ไม่ว่าใครก็ถือ! ซูมอิน Peekaboo ของเซเลบริตี้ในโชว์โอต์ กูตูร์จาก Fendi

Alternative Textaccount_circle

ดาวเด่นโอต์ กูตูร์ Fendi ขอยกให้ Peekaboo กระเป๋ารุ่นไอคอนิคที่เหล่าเซเลบริตี้ทั่วมุมโลกเลือกถือมาชมแฟชั่นโชว์

เมื่อไม่นานมานี้ Fendi จัดแฟชั่นโชว์คอลเล็คชั่นโอต์ กูตูร์ Spring/Summer 2024 ที่ได้เชิญเหล่าเซเลบริตี้จากทั่วมุมโลกมากมายมาร่วมงานนำทัพโดยแบรนด์แอมบาสเดอร์จากเกาหลีใต้อย่างนักแสดง ‘ซงฮเยคโย’ และศิลปินสุดฮ็อตอย่าง ‘มินะ Twice’ รวมถึงคนดังของประเทศไทยเองก็มี ‘ชมพู่ อารยา’ ที่ได้รับเชิญให้ไปชมโชว์ครั้งนี้ด้วย

จากการสอดส่องตาเหล่าเซเบริตี้ที่ไปร่วมงานตาตัวดีก็สังเกตเห็นว่าไม่ว่าใครก็ต้องถือไอเท็มไอคอนิคอย่างกระเป๋า Peekaboo ที่แต่ละคนต่างแมตช์สีสันมาให้เข้ากับลุคของตัวเอง โดยเป็นเอกลักษณ์ในเวอร์ชั่นทันสมัยของ Silvia Venturini Fendi ที่ใครๆ ก็ต้องรู้จักกับดีไซน์มินิมอล และใช้งานได้ในหลายฟังก์ชั่นไม่ว่าจะถือหรือสะพายก็ตาม ทั้งนี้ความพิเศษยังมาพร้อมกับหนัง สี และลวดลายพิเศษที่จะถูกครีเอทออกมาเรื่อยๆ ในคอลเล็คชั่นต่างๆ รับรองว่าไม่มีเบื่อแน่นอนค่ะ เห็นแบบนี้ไม่ใช่มีแค่ 3 คนที่ถือนะคะ ยังมีคนดังอีกมากมายที่เลือกถือกระเป๋าใบนี้เช่นกัน บอกแล้วว่าเป็นรุ่นที่ฮ็อตจริงๆ


รูปภาพ: Fendi

นาอินอู

เพื่อนร่วมงานเผยนิสัยแท้จริงของ นาอินอู พระเอกเกาหลีผู้ถ่อมตน

Alternative Textaccount_circle
นาอินอู
นาอินอู

ถือเป็นหนุ่มฮ็อตที่กำลังกุมหัวใจของสาวๆ หลายคนเลยทีเดียวสำหรับ นาอินอู พระเอกเกาหลี (Na In Woo) จากซีรีส์ Marry My Husband ที่บอกเลยว่าเส้นทางชีวิตกว่าจะเป็นที่รู้จักอย่างในตอนนี้ไม่ง่ายเลย วันนี้แพรวจึงอยากพาทุกคนไปรู้จักกับตัวตนของเขาให้มากขึ้นกันค่ะ

นาอินอูมีชื่อจริงๆ ว่า นาจงชาน เกิดเมื่อวันที่ 17 กันยายน ค.ศ.1994 เกิดที่ ควังจู ประเทศเกาหลีใต้ จบการศึกษา สาขาศิลปะการแสดง จากมหาวิทยาลัยดันกุก

นาอินอู

แรกเริ่มเดิมทีอินอูมีความฝันอยากจะเป็นศิลปินเคป๊อป เขาถูกทาบทามจากแมวมองและได้ได้เข้าร่วมออดิชั่นกับค่าย SM Entertainment และ JYP Entertainment จนในที่สุดก็ได้กลายเป็นเด็กฝึกของค่าย JYP โดยเพื่อนศิลปินที่เคยร่วมฝึกกับเขามาคือ จินยอง และ แจบอม วง GOT7 รวมถึง จองยอน วง TWICE อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาเขาได้กลายเป็นนักแสดงและนายแบบภายใต้สังกัด CUBE Entertainment ปัจจุบันเป็นนักแสดงอิสระ (25 มกราคม 2567)

หลังจาากฝึกมาได้พอสมควรเขาก็ได้เริ่มเริ่มต้นจากการแสดงละครเวทีในปี 2013 ก่อนที่จะเริ่มงานแสดงทางโทรทัศน์ และภาพยนตร์ ในปี 2015 ในเรื่อง Twenty ร่วมกับ คิมอูบิน, อีจุนโฮ 2PM, คังฮานึล นอกจากนี้ยังมีผลงานซีรีส์เรื่องแรกคือ Shine or Go Crazy ที่นำแสดงโดย จางฮยอก, โอยอนซอ, อีฮานี

แต่ที่กลายเป็นที่พูดถึงและถูกจับตามองมากๆ ก็คือการที่เขาได้รับเลือกให้แสดงในซีรีส์ River Where the Moon Rises แทนนักแสดงหนุ่มจีซู แม้หลายคนจะบอกว่าเป็นส้มหล่นแต่เขาก็ได้แสดงความสามารถทางด้านการแสดงออกมาได้อย่างดี จนได้มีผลงานดังๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องรวมถึงล่าสุด Marry My Husband ที่บอกเลยว่าตกแฟนๆ เข้าด้อมได้เป็นขโยง

นาอินอู

อย่างไรก็ตามนอกจากความหล่อและฝีไม้ลายมือการแสดงแล้ว หนุ่มคนนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องความน่ารักและเฟรนด์ลี่เหมือนกับชื่อของเขา อินอู ที่แปลว่า เป็นมิตร

ครั้งหนึ่งอดีตสไตล์ลิสต์ของเขาได้เล่าความประทับใจและชื่นชมนักแสดงหนุ่มออกมาด้วยความจริงใจ “ฉันมักทำผิดเล็กๆ น้อยๆ อยู่บ่อยครั้ง แต่อินอูโอปป้ามักปลอบใจฉันเสมอว่าไม่เป็นอะไร เวลาอยู่ในรถฉันมักนอนกรนแต่เขาไม่เคยปลุกฉัน เขามักจะเตือนฉันให้ทานข้าวให้จตรงเวลา แต่เขากลับไม่ตรงเวลาเลย ฉันอยากให้เขาดังเป็นพลุแตก และประสบความสำเร็จมากๆในฐานะนักแสดงนาอินอู แต่ในฐานะนาจงซานเขาเป็นมนุษย์ที่น่าเคารพยิ่งกว่า”

มูลนิธิเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่นผนึกพันธมิตร โครงการคาซ่าเฮอร์บาไลฟ์

account_circle

ลนิธิเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น (HNF) องค์กรไม่แสวงผลกำไรระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการพัฒนาชีวิตของเด็กและชุมชนทั่วโลก เมื่อเร็วๆนี้ได้จัดพิธีมอบเงินสนับสนุนประจำปีมูลค่า 1,273,093 บาท ให้กับ มูลนิธิ 3 แห่งในประเทศไทย ที่เป็นพันธมิตรโครงการคาซ่า เฮอร์บาไลฟ์ ได้แก่ มูลนิธิเด็ก. มูลนิธิบ้านนกขมิ้น และมูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก จัดขึ้นร่วมกับ เฮอร์บาไลฟ์ บริษัทผู้นำด้านโภชนาการและความเป็นอยู่ที่ดีระดับโลก เพื่อช่วยปรับปรุงโภชนาการของเด็กๆ ที่อยู่ภายใต้โครงการคาซ่า ต่อเนื่องเป็นปีที่ 17 ของเฮอร์บาไลฟ์ในประเทศไทย

นอกเหนือจากโครงการคาซ่าเฮอร์บาไลฟ์แล้ว มูลนิธิเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น ยังได้แนะนำความรู้ ปลูกฝังการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพและนิสัยการใช้ชีวิตประจำวันที่กระฉับกระเฉงให้แก่เด็ก

“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมอย่างมีความหมายในการปรับปรุงชีวิตของเด็กๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือนับตั้งแต่เปิดตัวโครงการคาซ่า เฮอร์บาไลฟ์ ในประเทศไทยในปี 2549 ด้วยการสนับสนุนอย่างดีจากผู้จัดจำหน่ายและพนักงานของเรา เราจะยังคงจัดหาโภชนาการและการศึกษาที่เหมาะสมซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพของเด็กและชุมชนต่อไป” โชบี แอน คิง รองประธานเฮอร์บาไลฟ์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว

ทีมแทงโปโล คว้าแชมป์โปโลการกุศล “บี.กริม ไทย โปโล โอเพ่น 2024”

account_circle

จบไปแล้วอย่างสวยงามสมกับเป็นการแข่งขันที่คนรักกีฬาขี่ม้าโปโลรอคอย สำหรับการแข่งขันขี่ม้าโปโลการกุศล รายการ “บี.กริม ไทย โปโล โอเพ่น 2024” (B.Grimm Thai Polo Open 2024) ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี บี.กริม รอบชิงชนะเลิศเพื่อหาแชมป์ประจำปี 2567 ซึ่ง บี.กริม นำโดย ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และนายกสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนางนันทินี แทนเนอร์ อุปนายกสมาคมกีฬาขี่ม้าประเทศไทย จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปี โดยรอบชิงชนะเลิศนั้นจัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา ณ สนามไทย โปโล แอนด์ อีเควสเทรียน คลับ พัทยา จ.ชลบุรี

การแข่งขันขี่ม้า บี.กริม ไทย โปโล โอเพ่น 2024 ถือเป็นการแข่งขันขี่ม้าโปโลการกุศลเปิดฤดูกาล ชั้นนำของเอเชียซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมี ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และนายกสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย นำทัพจัดงานท่ามกลางธรรมชาติบนสนามแข่งม้าที่ได้มาตรฐานระดับนานาชาติที่สมบูรณ์แบบที่สุดในเอเชีย โดยในปีนี้มีทีมโปโลฝีมือระดับเอเชียที่ผ่านเข้ารอบ สำหรับ 4 ทีมสุดท้ายได้แก่ 1. ทีมเจ้าภาพ ไทยโปโล (THAI POLO) ประเทศไทย 2. ทีม 22 BR จากประเทศ ฮ่องกง 3. ทีมฟาสท์ ฟิช FAST FISH จากสาธารณรัฐประชาชนจีน และ 4. ทีมแทง โปโล (TANG POLO) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยได้จัดให้มีการแข่งขันขึ้นเพื่อเก็บคะแนนในช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา

สำหรับผลการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระหว่างทีม แทง โปโล (TANG POLO) และไทยโปโล (THAI POLO) ประเทศไทย ปรากฏว่าทีม แทง โปโล (TANG POLO) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นผู้คว้าแชมป์ คว้าถ้วยพระราชทานในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปครอง
นอกจากเป็นการแข่งขันที่จัดขึ้นเพื่อเฟ้นหาผู้เข้าแข่งขันระดับนานาชาติเพื่อแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานฯ แล้วนั้น ยังเป็นการจัดงานเพื่อหารายได้เพื่อสนับสนุนด้านการศึกษาให้แก่ สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา ในงานยังได้จัดกิจกรรมและซุ้มการกุศลต่างๆ โดยมีบรรดาแขกผู้มีเกียรติและเหล่าเซเลบริตี้ใจบุญของเมืองไทย ที่พร้อมใจกันมาร่วมกิจกรรมและชมการแข่งขันกันอย่างคึกคัก

GUERLAIN PARURE GOLD 24K ไพรเมอร์ละอองทองคำ 24 กะรัต

GUERLAIN PARURE GOLD 24K ไพรเมอร์ละอองทองคำ 24 กะรัต ออกสองสูตรใหม่ขับทุกโทนผิวสวยออร่าจับ

Alternative Textaccount_circle
GUERLAIN PARURE GOLD 24K ไพรเมอร์ละอองทองคำ 24 กะรัต
GUERLAIN PARURE GOLD 24K ไพรเมอร์ละอองทองคำ 24 กะรัต

ลองยัง! Guerlain (เกอร์แลง) ปล่อย PARURE GOLD 24K ออกมาสองสูตรใหม่รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น ได้แก่ พิงค์โกลด์ (Pink Gold) และ ไวท์โกลด์ (White Gold) เป็นไพรเมอร์ผสมละอองทองคำบริสุทธิ์ 24 กะรัตลอยตัวท่ามกลางเนื้อเจลโปร่งใส มอบสัมผัสบางเบาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับผิว โดยใช้สำหรับก่อนลงเมคอัพ ช่วยให้รองพื้นเซ็ตตัวได้แนบสนิทติดผิวยาวนาน 24 ชั่วโมง ผิวต้องแสงเป็นประกาย สะท้อนแสงตกกระทบได้ดียิ่งขึ้น

