตัวตนของคุณได้อีกด้วย

จากความเข้าใจ ใส่ใจ ในรายละเอียดของ Tadashi Shoji ในการทำงานของเขา ตั้งแต่ต้นทางคือการคิดจินตนาการ ทำให้เขาได้ทำในสิ่งที่ตนเองรักออกมาได้อย่างสง่างาม จริงๆแล้วเขาก็เป็นศิลปินคุณภาพคับแก้วคนหนึ่งที่ถ่ายทอดผลงานศิลป์ออกมาเป็นเสื้อผ้าอาภรณ์อันวิจิตร ความสำเร็จทุกสิ่งทุกอย่างมันเริ่มต้นจากการที่เขาค้นพบตนเองและรู้สึกถึงความต้องการของเขาเอง แล้วคุณล่ะรู้จักตนเองดีแล้วหรือยัง

เรื่อง : Mark Chaiman

เปิดโผ 7 โรงเรียน ‘เจ้าชายจอร์จ’ อาจเสด็จเข้ารับการศึกษา ในระดับชั้นอนุบาล

เจ้าชายจอร์จ องค์รัชทายาทพระองค์น้อย ลำดับที่ 3 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ขณะนี้พระชันษา 2 ปีกว่าแล้ว และทรงเจริญวัยในทุกเมื่อเชื่อวัน

ด้านพระบิดา เจ้าชายวิลเลียม และพระมารดา เจ้าหญิงแคเธอรีน จึงทรงเริ่มหาโรงเรียนให้พระโอรสในการเสด็จเข้ารับการศึกษา ในระดับชั้นอนุบาล โดยคาดว่าเจ้าชายจอร์จ จะทรงขึ้นชั้นอนุบาลราวเดือนกันยายน 2017 เมื่อพระชันษาครบ 4 ปีเต็ม

ปัจจุบัน เจ้าชายจอร์จ ทรงศึกษาระดับเตรียมอนุบาล ณ โรงเรียนเตรียมอนุบาลเวสต์เอเคอร์ มอนเตสซอรี่ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับพระตำหนักอานเมอร์ฮอลล์ ในมณฑลนอร์ฟอล์ก ที่ประทับของครอบครัวดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ โรงเรียนดังกล่าว ยึดหลักสูตรการเรียนการสอนแบบ มอนเตสซอรี่ (Montessori) เน้นให้เด็กเจริญเติบโตตามธรรมชาติ ตามพัฒนาการ ไม่มุ่งการยัดเยียดวิชาการ โดยเจ้าชายจอร์จ ทรงได้รับคำชื่นชมว่าเป็นนักเรียน “ยอดเยี่ยม” ทรงมีความเฉลียวฉลาด และมีพัฒนาการที่ดี สามารถพูดและสื่อสารได้เป็นเรื่องราวยาว ๆ เมื่อเทียบกับเด็กในวัยเดียวกัน

เจ้าชายจอร์จ
Photo : Getty Image

ทั้งนี้ ในฐานะพ่อแม่ ทุกคนย่อมล้วนต้องการให้บุตรหลาน ได้รับการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี รวมทั้ง ดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ด้วยเช่นกัน ซึ่งสำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ทั้งสองพระองค์ ทรงเริ่มวางแผนและมองหาโรงเรียนอนุบาลให้กับเจ้าชายจอร์จบ้างแล้ว และมีความเป็นไปได้ว่าครอบครัวดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ อาจเสด็จย้ายกลับไปประทับยังพระราชวังเคนซิงตัน เพื่อให้เจ้าชายจอร์จ ทรงเข้ารับการศึกษายังโรงเรียนอนุบาล ในกรุงลอนดอน ส่วนอีกรูปแบบคือ ทรงประทับอยู่ที่พระตำหนักอานเมอร์ฮอลล์ มณฑลนอร์ฟอล์ก เช่นเดิม และทรงเลือกโรงเรียนใกล้บ้าน

ด้าน ซูซาน แฮมลิน ผู้เชี่ยวชาญ และผู้อำนวยการ The Good Schools Guide บริษัทที่ปรึกษาด้านการศึกษาต่อ และการเลือกสถาบันการศึกษา ที่ได้รับความไว้วางใจอันดับ 1 ของอังกฤษ เผยว่า “ไม่ว่าผลการตัดสินใจจะเป็นในรูปแบบใดก็ตาม ก็ยังมีโรงเรียนดี ๆ สำหรับเจ้าชายจอร์จเสมอ และทั้งสองพระองค์ อาจทรงพินิจพิจารณาถึงการเลือกโรงเรียนเผื่อสำหรับเจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ด้วย”

เจ้าชายจอร์จ
Photo : Getty Image

หากลองย้อนกลับไปดูประวัติทางการศึกษา เจ้าชายวิลเลียม ทรงเริ่มเสด็จเข้ารับการศึกษา ที่โรงเรียน Wetherby School ในกรุงลอนดอน ต่อด้วยโรงเรียน Ludgrove School ในเบิร์กเชอร์ และ Eventually Eton College ส่วนเจ้าหญิงแคเธรีน ทรงเริ่มชั้นเรียนเมื่อพระที่โรงเรียนของโบสถ์ใกล้บ้าน St Andrew’ ในเบิร์กเชอร์ และ Marlborough College Eventually

ขณะที่เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ของอังกฤษ Dailymail ได้ลองวิเคราะห์ 7 สถาบันการศึกษา ที่มีความเป็นไปได้ว่า เจ้าชายจอร์จ อาจทรงเข้ารับการศึกษา โดยจะมีโรงเรียนอะไร ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ระยะทางไกลจากที่ประทับแค่ไหน ลองมาดูกัน

1. WETHERBY SCHOOL
ระยะทาง: ห่างจากพระราชวังเคนซิงตัน ราว 0.7 ไมล์
ค่าเทอม: 6,540 ปอนด์ (ประมาณ 327,000 บาท)

เจ้าชายจอร์จ
Photo : http://flashbak.com/notting-hill-london-1950-2000-murder-race-riots-and-slumming-it-with-the-super-rich-23280/

โรงเรียนแห่งนี้ เป็นโรงเรียนเก่าของเจ้าชายวิลเลียม และเจ้าชายแฮร์รี่ สามารถเดินด้วยเท้าจากพระราชวังเคนซิงตันได้ โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที บรรยากาศของโรงเรียนจัดว่าดี ตั้งอยู่ตรงข้ามกับสวนสาธารณะสีเขียว Pembridge Square Gardens มีนักเรียนประมาณ 250 คน เป็นโรงเรียนชายล้วน เด็กนักเรียนส่วนใหญ่เมื่อสำเร็จการศึกษาจากที่นี่แล้ว จะเข้าศึกษาต่อที่ Eton, St Paul’s หรือ Westminster สำหรับคนดังที่เคยเรียนที่นี่ ยกตัวอย่างเช่น Hugh Grant, Andrew Lloyd Webber และ Julian Fellowes

2. BEESTON HALL
ระยะทาง: ห่างจากพระตำหนักอานเมอร์ฮอลล์ มณฑลนอร์ฟอล์ก ราว 33 ไมล์
ค่าเทอม: 5,535 ปอนด์ (ประมาณ 277,000 บาท)

เจ้าชายจอร์จ

โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนเอกชน ที่ถูกจับตาว่าอาจเป็นโรงเรียนแรกของเจ้าชายจอร์จ ในระดับชั้นอนุบาล แต่ใช้เวลาในการเดินทางด้วยรถประมาณ 1 ชั่วโมง จึงอาจดูไกลไปสักนิด แต่ที่น่าสนใจคือรูปแบบการเรียนการสอน ที่เน้นกิจกรรมกลางแจ้งเป็นสำคัญ มีตั้งแต่เรือใบ ดนตรี ศิลปะ ยันทำสวน จำนวนนักเรียน ประมาณ 120 คน

3. SCHOOL HOUSE GARDEN
ระยะทาง: ห่างจากกระราชวังเคนซิงตัน ราว 2.5 ไมล์
ค่าเทอม: 7,000 (ประมาณ 350,000 บาท)

เจ้าชายจอร์จ
Photo : http://www.gardenhouseschool.co.uk/garden/
เจ้าชายจอร์จ
Photo : http://www.gardenhouseschool.co.uk/garden/

โรงเรียนแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากกระราชวังเคนซิงตันเท่าใดนัก เป็นอีกหนึ่งโรงเรียนที่บรรดาผู้มียศฐาบรรดาศักดิ์มาร่ำเรียนกัน ยกตัวอย่างเช่น Lady Helen Windsor, Roman Abramovich, Tamara Ecclestone สำหรับคลาสเรียนนั้น มีการแบ่งแยกนักเรียนชายหญิงอย่างชัดเจน

4. Downham PREPARATORY SCHOOL
ระยะทาง: ห่างจากพระตำหนักอานเมอร์ฮอลล์ มณฑลนอร์ฟอล์ก ราว 19 ไมล์
ค่าเทอม: 1,962 ปอนด์ (ประมาณ 98,000 บาท)

เจ้าชายจอร์จ
Photo : http://www.downhamprep.co.uk/index.php/gallery
เจ้าชายจอร์จ
Photo : http://www.downhamprep.co.uk/index.php/gallery

โรงเรียนแห่งนี้ สอนด้วยระบบมอนเตสซอรี่ ระบบเดียวกับโรงเรียนเตรียมอนุบาล ที่เจ้าชายจอร์จทรงเข้ารับการศึกษาอยู่ขณะนี้ อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีในการต่อยอดรูปแบบการศึกษา นอกจากนี้ ระยะทางจากพระตำหนักมายังโรงเรียน ถือว่ากลาง ๆ ไม่ไกลมากนัก

5. ST MARY ABBOTS PRIMARY SCHOOL
ระยะทาง: ห่างจากพระราชวังเคนซิงตัน ราว 0.5 ไมล์
ค่าเทอม: ไม่ระบุ

เจ้าชายจอร์จ
Photo : http://www.sma.rbkc.sch.uk/

เจ้าชายวิลเลียม และเจ้าหญิงแคเธอรีน ถือเป็นคู่รักราชวงศ์สมัยใหม่ หากทั้งสองพระองค์ทรงไม่เลือกส่งพระโอรส เข้ารับการศึกษาในโรงเรียนดั้งเดิมที่มีชื่อเสียงมายาวนาน โรงเรียนแห่งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่นาสนใจ ระยะทางก็แสนจะใกล้พระราชวังเคนซิงตัน แถมนายกรัฐมนตรีอังกฤษและภริยา ก็เคยส่งลูกมาเล่าเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้เช่นกัน และเมื่อปี 2014 ที่ผ่านมา โรงเรียนก็ได้รับการประเมินให้อยู่ในเกณฑ์ “ดี”

