5 อันดับ สถานที่แต่งงานสุดแปลก! จะแปลกขนาดไหนต้องมาดูกัน

account_circle

จัดอันดับ สถานที่แต่งงาน สุดแปลก!

หลายคนใฝ่ฝันจัดงานแต่งงานในสถานที่สุดโรแมนติก ไม่ว่าจะเป็น ริมทะเลบริเวณชายหาด ดาดฟ้าโรงแรมหรู หรือแม้แต่ในโบสถ์สวยๆ สักแห่งก็อยู่ในภาพจินตนาการที่สาวๆ หลายคนฝันถึง แต่ก็ไม่รู้นะคะว่าสถานที่ธรรมดาที่คนทั่วไปนิยมจัดงานแต่งงานจะเอ้าท์ไปแล้วรึเปล่า ก็ดูอย่างในต่างประเทศสิคะคู้ณณณณ สรรหา สถานที่แต่งงาน สุดแปลก ที่เห็นแล้วต้องถึงกับอึ้ง! ฮันแน่ อยากรู้กันแล้วสินะคะว่าสถานที่แปลกๆ ที่ว่าเนี่ยจะมีที่ไหนกันบ้าง ตามมาดูเป็นตัวอย่างกันได้เลยเผื่อคุณอยากแต่งงานในสถานที่พวกนี้ หรือเห็นแล้วอาจจะขอเซย์กู๊ดบายดีกว่า ต้องลองมาดูกันก่อนค่ะ

อันดับ 5 ดำดิ่งลงไปใต้สมุทร

สถานที่แต่งงาน
ภาพจาก : dissenyviatges.cat

วิวาห์ใต้มหาสมุทรเคยเป็นกระแสอยู่สักพักใหญ่ คุณอาจจะเคยเห็นตามข่าวในโทรทัศน์ว่ามีบ่าวสาวดำดิ่งลงไปจัดพิธีแต่งงานกันใต้ท้องทะเล ซึ่งมีทั้งต่างประเทศและในประเทศของเราอย่างที่ จังหวัดตรัง ที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และก็มีบ่าวสาวที่ให้ความสนใจไม่น้อยในแต่ละปีเช่นเดียวกัน โดยคู่บ่าวสาวต้องใส่ชุดดำน้ำและอุปกรณ์ดำน้ำที่ทางทีมงานได้จัดเตรียมไว้ให้ หรือถ้าอยากจะใส่เป็นชุดแต่งงานแบบสากลก็ย่อมได้นะคะ แต่ยังไงก็ต้องมีอุปกรณ์ดำน้ำ คิดซะว่าเป็นเครื่องประดับเก๋ๆ ไม่เหมือนใคร ฮ่าๆ ซึ่งบ่าวสาวจะดำน้ำลงไปพร้อมทีมงานรักษาความปลอดภัย โดยภายในพิธีก็มีทั้งจดทะเบียนสมรส รสน้ำสังข์ ถ่ายรูปเป็นทีระลึก การแต่งงานใต้ท้องทะเลมีบรรกาศที่ไม่ซ้ำจำเจ แถมยังเห็นเหล่าบรรดาสัตว์น้ำ วิวแปลกตา แถมไม่มีแขกเยอะแยะให้วุ่นวายอีกด้วย

อันดับ 4 สวนสนุกสุดฟัน

สถานที่แต่งงาน
ภาพจาก : popwed.co

ส่วนใหญ่สถานที่แห่งนี้เรามักจะเห็นผู้คนไปถ่ายพรีเวดดิ้งกันซะมากกว่า เพราะถ้าจัดงานแต่งงานอาจจะไม่มีบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวมากนัก แต่ก็แปลกไปอีกแบบนะคะ เหมือนได้ประกาศให้คนทั่วไปที่ไม่ใช่แขกของเราได้รับรู้ถึงการแต่งงานในครั้งนี้ไปด้วย สวนสนุก Coney Island ในนิวยอร์ก เป็นหนึ่งในสวนสนุกที่คู่บ่าวสาวมักเลือกใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงาน โดยมักจัดขึ้นบริเวณใกล้รถไฟเหาะที่เป็นจุดเด่นของสวนสนุกแห่งนี้ เมื่อเสร็จพิธีด้านล่างกันเรียบร้อยแล้ว บ่าวสาวก็สามารถพาแขกของคุณเปิดประสบการณ์มาร่วมงานแต่งงานที่ไม่เหมือนกับงานแต่งงานไหนๆ ด้วยการขึ้นรถไฟเหาะที่น่าหวาดเสียว ซึ่งงานนี้ทุกคนในงานจะได้สนุกสุดมันเหมือนกันถ้วนหน้าจ้าไม่ต้องห่วง อิอิ

อันดับ 3 พิพิธภัณฑ์ก็จัดงานแต่งได้เหมือนกัน

สถานที่แต่งงาน
ภาพจาก : emilychappellphotography.com

การแต่งงานในพิพิธภัณฑ์ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมในประเทศไทยมากนัก เพราะมีเพียงไม่กี่แห่งที่อนุญาตให้จัดงานในพิพิธภัณฑ์ได้ แต่พิพิธภัณฑ์หลายแห่งทางฝั่งตะวันตกนั้นเปิดให้บ่าวสาวได้เข้ามาจัดงานวิวาห์ได้ เช่น Perot Museum of Nature and Science และ Fernbank Museum พิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่จะมาทำให้ภาพงานแต่งงานเกิดฉากหลังที่มีภาพเป็นของหายากอย่าง โครงกระดูกไดโนเสาร์ เชื่อว่าจะเปิดมาดูกี่ปีๆ ก็ไม่เบื่อเลยค่ะ หรือบ่าวสาวสายอาร์ตก็อาจจะชอบพิพิธภัณฑ์ที่ดูมีความโมเดิร์นขึ้นมาหน่อย ซึ่งที่สหรัฐอเมริกาก็มีนะคะ ตั้งอยู่ที่ชิคาโกมีชื่อว่า The Modern Wing พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมงานศิลปะสมัยใหม่ที่เปิดโอกาสให้คู่รักเข้ามาจัดงานแต่งงานได้ แต่อาจจะต้องจัดแบบเรียบร้อยเป็นทางการ เพราะถ้ามันเกิดไปหากทรัพย์สินในพิพิธภัณฑ์เสียหายแล้วจะหนาวววว

อันดับ 2 พิสูจน์รักบนภูเขาเอเวอเรสต์

สถานที่แต่งงาน
ภาพจาก : nepalisite.com

ปีนขึ้นมายังภูเขาที่สูงที่สุดในโลกกันค่ะ สูงขนาดนี้ก็ยังมีคู่รักที่มีความมุมานะ รักการผจญภัยพยายามปีนกันขึ้นมาแต่งงานกันถึงบนภูเขาเอเวอเรสต์ (แต่แขกในงานไม่มีนะคะ เป็นการแต่งงานแบบเรียบง่าย เพียงการสวมแหวนและขึ้นไปถ่ายรูปเพียงเท่านั้น) อ่า เดี๋ยวจะหาว่าโม้ คู่แต่งงานที่เคยขึ้นไปแต่งกันถึงบนภูเขาเอเวอเรสต์ คือ คู่ของ Ashley Schmeider และ James Sisson เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2017 ใช้เวลาในการเดินทางขึ้นไปถึง 9 วันเลยทีเดียว แต่ก็อยู่จัดพิธีแต่งงานพร้อมถ่ายรูปสวยๆ ได้เพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่งเท่านั้น เนื่องจากสภาพอากาศข้างบนไม่ค่อยเป็นใจมากนัก ถึงอย่างไรก็ขอชื่นชมในความรักของคู่บ่าวสาว รวมไปถึงทีมงานที่ขึ้นไปกับคู่นี้ด้วยนะคะ เก่งมากๆ เลยนะคะเนี่ยนับถือเลยอ่ะ

อันดับ 1 กองขยะซากปรักหักพัง

สถานที่แต่งงาน
ภาพจาก : สำนักข่าว China Xinhua News

ใช่ค่ะพวกคุณอ่านกันไม่ผิดหรอก กองขยะนี่แหละค่ะที่คู่รักชาวจีนเขาไปแต่งงานกัน เห็นเป็นกองขยะที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังแบบนั้น งานแต่งนี้ก็ยังคงมีความหมาย มีที่มาที่ไปนะคะ เพราะที่คู่รักชาวจีนคู่หนึ่งต้องมาแต่งงานกันในบรรยากาศที่ดูจะเป็นมลพิษขนาดนี้ เหตุเกิดจากแผ่นดินไหวรุนแรงที่มณฑลเสฉวน ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งทรัพย์สินเงินทอง บ้านเรือน และพลัดพรากชีวิตไปหลายคนด้วยกัน ความผูกพันของบุคคลกับสถานที่ ความสูญเสียในทรัพย์สิน และความมุ่งมั่นที่จะแต่งงานของคู่รักชาวจีนคู่นี้ จึงแสดงให้เห็นถึงความรักที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ไม่ต้องมีเรื่องเงินๆ ทองๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง ขอแค่ได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันก็พอ ไม่ว่างานแต่งงานจะเกิดขึ้นในสถานที่แบบไหนก็ตาม…

กลายเป็นดึงดราม่าเฉยยยย เป็นไงบ้างคะทุกคน สนใจจัดงานแต่งงานใน 5 สถานที่นี้ไหมคะ? หากคุณไม่ได้เป็นคนมีไลฟ์สไตล์แปลกแหวกแนวจนเกินไป งั้นกลับมาที่การจัดงานแต่งงานแบบไทยๆ ในสถานที่ไทยๆ ปกติกันดีกว่าเนอะ ^^”  5 สถานที่ในแบบไทยๆ ที่ไม่ใช่เรือนไทยแต่เหมาะกับ พิธีงานหมั้นไทย เป็นที่สุด

ข้อมูลจาก : wedding.kapook.com, thairath.co.th, nepalisite.com, manager.co.th

แบรนด์โปรด เมแกน มาร์เคิล

ตามรอย 5 แบรนด์โปรด เมแกน มาร์เคิล หรือนี่อาจจะกลายเป็นชุดเจ้าสาวของเธอ

แบรนด์โปรด เมแกน มาร์เคิล
แบรนด์โปรด เมแกน มาร์เคิล

ส่อง 5 แบรนด์โปรด เมแกน มาร์เคิล ไม่แน่ว่า 1 ใน 5 แบรนด์นี้ อาจจะกลายเป็นชุดเจ้าสาวของเธอในวันเข้าพิธีเสกสมรสกับเจ้าชายแฮร์รี่ที่กำลังจะถึงนี้แล้วก็ได้

นับถอยหลังได้เลยกับพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายแฮร์รี่ รัชทายาทลำดับที่ 6 แห่งราชวงศ์อังกฤษและนักแสดงสาวชาวอเมริกัน เมแกน มาร์เคิล ที่จะกลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ไปทั่วโลกอย่างแน่นอน ซึ่งสิ่งที่หลายคนจับตามองมากที่สุดในเวลานี้ คงหนีไม่พ้นชุดแต่งงานของสาวเมแกน ที่ลุ้นกันว่าจะมาจากแบรนด์ไหน เพราะเธอเป็นอีกคนที่โดดเด่นในด้านของแฟชั่นและมีสไตล์การแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้ใครหลายคนมองเธอเป็นแฟชั่นไอคอนไปแล้ว

แน่นอนเมื่อถูกมองว่าเป็นผู้นำแฟชั่นอีกคนหนึ่งของเกาะอังกฤษ วันสำคัญยิ่งในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง ก็ยิ่งถูกสื่อและประชาชนตั้งตารอ เพื่อชมชุดแต่งงานของสาวเมแกนกันไม่น้อย และก่อนที่พิธีเสกสมรสในวันที่ 19 พฤษภาคมจะเกิดขึ้น เรามาส่องแบรนด์โปรดของเธอ ที่คาดว่าน่าจะเป็นตัวเลือกให้เธอหยิบออกมาเป็นชุดเจ้าสาวสุดหรูเพื่อเข้าพิธีเสกสมรสกับเจ้าชายแฮร์รี่กัน

 

5 แบรนด์โปรด เมแกน มาร์เคิล ที่อาจจะได้กลายเป็นชุดเจ้าสาวของเธอ

 

แบรนด์แรกเริ่มกันที่ Burberry  แม้ว่าเมแกนจะเป็นนักแสดงสาวชาวอเมริกัน แต่เธอเองก็เป็นแฟนของแบรนด์อังกฤษชื่อดังนี้มานานเช่นกัน และนี่อาจเป็นตัวเลือกที่เธอจะนึกถึงในวันสำคัญ เพราะตั้งแต่เป็นพระคู่หมั้นของเจ้าชายแฮร์รี่ สไตล์การแต่งตัวของเธอก็เหมือนจะเทน้ำหนักมาทางฝั่งเมืองผู้ดีไม่น้อย เรียกได้ว่ามาดของนักแสดงสาวชาวอเมริกันแทบจะไม่มีให้เห็นเลยก็ว่าได้

แบรนด์โปรด เมแกน มาร์เคิล

 

Stella McCartney เป็นอีกหนึ่งคู่แข่งที่มาแรงไม่แพ้กัน เพราะสาวเมแกนก็มักจะเลือกสวมชุดของแบรนด์นี้เพื่อออกงานพร้อมกับเจ้าชายแฮร์รี่อยู่บ่อยครั้ง ชุดที่เธอเลือกใส่ก็มีความเข้ากับบุคลิกของเธอได้เป็นอย่างดี แถมดีไซน์ชุดเจ้าสาวของ Stella McCartney ก็เต็มไปด้วยความเรียบหรูในสไตล์ที่สาวเมแกนโปรดปรานซะด้วย

แบรนด์โปรด เมแกน มาร์เคิล

 

ต่อกันที่ Ralph & Russo แบรนด์ระดับโอต์กูตูร์ ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์สุดอลังการ ที่มีความเหมาะสมกับการเป็นชุดเจ้าสาวในงานใหญ่แบบนี้มากเลยทีเดียว ด้วยเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่างขนนกฟูฟ่องและกระโปรงลากยาวถึงพื้น ซึ่งแบรนด์นี้สาวเมแกนเคยสวมมาแล้วในการประกาศข่าวหมั้น ชุดในภาพนี้สนนราคาประมาณ 56,000 ปอนด์ หรือประมาณ 2,449,694 ล้านบาท

แบรนด์โปรด เมแกน มาร์เคิล

 

Amanda Wakeley เป็นแบรนด์ที่เจ้าสาวในเกาะอังกฤษให้ความนิยมมากเลยทีเดียว ทั้งนี้เมแกนได้เลือกใส่เสื้อโค้ทสีครีมของ Amanda Wakeley ในวัน Commonwealth Day ซึ่งเป็นวันงานที่มีความสำคัญและได้ออกงานพร้อมกับเจ้าชายแฮร์รี่ รวมไปถึงเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคทอีกด้วย โดยการเลือกแบรนด์เพื่อจะใส่ร่วมงานในแต่ละครั้ง ก็ต้องทำการบ้านไม่น้อย และเธอก็ตัดสินใจโดดเด่นด้วยเสื้อโค้ทจากแบรนด์นี้ ไม่แน่ว่าอีกหนึ่งงานสำคัญที่กำลังใกล้เข้ามา เธออาจจะเลือกชุดจาก Amanda Wakeley มาเป็นชุดเจ้าสาวก็ได้

แบรนด์โปรด เมแกน มาร์เคิล

 

สุดท้ายกับ Elie Saab แบรนด์ที่เจ้าสาวทุกคนใฝ่ฝัน เพราะความงามและฝีมืองานปักขั้นสูงทำให้ใครก็อยากจะใส่ชุดแต่งงานจากแบรนด์นี้สักครั้ง โดยสาวเมแกนเองก็ได้เคยให้สัมภาษณ์ว่า เธอเป็นแฟนของ Elie Saab เมื่อถูกถามเกี่ยวกับชุดแต่งงานที่สมบูรณ์แบบในความคิดของเธอ ดังนั้นจึงมีแนวโน้มว่าสาวเมแกนก็เล็งแบรนด์ Elie Saab ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดของงานปักไว้เช่นกัน

แบรนด์โปรด เมแกน มาร์เคิล

จากทั้ง 5 แบรนด์นี้ ก็ยังไม่มีอะไรการันตีได้ว่าแบรนด์ไหนจะขึ้นแท่นเป็นชุดเจ้าสาวของสมาชิกใหม่แห่งราชวงศ์อังกฤษ แต่อย่างไรก็ตาม สามารถเชื่อมั่นในรสนิยมทางด้านแฟชั่นของเธอได้เลยว่า จะต้องออกมางดงามและเหมาะสมอย่างแน่นอน


เรื่อง : Hana_แพรวดอทคอม (ฮานะ)

ภาพ : IG@meghanmarklefashion  , meghanmarkle_hd  ,  eliesaabworld

 

6 กระทรวงสุดแนว แก้ปัญหา สร้างความสุข ไม่เหมือนชาติใดในโลก

ในโลกนี้มีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เช่นเดียวกับเรื่องที่เรานำมาให้อ่านกันนั้นเกี่ยวกับ กระทรวงสุดแนว ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริง!

