เผยเคล็ดลับ การนอนหลับอย่างไรให้ตื่นมาแล้วผิวพรรณสดใสสวยปิ๊ง

สุขภาพผิวที่ดีย่อมนำมาซึ่งความอ่อนเยาว์ โดยหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวพรรณสดใส แข็งแรง และสวยงาม คือการนอนหลับนะครับ แม้จะรู้กันอยู่แล้ว แต่ยังมีอีกหลายคนที่นอนหลับไม่ถูกวิธี ทำให้ไม่ได้ผลกับผิวเท่าที่ควร ผมจะมาเผยเคล็ดลับการนอนหลับและการบำรุงผิวระหว่างหลับให้ตื่นมาแล้วสวยปิ๊งไปเลยครับ มนุษย์เราจำเป็นต้องนอนหลับ เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนซ่อมแซมส่วนสึกหรอและปรับสมดุลฮอร์โมน ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลโดยตรงต่อผิวพรรณของเราด้วย เพราะระหว่างที่เราหลับสนิทนั้น ร่างกายจะซ่อมแซมเติมเต็มเซลล์ผิวหนังและหลั่งสารเมลาโทนินเพื่อปกป้องเซลล์ผิวจากอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่นั่นเองครับ แต่…ผมขอย้ำว่าต้องเป็นการนอนหลับที่มีคุณภาพเท่านั้นนะครับ ซึ่งนั่นก็คือ หนึ่ง ”นอนให้ถูกทั้งปริมาณและเวลา” คือนอนประมาณ 7 – 8 ชั่วโมงต่อวัน และนอนก่อนห้าทุ่ม เพราะร่างกายจะผลิตฮอร์โมนสำคัญอย่างเต็มที่ในช่วงเวลานี้ สอง “นอนให้ถูกที่” คือเลือกนอนในที่ที่ไม่มีแสงและเสียงรบกวน สุดท้าย “นอนให้ถูกท่า“ สำหรับท่านอนที่ไม่ก่อให้เกิดริ้วรอยคือท่านอนหงายครับ เพราะผิวหน้าจะไม่สัมผัสกับหมอนและไม่มีการกดทับใดๆ ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยจากการกดทับได้ แต่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิว เราจำเป็นต้องทาครีมก่อนนอนด้วยนะครับ โดยมีผลการวิจัยยืนยันว่า ในเวลากลางวันผิวคนเราจะหลั่งน้ำมันออกมาหล่อเลี้ยงผิวเพื่อปกป้องผิว แต่พอถึงช่วงกลางคืนร่างกายจะทำการเสริมสร้างซ่อมแซมผิวที่เสียหาย หลังจากที่เผชิญกับความเครียดและมลภาวะมาตลอดทั้งวัน จึงมีการไหลเวียนโลหิตเพิ่มขึ้น ทำให้เซลล์ผิวมีอัตราการดูดซึมมากขึ้นด้วย จึงถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะอย่างยิ่งในการทาครีมบำรุง เพราะผิวจะดูดซึมส่วนผสมในครีมบำรุงเข้าไปได้อย่างล้ำลึก โดยมีข้อแม้ว่าคุณต้องหลับสนิทเท่านั้นนะครับ เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนสำคัญอย่างโกร๊ธฮอร์โมนและเมลาโทนินที่มีประโยชน์ต่อผิวเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผิวตอบสนองต่อการฟื้นฟูได้มากที่สุด โดยไม่มีปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเครียดและบั่นทอนกระบวนการฟื้นฟูผิว ดังนั้นการนอนหลับจึงเป็นอีกสิ่งสำคัญที่สามารถมอบผิวสวยให้คุณได้ครับ รู้อย่างนี้แล้ว ก่อนนอนคืนนี้อย่าลืมทาครีมบำรุงผิวในปริมาณที่เหมาะสม แล้วรีบเข้านอนก่อนห้าทุ่ม ละความเครียด ทำใจให้ผ่อนคลาย แล้วหลับให้สนิท […]

