KRUNGSRI PRIVATE BANKING ชวนเซเลบคนดัง ไขเคล็ดลับการส่งต่อความสำเร็จ ‘จากรุ่นสู่รุ่น’ เพื่อต่อยอดสิ่งที่สร้าง ให้งอกงามไม่สิ้นสุด

KRUNGSRI PRIVATE BANKING (กรุงศรี ไพรเวท แบงก์กิ้ง) ชวนเหล่าเซเลบริตี้คนดังไขเคล็ดลับการส่งต่อความสำเร็จ ‘จากรุ่นสู่รุ่น’ ผ่านบริการบริหารจัดการความมั่งคั่งแบบครบวงจร สัมผัสประสบการณ์บริการให้คำปรึกษาด้านการเงินการลงทุนตามความต้องการเฉพาะบุคคล เพื่อต่อยอดสิ่งที่สร้างไว้ให้งอกงามสู่สังคมและคนรุ่นต่อไป พร้อมด้วยเอกสิทธิ์บริการธุรกรรมการเงินและเอกสิทธิ์ด้านไลฟ์สไตล์เพื่อการใช้ชีวิตที่เหนือระดับ ณ พื้นที่เอกสิทธิ์แห่งใหม่ Krungsri Thai Pavilion ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ พระรามที่ 3

วินพรหมแพทย์, CFA, ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ผู้บริหารสายงานลูกค้าไฮเน็ตเวิร์ธธนาคารกรุงศรีอยุธยาจำกัด (มหาชน) กล่าวว่าการสร้างความมั่งคั่งในยุคนี้ อาจไม่ใช่เรื่องยาก แต่การรักษา สืบทอด และส่งต่อความมั่งคั่งให้กับทายาทรุ่นถัดไปกลับเป็นเรื่องที่ยากและละเอียดอ่อนยิ่งกว่า ดังนั้น KRUNGSRI PRIVATE BANKING จึงมีหน้าที่หลักในการช่วยบริหารจัดการทุกเรื่องราวในชีวิตของลูกค้า เพื่อต่อยอดความมั่งคั่งที่สมบูรณ์อย่างยั่งยืน ซึ่งเรามีทีมที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนเชิงลึกทั้งจากธนาคารกรุงศรี บริษัทในเครือ และพันธมิตรระดับโลกอย่าง แบล็คร็อค (BlackRock) บริษัทจัดการกองทุนชั้นนำระดับโลกที่มีขนาดสินทรัพย์ภายใต้การบริหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งทั้งหมดจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการวางแผนกลยุทธ์ด้านการลงทุนทั้งตลาดในประเทศและตลาดโลกตามความต้องการเฉพาะบุคคล รวมถึงแนะแนวทางการวางแผนสืบทอดธุรกิจ และเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้านเพื่อส่งต่อความมั่งคั่งให้กับรุ่นต่อไปได้อย่างราบรื่น และได้รับผลประโยชน์มากที่สุด”

ด้าน กนกวรรณศุภนันตฤกษ์ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านเครือข่ายการขายธนาคารกรุงศรีอยุธยาจำกัด (มหาชน) กล่าวต่อถึงบริการที่มอบให้กับลูกค้าคนพิเศษแบบครบวงจร ว่า “นอกจากความมุ่งมั่นในการให้บริการทางด้านการเงินและการลงทุนแบบครบวงจร ซึ่งครอบคลุมไปถึงบริการให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญและผู้จัดการการเงินส่วนบุคคลที่ดูแลอย่างใกล้ชิด รวมถึงการจัดกิจกรรมสัมมนาต่อยอดความรู้เรื่องการเงิน พร้อมอัปเดตสถานการณ์ด้านการลงทุนจากวิทยากรชั้นนำตลอดปีแล้ว KRUNGSRI PRIVATE BANKING ยังพร้อมมอบเอกสิทธิ์ด้านไลฟ์สไตล์ผ่านบริการต่างๆ อาทิ บริการอัปเกรดบัตรโดยสารเครื่องบินเป็นชั้นธุรกิจ บริการห้องรับรองพิเศษที่สนามบินทั่วโลก บริการรถลีมูซีนส่วนตัวทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงเอกสิทธิ์เพื่อการใช้ชีวิตทั้งแบบรายเดือนและรายไตรมาสอีกมากมาย เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับให้กับลูกค้าคนพิเศษตลอดทั้งปีอีกด้วย”

ดร.บุญเกียรติโชควัฒนา  ประธานกรรมการบริษัทไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด (มหาชน)  ตัวแทนนักธุรกิจรุ่นที่ 2 ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 60 ปี เผยถึงกุญแจสำคัญในการบริหารการเงินเพื่อความมั่งคั่งที่ยั่งยืนสู่รุ่นถัดไปว่า ความสำเร็จในอดีตไม่ได้การันตีถึงความสำเร็จในวันข้างหน้า ดังนั้นการบริหารจัดการเงินจึงสำคัญมาก ต้องมีเงินทุนเพื่อการต่อยอดให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ในอนาคต ซึ่งจนถึงวันนี้ ผมยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความใส่ใจ มีการวางแผนและทำอะไรตามขั้นตอน เพื่อให้บริษัทเติบโตไปในทิศทางที่เหมาะสม และให้ผลกำไรที่สามารถใช้เป็นฐานในการต่อยอดสิ่งดีๆ ต่อไปในอนาคต โดยที่เราไม่ไป โลภทำอะไรที่เกินตัวและมีความเสี่ยงสูง นอกจากนี้ ก็ยังต้องนำไปแบ่งปัน ทำบุญช่วยเหลือตอบแทนสังคมด้วยวิธีต่างๆ เพราะสำหรับผมการได้เห็นคนอื่นมีชีวิตที่ดีขึ้นเรายิ่งมีความสุข

ด้านกิตยาภรณ์ชัยถาวรเสถียรผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ Daks, Guy Laroche,Elle Homme บริษัทไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด (มหาชน) บุตรสาวของ ดร. บุญเกียรติ โชควัฒนา ทายาทธุรกิจรุ่นที่ 3 ที่จะต้องรับไม้ต่อจากคุณพ่อกล่าวถึงความสำคัญของการมีที่ปรึกษาด้านการเงินและการลงทุนว่า ในอนาคตก็อาจมีโอกาสที่คุณพ่อจะส่งต่อธุรกิจและทรัพย์สินให้ ทำให้เราจำเป็นที่จะต้องมีที่ปรึกษาจากสถาบันทางการเงินที่น่าเชื่อถือที่จะช่วยดูแลแนะนำในการรับช่วงต่อธุรกิจได้อย่างครอบคลุมในทุกมิติ รวมถึงให้คำปรึกษาในการต่อยอดสินทรัพย์ของเราให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้น ยิ่งตัวเราเองมีลูก ก็ต้องมีการเตรียมพร้อมวางแผนอนาคตไว้ให้เพื่อที่เขาจะได้มีชีวิตที่มั่นคง และสืบทอดความมั่งคั่งที่ยั่งยืนจากรุ่นเขาไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลานในวันข้างหน้าอีกต่อไป

ด้าน ทัตวรสุกัณศีล นักธุรกิจรุ่นใหม่ผู้คร่ำหวอดในวงการแฟชั่น เล่าถึงความประทับใจหลังได้เข้ามาลองใช้บริการ KRUNGSRI PRIVATE BANKING ที่ Krungsri Thai Pavilion ว่า การได้พูดคุยกับที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคลแบบเป็นส่วนตัว ช่วยให้เราเข้าใจตลาดและได้รู้จักโปรดักส์ด้านการลงทุนที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้นนอกตลาดที่คัดสรรพิเศษเฉพาะลูกค้า KRUNGSRI PRIVATE BANKING ซึ่งจะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ แต่ก็ให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูงแม้ในช่วงที่ตลาดหุ้นติดลบต่อเนื่องก็ตาม

ปิดท้ายด้วย ญาณินท์วีระไวทยะนักธุรกิจสาวสวยสายลุย กล่าวว่า หลังจากได้ลองเข้าไปใช้บริการที่ Krungsri Thai Pavilion ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้นั่งพักผ่อนสบายๆ ในพื้นที่รับรองพิเศษที่มีทั้งเครื่องดื่มและของว่างคอยให้บริการ และได้ลองพูดคุยกับที่ปรึกษาด้านการลงทุน ที่ช่วยแนะนำโซลูชันต่างๆ ตามเป้าหมายทางการเงินของณินท์เอง ช่วยให้ณินท์ต่อยอดการลงทุนได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษอื่นๆ ที่ให้ความสะดวกสบาย และทำให้ไลฟ์สไตล์ของณินท์พิเศษขึ้นกว่าใครอีกด้วยค่ะ

สำหรับผู้สนใจบริการ KRUNGSRI PRIVATE BANKING สามารถเข้าไปปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขาทั่วประเทศ หรือศึกษารายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.krungsri.com/th/wealth/krungsri-private-banking

ซุปตาร์ฟันน้ำนม

ส่องความน่ารัก น่าเอ็นดู พาเหรดเหล่า ซุปตาร์ฟันน้ำนม ทายาทคนบันเทิง

Alternative Textaccount_circle
ซุปตาร์ฟันน้ำนม
ซุปตาร์ฟันน้ำนม

ส่องความน่ารัก น่าเอ็นดู พาเหรดเหล่า ซุปตาร์ฟันน้ำนม ทายาทคนบันเทิง ฉลองความปัง “มัมดิว อริสรา” เปิดตัวผลิตภัณฑ์

เพราะการดูแลที่ไม่แพ้ใคร แคมเปญ #แม่ไม่ยอม จึงผุดขึ้น เพื่อปกป้องเหล่าลูกน้อย ให้ห่างไกลจากเชื้อโรค และมลภาวะที่เป็นอันตราย งานนี้ ตัวแม่ ตัวมัม “ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์” ในลุกซ์ คุณแม่ CEO เปิดตัว ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก“เบเบย์ รูว เบบี้ แคร์” (Bébé Roo Baby Care) โดยมี กำลังใจสำคัญ อย่างคุณสามี เซบาสเตียน ลี และลูกชายสุดหล่อ “น้องไซลาส” มาร่วมเติมพลังใจ ในงานเปิดตัว ที่ ลาน PARC PARAGON ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน

ซุปตาร์ฟันน้ำนม

ซึ่งภายในงาน มัมดิวได้เผยโฉม 5 ผลิตภัณฑ์สุดอ่อนโยน Head to toe Hair & Body Wash , Baby Balm , Body lotion , Baby Wet Wipes และ Hygiene Wipes ซึ่งมีความปลอดภัย และอ่อนโยน พร้อมที่จะเข้ามาเป็นผู้ช่วยคนสำคัญ ของคุณแม่ยุคใหม่ในการปกป้อง และจัดการกับทุกปัญหาความกังวลใจ ที่คุณแม่มีต่อลูกน้อย ในช่วงเวลาที่เชื้อโรคและมลภาวะ กำลังทำร้ายลูกน้อย เวลาที่พวกเขาออกท่องเที่ยวบนโลกกว้าง

ทั้งนี้ ยังได้รับเกียรติจาก เพื่อนดารา-เซเลบริตี้ สุดฮอต อาทิ เจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร ,กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ ,บี้ ธรรศภาคย์ ,แซมมี่ เคาวเวลล์ ,แอร์ ภัณฑิลา ,กวาง วรรณปิยะ ,คารีสา สปริงเก็ตต์ ,น้ำชา ชีรณัฐ ,เบเบ้ ธันย์ชนก ,ดาว พิมพ์ทอง ,ต้นหอม ศกุนตลา ,รัศมีแข ฯลฯ รวมถึง เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง และทีมสื่อมวลชน ร่วมงานสุดคึกคัก ที่สำคัญ ยังเป็นการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา ผลิตภัณฑ์ เบเบย์ รูว เบบี้ แคร์ เป็นครั้งแรก ซึ่งได้ มัมดิว และลูกชาย “น้องไซลาส” ร่วมถ่ายทอดความน่ารัก สุดอบอุ่น รวมถึง ยังมีการพูดคุย และแบ่งปันประสบการณ์ การดูแลที่ไม่แพ้ใคร รวมถึงแรงบันดาลใจในการทำผลิตภัณฑ์ พร้อมอัพเดตเทรนด์การดูแลลูกยุคใหม่ โดยผู้เชี่ยวชาญ “ศ.พญ.ดร.อรพรรณ โพชนุกูล” และ ปล่อยจอย ปล่อยใจ ไปกับ แฟชั่นโชว์ สุดคิ้วท์ จากเหล่าบรรดาหนูน้อยตัวจิ๋ว ที่มาวาดลีลาเดินแคทวอล์คแบบฉบับลูกคุณ นำโดย พี่น้องสุดคิ้วท์ น้องเป่าเปา และ น้องเป่าเป้ย์ ลูกสาวแม่กุ๊บกิ๊บ พ่อบี้ปิดท้ายด้วย มินิคอนเสิร์ตจาก “วง Paper Planes” แก๊งค์หัวหน้าฟันน้ำนม ที่มาร่วมสร้างรอยยิ้ม และความสุขส่งท้ายงานด้วยเพลงฮิต “ทรงอย่างแบด” อีกด้วย

หลงรักความวิบวับ! ซูมอิน 7 คอสตูมปักเลื่อมของ ‘Olivia Rodrigo’

Alternative Textaccount_circle

ดูเหมือนว่าช่วงนี้ซูเปอร์สตาร์อย่าง ‘Olivia Rodrigo‘ จะหลงรักเสื้อผ้าที่มีเลื่อมเข้าอย่างจัง ย้อนไทม์ไลน์อินสตาแกรมก็เห็นแต่ไอเท็มแนวนี้

ไม่กี่วันก่อนต้องสะดุดตากับโพสต์ของนักร้องสุดฮ็อตอย่าง Olivia Rodrigo เจ้าของเพลงดังมากมายที่ใครก็ต้องเคยได้ยินผ่านหู ไม่ว่าจะเป็น deja vu, happier ฯลฯ ซึ่งล่าสุดเธอได้เปิดตัวอัลบั้มชุดที่ 2 ‘Guts’ ไปเป็นที่เรียบร้อยพร้อมจัดปาร์ตี้สำหรับโอกาสพิเศษนี้โดยเฉพาะ เธอได้ปรากฏตัวในลุคแสนสะดุดตาจาก Versace เดรสสีดำตัดเย็บก็ผ้าตาข่ายคริสตัล พร้อมดีเทลหัวเข็มขัดบริเวณหน้าอก บนสายผ้าซาติน Gianni ตกแต่งด้วยคริสตัลลวดลายผีเสื้อ ซึ่งเดรสตัวนี้เป็นคอลเล็คชั่นพิเศษระหว่าง Versace และ Dua Lipa

และนี่ก็ไม่ใช่ลุคแรกในช่วงนี้ที่เธออินกับคอสตูมปักเลื่อม เพราะถ้าหากตามอินสตาแกรมส่วนตัวของเธออยู่จะเห็นว่า Olivia Rodrigo สวมใ่ไอเท็มแบบนี้อยู่บ่อยๆ ทั้งลุคในคอนเสิร์ตและวันสบายๆ ที่นับดูแล้วก็มีถึง 6 ลุคด้วยกัน ถ้าหากใครชอบแต่งตัวเน้นเลื่อมหรือความวิบวับอยู่แล้ว ไอเดียการมิกซ์แอนด์แมตช์ของเธอถือว่าเข้าท่าเลยทีเดียว

ซูมอิน 6 ลุคปักเลื่อมของ ‘Olivia Rodrigo’