6. SANDRINGHAM AND WEST NEWTON PRIMARY SCHOOL
ระยะทาง: ห่างจากพระตำหนักอานเมอร์ฮอลล์ มณฑลนอร์ฟอล์ก ราว 3 ไมล์
ค่าเทอม: ไม่ระบุ

เจ้าชายจอร์จ
Photo : http://www.sandringhamandwestnewtonprimary.com/classes/years-1-and-2/

หากเจ้าชายวิลเลียม และพระชายา ทรงเลือกโรงเรียนรัฐบาลให้กับเจ้าชายจอร์จ โรงเรียนแห่งนี้เป็นอีกแห่งที่อาจมีความเป็นไปได้ เพราะตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ภายในพื้นที่พระตำหนักซานดริงแฮม ของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบ็ธ ที่ 2 ด้วยความสงบของโรงเรียนแห่งนี้ เชื่อว่าจะเป็นโอกาสอันดี ที่เจ้าชายจอร์จ จะได้ทรงเดินสำรวจพื้นที่ในละแวกใกล้ ๆ พระตำหนัก นอกจากนี้ คลาสเรียนยังเป็นคลาสเล็ก ๆ มีจำนวนนักเรียนไม่มากนัก และเมื่อปี 2014 โรงเรียนนี้ ก็ได้รับการประเมินให้อยู่ในเกณฑ์ “ดี” เช่นกัน

7. Flitcham PRIMARY SCHOOL
ระยะทาง: ห่างจากพระตำหนักอานเมอร์ฮอลล์ มณฑลนอร์ฟอล์ก ราว 2.5 ไมล์
ค่าเทอม: ไม่ระบุ

เจ้าชายจอร์จ
Photo : http://flitcham.dneat.org/

โรงเรียนแห่งนี้ เป็นโรงเรียนเล็ก ๆ มีนักเรียนเพียง 55 ราย บรรยากาศของโรงเรียน จึงมีความอบอุ่นเป็นกันเอง และดำเนินการโดยยึดหลักคำขวัญประจำโรงเรียน ที่ว่า “Live Together, Learn Together, Play Together” หรือ “อยู่ด้วยกัน เรียนด้วยกัน เล่นด้วยกัน” อีกประการที่สำคัญคือ ตั้งอยู่ใกล้พระตำหนักมาก ๆ และเมื่อปี 2012 โรงเรียนได้รับการประเมินให้อยู่ในเกณฑ์ “ยอดเยี่ยมมีความโดดเด่น”

เรื่อง : Ladyfern

Source: www.dailymail.co.uk
https://translate.google.com/translate?sl=es&tl=en&js=y&prev=_t&hl=en&ie=UTF-8&u=www.dailymail.co.uk%2Ffemail%2Farticle-3596427%2FInside-prestigious-schools-offer-Prince-George-eye-watering-term-fees.html&edit-text=&act=url

รีวิวลิปสติกสีสวย / แปลก / แซ่บสะเทือนใจ…ทาอย่างไรไม่ให้แป้ก +แจก!!! เมคอัพชิ้นเริ่ดจาก NARS รวมมูลค่า 4,700 บาท

 

รีวิวลิปสติกสีสวย / แปลก / แซ่บสะเทือนใจ…ทาอย่างไรไม่ให้แป้ก +แจก!!! เมคอัพชิ้นเริ่ดจาก NARS มูลค่า 4,700 บาท

ผลจากการเป็นนังแจ๋ว เคลียร์สต๊อกเครื่องสำอางที่มีอยู่ไม่มากเท่าไหร่ แค่ถ้ามันถล่มลงมา พัดชาก็เตรียมจองวัดพร้อมรับตำแหน่ง ‘บิวตี้เอดิเตอร์คนแรกที่ตายในหน้าที่’ ทำให้พี่เจอลิปสติกสีแปลกที่เก็บเอาไว้แต่ไม่ค่อยได้ทา ด้วยเพราะกลัวผู้หลักผู้ใหญ่จะสะเทือนใจอยู่มากมาย

วันนี้เลยจะเปิดกรุรีวิวเจ้าลิปสติกสีแปลกเหล่านี้ให้ดูกัน ถ้าใจถึงจริงลองออกจากคอมฟอร์ดโซนมาลองทาสีแปลกๆ กันบ้างก็สนุกดีนะเออ ยิ่งใครอยู่ในอารมณ์อกหักรักคุดหงุดหงิดรอบเดือนไม่มา สีพวกนี้แหละช่วยบิ้วท์อัพได้ดีนัก

ท้ายบล็อกงานแจกของก็ยังอยู่เช่นเคย วันนี้เป็นเมคอัพ 4 ชิ้นออกใหม่ๆ เปียกๆ จาก ‘NARS’ มีบลัชออนสี ‘ORGASM’ ในตำนานแบบไซส์ใหญ่บึ้มด้วยนะเธอว์ ใครได้ไปถือว่างานนี้ก็ ‘Double Orgasm’ ว้ายยย…ทะลึ่ง

รีวิวลิปสติกสีสวย

รีวิวลิปสติกสีสวย

NARS: DO NOT DISTURB แดงจนไม่กล้ารบกวน

ค่ะคุณพี่ขา…ดูชื่อพร้อมกับดูสีแล้วใครจะกล้าไปกวนคุณพี่ โดยปกติพัดชาก็เหมือนกับสาวหลายๆ คนที่ติดอยู่กับสีนู้ดๆ เบาๆ ไม่ค่อยเจอสีแดงที่รู้สึกว่าใช่บ่อยนัก

แต่พอได้มาลองลิปจิ้มจุ่มจาก ‘Summer Collection’ ชิ้นนี้แล้วถึงกับตบเข่าฉาด ด้วยคุณภาพเม็ดสีอัดแน่นแดงสดที่สาแก่ใจ แต่กลับทาง่ายไม่มีสะดุดเพราะเป็นเนื้อลิควิดมีความชุ่มชื่น แถมอุปกรณ์การทายังช่วยให้ควบคุมเส้นง่าย ทำให้การทาสีแดงสดให้เส้นคมกริบไม่ยากอย่างที่คิด แถมยังเป็นสีที่ช่วยขับให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ลองแล้วเลิฟเลย

รีวิวลิปสติกสีสวย

รีวิวลิปสติกสีสวย

NYX: MALS 10 ลิปสติกสีเทา (เอาจริงดิ)

อันนี้ไม่ติสท์ไม่เซอร์หรือไม่เมาจริงไม่แนะนำให้ลอง เป็นสีที่ต้องใช้ความใจถึงเป็นอย่างมาก ใครจะลองทาแนะนำว่าให้แต่งตัวเต็มและแต่งตาแน่น เพื่อให้ดูเป็นแฟชั่นจัดๆ หลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดของคุณป้าข้างๆ ว่า ‘หนูจะเป็นลมเหรอลูก’ ยอมรับว่าเป็นสีที่ทายาก แต่สำหรับการถ่ายรูปหรือปาร์ตี้จัดว่าปัง! ฟันธง

รีวิวลิปสติกสีสวย

รีวิวลิปสติกสีสวย

KAT VON D /L.U.V ไม่ม่วงวันนี้จะไปม่วงวันไหน

เป็นแบรนด์น้องใหม่ในบ้านเรา เพิ่งเข้ามาอยู่ในชายคาบ้าน ‘SEPHORA’ ที่อเมริกาฮิตกันมาพักใหญ่ด้วยสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร ‘KAT VON D’ มีเจ้าของแบรนด์เป็น ‘Tattoo Designer’ สไตล์สีสันเลยจะออกแนวพั๊งค์ๆ แรงๆ คือจินตนาการถึง ‘ETUDE HOUSE’ แล้วทำทุกอย่างให้ตรงกันข้าม นั่นแหล่ะใช่เลย

สี L.U.V นี้เหมือนจะแรงมาก แต่พอลองทาจริงๆ ก็เข้ากับสีผิวได้ง่าย ที่สำคัญสีติดทนนานลี๊ม ใครอยากไปปาร์ตี้ลุคแซ่บๆ แวะไปสอยได้ที่ ‘SEPHORA’ จ้า

รีวิวลิปสติกสีสวย

รีวิวลิปสติกสีสวย

BOBBI BROWN/ATOMIC ORANGE ส้มแซ่บแบบไฮโซ

‘ATOMIC ORANGE’ เป็นสีที่เหนือความคาดหมายสำหรับพัดชา เพราะมองในแท่งคิดว่าทาออกมาแล้วต้องดูแซ่บแรงแบบก๋ากั่นแก่นเซี้ยว แต่พอทาจริงๆ กลับให้ความรู้สึกหรูหราดูแพงซะงั้น

ความดีงามของสีส้มเบอร์นี้คือมีความอมสีเหลืองอยู่ในที ทำให้เข้ากับสีผิวแบบสาวเอเชียได้ง่าย ช่วยส่งให้ดูผ่องขึ้นได้อีก ใครไม่อยากหมองต้องโดน!

