เดย์หรือไนท์? ทาเวลาไหนดี "อายครีม" แก้ใต้ตาคล้ำ จุดอ่อนทำหน้าหมอง

จำได้ว่าเคยย้ำกับสาวๆ ไปแล้วว่าดวงตาสามารถสื่อความหมายได้หลายอย่าง และดวงตาก็ยังเป็นสิ่งที่คนมักโฟกัสมาเป็นอันดับแรกเลยก็ว่าได้ จึงไม่แปลกที่ผู้หญิงมักใช้เวลาไปกับการฟื้นบำรุงผิวรอบดวงตาที่ดูคล้ำให้กระจ่างใส และเรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ขึ้น ซึ่งในการค้นหาวิธีฟื้นบำรุงผิวรอบดวงตาค้นพบว่าการบางลงของผิวรอบดวงตาหรือที่เรียกว่า Eye Thinning คือสาเหตุสำคัญที่อยู่เบื้องหลังสัญญาณความร่วงโรย เพราะผิวรอบดวงตาบางกว่าผิวส่วนอื่นๆ บนใบหน้าถึง 4 เท่า ผิวที่เปราะบางในบริเวณนั้น จึงมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากความเครียดในรูปแบบการดำเนินชีวิตของคนยุคใหม่ที่ไม่เคยหยุดพัก มากกว่าผิวส่วนอื่น

รังสียูวี มลภาวะ การอดนอน การมองจอนานๆ การใส่คอนแท็คเลนส์ และการเช็ดล้างเครื่องสำอางในทุกๆ คืน ล้วนมีส่วนทำให้ผิวรอบดวงตาเปราะบางยิ่งขึ้น มีแนวโน้มแห้งง่ายขึ้น รวมถึงบางลงเรื่อยๆ ตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผิวเสื่อมสภาพลงตลอดเวลา ก่อให้เกิดริ้วรอยเล็กๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ในระยะแรก แต่เมื่อเกิดการสะสมในที่สุด ก็จะปรากฏให้เห็นชัดขึ้นที่บริเวณผิวรอบดวงตา ซึ่งการบางลงของผิวรอบดวงตาเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆ ของผิวที่ร่วงโรย มีริ้วรอบ ขาดความกระชับ ไม่เรียบเนียน และรอยคล้ำที่ทิ้งไว้รอบดวงตา

แน่นอนว่าเจอปัญหารอบดวงตาอย่างที่แอดได้บอกไปข้างต้น หลายคนก็ไม่นิ่งนอนใจ พยายามหาอายครีมมาทา แต่…หลายคนก็ไม่แน่ใจว่าจริงๆ ว่า อายครีมควรทาตอนเช้าหรือก่อนนอนดีจริงไหม?? แพรวดอทคอม มีคำตอบมาบอกค่ะ

ต้องขอเกริ่นถึงสเต็ปการทา อายครีม ก่อนนะคะ สาวๆ ควรทาอายครีมเป็นขั้นตอนแรก!!! ย้ำว่าขั้นตอนแรกก่อนลงสกินแคร์ตัวอื่นๆ และถ้าสงสัยต่อไปว่าแล้วควรทาเช้าหรือก่อนนอนดี แอดจะบอกว่าอายครีมทาในตอนเช้าเวิร์คที่สุดเลยค่ะซิส เพราะอายครีมมักมีส่วนผสมที่สำคัญในการดูแลผิวและต้านมลภาวะระหว่างวัน ฉะนั้น ตอนเช้าจึงควรทาอายครีมก่อนแล้วค่อยตามด้วยสกินแคร์ตัวอื่น ส่วนถ้าถามว่าแล้วก่อนนอนทาแล้วผิดเหรอ?? ไม่ผิดจ้า เพราะการทาอายครีมก่อนนอน ซึ่งเป็นช่วงที่ผิวได้พักผ่อน เป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงและชุ่มชื่นให้รอบดวงตาให้ซึบซาบล้ำลึกและบำรุงได้เต็มที่อีกด้วย สังเกตได้เลยว่าเวลาตื่นมาเช้าๆ ดวงตาจะสดชื่น ดูสดใสขึ้น ฉะนั้น แอดเลยขอสรุปว่าควรทาทั้งเช้าและเย็นค่ะซิส แต่อย่าลืมว่าควรทาเป็นขั้นตอนแรก รอให้ซึมสักหน่อยก่อน แล้วจึงค่อยตามด้วยสกินแคร์ตัวอื่น ทาเป็นประจำ ไร้แพนด้าแน่นอน

