ถามใจให้แน่ ถ้าคิดจะใช้ App ตาม “จิก” ชีวิตเขา

account_circle

ยุคมือถือสุดล้ำครองเมืองแบบนี้ ขาดไม่ได้กับแอปลิเคชั่นเจ๋งๆ ที่คนหัวดีคิดค้นมาให้สาวกสังคมก้มหน้าได้เลือกใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นแอปฯ ประเภทตามติดชีวิตคุณแฟนทั้งหลายที่ทำเอาสาวๆ ตาลุกวาว เพราะพวกเธอสามารถตามติดแฟนหนุ่มได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน แอปฯ ที่ว่าก็เป็นเสมือนมือขวาช่วยสะกดรอยตามได้อย่างแม่นยำเพียงแค่มีอินเตอร์เน็ตติดเครื่อง

ขณะที่สาวๆ รู้สึกว่าถือไพ่เหนือกว่าแน่แล้วงานนี้ หนุ่มๆ กำลังตาหลุบต่ำพร้อมอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะรู้สึกเหมือนเป็นเหยื่ออันโอชะที่กำลังถูกตามล่า ไอ้ครั้นจะไม่ยอมรับการ “invite” เธอก็จะน้อยใจ เสียใจ หาว่าเขาไม่จริงใจ ตั้งใจจะออกนอกลู่นอกทาง จึงไม่แปลกเลยที่แอปฯ ประเภทนี้ทำให้คู่รักทั้งเลิฟและเลิกกันมาหลายคู่

หากคุณอยากจะใช้แอปฯ นี้หรือกำลังใช้อยู่ มาดามขอให้ตั้งสติทบทวนและถามตัวเองว่า…

  • ยอมรับได้จริงหรือที่จะโดนตามติดไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เพราะอย่าลืมนะจ๊ะสาวๆ เมื่อคุณตามเขาได้ เขาก็ตามคุณได้เหมือนกัน แถมความสามารถของแอปฯ พวกนี้ยังมากล้นเพราะมันไม่ได้บอกแค่ว่า เขาอยู่ที่ไหนของโลก แต่ยังมาพร้อมเส้นทางที่เขาหรือเธอเดินทางไปยังตำแหน่งนั้นได้สบายๆ คุณพร้อมจะแฟร์ๆ กับเขาป่ะล่ะ
  • แน่ใจหรือว่าจะรับมือกับความจริงที่ปรากฏได้ทุกอย่าง เพราะถ้าแอปฯ นี้ช่วยชี้ทางสว่างว่าคนดีของคุณไม่ได้ดีจริงอย่างที่ปากว่าล่ะ คุณพร้อมจะรับความผิดหวังนั้นได้แค่ไหน รวมถึงมีทางออกให้กับความรู้สึกแย่ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างไร
  • พร้อมจะเอาความไว้วางใจระหว่างคนสองคนมาฝากไว้กับแอปฯ นี้จริงอ่ะ
  • แอปฯ แสนกลมาพร้อมกับกรอบแห่งการจำกัดอิสรภาพที่ก่อขึ้นโดยไม่รู้ตัว คำถามคือ พร้อมจะอยู่ในกรอบที่ว่าจริงหรือ
  • คุณห่วงเขาด้วยความจริงใจหรือแค่ต้องการจับผิด หากคุณใช้เพื่อที่จะรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ปลอดภัยหรือเปล่า มาดามสนับสนุนสุดฤทธิ์ให้โหลดมาใช้ แต่ถ้าคุณต้องการใช้เพื่อจับผิดเขาเป็นหลัก มาดามคิดว่า นี่จะเป็นชนวนแห่งความแตกร้าวได้อย่างแน่นอน เพราะสาวๆ รักด้วยอารมณ์ผสมหัวใจ ส่วนหนุ่มๆ น่ะ เขารักด้วยหัวใจผสมเหตุผลนะจ๊ะ

สุดท้ายนี้ มาดามขอย้ำว่า แอปฯ ดีๆ น่าสนใจมีเพียบ อยู่ที่คุณมั่นใจแค่ไหนว่าจะใช้ให้เกิดสิ่งดีๆ ในชีวิต และที่สำคัญ ชีวิตคู่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแอปฯ เจ๋งๆ แต่อยู่ที่ใจดีๆ ที่มีให้กันต่างหาก ถ้าคุณใช้ให้เป็นใช้ให้ดี ชีวิตรักดีๆ รออยู่ข้างหน้าแน่นอน

อ้อ…ใครที่คิดถึงเรื่องหวือหวา รับรองได้ว่า สัปดาห์หน้ามาแน่ จะซี๊ดซ๊าดแค่ไหน โปรดติดตาม

ภาพ : division.dwr.go.th / petchss.blogspot.com

‘ปั้น-จิรภัทร’ แบ็คแพ็คเกอร์ผู้หลงเสน่ห์สิงคโปร์เข้าอย่างจัง จะพาเที่ยวใน Passion ใหม่

Alternative Textaccount_circle
สิงคโปร์ ประเทศที่แม้จะเป็นเพียงจุดเล็กๆ บนแผนที่โลก แต่กลับได้ชื่อว่าเป็นประเทศต้นแบบของการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ในวันนี้ สิงคโปร์กลายเป็นเมืองแห่งอนาคตที่เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจ และเทคโนโลยีชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถึงแม้มุมมองจากคนภายนอกอาจมองว่าสิงคโปร์เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างแมนเมด หากประเทศนี้กลับมีเรื่องราวน่าสนใจที่รอให้ทุกคนมาสัมผัสด้วยตัวเองมากกว่านั้น

คุณปั้น จิรภัทร พัวพิพัฒน์ แบ็คแพ็คเกอร์หนุ่มเจ้าของเพจ The Walking Backpack ผู้ที่มีโอกาสไปศึกษาและทำงานอยู่ที่สิงคโปร์เป็นเวลานาน เป็นอีกคนที่หลงเสน่ห์ประเทศสิงคโปร์เข้าอย่างจัง มุมมองด้านการเดินทางของคุณปั้น คือการค้นหาแรงบันดาลใจผ่านสถานที่ใหม่ๆ และผู้คนที่เขาพบเจอ บวกความรักในการท่องเที่ยวเป็นทุน ทำให้คุณปั้นมักจะนำประสบการณ์ของตัวเองมาถ่ายทอดให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมด้วยอยู่เสมอ และใครก็ตามที่ได้สัมผัสเรื่องราวของเขา ก็แทบจะอดใจตามรอยการเดินทางของคุณปั้นไม่ได้

สิงคโปร์จากมุมสูง

เที่ยวสิงคโปร์ทั้งที ใครๆ ก็อยากจะไปชมวิวมุมสูงของสิงคโปร์จากตึกระฟ้า ไม่ว่าจะเป็น Sands SkyPark ทบนตึกชื่อดังอย่าง Marina Bay Sands หรือบาร์เก๋ๆ อย่าง 1-Altitude ณ One Raffles Place และ LeVeL33 แต่ The Walking Backpack ได้บอกกับเราว่า ยังมีอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวมุมสูงบนดาดฟ้าชั้น 50 จาก ตึก Pinnacle@Duxton  ความพิเศษของที่นี่ คือมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวของสิงคโปร์แบบสวยสุดๆ ที่น้อยคนนักจะรู้ และด้วยความที่เป็นอาคารที่พักอาศัย (HDB) ทำให้ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวมาก ดังนั้นหากใครสนใจ ก็ต้องไปหาซื้อตั๋วที่ตึกหลังเซเว่น อีเลฟเว่นเท่านั้น!

Chye Seng Huat Hardware
สัมผัส Coffee Culture แบบแนวๆ

ย่านจาลัน เบซาร์ (Jalan Besar) อีกหนึ่งย่านฮิตที่ได้รับความสนใจมากในช่วงที่ผ่านมา เพราะนอกจากจะเต็มไปด้วยสตรีทอาร์ตสีสันสดใสเหมาะกับสายฮิปแล้ว คุณปั้นบอกกับเราว่า ย่านนี้ยังมีคาเฟ่เก๋ๆ แฝงอยู่ตามตรอกซอกซอยมากมาย อาทิ Chye Seng Huat Hardware สาเหตุที่คาเฟ่แห่งนี้มีชื่อเหมือนร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง ก็เพราะว่าร้านนี้ถูกดัดแปลงมาจากร้านขายสินค้าฮาร์ดแวร์ ภายใน Chye Seng Huat Hardware โปร่งโล่ง และตกแต่งในสไตล์อินดัสเตรียล ซึ่งนอกจากกลิ่นกาแฟคั่วสดใหม่ที่อบอวลไปทั่วบริเวณแล้ว ผู้มาเยือนยังสามารถจับจองที่นั่งติดบาร์เปิดโล่ง ที่พวกเขาจะมีโอกาสจิบเครื่องดื่มคู่กับเบเกอรี่แสนอร่อย และชมเหล่าบาริสต้าที่ตั้งใจทำเครื่องดื่มกันอย่างขะมักเขม้นในเวลาเดียวกัน ส่วนใครที่อยากทานอาหารเช้าสไตล์สิงคโปร์ ลองแวะไปที่ร้าน Sin Hoe Huat Café พร้อมจิบกาแฟและทานคายาโทสต์ในบรรยากาศแบบย้อนยุคก็เป็นไอเดียที่เก๋ไม่น้อย

สิงคโปร์ ป่าในเมือง

สำหรับนักสำรวจเมืองที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศไปอยู่กับธรรมชาติบ้าง สิงคโปร์คือสวรรค์สำหรับคุณ เพราะจากการศึกษาของ Massachusetts Institute of Technology (MIT) และ the World Economic Forum (WEF) จัดอันดับให้สิงคโปร์เป็นเมืองที่มีพื้นที่สีเขียวมากที่สุดในโลกท่ามกลางความเจริญของเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสวยล้ำสมัย ดีไซน์แปลกตา แต่ที่นี่กลับมีพื้นที่สีเขียวสำหรับชีวิตคนเมืองที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายแฝงอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Kranji Marshes แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติใหม่ล่าสุด ที่ถึงแม้จะต้องออกไปนอกเมืองสักหน่อย แต่ก็เหมาะกับผู้ที่ชอบส่องนก หรืออีกหนึ่งสถานที่ไฮไลท์ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าไรคือ เชคจาวา (Chek Jawa) พื้นที่สีเขียวซึ่งถูกค้นพบโดยบังเอิญในฝั่งตะวันออกของเกาะปูเลา อูบิน (Pulau Ubin) เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของสิงคโปร์ที่ยังไม่มีถนนเชื่อมต่อไปถึง ที่นี่เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในสิงคโปร์และเต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์นานาชนิด นอกจากจะต้องนั่งเรือข้ามฟากไปแล้ว นักท่องเที่ยวต้องอาศัยการปั่นจักรยานและเดินเท้า หรือถ้าใครต้องการชมพันธุ์ไม้และชีวิตสัตว์ทะเลอย่างใกล้ชิด การเดินบนไม้กระดานที่ลัดเลาะไปตามชายฝั่งก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ และที่พลาดไม่ได้กับการขึ้นไปชมวิวหอสังเกตการณ์เจจาวี(Jejawi Tower) ที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์จากความสูง 21 เมตรได้อย่างชัดเจน

