อดีตนางสาวไทย ป๊อป-อารียา สิริโสภา
เตรียมโชว์ฝีมือใน ลิขิตรัก The Crown Princess 

ใกล้จะได้ชมกันแล้วสำหรับละคร ลิขิตรัก The Crown Princess ผลงานของผู้จัดฯ แอน ทองประสม ที่ได้พระนางคู่ขวัญ ฝันอยากทำงานร่วมกันมานานอย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ และญาญ่า-อุรัสยา มาประกบคู่กัน ทั้งนี้ยังได้อดีตนางสาวไทย ป๊อป-อารียา สิริโสภา เจ้าของรอยยิ้มละมุน มารับบท พลโทหญิงเสาวนี สมุทรยากร คุณแม่ของณเดชน์ในเรื่อง โดยการมารับบทครั้งนี้สาวแอนถึงกับต้องโทรหาสาวป๊อปเลยว่า บทนี้ต้องเป็นป๊อป-อารียา เท่านั้น 

มีลักยิ้มคู่กันสมกับการมารับบทแม่ลูก ในเรื่องลิขิตรัก The Crown Princess สำหรับอดีตนางสาวไทย คุณป๊อป-อารียา สิริโสภา ที่ต้องมารับบท พลโทหญิงเสาวนี สมุทรยากร คุณแม่ของณเดชน์ คูกิมิยะ หรือหนุ่มทหารเรือ นาวาตรีดวิน สมุทรยากร นอกจากแฟนๆ จะได้กลับมาเห็นใบหน้าสวยหวานของสาวป๊อปบนจอหลังห่างหายจากงานแสดงมานานหลายปีแล้ว ยังจะได้เห็นมุมเท่ ทะมัดทะแมง ของสาวป๊อปในชุดเครื่องแบบทหารอีกด้วย

การมารับบทในละครครั้งนี้ สาวป๊อปเผยว่า ตอนแรกคิดว่าจะไม่รับเล่นแล้ว แต่ด้วยความเป็นสาวแอน ทองประสมที่โทรมา เธอจึงอยากช่วย ประกอบกับคุณแม่ชื่นชอบณเดชน์ คูกิมิยะ และสนับสนุนให้เธอรับเล่น บทของพลโทหญิงเสาวนีจึงตกเป็นของสาวป๊อปอย่างสมบูรณ์ ซึ่งแบ็คกราวน์ของตัวละครนี้ ได้มีสามีที่เสียชีวิตในหน้าที่การงาน และด้านลูกชายก็เลือกเดินไปตามเส้นทางที่คล้ายๆ กับสามีด้วย โดยเธอนั้นต้องเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งทั้งภายนอกและภายในเลยทีเดียว โดยถ้าย้อนมาดูชีวิตจริงของสาวป๊อป ที่ปฏิเสธการรับเล่นละครมานาน 20 ปี เพราะอยากดูแลคุณแม่ที่ป่วยเป็นโรคสมองน้อยฝ่ออย่างใกล้ชิดโดยไม่ให้คลาดสายตา ก็ทำให้สัมผัสได้ว่า สาวป๊อปเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมากจริงๆ

ปัจจุบันสาวป๊อปอายุ 46 ปี ไม่ได้มองเรื่องการแต่งงาน มีชีวิตคู่เป็นสิ่งสำคัญ โดยไลฟ์สไตล์ของอดีตนางสาวไทยคนนี้ก็เน้นการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ดูแลครอบครัว ท่องเที่ยว เล่นโยคะ สอนโยคะแก่คนอื่นๆ โดยมีคุณแม่คอยเซ็นชื่อ เช็คชื่อให้ เพื่อให้คุณแม่รู้สึกว่าตัวเองนั้นมีคุณค่า เรียกว่าเป็นอีกการเสริมพลังให้คุณแม่อีกทางหนึ่งด้วย จากบทลูกสาวที่ดูแลคุณแม่ในชีวิตจริง มารับบทบาทคุณแม่ของพระเอกณเดชน์ในเรื่องนี้ บรรยากาศจะออกมาเป็นอย่างไร และใครที่คิดถึงฝีมือการแสดงที่หายไปจากหน้าจอนานกว่า 20 ปีของป๊อป-อารียา แพรวดอทคอมบอกเลยว่า ห้ามพลาด ลิขิตรัก The Crown Princess เรื่องนี้เลยทีเดียว

มุมลูกสาวดูแลคุณแม่ ครอบครัว น่ารักมาก

ออกกำลังกาย เล่นโยคะ รับ-ส่งพลังงานที่ดี แข็งแรงให้แก่ตัวเองและคนรอบข้าง

ทิ้งท้ายโหมดคุณแม่-คุณลูกลักยิ้ม จากละครลิขิตรัก The Crown Princess

เรื่อง: บะหมี่กุ๊งกิ๊ง_แพรวดอทคอม
ข้อมูลบางส่วน: ทุกวินาทีแสนมีค่า ป๊อป -อารียา อยากสร้างรอยยิ้มให้แม่ทุกวัน, เปิดกองวิก 3 (ลิขิตรัก) | Ch3Thailand
ภาพ: IG @keaw_jung @pop_areeya