รีวิวลิปสติกสีสวย

รีวิวลิปสติกสีสวย

ESTEE LAUDER/NEON AZALEA แสบตาไหมเธอ

เมื่อเอ่ยถึงลิปสติกของ ‘ESTEE LAUDER’ ภาพในหัวก็จะจินตนาการถึงสีที่ดูเรียบหรูหราคลาสสิก แต่พอเปิดแท่งนี้เท่านั้น โอเคเลย! ‘ESTEE’ ไอจะมองยูใหม่ มันคือสีชมพูนีออน ย้ำว่านีออนจริงๆ พี่คิดว่าเดินข้ามถนนตอนกลางคืนรถคงไม่ชนพี่

เรื่องพิกเม้นท์ของสีนั้นดีงาม ทาปุ๊บเรียบกริบให้สีคมชัดสบายปาก ใครอยากได้สี ‘FUN FUN’  ที่ทาแล้วดูเด็กลง เป็นสาวป๊อปจ๋าก๋ากั่น สีนี้ก็น่าลอง

รีวิวลิปสติกสีสวย

รีวิวลิปสติกสีสวย

LIME CRIME/COSMOPOP การทาสีส้มนั้นต้องใจถึง

แบรนด์เจ้าแม่ลิปสติกสีประหลาด ‘LIME CRIME’ นางมีสีแปลกทุกสีที่มีในโลก ไม่เชื่อถาม ‘มาดามมด’ ดูได้ นางเป็น ‘Big Fan’ ตัวจริง

แม้แต่สีส้มของ ‘LIME CRIME’ ก็ไม่เหมือนชาวบ้าน ‘COSMOPOP’ เป็นสีเหลืองส้มแบบมีความนวลของสีพาสเทลผสมอยู่ ดูไปก็คล้ายสีชานม

สีนี้พูดเลยว่าไม่เหมาะกับสาวผิวเข้ม เพราะจะทำให้ปากยิ่งกระเด้งขาวเว่อร์ออกมาอย่างประหลาด

ข้อดีคือสีแน่นเว่อร์สามารถปกปิดสีปากจริงได้มิดชิด แต่ติดตรงที่ควรสครับริมฝีปากให้ดีงามมาก่อน เนื่องจากแบรนด์นี้เนื้อเขาค่อนข้างหนาและแห้ง สาวอดอยาก(ปากแห้ง) อย่างเราจะลำบากนิดนึง

รีวิวลิปสติกสีสวย

รีวิวลิปสติกสีสวย

ILLAMASQUA/ LUSTER ให้มันเป็นสีชมพู!

สีนี้แจ่มจริงสาวบาร์บี้เกิร์ลต้องลอง เมื่อเทียบกับ ESTEE LAUDER  สี NEON AZALEA ข้างบน สีนี้จะออกม่วงกว่าและไม่สะท้อนแสงเท่า พูดง่ายๆ คือใช้ในชีวิตจริงได้ง่ายกว่านิดหน่อย

เนื้อลิปสติกมีความแห้งเล็กน้อย ก่อนทาจึงต้องอย่าลืมลิปบาล์มนะจ๊ะ

รีวิวลิปสติกสีสวย

รีวิวลิปสติกสีสวย

MAC /PERVETTE ซีด…ได้ใจ

เป็นสีที่ดูเผินๆ ในรูปเหมือนจะไม่แปลก แต่เอาเข้าจริงก็แปลกเอาเรื่องอยู่นะ ‘PERVETTE’ เป็นสีม่วงอมชมพูซีดที่มีประกายไข่มุก(ซึ่งเมื่อกระทบแสงแล้วจะยิ่งซีดได้อีก) ทาเก๋แล้วเก๋เลย ส่วนใครป่วยก็แอดมิดได้เลยเหมือนกัน แนะนำว่าทาแล้วต้องแต่งตาค่อนข้างหนัก ไม่อย่างนั้นก็เรียกรถพยาบางมารอได้เลยจ้า

รีวิวลิปสติกสีสวย

Give Away Time!!!!!!

กติกาง่ายๆ เพียง ‘กดแชร์หน้าบล็อคนี้’ แล้วตอบคำถามไว้ที่กล่องคอมเม้นท์ด้านล่าง

‘ครีเอทลิปสติกสีแปลกที่คุณอยากให้มี พร้อมเหตุผล’ (ตอบฮาได้แซ่บได้ไม่ผิดบาป)

คำตอบโดนใจพัดชาที่สุดจะได้รับผลิตภัณฑ์เมคอัพจาก ‘NARS’ จำนวน 4 ชิ้น รวมมูลค่า 4,700 บาท

ประกาศผลภายในวันที่ 24 มิถุนายน 2559

เรื่อง/สไตล์ : padcha_praewnista

IG : @padcha_praewnista

 

ติดตามอัพเดตเรื่องราวต่างๆจากนิตยสารแพรวให้สนุกยิ่งขึ้นได้ที่

www.facebook.com/praewmagazine

Instagram : @praewmag

และติดตามอ่าน แพรว E-Magazine ได้แล้ววันนี้เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น

  • Praew E-magazine
  • NaiinPann
  • Ookbee

Finding Dory ภาคต่อที่รอคอยของ Finding Nemo หลังทิ้งห่างจากภาคแรกถึง 13 ปีเต็ม!

ในส่วนของการเฝ้ารอคอยหนังปลาเล็กหัวใจโต๊โต ถ้าเป็นวัยทำงานสามสิบต้นๆ ก็ต้องเคยดู Finding Nemo กันตอนอยู่มหา’ลัย แต่ถ้าเป็นวัยมหา’ลัย ก็ต้องเคยดูกันตอนยังเป็นเด็กน้อย

แน่นอนว่าความรู้สึกที่ได้รับเหมือนกัน นั่นคือหนังมันเน้นเรื่องราวความผูกพันของครอบครัวและมิตรภาพได้อย่างเด่นชัดชนิดที่สามารถทำให้เราน้ำตารื้นได้เลย และที่สำคัญยังสนุกตามแบบฉบับแอนิเมชั่นดิสนีย์ภาพสวยๆ ด้วยนะเออ ว่าแต่เราแก่แล้วใช่มั้ยถึงยกเรื่องในอดีตมาสนทนา

nemo_01แต่ก็ต้องรำลึกกันหน่อยเพราะภาคต่อของ Finding Nemo ได้เวลากลับมาพบกับทุกคนแล้วนาจา โดยจะใช้ชื่อว่า Finding Dory ผจญภัยดอรี่ขี้ลืม แน่นอนว่าก็บทนำก็จะตกเป็นของปลาสาวดอรี่ที่นอกจากจะความจำสั้นแล้ว ยังพูดมากสุดๆ โดยในภาคนี้จะขอเล่าถึงเรื่องราวต่อจากภาคแรก หนึ่งปีต่อมาเมื่ออยู่ๆ ดอรี่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าพ่อแม่ของตัวเองอยู่ที่ไหน เธอจึงเริ่มออกตามหา แต่ก็ดันไปถูกคนจับไปอยู่ที่ศูนย์วิจัยพันธุ์สัตว์น้ำเข้าซะก่อน เดือดร้อนให้เมอร์ลินและนีโมต้องตามช่วยเธอ ขณะเดียวกันการผจญภัยของดอรี่ก้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

nemo_03ซึ่งต้องขอบอกว่าหนังมาคอนเซ็ปต์เดิมเลย ไม่ค่อยฉีกจากภาคก่อนนัก แต่ที่เพิ่มเติมเห็นจะเป็นความสนุกนี่แหละ หนังเล่าเรื่องสนุกมาก ชวนให้ติดตามและลุ้นไปตลอดทั้งเรื่องว่าจะไปต่อยังไง ถือว่าไม่น่าเบื่อเลย ที่สำคัญยังมีคาแร็กเตอร์ตัวละครใหม่ๆ มาช่วยเสริมทัพให้หนังมีความฮาฝุดๆ ซึ่งตัวเด่นๆ เลยก็เห็นจะเป็นเจ้าปลาหมึกแฮงก์ เพื่อนใหม่ของดอรี่นี่แหละ ออกมาแต่ละทีคือเรียกรอยยิ้มตามได้ นอกจากนี้ยังให้ข้อคิดดีๆ สำหรับการใช้ชีวิตอย่างเจ้าดอรี่ที่ตัดสินใจตามหาครอบครัว เธอก็ไม่ได้วางแผนไว้ก่อน แต่หากเราไม่หยุดที่จะว่ายไปข้างหน้าต่อ แม้จะมีอุปสรรคขวางอยู่ เราอาจจะได้พบกับเรื่องเซอร์ไพรส์ที่ดีต่อใจก็ได้

nemo_02สำหรับใครที่ชอบแอนิเมชั่นเน้นภาพใต้ท้องทะเลสวยๆ (แต่ภาคนี้ไม่ค่อยเยอะ) และการออกแบบฉากผจญภัยอันน่าตื่นเต้น ทุกตัวละครมีเสน่ห์ (หลงรักเลย) เล่าเรื่องสนุก งานฮาก็มา งานซึ้งก็มี มิตรภาพดีๆ คือสิ่งที่น่าจดจำ ก็ต้องดูเรื่องนี้เลย อ๊ะ เกือบลืม สำหรับหนังสั้นที่ฉายแปะก่อนหนังเริ่มอย่าง Piper ที่เล่าถึงชีวิตนกกินหอย ก็ทำออกมาได้โดนใจมากเลยล่ะ เหมือนดูสารคดีสัตว์โลกเวอร์ชั่นโคลสอัพ เสียงคลื่นเสียงลมมาเต็ม พล็อตอาจจะเรียบง่ายตามระยะเวลาที่มีให้ แต่บทสรุปคือดีมาก ให้แง่คิดที่ชวนตื้นตัน แถมภาพยังสวยสมจริงสุดๆ เพราะฉะนั้นต้องรีบเข้าโรงนะเออ

คะแนน 10/10
เรื่อง : คิมคานา

ประกาศชื่อผู้โชคดีจาก Padcha_Praewnista ได้รับผลิตภัณฑ์เมคอัพจาก ‘URBAN DECAY’’

ประกาศชื่อผู้โชคดี จาก Padcha_Praewnista ได้รับผลิตภัณฑ์เมคอัพจาก ‘URBAN DECAY’’

ผู้โชคดีได้รับผลิตภัณฑ์เมคอัพจาก ‘URBAN DECAY’’ จำนวน 4 ชิ้น จาก รวมมูลค่า 5,850 บาท

คุณ BoWoo KhunBo

จากคำตอบที่ว่า

“คำตอบสุดท้ายในการเมคโอเวอร์คือแม่วิคค่ะ (Victoria Beckham) เพราะแม่ก็คือแม่ 55 เป็นแม่วิคน่าอิจสุดค่ะ มีสามีที่ชะนียุค 90s ต้องอิจฉา และเป็นแม่ที่สาวน้อยวัยละอ่อนต้องคลานเข่าเข้าหาเพื่อเต๊าะลูกชายคุณแม่ เผื่อบรรดาลูกๆและสามีนางจะหน้ามืดคิดว่าเราเป็นเจ๊วิค55”

