9 แบรนด์ชุดแต่งงานสายเก๋ ผู้เสิร์ฟกลิ่นอายสดชื่นให้แก่วงการ

account_circle

พอพูดถึงแบรนด์ดังตัวพ่อตัวแม่แห่งวงการ ชุดแต่งงาน แล้ว ภาพจำก็มักจะออกมาเป็นแพทเทิร์นที่ให้ความรู้สึกและบรรยากาศเดิมๆใช่ไหมล่ะคะ ประมาณว่าต้องหรูหราฟูฟ่องอลังการ หางยาวแปดเมตรหรืออะไรก็ว่าไป ความกูตูร์ต้องบังเกิดไปทุกทิศทางแห่งวงการชุดแต่งงาน ทำให้เวลามีแบรนด์เกิดใหม่ที่พยายามจะพาตัวเองโตออกมานอกกรอบแต่ละที เราเองก็ลุ้นเอาใจช่วยอยู่ตลอด ที่กล่าวมาทั้งหมดทั้งมวลนั้นไม่ใช่ว่ากูตูร์หรูหราจะไม่ดี แต่คงจะดีมากกว่าหากเราได้เห็นอะไรสดใหม่ให้ดีต่อสายตากันบ้าง ปนๆกันไปให้วงการเต็มไปด้วยเฉดสีที่หลากหลายน่ะออกจะดีต่อใจว่าไหมคะ วันนี้ แพรว wedding จึงถือโอกาสรวมลิสต์ดีไซเนอร์แบรนด์ชุดแต่งงานสายเก๋มาฝากกันบ้าง ถึงบางแบรนด์อาจเป็นน้องใหม่ในวงการ แต่รับรองว่าฝีมือไม่ธรรมดาแน่นอนเลยล่ะค่ะ 😉

 

Odylyne The Ceremony

ชุดแต่งงาน

แบรนด์เก๋โดยสเตฟานี่ ไวท์ ดีไซเนอร์ชาวลอสแอนเจอลิส กับงานชุดเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาวที่ผสมผสานความรู้สึกเย็นสบายจากสายลมของแคลิฟฟอร์เนีย กับความร้อนร้ะอุของทะเลทรายในสไตล์โบฮีเมียน

Rime Arodaky

ชุดแต่งงาน

แบรนด์วินเทจสไตล์ผสมกับกลิ่นอายความเป็นร็อค แอนด์โรล รวมเข้ากับการตัดเย็บมาตรฐานไฮเอนด์ ล้วนมาจากความเชื่อของดีไซเนอร์สาวที่ว่าเจ้าสาวสวยๆไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองดูเป็นเจ้าสาวจ๋าขนาดนั้น ความงดงามจากธรรมเนียมปฏิบัติต่างๆจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราอยุ่ในจุดที่สบายใจที่สุด อะไรมากไปใช่ว่าจะดี

Bo & Luca

ชุดแต่งงาน

แบรนด์เอ็กโซติคสไตล์ ควบรวมกับความโรแมนติกของโบฮีเมียน เกิดเป็นคอลเล็กชั่นชุดเจ้าสาวที่ดูน้อยด้วยการการตัดเย็บที่ไม่ซับซ้อน เป็นชุดเจ้าสาวทรงเชธผ่าสูง สายเดี่ยว คอวีลึก แต่มากความเซ็กซี่เมื่อสวมใส่ และงานปักลวดลายเล็กอันประณีต

Laure de Sagazan

ชุดแต่งงาน

ดีไซเนอร์สาวชาวปารีเซียงของแท้ กับสไตล์ชุดเจ้าสาวที่ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในเทศกาลดนตรีโคเชลล่า มาปั่นรวมกับความเป็นเจน เบอร์กิ้นแสนเก๋ จนออกมาเป็นชุดเจ้าสาวใส่สบายทรงลูซฟิต ในวงการกล่าวว่าเธอคือตัวแทนของสายเฟมินีนหัวรั้น ที่เซียนสุดๆเรื่องลวดลายผ้าลูกไม้

Anya Fleet

ชุดแต่งงาน

ขึ้นชื่อว่าเลบาเนี่ยนแบรนด์ก็จริง แต่ดีไซเนอร์คนนี้กลับมางานที่แตกต่างจากเลบาเนี่ยนสายกูตูร์คนอื่นๆที่ส่วนมากมีชื่อในการทำซีลูเอธแบบเนื้อแนบเนื้อ อันย่านั้นสามารถทำชุดเจ้าสาวได้หลากหลายสไตล์โดยไม่ยึดติด ตั้งแต่สายโบฮีเมียน สุภาพสตรีแสนหวาน หรูหราสะกดสายตา หรือเป็นทางการแบบสุดๆ

Lihi Hod

ชุดแต่งงาน

แบรนด์สไตล์ยูโร-โบฮีเมียน ที่ดูสวมใส่ง่ายแต่แฝงด้วยความหรูหราคือเสน่ห์ของดีไซเนอร์คนนี้ กับประสบการณ์จากการทำงานในทีมของ John Galliano เจ้าสาวไว้ใจเธอได้เลยในการขึ้นทรงชุด เธอเก่งกาจชนิดที่ว่าเจ้าสาวลองชุดแค่ทีเดียวจบ ไม่ต้องแก้ซ้ำไปซ้ำมา อีกทั้งฝีเข็มสุดประณีตส่งให้ชุดสวยเปล่งประกายสุดๆ

One Day

ชุดแต่งงาน

แบรนด์ขวัญใจสาวออสซี่ ที่ใส่ความเป็นปารีเซียงสไตล์ และบรรยากาศของย่านโซโหเข้าไปในชุดเจ้าสาวของตน ออกมาเป็นชุดที่ทั้งเก๋ เท่ และแกลมสุดๆ เป็นส่วนผสมที่เฟนินีนน้อย โมเดิร์นมาก

Christos Costarellos

ชุดแต่งงาน

ดีไซเนอร์ชาวกรีซที่หลงใหลในสไตล์โบฮีเมียน ทั้งเชี่ยวชาญและเข้าใจธรรมชาติของเนื้อผ้าแต่ละชนิดเป็นอย่างดี เขาสามารถนำลูกไม้หลากชนิดมาขึ้นชุดรวมกันได้อย่างกลมกล่อมสวยงาม ขึ้นชื่อเรื่องความประณีต

Savannah Miller

ชุดแต่งงาน

ปิดท้ายกันด้วยดีไซเนอร์สาวสายโบฮีเมียน ที่มีประวัติการทำงานในสายแฟชั่นที่ไม่ธรรมดา เธอผ่านงานทั้งที่Alexander McQueen และ Matthew Williamson มาแล้ว คอลเล็กชั่นชุดเจ้าสาวกลิ่นอายโบฮีเมียนล่าสุดของเธอนั้นมีแต่คนพูดถึง

 

cr : harpersbazaar.com, districtweddings.com

ชวน ว่าที่เจ้าสาว มาทำ สปาเท้า ด้วยตัวเองที่บ้านแบบชิลล์ๆ

account_circle

เท้า ใครว่าไม่สำคัญ ไหนวันแต่งงานจะต้องยืนนานๆ แถมเทรนด์ชุดเจ้าสาวตอนนี้ยังชอบเปิดเผยเท้าอีก เราเลยชวนว่าที่เจ้าสาวมาทำ สปาเท้า เพื่อพร้อมเผยผิวเท้าสวยในวันแต่งงานกันค่ะ

รู้ไหมคะว่า เท้า เป็นส่วนที่ถูกละเลยมากที่สุดในการดูแลความงามของผู้หญิงส่วนใหญ่ โดยเฉพาะหากเป็น เจ้าสาว เรามักจะคิดว่าไหนๆ ก็ใส่กระโปงยาวถึงพื้นไม่มีใครเห็นเท้าของเราอยู่แล้ว แต่! อย่าลืมนะคะว่าการดูแลเท้าที่ดีไม่เพียงแค่จะช่วยให้ผิวเท้าของเราดูเรียบเนียนสะอาดแสดงถึงความมีสุขอนามัยของเรา แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็น เล็บขบ เชื้อราในเล็บเท้า หรือตาปลา ที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดได้ นอกจากนั้นการดูแลปรนนิบัติเท้ายังเป็นวิธีที่ช่วยคลายเครียดและผ่อนคลายที่เวิร์คมาก เราก็เลยอยากชวนว่าที่เจ้าสาวทุกคนมาทำ สปาเท้า ง่ายๆ เองที่บ้าน อุปกรณ์ไม่ต้องเป๊ะเหมือนสปาก็สามารถทำได้แล้ว ใครอยากเพิ่มความสนุกโดยชวนเพื่อนเจ้าสาวมาทำด้วยกันเป็นแก๊งก็ไม่ว่านะ เพื่อว่าวันแต่งงานเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาวจะได้มีผิวเท้าสวยเนียนนุ่มพร้อมเล็บเท้าสวยๆ โดยพร้อมเพรียงกันแบบประหยัดงบค่ะ!

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

  • อ่างล้างเท้า
  • ผ้าขนหนู
  • หินขัดเท้า
  • กรรไกรตัดหนัง
  • เกลือหอมหรือ Bath Salt
  • เอสเซนเชียลออยล์กลิ่นที่ชอบ
  • ออยล์สำหรับนวดตัวหรือ Massage Oil
  • สครับเท้า หรือถ้าไม่มี ใช้สครับสำหรับผิวตัวแทนก็ได้
  • มอยซ์เจอไรเซอร์สำหรับผิวเท้า (ถ้าไม่มี ใช้ของผิวกายแทนได้เหมือนกัน)
  • มอยซ์เจอไรเซอร์สำหรับจมูกเล็บ หรือ Cuticle Cream

เริ่มด้วยล้างเท้าของเราให้สะอาดตามปกติ เติมน้ำอุ่นอุณหภูมิกำลังพอดีในอ่างล้างเท้า ใส่ Bath Salt หรือ เหยาะ เอสเซนเชียลออยล์กลิ่นที่เราชอบลงไปในอ่างเพื่อเพิ่มความหอมผ่อนคลาย แล้วแช่เท้าของเราไว้สัก 15 นาที 

สปาเท้า
beautyinsider.com

แอบแถม วิธีทำเกลือหอม Bath Salt ด้วยตัวเอง!

สปาเท้า
dearcreatives.com

เมื่อครบ 15 นาทีแล้ว ผิวเท้าของเราจะนิ่ม ใช้หินขัดเท้าขัดบริเวณส้นเท้าเพื่อขจัดหนังส่วนเกินที่ทำให้ส้นเท้าแตกลายออก

สปาเท้า

เช็ดเท้าให้แห้ง แล้วใช้กรรไกรตัดหนัง ตัดหนังส่วนเกินรอบๆเล็บออกเพื่อป้องกันเล็บขบ

สปาเท้า

ล้างเท้าให้สะอาดอีกรอบ แล้วตามด้วยการสครับผิวเท้ารวมถึงน่องให้ทั่วด้วยสครับสำหรับผิวกาย

สปาเท้า
ERB Oriental Sole Foot Tea Bath

ล้างเท้าเอาสครับออกให้สะอาด เช็ดให้แห้ง เหยาะน้ำมันนวด หรือ Massage Oil ลงบนฝ่ามือ 1-2 หยด ผสมกับมอยซ์เจอไรเซอร์ แล้วนวดวนบริเวณน่องไล่ไปจนถึงฝ่าเท้าทีละข้าง (ดูวิธีการนวดเท้าง่ายๆ ด้วยตัวเอง ที่นี่)

สปาเท้า
The Body Shop-Spa of The World Thai Lemongrass Massage Oil

ปิดท้ายด้วยการทา มอยซ์เจอไรเซอร์สำหรับจมูกเล็บ บริเวณจมูกเล็บให้ครบทั้ง 10 นิ้ว หลังจากนี้หากต้องการทาเล็บเท้าให้มีสีสันสวยงามก็สามารถทำได้เลยค่ะ

สปาเท้า
Soap & Glory Heel Genuis
สปาเท้า
Crabtree & Evelyn La Source Nail and Cuticle Therapy

 

หวังว่าวิธีการสปาเท้าด้วยตัวเองของเราจะช่วยให้ว่าที่เจ้าสาวสามารถใส่รองเท้าส้นสูงแบบเปลือย เปิดเผยเท้าอย่างมั่นใจได้ในวันสำคัญของเรา แถมยังช่วยเซฟกระเป๋าสตางค์เพราะไม่ต้องเสียเงินไปทำที่ร้านด้วย

ถ้าชอบคอนเท้นต์นี้ของเรา ลองคลิกอ่าน แฮนด์ครีมราคาดี๊ดีเพื่อผิวมือเนียนนุ่ม! ที่นี่เลย

แฟชั่นผู้ชาย

ฮ็อตจนสาวร้องว้าว! เสิร์ฟ 5 ไอเดียแฟชั่นผู้ชาย แต่งเติมสีสันด้วยเสื้อผ้าคัลเลอร์ฟูล

แฟชั่นผู้ชาย
แฟชั่นผู้ชาย

จะว่าไป แฟชั่นผู้ชาย ก็มาแรงไม่แพ้ทางฝั่งผู้หญิงเหมือนกันนะ เพราะสีสันของเสื้อผ้าไม่ได้ตีกรอบไว้สำหรับผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายก็สามารถสวมใส่เสื้อผ้าหลากสีสันให้ออกมาดูดี มีสไตล์ได้เช่นกัน “ห้างเซ็นทรัล” จึงรวมไอเดียการมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย พร้อมแนะไอเท็มเด็ดหลากหลายสีสันให้หนุ่มๆ ไว้เติมเต็มสไตล์ช่วงซัมเมอร์ ในงาน Central | Zen Men With Style” กับคอนเซ็ปต์ “Colour Up” ระหว่างวันที่ 3 – 22 พฤษภาคม 61 ณ แผนกบุรุษ ห้างเซ็นทรัล ทุกสาขา และเซน พร้อมส่วนลดสูงสุด 30% งานนี้รับรองหนุ่มๆ ต้องฮ็อต…จนสาวร้องว้าวแน่นอน

โดยเทรนด์สีที่กำลังมาแรงในช่วงซัมเมอร์นี้มีหลายสีสันด้วยกัน แต่ที่โดดเด่นสุดๆ ต้องยกให้เสื้อผ้าสีสดอย่าง เหลืองมัสตาร์ด เขียว ส้ม ม่วง แดง  เพราะเป็นเทรนด์แบบ Color Block ที่มีการจับคู่สีตรงข้ามมามิกซ์แอนด์แมทช์รวมกันหรือไล่เฉดสีกันจนเกิดเป็นสไตล์เท่ๆ ที่เห็นแล้วสะดุดตา ส่วนหนุ่มคนไหนที่ยังไม่รู้ว่าจะแมทช์สีอย่างไรให้ดูดีมีสไตล์ จะเอาไอเดียจากด้านล่างนี้ก็ไม่ว่ากัน

 

แฟชั่นผู้ชาย กับ 5 ไอเดียเติมสีสันด้วยเสื้อผ้าคัลเลอร์ฟูล

 

1. ชิลมีสไตล์ใน Surfer Look

เริ่มที่เบาๆ กับ Surfer Look อีกหนึ่งสไตล์ที่เหมาะจะใส่ในช่วงหน้าร้อน ด้วยไอเท็มกางเกงขาสั้นสีสด แมทช์กับเสื้อยืดหรือเสื้อกล้ามสีพื้น หรือจะเพิ่มความเท่ด้วยแจ็คเก็ตลายพริ้นท์ไว้ใส่ไปเดินในห้างเล่นๆ ก็หล่อ เท่ สะดุดตาไม่เบา

 

แฟชั่นผู้ชาย

 

แฟชั่นผู้ชาย
เสื้อยืด Club Monaco ราคา 3,900 บาท

 

แฟชั่นผู้ชาย
แจ็คเก็ต Club Monaco ราคา 22,500 บาท

 

แฟชั่นผู้ชาย
กางเกง Deus ราคา 2,590 บาท

 

แฟชั่นผู้ชาย
แว่นกันแดด Arnacade ราคา 7,000 บาท

 

2. สร้างสไตล์ให้โดดเด่นด้วย Denim Look

หลายคนคิดว่าเสื้อผ้าเดนิมเหมาะกับชุดสีเรียบๆ จึงมักแมทช์กับกางเกงยีนส์ ขาว ดำ หรือน้ำเงิน แต่หากลองฉีกความคิดเดิมๆ แล้วเติมไอเท็มสีสันอย่างกางเกงสีส้มตุ่นหรือสีแสด จะช่วยให้ซัมเมอร์นี้ของหนุ่มๆ ดูมีสีสันเพิ่มขึ้นเป็นกอง

