ใครที่คิดว่าการเดินเข้าร้านอาหารร้านเดิมในวันเดียวเป็นสิ่งที่น่าเบื่อ….ลองก้าวเข้ามาสู่ “Pirate Chambre” ชั้น3  อาคารมณียา เพลินจิต ร้านอาหารแนวใหม่ใจกลางเมือง

ที่มี 2 แนวในร้านเดียวกัน “มื้อกลางวัน” (ตั้งแต่เวลา 11.00 – 15.00 น.) เป็นอาหารไทย-อีสานรสจัดจ้าน ขณะที่ “ช่วงค่ำ” ถูกพลิกโฉมเป็นดินเนอร์สุดหรูสไตล์ “เวสเทิร์น” (ตั้งแต่เวลา 17.00 – 24.00 น.) โดย คุณกอล์ฟ – ณชนก  รัตนทารส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จี เอ็นเตอร์ไพร์ส แอนด์ โค จำกัด ผู้คร่ำหวอดในธุรกิจร้านอาหารเกือบ 2 ทศวรรษ หรือที่รู้จักกันในนามเชฟ “Pirate G” และหวานใจ คุณปอ – ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์เจ้าของไอเดียร้านอาหารสุดแนว เล่าว่า “ร้านแห่งนี้เกิดจากความตั้งใจที่อยากรวบรวมสูตรอาหารเลิศรสจากทั่วทุกมุมโลกมาไว้ในห้องลับของโจรสลัดแห่งนี้ รวมทั้งต้องการฉีกรูปแบบเดิมๆ ของร้านอาหารด้วยการออกแบบบรรยากาศภายในร้านให้ผู้มาใช้บริการได้สัมผัสถึงความแตกต่างระหว่างกลางวัน และกลางคืนนั้นเอง”

เริ่มต้นทำความรู้จักกับห้องลับโจรสลัดในบรรยากาศมื้อกลางวัน แบบสบายๆ กับเมนูเรียกน้ำย่อย “ส้มตำถาด” (ราคา 320 บาท) สูตรเด็ดของ คุณปอ – ศีกัญญา ที่พิถีพิถันในการคัดเลือกวัตถุดิบคุณภาพ และรสชาติที่เน้นความกลมกล่มแบบอีสานขนานแท้

ต่อด้วยเมนูชื่อสะดุดหู “ข้าวผัดนายหญิง” (ราคา 320 บาท) ข้าวผัดหอมกรุ่นมันกุ้งและ กุ้งแม่น้ำตัวโตทั้งสดและหวาน รับรองใครได้ชิมจะติดใจแน่นอน

แต่หากใครมองหาเมนูอาหารกลางวัน แบบเบาๆ ขอแนะนำ “ขนมเบื้องญวณ” (ราคา 180 บาท) สูตรลับเฉพาะของทางร้าน มีจุดเด่นที่แป้งขนมเบื้องบางกรอบ คลุกเคล้าหน้ากุ้ง เสิร์ฟพร้อมน้ำอาจาดรสชาติ เปรี้ยวๆ ตัดด้วยรสหวานและเค็มนิดๆ พร้อมด้วยกลิ่นหอมๆ จากหอมแดง สีสันน่าทาน

“ก๋วยเตี๋ยวบก” (ราคา 190 บาท) เป็นอีกเมนูทานเล่น อร่อยเต็มคำกับผักสดและเส้นใหญ่เหนี่ยวนุ่ม เข้ากันได้ดีกับน้ำจิ้มรสกลมกล่อม

ปิดท้ายเมนูซิกเนเจอร์ อาหารกลางวัน “ไก่ย่างไพเรท” (ครึ่งตัว ราคา 250 บาท) ไก่ย่างสูตรลับของ คุณกอล์ฟ – ณ ชนก ทั้งนุ่มชุ่มฉ่ำ แต่หนังกร๊อบกรอบถึงใจ เคล็ดลับอยู่ที่ต้องเลือกไก่ขนาดกำลังดี นำมาหนักกับสมุนไพร ตะไคร้ ขมิ้น และน้ำซอสสูตรพิเศษของทางร้าน ย่างด้วยเตาพิเศษ Rotisserie ที่สั่งตรงมา จากฝรั่งเศส การันตีความอร่อยที่ไม่ควรพลาด

