วันนี้ แพรวดอทคอม มีไบเบิล 7 ข้อที่ทำให้เข้าใจวิธี ลดความอ้วน ได้อย่างทะลุปรุโปร่งมาฝากค่ะ มาดูกันว่าทุกวันนี้สาวๆ ลดความอ้วน กันถูกวิธีไหม หรือที่ทำมาเข้าใจผิดหมดเลย เช็คค่ะ
1. Sugar-free และ Low Fat
สาวๆ ที่ ลดความอ้วน มักจะเลือกกินผลิตภัณฑ์ปราศจากน้ำตาล (Sugar – free) หรือไขมันต่ำ (Low Fat) เวลาเราอยากกินอะไรหวานๆ แล้วกินขนม ลูกอม หรือเครื่องดื่มปราศจากน้ำตาล โดยเข้าใจว่ากินแล้วไม่อ้วน เป็นเพียงความรู้สึกหลอกลิ้น แต่หลอกสมองไม่ได้ เพราะสมองสามารถแยกความแตกต่างของน้ำตาลและน้ำตาลเทียมได้ เมื่อร่างกายยังไม่ได้รับน้ำตาล สมองจะสั่งการให้เรากินอาหารอื่นเพิ่ม เพื่อสนองความต้องการให้สมบูรณ์ นอกจากน้ำหนักไม่ลด ยังเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน ฯลฯ และยังไม่มีการยอมรับในวงการแพทย์ว่ากินแล้วไม่อ้วน ส่วนผลิตภัณฑ์ไขมันต่ำ (Low Fat) แม้จะมีการลดปริมาณไขมัน แต่ก็มักเติมรสหวานเข้าไปแทนที่ เพื่อเพิ่มรสชาติให้น่ากิน ถ้าสาวๆ เข้าใจว่ากินเท่าไรก็ไม่อ้วน อาจได้รับพลังงานเกินความต้องการของร่างกาย ทำให้น้ำหนักเพิ่มในที่สุด ทางที่ดีควรอ่านฉลากโภชนาการที่ระบุพลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค จะได้รู้ว่าควรกินในปริมาณมากน้อยแค่ไหน
2. ไม่กินแป้งและไขมันแล้วจะผอม
สาวๆ หลายคนไม่ยอมกินข้าวเลยเพราะกำลัง ลดความอ้วน จริงอยู่การไม่กินแป้งทำให้น้ำหนักลด แต่เฉพาะช่วงแรกเท่านั้น เพราะเมื่อน้ำหนักลดแล้ว ร่างกายจะมีอาการโหยหาแป้งและน้ำตาล เสี่ยงต่อการกินแบบสะบั้นหั่นแหลก ทำให้กลับมาอ้วนแบบตั้งรับไม่ทัน! ถ้าอยาก ลดความอ้วน ให้ได้ผล เลือกกินแป้งที่ร่างกายดูดซึมได้ช้าและช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ เช่น ถั่ว ผลไม้ เช่น แอปเปิ้ล กล้วย ฝรั่ง มะละกอ ฯลฯ ข้าวซ้อมมือ เส้นสปาเกตตีก็เป็นหนึ่งในอาหารที่ดูดซึมช้า แต่ควรกินไม่เกิน 1 ถ้วย
อาหารที่ต้องระวังเป็นพิเศษ เช่น ขนมปังขาว แครกเกอร์ มันฝรั่ง ข้าวโพด ฯลฯ แม้จะอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก ร่างกายก็ต้องการคาร์โบไฮเดรตวันละประมาณ 60 – 80 กรัม ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องอดแป้งก็ผอมได้ นอกจากแป้งแล้ว บางคนยังไม่กินไขมันเลย ถ้าร่างกายขาดไขมันอาจเกิดภาวะพร่องไขมัน ผิวแห้ง หน้าตาหม่นหมอง ผมร่วง และประจำเดือนขาด ไขมันเป็นสารอาหารที่จำเป็นเพียงแต่อย่ากินเกินวันละ 2 ช้อนชา
3. กินสลัดเพื่อ ลดความอ้วน
น้อยคนนักที่จะกินสลัดผักสดโดยไม่ราดน้ำสลัด หลายคนชอบราดน้ำสลัดแบบครีมข้นหรือมีส่วนผสมของมายองเนส 2 – 3 ช้อนชาให้พลังงานประมาณ 100 แคลอรี่ หรือมากกว่าข้าวขาว 1 ทัพพี นอกจากน้ำสลัดแล้ว บางคนยังชอบใส่ข้าวโพด เผือก กล้วยตาก แห้ว ฯลฯ ในสลัดจานโปรด หรือไม่พอ กินสลัดแล้วไม่อยู่ท้อง ต้องกินอย่างอื่นเพิ่มทำให้ได้พลังงานมากเกินจนน้ำหนักเพิ่มได้