แฟชั่นผู้ชาย

 

แฟชั่นผู้ชาย
เสื้อเชิ้ต Theory ราคา 5,900 บาท

 

แฟชั่นผู้ชาย
แจ็คเก็ต Levi’s ราคา 3,190 บาท

 

แฟชั่นผู้ชาย
กางเกง Meticulous ราคา 2,950 บาท

 

แฟชั่นผู้ชาย
รองเท้า Sperry ราคา 2,190 บาท

 

3. เท่ไม่เหมือนใครในสไตล์ Hawai Street

ถือเป็นไอเท็มแฟชั่นที่อยู่คู่ทุกซัมเมอร์ สำหรับเสื้อฮาวายสีสันสดใส แต่ถ้าอยากโดดเด่นไม่เหมือนใคร ลองมิกซ์สไตล์ความเป็น Street Wear ลงไป อย่างรองเท้าผ้าใบหลากสีสัน ก็ทำให้ได้ลุคใหม่ไม่ซ้ำใคร แถมมีสไตล์แนวๆ อีกด้วย

แฟชั่นผู้ชาย

 

แฟชั่นผู้ชาย
เสื้อเชิ้ต Deus ราคา 2,990 บาท

 

แฟชั่นผู้ชาย
กางเกง Club Monaco ราคา 8,990 บาท

 

แฟชั่นผู้ชาย
หมวก Ecua-Andino ราคา 3,250 บาท

 

แฟชั่นผู้ชาย
รองเท้า Nike ราคา 4,600 บาท

 

4. หล่อ เนี้ยบ แบบ American Casual

American Casual สไตล์กึ่งทางการที่สามารถใส่ทำงานก็ได้หรือจะใส่ออกงานก็ดูดีไม่แพ้กัน ด้วยการผสมโทนสี Ivy League (โทนสีแบบนักศึกษาอเมริกัน) ผ่านเครื่องแต่งกายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกางเกงยีนส์ สูท หมวกแก๊ป และเนคไท ทำให้ดูดีมีสไตล์แบบนักเรียนนอกคูลๆ

แฟชั่นผู้ชาย

 

แฟชั่นผู้ชาย
เสื้อเชิ้ต Takeo Kikuchi ราคา 3,900 บาท

 

แฟชั่นผู้ชาย
สูท Suit Select ราคา 6,990 บาท

 

แฟชั่นผู้ชาย
กางเกงยีนส์ Levi’s ราคา 2,595 บาท

 

แฟชั่นผู้ชาย
หมวก Deus ราคา 1,290 บาท

 

5. ดูดีทุกโอกาส ตามสไตล์ Smart Casual

ปลดปล่อยสไตล์ในวันศุกร์ ด้วยเสื้อผ้าสีสันอย่างเสื้อเชิ้ตสีเหลืองมัสตาร์ด แมทช์กับสูทสีน้ำเงินและรองเท้าผ้าใบ ก็ทำให้หนุ่มๆ หล่อ เท่ ในลุค Smart Casual ที่ช่วงเช้าใส่ไปทำงาน ส่วนช่วงค่ำเตรียมไปปาร์ตี้แฮงค์เอ้าท์ต่อกับเพื่อนๆ

แฟชั่นผู้ชาย

 

แฟชั่นผู้ชาย
เสื้อยืด Deus ราคา 1,790 บาท

 

แฟชั่นผู้ชาย
ชุดสูท Suit Select ราคา 11,990 บาท

 

แฟชั่นผู้ชาย
กางเกงชิโน LTD ราคา 1,995 บาท

 

แฟชั่นผู้ชาย
รองเท้า Pro Keds ราคา 3,750 บาท

ไอเดียไหนโดนใจหนุ่มๆ ไปตามหาไอเท็มชิ้นเด็ดที่จะเสริมลุคของหนุ่มๆ ให้ดูดีมีสไตล์ ผ่านเครื่องแต่งกายสีสันในแบบของคุณได้ที่งาน Central | Zen Men With Style” กับคอนเซ็ปต์ “Colour Up” ระหว่างวันที่ 3 – 22 พฤษภาคม 61 ณ แผนกบุรุษ ห้างเซ็นทรัล ทุกสาขา และเซน พร้อมส่วนลดสูงสุด 30% เมื่อซื้อสินค้าปกติ พร้อมเสิร์ฟม็อคเทลสูตรพิเศษ สำหรับลูกค้าที่ช้อปฯ ครบตามเงื่อนไข ให้หนุ่มๆ ได้ดับร้อน แบบคูลๆ ในซัมเมอร์นี้

 

โรงแรมสยามเคมปินสกี้ เสนอ โปรโมชั่นอาหารและเครื่องดื่ม สุดพิเศษ พร้อมแพคเกจสปาในหนึ่งเดียว

โรงแรมสยามเคมปินสกี้กรุงเทพฯ ขอแนะนำ โปรโมชั่นอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมแพคเกจ สปาที่รังสรรค์ขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อต้อนรับช่วงเวลาซัมเมอร์ให้คุณได้เลือกเพลิดเพลิน สังสรรค์  หรือเลือกผ่อนคลายได้ตลอด ทั้งเดือนพฤษภาคมนี้ ปรับสมดุลให้กับร่างกายและจิตใจกับ ทรีตเมนต์คลายร้อน ณ เคมปินสกี้ เดอะ สปา ท่ามกลางอุณหภูมิที่สูงในช่วงซัมเมอร์นี้ เคมปินสกี้เดอะ สปา (Kempinski The Spa) ณ โรงแรมสยามเคมปินสกี้กรุงเทพฯ ขอแนะนำ สปาทรีตเมนต์สุดพิเศษ “Summer Bliss” ที่จะช่วยปรนนิบัติดูแลผิวของคุณพร้อมปรับสมดุลให้กับร่างกายได้ผ่อนคลายจากอากาศที่ร้อน

โรงแรมสยามเคมปินสกี้ เสนอ โปรโมชั่นอาหารและเครื่องดื่ม สุดพิเศษ

โปรโมชั่นอาหารและเครื่องดื่ม

ทรีตเมนต์ “Summer Bliss” ได้ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันโดยใช้ในการบำบัดด้วยการนวดน้ำมันอโรมาพร้อมพลัง ธรรมชาติจากหินเย็น (cold stones)นวดผ่อนคลายความร้อนเป็นเวลา 90 นาทีคุณสมบัติของหินเย็นจะช่วยลดการระคายเคือง ของผิวที่สัมผัสกับแสงแดดและอากาศร้อน ปรับอุณหภูมิภายในร่างกายให้เย็นลงกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น แถม ยังช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ อีกหนึ่งคุณสมบัติที่โดดเด่นของหินเย็นคือพลังธรรมชาติของหินจะส่งผ่านเข้าสู่ร่างกายช่วยกระตุ้นการทา งานของระบบ ประสาท ลดอาการบวมและอักเสบของกล้ามเนื้อ ข้อต่อต่างๆ ช่วยรักษาสมดุลของทั้งร่างกายให้เข้ากับ สภาพอากาศและเติม เต็มพลังงานให้กับร่างกายกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ผ่อนคลายร่างกายไปกับสปาทรีตเมนต์ “Summer Bliss” ที่จะช่วยปรับสมดุลให้กับร่างกายคุณในช่วงฤดูร้อนนี้ท่ามกลาง บรรยากาศอันแสนหรูหรา เงียบสงบและผ่อนคลายใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร ณ เคมปินสกี้ เดอะ สปา พร้อมให้บริการ แล้ววันนี้ในราคา 3,950 บาท++(สำหรับทรีตเมนต์90 นาที) *ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าบริการ 10% ข้อเสนอสุดพิเศษที่ รวบรวมโปรโมชั่นอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมแพคเกจสปาในหนึ่งเดียว ณ โรงแรมสยามเคมปินสกี้กรุงเทพฯ

โปรโมชั่นอาหารและเครื่องดื่ม

เพลิดเพลินไปกับการจิบน้าชายามบ่ายในบรรยากาศที่หรูหรา ณ หนุมาน บาร์กับชุดน้ำชายามบ่ายเมนูใหม่“Dulce Rosa Afternoon Tea”ที่เสิร์ฟความอร่อยในธีมสีชมพูที่สดใสงดงาม ดอกไม้บานในช่วงฤดูร้อน ชุดน้ำชายามบ่ายสไตล์อังกฤษชุดใหม่นี้รังสรรคข์้ึนมาเป็นพิเศษโดยเชฟแฟรงส์บราวน์หัวหน้าพ่อครัวเบเกอรีที่ได้นำสีชมพู มาใส่ไว้ในขนมและของหวานเพิ่มความหวานน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น เมนูไฮไลท์เริ่มต้นด้วยของว่างแสนอร่อยสไตล์ฝรั่งเศสอย่าง โวโลวองไก่ (chicken and mushroom vols-au-vent) ที่เสิร์ฟเนื้อไก่และเห็ดในพายกรอบนอกนุ่มใน ชีสบอล (cheese ball canapés)เอแคลร์สอดไส้เนื้อปลาแซลมอนพร้อมซอสมายองเนสบีทรูท (salmon rillettes éclaires with beetroot mayonnaise) และเนื้อย่างเสิร์ฟพร้อมผักร็อกเก็ตและหัวหอมกลิ่นหอมรัญจวน (roast beef with rocket and caramelized onions) เป็นต้น สำหรับขนมหวานและเค้กได้ถูกรังสรรค์ขั้นมาอย่างพิถีพิถันโดยใช้วัตถุดิบที่ให้สีชมพูตามธรรมชาติอย่างสตรอว์เบอร์รีหรือ กระเจี๊ยบแดงเป็นส่วนผสมหลักในแต่ละเมนู ซึ่งภายในเซตประกอบไปด้วย คัพเค้กสีชมพูแสนหวานสไตล์เจ้าหญิง ขนมพาฟโลวาสีแดงและขนมโลลิป๊ อปสีชมพู เป็นต้น ท่านสามารถเลือกอิ่มอร่อยไปกับของว่างและขนมหวานภายในชุดน้า ชายามบ่ายนี้ควบคู่ไปกับชาคุณภาพจากประเทศ เยอรมันนี “รอนน์เฟลด์” หรือกาแฟหอมกรุ่นนำเข้าจากประเทศอิตาลี “ลาวาซซา” ช่วยเติมเต็มช่วงเวลายามบ่ายของคุณให้ได้ สัมผัสถึงบรรยากาศของการผ่อนคลายอย่างแท้จริง

“Dulce Rosa Afternoon Tea” ให้บริการถึง 30 มิถุนายน 2561 ณ หนุมานบาร์ตั้งแต่เวลา 14:00 น. ถึง 17:00 น. ราคา 750 บาท++ ต่อเซตสำหรับ 1 ท่าน รวมชาหรือกาแฟ

โปรโมชั่นอาหารและเครื่องดื่ม

บุฟเฟ่ต์นานาชาติมื้อค่ำรูปแบบใหม่ “Never-Ending Flavours” ตอกย้ำความอร่อยสไตล์ยุโรปขนานแท้ ห้องอาหารบราสเซอรี ยูโรป้า ณ โรงแรมสยามเคมปินสกี้กรุงเทพฯ ขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมเปิดประสบการณ์ความอร่อย แนวใหม่ในช่วงซัมเมอร์นี้กับคอนเซ็ปต์ใหม่ของบุฟเฟ่ต์นานาชาติมื้อค่ำ ที่เพิ่มตัวเลือกให้คุณได้อิ่มอร่อยได้อย่างไม่จำกัดพร้อมเมนูอาหารจานเดี่ยว (main course) เสิร์ฟในรูปแบบ à la carte สไตล์ยุโรปที่ปรุงสดใหม่ตามออเดอร์แบบจานต่อจาน เสิร์ฟให้ถึงโต๊ะอาหารของท่านเพิ่มเติมจากอาหารในไลน์บุฟเฟ่ตเพื่อเอา ใจลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ บุฟเฟ่ตมื้ค่ำ Never-Ending Flavours เปิดให้บริการทุกวันในราคา 1,800 บาท++ ต่อท่าน รวมน้ำ เปล่า ชาและกาแฟ อิ่มเอมไปกับอาหารคุณภาพชั้นเลิศระดับห้าดาวที่มีให้คุณได้เลือกรับประทานมากมายอาทิ ซูชิ ซาชิมิอาหารทะเลเสิร์ฟบน เคาน์เตอร์น้า แข็งเพื่อรักษาความสดใหม่เช่นหอยนางรม “ฟิ น เดอ แคลร์” กุ้งขาว กุ้งลายเสือ ก้ามปูหิมะ หอยแมลงภู่ นิวซีแลนด์สลัดบาร์ ชีสและโคลด์ คัทนานาชนิด และซุปประจำวันให้เลือกในสไตล์ตะวันออกและตะวันตก เป็นต้น เมนูอาหารจานเดี่ยว (main course)เสิร์ฟในรูปแบบ à la carte มีให้เลือกมากมาย พร้อมเสิร์ฟหมุนเวียนสลับ เปลี่ยนกันไปทุกๆ สองสัปดาห์ เช่น สเต็ก flat iron เนื้อวัวแสนฉ่ำเสิร์ฟพร้อมกราแตงหัวหอมราดด้วยซอสเนื้อ (Australian slow-cooked flat Iron steak with gratin onion and beef jus) Pork Belly หมูดำสายพันธุ์เบอร์กเชียร์ อบกับข้าวโพดรมควัน พร้อมซอสบาร์บีคิว (roasted Berkshire pork belly with smoked corn and home-made BBQ sauce) ปลาแซลมอนรมควัน เสิร์ฟพร้อมถั่ว เลนทิล และซอสไวน์ขาวทาร์รากอนสไตลฝ์รั่งเศส (hot smoked salmon with braised lentils and Chardonnay tarragon sauce)

นอกจากนี้ยังมีเมนูพาสต้าให้ทุกท่านได้เลือกรับประทานในหลากหลายรูปแบบ เสิร์ฟหมุนเวียนสลับเปลี่ยนกันไปทุกๆ สอง สัปดาห์เพื่อความหลากหลายเช่น รีซอตโตกุ้งเสิร์ฟกับถั่ว ลิสงบดแบบเผ็ดและถั่วงอก (basil risotto with prawn and spicy peanuts crumbs served with sprouts and lime)

ตบท้ายความอร่อยในทุกค่า คืนกับ มุมเอาใจคนรักของหวาน เต็มอิ่มไปกับขนมอบเบเกอรีนานาชนิดเช่น ช็อกโกแลตพราลีน แอปริคอท ขนมโดนทัจิ๋ว เค้กช็อกโกแลตฟัดจ์ขนมทาร์ตรูบาร์บ ขนมเครมบูเล่ตะไคร้หอม และช็อกโกแลตฟองดูว์พร้อม เรื่องเคียงนานาชนิด เป็นต้น

โปรโมชั่นอาหารและเครื่องดื่ม

ดื่มด่ำไปกับซันเดย์บรันช์รูปแบบใหม่ “Signature Sunday Rośe Brunch”ณ ห้องอาหารบราสเซอรียูโรป้า (ฟรีอัพเกรดเป็นแชมเปญระดับพรีเมี่ยม “Louis Roederer Pink Champagne” เมื่อแต่งกายหรือใส่เครื่องประดับในธีมสีชมพู) โรงแรมสยามเคมปินสกี้กรุงเทพฯขอแนะนำ ซันเดย์บรันช์รูปแบบใหม่ “Signature Sunday Rośe Brunch” ที่มาในธีมสีชมพู แสนสดใส เขากับคอนเซ็ปต์ของการยกระดับความสุขให้กับลูกค้าทุกท่านที่มาใช้บริการด้วยอภินันทนาการพิเศษอัพเกรดเป็น แชมเปญระดับพรีเมี่ยม “Louis Roederer Pink Champagne” ให้กับลูกค้า้ที่เลือกรับประทานในแพคเกจหลักที่รวมเครื่องดื่ม ผสมแอลกอฮอล์โดยแต่งกายหรือใส่เครื่องประดับในร่างกายธีมสีชมพู“นี่คืออีกหนึ่งทางเลือกที่แสนวิเศษสำหรับลูกค้าท่าน ใดที่อยากพาครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนมาร่วมดื่มด่่ำไปกับบรรยากาศที่แสนสบายในช่วงสายของวันอาทิตย์ ณ ห้องอาหารบรา สเซอรี ยูโรป้า

