5 ธุรกิจระดับ SME

รู้จัก 5 ธุรกิจระดับ SME กับเบื้องหลังความสำเร็จที่มาจากแนวคิดอันทรงพลัง

5 ธุรกิจระดับ SME
5 ธุรกิจระดับ SME

เรียกว่าเป็นเทรนด์ที่ไม่มีตกอยู่เรื่อยๆ สำหรับคนรุ่นใหม่กับเป้าหมายในชีวิตที่อยากเป็น “เจ้าของธุรกิจ” ที่ประสบความสำเร็จ แต่รู้หรือไม่ เบื้องหน้าของความสำเร็จเหล่านั้น จะมีเบื้องหลังและที่มาของการเริ่มต้นอย่างไร รวมถึงเรื่องราวระหว่างทางของผู้ประกอบการที่ต้องพบเจอ มาฟัง 5 เรื่องราว จาก 5 ธุรกิจ ของ 5 ผู้ประกอบการ ใน 5 มุมมองที่จะให้คุณได้ไอเดียในการเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองไปพร้อมๆ กัน

“ข้าวใหม่ปลามัน” หัวใจธุรกิจที่เกิดจากชุมชน และทุกความสำเร็จคือรอยยิ้มของชาวบ้าน

เป็นอีกหนึ่งโมเดลการทำธุรกิจที่น่าสนใจ สำหรับร้านอาหารข้าวใหม่ปลามัน ที่จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งเกิดจากการต่อยอดสิ่งที่ครอบครัวมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงปลาสลิด เลี้ยงปู เลี้ยงกุ้ง รวมถึงการมองเห็นจุดแข็งของชุมชนที่เต็มไปด้วยแหล่งวัตถุดิบชั้นเยี่ยมที่มีครบทั้งข้าวและอาหารคาวหวาน ทำให้เกิดเป็นร้านอาหารที่มาพร้อมแนวคิด “สนับสนุนชุมชน” ทั้งในเรื่องของการสั่งซื้อวัตถุดิบ และการจ้างงานทั้งงานบริการ งานก่อสร้างตกแต่งร้าน เพื่อให้คนในชุมชนมีรายได้ต่อเนื่อง ในส่วนของร้านอาหารเองก็มีความมั่นใจว่าได้วัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ มีแรงงานที่ไว้ใจได้ เข้าถึงคนในพื้นที่ จนกลายเป็นจุดแข็งของร้านที่แตกต่างจากที่อื่นๆ และเมื่อธุรกิจเติบโตได้ดี ชาวบ้านก็มีคุณภาพชีวิตที่ดีตามไปด้วย

5 ธุรกิจระดับ SME
คุณสุทธิลักษณ์ โตกทอง กรรมการผู้จัดการ ร้านอาหารข้าวใหม่ ปลามัน อัมพวา

“คนเราไม่ได้เก่งทุกเรื่อง มีอีกหลายอย่างที่ต้องพยายามทำความเข้าใจ ทำให้เราต้องเรียนรู้ที่เปิดใจกว้าง รับสิ่งใหม่ๆ เสมอ โดยเฉพาะการก้าวออกจาก Safe Zone ของตัวเอง เพื่อตามโลกให้ทันจนไปเจอความสำเร็จใหม่ๆ ที่เราคิดไม่ถึง”

5 ธุรกิจระดับ SME

“มูร่าห์เฮ้าส์” จากฟาร์มถึงมือ ธุรกิจที่เข้าถึงปัญหา มองเห็น Pain Point จนโดนใจผู้บริโภค

หากจะพูดว่า มูร่าห์เฮ้าส์ คือผู้บุกเบิกการสร้างสินค้า “นมควาย” เจ้าแรกๆ ของประเทศไทยก็คงไม่ผิดนัก ด้วยจุดเริ่มต้นที่มาจากการทำฟาร์มเลี้ยงควายนมพันธุ์มูร่าห์แห่งแรกในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 ของคุณรัญจวน เฮงตระกูลสิน ที่เกิดจากมุมมองที่อยากหาผลิตภัณฑ์นมเพื่อตอบโจทย์คนที่มีปัญหาแพ้นมวัว รวมถึงเด็กๆ ที่ต้องการสารอาหาร เนื่องจากนมควายมีสารอาหารมากกว่านมวัวถึง 2 เท่า แต่ด้วยความที่เป็นตลาดแบบ Niche Market หรือตลาดเฉพาะกลุ่มมากๆ นอกจากการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพแล้ว การตลาดก็เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้แบรนด์สามารถสื่อสารไปให้ถึงผู้บริโภคในวงกว้างได้อย่างที่ตั้งใจ ซึ่งตรงนี้เองที่ SME D Bank ได้เข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มต้น คอยให้ความช่วยเหลือ ทั้งเรื่องเงินทุน และโครงการต่างๆ มีการอบรมที่ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการ หรือถ้ามีตลาดที่ไหนก็ชักชวนให้เอาสินค้าไปขาย ทำให้คนเริ่มรู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงวันนี้ มูร่าห์เฮ้าส์ ได้เป็นมากกว่าผู้ผลิตนมควาย โดยเปิดพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางด้านการเกษตร มีกิจกรรมต่างๆ ให้ทุกคนสามารถลงมือทำจริงได้เลย

5 ธุรกิจระดับ SME
คุณชาริณี ชัยยศลาภ เจ้าของธุรกิจ “มูร์ร่าห์ ฟาร์ม” ฟาร์มควายนมแห่งแรกของไทย

“พวกเราเริ่มต้นจากศูนย์ ไม่มีประสบการณ์ ต้องเรียนรู้อะไรเยอะมาก ลองผิดลองถูกไปเรื่อย แต่ด้วยความพยายาม ไม่ท้อ และหาข้อมูลเรื่อยๆ ทำให้เราได้มุมมองในการทำธุรกิจในหลายๆ เรื่อง มีปัญหาตรงไหนก็ค่อยๆ แก้ไขไปทีละจุด ไม่เคยท้อเลย”

5 ธุรกิจระดับ SME

ตั้งใจ พัฒนา ต่อยอด แนวคิดหลักของแบรนด์ “ชาโมกข์” ที่ไม่เคยหยุดนิ่งกับความเปลี่ยนแปลง

จริงอย่างคำกล่าวที่ว่า “อายุเป็นเพียงตัวเลข” เพราะเจ้าของแบรนด์ชาโมกข์อย่างคุณปราณี ศิริบูรณ์พิพัฒนา ได้ไอเดียเริ่มธุรกิจในช่วงอายุเข้าเลข 6 จากประสบการณ์ที่สะสมมาอย่างยาวนานในเรื่องของการเกษตร ประกอบกับความสนใจศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม จนได้ค้นพบคุณสมบัติของสมุนไพรชนิดหนึ่งที่ช่วยเรื่องการลดอาการผมร่วงได้ จากนั้นก็ได้ต่อยอดออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ จนเกิดกระแสบอกต่อแบบปากต่อปากไปเรื่อยๆ ทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ก่อนจะมองหาช่องทางในการขยายตลาดด้วยการเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ และการนำสินค้าออกสู่ต่างประเทศ โดยมีผู้ช่วยเบื้องหลังอย่าง SME D Bank ในเรื่องของเงินทุน และการ Re-Brand เปลี่ยน Package เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ และตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น ซึ่งตลอดการทำงานที่ผ่านมา เรียนรู้ว่าการเปิดใจเป็นสิ่งสำคัญ พอๆ กับการอดทนที่ไม่ย่อท้อต่อปัญหาที่เข้ามา โดยต้องไม่ลืมที่จะพัฒนาตนเอง และสินค้าให้ทันโลกอยู่เสมอด้วยเช่นกัน

5 ธุรกิจระดับ SME
คุณปราณี ศิริบูรณ์พิพัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท ชาโมกข์ จำกัด

“จงเปิดใจยอมรับคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ มีความคิดทันสมัย มีแนวคิดที่ดี ซึ่งเราสามารถมาปรับใช้ได้ การเปิดใจตรงนี้จะทำให้เราได้ขยายกลุ่มเป้าหมาย ได้ขยายฐานลูกค้า และได้เรียนรู้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้มากมาย”

5 ธุรกิจระดับ SME

“A-Tong” ผลิตภัณฑ์สารบำรุงพืชใบ แบรนด์น้องใหม่มาแรง โดดเด่นด้วยสินค้าคุณภาพดี จากความรู้ที่สั่งสมมานานของเจ้าของแบรนด์

แม้จะเป็นน้องใหม่ในวงการ SME ได้ไม่นาน แต่ A-Tong ก็เดินหน้าอย่างมั่นคงด้วยจุดแข็งในเรื่องของคุณภาพสินค้า ที่ได้รับการพิสูจน์ทั้งจากห้องแล็บและผู้ใช้งานว่ามีคุณภาพ เหมาะสมกับราคาที่จับต้องได้ โดยจุดเริ่มต้นของการสร้างธุรกิจก็มาจากการนำความรู้และประสบการณ์ที่เกี่ยวกับการเกษตรมาต่อยอดเป็นสินค้าที่ไม่ได้เจาะกลุ่มคนทำเกษตรเท่านั้น แต่วางกลุ่มเป้าหมายในระดับประเทศ ทั้งใช้ในอุตสาหกรรมการเกษตร อสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงครัวเรือน โดยปัจจุบันเน้นทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก เพื่อตอบโจทย์วัตถุประสงค์ที่ต้องการผลักดันสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความช่วยเหลือจากทางฝ่ายพัฒนาของ SME D Bank ที่เข้ามาให้ความรู้เกี่ยวกับการทำการตลาดออนไลน์ จนทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้นในระยะเวลาไม่นาน

5 ธุรกิจระดับ SME
คุณนวลจันทร์ เทศภักดี เจ้าของผลิตภัณฑ์ A-TONG

“การทำธุรกิจต้องไม่ย่อท้อ ถ้าเรามั่นใจในสินค้าก็ต้องพยายามทำให้คนรู้จัก แม้ว่าความพยายามจะยาก ก็ต้องอดทน และถ้าโอกาสมาถึง ก็ต้องไม่ปล่อยไป หากสินค้าเราดีจริง ก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้”

5 ธุรกิจระดับ SME

“ไอศกรีมมะพร้าวอ่อน กะลาทิพย์” ธุรกิจระดับ SME ที่ยกระดับความอร่อยแบบบ้านๆ สู่ความสำเร็จในระดับชุมชน จากจุดเริ่มต้นที่เพียงผู้จำหน่ายไอศกรีมในระยะเวลา 6 เดือน สู่การเรียนรู้ที่จะสร้างแบรนด์ของตัวเอง ของคุณธันยพัฒน์ หิรัญวงศ์ จึงเริ่มที่จะศึกษาหาความรู้เรื่องขั้นตอนการทำไอศกรีม ซึ่งระหว่างทำก็ได้พยายามพัฒนาให้เกิดจุดแข็งเพื่อสร้างความแตกต่างที่โดดเด่นให้กับตัวเองในท้องตลาด ทำให้ค้นพบวัตถุดิบหลักชั้นเยี่ยมของ อ.อัมพวา อย่าง “น้ำหวานดอกมะพร้าว” ที่มีคุณสมบัติให้แคลอรี่ต่ำกว่าน้ำตาลทั่วไป รวมถึงมีโพแทสเซียมและแร่ธาตุอื่นๆ จึงนำมาเป็นส่วนผสมหลักในการผลิตไอศกรีมมะพร้าวอ่อน กะลาทิพย์ ที่นอกจากความอร่อยแล้ว วิธีการนำเสนอโดยเสิร์ฟไอศกรีมในกะลามะพร้าวก็เป็นอีกหนึ่งความโดดเด่นที่ทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำ จนกลายเป็นของดีของเด็ดที่ใครมาเที่ยวอัมพวาก็ต้องลิ้มลองสักครั้งในชีวิต

5 ธุรกิจระดับ SME
นายธันยพัฒน์ หิรัญวงศ์ เจ้าของธุรกิจ ไอศครีมมะพร้าวอ่อนกะลาทิพย์

“ด้วยที่เราอยากให่ลูกค้าได้ทานของดี จึงมุ่งมั่นพัฒนา ไอศครีมมะพร้าวอ่อนกะลาทิพย์ โดยใช้กะทิคั้นสด ผสมน้ำมะพร้าวน้ำหอมแท้จากอัมพวา หอม หวาน อร่อย”

น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ

แพทย์ด้านจิตเวช แนะวิธีปรับสมดุลอารมณ์ช่วงหน้าร้อนด้วยกลิ่นหอมของ น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ

Alternative Textaccount_circle
น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ
น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ

“อากาศเปลี่ยน อารมณ์ปรวน” ช่วงที่อากาศร้อนอบอ้าวไม่เพียงจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ อย่างเสี่ยงต่อการเป็นโรคลมแดด หรือฮีตสโตรก (Heat stroke) แล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจด้วย เพราะอากาศร้อนอบอ้าวจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสภาวะความเครียด ความฉุนเฉียว รวมถึงการแสดงออกถึงพฤติกรรมก้าวร้าว ‘ธัญ’ (THANN) ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช แพทย์หญิงดุจฤดี อภิวงศ์ แนะ “วิธีปรับสมดุลอารมณ์ช่วงหน้าร้อนด้วยกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ” 

เมื่อคลื่นความร้อนมาปะทะกับตัวเราส่งผลทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น เส้นเลือดเกิดการขยายตัว กล้ามเนื้อหดเกร็ง ทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายตัว เมื่อรู้สึกไม่สบายตัวก็ทำให้มีแนวโน้มที่จะก้าวร้าวและตีความสิ่งต่างๆ ในทางลบมากขึ้น เกิดสภาวะอารมณ์ไม่คงที่ หงุดหงิดและอารมณ์เสียได้ง่าย กระบวนการดังกล่าวเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนที่มีผลต่ออารมณ์และความรู้สึก ซึ่งสามารถแบ่งออเป็น 2 กลุ่ม คือ

กลุ่มฮอร์โมนความสุข ฮอร์โมนกลุ่มนี้จะหลั่งจากต่อมใต้สมอง ได้แก่

  • เอ็นโดรฟิน (Endorphin) ฮอร์โมนแห่งความสุข ความพึงพอใจ ความผ่อนคลาย จะหลั่งเพื่อกระตุ้นความรู้สึกในแง่บวก แต่เมื่ออยู่ในภาวะเครียดฮอร์โมนชนิดนี้ก็จะลดลง
  • โดพามีน (Dopamine) ฮอร์โมนที่เกี่ยวกับความพึงพอใจ รักใคร่ และความยินดี หากมีปริมาณต่ำเกินไปจะทำให้รู้สึกหดหู่และซึมเศร้า
  • เซโรโทนิน (Serotonin) ฮอร์โมนต้านความเครียด ถ้าระดับฮอร์โมนต่ำเกินไปจะทำให้เราหงุดหงิด นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิ มีภาวะปวดศีรษะ ไมเกรน หรืออาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้

