ครีมกันแดด

7 ครีมกันแดด ลองใช้แล้วดีจริง!! อากาศไม่ร้อนมากก็ต้องใช้ปกป้องผิว

Alternative Textaccount_circle
ครีมกันแดด
ครีมกันแดด

ช่วงนี้คงมีสาวๆ หลายคนชะล่าใจแสงแดดเมืองไทยบ้างแหละ เพราะตอนนี้อุณหภูมิเริ่มลดต่ำ อากาศเย็นสบายในบางวันเจอแดดแค่ไหนก็ไม่ร้อน เลยอาจคิดว่าออกไปนอกบ้านแป๊บเดียวไม่ต้องทาครีมกันแดดก็ได้…แบบนี้ก็ได้หรอ? ตอบเลยว่าไม่ได้ค่ะ ไม่ได้เด็ดขาด ถึงแม้บางคนผิวแทบไม่เคยถูกแสงแดดกล้ำกราย อยู่แต่บ้าน อยู่แต่ออฟฟิศนั่งสวยๆ ในห้องปรับอากาศก็ตามแต่ แต่แสงจากหลอดไฟ คอมพิวเตอร์ มือถือจึงคงเป็นยัยตัวร้ายอันตรายต่อผิวไม่น้อย และตราบใดก็ตามที่แสงแดดยังสาดส่องแม้จะเย็นสบายแค่ไหน แต่รังสียูวีทั้งหลายไม่เคยจางหายไปไหน คอยจ้องทำร้ายผิวตลอดเวลา โดยเฉพาะ UVA ต้นตอของผิวคล้ำเสีย

เจอแบบนี้จะดูดายผิวสวยๆ ขาวผ่องของตัวเองไปได้ยังไงกัน และที่สำคัญของช่วงอากาศเย็นๆ แบบนี้ (จะเอ่ยว่าฤดูหนาวก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะบางวันก็กลับมาร้อนจนตามไม่ทัน) นอกจากต้องพึ่งครีมกันแดดไม่ให้ห่างผิวแล้ว ยังควรหาครีมกันแดดที่ช่วยปกป้องแสงแดดพร้อมถนอมผิวไม่ให้แห้งกร้าน เพื่อผิวเนียนนุ่ม แต่งหน้าง่ายด้วย วันนี้ แพรวดอทคอม จึงมีครีมกันแดดที่ลองใช้แล้วว่าดีมาแนะนำ 7 แบรนด์ สาวๆ ถูกใจตัวไหน อย่าลืมสอยมาใช้นะคะ

laroche-posay-uvidea-xl-melt-in-tinted-cream-spf50

La Roche-Posay UVIDEA XL Melt-in Tinted Cream SPF 50

ผลิตภัณฑ์กันแดดปกป้องผิวจากรังสียูวีเอและรังสียูวีบี ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอยลึกจากแสงแดด แล้วยังช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ ยูวีเดีย เอ็กซ์แอล เมลท์-อิน ทินต์ ครีม เอสพีเอฟ 50 ผ่านการทดสอบแล้วกับผิวคนเอเชียที่ระคายเคืองง่าย ปกป้องผิวจากการเกิดฝ้าจากแสงแดด จุดด่างดำ และริ้วรอยที่เกิดจากรังสียูวี ช่วยให้ผิวแลดูเนียนเรียบสม่ำเสมอ เนื้อครีมสีเบจช่วยปกปิดจุดบกพร่องบนใบหน้า พร้อมปรับสภาพผิวหน้าให้เนียนใส
30 มิลลิลิตร / 1,050 บาท


mizumi-uv-water-serum-spf50-pa-mizumi-uv-water-defense-spf50-pa

MizuMi UV Water Serum SPF 50+ PA++++
MizuMi UV Water Defense SPF 50+ PA++++

ครีมกันแดดเจ้าแรกในไทยที่เป็นครีมกันแดดสูตรน้ำปราศจากสารกันแดดชนิดเคมี 100% มี 2 สูตร หลอดสีฟ้ากับหลอดสีส้ม ซึ่งทั้งสองสูตรมีคุณสมบัติเหมือนกัน คือ ใช้สารกันแดดจากธรรมชาติล้วน (100% Non-Chemical หรือ 100% Physical) เหมาะกับผิวแพ้ง่าย ผิวที่ชอบระคายเคืองจากสารเคมีแรงๆ เพราะสารกันแดดแบบที่ซูมิใช้จะสะท้อนรังสีต่างๆ ไม่ดูดซับลงบนผิว ไม่ก่อให้เกิดความร้อนบนผิว จึงไม่ระคายเคือง ผ่านการทดสอบการแพ้ระคายเคืองจากแพทย์ผิวหนัง เป็นสูตร 5-FREE ไม่มีน้ำหอม น้ำมัน แอลกอฮอล์ พาราเบน สีสังเคราะห์ ซึ่งหาได้ยากมากในครีมกันแดดทั่วไป แต่นี่ไม่มีเลย คือดีไปอีก

ส่วนที่ต่างกันคือ หลอดสีฟ้าไม่กันน้ำ ส่วนหลอดสีส้มกันน้ำได้นาน 40 นาที เชื่อว่าต้องมีหลายคนสงสัยว่าทำไมกันแดดได้เพียงแค่ 40 นาที เพราะคำเคลม “Water Resistant” คือ ถ้าเล่นน้ำทะเล ว่ายน้ำกลางแจ้ง หรือเล่นน้ำสงกรานต์ต้องทาซ้ำทุกๆ 40 นาทีจ้า
UV Water Serum : 40 กรัม 890 บาท
UV Water Defense : 30 กรัม 890 บาท


nivea-sun-whitening-light-texture-perfect-protect-milk-pink-serum-spf50

Nivea Sun Whitening Light Texture Perfect Protect Milk Pink Serum SPF 50 PA+++

โลชั่นป้องกันแสงแดดสำหรับผิวหน้า กันแดดผสมเมคอัพเบสเนื้อน้ำนมสำหรับใช้ทุกวัน เพื่อผิวกระจ่างใส อมชมพู มีประสิทธิภาพการปกป้องผิวจากแสงแดดจาก UVB และ UVA อีกทั้งยังปกป้องได้ครอบคลุมแม้กระทั่งรังสี UVA1 ที่ทำร้ายผิวลึกที่สุด เพื่อผิวกระจ่างใสต่อเนื่องยาวนานทั้งวัน และหนึ่งเดียวที่มี Ultra Deep UVA1 Protection พิสูจน์แล้วว่าไม่เพียงแต่ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB แต่ยังปกป้องผิวจากการทำร้ายลึกของ UVA1 ได้ดีกว่าครีมกันแดดทั่วไป ช่วยบล็อกความหมองคล้ำ ให้ผิวกระจ่างใส และช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยวิตามินอี เนื้อสัมผัสซึมซาบเร็ว บางเบา สบาย ไม่เหนียวเหนอะหนะ แถมใช้เป็นรองพื้นก่อนแต่งหน้าได้ เข้าได้กับทุกสีผิว หน้าไม่ขาวลอย ควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง
15 มิลลิลิตร / 149 บาท และ 30 มิลลิลิตร / 279 บาท


biore-uv-aqua-rich-watery-essence-spf50pa-50g

Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF 50+ PA+++ 

ครีมกันแดดเนื้อเจลเอสเซ้นส์สัมผัสบางเบาที่ครองใจสาวๆ ไม่น้อย เป็น Water Base ใช้ได้ในทุกวัน ป้องกันแสงแดดได้ดีเยี่ยมโดยไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะไว้บนผิวหน้า แถมยังสามารถเกลี่ยทับเครื่องสำอางได้ โดยไม่ทำให้เครื่องสำอางบนใบหน้าลบเลือนหรือเป็นคราบอีกด้วย มีประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดสูง แต่ไม่ค่อยเหมาะกับสาวที่มีผิวแพ้ง่าย เพราะมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ ซึ่งอาจจะได้กลิ่นชัดนิดหน่อย แนะนำก่อนใช้ลองทาที่ท้องแขนเพื่อทดสอบก่อนก็ได้นะคะ เพราะตัวนี้เวิร์คมาก สาวๆ หลายคนชอบ
50 กรัม / 420 บาท


cle-de-peau-beaute

Clé De Peau Beauté Crème Protection UV SPF 50 PA+++

ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดสูตรเจลเอสเซ้นส์จากเครือ Shiseido เนื้อสัมผัสแน่นแต่แสนบางเบา เคลย์ เดอ โป โบเต้ออกแบบให้เป็นครีมกันแดดถนอมผิวที่มีสรรพคุณในการช่วยลดเลือนริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นก่อนวัย พร้อมลดเลือนริ้วรอยแรกเริ่มดูจางลง และมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น เติมน้ำให้แก่เซลล์ผิว และประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสี UV แบบครบวงจร ด้วยส่วนผสมที่ช่วยกรองรังสี UVA และUVB ผสานนวัตกรรม Antioxidant Trio สารแอนติออกซิแดนต์ประสิทธิภาพสูง ช่วยปลอบประโลมผิวที่ระคายเคืองจากรังสียูวี พร้อมฟื้นบำรุงผิวด้วยส่วนผสมทรงคุณค่า Illumination Complex และ Red Light Transmitting Powder อณูเม็ดแป้งที่กรองผ่านเฉพาะแสงสีแดงในรังสี UV ช่วยในการขับแสงให้ผิวดูผุดผ่องมีออร่า ไม่ต้องกลัวแสง
50 มิลลิลิตร / 4,500 บาท


shiseido-anessa-perfect-uv-sunscreen-spf50pa-60ml

Shiseido Anessa Perfect UV Sunscreen SPF 50+ PA+++ 

เป็นครีมกันแดดที่ฮ็อตเยี่ยงซุป’ตาร์ หากใครไปญี่ปุ่นเป็นต้องหิ้วมากักตุน ไม่ว่าจะเพื่อนฝากซื้อ ซื้อใช้เอง จึงเป็นครีมกันแดดที่สาวๆ ส่วนใหญ่ต้องเคยใช้อย่างแน่นอน เป็นเนื้อ Water Base ไม่ทำให้เหนียวหรือหนักหน้า และไม่ทิ้งความมันบนผิวหน้า แถมยังกันแดด กันน้ำได้ดีอีกด้วย เนื้อสัมผัสก็บางเบา อีกทั้งยังช่วยปรับสภาพผิวหน้าให้ดูกระจ่างใส ใครได้ลองเป็นต้องตกหลุมรักทุกราย
60 มิลลิลิตร / 780 บาทโดยประมาณ


eau-thermale-avene-very-high-protection

Eau Thermale Avene Very High Protection Emulsion SPF 50+

ป้องกันอันตรายจากแสงแดดด้วย Pre-Tocopheryl สารแอนติออกซิแดนต์ ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของอาเวน
ผสานกับคุณค่าน้ำแร่ธรรมชาติอาเวนที่ช่วยปลอบประโลมผิว ลดอาการระคายเคือง เหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีผิวแห้ง ผิวบอบบาง สามารถใช้ได้เป็นประจำทุกวันเพื่อป้องกันแสงแดด รังสี UVB / UVA สาเหตุที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดฝ้า กระได้ มีส่วนประกอบของ Chemical Filters จำนวนน้อย จึงไม่ระคายเคืองต่อผิว ทนต่อรังสีสูงถึง 90% ปราศจากสารกันเสียชนิดพาราเบน สามารถกันน้ำได้อย่างดีเยี่ยม มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เป็นเนื้ออิมัลชั่นสีขาว เกลี่ยง่าย บางเบา ซึมซาบเร็ว ใช้แล้วหน้าไม่มัน แต่งหน้าทับได้ไม่เป็นคราบ
50 มิลลิลิตร / 1,450 บาท

เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม

บุกบ้านสวยหลังงามของ ไฮโซสาว จุ๊บแจง – บุณยภา ชีวิตดั่งนิยาย แถมสวย เป๊ะ ไม่มีเปลี่ยน!

ไฮโซสาว จุ๊บแจง – บุณยภา สวย เป๊ะ ไม่มีเปลี่ยน!  

ไฮโซสาว จุ๊บแจง – บุณยภา จะว่าไปแล้ว “เธอ” คนนี้ผ่านเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตมามาก จนวันนี้เธอพบความสุขในความรัก เรื่องราวของเธอถูกชะตาชีวิตแต่งแต้ม ทุกอย่างจบแฮ็ปปี้เอนดิ้ง มีสามีและครอบครัวอบอุ่น  ยืนเคียงข้าง ให้กำลังใจ และรักเธอเสมอมา ลองมาดูบ้านหลังงามและสไตล์การแต่งตัวของเธอกันเลย

prv_2188978

โถงกลางบ้านมีเปียโนหลังใหญ่ตั้งอยู่ตรงข้ามบันไดโค้ง ราวบันไดมีรายละเอียดงดงาม บอกถึงรสนิยมผู้เป็นเจ้าของ เธอเดินมาในชุดสง่างาม สีสันสดใสของ “Carolina Herrera” แบรนด์สุดเลิฟ พร้อมกับเล่าเรื่องราวบ้านหลังงามที่เธอลงมือแต่งด้วยตัวเอง Mix & Match ฉบับ “บุณยภา”

prv_21889821

“บ้านนี้เป็นการมิกซ์แอนด์แมตช์ในแบบของเรา สามารถย้ายเฟอร์นิเจอร์ได้ทุกอย่าง ไม่ฟิกซ์ว่าต้องบิลท์อินอยู่อย่างนี้ไปตลอด ในอาณาจักรเล็กๆ ครอบครัว ‘ตั้งคารวคุณ’ เพราะถ้าเราทำทุกอย่างเหมือนเดิม ชีวิตก็เหมือนเดิม เพราะฉะนั้นของทุกชิ้นที่ซื้อมาสามารถมิกซ์แอนด์แมตช์ได้หมด

prv_2188983

“สำหรับจุ๊บแจงการแต่งบ้านก็เหมือนการแต่งตัวและการใช้ชีวิต เราย่อมรู้ดีว่าตัวเองมีจุดเด่นจุดด้อยตรงไหน ควรแต่งตัวเสริมบุคลิกอย่างไรให้ออกมาดูดี ไม่ได้มีแบบฉบับว่าต้องอย่างนั้นอย่างนี้ สามารถเปลี่ยนตามสถานการณ์และเหตุการณ์ได้ อย่าคิดว่าต้องจำกัดอยู่กับบางสิ่งบางอย่างเท่านั้น เพราะจะทำให้อึดอัด”

prv_2188977

สวยจัดเต็มทั้งคุณแม่คุณลูกในชุด Ralph Lauren ที่ห้องกลาสเฮ้าส์ มุมโปรดของทุกคนในบ้านยามนั่งรับประทานอาหาร พร้อมชมสวนสวยได้ด้วย

prv_2188989

ต้องบอกว่าชีวิตดั่งนิยายจริงๆ สำหรับ “หลานสาวเจ้าสัว” กว่าจะพบรักลงตัว คุณปู่ของเธอ (สุกรี โพธิรัตนังกูร) เป็นเจ้าสัวใหญ่ผู้ก่อตั้ง “โรงงานอุตสาหกรรมผ้าห่มไทย” เคยใหญ่ที่สุดในเอเชียเมื่อครั้งอดีต ขณะที่คุณตา (สุวรรณ วีระผล) เป็นผู้ก่อตั้งและเจ้าของธุรกิจพืชผล และโรงงานมันสำปะหลังขนาดใหญ่ของไทย

