Semporna สถานที่ฮันนีมูนริมทะเล สวยงามแบบมัลดีฟส์ แต่ราคาถูกกว่าเยอะ !!!

account_circle

หากพูดถึง สถานที่ฮันนีมูน ยอดนิยมที่บ่าวสาวหลายคนนิยมไป คงหนีไม่พ้นทะเลมัลดีฟส์แน่นอน เพราะมีหาดทรายขาว น้ำทะเลใสแบบเห็นพื้นทรายได้ชัดเจน

แต่เรามี สถานที่ฮันนีมูน อีกที่ที่เรียกได้ว่าสวยงามไม่แพ้มัลดีฟส์เลย แถมอยู่ใกล้ประเทศไทยบ้านเราซะด้วย และที่สำคัญ ราคาไม่แพงเลยนะจ๊ะ เริ่มอยากรู้แล้วใช่ไหมเอ่ย ว่าเป็นที่ไหน ตามมาดูกันเลย

สถานที่ฮันนีมูน
ภาพจาก : photobyboonchanok

และสถานที่ที่เราอยากแนะนำคือ Semporna ประเทศมาเลเซีย นั่นเองค่ะ สำหรับการเดินทางไปยังเซมโพน่า คุณจะต้องจองตั๋วเครื่องบินไปลงกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของประเทศมาเลเซียเสียก่อน จากนั้นต่อเครื่องภายในประเทศเดินทางไปลงสนามบิน Tawau ใช้เวลาในการเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปยังสนามบินตาเวาประมาณ 3 ชั่วโมง เซมโพน่าเป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่ตรงอ่าวลาหัดดาตุ ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ติดทะเล มีเกาะที่ขึ้นชื่อคือ เกาะสิปาดัน ผู้คนจะนิยมเดินทางไปดำน้ำดูโลกใต้ท้องทะเล บอกเลยว่า สวยมากๆ กอไก่ล้านตัวเลยล่ะ.. และที่สำคัญก็คือน้ำทะเลที่นี่ใสสะอาดถอดแบบมัลดีฟส์มาเป๊ะๆ

แต่การที่จะเดินทางจาก Semporna เพื่อไปยังเกาะสิปาดัน ต้องเดินทางโดยเรือเท่านั้นนะคะ ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีก็จะถึง ส่วนสไตล์ที่พักของที่นี่ก็จะมีรูปแบบคล้ายๆ กับที่มัลดีฟส์เลยค่ะ คือตั้งอยู่กลางทะเล มีทางเดินไม้เชื่อมระหว่างอาคาร นอกจากนี้อาหารทะเลที่นี่ก็สดมากๆ และก็ถูกมากด้วย (อะไรจะเพอร์เฟกต์ปานนั้น) เอาเป็นว่าวางแผนการเดินทางให้ดีแล้วเตรียมตัวจองที่พักล่วงหน้ากันไว้ได้เลย

สถานที่ฮันนีมูน

เกาะสิปาดันนั้นมีปะการังที่งดงาม โดยบ่าวสาวสามารถใช้เวลาว่างในการไปดำน้ำดูปะการัง ซึ่งสามารถดำได้ทั้งแบบสน็อคเกิ้ล และแบบสกูบ้า และถ้าโชคดีงานนี้อาจได้เจอเต่าทะเลตัวใหญ่ๆ ด้วยน้าาาา

สถานที่ฮันนีมูน

ถ้าเบื่อกิจกรรมดำน้ำก็สามารถนั่งเรือไปชมหมู่บ้านชาวยิบซี ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายๆ กับหมู่บ้านมอร์แกนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยนั่นแหละคะ ซึ่งชุมชนนี้เป็นชาวบ้านพื้นเมืองที่มีบ้านพักอาศัยตั้งอยู่ในทะเล อะเมซิ่งสุดๆ !!

สถานที่ฮันนีมูน
ภาพจาก : photobyboonchanok

นอกจากเกาะสิปาดันที่เป็นเกาะขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของ Semporna แล้ว ยังมีเกาะ มาตาคิง และ เกาะแมนตาบาน ด้วย ซึ่งสวยงามไม่แพ้กันเลย ดังนั้นว่าที่บ่าวสาวลองวางแผนกันดีๆ ว่าอยากจะไปเที่ยวเกาะไหนบ้าง แต่ถ้ากลัวไปไม่ถูก ทางเกาะจะมีโปรแกรมทัวร์ที่ลักษณะคล้ายๆ ทัวร์ดำน้ำในประเทศไทยไว้ให้บริการนะคะ เพราะฉะนั้นเที่ยวได้ปลอดภัยไม่หลง สบายหายห่วง ^^

สถานที่ฮันนีมูน

เรียกได้ว่า Semporna เป็นสถานที่ฮันนีมูนที่น่าสนใจมากๆ ไม่แพ้กับมัลดีฟส์เลยทีเดียว และที่สำคัญมีราคาถูกกว่ามากๆ ทั้งราคาตั๋วเครื่องบิน ราคาที่พัก และราคาอาหาร ค่าครองชีพก็ไม่แพงมาก จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่บ่าวสาวลองนำไปพิจารณาสำหรับทริปโรแมนติกของคุณทั้งคู่ดูนะคะ และถ้าสนใจก็อย่าลืมเช็คสภาพอากาศกันดีๆ แล้วจองตั๋วเครื่องบินโลดดด!!!

นอกจากนี้ลองไปดู ฮันนีมูนตามรอยทริปเที่ยวสุดฮิต การันตีโดย Travelers’ Choice Awards 2018

ภาพจาก : Pinterest.com , เฟสบุค photobyboonchanok

เซเลบริตี้สาวเวิร์คกิ้งวูแมนชื่อดัง

ลุคมากับงานดี! 4 เซเลบริตี้สาวเวิร์คกิ้งวูแมนชื่อดัง เปิดมุมมองการทำธุรกิจให้สำเร็จ

เซเลบริตี้สาวเวิร์คกิ้งวูแมนชื่อดัง
เซเลบริตี้สาวเวิร์คกิ้งวูแมนชื่อดัง

4 เซเลบริตี้สาวเวิร์คกิ้งวูแมนชื่อดัง
เผยทริคการทำงานและไลฟ์สไตล์การแต่งตัว

เปิดมุมมองการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จของ 4 เซเลบริตี้สาวเวิร์คกิ้งวูแมนชื่อดัง พร้อมเผยสไตล์การแต่งตัวอันเรียบโก้ ผ่านแบรนด์เสื้อผ้า ‘จิออร์ดาโน่ เลดี้ส’ (Giordano Ladies) คอลเล็คชั่นสปริง/ซัมเมอร์ 2018 ที่มีชื่อว่า ‘บี ที่ชื่อว่า เฮียร์ นาว; ดิ อาร์ต ออฟ สโลว์เนส’

นอกจากจะทำงานเก่งแล้ว บุคลิกการแต่งตัวเพื่อเสริมภาพลักษณ์ให้ดูดีก็สำคัญเช่นกัน ดังเช่น 4 เซเลบริตี้สาวเวิร์คกิ้งวูแมนชื่อดัง ที่ได้เลือกสวมใส่ชุดแบรนด์เสื้อผ้าสตรีจากเกาะฮ่องกงอย่าง Giordano Ladies ในคอลเล็คชั่นสปริง/ซัมเมอร์ 2018 โดยดีไซน์ประจำคอลเล็คชั่นนี้ ทางดีไซเนอร์ได้หยิบยกแรงบันดาลใจจากสาวๆ ที่ชอบใช้ชีวิตอิสระ รักธรรมชาติ และแฮ็ปปี้กับสิ่งเล็กๆ ที่ทำอยู่ในปัจจุบันมาออกแบบ จึงเป็นสไตล์เสื้อผ้ามินิมอล มีโทนสีฟ้า น้ำเงิน และส้มให้เลือก ซึ่งนอกเหนือจะมารวมพลแชร์ทริคการแต่งตัวกันแล้ว สไตล์การทำงานที่แต่ละคนต้องรับผิดชอบธุรกิจตัวเอง เหล่าสาวๆ ก็มาเปิดใจเล่าให้ฟังแบบไม่มีกั๊กเลยล่ะ

แพรแพรพรรณ ธรรมวัฒนะ 

เริ่มจากสาวเก่งเจ้าของฉายาเจ้าแม่ดิสนีย์เมืองไทย แพรแพรพรรณ ที่นอกจากร้านของเล่น เพลย์เฮ้าส์ (Play House) แล้ว ก็ยังมีธุรกิจนำเข้าเครื่องประดับ กะรัต ลอนดอน (Carat London) โดยมีหัวใจหลักของการทำงานคือความขยันและรู้จักแบ่งเวลาให้เป็น

เซเลบริตี้สาวเวิร์คกิ้งวูแมนชื่อดัง เซเลบริตี้สาวเวิร์คกิ้งวูแมนชื่อดัง

 แพร: “ตอนนี้เราทำธุรกิจหลายอย่าง ซึ่งในหนึ่งสัปดาห์ก็ทำงานครบทั้ง วัน โดยแต่ละวันก็จะวางแผนไว้เลยว่าวันนี้จะทำของแบรนด์อะไร ปกติจันทร์ศุกร์ ก็จะเข้าออฟฟิศ ส่วนเสาร์อาทิตย์ ก็จะเข้าหน้าร้าน เพราะเราก็ต้องลงไปดูแลลูกค้าเองด้วยว่ามีอะไรที่ยังต้องปรับปรุงบ้าง

อย่างช่วงแรกที่เริ่มทำร้านของเล่นก็จะมีปัญหาเรื่องลูกค้าแย่งของกัน เราก็ต้องแก้ปัญหาด้วยความใจเย็น ไม่ย่อท้อกับปัญหา พยายามปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งพอธุรกิจนี้เข้าที่เราก็เริ่มมองหาการทำธุรกิจใหม่ๆ เพราะเชื่อเสมอว่าชีวิตของคนเราต้องไม่หยุดที่จะเรียนรู้ แต่นอกเหนือจากเรื่องงานแล้ว ก็ต้องรู้จักแบ่งเวลาไปทำอย่างอื่นด้วย เพราะผู้หญิงเรามีหลายบทบาทความรับผิดชอบ ทั้งการทำงาน การเป็นลูก การเป็นเพื่อน หรือแม้แต่การเป็นภรรยา หลังจากเลิกงานก็ต้องใช้เวลาอยู่กับครอบครัว กับเพื่อน เพื่อเป็นการพักผ่อน ถ้าช่วงไหนมีเวลาก็จะออกเดินทางเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิต

ส่วนการแต่งตัวเวลาทำงาน ถ้าเป็นนัดสำคัญที่ต้องพบผู้ใหญ่เราก็จะคำนึงกาลเทศะเป็นอันดับแรก สไตล์เราก็จะชอบใส่กางเกงขายาวสีดำใส่กับเสื้อเชิ้ตทรงเรียบโก้ แล้วเพิ่มเครื่องประดับอย่างตุ้มหูเพชร นาฬิกาที่ดูดีก็จะดูน่าเชื่อถือขึ้น ส่วนลุคทำงานในวันปกติก็จะเน้นความทะมัดทะแมง อย่างวันนี้ก็เลือกใส่กางเกงพลีทสีดำแมทช์กับเสื้อเปิดไหล่ ก็จะได้ลุคที่คล่องตัวที่มีความเฟมินีนแฝงอยู่”


แป้งอัชฌา เจริญรัศมีเกียรติ

ด้านสาวยิ้มสดใส แป้งอัชฌา ผู้เชื่อเสมอว่าการมีทีมที่ดีและให้คนทำงานตามความสามารถจะทำให้ธุรกิจเติบโตได้เร็ว โดยปัจจุบันเป็นผู้นำเข้าคาเฟ่ขนมหวานจากไต้หวัน คิวคิว ดิเสิร์ท (QQ Dessert) ที่สามารถขยายสาขาได้มากถึง สาขาภายในระยะเวลาเพียง ปี 

เซเลบริตี้สาวเวิร์คกิ้งวูแมนชื่อดัง เซเลบริตี้สาวเวิร์คกิ้งวูแมนชื่อดัง

แป้ง: “การเริ่มต้นทำธุรกิจของเรานั้นเริ่มจากการมองเรื่องใกล้ตัวว่าเราชอบอะไร ถนัดอะไร แล้วก็พยายามเปลี่ยนสิ่งนั้นให้มีมูลค่า เพราะถ้าเราได้ทำในสิ่งที่รักในทุกๆ วัน เราจะทำมันได้ดี อย่างเราเป็นคนที่ชอบกินขนม ชอบลองอะไรใหม่ๆ และเป็นคนเดินทางบ่อยก็จะได้ไปลองกินของอร่อยอยู่เสมอ จนกระทั่งได้ไปเจอคิวคิว ดิเสิร์ท ที่เป็นขนมหวานของคนไต้หวัน กินง่ายและกินแล้วสดชื่นเหมาะกับอากาศร้อนของเมืองไทย บวกกับช่วงนั้นเทรนด์สุขภาพในบ้านเรากำลังมาแรง จึงตัดสินใจนำเข้ามาทันที

โดยหัวใจหลักในการเริ่มต้นทำแบรนด์ก็คือทีมงาน เราต้องรู้ความสามารถและศักยภาพของแต่ละคนว่าใครถนัดด้านไหน ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้แบรนด์เติบโตได้อย่างรวดเร็ว อย่างเราเองก็มีพาร์ทเนอร์ คน ที่แต่ละคนก็จะมีหน้าที่หลักแตกต่างกัน คนแรกก็จะดูเรื่องไฟแนนซ์ คนถัดมาจะควบคุมเรื่องเมนูอาหารและรสชาติ ส่วนเราจะดูแลเรื่องการตลาดและการโปรโมท ซึ่งแน่นอนว่าภาพลักษณ์คือสิ่งสำคัญ

สไตล์การแต่งตัวไปทำงานของเราก็จะเป็นแบบมิกซ์แอนด์แมทช์สนุกๆ แต่ต้องแฝงความโดดเด่น อย่างการมีเครื่องประดับที่เป็นกิมมิคเพิ่มเข้ามา อย่างลุคที่ใส่วันนี้ก็เลือกแมทช์จากสีที่เป็นโทนสีตุ่น ด้วยเสื้อแขนกุดสีเหลืองกับกางเกงทรงซิกกาแรตต์สีเขียว ซึ่งเป็นกางเกงที่ผู้หญิงทุกคนควรมีติดตู้ไว้ เพราะใส่ง่ายเข้าได้กับหลายชุด แล้วก็เพิ่มกิมมิคด้วยผ้าโพกหัวเก๋ๆ แต่หากจะต้องไปพบลูกค้าคนสำคัญเราก็แค่หยิบสูทสีดำมาสวมทับแล้วถอดผ้าโพกหัวออกก็โอเคแล้ว”


จรสพรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา

ถัดมาที่ จุ๋ย-จรสพรรณ เจ้าของธุรกิจอาหารปูดองสไตล์เกาหลีเจ้าแรกของเมืองไทย ปูดองอันยอง ที่ประสบความสำเร็จจนมีหน้าร้านถึง 14 สาขา จากความใส่ใจรายละเอียดในทุกกระเบียดนิ้วของการทำแบรนด์จนต่อยอดสู่ร้านอาหาร โซลจู ปูดอง 

เซเลบริตี้สาวเวิร์คกิ้งวูแมนชื่อดัง เซเลบริตี้สาวเวิร์คกิ้งวูแมนชื่อดัง

จุ๋ย: “อาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ในการดำเนินชีวิตของคน ซึ่งเราคิดว่าปัจจัยสี่ยังไงก็สำคัญจึงริเริ่มทำธุรกิจนี้ ซึ่งการทำธุรกิจอาหาร ความท้าทายก็คือต้องทำให้รสชาติถูกปากคน อย่างธุรกิจปูดองอันยองเราเริ่มต้นจากการขายออนไลน์และส่งเดลิเวอรี่ ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมาก หลังจากนั้นเราก็มีเป็นหน้าร้านให้ซื้อกลับบ้าน และขยายสาขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

แต่ในมุมของการทำธุรกิจออนไลน์นั้นมีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง ฉะนั้นเราก็ต้องพยายามต่อยอดและหาสิ่งที่แตกต่างจากคู่แข่ง ตอนนี้ก็เลยมีเปิดเป็นร้านอาหารชื่อโซลจู ปูดอง ซึ่งหัวใจสำคัญในการทำร้านอาหารก็คือ คุณภาพของอาหาร ความสะอาด หน้าตาต้องดูน่ากินและรสชาติต้องอร่อย รวมถึงการบริการที่ดีเยี่ยม แต่ในการใช้ชีวิตนอกจากเรื่องการทำงานแล้ว เราก็ต้องรู้จักหาเวลารีแลกซ์ให้ตัวเองด้วย ถ้าช่วงไหนเริ่มคิดอะไรใหม่ๆ ไม่ออก ก็ลองเปลี่ยนสถานที่จากที่อยู่ประจำก็ออกไปข้างนอก อย่างเช่นเปลี่ยนร้านอาหาร นัดไปแฮงค์เอาท์กับเพื่อน หรือไม่ก็ออกเดินทาง

ส่วนเรื่องการแต่งตัวเวลาไปทำงานเราก็จะเลือกเสื้อผ้าที่มีความเรียบร้อยแต่งออกมาแล้วดูดีเพื่อเป็นตัวอย่างให้ลูกน้อง อย่างลุควันนี้ก็เลือกเป็นชุดที่ใส่ง่ายและคล่องตัว เป็นกางเกงสีดำใส่กับเสื้อโทนสีอ่อน ทับด้วยเบลเซอร์ที่มีเลเยอร์และสีสัน เป็นการทำให้ลุคดูสนุกสนานขึ้น แต่ถ้าเป็นการคุยงานที่เป็นทางการเราจะเลือกใส่เป็นชุดเดรสที่มีความเฟมินีน และเพิ่มความโก้ด้วยเบลเซอร์ตัวสั้นสักตัว เพราะเราเชื่อเสมอว่าเวลาที่คนเราเจอกันอย่างคนไม่รู้จัก เราก็จะต้องดูเรื่องการแต่งตัวเป็นอันดับแรก และถ้าเราแต่งตัวดีเขาก็เชื่อถือเราไปแล้วครึ่งหนึ่ง”


พลอย ปิ่นแสง

ปิดท้ายที่สาวนักกีฬาทีมชาติ พลอย ปิ่นแสง เจ้าของสตูดิโอสำหรับนักปั่นที่รักการเต้นไปตามเสียงเพลง ไทรบ์ บีเคเค (TRIBE BKK) ที่เชื่อว่าการลงมือในสิ่งที่ตนเองรักนั้นเป็นพื้นฐานสำคัญของการใช้ชีวิตให้ประสบความสำเร็จ 

