Drag Race Thailand Season 3

แฟรงกี้ วองก้า คว้าตำแหน่ง Thailand’s Next Drag Superstar

Alternative Textaccount_circle
Drag Race Thailand Season 3
Drag Race Thailand Season 3

รายการเรียลลิตี้ระดับโลก Drag Race Thailand Season 3 ปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ในงาน “Drag Race Thailand Season 3 – The Finale Xclusive Viewing Party” ซึ่งจัดขึ้น ณ SF Central World กรุงเทพฯ โดยได้รับการสนับสนุนจาก World of Wonder (WOW), Yellow Channel, SF Corporation และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ซึ่งมุ่งหวังส่งเสริมวัฒนธรรมแดร็กในการยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยสู่เวทีโลก

Drag Race Thailand Season 3

นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า “วัฒนธรรมแดร็กสะท้อนความคิดสร้างสรรค์และพลังอันยิ่งใหญ่ของคนรุ่นใหม่ การร่วมมือในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ยกระดับแดร็กไทยสู่เวทีโลก แต่ยังช่วยเสริมเสน่ห์ใหม่ให้การท่องเที่ยวไทย พร้อมสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสมุมมองที่แตกต่างของไทย ตอบรับแคมเปญการท่องเที่ยวปี 2025 – Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year ของ ททท. ที่ต้องการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางมาสัมผัสประสบการณ์กิจกรรมท่องเที่ยว 5 Must – Do in Thailand ประกอบด้วย ต้องชิม (Must Taste) ต้องลอง (Must Try) ต้องช้อป (Must Buy) ต้องแสวงหา (Must Seek) และ ต้องชม (Must See)”

โดยผู้คว้าตำแหน่ง Thailand’s Next Drag Superstar คนที่ 3 คือ แฟรงกี้ วองก้า (Frankie Wongka) ที่โดดเด่นด้วยความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ ได้รับรางวัลเงินสด 650,000 บาท ผลิตภัณฑ์จาก Anastasia Beverly Hills ฟรีตลอดปี และมงกุฎคฑาประจำตำแหน่ง ขณะที่ซีพี (Zeepee) ได้รับตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง

สำหรับซีซั่นนี้เต็มไปด้วยการแข่งขันที่ดุเดือดจากเหล่าแดร็กควีน 11 คนที่มาพร้อมความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ ได้แก่ Benza Diva, Frankie Wongka, Gawdland, Gigi Ferocious, Kara Might, Nane Sephera, Siam Phusri, Shortgun, Spicy Sunshine, Srirasha Hotsauce และ Zeepee ท่ามกลางเสียงชื่นชมจากผู้ชมและกรรมการมากมาย

และหนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือการประกาศว่า แฟรงกี้ วองก้า, ซีพี และโฮสต์หลักของรายการ แพนไจนา ฮีลส์ (Pangina Heals) จะเป็นตัวแทนประเทศไทยร่วมงาน RuPaul’s DragCon UK ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษในเดือนมกราคม 2568 ซึ่งถือเป็นเทศกาลสำคัญระดับโลกที่รวบรวมเหล่าแดร็กควีนชื่อดังจากหลากหลายซีซั่นมาร่วมเฉลิมฉลองวัฒนธรรมแดร็ก เปิดโอกาสให้แฟนๆ ทั่วโลกได้สัมผัสเบื้องหลังและแรงบันดาลใจของพวกเขา

นอกจากนี้ภายในงานเฉลิมฉลอง The Finale Xclusive Viewing Party มีการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจจากเหล่าแดร็กควีนทุกซีซั่น พร้อมแฟชั่นโชว์สุดพิเศษ และการปรากฏตัวของแขกรับเชิญชื่อดัง เช่น ติช่า กันติชา, ซิลวี่ ภาวิดา และ มิ้น มิณฑิตา รวมถึงทีมกรรมการหลักของรายการอย่าง คุณช่า บันทึกของตุ๊ด, คุณอ๊าท อารยา และ คุณป๋อมแป๋ม นิติ บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยพลังแห่งการเฉลิมฉลองและแรงบันดาลใจ เพราะการจัดงานในครั้งนี้ไม่เพียงเฉลิมฉลองแดร็กคัลเจอร์ในประเทศไทย แต่ยังเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยผลักดันประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางที่เปิดกว้างและหลากหลาย พร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกด้วยประสบการณ์ที่แตกต่างและน่าจดจำ

Praew X’mas Gift

Praew X’mas Gift มอบความสุข แจกของขวัญส่งท้ายปี มูลค่ากว่า 2 แสน

Alternative Textaccount_circle
Praew X’mas Gift
Praew X’mas Gift

Praew X’mas Gift ซานตาแพรว มอบความสุขให้แฟนๆ แจกของขวัญส่งท้ายปี มูลค่ารวมกว่า 2 แสนบาท!

กติกา
▪️เพียงโพสรูปคู่กับปกนิตยสารแพรวที่คุณชอบ (เฉพาะนิตยสารแพรว ฉบับ ม.ค. 67 – ธ.ค. 67) พร้อมแคปชั่นบรรยายความรู้สึก และติดแฮชแทค #PraewXmasGift2024 ทาง Facebook และ IG
▪️ นิตยสารแพรว จะคัดเลือกผู้โชคดีจากแฮชแทค จำนวน 24 รายชื่อ (ทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกของรางวัล)
▪️ ร่วมสนุกได้ ตั้งแต่ วันที่ 25 – 31 ธ.ค. 67
▪️ ประกาศรางวัลผู้โชคดี วันที่ 6 ม.ค. 68 ทาง www.praew.com (จัดส่งของรางวัลเฉพาะที่อยู่ในประเทศไทยเท่านั้น)

ลำโพง Mania จาก Devialet มูลค่า 39,000 บาท / จำนวน 1 รางวัล
Praew X’mas Gift
ลำโพง Stanmore III และหูฟัง Motif A.N.C. จาก Marshall มูลค่า 25,980 บาท / จำนวน 1 รางวัล
บัตรที่พัก 1 คืน ห้อง Ayutthaya Suite พร้อมอาหารเช้า และเซต Afternoon Tea สำหรับ 2 ท่าน จาก 137 Pillars Bangkok มูลค่า 24,130 บาท / จำนวน 2 รางวัล
เซตสกินแคร์ มูลค่า 6,600 บาท / จำนวน 6 รางวัล
น้ำหอม Chérie จาก Kate Spade มูลค่า 5,200 บาท / จำนวน 1 รางวัล
น้ำหอม Le Sel d’Issey จาก Issey Miyake มูลค่า 4,400 บาท / จำนวน 1 รางวัล
แว่นตาชั้นนำจาก EssilorLuxottica มูลค่ากว่า 3,000 บาท / จำนวน 6 รางวัล
บัตรรับประทานอาหารจาก KFC มูลค่า 2,500 บาท / จำนวน 2 รางวัล
บัตรรับประทานอาหารจาก MK Restaurants มูลค่า 2,500 บาท / จำนวน 2 รางวัล
บัตรรับประทานอาหารจาก Salad Factory มูลค่า 2,500 บาท / จำนวน 2 รางวัล

PraewXmasGift2024 #Praewmag

แชร์พิกัดไม่ลับเนรมิตฟันสวย Bangkok International Dental Center ศูนย์ทันตกรรมเพื่อความงามครบวงจรที่ช่วยให้ยิ้มกว้างได้อย่างมั่นใจในแบบซุปตาร์

account_circle

ไม่ว่าเราจะอยู่ในวัยใด วัยเด็ก วัยผู้ใหญ่ วัยเรียน วัยทำงาน สุขภาพของช่องปากมักเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ แล้วยิ่งถ้าเป็นวัยทำงานที่ต้องพบปะพูดคุยมากขึ้น ยิ่งต้องมีบุคลิกภาพที่ดี เพราะความประทับใจแรก เริ่มต้นที่รอยยิ้ม นอกจากไม่ควรมีปัญหาเรื่อง กลิ่นปาก ฟันผุ เหงือกอักเสบ ฟันเหลือง ฟันแตก ฟันบิ่น ฯลฯ ที่อาจส่งผลให้ขาดความมั่นใจในตนเองแล้ว การมีฟันเรียงสวยและขาวสะอวดน่ามองก็ย่อมเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ แต่ชีวิตประจำวันในวัยทำงานบางครั้งของใครหลายคนก็อาจทำให้หลงลืมดูแลสุขภาพช่องฟันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ มักจะมีพฤติกรรมการกินจุบกินจิบ หรือการอมลูกอมทำให้เสี่ยงต่อการฟันผุ ละเลยการแปรงฟันทำให้เกิดโรคเหงือกอักเสบได้ การเคี้ยวฟันโดยไม่รู้ตัวขณะเครียดเสี่ยงต่อการเกิดฟันบิ่นหรือแตกหัก บางคนดื่มชากาแฟทุกวันทำให้ฟันมีคราบสีเกาะติดตามผิวฟันและซอกฟันดูแล้วไม่สวยงามเวลายิ้ม ปัญหาภายในช่องปากหลายๆ ประการก็ถือเป็นสาเหตุของกลิ่นปากและทำให้เสียบุคลิกภาพได้

แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะ Praew Survey จะพาไปทัวร์ศูนย์ทันตกรรม บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล เดนทัล เซ็นเตอร์ (Bangkok International Dental Center (BIDC)) ที่มุ่งเน้นการทำทันตกรรมเพื่อความงาม ออกแบบ และสร้างรอยยิ้มให้สวยงาม พร้อมเพิ่มความมั่นใจ โดยใช้เทคโนโลยี และทันตกรรมดิจิทัลที่ทันสมัย เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาพร้อมมีแลปทันตกรรมรองรับ สำหรับการทำวีเนียร์และครอบฟันเซรามิก เพื่อให้การบริการเป็นไปอย่างรวดเร็วและคุณภาพสูง ศูนย์ทันตกรรม BIDC ตั้งอยู่ย่านธุรกิจ เดินทางสะดวก รัชดาภิเษก อาคาร 7 ชั้น ห้องตรวจรักษากว่า 20 ห้อง ด้วยความชำนาทญการและการให้บริการระดับมืออาชีพ ศูนย์ทันตกรรม BIDC จึงเป็นผู้นำด้านทันตกรรมอันดับต้นๆ ในประเทศไทย

โดยที่ศูนย์ทันตกรรม BIDC เป็นศูนย์ทันตกรรมแห่งแรก ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก Joint Commission International (JCI) ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากลในการดูแลผู้ป่วยและความปลอดภัย ตั้งแต่ปี 2012 ต่อเนื่องยาวนานจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ BIDC ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO และรางวัลอื่นๆ อาทิ รางวัลนายกรัฐมนตรีจากรัฐบาลไทย และ Thailand Trustmark จากกระทรวงพาณิชย์ รวมถึง Global Health & Travel Awards ที่ทำให้ BIDC เป็นศูนย์ทันตกรรมที่มีความเป็นเลิศ

สำหรับคนที่สนใจอยากทำวีเนียร์เพื่อปรับบุคลิกภาพให้ดีขึ้น ขอแนะนำวีเนียร์เซรามิกหรือที่เรียกว่า “Hollywood Smile Makeover” เป็นการรักษาที่ได้รับความนิยมจากนักแสดง คนดัง และผู้รับบริการที่เข้ามาฟื้นฟูรอยยิ้ม โดยแก้ไข ฟันที่แตก บิ่น รูปร่างฟันที่ไม่สวย ฟันเหลือง ไปจนถึงปรับรอยยิ้ม โดยใช้วีเนียร์ซึ่งเป็นแผ่นเซรามิกบางๆ ติดทับบนผิวฟัน นอกจากนี้ยังสามารถเลือกระดับความขาวของฟันได้ ออกแบบรูปร่างของวีเนียร์ ร่วมกันกับทันตแพทย์เฉพาะทาง เพื่อรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยที่ศูนย์ทันตกรรม BIDC ไม่ได้โดดเด่นแค่การทำวีเนียร์เซรามิกเพียงอย่างเดียว แต่มีบริการทันตกรรมเพื่อความสวยงามแบบครบวงจรอาทิ เช่น วีเนียร์เซรามิก ครอบฟันเซรามิก การจัดฟันแบบใส รากฟันเทียม และฟอกสีฟัน โดยใช้เทคโนโลยีการฟอกสีฟันจากสหรัฐอเมริกาแบบ Zoom! ซึ่งสามารถทำให้ฟันที่เหลือง ดูขาวขึ้นและดูเป็นธรรมชาติในครั้งเดียว

สำหรับการครอบฟันเซรามิก จะช่วยบูรณะฟันธรรมชาติที่เสียหาย พร้อมทั้งสามารถแก้ปัญหาด้านการบดเคี้ยว สบฟัน ด้วยการเคลื่อนฟัน โดยการจัดฟันแบบใส ( Invisalign ) ร่วมด้วย ซึ่งศูนย์ทันตกรรม BIDC เป็นผู้ให้บริการที่ได้รับรางวัล Invisalign Black Diamond ดูแลรอยยิ้มมากกว่า 400 เคส และอีกหนึ่งทางเลือกคือการจัดฟันติดเครื่องมือ (Braces) โดยใช้วัสดุที่สีเหมือนฟัน เพื่อความสวยงามที่ยังคงดูเป็นธรรมชาติ

หรือแม้กระทั่งใครที่สูญเสียฟันธรรมชาติไป ก็สามารถทดแทนด้วยการทำรากฟันเทียม มีความแข็งแรง ทนทาน สามารถใช้งานได้ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ และยิ้มกว้างได้อย่างมั่นใจ เพราะที่ศูนย์ทันตกรรม BIDC ทำการรักษาปักรากฟันเทียมจำนวนมากที่สุดในประเทศไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยใช้รากฟันเทียมจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ทั่วโลกยอมรับ สำหรับการฝังรากฟันเทียมทั้งปาก (full jaw dental implants) ศูนย์ทันตกรรมยังเป็นพันธมิตรกับโรงพยาบาลทันตกรรม กรุงเทพ อินเตอร์เนชั่นแนล (BIDH) ตั้งอยู่สุขุมวิท ซอย 2 ย่านเพลินจิตซึ่งเป็นโรงพยาบาลฟันที่มีศักยภาพรองรับการรักษาทางทันตกรรมแบบซับซ้อน ภายใต้การให้ยาคลายความกังวลจนถึงการดมยาสลบ อีกทั้งการให้ยาสลบทางหลอดเลือดดำ หรือก๊าซไนตรัสออกไซด์ (ก๊าซหัวเราะ) ในห้องผ่าตัดใหญ่ โดยมีทีมทันตแพทย์และวิสัญญีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่กลัวและมีความกังวลในการทำฟัน