prv_2188988

ชุดนี้ของ Alberta Ferretti

“15 ปีเต็มที่ไม่เคยเจอคุณพ่อ (ชาญวุฒิ) เลย” เธอเปรยเบาๆ “คุณพ่อคุณแม่ทั้งคู่เป็นนักเรียนนอก คุณพ่อเรียนอเมริกา คุณแม่เรียนอังกฤษ ทั้งคู่พบกันที่สมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษ แต่งงานกันไม่นาน ไม่ทราบเพราะอะไร คุณแม่ (วนิดา) อุ้มเราออกจากบ้าน ตอนนั้นอายุประมาณ 6 เดือน ตั้งแต่นั้นมาไม่เคยพบกันอีกเลย จนตอนหลังต่างฝ่ายต่างแต่งงานใหม่ คุณพ่อมีลูก 4 คน คุณแม่มีลูก 2 คน เราใช้ชีวิตอยู่คนเดียวที่โรงเรียนประจำ รู้สึกเหงามาก ได้พบหน้าคุณพ่อครั้งแรกตอนอายุ 15 คุณปู่มาตามหาที่โรงเรียน ถึงได้รักคุณปู่มาก ซึ่งท่านก็รักเรามากเช่นกัน แต่ยังไม่ทันได้กลับไปอยู่กับท่าน เราต้องเดินทางไปเรียนไฮสกูลถึงปริญญาตรีที่อเมริกา เมื่อเราโตขึ้นอยากมีบ้านและครอบครัวอบอุ่นของเราเอง จนมาได้เจอคู่ชีวิตที่แสนดีคนนี้”

prv_2188980

ชุดสีสันสดใสของ Carolina Herrera

เธอเล่าพลางขำตัวเอง และว่า “ชอบที่เขาเป็นแฟมิลี่แมน มีความเป็นสุภาพบุรุษ ใจเย็น คอยเทคแคร์ จนในที่สุดเราเป็นฝ่ายเอ่ยเรื่องแต่งงานก่อน เขาบอกว่ารออีก 5 ปีค่อยแต่ง แต่เราคิดว่าถ้าอายุ 35 คงไม่อยากแต่งงานแล้ว จึงเอาดวงเราไปให้คุณแม่เขาดู จากนั้นเขาเอาดวงเราไปให้ซินแสและอาม่า (คุณย่าฝ่ายสามี) ดู เพราะท่านเป็นคนคัดเลือกภรรยาให้ลูกและหลานในตระกูลทุกคน ถ้าอาม่าโอเค ทุกอย่างโอเค ถ้าอาม่าไม่โอเค ลืมไปได้เลย ปรากฏว่าอาม่าเจอหน้าเรา คำตอบที่ได้ยินคือ ‘ดี ฉันชอบ เสียงดี สะโพกดีมาก (หัวเราะ) เอาเลย’ มีคนแย้งว่าเราตัวเล็กไปหรือเปล่า อาม่าบอก ‘เหมือนฉันไง ฉันสูงร้อยสี่สิบกว่าเอง แบบนี้แหละดีที่สุด’ แต่งงานแรกๆ อยู่บ้านแม่สามีก่อน แต่บอกเขาตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้วว่าความใฝ่ฝันคืออยากมีบ้านของตัวเอง อยากเลี้ยวรถเข้าบ้านของเรา เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่เด็ก เวลานั่งรถเลี้ยวเข้าบ้านไม่ใช่บ้านเราสักหลัง จนได้มาอยู่บ้านหลังนี้”

prv_2188979

เรื่อง/ภาพ : นิตยสารแพรว

 

กันต์ กันตถาวร

ปีระกาเหินฟ้า “กันต์ กันตถาวร” ขึ้นแท่นพิธีกรดาวรุ่ง ติดปีกควบงานแสดง ฮ็อตตลอดปี

กันต์ กันตถาวร
กันต์ กันตถาวร

เนื้อหอมสุดอะไรสุด ณ วินาทีนี้ และดูท่าจะยิงยาวตลอดปี 2017 ซะด้วย เพราะ กันต์ กันตถาวร ไม่ได้โปรยเสน่ห์เอาใจแฟนๆ แค่มีใบหน้าหล่อเหลาเท่านั้น แต่ฝีมือ ฝีปากของการเป็นพิธีกร 4 รายการติดจาก WorkPoint ค่ายดังสุดบิ๊ก ก็ทำให้ชื่อเสียงของเขากระโดดขึ้นแท่นเป็นพิธีกรหนุ่มสุดฮ็อตและมาแรงสุดในวินาทีนี้กันเลยก็ว่าได้

กันต์ กันตถาวร
กันต์ กันตถาวร

หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากับหนุ่ม กันต์ กันตถาวร ในบทบาทนักแสดง นายแบบ ดีเจในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งผลงานที่เขาเคยฝากไว้ก็มี บ่วงร้ายพ่ายรัก กุหลาบร้ายของนายตะวัน เสน่หาสัญญาแค้น เลือดตัดเลือด ฯลฯ ที่ถึงแม้รัศมีความหล่อตี๋จะเข้าตาสาวๆ บ้าง แต่ก็ยังไม่โดดเด่น หรือเสน่ห์เปล่งประกายชัดเท่ากับบทบาทพิธีกรในตอนนี้ ซึ่งในปีระกานี้ หนุ่มกันต์รับหน้าที่พิธีกรของช่องเวิร์คพอยท์ 4 รายการติดเลยทีเดียว เริ่มจากพิธีกรรายการ BAO YOUNG BLOOD ดนตรีสร้างคุณค่าชีวิต SEASON 3 พิธีกรรายการ I Can See Your Voice Thailand นักร้องซ่อนแอบ ร่วมกับ สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์ พิธีกรรายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง และพิธีกรรายการ แฟนพันธุ์แท้ ซูเปอร์แฟน เรียกว่าใครที่กำลังหลงรักหนุ่มกันต์จากปีที่ผ่านมา ได้เห็นหน้าหนุ่มกันต์เต็มอิ่มตลอดปีเลยทีเดียว

กันต์ กันตถาวร
พิธีกรรายการ I Can See Your Voice Thailand
กันต์ กันตถาวร
พิธีกรรายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง
กันต์ กันตถาวร
พิธีกรรายการ แฟนพันธุ์แท้ ซูเปอร์แฟน

นอกจากในปีนี้หนุ่มกันต์จะฮ็อตงานด้านพิธีกรแล้ว งานด้านภาพยนตร์ต้อนรับช่วงเดือนวาเลนไทน์อย่างภาพยนตร์เรื่อง รักของเรา The Moment ที่มีนักแสดงมากฝีมือร่วมเล่น อาทิ เต้ย-จรินทร์พร โทนี่ รากแก่น เก้า-สุภัสสรา พีช-พชร และแทโอ ยู ก็กำลังเรียกความสนใจจากแฟนๆ บนโลกโซเชียลได้ดีหลังจากปล่อยคลิปตัวอย่างภาพยนตร์ออกมาเพียงไม่กี่วัน สำหรับเรื่องราวนั้นเกี่ยวกับความรักในแง่มุมต่างๆ ที่บางคนมาตามหาแฟน บางคนมาเรียนต่อ บางคนมาทำงาน ซึ่งเรื่องราวได้เกิดขึ้นในนิวยอร์ก ลอนดอน และโซล ความน่าสนใจของแฟนๆ หนุ่มกันต์นั้นก็คงไม่พลาดรอชมว่า ความรักของหนุ่มกันต์จะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร ยิ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เสียงร้องสุดเศร้ากินใจของ Greasy Cafe มาร้องเพลง ฝืน ประกอบภาพยนตร์ ยิ่งดึงอารมณ์ให้อินสุดๆ (คลิกชมตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง รักของเรา The Moment)

กันต์ กันตถาวร
ภาพยนตร์ รักของเรา The Moment
กันต์ กันตถาวร
ภาพยนตร์ รักของเรา The Moment
กันต์ กันตถาวร
ภาพยนตร์ รักของเรา The Moment

และไม่เพียงเท่านี้ งานละคร งานซีรี่ส์ของหนุ่มกันต์ก็ไม่ว่างเช่นกัน เพราะเขายังได้กลับมาร่วมงานกับสาวเชียร์-ทิฑัมพร ในละคร สูตรรักเสน่หา และซีรี่ส์ เทวดาตกสวรรค์ ร่วมกับ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ อีกด้วย

กันต์ กันตถาวร
ละครสูตรรักเสน่หา
กันต์ กันตถาวร
ซีรี่ส์ เทวดาตกสวรรค์

ปีระกาฮ็อตและขยันรับทรัพย์มากแบบนี้ ไม่แน่งานแต่งของหนุ่มกันต์และสาวพลอย แฟนสาวนอกวงการที่คบกันมานานและมีแพลนวิวาห์เร็วๆ นี้ อาจจะใกล้เป็นความจริงแล้วละมั้งเนี่ย…

กันต์ กันตถาวร
หนุ่มกันต์ กับสาวพลอย แฟนสาวนอกวงการ

เรื่อง: Gingyawee_แพรวดอทคอม
ภาพ: IG @kankantathavorn

เคลียร์ได้ง่ายนิดเดียว! หมดปัญหารักแร้ดำ ผิวย่น ตุ่มหนังไก่บุกรุก ให้กลับมาขาวเรียบเนียนสดชื่นระหว่างวัน

ปัญหาโลกแตกของผู้หญิงมีไม่กี่เรื่องหรอกค่ะ รองจากเรื่องรัก เรื่องหลักๆ คงหนีไม่พ้นความสวยความงาม โดยเฉพาะการดูแลผิวพรรณให้ขาวกระจ่างใส เนียนนุ่มน่าสัมผัส ซึ่งคนส่วนใหญ่มักบำรุงไม่ทั่วถึงครบทุกจุดอย่างที่ควรจะเป็น เพราะสาวๆ อย่างเรามีเรื่องความงามให้ต้องดูแลมากมายตั้งแต่หัวจรดเท้า  ในขณะที่เราดูแลทุกส่วนของร่างกาย แต่มีผิวอยู่จุดหนึ่งที่เรามักจะหลงลืมจนละเลยไป นั่นก็คือผิวบริเวณใต้วงแขนหรือรักแร้นั่นเอง  

istock-499517186

ปัจจุบันการดูแลผิวใต้วงแขนให้เรียบเนียนเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยม ต่างจากอดีตที่ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องกำจัดขนใต้วงแขน เพราะไม่ต้องโชว์ผิวบริเวณนั้นมากนัก แต่เมื่อปี ค.ศ.1915 มีการเปลี่ยนแปลงของแฟชั่น ชุดเดรสแขนกุดตัวแรกได้ถูกออกแบบขึ้น ผู้หญิงเริ่มกล้าที่โชว์วงแขนมากขึ้น เพื่อที่จะดูดีในชุดเดรสแขนกุด ซึ่งเป็นแฟชั่นที่นิยมในขณะนั้น ทำให้บรรดาหญิงสาวก็เริ่มกำจัดขนรักแร้เพื่อให้ใต้วงแขนเรียบเนียนมานับตั้งแต่นั้น  

istock-513941588

แถมไลฟ์สไตล์ประจำวันของสาวๆ เดี๋ยวนี้อย่างการสวมกอดเพื่อน ใส่บิกินี่อวดหุ่นโชว์วงแขน ชูแขนเชียร์คอนเสิร์ต ยกแขนพรีเซนต์นำเสนองานกับลูกค้าในที่ประชุม ล้วนเป็นสถานการณ์ที่วงแขนจะต้องถูกมองเห็นอย่างง่ายดาย จึงมีความคิดแล่นเข้ามาอยากให้ผิวใต้วงแขนเนียนนุ่มและแห้งสบายไร้กลิ่นอับเพื่อที่จได้โชว์อย่างมั่นใจ แต่ในทางตรงกันข้าม เรากลับรู้สึกอึดอัดที่จะโชว์วงแขนให้คนอื่นเห็น เพราะกลิ่นอันไม่พึงประสงค์จากคราบเหงื่อ การเสียดสีผิวใต้วงแขน จึงเป็นส่วนของร่างกายที่สมควรได้รับความเอาใจใส่ในแต่ละวันเช่นเดียวกันส่วนอื่นๆ ของร่างกาย

istock-514565616

แต่สาวๆ อาจจะคิดว่าการอาบน้ำ การกำจัดขน  หรือแค่ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับการดูแลผิวส่วนนั้น  แต่ความจริงแล้วผิวใต้วงแขนต้องการการดูแลมากกว่านั้น ซึ่งผิวบริเวณรักแร้นั้นต้องเจอกับสิ่งที่ทำให้ระคายเคืองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นความอับชื้นจากเหงื่อ การเสียดสีที่เกิดจากการเคลื่อนไหวร่างกายตลอดเวลา ตลอดจนการกำจัดขนด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งถอน โกน บางคนชอบแวกซ์ทำอาทิตย์ละครั้ง

s03_385

ด้วยเหตุนี้  ถึงเวลาแล้วที่เราต้องหันมาใส่ใจการดูแลผิวรักแร้กันอย่างจริงจัง เพื่อผิวเรียบสวยกะจ่างใสกันเสียที แต่ผลิตภัณฑ์บางตัวก็ทำหน้าที่แค่ช่วยในเรื่องของการระงับกลิ่นกาย  บางตัวก็ช่วยบำรุงเพียงอย่างเดียว  ซึ่งไม่เพียงพอกับความต้องการ และผิวใต้วงแขนก็เป็นผิวที่ละเอียดอ่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการสัมผัสกับระคายเคืองที่แตกต่างกัน และมักจะถูกปกปิดไว้ ภายใต้เสื้อผ้าและทำให้อับชื้น เพราะอากาศระบายไม่สะดวก ครั้นจะให้พอกผิวหรือสครับรักแร้ด้วยวิธีธรรมชาติเพื่อบำรุงหลังกำจัดขนก็ดูจะเสียเวลาไม่น้อย แถมไม่ค่อยช่วยเรื่องระงับกลิ่นกายระหว่างวันสักเท่าไหร่ จนไปเจอผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งที่ตอบโจทย์มาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระงับกลิ่นกาย หอมสดชื่น เพิ่มความมั่นใจไม่เหม็นอับระหว่างวัน ช่วยให้รักแร้เนียนเรียบสวย ไม่ระคายเคือง ป้องกันและบำรุงไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง

นีเวีย โพรเทค & แคร์ โรลออนและสเปรย์ที่ผสานครีมบำรุงผิวใน 1 เดียว ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวใต้วงแขนที่สุดในเรื่องของการบำรุงผิว  เพราะมีส่วนผสมของเอสเซ้นส์ครีมเข้าบำรุงผิวใต้วงแขนอย่างล้ำลึก ทั้งยังมั่นใจได้ว่าอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว เพราะเป็นเอสเซ้นส์ครีมที่สกัดมาจากธรรมชาติ  และเป็นสูตรที่ไม่มีแอลกฮอล์อีกด้วย  พร้อมปกป้องกลิ่นกายยาวนาน 48 ชั่วโมง  จึงเหมือนได้ทั้งการบำรุงและปกป้องในเวลาเดียวกัน  สามารถซึมซาบสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วจึงทำให้ผิวแห้งสบาย มีให้เลือกใช้ 2 รูปแบบ ทั้งในแบบโรลออน และสเปรย์  ถ้าจะให้ผลดีที่สุดคือควรใช้เมื่อรักแร้แห้งและสะอาด มอบกลิ่นหอมถึง 3 ระดับ กลิ่นแรก (Top Note) จะมีส่วนของเลม่อน และเบอร์กามอต เพื่อมอบความรู้สึกสดชื่นเมื่อแรกสัมผัส กลิ่นกลาง (Middle note)  จะเป็นกลิ่นหอมของดอกไม้ อย่างดอกมะลิ และกุหลาบ และกลิ่นสุดท้าย (Base note) กลิ่นมัสค์ และแซนดัลวูด ที่มอบความรู้สึกอบอุ่น นุ่มนวล