หลุยส์ สก๊อต และ นุ่น-รมิดา ประภาสโนบล ร่วมลงเงินซื้อที่ดินในที่ประเทศญี่ปุ่น หวังสร้างบ้านพักตากอากาศของครอบครัว เผยเข้าใจกันและกันไม่ซีเรียสฝ่ายชายเลือก แต่งบ้านก่อนแต่งงาน

ก่อนหน้านี้เมื่อมีโอกาสซักถามเรื่องแต่งงานทีไร นักแสดงหนุ่ม หลุยส์ สก๊อต ก็จะบอกว่ากำลังเก็บเงินเพื่อสร้างบ้านเสมอ ทว่าตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด บ้านของดาราหนุ่มก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว แถมแต่ละหลังก็หรูหราสุดๆ หลายๆ คน เลยอยากรู้สเต็ปต่อไปของชีวิตโดยเฉพาะเรื่องแต่งงาน โดยในงาน บู๊ทส์ แอดเวนเทจ การ์ด “ฉลองครบรอบ 6 ปี สมาชิกทะลุ 4 ล้านราย” ณ ร้านบู๊ทส์ ชั้น 3 เซ็นทรัลเวิล์ด หลุยส์ สก๊อต พร้อมแฟนสาว นุ่น-รมิดา ประภาสโนบล ได้ปรากฏตัวพร้อมกัน ซึ่งนับตั้งแต่เกิดกระแส บุพเพสันนิวาสฟีเว่อร์ ทั้งสองคนก็รับงานคู่กันบ่อยขึ้น ซึ่งนับเป็นเรื่องราวดีๆ เพราะก่อนหน้านี้แทบจะไม่เคยได้ออกงานร่วมกันเลย เกี่ยวกับเรื่องนี้สาวนุ่นเผยว่า

“ไม่ได้บ่อยขนาดนั้น แต่ก็ยังรับงานสู้คู่อื่นไม่ได้หรอกค่ะ ในส่วนเรื่องเงินนั้นก็เป็นต่างคนต่างดูค่ะ แต่ใช้จ่ายรวมกันหมด จริงๆ ก็อยากได้เงินส่วนของเขาแต่ยังไม่ถึงเวลาค่ะ (หัวเราะ) แต่ยังไม่แต่งหรอกค่ะ เขายังต้องทำอีกหลายสิ่ง เราก็บอกเขาสู้ๆ นะ แต่เรื่องขอแต่งงานไม่ต้องหรอกค่ะ (หัวเราะ) ตอนนี้แค่คุยกันขำๆ”

เมื่อถามถึงข่าวล่าสุดได้ยินมาว่าซื้อที่ดินด้วยกันที่ญี่ปุ่น หลุยส์บอกว่า “คราวที่แล้วที่ไปเที่ยว ก็มีโอกาสได้ไปดูกับรุ่นพี่และเพื่อนๆ ที่ไปพร้อมกันเลยถือโอกาสซื้อที่ไว้ด้วย ซื้อพร้อมกัน เป็นโปรเจ็กต์ที่ทุกคนอยู่ใกล้ๆ กัน ซื้อที่ติดกัน ที่ตัดสินใจซื้อที่โน่น เพราะเราติดไลฟ์สไตล์ที่โน่น มันมีหิมะ มีกีฬาที่จะให้เราเล่น อากาศก็ต่างจากบ้านเราเยอะ คนละขั้วเลย รวมทั้งเราโอเคกับอาหารที่นั่นด้วย เป็นที่ดินในย่านนิซึโกะครับ ราคาก็ไม่สูงมากครับ พอใช้ได้ ไม่ได้ถูกไม่ได้แพง”

“ผมอยากให้เป็นบ้านพักไว้ตอนเราไปเที่ยวช่วงหน้าหนาว ช่วงหิมะ ที่เราอยากพาครอบครัวไป แต่ไม่ได้ตั้งใจจะอยู่ที่นั่นเป็นหลักเพราะก็ไม่รู้จะทำอะไร มันหนาวมาก ไม่ไหวครับ ที่ซื้อเพราะถือเป็นจังหวะที่ดีที่เราซื้อที่แล้วหารกัน ถ้าไม่ซื้อตอนนั้นมันก็จะหลุดไป และถ้าเรามาซื้อเองก็จะโดดเดี่ยวไม่มีเพื่อนบ้าน”