เซเลบริตี้สาวเวิร์คกิ้งวูแมนชื่อดัง เซเลบริตี้สาวเวิร์คกิ้งวูแมนชื่อดัง

พลอย: ตอนนี้เราก็ยังเป็นนักกีฬาโปโลอยู่แต่ว่าก็จะเล่นแค่ช่วงฤดูกาลแข่งขัน โดยส่วนใหญ่ก็ไปแข่งที่ต่างประเทศ ซึ่งทุกครั้งที่ไปมันเหมือนเป็นการเปิดโลกให้เราเหมือนกันว่าแต่ละที่เขาพัฒนากันยังไง และคนกำลังสนใจสิ่งไหน แต่นอกจากโปโลแล้วเราก็มีทำสตูดิโอปั่นจักรยานสปินนิ่งที่เป็นครูสอนเองด้วย โดยกิจกรรมนี้เราเคยมีโอกาสได้เล่นแล้วรู้สึกชอบ ก็เลยเริ่มศึกษาอย่างจริงจังอยู่ประมาณ ปี ด้วยการเดินทางไปลองเรียนกับหลายๆ ประเทศ เพื่อเรียนรู้ว่าเขามีวิธีสอนกันยังไง การเลือกเพลง การใช้เสียง ใช้ไฟ รวมถึงการควบคุมอากาศ จนกระทั่งเราได้รูปแบบที่เหมาะสมกับคนไทยที่สุด เพราะเราเป็นคนที่ถ้าจะลงมือทำอะไรแล้วก็ต้องเข้าใจและรู้รายละเอียดของสิ่งๆ นั้นอย่างถ่องแท้ เพื่อที่จะได้สอนคนที่จะมาเป็นลูกน้องและช่วยงานของเราได้ ซึ่งเราโชคดีที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักทั้งสองอย่าง เลยไม่เคยรู้สึกเบื่อหรือเหนื่อยเลย ฉะนั้นถ้าใครรู้ว่าตัวเองชอบอะไร หรืออยากทำธุรกิจอะไร ก็แค่ลงมือทำอย่าไปกลัว เพราะถ้าเป็นสิ่งที่เรารักมันจะออกมาดี

ส่วนการแต่งตัวเวลาทำงานหลักๆ จะเป็นชุดกีฬาหรือชุดออกกำลัง แต่ถ้าเป็นนัดที่ต้องไปเจรจากับผู้ใหญ่ก็จะแต่งให้ดูแคชชวลขึ้น อย่างเช่นชุดวันนี้ก็เป็นชิ้นที่มีความสปอร์ตด้วยเนื้อผ้าที่เป็นผ้าร่ม และชิ้นล่างสามารถใส่ให้เป็นได้ทั้งกางเกงและกระโปรง ใส่กับเสื้อที่เข้าชุดกันในโทนสีส้มเพื่อช่วยขับผิวเราให้สวยขึ้น” 

 


เรียบเรียงโดย: บะหมี่กุ๊งกิ๊ง_แพรวดอทคอม
ภาพ: FreeFlow

ญาญ่า-อุรัสยา

บางข้อไม่รู้มาก่อน 20 คำตอบ ญาญ่า-อุรัสยา จริงหรือที่เขาว่าเป็นนางเอกสายแบ๊ว

ญาญ่า-อุรัสยา
ญาญ่า-อุรัสยา

20 คำตอบ ญาญ่า-อุรัสยา จริงหรือที่เขาว่าเป็นนางเอกสายแบ๊ว

ยังคงรักษามาตรฐานอาชีพนักแสดงได้ดีเสมอ สำหรับ ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ ที่ตอนนี้กำลังมีผลงานละคร ลิขิตรัก The Crown Princess ประกบคู่ ณเดชน์ คูกิมิยะ ออนแอร์อยู่ รวมถึงงานต่างประเทศก็ได้ชิมลางบ้างแล้วอย่าง การได้รับเชิญไปชมแฟชั่นโชว์ Louis Vuitton cruise 2019 ในฐานะ Friend of Louis Vuitton ไกลถึงประเทศฝรั่งเศสเป็นปีที่สอง

ญาญ่า-อุรัสยา ญาญ่า-อุรัสยา

จากเมื่อปี พ.ศ.2551 ที่ญาญ่าเริ่มเข้าวงการบันเทิง เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในกลุ่มพาวเวอร์ทรีรุ่นที่ 2 จนกระทั่งเริ่มเป็นที่รู้จักจากละคร กุหลาบไร้หนาม โดยการเริ่มเล่นละครของสาวญาญ่านั้น ต้องใช้ความพยายามและตั้งใจอย่างมาก เพราะไม่ใช่มีเพียงอุปสรรคด้านการแสดงเท่านั้น แต่ในเรื่องการพูดและเข้าใจภาษาไทยก็ถือเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ที่ญาญ่าที่ต้องใช้ความอุตสาหะในการพัฒนาตนเองอย่างสุดความสามารถเลย และในช่วงเวลาต่อมา ญาญ่าก็โด่งดังแบบสุดขั้วจากละครซีรี่ส์ 4 หัวใจแห่งขุนเขา ตอน อัคนี ประกบคู่ ณเดชน์ คูกิมิยะ จนกระทั่งมีผลงานหลายบทบาทออกมาให้แฟนๆ ได้ชมอย่างสม่ำเสมอ และสิ่งหนึ่งที่มาควบคู่กันก็คือ กระแสด้านลบด้วย เช่น เป็นนางเอกสายแบ๊ว แอ๊บแบ๊ว

วันนี้ แพรวดอทคอม จึงจะขอพาไปทำความรู้จักญาญ่าจาก 20 คำถามที่เธอเคยมาให้สัมภาษณ์กับทางนิตยสารแพรว ซึ่งบอกก่อนเลยว่า แฟนๆ อาจจะได้ทั้งแรงบันดาลใจ หรือยิ้มตามไปกับความน่ารักจากคำตอบของเธอ ไม่รอช้าไปรู้จักญาญ่าให้มากขึ้นกัน..น!

ญาญ่า-อุรัสยา

ญาญ่า-อุรัสยา

1. จริงไหมที่ว่าสองสาวพี่น้องเสปอร์บันด์รักกันเหลือเกิน

ญาญ่า: ทั้งรักทั้งหวงค่ะ เราห่างกัน 3 ปี แต่นิสัยคล้ายกัน พี่สาว “แคท” จะพูดเก่งและแอ๊คทีฟกว่า เราสนิทกันมากจึงปรึกษากันได้ทุกเรื่อง อย่างถ้ามีใครมาจีบพี่สาวก็เล่าให้ฟัง แต่ญาญ่าต้องโอเคด้วย ถ้าไม่ผ่านด่านนี้อย่าหวัง (หัวเราะ) ซึ่งจะบอกพี่ตรงๆ ว่า “No” เพราะบางครั้งเราคิดว่า เขาน่าจะได้คนที่ดีกว่านั้น ส่วนใหญ่พี่ก็เชื่อค่ะ ในทางกลับกัน ถ้าญาญ่ามีแฟนก็ต้องผ่านด่านพี่สาวเหมือนกัน (ยิ้ม)

2. ญาญ่าในจอทีวีดูแก่น-ซน-เซี้ยวตลอด นอกจอเป็นแบบนั้นหรือเปล่า

ญาญ่า: ที่โรงเรียน ญาญ่าเป็นเด็กหลังห้องที่เรียบร้อยมากค่ะ (หัวเราะ) ที่ต้องไปนั่งด้านหลังเพราะตัวสูง ถ้านั่งข้างหน้าจะบังคนอื่น ส่วนใหญ่หนูจะนิ่งๆ แต่ก็มีเล่นบ้างตามวัย ซึ่งเพื่อนจะบอกว่าญาญ่าติ๊งต๊อง แต่หนูก็ตามมุกเพื่อนฝรั่งทันนะคะ แต่เวลาเพื่อนคนไทยเล่นมุก ญาญ่าก็ขำ ซึ่งไม่ใช่เพราะเข้าใจ แต่เพราะตามมุกเพื่อนไม่ค่อยทัน (หัวเราะ)

ญาญ่า-อุรัสยา

3. เด็กพัทยาเก่าอย่างญาญ่า สปอร์ตี้แค่ไหน

ญาญ่า: ญาญ่าเล่นกีฬาเยอะค่ะ ทั้งฟุตบอล บาสเกตบอล ว่ายน้ำ เนตบอล เพราะสมัยอยู่โรงเรียนต้องทำเอกซ์ตร้าเครดิต เผื่อเข้ามหาวิทยาลัยที่เมืองนอก อีกอย่างที่พัทยาไม่มีอะไรให้ทำ ก็ต้องเล่นกีฬา เป็นสปอร์ตเกิร์ล เล่นทุกอย่างจนได้เป็นนักกีฬาโรงเรียนไปแข่งกับโรงเรียนนานาชาติที่อื่น ทีมเราชนะทุกปีค่ะ แต่ภูมิใจที่สุดคือตอนที่ได้หลายเหรียญทองจากการว่ายน้ำท่าฟรีสไตล์

4. รู้ว่าญาญ่ามีฉายาบางอย่าง…คืออะไร สารภาพมาซะดีๆ

ญาญ่า: “แลสซี่” ค่ะ มาจากตอน 7 ขวบ ชอบดูหนังเรื่องแลสซี่มาก พอดูจบก็ชอบทำตัวเลียนแบบหมา ทำเสียงแฮะๆ เวลากินคอร์นเฟลกส์ก็ก้มกินในชามเหมือนหมา ไม่ยอมใช้ช้อน พี่สาวจึงตั้งชื่อให้ว่าแลสซี่ แล้วเราอยู่โรงเรียนเดียวกัน พอเขาเรียก เพื่อนๆ ก็เรียกตาม แต่เพื่อนจะย่อเหลือแค่ “แลส” ขนาดคุณแม่ยังเรียกเลย ส่วนญาญ่าเป็นชื่อที่คุณพ่อตั้งให้ค่ะ เพราะฝรั่งจะออกเสียง “อุรัสยา” เพี้ยน คุณพ่อจึงเอาชื่อท้ายมาแผลงเป็น “ญ๊าญา” แล้วคนไทยก็แผลงต่อเป็น “ญาญ่า”

ญาญ่า-อุรัสยา ญาญ่า-อุรัสยา

5. เป็นลูกครึ่งนอร์เวย์ โตที่เมืองไทย ทำไมเลือกเรียนภาษาสเปน

ญาญ่า: ญาญ่าชอบภาษาค่ะ เรียนภาษาฝรั่งเศสมาตั้งแต่เยียร์ 5 พอเข้าคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เขามีให้เลือกแค่ญี่ปุ่น จีน เกาหลี สแปนิชประมาณนี้ ซึ่งถ้าต้องเริ่มจากศูนย์ ญาญ่าคงไม่ไหว แต่คิดว่าสแปนิชมีพื้นฐานใกล้กับฝรั่งเศส น่าจะพอเรียนได้ 

6. บ้านที่นอร์เวย์เป็นอย่างไร น่าเที่ยวไหม

ญาญ่า: ไม่รู้คนอื่นว่าไง แต่ญาญ่ากลับนอร์เวย์ทุกปีค่ะ ล่าสุดไปอยู่มาสองอาทิตย์ ที่นั่นเงียบๆ เต็มไปด้วยธรรมชาติ คนส่วนใหญ่แทบไม่ใช้รถเลย จะเดินหรือไม่ก็ปั่นจักรยาน แถวบ้านญาญ่าในกรุงออสโลอยู่ติดกับสวนสาธารณะ เราชอบออกมาเดินเล่นสูดอากาศกันบ่อยๆ ทะเลก็สวย ญาญ่ากับญาติๆ ชอบปีนขึ้นหน้าผาสูงๆ แล้วกระโดดลงน้ำกัน ช่วงซัมเมอร์เราจะขับรถขึ้นเหนือไปดูฟยอร์ดที่ Lὄen ใช้เวลาขับรถ 2-3 วัน โดยแวะพักตามเมืองต่างๆ พอถึงตรงจุดชมวิวก็จะเห็นกราเซียร์ ธารน้ำแข็งและฟยอร์ด สวยมาก ไปปูเสื่อนั่งปิกนิกกันบนหน้าผา ทำแซนด์วิช หรืออาหารปิ้งย่างกินไปด้วย เพลินมากค่ะ

ญาญ่า-อุรัสยา ญาญ่า-อุรัสยา

7. พูดถึงอาหาร ลีลาแม่ครัวของเชฟญาญ่าอยู่ในขั้นไหน มีจานเด็ดแนะนำไหม

ญาญ่า: ถือว่าโอเคเลยนะคะ เพราะคุณพ่อคุณแม่ชอบทำอาหาร หนูจึงได้เข้าครัวแต่เด็ก เมนูเด็ดของญาญ่าคือ กริลล์แซลมอน ใครชิมก็บอกว่าอร่อย (หัวเราะ) เทคนิคคือเวลาหมักปลาต้องใส่พริกไทยเยอะๆ แล้วย่างไม่ให้สุกมาก จะทำให้กรอบนอกนุ่มใน ความจริงญาญ่าทำอาหารไม่เก่งหรอกค่ะ แค่ฟลุคทุกครั้ง (หัวเราะ)

ญาญ่า-อุรัสยา ญาญ่า-อุรัสยา

8. สองคนพิเศษในวงการบันเทิงที่ญาญ่าเจอแล้วกรี๊ด

ญาญ่า: ถ้าเป็นผู้หญิงชอบพี่แอน ทองประสม มากที่สุด เพราะทั้งสวยทั้งเก่ง ตัวละครที่พี่แอนเล่นดูมีชีวิตชีวาเสมอ ตอนเจอพี่แอนครั้งแรกในละคร “เกมร้ายเกมรัก” ญาญ่าบอกเลยว่า “I love you” (หัวเราะ) ยิ่งได้คุยกันยิ่งหลงรัก พี่แอนดีกับญาญ่ามาก คอยสอนตลอด ถ้าเป็นผู้ชายปลื้มพี่เบิร์ด “โกโบริ” มาตั้งแต่เด็ก จากที่ดูซีดีเรื่อง “คู่กรรม” ของคุณแม่ ขออวดว่าตอนนี้หนูได้กอดพี่เบิร์ดแล้วนะคะ ว้าวมากๆ พี่เบิร์ดมีออร่าของซูเปอร์สตาร์และมีความรักเยอะ แค่ได้กอดพี่เบิร์ดก็มีกำลังใจขึ้นมาทันที

9. แล้วกับพระเอกขาซี้อย่างณเดชน์ล่ะ มีอะไร “น่าปลื้ม” และ “น่าเผา” บ้าง

ญาญ่า: พี่ณเดชน์เป็นนักแสดงที่มีพลังและอึดมาก ต่อให้ไม่สบาย ท้องเสีย อ้วกแตก ก็ลุกขึ้นมาแสดงได้ เต้นได้ ร้องเพลงได้ และยังไนซ์มาก ตลก เฟรนด์ลี่ คุยง่าย จนเป็นที่รักของทุกคน ขณะเดียวกันเขาก็เป็นตัวของตัวเองมาก ติสท์ๆ ชอบเล่นดนตรี ทั้งอูคูเลเล่ แบนโจ คอร์เน็ต มีอยู่ช่วงหนึ่งเขาเล่นคอร์เน็ตที่กองถ่ายทุกวัน แต่ตอนนั้นเขาเพิ่งหัดเล่นใหม่ๆ ยังไม่เป็นเพลง จึงได้ยินแต่เสียง แป้ด! แป้ด! แป้ด! ช่วงนั้นทุกคนปวดหัวมากแบบ “ตายๆ มาอีกแล้ว” แต่แค่อาทิตย์เดียว เขาก็เล่นได้เป็นเพลง เก่งจริงๆ

ญาญ่า-อุรัสยา

10. ความฝันของ ด.ญ.อุรัสยา และเป้าหมายของนักแสดงที่ชื่อ ญาญ่า คืออะไร

ญาญ่า: ตอนเด็กๆ ญาญ่าฝันอยากเป็นอะไรตั้งหลายอย่าง ตอนแรกอยากมีคำนำหน้านามว่าดร.อุรัสยา เสปอร์บันด์ ฟังดูเท่ดี แต่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นด็อกเตอร์ด้านไหน โตขึ้นมาอีกนิดอยากเป็นทนายความตามญาติๆ หลายคนที่นอร์เวย์ แต่ตอนนี้อยากเป็นนักธุรกิจเหมือนคุณพ่อ จึงวางแผนว่าเมื่อจบมหาวิทยาลัยแล้ว จะไปเรียนต่อปริญญาโทด้านบิสเนสและรับงานแสดงควบคู่ไปเรื่อยๆ

11. แสดงว่าแอบติดใจการแสดงเข้าแล้ว

ญาญ่า: ตอนเริ่มแสดงใหม่ๆ ก็ไม่ง่ายนะคะ ทุกอย่างยากไปหมด ทั้งภาษาและการตีความ ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวละครนี้ถึงต้องคิดอย่างนั้น ทำแบบนี้ แต่พอทำไปเรื่อยๆ ก็เข้าใจมากขึ้น เริ่มมีความสุข ถึงขั้นหลงรักในการแสดงก็ว่าได้ ดังนั้นญาญ่าจะทุ่มเต็มร้อยทุกงาน เพื่อตอบแทนความไว้ใจที่เขาจ้างเรามา

ญาญ่า-อุรัสยา

12. อุปสรรคที่ญาญ่าขอสู้ตายในตอนนี้

ญาญ่า: ญาญ่าพูดไทยไม่ชัดค่ะ จึงต้องทำการบ้านเยอะ ด้วยการอ่านบ่อยๆ และพูดออกเสียงให้คุณแม่ฟัง เพราะหนูจับจังหวะการพูดไม่ค่อยได้ ไม่รู้ว่าต้องทอดเสียงตรงไหน บางทีก็ออกเสียงเพี้ยน ต้องให้คุณแม่เป็นติวเตอร์ ถ้าอ่านแค่ในใจ หนูพูดชัดตลอด (หัวเราะ)

13. ทุกวันนี้มีนางเอกเกิดใหม่มากมาย บางคนดังแวบเดียวแล้วก็หายไป ญาญ่ากลัวจะเป็นอย่างนั้นบ้างไหม

ญาญ่า: ญาญ่าถือหลักว่า ในเมื่อเราทำงานตรงนี้แล้วมีความสุข เราก็ต้องให้คุณค่ากับงาน ญาญ่าจึงตั้งใจเต็มร้อยตลอด ทำทุกอย่างให้ดี ถ้าเรารักษามาตรฐานไว้ได้ก็น่าจะอยู่ไปได้เรื่อยๆ

ญาญ่า-อุรัสยา ญาญ่า-อุรัสยา

14. โฆษณาเต็มท่วมท้นครบทุกสื่อทุกไลน์ขนาดนี้โดนแซวบ้างไหม

ญาญ่า: มีบ้างค่ะ อย่างตอนนี้เพื่อนๆ ที่จุฬาฯต้องขับรถผ่านถนนอังรีดูนังต์บ้าง หรือนั่งรถไฟฟ้า ซึ่งแถวนั้นมีโปสเตอร์โฆษณาเยอะ เพื่อนๆ จะแซวว่า “โอ๊ย…เจอหน้ายูทุกที่เลย” หรือไม่ก็ “เมื่อวานนี้ ยูกลับบ้านกับไอด้วยนะ” (ยิ้ม) แต่ญาญ่ารู้สึกดีนะคะ…ยังไม่เบื่อหน้าตัวเอง

15. ถ้าโลกจะแตก แล้วญาญ่าสามารถช่วยคนได้ 3 คน จะพาใครขึ้นจรวดไปด้วย (ยกเว้นครอบครัว เพราะทีมงานแพรวส่งไปในที่ปลอดภัยแล้ว)