โดย GUERLAIN ได้ศึกษาเจาะลึกในเรื่องของ “โทนสีผิว” และ “ลักษณะทางสภาพพื้นผิว” จนเข้าใจถึงการทำปฏิกิริยาระหว่าง “แสง” กับ “สภาพผิวแต่ละประเภท” และได้นำเสนอในงานสัมมนานักเคมีเครื่องสำอางสากล INTERNATIONAL FEDERATION OF SOCIETIES OF COSMETIC CHEMISTS CONGRESS ที่จัดขึ้น ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อเดือนกันยายน ปี 2022 จนได้นำแรงบันดาลใจจาก “วงล้อสี” อันประกอบขึ้นจาก “ลำดับเฉดสี” ที่มีทั้งทฤษฎี ‘สีเติมเต็ม’ และ ‘สีตรงข้าม’ พบว่า ผิวแต่ละโทนจะมีลักษณะปรากฏที่แตกต่างกันไป ไพรเมอร์ PARURE GOLD 24K สูตรผสมประกายทองคำ 24 กะรัตแต่ละเฉดจึงได้พัฒนาขึ้นโดยอาศัย “กลไกการหักล้างค่าสีที่มีอยู่ในแสงสะท้อน” สู่ “การมองเห็นด้วยสายตาตามหลักทฤษฎีสี” จนได้เป็นไพรเมอร์ PARURE GOLD 24K 3 สูตรที่ใช้ทองคำต่างเฉดสี ได้แก่ สูตร Yellow Gold สำหรับผิวโทนสีกลาง (Neutral)หรือ เนื้อผิวโทนชมพูอมเหลือง และสองสูตรใหม่ คือ สูตร White Gold สำหรับผิวโทนสีเย็น (Cool)หรือ เนื้อผิวโทนชมพูที่มักปรากฏรอยแดงบนผิวได้ง่าย และ สูตร Pink Gold สำหรับผิวโทนสีอบอุ่น (Warm) หรือ เนื้อผิวโทนเหลืองไปจนถึงสีน้ำผึ้ง โดยแต่ละสูตรเมื่อใช้กับโทนผิวแต่ละประเภทที่มีสีและสภาพผิวที่แตกต่างกันจะปรากฏเป็นผลลัพธ์ของผิวพรรณที่แลดูเปล่งปลั่ง เป็นประกาย สว่างกระจ่างใส

นอกจากความพิเศษของ ‘ละอองทองคำ 24 กะรัต’ ที่นำความแตกต่างของโทนสีผิวมาพัฒนาเป็น PARURE GOLD 24K สามสูตรที่ใช้ทองคำต่างเฉดสีมาช่วยสะท้อนความกระจ่างใส ไพรเมอร์ทั้งสามสูตรยังมีอีกหนึ่งความลับที่เหมือนกัน นั่นก็คือ การพัฒนาสูตรส่วนผสมที่สกัดจากธรรมชาติในปริมาณสัดส่วนสูงถึง 98% อันได้แก่ กรดไฮยาลูรอนิก, ไกลคอล, ออสโมไลต์ และ สารสกัดจากดอกซากุระ ที่ต่างผสานพลังในการมอบความชุ่มชื่น ฟื้นบำรุงสภาพผิวในทุกครั้งที่ใช้ และยังช่วยในด้านเมคอัพให้ลงรองพื้นได้ง่ายดาย ผิวจะแลดูเรียบเนียนเปล่งประกายความสดใสขึ้น และยังช่วยให้เนื้อสีของรองพื้นติดทนนานท่ามกลางความชุ่มชื่นหล่อเลี้ยงต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง

Photo: Courtesy of Brand


7 เทรนด์กินดีมีสุขปี 2024 เน้นคุณภาพ-ทำอาหารเอง-กินอย่างยั่งยืน

7 เทรนด์กินดีมีสุขปี 2024 เน้นคุณภาพ-ทำอาหารเอง-กินอย่างยั่งยืน

Alternative Textaccount_circle
7 เทรนด์กินดีมีสุขปี 2024 เน้นคุณภาพ-ทำอาหารเอง-กินอย่างยั่งยืน
7 เทรนด์กินดีมีสุขปี 2024 เน้นคุณภาพ-ทำอาหารเอง-กินอย่างยั่งยืน

ต้อนรับปีมังกรทองด้วยการดูแลสุขภาพด้วยไลฟ์สไตล์แบบวิถีใหม่ ทั้งพฤติกรรมการกินอาหาร ออกกำลังกาย และดูแลสุขภาพ พร้อมเผยศาสตร์นวัตกรรมอาหารและสุขภาพ จากผลสำรวจของ Euromonitor ในปีที่ 2023 ที่ผ่านมา พบว่าคนไทยวัยทำงานยุคหลังโควิด มีการใช้ชีวิตอยู่แบบประจำที่มากขึ้น เช่น การนั่งทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมง ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพและอาการเจ็บป่วย เมื่อไม่ได้ขยับร่างกายจึงส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคมากยิ่งขึ้น หลายคนพยายามปรับไลฟ์สไตล์ด้านอาหารการกิน หรือแม้แต่การออกกำลังกาย แต่ก็ทำได้ยากเพราะพบกับข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ไม่มีเวลาทำอาหารกินเอง ขาดทักษะทำอาหาร โดยพบว่าคนไทย 1 ใน 4 กำลังควบคุมอาหาร 65% ให้ความสำคัญกับส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น และ 41% ใส่ใจในเรื่องฉลากโภชนาการบนสินค้า เมื่อจะซื้อสินค้าหรือบริการ ผู้บริโภค 65% รู้สึกว่าสามารถสร้างความแตกต่างให้กับโลกด้วยทางเลือกและพฤติกรรมของพวกเขาได้

นอกจากนี้ คนไทยยังจัดสรรเวลาให้กับตัวเองมากขึ้น โดย 66% นิยมออกกำลังกายเป็นประจำ ทั้งที่บ้าน ออนไลน์ หรือฟิตเนส 58% บริโภคอาหารเสริมหรือวิตามินเพื่อสุขภาพเป็นประจำ และยังนิยมใช้เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพในการติดตามและวัดผลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังให้ความสำคัญด้านสุขภาพจิตมากขึ้น แม้หลายคนอาจเห็นว่า การปรับไลฟ์สไตล์ด้านอาหารที่ดีที่สุด คือการทำอาหารกินเอง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ถึงข้อจำกัดต่างๆ ที่ทำให้การทำอาหารกินเองเป็นเรื่องยาก เนื่องจากไม่มีเวลาออกไปซื้อของและเข้าครัว รวมถึงขาดทักษะการทำอาหาร

เผย 7 เทรนด์กินดีมีสุขปี 2024

  1. กินดี อร่อย เน้นคุณภาพ ผู้บริโภคยุคใหม่จะใส่ใจกับส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น เน้นการควบคุมอาหารที่กินในแต่ละวันเพื่อควบคุมน้ำหนักและสารอาหารที่เหมาะสม เช่น การลดหวาน มัน เค็ม หรือลดโซเดียมเพื่อสุขภาพที่ดี แต่ยังคงความอร่อย ผู้บริโภคยังยินดีที่จะจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับซื้ออาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยจะซื้อสินค้ากับร้านค้าและแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ
  2. ใส่ใจฉลากโภชนาการ อ่านส่วนผสมและคุณค่าทางโภชนาการ ที่ช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้กินอาหารเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง
  3. ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่นิยมการออกกำลังกายมากขึ้น จึงมองหาผลิตภัณฑ์ที่ให้พลังงานและบำรุงร่างกาย เมื่อสังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ผู้คนจึงให้ความใส่ใจกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มที่ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อและข้อต่อมากยิ่งขึ้น
  4. ทำอาหาร เครื่องดื่มกินเอง คนไทยจะนิยมทำอาหารกินเองที่บ้านมากขึ้น เนื่องจากคุ้นชินจากช่วงโควิด นอกจากนี้ การทำอาหารกินเองยังตอบอินไซต์คนไทยที่ใส่ใจกับส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น โดยใช้เครื่องปรุงรสช่วยเพิ่มรสชาติหรือลดขั้นตอนในการทำอาหารให้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เทรนด์การชงกาแฟทานเองที่บ้าน (home café) ก็มาแรงในกลุ่มคอกาแฟ ช่วยให้ครีเอทเมนูโดนใจได้หลากหลายรสชาติ
  5. อาหารสายกรีน ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ผู้บริโภคยุคใหม่จะเห็นความสำคัญของการบริโภคที่รักษ์โลกมากขึ้น เช่น ลดการบริโภคเนื้อสัตว์ โดยหันมาสนใจกินอาหารหรือทำอาหารที่มีวัตถุดิบจากพืช (plant-base foods) มากขึ้น ซื้ออาหารที่มีแหล่งผลิตหรือเป็นสินค้าท้องถิ่นมากขึ้น เพื่อลดการเกิด carbon footprints และยังให้ความสำคัญกับการจัดการขยะอาหาร ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม และอยากสนับสนุนสินค้าที่มีกระบวนการผลิตอย่างยั่งยืน
  6. ใช้เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพกายใจ ใช้อุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการดูแลสุขภาพมากขึ้น เช่น smart watch ในการประมวลผลการดูแลสุขภาพ ใช้ AI ในการวิเคราะห์การดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล และยังมีการใช้แอปพลิเคชันสุขภาพมากขึ้น เช่น วิเคราะห์พฤติกรรมการกินอาหารและคำนวณแคลอรี่ แอปคำนวณการดื่มน้ำ เครื่องช่วยนอนหลับ หรือการปรึกษาสุขภาพออนไลน์ (tele-medicine)
  7. มีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้คนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพและออกกำลังกายมากขึ้น โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่บ้าน และเห็นได้ชัดจากงานแข่งวิ่งที่เป็นเทรนด์ฮิตมากในช่วง 1-2 ปีนี้ อีกทั้งยังมีการให้ความสำคัญกับสุขภาพจิต โดยให้รางวัลตัวเองด้วยการไปนวด ทำสปา เข้ารับคำปรึกษาหรือการบำบัด เพื่อความเป็นอยู่ดีที่ขึ้น

Source: อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) ผู้บุกเบิกในการค้นคว้าศาสตร์แห่งกรดอะมิโน โดยพัฒนาองค์ความรู้และค้นพบนวัตกรรมที่ช่วยส่งเสริมความอยู่ดีมีสุข
Photo: Pexels


กูรูสุขภาพระดับโลก แนะทางห่างไกลมะเร็ง ด้วยการสร้างสมดุลให้ร่างกาย และกลับคืนสู่วิถีชีวิตธรรมชาติ

Alternative Textaccount_circle

จากรายงานขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization – WHO) คาดการณ์ว่า อัตราการเกิดโรคมะเร็งทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 70% ภายในปี 2030 โดยภูมิภาคเอเชียเป็นพื้นที่ที่คาดว่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากที่สุด ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของการก่อตั้ง Oasis Healing Asia หรือOHA ศูนย์ดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งแบบองค์รวมแห่งแรกในประเทศไทย ที่ได้นำแนวทางการรักษาที่พิสูจน์ผลแล้วจากศูนย์รักษาโรคมะเร็งที่ดำเนินมาเกือบ 20 ปีและมีชื่อเสียงระดับโลกจากสหรัฐอเมริกามาสู่เอเชีย รวมถึงคิดค้นพัฒนาแนวทางการฟื้นฟู และการหยุดมะเร็งแบบผสมผสาน เพื่อมุ่งรับมือกับวิกฤติโรคมะเร็งที่จะส่งผลต่อประชากรกว่า 3.5 พันล้านคนในอนาคตทั้งในประเทศไทยไทยและทั่วภูมิภาคเอเชีย

ด้วยแนวทางการรักษารูปแบบใหม่ที่อ่อนโยนและทรงประสิทธิภาพ ผสานเทคโนโลยีสุดล้ำเข้ากับความเชี่ยวชาญด้านมะเร็งยาวนานกว่า 38 ปีของ นายแพทย์โทมัส โลดี้ (Dr. Thomas Lodi, MD, MD(H)) ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งแบบองค์รวมระดับโลก แพทย์ผู้ปฏิวัติวงการมะเร็งด้วยปรัชญา “หยุดสร้างมะเร็ง” ได้แชร์มุมมองใหม่ว่า ในขณะที่การรักษามะเร็งในปัจจุบันของโลกการแพทย์ต่างมุ่งเน้นไปที่ “การต่อสู้โรค” ทว่าเขากลับมองว่า “โรค” ไม่ใช่ศัตรูภายนอก แต่เป็นสัญญาณเตือนจากร่างกาย บอกเล่าถึงความเสียสมดุลภายในที่เกิดจากการละเมิดกฎธรรมชาติ จากชีวิตที่หลีกห่างจากอาหารตามธรรมชาติ ขาดการออกกำลังกาย นอนไม่เพียงพอ ความเครียดสะสม ล้วนส่งผลต่อการทำงานของร่างกายและจิตใจนั่นเอง โดยยืนยันว่า การฟื้นฟูสุขภาพมิใช่แค่การกำจัดโรค แต่อยู่ที่การสร้างสมดุลให้ร่างกาย กลับคืนสู่วิถีชีวิตที่สอดคล้องกับกฎธรรมชาติ เหมือนกับต้นไม้ที่เจริญเติบงดงามได้เมื่อได้รับแสงแดด น้ำ และดินอย่างพอเหมาะ การเลือกอาหารที่สะอาด ปรุงอย่างเรียบง่าย ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนเพียงพอ จัดการความเครียด จะกลายเป็น “ยา” อันทรงพลัง

ปรัชญาของเราคือการเคารพกฎแห่งชีวิตและอาศัยพลังธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตในการรักษา ร่างกายมีความสามารถในการรักษาตัวเองโดยกำเนิด และเป้าหมายของเราคือการช่วยพัฒนาศักยภาพนี้ผ่านความสมดุลระหว่างร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ” ดร.โทมัส โลดี้ กล่าว

