โดยผู้เข้าชมในนิทรรศการสามารถสัมผัส รูป รส กลิ่น เสียง ผ่าน 6 ห้องความรู้สึก ได้แก่ ห้อง TIME, LEAVING THE PAST, RESPECT, HOPE, BELIEVE และ NOW IS A GIFT ที่จะพาคุณไปค้นหามิตรแท้ภายในหัวใจของคุณเอง ทิ้งบางสิ่งที่ค้างคาในหัวใจพร้อมโอบกอดสิ่งที่เป็นมิตรกับหัวใจ และเริ่มต้นใหม่พร้อมใจที่เป็นมิตรกว่าเดิม เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคน
จบลงไปแล้วสำหรับ FENDI MEN’S FALL WINTER 2024 SHOW ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2024 ในช่วง Milan Fashion Week งานนี้มีเซเลบริตี้ และอินฟลูเอนเซอร์ที่มาร่วมงานชมโชว์กันอย่างคับคั่ง
ครบทุกสไตล์… รวมลุคคนดังร่วมชมโชว์ FENDI MEN’S FALL WINTER 2024
Lee Min HoKuanghan Hsu
โดยที่นั่งแถวหน้าประกอบด้วย Lee Min Ho นักแสดงจากประเทศเกาหลีใต้, Kuanghan Hsu ผู้ชนะรางวัลนักแสดงหลากหลายรายการจากประเทศจีน และ FENDI Men’s ambassador, Jeremy Pope นักแสดงชาวอเมริกัน และ FENDI Men’s ambassador ซึ่งกำลังจะมีผลงานการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง “The Collaboration” ในบทบาทของ Micheal Basquiat
Massimiliano CaiazzoJames FrancoWinston Duke
Massimiliano Caiazzo FENDI Men’s ambassador และนักแสดงจากซีรีส์ของ Netflix เรื่อง“Mare fuori” (season 4 กำลังจะออกอากาศในเดือนกุมภาพันธ์นี้) James Franco ผู้ชนะรางวัลนักแสดงหลากหลายรายการจากประเทศอเมริกา, Winston Duke นักแสดงชาว Tobagonian-Rwandan ซึ่งจะแสดงในภาพยนตร์ที่จะฉายในปีนี้เรื่อง “The Fall Guy” (ร่วมแสดงโดย Ryan Gosling)
Nicholas Galitzine Kit Harington
Nicholas Galitzineนักแสดงชาวอังกฤษและ FENDI Men’s amabassador นักแสดงนำในภาพยนตร์และซีรีส์ที่กำลังเป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมากในปีนี้ อย่างเรื่อง “The idea of you“ (ร่วมแสดงโดย Anne Hathaway นักแสดงหญิงผู้ชนะรางวัลออสการ์) และเรื่อง “Mary and George” (ร่วมแสดงโดย Julianne moore นักแสดงหญิงผู้ชนะรางวัลออสการ์), และ Kit Harington นักแสดงสาวชาวอังกฤษจากซีรีส์ของ HBO เรื่อง “Game of Thrones
Ed McVey
ปิดท้ายด้วยลุคของ Ed Mcvey นักแสดงชาวอังกฤษจากซีรีส์ของ Netflix เรื่อง “The Crown” ซึ่งร่วมสร้างประวัติศาสตร์ชื่อเสียงอันโด่งดังทั้งบน HBO และ Netflix
ใช้ AI เพื่อความต้องการเฉพาะของแต่ละคน ประสบการณ์การออกกำลังกายแบบเฉพาะคนจะเป็นเทรนด์สำคัญต่อเนื่องไปอีกหลายปี เมื่อเราใช้งานอุปกรณ์ติดตามร่วมกับ AI จะเป็นการปฏิวัติโปรแกรมการออกกำลังกายแบบใหม่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละคนบนเส้นทางสุขภาพที่เลือกได้เอง พร้อมช่วยนำทางไปสู่เป้าหมายที่เหมาะสมในแบบของตนเอง ซึ่งปัจจุบัน AI กำลังได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และจะสามารถแนะนำผู้ใช้ผ่านกิจวัตรประจำวันต่างๆ ได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
เมื่อมีเวลาว่างจากการซ้อมก็เปิดโหมดพ่อค้า! เตนล์ ชิตพล กับกระเป๋าราเฟียยักษ์ใบใหม่จาก Saint Laurent
Saint Laurent เขาเลือกคนไม่ผิดจริงๆ ที่ให้ ‘เตนล์ ชิตพล’ เป็นหนึ่งในตัวแทนโปรโมทไอเท็มต่างๆ ของแบรนด์ เพราะล่าสุดเมื่อว่างจากการซ้อมเมื่อไหร่ก็ไม่วายใจเปิดโหมดพ่อค้าทันที โพสต์รูป Outfit of the day ที่โชว์กระเป๋าใบยักษ์ชวนเตะตาให้ได้ตามหา ซึ่งกระเป๋าใบนี้คาดว่าคงเป็นใบใหม่ที่ YSL เตรียมจะปล่อยในไม่ช้า เพราะจากการค้นหาข้อมูลกลับไม่มีกระเป๋าใบนี้อยู่เลย มีเพียง saint laurent men’s black 5 a’ 7 supple in rafia ที่รูปทรงคล้ายๆ กันและวางขายอยู่บนเว็บไซต์มือสองเท่านั้น
แพรวจึงขอพาชมจิวเวอรี่สุดหรูที่เหล่าเซเลบริตี้ระดับโลกเลือกใส่จากแบรนด์ TIFFANY &CO. เครื่องประดับชิ้นสำคัญ ที่พร้อมเฉิดฉายในงานประกาศผลรางวัล Critics Choice Awards ครั้งที่ 29 ซึ่งจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ที่ซานตาโมนิก้า, แคลิฟอร์เนีย เริ่มต้นที่นักร้องชื่อดังอย่าง Dua Lipa สวมใส่ต่างหูและแหวน Jean Schlumberger by Tiffany
