แฟน ละครพีเรียด ‘บุพเพสันนิวาส’ คงจำคำกล่าวคุณพี่เดชที่สอนแม่การะเกดว่า “คนเราต้องรู้จักหักใจในสิ่งที่ควรหัก มัวแต่หมกมุ่นครุ่นคิดถึงสิ่งที่ผ่านเลยไปก็หาประโยชน์อันใดมิได้” นี้ได้ ซึ่งสามารถเอามาใช้กำกับอาการอาลัยอาวรณ์ของแฟนๆ ละครที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้ เพราะละครอวสานไปแล้วได้ด้วยหนา

ปฏิเสธไม่ได้สิ่งที่ทำให้ ละครพีเรียด ‘บุพเพสันนิวาส’ ประสบความสำเร็จจนเกิดเป็นฟีเวอร์ถล่มทลายไปทั่วประเทศ ถึงกับถูกยกให้เป็น ละครแห่งสยามประเทศ ทั้งๆ ที่พล็อตหลักเรื่องการข้ามภพไปพบรักไม่ใช่สิ่งใหม่ ก็คือความที่บทประพันธ์ของ ‘รอมแพง’ ชิ้นนี้เพิ่งถูกนำมาสร้างเป็นละครครั้งแรก

ลิสต์นี้แพรวจึงอาสาพาไปส่อง ละครพีเรียด ที่ยังไม่เคยผ่านการสร้างเป็นละครมาก่อน มาให้ชาวเราได้อัพเดทกัน

หนึ่งด้าวฟ้าเดียว (ช่อง 3)

คิวออนแอร์ : 25 เม.ย. 2561 (ต่อจาก ‘บุพเพสันนิวาส’)

แนวละคร : พีเรียดโรแมนติก + อิงประวัติศาสตร์

ความน่าสนใจ : บทประพันธ์โดย ‘วรรณวรรธน์’ ผู้แต่งคนเดียวกับ ‘ข้าบดินทร์’ กล่าวถึงเรื่องราวของบุคคลสำคัญในสมัยกรุงศรีอยุธยาและกรุงธนบุรี โดยในเรื่องเป็นการอิงประวัติศาสตร์ทั้งด้านการรบ และความรักที่มีอุปสรรคจากความเข้าใจผิดว่าพระเอกเป็นขันที

เรื่องย่อ : เรื่องราวของ ‘ขันทอง’ (รับบทโดย เจมส์ จิรายุ) ชายหนุ่มลูกเสี้ยวไทย-ตุรกี ที่มีใบหน้าสวยราวกับผู้หญิง ปลอมตัวเข้าไปเป็นขันทีในราชสำนักนามว่า ‘ออกพระศรีขันทิน’ เพื่อสืบเรื่องราวของพ่อแม่ตนเอง แต่กลับต้องมารับใช้ ‘พระเจ้าตาก’ (รับบทโดย อั้ม อธิชาติ) ในการสืบหาคนทรยศชาติช่วงที่กรุงศรีอยุธยากำลังจะแตกดับ การสืบความนี้เองที่ทำให้ออกพระศรีขันทินต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ ‘แมงเม่า’ (รับบทโดย แต้ว ณฐพร) สาวน้อยจอมแก่น แสนซน ลูกเศรษฐี ที่มีความสามารถในการใช้กลบท การแต่งกลอนรูปแบบที่ซ่อนความหมาย ความลับ  ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนที่ต้องช่วยกันสืบความลับในวังหลวง พัฒนากลายเป็นความรัก ความผูกพัน ท่ามกลางความวุ่นวายของการแก่งแย่งชิงดีกันระหว่างขุนนางอยุธยาก่อนกรุงแตก เมื่อกรุงแตกแล้ว ทั้งสองก็ได้หนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในแผ่นดินพระเจ้าตากสิน ที่กรุงธนบุรีราชธานีแห่งใหม่

ทองเอก หมอยาท่าโฉลง (ช่อง 3)

แนวละคร : พีเรียดโรแมนติกคอมเมดี้

ความน่าสนใจ : เป็นละครพีเรียดที่เขียนพล็อตเรื่องขึ้นมาใหม่ เน้นคอมเมดี้เป็นหลัก ใครชอบจังหวะคอมเมดี้ของบุพเพสันนิวาส ไม่ควรพลาด