CLÉ DE Peau Beauté Enhancing Eye Contour Cream Supreme
(15 มล. / 9,000 บาท)

แค่กระปุกสีทองอร่ามก็หรูหราสมราคาแล้วค่ะซิส กระปุกนี้เป็นครีมฟื้นบำรุงผิวรอบดวงตาเนื้อสัมผัสสุดหรูอุดมไปด้วยสารสกัดจากไอริสฟลอเรนตินา และกรรมวิธีการสกัดซึ่งใช้เวลายาวนานถึงหกปีจนได้เอสเซ้นส์เลอค่า ฟื้นบำรุงความงามผิวในทุกแง่มุม พร้อมเติมเต็มกิจวัตรการถนอมผิวด้วยสปาตูลา Applicator หน้าตัดกับเหลี่ยมมุมประดุจอัญมณีเจียรนัยเคลือบทับด้วย Platinum ช่วยเสริมการทำงานของครีมบำรุงด้วยการนวดกระตุ้น ให้ความรู้สึกผ่อนคลายไปพร้อมกัน และช่วยลดสภาพการปรากฏของริ้วรอยย่น โทนผิวรอบดวงตา และมาพร้อมผลิตภัรฑ์บำรุงอีกตัวคือ Vitality-Enhancing Eye Mask Supreme มาสก์สูตรเร่งรัดรับมือปัญหาผิวรอบดวงตา ไม่ว่าจะเป็นความหมองคล้ำ ความแห้งกร้าน ตลอดจนอาการร่วงโรย เหนื่อยล้าของผิวรอบดวงตา ซึ่งนอกเหนือจากสารสกัดไอริสฟลอเรนติน่า แล้ว แผ่นมาสก์ยังอุดมไปด้วยสารสกัดจากใบมะเฟือง และดอกฮอว์ธอร์น เพื่อร่วมกันมอบประสิทธิภาพในการถนอมและบำรุงสุขภาพผิวอีกด้วย

IT Cosmetics Confidence in an Eye Cream™
(15 มล. / 1,700 บาท)

กระปุกนี้เรียกได้ว่าเป็นซูเปอร์ครีมขายดีอันดับ 1 ที่หลายคนชื่นชอบมีสูตรสำหรับผิวรอบดวงตาแล้ว ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นร่วมกับทีมศัลยแพทย์ตกแต่ง เหมาะสำหรับผิวทุกประเภท แม้ผิวบอบบางแพ้ง่ายที่สุด อายครีมเสริมความชุ่มชื้นผิวสูตรนี้ประกอบด้วยทินต์สีแอพริคอตเฉดพิเศษที่ช่วยปรับสีผิวและทำให้ผิวรอบดวงตาดูสว่างขึ้น เพื่อดวงตาที่ดูตื่นตัวขึ้น สร้างสรรค์ด้วย Anti-Aging Armour Rejuvenating Concentrate และ Drops of Light Technology 2 ส่วนผสมพิเศษประสิทธิภาพสูง อาทิ ซูเปอร์ เซราไมด์ คอมเพล็กซ์, ไครซิน, รากชะเอมเทศ, อโวคาโด และสควาเลน ช่วยเสริมกระบวนการทำงานเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยปรับผิวให้ดูเรียบเนียน คืนความสดชื่น ช่วยให้ผิวแลดูกระชับขึ้น พร้อมช่วยลดเลือนรอยบวม วงคล้ำ และริ้วรอย