แต่เรื่องราวของสถานที่แห่งนี้กลับน่าสนใจยิ่งกว่านั้น เพราะหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังการอนุรักษ์ธรรมชาติเหล่านี้ไม่ให้ถูกรุกราน นั่นก็คือ Subaraj Rajathurai ชาวสิงคโปร์ที่มีใจรักในธรรมชาติ ผู้เป็นดังกระบอกเสียงที่ให้ทุกฝ่ายช่วยรักษาระบบนิเวศในสิงคโปร์ให้ยังคงอยู่

ในสิงคโปร์ คุณมีทั้งโรงแรมระดับห้าดาวและป่าดงดิบที่อยู่ห่างออกไปเพียงแค่ 20 นาที ประเทศสิงคโปร์เป็นเสมือนประตูสู่เอเชีย พอๆ กับการเป็น ประตูสู่ธรรมชาติ’” Subaraj กล่าว

นอกจากนั้น เขาผู้นี้ยังเป็นคนตั้งชื่อ เซาเทิร์น ริดจ์ (Southern Ridges)  ที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันดีว่าเป็นเส้นทางธรรมชาติที่ทอดยาวกว่า 10 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ของภูเขาบางส่วน และประกอบไปด้วยพื้นที่สีเขียว อาทิ เมาท์เฟเบอร์ พาร์ค ทีล็อค บลังกา ฮิลล์พาร์ค ฮอร์ทพาร์ค เคนท์ริดจ์ พาร์ค และเขตอนุรักษ์ธรรมชาติลาบราดอร์ นอกจากพื้นที่นี้จะเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้ท้องถิ่นและสัตว์นานาชนิดแล้ว ยังมี Alexandra Arch สะพานรูปทรงคล้ายใบไม้ ที่เปลี่ยนสียามค่ำคืนมาเป็นจุดขายอีกอย่างหนึ่ง เรียกได้ว่าเป็นมุมถ่ายรูปไม่ซ้ำใครอีกมุมหนึ่งเลยทีเดียว

ซึ่งความรักและทุ่มเทของนักอนุรักษ์ธรรมชาติชาวสิงคโปร์รายนี้ต้องย้อนไปตั้งแต่ตอนเขาไปเที่ยวชม เขตอนุรักษ์ธรรมชาติ บูกิต ติมาห์ โดยตอนนั้นเขาเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มอายุ 18 ปีเท่านั้น ด้วยความหลงใหลในกิจกรรมเดินป่า การดูนก และระบบนิเวศที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางเมืองใหญ่ เขาจึงผันตัวเองมาเป็นไกด์ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และเป็นเวลากว่า 35 ปีแล้วที่เขาสามารถนำเอาความรู้ และชอบของตัวเองออกมาสร้างแรงบันดาลใจ และนำเสนอสิงคโปร์ในมุมมองใหม่ให้แก่นักท่องเที่ยวได้อย่างน่าสนใจ

สิงคโปร์เป็นมากกว่าสถานที่ท่องเที่ยว แต่ที่แห่งนี้ความเป็นเมืองถูกหลอมรวมเข้ากับธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ได้อย่างไร้ที่ติ และเต็มไปด้วยเรื่องราวลึกซึ้งที่สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณและตัวตนของสิงคโปร์อยู่มากมาย ที่รอให้ผู้มีความหลงใหลและชื่นชอบในสิ่งเดียวกันมาสัมผัสด้วยตัวเอง ดังแบรนด์แคมเปญใหม่ของการท่องเที่ยวสิงคโปร์ “Passion Made Possible : ทุกความชอบที่ใช่ เป็นไปได้ที่สิงคโปร์

 

5 กิจกรรมเพิ่มความสนุกที่ซุ้มถ่ายรูปหน้างานแต่ง

account_circle

คงไม่มีบ่าวสาวคู่ไหนที่อยากให้งานแต่งของตัวเองน่าเบื่อหรอกจริงไหมคะ ทุกคู่ต่างพยายามสรรหากิจกรรมมาทำให้งานแต่งของตัวเองคึกคัก แต่ถ้ายังคิดไม่ออก เราจัด 5 กิจกรรมเด็ดๆ ที่สนุกกว่าแค่ยืน ถ่ายรูปหน้าแบ็กดร็อป ที่มาให้เป็นทางเลือกเพิ่มสีสันในงานแต่งแล้วค่ะ

1. ปริ้นท์ภาพจาก IG

Atlanta Wedding Photographer | LeahAndMark & Co. | The Foundry at Puritan Mill

ยกเครื่องปริ้นท์มาไว้หน้างาน รอปริ้นท์ภาพรัวๆ จากแขกในงานที่โพสต์รูปติดแท็กทางหน้า IG งานนี้นอกจากคุณแขกจะเพลินเพลิดกับการถ่ายรูปแล้ว ยังขยันติดแฮชแท็กให้บ่าวสาวได้ภาพบรรยากาศงานเลี้ยงของตัวเองไปอีกเพียบแบบไม่ต้องพึ่งช่างภาพหลักเลย

2. Social Touch

photo-booth-wedding-touch-screen

กิจกรรมเก๋ๆ ที่ถ่ายรูปปุ๊บ เราก็สามารถบรรเลงรูปภาพ จะเขียนถ้อยคำ หรือว่าตกแต่งภาพให้ตลกเฮฮาแค่ไหนก็ได้ผ่านจอทีวีที่หน้างาน ก่อนสั่งปริ้นท์ออกมาเป็นของชำร่วยให้แขกเอากลับไปเป็นที่ระลึก 🙂

3. วาดรูปเหมือนในไอแพด

2419

เมื่อก่อนการวาดรูปเหมือนลงกระดาษเป็นอะไรที่ฮอตฮิตสุดๆ แต่นี่ปี 2016 กำลังจะลาจาก งานแต่งครั้งเดียวของเราจะมาเขียนลงกระดาษให้กาลเวลากัดกินกลายเป็นกระดาษเก่าๆ ในวันข้างหน้าไม่ได้อีกแล้ว เปลี่ยนมาเขียนลงบนไอแพดเท่กว่าเป็นไหนๆ แถมวาดปุ๊บก็ส่งไฟล์ปั๊บ บรรดาแขกเหรื่อจะอัพลงไอจี เฟซบุ๊กก็แสนง่าย หรือจะปริ้นท์ออกมาเป็นต่อนๆ เลยก็สะดวกดี

4. พร็อพสนุกหน้างาน

photo-booth-wedding-package

ข้อนี้ไม่ต้องไฮเทคโนโลยีมากขอแค่มีใจสร้างสรรค์ก็พอ งานธีมอะไรก็ทำพร็อพเก๋ๆ ให้เข้ากับงานมาอย่าได้ขาดทั้งหน้ากาก ชุดคอสเพลย์ ตุ๊กตุ่นตุ๊กตา รับรองว่าแขกเล่นกันสนุกสนานไม่มีหงอยแน่ๆ

5. ถ่ายรูปสร้าง GIF

ถ่ายรูปหน้าแบ็กดร็อป

GIF ก็คือไฟล์ภาพดุ๊กดิ๊กที่เราชอบส่งหากันในโซเซียลเน็ตเวิร์คนั่นแหละ แต่คราวนี้เราจะให้แขกสร้างไฟล์ GIF ของตัวเองขึ้นมา โดยการถ่ายรูป 3 แอ็ค ก็จะได้รับทั้งภาพนิ่งที่ปริ้นท์ออกมา และไฟล์ภาพพร้อมลงอวดเพื่อนฝูงทางอีเมล์ งานเนี่ยก็จะได้เห็นภาพดุ๊กดิ๊กว่อนทั้งงานแน่ๆ

5  กิจกรรมเด็ดเหล่านี้จะทำให้การถ่ายรูปหน้าแบ็กดร็อปกลายเป็นเรื่องสนุกสนาน แถมแขกก็ได้รูปที่น่าประทับใจกลับไปบ้านอีกด้วย

ขอบคุณภาพจาก BrideBox Pro, Footprint Studios, A Practical Wedding, photosnapfun.com, Sternberg Clarke, sixsheet.me

 

‘สวยขาวใสถอยไปก่อน วันนี้ขอสายแบ๊ด!!!’ เช็คเลย ดวงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2560

ดูดวงรายวัน ประจำวันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2560 เช็คทุกวัน ทันทุกดวงกับ แพรว ดอทคอม

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  ท่านจะได้รับแต่งตั้งให้ทำงานในตำแหน่งที่สูงขึ้น อย่าไปใส่ใจกับคนรอบข้างมาก เพราะธรรมดางานท่านก็เยอะอยู่แล้ว แถมยังต้องไปช่วยเหลือคนอื่นด้วย ที่สำคัญไม่ได้เห็นความดีท่านอีก

การเงิน : มีใช้ แต่ไม่เหลือเก็บ คงต้องเก็บเงินบ้าง

ความรัก : วันนี้อาจมีเรื่องมือที่สามเข้ามาให้ท่านเกิดความระแวง ขาดความมั่นใจ จนสถานการณ์อยู่ในสภาพอึดอัด อยากคุย อยากระบาย พยายามเปิดใจกันหน่อย คนโสด หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานการณ์ที่จำยอม แค่คบกันไม่จำเป็นต้องยอมขนาดนั้นก็ได้ ต้องคุยกันจะได้ไม่อึดอัดใจ

สุขภาพ :  จะเดือดร้อนโดยมีสาเหตุมาจากน้ำ เช่น น้ำร้อนลวก หรือน้ำย่อย

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : มีเรื่องยุ่งๆ จากเรื่องของคนอื่น อาจมีปากเสียงกับเพื่อนร่วมงาน ทำให้ทำงานไม่สนุก เครียดทั้งวัน พยายามปล่อยวาง เดี๋ยวก็จะผ่านไป

การเงิน  : มีรายจ่ายจรเข้ามาทำให้ต้องเสียเงินโดยไม่คาดหมาย

ความรัก :  วันนี้ภาวะผู้นำอาจตกอยู่ที่ภรรยา เพราะช่วงนี้ดวงสามีอาจไม่ค่อยดีเท่าที่ควร หากท่านเป็นภรรยาก็ต้องช่วยเสริมและให้กำลังใจด้วย คนโสด อย่ามั่นใจในตัวเองสูงนัก เพราะอาจอกหักได้

สุขภาพ : ระวังหกล้ม กล้ามเนื้อบาดเจ็บ กล้ามเนื้อกระดูก และเส้นเอ็นต่างๆ โดยเฉพาะช่วงขาและหลัง

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  : ท่านที่ทำงานด้านการตลาด หรือการขาย จะมีการบุกเบิกตลาดใหม่ๆ จะได้รับผลตอบแทนสูง ประสบความสำเร็จ ได้รับการชื่นชมจากผู้ใหญ่