ภาพ: Instagram @oliviarodrigo

sacit ชวนสัมผัสประสบการณ์ “เที่ยวฟินอินผ้าไทย โดนใจคนรุ่นใหม่ วัยเกษียณ และต่างชาติ ดัน Soft Power ปล่อยพลังคราฟต์ไทยให้กระหึ่ม

sacit ชูศิลปหัตถกรรมไทยเชื่อมโยงการท่องเที่ยว สร้างแบรนด์ดิ้งให้ประเทศไทย ดึงเยาวชนคนรุ่นใหม่จนถึงวัยเกษียณอายุ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมจุดกระแสรักคราฟต์ไทยผ่านประสบการณ์ตรงในการใช้ผ้าไทยและหัตถศิลป์ไทยออกเดินทางท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มมูลค่าผ่านผลิตภัณฑ์ทรงคุณค่าที่สะท้อน Soft Power ที่ทรงพลังของประเทศ 

นางสาวศิรินทร์ทิพย์ ศรีใหม่ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารภาพลักษณ์และจัดการวัฒนธรรมศิลปหัตถกรรม สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย เปิดเผยว่า สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ sacit เสริมสร้างให้งานศิลปหัตถกรรมไทยเป็นแบรนด์ดิ้งของประเทศไทยโดยเชื่อมโยงเข้ากับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ดึงเสน่ห์แห่งภูมิปัญญาและความคิดสร้างสรรค์มาต่อยอดทางการค้า เป็นส่วนสำคัญของ Soft Power เพื่อขับเคลื่อน “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” สู่ระดับโลก โดยอาศัยจุดแข็งของประเทศในด้านความเป็นไทย ศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นให้กลายเป็นสินค้าสร้างคุณค่าและเพิ่มมูลค่าให้สินค้าไทยมีความแตกต่าง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการไทย

sacit จึงได้จัดกิจกรรมภายใต้แคมเปญ “เที่ยวฟินอินผ้าไทย” ส่งเสริมให้สังคมไทยทุกเพศทุกวัย รวมทั้งชาวต่างชาติได้เข้าถึงคุณค่าของผ้าไทย เพื่อสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมให้คนในสังคมได้สัมผัสและเกิดประสบการณ์ตรงในการสวมใส่ผ้าไทยและใช้งานคราฟต์ไทยในไลฟ์สไตล์ของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ้าทอของไทยในปัจจุบันได้มีการปรับรูปแบบ สีสัน ดีไซน์และฟังก์ชั่นการใช้งานให้โฉบเฉี่ยวเข้ากับยุคสมัยและตามเทรนด์แฟชั่น สะท้อนภาพลักษณ์ความมีสไตล์บ่งบอกความเป็นตัวตนในทุกการใช้ชีวิตอย่างมีเอกลักษณ์ เพราะในผ้าหนึ่งผืนนั้น สะท้อนคุณค่าที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนไทยที่มีอยู่ทั่วทุกภูมิภาค ทั้งความละเอียดประณีตในกระบวนการผลิต และสีสันลวดลายที่มาจากธรรมชาติ เป็นภูมิปัญญาที่สะท้อนอัตลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และเป็นงานหัตถกรรมที่มีการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างน่าประทับใจ โดยแคมเปญ “เที่ยวฟินอินผ้าไทย” ยังได้จัดกิจกรรมย่อยเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันใน 4 กิจกรรมคือ

1. “Gen Z มีดีให้อวด” เป็นกิจกรรมที่ sacit ชวนเยาวชนคน Gen Z ได้มีโอกาสลองสวมใส่ผ้าไทย เรียนรู้ภูมิปัญญาของผ้าทอไทยในภูมิภาคต่าง ๆ สัมผัสกับผ้าทอของไทยในหลากหลายแบบ สร้างความคุ้นเคยให้เด็ก ๆ รู้สึกใกล้ชิดและชื่นชอบผ้าไทย โดยออกไปเรียนรู้ท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ และที่เด็กชื่นชอบคือกางเกงมวยที่ทำจากผ้าทอไทย ซึ่งน้อง ๆ สามารถสวมใส่เดินเล่นขี่จักรยานได้อย่างคล่องตัวและน่ารัก                 ทั้งนี้ในกิจกรรม “Gen Z มีดีให้อวด” ยังได้ Roadshow ไปตามสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เนื่องจาก sacit ให้ความสำคัญกับกลุ่มคนรุ่นใหม่เป็นพิเศษ เพราะเชื่อมั่นว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนและสืบสานหัตถศิลป์ไทย เพราะอนาคตของงานศิลปหัตถกรรมไทยจะคงอยู่ยั่งยืนในสังคมไทยได้ ต้องอาศัยกำลังสำคัญของคนรุ่นใหม่ ที่จะเป็นผู้ที่รักษาอนุรักษ์ รวมทั้งพัฒนาต่อยอดงานศิลปหัตถกรรมไทยต่อไป 

2. “เลิฟเมืองไทยเลิฟไทยคราฟต์” กิจกรรมนี้ sacit ชวนนักท่องเที่ยวต่างชาติใส่ผ้าไทยสัมผัสกับศิลปวัฒนธรรมไทย อาหารไทย ท่องเที่ยวไปตามสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังต่าง ๆ อาทิ รอบเกาะรัตนโกสินทร์ สนามมวยราชดำเนิน วัดพระแก้ว และถนนข้าวสาร เป็นบรรยากาศที่นักท่องเที่ยวต่างชาติประทับใจในกิจกรรมนี้เป็นอย่างมาก และรู้สึกทึ่งในเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าไทยใส่สบายเหมาะกับอากาศบ้านเราทำให้สามารถใส่เดินทางท่องเที่ยวได้อย่างสนุกสนาน

3. “สายแฟก็แคร์โลก” กิจกรรมส่งเสริมการใช้ผ้าไทยในแบบสโลว์แฟชั่นหรือแฟชั่นเพื่อความยั่งยืน เป็นผ้าไทยที่มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ เช่นผ้าฝ้ายเข็นมือที่มาจากต้นฝ้ายในไร่ฝ้ายออร์แกนิก นำมาย้อมสีธรรมชาติจากพืชท้องถิ่น ด้วยฝีมือคนในชุมชน ทั้งสตรีและคนชรา หรือแม้แต่
ผู้พิการในหมู่บ้านต่างมีงานทำมีรายได้ที่สม่ำเสมอ ได้รับค่าแรงและการปฏิบัติที่เป็นธรรมและมีคุณภาพชีวิต
ที่ดีขึ้น ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน

4. “วัยเกษียณก็เปรี้ยวได้” เป็นกิจกรรมที่สนับสนุนให้ผู้สูงวัย หรือผู้ที่อยู่ในวัยเกษียนอายุมองเห็นคุณค่าในตัวเอง sacit จึงได้ชวนกลุ่มคนวัยเกษียณลุกขึ้นมาแปลงโฉม สร้างความมั่นใจในตัวเองด้วยการสวมใส่ผ้าไทยที่สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์ได้อย่างลงตัว ทำให้ชีวิตวัยเกษียณกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง  

นอกจากกิจกรรมถูกจัดขึ้นตามสถานที่ท่องเที่ยวและสถานศึกษาต่าง ๆ แล้ว ยังมีการขยายผลกิจกรรมผ่านสื่อดิจิทัล โดย sacit ชวนคนรักผ้าไทยมาร่วมกิจกรรมสวมใส่ผ้าไทยออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ และถ่ายคลิปวิดีโอใส่ไอเดียสร้างสรรค์ผลงานที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อผ้าไทย แล้วร่วมโพสต์ลงใน Tiktok ซึ่งผู้ร่วมสนุกได้ลุ้นรับเงินรางวัลรวม 30,000 บาท ซึ่งกิจกรรมนี้ได้รับความสนใจจากผู้ใช้ Tiktok เป็นจำนวนมาก ถือเป็นกลไกการสื่อสารที่ทันสมัยเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคปัจจุบันที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังสอดรับกับการส่งเสริมวัฒนธรรมงานศิลปหัตถกรรมไทยที่สามารถเข้าถึงทุกคน ได้อย่างรวดเร็วตรงใจ

สำหรับกิจกรรม Road Show เที่ยวฟินอินผ้าไทยใจกลางเมืองในวันนี้ มุ่งหวังให้คนรุ่นใหม่และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้มาเห็น สัมผัส สามารถสร้างประสบการณ์ตรง ร่วมชื่นชมและเกิดความรักในผ้าไทยและงานศิลปหัตถกรรมของไทย อีกทั้งยังถือเป็นกิจกรรมส่งท้ายความฮอตฮิตของผ้าไทย เพื่อตอกย้ำความสำเร็จในการเสริมสร้างวัฒนธรรมงานศิลปหัตถกรรมสู่สังคมไทย มุ่งเน้นส่งเสริมการใช้ผ้าไทยและสวมใส่ผ้าไทยออกไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสร้างการรับรู้ ความภาคภูมิใจในมรดกทางภูมิปัญญาที่จะช่วยสนับสนุนงานคราฟต์ไทยได้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยภายในงานครั้งนี้มีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ประกอบด้วย ใส่ชุดไทยถ่ายภาพ 360 องศา ทดลองทำ Workshop การทอผ้าด้วยกี่ทอผ้าขนาดกระทัดรัด เรียนรู้ภูมิปัญญา “กางเกงมวยผ้าไหมไทย” ที่ผลิตจากผ้าไหมของ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ผสมผสานการปักสะดึงกรึงไหมฝีมือของครูปิโยรส บัวเหลือง ครูช่างศิลปหัตถกรรมไทย ประจำปี 2565 ของ sacit เป็นงานช่างที่มีมาแต่โบราณในเครื่องแต่งกายนาฏศิลป์ซึ่งถือเป็นงานหัตถศิลป์ไทยที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน และพลาดไม่ได้กับ “กางเกงมวยผ้าทอไทย” ซึ่งผลิตจากผ้าทอมือย้อมสีธรรมชาติจากชุมชนผ้าทออู่ทอง และผ้าขาวม้าทอมือจากชุมชนผ้าทอเมืองเหน่อ
จ.สุพรรณบุรี ฝีมือครูภารดี วงศ์ศรีจันทร์ ครูช่างศิลปหัตถกรรม ปี 2555 ของ sacit ซึ่งถือเป็นการกระจายรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย เสวนาเที่ยวฟินอินผ้าไทยกับ Friend of sacit พร้อมแขกรับเชิญสุดพิเศษ คุณอมันดา อแมนด้า เจนเซ่น หรือ ไฮดี้ มิสแกรนด์ภูเก็ต 2022 และพบกับความบันเทิงส่งท้ายกิจกรรมด้วยคอนเสิร์ต ฟิล์ม ธนภัทร กาวิละ ที่จะมามอบความสุขในลุคอินผ้าไทยให้ได้เพลิดเพลินกันตลอดทั้งงาน

ทั้งนี้ ในทุกกิจกรรมสร้างสรรค์ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สังคมไทยหันมาให้ความสนใจ รับรู้และเกิดภาพจำที่ดีต่อผ้าไทยว่าสามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน เกิดความรักและความภาคภูมิใจในคุณค่า      ภูมิปัญญา เพิ่มความนิยมการใช้ผ้าไทยและงานศิลปหัตถกรรมไทย สวมใส่ออกไปเที่ยวกันมากขึ้น การเกิดกระแสความนิยมผ้าไทยในใจของคนทุกเพศทุกวัยนี้เอง ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ sacit เชื่อมั่นว่า กิจกรรมทั้งหมดนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดเป็นเครือข่ายคนรักงานคราฟต์ไทยอย่างกว้างขวาง สู่การต่อยอดการใช้ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ต่อเนื่อง สะท้อนให้เกิดพลัง Soft Power คราฟต์ไทย ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยได้ขยายตัวมากยิ่งขึ้น โดย sacit จะยังคงยึดมั่นในภารกิจสื่อสารภาพลักษณ์ที่ดีของงานศิลปหัตถกรรมไปยังสังคมไทย เพื่อกระตุ้นให้เกิดวัฒนธรรมการใช้ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยอย่างแพร่หลายมากขึ้น จนสามารถสร้างความเข้มแข็งอันทรงคุณค่าให้แก่งานศิลปหัตถกรรมไทยได้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน 

TOM FORD

TOM FORD ส่งสองสาว แพต-ซูริ เผยเสน่ห์เฉพาะตัวจากสีสันบนริมฝีปาก

account_circle
TOM FORD
TOM FORD

ถึงเวลาของมิสแอนด์มิสซิสทอมฟอร์ดที่จะได้ท่องไปในโลกแห่งความงามบนริมฝีปาก จากความพิเศษของผลิตภัณฑ์ “TOM FORD SLIM LIP COLOR SHINE” (ทอม ฟอร์ด สลิม คัลเลอร์ ไชน์) ลิปคัลเลอร์สูตรล่าสุดจาก “TOM FORD BEAUTY” (ทอม ฟอร์ด บิวตี้) ภายใต้ภาพลักษณ์อันสวยงามชวนให้หลงใหลเคลิบเคลิ้ม ทว่าสามารถจับต้องได้จริงในการคอมพลีทเมคอัพลุคของทุกวัน กับแคมเปญ “TOM FORD THEMATIC SLIM LIP COLOR SHINE” ผลงานภาพยนตร์สั้นที่สื่อสารเรื่องราวความมีสไตล์เฉพาะตัวของนักแสดงสาว “แพต – ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช” พร้อมกันนี้ยังมีสาวสวยระดับประเทศสมมงอย่าง “ซูริ – สุริศา ซูซานน่า เรโนล” รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ปี 2024 มาร่วมเผยเสน่ห์แห่งความงดงามบนริมฝีปาก ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ลิปคัลเลอร์สูตรล่าสุดกับเฉดสีที่โปรดปราน 

สำหรับแคมเปญ “TOM FORD THEMATIC SLIM LIP COLOR SHINE” จะพาทุกท่านเพลิดเพลินไปกับภาพยนต์สั้นที่ถ่ายทอดตัวตนอันเต็มเปี่ยมรสนิยมของ “แพต – ชญานิษฐ์” (@chayanitpat) ร้อยเรียงเรื่องราวสื่อสารความหลงใหลในแฟชั่น เปิดเผยผ่านแง่มุมความสวยงาม และความมีสไตล์ จากการเลือกใช้ไอเท็มชิ้นสำคัญที่ช่วยเนรมิตลุคทรงเสน่ห์ เย้ายวน ชวนหลงใหล โดยเธอแต่งแต้มริมฝีปากด้วย “TOM FORD SLIM LIP COLOR SHINE สี 157 GO-SEE” เฉดแดงเข้มอมม่วง สื่อถึงความสวยงามของหญิงสาวที่แฝงความลึกลับน่าค้นหา พร้อมเติมเต็มความมั่นใจไปอีกขั้น ด้วยน้ำหอมกลิ่นใหม่ล่าสุด “TOM FORD VANILLE FATALE” การผสมผสานกันของกลิ่นวานิลลา กลิ่นไม้หอมลึกลับ และกลิ่นกาแฟอันเย้ายวนชวนลุ่มหลง ขณะที่กลิ่น Luxe Vanilla Resinoid ดึงพลังที่น่าปรารถนามาไว้ Middle Note แล้วปิดท้ายด้วยกลิ่นข้าวบาร์เลย์คั่ว เป็นการโอบล้อมความเลอค่าของส่วนผสมแห่งกลิ่นหอม ที่บ่งบอกถึงตัวตนความมีสไตล์ได้อย่างดีเยี่ยม

