สเต็ปเดียวเอาอยู่ยาวๆ CHY Double Beauty Puff แป้งไฮบริดสุดเริ่ด บางเบาแต่ปกปิดดี

account_circle

เทรนด์เมคอัพช่วงนี้ ขอบอกเลยว่างานผิวมาแรง โดยเฉพาะงานผิวที่ดูเป็นธรรมชาติสไตล์ makeup no makeup ที่สายแต่งหน้าต่างรู้กันดีว่าไม่ง่าย เพราะเห็นงานผิวสวยเนียนเบอร์นั้น กว่าจะฟินิชผิวได้ก็ต้องแลกมาด้วยสารพัดขั้นตอน ตั้งแต่สกินแคร์ ไพรเมอร์ ไปจนถึงรองพื้น

ดังนั้น Praew Survey รอบนี้ จึงขอป้ายยาไอเท็มช่วยชีวิตสาวๆ แบบสเต็ปเดียวเอาอยู่ยาวๆ กับแป้งผสมรองพื้นตัวดัง CHY Double Beauty Puff ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นแป้งไฮบริดที่ตอบโจทย์สาวๆ ยุคนี้ได้แบบเริ่ดมาก

ความดีงามของ CHY Double Beauty Puff คือน้องเป็นแป้งไฮบริด หรือแป้งผสมรองพื้นที่หลายคนรู้จัก ซึ่งมาพร้อมกับเนื้อสัมผัสที่บางเบาสบายผิว แต่ให้การปกปิดที่เรียบเนียนด้วยนวัตกรรมการปกปิดแบบรองพื้น อีกทั้งยังติดทนยาวนานเช้าจรดเย็นโดยที่สีแป้งไม่ดร็อประหว่างวัน และให้ฟินิชผิวแบบโปร่งใส ไม่หนักผิว สวยเนียนดูเป็นธรรมชาติ รวมถึงยังช่วยควบคุมความมันเริ่ด ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและฝุ่น PM2.5 เรียกว่าเหมาะกับสภาพอากาศของบ้านเราสุดๆ

นอกจากนี้ CHY Double Beauty Puff ยังโดดเด่นด้วย 3 คุณสมบัติเริ่ด คือ 12 Hours Soft Matte Finish ล็อกผิวแมตต์และติดทนยาวนาน 12 ชั่วโมง , Blurring Effect ช่วยเบลอริ้วรอย รูขุมขน และจุดบกพร่องต่างๆ ทันที และ Smoothing Effect ช่วยอัพผิวเรียบเนียน แลดูกระจ่างใสและสม่ำเสมอ

ด้วยความที่ CHY Double Beauty Puff ขึ้นชื่อว่าเป็นแป้งไฮบริดที่ตอบโจทย์สาวๆ ยุคนี้ที่ต้องการความรวดเร็วทันใจ น้องจึงมาพร้อมกับความใช้ง่าย โดยเนื้อแป้งมีความแน่น ไม่ร่วงเป็นฝุ่นผง เวลาทาก็เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ ไม่ตกร่อง ช่วยให้สาวๆ ประหยัดเวลาแต่งหน้าไปได้เยอะเลยทีเดียว ซึ่งน้องมีให้เลือกใช้ 4 เฉดสีด้วยกัน คือ

  • เบอร์ 0 VANILLA LIGHT
  • เบอร์ 1 NATURAL BEIGE
  • เบอร์ 2 MEDIUM SAN
  • เบอร์ 3 GOLDEN TAN

สาวๆ ที่อยากได้แป้งไฮบริดCHY Double Beauty Puff มาตอบโจทย์ชีวิตให้ง่ายขึ้น พร้อมอัพงานผิวสวยสไตล์ธรรมชาติ ก็สามารถตามไปช้อปออนไลน์กันได้เลยที่พิกัด : FACEBOOK , INSTAGRAM , TIKTOK , LAZADA และ LINE OA 

เปิดบ้านหรู + คลังรถมูลค่ามหาศาล! ของนักธุรกิจสาวเก่งดีกรีนางงาม “ดร.กันธิชา ฉิมศิริ”

Alternative Textaccount_circle

แพรว มีโอกาสมาเยือนบ้านพักสุดหรูที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ ภายในโครงการ Che Elpend ที่เขาใหญ่ เจ้าของคือนักธุรกิจหญิงมากความสามารถที่มีดีกรีความงามระดับคว้ามงมิสซิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 คนแรกของประเทศไทย “คุณยุ้ย – ดร.กันธิชา ฉิมศิริ” เจ้าของอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งเป็นนักสะสมตัวจริง ทั้งซูเปอร์คาร์ คลาสสิกคาร์ และงานศิลปะ

ดร.กันธิชา ฉิมศิริ

นอกจากโปรไฟล์เก่ง สวย และรวยมากแล้ว เธอยังเป็นสาวมากพลัง เมื่อคิดจะทำอะไร เธอจะทุ่มเทและพยายามจนสามารถแตะมือถึงความสำเร็จสูงสุด เธอบอกกับ แพรว ว่าตั้งแต่เข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ทำให้เธอได้ค้นพบพรสวรรค์ของตัวเองอีกหลากหลายด้าน

เปิดบ้านหรู + คลังรถมูลค่ามหาศาล! ของนักธุรกิจสาวเก่งดีกรีนางงาม “ดร.กันธิชา ฉิมศิริ”

“จุดเริ่มต้นมาจากเมื่อก่อนยุ้ยอยู่ในกลุ่มรถคลาสสิก มักจะชวนกันขับรถไปเที่ยวที่หัวหินบ่อยๆ จนทำให้ยุ้ยได้เพ้นต์เฮ้าส์เนื้อที่กว่า 350 ตารางเมตรที่หัวหิน (หัวเราะ) จากนั้นเริ่มเปลี่ยนทิศการเดินทาง เพื่อนบอกว่าอยากไปขับรถเที่ยวที่เขาใหญ่ แล้วตอนเช้าค่อยถ่ายรูปเล่นกัน เราก็ขับตามไป ขากลับเพื่อนชวนแวะมาดื่มกาแฟที่โครงการ Che EIpend ซึ่งเพื่อนอีกคนเป็นเจ้าของ ทีแรกตั้งใจแค่ว่าอยากมานั่งคุยและถ่ายรูปลงเฟซบุ๊กกันตามประสา แล้วเพื่อนก็พูดว่าช่วยซื้อที่ดินไว้สักหนึ่งแปลงนะ ตอนนั้นยังไม่คิดว่าจะซื้อ เพราะไม่รู้ว่าจะเอาไว้ทำอะไร แต่อยากช่วยเพื่อน วันนั้นสามี (Alexander Pape เจ้าของแบรนด์ Schwarzkopf) และลูกชาย (Master Nicolos Pape) มาด้วยกันพอดีจึงช่วยกันเลือก จนได้มาหนึ่งแปลงติดภูเขา พื้นที่ประมาณ 1 ไร่

ดร.กันธิชา ฉิมศิริ

“พอกลับถึงกรุงเทพฯก็เริ่มออกแบบบ้านทันที โดยยุ้ยเลือกอินทีเรียร์ดีไซเนอร์ที่รู้จักกันมานานคือคุณอาร์ต – อยุทธ์ มหาโสม แห่ง Ayutt and Associates design (AAd) เขาเห็นว่ายุ้ยมีรถเยอะ ทั้งคลาสสิกคาร์และซูเปอร์คาร์รวมแล้ว 10 กว่าคัน ทุกค้นจอดไว้ที่กรุงเทพฯ ต้องฝากจอดอยู่ตามที่ต่างๆ คุณอาร์ตจึงแนะนำให้ทำที่จอดรถใต้ดินแทนการทำที่จอดรถที่ชั้น 1 แบบบ้านทั่วไป ด้วยบ้านที่เขาใหญ่สามารถสร้างได้ไม่เกิน 15 เมตรหรือตึกสูง 2 ชั้นเท่านั้น หากทำที่จอดรถในชั้น 1 จะทำให้มีห้องไม่พอสำหรับสมาชิกทุกคนในบ้าน

ดร.กันธิชา ฉิมศิริ

“พอปรึกษาสามี เขาก็แนะนำให้สร้างพื้นที่ส่วนตัวของยุ้ยไว้ตรงชั้นใต้ดิน คือมีทั้งห้องแต่งหน้า ห้องนั่งเล่น ห้องนั่งเล่นของลูก และที่จอดรถ สำหรับชั้น 1 จะเป็นห้องรับแขกขนาดใหญ่ และห้องพักสำหรับแขกที่เราสร้างไว้ 2 ห้องนอน อยู่ติดกับสระว่ายน้ำ

ดร.กันธิชา ฉิมศิริ

“ส่วนโซนชั้น 2 เป็นพื้นที่ส่วนตัว มี 3 ห้องนอน เป็นของสามี ยุ้ย และลูก ซึ่งห้องนอนของยุ้ยจะมีวอล์กอินคลอเสต แต่ทุกวันนี้เสื้อผ้าก็ค่อยๆ ลามไปไว้ที่ห้องแขกบ้าง ห้องลูกบ้าง (หัวเราะ)  ส่วนอีกห้องเป็นห้องทำงานของยุ้ย

ดร.กันธิชา ฉิมศิริ

“หลังจากสร้างเสร็จเรียบร้อยก็ซื้อที่ดินเพิ่ม คือพื้นที่สนามหญ้าในปัจจุบัน รวมกันแล้ว 3 ไร่ ปกติเราจะไม่ค่อยได้เดินทางมาพักสักเท่าไหร่ เพราะอยู่กรุงเทพฯเป็นหลัก แต่พอช่วงโควิด-19 ระบาด จึงขนครอบครัวมาอยู่ที่เขาใหญ่กันหมด แล้วตัดสินใจซื้อบ้านต่อจากเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างๆ ไว้ด้วย เพราะคิดว่าเมื่อลูกโตขึ้นน่าจะอยากมีพื้นที่ส่วนตัว”

ดร.กันธิชา ฉิมศิริ

ค้นพบพรสวรรค์

“ช่วงที่อยู่บ้านหลังนี้ยุ้ยมีเวลาเยอะ จึงเริ่มเขียนหนังสือเกี่ยวกับกุญแจไขความสำเร็จ Heart to Heart เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้คนที่คิดไม่ออกว่าชีวิตจะเดินไปเส้นทางไหน หรือฉันยังขาดอะไรบ้างถึงจะประสบความสำเร็จ”

ดร.กันธิชา ฉิมศิริ

แล้วเธอยังได้ค้นพบว่าตัวเองสามารถสร้างสรรค์งานศิลปะแขนงหนึ่งได้อย่างน่าอัศจรรย์

“ระหว่างที่เขียนเรื่อง Heart to Heart ยุ้ยอยากทำงานศิลปะเพื่อทำเป็นปกของหนังสือ ยุ้ยวาดรูปหัวใจด้วยสีน้ำมัน จากนั้นลวดลายต่างๆ ก็ออกมาให้วาดได้ทุกวัน ยุ้ยผสมสีขึ้นมาเอง เชื่อว่าคงไม่มีหลักสูตรไหนสอน เพราะบางอย่างเกิดขึ้นจากการทดลอง อย่างคอลเล็คชั่น Snow และ Super Star ที่ใช้โฟมและวิธีมิกซ์สี ซึ่งยุ้ยไม่ได้เรียนศิลปะที่ไหน แต่มาจากจินตนาการส่วนตัวอย่างเดียวเลยค่ะ

ดร.กันธิชา ฉิมศิริ

“จากนั้นจึงขยับขยายไปสู่ศิลปะที่เรียกว่า String Art  เป็นงานศิลปะที่ใช้เส้นไหมและหมุดนำมาเรียงร้อยจนเกิดผลงานเป็นลวดลายเรขาคณิต ภาพสัตว์ ฯลฯ ในเมืองไทยยุ้ยยังไม่ค่อยเห็นคนทำงานแนวนี้มากนัก ยุ้ยเริ่มจากซื้อเส้นไหมมาทดลองทำประมาณ 700 ม้วน เพื่อลองสี ทุกอย่างเกิดจากการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ใช้ความรู้สึกและมุมมองในศิลปะเป็นหลัก ชั้นตอนที่ยากที่สุดคือการคัดเลือกเส้นไหม จะต้องเป็นเส้นที่สวยและเรียบเนียนที่สุด โดยยุ้ยใช้เวลาทำต่อชิ้นผลงานประมาณ 1 คืน ซึ่งต้องใช้สมาธิอย่างมาก เพราะมีการคำนวณจำนวนไหมอย่างละเอียด ถ้าพลาดไปแค่เส้นเดียว ภาพที่ออกมาจะไม่บาลานซ์กันทันที ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ยุ้ยทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับงานศิลป์นี้ เพราะยุ้ยเชื่อว่าถ้าเราไม่ทุ่มเท งานก็จะไม่อลังการ

ดร.กันธิชา ฉิมศิริ

“พอทำงานศิลปะออกมามากๆ จึงตัดสินใจใช้พื้นที่ที่ซื้อเพิ่มจากเพื่อนบ้านมาตกแต่งให้เป็นบ้านศิลปะ สำหรับจัดวางผลงานภาพสีน้ำมันและงาน String Art ทั้งหมด เพื่อต้อนรับแขกและแฟนคลับที่แวะมาเยี่ยมเยือนกันตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยุ้ยยังนำผลงานมาตกแต่งไว้ในชีวิตประจำวันด้วยการใสกรอบติดผนังตามห้องต่างๆ หรือทำเป็นโต๊ะรับแขก ภายในเวลา 3 ปี ยุ้ยสามารถสร้างงานไม่ต่ำกว่า 500 ผลงาน ถือว่าเป็น Special Gift ของตัวเองจริงๆ”

ดร.กันธิชา ฉิมศิริ

ขยายอาณาจักร

“ช่วงที่ยุ้ยเก็บตัวทำงานศิลปะอยู่บ้านที่เขาใหญ่ เพื่อนยุ้ยที่เป็นเจ้าของโครงการยอมขายที่ดินฝั่งตรงข้ามให้อีกหนึ่งแปลง เพราะยุ้ยอยากจะสร้างเป็น Academy ไว้ที่ชั้นบนเพื่อเปิดให้เช่า มีทั้งสตูดิโอและห้องอัดเสียง ส่วนบริเวณชั้นล่างทำเป็นที่จอดชูเปอร์คาร์คอลเล็คชั่นส่วนตัว ยุ้ยตั้งใจให้ภายในอาคารนี้มี 3 ไอเท็มที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของยุ้ยให้ผู้คนที่มาเยือนได้สัมผัส คือซูเปอร์คาร์  ผลงานศิลปะ และประติมากรรม

