สัมผัสความวิจิตรงดงามโภชนศิลป์ชั้นสูง จาก Café Dior

Alternative Textaccount_circle

เปิดประตูสู่ความรื่นรมย์ใจกลางเมือง Café Dior ที่มาพร้อมเมนูของหวานจาก Mauro Colagreco

หากพูดถึงแลนด์มาร์กใหม่ใจกลางกรุงเทพมหานคร Dior House Gold คงเป็นหนึ่งในลิสต์ที่ไม่ควรพลาด เพราะเป็น ‘Concept Store’ ที่ครบครันไปด้วยกิจกรรมชวนผ่อนคลายไม่ว่าจะช้อปปิ้ง หรือจิบชายามบ่าย รับประทานของหวานแสนอร่อยใน Café Dior ที่ตกแต่งอย่างดีด้วยศิลปะการจัดวางสามมิติแสนอ่อนช้อยจากไม้ไผ่ล้วน อันถ่ายทอดเสน่ห์รื่นรมย์จากอาณาจักรพรรณพฤกษา ดอกไม้ และนกน้อยในงานพิมพ์ลาย ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ในคาเฟ่นี้เป็นผลงานของ ‘ศรัณย์ เย็นปัญญา’ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ประจำสตูดิโอ 56 (56thStudio)

แน่นอนว่าพูดถึงคาเฟ่ นอกจากบรรยากาศชวนผ่อนคลายแล้ว ของหวานและเครื่องดื่มก็เป็นส่วนสำคัญที่สุด Dior จึงได้จับมือกับ Mauro Colagreco เชฟระดับสามดาวมาช่วยรังสรรค์เมนูจากวัตถุดิบประจำถิ่นอาเชียอาเนย์ เช่น เตยหอม, มะกรูด, มะนาว, มะลิ, ดอกส้มซ่าม กุหลาบ และลิ้นจี่ ให้กลายเป็นเค้ก พาย และค็อกเทลหลากรส ที่ควรค่าต่อการเป็น “โภชนศิลป์ชั้นสูง” หรือ Haute-Gastronomie เพราะการตกแต่งขนม และเครื่องดื่มเหล่านี้ยังเต็มไปด้วยความประณีต งดงามเหนือคำบรรยาย

Mauro Colagreco ได้กล่าวความรู้สึกหลังจากได้ร่วมงานกับ Dior ครั้งนี้ว่า “ผมยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมกับการเปิดตัว Café Dior ภายใน Dior Gold House ใจกลางกรุงเทพมหานคร นี่เป็นโอกาสอันหาได้ยากมากสำหรับการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมวิสัยระหว่างศิลปะทางการตดัเยบ็ของห้องเสื้อชั้นสูงกับศาสตร์แห่งการปรุงอาหารตามวิถีโภชนศิลป์ชั้นสูง ถึงแม้จะเป็นสองวิชาชีพต่างสาขา กระนั้นกลับมีบรรทัดฐานร่วมจากการใช้ความคิดสร้างสรรค์ และความประณีต พิถีพิถันทางงานฝีมือ เพื่อให้ช่างศิลป์ แต่ละแขนงได้แสดงออกถึงพรสวรรค์ หรือภูมิปัญญาของตนผ่านกระบวนการอันสลับซับซ้อน ซึ่งต่างต้องอาศัยการใช้เวลาเป็นสำคัญ เหนืออื่นใด ความตระหนักรู้ หรือความเขา้ใจอย่างลึกซึ้งถึงความสำคัญในการสืบสานความต่อเนื่องให้แก่บรรดาทักษะ ความชำนาญเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญอันจะขาดเสียมิได้ในการก้าวสู่จุดสูงสุดของความเป็นเลิศ”


Cr. Courtesy of Dior

เผยทริค 'ลดพุงยื่น' สูตรแพทย์แผนจีน จบอาการตัวบวมของสายดื่ม

เผยทริค ‘ลดพุงยื่น’ สูตรแพทย์แผนจีน จบอาการตัวบวมของสายดื่ม

Alternative Textaccount_circle
เผยทริค 'ลดพุงยื่น' สูตรแพทย์แผนจีน จบอาการตัวบวมของสายดื่ม
เผยทริค 'ลดพุงยื่น' สูตรแพทย์แผนจีน จบอาการตัวบวมของสายดื่ม

สายชิล สายจิบ สายดื่มแอลกฮอล์โดยเฉพาะเบียร์เพื่อผ่อนคลาย แก้เบื่อเหงา หรือเพื่อสังสรรค์ในทุกเทศกาลเป็นประจำกันบ้าง แต่เมื่อพอดื่มติดต่อกันไปสักระยะ หน้าท้องกลับเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตัวบวมเอาๆ พุงก็เริ่มยื่น ไม่ว่าจะออกกำลังกายหรือคุมอาหารยังไง พุงก็ยังไม่ยุบ จนเริ่มกลายเป็นปัญหาหนักอก แต่ปัญหานี้แก้ไม่ยาก อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า การดื่มเบียร์ทำให้น้ำหนักขึ้นได้มาก เนื่องจากเบียร์เกิดมาจากการหมักมอลท์ อาจจะมีส่วนผสมจาก ข้าวบาร์เล่ย์ ข้าวสาลี ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ตามแต่แหล่งที่ผลิต จะเห็นได้ว่าส่วนผสมล้วนแต่เป็นพืชในกลุ่มที่มีแป้งสูงทั้งสิ้น เมื่อได้ผลผลิตเป็นเบียร์ออกมาจึงมีแคลอรี่ที่สูงมาก ซึ่งเทียบเท่าน้ำอัดลมกันเลยทีเดียว และยิ่งดื่มเบียร์ก็ยิ่งกระตุ้นกระเพาะให้หลั่งน้ำย่อย จึงทำให้อยากอาหารมากขึ้น น้ำหนักจึงยิ่งขึ้นไปกันใหญ่

ทางแพทย์จีน มองว่าเบียร์เป็นเครื่องดื่มมีฤทธิ์เย็นสูงมาก เมื่อดื่มเข้าไปแล้วจะทำลายม้าม หรือระบบการย่อยอาหารและระบบการเผาผลาญให้แย่ลง หากยิ่งชอบดื่มเบียร์เป็นประจำ นานวันเข้า จะเกิดการสะสมของธาตุเย็นขึ้นในกระเพาะอาหาร ทำให้มีอาการท้องอืด แน่นท้อง เหนื่อยง่าย รู้สึกตัวหนักๆ มึนศีรษะง่ายขึ้นมาได้ และยิ่งไปกว่านั้น ยังทำให้น้ำหนักขึ้นง่าย อ้วนง่าย รู้สึกตัวบวม หน้าบวม และพุงยื่นออกมา กลุ่มอาการนี้เกิดจากการมีความเย็นและความชื้นสะสมในร่างกายมาก ดังนั้น วิธีการแก้จึงง่ายๆ เพียงแค่กำจัดความชื้นและบำรุงม้ามให้แข็งแรงมากขึ้น อาการท้องอืด แน่นท้อง รู้สึกหน้าบวม ตัวบวมง่ายก็จะหายไปในพริบตา

ในขั้นต้นแนะนำให้ใช้ น้ำขิง ต้มลูกเดือยกับถั่วแดง จะช่วยแก้อาการเหล่านี้ได้ในเบื้องต้น เนื่องจากน้ำขิง มีฤทธิ์ช่วยอุ่นกระเพาะอาหาร ขับลม ลดอาการท้องอืดได้ดี ส่วนลูกเดือยและถั่วแดง ช่วยขับความชื้น ลดอาการบวมได้ เมื่อรับประทาน 3 อย่างนี้ควบคู่กัน จะช่วยฟื้นฟูระบบการย่อยอาหาร ระบบเผาผลาญ ลดอาการบวมทั้งใบหน้า หน้าท้อง ลำตัวได้เป็นอย่างดี

แต่หากใครที่มีอาการค่อนข้างมาก แนะนำให้พบแพทย์จีนเพื่อใช้การรักษาอื่นๆ เช่น การฝังเข็ม ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลการทำงานของกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดความแข็งแรงมากขึ้น ด้วยวิธีการใช้เข็มขนาดเล็กประมาณเส้นผม ปักไปตามจุดต่างๆ บนร่างกาย ร่วมกับการรมยา ซึ่งจะเป็นการรมยาเฉพาะจุด ทำให้เกิดความอุ่นร้อนเข้าสู่ภายใน จะช่วยกระตุ้นให้ระบบการย่อยอาหาร และระบบเผาพลาญพลังงานเดิมที่เคยอ่อนแอ ให้เริ่มฟื้นฟูกลับมาแข็งแรงดังเดิม หรือหากใครที่กลัวและไม่ชอบการฝังเข็ม หมอจะปรับการรักษาโดยใช้การรมยาร่วมกับการทานยาจีนควบคู่ ก็จะช่วยบรรเทาอาการและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ใช้วิธีไหนในการรักษาจะขึ้นอยู่กับระดับอาการที่เป็น และพื้นฐานร่างกายของแต่ละบุคคลร่วมกับวิจารณญาณของแพทย์แต่ละท่าน

การดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากเกินไปย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพ ดังนั้น แนะนำให้ดื่มในปริมาณน้อยร่วมกับออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง เพราะการการออกกำลังกายมีส่วนช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและระบบน้ำเหลือง ซึ่งมีส่วนสำคัญในการลดอาการบวมน้ำได้เป็นอย่างดี จะเห็นได้ว่าเพียงปฏิบัติตามวิธีง่ายๆ ในข้างต้นเท่านี้ ก็จะมีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่แข็งแรง สามารถปาร์ตี้ได้ในทุกเทศกาล หายเบื่อ เหงา เศร้าเซ็ง รู้สึกกระปรี้กระเปร่าตลอดปีแล้ว

ข้อมูล: พจ.ณัฐธยาน์ เฮงอุดมสวัสดิ์ (พจ.423) แผนกแพทย์แผนจีน โรงพยาบาลนวเวช
ภาพ: Pexels


ลดน้ำหนัก

ลดน้ำหนักอย่างไรไม่ให้โยโย่ ไม่อันตรายต่อร่างกาย

account_circle
ลดน้ำหนัก
ลดน้ำหนัก

ภาวะโยโย่ (Yoyo Effect) เป็นปัญหาที่มักพบหลังลดน้ำหนัก เพราะเกิดจากการลดน้ำหนักด้วยวิธีผิด ๆ เช่น อดอาหาร ใช้ยาลดความอ้วน ทำให้น้ำหนักขึ้นมากกว่าที่เคยลดได้ และกว่าจะลดน้ำหนักลงอีกครั้งได้ก็ยากกว่าเดิม แล้ววิธีลดความอ้วนไหนบ้างที่ไม่โยโย่ มาดูพร้อม ๆ กันได้เลย!

