'หลิง-ออม' New Face of Smooth E เผยผิวสวยสุขภาพดีครบวงจรใน 3 สเต็ปสุดอีซี

‘หลิง-ออม’ New Face of Smooth E เผยผิวสวยสุขภาพดีครบวงจรใน 3 สเต็ปสุดอีซี

Alternative Textaccount_circle
'หลิง-ออม' New Face of Smooth E เผยผิวสวยสุขภาพดีครบวงจรใน 3 สเต็ปสุดอีซี
'หลิง-ออม' New Face of Smooth E เผยผิวสวยสุขภาพดีครบวงจรใน 3 สเต็ปสุดอีซี

สมูทอี เวชสำอางสำหรับผิวบอบบางที่ได้รับความไว้วางใจมากว่า 30 ปี เนรมิตงาน “Meet New Face of Smooth E” เปิดตัว “หลิง-ออม” หลิงหลิง – ศิริลักษณ์ คอง และ ออม – กรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์ ในฐานะ New Face of Smooth E อย่างเป็นทางการ พร้อมประกาศจุดยืนใหม่ “อ่อนโยน…มีประสิทธิภาพเห็นผล” และเปิดตัวนวัตกรรมเวชสำอางเพื่อผิวบอบบางสวยสุขภาพดีครบวงจรใน 3 สเต็ปง่ายๆ ล้าง บำรุง และปกป้อง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ประเดิมเผยโฉมนวัตกรรมตัวแรก สมูทอี ซัน แอสตาแซนธิน เซรั่ม กันแดดเจนใหม่ที่ผสานคุณค่าจากแอสตาแซนธินครั้งแรกในเมืองไทย ไม่ใช่แค่กันแดด แต่ยังสามารถต้านอนุมูลอิสระจากแดด ต้อนรับหน้าร้อนที่จะมาถึง

หลิงหลิง – ศิริลักษณ์ คอง กล่าวว่า “ดีใจมากค่ะที่ให้เราสองคนมาเป็น New Face of Smooth E ในครั้งนี้ สมูทอีเป็นแบรนด์ที่หลิงหลิงใช้อยู่แล้ว บางทีถ่ายละครกลางแดด เจอมลพิษฝุ่นควัน ก็ทำให้ผิวแพ้ง่าย เพราะผิวบอบบางต้องการการดูแลที่เหมาะสม หลิงหลิงแนะนำสเต็ปแรกง่าย ๆ เริ่มต้นด้วยการล้างใบหน้าให้สะอาดหมดจด อย่าง สมูท อี นัน ไอออนนิก พีเอช ไฟว์ นิวเจน โฟมล้างหน้าสูตรไม่มีฟองใหม่ คุมมันได้ดี ใช้แล้วหน้าสะอาดมากนะทุกคน ได้ประสบการณ์ฟินๆ ของโฟมไม่มีฟอง มี 2 สูตรให้เลือกใช้ หลิงหลิงใช้แล้ว และจะวางจำหน่ายเดือนมีนาคมเป็นต้นไป อยากให้ทุกคนไปลองกันค่ะ”

ออม – กรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์ กล่าวว่า “ออมมีผิวบอบบาง แต่ก็อยากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและอ่อนโยนกับใบหน้า หลังจากล้างหน้ากับพี่หลิงหลิง ก็มาต่อสเต็ปที่สองกับออมด้วยการบำรุงหน้าด้วย สมูทอี คลินิกคัล เซรั่ม “อ่อนโยน…มีประสิทธิภาพเห็นผล” และที่ขาดไม่ได้คือ สเต็ปที่สาม ปกป้องผิวหน้าด้วย สมูทอี ซัน แอสตาแซนธิน เซรั่ม มันสำคัญมากนะทุกคน ต้องทากันแดดทุกวัน อย่างตัวนี้ เป็นนวัตกรรมกันแดดเจนใหม่ ช่วยล็อคหน้าเด็ก เพราะมีส่วนผสมของแอสตาแซนธิน สาหร่ายสีแดง ครั้งแรกในไทย ช่วยต้านอนุมูลอิสระ อยากให้ทุกคนมาลองใช้สมูทอีทุกตัวทั้ง 3 สเต็ป ล้าง บำรุง ปกป้อง เพื่อผิวหน้าสวยสุขภาพดีเหมือนหลิง-ออมกันนะคะ”


กาลนาน ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท

อิ่มเอมกับมนต์เสน่ห์แห่งอดีต สัมผัสวิถีไทยดั้งเดิม ณ ‘กาลนาน ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท’

Alternative Textaccount_circle
กาลนาน ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท
กาลนาน ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท

สายลมเย็น ๆ ในช่วงมกราคม ชวนให้คิดถึงความชิลของวันหยุดยาวที่ผ่านมา สำหรับใครที่ยังไม่เต็มอิ่ม วันนี้ “แพรว” ขอพาทุกคนไปพักผ่อนชาร์จพลังกันต่อสักนิด สัมผัสบรรยากาศฟีลฟีล ที่ไม่ต้องไปไกลจากกรุงเทพฯ มีเวลาคืนเดียว ก็ได้สัมผัสธรรมชาติสีเขียว แม่น้ำไหลเอื่อย เพื่อเริ่มต้นปีกับความประทับใจ ที่ “กาลนาน ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท” (Kalanan Riverside Resort) สถานที่พักผ่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านปากเกร็ด ที่ผสมผสานความเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติและความสะดวกสบายใกล้กรุงเทพฯ ได้อย่างลงตัว รีสอร์ทแห่งนี้โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ผสมผสานระหว่าง สถาปัตยกรรมไทยและสไตล์โคโลเนียล ถ่ายทอดเสน่ห์แห่งยุคทองของสยามในอดีตผ่านทุกมุมมองของพื้นที่ พร้อมบริการอันอบอุ่นและใส่ใจในทุกรายละเอียด ที่นี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาการพักผ่อนที่มากกว่าความสบาย แต่ยังมอบประสบการณ์ที่เปี่ยมด้วยมนต์ขลังเหนือกาลเวลา