ดร.กันธิชา ฉิมศิริ

“สำหรับการออกแบบยังคงยกหน้าที่ให้คุณอาร์ต โดยเน้นความเป็นโมเดิร์นอย่างชัดเจน สร้างเป็นอาคารกระจกทั้งหลัง ซึ่งต้องสั่งทำขึ้นมาเป็นขนาดพิเศษ ทำเอาตอนที่คุณอาร์ตส่งใบเสนอราคามาแอบตกใจเล็กน้อย” (หัวเราะ) คุณยุ้ยกระซิบว่าราคา 7 หลักเลยทีเดียว

ดร.กันธิชา ฉิมศิริ

“เรื่องสีของบ้านยุ้ยก็ให้ความสำคัญ อย่างห้องรับแขกชั้น 2 ยุ้ยเลือกทำ String Art เป็นโทนสีฟ้าแล้วนำมาใส่กรอบติดผนังห้อง และทำเป็นโต๊ะสำหรับรับแขกอีกด้วย เพราะสีฟ้าเป็นโทนสีที่ทำให้รู้สึกสบายตา หรืออย่างกระจกยุ้ยเลือกติดฟิล์มกันร้อนสีเขียว เพราะวิวภูเขาตรงหน้าเป็นสีเขียว เพื่อให้เรามองทุกอย่างได้ชัดเจนเหมือนไม่ได้ติดฟิล์ม”

ดร.กันธิชา ฉิมศิริ

ตอบโจทย์ตัวเอง + ฮวงจุ้ย

ด้วยสไตล์ของบ้านที่มีความโมเดิร์น แต่คุณยุ้ยยืนยันว่าทำตามหลักฮวงจุ้ยแบบถูกทุกข้อ

”ยุ้ยศึกษาศาสตร์ฮวงจุ้ยด้วยตัวเองค่ะ โดยมีคุณอาร์ต อินทีเรียร์ดีไซเนอร์เป็นที่ปรึกษา อย่างต้นมั่งมี 4 ต้น ที่ยุ้ยนำมาปลูกไว้หน้าบ้าน เพื่อจะได้มีเงินทองไหลมาเทมา ตอนแรกห้องนอนยุ้ยอยู่ด้านในฝั่งขวาของบ้าน เพราะเป็นมุมที่ยื่นออกไปเห็นภูเขาแบบเต็มๆ ตา แต่ความที่เราเป็นพ่อแม่ ห้องนอนต้องใหญ่กว่าของลูก ยุ้ยจึงสลับมาอยู่ห้องด้านหน้าที่ใหญ่กว่า ซึ่งเดิมเป็นห้องนอนของน้องนิโคลัส

ดร.กันธิชา ฉิมศิริ

“ส่วนประติมากรรมปลาทองบนระเบียงชั้นสอง ตามหลักฮวงจุ้ยถ้าบ้านไหนมีปลาทองจะทำให้มีความร่ำรวย ถ้าจะเลี้ยงปลาท่องตัวเป็นๆ ก็สงสารคนงาน ไหนจะต้องดูแลบ้าน รถ สวน และยังต้องให้อาหารปลาอีก จึงใช้วิธีซื้อประติมากรรมปลาทองมาวางไว้แทน”

ดร.กันธิชา ฉิมศิริ

เรื่องความสวยงามและความลงตัวยังคงเป็นหัวใจหลักของการตกแต่งอาณาจักรแห่งนี้ 

“ตั้งแต่ด้านหน้าของอาคาร Academy ยุ้ยตั้งใจวางพระพิมเนศไว้บริเวณสวน เพื่ออยู่ท่ามกลางความร่มรื่นของธรรมชาติและให้ผู้คนได้สักการะ ซึ่งยุ้ยซื้อมาจากศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ วันนั้นเพื่อนชวนมานอนบ้านที่กรุงเทพฯ เพื่อไปเลือกซื้อสิงโตหินแบบเดียวกับที่ตั้งอยู่หน้าบ้านยุ้ยที่เขาใหญ่ ซึ่งเป็นสิงโตหน้ายิ้ม เพื่อให้ทุกครั้งที่มองเราจะรู้สึกสบายใจและมีความสุข เพื่อนจึงอยากได้บ้าง พาไปดูหลายร้านแล้ว เพื่อนไม่ยอมซื้อสักที ยุ้ยหันไปเห็นพระพิฆเนศองค์นี้ในร้านหนึ่งแล้วชอบมาก จึงซื้อมาทันทีในราคา 200,000 บาท แล้วยังได้หินมูราโน่สีม่วงมาอีก 3 ก้อน เพราะคนขายบอกว่าอิทธิพลของหินหรือพลอยถือเป็นพลังงานดี เมื่อนำมาไว้ในบ้านก็จะได้รับพลังงานดีๆ ไปด้วย สรุปวันนั้นยุ้ยหมดไปหลายแสนเลยค่ะ (หัวเราะ)

ดร.กันธิชา ฉิมศิริ

“ตอนแรกบริเวณสนามตั้งใจว่าจะวางผลงานประติมากรรม แต่คุณอาร์ตแนะนำว่าอยากให้มีต้นไม้ เพื่อไม่ให้แดดเข้ามาในบ้าน 100 เปอร์เซ็นต์ แล้วให้ปลูกต้นไม้ตรงฝั่งอาคาร Academy โดยเฉพาะต้นใหญ่ตรงทางขึ้น เพื่อเป็นการบังบ้านจากเพื่อนบ้านให้มีความไพรเวตยิ่งขึ้น

ดร.กันธิชา ฉิมศิริ

“หลายคนสงสัยว่าทำไมตรงสนามหญ้าทำเป็นเนินฮิลล์ เป็นเทคนิคในการวางพื้นที่ เพราะที่ตรงนี้ติดภูเขา เราอยากให้ภาพวิวตรงสนามรับต่อเนื่องมาจากภูเขาแล้วค่อยลงมาตรงพื้นสนามหญ้า คือทำให้ระดับสายตาการมองวิวต่อเนื่องกับภูเขา

ดร.กันธิชา ฉิมศิริ

“สำหรับบ้านศิลปะ ยุ้ยตั้งใจเพ้นต์กำแพงและตัวตึกให้เป็นรูปหัวใจ เพราะยุ้ยเขียนหนังสือ Heart to Heart เวลาคนที่เข้ามาชมบ้านศิลปะต้องเดินผ่านกำแพง อยากให้เขารู้สึกว่าคุณต้องใช้หัวใจติดต่อและสัมพันธ์กับผู้คนนะ ความจริงอยากจะเพ้นต์บ้านทั้งหลังเลยนะคะ เพื่อให้เป็น The Only One Kaoyai (หัวเราะ) เวลายุ้ยส่งพลังดี ๆ ออกไปโดยผ่านทุกอย่างในบ้านหลังนี้ อยากให้คนที่มาเห็นรู้สึกและสัมผัสได้ค่ะ”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 997

Midi-Bob ทรงผมที่เหล่าคนดังเริ่มทำตั้งแต่ต้นปี

Midi-Bob เทรนด์ทรงผมสุดคูลของเหล่าคนดังรับปี 2024 สวยสับไม่สั้นและยาวเกินไป

Alternative Textaccount_circle
Midi-Bob ทรงผมที่เหล่าคนดังเริ่มทำตั้งแต่ต้นปี
Midi-Bob ทรงผมที่เหล่าคนดังเริ่มทำตั้งแต่ต้นปี

Midi-Bob ทรงผมที่ฮ็อตมากที่สุดตั้งแต่ต้นปี 2024 คนดังจำนวนหนึ่งได้ทำทรงนี้แล้ว ดังเช่น Selena Gomez ตัดความยาวผมสีน้ำตาลของเธอให้เป็นทรงMidi-Bob ในสัปดาห์ที่สองของเดือนมกราคม ลุคใหม่ที่ดูสวยงามและดูเติบโตขึ้น ซึ่งMidi-Bob สามารถจัดทรงได้หลายวิธีแต่เน้นความยาวเลยช่วงไหล่ เช่น แสกกลาง หรือแสกข้างและปลายโค้งงอเบาๆ ด้าน Penélope Cruz ยังได้เปิดตัวมิดิบ๊อบลุคใหม่ของเธอในงาน Governors Awards ด้วยเฉดสีคาราเมลเข้มข้นเพิ่มมิติให้กับสไตล์ใหม่ของเธอ และ Claire Danes  ก็จับคู่ผมบ๊อบสั้นกับสไตล์ Old Hollywood และเดรสสไตล์วินเทจ Balmain สำหรับรางวัล Emmys ได้อย่างเข้ากันไม่มีที่ติ

Midi-Bob ถูกกำหนดความยาวตามชื่อเลย แทนที่จะเป็นผมบ๊อบสไตล์อิตาลี (Italian bob) ที่มีความยาวแค่ประมาณคาง สไตล์Midi-Bobนี้กลับยาวเลยไหล่ แม้ว่าจะใช้ได้กับทุกรูปหน้าและเส้นผม แต่ก็ต้องแน่ใจว่าผมคุณมีความยาวที่เหมาะสม เพื่อความเก๋ หากได้ตัดหรือจัดสไตล์อย่างถูกต้อง

“ผมทรงMidi-Bobจะต้องตัดปลายทื่อ ฉันมักจะตรวจสอบให้แน่ใจว่าด้านข้างยาวกว่าด้านหลัง เพื่อให้มีน้ำหนักเทที่ด้านหน้า สิ่งที่ไม่ต้องการก็คือเส้นผมสะบัดสั้นกว่าช่วงไหล่” – Luke Hersheson ช่างทำผม

Midi-Bobเจาะเข้าสู่เทรนด์ทรงผมและความงามแบบมินิมอลลิสต์ในปีนี้ “สไตล์เรียบง่ายที่มีความยาวปานกลาง เลยไหล่สามารถแสกกลางหรือด้านข้าง หรือไว้หน้าม้า และการรวบผมทัดใบหู ทำให้ลุคดูเรียบง่ายแต่เท่ – Luke Hersheson ช่างทำผม

BEVERLY HILLS, CALIFORNIA – JANUARY 10: Selena Gomez Celebrates the Launch of Rare Beauty’s Find Comfort Body Collection on January 10, 2024 in Beverly Hills, California. (Photo by Stefanie Keenan/Getty Images for Rare Beauty)

หากเปรียบเทียบทรงผมเท่ากับการไม่แต่งหน้าแล้วยังดูดี Midi-Bobคือทรงผมที่สมบูรณ์แบบในการเติมความสดชื่นให้สไตล์ของคุณ โดยไม่ต้องยกเครื่องลุคปัจจุบันใหม่มากนัก

Photo: Getty Image


วี (V)

วี (V) จากเด็กหนุ่มลูกชาวสวน สู่ความจรัสแสงในฐานะศิลปินระดับโลก

Alternative Textaccount_circle
วี (V)
วี (V)

การมีความฝันเป็นสิ่งที่ดี เพราะช่วยให้เราขับเคลื่อนไปสู่สิ่งที่ตัวเองปรารถนาได้ แต่ไม่ว่าความฝันนั้นจะหน้าตาเป็นอย่างไร สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรทำเลยคือการดูถูกความฝัน ไม่ว่าจะเป็นของคนอื่นหรือของตนเอง เพราะทุกคนมีสิทธิ์ทำตามความฝัน หากไม่ท้อแท้หรือหมดใจในระหว่างทางต้องไปสู่ความสำเร็จได้อย่างแน่นอน วันนี้ แพรวดอทคอม จึงมีบทความที่เติมพลังใจมาให้ทุกคนได้อ่านกัน กับเรื่องราวชีวิตของศิลปินระดับโลก วี หรือ คิมแทฮยอง สมาชิกวง BTS ศิลปินเคป๊อปที่มีชื่อเสียงในระดับโลก ซึ่งกว่าที่จะยืนบนสเตจอย่างสง่างามในวันนี้ เขาต้องผ่านการพิสูจน์ตัวเองมาไม่น้อยเลยทีเดียว

วี (V)

คิมแทฮยอง หรือสเตจเนม วี เป็นหนึ่งในสมาชิกของวง บอยแบนด์เกาหลีใต้ชื่อดัง BTS ภายใต้สังกัด Big Hit Entertainment นักร้องหนุ่มเกิดเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 1995 เขาเป็นพี่คนโต มีน้องสาว 1 คน และน้องชาย 1 คน โดยบ้านเกิดของเขาอยู่ที่เมืองแดกู ซึ่งเป็นครอบครัวเกษตรกร โดยเจ้าตัวเคยเปิดเผยว่า “หากไม่ได้เป็นศิลปิน เขาอยากที่จะทำสวน เหมือนกับคุณพ่อและคุณย่า ทุกอย่างที่พวกท่านทำมันดูวิเศษ” แม้เวลาผ่านไปจนตอนนี้นักร้องหนุ่มก็ยังไม่ล้มเลิกความฝันที่จะเป็นฟาร์มเมอร์

วี (V)

วีใฝ่ฝันจะเป็นนักร้องตั้งแต่เรียนอยู่เกรด 6 ซึ่งคุณพ่อก็เชื่อมั่นและสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่ โดยเขาเริ่มต้นเรียนแซกโซโฟนในโรงเรียนมัธยมต้น กระทั่งช่วงฤดูร้อนปี 2011 วีได้พาเพื่อนไปออดิชั่นกับค่าย Big Hit Entertainment น่าแปลกใจที่แม้เขาจะมีความฝันแต่กลับไม่เลือกออดิชั่น ทว่าโอกาสก็มาแบบไม่ทันตั้งตัวในครั้งนั้นสตาฟได้เสนอให้เขาลองออดิชั่นดูเหมือนกัน เขาแสดงความสามารถทั้งร้องเพลง เต้น บีตบ็อกซ์ แรป และเล่นแซกโซโฟน และไม่น่าเชื่อเขาจะสามารถผ่านการคัดเลือกและยังเป็นคนเดียวจากแดกูอีกด้วย

วีเคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเป้าหมายเมื่อตอนเข้าวงการ โดยเขาได้บอกว่า “จริงๆ ความฝันของผมแค่ต้องการเป็นเด็กฝึก ไม่ได้คิดมากมายไปกว่านั้น เพราะผมอาศัยอยู่ในชนบท เลยคิดว่าทุกคนที่อยู่ที่โซลคือคนที่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นแค่ได้มาเป็นเด็กฝึกหัดที่โซลก็ดีใจแล้ว” ซึ่งจากบทสัมภาษณ์นี้ทำให้เราเห็นว่าเขาไม่กล้าคิดถึงความฝันการเป็นนักร้องเพราะมาจากชนบท

ทั้งนี้คำปลอบโยนจากคุณพ่อและกำลังใจจากเพื่อนๆ สมาชิก ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้วีอยากที่จะพิชิตความฝันต่อ “ตอนแรกผมก็ตามน้ำไป แต่พอได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม ผมรู้สึกว่าต้องทำงานให้หนักขึ้น เพราะอยากจะดีเท่าๆ กับทุกคนจะได้ไม่เป็นภาระ ”