เมื่อไม่นานมานี้อังกฤษเพิ่งตั้งกระทรวงใหม่ล่าสุดที่ไม่เหมือนประเทศอื่นๆ ในโลก ชื่อกระทรวงความเหงา ซึ่งการตั้งกระทรวงแนวนี้ไม่ได้มีแค่ที่นี่ ชาติอื่นอีกหลายชาติเขาก็มีเช่นกัน เป็นการสะท้อนว่าแต่ละชาติก็มีปัญหาของตัวเองที่แปลกแตกต่างกันไป

6 กระทรวงสุดแนว

1. รัฐมนตรีความเหงา : อังกฤษ
ใครว่าความเหงาเป็นเรื่องเล็กน้อย ซึ่งใครคนนั้นคงไม่ใช่นายกรัฐมนตรีอังกฤษแน่ เพราะเมื่อไม่นานนี้รัฐบาลของนางเทเรซา เมย์เพิ่งตั้งตำแหน่งรัฐมนตรีใหม่แกะกล่องและมีเพียงหนึ่งเดียวในโลกนั่นคือ รัฐมนตรีความเหงา หรือ Minister for Loneliness

ข้อมูลเป็นทางการที่นั่นระบุว่า มีชาวสหราชอาณาจักรที่รู้สึกเปล่าเปลี่ยวอ้างว้างอยู่เสมอกว่า 9 ล้านคน โดยเฉพาะคนสูงวัยที่อายุเกิน 75 ปีนั้น สถิติบอกว่า ส่วนใหญ่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยว ซึ่งผู้อาวุโสเหล่านี้มีอยู่ถึงราว 200,000 คนที่ไม่ได้พูดคุยกับเพื่อนฝูงหรือญาติพี่น้องเลยตลอดเวลากว่าหนึ่งเดือน

ผู้ตระหนักถึงปัญหาความเหงาและพยายามริเริ่มแก้ไขอย่างเป็นรูปเป็นร่างคือ โจ ค็อกซ์ อดีต ส.ส.หญิงที่ถูกพวกหัวรุนแรงฝ่ายขวาสังหารเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งก่อนเสียชีวิตนั้นเธอเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงตั้งคณะกรรมาธิการแห่งความเหงาขึ้น และรัฐบาลอังกฤษก็นำงานของเธอมาสานต่อเป็นกระทรวงความเหงานี่เอง

กระทรวงสุดแนว
Tracey Crouch

โดยที่เริ่มต้นนี้ นายกรัฐมนตรีเมย์ได้มอบหมายให้ เทรซีย์ เคราช์ (Tracey Crouch) รัฐมนตรีกีฬานั่งควบเก้าอี้รัฐมนตรีความเหงาอีกหนึ่งตำแหน่ง และงานเร่งด่วนของรัฐมนตรีหญิงท่านนี้คือ คลอดยุทธศาสตร์เพื่อรับมือกับปัญหาความเหงา วางแผนงานด้านงบประมาณและแสวงหาความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในสังคม

2. กระทรวงกิจการฮัจญ์และอุมเราะห์ : ซาอุดีอาระเบีย
แต่ละปีมีชาวมุสลิมไม่น้อยกว่า 2 ล้านคนจากทั่วโลกมุ่งหน้าสู่นครเมกกะ ซาอุดีอาระเบีย อย่างพร้อมเพรียงกันเพื่อประกอบพิธี
ฮัจญ์ ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของชาวมุสลิมทุกผู้ทุกนามต้องปฏิบัติหากมีความพร้อม

การมาถึงในสถานที่เดียวกันและในเวลาเดียวกันของผู้จาริกแสวงบุญเป็นล้านคน ว่ากันว่าเป็นการชุมนุมใหญ่โตที่สุดในโลก คิดดูแล้วกันว่าจะเกิดความสับสนวุ่นวายขนาดไหน ทั้งเรื่องการกินอยู่หลับนอน การคมนาคมขนส่ง สุขภาพอนามัย และบางปีก็มีข่าวว่าแออัดถึงขั้นเหยียบกันจนบาดเจ็บล้มตายก็มี

ปัญหาพวกนี้นับว่าเป็นเรื่องใหญ่โตมาก ถึงขนาดที่รัฐบาลซาอุดีอาระเบียต้องตั้งเป็นกระทรวงขึ้นมาเป็นการเฉพาะเพื่อบริหารจัดการในชื่อว่า Ministry of Haj and Umra หรือกระทรวงกิจการฮัจญ์และอุมเราะห์ โดยภารกิจคือ ทำหน้าที่ประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อคอยดูแลสุขทุกข์ของผู้มาจาริกแสวงบุญในพิธีฮัจญ์ เพื่อให้มีความสะดวกและปลอดภัยมากที่สุด

3. กระทรวงการแพทย์ทางเลือก : อินเดีย
กระทรวงที่ไม่เหมือนใครของอินเดียนี้คือ Ministry of AYUSH หรือชื่อเต็ม ๆ ว่าMinistry of Ayurveda, Yoga and Naturopathy, Unani, Siddha and Homeopathy ที่แปลว่า กระทรวงอายุรเวทโยคะและธรรมชาติบำบัด ยูนานิ สิทธา และโฮมีโอพาธี

กล่าวง่ายๆ ได้ว่า นี่เป็นกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ทางเลือก ทั้งที่เป็นศาสตร์โบราณที่สืบทอดต่อกันมาของอินเดีย และที่เขารับเข้ามาจากต่างแดน โดยชื่อศาสตร์ทั้งหลายข้างต้นนั้น ที่ไม่ค่อยคุ้นก็น่าจะเป็นยูนานิ ซึ่งเป็นการแพทย์ทางเลือกที่ชมพูทวีปรับมาจากอาหรับ และสิทธา คือศาสตร์การแพทย์ที่เก่าแก่ที่สุดของอินเดีย

แรกเริ่มเดิมทีในปี ค.ศ. 1995 รัฐบาลภารตขณะนั้นได้ตั้งหน่วยงานภายใต้กระทรวงสาธารณสุขชื่อว่าการแพทย์อินเดียและ โฮมีโอพาธี ต่อมาในปี ค.ศ. 2003 หน่วยงานนี้ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นอายุรเวท โยคะและธรรมชาติบำบัด ยูนามิ สิทธา และโฮมีโอพาธีก่อนยกฐานะขึ้นเป็นกระทรวงเมื่อปลายปี ค.ศ. 2014

ภารกิจหลักตั้งแต่เป็นหน่วยงานมาจนเป็นกระทรวงคือ เดินหน้าศึกษาและวิจัยศาสตร์การแพทย์ทางเลือกเหล่านี้ให้เป็นระบบระเบียบ ได้มาตรฐาน รวมถึงเผยแพร่ความรู้ทางด้านนี้ให้ผู้คนได้นำไปใช้ประโยชน์ในวงกว้าง

4. กระทรวงความสุข : สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
2 ปีก่อนรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ปรับคณะรัฐมนตรีแบบยกทีม ซึ่งเขาให้ชื่อว่าเป็น ครม.แห่งอนาคต เพราะเป็น ครม.ของคนหนุ่มคนสาว และงานของพวกเขาก็โฟกัสไปที่เรื่องของอนาคต เยาวชน ความสุข การพัฒนาการศึกษา และการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ

Ohoud Al Roumi

พร้อมกันนี้มีการตั้งกระทรวงใหม่ๆ ขึ้น โดยเฉพาะกระทรวงที่น่าสนใจคือ กระทรวงเพื่อความสุข หรือ Ministry of State for Happiness โดยเจ้ากระทรวงเป็นผู้หญิงรุ่นใหม่ไฟแรงนามว่า Ohoud Al Roumi งานหลักของกระทรวงแห่งความสุขนี้คือ สนับสนุนและขับเคลื่อนแผนงาน นโยบาย โปรแกรม และกฎหมายต่าง ๆ ที่จะช่วยสร้างสรรค์สังคมให้มีความสุขและคิดบวก

ท่านรัฐมนตรีหญิงบอกว่า รัฐบาลไม่ได้มาใช้อำนาจบีบบังคับให้ประชาชนมีความสุข แต่จะสร้างเงื่อนไขหรือสภาพแวดล้อมที่ถูกต้องเหมาะสม เช่น สาธารณูปโภค โอกาสทางการศึกษา หน้าที่การงานสาธารณสุข ทั้งนี้เพื่อจะทำให้ประชาชนมีชีวิตดีขึ้นและมีความสุข

5. กระทรวงแห่งการรวมชาติ : เกาหลีใต้
คาบสมุทรเกาหลีถูกตัดแบ่งออกเป็นสองชาติเหนือ – ใต้ตามลัทธิการเมืองมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จวบจนถึงบัดนี้ ซึ่ง
ตลอดมานั้นความคิดเรื่องการรวมชาติเป็นความใฝ่ฝันของผู้คนที่นั่นจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะชาวเกาหลีใต้

และช่วงทศวรรษ 1960 เรื่องการรวมชาติได้กลายเป็นประเด็นสาธารณะที่ชาวโสมขาวสนใจและถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อน กระทั่งรัฐบาลประธานาธิบดีพักชองฮีในสมัยนั้นไม่อาจนิ่งเฉยอยู่ได้ โดยในปี ค.ศ. 1969 หน่วยงานที่มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนเรื่องการรวมชาติอย่างสันติจึงถูกตั้งขึ้น ให้ชื่อว่าคณะกรรมการเพื่อการรวมชาติ

ต่อมาปี ค.ศ. 1998 คณะกรรมการชุดนี้ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นกระทรวงชื่อว่า Ministry of Unification หรือกระทรวงแห่งการรวมชาติ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบในทุกเรื่อง ทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์และการรวมชาติระหว่างสองเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยเจรจา แลกเปลี่ยน รวมถึงร่วมมือกันในเรื่องต่าง ๆ เช่น เศรษฐกิจอุตสาหกรรม การศึกษา และการไปมาหาสู่
ระหว่างกัน เป็นต้น

6. รัฐมนตรีลักพาตัว : ญี่ปุ่น
ช่วง ค.ศ. 1971 – 1980 มีชาวญี่ปุ่นมากหน้าหลายตาหายตัวไปอย่างลึกลับ ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนของทางการญี่ปุ่นระบุได้แน่ชัดว่า มีชาวญี่ปุ่น 17 คนถูกสายลับเกาหลีเหนือลักพาตัวไป ส่วนคนอื่นๆ เชื่อว่าอย่างน้อยๆ 100 รายเข้าข่ายต้องสงสัยว่าอาจจะถูกทางโสมแดงลักพาตัวไปเช่นกัน

ต่อมาในปี ค.ศ. 2002 รัฐบาลเกาหลีเหนือยอมรับอย่างเป็นทางการว่าได้ลักพาตัวชาวญี่ปุ่นไปจริง และยอมคืนเหยื่อชาวญี่ปุ่นที่ถูกลักพาตัวไปเพียง 5 รายเท่านั้น และยืนกรานว่าคืนให้หมดแล้ว ส่วนรายอื่น ๆ นั้นบอกว่าเสียชีวิตไปแล้ว หรือไม่ก็ไม่รู้ไม่เห็นแต่อย่างใดจึงทำให้กลายเป็นภาระหน้าที่อันสำคัญยิ่งของรัฐบาลญี่ปุ่นที่จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อค้นความจริงและนำเหยื่อทุกคนกลับบ้านให้ได้

และปี ค.ศ. 2006 รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตั้งสำนักงานใหญ่เพื่อแก้ปัญหาลักพาตัว โดยมีรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าดูแลรับผิดชอบ เรียกว่า Minister for the Abduction Issue หรือรัฐมนตรีลักพาตัวนั่นเอง เป็นกระทรวงที่แต่ละประเทศตั้งขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดในประเทศของตนจริงๆ


เรื่องและภาพ : นิตยสารแพรว 924

นักรีวิวออนไลน์

ดารา – นักรีวิวออนไลน์ ไม่ควรพลาด 5 ข้อ ฉุกคิด! คิดก่อนโพสต์

Alternative Textaccount_circle
นักรีวิวออนไลน์
นักรีวิวออนไลน์

ถึงเวลา ศิลปิน-ดารา และ นักรีวิวออนไลน์ เริ่มต้นศึกษาเกี่ยวกับการโฆษณาผลิตภัณฑ์ อย่างจริงจัง สิ่งไหนทำได้ หรือ สิ่งไหนทำไม่ได้?

จากกรณีเจ้าหน้าที่ทลายผลิตภัณฑ์ยี่ห้อดัง เมจิกสกิน และ สินค้าในเครือ หลังใช้เครื่องหมายการค้าอาหารและยา (อย.) ปลอม ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 เม.ย.2560 รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้จัดแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกคนดังชุดแรกจำนวน 9 คน ที่ก่อนหน้านี้เคยรับจ้างโพสต์ภาพผลิตภัณฑ์ดังกล่าวบนอินสตาแกรมมาสอบสวน ประกอบด้วย ม้า-อรนภา กฤษฎี, สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข, เมย์-พิชญ์นาฏ สาขากร, เจสซี่ วาร์ด, แพท-ณปภา ตันตระกูล, ออฟฟี่-อรพรรณ ด่านวัฒนกุล, ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ, โฟร์- สกลรัตน์ วรอุไร และ หญิงแย้-นนทพร ธีระวัฒนสุข

โดยก่อนหน้านี้คนดังหลายคนได้ออกมาขอโทษต่อสังคม ซึ่งโดยส่วนใหญ่ระบุว่า “ตนไม่ทราบมาก่อนว่าผลิตภัณฑ์ไม่มีมาตรฐาน” ขณะที่ในมุมหนึ่งของโลกออนไลน์ก็มีคนออกมาแสดงความคิดเห็นว่าการตรวจสอบพื้นฐานนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด ซึ่ง แพรวดอทคอม ได้หาและสรุปข้อมูลจาก สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค เกี่ยวกับการโฆษณาผลิตภัณฑ์ มาให้ผู้อ่านได้ทำความเข้าใจเบื้องต้น ประมาณ 5 ข้อ ไปติดตามอ่านกันได้เลยค่ะ


1.การโฆษณา

นักรีวิวออนไลน์
ภาพจาก : workpointnews

กฏหมายไม่ได้ให้ความหมายของโฆษณาเอาไว้ แต่นักกฏหมายก็ทราบอย่างเดียวกับที่คนทั่วไปเข้าใจ โดยในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ให้ความหมายของคำว่าโฆษณาไว้ว่า เป็นการเผยแพร่ข้อความออกไปยังสาธารณชนป่าวร้อง, ป่าวประกาศ เช่น โฆษณาสินค้า โดยการทำการไม่ว่าโดยวิธีใดๆ ที่ให้ประชาชนเห็นหรือทราบข้อความเพื่อประโยชน์ในทางการค้า ซึ่งเป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการส่งเสริมการขายสินค้าต่อสาธารณชน


2. อย.กับการดูแลผลิตภัณฑ์

 

ก่อนที่จะจำหน่ายหรือนำเข้าผลิตภัณฑ์ต้องได้รับการตรวจสอบ 3 ประการคือ สถานที่ผลิต/โรงงาน ต้องผ่านมาตรฐาน GMP ตามที่ อย. กําหนด คือ ผลิตภัณฑ์ต้องมีความปลอดภัย การโฆษณาต้องถูกต้องเหมาะสมไม่โอ้อวดเกินจริง และได้รับอนุญาตจาก อย. (เฉพาะผลิตภัณฑ์อาหาร ยา และเครื่องมือแพทย์) ชี้ให้เห็นชัดๆ ตามชนิดของผลิตภัณฑ์ ดังนี้

2.1 ผลิตภัณฑ์อาหาร : GMP ได้รับอนุญาตสถานที่ผลิต + ได้รับการอนุญาตผลิตภัณฑ์ (อย. XX-X-XXXX-X-XXXX) +ได้รับอนุญาตโฆษณา (ฆอ…/..)

2.2 ผลิตภัณฑ์ยา : GMP ได้รับอนุญาตสถานที่ผลิต + ได้รับการอนุญาตผลิตภัณฑ์ (อย. XX-X-XXXX-X-XXXX) +ได้รับอนุญาตโฆษณา (ฆอ…/..)

2.3  ผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์: GMP ได้รับอนุญาตสถานที่ผลิต + ได้รับการอนุญาตผลิตภัณฑ์ (อย. XX-X-XXXX-X-XXXX) +ได้รับอนุญาตโฆษณา (ฆอ…/..)