1. รับประทานให้ครบมื้อ ทานสารอาหารให้ครบถ้วน

วิธีลดน้ำหนัก

การทานอาหารให้ครบมื้อเป็นวิธีช่วยลดน้ำหนักและควบคุมน้ำหนักให้คงที่อย่างยั่งยืน สามารถเริ่มจากการปรับอาหารที่ทานในแต่ละมื้อให้เหมาะสม โดยในหนึ่งวันควรทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายรับสารอาหารเพียงพอ และสามารถเผาผลาญพลังงานได้เต็มประสิทธิภาพ

ซึ่งตรงกันข้ามกับวิธีที่หลายคนมักใช้ลดน้ำหนักก็คือการอดอาหาร เพราะคิดว่าการอดอาหารเป็นวิธีลดน้ำหนักที่เห็นผลลัพธ์เร็ว และเมื่ออดอาหารแล้วจะช่วยให้น้ำหนักลดลงตามเป้าที่ตั้งไว้ไวขึ้น

ถึงแม้ว่าการอดอาหารจะช่วยให้น้ำหนักลดเร็วกว่าหลาย ๆ วิธีก็จริง แต่สิ่งที่หายไปพร้อมกับไขมันส่วนเกินแล้ว ก็คือมวลกล้ามเนื้อที่หายไปด้วยถึงหนึ่งในสี่ของน้ำหนักที่ลดลง ทำให้ประสิทธิภาพของระบบเผาผลาญแย่ลง เมื่อกลับมาทานอาหารตามปกติก็จะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็วผิดปกติหรือเกิดภาวะโยโย่นั่นเอง

2. ระวังปริมาณน้ำตาลให้ดี

อาหารที่ทานในแต่ละมื้อมักมีน้ำตาลเป็นส่วนผสมแฝงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลจากธรรมชาติ จากพืช ผลไม้ นม หรือน้ำตาลที่เติมเข้าไปในเครื่องดื่ม ขนม และอาหารแปรรูปต่าง ๆ หากไม่ทันได้สังเกตจะทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลในปริมาณมากเกินกว่าที่ต้องการในแต่ละวันโดยไม่รู้ตัว โดยในหนึ่งวันควรบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 24 กรัม หรือ 6 ช้อนชา

โดยปกติแล้วเครื่องดื่มชนิดชงเช่น กาแฟเย็น ชาเย็น หรือโกโก้เย็นมักมีน้ำตาล 10-15 ช้อนชา หรือ 40-60 กรัมต่อแก้ว  ซึ่งเท่ากับพลังงานจากข้าวสวยประมาณ 3-4 ทัพพีเลยทีเดียวสำหรับน้ำผลไม้ แม้จะไม่ได้เติมน้ำตาล แต่ก็มีปริมาณน้ำตาลสูงเนื่องจากต้องคั้นมาจากผลไม้ปริมาณมากเพื่อให้ได้น้ำผลไม้เพียง 1 กล่อง 

เมื่อร่างกายรับน้ำตาลเยอะแล้วเผาผลาญไม่หมด น้ำตาลส่วนเกินก็จะกลายเป็นไขมันสะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น และรูปร่างเปลี่ยนไปจากเดิม ดังนั้นจึงควรระวังปริมาณน้ำตาลที่ทานอยู่เสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงลดน้ำหนักหรือไม่ก็ตาม 

3. หมั่นออกกำลังกายลดน้ำหนักให้เป็นกิจวัตร

ออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก

การออกกำลังกายลดน้ำหนักเป็นวิธีที่ดีต่อร่างกายมาก นอกจากการออกกำลังกายแบบแอโรคบิค เช่น การวิ่งหรือว่ายน้ำแล้ว การออกกำลังกายด้วยแรงต้าน เช่นการยกน้ำหนักก็สำคัญเช่นกัน เพราะนอกจากจะช่วยลดน้ำหนักแล้ว ยังมีส่วนช่วยสร้างกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ทำให้ร่างกายดึงไขมันที่ถูกสะสมมาใช้งานมากขึ้น ส่งผลให้รูปร่างเข้ารูป ดูกระชับมากกว่าเดิม 

โดยทั่วไปควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-5 วัน วันละอย่างน้อย 30 นาที ส่วนผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักควรออกกำลังกายที่มีความเหนื่อยปานกลางอย่างน้อย 150 ถึง 300 นาทีต่อสัปดาห์ หรือออกกำลังกายที่มีความเหนื่อยสูง 75 ถึง 150 นาทีต่อสัปดาห์ เพื่อให้น้ำหนักลดได้มากขึ้น ป้องกันภาวะโยโย่ และเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย

สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักเยอะสามารถเริ่มต้นจากการออกกำลังกายเบา ๆ อย่างการเดิน ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำก่อน แล้วค่อย ๆ เริ่มปรับวิธีการออกกำลังกายตามความเหมาะสม เพราะการออกกำลังกายหนักทันทีอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บได้

4. ปรับเวลารับประทานอาหารให้เหมาะสม

แม้ว่าจะทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ทานของจุบจิบ ไม่ทานน้ำหวาน แต่ถ้าทานผิดเวลา เช่น ไม่ทานมื้อเช้าแต่จัดเต็มมื้อเย็น หรือทานมื้อดึกใกล้ ๆ เวลานอน ก็อาจทำให้น้ำหนักไม่ลดลงเท่าที่ควร

หากต้องการลดน้ำหนักจึงควรทานอาหารมื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อเย็น โดยในส่วนของมื้อเช้าควรทานหลังตื่นนอนภายใน 2 ชั่วโมง และมื้อเย็นควรทานอาหารที่ให้พลังงานต่ำก่อนเวลาเข้านอนอย่างต่ำ 2 ชั่วโมง

สำหรับผู้ที่อยากใช้วิธี intermittent fasting (IF) วิธีนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน โดยเลือกช่วงเวลาทานอาหาร (feeding) และอดอาหาร (fasting) ตามการใช้ชีวิตประจำวันของตนเอง โดยสูตร IF จำกัดเวลาทานอาหารที่มักใช้คือ อดอาหาร 16 ชั่วโมง และรับประทาน 8 ชั่วโมง หรือเพิ่มเวลาอดอาหารจนถึง 20 ชั่วโมงเลยก็ได้เช่นกัน

5. อย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการลดน้ำหนัก เพราะช่วงเวลาที่นอนหลับ ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายรวมถึงระบบเผาผลาญจะฟื้นตัวขึ้น แต่ถ้าหากนอนหลับไม่พอ ระบบเผาผลาญร่างกายจะทำงานแย่ลง 

ยิ่งไปกว่านั้นการนอนหลับไม่เพียงพอยังส่งผลต่อการหลั่งฮอร์โมนหลายชนิด เช่น ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) จะมีระดับเพิ่มขึ้น  ฮอร์โมนเลปติน (Leptin) มีระดับลดลง และฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin) มีระดับเพิ่มขึ้น  ซึ่งการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนต่างๆนี้ทำให้มีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น และลดการใช้พลังงานของร่างกาย ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นได้

ดังนั้นจึงควรนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง และไม่ควรนอนดึกมากจนเกินไปเพื่อให้ร่างกายตื่นมาพร้อมกับความสดชื่นตลอดวัน

6. ต้องดื่มน้ำให้มากพอ

น้ำมีประโยชน์ต่อร่างกายและการลดน้ำหนัก ซึ่งปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อุณหภูมิของอากาศ ระดับการออกกำลังกาย โดยเฉลี่ยแนะนำดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว (ประมาณ 2 ลิตร) 

สำหรับการดื่มน้ำเพื่อช่วยลดน้ำหนักสามารถทำได้โดยดื่มน้ำ 500 มิลลิลิตรก่อนมื้ออาหารประมาณ 30 นาที และการดื่มน้ำเปล่าทดแทนเครื่องดื่มที่มีแคลอรีสูง เช่น น้ำหวาน ชานมไข่มุก หรือน้ำชงอื่น ๆ ก็จะช่วยลดพลังงานส่วนเกินจากเครื่องดื่มเหล่านี้ได้

สรุปลดน้ำหนัก สุขภาพแข็งแรง ห่างไกลโรคภัย

การลดน้ำหนักช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย และยังช่วยให้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ดังนั้นผู้ที่มีน้ำหนักเยอะจึงควรลดน้ำหนักให้อยู่ในระดับตามเกณฑ์เสมอ และที่สำคัญการลดน้ำหนักจะต้องลดอย่างถูกวิธีเพื่อให้น้ำหนักอยู่ตัว ไม่กลับมาโยโย่หรือน้ำหนักขึ้นเยอะกว่าก่อนที่จะเริ่มลดน้ำหนักเสียอีก


หวัง อี้ป๋อ  เปิดตัวแคมเปญใหม่ Jimmy Choo คอลเล็คชั่น DIAMOND X 

account_circle

หวัง อี้ป๋อ นักแสดง นักร้อง และนักแข่งรถมอเตอร์ไซค์มืออาชีพผู้มากความสามารถ แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ JIMMY CHOO เปิดตัวแคมเปญใหม่ รองเท้าผ้าใบ รุ่น DIAMOND X ผ่านเลนส์และฝีมือของช่างภาพอย่าง Hekaituoyi ณ เมืองปักกิ่ง

 “Diamond X” เป็นรองเท้าผ้าใบแบบยูนิเซ็กซ์ที่สะท้อนถึงวิวัฒนาการของคอลเล็คชั่นรองเท้าผ้าใบจาก Jimmy Choo ด้วยพื้นรองเท้าดีไซน์พิเศษที่ดูโดดเด่น พร้อมประดับด้วยพื้นยางรูปทรงเสมือนเพชรหลากมิติอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่ฝังอยู่ในพื้นยางแบบสปอร์ต ผสานหนังจากเทคโนโลยีขั้นสูง เพิ่มความนุ่มนวล และโดดเด่นด้วยรายละเอียดที่ได้แรงบันดาลใจจากชุดกีฬาสปอร์ต อีกทั้งยังมีแผ่นส้นรองเท้าสีเงินที่มีโลโก้ขนาดใหญ่สะดุดตา รวมทั้งรูร้อยเชือกโลหะ และเชือกรองเท้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ขณะที่ ซับในรองเท้าที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ช่วยเพิ่มความนุ่มสบายให้กับเท้า พร้อมด้วยการบุเสริมพื้นรองเท้าเพื่อความสบายสูงสุดยามสวมใส่ ทำให้ Diamond X เป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกโอกาส สามารถจับคู่ได้อย่างลงตัวกับชุดสไตล์ทางการหรือแนวลำลองได้อย่างง่ายดาย


11 ลุคเด่นของเหล่าเซเลบริตี้บนพรมแดง ‘Golden Globes 2025’

Alternative Textaccount_circle

คับคั่งด้วยเซเลบริตี้เช่นเคยสำหรับงาน Golden Globes 2025 หรือที่รู้จักกันในนามงานประกาศรางวัลลูกโลกทองคำประจำปีซึ่งมีความหมายต่อผู้อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลังการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์

Cynthia Erivo และ Ariana Grande

โดยหนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ นั่นคือช่วงเดินพรมแดงที่เราจะได้เห็นเหล่าเซเลบริตี้โดดเด่นในคอสตูมหลากหลายแบรนด์ดัง อาทิ Emma Stone ที่เปลี่ยนลุคด้วยทรงผมใหม่ ‘Pixie cut’ มาพร้อมเดรสสีแดง อีกทั้งยังมี Zendaya ในเดรสสีแสดตกแต่งด้วยเครปขนาดใหญ่ ขณะที่ Cate Blanchett ปรากฏตัวในเดรสสีเหลืองทอง ประดับด้วยคริสตัล และ Cynthia Erivo ที่มาในลุคเซ็กซี่ปนหวานกับเดรสลายพริ้นต์ดอกไม้กับดีไซน์แหวกอก ทั้งหมดเป็นคอสตูมตัดพิเศษจาก Louis Vuitton

Selena Gomez

ต่อมาเป็น Ariana Grande ที่ฟื้นคืนชีพเดรสเกาะอกสีเหลืองพาสเทลในคอลเล็คชั่นโอต์ กูตูร์ Spring/Summer 1966 จาก Givenchy รวมถึงเดรสเกาะอกลายเสือดาวจาก Balmain ที่จับคู่มากับสร้อยคอไอคอนิกประจำ Cartier ในลุคของ Elle Fanning ขณะที่ Anya Taylor-Joy มาในเดรสซาตินสีชมพูพาสเทลจาก Dior และเพิ่มความอลังการด้วยสร้อยคอ Tiffany & Co. อีกหนึ่งเซเลบริตี้ที่ได้รับการพูดถึงไม่แพ้กันนั่นคือ Selena Gomez ที่ปรากฏตัวในเดรสปาดไหล่สีฟ้าจาก Prada

ในส่วนนักแสดงระดับตำนาน Michelle Yeoh มาในเดรสสีดำที่โดดเด่นด้วยแผงคอและกระโปรงทรงเมอร์เมดจาก Balenciaga ขณะที่ Angelina Jolie เลือกเป็นคอสตูมเล่นแสงแฟลชด้วยเดรสปักเลื่อมจาก McQueen และปิดท้ายด้วย Cara Delevingue ที่ปรากฏตัวในเดรสคล้องคอสีฟ้าเมทัลลิคจาก Gucci


