เจ้าชายอับดุล มาทีน แห่งราชวงศ์บรูไน

ว่าด้วยข่าวลือ สินสอดของ เจ้าชายอับดุล มาทีน แห่งราชวงศ์บรูไน

Alternative Textaccount_circle
เจ้าชายอับดุล มาทีน แห่งราชวงศ์บรูไน
เจ้าชายอับดุล มาทีน แห่งราชวงศ์บรูไน

สัปดาห์ที่ผ่านมาหนึ่งในงานที่สาวไทยให้ความสนใจมากคงหนีไม่พ้น พระราชพิธีฉลองเสกสมรสของ เจ้าชายอับดุล มาทีน แห่งราชวงศ์บรูไน (Pengiran Muda Abdul Mateen) ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น “เจ้าชายที่หล่อสุดของเอเชีย”  โดยงานนี้ได้มีการดำเนินงานนานถึง 10 วัน และเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเหตุที่ต้องจัดงานพระราชพิธีฉลองเสกสมรสยาวนานเนื่องจากเป็นไปตาม ธรรมเนียมของชาวมุสลิมในประเทศบรูไน

ขณะเดียวกันหลายคนสงสัยว่างานแต่งงานแบบบรูไนนั้นมีสินสอดหรือไม่ ซึ่งจากการเสิร์จข้อมูลพบว่ามีให้ตามความเหมาะสม ซึ่งในพระราชพิธีฉลองเสกสมรสของเจ้าชายก็เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้สื่อบันเทิงของปักกิ่ง SOHU ในพิธีได้มีการประกาศเปิดเผยว่าสินสอดที่มอบเป็นเงินในครั้งนี้อยู่ที่ 1,000 ดอลลาร์บรูไน หรือประมาณ 26,524 บาท เรื่องนี้ทำให้หลายคนตกใจเป็นอย่างมากเพราะอย่างที่ทราบกัน บรูไนเป็นประเทศที่เลื่องชื่อเรื่องความร่ำรวย เพราะมีทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ รวมถึงยังเป็นราชวงศ์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลกอีกด้วย

อย่างไรก็ตามเงินสินสอดนี้อาจเป็นเรื่องของพิธีเท่านั้น เพราะเมื่อมองดูพระราชพิธีฉลองเสกสมรสระหว่าง เจ้าชายอับดุล มาทีน แห่งราชวงศ์บรูไน กับ อนิชา รอสนาห์ คาเลบิก จะเห็นว่างานมงคลที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนแขกเข้าร่วมงานเลี้ยงมากถึง 5,000 คน ขณะที่ชุดเจ้าสาวแต่ละชุดมีเอกลักษณ์และงดงามอย่างถึงที่สุดพร้อมกับเครื่องประดับตกแต่ง ไข่มุก ทองคำ เพชร ที่มีขนาดใหญ่ แม้แต่ช่อโบเก้ก็ยังประดับเพชรเลยทีเดียว

ข้อมูล www.sohu.com ภากจาก IG tmski

วงบอยแบนด์ ENHYPEN ได้รับเลือกเป็น Global Ambassador แรก ของ Dr.Jart+

วงบอยแบนด์ ENHYPEN ได้รับเลือกเป็น Global Ambassador แรก ของ Dr.Jart+

Alternative Textaccount_circle
วงบอยแบนด์ ENHYPEN ได้รับเลือกเป็น Global Ambassador แรก ของ Dr.Jart+
วงบอยแบนด์ ENHYPEN ได้รับเลือกเป็น Global Ambassador แรก ของ Dr.Jart+

Dr.Jart+ แบรนด์สกินแคร์สัญชาติเกาหลีใต้ชื่อดังระดับโลก ที่มีรากฐานมากจากคอนเซ็ปต์ SKIN.SCIENCE.ART* ประกาศแต่งตั้งให้ วงบอยแบนด์ ENHYPEN เป็น Global Ambassador แรกของแบรนด์ ซึ่งทั้งวงENHYPEN และแบรนด์ Dr.Jart+ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเกาหลีใต้ และกลายมาเป็นที่รู้จักในระดับโลกเหมือนกัน โดย 7 หนุ่ม ENHYPEN จะเริ่มแคมเปญแรกกับ Dr.Jart+ ในไลน์สกินแคร์ Cicapair™ ใหม่ ในแคมเปญใหม่ที่เรียกว่า Supercharged repair, Cicapair™” แคมเปญนี้นำเสนอโดยสมาชิกของวง ENHYPEN ซึ่งแต่ละคนจะนำเสนอปัญหาผิวที่แตกต่างกัน และมีผลิตภัณฑ์ในไลน์ Cicapair™ ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ และเป็นตัวแทนในแต่ละปัญหา

วงบอยแบนด์ ENHYPEN ได้รับเลือกเป็น Global Ambassador แรก ของ Dr.Jart+

จองวอน (JUNGWON) นำเสนอผลิตภัณฑ์ Cicapair™ Intensive Soothing Repair Serum / เจย์ (JAY) นำเสนอผลิตภัณฑ์ Cicapair™ Sleepair Intensive Soothing Repair Mask / เจค (JAKE) นำเสนอผลิตภัณฑ์ Cicapair™ Intensive Soothing Repair Treatment Lotion / นิกิ (NI-KI) นำเสนอผลิตภัณฑ์ Cicapair™ Tiger Grass Color Correcting Treatment / ฮีซึง (HEESEUNG) นำเสนอผลิตภัณฑ์ Cicapair™ So Soothing Treatment / ซองฮุน (SUNGHOON) นำเสนอผลิตภัณฑ์ Cicapair™ Intensive Soothing Repair Cream / ซอนอู (SUNOO) นำเสนอผลิตภัณฑ์ Cicapair™ Intensive Soothing Repair Gel Cream

โดยไลน์ผลิตภัณฑ์ Dr.Jart+ Cicapair™ คือไลน์ผลิตภัณฑ์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Dr.Jart+ และถือเป็นไลน์ที่ทำให้ส่วนผสมอย่าง Cica เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย 


ติดเทรนด์อันดับ 1! ย้อนรอยความปัง ‘กลัฟ คณาวุฒิ’ Friends Of Gucci

Alternative Textaccount_circle

ถูกแซวว่าเป็นพระเอกที่บินเป็นนก เพราะว่าพระเอกหนุ่มสุดออต กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ เดินสายงานต่างประเทศแบบแน่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นในพื้นที่เอเชีย หรือ ยุโรป และทุกที่ ๆ ไปก็จะมีพี่ ๆ อินเตอร์แฟนมาคอยให้กำลังใจอยู่ตลอด อย่างล่าสุด “กลัฟ” ในฐานะ Friends Of The House ของแบรนด์ดังระดับโลก GUCCI ได้เดินทางไปร่วมชมแฟชั่นโชว์ “Gucci Men’s Fall/Winter 2024” ในงาน Milan fashion week 2024 ที่ Fonderia Carlo Macchi มิลาน  ประเทศอิตาลี

การไปครั้งนี้ของ “กลัฟ” ได้รับความสนใจจากทั้งสื่อต่างประเทศ และแฟนๆ ทั้งแฟนคลับของกลัฟที่ไปให้กำลังใจ รวมถึงแฟนคลับของศิลปินคนอื่น ๆ ที่ก็ให้ความสนใจการไปครั้งนี้ในฐานะตัวแทนนักแสดงไทยหนึ่งเดียวในงานนี้ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่อยู่ที่มิลาน เพราะไม่ว่าจะเป็นทวิตเตอร์ประเทศไทยหรือมาเลเซีย #GUCCIxGULFflytoMilan ยังติดเทรนด์อันดับ 1 อีกด้วย ซึ่งกลัฟไม่ใช่แค่ไปร่วมแฟชันโชว์เท่านั้น แต่ยังทำภารกิจในฐานะ Friends Of The House ของ Gucci เพื่อสร้างมูลค่าให้กับแบรนด์ดังกล่าว

EMSPHERE x TEAYII ต้อนรับปี 2024 ด้วยนิทรรศการ “NEW SOUL”

account_circle

ศูนย์การค้า เอ็มสเฟียร์ ร่วมกับศิลปินรุ่นใหม่ Teayii (เตยยี่) ผู้ได้ขนานนามว่าเป็นศิลปินแห่งยุค ผู้สร้างแรงบัลดาลใจผ่านตัวอักษร และมีความเชื่อว่า ตัวอักษรไทย สามารถกลายเป็นงานศิลปะได้ เตยยี่ ประภัสสร กาญจนสูตร จัดนิทรรศการ “NEW SOUL” เพราะเราเชื่อว่าเราต่างเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ ในรูปแบบ IMMERSIVE ART นิทรรศการศิลปะรูปแบบที่ให้ผู้ชมมีส่วนร่วมกับนิทรรศการ

โดยผู้เข้าชมในนิทรรศการสามารถสัมผัส รูป รส กลิ่น เสียง ผ่าน 6 ห้องความรู้สึก ได้แก่ ห้อง TIME, LEAVING THE PAST, RESPECT, HOPE, BELIEVE และ NOW IS A GIFT ที่จะพาคุณไปค้นหามิตรแท้ภายในหัวใจของคุณเอง ทิ้งบางสิ่งที่ค้างคาในหัวใจพร้อมโอบกอดสิ่งที่เป็นมิตรกับหัวใจ และเริ่มต้นใหม่พร้อมใจที่เป็นมิตรกว่าเดิม เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคน

ในระหว่างวันที่ 17-31 มกราคม 2567 โดยวันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 น และในวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.30-22.00 น ณ EM YARD ชั้น G, SPHERE GALLERY 1 ชั้น M และ SPHERE GALLERY 2 ชั้น 2 ศูนย์การค้า เอ็มสฟียร์ จำหน่ายบัตรแล้วตั้งแต่วันนี้ที่ Line @teayiiartworks

ชี้เป้า 5 หมอดูดังเช็คดวงแม่นๆบน LINE ดูดวง

account_circle

ไม่ว่าโลกยุคใหม่จะแสนไฮเทค มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการดำเนินชีวิตมากมายแค่ไหน แต่เรื่องของความศรัทธาในศาสตร์แห่งดวงชะตาที่ถูกกำหนดมาแล้วไม่เคยเลื่อมคลายไป เรียกได้ว่ากว่า 50% ของการใช้ชีวิตในสมัยนี้ของหลายคน ยังยึดแนวทางตามดวงชะตาอยู่ไม่ขาด ไม่ว่าจะเป็น วันนี้ใส่เสื้อสีอะไรให้โชคดี ก้าวเท้าไหนออกจากบ้านและจะปัง หรือแม้แต่ สระผม ตัดเล็บ วันนี้จะดีมั๊ยนะ จะทำอะไรซักนิดหน่อย ที่เป็นเรื่องของการตัดสินใจ ก็อยากมีที่ปรึกษาเป็นหมอดูคู่ใจมาช่วยทำนายเพื่อตัดสินใจให้ถูกทาง  

LINE ดูดวง แพลตฟอร์มดูดวงยอดฮิตของคนไทย จึงได้จัดอันดับนักพยากรณ์ยอดฮิตติดชาร์ตท็อป 5 ของผู้ใช้งานตลอดปี 2566 ที่เหล่าสาวกปลาบปลื้มกัน มีการรีวิวบอกต่อว่าแม่นแสนแม่น จะทำอะไรตัดสินใจไม่ได้ เลือกทางไหนแล้วจะดี ติดต่อพวกเขาเหล่านี้ไปได้เลย เพราะจะได้คำตอบที่ช่วยให้ชีวิตไปต่อได้ถูกทางแน่นอน 

อันดับที่ 5 (ร่วม) คุณเบลล์ญาณบารมีทำนายผ่านการเปิดไพ่ยิปซี ไพ่ออราเคิล ไพ่มหาเทพ เธอเป็นเน็ตไอดอลสายมู ที่มีแฟนคลับทั่วประเทศและดังไกลไปถึงประเทศลาวและกัมพูชา ใช้ญาณสายพญานาคที่มีมาแต่เกิดในการทำพิธีกรรมเปิดบารมีองค์เทพและศาลพญานาค รวมถึงดูดวงด้วยไพ่ทุกชนิด