เอาล่ะได้ข้อสรุปปัญหาเรื่องผลิตภัณฑ์ที่ควรใช้แล้ว ตอนนี้มีเรื่องเล่าสั้นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าทำไมเราต้องดูแลรักแร้อย่างจริงจังมาให้อ่านกันเพลินๆ ค่ะ

วัฒนธรรมความงามโชว์ขนรักแร้
ในปี 2014 มีช่างทำผมที่ชื่อ  Roxie Hunt  ได้ทำแคมเปญ “ปลดปล่อยรักแร้ของคุณให้เป็นอิสระ” เพื่อสนับสนุนแนวความคิดความงามแบบธรรมชาติ  ทำให้เกิดกระแสฮิตในอินสตาแกรมอยู่พักใหญ่ เหล่านักร้อง นักแสดง และเหล่าเซเลบริตี้มากมายได้ริเริ่มโชว์ใต้วงแขนและปล่อยขนรักแร้ออกงานกันมากขึ้น บางคนก็ย้อมเป็นสีต่างๆ อาทิ สีส้ม ชมพู และสีน้ำเงิน ซึ่งสาวๆ จะนิยมเทรนด์การไม่โกนขนรักแร้หรือไม่ก็ตาม ก็ไม่ควรละเลยการดูแลผิวใต้วงแขน และปกป้องกลิ่นกายซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

เคล็ดลับความงามจากแดนฟาโรห์
ว่ากันว่าชาวอียิปต์โบราณเป็นชนชาติแรกที่คิดค้นน้ำหอมเพื่อปกปิดกลิ่นตัวที่ไม่พึงประสงค์ ในขณะที่พวกเขาการสร้างปิระมิด พวกเขาก็ใส่น้ำหอมเพื่อระงับกลิ่นใต้วงแขนด้วย ซึ่งเคล็ดลับความงามของพระนางคลีโอพัตราที่เรารู้จักกันดีก็คือการดูแลผิวโดยอาบน้ำในน้ำนมและน้ำผึ้งนั่นเอง

ชาวอียิปต์โบราณเป็นผู้ริเริ่มคิดค้นพิธีกรรมด้านความงามต่าง ๆ มากมาย และหลังจากนั้นได้มีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องไปสู่ดินแดนอื่น ๆ เพื่อคิดค้นผลิตภัณฑ์เพื่อระงับกลิ่นกาย อาทิ ชาวกรีก อาบน้ำด้วยน้ำหอม ในขณะที่ชาวโรมันแช่เสื้อผ้าของพวกเขาในน้ำมันหอมและเครื่องหอมอื่นๆ หรือมีการใช้สบู่เพื่อระงับกลิ่นกาย รวมไปถึงการใช้โคโลญจ์และน้ำหอม เมื่อปีค.ศ 1888 ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายครั้งแรกก็ได้ถือกำเนิดขึ้นโดยมีส่วนประกอบของ zinc oxide ซึ่งเป็นตัวต้านจุลชีพที่ทำให้เกิดกลิ่นเข้าไปผสมในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และเมื่อปีค.ศ.1951 ไบเออร์สด๊อรฟ ได้ผลิตภัณฑ์สบู่ระงับกลิ่นกายออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรก

สวยเอาอยู่ทุกลุค! “เบลล่า ราณี” เปล่งประกายเจิดจ้า ต้อนรับปีใหม่

สวยบาดจิตบาดใจทุกลุค ปลุกความเป็นแฟชั่นนิสต้า เมื่อนางเอกสาว “เบลล่า ราณี” ขนแฟชั่นจัดเต็มในทริปฉลองปีใหม่ เสิร์ฟความเป๊ะปังจากประเทศไต้หวัน

 

เป็นนางเอกเนื้อหอมมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และส่งออร่าต่อเนื่องมาถึงปีนี้ สำหรับนางเอกยิ้มหวานลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ที่กำลังฮ็อตยังกะไฟเออร์! “เบลล่า ราณี” กับละครที่จ่อคิวออนแอร์ถึง 2 เรื่อง อย่าง “บุพเพสันนิวาส” รับบทเป็น 2 ตัวละคร ได้แก่ “แม่หญิงการะเกด” และ “เกศสุรางค์” นอกจากนี้ยังมีละครที่แฟนๆ คาดว่าน่าจะติดลมบนกลายเป็น ละครสุดร้อนแรงแห่งปี 2017 ได้ไม่ยากอย่างละครเรื่อง “เพลิงบุญ” ในบท “พิมาลา” ที่ต้องฟาดฟันในสงครามแย่งชิงพระเอก “ป้อง ณวัฒน์” ประชันฝีมือการแสดงกับตัวแม่ขิงแก่ “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ”

ซึ่งงานนี้คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่าจะเอาอยู่หรือไม่กับบทบาทในละคร แต่ที่สอบผ่านฉลุยขโมยหัวใจไปแล้วคือ Fashion Style ของเธอนี่แหละ ที่นับวันจะยิ่งเปรี้ยวปรี๊ดมะนาวแปะตัว

Fashion of the Week ต้อนรับสัปดาห์แรกของปี 2017 นี้ “แพรว” จึงขอพาไปแอบส่องแฟชั่นหลากสไตล์ของสาว “เบลล่า ราณี”  กับการจัดเต็มในทริปฉลองปีใหม่ที่ประเทศไต้หวัน งานนี้บอกเลยว่านางเอกยิ้มหวาน เอาอยู่ทุกลุค!! 

 

แฟชั่นสไตล์ เบลล่า ราณี

แฟชั่น เบลล่า ราณี

bl7

bl6

bl10

bl11

bl8

bl9

bl2

bl3

bl1

bl4

bl12

เรื่อง : Red Apple_แพรวดอทคอม
ภาพ : IG@bellacampen

ของจริงไม่ต้องพูดเยอะ “แอน ทองประสม” สวยแพงไม่ปรุงแต่งสมตำแหน่งเจ้าหญิงวงการบันเทิง

ช่วงเทศกาลปีใหม่มีวันหยุดหลายวัน บางคนก็เลือกจะใช้เวลาอยู่กับครอบครัว บางคนก็ออกไปท่องเที่ยวพักผ่อน แม้แต่นางเอกสาวคนสวยของเราอย่างสาว “แอน ทองประสม” ก็ขอพักงานไปเที่ยวชมธรรมชาติที่จังหวัดเชียงรายกับแฟนหนุ่ม “เอ ทินพันธ์” งานนี้จึงมีภาพเซตสวยๆ จากสาวแอนมาฝากแฟนๆ เพียบเลยค่ะ

นี่ถ้าไม่บอกว่าไปพักผ่อนก็คงคิดว่าสาวแอนไปถ่ายแบบแล้วนะเนี่ย เพราะฝีมือการถ่ายรูปของหนุ่มเอดีระดับมืออาชีพแถมยังมีแบบสวยระดับประเทศขนาดนี้จะให้ไม่เข้าใจผิดได้ยังไงล่ะ ซึ่งภาพเซตนี้ต้องบอกว่าถูกพูดถึงมากเลยก็ว่าได้ เพราะสาวแอนมาในลุคสวยแบบธรรมชาติจนแทบไม่ต้องแต่งเติมอะไรก็ยังดูดี แบบนี้สินะที่เขาเรียกว่าของจริงไม่ต้องพูดเยอะ เพราะสาวแอนเป็นผู้หญิงที่แค่ใส่เสื้อแขนยาวสีดำนุ่งผ้าถุงก็ออกมาสวยแพง เลอค่ามากเลยทีเดียว บวกกับสถานที่และบรรยากาศสวยๆ ของจังหวัดเชียงรายด้วยแล้ว ไม่บอกก็รู้ว่าสาวแอนดูแฮ็ปปี้กับทริปนี้มาก ทำให้สาวแอนอัพรูปลงอินสตาแกรมส่วนตัวลงรัวๆ เชียวละ

ซึ่งแฟนคลับหลายคนก็เข้าไปชมกันใหญ่ว่าสาวแอนแต่งตัวได้ถูกกาลเทศะ ถึงแม้จะแต่งตัวไปเที่ยวแต่ก็ยังเลือกสวมชุดสีขาวดำเพื่อไว้อาลัยให้กับในหลวงรัชกาลที่ 9 เพราะแบบนี้ไงล่ะคนถึงรักและตั้งฉายาให้เธอว่าเป็นเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิง เอาเป็นว่าเราไปชมภาพสวยๆ ของสาวแอนที่เรานำมาฝากวันนี้กันเลยดีกว่าค่ะ

1612 11 17 10 9 14 6 7 3 2 8 15 4 5 13 1

18 19

เรื่อง : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : IG@annethong, @atinnabhan

ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลจากกิจกรรม Lucky New Year Gifts 2017 by PRAEW.COM

มาตามสัญญาจ้า!!!! หลังจากก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2559 แพรวดอทคอมได้มีการLive เพื่อแจกของขวัญปีใหม่ให้กับผู้อ่านเว็บไซต์แพรว ในกิจกรรม Lucky New Year Gifts 2017 by PRAEW.COM ซึ่งหลังจากที่เราได้ตรวจสอบรายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลจากกิจกรรมดังกล่าวมีดังนี้

  1. รองเท้าOnitsuka Tiger รุ่น Maxico 66 ราคา 4,500 + หมวก Von Ducth ราคา 490  รวม 4,990 บาท ผู้โชคดีคือ คุณ Mulan Lin
  1. เสื้อแจ๊คเก็ต หญิง Jacket Jeans By ESP ราคา 2,595 + หมวก Von Ducth 490 รวม3,085 บาท ผู้โชคดีคือ คุณ Pranee Chi
  1. เสื้อแจ๊คเก็ต ชาย Jacket Jeans By ESP 2,595 + หมวก Von Ducth 490 รวม 3,085 บาท ผู้โชคดีคือ คุณ PL OY
  2. Radisson Blu มอบห้องพักแบบ Deluxe Pool Access สำหรับ 2 ท่าน จำนวน 1 รางวัล ( 3 วัน 2 คืน พร้อมอาหารเช้า)  มูลค่า 16,000 บาท สามารถใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม – 30 มิถุนายน 2560 ผู้โชคดีคือ คุณ Yuki Jang
  1. Sephora มอบ Sephora Geo Matrix Color Pallete Blockbluster ราคา 1,790 บาท จำนวน 1 รางวัล ผู้โชคดีคือ คุณ FollowFern Charoenphorn

6. Jeju Lava Seawater Essence มูลค่า 3,370 บาท จำนวน 1 รางวัล ผู้โชคดีคือ คุณ Noopaew Naka

  1. Nivea Make up Clear : Micellar Water 1 เซ็ต จำนวน 1 รางวัล ผู้โชคดีคือ คุณ Mayu Jang

8.Real Beauty One Shot มูลค่า  3,112 บาท จำนวน 2 รางวัล

  • HelloSa HaHa
  • Cherbell Minnie
  1. ชุดผลิตภัณฑ์ อาวียองซ์ คอลลาเจน แมทริกซ์ อิน แอนด์ เอ้าท์ คอลเลคชั่น มูลค่า 8,800 บาท จำนวน 1 รางวัล ผู้โชคดี คือ คุณ Tikky Jeeraporn
  1. Kanebo 1 เซ็ต มูลค่า 8,000 บาท จำนวน 1 รางวัล ผู้โชคดีคือ คุณ Meyy’lla SunDay
  1. ผลิตภัณฑ์ Jergens 1 เซ็ต จำนวน 1 รางวัล ผู้โชคดี คือ คุณ ชิษณุชา ลูกแม่บี สุดเฟี้ยว
  1. Gift Set ครีมบำรุงผิว No. 7 จำนวน 1 รางวัล ผู้โชคดี คือ คุณ Pyng Kanyawee
  1. Gift Set จาก Etude House จำนวน 1 รางวัล ผู้โชคดี คือ คุณ Navarathri Vijayadasmi
  2. Gift Set ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจาก Jill Stuart จำนวน 1 รางวัล ผู้โชคดี คือ คุณ Rawi Danwiwat
  3. Gift Set ผลิตภัณฑ์ชิเซโด้อิบูกิ (SHISEIDO IBUKI) มูลค่า 10,000 บาท จำนวน 2 รางวัล
  • SaSa Good
  • ZaZa Zuzu
  1. Lipbalm super fruit for lips : pom, acai, pink, mango มูลค่า 1,120 บาท จำนวน 1 รางวัล ผู้โชคดีคือ คุณSirilak Uttayarath
  1. BB Cream with Noni Extract and SPF 15 PA+++ ขนาด 170 กรัม มูลค่า 1,300 บาท จำนวน 1 รางวัล ผู้โชคดีคือคุณ กมลวรรณ ทองดีแท้
  1. เบิร์ตส์ บีส์ อัลติเมท แคร์แฮนด์ครีม มูลค่า 1130 บาท จำนวน 1 รางวัล ผู้โชคดีคือ คุณ Paravatri Bee
  1. เบิร์ตส์ บีส์อินเทนส์ ไฮเดรชั่น ทรีทเมนท์ มาสก์ (Intense Hydration Treatment Mask) (99% Natural) ขนาด 110 กรัม มูลค่า 1,880 บาท จำนวน 1 รางวัล ผู้โชคดีคือคุณ Lädypink Mäy
  1. Burt’s Bee’sLipstick magenta rush + lip balm beeswax  มูลค่า 1,170 บาท จำนวน 1 รางวัล ผู้โชคดีคือ คุณ กาล เวลา
  2. NYR รีจูเวเนติ้ง แฟรงคินเซนส์ รีไฟนอิ้ง เคล็นเซอร์ (Rejuvenating Frankincense Refining Cleanser)  ขนาด 100 กรัม ราคา 1,350 บาท จำนวน 1 รางวัล ผู้โชคดีคือ คุณ Matim Tha
  1. NYR นูริชชิ่ง ออเร้นจ์ ฟลาวเวอร์ โทนเนอร์ แอนด์ รีไฟน์ส (Nourishing Orange Flower Toner Refreshes and Refines) ขนาด 200 มล. ราคา 1,250 บาท จำนวน 1 รางวัล ผู้โชคดี คือ คุณ Bebie NarakkJaa
  1. NYR รีจูเวเนติ้ง แฟรงคินเซนส์ เฟเชียล วอช (Rejuvenating Frankincense Facial Wash) ขนาด 100 มล. ราคา 1,150 บาท จำนวน 1 รางวัล ผู้โชคดีคือ คุณ Patsarat Siripolsomsuk
  1. NYR รีไฮเดรทิ่ง โรส โทนเนอร์ (Rehydrating Rose Toner) ขนาด 200 มล. ราคา 1,250 บาท จำนวน 1 รางวัล ผู้โชคดี คือ คุณ Jungko Jungko
  1. NYR รีไฮเดรทิ่ง โรสเฟเชียล โพลิช (Rehydrating Rose Facial Polish) ขนาด 100 กรัม ราคา 1,250 บาท จำนวน 1 รางวัล ผู้โชคดี คือ คุณ Jantra Au Boonmak
  1. ปัญญ์ปุริ มอบ Lavender & Vanilla Calming  Hand Cream Travel Set ราคาเซ็ตละ1,080 บาท จำนวน 5 รางวัล
  • Wanlapa Sri
  • Sep Insawang
  • Jiranan Theanlai
  • Winnie Win
  • Kin Onsuwan
  1. ผลิตภัณฑ์จาก Positif มอบ Gift Set สกินแคร์ มูลค่า 10,500 บาท จำนวน 3 รางวัล
  • Sbydee To Nitinai
  • หนูมาลี มีลูกเเมวหนึ่งตัว
  • Tikky Jeeraporn
  1. Gift Set บำรุงผิวจาก Rice Force จำนวน 1 รางวัล มูลค่ารวม 19,400บาท ผู้โชคดีคือ คุณ Sailor Toon Thananis
  1. กระเป๋าเป้สะพายแบรนด์ LADA ผู้โชคดีคือ คุณAnyawee Limrattanapol
  1. กระเป๋า Ipad แบรนด์ LADA (3 รางวัล)
  • ธนัตฤนันท์ สุยบุตดา
  • Thanyalak Tee
  • Nutchanat Nok Loasuntornvanich
  1. กระเป๋า Uniqlo สีขาว ผู้โชคดีคือ คุณ Yuri P Tata
  2. หนังสือดูดวง หมอช้าง 12 เล่ม
  • Bella Oil
  • Napat Tanatgampu
  1. ครีมอาบน้ำ+โลชั่น เบอร์ติก้า เวอเน่* (5 รางวัล)
  • Vipamas Immsoontronraksa
  • สมพร สาแหรกทอง
  • Sine Ruksadee
  • Nittaya Khanjanapiboon
  • Mayuree Butsripana
  1. ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม Schwarzkopf ( 9 รางวัล)
  • Apicha Vimuttisuk
  • กมลวรรณ ทองดีแท้
  • ยัยตัวร้าย ยัยตัวแสบ
  • Sugar Apple
  • Tina Tina Tha
  • น้อง กระติ๊บ
  • Tikky Jeeraporn
  • Un Chan
  1. Eyeliner  (4 รางวัล)
  • อลิษา โกละกะ
  • Kin Onsuwan
  • Pornwipa Koy
  • Tikky Jeeraporn
  1. Luminesce ลูมิเนสส์ เซรั่ม (3 รางวัล)
  • Ou San
  • Bombay Zabz
  • Tan Thammanoon
  1. รางวัล No.7 เซรั่ม 2 รางวัล
  • Jiranan Theanlai
  • Siwaporn Pluemsati
  1. รางวัล No.7 Night Cream  4 รางวัล
  • Pharwinee MeawZaa Vanitjirattikarn
  • Matim Tha
  • Bee Orchid
  • Darat Aimsaart
  1. เซ็ต Lunasol ผู้โชคดี คือ คุณ Meme  Astina