ขอแสดงความยินดี ทีมงานจะติดต่อกลับทางเฟสบุ๊คเพื่อจัดส่งของรางวัลค่ะ

พยากรณ์ดวงชะตาประจำวัน ศุกร์ที่ 17 มิถุนายน 2559

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : มีงานนอกเหนือหน้าที่เข้ามา แต่ท่านก็ได้แสดงพลังจนสามารถฟันฝ่าไปได้ เพราะฉะนั้นจึงถูกมอบหมายให้ทำงานนอกงานประจำบ่อย จนไม่ได้ทำงานของตัวเอง

การเงิน : มีรายได้เสริม แต่รายจ่ายก็เยอะ ทำให้เก็บเงินไม่อยู่

ความรัก : มีปัญหาหลายอย่างไม่ค่อยราบรื่น ต้องตัดสินใจคิดแก้ปัญหาที่รุมเร้าเข้ามา ต้องขอความร่วมมือจากคู่ด้วย คนโสดจะเจอแบบคนดีไม่ได้ คนที่ได้มักไม่ค่อยดี

สุขภาพ : จะเจ็บตัวเล็กๆ น้อยๆ ระวังเดินชนนั่นนี่

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : เป็นวันดีของชาวจันทร์อีกแล้ว การงานจะไปได้สวย ท่านจะพบวิธีการหรือเคล็ดลับใหม่ๆ เข้าไปแก้ไขงานให้เสร็จสมบูรณ์เร็วขึ้น และจะได้คนเก่งมาช่วยงานด้วย

การเงิน : จะมีรายได้จรและผลกำไรงอกเงยขึ้นเรื่อยๆ

ความรัก : ต้องถนอมน้ำใจและเริ่มพูดจากันดีขึ้น อย่าสร้างเรื่องที่ไม่ชอบใจกันอีกก็แล้วกัน คนโสดมีคนเข้ามาแต่ก็เรื่องมาก ดูๆ แล้วท่านก็ยังไม่รีบร้อนเรื่องคู่ เพราะฉะนั้นชิลด์ไปก่อน

สุขภาพ : แข็งแรงดี แต่ก็อย่าวางใจ พยายามออกกำลังกายเป็นประจำ

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน : ถึงคิวชาวอังคารต้องหาโอกาสไปบริจาคเงินที่สภากาชาดไทย หรือบริจาคโลหิตบ้างแล้วละ เพราะเรื่องงานมีปัญหาต่างๆ ให้รำคาญใจ ถูกกดดันหลายด้าน ต้องเพิ่มความขยันหมั่นเพียร งานนี้ต้องใช้สมอง สติ ปัญญา และความใจเย็นเต็มเปี่ยมจึงผ่านไปได้

การเงิน : ระวังของมีค่าจะหาย หรือหากมีคนมายืมเงิน ต้องใจแข็ง เพราะจะไม่ได้คืน

ความรัก : มีการขัดใจกับคู่ครองเรื่องความหึงหวงและหวาดระแวง ทำอะไรก็ถูกมองในแง่ไม่ดี คนโสด ช่วงนี้อย่าไว้วางใจใครง่ายๆ เพราะจะเข้ามาหาประโยชน์จากตัวท่าน และอาจทำท่านเสียหายทั้งชื่อเสียงและเงินทอง ลามปรามไปถึงขั้นฟ้องร้องกันเลย

สุขภาพ : ช่วงนี้หน้าฝน หากกำลังจะเดินทางท่องเที่ยวไปสถานที่ใกล้น้ำ หรือขึ้นเรือให้ระวัง

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน : ต้องให้ความสนใจกับเพื่อนร่วมงานเป็นพิเศษ ไม่เช่นนั้นงานอาจผิดพลาดได้

การเงิน : ควรใช้จ่ายเงินอย่างประหยัด

ความรัก : บุตรหลานในครอบครัวจะสร้างปัญหาให้ท่านเครียด คนโสด ยังหาคู่ไม่เจอเลย รอหน่อยนะ

สุขภาพ : หลีกเลี่ยงอาหารทะเล เพราะมีเกณฑ์ว่าจะแพ้

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : การเจรจาเกี่ยวกับธุรกิจจะราบรื่นบ้าง และมีบางจุดสะดุด ท่านควรเตรียมเหตุผล และข้อมูลมานำเสนอดีๆ ว่าทำไมจึงจะต้องเพิ่มทุน ขยายกิจการ จะทำให้จุดที่สะดุดผ่านไปได้

การเงิน : ใช้เงินกับการลงทุนทำธุรกิจเยอะ

ความรัก : คู่ของท่านอาจต้องเดินทางไปดูงานไกลถึงต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ ส่วนคนโสดจะเจอคนถูกใจบ้าง ขอให้คบกันเพื่อดูนิสัยใจคอกัน อย่าเพิ่งรีบร้อนตัดสินใจเลือก

สุขภาพ : ระวังเรื่องปวดตามกระดูก เวียนศีรษะ

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน : จะมีเรื่องเครียดนิดหน่อย เพราะงานที่ท่านคิดว่าสำเร็จแล้วกลับถูกตีกลับมาแก้ไขใหม่

การเงิน : ระวังกระเป๋าสตางค์หาย

ความรัก : ใจเย็นๆ เพราะต่างคนต่างเครียดเรื่องงาน หากรู้ตัวว่าหงุดหงิดก็ยังไม่ต้องคุยกัน คนโสดจะมีคนสูงวัยมาชอบพอ

สุขภาพ : ระวังผ่าตัดเกี่ยวกับลำไส้

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : เริ่มพักเหนื่อยได้บ้าง หลังจากทุ่มเทกับงานไปพักใหญ่ ช่วงนี้พักผ่อนออมแรงไว้ เพราะข้างหน้าจะมีงานใหญ่รออยู่

การเงิน : มีเงินเข้ามาแบบฟลุ๊คๆ หรือได้เงินจากค่านายหน้า

ความรัก : จะมีปัญหาเรื่องหึงหวง หรือท่านอาจมโนไปเองว่า คู่ท่านกับเพื่อนร่วมงานเป็นกิ๊กกันหากสงสัยก็ถามไปเลย คนโสดระวังขัดใจกับคู่ควงของท่าน เพราะญาติอาจกดดัน ไม่ให้ชอบกัน

สุบภาพ : ระวังพักผ่อนน้อย นอนไม่ค่อยหลับ

ตามไปดูชีวิตสายเฮลตี้ขั้นสุดของอดีตนางเอกดัง ‘แองจี้&ราโมน่า’ หน้าเด็ก หุ่นเป๊ะ สวยไม่เปลี่ยน เพราะกินแบบนี้…

ตามไปดูชีวิตสายเฮลตี้ขั้นสุดของอดีตนางเอกดัง ‘แองจี้&ราโมน่า’ 

ตามไปดูชีวิตสายเฮลตี้ขั้นสุดของอดีตนางเอกดัง ‘แองจี้&ราโมน่า’ แล้วจะรู้ว่าทำไมพี่น้องคู่นี้ถึงได้ดูสวยไม่เปลี่ยนแปลงเลย

 

‘แองจี้&ราโมนา'

ตอนนี้แองจี้มีลูกด้วยกัน 2 อยู่ที่เมืองชาร์ล็อตต์ รัฐนอร์ท แคโลไรน่า สหรัฐอเมริกา ส่วนน้องสาวโมน่าก็อยู่อเมริกา แต่ใช้ชีวิตอยู่ในมหานครเมืองนิวยอร์ค มีลูก2คนเช่นเดียวกัน

‘แองจี้&ราโมนา' ต้องบอกว่าคู่นี้มาสายเฮลตี้กันหนักมาก เพราะมีความเชื่อว่าการกินกับเรื่องของสุขภาพเป็นของคู่กัน ทั้งคู่เลยตัดสินใจเลิกกินเนื้อสัตว์หันมาเป็นมังสวิรัติเต็มตัว และไม่เคยต้องกินยารักษาตัวเองมานานกว่า10ปีแล้ว เพราะมีความเชื่อว่าร่างกายจะฟื้นฟูเองถ้าเรากินดีอยู่ดี กินผักผลไม้แทนวิตามินเสริมต่างๆ แถมตอนคลอดลูกก็ยังคลอดธรรมชาติอีกด้วย

‘แองจี้&ราโมนjา'

‘แองจี้&ราโมน่า'

‘แองจี้&ราโมน่า'

ถึงจะเป็นคุณแม่กันแล้วแต่สาวแองจี้ไม่เคยละเลยที่จะดูแลตัวเองเลย ด้วยความที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย ใส่ใจสุขภาพสุดๆ จึงเกิดแรงบันดาลใจทำเว็บไซต์อาหารที่ชื่อว่า rawmamanature.com ซึ่งตัวเธอเองเป็นทั้งแอดมินประจำเว็บไซต์และเป็นเจ้าของสูตรเองด้วย ส่วนโมน่าเองก็หันมาทำธุรกิจน้ำผักผลไม้ของตัวเองด้วยเช่นกัน เรียกว่าเอาดีทางสายนี้เลยล่ะ

‘แองจี้&ราโมนา' แองจี้เน้นไปที่เมนูอาหารรอว์ฟู้ด มีแต่ธัญพืช และผักล้วนๆ เพราะเธอไม่กินเนื้อสัตว์ทุกชนิดจ้า ในขณะที่โมน่าแค่ไม่กินเนื้อสัตว์ แล้วเน้นกินผักผลไม้ รวมทั้งธัญพืชที่มีโปรตีน

‘แองจี้&ราโมนา' กิจกรรมยามว่างที่เธอทำร่วมกับลูกเป็นประจำคือ การวาดรูป พร้อมทั้งยังเน้นให้ลูกได้เรียนรู้ และอยู่กับธรรมชาติ

‘แองจี้&ราโมนา' นี่คือผลงานการปั้นเซรามิคของสาวโมนา

ใส่ใจดูแลสุขภาพขนาดนี้ผลที่ตามมาคือหุ่นที่ยังฟิตแอนด์เฟิร์ม แถมหน้าตาสดใสดูอ่อนกว่าวัย ไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม หรือครีมราคาแพงๆ เลย

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ : rawmamanature,ramonazanolari

Bonjour France สัมผัสกลิ่นอายวัฒนธรรมเมืองน้ำหอม ผ่านงานอาร์ตสุดคลาสสิกสไตล์ฝรั่งเศส