นอนหลับอย่างไรให้ตื่นมาแล้วสวยปิ๊ง สุขภาพผิวดี ผิวพรรณสดใส

สุขภาพผิวที่ดีย่อมนำมาซึ่งความอ่อนเยาว์ โดยหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวพรรณสดใส แข็งแรง และสวยงามคือการนอนหลับนะครับ แม้จะรู้กันอยู่แล้ว แต่ยังมีอีกหลายคนที่นอนหลับไม่ถูกวิธี ทำให้ไม่ได้ผลกับผิวเท่าที่ควร ผมจะมาเผยเคล็ดลับการนอนและการบำรุงผิวระหว่างหลับ ให้ตื่นมาแล้วสวยปิ๊งไปเลยครับ มนุษย์เราจำเป็นต้องนอนหลับ เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน ซ่อมแซมส่วนสึกหรอ และปรับสมดุลฮอร์โมน ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลโดยตรงต่อผิวพรรณของเราด้วย เพราะระหว่างที่เราหลับสนิทนั้น ร่างกายจะซ่อมแซมเติมเต็มเซลล์ผิวหนังและหลั่งสารเมลาโทนินเพื่อปกป้องเซลล์ผิวจากอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่นั่นเองครับ แต่…ผมขอย้ำว่าต้องเป็นการนอนหลับที่มีคุณภาพเท่านั้นนะครับ ซึ่งนั่นก็คือ หนึ่ง ”นอนให้ถูกทั้งปริมาณและเวลา” คือนอนประมาณ 7 – 8 ชั่วโมงต่อวัน และนอนก่อน 5 ทุ่ม เพราะร่างกายจะผลิตฮอร์โมนสำคัญอย่างเต็มที่ในช่วงเวลานี้ สอง “นอนให้ถูกที่” คือเลือกนอนในที่ที่ไม่มีแสงและเสียงรบกวน สุดท้าย “นอนให้ถูกท่า“ สำหรับท่านอนที่ไม่ก่อให้เกิดริ้วรอยคือท่านอนหงายครับ เพราะผิวหน้าจะไม่สัมผัสกับหมอนและไม่มีการกดทับใดๆ ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยจากการกดทับได้ แต่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิว เราจำเป็นต้องทาครีมก่อนนอนด้วยนะครับ โดยมีผลการวิจัยยืนยันว่าในเวลากลางวันผิวคนเราจะหลั่งน้ำมันออกมาหล่อเลี้ยงผิวเพื่อปกป้องผิว แต่พอถึงช่วงกลางคืน ร่างกายจะทำการเสริมสร้างซ่อมแซมผิวที่เสียหาย หลังจากที่เผชิญกับความเครียดและมลภาวะมาตลอดทั้งวัน จึงมีการไหลเวียนโลหิตเพิ่มขึ้น ทำให้เซลล์ผิวมีอัตราการดูดซึมมากขึ้นด้วย จึงถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะอย่างยิ่งในการทาครีมบำรุง เพราะผิวจะดูดซึมส่วนผสมในครีมบำรุงเข้าไปได้อย่างล้ำลึก โดยมีข้อแม้ว่าคุณต้องหลับสนิทเท่านั้นนะครับ เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนสำคัญอย่างโกร๊ธฮอร์โมนและเมลาโทนินที่มีประโยชน์ต่อผิวมาเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผิวตอบสนองต่อการฟื้นฟูได้มากที่สุด โดยไม่มีปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเครียดและบั่นทอนกระบวนการฟื้นฟูผิว ดังนั้นการนอนหลับจึงเป็นอีกสิ่งสำคัญที่สามารถมอบผิวสวยให้คุณได้ครับ รู้อย่างนี้แล้วก่อนนอนคืนนี้อย่าลืมทาครีมบำรุงผิวในปริมาณที่เหมาะสม แล้วรีบเข้านอนก่อน […]