ทางด้านนางแบบและนักแสดงลูกครึ่งไทย-อเมริกัน-ฝรั่งเศส “ซูริ – สุริศา ซูซานน่า เรโนล” เธอเพิ่งได้รับตำแหน่งรองอันดับ 1 จากเวทีการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ปี 2024 (Miss Universe Thailand 2024) ซูริเป็นหญิงสาวที่ทรงเสน่ห์และเต็มไปด้วยประกายความงดงามเจิดจรัส เธอเลือกเสริมความมั่นใจเพิ่มให้ตัวเองด้วย “TOM FORD SLIM LIP COLOR SHINE สี 154 First Look” ลิปคัลเลอร์เฉดน้ำตาลอมแดง บรรจงแต่งแต้มเรียวปากให้มีความเฟมินีน ทว่าทรงพลัง เป็นการคอมพลีทเมคอัพลุคได้อย่างเฉิดฉาย และโดดเด่นเป็นที่ประทับใจจากทุกสายตาที่จับจ้อง 

“TOM FORD SLIM LIP COLOR SHINE” มาพร้อมเคสดีไซน์รูปทรงกริช ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรองเท้าส้นสูงใน TOM FORD RUNWAY เป็นการเปลี่ยนนิยามของคำว่าลิปสติกให้เป็นดั่งเครื่องประดับที่สามารถพกพาสะดวก สวยงาม และหรูหรา สำหรับลิปคัลเลอร์สูตรล่าสุดได้รับการพัฒนาขึ้นจากส่วนผสมของ Beeswax ไขผึ้งแท้ธรรมชาติ และ Emollients ที่มีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น พร้อมมอบการปกปิดระดับสูง ที่สำคัญทั้งสองส่วนผสมยังช่วยให้เนื้อสัมผัสของลิปคัลเลอร์เกลี่ยไปบนริมฝีปากได้อย่างง่ายดาย สร้างฟินนิชที่เรียบเนียนนุ่มนวล ไม่ตกร่อง เสมือนได้รับการเคลือบริมฝีปากจากแผ่นฟิล์มบางเบา “TOM FORD SLIM LIP COLOR SHINE” มาพร้อมสีสันที่เปล่งประกายและเบาสบายอย่างสูงสุด มีให้เลือก 10 เฉดสี ประกอบด้วย 150 Open Back, 151 Iconic Nude, 100 100, 152 Rose Corset, 153 Velvet Tux, 154 First Look, 155 Atelier Red, 156 Final Bow, 16Scarlet Rouge และ 157 Go-See

มิสแอนด์มิสซิสทอมฟอร์ดสามารถสนุกกับการเสริมพลังความมั่นใจ พร้อมเลือกช้อปสองไอเท็มสุดพิเศษ TOM FORD SLIM LIP COLOR SHINE ราคา 1,800 บาท และ TOM FORD VANILLE FATALE 50ML ราคา 15,000 บาท ได้ที่เคาน์เตอร์ TOM FORD BEAUTY ทุกสาขา และสามารถช้อปออนไลน์ได้ที่ CENTRAL ONLINE, LAZADA และ SEPHORA หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ LINE Official Account: @TOMFORDBEAUTYTH หรือคลิก https://lin.ee/y8qPvPi

‘การดูแลและติดตามกันอย่างใกล้ชิด จะกลายเป็นความอึดอัด จนอยากกลับไปอยู่คนเดียวเลย ใครกันหนอ?? ต้องเช็กแล้ว!!’ ดวงรายวัน 12 กันยายน 2566

‘การดูแลและติดตามกันอย่างใกล้ชิด จะกลายเป็นความอึดอัด จนอยากกลับไปอยู่คนเดียวเลย ใครกันหนอ??’

ดวงรายวัน 12 กันยายน 2566

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :   สำหรับผู้บริหารระดับสูง CEO จนถึงข้าราชการผู้ใหญ่ แม้คุณจะเต็มเปี่ยมด้วยพลังกายพลังใจในการบริหารงานหรือธุรกิจ แต่วันนี้มีโอกาสที่คุณจะได้รับงานหรือโครงการที่ไม่ได้รัก ไม่ได้เลือก และก็ไม่ถนัด อย่างไรก็ต้องทำอย่างขัดไม่ได้ เพราะติดที่สัญญาหรือสัญญาใจที่เคยมีต่อกันมานาน ซึ่งคุณก็ไม่ควรมีอีโก้ จนไม่คิดถึงความรู้สึกของคนที่ทำงานด้วยกัน เพราะมีโอกาสที่จะเกิดการขัดแย้งถึงขั้นที่งานสะดุดหยุดลงกลางคันได้  

การเงิน  :  มีโอกาสที่เงินที่ลงทุนไว้ตามกองทุนต่างๆ จะทำงานได้ดอกผลงดงาม แต่เป็นไปได้ที่คุณจะไม่สามารถเก็บเงินไว้กับตัวได้นาน ดังนั้น วันนี้จึงไม่ควรให้ใครกู้ยืมเงิน หรือค้ำประกันใคร เพราะมีความเสี่ยงที่จะถูกหลอก  

ความรัก  :  หากกำลังมีบุคคลภายนอกเข้ามาทำดีกับคุณและครอบครัวอย่างผิดสังเกต ก็ไม่ควรสนใจ เพราะเป็นไปได้ว่าคุณจะมีเรื่องอื่นที่ซีเรียสอยู่แล้ว ยิ่งจะพลอยทำให้เครียดไปหมด คนโสด มีโอกาสได้พบกับคนที่ใช่ แต่ก็เป็นไปได้ที่คุณจะยังไม่สามารถตัดคนเก่าทิ้งได้ เพราะเป็นความรับผิดชอบที่คุณยังต้องดูแลเขาอยู่

สุขภาพ  :  หากงานยุ่งจนไม่ได้ลุกไปปัสสาวะเลย ก็ต้องระวังเชื้อมีโอกาสเข้าสู่กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะ หากในกรณีรุนแรงสามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้เลย

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :   ก็ยังอยู่กับงานหรือธุรกิจในสายสาธารณะกุศล สาธารณะประโยชน์ มูลนิธิ จิตอาสา และนักสังคมสงเคราะห์ ซึ่งวันนี้จะเป็นส่วนงานการบริหารจัดการ การติดต่อประสานงาน และการให้บริการคำแนะนำปรึกษาในด้านต่างๆ ซึ่งเป็นไปได้ว่าคุณจะมีความคิดและจินตนาการที่กว้างไกลจนยากที่จะร่วมงานกับคนอื่นได้ราบรื่น จึงไม่ควรใจร้อน หรือตัดสินใจอย่างวู่วาม กล้าได้กล้าเสีย เพราะจะทำให้งานหรือธุรกิจจากที่จะสำเร็จง่ายๆ กลายเป็นยากขึ้น หากเป็นไปได้ควรรับงาน หรือทำธุรกิจของตัวเองจะดีกว่า

การเงิน  :  ก็ยังเกี่ยวข้องกับงานบุญ งานช่วยอยู่นะซึ่งวันนี้แม้คุณจะมีโชคในเรื่องของการลงทุนและทรัพย์สิน แต่ก็มีโอกาสที่คุณจะช่วยเหลือคนอื่นจนตัวเองเดือดร้อนเลยทีเดียว

ความรัก  :   ก็ยังมีโอกาสที่ชีวิตคู่จะอยู่กันด้วยดี ซึ่งวันนี้คุณโรแมนติกด้วยล่ะ วาดฝันไว้อย่างสวยงาม แต่ก็ต้องระวังความคิดตัวเองที่จะสวนทางกับสิ่งที่เป็นอยู่  คนโสด คุณมีความคิดเป็นของตัวเอง วาดฝันถึงความรักไว้อย่างสวยสดงดงาม ต้องการการสัมผัสที่อบอุ่น ซึ่งวันนี้คนๆ นั้นไม่จำเป็นต้องเป็นแฟน จะเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องกันก็ได้

สุขภาพ  :   ฝนตกค่ำๆ ทุกวัน ระวังจะป่วย ไม่สบาย ภูมิแพ้ได้น้า นอกจากนั้นยังต้องระวังพวกโรคหัวใจ เส้นโลหิตในหัวใจตีบตัน หรือไขมันอุดตัน เพราะฉะนั้นต้องลดอาหารพวกของมัน ของทอด ลงด้วย

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน   :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจด้านการติดต่อประสานงาน โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน จนถึงผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา วันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะได้เข้าไปร่วมงานหรือธุรกิจในสายสาธารณะกุศล สาธารณะประโยชน์ มูลนิธิ จิตอาสา และนักสังคมสงเคราะห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นในวงการราชการ รัฐวิสาหกิจ การเงินการธนาคาร การแพทย์และสาธารณสุขด้วยแล้ว มีโอกาสที่คุณจะได้งานนั้นยาวเลย

การเงิน  :   จริงๆ แล้วคุณมีความมั่นคงทางทรัพย์สินในระดับหนึ่ง ที่มาจากการเก็บออม ซึ่งวันนี้คุณมีโอกาสเสียเงินให้กับคนรัก คู่ครอง หรือลูกหลาน ก็ถือว่าทำบุญไปนะคะ

ความรัก :   สำหรับคู่รักที่เพิ่งแต่งงานกัน หรือคู่ครองที่หวนกลับมาคืนดีกัน วันนี้เป็นไปได้ที่คุณจะเริ่มต้นชีวิตคู่กันอย่างมีความสุข แต่อย่างไรคุณก็ยังคงเก็บอาการ ไว้ฟอร์มอยู่  คนโสด   สำหรับคนที่กำลังอยู่ในห้วงแห่งความรัก วันนี้คุณต้องการการสัมผัสที่อบอุ่นอ่อนโยน จนอาจแสดงความต้องการจนออกนอกหน้า เพราะเป็นไปได้ว่าอีกฝ่ายจะนิ่งเกิน

สุขภาพ   :   หากคุณกำลังเอ็นจอยกับการรับประทานอาหาร โดยไม่ทันระวังเรื่องน้ำหนัก หรือโรคที่จะตามมา วันนี้ไม่น่าจะทันแล้ว เพราะพวกไขมัน คลอเรสเตอรอล เบาหวาน ความดัน ตามกันมาแล้ว  

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน   :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจในสายความคิดสร้างสรรค์ ความสวยงาม งานบันเทิง โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน งานด้านวิชาการ วันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะได้ร่วมงานกับผู้ใหญ่ที่มีบุญบารมี เป็นที่นับหน้าถือตาในสังคมในงานสายบุญ สายธรรม สายทำประโยชน์ให้กับสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้าน อาจารย์ นักวิชาการ ไลฟ์โค้ช เทรนนิ่ง และติวเตอร์  

การเงิน  :  ก็ยังมีโอกาสได้รับลาภผลก้อนโตจากผู้ใหญ่ นอกเหนือจากเงินเดือนประจำ

ความรัก  :  ก็ยังมีโอกาสที่ผู้ใหญ่จะตามติดดูแลคุณและคู่อย่างใกล้ชิด จนเป็นไปได้ว่าคุณจะลังเลไม่แน่ใจว่าจะสามารถอยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ได้ไหม เพราะคุณเริ่มอยากจะปลีกวิเวกแล้ว   คนโสด  ก็ยังอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่อยู่ จนคุณเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าจะสามารถอยู่ต่อได้หรือเปล่า เพราะวันนี้คุณมีโอกาสได้ไปเรียนต่อ ทั้งทางโลกและทางธรรม

 สุขภาพ  :  มีโอกาสที่ภูมิแพ้จะกำเริบ ทำให้มีปัญหาในเรื่องการหายใจ ยิ่งหากเป็นไซนัสด้วยแล้วก็มีโอกาสที่จะกำเริบด้วย นอกจากนั้นยังต้องระวังความเครียด การเก็บตัวอยู่คนเดียว ซึ่งจะทำให้คุณหงุดหงิดง่าย เห็นอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด  

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจด้านการติดต่อประสานงาน โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน จนถึงผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา วันนี้มีโอกาสที่คุณจะบุกเบิกเริ่มต้นงานใหม่ๆ โดยเต็มเปี่ยมไปด้วยอีโก้ จนยากที่จะร่วมงานกับใครได้อย่างราบรื่น เพราะคุณไม่ฟังความคิดเห็นของใครเลย ดังนั้น จึงควรรับงานเอง หรือทำธุรกิจของตัวเองเลย แต่หากยังไม่พร้อมก็ควรอดทน รอคอยจังหวะเวลาและโอกาสมากกว่าจะฝืนทำไป

 การเงิน  :   ไม่ควรใจดีจนเกินไป เพราะเป็นไปได้ว่าวันนี้คุณจะเสียเงินให้กับคนรัก คู่ครอง หรือบุตรหลานในบ้าน จนต้องหมุนเงินตัวเป็นเกลียวเลยทีเดียว

ความรัก  :   สำหรับคู่รักที่เพิ่งแต่งงานกัน หรือคู่ครองที่เพิ่งกลับมาคืนดีกัน วันนี้จากความหวานชื่น ความอบอุ่น การดูแลอย่างใกล้ชิด มีโอกาสที่คุณจะรู้สึกอึดอัด จนอยากจะกลับไปอยู่เป็นโสดเหมือนเดิม  คนโสด  หากคุณกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความรัก การดูแลและติดตามกันอย่างใกล้ชิด มีโอกาสจะกลายเป็นความอึดอัด จนอยากจะอยู่คนเดียวเลย

สุขภาพ  :   ก็ยังต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่สดสะอาด ไม่ถูกอนามัย อยู่น้า…เพราะมีโอกาสที่คุณจะท้องเสีย อาหารเป็นพิษ จนถึงมีพยาธิ์ นอกจากนั้นช่วงนี้ฝนตกตอนค่ำทุกวัน จึงควรระมัดระวังในการขับขี่ยานพาหนะ อย่าประมาท รวมถึงการเจ็บป่วย ไม่สบาย ไซนัสกำเริบ

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :   สำหรับผู้บริหารระดับสูง CEO จนถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอยู่ในสายงานหรือธุรกิจที่เกี่ยวกับงานช่าง นักประดิษฐ์ นักคิดค้นสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสังคม ด้วยแล้ว แม้คุณจะเต็มเปี่ยมด้วยพลังกายพลังใจที่จะนำพาองค์กรไปสู่ความก้าวหน้า แต่วันนี้หากจะรับอาสาผู้บังคับบัญชาไปทำงานที่เสี่ยงต่อความผิดพลาดเสียหาย ก็ไม่ควรไว้ใจลูกน้องคนสนิท เพราะเป็นไปได้ว่าเขาจะเปลี่ยนท่าที กลายเป็นทรยศหักหลังคุณอย่างไม่คาดคิด

การเงิน  :   ขึ้นๆ ลงๆ ไม่แน่นอน กว่าจะเอาตัวรอดได้ก็เรียกว่าฉิวเฉียดเต็มที ซึ่งวันนี้เป็นไปได้ที่เงินที่ลงทุนไว้ตามกองทุนต่างๆ จะสร้างดอกผลให้อย่างงดงาม

ความรัก :   ก็ยังมีโอกาสอยู่กับความเจ้าชู้ ขณะที่คุณก็ให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์ รักเดียวใจเดียวอย่างมาก ดังนั้น จึงเป็นไปได้ที่คุณจะซีเรียส และพาลเครียดไปในทุกๆ เรื่อง  คนโสด ดูภายนอกเหมือนคุณเจ้าชู้ เพราะคบคนนั้นนี้ไปเรื่อย แต่จริงๆ แล้วคุณคบเพื่อจะสรรหาคนที่ดีที่สุด แล้วก็ปิดประตูหัวใจ ซึ่งวันนี้มีโอกาสที่คุณจะได้พบคนที่คิดว่า ‘ใช่’  