การเงิน :  มีโชคลาภเข้ามาบ้าง แต่ท่านก็อยากใช้โน่นนี่

ความรัก :  วันนี้อาจมีปัญหายุ่งยาก เพราะพื้นดวงไม่ค่อยสามัคคีกันอยู่แล้ว บางคู่ก็อยู่กันด้วยหน้าที่ ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง แต่หากอารมณ์ยังบ่จอย ต่างคนต่างอยู่กันก่อนก็ดีเหมือนกัน คนโสด มีคนมารุมจีบเยอะ เพอร์เฟ็คท์สมบูรณ์ท่านไม่ค่อยชอบ ชอบแบบแบดๆ ตื่นเต้นเร้าใจดี

สุขภาพ :  ระวังเรื่องช่องท้องเป็นพิเศษ กับเรื่องของกรดไหลย้อน

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :  จะเกิดปัญหาทางด้านพนักงาน ท่านต้องเรียกมาอบรม ชี้แจงกฎเกณฑ์ในการทำงานบ้าง เพราะพนักงานบางคนมีความประพฤติไม่ค่อยดี ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ของบริษัท

การเงิน : หลีกเลี่ยงการเซ็นค้ำประกัน เพราะท่านอาจต้องแบกรับหนี้สินโดยใช่เหตุ

ความรัก : วันนี้ความคิดเห็นไม่ลงรอยกัน จนอาจต้องใช้กฎหมายมาช่วยตัดสินใจ ป้าอยากบอกว่าคนเคยรักกัน คุยกันดีๆ ก็ได้ ไม่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลให้เป็นเรื่องใหญ่โตหรอก คนโสด เหมือนจะสมหวังบ้าง ได้พบเจอคนที่ดี

สุขภาพ : พยายามทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะ งดแป้ง ไขมัน น้ำตาล

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน :  ท่านอาจมีอีเว้นท์เฉลิมฉลอง อาจได้ทำงานใหม่ ตำแหน่งใหม่ หรือเจ้านายใหม่ ได้รับอะไรใหม่ๆ ทำให้ท่านเกิดความกระตือรือล้น มีไฟในการทำงานเลยเชียว

การเงิน :  ผู้ใหญ่ให้ลาภ

ความรัก : วันนี้ทุกอย่างเคลียร์ ทั้งการงาน การเงิน แฮปปี้จนอาจมีฮันนีมูนรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ คนโสด อย่าคาดหวังสูง เพราะความแน่นอนคือความไม่แน่นอน

สุขภาพ : อุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ เลือดตกยางออก เดินชนนั่นนี่

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : ท่านอาจถูกเอ่ยปากฝากคนเข้าทำงาน ดูดีๆ อย่าเชื่อใจใครมาก เพราะอาจมีเรื่องกฎหมายตามมา

การเงิน : หาไม่ทันใช้ ต้องพยายามใจแข็งและขี้เหนียวจะได้เหลือเงินเก็บ

ความรัก :  วันนี้คู่ท่านโกรธกันนานไปหรือเปล่า ควรรีบประสานรอยร้าวให้เร็ววัน ไม่ควรปล่อยให้นานวันไป เพราะอาจหลุดวงโคจรกันไปเลย คนโสด  ท่านอาจต้องไปทำงานไกลกัน ทำใจไว้หน่อย รักแท้แพ้ใกล้ชิดเป็นจริง

สุขภาพ  : ระวังเรื่องกระเพาะอาหาร และลำไส้ พยายามทานอาหารให้ตรงเวลา

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน :  งานที่ถาโถมเข้ามา พยายามกระจายงานให้คนอื่นหรือลูกน้องช่วยกันรับผิดชอบ เพราะไม่อย่างนั้นท่านจะรับทั้งขึ้นทั้งล่อง

การเงิน : ใช้จ่ายเยอะ เพราะคนรอบข้างอาจเจ็บป่วย

ความรัก :  วันนี้ท่านเริ่มพูดกันดีขึ้น แต่ในใจยังมีรอยบาดหมางอยู่ ก็คุยกันให้รู้เรื่องไปเลยดีกว่า คนโสด ยังไม่เจอคู่ เจอแต่งาน รอไปสักพัก

สุขภาพ : ระวังภูมิแพ้ ไปไหนเจอแดดร้อนๆ อาจมีเป็นลมวูบได้

มาอวดหุ่นเป๊ะกับ 20 ชุดแต่งงานทรงเมอร์เมดกันเถอะ

account_circle

หุ่นเป๊ะแล้วอยากโชว์ หุ่นดีแล้วอยากอวดฟังทางนี้ เพราะเรามีแบบชุดเจ้าสาวที่เหมาะกับสาวหุ่นดีมาฝากกกันค่ะ บอกก่อนเลยว่าชุดนี้เนี่ยใส่ไปแล้วได้โชว์สัดส่วนเต็มๆ ตา รับรองว่าเจ้าบ่าวเห็นแล้วต้องตะลึง เมื่อคุณสวม ชุดแต่งงานทรงเมอร์เมด

ชุดแต่งงานทรงเมอร์เมด (Mermaid) หรือชุดแต่งงานหางปลา มองดูเผินๆ แล้วเหมือนเงือกสาวแสนสวยก็เลยกลายมาเป็นที่มาของชื่อทรงชุดแบบนี้ไงล่ะค่ะ ลักษณะของกระโปรงตั้งแต่เข่าลงไปจะบานออกเหมือนหางของนางเงือก เป็นชุดที่เน้นรูปร่างทรวดทรงโชว์ทุกสัดส่วนอย่างชัดเจนทั้ง อก เอว และสะโพก ชุดแต่งงานทรงนี้จึงเหมาะมากสำหรับเจ้าสาวที่มีรูปร่างสูง หุ่นกี ประมาณว่าอกเป็นอก เอวเป้นเอว แบบนั้นล่ะค่ะ  ซึ่งถ้าคุณเป็นสาวมั่น แม้จะไม่สูงก็เลือกชุดทรงนี้ได้เหมือนกัน ไม่มีใครว่า เพราะรับรองได้ว่าคุณจะสวยเพอร์เฟคเป็นที่ต้องตาของทุกคนไม่แพ้กับชุดแต่งงานแบบสุ่มฟูฟ่องแน่นอนค่ะ

 

เรื่อง : ณัฐมล

ภาพ : Pinterest

รวมไอเดียจัดงานแต่งใต้แสงเทียนสุดโรแมนติก

account_circle

ถ้าพูดถึงเรื่องการตกแต่งสถานที่ให้มีบรรยากาศเต็มไปด้วยความโรแมนติกนั้น นอกจากสร้างบรรยากาศด้วย ดอกไม้นานาชนิดแล้ว สิ่งที่พลาดไม่ได้และเป็นไอเท็มสุดคลาสสิกมาหลายยุคหลายสมัยเลยก็คือ ไอเดียจัด งานแต่งใต้แสงเทียน ค่ะ

เพียงแค่คุณรู้จักจัดวางในรูปแบบต่างๆ แล้วก็ทำการตกแต่งด้วยการใช้ดอกไม้ ขวดโหล หรือตกแต่งภาชนะใส่เทียนให้ดูเข้ากับธีมของงานก็เป็นอันว่าลงตัวแล้วล่ะค่ะ โดยอาจจะเริ่มตกแต่งกันตั้งแต่ทางเข้าหน้างาน และประดับประดาโต๊ะทานอาหารด้วยเทียนแทนการใช้แสงไฟ หรือห้อยตามกิ่งไม้ ก็เป็นอะไรที่โรแมนติกสุดๆ เรามีวิธีการจัดวางเทียนยังไงให้สวยและคลาสสิกมาให้ดูค่ะ ไอเดียนี้สามารถนำไปใช้ตกแต่งวันพิเศษสำหรับคู่รักก็ได้นะคะ

19 20 18 17 12 13 14 15 16 11 10
praewwedding

ยิ่งลับตายิ่งตื่นเต้น 7 สถานที่เปลี่ยนบรรยากาศ เพิ่มรสชาติให้คู่รัก

account_circle

เริ่มเบื่อกับ เซ็กส์ บนเตียงและโซฟากลางบ้านกันแล้วหรือยัง มาเพิ่มรสชาติรักไปพร้อมๆ กับมาดามด้วยการจัดเซ็กส์ในสถานที่แปลกใหม่กันดูไหม บางทีคุณอาจได้บทเรียนสอนเซ็กส์ในแบบที่คาดไม่ถึงจนทำให้อัตราการเต้นของหัวใจทะลุร้อยก็เป็นได้ ก็แหม…มีเซ็กส์ในที่ลับตา ตื่นเต้นดีนะ ไม่เชื่อลองดู

“รถยนต์และลานจอดรถ”

จุดเซ็กส์ลับตาจุดแรกที่เสมือนเป็นห้องส่วนตัวแบบมีล้อที่พาหนุ่มสาววัยอยากรู้อยากเห็นสู่สวรรค์ชั้นฟ้ามาหลายรุ่น ความตื่นเต้นไม่ใช่แค่ต้องลุ้นว่าจะมีใครแอบเกาะกระจกส่องเข้ามาดูไหม แต่มาดามว่าอยู่ที่ความท้าทายในการควบคุมจังหวะรักอัพแอนด์ดาวน์ของคุณทั้งคู่ไม่ให้สะเทือนเลื่อนลั่นจนกลายเป็นรถผีสิง เพราะแม้จะเลือกจุดลับตาคนแต่ถ้ารุนแรงไปอาจเป็นเป้าชี้ชวนให้ใครต่อใครที่ผ่านมาเจอปรี่เข้ามามุงดูก็เป็นได้ ฉะนั้นก่อนแลนด์ดิ้งใส่เบรกมือ อย่าลืมเล็งหาที่จอดปลอดภัย มีความเป็นส่วนตัว คนไม่พลุกพล่านแล้วค่อยบรรเลงเพลงเลิฟ เพราะถ้าสุ่มสี่สุ่มห้าจอดมั่วไม่ใช่แค่โดนล็อกล้อแต่จะพ่วงข้อหาอนาจารเอาได้ง่ายๆ

“ตู้เสื้อผ้า”

แม้จะเป็นตู้เสื้อผ้าในบ้านตัวเอง แต่ถ้าลองพื้นที่แปลกใหม่จะเพิ่มความเร้าใจขึ้นเป็นกอง เพราะกล่องสี่เหลี่ยมแคบๆ ที่มีแต่ความมืดและเต็มไปด้วยเสื้อผ้าเหมือนเป็นกฎข้อบังคับให้คุณได้แนบชิดอย่างเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ยังท้าทายให้คุณต้องครีเอทท่วงท่าที่เหมาะจะนำทางสวรรค์ไปพร้อมๆ กันอีกด้วย แต่ถ้าคุณอยากเพิ่มความตื่นเต้นให้เซ็กส์ในตู้เสื้อผ้า มาดามขอแนะนำให้หาผ้ามาปิดตาอีกฝ่ายแล้วพาเดินไปที่ตู้หรือจะดับไฟทั้งห้องก่อนจะจูงกันมุดเข้าตู้ จะช่วยเพิ่มอารมณ์ลุ้นอีกแบบ อ้อ…แต่อย่าลืมเช็คกลิ่นก่อนมุดด้วยนะว่ากลิ่นดีไม่มีอับ ไม่งั้นหมดอารมณ์กันพอดี