ญาญ่า: โดราเอมอนค่ะ จะได้หยอดคนลงไปในกระเป๋าวิเศษได้เยอะๆ คราวนี้ไม่ต้องคิดว่ามีคนที่ 2 หรือ 3 แล้ว เพราะทุกคน รวมถึงพี่ๆ ทีมงานแพรวก็จะปลอดภัยอยู่ในกระเป๋าโดราเอมอนด้วยกันได้ (ยิ้มอย่างมีชัยชนะ)

ญาญ่า-อุรัสยา

16. แสดงว่าเป็นสาวช่างฝันช่างจินตนาการ เวลาอ่านนิยาย อินจัดขนาดไหน

ญาญ่า: มากค่ะ เพราะเวลาอ่านหนูจะจินตนาการตาม จึงไม่ชอบอ่านแนวผีหลอกวิญญาณหลอน เพราะอินมากกว่าดูหนัง เคยกลัวมากจนต้องเอาหนังสือไปแช่ในตู้เย็นช่องฟรีซ ให้มันแข็งอยู่ตรงนั้น ไม่อ่านแล้ว ส่วนแนวโรมานซ์จะชอบงานของ Cecelia Ahern ที่เขียน PS, I love you ซึ้งมาก อ่านไป จินตนาการไป ร้องไห้ไป แต่ไม่อยากเป็นนางเอกของเรื่องนะคะ เพราะไม่มีเรื่องไหนจบแบบแฮ็ปปี้เอนดิ้งเลยค่ะ

17. หนุ่มในฝันที่ญาญ่าอยากพาไปชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่นอร์เวย์มากที่สุดคือใคร

ญาญ่า: ซูเปอร์แมนค่ะ เพราะเขาเสียสละช่วยคนมาเยอะแล้ว ควรจะได้ไปเดินเล่นชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนให้ผ่อนคลายบ้าง พระอาทิตย์เที่ยงคืนจะเห็นได้ที่ Troms อยู่ทางใต้ของนอร์เวย์จังหวัดเดียว ช่วงนั้นพระอาทิตย์กับพระจันทร์จะสวนทางกัน ฟ้าจะมืดแค่ 10-15 นาที ตื่นเต้นมาก ซูเปอร์แมนน่าจะชอบค่ะ

ญาญ่า-อุรัสยา

18. ถ้าพี่ติ๊ก-เจษฎาภรณ์เป็นเนวิเกเตอร์พาน้องญาญ่าเที่ยวป่า อยากให้พาไปที่ไหน

ญาญ่า: อยากให้พาไปป่าอะเมซอนในแอฟริกา เพราะเป็นป่าที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีสัตว์ป่าหลากหลาย น่าสนใจมากๆ พี่ติ๊กพาหนูไปหน่อยนะคะ

19. ถ้าให้เลือก อยากมีแฟนในวงการหรือนอกวงการ

ญาญ่า: ญาญ่าคิดว่าความรักบังคับกันไม่ได้ เมื่อถึงเวลาจะมีอาจเป็นคนที่อยู่ในวงการหรือนอกวงการก็ได้ (ยิ้มหวาน)

20. ความประทับใจกับแพรว

ญาญ่า: จำได้ว่าคุณแม่ซื้อหนังสือแพรวมาอ่านตลอดตั้งแต่ญาญ่าเป็นเด็ก พอโตขึ้นถึงทราบว่าแพรวเป็นนิตยสารขายดีที่สุดในเมืองไทย ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งจะได้มาถ่ายแฟชั่นด้วย ครั้งแรกที่ถ่ายกับแพรว เป็นแฟชั่นเซตในที่เกาะเสม็ด พี่ปู-สุเมธเป็นช่างภาพ สนุกค่ะ ประทับใจ อยากให้แพรวประสบความสำเร็จแบบนี้ไปตลอดๆ นะคะ

 


เรียบเรียงโดย: บะหมี่กุ๊งกิ๊ง_แพรวดอทคอม
ที่มา: นิตยสารแพรว ปีที่ 32 ฉบับที่ 769 (10 ก.ย. 54) หน้า 207-208
ภาพ: นิตยสารแพรว, IG @urassayas

มิชลินระดับ 3 ดาว

ฟินตัวแตก! ประสบการณ์รสชาติละมุนลิ้นกับ มิชลินระดับ 3 ดาว

Alternative Textaccount_circle
มิชลินระดับ 3 ดาว
มิชลินระดับ 3 ดาว

นับตั้งแต่ มิชลิน ไกด์ (Michelin Guide) เข้ามามอบรางวัล มิชลิน สตาร์ (Michelin Star) วงการร้านอาหาร, นักกิน และ นักชิม ต่างคึกคักเป็นอย่างมาก รวมถึงเกิดกลุ่มคนที่อยากเก็บเกี่ยวประสบการณ์รสชาติละมุนลิ้นในร้านอาหารที่ได้รับรางวัลการันตี โดยจากข้อมูลพบว่าในประเทศไทย มิชลิน สตาร์ สูงสุดคือ 2 ดาวจำนวน 3 ห้องอาหารเท่านั้น ขณะที่ 1  ดาวมี 14 ร้าน แต่ก็น่าเสียดายอย่างหนึ่งว่าเมืองไทยยังไม่มี มิชลินระดับ 3 ดาว ดังนั้นหากใครอยากลิ้มชิมรสชาติคงต้องเดินทางไปไกลถึงต่างประเทศ

มิชลินระดับ 3 ดาว
“โทมัส บิวเนอร์” (Thomas Buhner)

จากความต้องการของเหล่านักชิมนี่เอง อินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท เลยเกิดไอเดียอยากให้คนไทยได้เปิดประสบการณ์ความอร่อยระดับพรีเมี่ยม โดยไม่ต้องเดินทางไกล จึงเกิดงาน “Truly First-Class Dining with 3-Michelin Star Chef Thomas Buhner” โดย “โทมัส บิวเนอร์” (Thomas Buhner) เชฟมิชลินระดับ 3 ดาว มารังสรรค์อาหารมื้อค่ำชั้นเลิศ ในบรรยากาศสุดหรู ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าการมาครั้งนี้เป็นการมาแบบเฉพาะกิจเพียง 3 วันเท่านั้น ซึ่ง แพรวดอทคอม ได้รับเชิญให้ไปร่วมประสบการณ์รสชาติละมุนลิ้นกับมิชลินระดับ 3 ดาว ครั้งนี้ด้วย ขอบอกเลยว่าฟินสุดๆ

มิชลินระดับ 3 ดาว
บรรยากาศดินเนอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับเชฟโทมัส บิวเนอร์
มิชลินระดับ 3 ดาว
บรรยากาศดินเนอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับเชฟโทมัส บิวเนอร์

“โทมัส บิวเนอร์” เป็นเชฟมิชลินระดับ 3 ดาวแห่งห้องอาหารลา วี หนึ่งในห้องอาหารระดับสามดาวชั้นนำของโลก  จากเมืองออสนาบูร์ก เยอรมนี เขาสั่งสมประสบการณ์ด้านอาหารมานานกว่า 20 ปี เริ่มจากการเป็นหัวหน้าหน่วยในครัว ร่วมทีมกับ “เชฟฮาราลด์ โวล์ฟาร์ท” แห่งห้องอาหารชวาร์ซวาลด์สทูเบอ เมืองบาเยรส์ บรอนน์  ก่อนจะไต่เต้าขึ้นเป็นหัวหน้าเชฟใหญ่ของห้องอาหารลา ต๊าบ เมืองดอร์ทมุนด์ ในปี 1991 และอีก 5 ปีต่อมา เขาได้รับมิชลินเป็นดาวแรก และได้รับดาวที่สองในปี 1998 ก่อนจะคว้ารางวัลเชฟดาวรุ่งประจำปี 2001 และรางวัลเชฟยอดเยี่ยมแห่งปี จากการจัดอันดับของสำนัก Gault & Millau ซึ่งทรงอิทธิพลสุดในวงการอาหารฝรั่งเศสในเวลาต่อมา

มิชลินระดับ 3 ดาว
เชฟโทมัส บิวเนอร์ กำลังปรุงอาหารสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

สำหรับมื้อค่ำสุดพิเศษโดย เชฟมิชลินระดับ 3 ดาว “โทมัส บิวเนอร์” ออกแบบมาทั้งหมด 6 คอร์สพร้อมไวน์แพร์ริ่งเรียงลำดับความเรียบง่ายของรสชาติและความประทับใจได้อย่างไม่มีที่ติ

นอกจากเชฟจะเน้นเรื่องวัตถุดิบจากธรรมชาติ คุณภาพดี นำเข้าจากต่างประเทศผสานกับการนำวัตถุดิบพื้นเมืองประจำท้องถิ่นมาใช้ในการรังสรรค์อาหารแต่ละเมนูแล้ว ยังโดดเด่นด้วยการดีไซน์อาหารในรูปแบบสามมิติ และเทคนิคการปรุงอาหารด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด รวมถึงการจัดสมดุลของแต่ละเมนูไว้ได้อย่างลงตัว

เริ่มต้นที่ Marinated cod covered with slice Australian wagyu beef served with saffron reduction เมนูปลาคอดเนื้อแน่นหวาน หุ้มด้วยเนื้อวัวออสเตรเลียวากิวนำเข้าเกรดพิเศษสไลด์ เสิร์ฟพร้อมซอสหญ้าฝรั่งสูตรพิเศษ รสชาติชุ่มฉ่ำถือเป็นการเรียกน้ำย่อยได้ดี

มิชลินระดับ 3 ดาว
Marinated cod covered with slice Australian wagyu beef served with saffron reduction

Octopus cooked with kimchi and wild boar emulsion เมนูหมูป่าและปลาหมึกยักษ์ทรงเครื่องเสิร์ฟพร้อมกิมจิ ใช้น้ำแอปเปิ้ลหมักน้ำส้มสายชูตัดเลี่ยน ถือเป็นการผสมผสานความเป็นยุโรปและเอเชียได้อย่างลงตัว

มิชลินระดับ 3 ดาว
Octopus cooked with kimchi and wild boar emulsion

Potato foam with pumpkin curry ice-cream เมนูไอศกรีมแกงกะหรี่ผสมฟักทอง เสิร์ฟพร้อมโฟมมันฝรั่งที่ให้สัมผัสอุ่นละมุนลิ้น ส่วนไอศกรีมแกงกะหรี่เย็นๆ แต่เข้มข้น นับเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่สุดๆ

มิชลินระดับ 3 ดาว
Potato foam with pumpkin curry ice-cream

ทีเด็ดเลยก็คือ Lightly etouffee breast pigeon served with smoked juniper and caramelized sweet potato เมนูอกนกพิราบฝรั่งเศส แน่นเด้งแถมยังชุ่มฉ่ำมากๆทานคู่กับซอสมันฝรั่งหวานและจูนิเปอร์อร่อยสุดๆ

มิชลินระดับ 3 ดาว
Lightly etouffee breast pigeon served with smoked juniper and caramelized sweet potato

Roebuck venison served with red cabbage gel Asian spices เป็นเมนคอร์ส เนื้อกวางที่ผ่านการซูวีในน้ำสต๊อกกว่า 20 นาที รสสัมผัสนุ่มละลายในปาก น้ำสต๊อกมีความคล้ายกับเครื่องพะโล้ของไทย เสิร์ฟคู่กับซอส 3 รูปแบบ

มิชลินระดับ 3 ดาว
Roebuck venison served with red cabbage gel Asian spices

ปิดท้ายที่ของหวานเลิศรส Cube of smoked banana, pecan nut and tamarind ไอศกรีมกล้วยหอมรสเค็ม เสิร์ฟพร้อมไวท์ช็อกโกแลต ถั่วพีแคนผสมรัม ซอสมะขาม และกล้วยหอม มิกซ์กันแล้วฟินมากกกก

มิชลินระดับ 3 ดาว
Cube of smoked banana, pecan nut and tamarind (1)

สำหรับกิจกรรมเปิดประสบการณ์ความอร่อยระดับพรีเมี่ยม โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท ได้เชิญมิชลินสตาร์ระดับโลกมามอบประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนกันยายนนี้จะเป็นเชฟอาหารสเปนผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.032 616 999 หรือ InterContinental Hua Hin Resort

โอนโนรี่

งดงามอย่างไทย! โอนโนรี่ ออกเครื่องประดับสุดคิวต์สไตล์โอเรียนทอล

โอนโนรี่
โอนโนรี่

โอนโนรี่ แบรนด์เครื่องประดับไทย เผย 3 คอลเล็คชั่นระดับท็อปสุดหรู สะท้อนความงามตามเอกลักษณ์ไทยและศิลปะสไตล์โอเรียนทอล

โอนโนรี่แบรนด์เครื่องประดับไทยซึ่งโดดเด่นด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ สะท้อนความประณีตในแบบไทยและตะวันออกเผย 3 คอลเล็คชั่นระดับท็อป ได้แก่ เบญจรงค์ (Benjarong) เวลคัมทูไทยแลนด์ (Welcome to Thailand) และ มิราเคิลพาสเทล (Miracle Pastel)

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่างานศิลปะของไทยในสไตล์โอเรียนทอลนั้นเป็นความงามที่ไม่แพ้ที่อื่นใดในโลก ด้วยงานฝีมือชั้นครูที่ตกทอดมายาวนานและสอดแทรกอยู่ในชีวิตประจำวันมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งยังมีประวัติศาสตร์แห่งศิลปะอันน่าตื่นตาตื่นใจที่สามารถนำมาเป็นแรงบันดาลใจได้อย่างไม่มีวันสิ้นสุด อย่างเช่น โอนโนรี่ (Ownory) แบรนด์เครื่องประดับหรูที่ได้รับแรงบันดาลใจแห่งการออกแบบมาจากความงามในแบบไทยและศิลปะตะวันออก (Oriental Art Inspiration) ทำให้เกิดเอกลักษณ์และสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมของชนชาติได้อย่างชัดเจน

โดยเครื่องประดับโอนโนรี่ทุกชิ้นได้ผ่านการรังสรรค์มาจากเครื่องเงินแท้ ผนวกการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ ที่มีกรรมวิธีการผลิตที่ประณีตจากช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญจนได้มาซึ่งเครื่องประดับหลากหลายคอลเล็คชั่นให้ผู้ที่ชื่นชอบศิลปะได้สัมผัส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

 

โอนโนรี่ แบรนด์เครื่องประดับไทย เผย 3 คอลเล็คชั่นระดับท็อปสุดหรู

 

คอลเล็คชั่นระดับท็อปของโอนโนรี่ซึ่งผู้ที่หลงใหลในความงามอย่างมีเอกลักษณ์ต้องมีไว้ในครอบครอง ได้แก่

1. คอลเล็คชั่นเบญจรงค์ (Benjarong) ได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องเบญจรงค์งานหัตถศิลป์ชั้นสูงที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณเน้นการใช้สี 5 สีในการวาดลวดลาย โดยโอนโนรี่ได้ใช้กรรมวิธีในการลงสีแบบเดียวกับเครื่องเบญจรงค์ พร้อมดีไซน์ที่งดงามเข้าถึงศิลปะไทยและผสมผสานความคลาสสิกได้อย่างลงตัว

โอนโนรี่

2. คอลเล็คชั่นเวลคัมทูไทยแลนด์ (Welcome to Thailand) เป็นอีกหนึ่งคอลเล็คชั่น ที่ได้รับการกล่าวถึงจากลูกค้าไทยและต่างชาติอย่างมาก ด้วยเอกลักษณ์ความเป็นไทย ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว ลายไทย คำไทย รวมไปถึงสัญลักษณ์ต่างๆ ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก ซึ่งเป็นที่น่าอัศจรรย์ว่าโอนโนรี่สามารถรังสรรค์สิ่งเหล่านี้ออกมาเป็นเครื่องประดับที่หรูหราและเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ได้อย่างงดงาม

โอนโนรี่

โอนโนรี่

โอนโนรี่

3. คอลเล็คชั่นมิราเคิลพาสเทล (Miracle Pastel)เป็นคอลเล็คชั่นที่ถ่ายทอดโลกแห่งความฝันและจินตนาการผ่านสีสันสดใสและดีไซน์ที่อ่อนหวานน่ารัก แมทช์กับความอ่อนโยนและความใจดีในแบบของคนไทยได้เป็นอย่างดี

โอนโนรี่

โอนโนรี่

โดยในทุกคอลเล็คชั่นของโอนโนรี่นั้น ทำจากพลอย cubic zirconia คุณภาพดี ฝังลงในตัวเรือนเงินแท้ 92.5% พร้อมการลงสีที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อให้ได้งานที่สมบูรณ์แบบ พร้อมให้ผู้ที่หลงใหลในเครื่องประดับอันเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ได้สัมผัสและดื่มด่ำกับศิลปะไทยในสไตล์โอเรียนทอลอย่างแท้จริง

จองแฮอิน

หยอดเก่ง! จองแฮอิน ตอบคำถามเดทกับนางเอกรุ่นพี่ ซนเยจิน จริงหรือไม่?