ภาพ: Getty Images

โบว์ – ณชา จึงกานต์กุล ควงคู่ เอก – ณัฐพันธ์ พรศรีฤทัย ฉลองสมรสพระราชทาน ท่ามกลางบรรยากาศสุดหรูและอบอุ่น

account_circle

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา โบว์ – ณชา จึงกานต์กุล และ เอกณัฐพันธ์ พรศรีฤทัย ได้จัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสพระราชทาน ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม โรงแรมเดอะริทซ์-คาร์ลตัน ณ วัน แบงค็อก หลังได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำสังข์อันเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตคู่

งานเลี้ยงฉลองในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากแขกคนสำคัญในหลากหลายวงการที่มาร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว อาทิ แพรทองธาร ชินวัตร, ร.ต.อ.หญิง บุญญาภาณิ์ เบญจรงคกุล, แดน เหตระกูล – แพรดาว พานิชสมัย เหตระกูล และผู้ร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง งานมงคลสมรสนี้เป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญที่เปี่ยมไปด้วยความรัก ความอบอุ่น ทั้งนี้ คู่บ่าวสาวและครอบครัวได้ขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมเฉลิมฉลองวันสำคัญนี้ด้วยใจจริง


ประกาศรายชื่อผู้โชคดี แจกของขวัญส่งท้ายปี ‘Praew X’mas Gift 2024’

Alternative Textaccount_circle

Praew X’mas Gift! ซานตาแพรว มอบความสุขให้แฟนๆ แจกของขวัญส่งท้ายปี มูลค่ารวมกว่า 2 แสนบาท

รายชื่อผู้โชคดี ‘Praew X’mas Gift 2024’

1.ลำโพง Mania จาก Devialet มูลค่า 39,000 บาท / จำนวน 1 รางวัล

  • สุทัตตา เหมือนเหลา    

2.ลำโพง Stanmore III และหูฟัง Motif A.N.C. จาก Marshall มูลค่า 25,980 บาท / จำนวน 1 รางวัล

  • Saranya Tirathammawong

3.บัตรที่พัก 1 คืน ห้อง Ayutthaya Suite พร้อมอาหารเช้า และเซต Afternoon Tea สำหรับ 2 ท่าน จาก 137 Pillars Bangkok มูลค่า 24,130 บาท / จำนวน 2 รางวัล

  • Farrung Dongho
  • กมลวรรณ ทองดีแท้

4.เซตสกินแคร์ มูลค่า 6,600 บาท / จำนวน 6 รางวัล      

  • Mai Kritthiya
  • ปิยพัชร์ มากมี
  • Chanita Butrat
  • Riana Shietra
  • Palmmie Palm   
  • Instagram @rungarunleeyavanich                                                  

5. น้ำหอม Chérie จาก Kate Spade มูลค่า 5,200 บาท / จำนวน 1 รางวัล

  • Natty Yayadonut

6. น้ำหอม Le Sel d’Issey จาก Issey Miyake มูลค่า 4,400 บาท / จำนวน 1 รางวัล

  • FFang Peam

7. แว่นตาชั้นนำจาก EssilorLuxottica มูลค่ากว่า 3,000 บาท / จำนวน 6 รางวัล

  • Yuwarin Thanakanya
  • Janista Tummasanongkoon
  • Ben Chanissa
  • Kittikhun Isaradest
  • Wutthichai Puengman
  • Instagram @tannyview

8. บัตรรับประทานอาหารจาก KFC มูลค่า 2,500 บาท / จำนวน 2 รางวัล

  • Kanokwan Singto
  • Mai Love King

9. บัตรรับประทานอาหารจาก MK Restaurants มูลค่า 2,500 บาท / จำนวน 2 รางวัล

  • X Tra Tee
  • Thanabordin Skulareemitr

10. บัตรรับประทานอาหารจาก Salad Factory มูลค่า 2,500 บาท / จำนวน 2 รางวัล

  • สมจิตร เกศมุกดา
  • An Ann Anne

ผู้โชคดีสามารถติดต่อยืนยันตัวตนเพื่อรับของรางวัลได้ที่ เบอร์โทร 0-2422-9999 ต่อ 4457 (คุณจุ๊กจิ๊ก)

– ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมสนุกด้วยกันนะคะ –


กลับมาพร้อมความสนุกครั้งใหม่NCT 127-THE MOMENTUM

Alternative Textaccount_circle

SM True ก้าวต่อไปสู่การสร้างปรากฏการณ์สุดยิ่งใหญ่ในปี 2568 พร้อมมุ่งไปข้างหน้าด้วยแรงขับเคลื่อนแบบไร้ขีดจำกัดของ NCT 127 เจ้าของสถิติศิลปินวงแรกของค่าย SM ENTERTAINMENTที่สามารถจัดคอนเสิร์ตสเกลสเตเดียมในประเทศไทย และวงที่คว้ารางวัลใหญ่ Overall Grand Prize (Daesang) และ the Best Prize(Choewoosoosang)

สำหรับสาขาคอนเสิร์ตที่ดีที่สุดจากงาน EDAILY Culture Awards ด้วยเวิลด์ทัวร์ครั้งก่อนหน้านี้อย่าง ‘NEO CITY – THE UNITY’ โดยพวกเขาจะกลับมาเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์พร้อมกำหนดความสนุกครั้งใหม่ตามแบบฉบับของตัวเอง ด้วยเวิลด์ทัวร์ครั้งที่ 4 ในประเทศไทย NCT 127 4TH TOUR ‘NEO CITY : BANGKOK – THE MOMENTUM’ (เอ็นซีที วันทูเซเว่น โฟร์ท ทัวร์ ‘นีโอ ซิตี้ : แบงค็อก – เดอะ โมเมนตัม’) ในวันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 19:00 น. และวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 19:00 น. ณ ธันเดอร์โดม สเตเดียม (THUNDERDOME STADIUM)

สำหรับชื่อทัวร์ ‘THE MOMENTUM’ (เดอะ โมเมนตัม) สื่อถึงพลังหรือแรงขับเคลื่อนของบางสิ่งที่กำลังมุ่งไปข้างหน้า และสะท้อนถึงพลังงานอันไร้ขีดจำกัดของ NCT 127 (เอ็นซีที วันทูเซเว่น) ในการสานต่อเพื่อนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง รวมถึงความทะเยอทะยานที่จะก้าวไปสู่เวทีที่ยิ่งใหญ่ขึ้นผ่านเวิลด์ทัวร์ครั้งที่ 4 นี้ เตรียมพุ่งชนเป้าหมายแรกด้วยความร้อนแรงที่เกินต้านจนบัตรหมดเกลี้ยง ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 18 และ 19 มกราคมนี้ พร้อมเร่งเครื่องเต็มกำลังไปสู่ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 14 ภูมิภาคในเอเชีย และอเมริกา

NCT 127 (เอ็นซีที วันทูเซเว่น) ถือเป็นศิลปินผู้บุกเบิกนวัตกรรมดนตรีแนว Neo (นีโอ) หรือแนวใหม่อย่างต่อเนื่อง พร้อมแผ่ขยายอิทธิพลให้กับเค-ป๊อป ผ่านคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจนและสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ ที่เพียงแค่ฟังก็จะรู้ได้ทันทีว่าคือ เพลงของ NCT 127 (เอ็นซีที วันทูเซเว่น) เช่น เพลงแดนซ์ ฮิปฮอปนำสมัย ‘영웅 (英雄; Kick It)’, เพลงเออร์เบิน โซล ฮิปฮอปกับจังหวะหนักหน่วงที่ติดหู ‘Punch’, เพลงฮิปฮอป แดนซ์ที่มีเสียงขลุ่ยสุดอิมแพ็ค ‘Sticker’, เพลงอาร์แอนด์บี แดนซ์แสนเศร้า ถ่ายทอดการประสานเสียงและเสียงผิวปาก ‘Favorite (Vampire)’, เพลงฮิปฮอป แดนซ์อันทรงพลัง ‘질주 (2 Baddies)’, เพลงฮิปฮอป แดนซ์สุดดุดัน ‘Ay-Yo’, เพลงแดนซ์จังหวะแอโฟร ‘Fact Check (불가사의; 不可思議)’ ฯลฯ ล่าสุดกับเพลงแนวโอลด์สคูล ฮิปฮอป ‘삐그덕 (Walk)’ ที่สื่อถึงความมั่นใจว่า “พวกเขาจะก้าวไปข้างหน้าโดยไม่เดินตามรอยใคร” ยืนยันถึงจุดยืนที่ไม่มีใครเทียบได้

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา NCT 127 ได้พิสูจน์ศักยภาพผ่านกิจกรรมระดับโลกมากมาย รวมถึงการทัวร์คอนเสิร์ตไปทั่วโลกภายใต้แบรนด์ ‘NEO CITY’ (นีโอ ซิตี้) ที่ตอกย้ำถึงเอกลักษณ์ของพวกเขาอย่างโดดเด่นและประสบความสำเร็จถล่มทลาย โดยเฉพาะเวิลด์ทัวร์ครั้งก่อนหน้านี้ ‘NEO CITY – THE UNITY’ (นีโอ ซิตี้ – เดอะ ยูนิตี้) ที่ผนวกทุกคนให้เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการแสดงอันทรงพลัง การกำกับที่ยอดเยี่ยม และเวทีสุดตระการตา จนคว้ารางวัลใหญ่ Overall Grand Prize (Daesang) และ the Best Prize (Choewoosoosang) สำหรับสาขาคอนเสิร์ตที่ดีที่สุดจากงาน EDAILY Culture Awards อีกทั้งยังได้รับการยกย่องในฐานะ ‘God of Performance’ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังสร้างสถิติอันน่าภาคภูมิใจ กับการขึ้นแท่นเป็นศิลปินวงแรกของค่าย SM ENTERTAINMENT (เอสเอ็ม เอนเทอร์เทนเมนต์) ที่สามารถจัดคอนเสิร์ตสเกลสเตเดียมในประเทศไทย โดยเวิลด์ทัวร์ครั้งนี้ ‘NEO CITY – THE MOMENTUM’ (นีโอ ซิตี้ – เดอะ โมเมนตัม) กำลังมุ่งหน้ามามอบประสบการณ์สุดพิเศษแบบไม่เหมือนใคร พาทุกคนทะยานสู่จุดสูงสุดของความสนุก พร้อมร่วมสร้างเส้นทางแห่งตำนานบทใหม่ จารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของพวกเขา

เปิดจำหน่ายบัตรรอบสมาชิก “NCTzen 127” Membership (GL) Pre-Sale ในวันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2568 เวลา 19:00 น. – 23:59 น. เท่านั้น และรอบบุคคลทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2568 ตั้งแต่เวลา 11:00 น. เป็นต้นไป ทางเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ และทางเว็บไซต์ www.allticket.com

สวยละมุน "มินฮโยริน" ถูกยกให้เป็น 'ผู้หญิงที่สวยที่สุดในชุดฮันบก'

สวยละมุน “มินฮโยริน” ถูกยกให้เป็น ‘ผู้หญิงที่สวยที่สุดในชุดฮันบก’

Alternative Textaccount_circle
สวยละมุน "มินฮโยริน" ถูกยกให้เป็น 'ผู้หญิงที่สวยที่สุดในชุดฮันบก'
สวยละมุน "มินฮโยริน" ถูกยกให้เป็น 'ผู้หญิงที่สวยที่สุดในชุดฮันบก'

นักแสดงหญิง “มินฮโยริน” ภรรยาคนสวยของ “แทยัง BIGBANG” คว้าตำแหน่ง ‘ผู้หญิงที่สวยที่สุดในชุดฮันบก’ ครองใจแฟนๆ ทั่วโลก ด้วยความงามอันน่าทึ่งในชุดฮันบกเกาหลีแบบดั้งเดิม