คุณวศิน ดลรึเดช ผู้ร่วมก่อตั้ง โอเอซิส ฮีลลิ่ง เอเชีย กล่าวว่า “การเปิดตัว โอเอซิส ฮีลลิ่ง เอเชีย นับเป็นก้าวสำคัญของการรักษาโรคมะเร็งในภูมิภาค ไม่เพียงแค่สำหรับประเทศไทย แต่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกทั่วทั้งเอเชีย โดยเป็นการนำเสนอแนวทางการรักษาแบบปฏิวัติ ผ่านศาสตร์ที่เคารพภูมิปัญญาของธรรมชาติ และเสริมพลังให้ผู้ป่วยควบคุมสุขภาพของตนเอง เรามองเห็นอนาคตที่โรคมะเร็งไม่ใช่ ‘ศัตรูที่น่าหวาดกลัว’ แต่เป็นความท้าทายในการทำความเข้าใจ และเคารพกฎของธรรมชาติที่ก่อให้เกิดโรค และการรักษามะเร็งจะไม่ใช่การต่อสู้ที่เจ็บปวดเสมือนการสู้รบในสนามรบอีกต่อไป แต่เป็นการเรียนรู้ที่จะกลับไปสู่ธรรมชาติ”

นอกเหนือจากการรักษาทางการแพทย์แล้ว การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงห่างไกลจากมะเร็งแบบองค์รวม ยังรวมถึงไลฟสไตล์การใช้ชีวิตที่ดีอย่างแท้จริง ทั้งด้านจิตใจ และการโภชนาการเป็นสำคัญ โดย โอเอซิส ฮีลลิ่ง เอเชีย กำลังจะเปิดให้บริการในเดือนเมษายน 2567 นี้


ฉลองตรุษจีน กับไอเท็มสุดหรู Devialet Phantom ลำโพงประดับทองคำ

account_circle

Devialet (เดอเวียเลต์) เผยโฉมลำโพง Phantom I 108 dB by Yang Bao & Wa Liu  ลำโพงรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นรุ่นแรกที่รังสรรค์ร่วมกับ 2 ศิลปินจากนิวยอร์กและปักกิ่ง โดยได้เปลี่ยนโฉมผลิตภัณฑ์ไอคอนิกของ Devialet เป็น “สัตว์” ที่ถ่ายทอดสุนทรียะทางดนตรีและก้าวไปข้างหน้าอย่างไร้ที่สิ้นสุด

ฉลองตรุษจีน กับไอเท็มสุดหรู Devialet Phantom ลำโพงประดับทองคำ

ลำโพง Devialet รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น Phantom I 108dB by Yang Bao & Wa Liu คือการร่วมงานกันครั้งแรกของ Devialet กับศิลปินชื่อดังเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนในปีมังกร 2024 โดยลำโพง Phantom I นั้นถูกประดับประดาด้วยทองคำเปลว 22.5 กะรัต และขัดเงาด้วยสีแดง อันเป็นงานฝีมือจากอเทลิเยร์ที่มีความโดดเด่นด้านช่างทองหัตถศิลป์อย่าง Ateliers Gohard จนเกิดเป็นการหลอมรวมกันอันน่าหลงใหลของสไตล์แบบฝรั่งเศสและวิจิตรศิลป์แบบจีน

ในบรรดาสัญญะทางวัฒนธรรมของจีน มังกรมีเอกลักษณ์อย่างมาก เนื่องจากเป็นสัตว์มหัศจรรย์จากปกรณัมเพียงหนึ่งเดียวที่อยู่ในหมู่จักรราศี การสร้างสรรค์ร่วมกันสำหรับเทศกาลตรุษจีนในครั้งนี้ได้นำแก่นแท้ของมังกรมาสะท้อนถึงจิตวิญญาณที่โลดแล่นของ Devialet Phantom I ซึ่งทั้งแข็งแกร่ง ลึกลับ และหยั่งรากลึกถึงมรดกทางวัฒนธรรม

ในการร่วมมือทางศิลปะครั้งแรกของ Phantom I ทาง Devialet ได้รับความช่วยเหลือจากพันธมิตรคู่ใจอย่าง Ateliers Gohard ในการปิดทอง อเทลิเยร์ในกรุงปารีสนี้มีชื่อเสียงด้านช่างทองหัตถศิลป์มายาวนานกว่า 60 ปี ด้วยงานหัตถศิลป์แบบ   bespoke และมีฟินิชที่เหนือชั้นซึ่งสั่งสมมาจากเทคนิคทางศิลปะชั้นครูอันเป็นเอกลักษณ์ของอเทลิเยร์

เพราะทักษะและองค์ความรู้ที่ไม่เหมือนใคร ช่างศิลป์ของ Gohard จึงถูกเลือกให้เป็นผู้แต่งแต้มดีไซน์อันซับซ้อนที่ได้ แรงบันดาจใจจากมังกรเป็นคุณลักษณะของลำโพงรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นจาก Devialet อย่าง Phantom I 108 dB by Yang Bao and Wa Liu ด้วยวิธีปิดทองคำเปลวอันประณีตและแม่นยำ ฟินิชของลำโพงอันโดดเด่นและพิถีพิถันนี้จึงแสดงออกถึงเอกลักษณ์และความหรูหรา โดยแผงด้านข้างลำโพงแต่ละด้านของ Devialet Phantom I 108 dB by Yang Bao & Wa Liu คือข้อพิสูจน์ของงานฝีมือเหนือระดับ

การร่วมงานกันในครั้งนี้เปรียบเสมือนบทใหม่ของความร่วมมือกันระหว่าง Devialet และ Ateliers Gohard ซึ่งดำเนินมาตั้งแต่ปี 2017 ในฐานะช่างฝีมือที่ได้รับความไว้วางใจในการปิดทองคำเปลวลงบนลำโพงรุ่น Phantom Opéra de Paris ความสัมพันธ์อันยืนยาวนี้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นตัวแทนของการอยู่ร่วมกันของวิสัยทัศน์ทางศิลปะและการผลิตงานอันช่ำชอง ที่ซึ่งประเพณีและเทคโนโลยีนั้นสอดรับกัน

ลำโพงรุ่น Phantom ซึ่งเป็นรุ่นไอคอนิกของ Devialet นั้นเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของประสบการณ์แห่งเสียงที่รวมพลังและความแม่นยำเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นประสบการณ์ใหม่ซึ่งเหนือชั้นกว่าลำโพงทั่วไป Phantom I คือส่วนผสมของคุณภาพที่ยอดเยี่ยมและพลังงานที่ส่งมอบประสบการณ์แห่งการฟังที่โดดเด่นด้วยความชัดเจนและความลุ่มลึกที่ไม่มีใครเทียบได้ 

ตั้งแต่เปิดตัว ลำโพงรุ่น Phantom ได้ปฏิวัติเทคโนโลยีลำโพงและกลายเป็นสัญลัษณ์ของความเป็นเลิศของเสียง ด้วยการผสมผสานกันของเทคโนโลยีเอ็กซ์คลูซีฟล้ำสมัยที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ลำโพงรุ่น Phantom ได้สร้างความรู้สึกเหนือความคาดหมายอย่างต่อเนื่องในทุกมิติแห่งเสียง ด้วยการนำเสนอเสียงที่ไร้ความบิดเบี้ยว ไร้การแต่งเติม และไร้เสียงรบกวนจากรอบข้าง ยกระดับมาตรฐานของวงการด้วยเสียงที่มีคุณภาพ 

ด้วยการเชื่อมต่อประสิทธิภาพสูง ลำโพง Phantom I ได้ปลดปล่อยศักยภาพแห่งเสียงที่นุ่มแน่นและยอดเยี่ยม             จนสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนด้วยพลังเสียง ความชัดเจน และความแม่นยำที่ทำให้ลำโพงรุ่นนี้โดดเด่น Yang Bao และ Wa Liu ได้เปลี่ยนโฉมลำโพง Phantom I ให้เป็นเทคโนโลยีที่น่าพิศวงด้วยการผสมผสานสัญญะของมังกรเข้ากับนวัตกรรมทางศิลปะและงานฝีมือจากช่างผู้เชี่ยวชาญ 

ลำโพง Devialet รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น Phantom I 108dB by Yang Bao & Wa Liu  วางจำหน่ายในราคา 235,990 บาท บนเว็บไซต์ของ Devialet รวมถึงวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ร้าน Devialet by Deco 2000 สยามทาคาชิมายะ ไอคอนสยาม


World Elite ร่วมสัมผัสการท่องเที่ยวเชิงปัญญา World’s Wellness and Mindfulness Destination

account_circle

มูลนิธิโรงเรียนแห่งชีวิต สร้างปรากฏการณ์ความเป็น World’s Wellness and Mindfulness Destination ให้กับ
จังหวัดสระบุรีซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยว New Chapter of Wellness Journey ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ในโครงการ Thailand Meaningful Wellness ยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวสายศรัทธาของไทยสู่สากล เปิดบทใหม่ของ “การท่องเที่ยวเชิงปัญญา”  ตอกย้ำถึงความสำคัญของการเป็นดินแดนแห่งพระพุทธศาสนาของประเทศไทย

ล่าสุด เตโชวิปัสสนาสถาน อ.แก่งค่อย จ.สระบุรี มีโอกาสต้อนรับ World Elite จากวงการแพทย์ Martial Arts (ศิลปะการต่อสู้ขั้นสูง) นักแสดง Hollywood คุณหมอ เภสัชกร และนักธุรกิจระดับโลกจากหลากหลายวงการ กว่า 40 ท่านที่
พร้อมใจกันบินข้ามน้ำข้ามทะเลเดินทางมาจาก 15 ประเทศทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา  อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน จีน ฮ่องกง ฯลฯ เพื่อฝึกปฏิบัติสมาธิและวิปัสสนากรรมฐานขั้นสูง รวม 7 คืน 8 วัน โดยตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่มีการ
ใช้โทรศัพท์มือถือ รับประทานอาหารมังสวิรัติ โดยได้รับความเมตตาจากท่านอาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล ประธานมูลนิธิโรงเรียนแห่งชีวิต และมูลนิธิโนอิ้ง บุดด้า ให้เข้ารับการอบรมคอร์สเฉพาะกิจภาษาต่างประเทศเป็นกรณีพิเศษ ระหว่างวันที่ 7 – 14 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา

กลุ่ม World Elite จากทั่วโลก อาทิ ดร.โรเบิร์ต โกลแมน ประธาน The American Academy of Anti-Aging
Medicine (A4M) เจ้าของสถิติ Guinness World Records หลายรายการ และประธานสมาพันธ์ศิลปะการป้องกันตัว
และเพาะกายโลก, แอนโทนิโอ เชียน่า อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองจากแอฟริกาใต้ ซิลวิโอ ซิแม็ก นักแสดงฮอลลีวู้ดมากผลงาน อาทิ Transporter3, Man of Tai Chi, Unleashed ฯลฯ, Ernie Reyes Sr นักแสดงและนักออกแบบท่าทาง
การต่อสู้, ซามูเอล คว็อก ปรมาจารย์การต่อสู้ป้องกันตัวระดับตำนานผู้เป็นศิษย์แห่งยิปมัน, ซินเธีย ร็อธร็อก ปรมาจารย์การต่อสู้ที่แสดงภาพยนตร์กว่า 60 เรื่อง มีชื่อเสียงทั้งใน Hollywood และฮ่องกง, ไซม่อน คุ๊ก นักแสดง
ไทยที่ไปสร้างชื่อเสียงระดับ Hollywood ร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่องยิปมัน3 และเคยรับบทนักแสดงแทน(Stand-in) ให้กับโทนี่ จา, มาร์ค ไซม่อน เวคส์เลออร์ ผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับภาพยนตร์ สารคดีชั้นนำ และช่างภาพข่าว,
Abutbul Meir แห่งเครือ W Hotel Ibiza ประเทศสเปน, ซิโร่ โอซีนิ เซเลบบริตี้นักธุรกิจและนักการกุศล รวมทั้งอาจารย์ แพทย์ เภสัชกร วิศวกร และนักธุรกิจสาย Wellness มีความสนใจการปฏิบัติสมาธิขั้นสูงหรือวิปัสสนากรรมฐาน
และปรารถนาที่จะศึกษาหลักธรรมอันทำให้พบความจริงเกี่ยวกับชีวิต กระทั่งยอมละทิ้งชีวิตหรูหรา มาสู่การฝึกฝนจิตอย่างแท้จริง ณ เตโชวิปัสสนาสถาน สถานที่ที่ได้เปลี่ยนมุมมองชีวิตของผู้ปฏิบัติมาแล้วนับหมื่นคน ซึ่งเป็นการพิสูจน์หลักธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงสอน

ดร.โรเบิร์ต โกลแมน ประธาน The American Academy of Anti-Aging Medicine (A4M) กล่าวว่า “การได้มาที่ เตโชวิปัสสนาถือเป็นประสบการณ์ที่แสนประทับใจ ไม่เหมือนที่ไหนในโลก ผมจึงได้ชักชวนเพื่อนๆ มาสัมผัสกับ
ประสบการณ์ท้าทายด้วยตนเอง การปฎิบัติที่นับว่ายากมากต้องใช้ความมุ่งมั่น มีวินัย มีจิตใจที่เข้มแข็ง ต้องผ่านการฝึกฝนเช่นเดียวกับศิลปะการต่อสู้ ผมว่ามันยากยิ่งกว่าการฝึกทหารในหน่วยรบพิเศษในตะวันออกกลาง ซึ่งผมเคยฝึกซ้อมระดับโลกมาแล้ว แต่การฝึกวิปัสสนาธรรมที่นี่มันท้าทายกว่ามาก เพราะเป็นการต่อสู้กับจิตภายในของเราให้เป็นสมาธิ ซึ่งชาวตะวันตกไม่คุ้นชิน เรามักจะทำอะไรหลายอย่างพร้อมกัน ซึ่งผลลัพท์ของการฝึกครั้งนี้ทำให้ผมมีสมาธิ มีสติที่คมชัดมาก และมีระบบความคิดที่มีเหตุและผล