โปรโมชั่นอาหารและเครื่องดื่ม

สำหรับแพคเกจของ “Signature Sunday Rośe Brunch” ได้ถูกออกแบบมาอย่างหลากหลายเพื่อเอาใจทั้งลูกค้าชาวไทยและ ชาวต่างชาติเริ่มต้น ที่ราคา 2,400 บาท++ ต่อท่านรวมเครื่องดื่มซอฟทด์ริ้งราคา 1,200บาท++ ส าหรับเด็กอายุ 6-12ปี และราคา 4,500 บาท++ ต่อทานรวมเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ พร้อมรับสิทธิพิเศษ ่ ฟรีอัพเกรดแชมเปญเป็น Louis Roederer Pink Champagne (Rosé Champagne) สำหรับลูกค้าท่านใดที่แต่งกายหรือใส่เครื่องประดับในธีมสีชมพู ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และอัตราค่าบริการ 10% สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและติดต่อสำรองที่นั่งโทร 02 162 9000 หรืออีเมล์[email protected]

แฟชั่นนี้ต้องมา! ส่องไอเท็มพลาสติก PVC จากแบรนด์ไฮเอนด์ของเหล่าคนดัง

ดูเหมือนว่าช่วงนี้ ไอเท็มพลาสติก PVC จากแบรนด์ไฮเอนด์จะกลายเป็นแฟชั่นที่เหล่าคนดังพากันนำมาครีเอทลุคไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งไอเท็มจากพลาสติกคุณภาพดีเหล่านี้ ก็เหมาะกับสภาพอากาศของบ้านเราในช่วงนี้อยู่นะ เพราะด้วยความใส ความกันน้ำ ก็ดูท่าจะรับมือกับหน้าฝนได้อยู่ แต่ใช่ว่าเหล่าคนดังเขาจะใส่เพื่อกันตัวเองให้หลบเลี่ยงจากน้ำกระเด็นหรือกระเซ็นใส่ซะเมื่อไหร่ เพราะไอเท็มพวกนี้คือแฟชั่น ไม่จำเป็นต้องรอฟ้ามืด ฝนตกก็ใส่สวยๆ เริ่ดๆ ถ่ายรูปเก๋ๆ ลงอินสตาแกรมได้

ซึ่งงานพลาสติกที่เราเห็นๆ กันนั้น ไม่ธรรมดานะจ๊ะ เพราะอย่างที่ทราบกันว่าเป็นงานของแบรนด์ระดับไฮเอนด์ เรื่องของราคาก็ต้องมีตะลึงกันบ้าง อย่างไอเท็มเด็ดของ Chanel ในคอลเล็คชั่น Spring/Summer 2018 เรียกได้ว่าเป็นคอลเล็คชั่นที่โดดเด่นไปด้วยไอเท็มโปร่งใสแบบกันน้ำที่ทำมาจากพลาสติก ซึ่ง Chanel ดีไซน์ออกมาได้หลากหลาย ทั้งหมวก ถุงมือ รองเท้า และกระเป๋า เห็นแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าช่างเหมาะกับการนำมาครีเอทลุคใส่ชิคๆ รับหน้าฝนซะจริงๆ โดยคอลเล็คชั่นนี้เป็นฝีมือการดีไซน์ของ คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ของแบรนด์ รับประกันงานคุณภาพเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมาอย่างแน่นอน

ส่วนอีกหนึ่งไอเท็มที่เป็นกระแสแรงไม่แพ้กันก็คือ Céline Plastic Bag เป็นงานดีไซน์จากคอลเล็คชั่น Summer 2018 โดยมีครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ฝีมือดีอย่าง Phoebe Philo เป็นคนออกแบบ ซึ่งเธอได้แรงบันดาลใจมาจากถุงพลาสติก แต่เห็นใสๆ แบบนี้ใช่ว่าจะไม่แข็งแรงนะ เพราะกระเป๋าทำมาจาก PVC และเพิ่มความยูนีคด้วยการสกรีนโลโก้แบรนด์ พร้อมคำแนะนำในการใช้งานไว้อย่างดี

เอาล่ะ! เกริ่นที่มาที่ไปของไอเท็มสุดฮิตกันแล้ว ตอนนี้เรามาดูกันดีกว่าคนดังบ้านเราที่หยิบข้าวของเหล่านี้มาใช้มีใครกันบ้าง และแต่ละคนครีเอทลุคให้เข้ากับไอเท็มพลาสติกได้ยังไงบ้าง ตามมาส่องกันเลย

 

ไอเท็มพลาสติก PVC จากแบรนด์ไฮเอนด์ของเหล่าคนดัง

 

เปิดฉากความไฮแบรนด์กันที่แม่ชม ครั้งไปทำงาน ณ กรุงปารีส เรียกได้ว่าหลังจากที่สาวชมโพสต์ภาพนี้ เพจต่างๆ ก็พากันอัพภาพแม่ชมรัวๆ พร้อมบอกราคาของกระเป๋าใบใสที่ถืออยู่ ทำเอาโลกออนไลน์ร้อนระอุ ต่างวิจารณ์กันไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นด้วยความเป็นแฟชั่นนิสต้าตัวแม่ จะเป็นคนนำเทรนด์ก็ไม่แปลกนะเธอ โดย Céline Plastic Bag ที่ขุ่นแม่ถืออยู่นี้ สนนราคา $590 หรือประมาณ 18,571 บาท

ไอเท็มพลาสติก PVC
ยืนโพสต์ท่าเก๋ๆ สะบัดผมเบาๆ ถือกระเป๋า Céline Plastic Bag ก็ดูแพงแล้ว

 

ไอเท็มพลาสติก PVC
กระเป๋าใสจริง แต่ความแข็งแรงก็ไม่น้อย ใส่ของได้เยอะอยู่นะ

 

ไอเท็มพลาสติก PVC
ตอนอยู่เมืองไทยแม่ชมก็เคยหยิบมาใช้แล้วเหมือนกัน

ต่อกันที่นางร้ายไซส์มินิ แก๊งเดียวกับแม่ชม ดิว-อริสรา งานนี้คงไม่มีใครจัดเต็มได้เท่านี้แล้ว มาเกือบครบทั้งคอลเล็คชั่น ไม่ว่าจะถุงมือ กระเป๋า รองเท้า ซึ่งแต่ละไอเท็มราคาก็แรงใช่เล่น แต่สาวดิวก็โนแคร์ เพราะครีเอทลุคออกมาแล้วได้ความยูนีค สวยเก๋ ไม่ซ้ำใครจริงๆ โดยตัวถุงมือ PVC นี้ราคาอยู่ที่คู่ละ 21,500 บาท รองเท้าบู๊ทคู่ยาวมาในราคา 48,500 บาท ส่วนกระเป๋าใสสกรีนโลโก้ชาแนล ก็ฟาดมาด้วยราคาหลักหมื่นเช่นกัน ต้องบอกว่าสวยและรวยเว่อร์

ไอเท็มพลาสติก PVC
โททัลลุคคือผู้ดี ไฮโซไปอีก จะว่าไปแต่งออกมาแบบครบเซ็ตก็เป๊ะเว่อร์ได้นะ

 

ไอเท็มพลาสติก PVC
ยอมกับแฟชั่นของสาวดิวจริงๆ

 

ไอเท็มพลาสติก PVC
จะมองมุมไหน ไอเท็มก็ยังโดดเด่น เริ่ดดด

ปิดท้ายกันที่คุณแม่ยังแซ่บ ไอด้า-ไอรดา สาวชิคอีกหนึ่งคนที่เลือกใช้ไอเท็มจาก Chanel SS 2018 มาแต่งตัวเช่นกัน ซึ่งไอเท็มที่เราเห็นก็จะเหมือนกับของสาวดิวคือ กระเป๋าและรองเท้าบู๊ทสูง เรื่องราคาก็คงไม่ต้องขานกันแล้ว เพราะราคาหลักหมื่นเท่ากันกับของนางร้ายหน้าหวาน ดิว-อริสรา นั่นเอง โดยฝั่งสาวไอด้าได้ครีเอทลุคแนวสตรีทๆ ที่มีลูกเล่นสนุกสนานบวกเข้ากับไอเท็มพลาสติกได้อย่างมีสีสันเลยทีเดียว คูลมากกกก

ไอเท็มพลาสติก PVC
จะไม่เด่นก็ให้รู้ไป ความสีแดงกับความใสของไอเท็มเข้ากันได้ดีมากๆ

 

ไอเท็มพลาสติก PVC
หิ้วกระเป๋าเดินเล่นสวยๆ

 

ไอเท็มพลาสติก PVC
ความอาร์ตก็มา เป็นสาวที่แต่งตัวยังไงก็ชิคจริงๆ

เห็นภาพของทั้ง 3 สาวแล้ว ขอบอกเลยว่าชิคเว่อร์ และเรื่องของแฟชั่นหรือไอเท็มต่างๆ ก็อยู่ที่คนชอบนะจ๊ะ สไตล์ใครสไตล์มันจริงๆ นะยูว์


เรื่อง : Hana_แพรวดอทคอม (ฮานะ)

ภาพ : IG@chomismaterialgirl , idasiriwut , duearisara

 

ลูกจ๋า-วรินทรา

ส่อง 20 สไตล์ ลูกจ๋า-วรินทรา ภรรยาคนสวย ขยันสร้างธุรกิจของ ดีเจเผือก

ลูกจ๋า-วรินทรา
ลูกจ๋า-วรินทรา

ส่องสไตล์ ลูกจ๋า-วรินทรา ภรรยาคนสวยของ ดีเจเผือก

นอกจากจะได้ภรรยาสวยราวดารา คนดังในวงการบันเทิงแล้ว สิ่งที่น่าอิจฉา ดีเจเผือก-พงศธร ที่สุดก็คงต้องยกให้เรื่องที่ ลูกจ๋า-วรินทรา ภรรยาสาวนอกวงการขยันทำงาน สร้างธุรกิจต่างๆ จนมีเหล่าเพื่อน พี่น้อง ในวงการต่างพากันมาอุดหนุนกันคับคั่ง ที่สำคัญดีเจเผือกยังเคยชื่นชมภรรยาตนเองด้วยว่า ลูกจ๋าขยันทำงานมากๆ 

ลูกจ๋า-วรินทรา

ลูกจ๋า-วรินทรา

มีคู่ชีวิตสวย หน้าตาดี คนอิจฉาแปปเดียว แต่ถ้ามีคู่ชีวิตขยันทำงานนี่สิน่าอิจฉาตลอดไป ซึ่งคู่รักอารมณ์ดี ดีเจเผือก-พงศธร จงวิลาส และลูกจ๋า-วรินทรา ก็จัดว่าเป็นคู่รักที่น่ารักมากต่อสายตาหลายๆ คู่ โดยทั้งคู่ได้แต่งงานกันไปเมื่อปลายปี 2558 ซึ่งนอกจากจะมีเพื่อนสนิทนอกวงการมาแสดงความยินดีกันมากแล้ว เพื่อน พี่น้อง ในวงการบันเทิงก็ต่างมายินดีในงานมงคลของทั้งคู่กันมากมายอีกด้วย โดยเพื่อนสนิทในวงการของดีเจเผือกเลยคือ ดีเจโบ-ธนากร ชินกูล

ลูกจ๋า-วรินทรา
ผลงานการแสดงของดีเจเผือกล่าสุดคือละครเรื่อง ล่า

ตอนนี้หลายคนอาจจะเห็นหน้า ฟังเสียงของดีเจเผือกกันบ่อยๆ เพราะเขากำลังทำรายการ พุธทอล์คพุธโทร ที่ EFM 104.5 ร่วมกับ ดีเจต้นหอม-ศกุนตลา เทียนไพโรจน์ และ ครูลูกกอล์ฟ-คณาธิป สุนทรรักษ์ ซึ่งจะคอยรับฟังปัญหาต่างๆ ของผู้ที่โทรเข้ามา พร้อมให้คำแนะนำไปตามจริง และหากมองผลงานของดีเจเผือกที่ผ่านมา เขาก็ผ่านงานในวงการมาหลายรูปแบบทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น งานภาพยนตร์ ละคร พิธีกร ดีเจ ถ่ายมิวสิควิดีโอ แต่เห็นทำานเยอะแบบนี้ ฝ่ายภรรยาของดีเจเผือกที่ถือเป็นคนรู้จักในกลุ่มคนในวงการก็ขยันทำงานมากๆ เช่นกัน เพราะเธอมีธุรกิจอยู่ในมือถึง 4 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจคลินิกความงาม Gardett ย่านสุขุมวิท 31, ธุรกิจร้านตัดผม The Mystiq Hair Bar, ธุรกิจเสื้อผ้า The Fitting Room และธุรกิจรองเท้า Jris Shoes

ลูกจ๋า-วรินทรา
ธุรกิจคลินิกความงามของลูกจ๋า

โดย ดีเจเผือก-ลูกจ๋า ยังช่วยกันสนับสนุนงานของกันและกันอีกด้วย อย่าง เมื่อดีเจเผือกมีผลงานละครออนแอร์อยู่ ลูกจ๋าก็ช่วยโพสต์ภาพโปรโมตต่างๆ หรืองานธุรกิจของลูกจ๋า ดีเจเผือกก็มาใช้บริการตัดผม ดูแลผิวเสริมหล่อที่ธุรกิจของภรรยา พร้อมเช็คอิน แคปชั่นโปรโมตเล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่ทิ้งความฮาสไตล์ตัวเอง เรียกว่าเป็นคู่รักที่น่ารักมากๆ และก่อนจะจากกันไป แพรวดอทคอม เห็นว่าสาวลูกจ๋าเป็นผู้หญิงที่แต่งตัวเก่งมาก และมีความแฟชั่นผสมกันอย่างลงตัว จึงได้นำ 20 สไตล์ลุคของสาวลูกจ๋ามาฝากสาวๆ แพรว เผื่อใครจะนำไปมิกซ์แอนด์แมทช์ออกมาเป็นสไตล์ตัวเอง ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย

-1-

ลูกจ๋า-วรินทรา

 

-2-

ลูกจ๋า-วรินทรา

 

-3-

ลูกจ๋า-วรินทรา

 

-4-

ลูกจ๋า-วรินทรา

-5-

ลูกจ๋า-วรินทรา

 

-6-

-7-

ลูกจ๋า-วรินทรา

 

-8-

ลูกจ๋า-วรินทรา

 

-9-

ลูกจ๋า-วรินทรา

 

-10-

ลูกจ๋า-วรินทรา

 

-11-

ลูกจ๋า-วรินทรา

 

-12-

ลูกจ๋า-วรินทรา

 

-13-

ลูกจ๋า-วรินทรา

 

-14-

ลูกจ๋า-วรินทรา

 

-15-

ลูกจ๋า-วรินทรา

 

-16-

ลูกจ๋า-วรินทรา

-17-

ลูกจ๋า-วรินทรา

-18-

ลูกจ๋า-วรินทรา

 

-19-

ลูกจ๋า-วรินทรา

 

-20-

ลูกจ๋า-วรินทรา

 

แต่ละลุคสวยๆ ทั้งนั้นเลย ว่าไหม? อิอิ

 


เรื่อง: บะหมี่กุ๊งกิ๊ง_แพรวดอทคอม
ภาพ: IG @lj_loukja @jris_shoes @gardett @themystiqhairbar

บิวตี้ไอเท็มในตำนาน

4 บิวตี้ไอเท็มในตำนาน ที่สร้างสถิติยอดขายจนกลายเป็นที่ตื่นตะลึง

Alternative Textaccount_circle
บิวตี้ไอเท็มในตำนาน
บิวตี้ไอเท็มในตำนาน

กว่าจะผ่านกาลเวลาสร้างชื่อจนเป็นที่ยอมรับจากผู้หญิงทั่วโลก บิวตี้แบรนด์ชั้นนำทั้งหลายต้องเคยมี บิวตี้ไอเท็มในตำนาน ที่สร้างสถิติยอดขายจนกลายเป็นที่ตื่นตะลึง ได้รับการพูดถึงและยอมรับจากบิวตี้จังกี้ บิวตี้บล็อกเกอร์ เซเลบริตี้ และบุคคลชั้นนำทั่วโลก ทั้งในแง่ของคุณภาพและภาพลักษณ์อันน่าหลงใหล ซึ่งไอเท็มที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ในระดับนี้ก็ไม่ได้มีกันบ่อยๆ ลองมาชมที่สุดของความสำเร็จจากแบรนด์ที่สาวๆ หลงรัก ทำไมใครๆ จึงต่างพากันพูดถึง บางชิ้นอาจเคยแค่รู้จัก แต่ยังไม่ได้ลอง ถ้าได้รู้ว่าทีเด็ดอยู่ตรงไหน งานนี้ได้เปิดใจแน่นอน ไม่เจ๋งจริง เป็นตำนานไม่ได้หรอก!