เคล็ดลับ… เผยผิวฉ่ำฟูกระจ่างใสราวกับ ล้างหน้า มาใหม่ๆ 

เชื่อว่าหลายคนคงเคยสังเกตว่าทุกครั้งหลัง ล้างหน้า เสร็จใหม่ๆ เราจะรู้สึกว่าผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้น ไม่ใช่แค่กับผู้หญิง แต่รวมถึงผู้ชายด้วย แต่เมื่อปล่อยให้เวลาผ่านไปสักพัก ผิวกลับดูหมองคล้ำขึ้นเรื่อยๆ เรื่องนี้ผมมีคำตอบ แถมด้วยวิธีการบำรุงผิวให้ฉ่ำฟูกระจ่างใสเสมือนเพิ่งล้างหน้าใหม่ๆ เลยล่ะครับ  สาเหตุที่ผิวหน้าสดใสหลังล้างหน้านั้นเป็นเพราะเมื่อเราล้างหน้า น้ำและสบู่จะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกที่เคลือบอยู่บนผิวออกไป ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น แต่พอผ่านไปสักพัก ผิวหน้าก็จะกลับมาดูหมองคล้ำอีก สาเหตุเกิดจาก เมื่อผิวหน้าของเราสัมผัสกับมลภาวะต่างๆ ในอากาศ อย่างแสงแดดและฝุ่นควัน ก็จะทำให้ความมันและสิ่งสกปรกมาเคลือบผิว ซึ่งน้ำมันที่เคลือบอยู่ที่ผิวหน้านี่แหละที่เป็นตัวดูดแสง ทำให้ผิวดูหมอง ไม่ต่างอะไรไปจากผิวไม้ที่เคลือบด้วยแลคเกอร์จนมีสีเข้มขึ้นอย่างไรละครับ อย่างไรก็ตาม ต้นเหตุที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำนั้นไม่ได้เกิดจากมลภาวะแค่อย่างเดียวนะครับ แต่การใช้เครื่องสำอางบางอย่างที่มันเกินไป ก็จะทำให้ใบหน้าของคุณดูหมองคล้ำได้ คุณผู้อ่านจึงควรเลือกครีม หรือเซรั่มที่ดูดซึมเข้าผิวได้อย่างรวดเร็วและมีส่วนประกอบที่ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น เช่น โคเอนไซม์คิวเท็น (Coenzyme Q10) ที่ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวจากแดด, เซราไมด์ (Ceramide) สารที่ให้คุณสมบัติคงความชุ่มชื้นแก่ผิว รวมไปถึงสารสกัดจาก ‘ซาโปนาเรีย พูมิลา’ (Saponaria Pumila) พืชยืนต้นที่พบมากในเทือกเขาแอลป์ที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ซึ่งมีกลไกพิเศษตรงที่สามารถสร้างและเยียวยาตัวเองจากสภาพอากาศที่รุนแรงได้  วงการแพทย์ในปัจจุบันจึงนำมาสารสกัดจากต้น “ซาโปนาเรีย พูมิลา” นี้มาเป็นตัวเอกที่ช่วยดูแลผิว ช่วยให้คุณสามารถปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ ที่นำไปสู่การชราของผิว ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่แห้งในห้องแอร์ขณะทำงาน หรือต้องออกไปเผชิญกับรังสียูวีจากแสงแดด ไม่เพียงเท่านี้นะครับ เพราะผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีสารสกัดจากต้นซาโปนาเรีย […]