อันดับที่ 5 (ร่วม) คุณบิวตี้ Horo Princess ทำนายผ่านการเปิดไพ่ยิปซี เธอเป็นหมอดูรุ่นใหม่ที่มีความสามารถรอบด้าน ใช้ศาสตร์การดูดวงผสานกับจิตวิทยาในการแนะนำแบบชิคๆ และแม่นยำ ทำคอนเทนต์ดวงก็โดนใจคนทุกกลุ่ม โดยฝากผลงานด้วยการเป็นนักพยากรณ์รับเชิญในงานและรายการดังต่างๆ รวมถึงเป็นพิธีกรอีกด้วย

อันดับที่ 4 หมอแก้วแม่นชัวร์ ทำนายผ่านการเปิดไพ่พรหมญาณ เหรียญ และไพ่ออราเคิล เธอมีความโดดเด่นในการทำนายเรื่องความรัก โชคลาภ การซื้อขายทรัพย์สินต่างๆ และสุขภาพ มีความแม่นยำในการฟันเฟิร์มในสิ่งที่มองไม่เห็นทางออกหรือยากแก่การตัดสินใจ แถมยังบอกตัวเลขเพื่อการเสี่ยงโชคแม่นมากๆ ให้ลูกค้ารับโชคมาแล้วนับไม่ถ้วน นอกจากสื่อสารด้วยไพ่พรหมญาณและเหรียญบาทในการทำนายทายทักแล้ว เธอยังมีนิมิตมองเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าของลูกค้าที๋จะเกิดขึ้นโดยที่ลูกค้ายังไม่ได้ถามหรือเล่าเรื่องราวต่างๆ โดยเฉพาะหากใครชอบเรื่องการเสี่ยงโชค ต้องมาาเธอคนนี้เลย เพราะเธอทำนายได้อย่างแม่นยำ

อันดับที่ 3 หมอฝ้าย The Magic Queen ทำนายผ่านการเปิดไพ่ยิปซี ที่หลายคนคุ้นเคย เธอไม่ได้เก่งแค่เรื่องทำนายดวงชะตา แต่ยังเป็นนางแบบและพิธีกรที่ดูดวงได้เป๊ะมาก มีความเชี่ยวชาญด้านศาสตร์โหงวเฮ้ง มีคาถา และทริคดีๆ ที่ช่วยพลิกชีวิตคนมานักต่อนักไม่ว่าจะเป็นดวงด้านความรัก การงาน การเงิน สุขภาพ ใครอยากรู้เรื่องอนาคต ต้องมาที่เธอคนนี้ ถามอะไรก็ตอบได้ทุกเรื่อง

อันดับที่ 2 หมอส้มมัลนิการ์คนตาทิพย์ ทำนายผ่านการเปิดไพ่ ใช้ Sense หรือฌานเพื่อทำนายดวงชะตา มีจุดเด่นที่การพูดคุยแบบเป็นที่ปรึกษา มักแนะแนวการดำเนินชีวิตซึ่งมีประโยชน์และนำไปใช้ได้จริง ผู้คนที่ชอบสไตล์การนำทางชีวิตต่างหลั่งไหลเข้ามาจองคิวเพื่อขอคิวสำหรับเข้ารับคำปรึกษาผ่านการพยากรณ์อย่างมากมาย และเธอยังได้นับการยอมรับจากสื่อต่างๆ เป็นแขกรับเชิญไปในหลากหลายรายการ อาทิ สินเจริญบราเธอร์ส Midnight Show รายการมูไนท์ รายการสุดจัดปนัดดา รายการผู้หญิงอยากเล่า รายการคำผีบอก และรายการ The Queen ราชินีโต๊ะกลม หากใครชอบสไตล์นี้ ก็ต้องรีบจองคิวกับเธอกันแล้วหล่ะ!

อันดับที่ 1 หมอนก Bird Eye View ทำนายผ่านการเปิดไพ่ยิปซี เธอเป็นหมอดูสาวสวยสุดเซ็กซี่ดีกรีปริญญาโท มีอาชีพหลักเป็น Business Consultant Assistant & Teacher Assistant คนนี้กำลังฮอตเลยทีเดียว เรียกว่ามีผู้ติดตามหลายแสนคนในโซเชียลมีเดีย นอกจากหมอนกจะดูไพ่ยิปซีได้แม่นโดนใจวัยรุ่นสุดๆ แล้ว เธอยังเป็นไอดอลทางแฟชั่นและความคิดให้ใครหลายๆ คน ยิ่งการเป็นที่ปรึกษาเรื่องความรักนะ ดีสุดๆ

รู้แบบนี้แล้ว ก็ไม่ต้องดั้นด้นไปหาหมอดูอื่นที่ไหนไกล ไม่ต้องรอคิวนานอีกต่อไป เพราะแค่แอด LINE ดูดวง ก็ใช้บริการตรวจดวงชะตาจากหมอดูแม่นๆ ได้ทันที เพียงเข้าไปกดเลือกหมอดูที่ชอบ จองเวลาที่สะดวกไว้ล่วงหน้า ชำระเงิน และเมื่อถึงเวลานัด ก็คุยกันผ่านการพิมพ์แชท หรือ LIVE VDO Call ครบ จบ ในที่เดียว และไม่เพียงแค่การดูดวงเท่านั้น LINE ดูดวง ส่งมอบเป็นบริการที่ง่าย สะดวก เชื่อถือได้ สอดรับกับวิถีคนไทยยุคใหม่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ทำบุญ 

ดูดวง หรือบริจาค ค้นหา “LINE ดูดวง” ใน LINE Official Account หรือเข้าไปที่ https://lin.ee/sRRTyhU/wwcp เพื่อเพิ่มเพื่อน จากนั้นก็สามารถเลือกใช้บริการต่างๆ ได้ทันที 

ลุค 'คิมจุงฮี' ใน Marry My Husband คือเหตุผลที่ผมของผู้ชายมีความสำคัญ

คนเดียวกันจริงหรือ? ลุค ‘คิมจุงฮี’ ใน Marry My Husband คือเหตุผลที่ผมของผู้ชายมีความสำคัญ

Alternative Textaccount_circle
ลุค 'คิมจุงฮี' ใน Marry My Husband คือเหตุผลที่ผมของผู้ชายมีความสำคัญ
ลุค 'คิมจุงฮี' ใน Marry My Husband คือเหตุผลที่ผมของผู้ชายมีความสำคัญ

คนเดียวกันจริงหรือ? ลุคของ ‘คิมจุงฮี’ นักแสดงจากซีรี่ส์ Marry My Husband กำลังเป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียล โดยล่าสุดชาวเน็ตเกาหลีได้โพสต์กะทู้ในหัวข้อ “เหตุผลที่ว่าทำไมผมของผู้ชายจึงมีความสำคัญ” กลายเป็นกระแสไวรัลอย่างรวดเร็ว ซึ่งในโพสต์ได้อัพโหลดภาพถ่ายหลายภาพของคิมจุงฮี ทั้งภาพตอนที่รับบทในซีรีส์เรื่อง Marry My Husband และภาพชีวิตจริง

โดยบทบาทในซีรีส์เรื่อง Marry My Husband คิมจุงฮีมีลุคเป็นผู้ชายวัยกลางคนที่มีผมบางและค่อนไปทางหัวล้านด้านหน้า พร้อมใบหน้าที่มีริ้วรอยดูมีอายุจริงๆ แต่ที่น่าทึ่งกว่าเมื่อเห็นภาพชีวิตจริงของคิมจุงฮีนั้นดูดี ไม่ได้ดูมีอายุและผมก็ไม่ได้ดูบางเหมือนในซีรีส์ ทำเอาหลายคนเกิดคำถามว่า “นี่คนๆ เดียวกันจริงหรือ?” เพราะลุคปกติในชีวิตของเขาดูหล่อมากเลยทีเดียว หลายคนจึงต่างชื่นชมนักแสดงคนนี้สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งของเขา

  • “ฉันไม่รู้ว่าด้านไหนของเขาที่เป็นของจริง มองกี่ครั้งก็ดูไม่เหมือนคนคนเดียวกัน”
  • “นี่เรื่องจริงเหรอ?”
  • “ฮะ???”
  • “เป็นคนคนเดียวกันได้ยังไง? มันไม่สมเหตุสมผลเลย”
  • “คนไหนคือตัวจริงของเขา”
  • “ทีมเครื่องสำอางสำหรับเส้นผมและผิวหนังน่าทึ่งมาก”
  • “อะไร???”
  • “ฉันคิดว่าเขาเป็นนักแสดงที่ดีใน Moving and Marry My Husband แต่นี่มันบ้าไปแล้ว”
  • “นอกจากเส้นผมแล้ว รอยพับของโพรงจมูกก็หายไปด้วย”
  • “มันสุดยอดจริงๆ”
  • “ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนคนเดียวกัน”

Source: theqoo
Photo: TVN


FENDI MEN’S FALL WINTER 2024

ครบทุกสไตล์… รวมลุคคนดังร่วมชมโชว์ FENDI MEN’S FALL WINTER 2024

account_circle
FENDI MEN’S FALL WINTER 2024
FENDI MEN’S FALL WINTER 2024

จบลงไปแล้วสำหรับ FENDI MEN’S FALL WINTER 2024 SHOW ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2024 ในช่วง Milan Fashion Week งานนี้มีเซเลบริตี้ และอินฟลูเอนเซอร์ที่มาร่วมงานชมโชว์กันอย่างคับคั่ง

ครบทุกสไตล์… รวมลุคคนดังร่วมชมโชว์ FENDI MEN’S FALL WINTER 2024

โดยที่นั่งแถวหน้าประกอบด้วย Lee Min Ho นักแสดงจากประเทศเกาหลีใต้, Kuanghan Hsu ผู้ชนะรางวัลนักแสดงหลากหลายรายการจากประเทศจีน และ FENDI Men’s ambassador, Jeremy Pope นักแสดงชาวอเมริกัน และ FENDI Men’s ambassador ซึ่งกำลังจะมีผลงานการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง “The Collaboration” ในบทบาทของ Micheal Basquiat

Massimiliano Caiazzo FENDI Men’s ambassador และนักแสดงจากซีรีส์ของ Netflix เรื่อง“Mare fuori” (season 4 กำลังจะออกอากาศในเดือนกุมภาพันธ์นี้) James Franco ผู้ชนะรางวัลนักแสดงหลากหลายรายการจากประเทศอเมริกา, Winston Duke นักแสดงชาว Tobagonian-Rwandan ซึ่งจะแสดงในภาพยนตร์ที่จะฉายในปีนี้เรื่อง “The Fall Guy” (ร่วมแสดงโดย Ryan Gosling)

Nicholas Galitzine นักแสดงชาวอังกฤษและ FENDI Men’s amabassador นักแสดงนำในภาพยนตร์และซีรีส์ที่กำลังเป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมากในปีนี้ อย่างเรื่อง “The idea of you“ (ร่วมแสดงโดย Anne Hathaway นักแสดงหญิงผู้ชนะรางวัลออสการ์) และเรื่อง “Mary and George” (ร่วมแสดงโดย Julianne moore นักแสดงหญิงผู้ชนะรางวัลออสการ์), และ Kit Harington นักแสดงสาวชาวอังกฤษจากซีรีส์ของ HBO เรื่อง “Game of Thrones

Ed McVey

ปิดท้ายด้วยลุคของ Ed Mcvey นักแสดงชาวอังกฤษจากซีรีส์ของ Netflix เรื่อง “The Crown” ซึ่งร่วมสร้างประวัติศาสตร์ชื่อเสียงอันโด่งดังทั้งบน HBO และ Netflix


6 เทรนด์สุขภาพ และการออกกำลังกายปี 2024 ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น

6 เทรนด์สุขภาพ และการออกกำลังกายปี 2024 ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น

Alternative Textaccount_circle
6 เทรนด์สุขภาพ และการออกกำลังกายปี 2024 ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น
6 เทรนด์สุขภาพ และการออกกำลังกายปี 2024 ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น

เปิด 6 เทรนด์สุขภาพ และการออกกำลังกายปี 2024 ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น