Alternative Textaccount_circle
จองแฮอิน
จองแฮอิน

นาทีนี้มีลุ้น จองแฮอิน พระเอกจากซีรี่ส์ Something in the Rain เปิดใจ “คุณไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ภายหลังจากมีข่าวลือออกเดทกับนูน่า ซนเยจิน

จองแฮอิน

พระเอกเจ้าของฉายา “รอยยิ้มพิฆาตใจ”

เคมีเข้ากันดีจนเป็นที่จับตานับตั้งแต่ละครเริ่มเปิดกล้องเลยทีเดียว สำหรับคู่ขวัญจากซีรี่ส์ดัง Something in the Rain พระเอกดาวรุ่ง จองแฮอิน วัย 30 ปี และ นางเอกมากฝีมือ ซนเยจิน วัย 36 ปี ที่สวมบทเป็นคู่รักต่างวัยได้อย่างกลมกลืนราวกับทั้งคู่เป็นคนรักกันในชีวิตจริง เพราะไม่ว่าจะเบื้องหน้าหรือเบื้องหลังก็ได้เห็นความใกล้ชิดของทั้งคู่ ซึ่งก่อนหน้านี้นางเอก ซนเยจิน ถึงกับบอกว่า “คนส่วนใหญ่ไม่ถามฉันว่าเดทอยู่หรือเปล่า? แต่กลับเลือกถามว่าพวกเราเดตกันอยู่ใช่ไหม? พวกเขาได้ยินมาว่าเราเดทกัน” ทว่าเมื่อให้เธอฟันธงดาราสาวกลับไม่ตอบ ก่อนจะโยนให้นักข่าวไปถามเรื่องนี้กับพระเอกหนุ่มรุ่นน้องแทน

จองแฮอิน

ภาพถ่ายของพระเอกหนุ่มกับนางเอกรุ่นพี่ “ซนเยจิน”

ล่าสุดสื่อเกาหลีได้สอบถามเรื่องนี้กับพระเอกหนุ่มคนนี้ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า คนรอบตัวเขาต่างถามถึงเรื่องนี้ ทั้งยังบอกอีกว่า ทำไมถึงไม่เดทกันไปเลย ถ้าคบกันพวกเขาจะสนับสนุน ทำให้เขาต้องปรึกษาเรื่องนี้กับนางเอกรุ่นพี่ ซนเยจิน

งานนี้บอกเลยว่ามีลุ้นเพราะส่วนใหญ่หากไม่ใช่คู่กันแล้วทั้งสองฝ่ายจะออกมาปฏิเสธอย่างชัดเจน ทว่าเรื่องนี้ หนุ่ม จองแฮอิน กลับหยอดให้แฟนๆได้ลุ้นกันต่อซะอย่างนั้น

จองแฮอิน

ภาพจากซีรี่ส์ Something in the Rain

“ยังไงก็ตามสิ่งที่เราถ่ายทำกันไปไม่ใช่สารคดี แต่เป็นเรื่องแต่งและเรื่องโกหก ผมพยายามแสดงออกมาให้ดีในทุกๆ ตอน และผลตอบรับที่ดี ทำให้ผมคิดว่าเราประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้วล่ะ แต่หลังจากนั้น คุณไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

“ตอนนี้ผมกับพี่เยจินติดต่อกันได้อย่างอิสระ เธอไม่ใช่นักแสดงรุ่นพี่ที่ทำให้ผมรู้สึกเกร็งอีกต่อไป เพราะเมื่อได้ใกล้ชิดกับเธอแล้ว เธอคือคนที่คุยด้วยง่ายและยังรับฟังความคิดเห็นของผม ผมหวังว่าต่อจากนี้เราจะยังคงใกล้ชิดและติดต่อกันและกันแบบนี้ต่อไปครับ”

จองแฮอิน

ฉากหวานของ พระเอก- นางเอก ที่แฟนคลับและแฟนซีรี่ส์ ฟินจิกหมอน

อย่างไรก็ตามไม่ใช่หยอดเพียงแต่เรื่องนี้เท่านั้น ล่าสุดหนุ่มคนนี้ยังหยอดคลิปหวานมาถึงสาวไทยด้วย ก่อนที่จะลัดฟ้ามาพบกับแฟนคลับชาวไทยในวันที่ 2 มิ.ย.2561 ในงาน JUNG HAE IN ‘SMILE’ FAN MEETING IN BANGKOK ซึ่งจะจัดขึ้นที่ Ultra-Arena, Show DC  บัตรราคา 4,800 / 3,500 และ 2,000 บาท จำหน่ายบัตรผ่านทาง เคาน์เตอร์ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา หรือ www.thaiticketmajor.com และ Call Center 02-262-3456 หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/IMEthailand หรือ Twitter: @ime_th และ Instagram: @ime_th

แชร์สเต็ปดูแลผิวแพ้ง่าย..สไตล์เซเลบสาว “เอย-ณัฐชนันท์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา”

Alternative Textaccount_circle

เอย – ณัฐชนันท์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ตัวแทนของสาวผิวแพ้ง่ายที่มีเรื่องราวของการดูแลตัวเองและแบ่งปันไอเท็มเด็ดที่เลือกมาแล้วอย่างดี จะมีอะไรบ้างเลื่อนตามมา…

แชร์สเต็ปดูแลผิวแพ้ง่าย..สไตล์เซเลบสาว “เอย-ณัฐชนันท์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา”

Secret’s Story

“เอยมีผิวแพ้ง่าย แต่ชอบลองเครื่องสำอางมากจนคุณแม่ต้องขอร้องให้หยุด เพราะขี้เกียจพาไปพบแพทย์ผิวหนัง ก่อนลองชิ้นไหนจึงหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ไว้เยอะ หากชิ้นไหนที่ใช้แล้วไม่แพ้ รวมทั้งชอบเป็นพิเศษ ก็จะไม่เปลี่ยนหรือเสี่ยงลองตัวอื่นบ่อยๆ

“ก่อนหน้านี้เอยไปเที่ยวเวียนนา ประเทศออสเตรีย แล้วผิวแห้งแตกจนรับตัวเองไม่ไหว จึงไปหาซื้อครีมบำรุงผิว บอกพนักงานว่าขอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด เพราะคนยุโรปส่วนใหญ่มีผิวแห้งมากด้วยสภาพภูมิอากาศ สุดท้ายได้ครีมบำรุงผิวยี่ห้อ Louis Widmer ความที่ซื้อเยอะ เพราะไปกันหลายคน จึงได้ของแถมมาเป็นครีมกันแดด ปรากฏว่าใช้ดี เหมือนเจอสิ่งที่ตามหามานาน เนื้อครีมสีขาว แต่ไม่ทำให้หน้าเปลี่ยนสีเหมือนครีมกันแดด ส่วนใหญ่ที่พอทาแล้วทำให้หน้าสว่างหรือดูลอยหลอกตา เลยกลับไปซื้อเพิ่มอีก

“ลิลี่ คอลลินส์ คือดาราที่เอยชอบมาก ถึงขั้นซื้อเครื่องสำอางตามที่เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์ อย่างรองพื้น LANCÓME Teint Idole Ultra Wear ซึ่งทีแรกไม่ได้คาดหวังอะไร แต่ผิดคาดที่ดีมากจนใช้เป็นปีโดยไม่คิดเปลี่ยน เพราะช่วยปกปิดดีเยี่ยม ยิ่งบริเวณใต้ตาหมองคล้ำ ส่วนที่ชอบเป็นพิเศษคือเฉดสี เอยผิวขาวมาก ถึงขนาดช่างแต่งหน้าบ่นว่าหาสีรองพื้นยาก แต่ตัวนี้เอาอยู่ ต่อมาจึงซื้อคอนซีลเลอร์ LANCÓME Effacernes มาใช้คู่กัน แต่สลับใช้กับ NARS Radiant Creamy Concealer ซึ่งมีเนื้อค่อนข้างหนา จึงปกปิดได้ดีกว่า การเลือกใช้ต่างกันไปแล้วแต่โอกาส

“การเลือกซื้อเครื่องสำอางแต่ละครั้งมีที่มาที่ไปเสมอ อย่างมาสคาร่า LANCÓME Grandióse Waterproof เกิดจากการดูภาพยนตร์เรื่อง Beauty and the Beast (โฉมงามกับเจ้าชายอสูร) ซึ่งมีรูปดอกกุหลาบอยู่ในด้ามแปรงคล้ายกับในภาพยนตร์ เลยตัดสินใจซื้ออย่างรวดเร็ว ซึ่งใช้ได้ดีเกินคาด สีดำสนิทและงอนเด้ง ไม่ตกระหว่างวัน ที่สำคัญล้างออกง่าย จึงไม่ทำร้ายขนตา

“ที่ปัดแก้ม HOURGLASS Ambient Lighting Blush สี Diffused Heat คือสิ่งที่เอยวางแผนจะซื้อ โดยมีการค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมทั้งคำวิจารณ์สินค้า เมื่อถึงร้านก็ลองอีกหลายรอบจึงตัดสินใจซื้อ เพราะเรื่องราวที่ได้ฟังจากพนักงานว่าเนื้อผลิตภัณฑ์ลายหินอ่อนเกิดจากการหยดสีลงไปด้วยมือ ดังนั้นทุกตลับจะมีลายไม่ซ้ำกันเลย และ HOURGLASS Ambient Lighting Powder แป้งที่ช่วยอำพรางรูขุมขน และรอยแดง ซึ่งเอยมีผิวขาวโทนชมพูที่ค่อนข้างออกแดง ด้วยเทคนิคกระจายแสงทำให้หน้าดูเงาวาว พอได้ลองผลิตภัณฑ์ ไม่รู้ว่าคืออุปาทานหรือเปล่า (หัวเราะ) แต่มันดีมาก จึงใช้มาตลอด ไม่เปลี่ยนใจ”

Secret Items

“หลายคนทักหาเอยผ่านข้อความส่วนตัวทางอินสตาแกรมเรื่องขนตาว่าทำอย่างไรให้ขนตายาว เคล็ดลับคือน้ำมันมะพร้าวค่ะ เอยนำมาใช้เช็ดเครื่องสำอาง เหมือนการบำรุงผิวหน้าและขนตาไปในตัว ที่สำคัญสามารถล้างเครื่องสำอางกันน้ำออกจนหมดเกลี้ยง เพราะคุณสมบัติความเป็นน้ำมัน หลังจากทาครีมบำรุงเรียบร้อย ให้ใช้นิ้วทาน้ำมันมะพร้าวบางๆ แล้วถูวนอย่างเบามือบริเวณโคนขนตา เพื่อบำรุงขนตาให้ยาว และแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย

“อีกหนึ่งเคล็ดลับคือน้ำมันอาร์แกน (Argan Oil) ใช้ของ BEYOND Argan Therapy Signature Oil สำหรับบำรุงผม ทำให้เส้นผมมันวาว ดูมีน้ำหนัก เพิ่มความชุ่มชื้นด้วย แต่หากใครต้องการม้วนผมด้วย ความร้อนคงไม่เหมาะ เพราะจะทำให้ลอนผมคลายตัวได้ง่าย

“อย่างที่บอกว่าเอยผิวแห้ง ผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ต้องมีความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ Village 11 Factory Relax-Day Body Oil Cream ด้วยเนื้อครีมเข้มข้นมาก จึงใช้เฉพาะช่วงก่อนนอน และ Beauty Spa New Zealand 100% Lanolin Balm กระปุกบาล์มสำหรับบำรุงริมฝีปาก คล้ายปิโตรเลียมเจล แต่ทำมาจากลาโนลิน (Lanolin) หรือไขมันที่ได้จากแกะ ให้ความชุ่มชื้นสูง ทาก่อนนอน เมื่อตื่นเช้ามาให้ใช้แปรงสีฟันขัดริมฝีปาก เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วจะหลุดลอกออกมาอย่างง่ายดาย”

Favorite Item : URBAN DECAY Liquid Moondust Eyeshadow #Solstice60

สีชมพูอมส้มผสมกลิตเตอร์กากเพชร วิบวับ ไว้ทาเปลือกตา ใช้ตัวนี้แค่ชิ้นเดียวจบงานในทุกๆ วัน แต้มลงบนเปลือกตาแล้วเกลี่ยให้ทั่ว เมื่อแห้งจะติดทนนานและไม่เป็นคราบ สีสวย ที่สำคัญกลิตเตอร์แน่นมาก คนทักเสมอว่าตาดูเป็นประกายหวาน ไอเท็มนี้สาวๆ ควรซื้อเก็บไว้นะคะ


เรื่องและภาพ : นิตยสารแพรว ฉบับ 928 คอลัมน์ BEAUTY SECRET หน้า 58 – 60
ภาพ IG : 
euidevahastin

‘ไว้ใจเพื่อนยกให้เป็นเพื่อนสนิท แต่เพื่อนไม่บอกว่า มีเจ้าของแล้ว’ ดูดวงรายวัน 30 พฤษภาคม 2561

ดูดวงรายวัน 30 พฤษภาคม 2561 #ป้าเนาว์พยากรณ์ แม่นเป๊ะสายแข็ง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : ท่านถูกกดดันอย่างหนัก เพราะเจ้านายเอาแต่ใจ แล้วท่านก็สตรองด้วย ลุย บทจะไม่ยอมท่านก็ไม่ฟังใครเลย วันนี้ก็ยั้งๆ ความเชื่อมั่นไว้บ้าง อย่างไรเขาก็เป็นเจ้านายที่สามารถให้คุณให้โทษได้ในชั่วพริบตา หากตัดสินใจเร็ว ขาดสติ จะทำให้เกิดความผิดพลาดได้

การเงิน : ท่านชอบความท้าทายและเสี่ยง แต่ให้ระวังจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับเงินใต้โต๊ะ หรือสินบนต่างๆ

ความรัก :  วันนี้คู่จะส่งเสริมบารมีและเป็นที่พึ่งของครอบครัวได้ทุกเรื่อง ซึ่งท่านจะประสบความสำเร็จเพราะคู่ครอง  คนโสด เจ้าชู้ อารมณ์รักร้อนแรง ขึ้น-ลงแบบสุดโต่ง หากท่านถูกใจก็ไม่คำนึงถึงความถูกต้องนัก

สุขภาพ : ท่านทำงานจึงจะแข็งแรง แต่หากอยู่บ้านจะป่วยไข้

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  ท่านกำลังอยู่ในช่วงที่ขอความเห็นใจจากผู้ใหญ่ ถึงการทำงานที่ผิดพลาดไปแล้ว ซึ่งวันนี้ท่านต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการพบปะผู้คน หรือการติดต่อประสานงานกับบุคคลอื่น ก่อนทำอะไรควรคิดตัดสินใจให้รอบคอบ เพื่อให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด

การเงิน  :  ท่านร่วมหุ้นธุรกิจอาจถูกหลอกลวง จนถึงเป็นคดีความได้ โปรดระวัง

ความรัก :   อาจมาถึงจุดที่ความรักเริ่มโรยรา น่าเบื่อหน่าย เพราะฉะนั้นท่านจึงพยายามเรียกร้อง ความเข้าใจ แต่เหมือนท่านต้องเลือกระหว่างอยู่ต่อหรือจะหยุดแค่นี้ คนโสด มีเพศตรงข้ามเข้ามาชอบมากมาย แต่ก็ต้องเหน็ดเหนื่อยในการเลือก สำหรับวันนี้ชาวต่างชาติดูจะถูกโฉลกกับท่าน

สุขภาพ : ดูแลเรื่องการขับถ่าย อย่ากลั้นปัสสาวะ จะทำให้เกิดโรคกรวยไตอักเสบจนถึงกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  : ท่านเริ่มรู้สึกอึดอัดกับที่ทำงาน เพื่อนร่วมงาน และเจ้านายจนอยากลาออก เพราะถูกคาดหวังความสำเร็จของงานไว้สูงมาก ซึ่งวันนี้ท่านเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการบุกเบิกงานใหม่ที่ต้องเดินทางไปในสถานที่ที่แปลกใหม่ ไม่คุ้นเคย

การเงิน :  ท่านร้อนเงิน อาจเสียเงินกับยวดยานพาหนะ หรือเกี่ยวกับการเดินทาง ไม่ควรค้ำประกันเงินกู้หรือเซ็นสัญญากู้ยืมเงินแทนบุคคลอื่น เพราะอาจต้องแบกรับภาระหนี้สินแทน

ความรัก : วันนี้จะมีปัญหาเรื่องมือที่สามเข้ามาทำให้ความรักสะดุด ขอให้ท่านลดทิฐิมานะและความคาดหวังในคู่ลงบ้างก็จะมีความสุขกับความรักได้มากขึ้น คนโสด มีเสน่ห์ ใครเห็นใครก็เอ็นดู แต่ท่านค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบการผูกมัด จึงเกิดความหงุดหงิด โมโหขึ้นได้ง่าย

สุขภาพ : ระวังเรื่องลำไส้ ระบบย่อยอาหาร และโรคกระเพาะ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :  ท่านมีความคิดและจินตนาการล้ำเลิศมากจนคนที่ทำงานด้วยตามไม่ทัน จนท่านต้องใช้ความรู้ความสามารถ พลังกาย พลังใจที่มีเพื่อให้งานชิ้นนี้ผ่านไปให้ได้ ก็เผื่อใจไว้หน่อยนะคะ ว่าจะไม่ได้ผ่านไปง่ายๆ ถึงอย่างไรอย่าใช้อารมณ์เด็ดขาด

การเงิน : มีปัญหาที่ทำให้ท่านต้องหมุนเงินตัวเป็นเกลียว ระวังการแย่งชิงมรดก หรือการแย่งผลประโยชน์ในหมู่ญาติพี่น้อง

ความรัก : ท่านไม่ชอบให้คู่มาปิดกั้นความคิดหรืออิสรภาพส่วนตัวมากนัก จึงเป็นเหตุให้ทะเลาะกันอยู่เนืองๆ คนโสด ท่านผิดหวังมาเยอะก็ควรจะดูใจกันให้นานๆ รวมทั้งคนรักเก่าที่กำลังจะกลับมาด้วย ก็ต้องดูให้ชัวร์

สุขภาพ : ระวังระบบหมุนเวียนเลือด ความดัน ระบบน้ำเหลืองและต่อมไร้ท่อต่างๆ

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : วันนี้ท่านเชื่อมั่นตัวเองสูงที่จะออกไปบุกเบิกตลาดใหม่ โดยไม่ถามความคิดเห็นจากเพื่อนร่วมงาน จึงทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนถูกลดบทบาทและความสำคัญ รอวันที่จะเอาคืน เมื่อถึงวันนั้นอาจทำให้ท่านต้องหยุดพักงานเลยทีเดียว

การเงิน : ชักหน้าไม่ถึงหลัง ระวังถูกหลอกให้ลงทุนด้วยคำพูดหวานๆ

ความรัก :  วันนี้ท่านอาจไม่ลงรอยกัน เพราะคู่ชอบจำกัดความคิดและอิสรภาพของท่าน จึงทำให้โมโห ฉุนเฉียวด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด จากเพื่อนอาจพัฒนากลายเป็นเพื่อนสนิท แต่ดูดีๆ เพื่อนอาจมีเจ้าของแล้ว

สุขภาพ : เดินทางไปไหน ระวังเรื่องการติดเชื้อไวรัส และโรคภูมิแพ้ จากอากาศที่เปลี่ยนกับการสัมผัสข้าวของที่ไม่สะอาด

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : วันนี้ท่านมีเกณฑ์เดินทางทั้งวัน ไปติดต่องานในสถานที่แปลกใหม่ ไม่คุ้นเคย จึงทำให้ท่านเกิดความโลเล ไม่มั่นใจที่จะตัดสินใจ จึงควรเตรียมตัวศึกษาหาข้อมูลให้แน่นก่อนไป กับเตรียมตัวบริวารด้วย เพราะท่านมักให้ความสนิทสนมมากจนเขาอาจข้ามหน้าข้ามตาท่าน

การเงิน :  ท่านจะหมดเงินกับความรัก และการลงทุน จนต้องเดือดร้อนผู้ใหญ่

ความรัก :  วันนี้ความรักอาจเริ่มจืดจาง ลองขอโยกย้ายไปทำงานต่างถิ่นบ้าง เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ หรือชวนกันไปเที่ยว หากิจกรรมทำด้วยกันก็น่าจะทำให้ชีวิตคู่มีสีสันขึ้น คนโสด วันนี้ท่านอาจเจอผู้ชายผมทองสูงวัยเข้ามาในชีวิต หรือหากคนนี้ไม่ใช่ก็อาจต้องรออีกนาน

สุขภาพ :  อย่าลืมพกยาดม ยาหม่องไปด้วยนะคะ เพราะอาจมีปัญหาเลือดลมหมุนเวียนไม่สะดวก ปวดศีรษะ หน้ามืด ตาลาย

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : ท่านมีภาวะผู้นำสูง เมื่อทำอะไรก็เดินหน้าไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค แต่ท่านมีความวิตกกังวลสูง ไม่กล้าตัดสินใจใดๆ ต้องรอปรึกษาจากทีม ซึ่งวันนี้ทีมจะเป็นทีมงานคุณภาพ สามารถให้คำปรึกษาท่านได้

การเงิน :  ท่านใช้เงินไปกับความรัก การเดินทางจนหมดต้องหมุนเงิน โดยอาจต้องเดือดร้อนผู้ใหญ่ด้วย