Kalanan Riverside Resort เป็นหนึ่งในธุรกิจในเครือ Buddy Group มีจุดเริ่มต้นมาจากร้านอาหารไทยริมน้ำชื่อดัง “สองฝั่งคลอง” ที่เปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2549 ก่อนจะพัฒนาขึ้นเป็นรีสอร์ทที่สะท้อนความเป็นไทยอย่างสมบูรณ์แบบ โดยการก่อสร้างรีสอร์ทเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2550 และใช้ระยะเวลากว่า 4 ปีจนแล้วเสร็จและพร้อมเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2553 ซึ่งแม้จะผ่านไปกว่าทศวรรษ “กาลนาน” ก็ยังคงรักษาเสน่ห์และเอกลักษณ์ไว้ได้อย่างสมบูรณ์ โดยในปัจจุบัน รีสอร์ทแห่งนี้ยังพร้อมมอบความทรงจำที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าพักทุกท่านอย่างต่อเนื่อง

ความเป็นไทยที่ถูกถ่ายทอดผ่านการออกแบบใน 3 ยุคสมัย

Kalanan Riverside Resort สะท้อนความรุ่งเรืองของไทยใน 3 ยุคประวัติศาสตร์ ได้แก่ กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และ กรุงรัตนโกสินทร์ ผ่านการออกแบบและการจัดพื้นที่อย่างพิถีพิถัน โดยมี คุณอุ้ม พิชยา ชยวรประภา ทายาทรุ่นที่ 2 ที่เรียนจบสถาปัตยกรรมศาสตร์ หลังจากรวมทำงานกับบริษัทชั้นนำอย่าง  Foster + Partners ได้เข้ามาบริหารโรงแรม สานต่อเจตนารมย์ทางธุรกิจของคุณพ่อ คุณไทฟ้า ผู้ก่อตั้ง และทีมภูมิสถาปนิกจากบริษัทฉมา ร่วมกันสร้างสรรค์ให้พื้นที่ทั้งหมดบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อย่างมีชีวิตชีวา ได้แก่

  • กรุงศรีอยุธยา: เมื่อเข้ามายังรีสอร์ต แขกจะได้พบกับกำแพงอิฐที่สะท้อนความงดงามและความยิ่งใหญ่ของอยุธยาในอดีต พร้อมต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่น สร้างบรรยากาศสงบเงียบและอบอุ่น
  • กรุงธนบุรี: พื้นที่สันทนาการที่ได้รับแรงบันดาลใจจากร่องสวนแบบดั้งเดิมในชุมชนบ้านสวนของฝั่งธนบุรี เต็มไปด้วยพืชผักสวนครัวที่ช่วยเสริมความสดชื่นให้กับพื้นที่
  • กรุงรัตนโกสินทร์: พื้นที่สำคัญที่สุดของรีสอร์ทที่ได้รับการออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลผสมไทย พร้อมกำแพงป้อมปราการที่ถ่ายทอดความยิ่งใหญ่ของเมืองหลวงในยุครัตนโกสินทร์
กาลนาน ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท

ทุกมุมของรีสอร์ทสะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างความงามของอดีตและการใช้งานที่เหมาะสมกับปัจจุบัน ตั้งแต่ ห้องพักที่ตกแต่งอย่างประณีต ทั้งห้องพักหรูหราและพูลวิลล่าที่มอบความเป็นส่วนตัวให้ผู้เข้าพัก ไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน อาทิ สระว่ายน้ำ 2 สระ ห้องอาหาร 2 ห้อง พูลบาร์ 2 แห่ง และสปาที่ให้บริการในบรรยากาศผ่อนคลาย นอกจากนี้ โรงแรมยังมีบริการพิเศษสำหรับผู้ที่รักสัตว์เลี้ยงด้วยบริการ Pet-Friendly ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าพักได้พาสัตว์เลี้ยงแสนรักมาใช้เวลาพักผ่อนร่วมกันได้โดยไม่ต้องแยกจากกัน

ภายในโรงแรมยังมีห้องจัดเลี้ยงและพื้นที่สำหรับการประชุมสัมมนาหรือการจัดกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงสถานที่จัดงานที่ออกแบบอย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นห้องประชุมต่าง ๆ ที่ใช้ชื่อย้อนยุคอย่าง กำมาจล กำปะนี (คอมพานี) หรือ กัมมาจล (คอมเมอร์เชียล) และสะพานที่ตั้งชื่อตามถนนเก่าแก่อย่าง สะพานบำรุงเมือง และ สะพานเจริญกรุง ยังมีจุดไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ “ป้อมสิริเจ้าพระยา” ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่สะท้อนความประณีตและโรแมนติกในบรรยากาศของโรงแรม ให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสความงดงามในแบบที่หาไม่ได้จากที่อื่น

ห้องพักที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้เข้าพัก

Kalanan Riverside Resort มีห้องพักถึง 82 ห้อง แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ Deluxe, Grand Deluxe, และ Pool Villa ซึ่งแต่ละประเภทมีเอกลักษณ์และบรรยากาศที่แตกต่างกัน ซึ่งไม่ว่าจะเลือกพักในห้องแบบใด ก็จะได้สัมผัสความเงียบสงบและทัศนียภาพที่งดงามไม่เหมือนใคร