อย่างไรก็ตามนอกจากชื่อเสียงในฐานะสมาขิกวง BTS แล้ว ในแง่บุคคล วี ก็ได้รับความนิยมสูงเช่นเดียวกัน เขาเป็นศิลปิน K-Pop ที่ใช้เวลา 8 เดือน ในการสร้างยอดผู้ติดตาม Instagram ถึง 50 ล้าน followers จนได้บันทึก Guinness World Records โดยปัจจุบันเขามีจำนวนผู้ติดตาม 66.6 followers อีกด้วย

ครั้งแรก MCM เปิดตัว CARA DELEVINGNE และ XU MEEN ใน SS 24

account_circle

MCM แบรนด์แฟชั่นหรูสัญชาติเยอรมัน เปิดตัวแคมเปญฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2024 เอาใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักอิสระ ถ่ายทอดเรื่องราวผ่าน SS24 Campaign โดยได้คาร่า เดเลวีญ (Cara Delevingne) นางแบบและนักแสดงชื่อดังสาวชาวอังกฤษที่ทลายกำแพงทุกขีดจัดกัดและอีกหนึ่งนายแบบชาวเกาหลีใต้ที่ประสบความสำเร็จอย่างซุมิน (Xu Meen) ร่วมนำเสนอไลฟ์สไตล์เพื่อคนยุคใหม่ ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และช่วยเติมเต็มชีวิตที่ไม่หยุดนิ่ง สะท้อนให้เห็นถึงภาพลักษณ์อันสดใหม่

ทีมงานที่อยู่เบื้องหลังแคมเปญ SS24 เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างบุคคลในวงการแฟชั่นและผู้มีพรสวรรค์ทั้งปัจจุบันและอนาคต ร่วมกับช่างภาพระดับตำนานอย่างช่างภาพคาร์ล เทมป์เลอร์ Craig McDean, สไตลิสต์ (Karl Templer), ช่างแต่งหน้าแพท แมคแกรธ (Pat McGrath)และช่างทำผมกุยโด ปาเลา (Guido Palau) สร้างสรรค์ผลงานอันมหัศจรรย์ภายใต้แนวคิดของ ฟาเบียน บารอน (Fabien Baron). ถือกำเนิดอัตลักษณ์แบบใหม่ที่มีความโดดเด่นผสมผสานกับแฟชั่นสุดคลาสสิกตามแบบฉบับ MCM

คอลเลกชัน SS24 ได้7แรงบันดาลใจจากไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ นำเสนองานออกแบบเครื่องหนังและเครื่องประดับที่เป็นนวัตกรรมแบบใหม่ ตลอดจนรองเท้าที่มีดีไซน์ใหม่ๆ ซึ่งเป็นสไตล์ที่สามารถสวมใส่ได้ตลอดเวลาและทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นชุดลำลองและชุดทำงาน 

ในขณะเดียวกัน MCM มีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันแบรนด์ไปข้างหน้าผ่านผลงานการออกแบบที่หลากหลาย ได้แก่ กระเป๋าโท้ต (Visetos Diamond Tote), กระเป๋าสะพาย (Aren Shoulder Bag), กระเป๋าเป้เทนนิส (Stark Tennis Backpack), กระเป๋าสะพายข้างเทนนิส (Tennis sling bag) และกระเป๋าถือ (Ella Boston) ตลอดจนเสื้อผ้าและรองเท้าที่หลากหลาย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ MCM Store ทั้ง 4 สาขา

-MCM สาขา Siam Paragon: 02-610-9999

-MCM สาขา EmQuartier: 02-003-6016

-MCM สาขา Iconsiam: 02-288-0818

-MCMสาขา Central Embassy: 02-160-5915

หรือทางออนไลน์ได้ที่ LINE: @MCMTHAILAND FB: MCMTHAILANDOFFICIAL และ IG: @MCMTHAILAND @mcmthailand  #MCMThailand #MCMWorldwide

ดื่มด่ำบรรยากาศ พักผ่อนแบบร่วมสมัยที่ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ เดอะ แม่ปิง

account_circle

ดื่มด่ำบรรยากาศ พักผ่อนแบบร่วมสมัยใจกลางเมืองเชียงใหม่ที่ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ เดอะ แม่ปิง

คงจะดีไม่น้อยหากเราได้พักผ่อนกายใจอันแสนเหนื่อยล้าในที่พักระดับหรูหราที่ผสมผสานระหว่างบรรยากาศอันแสนสงบงดงามของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ล้ำค่ายาวนานกว่า 700 ปีของเมืองล้านนาเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว หากคุณอยากลองสัมผัสประสบการณ์ที่ครบครันตามว่าเราขอแนะนำให้คุณได้มาลองพักที่ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ เดอะ แม่ปิง (InterContinental Chiang Mai The Mae Ping) โรงแรมระดับ 5 ดาว สุดลักชูรีที่พร้อมตอบรับทุกความคาดหวังด้านคุณภาพการให้บริการและสร้างประสบการณ์อันสุดแสนประทับใจได้ตั้งแต่แรกพบ

ห้องพักและห้องสวีท ตกแต่งสไตล์ร่วมสมัย

โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ เดอะ แม่ปิง มีห้องพักไว้คอยบริการหลากหลายรูปแบบ จำนวนรวมกว่า 240 ห้อง ทั้งห้องพักแบบคลาสสิก (Classic) ขนาดพื้นที่เริ่มต้นที่ 30 ตร.ม. หรือจะขยับมาเป็นห้องพรีเมียม (Premium) สุดหรูหรา พื้นที่ 43 ตร.ม. และห้องสวีท (Suite) ที่ทั้งครบครันและสะดวกสบายมากที่สุด บนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 165 ตร.ม.

ให้คุณได้พักผ่อนเอนกายภายในห้องพักไปพร้อมๆ กับการดื่มด่ำงานหัตถศิลป์อันทรงคุณค่าอย่าง “งานช่างสิบหมู่” ทั้งงานจิตรกรรม งานแกะสลัก งานหล่อแม่พิมพ์ งานตีโลหะและฉาบปูน ฯลฯ ที่ถูกสะท้อนผ่านรายละเอียดการตกแต่งภายในรวมไปจนถึงเครื่องใช้และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผนังและฉากกั้นไม้แกะสลัก เฟอร์นิเจอร์สร้างจากไม้กลึงขึ้นรูปด้วยมือ โคมไฟและผ้าดีไซน์ท้องถิ่น ที่ล้วนรับเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าพักได้อย่างลงตัว พร้อมรับชมวิวทิวทัศน์อันแสนงดงามของเมืองเก่าเชียงใหม่และดอยสุเทพแบบเต็มตาได้จากทุกห้อง

ห้องอาหารและล็อบบี้หลากสไตล์ สุดหรูหรา

ที่โรงแรมแห่งนี้ให้ความสำคัญกับทุกๆ จุดสัมผัสประสบการณ์ของผู้เข้าพัก หลังจากดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของห้องพักที่ทั้งงดงาม สะดวกสบายและชมวิวทิวทัศน์เมืองใหญ่จนหนำใจ สิ่งต่อไปที่ขาดเสียไม่ได้คือ การลองลิ้มชิมรสกับอาหารหลากสไตล์หลายรสชาติที่ทางโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ เดอะ แม่ปิง มีให้เลือกสรรได้ตามความชอบ

เริ่มจาก คำ ล็อบบี้ เลาจ์ พื้นที่สำหรับการผ่อนคลายที่สามารถแวะมาได้ตลอดทั้งวัน เลาจ์แห่งนี้ถูกตกแต่งไว้ด้วยโคมไฟโปร่งแสงสื่อถึงเทศกาลโคมยี่เป็งประเพณีอันเลื่องชื่อของเมืองเชียงใหม่ ให้คุณดื่มด่ำไปกับกาแฟรสเยี่ยมและขนมอบสูตรพิเศษได้ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงยามบ่าย ส่วนในช่วงเย็นจะถูกแปลงโฉมเป็นบาร์ (Bar) ที่คลอเคล้าด้วยเสียงดนตรีพร้อมบริการค็อกเทลเลิศรสและเครื่องดื่มอื่นๆ จากบาร์เทนเดอร์ระดับมืออาชีพ 

พลาดไม่ได้กับ เดอะ กาด ล้านนา ห้องอาหารกึ่งบาร์เปิดให้บริการตลอดทั้งวัน พร้อมเสิร์ฟอาหารเหนือแบบต้นตำรับที่รังสรรค์โดยทีมเชฟมากฝีมือ ทุกจานอาหารเน้นความสดใหม่และการนำเสนอวัตถุดิบที่ดีที่สุดของแต่ละฤดูกาล 

ปิดท้ายด้วย หงส์ ไชนีส เรสเตอรองท์ แอนด์ สกาย บาร์ ห้องอาหารจีนสไตล์เสฉวน กวางตุ้งและไต้หวัน พร้อมคราฟต์ค็อกเทลสูตรพิเศษจากมิกโซโลจิสต์ (Mixologist) มากความสามารถ ให้เราได้เพลิดเพลินไปกับอาหารจีนและเครื่องดื่มรสเยี่ยมพร้อมรับชมทิวทัศน์ของดอยสุเทพจากชั้นดาดฟ้าของโรงแรม

นอกไปจากความหรูหราโอ่อ่าของบรรยากาศห้องพัก รวมไปจนถึงห้องอาหารและล็อบบี้หลากสไตล์แล้วนั้น ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ เดอะ แม่ปิง แห่งนี้ยังมีโปรแกรม อินไซเดอร์ โลเคชั่น (Insider Location) ที่เหล่าพนักงานคอนเซียจพร้อมให้ข้อมูลและแนะนำทริปท่องเที่ยวเมืองเชียงใหม่แบบฉบับคนพื้นถิ่น ที่คราวนี้ขอแนะนำให้ขึ้นบอลลูนชมบรรยากาศรอบเมืองเชียงใหม่ และพระอาทิตย์ยามเช้า ปิดท้ายด้วยมื้ออาหารเช้าแบบปิคนิค และแชมเปญสุดพิเศษในบรรยากาศสุดโรแมนติกที่ “ห้วยตึงเฒ่า” ซึ่งตั้งอยู่ในเขต อ.แม่ริม ไม่ใกล้ไม่ไกลจากดอยสุเทพ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตาให้คุณได้มาสูดอากาศอันแสนสดชื่นได้แบบเต็มปอด พร้อมดื่มด่ำไปกับวิวทิวทัศน์อันแสนสงบและงดงามของอ่างเก็บน้ำ ผืนป่าและท้องนาสีเขียวขจี พลาดไม่ได้กับจุดเช็กอินยอดฮิตหุ่นฟางคิงคองขนาดยักษ์ที่มีความสูงตั้งแต่ 4-8 เมตร โดยแต่ละตัวจะมีบันไดให้เราขึ้นไปถ่ายภาพได้แบบใกล้ชิด นอกไปจากนี้ที่ห้วยตึงเฒ่ายังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ลองทำอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นการป้อนอาหารแกะ ให้อาหารปลา พายเรือแคนูหรือปั่นจักรยานน้ำในอ่างเก็บน้ำ ซิปไลน์ รถ ATV หรือเดินทางไกล รับรองได้ว่าสนุก จบครบได้ในสถานที่เดียว

ให้การพักผ่อนหย่อนใจในเมืองเชียงใหม่เต็มไปด้วยความสะดวก ครบครัน พร้อมดื่มด่ำบรรยากาศอันแสนสงบที่ผสมผสานเข้ากับความงดงามของศิลปวัฒนธรรมล้านนาได้อย่างตัวได้ที่ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ เดอะ แม่ปิง (InterContinental Chiang Mai The Mae Ping) โรงแรมระดับ 5 ดาว สุดลักชูรี่ ให้ทริปเชียงใหม่ในครั้งนี้เต็มไปด้วยความประทับใจไม่รู้ลืม


เจ้าสาวเอวสับ! นัตตี้ นันทนัท สวยสง่าในชุดวิวาห์ POEM

Alternative Textaccount_circle

เอวสับเป็นเอกลักษณ์! เมื่อ นัตตี้ นันทนัท อยู่ในลุคเจ้าสาวจาก POEM แบรนด์ในฝันของผู้หญิงหลายคน

เปลี่ยนสถานะเป็นที่เรียบร้อยกับ นัตตี้-นันทนัท ฐกัดกุล หนึ่งในสมาชิกช่อง Youtube: GoyNattyDream Channel ที่เพิ่งเข้าพิธีวิวาห์ไปเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2567 กับ แมน-ณัฐภูมิ เหล่าสถิรวงศ์ ณ โรงแรม LA CHAPELLE Bangkok โดยภายในงานก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นจากคู่บ่าวสาวและแขกคนสำคัญที่ได้รับเชิญให้มาร่วมงาน

โดยหนึ่งไฮไลท์ที่จะลืมพูดถึงไม่ได้คือลุคของเจ้าสาวโดยเฉพาะลุคแรกที่แต่งตาสโมคกี้อายจัดเต็ม และยังสวมชุดวิวาห์จาก POEM อีกด้วย ทำให้กลายเป็นลุคที่ดึงดูดสายตาสุดๆ เพราะอย่างที่รู้กันว่าเอกลักษณ์ชุดแบรนด์นี้ช่วยขับสรีระของผู้สวมใส่ให้โดดเด่นมายิ่งขึ้น เหมือนกับช่วงบนชุดนัตตี้ที่มาในรูปแบบของคอร์เซ็ตรัดเอวให้เป็นเอว อกให้เป็นอก อีกทั้งกระโปรงผืนยาวยังถูกผ่าข้างและแหวกสูงมาถึงต้นขาทำให้ช่วงขาดูเรียวงามอีกด้วย เห็นแล้วก็ยกให้เป็นชุดแต่งงานที่สวยที่สุดชุดหนึ่งเลยทีเดียว


ภาพ: Instagram @kengnaruemityarn, @minddmakeup และ @icepadie

ซูมดีเทลความประณีตระดับกูตูร์ของ L’Astelle “LA GOUTTE DE ROSÉE” เรดี้ทูแวร์ 2024

account_circle

เอ่ยชื่อ L’Astelle (ลาสเทล) แบรนด์แฟชั่นและชุดเจ้าสาวระดับกูตูร์ชั้นนำของไทยดีไซเนอร์ เจน-ทิพย์วิภา กิตติ์อัครานนท์ เชื่อว่าสาวแพรวต้องนึกถึงลวดลายงานปักที่มีรายละเอียดซับซ้อน ผสานดีไซน์ และคัตติ้งสุดความประณีตของชุดราตรีและชุดเจ้าสาว