กฏเหล็ก “3 ก.” ต้านแก่… ริ้วรอย ไม่ได้แอ้ม สวยเนียนลืมแก่ไปเลย

หนึ่งในสิ่งที่หลายคนกลัวมากที่สุด คือ “ความแก่” โดยเฉพาะ ริ้วรอย และการเปลี่ยนแปลงของผิวพรรณที่เห็นได้ชัดเจนเมื่ออายุมากขึ้น อย่าเพิ่งตกใจไปครับ! เพราะผมมีเคล็ดลับรับมือมาฝาก รับรองว่าไม่สายเกินแก้ ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจถึงสาเหตุของความแก่กันก่อนนะครับ ความแก่เกิดจากหลายปัจจัย เช่น 1. กรรมพันธุ์ 2. การสะสมของสารพิษ ทำให้เซลล์เสื่อมสภาพลง 3. อนุมูลอิสระในร่างกาย และสิ่งแวดล้อม เช่น รังสียูวีจากแสงแดด, ควันพิษ, อาหารที่ปนเปื้อนหรือความเครียด ส่งผลให้เกิดอนุมูลอิสระสะสมทำให้เซลล์เสื่อมลง และ 4. กระบวนการชราภาพ ของเซลล์ ที่เมื่อถึงวัยผู้ใหญ่จะเน้นไปที่การรักษาเซลล์มากกว่าการสร้าง แต่เมื่อเซลล์อายุมากเข้าก็จะเสื่อมถอยและตายในที่สุด เช่นเดียวกับบริเวณผิวหนัง ที่เมื่อเซลล์เสื่อมถอย กระบวนการผลิตคอลลาเจนในร่างกายก็ลดลงไปด้วย ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากริ้วรอยและความหย่อยคล้อยบนใบหน้า โดยเฉพาะรอบดวงตา หน้าผาก หว่างคิ้ว ร่องแก้มและลำคอ ซึ่งเราสามารถรับมือได้โดยใช้ กฎ 3ก. ซึ่งก็คือ กัน-ก่อ-แก้ นั่นเองครับ กฏข้อแรก ‘กัน’ หมายถึงการป้องกันผิวจากปัจจัยต่างๆ ที่เป็นสาเหตุให้เกิดความแก่ คือหลีกเลี่ยงมลภาวะที่ทำร้ายเซลล์ผิว ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด ฝุ่นควัน อากาศแห้งในห้องแอร์ ไม่กินอาหารปนเปื้อน […]

3 สิ่งที่ ผิวหนัง บอกคุณได้ อ่านก่อน… รู้ก่อน… สวยก่อนนะจ๊ะ

ผิวหนัง ของคนเรานั้นมีหลากหลายลักษณะ ทั้งสีสันตามชาติพรรณอย่างผิวขาวแบบฝรั่ง ผิวเหลืองแบบเอเชีย เรื่อยไปจนถึงผิวดำแบบคนแอฟริกัน นอกจากนี้แต่ละคนยังมีสภาพผิวแตกต่างกัน ทั้งผิวมัน ผิวแห้งและผิวผสม แต่หากสังเกตดีๆ ผิวของคนเรายังบอกอะไรได้มากกว่านั้น วันนี้ผมมีเกร็ดข้อมูลความรู้เกี่ยวกับสัญญาณที่ปรากฏบน ผิวหนัง ..มาฝากครับ เริ่มที่อย่างแรก คุณผู้อ่านทราบหรือไม่ครับว่าสภาพของผิวสามารถบอกโรคได้ เช่น….หากคุณมีผิวที่แห้งและแตกมากเหมือนเกล็ดปลา แม้บำรุงด้วยโลชั่นแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น แสดงว่าคุณอาจเป็นโรคบางชนิด เช่น เบาหวานหรือโรคไต เนื่องจากโรคดังกล่าวทำให้ผิวสูญเสียน้ำได้ง่าย จึงทำให้ผิวแห้งแตก นั่นเองครับ ต่อมาผิวบอกความรู้สึก เช่น เมื่อรู้สึกเขินอายหรือโกรธจัด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลิน ออกมา แล้วไปกระตุ้นการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย ทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดมากขึ้น ส่งผลให้ใบหน้า, ใบหู รวมไปถึงลำคอ ซึ่งกลายเป็นสีแดงอย่างชัดเจน สุดท้าย ผิวบอกอายุ ซึ่งแสดงผลออกมาเป็นริ้วรอยบนใบหน้า หรือที่เรียกกันว่า Fine line ซึ่งก็คือริ้วรอยแห่งวัยที่บ่งบอกถึงความร่วงโรย โดยจะแสดงออกมาในรูปแบบของริ้วรอยร่องตื้น หรือริ้วรอยแรกเริ่ม มีลักษณะเป็นเส้นบางๆ บนชั้นผิวหนังกำพร้าบริเวณหน้าผาก หางตาและหว่างคิ้ว ซึ่งเส้นบางๆ เหล่านี้หากปล่อยทิ้งไว้นานวันก็จะกลายเป็น Deep Wrinkles หรือริ้วรอยร่องลึก ซึ่งบอกได้เลยว่าแก้ยาก และจะทำให้คุณดูแก่กว่าวัยได้ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็คงไม่ดีแน่ใช่ไหมละครับ […]

