ไขความลับสวิสเซอร์แลนด์ ประตูสู่อาชีพการบริการด้านการโรงแรมดีที่สุดในโลก

เมื่อพูดถึงประเทศสวิสเซอร์แลนด์ สิ่งแรกที่นึกถึงถ้าไม่ใช่ช็อกโกแลต นาฬิกาหรือว่ามีดพับ คงจะเป็นภูเขาเอลป์สูงเสียดฟ้ารายล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่สลับไล่เรียงกันไป จนได้รับสมญานามว่าเป็น “หลังคาแห่งทวีปยุโรป” ที่มีความสวยงามของธรรมชาติและสถาปัตยกรรมไม่แพ้ที่ใดในโลก
นอกจากประเทศแห่งนี้จะมีดีเรื่องขนมหวานและความคลาสสิก สวิสเซอร์แลนด์ยังได้ชื่อว่าเป็นประเทศต้นกำเนิดของอุตสาหกรรมโรงแรมและบริการที่ดีที่สุดในโลก แต่ละปีจะผลิตบุคลากรที่มีประสิทธิภาพผ่าน 5 สถาบันชั้นนำในสวิสเซอร์แลนด์มาแล้วนักต่อนัก ทำให้นักศึกษาจบใหม่ที่นี่กลายเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่ได้รับการคัดสรรเข้าทำงานจากโรงแรมระดับไฮเอนด์แห่งต่างๆ ทั่วโลก ด้วยเหตุผลน่าสนใจที่เราเก็บมาฝาก
pic-8
เพราะแนวการสอนที่นี่ดั้งเดิมแต่ไม่โบราณ
นอกจากที่นี่จะมีแผนการศึกษายึดตามรอยแบบแผนดั้งเดิมแล้ว สถาบันทั้ง 5 แห่งของ Swiss Education Group ยังปรับเปลี่ยนพัฒนาหลักสูตรไปตามเทรนด์ของวงการธุรกิจ เพื่อให้ทันสมัยอยู่เสมอ ทุกคนจะได้ทดลองจัด Event จริงในสถานที่จริง เริ่มตั้งแต่คิดธีม เชิญแขก ทำอาหาร รับแขก บริหารงบประมาณ หรือแม้แต่การออกไปฝึกงานนอกสถานที่ ที่สำคัญถูกส่งข้ามน้ำข้ามทวีปไปทั่วโลก เดินทางไปยังเมืองต่างๆ ที่ขึ้นชื่อเรื่องการบริการและการจัดการโรงแรมดีเป็นเลิศไม่แพ้กัน เพื่อให้รู้จริงเรื่องการบริการ ไม่ว่าจะเป็นโปรตุเกส ดูไบ หรือมัลดีฟ ความหลากหลายด้านวัฒนธรรมการกินของแต่ละเชื้อชาติ จะทำให้เข้าถึงหัวใจการบริการมากขึ้น

SHMS pic on post

รายล้อมไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุข ธรรมชาติและอากาศเย็นสดชื่น
ธรรมชาติรอบๆ ตัวสามารถสร้างจินตนาการได้ไม่รู้จบ จึงมีบางแคมปัสของที่นี่เลือกสถานที่ตั้งอยู่บนยอดเขา อาทิ Swiss Hotel Management School ( SHMS ) หนึ่งในสถาบันเครือ Swiss Education Group คือแรงบันดาลใจในการกระตุ้นความใฝ่รู้ใฝ่เรียนให้อยากตื่นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ในทุกๆ เช้า นอกจากทำเลที่ตั้งจะอยู่ในบริเวณที่สวยงาม เดิมทีนั้นอาคารเรียนแห่งนี้ในอดีตคือโรงแรมสไตล์ปราสาทโรงแรมแรกที่มีอายุกว่า 150 ปี ห้องพักของโรงแรมปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องพักนักศึกษาเห็นวิวสวยงาม มีโถงใหญ่คล้ายห้องบอลรูม และมีโรงละครสำหรับให้นักศึกษาจัดงานเลี้ยงได้ มีห้องภัตตาคารแบบ fine dining กว่า 300 ที่นั่งที่จัดเป็นห้องอาหารให้นักศึกษาได้เรียนรู้เรื่องการทำงานภายใต้บรรยากาศของการเรียนรู้เรื่องโรงแรมและการจัดงาน เสมือนได้อยู่ในบรรยากาศจริง

Neuchatel-IHTTI

 

SHMS_Leysin-exterior

รวมไปถึงการเลือกทำเลที่ตั้งของอีก 4 แห่ง ล้วนแล้วแต่มีความสวยงามทั้งขุนเขา และทะเลสาบเจนีวา ผู้คนสุภาพ บ้านเมืองสงบสุข และปลอดภัย

สร้างก้าวที่มั่นคงสู่ประตู World Wide ไปสู่เครือข่ายทั่วโลก
ความสำเร็จของโรงแรมศรีพันวา บริหารงานโดยคุณปลาวาฬ – วรสิทธิ์ อิสสระ เป็นเครื่องการันตีได้อย่างดีถึงสถาบันที่สวิสเป็นประตูก้าวสำคัญสู่การทำงานในเวทีระดับโลก เพราะ Cesar Ritz Colleges สถาบันที่คุณปลาวาฬศึกษา ก่อตั้งโดย เซซาร์ ริทซ์ บิดาแห่งการโรงแรม ผู้ก่อตั้ง The Ritz เต็มไปด้วยนักศึกษาจากทั่วโลกกว่า 65 สัญชาติ นั่นหมายความว่านอกจากจะได้เรียนจากสถาบันคุณภาพแล้ว นักศึกษายังมีโอกาสได้มีเพื่อนจากทั่วโลก ซึ่งจะเป็นเครือข่ายในวิชาชีพต่อไปในอนาคต และเป็นโอกาสที่ได้เรียนรู้เรื่องความแตกต่างของคนและวัฒนธรรมแต่ละประเทศที่เป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งในการประกอบวิชาชีพโรงแรมและบริการ
รู้อย่างนี้แล้วอย่าปล่อยโอกาสความสำเร็จให้หลุดลอยไป สร้างช่องทางสายอาชีพให้กว้างไกลจากจุดเริ่มต้นของการบริการด้านการโรงแรมดีที่สุดในโลกอย่างสวิสเซอร์แลนด์ หรือถ้ายังลังเลกับการตัดสินใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.swisseducation.ac , [email protected] โทร. 02 -6521481

เทรนด์ผิวสวยสุขภาพดีของผู้หญิงยุคใหม่ ผิวสีไหนก็สวยได้

ความคิดที่ว่าผู้หญิง “ผิวขาว” คือผู้หญิงที่สวย และผู้หญิง “ผิวคล้ำ” คือผู้หญิงไม่สวยนี่มันเป็นความคิดที่ค่อนข้างโบราณไปหน่อยนะคะ เพราะความงามที่แท้จริงนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ต่อให้สาวๆ จะมีผิวสีไหน จะขาว ดำ คล้ำ แทน เชื่อเถอะค่ะว่าทุกคนสามารถมีผิวที่สวยได้

ผิวที่สวยในที่นี้เราหมายถึง “ผิวที่มีสุขภาพดี” เพราะต่อให้คุณมีผิวขาวตามค่านิยมที่คนชื่นชอบก็จริงแต่ถ้าผิวของคุณสุขภาพไม่ดี แห้งกร้าน จับแล้วไม่นุ่นชุ่มชื่น แบบนั้นก็ไม่เวิร์คนะว่าไหม? ซึ่งตอนนี้เทรนด์ผิวสุขภาพดีก็เป็นที่นิยมกันมากขึ้นลองสังเกตดูผิวของดาราสมัยนี้ มีมิติมากขึ้น ไม่ขาวแบน หรือขาวเป็นกระดาษ A4 เหมือนแต่ก่อน แต่เอ๊ะ สาวๆ คงสงสัยกันแล้วใช่ไหมคะว่าเราจะรู้ได้ยังไงว่าผิวเราสุขภาพดีหรือไม่? ไม่ยากค่ะวิธีเช็คสุขภาพผิวนั้นทุกคนสามารถทำตามได้ อย่างแรกเลยสามารถดูได้จากตาเปล่า ดูว่าผิวของเรานั้นมีสีผิวที่สม่ำเสมอไหม ตาดูแล้วก็ยังไม่ชัดค่ะต้องสัมผัสหรือจับผิวดูว่าเนียนนุ่ม ชุ่มชื่นรึเปล่า แต่ถ้าอยากรู้ชัดๆ ให้ลองเอาเล็บขีดที่ผิวเบาๆ ดู ถ้าไม่เห็นรอยขีด แสดงว่าผิวของเราแข็งแรง มีความยืดหยุ่นค่ะ ที่เราต้องให้ความสำคัญกับผิวขนาดนี้ก็เพราะผิวคืออวัยวะที่สำคัญช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นภายในไว้ และยังป้องกันมลภาวะต่างๆ ไม่ให้เข้ามาในร่างกายเราอีกด้วย ถือเป็นทหารเอกหรือเกาะป้องกันด่านแรกของร่างกายเราเลยก็ว่าได้

Jessica

shutterstock_275916962

Kendall Jenner

shutterstock_406593712

Miranda May Kerr

shutterstock_416880763

การที่เรายอมรับความสวยตามแบบของเราน่ะดีที่สุดแล้ว เพราะบางคนอยากจะมีผิวขาวซะจนไม่สนวิธีการว่าอันตรายรึเปล่า ทั้งฉีดผิว กินกลูต้า บริโภคทุกอย่างที่เชื่อว่าจะทำให้ผิวขาวขึ้น คงไม่ต้องอธิบายหรอกนะว่าโทษของมันมีอะไรบ้าง เพราะตัวอย่างก็มีให้เห็นในข่าวกันตลอดเวลาแค่มีผิวที่สุขภาพดีไม่ว่าผิวสีไหนก็สวยได้

แล้วไอ้ผิวสุขภาพดีเนี่ยต้องทำยังไง? ที่จริงแล้วการจะมีผิวสุขภาพดีนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลยนะคะ แค่รู้จักดูแลตัวเองเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อยก็สามารถมีผิวที่สุขภาพดีได้แล้ว ยิ่งสมัยนี้มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมากมายตามท้องตลาดออกมาเป็นตัวเลือกให้กับสาวๆ แต่ก็ต้องเลือกให้ดีๆ นะคะ เพราะบางอย่างก็ไม่ได้คุณภาพ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถืออย่าง VASELINE  HEALTHY WHITE UV LIGHTENING เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมีส่วนผสมของวิตามินบี 3 ช่วยให้ผิวกระจ่างใสสม่ำเสมออย่างเป็นธรรมชาติแถมยังทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นด้วยไมโครดร็อปเล็ตจากวาสลีนเจลลี่ช่วยล็อคความชุ่มชื่นและทริปเปิ้ลซันสกรีน ช่วยปกป้องผิวจากอันตรายจากรังสียูวีได้อีกด้วยค่ะ แถมยังน่าเชื่อถือเพราะเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอันดับ 1 ในประเทศ (ที่กล้าพูดเนี่ย เพราะเขาได้รับรางวัลการันตีมาแล้วจริงๆ ค่ะ) เหมาะกับทุกสภาพผิว จะผิวขาว ผิวสีแทน ก็ใช้ได้หมด

ที่สำคัญนะคะสาวๆ นอกจากจะบำรุงผิวด้วย VASELINE  HEALTHY WHITE UV LIGHTENING เป็นประจำทุกวันแล้วก็ต้องดื่มน้ำให้ครบ 8 แก้วต่อวันเพื่อผิวที่ชุ่มชื่น รับประทานผักผลไม้ที่มีประโยชน์ให้เยอะๆ ออกกำลังกายเป็นประจำควบคู่ไปด้วยจะดีมากค่ะ

Vanquishh_Lotion_TH_UV_250ml_PackA4
ถ้าใครอยากทราบข้อเพิ่มเติมก็เข้าไปติดตามได้ที่
 http://www.vaselinethailand.com/ ตามลิงค์นี้เลยค่ะ

อัพเดทชีวิต ‘แพลงต้อน-อีตั้น’โตเป็นหนุ่มหล่อเนื้อหอมไม่เบา แม่หมิวไม่หนักใจ มั่นใจเลี้ยงลูกดี เพราะมีสิ่งนี้…

‘แพลงต้อน-อีตั้น’โตเป็นหนุ่มหล่อไม่เบา …สาวๆ ว่าไง

‘แพลงต้อน-อีตั้น’โตเป็นหนุ่มหล่อไม่เบา ล่าสุดหมิวพาลูกชายทั้ง2คน มาโชว์ความออร่าจับไม่แพ้พ่อก้อง (นรบดี) เลยขอพามาอัพเดทความหล่อ เอ๊ย อัพเดทชีวิต วันนี้จึงจัดให้เต็มๆ

eton

eton1ตอนนี้แพลงต้อนกำลังเรียนอยู่ม.4 ที่โรงเรียนร่วมฤดี ส่วนอีตั้นเรียนอยู่ม.2 ที่โรงเรียนเดียวกัน ซึ่งถ้ามีเวลาว่างแพลงต้อนจะชอบดูหนัง กับเล่นเบส หรือไม่ก็วาดรูป เรียกว่าอารมณ์ศิลปินสุดๆในขณะที่อีตั้นเองก็ชอบตีกลอง ดูหนัง เรียกว่าดูได้ทุกประเภทเลย