ซูมดีเทลความประณีตระดับกูตูร์ของ L’Astelle “LA GOUTTE DE ROSÉE” เรดี้ทูแวร์ 2024

ล่าสุด ลาสเทล ได้เผยผลงานคอลเล็คชั่นเรดี้ทูแวร์ 2024 ภายใต้แรงบันดาลใจ LA GOUTTE DE ROSÉE (ลากุตต์ เดอ โคร เซ่) ความงดงามของหยดน้ำเมื่อแสงอาทิตย์ส่องผ่านจนเห็นความงดงามที่เหมือนฝัน ทั้งในยามเช้าและช่วงแสงอาทิตย์ลาลับ ณ กรุงปารีส เมืองแห่งศิลปะและแฟชั่นที่อบอวลไปด้วยความโรแมนติก ปรากฎเป็นชุดกลางวันไปจนถึงชุดออกงานกลางคืน ในโทนสี Sunrise และ Sunset อย่าง สีม่วง สีเหลือง และสีดำ โดดเด่นด้วยลวดลายการปักตามแบบฉบับของลาสเทล ที่ผสานกลิ่นอายกูตูร์เข้ากับซิลูเอตเรียบโก้แฝงไปด้วยเทคนิคการเดรปผ้า และซิลูเอตอันหลากหลายของเนื้อผ้าที่อยู่ทรงมีน้ำหนัก ไปจนถึงเนื้อผ้าที่บางเบา สวมใส่สบาย เพิ่มมิติลุ่มลึกให้คอลเลกชัน

จาก Custom made (Couture) สู่การรังสรรค์คอลเล็คชั่นเรดี้ทูแวร์ 2024

เจน-ทิพย์วิภา กิตติ์อัครานนท์ ผู้ก่อตั้งและดีไซเนอร์แบรนด์ L’Astelle กล่าวว่า “เป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญและท้าทายอยู่ไม่น้อย ด้วยเสียงตอบรับจากลูกค้าที่มาตัดชุด ซึ่งแต่ละชุดใช้ระยะเวลาการตัดเย็บอย่างน้อย 3 เดือน เนื่องจากงานดีไซน์เจนประสานงานกับทีมดีไซเนอร์อังกฤษ ส่วนงานปักส่งปักที่บูทีคในประเทศฝรั่งเศส ก่อนจะส่งกลับมาตัดเย็บและฟิตติ้งที่เมืองไทย ด้วยระยะเวลาและดีไซน์ของชุดที่เน้นออกงานและชุดเจ้าสาว ลูกค้ามีรีเควสให้แบรนด์ทำชุดที่ใส่ได้ในหลายโอกาส คือใส่ทำงานและออกงานได้ สิ่งนี้จุดประกายให้เกิดคอลเล็คชันเรดี้ทูแวร์ โดยเน้นดีไซน์ที่หลากหลายทั้ง เดรสยาว เดรสสั้น เกาะอก เสื้อครอป รวมถึงเซ็ตสูท และชุดราตรีที่มีดีไซน์สามารถสวมใส่ได้ทั้งกลางวันและงานกลางคืน โดยมีให้เลือก 3 ขนาด คือ S M และ L”

คอลเล็คชั่นเรดี้ทูแวร์ 2024 ที่มีกลิ่นอายความหรูหราแบบกูตูร์ DNA ของ L’Astelle

L’Astelle แบรนด์แฟชั่นและชุดเจ้าสาวระดับกูตูร์ ที่ใส่ใจรายละเอียดการรังสรรค์ความงามของชุด Custom Made ที่มีความซับซ้อน ใส่ใจรายละเอียดของวัสดุ เช่น คริสตัล ลูกปัด ผ้าและลูกไม้ล้วนนำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะลายปักอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ สิ่งเหล่านี้คือหัวใจสำคัญของลาสเทลที่ยังคงปรากฎซิลูเอตในคอลเล็คชั่นเรดี้ทูแวร์ 2024

“ส่วนตัวเจนหลงใหลในความประณีต รายละเอียดอันซับซ้อน และเทคนิคต่างๆ ของงานแฟชั่นชั้นสูงกูตูร์ ดังนั้น ลาสเทลจึงให้ความสำคัญกับการออกแบบลายปัก และการเลือกวัสดุ เช่น ขนนกนำเข้าจากฟาร์มที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ การเก็บขนจะใช้วิธีหวีนำขนที่ร่วงมาคัด จึงทำให้ปริมาณขนที่ใช้ได้มีน้อย

สำหรับคอลเลกชันเรดี้ทูแวร์ ลาสเทลยังให้ความสำคัญกับการออกแบบลวดลาย และการส่งปักด้วยมือกับบูทีคที่มีประสบการณ์ตามมาตรฐานของแบรนด์แบบ 1 ต่อ 1 ชุด เพียงแต่ลดทอนเทคนิค ดีเทล และระยะเวลาในการผลิตที่จะแตกต่างจากชุด Custom made (Couture)”


เปิดวาร์ป20 คลินิกความงามชั้นนำ ผู้รันวงการงานผิวด้วย “Regenerative Biostimulator” เทรนด์ใหม่ฟื้นฟูผิวสู่ความ Young

account_circle

“ONE OF A KIND” STORY BY
THE TOP BEAUTY & AESTHETIC CLINICS

พญ.ศรินทิพย์ สุนทรัช
THE CLOVER CLINIC

“หนึ่งในความสุขของแพทย์ด้านความงามคือการได้ช่วยปรับภาพลักษณ์ภายนอกของลูกค้าให้เป็นที่พึงพอใจ หมอเชื่อว่าความมั่นใจจะช่วยเยียวยาจิตใจซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่ง ภาพลักษณ์ที่สวยงามดูอ่อนกว่าวัยจะช่วยเพิ่มความมั่นใจและทำให้มีความสุข

“ยิ่งหมอมีประสบการณ์ทำงานยาวนานขึ้นก็พบว่านวัตกรรมความงามตอบโจทย์ความต้องการได้หลากหลายและดูเป็นธรรมชาติ แบบเกินคาด อย่างล่าสุด The Clover Clinic ได้เพิ่มนวัตกรรมใหม่ Regenerative Biostimulator ที่ก้าวล้ำไปอีกสเต็ป ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายฟื้นฟูการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินด้วยตัวเอง แถมทำครั้งเดียวได้ผลลัพธ์ถึง 5 ประการกับการดูอ่อนกว่าวัย ไม่ว่าจะเป็นการเติมอาหารเข้าสู่ผิว ลดริ้วรอยร่องลึก เพิ่มความชุ่มชื้น กระตุ้นให้ผิวยืดหยุ่นแข็งแรง ที่สำคัญดูอ่อนกว่าวัยขึ้นด้วย”

               

นพ.ณัฐภัทร มีนชัยนันท์
ALPHA MEDICAL CLINIC

“หัวใจสำคัญในการทำงานของ Alpha Medical Clinic คือมุ่งเป้าใช้สิ่งที่เหมาะสมที่สุดกับผู้ใช้บริการของเราตามความเป็นจริงและได้มาตรฐาน USFDA หรือ อย.สหรัฐอเมริกา

“นอกจากนี้เราเน้นไปที่ผลลัพธ์ของการดูแลรักษาเป็นสำคัญมากกว่าปัจจัยอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ใช้บริการมีใบหน้า ผิวพรรณ และสุขภาพที่ดีแบบองค์รวมทั้งภายในและภายนอก เรามีการใช้การออกแบบ 3D (3 มิติ) หรือ Virtual Reality เข้ามาช่วยการรักษาเฉพาะบุคคลของเรา จึงทำให้ดูแลผู้ใช้บริการแต่ละท่านได้รับสิ่งที่เหมาะสมมากขึ้นตามปัญหาของแต่ละบุคคล รวมทั้งเราได้พัฒนาทั้งเทคนิคและวิธีการที่ทันสมัย รวมถึงอัพเดตนวัตกรรมอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ผู้ใช้บริการได้รับความปลอดภัย และได้รับความงามที่น่าพอใจในทุก ๆ ครั้งที่มารักษา

                “อย่างล่าสุดกับ Regenerative Biostimulator ตัวใหม่ที่เข้ามาในประเทศไทยล่าสุดในปี 2023 – 2024 เป็นกลุ่มการฉีดใต้ชั้นผิวประเภทสารเติมเต็มที่ทำมาจากแคลเซียมที่เหมือนมวลกระดูกของเรา จึงมีความโดดเด่นอยู่ที่ความหนืดและยืดหยุ่นของผลิตภัณฑ์ ที่จะช่วยในการช่วยพยุงใบหน้าได้ยาวนานและความปลอดภัยดูเป็นธรรมชาติ จึงทดแทนสารเติมเต็มอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี”

               

พญ.ปริญญา และ นพ.ทรงวุฒิ วิริยะศิริวัฒนะ
PHAKWAN CLINIC

พญ.ปริญญา “ที่พาขวัญคลินิกเราให้ความสำคัญกับผู้ใช้บริการควบคู่ไปกับเรื่องความปลอดภัย ในฐานะหมอที่มีประสบการณ์ด้านความงามมามากกว่า 10 ปี เราใส่ใจทุกเคส ตั้งแต่การประเมินใบหน้าและภาพรวมเพื่อส่งเสริมความมั่นใจให้ผู้มาใช้บริการ ให้คำปรึกษาแนะนำแนวทางในการรักษาอย่างจริงใจ และอีกหนึ่งความประทับใจที่ผู้ใช้บริการบอกต่อกันคือการที่เราสร้างความสบายใจด้วยการพูดคุยอย่างเป็นกันเองระหว่างหมอกับผู้ใช้บริการ เพื่อให้ตอบโจทย์ตรงกับความต้องการรายบุคคลมากที่สุด ให้ทุกคนมีความมั่นใจในแบบที่เป็นตัวเองจริง ๆ โดยไม่ต้องตามมาตรฐานของใคร”

นพ.ทรงวุฒิ “นอกจากนี้เรายังใส่ใจกับการใช้เครื่องมือและผลิตภัณฑ์ที่ผ่านมาตรฐานระดับโลก พร้อมกับพัฒนาความรู้และทักษะของหมออยู่ตลอดเวลา เพื่อให้การรักษาออกมาถูกใจ ปลอดภัย และทันสมัย อย่างศาสตร์การดูแลและฟื้นฟูผิวกลุ่ม Regenerative Biostimulator ที่มีส่วนประกอบของ CaHA ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายมีอยู่แล้วตามธรรมชาติ ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ 5 ประการ ฟื้นฟูโครงสร้างผิว ทำให้ดูกระชับเฟิร์ม ผิวดูสุขภาพดีและมีความชุ่มชื้นมากขึ้น แต่ไม่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ผู้ใช้บริการจึงดูดี เป็นตัวของตัวเองได้อย่างมั่นใจและสบายใจครับ”

               

คุณจิรัชยา วังส์ด่าน
GNL CLINIC

“ต้องบอกว่าถึงวันนี้หมดยุคแล้วที่จะสวยแบบคนอื่น   หลายคนจึงเลือกที่จะสวยแบบเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดูอ่อนกว่าวัยพูดง่าย ๆ ว่าเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด จีเอ็นแอลจึงใส่ใจกับการเฟ้นหาทางเลือกที่ช่วยเสริมความมั่นใจและความงามให้กับผู้ใช้บริการได้พึงพอใจจริง ๆ สมกับความตั้งใจของเราที่ว่า ‘ไม่สวยไม่ให้กลับบ้านนะคะ’

“ซึ่งเทคโนโลยีด้านความงามที่ถือเป็นฮีโร่ตัวสำคัญในการกระตุ้นความ Young ที่น่าสนใจมาก ๆ ในตอนนี้คือ Regenerative  Biostimulator เป็นสารกระตุ้นการสร้างเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ที่ช่วยฟื้นฟูผิวได้รอบด้าน คือทำให้เฟิร์มกระชับขึ้นไปพร้อม ๆ กับมีความชุ่มชื้นดูสุขภาพดีขึ้น ที่สำคัญยังปลอดภัย ประหยัดเวลา เพราะสามารถอยู่ได้นานกว่า 24 เดือน ไม่ต้องมาเติมบ่อย ๆ จึงเป็นที่นิยมและไว้วางใจทั้งกับแพทย์ความงามและผู้ใช้งานจริงด้วยค่ะ เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ใช้บริการที่ไม่ค่อยมีเวลา แต่ยังต้องการ ดูแลตัวเองให้ได้ครบถ้วนเหมือนเดิม มาทำให้ผิวดูอ่อนกว่าวัยไปพร้อม ๆ กับดูสุขภาพดีไปนาน ๆ กันนะคะ”

               

พญ.ธัญธารีย์ วรรณรัตน์กิตติ และ นพ.ธนากร ศิวิชัย
THANTHAREE CLINIC

พญ.ธัญธารีย์ “ด้วยวิสัยทัศน์ของคลินิกที่ต้องการให้บริการตรวจรักษาโรคผิวหนังและความงามแบบพรีเมียมและทันสมัย เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากที่สุด บวกกับประสบการณ์ทางด้านความงามกว่า 12 ปีในการให้บริการตรวจรักษาโรคผิวหนังและความงามแก่ผู้ใช้บริการชาวไทยและต่างชาติที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวในภาคใต้ ธัญธารีย์คลินิกจึงให้ความสำคัญกับการตรวจรักษา ทุ่มเทดูแลผู้ใช้บริการอย่างเต็มที่ด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี รวมถึงการคัดสรรเครื่องมือที่ได้มาตรฐานสหรัฐอเมริกาไปพร้อม ๆ กับการอัพเดตเทคโนโลยีความรู้และเครื่องมือด้านความงามให้ทันสมัยอยู่ตลอด เพื่อมอบทางเลือกใหม่ ๆ ให้ผู้มาใช้บริการ”

นพ.ธนากร “หนึ่งในเทคโนโลยีความงามยุคนี้ที่ต้องพูดถึงคือ Regenerative Biostimulator ซึ่งถือว่าเป็นตัวช่วยย้อนวัยให้กับผิวด้วยสาร CaHA ที่ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อไปพร้อม ๆ กับการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจน อีลาสติน ฟื้นฟูโครงสร้างผิวโดยรวมในระยะยาวให้ดูยกกระชับขึ้น ริ้วรอยดูจางลง นอกจากนี้ผิวยังดูกระจ่างใสและแข็งแรงขึ้นด้วย ดังนั้นหมอจึงมองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีตัวหนึ่งที่ช่วยให้ใบหน้าเราดูอ่อนกว่าวัย”

               

พญ.สุวประวีณ์ ริ้วเหลือง ตั้งสากล
VV LIFE CLINIC

ที่ Vv Life Clinic เราเน้นตอบโจทย์ความงามแบบองค์รวม จากประสบการณ์ 18 ปีในการเปิดคลินิก เราให้ความสำคัญกับการดูแลเรื่องความดูดีและดูอ่อนกว่าวัย โดยเริ่มต้นแก้ไขจุดบกพร่องตั้งแต่เนิ่น ๆ พร้อมออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการอย่างตรงจุด