CLARINS Moisturizing reviving eye mask
(30 มล. / 1,850 บาท)

อายมาสก์เข้มข้นสูตรเติมความชุ่มชื้นให้ผิวรอบดวงตา พร้อมเนื้อสัมผัสแสนพิเศษที่ให้การบำรุงอย่างล้ำลึก เพื่อผิวรอบดวงตาที่ดูได้รับการพักผ่อนและสดใสกว่าที่เคย ด้วยสารสกัดจาก organic leaf of life และ quinoa เสริมการฟื้นบำรุงกระบวนการเก็บกักความชุ่มชื้นให้ผิว ผลลัพธ์คือผิวที่อิ่มเอิบไปด้วยความชุ่มชื้น รอบดวงตากลับดูนุ่มนวลและรู้สึกสบายขึ้น เส้นริ้วรอยแห้งกร้านดูเรียบเนียนขึ้น และสารสกัดจาก Horse chestnut ช่วยลดเลือนรอยหมองคล้ำรอบดวงตา ในขณะที่สารสกัดจาก Irish moss ช่วยมอบความรู้สึกสบายและปลอบประโลมผิว เพียงไม่กี่วินาทีหลังทาบำรุง ผิวดูเนียนนุ่มขึ้น สัญญาณความเมื่อยล้ารอบดวงตาดูลดลง ดวงตาดูได้รับการพักผ่อนมากขึ้น ซึ่ง 2 การทำงานใน 1 ผลิตภัณฑ์นี้ แค่เพียง 10 นาที รอบดวงตาดูกระจ่างใสขึ้น เหมาะสำหรับการมากส์ทิ้งไว้ข้ามคืน เนื้อสัมผัสที่ดูเหมือนเนื้อครีมเข้มข้น แต่กลับมอบความรู้สึกสดชื่นราวกับเนื้อเจลในทันทีที่ใช้ พร้อมคุณสมบัติเคลือบบำรุงรอบดวงตาได้ยาวนานตลอดคืน

BIOTHERM Life Plankton™ Eye
(15 มล. / 1,900 บาท)

เป็นอายครีมเนื้อเจลที่เคลมว่าช่วยฟื้นบำรุงผิงรอบดวงตาให้ดูกระจ่างใสและอ่อนเยาว์ลงใน 8 วัน!! ด้วยพลังการฟื้นบำรุงผิวที่ไม่เหมือนใครของส่วนผสมที่เป็นเอกลักษณ์ของไบโอเธิร์ม ประกอบด้วย Life Plankton เข้มข้น 5 เปอร์เซ็น ซึ่งเป็นความเข้มข้นสูงสุดเท่าที่เคยใช้มาในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าของไบโอเธิร์ม เป็นการฟท้นบำรุงชั้นต่อชั้นเพื่อลดเลือนริ้วรอยร่องลึก ความหย่อนคล้อยของผิวรอบดวงตา ให้กลับมากระจ่างใสด้วยจุดเด่นของเนื้อสัมผัส พร้อมให้ความรู้สึกเย็นสดชื่นเปรียบเสมือนนาฬิกาปลุกที่ช่วยปลุกผิวรอบดวงตาที่อ่อนล้าให้ตื่นตัวในทันที เนื้อสัมผัสบางเบาแบบเจลนี้ ทำหน้าที่เสมือนผิวชั้นที่สอง และช่วยปกป้องให้ผิวดูกระชับและสุขภาพดี

BANILA CO. VV Vitalizing Eyes Cream
(15 มล. / 1,290 บาท)