Untitled-4

Screen Shot 2016-07-31 at 11.39.11 PM copyส่วนไลฟ์สไตล์การกินของหนุ่มๆ บ้านนี้ด้วยความที่แม่หมิวกินมังสวิรัติ สายเฮลตี้รักสุขภาพสุดๆ แถมคุณยายก็เข้มงวดเรื่องการกินมาก 2 หนุ่มก็เลยได้อิทธิพลมาเต็มๆ แพลงต้อนเล่าให้ฟังว่า “คุณยายดูแลอาหารให้ตั้งแต่เด็กเลย ท่านให้กินผักทุกอย่าง เวลามาที่บ้านจะสำรวจว่ามีผักผลไม้ติดบ้านไหม  ตอนเด็กๆ พวกเราไม่ได้ดื่มพวกน้ำอัดลมเลย แต่พอโตขึ้นมาก็อนุโลมบ้าง แต่อย่าบ่อย มีเหมือนกันที่ผมกับอีตั้นเบื่ออาหาร เราก็โทรเรียกอาหารฟาสต์ฟู้ดมาส่งที่บ้าน สั่งต่อหน้าคุณยายเลย ท่านก็มีบ่นบ้าง” (ยิ้ม)

Untitled-55

Untitled-6บ้านนี้มาแปลกแทนที่แม่จะทำให้ลูกกิน แต่กลายเป็นว่าแม่หมิวขอผ่าน ยิ่งเวลาอยู่บ้านหมิวจะไม่ทำเลยยกเว้นถ้าไปเที่ยวต่างจังหวัดก็จะทำอาหารเช้าง่ายๆ   เช่น พาสต้า กับไข่เจียว ด้านแพลงต้อนเห็นแบบนี้เป็นหนุ่มชอบทำอาหารนะจ๊ะ เคยไปเรียนทำขนมปังด้วย เมนูที่ชอบทำคือ ไข่คน เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่ใส่ชีสลงไป ด้านอีตั้นก็มีจานถนัด เป็นเมนูง่ายๆ อย่างเฟรนช์โทสต์  เมนูเดียวเอาอยู่

อย่างล่าสุดเพิ่งยกโขยงไปเที่ยวประเทศอังกฤษ ยังต้องกินร้านออแกนิคเลยจ้าาา
เรื่อง : นิตยสารแพรว  ภาพ: eaton.sas,https://www.facebook.com/mew.lasi

พยากรณ์ดวงชะตาประจำวัน จันทร์ที่ 1 สิงหาคม 2559

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : หากวันนี้ท่านจะไปเซ็นสัญญาหรือคุยโปรเจ๊คท์ใดๆ หาข้อมูลให้พร้อม ต้องดูให้รัดกุม ก่อนจะตกปากรับคำเซ็นสัญญา เพื่อไม่ให้พลาด

การเงิน : ใช้เงินไปกับการท่องเที่ยว

ความรัก : จะมีญาติผู้ใหญ่ในครอบครัวป่วย ดูแลกัน อย่าว่อกแว่กเชียว คนโสด คบกันอยู่ดีๆ ก็ระแวงกันซะงั้น ต่างคนต่างกลัวจะนอกใจ หากไม่มั่นใจก็เลิกกันตั้งแต่ตอนนี้เลย จะได้ไม่เจ็บ

สุขภาพ : จะมีปัญหาที่ข้อต่อกระดูกหลังไม่ค่อยดี

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : จุดอ่อนท่านอยู่ที่บริวารและลูกน้องทำงานไม่เต็มที่ ควรคิดวิธีบริหารจัดการใหม่

การเงิน : ได้ลาภจากญาติผู้ใหญ่ เช่น ทรัพย์สินเงินทอง มรดก

ความรัก : ความคิดสวนทางกัน กว่าจะซื้อของสักชิ้นต้องใช้เวลาปรึกษากันนานมาก ส่วนใหญ่จะหนักไปในทางทะเลาะกันมากกว่า แค่ลดอัตตาลงก็ไม่เครียดแล้ว คนโสด จากพื้นดวงชาวจันทร์หลงรักคนง่ายอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอย่าหลงที่หน้าตา หมดยุครักแรกพบแล้วมั้ง

สุขภาพ : พกยาแก้ผื่นคัน ลมพิษไปด้วยนะคะ

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน : ท่านที่เป็นเจ้าของธุรกิจ ระวังจะสะดุด อย่าลงทุนเยอะ ดวงไม่เปิด ไม่เข้าข้างเลย จะถูก

หุ้นส่วนหลอก หากเป็นไปได้ควรทำเองดีกว่า

การเงิน : รายจ่ายจรเยอะ

ความรัก : ทะเลาะกันอย่างไรก็แล้วแต่ อย่าก้าวร้าวหรือใช้ความรุนแรง จะสร้างบาดแผลทั้งทางกายและจิต พยายามหักห้ามใจ คนโสด ไม่ควรหวั่นไหวกับภาพลวงตา เพราะท่านอาจกำลังหลอกตัวเองว่า เขามีใจกับเรา เขารักเรา ไม่จริงนะคะ ตื่นๆๆ

สุขภาพ : ระบบทางเดินหายใจมีปัญหา หอบหืดกำเริบ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน : ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าหลายอย่าง พูดกับใครก็ไม่ราบรื่น จะถูกขัดใจได้

การเงิน : ยังต้องจ่ายค่ายา ค่าหมอ เพื่อรักษาคนในบ้าน

ความรัก : ได้ของขวัญที่ถูกใจ จบด้วยแฮปปี้เอ็นดิ้ง คนโสด มีคนไม่โสดมาชอบ อย่าเพิ่งเลือก เพราะช่วงนี้ดวงคู่ยังไม่เปิด

สุขภาพ : อาจแพ้อาหาร อากาศ เกสรดอกไม้ ต้นไม้ จนเกิดผื่นคัน

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : ได้งานท้าทาย ซึ่งท่านอยากทำเพื่อลบคำสบประมาท ควรทำให้ได้ เพราะจะทำให้ท่านกลายเป็นฮีโร่ของเพื่อนเลยทันที

การเงิน : ได้เงินเล็กๆ น้อยๆ จากงานเสริม

ความรัก : คนในครอบครัวเจ็บป่วย หรือมีเคราะห์ ใส่ใจดูแลกันหน่อย คนโสด คู่ท่านเรื่อยๆ มาเรียงๆ ยังไงก็ไม่รู้ รอพรุ่งนี้แล้วกันนะ

สุขภาพ : เข่ามีปัญหา หรือกระดูกเสื่อม

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน : ชาวศุกร์เริ่มต้นเดือน เริ่มต้นสัปดาห์ก็ดวงไม่ดีเสียแล้ว กากบาทเลย อาจมีปัญหากับหุ้นส่วนหรือเพื่อนร่วมงาน เหมือนต่างคนต่างก็คิดว่า ตัวเองถูกเอาเปรียบ เพราะมีความเหลื่อมล้ำ เป็นต้นเหตุให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง จนถึงใส่ร้ายกัน

การเงิน : ใช้เงินก้อนใหญ่กับการลงทุน

ความรัก : ความรักถูกกากบาทด้วย จะทะเลาะกัน จนเปิดโอกาสให้มือที่สามมาเกี่ยวข้อง อย่าดึงผู้ใหญ่มาเดือดร้อนด้วย คนโสด หากเคยถ่ายคลิปอะไรไว้ เก็บไว้ให้ดี อาจหลุดออกไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

สุขภาพ : ระวังติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่กำลังใกล้สอบ หรือเข้าเรียนใหม่ ให้ปรับสภาพตัวเองให้ได้แล้วจะเรียนได้

การเงิน : จะมีโชคลาภจากการเป็นนายหน้า

ความรัก : สถานภาพน้อยใจกัน พูดอะไรนิดก็เก็บไปคิดมาก อย่ามโนกันนัก คิดเรียบๆ ง่ายๆ ให้ชีวิตมีความสุขดีกว่า คนโสด รอไปก่อนนะ ยังไม่ใช่ ยังไม่มา

สุบภาพ : ระบบขับถ่ายมีปัญหา ท้องไส้ไม่ปกติ

Hallo Norge!! หนาวส่งท้ายที่นอร์เวย์ (ตอนที่ 2)

หน้าร้อนที่ผ่านมาแดดเมืองไทยโหดร้ายจริงๆ หลายวันที่อุณหภูมิสูงเกินกว่า 40 องศาเซลเซียส ผมจึงวางแผนพาอาม่าและเจ้าต้นกล้วยน้องชายตัวแสบหนีร้อนไปหาลมหนาวสักหน่อย จุดหมายปลายทาง ที่เล็งไว้มานานแล้วคือ นอร์เวย์ ดินแดนแห่งฟยอร์ด (Fjord) กำหนดการมีแค่ 5 วัน เนื่องจากต้องรีบกลับมาปั่นงานต่อ

ล่องเรือชมฟยอร์ด

ทริปนี้เราซื้อตั๋วเดินทางในนอร์เวย์กับนอร์เวย์ อิน อะ นัทเชลล์ (Norway in a Nutshell) ซึ่งเป็นบริษัทขายตั๋วรถไฟ เรือ รถบัส แบบวันสต็อปเซอร์วิส ให้ผู้ที่ต้องการเดินทางแบบอิสระ ไม่มีไกด์นำ เดินทางกันเองตามเวลาที่ระบุในตั๋ว แรก ๆ ก็กลัวว่าจะหลงหรือ ตกตารางการเดินทาง อีกทั้งภาษาก็เป็นนอร์วีเจียน แต่เนื่องจากผู้คน ไม่มาก ป้ายสัญลักษณ์บอกทางชัดเจน ตารางเดินทางที่เที่ยงตรง จึงไม่มีปัญหาในการเดินทางแต่อย่างใด ทัวร์มีหลายรูปแบบ เลือกได้ตามที่ต้องการว่าจะไปไกลแค่ไหน ไปกี่วัน

นอร์เวย์
รถไฟไปเมืองฟลัม

เส้นทางที่เราเลือกเป็นเส้นทางคลาสสิกและนิยมที่สุด คือ นั่งรถไฟสายฟลัมเรลเวย์ บนเทือกเขานอร์เวย์ ล่องเรือชม ฟยอร์ดแลนด์ และแนเรยฟยอร์ด ค่าตั๋วคนละ 2,600 โครเนอร์ นอร์เวย์ (NOK) หรือราว 13,000 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เสียครึ่งราคา สามารถซื้อตั๋วได้จากเมืองไทย หรือซื้อที่ศูนย์ บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวกลางเมืองก็ได้

เส้นทางหลักในการดูฟยอร์ดของทริปนี้ เริ่มจากนั่งรถไฟ ที่สถานีกลาง (Central Station) ออกจากกรุงออสโลตอน 8 โมงเช้า รถไฟหน้าตาทันสมัยมาก ที่นั่งนุ่มสบาย มีตู้เสบียง ทันสมัยเหมือนกับผับร้านอาหาร บางตู้มีมุมเด็กให้เด็กๆ ป่ายปีน เล่นแบบสวนสนุก ต้องชมไอเดียคนคิดว่าเก่งมาก

นอร์เวย์
ทิวทัศน์ระหว่างไปเมืองฟลัม

เราใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงมาถึงเมืองมีร์ดัล (Myrdal) ที่ความสูง 1,200 เมตร ไม่น่าเชื่อว่า ขนาดเข้าหน้าร้อน หิมะ ก็ยังตก บางจุดหิมะสูงท่วมหลังคาบ้าน จนอดสงสัยไม่ได้ว่า ผู้คนจะออกจากประตูบ้านได้อย่างไร จากนั้นลงต่อรถไฟสาย ฟลัมเรลเวย์ ลักษณะแบบรถไฟโบราณ แล่นช้า ๆ ขึ้นและลง ชมวิวเทือกเขาที่มีหิมะปกคลุมสวยงามแปลกตา อีกราวหนึ่งชั่วโมง ระหว่างทางได้เห็นถนนสตัลไฮม์สเคลวา (Stalheimskleiva Road) ซึ่งเป็นถนนที่ชันและคดเคี้ยวที่สุดในยุโรป ซิกแซ็กเป็นรูป ฟันปลา ถ้าขับรถคงจะเวียนหัวมาก ระหว่างทางแวะชมน้ำตก จอสฟอสเซน (Kjosfossen) ซึ่งแข็งเป็นน้ำแข็ง จากนั้นรถไฟ พาเราวิ่งลงมายังท่าเรือเมืองฟลัม (Fläm) ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ สงบๆ ริมทะเลสาบ