ซิลวิโอ ซิแม็ก  นักแสดงฮอลลีวู้ดมากผลงาน กล่าวเสริมว่า “การมาปฏิบัติในครั้งนี้มีผลอย่างลึกซึ่งต่อจิตใจของผม ศิลปะการต่อสู้เป็นการผสมผสานระหว่างร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ผมฝึกมา 40 ปี ผมเพิ่งได้เข้าใจว่า การต่อสู้ภายในใจเป็นสิ่งที่มีความท้าทายมาก การวางจิตให้สงบจะเป็นสิ่งที่สร้างพลังให้อย่างมาก ผมจะนำประสบการณ์นี้ไปบอกเล่าให้นักเรียนของผมได้ฟังด้วย ”

คุณชิโร่ โอชินิ เซเลบบริตี้นักธุรกิจและนักการกุศล กล่าวปิดท้ายว่า “ระหว่างที่เข้ามาปฏิบัติมีความยากเหมือนกัน แต่ผมก็รู้สึกดีที่ได้อยู่ห่างจากเครื่องมือสื่อสารต่างๆ และได้ใช้เวลาฝึกจิตใจของตัวเอง เวลาผมไม่ได้ใช้โทรศัพท์ ทำให้รู้สึกสมองปลอดโปร่ง”

Abutbul Meir นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อิสราเอล ผู้อยู่เบื้องหลังโรงแรมชื่อดังอย่าง Blake Hotel London, Nobu
Hotel London, Nobu Hotel London และ W Hotel Ibiza ที่สเปนได้ กล่าวว่า “ผมเตรียมตัวฝึกสมาธิ 30 ชั่วโมงก่อน
ที่จะมาเข้าคอร์สนี้ มันเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก โดยสองวันแรกของการฝึกนั้นยากมาก แต่สุดท้ายผมก็ทำได้ดี ได้เรียนรู้ถึงมิตรภาพ และความอ่อนโยน โดยเฉพาะธรรมบริกรดูแลเอาใจใส่พวกเราทุกคน ตั้งแต่อาหารการกิน ที่ใช้ใจปรุง ซึ่งผมจะนำกลับไปแบ่งปันให้กับพนักงานและลูกค้าของเรา และผมอยากพาพนักงาน และครอบครัวผมให้มีโอกาสมาที่นี่ครับ”

ตลอดระยะเวลา 8 วัน 7 คืน ผู้ปฏิบัติต้องตัดขาดจากเครื่องมือสื่อสาร ปิดวาจา ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ทุกท่านต้องนอนมุ้ง รับประทานอาหารมังสวิรัติอยู่ในวิถีของการฝึกตน (Self -Training) ปฏิบัติภาวนาวันละ 9 ชั่วโมง ให้เข้าถึงความจริง
ในระดับจิตไร้สำนึก ช่วงเวลานอกเหนือจากนั้นคือการเดินจงกรม ฟังธรรมบรรยาย และพักผ่อนตามอัธยาศัย ซึ่งการปฏิบัติจริงจังเช่นนี้แม้แต่ชาวพุทธในประเทศไทยเองก็ยังปฏิบัติได้น้อย เพราะต้องอาศัยความพากเพียรและความอดทนอย่างยิ่งยวด ต่างจากการฝึกสติแบบชิมลองในรีสอร์ต หรือการฝึกสมาธิขั้นต้นที่กำลังเป็นที่นิยมในโลกตะวันตก

และแม้ว่าแต่ละท่านจะเป็นถึงระดับปรมาจารย์ ศาสตราจารย์ และผู้ประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิตทางโลก แต่การมา
ครั้งนี้ทุกท่านพร้อมที่จะเป็นผู้เรียนรู้ในศาสตร์แห่งพระพุทธศาสนา โดยเลือกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานตามเทคนิค เตโชวิปัสสนา สอนโดย ท่านอาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล วิปัสสนาจารย์ชาวไทย ที่ได้รับการยอมรับจากเวทีระดับโลกใน
งาน Longevity World Congress จัดโดย The American Academy of Anti-Aging Medicine (A4M) ที่ได้เชิญท่าน
อาจารย์อัจฉราวดี ขึ้นเชิญบรรยายพิเศษให้แก่แพทย์ชั้นนำร่วม 3,000 คน ในหัวข้อ “Heal At The Core” ณ เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา

ในงานดังกล่าว ท่านอาจารย์อัจฉราวดี ได้อธิบายเรื่องของจิตที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบ เพื่อให้เห็นองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ปัญญาถูกปกปิด เพียงเพราะไม่สามารถพัฒนาเครื่องมือที่ละเอียดพอในการทดสอบความมีอยู่จริงของจิตได้ จนทำให้การรักษาโรคหลายชนิด รวมถึงการเยียวยาจิตใจจากโรคซึมเศร้า Depression สวนทางกับสาเหตุที่ต้นตอจนนำไปสู่การทำลายชีวิตตัวเองเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดทางคณะกรรมการของ The American Academy of Anti-Aging Medicine (A4M) โดย Dr.Robert Goldman ได้ขึ้นมอบรางวัล “LIFETIME ACHIEVEMENT AWARD” แด่ท่านอาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล ซึ่งเป็นการประกาศ
เกียรติคุณแด่ผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับวงการแพทย์อย่างแท้จริง และ Prince Gharios El Chemor Al-Numan VIII แห่งรอยัล เฮาส์ แห่งกาซาน เจ้าชายแห่งราชวงศ์เก่าแก่ในดินแดนตะวันออกกลางที่ได้รับการยอมรับจาก
สหประชาชาติกรุณามอบรางวัล  “Grand Collar Rank”  ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติสูงสุดที่ราชวงศ์ Ghassan มอบให้แก่บุคคลระดับผู้นำประเทศที่ทำคุณงามความดี นำชื่อเสียงและการยอมรับมาสู่ประเทศไทยเป็นอันมาก ซึ่งเห็นได้
ชัดเจนจากการตื่นรู้ของเหล่า Elite ที่ตั้งใจมุ่งหน้าเดินทางมาเพื่อการณ์นี้ นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของโลกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และยังเป็นการช่วยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวสายศรัทธาของไทยให้เป็นการตื่นรู้เชิงปัญญา
ประกาศความเป็น World’s Wellness and Mindfulness Destination และย้ำถึงความสำคัญของการเป็นดินแดนแห่งพระพุทธศาสนาของโลกอย่างแท้จริง

สำหรับบุคคลทั่วไปที่สนใจการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเช่นนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่เตโชวิปัสสนา หรือมูลนิธิโรงเรียนแห่งชีวิต โทร: 02-117-4063 ถึง 64 หรือ https://tha.techovipassana.org/

แฟชั่นชิลๆ ‘จอย Red Velvet’ ส่อง 3 ไอเท็มสุดคิวต์จาก THREETIMES

Alternative Textaccount_circle

พาส่องแฟชั่นสบายๆ ในวันชิลๆ ของ ‘จอย Red Velvet‘ ไปกับ 3 ไอเท็มจาก THREETIMES แบรนด์เกาหลีราคาน่ารัก

เรื่องแฟชั่นเทสดียังไงก็ต้องมีชื่อ จอย Red Velvet ปรากฏอยู่ เพราะหากตามอินสตาแกรมของเธอจะได้เห็นสไตล์การแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์มีทั้งความน่ารักและเซ็กซี่ปนอยู่หน่อยๆ หรือจะเป็นวันสบายๆ ชิลก็มีออกมาให้เห็น รับรองว่าถ้ากดติดตามไว้เราจะได้ไอเท็มเด็ดๆ ตามเธอเพียบ แอบกระซิบว่าเธอมักใช้แฟชั่นไอเท็มจากแบรนด์เกาหลีด้วย เพราะฉะนั้นหากใครสายนี้ยิ่งไม่ควรพลาดสุดๆ

สำหรับลุคที่เราจะมาส่องในบทความนี้เป็นลุคชิลๆ ที่มีความน่าสนใจ แถมราคายังจับต้องได้ เพราะเป็นไอเท็มจากแฟชั่นแบรนด์เกาหลีใต้อย่าง THREETIMES ที่กำลังมาแรง โดยในลุคนี้มีทั้งหมด 3 ไอเท็มด้วยกันตั้งแต่ Venus Jacquard Knit Hoodie ราคา 5,600 บาท Baby Cardigan สีชมพูพาสเทล ราคา 1,300 บาท อีกทั้งยังมีกระเป๋าถืออีกใบที่ยังไม่วางขาย หากใครชอบคงต้องไปติดตามอินสตาแกรมของแบรนด์เอาไว้ให้ดีๆ


รูปภาพ: Instagram @_imyour_joy และ @threetimess

10 คลินิกความงามชั้นนำ แชร์ความประทับใจที่มีต่อ Pure BIM Hydrating Gel Mask

account_circle

ในยุคที่การทำสวยตามบิวตี้คลินิกเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ชีวิตคนรักสวยจะขาดไม่ได้ การดูแลตัวเองหลังทำหัตถการอย่างมืออาชีพจึงสำคัญเช่นกัน หมดยุคพักหน้านานๆ จนเสียงาน นับ 1 2 3 ดีดนิ้ว เราต้องพร้อมสวย!

Pure BIM Hydrating Gel Mask หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ มาสก์นนกุล ถือเป็นผลิตภัณฑ์มาสก์ที่เหล่ากูรูความงามยอมรับว่าคอนเซ็ปต์ชัดเจนและเข้าเทรนด์จนต้องพูดถึง หลายคนที่เป็นสายบินไปทำหัตถการถึงยานแม่ที่เกาหลีคงคุ้นเคยกับ Pure BIM Hydrating Gel Mask ที่อยู่เคียงคู่กับโรงพยาบาลและคลินิกความงามระดับท็อป เพราะเขาเป็นผลิตภัณฑ์นำเข้าจากประเทศเกาหลีที่ออกแบบมาเพื่อปลอบประโลมผิวในช่วงที่เปราะบาง พร้อมคืนความชุ่มชื้นและลดรอยแดงให้กับผู้ทำหัตถการหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเลเซอร์ คลื่นเสียง หรืองานที่ใช้เข็ม

นอกจากนี้ Pure BIM Hydrating Gel Mask ยังจัดเป็นมาสก์สเตอริไลซ์เพียงแบรนด์เดียวในประเทศไทยที่ผ่านการฆ่าเชื้อแบบ 100% จึงปลอดภัยกับผิวที่บอบบาง มาสก์เจลแผ่นใส ให้สัมผัสนุ่มละมุนอ่อนโยน มอบความรู้สึกสบาย ช่วยปลอบประโลมให้ผิวสงบด้วยสารสกัดเข้มข้นจากสาหร่ายทะเลลึกกลุ่มสีน้ำตาล ที่ถูกยกให้เป็น Super Nutritious สำหรับดูแลผิวพรรณ

และนี่คือหลากหลายความประทับใจใน Pure BIM Hydrating Gel Mask จาก 10 คลินิกความงามชั้นนำ

พญ.ลวิตรา ภาพิบูลสถาพร
คุณสุริศา ภาพิบูลสถาพร
LAWITRA THE AESTHETIC CLINIC

“หมอเริ่มใช้ Pure BIM Hydrating Gel Mask ด้วยตัวเองก่อนแล้วตกหลุมรักทันที เป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจในกรรมวิธีรูปแบบการผลิตที่มีความสดใหม่ รวมถึงส่วนผสมที่ไม่เหมือนใครอย่าง ‘โซเดียมอัลจิเนต’ ที่ช่วยลดอาการอักเสบ แดง ทำให้ผิวชุ่มชื้น ยิ่งผู้รับบริการที่มีแผลจากการทำหัตถการหรือเลเซอร์ถือว่าตอบโจทย์

“หรือหลายคนที่มีผิวแพ้ง่าย ไวต่อการเกิดสิวและสารต่างๆ ที่มีในท้องตลาด ส่วนใหญ่จะกลัวการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ หลังทำหัตถการ เพราะผิวอยู่ในช่วงเซ้นสิทีฟ แต่พอใช้ Pure BIM Hydrating Gel Mask ฟีดแบ็กที่ได้รับคือใบหน้ารู้สึกเย็นสบาย คล้ายผิวอยู่ในอากาศติดลบ อาการแดงและรอยต่างๆ ก็ค่อย ๆ ลดลง ช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาดีขึ้น”

พญ.ชนิศา ชํานาญวาด
CHANISA CLINIC

“โดยปกติหลังทำหัตถการหมอมักไม่แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์อะไรเลย หรือหากใช้ก็ต้องเลือกให้มาก ควรปรึกษาแพทย์ก่อนด้วย เพราะหลังเลเซอร์ผิวถูกเปิด เสี่ยงต่อการติดเชื้อ หากมีอะไรแปลกปลอมเข้าไปจะทำให้อุดตันหรือติดเชื้อได้ แต่ความที่ Pure BIM Hydrating Gel Mask เป็นสเตอริไลซ์มาสก์ ไม่มีส่วนผสมของสารแปลกปลอมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง จึงลดความเสี่ยงเรื่องการติดเชื้อ

“สำหรับใครที่ชอบการดูแลปรนนิบัติผิวเป็นพิเศษ แม้ไม่ได้ทำหัตถการใดๆ ก็ใช้ได้เช่นกัน แต่ชี้เป้าเป็นพิเศษสำหรับคนที่ชอบทำหัตถการแล้วไม่อยากให้ใครรู้ว่าไปทำอะไรมา แนะนำให้ลองใช้ Pure BIM Hydrating Gel Mask สัก 2 – 3 วัน ส่วนใหญ่ออกไปเฉิดฉายได้อย่างมั่นใจ ไม่มีโดนทักค่ะ”