อีกทั้งที่ ศูนย์ทันตกรรม BIDC มีทันตแพทย์ระดับชั้นนำ ทั้งทีมทันตแพทย์ที่ BIDC ได้รับใบอนุญาตจากทันตแพทย์สภา แห่งประเทศไทย โดยส่วนใหญ่จบการศึกษาจากต่างประเทศ จากสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย หรือยุโรป หลายคนเป็นศาสตราจารย์หรืออาจารย์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำ และมีความโดดเด่นในด้านการออกแบบรอยยิ้มให้สวยงามได้ โดยใช้เทคโนโลยีการสแกนฟันดิจิทัล การถ่ายภาพทันตกรรม และการออกแบบรอยยิ้มที่ปรับแต่งได้ ในการให้บริการด้านทันตกรรมความงาม โดยมีห้องปฏิบัติการทันตกรรมดิจิทัลในสถานที่ที่ใช้ CAD/CAM เพื่อความแม่นยำและการรักษาที่รวดเร็ว และด้วยรีวิวจากผู้รับบริการ มากกว่า 10,000 รอยยิ้มจากทั่วโลก ที่ได้แบ่งปันประสบการณ์การดูแลสุขภาพฟันกับศูนย์ทันตกรรม BIDC บนช่อง YouTube ตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา ก็ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงคุณภาพการบริการทันตกรรมระดับมืออาชีพได้เป็นอย่างดี ฉะนั้น อยากมีฟันเรียงสวย สะอาด น่ามองแบบซุปตาร์อย่าลืมปรึกษาที่ BIDC แล้วคุณอาจจะมีรอยยิ้มได้กว้างมากที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน


แจ็คสัน หวัง

จิตวิญญาณของกีฬาพา แจ็คสัน หวัง ขึ้นแท่นพันธมิตร Nike และ Jordan

Alternative Textaccount_circle
แจ็คสัน หวัง
แจ็คสัน หวัง

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา ครอบครัว Nike และ Jordan ได้ประกาศต้อนรับสมาชิกใหม่อย่างเป็นทางการ แจ็คสัน หวัง ในฐานะพันธมิตรระดับโลกของ Nike และ Jordan

โดย แจ็คสัน หวัง จะนำพลังและมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ของเขามาเติมเต็มให้กับแบรนด์ โดยทั้งสองแบรนด์จะร่วมกันสำรวจการผสานรวมระหว่างกีฬาแฟชั่นและวัฒนธรรม พร้อมเปิดบทใหม่ที่ผสมผสานจิตวิญญาณของกีฬาและความคิดสร้างสรรค์

แจ็คสัน หวัง

สำหรับ “แจ็คสัน หวัง” นั้นเคยเป็นนักกีฬาที่แข่งขันในเวทีระดับโลกในฐานะตัวแทนทีมฟันดาบฮ่องกงของจีน ซึ่งจิตวิญญาณและความคิดสร้างสรรค์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกีฬา ได้ฝังลึกอยู่ในเส้นทางชีวิตของเขา ไม่ว่าจะเป็นในสนามกีฬาในฐานะนักกีฬา หรือบนเวทีในฐานะศิลปิน คำขวัญ “JUST DO IT” กลายเป็นแนวคิดสำคัญที่ “แจ็คสัน หวัง” ยึดถือเสมอมา ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของแบรนด์ Nike และ Jordan

แจ็คสัน หวัง

ซึ่งก่อนหน้านี้ ในฐานะผู้อำนวยการสร้างสรรค์ “แจ็คสัน” ได้สร้างโชว์การแสดงพิเศษสำหรับการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของ Cartier Trinity และจัดการประมูลงานศิลปะส่วนตัวร่วมกับ Joopiter แพลตฟอร์มประมูลของ Pharrell ในฐานะผู้บุกเบิก เขาจะนำการผสมผสานระหว่างกีฬาและความคิดสร้างสรรค์ไปสู่อีกระดับ มาร่วมติดตามการเดินทางอันสร้างสรรค์ที่น่าตื่นเต้นนี้ไปพร้อมกัน

#Jacksonwang #nike #jordan

อั้ม-พัชราภา

อ.ช้าง ทักแรง! อั้ม-พัชราภา ดวงรักเด่น! ปีหน้ามีสิทธิ์สละโสด

Alternative Textaccount_circle
อั้ม-พัชราภา
อั้ม-พัชราภา

เรียกว่าเป็นข่าวฮือฮากันเลยทีเดียว เมื่อ “อาจารย์ช้าง ทศพร ศรีตุลา” ผนึกกำลังแบรนด์ LUCKANA (ลัคนา)   เปิดตัวคอลเลคชั่น ZEN Collection  เครื่องประดับสายมูต้อนรับปีมะเส็ง2568 ตามวันเกิดแบบ 7วัน 7สี ที่มูวัดเซ็นโคจิ ไดคันจิ จากประเทศญี่ปุ่นโดยงานนี้ หมอช้าง ได้เผยถึงข่าวดีมีเฮ ทำเอาเหยี่ยวข่าวบันเทิงที่ไปร่วมงาน ถึงกับตาลุกวาว เพราะปีหน้า 2568 ดวงของนางเอกซุปตาร์ตาวค้างฟ้า อั้ม-พัชราภา มีเกณฑ์สละโสดกับผู้ชายรถไฟความเร็วสูง

อั้ม-พัชราภา

“ปีหน้าเป็นปีที่ดีมาก ของ อั้ม-พัชราภา ไม่ใช่รถไฟขบวนสุดท้าย แต่เป็นรถไฟความเร็วสูง อั้นนี้ขอทายไว้ก่อน ถ้ามันไม่เกิดก็โทษอั้ม เพราะแต่ละนโยบายความรักของคนไม่เหมือนกัน บางคนอยู่กับเพื่อนแล้วมีความสุข บางคนดวงจะสละโสดมีโอกาสเข้ามา แต่วันๆ อยู่แต่กับหมา อยู่กับไรเดอร์ส่งอาหาร ก็ขึ้นอยู่กับคนแล้วแหละ เพราะถ้าขึ้นอยู่กับดวง ราศีพิจิกของอั้ม จะมีดวงเรื่องข่าวดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงาน ความรัก พื้นฐานอั้มมีสิทธิ์สละโสด แต่เพื่อนเค้าเยอะ ก็ต้องผ่ากำแพงยากนิดนึง เพราะกรรมการเยอะ แต่ด้วยในทางดวง ราศีเปิด ฟ้าเปิดโอกาสที่ดีก็มีเข้ามา แต่ต้องออกจากบ้านด้วย ไปเจอผู้คนบ้าง เพราะความรัก ไม่ได้หล่นลงมาจากฟากฟ้า บางทีอั้มเค้าออกจากบ้านก็ไปเจอแต่เพื่อนๆ กลุ่มเดิมไม่ได้เจอใครใหม่ๆ  ปีหน้าน่าจะเป็นปีที่มีข่าวดีครับ ถามว่าได้มีโฮกาสแนะนำอั้มมัย ก็แนะนำ ไปแล้ว และต่อจากนี้ว่าจะไปดีลิต App ช้อปปิ้งออนไลน์ของเค้าออกให้หมด เค้าจะได้ออกไปซื้อของนอกบ้านบ้าง ไปเจอคนอื่นๆ บ้าง”

และนอกจากนี้ปีหน้า 2568  อาจารย์ช้าง ทศพร ศรีตุลา นักโหราศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ย  ชื่อดังของประเทศไทย ในฐานะนักโหราศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ย และศาสตร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเป็นวิทยากรและผู้ให้คำปรึกษาฯ  เผยว่าจะเป็นปีที่ ทั้งดาวราหูและดาวเสาร์มีการย้ายราศีครั้งใหญ่ โดยเฉพาะครึ่งปีแรกทั้งราหู ดาวเสาร์ ดาวพฤหัส จะมีการเปลี่ยนราศีจำนวนมาก จะส่งผลค่อนข้างเยอะต่อดวง 12 ราศี ซึ่งเทรนด์การผสมผสานระหว่างศาสตร์แห่งการเสริมดวงสร้างแรงบันดาลใจเครื่องประดับสายมูที่สวยงามผนวกกับการเสริมสร้างพลังบวกให้กับชีวิต ที่ผ่านดีไซน์ที่งดงามจะได้รับความนิยม

และผมอยากจะแนะนำว่ากลุ่มคนที่สนใจเรื่องศาสตร์ความเชื่อ สายมู หรือ กลุ่มคนที่ต้องการเสริมสิริมงคล เสริมดวง เสริมความมั่นใจ เสริมพลังชีวิต กลุ่มคนที่ชอบเครื่องประดับแฟชั่น อยากเสริมลุคให้ดูโดดเด่น กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่สนใจเครื่องประดับที่มีความหมาย และชื่นชอบตามกระแสอินฟลูเอนเซอร์ ฯลฯ

อาจารย์ช้าง ทศพร ศรีตุลา แนะทริคง่ายๆ เลือกสีตามวันเกิดเสริมความปัง

วันอาทิตย์ สีส้ม (Carnelian) สื่อถึงพลังงาน ความมั่นใจ และแรงบันดาลใจ

วันจันทร์ สีขาว (Magnesite)  สื่อถึงความสงบ ความผ่อนคลาย และการลดความเครียด

วันอังคาร สีชมพู (Rose Quartz) เป็นหินแห่งความรัก ความเมตตา และการเยียวยาทางอารมณ์

วันพุธ สีเขียว (Green Aventurine) เชื่อมโยงกับโชคลาภ ความสำเร็จ และการเปิดรับโอกาสใหม่

วันพฤหัสบดี  สีเหลือง (Yellow Quartzite) ช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ ความกระจ่างในจิตใจ และเพิ่มพลังงาน

วันศุกร์ สีน้ำเงิน (Lapis Lazuli)  เป็นหินแห่งปัญญา ความจริง และการสื่อสาร

วันเสาร์ สีดำ (Onyx)  เป็นหินแห่งการปกป้อง เสริมความกล้า และป้องกันพลังงานลบ 

สำหรับ แบรนด์ LUCKANA (ลัคนา) คอลเลคชั่น ZEN Collection  เครื่องประดับสายมูต้อนรับปีมะเส็ง2568 ตามวันเกิดแบบ 7วัน 7สี ที่มูวัดเซ็นโคจิ ไดคันจิ จากประเทศญี่ปุ่น โดยการใช้หลัก THE ZEN ซึ่งเป็นศาสตร์และศิลป์แห่งความเรียบง่าย ความงามในความเรียบง่าย ยอมรับความงามตามธรรมชาติ (Wabi-Sabi) ความเรียบง่าย (Simplicity) ความเป็นธรรมชาติ (Naturalness) ความสงบและสมดุล (Tranquility and Balance) ความสวยงามในแบบที่แตกต่าง (Impermanence) การตระหนักรู้ในปัจจุบัน (Mindfulness in Creation)

วิวอลังฯ ของหวานอร่อย The Ritz-Carlton Bangkok ฉลองเทศกาลความสุขด้วย ชุดน้ำชายามบ่าย โดยเชฟซิลแวง กงสตองส์

วิวอลังฯ ของหวานอร่อย The Ritz-Carlton Bangkok ฉลองเทศกาลความสุขด้วย ชุดน้ำชายามบ่าย โดยเชฟซิลแวง กงสตองส์

Alternative Textaccount_circle
วิวอลังฯ ของหวานอร่อย The Ritz-Carlton Bangkok ฉลองเทศกาลความสุขด้วย ชุดน้ำชายามบ่าย โดยเชฟซิลแวง กงสตองส์
วิวอลังฯ ของหวานอร่อย The Ritz-Carlton Bangkok ฉลองเทศกาลความสุขด้วย ชุดน้ำชายามบ่าย โดยเชฟซิลแวง กงสตองส์

โรงแรม เดอะ ริทซ์คาร์ลตัน กรุงเทพฯ (THE RITZ–CARLTON, BANGKOK) มอบประสบการณ์การบริการและวัฒนธรรมที่แตกต่างอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน กับการเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขด้วย ชุดน้ำชายามบ่าย ที่รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน โดยเชฟซิลแวง กงสตองส์ (Sylvain Constans) ด้วยขนมหวาน สโคน และแซนด์วิชในธีมเทศกาล พร้อมจับคู่กับชาที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ รวมถึง Signature Blend และชา Seasonal Festive Blend จาก Araksa เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น หรือสามารถเพิ่มเติมความหรูหราด้วยแชมเปญสำหรับยามบ่ายสุดพิเศษ

ไฮไลต์จากชุดน้ำชาประกอบด้วยช็อกโกแลต ล็อก (Chocolate Log), แบล็คเคอร์แรนท์มงบล็อง (Blackcurrant Mont Blanc) และ เค้กคาราเมล และยูซุ รูดอล์ฟ (Caramel and Yuzu Rudolph Cake) ที่แสนละเมียดละไม ก่อนปิดท้ายด้วยรถเข็นขนมหวานซิกเนเจอร์ที่รวบรวมของหวานในธีมเทศกาล เพื่อเพิ่มเสน่ห์และความอบอุ่นในช่วงเวลาแห่งความสุขนี้

Caleō ซึ่งมาจากภาษาละตินที่หมายถึง ‘การตกหลุมรัก’ แสดงถึงแก่นแท้ของการดื่มด่ำและความโรแมนติก ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน เลานจ์สุดหรูนี้ชวนแขกให้เพลิดเพลินกับชุดน้ำชายามบ่ายที่สง่างาม หรือค็อกเทลยามค่ำที่มีความโดดเด่นและเต็มไปด้วยเสน่ห์อย่างมีศิลปะ พร้อมมอบความสุขหลากมิติให้กับประสาทสัมผัส

Caleō Festive Afternoon Tea ตั้งแต่วันนี้ – 5 มกราคม 2568 ณ ชั้น L, โรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ ราคา 1,600++ บาทต่อคน สำรองโต๊ะหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ www.theritzcarltonbangkok.com


เจาะความปัง iblanc สกินแคร์แบรนด์ไทยคุณภาพจึ้ง! ของสาวเก่ง “ทัฬห์ชญานี ลำพูนพงศ์”

account_circle

Exclusive Talk ครั้งนี้ แพรว ขอเอาใจคนรักผิวด้วยการพาไปพูดคุยกับ “คุณแคน – ทัฬห์ชญานี ลำพูนพงศ์” ซีอีโอสาวสวยเก่งเจ้าของแบรนด์ iblanc ซึ่งสร้างชื่อในวงการสกินแคร์ด้วยไอเท็มฮ็อตอย่าง iblanc Langsat White Honey Cream หรือ “ครีมลางสาด” ที่ล่าสุดขึ้นแท่นเจ้าของรางวัล Iconic Acne Control Facial Cream จากเวทีความงามแห่งปี Praew Iconic Beauty 2024 ถือเป็นสกินแคร์แบรนด์ไทยคุณภาพแน่นที่คว้ารางวัลอย่างต่อเนื่อง

จัดเต็มคุณภาพจนชนะใจคนรักผิว

“ถ้าให้พูดถึง iblanc ก็ต้องบอกว่าเราเป็นแบรนด์สกินแคร์ที่เติบโตมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ช่วยดูแลปัญหาผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัยได้มาตรฐาน สามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัยและทุกสภาพผิว ที่สำคัญคือมาพร้อมกับราคาที่จับต้องได้ โดยเรามุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ดูแลปัญหาสิวสำหรับทุกสภาพผิว แม้ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ค่ะ