  • Deluxe: มีให้เลือก 5 ประเภทย่อยตามวิว ได้แก่ Deluxe Canal View, Deluxe Garden View และ Deluxe Pool View
  • Grand Deluxe: ทุกห้องมาพร้อมกับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบเต็มตา โดยเฉพาะห้อง Grand Deluxe River View ที่ตั้งอยู่บนชั้นบนสุด
  • Pool Villa: ห้องพักขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับครอบครัว มีทั้งแบบ 1 และ 2 ห้องนอน
Deluxe Garden View
Deluxe Garden View
Pool Villa
Pool Villa 1 ห้องนอน
Pool Villa 1 ห้องนอน

กิจกรรมที่หลากหลายเพื่อประสบการณ์ที่น่าจดจำ

Kalanan Riverside Resort มีกิจกรรมมากมายที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสวิถีชีวิตแบบไทยและเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติ โดยทุกกิจกรรมถูกออกแบบมาเพื่อให้แขกได้สัมผัสกับความสงบและความงามของวิถีชีวิตไทยในอดีต อาทิ

  • พายเรือเก็บผักสวนครัว และเรียนทำอาหารจากวัตถุดิบสดใหม่
  • กิจกรรมใส่บาตรริมน้ำ ในเช้าวันอาทิตย์ที่ 4 ของทุกเดือน
  • คลาสวาดภาพริมแม่น้ำ
  • ถ่ายภาพย้อนยุคในชุดไทย
  • ผ่อนคลายไปกับบริการนวดไทย และสปาที่ “บุหงาสปา”
  • กิจกรรมพายเรือคายัค
ผ่อนคลายไปกับบริการนวดไทย และสปาที่ “บุหงาสปา”

บริการที่อบอุ่นและเป็นกันเอง

สิ่งที่ทำให้ กาลนาน ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท แตกต่างคือพนักงานที่ได้รับการอบรมให้ดูแลแขกด้วยความเอาใจใส่เสมือนเป็นเจ้าบ้าน ทุกคนพร้อมมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจและความรู้สึกอบอุ่นให้กับแขกทุกท่าน

คุณพิชยา ชยวรประภา กล่าวว่า “เราอยากให้ผู้ที่มาพักได้หยุดเวลาไว้ ได้สัมผัสกับกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ และสร้างความทรงจำที่ดีที่พวกเขาจะเก็บไว้ตราบชั่วกาลนาน ไม่ว่าคุณจะมองหาการพักผ่อนที่สงบเงียบ ท่ามกลางธรรมชาติ หรือการเดินทางที่พาคุณย้อนกลับไปยังยุคทองของไทย กาลนาน ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท คือจุดหมายที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณ”

สำรองห้องพักและค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับ กาลนาน ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท ได้ที่เว็บไซต์: www.kalananriverside.com โทรศัพท์: 02 584 2222

คริปโต

งานของโลก คริปโต ใหญ่ใจกลางสยามสแควร์

Alternative Textaccount_circle
คริปโต
คริปโต

แฟน ๆ เตรียมฟินกับงาน กับงานของโลกคริปโตใหญ่ใจกลางสยามสแควร์ “STREET OF THE FUTURE” นำเสนอโดย BINANCE TH by Gulf Binance ผู้นำแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับการกำกับดูแลภายใต้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จัดงานใหญ่ประจำปี ของคนที่สนใจอยากเรียนรู้เรื่องการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และ โปรเจกต์ต่างๆในโลกคริปโตสุดล้ำ ต้องห้ามพลาด อาทิ เช่น MOODENG, MEMELAND, EDU and MOCA, PNUT, MANTA, LUMIA, PIXEL, ONE KEY และอื่น ๆ อีกมากมาย

ในงานเรามี Speaker ระดับโลกมาให้ความรู้เรื่องรวมถึงทิศทางการเติบโตของโลกคริปโต อีกทั้งยังมุมมองต่างๆ จากเจ้าของโปรเจกต์ Blockchain ระดับโลกพร้อมขนทัพศิลปินตัวท็อปของวงการมาร่วมโชว์ให้ได้ชมกันแบบฟรี ๆ กับโซน FUTURE BEATS (BLOCK K) สยามสแควร์ วันเสาร์ที่ 18 มกราคม 2568 พบกับ “BNK48” (Pancake/Arlee/Marine/Hoop/Jew/Palmmy) เวลา 17:30-18:30 น. / “DAOUxOFFROAD” ต้าห์อู๋-ออฟโรด เวลา 18:45-19:45 น. / “Violette Wautier” วี วิโอเลต เวลา 20:00 – 21:00 น. และ วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 พบกับ “PERSES” เวลา 17:30-18:30 น. / “PROXIE” เวลา 18:45-19:45 น. / “BOWKYLION” โบกี้ไลอ้อน เวลา 20:00 – 21:00 น.

โดยงานจัดเพียง 2 วันเท่านั้น! 18-19 มกราคม 2568 เริ่มตั้งแต่ 10:00 น. เป็นต้นไป ณ สยามสแควร์ เตรียมล็อคคิวแล้วมาเจอกันได้เลย ก่อนเข้างานแฟน ๆ อย่าลืม Download App BINANCE TH เพื่อรับรางวัลสุดพิเศษ! และลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้แล้ววันนี้ที่ https://lu.ma/883jke53 แล้วมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำที่น่าประทับใจนี้ด้วยกัน ติดตามรายละเอียดงานต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Binance TH

เปิดมุมมอง ‘คุณกิ๊ก-ธณาภรณ์ โยวะ’ ซีอีโอหญิงเก่งแห่ง Unique Prime

account_circle

ใครกำลังมองหาที่ปรึกษาทางธุรกิจ หรืออยากขยายธุรกิจ ไปลงทุนในต่างประเทศ บริษัท ‘Unique Prime’ เป็นกุญแจไขสู่ความสำเร็จให้คุณได้ แม้จะก่อตั้งมาเพียง 3 ปี แต่สามารถให้บริการลูกค้ากว่า 100 รายสำเร็จ โดยให้บริการแบบครบวงจร ทั้งวางแผน หาพาร์ทเนอร์ หรือดูแลความเสี่ยง เรียกได้ว่าครบจบในที่เดียว 