นอกจากหอไอเฟลที่ตั้งตระหง่านกลางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จะดึงดูดผู้คนให้ไปสัมผัสกลิ่นน้ำหอม อาหารนมเนย และไวน์รสเลิศต่างๆ แล้ว ความเป็นแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ รวมถึงวัฒนธรรมในฝรั่งเศสที่ส่งผ่านงานศิลปะ เน้นคลาสสิกแต่เรียบหรูก็น่าสนใจเช่นกัน

ในฉากสุดท้ายของภาพยนตร์เรื่อง Me Before You เป็นฉากที่นางเอก ‘ลู’ ได้ออกเดินทางจากลอนดอนมาใช้ชีวิตที่ปารีสตามฝันของ วิลล์ พระเอกในเรื่องที่ได้จากโลกนี้ไปแล้ว ลูนั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้ ที่ร้านอาหารริมทาง ซึ่งก็มีผู้คนชาวฝรั่งเศสสวมใส่ชุดสูทหรูหรานั่งอยู่ภายในร้านด้วย ทำให้เรานึกถึงแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชื่อดังระดับโลก และเสื้อผ้าสัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งล้วนดีไซน์ออกมาสไตล์คลาสสิก แต่เรียบหรู

ฝรั่งเศสFermob (แฟร์ม็อบ) แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชื่อดังระดับโลก สัญชาติฝรั่งเศส เป็นหนึ่งผลงานที่เน้นความเรียบง่าย คลาสสิก ถ้าหากมองภาพลักษณ์เก้าอี้ภายนอกแบบผ่านๆ อาจจะดูว่า ไม่มีความพิเศษอะไร แต่ประวัติความหมาย การเลือกใช้วัสดุ และสีสันมาดีไซน์นั้นไม่ธรรมดา

ฝรั่งเศสเมื่อกว่า 125 ปีก่อน เก้าอี้แฟร์ม็อบ ได้ก่อกำเนิดขึ้นพร้อมกับหอไอเฟล และยังได้รับเลือกให้เป็นเก้าอี้ที่ใช้ในสวนสาธารณะต่างๆ อย่าง สวนลุกซ็องบูร์ สวนสาธารณะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในกรุงปารีส และได้มีการสร้างหอไอเฟลแบบจำลองด้วยเก้าอี้แบบ Bistro Chair ในเครือแฟร์ม็อบจำนวน 324 ตัว และเท่ากับ 324 เมตรของหอไอเฟลด้วย

ฝรั่งเศสฝรั่งเศสแฟร์ม็อบ มีจุดเด่นดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์  เน้นคลาสสิกผสมความเก่าและใหม่ และโดดเด่นด้วยสีคัลเลอร์ฟูลที่มีให้เลือกถึง 23 เฉดสี อย่าง สีแดง สีชมพู สีขาว ซึ่งถ้าเจาะลึกเรื่องสีผ่านงานศิลปะจะรู้ว่า การผสมสีให้ได้นอกจากสีขาวนั้นยากพอสมควร ส่วนวัสดุทำจากเหล็กเคลือบสีชนิดพิเศษสามารถทนแดดทนฝนได้เป็นอย่างดี และแฟร์ม็อบก็เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่กว้างกลับคืน เพราะสามารถเก็บพับเก้าอี้อย่างง่าย ตอบโจทย์ร้านอาหาร และร้านกาแฟ ที่กำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์มาประดับร้าน

ฝรั่งเศสฝรั่งเศสทางด้านชุดสูทสัญชาติฝรั่งเศสแบรนด์ดังอย่าง UNGARO (อุงกาโร) และ Louis Feraud (หลุยส์ เฟโร) ที่ออกแบบมาสำหรับคุณผู้ชาย และมีดีเทลเสื้อคู่ใส่มิกซ์เป็นฝาแฝดคุณพ่อ คุณลูกก็กำลังนิยมมากทีเดียว โดยจะเน้นสีสันสดใสอย่างโทนพาสเทล ที่แมทช์กับกางเกงสีฟ้า ชมพู ส้ม ได้

ฝรั่งเศส
การตัดเย็บแบบ “อุลาคีรี”
ฝรั่งเศส
การตัดเย็บภายในเสื้อสูท

ความโดดเด่นที่พิเศษเฉพาะแบรนด์นี้จะเน้นการตัดเย็บแบบ “อุลาคีรี” เป็นเทคนิคการเก็บปมด้านหลังให้เป็นลวดลายที่สวยงาม และการใช้เทคนิคทอผ้าแบบ 300/3 ทำให้ผ้ามีความบางเหมือนเส้นไหม ใส่สบายไม่ระคายเคืองผิว และระบายความร้อนได้ดี ซึ่งไทยเองก็เป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกให้แก่ฝรั่งเศสมามากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก รวมถึงหอการค้าฝรั่งเศส-ไทย ก็ได้เดินทางสานสัมพันธ์ค้าขายมาถึง 50 ปีแล้วเช่นกัน

ฝรั่งเศส
คุณพัชรวรรณ บุญนำทรัพย์ บอสใหญ่แห่งปิคคาอินเตอร์ ผู้ได้ลิขสิทธิ์ในการผลิตและออกแบบจากแบรนด์ดังอย่าง UNGARO (อุงกาโร) และ Louis Feraud (หลุยส์ เฟโร) แห่งเดียวในเอเซีย

สำหรับใครที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศฝรั่งเศสเรื่องอื่นๆ สามารถไปดูได้ที่งาน “บงชูร์ ฟรองซ์” (Bonjour France) มหกรรมสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ฝรั่งเศสครั้งแรกของไทย ระหว่างวันที่ 14 – 17 กรกฎาคม 2559 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

เรื่อง : Gingyawee_แพรวดอทคอม
สถานที่ : ทำเนียบเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย
ภาพ : Kabe Pastic

Softer Hands Stronger Nails 6 ทิปส์บำรุงเล็บและมือให้สวย สตรอง!

Softer Hands Stronger Nails 6 ทิปส์บำรุงเล็บและมือให้สวย สตรอง!

 

Softer Hands Stronger Nails  เราเชื่อว่าผู้หญิงจะดูแก่หรือไม่นั้นดูได้จากมือและเรียวเล็บนี่แหละ เพราะผิวหน้ายังใช้วิธีฉีดโบท็อกซ์ดึงหน้าได้ แต่มือนี่สิเหี่ยวแล้วเหี่ยวเลยแก้ไขไม่ได้นะจ๊ะ เพราะฉะนั้นสาวๆ จึงควรให้ความสำคัญในการบำรุงดูแลตั้งแต่ยังเด็ก

‘แพรวดอมคอม’ นำเสนอทิปส์เล็กๆ ที่ช่วยให้มือและเรียวเล็บของสาวๆ สวย สตรองขึ้น

น้ำมันมะพร้าว

Softer Hands Stronger Nailsสารพัดประโยชน์จากน้ำมันมะพร้าว นอกจากจะใช้บำรุงเส้นผมด้วย ยังใช้บำรุงเล็บและมือให้สวยได้เช่นกัน

ลองใช้น้ำมะพร้าวนวดวนบนมือเป็นวงกลมจะช่วยกระตุ้นระบบหมุนเวียนเลือดและเพิ่มออกซิเจนใต้ผิว ได้ผิวมือที่ดูเปล่งปลั่ง นอกจากนั้นยังช่วยบำรุงเล็บให้เล็บไม่แตก เปราะง่าย เพิ่มความชุ่มชื่น และยังทำให้เล็บยาวเร็วขึ้น

แฮนด์ครีม + วาสลีน

Softer Hands Stronger Nailsเคล็ดลับนี้ได้จากเซเลบสาว ‘แก้ม สามสรา’ ที่เธอใช้เป็นประจำทุกคืนก่อนเข้านอนคือ ทาแฮนด์ครีมตัวโปรด ‘L’occitance’ แล้วพอกตามด้วยวาสลีนหนาๆ บนหน้าเล็บ เน้นทาบริเวณด้านข้างเล็บช่วยให้นิ้วเนียนนุ่มขึ้น ไม่เป็นไตแข็งๆ

แปรงสีฟัน + น้ำมะนาว

Softer Hands Stronger Nailsสาวๆ ที่ชอบไว้เล็บยาว มักจะมีสิ่งสกปรกอยู่ใต้เรียวเล็บยาวสวยอยู่เสมอ วิธีทำความสะอาดง่ายนิดเดียว แนะนำให้แช่มือลงในน้ำอุ่นที่ผสมน้ำมะนาวไว้เล็กน้อย จากนั้นใช้แปรงสีฟันอันเก่า ปัดๆ ขัดๆ ถูๆ รอบเล็บ น้ำมะนาวจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียสิ่งสกปรกใต้เล็บและผิวมือ เรียวเล็บและมือของสาวๆ ก็จะสะอาดหมดจด สวยเป๊ะ

เล็บเจลไม่ใช่เรื่องเล่นๆ 

Softer Hands Stronger Nailsสำหรับสาวๆ ที่ชอบทำเล็บเจลสวยเป๊ะ ติดทนนาน แต่พอถึงเวลาเจลบนเล็บเริ่มหลุดลอกกลับไม่อยากเข้าร้านทำเล็บ นั่งลอกเองซะงั้น วิธีนี้เป็นวิธีที่ต้องห้ามสุดๆ เพราะเป็นการทำลายผิวหน้าเล็บ ทำให้เล็บบางลง เปราะ และฉีกง่าย แนะนำให้ไปล้างเล็บที่ซาลอนอีกครั้ง หรือใช้วิธีประหยัดทำเองที่บ้าน โดยใช้น้ำยาล้างเล็บแบบธรรมดานี่แหละ ชุบสำลีแล้วแปะบนหน้าเล็บ ห่อทับด้วยฟรอยด์ ทิ้งไว้ประมาณ 20 – 30 นาที เนื้อเจลจะเริ่มนิ่ม จากนั้น ใช้ตะไบขูดออกอย่างเบามือเพื่อไม่ให้ทำลายหน้าเล็บ เท่านี้เล็บเจลก็ลอกออกหมดจด