“คอนเซ็ปต์ดังกล่าวสอดคล้องกับแนวคิดการทำงานในฐานะซีอีโอของแคน ซึ่งเน้นการทำงานอย่างซื่อสัตย์ ไม่หลอกลวงผู้บริโภค ยึดถือความจริงใจเป็นคีย์หลักของแบรนด์ iblanc เพราะแคนมองว่าหัวใจสำคัญของการทำงานในวงการสกินแคร์อย่างยั่งยืน คือการมอบความจริงใจให้กับลูกค้า สินค้าต้องมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และที่สำคัญคือต้องปลอดภัย”

ไอเท็มสู้สิวชนะใจกรรมการ Praew Iconic Beauty 2024

“สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมก็ต้องยกให้กับ iblanc Langsat White Honey Cream เลยค่ะ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘ครีมลางสาด’ ซึ่งจุดเด่นคือช่วยดูแลปัญหาสิวและรอยสิวโดยเฉพาะ ประกอบด้วยสารสกัดที่ดีต่อผิวอย่างน้ำผึ้งขาว ใบมินต์ป่า เมล็ดคำแสด Peptovitae Clear และ DN Aura ที่สำคัญยังอ่อนโยน ผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้

“อีกทั้งปีนี้ครีมลางสาดยังได้รับรางวัลจาก Praew Iconic Beauty 2024 ในสาขา Iconic Acne Control  Facial Cream ด้วยค่ะ รู้สึกดีใจและภูมิใจมากๆ เพราะแคนและทีมงาน iblanc ทุกคนตั้งใจพัฒนาแบรนด์อย่างเต็มที่ และรู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ที่นิตยสารแพรวเล็งเห็นถึงความตั้งใจตรงนี้ของเรา”

รักษาคุณภาพพร้อมเดินหน้าสร้างสรรค์

“ในการพัฒนาแบรนด์ เราให้ความสำคัญกับการรักษามาตรฐานคุณภาพและการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ โดยมีการเก็บฟีดแบ็กของลูกค้าที่ใช้จริงมาปรับใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่เสมอ เพราะเราให้ความสำคัญมากๆ กับความพึงพอใจของลูกค้า ทั้งในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์

“สำหรับในอนาคตมีแพลนที่จะแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมปัญหาผิวยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องสิว ตั้งใจว่าอยากมีทั้งสกินแคร์และเครื่องสำอาง เพื่อตอบโจทย์คนที่มีปัญหาสิว และอยากเพิ่มช่องทางการกระจายสินค้าทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แคนอยากให้ iblanc เป็นสกินแคร์ที่ช่วยดูแลผิวให้กับทุกคนค่ะ”


เปิดกล่องของขวัญ! ไอเท็มฮอลิเดย์ 4 แบรนด์ดัง ชิ้นไหนบ้างน่าซื้อ

Alternative Textaccount_circle

ฤดูเทศกาลแบบนี้มีของขวัญกันหรือยัง? Praew Survey นำไกด์ไลน์ไอเท็มฮอลิเดย์น่าซื้อจาก 4 แบรนด์ดังมาให้ทุกคนได้เลือกช้อป

เดือนธันวาคมเหมือนเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่เต็มไปด้วยเทศกาลมากมายไม่ว่าจะคริสต์มาส หรือวันปีใหม่ ที่รอให้เราได้เฉลิมฉลอง พร้อมมอบของขวัญแก่คนสำคัญ แต่กว่าจะเลือกของได้สักชิ้นมันไม่ง่ายเลยใช่มั้ยคะ เดินเข้าช้อปนู้นออกช้อปนี้ เปิดเข้าเว็บไซต์เป็นสิบแต่ก็เลือกไม่ได้สักที แพรวเซอร์เวย์เลยขอคัดไอเท็ม 4 แบรนด์ดังที่คนรับได้ไปไม่มีผิดหวังแน่นอน!

GUCCI

เริ่มต้นด้วย 4 ไอเท็มไฟน์จิเวลรี่ Horsebit จาก Gucci ที่แสนคลาสสิกเหนือกาลเวลา ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากกีฬาขี่ม้าสะท้อนผ่านสัญลักษณ์ห่วงและบาร์คู่บนสร้อยคอ สร้อยข้อมือ ต่างหู และแหวน รับรองว่าเป็นของขวัญที่เหมาะกับทุกช่วงอายุ และถูกใจคนรับค่ะ

Dior

ของขวัญสำหรับสาวหวาน ขาด Dior ไปไม่ได้ บอกเลยว่าปีนี้แบรนด์ก็จัดไอเท็มชิ้นเด็ดใส่ไว้ใน Holiday Gift ไว้เรียบเราเลยหยิบมาทั้งหมด 3 ชิ้น ตั้งแต่ต่างหูไข่มุกซิกเนเจอร์ประจำแบรนด์ ‘Dior Tribales Earrings’ ที่เพิ่มความพิเศษด้วยสีชมพูหวานแหวว ต่อมาเป็นสร้อยข้อมือ ‘Petit CD Double Bracelet’ สุดคิวต์ที่ซ่อนความ Festive ไว้บนดวงดาว และสุดท้ายหากให้ชิ้นนี้ใช้ได้นานๆ กระเป๋าตังค์ใบเล็กสีดำ ‘My Dior Glycine Wallet’ ก็ตอบโจทย์

MIU MIU

ความน่ารักยังไปกันต่อกับ MIU MIU ที่มีทั้งที่คาดผมหนังแก้วสุดคลาสสิกสีน้ำตาลโดดเด่นด้วยอะไหล่โลโก้สีทอง, ต่างหูวงกลมสไตล์มินิมอลตกแต่งด้วยโลโก้ตัวอักษร Miu Miu ตรงกลาง และสุดท้ายแว่นตากันแดดที่แมตช์เข้ากับลุคไหนก็ช่วยทวีคูณความเก๋หลายเท่า

PRADA

มาถึง PRADA กับไอเท็มที่ไม่ควรพลาดอย่าง หมวกบักเก็ต Re-Nylon ที่เวลาผ่านไปเท่าไหร่ก็ยังไม่ Out! ครั้งนี้มาในสีเบจตกแต่งด้วยอะไหล่สีทองช่วยเพิ่มความหรูหรา ถัดมาเป็น Card Holder สีชมพูพาสเทลยุคนี้ใครไม่ค่อยพกกระเป๋าตังค์ไอเท็มชิ้นนี้ล่ะคือคำตอบ! ปิดท้ายด้วยพวงกุญแจน้องหมีสุดคิวต์ ไหนๆ ช่วงนี้คนก็ฮิตแขวน Art Toys กันเต็มกระเป๋า สายแฟ(ชั่น) อย่างเราเขยิบมาห้อยลูกหมี Prada คงเป็นที่ตื่นตาแน่นอน


ภาพ: Dior, Gucci, Miu Miu และ Prada

เติมความสุขส่งท้ายปีกับ HUUYAOW Box of Joy ของขวัญแห่งการแบ่งปัน

account_circle

ต้อนรับเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความสุข กับคาแรคเตอร์สุดคิ้วท์อย่างหูยาวและเมลโล่ Classis Christmas ในโปรเจกต์ HUUYAOW Box of Joy ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของเซ็นทรัลปิ่นเกล้าที่นำคาแรคเตอร์สุดคิ้วท์มามอบความสุขและความน่ารักให้กับทุกคน

โปรเจกต์ HUUYAOW Box of Joy ได้รับแรงบันดาลใจจากความเชื่อของเด็ก ๆ ทั่วโลกเกี่ยวกับกล่องของขวัญจากซานตาคลอส HUUYAOW Box of Joy จึงไม่ได้เป็นเพียงงานศิลปะ แต่เป็นเครื่องเตือนใจว่า ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราจะมอบให้กันได้คือการแบ่งปันทุกสิ่งที่เรามี ทั้งความหวัง ความรัก และความฝันที่ยิ่งใหญ่

สัมผัสความสุขและความน่ารักได้ที่ ชั้น 5 Central Pinklao ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. 2024 – 31 ม.ค. 2025

#CentralPinklao #เซ็นทรัลปิ่นเกล้า

#HUUYAOWxCentralPinklao

#HUUYAOWBoxofJoy #BoxofJoy


เจาะแนวคิดทันตกรรมเพื่อความงาม Bangkok International Dental Center (BIDC)

account_circle

ด้วยเทรนด์ความงามในปัจจุบันที่การทำฟันไม่ใช่แค่เพื่อสุขภาพที่ดีของช่องปากเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องความสวยความงามเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพื่อสร้างรอยยิ้มสวยเติมเต็มความมั่นใจ ดังนั้น Exclusive Talk ครั้งนี้ แพรว จึงพาไปพูดคุยกับทีมทันตแพทย์ของ Bangkok International Dental Center (BIDC) ได้แก่ ทันตแพทย์หญิง จุฑาสินี พรพลศรัณย์, ทันตแพทย์ กิตินันท์ ตฤษณวสุนธรา และทันตแพทย์ จิรัชญ์ สวัสดิพงษ์ ซึ่งเป็นเจ้าของรางวัล Iconic Aesthetic Expert Dental Center จากเวทีความงามแห่งปี Praew Iconic Beauty 2024

โดดเด่นด้วยการรักษาแบบองค์รวม

ทพ.จิรัชญ์ : “คอนเซ็ปต์การทำงานของศูนย์ทันตกรรม BIDC เราจะมุ่งเน้นไปที่การรักษาแบบ Comprehensive Assessment ซึ่งหมายถึงการรักษาแบบองค์รวม โดยเราเป็นศูนย์ทันตกรรมขนาดใหญ่ที่เปิดมานานกว่า 15 ปี ได้รับรางวัลมากมายทั้งในไทยและต่างประเทศ นอกจากนี้เรายังได้รับการรับรองคุณภาพจากทั้ง ISO และ JCI ว่าเป็น US Standard โดยการรักษาของเราจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างทันตแพทย์เฉพาะทางจากหลายสาขา ทำให้ผู้รับบริการได้รับการรักษาที่ดีและปลอดภัย รวมถึงมั่นใจได้ในความเป็นมืออาชีพของเราครับ”

ทพญ.จุฑาสินี : “จุดเด่นของศูนย์ทันตกรรม BIDC คือเราเป็นศูนย์ทันตกรรมครบวงจร หรืออาจเรียกว่าเป็น One Stop Dental Center ขนาดใหญ่ที่มีทันตแพทย์เฉพาะทางครบทุกสาขา เพราะฉะนั้นหากมีเคสที่ซับซ้อน ทันตแพทย์ก็จะมีการปรึกษาหารือกัน เพื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะกับผู้รับบริการแต่ละคน ซึ่งจะเป็น Comprehensive Dental Treatment Planning ที่เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการของผู้รับบริการอย่างแท้จริง ในส่วนของการรักษาแต่ละขั้นตอนเราจะมีการส่งต่อไปให้กับสเปเชียลลิสต์ในแต่ละสาขานั้นๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้รับบริการว่าจะได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพที่ดีค่ะ”

ทพ.กิตินันท์ : “ศูนย์ทันตกรรม BIDC มีการรักษาทุกรูปแบบ ตั้งแต่การตรวจประเมินอย่างง่ายไปจนถึงการทำงานในลักษณะคอนเซาท์ระหว่างสาขาในกรณีที่เคสมีความซับซ้อน ดังนั้นบริการของเราจึงมีความครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการทำตัวครอบฟัน การทำรากฟันเทียม หรือการทำฟันเพื่อความสวยงาม เช่น การจัดฟันทั้งแบบลวดและแบบใส การทำ Veneer การทำ Astra Tech ซึ่งทุกการรักษาของเราจะเริ่มต้นจากการตรวจประเมินอย่างละเอียดและเหมาะสม รวมถึงเรายังมีทางเลือกการรักษาที่หลากหลายตามความสะดวกของผู้รับบริการด้วยครับ”

ตอบโจทย์เทรนด์ทันตกรรมเพื่อความงาม

ทพ.กิตินันท์ : “การทำทันตกรรมเพื่อความงาม ถือเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เพราะความสวยในนิยามของแต่ละคนมักมาจากความพึงพอใจ ความชอบ หรือรสนิยมที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นหากผู้รับบริการเข้ามาปรึกษาเรา เราก็จะถามก่อนเลยว่าต้องการแก้ไขอะไร หรืออยากได้รอยยิ้มแบบไหน เพื่อวิเคราะห์แล้วแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด โดยบางคนอาจต้องแก้ไขมากกว่าหนึ่งอย่าง บางคนอยากได้รอยยิ้มที่สวยอย่างเป็นธรรมชาติ บางคนชอบลักษณะที่เป็น Smile Makeover หรือรอยยิ้มอวดฟันขาวแบบดาราฮอลลีวู้ด เราก็จะนำความต้องการหรือปัญหานั้นๆ มาวิเคราะห์ เพื่อวางแผนการรักษาให้ตอบโจทย์ ซึ่งปัจจุบันเรามีการนำเทคโนโลยีด้านดิจิทัลเข้ามาเป็นตัวช่วยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการประเมิน การพยากรณ์ หรือการดีไซน์รอยยิ้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการประมวลผลการรักษาให้ผู้รับบริการได้เห็นก่อนการรักษาจริง“

ทพ.จิรัชญ์ : “ในการรักษาด้วยเทคโนโลยีด้านดิจิทัล ศูนย์ทันตกรรม BIDC จะมีการอัปเดตอยู่ตลอดเวลา โดยเรามีหลากหลายเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน เช่น เครื่อง Intra Oral Scanner เครื่อง CT Scan เครื่อง CAD/CAM เครื่อง 3D Printer ซึ่งช่วยในการวิเคราะห์และวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม ยกตัวอย่างการทำ Digital Smile Design ที่มีการใช้เทคโนโลยีด้านดิจิทัลเข้ามาช่วยในการออกแบบรอยยิ้มใหม่ให้กับผู้รับบริการ ซึ่งสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ก่อนการรักษาจริง โดยสิ่งสำคัญในการนำเทคโนโลยีด้านดิจิทัลมาใช้ในการทำทันตกรรม คือการสื่อสารกันระหว่างทันตแพทย์กับผู้รับบริการ และระหว่างทันตแพทย์กับทีมช่างแลปทางทันตกรรม ซึ่งจะช่วยให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพและรวดเร็วครับ”

ทพญ.จุฑาสินี : “หัวใจสำคัญของการทำทันตกรรมเพื่อความงาม คือการที่ทันตแพทย์สามารถเข้าใจความต้องการของผู้รับบริการได้ดี แล้วถ่ายทอดออกมาเป็นผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ให้มากที่สุด เพื่อสร้างรอยยิ้มที่สวยงาม รวมถึงเข้ากับใบหน้าหรือบุคลิกของผู้รับบริการอย่างตรงใจ”