2.4 ผลิตภัณฑ์เครื่องสําอาง : GMP ได้รับอนุญาตสถานที่ผลิต + ได้รับการจดแจ้งผลิตภัณฑ์ (XX-x-XX-XXXXX)

2.5 ผลิตภัณฑ์วัตถุอันตราย : ได้รับการอนุญาต……./นําเข้า+ได้รับการอนุญาต ผลิตภัณฑ์ (วอส…/….)


3.การตรวจสอบผลิตภัณฑ์เบื้องต้น

นักรีวิวออนไลน์

นักรีวิวออนไลน์

เว็บไซต์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากระทรวงสาธารณสุข หรือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา มีระบบตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ประชาชนสามารถเข้าได้ทุกคน โดยพิมพ์เลขที่ผลิตภัณฑ์ ก็จะปรากฏข้อมูล ประเภทผลิตภัณฑ์, ใบสำคัญ, ชื่อผลิตภัณฑ์ไทย – อังกฤษ, ชื่อผู้รับอนุญาต, สถานที่ และ สถานะ ซึ่งหากไม่ตรงกับบนกล่องผลิตภัณฑ์ นักโฆษณาควรระมัดระวังเอาไว้ เพราะอาจจะมีการสวมเลข หรือ ผลิตภัณฑ์ไม่เคยได้รับการตรวจสอบ


4.ข้อความต้องห้าม

การโฆษณาอาหาร, ยา และ เครื่องสําอาง ต้องไม่อวดอ้างสรรพคุณที่สินค้าและบริการนั้นไม่มีอยู่จริง สรรพคุณที่อ้างสามารถพิสูจน์ในเชิงสถิติหรือเป็นวิทยาศาสตร์ที่เป็นที่ยอมรับได้ โดยข้อความที่ไม่ควรโฆษณาคือ อ้างว่าสามารถช่วยบําบัด บรรเทา รักษาหรือป้องกันโรคต่างๆ, อ้างว่าเปลี่ยนแปลงรูปร่าง ลักษณะ และโครงสร้างของอวัยวะในร่างกาย, อ้างว่าทําให้ผิวขาว เต่งตึง ลดเลือนริ้วรอย, อ้างว่าทําให้ผิวพรรณขาวอมชมพู, ลดปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดํา ชะลอความแก่ของเซลล์ผิว, อ้างว่ามีผลต่อการกระทําหน้าที่ของอวัยวะและส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น เพิ่มพัฒนาการทางสมอง บํารุงสายตา หัวใจ ประสาท ลดความเมื่อยล้า ฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศ เป็นต้น


5 .โทษทางกฎหมาย

นักรีวิวออนไลน์

พ.ร.บ. เครื่องสำอาง พ.ศ.2558 ม.41 วรรค 2 (1) ข้อหาโฆษณาเครื่องสำอางด้วยข้อความที่เป็นเท็จหรือเกินความจริง อันเป็นความผิดตาม ม.84 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พ.ร.บ. อาหาร พ.ศ.2522 ม.40 ข้อหาโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหาร อันเป็นเท็จหรือเป็นการหลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร อันเป็นความผิดตาม ม.70 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ ม.41 ข้อหาโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหาร เพื่อประโยชน์ทางการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตมีอัตราโทษตาม ม.71 ปรับไม่เกิน 5,000 บาท และ พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (1) ข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100, 000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


อย่างไรก็ตามผู้บริโภคพบเห็นการผลิตหรือจําหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผิดกฎหมาย สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน อย. 1556 Email: [email protected] หรือตู้ ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือ ผ่านทาง Oryor Smart Application หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ


ข้อมูลจาก : http://www.ocpb.go.th/ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค

 

งดงามทุกฤดูกาล ปราก ดินแดนแห่งความรัก น่าชวนคนรักมาฮันนีมูน

กรุงปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก เป็นเมืองที่ได้รับการกล่าวขานว่าโรแมนติกที่สุดของยุโรปตะวันออก เพราะพร้อมด้วยความงดงามของภูมิทัศน์แบบเมืองเก่าเสน่ห์ของสายน้ำจากแม่น้ำวัลตาวา (Vltava River) ที่ทอดตัวยาวไหลผ่านกลางเมืองมองเห็นปราสาทเมืองปราก (Prague Castle) โดดเด่นอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ความลึกลับของสะพานชาร์ลส์ที่โรแมนติกที่สุดในโลก ดื่มด่ำกับสเน่ห์ของดนตรีแจ๊สที่เล่นกันสดๆ แทบทุกหัวมุมถนน ถนนชมงานศิลปะที่วางเรียงรายหลายหลากสไตล์ให้หลงใหล

ปรากงามในทุกฤดูกาล ที่นี่จึงไม่เคยร้างราผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก รวมทั้งคู่รักที่หลั่งไหลกันมาขอความรัก เอ่ยปากขอแต่งงาน รวมถึงมาฮันนีมูนกันที่นี่

กรุงปราก

กรุงปราก
มุมสวยๆ ของสวนสาธารณะเปอตรินฮิลล์

ปรากในวันฟ้าสวย
กรุงปรากแบ่งเป็นเขตต่างๆ (District) จำนวน 10 เขต เขตที่ถือเป็นใจกลางของย่านการท่องเที่ยวคือ ดิสทริกต์ 1 (District 1) ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญเกือบทั้งหมด แต่ละเขตมีรถรางวิ่งผ่าน ทำให้สะดวกอย่างยิ่ง และเนื่องจากเป็นเมืองเล็ก ๆ การเดินเท้าจึงถือว่าสะดวกอย่างมาก

กรุงปราก
ความงดงามยามค่ำคืน

ฉันออกจากที่พัก เลือกเดินตามเส้นทางรถรางไปยังเขตชุมชนที่อาศัยของคนที่นี่ ตลอดสองข้างทางรถรางเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนที่สวยงามความงดงามของเส้นทางรถรางที่นี่คือ ความลดเลี้ยวแทรกตัวผ่านบ้านเรือน ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่อลังการมาก แอบอิจฉาคนที่นี่ที่มีบ้านสวยงามความโดดเด่นที่เห็นชัดเจนคือ หน้าต่างของแต่ละบ้านดูสวยหรูหรา

รถรางที่นี่สวยไม่แพ้เมืองอื่น ๆ คนที่นี่นิยมใช้บริการรถรางมากกว่าบริการขนส่งแบบอื่น ฉันชมบ้านเมืองอย่างเพลิดเพลิน จนมาเจอสวนสาธารณะขนาดเล็กบนเนินที่มองเห็นวิวของเมืองนี้ สวนแห่งนี้กำลังงามด้วยดอกซากุระสีชมพูบานสะพรั่ง ฉันยืนดูคนสวนที่กำลังขะมักเขม้นจัดสวนอย่างมีความสุขกับงานที่กำลังทำอยู่

กรุงปราก
แท็กซี่จอดรอผู้โดยสารในเขตเมืองเก่า

ช่วงบ่ายฉันย้อนกลับมาชมสวนสาธารณะวิตโคฟ (Vìtkov Park) ซึ่งติดกับโฮสเทลที่พักของฉัน ทางเดินในสวนรายล้อมด้วยต้นไม้นานาพรรณ มีต้นซากุระหลายต้น ดอกขนาดเล็กสีขาวสะอาดตาเบ่งบานเต็มต้นเป็นภาพที่สวยงามมาก มีหลายคนเข้าไปเคารพอนุสาวรีย์แห่งชาติ (National Memorial at Vìtkov) จากนั้นเดินลงอีกด้านของสวน เป็นทางเลียบขนานกับถนนเพอร์เนอโรวา (Pernerova) ซึ่งตลอดทางเต็มไปด้วยตึกเก่าสวยงาม ฉันแวะชมความงามของโบสถ์ขนาดใหญ่ ตัวโบสถ์สีดำคล้ำ มองจากภายนอกดูเก่ามาก แต่ไม่น่าเชื่อว่าภายในมีความงดงามอย่างยิ่ง บานประตูขนาดใหญ่มีรูปปั้นเล่าเรื่องราวของศาสนาคริสต์ที่รังสรรค์ขึ้นด้วยความประณีตประดับอยู่ ผู้คนจึงให้ความสนใจและถ่ายภาพกันมากมาย การเข้าชมภายในสามารถเข้าชมฟรีมีบาทหลวงคอยให้บริการและทักทายอย่างเป็นมิตร

จากนั้น ฉันเดินเท้าไปยังพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ (National Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองนี้ อาคารเก่าแก่สร้างด้วยศิลปะแบบเรอเนซองซ์ มีขนาดใหญ่โตมาก ภายในมีทั้งงานศิลปะและวัตถุโบราณมากถึง 14 ล้านชิ้น ภายในยังมีส่วนของห้องสมุดรวมอยู่ด้วย

ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์คือ อนุสาวรีย์ของเซนต์เวนเซสลัส (St.Wenceslas) ไม่ไกลกันคือ จัตุรัสเวนเซสลัส ที่มีถนนเส้นใหญ่ทอดตัวยาวผ่านย่านเมืองใหม่ของปราก ซึ่งสองด้านของถนนสายสำคัญของเมืองนี้ถือเป็นย่านใจกลางเมือง เป็นศูนย์รวมของห้างสรรพสินค้าร้านอาหาร บาร์ ร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหารที่มีหลายระดับให้เลือกทานกันอย่างจุใจ ร้านขายของที่ระลึกได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ ส่วนเกาะกลางถนนทำเป็นร้านอาหารเช่นกัน แม้ปรากจะไม่ทันสมัยเทียบเท่าเมืองใหญ่ในยุโรป แต่ที่นี่มีร้านแบรนด์ดังๆ ให้จับจ่ายใช้สอยกันสนุกมือ

กรุงปราก
ของที่ระลึกที่ราคาไม่ถูก

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกเดินไปบนถนนสายหลักที่เป็นเส้นทางของรถรางซึ่งทอดตัวผ่านย่านใจกลางเมือง สองข้างทางเต็มไปด้วยตึกเก่าแก่ที่สวยงาม จุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวที่เดินไปตามเส้นทางสายนี้คือการไปชมความงดงามของโบสถ์อีกแห่งหนึ่งคือ Church of Our Lady Victorious (Infant Jesus of Prague) ปรากถือเป็นเมืองที่มีโบสถ์จำนวนมากเมืองหนึ่งของยุโรป นั่นแสดงว่าในอดีตศาสนาคริสต์ที่นี่เคยรุ่งเรืองมาก แม้ปัจจุบันศาสนากลายเป็นเรื่องรองในชีวิตประจำวัน แต่ร่องรอยของศรัทธากลับสร้างค่าได้อย่างมากมายมหาศาล เมื่อกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เรียกแขกได้จากทั่วทุกมุมโลก

กรุงปราก
ความงดงามบนเพดานโบสถ์

ก่อนไปชมความงดงามของปราสาทเมืองปราก ไม่ไกลกันคือปราสาทสวย ๆ แบบฉบับของชาวโบฮีเมียน ถือเป็นการสลับสับเปลี่ยนบรรยากาศบริเวณรอบ ๆ มีบริการรถม้า ใครชื่นชอบสวมบทบาทสมมุติให้ตัวเองเป็นชาวยุโรปโบราณ การนั่งรถม้าชมเมืองจึงน่าจะได้บรรยากาศอย่างที่สุดการเดินเล่นริมแม่น้ำปรากถือเป็นการผ่อนคลายอย่างยิ่ง ในสายน้ำเต็มไปด้วยหงส์สีขาวเล่นน้ำอย่างมีความสุขจับคู่เริงร่าเตรียมสร้างครอบครัว

โบสถ์เซนต์วิทัส  (St.Vitus Cathedral) โบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในปราสาทเมืองปราก

ปราสาทเมืองปราก
ฉันมาถึงสถานที่สำคัญของเมืองนี้คือ ปราสาทเมืองปราก (Prague Castle) ตั้งอยู่บนเนินเขาทางด้านตะวันตกของแม่น้ำวัลตาวา (Vltava River) ปราสาทเมืองปรากมีขนาดใหญ่มาก ไม่ว่าจะมองไปทางใดก็มองเห็นปราสาทแห่งนี้เสมอ ภายในประกอบด้วยโบสถ์ที่มีความงามมาก จึงทำให้รอคิวค่อนข้างยาว ใครมีเวลาน้อยควรซื้อบริการทัวร์หรือบัตรผ่านประตูล่วงหน้า จะช่วยให้ลดเวลาไปพอสมควรออกจากปราสาทเมืองปรากแล้ว ฉันไปเดินช็อปต่อที่ตรอกแคบ ๆ ที่เต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึก รวมทั้งร้านอาหารขนาดเล็ก ใครเดินผ่านต้องจ่ายค่าผ่านทางด้วย แต่เนื่องจากเย็นมากแล้ว คนเก็บค่าประตูจึงให้ผ่านเข้าไปแบบไม่ต้องควักสักยูโร

กรุงปราก
โบสถ์ติน (Tyn Church)

สถานที่อีกแห่งที่ไม่ควรพลาดคือ การไปเดินเล่นที่เกาะเล็ก ๆ ชื่อเกาะสลาโวนิก (Slavonic Island) กลางสายน้ำที่ไหลเอื่อย ๆ ที่นี่มีสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ สวนสาธารณะที่มีต้นแมกโนเลียเบ่งบาน กลิ่นหอมรัญจวนใจอย่างมาก จากนั้นมาเดินชมความงดงามของตึกเก่าบนถนนพาริซสกา (Parˆìžskà Street) ถือเป็นถนนสายที่สวยที่สุด ส่วนใครที่ชื่นชอบละคร สามารถแวะชมการแสดงโอเปร่าที่โรงละครแห่งชาติ (NationalTheater) ได้

กรุงปราก
ประตูพาวเดอร์ทาวเวอร์ (Power Tower)

กรุงปรากมีแม่น้ำไหลผ่าน ทำให้เมืองนี้มีสะพานหลายแห่งเชื่อมสองฝั่งน้ำเข้าด้วยกัน มีสะพานสองแห่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างมากคือ สะพานลีเจียน (Legion Bridge) โดยสะพานแห่งนี้เป็นเส้นทางของรถรางวิ่งผ่าน ทำให้หลายคนชอบมาเก็บภาพกับรถรางกันที่นี่เมื่อข้ามสะพานแห่งนี้แล้วจะพบกับร้านขายของที่ระลึก และทางเดินเลียบแม่น้ำวัลตาวาที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินลงไปชมฝูงหงส์จำนวนมาก

โบสถ์อีกแห่งในปราสาทเมืองปราก

แน่นอนว่ามาถึงปรากแล้วต้องไปเดินเล่นที่สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ ปรากในฤดูใบไม้ผลิฟ้าใสมากอากาศหนาวนิด ๆ การถ่ายภาพจึงได้ผลงานที่สวยงาม สะพานแห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย การถ่ายภาพอาจจะต้องรอคิวกันพอสมควร แต่เป็นการดีที่เราสามารถขอความช่วยเหลือให้ใคร ๆ หลายคนช่วยเก็บภาพว่าเคยมาเยือนที่นี่ วันนั้นโชคดีอย่างที่สุดที่เจอครอบครัวคนไทยดีที่เอ่ยปากเป็นตากล้องเก็บภาพสวย ๆ ของเมืองนี้ให้ ขอขอบคุณไว้ ณ ตรงนี้ด้วย

ฉันอยู่เมืองปราก 6 วัน ไม่มีช่วงเวลาใดของสะพานชาร์ลส์แห่งนี้จะร้างราผู้คน ยามค่ำคืนแสงไฟที่ตกแต่งไว้อย่างงดงามทำให้ภาพสะท้อนในสายน้ำสวยงามเกินกว่าจะละสายตาจากมาได้ ไม่แปลกใจที่ใครหลายคนยอมยืนทอดอารมณ์บนสะพานแห่งนี้ได้นานหลายชั่วโมง และไม่ลืมที่จะถ่ายภาพกับอนุสาวรีย์ รวมทั้งเอามือลูบ ๆ คลำ ๆ เพราะเชื่อว่าจะพบแต่ความโชคดี สมหวังในความรัก สุดแต่จะสมมุติกันไปบนสะพานยังเต็มไปด้วยศิลปินมือสมัครเล่นมาวางผลงานขาย หรือแม้แต่ใครชื่นชอบภาพเหมือนหรือภาพล้อก็ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านกันได้

กรุงปราก
สะพานชาร์ลส์

เมื่อเดินลงจากสะพานแล้ว ทุกคนต้องเดินลอดผ่านประตูซึ่งสร้างเป็นหอคอย เรียกว่า พาวเดอร์ทาวเวอร์ (Powder Tower) เพื่อเข้าสู่ย่านเมืองเก่า ประตูแห่งนี้ถือเป็นประตูเก่าแก่มาก สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1475 และซ่อมแซมอีกครั้งในปี ค.ศ. 1876 ส่วนของหอคอยเคยใช้เป็นที่วางปืนใหญ่ในยุคที่เมืองปรากปกครองด้วยกษัตริย์