เส้นทางนักธุรกิจ

“ชีวิตวัยเด็กของกิ๊กเรียกได้ว่าแทบไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับการเงินการลงทุนมาก่อน แค่มีความตั้งใจว่า อยากไปทำงานต่างประเทศ จึงฝึกภาษาให้แข็งแรงด้วยการเข้าเรียนที่คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ พอเรียนจบก็ทำงานสายมีเดีย เอเจนซี่ ไปจนถึงงานธนาคารเพื่อเก็บเกี่ยวคอนเน็คชั่น ขณะเดียวกันก็พยายามหางานในต่างประเทศไปด้วย กระทั่งได้เจอเพื่อนคนหนึ่งเขาชวนไปทำงานธนาคารที่สิงคโปร์ ซึ่งตอนนั้นบริษัทกําลังรับสมัครพนักงานทำหน้าที่หาคนมาลงทุนในต่างประเทศ พอไปสัมภาษณ์ เขาก็รับกิ๊กเข้าทำงานทันที เป็นการทำงานในต่างประเทศครั้งแรก และแม้จะเป็นคนละศาสตร์ที่เคยทำมา แต่สิ่งที่ทำให้เราเชื่อมโยงกันได้คือภาษาและคอนเน็คชั่น ที่ทำให้ต่อยอดได้มากมาย

“ผลงานที่ธนาคารออกมาดี กิ๊กเป็น Top Sale ที่ประสบความสําเร็จ และได้เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ มากมาย โดยเฉพาะการลงทุนในต่างประเทศเป็นเรื่องที่ควรจะอยู่ในระบบการศึกษาด้วยซ้ำ เพราะเป็นการเพิ่มความมั่งคั่งให้ตัวเองวิธีหนึ่ง และยังช่วยขยายตลาดการทำธุรกิจได้ดีมาก

“คือในแต่ละประเทศจะมีผลประโยชน์ที่มอบให้กับนักลงทุนต่างกัน อย่างสิงคโปร์ ด้วยความที่เขาเด่นเรื่องการเงิน การลงทุน สามารถดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้นำเงินมาไว้ที่ประเทศเขาได้ ถ้าฝากเงินตามเป้าที่เขากำหนด ก็จะได้สัญชาติสิงคโปร์และได้พาสปอร์ตซึ่งขึ้นชื่อว่าทรงพลังที่สุดในโลก สามารถเดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าได้มากถึง 195 ประเทศทั่วโลก ทำให้นักธุรกิจเดินทางไปทำงานในต่างแดนอย่างสะดวกสบาย รวมถึงได้รับสิทธิไม่ต่างจากพลเมืองในบ้านเขา หากมีลูก ก็สามารถส่งลูกเรียนโดยจ่ายค่าเทอมเทียบเท่ากับชาวสิงคโปร์ ไม่ใช่เรทชาวต่างชาติ”

กำเนิด Unique Prime

“กิ๊กเริ่มธุรกิจด้วยฐานลูกค้าเดิมซึ่งเขาไว้ใจเรา เพราะช่วงที่ทำงานประจำ ก็จะมีลูกค้าที่ขอให้เราช่วยเหลือ เช่น ขอคำแนะนำการลงทุนในสิงคโปร์ ธุรกิจไหนน่าสนใจ น่าลงทุน พอเขามาลงทุนแล้วได้รับผลตอบรับดี ก็เกิดเป็นความเชื่อใจจนมีอีกหลายคนตามมาขอคำปรึกษา นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่กิ๊กก่อตั้งบริษัท Unique Prime ที่สิงคโปร์เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เรื่องยากในช่วงแรกคือ การจัดการ และบริหารบุคคล กิ๊กเริ่มธุรกิจนี้ด้วยตัวคนเดียวมาตลอด เราก็ต้องสร้างทีม ซึ่งเริ่มจากการชักชวนเพื่อนสนิทที่ไว้ใจและทำงานได้ดี ซึ่งเราต้องมาถ่ายทอดประสบการณ์การทำงานทุกอย่างให้เขา ส่วนเรื่องท้าทายที่สุดคือ  ความที่อายุ 33 ปี หลายคนจึงมองว่า เป็นเจ้าของธุรกิจจริงเหรอ ยังเด็กอยู่เลยนะ แต่โดยส่วนตัว กิ๊กมีประสบการณ์การทำงานด้านการเงินมานานถึง 9 ปี อยู่ในสายธุรกิจที่ต้องเจอกับนักธุรกิจ การเงิน มาโดยตลอด จึงมั่นใจในเรื่องนี้ ส่วนความน่าเชื่อถือของบริษัท กิ๊กสามารถเปิดเอกสารบริษัทให้ดูได้เลยว่าได้รับการรับรองเรียบร้อยตามกฎหมายทุกอย่าง

“สำหรับธุรกิจ Unique Prime Group ตอนนี้เรามี 3 บริษัท บริษัทแรก คือ Unique Prime Consultant ให้คำปรึกษาทางด้านธุรกิจ การลงทุนในต่างประเทศ ให้คำแนะนำว่าประเทศไหนที่เอื้อต่อผลประโยชน์มากที่สุด รวมถึงการขอวีซ่านักลงทุน หรือการ ได้สัญชาติใหม่ สำฟรับนักลงทุนที่มีความมั่งคั่งสูง