ก่อนทาเล็บต้องลง Base Coat

Softer Hands Stronger Nailsน้ำยาทาเล็บไม่ว่าจะแบรนด์ดังแค่ไหน ราคาสูงเท่าไหร่ ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ มีสารเคมีปะปนมาบ้าง ซึ่งอาจทำลายสุขภาพเล็บ ทำให้เล็บเหลืองดูไม่สวยก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นจึงควรป้องกันเล็บด้วยการทา Base Coat ก่อนทาเล็บทุกครั้ง เพราะนอกจากช่วยบำรุงและปกป้องเล็บไม่ให้สัมผัสกับยาทาเล็บโดยตรง ก็ยังช่วยเพิ่มความติดทนของสีเล็บด้วย

กระเทียมขัดๆ ถูๆ

Softer Hands Stronger Nails
Garlic

การมีเล็บที่แข็งแรงดูสุขภาพดีถือเป็นหนึ่งในอุดมคติความสวยของผู้หญิงชาว ‘โดมินิกัน’ โดยพวกนางใช้สมุนไพรก้นครัวอย่างกระเทียมสดเป็นเคล็ดลับการดูแลเรียวเล็บให้สวยสตรอง โดยนำกระเทียมมาขัดถูตามซอกเล็บ หรือใช้วิธีผสมกระเที่ยมชิ้นเล็กๆ ลงขวดน้ำยาทาเล็บสีใสทิ้งไว้ประมาณ 7 – 10 วัน แล้วทาเป็น ‘Base Coat’ บำรุงเล็บ กระเทียมจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เล็บแข็งแรง ไม่เปราะบางแตกหักง่าย

Softer Hands Stronger Nails

สำหรับสาวที่ไม่นิยมแกะกระเที่ยม สมัยนี้ก็มีทรีทเม้นท์ที่มีส่วนผสมของกระเทียมมาให้เลือกใช้หลายแบรนด์อย่าง ‘Butter London’ Sheer Wisdom Nail Tinted Moisturizer / ‘Nailsinc’ NailKale Superfood Base Coat / ‘Dr.’s Remedy’ Enriched Cuticle Oil

เรื่อง Anne

ภาพ Getty Image

 

ติดตามอัพเดตเรื่องราวต่างๆจากนิตยสารแพรวให้สนุกยิ่งขึ้นได้ที่

www.facebook.com/praewmagazine

Instagram : @praewmag

และติดตามอ่าน แพรว E-Magazine ได้แล้ววันนี้เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น

 

Praew E-magazine
NaiinPann
Ookbee

Francois Russo แห่ง Maison Takuya “ไม่แอร์เมส… ก็ต้องแบรนด์นี้แหละ!”

Francois Russo แห่ง Maison Takuya “ไม่แอร์เมส… ก็ต้องแบรนด์นี้แหละ!”

ประโยคข้างบนไม่ใช่คำพูดลอยๆ แต่เป็นคำพูดจากลูกค้าระดับมหาเศรษฐีของญี่ปุ่น ที่กล่าวกับคุณฟรองซัวส์ รุสโซ่ ( Francois Russo ) ผู้ก่อตั้ง “เมซง ทาคุยะ”  แบรนด์เครื่องหนังระดับลักชัวรีของไทยว่า “คุณรู้ไหม เราไม่มีทางเลือกมากนัก ไม่คุณก็แอร์เมส”

Francois Russo

ทุกวันนี้ ‘เมซง ทาคุยะ’ คือหนึ่งในผู้ผลิตเครื่องหนังชั้นยอด ที่แอบตีตลาดลักชัวรี่ในเมืองนอกอยู่อย่างเงียบๆ ถึงขนาดที่เคยเบียดแบรนด์ยักษ์ระดับโลกไปคว้ารางวัล “สินค้าเครื่องหนังที่ดีที่สุด” จากรายการทีวีชื่อดังของญี่ปุ่นมาแล้ว ที่น่าปลื้มใจไปกว่านั้นคือ คุณฟรองซัวส์ หนุ่มฝรั่งเศสที่มาลงหลักปักฐานในเมืองไทย ประกาศชัดเจนว่า เมซง ทาคุยะ คือแบรนด์ไทย ทำโดยคนไทย และนี่คือสิ่งที่เขาภูมิใจ!

เดิมทีคุณฟรองซัวส์ เคยทำงานเป็นอินทีเรียดีไซเนอร์ชื่อดังของฝรั่งเศส เคยทำงานร่วมกับศิลปินและคนดังทั่วโลกมามากมาย แต่กลับเลือกมาปักธงสร้างแบรนด์หรูในเมืองไทย โดยคุณฟรองซัวส์เล่าถึงที่มาของความชอบในกระเป๋าถือว่า “เริ่มจากคุณแม่ผมเป็นลูกค้าตัวยงของแอร์เมส ทำให้ท่านสนิทสนมกับ Rena Dumas ภรรยาของ Jean-Louis Dumas เจ้าของแอร์เมสในยุคนั้น ทุกครั้งที่ไปช็อปปิ้ง ท่านจะพาผมไปด้วย ต้องอธิบายนิดหน่อยว่า ช็อปแอร์เมสที่ปารีสในยุคนั้นมีร้านค้าอยู่ชั้นล่าง ส่วนชั้นบนเป็นห้องทำงานของช่าง ที่ผลิตสินค้ากันจริงๆ เวลาไปที่ช็อป ผมก็จะวิ่งเล่นที่ชั้นบนตามประสาเด็ก แล้วซักนั่นถามนี่ ช่างก็อธิบายให้ฟัง ทำให้ผมได้เรียนรู้ข้อมูลในเชิงลึกว่า สินค้าของแอร์เมสผลิตและประดิษฐ์ขึ้นมาอย่างไร พร้อมกับซึมซับความชอบในกระเป๋าและเครื่องหนังเข้าไปโดยไม่รู้ตัว

Francois Russo

“แต่ผมก็ยังไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับกระเป๋า กลับมาทำงานด้านอินทีเรียดีไซน์แทน กระทั่งวันหนึ่งรู้ตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองเป็นนักสะสมกระเป๋าตัวยง จาก 200 ใบ เป็น 500 ใบ ผมซื้อกระเป๋าเป็นว่าเล่น จนถึงจุดที่ผมเริ่มสั่งทำกระเป๋าพิเศษจากแอร์เมสเพื่อให้ได้แบบที่ผมต้องการ ผมจึงคิดได้ว่ากระเป๋าในตลาดยังขาดอะไรบางอย่าง ถึงเวลาแล้วที่ผมจะทำแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาเสียที แต่ด้วยความที่ผมเดินทางเยอะ จึงเลือกเดินทางมาทำตลาดในเอเชียเพราะรู้สึกว่ากำลังเติบโต ขณะที่ยุโรปอยู่ในช่วงขาลง พอดีมาแวะผ่านเมืองไทย และตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่เคยจากไปไหนอีกเลย ผมเป็นประเภทฟังความรู้สึกตัวเองน่ะครับ พอรู้สึกว่าเมืองไทยคือที่ที่ใช่สำหรับตลาดลักชัวรี่ในอนาคตแล้ว ผมก็เริ่มทำเลย”

“ตอนแรกผมใช้วิธีเชิญช่างฝีมือจากฝรั่งเศส อิตาลีและญี่ปุ่นมาสอนการทำกระเป๋าชั้นสูงให้ ผมยอมลงทุนในเรื่องของการให้ความรู้และทำเทรนนิ่ง เริ่มจากทำของชิ้นเล็กๆ แล้วค่อยขยับไปทำของชิ้นใหญ่อย่างกระเป๋าถือรูปทรงต่างๆ ซึ่งต้องอาศัยงานฝีมือชั้นสูง เราใช้เวลา 2 ปีเต็มในการเทรนช่างไทย 10-15 คน เรียกว่าเป็นช่วงที่ผมต้องอดทนมาก กระทั่งพอช่างฝีมือเข้าที่แล้ว สินค้าของเราก็ได้เข้าไปขายในห้างอิเซตันที่ญี่ปุ่น ต่อด้วยห้างฮันคิว เมน ดีพาร์ทเมนสโตร์ ในย่านกินซ่า ซึ่งตั้งอยู่ข้างแบรนด์ใหญ่อย่าง ทอม ฟอร์ด, ดันฮิล, บุลการี, โกยาร์ต ฯลฯ ปรากฏว่าของเราขายหมดภายใน 3 วัน พอปีต่อมา เราก็ได้รางวัล the best leather item in Japan ที่รายการทีวีในญี่ปุ่นจัดอันดับทุกปี ปีนั้นโรเล็กซ์ได้รางวัลด้านนาฬิกา ส่วนเราได้ที่หนึ่งด้านเครื่องหนัง ซึ่งเป็นเหมือนการจุดประกายทำให้ยอดขายเราพุ่งขึ้นไปอีก

Francois Russo

“ล่าสุด ผมไปร่วมงานอีเวนต์ที่โชว์รูมของเราในอาโอยามะ ใกล้กับช็อปปราด้า เป็นงานที่เราจัดขึ้นเพื่อให้ลูกค้าชาวญี่ปุ่นสั่งทำกระเป๋าแบบพิเศษได้ ที่น่าตกใจคือ ลูกค้าส่วนใหญ่มาในรถเบนท์ลี่ มาเซอราติและโรลส์รอยส์ ในงานผมได้พูดขอบคุณลูกค้าผู้มีเกียรติที่อุตส่าห์เลือกสินค้าของผม แล้วผมก็ได้คำตอบที่เซอร์ไพรส์มากจากหลายคนว่า “คุณรู้ไหม เราไม่มีทางเลือกมากนัก ไม่คุณก็แอร์เมส” คืนนั้นผมกลับมานอนคิดทั้งคืนว่า ถ้าเราใช้เวลาไม่ถึง 10 ปี แล้วลูกค้าญี่ปุ่นที่มีความรู้ความชำนาญเปรียบเทียบเรากับแอร์เมสที่มีอายุ 160 ปีได้ก็ถือว่าปาฏิหาริย์แล้ว