นอร์เวย์ทริปนี้เราล่องชมฟยอร์ดแลนด์ และแนเรยฟยอร์ด ซึ่งเป็นกิ่งแยกของซอกเนฟยอร์ด (Sognefjord) ที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก เรือสีขาวสองชั้น หากต้องการเห็นวิวทั่ว ๆ ควรนั่งดาดฟ้า แต่ลมจะแรง ที่น่าแปลกใจคือ คนบนเรือ ชมฟยอร์ดในทริปนี้ ตอนแรกคิดว่าส่วนใหญ่น่าจะเป็น คนจีน ญี่ปุ่น หรือเกาหลี ปรากฏว่ากลายเป็นพี่ไทยไปซะงั้น เป็นกรุ๊ปทัวร์ 2 กลุ่มใหญ่ พูดจาโหวกเหวกเสียงดังจนคนจีน เงียบจ๋อยเลย เราได้แต่ละอายในใจเงียบๆ

ผมเคยมีโอกาสไปชมฟยอร์ดที่นิวซีแลนด์ ความสวย สู้ที่นอร์เวย์ไม่ได้ ที่นี่ลึกกว่า แคบกว่า บางช่วงได้เห็นแมวน้ำ ตัวเป็น ๆ สีน้ำตาลเข้ม ตากลมบ้องแบ๊ว ผลุบโผล่ทักทายกลาง สายน้ำ ได้ยินว่าบางครั้งอาจโชคดีเห็นปลาโลมาว่ายโฉบเฉี่ยว ริมเรือด้วย

อากาศบนดาดฟ้าเรือหนาวมาก ลมก็แรง เวลาผ่านไปเร็วมาก เรา ใช้เวลารวม 2 ชั่วโมงในการล่องเรือเคล้าฝูงนกนางนวล นกที่นี่เชื่องมาก จนสามารถโยนขนมปังให้กินกลางอากาศ บางตัวถึงขนาดบินมาจิกขนมปัง จากมือ ระยะทางล่องเรือประมาณ 20 กิโลเมตร ตลอดข้างทางมีหมู่บ้าน เล็ก ๆ สงบ น่ามาพำนักอยู่ชั่วคราวสักสิบปี

นอร์เวย์
วิวเมืองวอสส์

จากนั้นเรานั่งรถโดยสารต่อมาที่เมืองวอสส์ (Voss) เพื่อมาขึ้นรถไฟไปเมืองเบอร์เกน (Bergen) เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของนอร์เวย์ อากาศยังคงหนาวจับใจ อุณหภูมิราว 4 องศาเซลเซียส เที่ยวเมืองเบอร์เกน เสร็จได้ไม่นานเราก็นั่งรถไฟตู้นอนกลับมาถึงกรุงออสโลตอนเช้าของอีกวัน รถไฟตู้นอนแบ่งเป็นห้องเล็ก ๆ มีประตูปิดมิดชิด สะอาด เตียงเป็น 2 ชั้น ฟูกมีฮีทเตอร์ หนึ่งห้องนอนได้สองคน แม้พื้นที่จะจำกัด แต่ก็มีอ่างล้างหน้าส่วนตัว รถไฟที่นี่วิ่งเรียบมาก เวลานอนแทบไม่รู้สึกถึง แรงสะเทือน เหมือนนอนในโรงแรมปกติ หลับสบายเลย

การเดินทางโดยรวมทริปนี้เหนื่อยพอควร แต่ขอบอกว่า สวย สนุก และประทับใจจริงๆ รวมระยะทางทั้งสิ้น 990 กิโลเมตร น่าเสียดาย ที่เวลามีน้อยไปนิดและไม่เห็นแสงเหนือ จึงแอบคิดว่า จะหาโอกาสกลับมาเที่ยวอีกแน่ๆ แต่ต้องหาเวลาสักหนึ่งสัปดาห์ แล้วเดินทางมาช่วง กรกฎาคมน่าจะลงตัวที่สุด

นอร์เวย์สำหรับทริปนี้ Ha det…Norge!!

 

TIPS : NORWAY FJORD TRIP

  •  เมือง : Oslo, Myrdal, Flam,Gudvangen, Voss, Bergen รวมระยะทาง: 990 กิโลเมตร
  • ไฮไลท์ : เที่ยวกรุงออสโล นั่งรถไฟสายฟลัมเรลเวย์ และล่องเรือชมออร์แลนด์ส ฟยอร์ด และแนเรยฟยอร์ด
  • ค่าใช้จ่าย : เฉลี่ยคนละ 35,000 บาท ไม่รวมค่าเครื่องบิน
  • สอบถามเพิ่มเติม : [email protected]

ที่มา : คอลัมน์สารคดีท่องเที่ยว นิตยสารแพรวฉบับที่ 886

“การ์มิน วีโว่มูฟ” นาฬิกาข้อมือ 2 in 1 บอกเวลาได้และยังเป็นตัวช่วยให้คุณสุขภาพดีอย่างมีสไตล์

ส่วนใหญ่คนรุ่นใหม่หลายคนมักจะมีไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ จนลืมดูแลสุขภาพ หรือใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ตลอดวัน แต่วันนี้เรามีไอเท็มที่จะมาเป็นตัวช่วยเรื่องสุขภาพของเรามาแนะนำให้รู้จัก

“การ์มิน วีโว่มูฟ” (Garmin vivomove) นาฬิกาข้อมือดีไซน์หรูที่มาพร้อมแถบสถานะการเคลื่อนไหวสีแดง ซึ่งจะยาวขึ้นทุกๆ 15 นาทีจนกว่าจะถูกรีเซ็ทค่าด้วยการเดิน 2-3 นาที เพื่อกระตุ้นให้ขยับร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากการนั่งนานๆ ติดต่อกันจะทำให้ร่างกายลดการผลิตเอนไซม์ที่ช่วยเผาผลาญไขมัน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำร้ายสุขภาพ นอกจากนี้ วีโว่มูฟยังมีฟังก์ชั่น Activity Tracker ที่จะนับก้าวเดินและตั้งเป้าหมายจำนวนก้าวเดินรายวันโดยอัตโนมัติ เพื่อค่อยๆ ผลักดันให้ทุกคนมีไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟกว่าที่เคย

GARMIN vivomove_lifestyle shot (2)

การ์มิน วีโว่มูฟ คือคำตอบสำหรับผู้ที่อยากสวมใส่สายรัดข้อมือสุขภาพและมีความหลงใหลในแฟชั่น ด้วยดีไซน์ที่มาในรูปทรงนาฬิกาข้อมือแบบคลาสสิก แต่เต็มไปด้วยฟังก์ชั่นที่ทันสมัย เช่น การตรวจวัดคุณภาพการนอนหลับ และความสามารถในการเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น Garmin Connect เพื่อติดตามความก้าวหน้าของไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟขึ้นทุกวัน นอกจากนี้ การ์มิน วีโว่มูฟสามารถกันน้ำได้ลึก 50 เมตร ทำให้สามารถใส่อาบน้ำหรือว่ายน้ำได้โดยไม่ต้องกังวล* ส่วนแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานอยู่ได้นานถึง 1 ปี

GARMIN vivomove (Sport Grey)GARMIN vivomove (Classic Rose Gold)การ์มิน วีโว่มูฟ พร้อมจำหน่ายแล้ววันนี้ ใน 2 สไตล์แตกต่างกัน ได้แก่ 1) รุ่นสปอร์ตสายซิลิโคนสีขาว/เงิน และสายซิลิโคนสีเทา-เงิน ราคา 5,990 บาท และ 2) รุ่นคลาสสิกสายหนังสีขาวหน้าปัดเคลือบสีโรสโกลด์ และสายหนังสีดำหน้าปัดสีดำ ราคา 8,390 บาทจำหน่ายที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีและแก็ดเจ็ต และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ

เรียบเรียงโดย : saipiroon_แพรวดอทอคม

ภาพ : Garmin vivomove

 

พยากรณ์ดวงชะตาประจำวัน อาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม 2559

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : ปวดหัวกับมาตรฐานของเจ้านายจริงๆ เพราะไม่ว่าทำอะไรก็ถูกตำหนิตลอด เห็นเราไม่มีผลงาน ทั้งที่ก็พยายามทำเต็มที่แล้ว

การเงิน : อย่าทำเอกสารสัญญา จะเป็นรอง

ความรัก : เรื่องเด่นประจำวันนี้คือ คำพูด พยายามอย่าต่อปากต่อคำกัน เพราะจะนำพาทุกสิ่งเข้ามาที่ตัวจนไปถึงกำลัง คนโสด มีคนเข้ามาแต่ไม่จริงใจ มีแต่เรื่องเดือดร้อนมากกว่าความสุข

สุขภาพ : จะมีปัญหาเรื่องน้ำในหูไม่เท่ากัน หรือบ้านหมุน

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : ไม่ค่อยมีความสุข สำหรับผู้หญิงวันนี้ควรวางตัวดีๆ จะเจอเจ้านายเจ้าชู้ใส่ พูดจาแทะโลม แต่จะกลายเป็นท่านที่ถูกมองว่า ให้ท่า อยากเจริญในหน้าที่การงาน ซะงั้น

การเงิน : วันหยุดเงินเดือนออกก็ต้องออกไปจับจ่ายใช้สอยตามระเบียบ

ความรัก : ลงทุนร่วมกันแล้วพลาด เลยเป็นประเด็นไม่เข้าใจกันในครอบครัว แทนที่จะเอาแต่โทษกัน ควรหันมาช่วยแก้ไขดีกว่า คนโสด ไม่ได้ดังใจ หงุดหงิดกันบ่อยมาก ดูท่าจะไปกันไม่รอดแล้ว

สุขภาพ : ผู้หญิงจะมีปัญหาเรื่องเนื้องอกในมดลูก

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน : ท่านพูดตรงจนถูกเจ้านายเขม่น มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก แต่งานต้องทำกันเป็นทีมเวิร์ค ท่านจึงควรปรับตัวเข้ากับพวกเขาให้ได้ งานจึงสำเร็จ

การเงิน : ใช้จ่ายเกี่ยวกับซื้ออุปกรณ์ในการทำงาน

ความรัก : แม้พูดจากันดีขึ้น แต่ในใจยังคงคลางแคลง พยายามคุยกันอีก ปอกเปลือกออกให้หมดใจเลย คราวหน้าจะได้ไม่ต้องมีอะไรค้างคา คนโสด เตรียมใจไว้หน่อยนะ เพราะวันนี้ความจริงจะเปิดเผยว่า คนที่ท่านแอบรักอยู่ เขามีเจ้าของแล้ว เศร้าเลย

สุขภาพ : ฟันมีปัญหา ปวดฟัน อาจต้องรักษารากฟัน

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน : ทำงานเยอะมาก เพราะใช้งานลูกน้องไม่ได้ดังใจ เครียด และเหนื่อยจนอยากลาออก แต่งานตอนนี้หายาก ขอให้อดทนทำไปก่อน

การเงิน : จะเสียเงินกับการศึกษาของบุตรหลาน

ความรัก : เป็นช่วงป่วยไข้ของครอบครัวชาวพุธ ทั้งญาติผู้ใหญ่ คู่ ลูกหลาน แม้กระทั่งตัวท่านเอง ก็พยายามให้กำลังใจกัน คนโสด เตรียมใจไว้ว่าจะมีคนมีครอบครัวแล้ว เข้ามายั่วเย้าในเชิงทีเล่นทีจริง อย่าได้หลงเชื่อ เพราะท่านจะถูกแฟนเขาตามมาแฉ

สุขภาพ : คุมน้ำตาลด่วน เพราะเบาหวานถามหา

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : ชาวพฤหัสถูกกากบาท วันนี้ท่านถูกเจ้านายเอาเปรียบ ฉกฉวยผลประโยชน์หรือผลงานเข้าตัวเองคนเดียว หรือกลายเป็นเครื่องมือของคนมีอำนาจเหนือกว่า อาจเป็นคดีความ หากผิดพลาดจะต้องแก้ปัญหาหลายอย่าง

การเงิน : เสียรู้คน เงินในกระเป๋าหายวูบ อย่าโลภ

ความรัก : มีปากเสียงกันบ่อย ลองแยกกันอยู่ชั่วคราวไหม หรือหากดีกว่า ก็แยกกันเป็นการถาวรเลย คนโสด คนที่คบอยู่นิสัยไม่ค่อยดี ระวังท่านจะถูกหลอกใช้ในเรื่องผิดกฎหมาย

สุขภาพ : ระวังเรื่องการขับรถ อย่าขับเร็ว หรือประมาท ควรไปปล่อยปลา ซื้อโลงศพ เพื่อสะเดาะเคราะห์ให้กับตัวเอง

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน : ได้ทำงานหนักกว่าคนอื่นตลอด แต่ก็ต้องทำ เพราะภาระเยอะ ไม่ทำงานก็ไม่มีเงิน

การเงิน : ทั้งที่รู้ว่าถูกหยิบยืมเงินแล้วจะไม่ได้คืน แต่เพราะบุญคุณทำให้ปฎิเสธไม่ได้

ความรัก : สถานภาพและความสัมพันธ์เรื่อยๆ มาเรียงๆ ไม่มีอะไรคืบหน้า เสมอต้นเสมอปลาย จะว่าไปก็มีความสุขอีกแบบ คนโสด หาคู่ยาก ยังไม่เจอคนที่จริงจัง และก็ยังไม่มีใครเข้ามาด้วย