เมื่อถามว่าโปรเจ็กต์ใหญ่ขนาดนี้ต้องเก็บเงินเพิ่มหรือเปล่า หนุ่มหลุยส์บอกว่า “ก็มีส่วนครับ ต้องใช้เวลา แต่ถามว่าเตรียมงบไว้เท่าไหร่อันนี้ไม่บอก(หัวเราะ)”

อย่างไรก็ตามเมื่อถามถึงทุ่มให้บ้านขนาดนี้แพลนแต่งต่อไปจะทำอย่างไร ในเรื่องนี้ นุ่นเผยว่า “แต่งบ้านก่อน เพราะเราต้องให้เขาแฮ็ปปี้ตรงนั้นก่อน ส่วนตัวไม่รู้สึกน้อยใจอะไร ขอเมื่อไหร่ก็ได้ (หัวเราะ) ต้องให้สร้างรากฐานมั่นคงก่อน เดี๋ยวนี้มันก็ต้องแบบนั้นค่ะ เราคิดอยากทำอะไรถ้ารากฐานมั่นคงเราก็สบาย ไม่ต้องเครียดแล้ว แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับอายุด้วย (หัวเราะ) แต่ไม่เป็นไรค่ะ หมอเก่งๆ เยอะ เราอยู่แบบเข้าใจโลกค่ะ”

ประกาศฤกษ์มงคลอย่างเป็นทางการ คู่รักสายบุญ พุฒิ-พุฒิชัย เกษตรสิน และ จุ๋ย-วรัทยา นิลคูหา เผยแต่งงานวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 พิธีจัดแบบเรียบง่าย ชุดแต่งงาน Made in Thailand

หลังจากพิจารณาฤกษ์มงคลมาพักใหญ่ ว่าจะเลือกวันไหนดี ล่าสุด คู่รักสายบุญ ก็ตัดสินใจลงตัวแล้ว โดยเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2561 ทั้งคู่ได้จูงมือกันออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนในงาน Supersports New Concept Store in Central World ที่จัดขึ้น ณ Super sports ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยทั้งคู่เผยว่างานมงคลจะมีขึ้นในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ

เห็นว่าวันนี้มีข่าวดีมาบอกทุกคน ?

พุฒ : ก็ตามที่สัญญาไว้ครับว่าวันนี้จะมาบอกว่าฤกษ์แต่งงานของเราคือเมื่อไหร่ ซึ่งก็คือวันที่ 16 พฤศจิกายน เป็นช่วงปลายปีนี้ครับ ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล เป็นงานพิธีทั้งหมั้นและแต่งในวันเดียวกันเลย

ฤกษ์นี้ได้มาอย่างไร?

จุ๋ย : ได้มาจากพระผู้ใหญ่ที่เราสองคนนับถือท่านช่วยดูให้ค่ะ เป็นฤกษ์เดียวที่ได้มาเลย ซึ่งเอาจริงๆ เราได้ฤกษ์มานานแล้วนะคะ แต่ที่ก่อนหน้านี้ยังบอกกับพี่ๆ นักข่าวไม่ได้ก็เพราะ เขาจะต้องมีฤกษ์บอกด้วยอีกทีหนึ่ง (หัวเราะ)”

พุฒ : หลายคนอาจสงสัยก่อนหน้านี้ว่าทำไมเรายังไม่บอกสักที จริงๆ เราก็อยากจะบอกนะครับ แค่เราอาจจะต้องถือเคล็ดสักนิดหนึ่ง (ยิ้ม)

ตอนนี้เตรียมงานกันไปถึงไหนแล้ว ?

จุ๋ย : ถ้าถามว่าคืบหน้ากี่เปอร์เซ็นต์แล้ว ต้องบอกก่อนว่างานของเราคืองานเรียบง่าย ไม่ได้หวือหวา ดังนั้นเราเลยเตรียมงานกันเรื่อยๆ และก็คิดว่าน่าจะทันนะคะ เพราะเรื่องชุดต่างๆ เราก็ได้คุยกับพี่ที่เรารักและเคารพให้ช่วยจัดการแล้ว วัดตัวเรียบร้อยแล้ว ชุดก็ Made in Thailand เลยค่ะ ธีมสีขาว เทา น้ำเงิน งานมีแค่เช้าเที่ยงก็จบเลย (ยิ้ม)

ทำไมเราถึงเลือกจัดงานแบบไม่มีอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ?

จุ๋ย : เราสองคนไม่ใช่สายปาร์ตี้ก็เลยไม่ถนัดกับตรงนี้มากกว่า อีกอย่างเราอยากให้งานเป็นไปอย่างเรียบง่ายตามประเพณีไทยด้วยค่ะ

ได้มีการสู่ขอกันอย่างเป็นทางการแล้วหรือยัง ?