ความรัก :  พื้นฐานท่านอาจอยู่ด้วยกันเพื่อความเหมาะสม หรือเพราะญาติผู้ใหญ่ ซึ่งวันนี้ก็ดำเนินมาถึงจุดที่เบื่อและเซ็ง ลองโยกย้ายเปลี่ยนที่ทำงาน หรือจัดบ้านใหม่ไหมคะ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ คนโสด  ขออยู่เป็นโสดดีกว่า

สุขภาพ : ถึงคิวนัดหมอฟันได้แล้วค่ะ เพราะจะเป็นปัญหารุกรานถึงระบบย่อยอาหาร

ของมันแทนกันได้! ฮันนีมูนเมืองไทยไม่ต้องไปไกลถึงเมืองนอก

account_circle

สำหรับคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่กำลังมองหาสถานที่ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันอยู่ วันนี้ไม่ต้องไป ฮันนีมูน ไกลถึงเมืองนอกเมืองนา แพรว wedding เรามีสถานที่ดีๆในเมืองไทย ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคู่รักที่ต่างกันออกไปมาแนะนำกัน รับรองว่าสถานที่ท่องเที่ยวไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลกอย่างแน่นอน 

คู่รักสาย Urban

ฮันนีมูน
กรุงเทพมหานครฯ ยามค่ำคืน

เริ่มกันกับที่แรกหากคู่ของคุณมีสไตล์การท่องเที่ยวแบบในเมืองหน่อยไม่ต้องไปไกลถึงปารีส หรือฮ่องกง ที่นี่กรุงเทพมหานคร เมืองฟ้าอมรของเราเลย หลายๆคนก็ใกล้เกลือกินด่าง เพราะอยู่ใกล้เลยไม่ได้สนใจนัก ทั้งๆที่นี่คือหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางจากทั่วโลกใฝ่ฝัน

เริ่มกันที่ฝั่งธนกับแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งสวยงดงามทั้งยามกลางวันและกลางคืน สถานที่ต่างๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยามีให้ชมอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วัดวาอารามต่างๆ เช่นวันอรุณ วันพระแก้ว วัดโพธิ์ ที่สามารถเดินทางง่ายๆ ด้วยการนั่งเรือชมวิวสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาไปเรื่อยๆ หรือขึ้นเรือแล้วเดินเลาะๆ หรือนั่งตุ๊กๆ อย่างที่ฝรั่งนิยมกัน มาฝั่งเสาชิงช้า พระที่นั่งอานันตสมาคม ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ ยิ่งในช่วงเวลากลางคืนแล้วขอบอกว่ากรุงเทพมหานครนั้นสวยไม่แพ้เมืองไหนเลยทีเดียว

คู่รักสายดอกไม้

ฮันนีมูน
สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน จังหวัดน่าน

หากคุณทั้งคู่ชื่นชอบความงามของดอกไม้ ไม่ต้องไกลถึงดินแดนซากุระ ประเทศญี่ปุ่น เพราะประเทศไทยของเราก็มีให้ดูชมอยู่หลายๆ ที่ในช่วงฤดูกาลต่างๆ เช่น ในฤดูหนาวช่วงต้นๆ ปี จะเป็นช่วงที่ดอกพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทยกำลังเบ่งบานหาดูชมได้ที่ศูนย์วิจัยการเกษตรหลวงเชียงใหม่ สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน จังหวัดน่าน นอกจากนี้ยังมีงานเทศกาลเชียงรายดอกไม้งาม จังหวัดเชียงรายสามารถไปชมดอกทิวลิปสวยๆ กันได้ที่นี่ ซึ่งเป็นเทศกาลชมดอกทิวลิปประจำปีที่ยิ่งใหญ่และโด่งดังที่สุดของเมืองไทย

ช่วงฤดูร้อนประมาณ มีนาคม ก็จะมีดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ให้ได้ชมกัน ส่วนใหญ่นิยมไปกันที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม หรือจะเป็นบึงบัวที่ยิ่งใหญ่ อุทยานนกน้ำทะเลน้อย ของจังหวัดพัทลุงก็สวยไม่แพ้ใคร ดอกไม้ของเมืองไทยก็สวยไม่แพ้ชาติใดในโลก ใครที่หลงไหลในซากุระของญี่ปุ่น เจอพญาเสือโคร่งเข้าไปก็อาจจะเปลี่ยนใจไปเลยก็ได้นะคะ

คู่รัก Sea Sand Sun

ฮันนีมูน
เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ต่อมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ต่างชาติชื่นชอบมากที่สุดของประเทศเราหนีไม่พ้นทะเล ว่ากันว่าทะเลไทยสวยเป็นอันดับต้นๆ ของโลกในแต่ละปีท้องทะเลไทย ทั้งฝั่งอันดามัน และอ่าวไทย สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้หลายล้านคน ฝรั่งบางคนใฝ่ฝันว่าซักวันต้องมาเที่ยวทะเลบ้านเราให้ได้ แล้วเราอยู่ใกล้แค่นี้ทำไมถึงไม่ลองดู

คู่รักไม่ต้องไปแสวงหาที่โรแมนติกกันไกลถึงฮาวาย หรือมัลดีฟ เพราะถ้าจะบอกว่าทะเลบ้านเราก็ปังไม่แพ้กันนั้นก็คงไม่ผิดนัก ที่นิยมมากจะเป็นทะเลทางภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นกระบี่ ภูเก็ต พังงา เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะนางยวน สุราษฎร์ธานี เกาะหลีเป๊ะ สตูล หรือจะเป็นทะเลฝั่งตะวันออก เช่น เกาะล้าน เกาะช้าง เกาะกูด ก็สวยงามไม่แพ้กัน

คู่รักสายภูเขา

ฮันนีมูน
ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน

นอกจากนี้หากคู่รักต้องการสัมผัสอากาศหนาวอย่างเมืองนอก บ้านเราถึงแม้ไม่หนาวขนาดมีหิมะให้เล่น แต่ความสวยงามของทะเลหมอกบนยอดดอยต่างๆ ทางภาคเหนือก็สวยงามน่าชม

การได้ยืนชมพระอาทิตย์ขึ้น และดูทะเลหมอกที่ภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย หรือดื่มด่ำบรรยากาศแปลงผักสวยๆ ทะเลหมอกงามๆ ที่ดอยอ่างขาง เชียงใหม่ หรือภูทับเบิก ที่เพชรบูรณ์ หรือจะนอนดูดาวกันที่ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน และสถานที่โรแมนติกอย่าง ปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอนก็ดีงามไม่แพ้กัน

ไปฮันนีมูนกันแล้วก็ต้องได้ภาพถ่ายดีๆ กลับมาด้วยจริงไหม…นี่เลย 6 ทริคง่ายๆ ช่วยให้ได้ภาพถ่ายโดนใจ ยามไปลั้นลาฮันนีมูนกับคนรัก

ข้อมูล : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ภาพ : Cmai_imk, takemetour, holidayguru

ผู้หญิงมีสตอรี่ ซินดี้-สิรินยา อีกมากลุคที่ไม่ได้มีเพียงนางแบบมาดนางพญา

ผู้หญิงมีสตอรี่ ซินดี้-สิรินยา บิชอพ

กำลังมีผลงานละครเรื่อง ลิขิตรัก The Crown Princess รับบทเป็น เจ้าฟ้าหญิงโมนา (นางร้าย) อยู่ในตอนนี้สำหรับนางแบบตัวแม่ ซินดี้-สิรินยา บิชอพ ที่เริ่มก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงจากการถ่ายโฆษณา ประกวดเวทีนางงามจนคว้าตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ ประจำปี 2539 ไปได้และเดินสายอยู่ในวงการเดินแบบมาอย่างยาวนานจนกลายเป็นนางแบบระดับท็อปมาจนถึงปัจจุบัน

ซินดี้-สิรินยา ซินดี้-สิรินยา

แม้ในละครจะมีความร้าย แต่ถ้าติดตามในโลกโซเชียล ซินดี้กลับมีกลุ่มแฟนคลับสาวๆ รุ่นใหม่เพิ่มขึ้นมามากทีเดียว เพราะด้วยรูปลักษณ์ที่สวย สง่าในชุดสวยสไตล์เจ้าหญิงในเรื่อง ผสมกับผลงานการเดินแบบ ถ่ายแบบที่ผ่านๆ มา รวมถึงออกรายการเรียลลิตี้บนหน้าจอโทรทัศน์ ก็ทำให้สาวซินดี้จัดอยู่ในกลุ่มนางแบบตัวแม่ นักแสดงสาวรุ่นใหญ่ขึ้นแท่นไอดอลของใครหลายคนไปโดยปริยาย

ซินดี้-สิรินยา

วันนี้ แพรวดอทคอ จะมาพูดถึงอีกมุมหนึ่งของสาวซินดี้ ที่ไม่ใช่มีเพียงผลงานด้านการแสดง เดินแบบ ถ่ายแบบเท่านั้น เพราะในด้านหนึ่ง ซินดี้ยังเป็นผู้หญิงที่สนับสนุนในการจัดตั้งแคมเปญเรียกร้องสิทธิสตรีอีกด้วย อย่างในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เธอก็ได้อัดคลิปวิดีโอออกมาแสดงความคิดเห็นว่า นอกจากจะรณรงค์ให้ผู้หญิงแต่งตัวปกปิดมิดชิดเพื่อป้องกันการโดนลวนลามแล้ว ทำไมถึงไม่ปลูกฝังให้ผู้ชายรู้จักให้เกียรติเพศหญิง เพราะถึงแม้จะไม่ใช่ช่วงเทศกาลสำคัญ หรือผู้หญิงแต่งตัวเรียบร้อยแค่ไหนก็ยังเจอกรณีผู้ชายลวนลามบ่อยครั้งอยู่ดี รวมถึงยังเป็นกระบอกเสียงจัดแคมเปญพูดคุยเรื่อง “ผู้หญิงกับการคุกคามทางเพศ” อีกด้วย ซึ่งก็ทำให้ผู้หญิงหลายชื่นชอบในความคิดและกล้าแสดงออกนี้

ซินดี้-สิรินยา ซินดี้-สิรินยา

นอกจากนี้ เห็นภาพลักษณ์ของสาว ซินดี้-สิรินยา บนแคทวอล์คดูลุคมาดนางพญา แต่ความจริงเธอยังมีมุมน่ารักๆ ในแบบฉบับผู้หญิง และคุณแม่ลูกสองด้วย

โดยสาวซินดี้ได้จัดทำช่องทางให้แฟนๆ ได้ติดตามเธอผ่าน Youtube Chanel ในนาม Cindy Sirinya Bishop ซึ่งจะมีเรื่องราวต่างๆ ที่มีประโยชน์ เผยให้เห็นไลฟ์สไตล์ของเธอ นำมาแชร์ มาแนะนำให้กับสาวๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคการเป็นนางแบบว่าควรเริ่มฝึกอย่างไรหากสนใจเส้นทางนี้ ทริคการแต่งหน้า ทริคสร้างความมั่นใจ

ซินดี้-สิรินยา

รวมถึงไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว ใช้ชีวิตกับครอบครัวแบบเรียบง่ายที่มีทั้งความฝรั่งและไทยผสมกัน ซึ่งจะมีสามีลูกครึ่งอเมริกัน-ญี่ปุ่น ไบรอน บิชอพ และลูกๆ น้องเลล่า คาเมน-น้องเอเดน วิลเลียม มาเติมความน่ารักสดใสเข้ามา โดยความพิเศษของคลิปวิดีโอทั้งหลายนี้คือ สาวซินดี้จะพูดเป็นภาษาอังกฤษที่ฟังง่าย ศัพท์ไม่ยาก ทำให้หลายคนที่มาติดตามได้ฝึกทักษะภาษาเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากการมารู้จักสาวซินดี้เพิ่มขึ้นด้วย เป็นอีกหลากหลายมุมเลยที่ทำให้ซินดี้มีเสน่ห์ และน่าติดตามมากเชียวล่ะ ซึ่งความน่ารักของซินดี้และครอบครัวแบบเรียบง่ายจะเป็นอย่างไร ให้รูปภาพด้านล่างนี้เป็นคำตอบแล้วกัน

ซินดี้-สิรินยา
ซินดี้-ไบรอน
ซินดี้-สิรินยา
น้องเลล่า คาเมน-น้องเอเดน วิลเลียม

ซินดี้-สิรินยา ซินดี้-สิรินยา ซินดี้-สิรินยา ซินดี้-สิรินยา ซินดี้-สิรินยา ซินดี้-สิรินยา

 


เรื่อง: บะหมี่กุ๊งกิ๊ง_แพรวดอทคอม
ภาพ: IG @cindysirinya

10 สิ่งห้ามพลาดในงาน Great and Good Friends สัมพันธ์ 200 ปี ไทย-สหรัฐอเมริกา

Alternative Textaccount_circle

อีกหนึ่งนิทรรศการดีๆ ที่บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์ชาติไทยกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ งานนิทรรศการของขวัญแห่งมิตรภาพ Great and Good Friends (เกรท แอนด์ กู๊ด เฟรนด์ส เอ็กซิบิชั่น) จัดขึ้นโดย สถานทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 200 ปีความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและราชอาณาจักรไทย ในรูปแบบการจัดแสดงของขวัญที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้รับพระราชทานจากพระมหากษัตริย์ไทยและพระบรมวงศานุวงศ์ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 จนถึงรัชกาลที่ 9 และที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระมหากษัตริย์ไทย ณ พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบรมมหาราชวัง

นิทรรศการนี้เป็นการแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอันเกี่ยวเนื่องกับความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1818 เป็นต้นมา รวมทั้งสิ้น 79 ชิ้น ที่หาชมได้ยากและบางชิ้นไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อน โดยภายในงานนี้แบ่งออกเป็นสองส่วนด้วยกัน เริ่มจากชั้น 2 เป็นโซนจัดแสดงความสัมพันธ์ 100 ปีแรก และชั้น 1 โซนจัดแสดงความสัมพันธ์ 100 ปีหลังจนถึงปัจจุบัน เราจึงรวบรวมไฮไลท์สำคัญที่ไม่ควรพลาดในการเข้าชมงานครั้งนี้

 10 สิ่งห้ามพลาดในงาน Great and Good Friends สัมพันธ์ 200 ปี ไทย-สหรัฐอเมริกา
ภาพจดหมายจากพระยาสุริยวงศ์มนตรี (ดิศ บุนนาค)
ภาพจดหมายจากพระยาสุริยวงศ์มนตรี (ดิศ บุนนาค)
  1. จดหมายจากพระยาสุริยวงศ์มนตรี (ดิศ บุนนาค) เขียนถึงประธานาธิบดีเจมส์ มอนโร ในปี พ.ศ.2361 เพื่อติดต่อด้านการค้ากันทางจดหมายเป็นครั้งแรกระหว่างรัฐบาลไทยและสหรัฐอเมริกา ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โดยเขียนเป็นภาษาโปรตุเกส ซึ่งเป็นภาษาทางการทูตที่ใช้ในราชอาณาจักรไทยสมัยนั้น ส่งผ่านกัปตันเรือชาวอเมริกันนายสตีเฟน วิลเลียมส์ ที่นำสินค้ามาแลกเปลี่ยนน้ำตาลที่กรุงเทพฯ นี่เองที่ถือเป็นจุดกำเนิดแห่งมิตรภาพของสยามและสหรัฐอเมริกา มาจนถึงทุกวันนี้
ภาพร่างสนธิสัญญาไมตรีและพาณิชย์
ภาพร่างสนธิสัญญาไมตรีและพาณิชย์

 

ภาพร่างสนธิสัญญาไมตรีและพาณิชย์
ภาพร่างสนธิสัญญาไมตรีและพาณิชย์
  1. สนธิสัญญาไมตรีและพาณิชย์ เป็นสนธิสัญญาฉบับแรกที่กรุงรัตนโกสินทร์ลงนามกับสหรัฐอเมริกาและเป็นฉบับแรกที่ประเทศในทวีปเอเชียลงนามกับสหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ.2376 ที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประทับพระราชลัญจกรรูปไอราพต เป็นการให้สัตยาบันอย่างสมบูรณ์ พร้อมกันกับรัฐสภาสหรัฐอเมริกา และประธานาธิบดีมาร์ติน แวน บิวเรน โดยต้นฉบับม้วนหนังสือที่มีความสูงกว่าสามเมตรครึ่ง ถูกเก็บรักษาไว้ที่องค์การบริหารจดหมายเหตุและบันทึกแห่งชาติ ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. จนถึงทุกวันนี้ และได้ถูกนำมาจัดแสดงในงานครั้งนี้
ภาพเครื่องถมทองพระราชทานจากพระบาทสมเด็จสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
  1. เครื่องถมทองพระราชทานจากพระบาทสมเด็จสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นงานศิลปหัตถกรรมไทยดั้งเดิมที่มีมาอย่างน้อยตั้งแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา มอบให้แก่ประธานาธิบดีแฟรงกลิน เพียร์ซ ในปี พ.ศ.2399 ซึ่งเครื่องถมทองเป็นสิ่งที่ชาวอเมริกันประทับใจเมื่อได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพระเจ้าอยู่หัว เมื่อได้ชมความงดงามของเครื่องถมทอง ตลอดจนเครื่องยศต่างๆ ของผู้คนในราชสำนัก การให้เครื่องถมทองเป็นของขวัญหมายถึงทรงเชื้อเชิญแขกเมืองให้มายังราชสำนักสยามนั่นเอง
ภาพเหมือนประธานาธิบดีจอร์จ วอชิงตัน
  1. ภาพเหมือนประธานาธิบดีจอร์จ วอชิงตัน ชิ้นนี้สันนิษฐานว่าเป็นผลงานของเรมบรันต์ พีล ของขวัญจากประธานาธิบดีแฟรงกลิน เพียร์ซ ทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ.2399 ซึ่งผลงานปัจจุบันถูกเก็บไว้ที่กรมศิลปากร งานนี้ยกผลงานจริงมาให้ชมกันอย่างใกล้ชิด 
ภาพจดหมายตอบกลับเรื่องพระราชทานช้างเผือก
  1. จดหมายตอบกลับเรื่องพระราชทานช้างเผือก จากอับราฮัม ลินคอร์น ที่ขึ้นต้นหัวจดหมายด้วยคำว่า Great and Good Friends ถึงพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานพระราชสาส์นไปยังประธานาธิบดีเจมส์ บูแคนัน โดยมีพระราชประสงค์ที่จะพระราชทานช้างหนึ่งคู่เพื่อ “ไว้ให้สืบพืชพันธุ์ในทวีปอเมริกา” หลังจากพระองค์ทรงทราบว่าไม่มีช้างอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา เมื่อพระราชสาส์นไปถึงกรุงวอชิงตัน ดี. ซี. นายอับราฮัม ลินคอล์น ที่ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ปฏิเสธอย่างสุภาพ ในปี พ.ศ.2405 โดยชี้แจงว่า “ภูมิอากาศของสหรัฐอเมริกาไม่เหมาะแก่การขยายพันธุ์ช้าง” ถึงแม้ไทยจะไม่ได้ส่งช้างคู่นั้นเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังสหรัฐอเมริกา แต่น้ำพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสารตอบกลับอันสุภาพจากประธานาธิบดีลินคอล์นก็ได้แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพที่ทั้งสองประเทศมีต่อกัน
ภาพจดหมายตอบกลับเรื่องพระราชทานช้างเผือก
  1. นิตยสาร TIME ปกพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกา พร้อมกับสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ทรงพระราชปฏิสันถารกับผู้คนที่มารอรับเสด็จ ในปี พ.ศ.2474 เมืองสการ์โบโร รัฐนิวยอร์ก พระราชดำรัสของพระองค์ในครั้งนั้นทำให้อเมริกันชนยกย่องชื่นชมพระองค์ และสนใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับประเทศไทยมากยิ่งขึ้น หนังสือพิมพ์หลายฉบับรวมทั้งนิตยสารไทม์ซึ่งตีพิมพ์ทั่วประเทศ ลงข่าวการเสด็จพระราชดำเนินเยือนของพระองค์ ซึ่งทำให้ประเทศสยามกลายเป็นที่รู้จักไปทุกหนแห่งในสหรัฐอเมริกา 
ภาพกล่องบุหรี่ประดับอักษรพระปรมาภิไธย
  1. กล่องบุหรี่ประดับอักษรพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ ในสมัยรัชกาลที่ 8 ช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดเหตุการณ์กองทัพญี่ปุ่นบีบให้รัฐบาลไทยประกาศสงครามต่อสหรัฐอเมริกา แต่ไทยไม่ส่งคำประกาศดังกล่าวแก่รัฐบาลสหรัฐอเมริกา และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงครามระหว่างสองประเทศ หลวงประดิษฐ์มนูธรรมผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ได้ส่งกล่องบุหรี่ทองประดับอักษรพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ มอบให้ประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี. รูสเวลต์ เพื่อแสดงความขอบคุณผ่านทางเจ้าหน้าที่สำนักบริการด้านยุทธศาสตร์ในไทย สื่อถึงความปรารถนาดีของประเทศไทยในการมุ่งให้เกิดสันติภาพ แม้จะเป็นเพียงของขวัญเพียงเล็กน้อย แต่กล่องใส่บุหรี่ทองใบนี้สามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าสำคัญ เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ไทยไม่ต้องเป็นผู้แพ้สงครามโลกครั้งที่ 2
ภาพฉลองพระองค์ครุย
  1. ฉลองพระองค์ครุย ของขวัญที่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรรณไวทยากร กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ ประทานแก่สถาบันสมิธโซเนียน ในปีพ.ศ.2490 ฉลองพระองค์ครุยนี้มอบให้เพื่อเจริญความสัมพันธ์ทางการทูต ขณะทรงดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกา เป็นสิ่งของมีค่าทางความสัมพันธ์อีกชิ้นหนึ่งซึ่งมีความเปราะบาง เนื่องจากเป็นงานปักถักด้วยเส้นทองอันละเอียดอ่อน จึงเป็นสิ่งยากมากที่นำมาจัดแสดงโชว์ เพราะอาจจะทำให้เกิดการชำรุดได้ง่าย