4 เทคนิค “ Anti-Aging ” … ลืมไปเลยว่าอายุเท่าไร

  ถ้าเลือกได้ ใครๆ อยากดูเป็นหนุ่มเป็นสาวกันตลอดใช่ไหมละครับ ด้วยเหตุนี้มนุษย์เราจึงสรรหาสารพัดวิธีบำรุงความงามและชะลอความชรามาโดยตลอด โชคดีที่พอวิวัฒนาการเจริญก้าวหน้าขึ้น เราก็ค้นพบวิธีการใหม่ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะเทรนด์ “ Anti-Aging ” (การชะลอวัย) ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก วันนี้เราจะมาพูดคุยเรื่องนี้กันครับ คำว่า “ Anti Aging ” ที่เรามักได้ยินกันอยู่บ่อยๆ นั้น แท้จริงแล้ว ในทางการแพทย์หมายถึงการชะลอวัย หรือการฟื้นฟูการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย ที่จะช่วยทำให้คุณเข้าสู่ความชราช้าลง โดยมีหลักอยู่ที่การรักษา ฟื้นฟู และป้องกัน เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย และมีอายุที่ยืนยาวตามอายุขัยเฉลี่ยถึง 120 ปี! ทั้งนี้  Aging หรือความแก่ชรานั้น ถือได้ว่าเป็นโรคอย่างหนึ่งที่เราสามารถป้องกันและฟื้นฟูได้ โดยเมื่อไหร่ที่ร่างกายเริ่มมีสัญญาณ เช่น เหนื่อยง่าย ตื่นยาก นอนไม่หลับ อ้วนง่าย มีริ้วรอยต่างๆ นัjนแหละครับ คือสัญญาณเตือนว่าโรคความแก่ชราเริ่มมาเยี่ยมเยือนคุณแล้ว ซึ่งก็ควรได้รับการรักษาฟื้นฟูด้วยศาสตร์ชะลอวัยหรือ Anti Aging โดยมีหลักปฏิบัติในการดูแลตัวเองง่ายๆ เรียกว่า 4H ครับ ประกอบด้วย […]

อะไรนะ… คนเรามี สองอายุ !!