ในภาพถ่าย มินฮโยริน ดูสง่างามและสงบราวกับรูปปั้น ชวนให้นึกถึงภาพการถ่ายแบบชุดฮันบก โดยมีฉากหลังเป็นบ้านฮันอก (บ้านเกาหลีดั้งเดิม) ชุดของเธอผสมผสานระหว่างสุนทรียศาสตร์คลาสสิกกับความรู้สึกทันสมัย ​​ซึ่งทำให้ชาวเน็ตต่างชื่นชม โดยเธอสวมเสื้อคุลมด้านบนสีขาวสะอาดตา (เสื้อคลุมแบบเกาหลีดั้งเดิม) คู่กับชิมา (กระโปรงเกาหลี) สีม่วงเข้ม สร้างลุคที่เน้นย้ำถึงมรดกอันล้ำค่าของแฟชั่นเกาหลีดั้งเดิมด้วยรายละเอียดดอกไม้อันละเอียดอ่อนบนชุดของเธอ ทำให้ดูมีเสน่ห์สวยงามเหนือกาลเวลา ในขณะที่ทรงผมเกล้าขึ้นอย่างประณีตประดับด้วยเครื่องประดับผมแบบดั้งเดิมยิ่งทำให้งดงามอ่อนช้อยยิ่งขึ้น

Photo: hyorin_min


‘สวัสดีปีงู เช็กกันว่า ดวงใครจะได้เป็นเมียงู หรือพบหัวงู เช็กเลย!!!’ ดวงรายสัปดาห์ 6-12 มกราคม 2568

Alternative Textaccount_circle

‘สวัสดีปีงู เช็กกันว่า ดวงใครจะได้เป็นเมียงู หรือพบหัวงู’

ดวงรายสัปดาห์ 6-12 มกราคม 2568

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์          

การงาน  :  ย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่สองของปี ชาวอาทิตย์ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับความสวยความงาม ศิลปิน ดนตรี วงการบันเทิง นับว่าโดดเด่นมาก มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงนะเนี่ย นอกจากนั้นคุณยังมีเกณฑ์ได้ร่วมหุ้นร่วมทุนทำธุรกิจหรือร่วมงานกับเพื่อนสนิทผู้หญิง หากไม่อยู่ในโหมดงานเดิม ก็เป็นงานหรือธุรกิจที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ ซึ่งมีโอกาสที่จะโกอินเตอร์ได้ด้วยนะ

การเงิน  :  จริงๆ คุณเฮงๆ ปังๆ รับต้นปีเลยล่ะ แต่หากคิดจะลงทุนอะไร ควรทำด้วยตัวเองดีกว่าร่วมหุ้นกับคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนหรือญาติผู้หญิง เพราะคาดว่าคุณจะไม่เหลือเงินเก็บเลย ได้มาเท่าไหร่ก็ใช้กันเกินงบบานเลย

ความรัก  :  ชาวอาทิตย์สัปดาห์นี้มีโอกาสแปลงกายเป็นเมียงูต้อนรับปีงูกันเลยนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะถูกอกถูกใจถูกตากับเพศเดียวกันด้วย จนมีโอกาสเบื่อหน่ายคนใกล้ตัวหรืออยู่ๆ ก็คุยกันไม่รู้เรื่องซะงั้น    คนโสด  เสน่ห์มาเต็มๆ ค่ะสำหรับชาวอาทิตย์ แต่ใช่ว่าใครมาก็คุยด้วยหมดนะ สำหรับสัปดาห์นี้มีความเป็นไปได้ว่าคุณจะเอนเอียงมาที่เพื่อนผู้หญิงใกล้ๆ ตัวมากกว่าเพื่อนใหม่ค่ะ

สุขภาพ  :  ยังติดอยู่กับควันหลงเทศกาลเฉลิมฉลองอยู่ เพราะเป็นไปได้ที่คุณจะเอ็นจอยจนน้ำหนักขึ้นไม่รู้ตัว นอกจากนั้นไปเที่ยวที่ไหนก็ควรให้ความสำคัญกับความสะอาด ในเรื่องของอาหาร ที่พัก รวมถึงสถานที่สาธารณะ เพราะมีโอกาสที่คุณจะติดเชื้อ รวมถึงมีความเสี่ยงที่จะไม่สบาย แพ้อากาศ

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  ร้อนแรงตั้งแต่ต้นปีเลย สำหรับชาวจันทร์ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ บ้าน ที่ดิน อาคารสำนักงาน สิ่งปลูกสร้าง จริงๆ แล้วคุณมีโอกาสที่จะบุกเบิกเริ่มต้นโครงการใหม่ๆ แล้วก็ไปได้ดีด้วย แต่เป็นไปได้ว่าคุณจะเชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก นอกจากนั้นยังพะบู๊ ฟาดงวงฟาดงาเขาไปทั่ว ซึ่งการตัดสินใจที่รวดเร็วและขาดสติ จนมีความเสี่ยงสูงที่บริวารจะไม่ซื่อสัตย์ ส่วนคุณก็ถูกหมั่นไส้ เผลอเมื่อไหร่ไม่พ้นถูกแทงข้างหลัง หรือถูกเลื่อยขาเก้าอี้แน่ ทางที่ดีควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นให้มากๆ  เพื่อป้องกันการตัดสินใจผิดพลาด

การเงิน  :  หากสัปดาห์นี้คุณวางแผนว่าจะขายอสังหาริมทรัพย์ หรือผ่อนคอนโดฯ ผ่อนบ้าน ก็ต้องระวังนิดหนึ่ง เพราะมีโอกาสที่เงินจะไม่พอ หรือไม่ก็ถูกโกง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณซื้อไว้เก็งกำไร มีความเสี่ยงที่จะถูกย้อมแมวขาย  

ความรัก  :   สำหรับชาวจันทร์ผู้น่าเห็นใจ ปีใหม่แล้วก็ยังคงสลัดปัญหาเรื่องมือที่สามได้ไม่หลุดจากตัว ก็อย่ามัวทำงานเพลินนะคะ เพราะมีโอกาสที่เธอหรือเขาจะเข้ามานอนเล่นอยู่ในบ้าน แต่เป็นไปได้ว่าคุณจะโนสนโนแคร์  คนโสด  เช่นกันค่ะ ปีที่แล้วต้องทนกับมือที่สามอย่างไร ปีนี้ก็ยังตามมาหลอกหลอนเช่นกัน แม้คุณจะพยายามหาทางออกด้วยการทำงานหรือไม่แคร์ใดๆ แต่ก็ยังอดสะเทือนใจไม่ได้  

สุขภาพ  :   ต้องระวังโรคร้ายที่มาพร้อมความเครียด ความกดดัน ความวิตกกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางสมองและหัวใจ นอกจากนั้นยังต้องระวังได้รับบาดเจ็บจากของมีคมด้วย

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน   สำหรับชาวอังคารที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจทางด้านการติดต่อประสานงาน การบริหารจัดการ หรือให้คำปรึกษาและคำแนะนำในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรับราชการ ทหาร ตำรวจ นักธุรกิจ ฯลฯ  นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่คุณจะได้บุกเบิกเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ หากความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ต้องแลกมาด้วยกำลังกายกำลังใจที่เข้มแข็งฉันใด ชาวอังคารก็ฉันนั้น ต้องพยายามฟันฝ่าปัญหาและอุปสรรคที่จะมีเข้ามาไปให้ได้ แต่ต้องบอกว่า ต้องรอจังหวะและโอกาสให้ดี เพราะทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ดังนั้น หากอะไรที่ยังไม่แน่ใจก็ควรนิ่งไว้ก่อน   

การเงิน  :  เหนื่อยนะเนี่ยกว่าจะหาเงินมาได้แต่ละบาท แต่ก็นับว่าสัปดาห์นี้แต้มบุญคุณดี เพราะมีโชคลาภเข้ามาอย่างมั่นคงและมีเข้ามาไม่ขาด รวมถึงทางด้านลงทุนด้วย ก็มีโอกาสหมดไปกับการเลี้ยงดูปูเสื่อลูกน้อง เพื่อนฝูง และมิตรสหาย อย่างไม่ตั้งใจด้วยสิ

ความรัก  :   โรแมนติกตั้งแต่ต้นปีเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวอังคารที่มีคู่ครองอ่อนวัยกว่าด้วยแล้ว สัปดาห์นี้ออดอ้อนกันฉ่ำๆ คนโสด หากใครที่กำลังเบื่อหน่ายกับความรัก สัปดาห์นี้มีลุ้นได้แฟนเด็ก นอกจากหน้าตาดีแล้วการงานยังรุ่ง แถมจิตใจดีอีกต่างหาก ไว้ใจฝากชีวิตไว้ด้วยได้ ไม่ไก่กา

สุขภาพ  :   สัปดาห์นี้แม้คุณจะพยายามดูแลสุขภาพตัวเองอย่างดีอย่างไร แต่ก็ยังมีโอกาสเจ็บไข้ได้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคที่เกี่ยวกับหัวใจ เช่น เส้นเลือดตีบตัน หรือไขมันอุดตันเส้นเลือด รวมถึงโรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลัง จะปวดหลังค่อนข้างมาก  นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับมดลูกอีกด้วย

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :   เข้าสู่สัปดาห์ที่สองของปี ชาวพุธก็ยังคงอยู่ในความดูแลของผู้ใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับราชการ รัฐวิสาหกิจ การเงิน การธนาคาร ประกัน วงการแพทย์และสาธารณสุข หากคุณเป็นคนที่ชอบทำงานที่ใดที่หนึ่งยาวๆ แล้วล่ะก็ นับว่าเข้าทาง เพราะมีโอกาสที่คุณจะได้รับการดูแลอย่างดีจากผู้ใหญ่ผู้หญิงที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้ได้ก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน

การเงิน  :  เป็นไปได้ว่าคุณจะได้งานดีเงินงามจากผู้บังคับบัญชาและทีมงานที่ดี หากคุณเป็นแม่ก็มีโอกาสได้เงินค่าขนมจากลูก แต่หากคุณเป็นลูกก็มีโอกาสที่จะให้เงินแม่ในวาระโอกาสปีใหม่ แต่ก็อย่าหลงเชื่อคนง่าย เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกหลอก

ความรัก  :  สำหรับสัปดาห์วันเด็กแบบนี้ มีโอกาสสูงมากที่คุณจะได้อยู่ท่ามกลางเด็กๆ หรือไม่คุณนั่นล่ะ ที่ต้องเป็นเด็กไปดูแลผู้ใหญ่ นับเป็นสัปดาห์ที่มีความสุขได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัว    คนโสด  สัปดาห์นี้อย่าเพิ่งคิดถึงเรื่องความรักเลยค่ะ เพราะดูเหมือนคุณจะอยู่ในอ้อมอกของผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะแม่ หรือปู่ย่าตายายมากันพร้อมหน้าพร้อมตาเลยค่ะ ส่วนความรักยังต้องดูกันต่อไปแบบเงียบๆ ด้วย

สุขภาพ   :  มีความเสี่ยงที่คุณจะเป็นโรคในช่องปากและระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นปัญหาลุกลามไปถึงระบบย่อยอาหาร หากเพิ่งผ่าตัดหรือผ่าคลอดก็หลีกเลี่ยงการยกของหนัก หรือทำงานหนัก มีความเสี่ยงที่แผลจะได้รับความกระทบกระเทือน

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  นับว่าชาวพฤหัสเริ่มต้นปีแบบฮาร์ดคอร์มากๆ  เพราะเป็นไปได้ว่าคุณจะตัดสินใจทิ้งสิ่งเดิมๆ ไว้กับปีที่แล้ว แล้วเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ในปีนี้ โดยมีเงื่อนไขหลักอยู่ที่เรื่องเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ในสายราชการ พวกทหาร ตำรวจ นักธุรกิจ นักบริหาร รวมถึงวงการแพทย์ นับว่าคุณเลือกไม่ผิด เพราะมีโอกาสโดดเด่นมาก แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความขยันในการฟันฝ่าอุปสรรคและแก้ปัญหาต่างๆ ไปให้ได้ด้วย จึงจะประสบความสำเร็จ สมหวังดังที่ปรารถนาทุกประการ