พญ.ชาลินี เพียรธนภาคย์
REALS AESTHETIC CENTER

“Pure BIM Hydrating Gel Mask ตอบโจทย์เรื่องการปลอบประโลมผิวหลังการทำหัตถการต่างๆ  แน่นอนว่าการทำสวยต้องมีการฉีดที่ทำให้เกิดรอยแดงหรือรอยเข็ม รวมไปถึงความรู้สึกแสบร้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะกับพวกนวัตกรรมยกกระชับอย่างอัลเทอราปี หลังทำอาจทิ้งความรู้สึกร้อนผ่าวไม่สบายตัวได้ มาสก์ของ Pure BIM Hydrating Gel Mask จะช่วยทำให้ผิวสงบ รู้สึกสบายผิว ลดรอยแดงและอุณหภูมิผิวลงได้ ซึ่งนั่นส่งผลถึงการช่วยลดดาวน์ไทม์ด้วย

“เราเห็นเคสที่มอบผลลัพธ์อันน่าทึ่งกับการทำ Vital Injector ซึ่งความที่เราฉีดละเอียดทั่วทั้งใบหน้า รอยเข็มจึงเกิดขึ้นเต็มพื้นที่ เมื่อใช้ Pure BIM Hydrating Gel Mask หลังทำ ปรากฏว่ารอยเข็มจางลง รอยแดงก็ค่อยๆ ลดลง ในกลุ่มที่ทำ Pico Laser เช่นกัน บางครั้งอาจมีเอฟเฟ็กต์ผิวแห้ง คัน หรือเป็นตุ่ม ซึ่งหากปล่อยให้ผิวแห้งแบบนั้นนานๆ ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่ดีเท่าที่ควรหรืออาจมีผลเสียอื่นๆ ตามมา ซึ่งผลลัพธ์ของ Pure BIM Hydrating Gel Mask ช่วยดูแลผิวหลังทำหัตถการได้ดี”

คุณปิยวัช ไตรถวิล
คุณบุณยาภรณ์ รอดประจง
BEGLAM CLINIC

“ยอมรับว่าครั้งแรกที่รู้จัก Pure BIM Hydrating Gel Mask เราไม่ได้คาดหวัง คิดว่าคงเหมือนมาสก์ทั่วไป พอมีคนแนะนำ พูดถึงความดีงามให้ฟังมากๆ เข้าจึงลองดู ปรากฏว่าผลลัพธ์ที่ได้นั้นทำให้เลิกคิดว่าราคาสูงไปเลย เพราะคุ้มค่าจริง เมื่อนำมาใช้ที่ Beglam Clinic ลูกค้าก็ชอบมาก แทบทุกรายกลับมาขอซื้อซ้ำ

“ส่วนใหญ่ที่คลินิกนิยมใช้หลังทำ Pico Laser และงานหัตถการแทบทุกชนิด บางหัตถการทำไปแล้วมีเอฟเฟคท์หน้าร้อน ไม่สบายผิว มาสก์นี้ถือว่าเป็นตัว Add-on ที่ช่วยปลอบประโลมให้ผิวฟื้นฟูได้ดี อย่างพวกงานฉีดผิวที่มีรอยเข็ม Pure BIM Hydrating Gel Mask ช่วยลดการติดเชื้อและรอยเข็ม แค่ไม่กี่วันก็ใช้หน้าได้เลย ไม่ต้องพักฟื้นนาน”

พญ.ปุนญนันท์ บุญชญา
DREMA CLINIC AESTHETICS & LASER

“ในขั้นตอนหลังทำเลเซอร์เราเลือกใช้มาสก์ของ Pure BIM Hydrating Gel Mask มาเป็นตัวช่วย เพราะตามที่คนส่วนใหญ่ที่เคยทำเลเซอร์รู้กันดีว่าอาจเกิดรอยแดง ซึ่งต้องอาศัยระยะเวลาในการพักฟื้น แต่หากใช้มาสก์ตัวนี้ควบคู่ไปด้วย ผิวจะค่อยๆ ฟื้นตัวได้ดีขึ้น รวมถึงหัตถการกลุ่มฉีดต่างๆ ที่อาจทิ้งรอยเข็ม ก็ช่วยได้ดีเช่นกัน

“ทั้งนี้เพราะมาสก์ของ Pure BIM Hydrating Gel Mask มีคุณค่าของส่วนผสมอย่าง Sodium Alginate หรือสารสกัดจากสาหร่ายทะเลน้ำลึก ซึ่งช่วยในการฟื้นฟูผิว พร้อมคืนความชุ่มชื้นให้ผิว ดังนั้นนอกจากการใช้หลังทำเลเซอร์แล้ว เรายังสามารถใช้เป็นสกินแคร์รูทีนที่บ้านได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งความที่เป็น Hydrogel Mask จึงมีอีกหนึ่งข้อดีคือใช้ง่าย ไม่เหนอะหนะ ไม่เลอะเทอะ ใครที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลผิวหรือต้องการบู๊สต์ผิวแบบเร่งด่วน เชื่อว่าน่าจะถูกใจค่ะ”

พญ. รุ่งทิวา ศิริวัฒนเกตุ
SILVERINE CLINIC

“ช่วงนี้ถือเป็นยุคทองของนวัตกรรมความงาม ทำให้หมอมีโอกาสสัมผัสกับโปรดักต์ใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่งหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่รู้สึกประทับใจคือมาสก์ของ Pure BIM Hydrating Gel Mask จากเกาหลีที่มีคุณสมบัติโดดเด่น

“ข้อดีหลักๆ คือเป็นมาสก์แบบสเตอริไลซ์ที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยเทคโนโลยี Electron Beam จึงสามารถใช้กับผิวที่มีแผล ผิวที่เป็นสิว หมดห่วงเรื่องการติดเชื้อ และที่สำคัญคือการใช้หลังทำเลเซอร์ เพราะมาสก์ของ Pure BIM Hydrating Gel Mask มีคุณสมบัติในการช่วยลดอุณหภูมิผิวได้ดี รวมถึงยังช่วยปลอบประโลมผิวที่เผชิญแสงแดดหนักๆ ได้ด้วย อีกทั้งหลังทำหัตถการอื่นๆ ที่อาจทิ้งรอยแดงจากเข็ม มาสก์ตัวนี้ก็เป็นตัวช่วยในการฟื้นฟูผิว ผู้รับบริการส่วนใหญ่ที่ได้ลองใช้รู้สึกประทับใจและซื้อซ้ำกันเรื่อยๆ เพราะสามารถใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดีอีกด้วย”

พญ.ทอฝัน ตรีวัฒนกูล
THORFUN CLINIC

“Thorfun Clinic เราใส่ใจและพิถีพิถันสุดๆ กับทุกขั้นตอน ขอยกตัวอย่างเคสหลังการทำเลเซอร์ที่อาจจะรู้สึกร้อนผิว หมอใช้ Pure BIM Hydrating Gel Mask ช่วยปลอบประโลมผิวให้ผู้รับบริการเสมอ เพราะมาสก์ตัวนี้มีคุณสมบัติในการช่วยลดอุณหภูมิผิว รวมถึงยังช่วยลดพวกรอยเข็มหรือรอยแดงได้ดี

“อีกข้อดีที่สำคัญมากๆ คือมาสก์ของ Pure BIM Hydrating Gel Mask เป็นแบบสเตอริไลซ์ ดังนั้นหลังทำหัตถการที่มีการเปิดผิวจึงสามารถวางลงบนผิวได้เลย ไม่ต้องกังวลเรื่องการติดเชื้อ ส่วนใครที่มีปัญหาผิวโทรม ผิวแห้งเป็นขุย หรือแต่งหน้าไม่ค่อยติด มาสก์ตัวนี้ก็ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดี ที่สำคัญคือช่วยฟื้นฟูผิวได้ดี เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาน้อย โดยใช้เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนของการบำรุงผิวในชีวิตประจำวันได้เลย ซึ่งหมอทดลองกับตัวเองแล้ว ขอบอกเลยว่าตกหลุมรักค่ะ”

คุณณปภัช จันทร์แก้ว
TIMELESS CLINIC

“ที่ Timeless Clinic เราใช้ Pure BIM Hydrating Gel Mask ช่วยปลอบประโลมผิว พร้อมล็อกความชุ่มชื้นให้ผิวได้ล้ำลึกกว่ามาสก์ทั่วไปถึง 10 เท่า หลังจากนำมาใช้หลังทำหัตถการ รู้สึกว่าผลลัพธ์ดีแบบเห็นชัด ผู้ใช้บริการสบายผิวมากขึ้น ยิ่งหัตถการอย่างเลเซอร์ยิ่งช่วยลดอาการอักเสบ ระคายเคือง คืนความชุ่มชื้น และลดรอยแดงได้ดี เหมือนเป็นตัวเสริมประสิทธิภาพในการรักษา ผู้ใช้บริการก็แฮปปี้มากขึ้น

“ทุกเสียงต่างบอกว่ามาสก์ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื่นขึ้นและลดรอยแดงต่างๆ แถมผิวยังมีความเปล่งปลั่ง เพราะไฮโดรเจลมาสก์อุดมด้วยคุณค่าของสารสกัดเข้มข้นจากสาหร่ายทะเลลึกกลุ่มสีน้ำตาลที่ถูกยกให้เป็นซูเปอร์นิวทริเชียสสำหรับดูแลผิวพรรณ มีความสามารถเรื่อง Self-Regenerating และ Anti-Inflammation ทำให้คืนความชุ่มชื้นให้ผิวยาวนานถึง 24 ชั่วโมง ทั้งช่วยปรับอารมณ์และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ได้ผลลัพธ์ที่แฮปปี้ไปพร้อมๆ กัน ยิ่งถ้าชอบแต่งหน้า หลังใช้มาสก์ยิ่งแต่งหน้าติดผิวดีขึ้น ผิวดู Glass Skin อิ่มฟูและฉ่ำโกลว์ คุณภาพของผิวสมดุลและยืดหยุ่นดีขึ้น โดยเกือบทุกหัตถการจะมีมาสก์ตัวนี้ช่วยดูแลผิวหลังทำอยู่แล้ว แต่ที่เซอร์ไพรส์คือ ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ต่างก็เลือกซื้อกลับไปใช้ดูแลผิวเพิ่มเติมต่อที่บ้าน”

พญ.ภาวิตรา สุนทรรักษ์
นพ.ชลธิศ ศิริมหาชัย
BAMBINI CLINIC

“อีกหนึ่งไฮไลท์ไอเท็มฮ็อตที่ช่วยทั้งฮีลผิวและฮีลใจผู้ใช้บริการหลังทำหัตถการคือ Pure BIM Hydrating Gel Mask นวัตกรรมล่าสุดจากเกาหลี ด้วย Pure BIM Technology ผลิตและฆ่าเชื้อสเตอริไลซ์ ไม่มีสารกันเสีย พาราเบน แอลกอฮอล์ และน้ำหอม ผ่านเทคโนโลยี Electron Beam จึงสามารถใช้หลังการทำเลเซอร์หรือหัตถการความงามต่างๆ  นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการเบิร์นผิวแสบร้อนจากเลเซอร์ พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าสบายขึ้น รวมทั้งบรรเทาอาการปวดระบมจากการฉีดยาบางชนิดที่อาจทำให้เกิดเลือดออกจุดเล็กๆ จนดูไม่สบายผิว

“โดยตัว Pure BIM Hydrating Gel Mask ออกแบบมาให้เข้ากับรูปหน้า สามารถแยกชิ้นทั้งส่วนบนกับส่วนล่าง  ใช้เวลาน้อย มาสก์ครั้งละประมาณ 20 – 30 นาที ถ้าเทียบระหว่างผู้ใช้มาสก์กับไม่ใช้หลังทำหัตถการ พบว่าหลังใช้มาสก์ตัวนี้มีผลตอบรับในทิศทางที่ดี ดาวน์ไทม์ลดลง รู้สึกดูแลผิวหน้าได้ง่ายขึ้น ใช้เวลาพักฟื้นน้อยลง สามารถแปะมาสก์กลับบ้านได้เลย บางคนติดใจ ขอซื้อไปใช้เพิ่มเติมที่บ้านด้วย เพราะนอกจากลดระบมผิวแล้ว ยังช่วยเรื่องความชุ่มชื้น ใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย เป็นเหมือนมาสก์บำรุงผิว”

พญ.ธนัฏฐา ชินกิจการ
NATSU CLINIC

“หมอเลือกใช้ Pure BIM Hydrating Gel Mask หลังทำหัตถการเพื่อปลอบประโลมผิว ซึ่ง Pure BIM Hydrating Gel Mask สะอาด ปลอดเชื้อ ผ่านการสเตอริไลซ์ และยังช่วยล็อกตัวยาให้ผิวหน้าดูดซึมได้ดีขึ้น ขณะเดียวกันก็ให้ความชุ่มชื้นด้วย ปกติเวลาแผลเปิดหรือมีเลือดออกจะไม่เอาอะไรไปแปะ เพราะต้องระวังเชื้อโรคเข้า ปล่อยให้ผิวค่อยๆ ฟื้นตัวเอง บางที่อาจใช้แค่ผ้าก๊อซสะอาดช่วยซับหรือปิดไว้ แต่ก็จะรู้สึกเจ็บระบม พอมีมาสก์ตัวนี้เข้ามาช่วยปรับสมดุลผิวหลังทำหัตถการ เหมือนมีตัวช่วยประคบเย็น ลดอุณหภูมิผิว พวกอาการอักเสบต่างๆ ก็ฟื้นตัวได้ดีขึ้น