เรื่องย่อ : เรื่องราวของชายหนุ่มชื่อว่า ‘ทองเอก’ (รับบทโดย มาริโอ้ ) หมอยาสมุนไพรในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่รักษาคนอยู่ท่าโฉลง ยุคนั้นการรักษาคนเจ็บยังข้องเกี่ยวกับแง่มุมไสยศาสตร์อยู่มาก ทองเอกที่เป็นหมอยาสายพันธ์ใหม่จึงต้องฝ่าฟันกับความเชื่อ และศรัทธาของผู้คน โดยมี ‘แม่หญิงชบา’ (รับบทโดย คิมเบอร์ลี่) และผองเพื่อนเป็นกองหนุน

ลิขิตแห่งจันทร์ (ช่อง 3)

แนวละคร : พีเรียดโรแมนติก + แฟนตาซี

ความน่าสนใจ : เป็นละครที่พล็อตเรื่องขึ้นมาใหม่โดยมีแกนหลักเรื่องการข้ามภพคล้ายกับบุพเพสันนิวาสเป็นตัวชูโรง

เรื่องย่อ : เรื่องราวการข้ามภพของ ‘หมวดโอปอล’ ตำนวจสาวในโลกปัจจุบัน กับ ‘แม่หญิงดวงแก้ว’ แม่หญิงชาววังยุคปลายกรุงศรีอยุธยา (รับบทโดย น้ำตาล พิจักขณา นั่นหมายถึงคุณจะได้เห็นน้ำตาลเล่นเป็น 2 คาแร็คเตอร์) โดยทั้งคู่สามารถเดินทางข้ามมิติผ่านภาพวาดลึกลับที่ตกทอดมาจากสมัยโบราณ  หมวดโอปอลต้องข้ามภพไปเจอกับ ‘หลวงโอสถวรเวช’ (รับบทโดย เพื่อน คณิน) หมอหลวงแห่งราชสำนัก ด้วยท่าทางที่ทะเล้นของโอปอล ทำให้เขาหลงรักเธอ ส่วนแม่หญิงดวงแก้ว ก็ต้องสลับภพมาใช้ชีวิตเป็นตำรวจกองปราบ ได้เจอกับ ‘พิภพ’ (รับบทโดย กระทิง ขุนณรงค์) คู่หูตำรวจที่คอยช่วยและฝึกสอนการเป็นตำรวจให้แม่หญิงใหม่จนตกหลุมรักเธอ งานนี้คนดูต้องลุ้นว่านางเอกทั้งสองชาติจะกลับภพชาติของตัวเองไหม และถ้ากลับจะดึงพระเอกมาด้วยหรือไม่

เพลิงพรางเทียน  (ช่อง 3)

แนวละคร : พีเรียดดราม่า + แฟนตาซี

ความน่าสนใจ : บทประพันธ์โดย ‘หัสวีร์’ ใช้พล็อตข้ามภพเช่นกัน  โดยนางเอกย้อนกลับไปในอดีตที่เป็นสาวชาวเหนือ

เรื่องย่อ : เรื่องราวรักสามเศร้าในอดีตชาติที่ส่งผลถึงปัจจุบันของคน 3 คน ‘เทียนคำ’ (รับบทโดย ณิชา ณัฏฐณิชา) เด็กสาวใสซื่อ ลูกเลี้ยงของหนานแก้ว พรานในคุ้มเจ้าหลวง วันหนึ่งเธอถูกเสือทำร้าย หนานแก้วมาช่วยไว้ได้ ทว่า ‘เจ้าน้อย’ (รับบทโดย เต้ย พงศกร) บุตรชายของเจ้าหลวงกลับรับสมอ้างว่าช่วยเธอ ทำให้เทียนคำเทินทูนเจ้าน้อยอย่างมาก จนยอมเป็นภรรยาน้อย สร้างความโกรธเกรี้ยวให้กับ ‘เจ้าวงเดือน’ (รับบทโดย โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์) ภรรยาเอก และมารดาของเจ้าน้อยเป็นอย่างมาก จึงวางแผนฆ่าเทียนคำอย่างโหดเหี้ยม ด้วยความแค้นก่อนตายเทียนคำอธิษฐานขอให้ชาติภพใหม่มีชีวิตเหมือนดวงอาทิตย์ที่พร้อมจะเผาศัตรูให้มอดไหม้ ไม่ใช่เทียนเล่มน้อยด้อยแสง