เมื่อเริ่มต้นปีใหม่แต่ละปี ผู้คนต่างพากันตั้งเป้าหมายเพื่อสุขภาพของตัวเอง หลายคนยังรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เริ่มออกกำลังกายและใช้ชีวิตแบบสุขภาพดี ซึ่งความตื่นเต้นนี้เกิดจากความคาดหวังถึงผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ และการได้ลองใช้อุปกรณ์ แอปพลิเคชัน หรือลองรูปแบบการออกกำลังกายใหม่ๆ โดยปี 2023 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่ได้การกลับมาเข้ายิมอีกครั้ง ทำให้เกิดการสร้างคอมมูนิตี้ของฟิตเนส และเกิดการออกกำลังกายแบบผสมผสานขึ้น เช่น พิลาทิสกับการฝึกความแข็งแกร่ง การออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูง (HIITT) โดยใช้บาร์ และการวิ่งพร้อมฝึกกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว

การออกกำลังกายในปีใหม่นี้จะง่ายขึ้นกว่าที่เคย เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นวัตกรรม และวิทยาศาสตร์การกีฬาที่จะทำให้ปี 2024 นี้เป็นปีที่ยอดเยี่ยมในการมีร่างกายที่แข็งแรงและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ที่สุดในแบบของตัวเอง ซึ่งปีนี้จะมีเทรนด์อะไรที่น่าสนใจบ้าง เราได้รวบรวมมาให้แล้วที่ด้านล่างนี้

อุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกาย (Fitness Tracking)
ปัจจุบันอุปกรณ์ติดตามมีความซับซ้อนมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยที่ช่วยคุณเจาะลึกถึงการเคลื่อนไหว การพักผ่อน ประสิทธิภาพและอัตราการเต้นของหัวใจ รวมไปถึงด้านอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งมาพร้อมกับการใช้งานที่เข้าใจง่าย สามารถสวมใส่ได้สะดวก มีให้เลือกหลากหลายแบบ ทั้งนาฬิกา แหวน และแอปที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจพฤติกรรมการใช้ชีวิตของตัวเอง และถึงแม้ว่าอัลกอริธึมจะไม่ได้แม่นยำสมบูรณ์แบบ 100% แต่กลับพบว่าคนที่ใช้อุปกรณ์มีความรับผิดชอบและออกกำลังกายมากกว่าคนที่ไม่ได้ใช้ อย่างไรก็ตามแม้ว่าตลาดอุปกรณ์พวกนี้จะมีการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ทำให้เรามีตัวเลือกในหลายระดับราคา และเหมาะกับทุกระดับการออกกำลังกาย ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงมืออาชีพ ทำให้อุปกรณ์เหล่านี้เป็นซัพพอร์ตที่ดี และยังคงเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่น่าสนใจในปีนี้

พิลาทิส
แม้พิลาทิสจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ยังคงเป็นการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมของหลายๆ คน ซึ่งพิลาทิสมีต้นกำเนิดในช่วงปี 1920 และถือว่ามีประสิทธิภาพมากจนกลายเป็นเทรนด์ที่ยังอยู่เป็นแนวหน้าของโลกแห่งฟิตเนส ด้วยความยาวนานและความนิยมของพิลาทิส ทำให้ได้รับการขนานนามว่าเป็นตัวช่วยเสริมความมั่นใจให้ร่างกาย และความมั่นคงของกล้ามเนื้อโดยปราศจากแรงกระแทก ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรายังได้เห็นการผสมผสานความสนุกระหว่างการชกมวยและพิลาทิส (Piloxing) เวทเทรนนิ่งกับพิลาทิส รวมถึงคลาสผสมที่ใช้ทั้งเสื่อและเครื่องออกกำลังกาย reformer เพื่อให้คุณได้ฝึกฝนและเพลิดเพลินไปกับประโยชน์ของพิลาทิสได้จากที่บ้านผ่านชั้นเรียนออนไลน์หรือเข้าร่วมกับเพื่อนๆ ที่สตูดิโอใกล้บ้าน

ร่วมเปิดประสบการณ์การวิ่ง
การวิ่งเป็นวิธีการออกกำลังกายที่ดีสำหรับสร้างสมรรถภาพหัวใจ หลอดเลือด ความทนทานของกล้ามเนื้อ และความแข็งแรง รวมทั้งการวิ่งยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพจิตมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านอารมณ์ การวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่ทำได้ง่าย เพราะสิ่งที่จำเป็นมีแค่รองเท้าดีๆ สักคู่กับความกระตือรือร้นที่จะลุกออกไปวิ่ง หรือหากใครชอบเดินก็สามารถทำได้ เพราะการเดินให้ประโยชน์ที่น่าทึ่งพอๆ กับการวิ่ง

การเป็นส่วนหนึ่งของคอมมูนิตี้
ในสภาพแวดล้อมหลังการแพร่ระบาดของโรค การออกกำลังกายเป็นกลุ่มยังคงได้รับความนิยมสูง เนื่องจากคนมักสนใจคลาสเรียนแบบพบปะเห็นหน้ากัน เช่น ปั่นจักรยาน เต้นรำ และบูทแคมป์ การตั้งคอมมูนิตี้ฟิตเนสช่วยสร้างความรับผิดชอบ แรงจูงใจและการสนับสนุนให้ผู้คนทำตามแผนการออกกำลังกายที่วางไว้ โดยสไตล์การออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมจากการประชุมฟิตเนสในปีนี้ ได้แก่ HIIT, การฝึกกล้ามเนื้อลำตัว, สเต็ปแอโรบิก และการออกกำลังกายด้วยยางยืด

ใช้ AI เพื่อความต้องการเฉพาะของแต่ละคน
ประสบการณ์การออกกำลังกายแบบเฉพาะคนจะเป็นเทรนด์สำคัญต่อเนื่องไปอีกหลายปี เมื่อเราใช้งานอุปกรณ์ติดตามร่วมกับ AI จะเป็นการปฏิวัติโปรแกรมการออกกำลังกายแบบใหม่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละคนบนเส้นทางสุขภาพที่เลือกได้เอง พร้อมช่วยนำทางไปสู่เป้าหมายที่เหมาะสมในแบบของตนเอง ซึ่งปัจจุบัน AI กำลังได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และจะสามารถแนะนำผู้ใช้ผ่านกิจวัตรประจำวันต่างๆ ได้อย่างชัดเจนมากขึ้น

ใช้แนวทางแบบองค์รวมและกำหนดเป้าหมาย
คนส่วนใหญ่เริ่มมองเห็นภาพกว้างของการมีสุขภาพที่ดีมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน และเข้าใจว่าการออกกำลังกายเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งที่จะช่วยพาไปสู่การมีสุขภาพดี โดยแนวทางแบบองค์รวมที่ว่าหมายรวมถึงนิสัยด้านโภชนาการที่ดี การมีไลฟ์สไตล์ที่เหมาะสม การลดความเครียด และนิสัยการนอนหลับที่ดี ซึ่งปัจจุบันความคิดที่ว่า “เราไม่สามารถมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ ถ้ายังกินอาหารไม่ดี ต่อให้ออกกำลังกายก็ตาม” กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น และนอกจากแนวทางแบบรอบด้านแล้ว ยังมีโปรแกรมที่เน้นไปยังกลุ่มคนที่มีความต้องการพิเศษ เช่น การป้องกันโรคเบาหวาน การดูแลหลังการตั้งครรภ์ การชะลอวัย หรือการออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูกำลังก็ต่างเป็นที่นิยม เนื่องจากผู้คนต้องการอะไรที่เฉพาะเจาะจงและไม่อยากเสียเวลามากขึ้น ทำให้อุตสาหกรรมนี้เกิดการนำเสนอโซลูชั่นใหม่ๆ ที่น่าสนใจ

ปี 2024 นี้ มาร่วมขยับร่างกายเพื่อสุขภาพที่ดี และเปิดรับวิถีชีวิตใหม่ที่ดีต่อร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ให้ปีนี้เป็นปีแห่งการให้ความสำคัญกับสุขภาพ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้ดีที่สุดในแบบที่ต้องการกัน

Photo: Pexels
Source: ซาแมนธา เคลย์ตัน รองประธานฝ่ายสมรรถภาพการกีฬาและฟิตเนสระดับโลกของเฮอร์บาไลฟ์


ได้ถือก่อนใคร! ซูมอินกระเป๋าราเฟีย YSL ใบยักษ์ของ เตนล์ ชิตพล

Alternative Textaccount_circle

เมื่อมีเวลาว่างจากการซ้อมก็เปิดโหมดพ่อค้า! เตนล์ ชิตพล กับกระเป๋าราเฟียยักษ์ใบใหม่จาก Saint Laurent

Saint Laurent เขาเลือกคนไม่ผิดจริงๆ ที่ให้ ‘เตนล์ ชิตพล’ เป็นหนึ่งในตัวแทนโปรโมทไอเท็มต่างๆ ของแบรนด์ เพราะล่าสุดเมื่อว่างจากการซ้อมเมื่อไหร่ก็ไม่วายใจเปิดโหมดพ่อค้าทันที โพสต์รูป Outfit of the day ที่โชว์กระเป๋าใบยักษ์ชวนเตะตาให้ได้ตามหา ซึ่งกระเป๋าใบนี้คาดว่าคงเป็นใบใหม่ที่ YSL เตรียมจะปล่อยในไม่ช้า เพราะจากการค้นหาข้อมูลกลับไม่มีกระเป๋าใบนี้อยู่เลย มีเพียง saint laurent men’s black 5 a’ 7 supple in rafia ที่รูปทรงคล้ายๆ กันและวางขายอยู่บนเว็บไซต์มือสองเท่านั้น

saint laurent men’s black 5 a’ 7 supple in rafia

ดังนั้นจึงคาดว่ากระเป๋าที่เตนล์สะพายอาจอยู่ในคอลเล็คชั่นใหม่ที่กำลังจะวางขายถัดไปแน่นอน สำหรับดีเทลของ ‘กระเป๋าราเฟีย’ เป็นวัสดุธรรมชาติที่มาจากใบแห้งของปาล์มชนิดหนึ่ง ซึ่งมีอยู่ในแถบแอฟริกา-มาดากัสก้า โดยวิธีการทำจะนำเส้นใยมาสานเป็นรูปทรงกระเป๋าให้ความทนทานเหนือความคาดหมาย ทั้งนี้ยังเพิ่มความหรูหราไว้กับสายหนังปิดกระเป๋าประดับจี้ YSL ในส่วนของราคาคงต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการก่อน แล้วเหล่า 10vely ทั้งหลายค่อยตามไปเหมากันนะคะ


รูปภาพ: Instagram @tenlee_1001

มิลานสะเทือน! เมื่อ คาริน่า aespa เยือนแฟชั่นโชว์ PRADA Men’s FW24

Alternative Textaccount_circle

สร้างปรากฏการณ์มิลานแตกตั้งแต่ครั้งแรกที่ไป! เมื่อ คาริน่า aespa ได้รับเชิญให้ไปชมแฟชั่นโชว์ Menswear Fall/Winter 2024 ของ PRADA

สำหรับวินาทีนี้ไม่สามารถหยุดความปังไว้ได้อีกแล้วกับหนึ่งสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปจาก aespa อย่าง คาริน่า ที่ล่าสุดได้รับเชิญจาก Prada ให้เข้าร่วมชมแฟชั่นโชว์ Menswear Fall/Winter 2024 ที่ Milan Fashion Week ซึ่งเป็นกระแสตั้งแต่ Airport Look ที่มีไอเท็มสีฟ้าสดใสสร้างความโดดเด่น

ก่อนประชันหน้าเข้ากับความดังอย่างจังเมื่อถึงมิลาน เพราะขณะที่เธอกำลังเดินเล่นและเยี่ยมชมช็อป Prada ก็มีแฟนคลับมากมายมารอต้อนรับเธอ จนทำให้ผู้คนรอบข้างต่างสงสัยว่าผู้หญิงคนดังกล่าวเป็นใคร และนี่ก็เป็นหนึ่งเหตุการณ์ที่ยืนยันว่า คาริน่า ฟีเวอร์สุดๆ ในต่างแดน

จนมาถึงวันอีเวนต์ทันทีที่เธอปรากฏตัวในเดรสสีขาว แม้จะไม่ใข่ GBA ของ PRADA แต่เธอกลับทรงอิทธิพลไม่น้อย เพราะไม่ว่าสำนักข่าวไหนก็ต่างลงข่าวเธอไม่น้อยเลยทีเดียว เรียกได้ว่าออร่าของเธอพร้อมส่องสว่างให้ผู้คนจับจ้องอยู่เสมอ ทั้งนี้ วิน เมธวิน ตัวแทนแบรนด์แอมบาสเดอร์จากประเทศไทยยังมีรูปคู่กับเธอมาฝากเหล่าแฟนคลับอีกด้วย เป็นหนึ่งโมเมนต์ที่หลายคนยกให้เป็นเฟรมพระเจ้าเลยทีเดียว

การดื่มน้ำ ทริคที่เหล่าคนดังมักแนะนำ ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มฟูได้จริงหรือไม่?