กลุ่มฮอร์โมนความเครียด ฮอร์โมนกลุ่มนี้จะหลั่งจากต่อมหมวกไต ได้แก่

  • คอร์ติซอล (Cortisol) ฮอร์โมนความเครียด ซึ่งจะถูกกระตุ้นให้หลั่งมากขึ้นเมื่อมีเหตุการณ์คับขัน เรื่องวิตกกังวล หรือความป่วยไข้ของร่างกาย
  • อะดรีนาลีน (Adrenaline) หรืออิพิเนฟริน (Epinephrine) ฮอร์โมนแห่งความโกรธ เกี่ยวเนื่องกับการป้องกันตัว ปกติแล้วจะหลั่งช่วงที่เราตื่นเต้นหรือมีภาวะฉุกเฉินแล้วจะลดลงมาอยู่ในระดับปกติ แต่ถ้าหลั่งมากผิดปกติจะทำให้เกิดอาการหัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง

สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว ส่งผลต่อสภาวะอารมณ์โดยเฉพาะผู้ที่ภาวะความเครียดอยู่แล้ว จะยิ่งกระตุ้นให้เกิดอารมณ์หงุดหงิดง่าย ฉุนเฉียว โมโหง่าย ดังนั้น ควรหาวิธีปรับสมดุลทางด้านอารมณ์และความรู้สึก อย่างวิธีที่ง่ายและเป็นที่นิยมคือ การใช้กลิ่นหอมบำบัด (Aromatherapy) ผ่านการสูดดมกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ (Essential oil) โดยกลิ่นจะถูกส่งผ่านประสาทรับกลิ่น (Olfactory Nerves) ซึ่งอยู่เหนือโพรงจมูกไปยังกระเปาะรับกลิ่น (Olfactory Bulbs) และส่งต่อไปยังสมองส่วนควบคุมอารมณ์ และความรู้สึก (Limbic System) อณูของน้ำมันหอมระเหยจะกระจายไปตามประสาทรับกลิ่นเข้าสู่สมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์และความรู้สึก (Emotion Center หรือ Limbic System) โดยไปกระตุ้นให้สมองสั่งการไปที่ระบบต่อมไร้ท่อ เพื่อหลั่งฮอร์โมนที่มีประโยชน์และมีอิทธิพลต่ออารมณ์และความรู้สึก

กลิ่นยังส่งผลต่อสมองส่วนที่เรียกว่า “ไฮโปทาลามัส” (Hypothalamus) ควบคุมสารเคมีและฮอร์โมนเพศ สมองส่วน Frontal Lobe ควบคุมความตั้งใจ สมาธิและความจำ รวมทั้ง Reticular System ช่วยผสมผสานการทำงานของร่างกายและจิตใจ นอกจากการใช้กลิ่นบำบัดแล้วยังมีแนวทางปฎิบัติในการดูแลตัวเองช่วงที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว ดังนี้

  • หากรู้สึกหงุดหงิดหรือโมโห ลองเปลี่ยนอิริยาบถ ตั้งสมาธิ ฝึกลมหายใจเข้าออกลึกๆ ช้าๆ
  • หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดหรือสถานที่ที่มีความร้อนสูง และควรสวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
  • ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ คือ วันละประมาณ 2 ลิตรครึ่ง เนื่องจากสมองมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึงร้อยละ 80 หากขาดน้ำเพียงเล็กน้อยก็สามารถกระตุ้นให้ระดับฮอร์โมนความเครียดเพิ่มสูงขึ้นได้
  • กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายให้ครบ 5 หมู่ และหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดหรือเผ็ดร้อน
  • หากิจกรรมที่ผ่อนคลายทำยามว่าง เช่น เล่นโยคะ ว่ายน้ำ หรือออกไปตามสถานที่ต่างๆ

การใช้ประโยชน์จากกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ (Essential Oil) เป็นศาสตร์แห่งการใช้กลิ่นหอมบำบัด (Aromatherapy) เพื่อสร้างความผ่อนคลาย ถูกนำมาใช้อย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 6,000 ปี ตั้งแต่สมัยกรีก โรมัน และอียิปต์ มาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ประโยชน์ของน้ำมันหอมระเหย นอกจากจะช่วยเรื่องการนอนหลับแล้ว ยังสามารถช่วยสร้างสมาธิในการทำงาน สร้างบรรยากาศผ่อนคลายโดยสามารถเลือกเปลี่ยนกลิ่นได้ตามอารมณ์ความต้องการ รวมถึงใช้มอบเป็นของขวัญให้กับคนพิเศษได้อีกด้วย

กลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติไม่เพียงสร้างความพึงพอใจเพียงอย่างเดียว แต่ยังแฝงคุณค่าในการฟื้นฟูสภาพจิตใจและอารมณ์ตามคุณสมบัติของน้ำมันหอมระเหยแต่ละชนิด อ้างอิงตามหลักการของกลิ่นหอมบำบัด (Aromatherapy) การใช้น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่งที่สามารถสร้างความผ่อนคลาย ปรับสมดุลอารมณ์และความรู้สึก โดยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับสร้างบรรยากาศความหอมให้กับพื้นที่ต่างภายในบ้าน ได้แก่ 

เครื่องกระจายกลิ่นหอม (Electric aroma diffuser) ทำงานด้วยกลไกการกระจายความหอมแบบ Ultrasonic Water – Oxygen โดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงถึง 2.5 ล้านรอบ/วินาที ทำให้น้ำแตกตัวเป็นไอเย็นที่มีโมเลกุลขนาดเล็กเพียง 5 ไมครอน นำพาน้ำมันหอมระเหยขึ้นสู่อากาศ กลิ่นหอมจึงกระจายตัวได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการทำงานแบบไม่ใช้ความร้อนจึงปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัว มาพร้อมกับ 2 ฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม ได้แก่ โหมดทำงานแบบต่อเนื่อง (Green Light) ตัวเครื่องจะทำงานต่อเนื่อง 3 ชั่วโมง เมื่อเสร็จการทำงานเครื่องจะปิดแบบอัตโนมัติ และโหมดควบคุมจังหวะการทำงาน (Orange Light) ตัวเครื่องจะพ่นควัน 1 ครั้ง สลับกับการหยุด 30 วินาที สามารถใช้ได้ต่อเนื่องถึง 6 ชั่วโมง

น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ (Pure essential oil) น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ 100% แต่งเติมความหอมหลากหลายรูปแบบสามารถใช้งานร่วมกับเครื่องกระจายกลิ่นหอมเพื่อรังสรรค์บรรยากาศความสุขภายในบ้านได้อย่างมีรสนิยม มีให้เลือก 7 กลิ่น ได้แก่ กลิ่นอะโรมาติก วูด ( Aromatic wood), กลิ่นโอเรียนทอล เอสเซ้นซ์ (Oriental Essence), กลิ่นอีสเทิร์น ออร์ชาร์ด (Eastern Orchard), กลิ่นอีเดน บรีซ (Eden Breeze), กลิ่นเอิร์ลเกรย์ อินฟิวชั่น (Earl Gray Infusion), กลิ่นสปริง ฟอเรส (Spring Forest และกลิ่นดอกลาเวนเดอร์และโรสแมรี่ (Lavender & Rosemary) 

ก้านไม้หอม (Aroma diffuser) มอบกลิ่นหอมนุ่มนวลจากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ ครอบคลุมพื้นที่การใช้งานได้มากขึ้น เหมาะสำหรับใช้ตกแต่ง และสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น โต๊ะทำงาน หรือห้องนอน มีให้เลือก 5 กลิ่น อาทิ อะโรมาติก วูด ( Aromatic wood), โอเรียนทอล เอสเซ้นซ์ (Oriental Essence), อีสเทิร์น ออร์ชาร์ด (Eastern Orchard), อีเดน บรีซ (Eden Breeze) และ เอิร์ลเกรย์ อินฟิวชั่น (Earl Gray Infusion)


ภาพ Cover : Pexels

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ปีเตอร์แพน-ทัศน์พล

ปีเตอร์แพน-ทัศน์พล ออร่าองค์ชายส่ง ขึ้นแท่นนักแสดงดาวรุ่งพุ่งแรง

Alternative Textaccount_circle
ปีเตอร์แพน-ทัศน์พล
ปีเตอร์แพน-ทัศน์พล

เรียกว่าเวลานี้ ไม่มีใครไม่รู้จัก พระองค์เจ้าพันพิชากร จากละครเรตติ้งแรง “หมอหลวง” ที่รับบทโดยหนุ่มหน้าใส ปีเตอร์แพน-ทัศน์พล วิวิธวรรธ์ งานนี้นอกจากความออร่าของหนุ่มปีเตอร์แพนจะตกแฟนๆไปแบบเต็มๆแล้ว ยังส่งให้ขึ้นแท่นเป็นพระเอกดาวรุ่ง มีงานละครต่อเนื่องแบบไม่แผ่ว ทั้งเรื่อง พรหมลิขิต, เรื่องดวงใจเทวพรหม ตอน ลออจันทร์ ที่จ่อคิวลงจอ และเรื่อง เงิน งาน ความรัก ที่กำลังจะเปิดกล้องเร็วๆนี้ รวมไปถึงได้แฟนคลับใหม่ๆเพิ่มขึ้นอีกเพียบ

ปีเตอร์แพน-ทัศน์พล

“ปีเตอร์แพน” เผยว่า “พูดได้ว่ากระแสดีเกินคาดนะครับ รู้สึกโชคดีมากครับที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของละครดีๆ ในครอบครัวหมอหลวง ต้องขอบคุณพี่ชุ พี่ก้อง และผู้ใหญ่ทางช่อง 3 ด้วยครับ ที่ให้โอกาสผม ตอนนี้มีคนทักเยอะขึ้นครับ ก็จะทักว่าองค์ชายครับ มีตั้งแต่น้องๆเด็กๆไปจนถึงรุ่นผู้ใหญ่เลยครับ ภายในปลายปีหรือต้นปีหน้าก็อาจจะได้ดู เรื่อง พรหมลิขิต และ ดวงใจเทวพรหม ตอน ลออจันทร์ครับ  ส่วนปีหน้าจะมีเรื่อง เงินงานความรัก ครับผม ถามว่าปีทองไหม ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับ (หัวเราะ) อาจจะเป็นปีเงินก็ได้  แต่ที่แน่ๆก็คือ กำลังเอนจอยกับงานครับ อยากให้เราได้มีโอกาสทำงานหลากหลายมากขึ้น ได้เจอผู้คนและประสบการณ์มากขึ้นๆไปอีกครับ แล้วก็ต้องขอขอบคุณแฟนคลับมีที่อยู่มานาน และที่มีเข้ามาใหม่ ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้จากทุกที่นะครับ ทั้งในประเทศและต่างประเทศเลย ผมต้องพัฒนาอีกเยอะเลยครับ นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นของผมเองในฐานะนักแสดง ต้องเรียนรู้อีกเยอะครับ งานที่อยากทำตอนนี้ยังไม่เคยเล่น mv กับภาพยนตร์ครับ แล้วก็อยากเล่นซีรีส์ให้มากขึ้นครับ ผมก็ขออนุญาตฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ พร้อมรับงานเต็มที่ครับ (หัวเราะ) อีกอย่างสิ่งที่อยากลองก็คือ ทำเบื้องหลังครับ ตอนนี้ก็มีช่องยูทูปนะครับ ชื่อช่อง PeterPanCake! สามารถติดตามกันได้ครับ จะได้เห็นคอนเทนท์ต่างๆ ที่ทุกคนอาจจะยังไม่เคยเห็นมาก่อน ฝากติดตามด้วยครับ  และพลาดไม่ได้เลยกับละคร   หมอหลวง  ทุกวันจันทร์ อังคาร เวลา 20.30 ทางช่อง 3 ดูทีวีกด 33 และสามารถดูย้อนหลังได้ที่  3plus ดูได้ทุกที่ทุกเวลา  ขอบคุณทุกคนครับ”

คานส์แบนถาวร! หลังอินฟลูเอนเซอร์ชาวยูเครน เทเลือดปลอมลงบนตัว

account_circle

ไม่เพียงแฟชั่นของเหล่าคนดังบนพรมแดงเทศกาลหนังเมืองคานส์จะเรียกแสงแฟลชจากช่างภาพได้แล้ว แต่หลายครั้งบนพรมแดงแห่งนี้ก็มักเกิดเหตุการณ์แปลกๆ ที่กลายเป็นไวรัลให้กลายเป็นที่จดจำได้เช่นกัน

คานส์แบนถาวร! หลังอินฟลูเอนเซอร์ชาวยูเครน เทเลือดปลอมลงบนตัว

ซึ่งเหตุการณ์ที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากบนพรมแดงคานส์เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ได้เกิดขึ้นกับอินฟลูเอนเซอร์ชาวยูเครนรายหนึ่งที่ชื่อว่า Ilona Chernobai ซึ่งเธอถูกดึงออกจากพรมแดงในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ หลังจากที่เอาเลือดปลอมมาเทลงบนตัว เพื่อแสดงออกถึงการประท้วง และสนับสนุนยูเครน

Ilona Chernobai เป็นอินฟลูเอนเซอร์ และ เทรนเนอร์ฟิตเนสชาวยูเครนที่มีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคนบนอินสตาแกรม โดยชุดที่ใส่เดินพรมแดงในครั้งนี้เป็นชุดสีน้ำเงินและสีเหลือง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของธงชาติยูเครน และเมื่อเชอโนบายเดินไปถึงบันได เธอได้ดึงถุงเลือดปลอมออกมาจากใต้ชุด แล้วนำมาราดลงบนตัว ทันใดนั้นเองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้รีบเข้ามาดึงตัวเธอออกจากพรมแดงทันที

ขณะที่ เชอโนบายยังได้โพสต์ภาพ และ แสดงความคิดเห็นผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอ โดยมีใจความว่า”บนพรมแดงเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 76 ฉันเดินออกมาในชุดสีธงชาติของเราและเทสีแดงลงบนตัวของฉันเอง”

“ฉันขอใช้โอกาส และการกระทำของฉันในครั้งนี้ ทำให้ฉันนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในยูเครน!!!”เธอกล่าวต่อว่า

“น่าเสียดายที่ฉันไม่สามารถโพสต์กิจกรรมทั้งหมดในสตอรี่เหมือนบล็อกเกอร์หลายๆ คนได้อีกต่อไป เพราะอินสตาแกรมลบทุกอย่าง และเพจของฉันถูกคุกคามจากการถูกลบ! ฉันดีใจมากที่การแสดงของฉันเผยแพร่ไปทั่วโลก! ผู้คนไม่ควรลืมพวกเรา!”