“กลายเป็นของที่ต้องมี! ฟีดแบ็กจากผู้ใช้บริการแตกต่างไปจากตอนไม่มีมาสก์ชัดเจนมาก และไม่จำเป็นว่าต้องใช้หลังทำหัตถการเท่านั้น แต่ใช้บำรุงผิวเพิ่มความชุ่มชื้นในชีวิตประจำวันได้ด้วย เหมือนปกติที่ใช้มาสก์ผิวก่อนนอน หรือตอนออกแดดร้อนมากๆ ก็ใช้มาสก์แปะทับลดอุณหภูมิผิวได้เลย ค่อนข้างใช้งานอเนกประสงค์หลายอย่าง”

วันนี้ Pure BIM Hydrating Gel Mask พร้อมเสิร์ฟแล้วที่ประเทศไทยในคลินิกความงามชั้นนำ เพื่อผลลัพธ์ผิวสวยสุดปังหลังทำหัตถการ

มังคุด วงศ์ชนก ชีวะศิริ

ยลโฉมเครื่องประดับชิ้นพิเศษสุดของเซเลบนักสะสม “คุณมังคุด – วงศ์ชนก ชีวะศิริ”

Alternative Textaccount_circle
มังคุด วงศ์ชนก ชีวะศิริ
มังคุด วงศ์ชนก ชีวะศิริ

หากเอ่ยถึงความอลังการของเครื่องประดับน้ำงามและนักสะสม คงขาดชื่อ “คุณมังคุด – วงศ์ชนก ชีวะศิริ” ไปไม่ได้ ดังนั้น แพรว จึงไม่พลาดชวนเธอคัดชิ้นพิเศษที่มีคุณค่าทางใจมาให้ทุกคนชมแบบแสบตากันเลยทีเดียว

“มังคุดชอบเครื่องประดับเพชรกับมรกต ถ้าสังเกตจะเห็นว่าใส่มรกตบ่อย แต่ครั้งนี้ขอเลือกเฉพาะชิ้นที่มีคุณค่าทางใจ อย่างสร้อยเพชรที่สวมใส่ถ่ายรูปกับ แพรว เส้นนี้รักมาก เพราะอยู่กับมังคุดมาตั้งแต่เด็กๆ ได้มาเกือบจะ 30 ปีแล้ว จำไม่ได้จริงๆ ว่าเพชรกี่กะรัต แต่เป็น D Color เกือบทั้งหมด คุณพ่อซื้อให้จากร้าน Siba New Yok เป็นร้านเก่าแก่ เสียดายว่าปัจจุบันปิดไปแล้วนะคะ เราไปเจอตอนเดินทาง เห็นว่าเครื่องเพชรเขาสวยมาก จึงซื้อมาหลายชิ้นเพราะประทับใจมาก ยิ่งพอร้านปิดไปแล้วก็ยิ่งรู้สึกว่ามีคุณค่า จึงเก็บไว้เป็นที่ระลึกถึงคุณพ่อ โดยเส้นนี้มังคุดจะใส่เฉพาะในโอกาสสำคัญเท่านั้น

มังคุด วงศ์ชนก ชีวะศิริ

“อีกชิ้นคือแหวนเพชรขนาด 30 กะรัต เพชรด้านบนเป็นเอเมอรัลด์คัตที่ค่อนข้างใหญ่ เพราะเคยเป็นแหวนของคุณพ่อที่ท่านใช้มาตลอด เนื่องจากท่านชอบแต่งตัวและใส่เครื่องประดับชิ้นใหญ่ๆ วงนี้ท่านใส่ไปทำงานเป็นปกติ กระทั่งคุณพ่อไม่อยู่แล้ว มังคุดก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไร ไซส์แหวนก็ยังเก็บไว้เหมือนเดิม วันไหนแต่งตัวไปงานแล้วนึกถึงก็จะหยิบมาใส่ที่นิ้วชี้ หลวมหน่อย แต่ใส่ได้

มังคุด วงศ์ชนก ชีวะศิริ

“ส่วนคุณแม่ท่านชอบเครื่องประดับแนวผู้หญิง มีความเฟมินีน อย่างสร้อยเพชรประดับแซปไฟร์ (ไพลิน) ระย้าที่นำมาให้ แพรว ดูวันนี้ คุณแม่ได้จากร้าน Siba New York เช่นกัน ราคาประมาณ 10 ล้านเหรียญ จุดเด่นของสร้อยเส้นนี้คือไพลิน มาจากเหมืองแคชเมียร์ของอินเดีย ซึ่งเป็นแหล่งพลอยหายากและมีไพลินที่ดีที่สุดในโลก สังเกตว่าสีไพลินจะสวยและแปลกมากเหมือนกำมะหยี่ ต่างจากไพลินซีลอนจากศรีลังกาซึ่งสีจะออกน้ำเงินฟ้า หรือไพลินจากกาญจนบุรีที่สีเข้มจนเหมือนดำไปเลย แต่ปัจจุบันเหมืองนี้ปิดไปนานแล้วนะคะ ไพลินเหล่านี้จึงกลายเป็นของหายาก สร้อยเส้นนี้จึงกลายเป็นเส้นที่มีความพิเศษด้วยดีไซน์ ขนาด และตัวอัญมณีที่หาไม่ได้แล้ว และมังคุดยังเก็บไว้เป็นที่ระลึกถึงคุณแม่ด้วย เพราะท่านชอบไพลิน นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่มังคุดนำออกมาถ่ายรูป (ยิ้ม)

มังคุด วงศ์ชนก ชีวะศิริ

“ย้อนกลับไปมังคุดเริ่มชอบเครื่องประดับตั้งแต่อาย 20 ต้นๆ คงเป็นความเคยชินที่เห็นคุณพ่อคุณแมใช้ของเหล่านี้มาตลอด ซึ่งแต่ละคนแต่ละรุ่นก็มีความชอบไม่เหมือนกัน อย่างคุณแม่กับมังคุดก็คนละสไตล์ เพียงแต่พอคุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่แล้ว เราก็หยิบมามิกซ์แอนด์แมตช์บ้างในบางสไตล์ที่รู้สึกว่าไปกันได้ หรือบางชิ้นก็ต้องนำไปปรับเปลี่ยนแบบใหม่บ้าง เพราะไม่ได้จริงๆ (หัวเราะ)

“ความจริงเวลาแต่งตัวในชีวิตประจำวันมังคุดจะไม่ค่อยใส่เครื่องประดับเท่าไร เพราะเคยล้างมือแล้วถอดวางไว้ ปรากฎว่าลืม เสียใจมาก หรือวันก่อนกำลังถอดนาฬิกาประดับหินมาลาไคต์กับเพชรอยู่แล้วทำหลุดจากมือหล่นลงพื้น หน้าปัดมาลาไคต์แตก โอ้โฮ… ต้องส่งไปซ่อมที่สวิต จนป่านนี้ยังซ่อมไม่ได้เลย แต่เวลาออกงานสไตล์มังคุดต้องชิ้นใหญ่จัดเต็ม อยากใส่ชิ้นไหนก็ใส่ ไม่ค่อยแคร์สายตาคน ไม่สนใจว่าใครพูดอะไร เมื่อชอบที่จะเป็นแบบนี้ เราก็ต้องรับแรงปะทะให้ได้ด้วย มังคุดมองแค่ว่าเราแต่งตัวสวยๆ เยอะๆ ก็คงไม่เป็นไร

“สไตล์เราจึงต้องครบ สร้อย ต่างหู แหวน ยิ่งถ้าชุดใหญ่ หมายถึงถ้าใส่ชุดราตรีสวยๆ  เครื่องประดับก็จะใหญ่ตาม อาจใส่สร้อยคอ 3 – 4 เส้นเรียงกันไปเลย แล้วแต่อารมณ์ แต่บางทีใส่ชุดใหญ่แล้วเดินยาก ก็จะลดลงมาเหลือชุดค็อกเทลเบาๆ หรือบางทีก็หยิบจิเวลรี่ชิ้นใหญ่ใส่กับเสื้อกล้ามก็มี เพราะเพชรไม่จำเป็นต้องแต่งกับชุดใหญ่เสมอไป ส่วนนาฬิกามังคุดก็ชอบนะ โดยเฉพาะนาฬิกาผู้ชาย ยิ่งเรือนไหนเพชรแพรวพราวยิ่งชอบ ปกติมังคุดไม่ใส่นาฬิกาผู้หญิงเพราะหน้าปัดเล็ก ชอบหน้าปัดใหญ่ๆ อย่างนาฬิกา Patek Philippe ต้อง 38 – 40 ขึ้นไป แล้วตอนนี้กำลังฮิตใส่ชุดผ้าไทยกัน ช่วงหลังเราเริ่มไปทำบุญเยอะ จึงอยากใส่ชุดผ้าไทยกับเครื่องประดับไทยดูบ้าง อย่างพวกสร้อย สังวาล กำไล อุบะ เข็มขัด ฯลฯ ซึ่งก็มีของคุณแม่บ้าง กับมังคุดไปสั่งทำไว้บ้าง เป็นจิเวลรี่ล็อตใหม่ที่กำลังหาและเก็บสะสมอยู่ แต่ก็สงสัยด้วยว่าเราต้องใส่ชุดไทยกับจิเวลรี่ไทยอย่างเดียวเหรอ อยากลองใส่จิเวลรี่ไทยกับเสื้อยืดหรือกางเกงบ้าง จะแปลกไหม ได้แต่คิดนะ ยังหาโอกาสใส่ไปงานไม่ได้ (ยิ้ม)

“ส่วนเรื่องการช้อปปิ้งจิเวลรี่ ส่วนใหญ่มังคุดเลือกร้านประจำ เพราะไว้ใจได้มากกว่า ไม่กล้าซื้อร้านสะเปะสะปะ ส่วนใหญ่ที่ซื้อประจำจะเป็นแบรนด์ Graff, Tifany & Co., Bulgari, Louis Vuitton High Jewelry and Watch, David Morris,  Scavia และ Harry Winston ซึ่งไม่ต้องถามแล้วว่าของจริงหรือเปล่า แล้วแต่ละแบรนด์ก็มีคาแร็คเตอร์และสไตล์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร เห็นแล้วรู้ว่าของแบรนด์ไหน ส่วนแบรนด์ไทยก็มีบ้าง แต่จะซื้อดีไซน์ที่เขาออกแบบเอง มีสั่งทำบ้างนิดหน่อยค่ะ

“เวลาช้อปปิ้งจิเวลรี่มังคุดตัดสินใจเร็วมากนะ เพราะรู้ว่าตัวเองชอบแบบไหน บางทีเดินผ่านหน้าร้าน อุ๊ย สวยจัง ถ้าเข้าไปลองแล้วใช่ เจรจาราคาได้ก็จบ ไม่ค่อยอ้อยอิ่งลองแล้วลองอีก อาจเพราะหนึ่งเรารู้ว่าชอบอะไร แล้วเราก็ดูของจริงของปลอมออกประมาณหนึ่ง กับเลือกร้านที่ไว้ใจอย่างที่บอกไป ถ้าไม่แน่ใจจะไม่ซื้อเลย แม้กระทั่งเวลาแบรนด์ส่งรูปมาให้ดู ไม่ว่าในรูปจะสวยแค่ไหน แต่มังคุดต้องขอไปลองก่อน ถ้าต้องบินไปดูของจริงก็อาจจะไป เพราะถ้าไม่เห็นของจริงหรือได้ลองก่อนจะวิเคราะห์ไม่ได้ว่าสวยยังไง เข้ากับเราไหม ถ้าดูแล้วไม่เหมือนที่คาดไว้ หรือไม่เข้ากับคอเราก็ไม่ซื้อนะ เพราะของแพงก็ต้องคิดเยอะเป็นธรรมดา จ่ายเงินแล้วไม่ได้ดั่งใจ เราจะทำยังไงต่อได้ล่ะ นั่งร้องไห้อย่างเดียว คือมังคุดซื้อเพราะชอบเครื่องประดับ  ไม่ได้ซื้อเพราะการลงทุน ดังนั้นต้องชอบและเข้ากับเราจริงๆ จึงจะซื้อ ไม่ได้คิดจะขายต่อ รวมถึงของที่ได้มาตั้งแต่สมัยเด็กและของคุณพ่อคุณแม่ก็ยังเก็บไว้หมด

มังคุด วงศ์ชนก ชีวะศิริ

“กฎของมังคุดอีกข้อคือไม่อยากซื้อของมือสองหรือของที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว ต่อให้เป็นของใหม่ เราจองไว้แล้ว แต่ถ้ามีการนำไปให้ดาราใส่ออกงานวันโชว์หรืออะไรแบบนี้ เราก็จะขอเปลี่ยนไปซื้อชิ้นอื่น ไม่ชอบให้ใครมาใช้ของที่เราจะซื้อ เพราะราคาไม่ถูก จึงอยากได้ของมีค่ามาอยู่กับเรา แต่พวกของประมูลก็มีบ้างนะคะ พวกกำไลเพชรจากศตวรรษที่ 15 หรือเหรียญโบราณของกษัตริย์โรมัน เราก็เช็กประวัติก่อนว่ากษัตริย์องค์นี้ชื่ออะไร ถ้าโหดเหี้ยมมากก็ไม่ซื้อ กลัวเอามาแล้วเขาใจร้าย (หัวเราะ) ที่ผ่านมาจึงยังไม่เคยเจอเรื่องร้ายๆ หรือเรื่องแปลกที่มาจากเครื่องประดับชิ้นใหญ่ๆ

