เป็นออทิสติกแล้วจะเล่นแบดได้ไงวะ? แค่เชือกรองเท้ายังผูกไม่ได้เลย! ปล่อยตัวอย่างพร้อมประโยคเด็ดแฝงให้คิด ที่เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นให้เนื้อเรื่องได้อย่างน่าสนใจ สำหรับตอนที่ 2 ของ Project S The Series ที่มีชื่อว่า “Side by Side พี่น้องลูกขนไก่” ที่นำเสนอเรื่องราวมิตรภาพ การแข่งขัน ความรัก ความสัมพันธ์ผ่านกีฬาประเภทต่างๆ และเพียงแค่ชั่วข้ามคืน ยอดวิวทะลุ 2.5 ล้านวิวแล้ว!
ฉีกกฎภาพลักษณ์ละคร ซีรีส์ของไทย ที่ไม่ปล่อยให้มีแต่เรื่องความรักหนุ่มสาวชู้สาว แต่ทีมงานซีรีส์วัยรุ่นชื่อดัง Hormones The Series มาผนึกกำลังสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้แก่วงการบันเทิงไทยต่อ โดยผุด Project S The Series ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตผ่านกีฬาประเภทต่างๆ 4 ตอน 4 ผู้กำกับ ได้แก่ Spike (วอลเลย์บอล), Side by Side พี่น้องลูกขนไก่ (แบดมินตัน), SOS (สเกตบอร์ด) และ Archery (ยิงธนู)
กระแสแค่ปล่อยตัวอย่างตอน Side by Side ออกมา เรียกว่าได้รับความสนใจจากคนดูหลายคนทีเดียว โดยเฉพาะการพลิกคาแร็คเตอร์หล่อเท่ของ ต่อ – ธนภพ ลีรัตนขจร มาสวมบทเป็น เด็กออทิสติก และต้องไปแข่งขันกีฬาแบดมินตัน โดยมีคู่นักกีฬาคือ สกาย – วงศ์รวี นทีธร ที่ต้องมาในลุคหล่อเท่ เพื่อสลัดภาพการแสดงที่หลายคนติดว่าเขาเล่นแข็ง ทั้งยังมี เบลล์ – เขมิศรา มาเติมสีสันให้เนื้อเรื่องสมบูรณ์กลมกล่อม
กว่าจะมีวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย สมัยเข้าวงการบันเทิงใหม่ๆ นุ้ยยังไม่ได้รับการยอมรับจากรุ่นพี่หลายคน บางทีเล่นมุกไป เขาไม่เล่นด้วย และมีสายตาประมาณว่า Who are you?
Having Sex กับ Making Love สองคำนี้ยังเป็นที่ถกเถียงในวงสนทนาเรื่อยมาว่ามันเหมือนหรือต่างกันตรงไหน ไม่ใช่เถียงแบบข้างๆ คูๆ ประเภทว่าเขียนต่างกันอะไรแบบนั้น แต่เป็นเรื่องของความหมายและการตีความ โดยมีความรู้สึกของชายหญิงเป็นปัจจัยพื้นฐาน เมื่อความเข้าใจต่างกันก็ทำให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์แบบไม่รู้ตัว
ลองมาคิดดูว่า สิ่งที่คุณทำอยู่เขาเรียกว่า Having Sex หรือ Making Love
Photo by We-Vibe WOW Tech on Unsplash
สองคำนี้ในสายตาผู้ชาย “แปลไม่เหมือนกัน”
คำว่า “Have Sex” ในมุมมองของชายหนุ่มมักตีความกันว่า เป็นเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากอารมณ์และฮอร์โมนเป็นพื้นฐาน นำไปสู่การเกิดกิจกรรมบนเตียงเพื่อตอบสนองต่อสิ่งเร้าทั้งภายนอกและภายใน เมื่อเสร็จกิจก็กลับคืนสู่สภาวะอารมณ์ปกติ ไม่ได้มีความรู้สึกลึกซึ้งทางใจเกิดขึ้น พบกันแล้วก็จาก ไม่ได้อยากสานต่อหรือเริ่มต้นความสัมพันธ์ใดๆ มากไปกว่าการตอบสนองอารมณ์ทางร่างกาย ความสัมพันธ์ประเภทนี้ส่วนใหญ่มักจะเรียกกันว่า One Night Stand หรือ Friend with Benefits ที่พอเรื่องบนเตียงดำเนินมาถึงฉากสุดท้ายต่างคนต่างก็แยกย้ายกลับทางใครทางมัน
ไม่ว่าจะเป็น Have Sex หรือ Make Love สาวๆ หลายคนก็เข้าใจความแตกต่างของสองคำนี้ดีอยู่แล้ว แต่ในความจริงที่ว่า ถ้าคุณผู้ชายมีแฟนแล้วไปมีเพศสัมพันธ์กับใครอื่น แล้วมาพูดเหตุผลว่า “ผมไม่ได้รู้สึกอะไร มันก็แค่การมีอะไรกันทั่วๆ ไป ผมรักคุณคนเดียว” แบบนี้คงไม่ถูกต้อง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับผู้หญิงหลายคน โดยเฉพาะคนที่ออกตัวแล้วว่ารักของเราไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบเปิด ผู้หญิงส่วนใหญ่ยังยึดถือในหลักการรักเดียวคนเดียว ไม่อยากแชร์กับใคร ไม่ได้ใจกว้างเป็นนางฟ้าขนาดนั้น แถมยังมีเรื่องความไว้ใจ การป้องกัน และสารพัดอย่างที่ทำให้คิดมาก ไม่สบายใจ แบบนี้ส่งผลถึงความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักแน่นอน
Photo by W R from Pexels
ย้ำทิ้งท้ายอีกครั้งว่า Just Having Sex ของหนุ่มๆ เกิดกับแบบ One Night Stand หรือมองเป็นเรื่องของ Friend with Benefits เมื่อหมดแรงก็แยกทางไม่มีความผูกพันทางใจ และรูปแบบการมีเซ็กส์ไม่จำเป็นต้องคิดถึงหัวจิตหัวใจอีกฝ่ายสักเท่าไหร่ รวมไปถึงสาวๆ หัวสมัยใหม่ใจฝรั่งก็สามารถใช้คำนี้ได้อย่างสบายอุราเพราะมันก็แค่เซ็กส์ไม่มีอะไรผูกพันทางใจเช่นกัน
แต่สำหรับใครที่เป็นคนรักหรือสามีภรรยา เร่ิมรู้สึกว่าการเมคเลิฟแต่ละครั้งมันไม่ตอบโจทย์ ทำแล้วไม่อบอุ่น ไม่ลึกซึ้ง ใกล้จะคล้ายรูปแบบ Have Sex แบบนี้คงท่าไม่ดีแล้ว จงรีบบอกเขาโดยด่วนพร้อมเตรียมใจไว้ได้เลยว่า ลางไม่ดีอยู่ไม่ยืดกำลังปรากฏตัวแล้ว
สุดท้ายนี้ การเมคเลิฟ ไม่จำเป็นต้องแสดงออกผ่านการมีเพศสัมพันธ์หรือต้องเป็นเรื่องบนเตียงเสมอไป แต่อาจเป็นการแสดงความใส่ใจ การกอด หอมแก้ม การจูบ ที่สามารถเติมเต็มความรู้สึกรักของคนทั้งคู่ แบบที่ต่อให้ Have Sex สุดสวิงเร้าใจมากแค่ไหนก็เติมเต็มความสุขในใจให้คุณไม่ได้เท่าการเมคเลิฟกับคนรัก