“ยูเครนอยู่ในหัวใจของฉัน ฉันทำสิ่งที่ฉันต้องทำ!” เธอกล่าว

(AP Photo/Daniel Cole)

นอกจากนี้ เชอโนบายยังถูกห้ามจากงานเทศกาลต่างๆ และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย แต่เธอกล่าวว่า มันคุ้มค่า

ในปีนี้เมืองคานส์ได้สั่งห้ามการประท้วงในพื้นที่จัดงานและบริเวณโดยรอบในช่วงเทศกาล รวมไปถึงสั่งห้ามตัวแทนจากชาวรัสเซียไม่ให้เข้าร่วมงานตั้งแต่ปี 2022 โดยในแถลงการณ์ได้เขียนว่า “เราจะไม่ต้อนรับคณะผู้แทนรัสเซีย และไม่ยอมรับการมีอยู่ของใครก็ตามที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลรัสเซีย” ขณะที่ฉบับปี 2023 ยังคงดำเนินต่อไป โดยสมาคมโรงภาพยนตร์แห่งยูเครนยังได้เรียกร้องให้ผู้เข้าร่วมเทศกาลหยุดทำธุรกิจกับรัสเซีย อีกด้วย


1

9 เหตุผลที่ต้องเช็คอินชม Cartier Collection Exhibition: Cartier and Women พิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง

account_circle
1
1

แพรวได้รับเชิญจากคาร์เทียร์ ชมนิทรรศการใหญ่ครั้งแรกของโลกที่เชิดชูบทบาทและอิทธิพลของผู้หญิงตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานของคาร์เทียร์ ถ้าคุณหลงใหลในงานศิลปะผลงานล้ำค่าเหนือกาลเวลาที่หาชมได้ยาก เราอยากชวนให้คุณปักหมุดปลายทางที่ฮ่องกง นิทรรศการสุดพิเศษนี้เปิดให้เข้าชมถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2566 เท่านั้น

  • ผลงานล้ำค่า ‘คอลเล็คชั่นคาร์เทียร์’ จากคลังผลงานของเมซงตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 จนถึงปัจจุบัน ทั้งหมด 300 ชิ้น เครื่องประดับจิวเวลรี่ เรือนเวลา ศิลปวัตถุ หรือของตกแต่ง ได้ถูกนำมาจัดแสดงเป็นครั้งแรกที่ฮ่องกง ในคอนเซ็ปต์“Cartier and Women” เผยเรื่องราวอันน่าหลงใหลระหว่างผู้หญิงกับจิวเวลรี่ พร้อมทั้งชูความเด่นของศิลปะจีนและศิลปะจากภูมิภาคอื่นๆ ของโลก ที่สร้างแรงบันดาลใจให้คาร์เทียร์ทั้งในด้านสไตล์การสร้างสรรค์ เทคนิคและวัสดุ
  • ความพิเศษของ ‘Cartier Collection’ เริ่มขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970 คาร์เทียร์ได้รวบรวมผลงานที่ทำขึ้นในช่วงปีแรกๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับจิวเวลรี่ เรือนเวลา หรือของตกแต่งล้ำค่าอื่นๆ นำมาเก็บสะสมไว้เพื่อการอนุรักษ์ และนำไปสู่การก่อตั้ง ‘Cartier Collection’ ในปี 1983 สะสมผลงานที่ทำขึ้นตั้งแต่ทศวรรษ 1850 จนถึงทศวรรษ 2000 โดยผลงานเหล่านี้เป็นหลักฐานบันทึกประวัติศาสตร์แห่งสไตล์และความคิดสร้างสรรค์ของคาร์เทียร์ที่ยาวนานกว่า 170 ปี ปัจจุบันผลงานใน ‘Cartier Collection’ มีประมาณ 3,500 ชิ้น และยังเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งได้รับความสนใจจากพิพิธภัณฑ์ทั่วโลก นับตั้งแต่นิทรรศการใหญ่ครั้งแรกในปี 1989 ที่ Petit Palais (เปอตีต์ ปาเลส์) กรุงปารีส จากนั้น ‘Cartier Collection’ ได้นำผลงานบางส่วนที่สะสมไว้ออกแสดง ณ สถาบันที่มีชื่อเสียงสูงสุดของโลกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นที่ Metropolitan Museum of Art นครนิวยอร์ก (1997) British Museum กรุงลอนดอน (1998) Kremlin Museums กรุงมอสโคว์ (2007) Palace Museum ในพระราชวังต้องห้าม กรุงปักกิ่ง (2009 และ 2019) National Art Center กรุงโตเกียว (2019) Musée des Arts Décoratifs กรุงปารีส (2021-2022), Dallas Museum of Art (2022), สำหรับในปีนี้ 2023 มีจัดขึ้นที่ 3 ประเทศ Museo Jumex ประเทศเม็กซิโก และที่ฮ่องกง พิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง ซึ่งถ้าพลาดโอกาสนี้ จะต้องรอถึงปลายปี ซึ่งจะจัดขึ้นที่ Louvre Abu Dhabi อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
  • Cartier Collection Exhibition: Cartier and Women ที่พิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง แบ่งเป็น 4 ส่วน ตั้งแต่ก้าวแรกคุณจะได้ชมความงดงามของเทียร์ร่าเลอค่าของเชื้อพระวงศ์และเครื่องประดับศีรษะของสตรีชั้นสูง “Royal and Aristocratic Women: Elegance and Prestige” ในช่วงศตวรรษที่ 19 เช่น เทียร์ร่าของเจ้าหญิงมารี โบนาปาร์ต คารเทียร์ปารีส สร้างสรรค์ขึ้นพิเศษในปี 1907 ตัวเรือนแพลตินั่มประดับเพชรและไข่มุกน้ำงามธรรมชาติ (ภาพซ้าย) , เครื่องประดับศีรษะรังสรรค์จากแพลตินั่ม ไวท์โกลด์และพิงค์โกลด์ประดับเพชรและขนนก ชิ้นงานโดดเด่นอีกชิ้นของคาร์เทียร์ นิวยอร์ก ในปี 1924 (ภาพขวา)
  • นิทรรศการส่วนที่ 2 “New Women: Breaking with Tradition” หญิงยุคใหม่ที่ไม่ยึดติดกับม่านประเพณีเดิมๆ เป็นการสำรวจความก้าวหน้าในงานออกแบบจิวเวลรี่ ที่สะท้อนถึงการปลดแอกสตรี หนึ่งในไฮไลต์ คือชิ้นงานที่ออกแบบโดยฌานน์ ตูแซงต์ (Jeanne Toussaint, 1887-1976) สตรีผู้บุกเบิกในสังคมชายเป็นใหญ่สมัยต้นศตวรรษที่ 20 และเป็นหนึ่งในสตรีที่ปฏิวัติวงการจิวเวลรี่สมัยใหม่ หลุยส์ คาร์เทียร์ (Louis Cartier, 1875-1942) ผู้นำรุ่นที่ 3 ของคาร์เทียร์ แต่งตั้งตูแซงต์เป็นผู้อำนวยการสร้างสรรค์ในปี 1933 โดยเธอเป็นสตรีคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้ เข็มกลัดปองแตร์ (Panthère) ที่ตูแซงต์ออกแบบไว้เมื่อปี 1949 ซึ่งดัชเชสแห่งวินด์เซอร์ (1896-1986) ได้ซื้อไปครอบครอง ‘เสือแพนเตอร์’ สัญลักษณ์ของความองอาจ ความเป็นอิสระและอำนาจ ก็ได้กลายมาเป็นแม่แบบและสัญลักษณ์ของคาร์เทียร์ (ภาพซ้าย), ต่างหูหนีบรูปเสือของ Barbara Hutton สร้างสรรค์จากคาร์เทียร์ ปารีส ปี 1961 ตัวเรือนทองประดับเพชร, นิล และส่วนดวงตาประดับมรกต (ภาพขวา)
สร้อยคอแพลตินั่มและไวท์โกลด์ประดับเพชร, แซฟไฟร์, มรกตและทับทิม สร้างสรรค์ขึ้นพิเศษในปี 1936 สำหรับเดซี่ เฟลโลวส์ (Daisy Fellowes) หนึ่งในสัญลักษณ์ความงามที่เปล่งประกายของคอลเล็คชั่นทุตตี้ ฟรุตตี้ (Tutti Frutti)
  • ชมสร้อยคอ 3 เส้น ความงดงามระดับตำนาน: สร้อยคอทองคำและแพลตินั่มประดับเพชร, อเมทีส, เทอร์ควอยซ์ คาร์เทียร์สร้างสรรค์ขึ้นพิเศษในปี 1947 สำหรับดัชเชสแห่งวินด์เซอร์ (ภาพซ้าย), สร้อยคอหยกเจได อัญมณีที่ชาวจีนนิยม ตัวเรือนแพลตินั่มและทองคำ ประดับเพชรและทับทิม บาร์บารา ฮัตตัน (Barbara Hutton) สาวสังคมและสไตล์ไอคอนชาวอเมริกัน ทายาทห้างสรรพสินค้า Woolworth ได้รับเป็นของขวัญวันแต่งงานเมื่อปี 1933 (ภาพขวา), สร้อยคอแพลตินั่มและไวท์โกลด์ประดับเพชร, แซฟไฟร์, มรกตและทับทิม สร้างสรรค์ขึ้นพิเศษในปี 1936 สำหรับเดซี่ เฟลโลวส์ (Daisy Fellowes) หนึ่งในสัญลักษณ์ความงามที่เปล่งประกายของคอลเล็คชั่นทุตตี้ ฟรุตตี้ (Tutti Frutti) (ภาพล่าง)
  • นิทรรศการส่วนที่ 3 “Inquisitive Women: Cross-cultural Inspirations” แรงบันดาลใจข้ามวัฒนธรรม เราจะได้เห็นชิ้นงานที่แสดงถึงอิทธิพลของศิลปะจากประเทศจีนและภูมิภาคอื่นๆ ของโลก ที่สร้างชีวิตชีวาให้กับผลงานที่คาร์เทียร์รังสรรค์ขึ้นเพื่อผู้หญิง กล่องใส่ของชิ้นเล็กสไตล์จีนที่ทำขึ้นเมื่อปี 1928 โดยอ้างอิงชามกระเบื้องสมัยคังซีในคอลเลคชั่นส่วนตัวของมิสเตอร์และมิสซิสหลุยส์ คาร์เทียร์ (1895-1952) (ภาพซ้าย), เข็มกลัด “มังกรคู่ไล่ไข่มุก” ที่นำลวดลายยอดนิยมในศิลปะจีนมาใช้ ถูกซื้อไปโดยฌานน์ ปาแก็ง (Jeanne Paquin, 1869-1936) ช่างเสื้อสตรีคนสำคัญคนแรกของฝรั่งเศส (ภาพกลาง), คาร์เทียร์ทำจี้ หยิน-หยางขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1919 โดยได้แรงบันดาลใจจากสัญลักษณ์ของลัทธิเต๋า ซึ่งเป็นปรัชญาและศาสนาเก่าแก่ของจีน (ภาพขวา)
เทียร์ร่าตัวเรือนแพลตินั่มประดับเพชรและมุกธรรมชาติสร้างสรรค์ในปี 1906 ของนักแสดงหญิงหลิว เจียหลิง (Carina Lau Ka Ling) ซึ่งมอบให้คาร์เทียร์นำมาจัดแสดงพิเศษ
  • นิทรรศการส่วนสุดท้าย “Influential Women: Glamorous Legends” สตรีผู้ทรงอิทธิพล: ตำนานอันเจิดจรัส ความผูกพันระหว่างคาร์เทียร์กับสตรีสมัยใหม่และสตรีร่วมสมัยผู้เป็นไอคอน โดยผลงานชิ้นเด่นส่วนหนึ่งมาจากคอลเล็คชั่นส่วนตัวของสตรีระดับบุคคลสำคัญและสตรีที่มีชื่อเสียง เช่น เทียร์ร่าตัวเรือนแพลตินั่มประดับเพชรสร้างสรรค์ในปี 1919 ของนักแสดงหญิงชาวไต้หวันที่มีชื่อเสียงระดับเอเชีย หลิน ชิงเสีย (Brigitte Lin Ching Hsia) ซึ่งมอบให้คาร์เทียร์นำมาจัดแสดงพิเศษ,  เทียร์ร่าตัวเรือนแพลตินั่มประดับเพชรและมุกธรรมชาติสร้างสรรค์ในปี 1906 ของนักแสดงหญิงหลิว เจียหลิง (Carina Lau Ka Ling) ซึ่งมอบให้คาร์เทียร์นำมาจัดแสดงพิเศษ
  • ผลงานชิ้นเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เทียร์ร่า Taj Mahal ตัวเรือนแพลตินั่มประดับเพชรและมรกต สามารถปรับมรกตเป็นเข็มกลัด สร้างสรรค์ปี 2012 เจ้าของคือแพนซี่ โฮ นักธุรกิจหญิงและลูกสาวของ สแตนลีย์ โฮ ซึ่งมอบให้คาร์เทียร์นำมาจัดแสดงพิเศษในครั้งนี้ (ภาพซ้าย), แหวนหมั้นแพลตินั่มประดับเพชรน้ำงามของเกรซ เคลลี่ หรือเจ้าหญิงเกรซแห่งโมนาโก สร้างสรรค์ขึ้นในปี 1956 (ภาพขวา)
  • นิทรรศการ “Cartier and Women” ผู้ถือบัตรสามารถเข้าชมได้ทุกห้องนิทรรศการภายในพิพิธภัณฑ์ เทียบกับผลงานล้ำค่าที่จัดแสดงและราคาบัตรเข้าชมถือว่าคุ้มค่ามาก บัตรผู้ใหญ่ราคา 120 เหรียญฮ่องกง บัตรสำหรับผู้มีสิทธิ์ได้รับส่วนลด ราคา 60 เหรียญฮ่องกง (เด็กอายุระหว่าง 7-11 ปี, นักเรียนและนักศึกษา, ผู้ใหญ่อายุ 60 ปี ขึ้นไป, ผู้พิการและทุพพลภาพ) โดยคาร์เทียร์สนับสนุนบัตรเข้าชมนิทรรศการแก่ผู้ด้อยโอกาสในครั้งนี้จำนวน 5,000 ใบ

‘สุดโต่งกับความสัมพันธ์ ยอมได้แม้จะอยู่ในสถานะที่ไม่เปิดเผย ใครกัน? ต้องเช็กแล้ว!!’ ดวงรายวัน 24 พฤษภาคม 2566

‘สุดโต่งกับความสัมพันธ์ ยอมได้แม้จะอยู่ในสถานะที่ไม่เปิดเผย’

ดวงรายวัน 24 พฤษภาคม 2566

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :   หากคุณกำลังเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานหรือธุรกิจที่ต้องรับผิดชอบในชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น เช่น ตำรวจ ทหาร นักการเมือง การปกครอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวกับกฎหมาย เช่น นักกฎหมาย ผู้พิพากษา อัยการ ที่ปรึกษาทางด้านกฎหมายด้วยแล้ว วันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะเครียดและกดดัน เพราะพยายามจะทำงานให้สมกับที่เจ้านายคาดหวังไว้ให้ดีที่สุด