เมื่อพระอาทิตย์ตกดินห้องลับโจรสลัดจะถูกพลิกโฉมแบบยกเซ็ตให้กลายเป็นร้านอาหารดินเนอร์ สุดโรแมนติก สำหรับคู่รัก หรือจะนัดเพื่อนๆ มาแฮงค์เอ้าท์ก็ได้เช่นกัน เพราะร้านแบ่งออกเป็น โซน Dinning และ Lounge พร้อมกับเสิร์ฟเมนูสไตล์ Western ขนานแท้ เริ่มต้นมื้อค่ำกับอาหารอิตาเลี่ยน “แซฟฟรอน ริซอตโต้ โปรสซุตโต้” (Saffron Risotto Prosciutto) (ราคา 380 บาท) เมนูอิตาเลียนแท้ๆ จานนี้พิเศษตรงที่ ใช้ข้าวคุณภาพดี รสชาติครีมมี่ เข้มข้นไปด้วยชีสรสละมุนลิ้น และตัดรสเค็มด้วย พาม่าแฮม

จากนั้นมาอิ่มอร่อยกับเมนู “ซี่โครงหมูย่างซอสมิโซะมัสตาร์ด” ทานคู่กับ “หมั่นโถว” (ราคา 390 บาท) เมนูผสมผสานระหว่างตะวันตกและตะวันออกเข้ากันได้เป็นอย่างลงตัว ซี่โครงหมูหมักจนนุ่ม และนำมาย่างสุกกำลังดี เป็นเมนูที่จะพาท่านสู่การข้ามผ่านวัฒนธรรมการกินอาหารจากซีกโลกหนึ่งสู่อีกซีกโลกหนึ่งได้อย่างน่าอัศจรรย์

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบพิซซ่าห้ามพลาดเมนู “Pizza Tex-Mex” (ราคา 390 บาท) พิซซ่าสูตรเฉพาะของร้าน เป็นพิซซ่าผสมผสานระหว่างรสชาติแบบอิตาเลียน และเม็กซิกัน โดยใช้ซอสที่ทำจากเนื้อวัวชั้นดี ใส่อะโวคาโดสด และ ซัลซ่า Tomato เพิ่มความกรุบกรอบด้วย Corn Chip

ปิดท้ายดินเนอร์สุดหรูกับเมนูในตำนาน “Le Banyan Pressed Duck, Century French Traditional” (ราคา 3,200 บาท ต่อ 2 ท่าน) อาหารฝรั่งเศสเลิศรสสุดคลาสสิค ที่มีตำนานมากว่า 400 ปี และหาทานยากมากในประเทศไทย โดยความอร่อยของเมนูนี้อยู่ตรงน้ำซอสรสเข้มข้น ซึ่งได้จากการนำกระดูกและเนื้อเป็ดทั้งตัวนำมาเข้าเครื่อง Pressed Duck จากนั้นนำน้ำที่ได้ไปผสมกับเครื่องปรุงสูตรพิเศษ จนได้ซอสเป็ดเลิศรส นำไปราดบนเป็ดย่างหนังกรอบหั่นสไลด์ เรียกว่าหากใครไม่ได้ลองเมนูในตำนานจานนี้ ถือว่ายังมาไม่ถึงห้องลับโจรสลัดอย่างแท้จริง

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ : Pirate Chambre

ก้าวสู่ปีที่ ๔ ที่พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์แห่งการเรียนรู้ และเผยแพร่วัฒนธรรมการจัดดอกไม้ของไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย รวมทั้งเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ ๖๐ พรรษา ในวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ พร้อมต้อนรับเหมันต  ฤดูที่กำลังจะมาเยือนในอีกไม่ช้านานนี้

พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ จึงจะจัดงานเทศกาลดอกไม้ประจำปี ครั้งที่ ๒ ขึ้น ระหว่างวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ถึง ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๘ ในธีม “เทศกาลชมดอกแวนด้ารับลมหนาว” เพื่อให้ผู้สนใจได้ชื่นชมความงดงามของดอกแวนด้าสายพันธุ์ต่างๆ ซึ่งมีสีสันหลัก คือ สีม่วงซึ่งเป็นสีวันพระราชสมภพ รวมถึงยังมีกิจกรรมเสวนา สาธิต เวิร์คช็อป และงาน     ออกร้านที่ให้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลินในรูปแบบที่หลากหลาย

โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้จัดแถลงข่าวเปิดตัวเทศกาลดังกล่าว นำโดยสกุล อินทกุล นักจัดดอกไม้ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติและผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ สุมาลี ตั้งจิตติ์ศีล ผู้แทนจากจิม ทอมป์สัน หนึ่งในผู้สนับสนุน ภัทรียา ณ นคร เซเลบริตี้สาว พร้อมด้วยเน็ต ไอดอลคนดัง กาลเวลา เสาเรือน โดยมีผู้แทนจากอีก ๕ องค์กรสนับสนุน ได้แก่ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์,  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กรุงเทพมหานคร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และ JIM THOMPSON เข้าร่วมเป็นเกียรติ อีกทั้งยังมีการจัดแสดงตัวอย่างงาน Installation จัดแสดงดอกแวนด้ากับงานหัตถกรรมจักสานไม้ไผ่อีสาน เวิร์คช้อปจัดดอกแวนด้าแบบร่วมสมัย และตัวอย่างงานออกร้านผลิตภัณฑ์จาก “ฟลอร่า มาก๊ะ มาร์เก็ต” ณ พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ ซอยองครักษ์ ๑๓ ถนนสามเสน ๒๘

สกุล อินทกุล ศิลปินนักจัดดอกไม้ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติและผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้กล่าววัตถุประสงค์ในการจัดเทศกาลดอกไม้ ครั้งที่ ๒ ว่า “ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ ๔ ของพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ ซึ่งตรงกับปีมหามงคล เนื่องในโอกาสสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามมกุฎราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา ในวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติในวาระมงคลนี้ จึงตั้งใจเลือกดอกไม้ที่มีสีม่วงซึ่งเป็นสีวันพระราชสมภพของพระองค์ท่าน คือแวนด้า ซึ่งเป็นกล้วยไม้สกุลหนึ่งที่ออกดอกเต็มที่ในช่วงปลายปี และตรงกับช่วงเวลาจัดงานเทศกาลดอกไม้ในปีนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ถึง ๑๓ ธันวาคม โดยได้รวบรวมแวนด้าหลายสายพันธุ์ทั้งสีม่วง และสีชมพู ประมาณ ๒๐-๓๐ ชนิด รวมทั้งแวนด้าสายพันธุ์อื่นๆ ที่หาชมได้ยากนำมาแสดงในงานนี้ด้วยอาทิ ฟ้ามุ่ย ซึ่งเป็นแวนด้าพันธุ์พื้นเมืองของภาคเหนือ เป็นต้น

“ธีมงานนิทรรศการครั้งนี้จะเป็นการจัดวางดอกแวนด้ากับงานหัตถกรรมจักสานไม้ไผ่อีสาน ในรูปแบบ Installation Art ประดับประดาทั่วบริเวณพิพิธภัณฑ์ฯ เช่น ชิ้นงานอุโมงค์ดอกไม้ขนาดใหญ่ระหว่างทางเชื่อมสู่บริเวณสวน ที่จะสร้างความตื่นตาและมั่นใจว่าจะเป็นแลนด์มาร์คที่ผู้เข้าชมจะได้บันทึกภาพสวยๆ เป็นที่ระลึกหรือโพสต์ให้เพื่อนฝูงได้ชื่นชมกันแน่นอน นอกจากนี้ยังจะมีกิจกรรมสนุกๆ มากมาย ทั้งการสาธิตจัดดอกไม้ทุกวันเสาร์, เวิร์คช็อปการจัดดอกไม้, การวาดรูปด้วยสีดอกไม้ รวมทั้งได้รับสาระความรู้เกี่ยวกับพืชพันธุ์ดอกไม้ต่างๆ จากกิจกรรมเสวนาในหัวข้อต่างๆ ที่จัดขึ้นเป็นพิเศษในปีนี้ โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านดอกไม้และผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในแวดวงศิลปะ สถาปัตยกรรม และฮวงจุ้ย ร่วมแบ่งปันความรู้ที่น่าสนใจ เช่น ฮวงจุ้ยดอกไม้ไขพลังจักรวาลเสริมพลังปีวอก โดยกชกร พรมไชย,ลวดลายดอกไม้ในงานสถาปัตยกรรมไทย โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์พงศกร ยิ้มสวัสดิ์ และเพื่อเอาใจนักช้อปในสัปดาห์สุดท้ายก่อนปิดเทศกาล จะมีการออกร้านในชื่อ “ฟลอร่า มาก๊ะ มาร์เก็ต” เพื่อจำหน่ายงานฝีมือและงานหัตถกรรมต่างๆ ระหว่างวันที่ ๒๑ – ๒๒ พ.ย. และ ๑๐ . ๑๓ ธ.ค. ด้วย”