เคยสังเกตไหมครับ ว่าเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน อายุก็เท่ากัน ทำไมบางคนโดนทักว่าแก่กว่าอายุ ในขณะที่บางคนกลับโดนทักว่าหน้าเด็ก ถึงขั้นเดาอายุไม่ถูกกันเลยทีเดียว นั่นก็เพราะความจริงแล้ว คนเรามี สองอายุ อย่างไรละครับ สองอายุ ที่ว่านี่คืออะไร ผมจะเฉลยให้ฟังครับ สำหรับใครที่สงสัยว่า ทำไมบางคนจึงมีหน้าตาและผิวพรรณที่ดูอ่อนกว่าวัยความจริงคือ คนเรามี 2 อายุครับ อายุแรกคือ “อายุตามปฏิทิน”(Calendar Age) หรืออายุตามวัน เดือน ปีเกิด ที่เพิ่มขึ้นทุกปี ส่วนอายุที่สองนั้นเรียกว่า “อายุร่างกาย”(Body Age) เป็นอายุสุขภาพที่บอกได้ถึงความแก่และความเสื่อมของระบบการทำงานในร่างกายซึ่งสามารถตรวจวัดได้ด้วยเครื่องมือแพทย์โดยคนที่มีสุขภาพดีจะมีอายุร่างกายน้อยกว่าหรือเท่าอายุปฎิทิน แต่หากอายุร่างกายมากกว่าอายุตามปฏิทิน แสดงว่าร่างกายเกิดความเสื่อมสภาพก่อนวัยจริง อันอาจเป็นผลมาจากองค์ประกอบร่างกายและพฤติกรรมด้านสุขภาพที่ไม่เหมาะสมจนนำไปสู่ความชราและโรคภัยต่างๆ ได้ เช่นเดียวกับร่างกาย ผิวพรรณของเราก็สามารถเสื่อมสภาพไปเกินกว่าอายุจริงได้ โดยมีสาเหตุหลักมาจากปัจจัยสำคัญ 3 ประการครับ เริ่มจากแสงแดด ถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย เพราะรังสี UV ในแสงแดดจะส่องผ่านผิวหนังชั้นบนจนไหม้เกรียม และยังสามารถทะลุผ่านชั้นผิวไปทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวหย่อนยานเกิดริ้วรอย รวมถึงจุดด่างดำบนใบหน้า โดยทางการแพทย์เรียกว่า Photo Aging ครับ  สองคือมลภาวะทางสิ่งแวดล้อม เช่น สารตะกั่วที่ปนเปื้อนในอาหาร หรือแม้แต่ในเครื่องสำอาง จะก่อให้เกิดการอักเสบในระดับเซลล์ […]

เติมแสงและเงาให้ ใบหน้า ดูมีมิติ …ทำเองก็สวยได้นะ รู้ยัง 

เคยสังเกตภาพวาดของศิลปินดังๆ กันไหมครับ ว่าทำไมหลายภาพจึงสวยงามน่าลุ่มหลง ดูมีมิติเสมือนจริง นั่นเพราะภาพเหล่านั้นมีแสงและเงา ทำให้ภาพมีความตื้น ลึก หนา บาง นูน เรียบ เกิดเป็นมิติที่หลากหลาย ทำให้ภาพมีชีวิตชีวาและโดดเด่นขึ้นมา เช่นเดียวกับภาพวาด ตามหลักความงามทางการแพทย์แล้ว แสงและเงาก็ถือเป็นส่วนหนึ่งในเสาหลักของความงามตามธรรมชาติที่ส่งผลให้ ใบหน้า ดูสวยและโดดเด่นเช่นกันนะครับ โดยแสงและเงาบนใบหน้านั้นเกิดขึ้นจากรูปหน้าที่มีโหนกแก้มนูนสวยได้รูป จมูกโด่งเป็นสัน และแนวขากรรไกรที่ชัดเจน ทำให้เกิดแสงและเงาสะท้อนบนใบหน้ากลายเป็นมิติที่สวยงามเด่นชัด แต่หากใครมีใบหน้าแห้งตอบ หน้าผากแบนราบ ขอบตาลึกดำคล้ำก็จะทำให้แสงเงาบนใบหน้าผิดหลักของความงาม หากนึกภาพไม่ออก ลองใช้ไฟฉายส่องไปที่ใบหน้าโดยส่องจากด้านบนลงมา คุณก็จะเห็นเงาที่ไม่สวยงาม บิดเบี้ยว แถมดวงตายังดำลึก…. ดูแล้วคงไม่ดีแน่ สำหรับใครที่รู้สึกว่าใบหน้าของเรานั้นมีแสงเงาไม่คมชัด ทำให้ดูไม่มีมิติเท่าที่ควร อยากจะเติมมิติให้ใบหน้า ก็สามารถทำได้โดยการแต่งหน้าครับ โดยอาศัยหลักการสร้างแสงและเงา เพื่อแก้ไขจุดบกพร่องและเพิ่มความโดดเด่นของใบหน้า หรือที่เรียกกันว่าการไฮไลท์ เฉดดิ้งและคอนทัวร์ เริ่มจากไฮไลท์ คือการทำให้ส่วนนั้นสว่างโดดเด่นขึ้นมา เช่น หากคุณอยากเน้นโหนกแก้มหรือดั้งจมูกให้ดูนูนมากขึ้น ก็ให้เลือกไฮไลท์บริเวณนั้นด้วยสีอ่อนกว่าผิว ส่วนการเฉดดิ้งหรือคอนทัวร์นั้นคือการใช้สีที่เข้มกว่าผิวจริงของเรา 1-2 เฉด แรเงาจุดที่เราต้องการอำพรางเพื่อปรับบริเวณนั้นให้ดูเล็กหรือแคบลง เช่น ข้างจมูกทั้งสองข้างเพื่อขับให้จมูกดูโด่งเป็นสัน, ใต้โหนกแก้มทั้งสองข้าง เพื่อเน้นให้ตัวโหนกแก้มนูนขึ้น, บริเวณขมับทั้งสองข้างโดยเริ่มจากปลายคิ้วไปจนถึงไรผมด้านข้าง รวมไปถึงบริเวณขากรรไกรและกรอบหน้า พูดง่ายๆ […]