สุขภาพ  :  ออฟฟิศซินโดรมมาเยือนตั้งแต่วันแรกๆ ของการทำงานเลย เพราะฉะนั้นหากคุณยังคงนั่งทำงานในท่าเดิมนานๆ จึงควรลุกขึ้นเปลี่ยนอิริยาบถบ้าง หรือออกกำลังมือ แขน และหลังแบบง่ายๆ บ้าง เพื่อป้องกันเส้นตึงยึด

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจในวงราชการ รัฐวิสาหกิจ การเงินการธนาคาร การแพทย์และสาธารณสุข เป็นไปได้ว่าคุณจะตกอยู่ท่ามกลางการแข่งขันชิงดีชิงเด่น ในเรื่องผลประโยชน์และตำแหน่งหน้าที่การงานอย่างบ้าคลั่ง วันนี้มีโอกาสที่จะเกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงจนถึงขั้นงานสะดุดหยุดลงกลางคัน งานนี้หากเป็นไปได้คุณควรเข้าหาผู้ใหญ่ผู้หญิง เพราะเธอจะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนจนถึงเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งให้ด้วยเลย

การเงิน  :   คุณมีความมั่นคงทางทรัพย์สินในระดับหนึ่งที่มาจากการอดออม วันนี้มีโอกาสที่ผู้ใหญ่ผู้หญิงจะอุปถัมภ์คุณ แต่หากจะนำเงินไปลงทุนก็ควรศึกษาหาข้อมูลให้ดี เพราะการลงทุนทุกชนิดมีความเสี่ยง  

ความรัก  :   หากคุณเป็นคนที่เก็บความรู้สึก เก็บฟอร์มมาตลอด วันนี้มีโอกาสที่จะมีประเด็นเรื่องลูกเข้ามา ซึ่งคุณก็พยายามปกป้องลูกจนมีปากเสียงกับคู่ครองอย่างรุนแรงแบบไม่ให้เกียรติกันเลย คนโสด  วันนี้จะวางฟอร์มสวยนิ่งไม่ได้แล้ว เพราะเริ่มมีคนมายุ่งกับคนรัก จึงเป็นไปได้ที่จะลุกขึ้นมาแสดงฤทธิ์ เพื่อปกป้องคนรักของคุณไว้

สุขภาพ   :  หากคุณกำลังหักโหมกับการทำงานจนไม่ได้ดูแลสุขภาพตัวเองเลย วันนี้ต้องระวังหากเพิ่งผ่าตัดอวัยวะในช่องท้อง หรือผ่าคลอดมา ก็อย่ายกของหนัก เพราะมีโอกาสที่แผลจะปริแตกได้  

นิทรรศการ James Nachtwey: Memoria ช่างภาพสงครามระดับโลก ครั้งแรกในเอเชีย พร้อมเผยภาพชีวิตในสงครามยูเครนที่แรก

Alternative Textaccount_circle

นับเป็นก้าวครั้งสำคัญของประเทศไทยที่สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ มูลนิธิส่งเสริมการถ่ายภาพ และหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ด้วยการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย จัดแสดงนิทรรศการ James Nachtwey: Memoria รวมผลงานภาพถ่ายสงครามและภัยพิบัติตลอดชีวิตการทำงานเป็นช่างภาพข่าวและสงครามกว่า 42 ปี จำนวน 126ภาพ ของ เจมส์ นาคท์เวย์ ซึ่งแต่ละภาพบอกเล่าเรื่องราว สื่ออารมณ์ และแสดงภาพสะท้อนของชีวิตที่ยังคงได้รับผลกระทบจากร่องรอยของสงครามและภัยพิบัติ ว่ากันว่าภาพถ่ายของเจมส์สามารถเปลี่ยนหลายสิ่งหลายอย่างบนโลกใบนี้ได้ รวมทั้งสร้างแรงบันดาลใจแห่งสันติภาพให้มวลมนุษยชาติ พร้อมเผยภาพถ่ายชีวิตผู้คนในสงครามยูเครนสู่สายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกของโลก และฉายวีดีโอสั้นที่กำกับโดย Thomas Nordanstad (โทมัส นอร์ดานสตัด) ระหว่างวันที่ 5 กันยายน 2566 – 26 พฤศจิกายน 2566 (ยกเว้นวันจันทร์) เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ ชั้น 7 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เข้าชมฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ในงานเปิดนิทรรศการ James Nachtwey: Memoria อย่างเป็นทางการ ได้รับเกียรติจาก เกว็นโดลิน คาร์ดโน อัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เป็นประธานในพิธีเปิด โดยมี เจมส์ นาคท์เวย์, ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์, อดุลญา ฮุนตระกูล, สุรินทร์ บัญญัติปิยพจน์, อุมาวร วินด์เซอร์ไคลฟ์ และ ณภัชป์ รัตนศักดิ์ ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยศิลปินช่างภาพที่มีชื่อเสียงทั้งระดับประเทศและระดับโลก พร้อมแขกผู้มีเกียรติร่วมชมนิทรรศการระดับโลกครั้งนี้อย่างคับคั่ง โดยพิธีเปิดจัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 ณ ชั้น 7 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ นายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และช่างภาพ
ชื่อดัง เผยว่า การจัดนิทรรศการในครั้งนี้เป็นหนึ่งใน RPST Master Series ซึ่งเป็นการนำภาพถ่ายของช่างภาพระดับโลกมาจัดแสดงให้คนไทยและคนในเอเชียแปซิฟิกได้ชม ไม่ว่าจะเป็น ไมเคิล เคนนา (Michael Kenna) ปรมาจารย์นักถ่ายภาพแนว Fine Art ร่วมสมัย, เคนโระ อิสึ (Kenro Izu) นักถ่ายภาพนิ่งแบบ Still life มือฉมังคนหนึ่งของโลก, ทอม จาโคบี (Tom Jacobi) ช่างภาพมือรางวัลระดับโลกจากเยอรมนี, เซบาสเทียว ซาลกาโด (Sebastiao Salgado) ช่างภาพสารคดีระดับตำนานของโลก และเซบาสเตียน โคปแลนด์ (Sebastian Copeland) ช่างภาพมือรางวัล ผู้เป็นทั้งนักสำรวจขั้วโลก ซึ่งการจัดมาสเตอร์ ซีรีส์ในแต่ละครั้ง ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีและมีผู้เข้าชมเพิ่มมากขึ้นทุกปี อย่างครั้งที่จัดนิทรรศการ “Beyond the Air We Breathe: Addressing Climate Change” มีคณะครูพานักเรียนอนุบาลมาชมงานและวาดรูป เพื่อสอนจิตสำนึกเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติ ผ่านการเรียนรู้ทางถ่ายภาพ

สำหรับจุดเริ่มต้นการจัดนิทรรศการของ เจมส์ นาคท์เวย์ เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2561 เมื่อเจมส์ เดินทางมาร่วมงาน นิทรรศการ “Sebastiao Salgado: The World Through His Eyes” จัดขึ้นโดยสมาคมฯ ที่ประเทศไทย จึงเกิดการพูดคุยถึงการจัดแสดงภาพถ่ายของเจมส์ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิกขึ้น โดยทางสมาคมฯ ใช้เวลาในการจัดเตรียมถึง 5 ปี เพราะอยากให้นิทรรศการ James Nachtwey: Memoria สร้างแรงกระเพื่อมทางสังคมให้ตระหนักถึงความเลวร้ายของสงคราม ความเสียหายของการใช้ความรุนแรง รวมถึงการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ช่างภาพและคนที่รักการถ่ายภาพ และที่สำคัญคือ เพื่อเปิดให้เข้าชมฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งโดยปกติแล้วการชมนิทรรศการ James Nachtwey: Memoria ในต่างประเทศจะต้องเสียค่าเข้าชม และต้องเข้าคิวรอนานมากกว่าจะได้เข้าชม

เขาไม่ได้เป็นแค่ช่างภาพสงคราม แต่ภาพถ่ายของเขาทำให้เห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของการมีชีวิตอยู่ ซึ่งเราไม่สามารถบอกได้ว่าใครถูกใครผิด และความพิเศษของภาพถ่ายที่นอกเหนือจากภาพที่สวยงามและเล่าเรื่องแล้ว ทำให้เกิดคำถามว่า เขาเอาตัวเองไปอยู่ตรงนั้นได้อย่างไร ผมว่าเขาเป็นคนเดียวในโลกที่สามารถเก็บทุกความรู้สึก เก็บทุกบรรยากาศในขณะนั้นออกมาได้ ภาพทุกภาพที่คัดเลือกมาจัดแสดงไม่ได้สะท้อนแค่ความสามารถของช่างภาพ แต่เล่าถึงบริบทของสิ่งที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้า ความบ้าคลั่งของสงคราม เหมือนโลกคู่ขนานที่แต่ละคนใช้ชีวิตอยู่เพื่อเอาชีวิตรอดไปวันต่อวัน เราไม่รู้เลยว่าคนที่อยู่ในภาพของเจมส์ปัจจุบันเขายังมีชีวิตอยู่ไหม และสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น ผมว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้มนุษย์อย่างเราตระหนักรู้ว่า เราควรรักกัน สงครามไม่ควรจะเกิดขึ้น และเห็นถึงความพิเศษของการมีชีวิตอยู่ ผมว่าสิ่งที่ดีที่สุดของการได้เห็นภาพขนาดใหญ่ที่ช่างภาพพิถีพิถันทุกกระเบียดนิ้ว คือการเห็นความงามที่เกิดขึ้นบนโลกถ่ายภาพที่ปรากฏอยู่บนกระดาษ” ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ กล่าว

อดุลญา ฮุนตระกูล ผู้อำนวยการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า งานนิทรรศการครั้งนี้เป็นงานที่นับได้ว่าเป็นหนึ่งในงานสำคัญของปี ซึ่งทาง BACC ได้มีโอกาสร่วมงานกับสมาคมฯ อยู่บ่อยครั้ง และทางสมาคมก็ได้เป็นเครือข่ายสำคัญที่คอยสนับสนุน BACC อยู่เสมอ ดังนั้น BACC จึงมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้ร่วมจัดงานและมีโอกาสช่วยนำเสนองานภาพถ่ายของศิลปินสำคัญอย่าง เจมส์ นาคท์เวย์ ซึ่งเป็นที่รู้จักและยอมรับในวงการช่างภาพด้วยความกล้าหาญของเขา ที่มุ่งหาสถานการณ์ที่อันตรายและท้าทาย เพื่อจับภาพอันสำคัญของช่วงเวลานั้น เพื่อนำมาสื่อสารต่อและเล่าเรื่องถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น น้อยนักที่จะได้มีโอกาสชมงานภาพถ่ายของเจมส์ในแบบ retrospective งานครั้งนี้จึงถือว่าเป็นโอกาสที่พิเศษมาก

โดยนิทรรศการครั้งนี้ ได้รวบรวมผลงานภาพถ่ายที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งเป็นเสมือนโลโก้ประจำตัวของ เจมส์ นาคท์เวย์ จำนวน 126 ภาพ ที่ถ่ายในสงครามและภัยพิบัติต่างๆ ทุกภูมิภาคทั่วโลก ทั้งเวสต์แบงก์, ยูกันดา, เอลซัลวาดอร์, เฮติ, เลบานอน, นิการากัว, เชชเนีย, โคโซโว, บอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา, อัลบาเนีย, ซูดาน, โซมาเลีย, รวันดา, ชายแดนรวันดา-แทนซาเนีย, ซาอีร์, อัฟกานิสถาน, สหรัฐอเมริกา, กรีซ, โครเอเชีย, เนปาล, อิรัก, ปากีสถาน, โรมาเนีย, อินโดนีเซีย, กัมพูชา, แซมเบีย, ซิมบับเว, เวียดนาม, แอฟริกาใต้ และโปแลนด์ ซึ่งเป็นผลงานที่นำไปจัดแสดงในเมืองใหญ่มาแล้วทั่วโลก ได้แก่ มิลาน ประเทศอิตาลี, ปารีส ประเทศฝรั่งเศส, สต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน, นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และล่าสุดจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย และเป็นครั้งแรกของโลกกับการเปิดเผยภาพถ่ายชุดสงครามยูเครนสู่สายตาชาวโลก

นิทรรศการ James Nachtwey: Memoria แสดงถึงความทรงจำในการทำงานกว่า 4 ทศวรรษ ในฐานะช่างภาพสงคราม ผู้เสี่ยงชีวิตเพื่อบันทึกภาพความบ้าคลั่งของสงคราม แม้เขาได้รับบาดเจ็บระหว่างปฏิบัติหน้าที่ผู้สังเกตการณ์โลกอยู่หลายครั้ง และเห็นเพื่อนร่วมงานถูกยิงเสียชีวิต แต่เจมส์ นาคท์เวย์ ยังคงคว้ากล้องออกสู่สนามรบและสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครน เขาอุทิศชีวิตเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของผู้อื่น เป็นพยานถึงความวิกลจริตของสงคราม การจับภาพความงามและความโหดร้าย ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดและในสถานที่อันตรายที่สุด ภาพถ่ายของเขาแสดงให้เห็นช่วงเวลาแห่งความเกลียดชัง การทำลายล้างอย่างไร้เหตุผล ความกล้าหาญและการแสดงความเมตตาระหว่างมนุษย์อย่างเงียบๆ

นอกจากภาพถ่ายข้างต้นแล้วยังมีการจัดฉายภาพยนตร์วีดีโอสั้นที่เล่าถึงชีวิตและการทำงานเป็นช่างภาพสารคดีสงครามและโศกนาฏกรรมภัยพิบัติที่ กำกับโดย โทมัส นอร์ดานสตัด ซึ่งเคยกล่าวถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า เลนส์ของ เจมส์ นาคท์เวย์ มองทะลุถึงส่วนลึกของมนุษย์ ภาพแต่ละภาพบ่งบอกถึงความน่ากลัว ความเจ็บปวดและความโศกเศร้า แต่ก็แฝงไปด้วยความสมดุลที่แสนเปราะบางของความหวัง การต่อสู้ และการเอาชีวิตรอด การช่วยเหลือซึ่งกันและกันโดยปราศจากความเห็นแก่ตัว และการกระทำที่เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

ผู้สนใจสามารถชมงานนิทรรศการ James Nachtwey: Memoria ที่รวมผลงานภาพถ่ายสงครามและภัยพิบัติของ เจมส์ นาคท์เวย์ ได้ระหว่างวันที่ 5 กันยายน 2566 – 26 พฤศจิกายน 2566 (ยกเว้นวันจันทร์) เวลา 10.00 – 20.00น. ณ ชั้น 7 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เข้าชมฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.rpst.or.th/


Galaxy Macau

เปิดประสบการณ์พักผ่อน ในอาณาจักรรีสอร์ทระดับ 5 ดาว Galaxy Macau

Alternative Textaccount_circle
Galaxy Macau
Galaxy Macau

สำหรับใครที่วางแผนเดินไปต่างประเทศ แต่ไม่ถนัดนั่งเครื่องบินนานๆ วันนี้แพรวมีหนึ่งตัวเลือกที่อยากแนะนำให้ไปใช้ชีวิตแบบปล่อยใจปล่อยจอย เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในอาณาจักรรีสอร์ทระดับโลก Galaxy Macau (กาแล็กซี่ มาเก๊า) ที่ได้สร้างมาตรฐานใหม่สำหรับความหรูหรา ความบันเทิง และความสบายในการพักผ่อน โดยในปี 2023 นี้ Galaxy Hotel ยังได้คว้ารางวัลระดับ 5 ดาวเป็นครั้งแรก จาก “Forbes Travel Guide 2023” ถือได้ว่าเป็นหมุดหมายใหม่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเปิดประสบการณ์พักผ่อนแบบสุดหรู