นักแสดงสาว Emily Blunt สวมใส่ต่างหู Jean Schlumberger by Tiffany, กำไลข้อมือ Bracelet in platinum and 18k yellow gold with unenhanced Umba sapphires, opals and diamonds และแหวน Ring in platinum and 18k yellow gold with diamonds
สำหรับ Greta Lee สวมใส่เครื่องประดับชิ้นสำคัญเป็นต่างหูEarrings in 18k white gold with diamonds และแหวน Ring with pavé diamonds in platinum
ขณะที่ นักแสดงสาว Carey Mulligan สวมใส่ Tiffany & Co. Archives earrings และแหวน Ring in platinum with diamonds
ด้านหนุ่มๆ ก็ไม่น้อยหน้า เริ่มกันที่นักแสดงหนุ่มชื่อดัง John Krasinski สวมใส่เข็มกลัด Jean Schlumberger by Tiffany brooch ส่วมนาฬิกา Atlas® 2-Hand 37.5 mm watch ปกสูทติดเข็มกลัด Tiffany 1837® Makers cuff links
ปิดท้ายด้วย Jeremy Allen White สวมใส่เข็มกลัด Elsa Peretti® brooch และกำไล Tiffany Lock bangle
SKIN FOR EMILY BLUNT & LILY GLADSTONE CREATED BY LORD GAVIN MCLEOD VALENTINE USING AUGUSTINUS BADER
เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดผิวโดย Augustinus Bader The Cleansing Balm พร้อมทั้งนวดเบาๆ เพื่อคลายความตึงเครียด กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณคอและกราม
ตามด้วย Augustinus Bader The Cream Cleansing Gel ที่ช่วยทำความสะอาดอย่างล้ำลึก และขจัดสิ่งสกปรกที่ก่อให้เกิดการอุดตันเพื่อเติมออกซิเจนให้ผิวโดยส่วนประกอบอย่างกรดไฮยาลูโรนิก กลีเซอรีน สควาเลน วิตามิน A C E รวมถึงล็อคความชุ่มชื้นในผิว
เข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงด้วย Augustinus Bader The Face Oil, ลอร์ด แกวินใช้ออยล์ร่วมกับวิธีการนวดหน้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการนวดหน้าแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น (Kobido) เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า และต่อมน้ำเหลือง ตามด้วยการลูบแบบ Effleurage เพื่อกระตุ้นการระบายน้ำเหลือง
หลังจากนั้นลอร์ดแกวินใช้ cryo sticks เพื่อช่วยในการนวดผลิตภัณฑ์ Augustinus Bader The Face Cream Mask ลงบนบริเวณใต้โหนกแก้ม และขมับเพื่อเพิ่มการระบายน้ำเหลืองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
และลงมอยส์เจอร์ไรเซอร์ Augustinus Bader The Ultimate Soothing Cream พร้อมใช้แสง LED เพื่อช่วยกระชับเส้นใยของผิว ยกกระชับ และกระตุ้นกล้ามเนื้ออย่างเป็นจังหวะ ตามด้วยการลูบแบบ Effleurage อีกครั้งเพื่อลดอาการบวมที่เหลืออยู่
สำหรับงานดิจิทัลแบบอินเทอร์แอคทีฟครั้งแรกในโลก “The Magic Dragon 2024 by Miguel Chevalier Software Cyrille Henry & Antoine Villeret” แสดงให้เห็นถึงความสวยงามของโครงสร้างโลหะขึ้นรูปเป็นส่วนหัวและหางของมังกร ที่สะท้อนถึงฝีไม้ลายมือด้านศิลปะดิจิทัลที่สร้างชื่อเสียงของ “มิเกล เชอวาลิเยร์” ทั้งแสดงถึงความชำนาญชั้นครู ด้วยลวดลายอินเตอร์แอคทีฟผ่านงานศิลปะส่วนลำตัวของมังกรที่มีลักษณะเป็นลูกคลื่น ประกอบด้วยกระดูกสันหลังทรงสี่เหลี่ยม 38 ชิ้น โดยแต่ละส่วนหมุนวนรอบแกนเล็กน้อย ทำให้ตัวมังกรมีเส้นโค้งคดเคี้ยวที่ดูเหมือนจะยืดขยายออกไปไม่สิ้นสุด
ผลงานชิ้นนี้ เปิดให้ผู้เข้าชมสามารถลอดเข้าไปในท้องมังกร ซึ่งเป็นส่วนที่เรียกว่า “body of light” ซึ่งจะมอบประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยภายในท้องมังกรประดับด้วยไฟ LED เป็นงานดิจิทัลแบบอินเทอร์แอคทีฟ ที่ออกแบบมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ กับลวดลายเรขาคณิตที่ดูราวกับว่ากำลังเคลื่อนไหว สอดรับกับสัญลักษณ์ของวันตรุษจีนและปีมังกร ก่อเกิดเป็นภาพลานตา (kaleidoscope) ขนาดยักษ์ที่นำผู้เข้าชมร่วมเดินทางไปในโลกแห่งจินตนาการและบทกวีทั้งกลางวันและกลางคืน โดยลวดลายเหล่านี้จะล้อไปกับการเคลื่อนไหวของผู้เข้าชมภายในท้องมังกรผ่านการทำงานของเซ็นเซอร์ที่จะเปลี่ยนรูปร่างหลากหลายไปตามการเคลื่อนไหวได้อย่างน่าทึ่ง