“แน่นอนว่าเรามีการอัพเดตเทรนด์ความงามอยู่เสมอ ทั้งนวัตกรรม เทคโนโลยี เลเซอร์ และการบริการ ล่าสุดเราเป็น 1 ใน 20คลินิกในประเทศไทยที่พร้อมให้บริการ Regenerative Biostimulator นวัตกรรมความงามที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและยกกระชับได้ทั้งผิวหน้า ผิวกาย พร้อมสร้างเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ ผลคือผิวดูเฟิร์มกระชับ แลดูอ่อนกว่าวัยยาวนานถึง 2 ปี ที่สำคัญสามารถมั่นใจได้ในคุณภาพที่มีความปลอดภัย ผ่านมาตรฐาน อย.จากทั้งยุโรป อเมริกา และไทย”

               

นพ.เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช
THE RITZ CLINIC

“สำหรับริทงานที่คลินิกเป็นมากกว่าการดูแลผิวพรรณ ความงาม แต่เป็นการใส่ใจในการบริการและมาตรฐานคุณภาพระดับสากลครับ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกผลิตภัณฑ์ เครื่องมือทางการแพทย์ต่าง ๆ เพราะความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับแรก โดยเรานำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาผสานเข้ากับองค์ความรู้ของแพทย์เสมอ

“อย่างปัจจุบันก็มีนวัตกรรมใหม่อย่าง Regenerative Biostimulator ที่ช่วยเติมเต็มการชะลอความเสื่อมของผิวให้มีทางเลือกในการรักษามากยิ่งขึ้น

“และอีกเรื่องที่คลินิกเราใส่ใจมากคือการฝึกอบรมแพทย์ พนักงาน และเจ้าหน้าที่พยาบาลเป็นประจำ อัพเดตข้อมูล เทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ รวมถึงเทรนด์ความงามอยู่เสมอ เพื่อเป็นประโยชน์สูงสุดแก่ผู้รับบริการทุกท่านครับ”

               

คุณขจร และ พญ.ศิริอาภา เสริมศักดิ์ศศิธร
LUMILUX CLINIC

“การมีผิวสวยสุขภาพดีเป็นความปรารถนาของทุกคนที่ใส่ใจดูแลตัวเอง เนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นของความมั่นใจซึ่งจะช่วยจุดประกายทุกสิ่งในชีวิต แต่แม้จะดูแลเป็นอย่างดี ผิวก็ยังเสื่อมสภาพจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นอายุที่มากขึ้น อาหารการกิน มลภาวะ ความเครียด พักผ่อนไม่พอ รวมถึงการขยับใบหน้าเพื่อแสดงอารมณ์ เหล่านี้เราอาจไม่สามารถหลีกเลี่ยง แต่ชะลอได้ หากเร่งดูแลแต่เนิ่น ๆ

“ปัจจุบันมีทางเลือกมากมายสำหรับการชะลอความเสื่อมของผิว ที่กำลังได้รับความสนใจคือ Regenerative Biostimulator การฟื้นฟูผิวด้วยการกระตุ้นการสร้างเส้นใยให้เซลล์ผิวกลับไปทำงานดี มีสุขภาพแข็งแรง ช่วยสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน กระตุ้นหลอดเลือดเล็ก กระตุ้นการสร้างน้ำหล่อเลี้ยงผิว ตอบโจทย์เรื่องการดูแลตัวเองแบบทำครั้งเดียวได้ผลหลายอย่าง

“เริ่มต้นปีด้วยการเพิ่มความมั่นใจ เสริมความกล้าที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จกันนะคะ”

               

คุณชัญญา ประนิช Business Development Director
SPARSHA BEAUTY AND SLIM

“คงไม่มีใครอยากดูแก่ ผิวหย่อนคล้อยก่อนวัย หรือต่อให้อายุจะเพิ่มมากขึ้น ก็ยังอยากดูแลผิวให้ดูอ่อนกว่าวัย ซึ่งสมัยนี้ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาแบบก้าวกระโดด การที่เราจะปกป้องและดูแลผิวให้ดูอ่อนกว่าวัยไม่ใช่เรื่องยาก ด้วยหลายวิธีอย่างนวัตกรรมล่าสุด  Regenerative Biostimulator ศาสตร์ใหม่ของการย้อนวัยผิวที่ช่วยเติมเต็มการชะลอความเสื่อมของผิวให้มีทางเลือกมากยิ่งขึ้น แบบลงลึกในระดับเซลล์

“ซึ่งเน้นซ่อมแซม ฟื้นคืนสุขภาพผิวภายในและภายนอกที่เสื่อมโทรมตามวัยให้กลับมาดูดีอีกครั้งด้วยการสร้างเซลล์เส้นใยตาข่ายผิวในชั้นผิวหนังที่ดีต่อสุขภาพผิวแบบครบองค์รวม ทั้งสยบปัญหาผิวแก่เหี่ยวย่น เติมร่องลึกให้เต็ม ผิวฉ่ำขึ้น กระตุ้นคอลลาเจน เพื่อผิวแลดูอ่อนกว่าวัยอีกครั้ง จึงให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างอย่างชัดเจนและน่าพึงพอใจยิ่งกว่าที่เคย แถมคงผลลัพธ์โดยเฉลี่ยอยู่ได้นาน 24 เดือน หรือ 2 ปี เรียกว่าคุ้มค่ามากกับเวลาการดูอ่อนกว่าวัยที่ยืนยาวขึ้น”

               

พญ.อัญชลี อมรรุ่งมีธรรม และ พญ.อมล สิงห์สกุล
ANJALI CLINIC

                “ปัญหาตามวัยที่เพิ่มขึ้นของคนทั่วไปคือริ้วรอยบริเวณหน้าผาก หางตา ร่องแก้ม และรอยย่นอื่น ๆ ในบริเวณต่าง ๆ ที่ชวนให้เสียความมั่นใจ บางคนเริ่มมีริ้วรอยแม้อายุยังไม่ถึงเลข 3 เพราะคอลลาเจนใต้ผิวเราไม่เหมือนกัน รวมทั้งปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความเครียด พักผ่อนน้อย อาหาร รังสียูวีจากแสงแดด ฉะนั้นการดูแลผิวจึงต้องให้คุณหมอช่วยดูแลอีกหนึ่งสเต็ป ปัจจุบันมีเทคโนโลยี ที่ช่วยกู้ผิวให้ดูอ่อนกว่าวัย เมื่อผิวเริ่มส่งสัญญาณความไม่ปกติ เราไม่ต้องรอให้ปัญหาผิวเกิดขึ้นหรืออายุมากขึ้นแล้วค่อยทำ

“หลายคนอาจนึกถึงสารเติมเต็มที่ช่วยปรับรูปหน้า แต่ตอนนี้กระแสการดูแลผิวให้ดูอ่อนกว่าวัยด้วย Regenerative Biostimulatorกำลังมาแรง เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายฟื้นฟูการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินด้วยตัวเอง เรียกได้ว่าแก้ไขได้ตรงจุด เห็นผลลัพธ์ และอยู่ได้นานขึ้น โดยไม่ต้องทำซ้ำบ่อย ๆ ให้เสียดายทั้งเงินและเวลา หลังทำแล้วผิวจะดูอ่อนกว่าวัยจนใคร ๆ อาจเดาอายุไม่ถูก”

'อีฮโยริ' เผยหน้าสด

เซ็กซี่ควีน ‘อีฮโยริ’ เผยหน้าสด ตอกย้ำความงามไม่จำเป็นต้องพึ่งฟิลเตอร์หรือเมคอัพ

Alternative Textaccount_circle
'อีฮโยริ' เผยหน้าสด
'อีฮโยริ' เผยหน้าสด

ไอดอลเคป็อปมักถูกคาดหวังให้สมบูรณ์ แต่ไอดอลหญิงจำนวนมากขึ้นกลับไม่แต่งหน้าและเผยให้เห็นความงามตามธรรมชาติดังดังเช่น เซ็กซี่ควีนแห่งวงการ K-Pop อีฮโยริ (Lee Hyori) ยังคงแสดงความงามและความสามารถของเธอเสมอ และไม่เคยพลาดที่จะดูสวยเสน่ห์และแสดงออกถึงความเป็นซูเปอร์สตาร์

โดยล่าสุดเธฮสร้างความฮือฮาในโลกออนไลน์ เมื่อเธอโพสต์รูปภาพและวิดีโอที่เธอกำลังเพลิดเพลินกับหิมะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพถ่ายแรกทำให้ชาวเน็ตทึ่ง เพราะเป็นภาพเธอไม่ต้องหน้าเลย และแสดงให้เห็นภาพที่เป็นธรรมชาติของเธอในการเซลฟี่ และเป็นเรื่องปกติบนใบหน้าที่ไม่ได้แต่งหน้า ดังนั้น ริ้วรอย รอยตำหนิ และความผิดปกติบนผิวหนังจึงมองเห็นได้ชัดเจนในภาพถ่าย

เมื่อภาพถูกโพสต์ ชาวเน็ตต่างพากันชื่นชมความมั่นใจและความงามตามธรรมชาติของเธอ พิสูจน์ให้เห็นว่าความงามไม่จำเป็นต้องมาพร้อมกับฟิลเตอร์หรือการแต่งหน้า อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตต่างชื่นชมภาพเซลฟี่ที่มั่นใจของเธอว่า “ฉันเชียร์ความมั่นใจของเธอในการแสดงรูปลักษณ์ที่เป็นธรรมชาติ” “ฉันชอบรูปลักษณ์ที่เป็นธรรมชาติของเธอ” “ภาพถ่ายที่เป็นธรรมชาติที่สุด” และ “สวยในแบบของเธอ” ฯลฯ

Photo: lee_hyolee


เทรนด์ใหม่มาแรง “Regenerative Biostimulator” นวัตกรรมสำหรับคนที่อยากให้ผิว Young ดี ที่คุ้มค่าน่าลงทุน คอนเฟิร์มจาก 20 คลินิกความงามชื่อดัง

account_circle

ในยุคที่นวัตกรรมความงามสามารถนำพาเราให้สวยแบบใดก็ได้ตามที่ใจฝัน อยากจะเหมือนคนน้ัน อยากเป็นสไตล์นี้ หากเลือกนวัตกรรมที่ดี และแพทย์ที่มีฝีมือ เป้าหมายความงามตามอุดมคติ ก็อยู่ไม่ไกล แต่รู้ไหมว่าเทรนด์ที่มาแรงแห่งยุคและจะคงอยู่ไปได้ตราบนานเท่านานคือการทำตัวเองให้เป็น “One of a Kind” การดูแลความงามโดยยังเก็บรักษา เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของตัวเองตามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะผ่านหัตถการใดๆ แต่ต้องยังคงอัตลักษณ์เฉพาะตัว รักษาเสน่ห์เฉพาะบุคคลเอาไว้ให้ได้ การเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดในทุกช่วงวัย คือนิยามความงาม สุดคลาสสิกที่ไม่ว่าในอนาคตเทรนด์ไหนจะมาแต่ความงามในนิยามนี้จะไม่มีวันเอ๊าต์

ONE OF A KIND 
BEAUTY INNOVATION

Regenerative Biostimulator
ถือเป็นนวัตกรรมความงามยุคใหม่ที่ตอบโจทย์เรื่องความสวยในแบบของตัวเอง “One of a Kind” หลายคนอาจเกิดคำถามว่าเรามีทั้งสารเติมเต็ม และลดเลือนริ้วรอยที่ช่วยฟื้นฟูให้แลดูอ่อนเยาว์อยู่แล้ว ยังต้องมีอะไรมากกว่านั้นอีก ต้องอธิบายก่อนว่าRegenerative Biostimulator นั้น เป็นศาสตร์ใหม่แห่งการฟื้นฟูผิวตัวล่าสุด ตัวเดียวที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวให้สุขภาพดีขึ้นดูอ่อนกว่าวัยได้ยาวนานกว่าที่เคย

“ONE OF A KIND” STORY BY
THE TOP BEAUTY & AESTHETIC CLINICS

ศ.นพ.วาสนภ วชิรมน
โรงพยาบาลรามาธิบดี

“พออายุเข้าสู่เลข 3 ปัญหาที่ชั้นผิวหนังแท้เริ่มเผยออกมาเยอะขึ้น เพราะคอลลาเจนและอีลาสตินถูกทำลายไปมากขึ้น ประกอบกับสารหล่อเลี้ยงผิวหนังมีปริมาณลดลง ทำให้ผิวดูโทรม หยาบกร้าน ขาดความชุ่มชื้น เริ่มเห็นริ้วรอยและความหย่อนคล้อยได้ชัดเจนขึ้นต้องเร่งดูแล  ตอนนี้มีนวัตกรรมใหม่อย่าง Regenerative Biostimulator มาช่วยยกระดับคุณภาพผิวให้ดูสุขภาพดีแบบองค์รวมทั้ง Healthier, Younger และ Longer ด้วยผลลัพธ์ที่อยู่ได้ค่อนข้างนาน จึงตอบโจทย์การดูแลผิวของคนยุคใหม่เป็นอย่างมาก

“นวัตกรรมนี้เป็นตัวบู๊สเตอร์ให้ภาพลักษณ์ภายนอกดูอ่อนกว่าวัยขึ้นด้วยการซ่อมแซมตัวเองจากภายใน โดยไม่ต้องอาศัยสารแปลกปลอม แต่ต้องขอเน้นย้ำว่าไม่ว่าจะเลือกทำหัตถการความงามด้านใดต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ควรได้รับการรับรองมาตรฐานทั้งในประเทศและระดับสากล ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าสิ่งที่หมอเลือกให้ผู้ที่มารับบริการมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยเพื่อให้ทุกท่านได้ยิ้มตอนกลับออกไปอย่างมีความสุขครับ”

               

นพ.ดนัยย์ ประดิษฐสุวรรณ์
DR.DANAI AESTHETIC CLINIC

“เทรนด์ยอดนิยมในช่วงหลายปีมานี้ยังคงเป็นการเสริมความงามด้วยการฉีดเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเห็นผลเร็วทันใจจากสารเติมเต็มที่ช่วยแก้ปัญหาผิวริ้วรอยร่องลึกบริเวณต่าง ๆ ของใบหน้า แต่ปัจจุบันเทรนด์ย้อนวัยผิวน้องใหม่ที่มาแรงคือ Regenerative Biostimulator นวัตกรรมที่สามารถสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่และมีฟังก์ชันที่ดีกว่าเคย

“ซึ่งเป็นการปรับปรุงคุณภาพผิว ให้ร่างกายกระตุ้นสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทั้งสร้างความแข็งแรง ยกกระชับ เพิ่มความยืดหยุ่น กระตุ้นการสร้างน้ำหล่อเลี้ยง เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวดูสุขภาพดีเปล่งปลั่ง สำหรับหมอมองว่า Regenerative Biostimulatorเหมือนการทำทรีตเมนต์แค่ครั้งเดียว แต่ได้ผลลัพธ์ถึง 5 อย่าง ถือเป็นการลงทุนความงามที่คุ้มค่า เนื่องจากช่วยฟื้นฟูผิวจากภายในได้ทั้งความสวยที่แลดูสุขภาพดีและความมั่นใจในคราวเดียวกัน”