4 บิวตี้ไอเท็มในตำนาน ที่สร้างสถิติยอดขายจนกลายเป็นที่ตื่นตะลึง

1952 Marilyn And N°5

1952 มาริลิน มอนโร ขึ้นปกหนังสือ TIME เป็นครั้งแรก พร้อมตอบคำถามสุดเซ็กซี่ที่ว่า “คุณใส่อะไรเข้านอน” ว่า “เอาแบบ ไม่โกหกเลยนะคะ CHANEL N°5 2 – 3 หยดเท่านั้นเลยค่ะ” จากนั้นเองความฮ็อตของน้ำหอมตัวนี้เรียกว่าถล่มทลาย ขนาดทหารอเมริกันจำนวนมากยังมายืนรอซื้อ N°5 ไปฝากภรรยา และแฟนสาว

CHANEL N°5
CHANEL N°5

The Root of Luxury เมื่อปี 1921 “มาดมัวแซลชาเนล” มอบความไว้วางใจให้ “เออร์เนสต์ โบ” ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำหอมออกแบบน้ำหอม โดยมีโจทย์ว่าเป็น “น้ำหอมที่มีกลิ่นอายความหอมของผู้หญิงอย่างแท้จริง” ผลลัพธ์ที่ได้คือ น้ำหอมที่มีกลิ่นซับซ้อน ชวนลุ่มหลงของดอกกระดังงาจากมาดากัสการ์ และเกาะมายอตต์ และดอกกุหลาบมอญ ซึ่งบานเพียงปีละ 3 สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งล้วนแต่เป็นส่วนผสมที่ล้ำค่ามากที่สุดในโลก ทั้งยังเป็นกลิ่นแปลกใหม่ที่ไม่เหมือนกับน้ำหอมใดๆ ในขณะนั้น โดยมีโฆษณาที่ถ่ายทำโดยฝีมือของ “ริชาร์ด อวีดอน” ในความยาวเพียงไม่กี่วินาที แต่เป็น โฆษณาที่ลงทุนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ออกมา สร้างความตื่นตะลึง ว่ากันว่าชาเนลเลือกน้ำหอมลำดับที่ 5 จากที่โบนำเสนอ เธอจึงตั้งชื่อนี้ พร้อมให้ออกแบบขวดในสไตล์มินิมัล ไม่ตุ้งติ้ง สลักเสลาเหมือนน้ำหอมผู้หญิงในยุคเดียวกัน กลายเป็นจุดที่สร้างความรู้สึกเข้าถึงได้ง่าย จนกลายเป็นอมตะ


สถิติล่าสุดเมื่อปี 2017 วัดกันแค่ในประเทศอังกฤษ J’Adore มียอดขายไปมากกว่า 1,100,000 ขวด
ทั้งที่ราคาค่อนข้างสูง ยอมใจในความฮิตเลยจริงๆ

Dior J’Adore

Modern Icon of the Fragrance World “Woman’s perfume tells me more about her than her handwriting.” Christian Dior ประโยคดังของโลก ที่แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับการออกแบบน้ำหอมจากแบรนด์ Dior J’Adore น้ำหอมขายดีที่สุดตลอดกาลของ Dior

ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 1999 โดย ฝีมือการปรุงของ “ฟรองซัวส์ เดอมาชี” นักปรุงน้ำหอมชั้นครู ด้วยกลิ่นหอมแบบ Fresh Floral ซึ่งภายหลังกลายเป็นแม่แบบในการออกแบบกลิ่นให้น้ำหอมยุคใหม่กว่า 500 ชนิด โฆษณาของ J’Adore ถึงจุดพีคสุดเมื่อได้ “ชาร์ลีซ เทอรอน” มาพรีเซนต์ร่วมกับการใช้ซีจีสร้างสุภาพสตรีในตำนานอย่างมาริลีน มอนโร, เกรซ เคลลี และมาร์ลีน ดีทริช ให้กลับมามีชีวิตโลดแล่นในปี 2011 ความแรงของโฆษณา สร้างความสำเร็จต่อเนื่องจนชาร์ลีซกลายเป็นภาพลักษณ์ของ J’Adore จนถึงปัจจุบัน


GUERLAIN Abeille Royale Youth Watery Oil
GUERLAIN Abeille Royale Youth Watery Oil

Oil of Youth ล้างความเชื่อที่ว่าสาวๆ โดยเฉพาะสาวเมืองร้อน ไม่ชอบผลิตภัณฑ์สกินแคร์เนื้อออยล์ไปสิ้น เมื่อ Abeille Royale Youth Watery Oil ผลิตภัณฑ์ออกใหม่เมื่อปี 2017 ทำสถิติเป็นผลิตภัณฑ์ขายดีอันดับ 1 ของแบรนด์ GUERLAIN ทั่วเอเชีย รวมถึงเมืองไทย ที่ขึ้นชื่อว่าร้อนสุดโหด เปลี่ยนความเชื่อได้แบบนี้ต้องไม่ธรรมดา ชิ้นนี้ออกแบบมาให้เป็น Pre-Serum ที่ใช้ส่วนผสมเลอค่าหายากอย่างน้ำผึ้งบริสุทธิ์ของเกาะอูซอง (Ouessant) ประเทศฝรั่งเศส เป็นที่พูดถึงจากความว้าวของเท็กซ์เจอร์ที่มีสัมผัสบางเบา ดุจน้ำด้วยเทคโนโลยี “Oil in Water” สร้างความรู้สึกแตกต่างจากน้ำมันบำรุงผิวทั่วไปอย่างชัดเจน จนเหล่าบิวตี้เอดิเตอร์ และบิวตี้บล็อกเกอร์จากทั่วโลกให้การตอบรับอย่างอื้ออึงในเวลาอันรวดเร็ว


Estée Lauder Advanced Night Repair

ข้อมูลจาก Beauty Research ปี 2016 “Advanced Night Repair”
สร้างสถิติยอดขายสูง 8.5 ขวดต่อวินาทีจากทั่วโลก

The Little Brown Bottle ขวดสีชาในตำนาน ชิ้นที่เด็กหญิงแทบทุกคนเห็นอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งของคุณแม่ มาจนยุคนี้ที่บิวตี้บล็อกเกอร์ยังคงต้องหยิบขึ้นมาพูดถึง เปิดตัวครั้งแรกในปี 1982 ด้วยส่วนผสมเท็กซ์เจอร์ และเทคโนโลยีที่มีความยูนีค เพื่อการปรนนิบัติผิวในช่วงเวลาค่ำคืนจนเป็นที่ฮือฮาสุดๆ ในเวลานั้น Advanced Night Repair มีส่วนผสมที่เพอร์เฟ็กต์จนเรียกได้ว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงสูตรไปน้อยมาก แฟนๆ ที่เหนียวแน่นของแบรนด์นี้ก็มีหลากหลายวัย สมเป็นชิ้นในตำนาน ตั้งแต่กวินเนธ พัลโทรว์, วิกตอเรีย เบ็คแฮม, คาร์ลี คลอสส์ ไปจนถึงรุ่นเล็กอย่างเคนดัลล์ เจนเนอร์


เรื่อง : นิตยสารแพรว ฉบับ 927 คอลัมน์ BEAUTYPEDIA หน้า 40 – 41

The Lovers Wedding Studio

account_circle

ติดต่อ : สาขาโคราช โทร. 0-4400-5818, สาขาหัวหิน โทร. 0-3252-7721
เฟซบุ๊ก สาขาโคราช : The Lovers Wedding Studio Korat
เฟซบุ๊ก สาขาหัวหิน : The Lovers Wedding Studio HuahinVanus

ดาต้า

นางเอกไทยลุคเกาหลี ดาต้า เสียงร้องโดนใจ! โกอินเตอร์ได้ออกซิงเกิ้ลที่แดนกิมจิ

Alternative Textaccount_circle
ดาต้า
ดาต้า

นางเอกเสียงดี ดาต้า -ดรัลชรัส ศุขีวิริยะ โกอินเตอร์ได้ออกซิงเกิ้ลภาษาเกาหลี Don’t Love Me โดยเพลงนี้ใช้โปรดิวเซอร์คนเดียวกับ ซิ่วหมิน แห่ง EXO

ดาต้า

ก่อนหน้านี้มีโอกาสฝากเสียงเพราะๆ ไว้ในเพลงประกอบเว็บดราม่า ของเกาหลีมากมายสำหรับ ดาต้า -ดรัลชรัส ศุขีวิริยะ” นักร้องสาวเสียงดี/นักแสดงมากความสามารถเจ้าของราวัล Best Guest Star จากซีรีส์เว็บดราม่าเกาหลีเรื่องTouching You งาน KWEB FEST 2016 ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ที่ล่าสุดส่งเพลง “날 사랑하지 마요 (Don’t Love Me)” ซิงเกิ้ลภาษาเกาหลีภายใต้ความร่วมมือระหว่าง Five Four Records(ไฟว์ โฟร์ เรคคอร์ด) ต้นสังกัดในประเทศไทยและ Winner J(วินเนอร์ เจ) ค่ายเกาหลี โดยมี “Philseung Chung”โปรดิวเซอร์ชื่อดังชาวเกาหลี ผู้แต่งเพลงประกอบซีรีย์มากมาย และเคยยังแต่งเพลงให้กับ “Xiumin(ซิ่วหมิน)” วงEXO (เอ็กซ์โซ่) อีกด้วย

 ดาต้า

ดาต้า

โดยนักร้องสาวเผยว่า “จริงๆก็เคยร่วมงานกับโปรดิวเซอร์ท่านนี้มาก่อน เพลงนี้เขาแต่งให้เพื่อเป็นของขวัญ ซึ่งเพลง “날 사랑하지 마요 (Don’t Love Me)” ตอนนี้ปล่อยแล้ว แฟนๆ สามรถฟังได้ใน Melon(เมล่อน) web streaming(เว็บ สตรีมมิ่ง) ของเกาหลี หรือ itunes(ไอทูนส์) ทั่วโลก ในส่วนเอ็มวีก็จะเป็นไลน์ซิงค์สวยๆ โชว์วิวริมแม่น้ำฮัน และแสงไฟ จากตึกกลางเมือง ซึ่งเข้ากับอารมณ์เพลงมากๆ สามารถหาดูกันได้แล้วในyoutube ของ Five Four Records ค่ะ ยังไงดาต้าก็ขอฝากเพลงนี้ด้วยนะคะ ใครที่ดูเอ็มวีแล้วคอมเม้นท์ให้กำลังใจ บอกความรู้สึกกันได้ที่ใต้เอ็มวีนะคะ”

ดาต้า

สำหรับ ดาต้า-ดรัลชรัส ศุขีวิริยะ ปัจจุบันอายุ 28 ปี เป็นนักร้องในสังกัด Five Four Records (ไฟว์ โฟร์ เรกคอร์ด) และยังเป็นนางเอกคลื่นลูกใหม่ของสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 มีผลงานอาทิ หลานสาวนิรนาม, คิวปิด ตัวกวนป่วนรัก,วังนางโหง รวมถึงภาพยนตร์ 11 12 13 รักกันจะตาย ประกบคู่กับพระเอกดัง เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ อีกด้วย

Cannes 2018

กำหนดการ ชมพู่ Cannes 2018 ลั่น!อยากทำเสมือนครั้งสุดท้ายเพราะอนาคตไม่แน่

Alternative Textaccount_circle
Cannes 2018
Cannes 2018

เผยกำหนดการเดินพรมแดง Cannes 2018 ของ ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต วันที่ 9, 11, 12 และ 13 พฤษภาคมนี้ เจ้าตัวเปรยอนาคตอาจมีคนมาแทน ดังนั้นจึงอยากทำให้เหมือนเป็นครั้งสุดท้าย

Cannes 2018

แป๊บๆ ก็เวียนมาบรรจบอีกครั้งสำหรับเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่มีชื่อเสียงมาที่สุดในโลก Cannes Film Festival ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 71 ขณะที่มีข่าวลือว่านางเอกชื่อดัง ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต ซึ่งเคยเดินทางไปร่วมงานนี้ที่ประเทศฝรั่งเศส 5 ครั้ง อาจจะไม่ได้ไปร่วมในครั้งที่ 6 เนื่องจากเธอติดภารกิจเลี้ยงลูกแฝด น้องสายฟ้า และ น้องพายุ ทว่าล่าสุด เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา ลอริอัลได้จัดงานเปิดตัว Cannes 2018 Beyond the Red Carpet ที่ ชั้น 1 แฟชั่นฮอลล์ ศูนย์การค้าพารากอน โดยเธอได้ยืนยันแล้วว่าจะเดินทางไปเหมือนเดิม แต่คงไม่ได้พาลูกๆ และสามีไปด้วย เนื่องจากไม่สะดวกด้วยการไปครั้งนี้เธอต้องมีกิจกรรมที่ต้องเข้าร่วมมากมายนั่นเอง


การเตรียมความพร้อมไปร่วมงานพรมแดง Cannes Film Festival

Cannes 2018

“ปีนี้เป็นปีที่ 6 แล้วค่ะ ที่จะได้เจอกันที่คานส์ ชมจะต้องออกเดินทางในคืนวันจันทร์ที่ 7 พ.ค. นี้ ถามว่าชมเตรียมตัวหนักขนาดไหน ก็ต้องบอกว่าชมมีทีมที่ดีที่ช่วยเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม ซึ่งเป็นทีมที่เราคุ้นเคยกันอยู่แล้วเราก็เลยอุ่นใจ ตอนนี้ก็เหลือแค่เตรียมร่างกายเราให้พร้อม แต่ช่วงนี้เวลาออกกำลังกายอาจจะน้อยลงหน่อย เพราะพอชมมีลูกก็เลยต้องจัดสรรเวลาให้ได้ เราต้องดูแลเรื่องการพักผ่อน จะปล่อยให้หน้าโทรมไม่ได้ค่ะ”

“เรื่องชุดที่หลายๆ คนจับตาต้องรอติดตามนะคะ อย่างที่บอกเราไม่อยากจะทำให้ใครผิดหวังอยู่แล้วเพราะเราก็ทำการบ้านกันอย่างเต็มที่ เราเตรียมทุกอย่างเอาไว้แล้ว เนื่องจากมันเหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่วันที่จะต้องเดินทาง ตอนนี้ก็จะเอาไว้ตามจำนวนวัน แต่อย่างที่บอกการไปคานส์จะต้องมีเซอร์ไพรส์เสมอ บางทีเราไปถึงแต่เสื้อผ้าก็ใส่ไม่ได้ อย่างปีนี้ตัวชมเองก็ไม่ได้บินไปฟิตติ้งล่วงหน้าด้วย ดังนั้นมันจึงมีหลายชุดที่ต้องบินไปลองล่วงหน้า เพื่อที่จะได้ทันสำหรับการแก้ไข แต่เราก็ได้วางแผนเตรียมเอาไว้หลายแผน”

“สำหรับชุดที่เตรียมไว้ก็มีทั้งของดีไซเนอร์ไทยและของดีไซเนอร์ต่างประเทศค่ะ งานผ้าไทยก็ยังมีอยู่ แต่เอาไว้รอดูดีกว่าว่าจะมีชุดของใครบ้าง ซึ่งชมมองว่าเป็นแฟนๆ น่าจะเดาได้ไม่ยากเพราะเขาก็เป็นขาประจำอยู่แล้ว ส่วนถ้าถามว่าชุดจากฟูฟ่องหรือเรียบหรู ก็ถ้าเป็นตามสตรีทหรือธรรมดาก็จะมีทั้งหมดเลยค่ะ อย่างที่รู้ภารกิจมันจะเยอะ กว่าจะไปถึงพรมตอน 4 โมงเย็น ชมต้องตื่นตั้งแต่ 6 เช้า ทำภารกิจไป 18 อย่าง ซึ่งก็ต้องเปลี่ยนไปไม่รู้กี่ชุด”


อนาคตไม่แน่ไม่นอนจึงอยากทำอย่างเต็มที่ให้เหมือนเป็นครั้งสุดท้าย

“คือชมไม่รู้หรอกว่าปีสุดท้ายหรือไม่สุดท้าย แต่ก็จะทำให้เหมือนทุกปีเป็นปีสุดท้ายเท่านั้นเอง ถามว่าใครจะเดินแทนเราก็ไม่รู้เหมือนกัน ชมแค่บอกว่าทำทุกๆ ครั้งให้เหมือนเป็นครั้งสุดท้ายเท่านั้นเอง เพราะมันจะได้ออกมาดีที่สุด แต่แน่นอนว่าเราก็ต้องมีความหวังว่าเราจะได้กลับมาเดินอีกครั้ง ไม่ได้หมายถึงว่าเราจะต้องครองตลอดไปหรอกค่ะ จริงๆ ชมก็คิดนะคะว่าที่คานส์มันก็มีมนต์ขลัง เพราะทุกครั้งที่ไปชมก็ได้พลังงานกลับมา อย่างปีที่แล้วพอชมเดินเสร็จชมก็คิดว่าจะต้องมีปีต่อไป แต่ก็อยากจะทำให้เหมือนเป็นปีสุดท้าย เพราะถ้าเมื่อไหร่เราคิดว่าจะได้กลับมาอีก เราจะมองมันเป็นของตาย ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ใช่ เพราะมันไม่ได้เป็นโอกาสที่หาง่ายๆ”