“สองคือ Unique Prime Thailand ดูแลในส่วนของที่ปรึกษาการทำวีซ่าและการลงทุนในไทย และสุดท้าย คือ Unique Plan Management เหมาะสำหรับใครที่มีแผนขยายตลาดไปต่างประเทศ รวมถึงหาพาร์ทเนอร์การลงทุนในประเทศนั้นๆ

ครบวงจร พร้อมออกแบบชีวิต

“จุดเด่นของเราคือการบริการครบวงจร ช่วยวางแผน หาพาร์ทเนอร์ ดูแลเรื่องความเสี่ยง ตั้งแต่วันแรกที่คุณใช้บริการและจะคอยติดตามผลการดำเนินงานให้ตลอด ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่มีความมั่งคั่งทางการเงิน ประสบความสำเร็จจากธุรกิจที่ทําอยู่แล้ว หรือบางคนไม่ได้ทำธุรกิจ แต่มีเงินมรดก ต้องการนำเงินไปต่อยอดในต่างประเทศ เราก็ให้คำแนะนำและสามารถแจกแจงได้ว่า แต่ละธนาคารที่คุณฝากเงินจะได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพชัดเจนมากที่สุด

“ขั้นแรกของการทำงานร่วมกันคือ คุณลูกค้าต้องบอกความต้องการ แล้วเราจะออกแบบให้ เช่น ตอนนี้ทําธุรกิจอะไร อยากขยายไปประเทศไหน เรามีคอนเนคชั่นกับหลายประเทศทั่วโลก ไม่ใช่แค่สิงคโปร์ จีน หรือดูไบ แต่ครอบคลุมทั้งเอเชีย ยุโรป อเมริกา และไม่ว่าธุรกิจแบบไหน เราสามารถช่วยเหลือคุณได้ การพูดคุยคือกลยุทธ์ที่ทำให้เรามีวันนี้ การฟังให้มากทำให้เราได้ยินสิ่งที่เขาอยากได้จริงๆ

“ต่อมาถ้าคุณอยากได้พาร์ทเนอร์ เรามีจุดแข็งในฐานะเป็นตัวกลาง จับคู่ลูกค้าและพาร์ทเนอร์ให้เจอกัน  เราสามารถแนะนำได้ว่าแบงก์ไหนที่เหมาะกับการลงทุนของคุณมากที่สุด ถ้าถูกใจแบงก์ไหน ก็สามารถไปเจอกันที่แบงก์ได้เลย เอกสารทุกอย่างลูกค้าจะเซ็นเองทั้งหมด เพื่อให้โปร่งใสมากที่สุด

“นอกจากนี้เรายังสามารถให้คำแนะนำด้านการลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างเช่น ถ้าคุณทำธุรกิจชานมไข่มุก แล้วอยากตั้งบริษัทต่อยอดแบรนด์ที่ไต้หวัน เราสามารถวางโครงสร้าง จัดตั้งบริษัทที่ไต้หวันได้ โดยที่ลูกค้าไม่จําเป็นต้องติดต่อใครเลย หรือถ้าลูกค้า มีพาร์ทเนอร์อยู่ในใจ เราก็จะเป็นตัวกลางประสานงานให้ โดยจะทำแผนธุรกิจให้ทั้งสองฝ่ายพิจารณา

“หรือถ้าคุณทำแบรนด์เสื้อผ้า อยากขยายสาขาไปประเทศจีน หรือสิงคโปร์ แต่คุณไม่อยากไปตั้งบริษัท แค่อยากหาพาร์ทเนอร์ให้ดำเนินกิจการต่อ เราก็สามารถหาพาร์ทเนอร์ที่เหมาะกับธุรกิจคุณได้ แม้กระทั่งการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ เราก็สามารถช่วยมองหาทำเลดีๆ เพื่อการลงทุนได้เช่นเดียวกันค่ะ ซึ่งเราจะมีหลักฐานการพูดคุยทุกอย่างที่ทำสัญญาร่วมกัน มีทีมทนายคอยดูแล และเมื่อลงทุนแล้ว จะคอยอัพเดทข้อมูลสม่ำเสมอ เพราะฉะนั้นนี่ไม่ใช่แค่การซื้อบริการแล้วจบ แต่จะดูแลกันไปตลอดชีวิต

“นอกจากพาร์ทเนอร์ในส่วนของแบงก์และธุรกิจแล้ว เรายังดูแลในส่วนของการย้ายถิ่นฐาน การขอวีซ่า รวมไปถึงการลงทุนทุกรูปแบบ เช่น ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ไปจนถึง Family Office Trust ซึ่งเป็นสำนักงานครอบครัวเพื่อจัดการทรัพย์สิน ขึ้นกับว่าลูกค้ากําลังมองหาการลงทุนในรูปแบบไหน หรือคุณอยากให้ลูกเรียนที่ประเทศในยุโรป และอยากลงทุนที่นั่นด้วย เราก็จะมีประเทศให้เลือกว่าที่ไหนน่าลงทุน หรือถ้าคุณอยากได้ Golden Visa (วีซ่าที่จะให้สิทธิกับชาวต่างชาติที่ร่ำรวย สามารถพำนักและทำงานได้ โดยแลกกับเงินลงทุน), Permanent Resident (วีซ่าพำนักถาวร) หรือแม้กระทั่งการเป็นพลเมืองในประเทศนั้น เราก็ช่วยประสานให้ได้

“เพราะฉะนั้น Unique Prime เปรียบเสมือนสะพานหรือเครื่องบิน ที่จะพาคุณไปใช้บริการของประเทศนั้นๆ และความที่บริษัทหลักอยู่ที่สิงคโปร์ คุณอยากจะนำเงินไปลงทุนประเทศไหน หรืออยากซื้ออสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกที่ใดก็ทำได้ไม่ยาก”