1.โรงแรมระดับห้าดาวอยู่รวมกันถึง 6 แห่ง

กาแล็กซี่ มาเก๊า เป็นสอร์ทครบวงจรที่ได้รวบรวม โรงแรมระดับห้าดาวอยู่รวมกันถึง 8 แห่ง ซึ่งแต่ละที่มีสไตล์การตกแต่งและบรรยากาศที่แตกต่างกัน Banyan Tree Macau, Galaxy Hotel™, Hotel Okura Macau, JW Marriott Hotel Macau, The Ritz-Carlton, Macau , Broadway Hotel และที่เพิ่งเปิดตัวใหม่คือ Raffles Hotels & Resorts ที่มาในรูปแบบอาคารที่มีเฉพาะห้องสวีทระดับลักซ์ชูรี 450 ห้อง และ Andaz Macau ที่ประกอบไปด้วย ห้องสวีทกว่า 700 ห้อง ซึ่งทุกที่สามารถเชื่อมถึงกันได้หมด

2.สวนน้ำขนาดใหญ่ที่ไม่เหมือนใคร

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกีฬาทางน้ำที่นี่มี Grand Resort Deck ซึ่งเป็นสวนน้ำลอยฟ้าชั้นนำระดับโลก มีขนาด 75,000 ตารางเมตร มี Skytop Adventure Rapids ยาวที่สุดในโลกถึง 575 เมตร และ Skytop Wave Pool ที่ใหญ่ที่สุด สร้างคลื่นได้สูงถึง 1.5 เมตร พร้อมชายหาดซึ่งทรายขาวบริสุทธิ์ยาว 150 เมตร

Galaxy Macau
The Ritz-Carlton Spa

3.สปาระดับเวิลด์คลาส

หากใครชื่นชอบการบำบัดผ่อนคลายด้วยการนวดและกลิ่นหอมๆ เราขอแนะนำไปใช้บริการสปาสองแห่ง The Ritz-Carlton Spa และ Banyan Tree Spa Macau ซึ่งเป็นสปาระดับ 5 ดาวประจำปีต่อเนื่องถึง 10 ปี

 Banyan Tree Spa Macau
Banyan Tree Spa Macau
Banyan Tree Spa Macau

4.การแสดงโคตรเพชร Fortune Diamond

อีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดที่ใครไปต้องได้เก็บภาพความประทับใจก็คือการแสดงโคตรเพชร Fortune Diamond โชว์แสง สี เสียง และ สายน้ำ ที่จะเกิดขึ้นทุก 20 นาที บริเวณ Crystal Lobby บอกเลยว่าสวยงามอลังการสุดๆ

5.สายช้อปปิ้งห้ามพลาด

Galaxy Promenade คือศูนย์การค้าที่ได้รับรางวัลด้านไลฟ์สไตล์ลักซ์ชูรี ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร ร้านค้าแฟล็กชิปของแบรนด์ดัง รวมถึงบูติกระดับไฮเอ็นด์กว่า 200 แห่ง และด้วยคติพจน์ที่ว่า แขกของเราจะได้รับประสบการณ์สุดพิเศษจากความหลากหลายและ “เป็นท่านแรก” ที่ได้คอลเล็กชันใหม่ไปครอบครองเสมอ นั่นทำให้ผู้ที่อยากลิ้มรสประสบการณ์การช้อปปิ้งเหนือระดับต้องมาที่นี่ให้ได้

6.ในฐานะจุดหมายปลายทางด้านอาหารชั้นนำของเอเชีย กาแล็กซี่ มาเก๊า มีตัวเลือกร้านอาหารที่ หลากหลายกว่า 120 แห่งให้ได้เลือกสรรตั้งแต่ระดับมิชลินสตาร์จนถึงอาหาร ท้องถิ่นเลื่องชื่อที่พาเหรดมามอบประสบการณ์ที่ตราตรึงใจด้วยวัตถุดิบคุณภาพ

ร้านอาหารจีนกวางตุ้งมิชลินสตาร์ Lai Heen ตั้งที่ชั้น 51 ของโรงแรม The Ritz-Carlton โดยเชฟ Jackie Ho Hon-sing
ร้าน Tam Chai Yu Chun ตั้งอยู่ที่ Galaxy Macau ชั้น 1
Saffron ร้านอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นตั้งอยู่ที่ชั้น 31 ของ Banyan Tree Macau โดยเชฟ แจน-สุรชา เรื่องนุกูลกิจ

สำหรับ กาแล็กซี่ มาเก๊า นับเป็นคลื่นลูกใหม่ของการท่องเที่ยว ที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยการเตรียม ห้องพักสุดพิเศษที่การันตีด้วยรางวัลมากมายเพื่อมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่ครบจบในที่เดียวอันแสนยากจะลืมเลือน และศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และความบันเทิงที่ไม่มีใครเทียบได้

Thailand’s Sustainable Journey Presents The Power of Small Shrimp

Thailand give precedence to sustainability in international trade. Our products and services are meticulously made in every step from the production process and selection of raw materials to how it is being delivered to consumers. We have done everything with care for people, society, and the environment. One great example on the matter is a journey towards sustainability of “shrimp” which is one of Thailand’s most significant export products.

“THINK SUSTAINABILITY, THINK THAILAND”

“THINK TRADE, THINK THAILAND” 

#THINKTRADETHINKTHAILAND #THINKSUSTAINABILITY #DITP 

Full video available at https://youtu.be/UZa5-xQ8A-E?si=Vs7LG8lA_FUx8h4o

ดิ เอ็มโพเรียม ดิ เอ็มควอเทียร์ ชวนอัปเดตเทรนด์ล่าสุดประจำฤดูกาล

ดิเอ็มโพเรียมดิเอ็มควอเทียร์ ศูนย์การค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ระดับโลก ชวนอัปเดตเทรนด์แฟชั่น Fall / Winter กับงาน “#EMFASHIONICON : THE FALL/WINTER ISSUE 2023” ชวนเหล่าแฟชั่นนิสต้าอัปเดตเทรนด์ โดยแฟชั่นกูรูและสไตลิสต์แถวหน้าของเมืองไทย “หนุ่ม – อภิวัฒน์ยศประพันธ์” ที่มาแนะนำเทรนด์แฟชั่นและไอเท็มที่ควรมีสำหรับ Fall/winter 2023 รวมถึงเทคนิคการมิกซ์แอนด์แมตช์ในหลากหลายสไตล์จากแบรนด์ดังมากมาย รวบรวมไว้ที่ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม และ ดิ เอ็มควอเทียร์ ให้ทุกคนเลือกช้อปไอเท็มชิ้นโปรดเติมความคูลให้กับสไตล์ของตนเองในช่วง Fall / Winter นี้

             อรธิรา ภาคสุวรรณ์ ผู้บริหารดิเอ็มดิสทริค กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า “เพื่อเป็นการอัพเดตเทรนด์แฟชั่นล่าสุดในฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูหนาว 2023 ตอกย้ำการเป็น Fashion Destination เมืองไทย ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม และ ดิ เอ็มควอเทียร์ จึงจัดงาน “#EMFASHIONICON : THE FALL/WINTER ISSUE 2023” เพื่อแนะนำเทรนด์แฟชั่นล่าสุดของฤดูกาล คัดเลือกไอเท็มสุดฮอตจากแบรนด์ชั้นนำภายในศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม ดิ เอ็มควอเทียร์ อาทิ LOUIS VUITTON, DIOR, DOLCE & GABBANA, FENDI, SAINT LAURENT, VALENTINO, LOEWE, OFF-WHITE, PALM ANGELS, CK, PRADA และEMILIO PUCCI เป็นต้น มามิกซ์แอนด์แมตช์เป็น 7 เทรนด์ลุค กับหลากหลายสไตล์เป็นไอเดียในการแต่งตัวให้กับทุกคนในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูหนาวนี้ พร้อมจัดโปรโมชันสุดพิเศษเอาใจเหล่าแฟชั่นนิสต้า และกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีพให้กับลูกค้า #EMFASHIONICON CLUB โดยเฉพาะ เพื่อตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางแฟชั่นไลฟ์สไตล์ชั้นนำของย่านสุขุมวิทใจกลางกรุงเทพมหานคร”

ด้าน อภิวัฒน์ ยศประพันธ์ แฟชั่นกูรูและสไตลิสต์ชื่อดังแถวหน้าของเมืองไทย อัปเดต เทรนด์แฟชั่น Fall/Winter 2023 ว่า“โทนสีเด่นของซีซั่นนี้ได้แก่ สีเชอร์เบทพาสเทล เพราะง่ายต่อการมิกซ์แอนด์แมตช์ ในช่วง Fall/Winter นี้ โดยอาจเลือกเป็นไอเท็มชิ้นบนหรือชิ้นล่างแล้วนำมาแมตช์กับเครื่องแต่งกายชิ้นอื่นที่เป็นสีเทาอ่อน น้ำตาล หรือเบจ ก็ได้ ส่วน Items Must have ในปีนี้ที่สาวไทยควรมีติดตู้ได้แก่กระเป๋าครัชเสื้อโค้ชและแจ็คเก็ตเสริมไหล่ ส่วนหนุ่มๆแนะนำเป็น ‘ชุดไนลอนโค้ช’ เพราะไนลอนมีความเบา สวมใส่สบาย ไม่หนาวไม่ร้อนจนเกินไป”

โดย อภิวัฒน์ยศประพันธ์ได้นำเสนอเทรนด์ผ่าน 7 ลุคเป็นไอเดียในการมิกซ์แอนด์แมตช์ให้ทุกคนแต่งตามในช่วง Fall/Winter 2023 ได้แก่

เริ่มที่ลุคแรก LUX MUPPET จากแบรนด์ MAX MARA สำหรับลุคนี้จะเน้นเครื่องแต่งกายโทน
พาสเทล สบายตา โดยไฮไลต์ของลุค คือ แพทเทิร์นเสื้อคอผูกทั้งของผู้ชายและของผู้หญิง รวมถึงเสื้อโค้ทขนเฟอร์ที่มีลักษณะขนสั้นเหมือนตุ๊กตา หรือ “MUPPET FUR” ซึ่งทำจากขนสัตว์ที่ร่วงแล้วมาปั่นเป็นเส้นใย ไม่ใช้ขนสัตว์จากการถลกหนังเพื่อรักษาชีวิตสัตว์ไว้

2. SHERBET PASTEL จากแบรนด์ PS PAUL SMITH สีพาสเทลยังคงเป็นสียอดนิยมตั้งแต่ช่วง SPRING/SUMMER จนถึง FALL/WINTER แต่สำหรับซีซั่นนี้จะพิเศษด้วยการจับคู่สีเพื่อให้ “เชอร์เบท พาสเทล” ดูหวานขึ้น

3. WORRY-FREE TRAVELING SET จากแบรนด์ EMPORIO ARMANI ฤดูแห่งการท่องเที่ยวกับเทรนด์ผ้าไนลอนที่ทรีทเม้นท์ทำให้เกิดรอยยับย่น ตอบโจทย์คนที่ชอบเดินทางเพราะไม่อยากกังวลเรื่องการยับของชุด แต่ยังคงความเท่แบบมีสไตล์ 

4. BLUE AND BEYOND จากแบรนด์ FERRAGAMO เติมสีสันให้กับซีซั่นด้วยเสื้อผ้าโทนสีฟ้าสว่าง โดยลุคนี้มาในชุดผ้าไนลอนโทนสีฟ้าที่เนื้อผ้ามีลักษณะยับย่น เมื่อสวมใส่ให้ลุคดูสบายแต่แฝงด้วยความเท่อย่างมีสไตล์

5. BIG AND BOLD จากแบรนด์ STELLA MCCARTNEY ลุคนี้เป็นการนำ 3 เทรนด์ฮอตของ Fall/Winter มามิกซ์ไว้ด้วยกัน ได้แก่ Bold Shoulder เสื้อแจ็กเก็ตใหล่ใหญ่แต่ไม่ใช่ทรง Over Size และ Neo Clutch กระเป๋าคลัทช์ทรงใหญ่ ลักษณะหนังนุ่ม พร้อมด้วย New Jeans กระโปรงยีนส์ที่ผสมสไตล์ของกางเกงเข้าไว้ด้วยกัน ช่วยทำให้การใส่ยีนส์ดูมีเลเยอร์

6. LITTLE BLACK DRESS WITH A TWIST จากแบรนด์ TORY BURCH ชุด Cocktail Dress สีดำที่ผู้หญิงทุกคนต้องมี โดยชุดนี้เราจะตีความ Little Black Dress หรือชุดเดรสสีดำตัวสั้นใหม่ ด้วยการทวิสต์สร้างแพทเทิร์นกราฟฟิกใหม่เป็นลูกเล่นให้เดรส

7. FIFTY SHADES OF BROWN จากแบรนด์ LONGCHAMP สำหรับลุคนี้ให้นึกถึงสีของช็อกโกแลต ด้วยการไล่เฉดของสีน้ำตาล เริ่มตั้งแต่สีเบจไปจนถึงดาร์กช็อคโกแลต ดังนั้น เมื่อเลือกมิกซ์แอนด์แมตช์ไม่ว่าจะเป็น เสื้อ กางเกง แจ็คเก็ต และกระเป๋า จะมีการผสมผสานด้วยการไล่เฉดสีจากน้ำตาลอ่อนจนไปถึงน้ำตาลแก่ 

บรรยากาศภายในงานจัดออกมาในธีม Fall/Winter โดยมีเหล่าเซเลบริตี้เข้าร่วมงานมากมาย อาทิ จิตติมา วรรธนะสิน,
เจษฎา สุวรรณาภัย, ปภาณ ไกวัลศิลป์, วอริต้า มาโรเช็ค,  มัณทิยา สุธัมมัญญู ฯลฯ พร้อมด้วยเหล่าแฟชั่นนิสต้าแถว
หน้าของเมืองไทย อย่าง เฟย์-พรปวีณ์ นีระสิงห์, แก้ว-จริญญา ศิริมงคลสกุล, เจ้าสมุทร–จักร วรรธนสิน, จูเน่ – เพลินพิชญา โกมลารชุน, นนน-กรภัทร์ เกิดพันธุ์,ฟอส-จิรัชพงศ์ ศรีแสง, พราว-อรณิชา กรินชัย และศิลปินวง ATLAS เป็นต้น

นอกจากร่วมอัปเดตเทรนด์แฟชั่นประจำซีซั่นนี้แล้ว ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม และ ดิ เอ็มควอเทียร์ ยังมอบโปรโมชัน
สุดพิเศษให้เหล่าแฟชั่นนิสต้าโดยเฉพาะ กับแคมเปญ EMPORIUM EMQUARTIER THE FALL/WINTER ISSUE
2023 ระหว่างวันที่ 1 กันยายน 2566 – 30 กันยายน 2566 รับบัตรกำนัลศูนย์การค้าสูงสุด 10,000 บาท (เมื่อช้อปครบ
ตามเงื่อนไข) และรับบัตรกำนัลสูงสุด 8,000 บาท เมื่อจ่ายผ่านบัตรเครดิต กรุงศรี หรือรับบัตรกำนัลเพิ่มสูงสุด 9,000
บาท เมื่อจ่ายผ่านบัตรเครดิต SCB M พิเศษ รับเงินคืนสูงสุด 22% เมื่อจ่ายผ่านบัตรเครดิตชั้นนำที่ร่วมรายการ 