ยุคปัจจุบัน ‘กลินท์’ นางแบบสาวชื่อดังที่มีใบหน้าเหมือนกับเทียนคำเป๊ะ แต่กลับมีนิสัยแตกต่างกันชนิดคนละขั้ว เธอกำลังมีประเด็นฉาวเพราะไปรักกับสามีคนอื่น แต่เธอไม่แคร์ เพราะผู้ชายบอกว่ากำลังจะเลิกกับภรรยา ระหว่างนั้นเธอก็ได้รับปิ่นทองโบราณมาอันหนึ่ง และเริ่มฝันถึงเทียนคำ ผู้หญิงที่มีหน้าตาคล้ายๆ กับเธอ เมื่อกลินทร์ได้รับรู้เรื่องราวของเทียนคำผ่านความฝัน ทำให้รู้สึกเจ็บแค้นแทน เป็นจุดเริ่มต้นให้ปิ่นทองแสดงอภินิหาร ทำให้เธอได้เข้าไปในร่างเทียนคำ และลุกขึ้นตอบโต้ทุกคนที่ทำร้ายเธอ

กลิ่นกาสะลอง (ช่อง 3)

แนวละคร : พีเรียดดราม่า + แฟนตาซี

ความน่าสนใจ : ใช้พล็อตข้ามภพอีกแล้ว แต่ว่ากันว่าบทประพันธ์ของ ‘เนียรปาตี’ เรื่องนี้ฮ็อทมากในหมู่นักอ่านจนส่งเสียงเรียกร้องกันมากว่าอยากให้นำมาสร้างเป็นละคร

เรื่องย่อ : นายแพทย์หนุ่ม ‘ทินกฤต’ (รับบทโดย เจมส์ มาร์) นายแพทย์อนาคตไกล ลูกชายเพียงคนเดียวที่ถูกหมายมั่นปั้นมือจากบิดาให้เป็นผู้สืบทอดโรงพยาบาลยักษ์ใหญ่ คบหาจนกลายเป็นคู่หมายของแพทย์หญิง ‘พิมพ์พิศา’ (รับบทโดย ญาญ่า อุรัสยา) สาวไฮโซมานานหลายปี  จนใครต่อใครพากันจับตามองและคาดหวังถึงงานวิวาห์ของคนทั้งคู่ แต่ความรักที่ดูจะโรยด้วยกลีบกุหลาบดุจในเทพนิยายกลับมีอุปสรรค ด้วยว่าเมื่อวันเวลาผ่านไป งานแต่งงานที่หมอสาววาดหวังก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้น แม้กระทั่ง “บ้านหลังนั้น” ที่เธอหมายมั่นว่าจะเป็นเรือนหอ หมอหนุ่มก็ยังไม่เคยยอมให้เธอเข้าไปอยู่! หมอสาวมั่นใจว่าคนรักของเธอไม่เคยมีใครอื่น… แต่ทำไมดูเหมือนเขายังรอใครสักคน คนที่ไม่ใช่เธอ… แล้ววันหนึ่งพิมพ์พิศาก็ตระหนักรู้ว่าการต้องต่อสู้กับสิ่งที่เรียกว่า “คน” ยังจะดีกว่าสิ่งที่เธอกำลังเผชิญ!

กรงกรรม (ช่อง 3)

แนวละคร : พีเรียดดราม่า

ความน่าสนใจ : ใครชอบพีเรียดหนักๆ ใครอยากเห็น เบลล่า ราณี พลิกบทบาทครั้งใหญ่เป็นโสเภณี ห้ามพลาด