ลูกแฝดและสามีไม่ได้ไปต่อต้องอยู่บ้าน

Cannes 2018

“ที่ผ่านมาในแผนของชมมีเขามาตลอดนะคะ แต่เพิ่งจะมาคิดได้ก็หลังจากไปทริปปารีสด้วยกันทั้งบ้าน อย่างที่บอกดาบเราก็ต้องแกว่งเปลเราก็ต้องไกว ดังนั้นในฐานะเราที่เป็นคนไปทำงานเราก็เหนื่อยที่สุด เพราะมันจะมีทั้งความกังวลและพลังงานให้กับงาน และพอเรากลับมาเห็นลูกเราก็ต้องอยากพาเขาเข้านอนเอง ดังนั้นชมเลยคิดว่าการไปเมืองคานส์มันต้องพร้อม และเด็กก็ต้องมีพื้นที่ของเขา รวมถึงพื้นที่ของเขาในการเลี้ยงดู ก็บอกเขาตลอด แต่เขาก็ยังไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ”

https://praew.com/people/167071.html


 

‘เอาใจยาก…เดาใจลำบาก แต่หากอยากได้ต้องได้’ ดูดวงรายวัน 3 พฤษภาคม 2561

ดูดวงรายวัน 3 พฤษภาคม 2561 #ป้าเนาว์พยากรณ์ แม่นเป๊ะสายแข็ง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  วันนี้ถือเป็นวันดีของท่าน ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะกับงานที่เกี่ยวกับเรือกสวนไร่นา ผลิตผลทางการเกษตร งานหัตถกรรมพื้นบ้าน แต่ให้ระวังจะเกิดความขัดแย้ง ทัศนคติไม่ตรงกันกับเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงาน จนนำไปสู่การทะเลาะกันได้

การเงิน :  โชคลาภจากเรือกสวนไร่นาที่ตั้งใจไว้ ยังไม่คงที่

ความรัก : ท่านมีครอบครัวที่ดี แต่วันนี้อยากให้คู่ตามใจ สนับสนุนท่านทุกอย่าง แต่บังเอิญไม่ใช่ จึงมีการขัดแย้งกัน อาจเป็นเรื่องการจัดการเรือกสวนไร่นาที่เป็นที่มรดก คนโสด ทัศนคติไม่ตรงกัน อีกฝ่ายโรแมนติก แต่อีกฝ่ายก็อยู่กับกฎระเบียบเป๊ะ คำเดียวที่จะไปต่อกันได้ก็คือ ยอม

สุขภาพ :  โหมงานหนักจนไม่ดูแลตัวเอง ระวังเป็นโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ หลอดเลือด  และหัวใจ

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  วันนี้ท่านอาจเปิดบ้านทำธุรกิจที่เป็นการช่วยเหลือคนอื่น เช่น สำนักปฏิบัติธรรม มูลนิธิ แพทย์แผนไทย หรือแผนปัจจุบัน ซึ่งต้องใช้ความรู้ความสามารถ และทักษะเฉพาะตัวสูง ควรรับฟังความคิดเห็นจากคนอื่นบ้าง ลดทิฐิในตัวเองลง จะทำให้มีคนนับถือท่านอย่างจริงใจ

การเงิน  :  ท่านจะหมดไปกับการทำบุญสงเคราะห์ ให้ความช่วยเหลือผู้อื่น

ความรัก : วันนี้ท่านอยู่ในครอบครัวที่สุขสบายก็จริง แต่อยู่ในระเบีบบแบบแผนเป๊ะเว่อร์ แต่ท่านรักแล้วรักเลย รักจริงไม่เปลี่ยนใจ ก็ต้องปรับตัว คนโสด มีผู้ใหญ่เข้ามามีส่วนในการเลือกคู่ด้วย

สุขภาพ :  ระวังโรคภูมิแพ้ ไซนัส หรือโพรงจมูกอักเสบ ซึ่งเกิดจากการแพ้อาหาร อากาศ และฝุ่นละออง

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  วันนี้ท่านรู้สึกเก็บกดกดันกับที่ทำงาน เพื่อนร่วมงาน และเจ้านาย อาจเป็นเพราะท่านต้องแบกรับงานที่หนักหนาสาหัสอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนอยากลาออกไปพัก เพื่อรอวันเริ่มต้นใหม่

การเงิน :  เพิ่งต้นเดือนเอง แต่ท่าน มีเกณฑ์ต้องหยิบยืมเงินมาหมุนใช้ก่อน เพราะรายจ่ายกับรายได้ไม่สมดุลกัน

ความรัก :  วันนี้ระวังมีปัญหาวุ่นวายเรื่องมือที่สาม อาจเป็นเพราะท่านทำงานหนักจนไม่มีเวลาให้กับครอบครัว ประกอบกับท่านก็มีทิฐิสูงจึงไม่ยอมลงให้กัน คนโสด ท่านมีภาระครอบครัวที่หนักอึ้งรออยู่จึงทำให้ท่านเลือกคบเพศตรงข้ามมาก ไม่ยอมบอกความรู้สึกจนอาจถูกคว้าตัวไป

สุขภาพ  :  ระวังโหมงานหนัก ถึงกับล้มป่วยเข้าโรงพยาบาล รวมทั้งเรื่องปวดหลัง ปวดตามข้อ โดยเฉพาะหัวเข่าและข้อเท้า

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :  ท่านกำลังคิดที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจที่เกี่ยวกับโครงการอสังหาริมทรัพย์ บ้านเรือนที่อยู่อาศัยในสถานที่ที่ติดน้ำ กับหุ้นส่วนที่เป็นผู้หญิง ระวังความเชื่อมั่นที่สูงเกินไปจะทำให้ท่านตัดสินใจประกอบอาชีพผิด หรือเกิดจุดหักเหไม่ทันได้ตั้งตัว

การเงิน :  ระวังจะเสียรู้ด้วยคำพูดหวานๆ เพื่อขอความช่วยเหลือหรือชวนไปลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์

ความรัก  : วันนี้ท่านอาจเริ่มต้นทำธุรกิจเสริมกับคู่อาจเป็นหญิงกับหญิงก็ได้ เพื่อเพิ่มความมั่นคงให้กับครอบครัวในอนาคต ซึ่งท่านไม่ชอบให้คู่ตั้งกฎเกณฑ์ข้อผูกมัดมาก จนอาจมีการทะเลาะด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด วันนี้ท่านมีเสน่ห์ทั้งต่อเพศตรงข้ามและหญิงรักหญิงทีเดียว

สุขภาพ : อาจมีปัญหาเรื่องลำไส้ ระบบย่อยอาหาร และโรคกระเพาะ

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน :  ท่านกำลังถูกผู้ใหญ่พิจารณาผลงาน ความดีความชอบ หรรือการให้คุณให้โทษเกี่ยวกับหน้าที่การงานที่ทำอยู่ จนทำให้อยู่ในสายตา ไปไหนไม่ได้ ช่วงนี้ก็อย่าดื้อหรือมีทิฐิมากนักจะทำให้เรื่องไม่จบง่ายๆ

การเงิน : ใจใหญ่ กล้าได้กล้าเสีย ซึ่งวันนี้ท่านอาจเข้าไปเกี่ยวข้องกับเงินที่ไม่อยู่ในระบบ

ความรัก  : วันนี้ระวังเรื่องมือที่สาม คนที่ไม่หวังดีจะเข้ามาทำลายบรรยากาศของครอบครัว ซึ่งท่านอยากให้คู่ให้เกียรติและยอมรับทัศนคติของท่านบ้าง แต่นั่นหมายถึงท่านก็ต้องลดทิฐิและความเชื่อมั่นนลงด้วย จึงจะคุยกันได้  คนโสด ติดอยู่ในบ่วงรักเสียแล้ว รู้ว่ามีหนามแหลม แต่ก็ยอมเจ็บ

สุขภาพ :  ควรเพลาๆ การไปปาร์ตี้บ้าง พักผ่อนเยอะๆ งดการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอลล์ลงบ้าง

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : ท่านกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่แย่งชิงตำแหน่งหน้าที่การงานกันอย่างดุเดือด ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือท่านที่กำลังถูกพิจารณาผลงาน ความดีความชอบ ทำให้ท่านเกิดความทุกข์ใจ เบื่อหน่าย และอึดอัดกับการทำงานมากๆ

การเงิน :  ร้อนเงิน เร่งหารายได้จากทุกทิศทาง อย่าลงทุนโดยไม่เห็นผลตอบแทนจะทำให้เป็นหนี้

ความรัก :  วันนี้เกิดความสับสนลังเลว่า คู่มีอะไรปิดบังซ่อนเร้นท่านอยู่หรือเปล่า จึงเหมือน รักท่านน้อยลง จึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะใจให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม คนโสด วันนี้ความรักอาจเป็นรักเพศเดียวกัน ซึ่งท่านพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะใจเขา แต่สุดท้ายก็ต้องอยู่อย่างซ่อนเร้นปิดบัง

สุขภาพ : ระบบน้ำย่อย กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี อาจมีเกณฑ์ผ่าตัด

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน :  วันนี้ท่านสวมบทสาวสตรอง ลุย โดยไม่เกรงกลัวใคร ซึ่งไอเดียท่านวันนี้ล้ำเลิศเกินกว่าใครจะตามทัน แต่ท่านก็ได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ คนใกล้ชิดให้ทำตามความฝันเลย

การเงิน :  ท่านได้เงินเยอะก็จริง แต่ก็หมดไปกับการช่วยเหลือผู้อื่นและการเข้าสังคม

ความรัก :  วันนี้ท่านจะออกงานหรืออยู่ท่ามกลางงานสังคม ซึ่งท่านแฮปปี้มากกว่าการที่จะกลับบ้านไปอยู่กันสองคน   คนโสด ท่านเอาใจยากเดาใจลำบาก เดี๋ยวก็อยากมีแฟน เดี๋ยวก็เปลี่ยนใจอยากทำงานแล้ว แต่เมื่อไหรที่ท่านอยากได้ต้องได้

สุขภาพ :  วันนี้เอ็นจอยอีทติ้ง ก่อนทานก็ให้ระวังน้ำหนักส่วนเกินที่จะตามมาด้วยนะคะ

 

คอลเลคชั่น ชุดแต่งงาน Elie Saab Spring 2019 แบรนด์ในฝันของเจ้าสาวค่อนโลก

account_circle

ชุดแต่งงาน Elie Saab Bridal Spring 2019

คอลเลคชั่นล่าสุดจากแบรนด์ดังกับ ชุดแต่งงาน Elie Saab ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากมาจาก The Vienna Opera Ball  ที่เต็มไปด้วยความหรูหราและยิ่งใหญ่อลังการ จึงทำให้ชุดแต่งงาน Elie Saab ในคอลเลคชั่นนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ของความโรแมนติกของชุดแต่งงานทรงบอลกาวน์ ที่ดูเป็นเจ้าหญิงและเหมาะกับการเต้นรำสุดๆ นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังบอกอีกว่าผู้หญิงที่เป็นแรงบันดาลใจสำหรับชุดแต่งงานในคอลเลคชั่นนี้ก็คือ จักรพรรดินิเอลิซาเบธแห่งออสเตรีย ไม่ว่าจะเป็นดีเทลอย่างผ้าคลุมสไตล์เจ้าหญิง หรือการประดับประดาดีเทลความอ่อนหวานต่างๆ ลงบนชุดไว้อย่างประณีต และแน่นอนว่าสิ่งที่โดดเด่นที่สุดสำหรับคอลเลคชั่นนี้ของแบรนด์ Elie Saab ก็คือกระโปรงทรงบอลกาวน์ที่เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และเหมาะกับเจ้าสาวสายหวานที่อยากได้ลุคเป็นทางการแบบเจ้าหญิงเป็นที่สุด

และต่อจากนี้คือ 24 ชุดแต่งงานจากแบรนด์ Elie Saab Bridal Spring 2019 ที่เจ้าสาวจะต้องหลงรัก

ชุดแต่งงาน Elie Saab

อัพเดทกันต่อกับ เทรนด์ชุดแต่งงาน 2019 จากรันเวย์ Bridal Fashion Week

ภาพ Brides.com, Elie Saab

เคล็ดลับดูแลสุขภาพ ที่ไม่ควรมองข้าม ฉบับการไปฮันนีมูนในต่างแดน

account_circle

หาเวลา ดูแลสุขภาพ ให้ดี ให้พร้อม สำหรับการเดินทางครั้งใหญ่ของคุณ!

สุขภาพและการเดินทางเป็นดาบสองคม ในวันหยุดมีเวลาว่างคุณอาจได้พักผ่อน ดูแลเอาใจใส่สุขภาพของตัวเอง แต่เมื่อคุณจำเป็นต้องเดินทางไปนู่นไปนี่บ่อยขึ้น รวมถึงการเดินทางท่องเที่ยวฮันนีมูนทั้งในและต่างประเทศ อาจทำให้คุณได้รับเชื้อโรคจากสถานที่ต่างๆ มาเต็มๆ จนบางทีถึงขั้นต้องเจ็บป่วยในที่สุด  สำหรับคู่รักที่วางแพลนไปฮันนีมูน การเดินทางของพวกเขาที่วาดไว้ก็จะมโนภาพที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ สร้างความทรงจำแสนหวาน จึงไม่ต้องการอุปสรรคจากความเจ็บป่วยใดๆ ในช่วงนั้นจริงไหมคะ เพราะฉะนั้นเพื่อช่วยให้การฮันนีมูนของพวกคุณเป็นไปอย่างราบรื่น ก็ควรมีความรอบคอบในเรื่องสุขภาพกันหน่อยเนอะ แพรว wedding จะมากระซิบบอกเคล็ดลับง่ายๆ ในการ ดูแลสุขภาพ ในช่วงฮันนีมูนให้กับคุณทั้งคู่เองค่ะ

ดูแลสุขภาพ

ก่อนการเดินทางลั้นลาของสองเรา

ข่าวคราวเรื่องโรคภัยไข้เจ็บในสถานที่ต่างๆ ก็สำคัญไม่แพ้ข่าวกอสซิปดาราที่สาวๆ มักจะสนใจเลยนะจ๊ะ เมื่อถึงคราวใกล้วันเดินทางให้หาเวลาติดตามข่าวบ้างเนอะ เผื่อจะมีข่าวเกี่ยวกับประเทศที่คุณกำลังจะไป โดยในบางประเทศอาหารและน้ำของชาวท้องถิ่นอาจจะทำให้คุณเจ็บป่วยได้ด้วยน้าาา เนื่องจากคุณไม่ได้สร้างภูมิคุ้มกันให้กับแบคทีเรียที่เป็นสารปนเปื้อน ร่างกายของคุณไม่มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงมากพอ ก็จะทำให้ยิ่งเจ็บป่วยได้ง่ายยิ่งขึ้น แล้วจะต้องทำอย่างไรหน่ะหรอ? ก็ขอแนะนำให้คุณฟิตร่างกาย เลือกหม่ำอาหารที่มีประโยชน์ และที่สำคัญพักผ่อนให้เพียงพอก็จะช่วยได้เช่นกันนะคะ นอกจากนี้คุณยังต้องดูว่ามีการฉีดวัคซีนที่คุณจำเป็นต้องรับหรือไม่ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณกำลังไปเที่ยวซาฟารีในประเทศแทนซาเนีย คุณควรฉีดวัคซีนสำหรับโรคมาลาเรีย เพื่อป้องกันการติดโรค เพราะถ้ากลับมาป่วยจนต้องนอนโรงพยาบาลก็ไม่คุ้มกันพอดีเนอะ