คว้ารางวัลสำคัญ 2 ปีซ้อน

ทพ.จิรัชญ์ : “รางวัล Iconic Aesthetic Expert Dental Center จาก Praew Iconic Beauty 2024 ถือเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจของศูนย์ทันตกรรม BIDC พวกเรารู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรอยยิ้มที่สวยงามให้กับทุกคน อีกทั้งยังดีใจที่ได้รับรางวัลนี้เป็นปีที่สองแล้วด้วยครับ”

ทพ.กิตินันท์ : “การได้รับรางวัลต่อเนื่องแสดงให้เห็นถึงคุณภาพของเราที่มีการรักษามาตรฐาน ซึ่งนอกจากการดำรงไว้แล้ว เรายังต้องทำให้ดีขึ้นด้วย ดังนั้นเราจึงมุ่งเน้นการพัฒนาในทุกแง่มุม ทั้งเรื่องประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและความรวดเร็วยิ่งขึ้นของผลงาน รวมถึงความพร้อมของเครื่องมือและการเลือกใช้เครื่องมืออย่างเหมาะสมกับแต่ละเคส”

ทพญ.จุฑาสินี : “พวกเรารู้สึกขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนและทุกความไว้วางใจ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบรอยยิ้มให้กับดารา เซเลบริตี้ หรือใครก็ตามที่อยากมีรอยยิ้มสวยๆ นอกจากนี้ยังมีผู้รับบริการชาวไทยที่อยู่ต่างแดนและผู้รับบริการชาวต่างชาติที่ตั้งใจเดินทางมารักษากับเราที่นี่ สำหรับเป้าหมายต่อไปของเราคือการมุ่งมั่นในการรักษามาตรฐานและพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น เพื่อก้าวไปสู่การเป็นผู้นำศูนย์ทันตกรรมเพื่อความงามที่มีคุณภาพของเอเชียแปซิฟิกค่ะ”


THAILAND

5 MUST DO IN THAILAND เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวันไม่พลาดไปเช็กอิน

account_circle
THAILAND
THAILAND

ททท. มอบความสุขส่งท้ายปีชวนออกเดินทาง ภายใต้แนวคิด 5 MUST DO IN THAILAND เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน ปักหมุดเมืองน่าเที่ยว กิจกรรมไฮไลท์ทั่วไทย ที่ต้องไม่พลาดไปเช็กอินช่วงวันหยุดยาวนี้

เข้าสู่เทศกาลท่องเที่ยวในช่วงปลายปี ใครยังมีวันลาพักร้อนเหลือเฟือ หรืออยากชวนก๊วนเพื่อน คนรัก และครอบครัวไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ด้วยกัน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนแพ็กกระเป๋าออกเดินทางสัมผัสประสบการณ์เมืองน่าเที่ยวทั่วไทยที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี พร้อมปักหมุดจุดท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวส่งท้ายปี ที่ถือเป็นไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว ซึ่งนอกจากงานเทศกาลต่าง ๆ และแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศไทยแล้ว ยังมีเมืองน่าเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายที่รอให้ผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางไปเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวให้กว้างยิ่งขึ้น

โดย ททท. ได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เพื่อเป็นการแนะนำแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงกิจกรรมไฮไลท์หลากหลายตลอด 365 วันของ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ แบบ 360 องศาให้นักท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด 5 MUST DO IN THAILAND ที่จะพาทุกคนไปสัมผัสกับกิจกรรมและวิถีชุมชนที่หลากหลายของเมืองน่าเที่ยวในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น MUST TASTE พบเมนูเด็ดต้องลองชิม MUST TRY กิจกรรมต้องลองลุย MUST BUY สินค้าท้องถิ่น ไอเทมอาร์ต ๆ ที่ต้องลองช้อป MUST SEEK วิวสวยต้องลองหา MUST SEE ไลฟ์สไตล์แบบคนท้องถิ่นต้องลอง บอกเลยสายเที่ยวต้องไม่พลาดไปเช็กอิน รับรองฟินแน่นอน! 

ปลายปีนี้เตรียมฟิตร่างกายให้พร้อม แล้วออกไปเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวด้วยกัน!  กับเมืองน่าเที่ยวรวมถึงกิจกรรมไฮไลท์ในแต่ละภาค ที่ ททท. แนะนำให้ไปเยือนในช่วงหยุดยาวส่งท้ายปี   ดังนี้

  • ภาคเหนือ

สัมผัสความยิ่งใหญ่ของ ปฏิมากรรมหุ่นโคมไฟในงานเทศกาลหุ่นโคมไฟ ครั้งที่ 7 ในคอนเซ็ปต์ “Light Of Blessing” ปานเทพนิมิต ตื่นตาตื่นใจกับงานโคมไฟสุดอลังการ “เทศกาลหุ่นโคมไฟนครสวรรค์” ชมประติมากรรมหุ่นโคมไฟ ที่ผสาน ศิลปะ แสง สี ดนตรี และสวนสวยเข้าด้วยกัน พบกับ หุ่นโคมไฟสามพิภพ การประกวดหุ่นโคมไฟ ต้นไม้แห่งความปรารถนา อุโมงค์แห่งแสง สี เสียง วันที่ 21 ธันวาคม 2567 – 1 มกราคม 2568 เวลา 17:30 – 22:00 น.ณ อุทยานสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์

หวนกลับมาอีกครั้งกับ มหกรรมไม้ดอกไม้ประดับเชียงใหม่ ภายใต้แนวคิด “เสน่ห์บุผชาติ งามพฤกษาเวียงพิงค์”ชื่นชมกับความงดงามของไม้ดอกไม้ประดับนานาพันธุ์ สัมผัสกับศิลปะวัฒนธรรมประเพณีล้านนา  พร้อมชมไฮไลท์ขบวนรถบุปผชาติ ตลอดจนจับจ่ายซื้อของดีของแต่ละอำเภอทั้ง 25 อำเภอ วันที่ 2 – 4 กุมภาพันธ์ 2567 ณ สวนสาธารณะสวนบวกหาด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

เยือนถิ่นเหนือทั้งทีพลาดไม่ได้กับเมนูยำไข่น้ำแร่แจ้ซ้อน จ.ลำปาง,ทุเรียนหลง-หลิน ลับแล จ.อุตรดิตถ์, ฮังเลลำไย จ.ลำพูน, ไก่ทอดมะแขว่น จ.น่าน และขนมเส้นน้ำย้อยเมืองลอง จ.แพร่รวมถึงของฝากติดไม้ติดมือ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเงิน จ.แม่ฮ่องสอน จ.น่าน จ.เชียงใหม่, กาแฟ จ.เชียงใหม่ จ.น่าน จ.แม่ฮ่องสอน, ผ้าทอไทลื้อ จ.เชียงราย, ผ้าทอซิ่นตีนจกแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่, ผ้าฝ้ายยกดอก จ.ลำพูน, ผ้าทอลายน้ำไหล จ.น่าน, ขนมปังสังขบา จ.อุทัยธานี

  • ภาคกลาง

ตื่นตาตื่นใจไปกับ งานจัดแสดงแสงไฟ NaSatta Light Festival Winter illumination 2025 ในธีม “นางในวรรณคดีและดอกไม้ในวรรณกรรมไทย”ที่จะทำให้ได้เห็นทิวทัศน์อันตระการตาที่ถักทอมาจากจิตนการของผู้ออกแบบและความอุตสาหะของทีมวิศวกร ถ่ายทอด เรื่องราวและตำนานอันเป็นเอกลักษณ์ของไทย ด้วยการเนรมิตผืนป่าภายใน อุทยาน ณ สัทธา ด้วยแสงไฟนับล้านดวงออกมาเป็นภาพอันแสนประทับใจ ณ สัทธา อุทยานไทย อ.บางแพ จ.ราชบุรี วันที่ 21 พ.ย. 2567 – 27 เม.ย. 2568 (เปิดวันอังคาร-วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์) 

สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวบนขบวนรถนำเที่ยวขบวนพิเศษ (รถไฟลอยน้ำ) ราวกับว่ารถไฟกำลังลอยแล่นอยู่เหนือผิวน้ำ เส้นทางกรุงเทพ – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ถึงมกราคม 2568 นั่งรถไฟสัมผัสลมหนาวกลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ติดต่อซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ หรือระบบ D-Ticket ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

เชิญเที่ยวงานฤดูหนาว พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน วาระ 100 ปีพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ร่วมฟังดนตรีทุกบ่ายวันเสาร์ของเดือนธันวาคม 2567 แล้วมาสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากร้านค้าพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน รายได้เพื่อการอนุรักษ์และบูรณะพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ณ สโมสรเสวกามาตย์ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ทุกวันเสาร์ ตลอดเดือนธันวาคม 2567

และแน่นอนว่าสายอีทต้องไม่พลาด! กับสตรีทฟู้ดบนถนนเยาวราช และถนนบรรทัดทอง กรุงเทพฯ, กุ้งแม่น้ำเผา จ.พระนครศรีอยุธยา,ปลาช่อนแม่ลา จ.สิงห์บุรี, น้ำพริกกะปิ+ปลาทูทอด ใบชะคราม จ.สมุทรสงคราม, ข้าวแช่เมืองเพชร จ.เพชรบุรี ก่อนกลับแวะช้อปผ้าโขมพัสตร์ จ.ประจวบคีรีขันธ์, ผลิตภัณฑ์ผ้าทอชาวไทยยวน จ.ราชบุรี, หัตถศฺลป์เครื่องทอง จ.เพชรบุรี, นิลเมืองกาญจน์ จ.กาญจนบุรี, เครื่องเบญจรงค์ดอนไก่ดี จ.สมุทรสาคร

  • ภาคตะวันออก

สายงานวิ่งเทรลพลาดไม่ได้! ไตรบูรพาซีรีย์ 4 สนาม 3 จังหวัด “นครนายก-ปราจีนบุรี-สระแก้ว” แหล่งรวมของทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย มีอุทยานแห่งชาติถึง 4 แห่ง  เริ่มวันที่ 4 – 5 มกราคม 2568 ณ น้ำตกเขาอีโต้ จ.นครนายก, วันที่ 15 – 16 กุมภาพันธ์ 2568 ณ เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก, วันที่ 1 – 19 ตุลาคม 2568 แก่งคลองช้างคลาน จ.ปราจีนบุรี, วันที่ 22 – 23 พฤศจิกายน 2568 อุทยานแห่งชาติปางสีดา จ.สระแก้ว  สามารถเลือกสมัครเฉพราะสนามที่สนใจ หรือจะสมัครเป็นแพ็คเกจรวมทั้ง 4 สนาม พร้อมรับสิทธิ์ประโยชน์มากมาย

ตามรอยเสด็จพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 ครั้งที่ 17 ประจำปี 2567 จัดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม ของทุกปี เพื่อน้อมรำลึก ถึงพระมหากรุณาธิคุณยิ่งของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มีต่อประชาชนชาวตราดและชาวเกาะช้าง พระองค์ทรงเสด็จประพาสเมืองตราดรวมทั้งเกาะช้าง รวมถึง 17 ครั้ง เพื่อทรงตรวจตราความสงบเรียบร้อยของหัวเมืองชายฝั่งทะเลตะวันออกในฐานะเป็นเมืองชายแดน ทรงเยี่ยมเยียนราษฎร ซึ่งการจัดงานนี้มีกิจกรรม เริ่มตั้งแต่พิธีตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ จากน้ำตกธารมะยม การจัดขบวนแห่น้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ จากทางเข้าน้ำตกธารมะยม ไปยังปลายสะพานท่าเทียบเรือธารมะยม เพื่อนำน้ำพระพุทธมนต์ฯ ไปลงเรือของส่วนราชการ รวมทั้งมีการจัดริ้วขบวนแห่น้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ทางน้ำ จากปากอ่าวสลักคอกไปยังบริเวณสะพานหน้าชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอกโดยเรือมาดจนกระทั่งการจัดพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณล้นเกล้า รัชกาลที่ 5 โดยในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 – 27 ธันวาคม 2567 ณ วัดวัชคามคชทวีป เกาะช้าง จ.ตราด

และแน่นอนว่าต้องไม่พลาดกับสดของอาหารทะเล (จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี จ.ตราด), แกงส้มผักกระชับ จ.ระยอง, ปลาย่ำสวาท จ.ตราด,ข้าวคลุกพริกเกลือ จ.จันทบุรี จ.ตราด, ทุเรียน (จ.จันทบุรี จ.ระยอง จ.ตราด จ.ปราจีนบุรี)อิ่มท้องแล้วก็แวะซื้ออาหารทะเลแปรรูป (จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี จ.ตราด), ผลิตภัณฑ์สมุนไพรอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี, อัญมณี จ.จันทบุรี, ปลาสลิดบางบ่อ จ.สมุทรปราการ, สินค้ามือ 2 ตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว 

  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

สนุกไปกับการเรียนรู้จากเรื่องราวธรณีวิทยาและภูมิศาสตร์อีสานก่อนกำเนิดมนุษย์กับ “เส้นทางท่องเที่ยวบรรพชีวิน” ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้แก่ ผาแดงภูสิงห์ และภูกุ้มข้าว (พิพิธภัณฑ์สิริธร) อำเภอสหัสขันธ์ วนอุทยานภูแฝก อำเภอนาคู วนอุทยานภูน้ำจั้น อำเภอกุฉินารายณ์แหล่งซากดึกดำบรรพ์ปลาโบราณ และแหล่งไดโนเสาร์ ภูน้อย อำเภอคำม่วง ซึ่งชี้ให้เห็นว่า พื้นที่ภาคอีสานเคยเป็นทะเลมาก่อนและได้ยกตัวขึ้นเป็นภูเขาและภูเขาไฟหลายแห่ง รวมทั้งพื้นที่บางแห่งทรุดตัวลงกลายเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำและทะเลสาบที่มีความอุดมสมบูรณ์และหลากหลาย และกลายเป็นสถานที่สำคัญที่ทั้งเที่ยวสนุก และได้รับความรู้ไปพร้อมกัน 

ผามออีแดง เป็นจุดชมทัศนียภาพระหว่างเส้นทางขึ้นสู่เขาพระวิหาร ตลอดแนวผามออีแดงมีระยะประมาณ 300 เมตร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นทัศนียภาพของแผ่นดินประเทศกัมพูชาที่อยู่ต่ำลงไปอย่างเป็นมุมกว้าง มีฝูงค้างคาวในยามพระอาทิตย์ตกดิน บริเวณใกล้เคียงมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ชมโบราณสถานสถูปคู่รูปทรงสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ ส่วนบนกลมข้างในเป็นโพรง สำหรับบรรจุสิ่งของสร้างด้วยหินทรายแดง ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ 