               

พญ.สรวลัย รักชาติ
iSKY CENTER

“เพราะผิวของคุณไม่เหมือนผิวของใคร ควรเริ่มต้นดูแลผิวอย่างถูกวิธี หมั่นเช็กสุขภาพผิว ความแห้งกร้าน ฝ้า กระ จุดด่างดำรูขุมขนกว้าง ริ้วรอยต่าง ๆ ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกให้รู้ว่าเรากำลังมีปัญหาผิวและผิวมีอายุเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ช่วยแก้ปัญหาผิวอย่างการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินด้วย Regenerative Biostimulator นวัตกรรมสำหรับคนรักผิวตัวใหม่ที่ iSKY Center เป็นคลินิกลำดับต้น ๆ ที่ได้ใช้ดูแลผู้ที่มารับบริการที่คลินิก

“ที่น่าสนใจคือความสามารถในการกระตุ้นการสร้างองค์ประกอบที่สำคัญของผิวให้แข็งแรงครบถ้วนทั้ง 5 ประการ เรียกว่าผู้รับบริการจะได้รับการฟื้นฟูผิวอย่างเต็มที่ ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนคือผิวสุขภาพดี เฟิร์มแน่นกระชับ ลดเลือนริ้วรอย ให้ผิวแลดูอ่อนกว่าวัย และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า 24 เดือน ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยปรับความสมดุลและแก้ปัญหาที่ตรงจุด ซ่อมแซมผิวจากภายในให้กลับมาแลดูอ่อนกว่าวัยอย่างเป็นธรรมชาติ

“เพราะคุณมีผิวหน้าเดียว อย่าลืมดูแลตัวเอง เลือกสิ่งที่ดีที่สุดและปลอดภัย เพื่อคงความงามในแบบของคุณ”

               

พญ.นันทนัช เดี่ยวสมบูรณ์ และ พญ.ชื่นกมล อึงพิทักษ์พันธุ์
CLASSY CLINIC

“ช่วงอายุ 18 – 20 คอลลาเจนจะลดลงประมาณปีละ 1 เปอร์เซ็นต์ และจะสร้างขึ้นใหม่ได้ช้าไปอีกเมื่อวัยเพิ่มขึ้น พอถึงอายุ 30 ขึ้นไปทุกปัญหาจึงโชว์ชัดอย่างสังเกตได้ หากเราไม่ดูแลหรือกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ เมื่อผิวเสื่อมคุณภาพลงก็จะทำให้ดูสูงวัย ริ้วรอยต่าง ๆ ก็ตามมาเร็ว จนบางคนดูแก่ก่อนวัย โชคดีว่าปัจจุบันมีนวัตกรรมช่วยยับยั้งได้

“และนวัตกรรมที่โดดเด่นในตอนนี้ต้องยกให้ Regenerative Biostimulator ถือเป็นศาสตร์ฟื้นฟูผิวแบบใหม่ที่ให้ผลลัพธ์คุ้มค่า ทั้งผิวสุขภาพดีและดูอ่อนกว่าวัย แถมคงผลลัพธ์โดยเฉลี่ยอยู่ได้นาน 24 เดือน หรือ 2 ปี เพราะเป็นนวัตกรรมที่สามารถกระตุ้นได้ทั้งคอลลาเจน Type 1 คอลลาเจน Type 3 และอีลาสติน รวมถึงเส้นเลือดใหม่ที่ทำให้ผิวดูดีครบทุกมิติทั้งจากภายในเผยสู่ภายนอก ให้ผลลัพธ์ผิวยืดหยุ่น ตึงกระชับ เนียนนุ่มชุ่มชื้นน่าสัมผัส ซึ่งถือเป็นความยินดียิ่งที่ Classy Clinic เป็น 1 ใน 20 คลินิกที่ได้ใช้นวัตกรรมนี้ เป็นอีกหนึ่ง ทางเลือกกระแสแรงที่อยากให้คนรักผิวได้ลองค่ะ”

               

นพ.วัชพล ธนมิตรามณี และ พญ.พิชญานิน สื่อมโนธรรม
MEK CLINIC

นพ.วัชพล “ในฐานะผู้ก่อตั้งและบริหารคลินิกเสริมความงามหมอเมฆ พูดได้เลยว่าจุดเด่นที่ทำให้เราได้รับความไว้วางใจคือการเห็นผลลัพธ์ที่ดีจริงของการปรับรูปหน้าอย่างเป็นธรรมชาติด้วยเทคนิค Triple Layer Lift ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน ต้องขอขอบพระคุณผู้ใช้บริการทุกท่านที่ให้ความเชื่อมั่นและบอกต่อ จนได้รับรางวัลยอดฉีดสารเติมเต็มสูงสุดในประเทศและเอเชียแปซิฟิกซึ่งเป็นรางวัลแรกของไทยครับ”

พญ.พิชญานิน “นอกจากนี้เรายังได้รับรางวัล 1st Runner Up ยอดฉีดโบทูลินั่มท็อกซินเยอรมันสูงสุดในเอเชียด้วยค่ะ เราให้ความสำคัญกับนวัตกรรมที่ดี อย่างล่าสุด Regenerative Biostimulator ซึ่งมีส่วนผสมของ CaHA สารจากธรรมชาติที่พบได้ในร่างกาย เพราะฉะนั้นจึงเกิดการอักเสบต่ำ สารชนิดนี้จะกระตุ้นการสร้างเส้นใยตาข่ายผิว เหมาะกับวัย 30 ปีขึ้นไปที่ผิวเริ่มหย่อนคล้อย มีริ้วรอย สามารถใช้ร่วมกับการฉีดสารเติมเต็มหรืออัลเทอร่าได้ด้วย”

               

พญ.วรวรรณ เตชะสมบูรณ์ และ พญ.กาญจน์ ลิมบานเย็น
KKC CLINIC

พญ.วรวรรณ “กว่า 17 ปีแล้วที่เคเคซีคลินิกทำงานภายใต้แนวคิด ‘Luxury Beauty Service’ เราเป็นศูนย์ดูแลความงามระดับไฮคลาส ด้วยทีมแพทย์ผู้มากประสบการณ์ พร้อมเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความพึงพอใจของลูกค้าทุกท่าน เป็นอันดับแรก จึงไม่เคยหยุดพัฒนา ค้นหาเทรนด์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้หญิงที่ตื่นตัวดูแลผิวพรรณเร็วขึ้นจากแต่ก่อน เพราะด้วยมลภาวะ ความเครียด และการใช้ชีวิต ล้วนส่งผลกระทบให้ผิวขาดความชุ่มชื้น เกิดการหย่อนคล้อยและริ้วรอยได้ง่ายขึ้นนั่นเองค่ะ”

พญ.กาญจน์ “เรายินดีที่ได้ช่วยแก้ปัญหาผิวให้ทุกท่าน และล่าสุดกับนวัตกรรม Regenerative Biostimulator ศาสตร์ใหม่แห่งการฟื้นฟูผิวที่สามารถกระตุ้นทั้งคอลลาเจน อีลาสติน รวมทั้งกระตุ้นสารน้ำหล่อเลี้ยงผิว เห็นผลลัพธ์เลยว่าผิวชุ่มชื้น ริ้วรอยลดลง เฟิร์มกระชับอิ่มฟูเด้งยาวนาน ที่สำคัญคือผ่านการรับรองความปลอดภัยโดย อย.ระดับสากล เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่อยากดูแลตัวเองอย่างปลอดภัยเพื่อคงความสวยและดูอ่อนกว่าวัยให้กับตัวเอง ต้องบอกเลยว่าตอบโจทย์สาว ๆ ยุคนี้ค่ะ”

               

นพ.ฉัตรพล และ คุณภาพิมณ คงเฟื่องฟุ้ง
IDL HOSPITAL

“ด้วยเทรนด์ความงามในปัจจุบันได้รับความสนใจอย่างมากและมีความหลากหลายยิ่งขึ้น ส่งผลให้ทิศทางการเติบโตของธุรกิจความงามสูงขึ้นเรื่อย ๆ IDL ที่ดำเนินธุรกิจด้านความงามมากว่า 10 ปีจึงตัดสินใจขยายรูปแบบการให้บริการจากคลินิกสู่โรงพยาบาลเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น และเพื่อยกระดับมาตรฐานบริการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

“สำหรับเทรนด์ความงามในปี 2024 เชื่อว่างานผิวยังคงมาแรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องการดูอ่อนกว่าวัย IDL จึงให้ความสำคัญมาก ๆ กับการเลือกใช้นวัตกรรมความงามที่จะช่วยดูแลสุขภาพผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“โดยนวัตกรรมความงามที่ถือเป็นคีย์ของการดูแลสุขภาพผิวขณะนี้ ขอยกให้กับ Regenerative Biostimulator ซึ่งถือเป็นศาสตร์ฟื้นฟูผิวแบบใหม่ที่ให้ผลลัพธ์คุ้มค่า เปรียบเทียบง่าย ๆ คือเหมือนการทำทรีตเมนต์ครั้งเดียว แต่ได้ผลลัพธ์จัดเต็มแบบคูณ 5 เพราะสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นใยตาข่ายผิวได้ครบ 5 ประการ ส่งผลให้ผิวแข็งแรงขึ้น แลดูอ่อนกว่าวัย ที่สำคัญคือผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานขึ้น ถือเป็นการลงทุนให้กับตัวเองที่คุ้มค่ามาก ๆ ครับ”

               

นพ.ดนัย ภววัฒนานุสรณ์ และ นพ.วรพล สุขีวัฒนา
DOCTOR TONY MEDICAL CENTER

“จากเทรนด์ความงามที่เน้นเรื่องผิวพรรณมากขึ้น บวกกับประสบการณ์ยาวนานในแวดวงความงาม Doctor Tony Medical Center เล็งเห็นและเข้าใจถึงความหลากหลายของปัญหาผิวซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละคน โดยเฉพาะปัญหาใหญ่อย่างความร่วงโรยตามวัย ดังนั้นหนึ่งในภารกิจหลักของเราจึงมุ่งเน้นไปที่การช่วยดูแลและแก้ปัญหาผิวอย่างตรงจุดตรงใจ

“แนวคิดสำคัญของ Doctor Tony Medical Center ในการดูแลสุขภาพผิวให้กับผู้ใช้บริการคือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับแต่ละสภาพผิว และคัดสรรนวัตกรรมความงามที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“อย่างตอนนี้ศาสตร์การฟื้นฟูผิว Regenerative Biostimulator มาแรง เนื่องจากช่วยกระตุ้นการสร้างองค์ประกอบผิวที่สำคัญได้ครบ 5 ตัว จึงช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น แลดูอ่อนกว่าวัย และคงผลลัพธ์ได้ยาวนานขึ้น เรียกว่าเป็นนวัตกรรมความงามที่ครบจบและคุ้มค่า”

               

พญ.ศันสนีย์ สฤษดิ์เวชวรกุล และ พญ.นวพร ผิวผัน
VIVA CLINIC

พญ.ศันสนีย์ “จุดเด่นของ Viva Clinic อยู่ที่ความชำนาญด้านความงามของทีมแพทย์มากว่า 17 ปีอย่างการปรับรูปหน้าปัญหาใหญ่ที่วัยเลข 3 ขึ้นไปต้องเจอคือเรื่องผิวหย่อนคล้อย หมอจะวิเคราะห์ปัญหาก่อน แล้วค่อยแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล ส่วนใหญ่การทำอัลเทอร่าร่วมกับ Regenerative Biostimulator ซึ่งถือเป็น ‘มาสเตอร์พีซ’ ใหม่ล่าสุดในวงการผิวจะช่วยดูแลและจัดการปัญหาหลักของใครหลาย ๆ คน แล้วค่อยดูแลด้านอื่น ๆ ตามปัญหาของแต่ละคนค่ะ”

พญ.นวพร “ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่รู้สึกว่าผิวเฟิร์ม อิ่มฟู กระชับ มีเลือดฝาด ถ้าให้เห็นภาพคือเหมือนทำครั้งเดียวแล้วได้ผลลัพธ์ 5 อย่าง เรียกว่าเป็นศาสตร์การฟื้นฟูผิวแบบใหม่ที่คุ้มค่า จึงได้รับการตอบรับดีมาก”

               

นพ.ฉัตรไชย ชูแสง แพทย์ผู้บริหาร AESCENT CLINIC, FAREEDA CLINIC, AVIGNON CLINIC
และ นพ.ลัทธพล ม้าลายทอง แพทย์ผู้บริหาร FIRST CLINIC
AESCENT CLINIC

“ยุคนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเฟิร์สต์อิมเพรสชั่นมีความสำคัญมากในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน ความรัก โดยการที่จะดูดีขึ้นสามารถเกิดได้จาก ในหลายมิติ ทั้งการดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย เลือกอาหารที่มีประโยชน์ รวมไปถึงการพบแพทย์เพื่อทำหัตถการต่าง ๆ รักษาความดูดีไว้เสมอ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่คนยุคใหม่ให้ความสำคัญกันมากขึ้น

“และความดูดีภายนอกที่ยั่งยืนต้องมาจากการฟื้นฟูคุณภาพผิวภายในด้วย Regenerative Biostimulator ถือว่าตอบโจทย์ในเรื่องนี้ เพราะเป็น อีกหนึ่งนวัตกรรมที่เข้ามาเติมเต็มการชะลอความเสื่อมของผิวให้มีทางเลือกมากยิ่งขึ้น เหมือนกับการดูแลตนเองในระดับเซลล์ เน้นการซ่อมแซมสุขภาพที่เสื่อม ให้ฟื้นคืน ด้วยความพิเศษที่สามารถกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในผิวขึ้นใหม่ แถมยังช่วยให้องค์รวมของผิวดูดีขึ้นได้จากภายในด้วยประสิทธิภาพ ในการเพิ่มความยืดหยุ่น ให้ผิวแน่นกระชับ อิ่มน้ำ ริ้วรอยร่องลึกก็ตื้นขึ้น ถือเป็นนวัตกรรมที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพและโครงสร้างของผิวได้อย่างครบองค์ประกอบ”

หรูหราราคาหลักพัน! ส่อง 3 สร้อยคอ SWAROVSKI ของ โดโดฮี – My Demon

Alternative Textaccount_circle

ราคาไม่แรงซื้อตามได้! เปิดกรุ 3 สร้อยคอ SWAROVSKI ที่นางเอกอย่าง โดโดฮี จากซีรีส์ My Demon สวมใส่