ศิลปินนักจัดดอกไม้ชื่อดัง บอกแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน ที่เริ่มต้นจากภาพร่างในความคิด แปรเป็นภาพวาด และทดลองทำเป็นต้นแบบเป็นโครงสร้างจริงๆ ขึ้นมา เพื่อจะได้รู้ปัญหาและอุปสรรค นำไปสู่การปรับปรุงให้ชิ้นงานสวยและสมบูรณ์ที่สุด  พร้อมกล่าวถึงคอนเซ็ปต์ในการนำงานหัตถกรรมจักสานไม้ไผ่ของภาคอีสานมาออกแบบเพื่อใช้ในการประดับตกแต่งร่วมกับแวนด้า ว่า “ไม้ไผ่ เป็นวัสดุธรรมชาติที่นอกจากแสดงถึงความเป็นเอเชียแล้ว ยังสามารถนำมาประยุกต์เป็นงานโครงสร้างสถาปัตยกรรมในรูปแบบต่างๆ ได้ เช่น อุโมงค์ไม้ไผ่  ที่มีความแข็งแรงสามารถคงรูปอยู่ได้เป็นปี หรือการใช้สุ่มจับปลามาเรียงต่อกันเป็นแนวยาว ซึ่งสามารถนำมาแขวนหรือวางราบกับพื้น ก็เป็นการตกแต่งอีกรูปแบบหนึ่งที่สวยแปลกตา หรือนำงานจักสานไม้ไผ่ที่ใช้ในชีวิตประจำวันตามชนบท ไม่ว่าจะเป็น จ่อ (สำหรับเลี้ยงไหม) สุ่มไก่ รังไก่     ไซดักปลา หรือ ลูกหวาย ที่ใช้เล่นกีฬาตะกร้อ ก็สามารถนำมาสร้างสรรค์ร่วมกับดอกแวนด้าได้อย่างลงตัว สำหรับคุณลักษณะพิเศษของแวนด้าคือ เป็นดอกหน้าเดียว ดังนั้นจึงสามารถนำมาออกแบบ Installation ให้ดูโมเดิร์นได้เป็นอย่างดี โดยแยกเป็นดอกเดี่ยวๆ แล้วจัดประกอบให้เป็นงานศิลปะจัดวางที่จะได้ความแปลกตา ซึ่งผลงาน Installation จะจัดตามจุดต่างๆ กระจายทั่วบริเวณงาน”

พร้อมกันนี้ สกุล ได้ให้คำแนะนำในการการดูแลกล้วยไม้แวนด้าให้ผลิดอกสวยงาม ว่า  “อากาศร้อนชื้นแบบเมืองไทยเหมาะสมในการปลูกแวนด้า บางคนมักคิดว่ากล้วยไม้หรือเฟิร์น ไม่ชอบแสง ต้องอยู่แต่ในที่ร่ม ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด แต่ต้องแสงแดดพอดี อุณหภูมิเหมาะสม ให้น้ำและใส่ปุ๋ยบำรุงให้พอดี เมื่อเข้าหน้าหนาวแวนด้าจะออกดอกสวยเต็มที่”

ด้าน ภัทรียา ณ นคร เซเลบริตี้สาวสวย  เผยความประทับใจจากที่เคยร่วมกิจกรรมกับพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้เมื่อปีที่ผ่านมา ว่า “พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ เปิดรับสำหรับทุกคน ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านใดเป็นพิเศษ แค่มีความรักในดอกไม้ และผู้หญิงกับดอกไม้เป็นของคู่กัน รวมทั้งทำให้ชีวิตสดใส สดชื่น จึงอยากให้ดอกไม้บานในจิตใจของทุกคน นอกจากมาสัมผัสความงดงามของดอกไม้แล้ว ในงานครั้งนี้ยังมีเวิร์คช็อปมากมาย ทั้งการจัดดอกไม้ ปักผ้า และเสวนาน่าสนใจต่างๆ ขอเชิญชวนทุกๆ คนให้ลองมาเที่ยวชม เพราะนอกจากตื่นตากับความสวยงาม และความเพลิดเพลินใจแล้ว ยังได้ความรู้ อาจได้ทักษะใหม่ๆ ติดตัวเป็นความสามารถพิเศษส่วนตัวกลับไปด้วย”

เตรียมมาชื่นชมความงดงามของดอกแวนด้าสวยสะพรั่ง หลากสายพันธุ์อย่างเพลิดเพลินใจ ในงาน เทศกาลชมดอกแวนด้ารับลมหนาวซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ถึง ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๘

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ : พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้