ไม่ใช่แค่บอดี้… แต่ใบหน้าก็ต้องมี ส่วนโค้งเว้า นะยูว์

  เคยสังเกตไหมครับ ว่าหลายคนแม้หน้าตาดี ผิวพรรณเรียบเนียน ทั้งยังแต่งหน้าและบำรุงผิวเป็นอย่างดี แต่ทำไมใบหน้ายังดูไม่สดใสไร้ชีวิตชีวา….จะเป็นเพราะอะไร ไปพบคำตอบกันครับ การมีผิวพรรณที่ดี มีใบหน้าที่ได้สัดส่วน และมีสมมาตรของความงาม ยังไม่ใช่องค์ประกอบทั้งหมดของความงามที่สมบูรณ์นะครับ เพราะถึงแม้จะดูสวย แต่กลับราบเรียบขาดชีวิตชีวา ทำให้ดูจืดชืด นั่นเพราะใบหน้าของบางคน ยังขาด ส่วนโค้งเว้า ที่เหมาะสมนั่นเองครับ ความงามของใบหน้าก็เช่นเดียวกับรูปร่างของผู้หญิง จะมีเสน่ห์แค่ไหน ก็อยู่ที่ ส่วนโค้งเว้า นี่แหละครับ ดูอย่างสาวหุ่นนาฬิกาทราย ที่มีสัดส่วนโค้งเว้าดูพริ้วไหว กลายเป็นเสน่ห์เย้ายวนได้ ใบหน้าก็เช่นกัน ส่วนโค้งเว้า บนใบหน้า จะทำให้มีชีวิตชีวา กลายเป็นจุดเด่นในแรกพบได้ นั่นคือสาเหตุที่ แม้คนเราจะมีองค์ประกอบบนใบหน้าเหมือนกัน แต่บางคนดูสวยงามตรึงตาตรึงใจ แต่บางคนดูราบเรียบ นั่นเพราะขาดความโค้งเว้าขององค์ประกอบบนใบหน้านั่นเอง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของความงามที่จะช่วยสร้างมิติ และเสน่ห์ที่โดดเด่นได้ โดยความโค้งเว้าของใบหน้านั้นจะประกอบไปด้วย 2 ส่วน ดังนี้ครับ 1. ความโค้งเว้าทางด้านหน้า เป็นความโค้งที่เกิดจากจุดนูนบนใบหน้าสามจุด คือ หน้าผาก จมูก และคาง ซึ่งถ้าใบหน้าของคุณมีจุดโค้งนูนที่พอเหมาะได้สัดส่วน ใบหน้าก็จะมีมิติน่ามองเลยนะครับ 2. ความโค้งเว้าทางด้านข้าง ถือเป็นจุดสำคัญ โดยแก้มจะมีความโค้งเว้าเป็นรูปตัว […]