พร้อมร่วมเป็น #EMFASHIONICON CLUB เพื่อรับสิทธิพิเศษจาก ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม
ดิ เอ็มควอเทียร์ และ พาร์ทเนอร์มากมาย ผ่านแอปพลิเคชัน M Card อาทิ รับฟรี! บัตรกำนัลศูนย์การค้า
ดิ เอ็มโพเรียม ดิ เอ็มควอเทียร์ มูลค่า 500 บาท (จำกัด 100 สิทธิ์ / เดือน) ส่วนลด 5% สำหรับอาหารและเครื่องดื่มที่
ร้าน ESCAPE BANGKOK ชั้น 5 อาคาร B ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ และรับส่วนลด 5% สำหรับอาหารและเครื่องดื่มที่
ร้าน FLAMENCO ชั้น 9 อาคาร A ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ได้ตั้งแต่วันที่ 10กันยายน 2566 – 31 ธันวาคม 2566

อัปเดตเทรนด์แฟชั่น Fall / Winter 2023 และช้อปไอเท็มเด็ดจากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่มาพร้อมโปรโมชันสุดพิเศษสำหรับทุกคนได้ที่ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียมและดิเอ็มควอเทียร์

น้อยแต่มาก! ส่อง 2 ลุคออกงานของ ‘คริสตัล จอง’ ฉบับ Quiet Luxury

Alternative Textaccount_circle

คริสตัล จอง‘ ถือเป็นอีกหนึ่งคนที่ถ่ายทอดสไตล์ Quiet Luxury ออกมาได้เป็นอย่างดี สมมงกับที่เป็นหน้าตาของ Ralph Lauren

ที่ไหนมี Ralph Lauren ที่นั่นก็ต้องมี คริสตัล จอง เหมือนเป็นสิ่งคู่กัน ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งคู่เข้ากันมากจริงๆ ด้วยสไตล์การแต่งตัวของเธอที่มีความน้อยแต่มากมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แค่กางเกงที่แมตช์เข้าคู่กับเสื้อเชิ้ตก็อิมแพคมากไปโดยปริยาย หากได้ส่องอินสตอแกรมของเธออยู่บ้างก็จะเห็นว่าไอเท็มแฟชั่นที่เธอเลือกมาสวมใส่มักเป็นแนวเรียบๆ ไม่มีดีเทลที่เอะอะมะเทิ่งจนเกินไป เช่นเดียวกับ DNA ของ Ralph Lauren ที่เล่าความเรียบ โก้ ผ่านเสื้อผ้าออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ล่าสุด คริสตัล จอง ปรากฏตัวในนิวยอร์กแฟชั่นวีคของ Ralph Lauren ที่ได้ฤกษ์กลับมาจัดอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยในโชว์ครั้งนี้เธอได้สวมใส่เดรสยาวสายเดี่ยวสี Olive Green ประกายทอง และถือกระเป๋าคลัตช์เพียงหนึ่งใบเท่านั้น ถือเป็นลุคที่เรียบสุดๆ แต่กลับดูหรูหราอย่างไร้ที่ติ

ส่วนอีกหนึ่งลุคมากกับความเท่ๆ คูลๆ ด้วยเดรสสูทสีดำที่ถูกจับคู่มากับรองเท้าบู๊ตหนังสีดำคู่ยาว และคอมพลีตลุคด้วย Shoulder Bag สีดำกลายเป็นลุคโมโนโทนสุดเท่ ‘น้อย(สี)แต่มาก’ จริงๆ ค่ะ


Photo: Instagram @vousmevoyez

Horoyoi Takeovers ชวนส่อง 5 ร้านสุดชิค! สัมผัสรสชาติหอมแบบญี่ปุ่น

เมื่อพูดถึงอากาศร้อนกับประเทศไทย ยังไงก็เป็นของคู่กันมาแสนนาน ซึ่งหลายคนก็มีวิธีคลายร้อนแตกต่างกันไปหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำ เปิดแอร์ ทานไอศกรีม และอีกมากมาย แต่วันนี้เราขอพักวิธีเหล่านั้นเอาไว้ก่อน เพราะช่วงนี้มีทั้งร้อนมีทั้งฝน เรามาหาสถานที่นั่งจิบเครื่องดื่มเพิ่มความสดชื่นแก้เบื่อกันดีกว่า  

และเพื่อเป็นการเพิ่มสีสันในช่วงหน้าร้อนควบหน้าฝนของไทยให้สดใสขึ้น Horoyoi แบรนด์จากญี่ปุ่นอย่าง Beam Suntory ขอร่วมสร้างประสบการณ์ให้ชาวไทยได้สัมผัสรสชาติความหอมหวาน สดชื่นสไตล์ญี่ปุ่นกับกิจกรรม Horoyoi Takeovers ที่รวบรวม 5 ร้านสุดชิค จัดกิจกรรมที่มีทั้งอาหารการกิน จุดถ่ายภาพ และ live concert โดยศิลปินจากค่ายเพลงสุดชิค มาเอาใจสายหวาน สายชิล สายเฉี่ยว หรือแม้กระทั่งสายแฮงเอาต์ พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มคลายร้อน 4 รสชาติให้เพลิดเพลินกับความหอมหวานซ่าบซ่าที่ทุกคนสามารถดื่มได้ตลอดเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้! … ซึ่งทั้ง 5 จุดสุดชิคจะเป็นที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย!

  • BLUE PARROT BANGKOK 

ร้านอาหารสไตล์ทรอปิคอลและบาร์ค็อกเทลตั้งอยู่ในย่านเย็นอากาศ มาในคอนเซ็ปต์อันน่ารื่นรมย์ชวนให้นึกถึงบีชคลับที่สนุกสนาน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับอาหารมื้อสายหรือมื้อกลางวันในวันหยุดสุดสัปดาห์แบบสบายๆ ภายในมีสระว่ายน้ำขนาดกะทัดรัดและพื้นที่รับประทานอาหารให้แขกได้ผ่อนคลายและเพลิดเพลิน ด้วยเก้าอี้เอนหลังที่รายล้อมไปด้วยพันธุ์ไม้เขตร้อนอันเขียวชอุ่ม

Horoyoi Takeovers: ศุกร์ที่ 11 สิงหาคม 2566

ศิลปิน: Daniel Ryn & H I N A N O

  • FEELING BAR 

บาร์นีออนย่านอารีย์ ที่หยิบมิติของอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์มาเป็นธีมของร้าน ให้ทุกคนได้ปล่อยใจปล่อยจอยไปกับทุกความรู้สึก ตอบโจทย์ให้คุณได้อินและปลดปล่อยไปกับทุกอารมณ์ได้ตลอดคืน

Horoyoi Takeovers: พฤหัสที่ 17 สิงหาคม 2566 

ศิลปิน: Loserpop & Minekuk

  • BABY BAR BANGKOK  

ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 11 ซึ่งห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS อารีย์ 1 กม. เป็นบาร์สีชมพูที่มองดูเผินๆ อาจจะดูสวยหวาน แต่อีกมุมหนึ่งก็กลับเปรี้ยว ชิค และขี้เล่น พร้อมต้อนรับทุกคนด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่หลากหลายทั้ง indoor และ outdoor  รวมถึงริมสระว่ายน้ำ 

Horoyoi Takeovers: พฤหัสที่ 24 สิงหาคม 2566 

ศิลปิน: Newery & เอิ๊ตภัทรวี

  • KLAM ISANKAYA X MUSIC BAR 

ร้านอาหารอีสาน สไตล์อิซากายะที่ตั้งอยู่ในย่านพระราม 2 มีบรรยากาศครึกครื้นพร้อมดนตรีสดที่สนุกสนาน สร้างบรรยากาศที่ชวนให้นึกถึงแหล่งสังสรรค์แถวทองหล่อ ร้านอาหารแห่งนี้เน้นที่อาหารอีสานฟิวชั่นและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นที่คัดสรรมาอย่างดี ขึ้นชื่อเรื่องอาหารปิ้งย่างที่แนะนำกันเป็นพิเศษ

Horoyoi Takeovers: ศุกร์ที่ 1 กันยายน 2566 

ศิลปิน: Yourmood & มาร์คธัชพล

  • BLACKBEACH.BKK 

บาร์ลับสายทะเล กับบรรยากาศเท่ๆ ใจกลางเมือง ย่านตลาดพลู มีที่จอดรถกว้างขวาง เดินทางสะดวก มาพร้อมกับบรรยากาศลมเย็น เอาใจสายชายหาดให้ฟินสุดๆ ได้ไม่ยาก 

Horoyoi Takeovers: ศุกร์ที่ 8 กันยายน 2566

ศิลปิน: ว่านวันวาน & มาร์คธัชพล

ทั้งหมดคือ 5 จุดสุดชิคที่ Horoyoi Takeovers ได้ร่วมสร้างค์บรรยากาศแห่งความผ่อนคลายรอต้อนรับทุกคนมาชิลๆ ฉ่ำๆ ร่วมกันตลอดเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้กันเลย!

me ISSEY MIYAKE เปิดตัว REmeTEX

“REmeTEX” เป็นซีรีส์ที่เกิดขึ้นจากการนำเศษชิ้นส่วนผ้าที่เหลือจากกระบวนการผลิตเสื้อผ้าของ me ISSEY MIYAKE ไปรีไซเคิล และแปลงโฉมให้กลายเป็นเสื้อผ้าชุดใหม่ ผ่านเทคนิคที่เรียกว่า “Hanmou” ซึ่งเป็นเทคนิคที่นำเศษผ้ามาแปรรูปเป็นเส้นใย จากนั้นนำมาปั่นและทอจนกลายเป็นผืนผ้าที่สมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง

ซีรีส์นี้จะเป็นการใช้เศษผ้าที่เหลือใช้จากซีรีส์ STRETCH PLEATS ของ me ISSEY MIYAKE นำมาผ่านกระบวนกวนการเฉพาะจนได้เนื้อผ้าเดนิมที่เราคุ้นเคย และสร้างสรรค์เป็นคอลเลคชั่นที่เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยจะยังสามารถสังเกตเห็นลายพรินต์และสีสันของเนื้อผ้าเดิมได้ในผลงานสิ่งทอชิ้นใหม่ ทำให้ผู้สวมใส่สนุกไปกับความแตกต่างที่ถูกสื่ออกมาให้เห็นในผลงานแต่ละชิ้น

การมอบชีวิตใหม่ให้กับเศษผ้าเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า me ISSEY MIYAKE ไม่หยุดที่จะค้นหาและทดลองกระบวนการผลิตใหม่ ๆ อยู่เสมอ

REmeTEX DENIM

คอลเลคชั่นนี้เกิดขึ้นจากการนำเศษผ้า STRETCH PLEATS มาแปลงโฉมใหม่ มีจุดเด่นอยู่ที่เนื้อผ้าที่เบาและนุ่มกว่าเดนิมทั่วไป แต่ในขณะเดียวกันก็ยังให้สัมผัสของเดนิมอยู่อย่างครบถ้วน เสน่ห์ของคอลเลคชั่นนี้อยู่ที่การใช้งานง่าย เพราะสามารถพกหรือจัดเก็บด้วยการพับให้มีขนาดกะทัดรัดไปตามรอยพับที่ปรากฏอยู่ในเนื้อผ้า และยังช่วยเสริมลุคให้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น 

แจ็คเก็ตมาพร้อมโครงร่างหลวมที่สามารถใส่ได้ทั้งสองด้าน และเมื่อกลับด้านใน จะทำให้สามารถมองเห็นสีสันที่หลงเหลืออยู่จากเศษผ้าหลากสีเดิมได้ชัดยิ่งขึ้น กางเกงซีรีส์นี้ยังสามารถปรับขนาดได้ตามความต้องการของผู้สวมใส่ด้วยเข็มขัดในตัวบริเวณเอวกางเกง

ไลน์อัป (จำนวนสไตล์) : แจ็คเก็ต (2) กางเกงขาสั้น (1) กางเกงขากว้าง (1)

สี : ไวต์เบสด์ (ขาว) เนวี่เบสด์ (น้ำเงินกรมท่า)

REmeTEX DENIM HAT

หมวกมีให้เลือกในสองสไตล์

ไลน์อัป (จำนวนสไตล์) : หมวก (1) หมวกแก๊ป (1) 

สี : ไวต์เบสด์ (ขาว) เนวี่เบสด์ (น้ำเงินกรมท่า)

REmeTEX Animation Movie

การแปลงเศษผ้าที่เหลือจากกระบวนการผลิตเสื้อผ้าของ me ISSEY MIAKE ให้กลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ถูกนำมาถ่ายทอดผ่านงานเอนิเมชั่นสนุก ๆ เรื่องนี้ เนื้อผ้าสีสันสดใสซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ถูกนำมาฉีก ผสมเข้าด้วยกัน และผ่านกระบวนการกลับไปสู่รูปแบบของเส้นด้าย ที่ถูกนำมาถักทอจนได้เนื้อผ้าใหม่และเกิดเป็นเสื้อผ้าชิ้นใหม่ในที่สุด

Praew Charity 2023

PRAEW CHARITY 2023 “Touch of Hope” อบอุ่น อิ่มบุญ ใจฟู

Alternative Textaccount_circle
Praew Charity 2023
Praew Charity 2023

จบลงแบบแฮ็ปปี้ อบอุ่น อิ่มบุญ และใจฟูสุดๆ สำหรับ PRAEW CHARITY 2023 งานการกุศลที่ นิตยสารแพรว ภายใต้ AMARIN MEDIA & EVENT ในเครืออมรินทร์กรุ๊ป ตั้งใจจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสการครบรอบ พร้อมกับสร้างสิ่งดีๆ ให้กับสังคม ซึ่ง โครงการแพรวแชริตี้ เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 ได้ส่งมอบความช่วยเหลือไปยังองค์กรสาธารณกุศลต่างๆ แล้ว 58 แห่ง รวมยอดเงินบริจาคกว่า 49 ล้านบาท

PRAEW CHARITY 2023

โดยปีนี้ นิตยสารแพรว เฉลิมฉลองโอกาสการครบรอบ 44 ปี ด้วยการจัดงานนี้ขึ้นภายใต้ชื่อ PRAEW CHARITY 2023 “Touch of Hope” ตั้งแต่วันที่ 8-10 กันยายน 2566 ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน เพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ที่มีปัญหาด้านการมองเห็นผ่าน มูลนิธิพิทักษ์ดวงตาประชาชน และ มูลนิธิโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์

PRAEW CHARITY 2023
PRAEW CHARITY 2023

ตลอด 3 วันของงาน PRAEW CHARITY 2023 “Touch of Hope” เต็มไปด้วยความอิ่มอกอิ่มใจและความคึกคัก ทั้งความสนุกจากเหล่าศิลปินมากมาย และมหกรรมช้อปปิ้งการกุศลไอเท็มแบรนด์เนมมือสองจากเหล่าเซเลบคนดังน้ำใจงาม    

PRAEW CHARITY 2023
PRAEW CHARITY 2023

สำหรับความสนุกสนานบนเวที วันแรกจัดเต็มมาทั้ง ALEX & APO & NEX จาก 789TRAINEE, PLAN B, FIRZTER, ทะเล สงวนดีกุล, ต้า – อธิวัตน์ & บอม – ธนวัฒน์, ปุยเมฆ – นภสร & เค้ก – นวพร, Patrickananda, แม้ก – กรธัสส์ & ณฐ – ณฐสิชณ์ และศิลปินค่ายดูมันดิ