โตแล้วในไทย ทำไมต้องโกอินเตอร์

 “โจทย์ยากที่สุดที่เราเจอคือ ลูกค้ายังไม่รู้ว่าจะทําอะไรในต่างประเทศ ไม่รู้ว่ากําลังมองหาอะไรอยู่ บางคนยังไม่มีทิศทาง นี่คือข้อยากที่สุด บางรายเขารู้สึกว่า ธุรกิจอิ่มตัวในไทยมาก อยากลองขยายไปตลาดต่างประเทศบ้าง แต่ไม่รู้ว่าต้องไปอย่างไร แล้วจะได้อะไร  กิ๊กมองว่าการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตมากขึ้น

“ที่เห็นชัดที่สุดคือ การมีรายรับในต่างประเทศ จะช่วยเพิ่มความมั่งคั่งได้ เช่น ทุกธุรกิจที่ก่อตั้งในประเทศสิงคโปร์แล้วได้รับผลประโยชน์ตอบแทน คุณไม่ต้องเสียภาษี การถูกละเว้นเงินส่วนนี้ ก็สร้างกำไรให้กับบริษัทเพิ่มขึ้น และถ้าอยากนำเงินจากธุรกิจไปทําลงทุนอย่างอื่นในสิงคโปร์  ผลตอบแทน หรือกําไรที่เกิดขึ้น จะไม่ถูกนํามาคิดเป็นภาษีเช่นกัน  นี่คือข้อดี

“ถ้าถามกิ๊กว่า ประเทศไหนที่คนนิยมไปลงทุน ส่วนตัวคิดว่า สิงคโปร์มีความแข็งแรงทางด้านการเงินและการปกครองมากที่สุด ทั้งเดินทางสะดวก ขณะที่จีนก็มาแรงมากเพราะตลาดกว้าง ทั้งกลุ่มนายทุนและกลุ่มลูกค้า ถ้าไปในฟากตะวันออกกลาง ดูไบก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะที่นั่นไม่เก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ถ้าเป็นนิติบุคคล จะเสียภาษีประมาณ 7-9% ส่วนฝั่งยุโรปก็มีลักเซมเบิร์ก สวิตเซอร์แลนด์ ลอนดอน ก็มีศูนย์กลางทางการเงินที่แข็งแรง สุดท้ายขึ้นอยู่กับว่า คุณเล็งเห็นประโยชน์อะไรในประเทศนั้น หรืออย่างในเมืองไทย จุดขายคือธุรกิจท่องเที่ยว เรามีทรัพยากรที่จะดึงดูดการลงทุนจากนักธุรกิจได้ และยังมีวีซ่าระยะยาวสำหรับนักธุรกิจด้วย”

ปรับองค์กรให้ทันโลก

“ในโลกที่เศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราต้องปรับการทำงานทุกวัน โครงสร้างของบริษัทยังเหมือนเดิม แต่ต้องตื่นตัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างเดี๋ยวนี้ จู่ๆ ราคาบิทคอยน์ขึ้นไปอยู่ที่ 3 ล้านกว่า เกือบ 4 ล้าน ซึ่งก่อนหน้านี้คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อถือ เพราะฉะนั้นในทุกๆ วัน เราต้องอัพเดทกับพาร์ทเนอร์ตลอดว่าเขาคิดแบบไหน ต้องการอะไร หรืออะไรที่ไม่สามารถทําได้เหมือนเดิมแล้ว กิ๊กพยายามไม่เป็นน้ำที่เต็มแก้ว ไม่คิดว่าสิ่งที่เราเคยทําได้ จะเหมือนเดิมเสมอไป เพราะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้  การเรียนรู้จึงสําคัญ

“ทุกวันนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่นิยมลงทุนในธุรกิจดิจิทัลและออนไลน์ เช่น Tesla, Microsoft, Google รวมถึง Software Security อย่างถ้าคุณขับรถเทสลา คุณก็ต้องมีซอฟต์แวร์ เพราะฉะนั้นในอนาคตเทคโนโลยียังคงนำเทรนด์ และสำหรับกิ๊ก การลงทุนที่ดีที่สุดคือ กระจายความเสี่ยง จึงแนะนำลูกค้าเสมอว่า ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง และไม่ควรลงทุนกับสิ่งใดเพียงอย่างเดียว การทำธุรกิจถือเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง แต่ก็ต้องนำเงินไปลงทุนในสิ่งที่มั่นคงอย่างอื่นด้วย เช่น การธนาคาร ประกัน หรืออื่นๆ ในตลาดโลก”

3 ปี สำเร็จกว่าร้อยเคส

“ตลอดระยะเวลาที่ทำธุรกิจมา 3 ปี เราเติบโตค่อนข้างเร็ว ดูแลลูกค้าประมาณ 100 เคส ซึ่ง ทุกเคส ตั้งบริษัทที่ต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว เราแค่ดูแลเรื่องความเรียบร้อยและติดต่ออัพเดทกันเป็นระยะ

“ในจำนวนนี้มีลูกค้าที่กิ๊กภูมิใจมาก เขาทำธุรกิจขายเครื่องดื่ม แล้วรีแบรนด์ใหม่จึงต้องการตีตลาดต่างประเทศ อยากขยายฐานธุรกิจไปที่ดูไบและอเมริกา ความยากคือเรื่องเวลาที่บีบคั้น พอเราได้รับโจทย์จากลูกค้ามาว่าเขาต้องการอะไรบ้าง โดยมีเวลาคิดไม่กี่วัน ในการวางแผนงานทั้งหมด แล้วเราก็ประสานกับทางดูไบและอเมริกา ซึ่งโชคดี ที่ฝั่งดูไบแจ้งกลับมาว่า เขากำลังมองหาแบรนด์เครื่องดื่มจากไทยพอดี กิ๊กใช้ระยะเวลาดำเนินงานให้เคสนี้ เพียง 3 สัปดาห์ ทั้งวางโครงสร้าง จัดตั้งบริษัท ทำบัญชี ระดมทุน ก็สามารถปิดดีลได้ทั้งหมด ซึ่งนับว่าเร็วมาก พอถึงวันที่เราได้เห็นหน้าร้านลูกค้า ตั้งอยู่ที่ดูไบกับอเมริกา ก็รู้สึกภูมิใจมากค่ะ”