สามล้อเรืองแสง เลาะแลงแยงเมืองหนองคาย เป็นหนึ่งทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ โดยนำรถสามล้อสกายแลปมาประดับตกแต่งไฟสีสันสวยงาม มองเห็นได้ชัดและเป็นที่สะดุดตาผู้ที่พบเห็น เป็นการเพิ่มความสนุกในการเดินทางท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยว โดยพาไปเยี่ยมชมสถานที่ที่นิยมของนักท่องเที่ยว อาทิ วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง พระธาตุหล้าหนอง หรือพระธาตุกลางน้ำจำลอง ลานวัฒนธรรมริมฝั่งแม่น้ำโขง บริเวณหน้าวัดลำดวน ที่มีพญานาคคู่ และจวนผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายหลังเดิม อีกทั้งยังได้ชมบรรยากาศยามค่ำคืนของตัวเมืองหนองคาย

 อย่าลืมสัมผัสรสชาติของอาหารพื้นเมืองอย่าง ผัดหมี่โคราช จ.นครราชสีมา,ไก่ย่าง (จ.บุรีรัมย์ จ.ศรีสะเกษ จ.ขอนแก่นจ.ยโสธร), กาแฟดงมะไฟ จ.นครราชสีมา, เนื้อโคขุนโพนยางคำ จ.สกลนคร, ส้มตำ (จ.นครราชสีมา จ.เลย จ.ขอนแก่น จ.หนองบัวลำภู จ.อำนาจเจริญ), เมนูหม่ำ จ.ชัยภูมิ พร้อมของฝากติดไม้ติดมือ ผ้าฝ้ายลายผ้าขาวม้า จ.อำนาจเจริญ, ผ้าไหมมัดหมี่ ลายแคนแก่นคูน จ.ขอนแก่น, ผ้าชัยภูมิ (ไหม, ฝ้าย) จอุบลราชธานี, ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ จ.ร้อยเอ็ด, ข้าวฮางหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู

  • ภาคใต้

สุขทันทีที่เที่ยว…ตามรอยพ่อ นั่งรถลางชมเมือง เริ่มต้นจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนืองมากจากพระราชดำริ  เข้าสู่วงเวียนนกสันติภาพ ชมรูปปั้นจากคู้ (ประตูเมืองจังหวัดนราธิวาส) จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และพลับพลาที่ประทับ พร้อมชมทัศนียภาพเขื่อนท่าพระยาสาย รวมถึงสถาปัตยกรรมของอาคารสไตล์ชิโน-โปรตุกีส และร้านรวงต่าง ๆ เช่น ร้านสีสมนัมเบอร์วัน ร้านอั้งม้อ เดอะ โกลบ ซีนีม่า รวมถึงสถานที่ไฮไลท์ เช่น วงเวียนหอนาฬิกา มัสยิดยุมอียะห์   พิพิธภัณฑ์เมืองนราธิวาส และแวะเยี่ยมชมเทวสถานพระพิฆเนศ ศาลเจ้าโกวเล้งจี่ เขามงคลพิพิธ วันที่ 21 ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนืองมากจากพระราชดำริ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส

 พบกับอีกหนึ่งงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ “ปลายฝนต้นหนาว Season 2” ที่ชวนทุกคนมาเคาท์ดาวน์ในบรรยากาศงานมิวสิคเฟส และตื่นตาการแสดงบอลลูนโชว์ พร้อมกิจกรรมให้ความรู้เชิงวิชาการเพื่อการท่องเที่ยว ในหัวข้อ “การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และความยั่งยืนในการบริหารการจัดการ การท่องเที่ยวเชิงผจญภัย” และพาชมนิทรรศการแห่งขุนเขาเล่าเรื่องเชี่ยวหลาน ช้อปชิมสินค้าและบริการผลผลิตท้องถิ่น สินค้า OTOP และการประกวดควายสวยงาม วันที่ 27 – 31ธันวาคม 2567 ณ เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ชวนมาเคาท์ดาวน์ปีใหม่ในงาน“ส่งตะวันแสงสุดท้ายที่เขาหลัก พังงา” ที่จะได้ชมพระอาทิตย์ตกส่งแสงตะวันสุดท้ายของปี 2567 ณ หาดนางทอง สนุกกับกิจกรรม Art on the Beach และคอนเสิร์ตจากศิลปินที่มีชื่อเสียงและวงดนตรี Local Brand พร้อมถ่ายภาพสุดประทับใจที่จุดเช็กอิน 2024’s Last Sunbeam @ Khao Lak, Phang-nga ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2568 วันที่ 31 ธันวาคม 2567 เวลา 14:00 – 18:30 น. ณ หาดนางทอง เขาหลัก จังหวัดพังงา

แวะชิมปลานิลสายน้ำไหล เบตง จ.ยะลา, ขนมจีนเมืองคอน จ.นครศรีธรรมราช, หอยนางรมสุราษฎร์ธานี, ไก่ทอดหาดใหญ่ จ.สงขลา, หมูย่างเมืองตรัง จ.สงขลา  แวะซื้อผ้าไหมพุมเรียง จ.สุราษฎร์ธานี,มะม่วงเบาแช่อิ่ม จ.สงขลา,ปลากุเลาเค็ม จ.สงขลา, ผ้าจวนตานี จ.ปัตตานี, เครื่องเงินเครื่องถม จ.นครศรีธรรมราช  

เตรียมจัดกระเป๋าให้พร้อม แล้วออกเดินทางท่องเที่ยวส่งท้ายปีอย่างมีความสุขกับเมืองน่าเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่ตั้งใจส่งมอบประสบการณ์สุดประทับใจ เพื่อให้ทุกคนเที่ยวเมืองไทยได้อย่างสุขใจตลอด 365 วัน 


Merry & Munch

PMCU-แกร็บ ร่วมส่งความสุขปลายปีที่งาน “Merry & Munch อิ่ม สนุก สุข ฟิน อินจุฬาซอย 5”

Alternative Textaccount_circle
Merry & Munch
Merry & Munch

สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (PMCU) ร่วมกับ แกร็บ ประเทศไทย พร้อมด้วยพันธมิตรจากทั้งภาครัฐและเอกชน นำโดย กระทรวงพาณิชย์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มาสเตอร์การ์ด และเป๊ปซี่ ชวนทุกคนมาร่วมฉลองส่งท้ายปลายปีในบรรยากาศสุดเฟสทีฟกับงาน “Merry & Munch อิ่ม สนุก สุข ฟิน อินจุฬาซอย 5” เสิร์ฟรอยยิ้มแถมอิ่มอร่อยไปกับ 40 ร้านดังที่ GrabFood ขนมาเอาใจสายกิน พร้อมเช็กอินกับมุมถ่ายรูปสุดชิคทั่วงาน ทั้งต้นคริสต์มาส “Munchie Magic X’Mas Tree” ที่ตกแต่งด้วยเมนูจานโปรดจาก GrabFood อุโมงค์ประดับไฟ “Merry Tunnel” สุดอลังการยาว 20 เมตร พร้อมเอนจอยไปกับ Art Installation จาก 2 ศิลปินสุดฮอตอย่าง “นิวเยียร์” (NEWYEAR) และ “เสลดทอย” (Sahred Toy) ที่สายอาร์ตห้ามพลาด เพลิดเพลินกับการช้อปสินค้าจากเหล่านิสิตจุฬาฯ ที่มาร่วมออกร้านในโซน “CU Gift Market” พร้อมด้วยมินิคอนเสิร์ตจากเหล่าศิลปินที่ยกทัพมาสร้างความฟินตลอดทุกวัน ตั้งแต่วันนี้จนถึง 29 ธันวาคม ณ บริเวณจุฬาซอย 5

ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “นอกจากจะเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์แลนด์มาร์คแห่งสตรีทฟู้ดแล้ว ความร่วมมือกับแกร็บในครั้งนี้ยังตอกย้ำการขับเคลื่อนแนวคิด “SDGs City of Togetherness” ที่จุฬาฯ มุ่งใช้ในการพัฒนาชุมชนรอบมหาวิทยาลัยสู่เมืองต้นแบบที่เชื่อมโยงให้ทุกคนอยู่ร่วมกันและเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ซึ่งกิจกรรมความพิเศษต่าง ๆ ที่แกร็บรวบรวมมามอบให้ผู้ร่วมงาน ทั้งทัพร้านอาหารเด็ด งานอาร์ตจากสองศิลปินมาแรง และกิจกรรมที่จะเกิดขึ้น ล้วนสอดคล้องกับความตั้งใจของจุฬาฯ ในการผลักดันย่านบรรทัดทอง-สวนหลวง-สามย่าน ให้เป็นถนนแห่งความสุขที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างไร้ข้อจำกัด สร้างการมีส่วนร่วมผ่านกิจกรรมและประสบการณ์ที่อิ่มเอมใจในช่วงเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี”

นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพาณิชย์และการตลาด แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “เพื่อต้อนรับเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองในช่วงปลายปี แกร็บได้ร่วมมือกับ PMCU เนรมิตพื้นที่จุฬาซอย 5 ให้กลายเป็นคริสมาสต์มาร์เก็ตใจกลางกรุงเทพฯ ชวนทุกคนให้มาสัมผัสกับบรรยากาศแห่งความสุขที่มาพร้อมกับกิจกรรมอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การเช็กอินและถ่ายรูปที่แลนด์มาร์คสำคัญ อิ่มอร่อยไปกับเมนูเด็ดจากร้านดัง เดินช้อปปิ้งกันที่โซน CU Gift Market รวมถึงสนุกไปกับคอนเสิร์ตจากศิลปินขวัญใจวัยรุ่นและนิสิตจุฬาฯ ที่มาร่วมแสดงความสามารถ ให้ทุกคนได้ขนความสุขกลับบ้านแบบเต็มอิ่มสมชื่อ ‘Merry & Munch อิ่ม สนุก สุข ฟิน’ ทั้งนี้ แกร็บและ PMCU ขอขอบคุณพันธมิตรทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงพาณิชย์ ที่ได้ส่งเสริมการกระตุ้นเศรษฐกิจกับร้านค้าที่อยู่ในบริเวณจุฬาฯ-บรรทัดทอง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ได้ร่วมโปรโมตกิจกรรมไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยว รวมถึงพันธมิตรจากภาคเอกชนอย่าง มาสเตอร์การ์ด และ เป๊ปซี่ที่มาร่วมสร้างสรรค์งานดี ๆ ทำให้จุฬา ซอย 5 กลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของการเฉลิมฉลองในช่วงปลายปี โดยแกร็บ และ PMCU จะร่วมกันพัฒนาและสร้างสรรค์กิจกรรมใหม่ ๆ ที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่องในอนาคต”

ร่วมสัมผัสประสบการณ์ความสุขเต็มอิ่มฉลองเทศกาลส่งท้ายปีในงาน “Merry & Munch อิ่ม สนุก สุข ฟิน อินจุฬาซอย 5” ได้แล้ววันนี้ – 29 ธันวาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 16.00 – 22.00 น. ที่ สวนหลวงสแควร์ จุฬาซอย 5


'แบมแบม Got7' พูดถึงคอมเมนต์ที่วิจารณ์ว่าเขาฟิลเลอร์ริมฝีปาก

‘แบมแบม Got7’ พูดถึงคอมเมนต์ที่วิจารณ์ว่าเขาฟิลเลอร์ริมฝีปาก

Alternative Textaccount_circle
'แบมแบม Got7' พูดถึงคอมเมนต์ที่วิจารณ์ว่าเขาฟิลเลอร์ริมฝีปาก
'แบมแบม Got7' พูดถึงคอมเมนต์ที่วิจารณ์ว่าเขาฟิลเลอร์ริมฝีปาก

GOT7 เพิ่งประกาศข่าวดีคัมแบ็คในวันที่ 20 มกราคมที่ใกล้จะถึงนี้ รวมถึงมินิอัลบั้มด้วย ถือเป็นอัลบั้มแรกในรอบเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่อากาเซตื่นเต้น แต่ก็ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่สมเหตุสมผลอยู่เสมอ ชาวเน็ตบางรายวิจารณ์ที่’แบมแบม Got7′ โดยเฉพาะ คอมเมนต์กล่าวหาว่าเขาใช้ฟิลเลอร์ริมฝีปากเพื่อปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ แม้ว่าเขาจะเป็นที่รู้จักมานานแล้วว่ามีริมฝีปากอวบอิ่มตามธรรมชาติ

ซึ่งแบมแบมก็ได้ตอบกลับคอมเมนต์นี้อย่างรวดเร็ว โดยเขาได้พูดถึงเรื่องฟิลเลอร์ที่ริมฝีปากในโพสต์บน X (เดิมคือ Twitter) ว่า “ขออนุญาตใช่คำไม่สุภาพนะครับ จะเอาเวลาไปทำหน้าตอนไหนวะ 555” โพสต์ดังกล่าวกลายเป็นไวรัลโดยมีผู้เข้าชม 7.4 ล้านครั้ง ในขณะที่เหล่าอากาเซ่ชื่นชมแบมแบมที่ยืนหยัดเพื่อตัวเอง

แบมแบมไม่ได้แค่มีงานยุ่งเท่านั้น แต่เขายังหล่ออย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถูกกล่าวหาว่าเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตัวเองจากการทำหัตถการ ศัลยกรรมต่างๆ แต่เขาก็สามารถก้าวข้ามเรื่องเหล่านี้ไปได้เสมอ อย่างเช่นก่อนหน้านี้ หลายคนบอกว่าใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปมากตั้งแต่เดบิวต์ แต่เขาบอกว่า “เขาไม่ได้ทำศัลยกรรมจริงๆ” จากนั้นเขาก็พูดตลกเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยบอกว่าถ้าหน้าของเขาเกิดจากการทำศัลยกรรม “สถานที่นี้ควรจะถูกปิด” แม้ว่าการทำศัลยกรรมจะเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล แต่แบมแบมก็ชี้แจงให้ชัดเจนว่าเขาไม่ได้ทำจริง

Photo: bambam1a


Häagen-Dazs Festive Collection 2 รสชาติลิมิเต็ด Red Velvet Cheesecake ที่กลับมาอีกครั้ง และรสใหม่ Mint Chocolate

Häagen-Dazs Festive Collection 2 รสชาติลิมิเต็ด Red Velvet Cheesecake ที่กลับมาอีกครั้ง และรสใหม่ Mint Chocolate

Alternative Textaccount_circle
Häagen-Dazs Festive Collection 2 รสชาติลิมิเต็ด Red Velvet Cheesecake ที่กลับมาอีกครั้ง และรสใหม่ Mint Chocolate
Häagen-Dazs Festive Collection 2 รสชาติลิมิเต็ด Red Velvet Cheesecake ที่กลับมาอีกครั้ง และรสใหม่ Mint Chocolate

ฮาเก้น-ดาส (Häagen-Dazs) ไอศกรีมพรีเมี่ยม เปิดตัว ‘Festive Collection’ รสชาติลิมิเต็ด ต้อนรับเทศกาลรื่นเริงแห่งปีด้วย 2 รสสุดโปรดอย่าง Red Velvet Cheesecake ที่กลับมาอีกครั้ง และรสใหม่ล่าสุด Mint Chocolate

นับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขนี้ด้วยไอศกรีมแสนอร่อย ฮาเก้น-ดาส เลยเอาใจคนรักไอศกรีมแบบจัดเต็ม ด้วยการเปิดตัว “Festive Collection” ที่รังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุข นำทัพโดย Red Velvet Cheesecake รสชาติสุดโปรดที่กลับมาอีกครั้ง พร้อมมอบความอบอุ่นและความรื่นรมย์ด้วยครีมชีสเนียนนุ่มละมุน ผสานเข้ากับความเข้มข้นของเค้กเรดเวลเวท เนื้อเค้กนุ่ม ๆ ที่แทรกตัวอยู่ทั่วทั้งเนื้อไอศกรีม มอบรสชาติสุดหรูหราและเข้มข้นในทุกคำ และชวนสัมผัสความสดชื่นแปลกใหม่กับ Mint Chocolate รสชาติใหม่ล่าสุดที่ผสานความสดชื่นเข้ากับกลิ่นอายแห่งวันวานได้อย่างลงตัว ด้วยไอศกรีมเนียนนุ่มละมุน แทรกด้วยช็อกโกแลตกรุบกรอบ พร้อมด้วยซอส มิ้นท์ หอมเย็นสดชื่น มอบรสสัมผัสที่ตัดกันอย่างลงตัว พาย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลาแห่งความสุขแสนหวาน พิเศษยิ่งขึ้น! คอลเลกชันนี้ ยังมีแพ็คเกจลวดลาย Kaleidoscope สีสันสดใสถ่ายทอดบรรยากาศแห่งเทศกาลมาให้นักชิมได้ลิ้มรสทั้งในรูปแบบ พายน์ท (Pints) และ มินิคัพ (Mini Cups) อีกด้วย

ภายในงานเปิดตัว Festive Collection ในธีมคริสต์มาส ฮาเก้น-ดาส ได้เปิดตัวรสชาติไอศกรีมใหม่ที่ถ่ายทอดความพิเศษของเทศกาลได้อย่างลงตัว ไฮไลท์ของงานคือการปรากฏตัวสุดเซอร์ไพรส์ของแขกรับเชิญพิเศษ ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส สุเมตติกุล ที่มาในลุคซานต้าสุดหล่อ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เข้าร่วมงานด้วยการสร้างสรรค์ผลงาน DIY ของเขาผ่านการตกแต่งไอศกรีมในสไตล์เทศกาลที่เป็นของเขาเอง

พร้อมเมนูพิเศษประจำเทศกาล 2 เมนูจาก Häagen-Dazs ได้แก่ Red Velvet Parfait และ Mint Chocolate Milkshake ทั้งสองเมนูนี้รับประกันความหวานและความอร่อยระดับพรีเมียมโดยไบเบิลเองและที่สำคัญ ไบเบิลยังเชิญชวนแฟนๆ ให้มาลิ้มลองรสชาติใหม่นี้ ซึ่งรับรองว่าจะต้องถูกใจแฟนๆ อย่างแน่นอนในช่วงเทศกาลวันหยุดนี้

ลิ้มรสความอร่อยล้ำของคอลเล็คชั่น Häagen-Dazs Festive Collection กับ 2 รสชาติใหม่ได้แล้ววันนี้ หาซื้อได้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ และร้านฮาเก้น-ดาสทุกสาขาทั่วประเทศ


‘ปลายปีกับเรื่องมือที่สาม ต้องเช็กเลยว่า ใครมีดวงมือที่สามสิง ใช่คุณไหม??’ ดวงรายสัปดาห์ 23-29 ธันวาคม 2567

Alternative Textaccount_circle

‘ปลายปีกับเรื่องมือที่สาม ต้องเช็กเลยว่า ใครมีดวงมือที่สามสิง!!’

ดวงรายสัปดาห์ 23-29 ธันวาคม 2567

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์          

การงาน  :  สำหรับสัปดาห์ส่งท้ายปลายปีของชาวอาทิตย์ จะบอกว่าคุณก็ยังคงมีดวงที่จะได้บุกเบิกริเริ่มอะไรใหม่ๆ ซึ่งจะส่งผลไปถึงความก้าวหน้าในอนาคตด้วย เป็นไปได้ว่าจะเกี่ยวข้องกับงานหรือธุรกิจทางด้านการติดต่อประสานงาน การประนีประนอม โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน รวมถึงที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษา เช่น นักเขียน นักแปล โรงแรม ท่องเที่ยว ฯลฯ  แต่ครั้งนี้คาดว่าจะมาแบบกะทันหัน หรือเป็นข่าวเซอร์ไพร์ส ซึ่งจริงๆ แล้วคุณอาจกำลังรออยู่ก็ได้ ดังนั้น จึงเป็นโอกาสดีที่จะหลุดจากสภาพปัจจุบัน   

การเงิน  :  แม้คุณคิดทุกกระเบียดนิ้วเวลาจะใช้จ่ายอะไรก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถจะทำได้ตามนั้น เพราะสัปดาห์นี้คาดว่าคุณจะแพ้ทางรัก ขอให้บอกเถอะว่าคนใกล้ตัวอยากได้อะไร คุณพร้อมเพย์ตลอดๆ

ความรัก  :  สัปดาห์สุดท้ายปลายปี เป็นไปได้ว่าชาวอาทิตย์จะส่งท้ายอย่างเลิฟๆ ได้ทั้งคู่ครองที่อยู่ด้วยกัน หรือจะออกไปหาเศษหาเลยก็มีโอกาสสมหวัง ซึ่งคุณจะทั้งรักและหลงเลยทีเดียว มีเท่าไหร่ก็เพย์ให้หมด ต้องระวังนะ เพราะมันไม่จริง  คนโสด  เช่นกันค่ะ สัปดาห์จิงเกิลเบลล์แบบนี้คาดว่าจะมีซานต้าหนุ่มๆ มาส่งหัวใจให้เพียบ แล้วคุณก็สามารถมอบทั้งหัวใจและสแกนพร้อมเพย์ให้เขาได้เท่าที่ร้องขอเลยทีเดียว

สุขภาพ  :  ต้องระวังเรื่องการบาดเจ็บที่ขา เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อ ซึ่งสามารถเกิดได้จากการลื่นล้ม ตกบันได ข้อเท้าพลิก/แพลง ที่สำคัญหากไปฉลองคริสต์มาสหรือปีใหม่ ดื่มก็อย่าขับนะคะ คุณมีภาวะเสี่ยงสูง  

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  เป็นไปได้ว่าชาวจันทร์จะส่งท้ายปลายปีอย่างตัวกูของกูเลยนะคะเนี่ย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่น งานโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ ศิลปิน นักเขียน นักดนตรี มีโอกาสที่สัปดาห์นี้คุณจะมีความคิดและจินตนาการกว้างไกล ก้าวไม่พ้นจากอีโก้ของตัวเอง ไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่น นอกจากจะร่วมงานกับคนอื่นได้ยากแล้ว ความคิดเห็นยังจะขัดแย้งกันแบบรุนแรงด้วย โดยส่งผลให้งานนั้นๆ สะดุดหยุดลงกลางคัน ทางที่ดีควรทำธุรกิจของตัวเองหรือรับงานเองจะดีกว่า ก็ถือฤกษ์ดีปีหน้าฟ้าใหม่ออกจากเซฟโซนไปโตด้วยตัวเองดีกว่า ซึ่งคุณมีความรู้ความสามารถ รวมถึงบารมี ไปได้อยู่แล้ว  

การเงิน  :   หากกำลังร้อนเงิน รายจ่ายเยอะจนชักหน้าไม่ถึงหลังแล้วล่ะก็ นับว่ายังมีข่าวดีส่งท้ายปลายปีคาดว่าจะมีเงินที่มาจากความขยันของคุณสะสมมาทั้งปีให้ได้ไปเที่ยวปีใหม่ แต่ก็ควรเก็บเงินไว้บ้าง เพราะคุณใจดี สามารถหยิบเงินให้คนอื่นได้ง่ายมาก

ความรัก  :   สถานการณ์ในสัปดาห์นี้หากใครที่กำลังทุกข์ใจกับมือที่สาม คาดว่าปัญหานั้นจะคลี่คลายด้วยใจของคุณเองที่เลิกฟูมฟายแล้ว เป็นไปได้ที่คุณจะขอเปลี่ยนสถานะเป็นกัลยาณมิตรก็ได้ คนโสด  มือที่สามต้องเข้าแล้วล่ะค่ะสำหรับสัปดาห์สุดท้ายปลายปีแบบนี้ แล้วคาดว่าคุณจะเข้าใจ ยอมอยู่ในสถานะนี้ของเขา ก็คือ อยู่กันห่างๆ แบบห่วงๆ ไม่มีพันธะผูกพัน

สุขภาพ  :   จริงๆ แล้วคุณพลังเยอะ ไม่ค่อยป่วยไข้กับใครง่ายๆ แต่ตอนนี้อากาศเริ่มเย็นลงก็อย่าประมาท เพราะมีความเสี่ยงที่คุณจะไม่สบายด้วยไข้หวัด ภูมิแพ้กำเริบ ส่วนโรคภัยไข้เจ็บที่มาจากสถานบันเทิงก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่นะคะ

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน   ดูเหมือนชาวอังคารจะมาแนวบู๊ส่งท้ายปลายปีนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ อยู่ในแวดวง ศิลปะ ดนตรี วรรณกรรม วงการบันเทิง ดีไซเนอร์ คาดว่าสัปดาห์สุดท้ายของปีคุณจะลุกขึ้นมาบุกเบิกงานใหม่ๆ แบบเอาจริงเอาจัง แล้วติสท์ด้วยนะ ไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่น  ก็นับว่าโชคดีที่ผู้ใหญ่และคนใกล้ชิดสนับสนุนส่งเสริมให้ได้ทำในสิ่งที่ต้องการ แล้วสามารถประสบความสำเร็จด้วย แต่ก็ต้องระวังการตัดสินใจที่รวดเร็ว และขาดสติ การมีบริวารไม่ซื่อสัตย์ ซึ่งอาจทำให้ผิดพลาดล้มเหลวได้อย่างไม่น่าเกิดขึ้น

การเงิน  :   เป็นไปได้ว่าผู้ใหญ่จะให้เงินด้วยความรักความเมตตา รวมทั้งมาจากการลงทุนด้วย เป็นไปได้ว่าสัปดาห์นี้ต่อมความท้าทายของคุณทำงานหนักมาก แล้วจะเรียกว่าโชคดีก็ได้นะ ได้มาก็ควรเก็บไว้บ้าง เพราะมีโอกาสที่คุณจะใช้ไปกับการเฉลิมฉลองจนหมด  

ความรัก  :   คาดว่าคุณจะส่งท้ายแบบอินดี้ มีความเป็นตัวเองสูงถึงสูงมาก อยากโรแมนติกกับคู่ก็อยู่บ้าน แต่พอเพื่อนมาก็ออกไปกับเขา เอาแน่ไม่ได้เลยค่ะ  คนโสด ก็ยังคงเอาแน่เอานอนอะไรกับคุณไม่ได้ แต่เสน่ห์น่ะเหลือเฟือพอแจกจ่ายได้ทั้งหมู่บ้าน แล้วแก่นด้วยนะ เพราะหากชอบก็ไม่แคร์แม้จะไม่ถูกต้อง

สุขภาพ  :   ไม่แปลกใจเลยหากสัปดาห์นี้น้ำหนักคุณจะขึ้น เพราะมีโอกาสในการสังสรรค์ปาร์ตี้จิงเกิลเบลล์กันทุกวัน ก็ระวังด้วยเดี๋ยวจะลดไม่ลง ไหนจะไขมัน เบาหวาน ความดันที่จะตามมาอีก

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :   สงสัยสัปดาห์ที่แล้วผู้ใหญ่คงให้งานมาเพียบเลย เพราะสัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าชาวพุธจะเหนื่อยหากจะบอกว่าสายตัวแทบขาดก็คงไม่ผิดนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้แรงกายแรงใจเพื่อเอาชนะปัญหาและอุปสรรคในการทำงานอย่างหนัก ตั้งแต่ผู้รักษากฎหมาย เช่น ทหาร ตำรวจ ทนายความ นักกฎหมาย อัยการ ผู้พิพากษา นักการเมือง ฯลฯ จนถึงงานหรือธุรกิจสีเทา ซึ่งเป็นไปได้ที่คุณจะมีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง มีความคิดเห็นไม่ลงรอยกันสูงมาก ทางที่ดีควรรับงานเองหรือทำธุรกิจของตัวเองดีกว่า สบายใจกว่า  

การเงิน  :  มีโอกาสได้เงินจากความขยันของตัวเองนะคะ ซึ่งจะผันผวนขึ้นลงตามความขยันของตัวเอง เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรลงทุนแบบใจใหญ่ หรือใช้เงินแบบมือเติบ เพราะมีโอกาสที่จะเกิดหนี้สินได้

ความรัก  :  น่าเห็นใจสำหรับชาวพุธที่อาจไม่ได้เดินทางไปเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คาดว่าจะเคานต์ดาวน์อยู่ที่บ้านนี่ล่ะ เพราะงานตรึม แล้วใครก็เปลี่ยนใจคุณไม่ได้ด้วย    คนโสด  เป็นไปได้ว่าชาวพุธจะทำงานกันจนวันสุดท้ายของปีเลยล่ะ ส่วนความรักก็น่าจะอยู่ใกล้ๆ ตัวคือทำงานด้วยกันนั่นล่ะ

สุขภาพ   :  ช่วงเทศกาลคริสต์มาส ปีใหม่นี้ หากไปปาร์ตี้สังสรรค์เฉลิมฉลองก็ระวังภัยที่จะเกิดจากสถานที่ท่องเที่ยวด้วย  เช่น ดื่มแล้วไม่ควรขับ หรือการทะเลาะวิวาท รวมทั้งภัยจากความร้อนและของแหลมคม ด้วยความเป็นห่วง

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  น่าเห็นใจชาวพฤหัสที่คาดว่าจะเห็นภาพคุณทำงานเหนื่อยยันสัปดาห์สุดท้ายของปีเลย นอกจากนั้นยังมีดวงที่จะต้องบู๊และลุยกับงานหรือธุรกิจอย่างดุดันเคร่งเครียด แล้วมีการแข่งขันสูงด้วยเป็นไปได้ที่คุณจะพยายามงัดกลยุทธ์ หรือเทคนิคใหม่ๆ ขึ้นมารับมือในทุกๆ กระบวนท่า รวมถึงใช้เซ้นส์ด้วย ซึ่งมีโอกาสที่จะเป็นไปได้ด้วยดี ประสบความสำเร็จ แต่ก่อนอื่นคุณต้องคิดให้ละเอียด ตั้งสติให้ดี เพราะหากตัดสินใจเร็ว และขาดสติ รวมทั้งมีบริวารที่ไม่ซื่อสัตย์ จะส่งผลให้งานผิดพลาดอย่างไม่น่าเกิดขึ้น

การเงิน  :  ก็ดีขึ้นนะคะ สำหรับนักลงทุนที่ชอบเสี่ยง เพราะคุณมีดวงที่จะโชคดีที่เกิดจากความเสี่ยง และมาจากการทำงานที่เห็นตัวเงินชัดๆ