 

ทั้งนี้สำหรับผู้ที่เข้ามายืนยันสิทธิ์ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ตามที่เราได้ประกาศทางเฟสบุ๊คนิตยสารแพรวไปแล้วนั้น ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการจัดส่งของรางวัลนะคะ ส่วนใครที่ยังไม่ได้เข้ามายืนยันสิทธิ์ตามรายชื่อที่ประกาศ

แพรวดอทคอมขยายเวลาเพิ่มให้ รบกวนส่งชื่อ ที่อยู่ และเบอร์ติดต่อสำหรับจัดส่งของรางวัล พร้อมระบุชื่อFacebookที่คุณใช้เล่นกิจกรรมนี้เข้ามาที่ E-mail : [email protected] ภายในวันที่ 5 มกราคม 2560 นี้ เท่านั้น

หมายเหตุ :ท่านใดที่ไม่มายืนยันตามเวลาที่กำหนดถือว่าสละสิทธิ์ เนื่องจากได้มีการขยายเวลาในการส่งชื่อ ที่อยู่ เพื่อส่งของรางวัลให้แล้ว

อัพเดทคาเฟ่แสนน่ารักและแหล่งช็อปปิ้งใหม่ในสิงคโปร์

Alternative Textaccount_circle

นักท่องเที่ยวชาวไทย ไม่ว่าจะเดินทางไปเที่ยวที่ไหน แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่เป็นที่นิยมคงหนีไม่พ้นการหาร้านคาเฟ่น่ารักๆ เพื่อนั่งชิลล์ ถ่ายรูปอาหารแชร์ลงโซเชียลเก๋ๆ หรือเดินชอปปิ้งตามร้านค้าชั้นนำ หาของติดไม้ติดมือกลับบ้าน เพื่อให้คนที่จะไปเยือนสิงคโปร์ไม่พลาดโอกาสดีๆ การท่องเที่ยวสิงคโปร์จึงขออัพเดทคาเฟ่สุดน่ารักและร้านค้าชั้นนำที่เพิ่งเปิดตัวไม่นาน เพื่อให้เหล่าขาเที่ยว ทั้งสายกิน และสายช้อป ได้ตามลายแทงกันแบบจุใจ

คาเฟ่เอาใจสายกิน

pompompurin-1 pompompurin-2
ภาพจาก: Pompompurin Café Singapore Facebook

Pompompurin Café
เริ่มที่คาเฟ่คาแร็คเตอร์สุดฮิตจาก Sanrio ที่ครองใจใครหลายๆ คนอย่างเจ้าปอมปอมพุริน เพราะไม่ว่าใครที่เข้ามาในร้านก็อดไม่ได้ที่จะแชะรูปคู่กับตุ๊กตาปอมปอมพุรินตัวใหญ่ที่รอต้อนรับแขกอยู่ด้านหน้า แถมที่นั่งยังจัดโซนไว้เป็นบ้านหลายหลังเรียงติดกัน ดูอบอุ่นและน่ารักสุดๆ สำหรับใครอยากที่อยากได้ของที่ระลึกก็ไม่ควรพลาดเมนูพิเศษ เพราะทางร้านให้เรานำแก้วเซรามิกรูปปอมปอมพุรินที่อยู่ในเซ็ตกลับบ้านได้ด้วย! 

ที่ตั้ง: Orchard Central, Orchard Road


gudetama-1 gudetama-2
ภาพจาก: Gudetama Café Singapore Facebook

Gudetama Café
ความนิยมของกุเดะทะมะหรือที่คนนิยมเรียกกันว่า “ไข่ขี้เกียจ” ทำให้คาเฟ่ของคาแร็คเตอร์แสนกวนที่จะเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม ปี 2017 นี้เป็นที่ตั้งตารอคอยของใครหลายๆ คน นอกจากเมนูอาหารที่ถูกประดิดประดอยเป็นรูปกุเดะทามะในอิริยาบทต่างๆแล้ว เฟอร์นิเจอร์ภายในร้านล้วนถูกตกแต่งให้เข้ากับธีมอีกด้วย ใครที่รู้ตัวว่าเป็นแฟนคลับของเจ้าไข่ขี้เกียจจึงไม่ควรพลาดโอกาสไปเยือนคาเฟ่นี้ด้วยประการทั้งปวง

ที่ตั้ง: Suntec City Mall


pokemon-1 pokemon-2
ภาพจาก: Pokémon Café Singapore Facebook

Pokémon Café
จากกระแสโปเกมอนฟีเวอร์ที่ล้นหลามในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้โปเกมอน คาเฟ่ ได้โอกาสมาเปิดที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อเอาใจเหล่าสาวกโปเกมอนโดยเฉพาะ นอกจากความน่ารักของปิกาจูและเมนูอาหารที่น่าสั่งมาลองชิมทุกอย่างแล้ว ภายในร้านยังเปิดเพลงธีมของเรื่องโปเกมอนเพื่อเพิ่มอรรถรส และยังมีโซนพิเศษเพื่อให้ลูกค้าแต่งตัวเป็นปิกาจูและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกก่อนกลับเช่นกัน จัดเต็มขนาดนี้ ไม่รีบมาลองไม่ได้แล้ว!

ที่ตั้ง: Bugis Junction


ร้านค้าเอาใจขาช้อป

victorias-secret-1 victorias-secret-2
ภาพจาก: www.thehoneycombers.com

Victoria’s Secret Flagship Store
ในที่สุด ชุดชั้นในแบรนด์ดังสุดเซ็กซี่อย่างวิคตอเรีย ซีเคร็ทก็ได้ฤกษ์มาเปิดแฟล็กชิพ สโตร์แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว แค่ก้าวแรกที่เดินเข้าไปก็จะรู้สึกได้ถึงการตกแต่งอย่างอลังการด้วยโทนสีชมพู-ดำ อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้ พร้อมสินค้าจากหลากหลายคอลเลคชั่นที่เรียงรายให้คุณเลือกซื้อ ตั้งแต่ ชุดชั้นในแบบต่างๆ ชุดนอน ชุดออกกำลัง รวมไปถึงน้ำหอม และอุปกรณ์ความงามอีกเพียบ สาวๆ จึงพลาดไม่ได้โดยเด็ดขาด

ที่ตั้ง: Mandarin Gallery, Orchard Road


uniqlo-flagship-store-1
ภาพจาก: www.straitstimes.com

Uniqlo Flagship Store
ยูนิโคล่ แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังจากญี่ปุ่นเปิดตัวสาขาใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม เพราะนี่เป็น โกลบอล แฟล็กชิพ สโตร์ แห่งแรกในสิงคโปร์และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตั้งเด่นอยู่ บนถนนออชาร์ด ถนนชอปปิ้งชื่อดังของที่นี่ ภายในร้านมีเสื้อผ้าทั้งของสุภาพสตรี สุภาพบุรุษ และของเด็ก ที่อัพเดทเทรนด์แบบใหม่ล่าสุดมาให้เลือกตลอดเวลา ด้วยพื้นที่ร้านที่กว้างขวางกว่า 2,700 ตารางเมตร บอกคำเดียวว่าได้เลือกช้อปกันแบบจุใจแน่ๆ

ที่ตั้ง: Orchard Central, Orchard Road


michael-kors-2 michale-kors-1
ภาพจาก: www.thehoneycombers.com

Michael Kors Flagship Store
แบรนด์สุดฮิตจากประเทศอเมริกาก็ไม่น้อยหน้า เพราะสาขาล่าสุดที่เพิ่งมาเปิดตัว ณ ประเทศสิงคโปร์นับได้ว่าใหญ่ที่สุดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งทางร้านได้เตรียมสินค้าสุดหรูหรามาให้เลือกซื้อกันอย่างมากมาย ตั้งแต่เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ และน้ำหอม และพิเศษสุดกับชูส์ซาลอนสำหรับคุณผู้หญิงที่ชื่นชอบรองเท้าดีไซน์เก๋ นอกจากนี้ยังมีชั้นที่จัดไว้เป็นพิเศษเพื่อให้คุณผู้ชายสามารถเลือกชมสินค้าได้ตามสไตล์อีกด้วย

ที่ตั้ง: Mandarin Gallery, Orchard Road

การดูแลผิวสวย

โชว์ผิวได้อย่างมั่นใจกับ 3 สเต็ปง่ายๆ เพื่อ ผิวสวย สุดสตรอง!

การดูแลผิวสวย
การดูแลผิวสวย

เป็นยุคที่ต้องสตรองแทบทุกเรื่องเลยจริงๆ สำหรับผู้หญิงยุคใหม่ ที่นอกจากจะต้องทำงานเก่ง จัดสรรเวลาให้ดี ใช้ชีวิตให้คุ้มค่าแล้ว เรื่องการดูแลตัวเองโดยเฉพาะการฟูมฟัก ผิวสวย ก็แทบจะโยนทิ้งไปไม่ได้เลย

ตลอดปีไม่เว้นวันหยุดราชการ สาวๆ ต้องเจอกับปัญหาผิวแทบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ผิวแห้งเป็นขุย ผิวแตกลาย ผิวขาดความชุ่มชื้น ไม่เนียนนุ่มน่าสัมผัส ซึ่งก็อาจทำให้สาวๆ หลายคนหมดความมั่นใจ จนไม่กล้าแต่งตัวเผยผิว ส่งผลให้ชีวิตของสาวๆ ไม่สดใสและสนุกกับการใช้ชีวิตเลยก็ได้ ยิ่งสาวยุคใหม่ ล้วนคิวงานแน่น การดูแลผิว ดูแลตัวเองจึงเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน หรือดูแลได้ในเวลาที่จำกัดอันน้อยนิด วันนี้แพรวเลยนำ 3 สเต็ปง่ายๆ ไม่มากขั้นตอน ที่จะดูแลผิวให้สวยสตรองมาฝากสาวๆ กัน ไปดูกันเลย…!

สเต็ป 1 : น้ำมะนาวอุ่น ดื่มหลังตื่นนอนในยามเช้า

vaseline
ผิวสวย

อยากให้เช้าวันใหม่มีแต่สิ่งที่ดีเข้ามา ทำง่ายแค่สาวๆ เริ่มต้นที่ตัวเอง ช่วงเวลาหลังตื่นนอนจัดว่าเป็นช่วงที่สำคัญสำหรับสาวๆ ที่จะได้เตรียมร่างกายให้พร้อมเริ่มต้นสู่วันใหม่ หลายคนอาจจะคุ้นหูหรือเคยได้ยินมาแล้วว่า ให้ดื่มน้ำเปล่าหลังตื่นนอน เพราะจะช่วยขับของเสียในร่างกายทั้งยังช่วยให้ผิวพรรณเราสวยเปล่งปลั่งขึ้นด้วย แต่ความพิเศษของวันก็สามารถเพิ่มไอเท็มสำคัญที่หาซื้อง่ายอย่าง ‘มะนาว’ เข้ามาช่วยได้ โดยแค่ผ่ามะนาวเป็นซีกบางๆ 3-4 ชิ้น ใส่ลงไปในแก้วที่มีน้ำอุ่นเตรียมไว้ คนให้เข้ากันเล็กน้อย แล้วดื่มติดต่อกันอย่างน้อย 3 สัปดาห์ ผิวของสาวๆ จะดูสวยใส เปล่งปลั่งขึ้นจนสังเกตได้เลย ด้วยมะนาวมีวิตามิน c สูง ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันริ้วรอย ช่วยปรับระบบในร่างกายให้สมดุลขึ้น ที่สำคัญยังทำหน้าที่เป็นด่าง ไปดักจับพวกแป้ง น้ำตาล ที่เป็นกรดเมื่อเราทานเข้าไปได้อีกต่างหาก ประโยชน์มากแบบนี้ สาวๆ มีมะนาวตุนไว้ที่บ้านหรือยังเอ่ย

สเต็ป 2 : ขยับแข้ง ขยับขา สำหรับสาวๆ ที่มีเวลาน้อย

vaseline
ผิวสวย

ข้อนี้ สาวๆ น่าจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าการออกกำลังกายนอกจากจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดีขึ้น ยังช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของเลือดให้ทำงานสูบฉีดไปทั่วร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ซึ่งจุดนี้จะช่วยให้ผิวพรรณสวยใสและดูอ่อนเยาว์ขึ้น เพราะการออกกำลังกายช่วยเสริมคอลลาเจนให้แก่ผิว ทั้งยังลดปัญหาการเกิดริ้วรอย ความเหี่ยวย่น และความหมองคล้ำ แต่สาวๆ หลายคนก็อาจเจอปัญหาเรื่องเวลาที่มีไม่มากพอ บ้างก็ว่าเดินทางวันหนึ่งก็หมดแรงแล้ว หรือทำงานเหนื่อยทั้งวันก็อยากรีบกลับบ้านไปนอนพักผ่อน ซึ่งใน 1 วัน สาวๆ สามารถขยับแข้ง ขยับขาออกกำลังกายได้ไม่ยากเลย โดยระหว่างเดินทาง ถ้านั่งบนรถโดยสารนานๆ ก็ให้ขยับขาสองข้างขึ้นลงสลับกัน มาถึงออฟฟิศเลือกขึ้นบันไดแทนการขึ้นลิฟท์ หรือขณะนั่งทำงานก็ปลีกเวลาไม่เกินสัก 10 นาที ลุกขึ้นมายืนตรงเท้าชิดกันแล้วก้มตัวลงต่ำที่สุด พยายามก้มศีรษะให้ชิดหัวเข่า นิ่งค้างไว้นับ 1-30 ในใจ จะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี ทั้งยังช่วยเรื่องผลัดเซลล์ผิวเก่าได้อีกด้วย ผิวสวยสตรองทำไม่ยากเลยว่าไหมล่ะ