ส่วนใครที่ยังไม่ได้เต็มอิ่มกับสเน่ห์ของปราก การล่องเรือชมความงดงามของเมืองนี้ถือเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวหลายคนตั้งใจอย่างมากเมื่อมาถึงที่นี่ โปรแกรมการล่องเรือจะมีราคาแตกต่างกันไปตามระยะเวลาและสถานที่ที่เรือจะแล่นผ่าน มีบริการทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะปรากสวยอย่างมีเอกลักษณ์ ภาพเงาของปราสาทที่สะท้อนบนผืนน้ำในยามค่ำคืนนั้นงดงามยิ่งนัก

สีสันของเมืองเก่า
กรุงปรากเหมาะอย่างมากในการเดินชมรอบเมือง เนื่องจากเมืองนี้มีขนาดเล็ก การเดินชมเมืองจึงไม่เหนื่อยมาก การเดินย่านจัตุรัสเมืองเก่า (Old Town Square) ถือเป็นไฮไลต์ของ Walking Tour กันเลยทีเดียว ย่านเมืองเก่ารายล้อมไปด้วยตึกเก่า ๆ ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาโรก นั่นแปลว่าหรูหราฟู่ฟ่าอย่างมาก มีหอนาฬิกา (Astronomical Clock) ที่นักท่องเที่ยวหลายคนมายืนรอด้านหน้าเพื่อชมจังหวะที่เข็มนาฬิกาดาราศาสตร์จะเปลี่ยนตำแหน่งเมื่อเวลาเดินเข้าสู่ชั่วโมงใหม่ แล้วตุ๊กตาจะขยับเขยื้อนอย่างน่ารัก ไม่น่าเชื่อว่ามีนักท่องเที่ยวมารอชมกันมากมายขนาดนี้ บางคนชอบความตื่นเต้น จึงเลือกที่จะปีนบันไดวนแคบ ๆ เพื่อขึ้นไปชมหอคอยด้านบน

กรุงปราก
อาคารที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์โบฮีเมียน

ไม่ไกลกันคือ โบสถ์ติน (Tün Church) สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบกอทิก โบสถ์แห่งนี้ถือว่าเก่าแก่อย่างมาก มีความสูงถึง 80 เมตรทำให้มองเห็นส่วนยอดโดดเด่นในระยะไกล สร้างตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 14 พร้อมการสร้างเมืองเก่าแห่งนี้ และอีกโบสถ์ที่ถูกบันทึกภาพจากนักเดินทางมากไม่แพ้สถานที่อื่นคือ โบสถ์เซนต์นิโคลัส (St. Nicholas Church) โบสถ์แห่งนี้มีสีขาว ทำให้โดดเด่นอย่างมาก และจะสวยมากเมื่อยามราตรีมาเยือนอย่างช้า ๆ แสงสีส้มทาบทาท้องฟ้า ส่งให้ภาพที่ได้พบเจองดงามดั่งภาพฝัน ใกล้ ๆ กับโบสถ์คือร้านอาหารที่มีทั้งแบบสั่งตามเมนูและบุฟเฟ่ต์ที่ราคาไม่โหดร้ายเกินไปนัก

กรุงปราก
มุมสวยในย่านเมืองเก่า

ย่านเมืองเก่าจะมีชีวิตชีวาอย่างยิ่งในยามค่ำคืน กรุงปรากจึงถือเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ในทุกวินาทีที่ท่องเที่ยวอยู่ที่นี่ สิ่งที่น่าชื่นชมอย่างมากของเมืองนี้คือ มีการตกแต่งแสงไฟอย่างสวยงาม ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้เมืองนี้ในยามค่ำคืน

กรุงปราก
สีสันยามค่ำในเขตเมืองเก่า

ส่วนคนที่หลงใหลในดนตรีคลาสสิก ที่นี่มีทั้งโรงละครและโอเปร่าที่ขึ้นชื่ออย่างมาก มีละครแสดงกันทุกวัน ล้วนแต่เป็นเรื่องที่โด่งดัง
ทั้งในอดีตและปัจจุบัน โรงละคร State Opera ตั้งอยู่บริเวณเชิงประตูพาวเดอร์ทาวเวอร์ ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอาคารของโรงละครงดงามอย่างมาก ด้านหน้าจึงเต็มไปด้วยผู้คนวุ่นวายกับการบันทึกภาพสถานที่แห่งนี้ เจ้าหน้าที่โรงละครจะเร่ขายบัตรชมละครในราคาพิเศษ ถือว่าสะดวกอย่างยิ่ง จองตั๋วเรียบร้อยแล้วก็เดินชื่นชมความงดงามของเมืองนี้กันต่อด้วยความสุขใจ

กรุงปราก
ซากุระบานสะพรั่งในสวนเปอตรินฮิลล์

ปิดท้ายด้วยการไปพักผ่อนในสวนสาธารณะอีกแห่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งชาวปรากและนักท่องเที่ยวคือ เปอตรินฮิลล์ (Petrˆìn Hill) สวนสาธารณะแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนิน ภายในสวนจะมีส่วนของซากุระสีขาวจำนวนมาก ทางเดินเลียบถนนปลูกซากุระเรียงรายไว้อย่างเป็นระเบียบนักท่องเที่ยวต่างสนุกสนานกับการมาเก็บภาพของดอกไม้ประจำชาติญี่ปุ่นที่ใคร ๆ ก็หลงรัก ไกลออกไปคือปราสาทเมืองปราก ภายในสวนยังมีส่วนของสนามเด็กเล่น ที่นี่จึงพบครอบครัวคนไทยมาตั้งวงส้มตำคุยกันด้วยภาษาไทย บ่งบอกถึงความอบอุ่นกับชีวิตต่างแดน

สวนสาธารณะเปอตรินฮิลล์ฉันอำลาปรากด้วยหัวใจที่อิ่มเอม และไม่ลืมที่จะสัญญากับตัวเองว่า จะกลับมาที่นี่อีกครั้งกับชายคนรัก ฉันจะมาฮันนีมูนที่นี่!!!!


เรื่องและภาพ : นิตยสารแพรว ฉบับ 924

ไม่ต้องฉีดฟิลเลอร์ก็สวยเด้งได้ กู้ริ้วรอยร่องลึกของสาววัย 30+

ไม่ต้องฉีดฟิลเลอร์ก็สวยเด้งได้ กู้ริ้วรอยร่องลึกของสาววัย 30+ ให้ผิวฟูดูเด้ง แน่นกระชับ จนเผลอเดาอายุผิด!!

รู้ดีว่าผู้หญิงอย่างเราๆ ยิ่งอายุเพิ่มขึ้น ยิ่งห่วงสวย โดยเฉพาะสาววัยที่ย่างก้าวเข้าเลข 3 ปัญหาผิวยิ่งเยอะตาม ไม่ว่าจะเป็นรูขุมขนกว้าง สีผิวไม่สม่ำเสมอ ริ้วรอยร่องลึกที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนเริ่มจะปรากฏให้เห็น และมากขึ้นเรื่อยๆ จนน่าตกใจ อาจเป็นเพราะช่วงวัยเลขสาม การเจริญเติบโตของเซลล์ในร่างกายเริ่มจะลดลง รวมไปถึงอัตราการผลิตเซลล์ใหม่ก็เริ่มลดลงตามไปด้วยเช่นกัน เพราะสาเหตุนี้ผิวหนังจะค่อยๆ สะสมความเสื่อมสภาพจากการถูกทำลายทีละเล็กทีละน้อย จนรู้สึกว่าผิวไม่เรียบเนียนเต่งตึงเหมือนเก่า

จนเป็นที่มาของการมองหาโปรแกรมทำหน้ามาเป็นตัวช่วยสวยด่วน เพราะแอดเชื่อว่าสาวๆ ทุกคนบนโลกใบนี้อยากสวยกันทั้งนั้น และทุกคนก็มีวิธีการจัดการความสวยของตัวเองแตกต่างกันออกไป แล้วแต่ความชอบและไลฟ์สไตล์ส่วนบุคคล แต่สำหรับสาวๆ บางคนก็ยังตอบตัวเองไม่ได้ว่าจะโพรเทคส์ผิวตัวเองแบบไหนดี การทำเลเซอร์ โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ร้อยไหม ก็เป็นตัวเลือกแรกเริ่มที่สาวๆ มักจะนึกถึง โดยเฉพาะในคนที่มีปัญหาเรื่องร่องลึก ความเหี่ยว ความย่น ความยุบของผิวบางจุดจนต้องหันมาพึ่งฟิลเลอร์ เทคโนโลยีทางการแพทย์ยอดนิยม เพื่อแก้ไขความบกพร่องของผิวหน้า ปรับรูปหน้า เติมรอยหลุม แก้มตอบ รอยตีนกา ฯลฯ ซึ่งข้อดีคือเห็นผลเร็ว สลายเองตามธรรมชาติ จึงอยู่ได้ไม่นานต้องคอยมาฉีดเติมเรื่อยๆ

แอดเลยขอเสนอแนะเคล็ดลับการดูแลผิวแบบไม่ต้องพึ่งฟิลเลอร์ แต่ให้ผลเสมือนเติมฟิลเลอร์อยู่ทุกวัน เพื่อรักษาความงามของผิวให้ดูหน้าเด้ง อ่อนวัย ปลอดภัย ไม่ต้องกังกลว่าจะมีผลข้างเคียงหรือป่าว แถมประหยัดเงินอีกด้วย

ผิวเรา.. เราดูแลเองดีที่สุด จริงไหมคะสาวๆ ซึ่งแอดขอกระซิบบอกเลยนะคะว่ามีสกินแคร์สองตัวช่วยที่แอดลองใช้ด้วยตัวเองมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มเพื่อทดลองก่อนจะกล้ามารีวิวบอกสาวๆ ทุกคนอย่างจริงจัง

ส่วนตัวแอดพื้นฐานผิวหน้าเป็นคนผิวผสม ผิวบริเวณหน้าผาก จมูก คาง มีต่อมผลิตไขมันที่มากกว่าบริเวณอื่นๆ ทำให้เกิดสิวได้ง่ายมากกว่าบริเวณอื่นที่มีต่อมไขมันน้อยกว่าอย่างรอบดวงตา ข้างแก้ม ที่มักจะแห้งผิวลอกเป็นขุยเป็นประจำ ฉะนั้นการดูแลผิวผสมจึงต้องเลือกเฟ้นสกินแคร์เป็นพิเศษ แต่ที่พูดมาไม่ได้หมายความผิวแห้งและผิวมันใช้ไม่ได้นะจ๊ะ แอดซึ่งเป็นสาวผิวผสมขอเป็นตัวแทนให้ทุกผิวหน้าเอง เพราะสกินแคร์ที่แอดเลือกใช้เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้กระทั่งผิวแพ้ง่าย ก็เลยกล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยค่ะว่า #ของมันต้องมี #ดูเด็กกว่านี้ก็หน้าตอนประถมแล้วค่ะซิส

โดยปกติแอดเป็นคนเคร่งเครียดกับงาน อยู่แต่กับหน้าจอโทรศัพพ์ ชอบทำหน้าหน้านิ่วคิ้วขมวด นอนไม่พอ ไม่ค่อยกินผักผลไม้ โดนแดดบ่อย ชอบกินแต่ของหวาน เรียกได้ว่าไม่ดูแลตัวเองเลย วนลูปแบบนี้เป็นประจำจนเป็นสาเหตุที่ริ้วรอยเริ่มมาเยือน บวกกับใช้ครีมบำรุงไม่ถูกจุดอย่างตอนเช้าๆ เนี่ยปกติแอดมักทาแค่ครีมกันแดดตัวเดียวจบ แล้วแต่งหน้าทับเลย ซึ่งเอาจริงๆ คือมันไม่จบ เพราะผิวหน้าได้แต่รับการปกป้อง แต่ไม่ได้รับการบำรุง ผิวเลยยิ่งเริ่มแย่ลงไปใหญ่ แต่แรกๆ ก็ยังไม่ค่อยสนใจนะ จนหลังๆ เริ่มรู้สึกว่าทำไมร่องแก้ม รอยตีนกามาไวกว่าอายุจัง แถมรอยดำก็มาเยี่ยมอีกซะงั้น   ซึ่งแอดก็เคยมองหาตัวช่วยลดเลือนริ้วรอยเหล่านี้ อย่างการฉีดฟิลเลอร์

แต่คิดไปคิดมาจะพึ่งแต่เทคโนโลยีอย่างเดียวไม่ได้ ต้องพึ่งที่ตัวเองด้วย อีกทั้งกลัวผลข้างเคียงด้วย เลยหันมาปฏิวัติตัวเองเป็นคนใหม่ สร้างวินัยทั้งการกิน การนอน และที่สำคัญที่สุดเลือกครีมบำรุงที่เหมาะกับปัญหาริ้วรอย  โดยเริ่มใช้ EUCERIN HYALURON [HD] FILLER CONCENTRATE SERUM เซรั่มสูตรเข้มข้น สำหรับผิวบางแพ้ง่าย บอกเลยว่าเป็นการบำรุงที่ใช้หลักการเดียวกับการฉีดฟิลเลอร์ แต่เราแค่ทาบำรุงทุกวันเป็นประจำ เนื้อฟลูอิดบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึบซาบไวมาก แถมมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ด้วย ใช้บำรุงก่อนแล้วค่อยตามด้วยครีมกันแดด หนึ่งเดือนที่ผ่านมาใช้เป็นประจำทุกวันเช้าและก่อนนอน ที่เห็นได้ชัดเลยคือ  ริ้วรอยหย่อนคล้อยเริ่มตื้นขึ้น แถมรู้สึกว่าช่วยปรับให้ใบหน้าเรียบเนียนมากขึ้น เป็นเพราะเซรั่มตัวนี้ใช้หลักการเดียวกับการฉีดฟิลเลอร์เทคโนโลยีล่าสุด High Density Filler สูตรเข้มข้นด้วยไฮยาลูรอน โมเลกุลขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ที่ถักทอผสานกันเป็นโครงสร้างโมเลกุลที่แข็งแรง ยืดหยุ่นสูง เข้าเติมเต็มทุกร่องลึกให้ผิวทุกระดับดูตื้นขึ้น จนผิวฟูเด้ง แน่นกระชับ อย่างเห็นได้ชัด

ส่วนก่อนนอนนอกจากการทำความสะอาดผิวให้เกลี้ยงเกลาจะสำคัญเป็นอันดับแรกๆ แล้ว การเลือกสกินแคร์บำรุงยามค่ำคืนก็สำคัญไม่แพ้กัน แอดเลือกใช้ EUCERIN HYALURON [HD] FILLER NIGHT CREAM เหตุผลที่ทำไมแอดถึงเลือกใช้ครีมของ Eucerin ตัวนี้ก็เพราะสาร Hyaluron ที่มีใน Eucerin มันมีประโยชน์กับผิวมากๆ ไม่น้อยไปกว่าเซรั่ม เพราะใช้หลักการเดียวกับการฉีดฟิลเลอร์เทคโนโลยีล่าสุด High Density Filler สูตรเข้มข้นด้วยไฮยาลูรอน โมเลกุลขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ที่ถักทอผสานกันเป็นโครงสร้างโมเลกุลที่แข็งแรง ยืดหยุ่นสูง เข้าเติมเต็มทุกร่องลึกให้ผิวทุกระดับดูตื้นขึ้น จนผิวฟูเด้ง แน่นกระชับ โดยใช้บำรุงหลังจากลงเซรั่ม EUCERIN HYALURON [HD] FILLER CONCENTRATE SERUM เสร็จเรียบร้อย ก็ตามด้วยครีมลดเลือนริ้วรอย และยกกระชับผิวสูตรกลางคืนทันที ระหว่างนอนเนื้อครีมสุดบางเบาจะได้มีเวลาทำงานบำรุงอย่างเต็มที่ ขอย้ำว่าเนื้อบางเบาและซึมง่ายจริงๆ เพราะปกติชอบเจอแต่ไนท์ครีมเนื้อหนักๆ ตัวนี้บอกเลยว่าสาวๆ ต้องชอบแน่นอน เพราะผิวหน้าจะรู้สึกเบาไม่รำคาญเลยแม้แต่น้อย หลังตื่นนอนขึ้นมา รู้สึกได้ทันทีเลยว่าริ้วรอยดูตื้นขึ้น ผิวเด้งดูเรียบเนียนกระชับขึ้นเยอะจริงๆ

โดยหลังจากเพียรหมั่นบำรุงจนครบหนึ่งเดือน เลยตัดสินใจมารีวิวบอกต่อให้สาวๆ ที่ยังมีปัญหาผิวหน้าได้ลองใช้ บอกเลยว่าแฮปปี้มากๆ และจะใช้บำรุงเป็นประจำเรื่อยๆ ต่อไป เพราะสาววัยสามสิบแบบแอดต้องการผู้ช่วยดูแลผิวที่ดีแบบนี้ จะได้ไม่ต้องมานั่