ความรัก  :  ส่งท้ายปลายปีของชาวพฤหัส พลังรักเยอะนะเนี่ย งานก็ยุ่ง ความโรแมนติกก็ไม่แผ่ว หึงก็แรงอีกต่างหาก ก็ต้องระวังนะคะ เพราะคว้าไว้หมดเดี๋ยวจะไม่ดีอะไรสักอย่าง  คนโสด  เป็นไปได้ที่งานจะยุ่งจนไม่มีเวลาให้กับคนรัก แต่ก็ไม่ได้หมายถึงจะตัดใจได้ ดังนั้น จึงมีโอกาสที่คุณจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ทำงานไปแล้วก็หวงและห่วงแฟนด้วย

สุขภาพ   :  มีโอกาสที่จะเกิดเหตุหรือเจ็บป่วยจากการโหมงานหนัก ไม่หลับไม่นอน หากคุณมีปัญหาที่สมองและหัวใจอยู่แล้ว ระวังจะกำเริบได้

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :  สำหรับชาวศุกร์ที่กำลังเข้าสู่การแข่งขัน การประกวด การประมูล สอบสัมภาษณ์ สอบเรียนต่อ หรือสอบเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง หากคุณปรารถนาความสำเร็จไว้อย่างแรงกล้า ขอบอกเลยว่า ไม่ต้องไปฟิกแฟกหาหนทางที่ไม่ถูกต้องชอบธรรมหรอกค่ะ เพราะคุณมีโอกาสตบเท้าเข้าเป็นน้องใหม่ในองค์กรนั้นๆ หรือได้เริ่มโปรเจคใหม่ๆ  ก็ต้องบอกว่า กว่าจะเข้าได้ก็ว่ายากแล้ว แต่ทำอย่างไรให้ผ่านโปรนั้นยากกว่า แล้วคุณก็ดูเหมือนจะมีความคิดและจินตนาการที่กว้างไกล ยากที่จะยอมก้มหัวให้ใครง่ายๆ แต่ในฐานะน้องใหม่ก็คงต้องยอม เพราะหากสามารถก้าวผ่านจุดนี้ไปได้ สิ่งที่ได้มานับว่าคุ้มค่ากับความเหนื่อย

การเงิน  :   เป็นไปได้ว่าคุณจะมีโอกาสได้รางวัลจากความขยันทำงาน แต่ก็ต้องระวังอย่าเข้าไปยุ่งกับเงินที่ไม่ถูกต้อง หรือเงินสีเทา เพราะนอกจากคุณจะเสื่อมเสียชื่อเสียงแล้ว ยังเสียเงินด้วย

ความรัก :  จะสุดท้ายปลายปีแล้ว ชีวิตคู่ของคุณก็ยังหลุดไม่พ้นจากเงาดำทะมึน ซึ่งคาดว่าสัปดาห์นี้จะมาพร้อมกับพวกปากหอยปากปูที่หวังให้ชีวิตคู่ของคุณไม่สงบสุข แล้วดูเหมือนคุณก็จะรับมือได้อย่างดี เพราะเป็นไปได้ที่จะออกไปกับพวกเขาเลย  คนโสด  หากใครที่กำลังเสียใจกับความรัก อกหัก ทิ้งความเศร้าไปกับปีเก่าให้หมด เพราะหัวใจคุณจะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส เปิดใจคบทุกคน รักทุกคนเท่ากัน  

สุขภาพ  :  สภาพอากาศเปลี่ยน เดี๋ยวเย็นเดี๋ยวร้อน จึงต้องระวังร่างกายที่จะปรับเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจะส่งผลให้เกิดไข้หวัด หรือหากใครเป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว ระวังจะกำเริบ นอกจากนั้นควรหลีกเลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ ไม่สดสะอาด รสจัด เพราะมีความเสี่ยงที่อาหารจะเป็นพิษ ท้องเสีย

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :   ต้องบอกว่าชาวเสาร์มีโอกาสดีได้ทำบุญส่งท้ายปีติดกันมาหลายสัปดาห์ สัปดาห์นี้ก็เช่นกันยังอยู่ในโหมดงานหรือธุรกิจที่เกี่ยวกับด้านสาธารณะประโยชน์ สาธารณะกุศล จิตอาสา มูลนิธิที่ช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอยู่ในกลุ่มของผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจสายช่าง รวมทั้ง นักการเมือง นักวิทยาศาสตร์ นักประดิษฐ์ คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อชาวโลก ซึ่งในช่วงสุดท้ายของปีนี้เป็นไปได้ว่า ผลงานของคุณจะเข้าตาผู้ใหญ่ผู้หญิง สนับสนุนและส่งเสริมไปถึงอนาคตที่สดใสในปีหน้าด้วย…

การเงิน  :  ก็ยังคงอยู่กับจิตสาธารณะอยู่เช่นเดิม ใจบุญใจกุศล ทำงานโดยไม่หวังผลตอบแทน แล้วพอไม่คาดหวัง ก็จะได้รับ เป็นไปได้ว่าผู้ใหญ่ผู้หญิงจะให้ความเมตตาเอ็นดูคุณ

ความรัก  :  สัปดาห์นี้คาดว่าความรักความอบอุ่นจะกลับคืนมาเหมือนเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณแม่ท่านไหนที่ไม่ได้อยู่กับลูก ปีใหม่นี้เป็นไปได้ว่าพวกเขาจะกลับมาเยี่ยม ครอบครัวก็จะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาดังเดิม  คนโสด คาดว่าสัปดาห์นี้มือที่สามไม่ว่าง คุณสามารถควงแขนหนุ่มของคุณไปเที่ยวได้ตามสบายเลย

สุขภาพ   :   ก็ยังอยู่กับความอ้วน ทั้งไขมัน เบาหวาน ความดันมารอฉ่ำๆ เลย นอกจากนั้นยังต้องระวังออฟฟิศซินโดรมมาเยือน ปวดคอ บ่า ไหล่ หลัง หากใครนั่งทำงานในอิริยาบถเดิมๆ มานานก็ควรลุกขึ้นไปทำโน้นนี่นั่นบ้าง  

อิน สาริน

อิน สาริน & เกรท สพล คู่วายในฝัน หวนจับคู่กันอีกครั้ง ในซีรีส์เรื่องใหม่ จาฤกรติชา

Alternative Textaccount_circle
อิน สาริน
อิน สาริน

คู่วายในฝัน อิน สาริน & เกรท สพล ล่าสุดโคจรมาเจอกันอีกครั้ง กับซีรีส์แนวพีเรียดเรื่องใหม่ของ GMM TV จาฤกรติชา

หลังจากผลงาน “วันดีวิทยา” “อิน-สาริน รณเกียรติ” กับ “เกรท-สพล อัศวมั่นคง” ก็ขึ้นแท่นคู่วายในฝัน ล่าสุดสองหน่มขวัญใจแฟนคลับ ก็เตรียมกลับมามีผลงานร่วมกันอีกครั้ง โดย อิน ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนกับการทำธุรกิจควบคู่ไปกับการทำงานในวงการบันเทิงให้แฟนๆ ฟังในงาน ฉลองช่วงเวลาแห่งความสุขส่งท้ายปี โออิชิ กรีนที จัดให้แบบสุดว้าว ส่งแคมเปญใหม่ “Refreshing Co-Creation by Oishi Green Tea” จับมือ 3 ร้านดัง Holiday Pastry, Brix Dessert Bar, และ Molto ครีเอทเมนูเฟรชสูตรไม่ลับจาก โออิชิ กรีนที อัพเลเวลความสุขสดชื่นเต็มรูปแบบในช่วงเทศกาล


เข้าเทศกาลแล้วต้องให้เวลาที่ร้านเยอะขึ้นมั้ย?

“ก็ด้วยครับ เพราะโปรเจ็กต์ช่วงคริสต์มาสปีใหม่เป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ ก็ทุ่มเทครับ ผมว่าเราเองก็ทุ่มเททุกเทศกาล ทุกๆครั้งที่ทำอะไรออกมาอยากให้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ลูกค้าได้ทาน ปีหน้า HOLIDAY PASTRY ก็จะมีสาขาเพิ่ม YOLK ทาร์ตไข่ก็จะมีสาขาเพิ่มด้วย จะมีอีกหนึ่งแบรนด์ใหม่ด้วย เกี่ยวกับขนมหวานเหมือนกัน เพราะผมค่อนข้างอิน ทานของหวานก่อนของคาว(ยิ้ม) มีฝันอีกอันคืออยากทำอะไรเกี่ยวกับไทยๆ แต่ยังไม่บอก”

ผลงานซีรีส์ปีหน้า?

“มีซีรีส์จากGMMTV เล่นกับพี่เกรท สพล เรื่อง “จาฤกรติชา” เป็น Period BL เรื่องแรกของGMMTV ได้ไปฟิตติ้งและอ่านบทด้วยกันมารอบนึงแล้ว ต้นปีหน้าน่าจะเริ่มเปิดกล้อง” เป็นเรื่องที่2ด้วยกันน่าจะลื่นไหลเลย? “เป็นเรื่องที่2ก็จริง แต่ด้วยธีมของซีรีส์ก็เปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะ คือเรื่องแรกเนี่ยวันดีวิทยาถ้าใครได้ดูเนี่ยก็จะมีความโมเดิร์นแล้วก็เดินเลือกค่อนข้างไวมีความตบจูบเยอะแต่ว่าเรื่องนี้ก็จะเป็นเหมือนกับจริตจก้านของคนยุคโบราณมีความพูดชัด มีความค่อยๆ จีบ ผมอ่านบทแล้วผมว่ามันน่ารักมากเพราะว่าอาจจะไม่ใช่การบุกรุนแรงแต่ว่าจะมีความแบบฉันแอบชอบ เธอแอบชอบฉัน จีบกันแบบสมัยก่อน แอบซ่อนดอกไม้ไว้ในหนังสือ เขียนกลอน สิ่งที่ผมเตรียมเยอะสุดเลยอ่ะครับ คือพูดภาษาฝรั่งเศส ในเร่ืองเป็นครูสอนฝรั่งเศสคือไม่ใช่แค่ต้องพูดได้แต่ว่าต้องไปสอนด้วยครับ อันนี้ยากมากเลยแต่โชคดีมากกว่า”

“ตอนถ่ายทำเดี๋ยวจะมีเหมือนกับคนฝรั่งเศสจริงๆอยู่ด้วยกันเลย ส่วนภาษาโบราณโชคดีว่าตอนอยู่ช่องก็คือผ่าน พีเรียดมาเยอะแล้ว พ่อเพิ่ม ภูผา ก็คือเป็นพีเรียดหมดเลย เดี๋ยวขออนุญาตไปเที่ยวช่วงปีใหม่แล้วเดี๋ยวกลับมาต้นปีต้องเริ่มแบ่งเวลามาออกกำลังกาย  เพราะพีเรียดก็จะมีนิดนึงของผมก็สบายหน่อยเพราะจะออกไปทางของพี่เกรทมากกว่า เค้าชอบบอกว่าเค้าไม่พร้อมแต่เค้าพร้อมยิ่งกว่า เค้าซุ่ม สอบไม่ได้แต่ได้เอ คือเราไม่ซุ่มแต่เราไม่ยอมสู้แต่ว่าก็พยายามทำให้ดีที่สุด เปิดกล้องเดือน ก.พ.”

ต้องรักษาหุ่นแบบนี้ปีใหม่ก็เอ็นจอยการกินมากไม่ได้สิ?

“ผมไม่ ผมเต็มที่อยู่แล้ว ผมแบ่งเป็นช่วงๆ สมมติถ้าไปเที่ยวหรือว่าทำงานที่ต้อง ทานหรือว่าชิม ทดลองสูตรใหม่ๆ ผมจะเต็มที่ ยกตัวอย่างเวลาผมต้องเทสเมนูขนมหวานครับ ผมจะไม่ตักแค่คำเดียว ผมจะกินหมดชิ้นหรือหรือว่ากินหมดปอนด์เลย คือกินเท่ากับลูกค้ากินเลยจะได้รู้ว่านอกจากความอร่อยแล้ว กินไปเลี่ยนมั้ย กินได้หมดก้อนหรือเปล่า เวลาเทสจะโหดมาก เด็กที่ร้านจะรู้เลยว่าผมจะน้ำหนักขึ้นเป็นแบบ 4-5 กก.เลยครับเวลาเปลี่ยนเทศกาลแต่มันจำเป็นครับ แล้วก็หลังจากนั้นพอมันมีช่วงเวลา ผมก็จะออนไดเอทเลย กินคลีนเลย” บางช่วงเลยได้เห็นความแซ่บในไอจีก็ฮือฮา? “อันละเลือกมาแล้ว ผ่านแสงและเงาเล็กน้อย คู่ผมเยอะกว่าครับ” ชอบมั้ยเวลาลงแล้วฮือฮา? “ทุกอย่างเป็นเอนเกจเมนต์ ผมยังบังคับแฟนคลับเลยว่าให้เข้าไปเมนต์(ยิ้ม)” แฟนคลับยิ่งยุเลยมั้ย? “ไม่หรอกเค้าก็อยากดูไลฟ์สไตล์แหละ”

น้องๆในค่ายบอกว่าพี่อินก็ไม่แพ้ใครไม่ยอมใคร?