เรื่องย่อ : ‘บ้าน’ เปรียบเสมือน ‘กรง’ หากคนในบ้าน ประพฤติปฏิบัติดี ทำแต่กรรมดี เรื่องดีๆ ย่อมเกิดขึ้นกับคนในบ้าน แต่ถ้าคนในบ้านประพฤติชั่ว ทำบาป อยู่เนืองๆ เรื่องร้ายๆ ย่อมเข้ามา เฉกเดียวกับสำนวนที่ว่า ‘กงเกวียนกำเกวียน’ และเพราะ ‘บ้านแบ้’ เปรียบเหมือนกรงแห่งกรรม เป็นบ่อลึกที่เอ่อขังความสกปรกโสมมไว้ พอถึงคราวที่กระแสกรรมชักนำคนหลายชีวิตไหลหลั่งเข้ามา ด้วยแรงรัก แรงแค้น และแรงอาฆาตมาดร้าย มุ่งหมายถึงความพินาศหายนะ ซึ่งทุกคนก็อ้างเหตุผลและความชอบธรรมของตนทั้งนั้น รวมถึง ‘เรณู’ (รับบทโดย เบลล่า ราณี) อดีตหญิงทำงานบาร์จากฐานบินตาคลี จะมาสู่ ‘กรง’ แห่งนี้ด้วยความรักความเสน่หาต่อ ‘ปฐม’  (รับบทโดย ฐกฤต) ลูกชายคนโตแห่งบ้านตระกูลแบ้ แต่การเข้ามาของเธอกลับมืดดำด้วยอำนาจมนตราและเสน่ห์ยาแฝด ทำให้เธอได้รับแรงกระแทกกลับรุนแรงจนแทบเอาตัวไม่รอดจากสะใภ้รอง ผู้ที่ต้องกล้ำกลืนฝืนทนกับการสูญเสียชายคนรักให้เธอไป งานนี้มันต้องแตกหักจนถึงจุดจบของชีวิต จึงสะสาแก่ใจ…

ลายกินรี (ช่อง 3)

แนวละคร : พีเรียดอิงประวัติศาสตร์สมัยกรุงศรีอยุธยา + สืบสวนฆาตกรรม

ความน่าสนใจ : การพบกันครั้งแรกของ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ และ ญาญ่า อุรัสยา ในงานนวนิยายของนักเขียนชื่อดัง ‘พงศกร’

เรื่องย่อ : ความตายของกัปตันเดินเรือชาวฝรั่งเศสสร้างความสั่นสะเทือนให้กับแผ่นดินอยุธยาไม่ใช่น้อย และนั่นทำให้ ‘แม่หญิงพุดซ้อน’ (รับบทโดย ญาญ่า อุรัสยา) หมอสตรีของกรุงศรีฯ ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ความยุ่งยากยุ่งเหยิงยิ่งเพิ่มเป็นเท่าทวี เมื่อเธอตกที่นั่งลำบาก ต้องมาอยู่ตรงกลางระหว่างบุรุษหนุ่มผู้งามสง่าสองคน หนึ่งนั้นคือออกหลวงอินทราชภักดี (รับบทโดย ติ๊ก เจษฎาภรณ์) ขุนนางกรมพระตำรวจผู้มีอนาคตไกล และเมอซีเออร์โรแบรต์ หนุ่มรูปงามชาวฝรั่งเศส ผู้มีผมสีทอง ดวงตาสีฟ้า การสืบสวนที่แข่งกับเวลา ผ้าลายกินรีที่คนตายสวมใส่ และหัวใจรักที่แม่หญิงพุดซ้อนต้องเลือก โดยมีความอยู่รอดของแผ่นดินเป็นเดิมพัน

บ่วงสไบ (ช่อง 7)