“ดาดฟ้า”

จุดเซ็กส์ลับตาที่ควรจะหาเวลาเหมาะๆ ในช่วงดึกๆ แล้วเริ่มบรรเลงเพลงรักแบบเย้ยฟ้าท้าดิน  แต่ถ้ากลัวว่าจุดลับจะไม่ลับจริงเพราะสภาพบ้านแวดล้อมด้วยเพื่อนบ้านมากมาย ให้หาเต็นท์มากางสร้างบรรยากาศประหนึ่งว่าเที่ยวป่าพิชิตภูกันอยู่ นอกจากการมีเซ็กส์บนดาดฟ้าจะเป็นโอกาสให้คุณได้เปลี่ยนอารมณ์จากเซ็กส์อินดอร์มาสู่เซ็กส์เอ๊าท์ดอร์แล้ว ยังตื่นเต้นท้าท้ายว่าท่าไหนดีมุมไหนเหมาะ รวมถึงบังคับกลายๆ ว่าต้องควบคุมเสียงให้ดี ไม่งั้นมีผู้เข้าชมมากมายแน่นอน

“ลิฟท์โดยสาร”

เริ่มอุ่นเครื่องกันด้วยการออรัลเซ็กส์ให้อีกฝ่ายได้ใจกระเจิงก่อนก็ได้ แต่สำคัญคือต้องจบลงให้ได้ก่อนที่ประตูลิฟท์จะเปิดออก วิธีนี้จะช่วยเพิ่มความตื่นเต้นปนเสียวให้กับคุณได้ลุ้นใจระทึก เพราะเมื่อไหร่ที่ลิฟท์เปิด สวรรค์ค้างทันที ทริคเด็ดที่มาดามขอฝากไว้ก่อนใช้ลิฟท์เป็นประตูสู่สวรรค์ก็คือ อย่าลืมกดขึ้นไปชั้นที่สูงที่สุดเพราะเป็นการต่อเวลาสนุกสุดหรรษาให้ช่วงเวลาของเราสองยาวขึ้นอีกสักนาที และอย่าลืมสำรวจก่อนว่าลิฟท์ตัวนั้นมีกล้องวงจรปิดหรือไม่ คุณคงไม่อยากให้ร.ป.ภ. ช่วยลุ้นด้วยหรอกใช่ไหมล่ะ

“ซอกตึก” ลองนึกดูเล่นๆ ว่าระหว่างที่คุณเดินผ่านตึกสักตึกในช่วงมุมมืดที่แสงสาดไปไม่ถึงกลับมีมือลึกลับกระชากคุณเข้าไปในซอกหลืบที่แคบแสนแคบ จากนั้นจินตนาการต่อสักนิดว่าเมื่อหน้าสวยๆ ของคุณต้องแนบชิดติดกำแพง โดยมีเจ้าของมือลึกลับประกบติดอยู่ด้านหลัง จะเกิดอะไรขึ้นในสเต็ปต่อไป นี่แหละเสน่ห์ของมุมลึกในหลืบลับที่ถือว่าเป็น Public Sex ที่หลายคนฝันหา

“ห้องน้ำตามผับบาร์” สถานที่อโคจรที่นอกจากจะต้องควบคุมเสียงไม่ให้เล็ดลอดออกจากริมฝีปากแล้ว ยังต้องเร่งทำแต้มให้ไวที่สุด เพราะห้องน้ำที่ว่าคือห้องน้ำสาธารณะที่แน่นอนว่ามีคนอีกมากมายต่อคิวใช้บริการ แถมกว่าที่คุณจะควงแขนเข้าไปคู่กันไม่ใช่เรื่องง่าย เสร็จภารกิจจะออกมาก็แสนยาก ยิ่งมีเสียงคนที่อยู่นอกห้องน้ำเร่งเร้ายิ่งเพิ่มความตื่นเต้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ อารมณ์ที่กำลังเร่าร้อนบวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์จะจบลงที่ไหนเป็นไม่ได้นอกจากบทรักเร่าร้อนที่ช่วยผ่อนดีกรีความต้องการ

“บันไดหนีไฟ” ดูเหมือนจะเป็นพื้นที่ปลอดคน แต่ไม่ใช่ที่ปลอดเสียง ตรงกันข้าม กลับยิ่งช่วยสะท้อนเสียงครางของคุณให้ก้องกังวานจนคนที่อยู่ด้านนอกได้ยิน นอกจากนี้ยังมีรอบการตรวจตึกของระบบรักษาความปลอดภัยที่ขอให้เช็คให้ดีก่อนมีเซ็กส์ คุณคงไม่อยากให้ยามมาเจอแล้วตกตะลึงในลีลาอล่างฉ่างใช่ไหม

มาดามขอแนะนำสำหรับมือใหม่อยากลอง ให้เลือกจุดลับตาระดับเบาๆ ที่ตัวเองรับได้และใจกล้าพอ จากนั้นค่อยๆ ขยับความตื่นเต้นขึ้นทีละนิด อ้อ..แล้วอย่าลืมถามความสมัครใจของคนข้างตัวด้วยนะจ๊ะ

เรื่อง : Madam Hong Hern

ภาพ : freepik.com

ค่ำคืนนี้หากเห็นกระทงสีเหลืองลอยตามน้ำคงอดคิดถึง ในหลวงรัชกาลที่๙ ไม่ได้เอย

แม้จะผ่านมากว่าหนึ่งอาทิตย์ นับจากวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่๙ พระผู้เสวยสวรรค์ แต่ค่ำคืนนี้ดวงใจไทยหลายๆ ดวง คงกำลังคิดถึงพระองค์อยู่

ยิ่งหากได้เห็นกระทงสีเหลืองลอยมาตามลำน้ำ อาจทำให้ถึงกับน้ำตาหลั่ง เพราะคิดถึง ในหลวงรัชกาลที่๙ ขึ้นมา

เพราะเมื่อครั้งที่พระองค์ยังทรงมีพระชนม์ชีพ ทรงให้ความสำคัญกับประเพณีลอยกระทงนี้ยิ่งนัก ดังปรากฏภาพพระบรมฉายาลักษณ์ขณะที่พระองค์ทรงลอยพระประทีปให้เห็นอยู่เนืองๆ

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงลอยพระประทีป

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงลอยพระประทีป

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงลอยพระประทีป

โดยเฉพาะห้วงปีหลังๆ ในพระชนม์ชีพ ภาพที่พสกนิกรมักจะได้เห็นคือพระองค์ทรงจุดพระประทีปที่ประดิษฐ์จากขนมปังสีเหลือง ตามวันพระบรมราชสมภพ เป็นรูปกลีบบัวซ้อน 4 ชั้น แซมด้วยดอกกุหลาบทำจากขนมปัง ซึ่งวิทยาลัยในวังหญิง ประดิษฐ์ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฯ จนกลายเป็นภาพจำของปวงชนชาวไทยว่า กระทงสีเหลืองคือพระประทืปประจำพระองค์

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงลอยพระประทีป

ปี 2552 ปีแรกที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จฯแปรพระราชฐานจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐานไปโรงพยาบาลศิริราชเพื่อให้คณะแพทย์ถวายการรักษา ในคืนลอยกระทง 2 พฤศจิกายน พระองค์เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ลงจากอาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 16 โรงพยาบาลศิริราช มายังท่าน้ำภายในโรงพยาบาล เพื่อทรงลอยพระประทีป ในการนี้ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนร่วมเฝ้ารับเสด็จฯ ด้วย

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงลอยพระประทีป

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงลอยพระประทีป

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2555 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงจุดพระประทีปซึ่งยังคงทำจากขนมปังสีเหลือง ที่ลานพลับพลาประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ ๕ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงลอยพระประทีป

เดือนสิงหาคม 2556 ซึ่งเป็นเดือนน่ายินดียิ่งของคนไทย เพราะพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระพลานามัยดีขึ้นกระทั่งทรงสามารถเสด็จฯ ออกจากโรงพยาบาลศิริราช เพื่อแปรพระราชฐานไปประทับ ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล และค่่ำคืนวันที่ 17 พฤศจิกายน 2556 คืนลอยกระทง พระองค์ในฉลองพระองค์เชิ้ตขาว และพระสนับเพลาสีดำ ประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง ที่ทรงสามารถบังคับเองได้ เสด็จฯลง ณ ท่าลัดดา วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทรงประกอบพิธีลอยพระประทีปส่วนพระองค์ ซึ่งทำด้วยขนมปังสีเหลือง และพระประทีป สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ที่ทำด้วยขนมปังสีฟ้า

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงลอยพระประทีป

ทั้งหมดนี้คือภาพที่ประชาชนจดจารจำได้ไม่ลืม #รักล้นเกล้ารัชกาลที่๙ #ธประทับในใจชนตราบนิรันดร์

 

ปังอย่างไทย! เผยโฉมชุดประจำชาติ “เมขลาล่อแก้ว” อย่างสมบูรณ์แบบ มารีญาพร้อมชิงมง MU 2017

สวยปัง อลัง งามแท้ พร้อมสู่จักรวาลแล้ว มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 เผยโฉมชุดเมขลาล่อแก้ว แสดงให้ชาวไทยได้ชมกันในวันนี้ (3 พ.ย. 2560 ) ก่อนเดินทางไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 ในวันที่ 27 พ.ย. 2560 ตามเวลาประเทศไทย ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา

ในที่สุดชุดประจำชาติเมขลาล่อแก้วก็เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งผลงานการออกแบบนี้เป็นของ นายประภากาศ อังศุสิงห์ หรือพี่ผักกาด ดีไซเนอร์ฝีมือฉมัง และส่วนของชุดราตรีผู้ดูแลการออกแบบและตัดเย็บคือ พลพัฒน์ อัศวะประภา หรือ หมู อาซาว่า ดีไซเนอร์แบรนด์ดัง ASAVA

ทั้งนี้การออกแบบชุดต้องปรับให้เข้ากับคาแร็กเตอร์ของมารีญามากที่สุด แต่ก็ไม่ลืมรากเหง้าของความเป็นไทย แสดงตัวตนของผู้หญิงไทยให้ชาวโลกได้เห็น โดยในงานเปิดตัวชุดประจำชาติวันนี้ สาวมารีญามาในชุดรามสูร พร้อมกับลากหุ่นที่สวมชุดเมขลาล่อแก้วออกมาโชว์ความงามด้วย ซึ่งเจ้าตัวจะยังไม่ใส่ชุดประจำชาติให้ได้เห็นกันหรอก ต้องอดใจรอวันประกวด จะได้ตะลึงพรึงเพริดไปตามๆ กัน

โดยชุดเมขลาล่อแก้วนั้น ได้นำคริสตัลชวาลอฟกี้มาใช้ประกอบทั้งหมด 22,000 เม็ด เป็นคริสตัลที่สามารถรีดหรือเย็บติดกับตัวชุดได้ น้ำหนักเบา เมื่อสาวมารีญาใส่และเดินอวดโฉมบนเวทีแล้วจะส่งให้สง่างาม เดินสะดวก ไม่ลำบาก