สเต็ป 3 : การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว Vaseline

vaseline
ผิวสวย

เสต็ปสุดท้ายสำคัญสำหรับสาวๆ ทุกคน แม้จะดูแลผิวพรรณด้วยวิธีต่างๆ ดีแค่ไหน แต่ถ้ามองข้ามเรื่องการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผิวของสาวๆ ก็อาจสวยไม่สมบูรณ์แบบ และดูไม่สตรองได้ ซึ่งผลิตภัณฑ์บำรุงผิวของวาสลีนจะช่วยดูแลผิวได้อย่างทั่วถึง เปรียบเสมือนเพื่อนที่แนะนำวิธีดีๆ มาช่วยแก้ปัญหาผิวของสาวๆ อย่างผลิตภัณฑ์บำรุงผิว วาสลีน อิน เทนซีฟ แคร์ รีสโตร์ จะช่วยเรื่องฟื้นฟูบำรุงผิวที่มีปัญหาขาดความชุ่มชื้น ไม่เนียนนุ่มน่าสัมผัส ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว วาสลีนเฮลธี้ ไวท์ ยูวี ไลท์เทนนิ่ง จะช่วยแก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ ลดริ้วรอยจุดด่างดำ ทั้งยังช่วยป้องกันรังสี UV จากแสงแดดที่ต้องเจอทุกวัน และผลิตภัณฑ์ วาสลีนเจลลี่ ที่มีขนาดพกพาง่ายก็ช่วยบำรุงผิวได้แทบทุกส่วนของร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเลยล่ะ

ส่วนใครที่รู้ 3 สเต็ปดูแลผิวให้สวยสตรองยังไม่อิ่มจุใจ หรือสงสัยว่า เอ…ยังมีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆ อีกไหม สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.vaselinethailand.com นี้เลย

28 ทริคเตรียมสวยสู่การเป็นเจ้าสาวใน 1 ปี

account_circle

หลังจากที่เหล่าสาวๆ เซย์เยสกับแฟนหนุ่มไปแล้วคราวนี้ก็ถึงคิวที่ต้องหาฤกษ์หายามเตรียมงานแต่ง ซึ่ง เราขอแนะนำว่า ถ้าไม่ฉุกละหุกต้องรีบแต่งให้เร็วที่สุด เวลาที่เหมาะสมสำหรับการเตรียมงานและเตรียมตัวคือ 1 ปี และใน 1 ปีนี้ คุณว่าที่เจ้าสาวจะต้องเตรียมตัวเพื่อความสวยให้สมฐานะ เจ้าสาว ต้องเตรียมผิว เตรียมผ้า เตรียมหน้าอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย!

1. จัดการความเครียดให้ได้ซะก่อน (เริ่มต้นตั้งแต่วันแรก)

เตรียมตัวสวยก่อนเป็นเจ้าสาว
ขจัดความเครียดซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาผิวหน้าด้วยการหาเวลาออไปพักผ่อนหรือทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ

หลายๆ คนพอรู้ตัวว่าจะแต่งงานก็เครียดเรื่องนู้นเรื่องนี้มากมาย วิตกกังวลหรือตื่นเต้นมากเกินไป ขอบอกเลยนะคะว่า ถ้าคุณไม่จัดการความรู้สึกเหล่านี้ให้อยู่หมัด มันก็จะทำให้คุณนอนไม่ค่อยหลับ จากนั้นผลที่ตามมาก็คือ ปัญหาผิวหน้าทั้งสิวเอย ผื่นเอย ขอบตาดำคล้ำเอย และอีกมากมาย เพราะฉะนั้นอย่าเครียดจนเกินไป หาเวลาออไปพักผ่อน รีแล็กซ์ เข้าวัดฟังธรรม นั่งสมาธิ เล่นโยคะ หรืออะไรก็ได้ที่คุณทำแล้วได้ผ่อนคลายจากความเครียด

2. หาหมอเพิ่มความสวย (1 ปีก่อนวันแต่ง)

เตรียมตัวสวยก่อนเป็นเจ้าสาว
ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ 1 ปีก่อนวันแต่งงาน

ข้อนี้ไม่ได้หมายความว่าให้ศัลยกรรมผ่านู่นเสริมนี้บนใบหน้านะจ๊ะ แต่หมายถึงว่าให้ว่าที่เจ้าสาวนัดคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังใกล้บ้าน (และเชื่อถือได้) เพื่อปรึกษาปัญหาผิวพรรณ ใครมีกระ สิว ฝา ก็รีบรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ รวมไปถึงใครมีปัญหาริ้วรอยจะฉีดจะเติมฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ ร้อยไหม ก็ต้องรีบทำกันในช่วงนี้ เพราะขั้นตอนการรักษาผิวมักจะใช้เวลานานติดต่อกันหลายเดือน เพื่อประสิทธิภาพและความสวยงามที่เพอร์เฟ็กต์ ดังนั้นคุณควรจะปรึกษาและวางแผนเวลาการปรับปรุงสภาพผิวให้แม่นยำ และตัวช่วยที่ดีที่สุด เข้าใจปัญหาผิวดีที่สุดก็คงไม่พ้นคุณหมอหรอกค่ะ

3. เติม Vitamin A ให้ผิว ( 9 เดือนก่อนวันแต่ง)

เตรียมสวยก่อนเป็นเจ้าสาว
Vitamin A ตัวแม่ ที่ช่วยดูแลผิวพรรณให้กับหญิงสาว ใช้ 9 เดือนก่อนวันแต่งงาน

เดี๋ยวนี้มีผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่โฆษณาความมหัศจรรย์แบบร้อยแปดพันเก้ามากมายเหลือเกินค่ะ แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับ Vitamin A ตัวแม่ ที่ช่วยดูแลผิวพรรณให้กับหญิงสาว ช่วยลดสิว ลดริ้วรอย ลดจุดด่างดำ ทำให้ผิวเรียบเนียนเสมอกัน ซึ่งผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มี Vitamin A ในบ้านเราก็มีอยู่มากมาย หาซื้อกันได้ง่ายเหลือเกิน บางตัวเดินเข้าร้านขายยาก็หามาใช้ได้แล้ว แต่เหนือสิ่งอื่นใดก่อนที่คุณจะไปหามาใช้มาทาก็ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรกันก่อนนะจ๊ะ

4. ทำทรีทเมนท์ผิวหน้ากับผู้เชี่ยวชาญ ( 6 เดือนก่อนวันแต่ง)

เตรียมตัวสวยก่อนเป็นเจ้าสาว
ทำทรีทเมนท์ผิวหน้ากับร้านเป็นมีอาชีพจริงๆ ก่อนวันแต่งงาน 6 เดือน

ร้านทำสปาผิวพรรณมีอยู่ทั่วไปในเมืองไทย แต่สำหรับใครที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวแล้วต้องการทำทรีทเมนท์ผิวหน้า อย่าสุ่มสี่สุ่มห้าเดินเข้าสปาที่ไหนก็ได้เด็ดขาด คุณควรจะหาอ่านรีวิวให้แน่ใจว่าร้านนั้นๆ มีความเป็นมีอาชีพจริงๆ สามารถให้คำแนะนำและคำปรึกษาที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณได้อย่างแม่นยำด้วย

5. เปลี่ยนไวน์เป็นน้ำผลไม้สีเขียว ( 3 เดือนก่อนวันแต่ง)

เตรียมสวยก่อนเป็นเจ้าสาว
ดื่มน้ำผลไม้สีเขียววันละ 1 แก้วแทนการดื่มไวน์ก่อนวันแต่งงาน 3 เดือน

สาวๆ คนไหนที่มีใจรักในการดื่มไวน์ ไม่ว่าจะเป็นไวน์ขาวหรือไวน์แดง WEweddingguide อนุญาตให้คุณดื่มได้ (แต่อย่ามาก) จนกระทั่งถึงเวลาก่อนแต่งงาน 3 เดือน ขอให้คุณหยุดดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ เพราะมันจะทำให้ร่างกายคุณขาดน้ำ ผิวพรรณดูไม่ชุ่มชื่น แล้วหันมาดื่มน้ำผักผลไม้ที่มีสีเขียว เพราะมีสรรพคุณช่วยเพิ่มออกซิเจนและแร่ธาตุที่ช่วยให้ระบบน้ำเหลืองดีขึ้น แนะนำให้ดื่มสัก 1 แก้วต่อวันก็จะดี

6. ลดแก้มแดงด้วยไฟ LED ( 3 เดือนก่อนวันแต่ง)

เตรียมสวยก่อนเป็นเจ้าสาว
ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังเกี่ยวกับการใช้ไฟ LED (Light Emitting Diodes) เพื่อช่วยลดรอยแดงจากแสงแดด 3 เดือนก่อนวันแต่ง

ใครที่ทำงานแล้วต้องเจอกับแสงแดดอันร้อนแรงจนแก้มน้อยๆ ของคุณเกิดอาการแดง (ที่ไม่ใช่แบบสุขภาพดี) อยู่ทุกวี่ทุกวันล่ะก็ ขอแนะนำให้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังเกี่ยวกับการใช้ไฟ LED (Light Emitting Diodes) เพื่อช่วยลดรอยแดงเหล่านั้นให้จางลงซะก่อนวันแต่งงาน

7. นวดหน้าด้วยตัวเองกันดีกว่า ( 6 เดือนก่อนวันแต่ง)

ทำสวยก่อนเป็นเจ้าสาว
นวดหน้าเองโดยเสิร์ชคำว่า Facials Massage แล้วทำตามวิดีโอใน Youtube 6 เดือนก่อนวันแต่งงาน

ผ่อนคลายกล้ามเนื้อผิวหน้าด้วยการนวดหน้าด้วยตัวเองก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำไม่ยาก สามารถทำได้ทุกวัน และไม่ต้องเปลืองเงินเดินเข้าร้านนวดหรือร้านสปาด้วยนะ ใครที่อยากรู้ว่านวดหน้าด้วยตัวเองแบบง่ายๆ ทำได้อย่างไร ลองเสิร์ชคำว่า Facials Massage ดูวิดีโอใน Youtube รับรองว่าทำตามได้ไม่ยาก

รองเท้าแต่งงาน

9 รองเท้าแต่งงาน ของเจ้าสาวที่คุณหยิบมาใส่ได้ตลอด

account_circle
รองเท้าแต่งงาน
รองเท้าแต่งงาน

งานแต่งงานเป็นอีเวนต์ของชีวิตที่บอกเลยว่าใช้เงินไปไม่น้อย ไหนจะทั้งค่าสถานที่ ค่าอาหาร แล้วยังมีเสื้อผ้าหน้าผมโดยเฉพาะของเจ้าสาวที่ต้องสวยเป๊ะ สวยอลัง มีแสนจ่ายแสนถึงจะใส่ได้ครั้งเดียวก็ยอมทุ่ม แต่จะดีกว่าไหมถ้าของที่ได้มาจะใส่ได้หลายครั้งเหมือนอย่างรองเท้าแต่งงานเก๋ๆ ถึงจะราคาแพงก็ยังใส่ได้เรื่อยๆ วันนี้แพรวจะพาไปดู 9  รองเท้าแต่งงาน ของเจ้าสาว กันค่ะ

9 รองเท้าแต่งงาน ของเจ้าสาวที่คุณหยิบมาใส่ได้ตลอด

1.รองเท้าส้นสูงปรี๊ด คาดด้วยสายเส้นเล็กๆ ด้วยสีม่วงสุดเซ็กซี่แต่เพิ่มความละมุนด้วยพู่ขนฟูฟ่องและโบว์สีเดียวกัน จาก Sake แบบนี้นอกจากจะใส่คู่กับชุดแต่งงานแล้ว ชุดเที่ยวเล่นก็ทำให้ได้ลุคสนุกสนาน

รองเท้าแต่งงาน 02

2.คัชชูว์หนังสีขาวใส่ได้กับทุกสิ่งอย่าง เหมือนรองเท้าหนังสีขาวฉุลายดอกไม้จาก Christian Louboutin คู่นี้ที่ไม่ต้องหวานฟรุ้งฟริ้งมากมายแต่ก็เข้าได้ดีกับชุดแต่งงานสีขาว แถมยังมีกิมมิคที่ส้นรองเท้าไม่ต้องตรงเป๊ะ แต่มีลายคลื่นให้ดูสนุกสนาน

3.รองเท้า Something Blue  จาก Jimmy Choo คู่นี้หวานละมุนไม่เว่อร์วังจนเกินไปที่จะหยิบมาใส่ในชีวิตประจำวัน แต่ก็ไม่เรียบเปี๊ยบจนไร้จุดเด่นด้วยเครื่องประดับวิบวับที่ด้านหน้าจึงสวยเด่นได้ในวันแต่งงาน

4.เมทัลลิคไหมละเธอว์ รองเท้าหนังสีเงินดอกไม้จาก Oscar de la Renta สวยหรูสมฐานะเจ้าสาวแถมจับคู่กับกางเกงยีส์ก็ดูเป็นสาวร็อคได้เหมือนกัน

5.รองเท้า Sergio Rossi สีนู้ดเรียบไม่แย่งซีนชุดแต่งงาน แต่ก็มีดีเทลวิบวับสะดุดดาด้วยคริสตัลด้านหน้าและงานเมลทัลลิคเบาๆ ที่ด้านหลังของรองเท้า

6.รองเท้าสีขาวทางการสุภาพๆ จาก Badgley Mischka โดดเด่นด้วยผ้าซาตินเรียบหรู ประดับคริสตัลด้านหน้านอกจากวันแต่งงานที่ใส่ได้แล้ว งานทางการก็ยังเหมาะสม

รองเท้าแต่งงาน 03

7.สาวสายหวานมุ้งมิ้งจุ้งจิ้งต้องชอบ Charlotte Olympia คู่นี้ ลองนึกภาพว่าจับคู่กับกระโปรงสั้นฟู่ฟ่องสิ น่ารักสุดๆ ไปเลย แถมเรียกสายตาด้วยคริสตัลเม็ดเป้งยิ่งทำให้สวยโดดเด่น

รองเท้าแต่งงาน 04

8.เจ้าสาวที่ไม่อยากได้ลุคมุ้งมิ้งกระดิ่มแมวต้องถูกใจรองเท้าดีไซน์เท่จาก Stuart Weitzman ที่ผสมผสานงานหนังและสีเมทัลลิคได้อย่างกลมกลืนแน่ๆ เพราะนอกจากจะมีความร็อคอยู่นิดๆ ยังใส่กระชับเพราะที่รัดเท้าด้านหน้ากว้างกว่าคู่อื่นๆ

9.รองเท้าประดับลูกไม้แต่ไม่หวานจ๋าจาก Ivanka Trump ใส่ในวันแต่งงานก็ได้ลุคเจ้าสาวเซ็กซี่ ใส่ในวันอื่นๆ ของชีวิตก็สร้างลุค Working Woman ที่มีความปราดเปรียวไม่ต่างจากเจ้าของแบรนด์เลยทีเดียว

นี่แหล่ะค่ะแนวทางของรองเท้าแต่งงานที่ซื้อมาแล้วใส่ได้หลายครั้ง คือไม่จำเป็นต้องเป็นรองเท้าแต่งงานอลังการระดับเพชรยอดมงกุฎ แต่ก็มีความสวยสง่าอยู่เบาๆ


ขอบคุณภาพและข้อมูล brides.com

20 แฟชั่นขาวดำ “แอน ทองประสม” สไตล์สมาร์ทแคชชวล ดูดีแบบวัย 30 อัพ!