“เป้าหมายของ Unique Prime ในปี 2025 เราตั้งใจจะขยายเรื่องของ พาร์ทเนอร์ คอนเน็คชั่น และการบริการ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองทุกความต้องการและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในทุกก้าวของความสำเร็จ เพราะกิ๊กเชื่อว่า ในอนาคตจะต้องมีลูกค้าถามหาในบริการที่เรายังไม่ครอบคลุม

และนั่นคือเป้าหมายสูงสุด ของ Unique Prime Group ที่เราจะต้องดูแลลูกค้าได้ครบทุกด้าน

โปรย

“Unique Prime เปรียบเสมือนสะพานหรือเครื่องบิน ที่จะพาคุณไปใช้บริการของประเทศนั้น และด้วยความที่บริษัทหลักอยู่ที่สิงคโปร์ คุณอยากจะนำเงินไปลงทุนประเทศไหน หรืออยากซื้ออสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกที่ใด ก็ทำได้ไม่ยาก”

เรื่อง Prince, Fai ภาพ วรสันต์

สถานที่ Millennium Hilton Bangkok

ช่างแต่งหน้า : ทัศษุระ ยศปัญญา

ช่างทำผม : วัฒนา อิ่มเกษม

เครื่องประดับ: Kind Jelwery


บ่าวสาวตัวจริง…เผยความประทับใจพร้อมชี้เป้าแหวนแต่งงาน…ต้อง Vijittra’s Jewellery

account_circle

ถือเป็นงานวิวาห์ที่สมบูรณ์แบบและตรงใจบ่าวสาวทุกดีเทลจริงๆ สำหรับงานแต่งของ “คุณต้นอ้อ – พิมพ์พีรฎา ไชยวรรณ” และ “คุณไมค์ – วีรเดช อุทธิยา” ซึ่งใช้เวลาเตรียมงานนานกว่า 10 เดือน ชนิดที่ว่าเลือกสรรทุกองค์ประกอบด้วยตัวเองอย่างพิถีพิถันและใส่ใจสุดๆ

แต่สิ่งที่บ่าวสาวบอกว่าเลือกง่ายมากๆ คือการเลือกร้านแหวนแต่งงาน เพราะบ่าวสาวรู้จักและมั่นใจในแบรนด์เครื่องประดับชั้นนำของเมืองไทยอย่าง Vijittra’s Jewellery อยู่แล้ว ทั้งด้วยชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือ และความเชี่ยวชาญที่สั่งสมประสบการณ์ยาวนานกว่า 40 ปี เรียกว่าใครที่ชื่นชอบเพชร หรือคลุกคลีอยู่ในวงการจิเวลรี่ต้องรู้จัก ดังเช่นคุณไมค์ที่ไม่ลังเลใจที่จะจูงมือคุณต้นอ้อไปเลือกซื้อแหวนแต่งงานที่ Vijittra’s Jewellery เมื่อตกลงปลงใจลั่นระฆังวิวาห์

งานแต่งชวนประทับใจของทั้งคู่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 ณ Inwood Garden ตามความตั้งใจของบ่าวสาวที่อยากจัดงานแต่งในสวนท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ อบอุ่น และโรแมนติก พร้อมเพิ่มกิมมิกด้วยการตกแต่งในโทนสีพาสเทล ซึ่งทำให้งานวิวาห์สวยงามลงตัวยิ่งขึ้น โดยทุกองค์ประกอบของงานแต่งครั้งนี้บ่าวสาวลงมือสรรหาและเลือกเฟ้นเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ ออแกไนซ์ หรือชุดแต่งงาน แม้จะเหนื่อยหน่อย แต่ทั้งคู่ก็แฮ็ปปี้กับผลลัพธ์

มาถึงองค์ประกอบสำคัญอย่างแหวนแต่งงาน บ่าวสาวก็ลงมือเองทุกขั้นตอนเช่นกัน เพราะอยากได้สิ่งที่ดีที่สุดมาเป็นของขวัญแทนใจ ซึ่งเจ้าสาวเล่าให้ฟังว่า “ในบรรดาขั้นตอนทั้งหมดในการเตรียมงานแต่ง การเลือกร้านแหวนแต่งงานถือว่าง่ายที่สุดแล้วค่ะ เพราะเจ้าบ่าวรู้จัก Vijittra’s Jewellery อยู่แล้ว เคยเข้าไปปรึกษาเรื่องการเลือกซื้อเพชรแล้วได้รับความรู้และคำแนะนำดีมากๆ กลายเป็นคนชอบเพชรไปเลย เขาจึงตั้งใจเอาไว้ว่าถ้าแต่งงานก็จะไปซื้อแหวนที่นี่อย่างแน่นอน เราจึงไม่ได้มองร้านอื่นเลย มุ่งตรงไปที่ Vijittra’s Jewellery ร้านเดียวเลยค่ะ”