สลัดที่กินแล้วช่วยให้น้ำหนักลดลง จะต้องประกอบไปด้วย ผักผลไม้พลังงานต่ำที่ให้เส้นใยสูง
4. กินผลไม้ไม่อ้วนหรอก
บางคนเข้าใจว่ากินผลไม้แล้วไม่อ้วน จึงกินมากหรือกินแทนอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง แม้จะเป็นน้ำตาลจากผลไม้ แต่ถ้ากินมากก็อ้วนได้ แถมบางชนิดมีน้ำตาลสูงปรี๊ด เช่น กล้วยไข่ เงาะ มะม่วงสุก ลองกอง ลำไย ฯลฯ หากรู้ตัวว่าวันไหนกินผลไม้มาก ควรลดอาหารพวกแป้งและน้ำตาล เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว เพื่อให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูงเกินไป
เลือกกินผลไม้อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ส้ม ฝรั่ง ชมพู่ แอปเปิ้ล ฯลฯ ทุกวัน วันละไม่เกิน 2 ผลเล็กได้ประโยชน์ แถมยังไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่ม
5. ดื่มเครื่องดื่มรสหวานแทนข้าวหรือขนม
บางคนพอดื่มเครื่องดื่มรสหวานแล้วรู้สึกอิ่มโดยไม่ต้องกินข้าว จึงเข้าใจว่าน่าจะช่วยลดน้ำหนักได้ เครื่องดื่มหลายชนิดให้พลังงานสูงโดยที่เราคาดไม่ถึง เช่น นมรสหวาน 1 กล่อง ให้พลังงานประมาณ 250 kcal ถ้าดื่มวันละ 2 กล่อง ให้พลังงานใกล้เคียงกับกินข้าวไข่เจียว 1 จาน!
ระวัง! เครื่องดื่มประเภทชาและกาแฟ ใส่นม ครีม และน้ำตาล หรือน้ำผลไม้ เช่น น้ำส้มคั้น น้ำฝรั่ง น้ำอ้อยฯลฯ ให้พลังงานประมาณ 250 – 300 kcal ดื่มวันละ 2 แก้ว ไม่แตกต่างจากการกินข้าวเพิ่มวันละ 1 มื้อ ทำให้น้ำหนักขึ้นเดือนละ 2 – 3 กิโลกรัม
อยากกินของว่างเป็นพวกขนม แนะนำขนมที่กินแล้วอิ่มนาน (แต่ต้องมั่นใจนะว่าไม่หวานมาก) เช่น เต้าทึง วุ้นผลไม้ หรือเฉาก๊วย 1 ถ้วยเล็ก กินเป็นของว่างสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง ไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่ม ลองสิ!
6. แบ่งอาหารเป็นมื้อเล็กๆ
จริงอยู่ที่การแบ่งอาหารเป็นมื้อเล็กๆ ช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้ต่ำจนรู้สึกโหยแล้วกินทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่สาวๆ บางคนอาจเข้าใจและทำผิดวิธี กลายเป็นกินจุบจิบทั้งวัน แถมยังมีมื้อดึกเพิ่มอีกหนึ่งมื้อ วิธีแบ่งอาหารเป็นมื้อเล็กๆ อย่างถูกต้องคือ เพิ่มจากมื้อหลัก 1 – 2 มื้อ เช่น เลือกมื้อใดมื้อหนึ่งระหว่างมื้อว่างเช้าและมื้อว่างบ่าย หรือจะเพิ่มทั้งสองมื้อนี้ก็ได้
ของว่างที่ไม่ทำให้อ้วน เช่น แอปเปิ้ล ส้ม 1 ผล ถั่ว 1 กำมือ ขนมปังหรือแครกเกอร์โฮลวีตทาแยมบางๆ 1 แผ่น สาหร่ายทะเลอบ 1 ซองเล็ก ชาไม่ใส่น้ำตาล ฯลฯ ข้อควรระวังคือ ไม่กินขณะที่ทำอย่างอื่นไปด้วย เพราะทำให้รู้สึกกินเพลินจนหยุดไม่ได้
7. ออกกำลังกายมากๆ หุ่นจะได้ผอมเพรียว