 

  1. นิทรรศการเหมือนจริงผ่าน Google Arts & Culture นิทรรศการนี้มีการนำสื่ออินเทอร์เนตเข้ามาผสมผสานในการชมนิทรรศการผ่านช่องทางใหม่ๆ ผ่านการคิดค้นมาให้ง่ายต่อการใช้งานสำหรับทุกวัย สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางมาชมหรือต้องการชมซ้ำอีกครั้ง ซึ่ง Google Arts & Culture สามารถรับชมภาพเสมือนจริงได้ทั้งนิทรรศการ พร้อมข้อมูลเกี่ยวกับของขวัญจัดแสดงโชว์อย่างละเอียด สามารถติดตามข้อมูลได้ที่ https://artsandculture.google.com/partner/queen-sirikit-museum-of-textiles

 

 

  1. ห้องกิจกรรม และโซนภาพศิลปะ pixel art ที่สื่อถึงความสัมพันธ์ในปัจจุบัน ห้องนี้จะสื่อให้เห็นถึงความสัมพันธ์ไทยและสหรัฐอเมริกาที่มีมายาวนานจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัฒนธรรม การเป็นอยู่ การดำเนินธุรกิจการค้า โดยสื่อผ่านกิจกรรมสลับภาพความสัมพันธ์ไทย-อเมริกา ผ่านรูปแบบเกมส์จับคู่ มุมถ่ายภาพสนุกๆ และมุมภาพศิลปะแบบ pixel art ที่เป็นการสร้างภาพจากจุดเล็กๆ จนกลายเป็นภาพขนาดใหญ่ด้วย post-it 3M สีสันต่างๆ พร้อมประทับตราสัญลักษณ์ ให้ทุกคนที่มาร่วมชมนิทรรศการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมแสดงความคิดเห็นของคำว่า friendship is หรือ ความหมายของความสัมพันธ์ในความคิดส่วนตัวคืออะไร แปะลงไปให้เต็มพื้นที่ก็จะกลายเป็นภาพจับมือกัน เพื่อสื่อถึงมิตรภาพอันดีระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกานั่นเอง

 

สิ่งของทั้ง 79 ชิ้นภายในงานถูกยกนำมาจัดแสดงทั้งหมด ถือว่างานนี้ได้รวบรวมของที่หาชมได้ยากมาไว้ในที่เดียว รับรองว่ามาแล้วจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน โดยงานนิทรรศการ Great and Good Friends จัดขึ้น ณ พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบรมมหาราชวัง ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 150 บาท ผู้สูงอายุ 80 บาท นักเรียน นักศึกษา 50 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าฟรี เปิดทุกวัน 9.00 น. – 16.30 น. งานมีจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2561

*รูปภาพทั้งหมดจาก https://www.greatandgoodfriends.com/ โซนชั้น 1 สามารถถ่ายภาพได้

อัพเดทกันยาวๆ กับเทรนด์ แฟชั่นชุดแต่งงาน 2018 – 2019

account_circle

ว่าที่เจ้าสาวที่มีแผนจะแต่งงานปลายปีนี้ หรือปีหน้า มาอัพเดท แฟชั่นชุดแต่งงาน ในปี 2018 – 2019 กันก่อน

ความสวยงามต้องมาพร้อมกับความทันสมัย แพรว wedding เลยอยากให้เจ้าสาวของเรามีทั้งสองอย่างนี้รวมอยู่ในลุคชุดแต่งงานในวันสำคัญ และนี่คือ แฟชั่นชุดแต่งงาน ที่เราอัพเดทมาให้ทั้งในปีนี้ไปจนถึงปีหน้า เรียกได้ว่าใช้วางแผนความงามกันได้แบบยาวๆ เลย

เวลเจ้าสาวสไตล์ Dramatic Veils

ไม่ใช่เจ้าสาวทุกคนที่จะเลือกใส่เวลในวันแต่งงาน แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว เวล ก็เป็นสิ่งที่เจ้าสาวส่วนใหญ่ให้ความสำคัญและเลือกที่จะสวมใส่ในวันแต่งงาน แต่อาจจะเพิ่มสีสันให้กับผ่าม่านผืนยาวด้วยการเพิ่มดีเทล หรือเติมรายละเอียดต่างๆ ให้ดูมีสไตล์มากขึ้น เพื่อที่จะช่วยดึงดูดความสนใจในวันแต่งงาน เพราะฉะนั้นเวลที่เต็มไปด้วยกิมมิกอันโดดเด่นจึงดูเหมือนว่ากำลังจะได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งคำว่า “dramatic veils” ถูกใช้เป็นคำค้นหาเพิ่มมากขึ้นถึง 213 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ 2017 เป็นต้นมา และเวลที่เต็มไปด้วยรายละเอียดต่างๆ อันน่าทึ่งนั้น ก็เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวที่สวมชุดแต่งงานแบบเรียบง่าย เพื่อที่จะช่วยดึงความโดดเด่นของเวลให้ดูสวยงามมากยิ่งขึ้น แถมยังดูสวยงามไปด้วยกันได้ดีกับชุดแต่งงานสไตล์เรียบง่ายอีกด้วย ซึ่งเวลที่ได้รับความนิยมในปีนี้นั้นก็มีทั้ง เวลที่ชายผ้าประดับด้วยลูกไม้, เวลลายดอกไม้ หรือเวลที่ประดับไว้ด้วยดีเทลอันโดดเด่นต่างๆ และแน่นอนว่าเวลสีขาวนั้นเป็นสีมาตรฐานที่สวยงามไม่เคยเปลี่ยนแปลง

แฟชั่นชุดแต่งงาน

ชุดแต่งงานสไตล์งานปัก

ไม่ใช่แค่เวลเท่านั้นที่ได้รับการเมคโอเวอร์ให้ทันสมัยขึ้น แต่ชุดแต่งงานก็เริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงจากสไตล์เรียบง่ายสีขาวมาเป็นอะไรที่ดูโมเดิร์นและมีรายละเอียดที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของเจ้าสาวมากขึ้น และจากผลการค้นหาข้อมูลชุดแต่งงานตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาพบว่า “ชุดแต่งงานแบบปัก” หรือ “embroidered bridal wear” เป็นเทรนด์ในการค้นหามากที่สุด ซึ่งคำค้นหานี้เพิ่มขึ้นถึง 40 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับการค้นหาชุดแต่งงานในสไตล์อื่นๆ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ชุดแต่งงานแบบปักด้วยมือให้เป็นลวดลายต่างๆ หรือการประดับดอกไม้ในสไตล์เจ้าสาว ส่วนเทรนด์ชุดแต่งงานอีกหนึ่งสไตล์ในปี 2018 ที่กำลังได้รับความนิยมคือ ชุดแต่งงานสไตล์จัมพ์สูทหรือแบบกางเกง ที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ให้มีดีเทลของความเป็นความสาวมากขึ้น

เสื้อคลุมเจ้าสาว

ตั้งแต่ Bridal Fashion Week ไปจนถึงงานแต่งงานคนดังอย่าง เซเลน่า วิลเลียมส์ ดูเหมือนว่าโมเม้นต์ของ เสื้อคลุมเจ้าสาว กำลังจะเป็นที่น่าจับตามองมากยิ่งขึ้น เพราะจากสองงานดังกล่าวทำให้คำว่า “wedding capes” ถูกใช้ค้นหามากขึ้นถึง 44 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากเสื้อคลุมเจ้าสาวถือเป็นอีกหนึ่งแอคเซสซอรี่ที่ดูทันสมัย และช่วยเพิ่มเลเยอร์ให้กับลุคและชุดแต่งงานดูน่าสนใจยิ่งขึ้นทันทีที่สวมใส่

เทรนด์ชุดแต่งงานในปี 2019!!

ชุดแต่งงานแบบเผยช่วงไหล่สุดเย้ายวน หรือแม้กระทั่งชุดแต่งงานแบบมีแขนที่เต็มไปด้วยรายละเอียดอันสวยงาม ซึ่งชุดแต่งงานทั้งสองสไตล์นี้เป็นเทรนด์ใหม่ของชุดแต่งงานที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากในปี 2019!! ในขณะที่ชุดแต่งงานที่มีช่วงแขนเสื้อแบบพองฟูนั้นกำลังครองโลกของแฟชั่นไปเมื่อเร็วๆ นี้ สังเกตได้จากรันเวย์ชุดแต่งงานที่ผ่านมาตั้งแต่ช่วงต้นปี ที่เริ่มเผยแฟชั่นในสไตล์นี้มากขึ้นในโลกของเจ้าสาว ซึ่งดูเหมือนกับว่าโลกแห่งแฟชั่นชุดแต่งงานอาจจะหมุนกลับไปสู่เทรนด์สไตล์วินเทจที่เน้นการดีไซน์ชุดแต่งงานให้มีดีเทลในช่วงแขนเสื้อและช่วงไหล่ให้เต็มไปด้วยกิมมิกอันโดดเด่น

แหวนสไตล์ Stacks Rings

เรียบเก๋ไม่เหมือนใครกับการใส่แหวนซ้อนกันสไตล์ Stacks Rings เทรนด์สุดฮิตที่ว่าที่เจ้าสาวไม่ควรพลาด แถมยังช่วยเพิ่มความเท่และมีสไตล์ให้กับแหวนหมั้นวงสวยที่ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเรือนเรียบโก้ประดับเพชรแบบธรรมดาอีกต่อไป ด้วยการอัพเกรดแหวนหมั้นให้มีสไตล์ขึ้นมาอีกนิด ซึ่งแน่นอนว่าผู้หญิงที่แต่งงานแล้วจะต้องสวมแอคเซศซอรี่อย่างแหวนแต่งงานติดนิ้วนางข้างซ้ายไว้เสมอ และเมื่อปีที่ผ่านมาแหวนสไตล์ Stacks Rings ก็เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในหมู่สาวๆ และนั่นไม่เว้นแม้กระทั่งกับแหวนแต่งงาน ที่ว่าที่เจ้าสาวหลายคนมักจะเลือกมิกซ์แอนด์แมตช์แหวนแต่งงานเข้ากับแหวนวงอื่นๆ เพื่อใส่ในชีวิตประจำวัน แถมแหวนสไตล์นี้ยังเหมาะมากหากหนุ่มๆ กำลังมองหาของขวัญสุดเก๋ให้แฟนสาวสักชิ้นในวันสำคัญหรือวันครบรอบอีกด้วย

ว่าแล้วก็ไปอัพเดท 14 แบรนด์ชุดแต่งงานระดับอินเตอร์ที่น่าจับตามองในปี 2018 กันต่อเลย

ข้อมูลจาก Etsy

ภาพ naeemkhan.com, vogue.com, brides.com, bhldn.com, pinterest.com, boards.weddingbee.com

Louis Vuitton cruise 2019

รับเทียบเชิญ! ญาญ่า ชมแฟชั่นโชว์ Louis Vuitton cruise 2019 กระทบไหล่คนดัง

Louis Vuitton cruise 2019
Louis Vuitton cruise 2019

อีกครั้งกับการได้รับเทียบเชิญร่วมชมแฟชั่นโชว์แบรนด์ดัง สำหรับนางเอกสาวญาญ่า-อุรัสยา กับโชว์ของ Louis Vuitton cruise 2019 ที่คราวนี้ได้กระทบไหล่ซุป’ตาร์ไม่น้อย

เมื่อคืนที่ผ่านมา (28 พ.ค.) แบรนด์ดังระดับโลก Louis Vuitton ได้จัดแฟชั่นโชว์สุดยิ่งใหญ่ประจำฤดูกาล ณ Fondation Maeght พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีอายุกว่า 5 ทศวรรษ ในประเทศฝรั่งเศส แน่นอนว่านอกจากโชว์จะเป็นจุดดึงดูดให้ผู้คนชมการไลฟ์สดผ่านทวิตเตอร์ออฟฟิเชียลของ Louis Vuitton เป็นจำนวนหลักแสน และชมย้อนหลังอีกเกือบล้านครั้งแล้ว แขกที่ได้รับเทียบเชิญไปร่วมชมโชว์ในครั้งนี้ก็ถูกจับจ้องจากแฟนๆ ไม่ต่างกัน เพราะงานแฟชั่นโชว์ระดับแนวหน้า คนดังจากทั่วโลกต้องมาเข้าร่วมอยู่แล้ว และไม่ผิดคาดว่าตัวแทนจากฝั่งไทยที่ได้ร่วมชมโชว์ในปีนี้ก็คือนางเอกมากความสามารถ ญาญ่า-อุรัสยา

Louis Vuitton cruise 2019
ของขวัญต้อนรับจากหลุยส์ วิตตอง ที่สาวญาญ่าปลื้มสุดๆ

สาวญาญ่าได้รับเชิญในฐานะ Friend of Louis Vuitton เรียกได้ว่าโกอินเตอร์ไม่หยุดเลยจริงๆ และสำหรับลุคในครั้งนี้ก็มีความแตกต่างจากปีก่อนไม่น้อย เพราะคราวนี้มาในลุคสปอร์ตๆ เท่ๆ แต่ก็ยังมีกลิ่นอายของสาวหวานด้วยโทนสีของชุดกับสีเหลืองพาสเทล ส่วนไอเท็มอื่นๆ อย่างกระเป๋าและรองเท้าก็เข้ากันได้ดี

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2017 ญาญ่า–อุรัสยา เสปอร์บันด์ นางเอกสาวสวยคนเก่งของไทย ก็ได้รับเชิญให้เข้าร่วมชม แฟชั่นโชว์ Louis Vuitton Collection Cruise 2018 ณ กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว ทั้งนี้ยังได้นั่งฟร้อนต์โรว์เพื่อชมโชว์อีกด้วย ส่วนในปีนี้ลุคของเธอจะโดนใจกันไหม ตามมาส่องเลย

 

ญาญ่า ชมแฟชั่นโชว์ Louis Vuitton 2019 cruise กระทบไหล่คนดัง

 

Louis Vuitton cruise 2019
ญาญ่า–อุรัสยา

 

Louis Vuitton cruise 2019
แฟนคลับถึงกับกรี๊ด เพราะหนุ่มเซฮุนจากวง EXO นักร้องดังจากเกาหลีใต้ แชะภาพคู่น้องญ่า

 

Louis Vuitton cruise 2019
งานนี้มีแต่สาวๆ อิจฉาญาญ่าที่ได้กระทบไหล่หนุ่มเซฮุน

 

ญาญ่าและนักแสดงฮอลลีวู้ด เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี

 

ญาญ่าร่วมเฟรมกับ Sophie Turner (กลาง) และ Laura Ruth Harrier (ขวา)

 

เมื่อคนดังแห่งเอเชียทั้ง เซฮุน เรนนี่ หยาง และญาญ่า มารวมตัวกัน

 

เป๊ะแค่ไหน ถามใจดู งานนี้กินกันไม่ลง

ปีนี้สาวญาญ่าก็มาในลุคเซฟๆ ที่ไม่ได้ฉีกกฎอะไร แต่ก็ยังคงความสวยหรู ดูดี มีคลาสไว้ได้อย่างเฉียบขาด


เรื่อง : Hana_แพรวดอทคอม (ฮานะ)

ภาพ : Twitter

หนูแหม่ม-สุริวิภา

หนูแหม่ม-สุริวิภา เปิดเผยถูกถอดจากพิธีกรเพราะไม่เซ็กซี่

Alternative Textaccount_circle
หนูแหม่ม-สุริวิภา
หนูแหม่ม-สุริวิภา

พิธีกรมืออาชีพ หนูแหม่ม-สุริวิภา กุลตังวัฒนา เปิดเผยเหตุถูกปลดจาก ศึก 12 ราศี เพราะไม่ผ่านเงื่อนไขของรายการที่ต้องการพิธีกรเฟรชและเซ็กซี่มากกว่า

หนูแหม่ม-สุริวิภา

อีกหนึ่งอาชีพที่เฟื่องฟูมากๆ ในยุคนี้คือ ผู้ดำเนินรายการ เพราะเมื่อมีรายการออกมามากมายทั้งทางทีวีและอินเทอร์เนต ก็ย่อมต้องมีผู้ดำเนินรายการด้วย ดังนั้นเราจึงได้เห็นคนรุ่นใหม่แจ้งเกิดมากมาย แถมแต่ละคนยังมีความถนัดเฉพาะตัวและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ไม่เหมือนในอดีตที่ผู้ดำเนินรายการมีไม่กี่คนเท่านั้น แต่ถึงจะอย่างนั้นแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าถึงจะน้อยแต่ก็อุดมไปด้วยคุณภาพ เช่นเดียวกับพิธีกรมืออาชีพ “พี่หนูแหม่ม-สุริวิภา กุลตังวัฒนา” เธอคิดเห็นถึงเรื่องนี้เหมือนกันและได้ติดตามผลงานของน้องๆ หลายคนด้วย โดยเฉพาะ “แบม-ปีติภัทร คูตระกูล” ซึ่งเธอถึงกับบอกว่าเป็นคนที่มีไหวพริบและแก้ไขสถานการณ์ได้ดีมากๆ