การเงิน  :  หากสัปดาห์ที่แล้วตกงาน ถังแตก สัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าจะดีขึ้น มีโอกาสที่โชคจะเข้ามาสม่ำเสมอ ด้วยวาสนาและบารมีของคุณเอง แต่ก็ต้องระวัง เพราะก็จะมีเหตุให้คุณต้องเสียเงินเลี้ยงญาติสนิทมิตรสหาย ผู้ใต้บังคับบัญชา

ความรัก  :  หากใครกำลังอกหักรักคุด  ก็ขอให้ทิ้งความทุกข์ไว้กับปีที่ผ่านมา เพราะมีโอกาสที่คุณจะได้พบรักใหม่ ซึ่งพร้อมไปเสียทุกอย่าง ทั้งตำแหน่งหน้าที่การงาน และหลักฐานบ้านช่อง  คนโสด  เช่นกัน หากใครกำลังอกหักรักคุด ก็ขอให้ทิ้งความทุกข์ไปกับปีเก่า เพราะเร็วๆ นี้มีโอกาสที่คุณจะได้พบกับเด็กหนุ่มอนาคตไกล จิตใจดี แถมรวยด้วย

สุขภาพ   :  แม้คุณจะพยายามดูแลรักษาตัวเองดีมากแค่ไหน แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะเจ็บไข้ได้ป่วยจากการทำงานหนัก รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา แล้วไม่ธรรมดาด้วย อย่าประมาท

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :  ขึ้นสัปดาห์ที่สองของปี ชาวศุกร์ยังร้อนแรงได้อีก คุณมีโอกาสบุกเบิกงานหรือธุรกิจใหม่ๆ แบบถึงลูกถึงคน ซึ่งเส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ขณะเดียวกันตกอยู่ท่ามกลางการแก่งแย่งแข่งขันชิงดีชิงเด่น ทั้งในเรื่องตำแหน่งหน้าที่การงาน และผลประโยชน์อย่างบ้าคลั่ง เพราะฉะนั้นการตัดสินใจอย่างรวดเร็วและขาดสติ มีโอกาสที่บริวารจะไม่ซื่อสัตย์ ซึ่งเป็นไปได้ที่งานหรือธุรกิจจะผิดพลาดอย่างไม่น่าเกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้คุณอึดอัดและร้อนรุ่มจนอยากลาออกวันละสามเวลาเลยทีเดียว

การเงิน  :  จริงๆ คุณมีโชคในเรื่องการลงทุนและทรัพย์สินนะเนี่ย แต่ขอเพียงว่าก่อนจะลงทุนอะไรต้องศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อน เพราะไม่เช่นนั้นคุณมีโอกาสที่จะขาดทุน ถึงขั้นเดือดร้อน เงินไม่พอใช้เลย

ความรัก :  บอกได้คำเดียวว่าร้อนแรงและร้าวลึก เป็นไปได้ว่าจะส่งผลจากความประพฤติของคุณด้วย เพราะมีโอกาสที่จะเกิดรักสามเส้าได้ง่ายๆ แล้วมีความความเสี่ยงที่จะจบไม่สวย สิ่งที่คุณไม่เคยได้ยินก็จะได้ยินตอนนี้ล่ะ  คนโสด  ร้อนแรงรับต้นปีแล้วล่ะ เพราะดูทรงแล้วคุณกำลังคิดจะดับหัวใจชน โนสนโนแคร์แม้ว่าเขาจะมีแฟนแล้วก็ตาม ก็ต้องระวัง เพราะมีโอกาสที่จะเกิดศึกชิงนายขึ้นได้ง่ายๆ

 สุขภาพ  :   ระวังจะบาดเจ็บจากของมีคม หรือจากการทะเลาะวิวาท ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะมีผลมาจากความโกรธแค้น หึงหวง โมโห นอกจากจะเสี่ยงเกิดความรุนแรงแล้ว ยังเสี่ยงที่จะเป็นโรคเครียด ปวดศีรษะไมเกรน

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :   ชาวเสาร์ นอกจากจะยังคงอยู่ในโหมดงานหรือธุรกิจที่เกี่ยวกับสาธารณะประโยชน์ สาธารณะกุศล จิตอาสา มูลนิธิที่ช่วยเหลือสังคมแล้ว สัปดาห์ต้นปีแบนนี้ก็มีโอกาสที่คุณจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับงานสายบุญ สายกุศล พิธีกรรม เป็นไปได้ที่จะได้ร่วมงานกับบุคคลที่มีบุญบารมี  แต่อย่าประมาทนะคะ เพราะมีความเสี่ยงที่งานหรือธุรกิจบางตัวจะไปต่อไม่ได้ แต่โดยรวมก็นับว่าดี  

การเงิน  :  ก็ยังคงอยู่กับจิตสาธารณะ ใจบุญใจกุศล ซึ่งก็นับว่าคุณไม่ขาดคนอุปถัมภ์ แต่สัปดาห์นี้มีโอกาสที่เงินจะไม่พอใช้

ความรัก  :   มีโอกาสที่ผู้ใหญ่จะเป็นชนวนเหตูสำคัญให้คุณต้องยุติความสัมพันธ์  เป็นไปได้ว่าเหตุมาจากความหึงหวงอย่างออกนอกหน้าของคุณ คนโสด เช่นกันค่ะ มีความเสี่ยงที่ผู้ใหญ่จะไม่ชอบแฟนคุณ แต่อย่างไรคุณก็เลือกที่จะทำตามใจตัวเองมากกว่า

สุขภาพ   :   ข้ามปีมาแล้ว คุณก็ยังสลัดความอ้วนไม่พ้นจากตัว ทั้งไขมัน เบาหวาน ความดันมารอฉ่ำๆ เลย นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงที่จะเป็นภูมิแพ้อากาศ หายใจติดขัด

ONE BANGKOK COUNTDOWN CELEBRATION 2025 อลังการงานเคาต์ดาวน์ พร้อมลุ้นรางวัลใหญ่ 30 ล้าน ถึง 5 ม.ค. นี้

Alternative Textaccount_circle

เรียกว่าเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์แห่งปีของ One Bangkok ที่ปีนี้นอกจากจะเปิดตัวอลังการแล้ว ยังจัดงาน Countdown ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ONCE – A Moment in Time, A Lifetime of Memories” เมื่อคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ที่ขนทัพศิลปินชื่อดังทั้งไทยและต่างประเทศมาพร้อม 10 โมเมนต์สุดพิเศษ

เปิดฉากด้วย Heartwarming Memories โดย P.O.P ต่อด้วยความสดใสในช่วง Once Upon A Happiness กับ Ink Waruntorn นักร้องสาวเสียงใสที่มาพร้อมกับเพลงฮิตติดหู จากนั้น Jeff Satur ได้พาทุกคนดื่มด่ำไปกับอารมณ์แห่งความรู้สึกที่ไม่มีวันลืมในช่วง Echoes of Emotions ด้วยน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ ก่อนจะส่งต่อความโรแมนติกในค่ำคืนพิเศษนี้กับช่วง A Night to Remember โดย Ling & Orm ที่มาขับกล่อมเพลงรักหวานๆ และสร้างโมเมนต์สุดประทับใจให้กับแฟนคลับ 

ความสนุกยังคงดำเนินต่อไปกับ One Rhythm ที่ทุกหัวใจเต้นเป็นจังหวะเดียวกันไปกับเสียงเพลงจากดีเจ พร้อมตื่นตาตื่นใจไปกับการแสดง Laser และ Projection Mapping บนเวที Time Capsule และบนอาคารต่างๆ ในโครงการ จากนั้นก็ถึงคิวของ BUS because of you i shine ได้พาทุกคนทะยานสู่มิติแห่งความสนุกอันไม่สิ้นสุดในช่วง The Multiverse ตามด้วย The Toys ที่ชวนทุกคนย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลาแห่งวัยเยาว์ที่สดใสในช่วง Record of Youth ก่อนจะออกเดินทางไปในโลกแห่งจินตนาการกับคู่หูรู้ใจ Daou & Offroad ในช่วง Partner in Wanderlust 

ตามมาด้วยช่วงเวลาแห่งความฝันใน Once Upon A Dream กับ Bowkylion ที่สะกดทุกคนด้วยเสียงร้องเปี่ยมเสน่ห์ ก่อนจะถึงช่วงเวลาสุดพิเศษ Carnival of Time กับศิลปิน K-POP ระดับโลก “JAY B” ลีดเดอร์แห่งวง GOT7 และ “JUNNY” ศิลปินและโปรดิวเซอร์มากความสามารถจากเกาหลีใต้ ที่มาร่วมสร้างความทรงจำสุดประทับใจในค่ำคืนส่งท้ายปีครั้งแรกของ วัน แบงค็อก “เมืองกลางใจ” ที่ใจกลางกรุงเทพฯ 

และแล้วก็ถึงช่วงไฮไลต์สำคัญในช่วง Countdown Celebration Moment กับการแสดง “A Sky Full of Joy” ที่เปลี่ยนฟากฟ้าใจกลางกรุงเทพฯให้กลายเป็นผืนผ้าใบแห่งแรงบันดาลใจ ด้วยฝูงโดรนนับร้อยๆ ลำ ที่วาดลวดลายแสงสีบนท้องฟ้าและปิดท้ายด้วยการแสดงพลุแบบ 360 องศา สุดอลังการจากสองบริษัทระดับโลกอย่าง Pyrotex Fireworx และ EDC China 

นอกจากความสนุกสนานและโมเมนต์สุดประทับใจตลอดค่ำคืนแล้ว วัน แบงค็อก ยังได้มอบโปรโมชันสุดพิเศษตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 5 มกราคม 2568 “Shop to the Beats of Bangkok” ให้ลูกค้าได้ร่วมลุ้นรับรางวัลใหญ่ อาทิ รถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์แพ็กเกจห้องพัก Soneva Jani, Maldives, แพ็กเกจทัวร์ล่องเรือยอร์ชจาก Azimut และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

พร้อมร่วมสนุกกับโปรโมชันสุดพิเศษ “Calendar of Wishes” ทุกๆ การใช้จ่าย 1,500 บาทต่อใบเสร็จ รับสิทธิ์เล่นเกมลุ้นรับของขวัญสุดเอ็กซ์คลูซีฟและสิทธิพิเศษมากมาย รวมกว่า 27,300 รางวัล และลุ้นรับรางวัลใหญ่ Big Prize of the Day มูลค่าขั้นต่ำ 10,000 บาท ทุกวัน รวมมูลค่ากว่า 1.3 ล้านบาทค่ะ


จ้าวลู่ซือ

เปิดชีวิตยิ่งกว่าละคร จ้าวลู่ซือ (Zhao Lusi) ป่วยพูดไม่ได้-เดินไม่ได้

Alternative Textaccount_circle
จ้าวลู่ซือ
จ้าวลู่ซือ

ถือเป็นข่าวส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ที่สร้างความตกใจและสร้างความเป็นห่วงให้กับแฟนๆ ทั่วโลก เมื่อมีการเปิดเผยภาพถ่าย จ้าวลู่ซือ (Zhao Lusi) ขณะนั่งอยู่ในโรงพยาบาล โดยภาพของนักแสดงหญิงชาวจีนวัยเพียง 26 ปี นั่งอยู่บนรถเข็น ร่างกายซูบผอม ไม่สามารถขยับตัวได้เอง ทำให้หลายคนต่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ

Zhao Lusi นักแสดงหญิงสุดฮ็อตจากผลงาน เทียบท้าปฐพี, ดาราจักรรักลำนำใจ, แอบรักให้เธอรู้ และผลงานล่าสุด ม่านมุกม่านหยก ต้องเผชิญกับเรื่องไม่คาดฝันในช่วงท้ายปี 2024 เมื่อเธอมีอาการไม่สบายระหว่างการถ่ายทำโปรเจกต์ล่าสุดเรื่อง Almost Lover และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าเธอมีอาการเดินไม่มั่นคง ขณะที่ขาทั้งสองสั่นเมื่อก้าวลงจากรถเมื่อมาถึงโรงพยาบาล