เพิ่งจะก้าวเข้าสู่วัยเลข 4 ไปหมาดๆ สำหรับนางเอกเบอร์หนึ่งของวงการบันเทิง “แอน ทองประสม” แต่ยังดูดีแบบสาววัย 30 ก็มิปาน ดังเช่นสไตล์การแต่งตัว แฟชั่นขาวดำ ที่จะเน้นลุคเรียบเก๋เป็นทางการก็ดูดี หรือจะฉีกวัยไปเป็นเรียบง่ายสไตล์มินิมอล (Minimal Style) สาว “แอน” ก็มิกซ์แอนด์แมตช์ออกมาได้ลงตัว

อย่างที่แพรวหยิบมาให้ Get the Looks! กันวันนี้ คือ 20 แฟชั่นขาวดำ กับสไตล์แคชชวล (Casual) ชุดลำลอง ดูดีไม่เป็นทางการ ไปจนถึงสมาร์ทแคชชวล (Smart Casual) ยกระดับความโก้และภูมิฐานขึ้นมาอีกนิด ซึ่งสามารถแต่งตามได้ทั้งในโอกาสไม่เป็นทางการ จนถึงงานที่เป็นกึ่งทางการ

 

เสื้อยืดคอกลมสวมทับด้วย เสื้อเบลเซอร์ ที่เพิ่มลูกเล่นด้วยดีไซน์จับจีบด้านหลัง
Mix & Match กางเกงสแล็ค
ให้ลุคเรียบร้อยเป็นทางการ แต่ปราดเปรียวอีกนิดด้วยรองเท้าส้นเข็ม

แฟชั่นขาวดำ

ลดอายุลงมากึ่งหนึ่ง แค่เพียงเลือกเดนิมมาเป็นไอเท็มผสม

แอน ทองประสม

แคชชวลสไตล์ง่ายๆ แบบวัย 30 อัพด้วยเสื้อยืดคอกลมหลวมๆ นุ่งทับด้วยกางเกงยีนส์ขาม้า
คอมพลีตลุคนี้ด้วยรองเท้าส้นสูงเท่านั้น เพื่อเรียวขายาว ห้ามจับคู่กับรองเท้าผ้าใบเด็ดขาด

14

แคชชวลสไตล์ แต่ขยับไปทางสายสปอร์ตเกิร์ลบ้างอะไรบ้าง
ลุคนี้เล่นกับสีขาว – ดำแบบ Top & Bottom

09

เลกกิ้งตัวเดิม แต่เปลี่ยนจากเสื้อแจ็กเก็ตมาสวมทับด้วยเสื้อเบลเซอร์ และสวมรองเท้าบัลเลต์ส้นแบน เป็นการผสมผสานระหว่างท่อนบนที่เป็นกึ่งทางการ กับท่อนล่างแบบแคชชวลสไตล์

11

เรียบง่ายสไตล์มินิมอลด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตา จับคู่กับกางเกง Jogger Pants 
ทำให้วันที่ดูตึงเครียดกลายเป็นวันชิลๆ วันหนึ่ง

แฟชั่นขาวดำ แอน ทองประสม

สตรีทสไตล์แบบชิคๆ ด้วยกางเกงสี่ส่วนขาบาน จับคู่กับเสื้อคอเต่า ดูดีแบบไม่ตั้งใจ

02

ฮิปสเตอร์ตัวแม่ด้วยกางเกงขาบาน กับรองเท้าผ้าใบ

20

ชุดสไตล์ลำลองที่ดูสบายๆ ทะมัดทะแมง ด้วยกางเกงสี่ส่วนกับเสื้อเชิ้ตแขนกุด
แต่ติดกระดุมถึงเม็ดบนสุด ใส่คู่กับรองเท้าบัลเลต์ส้นแบนดูเรียบร้อย

06

แคชชวลสไตล์อีกลุคที่ดูองค์รวมแล้วสามารถสวมใส่ไปงานกึ่งทางการได้ แม้จะเป็นจั๊มป์สูทชิลๆ
แต่เมื่อนำมา Mix & Match กับรองเท้า กระเป๋า และแว่นตา
ก็ส่งให้ลุคนี้กลายเป็น “สมาร์ทแคชชวล” ขึ้นมาทันที

07

แฟชั่นสตรีทสไตล์สุดฮิป สาว “แอน ทองประสม” ก็เอาอยู่

05

อ่านต่อหน้า 2

หุ่นเพรียวกระชับ แค่ปรับการแต่งตัว! 7 เทคนิค Mix & Match อำพรางหุ่น

เคยมั้ย ที่มีคนทักว่า “ช่วงนี้ผอมลงนะ?”, “ไม่เจอนานอ้วนขึ้นหรือเปล่า?” ทั้งที่น้ำหนักและสัดส่วนรอบตัวของคุณเท่าเดิม…! นั่นอาจจะเป็นเพราะ ชุดที่คุณกำลังใส่อยู่ก็เป็นได้

แน่นอนว่า การออกกำลังกาย คือ คำตอบที่ดีที่สุดหากต้องการมี หุ่นเพรียวกระชับ กำจัดไขมันส่วนเกินออกไปจริงๆ เพื่อรูปร่างที่สมส่วน แต่จะทำอย่างไรในเวลาฉุกเฉิน แล้วต้องการสวยแบบเร่งด่วน?
จะออกไปวิ่งสักรอบหรือ โหนผ้าสักหนึ่งตลบ ก็ไม่ช่วยให้สะโพกหด ไขมันต้นขาแฟ่บในทันทีได้ หรือจะแขม่วพุงจนเหนื่อย ก็ไม่สามารถปิดบัง หลักฐานของบุฟเฟ่ต์ที่เพิ่งซัดไปเมื่อวานได้ แต่ชีวิตของเรายังต้องดำเนินต่อไป แล้วแบบนี้จะทำเยี่ยงไรให้ออกไปข้างนอกด้วยความมั่นใจเต็มร้อย

วันนี้เราจึงมีอีกวิธี ที่ช่วยเสกหุ่นเพรียวดั่งใจนึก อำพรางจุดบกพร่องของร่างกาย มาฝากสาวๆ แพรวกันค่ะ นั่นคือการเลือก Mix & Match เสื้อผ้า ด้วยเทคนิคการแต่งกายง่ายๆ ที่จะช่วยปรับให้หุ่นของคุณเพรียวกระชับ

 

1

เดรสเข้ารูปทรงเอ ที่มีความคล้ายกัน แต่ถ้าเลือกสวมแบบคอวี จะช่วยทำให้ไหล่ของคุณดูบางลง ลำตัวท่อนบนเพรียวเล็ก กระชับกว่าเป็นกอง!

 เทคนิค Mix & Match อำพรางหุ่นง่ายๆ


2

เสื้อทรงเอมีชายระบาย กับ กระโปรงเข้ารูป ทำให้เกิดมิติการมอง ให้สัดส่วนช่วงบนและล่างถูกบีบให้แลดูแคบลงก็จริง แต่ ช่วงตรงกลางกลับป่องขึ้นมาแทน ใส่แล้วดูเหมือนอาหารบุฟเฟ่ต์เมื่อวานยังไม่ย่อย
ลองเปลี่ยนมา สวมเสื้อแบบนุ่งทับ แล้ว Mix & Match กับกระโปรงทรงดินสอดีกว่า

หุ่นเพรียวกระชับ


3

ลายพิมพ์ขนาดใหญ่และมีองค์ประกอบในนอนแนว ทำให้ช่วงตัวคุณดูบานเบอะ!
แถมรองเท้าที่มีเชือกผูกยาวๆ ไปถึงน่องไม่ได้ช่วยส่งให้ขาดูยาวเรียวขึ้น แต่ทำให้ดูขาสั้นและใหญ่ ลองเปลี่ยนมาสวมใส่รองเท้าส้นสูงสีเบจที่กลมกลืนกับผิว แล้ว Mix & Match กับกระโปรงทรงดินสอผ่าด้านหน้า ที่ช่วยให้ช่วงขายาวขึ้นแถมข้อเท้าคุณดูเล็กลงอีกด้วย

04


4

สะโพกดูเล็กลงในบัดดล แค่ถอดกระโปรงทรงนักเรียนลายสก็อตออกไปซะ! เพราะเส้นตารางสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ทำให้ช่วงล่างแลดูผาย ทั้งยังเป็นทรงจับจีบรอบตัวแบบนี้ คุณจะแลดูเหมือนกับว่าเอวหนา หน้าท้องโป่งพอง ต้นขาใหญ่ โอ้ย สารพัด!

06


5

จริงๆ แล้วคุณไม่ได้ต้นขาใหญ่ หรือกำลังอึดอัดพุงอาหารไม่ย่อยแต่อย่างใด แต่คนกลับทักคุณว่าดูอ้วนขึ้น??? นั่นเป็นเพราะรูปทรงและลายของเสื้อผ้า ทำให้ขนาดรอบตัวและต้นขาคุณดูใหญ่กว่าความเป็นจริง!

02


6

ลายขวาง ทำลายทุกภาพลักษณ์ของคำว่า ผอมเพรียว ลอง Mix & Match ด้วยกระโปรงแบบภาพด้านขวา เพิ่มความเก๋ด้วยเข็มขัดหนังสีดำเส้นใหญ่ จะช่วยให้เอวดูคอดลง สะโพกกลมกลึงกำลังดี

01


7

สีของเสื้อผ้ามีส่วนทำให้ดูตัวเล็กลง หรือ ใหญ่ขึ้นได้ ตามหลักแล้วชุดที่สีสว่างจะทำให้ลำตัวดูกว้างขึ้นกว่าเดิม แต่หากลองดูในภาพนี้ แม้จะเลือกคีย์เวิร์ดเดียวกันคือ กางเกงสีดำ แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับแตกต่างกันมาก เพราะ ดีไซน์ของกางเกง ยังรวมไปถึง วิธีการนุ่งทับเสื้อที่หลวมและต่ำเกินไป ไม่เก็บชายให้เรียบร้อย / แขนเสื้อที่ควรจะดึงขึ้นมาให้อยู่ในสัดส่วนเลยขอบเอวเกงเกงไปเล็กน้อย

และที่สำคัญอย่าลืมว่า ดีไซน์คอเสื้อเป็นแบบเปิดไหล่ ต้องจัดการรวบผมด้านหน้าขึ้นไปนิด ชีวิตจะเปลี่ยนทันที! (ในภาพซ้ายคุณจะดูเหมือน ร่างกายไม่กระชับ พุงโล หลังค่อม)

07

แล้วอย่าลืมนำเทคนิคง่ายๆ ด้านบนไปปรับใช้กันนะจ๊ะสาวๆ


เรียบเรียงโดย : Red Apple_แพรวดอทคอม
ที่มา / ภาพ :brightside.me

อ่านต่อ สูงเพรียวเปรี้ยวได้อีก! ด้วย 6 ทริค Mix&Match ง่ายๆ

โอ้ย! ในส่วนของขา…6 ดาราน่องสวย ขอเมินส้นสูง เปรี้ยวแซ่บ อวดได้ไม่อายใคร

ช่างไม่ยุติธรรมจริงๆ บางคนออกกำลังกายปั้นเรียวขาแทบตายก็ยังไม่เป๊ะเท่าขาของพวกเธอ ดาราน่องสวย ที่ดันมีพื้นฐานดี และสวยธรรมชาติมาตั้งแต่เกิด

พรีม-รณิดา เตชสิทธิ์

Untitled-22

Untitled-30

เป็นคนที่มีของดีอยู่กับตัวโดยเฉพาะเรียวขา สาวพรีมไม่ค่อยโชว์ออกสื่อเท่าไหร่ เพราะด้วยภาพลักษณ์ที่ดูเป็นสาวหวานเรียบร้อย แต่ก็แอบเห็นมีใส่กางเกงขาสั้นบ้างเหมือนกัน ขอบอกว่าขานางสวยปังมากจริงๆ
ภาพ : @jpreem
แคท-ซอนญ่า สิงหะ

Untitled-12

Untitled-15
ดูกี่ทีก็ไม่มีเบื่อจริงๆ สำหรับสาวแคท ด้วยสไตล์การแต่งตัวที่สวยโดดเด่น มีความเอเลแกนต์ รวมถึงเรียวขาก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ใครเห็นเป็นต้องชม เพราะสัดส่วนเป๊ะทุกมุม ไม่รู้ว่านางกักเก็บไขมันไปไว้ตรงส่วนไหนของร่าง
ภาพ : @sonyasingha
เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา

Untitled-2

Untitled-3เป็นสาวไซส์มินิที่รูปร่างสมสัดส่วนมากๆ โดยเฉพาะในส่วนของขาที่เรียวได้รูป ไม่ว่าจะใส่เสื้อผ้าแบบไหนก็สวยเป๊ะไปหมดเลยจ้า
ภาพ : @esthersupree
ศรีริต้า เจนเซ่น

Untitled-4

Untitled-5ส่วนคนนี้ต้องบอกว่าสวยผิดมนุษย์มนาจริงๆ ไม่รู้ว่าเธอทำบุญมาด้วยอะไรนะถึงได้สวยไปทั้งตัวขนาดนี้ ยิ่งตอนสาวริต้าใส่กางเกงยีนส์สั้นกุด บอกเลยว่าเริด เพราะไม่ได้ดูโป๊เกินงาม แต่ดูมีสไตล์มากกว่า
ภาพ : @sriritajensen
ซาร่า เล็กจ์

Untitled-8

Untitled-9มาที่สาวนัยน์ตาคมคนนี้บ้าง เป็นอีกหนึ่งคนที่แต่งตัวได้อินเทรนด์ตลอด โดยเฉพาะเสื้อผ้าแนวสตรีทนิดๆ ขาสวยขาเริดทำให้ใส่ชุดไหนก็ดูสวยดูดีไปหมดจริงๆ
ภาพ : @sara_legge
เข็ม-ลภัสรดา ช่วยเกื้อ

Untitled-7แม้จะมีดีกรีเป็นนางแบบรุ่นเก๋า แต่ไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของเข็มเป็นสายเซอร์นะรู้ยัง! เพราะแทบไม่เคยเห็นนางใส่ส้นสูงเลยจ้า นอกจากต้องออกงาน แหม! แต่ขนาดแต่งน้อยแล้วยังดูดี เอาแค่ขาก็ชนะแล้ว
ภาพ : @khunkhemkhunkhem
ทั้งหมดนี้ดูไว้เป็นแรงบันดาลใจพอ อย่าไปซีเรียสมาก เพราะของแบบนี้ถึงจะเล็กหรือใหญ่ก็สวยได้เหมือนกัน ถ้ารู้จักแต่งให้เป็นนะจ๊ะสาวๆ…

เรื่อง :  แพรวดอทคอม

เค้ก - นัทธวัชร์ แก้วบัวสาย

รีวิวขนมหวานหน้าหล่อ “เค้ก – นัทธวัชร์ แก้วบัวสาย” อดีตหนุ่มการบินไทย หลานชายมาดามตู่