โดยในงาน Exclusive Meet & Eat ร่วมรับประทานอาหารพร้อมเปิดตัว 2 รายการอาหารสุดเด็ด “เมนูเมียสั่ง My wife rules Thailand” และ “เชฟทัวร์ ครัวติดดิน street chefs” พี่หนูแหม่มยังได้ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่ช่วงนี้แฟนๆ ไม่ค่อยได้เห็นเธอผ่านทางหน้าจอถี่เหมือนเดิม อีกทั้งล่าสุดเธอได้ออกจากการเป็นพิธีกรรายการ ศึก 12 ราศี ซึ่งหลังจากที่ออกได้ไม่นานนักทางรายการก็ได้สาวฮ็อต “ไอซ์-อภิษฎา เครือคงคา” มาทำหน้าที่ตรงนี้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ “พี่หนูแหม่ม” อธิบายว่า

หนูแหม่ม-สุริวิภา
ไอซ์-อภิษฎา เครือคงคา

“เนื่องจากว่าทางสถานี อันนี้เป็นคำตอบจากทางผู้จัดฯ นะ ทางสถานีต้องการเปลี่ยนรูปแบบบางจุด เลยมาเปลี่ยนที่พิธีกรผู้หญิง เพราะเขารู้สึกว่าอยากได้ที่มันเฟรช ที่มันเซ็กซี่ (หัวเราะ) เราไม่ผ่านเงื่อนไข พอพูดคำว่าเซ็กซี่ก็เลยต้องจอด เป็นเรื่องที่สถานีต้องการเปลี่ยน เรารู้สึกยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่มันเกิดขึ้นได้ง่ายมาก บางคนอาจจะรู้สึกตกใจ เป็นอะไรไป เพราะว่าพวกเราโบราณ พวกเรายึดติด พิธีกรสมาคมชมดาวต้องเป็นคู่นี้ รายการนี้ต้องเป็นคู่นี้ นั่นเป็นเพราะพวกเรายึดติด จริงๆ รูปแบบของคนรุ่นใหม่เขาไม่แคร์หรอก จะเปลี่ยนเอาใครออก เอาใครเข้า เขาไม่ได้สน เขาจะดู เขาจะเช็คดวง เราเองเลยรู้สึกว่าเราสบายด้วยซ้ำ เพราะว่าเราทำเหมือนเดิมอยู่ทุกครั้ง เราเปลี่ยนทำอย่างอื่นบ้างก็ได้ เราไม่น้อยใจเลย ต้องย้อนกลับไปก่อนหน้าที่จะเป็นเราก็เป็น “พี่สุ่ย-พรนภา” มาก่อน”

เมื่อถามถึงผลงานล่าสุดรายการ “เมนูเมียสั่ง My wife rules Thailand” ออกอากาศตอนบ่ายโมง วันพุธ – พฤหัสบดี ช่อง 7 สี กระแสตอบรับเป็นอย่างไร แตกต่างจากการที่ทำก่อนหน้านี้หรือเปล่าเธอบอกว่า “ไม่เลย ไม่แตกต่าง เพราะว่าเราทำรายการกลางวันก็เยอะอยู่ เพียงแต่ว่ามันไม่ได้เป็นรายการที่เป็นประเภทสั้นๆ อันนี้แค่ครึ่งชั่วโมง รายการค่อนข้างสั้น แต่ก็แบ่งเป็น 2 วัน เพราะฉะนั้นการทำงาน ฟีดแบ็กเนี่ยคือแม่จะชอบมาก เพราะว่าเขาจะไม่ต้องนอนดึก ไม่ต้องตั้งตารอดูลูก เปิดมาบ่ายโมงมีเวลาให้ผู้ใหญ่ทำโน่นนี่ เขาก็จะทักว่านี่ไงๆ แม่ก็แฮ็ปปี้มาก”

หนูแหม่ม-สุริวิภา

“พี่หนูแหม่ม” ยังบอกอีกว่ารายการทีวีเดี๋ยวนี้แตกต่างจากแต่ก่อน เดี๋ยวนี้มาไวไปไว ซึ่งเธอก็ยอมรับอย่างหนึ่งว่าตอนแรกๆ เครียดเหมือนกันเพราะเคยทำแต่รายการที่มีอายุ 10 ปี ขึ้นไป แต่มาถึงยุคนี้มาไวไปไวสัญญามีทั้ง 3 เดือน และ 6 เดือน เป็นอะไรที่สั้นมาก

“เมื่อก่อนนะ เวลาเปลี่ยนพิธีกรคนจะตื่นฮือเป็นข่าว แต่เดี๋ยวนี้การเปลี่ยนเป็นปกติมาก จะยกตัวอย่างให้ฟังเมื่อก่อนรายการหนึ่งรายการ จะเปลี่ยนสถานี หรือจะย้ายเวลา หรือจะเปลี่ยนพิธีกรก็จะเป็นเรื่องใหญ่มาก พวกเราไปยึดติดกับอายุ เมื่อก่อนเราเคยเป็น พอมายุคดิจิทัลมาใหม่ๆ มาขอเราเซ็นสัญญา 3 เดือน 6 เดือน เราไม่รับนะ ตอนดิจิทัลมาใหม่ๆ เราไม่รับงานเลย เพราะทุกคนมา 3 เดือน 6 เดือน หมดเลย เราเลยตกใจว่าทำไม เราไม่เคยทำงานที่อายุมันสั้นแบบนี้ ทำไมไปไวมาไว เราเคยทำรายการที่มัน 10 ปีหมดเลย ก็กลับมานอนคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลกนี้ แต่พอดิจิทัลมันเริ่มรันของมัน รายการไหนที่เปิดมาพอไม่ใช่ก็ถอด ไม่ใช่ก็ถอยหรือบางทีก็รีรัน เราก็อ๋อ รูปแบบมันเปลี่ยนไป การดูของคนก็เปลี่ยนไป ช่องที่เยอะขึ้น มันมีผลกับการใช้ชีวิตของพวกเราแบบไหน มันเกี่ยวเนื่องกันหมดเลย มานั่งคิดดูว่าจริงๆ ก็ไม่เป็นไร เป็นซีซั่นสิง่าย ฉันเองจะได้ไปไหนก็ได้”

“เมื่อก่อนถ้าเราทำรายการประจำจะไปต่างประเทศไม่ได้เลย ซึ่งค่อนข้างยากมาก จะต้องสต็อกถ่ายไว้ เราเองเลยรู้สึกว่า ขอบคุณนะที่ทำให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้นในช่วงที่เรากำลังอายุเยอะมากขึ้น พอหลังๆ มา 3 เดือนเหรอได้ 3 เดือนนะแฮ็บปี้ ยกตัวอย่างรายการหนึ่งเราไปทำ เซ็นสัญญา 6 เดือน แล้วมันไม่ใช่เพราะว่าเป็นรายการสด เป็นรายการเช้า เรานะกลับบ้านมานอนก็ไม่ได้ ไม่หลับแล้ว จะบอกเลิกก็ไม่ได้ เพราะด้วยกฎกติกาและมารยาทห้ามบอกเลิกกับผู้จ้างจนกว่าผู้จ้างจะเป็นคนบอกเลิกเอง”

หนูแหม่ม-สุริวิภา

“เพราะฉะนั้นอย่าตกใจเวลาใครมาบอกเลิกเรา บางทีเราอาจจะอยากเลิกแล้วก็ได้แต่ด้วยจรรยาบรรณของการทำงาน เราห้ามเด็ดขาด และเมื่อถึงเวลาผู้ว่าจ้างอยากจะบอกเลิก มันแฮ็บปี้ทั้งสองฝ่าย ใช่หรือเปล่า เดี๋ยวนี้เราต้องถามว่าเป็นซีซั่นหรือเปล่า 13 เทปนะเราแฮ็บปี้ ปีหนึ่งกี่ครั้ง สองครั้ง โอเคอย่าเยอะกว่านั้นนะ (ยิ้ม) มีรายการที่เราไปทำพอผู้บริหารใหม่มา เขาขอปรับผังใหม่ทั้งหมด เขาขอเริ่มใหม่เรานี่รีบไปถามเลยว่าเอารายการออกด้วยเลยไหม”

“เขาบอกเอาออกด้วยครับ เราเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวทั้งตึกเลย โอปอล์ (ปาณิสรา อารยะสกุล) เลี้ยงขนมคนทั้งตึกเลย เพราะว่าลูกเขาจะต้องไปเรียนแล้ว แล้วเขาต้องไปส่งลูก เขาบอกว่าหนูกำลังจะต้องขาดช่วงวัยในการไปส่งลูก จะต้องกลายเป็นหน้าที่พี่โอ๊ค (สมิทธิ์ อารยะสกุล) แน่เลย แล้วหนูก็จะหายไปจากหน้าลูกตอนเช้า นั่นคือเขากังวล ส่วนเราเองพอเสร็จรายการกลับบ้าน มันนอนใหม่ไม่ได้แล้วทั้งปิดม่านก็แล้ว ที่ปิดตาก็แล้ว มันนอนไม่ได้ เพราะเราตื่นไปแล้ว ถึงได้รู้ว่าถ้ารายการสดตอนเช้าไม่ต้องจ้าง(หัวเราะ) เราไม่ได้ตื่นสายแต่เราตื่นตี 4 ไม่ไหว”

อย่างไรก็ตาม “พี่หนูแหม่ม ”ยังได้บอกว่า ชีวิตทำรายการมาเกือบทุกรูปแบบแล้ว ตอนนี้เน้นเอาสนุกแล้ว แต่ยังเลี้ยงชีวิตเราได้ก็พอ


ภาพจากรายการ : เมนูเมียสั่ง My wife rules Thailand

‘ดราม่าแรง! ทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะใจ แต่เสียแรงเปล่า เพราะเขาไม่เห็นคุณค่า’ ดูดวงรายวัน 29 พฤษภาคม 2561

ดูดวงรายวัน 29 พฤษภาคม 2561 #ป้าเนาว์พยากรณ์ แม่นเป๊ะสายแข็ง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : วันนี้จินตนาการท่านเลิศล้ำมากจนยากที่ใครจะตามทัน จึงเหมาะกับงานที่มีเนื้อหาเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หรืองานที่ต้องเดินทางประสานงานกับบุคคลอื่นตามสถานที่ต่างๆ ควรเก็บอารมณ์ตัวเองให้ดี เพราะจะเป็นหนทางปิดบังพลังแห่งปัญญา จนอาจเกิดความเสียหายขึ้นในภายหลังได้

การเงิน :  จะหมดไปกับการช่วยเหลือคนอื่น และเข้าสังคม ระวังถูกโกง

ความรัก :  วันนี้ท่านรักและผูกพันกับครอบครัวอย่างอบอุ่น แต่ให้ระวังทิฐิและความมั่นใจในตัวเองจะทำให้เกิดการขัดแย้ง เพราะท่านไม่ชอบให้คู่มาจำกัดความคิดอิสรภาพของตน คนโสด  มีเสน่ห์กับเพศตรงข้ามมาก กว่าจะพบรักแท้ก็ต้องลองผิดลองถูก ทำให้ตัดสินใจผิดพลาดได้ง่าย

สุขภาพ : อาจมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องระบบย่อยอาหาร ต่อมทอนซิลอักเสบ หรือหลอดลมอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  วันนี้แม้ท่านจะถูกห้ามไม่ให้ออกไปไหน แต่ท่านก็อดไม่ได้จะต้องเดินทางไปติดต่องานข้างนอก เพื่อเตรียมตัวลงทุนในธุรกิจหรือกำลังจะปรับปรุงกิจการที่ทำอยู่ แม้วันนี้เป็นวันพระใหญ่ แต่ท่านก็จะถูกดึงให้เข้าไปเกี่ยวกับสถานบันเทิงหรืองานบริการ

การเงิน  :  ควรระวังคำพูดในการติดต่อประสานงาน โดยเฉพาะเรื่องเงินและผลประโยชน์ ก่อนที่จะเซ็นสัญญา เพราะมีโอกาสผิดพลาด และถูกเอาเปรียบได้

ความรัก :   ความรักของท่านอาจเริ่มจากการถูกบังคับให้แต่งงานกัน หากท่านรักแล้วก็รักจริง แต่หากเบื่อก็เบื่อเลย  คนโสด วันนี้ระวังมือที่สามจะเข้ามาหลอกให้รัก เมื่อได้ผลประโยชน์ก็ตีจาก

สุขภาพ : วันหยุดนี้ บิ๊กคลีนนิ่งก่อนไปเวียนเทียนนะคะ เพราะโรคภูมิแพ้และหวัดเรื้อรังกำลังถามหาแล้ว

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  : วันนี้ท่านต้องใช้วาจาคำพูดในการติดต่อประสานงาน ซึ่งท่านต้องใช้การประสานกันระหว่างความสตรอง กล้าชนทุกสถานการณ์ กับความนุ่มนวลอ่อนไหวในทางศิลปะ บันเทิงเริงรมย์ งานจึงจะประสบความสำเร็จ

การเงิน :  ท่านใจใหญ่  หากท่านช่วยเหลือคนก็จะหยิบยื่นจนมากเกินไป

ความรัก : วันนี้ผู้หญิงมีภาวะผู้นำสูง ทั้งเรื่องเศรษฐกิจในครัวเรือน สามารถส่งเสริมหน้าที่การงานของสามีได้อย่างดีเลย คนโสด หากท่านเป็นผู้ชาย ผู้หญิงที่ท่านพบวันนี้ ทั้งสตรอง ทั้งสวยรวยเสน่ห์ เรียกว่าครบองค์เลยทีเดียว

สุขภาพ : ช่วงนี้ออกงานชุก  เดทบ่อย ระวังน้ำหนักขึ้นพรวดๆ นะคะ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :  ท่านมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะประสบความสำเร็จ ในสิ่งที่ต้องการให้ได้ แม้จะได้มาโดยไม่ถูกต้องชอบธรรมนัก เพราะฉะนั้นควรระวังจะเกิดปัญหาและอุปสรรคที่ยากเกินกว่าจะแก้ไขได้ทัน แม้ท่านสู้ก็ไม่ชนะ

การเงิน : วันนี้วันพระ ท่านจะหมดไปกับการทำบุญ และช่วยเหลือคนอื่น

ความรัก : ท่านอาจต้องใช้ศาสนาเข้ามาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ เพราะท่านอาจเจอกับมรสุมรักครั้งใหญ่ แต่เดี๋ยวก็ผ่านไป คนโสด ท่านพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะใจคนที่ท่านหมายปอง แต่เสียแรงเปล่า เพราะเขาไม่เห็นคุณค่า

สุขภาพ : ระวังตัวเบอร์สูงสุดนะคะ วันนี้วันพระควรไปวัด สวดมนต์ เวียนเทียน เพื่อให้ใจสงบ

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : วันนี้ท่านต้องใช้ความคิดทบทวนและชั่งน้ำหนักหาเหตุผลประกอบการตัดสินใจ ต้องเลือกระหว่างงานราชการ กับงานที่ต้องเดินทางติดต่อประสานงานตลอดเวลา ซึ่งท่านทำได้ดีทั้งคู่

การเงิน : ควรระวังคำพูดในการติดต่อประสานงาน โดยเฉพาะเรื่องเงินและผลประโยชน์ ควรคิดให้รอบคอบก่อนลงนาม หรือเซ็นเอกสาร เพราะมีโอกาสผิดพลาดสูง

ความรัก :  วันนี้มาถึงจุดที่ท่านต้องเลือกแล้วล่ะ ระหว่างงานกับครอบครัว เพราะแม้ท่านจะทำทั้งหมดเพื่อครอบครัว แต่เวลาที่มีให้ครอบครัวก็หายไป ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องเลือก ใช้วิธีทางสายกลาง คนโสด จะมีเด็กโลกสวยมาจีบ แต่ท่านขี้เบื่อ แม้จะถูกใจอย่างไร หากท่านเบื่อก็ไม่ไปต่อเหมือนกัน

สุขภาพ : ดูแลเรื่องการขับถ่าย โดยเฉพาะอย่ากลั้นปัสสาวะ เพราะจะทำให้กรวยไตอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : วันนี้ราบเรียบ ราบรื่น ไม่ค่อยมีอุปสรรคมากนัก ผู้ใหญ่ คนใกล้ชิด และคนรักให้การสนับสนุนช่วยเหลือเป็นอย่างดี จนท่านกล้าลุย กล้าชน แต่ก่อนจะตัดสินใจทำอะไรควรใช้เหตุผลทบทวนให้ดี เพื่อให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด

การเงิน :  จะโชคดีในการทำธุรกิจร่วมกับคนรักหรือเพื่อน ผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน

ความรัก :  ท่านอาจเข้าหุ้นกับคู่ทำธุรกิจ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ ผู้ใหญ่ให้การช่วยเหลืออย่างดี แต่ระวังวันนี้ท่านเอาใจยากเดาใจลำบาก เดี๋ยวก็ขยัน เดี๋ยวก็ขี้เกียจ เตรียมรับมือไว้หน่อย คนโสด ท่านเอาใจยากเดาใจลำบาก อาจมีผู้ใหญ่เข้ามาช่วยจัดการให้

สุขภาพ :  ท่านจะเพลิดเพลินกับอาหารเลิศรส จนน้ำหนักตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว ระวังด้วยค่ะ

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : ท่านต้องเดินทางติดต่องานตลอดเวลา พอท่านคล้อยหลังก็มีผู้จ้องจะเลื่อยขาเก้าอี้ท่าน แต่วันนี้ไม่มีใครสามารถตามจินตนาการท่านได้ทัน เพราล้ำลึกมาก เหมาะกับการทำธุรกิจส่วนตัว หรือโครงการพิเศษมากกว่าจะทำงานประจำ

การเงิน :  ระวังถูกหลอกเรื่องรัก และการลงทุน ท่านจะปรนเปรอมากมาย

ความรัก :  วันนี้ชีวิตรักได้ดำเนินมาถึงจุดที่เบื่อหน่าย อาจมีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ก็ขอให้ท่านลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยว ไปไหว้พระ หรือทำงานก็ได้ จะทำให้ช่วยยืดเวลาออกไปได้บ้าง คนโสด  ระวังจะมีมือที่สามมาแย่งคนรักของท่านไปอย่างเนียนๆ

สุขภาพ : ระวังเกิดบาดแผลจากของมีคม ทำให้เกิดบาดแผลต่างๆ ตามร่างกาย

อาเจียว Twins ลั่นระฆังวิวาห์กับแฟนหนุ่มดีกรีคุณหมอพร้อมงานแต่งงานสุดหรู!!

account_circle

อาเจียว Twins หรือ จิลเลียน ชุง เข้าพิธีวิวาห์กับแฟนหนุ่มดีกรีคุณหมอแล้ว ในบรรยากาศ งานแต่งงาน สุดหรู พร้อมชุดแต่งงานน่ารักปนเซ็กซี่!!