PRAEW CHARITY 2023
PRAEW CHARITY 2023

วันที่สองเปิดเวทีด้วย Kunchanuj ตามมาด้วย Babepoom, Yes Indeed, MONICA, ALALA, Praesun & Paiiinntt, TEWTER, MOBYe, MXFRUIT, THI-O & TUTOR, นิวเยียร์ – นวพรรษ & เจ๋อ – วศิน, TYTAN, Proo Thunwa, DIDIxDADA, โอห์ม – ฐิติวัฒน์ และปิดเวทีด้วย YourMOOD

PRAEW CHARITY 2023
PRAEW CHARITY 2023

ปิดท้ายเวทีแห่งความสนุกในวันที่สามแบบสุดปัง เริ่มต้นด้วย Zolar ต่อด้วย HAVE A NICE DAY, ซันนี่ – วรรณรัตน์ & ปลั๊ก – ณภัทร, Fellow Fellow x guncharlie, THE7, TIGGER, VIIS, PERSES, LYKN, ฟอส – จิรัชพงศ์ & บุ๊ค – กษิดิ์เดช, บุ๋น, เปรม, แซนต้า, เอิร์ธ, บาส, ต่อ, มิก และส่งท้ายความมันส์ด้วย Paper Planes

PRAEW CHARITY 2023
PRAEW CHARITY 2023

สำหรับอีกหนึ่งในไฮไลท์ของงาน PRAEW CHARITY 2023 “Touch of Hope” คือมหกรรมช้อปปิ้งการกุศลสินค้าแบรนด์เนมมือสองจากเหล่าเซเลบและคนดังน้ำใจงาม อาทิ คุณศุภลักษณ์ อัมพุช, คุณกฤษณา อัมพุช, คุณขนิษฐา จิตต์กุศล, ม.ล.พลอยนภัส ลีนุตพงษ์, คุณสักก์พิพัฒน์ ประภาสิทธิ, คุณธัญญรัตน์ พชรภัทร์ธนัญ, คุณปณิธิพัทธ์ สุขสมบูรณ์, คุณณัฐพล จุฬางกูร, คุณวิชิตพงศ์ นิธิเลิศวิวัฒน์, คุณแอนเจลิส บาเลก, คุณกัญญปรีย์ จินตวรรณ, คุณดิษยา สรไกรกิติกูล, คุณชัย พรปริญญา, คุณพลอย – ชิดจันทร์, คุณตั๊ก – บงกช ฯลฯ โดยแพรวทำหน้าที่เป็นสื่อกลางส่งมอบความช่วยเหลือนำเงินบริจาคการกุศลมอบให้กับมูลนิธิ หรือองค์กรสาธารณกุศล เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนต่างๆ ในสังคม

PRAEW CHARITY 2023
PRAEW CHARITY 2023
PRAEW CHARITY 2023

แพรว ขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการส่งต่อพลังแสงสว่างและกำลังใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ได้แก่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), คิง เพาเวอร์, บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในนาม ทรู ดีแทค, สมบูรณ์โภชนา สำหรับอาหารอร่อยๆ, น้ำดื่มช้าง และยาดม เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์

PRAEW CHARITY 2023
PRAEW CHARITY 2023

นอกจากกิจกรรมข้างต้นแล้ว นิตยสารแพรวยังได้จัดกิจกรรมการกุศลออนไลน์ ประมูลกระเป๋าผ้าเพ้นท์ลวดลวยพิเศษ โดยศิลปินดัง โดยจะเริ่มการประมูลในวันที่ 8-30 กันยายน 2566 ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดและกติกาเพิ่มเติมได้ที่ https://praew.com/praewcharity2023stars/


ต่อ-ธนภพ ขึ้นแท่น “Friend of the Maison” ชายคนแรกของไทยให้กับ คาร์เทียร์

account_circle

คาร์เทียร์ (Cartier) แต่งตั้ง ต่อ – ธนภพ ลีรัตนขจร ในฐานะ Friend of the Maison ชายคนแรกของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ร่วมกับคิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส

ต่อ-ธนภพ ขึ้นแท่น “Friend of the Maison” ชายคนแรกของไทยให้กับ คาร์เทียร์

หลายปีที่ผ่านมา ต่อ – ธนภพ ได้มีโอกาสร่วมงานกับคาร์เทียร์หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายแฟชั่นขึ้นปกนิตยสาร เป็นตัวแทนถ่ายทอดความงดงามของเครื่องประดับและนาฬิกา ร่วมงานอีเวนท์สำคัญต่างๆ ของคาร์เทียร์เคียงข้างดาราและเซเลบริตี้ชื่อดังระดับโลก

โดยต่อ – ธนภพ กล่าวถึงความรู้สึกในการได้รับเลือกให้เป็น Friend of the Maison ครั้งนี้ว่า “คาร์เทียร์เป็นแบรนด์เครื่องประดับและนาฬิการะดับโลกที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานกว่า 175 ปี และเป็นแบรนด์ที่ต่อชื่นชอบเป็นการส่วนตัวมาโดยตลอด ด้วยดีไซน์การออกแบบที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร แต่คงความคลาสสิกเหนือกาลเวลา เหมาะสำหรับสวมใส่ในทุกโอกาสและทุกสไตล์ นอกจากนี้คาร์เทียร์ยังมีความเชี่ยวชาญในการรังสรรค์เครื่องประดับและนาฬิกา มองเห็นความงดงามด้านการออกแบบซึ่งบางครั้งเป็นรายละเอียดเล็กๆ ที่เราคาดไม่ถึง ชิ้นงานเครื่องประดับและนาฬิกาของคาร์เทียร์จึงมีดีไซน์ที่โดดเด่น ประณีตและสง่างามในทุกโอกาส

ต่อรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้รับเลือกเป็น Friend of the Maison ชายคนแรกของประเทศไทย ร่วมกับคุณคิมเบอร์ลี่ นักแสดงหญิงมากความสามารถ และเป็น Friend of the Maison ตัวแทนจากประเทศไทยเช่นกัน การร่วมงานกับคาร์เทียร์ถือเป็นประสบการณ์ที่มีค่าเพราะเป็นโอกาสที่หาจากที่ไหนไม่ได้อีก สุดท้ายนี้ต่อขอฝากให้ทุกท่านติดตามผลงานความร่วมมือพิเศษของต่อกับคาร์เทียร์จากนี้ต่อไปด้วยนะครับ


‘เล็ดรอดจากสายตาของผู้ใหญ่ไปมีแฟน แต่เขาดันเป็นแฟนคนอื่นด้วยสิ ใครกันหนอ?? ต้องเช็กแล้ว!!’ ดวงรายวัน 11 กันยายน 2566

‘เล็ดรอดจากสายตาของผู้ใหญ่ไปมีแฟน แต่เขาดันเป็นแฟนคนอื่นด้วยสิ ใครกันหนอ??’

ดวงรายวัน 11 กันยายน 2566

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :   เริ่มต้นวันแรกของสัปดาห์ คุณก็นั่งบัญชาการงานอยู่บนหลังเสือเลย เป็นไปได้ว่าจะได้บุกเบิกเริ่มต้นงานใหม่ๆ ด้วยความดุดัน ไม่เกรงกลัวใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานหรือธุรกิจที่เกี่ยวกับการติดต่อประสานงาน การโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน จนถึงความเชี่ยวชาญทางด้านภาษา ทางที่ดีไม่ควรใจร้อน ตัดสินใจรวดเร็วแบบชาดสติ เพราะมีโอกาสที่บริวารจะไม่ซื่อสัตย์ จะทำให้งานเสียหายอย่างไม่คาดคิดมาก่อน

การเงิน  :  โชคดีจากการลงทุนและการหมุนเงิน โดยมาจากวาสนาและบารมี แต่วันนี้ก็มีโอกาสเสียเงินให้กับคนรัก ลูกหลาน และบุคคลในครอบครัว  

ความรัก  :   คุณมีพลังทางเพศสูง เป็นไปได้ว่าจะมีคนหลงเสน่ห์คุณเยอะ เป็นที่ต้องการของทุกๆ คน ซึ่งวันนี้เป็นไปได้ว่าคู่ครองก็ยอมรับนะจุดนี้ คนโสด คุณมีพลังทางเพศสูง รักชอบก็แสดงออกอย่างรุนแรง ไม่แคร์แม้จะไม่ถูกต้องก็ตาม ซึ่งวันนี้คุณโชคดีมีโอกาสได้พบรักกับหนุ่มที่มีจิตใจดี   

สุขภาพ  :  จริงๆ แล้วคุณดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองเป็นอย่างดี แต่ก็อย่าประมาท เพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางสมอง

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจในสายสาธารณะกุศล สาธารณะประโยชน์ มูลนิธิ จิตอาสา และนักสังคมสงเคราะห์ วันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะได้เดินทางไปประชุม สัมมนา อบรม จนถึงขยายสาขา ขยายธุรกิจ ยังต่างเขต ต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ ก็ต้องระวังเพื่อนร่วมงานให้ดี เพราะมีโอกาสที่เขาจะแทงข้างหลัง หรือเสื่อยขาเก้าอี้ เพื่อเสียบงานแทน หรือลดเครดิตคุณ  

การเงิน  :   หากจะเดินทางไปติดต่องาน หรือคุยงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวกับงานช่วย งานบุญ วันนี้มีโอกาสคุยงานกันไม่ลงตัว หรือหากไปทวงหนี้ก็ไม่ควรคาดหวัง จนถึงทรัพย์สินถูกขโมยด้วยน้า…

 ความรัก  :   หากชีวิตคู่ของคุณราบเรียบมาโดยตลอด แต่หากมีความจำเป็นต้องย้ายงานไปทำงานต่างถิ่นฐาน มีโอกาสที่ความรักจะกลายเป็นอื่นนะคะ ทั้งเขามาเป็นชู้กับคนของเรา หรือไม่เราก็ไปเป็นชู้กับคนของเขา คนโสด สำหรับใครที่ต้องการการสัมผัสที่อบอุ่นอ่อนโยน แต่ยิ่งโหยหาจะยิ่งไม่ได้ เพราะวันนี้มีโอกาสที่คุณจะเดินทางไกลจากคนรัก แล้วพออยู่ห่าง ความรักก็เป็นอื่น

สุขภาพ  :   สำหรับผู้ที่เอ็นจอยการรับประทานอาหารอยู่ วันนี้ต้องระวังระบบกระเพาะอาหาร กระเพาะ และลำไส้จะทำงานผิดปกติ มีโอกาสที่จะถูกของแหลม ของมีคม บาดแป็นแผล จนถึงถูกมีดหมอ

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน   : หากคุณกำลังตกงานหรือธุรกิจดำเนินต่อไปไม่ไหวแล้วเริ่มต้นวันแรกของสัปดาห์ เป็นไปได้ว่าคุณมีวิญญาณศิลปินสิงอยู่ในร่าง เพราะฉะนั้นลองมองหางานหรือธุรกิจที่เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ ความสวยงาม การออกแบบ ดีไซน์ สถาปัตย์ ศิลปิน ฯลฯ เพราะคุณจะสามารถทำได้ดี จนกลายเป็นเครียด เพราะถูกเจ้านายคาดหวังว่าจะได้ผลงานที่ดีที่สุดจากคุณ  

การเงิน  :   มีโอกาสที่คุณจะขาดรายได้ จากการตกงานหรือธุรกิจที่ต้องปิดตัวไป ซึ่งคุณก็พยายามหาเงินในช่องทางใหม่ๆ แต่วันนี้ก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินสินบน ใต้โต๊ะ หรือส่วย เพราะจะทำให้คุณล้มละลายขึ้นอีก

ความรัก :   หากชีวิตคู่ของคุณมีอันต้องจบด้วยการจาก ไม่ว่าจะจากเป็นหรือจากตาย วันนี้หากคุณจะเริ่มมองหาคู่ใหม่ก็มีโอกาสสมหวัง ซึ่งคราวนึ้คุณให้ความสำคัญกับคนที่จะร่วมชีวิตไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต แต่หากไม่ใช่คุณก็พร้อมจะเปลี่ยน ไม่อยากเสียเวลาอีกแล้ว คนโสด   หากคุณเพิ่งจะอกหัก วันนี้คุณยังไม่อยากที่จะจริงจังกับใคร ขอคบกันเป็นเพื่อน เป็นพี่ ไปก่อน

สุขภาพ   :   สำหรับนักดื่มนักกิน วันนี้ต้องระวังเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินด้วย เพราะหากคุณป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจะไม่ใช่ระดับธรรมดา

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน   :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจทางด้านอสังหาริมทรัพย์ บ้าน ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง อาคาร สำนักงาน วันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะบุกเบิกโครงการใหม่ๆ โดยมีโอกาสได้ร่วมงานกับทีมงานที่ดีมีคุณภาพระดับเทพเลยทีเดียว  เพราะฉะนั้นจะเป็นที่น่าเสียดายอย่างมาก หากยังยึดติดที่อีโก้ของตัวเองจนใครก็ขัดขวางความคิดของคุณไม่ได้ ดังนั้น หากจะให้ดีจึงควรอดทน รอคอยจังหวะและโอกาสที่จะมาถึงดีกว่าที่จะฝืนทำไป

การเงิน  :  หากคุณกำลังขาดแคลนเงิน ต้องหมุนเงินจนหัวปั่น  เป็นไปได้ว่าวันนี้คุณจะได้งานดีๆ จากทีมงานและผู้บังคับบัญชา ในเรื่องของการซื้อ-ขาย และให้เช่าบ้านและที่ดิน

ความรัก  :  เป็นไปได้ว่าผู้ใหญ่จะเดินทางมาสุมหัวคุยกันเรื่องบ้าน ที่ดิน ที่พักอาศัย เป็นไปได้ว่าคุณจะอึดอัดจนอยากแยกบ้านไปอยู่ต่างหากเลย  คนโสด เช่นกัน มีโอกาสที่ผู้ใหญ่จะจัดสรรให้คุณทุกๆ อย่าง นอกจากเรื่องบ้านแล้ว ยังรวมถึงแฟนด้วย จนคุณแทบไม่อยากจะอยู่บ้านเลย

 สุขภาพ  :   ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่สุกๆ ดิบๆ ไม่สะอาดถูกสุขอนามัย รสจัด เพราะวันนี้มีความเสี่ยงที่คุณจะอาหารเป็นพิษ ท้องเสีย จนถึงมีพยาธิ์ในลำไส้

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  คุณมีทักษะความรู้ ความสามารถ มีความรับผิดชอบที่ดี มีความเป็นผู้นำ ดังนั้น จึงมีโอกาสที่คุณจะเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ ด้วยการพบช่องทางทำมาหากินใหม่ๆ รวมถึงนักประพันธ์ นักแต่งเพลง นักประดิษฐ์ที่สร้างสรรค์งานมานานแล้ว วันนี้ก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ แต่เป็นไปได้ว่าคุณจะมาพร้อมอีโก้ ไม่เปิดใจรับฟังความเห็นต่างของคนอื่น ดังนั้น ทางที่ดีจึงควรอดทนรอคอยโอกาสและจังหวะที่จะมาถึงมากกว่าจะฝืนทำไปด้วยอารมณ์

การเงิน  :   หากคุณจะทำงานหรือดำเนินธุรกิจ วันนี้ควรทำด้วยตัวเองดีกว่าจะร่วมหุ้นกับใคร เพราะเป็นไปได้ว่าเงินจะค่อยๆ มา จนถึงขาดช่วงต้องหมุนเงินกันตัวเป็นเกลียวเลย