ในขณะที่ไปฮันนีมูนในต่างประเทศนั้น…

แน่นอนว่าไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทางของคุณที่สามารถทำให้คุณป่วยได้ แต่การเดินทางโดยเครื่องบินที่คับแคบ ยิ่งทำให้การแพร่กระจายของเชื้อโรคเป็นไปได้อย่างง่ายดาย เพราะฉะนั้นจึงอาจต้องหามาตรการป้องกันกันหน่อย โดยเฉพาะหากคนรักของคุณที่เป็นคนเจ็บป่วยได้ง่าย ร่างกายไม่แข็งแรง แล้วยิ่งต้องมาอยู่ในพื้นที่แอดอัด ผู้คนหลากหลายสัญชาติแบบนั้น การใส่แมสปิดปากจะช่วยคนรักของคุณได้อย่างมาก แล้วก็อย่าลืมพกยารักษาโรคประจำตัวไปด้วยนะจ๊ะไปต่างถิ่นอย่างนิ่งนอนใจไป สภาพอากาศแต่ละประเทศไม่เหมือนกันจะพาป่วยเอาง่ายๆ นะ และการหาซื้อยาวบางชนิดในต่างแดนบอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน พกไปแล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าไม่ได้พกไปแต่จำเป็นต้องใช้นะจ๊ะ และขอเสริมทริคเล็กๆ น้อยๆ สักนิด หากพวกคุณไปในสถานที่ที่มีฤดูหนาวจัด เกิดไข้หวัดใหญ่ระบาด ให้พวกคุณหมั่นล้างมือบ่อยๆ พกเจลทำความสะอาดไปด้วยจะดีมาก และการรับประทานวิตามินซีก็จะช่วยป้องกันหวัดได้เช่นกัน

กลับมาจากฮันนีมูนแล้วจ้า

หลังจากพวกคุณกลับมาจากการไปฮันนีมูนเป็นที่เรียบร้อย ก็ยังคงมีเรื่องสุขภาพให้ต้องใส่ใจกันด้วยน้า (จริงๆ เรื่องสุขภาพก็ควรจะใส่ใจกันทุกเมื่ออยู่แล้ว) อย่างเช่น คู่รักนักผจญภัยที่เลือกไปสถานที่สุดโหด ปีนเขา กลางเต๊นท์ ตั้งแคมปิ้ง การปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเป็นเรื่องธรรมดา กลับมาก็อาจจะเลือกวิธีไปนวดคลายกล้ามเนื้อที่ร้านสปาสักหน่อย อาจนวดแบบเบาๆ กันไปก่อน หรือจะซื้อยานวดมาสลับกันนวดไปนวดมาก็ดูน่ารักกุ๊กกิ๊กไปอีกแบบ ส่วนใครที่กลับมาแต่ดันพาโรคภัยไข้เจ็บกลับมาด้วย ก็ให้รีบไปหาคุณหมอตรวจสุขภาพกันให้ไวเลยค่า

อ้อ! สุดท้ายขอเตือนอีกเรื่องนะคะ การเดินทางไปฮันนีมูนนอกจากอยากให้รักษาสุขภาพกันและกันแล้ว ยังต้องช่วยกันระมัดระวังอุบัติเหตุ อย่าห่วงสนุกจนลืมนึกถึงความปลอดภัยนะคะ…ด้วยความห่วงใยจาก แพรว wedding เองจ้า จุ๊บๆ <3

Read More : คู่มือเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทางฮันนีมูนต่างประเทศให้ไร้กังวล

เรียบเรียงข้อมูลจาก : insideweddings.com

ภาพจาก : pexels.com

 

ครั้งแรก!! กับการถ่ายแฟชั่นชุดไทยของมาร์กี้ ราศรี & ป๊อก ภัสสรกรณ์ กับนิตยสารแพรว wedding

account_circle

แฟชั่น ชุดไทย ครั้งแรกของคู่รักหมื่นล้าน ป๊อก & มาร์กี้

หลังจากนัดแนะคิวกันอยู่นาน นิตยสารแพรว wedding ก็ได้คิวคู่รักหมื่นล้านอย่าง มาร์กี้-ราศรี บาเล็นซิเอก้า จิราธิวัฒน์ และป๊อก-ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์ มาถ่ายแฟชั่น ชุดไทย ซึ่งทั้งคู่บอกกับเราว่านี่เป็นครั้งแรก!! ของการถ่ายแฟชั่นชุดไทยคู่กัน เอาเป็นว่าไปดูกันดีกว่าว่าการถ่ายชุดไทยคู่กันครั้งแรกของทั้งคู่นั้นจะสวยงามและหวานปานน้ำตาลหกขนาดไหน ที่สำคัญว่าที่บ่าวสาวที่กำลังมองหาการแมตช์ชุดไทยให้ดูเข้ากันก็สามารถดูตัวอย่างได้จากคู่นี้ก็ได้นะคะ

ชุดไทย

ส่งให้เจ้าบ่าว-เจ้าสาวเป็นคู่รักสไตล์โมเดิร์นด้วยสูทสามชิ้นผ้าไหมสีเทาอมม่วงของผู้ชายนุ่งคู่โจงกระเบนและผูกหูกระต่าย ส่วนเจ้าสาวหรูหราด้วยชุดไทยจักรพรรดิโทนสีเดียวกัน ห่มสไบสองชั้นประดับประดาด้วยเครื่องประดับสไตล์ไทยโบราณสีเงินดูล้ำค่า ชุดจากร้าน Vanus Couture

แปลงกายเป็นคู่รักสไตล์หวานหรูหราด้วยสูทผ้าไหมสีเทา นุ่งโจงกระเบนผูกเน็คไทเลียนแบบโบราณผ้าไหมปักดิ้นเงินประดับเข็มกลัดสำหรับเจ้าบ่าว ส่วนเจ้าสาวสวมชุดไทยจักรพรรดิสีเทาเข้าคู่ ปักยกลายด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้และคริสตัลสีแดงทับทิม ช่วยดึงความโดดเด่นและขับให้สีเงินของชุดดูหรูหราพร้อมเครื่องประดับสีเงินเสริมด้วยพลอยสีแดงเข้าชุดกัน ชุดจากร้าน Costume Cafe

อ่อนหวานละมุนละไมสไตล์แม่หญิงไทยแท้ๆ ด้วยชุดไทยจักรพรรดิ ผ้านุ่งสีชมพูยกลายด้วยเส้นไหมสีทอง ห่มสไบจีบทับด้วยสะพักสีชมพูหวานปักเลื่อมสีเงินผสมทองและคริสตัล ชุดจากร้าน วสันต์ ชุดไทย Wasan Shudthai

ขับความโดดเด่นของคู่รักด้วยสูทสามชิ้น ผ้าไหมสีชมพูอ่อนคู่กับโจงกระเบน ผูกหูกระต่ายสำหรับเจ้าบ่าวช่วยดึงชุดให้ดูโมเดิร์น ส่วนเจ้าสาวสวมชุดไทยประยุกต์แขนยาวจากผ้าซีทรูปักผสมผ้าลูกไม้ช่วยให้รูปร่างดูเพรียวและโปร่งเบาท่อนล่างนุ่งผ้าถุงสีชมพูปักยกลายเส้นไหมสีเงิน ชุดจากร้าน Vanus Couture

ชุดไทยจักรพรรดิสไตล์เลียนอย่างโบราณแต่ถูกทำให้ดูอ่อนหวานและทันสมัยขึ้นในคราวเดียวกันด้วยการใช้สีชมพูพาสเทลห่มสไบสองชั้น ตัวสะพักปักยกลายด้วยเลื่อมสีทอง ประดับด้วยเครื่องประดับสีโรสโกลด์ดูหวานและทันสมัย ชุดจากร้าน Vanus Couture

โดดเด่นไม่ซ้ำใครด้วยชุดไทยประยุกต์ไหล่เบี่ยง ต่อช่วงไหล่คล้ายสไบยาวระพื้น ช่วงอกเป็นผ้าซีทรูผสมผ้าลูกไม้หรูหรา ท่อนล่างทรงหางปลาเพิ่มลูกเล่นด้วยการปักเลื่อมและคริสตัลบริเวณหน้านาง ชุดจากร้าน Vanus Couture

ขับผิวเจ้าสาวให้ดูเรืองรองออร่าด้วยชุดไทยจักรพรรดิสีชมพูสดใส ห่มสไบชั้นเดียวปักด้วยเลื่อมสีทองระยิบระยับจับตา ประดับกายด้วยเครื่องประดับสีชมพูโรสโกลด์ ชุดจากร้าน BOBO Studio

อลังการทุกดีเทลด้วยชุดไทยศิวาลัยสีชมพูกลีบบัว ทอยกลายด้วยเส้นไหมสีทอง ปักทับลวดลายให้ยิ่งดูหรูหราด้วยเลื่อมสีเงิน ทองและคริสตัล สวมใส่พร้อมเครื่องประดับเลียนอย่างไทยโทนสีโรสโกลด์ ดูสวยแพงทุกมุมมอง ชุดจากร้าน Smile in Love

ชุดไทยบรมพิมานสีน้ำเงิน ทอยกลายด้วยสีเงินเสริมให้ลวดลายดูยิ่งโดดเด่นปักทับให้มีมิติด้วยคริสตัลและเลื่อมสีเงินส่งให้เจ้าสาวดูโดดเด่นมีระดับ สวมใส่คู่กับเครื่องประดับเลียนอย่างโบราณสีเงิน ชุดจากร้าน เจ้านางเวดดิ้ง

เสื้อผ้า : Costume Cafe โทร. 08-3815-4774, วสันต์ ชุดไทย Wasan Shudthai จังหวัดขอนแก่น โทร. 08-2669-6956, Vanus Couture โทร. 0-2002-4895, 0-2002-4896, Smile in Love & Wedding Studio โทร. 06-3224-6647, เจ้านางเวดดิ้ง โทร. 08-6363-6555, 08-8089-5999, BOBO Studio จังหวัดภูเก็ต โทร. 08-9471-5069, 09-1158-6178

สถานที่ : ทับขวัญ รีสอร์ท แอนด์ สปา โทร. 0-2969-1200

สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน เซ็กซี่สตาร์ฮอลลีวู้ด ฟิตหุ่นสุดเป๊ะ ก่อนรับเล่นหนัง Marvel

สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน นักแสดงและนักร้องหญิงชาวอเมริกัน สัญชาติเดนมาร์ก สาวเซ็กซี่แห่งวงการฮอลลีวู้ด อวดรูปร่างสุดเป๊ะ ได้อย่างมั่นใจ เพราะเข้ายิมทุกวันเป็นเวลา 5 เดือน ก่อนจะรับเล่นหนัง Marvel

เปิดฉากและกวาดรายได้มหาศาลในไทยไปแล้ว เมื่อวันพุธที่ 25 เมษายนที่ผ่านมากับ Avengers: Infinity War มหาสงครามล้างจักรวาล ที่ได้จัดทำขึ้นเพื่อฉลองการครบรอบ 10 ปีของมาร์เวล สตูดิโอ ผู้สร้างภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ขวัญใจชาวไทยหลายเรื่องอย่าง Iron Man, Captain America, Black Panther และ Guardians of The Galaxy โดยภาพยนตร์เรื่องล่าสุดนี้เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 19 ในจักรวาลภาพยนตร์ของมาร์เวล (Marvel Cinematic Universe) และเรียกได้ว่าสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการภาพยนตร์ในไทย ด้วยการทำรายได้เปิดตัววันแรกสูงถึง 55 ล้านบาท และจากรายได้ถล่มทลายที่เกิดขึ้น ก็ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกและเรื่องเดียวที่สามารถทำเงิน 50 ล้านบาทได้ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง

สำหรับภาคนี้ตัวละครสำคัญได้กลับมารวมตัวและรวมพลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด นอกจากฮีโร่ขวัญใจสาวๆ แล้ว เราก็ต้องยอมรับว่าฮีโร่ผู้หญิงก็มีบทบาทสำคัญไม่น้อยไปกว่าฮีโร่ชายเลยก็ว่าได้ อย่างตัวละคร  แบล็ก วิโดวส์  (Black Widow) หรือ นาตาชา โรมานอฟ สายลับสาวสุดเซ็กซี่ของทีมอเวนเจอร์สที่ใครเห็นก็ต้องชื่นชอบ โดยผู้ที่มารับบทบาทนี้คือสการ์เลตต์  โจแฮนส์สัน สาวสวยสะกดตา เซ็กซี่สตาร์ตัวแม่ที่ใครก็ยอมรับ นอกจากความแซ่บแล้ว ด้วยบทบาทของเธอทำให้ตัวละครมีทั้งความเท่และเสน่ห์ที่น่าค้นหา

สการ์เลตต์
แบล็ก วิโดวส์  (Black Widow) หรือ นาตาชา โรมานอฟ

จากสาวสวยหุ่นดีที่เราเห็นกัน ใครจะไปรู้ว่ากว่าที่รูปร่างของเธอจะเป๊ะปังอย่างที่เราได้เห็นกันในภาพยนตร์เรื่องล่าสุดนี้ เธอต้องเข้ายิมเพื่อออกกำลังกายทุกวัน อย่างน้อยวันละ 90 นาที นานถึง 5 เดือนด้วยกัน ส่วนอาหารก็ต้องคุมไม่ให้ขาดตกบกพร่อง มื้ออาหารว่างของเธอก็คือ แอปเปิ้ลกับอัลมอนด์ นอกจากนี้ยังต้องฝึกเข้มกับการต่อสู้เพื่อจะนำมาใช้ในการแสดงอีกด้วย รู้อย่างนี้แล้ว ก็ไม่น่าแปลกใจที่รูปร่างของสาวสการ์เลตต์จะฟิตแอนด์เฟิร์มเบอร์นี้

 

สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน เซ็กซี่สตาร์ตัวท็อป

 

สการ์เลตต์
แบล็ก วิโดวส์ กับคอสตูมเข้ารูป มองมุมไหนรูปร่างก็เป๊ะ

 

สการ์เลตต์
อีกหนึ่งลุคที่เสื้อผ้าปิดหมดทุกส่วน แต่กลับทำให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งได้อย่างชัดเจน กราบหุ่นแม่

 

สการ์เลตต์
ภาพเต็มๆ ก็ยิ่งชัดเจนว่าสาวสการ์เลตต์ฟิตหุ่นมาพร้อมสำหรับเรื่องนี้จริงๆ

 

สการ์เลตต์
ลุคยามออกงานก็จัดเต็ม ออร่าของฮีโร่สาวกระจาย

 

สการ์เลตต์
ไม่ว่าเมื่อไหร่ เธอก็ยังคงมีรูปร่างที่สวยเช่นเดิม

 

สการ์เลตต์
เปรี้ยว ซ่า เท่ นาทีนี้ต้องยกให้สาวสการ์เลตต์จริงๆ

 

สการ์เลตต์
จะโพสต์ท่าไหนก็มั่นใจ รูปร่างเป๊ะทุกสัดส่วน

ไม่ว่าจะลุคไหนเซ็กซี่สตาร์ระดับโลกก็เอาอยู่ เพราะมีวินัยในการดูแลรูปร่างอย่างมุ่งมั่น  จะใส่ชุดไหนก็เริ่ด


เรื่อง : Hana_แพรวดอทคอม (ฮานะ)

ภาพ : IG@marvelstudios  , scarlettjohansson.th , scarlettjohansson2211

 

Ferragamo

Salvatore Ferragamo เปิดตัว “Switch Belt” เข็มขัดรุ่นใหม่ล่าสุด

Alternative Textaccount_circle
Ferragamo
Ferragamo

Switch Belt เป็นเข็มขัดรุ่นใหม่ล่าสุด สำหรับคุณสุภาพบุรุษจากคอลเล็คชั่น Pre-Fall 2018 ของ Salvatore Ferragamo (ซัลวาทอเร่ เฟอร์รากาโม) ที่มาพร้อมกับประโยชน์การใช้งานที่หลากหลาย มีลูกเล่นที่สามารถปรับเปลี่ยนหัวเข็มขัดได้ตามความต้องการ อีกทั้งยังเป็นเข็มขัดรุ่นพิเศษ (two-in-one) ที่ให้ภาพลักษณ์ดูสบายและมีความสร้างสรรค์ในเวลาเดียวกัน

หัวเข็มขัดรูปทรง Gancio อันเป็นงานฝีมือคุณภาพเยี่ยม ผลลัพธ์ของนวัตกรรมใหม่ที่มาพร้อมกับกลไกแบบเรียบง่าย โดยหัวเข็มขัดนี้สามารถสลับเปลี่ยนได้กับหัวเข็มขัดอีกคู่หนึ่งที่เลือกโดยตัวลูกค้าเอง