จ้าวลู่ซือ

และหลังจากผ่านไป 10 วัน  เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2567 ต้นสังกัดของนักแสดงสาวจึงได้ออกมาแถลงว่า Zhao Lusi ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายโดยละเอียด และได้รับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์เป็นอย่างดี โดยในตอนนี้นักแสดงสาวจะหยุดกิจกรรมทั้งหมดเพื่อมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูสุขภาพ ซึ่งการเคลื่อนไหวของต้นสังกัดก็ได้อย่างมืออาชีพ ถ้อยคำแถลงเต็มไปด้วยคำชี้แจงและรับผิดชอบ รวมถึงความเป็นห่วงเป็นใยนักแสดงใต้สังกัด

ทว่า!แตกต่างจากความจริง ต้นสังกัดไม่ออกมาจัดการกับข่าวลือที่เล่นงานเธอว่า “เธอมีภาวะซึมเศร้าจนไม่สามารถถ่ายงานได้” ซึ่งความจริงเธอประสบปัญหาสุขภาพย่ำแย่ มีภาวะบกพร่องทางการสื่อสาร หรือ อะเฟเซีย (Aphasia) ซึ่งส่งผลต่อทั้งชีวิตส่วนตัวและอาชีพการแสดง

นั่นทำให้เพื่อนสนิมของนางเอกคนดังทนไม่ไหวออกมาเปิดเผยข้อมูลที่ทำให้หลายคนตกใจจนกลายเป็นประเด็นร้อนในวงการบันเทิงแดนมังกร โดยเพื่อนของ Zhao Lusi ได้โพสต์ แฉว่าต้นสังกัดที่บังคับให้ Zhao Lusi ทำงานหนักทั้งยังทำร้ายร่างกายและจิตใจเธออย่างต่อเนื่อง

“Zhao Lusi ขอความช่วยเหลือให้ฉันรับไปหาเธออย่างด่วน ที่หางโจวฉันเห็นเธอนั่งอยู่บนรถเข็น เธอดูผอมอย่างไม่น่าเชื่อ ฉันรู้สึกหนักอึ้งกับภาพที่เห็น ฉันรู้สึกว่าฉันไม่สามารถเก็บเรื่องนี้ไว้ได้”

“ย้อนกลับไปในปี 2019  Zhao Lusi เดินทางมาที่ปักกิ่งเพื่อออดิชั่นเป็นนักแสดง แต่เธอไม่มีที่พักจึงมาพักที่บ้านของฉัน คืนหนึ่งฉันพบว่าเธอนอนขดตัวอยู่ในห้องนั่งเล่นท่ามกลางความมืด ฉันถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น เธอตอบว่า ‘ฉันไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงตีฉัน ฉันกลัวมาก’”

“Zhao Lusi เปิดปากเล่าให้ฉันฟังว่ามีคนลากเธอเข้าไปในห้องน้ำเพื่อต่อว่าเป็นเวลานาน 2 ชั่วโมง ด้วยข้อตำหนิเช่น อ้วนเกินไปจึงออดิชั่นไม่ผ่าน ไม่เก่งเท่าคนอื่น แม้เธอจะพยายามหนีออกมา แต่คนๆ นั้นกลับดึงตัวเธอไว้ ทั้งตกและดึงผมจนทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวมากๆ”

“จากเหตุการณ์นี้ฉันและ Zhao Lusi อยากจะแจ้งตวามแต่ก็ไม่มีหลักฐาน ทั้งยังไม่กล้าบอกกับครอบครัวเพราะกังวลเกี่ยวกับสัญญาที่อาจจะต้องจ่ายค่าชดเชย วันต่อมา Zhao Lusi ถูกเรียกเข้าบริษัท คนทำบอกกับเธอว่า “ขอโทษ เขาเมา” โดยไม่มีการรับผิดชอบอะไร

และเมื่อย้อนกลับไปดูโพสต์ใน Weibo Zhao Lusi เคยโพสต์ถึงความเจ็บปวดในอดีตว่า “”ตอนเด็กใครๆก็บอกว่าเธอไร้ค่า เลยถูกตีในห้องเรียน เธอคิดว่าเป็นเด็กที่ไม่เก่งจึงถูกตี เธอก็ไม่กล้าพูดออกมาพอโตขึ้นก็ถูกตีอีกเพราะออดิชั่นไม่ได้

อย่างไรก็ตามแฟนคลับ Zhao Lusi ได้ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “จ้าวลู่ซือต้องได้รับการปกป้อง ไม่ใช่ต้องแบกรับคำกล่าวหาลอยๆจากผู้ไม่หวังดี ขอให้ทางกองถ่ายออกมาแถลงการปกป้องน้องด้วย เพราะน้องมีชีวิตเลือดเนื้อหัวใจ มีความรู้สึก ไม่ควรต้องมาแบกรับกับคำครหาต่างๆ  ที่ทำร้ายจิตใจทั้งที่ไม่สะบายแบบนี้”  (ข้อมูล ที่นี่)

#SaveZhaolusi #protectzhaolusi #TruthForZhaoLusi

'โบว์ เมลดา' ขึ้นแท่น Olay Thailand Brand Ambassador คนใหม่ พร้อมออก เซรั่มแห่งปี Olay Super Serum 5 in 1

‘โบว์ เมลดา’ ขึ้นแท่น Olay Thailand Brand Ambassador คนใหม่ พร้อมออก เซรั่มแห่งปี Olay Super Serum 5 in 1

Alternative Textaccount_circle
'โบว์ เมลดา' ขึ้นแท่น Olay Thailand Brand Ambassador คนใหม่ พร้อมออก เซรั่มแห่งปี Olay Super Serum 5 in 1
'โบว์ เมลดา' ขึ้นแท่น Olay Thailand Brand Ambassador คนใหม่ พร้อมออก เซรั่มแห่งปี Olay Super Serum 5 in 1

“เซรั่มแห่งปี” มาถึงประเทศไทยแล้ว! เมื่อ Olay (โอเลย์) แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา ที่ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน จัดอีเว้นท์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ “Olay Super Serum, Super Confident Skin เผยผิวสวยจริง ไม่อิงฟิลเตอร์” เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในไทยเป็นที่แรกของเอเชียกับ Olay Super Serum เซรั่มบำรุงผิวหน้าอันดับ 1 ในอเมริกา* ที่มาพร้อมกับสโลแกน “5 in 1 เสกผิวสวยในขวดเดียว” มอบผลลัพธ์เหมือนใช้เซรั่ม 5 ขวดในขวดเดียว พร้อมเปิดตัว ‘โบว์ เมลดา สุศรี’ ในฐานะ Olay Thailand Brand Ambassador คนใหม่ มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ผิวสวยทุกองศาหลังใช้ผลิตภัณฑ์

“โบว์รู้สึกเป็นเกียรติและขอบคุณทาง Olay ประเทศไทยเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมงานครั้งนี้ค่ะ ผลิตภัณฑ์จาก Olay ดูแลผิวสร้างความมั่นใจและความประทับใจให้กับคนไทยมานาน โบว์เองก็เป็นแฟนโอเลย์ค่ะ ล่าสุด Olay Super Serum ขวดนี้โบว์ได้ลองแล้ว ชอบมากๆ เนื้อเซรั่มเข้มข้นแต่เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนอะหนะผิว รู้สึกถึงผิวได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่ในแง่ความชุ่มชื้น ผิวนุ่มมีความกระชับ ริ้วรอยบนใบหน้าก็แลดูจางลง สีผิวสม่ำเสมอขึ้น หน้าไม่หมองคล้ำ ผิวมีความแลกระจ่างใส แบบใช้ขวดเดียวเสกผิวสวย 5 in 1 ได้จริง เป็นความมั่นที่เสกหน้าสวยในขวดเดียวทำให้โบว์กล้าพูดกับทุกคน ลองกันได้เลยค่ะ” – โบว์ เมลดา ขึ้นแท่น Olay Thailand Brand Ambassador


จัดเต็มส่งท้ายปี! 3 หนุ่ม DPR โชว์สุดปังสมการรอคอย

Alternative Textaccount_circle

จบลงไปแล้วแบบสมการรอคอย กับคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 2 ปีของศิลปินคุณภาพ อย่าง “DPR” (Dream Perfect Regime) กับงาน “THE DREAM REBORN WORLD TOUR 2024 IN BANGKOK” ซึ่งถูกจัดขึ้นไปเมื่อวันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2567 ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5 DREAMers (ดรีมเมอร์: ชื่อกลุ่มแฟนคลับ) ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้การตอบรับเป็นอย่างดีเต็มพื้นที่จัดการแสดง

เปิดเวทีด้วยโชว์จาก “DPR ARTIC” (ศิลปินแนว House, Electronic และ Techno) กับบทเพลง “Dawning” / “SONIC” / “ESCAPE” และ“DREAM” ก่อนแวะพูดคุยทักทายแฟน ๆ ชาวไทย และก็เรียกเสียงกรี๊ดได้ทั้งฮอลล์กับสเตจเพลงที่แฟน ๆ อยากฟังมากที่สุดอย่าง “DO OR DIE” ในเวอร์ชั่น REMIX ถือเป็นการวอร์มเครื่องให้กับเหล่าดรีมเมอร์ได้เป็นอย่างดี

ก่อนส่งต่อเวทีให้กับอีกหนึ่งศิลปินคุณภาพอย่าง “DPR CREAM” (ศิลปินแนว Hiphop) ซึ่งก็จัดหนักจัดเต็มไม่แพ้กัน กับหลากหลายบทเพลงที่แฟน ๆ ร้องตามกันได้ อาทิ “HOW MANY DRINKS?” / “TEST DRIVE” / “UZUZ” / “DARLING” / “I MISS U (TOO BAD)” / “PUBERTY” และ “SAVAGE” เป็นต้น เรียกว่าจัดเต็มกันแบบนอนสต็อป ถือว่าเป็นอีกหนึ่งศิลปินคุณภาพที่ไม่ว่าจะอยู่เบื้องหน้าหรือเบื้องหลังก็ยังคงคุณภาพเช่นเดิม

และก็ถึงคิวของหนุ่มคนสุดท้ายกับตัวพ่อที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่าง “DPR IAN” (ศิลปินแนว Pop, R&B, Rock และ Electronica) เจ้าของบทเพลงฮิตมากมาย ซึ่งงานคอนเสิร์ตในครั้งนี้ก็ไม่ทำให้แฟนชาวไทยต้องผิดหวัง จัดเต็มด้วย SETLIST คุณภาพที่ผ่านการร้อยเรียงมาเป็นอย่างดี อาทิ “Welcome to the Otherside” และเพลงที่ประสบความสำเร็จอย่างมากอย่าง “Don’t go Insane” ต่อด้วย “BAD COLD” / “Peanut Butter & Tears” / “So Beautiful” ที่แฟน ๆ ร้องตามกันได้ทั้งฮอลล์ และก็ไม่ปล่อยให้ได้พัก จัดเต็มกับเพลงคุณภาพอีกมากมาย ทั้ง “Scaredy Cat” / “Nerves” และ “Ballroom Extravaganza” เป็นต้น

ก่อนเข้าสู่ช่วงท้ายของคอนเสิร์ตกับพาร์ทที่แฟน ๆ ทุกคนรอคอยกันมากที่สุด กับการแสดงร่วมกันของทั้ง 3 คนกับบทเพลงสุดฮิตอย่าง “DO OR DIE (DPR CREAM REMIX)” เรียกได้ว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้ฟินและเต็มอิ่มกันถ้วนหน้า สมมงกับชื่อคอนเสิร์ตอย่าง REBORN เพราะการกลับมาประเทศไทยในครั้งนี้ DPR เกิดใหม่อย่างแข็งแรงและเต็มไปด้วยคุณภาพจริง ๆ โดยตลอดทั้งคอนเสิร์ตได้มีวงแบนด์ และ บูธดีเจร่วมสร้างสรรค์ดนตรีสดตลอดทั้งงาน ส่งผลให้เวลาของคอนเสิร์ตได้จบลงไปอย่างรวดเร็ว ขอบคุณดรีมเมอร์ทุกคนที่ได้มาร่วมสร้างความทรงจำดี ๆ ส่งท้ายปีด้วยกัน สามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมและข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ Facebook และ X: @BEX_Concert จนกว่าจะพบกันใหม่