การดื่มน้ำ ทริคที่เหล่าคนดังมักแนะนำ ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มฟูได้จริงหรือไม่?

Alternative Textaccount_circle
การดื่มน้ำ ทริคที่เหล่าคนดังมักแนะนำ ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มฟูได้จริงหรือไม่?
การดื่มน้ำ ทริคที่เหล่าคนดังมักแนะนำ ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มฟูได้จริงหรือไม่?

เมื่อเอ่ยถึงการมีผิวสวยสุขภาพดีดูเปล่งปลั่ง เหล่าคนดัง นางแบบ และผู้มีอิทธิพลในวงการบันเทิงส่วนใหญ่เกือบทุกคนมักจะมีคำแนะนำเดียวกันเสมอ นั่นคือ ดื่มน้ำเยอะๆ จิบน้ำบ่อยๆ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพพูดเสมอว่าการดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอเป็นก้าวแรกในการรักษาผิวพรรณเนียนนุ่มชุ่มชื้น เนื่องจากน้ำช่วยรักษาอุณหภูมิในร่างกาย ช่วยในการหล่อลื่นของข้อต่อ และที่สำคัญเซลล์ร่างกายของเราพึ่งพาน้ำเพื่อการทำงานภายในระบบไหลเวียนโลหิต ระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร และระบบประสาท ซึ่งนักโภชนาการ Kimberly Snyder ซึ่งทำงานร่วมกับ A-listers เช่น Reese Witherspoon และ Kerry Washington ได้กล่าวเมื่อไม่นานมานี้

จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าการดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรักษาสุขภาพที่ดี แต่การดื่มน้ำเยอะๆ จะสามารถทำให้ผิวกระจ่างใสได้จริงหรือไม่? และถ้าเป็นเช่นนั้น คุณต้องดื่มน้ำมากแค่ไหนผิวถึงจะเปล่งปลั่งกระจ่างใสได้? มาหาคำตอบกัน

เติมความชุ่มชื้นเพื่อสุขภาพ
หลายคนมักกล่าวกันว่า น้ำคือชีวิต และแท้จริงแล้ว เราคงดำรงอยู่ไม่ได้หากไม่มีน้ำ เพราะน้ำไม่เพียงแต่สร้างปริมาตรส่วนใหญ่ในร่างกายของเราเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นส่งสารอาหารที่จำเป็นไปยังเซลล์ของเรา และกำจัดสารพิษและของเสียที่เป็นอันตราย นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายของเรารักษาอุณหภูมิให้เป็นปกติ หล่อลื่นข้อต่อ และปกป้องเนื้อเยื่อที่บอบบางและอวัยวะสำคัญของเรา “การมีน้ำเพียงพอจะสนับสนุนสุขภาพโดยรวมของร่างกายและความสามารถในการทำงาน แน่นอนว่าสุขภาพโดยรวมของร่างกายยังรวมถึงสุขภาพของอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของเราด้วย นั่นก็คือผิวหนัง ซึ่งผิวหนังเป็นภาพสะท้อนของสิ่งที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย ดังนั้น เมื่อร่างกายอยู่ในภาวะสมดุลและมีสุขภาพที่ดี ผิวหนังก็จะสะท้อนถึงสิ่งนั้น” Dr. Deanne Mraz กล่าว

สัญญาณบ่งบอกถึงภาวะขาดน้ำ
เนื่องจากการมีน้ำเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญมาก ร่างกายของเราจึงเป็นผู้เชี่ยวชาญที่จะแจ้งให้เราทราบเมื่อเราต้องดื่มน้ำ นอกจากจะรู้สึกกระหายน้ำแล้ว คุณยังอาจเวียนศีรษะ พลังงานต่ำ ไร้เรี่ยวแรง หรือแม้แต่รู้สึกหดหู่อย่างไม่คาดคิด ในทำนองเดียวกัน สัญญาณของผิวขาดน้ำก็ค่อนข้างชัดเจนเช่นกัน คุณอาจเห็นว่าผิวแห้งกร้าน ลอกเป็นขุย หรือรู้สึกผิวตึง คันระคายเคือง ใบหน้าดูไม่สดใสและอ่อนเยาว์เท่าที่ต้องการ “ผิวที่ขาดน้ำอาจดูหมองคล้ำ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดริ้วรอย และรอยคล้ำที่เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น ดังนั้น เมื่อผิวหนังขาดน้ำ อาจทำให้สัญญาณแห่งวัยดูแย่ลงได้ หากคุณไม่แน่ใจว่าผิวขาดน้ำหรือไม่ ลองหยิกแก้มส่วนเล็กๆ ของตัวเอง หากผิวไม่เด้งกลับเร็วหรือมีริ้วรอยได้ง่าย ก็อาจขาดน้ำได้”

และใดๆ ก็ตามการดื่มน้ำไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้ผิวอวบอิ่มและชุ่มชื้นได้ จึงควรใช้วิธีการที่หลากหลายเพื่อให้ได้ผิวที่มีความชุ่มชื้นเพียงพอ ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองจึงแนะนำให้มุ่งเน้นไปที่พื้นฐานด้านสุขภาพ เช่น โภชนาการที่ดี สุขอนามัยในการนอนหลับ และการบริโภคน้ำ รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและกักเก็บเอาไว้ “การกินอาหารที่สมดุลและปฏิบัติตามวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีร่วมกัน รวมถึงการปฏิบัติตามกิจวัตรการดูแลผิวที่ดีจะช่วยให้ความชุ่มชื้นและปกป้องจากความเครียดในแต่ละวัน เช่น ความเสียหายจากรังสียูวี” Dr. Marisa Garshick กล่าว

นอกจากนี้ทาง Dr. Deanne Mraz อธิบายอีกว่า เมื่อพูดถึงเรื่องการดื่มน้ำอย่างเหมาะสมเพื่อสุขภาพผิวที่ดี หลักการง่ายๆ ก็คือ “ตั้งเป้าให้น้ำหนักตัวครึ่งหนึ่งมีหน่วยเป็นน้ำหนึ่งออนซ์” ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงหนัก 140 ปอนด์ (ประมาณ 63 กิโลกรัม) ควรตั้งเป้าดื่มน้ำ 70 ออนซ์ (ประมาณ 2,070 มิลลิลิตร) และวิธีที่ดีในการเพิ่มความชุ่มชื้นเพิ่มเติมคือสามารถเพิ่มอาหารที่ให้ความชุ่มชื้น เช่น ผักและผลไม้สดได้ ซึ่งทางที่ดีควรดื่มให้เพียงพอเพื่อที่จะได้ไม่รู้สึกขาดน้ำ

และอย่าลืมกินสารอาหารที่จำเป็นให้ครบถ้วนด้วย “การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและไขมันที่ดีต่อสุขภาพจะช่วยให้ผิวพรรณมีสุขภาพดีและเปล่งประกาย นั่นหมายถึงการได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปริมาณมาก สิ่งนี้จะสนับสนุนเกราะป้องกันผิวหนังที่แข็งแรง ซึ่งเป็นชั้นนอกสุดของผิวและมีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับความชุ่มชื้นของผิวหนัง การกินปลาที่มีน้ำมัน เช่น ปลาแซลมอน แมคเคอเรล ปลาซาร์ดีนและแฮร์ริ่ง ก็เป็นอีกวิธีที่ดี” Dr. Marisa Garshick เสริม

และเพื่อเสริมกิจวัตรด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองคนแนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมเช่น กรดไฮยาลูโรนิก กรดแลคติก กรดยูเรีย เซราไมด์ กลีเซอรีน และเปปไทด์ ซึ่งทราบกันว่าให้ความชุ่มชื้นและปกป้องผิว โดยทั่วไป วิธีที่ดีที่สุดในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวคือ การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณสามารถให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้โดยการมองหาสารฮิวเมกแทนต์ ซึ่งเป็นส่วนผสม เช่น กรดไฮยาลูโรนิกและกลีเซอรีน ที่ช่วยดึงความชื้นเข้าสู่ผิว

นอกจากสารให้ความชุ่มชื้นแล้ว ควรมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีสารทำให้ผิวนุ่มนวล เช่น เชียบัตเตอร์ ลาโนลิน และสควาเลน และการขัดผิวก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน “การขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วจะช่วยเพิ่มการดูดซึมดีขึ้น ลองนึกถึงเรตินอลและ AHA ส่วนผสมจะออกฤทธิ์ทำงานได้ดีที่สุดเมื่อผิวได้รับการสครับผิวเป็นประจำ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ และอย่าลืมคำนึงถึงสภาพแวดล้อม อากาศแห้งที่มากเกินไปอาจทำให้ผิวหนังขาดความชุ่มชื้นตามธรรมชาติได้ ในช่วงฤดูหนาว แนะนำให้ลองใช้เครื่องทำความชื้นในห้องนอนเวลากลางคืน และในห้องใดก็ตามที่ใช้เวลาอยู่เป็นส่วนใหญ่”

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ หากดื่มน้ำไม่เพียงพอ คุณจะเห็นผลลัพธ์บนใบหน้าอย่างแน่นอน ใช้สิ่งนั้นเป็นเครื่องเตือนใจให้ดื่มหรือจิบน้ำบ่อยๆ ระหว่างวัน ผิวจะสะท้อนถึงสุขภาพโดยรวม และน้ำก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความเป็นอยู่ที่ดี และพบว่าการดื่มน้ำมากขึ้น อาจช่วยปรับปรุงลักษณะผิวของผู้ที่ดื่มไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม “ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะชี้ให้เห็นว่าการดื่มน้ำเกินระดับหนึ่ง เพื่อรักษาระดับความชุ่มชื้นที่เพียงพอจะต้องสร้างความแตกต่างต่อสุขภาพผิว”

Photo: Pexels


ไม่ใช่แค่กระดกให้หมดแก้ว แชร์ 4 ข้อผิดพลาด วิธีดื่มน้ำ ที่ทำให้ เสียสุขภาพ

(Jason Statham)

คุยกับ เจสัน สเตแธม (Jason Statham) แอ็กชันตัวพ่อ ระดับบล็อกบัสเตอร์

Alternative Textaccount_circle
(Jason Statham)
(Jason Statham)

นิ่งๆเงียบๆแต่ฆ่าเรียบทุกบทบาท!สัมภาษณ์นักแสดงแอ็กชันตัวพ่อ เจสัน สเตแธม (Jason Statham)

นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก เจสัน สเตแธม นักแสดงแอ็กชันสตาร์ตัวพ่อที่เคยฝากผลงานมาแล้วมากมายไม่ว่าจะเป็นหนังมาดเท่ที่มีสไตล์อย่าง Snatch, Transporter, The Italian Job หรือหนังแอ็กชันฉลามยักษ์ชื่อดังอย่าง The Meg รวมถึงหนังแอ็กชันแฟรนไชส์ฟอร์มยักษ์อย่าง The Expendables, Fast & Furious เรียกได้ว่าเป็นนักแสดงชายที่ฆ่ามาแล้วมากมายจนนับไม่ถ้วน เจสันถือเป็นนักแสดงหนุ่มมาดนิ่งที่มีสไตล์การต่อสู้ ที่เปลี่ยนไปตามบทบาทในแต่ละเรื่องที่ได้รับ ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะเป็นนักแสดงแถวหน้าที่มีผู้กำกับ และทีมเบื้องหลังอยากร่วมงานด้วยมากที่สุด รวมถึงในผลงานแอ็กชันบล็อกบัสเตอร์เรื่องล่าสุดอย่าง “The Beekeeper นรกเรียกพ่อ” เขาจึงถือเป็นตัวเลือกเดียวที่ เคิร์ต วิมเมอร์ (Law Abiding Citizen, Equilibrium) ผู้เขียนบทได้วางไว้ให้มารับบทเป็น อดัม เคลย์

