ผู้กำกับ พัคยูยอง พร้อมด้วยทีมนักแสดง ยุนคเยซัง, พัคซองฮุน, ยูนา และ คิมชินรก จากซีรีส์เกาหลีแนวตลกร้ายสุดลุ้นระทึก “The Kidnapping Day (วันลักพาตัว)” รวมตัวกันในงานแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์ ซึ่งมีกำหนดสตรีมในประเทศไทยและอีกมากกว่า 240 ประเทศทั่วโลก จำนวนทั้งหมด 12 ตอน และสามารถรับชมตอนใหม่ได้ทุกวันพุธและพฤหัสบดี ที่ Prime Video ก่อนจะไปรับชมซีรีส์ มาดูกันก่อนว่าทำไมคุณถึงไม่ควรพลาดชมซีรีส์เรื่องใหม่ที่มาพร้อมกับพล็อตเรื่องแหวกแนวเรื่องนี้
1.ซีรีส์ผจญภัยที่ผสมเรื่องราวหลายแนวเข้าด้วยกัน
ซีรีส์ The Kidnapping Day (วันลักพาตัว) เป็นเรื่องราวของโจรลักพาตัวสุดเงอะงะ (ยุนคเยซัง) ที่มาลักพาตัวเด็กสาวอัจฉริยะ (ยูนา) แต่แล้วเรื่องราวกลับไม่เป็นไปตามแผน และทั้งสองดันต้องมาเจอกับเหตุฆาตกรรมและเรื่องลึกลับโดยบังเอิญ “คุณสามารถพูดได้ว่า The Kidnapping Day เป็นเหมือนกล่องของขวัญที่รวมของขวัญมากมายหลายประเภทไว้ในกล่องเดียว ทั้งตลก แอ็คชั่น ระทึกขวัญ เรื่องราวของคู่หู และความเป็นมนุษย์ ทุกอย่างถูกมัดรวมไว้อย่างสวยงามน่าหลงใหลในซีรีส์เรื่องนี้ ผมคิดว่ามันจะทำให้ผู้ชมได้หัวเราะและรู้สึกประทับใจในเวลาเดียวกัน” ผู้กำกับพัคยูยองกล่าว
2.นิยายต้นฉบับและมุมมองที่น่าประทับใจ
The Kidnapping Day (วันลักพาตัว) สร้างจากหนังสือนิยายเกาหลีในชื่อเดียวกัน ผู้กำกับพัคยูยองกล่าวถึงความแตกต่างระหว่างนิยายต้นฉบับกับซีรีส์ว่า “นิยายต้นฉบับจะให้ความสำคัญกับเรื่องราวของนักสืบ พัคซังยุน เป็นหลัก โดยหลังจากผ่าน 3 ตอนแรกไป เรื่องราวจะเน้นไปที่การสืบสวนที่เข้มข้นมากขึ้น แต่เมื่อนำเนื้อเรื่องในนิยายมาสร้างเป็นซีรีส์ 12 ตอน เราจึงสามารถขยายมิติของตัวละครต่างๆ รวมถึงเรื่องราวของพวกเขาได้มากขึ้น ซีรีส์ของเรามุ่งเน้นไปที่เคมีระหว่างคิมมยองจุนและชเวโรฮี จุดสนใจอยู่ที่องค์ประกอบของซีรีส์ที่มีความตลกและความเห็นอกเห็นใจจากความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งคู่” นอกเหนือจากเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมแล้ว ผู้กำกับยังได้เล่าถึงมุมมองความอบอุ่นที่สะท้อนผ่านซีรีส์เรื่องนี้ด้วยว่า “พวกเขาสองคนเริ่มกลายเป็นเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน ผมคิดว่าหลังจากดูซีรีส์ของเรา คุณจะกลับไปคิดทบทวนใหม่ว่า นิยามที่แท้จริงของครอบครัวคืออะไร”