บ่นเสียใจทีหลังที่ปล่อยผิวให้ต้องหลอนกับริ้วรอยต่างๆ เอาเป็นว่าใครชอบวิธีแอด อย่าลืมไปลองนะคะ ตอนนี้ได้ข่าวว่ามีโปรโมชั่น Hyaluron [HD] Filler Serum (3×5 มล. / 1,152 บาท) และ Hyaluron [HD] Filler Night (20 มล. / 990 บาท) ค่า

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.eucerin.co.th/products/hyaluron-filler

ขับเคลื่อนไปได้ไกล และปลอดภัยบนถนนทุกเส้นทาง ด้วย Guardian (การ์เดียน) นวัตกรรมป้องกันการหลับในจากออสเตรเลีย

รู้ไหมว่า!! คนไทยเกิน 70% ฝากชีวิตไว้กับคนขับที่หลับใน โดยไม่กล้าเตือน อย่าเอาชีวิตไปเสี่ยง ป้องกันด้วย Guardian (การ์เดียน) นวัตกรรมป้องกันการหลับในจากออสเตรเลีย เทคโนโลยีป้องกันอาการหลับใน และละสายตาแบบเรียลไทม์ ที่ได้รับการยอมรับและพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่า สามารถลดเหตุหลับในได้กว่า 90%

เพราะ 1 ใน 6 ของอุบัติเหตุเกิดจากความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ Guardian จะช่วยป้องกันเหตุดังกล่าวได้ ด้วยรูปแบบการใช้งานแบบสมาร์ท คาเมร่า ที่ติดตั้งภายในห้องโดยสารบริเวณ

Guardian

คอนโซลหน้ารถ ซึ่งสามารถตรวจพบความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้น ด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นของซอฟแวร์ Seeing Machines ที่เป็นลิขสิทธิ์    ของบริษัทโดยเฉพาะ ในการตรวจจับใบหน้า และวัดระดับการปิดสายตา เพื่อป้องกันภาวะหลับในขณะขับรถ

ซึ่งระบบสามารถตรวจพบเหตุการณ์ด้วย IN-Cab sensors ที่ตรวจจับการหลับตา หากหลับตาเกิน 1.5 วินาที รวมทั้งจับการเคลื่อนไหวของใบหน้า ในกรณีที่คนขับไม่มองถนนเกิน 4 วินาที ซึ่งเป็นจำนวนวินาทีที่ผ่านการวิจัยมาแล้วว่า จะทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ

โดยมีการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ในทันทีที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น จะมีเสียงเตือนภายในห้องโดยสารและการสั่นเตือนเบาะที่นั่งในทันที เพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่กลับมามีสมาธิบนท้องถนน

ปัจจุบัน Guardian ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทขนส่งชั้นนำทั่วโลกที่ต้องการเพิ่มความปลอดภัยในการใช้รถ ใช้ถนน และป้องกันเหตุไม่คาดฝัน พร้อมรับประกันการใช้งานนาน 3 ปี ราคา89,900 บาท ให้เครื่องการ์เดียนได้ช่วยปลุกคุณจากการหลับใน ครั้งเดียวก็เกินคุ้ม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.guardiansystem.in.th หรือติดต่อ 081-824-4653

 

“เมื่อผู้หญิงรวมตัวกัน…จะเกิดพลังที่ยิ่งใหญ่”สาวๆ คิดว่าจริงไหมคะ?

ไทรอัมพ์ (Triumph) ผู้นำด้านชุดชั้นในระดับโลกมากว่า  130 ปี เป็นตัวแทนสาวๆ ทั่วโลก ประกาศความแข็งแกร่งของผู้หญิง  สะท้อนพลังของผู้หญิง ด้วยภาพยนตร์หนังสั้นนำทีม โดยนักผลิตภาพยนตร์ เปาลา โมราบิโต (Paola Morabito) ที่มีสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ ร่วมกับทีมงานผู้หญิงทั้งหมด ในแคมเปญ#TogetherWeTriumph

 

Behind the scene

เพราะทุกๆ ความสำเร็จของผู้หญิงทุกคน ย่อมมีผู้หญิงอีกคนคอยเคียงข้างสนับสนุนอยู่เสมอ ซึ่งจากผลสำรวจทั่วโลก  วิธีที่ผู้หญิงใช้เพิ่มพลังและความเบิกบานใจให้กันและกัน

98% รู้สึกดีหลังการได้หัวเราะกับใคร

63% รู้สึกดีหลังจากได้รับของขวัญสุดพิเศษจากเพื่อนของเธอ

57% รู้สึกมั่นใจหลังจากค้นพบบางสิ่งบางอย่างที่พวกเธอรักที่จะทำ และทำได้ดีไม่แพ้ใคร

52% รู้สึกได้กำลังใจหลังจากได้รับคำชมชมเชยที่ไม่ได้คาดหวังจากใครบางคน

ไทรอัมพ์จึงเป็นเสมือนตัวแทนของสาวๆ ทั่วโลกถ่ายทอดพลังความแข็งแกร่งเหล่านี้ โดยนำชีวิตจริงของผู้หญิงมาถ่ายทอดความเห็นอกเห็นใจกันซึ่งกันและกันไม่ว่าจะเป็นเมื่อเราเสียใจ เพื่อนจะเข้ามาปลอบ, เมื่อเรากำลังจะแต่งงาน เพื่อนของเรานี่แหละที่คอยอยู่ข้างๆ พร้อมที่จะยินดีไปกับช่วงเวลาที่เพื่อนมีความสุขเสมอ หรือ เมื่อเรากำลังดูแลลูกน้อย เพื่อนของเราก็เป็นอีกหนึ่งแรงสำคัญที่ช่วยดูแล เรื่องราวทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า เมื่อผู้หญิงรวมตัวกัน…ยิ่งแข็งแกร่ง

เช่นเดียวกับ ไทรอัมพ์ ที่สร้างสรรค์ชุดชั้นในขึ้นด้วยความเชื่อที่ว่า ชุดชั้นในทุกตัวล้วนสวยงามสำหรับผู้หญิงทุกคน

ไม่ว่าจะรูปร่างแบบไหน  ต้องช่วยเสริมส่วนโค้งเว้า ยกกระชับหน้าอก และเพิ่มความมั่นใจและความแข็งแกร่งให้กับผู้หญิง  พร้อมทั้งสนับสนุนให้ผู้หญิงเป็นพลังของกันและกัน ด้วยความเชื่อที่ว่า

ผู้หญิงที่มีพลังก็จะมอบพลังให้ผู้หญิงคนอื่นๆ และความแข็งแกร่งเกิดขึ้นได้เมื่อพวกเธอผนึกกำลังกัน ก่อให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นได้จริง”   พร้อมร่วมติดตามแคมเปญนี้ ได้ที่ https://www.facebook.com/TriumphTH/  หรือกดติดตามที่

https://youtu.be/dGE42yEK3f4

#EmpoweredWomen #Triumph #TriumphLingerie

บอยแบนด์โคเรีย

หล่อแรงสู้ไม่ถอย นิวอีสต์ บอยแบนด์โคเรีย รีเทิร์นอีกครั้งปังกว่าเดิม

Alternative Textaccount_circle
บอยแบนด์โคเรีย
บอยแบนด์โคเรีย

รู้จักก่อนไปกรี๊ด 4 หนุ่ม นิวอีสต์ ดับเบิลยู บอยแบนด์โคเรีย หล่อแรง ที่สาวกเคป็อปในเมืองไทยกรี๊ด เตรียมลัดฟ้ามาเจอ ในวันเสาร์ที่ 28 เมษายน 2561 ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี

นับถอยหลังอีกไม่กี่วันที่สาวก K-pop ในเมืองไทยจะได้พบกับ 4 หนุ่ม นิวอีสต์ ดับเบิลยู (NU’EST W) บอยแบนด์โคเรีย จากค่าย เพลดิส เอนเตอร์เทนเมนต์ (PLEDIS Entertainment) ที่จะลัดฟ้ามาเปิดการแสดงคอนเสิร์ต “นิวอีสต์ ดับเบิลยู คอนเสิร์ต <ดับเบิล ยู> อิน แบงคอก” (NU’EST W CONCERT <DOUBLE YOU> IN BANGKOK) ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศไทยในวันเสาร์ที่ 28 เมษายน 2561 ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ซึ่งก่อนที่จะไปพบกับพวกเขา ก็อยากพาทุกคนไปรู้จักกับหนุ่มๆ กลุ่มนี้กันสักเล็กน้อย


1.สมาชิกใครบ้าง

บอยแบนด์โคเรีย
นิวอีสต์ ดับเบิลยู

นิวอีสต์ เริ่มต้นในวงการบันเทิงเมื่อปี 2012 มีสมาชิกทั้งหมด 5 คน แต่หลังจากที่พวกเขาเข้าร่วมรายการแข่งขันไอดอล PD101 ทำให้เหลือสมาชิก 4 คนเนื่องจาก มินฮยอน เป็น 1 ใน 11 คนที่เข้ารอบจึงต้องพักกิจกรรมกับวงชั่วคราว จึงทำให้เกิดโปรเจค นิวอีสต์ ดับเบิลยู (NU’EST W) ขึ้นซึ่งสมาชิกประกอบด้วย เจอาร์ – หัวหน้าวง, อารอน, แบคโฮ และ เร็น


2.ความหมาย

บอยแบนด์โคเรีย
นิวอีสต์

นิวอีสต์ (NU’EST) มาจากตัวย่อของคำว่า New (ใหม่), Establish (ก่อตั้ง), Style (สไตล์), Tempo (เข้ากับจังหวะ) ซึ่งมีความหมายว่า “ก่อตั้งให้เข้ากับดนตรีสไตล์ใหม่” ซึ่งวงนี้มีจุดประสงค์มุ่งไปทางดนตรีที่มีสไตล์และแปลกใหม่นั่นเอง


3.ชื่อเรียกแฟนคลับ

บอยแบนด์โคเรีย

เป็นธรรมเนียมที่ศิลปินเกาหลีใต้มักมีชื่อเรียกแฟนคลับแบบเฉพาะซึ่งวง นิวอีสต์ เรียกแฟนๆของเขาว่า L.O.Λ.E ซึ่งได้ไอเดียมาจากการเขียนคำว่า LOVE แบบเกาหลี (뉴이스트 =>ㄴㅇㅅㅌ=> L.O.Λ.E)


4.ชีวิตหลังชนฝา

บอยแบนด์โคเรีย
ร่วมโปรเจคไอดอลแห่งชาติ PD101

เส้นทางบอยแบนด์ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ จากศิลปินที่เคยมีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเองแต่วันหนึ่งกลับต้องมาเป็นเด็กฝึกอีกครั้ง เมื่อต้นสังกัดหยิบยื่นโอกาสสุดท้ายในวงการบันเทิงให้กับพวกเขาด้วยการร่วมโปรเจคไอดอลแห่งชาติ PD101 (เป็นรายการที่ดังมากๆ ถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปทำในหลายประเทศ) ซึ่งเรื่องนี้ทำให้พวกเขาถูกครหาตั้งแต่เริ่มรายการ เนื่องจากพวกเขามีชื่อเสียงอยู่แล้วขณะที่ผู้เข้าแข่งขันรายอื่นๆ ยังเป็นศิลปินโนเนม


5.พลังที่เปล่งประกายอีกครั้ง

บอยแบนด์โคเรีย

ในฐานะรุ่นพี่ที่อยู่ในวงการมานาน 5-6 ปี แต่ต้องตัดสินใจมาแข่งขันกับรุ่นน้องนับว่าเป็นการตัดสินใจไม่ง่าย ต้องฝ่าด่านคำวิจารณ์มากมาย แต่สุดท้ายก็ได้กระแสตอบรับที่ดีเกินคาด ทั้งยังได้เห็นอีกมุมดีๆ ของพวกเขาที่คนไม่ใช่แฟนคลับไม่เคยได้เห็นมาก่อน


6.รุ่นพี่แห่งชาติ

บอยแบนด์โคเรีย

สิ่งหนึ่งที่แฟนๆ PD101 ชื่นชอบพวกเขามากๆ ก็คือทั้ง 4 หนุ่มมีความเป็นมิตรและการอ่อนน้อมถ่อมตัว ไม่อีโก้ยอมรับในการตัดสินใจของคนอื่นๆ แม้พวกเขาเหล่านั้นจะเป็นรุ่นน้อง นั่นจึงทำให้เป็นที่รักและเป็นไอดอลรุ่นพี่ที่น้องๆ เคารพเป็นอย่างมาก


7. ลีดเดอร์แห่งชาติ

บอยแบนด์โคเรีย
เจอาร์ หรือ คิมจงฮยอน

นอกจากการยอมรับในความคิดเห็นของผู้อื่นแล้วยังเป็นที่ปรึกษาและในคำแนะนำดีๆ จากประสบการณ์ของพวกเขาที่ผ่านมาด้วย โดยเฉพาะ เจอาร์ หรือ คิมจงฮยอน การได้รับโอกาสทำให้เขามีชีวิตบนเส้นทางของศิลปินอีกครั้ง เขาไม่ได้คิดถึงแต่ตัวเองหากแต่ยังคิดถึงคนอื่นๆ และอยากให้ทุกคนรักษาโอกาสที่ได้รับ แม้ต้องใช้เวลาไปกับการช่วยเหลือเด็กๆ คนอื่นจนกินเวลาซ้อมของตัวเองเขาก็ยังเต็มใจ


สำหรับแฟนๆ ที่อยากไปสัมผัสความน่ารักของพวกเขาสามารถไปเจอกันได้ในสุดสัปดาห์นี้เพราะผู้จัดไทย บริษัท เฟโอห์ จำกัด (Feoh Co.,Ltd.) ร่วมกับต้นสังกัดเกาหลี เพลดิส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ (PLEDIS Entertainment) จะนำพา 4 หนุ่ม “นิวอีสต์ ดับเบิลยู” (NU’EST W)ลัดฟ้ามาเจอแฟนๆ ชาวไทย ในงาน “นิวอีสต์ ดับเบิลยู คอนเสิร์ต <ดับเบิล ยู> อิน แบงคอก” (NU’EST W CONCERT <DOUBLE YOU> IN BANGKOK) ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศไทยในวันเสาร์ที่ 28 เมษายน 2561 ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี บอกเลยว่างานนี้โปรดักชั่นใหญ่ฟินแน่นอน

บอยแบนด์โคเรีย
จองบัตรได้ทางจุดจำหน่าย “ไทยทิคเก็ตเมเจอร์” (ThaiTicketMajor) ทุกสาขา รวมถึงระบบออนไลน์ทาง www.thaiticketmajor.comและ TTM Call Center โทร. 0-2262-3456 สอบถามเพิ่มเติมและรอติดตามการประกาศรายชื่อผู้โชคดีได้ทาง https://www.facebook.com/FeohThaiและ Twitter @FeohThai
บุ๋ม-น้ำทิพย์

คุณแม่เซเลบป้ายแดง บุ๋ม-น้ำทิพย์ แชร์เรื่องเล่าตั้งท้องกว่า 40 สัปดาห์จนคลอดลูก

บุ๋ม-น้ำทิพย์
บุ๋ม-น้ำทิพย์

เซเลบริตี้คุณแม่ป้ายแดง บุ๋ม-น้ำทิพย์ เทือกสุบรรณ
แชร์ประสบการณ์ท้องจนคลอด น้องอัณยา ลูกสาวคนแรก

เข้ากลุ่มเซเลบริตี้สาวในฐานะคุณแม่ป้ายแดงไปแล้วเรียบร้อย สำหรับสาวนัยน์ตาคม บุ๋ม-น้ำทิพย์ ทายาทของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และภรรยาของนักธุรกิจชาวฮ่องกง นิโคลัส โฮ ที่ล่าสุดเพิ่งคลอดลูกสาวคนแรก น้องอัณยา-ด.ญ. อัณยา เทือกสุบรรณ โฮ หลังจากอุ้มท้องมานานกว่า 40 สัปดาห์

บุ๋ม-น้ำทิพย์

บุ๋ม-น้ำทิพย์
น้องอัณยา-ด.ญ. อัณยา เทือกสุบรรณ โฮ

แม้จะตั้งครรภ์ลูกคนแรกแต่ก็เป็นคุณแม่สายสตรองเลยทีเดียว ซึ่งเซเลบสาว คุณบุ๋ม-น้ำทิพย์ ได้มาแชร์ประสบการณ์ตั้งแต่ตั้งครรภ์ แพ้ท้อง อุ้มท้อง จนกระทั่งคลอด เกี่ยวกับการดูแลตัวเองและลูกน้อยระหว่างตั้งครรภ์มาฝากกัน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เหล่าคุณแม่ทุกคนจะต้องเคยเจอนั่นคือ อาการแพ้ท้อง โดยคุณบุ๋มเล่าว่า เธอแพ้ท้องหนักมาก 