การเงิน  :   รายได้มาจากหยาดเหงื่อและแรงงาน โดยวันนี้คุณมีโอกาสที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงานเทาเงินเทา รวมถึงเงินสินบน เงินใต้โต๊ะต่างๆ ซึ่งควรหลีกเลี่ยง เพราะมีแต่จะสร้างความเดือดร้อนให้ไม่สิ้นสุด  

ความรัก  :  หากคุณยังไม่เลิกนิสัยเจ้าชู้ ชอบเที่ยวสังสรรค์ปาร์ตี้ วันนี้มีโอกาสที่คู่ครองคุณจะไม่ทน จะขอไปสิ้นสุดกันที่ศาลได้นะคะ      คนโสด  เช่นกัน สำหรับคนเจ้าชู้ ชอบสังสรรค์ปาร์ตี้ แม้คุณจะเปิดใจรับใครตลอดๆ แต่ก็เลือกน้า ก็เป็นไปได้ว่าจะยังคงเลือกต่อไป

สุขภาพ  :  กลับมาที่การกลั้นปัสสาวะ หากคุณมีปัญหาที่กรวยไตหรือกระเพาะปัสสาวะอยู่แล้ว ระวังวันนี้อาการจะหนักขึ้น

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้หลักทฤษฏีและวิชาการขั้นสูง และประสบการณ์ความเชี่ยวชาญชำนาญมาใช้ในการทำงาน รวมถึงทำงานเป็นทีมได้อย่างดีเยี่ยม เช่น แพทย์ ทั้งแผนไทยและแผนปัจจุบัน อาจารย์ นักค้นคว้า วิจัย วันนี้หากคุณทำงานกับเด็ก หรือผู้ที่อ่อนอาวุโสกว่า ก็คงต้องลดอีโก้ในตัวเองลง เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นให้มากๆ เพราะไม่เช่นนั้นมีโอกาสที่จะขัดแย้งจนงานสะดุดหยุดลงกลางคัน  แล้วหากงานผิดพลาดเสียหาย คุณก็จะถูกซ้ำเติมอีกต่างหาก

การเงิน  :  เป็นไปได้ว่าทีมงานและผู้บังคับบัญชาจะหางานที่มีรายได้ดีๆ ไว้ให้ ซึ่งวันนี้คุณมีโอกาสที่จะใช้เงินไปกับของกระจุกกระจิก ขนมนมเนย จนเงินไม่พอใช้ได้นะ

ความรัก  :  ก็ยังคงอยู่กับปัญหามือที่สาม ความหึงหวง ความไม่เข้าใจกัน ซึ่งวันนี้เป็นไปได้ว่าผู้ใหญ่จะเข้ามาให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องเด็กๆ ในความดูแลของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการศึกษา ไปเรียนต่อต่างประเทศ คนโสด  วันนี้มีโอกาสที่คุณจะตัดสินใจไปปรึกษาแพทย์ หรือผู้ใหญ่ เกี่ยวกับเรื่องเด็กๆ ที่ไม่สามารถเปิดเผยกับใครได้

สุขภาพ  :   ควรระวังเรื่องโรคในช่องปากและทางเดินหายใจ ซึ่งจะเป็นปัญหาไปถึงระบบย่อยอาหาร นอกจากนี้ควรระวังความเครียดที่เกิดจากการกดดันตัวเองกลายเป็นคนเก็บตัว จนถึงขั้นซึมเศร้า

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  :  อย่างไรคุณก็ยังคงคาดหวังความสำเร็จจากการทำงานอย่างแรง ทุ่มเทจนแทบจะเรียกว่าพลีชีพเลยก็ว่าได้ ซึ่งวันนี้แม้จะได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากผู้ใหญ่และคนใกล้ชิดให้ได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ก็ตาม แต่เป็นไปได้ว่าคุณจะเต็มไปด้วยอีโก้และทิฐิ จนไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่นเลย จึงมีโอกาสสูงมากที่จะเกิดการขัดแย้งจนถึงขั้นงานสะดุดหยุดลงกลางคัน แล้วเมื่อถึงตอนนั้นคุณก็จะถูกซ้ำเติมอีกต่างหาก  

การเงิน  :  คุณปรารถนาที่จะมีเงินทอง เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับอนาคต คุณจึงพยายามใช้จ่ายอย่างประหยัด แต่วันนี้จากความใจดีใจบุญของคุณ ก็มีโอกาสถูกหลอกให้เข้าไปยุ่งกับเงินร้อนโดยไม่รู้ตัว

ความรัก :   เป็นไปได้ว่าคุณจะมีความคิดที่สุดโต่งกับความรักความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่  และก็เป็นไปได้อีกว่าจะทำไปเพื่อประชดคู่ครอง แต่เดี๋ยวคุณก็เปลี่ยนใจ คือเอาใจยาก เดาใจลำบากด้วยล่ะวันนี้ คนโสด   เป็นไปได้ว่าคุณจะสุดโต่งกับเรื่องความสัมพันธ์ คือแม้จะอยู่อย่างซ่อนเร้น ไม่เปิดเผย ก็ไม่แคร์ แต่อย่างไรก็ตามวันนี้มีโอกาสที่คุณจะเรียกร้องความสนใจจากคนๆ นั้น  

สุขภาพ   :   หากคุณกำลังหักโหมทำงานหนักจนเครียด หงุดหงิด วันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะระบายออกกับการรับประทานอาหารและดื่มแอลกอฮอล์ ก็ต้องระวังน้ำหนัก และปริมาณไขมัน เบาหวาน และความดันที่จะตามมา

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน   :   เทพพระพุธ เทพประจำวันพุธสถิตอยู่กับคุณ จึงเป็นไปได้ที่วันนี้คุณจะมีพรสวรรค์ในงานที่ต้องใช้คำพูดในการติดต่อประสานงาน การโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน จนถึงงานขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานบันเทิง นักร้อง นักแสดง พิธีกร สถานประกอบการบันเทิง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฯลฯ แต่ก็คงต้องเตรียมตัวไว้หน่อย เพราะเป็นไปได้ว่าจะมีข่าวที่จะทำให้คุณเซอร์ไพร์ส จนนั่งไม่ติด ต้องรีบหาทางออกให้กับตัวเองอย่างรีบด่วนเลยทีเดียว

การเงิน   :  หากคุณใจดีใจบุญ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น วันนี้เป็นไปได้ที่จะได้เงินจากงานเทา แต่ก็จะเข้ามือขวาออกมือซ้าย ไม่สามารถเก็บเงินอยู่กับตัวได้นาน ได้มาเท่าไหร่ก็ให้คนอื่นใช้หมด

ความรัก  :   หากชีวิตคู่ของคุณอยู่กันด้วยความลังเล ไม่แน่ใจว่าจะเป็นรักจริงหรือเปล่า วันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะหาทางออกด้วยการเที่ยวตามสถานบันเทิง ก็ต้องระวังเพราะมีโอกาสที่คุณจะหวั่นไหวกับใครง่ายๆ นอกจากจะกระทบความสัมพันธ์ในครอบครัวแล้ว ยังมีโอกาสถูกหลอกด้วย    คนโสด  อย่าเพิ่งตัดสินใจไปอยู่กับใครอย่างง่ายดาย เพราะวันนี้มีโอกาสที่คุณจะถูกหลอกได้ง่ายมาก เพราะคาดว่าคนๆ นั้นจะมีแฟนอยู่แล้ว    

สุขภาพ  :   ต้องระวังเรื่องกระดูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวเข่า และข้อต่างๆ เพราะมีโอกาสที่ เส้นเอ็นอักเสบ หรือเป็นโรคเก๊าได้ นอกจากนั้นยังต้องระวังเรื่องฟันด้วย

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือร่วมธุรกิจกับครอบครัว คนรัก คู่ครอง วันนี้มีโอกาสที่คุณจะตกอยู่ท่ามกลางการแก่งแย่งแข่งขันชิงดีชิงเด่นกันในเรื่องของผลประโยชน์ และตำแหน่งหน้าที่การงานกันอย่างบ้าคลั่ง หรือถูกกดดันให้ต้องทำงานให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งเป็นไปได้ว่าคุณจะตัดสินใจไม่เด็ดขาด ไม่วางแผนงานล่วงหน้า จะมีโอกาสนำไปสู่การขัดแย้งจนถึงขั้นงานสะดุดหยุดลงกลางคัน เป็นไปได้มากว่าจะจบลงที่ชั้นศาล

 การเงิน  :   มีโอกาสที่คุณจะได้เงินปันผล และส่วนแบ่งจากธุรกิจของครอบครัว แต่วันนี้หากคุณจะลงทุนอะไรเพิ่มก็ควรพิจารณาให้ดี เพราะการลงทุนทุกชนิดมีความเสี่ยง  

ความรัก  :   สำหรับคู่รักที่เพิ่งแต่งงานอยู่ด้วยกัน หรือคู่ครองที่กลับมาคืนดีกัน วันนี้เป็นไปได้ว่าข้อตกลงทางใจหรือข้อตกลงทางกฎหมายที่คุณทำด้วยกันไว้ จะทำให้คุณถึงขั้นที่จะใช้คำพูดจาบจ้วงล่วงเกินกันจนไม่ให้เกียรติกันเลย   คนโสด   หากคุณกำลังได้พบบุคคลในฝันตรงตามคอนเซ็ปท์จนอยากจูงมือไปอยู่ด้วยกัน วันนี้เป็นไปได้ว่าต้องยื้อแย่งชิงกันหน่อยล่ะ  

สุขภาพ   :   ควรให้ความสำคัญกับการขับถ่าย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะ เพราะมีโอกาสที่กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะจะติดเชื้อ นอกจากนั้นวันนี้ระบบหมุนเวียนเลือดก็จะทำงานไม่เต็มร้อย จึงมีโอกาสหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ จนถึงขั้นวูบได้ง่ายๆ เลย

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :   หากคุณกำลังทำงานที่ไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบ ไม่ได้เลือก และไม่ถนัด แต่ต้องทำครบทุกอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เป็นเจ้าของธุรกิจ SMEs ผู้ประกอบการอิสระ จนถึงเถ้าแก่เนี้ย วันนี้ต้องระวังมีโอกาสที่คุณจะตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะต้องทำงานงอกจากที่ตกลงกันไว้ หรือถูกกลั่นแกล้ง ให้ต้องรับผิดชอบในความผิดที่ไม่ได้กระทำ ทางที่ดีควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นด้วย  

การเงิน  :  เงินทองไหลมาเทมา ไม่ว่าจะจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองอย่างไม่น่าเชื่อ แต่วันนี้ไม่ควรให้ใครกู้ยืม หรือค้ำประกันใคร เพราะมีโอกาสตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้

ความรัก :   ก็ยังมีโอกาสที่บุคคลภายนอกจะเข้ามาทำดีกับคุณและครอบครัวเป็นพิเศษ ซึ่งตามธรรมดา คุณก็รักกันดีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้ไม่ควรสนใจบุคคลอื่น เพราะเป็นไปได้ว่าเขา/เธอจะไม่หวังดี คนโสด   แม้วันนี้คุณจะมีเสน่ห์มัดใจใครต่อใครเพียงไร แต่หากได้รักแล้ว คุณจะรักเดียวใจเดียว และผูกพันรับผิดชอบไม่ทิ้งกันไปง่ายๆ

สุขภาพ  :   ควรให้ความสำคัญพวกโรคเลือด ดีซ่าน ไวรัสตับอักเสบ ต่อมน้ำเหลืองไม่ดี จึงควรพักผ่อนให้เต็มที่ อย่าโหมงานหนักจนไม่ได้ดูแลตัวเอง เพราะมีโอกาสที่โรคเหล่านี้จะกำเริบ

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :   หากกำลังตกอยู่ท่ามกลางบุคคลผู้ไม่หวังดี แทงข้างหลัง เลื่อยขาเก้าอี้ เพื่อสั่นคลอนความเชื่อถือและชื่อเสียงในการทำงานของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นงานหรือธุรกิจในสายเดินทาง เช่น ท่องเที่ยว โรงแรม อาหาร โลจิสติกส์ ดิลิฟเวอร์รื่ รถยนต์  ด้วยแล้ว นอกจากนั้นยังรวมถึงการไปประชุม อบรม สัมมนา ขยายสาขายังต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ วันนี้ควรใช้สมองและสติให้มากกว่าอารมณ์ เพราะหากเกิดอะไรขึ้น คุณนั่นล่ะที่จะทุกข์ วิตกกังวล จนถึงท้อแท้ในที่สุด

การเงิน  :   หากจะเดินทางไปตกลงเรื่องผลประโยชน์ มีโอกาสตกลงกันไม่ได้ เป็นไปได้ว่าคุณจะต้องใช้ความพยายามทั้งแรงกายแรงใจ เพื่อให้ได้เงินมาด้วยความยากลำบาก

ความรัก  :  วันนี้เป็นไปได้ว่าจะไม่ใช่แค่รอยแผลแล้วล่ะ เพราะมีโอกาสมาให้เห็นตัวเป็นๆ เลยๆ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงมากที่เขาจะไปอยู่ด้วยกันเลย    คนโสด  อย่าเพิ่งคาดหวังกับความรักความสัมพันธ์สูงมากนัก เพราะเป็นไปได้ว่าวันนี้จะมีปัญหามือที่สามเข้ามาวุ่นวายกับคุณ ประมาณรักแท้แพ้ใกล้ชิดด้วย

สุขภาพ   :   คุณเครียดและจริงจังกับปัญหาที่เข้ามาอยู่หรือเปล่า เพราะเป็นไปได้ที่จะส่งผลถึงระบบประสาทที่จะปวดศีรษะ ไมเกรน รวมไปถึงระบบย่อยอาหาร กระเพาะ และลำไส้  

รามาฯ รักษาศิลป์ Cover

มูลนิธิรามาธิบดีฯ จัดงาน “รามาฯ รักษาศิลป์ : ส่งต่อความสุข สานต่อการ “ให้” ผ่านงานศิลปะ” ประมูลผลงานศิลปะจากคอลเลกชันสะสมส่วนตัวของ ทัชชะพงศ์ ประเวศวรารัตน์ นำรายได้สมทบทุน “โครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี และย่านนวัตกรรมโยธี”

รามาฯ รักษาศิลป์ Cover
รามาฯ รักษาศิลป์ Cover

ครั้งแรกของ มูลนิธิรามาธิบดีฯ กับการจัดการประมูลผลงานศิลปะการกุศล ภายใต้ชื่องาน “รามาฯ รักษาศิลป์ : ส่งต่อความสุข สานต่อการ “ให้” ผ่านงานศิลปะ” โดยได้รับการสนับสนุนจาก ทัชชะพงศ์ ประเวศวรารัตน์ เจ้าของผลงานศิลปะผู้มีจิตศรัทธา มอบผลงานทั้งภาพวาด และประติมากรรม รวม 67 ชิ้น มาจัดงานประมูล เพื่อนำรายได้ร่วมสมทบทุน “โครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี และย่านนวัตกรรมโยธี” เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ดีและมีประสิทธิภาพให้กับคนไทย