“เป็นปีแรกที่ผมอยู่เต็มตัวเพราะว่าผมเพิ่งครบปีไป ก็ใช่ถ้าใครได้ดูรายการนะครับ จริงๆไม่หรอกผมว่าผมก็พยายามละลายพฤติกรรมแล้วกัน เพราะว่าผมจับสังเกตได้ว่าตอนที่ผมเข้าไป น้องจะรู้สึกเกร็ง แล้วก็พี่ยุ้ย คนดูแล ก็จะบอกว่าให้ลูกอ่ะไปคุยเยอะๆ หน่อยเพราะว่าเหมือนน้องเกร็ง แต่คือตัวจริงๆอินเป็นคนค่อนข้างชิลมาก แต่น้องเค้าคงเห็นตอนว่าทำงานหรือว่าอะไร เราก็เลยพยายามแบบเข้าไปปากแจ๋วด้วย กลมกลืนกับอายุ 20 ต้นๆ” ตอนน้องเกร็งเรากังวลมั้ย? “ผมเฉยๆ ผมคิดว่าถ้าเกิดมีโอกาสได้รู้จักกันก็จบเลยเพราะว่าจริงๆผมพูดไม่หยุดเลยนะ โดนแซวว่าผมสนิทกับทีมงานกับพนักงานก่อนนักแสดงอีก รายการก็เริ่มติดต่อมากขึ้น เห็นเราตลก”

เสริมจมูกแบบโอเพ่น

เรื่องต้องรู้ก่อนเสริมจมูกแบบโอเพ่น เทคนิคนี้ดีอย่างไร?

account_circle
เสริมจมูกแบบโอเพ่น
เสริมจมูกแบบโอเพ่น

“จมูก” ถือเป็นอวัยวะที่ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติ ส่งเสริมโหงวเฮ้งที่ดี ทำให้การศัลยกรรมจมูกได้รับความนิยมสูงขึ้นในปัจจุบัน โดยบทความนี้จะแนะนำการเสริมจมูกแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty) หรือเสริมจมูกแบบเปิด ซึ่งเป็นการผ่าตัดเปิดโครงสร้างจมูก ที่จะช่วยให้สามารถมองเห็นโครงสร้างภายในทั้งหมดได้ชัดเจน และแก้ไขปัญหาจมูกได้อย่างครอบคลุม 

ไม่ว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับจมูกแบบไหน เช่น สันจมูกคด, ปลายจมูกใหญ่, จมูกมีกระดูกฮัมพ์สูง (สันจมูกปูด), จมูกสั้น หรือมีจมูกงุ้ม ก็สามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุด จมูกเป็นทรงสวย และมีความสมส่วนยิ่งขึ้น ด้วยการทำจมูกแบบโอเพ่น

การเสริมจมูกแบบโอเพ่นเหมาะกับใคร

ก่อนเสริมจมูกแบบโอเพ่น ผู้ที่ต้องการทำจะต้องได้รับการพิจารณาโครงสร้างจมูกจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน ว่าเหมาะที่จะเสริมจมูกเทคนิคโอเพ่นหรือไม่ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและมีความยั่งยืนในระยะยาว

โดยส่วนมากผู้ที่เหมาะจะเสริมจมูกแบบโอเพ่น คือคนที่มีปัญหาจมูกสั้น มีเนื้อจมูกน้อย ทำให้การเสริมจมูกมีความยากมากขึ้น เมื่อใส่แท่งซิลิโคนเข้าไปจะมองเห็นจมูกเป็นแท่งได้ชัดเจน ทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ ทั้งยังเสี่ยงซิลิโคนทะลุและก่อให้เกิดอันตรายแก่จมูกอีกด้วย

นอกจากนี้ เทคนิคโอเพ่นยังเหมาะกับคนที่มีปัญหาโครงสร้างจมูกผิดปกติ จมูกมีการเบี้ยว คด ดูผิดรูป ต้องการทำให้ตรง หรือในคนที่เคยเสริมจมูกมาแล้วแต่เกิดข้อผิดพลาดขึ้น และอยากแก้ทรงใหม่ให้ดูเรียวสวย มีความเป็นธรรมชาติ หากมีปัญหาเกี่ยวกับจมูกตามที่ได้กล่าวมา จะเหมาะกับการเสริมจมูกแบบโอเพ่น 

รูปแบบของการเสริมจมูกแบบโอเพ่น

เสริมจมูกแบบโอเพ่น จะใช้กระดูกอ่อนหลังหู, กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก, กระดูกอ่อนซี่โครง หรือเนื้อเยื่อเทียม นำมาเสริมบริเวณช่วงปลายจมูก ซึ่งสามารถป้องกันการทะลุ และช่วยให้จมูกมีความยาวขึ้น แก้ปัญหาโครงสร้างได้ดี โดยแต่ละรูปแบบมีความแตกต่างกันไป ดังนี้

กระดูกอ่อนหลังหู 

เสริมจมูกแบบโอเพ่นด้วยกระดูกอ่อนหลังหู เหมาะกับคนที่มีปัญหาเนื้อจมูกน้อย หรือเคยผ่านการเสริมจมูกมาแล้ว แต่มีอาการอักเสบเกิดขึ้น โดยกระดูกอ่อนหลังหูจะนำมาใช้ในการแก้ไขโครงสร้างจมูกได้ดี อีกทั้งยังเหมาะกับคนที่ร่างกายต่อต้านซิลิโคน เพราะการทำจมูกโอเพ่นจะใช้กระดูกอ่อนหลังหู ซึ่งเป็นสิ่งที่มาจากร่างกายของตนเอง จึงปลอดภัยมากยิ่งขึ้นและมีโอกาสแพ้ต่ำ 

กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก 

เสริมจมูกแบบโอเพ่นด้วยกระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก เหมาะสำหรับคนที่อยากมีปลายจมูกพุ่ง ๆ โดยไม่ต้องพึ่งซิลิโคน ด้วยการตัดกระดูกอ่อนผนังกั้นจมูกด้านหลัง มาเย็บเข้ากับผนังกั้นจมูกด้านหน้า เพื่อให้ผนังกั้นจมูกยาวขึ้น แล้วปลายจมูกจะมีความโด่งขึ้นตามไปด้วย

กระดูกอ่อนซี่โครง 

เสริมจมูกแบบโอเพ่นด้วยกระดูกอ่อนซี่โครง เหมาะสำหรับคนที่เคยทำจมูกมาแล้วแต่ยังคงมีปัญหาอยู่ โดยสามารถแก้จมูกเทคนิคโอเพ่น ด้วยกระดูกอ่อนซี่โครงที่มีความแข็งแรงและความยาว ซึ่งการนำกระดูกส่วนนี้ออกมาใช้ จะต้องผ่าตัดบริเวณใต้ราวนม โดยจะต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อขึ้นภายหลัง

เนื้อเยื่อเทียม 

เสริมจมูกแบบโอเพ่นด้วยเนื้อเยื่อเทียม เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อย หรือผู้ที่เคยเสริมจมูกแต่มีปัญหาปลายจมูกบาง ซิลิโคนดัน โดยสามารถใช้เนื้อเยื่อเทียมที่ผลิตมาจากคอลลาเจน และมีลักษณะคล้ายฟองน้ำ ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย เพื่อจัดการปัญหาจากการเสริมจมูกได้

เมื่อเสริมจมูกแบบโอเพ่นด้วยเนื้อเยื่อเทียม จะช่วยเพิ่มความหนาบริเวณเนื้อปลายจมูก ช่วยให้จมูกมีความโด่งเชิดขึ้น อีกทั้งยังแก้ปัญหาเรื่องผิวบาง และลดความชัดของซิลิโคน จมูกจึงดูสวยเนียน เป็นธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้ เนื้อเยื่อเทียมยังช่วยป้องกันการเกิดซิลิโคนทะลุ และกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ที่จะช่วยให้ผิวบริเวณนั้นแข็งแรงขึ้นอีกด้วย

ข้อดีของการเสริมจมูกแบบโอเพ่นมีอะไรบ้าง

ข้อดีเสริมจมูกแบบโอเพ่น

การเสริมจมูกแบบโอเพ่น แม้จะมีขั้นตอนที่ซับซ้อน มีการใช้ยาสลบ ต้องใช้เวลาพักฟื้น และยังมีราคาสูง แต่ก็มีข้อดีมากมายที่คุ้มค่าต่อการลงทุน เพื่อให้ได้จมูกที่มีทรงสวยงาม ปลอดภัย และยั่งยืนในระยะยาว

ข้อดีของการเสริมจมูกแบบโอเพ่น จะช่วยให้ปลายจมูกโด่งและยาวขึ้นได้โดยไม่เสี่ยงทะลุ อีกทั้งยังสามารถแก้ไขโครงสร้างจมูก เพื่อให้อาการผิดรูป คดงอหายไป และยังช่วยลดขนาดปีกจมูก เพิ่มความเรียวสวย ทำให้จมูกดูมีสัดส่วนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การเสริมจมูกแบบโอเพ่นยังมีประโยชน์ด้านการรักษาในคนที่มีปัญหาเรื่องการหายใจ หรือหายใจได้ข้างเดียวจากการมีโครงสร้างในจมูกคดอีกด้วย  

เสริมจมูกแบบโอเพ่น เพิ่มความเรียวสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คนเนื้อน้อยก็ทำได้

การเสริมจมูกแบบโอเพ่น ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างจมูกได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นจมูกคด ดูผิดรูป ไม่ได้สัดส่วน รวมถึงคนที่เคยผ่านการเสริมจมูกมาแล้ว แต่มีเหตุให้ต้องแก้ซ้ำซ้อนหลายรอบ นอกจากนี้ คนที่ร่างกายต่อต้านซิลิโคนและคนที่มีเนื้อจมูกน้อย ก็สามารถใช้วิธีเสริมจมูกแบบโอเพ่น เพื่อเพิ่มความสวยงามให้จมูกได้เช่นกัน 

แต่ก่อนจะทำการเสริมจมูกแบบโอเพ่น ควรปรึกษาแพทย์และรับการประเมินเพื่อหาวิธีเสริมจมูกที่เหมาะกับตนเองมากที่สุดเสียก่อน โดยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ SLC Hospital โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะทาง ที่จะช่วยให้คุณเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด


"อาหารที่ดีต่อสุขภาพ" ต้องดีทั้งกายและใจ

ผลสำรวจ 8 ใน 10 คนของเอเชียแปซิฟิก เชื่อว่า “อาหารที่ดีต่อสุขภาพ” ต้องดีทั้งกายและใจ

Alternative Textaccount_circle
"อาหารที่ดีต่อสุขภาพ" ต้องดีทั้งกายและใจ
"อาหารที่ดีต่อสุขภาพ" ต้องดีทั้งกายและใจ

เป้าหมายปีใหม่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างสุขภาพที่ดีขึ้นให้ชีวิต ซึ่งสิ่งสำคัญที่ห้ามละเลยคือการยึดมั่นในเป้าหมายเหล่านี้ตลอดทั้งปี โดยให้เราเริ่มต้นด้วยเป้าหมายเล็กๆ ที่สามารถทำได้ในชีวิตประจำวันและหมั่นทำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งความตั้งใจและความสม่ำเสมอเหล่านี้ จะสามารถเปลี่ยนจากเป้าหมายในความคิดให้กลายเป็นนิสัยที่ดีต่อสุขภาพในระยะยาวได้

โดยมีเผยผลสำรวจ “New Year, New Me” ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พบว่า 85% ของผู้บริโภคมองว่าอาหารที่ดีต่อสุขภาพมีความสำคัญต่อการส่งเสริมทั้งสุขภาพกายและใจ โดยเกือบ 8 ใน 10 คน (77%) ระบุว่ามีการวางแผนจะเริ่มสร้างนิสัยที่ดีต่อสุขภาพภายในปีหน้านี้ ซึ่งการวัดผลสำเร็จของการมี อาหารที่ดีต่อสุขภาพ คือ มีความเป็นอยู่โดยรวมที่ดีขึ้น รู้สึกมีพลังงานมากขึ้น นอนหลับได้ดีขึ้น

ในจำนวนผู้ทำแบบสำรวจกว่า 59% ระบุว่าจะตั้งเป้าหมายใหม่สำหรับปี 2568 โดยมีเป้าหมายที่นิยม 3 อันดับแรก ได้แก่ ออกกำลังกายมากขึ้น (59%) กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ (58%) และวางแผนการออมเงิน (53%)

การสำรวจครั้งนี้จัดทำโดย Talker Research ภายใต้ชื่อของ เฮอร์บาไลฟ์* โดยทำการเก็บข้อมูลจากผู้ใหญ่จำนวน 5,500 คนจาก 11 ประเทศ เพื่อศึกษาทัศนคติของผู้คนต่อการสร้างนิสัยที่ดีต่อสุขภาพ และวิธีการที่ใช้เพื่อพาตัวเองไปสู่การมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม ครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสำรวจยังระบุว่าพวกเขารู้สึกสุขภาพไม่ดีเหมือนปกติเมื่อเข้าสู่ช่วงปลายปี และกว่า 50% ยอมรับว่ามักใช้ข้ออ้างของช่วงเทศกาลสิ้นปีเพื่อผลัดวันในการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพออกไป นอกจากนี้ผลสำรวจยังเผยให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างช่วงวัย โดย 55% ของผู้ตอบแบบสำรวจในกลุ่ม Gen Z ยอมรับว่าใช้เวลาช่วงสิ้นปีเป็นข้ออ้าง ในขณะที่กลุ่ม Gen X จะอยู่ที่ 46% รวมทั้งผู้ตอบแบบสำรวจกว่า 60% ยังระบุว่าเคยหลุดแผนการกินอาหารเพื่อสุขภาพในช่วงปลายปี โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะความเย้ายวนของอาหารในช่วงเทศกาลถึง 37% โดยหลายคนเลือกพักเบรกจากนิสัยที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อเพลิดเพลินไปกับช่วงเทศกาลได้อย่างเต็มที่ ซึ่งผู้ตอบแบบสำรวจ 57% ให้ความเห็นว่าช่วงสิ้นปีจะสนุกยิ่งขึ้นหากไม่ต้องกังวลเรื่องสุขภาพและน้ำหนัก โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่มีแนวโน้มเห็นด้วยกับความคิดนี้มากกว่า เห็นได้จากตัวเลขของ Gen Z กว่า 62% ที่ระบุว่ารู้สึกเช่นนี้ ในขณะที่ Gen X เห็นด้วยอยู่ที่ 53%

นอกจากนี้ ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่มีแนวโน้มจะไม่ทำตามแผนในปีนี้มากขึ้น โดยกว่า 53% ของ Gen Z ยอมรับว่ามีโอกาสหลุดแผนสูงกว่าปีก่อนๆ เมื่อเทียบกับ Gen X ที่ 37% และเมื่อถามถึงเหตุผลที่ทำให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะตามใจตัวเองในปีนี้ ผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่า เมื่ออายุมากขึ้น พวกเขารู้สึกเต็มใจที่จะปล่อยวางและสนุกกับช่วงเวลานั้นมากขึ้น (43%) และพวกเขารู้สึกขอบคุณที่ได้ใช้เวลาร่วมกับครอบครัวและเพื่อนฝูง ซึ่งทำให้คาดว่าความมีวินัยในตัวเองจะลดลง (40%)

การใช้ช่วงเวลาแห่งความสุขในเทศกาลให้คุ้มค่า คือการฉลองร่วมกับคนที่เรารักควบคู่กับการดูแลรักษาสุขภาพให้ดีไปด้วยกัน เช่น เปิดโอกาสให้ตัวเองได้เพลิดเพลินกับอาหารอร่อยๆ ในช่วงเทศกาลได้ แต่ควรเลือกสมดุลด้วยอาหารที่มีประโยชน์และหมั่นคอยเคลื่อนไหวร่างกายไว้อยู่เสมอ โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือการวางแผนและเลือกกินอย่างมีสติ ซึ่งจะช่วยให้มีความสุขตลอดช่วงเทศกาลและยังคงรักษานิสัยเฮลตี้ที่ดีต่อสุขภาพต่อไปได้จากการกินของที่มีประโยชน์

*วิธีการสำรวจ
Talker Research เป็นการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจำนวน 5,500 คน จาก 11 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม โดยการสำรวจนี้จัดทำขึ้นในนามของเฮอร์บาไลฟ์ และดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ระหว่างวันที่ 25-29 ตุลาคม 2567

ขอบคุณข้อมูลจาก: เฮอร์บาไลฟ์ ผู้นำด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีระดับโลก
ภาพ : Pexels


keyboard_arrow_up