สุขภาพ : จะมีปัญหาเรื่องภูมิแพ้ เจ็บคอ เป็นหวัด

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : หากต้องเดินทางไปทำงานนอกสถานที่ เตรียมเอกสารให้พร้อม และเตรียมลับฝีปากไว้เพื่อเจรจาต่อรองให้ดี เพราะหากผ่านก็จะประสบความสำเร็จมากมาย

การเงิน : เก็บเงินไม่อยู่ เพราะมีรายจ่ายเต็มสตรีม

ความรัก : ดูแลระวังรักษาใจกันหน่อย อยู่ห่างกันแล้วทะเลาะกัน เครียดเป็นสองเท่า เท่ากับเปิดโอกาสให้มีคนสอดแทรกได้ง่าย คนโสด มีคนเข้ามาแต่ก็ยังไม่ใช่ ไม่ชัดเจน

สุบภาพ : ระบบย่อยอาหารและลำไส้มีปัญหา

Hallo Norge!! หนาวส่งท้ายที่นอร์เวย์ (ตอนที่ 1)

หน้าร้อนที่ผ่านมาแดดเมืองไทยโหดร้ายจริงๆ หลายวันที่อุณหภูมิสูงเกินกว่า 40 องศาเซลเซียส ผมจึงวางแผนพาอาม่าและเจ้าต้นกล้วยน้องชายตัวแสบหนีร้อนไปหาลมหนาวสักหน่อย จุดหมายปลายทาง ที่เล็งไว้มานานแล้วคือ นอร์เวย์ ดินแดนแห่งฟยอร์ด (Fjord) กำหนดการมีแค่ 5 วัน เนื่องจากต้องรีบกลับมาปั่นงานต่อ

ไฮไลท์ของทริปนี้คือ นั่งรถไฟสายคลาสสิก ฟลัมเรลเวย์ (Flam Railway) บนเทือกเขานอร์เวย์ ล่องเรือชมออร์แลนด์ส ฟยอร์ด (Aurlands Fjord) และแนเรยฟยอร์ด (Nryfjord) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก (World Heritage)  หลังจากค้นหาข้อมูลในโซเชียลทั้งหลายได้สักพัก ก็คิดว่าพอไหวกับเวลาอันแสนสั้นนี้ ใช้เวลาทำวีซ่าสั้นมาก แค่สองวัน ว่าแล้วก็แบ็กแพ็คกันไปเลย

นอร์เวย์
มอสส์สีสวยที่แนเรยฟยอร์ด

ฮัลโลนอร์เวย์

ช่วงที่เรามาเป็นช่วงหยุดสงกรานต์ อุณหภูมิที่นี่หนาวพอได้จับไข้ ประมาณ 9 องศาเซลเซียส ตกดึกลดลงไปถึง 0 องศาเซลเซียส พระอาทิตย์ตกราวทุ่มหนึ่ง ความจริงที่นอร์เวย์มีปรากฏการณ์ธรรมชาติ นอกจากฟยอร์ดแล้วก็มีแสงเหนือ (ออโรร่า – Aurora) ซึ่งพอมีโอกาส จะเห็นที่กรุงออสโล แต่น้อยมาก ต้องบินขึ้นไปด้านเหนือของประเทศ อีกสัก 1,200 กิโลเมตร แถวเมืองทรอมโซ (Tromso) น่าเสียดายที่ไม่ได้ ขึ้นไปเพราะเวลาจำกัด หากมาในช่วงเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคม ก็จะเห็นพระอาทิตย์เที่ยงคืน

นอร์เวย์เป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวีย ค่าครองชีพแพง เป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองแค่สวิตเซอร์แลนด์ ฮ็อตด็อกข้างทาง ตกชิ้นละ 300 บาท แฮมเบอร์เกอร์ 2 ชิ้นจ่ายแบงก์พันไม่มีทอน น้ำมัน ลิตรละ 60 บาท ค่าเข้าห้องน้ำครั้งละ 50 บาท ค่าครองชีพในโตเกียว กับนิวยอร์กต้องยอมแพ้เรียกพี่ได้เลย

นอร์เวย์
ทิวทัศน์ของฟยอร์ดแลนด์

พื้นที่นอร์เวย์มีขนาด 3 ใน 4 ของสยามประเทศ แต่พลเมือง มีเพียง 5 ล้านคน ความหนาแน่นประชากรต่างกันร่วม 20 เท่า มองไป ไม่ค่อยเจอผู้คนเท่าไหร่ เป็นประเทศที่ส่งออกแซลมอนมากที่สุดในโลก ภูมิประเทศเป็นฟยอร์ดติดชายฝั่งยาวกว่า 20,000 กิโลเมตร มีลักษณะ เป็นทางน้ำลึก แคบ สองข้างทางเป็นหน้าผาสูงซึ่งเกิดจากการกัดเซาะ ของธารน้ำแข็ง (Glacier) มาเป็นเวลาหลายร้อยล้านปี

ผู้คนในสมัยก่อนที่เรียกว่า ชาวไวกิ้ง จึงเชี่ยวชาญการเดินเรืออย่างมาก ถึงขนาดบุกไปยึดทางตอนเหนือของอังกฤษเมื่อราว 1,200 ปีก่อน คนที่นี่รูปร่างสูงใหญ่เฉลี่ยน่าจะ 6 ฟุต เวลาเดินเทียบกันพวกเรา ดูเป็นเด็กไปเลย ผู้คนยิ้มแย้มมีมิตรไมตรี ทั้งผู้หญิงผู้ชายส่วนใหญ่ หน้าตาดูดี ผิวพรรณขาวเนียนกว่าทางอังกฤษและออสเตรเลีย ตัวอย่าง ดาราที่เมืองไทยก็ต้องเป็นน้องญาญ่าคนสวยที่เป็นลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ ความจริงยังมีดาราลูกครึ่งไทย-สแกนดิเนเวียนที่หน้าตาดีอีกหลายคน เช่น ใหม่ ดาวิกา, ปู ไปรยา, แอน ทองประสม, ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล

สัมผัสออสโล

กรุงออสโลเป็นเมืองหลวงของนอร์เวย์ บ้านเรือนไม่สวยคลาสสิก เท่าเมืองหลวงดัง ๆ ในยุโรปอื่นอย่างโรม ปารีส ปราก แต่ก็มีเอกลัษณ์ ของตนเอง มีพิพิธภัณท์เยอะ ที่นิยมก็คือ มูนช์ มิวเซียม (Munch Museum) เก็บรูปภาพศิลปะแนวเอกซ์เพรสชันนิสม์ มีภาพวาดคน กรีดร้อง (The Scream) ที่โด่งดังมาก พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง ซึ่งมีซาก เรือไวกิ้งอายุกว่าพันปีให้ชม ศูนย์โนเบลสันติภาพ สวนฟรอกเนอร์ (Frogner Park) ซึ่งมีรูปปั้นโลหะในสวนมากที่สุดในโลก โรงละครโอเปร่า ที่มีสถาปัตยกรรมสีขาวโดดเด่น หลังคาเป็นสโลปทางเดิน เราสามารถ เดินจากพื้นไปถึงยอดหลังคาเพื่อชมวิวตัวเมืองได้ ส่วนอื่น ๆ ไม่ว่า จะเป็นซิตี้ฮอลล์ พระราชวัง ก็เหมือนเมืองในยุโรปทั่วไป

นอร์เวย์
พระราชวังในกรุงออสโล
นอร์เวย์
โรงละครโอเปร่าในกรุงออสโล

บริเวณพระราชวังมีการเปลี่ยนเวรทหารช่วงบ่าย ๆ สวยงามคล้าย กับที่ลอนดอน จุดหนึ่งที่ชอบของกรุงออสโลคือ มีบริการให้เช่าจักรยาน ชมเมือง (City Bike) ทั่วเมือง เราสามารถเช่าขี่ไปที่ต่าง ๆ และจอดทิ้งไว้ ประหนึ่งเหมือนขึ้นรถเมล์ ชาวจักรยานนักปั่นเห็นแล้วคงจะปลื้ม

ถนนคนเดินในเมืองร่มรื่นดี แม้ว่าจะเข้าเดือนเมษายนแล้วแต่ ก็ยังมีเศษน้ำแข็งหิมะประปราย ที่ชวนสะดุดตาคือ มีคนจรจัดมาก พอสมควร ส่วนใหญ่เป็นพวกผู้อพยพจากยุโรปตะวันออก จึงไม่น่าสงสัย ว่าทำไมการเข้าห้องน้ำตามร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดถึงต้องขอรหัสเข้าห้องน้ำ จากคนขายก่อน ซึ่งชาวนอร์เวย์ยังถกเถียงกันว่าจะดำเนินการอย่างไรดี กับปัญหาคนจรจัดนี้

นอร์เวย์
กลางกรุงออสโล

ของฝากที่ระลึกตามร้านขายของมีหมวกไวกิ้งและตุ๊กตาโทรลล์ (Troll) ซึ่งเป็นยักษ์ในนิทานปรัมปราของชาวสแกนดิเนเวีย มีจมูกใหญ่ น่ารักน่าชังดี อาศัยในป่าเขาและถ้ำ โรงแรมที่เราพักในครั้งนี้เป็นโรงแรม ใหญ่ที่สุดกลางกรุงออสโล อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟหลัก ระยะห่างไม่ถึง 100 เมตร ช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้นมาก สภาพโรงแรมใหม่และ ทันสมัย แต่ราคาก็แพงได้ใจ คืนละกว่าครึ่งหมื่น โรงแรมสูง 37 ชั้น สามารถเห็นวิวเมืองได้ทั่ว

 

ที่มา : คอลัมน์สารคดีท่องเที่ยว นิตยสารแพรวฉบับที่ 886

โพเอม’ (POEM) เฉลิมฉลอง 1 ทศวรรษแห่งความสำเร็จกับคอลเลกชั่นพิเศษตอกย้ำความงานอันโก้หรู

ก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 ได้อย่างสวยงามสำหรับแบรนด์เสื้อผ้าสตรีหรูคัตติ้งเนี้ยบที่ได้สร้างปรากฏการณ์ความงามอันโก้หรู โดดเด่นไม่ซ้ำใครด้วยการตีความที่ร่วมสมัยแต่ยังสามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวันอย่างแบรนด์ ‘โพเอม’ (POEM)

Autumn-Winter 2016 นี้จึงขอตอกย้ำความเป็นที่สุดของสไตล์ด้วยคอลเลกชั่นพิเศษเฉลิมฉลอง 1 ทศวรรษแห่งความสำเร็จใน “A Decade of Glamour” “จุดเริ่มต้นของคอลเลกชั่นนี้คือการมองย้อนกลับไปตลอดระยะเวลา 10 ปีของ POEM มันคือการทำสิ่งที่ผมเชื่อให้ทุกคนได้เห็น” ชวนล ไคสิริ ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์กล่าวถึงแนวคิดเบื้องหลังคอลเลกชั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของห้องเสื้อ “ผมเชื่อในเรื่องสัดส่วนความงาม (proportion) และงานฝีมือ (craftsmanship) ซึ่งเป็นสองสิ่งที่คุณแม่ผมสอนว่าสำคัญที่สุดหากจะทำอาชีพนี้”  POEM ในความคิดของชวนลจึงเป็นผู้หญิงผู้ดำเนินชีวิตตามอุดมคติของคำว่าสมบูรณ์แบบ พวกเธอเข้าใจไลฟ์สไตล์ของตัวเองอย่างถ่องแท้และเลือกสรรแต่สิ่งที่ดีที่สุดด้วยตัวเธอเองทั้งสิ้น

800
เทคนิคการตัดเย็บชั้นสูง (Haute Couture) ถูกนำมาลดทอนและร้อยเรียงให้เข้าใจง่ายและสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวันอันเกิดความตั้งใจของชวนลที่อยากเห็นผู้หญิงงดงามได้ทุกโมงยามไม่ว่าเธอจะมีนัดทางธุรกิจหรือนัดสังสรรค์ทางสังคมจะอยู่ในบทบาทผู้หญิงทำงานแม่หรือลูกสาวความงดงามสมบูรณ์แบบคลี่คลายเป็นเค้าโครงเสื้อแบบเลดี้ไลค์ (ladylike) ที่โอบกอดสรีระของผู้หญิงด้วยเส้นสายโค้งเรียวแต่เฉียบคมผ่านเทคนิคการฝังคอร์เซ็ทลงในตัวชุดโดยเลือกใช้วัสดุที่มีโครงสร้างในตัวมาสร้างรูปทรงนาฬิกาทรายเพื่อไม่ให้รบกวนเส้นสายเรียบสะอาดบนตัวชุด