ความรัก  :  หากคุณมีความคิดเห็นต่างจากคู่ครองในเรื่องของการใช้ชีวิตคู่ วันนี้เป็นไปได้ที่อยู่ด้วยกันแล้วก็อึดอัด เพราะพูดนิดพูดหน่อยก็ทะเลาะกันแล้ว จึงควรต่างคนต่างอยู่กันก่อน  คนโสด   คุณมีความคิดเห็นในเรื่องความรักเป็นของตัวเองมากเกินกว่าที่จะคุยกับใครแล้วมีความสุข วันนี้หากเป็นไปได้ก็อยู่คนเดียวไปก่อนน้า…

สุขภาพ  :   ควรให้ความสำคัญในเรื่องความสะอาดของที่พักและสถานที่สาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องอาหาร ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่สดสะอาด ไม่ถูกอนามัย เพราะมีโอกาสที่คุณจะท้องเสีย อาหารเป็นพิษ จนถึงมีพยาธิ์

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :   เริ่มต้นวันแรกของสัปดาห์ด้วยความเหน็ดเหนื่อยกับการที่ต้องรับภาระงานหนักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจสายบุญ สายธรรม สาย CSR เพื่อสังคม วันนี้ไม่ควรไว้ใจใคร เพราะมีโอกาสถูกใส่ร้ายป้ายสี หรือถูกเลื่อยขาเก้าอี้ จนคุณสูญเสียความมั่นใจและความน่าเชื่อถือ   

การเงิน  :   รายได้มาจากความขยันทำงาน หนักเอาเบาสู้ รวมถึงมีผู้ใหญ่อุปถัมภ์ค้ำชู แต่วันนี้หากจะไปเจรจาธุรกิจกับใครก็มีโอกาสจะตกลงกันไม่ลงตัว หรือถูกขัดผลประโยชน์ จนถึงตามทวงหนี้สินไม่ได้ด้วยน้า…

ความรัก :   หากคุณทำงานงกๆ จนไม่ทันได้สังเกตว่า คู่ครองคุณไปทำอะไรกับใครที่ไหนอยู่ วันนี้มีโอกาสที่คุณจะช็อก เพราะมีมือที่สามเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตคู่ของคุณ ทางที่ดีควรไปปรึกษาผู้ใหญ่ที่นับถือนะคะ คนโสด  แม้คุณจะอยู่ในครอบครัวที่ดูแลและติดตามอย่างใกล้ชิด แต่วันนี้มีโอกาสที่จะเล็ดรอดจากสายตาของพวกท่านๆ ไปมีแฟน ซึ่งไม่ใช่แฟนคุณคนเดียว เป็นแฟนของคนอื่นด้วยสิ  

สุขภาพ  :  หากคุณมุมานะทำงานอย่างหนัก จนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ถูกฝนก็ไม่ได้สระผมทำตัวให้อบอุ่น วันนี้จึงเป็นไปได้ที่คุณจะแพ้อากาศ เป็นหวัด คัดจมูก ยิ่งหากเป็นภูมิแพ้ หรือไซนัสอยู่แล้วยิ่งกำเริบได้ง่ายๆ  

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้วาทศิลป์ในการติดต่อสื่อสาร โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน จนถึงงานส่งเสริมการขายทุกชนิด ซึ่งคุณจะเริ่มต้นวันแรกของสัปดาห์ด้วยการมีความคิดและจินตนาการที่กว้างไกล จึงเป็นไปได้ว่าคุณจะมีโอกาสได้ไปร่วมประชุม อบรม สัมมนา จนถึงขยายกิจการ และธุรกิจยังต่างเขต ต่างจังหวัด จนถึงต่างประเทศ ก็ไม่ต้องสับสนลังเลหรือไม่มั่นใจใดๆ โอกาสมาถึงแล้ว จะใกล้ไกลอย่างไรก็คว้าไว้ก่อนค่ะ

การเงิน  :  คุณสามารถหาช่องทางในการทำธุรกิจและทำงานใหม่ๆ ได้หลากหลาย รวมถึงโชคลาภ วันนี้มีโอกาสที่จะได้รับมรดกด้วย  

ความรัก  :  มีความไม่แน่ใจ สับสน ว้าวุ่น ไม่กล้าตัดสินใจ ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะเกี่ยวกับเรื่องการเดินทางโยกย้ายไปทำงานต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ ซึ่งวันนี้อารมณ์คุณจะยังไม่นิ่ง มีเปลี่ยนแปลงตลอด  คนโสด  เป็นไปได้ว่าคุณจะยังลังเลไม่แน่ใจว่า จะตามแฟนหรือคนรักไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ต่างถิ่น ต่างแดนดีไหม เพราะกลัวว่าจะไปไม่รอด

สุขภาพ   :  หากคุณกำลังจะเดินทาง วันนี้ควรรับประทานอาหารให้ตรงเวลา หรือรับประทานอาหารอ่อนๆ หรือหากมีโรคเกี่ยวกับกระเพาะ ลำไส้ ก็ควรรักษาก่อน เพราะวันนี้เป็นไปได้ว่าอาการจะกำเริบ หรือไม่ก็โรคที่สงบมานานจะแสดงอาการเป็นสัญญาณเตือน

เกอร์แลง เปิดตัวคู่ Abeille Royale Honey Treatment Creams สูตรใหม่ พร้อมโชว์พิเศษจาก “มาย ภาคภูมิ” Friend of Guerlain

Alternative Textaccount_circle

Guerlain (เกอร์แลง) หนึ่งในแบรนด์ระดับสูงของเครือ LVMH ชวนค้นพบความลับแห่ง “ผ้าพันแผลชุบน้ำผึ้ง” ในงาน The Relaunch of the new Abeille Royale Creams เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Abeille Royale Honey Treatment Creams สูตรกลางวันและกลางคืน แรงบันดาลใจในศาสตร์แห่งความงามที่นำส่วนผสมมากกว่า 94% จากธรรมชาติ เพื่อรับมือกับ 4 สัญญาณการสูญเสียคอลลาเจนด้วยคุณค่าแห่งน้ำผึ้ง Black Bee จากเกาะอุซซองต์ สวรรค์แห่งธรรมชาติของฝรั่งเศส ไฮไลท์ในงานกับ มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง Friend of Guerlain คนแรกของประเทศไทย ที่ได้เตรียมโชว์สุดพิเศษกับการแสดงกีตาร์เพลงโปรดให้รับฟังกันแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่งานนี้โดยเฉพาะ โดยมีแขกรับเชิญ อาทิ กวาง-ช้องมาศ บางชะวงษ์, แป้ง-อัชฌา เจริญรัศมีเกียรติ, พีช-ศิลป์ศุภา อภิรักษ์ทานนท์, โบว์-ชมพูนุท โรจน์ศิริรัตน์, ต่าย-ชุติมา ทีปะนาถ ร่วมงาน

ภายในงาน GUERLAIN ได้เนรมิต Hall of Fame ให้เป็น Pop Up Store สุดหรูสไตล์ฝรั่งเศสที่คอยต้อนรับทุกท่านด้วยกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟชวนร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการปรนนิบัติผิวด้วยศาสตร์การบำรุงผิวชั้นสูงต้นตำรับการนวดสปาจากฝรั่งเศส, บริการ Flash Make Up โดยช่างแต่งหน้ามืออาชีพด้วยผลิตภัณฑ์ Makeup สุดหรู จาก GUERLAIN, Water Color Live Portrait Painting โดยศิลปินระดับมืออาชีพ, กิจกรรมตกแต่งสวนดอกไม้ในโหลแก้ว และเติมความสดชื่นกับครั้งแรกของ GUERLAIN Honey Café ที่พร้อมเสริฟเมนูเครื่องดื่มน้ำผึ้งเพื่อสุขภาพ ตลอด 7 วัน ระหว่างวันที่ 6-12 กันยายน 2566 ณ Hall of Fame ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน

วรรษา ตั้งนิมิตโชค ผู้จัดการทั่วไปแบรนด์เกอร์แลง กล่าวว่า จากแรงบันดาลใจการรักษาและสมานบาดแผลด้วย “ผ้าพันแผลชุบน้ำผึ้ง” สู่แรงบันดาลใจในศาสตร์แห่งความงามของ Guerlain (เกอร์แลง) ที่ได้ทุ่มเทศึกษาวิจัยเพื่อไขความลับของธรรมชาติและทำความเข้าใจกระบวนการชราของผิวและการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ตั้งแต่ปี 2010 หรือเมื่อ 13 ปีที่แล้ว ผลลัพธ์จากการสำรวจวัตถุดิบอันล้ำค่าร่วมกับการทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ได้ถือกำเนิด Abeille Royale Honey Treatment Creams (อะเบยย์ รัวยาลล์ : ฮันนี่ ทรีตเมนต์ ครีม) คู่ผลิตภัณฑ์ถนอมผิวเพื่อฟื้นฟูความงามสูตรกลางวันและกลางคืน สูตรปี 2023 ได้แก่ Honey Treatment Day และ Honey Treatment Night ล่าสุดได้เพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงให้เหนือชั้นและล้ำลึกยิ่งกว่าเคย ที่มาพร้อมเนื้อสัมผัสอันหรูหรา มอบประสบการณ์ความละเมียดช่วยฟื้นบำรุงผิวที่อ่อนล้าให้กลับมาแลดูอิ่มฟูสดใส


หม่อง ทองดี

เด็กไร้สัญชาติ หม่อง ทองดี สู่ชีวิตบนแผ่นฟิมล์ “A Time To Fly”

Alternative Textaccount_circle
หม่อง ทองดี
หม่อง ทองดี

จากชีวิตจริงของเด็กชายขอบ หม่อง ทองดี ที่ชื่อของเขากลายเป็นที่รู้จักทั่วประเทศเพียงชั่วข้ามคืน เมื่อสื่อต่าง ๆ พร้อมใจกันนำเสนอข่าว เด็กชายวัย 11 ขวบผู้มีความสามารถในการโยนเครื่องบินกระดาษ แต่เขาเกือบไร้โอกาสได้ทำตามความฝันของตัวเองในการเดินทางไปแข่งขันที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะเขาไร้สัญชาติไทย เรื่องราวของเขากำลังจะถูกเล่าขานอีกครั้งผ่านภาพยนตร์ “A Time To Fly…บินล่าฝัน” โดย กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมด้วย อิเมจิแมกซ์ จัดจำหน่ายโดย ยูเจ็ดสอง สตูดิโอ ฝีมือการกำกับของ โส่ย-ศักดิ์ศิริ คชพัชรินทร์ ผู้กำกับแอนิเมชั่นที่เคยฝากฝีไม้ลายมือในภาพยนตร์เรื่อง “คุณทองแดง” ตอน “หมาวัด”  นำแสดงโดย โบกี้-ด.ช.ศุภัช ท้าวสกุล, เอ๋-มณีรัตน์ คำอ้วน และพระเอกหนุ่มลูกครึ่ง แมน-ธฤษณุ สรนันท์

ผู้กำกับ โส่ย-ศักดิ์ศิริ เปิดเผยว่า “จุดเริ่มต้นเรื่องนี้มาจากข่าวเด็ก 13 หมูป่าติดถ้ำ ซึ่งในกลุ่มนี้มีน้อง ๆ บางคนเป็นเด็กไร้สัญชาติ ผมจึงนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องที่เคยเป็นข่าวฮือฮาเมื่อ 10 ปีก่อน ที่มี ด.ช.หม่อง ทองดี เด็กไร้สัญชาติที่แข่งเครื่องบินกระดาษจนเป็นตัวแทนไปแข่งที่ประเทศญี่ปุ่น ผมจำได้ว่า อย่างแรกที่ผมรับรู้คือการปาเครื่องบินกระดาษเป็นกีฬาด้วยเหรอ แต่สิ่งที่น่าสนใจลึกลงไปกว่านั้นคือความช่วยเหลือจากสื่อต่าง ๆ , นักกฏหมาย และคุณครูของเขาที่พยายามผลักดันให้ฝันของหม่องเป็นจริง ผมแบ่งหนังเรื่องนี้เป็น 2 ประเด็น คือ Outside Story เป็นเรื่องของเด็กไปแข่งเครื่องบินกระดาษ ส่วน Inside Story เป็นเรื่องของเด็กคนหนึ่งที่ต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิ์ขั้นพื้นฐานครับ”

“ด้วยความที่เรื่องราวของหนังได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตจริงจะส่งผลกระทบต่อคนหรือหน่วยงานไหมบ้างไหม ผมมีการวางเส้นเรื่องที่ชัดเจนคือ เราไม่ได้วางให้ใครเป็นผู้ร้าย เราพูดถึงเรื่องอุปสรรคที่เข้ามาในชีวิต อย่างอุปสรรคของหม่อง คือเขาเป็นเด็กไร้สัญชาติ นอกจากนี้ผมก็เน้นไปที่ความร่วมมือร่วมใจของคนไทยในหลาย ๆ ส่วนที่พยายามช่วยเหลือให้ฝันของเด็กคนหนึ่งได้เป็นจริง เจตนาของผมคืออยากให้หนังเรื่องนี้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม จากกระดาษราคาไม่ถึง 25 สตางค์ แต่กลับเปลี่ยนชีวิตคน ๆ หนึ่งได้ เป็นแสงสว่างในปลายอุโมงค์ เหมือนเราทุกคนที่มีอุปสรรคต่าง ๆ เข้ามาในชีวิต แต่เราจะทำอย่างไรที่จะก้าวข้ามอุปสรรคเหล่านี้ แล้วทำความฝันให้สำเร็จได้ นี่คือสิ่งที่ผมอยากพูดถึงมากกว่าครับ” โส่ย-ศักดิ์ศิริ กล่าว

“A Time To Fly” เป็นเรื่องราวของ ด.ช.หม่อง ทองดี (โบกี้-ด.ช.ศุภัช) เด็กไร้สัญชาติ อายุ 11ปี ซึ่งบังเอิญจับพลัดจับผลูได้มีโอกาสไปคัดเลือกและชนะจนได้เป็นตัวแทนระดับประเทศไปแข่งขันชิงแชมป์เครื่องบินกระดาษพับ ณ ประเทศญี่ปุ่น แต่เมื่อการแข่งขันเริ่มใกล้เข้ามา รัฐบาลไทยปฏิเสธการออกเอกสารการเดินทางให้กับเด็กไร้สัญชาติ เนื่องจากมิชอบด้วยกฎหมาย ทำให้บรรดาคุณครู อาจารย์ นักกฎหมาย นักข่าว และประชาชนทั่วไปรวมตัวและพยายามเรียกร้องจากทางภาครัฐให้เขาได้มีโอกาสเดินตามความฝัน ในที่สุด หม่อง ทองดี ใช้เวลา 19 วินาทีในการแข่งเครื่องบินกระดาษพับและสามารถคว้าแชมป์ให้กับประเทศไทย แต่เขาใช้เวลาถึง 20 ปี ที่เขาจะบรรลุตามความฝัน “ความฝันที่จะได้เป็นคนไทยโดยสมบูรณ์” เรื่องราวคนตัวเล็ก ๆ ของหม่อง ทองดี ได้จุดประกายความฝันให้กับเด็กไร้สัญชาติคนอื่น ๆ ได้มีแรงบันดาลใจให้เดินตามความฝันของตัวเองต่อไป

ติดตามชมตัวอย่างภาพยนตร์ “A Time To Fly…บิน ล่า ฝัน” ได้แล้ววันนี้ ทาง https://www.youtube.com/watch?v=IxxSkpP4enE และห้ามพลาดภาพยนตร์น้ำดีได้ในวันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายนนี้ ทางโรงภาพยนตร์

keyboard_arrow_up