The Beekeeper ภาพยนตร์แอ็กชันไล่ล่าทะลวงเดือด ซึ่งรับบทนำโดย เจสัน สเตแธม ครั้งนี้เขากลับมาพร้อมผลงานสุดระห่ำอีกครั้งกับการลุยเดี่ยวถล่มองค์กรนรก กับเล่าเรื่องราวของ อดัม เคลย์ (เจสัน สเตแธม) ชายที่อาศัยอยู่ในโรงนาของหญิงชรา (ฟีลีเซีย ราชาด จาก The Cosby Show) เขาเป็นคนเลี้ยงผึ้ง ที่ทิ้งอดีตตัวเองไว้ข้างหลัง แต่เมื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงินของหญิงชราที่เขารักและเคารพไปจนเกลี้ยง เคลย์ต้องกลับสู่ความระห่ำอีกครั้ง จากอดีตเจ้าหน้าที่มือพระกาฬขององค์กรลับ สู่ปฏิบัติการล้างบางแก๊งคอลเซ็นเตอร์โคตรชั่วให้สิ้นซาก

และวันนี้ก่อนที่ทุกคนจะพบกับความมันส์ทะลุจอในภาพยนตร์แอ็กชันที่ทุกคนไม่ควรพลาดอย่าง  The Beekeeper  เรามีบทสัมภาษณ์ของ เจสัน สเตแธม นักแสดงแอ็กชันตัวพ่อที่ทุกคนชื่นชอบมาเรียกน้ำย่อยกันก่อน

(Jason Statham)

บทบาทและคาแร็กเตอร์ใน The Beekeeper

เจสัน:    ในเรื่องผมรับบท อดัม เคลย์ อดีตเจ้าหน้าที่โค้ดเนม บีคีปเปอร์ ที่เกษียณตัวเองมาใช้ชีวิตสันโดษ เขาเป็นคนมุ่งมั่น เน้นทำมากกว่าพูด เขาใส่แต่ชุดเลี้ยงผึ้ง มันทั้งเก่า ทั้งเปื้อน มีแต่รอยปะเต็มไปหมด เคลย์หาเลี้ยงชีพด้วยการสกัดน้ำผึ้ง เขารักผึ้งไม่ต่างกับคนในครอบครัว เคลย์เป็นคนมีฝีมือ เขาคือสุดยอดทหาร เขาปกป้องคนที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ เขาเป็นคนเลี้ยงผึ้งที่มีหน้าที่ปรับสมดุล เขาอยู่ในเงาเหมือนไม่มีตัวตน จะโผล่มาก็ต่อเมื่อมีปัญหาใหญ่ต้องจัดการเท่านั้น

เรื่องราวของภาพยนตร์

เจสัน:     เขาพักอยู่ในสวนของคุณป้าคนหนึ่งซึ่งพวกเขาผูกพันกันมาก เธอเหมือนเป็นแม่ที่เขาไม่เคยมี เราไม่รู้อดีตของเขาเท่าไหร่ รู้เพียงว่าเขาโตมาตามลำลัง คุณป้าคนนี้สำคัญกับเขา เมื่อเธอกลายเป็นเหยื่อของแก๊งต้มตุ๋น หรือพวกคอลเซ็นเตอร์ เขาจึงตัดสินล้างแค้น และทำทุกอย่างเพื่อลากไส้พวกคนชั่วทั้งหมด เขาไล่ตั้งแต่ระดับพวกปฏิบัติการจนถึงคนสั่งการแบบถอนรากถอนโคนเลยทีเดียว

ความน่าสนใจของภาพยนตร์

เจสัน:     การเป็นคนเลี้ยงผึ้งมันสอดคล้องกับโค้ดเนมเก่าของเขา เราจะได้รู้ถึงที่มาของโค้ดเนมบีคีปเปอร์ ว่ามันเป็นโปรแกรมพิเศษของรัฐบาล ตัวหนังจะมีฉากแอ็กชันที่ทวีความตื่นเต้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดสูงสุดที่จะทิ้งให้คุณอ้าปากค้าง มันยังมีการปูจักรวาล โลกใต้ดินขององค์กร Beekeeper ถ้าหนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ  จนเรามีโอกาสสร้างภาคต่อ เรายังมีโลกทั้งใบที่รอจะดําดิ่งลงไปได้

พูดถึงการทำงานร่วมกับผู้กำกับอย่าง เดวิด เอเยอร์

เจสัน:     เอเยอร์และผมทำงานเข้าขากันได้ดีมาก ตอนนี้พวกเรากำลังจะเริ่มโปรเจกต์หนังเรื่องใหม่อีกเรื่อง เราคุยกันว่าเราอยากทำงานด้วยกันอีกครั้ง หลายคนไม่รู้ว่าเขาเป็นมือเขียนบทที่มากฝีมือ เขาเขียนตัวละครที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา  และ เดวิด เองก็เป็นนักเขียนที่มีออสการ์การันตี เราปรับแก้บทและรีไรต์หลายรอบ จนเราได้บทที่สมบูรณ์ในมือพร้อมเป็นพื้นฐานให้โครงสร้างทั้งหมด

ความรู้สึกของคุณที่ได้มาอยู่ในจุดนี้

เจสัน:    การอยู่ในวงการภาพยนตร์ มีหลายช่วงเวลาที่คุณรู้สึกเหมือนฝันไปจนต้องคอยหยิก ถ้ามองกลับไปตรงที่ผมเริ่มต้น ผมยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่าผมมาอยู่ตรงจุดนี้ได้ยังไง ผมหยิกตัวเองจนแขนช้ำหมดแล้วเนี่ย มันไม่ใช่เส้นทางที่ผมวาดฝันไว้ เหมือนสัญชาตญาณนำพาผมไปมากกว่า อุตสาหกรรมนี้มันพร้อมจะพาคุณไปได้หมดนั่นแหละ ผมชอบออกกำลังมาตั้งแต่เด็กๆ ผมใช้พลังพัฒนาทักษะการต่อสู้ ทักษะกายกรรมทั้งหลาย ซึ่งผมใช้มันมาประยุกต์กับศาสตร์แอ็กชัน

พูดถึงภาพยนตร์แอ็กชันในมุมมองของคุณ

เจสัน:     บ่อยครั้งที่หนังแอ็กชันถูกมองว่าไร้สาระในแง่คุณภาพ แต่ทั่วโลกผู้คนชอบภาพยนตร์แอ็กชัน ยิ่งผมเดินทางมากเท่าไร ผมยิ่งได้พบกับผู้คนที่ชอบผลงานของผม ขณะที่ในงานประกาศรางวัล ภาพยนตร์แอ็กชันแทบไม่มีใครพูดถึง แต่ผมไม่ได้ผูกใจเจ็บหรอกสำหรับผมอาชีพผมไปได้สวย

น้อยคนนักจะรู้ว่า คุณเป็นผู้รณรงค์ให้เวทีออสการ์เพิ่มสาขาพิเศษให้คนเสี่ยงชีวิตทำงานสตั๊นต์

เจสัน:     ผมเป็นแฟน เจมส์ บอนด์ ตั้งแต่เด็ก เพราะมันเต็มไปด้วยฉากแอ็กชันตระการตา ขับรถไล่ล่า ซิ่งสกีลงเขา กระโดดร่มชูชีพ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นงานสตั๊นต์ มันคือความท้าทายทางกายภาพที่ต้องใช้เวลาหลายปีเพื่อฝึกฝน พวกเขาเสี่ยงอันตรายอย่างมากเพื่อความสนุกของภาพยนตร์ ผมคิดว่าการที่ไม่มีรางวัลอะไรเพื่อยกย่องวีรกรรมของพวกเขาเลย เป็นการมองข้ามครั้งร้ายแรงแบบไม่น่าให้อภัย

ฝากผลงานเรื่องใหม่ The Beekeeper

เจสัน:     ผมแทบรอไม่ไหวที่จะให้คนได้ชมกัน The Beekeeper เป็นภาพยนตร์ที่มีประเด็นที่ลึกซึ้งแถมยังเท่มาก มีหัวใจและยังน่าตื่นเต้น มันเป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยม ยังไม่เคยมีใครเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ผมภูมิใจมากที่ได้มีส่วนในภาพยนตร์นี้ ในมุมของผมภาพยนตร์ก็เหมือนกับดนตรี บางคนชอบเพลงคันทรี บางคนชอบเฮฟวีเมทัล ส่วนผมชอบแอ็กชันที่ค่อนข้างจริงจัง และสมจริง เอาเป็นว่า ในภาพยนตร์เรื่องนี้เอาความสมจริงอัดเข้าไปในโลกแสนบ้าครั้งที่เป็นฉากหลังของเรื่อง

ระยิบระยับ เหล่าคนดังสวมจิวเวลรี่สุดหรูจาก TIFFANY &CO. ในงาน Critics Choice Awards

account_circle

ประกาศผลรางวัลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับงาน Critics Choice Awards 2024 (รางวัลภาพยนตร์) โดยปีนี้มีเหล่าเซเลบริตี้ และคนดังไปร่วมงานกันคับคั่งอีกเช่นเคย

นอกจากผลผู้ชนะในสาขาต่างๆ ที่หลายคนลุ้นกันแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญคือ คอสตูมของคนดังที่เดินทางมาร่วมเดินพรมแดง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจิวเวลรี่สุดระยิบยับที่เสริมให้ลุคของเขาและเธอดูโดดเด่นยิ่งขึ้น

ระยิบระยับ เหล่าคนดังสวมจิวเวลรี่สุดหรูจาก TIFFANY &CO. ในงาน Critics Choice Awards

แพรวจึงขอพาชมจิวเวอรี่สุดหรูที่เหล่าเซเลบริตี้ระดับโลกเลือกใส่จากแบรนด์ TIFFANY &CO. เครื่องประดับชิ้นสำคัญ ที่พร้อมเฉิดฉายในงานประกาศผลรางวัล Critics Choice Awards ครั้งที่ 29 ซึ่งจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ที่ซานตาโมนิก้า, แคลิฟอร์เนีย เริ่มต้นที่นักร้องชื่อดังอย่าง Dua Lipa สวมใส่ต่างหูและแหวน Jean Schlumberger by Tiffany 

นักแสดงสาว Emily Blunt สวมใส่ต่างหู Jean Schlumberger by Tiffany, กำไลข้อมือ Bracelet in platinum and 18k yellow gold with unenhanced Umba sapphires, opals and diamonds และแหวน Ring in platinum and 18k yellow gold with diamonds

สำหรับ Greta Lee สวมใส่เครื่องประดับชิ้นสำคัญเป็นต่างหู Earrings in 18k white gold with diamonds และแหวน Ring with pavé diamonds in platinum

ขณะที่ นักแสดงสาว Carey Mulligan สวมใส่ Tiffany & Co. Archives earrings และแหวน Ring in platinum with diamonds

ด้านหนุ่มๆ ก็ไม่น้อยหน้า เริ่มกันที่นักแสดงหนุ่มชื่อดัง John Krasinski สวมใส่เข็มกลัด Jean Schlumberger by Tiffany brooch ส่วมนาฬิกา Atlas® 2-Hand 37.5 mm watch ปกสูทติดเข็มกลัด Tiffany 1837® Makers cuff links

ปิดท้ายด้วย Jeremy Allen White สวมใส่เข็มกลัด Elsa Peretti® brooch และกำไล Tiffany Lock bangle


เจนธิรา อรรถสกุลชัย เจ้าของ ‘ชุดไทยศิวาลัย’ หนึ่งเดียวในงานอภิเษกสมรสเจ้าชายมาทีน