Ferragamo

Switch Belt มาพร้อมกับบรรจุภัณฑ์ที่มีความพิเศษและโดดเด่น ซึ่งประกอบด้วยกล่องอันประณีตที่บรรจุตัวเข็มขัด ซึ่งด้านหนึ่งเป็นหนังลาย (Grained Leather) และอีกด้านหนึ่งเป็นหนังผิวเรียบด้าน ตัวล็อคหัวเข็มขัดออกแบบให้มีการเคลือบผิววัสดุ ทั้งแบบเคลือบทอง เคลือบเงิน และเคลือบโลหะเทา อีกทั้งยังมีช่องว่างเพื่อเพิ่มหัวเข็มขัดอีกคู่หนึ่งซึ่งลูกค้าสามารถเลือกเพิ่มเติม โดยมีหลากหลายสีและวัสดุให้เลือกสรร ยิ่งไปกว่านั้นแล้ว การนำสีและวัสดุของหัวเข็มขัดที่แตกต่างกันของสองส่วนนี้มารวมกันนั้น ยังสามารถสร้างสรรค์รูปแบบหัวเข็มขัดที่แตกต่างกันออกมาได้มากถึง 225 รูปแบบ

Switch Belt พร้อมจำหน่ายแล้วในปลายเดือนเมษายน 2561 ใน 25 บูติคชั้นนำของ Salvatore Ferragamo ทั่วโลก และบนช่องทางการซื้อขายออนไลน์ของแบรนด์ นอกจากนี้ Switch Belt จะยังเป็นสินค้าสำคัญของโปรเจ็คท์ช่องทางการสื่อสารของแบรนด์ #SwipeToSwitch โดยจะแสดงผ่านทางวิดีโอสั้น อัลบั้มรูปภาพ Influencers และการเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ ด้วยตัวลูกค้าเอง (User-Generated Contents) ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้สินค้าสามารถปรากฏอยู่ในสื่อหลายชนิด ทั้งบนสื่อสิ่งพิมพ์ เว็บไซต์ออนไลน์ (E-commerce) และโซเชี่ยลมีเดียอื่นๆ

เชิญชมความพิเศษของเข็มขัดรุ่นใหม่ล่าสุด “Switch Belt” ได้ที่บูติค Salvatore Ferragamo ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น M ศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียม ชั้น M หรือทางออนไลน์ได้ที่ www.ferragamo.com/switch-belts

#SwipeToSwitch #FERRAGAMOTHAILAND

Every day with PLEATS PLEASE ISSEY MIYAKE

PLEATS PLEASE ISSEY MIYAKE เสื้อผ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กับการออกแบบรูปทรงที่ทันสมัยและมีความครีเอทีฟสุดๆ จนกลายมาเป็นลักษณะเด่นของแบรนด์ ที่ใส่ยังไงก็บอกได้เลยว่า มันเริ่ดมาก

ด้วยดีไซน์พิเศษ ที่ไม่ได้ถูกคิดมาเพื่อมอบลุคสวยชิคเท่านั้น  แต่ PLEATS PLEASE ISSEY MIYAKE ต้องมาพร้อมความสบายยามสวมใส่ และไม่อึดอัด เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงเก๋ตัวจริง
PLEATS PLEASE ISSEY MIYAKE จึงได้นำผืนผ้าที่มีขนาดใหญ่กว่าไซส์จริงถึง 3 เท่า มาอัดพลีทด้วยเทคนิคเฉพาะของแบรนด์ ซึ่งทำให้คุณมั่นใจได้ว่า ไม่ว่าจะ ยืน นั่ง ทับ มัด หรือบิดซะกี่ท่วงท่า ซิกเนอเจอร์พลีทนี้ ก็กลับคืนสู่ทรงได้ในทันที นี่คือจุดเด่นที่สาวๆ จะมั่นใจได้เลยว่า ถ้าไม่ใช่พลีทจาก
PLEATS PLEASE ISSEY MIYAKE ไม่มีทางทำได้อย่างนี้แน่นอน

PLEATS PLEASE ISSEY MIYAKE ใส่ไปไหน?

ใส่ไปเที่ยว

นอกจากเสื้อผ้าดีไซน์เก๋ๆ แล้ว   สีสันของ PLEATS PLEASE ISSEY MIYAKE ยังมีให้เลือกแบบสุดๆ ไปเลย ไม่ว่าจะสถานที่ไหน รูปไหน ที่คุณเลือกอัพลงไอจี ขอแค่ใส่ลุคปังของ PLEATS PLEASE ISSEY MIYAKE  ก็ช่วยเรียกยอด Like ให้คุณได้ง่ายๆ แล้ว

ไม่พอ! และด้วยคุณสมบัติพิเศษของพลีท จะทำให้การแพ็คกระเป๋าไปเที่ยวของคุณนั้นง่ายขึ้นอีกเท่าตัว หมดกังวลเรื่องน้ำหนักกระเป๋า และไม่ได้ต้องแคร์เรื่องชุดยับอีกต่อไป  เพราะอย่างที่บอกว่าไปแล้วว่าพลีทของ PLEATS PLEASE ISSEY MIYAKE เกิดมาเพื่อช่วยคุณ

 

ใส่ไปทำงาน
ใช่ว่า PLEATS PLEASE ISSEY MIYAKE จะเหมาะกับลุคเที่ยวเสมอไป ลุค Working Woman เค้าก็ตอบโจทย์ กางเกงทรงเก๋ดูโดดเด่น ไปได้ดีกับเบลเซอร์อัดพลีท หรือจะเดรสสีสดที่ทำให้ลุคทำงานของคุณดูมีชีวิตชีวามากขึ้นก็ยังได้

ใส่ไปได้ทุกที่
ความสนุกของเสื้อผ้าของ PLEATS PLEASE ISSEY MIYAKE คือการครีเอทลุคใหม่ได้เสมอ  เดรสตัวเดิมที่ใส่ไปทำงานตอนเช้า หากเปลี่ยนเครื่องประดับชิ้นมันๆ เข้าไป ก็สามารถใส่ไปปาร์ตี้ได้แล้ว หรือ หากสาวๆ สนุกกว่านั้น แนะนำให้ใส่ cardigan แบบ upside down พร้อมวิธีการ มัด พัน ผูก เพื่อมอบลุคสนุกใหม่ให้กับปาร์ตี้สุดมันของคุณ

ถ้าไม่รัก PLEATS PLEASE ISSEY MIYAKE แล้ว จะให้ไปรักใครล่ะ

สนุกไปกับการแต่งตัว ด้วย PLEATS PLEASE ISSEY MIYAKE ได้ที่
ISSEY MIYAKE (อิซเซ่ มิยะเกะ) สยามดิสคัฟเวอรี่ ชั้น G โทร. 02-021-2142
PLEATS PLEASE ISSEY MIYAKE (พลีตส์ พลีส อิซเซ่ มิยะเกะ) ดิ เอ็มควอเทียร์ ชั้น G โทร. 02-021-2177
PLEATS PLEASE ISSEY MIYAKE (พลีตส์ พลีส อิซเซ่ มิยะเกะ) เซนทรัล ชิดลม ชั้น 1 โทร. 02-655-7752

Kids on the slope

เอาใจแฟนหนังญี่ปุ่น ลิสต์ 6 ข้อพิเศษ ก่อนไปชม Kids on the slope

Kids on the slope
Kids on the slope

เอาใจแฟนภาพยนตร์ญี่ปุ่นกันอีกรอบในเดือนนี้ เมื่อการ์ตูนในตำนานของนิตยสารรายเดือน Flowers ที่เคยได้รับรางวัล “Shogakukan Manga” ครั้งที่ 57 และรางวัลชนะเลิศ “Kono Manga ga sugoi!” ปี 2009 ได้นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง Kids on the slope ซึ่งมีกำหนดฉายในไทยวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 นี้

คว้านักแสดงเด่นในญี่ปุ่นมาเล่นพร้อมกันถึง 3 คน สำหรับภาพยนตร์ญี่ปุ่น Kids on the Slope ที่ได้ จิเน็น ยูริ (Chinen Yuri) รับบท นิชิมิ คาโอรุ, นาคางาวะ ไทชิ (Nakagawa Taishi) รับบท คาวาบุจิ เซ็นทาโร่ และ โคมัตสึ นานะ (Komatsu Nana) รับบท มุคาเอะ ริตสึโกะ

Kids on the slope

โดยเรื่องนี้ถ่ายทอดเรื่องราวของนักเรียนมัธยมปลาย นิชิมิ คาโอรุ ที่สูญเสียพ่อไปจนต้องย้ายมาอาศัยอยู่กับญาติที่เมืองซาเซโบะ จังหวัดนางาซากิ คาโอรุต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว จนกระทั่งได้พบกับหนุ่มเกเรย้อมผมแดงที่ใครๆ ต่างเกรงกลัวอย่าง คาวาบุจิ เซ็นทาโร่ และ มุคาเอะ ริตสึโกะ เพื่อนร่วมห้องผู้มีจิตใจอ่อนโยน ซึ่งการมาพบกันของ 1 สาว 2 หนุ่มนี้ก็มีทั้งเรื่องความรัก มิตรภาพ รวมถึงเรื่องดนตรีแจ๊ส ที่นักแสดงต้องฝึกเล่นเครื่องดนตรีอยู่ประมาณ 10 เดือน เพื่อให้แสดงในฉากได้ออกมาสะกดใจคนดูกันเลย นอกจากนี้ยังมีนักแสดงสมทบท่านอื่นๆ อาทิ ดีน ฟุจิโอกะ, มาโนะ เอรินะ, นากามุระ ไบจาคุ, ยามาชิตะ โยริเอะ, มัตสึมุระ โฮคุโตะ จากวง SixTONES ค่ายจอห์นนี่ และ โนมากุจิ โทรุ

Kids on the slope
ฉบับการ์ตูน
Kids on the slope
ฉากในการ์ตูนเทียบกับฉากถ่ายทำหนังจริง ต้องใส่ใจรายละเอียดมากๆ

ในส่วนของการกำกับนั้น ได้ผู้กำกับ มิกิ ทากาฮิโระ ผู้เชี่ยวชาญด้านการกำกับภาพยนตร์วัยรุ่น ที่เคยฝากผลงานดังมาแล้วก่อนหน้านี้มากำกับ ไม่ว่าจะเป็น Tomorrow I Will Date With Yesterday’s You และ Hot Road ซึ่งผู้กำกับก็ได้เลือกการเล่าเรื่องผ่านทัศนียภาพอันงดงาม ที่ได้ยกกองไปถ่ายทำกันทั่วภูมิภาคคิวชูของญี่ปุ่นกันเลย เรียกว่าได้เสพทั้งเรื่องดนตรีไพเราะ ฝีมือนักแสดง และภาพของหนังที่สวยกันแน่นอน 

ก่อนจะได้ไปชมกันนี้ แพรวดอทคอม ก็ขอลิสต์ 6 ข้อพิเศษ เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่อง Kids on the slope ที่มีทั้งเรื่องราวการถ่ายทำ รายละเอียดที่ไม่ควรมองข้ามในเรื่องนี้มาให้ได้ทราบกันก่อน เรียกว่า รู้ก่อน พอชมแล้วจะยิ่งได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น


1. ถ่ายทำที่เมืองซาเซโบะ จังหวัดนางาซากิ อย่างในต้นฉบับ!

Kids on the slope

ภาพยนตร์ Kids on the slope ถ่ายทำกันที่เมืองซาเซโบะ จังหวัดนางาซากิเป็นหลักอย่างในต้นฉบับการ์ตูน ดังนั้นจิเน็น ยูริ กับ นาคางาวะ ไทชิ ที่รับบท นิชิมิ คาโอรุ และ คาวาบุจิ เซ็นทาโร่ จึงต้องแสดงให้ได้ใกล้เคียงและเข้าถึงตัวละครในต้นฉบับ

วันที่ 28 เมษายน 2560 เป็นวันแรกของการถ่ายทำ โดยฉากแรกเริ่มที่ศาลเจ้าคาเมะยามะฮาจิมังกู เรื่องนี้ 2 หนุ่มได้ทำงานร่วมกันเป็นครั้งแรกหลังจากเคยแสดงเรื่อง “Hell Teacher Nube” มาก่อน โดยจิเน็นมาในมาดหนุ่มแว่นชุดนักเรียนสีดำ ส่วนนาคางาวะใส่เสื้อกล้ามลายขวางสีแดงขาว ดูแล้วเข้ากันมากจริงๆ พอมีนาคางาวะอยู่ จิเน็นที่เป็นคนขี้อายก็ดูอุ่นใจขึ้น ทางทีมงานและนักแสดงสื่อสารกันได้ดีขึ้นก็เพราะนาคางาวะ ทำให้ช่วยจิเน็นในเรื่องการเข้าถึงตัวละครได้เร็วขึ้นด้วย 

ฉากนี้จะเป็นฉากที่เซ็นทาโร่มีเรื่องกับพวกนักเรียนหัวไม้ เพราะอยากระบายที่รู้ว่ายูรินะที่เขาชอบมีใจให้กับเฮียจุนที่เขารักเหมือนพี่ชาย พอถึงคิวต่อสู้นาคางาวะเล่นได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ และดูสมจริงถึงขนาดได้รับคำชมว่า “ตอบสนองไว เคลื่อนไหวดี!” แต่สิ่งที่ทำให้เราตกใจคือตอนที่จิเน็นเข้าไปห้ามว่า “เซ็น! หยุด!” เพราะมันทำให้มิตรภาพอันแน่นแฟ้นของคาโอรุกับเซ็นทาโร่ดรอปลง ผู้กำกับมิกิเลยแนะให้จิเน็นส่งเสียงเตือนด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนขึ้น

เราคิดว่าที่ผู้กำกับมิกิเริ่มถ่ายทำวันแรกจากฉากปะทะอารมณ์ของคาโอรุและเซ็นทาโร่ เพราะต้องการให้จิเน็นและนาคางาวะแสดงได้เข้าขากันยิ่งขึ้น ซึ่งมันก็ผ่านไปได้อย่างงดงาม เป็นการเริ่มต้นถ่ายทำที่ราบรื่นของ Kids on the slope


2. แสงที่ส่องสว่างความหมายของความรักและมิตรภาพ

Kids on the slope

ใน Kids on the slope มีการพบเจอแห่งโชคชะตาสำหรับตัวละครหลักคาโอรุอยู่ถึงสองครั้ง คือกับเซ็นทาโร่และกับริตสึโกะ ก่อนถ่ายทำ ผู้กำกับมิกิได้บอกนักแสดงเกี่ยวกับมิตรภาพของคาโอรุและเซ็นทาโร่  ฉากที่ทุกคนรู้จักกันดีก็คือฉากที่ทั้งคู่พบกันครั้งแรกบนดาดฟ้า เราไปถ่ายทำกันที่โรงเรียนหญิงล้วนเซวะ ที่ตั้งอยู่บนเนิน ซึ่งมองเห็นวิวโดยรวมของเมืองซาเซโบะ ตอนที่ถ่ายฉากนี้มีเมฆปกคลุมเล็กน้อย แต่ก็มีช่วงที่พระอาทิตย์ส่องในฉากที่จิเน็นและนาคางาวะปรากฏตัว เป็นแสงเจิดจ้าที่สาดลงมาซึ่งตรงตามบทที่ว่า “มีแสงสาดมาทางประตูที่ออกไปสู่ดาดฟ้า”

ฉากแสงสวยๆ เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งในผลงานของผู้กำกับมิกิ และวันนั้นก็เป็นอีกวันที่ผู้กำกับมิกิเนรมิตแสงอันงดงามนั้นออกมา โดยในฉากนี้จะเป็นวันที่คาโอรุเพิ่งย้ายเข้ามา ก็เลยยังไม่มีเพื่อน เขาเลยหนีขึ้นไปบนดาดฟ้า พอไปหยุดอยู่ตรงทางเข้าก็พบกับเซ็นทาโร่ที่แอบมานอนกลางวันอยู่ ฉากนี้ทั้งคู่ได้พบกัน แต่ดูไปก็เหมือนฉากความรักที่พระเอกได้พบนางเอก และตามเนื้อเรื่อง คาโอรุจะต้องตกใจที่เจอเซ็นทาโร่ครั้งแรก ซึ่งจิเน็นก็แสดงความรู้สึกนั้นผ่านทางสีหน้าได้อย่างดี แต่ตอนที่เซ็นทาโร่ยื่นมือไปหาคาโอรุที่มาเจอตัวเองแอบหลับ ทีมงานต้องให้จิเน็นเข้ามาใหม่ในรอบหลัง รอบแรกเซ็นทาโร่ช่วยคาโอรุ รอบหลังเป็นคาโอรุที่ช่วยเซ็นทาโร่ เป็นฉากที่แสดงนัยยะของความรักที่ผู้กำกับมิกิบอกไว้