ในงานแถลงข่าว ซึ่งจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 18 พฤษภาคม ศกนี้ ที่ห้องออดิทอเรียม ชั้น 5 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ปทุมวัน กรุงเทพฯ ได้รับเกียรติจาก ศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์ กรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดีฯ เป็นประธานในงาน พร้อมทั้ง ทัชชะพงศ์ ประเวศวรารัตน์ เจ้าของผลงานศิลปะ และ พิชัย นิรันต์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ร่วมพูดคุยถึงความเป็นมา วัตถุประสงค์ และรายละเอียดของโครงการ อีกทั้งได้รับเกียรติจาก ผศ.นพ.อิทธิรัตน์ วัชรานานันท์ กรรมการบริหารและเหรัญญิกมูลนิธิรามาธิบดีฯ, กิตติภรณ์ ชาลีจันทร์ นายกสมาคมนักสะสมงานศิลปะไทย, เยาวณี นิรันดร รองประธานกรรมการมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และ อดุลญา ฮุนตระกูล ผู้อำนวยการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ให้เกียรติร่วมงาน อีกทั้งยังมีการจัดแสดงผลงานศิลปะคอลเลกชันสะสมส่วนตัวของทัชชะพงศ์ ซึ่งเป็นที่หมายปองของผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะ เตรียมออกสู่สายตาผู้มีจิตศรัทธาและสาธารณชนเป็นครั้งแรก มาจัดแสดงให้ได้รับชม อาทิ ภาพพุทธปฏิหาริย์ ผลงานของ พิชัย นิรันต์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม)

สำหรับนิทรรศการศิลปะทั้ง 67 ชิ้น อันเป็นผลงานทรงคุณค่า ที่ล้วนแต่เป็นผลงานเลื่องชื่อของศิลปินระดับปรมาจารย์ชื่อดังทั่วฟ้าเมืองไทย เช่น พิชัย นิรันต์ เฉลิม นาคีรักษ์ ปรีชา เถาทอง อินสนธิ์ วงศ์สาม รวมถึงศิลปินระดับตำนาน และศิลปินร่วมสมัย จะจัดแสดงให้ผู้มีใจรักงานศิลปะได้ชื่นชมโดยทั่วกัน ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม – 5 สิงหาคม 2566 ก่อนจะมีการจัดงานประมูลในวันที่ 6 สิงหาคม 2566 เวลา 14.00 – 17.00 น. ณ ห้องนิทรรศการหลัก ชั้น 9 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ปทุมวัน กรุงเทพฯ   

มูลนิธิรามาธิบดีฯ จัดงาน “รามาฯ รักษาศิลป์ : ส่งต่อความสุข สานต่อการ “ให้” ผ่านงานศิลปะ” ประมูลผลงานศิลปะจากคอลเลกชันสะสมส่วนตัวของ ทัชชะพงศ์ ประเวศวรารัตน์ นำรายได้สมทบทุน “โครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี และย่านนวัตกรรมโยธี”

ศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์ กรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดีฯ กล่าวว่า “มูลนิธิรามาธิบดีฯ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณทัชชะพงศ์ ได้ร่วมบริจาคผลงานศิลปะซึ่งเป็นของสะสมอันทรงคุณค่า มอบให้มูลนิธิ นำมาจัดประมูลในครั้งนี้ เพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธา และผู้รักในงานศิลปะได้ร่วมทำกุศลครั้งใหญ่ด้วยกัน ในการก่อสร้าง “โครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี และย่านนวัตกรรมโยธี”

“สำหรับอาคารแห่งใหม่นี้สามารถรองรับผู้ป่วยได้เต็มศักยภาพของอาคารเดิมที่ได้ใช้งานมามากกว่า 50 ปี โดยมีประสิทธิภาพมากกว่า ทั้งศักยภาพและคุณภาพที่เพิ่มขึ้นด้านการบริการทางการแพทย์ เช่น ห้องพักผู้ป่วยใน ห้อง ICU ห้องผ่าตัด ห้องสวนหลอดเลือดหัวใจ หน่วยตรวจผู้ป่วยนอก ทั้งนี้ อาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีแห่งใหม่สูง 25 ชั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่ส่วนหนึ่งของด้านหน้าองค์การเภสัชกรรม ขนาด 15 ไร่ 2 งาน 24 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 278,000 ตารางเมตร สามารถให้บริการผู้ป่วยนอกได้ 2.5 ล้านคนต่อปี ผู้ป่วยใน 55,000 รายต่อปี

“ขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างการดำเนินการเตรียมก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ในปี 2571 ซึ่งทางภาครัฐให้การสนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตามยังขาดงบในส่วนค่าก่อสร้างอาคารอีกประมาณ 3,000 ล้านบาท และยังมีอุปกรณ์การแพทย์ที่มีมูลค่าสูงเพื่อเสริมสร้างศักยภาพการให้บริการในการรองรับผู้ป่วยที่มีความซับซ้อนได้อย่างเหมาะสมนั้นจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ทางการแพทย์เหล่านี้ ซึ่งขาดงบประมาณอีกกว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ต้องจัดหางบประมาณเพิ่มเติมผ่านการให้บริการทางการแพทย์ในคลินิกต่าง ๆ และการระดมทุนจากผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคผ่านมูลนิธิรามาธิบดีฯ”

ทัชชะพงศ์ ประเวศวรารัตน์ อดีตประธานกรรมการบริษัทซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) เจ้าของผลงานศิลปะผู้มีจิตศรัทธา เผยถึงความตั้งใจในการบริจาคผลงานศิลปะ ทั้ง 67 ชิ้น ในครั้งนี้ ว่า “โรงพยาบาล เป็นสถานที่ที่ผมเชื่อว่าทุกคนรู้จักและรู้สึกผูกพันเป็นอย่างดี เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นเหมือนบ้านหลังแรกตั้งแต่ทุกคนได้ลืมตาดูโลก สถานที่แห่งนี้ ยังเปรียบเหมือนสถานที่แห่ง “การให้” ให้…การรักษา ให้…ชีวิตใหม่ ให้…ความสุข และขจัดความทุกข์ให้กับผู้ป่วย โดยเฉพาะ “โรงพยาบาลรามาธิบดี” ซึ่งเป็นโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่อันดับต้น ๆ ของประเทศ ที่ไม่เพียงแต่ให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วยในทุกระดับ แต่ยังเป็นสถานที่ที่บ่มเพาะและสร้างบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความรู้ความชำนาญ รวมถึงมีอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย ซึ่งสิ่งเหล่านี้นับเป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จที่จะช่วยรักษาพยาบาลผู้ป่วยให้หายจากโรคภัยและความเจ็บป่วย

“เมื่อไม่นานมานี้ ผมทราบว่าโรงพยาบาลรามาธิบดีมีแผนงานที่จะก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลแห่งใหม่ที่มีความสำคัญและมีประโยชน์อย่างมหาศาล ต่อทั้งผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย บุคคลทั่วไป รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์สาขาต่าง ๆ ภายใต้ชื่อโครงการว่า “โครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี และย่านนวัตกรรมโยธี”

“ด้วยผมเป็นผู้หนึ่งที่ชื่นชอบผลงานศิลปะและสะสมผลงานศิลปะมาตลอดกว่า 20 ปี ได้ทราบถึงความสำคัญและความจำเป็นของโครงการดังกล่าว จึงมีความตั้งใจและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะบริจาคผลงานศิลปะที่ได้สะสมไว้เป็นสมบัติส่วนตัว จำนวน 67 ชิ้น ให้คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และมูลนิธิรามาธิบดีฯ โดยไม่คิดมูลค่าแต่อย่างใด รวมทั้งขอขอบพระคุณท่านผู้ใจบุญทุกท่านที่ร่วมประมูลผลงานศิลปะการกุศลในครั้งนี้ ที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสมทบทุน “โครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี และย่านนวัตกรรมโยธี” ซึ่งจะเป็นการเติมเต็ม ให้โครงการสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี”   

พิชัย นิรันต์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ผู้รังสรรค์ภาพ พุทธปฏิหาริย์ หนึ่งในไฮไลท์ของผลงานกล่าวว่า “ผลงานชิ้นนี้ เป็นการใช้สีคู่ตรงข้ามตัดกัน รูปทรงเรขาคณิตนามธรรม และองค์ประกอบที่เกี่ยวกับพุทธศาสนา เช่น ภาพดอกบัว และพระพุทธรูป โดยจัดวางองค์ประกอบแบบงานจิตรกรรมไทยประเพณีตามคติไตรภูมิ มีพระพุทธเจ้าเป็นศูนย์กลางจักรวาลแทนภาพเขาพระสุเมรุ ขนาบข้างด้วยดวงดาว และวิมานลอย โดยพระพุทธรูปกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงกึ่งกลางภาพ พร้อมกับแสดงท่าทางหงายพระหัตถ์ทั้งสองข้าง เหนือองค์พระปรากฏภาพสัญลักษณ์ดวงตา ในขณะที่เบื้องล่างแสดงภาพดอกบัวตูมที่ค่อยๆ บานออกจนกระทั่งร่วงโรย รายล้อมด้วยเส้นแสง และรัศมีสาดส่อง แสดงให้เห็นสัจธรรมของชีวิต ผ่านการตีความใหม่ตามจินตนาการ”

ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ในการตั้งราคาประมูล จะเป็นราคาการกุศล โดยคำนึงถึงราคาที่เหมาะสม ด้วยต้องการให้ผู้บริจาคที่ได้ร่วมประมูลผลงานศิลปะในครั้งนี้ ได้รับความสุขทั้งในแง่ของการได้ครอบครองผลงานศิลปะที่สวยถูกใจ และได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ป่วยในคราวเดียวกัน โดยเงินที่ได้ร่วมบริจาคจากการประมูลครั้งนี้ ใบเสร็จสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า

สำหรับผู้ที่สนใจอยากร่วมประมูลครั้งนี้ สามารถกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียนเข้าร่วมประมูลงาน “รามาฯ รักษาศิลป์” ตามลิงค์ https://bit.ly/RAMARegisForm ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และชมภาพผลงาน ทั้ง 67 ชิ้นได้ที่ E-Book Catalog https://bit.ly/RAMAcharityart

ร่วมสมทบทุน “โครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี และย่านนวัตกรรมโยธี” เพื่อพัฒนาศักยภาพทางการแพทย์ให้มีประสิทธิภาพ พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วยทุกระดับได้ที่มูลนิธิรามาธิบดีฯ (โรงพยาบาลรามาธิบดี และ สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ จ.สมุทรปราการ) หรือ ร่วมบริจาคเงินสมทบทุน ชื่อบัญชี มูลนิธิรามาธิบดีฯ • กรุงเทพ 090-3-50015-5 • กสิกรไทย 879-2-00448-3 • ไทยพาณิชย์ 026-3-05216-3 รวมทั้งบริจาคออนไลน์ทาง www.ramafoundation.or.th สอบถามเพิ่มเติมโทร 0-2201-2222 ในวันและเวลาราชการ ติดตามข่าวสารมูลนิธิรามาธิบดีฯ ได้ที่ FB • IG • LINE @RAMAFOUNDATION

2 ลุคแน่นพรม! แองเจล่าเบบี้ VS กวนเสี่ยวถง บนพรมแดง Huabiao Film Awards

Alternative Textaccount_circle

ช่วงนี้เรียกได้ว่าคอแฟชั่นแบบเราๆ ถึงกับต้องเกาะติดขอบพรมแดง ทั้งเทศกาลใหญ่อย่าง Cannes Film Festival ซึ่งคับคั่งไปด้วยคนดังจากทุกมุมโลกที่มาให้เราได้ยลโฉมคอมตูมสุดอลังการแล้ว ฝั่งเอเชียของเราก็ไม่น้อยหน้ากับประเทศจีน แผ่นดินใหญ่ที่จัดงานประกาศรางวัลอย่าง Huabiao Film Awards ขึ้น แน่นอนว่าแขกคนสำคัญต้องเป็นนักแสดงระดับเอลิสต์ของประเทศ

อย่างแองเจล่าเบบี้ และกวนเสี่ยวถงที่มาร่วมงานประกาศรางวัลครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งต้องกลายเป็นที่จับตามองของบรรดาสื่อต่างๆ แน่นอน ว่าพวกเธอจะครีเอทลุคบนพรมแดงนี้ยังไงให้สะดุดตาและน่าจดจำ

2 ลุคแน่นพรม! แองเจล่าเบบี้ VS กวนเสี่ยวถง บนพรมแดง Huabiao Film Awards

เป็นไปตามคาดว่าทั้งคู่ต่างจัดเต็มมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะตั้งแต่ลุคเดินพรมที่ไม่มีใครยอมใคร แต่ละคนต่างสวมเดรสสุดอลังการที่มี ‘กระโปรงฟูฟ่อง’ เป็นไฮไลท์

เริ่มต้นด้วยแองเจล่าเบบี้ในคอสตูมจาก Marchesa เดรสเกาะอกสีขาวเรียบๆ ทรง Ball Gown แต่เพ่มความพิเศษด้วยผ้าซีทรูสีดำที่นับมาจับจีบให้ได้รูปทรงคล้ายกับดอกไม้

และคนที่สองอย่าง กวนเสี่ยวถง ที่กระโปรงก็เด่นไม่แพ้กัน เธอมาในลุคที่หวานกว่าเล็กน้อยโดยได้เดรสซีทรูเกาะอกสีขาวจับจีบทั่วทั้งตัวจาก Rami Al Ali มีกิมมิกเป็นขนนกสีทองที่ประดับไว้รอบๆ ชุด

RADO เผยโฉมคอลเล็กชั่นใหม่2023 พร้อมชมเสน่ห์เกินต้านของ Rado Centrix ครั้งแรกในไทย

Alternative Textaccount_circle

RADO จัดงานแสดงประจำปี “RADO NOVELTIES 2023: Whispers of Dunes and Dreams” เผยโฉมหลากคอลเล็กชั่นใหม่แห่งปี2023 พร้อมชมเสน่ห์อันเร้าใจเกินต้านของ Rado Centrix อย่างเป็นทางการครั้งแรกในไทย ณ อาณา อานันท์ รีสอร์ท แอนด์ วิลลา พัทยา