แนวละคร : พีเรียดดราม่า + สยองขวัญ

ความน่าสนใจ : ใครชอบพีเรียดผี เรื่องนี้คือใช่

เรื่องย่อ : มนุษย์เราเกิดมาหาได้มีบุญวาสนาเท่าเทียมกันไม่ ดังเช่น ‘พุดจีบ’ (รับบทโดย  กรีน อัษฎาพร) ลูกของคุณหลวงนฤเดช ซึ่งมีทุกอย่างตามที่ใจปรารถนา ผิดกับ ‘แก้ว’ (รับบทโดย ทับทิม อัญรินทร์) ลูกเมียทาสที่คุณหลวงหาได้ยอมรับไม่ ความลับที่ไม่เป็นความลับ เป็นสาเหตุให้นางอิ่ม แม่ของแก้วถูกเฆี่ยนจนตาย ลูกนางทาสเก็บความแค้นฝังใจ สักวันจะต้องได้ทุกอย่างมาเป็นของตน! เรื่องอัปรีย์บังเกิด เมื่อพุดจีบแอบลักลอบได้เสียกับนายมิ่ง ทาสชั้นต่ำ ซ้ำร้าย ‘คุณเทพ’ (รับบทโดย นิว วงศกร) ลูกบุญธรรมที่เรียนจบจากเมืองนอก ดันไปคว้าแก้วมาทำเมีย เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น สร้างความอับอายมาสู่ครอบครัว จนเกิดโศกนาฏกรรม พุดจีบโทษตัวเองว่าเป็นสาเหตุนั้น ก่อนจะพบศพเธอใช้ผ้าสไบผูกคอตายที่ต้นจำปี วิญญาณของเธอยังวนเวียน บ่วงความแค้นยังพันผูก เพื่อรอคอยการ “สะสาง” และ  “ทวงคืน!”

เสน่ห์นางครวญ  (ช่อง 8)

คิวออนแอร์ : 28 เมษายน 2561

แนวละคร : พีเรียดชิงรักหักสวาท

ความน่าสนใจ : ต้องลุ้นกันว่าจะมีความหลอนหรือไม่

เรื่องย่อ :  ‘ไต้ก๋งชาง’  (รับบทโดย ภูธเนศ) กัปตันเรือสินค้าจากเมืองจีน ล่องเรือผ่านท้องน้ำอันกว้างใหญ่มาสู่น่านน้ำไทย ระหว่างทางมีซินแสทำนายดวงชะตาว่า หากได้มาทำมาหากินที่แผ่นเดินไทย จะมีความเจริญรุ่งเรืองรุ่งโรจน์ เป็นที่รู้จักและนับหน้าถือตาของคนทั่วไป แต่หากวันใดที่เขามีคู่และคิดนอกใจ เมื่อนั้นจะหมดสิ้นทั้งอำนาจวาสนาที่สร้างมาทั้งหมด แต่ไต้ก๋งซางไม่ได้เชื่อตามคำทำนายของซินแสเท่าไหร่นัก

ระหว่างทางเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น พายุใหญ่พัดกระหน่ำจนทำให้เรือล่มไม่เป็นท่า ลูกเรือทั้งหมดเสียชีวิต เหลือเพียงไต้ก๋งซางเท่านั้นที่ได้รับความช่วยเหลือจากขุนทนงค์ ผู้กว้างขวางที่หมู่บ้านลำพระพราย ไต้ก๋งชางเหมือนได้ชีวิตใหม่จากการช่วยเหลือของขุนทนงค์ จึงได้ช่วยทำงานที่กิจการค้าขายของขุนทนงค์จนกิจการเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก และได้พบรักกับ ‘รำเพย’ (รับบทโดย ปริศนา) ลูกสาวของขุนทนงค์ แต่แล้วโชคชะตาก็ได้นำพาสิ่งต่างๆ ที่ไม่คาดฝันเข้ามา เมื่อ ‘งามตา’ (รับบทโดย เวฬุรีย์) ได้เข้ามาเกี่ยวพันกับชีวิตของไต้ก๋งซาง จนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ เรื่องราวความรักความแค้นที่ถูกซ่อนเร้นอยู่ ทำให้ก้องภพและเฟื่องฟ้าซึ่งเป็นรุ่นลูกของไต้ก๋งชาง เกิดความสงสัยเป็นอย่างมาก ทำให้ต้องช่วยกันคลี่คลายปมปริศนา

อย่างที่บอกไว้ในตอนต้นว่า ละครทั้ง 9 เรื่องนี้ มีสิ่งที่เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือมีความใหม่ เพิ่งถูกนำมาสร้างเป็นละครครั้งแรก แต่คนที่ชอบงานพีเรียดรีเมคก็ยังมี สายโลหิต ช่อง 7 ดงผู้ดี ช่อง 8 และสายรักสายสวาท ช่อง ONE ที่จ่อคิวรอออนแอร์อีกนะ เพราะฉะนั้นไม่เหงาหรอก บอกเลย

ที่มาภาพ : ช่อง 3 , ช่อง 7, ช่อง 8 และช่อง ONE