เค้ก - นัทธวัชร์ แก้วบัวสาย
เค้ก - นัทธวัชร์ แก้วบัวสาย

เปิดตัวที่แรกกับ Exclusive Talk วันนี้ แพรวดอทคอมพามารีวิวความสดใหม่ของขนมหวานชิ้นนี้ “เค้ก – นัทธวัชร์ แก้วบัวสาย”
แค่ชื่อก็ชวนน่ากิน แต่ถ้าจะให้ฟินยิ่งขึ้นก็ต้องมารู้จักตัวตนของ “เค้ก – นัทธวัชร์ แก้วบัวสาย” หลานชายของมาดามหัวใจเพชร “ตู่ – นันทิดา” หนุ่มน้อยวัย 23 ปี ที่อีกไม่นานกำลังจะเป็นพระเอกหน้าใหม่ของช่อง 3 ซะด้วย

ตอนนี้เห็นว่าเข้าช่อง 3 แล้ว จุดเริ่มต้นเป็นมายังไง

เค้ก – นัทธวัชร์ : จริงๆ น้องสาวผมเข้ามาก่อนครับ และพี่ผู้จัดการของน้องเขาเห็น ก็เลยชวน แต่ตอนนั้นผมอ้วนมากเลยนะ ช่วงนั้นก็มีได้ลองไปแคสต์งานละครด้วย ที่แรกคือของพี่หน่อย – บุษกร พอดีว่าพี่เขาจะเปิดกล้องละครเรื่องใหม่ ผมว่าฟลุคมากที่ได้ แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองยังไม่มีความพร้อม เลยออกมาเรียนการแสดงก่อนดีกว่า ส่วนผลงานที่จะมีในอนาคตก็คงต้องแล้วแต่ทางผู้ใหญ่พิจารณาครับ แต่ขออุบไว้ก่อน ตอนนี้ยังบอกไม่ได้นะครับ ความลับ…(ยิ้ม)

แล้วที่บอกว่าเคยอ้วนนี่ น้ำหนักขนาดไหน ทำไมตอนนี้ถึงผอมเพรียวหล่อได้ขนาดนี้

เค้ก – นัทธวัชร์ : มันก็เยอะมากครับ เอาเป็นว่าน้ำหนักผมลงมา 10 กิโลกรัมจากเมื่อก่อน และหน้าบวมมาก ช่วงนั้นวัยรุ่นด้วย เที่ยวด้วย ไว้หนวดเคราอีก

เค้ก - นัทธวัชร์ แก้วบัวสาย

เซอร์เลยใช่ไหม

เค้ก – นัทธวัชร์ : ไม่เซอร์ครับ โทรมเลย (หัวเราะ)

แสดงว่าจริงๆ แล้วก็ไม่ได้คิดว่าจะเข้ามาตรงนี้แต่แรกหรือเปล่า ถึงปล่อยตัวเองขนาดนั้น

เค้ก – นัทธวัชร์ : ก็ประมาณนั้นครับ คือผมเรียนจบนิเทศศาสตร์ เอกโฆษณามา แล้วก็ไปเป็นกราวนด์อยู่ที่การบินไทย เพราะตั้งใจว่าพอสจ๊วร์ดเปิดรับสมัครก็จะไปทำงานด้านนั้น แต่พอได้รับโอกาสตรงนี้ ซึ่งมันก็น่าสนใจดี ก็อยากลองดูเหมือนกัน เลยลาออกจากที่นั่นมาเลย

แบบนี้เส้นทางการเป็นสจ๊วร์ดเรียกว่าปิดเลยหรือเปล่า

เค้ก – นัทธวัชร์ : ผมวางแผนเอาไว้คร่าวๆ บ้าง เพราะมีสัญญากับที่ช่องไว้ 3 ปี คือถ้าทำแล้วไม่ใช่ทางของผมก็คงออกมามูฟออน แต่คงไม่ได้มุ่งที่การเป็นสจ๊วร์ดแล้วครับ วันนั้นคงไปสมัครเรียนเป็นนักบินเลย ซึ่งก็ต้องคอยดูต่อไปว่างานในวงการบันเทิงมันจะเวิร์คสำหรับผมไหม

เค้ก - นัทธวัชร์ แก้วบัวสาย

ทำไมถึงอยากเป็นนักบิน

เค้ก – นัทธวัชร์ : มันเท่ดีครับ และผมเองก็ชอบ คืออาชีพนี้มันยากนะ แต่ท้าทายดี และผมเองก็เห็นมาตั้งแต่เด็กๆ คุณพ่อก็อยู่การบินไทย มันคือความใฝ่ฝันที่อยากเป็นเลยก็ว่าได้ แต่ที่ไม่ได้เรียนมาโดยตรงก็เพราะหัวผมมันไม่ไปเลย โดยเฉพาะวิชาเลข ไม่ได้เลยครับ ถึงขั้นโง่ก็ว่าได้ (น้ำเสียงจริงจังมาก)

พูดจาตรงไปตรงมาขนาดนี้ ลึกๆ แล้วบุคลิกเป็นคนแบบไหน

เค้ก – นัทธวัชร์ : ก็ค่อนข้างมีโลกส่วนตัวเหมือนกัน คือผมเป็นคนประเภทชอบอยู่คนเดียว ถ้าได้ไปอยู่ในที่ธรรมชาติ อยู่ป่า จะมีความสุขมาก เมื่อก่อนที่เรียนจบมาใหม่ๆ เคยไปอยู่ปายคนเดียวเกือบเดือนเลย ไปขี่จักรยาน พอตกกลางคืนก็ไปเสิร์ฟอาหารในบาร์ ได้ค่าแรง 100 – 200 บาท ช่วงนั้นในหัวไม่ได้คิดอะไรเลยครับ มันคือความอยากไป เวลาผมไปจะไม่ได้แบบอยากไปวันนี้ ต้องกลับวันนี้นะ คือจะอยู่จนกว่าจะอยากกลับ ตอนนั้นรู้สึกเบื่อรถติด เบื่อเมืองใหญ่ ก็เลยขึ้นไปอยู่เกือบเดือน

เป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยเด็กๆ เลยหรือเปล่า

เค้ก – นัทธวัชร์ : ก็น่าจะมีส่วนครับ เพราะผมโตมากับการอยู่ในโรงเรียนประจำที่วชิราวุธฯ ส่วนใหญ่ชีวิตก็จะอยู่กับเพื่อนและโรงเรียนมากกว่า ตอนเด็กๆ ผมเองก็ไม่ใช่ว่าจะถูกตามใจนะ แต่ก่อนที่เรียนอยู่โรงเรียนประจำก็จะบู๊มาก แผลเต็มตัว แขนหักก็เคย เพราะเล่นรักบี้ด้วย คือแผลเต็มตัวเลยครับ (หัวเราะ)

เค้ก - นัทธวัชร์ แก้วบัวสาย
ตอนนั้นคิดว่าเด็กไปไหมที่ต้องออกมาอยู่โรงเรียนประจำตั้งแต่ยังเด็ก

เค้ก – นัทธวัชร์ : ไม่นะครับ เพราะมันเป็นความที่ผมอยากเข้าเอง คือผมกับพี่ชายอายุห่างกันเยอะเหมือนกัน เห็นเวลาที่พ่อต้องไปส่งพี่ชายที่โรงเรียนนี้ เลยได้เห็นบรรยากาศที่นั่น เห็นว่าเขาเล่นกีฬากัน ซึ่งมันเป็นตัวผมอยู่แล้วด้วย ก็เลยชอบ ผมก็บอกแม่เลยว่าน่าเรียน อยากเรียนที่นี่ ตอนนั้นแม่ก็ถามว่าแน่ใจนะ เพราะตอนแรกผมเรียนอยู่สาธิตเกษตรฯก่อน พอ ป.4 เลยเข้าไปอยู่ที่วชิราวุธฯยาวเลย วันแรกๆ ก็มีโหวงๆ เหมือนกัน มันก็ยากนะ มีร้องไห้ด้วย (หัวเราะ) ร้องจนไม่รู้จะร้องยังไง เพราะว่าเด็กมาก

ที่นั่นสอนอะไรเค้กบ้าง

เค้ก – นัทธวัชร์ : สอนให้ผมใช้ชีวิต ให้รู้จักเอาตัวรอดได้ครับ การเอาตัวรอดในสังคมและการเอาตัวรอดในชีวิตประจำวันที่ไม่มีพ่อแม่ เราต้องทำยังไง การเข้าสังคมอะไรต่างๆ คือผมได้อะไรจากโรงเรียนนี้เยอะมาก-ก-ก-ก

พาร์ตที่อยู่กับครอบครัว เค้กจะนิ่งหรือโลกส่วนตัวสูงด้วยหรือเปล่า

เค้ก – นัทธวัชร์ : ก็ค่อนข้างมีความคิดเป็นของตัวเอง แต่ผมไม่ดื้อเงียบนะ จะดื้อให้เห็นเลย (หัวเราะ) แต่ตอนนี้ผมก็เปลี่ยนแปลงตัวเองไปเยอะมากหลังจากที่ได้มาทำงานในวงการนี้

เค้ก - นัทธวัชร์ แก้วบัวสาย

เคยมีคนสงสัยไหมว่าทำไมเราถึงนามสกุลเดียวกันกับคุณตู่ – นันทิดา

เค้ก – นัทธวัชร์ : ผมก็ไม่แน่ใจ แต่คิดว่าน่าจะมีครับ ส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครทราบ เพราะว่าผมผิวดำ (หัวเราะ)

ได้ข่าวว่าชื่อเล่นของเค้ก คุณอาตู่ก็เป็นคนตั้งให้ด้วย

เค้ก – นัทธวัชร์ : ใช่ครับ ชื่อนี้มาตั้งแต่เกิดเลย และครอบครัวผม อย่างพี่สาวกับพี่ชาย (คนละแม่) คือพี่เนย พี่แยม และก็มาเป็นผม ส่วนน้องสาวชื่อพาย

แสดงว่าก็ต้องสนิทกับคุณอาตู่มากเหมือนกัน

เค้ก – นัทธวัชร์ : สนิทครับ ก็เจอกันบ่อย มีช่วงหนึ่งที่ไม่ได้เจอเพราะคุณอางานเยอะ

คุณอามีแนะนำหรือสอนอะไรบ้างไหม พอเข้ามาทำงานในวงการ

เค้ก – นัทธวัชร์ : เขาก็บอกว่าให้ผมกับน้องทำเต็มที่ครับ เพราะการที่ผมกับน้องเข้ามาตรงนี้คือเข้ามาด้วยตัวเองจริงๆ ไม่ได้เข้ามาด้วยคำว่า “แก้วบัวสาย” หรือ “ตู่ – นันทิดา” ให้เข้ามา ซึ่งคุณอาบอกว่าขอให้ทั้งสองคนทำตรงนี้ให้เต็มที่และให้ภูมิใจว่าทำด้วยตัวเอง

เตรียมรับแรงกดดันว่าเราเป็นหลานของ “นันทิดา แก้วบัวสาย” ไว้ยังไงบ้าง

เค้ก – นัทธวัชร์ : จริงๆ ผมกดดันมากนะ เพราะผมไม่ชอบที่คนบอกว่าผมเป็นแก้วบัวสายหรืออะไรก็ตาม ขนาดเพื่อนผมยังพูดเลยว่าผมเข้ามาช่อง 3 ได้เพราะอาของผม ซึ่งไม่ใช่และไม่เกี่ยวเลย ผมก็บอกไปว่าถ้าผมจะเข้าวงการจริงๆ ทำไมผมไม่เซ็นกับแกรมมี่ไปเลย ในเมื่อคุณอาอยู่ที่นั่น บางทีผมรู้สึกว่าความสามารถผมไม่มีเลยเหรอ ถึงโดนเรื่องนี้มาตลอด โดนจนไม่ใส่ใจมันแล้วครับ คือเราไปนั่งไล่พูดกับทุกคนไม่ได้หรอกว่าเราเข้ามาเองนะ ก็ทำให้เขาเห็นดีกว่าว่าเราเข้ามาได้เพราะความสามารถ

คุณพ่อคุณแม่รู้สึกอย่างไรบ้างที่เข้ามาทำงานตรงนี้

เค้ก – นัทธวัชร์ : พ่อชอบแน่นอนครับ เพราะพ่อยังอยู่กับภาพของอา แล้วก็ยังเป็นอยู่จนทุกวันนี้ ยิ่งพอผมกับน้องได้เข้ามาก็ยิ่งดีใจครับ คุณแม่ก็ไม่เคยคิดว่าผมกับน้องจะมาอยู่ตรงนี้เหมือนกัน เพราะไม่น่าจะเข้ามาได้เลยด้วยซ้ำ เป็นเรื่องที่ไกลตัวมาก และแม่ก็ต้องเปลี่ยนการใช้ชีวิตตัวเองเหมือนกัน ทุกวันนี้น้องถ่ายละครก็ขับรถให้น้อง เพราะด้วยอะไรหลายๆ อย่าง แม่ก็เริ่มเปลี่ยนความคิดกับวงการนี้ ตอนแรกก็ไม่ชอบ ผมก็ไม่ชอบ น้องก็ไม่ชอบ แต่พอได้ลองเข้ามาทำแล้ว มันก็ไม่ได้เป็นเหมือนที่เราคิดซะทุกอย่าง ทำไมนักแสดงเขาสบายจัง เขารวยกันจัง น้องผมที่เข้ามาทำก่อนก็บอกว่ารู้แล้วว่าทำไมเขาได้ผลตอบแทนขนาดนั้น เพราะมันเหนื่อยมาก

 

อ่านต่อหน้า 2

 

เรื่อง : SRIPLOI

ภาพ : วาระ สุทธิวรรณ

สถานที่ : ร้านอาหาร Parlour Restaurant & Bar at CDC

‘ปล่อยวาง’ นี่แหละ สุดยอดเคล็ดลับฟิตแอนด์เฟิร์มของ เมจิ อโณมา

เมจิ อโณมา ขึ้นชื่อว่าเป็นสาวรักสุขภาพ ผู้นำเทรนด์ฟิตหุ่นตัวแม่ แต่บอกได้เลยว่า เคล็ดลับหุ่นฟิตเปรี๊ยะของเธอนั้น ไม่ได้อยู่ที่การกินคลีนหรือการเทรนร่างกายเท่านั้น สำคัญที่สุดคือการปล่อยวางต่างหาก

เมจิ 5

เมจิศึกษาการออกกำลังกายและการกินอาหารมาหลายทฤษฎี จึงได้รู้ว่าสุดท้ายร่างกายไม่ได้คุมทุกสิ่ง แต่คือจิตใจต่างหาก ถ้าช่วงไหนที่เรารู้สึกเครียด ร่างกายจะไปกระตุ้นฮอร์โมนที่ชื่อคอร์ติซอล (ฮอร์โมนแห่งความเครียด) เจ้าฮอร์โมนตัวนี้จะทำให้รู้สึกอยากกินน้ำตาล

เมจิ 3

“มีช่วงหนึ่งเมจิเทรนร่างกายหนักมาก กินแต่โปรตีน แต่รู้สึกว่าบอดี้แฟตไม่ลดลงเสียที เมื่อศึกษาจึงรู้ว่า ถ้ามีสารคอร์ติซอลในร่างกายเยอะ มันจะไปดึงน้ำตาลในเลือดออกมา แถมยังสามารถแปลงโปรตีนในร่างกายให้กลายเป็นน้ำตาลได้อีกด้วย ความอ้วนจึงสะสมไปเรื่อยๆ

เมจิ 2

“เพราะฉะนั้นต่อให้กินอาหารคลีนอย่างแพง มีเทรนเนอร์ที่เก่งมาก แต่สองปัจจัยนี้จะไม่ช่วยอะไรเลย ถ้าเราคุมจิตใจตัวเองไม่ได้ เคล็ดลับของเมจิจึงอยู่ที่การปล่อยวางความเครียด เลิกกดดันตัวเอง ออกกำลังกายเท่าที่ออกไหว กินอาหารมีประโยชน์ ปรากฏว่าหนึ่งอาทิตย์ผ่านไป ร่างกายเฟิร์มขึ้นเยอะ บอดี้แฟตลดลงทันตาเห็นเลยค่ะ”

เมจิ 4

เรื่อง faifai

รูป IG: meiji_27anorma

กลุ้มใจหนักมาก อดอาหาร แล้วทำไมยังอ้วนอีก!!