เหลืออีกเพียง 2 ตอนสุดท้าย ซีรีส์ My Demon ก็จะได้โบกมือลาแฟนๆ อย่างเป็นทางการ ทำเอาใจหายไม่น้อยเพราะเหมือนเพิ่งดูตอนแรไแเมื่อวาน แต่อย่างไรก็ตามคงต้องนั่งติดชิดหน้าจอไว้ดีๆ เพราะเรื่องราวตอนนี้กำลังเข้มข้นว่าความสัมพันธ์ของทั้งพระเอกและนางเอกจะเดินต่อไปในทิศทางไหน รวมถึง โดโดฮี ของเราจะรอดพ้นจากอันตรายรอบตัวหรือไม่

แต่เมื่อพูดถึงเนื้อเรื่องไปก็เครียดไม่ใช่น้อย จึงอยากชวนทุกคนมาพักสมอง แอบส่องคอสตูมของเรื่องนี้สักหน่อย เพราะตั้งแต่ซีรีส์ได้ปล่อยออกมาผู้คนก็จับจ้องเสื้อผ้ เครื่องประดับ กระเป๋า และรองเท้า ของ ‘โดโดฮี’ อยู่ไม่น้อย ซึ่งในบทความนี้จะพาไปส่องสร้อยคอจาก SWAROVSKI ที่ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าตังค์สุดๆ

เริ่มต้นด้วยของขวัญจาก จองกูวอน กับสร้อยตุ๊กตาหมีสีชมพูสุดน่ารักรุ่น Teddy Pandant ที่แอบแฝงความเก๋เอาไว้บนสายของสร้อยที่ข้างหนึ่งเป็นสร้อนเรียบๆ สี Pink Gold อีกข้างเป็นไข่มุกเม็ดกลม สำหรับราคาอยู่ที่ 5,950 บาท

ชิ้นต่อมาดูโตขึ้นมาหน่อยกับ Mesmera Pendent สร้อยสีเงินพร้อมจี้ประดับสีเขียวดึงดูดสายตา สำหรับสร้อยเส้นนี้ประดับไปด้วยคริสตัลทั้งหมดสามทรงตั้งแต่ทรงกลม, สี่เหลี่ยม และหยดน้ำ ราคาประมาณ 3,680 บาทเท่านั้น

และเส้นสุดท้ายยังคงความเรียบหรูเอาไว้กับสร้อยคอสีเงินที่มีชื่อว่า Dextera Pendant จี้วงแหวนที่ห้อยประดับด้วยคริสตัลเป็นกิมมิกเมื่อขยับร่างกาย มีราคา 3,550 บาท


รูปภาพ: My Demon, SWAROVSKI

สาวเมืองร้อนต้องเซฟลิสต์ ACSEINE กันแดดสุดปังจากญี่ปุ่น ดีต่อใจคนที่มีผิวแพ้ง่าย

account_circle

ภารกิจเซฟผิวของสาวเมืองร้อนอย่างสาวไทย หลักๆ คงหนีไม่พ้นการปกป้องผิวจากแสงแดด ดังนั้นบิวตี้ไอเท็มชิ้นสำคัญชนิดที่สาวๆ ต้องมี + ต้องทา! จึงต้องยกให้กับ “กันแดด” ซึ่งก็ใช่ว่าจะทาอะไรก็ได้ เพราะอย่างที่บอกไปว่าบ้านเราเป็นเมืองร้อนที่ความแรงของแสงแดดจัดอยู่ในโหมดเกินต้าน อีกทั้งสาวๆ บางคนยังมีผิวแพ้ง่าย ดังนั้นกันแดดที่ตอบโจทย์จึงต้องทั้งช่วยควบคุมความมัน ทนเหงื่อ ล็อกเมคอัพแน่น แต่ขณะเดียวกันก็ต้องบางเบาสบายผิว พร้อมช่วยดูแลผิวในตัว และผิวแพ้ง่ายใช้ได้

ด้วยสเป็กทั้งหมดนี้ สาวๆ หลายคนคงว้าวุ่นใจว่าจะหากันแดดที่มีคุณสมบัติจัดเต็มเบอร์นี้ได้จากที่ไหน ซึ่ง Praew Survey หาคำตอบมาให้สาวๆ แล้ว กับไอเท็มที่ตอบโจทย์สาวเมืองร้อนสุดๆ อย่าง ACSEINE (แอคซีน) กันแดดจากเคาน์เตอร์แบรนด์ญี่ปุ่น ที่ดีต่อผิวด้วยคุณสมบัติในการช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี พร้อมช่วยบำรุงผิว ที่สำคัญคือผ่านการรับรองโดยแพทย์ผิวหนังประเทศญี่ปุ่นว่าผิวแพ้ง่ายใช้ได้ ซึ่งเขามี 2 สูตรให้สาวๆ เลือกใช้คือ ACSEINE Super Sunshield EX กันแดดสูตรเมคอัพเบส และ ACSEINE Super Sunshield Bright Fit โลชั่นกันแดดเนื้อน้ำนม สูตรต้านมลภาวะ ที่สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย

สำหรับสูตรแรก ACSEINE Super Sunshield EX ขอบอกเลยว่าต้องถูกใจสาวๆ ที่แต่งหน้าเป็นประจำ เพราะเขาเป็นกันแดดสูตรเมคอัพเบสในตัว ที่นอกจากจะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีแล้ว ยังช่วยปรับสีผิวให้แลดูสม่ำเสมอ เรียบเนียน กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ และช่วยให้เมคอัพติดทนยิ่งขึ้น สาวๆ สามารถใช้เป็นเมคอัพเบสได้เลย หรือหากวันไหนต้องการลุคใสๆ ฟีลเผยผิว ก็สามารถใช้ ACSEINE Super Sunshield EX แทนรองพื้นหรือคุชชั่นได้เลย เพราะเขามาพร้อมกับเทคโนโลยีป้องกันผิวจากแสงแดด Hybrid UV Shield ที่เปลี่ยน Sebum หรือความมันบนผิวเป็นความชุ่มชื้น จึงทั้งช่วยควบคุมความมันและกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวไปพร้อมๆ กัน ทำให้ผิวไม่มันเยิ้มหรือแห้งเป็นขุย รวมถึงยังช่วยล็อกเมคอัพให้ติดทนยิ่งขึ้น สีผิวไม่ดร็อป ไม่หมองระหว่างวัน

นอกจากนี้ ACSEINE Super Sunshield EX ยังเริ่ดตรงที่เขาเป็น 100% Physical Sunscreen คือเป็นกันแดดที่ใช้หลักการสะท้อนรังสียูวี และใช้เทคโนโลยี Perfect Veil ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ ACSEINE ที่เคลือบเม็ดสีและป้องกันรังสียูวีไม่ให้สัมผัสผิวโดยตรงด้วยซิลิกา ผิวจึงไม่แสบร้อน หรือระคายเคือง คนที่มีผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้แบบสบายใจ

มาถึง ACSEINE Super Sunshield Bright Fit ตัวนี้เป็นโลชั่นกันแดดเนื้อน้ำนมที่สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ดีงามด้วยการเป็นสูตรต้านมลภาวะที่ใช้นวัตกรรม MC Chitosan Veil ซึ่งเป็นนวัตกรรมเฉพาะของ ACSEINE ที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นฟิล์มเคลือบผิวเอาไว้ จึงช่วยป้องกันผิวจากมลภาวะต่างๆ และช่วยลดปัญหาผิวหมองคล้ำ อีกทั้งยังเป็น 100% Physical Sunscreen ชนิดสะท้อนรังสี และใช้เทคโนโลยี Perfect Vei ที่เคลือบเม็ดสีไม่ให้สัมผัสผิวโดยตรงด้วยซิลิกา จึงอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย

สำหรับอีกหนึ่งจุดเด่นของ ACSEINE Super Sunshield Bright Fit อยู่ที่เนื้อสัมผัสของเขา ซึ่งเป็นเนื้อโลชั่นที่จะแตกตัวเป็นน้ำเมื่อทาลงบนผิว จึงบางเบาสบายผิวสุดๆ แถมยังมีส่วนผสมที่ช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวแลดูฉ่ำโกลว์ สดใส ส่วนเรื่องความติดทนก็ไม่เป็นสองรองใคร กันน้ำ กันเหงื่อเริ่ด แต่ขณะเดียวกันก็ล้างออกง่ายด้วยสบู่ จึงช่วยลดปัญหาสารตกค้างบนผิวและปัญหารูขุมขนอุดตัน ถือเป็นกันแดดที่ดีต่อผิว ใช้ได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก โดยเฉพาะคนที่มีผิวแพ้ง่าย ขอบอกเลยว่าห้ามพลาด!

ใครที่กำลังมองหากันแดดเริ่ดๆ มาช่วยเซฟผิวอยู่ ก็สามารถตามไปหาซื้อ ACSEINE ทั้งสองสูตรได้เลยที่เคาน์เตอร์ ACSEINE 3 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลลาดพร้าว, เซ็นทรัลเวิลด์ และไอคอนสยาม หรือช้อปออนไลน์ง่ายๆ ได้เลยที่ ACSEINE Online Official Store : www.acseine.in.th หรือแอดไลน์ @acseine.th และสามารถติดตามข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับ ACSEINE ได้ที่เฟซบุ๊ก Acseine เลยค่ะ

วี - วิโอเลต วอเทียร์

ตัวจริงหลังเวทีของ “วี – วิโอเลต วอเทียร์” ศิลปินหญิงแถวหน้า ว่าที่ตัวแม่ของวงการ

Alternative Textaccount_circle
วี - วิโอเลต วอเทียร์
วี - วิโอเลต วอเทียร์

นับจากวันแรกที่ปรากฏตัวบนเวทีประกวด “วี – วิโอเลต วอเทียร์” สามารถสะกดคนฟังได้ด้วยน้ำเสียงที่มีเอกลักษณ์และโดดเด่น จนมาถึงวันนี้ระยะเวลากว่า 10 ปี เธอเติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ มีผลงานมากมายทั้งงานเพลง งานแสดง จนได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในศิลปินหญิงแถวหน้าของเมืองไทย ที่พร้อมจะส่งต่อแรงบันดาลใจและพลังดีๆ ให้กับทุกคน

ตัวจริงหลังเวทีของ “วี – วิโอเลต วอเทียร์” ศิลปินหญิงแถวหน้า ว่าที่ตัวแม่ของวงการ

มองว่าตัวเองเป็นเพอร์เฟ็กชันนิสต์ไหมคะ

“เคยมีคนบอกเหมือนกัน แต่วีคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องการทำงานที่จะลงดีเทล อยากให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด เพราะถ้าถามตัวเองก็จะคิดว่าฉันไม่ใช่เพอร์เฟ็กชันนิสต์หรอก เพราะห้องรกมากนะ (หัวเราะ) จะเป็นได้อย่างไร

“ยิ่งถ้าเป็นชีวิตส่วนตัว วันสบายๆ ที่ไม่ใช่เรื่องงาน วีปล่อยสมองไหลเลยนะ (หัวเราะ) เคยคุยกับผู้จัดการว่าถ้าจะไปเที่ยวหรือเดินทาง จ้างสไตลิสต์ช่วยจัดกระเป๋าได้ไหม คืออยากสวยนะ แต่ไม่อยากทำสิ่งนี้แล้ว (หัวเราะ) ช่วงนั้นทำงานเยอะจนอยากให้มีคนดูแลในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ บ้าง”

วี วิโอเลต วอเทียร์

ถ้าไม่นับเรื่องงาน ในพาร์ตชีวิตส่วนตัววีเป๊ะกับเรื่องอะไรมากที่สุดคะ

“เวลาค่ะ เรื่องอื่นๆ พอจะปล่อยได้ แต่วีไม่ชอบให้ตารางเวลาที่วางไว้เปลี่ยนระหว่างทาง อย่างเราคุยกันว่าเแบบนี้ จู่ๆเปลี่ยนจากหนึ่งเป็นสอง เอ๊ะ…หรืออันนี้เรียกว่าเพอร์เฟ็กซันนิสต์ไหมคะ (หัวเราะ)

“หลัก ๆ คือสมมติว่าเรานัดกัน 3 โมง สำหรับวีถ้ามาถึง 3.15 น. คือเลตมากแล้วนะ เพราะฉันมีแพลนจะทำโน่นนี่ต่อ แล้วเธอมาถึงเกือบ 4 โมง เธอทำให้ตารางชีวิตฉันรวน อันนี้โกรธมาก เหมือนโดนโกงเวลา ซึ่งเป็นกับทุกคนเลย ไม่ว่าจะเพื่อน แฟน เพื่อนที่ทำงาน คือเวลาของฉันมีค่า รู้ไหมว่าฉันสามารถทำอะไรได้บ้างใน 1 ชั่วโมงนั้น เว้นแต่ว่าถ้าวันนั้นตารางไม่แน่นก็ยังพอโอเคค่ะ”

แล้วถ้าวันว่างที่ไม่ได้นัดใคร มีจัดตารางชีวิตเป๊ะๆ ไหม

“บางอย่างก็ปล่อยได้ แต่ก็มีบางครั้งที่ผัดวันประกันพรุ่ง จนวันหนึ่งมันจวนเวลามากๆ แล้ว ก็โกรธตัวเองเหมือนกันนะว่า ทำไมไม่จัดการตั้งแต่แรก”

แล้วเรื่องอะไรที่ชิลที่สุด

“ความรกของห้องค่ะ (หัวเราะ) รกเท่าไรก็ได้ ไม่เคยหงุดหงิดเลย ว่างเมื่อไหร่ค่อยเก็บ คือถ้ายังนอนได้ก็โอเค” (ยิ้ม)

วี วิโอเลต วอเทียร์

วีเคยเล่าว่าเซ้นสิทีฟมาก คือขนาดไหนคะ

“เซ้นสิทีฟกับทุกเรื่องบนโลกเลยค่ะ แต่ไม่ได้เปราะบางนะ รีแอ็กชั่นแรกของวีคือร้องไห้ตลอดกับทุกเรื่อง อย่างครั้งหนึ่งจำที่จอดรถไม่ได้  หารถไม่เจอ ก็ร้องไห้เลย สำหรับวีจะมีไม่กี่รีแอ็กค่ะ ถ้าไม่ร้องไห้ก็หัวเราะ หรืออึ้งไปเลย (หัวเราะ)

“ล่าสุดไปดำน้ำแล้วเพื่อนกับแฟนเขาลอยอยู่ข้างๆ แฟนเขาพยายามจะดึงเพื่อนเราลงมาในน้ำเพื่อปรับสมดุลอากาศในระยะ 5 เมตร แล้วศอกเขามาโดนหน้าวี ซึ่งเขาไม่รู้ตัว แต่วีเจ็บ แล้วก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ในน้ำ วีไม่รู้จะทำยังไงก็เลยลอยตัวร้องไห้อยู่อย่างนั้น (หัวเราะ) ซึ่งความจริงมันก็ไม่ได้เจ็บขนาดที่ต้องร้องไห้นะคะ แต่เป็นสถานการณ์แบบไม่รู้จะทำยังไงอะ