CR.BOON

ผิวดีข้ามปี! แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะวิธีฟื้นบำรุงและ ล็อคความเนียนนุ่มชุ่มชื้น

ผิวดีข้ามปี! แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะวิธีฟื้นบำรุงและ ล็อคความเนียนนุ่มชุ่มชื้น

Alternative Textaccount_circle
ผิวดีข้ามปี! แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะวิธีฟื้นบำรุงและ ล็อคความเนียนนุ่มชุ่มชื้น
ผิวดีข้ามปี! แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะวิธีฟื้นบำรุงและ ล็อคความเนียนนุ่มชุ่มชื้น

การมีผิวสวยสุขภาพดีช่วยเสริมความมั่นใจได้เป็นอย่างดี แต่บ่อยครั้งที่เราต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ มลภาวะ การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ รวมถึงการปรนนิบัติดูแลผิวแบบไม่ถูกวิธี อาจทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ส่งผลให้เกราะป้องกันตามธรรมชาติของผิวอ่อนแอลง ผิวจึงดูหมองคล้ำ ขาดชีวิตชีวา รวมถึงอาจเกิดปัญหาผิวอื่นๆ ตามมาได้อีกมากมาย แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและความงาม ‘ธัญ’ (THANN) ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แพทย์หญิงอณัฏฐ์ชา อัศดามงคล แนะวิธี “ฟื้นบำรุงและล็อคความเนียนนุ่มชุ่มชื้นด้วยเทคโนโลยี Double moist, Double lock”

ผิวที่มีความชุ่มชื้น คือ กุญแจสู่ผิวสวยสุขภาพดี เพราะผิวที่มีความชุ่มชื้นเพียงพอส่งผลให้ผิวมีความแข็งแรง ลดการเกิดปัญหาผิว ปกติแล้วผิวหนังของเราจะมีการสร้างมอยส์เจอร์ไรเซอร์ได้เองตามธรรมชาติ โดยจะสร้างสารที่เรียกว่า Natural Moisturizing Factors หรือ NMF คือ สารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในผิวหนังของเรา ทำหน้าที่เป็นตัวดึงความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้ผิวสามารถรักษาสมดุลของน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย NMF เป็นส่วนประกอบสำคัญของเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ที่ช่วยป้องกันผิวจากสิ่งสกปรกและมลภาวะ แต่ก็อาจมีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ระคายเคือง และอักเสบได้ง่าย

  • ปัจจัยภายใน
    • อายุที่มากขึ้น ส่งผลให้การผลิตน้ำมันตามธรรมชาติและไขมันที่ทำหน้าที่กักเก็บความชุ่มชื้นลดลง
    • พันธุกรรมเป็นตัวกำหนดปริมาณและคุณภาพของ NMF ในชั้นผิว
    • โรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis) โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) โรคต่อมไขมันอักเสบ (Seborrheic dermatits) เป็นต้น ส่งผลให้ร่างกายเสียสมดุลการสร้างไขมันใต้ชั้นผิวหนัง ผิวจึงขาดความชุ่มชื้น
    • การขาดสารอาหารอย่างขาดโอเมก้า-3 หรือวิตามินอีและซี ทำให้ผิวไม่สามารถรักษาความชุ่มชื้นได้
    • ความเครียด ส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่ไปรบกวนสมดุลของน้ำในผิว
  • ปัจจัยภายนอก
    • อากาศและสภาพแวดล้อมที่แห้ง เย็น หรือหนาวจัด รวมถึงการอยู่ในห้องปรับอากาศเป็นเวลานานก็ส่งผลให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย
    • แสงแดดและรังสียูวี ทำลายเกราะป้องกันผิวและลดความสามารถในการกักเก็บน้ำของผิว
    • การล้างหรือขัดผิวบ่อยเกินไป ทำให้เซลล์ผิวและน้ำมันที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นถูกทำลาย
    • ฝุ่น ควันและมลภาวะในอากาศจะกระตุ้นให้เกิดอาการระคายเคืองและลดความชุ่มชื้นในผิว
    • การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีความรุนแรง จะทำให้ผิวสูญเสียน้ำมันตามธรรมชาติไป
    • การอาบน้ำอุ่นจัดหรือน้ำร้อน ทำให้น้ำมันตามธรรมชาติบนผิวถูกชะล้างออกไป ผิวจึงแห้งตึง

ซึ่งเราสามารถเพิ่มระดับความชุ่มชื้นและป้องกันการสูญเสียน้ำของผิวได้ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่

  • ชนิดปิดกั้นไม่ให้น้ำซึมผ่าน(Occlusives) ทำหน้าที่เหมือนฟิล์มเคลือบผิวหนัง ป้องกันไม่ให้ความชื้นที่ผิวหนังระเหยไป มีประสิทธิภาพในการรักษาความชุ่มชื้นที่ผิวหนังได้ถึง 98% แต่เมื่อโดนน้ำก็จะละลายหรือหลุดออกง่าและต้องทาซ้ำอยู่บ่อยๆ อาจทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะและสร้างความรำคาญได้ ตัวอย่างเช่น Petrolatum, Mineral oil, Paraffin, Dimethicone เป็นต้น
  • ชนิดเคลือบผิวหนัง(Emollients) ลักษณะใกล้เคียงกับ Occlusives ต่างกันที่สามารถซึมลงสู่ชั้นผิวหนังได้ ทำหน้าที่ควบคุมระดับความชื้นของผิวให้กลับมาสู่สภาวะปกติ โดยจะเติมร่องผิวชั้นนอกช่วยให้ผิวเรียบเนียนนุ่มตัวอย่างเช่น Rice bran oil, Cocao butter, Ceramides เป็นต้น
  • ชนิดดูดซับน้ำจากอากาศ(Humectants) ทำหน้าที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังชั้นนอกด้วยการดักจับน้ำหรือความชื้นในอากาศหรือดึงน้ำจากผิวชั้นใน โดยมักจะใช้ร่วมกับส่วนผสมอื่น เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้น ตัวอย่างเช่น Myrothamnus (สารสกัดจากพืชทะเลทราย), Aloe vera เป็นต้น

นอกจากการเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวแล้ว ควรให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองเพิ่มเติมอย่างเหมาะสมควบคู่ไปด้วย อาทิ

  • ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ เพื่อทดแทนน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป สามารถคำนวณได้จากน้ำหนักตัว (ก.ก.) x 33 =… ซีซี (1,000 ซีซี = 1 ลิตร, 1 ลิตร = 4 แก้ว)
  • หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนนานเกินไป เพราะน้ำร้อนจะชะล้างน้ำมันตามธรรมชาติบนผิว ทำให้สูญเสียความชุ่มชื้นและผิวจะแห้งมากยิ่งขึ้น
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ปลาทะเล ผัก ผลไม้ ธัญพืช ผลไม้ตระกูลเบอรี่
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเองได้เต็มที่
  • ปกป้องผิวจากแสงแดด โดยทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30+ ทุกวัน เพื่อป้องกันรังสี UV ที่ทำลายผิว
  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวไม่มีสารเคมีรุนแรงและมีค่า pH ใกล้เคียงกับผิว
หฤทัย ไชยันต์ ณ อยุธยา, แพรวปรียา ชุมสาย ณ อยุธยา และฐานิดา มานะเลิศเรืองกุล

นอกจากนี้เหล่าเซเลบริตี้คนรักผิวยังได้ร่วมเผยเคล็ดลับการดูแลสุขภาพผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้น เพื่อให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์เริ่มที่ คุณแพรวปรียา ชุมสาย ณ อยุธยา เผยว่า “ช่วงปีใหม่นี้มายด์แพลนว่าจะไปเล่นสกีที่ประเทศญี่ปุ่น แน่นอนว่าจะต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเย็น และมายด์เองเป็นคนที่มีสภาพผิวผสมค่อนข้างแห้ง ทำให้ต้องใส่ใจเรื่องการดูแลบำรุงผิวมากเป็นพิเศษ โดยจะเน้นเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วย Earl Grey Infusion Rice Extract Body Milk จาก THANN ที่มีเทคโนโลยี Double moist, Double lock ช่วยเติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้เป็นอย่างดี ทำให้มั่นใจได้เลยว่าผิวยังคงความเนียนนุ่มชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี มาพร้อมกลิ่นหอมที่มอบความสดใสมีชีวิตชีวาด้วยส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติจาก Lavender, Bergamot, Clary sage และ Cardamom ค่ะ”

ต่อมาที่ คุณหฤทัย ไชยันต์ ณ อยุธยา เล่าว่า “ปอนด์เป็นคนที่มีผิวแห้งมาก เรียกได้ว่าถ้าไม่ได้บำรุงผิวก็จะแห้งแตกเป็นขุยได้ง่าย ทำให้ปอนด์ต้องใส่ใจในการดูแลผิวตัวเองเป็นพิเศษ โดยพยายามเลี่ยงการอาบน้ำร้อนจัด รวมถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติที่เน้นเรื่องการเพิ่มและคงความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วงปลายปีก็มีโอกาสไปท่องเที่ยวชมพิระมิดและมัมมี่ที่ประเทศอียิปต์ ทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจและสนุกมาก แต่ด้วยสภาพอากาศที่ค่อนข้างเปลี่ยนแปลงบ่อยในช่วงกลางวันที่ร้อนมากและอากาศจะหนาวเย็นในช่วงกลางคืน ส่งผลให้ผิวของปอนด์ยิ่งแห้งกร้านได้ง่ายกว่าปกติ แต่ปอนด์มีตัวช่วยอย่าง Earl Grey Infusion Rice Extract Body Milk ของ THANN ที่มีเทคโนโลยี Double moist, Double lock นอกจากจะช่วยให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้นแล้ว ยังช่วยล็อคความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้อีกด้วย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องผิวแห้งกร้านที่เกิดจากสภาพอากาศค่ะ”

ปิดท้ายที่ คุณฐานิดา มานะเลิศเรืองกุล เผยว่า “ช่วงนี้มีโอกาสได้เดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ เพื่อถ่ายทำคอนเทนต์ ล่าสุดก็มีโอกาสได้เดินทางไปประเทศนิวซีแลนด์ช่วงปลายปี เป็นช่วงที่อากาศดีมากแต่ก็ค่อนข้างหนาวเย็น แน่นอนว่าอากาศที่หนาวเย็นย่อมส่งผลให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ประกอบกับส่วนตัวพิมฐาเองก็เป็นคนที่ชอบอาบน้ำร้อนและอยู่ในห้องแอร์เป็นประจำ ยิ่งทำให้ผิวมีโอกาสที่จะแห้งกร้านได้มากกว่าปกติ จึงจำเป็นต้องดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายอยู่ตลอดเวลา โดยจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดและน้ำมันธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูและเติมเต็มความชุ่มชื้นสู่ผิวอย่าง Earl Grey Infusion Rice Extract Body Milk ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Double moist, Double lock ทำให้สามารถกักเก็บความเนียนนุ่มชุ่มชื้นได้ยาวนาน และยังมีกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติที่ช่วยสร้างความสดใสมีชีวิตชีวาที่ได้จาก Lavender, Bergamot, Clary sage และ Cardamom ด้วยค่ะ”


ส่งท้ายปี ฟอส – บุ๊ค – เพิร์ธ – แซนต้า – จูเนียร์ – มาร์ค ซีรีส์ สายรหัสเทวดา

account_circle

#PraewDigitalCover แพรว เสิร์ฟความฮ็อตกับภาพแฟชั่นเซ็ตพิเศษส่งท้ายปีของ “ฟอส – บุ๊ค – เพิร์ธ – แซนต้า – จูเนียร์ – มาร์ค” จากซีรีส์ “สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners”

กำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ สำหรับซีรีส์ “สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners” ที่นำแสดงโดย “ฟอส – จิรัชพงศ์ ศรีแสง, บุ๊ค – กษิดิ์เดช ปลูกผล, เพิร์ธ – ธนพนธ์ สุขุมพันธนาสาร, แซนต้า – พงศภัค อุดมโภชน์, จูเนียร์ – ปณชัย ศรีอาริยะรุ่งเรือง และ มาร์ค – จิรันธนิน ตรัยรัตนยนต์”

แพรว ขอเอาใจแฟนๆ เสิร์ฟความฮ็อตของ 6 นักแสดงนำ กับภาพแฟชั่นเซ็ตพิเศษส่งท้ายปี

Perfect 10 Liners

เรื่องราวในรั้วมหาวิทยาลัยอันแสนวุ่นวายของหนุ่มวิศวะ เมื่อมี สายรหัสเทวดา ที่รวมคนหน้าตาดีเข้ามาอยู่ด้วยกัน! น้องอาร์ม (รับบทโดย บุ๊ค กษิดิ์เดช) รับบทเป็นแอดมินเพจ Engineer Cute Boy แต่ดันลงรูปลุงรหัสที่เป็นสิ่งต้องห้ามคือ พี่อาร์ค (รับบทโดย ฟอส จิรัชพงศ์) “เทวดาสายโหด” ในขณะที่ กรรณ (รับบทโดย แซนต้า พงศภัค) มีปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับในที่มืด แต่มี “เทวดาสายลึกลับ” โยธา (รับบทโดย เพิร์ธ ธนพนธ์) น้องรหัสของอาร์มที่อาสายอมย้ายมาเป็นรูมเมทห้องเดียวกัน และสุดท้าย “เทวดาสายอาภัพ” น้องไวน์ (รับบทโดย มาร์ค จิรันธนิน) มีพี่รหัสอย่างโยธาที่ดันไม่มีเวลามาใส่ใจ กลับได้ พี่ไฟฟ้า (รับบทโดย จูเนียร์ ปณชัย) น้องชายของพี่รหัสมาดูแลแทน! ความสัมพันธ์และความรักทั้ง 3 คู่ ของสายรหัสเทวดาในรั้วคณะวิศวะจะเป็นอย่างไร

ติดตามพวกเขาได้ใน “สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners” ทุกวันอาทิตย์ เวลา 20:30 น. ทางช่อง GMM25 และรับชมพร้อมกันทาง Youtube : GMMTV OFFICIAL

  • Digital Editor & สไตล์ : Minim
  • ช่างภาพ : Vorason Dvi-vardhana
  • ผู้ช่วยช่างภาพ : ศักดินนท์ ปิตะฝ้าย
  • ผู้ช่วยสไตลิสต์ : ชัญญาภัค เขมหิรัญกิจ
  • เสื้อผ้า Fendi , Celine , Loewe , Zegna , Givenchy , Saint Laurent , Dolce & Gabbana

2 ไอเท็มสุดปัง! จาก Vivite โรลออนและบอดี้เซรั่มปรับผิวไบร์ทใน 7 วัน

account_circle

Praew Survey รอบนี้มาพร้อมกับการอวยยศ 2 ไอเท็มสุดปัง! จาก Vivite วีไวต์ที่ยืนหนึ่งเรื่องความกระจ่างใส Vivite Super Vitamin Niacinamide Body Serum และ Vivite Super Vitamin Charming Whitening Roll On คู่หูกู้ผิวไบร์ทที่คอนเฟิร์มความจึ้งจนมงลง! คว้ารางวัลจากเวทีความงามแห่งปี Praew Iconic Beauty 2024

โดย Vivite Super Vitamin Niacinamide Body Serum ได้รับรางวัลในสาขา Iconic Extra Brightening Body Serum ส่วน Vivite Super Vitamin Charming Whitening Roll On มาวินในสาขา Iconic Extra Brightening Roll On เรียกว่าเริ่ดคูณสอง ต้องปรบมือให้รัวๆ เลยค่ะ

สำหรับบอดี้เซรั่ม Vivite Super Vitamin Niacinamide Body Serum ช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสใน 7 วัน โดดเด่นด้วยส่วนผสมอย่าง Niacinamide Concentrated ที่ช่วยบูสต์ผิวคล้ำเสียให้กระจ่างใส บวกกับ Natural PHA สารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน อีกทั้งยังมี Encapsulated Kojic Acid ที่ช่วยให้ผิวไบรท์ และ Vitamin E เข้มข้นที่ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผิว นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับกลิ่นหอมติดทนด้วยน้ำหอมจาก Natural Essential Oil

ส่วนโรลออนก็จัดเต็มส่วนผสมเช่นกัน โดย Vivite Super Vitamin Charming Whitening Roll On ช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสใน 5 วัน พร้อมปกป้องกลิ่นได้ยาวนานถึง 72 ชั่วโมง มาพร้อมกับ Niacinamide 20X ที่ช่วยบูสต์ผิวใต้วงแขนให้กระจ่างใส และ Natural PHA สารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวใต้วงแขนอย่างอ่อนโยน อีกทั้งยังมี Nano White Technology สารสกัดที่มีอนุภาคเล็กระดับนาโน ช่วยให้ผิวกระจ่างใสได้ดียิ่งขึ้น และ 7 Botanical Skin Soothing สารสกัดเอกสิทธิ์เฉพาะจากเกาหลี ช่วยปรับผิวเรียบเนียน ชุ่มชื้น

เมื่อพูดถึงผิวใต้วงแขน ก็ต้องไม่ลืมเรื่องกลิ่นและความอับชื้น ซึ่ง Vivite Super Vitamin Charming Whitening Roll On ช่วยลดเหงื่อและปกป้องกลิ่นกาย 72 ชั่วโมงด้วย Triple Protect และมี Natural Odor Lock เทคโนโลยีที่ช่วยลดกลิ่นกายขั้นสุดด้วยสารสกัดธรรมชาติ ที่เริ่ดไปอีกคือมาพร้อมกับ Moment Serum Technology ที่มอบกลิ่นหอมละมุน ฟีลกลิ่นดอกไม้ ดังนั้นใครอยากอัพผิวใต้วงแขนให้ไบรท์และเสริมความมั่นใจตลอดวัน ขอบอกเลยว่าต้องมี!

เรียกว่าช่วยเปิดโหมดไบร์ทให้ผิวได้แบบทำถึง! จึ้งสุดทั้งบอดี้เซรั่มและโรลออน สมดีกรีเจ้าของรางวัลบิวตี้แบบไม่มีผิดหวัง 


Oakley

Oakley ‘Born to Rewild’ ปลุกจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยให้กลับมาอีกครั้ง

account_circle
Oakley
Oakley

Oakley คอลเล็คชั่น ‘Born to Rewild’ หลุดพ้นจากความน่าเบื่อของเมืองใหญ่ ปลุกจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยให้กลับมาอีกครั้งด้วยแว่น Plantaris และ Latitude Flex Vest รุ่นใหม่ล่าสุด

เมื่อโลกที่กีฬาและไลฟ์สไตล์มาบรรจบกัน Oakley จึงภูมิใจนำเสนอ Born to Rewild คอลเล็คชั่นแห่งอนาคตที่ถือกำเนิดจากวิวัฒนาการอันไร้กรอบจำกัดคอลเล็คชั่นนี้จะเดินรอยตามลิขิตในการพลิกฟื้นความเชื่อมโยงกับธรรมชาติแต่ก่อนเก่า โดยเป็นสัญลักษณ์ถึงการเตรียมพร้อมเผชิญสิ่งเหนือคาดฝัน และความทุ่มเทในการรักษาจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยเอาไว้ในทุกแง่มุมของชีวิตตัวชูโรงในคอลเล็คชั่นนี้คือแว่นตา Plantaris และ Latitude Flex Vest ที่ท้าทายแนวทางวิศวกรรมและการออกแบบเดิมๆ โดยปรับให้เข้ากับผู้สวมใส่ที่กำลังสำรวจโลกกว้างแม้จะเป็นในเมืองอันแสนจำเจคอลเล็คชั่นนี้เป็นตัวแทนอนาคตที่ดีกว่าในทรรศนะของ Oakley นั่นคือการฉีกกรอบเดิมๆ เพื่อเปิดรับเรื่องราวแปลกใหม่ในชีวิต

แว่นตา Plantaris แหวกขนบเดิมๆ โดยขยับธรรมชาติเข้ามาใกล้ตัวผู้สวมใส่ด้วยเฉดสี Matte Trans Fern/Matte Dark Brush เติมเต็มด้วย เลนส์ Prizm Tungsten การออกแบบเลนส์คู่ให้โค้งสูงได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดไบโอมิเมติกส์และรูปทรงที่พบเห็นได้ในธรรมชาติ ถือเป็นวิวัฒนาการหนึ่งจากแว่นตาในช่วงปี 2000 ต้นๆที่ปรับตัวเพื่อเพิ่มประโยชน์ใช้สอยและความสบายในการสวมใส่กรอบที่มีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์และปลายขาที่เป็นแกนสายซิลิโคนเลียนแบบมาจากขากบ ช่วยให้กรอบแว่นยึดเกาะศีรษะได้ยาวนานโดยแทบจะไร้น้ำหนักสัมผัส แถบป้องกันจมูกแบบถอดออกได้ช่วยเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานทั้งยังเปลี่ยนรูปลักษณ์ของแว่นให้เหนือความคาดหมายและสารพัดประโยชน์ได้ในทันที กรอบยังวางจำหน่ายในสีอื่นๆ ได้แก่ Matte Stonewash, Matte Black และ Matte Sand

ในทางกลับกัน แว่นตา Lateralis ยังคงการออกแบบเชิงประติมากรรมที่พบใน Plantaris ด้วยเช่นกัน แต่มาในรูปแบบที่เรียบง่ายมากขึ้นเพื่อให้เหมาะกับผู้สวมใส่ในวงกว้างซึ่งการออกแบบตัวขาแว่นนั้นก็ยังคงความสวยงามในแบบเดียวกันLatitude Flex Vest เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคใหม่ของเครื่องแต่งกายจาก Oakley โดยมีจุดเด่นที่รูปแบบ ฟังก์ชัน และประโยชน์ใช้สอย โดยเป็นตัวชูโรงของคอลเล็คชั่น Latitude ไลน์เสื้อนอกสำหรับการใช้งานเฉพาะที่ได้รับอิทธิพลจากการเคลื่อนไหว เสื้อกั๊กรุ่นนี้ออกแบบมาเป็นพิเศษให้ใส่ได้หลายชั้นตามสภาพอากาศกลางแจ้งโดยอัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติให้พร้อมลุยไปทุกที่และมีช่องเก็บสิ่งของมากมาย

นอกจากมีประโยชน์แล้ว เสื้อกั๊กรุ่นนี้ยังปรับเปลี่ยนได้สารพัด โดยมีระบบกระเป๋าอเนกประสงค์พร้อมสายรัดด้านข้างที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อปรับให้พอดีและพกพาได้สะดวก มีกระเป๋าตาข่ายแน่นหนา 3 มิติเพื่อใส่แว่นตา และกระเป๋าซิปขนาดใหญ่ที่ด้านหลัง ให้จัดเก็บและจัดระเบียบสิ่งของจำเป็นได้ดียิ่งขึ้นโดยไม่เทอะทะ ซิปโลหะกันน้ำแบบย้อนกลับและตะเข็บเชื่อมติดซึ่งเย็บและใส่แผงป้องกันการเสียดสี ช่วยเพิ่มการปกป้องในทุกสภาพอากาศ ปิดท้ายด้วยตัวล็อกแม่เหล็กที่สายรัดหน้าอกเพื่อให้ปิดได้ง่าย ก้าวจากชีวิตคนเมืองไปผจญภัยได้ทุกที่ เพราะเสื้อกั๊กรุ่นนี้สามารถแปลงร่างเป็นกระเป๋าเป้สะพายหลังที่มีหูหิ้วในตัวได้เลย


keyboard_arrow_up