หลังจากที่เปิดตัวความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มสุดหล่อชาวไต้หวันดีกรีคุณหมอ Michael Lai เมื่อเดือนกันยายนเมื่อปีที่แล้ว และประกาศหมั้นกันอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในที่สุดทั้งคู่ก็ได้ฤกษ์จูงมือเข้าสู่ประตูวิวาห์เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่าน โดย งานแต่งงาน จัดขึ้นที่โรงแรม Millennium Biltmore Hotel ลอสแอนเลลิส, ประเทศสหรัฐอเมริกา

อาเจียว Twins

โดยบรรยากาศงานแต่งงานของทั้งคู่นั้นก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นของแขกที่ล้วนแล้วแต่เป็นครอบครัวและเพื่อนสนิทของทั้งคู่ประมาณ 100 คนซึ่ง โดยมีรายงานว่าทั้งคู่ได้รับผิดชอบทั้งค่าเดินทางและค่าที่พักให้กับแขกทุกคนที่เชิญมา โดยคาดว่าน่าจะเป็นค่าใช้จ่ายประมาณ 3.37 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน!! ซึ่งนี้ไม่ใช่การจัดงานแต่งงานอย่างเป็นทางการของทั้งคู่นะจ๊ะ เพราะบ่าวสาวจะจัดงานแต่งงานขึ้นอีกครั้งที่ฮ่องกง ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้อีกด้วย (อย่างไม่เป็นทางการ ยังไงก็รอติดตามกันนะจ๊ะ)

ส่วนบรรยากาศภายในงานนั้นก็เต็มไปด้วยดอกไม้ในเฉดสีชมพูปนม่วงพาสเทลเต็มไปทั้งห้องบอลรูมที่ช่วยเสิรมให้บรรยากาศของงานนั้นทั้งอบอุ่นและดูโรแมนติก แถมงานนี้แก๊งเพื่อนเจ้าสาวก็เป็นถึงคนดังของเกาะฮ่องกงทั้ง Charlene Choi, Joey Yung and Yumiko Cheng ที่สวมชุดเดรสคอวีที่แมตช์เข้ากับชุดเจ้าสาวได้เป็นอย่างดี  ซึ่งชุดของแต่งงานของจิลเลียนนั้น ก็เป็นของแบรนด์ Jenny Packham กับชุดแต่งงานแบบคอวีแบบซีทรู พร้อมช่วงแขนที่เล่นระบายเข้ากับกระโปรงที่ฟูฟ่องได้เป็นอย่างดี

และงานนี้เจ้าพ่อธุรกิจบันเทิงแห่งฮ่องกง อัลเบิร์ต หยัง (Chairman of Emperor Group) ยังได้สัญญาว่าจะจ่ายเงินให้กับงานแต่งงานของจิลเลียนทั้งหมด พร้อมทั้งมอบของขวัญเป็นบ้านในเซี่ยงไฮ้มูลค่า 28 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน และยังบอกอีกว่าจะจ่ายเงินค่างานแต่งงานที่ฮ่องกงให้กับทั้งคู่อีกด้วย

ส่วนแผนหลังแต่งงานของบ่าวสาวนั้น ตามรายงานบอกว่าจิลเลียนจะย้ายไปที่ไต้หวันหลังจากแต่งงาน แต่ไมเคิลนั้นก็กังวลว่าจิลเลียนจะเกิดอาการโฮมซิก เขาจึงได้ตัดสินใจว่าจะเป็นการดีกว่าที่เขาจะเดินทางไปมาระหว่างไต้หวันและฮ่องกง แต่ถึงอย่างไร แพรว wedding ก็ขอแสดงความยินดีกับทั้งคู่ด้วยนะคะ ^^

ตามไปส่องชุดแต่งงานจากแบรนด์ Jenny Packham Spring 2018 เพิ่มเติมกันได้เลย

ภาพ www.8days.sg, www.herworld.com, www.asiaone.com, entertainment.toggle.sg, forums.hardwarezone.com.sg

รวมลิสต์สถานที่ขอพรเรื่องลูก ในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง

account_circle

สถานที่กรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง ที่ให้คุณ ขอพรเรื่องลูก ได้สมใจหวัง

บ่าว-สาวข้าวใหม่ปลามันที่เพิ่งแต่งงานกันไปหมาดๆ หรือคู่ที่แต่งงานกันมานานแล้วก็ตาม สเต็ปต่อมาของการใช้ชีวิตคู่คือการวางแผนอนาคตสร้างครอบครัวให้สมบูรณ์ โดยมีลูกเป็นตัวเชื่อมสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น หลายคู่ที่แต่งงานกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงยิ่งอยากที่จะมีลูกเข้ามาช่วยเติมต็มให้ครอบครัวสมบูรณ์ แต่การมีลูกสำหรับบางคนไม่ใช่เรื่องที่จะมีกันง่ายๆ เลยนะคะ บางคู่พึ่งหมอ พึ่งวิธีวิทยาศาสตร์ก็แล้ว แต่ลูกน้อยเอ๋ยยย ก็ไม่มาหาพ่อกับแม่สักที ถ้าวิธีทางการแพทย์ก็ยังไม่ได้ผล ลองมาดูวิธีทางความเชื่อในการ ขอพรเรื่องลูก กันบ้างไหมคะ เผื่อใช้สองวิธีนี้ควบคู่กันไปอาจจะได้ผลก็ได้น้า ใครจะไปรู้ -3-

ขอพรเรื่องลูก
ภาพจาก : pinterest.com

1.ศาลเจ้าพ่อเสือ (ตั๊วเล่าเอี๊ย) จ. กรุงเทพมหานคร

ศาลเจ้าพ่อเสือเป็นที่นิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่จะต้องมากราบไหว้ขอพรในทุกๆ ปี ซึ่งส่วนใหญ่จากการบอกต่อๆ กันมา มักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ขอแล้วจะสมหวัง ใครผ่านไปผ่านมาก็จะเห็นควันธูปนี่โขมงโฉงเฉงเลยทีเดียว และศาลเจ้าพ่อเสือแห่งนี้ยังเป็นที่เลื่องลือกันอีกนะคะว่าสามารถขอบุตรได้ สำหรับคนที่มีลูกยาก โดยจะขอได้ในปีละครั้งเท่านั้น ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 1 ตามปฏิทินของจีน คู่รักที่จะมาขอบุตรกันในวันนี้ก็จะเริ่มเดินทางทยอยกันมาตั้งแต่หกโมงเช้าจนเที่ยงคืนในวันนั้น ส่วนขั้นตอนพิธีก็ง่ายๆ เลยค่ะ แค่นำเจดีย์ที่ทำด้วยน้ำตาลไปไหว้ จากนั้นให้ฝ่ายชายเอาสิงโตที่ทำด้วยน้ำตาลกลับมาบูชาที่บ้าน และเมื่อมีลูกสมใจหวังแล้วก็ค่อยเอาสิงโตกลับมาคืนที่เดิมเป็น 2 เท่า แต่ก็อย่าลืมมาคืนด้วยกันน้าถ้าหากคุณสมหวัง

ขอพรเรื่องลูก
ภาพจาก : pinterest.com

2. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร จ. กรุงเทพมหานคร

วัดโพธิ์ในตอนนี้กำลังเป็นกระแสในการเช็คอินถ่ายรูปชิคๆ เพราะมีมุมมากมายให้คุณสามารถถ่ายรูปในสไตล์ไทยโทนที่ชาวต่างชาติชื่นชอบ เรียกยอดไลค์ยอดเลิฟกันได้เยอะแน่นอน แต่ทว่าใครจะรู้ว่าวัดแห่งนี้ เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธโลกนาถ พระพุทธรูปยืนปางห้ามสมุทร อายุมากกว่า 400 ปีตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยคู่รักมักจะไปขอพรเรื่องลูกกันเป็นส่วนใหญ่ โดยให้ผู้ที่มาขอพรถวายตุ๊กตา และผลไม้ 3 ชนิด ได้แก่ กล้วยน้ำว้า สับปะรด และมะพร้าวอ่อน ที่มีความเชื่อที่ว่าเป็นผลไม้ชั้นสูงของเทวดาอันศักสิทธิ์ หากใครสามารถนำของที่กล่าวมานี้ไปถวายได้ก็จะได้บุตรสมใจในเร็ววันเร็วคืนเลยค่า

ขอพรเรื่องลูก
ภาพจาก : painaidii.com

3. วัดมังกรกมลาวาส จ. กรุงเทพมหานคร

วัดเล่งเน่ยยี่ ได้รับอิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมของจีน มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องการแก้ชง ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้ออกไปจากชีวิต นอกจากการปัดเป่าออกไปแล้วก็ยังสามารถนำสิ่งดีๆ เข้ามาสู่ชีวิตคู่ได้ด้วยนะคะ อย่างการขอพรเรื่องลูกในทุกปีตั้งแต่วันที่ 1 ไปจนถึงวันที่ 7 เดือน 7 ของจีน ทางวัดจะมีการฉลองวันเกิดของอาพั้ว ความพิเศษอยู่ตรงที่ ถ้าคุณอยากมีลูกแนะนำให้มาจุดธูปอธิษฐานขอพรกันกับแม่ซื้อหรือองค์อาพั้ว ที่เป็นองค์เทพเจ้าอุ้มเด็กหาได้ไม่ยากในวัดเลยค่ะ ซึ่งมีความเชื่อที่ว่า แม่ซื้อจะเป็นผู้ดูแลเด็กคล้ายกับพี่เลี้ยงเด็ก เด็กแต่ละคนจะมีแม่ซื้อประจำตัว แต่ผู้ใหญ่อย่างเราๆ จะไม่สามารถมองเห็นได้นะคะ เป็นความเชื่อที่เล่าต่อๆ กันมานั่นเอง หลังจากนั้นให้ขโมยขนมในงานไป 1 ชิ้น และถ้าคุณได้อุ้มลูกน้อยสมใจแล้วปีหน้าก็มาไหว้ท่าน พร้อมทั้งนำขนมมาคืนด้วยน้า นอกจากนี้ก็ยังสามารถขอพรได้กับเจ้าแม่กวนอิมปางประทานลูกหรือองค์แซ่จูเนียวได้ด้วยเช่นกันค่ะ

ขอพรเรื่องลูก
ภาพจาก : reviewthaitravel.com

4. วัดเล่งเน่ยยี่ 2 จ. นนทบุรี

มาต่อกันที่วัดเล่งเน่ยยี่ 2 นะคะ ซึ่งอยู่ในจังหวัดที่ใกล้กลับกรุงเทพฯ นี่เองค่ะ ให้คุณตรงไปยังวิหารหลังสุดท้ายของวัด จะเป็นที่ประทับขององค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ซึ่งสำหรับคนที่มีลูกยากก็จะนิยมมาขอพรให้มีลูก คู่รักส่วนใหญ่จะนำอาหาร ผลไม้ และขนมหวานไปถวายพระโพธิสัตว์กวนอิม แล้วทำการขอพรตามความปรารถนา ไม่เพียงแต่ขอพรเรื่องลูกเท่านั้นนะคะ ในวัดยังมีเทพเจ้าองค์อื่นมากมายให้คุณได้กราบไหว้ขอพรและแก้ชงประจำปีได้อีกด้วยค่า

ขอพรเรื่องลูก
ภาพจาก : klongmai-sampran.go.th

5. วัดบางช้างเหนือ จ. นครปฐม

หลายคนที่อยู่ในวงการพระอาจจะเคยได้ยินชื่อ หลวงปู่จ้อย ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์สมัยรัชกาลที่ 3 ที่มีชื่อเสียงในเรื่องวิชาอาคมแก่กล้า ทำให้มีผู้เลื่อมใสศรัทธาบูชาวัตถุมงคลของท่านมาจนถึงทุกวันนี้ แม้ท่านจะมรณภาพไปนานแล้วก็ตาม แต่ชื่อเสียงของท่านก็ยังคงอยู่ เพราะมีลูกศิษย์บางท่านได้ไปกราบไหว้และขอพรเรื่องอยากมีลูก ก็ได้ลูกตามที่ขอเลยค่ะ ผู้คนจึงแห่กันไปกราบไหว้ขอพรเรื่องลูกกับท่านซะเป็นส่วนใหญ่นั่นเอง

ขอพรเรื่องลูก
ภาพจาก : pinterest.com

6. วัดดโสธรวรารามวรวิหาร จ. ฉะเชิงเทรา

วัดหลวงพ่อโสธรมีหลายคนที่ไปขอพรเรื่องลูกในวัดแห่งนี้ และได้รับการการันตีว่าสมหวังจริงค่ะจึงขึ้นชื่ออย่างมากสำหรับคนที่มีบุตรยาก มักจะใช้วิธีการบนบานศาลกล่าว โดยการบนด้วยไข่ต้ม 99 ฟอง อันเป็นเลขมงคล เหตุที่ใช้ไข่ต้มในการบนก็เพราะว่ามีความเชื่อว่าเป็นของโปรดของหลวงพ่อนั่นเอง แต่ถ้าการบนด้วยไข่ต้มตั้ง 99 ฟอง อาจทำให้คุณลำบาก ก็สามารถใช้เพียงธูป 36 ดอก จุดบริเวณกลางแจ้ง จากนั้นให้คุณหันหน้าไปทางทิศตะวันออกของจังหวัดฉะเชิงเทรา แล้วตั้งจิตอธิษฐานขอพรได้เล้ยยย

วันหยุดที่เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา นอกจากคนที่มีบุตรยากต้องการกราบไหว้ขอพรให้ตนเองมีลูกแล้วพุทธศาสนิกชนชาวพุทธที่อยากพากันไปทำบุญขอพรก็สามารถไปกันได้ที่นี่เลย รวมสถานที่ ไหว้พระวันหยุด จูงมือคนรักไปทำบุญ เสริมบารมีกันดีกว่านะจ๊ะ

ข้อมูลจาก : parentsone.com, amarinbabyandkids.com

คลีนผิวให้เกลี้ยง

คลีนผิวให้เกลี้ยง! รวม 5 Cleansing Water สลายคราบเมคอัพหมดจด

Alternative Textaccount_circle
คลีนผิวให้เกลี้ยง
คลีนผิวให้เกลี้ยง

ด่านแรกของการมีผิวสวยสุขภาพดี นั่นคือ คลีนผิวให้เกลี้ยง การทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจด เกลี้ยงเกลา ปราศจากคราบเมคอัพและสิ่งสกปรกจากมลภาวะรอบตัวที่ต้องเผชิญในทุกๆ วัน นอกจากนี้เหตุผลที่สาวๆ ส่วนใหญ่เลือกใช้คลีนซิ่งวอเตอร์ เพราะมีเนื้อสัมผัสเป็นรูปแบบน้ำที่สาวๆ ไว้วางใจว่าไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน จึงไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน และไม่เหนอะหนะ เหมาะมากสำหรับ ผิวแพ้ง่าย เป็นสิวเยอะ ผิวมันและผิวผสมโดยเฉพาะ วันนี้ แพรวดอทคอม เลยคัด  5 Cleansing Water ใหม่ล่าสุดมาแนะนำค่ะ

คลีนผิวให้เกลี้ยง รวม 5 Cleansing Water สลายคราบเมคอัพหมดจด

 

SULWHASOO Gentle Cleansing Water
(200 มิลลิลิตร / 1,200 บาท)
 

ทำความสะอาดเครื่องสำอางได้อย่างหมดจดด้วย Micellar Water โดยไม่ทิ้งสิ่งตกค้างให้ความรู้สึกเบาสบาย พร้อมเติมเต็มความชุ่มชื่นสู่ผิวด้วยเทคโนโลยีสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย ด้วยการผสาน 3 พลังไมเซล่าโมเลกุล ทำหน้าที่เสมือนแม่เหล็กช่วยสลายเมคอัพกันน้ำ ความมัน และมลภาวะเพียงขั้นตอนเดียว ขจัดสิ่งสกปรกตกค้างได้อย่างหมดจดโดยไม่ต้องล้างน้ำซ้ำ


Corine de Farme Purity Micellar Water
(500 มิลลิลิตร /  850บาท)

มีส่วนผสมของดอกไม้และพืชที่สกัดจากธรรมชาติ เอาใจสาวๆ ที่รักในการดูแลผิวให้สะอาดหมดจดและชุ่มชื้น เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวแม้แต่ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ที่ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิว เป็นสูตรสามประสิทธิภาพในหนึ่งเดียว ที่ลบเครื่องสำอางและทำความสะอาดใบหน้าได้อย่างอ่อนโยน


No7 Radiant Results Revitalising Micellar Cleansing Water
(200 มิลลิลิตร / 425 บาท)

ทำความสะอาดเครื่องสำอางสูตรไมเซล่า สำหรับผิวหน้าและรอบดวงตา ปราศจากน้ำหอม อ่อนโยนแม้ผิวแพ้ง่าย แม้เครื่องสำอางกันน้ำ ปราศจากความรู้สึกแห้งตึง ให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น และกระจ่างใส สุขภาพดี ด้วยส่วนผสมไตร-วิตคอมเพล็กซ์ (Tri-Vit Complex)
จาก No7 และโสมแดง (Red Ginseng) (เริ่มวางจำหน่ายเดือนสิงหาคม 2561)


ETUDE HOUSE Monster Oil in Cleansing Water (ขวดสีส้ม)
ETUDE HOUSE Monster Micellar Cleansing Water (ขวดสีเขียว)
( 300 มิลลิลิตร / 420 บาท) และ (700 มิลลิลิตร / 660 บาท)

ขวดสีส้ม สูตร Dual Cleansing ผสานพลังจากออยล์ และวอเตอร์ สามารถเช็ดทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย แม้เมคอัพหนัก ซึ่งออยล์จะทำหน้าที่ละลายเครื่องสำอางบนผิว และวอเตอร์จะทำหน้าที่เช็ดคราบเครื่องสำอางบนผิวอย่างอ่อนโยน เผยผิวหน้าสะอาดหมดจด โดยไม่ต้องออกแรงเช็ดนานๆ

ส่วนขวดสีเขียว ทำความสะอาดหมดจดด้วยไมเซล่าในน้ำชีวภาพและน้ำแร่ โดยดักจับและดูดซับเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกได้อย่างล้ำลึก อ่อนโยน และยังช่วยปลอบประโลมผิว ด้วยสารสกัดจากว่านหางจระเข้ ชาเขียว และไผ่


PHILOSOPHY Purity Cleansing Micellar Water
(200 มิลลิลิตร / 890 บาท)

เช็ดเมคอัพและสิ่งสกปรกบนใบหน้าอย่างล้ำลึก พร้อมมอบผิวนุ่มชุ่มชื้นด้วยคุณสมบัติของไมเซล่า โมเลกุลขนาดเล็กที่อยู่ในคลีนซิ่งวอเตอร์ ทำหน้าที่เสมือนแม่เหล็กช่วยดูดซับสิ่งสกปรกและขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว โดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง สามารถใช้ได้ทั้งดวงตาและริมฝีปากโดยไม่ระคายเคือง


เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม

keyboard_arrow_up