1
A Decade of Glamour ปักหมุดหมายไว้ในทศวรรษที่ 1950 ซึ่งซิลลูเอตต์ขับเน้นสัดส่วนอันโค้งเว้าของสุภาพสตรีได้กลายเป็นหนึ่งในสไตล์ที่โลกจดจำได้มากที่สุดและเป็นเอกลักษณ์ของ ดิต้า วอน ทีส (Dita Von Teese) ศิลปินการเต้นรำเปลือยอก (Burlesque) นางแบบดีไซเนอร์และนักเขียนที่มีแนวคิดอันชาญฉลาดเกี่ยวกับสตรีอย่างชัดเจน “ผมชอบดิต้าตรงที่เธอเป็นคนที่ยอมรับในความแตกต่างของตัวเองและนำเอาความแตกต่างนั้นมาเป็นจุดเด่นเฉพาะตัวที่ไม่มีใครเลียนแบบได้” เธอจึงเป็นมิวส์ผู้งดงามอย่างเย้ายวนแบบฉบับของ POEM ในวาระครบรอบหนึ่งทศวรรษ ทว่าความงามโก้หรูยังแฝงไว้ด้วยความร้อนแรงแบบ Femme Fatale และ Glamour Girl ซึ่งเผยแง่มุมใหม่ของหญิงสาวที่เซ็กซี่ในแบบ POEM เป็นครั้งแรก

3

กลิ่นอายความงามอันร้อนแรงนี้ ยังได้แรงบันดาลใจมาจากภาพวาดยุคโรแมนติกจากค.ศ. 1888 The Rose of Heliogabalus (เดอะ โรสเซส ออฟ เฮลิโอกาบาลัส) ของจิตรกรชาวอังกฤษเชื้อสายเนเธอร์แลนด์ Sir Lawrence Alma-Tadema (เซอร์ ลอว์เรนซ์ อัลมา-ทาเดมา) ที่เล่าเรื่องราวของจักรพรรดิโรมัน เฮลิโอกาบาลัส ผู้สั่งให้โปรยกลีบกุหลาบลงมาถมกายแขกเหรื่อในงานเลี้ยงจนสิ้นชีวิตเพียงเพื่อความสำราญเล่ห์กลที่แสนสวยงามมาสู่แรงบันดาลใจของลายพิมพ์กลีบกุหลาบที่แสนโรแมนติกของชวนลไคสิริใน POEM Fall-Winter 2016 นี้ “ภาพเขียนชิ้นนี้ให้สีและอารมณ์สุดโรแมนติกซึ่งขัดแย้งกับเรื่องราวในภาพอย่างสุดโต่งกลีบกุหลาบแต่ละกลีบบนชุดของ POEM เหมือนเป็นองค์ประกอบของจุดที่เรียงเป็นเส้นและสร้างทิศทางให้ดูเป็นเรขาคณิตกลีบกุหลาบสีแดงยังเป็นสัญลักษณ์ของเพศหญิงความรักที่เร่าร้อนซึ่งกระจายอยู่บนผืนผ้าสีขาวราวกับจะบอกเล่าเรื่องราวของผู้หญิง POEM ที่ติดตามกันมาตั้งแต่วันแรกจนเข้าสู่ช่วงวัยที่เย้ายวนที่สุด”

5

จุดเด่นของคอลเล็กชั่นนี้ยังอยู่ที่ซับในผ้าตาข่ายพิเศษ (power mesh) ซึ่งช่วยเก็บกระชับรูปทรงให้เข้าที่, เทคนิคเลเซอร์คัทและการพิมพ์ลายผ้าด้วยระบบดิจิตอล (sublimation), ลายพิมพ์บนผ้าทูทู 16 ชั้นไล่มิติของเฉดสีอันอ่อนหวานผ่านลายกราฟิกเหลี่ยมมุมของประกายเพชรกับลายกลีบกุหลาบสุดโรแมนติก, ลายพิมพ์กราฟิกเส้นโค้งสไตล์อาร์ตนูโว (art nouveau) ช่วยสร้างฟอร์มโค้งเว้าของเรือนร่างที่สื่อถึงความเย้ายวนอันมีระดับสไตล์เบอร์เลสซึ่งใช้เทคนิคการสแกนลายจากแพทเทิร์นสามมิติซึ่ง POEM พยายามคิดค้นและพัฒนาตลอดมา และยังเพิ่มดีไซน์ใหม่ๆ เช่นกางเกงทรงซิกาแร็ตและเสื้อท่อนแพทเทิร์นดีคอนสตรักชั่นผูกโบองค์ประกอบเด่นที่ให้ความโก้หรูทว่าดูคล่องแคล่วแบบหญิงสาวสมัยใหม

2
Colours
ความงามพิสุทธิ์ซึ่งค่อยๆเผยเสน่ห์สุดอันตรายอันมิอาจต้านทาน เปิดมาด้วยโทนสีละมุน อย่างสีขาว สีเบจและคู่สีทูโทน สีขาวตัดสีชมพู ก่อนจะไล่ระดับโทนสีเข้ม เช่น สีชมพูเข้ม สีแดงก่ำสีเขียวมะกอกและสีดำในลุค Femme Fatal และ Glamour Girl

4
Silhouette & Technique

ช่วงเอวคอดกิ่วกลายเป็นเค้าโครงเอกลักษณ์ของ POEM มาตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งในฤดูกาลนี้ POEM แนะนำเทคนิคการสร้างฟอร์มโค้งเว้าแบบใหม่ที่สัมผัสได้ถึงความบางเบาและละมุนละไม ด้วยเทคนิคพิมพ์ลายบนผ้าทูทู 16 ชั้นซ้อนทับกันเพื่อไล่ระดับของเฉดสีอ่อนหวาน ส่วนลายพิมพ์กราฟิกสไตล์อาร์ตนูโวที่เล่นกับเส้นโค้งช่วยสร้างความคอดเว้า และเฉลิมฉลองสไตล์เบอร์เลสด้วยลายพิมพ์กราฟิกเหลี่ยมมุมประกายของเพชร สื่อถึงความเด็ดเดี่ยวของหญิงสาว โดยใช้การตัดเย็บประณีตให้มีตะเข็บน้อยที่สุด เพื่อให้ลายพิมพ์เชื่อมต่อกันดุจผ้าผืนเดียว

6
Fabrics
เนื้อผ้าที่ให้ผิวสัมผัสและมีเอฟเฟ็กต์สะท้อนถึงความหรูหรา เช่น ผ้ากำมะหยี่เนื้อนุ่มเงา ผ้าทูทูสร้างเค้าโครงโค้งโปร่งเบา และผ้าซิลค์เนื้อมันวาว ทั้งยังเลือกใช้เนื้อผ้าที่สร้างมูฟเมนต์ เช่น ผ้าโพลีเอเอสเตอร์ที่ยืดหยุ่นได้ดี ผ้ากำมะหยี่สแปนเด็กซ์สอดผ้าตาข่ายพิเศษ (power mesh) และผ้าซิลค์ซาตินที่เย็บโครงด้านล่างให้ชายกระโปรงเต้นไหวยามก้าวเดิน นอกจากชิ้นเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ อาทิ กระโปรงเอไลน์ทรงสุ่มและเดรสทรงสอบเข้ารูป ยังแนะนำชิ้นใหม่ๆสำหรับผู้หญิงยุคโมเดิร์น เช่น เสื้อเชิ้ตคอปกที่ดูแข็งแกร่ง เสื้อเบลาส์ผ้าซิลค์แลดูพลิ้วไหว กางเกงทรงซิกาแร็ต กางเกงปลายบาน และโบประดับคอที่เป็นเหมือนแอคเซสเซอรีย์อันโก้หรู

เรียบเรียงโดย : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : POEM

 

อุ้ม นพรรต เน็ตไอดอลสายเชฟ ปั้นเมนูอร่อย ถูกใจFollowersนับล้าน!

สมัยนี้สาวๆ รุ่นใหม่จะเข้าครัวแต่ละครั้ง ก็กลัวนั่นนี่ มองว่าการทำอาหารเป็นเรื่องยาก วันนี้เลยได้เน็ตไอดอลสาวสวย อุ้ม นพรรต เจ้าของคลิปทำอาหารสุดฮ็อตมาแนะนำเคล็ดลับให้ บอกเลยว่าทำง่ายมากๆ

อุ้ม นพรรต

อุ้ม นพรรต เป็นที่รู้จักจากคลิปทำอาหารเมนูง่ายๆ สไตลิ่งน่ารักๆ ในเพจ My name is napat ภายในเวลาไม่ถึงปีมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นจำนวนหลายแสน รวมทุกช่องทางโซเชียลทั้งเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมแล้วมีคนกดติดตามหลักล้าน!

อุ้ม นพรรต

ด้วยนิสัยที่เป็นคนชอบการทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมาเป็นเน็ตไอดอลจากความชอบส่วนตัวนี้ เจ้าตัวเล่าว่าจุดเริ่มต้นจริงๆ มาจากความพยายามทบทวนตัวเอง ค้นหาสิ่งที่ชอบและอยากทำหลังเรียนจบ แล้วพบว่าตัวเองชอบแต่งตัว เลยตัดสินใจเอาดีทางนี้ให้ถึงที่สุด ร้านเสื้อผ้า Napat Closet ที่ก่อตั้งขึ้นก็ขายดิบขายดี จากโบนันซ่าย้ายมาอยู่ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร และเมื่อเห็นว่าพื้นที่โซนด้านหลังน่าจะเปิดขายกาแฟขายเครื่องดื่มได้ก็ตัดสินใจทำทันที สรุปขายดียิ่งกว่าขายเสื้อผ้าเสียอีก

 

ที่มา : หนังสือ Easy&Yummy by อุ้ม นพรรต สำนักพิมพ์ Amarin Cuisine (อ่านต่อหน้าที่ 2)

แบบนี้ก็มีด้วย! ‘พล สัตย์สงวน’ หนุ่มใหญ่วัย40อัพ เสพติดชีวิตนักศึกษาเรียนจนได้ปริญญา21ใบ!

เสพติดชีวิตนักศึกษาเรียนจนได้ปริญญา21ใบ …สุดยอด!

เสพติดชีวิตนักศึกษาเรียนจนได้ปริญญา21ใบ เพราะ ‘พล สัตย์สงวน’ มีดีเอ็นเอทางการศึกษาเต็มตัว คุณตาเปิดโรงเรียน ‘หาดใหญ่อำนวยวิทย์’ ส่วนคุณยายมีโรงเรียน ‘สัตย์สงวนวิทยา’ แต่ทายาทอย่างเขากลับเอ็นทรานซ์ไม่ติด จึงเลือกที่จะจัดระบบการเรียนให้ตัวเองตั้งแต่ม.5 จนถึงวันนี้ในตำแหน่ง หัวหน้าลูกเรือการบินไทยวัย 43 ปี เขามีปริญญาอยู่ในครอบครอง 21 ใบแล้ว จนหลายคนหาว่าบ้า!

 คุณพอลน่าจะเป็นตัวอย่างกับคำพูดที่ว่า ‘ไม่มีใครแก่เกินเรียน’ เพราะไม่ว่าจะเป็นประตูการศึกษาสถาบันไหน เขาพร้อมที่จะตบเท้าเข้าไปเสมอ

 

“เมื่อก่อนเรียนควบคู่กัน 3 ที่เลย ทั้งสาขาภาษาเยอรมัน คณะอักษรศาสตร์ ม.ศิลปากร   และอีกสองสาขาคือภาษาอังกฤษ และภาษาเยอรมันจากคณะมนุษยศาสตร์ ม.รามคำแหง  และที่มสธ. เรียกว่ามีปริญญา 3 ใบอยู่ในมือแล้ว หลังจากนั้นพอเรียนจบก็ลงเรียนสาขาศึกษาศาสตร์ที่มสธ.ต่อ ได้ปริญญาศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาการแนะแนว ระหว่างนั้นลงม.รามฯ ด้วย กำลังจบก็ลงเรียนสาขาภาษาไทยอีก เพราะอยากเป็นนักเขียน ต่อด้วยรัฐศาสตร์ เพราะตอนนั้นอยากทำงานกระทรวงการต่างประเทศ มีความรู้สึกว่าการเป็นทูตวัฒนธรรมน่าสนใจ จึงเลือกเรียนนอกจากสาขาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาแล้ว ผมลงเรียนต่อทั้งสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือการทูต การบริหารรัฐกิจ การปกครอง แล้วสาขาบริหารงานยุติธรรม เพิ่งเปิดหลักสูตรใหม่ก็เรียน เพราะโอนเทียบหน่วยกิตได้ กลายเป็นจบปริญญาตรีทางรัฐศาสตร์ทั้ง 4 สาขาจากม.รามฯเลย!