หลอดสีแดงนี้เป็นครีมบำรุงผิวรอบดวงตาที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มลื่น มีความยืดหยุ่น เพื่อกระชับผิวรอบดวงตาอย่างอ่อนโยนมากที่สุด ตัวครีมมีส่วนผสมของคอลลาเจนที่ช่วยเติมเต็มร่องผิวและบำรุงพื้นที่รอบดวงตาให้กลับมาเต่งตึงและดูอ่อนเยาว์ ซึ่งถือเป็นแบรนด์สกินแคร์และเครื่องสำอางสายเลือดเกาหลีแบรนด์แรกที่นำเอา VV Collagen มาเป็นส่วนประกอบหลักในไลน์สินค้ากลุ่ม Anti-Aging เพื่อตอบโจทย์ครบทุกขั้นตอนของการดูแลผิวหน้า ในชื่อว่า VV Vitalizing เพื่อให้สาวๆ ได้รักษาความอ่อนเยาว์ กระจ่างใส ไม่มีริ้วรอยก่อนวัย และทาให้ผิวนุ่มลื่นราวกับเด็กสาววัย 16! ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยคุณสมบัติสุดพิเศษของ VV Collagen จะช่วยยกกระชับหน้าให้มีความเรียวขึ้น กระชับขึ้น หรือที่ใครๆ ชอบพูดกันว่า “หน้าเป็นรูปตัววี” และ ตัวที่ 2 คือ Volume Berry Complex ซึ่งเป็นสารสกัดจากผลของไวน์องุ่น ทับทิบและมะเขือเทศ ซึ่งมีส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยในเรื่องเพิ่มความชุ่มชื้นและเพิ่มความขาวกระจ่างใสแก่ผิวพรรณอย่างสูงสุด โดยไวน์องุ่นจะช่วยลดความมันบนผิวหน้าและช่วยกระชับรูขุมขนและช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้ดีอีกด้วย ด้านทับทิมซึ่งประกอบไปด้วยฮอร์โมนของหญิงสาวเมื่อทำปฎิกริยาควบคู่ไปกับคอลลาเจนแล้วก็จะยิ่งกระตุ้นให้ผิวพรรณมีความกระชับแน่นและดูสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น และสารสกัดจากผลมะเขือเทศซึ่งมีวิตามิน C สูงมาก ช่วยเรื่องความขาวนวลกระจ่างใส และอย่างมีสารชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดอีกด้วย

เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม
ภาพ : Pixabay

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ซ่อมแซมผิวด่วนกับ 11 สุดยอดสกินแคร์ ทั้งสูตรเดย์แอนด์ไนท์ บำรุงดีจนต้องบอกต่อ

แดดแรงแค่ไหนผิวก็ปลอดยูวี! กับ 7 ไอเท็มกันแดดออกใหม่ซัพพอร์ตผิว

งานผิวต้องเนี๊ยบ! 6 รองพื้น เนื้อดี เกลี่ยง่าย ช่วยปกปิด แถมผิวสวยในทุกสภาพแสง

ริมฝีปากน่าดึงดูดด้วย 12 ลิปสติก เฉดแดงและชมพู สวยลงล็อคทั้งอ่อนหวานและเซ็กซี่

ปากนุ่มน่าจุ๊บด้วย 6 ไอเท็ม บำรุงริมฝีปาก กับความต่างระหว่าง “ลิปบาล์ม กับ ลิปมาสก์”

ตัดใจทิ้งบ้าง! เช็คลิสต์โต๊ะเครื่องแป้งว่า เครื่องสำอางหมดอายุ และอยู่ได้นานแค่ไหน

ตลับเดียวจบ! 5 อายแชโดว์พาเล็ตต์ สวยสะพรึงฟาดได้ทุกสี ดีงามทุกเฉด

ชอบแต่งหน้าสายเกา “มิ้นต์ ชาลิดา” แชร์ทริคเมคอัพและวิธีดูแลรอยแผลเป็นข้างแก้มที่เคยตกม้า

ฟาดสีอย่างมีสไตล์! อัพเดทเทคนิคและเทรนด์แต่งหน้า SS19 จากเมคอัพอาร์ติสต์สาวแซ่บ

ตามเก็บสกินแคร์ใหม่บุกไทย และอัพเดทเมคอัพไอเท็มฮ็อตฮิตที่บิวตี้นิสต้าต้องมีในซีซั่นนี้