“สำหรับมังคุดเครื่องประดับคือความสุขและความสนุก แค่เห็นก็สุขใจ เห็นที่ไหนก็ต้องเดินเข้าไปหา เวลาว่างก็จะชอบนั่งดูจิเวลรี่เพลินๆ ยิ่งถ้าได้ไปร้านเพชรนะ จะมีความสุขมากเลย ยังอิจฉาเจ้าของร้านเพชรที่ได้นั่งอยู่ในห้องที่มีแต่อัญมณี ถือเป็นพลังธรรมชาติที่ดีที่สุดในโลก สังเกตสิว่าเจ้าของร้านเพชรส่วนใหญ่จะดูไบรท์สว่างสดใส เป็นอาชีพที่ยังไงคนขายก็ดูสวย หล่อ อารมณ์ดี (หัวเราะ) เพราะเขาซึมขับพลังเหล่านี้ไว้กับตัว คือมังคุดคิดว่าอัญมณีเหล่านี้มีพลังในตัวเอง เพราะมาจากแผ่นดินและธรรมชาติที่สะสมมาหลายร้อยหลายพันปี ดังนั้นนอกจากเครื่องประดับแล้ว  มังคุดก็จะมีพวกหินคริสตัลหรือหินธรรมชาติอยู่ด้วยนะ พวกโรสควอร์ตซ์อะไรแบบนี้ คือไม่ถึงกับเชื่อว่าหินแต่ละชนิดมีพลังช่วยเรื่องความรักหรืออะไรได้ แค่ชอบและเชื่อว่าเขามีพลังตามธรรมชาติที่ทำให้เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจ อย่างเวลาใส่เพชรใส่มรกตก็จะรู้สึกดี ยิ่งมรกตใส่แล้วรู้สึกเหมือนโชคดี มีพลัง เป็นความรู้สึกส่วนตัวนะคะ

“ดังนั้นหากมีเครื่องประดับแล้วมีความสุข ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีที่ได้ครอบครองเขา มังคุดเองสะสมเพราะมีความสุข ไม่ได้คิดเรื่องส่งต่อให้ลูกหลานด้วย ถ้าลูกชอบ รับไปได้เลย แต่ถ้าลูกไม่ชอบ ก็แม่ชอบ จะทำไม (หัวเราะ) และไม่สนใจว่าต้องใส่เครื่องประดับสีอะไรจะถูกโฉลก เพราะแบบนั้นโอกาสใส่จะน้อยลง มังคุดเลือกที่จะเปิดรับทุกอย่าง ใส่ได้ทุกแบบ เพราะเครื่องประดับคือสิ่งที่เราชอบจริงๆ ค่ะ”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 999

'ต้าเหนิง' ขึ้นแท่น Dior Beauty Ambassador ประจำประเทศไทย

ปังไม่หยุด ‘ต้าเหนิง’ ขึ้นแท่น Dior Beauty Ambassador ประจำประเทศไทย

Alternative Textaccount_circle
'ต้าเหนิง' ขึ้นแท่น Dior Beauty Ambassador ประจำประเทศไทย
'ต้าเหนิง' ขึ้นแท่น Dior Beauty Ambassador ประจำประเทศไทย

Dior Beauty ประกาศแต่งตั้งนางแบบและนักแสดงสาวชื่อดัง ‘ต้าเหนิง – กัญญาวีร์ สองเมือง‘ เป็นทูตความงามประจำประเทศไทย (Dior Beauty Ambassador) ครอบคลุมทั้งด้านสกินแคร์ เครื่องสำอาง และน้ำหอม ตอกย้ำความเป็นไอคอนผู้ทรงอิทธิพลในโลกของความงามและแฟชั่น

จุดเริ่มต้นก่อนเธอจะกลายเป็นบุคคลสำคัญในวงการแฟชั่นและความงามนั้น เริ่มต้นเข้าวงการจากการเข้าร่วมประกวด ‘Miss Teen Thailand ในปี 2012’ และ ‘Thai Supermodel Contest ในปี 2013’ และเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากซีรีส์ Hormones วัยว้าวุ่น ในปี 2014 โดยระหว่างทางที่อยู่ในวงการบันเทิงจนถึงปัจจุบัน เธอได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์มากมายเพื่อต่อยอดความสนใจส่วนตัวอย่างการขึ้นเป็น CEO บริษัท QOW Entertainment ในปี 2022 บริษัทเอเจนซี่สำหรับบริหารและดูแลศิลปินต่างๆ ในวงการบันเทิง

และด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมเรื่อยมา ส่งผลให้เธอกลายเป็นไอคอนแห่งความงามตลอดระยะเวลาที่เธออยู่ในวงการนี้ และเธอยังสร้างความประทับใจเมื่อปรากฏตัวขึ้นในนิทรรศการ DIOR J’ADORE ที่ปารีส และมีบทบาทสำคัญในแคมเปญ New Rouge Dior ในประเทศไทยด้วย ซึ่งเผยให้เห็นออร่าความมีชีวิตชีวา ความมั่นใจ และความสง่างาม ผ่านตัวเธอ

นอกจากนี้เธอยังได้เปิดใจเกี่ยวกับการได้รับเลือกเป็น Dior Beauty Ambassador ประจำประเทศไทย ว่า “ฉันรู้สึกเป็นเกียรติและตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับครอบครัว Dior Beauty ในฐานะทูตความงามด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เครื่องสำอาง และน้ำหอม ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความหลงใหลด้านความงามของฉัน และความงามที่แท้จริงที่มีอยู่ในตัวเราทุกคน และหวังว่าการเดินทางบทบาทใหม่ที่เพิ่มมาในครั้งนี้จะสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนได้”

Photo: Courtesy of Brand


เข้าตากรรมการ! เปิดลุคโปรด ‘ชมพู่ อารยา’ บนรันเวย์โอต์ กูตูร์ CHANEL

Alternative Textaccount_circle

เปิดลุค No. 15 บนรันเวย์โอต์ กูตูร์ CHANEL ที่ตกหัวใจของ ‘ชมพู่ อารยา’ ไปเต็มๆ

เมื่อถึงช่วงแฟชั่นวีคยังไงก็ต้องติดตามอินสตาแกรมของ ‘ชมพู่ อารยา’ ไว้ให้ดี เพราะเธอเป็นหนึ่งในเซเลบริตี้ไทยที่ได้รับเชิญจากแบรนด์ระดับโลกต่างๆ ให้ไปร่วมงาน ซึ่งที่ผ่านไปไม่นานคือ CHANEL กับคอลเล็คชั่นโอต์ กูตูร์ Spring/Summer 2024 ในชื่อ ‘The Button’

สำหรับคอลเล็คชั่นโอต์ กูตูร์ Spring/Summer 2024 จาก CHANEL จัดแสดงขึ้นที่ GRAND PALAIS ÉPHÉMÈRE ในกรุงปารีส ออกแบบโดย VIRGINIE VIARD ด้วยการนำกระดุมที่มีประโยชน์ในการใช้สอยและเหมือนเป็นเครื่องประดับมาผสมผสานเข้ากับโลกแห่งบัลเล่ต์และการเต้นรำ ไอเท็มชิ้นต่างๆ โดดเด่นด้วยสีชมพูและสีขาวในสไตล์ของศิลปะสีน้ำแสดงออกถึงความสง่างาม อิสรภาพ และความแม่นยำในทุกการเคลื่อนไหว เผยให้เห็นความประณีตของทักษะความชำนาญในงานฝีมือผ่าน ชุดเดรสยาว กระโปรงสั้นทรงตรง จั๊มพ์สูท ผ้าทูลล์ พลีท ลูกไม้ ดอกไม้ และโบว์ให้ความรู้สึกอ่อนหวานและเสน่ห์ของความเป็นผู้หญิง

หลังจากแฟชั่นโชว์จบ เหมือนแม่ชมของเราก็ถูกตาต้องใจกับลุคหนึ่งเป็นพิเศษ ซึ่งเธอได้เผยไว้ใน Reel ของ พลอยชวพร เพื่อนซี้สายแฟ(ชั่น) ว่าชอบลุค No.16 เป็นพิเศษ ยิ่งมีโอกาสได้ลองใส่จริงหลังม่านความชอบก็ยิ่งทวีคูณขึ้น สำหรับไอเท็มดังกล่าวเป็นเสื้อเบลาส์แขนยาว คอสูงตกแต่งลูกไม้ พร้อมจัมพ์ปลายแขนและชายเสื้อ โดดเด่นด้วยน่ารักผ่านโทนสีสันเหมือนลูกกวาด พอเห็นแบบนี้แล้วก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแม่ชมถึงตกหลุมรัก


รูปภาพ: Instagram @chomismaterialgirl, @ploychava และ chanel

เปรี้ยวแซ่บตามอายุ! แชร์ไอเดียแฟชั่นวันเกิดของ พั้นช์ 4EVE

Alternative Textaccount_circle

คอสตูมให้เต็ม 10 ส่วนท่าโพสต์ให้เต็ม 100! เปิดแฟชั่นลุควันเกิดของ ‘พั้นช์ 4EVE’ ที่ยิ่งโตยิ่งทวีคูณความแซ่บ

ถึงแม้จะเป็นทรนด์มาสักพักแล้วกับการเข้าสตูดิโอถ่ายรูปในวันเกิดเพื่อเก็บเป็นความทรงจำในทุกๆ ปี ของเหล่าเซเลบริตี้ แต่เราก็ไม่เคยเบื่อเลยที่จะได้เห็น เพราะอยากรู้ว่าแต่ละคนนั้นมาในคอนเซ็ปต์อะไร เหมือน พั้นช์ 4EVE’ ที่ยิ่งโตความแซ่บก็ยิ่งทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ เพราะล่าสุดเพิ่งโพสต์แฟชั่นเซ็ตอายุครบ 20 ปีที่เห็นแล้วถึงกับต้องกุมใจ

โดยในเซ็ตนี้มีทั้งหมด 2 ลุค ไม่ว่าจะเป็นบอดี้สูทลูกไม้ที่ตะโกนความเซ็กซี่ออกมาตรงๆ เมื่อแมตช์เข้ากับบู๊กคู่ยาวแล้วยิ่งทำให้ลุคที่ว่าเปรี้ยวขึ้นกว่าเป็นไหนๆ ส่วนอีกลุคลดความเซ็กซี่ขึ้นมาหน่อยแต่ยังไม่ทิ้งความเก๋เพราะหากสังเกตให้ดีกิมมิกนั้นอยู่ที่ปกเสื้อที่ถูกดีไซน์มาให้ยาวกว่าปกติ สร้างความโดดเด่นให้กับไอเท็ม และอีกอย่างที่ลืมพูดถึงคงไม่ได้ นั่นคือ ท่าโพสต์ ที่แต่ละรูปครีเอทสมกับเป็นพั้นช์สุดๆ


รูปภาพ: Instagram @ppunnch

อีดงอุค

หล่อกร้าวใจไม่เคยเปลี่ยน ‘อีดงอุค’ กับทริคดูแลหุ่นฟิตแบบรูทีน

Alternative Textaccount_circle
อีดงอุค
อีดงอุค

อีดงอุค นักแสดงหนุ่มชื่อดังชาวเกาหลีใต้ที่มักจะแสดงด้านขี้เล่นและมีชีวิตชีวาในรายการวาไรตี้ เบื้องหลังต่างๆ ฯลฯ แต่อย่าลืมว่าโอปป้าที่จริงนั้นหล่อเหลือร้ายมาก ด้วยตาสองชั้นที่ลึก จมูกโด่งคมสัน กรามที่สมบูรณ์แบบ ผิวขาว และริมฝีปากสีชมพู ไม่ต้องพูดถึงว่าเขามีร่างกายที่แข็งแกร่งเพียงใด เขาหล่อ รูปร่างดี และสูงโปร่งมากจนดูไม่เหมือนคนจริงๆ ด้วยซ้ำ

ซึ่งการดูแลรูปร่างนั้น จุดเปลี่ยนคือสมัยที่เขายังเป็นทหาร เขามีส่วนสูง 185 เซนติเมตร และหนัก 86 กิโลกรัม และเพื่อที่จะลดน้ำหนักได้สำเร็จระหว่างฝึกทหาร เขาไม่เพียงแต่ควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัดเท่านั้น แต่ยังยืนวิ่ง 10 กิโลเมตรทุกวัน รวมถึงเล่นเวทเทรนนิ่งเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ ร่วมกับการควบคุมอาหารลดเนื้อสัตว์ ทำให้เขาลดน้ำหนักไปได้ถึง 16 กิโลกรัมในตอนนั้น

และเขายังเผยอีกว่าเขาเริ่มมีนิสัยชอบออกกำลังกายตั้งแต่นั้นมา เขามักจะขี่จักรยานทุกครั้งที่มีเวลาว่าง นอกจากนี้ เขายังใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่เพื่อออกกำลังกายในเวลาที่ไม่ได้ถ่ายซีรีส์หรือรายการใดๆ แม้ว่าความอยากอาหารของเขาจะไม่ลดลง แต่เขาก็รักษาสมดุลในการออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยสม่ำเสมอเพื่อจะได้มีร่างกายที่แข็งแรงและไม่ลงพุง