หลายคนออกกำลังกายทุกวันเพื่อลดน้ำหนัก แต่น้ำหนักกลับไม่ลด ซ้ำยังเพิ่มจากเดิม ถ้าอยากลดน้ำหนัก ควรออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 15 – 20 นาทีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงาน ถ้าเราใช้เวลาในการออกกำลังกายสั้นกว่านั้น แทนที่ร่างกายจะดึงไขมันที่สะสมมาใช้ กลับดึงกลูโคสในกระแสเลือดมาใช้แทน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ รู้สึกหิวและกินมากขึ้น ทำให้การลดน้ำหนักไม่ได้ผล แถมบางคนยังคิดว่าขอตามใจปากก่อน เดี๋ยวค่อยไปออกกำลังกายเผาผลาญทีหลัง ก็ทำให้ลดน้ำหนักไม่สำเร็จเช่นกัน
นอกจากนี้การออกกำลังกายมากเกินไปจะให้ผลลัพธ์ในทางตรงกันข้ามคือ แทนที่จะดูสดชื่นแจ่มใส กลับรู้สึกอ่อนเพลียและดูโทรม
แนะนำควรออกกำลังกายที่เคลื่อนไหวร่างกายต่อเนื่อง เช่น เดิน วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ฯลฯ ควบคู่กับฝึกความแข็งแรงกล้ามเนื้อ เช่น ยกเวต ฝึกกายบริหาร ฯลฯ เพื่อลดน้ำหนักและช่วยให้หุ่นเฟิร์ม แถมยังเป็นการลดไขมันในเส้นเลือด และเพิ่มการเผาผลาญ
- เดินเล่น 1 ชั่วโมง เผาผลาญ 120 kcal
- เต้นรำ 1 ชั่วโมง เผาผลาญ 300 kcal
- กายบริหาร 1 ชั่วโมง เผาผลาญ 220 kcal
- ว่ายน้ำ (ขึ้นอยู่กับการออกแรง) 1 ชั่วโมง เผาผลาญ 250 – 650 kcal
เมื่อสาวๆ เข้าใจ วิธีลดน้ำหนักง่ายๆ แล้วก็อย่าลืมปฏิบัติให้ถูกต้องจะได้มีหุ่นผอมเพรียวดังใจหมายสักที
ภาพ : Pexels และ Pixabay
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
มักโดนทัก อ้วนขึ้นหรือเปล่า? ลองเปลี่ยนเมนูชีวิตก็เปลี่ยนได้ ถ้าไม่มีเวลาฟิตหุ่น
8 กฎฟิตหุ่น ลดน้ำหนักด้วยวิธีธรรมชาติ ให้ได้ผล และถูกวิธี
หุ่นดีไม่มีอดอาหาร! วิธีลดนน. สไตล์ “วุ้นเส้น” แค่ขยับนิดๆ พิชิตความอ้วน
สูตรลดน้ำหนัก “ดัชเชสเคท” สาวๆ ทำตามได้ ดีต่อสุขภาพ
เฉลย 10 เคล็ดลับรักษาหุ่นสุดเพอร์เฟ็คของ “ดัชเชสเมแกน” วิธีนี้ทำตามได้ง่ายมาก
7 สูตรลดน้ำหนัก ขจัดเซลลูไลต์ง่ายๆ สไตล์สาวออฟฟิศที่มีเวลาน้อย
สูตรนี้ทำตามได้! 5 วิธี ไดเอ็ท แบบธรรมชาติฉบับ Jun Ji Hyun ลดได้แน่นอน
แชร์สูตร ลดพุง หุ่นปัง ผิวพรรณดี สวยใสสไตล์ “คิมเบอร์ลี่” ด้วยวิธีธรรมชาติ
ไฟโตนิวเทรียนท์ อีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้ร่างกายรับสารต้านอนุมูลอิสระได้ง่าย
ท่องให้ขึ้นใจ! 20 ข้อ Do & Don’t สำหรับสาวอยาก ผิวขาว สวยใส ทำได้ทุกวัน
ออกกำลังกายก็คืองาน “จั๊กจั่น อคัมย์สิริ” เผยทริครักษาทรวดทรงให้คงเซ็กซี่
10 สูตรลดน้ำหนัก ใกล้ตัวที่ทำให้ผอม สวย แบบเฮลตี้ได้ไม่ยาก!!
5 ข้อควรรู้ของคน อยากผอม เลยลอง ดีท็อกซ์ลำไส้ วิธีนี้ช่วยได้จริงหรือมั่ว?
เปิด สูตรลดน้ำหนัก ด้วยวิธีธรรมชาติ ช่วยลด 18 โลได้ในเวลาไม่นาน