3.อบอุ่นหัวใจไปกับเคมีระหว่างพ่อ-ลูก
หัวใจของซีรีส์เรื่องนี้อยู่ที่ความสัมพันธ์ระหว่างคิมมยองจุนและชเวโรฮี ชเวโรฮีสูญเสียความทรงจำและเข้าใจผิดว่ามยองจุนเป็นพ่อของเธอ พวกเขาจึงกลายเป็นเหมือนคนในครอบครัวอย่างรวดเร็ว “ผมมีความสุขมาก การได้ร่วมงานกับยูนาทำให้ผมคิดขึ้นมาว่าคงจะดีถ้าผมมีลูกสาวสักคน เป็นประสบการณ์ที่สนุกมากครับ” ยุนคเยซังกล่าว ส่วนยูนาเปิดใจถึงการทำงานร่วมกันว่า “การได้ร่วมงานกับคุณยุนคเยซังสนุกจริงๆ ค่ะ ฉันมีช่วงเวลาที่ดีมากๆ ตอนแรกฉันคิดว่าเขาเป็นนักแสดงที่เท่ และพอเราถ่ายทำด้วยกัน ฉันก็กลายเป็นแฟนคลับของเขาไปเลยค่ะ ฉันคิดว่าเหตุผลที่ทำให้บรรยากาศในกองถ่ายนี้สนุกก็เพราะคุณยุนคเยซังเลยค่ะ”
4.นักแสดงเด็กดาวรุ่งที่น่าจับตา
เมื่อพูดถึงยูนา เธอคือนักแสดงเด็กดาวรุ่งที่สามารถเอาชนะผู้เข้าชิงราว 500 คนมาได้ “โดยส่วนใหญ่แล้ว นักแสดงเด็กมักจะเล่นเป็นตัวประกอบหรือตัวละครหลักในเวอร์ชั่นที่ยังเด็ก แต่ในกรณีของเรา นักแสดงเด็กคือตัวละครหลัก” ผู้กำกับพัคยูยองกล่าว เขาเล่าถึงกระบวนการออดิชั่นว่า “กระบวนการออดิชั่นของเราใช้เวลายาวนานมาก โดยแบ่งเป็น 5 รอบ ในรอบสุดท้ายเราคัดเลือกจนเหลือประมาณ 12 คน รวมทั้งยูนาด้วย สิ่งที่พิเศษเกี่ยวกับยูนาก็คือเธอไม่เหมือนกับนักแสดงทั่วๆ ไปที่เรียนการแสดงมา” เมื่อถูกถามถึงความกดดันในการรับบทบาทครั้งนี้ ยูนากล่าวว่า “ฉันรู้สึกกดดันค่ะ ถ้าจะบอกว่าไม่รู้สึกกดดันเลยก็คงจะเป็นเรื่องโกหก นี่เป็นครั้งแรกของฉันเลยที่ต้องแสดงหลายฉากในซีรีส์เรื่องเดียว ฉันต้องท่องบทเยอะมาก ดังนั้นฉันก็เลยพยายามที่จะแสดงให้เป็นธรรมชาติที่สุด”
5.ขนาดนักแสดงยังเป็นแฟนคลับซีรีส์
มั่นใจได้เลยว่าซีรีส์จะออกมาดีแน่เมื่อเหล่านักแสดงกลายมาเป็นแฟนตัวยงของซีรีส์ของตัวเอง นักแสดงทุกคนเล่าว่าพวกเขารักบทเรื่องนี้และอยากเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์เรื่องนี้มาก พัคซองฮุนกล่าวว่า “ตอนนั้นผมไปทำงานที่ญี่ปุ่น ผมก็เลยอ่านบทบนเครื่องบิน แต่ผมอ่านได้เร็วมาก มันเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมากขนาดที่ผมรีบโทรไปบอกว่าจะรับบทนี้ทันทีที่ไปถึงญี่ปุ่นเลยครับ” ยุนคเยซังกล่าวเสริมว่า “บทเรื่องนี้สนุกมากครับ และฉากก็น่าสนใจ ส่วนการหักมุมในเรื่องก็ยอดเยี่ยมสุดๆ” ขณะที่คิมชินรกเล่าว่าเธอสนุกกับการอ่านบท และรู้สึกขอบคุณที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในซีรีส์เรื่องนี้