คุณบุ๋ม: “ช่วงท้อง 2 เดือนแรก ไม่มีอาการแพ้ท้องเลย แต่พอเริ่มเข้า 10 สัปดาห์ เริ่มคลื่นไส้ พอเข้าเดือนที่ 3 เป็นช่วงที่คุณแม่จะแพ้ท้อง ซึ่งเราเองแพ้ท้องหนักมาก เรียกว่าไม่สามารถออกจากบ้านได้เลย แค่นั่งเฉยๆ ก็อาเจียนตลอดทั้งวัน ทานอาหารก็ไม่ค่อยได้ ทำให้น้ำหนักลดไป 3 กิโลกรัม เป็นช่วงเวลาที่คุณแม่จะต้องเข้มแข็งมากๆ เพราะเราจะเริ่มรู้สึกเบื่อชีวิตมาก ไม่สามารถใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้เลยค่ะ ซึ่งคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ ถ้าผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ หลังจากนี้ชีวิตแฮ็ปปี้มากค่ะ”

บุ๋ม-น้ำทิพย์ บุ๋ม-น้ำทิพย์

สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ คุณแม่มือใหม่เผยถึงการดูแลสุขภาพในช่วงตั้งครรภ์ว่า

คุณบุ๋ม: “เป็นปกติที่ผู้หญิงจะห่วงเรื่องน้ำหนัก ซึ่งตัวบุ๋มและสามีเป็นคนฮ่องกง (คุณนิโคลัส โฮ) ชอบออกกำลังกายมาก แต่พอท้องก็หยุดพักไปจนอาการแพ้ท้องดีขึ้น เลยปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณหมอแนะนำว่า จริงๆ คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์สามารถออกกำลังกายได้ จึงชวนสามีเข้ายิมด้วยเลย เพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคู่กับสามีได้และได้สุขภาพที่ดีด้วย ช่วงแรกๆ มีวิ่งบ้าง เล่นบอดี้เวท โยคะ แต่ก็ต้องมีเทรนเนอร์ช่วยดูแลนะคะ หรือไม่ก็สามารถเลือกเข้าคลาสสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ก็ได้ค่ะ”

บุ๋ม-น้ำทิพย์
พุทราจีน (ซ้ายบน)-เก๋ากี๋ (ขวาบน)/ ไก่ดำ (ซ้ายล่าง)-ขิง (ขวาล่าง)

คุณแม่สายสตรอง นอกจากออกกำลังกายแล้ว เรื่องอาหารเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่มองข้ามไม่ได้

คุณบุ๋ม: “ช่วงท้องทิพย์ยังบินไปกลับฮ่องกง-เมืองไทยอยู่ค่ะ คุณแม่สามีก็จะทำอาหารบำรุงครรภ์ตามความเชื่อของคนฮ่องกง เช่น ซุปไก่ดำ สมุนไพรต่างๆ พวกเก๋ากี้ หรือ โกจิเบอร์รี่ ขิง พุทราจีน เม็ดลูกบัว และพวกชาสมุนไพรต่างๆ ช่วยขับลม เน้นอาหารต้ม นึ่ง และไม่ทานอาหารไม่สุก ของทอด นอกนั้นก็ทานอาหารปกติ จนน้ำหนักขึ้นมา 16 กิโลกรัม แต่จริงๆ แล้วชาวฮ่องกงจะเน้นบำรุงหลังคลอดมากกว่า คือจะมีพยาบาลที่จะมาอยู่กับเรา 2-3 เดือนเลย ช่วยดูแลคุณแม่และเด็ก คอยวางแผนการทานอาหาร คุณแม่ต้องทานอาหารแบบนี้ถึงจะมีน้ำนม แผล เลือดลมจะได้กลับมาปกติ นอกจากนี้พยาบาลก็จะสอนเราเลี้ยงเด็ก ต้องให้นมลูกอย่างไร อาบน้ำที่ถูกต้องควรทำอย่างไร ซึ่งตอนนี้พยาบาลก็บินมาจากฮ่องกงมาดูแลเราที่เมืองไทย ขนสมุนไพรมาเยอะมากเลยค่ะ”

บุ๋ม-น้ำทิพย์

“แฟชั่นคนท้อง” เป็นอีกปัจจัยที่คุณแม่ตั้งครรภ์อาจประสบปัญหาในการเลือกเสื้อผ้าให้ถูกใจ โดยเฉพาะคุณแม่ที่ชื่นชอบใส่กางเกง ซึ่งคุณบุ๋มเผยถึงไลฟ์สไตล์การแต่งตัวว่า

คุณบุ๋ม: “ส่วนตัวชอบใส่กางเกงมากกว่ากระโปรง สไตล์เน้นเรียบๆ ไม่ต้องหวานแบบลูกไม้ระบาย ชอบเรียบเท่ มากกว่า ทีนี้พอท้องก็เริ่มหาเลยว่ามีกางเกงคุณแม่ขายที่ไหนบ้าง ซึ่งโชคดีมากที่มี ยีนส์คนท้อง คือตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เรามาก เพราะเป็นยีนส์แฟชั่นที่ยืด ใส่แล้วก็ไปตามรูปร่าง ผ้านิ่ม ไม่แข็ง พอนั่งก็ไม่รู้สึกว่าอึดอัดท้องเลย แล้วด้วยความที่เป็นกางเกงเอวสูงและช่วงเอวเป็นผ้ายืด ก็ช่วยพยุงท้องเราด้วย โดยเฉพาะก่อนคลอดท้องใหญ่มาก ดังนั้นถ้ามีกางเกงแบบนี้ ทำให้คุณแม่สะดวก คล่องตัวมากขึ้น และยังเป็นทางเลือกที่จะให้คุณแม่รู้สึกสนุกกับการแต่งตัวมิกซ์แอนด์แมทช์กับเสื้อได้หลายแบบ มีความสุขและมั่นใจเมื่อออกจากบ้านค่ะ”

บุ๋ม-น้ำทิพย์
คุณบุ๋ม กับแบรนด์เสื้อผ้าใส่ใจคนตั้งครรภ์ BJ.JEANS.THAILAND คอลเล็คชั่น BORN

บุ๋ม-น้ำทิพย์ บุ๋ม-น้ำทิพย์

 

ฟังเคล็ดลับ ประสบการณ์ที่คุณบุ๋มแชร์แล้ว เป็นประโยชน์ดีทีเดียวล่ะ..

 

 


ภาพ: บีเจ ยีนส์ (ไทยแลนด์) (BJ.JEANS.THAILAND), IG @namtipsy

Show Me The Money Thailand

Show Me The Money Thailand เผย 7 เรื่องการันตีความปัง สะเทือนวงการแร็ปไทย

Show Me The Money Thailand
Show Me The Money Thailand

Show Me The Money Thailand กวาดกระแสฮิตลมตั้งแต่ตอนแรก

ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ (Twitter) อันดับหนึ่งยาวนานข้ามคืนเลยทีเดียวหลังจากออนแอร์มาเพียงแค่ตอนแรก สำหรับ Show Me The Money Thailand รายการค้นหาสุดยอดแร็ปสตาร์ ที่มีออริจินัลมาจากเกาหลี โดยออกอากาศผ่านทาง True4U ช่อง 24 ซึ่งไม่ใช่เพียงจะปลุกเหล่าสายแร็ป สายฮิปฮอปลุกฮือ ตื่นตัวเท่านั้น แต่บรรดาสาวเล็ก สาวใหญ่ ยังพากันส่งเสียงกรี๊ดเชียร์เหล่าโปรดิวเซอร์ทั้ง 9 คน อย่าง 3 หนุ่ม Buddha Bless ที่มี อุ๋ย-นที เอกวิจิตร, เอ็ม-กิตติพงษ์ คำสาตร์ และโต้ง-สุรนันต์ ชุ่มธาราธร, ดาจิม-สุวิชชา สุภาวีระ, แจ๊ส-สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก, เป้ วงมายด์-บดินทร์ เจริญราษฎร์, ป๊อก Mindset-ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์, เดย์ ไทเทเนียม และ เอ้ BOTCASH

Show Me The Money Thailand Show Me The Money Thailand

กระแสมาแรงแบบนี้ เผื่อสำหรับใครที่ยังสงสัยว่า Show Me The Money Thailand คืออะไร มีที่มาที่ไปเริ่มจากไหน ทำไมใครๆ ถึงต้องพูดถึง วันนี้ แพรวดอทคอม ได้ข้อมูลส่งตรงจากช่องทรูโฟร์ยูมาถึง 7 เรื่อง ที่เกี่ยวกับรายการนี้ เรียกว่ารู้ข้อมูลเสร็จ การันตีความปังความสนุก และเข้าถึงจิตวิญญาณแห่งแร็ป-ฮิปฮอปได้เลยล่ะ

7 เรื่องการันตีความปัง สะเทือนวงการแร็ปไทย


1. ที่สุดของรายการเฟ้นหาแร็ปสตาร์ที่ดังสุดขีดในเกาหลี

Show Me The Money หรือ SMTM เป็นรายการแข่งขันแนวเรียลลิตี้โชว์จากเกาหลี เพื่อค้นหาแร็ปสตาร์คนใหม่ของวงการเพลงแร็ปและฮิปฮอประดับเอเชีย ซึ่งรายการนี้ประสบความสำเร็จถล่มทลายถึง 6 ซีซั่น ออกอากาศครั้งแรกในปี 2012 ทาง Mnet ช่องเพลงอันดับหนึ่งของเกาหลี ด้วยรูปแบบการแข่งขันที่แสนจะตื่นเต้นเร้าใจ สร้างเซอร์ไพร้ส์ให้ผู้ชมอยู่ตลอดเวลา เน้นความเป็น “Hip Hop Survival” ทำให้รายการประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วและโด่งดังถึงขีดสุดในชั่วข้ามคืน


2. รูปแบบรายการที่ดุเด็ด เผ็ดมัน จนเวทีต้องร้อนเป็นไฟ

เสน่ห์ของ SMTM อยู่ที่ผู้เข้าแข่งขันนับพันคนจะต้องฝ่าฟันด่านอรหันต์ต่างๆ ที่ท้าทายความสามารถและความแข็งแกร่งของจิตใจ ระหว่างทางยังมีการคัดเลือกทีมและเปิดศึกด้วยการแบทเทิลแบบดุดัน ประชันกันด้วยเนื้อร้องมันๆ สดๆ บลัฟฟ์กันแบบถึงลูกถึงคนจนกลายเป็นกระแสดราม่าทุกซีซั่นเลยทีเดียว เพราะต่างฝ่ายต่างงัดกลยุทธ์ ชั้นเชิง ไหวพริบ และเทคนิคด้านการร้องเพลงที่มีในตัวออกมาฟาดฟันกันถึงขีดสุด เพื่อคว้าใจผู้ชมนั่นเอง

Show Me The Money Thailand Show Me The Money Thailand


3. รวมซูเปอร์สตาร์ตัวท็อปทั่วทั้งวงการ

อีกหัวใจสำคัญของรายการคงไม่พ้นเหล่าโปรดิวเซอร์หรือที่เรียกกันว่า พีดี เพราะใน SMTM เห็นการรวมกันของศิลปินตัวท็อปในวงการเพลงเกาหลี ซึ่งผู้ทำหน้าที่โปรดิวเซอร์ของแต่ละทีมจะคอยวางกลยุทธ์ในการแข่งขันเพื่อให้ลูกทีมมีชัยเหนือทีมอื่นๆ ถือว่าเป็นไฮไลท์สำคัญที่แฟนๆ รายการใจจดใจจ่อรอดูเลยก็ว่าได้ ที่ผ่านมาของเกาหลีตลอด 6 ซีซั่น มีศิลปินรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ในวงการเพลงร่วมตบเท้าร่วมทำหน้าที่พีดีของรายการ ไม่ว่าจะเป็น Tiger JK และวงฮิปฮอป Dynamic Duo แร็ปเปอร์ระดับตำนานของวงการ, Jay Park ผู้ก่อตั้งค่าย AOMG และ H1GHR MUSIC RECORDS แร็ปเปอร์มากความสามารถทั้งแร็ป ร้อง เต้น, Dok2 เจ้าของค่ายเพลงฮิปฮอปชื่อดัง Illionaire Records ซึ่งได้เป็นทีมผู้ชนะในซีซั่นที่สาม, Gray และ Simon Dominic โปรดิวเซอร์แร็ปเปอร์สุดหล่อจาก AOMG ค่ายฮิปฮอปที่กำลังมาแรงในตอนนี้ หรือสองหนุ่มที่ชนะรายการในซีซั่นล่าสุดอย่าง Zico หัวหน้าวงบอยแบนด์ Block B และ Dean นักร้องแนว Hip Hop, R&B โปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงให้กับศิลปินในเกาหลีมากมาย

Show Me The Money Thailand
Gray และ Simon Dominic โปรดิวเซอร์ SMTM เกาหลี ซีซั่น 5
Show Me The Money Thailand
Dok2 และ Jay Park โปรดิวเซอร์ SMTM เกาหลี ซีซั่น 6
Show Me The Money Thailand
Zico และ Dean โปรดิวเซอร์ SMTM เกาหลี ซีซั่น 6
Show Me The Money Thailand
Tiger JK และ Bizzy โปรดิวเซอร์ SMTM เกาหลี ซีซั่น 6
Show Me The Money Thailand
Dynamic Duo โปรดิวเซอร์ SMTM เกาหลี ซีซั่น 6

4. ปรากฏการณ์พลิกแผ่นดินตามล่า เฟ้นหาแร็ปสตาร์ข้ามโลก

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ SMTM เคยเกิดขึ้นในซีซั่นที่ 5 เมื่อรายการเปิดให้ออดิชั่นนอกประเทศครั้งแรกที่แอล.เอ. สหรัฐอเมริกา เพื่อค้นหาผู้ที่มีพรสวรรค์และใจรักด้านการร้องเพลงแร็ปและฮิปฮอปในต่างประเทศ พร้อมกระแสตอบรับถล่มทลายด้วยยอดผู้เข้าสมัครออดิชั่นกว่า 9 พันคน ทุบสถิติรอบออดิชั่นของซีซั่น 4 ที่มีผู้เข้าสมัครกว่า 7 พันคนได้อย่างงดงาม ก่อนที่ซีซั่น 6 จะเป็นการเปิดออดิชั่นครั้งแรกที่นิวยอร์กและแอล.เอ. พร้อมสร้างปรากฎการณ์ใหม่ด้วยจำนวนผู้สมัครรอบออดิชั่นกว่า 10,000 คน

Show Me The Money Thailand Show Me The Money Thailand


5. เปิดตัวครั้งแรกในไทย พร้อมระดม 9 โปรดิวเซอร์ร่วมระเบิดความมัน

ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกที่ได้รับลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องภายใต้ชื่อ Show Me The Money Thailand หรือ SMTM Thailand รายการเรียลลิตี้โชว์ค้นหาสุดยอดแร็ปสตาร์คนแรกของเมืองไทย ด้วยการร่วมทุนของสองยักษ์ใหญ่แห่งวงการบันเทิงจากสองประเทศ “กลุ่มทรูฯ” และ “CJ E&M” บริษัทเอ็นเตอร์เทนเมนท์ครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีในเวลานี้ ร่วมกันเปิดตัวบริษัท “True CJ Creations” ผู้ผลิตคอนเทนท์รายใหม่มาแรงของเมืองไทย ซึ่ง SMTM Thailand ได้ดึงตัว 9 ศิลปินแห่งวงการแร็ปและฮิปฮอปของไทยมาทำหน้าที่โปรดิวเซอร์ ได้แก่ 3 หนุ่ม Buddha Bless อุ๋ย–นที เอกวิจิตร, เอ็ม–กิตติพงษ์ คำสาตร์ และ โต้ง–สุรนันต์ ชุ่มธาราธร, ดาจิม-สุวิชชา สุภาวีระ, แจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก, เป้ วงมายด์-บดินทร์ เจริญราษฎร์, ป๊อก Mindset-ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์, เดย์ ไทเทเนียม และ เอ้ BOTCASH (สมาชิกวง BOOM BOOM CASH)

Show Me The Money Thailand


6. เซอร์ไพร้ส์แฟนฮิปฮอปชาวไทย เมื่อแร็ปเปอร์ซุป’ตาร์เกาหลี Tiger JK ขอร่วมส่งต่อความมัน

“TOGETHER” คือเพลงเปิดตัวรายการ SMTM Thailand ซึ่งเป็นผลงานการร่วมกันทำเพลงของ 9 โปรดิวเซอร์ และยังถือโอกาสบินไปถ่ายทำ MV ไกลถึงกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ แต่ความพิเศษไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เรียกได้ว่าสร้างความฮือฮาไปทั้งโลกออนไลน์ เพราะในช่วงสุดท้ายของ MV เราได้เห็น Tiger TK แร็ปเปอร์ระดับซุปตาร์และโปรดิวเซอร์ประจำ SMTM ซีซั่น 6 ของเกาหลี มาสร้างเซอร์ไพร้ส์ด้วยการเป็นตัวแทนรายการเวอร์ชั่นต้นฉบับ มอบสร้อยคอประจำรายการ Show Me The Money ให้กับ 9 โปรดิวเซอร์ไทย เพื่อส่งต่อความมันให้เวทีแห่งนี้ต้องลุกเป็นไฟ