เมื่อห้วงแห่งเวลาไม่อาจหยุดนิ่งการรังสรรค์เรือนนาฬิกาจึงได้รับการพัฒนาอย่างไม่สิ้นสุด และเป็นประสบการณ์ ล้ำค่าที่ผู้หลงใหลต่างจดจำไม่รู้ลืม ราโด (RADO) ผู้สรรสร้างนวัตกรรมเรือนเวลาระดับโลก สุดยอดผลงานออกแบบล้ำสมัย ผู้นำเทคโนโลยีด้านวัสดุศาสตร์แห่งวงการนาฬิกาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ร่วมกับ บริษัท เดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) นำโดย กฤษณ์ ภีมะโยธิน ประธานกรรมการบริหารบริษัท เดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) และ ธีรเนตร ภัทรวุฒิพงศ์ผู้บริหารแบรนด์นาฬิกา RADO ประเทศไทย นำทุกท่านร่วมออกเดินทางสัมผัสประสบการณ์ครั้งใหม่เพื่อยลโฉมคอลเล็กชั่นประจำปี 2023 ในงานแสดงนาฬิกาประจำปี “RADO NOVELTIES 2023” โดยงานในปีนี้จัดขึ้นภายใต้ คอนเซปต์ Whispers of Dunes and Dreams ถ่ายทอดหลากหลายผลงานคอลเล็กชั่นใหม่อันโดดเด่นจาก RADO ส่งตรงจากสวิตเซอร์แลนด์เพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก ณ อาณา อานันท์ รีสอร์ท แอนด์ วิลลา พัทยา เมื่อเร็วๆ นี้

ภายในงานครั้งนี้ได้รับเกียรติจากเหล่าคนดัง อาทิ เกรซ – กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า, พอลล่า เทเลอร์, วุ้นเส้น – วิริฒิพา ภักดีประสงค์, ไดอาน่า จงจินตนาการ ตลอดจนเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ผู้หลงใหลเรือนเวลาและสื่อมวลชนมาร่วมกิจกรรมพิเศษที่ ราโด (RADO) จัดเตรียมไว้ให้ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมเวิร์กช็อป “Scent of Dreams” เปิดประสบการณ์ การครีเอตเครื่องหอม Diffuser ริมชายหาด ร่วมแต่งเติมกลิ่นหอมในแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง

และในค่ำคืนเดียวกันนั้น ทุกคนต่างประทับใจไปกับความพิเศษของเรือนนาฬิกาคอลเล็กชั่นไฮไลต์ประจำปี 2023 สำหรับเรือนนาฬิกาไฮไลต์ที่นำเสนอภายในงานครั้งนี้ ได้แก่ Rado Centrix คอลเล็กชั่นใหม่ล่าสุด ที่จะนำพาทุกคนเดินทาง สู่เนินทรายแห่งความฝัน ผ่านรูปทรงสไตล์ใหม่ที่เพิ่มความอ่อนโยน นุ่มนวล เสมือนได้สัมผัสสายลมเย็นท่ามกลางทะเลทรายร้อนระอุ และนี่เป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้เห็นคริสตัลแซฟไฟล์ดีไซน์ใหม่ซึ่งมีความกลม ขอบโค้งมน ให้ความรู้สึกสบายตาและมอบผิวสัมผัสเรียบสบายยิ่งขึ้น อีกหนึ่งลูกเล่นของ Centrix ที่เข้ามาเติมความเรียบหรูอย่างมีรสนิยมคือการประดับเพชร (Jubilé) ไว้บริเวณดัชนีบอกเวลา ส่วนตัวเรือนเน้นการใช้เฉดสีทอง สีเหลืองอมน้ำตาล และสีน้ำตาล นอกจากนี้เพื่อเน้นย้ำความเป็น Master of Materials ของ Rado จึงมีการนำนวัตกรรมมาใช้กับรุ่นควอตซ์ โดยมีเทคโนโลยีชิปคอมพิวเตอร์คอยตรวจจับการเคลื่อนไหวกระทันหันหรือการกระแทกเพื่อตอบสนองอัตโนมัติ ช่วยให้ความแม่นยำในการบอกเวลายังคงอยู่และน่าเชื่อถือเสมอ

ส่วนนาฬิกาไฮไลต์เรือนอื่นที่เรียกความสนใจในงานครั้งนี้ ยังมีทั้งรุ่น Captain Cook High-Tech Ceramic Skeleton บนตัวเรือนพลาสม่าเซรามิกที่มีการเผยกลไกนวัตกรรมการเดินใหม่ล่าสุดR808 True Thinline x Great Gardens of the World นาฬิกาที่นำความงดงามของธรรมชาติมาไว้บนข้อมือเราผ่านสีที่เรียบง่ายอย่างเทา ดำ และขาว ซึ่งทุกเรือนมีที่มาจากรูปทรงของพืช 3 สายพันธุ์ต่อด้วยTrue Square Thinline x Les CouleursTM Le Corbusier เรือนเวลาไฮเทคเซรามิกสไตล์โมเดิร์นที่เล่นเรื่องการจับคู่สีอย่างลงตัว จำนวนจำกัดเพียงแบบละ 999 เรือนเท่านั้นความพิเศษที่ Rado เตรียมไว้ให้คนรักนาฬิกายังมีอีกมากมายทั้ง เซ็ตลิมิเต็ดของ True Thinline x Great Gardens of the World Collector’s Box และเซ็ตลิมิเต็ดของ True Square Thinline x Les CouleursTM Le Corbusier Collector’s Box, Captain Cook High-Tech Ceramic Skeleton และ True Square Skeleton, DiaStar Original Skeleton

เรียกได้ว่างาน “RADO NOVELTIES 2023: Whispers of Dunes and Dreams” ครั้งนี้เต็มไปด้วยผลงานการรังสรรค์เรือนเวลารูปแบบใหม่ๆ ที่น่าตื่นตาใจ ก่อนจะปิดท้ายค่ำคืนแสนพิเศษของ Rado ด้วยปาร์ตี้ริมชายหาดพัทยาในบรรยากาศชิลล์ๆ ที่เหล่าคนดังและแขกผู้มีเกียรติทุกคนได้มาร่วมกันสร้างห้วงเวลาแห่งความสุขและความทรงจำดีๆ ไปด้วยกันพร้อมกับนาฬิกาเรือนโปรดที่ช่วยเติมเต็มโมเมนต์ของแต่ละคนให้ยิ่งน่าประทับใจไม่รู้ลืม

พบกับเสียงกระซิบและเสน่ห์อันเร้าใจเกินต้านของ Rado Centrix พร้อมด้วยเรือนนาฬิกา RADO คอลเล็กชั่นใหม่ล่าสุดแห่งปี 2023ได้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ช่องทางออนไลน์ Shopee และ Lazada หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line Official: @Radothailand หรือ โทร. 02-610-0200


'ปู ไปรยา' ในลุคเดรสรัดรูปสีนู้ดแสนเซ็กซี่กับเคล็ดลับดูแลรูปร่างสุดเป๊ะ

‘ปู ไปรยา’ในลุคเดรสรัดรูปสีนู้ดแสนเซ็กซี่กับเคล็ดลับดูแลรูปร่างสุดเป๊ะ

Alternative Textaccount_circle
'ปู ไปรยา' ในลุคเดรสรัดรูปสีนู้ดแสนเซ็กซี่กับเคล็ดลับดูแลรูปร่างสุดเป๊ะ
'ปู ไปรยา' ในลุคเดรสรัดรูปสีนู้ดแสนเซ็กซี่กับเคล็ดลับดูแลรูปร่างสุดเป๊ะ

ปู ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก’ หนึ่งนักแสดงชาวไทยที่ปรากฏตัวบนพรมแดงเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ในเดรสสีนู้ดรัดรูปประดับโบจาก Alexis Mabille Official คอลเล็คชั่นโอต์ กูตูร์ Spring 2022 พร้อมสวมแหวนและต่างหูจาก Chopard

สำหรับลุคดังกล่าวของปู ไปรยา เห็นแล้วต้องร้องว้าวให้กับความสวยเซ็กซี่ของเธอที่ไม่เคยแผ่ว แต่ก็มีบางคนที่แสดงความคิดเห็นไม่เชิงลบ เช่นติในรูปร่าง ทำให้เธอต้องออกมาเขียนแคปชั่นว่า “คนที่ชอบมาติว่า ปูต้องผอม (ซึ่งชุดนี้ก็ใส่ size เดียวกับ runway ไม่มีการแก้) ขอถามหน่อยว่าทำไมต้องบังคับผู้หญิงให้เป็นในแบบที่คุณชอบหรือพอใจ 34-24-38 ถึงเวลาที่คนควรจะเลิก bully คนอื่นเรื่อง body and focus on body positivity พูดอีกรอบ ฉันชอบแบบนี้!!”

สำหรับเคล็ดลับในการดูแลรูปร่างของเธอ เคยให้สัมภาษณ์เมื่อนานมาแล้วกับทางนิตยสารแพรว ฉบับที่ 890 ไว้ว่า “ปูมีลิสต์สิ่งที่อยากทำก่อนตายเยอะมากประมาณ 30 อย่าง เพราะมีความชอบหลากหลายอย่างที่เริ่มทำไปแล้วคือ วิ่งมาราธอน ดำน้ำ เลิกกินเนื้อวัว และที่เริ่มทำมาประมาณ 3 – 4 ปีแล้ว คือการทำงานเพื่อสังคม ปูคิดว่าเราทำงานตรงนี้ ได้โอกาสได้สิทธิพิเศษจากสังคมแล้ว คงเป็นเรื่องผิดปกติถ้าเราจะไม่ใช้กระบอกเสียงที่เรามีช่วยเหลือสังคมกลับคืน การก่อตั้งมูลนิธิจึงเป็นหนึ่งในลิสต์สิ่งที่ต้องทำของปูด้วยค่ะ”

“ส่วนเคล็ดลับการดูแลตัวเองคือต้องดื่มน้ำเยอะๆ ค่ะ เหมือนกับที่ถ้าอยากหน้าเด็กก็ต้องดื่มน้ำเช่นกัน คู่กับการต้องออกกำลังกาย เคล็ดลับของปูคือไม่ได้บังคับตัวเองให้กินคลีนทุกมื้อ แต่ต้องเลือกกินให้บาลานซ์ เพราะปูเชื่อว่า 3 อย่างในชีวิตที่ขาดไม่ได้ก็คือ Body, Mind and Soul ค่ะ ร่างกายคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะถึงต่อให้มีอย่างอื่นให้ทำมากมาย แต่ร่างกายไม่แข็งแรงก็ทำอะไรไม่ได้นะ ปูจึงให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและออกกำลังกาย”

“การวิ่งมาราธอนคือการเอาชนะใจตัวเองขั้นสุด และเป็นบทพิสูจน์วินัยของเราด้วย พิลาทิสก็ถือเป็นการออกกำลังกายที่สาวปูชอบเช่นกัน เพราะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และมีความยืดหยุ่น”


ข้อมูล : นิตยสารแพรว ฉบับที่ 890
ภาพ : prayalundberg

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

The Weekendg

ละสายตาไม่ได้! Limelight Gala นาฬิกาของ The Weekend บนพรมแดงคานส์

account_circle
The Weekendg
The Weekendg

ส่องลุค! นักร้อง นักแสดง นักแต่งเพลงเจ้าของผลงานดังระดับโลกมากมายอย่าง The Weeknd กับครั้งแรกบนพรมแดงงานเทศกาลหนังระดับโลก ณ เมืองคานส์ Festival de Cannes 2023 ในฐานะนักแสดงนำจากซีรีส์ #TheIdol โปรเจกต์ยักษ์ของ HBO ภายใต้การสร้างสรรค์ร่วมกันของเขากับ Sam Levinson

โดย The Weeknd ปรากฏตัวในลุคสีดำเรียบหรู พร้อมแมตช์ด้วยนาฬิกา Limelight Gala High Jewelry ลิมิเต็ด อิดิชั่นตัวเรือนไวท์โกลด์ ประดับแซฟไฟร์บริลเลียนต์คัตสีเหลืองไล่เฉดกับเพชรบริลเลียนต์คัตจาก Piaget

เรือนเวลาที่หยิบยืมความเจิดจรัสของดวงอาทิตย์ ขณะหยอกล้อเล่นแสงยามเที่ยงวันมาเป็นแรงบันดาลใจ ตัวเรือนไวท์โกลด์ขนาด 32 มม. ผสมผสานแซฟไฟร์บริลเลียนต์คัตสีเหลืองไล่เฉดสี 32 เม็ด กับเพชรบริลเลียนต์คัต 10 เม็ดไว้อย่างเข้ากัน หน้าปัดประดับเพชร 289 เม็ดด้วยเทคนิค Snow Setting จับคู่สายรัดข้อมือไฮจิวเวลรี่ที่สอดประสานเพชรบริลเลียนต์คัต 267 เม็ด และแซฟไฟร์สีเหลืองน้ำงามอีก 124 เม็ด ได้อย่างโดดเด่น ผลิตจำกัดเพียง 8 เรือนเท่านั้น สนนราคา 8,750,000 บาท


BENICE DEO FRESH FOR SENSITIVE SKIN Cover

มาคลีนน้องสาวให้สดชื่น เสริมความมั่นใจพร้อมทุกสถานการณ์

BENICE DEO FRESH FOR SENSITIVE SKIN Cover
BENICE DEO FRESH FOR SENSITIVE SKIN Cover

เพราะเมืองไทยอากาศร้อนชื้นตลอดทั้งปี ทำให้บริเวณจุดซ่อนเร้นเกิดกลิ่นอับได้ง่าย ผู้หญิงหลายคนสูญเสียความมั่นใจจนถึงขั้นไม่กล้าใส่กระโปรงสั้นเลยก็มี เรื่องนี้สำคัญแบบนี้อย่าปล่อยเลยตามเลย มาหาทางออกให้น้องสาวคลีนสะอาดสดชื่นกันเถอะ

ใครอยากตามเทรนด์แฟชั่นเสื้อผ้ารัดรูป แต่ไม่มั่นใจว่าการใส่เสื้อผ้าแนบเนื้อจะทำให้เกิดกลิ่นอับชื้นหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ ตอนนี้ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้วค่ะ เพราะเรามีฮีโร่อย่าง BeNice ตัวช่วยเรื่องการทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น เพราะอากาศร้อนชื้นและการใส่เสื้อผ้ารัดรูปอาจก่อให้เกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา จนอาจก่อให้เกิดกลิ่นอับหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ แนะนำว่าทุกครั้งที่ทำธุระในห้องน้ำเสร็จ ควรล้างน้ำและใช้ทิชชู่ซับเบา ๆ แล้วเพิ่มขั้นตอนทำความสะอาดอีกนิดด้วย ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น BENICE DEO FRESH FOR SENSITIVE SKIN เจ้าของรางวัล ICONIC FEMININE CLEANSER FOR SENSITIVE SKIN 2 ปีซ้อน!! ปรบมือให้รัวๆ

เพราะอะไรถึงได้มงลง 2 ปีซ้อนแบบนี้น่ะหรอคะ ก็เพราะทุกเสียงการันตีว่าความหอมสดชื่นสู้ความอับชื้นของวันมามากได้ทุกแมทช์ หรือแม้แต่วันที่อากาศร้อน ๆ เหงื่อออกแค่ไหนจุดซ่อนเร้นก็ยังรู้สึกสบาย แถมความอ่อนโยนก็เต็ม 10 ใช้ทุกวันได้ไม่ระคายเคือง เริ่ดขนาดนี้ รับรางวัลไปรัว ๆ เลยค่ะ