“ถ้าถามว่าอะไรที่ทำให้สินค้าของเราแตกต่าง ผมว่าเมซง ทาคุยะ มีความเป็นลักชัวรี่จริงๆ กระเป๋าของเราคือการสร้างสรรค์สิ่งที่เรียบง่าย ด้วยกระบวนการที่ซับซ้อนสุดๆ ทั้งยังซุกซ่อนไปด้วยรายละเอียดที่คุณคาดไม่ถึง เราใช้หนังเกรดดีที่สุดจากทั่วโลก โดยซัพพลายเออร์เดียวกับแอร์เมส เราใช้ด้ายลินินจากฝรั่งเศสในการเย็บกระเป๋าเท่านั้น รวมถึงต้องใช้แว็กซ์เคลือบเส้นด้ายก่อนเพื่อความทนทาน เราเย็บด้วยมือไม่มีการใช้เครื่องจักร เรามีวิธีซ่อนรอยเย็บและปมด้ายชนิดที่คุณไม่มีวันรู้ว่ามันอยู่ไหน เพื่อให้ผืนหนังโชว์ความสวยงามอย่างเต็มที่ เราไม่เคยใช้กาวในสินค้าของเรา แม้กระทั่งแป๊ะติดกระเป๋าที่ซ่อนไว้ใต้ผืนหนังเราก็ใช้วิธีเย็บ ซึ่งทำให้คงทนถาวรกว่า ดีเทลเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้แหละที่ทำให้เราแตกต่าง และเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณไม่พอใจเวลาใช้สินค้าบางยี่ห้อ เพราะเขาคิดว่าแค่ซ่อนมันซะ คุณก็ไม่เห็น แต่มันกลับมีผลอย่างมากเมื่อคุณใช้งานจริง

Francois Russo

Francois Russo

Francois Russo“ทุกวันนี้ผมกล้าพูดเต็มปากว่า เมซง ทาคุยะ เป็นแบรนด์ไทย เพราะโรงงานของเราอยู่ในเมืองไทย สินค้าของเราเมดอินไทยแลนด์ ผมรู้สึกขัดใจทุกครั้งที่มีคนถามว่าทำไมผลิตสินค้าในเมืองไทย รู้ไหมมีกระเป๋าแบรนด์ดังที่เขียนว่าเมดอินอิตาลีหรือฝรั่งเศส แต่คุณภาพแย่มาก แล้วอะไรที่ทำให้คุณคิดว่า เมดอินประเทศไหน ดีกว่าประเทศไหน ความคิดแบบนี้เกิดขึ้นเฉพาะในยุคที่โลกเรายังไม่มีการเดินทางข้ามประเทศกัน องค์ความรู้จึงอยู่ในประเทศนั้นๆ แต่ตอนนี้เราอยู่ในยุคโลกาภิวัฒน์แล้ว ขอแค่เรามีองค์ความรู้ที่ครบถ้วน เราก็สามารถมีโรงงานที่ทำทุกอย่างเองได้ ผมมาเมืองไทยเพราะที่นี่มีอนาคต เรามีบางอย่างที่สามารถผสมผสานกันแล้วกลายเป็นความแปลกใหม่ได้ ช่างไทยเองก็มีความสามารถในการทำงานด้วยมือ มีเซ้นส์เรื่องการใช้เครื่องไม้เครื่องมือและทักษะในการเลือกจับวัสดุค่อนข้างสูง ทั้งยังเรียนรู้เร็วมาก ผมโชคดีมากที่มีทีมงานที่ดี มีช่างฝีมือที่เข้าใจปรัชญาของแบรนด์และช่วยเหลือผมจนสำเร็จตามเป้าหมาย ผมขอบคุณทุกอย่างที่มี

นี่คือของขวัญที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม

เรื่อง โทมาลิน / ภาพ วรสันต์

 

ติดตามอัพเดตเรื่องราวต่างๆจากนิตยสารแพรวให้สนุกยิ่งขึ้นได้ที่

www.facebook.com/praewmagazine

Instagram : @praewmag

และติดตามอ่าน แพรว E-Magazine ได้แล้ววันนี้เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น

  • Praew E-magazine
  • NaiinPann
  • Ookbee

อลังการงานยักษ์ ประติมากรรม KAWS : BFF เตรียมปรากฏครั้งแรกในโลกที่ไทย

ใหญ่ยักษ์เข้าไปอีกสำหรับการจัดงานแสดงประติมากรรมใจกลางเมือง ที่ได้นำเอาผลงานของ KAWS ศิลปินชื่อก้องโลก มาตั้งตระหง่านครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย

Kaws : BFFเสพงานศิลปะกันให้เต็มอิ่มและเป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่สุดๆ ในโลก กับผลงานประติมากรรมจากศิลปิน KAWS (ควอส์) ในนิทรรศการศิลปะ KAWS : BFF ซึ่งเป็นผลงานมาสเตอร์พีซที่มีความสูงถึง 8 เมตร โดยจะนำมาจัดที่ประเทศไทย ณ ลานเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ เป็นครั้งแรกในโลก และในไทยอีกด้วย

Kaws : BFF

สำหรับผลงานของ KAWS ศิลปินระดับผู้สร้างงานประติมากรรมชิ้นยักษ์นั้น เขาก็เคยมีผลงานจัดแสดงมาก่อนในหลายประเทศจนโด่งดังไปทั่วโลก เช่นนิทรรศการประติมากรรมที่ Yorkshire Sculpture Park ใน
สหราชอาณาจักร และประสบความสำเร็จอย่างมากจากผลงาน “PASSING THROUGH” และ“CLEAN SLATE” ในฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ ซึ่ง “KAWS : BFF (คอวส์ : บีเอฟเอฟ) เป็นหนึ่งในผลงานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่ KAWS เคยสร้างขึ้น โดยคำว่า BFF มาจากคำว่า “Best Friend Forever” หรือ “เพื่อนแท้ตลอดไป” สื่อถึงมิตรภาพอันยาวนาน โดยประติมากรรมนี้ มีความคล้ายกับประติมากรรมชื่อดัง “COMPANION” ตรงที่มีกะโหลก หูรูปกระดูกไขว้ ตารูปกากบาท และมีขนนุ่ม เป็นผลงานที่ KAWS สร้างขึ้นใหม่ และไม่เคยทำมาก่อน สื่อถึงความคิดสร้างสรรค์แปลกใหม่

Kaws : BFF
Shanghai (Times Square) Photographer: Benoit Florencon
Kaws : BFF
Connecticut, USA (The Aldrich Contemporary Art Museum)
Kaws : BFF
Hong Kong (Harbour City)

ทั้งนี้นิทรรศการ “KAWS : BFF” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 มิ.ย. ถึง 31 ก.ค. 59 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ประติมากรรม KAWS : BFF : จัดแสดงบริเวณด้านหน้า ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี
  • KAWS Art Prints Exhibition : จัดแสดงบริเวณ ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี

เวลา: 10:00-22:00 น.

  • สินค้าพิเศษ ลิมิเต็ดเอดิชั่น KAWS: BFFทำขึ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะ จำหน่ายที่ร้าน SIWILAI ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี (30 มิ.ย.เป็นต้นไป) เวลา 10:00-20:00 น. (จันทร์-พฤหัสบดี)และ10:00-22:00 น. (ศุกร์-อาทิตย์) และที่ชั้น G (1 ก.ค. เป็นต้นไป) เวลา 10:00-22:00 น.

 

เรื่อง : sriploi

 

 

 

“ความทุกข์ของประชาชนนั้น รอไม่ได้” 7 ทศวรรษ เอกอัครราชาแห่งแผ่นดิน

นับตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 หลังจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลสวรรคตอย่างกะทันหัน ในท่ามกลางความทุกข์โศกสลดทั้งแผ่นดิน รัฐสภาได้เปิดประชุมเป็นกรณีเร่งด่วนในช่วงค่ำคืนนั้น พร้อมกับลงมติเห็นชอบตามกฎมนเทียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช ขึ้นเป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่

70 years king bhumibol

ขณะนั้น หลายฝ่ายต่างวิตกกังวลกันว่า สมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ (พระอิสริยศักดิ์ในเวลานั้น) อาจไม่ทรงยินยอม จนเมื่อเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ ตลอดถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง รวมถึงนายกรัฐมนตรีและคณะนายกรัฐมนตรี ได้เข้าเฝ้าฯกราบบังคมทูลว่า สมเด็จพระอนุชาธิราชทรงเป็นผู้มีสิทธิในราชบังลังก์นั้น

สมเด็จพระราชชนนีจึงได้ตรัสถามพระราชโอรสต่อหน้าที่ประชุมทั้งมวลว่า “รับไหมลูก”

สมเด็จฯ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดชมีรับสั่งสั้น ๆ เพียงว่า “รับ”

70 years king bhumibol
นับจากนาทีนั้น ประวัติศาสตร์ของยุวกษัตริย์พระองค์ที่สามแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และพระองค์ที่สองแห่งราชสกุล “มหิดล” ได้เริ่มต้นขึ้นจากวันนั้นถึงวันนี้ พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ของชาติไทยและของโลก ทรงเป็นพระราชาผู้ทรงเป็นที่รักและเทิดทูนของพสกนิกรมาอย่างยาวนานจนครบ 70 ปีบริบูรณ์ในปีนี้

เมื่อแรกเถลิงราชย์

เมื่อแรกเริ่มของการครองราชย์ ขณะนั้นพระองค์มีพระชนมายุ 18 พรรษา และไม่เคยตระเตรียมพระราชหฤทัยที่จะมาทำหน้าที่นี้ พระองค์ทรงคิดแค่ว่าจะครองราชสมบัติเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเพื่อจัดงานพระบรมศพให้กับพระเชษฐาอย่างสมเกียรติเท่านั้น แต่การเป็นพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ก็ทรงตระหนักถึงหน้าที่อันใหญ่หลวงนี้ จึงทรงตัดสินพระทัยเสด็จพระราชดำเนินกลับไปทรงศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ให้สำเร็จเพื่อกลับมาพัฒนาประเทศและดูแลประชาชน

70 years king bhumibol

ราชาภิเษกสมรสและบรมราชาภิเษก

ในช่วงระหว่างที่ทรงศึกษาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทรงพระราชประดิพัทธ์กับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร พระธิดาในพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้านักขัตรมงคล กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ กับหม่อมหลวงบัว(สนิทวงศ์) จึงทรงหมั้นด้วยพระธำมรงค์เพชรมีหนามเตยเป็นรูปหัวใจเล็กๆ ที่สมเด็จพระบรมราชชนกเคยพระราชทานหมั้นสมเด็จพระราชชนนี โดยทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสขึ้นอย่างเรียบง่าย ณ วังสระปทุม และโปรดเกล้าฯให้สถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ เมื่อวันศุกร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2493 ต่อมา ในวันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามโบราณราชประเพณี ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในพระบรมมหาราชวัง พระองค์ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ประทับเหนือราชอาสน์บัลลังก์ทอง เฉลิมพระปรมาภิไธย ตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทรสยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร” และพระราชทานพระปฐมบรมราชโองการด้วยพระราชอำนาจสมบูรณ์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั้นว่า