ซึ่งคริสตัลแต่ละเม็ดใส่ความเป็นไทยเข้าไป ไม่ว่าจะดัดแปลงเป็นทรงเมล็ดข้าว หรือทรงข้าวหลามตัด นอกจากนั้นชุดเมขลาล่อแก้วยังเป็นงานปักมือทั้งหมด ดีไซเนอร์ ทีมงานทุกคนร่วมแรง ร่วมใจกันเพื่อชื่อเสียงของประเทศ และตัวชุดได้ติดไฟ LED ถึง 2,000 ดวง

เห็นชุดประจำชาติก็ทำใจเต้นรัวๆ อยากเห็นสาวมารีญาสวมชุดเมขลาล่อแก้วโชว์ความงามบนเวทีโลกแล้ว แต่ตอนนี้เวลาใกล้เข้ามาทุกที เรามาเอาใจช่วยให้สาวมารีญาคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์ส 2017 มาให้ได้กันดีกว่า บุ๋งบุ๋ง สู้ๆ


 

ภาพ : นายประภากาศ อังศุสิงห์

 

ไปสู่จักรวาลที่แท้ทรู! เผยแล้วชุดราตรีหลักแบรนด์ ASAVA สู้ศึก MU 2017

ไม่ทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ สำหรับชุดราตรีหลักที่แบรนด์ ASAVA เป็นผู้ออกแบบให้กับตัวแทนสาวงามที่จะเป็นตัวแทนไปประกวด Miss Universe 2017ซึ่งในปีนี้ลูกบุ๋ง หรือสาวมารีญา พูลเลิศลาภ ชีก็สวยเจิดจรัสไม่แพ้สาวงามชาติอื่นเหมือนกันนะ

และที่สำคัญสำหรับการไปประกวดเวทีระดับโลก ก็ต้องได้ดีไซเนอร์มือดีมาช่วยสร้างสรรค์ชุดเพื่อใส่ไปประชัน ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นอีกปีที่แบรนด์ไทยอย่าง ASAVA เป็นผู้ออกแบบชุดราตรีหลักสำหรับการประกวด MU 2017 ที่จะเกิดขึ้นในช่วงสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ และก็ได้มีการเปิดเผยพร้อมกับสาวมารีญาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

รายละเอียดของชุดนั้น โครงสร้างได้แรงบันดาลใจมาจากฉลองพระองค์ชุดไทยสไบสองชาย ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ดัดแปลงให้มีความเป็นสากลด้วยการใช้เนื้อผ้าแชะเทคนิคสมัยใหม่ ด้วยผ้ากำมะหยี่ Silk Velvet โทนสีน้ำเงินเข้มขับเน้นความสง่างามให้กับสาวมารีญา ผสานกับการตกแต่งผ้าโปร่งบริเวณเคปด้านหลัง เพื่อสร้างความพริ้วเมื่อเคลื่อนไหวร่างกาย

นอกจากนี้งานปักก็ไม่ธรรมดา มีความละเอียดอ่อนมาก ด้วยเพชรสวารอฟสกี้ สีคาปรี-บลู, สีแซฟฟายร์,สีมอนทานา,สีเดนิมบลู,สีไลท์แซฟฟายร์ และสีซิลเวอร์เฉด ปักไล่สีและรูปทรงที่แตกต่างกัน ทำให้ชุดดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ผ่านการรีดร้อนเรียงร้อยออกมาเป็นลวดลายร่วมสมัยและสะท้อนถึงความเป็นไทยได้อย่างงดงาม

ระยิบระยับจับตาขนาดนี้ กระแสในโลกโซเชียลเขาก็เม้าท์กันด้วยนะว่าด้วยความที่ชุดมีรายละเอียดสุดประณีต แถมสาวมารีญาใส่ออกมาก็ดูสวยแพงสุดๆ ราคาก็เลยเบาะๆที่ หนึ่งล้านบาทเชียวล่ะเธอ

ภาพ/ข้อมูล : FB@T-pegeant

จบเศรษฐศาสตร์แต่เลือกเป็นเชฟ “เจนิส หว่อง” สาวผู้รักขนมหวาน ดีไซน์แนวอาร์ตน่ากิน

เพราะรักและมีแรงปรารถนาในการเป็นเชฟ จึงทำให้ชื่อของสาวเอเชีย “เจนิส หว่อง” ติดรายชื่อเชฟขนมหวานเบอร์ต้นๆ ของเอเชีย

โดยเธอนั้นมีชื่อเสียงจากสิงคโปร์ ขึ้นชื่อการทำขนมที่เป็นเอกลักษณ์ ที่ไม่ได้มีเพียงรสชาติที่อร่อยไร้ที่ติเท่านั้น แต่ดีไซน์ของขนมยังผ่านการคิดและประดิษฐ์ออกมาอย่างสร้างสรรค์ผ่านเทคนิคล้ำสมัยและแปลกใหม่ จึงไม่แปลกหากใครจะเรียกเธอว่า เชฟผู้สร้างงานศิลปะที่รับประทานได้ หรือ Edible Arts

เส้นทางสู่การเป็นสุดยอดเชฟ จาก Passion ในการทำขนม

ถึงแม้เจนิสจะเรียนจบจากมหาวิทยาลัยด้านเศรษฐศาสตร์ แต่เธอเลือกทำตาม Passion ของตัวเองด้วยการไปเรียนต่อด้านศาสตร์การทำอาหารจากสถาบัน เลอ กอร์ดอง เบลอ (Le Cordon Bleu) สถาบันด้านอาหารชื่อดังที่ประเทศฝรั่งเศส และมีโอกาสฝึกฝนเพื่อเดินตามฝันในการเป็นเชฟขนมหวานจากเชฟระดับโลกมากมาย เช่น เชฟชาวอเมริกันชื่อดัง Thomas Keller และ Grant Achatz เชฟช็อคโกแลตชาวสเปน Oriol Balaguer และเชฟขนมฝรั่งเศสระดับตำนานอย่าง Pierre Hermé จนในที่สุด เจนิส ได้เปิดร้านขนม 2am:dessertbar ในประเทศสิงคโปร์ และด้วยกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด เจนิสได้เปิดร้านขนม 2am:lab ตามมาในปี 2011 รวมถึงการขยายร้านของเธอในเมืองใหญ่ๆ ในเอเชีย อาทิ ฮ่องกง และโตเกียว ได้แก่ร้าน Cobo House by 2am:dessertbar และ Janice Wong Dessert Bar

รวมไปถึงร้านล่าสุดของเธอที่สิงคโปร์ Janice Wong Singapore ณ National Museum ซึ่งเมนูของแต่ละร้านเกิดขึ้นจากคอนเซ็ปต์ที่แปลกใหม่ และรูปลักษณ์ที่สวยงาม ทำให้ขนมทุกจานแฝงไปด้วยเซอร์ไพรส์สำหรับทุกคนที่มีโอกาสได้ชิม ซึ่งความสามารถของเจนิสเป็นที่ยอมรับกันในวงกว้าง ด้วยการการันตีฝีมือจากรางวัลมากมาย อาทิ ตำแหน่ง Asia’s Best Pastry Chef โดยการจัดอันดับของ San Pellegrino Asia’s 50 Best ประจำปี 2013 และ 2014 ถึงสองปีซ้อน และการได้รับยกย่องให้เป็น Pastry Chef of the Year ประจำปี 2011, 2013 และ 2015 จากการจัดอันดับโดย World Gourmet Summit

ขนมหวานและงานศิลปะ

งานศิลปะสามารถเป็นอาหารได้ไหม? สำหรับเชฟเจนิส หว่อง ผู้เต็มไปด้วย passion สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม ผลงานออกแบบของเจนิสที่ได้รับการกล่าวถึงในวงกว้างมีมากมาย แต่จุดเริ่มต้นคือการเปลี่ยนเพดานห้องธรรมดาให้เต็มไปด้วยมาร์ชเมลโล่ ณ งานโปรโมตหนังสือเรื่อง “Perfection in Imperfection” ที่เธอเป็นผู้เขียน ซึ่งถึงแม้นั่นจะเป็นครั้งแรกที่เจนิสได้ทดลองทำงานศิลปะที่ทานได้ แต่กระแสตอบรับจากแขกกว่า 400 คนที่มางานในครั้งนั้น เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าการได้สัมผัสประสบการณ์ที่แปลกแหวกแนวเป็นอะไรที่น่าประทับใจ เพราะชิ้นงานของเจนิส เป็นดังงานศิลปะที่ผู้คนสามารถสัมผัส ชิม และรู้สึกเอร็ดอร่อยไปกับมันได้ ตั้งแต่นั้นมาเจนิสมีโอกาสสร้างผลงานที่มีชื่อออกมาอีกมากมาย อาทิ การทำผนังห้องที่ถูกปกคลุมด้วยลูกอมกัมดรอป โคมระย้าจากขนมปัง หรือบอลลูนช็อคโกแลต ทำให้เธอได้มีโอกาสร่วมงานกับร้านอาหาร แกลเลอรี่ และแบรนด์ดังจากทั่วโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ทิฟฟานี แอนด์ โค แบรนด์เครื่องประดับสุดหรูจากนิวยอร์ก หรือ หลุยส์ วิตตอง

แรงบันดาลใจจากสิงคโปร์

สิงคโปร์ ถือเป็นเมืองชั้นนำที่รวมร้านอาหารไฟน์ไดน์นิ่งชื่อดังให้ไปลิ้มลองมากมาย และเป็นแหล่งรวมเชฟชื่อดังจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยวัฒนธรรมทางอาหารที่น่าสนใจและพัฒนาไปอย่างไม่หยุดนิ่งตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้คนที่นั่นเปิดกว้างและยอมรับสไตล์อาหารรูปแบบใหม่มากขึ้น ในฐานะเชฟผู้หญิงแถวหน้าของสิงคโปร์ สิ่งเหล่านี้ช่วยผลักดันให้เจนิสสามารถใช้ไอเดียสร้างสรรค์และความคิดนอกกรอบได้อย่างเต็มที่

นอกจากนี้เธอได้มีโอกาสทำผลงานศิลปะทานได้แบบอินเตอร์แอคทีฟที่เกี่ยวเนื่องกับสิงคโปร์ ประเทศที่มีส่วนช่วยหล่อหลอมจินตนาการและความหลงใหลในการทำขนมให้กับเธอ เช่น การทำสวนเรืองแสงจากขนมหวาน (Luminous Edible Hanging Garden) ผลงานที่ทำขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองสิงคโปร์ในฐานะเมืองสีเขียว โดยสวนเรืองแสงดังกล่าวตีความดอกไม้ออกมาในมุมมองใหม่ ที่ดอกไม้กว่า 2,000 ดอกได้ถูกทำขึ้นมาจากน้ำตาลปั้นเป็นรูปดอกกล้วยไม้ และดอกไม้พันธุ์ผสมอย่างประณีตบรรจง