7. จับตารอไว้ให้ดี แร็ปสตาร์เพียงหนึ่งเดียวจะได้ขึ้นโชว์ที่เกาหลี

สำหรับการค้นหาแร็ปสตาร์คนแรกของไทยใน SMTM Thailand มีเหล่าแร็ปเปอร์เกือบ 1,000 คนจากทั่วประเทศเดินทางเข้ามาเพื่อออดิชั่น แต่สิ่งที่ผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวจะได้รับไปนั่นก็คือ เงินรางวัล 1 ล้านบาท แต่เท่านั้นยังไม่พอ ผู้ชนะยังได้รับสิทธิ์ขึ้นโชว์บนเวที SMTM ซีซั่น 7 ที่เกาหลีอีกด้วย ถือว่าการได้ขึ้นโชว์บนเวทีนี้เป็นความยิ่งใหญ่ที่วงการแร็ปและฮิปฮอปไทยจะต้องจดจำไปอีกนาน เพราะนี่คือการประกาศศักดาให้โลกต้องรู้ว่าแร็ปไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ

เล่ามาขนาดนี้แล้ว บอกได้คำเดียวว่าห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด สำหรับรายการ Show Me The Money Thailand ออกอากาศทุกวันอังคาร เวลา 20.30-22.00 น. ทางทรูโฟร์ยูช่อง 24 และรับชมในรูปแบบ Uncensored มันเต็มเหนี่ยวได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน TrueID

 


ข้อมูลและภาพ: SMTM Thailand

‘จะหลบผู้ใหญ่ไปสวีทตามลำพังไม่ได้เลย ท่านขอไปด้วยตลอด’ ดูดวงรายวัน 26 เมษายน 2561

ดูดวงรายวัน 26 เมษายน 2561 #ป้าเนาว์พยากรณ์ แม่นเป๊ะสายแข็ง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : วันนี้ท่านต้องพลิกแพลงหรือใช้กลยุทธ์ต่างๆ เพื่อให้เอาตัวให้รอดจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ หรือท่านอาจออกจากงานมาเปิดบ้านเป็นสำนักดูดวงพยากรณ์ ก็ได้นะ

การเงิน :  เกิดการใช้จ่ายในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้คาดหวัง ทำให้เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์

ความรัก : ท่านอาจกำลังมีโครงการเปิดธุรกิจร่วมกันกับครอบครัว แต่ระวังวันนี้ความหึงหวง การแสดงความเป็นเจ้าของอาจทำให้แตกคอกันได้ ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม คนโสด ท่านทุ่มเทกับความรักมากจนน่ากลัว หากอกหักอาจทำใจไม่ได้

สุขภาพ : ระวังเจ็บป่วยจากการทำงาน เช่น หักโหมงานหนักจนไม่ได้พักผ่อน

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  วันนี้ขอให้ท่านเตรียมรับมือกับปัญหาและอุปสรรคที่จะเข้ามาจากทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะกับทีมงานจะแอบเลื่อยขาเก้าอี้ท่าน หรือมีการหักหลังแย่งชิงตำแหน่งหน้าที่การงานเกิดขึ้น

การเงิน  : ระวังถูกหลอกหรือถูกโกงจนหมดตัว ซึ่งนำพาไปสู่การทะเลาะกัน

ความรัก : เนื่องจากท่านอาจแต่งงานกัน โดยที่ผู้ใหญ่เห็นชอบในเรื่องของความเหมาะสมทุกๆ อย่าง แต่ยกเว้นความรัก วันนี้ท่านอาจพบพฤติกรรมที่น่าสงสัย ไม่ซื่อสัตย์ คิดให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจด้วยอารมณ์เพียงชั่ววูบ คนโสด วันนี้ความรักมีแต่ปัญหา อย่าเพิ่งตัดสินใจใดๆ เลย อยู่เป็นโสดไปก่อนดีกว่า

สุขภาพ :  ไปหาหมอฟันได้แล้วค่ะ หากปล่อยไว้จะลามไปถึงระบบย่อยอาหาร

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน : ท่านอาสาหรือได้รับมอบหมายจากเจ้านายให้ไปปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นงานที่ต้องเดินทางติดต่อประสานงาน ในธุรกิจที่เกี่ยวกับสถานบันเทิงยามราตรี งานทางด้านบริการ

การเงิน : ระวังจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินที่ไม่ถูกต้อง

ความรัก :  ท่านอาจเริ่มเข้าสู่ภาวะเบื่อหน่ายคู่ กำลังที่จะเริ่มมองหาสีสันใหม่ๆ ให้กับชีวิต ควรจับมือหาเวลาไปเที่ยวโดยด่วน เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศและยืดชีวิตสมรสออกไป ไม่ให้ต้องมีมือที่สามมาเกี่ยวข้อง  คนโสด ท่านอาจเพิ่งอกหัก จนเข็ดที่จะเริ่มต้นรักครั้งใหม่

สุขภาพ  :  ระวังโรคลำไส้อักเสบ ระบบย่อยอาหาร โรคกระเพาะ ท้องอืดท้องเฟ้อ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :  อารมณ์ศิลปินลงประทับเต็มร่าง เพราะฉะนั้นจะทำงานศิลปะศิลปิน ดนตรี วรรณกรรม หรือวงการบันเทิงได้ดี ซึ่งท่านกำลังรวบรวมเหตุผล ความคิดเพื่อตัดสินใจเริ่มต้นงานใหม่ ควรให้ความสำคัญกับการปกครองบริวาร ต้องมีทั้งพระเดชและพระคุณ

การเงิน :  ท่านอาจหมดเงินกับความสวยงาม อาหาร และเสื้อผ้าสวยๆ ใกล้สิ้นเดือนเข้ามาทุกทีระวังเงินไม่พอใช้

ความรัก  : วันนี้ท่านอาจหลงกับการดื่มกิน สังสรรค์ ปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงจนลืมว่า ท่านแบกรับภาระคนอื่นไว้ด้วย อาจทำให้ท่านเดือดร้อนภายหลัง แล้วเมื่อถึงเวลาก็เครียดใส่ครอบครัว   คนโสด วันนี้ท่านจะเจอสายปาร์ตี้ ซึ่งพยายามมองหาคนที่รักจริงหวังแต่ง

สุขภาพ : พยายามควบคุมน้ำหนักหน่อย เพราะท่านเริ่มเจ็บตั้งแต่สะโพกลงไปเข่าจนถึงข้อเท้า

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน :  วันนี้ไปติดต่อเจรจางานกับใคร ก็อย่ายึดความคิดของตัวเองเป็นที่ตั้งนะคะ เปิดโอกาสให้เพื่อนร่วมงานได้แสดงความคิดเห็นด้วย ไม่เช่นนั้นอาจมีการทะเลาะแล้วเกิดการแค้นฝังหุ่น หากท่านพลาดเมื่อไหร่ถูกเอาคืนแน่

การเงิน : ชักหน้าไม่ถึงหลัง หมดไปกับการปรนเปรอแฟน

ความรัก  : วันนี้แม้ท่านจะรักครอบครัวมาก แต่ก็ยังไม่ทิ้งความเป็นตัวเองที่สูงปรี๊ด ทิฐิมานะที่เป็นต้นเหตุให้ต้องทะเลาะกัน เพราะไม่มีใครยอมใคร คนโสด มีแต่คำว่ารักให้กัน แต่ระวังจะเป็นความรักที่ซ่อนเร้นไม่เปิดเผย

สุขภาพ :  ผู้หญิงระวังจะมีปัญหาเกี่ยวกับมดลูก หรืออวัยวะสืบพันธุ์ ส่วนผู้ชายก็ระวังต่อมลูกหมากอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : สำหรับท่านที่เป็นเจ้าของกิจการ วันนี้ท่านมีพลังในการทำงานอย่างแรงกล้า แต่ระวังหากทำงานเกี่ยวกับการต่างประเทศ เครื่องจักรอุตสาหกรรม สื่อสารมวลชน การศึกษา อาจเป็นคดีความ ขึ้นโรงขึ้นศาลได้

การเงิน :  มีโชคด้านการหาเงินนอกบ้าน แต่ระวังตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

ความรัก :  วันนี้หากท่านให้ครอบครัวมาช่วยดูแลจัดระบบเรื่องการเงิน จะทำให้การเงินคล่องตัว คนโสด  ก่อนตกลงคบกับใครดูดีๆ เพราะเขาอาจมีแฟนอยู่แล้ว

สุขภาพ : อย่ากลั้นปัสสาวะ เพราะอาจทำให้กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน :  วันนี้ท่านเจรจาประนีนอมก็ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากผู้ใหญ่ คนรอบข้างก็ให้ความช่วยเหลือให้เริ่มต้นงานใหม่ หรือโยกย้ายงานซึ่งมีผลตอบแทนสูงกว่า และท้าทายความสามารถ จนเพื่อนร่วมงานอิจๆๆๆๆๆ ฉา

การเงิน :  หมดกับการสงเคราะห์ช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาสกว่า ทั้งญาติสนิทมิตรสหาย และคนรัก

ความรัก :  อาจมีผู้ใหญ่เข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจของครอบครัว หรืออาจมีผู้ใหญ่มาขออาศัยอยู่ด้วยก็ถือเป็นช่วงเวลาที่อบอุ่นเลยทีเดียว  คนโสด  รักใคร หลบผู้ใหญ่ไปสวีทไม่ได้ค่ะ ท่านขอไปด้วยตลอด

สุขภาพ :  ระวังการเดินทางทั้งทางบกและทางน้ำ อาจมีอุบัติเหตุได้

 

Let’s stay in shape! กับ 5 ท่าโยคะง่ายๆเพื่อเจ้าสาวหุ่นสวย

account_circle

การฟิตหุ่นให้มีรูปร่างดีขึ้นก่อนถึงวันแต่งงานด้วยการออกกำลังกายด้วย โยคะ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเวลา และความมุ่งมั่นตั้งใจ โดยทั่วไปการเตรียมตัวสำหรับงานแต่งงานจะมีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้ากันอยู่แล้วประมาณ 3 เดือน 6 เดือน หรือบางคู่เตรียมตัวกันเป็นปีก็มี ซึ่งเป็นเวลาที่เพียงพอสำหรับการฟิตหุ่น เมื่อคู่บ่าวสาวทราบกำหนดวันแต่งงานเป็นที่แน่นอนแล้วก็ลุยฟิตหุ่นกันได้เลย

 

ในปัจจุบันมีวิธีการออกกำลังกายให้เลือกมากมายแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน แต่การออกกำลังกายที่กำลังมาแรง และหลายๆ คนให้ความสนใจกันคือการเล่นโยคะ เพราะเป็นกีฬาในร่มเลือกเวลาฝึกได้ตามใจชอบ โดยเจ้าสาวอาจจะชวนเจ้าบ่าวไปเล่นโยคะด้วยกันเพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นก็ยิ่งดี ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น ตั้งเป้าหมายด้วยกันว่าจะฟิตหุ่นให้สวย หล่อก่อนถึงวันแต่งงาน

การฝึกโยคะนอกจากจะได้ร่างกายที่แข็งแรงแล้วยังได้ฝึกสมาธิอีกด้วย การฝึกโยคะช่วงแรกๆ อาจจะมีอาการปวดเมื่อยบ้าง แต่เมื่อฝึกไปเรื่อยๆ ร่างกายก็จะเกิดความเคยชิน ช่วงแรกๆ อาจจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล หากฝึกไปจนคล่องแล้วก็สามารถฝึกเองที่บ้านได้ และในวันนี้เรามีท่าโยคะสำหรับลดสัดส่วน ทำให้ร่างกายฟิต เฟิร์ม จะเป็นท่าอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

ท่าตรีโกณ ช่วยบริหารต้นขา และส่วนน่องให้ดูเรียวงาม

โยคะ

ท่าเรือ สำหรับคู่บ่าวสาวที่กังวลเรื่องต้นแขนต้นขาใหญ่ ต้องท่านี้เลยช่วยลดไขมันแขน ขา และสะโพกได้ดี

โยคะ

ท่านั่งเก้าอี้ หากชุดเจ้าสาวเป็นชุดที่เน้นสัดส่วน ท่านี้ช่วยกระชับสัดส่วนได้อย่างดีทีเดียวค่ะ

โยคะ

ท่ากระดานข้าง ช่วยลดไขมันหน้าท้อง ลดสะโพก และต้นขา ทำให้มีกล้ามแขนที่สวยงาม สำหรับเจ้าสาวที่ใส่ชุดแต่งงานแบบเปิดแขนเปิดไหล่ท่านี้ช่วยได้ค่ะ

โยคะ

ปิดท้ายกันด้วย ท่าอาสนะ เพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้า ให้ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อน

โยคะ

การฝึกโยคะเป็นการรักษาสมดุลของร่างกาย ช่วยให้รูปร่างดีขึ้น ฟิต เฟิร์ม เมื่อฝึกไปซักพักจะรู้สึกได้ว่าร่างกายสมดุลขึ้น และมีสมาธิมากขึ้น คู่บ่าวสาวบางคู่เมื่อได้ใช้เวลาฝึกโยคะด้วยกันจากที่เคยเป็นคนใจร้อน อาจจะกลายเป็นคนใจเย็นลง มีสติในการครองคู่มากขึ้นนับว่าเป็นผลพลอยได้ที่คุ้มค่าจากการฝึกโยคะทีเดียวเลยนะคะ

 

cr : shape.com, fitnessvsweightloss.com, beautyepic.com, yogajournal.com

แดน เหตระกูล

มงคลชีวิตคู่ แดน เหตระกูล-มัดมุก รับพระราชทานน้ำสังข์จาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

Alternative Textaccount_circle
แดน เหตระกูล
แดน เหตระกูล

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำสังข์สมรสให้ แดน เหตระกูล และ มัดมุก-แพรดาว พานิชสมัย

แดน เหตระกูล

คู่รักกิ่งทองใบหยก

ถือเป็นเรื่องมงคล สำหรับการเริ่มต้นชีวิตคู่จริงๆ เพราะเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2561 คู่รักไฮโซตระกูลดัง แดน เหตระกูล และ มัดมุก-แพรดาว พานิชสมัย ได้รับพระราชทานน้ำสังข์จาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งสร้างความซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากให้กับคู่รักและครอบครัวของทั้งคู่

แดน เหตระกูล

มัดมุก-แพรดาว พานิชสมัย

ทั้งนี้ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 จะมีงานฉลองสมรสพระราชทานขึ้น โดยจัดที่โรงแรม 5 ดาว พลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน ถนนวิทยุ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า แขกผู้มีเกียรติจะมาร่วมแสดงความยินดีมีมากถึง 2,000 คน

แดน เหตระกูล

สำหรับความรักของ มัดมุก และ แดน เริ่มก่อตัวขึ้นภายหลังจากที่พบกันที่ นิเซโกะ ประเทศญี่ปุ่น โดยฝ่ายชายได้เริ่มต้นทำความรู้จักด้วยการขอไลน์ของมัดมุกกับเพื่อนรุ่นน้อง แม้ความรักครั้งนี้ของแดนจะไม่ได้หวือหวาเป็นข่าวคราวเท่าครั้งก่อนๆ แต่ผู้ใหญ่รับรู้ บวกกับไลฟ์สไตล์คล้ายๆ กัน จึงทำให้เข้ากันได้อย่างลงตัว แม้อายุห่างกันถึง 10 ปี ก็ไม่เป็นอุปสรรคของคู่นี้เลย

 

สมใจคุณพ่อไม้เลื้อย! แม่แอนคลอด’น้องโพธิ์’ แล้ว มากันดูชัดๆ หน้าเหมือนใคร

สมใจคุณพ่อไม้เลื้อย! แม่แอนคลอด’น้องโพธิ์’ แล้ว มากันดูชัดๆ หน้าเหมือนใคร..รอคอยมา 9 เดือน ในที่สุดก็ถึงวันที่พระเอกหนุ่ม ชาคริต แย้มนาม สมใจซะที เพราะภรรยาสาว แอน- ภัททิรา ได้คลอดลูกชาย น้องโพธิ์ (Bodhi) เรียบร้อยแล้ว