Photo: eedongwook_official


“พญ.อาทิตยา เม่งศิริ” Atita Clinic แชร์ทริคอัพสวยตามเทรนด์ + พารู้จักหัตถการมาแรง

account_circle

เทรนด์ความงามยุคนี้ ถือเป็นที่มาของหลากหลายนวัตกรรมความงาม ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความสวยอย่างตรงจุด แต่ด้วยความหลากหลายเช่นนี้ ก็อาจทำให้สาวกบิวตี้ตัดสินใจเลือกยาก ดังนั้น Exclusive Talk ครั้งนี้ แพรว จึงขอพาไปพบกับ “คุณหมอนุ่น – แพทย์หญิงอาทิตยา เม่งศิริ” แพทย์ผู้ชำนาญการด้านความงาม โดยเฉพาะการปรับรูปหน้าและการดูแลผิวพรรณ รวมถึงยังเป็นแพทย์ผู้ก่อตั้งคลินิกความงามอย่าง Atita Clinic เพื่อเจาะลึกถึงเทรนด์ความงามแห่งยุค พร้อมทำความรู้จักกับหัตถการมาแรง ซึ่งถือเป็นคีย์ของความงามที่ยั่งยืน

ปรับตามเทรนด์ ตอบโจทย์ตรงจุด

จากประสบการณ์เกือบ 20 ปีของหมอ ทำให้เห็นว่าเทรนด์ความงามมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ อย่างตอนนี้เป็นยุคของความสวยสร้างได้แบบทำน้อยแต่ได้มาก คือ เลือกทำเท่าที่จำเป็น แต่เห็นผลลัพธ์ชัดเจน รวมถึงต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น เพราะคนสมัยนี้ค่อนข้างใจร้อน ดังนั้น Atita Clinic จึงมีการปรับโปรแกรมการรักษาให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้รับบริการในปัจจุบัน อย่างสมัยก่อนจะมีแค่พวกทรีตเม้นต์ แต่พอมาถึงยุคนี้จะเน้นไปที่หัตถการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการฉีด หรือการใช้เครื่องมือที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ นอกจากนี้ก็จะเป็นการผ่าตัดศัลยกรรมไปเลย

“ความชำนาญของ Atita Clinic คือ เรื่องการปรับแต่งดีไซน์ใบหน้า ซึ่งดูแลโดยแพทย์ที่มีความรู้และประสบการณ์เฉพาะทางทั้งศาสตร์และศิลป์ ที่สำคัญ คือ เน้นการแก้ปัญหาอย่างตรงจุดแบบเคสต่อเคส เพราะเราเข้าใจดีว่าผู้รับบริกาแต่ละคนมีความต้องการหรือความกังวลที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงการให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ”

เทรนด์ความงามแห่งยุค

“เทรนด์ความงามยอดนิยมในปัจจุบัน คือ การปรับรูปหน้าและการดูแลสุขภาพผิว โดยเทรนด์ส่วนใหญ่ตอนนี้จะไปทางเกาหลีเป็นหลัก และมีไปทางสาย ฝ. บ้างเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปจะอิงอยู่บนพื้นฐานความงามแบบคนเกาหลีหรือดาราเกาหลี เพราะคนไทยดูซีรีส์เกาหลีกันมากขึ้น โดยเฉพาะเทรนด์งานผิวแบบสาวเกาหลี เช่น ผิวใสโกลว์ รูขุมขนเรียบเนียน ผิวแลดูอ่อนเยาว์ ถือว่ามาแรงมาก ๆ ค่ะ

“ความแตกต่างระหว่างเทรนด์ความงามยุคนี้กับในอดีตคือความเป็นธรรมชาติ อย่างเมื่อก่อนจะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่นิยมความเกินธรรมชาติ เช่น หน้าเรียวเวอร์ๆ คางยาวๆ ตาโตๆ แต่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปแล้ว สมมติว่าถ้าทำอะไรมา ก็ต้องไม่เปลี่ยนแปลงมากจนเกินไป อย่างรูปหน้าจะเน้นความอิ่ม ส่วนผิวจะเน้นความใส คือเน้นความเป็นธรรมชาติเป็นหลักนั่นเอง”

หัตถการมาแรง รูปหน้าสวยเข้ารูป งานผิวปังเข้ารอบ

“ถ้าเป็นเรื่องการปรับรูปหน้าและความเฟิร์มกระชับ หลัก ๆ จะเป็นการใช้เครื่องมือที่มาแรง คือ โปรแกรมUlthera ซึ่ง Atita Clinic ใช้เครื่องรุ่นใหม่ล่าสุดเลย นั่นคือ รุ่น SPT ช่วยในการยกกระชับ พร้อมช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ถึงชั้น SMAS ดังนั้น นอกจากจะช่วยยกกระชับแล้ว ยังช่วยเรื่องผิวใสควบคู่ไปด้วย พูดง่าย ๆ คือ ตอบโจทย์เทรนด์ความงามยุคนี้แบบคูณสองเลยทีเดียว

“ส่วนการฉีดที่กำลังนิยม คือ สารเติมเต็ม Belotero Revive จากสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นสารเติมเต็มเกี่ยวกับงานผิวตัวแรกในโลกที่มีส่วนผสมของ Glycerol ที่มีคุณสมบัติในการช่วยอุ้มน้ำไว้ที่ผิว รวมถึงช่วยเติมเต็มในระดับกระดูก เพื่อช่วยในการปรับรูปหน้า ซึ่งเหมาะสำหรับเคสที่กระดูกเริ่มทรุดตัว ทำให้เกิดร่องลึก หรือหน้าตอบมาก ๆ โดยจุดเด่น คือ อยู่ได้นานประมาณ 9 เดือน ต่อการฉีด 1 ครั้ง และไม่ต้องกังวลเรื่องรอยเข็มหลังทำ เพราะในการฉีดจะใช้เข็มเบอร์ 32 ซึ่งเล็กมาก ๆ ทำให้ไม่เกิดรอยช้ำ

“มาถึงนวัตกรรมใหม่ล่าสุดเกี่ยวกับงานผิว ขอยกให้กับสารเติมเต็ม Rediesse ซึ่งเป็นศาสตร์ฟื้นฟูผิวแบบใหม่ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นใยผิว ตั้งแต่อีลาสติน คอลลาเจนชนิดที่ 1 และ 3 ไปจนถึงน้ำเลี้ยงเซลล์ จึงช่วยให้ผิวใส แลดูอ่อนเยาว์ และช่วยเรื่องความเฟิร์มได้ด้วย โดยผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 2 ปี

“นอกจากนี้ที่ต้องพูดถึง คือ สารลดเลือนริ้วรอย Xeomin หรือโบเจนใหม่ ที่หลายคนรู้จักกันอยู่แล้วว่าช่วยเรื่องริ้วรอย และช่วยในการปรับรูปหน้า ซึ่งหัตถการทั้งหมดนี้ Atita Clinic ได้รับการอบรมอย่างถูกต้อง และได้รับใบ Certificate จากบริษัท Merz Aesthetics ที่นำเข้าโดยตรงเลยค่ะ”

มุ่งมั่นคัดสรรสิ่งที่ดี

“หนึ่งในหัวใจสำคัญของ Atita Clinic ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์ที่อ้างอิงอยู่บนความเป็นธรรมชาติ ไม่ดูปลอมโป๊ะ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้รับบริการ คือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องมือให้เหมาะสมกับปัญหาของผู้รับบริการแต่ละคน โดยเน้นย้ำเรื่องมาตรฐานและความปลอดภัยเป็นหลัก อย่างผลิตภัณฑ์หรือเครื่องมือต่าง ๆ เราจะเลือกใช้ที่มีมาตรฐานระดับสากลหรือระดับโลก เช่น US FDA ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่มีอยู่ในโปรแกรม Ulthera, สารเติมเต็ม Belotero Revive และสารลดเลือนริ้วรอย Xeomin

“อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่หมอเน้นย้ำกับผู้รับบริการอยู่เสมอ คือ ก่อนตัดสินใจทำอะไรก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดถี่ถ้วน โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย เพราะปัจจุบันมีทั้งการสร้างรีวิวปลอม การใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องมือปลอม รวมถึงหากแพทย์ไม่ได้รับการอบรมที่ถูกต้องจากบริษัทที่นำเข้าผลิตภัณฑ์หรือเครื่องมือโดยตรง ก็อาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ดังนั้น การตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยผู้รับบริการสามารถเข้าไปเช็คข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ของ Merz Aesthetics ก็จะพบรายชื่อคลินิกที่ใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องมือแท้อย่างถูกต้อง ซึ่งแน่นอนว่ามีชื่อ Atita Clinic อยู่ด้วย เพราะเราเชื่อว่าความสวยที่อ้างอิงอยู่บนความปลอดภัยจะเป็นความสวยที่ยั่งยืนค่ะ”  

Atita Clinic มี 7 สาขา ได้แก่

สาขาสยามสแควร์

สาขาปิ่นเกล้า

สาขาซีคอน ศรีนครินทร์

สาขาเดอะคริสตัล เอกมัย-รามอินทรา

สาขาซีคอน บางแค

สาขารัชดา-สุทธิสาร

สาขา La Villa อารีย์

เว็บไซต์ : www.atitaclinic.com

เฟซบุ๊ก : ATITA CLINIC

สวยหรูราคาหลักพัน! มัดรวมกระเป๋า 3 ดีไซน์ของ โบว์ เมลดา

Alternative Textaccount_circle

คัดแล้ว 3 ใบเน้นๆ! ส่องดีเทลกระเป๋า Taryn, Enola และ Moon Infinite ในแคมเปญใหม่ของ โบว์ เมลดา

LYN ต้อนรับซีซันใหม่ด้วยไอเท็มกระเป๋า คอลเล็คชั่น Spring 2024 ที่มาพร้อมการออกแบบสุดเทรนดี้ที่จะช่วยอัพเกรดลุคสุดชิคพร้อมเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้หญิงทันสมัยทุกคน โดยความพิเศษนี้ถูกถ่ายทอดผ่านภาพลักษณ์ของ โบว์-เมลดา สุศรี นักแสดงสาวที่มากความสามารถ ทั้งยังพ่วงตำแหน่งนางแบบและนักร้อง เป็นตัวแทนของผู้หญิงเปี่ยมพร้อมด้วยความสามารถรอบด้านกับคาแรคเตอร์ของสาวยุคใหม่ที่กล้าแสดงออกอย่างมั่นใจโดยไม่ทิ้งความเป็นตัวของตัวเอง กลายเป็นส่วมผสมชั้นดีที่จะช่วยปรุงแต่งให้แคมเปญโดดเด่นพร้อมสะกดทุกสายตา

เริ่มต้นด้วย Taryn กระเป๋าสะพายไหล่รูปทรงเกือกม้าที่ได้แรงบันดาลใจจากไลฟ์สไตล์สุดคล่องแคล่วของมิวส์สาวคนล่าสุด ไซส์กระเป๋าทรงกะทัดรัดที่พร้อมจะดูแลสัมภาระของผู้หญิงทุกคนให้ปลอดภัย มาพร้อมซิปรูดคาดทับด้วยสายกระเป๋าแม่เหล็กประดับโลโก้โลหะสีทอง ที่ช่วยมอบสัมผัสหรูหราให้กับทุกลุคแฟชั่น สายสะพายไหล่ถูกออกแบบให้สอดรับกับสรีระของผู้หญิง พร้อมเสริมความโดดเด่นด้วยชาร์มกระเป๋าฮาร์ดแวร์โลโก้โลหะสีทองสุดเรียบหรู สามารถนำมาสไตล์ลิ่งกับเสื้อผ้าไม่ว่าจะในวันสบายสุดชิล หรือลุควันทำงานที่ต้องการความเป็นทางการ และลุคเดทไนท์ที่ต้องการความสวยโดดเด่นเป็นพิเศษ มีให้เลือกถึง 6 สี ไล่เรียงตั้งแต่สีขาว-ดำคลาสสิค สีสันสดใสอย่างสีเขียว และสีชมพู ไปจนถึงวัสดุพิเศษอย่างผ้าเดนิม รวมถึงวัสดุสานสีเบจ

อีกหนึ่งไอเท็มที่คือกระเป๋า Enola กระเป๋าโฮโบสะพายไหล่ทรงเกือกม้า โดดเด่นด้วยเทคนิคบุลายฟันปลา ซิปรูดเปิดปิดกระเป๋า หูหิ้วทรงโค้งมนเข้าไหล่ที่สามารถปรับระดับความยาวได้ มาพร้อมตกแต่งฮาร์ดแวร์โลโก้โลหะ ดีไซน์แคชชวลที่ถูกออกแบบมาให้เป็นเอเวอรี่เดย์แบค ขนาดกระเป๋ากำลังพอเหมาะจุสัมภาระได้เพียงพอต่อความต้องการของผู้หญิงทุกคน ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ ลิปสติก ตลับแป้ง และกระเป๋าสตางค์ขนาดเล็ก สามารถนำมาแมทช์กับเสื้อผ้าลำลองหรือลุคออกไปชิลกับเพื่อนสาวที่ช่วยครีเอทแฟชั่นให้ไม่จำเจ

กระเป๋าใบสุดท้ายที่ไม่ควรพลาดคือ Moon Infinite กระเป๋าจากคอลเล็คชั่นอินฟินิท ที่มาพร้อมเทคนิคปั๊มลายโลโก้โค้งมนทั่วตัวกระเป๋าผสมผสานเข้ากับดีไซน์คลาสสิคใช้งานง่าย เสริมด้วยฮาร์ดแวร์โลโก้โลหะพร้อมมอบสไตล์การใช้งานสุดลักชูรี และสายกระเป๋าโซ่ยาวถอดปรับระดับได้ สามารถนำมาสไตล์ลิ่งเป็นกระเป๋าสะพายไหล่หรือกระเป๋าสะพายข้างครอสบอดี้ ฟังก์ชั่นการใช้งานอันหลากหลาย มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ตั้งแต่สีขาวและดำ โทนสีใช้งานง่าย หรือจะสีสดใสอย่างสีส้มและสีเหลือง

keyboard_arrow_up