IMG_1062 rt copy

แม้เวลาผ่านมาเป็นสิบปี จนผมทำงานการบินไทยเข้าปีที่ 23 ก็ยังไม่หยุดที่จะเรียนรู้ ซึ่งการสอบเข้ามหาวิทยาลัยยุคนี้ต้องสอบ GAT/PAT สอบ O Net และสอบวิชาสามัญ 9 วิชา ต้องใช้คะแนนจากม.6 กฎใหม่ เกรดต้องไม่ต่ำกว่า 2.00 ซึ่งมศว. ไม่นับเกรดเฉลี่ยของม.ปลาย ผมจึงเรียนได้ แต่หากจะเข้าจุฬาฯ ต้องใช้ แล้วตอนที่ผมจบม.6 ได้เกรดแค่ 1.49 ด้วยความอยากทำฝันให้เป็นจริง ผมยอมเรียนม.6 ใหม่ที่สถาบันการศึกษาทางไกล เวลาเรียนชอบมาก เพราะไปเรียนกับเด็กแว๊นซ์ บางคนมีพ่อแม่มาเรียนด้วย เพราะอยากให้จบ พวกนี้ทำสอบโดยไม่อ่านคำถาม ฝนคำตอบเลย ผมเรียนได้เกรด 3.32 ได้แล้วก็ไปสอบ GAT/PAT และ O Net และวิชาสามัญ ปีนั้นมีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ก็เลื่อนไปมา บางวิชาสอบไม่ได้ ตอนนั้นผมเลือก ธรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา คณะศึกษาศาสตร์ พลศึกษา เกษตรและครุศาสตร์ จุฬาฯ ก็คิดว่าอดแล้วละ ผมเปิดดูคู่มือด้วยความอาลัย ต้องสะดุด เพราะอักษรฯ จุฬาฯ ใช้แค่คะแนน PAT ภาษาเยอรมัน ผมมีวิชาสามัญ 3 วิชา สังคม ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ซึ่งผมสอบ แต่ก็ไม่คาดหวังว่าจะได้ เด็กต้องเก่งมากๆ ปรากฏมีตัวช่วย ปกติอักษรฯ จุฬาฯ รับปีละ 240 คน ปีที่ผมสอบรับ 270 คน เพราะเปิดวิชาเอกภาษารัสเซียเพิ่มขึ้น ซึ่งผมสอบได้คะแนนน้อยกว่าคะแนนต่ำสุด 200 คะแนน พอดีมีคนสละสิทธิ์ ผมนี่น้ำตาไหลเลย ไม่คิดว่าจะได้ ตอนนี้เรียนปี 2 แล้วครับ ชอบเข้าชั้นเรียนมาก เพราะได้เจอสังคมที่น่ารักเสมอ คาดว่าเรียนคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ จบ 3 ปี ซึ่งตามกฎของจุฬาฯ ให้เรียน 3 ปีครึ่ง หรือ 4 ปี ผมจึงตั้งใจว่าอยากจบใน 3 ปีจะได้ใช้เวลาที่เหลือเรียนอย่างอื่นที่ชอบไปด้วย เช่น นันทนาการ วิทยาศาสตร์การกีฬา และวาทศิลป์ เพราะคิดว่าตัวเองยังพูดไม่เก่ง

“สำหรับผม การเรียนเป็นงานอดิเรกที่ทำให้มีความสุข เป้าหมายปริญญาใบต่อไปที่มองไว้คือ พลศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศษสตร์ ครับ

ติดตามอ่านเรื่องราวทั้งของ พล สัตย์สงวน ได้ใน คอลัมน์ Live Stories นิตยสารแพรว ฉบับ 25 กรกฏาคมนี้

 

พยากรณ์ดวงชะตาประจำวัน เสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2559

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : วันนี้น่าจะเรียกว่าเป็นวันดีของชาวอาทิตย์ ได้หยุดงานหลังจากที่เหนื่อยมามากแล้ว ทำงานสต๊อกไว้เยอะ ก็อยู่ที่รอว่าจะคัดสรรงานไหนมาปฎิบัติก่อน

การเงิน : จะได้รับเงินแบบฟลุ๊คๆ แบบไปเป็นนายหน้าที่ไหนทิ้งไว้ วันนี้จะได้รับเงิน

ความรัก : ก็เรื่อยๆ ไม่หวือหวาเหมือนเมื่อก่อน อาจมีเรื่องกังวลใจหลายอย่าง เช่น ที่บ้านมีญาติผู้ใหญ่ป่วย พากันไปทำบุญปล่อยปลาบ้าง คนโสด หากแอบชอบใครอยู่คงต้องเอ่ยปากจีบก่อน ติ๋มๆ อด

สุขภาพ : ระวังภูมิแพ้กำเริบ เช่น แพ้อาหารทะเลเกิดผื่นคัน

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : เป็นไปตามแผนงานและได้รับคำชมด้วย เหลืออีกอย่างเดียวคือ จิตใจ หากลดความว้าวุ่นลงได้ งานจะประสบความสำเร็จมากกว่านี้

การเงิน : เสียเงินกับการซ่อมรถโดยไม่คาดคิด

ความรัก : สถานภาพเครียด อยู่ในช่วงทำงานหนักกันทั้งคู่ พอเหนื่อยก็พูดไม่เข้าหูกัน อย่าเอาแต่ใจ คนโสด มีคนเข้ามาซ้อน ไม่ถือว่าผิดหากจะลองคบ เพียงแต่อย่าให้ความหวังแล้วจากไป

สุขภาพ : ดินฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยทำให้อาการไอกำเริบ จนถึงเรื้อรัง

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน : มีอุปสรรค งานที่วางแผนไว้ไม่เป็นไปอย่างที่คิด ต้องถามความเห็นจากในทีมด้วยจึงจะผ่านไปได้

การเงิน : อย่าเพิ่งคิดที่จะทำอาชีพเสริม เพราะยิ่งดิ้นยิ่งเจ็บ ทำงานประจำให้เต็มที่

ความรัก : สถานภาพในครอบครัวเริ่มเข้าสู่ความเป็นเผด็จการ อาจมาจากการวางแผนการศึกษาให้ลูก ควรเข้าที่ประชุมพ่อแม่ลูกร่วมกันตัดสินใจในสิ่งที่ดีที่สุด จะได้ไม่ต้องมาโทษกัน คนโสด คบกับใครดูดีๆ อาจมีเจ้าของแล้วมาหลอก จึงมีคนพูดถึงเราในทางไม่ดี

สุขภาพ : มีปัญหาเรื่องตาล้า เพราะอยู่กับหน้าจอเยอะ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน : ไม่แฮปปี้เลย เพื่อนร่วมงานไม่ให้ความร่วมมือ เหมือนกลัวท่านจะเด่นเกิน อย่าได้แคร์ เพราะไม่มีอะไรปิดกั้นความสามารถของท่านได้

การเงิน : ใช้จ่ายเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ พาญาติผู้ใหญ่ไปหาหมอ

ความรัก : คู่ท่านอาจต้องไปทำงานไกลที่ต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ อย่ามโนไปในทางที่สร้างทุกข์ให้กับตัวเอง คิดว่าเขาไปทำงานเพื่อครอบครัว เดี๋ยวก็กลับ คนโสด มีผู้สูงวัยมาชอบ แต่อย่าได้หลงคารม เพราะเขาจะเข้ามาหาผลประโยชน์มากกว่าจริงใจ

สุขภาพ : ระวังก้มๆ เงยๆ กระดูกจะทับเส้น

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : ถูกกากบาทค่ะ เพราะจากที่บริษัทเปลี่ยนรูปแบบใหม่ เปลี่ยนหัวหน้างานใหม่ แต่เราเป็นคนเก่าจึงต้องปรับตัวอย่างหนัก จนอยากลาออก ท้อได้ แต่อย่าถอย เพราะยังมีภาระอีกเยอะ

การเงิน : ต้นเดือนใส่ซองเยอะนะ

ความรัก : ยิ่งอยู่ยิ่งเครียด คุยกันไม่รู้เรื่อง ต่างคนต่างร้อน คิดเสียว่า เขากำหนดเพื่อให้มาชดใช้กรรม หมดกรรมก็ต่างคนต่างไป คนโสด ผู้ใหญ่กดดันให้มีคู่ แต่ท่านอยากหาคู่เอง เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ยังอีกยาว

สุขภาพ : จะมีเกณฑ์ผ่าตัดไส้ติ่ง

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน : เห็นเงินแต่คว้าไม่ได้ เพราะบริวารลูกน้องไม่อยู่ในกฎระเบียบ ท่านคงต้องจัดอบรมสัมมนาบ้างแล้ว พวกตัวป่วน สายแข็งก็ต้องลงโทษอย่างหนัก

การเงิน : จะซื้อของแพงเป็นของขวัญของฝาก ให้กับเจ้านายหรือผู้ใหญ่

ความรัก : คิดถึงตอนรักกันใหม่ๆ ใจเย็นเข้าหากัน ไม่เข้าใจอะไรพูดกันดีๆ จะได้ไม่ต้องเครียด คนโสด หากเดินทางไปอบรมสัมมนา พยายามแต่งตัวเรียบร้อย เท่ สมาร์ท เพราะงานค่อนข้างเป็นทางการ ท่านจะมีโอกาสสะดุดตาผู้เข้าร่วมสัมมนาได้

สุขภาพ : อย่าทานอาหารนอกบ้านบ่อย จะทำให้ลำไส้มีปัญหา และอาหารเป็นพิษ

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : รู้สึกชิล แม้จะสำเร็จครึ่งๆ กลางๆ ก็ตาม เพราะอยู่ในช่วงของการรอคอย

การเงิน : เสียเงินกับญาติพี่น้องเจ็บป่วย

ความรัก : ทิ้งระยะความหวานชื่นกันหน่อย เพราะต้องแยกกันทำมาหากินสักพัก ห่างแค่กาย แต่ใจอยู่ใกล้กันตลอดเวลา คนโสด มีเสน่ห์กระทันหัน มีคนเข้ามาจีบเยอะ แต่มาแบบหมาหยอกไก่ หรือหาผลประโยชน์มากกว่า มองข้ามไปก่อน

สุบภาพ : ระวังทอลซินอักเสบ

ผู้โชคดี ที่ได้รับงาน Correct ผิวปังเว่อร์จาก ‘CLINIQUE’ รวมมูลค่า 5,500 บาท

ผู้โชคดี ที่ได้รับงาน Correct ผิวปังเว่อร์จาก ‘CLINIQUE’ รวมมูลค่า 5,500 บาท

คุณ รชรส เอนกบุณย์

จากคำตอบที่ว่า

“รสเป็นสาวสอง ถ้ามีงานแต่งกับเขาสักครั้งในชีวิต ต้องจัดธีมนี้เลยค่ะ “คาบาเร่ต์โชว์โอ่อ่าอลังการ” ทั้งเจ้าสาวและแขกที่มาร่วมงานจัดกันให้เต็มสตรีมได้เลยค่ะทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม เครื่องประดับ แต่งมาแข่งกับนักแสดงคาบาเร่ต์ที่มาโชว์สร้างความบันเทิงในงานได้เลยค่ะ คาดว่าคงต้องจัดที่สนามบอล เวลาเดินชุดจะได้ไม่ชนกันหรือเหยียบชายกระโปรงกันล้มน่ะค่ะ คริ คริ ^____^”

ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ

ผู้โชคดี Inbox มาที่เพจ ‘นิตยสารแพรว’ โดยพิมพ์ รางวัล ‘CLINIQUE’ รวมมูลค่า 5,500 บาท ได้รับจากการตอบคำถามใน ‘Padcha_Praewnista’ พร้อมชื่อ นามสกุล ที่อยู่ และเบอร์ติดต่อกลับเพื่อจัดส่งของรางวัล

หรือติดต่อมาที่ 02 422 9999 ต่อ 4321 เพื่อแสดงตัวได้เลยค่ะ

ดีเจเอกกี้ ควงหนุ่มรุ่นน้อง ‘ดีเจวี’ ไปสวีท ที่มัลดีฟท์ น้ำทะเลหวานไปเลย

ดีเจเอกกี้ ควงหนุ่มรุ่นน้อง ‘ดีเจวี’ ไปสวีท ที่มัลดีฟท์  น้ำทะเลหวานไปเลย

มาแล้วจ้าาาาาา  วันนี้เจ๊มาพร้อมกับความร้อนไฟลุกผ่าวในตา ที่ฝนตกขนาดไหนก็ดับไม่ได้
ดีเจเอกกี้
เพราะช่วงนี้เหล่ารุ่นพี่เก้ง กวาง ในวงการบันเทิงเข้าโครงการคนอวดผัวกันหมดแล้ว ส่วนเจ๊ยังหาผัวไม่ได้ เลยได้แต่นั่งอิจฉา // ก่อนหน้านี้ ก็เป็นดีโวสาว ‘อ๊อฟ – ปองศรี’ เอ๊ย!! ‘อ๊อฟ – ปองศักดิ์’ ควงแฟนหนุ่มที่รู้จักกันมา 6 ปี ไปสวีทไกลถึงนิวยอร์ก
ดีเจเอกกี้
ดีเจเอกกี้
ล่าสุดก็ถึงคิว ‘ดีเจเอกกี้’ ที่ความรักเข้าตา พาดีเจหนุ่มรุ่นน้อง ‘วี – รวีโรจน์’ ดีเจคลื่นเวอร์จิ้นฮิต และพิธีกรรายการ A POP เที่ยงบันเทิง ช่องอมรินทร์ทีวี 34 HD  ไปเที่ยวสวีทหวานกัน 2 ต่อ 2  ที่มัลดีฟท์ เรียกว่างานนี้ ทำเอาน้ำทะเลจืดกันไปเลยทีเดียว โดยเจ้าตัวอดไม่ได้ที่จะต้องโพสต์รูปคู่ลงในไอจี แล้วแท็กขอบคุณช่วงเวลาที่มีความสุข พร้อมกับรูปหัวใจสีแดง  ขณะที่ฝ่ายชายก็โพสต์ข้อความหวานชวนคิด
ดีเจเอกกี้
งานนี้เจ๊ ก็ไม่รู้ว่าจะแค่เพื่อนร่วมทริปผลัดกันถ่ายรูปอย่างเดียว  หรือต้องคอยสอนเทคนิคการเป็นดีเจ ให้กับดีเจรุ่นน้องต่างคลื่นด้วยหรือไม่  ไว้รอทั้งคู่ออกมาแก้ตัวดีกว่า แต่ยังไงความรักเป็นสิ่งสวยงาม  เจ๊ขอเชียร์เต็มที่เลยค่ะ