Alternative Textaccount_circle

หลายคนมีปัญหาไขมันส่วนเกินจนอวบอ้วน รูปร่างไม่สมส่วน พยายามแก้ไขด้วยการ อดอาหาร เป็นวิธีแรก ได้ผลและปลอดภัยจริงหรือ นายแพทย์โกสินทร์ แจ่มเพ็ชรรัตน์ มีคำตอบ

อดอาหาร

ดิฉันได้ยินว่าบางคนลดน้ำหนักโดยงดกินแป้งและไขมันเลย ร่วมกับงดมื้อเย็นหลัง 6 โมงเย็น บางราย เคยอ้วนน้ำหนัก 80 กิโลกรัม สามารถลดได้ถึง 20 กิโลกรัมในเวลา 3 เดือน วิธีนี้ได้ผลและปลอดภัยจริงไหมคะ??

การลดน้ำหนักโดยจำกัดจำนวนแคลอรีที่เข้าไปในร่างกายควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล และไขมัน ซึ่งให้พลังงานสูง เกิดการสะสมของไขมันส่วนเกินในร่างกายได้ง่ายครับ การงดกินช่วงเย็นถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องครับ เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายใช้พลังงานน้อย โดยเฉพาะขณะนอนหลับ ทำให้ไขมันส่วนเกินสะสมได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ควรงดอาหารเพื่อให้น้ำหนักลดลงอย่างฮวบฮาบ เพราะขณะที่เราอดอาหารเป็นเวลานานๆ น้ำหนักที่ลดลงอย่างมากในช่วงแรก มักเป็นน้ำหนักของน้ำเสียส่วนใหญ่ (ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์) ต่อมาร่างกายจะค่อยๆ ดึงไกลโคเจน (คาร์โบไฮเดรตที่เก็บสะสมไว้ที่ตับและกล้ามเนื้อ) มาใช้เป็นพลังงานสำรอง เมื่อถูกใช้ไปหมดแล้ว แหล่งถัดไปที่ถูกดึงมาใช้ คือ โปรตีนในกล้ามเนื้อ ในระยะนี้ หากคุณไม่ออกกำลังกาย กล้ามเนื้อก็จะฝ่อลีบเล็กลง ไม่มีเรี่ยวแรง แม้ว่ารูปร่างจะแลดูผอมลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ผิวพรรณและร่างกายก็ดูอิดโรย ขาดชีวิตชีวา ผิวแห้งอักเสบได้ง่าย รวมทั้งภูมิต้านทานภายในร่างกายจะลดลง ติดเชื้อได้ง่าย ดังนั้น การลดน้ำหนักที่ปลอดภัย ควรลดแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยลดน้ำหนักไม่เกิน 0.5 – 1 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัวต่อหนึ่งสัปดาห์ เช่น น้ำหนัก 80 กิโลกรัม ไม่ควรลดน้ำหนักเกิน 0.4 – 0.8 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ครับ และควรออกกำลังกายควบคู่กันไป

ดิฉันเคยลดน้ำหนักโดยควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ก็ได้ผลดีในระดับหนึ่งค่ะ แถมกล้ามเนื้อก็ตึงกระชับขึ้นด้วย แต่พอหยุดออกกำลังกายก็กลับมาอ้วนใหม่อีก และดูเหมือนจะตัวใหญ่ขึ้นกว่าเดิมด้วย ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร และจะต้องลดน้ำหนักอย่างไรถึงจะได้ผลดีคะ??

การออกกำลังกายอย่างหักโหมต่อครั้งจะไม่ได้ประโยชน์เท่ากับการออกกำลังกายเป็นประจำอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เป็นเวลานานอย่างน้อย 2 เดือนขึ้นไปครับ เพราะการออกกำลังกายในระยะแรก ร่างกายจะเผาผลาญไขมันส่วนเกินออกไป โดยลดเฉพาะขนาดของเซลล์ไขมันเท่านั้น ไม่ได้มีผลลดจำนวนเซลล์ไขมันด้วย เพราะจำนวนเซลล์ไขมันจะลดลงได้ต้องใช้การออกกำลังกายและควบคุมอาหารเป็นเวลานานนับปีเลยทีเดียว นี่จึงเป็นเหตุผลว่าคนที่เคยอ้วนมาก่อน แม้จะควบคุมอาหารและออกกำลังกายจนผอมลง ดูเหมือนร่างกายสมส่วนแล้ว แต่เมื่อหยุดออกกำลังกายหรือไม่ควบคุมอาหารต่อ ก็สามารถกลับมาอ้วนใหม่ได้ในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อเราหยุดออกกำลังกาย ไขมันส่วนเกินที่ร่างกายได้รับเข้าไปใหม่ก็จะไปพอกพูนสะสมตามบริเวณกล้ามเนื้อเหล่านี้ ทำให้แลดูตัวใหญ่ขึ้นกว่าเดิมร่วมด้วยครับ

การลดน้ำหนักให้ได้ผลดี ไม่ควรเลือก อดอาหาร แต่ควรควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเราจะมีรูปร่างสมส่วนตามที่ต้องการแล้วก็ตาม

 

ภาพ : Pexels
ที่มา : นิตยสารแพรวปักษ์ 875 (คอลัมน์ BEAUTY QUIZ)


บทความบิวตี้อื่นๆ ที่น่าสนใจ

แซ่บระเบิด! นางแบบพลัสไซส์ ส่งแฟชั่นสุดจี๊ด แรงบันดาลใจแด่สาวอวบ

หุ่นเพรียวกระชับ แค่ปรับการแต่งตัว! 7 เทคนิค Mix & Match อำพรางหุ่น

เคล็ดลับสวยอมตะของเซเลบสาวต่างวัย สอง สาม สี่!!

15 สไตล์แฟชั่นทรงผมออกกำลังกายของ “เบเบ้”

ดีท็อกซ์อารมณ์ด้วย”โยคะ”แสนเซ็กซี่แถมหุ่นดีด้วยนะ

รวมวลีเด็ด คำฮิต ประโยคฮ็อต ที่คนไทยใช้กันสนั่นโซเชียล ประจำปี 2016

เป็นธรรมเนียมของทุกปีที่พอใกล้จะสิ้นปีเราต้องรวบรวมวลีเด็ดๆ แฮชแท็กฮ็อตๆ ของปีนั้นๆ มาจัดอันดับว่าในปีนี้ มีคำไหนหรือวลีไหนที่เราพูดติดปากกันบ้าง รวมถึงที่มาของวลีดังกล่าวว่ามาจากไหน? ใครเป็นคนต้นคิด? ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากดารา คนดัง หรือกระแสข่าวดราม่าต่างๆ จะมีอะไรบ้าง แพรวได้รวบรวมมาให้แล้วค่ะ

#เสียงสู๊งงงง

ประเดิมด้วยวลีเด็ด #เสียงสู๊ง!! ของดาราวัยรุ่น “ปันปัน สุทัตตา” ที่โพสต์รูปในอินสตาแกรมส่วนตัวพร้อมข้อความ “ที่ฟังแล้วชวนสะดุ้ง แถม *เสียงสูง*” ทำเอาชาวโซเชียลพากันขุดถึงประเด็นนี้ว่าสาวปันปันหมายถึงใคร ผลคือคนที่สาวปันปันกล่าวถึงก็คือสาว “น้ำชา ชีรณัฐ” นั่นเองจ้า ส่วนสาเหตุหลายคนมองว่าสาวปันปันน่าจะหึงหวงอดีตแฟนอย่างหนุ่ม “มาร์ช จุฑาวุฒิ” ที่ช่วงนั้นดูเหมือนจะสนิ๊ทสนิทกับสาวน้ำชาเกิดคำว่าพี่น้องนั่นเอง
1

#รู้ปะ อ่าห๊ะ!

ส่วนวลี #รู้ปะ อ่าห๊ะ! เป็นคำพูดติดปากของเน็ตไอดอล “เทพพิทักษ์ แอสละ” หนุ่มแก้มป่องปากแดง คิ้วหนา ที่โด่งดังจากคลิปที่เขาอัดแล้วเอามาแชร์ลงเฟซบุ๊ก ซึ่งในคลิปเจ้าตัวก็จะชอบพูดคำฮิตติดปากว่า “รู้ปะ อ่าห๊ะ!” ทำให้กลายเป็นซิกเนเจอร์ประจำตัวของเขาไปซะแล้ว และเวลาลงรูปในอินสตาแกรมหนุ่มเทพก็มักจะใส่แฮชแท็ก #รู้ปะ อ่าห๊ะ! ไปด้วยจนกลายเป็นกระแสในโซเชียล
2

#วนไปค่ะ

หลายคนอาจจะเคยใช้วลี #วนไปค่ะ แต่ส่วนใหญ่ยังไม่รู้ที่มา ซึ่งวลีนี้มาจากซีรี่ส์เรื่องดัง ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ เป็นฉากที่นักแสดงในเรื่องสั่งให้แท็กซี่ขับวนรอบตึกเพราะไม่ยอมทอนตังค์ จึงให้ขับวนไปค่ะ! จนกว่าจะครบจำนวนเงิน ฉากนี้ทำเอาหลายคนถูกอกถูกใจเป็นอย่างมาก เพราะตรงกับชีวิตจริงที่แท็กซี่ไม่ชอบทอนตังค์ จนกลายเป็นวลีสุดฮ็อตของชาวชะนี เก้ง กวาง ไปซะแล้ว ซึ่งก็มีหลายคนเอามาดัดแปลงเป็นประโยคอื่น เช่น #ทำงานวนไปค่ะ #อ่านหนังสือวนไปค่ะ
3

#อย่ามาเชษ

ไม่รู้ว่าจะสงสารหรือขำดีสำหรับวลีเด็ด #อย่ามาเชษ ที่มาจากละคร “พิษสวาท” ซึ่งตัวละครในเรื่องที่ชื่อ “เชษ” เป็นตัวละครที่มักจะมีบทบาทอยากรู้อยากเห็นไปซะทุกเรื่อง บางเรื่องไม่เกี่ยวกับตัวเองก็เข้าไปยุ่งจนเรื่องมันวุ่นวาย หรือภาษาบ้านๆ เรียกว่า “ส. ใส่เกือก” นั่นเอง จนชาวโซเชียลเอามาล้อกันว่าหากใครพูดว่า “อย่ามาเชษ” ก็แปลว่า อย่ามายุ่งนั่นเองจ้า
4

#กราบรถกู

อีกหนึ่งวลีที่มาจากเหตุการณ์กระแสดราม่าของข่าว พิธีกรชื่อดัง น็อต อัครณัฐ ได้ทำร้ายคู่กรณีที่ขี่มอเตอร์ไซค์มาชนท้ายรถมินิของเขา จนเกิดความโมโห จึงได้ทำร้ายและชกหน้าคู่กรณี พร้อมสั่งให้ “กราบรถกู” โดยมีผู้เห็นเหตุการณ์อัดวิดีโอเอามาเผยแพร่ในโซเชียลจนเกิดเป็นกระแสวิจารณ์อย่างหนัก แถมยังมีคนทำรูปล้อเลียนเป็นรูปกราบรถมินิกันเยอะมาก บ้างก็ทำเอาฮา บ้างก็ทำประชด กลายเป็นวลีที่ฮิตติดอันดับภายในไม่กี่ชั่วโมง
5

#ดีต่อใจ

แหม่! วลีฮิตที่เกิดจากละครนี่มีเยอะจริงๆ อีกหนึ่งเรื่องที่ได้สร้างวลีฮิตจนใช้กันสนั่นโซเชียลนั่นก็คือเรื่อง “กาลครั้งหนึ่งในหัวใจ” ซึ่งเป็นละครรักโรแมนติกจนคนดูอินว่าเป็นละครที่ดีต่อใจมากๆ แถมในเรื่องนี้ก็มีนักแสดงหนุ่มหล่อเยอะ เห็นแล้วกระชุ่มกระชวย จนเกิดแฮชแท็ก #ดีต่อใจ ขึ้นมา ซึ่งคำนี้ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น เวลาเจอคนหล่อก็มักจะพูดว่า #ดีต่อใจ เหลือเกินอะไรประมาณนี้
6

#อยู่กันดีๆ ไม่ได้ใช่มั้ย

แม้จะเพิ่งจบไป แต่กระแสความแรงนั้นยังติดอันดับต้นๆ ไม่มีเปลี่ยน ไม่ใช่แค่คนดูจะพูดถึงเรื่องละครเท่านั้น แต่เรื่องนาคียังทำให้เกิดประโยคเด็ดจากปากสาวแต้วหรือเจ้าแม่นาคีตอนพิโรธว่า “อยู่กันดีๆ ไม่ได้ใช่มั้ย!” จนหลายคนมักจะนำมาใช้ตอนโมโหพร้อมกับแฮชแท็กนี้ต่อท้าย
7

#ความรักก็เช่นกัน

ส่วนวลีนี้ฮิตตั้งแต่ต้นปียันท้ายปีจริงๆ นั่นก็คือ #ความรักก็เช่นกัน เป็นประโยคยอดฮิตที่วัยรุ่นชอบใช้ หรือใครก็ตามที่มีปัญหาหัวใจ อกหัก รักไม่สมหวัง จนมีประโยคพูดขึ้นประโยคก่อน แล้วเอาไปเปรียบเทียบว่าเช่นเดียวกับความรักนั่นแหละ เช่น “รองเท้าคู่มีได้แค่ 2 ข้าง มันจะมี 3 ข้างไม่ได้หรอก #ความรักก็เช่นกัน” จากทวิตเตอร์ของคุณตึงหน่องตองหนึ่งจ๋อย ‏neunglie
9

#ได้หมด ถ้าสดชื่น

ล่าสุดที่เพิ่งกลายเป็นกระแสก็คือวลีสุดฮิต #ได้หมด ถ้าสดชื่น ที่ทำเอาหลายคนงงว่ามันมีความหมายว่าอะไร และมาจากไหน เพราะมีคนใช้กันเยอะมาก แต่พอถามถึงความหมายก็ไม่มีใครรู้ ซึ่งแท้จริงแล้วคำนี้มีที่มาปรากฏไม่แน่ชัดนัก บ้างก็ว่าเป็นวลีที่เด็กแว้นใช้กัน ความหมายประมาณว่า ท้าชน มาเจอเลยถ้าคิดว่าเจ๋ง! บ้างก็ว่ามาจากเพลงแดนซ์ที่ดีเจรีมิกซ์ขึ้นมาเป็นคำพูดอยู่ในเพลง แต่เอาจริงๆ ตอนนี้ดูเหมือนคำนี้จะถูกใช้กันไปทั่วจนไม่สนความหมายแล้วแหละ เพราะไม่ว่าจะโพสต์อะไรทุกคนมักจะต่อท้ายด้วยแฮชแท็ก #ได้หมด ถ้าสดชื่น อยู่เสมอ
10

เรื่อง : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : IG@theppitak_l, punpun_sutatta, jesjpp, nottakanat, taewaew_natapohn, joeybangkokboy

 

keyboard_arrow_up