แก้ โครงหน้า ให้สวยปัง ทำได้นะ…รู้ยัง

ใบหน้าที่สวยงามได้สัดส่วนล้วนเป็นที่ปรารถนาของคนทุกคนปัจจุบันเราสามารถปรับเปลี่ยนหรือฟื้นฟูความงามให้ใบหน้าและ โครงหน้า ได้โดยไม่ต้องเจ็บตัว

เปิดทฤษฎี หน้าสวยเป๊ะแบบธรรมชาติ …ต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

วงการแพทย์ความงามมีการค้นคว้าวิจัยและศึกษาจนได้บทสรุปเรื่องความงามที่มีทฤษฎีทางการแพทย์รองรับ คือลักษณะความงามของใบหน้าที่ส่งผลให้ดู หน้าสวยเป๊ะแบบธรรมชาติ

นอนท่าไหน…..ให้ผิวเนียนสวยเปล่งปลั่งใสไม่หมองคล้ำ

การนอนหลับ ให้ผลดีทั้งกับร่างกาย ผิวพรรณ และจิตใจ แต่การนอนในบางท่าก็อาจส่งผลเสียต่อผิวพรรณได้ การเลือกท่านอนที่เหมาะสม จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความงาม

ขอบตาดำระดับหมีแพนด้ามาเองขนาดนี้…จัดการอย่างไรดี

เคยสงสัยไหมว่าทำไมแพนด้าจึงมี ขอบตาดำ แล้วถ้าเกิดวงสีดำนี้มาอยู่ที่รอบดวงตามนุษย์ จะทำให้ดวงตาดูเหนื่อย อ่อนล้า ไม่สดใส มาดูวิธีการจัดการกับอาการเหล่านี้กัน

อัพผิวสวยด้วย โยเกิร์ต … เวิร์คจริงหรือมั่วนิ่ม 

ผู้หญิงทุกยุคทุกสมัย ต่างเสาะแสวงหาและคัดสรรกลเม็ดเด็ดมาเพิ่มความสวยให้ตัวเอง ง่ายที่สุดคือการหยิบฉวยของใกล้ตัวอย่างวัตถุดิบในครัวมาบำรุงผิว เช่น โยเกิร์ต ที่เชื่อกันว่าหากนำมามาส์กหน้า แล้วจะทำให้ผิวหน้าใสได้ เรื่องนี้จะจริงหรือไม่ ผมมีเกร็ดความรู้ดีๆ มาฝากครับ

สีสองสีที่ตัดกัน…สวยแค่ไหน ถาม หมอบอย ดู

สวัสดีครับ ขออนุญาตแนะนำตัวกับคุณผู้อ่านนะครับ ผม หมอบอย -น.พ. พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ จะมาร่วมพูดคุยเรื่อง “ความงาม” ในแง่มุมใหม่ๆ ผ่านนิตยสารแพรว ในฐานะ “บิวตี้ อาร์ติส” เพราะความงามคือศิลปะและรสนิยม ครับ

Celeb Blog…บล็อกของเซเลบรสแซบ ในแพรวออนไลน์

หากยังไม่เคยเข้าไปเยี่ยมชม praew.com อย่าเพิ่งบอกว่าเป็นแฟนแพรวตัวจริง เพราะ ‘แพรว’ ในโลกออนไลน์นั้นยังมีข่าวสารให้อัพเดทอีกมากมาย โดยเฉพาะ ‘Celeb Blog’ ที่ได้เซเลบตัวจริงด้านแฟชั่น บิวตี้ ไลฟ์สไตล์มาบอกเล่าเรื่องราวในมุมมองที่ต่างไป

keyboard_arrow_up