Alternative Textaccount_circle

เปิด ชุดไทยศิวาลัย หนึ่งเดียวในงานอภิเษกสมรสเจ้าชายมาทีนและพระชายาแห่งบรูไนของ เจนธิรา อรรถสกุลชัย ที่ใช้เวลารังสรรค์ถึง 200 ชั่วโมง

นาทีนี้ไม่มีงานแต่งงานไหนที่ถูกจับตามองเท่ากับ งานอภิเษกสมรสของเจ้าชายมาทีนและพระชายา ‘อนิชา’ ที่เมื่อเราได้เห็นก็ต้องยอมรับว่าทั้งคู่เป็นคู่สร้างคู่สมกันจริงๆ แน่นอนว่าภายในงานต้องคับคั่งไปด้วยแขก VIP หนึ่งในนั้นคือคุณเจนธิรา อรรถสกุลชัย ทายาทนมเปรี้ยวบีทาเก้น และมีศักดิ์เป็นถึงพี่สะใภ้ฝั่งเจ้าสาว

โดยเธอได้เลือกสวม ‘ชุดไทยศิวาลัยประยุกต์’ และอาจเป็นชุดเดียวที่ปรากฏภายในงานทำให้ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องเหลียวหลังเพราะชุดดังกล่าวมาจากแบรนด์ GLAM GOLD LABEL ตัดเย็บมาจากผ้าไหมยกดอก ประเภทยกใหญ่ สีดำ-ทอง จากจังหวัดลำพูน ซึ่งตกแต่งด้วยลูกปัดที่ทองที่นำมาปักเป็นดอกลายพิกุล นับรวมแล้วทั้งผืนมี 560 ดอก และใช้เวลาปักนานถึง 200 ชั่วโมง เพื่อให้ได้ชุดไทยที่โดดเด่นท่ามกลางความหลากหลายของวัฒนธรรม อีกทั้งยังถือกระเป๋าย่านลิเภาจากจังหวัด นครศรีธรรมราชอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งงานสำคัญที่ประเทศไทยเราก็ได้เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไปด้วย

คนดัง ย้อนเรื่องเล่าวัยเรียน เปิดหัวใจขอบคุณครูผู้ให้

คนดัง ย้อนเรื่องเล่าวัยเรียน เปิดหัวใจขอบคุณครูผู้ให้

Alternative Textaccount_circle
คนดัง ย้อนเรื่องเล่าวัยเรียน เปิดหัวใจขอบคุณครูผู้ให้
คนดัง ย้อนเรื่องเล่าวัยเรียน เปิดหัวใจขอบคุณครูผู้ให้

16 มกราคม ของทุกปี ถูกกำหนดเป็นวันครูแห่งชาติ ให้ทุกคนได้ระลึกถึงพระคุณของครูผู้สร้างวิชาความรู้ต่าง ๆ ด้านนักแสดงช่อง 7HD ก็ขอเปิดสตอรี่ ย้อนความทรงจำในวัยเรียน นึกถึงคุณครูผู้ให้

เริ่มจากพระเอกหนุ่ม มิกค์ ทองระย้า ซึ่งมีละครกำลังถ่ายทำ 2 เรื่องได้แก่ละครเรื่อง เงากามเทพ และ พรหมพยศ เปิดใจว่า “ในช่วงมัธยมต้น ผมสนิทกับอาจารย์ที่ปรึกษามากเลยครับ ท่านชื่ออาจารย์วันดี ตอนนี้เกษียณแล้วนะครับ อยู่โรงเรียน เสาไห้ “วิมลวิทยานุกูล”  สำหรับผมอาจารย์วันดีเป็นคนน่ารัก ใจดี ใจเย็นมาก ๆ ครับ ไม่ว่าตอนนั้นผมจะดื้อ จะไม่ทำการบ้าน อาจารย์ก็จะไม่ดุไม่ว่า คืออาจารย์จะมีวิธีสอนที่ใจเย็นกับเรา จนทำให้เรารู้สึกผิดได้ด้วยตนเอง และนั่นทำให้ผมเริ่มปรับตัว เปลี่ยนแปลงตัวเองไปเลยครับ

และในโอกาสวันครู ที่ถึงนี้ผมขอส่งกำลังใจให้กับคุณครูทุกท่านนะครับ เชื่อว่าอาชีพคุณครูนั้นจะต้องเป็นคนที่มีใจรักจริง ๆ รักในการสอน รักในการที่จะทำให้เด็ก เยาวชนเติบโตขึ้นมาได้พบกับสิ่งดี ๆ ผมขอเป็นกำลังใจให้กับคุณครูทุก ๆ ท่านที่กำลังทำงานตรงนี้อยู่ ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะครับ ฝากถึงเด็ก ๆ นักเรียนด้วยนะครับ ต้องมีความเคารพคุณครูด้วยนะครับ”

แชป-วรากร ศวัสกร ซึ่งกำลังมีผลงานละครเรื่อง “ปล้นเหนือเมฆ” ออกอากาศเวลา 19.00 น. ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ ประเดิมจอตอนแรก วันอังคารที่ 23 มกราคมนี้ ทางช่อง 7HD เผยว่า “ตอนสมัยผมเด็ก ๆ ผมยังถูกสอนแบบมีการตีเมื่อเราทำผิด  ถามว่าตอนนั้นชอบไหม ก็ไม่ชอบครับ แต่การโดนตีครั้งนั้นก็ทำให้รู้ว่านั่นเพราะเราได้ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ คือแกล้งเพื่อน ซึ่งพอโดนตีครั้งนั้นก็ไม่แกล้งเพื่อนอีกเลย วันนี้พอมองย้อนกลับไป ผมก็ยังรู้สึกว่าการถูกตักเตือนเมื่อเวลาที่ทำผิด หรือถูกลงโทษนั้นเป็นสิ่งที่ดีแล้ว ถ้าทำผิดแต่ไม่มีการว่ากล่าวตักเตือนเลยเราอาจจะโตมาโดยที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นมันผิดก็ได้ครับ

ในโอกาสวันครูนี้ ผมอยากจะขอขอบคุณคุณครูทั่วประเทศที่สอนให้เด็ก ๆ ของเราเติบโตไปในทางที่ดี ให้ความรู้ ให้การศึกษา ให้วินัย ให้มารยาทที่ดี ผมเชื่อว่าการเป็นครูเป็นอาชีพที่เหนื่อยมาก เพราะคุณแม่คนหนึ่งยังอาจจะเลี้ยงดูแลลูกแค่ 1 คน แต่คุณครู 1 คน ต้องดูแลลูกศิษย์ ไม่รู้จะกี่สิบกี่ร้อยคน บางทีอาจจะมีที่คุณครูหงุดหงิดบ้าง เราต้องเข้าใจเขาเพราะอาชีพนี้ก็หนัก ไหนจะดูแลลูกศิษย์ แล้วยังต้องดูแลครอบครัวตัวเองอีก ผมอยากให้ทุกคนมองในจุดนี้ เชื่อว่าเด็ก ๆ เมื่อเติบโตขึ้นไปก็จะเข้าใจตรงจุดนี้เช่นกันครับ”

ปูเป้ – เกศรินทร์ น้อยผึ้ง นางเอกสาวที่กำลังจะมีผลงานละครเรื่องใหม่ “ปล้นเหนือเมฆ” เผยว่า “ความทรงจำของเป้จะเป็นช่วงมัธยมค่ะ ปูเป้เป็นคนชอบกิจกรรมเกี่ยวกับงานหัตถกรรม อย่าง แกะสลัก ทำอาหาร งานฝีมือมาก ตอนนั้นจะมีคุณครูท่านหนึ่งที่เห็นความชอบตรงนี้ของเรา  ก็ส่งเสริม ทั้งสอนและยังพาเราไปเข้าร่วมแข่งขันต่าง ๆ และก็มีที่เราแข่งชนะได้ที่ 1 กลับมาด้วย ตอนนั้นปูเป้ได้เกียรติบัตรเยอะมากค่ะ และพอเรียนจบจะต้องสอบเข้าเรียนที่ใหม่ ปูเป้ยังใช้เกียรติบัตรเหล่านี้มายื่นเป็นความสามารถพิเศษเพิ่มเติมด้วยค่ะ ปูเป้อยากขอบคุณคุณครูมาก ๆ นะคะ ที่คุณครูมองเห็นความสามารถของปูเป้ในวันนั้น และทำให้รู้ว่านี่คือสิ่งที่เราชอบ และยังเป็นความสามารถพิเศษที่ติดตัวมาจนถึงทุกวันนี้ ที่ปูเป้ยังทำอาหารกินเอง ทำให้การใช้ชีวิตของเราง่ายมากขึ้นค่ะ

สุดท้ายนี้ ปูเป้ขอขอบคุณคุณครูทุกท่าน ที่เข้ามาสอนบทเรียนต่าง ๆ ในชีวิตของปูเป้นะคะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ขอส่งกำลังใจให้กับคุณครู ขอให้ทุกท่านมีพลังใจในการสอนนักเรียน สอนเยาวชนของชาติเราต่อไปนะคะ”

ด้าน กานต์ – ณัฐชา รัตน์ชยางคานนท์ ที่จะมีผลงานละครเรื่อง ลางปริศนา และ เงากามเทพ เปิดใจว่า “ความประทับใจของกานต์จะเป็นสมัยเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ จะมีอยู่วิชาหนึ่งที่กานต์ต้องเรียนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ซึ่งจังหวะนั้นกานต์ก็เป็นเด็กกิจกรรมด้วย ทำให้เข้าเรียนไม่สม่ำเสมอ แล้วพอคะแนนสอบออกมาคะแนนก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และถ้าเราไม่ผ่านวิชานี้ อาจจะต้องเรียนซ้ำ กานต์ก็ได้ปรึกษากับอาจารย์ค่ะ เล่าทุกอย่างที่กังวล ซึ่งอาจารย์ก็ใจดีมาก ๆ ค่ะ บอกว่าไม่ต้องกังวลนะ อาจารย์ช่วยสอนเพิ่มเติม ให้คำปรึกษาจนทำให้ท้ายที่สุดกานต์สอบวิชานั้นผ่านมาได้ ต้องขอบคุณจริง ๆ นะคะ

ตอนนี้ก็ใกล้ถึงวันครูแล้ว ทุกคนทราบดีว่าคุณครูก็เหมือนเรือจ้าง ที่จะคอยแนะนำให้คำปรึกษา สั่งสอนเด็ก ๆ เยาวชน ให้เติบโตก้าวหน้า กานต์อยากขอขอบคุณคุณครูทุกท่าน ที่ทำงานอย่างหนัก เพื่อประเทศชาติ และเยาวชนของเรา ขอเป็นกำลังใจให้กับคุณครู ไม่ว่าจะเจอเรื่องที่หนักหรือเหนื่อยแค่ไหน ก็ขอให้เจอแต่สิ่งที่ดี มีความสุขค่ะ”

เกรซ-พัชร์สิตา อธิอนันตศักดิ์ ซึ่งมีผลงานละคร รอยรักรอยบาป และ มรกตสีรุ้ง ที่กำลังถ่ายทำ เผยว่า “สมัยเรียนมัธยมปลาย เกรซกับคุณครูจะเหมือนเป็นพี่สาว น้องสาวกันเลยค่ะ มีคุณครูหลายท่านที่เกรซสนิท และยังติดต่อกันมาจนถึงตอนนี้ เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่เกรซเริ่มมีงานในวงการ เริ่มถ่ายละคร ก็จะมีคุณครูหลายท่านที่เกรซขอคำปรึกษา ทำให้ได้ใกล้ชิด คุณครูจะคอยช่วยหลายเรื่องเลยค่ะ ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องแนวคิดการใช้ชีวิตต่าง ๆ เกรซอยากขอบคุณคุณครูทุกท่านเลยนะคะ

ในโอกาสวันครูนี้ เกรซอยากขอบคุณคุณครูทุกคนนะคะ เกรซเชื่อว่านักเรียนทุกคนมีวันนี้ได้ก็ผ่านการเรียนการสอนของคุณครูมาแล้วทั้งนั้น ตัวเราเองในอนาคตเราก็อาจจะได้เป็นคุณครูของใครสักคนก็ได้ เกรซอยากขออวยพรให้คุณครูทุกคน มีลูกศิษย์ที่น่ารักในทุก ๆ เรื่อง และขอให้คุณครูมีแต่ความสุข ความเจริญ และมีสุขภาพที่แข็งแรงค่ะ”