การพบเจอครั้งที่สอง คือตอนที่ได้พบกับนางเอกริตสึโกะในห้องเรียน ซึ่งทีมงานไปถ่ายกันที่โรงเรียนมัธยมต้นฮานะโซโนะ เมืองซาเซโบะ วันแรกที่คาโอรุย้ายมาเรียน เขารู้สึกอึดอัดที่มีคนนินทาเป็นภาษาถิ่นที่ไม่คุ้นเคย แต่ก็มีคนที่เข้ามาคุยกับเขานั่นก็คือ ริตสึโกะ ที่รับบทโดย โคมัตสึ นานะ เพื่อให้ดูสมจริงและใกล้เคียงต้นฉบับ ทีมงานเลยเติมฝ้าให้เธอดูเหมือนริตสึโกะ ฉากนี้สาวใจดีอย่างริตสึโกะจะต้องส่งยิ้มให้คาโอรุ และคาโอรุต้องตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบ ทั้งจิเน็น ผู้กำกับ และทีมงานที่นั่งอยู่หน้าจอถึงกับชมกันใหญ่ว่า “น่ารักเกินไปแล้ว” และนี่ก็คือสองฉากที่เป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพและความรักของคาโอรุ


3. สตูดิโอชั้นใต้ดิน สถานที่กำเนิดดนตรี สถานที่ซึ่งเชื่อมใจพวกเขา

Kids on the slope

ทีมงานเซ็ตฉากสตูดิโอดนตรีชั้นใต้ดิน “ร้านแผ่นเสียงมุคาเอะ” ที่โรงงานคานายะเซย์เซน เมืองบุนโกะทาคาดะ จังหวัดโออิตะ เมื่อลงบันไดมายังห้องใต้ดินก็จะพบกับ เปียโน กลองชุด และดับเบิลเบส เป็นห้องที่สร้างด้วยผนังอิฐคลาสสิกที่สึกกร่อนเป็นจุดๆ ข้างในมีบรรยากาศสบายๆ บรรดานักแสดงเลยใช้เป็นที่ผ่อนคลายยามว่าง รวมไปถึงใช้ซ้อมเล่นดนตรีด้วยกันระหว่างรอเข้าฉาก

“พอไบจาคุ ที่รับบท ซึโตมุ พ่อของริตสึโกะเริ่มเล่นดับเบิลเบส กลองของนาคางาวะก็เริ่มบรรเลง ตามด้วยทรัมเป็ตของ ดีน ฟุจิโอกะ และเปียโนของจิเน็น” ฉากที่สร้างขึ้นมานี้ทำให้ได้ดื่มด่ำไปกับสถานที่ซึ่งใช้ฝึกซ้อมดนตรีของพวกเขาอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ด้านโคมัตสึที่เล่นเป็น ริตสึโกะที่ได้ชมการแสดงของพวกเขาสดๆ ถึงกับบอกว่า “เห็นทุกคนเล่นดนตรีด้วยกันครั้งแรกแล้วขนลุกมาก เหมือนเป็นคนฟังที่ได้นั่งเก้าอี้พิเศษเลยค่ะ” ทางจิเน็นกับนาคางาวะเองก็ใช้เวลาฝึกซ้อมเปียโนกับกลองชุดอยู่หลายเดือน ถึงแม้จะซ้อมเฉพาะเพลงที่ใช้แสดง แต่การที่จะให้ผู้ชมสนุกไปกับการเล่นดนตรีแจมของพวกเขา นาคางาวะกล่าวว่า “ก่อนอื่นเราต้องสนุก พอเข้าถึงความเพลิดเพลินของการเล่นดนตรี ก็จะเกิดเป็นเวลาแห่งความสนุกที่แท้จริง”

และในภาพยนตร์ที่มีฉากเล่นดนตรีส่วนใหญ่ก็มักใช้ผู้แสดงแทน แต่โปรดิวเซอร์ของเราเชื่อมั่นในตัวนักแสดงและกล่าวว่า “ไม่ต้องใช้คนแสดงแทนหรอก ทุกคนเล่นดนตรีได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้เรื่อง La La Land หรือ Whiplash อยู่แล้ว”

ฉากเล่นดนตรีที่เป็นไฮไลท์อีกอย่าง คือตอนที่เฮียจุนซึ่งเป็นเหมือนแรงบันดาลใจของคาโอรุและเซ็นทาโร่เล่นกับวง ในบาร์ดนตรีแจ๊สที่นางาซากิ ฉากนี้ไปถ่ายกันที่ร้านดนตรีแจ๊สที่ชื่อว่า Tin Pan Alley” เมืองนางาซากิ ที่นั่น ดีน ฟุจิโอกะได้ร้องเพลง “But not for me” ไว้ได้อย่างไพเราะสะกดใจผู้ฟัง นับว่าเป็นภาพสุดวิเศษที่สะท้อนผ่านกล้อง และผู้ชมก็จะได้รับฟังเพลงฮิตหลายเพลงจากคาโอรุและเพื่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลง “Morning”, “Itsuka Oujisama ga”, “My Favorite Things”, “But not for me” เป็นต้น


4. ร้านแผ่นเสียงมุคาเอะที่สร้างขึ้นตามแบบอาคารยุคโชวะขนานแท้

Kids on the slope

มีอีกที่หนึ่งที่ทีมงานไปถ่ายทำกันคือ ย่านโชวะ เมืองบุนโกะทาคาดะ จังหวัดโออิตะ ย่านโชวะเป็นย่านค้าขายที่ได้รับความนิยมในยุคหลังๆ ที่นี่ถูกสร้างขึ้นมาในปีเฮย์เซย์ที่ 13 (2001) ตามแบบย่านค้าขายของปีโชวะที่ 30 (1954) ภาพยนตร์เรื่อง “Miracles of the Namiya General Store” ที่ฉายไปก่อนหน้านี้ก็เคยมาถ่ายทำกันที่นี่

ในครั้งนี้ทางเราได้ดัดแปลงร้านจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าให้เป็นร้านแผ่นเสียงมุคาเอะ ซึ่งรวมเอาแผ่นเสียงต่างๆ ไว้กว่า 5,000 แผ่น มีฉากที่นาคางาวะต้องขี่ฮอนด้าไปตามเมือง เขาได้พูดถึงประสบการณ์ล้ำค่านี้ว่า ตื่นเต้นมากครับเหมือนได้ย้อนไปในยุคนั้นเลย ฉากที่คาโอรุโทรชวนริตสึโกะไปเดทก็ถ่ายทำกันที่ย่านโชวะ โดยโทรศัพท์ที่คาโอรุใช้โทรไปที่บ้านของริตสึโกะกับร้านมุคาเอะเป็นโทรศัพท์หยอดเหรียญสีแดงรุ่นที่ต้องหยอดเหรียญสิบเยนไม่รู้กี่เหรียญต่อการโทรหนึ่งครั้ง เพราะในยุคนั้นยังไม่มีทั้งมือถือและสมาร์ทโฟน ในฉากนี้จิเน็นตั้งใจเป็นพิเศษ เขาใช้น้ำเสียงแสดงให้เห็นว่าประหม่า ตื่นเต้น หายใจไม่ทั่วท้อง เพราะแอบชอบริตสึโกะ

พอได้วันที่จะไปเดทกับริตสึโกะ คาโอรุก็ตอบกลับไปอย่างนิ่งๆ ว่า “….อื้ม ก็ดีนะ ได้สิ” แต่ในใจลึกๆ เขาดีใจมากจนแทบจะกระโดดโลดเต้น ซึ่งจิเน็นก็แสดงได้อย่างมีเสน่ห์สุดๆ แบบที่ต้นฉบับบรรยายไว้ว่า “กำมือดีใจเบาๆ ด้วยความสมหวัง” นอกจากนี้สิบวันสุดท้ายของการถ่ายทำในเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงที่ร้อนมากอย่างกับฤดูร้อน ร้อนจนเหงื่อตก ระหว่างถ่ายทำ ผู้กำกับมิกิคงอยากให้เราหายร้อนหายเหนื่อยเลยพูดกับทีมงานและนักแสดงเป็นภาษาถิ่นว่า “ไปหาไอติมกินกัน!” ทำเอาเฮลั่นกันยกกอง


5. การถ่ายทำสุดหินกับ “เนิน” ที่เป็นสัญลักษณ์ของภาพยนตร์

Kids on the slope

ในการ์ตูนต้นฉบับคาโอรุกล่าวว่า “หมอนั่นวิ่งขึ้นเนินที่น่ารังเกียจไปอย่างสบายๆ ” นี่คือฉากที่พาทีมงานไปสู่เรื่องราวในปี 1966 ถึงแม้จะเป็นเนินที่น่ารังเกียจแต่ก็งดงาม ทั้งยังสะท้อนภาพความทรงจำที่ตัวละครเคยมีร่วมกับบรรดาคนสำคัญ ทีมงานเลยต้องใส่ใจกับฉากที่ตัวละครต้องพบกับเนินที่เป็นสัญลักษณ์ของเรื่องเป็นพิเศษ

โดยเลือกใช้ทางลาดก่อนที่จะถึงโรงเรียนมัธยมปลายซาเซโบะคิตะอย่างในต้นฉบับ เป็นทางลาดที่ต้องค่อยๆ เดินไต่ขึ้นไปอย่างทุลักทุเล ถนนกว้างประมาณสามก้าวครึ่ง แค่เดินคู่กันก็แทบไม่มีที่ว่างแล้ว สองข้างทางก็มีบ้านเรือนเรียงราย เลยลำบากต่อการขนกล้องและอุปกรณ์ เป็นสถานที่สุดหินในการถ่ายทำก็ว่าได้ โดยฉากนี้จะเป็นฉากหลังเลิกเรียน ระหว่างที่คาโอรุกับริตสึโกะกำลังจะกลับ เซ็นทาโร่ก็ตะโกนเรียก ริกโกะ! ไปก่อนนะ!” จากนั้นก็หันไปมองคาโอรุแล้ววิ่งหายไป ทั้งจังหวะหันหน้าจังหวะสบตา มันยากนะที่ต้องแสดงในขณะที่วิ่งลงเนินไปด้วย แล้วถ้ารวมที่ซ้อมเท่ากับว่านาคางาวะต้องวิ่งลงไม่ต่ำกว่า 15 รอบเลยล่ะ

นอกจากนี้บทสนทนาของคาโอรุกับริตสึโกะ จิเน็นกับโคมัตสึก็ต้องคุยเหมือนไม่ได้เตี๊ยมกันไว้ให้เหมือนในต้นฉบับ ประโยคที่ตะโกนตอบนาคางาวะว่า โทษนะ เซ็น! ไม่ได้ตั้งใจ!” อันนี้ก็ไม่ผ่าน ต้องเดินขึ้นเนินอยู่หลายรอบ และบทสนทนาธรรมดาๆ นี้ก็ทำให้เราสัมผัสได้ว่าพวกเขาก็สนิทสนมกันไม่ต่างจากตัวละครทั้งสามเลย หลักๆ ของการถ่ายทำที่ซาเซโบะก็ประมาณนี้ ที่นี่เป็นสถานที่ทรงพลัง และเป็นช่วงเวลาที่ตราตรึงใจมากจริงๆ ถึงขนาดที่ว่าพอถ่ายทำเสร็จ บรรดานักแสดงต่างบ่นด้วยความเสียดายไม่อยากกลับโตเกียว


6. การเล่นดนตรีแจมในงานโรงเรียนที่สะกดใจผู้ชม

Kids on the slope

“2 ชั่วโมงพิเศษ ฉากตัดสินแพ้ชนะฉากที่จิเน็น, นาคางาวะ และผู้กำกับมิกิ รู้สึกเครียดที่ต้องเอาให้อยู่ คือฉากแสดงดนตรีในงานโรงเรียนที่เราใช้นักแสดงสมทบถึง 400 คน สั่งคัต 70 ครั้ง รวมแล้ว 2 ชั่วโมง เป็นฉากที่ทีมงานมิกิ ซึ่งปกติดูใจเย็นถึงกับตื่นเต้นด้วยความเครียด แต่อย่างไรเสีย มันก็เป็นความเครียดในแง่บวก โดยฉากนี้จะเป็นฉากที่คาโอรุกับเซ็นทาโร่เคืองกันอยู่ เซ็นทาโร่เลยไปตีกลองให้กับวงร็อคในงานโรงเรียน แต่อยู่ๆ ไฟก็ดับ เขาเลยต้องเปลี่ยนไปเล่นแจมกับคาโอรุ เราถ่ายจากนี้โดยให้ทั้งคู่เล่นไปตามเสียงดนตรีที่เราอัดเตรียมไว้ กว่ากล้องจะหมุนได้มุมที่ใกล้เคียงที่สุด ก็ต้องเช็คสเต็ปการใช้นิ้ว รวมถึงเช็คเรื่องอื่นๆ อยู่หลายรอบ

ความยากอีกอย่างคือระหว่างที่ถ่ายคัตของเปียโนอันหนึ่ง คัตของกลองชุดอันหนึ่ง ก็ต้องให้ดูว่าทั้งคู่เล่นเข้ากันด้วย  ความจริงเราก็ไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ แต่ทุกครั้งที่ถ่ายฉากดนตรีเสร็จก็จะรู้สึกมึนๆ ทางจิเน็นไปซ้อมเปียโนมาสิบเดือน แต่ไม่ได้ฝึกอ่านชีทดนตรี อาศัยการฝึกจับเสียงโน้ต แล้วก็เรียนรู้จากการสังเกตเวลาครูผู้สอนขยับนิ้วตอนเล่นเปียโน จิเน็นบอกกับเราด้วยว่า พักนี้ผมชอบเล่นเพลงโปรด ไว้ถ้าเก่งกว่านี้คงได้แสดงสดให้ดูครับ” 

ทางนาคางาวะในแต่ละวันก็สู้แบบทุ่มสุดตัว เขาแกร่งนะ แต่รู้สึกว่าจะปล่อยขีดจำกัดของตัวเองออกมาได้ก็ต่อเมื่อถึงยามที่ถึงขีดสุดจริงๆ เวลาทำอะไรก็ตั้งใจทำเต็มที่อย่างที่ไม่ต้องมาเสียใจทีหลัง หลายเดือนที่เขาซ้อมมามันเห็นผลชัดเจนเมื่อถึงคราวแสดงจริง ทำให้เราให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพในการเล่นดนตรีในฐานะนักแสดงของเขา ซึ่งมันถูกถ่ายทอดผ่านเพลงที่พวกเขาเล่นแจมกันอย่าง “My favorite things” “Itsuka Oujisama ga” และ “Morning” ที่ทำให้ทีมงานถึงกับตัวสั่นเทิ้ม เพราะเสียงฮือฮาของผู้ชมในตอนนั้น

โดยฉากดนตรีนี้จะอยู่ที่ประมาณห้านาที แน่นอนว่าใช้ทักษะของตัวนักแสดงล้วนๆ ไม่มีผู้แสดงแทน พอจบการเล่นแจมห้านาที ทั้งโรงยิมก็กึกก้องไปด้วยเสียงปรบมือ ที่ไม่ได้ปรบให้เพราะงานสร้าง แต่ปรบให้เพราะพวกเขารู้สึกว่ามันตราตรึงใจ การเล่นแจมครั้งนี้ช่วยให้คาโอรุกับเซ็นทาโร่คืนดีกัน ขณะเดียวกันก็ทำให้ริตสึโกะที่เฝ้าดูพวกเขามาตลอดรู้สึกอุ่นใจขึ้นเยอะ เหมือนเป็นการเล่นแจมของพวกเขาทั้งสามคน โคมัตสึเล่าว่า เรื่องนี้แสดงยากค่ะ กลุ้มใจตลอดว่าควรแสดงยังไง แต่พอได้เห็นทั้งคู่ซ้อมเล่นใกล้ๆ ก็รู้สึกได้รับแรงบันดาลใจไปด้วย และในฉากนี้หลังจากที่ริตสึโกะพูดว่า “My Favorite Things…..” น้ำตาเธอก็พรั่งพรูออกมาพร้อมกับรอยยิ้มอันอ่อนโยนของเธอ

Kids on the slope

นับว่าแต่ละฉากที่ออกมาสวยงามบนหน้าจอให้ได้ชมกันนั้น ผ่านการทำงานที่ใส่ใจรายละเอียดอย่างหนักจากทุกๆ ส่วนเลยทีเดียว ใครที่เป็นแฟนนักแสดง รวมถึงแฟนหนังญี่ปุ่น ห้ามพลาดเชียว

 

 


เรียบเรียงโดย: บะหมี่กุ๊งกิ๊ง_แพรวดอทคอม
ข้อมูลและภาพ: Kids on the slope

keyboard_arrow_up