สมใจคุณพ่อไม้เลื้อย! แม่แอนคลอด’น้องโพธิ์’ แล้ว มากันดูชัดๆ หน้าเหมือนใคร

กลายเป็นคุณพ่อและคุณแม่มือใหม่เต็มตัว ท่ามกลางความปลื้มปีติกันถ้วนหน้า หลังจากที่แอน-ภัททิรา ภรรยาสาวของพระเอกชาคริต แย้มนาม ได้ให้กำเนิดลูกชายด้วยวิธีผ่าคลอด โดยทั้งคู่ตั้งชื่อไว้ก่อนหน้านี้ว่า น้องโพธิ์ (Bodhi)  ทั้งนี้สีหน้าของคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ดูจะซาบซึ้งไม่น้อยทีเดียว ที่ได้เห็นหน้าของลูกชายครั้งแรก ซึ่งออกมาลืมตาดูโลกในเวลา 16.49 น. น้ำหนัก 3,172 กก. ที่โรงพยาบาล BNH

เห็นหน้าตากันชัดๆไปแล้ว ไม่รู้ว่าจะเหมือนคุณพ่อหรือคุณแม่มากกว่ากัน แต่เอาเป็นว่าตอนนี้ขอแสดงความยินดี และให้แข็งแรงทั้งแม่ทั้งลูกนะจ๊ะ

 

น้ำหอม

ร้อนนี้ต้องมีตัวช่วย! คัด 5 น้ำหอม กลิ่นละมุนน่าลอง พร้อมเทคนิคฉีดน้ำหอมในฤดูนี้ให้ติดทน

Alternative Textaccount_circle
น้ำหอม
น้ำหอม

ร้อนมากจนไขมันละลายขนาดนี้ แน่นอนว่าเหงื่อเจ้าปัญหาพร้อมกลิ่นไม่พึงประสงค์มาแน่ๆ เพราะเราคงไม่อยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลาใช่ไหมล่ะ ยิ่งคนที่ต้องเดินทางหลายต่อเพื่อไปพบลูกค้าเนี่ย ทั้งเหนื่อยทั้งเหงื่อจัดเต็มมาเลย แถมอาจจะหอบกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามไปด้วย ถ้า น้ำหอม ไม่ติดทน คงยิ่งทำให้เกิดความประหม่าไม่มั่นใจเวลาพบเจอคนอื่นไปกันใหญ่

แม้หลายคนอาจจะคิดว่าฉีดน้ำหอมพกความมั่นใจมาแล้วตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านแล้ว เชื่อเหอะหน้าร้อนกลิ่นจางไวใครก็ช่วยไม่ได้ แพรวดอทคอม จึงมีเคล็ดลับให้พกพาความหอมอยู่กับตัวตลอดมาแนะนำ เริ่มจากฉีดน้ำหอมใส่ฝ่ามือ เวลาจับมือใครจะได้หอมชวนสัมผัส และถ้ากลัวว่ากลิ่นน้ำหอมที่ใช้อยู่นั้นจะแรงไป ให้ฉีดน้ำหอมใส่สำลีหรือฉีดใส่ผ้าเช็ดหน้าเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อแทน เพื่อให้กลิ่นหอมอยู่นานขึ้น พร้อมกันนี้ แพรวดอทคอม ได้คัดน้ำหอม 5 แบรนด์ดังกลิ่นหอมชวนละมุนมาแนะนำด้วยค่า

ร้อนนี้ต้องมีตัวช่วย! คัด 5 น้ำหอม กลิ่นละมุนน่าลอง พร้อมเทคนิคฉีดน้ำหอมในฤดูนี้ให้ติดทน

 

 

น้ำหอม

Dior J’adore Injoy EDT Natural Spray
(100 มิลลิลิตร ราคา 4,900 บาท)

หากพูดถึงฌาดอร์ ก็ต้องมาพร้อมลุคหรูหราแบบคุณหนูที่ดุสนุกสนานร่าเริงในทุกเวลาสมชื่อ ฌาดอร์ อินจอย สุดยอดน้ำหอมกลิ่นยอดนิยมที่สาวๆ หลายคนเทใจให้ ด้วยกลิ่นของความสุขสันต์ที่ให้ความหอมหวานอ่อนละมุน เจือด้วยกลิ่นไอของทะเล เพิ่มเสน่ห์น่าดึงดูดจากกลิ่นดอกไม้อย่างดอกมะลิแซมบัค ดอกซ่อนกลิ่น สารสกัดจากดอกกระดังงา และผลไม้จากส้มเนโรลิ ก็ทำให้น้ำหอมกลิ่นนี้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นสำหรับลุคสาวสดใสแววตาซุกซน


Philosophy Pure Grace Nude Rose Spray Fragrance
(60 มิลลิลิตร ราคา 1,990 บาท)

น้ำหอมกลิ่นใหม่ครีเอทโดย ริชาร์จ เฮอปิน ด้วยเสน่ห์ของกลิ่นหอมแรกสัมผัสจากเนโรลี่และดอกส้ม ผสานกับความหอมละมุนของดอกกุหลาบ ก่อนปิดท้ายอย่างอบอุ่นนุ่มลึกด้วยซันคิส มัสก์ บ่งบอกถึงความมั่นใจมีสไตล์ของสาวยุคใหม่ที่มีความเป็นตัวของตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันก็ชื่นชอบการใช้ชีวิตเรียบง่ายไม่ซับซ้อน


OBSESSED INTENSE CALVIN KLEIN (For Women)
(100 มิลลิลิตร 4,050 บาท)

เป็นน้ำหอมที่ไม่ยึดติดอยู่กับกรอบเดิมๆ ในเรื่องเพศสภาพ นั่นคือ โทนกลิ่นฟูแจร์ซึ่งเดิมใช้กับน้ำหอมผู้ชาย โดยเฉพาะกลิ่นไวท์ลาเวนเดอร์ ได้นำมาใช้กับน้ำหอมสำหรับผู้หญิง ในขณะที่กลิ่นสำหรับผู้ชายนั้นเลือกที่จะใช้กลิ่นดาร์ควานิลลา และสำหรับตัวนี้เป็นน้ำหอมที่สื่อถึงความเป็นหญิงด้วยกลิ่นโอเรียนทอล ลาเวนเดอร์ ผสานความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยอำพัน สัมผัสแรก ซิตรัส, เอเลมี และส้มแมนดาริน ปลายสัมผัสกลิ่นปลาย ยางไม้หอม, อำพัน, มักส์ โดยที่กลิ่นหลักหอมไวโอเล็ต, ลาเวนเดอร์ และเซจ


WOMAN BY RALPH LAUREN
(100 มล. 5200 บาท / 50 มล. 4,000 บาท)

เป็นน้ำหอมแนวฟลอรัล ฟรุตตี้ ความแตกต่างที่มีเสน่ห์ดึงดูดระหว่างความเป็นหญิง และความเป็นชาย ขวดน้ำหอมได้รับการออกแบบขึ้นภายใต้แนวคิดการมีอยู่คู่กันของสองขั้ว โดยได้แรงบันดาลใจจากรูปทรงของขวดเหล้าสำหรับพกพาแบบโบราณ นำมาปรับให้งดงามยิ่งขึ้นด้วยเส้นสายที่โค้งมนดูนุ่มนวล และการตกแต่งสีโรสโกลด์ ซึ่งทำให้ขวดน้ำหอมดูงดงามประดุจเครื่องประดับอัญมณีเลอค่า เช่นเดียวกับผลงานการออกแบบทุกชิ้นของราล์ฟ ลอเรน


น้ำหอม

ELIE SAAB Le Parfum In white EDP
(30 มล. 2,300 บาท/50 มล. 3,900 บาท/90 มล. 4,900 บาท)

ปิดท้ายด้วยน้ำหอมกลิ่นใหม่ที่เหมาะสำหรับในฤดูร้อนนี้ สรรค์สร้างกลิ่นจากความรู้สึกเสมือนโอกาสพิเศษให้แก่ผู้หญิงทั้งหลาย ไม่ต่างอะไรจากช่อดอกไม้ขาวบริสุทธิ์ เพื่อทำให้พวกเธอมีความโดดเด่นท่ามกลางฝูงคนทุกคราที่ใช้น้ำหอมกลิ่นนี้ หลอมรวมขึ้นจากมวลดอกไม้ช่อขาวสะพรั่งในนาม Le Parfum In White หรือ น้ำหอมสีขาว


เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม

เตือนผู้ใช้! Facebook Login ต้องยืนยันตัวตนทุก 90 วัน

เตือนผู้ใช้! Facebook Login ต้องยืนยันตัวตนทุก 90 วัน… ช่วงนี้ Facebook กำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่หลายด้านเลยนะคะ โดยเฉพาะข้อมูลของ User ที่รั่วไหลจนเกิดเป็นประเด็นใหญ่ไปทั่วโลก Facebook จึงจำเป็นต้องประกาศการเปลี่ยนแปลงระบบ Facebook Login เพื่อช่วยแก้ปัญหาความเป็นส่วนตัวของ User และเรียกความน่าเชื่อถือกลับมาค่ะ

โดยเฉพาะแอพพลิเคชั่นหรือผู้ใหบริการออนไลน์ต่างๆ ที่ต้องใช้ระบบ Facebook Login จำเป็นต้องขอ User Access Token ใหม่เพื่อให้ User ยืนยันการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวได้ทุก 90 วัน หรือ 3 เดือน แต่หลังจากครบ 90 วันแล้ว User จะไม่สามารถ Login  ได้อัตโนมัติแบบเดิมแล้วนะคะ แต่จะมีข้อความ และปุ่ม Continue ให้กดก่อนทุกครั้ง ถึงจะสามารถใช้งาน Facebook ได้ค่ะ

เตือนผู้ใช้! Facebook Login ต้องยืนยันตัวตนทุก 90 วัน

สำหรับ User ที่ไม่เคย Login ผ่าน Facebook มากกว่า 90 วัน ก็ไม่ต้องตกใจว่าจะไม่สามารถใช้งานได้นะคะ เพราะ Facebook แค่จะทำการรีเซ็ต Token ใหม่ทันที โดย User ที่กลับมาทำการ Login จะ ได้เห็นข้อความและปุ่ม Continue ขึ้นมาแจ้งเตือนให้กดเช่นเดียวกันค่ะ

นับว่าเป็นปัญหาที่ Facebook ต้องกลับมาสร้างความเชื่อมั่นให้กับ User แต่น่าจะได้ในระดับหนึ่งค่ะ เพราะส่วนใหญ่เริ่มมองว่า Facebook เข้าถึงยากกว่าเดิม ทำให้ User เริ่มมองหา Social Network อื่นๆ อย่าง Twitter หรือ Line ที่ทดแทนกันได้และเข้าถึงได้ง่ายกว่า

คงต้องจับตาดูกันต่อไปนะคะว่า การใช้ระบบ Facebook Login ทุกๆ 3 เดือน ข้อมูลส่วนตัวของ User จะยังรั่วไหลอยู่อีกหรือเปล่าค่ะ แต่เราเองในฐานะ User ก็ต้องระวังเรื่องการเปิดเผยข้อมูลสำคัญผ่าน Facebook กันให้มากขึ้นด้วยเช่นกันนะคะ

 

À LA CAMPAGNE เช็คอินพัทยาแบบคลูๆ @หมู่บ้านวินเทจสไตล์ยุโรป

ร้อนนี้หลายคนคงหนีร้อน ไปรับลมเย็นๆ ที่ทะเลกันนเป็นแถว และพัทยาก็เป็นอีกหนึ่งเมืองยอดฮิต แต่รู้ไหมคะว่านอกจากทะเลแล้ว อีกหนึ่งสถานที่ที่เราอยากให้คุณไปเช็คอิน และอัพรูปอวดโซเชียลรัวๆ ก็คือ A’ La Campagne (อะลาคอมปาณย์) สถานที่ท่องเที่ยวสุคชิคสไตล์วินเทจ @ พัทยา ที่จำลองบรรยากาศของหมู่บ้านสไตล์ยุโรปมาไว้ในที่เดียว

เริ่มตั้งแต่ความสวยงามของสถาปัตยกรรม ที่ยกหมู่บ้านขนาดเล็กในยุโรปชนบทมาไว้ที่พัทยา ร่มรื่นด้วยต้นไม้นานชนิด ที่บอกเลยว่าใครไม่ยกกล้องขึ้นมาถ่าย ถือว่าใจแข็งสุดๆ ภายแบ่งเป็นโซนกิจกรรม ต่างๆ และร้านอาหาร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนทั้ง มาเที่ยวกับครอบครัว กับแก๊งค์เพื่อน หรือคู่รัก

เริ่มเช็คอินจุดแรกกับ เก็บไข่ & ให้อาหารสัตว์ (ราคา 200 บาท / คน, เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี เข้าฟรี) เอาใจคุณหนู และสมาชิกทุกคนในครอบครัว กับกิจกรรมให้อาหารไก่และเก็บไข่จากแม่ไก่แบบอิสระ พร้อมด้วยทักทายฝูงม้าในทุ่งหญ้าแพงโกล่า ป้อนหญ้าเนเปียร์ให้แพะ และหมูแคระอังกฤษ

ต่อด้วย Grow My Veggies ฉันคือเจ้าของแปลงผัก (โปรโมชั่นพิเศษกับ ททท. 300 บาท / แปลงผัก ระยะเวลา 45 – 60 วัน) เป็นเจ้าของแปลงผักได้ง่ายๆ โดยเช่าแปลงผัก พร้อมเลือกผักที่ต้องการปลูกด้วยตัวเอง ตั้งแต่ขั้นตอนการเพาะ รดน้ำ น้ำต้นอ่อนลงดิน จากนั้นทาง อะลาคอมปาณย์ จะรับหน้าที่ดูแลผักของทุกคนให้เป็นอย่างดี พร้อมส่งภาพถ่ายอัพเดตให้คุณรู้เป็นระยะ และเมื่อผักโตเต็มที่ครบ 30-45 วัน คุณก็สามารถมาเก็บผักสดๆ ปลอดสารพิษ ของตัวเองไปรับประทานได้ เวิร์คใช่ไหมล่ะ!

หรือใครต้องการความรวดเร็วขึ้นมาหน่อย เราแนะนำ I am a Young Farmer มาปลูกผักกันเถอะ (โปรโมชั่นพิเศษกับ ททท. 250 บาท / คน) กิจกรรมปลูกผักปลอดสารพิษที่ช่วยสร้างจิตสำนึกให้กับเด็กๆ ได้ลองปลูกผักด้วยตัวเอง ตั้งแต่การเตรียมดิน รู้จักกับไส้เดือน ตัวช่วยให้กินอุดมสมบูรณ์ รดน้ำ ซึ่งใช้เวลาในการทำกิจกรรมเพียง 1.30 – 2 ชั่วโมง จากนั้นเด็กๆ ก็จะได้ผักปลอดสารพิษกลับบ้านไปเลย

จากนั้นไปชมธรรมชาติด้วยการ ปั่นจักรยานท่องป่า (โปรโมชั่นพิเศษกับ ททท. 50 บาท / คัน ระยะเวลา 1-2 ชั่วโมง) ให้คุณได้ใช้เวลาร่วมกันปั่นจักรยานลัดเลาะไปตามป่าไผ่ ตามเส้นทางที่กำหนดไว้ ระหว่างทางจะได้เห็นและเรียนรู้ธรรมชาติรอบตัวทั้ง หน่อไม้ที่ผุดขึ้นจากดิน ทุ่งดอกไม้ พร้อมทั้งร่วมค้นหาขุมทรัพย์ที่เราซ่อนไว้ไปตลอดทั้งเส้นทาง ได้ทั้งความสนุก ฝึกไหวพริบ และออกกำลังกาย

เมื่อเสียเหงื่อแล้วก็ขอพักจิบน้ำชายามบ่ายสักหน่อยที่ Tea Workshop (โปรโมชั่นพิเศษกับ ททท. 800 บาท / คน) ให้คุณได้เรียนรู้ที่มา คุณประโยชน์ และรสชาติของชาแต่ละชนิด พร้อมทั้งเบลนชาสูตรของตัวเอง สำหรับนำกลับไปดื่มที่บ้าน หรือเป็นของฝากก็เริ่ดสุด

บอกแล้วว่าที่ A’ La Campagne (อะลาคอมปาณย์) กิจกรรมเยอะ กิจกรรมแน่น ตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนได้อย่างแน่นอน และเพียงคุณแชร์โพสนี้ เราใจดี แจก Voucher บัตรเข้าชม 4 สถานที่ฮิต สวนน้ำ Cartoon Network (3 ใบ), สวนน้ำรามายนะ (9 ใบ), พิพิธภัณฑ์ Ripley (4 ใบ) และ เมืองน้ำแข็ง Frost (5 ใบ)

อย่ารอช้า…รีบแชร์ด่วน!
A’ La Campagne
21/2 หมู่ 1ต.นาจอมเทียน ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท (ตรงข้ามอัยการพัทยา ก่อนถึงสี่แยกห้วยใหญ่ บางละมุง จ.ชลบุรี)
โทร : 091-783 8772
เปิด : จ -พฤ  10.00-20.00 น., ศ – อา 10.00-22.00 น.
Facebook : https://www.facebook.com/alacampagnepattaya

keyboard_arrow_up