กินเป็น อยู่ดี เคล็ดลับสุขภาพหนุ่มสาวออฟฟิศ เซฟดวงตา สมองฟิต ก่อนสายเกินแก้

ถึงจะเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยากสำหรับหนุ่มสาวสมัยนี้ที่อยู่ในวัยทำงาน เพราะสายตาและสมองคืออวัยวะหลักๆที่ถูกใช้งานอย่างหนักจนบางทีก็ลืมนึกที่จะดูแลกัน

ทำงานหนักมาทั้งวันทั้งใช้สมอง ใช้สายตา พอถึงเวลาที่จะต้องดูแลตัวเอง ก็ต้องใส่ใจด้วย เพราะปัญหาของหนุ่มสาวออฟฟิศยุคนี้ นอกจากเรื่องความปวดเมื่อยล้าตามจุดต่างๆ ของร่ายกายที่เกิดขึ้นแล้ว การใช้สายตามากๆ โดยไม่ได้พักผ่อนก็ก่อให้เกิดการเสื่อมได้เช่นกัน และจะลามไปถึงระบบประสาทและสมองด้วย เพราะอวัยวะทุกอย่างที่ว่ามานี้ล้วนมีการทำงานสัมพันธ์กันหมด

เรื่องสุขภาพจริงๆ ไม่ต้องให้เกิดอาการขึ้นมาก่อน แต่ควรเริ่มจากดูแลป้องกันความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจขึ้นจะดีกว่า ยิ่งถ้าเป็นเรื่องของดวงตาก็มักจะมองข้ามปล่อยไว้จนเป็นหนัก ทั้งที่จริงๆ แล้วเราสามารถเริ่มต้นได้ที่ตัวเอง อย่างง่ายๆ โดยสเต็ปแรก เราควรต้องรู้ใน 4 ส่วนหลัก ของร่างกายก่อน ซึ่งได้แก่ อนุมูลอิสระในร่างกาย, การอักเสบของเนื้อเยื่อ, ฮอร์โมน และภูมิต้านทาน ซึ่งถ้า 4 ส่วนนี้มีความสมดุล ก็ยากที่จะเกิดสิ่งผิดปกติกับอวัยวะสำคัญในร่างกาย โดยเฉพาะสมอง และดวงตา ซึ่งเป็นอวัยวะที่มนุษย์นั้นใช้งานอยู่ตลอดเวลา ในการทำกิจวัตรประจำวันตั้งแต่ตื่นนอน จนถึงกระทั่งเวลาหลับ ฉะนั้น ในการใช้สายตาของมนุษย์ออฟฟิศ หรือคนวัยทำงาน ที่นับว่าใช้สายตามากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น การจ้องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน, การขับรถ, การเจอกับแสงแดดที่มากไปหรือแม้กระทั่งการใช้สมาร์ทโฟน ที่มีคลื่นความถี่ ล้วนเป็นปัจจัยทำให้ประสาทตาทำงานผิดปกติ และส่งผลให้เกิดความเสื่อมถอยแก่ดวงตาอยู่ในทุกๆ วัน

healthy1 (1)

ดังนั้น การดูแลรักษาเพื่อให้ประสิทธิภาพการทำงานของสายตาอยู่กับเราไปยาวนาน จึงต้องควบคุมการทำงานในส่วนนี้ให้มีความพอดี พร้อมทั้งการบำรุงควบคู่ไปด้วย อาทิ การรับประทานวิตามินเอ ที่มีอยู่ในน้ำมันตับปลา, วิตามินดี,วิตามินอี และ วิตามินเค ที่จะช่วยบำรุงสายตาให้ดีขึ้น นอกจากนั้น ยังมี ผลบูลเบอร์รี่ ผลไม้ที่มีผลการวิจัยว่ามีแอนโธไซยาโนไซด์ (Anthocyanosides) ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ เพิ่มจอสีประสาทตาให้ทนต่อแสงได้ดี

healthy1 (5)

นอกจากการบำรุงสายตาแล้ว สมองก็เป็นอวัยวะหลักสำคัญในร่างกายของมนุษย์ที่ต้องได้รับการดูแล โดยสามารถเริ่มบริหารสมองอย่างง่ายๆ ได้ในทุกๆ วันเพราะปกติแล้วสมองของเราจะมีลักษณะคล้ายๆ กล้ามเนื้อ ถ้าเราขยันออกกำลังกาย ประสิทธิภาพในการทำงานก็จะยังดีอยู่เต็มที่ แต่เมื่อวันใดที่เราบริหารสมองน้อยลง มีการคิดวิเคราะห์ คิดเชิงลึกน้อยลง ก็ส่งผลทำให้เสื่อมถอยไปได้เช่นกัน นอกจากบริหารสมองแล้ว เราต้องบำรุงสมองให้ถูกจุด โดยสมองต้องการสารบางตัวเพื่อให้มีพละกำลังในการทำงาน อาทิ โคลิน ที่มีอยู่ในไข่แดงของไข่ไก่, ปลา, เนื้อสัตว์ และชีส ส่วนในวัยกลุ่มผู้สูงวัย ควรบริหารสมองเพื่อให้คงประสิทธิภาพไว้ มี 3 ข้อง่ายๆ ได้แก่

healthy1 (3)

1) การทำอะไรที่ชอบ อาทิ การดูแลต้นไม้, เลี้ยงสัตว์, ร้องเพลงฯลฯ

2) การทำอะไรใหม่ๆ หรือไม่ค่อยได้ทำ อาทิ การที่ผู้ชายจะไปลองเรียนเย็บปักถักร้อย, การใช้มือข้างที่ไม่ถนัดทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวัน

3) พักสมอง เมื่อเราใช้สมองแล้ว ต้องมีการพักผ่อน โดยควรนอนหลับให้สนิทเพื่อเป็นการพักผ่อน อย่างน้อยที่สุดวันละ 5 ชั่วโมง โดยห้องควรมืดสนิทเพื่อให้เมลาโทนินทำงานได้อย่างเต็มที่ รวมถึงการอยู่กับอะไรที่มีความจดจ่อ อย่างเช่น การนั่งสมาธิ สวดมนต์ โดยให้ทำเป็นกิจวัตรประจำวัน ก็ถือเป็นการพักสมองไปในตัวด้วย

 

ภาพ : I-DEE www.meinfinitythailand.com

4 วิธีแก้เครียด เห็นผลทันใจทำง่ายๆ ที่บ้าน

ภาวะความเครียดที่เกิดขึ้นกันคนยุคนี้ จริงๆ ก็มีหนทางแก้ไขหลายรูปแบบที่เลือกทำอาจจะออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งสมัยนี้ก็มีหลายแห่งที่ตอบโจทย์มากมายแต่ถ้าเป็นคนประเภทไม่ชอบออกไปไหน เพราะเบื่อกับปัญหารถติดที่เจอมาตลอดสัปดาห์อยู่แล้ว การหากิจกรรมทำเพลินๆ ภายในบ้าน ตามที่ยกตัวอย่างมานี้ ก็ช่วยให้ความเครียดนั้นเบาบางลงได้

สวมบทเชฟมิชลินสตาร์

14_05 Burasiri Wongwane Onnut Asscher_001

วันว่างที่แสนสบาย ไม่ได้ออกไปไหน พื้นที่อย่างห้องครัวนี่เหมาะมากที่จะทำให้เราได้เพลิดเพลินสุดๆ กับการใช้สมาธิและความคิดสร้างสรรค์ในการทำของอร่อยๆ ลองเปิดตำราอาหารหรือขนมที่ชอบมาทำ และตกแต่งจัดให้น่าทาน แค่นี้ก็ทำให้ลืมความเครียดไปได้แล้ว เพราะวินาทีต่อจากที่คุณทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ก็คงเป็นเวลาที่ต้องถ่ายรูปผลงานอัพโหลดลงโซเชียลเน็ตเวิร์คให้เพื่อนๆ ดู แค่นี้ก็มีความสุขแล้วว่าไหม

สร้างพื้นที่สีเขียว

Interior 01_0096v5.2

ธรรมชาติ ต้นไม้ ดอกไม้ คือสิ่งสวยงามที่ช่วยกล่อมเกลาจิตใจให้มนุษย์รู้สึกสดชื่นแจ่มใสขึ้นได้ ลองสังเกตรอบบ้านตัวเองดูบ้างว่า คุณละเลยกับการดูแลพวกเขาไปบ้างหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ควรหันมาดูแลต้นไม้ที่ปลูกเอาไว้บ้างก็เป็นอีกกิจกรรมที่ทำให้ลืมเรื่องแย่ๆ ได้บ้างแล้ว ถ้าจะให้ดีกว่านี้ลองจัดสวนออกแบบพื้นที่เอาไว้นั่งชิลๆ สำหรับนั่งดูนกชมไม้ ก็ทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูร่มรื่นดีเหมือนกัน ได้เห็นธรรมชาติอยู่รอบตัวแบบนี้ความเครียดหายเป็นปลิดทิ้งแน่นอน

ฟิตร่างกายให้แข็งแรง

GYM_01_0143v3

นอกจากภาวะความเครียดจากการทำงาน เรื่องสุขภาพก็เป็นความหนักใจอันดับต้นๆ ของคนยุคนี้ ทำงานหนักไปจนลืมดูแลตัวเอง โรคภัยก็ถามหา ลองเจียดเวลาวันหยุดที่คุณอยู่บ้านให้เป็นประโยชน์มากกว่าการดูทีวีจนหมดวัน เป็นการยืดเส้นยืดสายออกกำลังกายดูบ้าง จะหาเครื่องออกกำลังกายมาตั้งไว้ตามมุมต่างๆ หรือปูเสื่อเล่นโยคะ อยู่ในบ้าน หรือกลางสวนสีเขียวที่คุณลงแรงปลูกต้นไม้ก็เป็นวิธีที่ดีทั้งนั้น ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ สุขภาพดี โรคภัยต่างๆ กับความเครียดก็ไม่มาแล้ว

หาพื้นที่สร้างความสุขที่สมบูรณ์แบบ

M223 - Emerald

นอกจากการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ภายในบ้านเพื่อทำกิจกรรมสร้างความผ่อนคลายแล้ว สภาพแวดล้อมที่อยู่โดยรอบก็มีส่วนสำคัญอย่างมาก ยิ่งเป็นบ้านที่มีสมาชิกหลายวัย ก็ควรเลือกบ้านที่มีความสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์  ซึ่งอย่างที่บุราสิริ วงแหวน-อ่อนนุช บ้านบรรยากาศรีสอร์ท ที่ให้คุณผ่อนคลายความเครียดด้วยธรรมชาติตั้งแต่ทางเข้าโครงการ สวนส่วนกลางบนพื้นที่สีเขียวที่กว้างขวางกว่า 3 ไร่ ให้สูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด  คลับเฮ้าส์ ซึ่งโดดเด่นจากการนำเส้น สาย diamond cut และ แร่หินธรรมชาติ มาผสมผสานงานดีไซน์ที่โดดเด่นท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อม

_08U0722v13

พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกให้ทุกคนได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ทั้งฟิตเนส ที่มีอุปกรณ์ครบครันในบรรยากาศแบบ Panoramic View รวมถึงสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด Half Olympic 25 เมตร และ spa seat  ตัวโครงการตั้งอยู่ในทำเลเชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง ทั้ง ถนน บางนาตราด และวงแหวนรอบนอก เดินทางเข้าออกเมืองสะดวก ใกล้ทางด่วน – บางนา และ รถไฟฟ้า รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและห้างสรรพสินค้าอาทิ Mega Bangna / Central Bangna

สำหรับ4 วิธีแก้เครียดที่เรายกมานั้น เป็นหนทางแก้ไขหลายรูปแบบที่เราสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง ไม่ว่าจะเป็น การหากิจกรรมทำเพลินๆ ภายในบ้านที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ ตามที่ยกตัวอย่างมานี้ ก็ช่วยให้ความเครียดนั้นเบาบางลงได้ ลองทำกันดูนะคะ

ขอบคุณข้อมูลและภาพจากแสนสิริ โครงการ : บุราสิริ วงแหวนอ่อนนุช  สนใจโทร 1685 หรือ www.sansiri.com/house

จากสาวก พี่ปุ๊ VS พี่อ้อม สาวเท่ในตำนานบนปกแพรว มาดูกันมะ!! เบื้องหลังลุคบอยๆ เขาใช้อะไรกันครัช +ลุ้นรับน้ำหอมกลิ่น ‘UNISEX’ CK1 และ2 รวมมูลค่า 7,450บาท บอยชัวร์ๆ

 

จากสาวก พี่ปุ๊ VS พี่อ้อม สาวเท่ในตำนานบนปกแพรว มาดูกันมะ!! เบื้องหลังลุคบอยๆ เขาใช้อะไรกันครัช   +ลุ้นรับน้ำหอมกลิ่น ‘UNISEX’ CK1 และ2 รวมมูลค่า 7,450บาท บอยชัวร์ๆ

พี่ปุ๊ VS พี่อ้อม

จากบทเพลงหนึงเดียวคนนี้!!! 