และล่าสุดกับงาน Singapore Festival 2017 และงานเปิดตัวแบรนด์แคมเปญใหม่ของการท่องเที่ยวสิงคโปร์ “Passion Made Possible” ณ ประเทศไทย ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา เจนิสได้พาทีมงานของเธอมาสร้างผลงานสุดวิเศษ ที่ทำให้แขกในงานตื่นตาตื่นใจไปตามๆ กัน กับงานศิลปะ “Sweet Haven” ที่ได้แนวคิดจากการเป็น City in a Garden ของสิงคโปร์ เพราะประเทศนี้นอกจากจะเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยว แหล่งชอปปิ้ง และวัฒนธรรมที่น่าสนใจแล้ว เมืองยังถูกสร้างขึ้นอย่างมีเอกลักษณ์ เพราะถูกโอบล้อมไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด ธรรมชาติที่สมบูรณ์และเปี่ยมไปด้วยสีสัน เจนิสจึงเพ้นท์ผนังด้วยช็อคโกแลต และสเปรย์ตกแต่งด้วยช็อคโกแลตสีแดง ดำ ขาว พร้อมประดับด้วยดอกไม้ทำจากน้ำตาลปั้นกว่า 800 ดอก แต่ไฮไลท์คือช็อคโกแลตจำนวน 200 ชิ้น ที่เจนิสตั้งใจทำออกมาจากส่วนผสมที่สื่อถึงความเป็นสิงคโปร์อย่างแท้จริง จนออกมาเป็น 4 รสชาติพิเศษ ได้แก่ น้ำตาลมะพร้าวใบเตย (Gula Melaka Pandan), กาแฟ (Kopi), ผักแพว (Laksa leaf) และคาราเมลใบมะกรูด (Kaffir lime caramel)

 

เรื่องราวที่น่าทึ่งของเจนิสทำให้เรารู้ว่าโลกของศิลปะและขนมไม่ได้อยู่ไกลกันเลย หากสองสิ่งนี้สามารถถูกจับคู่และครีเอทออกมาด้วยกันได้อย่างไร้ขอบเขต และถ้าเราทำอะไรสักอย่างด้วย Passion และความรัก เราจะรู้สึกสนุกไปกับมัน เพราะทุกๆ วันของการทำงานจะเต็มไปด้วยความสุขเสมอ

 


เรียบเรียงโดย: บะหมี่กุ๊งกิ๊ง_แพรวดอทคอม
ภาพ: เฟลชแมน ฮิลลาร์ด

ขนลุกแล้ววว! มารีญาใส่ชุดราตรีผ้าไทยสุดโอต์กูตูร์ ชิงมงฯ MU 2017

ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วสำหรับการประกวด Miss Universe 2017 ที่ประเทศ สหรัฐอเมริกา ซึ่งครั้งนี้ ตัวแทนจากสาวไทย มารีญา พูลเลิศลาภ ก็เตรียมตัวพร้อมมากสำหรับการประกวดครั้งนี้ อีกทั้งล่าสุด เรื่องชุดต่างๆที่สาวมารีญาจะใส่ไปประชันสาวงามทั่วโลกก็ได้มีการเปิดตัวออกมาแล้ว

ปีนี้สาวไทยมีลุ้นมงกุฎจักรวาลแน่ๆ ไม่ใช่ว่าจะอวยเข้าข้างชาติเดียวกัน แต่ความปังของสาวมารีญายามที่เธอเฉิดฉายอยู่บนเวทีมันมีออร่าให้อดเชียร์ไม่ได้จริงๆ ล่าสุดกับการเปิดตัวชุดประจำชาติและชุดราตรีที่เจ้าตัวจะใส่ไปครั้งนี้ ก็ไม่น้อยหน้าชาติใดแน่นอน ซึ่ง 2 ชุดแรกที่เราอยากจะพูดถึงให้ฟังกันวันนี้ ก็คืองานสุดประณีตที่ได้ผ้าไทยมาเป็นวัสดุหลักในการตัดเย็บ

โดยชุดแรกนั้นเป็นของแบรนด์ SIRIVANNAVARI โดยพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงพระกรุณาประทานมาให้ เป็นคอลเล็คชั่นที่ทรงออกแบบพิเศษ ตัดเย็บด้วยผ้าไหมมัดหมี่จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถฯ ในรัชกาลที่๙

ตัวชุดราตรีเป็นสีม่วง ใช้เทคนิคการร้อยและการปักลูกปัดแบบโอต์กูตูร์ จากประเทศฝรั่งเศส โดยช่างปักฝีมือชั้นครูซึ่งเป็นทีมช่างปักของแบรนด์ SIRIVANNAVARI ชุดในคอลเลคชั่นทรงออกแบบพิเศษนี้ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงพระกรุณาคัดสรรผ้าไหม จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่๙ เพื่อใช้ตัวเย็บด้วยพระองค์เองอีกด้วย

อีกหนึ่งชุดที่สาวมารีญาใส่ออกมาได้อย่างสวยสง่ามากๆก็คือ ชุดราตรีจากแบรนด์ POEM เป็นชุดที่ใช้ผ้าไหมมัดหมี่สีน้ำเงินจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่๙ เช่นกัน

นี่แค่เรียกน้ำย่อยนะจ๊ะ สำหรับชุดราตรีที่เปิดตัวออกมาเพื่อการไปประกวด Miss Universe 2017 ที่ลาสเวกัส ประเทศ สหรัฐอเมริกา และเชื่อว่าสาวมารีญาและทีมงานที่ออกแบบชุดคงมีไม้เด็ดที่ต้องปล่อยออกมาให้ตะลึงกันอีกแน่นอน

ภาพ/ข้อมูล : [email protected]

‘เอท ทองหล่อ’ (Eight Thonglor) จัดนิทรรศการภาพถ่ายสีขาวดำ ‘เอท เอเลเมนท์’ (8 Elements) สมทบทุนช่วยเหลือมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย

  ‘เอท ทองหล่อ’ (Eight Thonglor) ไลฟ์สไตล์มอลล์ยอดนิยมย่านสุขุมวิท เปิดพื้นที่จัดงานนิทรรศการภาพถ่ายที่ชื่อว่า เอท เอเลเมนท์’ (8 Elements) นำเสนอผลงานภาพถ่ายขาวดำที่สะท้อนถึงตัวตนเบื้องลึกและจิตวิญญาณจาก ช่างภาพสุดยอดฝีมือผู้ประสบความสำเร็จจากหลากหลายสาขาอาชีพ อาทิ อนุวัต บูรพชัยศรี กงสุลกิตติมศักดิ์แห่งสาธารณรัฐโปแลนด์ เจ้าของนามแฝงช่างภาพที่ใช้ชื่อว่า Eyeshadow, ธนากร เตลาน ช่างภาพผู้สร้างสรรค์ศิลปะด้านไฟน์อาร์ต (Fine Art) ชื่อดังเบญจ์เยี่ยม ส่งวัฒนา ซีอีโอ บริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอาท์เล็ท จำกัด และอีกมากมาย เพื่อให้เหล่าคนเมืองได้สัมผัสกับเสน่ห์และเรื่องราวต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลกผ่านภาพถ่ายที่คัดสรรมาอย่างบรรจง

 พบกับนิทรรศการภาพถ่ายสีขาวดำ เอท เอเลเมนท์’ (8 Elements) ได้ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2560 ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2560 ที่ เอท ทองหล่อ’ (Eight Thonglor) บริเวณชั้น อีกทั้งยังสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสมทบทุนช่วยเหลือคนตาบอด เนื่องจากรายได้จากการจำหน่ายภาพและหนังสือภาพ หลังหักค่าใช้จ่ายจะถูกมอบให้กัมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เพื่อเป็นเงินทุนพัฒนามูลนิธิสืบต่อไป

คิงจิกมี และควีนแห่งภูฎาน กับฉลองพระองค์หลากสไตล์ที่ล้วนทรงงามสง่าสมกัน

ปกติเรามักเห็น คิงจิกมี และควีนแห่งภูฎาน ในฉลองพระองค์ชุดประจำชาติ ซึ่งก็ต้องบอกว่าทรงได้งามสง่าเหลือเกิน

และที่ปฏิเสธไม่ได่คือการที่ทั้งสองพระองค์ทรงจนเป็นพระคาแร็คเตอร์ประจำ นัยหนี่งจึงเท่ากับเป็นการประชาสัมพันธ์ให้คนทั่วโลกสนใจประเทศขุนเขาแห่งนี้เพิ่มมากขึ้น

และใครก็ตามที่มีโอกาสไปเยือนภูฎานคงได้ประจักษ์แก่สายตาตัวเองว่า ชุดประจำวันของชาวภูฏานที่เขาใส่กันทุกวี่ทุกวันนั้นก็คือชุดประจำชาติภูฏานนั่นเอง ทั้งนี้ก็เพราะรัฐบาลภูฎานรณรงค์ให้ประชาชนใส่ชุดประจำชาติเป็นชุดประจำวัน โดยมีสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏาน และสมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก ทรงให้เห็นเป็นแบบอย่าง

และภาพพระบรมฉายาลักษณ์ที่คนทั่วโลกจดจำกันได้แม่นยำก็คือวันที่ทั้งสองพระองค์ทรงฉลองพระองค์ชุดประจำชาติภูฏานเข้าพิธีราชาภิเษกสมรส เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2554

สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี และสมเด็จพระราชินีเจตซุน ในวันราชาภิเษกสมรส

หลังจากนั้นไ่ม่ว่าจะเป็นในเวลาส่วนพระองค์

สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี และสมเด็จพระราชินีเจตซุน พร้อมพระราชโอรส เจ้าชายจิกมี นัมเกล วังชุก

หรือเมื่อทั้งสองพระองค์ออกทรงงาน

สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี และสมเด็จพระราชินีเจตซุน ทรงเยี่ยมผู้ป่วยเด็ก

ยิ่งในยามที่ราชวงศ์ต่างประเทศเสด็จเยือนประเทศบนเขาสูงแห่งนี้ ฉลองพระองค์ชุดประจำชาติ ยิ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ประกาศถึงอัตลักษณ์แห่งความเป็นชาติได้ดียิ่ง

สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี และสมเด็จพระราชินีเจตซุน ทรงถวายการต้อนรับสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟแห่งสวีเดน และสมเด็จพระราชินีซิลเวีย
สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี และสมเด็จพระราชินีเจตซุน ทรงต้อนรับเจ้าหญิงมะโกะ แห่งญี่ปุ่น
สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี และสมเด็จพระราชินีเจตซุน ทรงต้อนรับเข้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคท แห่งเคมบริดจ์

ชุดประจำชาติภูฏานที่ดูมีเอกลักษณ์สุดๆ นี้ มีรายละเอียดของฝ่ายชายและฝ่ายหญิงแตกต่างกัน ของฝ่ายชายเรียกว่า โก (Kho) ส่วนฝ่ายหญิงเรียกว่า คีร่า (Kira) โดยชุดประจำชาติของฝ่ายชาย ถ้าเป็นการสวมใส่ไปในงานพระราชพิธีหรือในงานพิธีที่เป็นทางการ ต้องมีผ้าพาดไหล่หรือที่ภาษาภูฏานเรียกว่า แกบเน (Kabney) ด้วย