มิ้นท์-พรทิวา สาครจันทร์ ซึ่งกำลังถ่ายทำละครเรื่อง ภูเขาเงาพยัคฆ์ เผยว่า “สำหรับมิ้นท์ มีความประทับใจ ความทรงจำกับคุณครูเยอะมาก ๆ เลยค่ะ เพราะช่วงที่มิ้นท์เรียน ต้องทำงานไปด้วย ก็จะขอคำปรึกษา รบกวนให้คุณครูแนะนำสอนเราเพิ่มเติม และคุณครูก็น่ารักค่ะ ท่านสนับสนุนส่งเสริมเรามาก ๆ

และวันครูปีนี้ มิ้นท์ขออวยพรให้คุณครูทุกคนได้เจอลูกศิษย์ที่น่ารัก ขอให้มีพลังที่จะสอนน้อง ๆ ให้มีความรู้ความสามารถยิ่งขี้นไป ขอให้คุณครูทุกคนมีความสุขนะคะ”

ปิดท้ายกันที่ สไมล์-ศศินา พนมธรนิจกุล ที่ปีนี้เราจะได้เห็นผลงานละครถึง 3 เรื่อง คือ ทุกอณูฤทัย, ลางปริศนา และลูกผู้ชายไม้ตะพด เปิดใจว่า “สำหรับสไมล์ คุณครูเหมือนคนในครอบครัวเลยค่ะ เวลามีอะไรนอกจากครอบครัวคุณครูคืออีกคนที่เราจะปรึกษา อย่างตอนที่เราเรียนมหาวิทยาลัย เป็นช่วงที่เราเริ่มมีกิจกรรมหลายอย่าง เริ่มที่จะออกมาตามหาความฝันในวงการ ทำให้บางครั้งเราต้องหยุดเรียนด้วย และด้วยครอบครัวเราเวลานั้นก็ไม่ได้มีกำลังมากนัก สไมล์เป็นคนหนึ่งที่ใช้วิธีการกู้ยืมทุนมาศึกษา       ซึ่งเราก็โชคดีมาก ๆ เลยค่ะที่ได้อาจารย์เข้าใจ คอยส่งเสริม สนับสนุนให้เราได้ทำตามความฝัน พร้อมกับคอยแนะนำสอนในเรื่องวิชาการให้กับเราด้วย สไมล์ต้องขอบคุณอาจารย์ทุกท่านมาก ๆ เลยนะคะที่ทำให้สไมล์ได้มีวันนี้

ในวันครูนี้ขอให้คุณครูทุกคนมีความสุข สุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง คอยให้ความรู้เด็ก ๆ ความรู้ของคุณครูที่ถ่ายทอดมาถึงเด็ก ๆ จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เด็ก ๆ ทุกคนได้นำความรู้ที่ได้มานั้นไปประกอบอาชีพ และเลี้ยงดูตนเองต่อไปในอนาคตค่ะ”

เรียกว่าแต่ละคน ต่างมีความทรงจำถึงคุณครูผู้ให้สุดประทับใจ เชื่อว่าคุณครูที่ได้อ่านจะชื่นใจ ช่อง 7HD ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจส่งความรู้สึกดี ๆ ถึงคุณครูทุกท่านมา ณ ที่นี้ติดตามชมข่าวสารและความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้ทางช่อง 7HD ดูทีวีกด 35 สดออนไลน์ BUGABOO.TV และช่องทางออนไลน์ Facebook, IG, X, TikTok : Ch7HD เว็บไซต์: www.ch7.com  

2024 Critic’s Choice Awards

เทคนิคเตรียมผิวสวย ของเหล่านักแสดงที่ร่วมพรมแดง 2024 Critic’s Choice Awards

Alternative Textaccount_circle
2024 Critic’s Choice Awards
2024 Critic’s Choice Awards

เผยทริคขั้นตอนการเตรียมผิวสวยก่อนลงเมคอัพ ที่รังสรรค์โดย Celebrity Facialist Lord Gavin McLeod Valentine สำหรับนักแสดงมากความสามารถ Emily Blunt (ผู้เข้าชิงรางวัล) และ Lily Gladstone (ผู้เข้าชิงรางวัล) ในงาน 2024 Critic’s Choice Awards นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังได้ร่วมมือกับเซเลบริตี้เมคอัพอาร์ติสต์ Melanie Inglessis เนรมิตลุคของนักแสดงสาว Rosamund Pike จากภาพยนตร์ที่น่าจับตามองSaltburn เพื่อให้มั่นใจว่าเธอได้เผยผิวที่สวยเปล่งประกาย

SKIN FOR EMILY BLUNT & LILY GLADSTONE CREATED BY LORD GAVIN MCLEOD VALENTINE USING AUGUSTINUS BADER

  • เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดผิวโดย Augustinus Bader The Cleansing Balm พร้อมทั้งนวดเบาๆ เพื่อคลายความตึงเครียด กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณคอและกราม
  • ตามด้วย Augustinus Bader The Cream Cleansing Gel ที่ช่วยทำความสะอาดอย่างล้ำลึก และขจัดสิ่งสกปรกที่ก่อให้เกิดการอุดตันเพื่อเติมออกซิเจนให้ผิวโดยส่วนประกอบอย่างกรดไฮยาลูโรนิก กลีเซอรีน สควาเลน วิตามิน A C E รวมถึงล็อคความชุ่มชื้นในผิว
  • เข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงด้วย Augustinus Bader The Face Oil, ลอร์ด แกวินใช้ออยล์ร่วมกับวิธีการนวดหน้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการนวดหน้าแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น (Kobido) เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า และต่อมน้ำเหลือง ตามด้วยการลูบแบบ Effleurage เพื่อกระตุ้นการระบายน้ำเหลือง
  • หลังจากนั้นลอร์ดแกวินใช้ cryo sticks เพื่อช่วยในการนวดผลิตภัณฑ์ Augustinus Bader The Face Cream Mask ลงบนบริเวณใต้โหนกแก้ม และขมับเพื่อเพิ่มการระบายน้ำเหลืองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • และลงมอยส์เจอร์ไรเซอร์ Augustinus Bader The Ultimate Soothing Cream พร้อมใช้แสง LED เพื่อช่วยกระชับเส้นใยของผิว ยกกระชับ และกระตุ้นกล้ามเนื้ออย่างเป็นจังหวะ ตามด้วยการลูบแบบ Effleurage อีกครั้งเพื่อลดอาการบวมที่เหลืออยู่
  • ตามด้วยการใช้ Radiofrequency treatment และเครื่อง Contour Kinetic ปิดท้ายด้วยการลงมอยส์เจอร์ไรเซอร์ Augustinus Bader The Rich Cream เพื่อเติมเต็มผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม

นอกจากนี้ นักแสดงชาวอังกฤษ Rosamund Pike ได้ร่วมงานกับเซเลบริตี้ เมคอัพอาร์ติสต์ Melanie Inglessis และ Augustinus Bader เนรมิตผิวเปล่งประกายในงาน 2024 Critic’s Choice Awards

  • เมลานีเตรียมผิวของนักแสดงสาวด้วย The Eye Patches ในระหว่างที่ช่างทำผมของเธอกำลังทำผม
  • หลังจากนั้นจึงใช้ The Eye Cream เพื่อเติมความกระจ่างใส และชุ่มชื้นให้ผิวบริเวณรอบดวงตา
  • เมลานีเลือกใช้ The Rich Cream พร้อมนวดอย่างอ่อนโยนเพื่อช่วยให้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ซึมเข้าสู่ผิว
  • หลังจากนั้นซับทิชชู่ให้ทั่วใบหน้าเพื่อซับส่วนเกิน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับขั้นตอนการแต่งหน้าต่อไป
  • ฟินิชลุคบนผิวกายของโรซามันด์ด้วย The Body Cream

Photo: rodarte, lordgmv


“ดอยตุง (DoiTung)” พลิกนิยามของผ้าทอมือไทยชูคุณค่าแฟชั่น

account_circle

ขึ้นชื่อว่า “ผ้าทอมือ” ในสายตาของคนรุ่นใหม่ คงมีเพียงน้อยคนนักที่จะเลือกหยิบมาสวมใส่ในชีวิตประจำวัน นี่คือภารกิจท้าทายครั้งสำคัญที่ ดอยตุง (DoiTung) มุ่งมั่นจะก้าวข้ามให้สำเร็จ พร้อมกับฉีกกฎเกณฑ์ของผ้าทอไทยให้หลุดจากภาพจำเดิมๆ เพื่อพลิกนิยามของงานหัตถกรรมฝีมือที่เต็มไปด้วยคุณค่าและเรื่องราวนี้ให้กลายเป็นไอเทมแฟชั่นที่จับต้องได้ สามารถนำมามิกซ์แอนด์แมทช์ได้อย่างสนุกกับทุกลุค ทุกโอกาส ด้วยลวดลาย รูปทรง และลูกเล่นฟังก์ชั่นต่างๆ ที่แบรนด์ตั้งใจออกแบบให้เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ทั้งยังสะท้อนตัวตนของผู้สวมใส่ให้ออกมามีเสน่ห์สะดุดตา โดยล่าสุดได้เปิดตัวไลน์เสื้อผ้า “Everyday” คอลเลคชั่นใหม่ Autumn/Winter 2023 เพื่อตอกย้ำจุดยืนและความตั้งใจที่จะเปลี่ยนมุมมองรวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีต่อผ้าทอมือไทยอย่างเป็นรูปธรรม

ตลอดการเดินทางกว่าสามทศวรรษที่ผ่านมา แบรนด์ดอยตุงได้ยืนหยัดในฐานะธุรกิจเพื่อสังคมภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์  โดยสินค้าดอยตุงในหมวดเสื้อผ้าและหัตถกรรมมีบทบาทเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมผ้าทอไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายทั้งภายในประเทศและทั่วทุกมุมโลก พร้อมกันกับที่แบรนด์มุ่งหวังจะเป็น “An Enterprise For A Better World” หรือธุรกิจที่ทำให้โลกดีขึ้น ด้วยโจทย์ตั้งต้นง่ายๆ ว่า ชาวบ้านได้อะไรสังคมได้อะไรและสิ่งแวดล้อมได้อะไร 

นอกเหนือจากการฝึกฝนทักษะอาชีพเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงและคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ชุมชนชาวเขาแล้ว ดอยตุงยังตั้งปณิธานที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้ได้ในทุกกระบวนการ ในฐานะแบรนด์ที่มีความรับผิดชอบต่อผลประโยชน์ของส่วนรวมโดยยึดหลักการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมจำกัดการใช้สารเคมีให้น้อยที่สุด และใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่าเพื่อไม่ให้มีส่วนใดเหลือทิ้ง (Zero Waste) ด้วยวิธีการลด (Reduce) การใช้ซ้ำ (Reuse) การซ่อมแซม (Repair) การแปรรูปนำมาใช้ใหม่ (Recycle) ตลอดจนการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัสดุเหลือใช้ (Upcycle) จนได้รับการการันตีด้วยรางวัล Design Excellence Award หรือ DEmark จากสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ในประเภทกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ กลุ่มความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมผลิตภัณฑ์แฟชั่นเครื่องแต่งกาย และกลุ่มออกแบบบรรจุภัณฑ์ มาแล้วกว่า 5 สมัยติดต่อกัน