70 years king bhumibol
“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”

อีกทั้งในวารมหามงคลนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯสถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศให้สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ ขึ้นเป็นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี หลังจากนั้นเสด็จฯกลับไปทรงรักษาพระพลานามัยที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อันเนื่องมาจากทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491 จนกระทั่งเสด็จนิวัตเมืองไทยเมื่อต้นเดือนธันวาคม พ.ศ. 2494 และประทับในแผ่นดินอันเป็นมาตุภูมิอย่างเป็นการถาวรนับแต่นั้น

ทรงผนวชด้วยพระราชศรัทธา

ปลายเดือนตุลาคม พ.ศ. 2499 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงผนวชด้วยทรงพระราชศรัทธาในพระพุทธศาสนา ด้วยมีพระราชดำริว่าเป็นศาสนาประจำชาติ ยิ่งทรงมีโอกาสคุ้นเคยกับหลักการและทางปฏิบัติ
ของพุทธศาสนิกชน ระหว่างที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ก็ทรงพระราชศรัทธายิ่งขึ้น เพราะทรงประจักษ์แก่พระราชหฤทัยว่า พระธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประกอบด้วยเหตุผลและ
สัจธรรม ทั้งจักเป็นทางสนองพระเดชพระคุณพระราชบูรพการีตามคตินิยมอีกทางหนึ่งด้วย จึงทรงลาผนวชและทรงออกผนวช ณพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง และเสด็จฯ
ไปประทับที่พระตำหนักปั้นหยา วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร

70 years king bhumibol

เสด็จเยือนต่างประเทศเพื่อสานไมตรี

นอกจากเสด็จฯเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ต่าง ๆ แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ยังได้เสด็จฯเยือนประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสานสร้างสัมพันธไมตรีอันดีต่อกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น  เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับประเทศ ระหว่างประชาชนกับประชาชน ทั้งในยุโรปและอเมริกาในช่วง ปี พ.ศ. 2503 – 2504  แต่ประเทศแรกที่ทรงเสด็จเยือนต่างประเทศนั้นอยู่ในแถบอาเซียนเพื่อนบ้านเรา ก็คือประเทศเวียดนาม เมื่อปลายปี พ.ศ. 2502

70 years king bhumibol

องค์อัครศิลปิน ผู้เปี่ยมความสามารถ

ตลอดช่วงเวลานับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงขึ้นครองสิริราชสมบัตินั้น ทรงแสดงถึงพระอัจฉริยภาพในด้านต่าง ๆ ให้พสกนิกรไทยและชาวโลกได้ประจักษ์ ทรงได้รับการยกย่องว่า ทรงเป็นพหูสูตร
ในศาสตร์แทบทุกสาขา ทั้งทางสายวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์โดยเฉพาะทางศิลปศาสตร์นั้น ทรงเป็นเอตทัคคะ ทรงเปี่ยมไปด้วยพระปรีชาสามารถทางศิลปกรรมประกอบด้วย จิตรกรรม ประติมากรรม
การถ่ายภาพ หัตถกรรม วรรณศิลป์ และดนตรี ฯลฯ จนทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญาว่า “อัครศิลปิน” หมายถึง ผู้มีศิลปะอันเลอเลิศหรือผู้เป็นใหญ่ในศิลปิน
70 years king bhumibol

พระราชาแห่งการพัฒนา

พระอัจฉริยภาพด้านหนึ่งที่มิอาจกล่าวข้ามได้คือ “ในด้านการพัฒนา” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเกษตรกรรม ทรงเป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่อง
มาจากพระราชดำริต่าง ๆ จึงปรากฏขึ้นมากมายทั่วประเทศ และส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการจัดการพัฒนาแหล่งน้ำตั้งแต่ฝนหลวง เขื่อน อ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำใต้ดิน ตั้งแต่ภูเขาสู่ทะเล ทรงฟื้นป่า มีฝายชะลอความชุ่มชื้น ทรงเน้นถึงการดูแลฟื้นฟูทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อประโยชน์อย่างยั่งยืน ให้มีน้ำกินน้ำใช้ตลอดไป

หน้าที่ของพระเจ้าแผ่นดิน

ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกาเมื่อ พ.ศ. 2503 นั้นบรรดานักหนังสือพิมพ์อเมริกันได้กราบทูลถามถึง “หน้าที่พระเจ้าแผ่นดินของพระองค์เป็นอย่างไร” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัส
ตอบด้วยพระปรีชา ซึ่งหนึ่งในพระราชดำรัสที่น่าจดจำครั้งนั้น พระองค์ทรงพระราชทานสัมภาษณ์ไว้ว่า

70 years king bhumibol

“…ตำแหน่งพระเจ้าแผ่นดินในปัจจุบันนี้ไม่มีหน้าที่ที่จะบริหารประเทศ ต้องมีฝ่ายบริหารทำให้งานการทุกอย่างของชาติดำเนินไปได้ด้วยดี ต่างคนต่างมีหน้าที่แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทำเฉพาะหน้าที่นั้น
เพราะว่าถ้าคนใดทำหน้าที่เฉพาะของตัวโดยไม่มองไม่แลคนอื่น งานก็ดำเนินไปไม่ได้ เพราะเหตุว่างานทุกงานจะต้องพาดพิงกัน จะต้องเกี่ยวโยงกัน ฉะนั้นแต่ละคนจะต้องมีความรู้ถึงงานของผู้อื่นและก็ช่วยกันทำ…”

ตลอด 70 ปีบริบูรณ์ที่ผ่านมา เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์
ที่ทรงงานหนักมากที่สุดพระองค์หนึ่งของโลก แม้ในยามที่ทรงพระประชวรก็ยังทรงงานอยู่ ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินตลอด 24ชั่วโมง หากจะเปรียบประเทศไทยเป็นดังรูปพีระมิด พระองค์ก็เปรียบดังประทับอยู่บนยอดพีระมิดของสังคมแต่เป็นพีระมิดหัวกลับ นั่นหมายถึงว่าพระองค์ได้ประทับอยู่ด้านล่าง ทำให้ทรงต้องเป็นผู้รองและแบกรับปัญหาทุก ๆ อย่างของประชาชน จึงทรงมีรับสั่งกับบรรดาบุคคลที่ทำงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่าง ๆ อยู่เสมอว่า…

“ความทุกข์ของประชาชนนั้น รอไม่ได้”

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 883 ปักษ์ 10 มิถุนายน 2559

3 สปาไทยสวยได้ไม่แพ้ชาติใดในโลก

account_circle

Story : Princess Hydrangea

               วีคนี้ Princess Hydrangea ขอพาว่าที่เจ้าสาวไปชุบผิวสวยด้วยทรีทเม้นต์แบบไทยๆ กับ 3 สปาสุดหรูใจกลางกรุงเทพฯ
grang-hyatt-erawan               1. ไอยสวรรค์ เรสซิเดนเชียล สปา แอนด์ คลับ @ Grand Hyatt Erawan
               สปาวิลล่าส่วนตัวในบรรยากาศสบายบนชั้น 5 ของโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ กับทรีทเม้นต์ Thai Revival ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าและคืนความชุ่มชื้นให้ผิวอีกครั้ง ด้วยสครับเนื้อทรายที่สกัดจากข้าวหอมมะลิผสานกลิ่นหอมของครีมตะไคร้ ก่อนปลดปล่อยความเมื่อยล้าจากการทำงานหน้าคอมนานๆด้วยการนวดไทยที่ขอบอกว่าน้ำหนักมือของเธอราพิสที่นี่ดีงามมาก
               ไอยสวรรค์ เรสซิเดนเชียล สปา แอนด์ คลับ ชั้น 5 โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ
               โทร.0-2254-1234

centara               2. สปาเซ็นวารี @ Centara Grand CentralWorld
               ว่าที่เจ้าสาวที่คร่ำเคร่งกับการเตรียมงานจนหลังยึด ขอแนะนำให้มาปลดเปลื้องความเหนื่อยล้ากับ Kati Basti ทรีทเม้นต์ที่เน้นบำบัดแผ่นหลังโดยเฉพาะ เริ่มจากใช้น้ำมันร้อนนวดทั้งตัวเพื่อปรับสมดุลร่างกาย ก่อนนำแป้งโดว (dough) ที่อุ่นไว้มาวางกลางแผ่นหลัง และค่อยๆ หยดน้ำมันร้อนลงไปจนเต็มแป้งโดวทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อให้น้ำมันซึมเข้าสู่ผิวแผ่กระจายไปทั่วเรือนร่าง และตามด้วยการประคบสมุนไพรไทยจากก้นครัว อาทิ มะกรูด ขิงสด โหระพา กะเพรา ตะไคร้ สาระแหน่ ผักชี และอบเชย ช่วงสะบัก ร่องกระดูกสันหลัง เอว สะโพก และเส้นตรงกล้ามเนื้อต่างๆ
               สปาเซ็นวารี ชั้น 26 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
               โทร.0-2100-1234 ต่อ 6511, 6516

sukhothai               3. สปา โบทานิก้า @ The Sukhothai Bangkok
               เติมเต็มความสดชื่นให้ร่างกายด้วยปลายนิ้วกับ Sukhothai Signature Massage ทรีทเม้นต์สูตรต้นตำรับจากสมุนไพรไทยอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ โดดเด่นด้วยท่วงท่าการนวดแบบไทยโบราณที่ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง และคลายความเมื่อยล้าได้เป็นอย่างดี ณ สปา โบทานิก้า ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่น ภายในตกแต่งด้วยสีเอิร์ธโทนดูสบาย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถทำทรีทเม้นต์ได้ทุกโปรแกรม อาทิ ถังไม้อาบน้ำสไตล์ญี่ปุ่น ห้องอบไอน้ำ อ่างน้ำวน ฯลฯ
               สปา โบทานิก้า โรงแรม สุโขทัย แบงค็อก
               โทร.0-2344-8900

keyboard_arrow_up