ผ้าพาดไหล่นี้มีอยู่หลายสี โดยแต่ละสีบอกถึงชั้นยศและฐานันดรศักดิ์ของผู้ใช้ผ้าพาดไหล่นั้นๆ เช่น สีเหลืองอมส้ม (Saffron) เป็นสีที่ใช้สำหรับพระมหากษัตริย์กับสมาชิกในพระราชวงศ์และพระสังฆราช(เจเคนโป) สีส้มสำหรับรัฐมนตรี สีน้ำเงินสำหรับองคมนตรี สีแดงสำหรับผู้มีบรรดาศักดิ์ที่พระราชาธิบดีทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง สีขาวลายเส้นสีน้ำเงิน สำหรับสมาชิกรัฐสภา สีขาวลายเส้นสีแดงสำหรับหัวหน้าหมู่บ้านและข้าราชการทั่วไป ส่วนทหารใช้ผ้าผืนเล็กสีขาวขลิบริมสีแดง ขณะที่ประชาชนทั่วไปใช้สีขาว

แต่ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่า คิงจิกมี และควีนแห่งภูฎาน ต้องทรงฉลองพระองค์ด้วยชุดประจำชาติภูฎานเท่านั้น ทั้งสองพระองค์สามารถทรงฉลองพระองค์ในแบบหรือสไตล์อื่นๆ ได้เฉกเช่นคนทั่วไป

เพราะการที่ทั้งสองพระองค์ดำรงพระอิสริยยศเป็นกษัตริย์และพระราชินี นอกจากต้องพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าแล้ว ยังต้องทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาอารยประเทศควบคู่กันด้วย แน่นอนว่าฉลองพระองค์ยามที่เสด็จฯออกนอกราชอาณาจักร จึงจำเป็นต้องจัดให้คละๆ กันระหว่างฉลองพระองค์ชุดประจำชาติกับฉลองพระองค์ชุดสากล ซึ่งก็ต้องบอกว่าด้วยออร่าความเป็นคิงและควีนแห่งภูฎาน ทำให้แม้ยามอยู่ในฉลองพระองค์ชุดสากลก็ทรงดูงามสง่า กลมกลืน ไม่ขัดตาเลยสักนิด

ในภาพอาจจะมี 2 คน, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังยืน

หรือแม้แต่เมื่อครั้งที่ทั้งสองพระองค์เสด็จฯ เยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2554 หลังพิธีราชาภิเษกสมรสหนึ่งเดือน และได้ทรงฉลองพระองค์กิโมโน ชุดประจำชาติญี่ปุ่น ก็ยังทรงได้เหมาะเจาะลงตัวเช่นกัน

อย่างนี้กระมังที่เขาเรียกว่ารัศมีแห่งราชาและราชินี 

 

ที่มาภาพพระบรมฉายาลักษณ์ : www.facebook.com/QueenJetsun

Belkin

ขอปั้มเงินแผล่บ! เปิดตัว Belkin แท่นชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายในไทยกำลังไฟ 5 วัตต์

Alternative Textaccount_circle
Belkin
Belkin
มีความอยากได้ อยากมีในครอบครอง ชีวิตคงจะดีไม่น้อย เพราะวันนี้ แพรวดอทคอม มีแก็ดเจ็ตสุดเจ๋งที่น่าจับตามองมาแนะนำสาวกไอทีทั้งหลายกับ Belkin ผู้นำตลาดด้านอุปกรณ์เสริมเกี่ยวกับสมาร์ทโฟน เปิดตัวแท่นชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายในตลาดประเทศไทยกำลังไฟ 5 วัตต์ ในรุ่น “BOOST↑UP™ Qi™ Wireless Charging Pad (5W)” ซึ่งสามารถใช้ได้กับสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ ที่รองรับมาตรฐาน Qi™ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต

โดยแท่นชาร์จรุ่นใหม่นี้มีความโดดเด่นด้วยประสิทธิภาพการชาร์จแบบไร้สายที่รวดเร็วและต่อเนื่อง ซึ่งให้ผู้ใช้งานไม่ต้องต่อสายเคเบิ้ลใดๆ นอกจากนี้ แท่นชาร์จ “BOOST↑UP™ Qi™ Wireless Charging Pad” ยังมีผิวสัมผัสที่เรียบ อีกทั้งยังมียางที่อ่อนนุ่มช่วยในการยึดเกาะตัวเครื่องเพื่อป้องกันการลื่นหล่นในขณะทำการชาร์จ ช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับสมาร์ทโฟนได้อย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม

 

จากที่มีการเปิดตัว iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X ได้มีการกล่าวถึง Boost↑Up Wireless Charging Pad ของ Belkin ด้วย ซึ่งถือได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่งที่ผลิตภัณฑ์ Belkin ได้รับเกียรติให้เป็นส่วนหนึ่งบนเวทีในงานอีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ของบริษัท แอปเปิ้ล ในการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวออกสู่สายตาชาวโลก และเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในตลาดที่มีต่อแท่นชาร์จไร้สาย ทางเราจึงตัดสินใจแนะนำผลิตภัณฑ์ Boost↑Up Qi™ Wireless Charging Pad ขนาดกำลังไฟ 5 วัตต์ เพื่อมาเติมเต็มความต้องการของตลาดและนำเสนอทางเลือกในการตัดสินใจที่มากขึ้นให้กับลูกค้า และเพราะเบลคินเป็นแบรนด์สำหรับทุกคน เราจึงมุ่งมั่นส่งมอบประสบการณ์ในการชาร์จแบบไร้สายที่น่าประทับใจให้ทุกคนได้สัมผัส

 

สำหรับการใช้งาน Belkin BOOST↑UP™ Qi™ Wireless Charging Pad (5W) จะมาพร้อมสาย Micro USB สามารถใช้งานกับหัวชาร์จบ้านหรือรถที่รองรับการจ่ายกระแสไฟตั้งแต่ 2 แอมป์ขึ้นไป

ฟีเจอร์อันโดดเด่นของแท่นชาร์จไร้สาย BoostUp Qi Wireless Charging Pad (5W)

  • แท่นชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายที่ได้รับมาตรฐานจาก Qi™
  • กำลังไฟ 5 วัตต์/1 แอมป์ รองรับการชาร์จสมาร์ทโฟนได้อย่างปลอดภัย
  • รูปลักษณ์เก๋ไก๋ พกพาได้สะดวก
  • แท่นชาร์ตทำจากวัสดุป้องกันการขีดข่วนและการลื่นไถล
  • สามารถชาร์ตมือถือได้ในขณะใส่เคส (ไม่เกิน 3 มม.)
  • ใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐานQi ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต

รองรับการใช้งานกับสมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ ดังนี้

Galaxy S3, Galaxy S4, Galaxy S5, Galaxy S6, Galaxy S6 edge, Galaxy S7, Galaxy S8, Galaxy S8+, Galaxy Note8, Nexus 7, Nexus, iPhone 8, iPhone 8 Plus, iPhone X

ยินดีหลาย! ฟลุ๊ค-จิระ แต่งคุณหนูไฮโซ แอปเปิ้ล-สีสะเหงียน วิวาห์ไทย-ลาว หวานชื่นบาน

แสดงความยินดีกันอีกคู่ สำหรับคู่รักต่างเชื้อชาติ ไทย-ลาว ฟลุ๊ค-จิระ ด่านบวรเกียรติ และแอปเปิ้ล-สีสะเหงียน สีหาราช ที่หลังจากเปิดตัวคบหากันมานานหลายปี ในที่สุดเช้าวันนี้ (3 พ.ย.60) ขบวนขันหมากของเจ้าบ่าวก็ออกเดินทางเริ่ม 10 โมงเช้าไปหาเจ้าสาวคนสวยเพื่อทำพิธีแต่งงานเรียบร้อยแล้ว

ภาพพรีเวดดิ้ง ฟลุ๊ค-แอปเปิ้ล
ภาพพรีเวดดิ้ง ฟลุ๊ค-แอปเปิ้ล

ทำงานในวงการบันเทิงทั้งคู่ จนกระทั่งปีนี้ความรักเบ่งบานเข้าสู่ปีที่ 11 สำหรับนักแสดงและนักร้องหนุ่ม ฟลุ๊ค-จิระ ด่านบวรเกียรติ และไฮโซลาว แอปเปิ้ล-สีสะเหงียน สีหาราช ทายาทนักธุรกิจเกสต์เฮ้าส์ สีสะหง่า และผู้นำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ได้สุกงอมจนได้ฤกษ์วิวาห์แบบไทย-ลาวกันแล้วเรียบร้อยในเช้าวันนี้

สำหรับสาวแอปเปิ้ลนั้น เริ่มมีชื่อเสียงเป็นรู้จักแก่คนไทยจากการที่เข้ามาทำงานในวงการบันเทิงไทย ไม่ว่าจะเป็น พิธีกรรายการวัยรุ่น ถ่ายโฆษณา และนักแสดง โดยถ้าหากใครติดตามคู่รัก ฟลุ๊ค-แอปเปิ้ล มาตลอดจะพบว่า คู่นี้รักกันหวานอบอุ่น และมั่นคงมากๆ ส่วนบรรยากาศภายในงานแต่งนี้ ก็ได้มีครอบครัวและเพื่อนสนิทของแต่ละฝั่งมาร่วมแสดงความยินดีกันจำนวนมาก เช่น อดีตสมาชิกบอยแบนด์วงซีควินท์ พิชญ์ กาไชย, โยชิ-นิมิต มนัสพล, แบงค์-วีระชัย ลีฬหาทร, เนย-แจม เนโกะจัมพ์, หญิงแย้-นนทพร ฯลฯ ซึ่งเสื้อผ้าคอสตูมภายในงานก็เรียกว่า น่ารักอบอุ่นมากๆ เพราะเป็นการผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมไทยและลาว อย่างชื่อจริงของทั้งคู่ที่ติดบนเวทีก็ทำเป็นตัวอักษรภาษาลาว เป็นกิมมิกที่เห็นแล้วน่ารักมากจริงๆ

แพรวดอทคอม ก็ขอแสดงความยินดีกับทั้งคู่ด้วยนะจ๊า….