สำหรับใครที่ยังไม่เคยลอง หรืออยากทำความรู้จัก BeNice ให้มากขึ้นเชิญทางนี้เลยค่ะ ไอเท็มเด็ดนี้คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นสูตรสดชื่น ลดกลิ่นอับ เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่อยากเสริมความมั่นใจ แม้วันมามากก็ยังสดชื่น ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นอับ เพราะตัวนี้เขามีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติ Tea Tree Oil ที่คุมกลิ่นได้อยู่หมัด

เสริมคุณประโยชน์ด้วยคุณค่าจาก ‘น้ำแร่ธรรมชาติบริสุทธิ์ธรรมชาติจากสวิตเซอร์แลนด์’ อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว อีกทั้งยังผ่านการทดสอบโดยสูตินารีแพทย์ว่า อ่อนโยน ใช้ได้ทุกวัน มีค่า pH เหมาะกับจุดซ่อนเร้น จึงช่วยคงความสมดุลของน้ำหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติเอาไว้ได้ด้วย ผิวก็เลยรู้สึกชุ่มชื้นไม่แห้งตึง ปลอดภัยใช้ได้ทุกวันสบาย ๆ และปราศจากสารตกค้างที่จะมาทำอันตรายน้องสาวสุดที่รักในระยะยาวอีกด้วย

ย้ำอีกนิดว่า ใช้ล้างภายนอกเท่านั้นนะ ไม่ต้องสวนล้างไปถึงข้างใน เดี๋ยวสะอาดมากเกินไปจนเกินความพอดีก็อาจทำให้จุดซ่อนเร้นเสียสุขภาพไปได้เหมือนกัน ดูแลจุดซ่อนเร้นง่าย ๆ แค่นี้ น้องสาวก็จะกลับมาคลีนสดชื่น มั่นใจทุกย่างก้าว พร้อมสำหรับทุกกิจกรรมแล้วค่ะ

Dior Cruise 2024

ติดขอบรันเวย์! Dior Cruise 2024 แฟชั่นโชว์ที่ผสมผสานวิถีพื้นเมืองชาวเม็กซิกัน

Alternative Textaccount_circle
Dior Cruise 2024
Dior Cruise 2024

ช่วงนี้ถือเป็นเวลาของคอลเล็คชั่น Cruise ที่บรรดาไฮแบรนด์ต่างๆ จะขนแฟชั่นไอเท็มมาอวดโฉมให้เราได้ดูกัน ซึ่งหนึ่งในแบรนด์ที่แฟชั่นโชว์เพิ่งจบไปได้ไม่นานคือ ‘Dior Cruise 2024‘ ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Frida Kahlo จิตรกรผู้โด่งดังชาวเม็กซิกัน อีกทั้งยังเป็นคอลเล็กชั่นที่ผสมผสานไปด้วยงานฝีมือจากชาวพื้นเมืองของประเทศเม็กซิโกอีกด้วย

โดยเราจะขอแบ่งการตีความออกเป็น 2 พาร์ทใหญ่ ๆ เพื่อให้เข้าใจได้แบบง่าย ๆ หากเราลองสังเกตในคอลเล็คชั่นนี้จะเห็นรายละเอียดที่ปะปนกันไป

อย่างแรก คือ แฟชั่นไอเท็มที่มาในชุดสูทสามชิ้นอันสะท้อนให้เห็นถึงการฉีกกฎเกณฑ์ทางเพศ ที่ได้ Frida Kahlo มาเป็นแรงบันดาลใจ เพราะเธอคือ ‘เฟมินิสต์’ ตัวยง ซึ่งหนึ่งสิ่งที่ผู้คนต้องจดจำเกี่ยวกับเธอคือภาพลักษณ์ของเธอที่ไว้ขนคิ้วจนดกหนา และหนวดบางๆ ที่ไม่ยอมโกน อีกทั้งไลฟ์สไตล์ความรักที่เธอออกมาประกาศว่าตนเป็นไบเซ็กชวนอย่างเปิดเผย การปล่อยไอเท็มเป็นสูทของผู้หญิงจึงเป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งว่าเครื่องแต่งกายชนิดนี้ไม่จำเป็นต้องอยู่บนตัวของผู้ชายเสมอไป

อย่างที่สองคือการปักลวดลายต่างๆ และการทอ ในครั้งนี้ Maria Grazia Chiuri แฟชั่นไดเร็คเตอร์ของ Dior ได้เปิดพื้นที่ให้กับชาวเม็กซิกัน หยิบวิถีชีวิต การดำรงเลี้ยงชีพด้วยศิลปะ วัฒนธรรมอันงดงามมาอยู่บนแฟชั่นไอเท็มแต่ละชิ้นทั้งเสื้อเชิ้ต เดรส กางเกง กระโปรงหรือแม้กระทั่งเสื้อสูทก็ตาม โดยลวดลายดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับธรรมชาติที่สื่อถึงประเทศของตนเอง

ภาพ : dior.com

LVMH

LVMH บริจาคเงินให้กับแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา หลังเกิดอุทกภัยหนักในรอบ 100 ปี

account_circle
LVMH
LVMH

LVMH (แอลวีเอ็มเอช โมเอต์ เฮนเนสซี่ หลุยส์ วิตตอง) บริษัทสินค้าแฟชั่นแบรนด์หรูบริจาคเงินให้กับแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี หลังเจออุทกภัยหนักสุดในรอบ 100 ปี

LVMH บริจาคเงินให้กับแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา หลังเกิดอุทกภัยหนักในรอบ 100 ปี

(Photo by Antonio Masiello/Getty Images)

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ขึ้นที่แคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ถนนและสะพานหลายร้อยแห่งใช้การไม่ได้ บางเมืองถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง และประชาชนอย่างน้อย 36,000 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย รวมถึงมีผู้เสียชีวิต 14 คน และมีผู้สูญหายมากกว่า 13,000 คน

หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่ออกมาให้ความช่วยเหลือคือ LVMH ทั้งนี้ ‘อันโตนิโอ เบลโลนี’ กรรมการผู้จัดการกลุ่มสมาชิกคณะกรรมการบริหาร LVMH ได้ออกมาเผยว่า “อย่างที่ผมได้พูดไปหลายครั้งก่อนหน้านี้ อิตาลีเป็นบ้านหลังที่สองของเรารองจากฝรั่งเศส เราภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับคนในอิตาลีหลายพันคน และ รู้สึกขอบคุณอิตาลีที่มีวัฒนธรรมอันแข็งแกร่ง และ หรูหรา”

เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ประธานกรรมการบริหารของแอลวีเอ็มเอช โมเอต์ เฮนเนสซี่ หลุยส์ วิตตอง

แม้ทาง LVMH จะไม่ได้เปิดเผยตัวเลขที่ได้บริจาคอย่างเป็นทางการ แต่มีรายงานว่า Stefano Bonaccini ประธานของภูมิภาคได้ประกาศว่าได้บริจาคเงินเป็นจำนวน 1 ล้านยูโร หรือประมาณ 37 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลืออิตาลี

ขณะเดียวกันมีการเปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทสินค้าหรูอย่าง Kering ซึ่งมี Gucci, Saint Laurent, Pomellato และ Brioni ก็ได้บริจาคเงินช่วยเหลือ ประเทศอิตาลี แต่ไม่ได้เปิดเผยยอดบริจาค เช่นเดียวกัน ด้าน เฟอร์รารี่ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองมาราเนลโลและในภูมิภาคนี้ก็ได้บริจาคเงิน 1 ล้านยูโรให้กับหน่วยงานคุ้มครองพลเรือนประจำภูมิภาค


ที่มา : WWD

ลิซ่า BLACKPINK

ได้ถือก่อนใคร! ลิซ่า BLACKPINK กับกระเป๋า CELINE ที่ยังไม่มีวางจำหน่าย

Alternative Textaccount_circle
ลิซ่า BLACKPINK
ลิซ่า BLACKPINK

Celine ออกกระเป๋าใบใหม่ทั้งที Global Ambassador อย่าง ลิซ่า BLACKPINK ก็ต้องได้ถือเป็นคนแรกๆ อยู่แล้ว

หลังจากที่ได้ไปร่วมงานอีเวนต์แบรนด์ไฮจิวเวลรี่อย่าง BVLGARI เธอยังมีโอกาสใช้เวลาว่างไปกับการพักผ่อนหย่อนใจที่ประเทศอิตาลี ซึ่งสายแฟ(ชั่น) แบบเราก็ตาดีเหลือบไปเห็นกระเป๋า CELINE ที่ดูแล้วก็คลับคล้ายคลับคลาเหมือนเคยเห็น แต่มองไปนานๆ ก็ไม่ใช่ บทความนี้เราจะมาเฉลยว่ากระเป๋าที่เราเห็นอยู่นี้มันคือรุ่นอะไรกันแน่!

ได้ถือก่อนใคร! ลิซ่า BLACKPINK กับกระเป๋า CELINE ที่ยังไม่มีวางจำหน่าย

‘AVA TRIOMPHE BAG IN TRIOMPHE CANVAS AND CALFSKINTAN‘ นี่คือชื่อเต็มของรุ่นกระเป๋าที่ลิซ่ากำลังสะพายอยู่ เมื่อเห็นชื่อแล้วก็แทบไม่แปลกใจว่าทำไมเราถึงดูคุ้นหน้าคุ้นตาขนาดนี้ เพราะจริงๆ แล้ว ดีไซน์ถูกปรับมาจากรุ่นยอดฮิตอย่าง AVA BAG กระเป๋าลวดลายโมโนแกรม-ของแบรนด์ที่คนฮิตใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง

AVA BAG IN TRIOMPHE CANVAS AND CALFSKINTAN
61,000 บาท

สำหรับรุ่นใหม่ยังคงดีไซน์หลายอย่างจากแบบเดิมเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเป็นทรงหรือสายกระเป๋า แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือเข็มขัดล็อกที่อยู่บริเวณตรงกลาง พร้อมโลโก้ CELINE สีทองที่ช่วยเพิ่มความหรูหราและโดดเด่นไปอีกเท่าตัว เมื่อเทียบกับรุ่นเดิมแล้วคงพูดได้ว่าถ้าใครชอบความเรียบง่าย ดูเพลนๆ AVA BAG ยังคงเป็นใบที่ตอบโจทย์อยู่ แต่ถ้าใครเบื่อแล้วและอยากเพิ่มกิมมิก AVA TRIOMPHE BAG ถือเป็นตัวเลือกที่ลงตัวสุดๆ ค่ะ สำหรับราคาของรุ่นนี้อยู่ที่ 80,000 บาท แพงกว่ารุ่นก่อน 19,000 บาท อีกทั้งยังมีตัวเลือกเพิ่มเติมอย่างสีน้ำตาลและดำมาให้ทุกคนได้ช้อปอีกด้วย หากใครเห็นแล้วอยากซื้อตาม คงต้องอดใจรออีกสักนิดเพราะตอนนี้เว็บไซต์ยังขึ้น Coming Soon อยู่เลยค่ะ

AVA TRIOMPHE BAG IN TRIOMPHE CANVAS AND CALFSKINTAN
80,000 บาท

ภาพ : celine.com และ Instagram @lalalalisa_m

มิยะ GWSN

‘มิยะ GWSN’ เปรียบชีวิตไอดอลของเธอเหมือนอยู่ใน ‘คุก’ ถูกควบคุมอาหารอย่างเข้มงวด

Alternative Textaccount_circle
มิยะ GWSN
มิยะ GWSN

มิยะ ชาวญี่ปุ่นที่เป็นหนึ่งในสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีใต้ GWSN เผยชีวิตในวงการเคป๊อปของเธอเหมือนอยู่”คุก” โดยในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Asahi Shimbun ของญี่ปุ่นที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2023 มิยะได้เปิดเผยปัญหามากมายที่เธอประสบระหว่างการฝึกซ้อมและโปรโมตในเกาหลี และก่อนหน้านี้เธอได้คุยโทรศัพท์กับสมาชิก GWSN คนอื่นๆ โดยพูดว่า “เราอยู่ในคุก”

‘มิยะ GWSN’ เปรียบชีวิตไอดอลของเธอเหมือนอยู่ใน ‘คุก’ ถูกควบคุมอาหารอย่างเข้มงวด

“ฉันเริ่มฝึกซ้อมทันทีหลังจากกลับมาจากโรงเรียน จากนั้นพวกเราแต่ละคนก็เริ่มบทเรียนส่วนตัว ดังนั้น เมื่อทุกคนเสร็จสิ้นภารกิจต่างๆ ข้างนอกก็มืดสนิทแล้ว นอกจากนี้ ทุกครั้งที่ไปซ้อม ฉันต้องชั่งน้ำหนักตัวเองต่อหน้าผู้จัดการ ฉันต้องรายงานการลดน้ำหนัก เช่น ‘ฉันจะกินกล้วยกับไข่ต้ม’ หรือ ‘ฉันจะกินแอปเปิ้ลแค่ลูกเดียว‘ ฉันรู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นบ้า”

มิยะยังบอกด้วยว่าต้นสังกัดเอาเงิน เวลาว่าง และแม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือของเธอไป โดยเสริมว่า“ฉันแทบจะไม่สามารถติดต่อครอบครัวของฉันทางโทรศัพท์ได้เลย ระหว่างการถ่ายทำมิวสิควิดีโอจะมีอาหารสำหรับพนักงาน และพวกเราจะขโมยต๊อกบกกีกับไก่แล้วแอบกิน ผลก็คือ การทำงานเป็นทีมระหว่างสมาชิกในวงแน่นแฟ้นขึ้น”

“ปกติแล้วในวัยนั้นเราจะพูดถึงเด็กผู้ชาย แต่เรามักพูดถึงเรื่องอาหาร เรื่องสนุกเพียงอย่างเดียวคือการแอบออกจากหอพักและไปที่ร้านสะดวกซื้อ” เธอกล่าวต่อ

ในขณะเดียวกัน มิยะเดบิวต์ในฐานะสมาชิกของ GWSN ในเดือนกันยายน 2018 อย่างไรก็ตาม ในที่สุดวงก็ย้ายจาก Kiwi Media Groupไปที่ The Wave Music ในเดือนเมษายน 2021 เนื่องจากปัญหาทางการเงิน หลังจากนั้นทางวงได้ปล่อยมินิอัลบั้มชุดที่ 5 ‘ THE OTHER SIDE OF THE MOON ‘ ในเดือนพฤษภาคมปีเดียวกัน แต่พวกเขาไม่ได้ทำกิจกรรมตั้งแต่นั้นมา

และในเดือนมกราคม 2023 สมาชิก GWSN ได้ยื่นฟ้องต้นสังกัดเพื่อยุติสัญญาพิเศษและชนะคดีในการพิจารณาคดีครั้งแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของมิยะ มีรายงานว่าเอเจนซี่เพิกเฉยต่อวีซ่าทำงานของเธอ ต้องจ่ายค่าปรับที่เกี่ยวข้องกับวีซ่า และแม้กระทั่งทำให้เธอมีสถานะเป็นคนต่างด้าวผิดกฎหมาย

“ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในบริษัท ฉันไม่อยากโทษพวกเขาเพราะมันเป็นเรื่องธุรกิจ”
เธอแสดงความคิดเห็นในหัวข้อนี้ “ฉันอยากจะลองงานแสดงหรืองานถ่ายแบบในอนาคต ฉันอยากลองงานออดิชั่นด้วย ฉันคิดว่ามันน่าเสียดายถ้าคนอย่างฉันหายไปจากวงการเคป๊อป”


ภาพ : gwsn_miya

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

อาร์บอนนีย์ เกเบรียล

อาร์บอนนีย์ เกเบรียล Miss Universe 2022 ปฏิบัติภารกิจประเทศฟิลิปปินส์และไทย

Alternative Textaccount_circle
อาร์บอนนีย์ เกเบรียล
อาร์บอนนีย์ เกเบรียล

ภารกิจจักรวาลสำหรับสาวงาม อาร์บอนนีย์ เกเบรียล, มิสยูนิเวิร์ส 2022 ประสบความสำเร็จเกินคาด หลังจากบินลัดฟ้าจากสหรัฐอเมริกาถึงกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะเยือนแดนตากาล็อก อาร์บอนนีย์ซึ่งมีคุณพ่อเป็นคนฟิลิปปินส์โดยกำเนิด ได้ร่วมกิจกรรมหลากหลาย เช่น งานการกุศลช่วยเหลือสังคมในฐานะมิสยูนิเวิร์ส การเข้าพบเพื่อแสดงความขอบคุณพันธมิตรของ Miss Universe และการกลับสู่อ้อมกอดของครอบครัวอีกครั้ง โดยมีไฮไลท์ที่น่าสนใจดังนี้

อาร์บอนนีย์ เกเบรียล 01

หลังจากที่เดินทางมาถึง กองประกวดมิสยูนิเวอร์สฟิลิปปินส์ได้จัดงานเลี้องอาหารค่ำสุดหรู “Miss Universe Welcome Dinner” เพื่อต้อนรับอาร์บอนนีย์ที่ได้มาเยือนฟิลิปินส์ครั้งแรกหลังจากคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สมาครองได้สำเร็จ โดยเธอกล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างมากที่ได้มาเยือนประเทศฟิลิปปินส์อีกครั้ง สิ่งแรกที่อยากทำมากที่สุดในฟิลิปปินส์คือ การไปร่วมงาน Miss Universe Philippines 2023 Coronation Night  

ภารกิจแรกที่อาร์บอนนีย์ได้เข้าร่วมคือ งานกาล่าดินเนอร์ “Miss Universe Philippines Fashion & Charity Gala Night” จัดที่โรงแรม Okada Manila โดยในงานได้มีการโชว์ผลงานการออกแบบของดีไซเนอร์ชื่อดังของฟิลิปปินส์ อาร์บอนนีย์ได้อวดโฉมเฉิดฉายในชุดประจำชาติฟิลิปปินส์โทนสีอ่อน หรือที่เรียกว่าชุด “Filipiniana”   เป็นเสื้อคอกว้างที่โดดเด่นด้วยแขนยกตั้งเป็นปีกกว้างทำด้วยผ้าบางและแข็ง  หรือที่เรียกว่า “butterfly sleeves” ชุดสะท้อนการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างชาวยุโรป เอเชีย และตะวันตก แขกที่ร่วมงาน คุณแอน จักรพงษ์ เจ้าของมิสยูนิเวิร์สคนใหม่ คุณโอลิเวีย ควีโด้ เจ้าของแบรนด์ดัง Olivia Quido Clinical Skincare และพันธมิตรทางธุรกิจของกองประกวดดมิสยูนิเวิร์ส

อาร์บอนนีย์ เกเบรียล

นอกจากนั้น อาร์บอนนีย์ยังเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับโรงแรม Okada Manila โรงแรมหรูระดับห้าดาวในกรุงมะนิลา ทั้งนี้ ทางโรงแรมได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับและขอบคุณองค์กรมิสยูนิเวิร์สในโอกาสที่มาเยือนประเทศฟิลิปปินส์ โดยมี คุณแอน จักรพงษ์ เจ้าขององค์กรมิสยูนิเวิร์ส, อาร์บอนนีย์ เกเบรียล Miss Universe 2022, พอลล่า ชูการ์ต ประธานองค์กรมิสยูนิเวิร์ส และคณะผู้บริหารโรงแรม Okada เข้าร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง

อีกหนึ่งไฮไลท์ของทริปนี้คือ การเข้าร่วมงานประกวด Miss Universe Philippines 2023 Coronation Night รอบชิงมงกุฎ โดยอาร์บอนนีย์กล่าวว่า การไปชมการประกวดมิสยูนิเวิร์สฟิลิปินส์ คือสิ่งแรกที่อยากทำเมื่อมาถึงฟิลิปปินส์

  ในช่วงแรกของการประกวด อาร์บอนนีย์อวดโฉมในชุดสีเงินเปล่งประกายเจิดจรัสด้วยทับทิมและอัญมณีล้ำค่า เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมการประกวด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นชุดราตรีโทนแดงระหว่างที่เธอทำหน้าที่ในฐานะหนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน อาร์บอนนีย์ยังได้ให้กำลังใจผู้เข้าประกวดทุกคนว่า “จงอย่านิ่งเฉยที่จะใช้เสียงของคุณเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับโลก ทุกคนมีศักยภาพที่จะเป็นมิสยูนิเวิร์สฟิลิปปินส์ แต่ผู้ครองมงกฏมีเพียงแค่คนเดียว จงเข้มแข็งเข้าไว้”

วันถัดมา อาร์บอนนีย์ได้ไปเยี่ยมเด็กๆ ที่กำลังเข้ารับการผ่าตัดรักษาภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ ณ โรงพยาบาล  Philippine Band of Mercy ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากองค์กรการกุศล Smile Train โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทาง Smile Train ได้ให้ความช่วยเหลือน้องๆ ผู้ด้อยโอกาสในประเทศไปมากกว่า 75,000 ราย

อาร์บอนนีย์ได้ใช้ระยะเวลาที่เหลืออยู่ในทริปฟิลิปปินส์อย่างคุ้มค่า เธอได้มีโอกาสกลับไปเยี่ยมบ้านคุณพ่อคุณแม่ในกรุงมะนิลา โดยทั้งสองกลับมาใช้ชีวิตในประเทศฟิลิปปินส์มาเนิ่นนานแล้ว เธอได้เข้าสวมกอดทั้งสองอย่างอบอุ่นทันทีที่ได้พบหน้ากัน

นอกจากนั้น ก่อนเดินทางออกจากมะนิลาเพื่อไปยังจุดหมายถัดไป มิสยูนิเวิร์ส 2022 ได้เข้าเยี่ยมชม โรงงานผลิตเสื้อผ้าแบรนด์ชั้นนำของประเทศ Smilee Apparel ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนใหญ่ของเวทีมิสยูนิเวิร์สฟิลิปปินส์ 2023 ต่อด้วยเดินทางเข้าพบผู้บริหารสายการบินฟิลิปปินส์แอร์ไลน์ ณ สำนักงานใหญ่ในกรุงมะนิลา เพื่อแสดงความขอบคุณสายการบินในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนการประกวดมิสยูนิเวิร์สฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการ เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจในแดนตากาล็อก

สำหรับภารกิจในประเทศไทย ช่วงระหว่างวันที่ 17 พ.ค. – 24 พ.ค. 2566 นี้ ทาง อาร์บอนนีย์ ได้มีกิจกรรมจัดเต็ม แน่นทุกๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นการพบปะสื่อมวลชนในไทย  กิจกรรม CSR รวมไปถึงการทัวร์เมืองไทย

โดยกิจกรรม CSR ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นกิจจกรรมที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก   เริ่มด้วยการไปแจกจ่ายอาหารให้กับเด็ก ผู้สูงอายุ และประชาชนในชุมชนซอยเจริญกรุง 85  ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทางโรงแรม รอยัล ออร์คิด เชอราตัน ร่วมกับองค์กรการกุศล Scholars of Sustenance หรือ SOS องค์กรที่ช่วยเหลือด้านการขาดแคลนอาหารในประเทศไทย  งานนี้ อาร์บอนนีย์ จึงอาสามาช่วยแพ็ค และแจกจ่ายอาหาร ซึ่งเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการรังสรรค์ปรุงรส โดยทีมเชฟจากทางโรงแรม

นอกจากนี้ยังได้เดินทางมาร่วมกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ  โดย คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มีสาขาวิชาการผลิตอีเว้นท์ และการจัดการนิทรรศการและการประชุม เป็นหลักสูตรที่เน้นการออกแบบและผลิตอีเว้นท์และไมซ์ที่แปลกใหม่สร้างสรรค์

อาร์บอนนีย์ เกเบรียล 02

ในปัจจุบันนักศึกษามีความสนใจในอีเว้นท์นางงาม เพราะเวทีการประกวดนางงามเป็นเวทีที่ผู้คนต่างให้ความสนใจอย่างมาก จึงได้จัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้นมา

ซึ่งนักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ มีความสนใจ Fashion Design โดยเฉพาะแฟชั่นรักษ์โลก Sustainable Fashion ที่ถือเป็นจุดยืนของคณะศิลปกรรมศาสตร์ มุ่งเน้นเน้นการออกแบบแฟชั่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และตอบสนองแนวความคิดในการออกแบบที่ทันสมัย เช่นเดียวกับ อาร์บอนนีย์ เกเบรียล Miss Universe 2022

กิจกรรมครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญและยิ่งใหญ่ระดับ International ที่ได้รับโอกาสจาก อาร์บอนนีย์ เกเบรียล Miss Universe 2022 ร่วมพูดคุย ร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้  ในหัวข้อ“ Passion and sustainable fashion design” ซึ่งเปิดโอกาสให้นักศึกษาทุกคนเข้าร่วม สร้างแรงบันดาลใจสู่การค้นหาPassion และการออกแบบแฟชั่นอย่างยั่งยืน

  นอกจาก 2 กิจกรรมดังกล่าวแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายที่รอจ่อคิว เอาเป็นว่างแฟนๆ นางงามห้ามพลาด !! สามารถติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ของ อาร์บอนนีย์ เกเบรียล Miss Universe 2022 ได้ที่ทางเพจ Facebook : Hello Universe

ดรีม-ปุณณฤกษ์

ชวนรู้จัก ดรีม-ปุณณฤกษ์ นักแสดงหนุ่มใหม่ออร่าแรง จากละคร “ฤทัยบดี”

Alternative Textaccount_circle
ดรีม-ปุณณฤกษ์
ดรีม-ปุณณฤกษ์

ดรีม-ปุณณฤกษ์ อาศัยป่า หนึ่งใน 14 นักแสดงหนุ่ม-สาวเลือดใหม่ จากโครงการ 7HD NEW STARS เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัด ช่อง 7HD ตอนนี้นอกจาก ดรีม จะได้รับโอกาส ชิมลางงานพิธีกรในรายการ ภารกิจสุดคิดถึง ออกอากาศทุกวันจันทร์ เวลา 22.45 น. และรายการ กินไหน ไปด้วยกัน คู่กับนักแสดงรุ่นพี่อย่าง บอส-ชนกันต์ พูนศิริวงศ์ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 12.05 น. ทาง ช่อง 7HD แล้ว

ดรีม-ปุณณฤกษ์

ล่าสุด ดรีม ยังได้โชว์ฝีมือด้านการแสดงเต็มตัวครั้งแรก ในละครพีเรียด โรแมนติก แอ็กชั่น เรื่อง ฤทัยบดี ของค่าย 9 บีเวอร์ ฟิล์มส์ ที่ขึ้นชื่อด้านบู๊แอ็กชัน และ CG สมจริง ตระการตา โดย ดรีม รับบทเป็น ชุม ชายหนุ่มผู้มีวิชาอาคมเก่งกล้า ได้โชว์คิวบู๊ผสมกับการใช้วิชาไสยเวท ประชันบทบาทกับพระนางรุ่นพี่ร่วมช่องอย่าง โดนัท-ภัทรพลฒ์ เดชพงษ์วรานนท์, กานต์-ณัฐชา รัตน์ชยางคานนท์, บิว-ณัฐพล ไรยวงค์, เจนนี่-ชยิสรา วัฒนะนาวิน และนักแสดงมากฝีมืออีกคับคั่ง ออกอากาศทุกวันจันทร์ อังคาร เวลา 20.30 น. ทาง ช่อง 7HD ซึ่งตั้งแต่ละครออกอากาศ ก็มีกระแสตอบรับจากแฟนละครดีอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง ดรีม ยังได้รับการจับตามองจากแฟนละคร เพราะละครเรื่องแรกของ ดรีม ได้รับบทที่ค่อนข้างท้าทาย และดรีมแสดงได้โดดเด่นน่าจับตาไม่น้อย

ดรีม-ปุณณฤกษ์ 01

นอกจากนี้ ดรีม ยังมีละครใหม่ที่กำลังเดินหน้าถ่ายทำละครก่อนข่าวภาคค่ำเรื่อง ร้ายเดียงสา ละครแนวโรแมนติกดราม่า ที่เคยโด่งดัง เมื่อปี 2543 จากบทประพันธ์ของ โสภี พรรณราย ครั้งนี้ผลิตโดยค่าย เมจิค อีฟ เอนเตอร์เทนเม้นท์ 2 โดยผู้จัด พิมพ์-พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร จะเป็นยังไงต้องรอติดตามกัน

ด้านประวัติส่วนตัว ดรีม เกิดวันที่ 3 สิงหาคม 2542 จบการศึกษาปริญญาตรีจาก คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ช่วงที่กำลังศึกษาปริญญาตรี ดรีม เป็นหนุ่มนักกิจกรรมตัวยง เคยเป็นเดือนคณะ และเชียร์ลีดเดอร์ของมหาวิทยาลัย เคยผ่านงานโฆษณา ถ่ายแบบ และ MV มาแล้วมากมาย ในส่วนของคาแรกเตอร์ ดรีม เป็นคนที่มีลุกกวน ๆ ซ่า ๆ ขี้อ้อน และมีความสามารถพิเศษทางด้านดนตรีพอสมควร เช่น ร้องเพลง, เล่นกีตาร์, เป่าขลุ่ย, ระนาด, ฆ้อง, กลองเชิดสิงโต ฯลฯ ชอบเล่นกีฬาฟุตบอล, บาส, ว่ายน้ำ ต่อยมวย ยิงปืน และเล่นสเกตบอร์ดได้เป็นอย่างดี ใครที่อยากทำความรู้จักไลฟ์สไตล์ของ ดรีม มากกว่านี้ ตามไปส่องได้ที่ IG : arsaipas

keyboard_arrow_up