จากเดิมทีที่ผ้าทอมือเป็นภูมิปัญญาเก่าแก่และวิถีชีวิตของชุมชนที่ดอยตุงได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาหลายชั่วอายุคน วันนี้ ดอยตุงเลือกที่จะขับเคลื่อนการเติบโตของแบรนด์ไปสู่อีกขั้น และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้กับผลิตภัณฑ์ โดยลุกขึ้นมาจับมือกับดีไซเนอร์รุ่นใหม่เพื่อปรับปรุงเทคนิคในการผลิตและพัฒนาเส้นใยด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมทั้งบูรณาการ Creative Design การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ โดยถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ เรื่องราวของผู้คน และวัฒนธรรมอันหลากหลายแห่งชนเผ่า เข้าไปผสมกับความคลาสสิกดั้งเดิมตามธรรมชาติของผ้าทอมือ จนสามารถคิดค้นออกมาเป็นวัสดุผ้าทอมือที่มีความร่วมสมัย และในขณะเดียวกันก็ยังคงความเป็นงานแฮนด์เมดที่รังสรรค์อย่างประณีตและพิถีพิถันในทุกกระบวนการจากช่างฝีมือของดอยตุง นับตั้งแต่การเลือกเส้นด้ายเพื่อให้ได้วัสดุที่บางเบา สวมใส่สบาย ไปจนถึงการย้อมสีการถักทอไล่เฉดสีและลวดลายให้สวยงาม เรียกได้ว่าทุกตารางนิ้วของเนื้อผ้าทอมือดอยตุงคืองานหัตถกรรมชิ้นเอกที่เต็มไปด้วยรายละเอียดและเรื่องราวให้ค้นหา

ปัจจุบันสินค้าแฟชั่นแบรนด์ดอยตุงแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกเป็น 2 ไลน์ ได้แก่ ไลน์ “Classic” ซึ่งเป็นที่ติดตลาดมาแล้วเป็นเวลานาน โดยมีกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้ที่รักและชื่นชอบผ้าทอมือไทย และไลน์ “Everyday” ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในบรรดากลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความเป็นตัวของตัวเอง เน้นมองหาเสื้อผ้าที่ใส่ได้ทุกวัน แพทเทิร์นไม่จำเจ รวมถึงกลุ่มผู้บริโภคที่เล็งเห็นถึงคุณค่าของงานฝีมือที่มาจากใจมากกว่าการสวมใส่ผลิตภัณฑ์ที่เป็น Fast Fashion

สำหรับคอลเล็กชั่น Autumn/Winter 2023 ซึ่งเป็นคอลเล็กชั่นล่าสุด ได้รับการรังสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิด “The Extraordinary Ordinary” ประกอบด้วยสินค้าที่เป็นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย (Ready-to-wear) กระเป๋า และปลอกหมอนอิง ซึ่งเน้นโทนสีน้ำเงิน ขาว ดำ เป็นหลัก พร้อมกับสอดแทรกดีเทลที่น่าสนใจเข้าไปในแต่ละชิ้น อาทิ การจับคู่สีพื้นเข้ากับเส้นสายหลากสีสันการนำเอาลวดลายของผ้าประจำถิ่นชาวเขามาช่วยเสริมเป็นกิมมิค และการแต่งแต้มด้วยลวดลายที่เกิดจากเทคนิคการทอจนเกิดเป็นลุคเรียบง่ายแต่มีความเก๋ที่ลงตัวตรงตามคอนเซ็ปต์ ทั้งนี้ ไอเทมในคอลเล็กชั่นมาพร้อมกับคัตติ้งที่เนี้ยบ แต่ยังให้ลุคที่ดูสบายๆ สามารถใส่ได้นานและหลากหลายโอกาส โดยทุกชิ้นตัดเย็บด้วยผ้าทอมือที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติและพลาสติกรีไซเคิล ซึ่งยังคงจุดเด่นของแบรนด์ดอยตุงไว้ นั่นคือวิธีการทอแบบดั้งเดิมโดยใช้กี่กระตุก

ไอเทมที่เป็นไฮไลต์ของคอลเล็กชั่น “The Extraordinary Ordinary” ได้แก่ เสื้อครอปผ้าทอมือสีน้ำเงินแต่งฮู้ด ทรงสวยเหมาะกับสาวออฟฟิศที่ต้องการสร้างความโดดไม่ซ้ำใครให้ชีวิตในวันทำงาน กางเกงขาสั้นแต่งระบายและเชือกผูกที่ให้ลุคทะมัดทะแมงแฝงความเก๋ไม่ซ้ำใครด้วยขาข้างหนึ่งที่ใช้เทคนิคการทอลวดลาย กางเกงทรงม้งผ้ายืดใส่สบายที่เพิ่มลูกเล่นให้กับปลายขากางเกง สามารถแมทช์คู่กับรองเท้าบู๊ตได้อย่างเข้ากัน เสื้อคลุมตัวนอกที่ทอด้วยเส้นใยสีเข้มตัดกับลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของผ้าทอไทย ดูสวยแปลกตาแต่เข้ากันได้อย่างลงตัว ตลอดจนอีกหนึ่งไฮไลต์อย่างการ Collaboration ร่วมกับแบรนด์ R2R ซึ่งเป็นธุรกิจเพื่อสังคมจากฟิลิปปินส์ ในการรังสรรค์กระเป๋า Multi-way Bag ทั้งหมด 5 ดีไซน์ ที่มาพร้อมกับความอเนกประสงค์ ด้วยฟังก์ชั่นที่สามารถพลิกแพลง ถอดสาย ปรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ และมีช่องเก็บของครบครัน รวมถึงการผสมผสานลายถักทอจักสานแบบดั้งเดิมให้เข้ากับรูปทรงกระเป๋าได้อย่างสวยงาม ทันสมัย และไม่เหมือนใครซึ่งสะท้อนถึงการสืบสานทางวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ

พบกับคอลเล็กชั่น Autumn/Winter 2023 จากแบรนด์ดอยตุงได้แล้ววันนี้ที่ ร้าน DoiTung Lifestyle ทุกสาขา
หรือ www.doitung.com สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/DoiTungClub LINE @DoiTung_Lifestyle หรือ โทร. 0-2252-7114 

ไอคอนสยาม รับปีมังกรจัดงาน “The Magic Dragon 2024 by Miguel Chevalier”

account_circle

ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร่วมฉลองในโอกาสครบรอบ 5 ปี และต้อนรับเข้าสู่ศักราชใหม่ ปี 2567 ด้วยการสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่เหนือจินตนาการ กับงาน The Magic Dragon 2024 by Miguel Chevalier Software Cyrille Henry & Antoine Villeret ครั้งแรกของการแสดง Immersive Digital Art Sculpture ศิลปะดิจิทัลบนประติมากรรมมังกร LED ขนาดใหญ่ ด้วยลวดลายอินเตอร์แอคทีฟ เปล่งประกาย พลังแห่งชีวิต เป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นศักราชใหม่ ตั้งตระหง่าน ความยาว 55 เมตร ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยการรังสรรค์ของศิลปินระดับโลกชาวฝรั่งเศส “มิเกล เชอวาลิเยร์” (Miguel Chevalier) ผู้บุกเบิกการสร้างสรรค์ศิลปะดิจิทัล Art Tech ที่ผสมผสานความคิดทางศิลปะและเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้าด้วยกันอย่างลงตัว โดย พิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการจัดขึ้นวันที่ 12 มกราคม 2567 ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายฌ็อง-โกลด ปวงเบิฟ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ นักแสดงชื่อดัง ให้เกียรติมาร่วมพิธีเปิดงาน โดยเปิดให้ทุกคนมาสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษได้ ตั้งแต่วันที่ 12 – 31 มกราคม 2567 ณ ริเวอร์ พาร์ค ชั้น G ไอคอนสยาม

นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อตอกย้ำการเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของโลก (Global Destination) และเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 5 ปี ไอคอนสยาม จึงได้ร่วมกับศิลปินดิจิทัลชื่อดัง “มิเกล เชอวาลิเยร์” ชวนคนรุ่นใหม่และผู้สนใจดิจิทัลอาร์ต มาสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ กับ Immersive Digital Art Sculpture ครั้งแรกของการจัดแสดงประติมากรรมแสงสีสุดตระการตา เพื่อต้อนรับเข้าสู่ศักราชใหม่ปี 2567 ภายใต้ปีนักษัตรมังกรที่ยิ่งใหญ่เปี่ยมไปด้วยพลังบารมี ซึ่งถือเป็นผลงานสุดสร้างสรรค์อันโดดเด่นครั้งแรกที่ไม่เคยมีมาก่อนของคุณมิเกล

สำหรับงานดิจิทัลแบบอินเทอร์แอคทีฟครั้งแรกในโลก “The Magic Dragon 2024 by Miguel Chevalier Software Cyrille Henry & Antoine Villeret” แสดงให้เห็นถึงความสวยงามของโครงสร้างโลหะขึ้นรูปเป็นส่วนหัวและหางของมังกร ที่สะท้อนถึงฝีไม้ลายมือด้านศิลปะดิจิทัลที่สร้างชื่อเสียงของ “มิเกล เชอวาลิเยร์” ทั้งแสดงถึงความชำนาญชั้นครู ด้วยลวดลายอินเตอร์แอคทีฟผ่านงานศิลปะส่วนลำตัวของมังกรที่มีลักษณะเป็นลูกคลื่น ประกอบด้วยกระดูกสันหลังทรงสี่เหลี่ยม 38 ชิ้น โดยแต่ละส่วนหมุนวนรอบแกนเล็กน้อย ทำให้ตัวมังกรมีเส้นโค้งคดเคี้ยวที่ดูเหมือนจะยืดขยายออกไปไม่สิ้นสุด

ผลงานชิ้นนี้ เปิดให้ผู้เข้าชมสามารถลอดเข้าไปในท้องมังกร ซึ่งเป็นส่วนที่เรียกว่า “body of light” ซึ่งจะมอบประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยภายในท้องมังกรประดับด้วยไฟ LED เป็นงานดิจิทัลแบบอินเทอร์แอคทีฟ ที่ออกแบบมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ กับลวดลายเรขาคณิตที่ดูราวกับว่ากำลังเคลื่อนไหว สอดรับกับสัญลักษณ์ของวันตรุษจีนและปีมังกร ก่อเกิดเป็นภาพลานตา (kaleidoscope) ขนาดยักษ์ที่นำผู้เข้าชมร่วมเดินทางไปในโลกแห่งจินตนาการและบทกวีทั้งกลางวันและกลางคืน โดยลวดลายเหล่านี้จะล้อไปกับการเคลื่อนไหวของผู้เข้าชมภายในท้องมังกรผ่านการทำงานของเซ็นเซอร์ที่จะเปลี่ยนรูปร่างหลากหลายไปตามการเคลื่อนไหวได้อย่างน่าทึ่ง

ร่วมดื่มด่ำไปกับการผสมผสานศิลปะกับเทคโนโลยีนวัตกรรมที่เรียกว่า “technological baroque” ระหว่างเดินชมประติมากรรมที่เคลื่อนไหวได้นี้ พร้อมให้ผู้ชมได้ดำดิ่งไปในจักรวาลแห่งการเฉลิมฉลอง ซึ่งเป็นภาพอุปมาของการเข้าสู่ปีใหม่ในปี 2567 ให้ทุกคนร่วมตื่นตาตื่นใจกับผลงานนวัตกรรมศิลปะดิจิทัลสุดอลังการ “The Magic Dragon 2024” ของ มิเกล เชอวาลิเยร์ อีกหนึ่งผลงานชิ้นเอกที่หลอมรวมเทคโนโลยี ประเพณี และสุนทรียภาพเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อสร้างประสบการณ์ทางศิลปะอันดื่มด่ำและน่าประทับใจแบบไม่รู้ลืม

มาร่วมเปิดประสบการณ์ระดับโลก พร้อมตื่นตาตื่นใจกับประติมากรรมแสงสีสุดตระการตา “The Magic Dragon 2024” ความยาว 55 เมตร ในงาน The Magic Dragon 2024 by Miguel Chevalier งานดิจิทัลแบบอินเทอร์แอคทีฟครั้งแรกในโลก เนื่องในโอกาสครบรอบ 5 ปีไอคอนสยาม และเพื่อเฉลิมฉลองการเข้าสู่ปี 2567 ภายใต้นักษัตรมังกรสุดยิ่งใหญ่ ภายใต้การสร้างสรรค์ของศิลปินดิจิทัลชื่อดังระดับโลก “มิเกล เชอวาลิเยร์” (Miguel Chevalier) ระหว่างวันที่ 12 – 31 มกราคม 2567 ณ ริเวอร์ พาร์ค ชั้น G ไอคอนสยาม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 1338 หรือ Facebook: ICONSIAM

keyboard_arrow_up