ชื่อของทั้งคู่ทำเป็นตัวอักษรลาวติดบนเวที แอปเปิ้ล-ฟุก (ฟลุ๊ค)
ขบวนขันหมากแล้วจ้า…
อดีตสมาชิกวงบอยแบนด์ซีควินท์ แบงค์-พิชญ์-โยชิ ก็ไม่พลาดมายินดีกับเพื่อน
ทีมเพื่อนเจ้าบ่าว
ชื่นมื่น พร้อมครอบครัว
ทีมเพื่อนเจ้าสาว
เพื่อนๆ เจ้าสาวแก๊งนี้ก็น่ารักไม่เบานะ
ผูกข้อไม้ข้อมือ สุขใจ
งานนี้ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาว และแขกยิ้มแย้มกันเต็มที่
เริ่มต้นใช้ชีวิตครอบครัวด้วยกันแล้วน้า…

 

 

 


เรื่อง: บะหมี่กุ๊งกิ๊ง_แพรวดอทคอม
ภาพ: IG @appleminiberry @lekkey_js @fluke_cquintfc #flukeapplewedding

รันเวย์สะเทือน! WEE ขนทัพดารา – นางแบบดังกว่า 80 ชีวิต ผงาดดุจนางพญาในนวนิยายจีน

เรียกว่าครองรันเวย์รับปลายปีสุดแกรนด์ สำหรับแบรนด์ วี (WEE) โดยดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์อย่าง วี -สุภาวดี ศิริรัตนพล ที่ได้ส่งต่อแรงบันดาลใจจากหลากหลายลวดลายของจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างจีนโบราณอันวิจิตร และเต็มไปด้วยความเป็นมงคล มาผสมผสานแบบหวานซ่อนเปรี้ยวในคอลเล็คชั่น WEE FALL/WINTER 2017 COUTURE COLLECTION (วี ฟอลล์/วินเทอร์ 2017 กูตูร์ คอลเล็คชั่น) ผ่านทัพดารา – นางแบบแถวหน้ากว่า 84 ชีวิต นำทีมโดย คิมเบอร์ลี่ , ลูกเกด – เมทินี , บี – น้ำทิพย์ และ อุ๋ม – อาภาศิริ ที่มาในชุดฟินาเล่สุดปัง! พร้อมทั้ง แพนเค้ก – เขมนิจ , ซาร่า เล็กจ์ , ซาร่า มาลากุล , เมญ่า – นนธวรรณ , แนท – อนิพรณ์ , โยเกิร์ต – ณัฐฐชาช์ , มะลิ – มาลินี ฯลฯ

บรรยากาศสองฝั่งรันเวย์อบอวลไปด้วยเสน่ห์แห่งศิลปวัฒนธรรมจีน ที่ไม่เพียงแต่จะเผยความงดงาม อ่อนช้อยจนน่าหลงใหลเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งผ่านสีหลักที่ใช้ อาทิ แดง, ดำ, กรมท่า, เขียว, ขาว,  บานเย็น และสีทองพิเศษ โดยได้นำมาวาดลวดลายไว้ในคอลเล็คชั่น WEE FALL/WINTER 2017 COUTURE COLLECTION (วี ฟอลล์/วินเทอร์ 2017 กูตูร์ คอลเล็คชั่น) ซึ่งโดดเด่นเฉพาะตัว ด้วยการออกแบบโครงชุดคลาสสิกแห่งยุค 50s (ยุคฟิฟตี้) จากการเลือกใช้กระโปรงสุ่มเทคนิคการทวิสต์ รวมไปถึงกระโปรงทรงเอที่ใช้ได้กับทุกยุคสมัยผ่าน ทัพดารา – นางแบบทั้ง 84 คน ก่อนปิดท้ายรันเวย์ด้วย 4 ลุคฟินาเล่สุดอลังจากดารา – นางเอกสาว อาทิ คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส เทียมศิริ , ลูกเกด – เมทินี , บี – น้ำทิพย์ และ อุ๋ม – อาภาศิริ ที่เรียกว่าสง่างามดุจนางพญาที่หลุดมาจากนวนิยายจีน

ซึ่ง คิมเบอร์ลี่ บอกว่า “วันนี้มาในธีมชุดสีทองสวยงามมาก ซึ่งเป็นหนึ่งในสีหลักของคอลเล็คชั่นใหม่          แบรนด์ WEE รู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ ขอบคุณคุณวีที่ให้คิมได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานสุดยิ่งใหญ่ในวันนี้ค่ะ ต้องบอกว่าชอบดีเทลการตัดเย็บที่เป๊ะมากๆ ชุดมีความอลังการมากๆ ค่ะ (ยิ้ม)”

 

ด้านสาว ขวัญ – อุษามณี ที่มาร่วมชมแฟชั่นโชว์ในวันนี้ บอก “สวยงามอลังการมากจริงๆ ปกติขวัญเป็นแฟนแบรนด์ WEE อยู่แล้ว เพราะทุกชุดทุกคอลเล็คชั่นคือตอบโจทย์และเป็นตัวขวัญมากๆ เพราะขวัญชื่นชอบลายปริ้นต์มากๆ จะรอติดตามคอลเล็คชั่นต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ”

นอกจากสาว ขวัญ – อุษามณี แล้ว ยังมีเหล่าดาราชั้นนำ อาทิ แพทริเซีย กู๊ด , พรีม – รมิดา , น้ำฝน – พัชรินทร์ , โม – มนชนก ,  กรีน – อัษฎาพร , พิมดาว  ฯลฯ ที่พร้อมใจตบเท้ามาแสดงความยินดี และร่วมชมความอลังการสุดแกรนด์ของคอลเล็คชั่น WEE FALL/WINTER 2017 (วี ฟอลล์/วินเทอร์ 2017) พร้อมเตรียมอัพเดทเทรนด์ใหม่กันอย่างตื่นตาตื่นใจ

แพทริเซีย กู๊ด
พิมดาว
กรีน – อัษฎาพร
โม – มนชนก
พรีม – รมิดา
เปรี้ยว – ทัศนียา
ต่าย เพ็ญพักตร์
มารี เบิร์นเนอร์ , น้ำฝน – พัชรินทร์ , เบญ – เรวิญานันท์
เอิร์น – จิรวรรณ

 

 

10 สิ่งเป็นแขกงานแต่งต้องรู้…อะไรบ้างที่ควรทำและไม่ควรทำ

account_circle

การได้รับเกียรติให้เป็นแขกรับเชิญในงานแต่งงานของคู่รักที่คุณรู้จัก ก็ใช่ว่าจะทำอะไรก็ได้ตามใจได้ แต่ แขกงานแต่ง อย่างเราก็ต้องมีมารยาทของแขกในงานอยู่ เรามาดูกันว่าอะไรบ้างที่ควรทำ และไม่ควรทำ

1. ห้ามเชิญแขกเอง

คุณคะ นี่ไม่ใช่งานแต่งของคุณเอง เพราะฉะนั้นคุณไม่มีสิทธิ์ออกตั๋วเข้างานแต่งให้กับคนอื่นที่เจ้าภาพไม่ได้เชิญนะคะเพราะว่าเจ้าภาพเขาจะเชิญใคร เชิญกี่คนเขาจัดสรรไว้หมดแล้วทั้งอาหารและที่นั่ง ชวนคนอื่นไปด้วยอาจทำให้ที่นั่งที่เตรียมไว้ไม่พอ

2. อย่าคิดว่าที่ไหนๆ ก็ต้อนรับเด็ก

ผู้หญิงทุกคนพร้อมปลุกวิญญาณจริตหญิงในตัวเองออกมาเพื่อเอื้อเอ็นดูเด็กน้อย แต่ถ้าดื้อนักก็ไม่น่ารักแล้ว เพราะฉะนั้นลองถามเจ้าภาพว่าสะดวกให้เด็กไปด้วยไหม  และถ้าเมื่อไหร่ที่น้องเริ่มงอแง คุณพ่อคุณแม่ควรต้องรีบทำให้เงียบโดยพลันนะคะ อ้อ!… ถ้าจะพกเด็กไปด้วย ก็อย่าให้วิ่งเล่นในช่วงเจ้าสาวโยนดอกไม้เด็ดขาด คงรู้นะว่าสาวโสดจะเสียอารมณ์มากแค่ไหน

3. ห้ามเข้างานหลังเจ้าสาว

ใครที่คิดว่ามาทีหลังเริ่ดสุด ขอให้เลิกความคิดนั้นไปได้เลย และควรมาถึงงานล่วงหน้า 30 นาทีกำลังดี จะได้เดินดูบรรยากาศและการตกแต่งรอบๆ งาน

4. อย่าแต่งตัวแย่งซีนเจ้าสาว

ค่ำคืนนี้คนที่ต้องโดดเด่นที่สุดคือเจ้าสาว และในเมื่อคุณเป็นแขกก็ไม่ควรแต่งตัวโดดเด่นเรียกสายตาของแขกงานในงานนะคะ อย่างการใส่ชุดสีขาวเหมือนเจ้าสาว หรือใส่ชุดสีจัดในงานพาสเทล เพราะเป็นการเสียมารยาทมากๆ เลย

5. ห้ามนั่งชุดเก้าอี้แถวหน้า

ชุดเก้าอี้แถวหน้า เป็นโต๊ะระดับวีไอพีของท่านประธาน และพ่อแม่พี่น้องของบ่าวสาวๆ เพราะฉะนั้นแขกห่างๆ อย่างเราอย่าได้เผลอไปนั่งเชียว แต่ถ้าเมื่อยทนไม่ไหวแล้ว แนะนำให้หาที่หลบมุมถอดรองเท้าออก หรือจะหลบเข้าห้องน้ำนั่งพักในห้องน้ำก็ได้นะ

6. อย่าชวนเม้าท์เพลินเนิ่นนาน

เรารู้ว่าคุณแขกอยากแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว การเข้าไปทักทายแพร่บๆ เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าชวนคุย #วนไป ก็ไม่โอเคเท่าไหร่ เรื่องเม้าท์เก็บไว้นอกรอบส่วนวันนี้ปล่อยให้บ่าวสาวได้ไปทักทายคนอื่นบ้าง

7. อย่าเอาแต่ถ่ายรูป

ในช่วงพิธีการบนเวที คุณทั้งหลายไม่ควรยกกล้องขึ้นมาถ่าย หรือเอาแต่เซลฟี่นะคะ ควรให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนเวที เป็นการให้เกรียรติเจ้าบ่าวเจ้าสาวด้วยค่ะ

8. เช็คกับกลุ่มเพื่อนเรื่องเสื้อผ้า

เช็คกับแขกคนอื่นๆ ก่อนมางานว่าเขาใส่ชุดธีมอะไร สีไหนที่งานกำหนด เวลาเข้ามาในงานจะทำให้คุณไม่เคอะเขิน แถมยังทำให้งานออกมาดูดี ดูสวย

9. ดื่มอย่างมีสติ

ไปงานแต่งงานไม่ใช่ลานเบียร์ ถ้าจะดื่มก็ดื่มอย่างมีสติ อย่าซดโฮกจนเมามาย แทนที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะได้สวีทกันในห้องหอกลับต้องมานั่งปวดหัวกับคนขี้เมา

10. งานจบ ก็คือ จบ

ถ้าดีเจบนเวทีประกาศว่าปาร์ตี้นี้กำลังจบลง คุณแขกก็ควรทำตัวดีๆ กลับบ้านนอนอย่าได้งอแงขอต่ออีกหลายเพลง เพราะการยื้อเวลาออกไปมันคือจำนวนเงินที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องจ่ายเพิ่ม

ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ อีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

ทำตามนี้รับรองได้ว่าคุณจะกลายเป็นแขกรับเชิญมืออาชีพ เอาไว้ได้แต่งงานเมื่อไหร่ค่อยอัพเกรดเป็นเจ้าสาวเนอะ

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

keyboard_arrow_up