พุฒ : คุณพ่อคุณแม่ผม ได้เข้าไปเจอกับคุณพ่อคุณแม่จุ๋ยแล้วครับ พวกท่านก็ได้คุยกันบ้างแล้ว แต่ว่าเร็วๆ นี้อาจจะมีคุยกันอย่างเป็นทางการแน่นอน เพราะทุกอย่างก็มีพิธีการมีขั้นตอนของแต่ละพิธีเหมือนกันหมด”

ส่วนหนึ่งที่ตัดสินใจแต่งงานปีนี้เพราะอยากจะมีน้องด้วยไหม ?

พุฒ : ถ้าเอาตรงๆ ผมเองก็เป็นคนชอบเด็ก และจุ๋ยก็ชอบเด็กเหมือนกัน ถ้าหากวันหนึ่งเราได้แต่งงานกันแล้ว เราก็อยากจะมีลูกเลยถ้าหากเป็นไปได้ อย่างที่บอกบางคนอยากมีมาก แต่พอถึงเวลาจริงๆ น้องก็ไม่มา ผิดกับบางคนที่อาจจะยังไม่ถึงเวลาแต่น้องก็มาแล้ว เราก็เลยไม่รู้ว่าเราจะอยู่ในโหมดไหน

ได้วางแผนครอบครัวไปพร้อมกับงานแต่งเลยไหม หรือว่าให้ผ่านงานแต่งไปก่อน ?

จุ๋ย : จริงๆ เราก็คุยกันนะคะว่าจะเป็นยังไง แต่ก็อย่างที่พุฒบอกเรื่องร่างกายเราไม่รู้จริงๆ ว่ามันจะโอเคหรือเปล่า ถ้าหากเปิดปุ๊ปเขามาปั๊ปก็ถือว่าโชคดีมากๆ

หลังจากนี้จุ๋ยจะต้องเคลียร์งานรอเลยไหม ?

จุ๋ย : ตอนแรกจุ๋ยก็ตั้งใจจะเคลียร์งานให้ละครจบภายในต้นปีนี้ แต่ว่าละครดันเลยเถิดไป หนูก็เลยไว้ผมยาวไม่ได้สักที ต้องเป็นผมทรงนี้แน่ๆ เลย

ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งแล้วหรือยัง ?

จุ๋ย : เราเป็นคู่ที่ไม่มีพรีเวดดิ้งค่ะ ทุกๆ ที่คือพรีเวดดิ้ง เพราะงานพวกเราเรียบง่ายมาก อาจจะเรียบง่ายจนพี่ๆ ตกใจ

สินสอดเยอะไหมสำหรับคู่เรา ?

พุฒ : ก็ตามฤกษ์และตามความเหมาะสมครับ (ยิ้ม)

เตรียมเรือนหอแล้วหรือยัง ?

พุฒ : ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงของการออกแบบครับ เป็นเรือนหอย่านวัชรพล แต่ไม่น่าจะเสร็จทันหลังแต่งงาน เพราะการสร้างบ้านรายละเอียดค่อนข้างเยอะ

คู่เราฝ่าฝันมรสุมกันมานาน พอถึงวันนี้แล้วเป็นยังไงบ้าง ?

จุ๋ย : มันเป็นความรักจริงๆ ที่เราพร้อมจะร่วมทุกข์ร่วมสุข เวลามีปัญหาอะไรเราก็พร้อมที่จะฝ่าฝันมันให้ได้ ทุกชีวิตย่อมมีปัญหา เราไม่ได้มีแต่ความสุขอย่างเดียว เราต้องมีความทุกข์บ้างให้มันสมดุล ซึ่งความทุกข์นั่นแหละค่ะที่ทำให้เราได้เห็นกันมากขึ้น

สุดท้ายรู้สึกยังไงบ้างที่ต้องเปลี่ยนจากคำว่าแฟนกลายเป็นคำว่าคู่ชีวิต ?

พุฒ : ก็คงไม่แตกต่างไปจากเดิม เพราะทุกวันนี้เขาก็คือคู่ชีวิตของเราอยู่แล้ว เวลามีปัญหาก็คุยกัน เวลาต้องการกำลังใจก็สลับกันให้กำลังใจ

จุ๋ย : จุ๋ยคิดมาตลอด และก็หวังว่าพุฒจะเป็นคนที่ใช่สำหรับเราตั้งแต่แรก เวลาที่เราได้ใช้ชีวิตด้วยกันทุกวันมันก็เติมเต็มคำว่าใช่ขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะเขาจะมีนิสัยความน่ารักที่เราและคนรอบข้างทุกคนต่างก็รักเขา ซึ่งสิ่งนั้นก็คือสิ่งที่ทำให้เราสบายใจ และรู้สึกได้ว่าเขาน่าจะเป็นคู่ชีวิตที่ดีในอนาคตสำหรับเรา