“ถ้าเป็นเรื่องงานอาจจะมีแค่เขียนเพลงแล้วร้องไห้ไปเรื่อยๆ ไม่ใช่เพราะเศร้านะ แต่เพราะอินกับเนื้อเพลงมากกว่า

“ส่วนเรื่องคำพูดหรือคอมเมนต์ต่างๆ ถามว่าแคร์ไหม ก็แคร์นะคะ แม้บางเรื่องเราจะรู้ว่าไม่ต้องไปสนใจ ก็ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ด้วยความที่ทำงานในวงการนานเป็นสิบปี ก็ทำให้เรามีภูมิคุ้มกันประมาณหนึ่ง อย่างเรื่องดราม่า เรารู้ว่าอะไรจริง อะไรไม่จริง แต่บางครั้งถ้ามันจี้จุด ภูมิคุ้มกันเอาไม่อยู่ ก็มีนอยด์บ้างเหมือนกัน จึงพยายามเลือกฟังเฉพาะคำพูดของคนที่เราแคร์จริงๆ”

มีเรื่องไหนที่วีได้เรียนรู้และอยากจะแชร์กับคนอื่น

“การรู้จักที่จะใจเย็นๆ กับตัวเอง เพราะตอนนี้วีก็ต้องการสิ่งนี้เหมือนกัน บางครั้งที่เรากดดันตัวเองกับเรื่องต่างๆ บางเรื่องที่หาคำตอบไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องรู้จักที่จะปล่อยมันไปบ้าง

“อย่างตอนนี้ถ้ามีเวลา วีจะพาตัวเองออกไปพัก ไปต่างจังหวัด เพื่อพักสมอง พักร่างกาย และพักใจ มีเวลาอยู่กับครอบครัว อยู่กับคนที่รัก ประมาณว่า…ใจเย็นๆ ให้ตัวเองได้พักบ้าง”

วี วิโอเลต วอเทียร์

วันนี้วีมองภาพตัวเองเป็นแบบไหนคะ

“เป็นศิลปินหญิงที่สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คนได้ค่ะ มีน้องหลายคนที่โตมากับเพลงของวี บางคนบอกว่าฟังเพลงของวีมาตั้งแต่เรียนมัธยม วีทึ่งมากนะ รู้สึกว่าชีวิตนี้สวยงามจัง การที่มีแฟนเพลงโตไปพร้อมกับเรา หรือมีแฟนคลับที่อยู่ด้วยกันมาตลอด ติดตามมาตั้งแต่ประกวดเดอะวอยซ์ ตอนนี้น้องอายุ 19 ปี โอ้โฮ ถ้านึกภาพตามคือเขาฟังเพลงเราตั้งแต่อายุ 9 ขวบ มันทำให้วีรู้สึกว่าสิ่งที่เราทำมีค่ามากกว่าที่คิด และยิ่งทำให้วีมีแรงในการทำงาน มีพลังที่อยากส่งต่อให้น้องๆ ต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ”

เป้าหมายใหญ่ในฐานะศิลปินคืออะไรคะ

“ถ้าเป็นไปได้ วีคิดว่าหลายคนก็อยากโกอินเตอร์นะ คือไปได้จริงไหมไม่รู้ แต่ฝันให้ไกล ไปให้ถึง หรือแม้จะไปไม่ถึงก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยตอนนี้เราก็มาไกลกว่าที่คิดไว้แล้ว

“เพราะตอนแรกวีไม่คิดว่าตัวเองจะมาถึงจุดนี้ด้วยซ้ำ หลายครั้งเวลาที่ทำไม่ได้ รู้สึกนอยด์ เสียใจ ทำไมไม่ย้อนกลับไปดูเส้นทางที่ผ่านมาว่าความจริงเธอเดินมาได้ไกลแล้วนะ ไม่เป็นไร ใจเย็นๆ ให้ตัวเองได้พักบ้าง บางทีเราก็ต้องเตือนตัวเองด้วยคำนี้เหมือนกัน บอกตัวเองว่ามาไกลมากแล้ว ไม่ต้องรีบเดินเร็วขนาดนั้นก็ได้”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 998

“เดนทิสเต้” บุกอเมริกาขึ้นบิลบอร์ดย่านไทม์สแควร์ ดันยอดขายต่างประเทศ

account_circle

เดนทิสเต้” เตรียมสยายปีกต่างประเทศ ลั่นพร้อมบุกสหรัฐอเมริกาและอเมริกาใต้ หลังพบเทรนด์สินค้าพรีเมียม-ออร์แกนิคมาแรง เตรียมจำหน่ายช่องทางออนไลน์-ทีวีช้อปปิ้ง แย้มเซอร์ไพรส์แคมเปญสุดปังไตรมาสแรกปี 2567   

ดร.แสงสุข พิทยานุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากระดับพรีเมียม “เดนทิสเต้” (Dentiste’) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ จะเตรียมบุกตลาดในสหรัฐอเมริกาและทางแถบอเมริกาใต้ให้มากขึ้น เนื่องจากมองเห็นศักยภาพของสินค้าในกลุ่มพรีเมียม โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นออร์แกนิคและเกี่ยวข้องกับสุขภาพที่กำลังเติบโตเป็นอย่างมาก แต่ยังไม่มีผู้นำตลาดอย่างเด่นชัด แต่ด้วยความที่เป็นประเทศขนาดใหญ่ มีผู้คนอาศัยอยู่ในพื้นที่ต่างๆ หลายเชื้อชาติ จึงทำให้มองเป็นโอกาสทางธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มเม็กซิกันที่ได้มีการทำผลสำรวจและให้ทดลองสินค้า พบว่า 99% มีความต้องการซื้อยาสีฟัน “เดสทิสเต้” ทันที

สำหรับช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์เป็นหลัก เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างวงกว้าง รวมถึงการจำหน่ายผ่านช่องทางซูเปอร์มาร์เก็ตและทีวีช้อปปิ้งของแต่ละชนชาติ ควบคู่ไปกับการแจกสินค้าให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้จริง ขณะที่ภาพรวมตลาดยาสีฟัน
ในกลุ่มพรีเมียม มีอัตราการเติบโตที่ดีกว่ากลุ่มแมส แม้ว่าขนาดของตลาดจะไม่ใหญ่เท่ากลุ่มแมส แต่ยังมีโอกาสทางธุรกิจค่อนข้างมาก โดยผู้บริโภคในอเมริกาจะมองหาสินค้าดีมีคุณภาพ ซึ่งจะทำให้ได้รับความสนใจจากผู้บริโภค แม้ว่าระดับราคาจะสูงกว่าก็ตาม

ดร.แสงสุข กล่าวว่าการได้ “ลิซ่า Blackpink” มาเป็น Brand Ambassador ให้กับแบรนด์เดนทิสเต้ในช่วงที่ผ่านมานั้น นับว่าสร้างปรากฎการณ์หลายอย่าง ทั้งในแง่ของยอดขายของแบรนด์ที่มีอัตราการเติบโตสูงถึง 20% รวมถึงสินค้ายังถูกแนะนำโดยทันตแพทย์ไปสู่ผู้บริโภคอย่างวงกว้าง ซึ่งในส่วนนี้นับว่าเป็นผลดี
กับสุขภาพปากและฟันของผู้คน เนื่องจากอัตราของประชากรไทยที่ฟันผุมีอยู่จำนวนมาก ที่สำคัญ
การขึ้นบิลบอร์ดในย่านไทม์สแควร์ ก็นับเป็นอีกหนึ่งช่องทางของการสร้าง Brand Awareness ในสหรัฐอเมริกา
และทางแถบอเมริกาใต้ได้มากขึ้น

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาการทำตลาดในต่างประเทศของบริษัทฯ ได้เดินหน้ามาอย่างต่อเนื่อง
และครอบคลุมแทบทุกประเทศในเอเชียแล้ว โดยมีผลตอบรับจากผู้บริโภคที่ดีเป็นอย่างมาก โดยสินค้า
ของบริษัทฯ มียอดขายที่ดีมากในประเทศเกาหลี ซึ่งมีการจำหน่ายผ่านซูเปอร์มาร์เก็ตมากกว่า 100 แห่ง

อย่างไรก็ดี แม้ว่าภาพรวมตลาดยาสีฟันในประเทศไทยจะมีการแข่งขันในทุกปี เนื่องจากมีแบรนด์ใหม่เข้ามาในตลาดอยู่เสมอ แต่แบรนด์เดนทิสเต้ก็ยังสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยในช่วงไตรมาสแรก
ของปี 2567 นี้ บริษัทฯ เตรียมออกแคมเปญใหม่ที่จะมาเขย่าตลาดยาสีฟัน และเชื่อว่าจะมีผลตอบรับที่ดี
จากผู้บริโภคอย่างแน่นอน

นัตตี้-นันทนัท

วิวาห์หวาน นัตตี้-นันทนัท & แมน-ณัฐภูมิ เจ้าของโรงงาน 3,000 ล้าน

Alternative Textaccount_circle
นัตตี้-นันทนัท
นัตตี้-นันทนัท

หลังจากเตรียมงานแต่งงานมาพักใหญ่ในที่สุดก็ถึงวันสำคัญ นัตตี้-นันทนัท ฐกัดกุล แห่งแก๊ง ก้อยนัตตี้ดรีม ถือฤกษ์ดี 18 มกราคม 2567 จัดงานสละโสดกับแฟนหนุ่ม แมน-ณัฐภูมิ เหล่าสถิรวงศ์ ทายาทเจ้าของโรงงาน3,000ล้าน ที่โรงแรม LA CHAPELLE Bangkok

โดยในงานมีท่คนบันเทิงร่วมแสดงความยินดีอย่างอบอุ่นอาทิ วิโอเลต วอเทียร์,จันจิ-จันจิรา จันทร์พิทักษ์ชัย,ก้อย-อรัชพร โภคินภากร,ดรีม-อภิชญา พานิชตระกูล,นิกกี้-ณฉัตร จันทพันธ์

นัตตี้-นันทนัท

โดนใจสายแบก! เปิดดีเทล DIOR BOOK TOTE ของ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก

Alternative Textaccount_circle

ใบใหญ่สะใจ! ซูมอิน DIOR BOOK TOTE กระเป๋าหนังใบยักษ์สำหรับสายแบกของ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก

เห็นรูปภาพใหม่ของ ‘ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก’ ถึงกับต้องสะดุด เพราะกระเป๋าของเธอช่างโดนใจสายแบกแบบเราจริงๆ โดยเฉพาะชาวออฟฟิศที่ต้องหอบสัมภาระมากมายไปทำงาน กว่าจะได้เจอกระเป๋าที่ถูกใจทั้งฟังก์ชั่นและดีไซน์แทบไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าเป็นใบนี้รับรองว่าสบายใจไปหนึ่งเปราะ เพราะเป็นไอเท็มจากแบรนด์ดังอย่าง Dior มีหรือที่จะไม่ปัง

สำหรับกระเป๋าใบดังเกล่ามีชื่อรุ่นว่า DIOR BOOK TOTE ขนาด Medium (Black Macrocannage Calfskin) ผลิตจากหนังลูกวัวสีดำ และโดดเด่นด้วยลวดลาย Macrocannage พร้อมประดับด้วยชาร์ม D.I.O.R โลหะสีทองอ่อนบนด้ามจับตามเอกลักษณ์กระเป๋าของแบรนด์ นอกจากนี้ภายในยังบุด้วยหนังแคชเมียร์ มีช่องซิปเหมาะสำหรับการจัดระเบียบสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน ถึงแม้จะเห็นใบใหญ่แบบนี้กระเป๋าโท้ทดังกล่าวยังมีน้ำหนักเบาและใช้งานได้จริง มีสายสามารถปรับและถอดออกได้อีกด้วย สำหรับราคาอยู่ที่ 150,000 บาท


รูปภาพ: Instagram @baifernbah, Dior.com

เจ้าชายอับดุล มาทีน แห่งราชวงศ์บรูไน

ว่าด้วยข่าวลือ สินสอดของ เจ้าชายอับดุล มาทีน แห่งราชวงศ์บรูไน

Alternative Textaccount_circle
เจ้าชายอับดุล มาทีน แห่งราชวงศ์บรูไน
เจ้าชายอับดุล มาทีน แห่งราชวงศ์บรูไน

สัปดาห์ที่ผ่านมาหนึ่งในงานที่สาวไทยให้ความสนใจมากคงหนีไม่พ้น พระราชพิธีฉลองเสกสมรสของ เจ้าชายอับดุล มาทีน แห่งราชวงศ์บรูไน (Pengiran Muda Abdul Mateen) ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น “เจ้าชายที่หล่อสุดของเอเชีย”  โดยงานนี้ได้มีการดำเนินงานนานถึง 10 วัน และเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเหตุที่ต้องจัดงานพระราชพิธีฉลองเสกสมรสยาวนานเนื่องจากเป็นไปตาม ธรรมเนียมของชาวมุสลิมในประเทศบรูไน

ขณะเดียวกันหลายคนสงสัยว่างานแต่งงานแบบบรูไนนั้นมีสินสอดหรือไม่ ซึ่งจากการเสิร์จข้อมูลพบว่ามีให้ตามความเหมาะสม ซึ่งในพระราชพิธีฉลองเสกสมรสของเจ้าชายก็เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้สื่อบันเทิงของปักกิ่ง SOHU ในพิธีได้มีการประกาศเปิดเผยว่าสินสอดที่มอบเป็นเงินในครั้งนี้อยู่ที่ 1,000 ดอลลาร์บรูไน หรือประมาณ 26,524 บาท เรื่องนี้ทำให้หลายคนตกใจเป็นอย่างมากเพราะอย่างที่ทราบกัน บรูไนเป็นประเทศที่เลื่องชื่อเรื่องความร่ำรวย เพราะมีทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ รวมถึงยังเป็นราชวงศ์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลกอีกด้วย

อย่างไรก็ตามเงินสินสอดนี้อาจเป็นเรื่องของพิธีเท่านั้น เพราะเมื่อมองดูพระราชพิธีฉลองเสกสมรสระหว่าง เจ้าชายอับดุล มาทีน แห่งราชวงศ์บรูไน กับ อนิชา รอสนาห์ คาเลบิก จะเห็นว่างานมงคลที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนแขกเข้าร่วมงานเลี้ยงมากถึง 5,000 คน ขณะที่ชุดเจ้าสาวแต่ละชุดมีเอกลักษณ์และงดงามอย่างถึงที่สุดพร้อมกับเครื่องประดับตกแต่ง ไข่มุก ทองคำ เพชร ที่มีขนาดใหญ่ แม้แต่ช่อโบเก้ก็ยังประดับเพชรเลยทีเดียว

ข้อมูล www.sohu.com ภากจาก IG tmski

keyboard_arrow_up