เอร้ยยย!!! พี่เผลอฮัมอะไรออกไป คือพอดีว่าติดหูมาจากที่คุณแม่ชอบเปิดบ่อยๆ หรอกฮ่ะ เกิดไม่ทันจริงจิ๊งงง 

ว่าด้วยกระแสปกสองสาวเท่ในตำนาน พี่ปุ๊ VS พี่อ้อม ที่พัดชาตบเข่าฉาดบอกบ.ก.ว่าปกนี้ ‘ขายแน่ๆ ค่ะบอสขรา’ ถ้าขายไม่เกลี้ยงให้เอาหัวแพรวนิสต้า (คนอื่น ก.ปอนด์ ข.ลิลลี่ ค.อภิญ ง.ถูกทุกข้อ) เป็นประกันเลยฮ่ะ

แล้วก็เป็นจริงดังว่าที่คุณพี่ทั้งสองสร้างกระแสจนเป็นที่พูดถึงไม่ขาดปาก ถึงความคูลล์ เท่ บอยอมตะฆ่าไม่ตาย แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังความบอยของสาวลุคเท่เหล่านี้ เธอก็ต้องมีเมคอัพหน้าผมเหมือนสาวๆ ทั่วไป แม้จะไม่ขนตางอนเบอร์ 10 มีกลิตเตอร์ฉ่ำ แต่ขึ้นชื่อว่าผู้หญิงต่อให้บอยแค่ไหนก็ต้องมีความเป๊ะนะ…ว่ามะ

วันนี้พี่เลยอยากพาไปดูไอเท็มบอยๆ ที่เป็นคีย์สำคัญของการแต่งลุค ‘Boyish’ จากสาวเท่ระดับไอดอลให้หล่อ เอ้ย! สวยปัง ใครไม่ถึงกับบอยแต่ชอบสไตล์เรียบง่ายก็เก็บไปใช้ได้นะเธอว์

ปล. งานแจกของท้ายบล็อกวันนี้ก็บอยมาก เป็นน้ำหอม CK1 และ CK2 ในตำนาน แมนๆ กดแชร์แล้วตอบคำถามท้ายบล็อกเลยครัช

พี่ปุ๊ VS พี่อ้อม

บอยๆ…ปากสีช็อกกิ้งพิ้งค์ไม่เอานะครัช

รักจะแต่งเท่สี ‘จั๊กกะแหล่น’ ทั้งหลายต้องเก็บเข้ากรุไปก่อนนะเธอ เฉดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมูสาวเท่จากการวิจัยของแพรวนิสต้าอะคาเดมี่คือ ‘สีนู้ด’ เปลือยๆ ดูมีความดิบเป็นธรรมชาติ (ก็ลองนึกภาพพี่ปุ๊ พี่อ้อมทาปากสีชมพูนีออนดูซี๊…เครียด!!)

โดยสาวเท่รุ่นใหญ่อย่างพี่ปุ๊มาในโทนสีนู้ดน้ำตาลที่ดูเท่สุขุมเป็นผู้ใหญ่ ประมาณ BOBBI BROWN ‘Suntan Pink’ หรือ ILLAMASQUA ‘Buff’ ส่วนใครมีคิ้วเข้มเครื่องหน้าชัดเจนแบบพี่อ้อมทาสีนู้ดสนิทไปเลยก็สวยซอฟต์กลมกล่อม แนะนำ TOM FORD สี Sable-Smoke หรือถ้าชอบแบบเนื้อลิขวิดจิ้มจุ่ม NARS สี Over Heated ก็เป๊ะกำลังสวย

ปล.แล้วไม่ต้องเอาประกายชิมเมอร์มาล่ะ คนแมนๆ เขาไม่ทำกัน

พี่ปุ๊ VS พี่อ้อม

บอยๆ ต้องมีความกรั้นช์ในดวงตา เหมือน ‘Kristen Stewart’ ไงเธอว์

สาวเท่คริสเท่นเธอเป็นคนมีเสน่ห์ในแววตาที่ดูลึกลับคมจิก ‘ดูมีอะไร’ ทั้งที่บางทีนางอาจจะแค่หิวข้าว สไตล์การเขียนอายไลเนอร์ให้กรั้นช์ๆ แบบคริสเท่นนั้นต้องอาศัยอายไลเนอร์ชนิดดินสอเนื้อนิ่ม

ถามว่าทำไม? เพราะงานนี้เราไม่ได้ต้องการกรีดตาแบบลากหางใช้เส้นคมกริบ สไตล์กรั้นช์ต้องอาศัยการเบลนด์ให้เส้นไลเนอร์สีดำสนิทนั้นมีความฟุ้งๆ เบลอๆ ซึ่งอายไลเนอร์แบบลิขวิดทำไม่ได้ (ไม่ต้องพยายามพี่ลองมาแล้ว) แท่งที่สีดำสนิทเนื้อนิ่มใช้สบายติดทนนาน ที่พัดชาเลิฟสุดๆ คือ Urban Decay, NARS และ Too Faced เขียนทั้งขอบตาบนและล่างแล้วใช้แปรงถูๆๆ แบบไม่ต้องตั้งใจ เท่ห์ลื๊ม

พี่ปุ๊ VS พี่อ้อม

พี่ปุ๊ VS พี่อ้อม

งานบอยๆ แต่งสีน้อยสกินต้องดี ไม่เชื่อถาม ‘หมอเจี๊ยบ’ กับน้องตูนส์ @tuniez83 สิ

ในเมื่อแต่สีสันน้อยเพื่อความเท่ก็ควรจะโชว์ผิวสวยใสไม่ดูหนาเตอะ อย่างน้องหมอเจี๊ยบลลนา กับบิวตี้บล็อกเกอร์ที่กำลังอินกับสายบอยอย่างน้องตูนส์ @tuniez83 พัดชาพูดเลยว่าตัวจริงขาวใสไร้รูขุมขน เพราะฉะนั้นเราต้องการส่งเสริมไม่ใช่ปกปิดผิว เลือกรองพื้นที่มีเนื้อบางเบาแบบลิขวิด หรือคุชชั่นเบาๆ สบายผิว

เน้นย้ำว่าสายบอยหน้าเขาไม่ลอยกันนะจ๊ะ กรุณาเลือกรองพื้นตามความเป็นจริงนะคะลูก รองพื้นตามสีผิวในฝันเก็บไว้วันหลังเนอะ

พี่ปุ๊ VS พี่อ้อม

โครงหน้ามีเหลี่ยมสันเหมือนขุ่นแม่ ‘Tilda Swinton’

เหตุทีขุ่นแม่ทิลด้ามีความบอยแบบไร้ขีดจำกัด พัดชาเดาว่าต่อให้ขุ่นแม่นึกครึ้มทำผลม้วนลอนเป็น แคนดี้จอมแก่น หรือถักเปียสองข้างขึ้นมาเชื่อว่าก็ยังคงเท่อยู่ เนื่องจากโครงหน้าที่มีความชัด มีโหนกแก้มที่เป็นเหลี่ยมสันชัดเจน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่มีในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง

โครงหน้าเท่ๆ แบบนี้สร้างได้ด้วยการลงบรอนเซอร์เน้นกรอบหน้าและใต้โหนกแก้ม ถ้าอยากจะดูเท่ให้สุดก็ไม่ต้องปัดแก้มสีชมพูฟรุ้งฟริ้ง ใช้แต่บรอนเซอร์อย่างเดียวก็เปรี้ยวได้

พี่ปุ๊ VS พี่อ้อม

คิ้วไม่มาหน้าไม่แมนนะครัช

ไม่เชื่อถามเจ้าของคิ้วพันล้านอย่าง ‘คาร่า เดเลวีน’ ดูได้ สาวลุคบอยเขาไม่นิยมเขียนคิ้วโก่งหรือคมกริบ นึกภาพ ‘เมแกน ฟ็อกซ์’ แต่งบอยดูบ้างคงดูงงพิลึก สาวมาดเท่เน้นเขียนคิ้งทรงหน้าและมีความเป็นธรรมชาติ ชนิดเจลแบบที่ใช้กับแปรงหัวตัดอาจมีความคมมากเกินไป ใช้ชนิดดินสอที่สามารถเติมขนคิ้วได้ทีละเส้น หรือปัดแต่มาสคาร่าคิ้วเพื่อโชว์ความสวยเรียงเส้น

สังเกตหัวคิ้วของสาวคาร่าให้ดี ขนคิ้วที่ยุ่งๆ เกินๆ แบบนี้แหล่ะดูเซี๊ยวเข้ากับลุคบอยๆ ได้ดี ถ้าใครมีก็เก็บไว้เพื่อความเก๋ (เอาไปแลกรางวัลไม่ได้)

giveaway

Give Away Time!!!!!!

กติกาง่ายๆ เพียง ‘กดแชร์หน้าบล็อคนี้’ แล้วตอบคำถามไว้ที่กล่องคอมเม้นท์ด้านล่าง 

เสนอชื่อสาวลุคบอยในดวงใจ พร้อมเหตุผลว่าทำไมถึงได้เลิฟนาง (ตอบฮาได้แซ่บได้ไม่ผิดบาป)

+ลุ้นรับน้ำหอมกลิ่น ‘UNISEX’ CK1 และ CK2 ขนาด100 ML รวมมูลค่า 7,450บาท บอยชัวร์ๆ

ประกาศผลภายในวันที่ 5 สิงหาคม 2559

เรื่อง/สไตล์ : padcha_praewnista

IG : @padcha_praewnista

ถูกใจสาวเซอร์ รองเท้าผ้าใบ Converse ออกคอลเลกชั่นใหม่ลายหินอ่อน

เชื่อว่ารองเท้า Converse เป็นรองเท้าผ้าใบที่แทบทุกคนต้องมี ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ต้องมีกันบ้างล่ะอย่างน้อยๆ ก็คนละ 1 คู่ เพราะรองเท้า Converse ถือเป็นแบรนด์ที่บุกเบิกกระแสนิยมรองเท้าผ้าใบหรือสตรีทแฟชั่นยุคแรกๆ เลยก็ว่าได้

แต่ก่อนใครที่ใส่รองเท้า Converse จะเป็นวัยรุ่น หรือคนที่มีสไตล์ชิคๆ หรือประมาณว่าวัยรุ่นที่ชอบเดินสยามอะไรประมาณนี้ แต่ปัจจุบันกระแสความฮิตของรองเท้า Converse เป็นอะไรที่กว้างขวางมากขึ้น จะวัยรุ่นหรือวัยไหน ใครๆ ก็ใส่ จนถือเป็นไอเท็มชิ้นสำคัญของใครหลายๆ คนไปแล้ว นั่นก็เพราะตอนนี้รองเท้า Converse ไม่ใช่แค่รองเท้าผ้าใบสีขาวหรือสีพื้นๆ ธรรมดาๆ แต่มีตัวเลือกหรือออกคอลเลกชั่นหลากหลายรูปแบบมากขึ้น ทำให้เข้าได้กับทุกคนนั่นเอง

ล่าสุดแบรนด์รองเท้า Converse ก็ทำให้เงินในกระเป๋าเราสั่นอีกแล้ว เพราะได้ออกคอลเลกชั่นใหม่สุดเท่มาเอาใจคนรักรองเท้ากันอย่างต่อเนื่อง โดยครั้งนี้ดูเหมือนจะถูกใจคุณสาวๆ เป็นพิเศษกับ Converse Custom Marble Collection หรือ Converse คอลเลกชั่นลายหินอ่อนนั่นเอง โดยคอลเลกชั่นนี้จะเพิ่มความสนุกตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้นโดยให้ผู้ซื้อสามารถดีไซน์รองเท้าในแบบของตัวเองได้ง่ายๆ เช่น การมิกซ์แอนด์แมทช์ของชิ้นส่วนรองเท้าว่าจะเอาลวดลายไหน ที่สำคัญคือสามารถพิมพ์ชื่อหรือข้อความบนรองเท้าได้ด้วยแหละ โดยหลักๆ แล้วจะมีลายหินอ่อนให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ส่วนเรื่องราคาถ้าคิดเป็นเงินไทยแล้วก็เกือบๆ 3,000 บาท ทั้งแบบหุ้มข้อและแบบธรรมดา ซึ่งถือว่าไม่แพงนะสำหรับความพิเศษเหล่านี้

BLACK WHITE MARBLE
BLACK WHITE MARBLE

 

GREY BLACK MARBLE
GREY BLACK MARBLE

 

WHITE BLUE MARBLE
WHITE BLUE MARBLE

 

WHITE GREY MARBLE
WHITE GREY MARBLE

 

เรื่อง : saipiroon_แพรวดอทคอม

ข้อมูล : www.store.nike.com

keyboard_arrow_up