นอกจากนี้เจ้าสาวยังเล่าถึงความประทับใจในวันที่เจ้าบ่าวพาไปเลือกซื้อแหวนแต่งงานที่ร้าน Vijittra’s Jewellery อีกด้วยว่า “ด้วยความที่เราไม่มีแบบในใจและไม่มีความรู้เรื่องเพชรมาก่อนเลย ตอนแรกจึงแอบประหม่านิดหน่อย แต่พอได้รับคำแนะนำต่างๆ จากคุณวิจิตราที่มาดูแลเราด้วยตัวเองเลย ทั้งเรื่องบัดเจ็ต การเลือกรูปทรงแหวน รูปทรงเพชร โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพของเพชรที่ได้ความรู้เยอะมาก จากคนที่ไม่เคยสนใจเพชรมาก่อน กลายเป็นชอบเลยค่ะ บวกกับพอได้ลองใส่แหวนหลายๆ แบบ เรียกว่าลองจนกว่าจะพอใจ สุดท้ายก็ได้แหวนแต่งงานที่ถูกใจเราทั้งคู่มากๆ

“จากนั้นในช่วงระหว่างรอรับแหวนที่สั่งทำไว้นั้น ทางร้าน Vijittra’s Jewellery ก็ดูแลอย่างดี มีการส่งฟีดแบ็กให้เรารู้ตลอดว่าถึงขั้นตอนไหนแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือในส่วนของเพชร ที่ทางร้านนัดให้ไปดูเพชรของจริงก่อนที่จะขึ้นตัวเรือน ทำให้เรารู้สึกสบายใจมากๆ ที่เลือกสั่งทำแหวนแต่งงานกับร้าน Vijittra’s Jewellery เรียกว่าไม่ต้องห่วงอะไรเลย ทางร้านดูแลอย่างดีทุกขั้นตอนจริงๆ ค่ะ”

งานนี้ขอบอกเลยว่าเต็มไปด้วยความประทับใจ Vijittra’s Jewellery ถือเป็นพิกัดแหวนแต่งงานที่ครองใจบ่าวสาวมาแล้วนับไม่ถ้วน หากใครที่กำลังมองหาแหวนแต่งงาน หรือเครื่องประดับงานคุณภาพ ต้องปักหมุด Vijittra’s Jewellery เอาไว้เลย

Vijittra’s Jewellery

โทร. 06-1614-5096

Facebook : www.facebook.com/VijittraJewellery

Line OA : @Vijittra

Vijittra’s Jewellery มี 7 สาขา ดังนี้

1. เซ็นทรัล ลาดพร้าว ชั้น 3

2. ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต ชั้น 1

3. เจเจมอลล์ ชั้น 1

4. เดอะมอลล์ บางกะปิ ชั้น G

5. แฟชั่นไอส์แลนด์ ชั้น 2

6. เดอะมอลล์ บางแค ชั้น G

7. เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 2


อาหารสเปน

เชฟอัลแบร์โต้ อิซาร์ด ยกระดับ อาหารสเปน ต้นตำรับโมเดิร์นลักชูรี่

Alternative Textaccount_circle
อาหารสเปน
อาหารสเปน

D’Tapas by El Tapeo เป็นร้านอาหารสเปน Casual Fine Dining แห่งใหม่ล่าสุดใจกลางกรุงเทพมหานคร  พร้อมเสิร์ฟรสชาติอาหารแบบต้นตำรับแท้ เต็มเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ ผสมผสานความคลาสสิกของอาหารสเปนดั้งเดิมและการสร้างสรรค์เมนู  ร่วมสมัยได้อย่างลงตัว โดยฝีมือเชฟชาวสเปนชื่อดัง “เชฟอัลแบร์โต้ อิซาร์ด” ซึ่งถือว่าเป็นร้านอาหารเปิดใหม่อีกหนึ่งร้าน ในเครือ El Tapeo Group ซึ่งตั้งอยู่ใน 953 คอมมูนิตี้มอลล์สุดชิคใน ซอยทองหล่อ 9

อาหารสเปน

ด้วยประสบการณ์กว่า 35 ปี ในร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ เชฟอัลเบอร์โตได้จัดงานเลี้ยงดินเนอร์สุดพิเศษ Exclusive Media Dinner คัดสรรเมนูอย่างพิถีพิถันโดยนำเสนอปรัชญาการทำอาหารของเชฟอัลเบอร์โต ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของประเพณีเมดิเตอร์เรเนียนและอิทธิพลระดับโลก ถูกจับคู่กับไวน์ “Cepa 21” สุดพิเศษจากภูมิภาค Ribera del Duero อันเป็นสัญลักษณ์ของสเปน ซึ่งนำเข้าโดย Winetopia BKK เพื่อเติมเต็มมื้ออาหารชั้นเลิศ สปาร์กลิงและน้ำดื่มระดับพรีเมี่ยมจากแบรนด์ EIRA ของนอร์เวย์ได้เพิ่มความประณีตให้กับประสบการณ์นี้ด้วย

อาหารสเปน

ตำนานแห่งรสชาติอันล้ำเลิศด้านการทำอาหาร                                                

เชฟอัลแบร์โต้ อิซาร์ด เชฟและเจ้าของร้านอาหาร D’Tapas by El Tapeo ผู้มากด้วยประสบการณ์ การทำงานในร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์มายาวนานมากกว่า 35 ปี เรียกได้ว่าเป็นผู้คร่ำหวอด ในวงการอาหาร สู่การรังสรรค์มื้ออาหารที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ ตลอดเส้นทางอาชีพ เชฟอัลแบร์โต  ได้สั่งสมประสบการณ์ในร้านอาหารที่มีชื่อเสียงระดับโลกในสเปนอย่าง  El Cenador de Salvador (มิชลินหนึ่งดาว), Coque (มิชลินหนึ่งดาว), Sant Celoni (มิชลินสองดาว) และได้ร่วมงานกับ Pastelerías Mallorca บริษัทจัดเลี้ยงอันโด่งดังที่ให้บริการในสนามกีฬาของสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดและแอตเลติโกมาดริด เขาได้รังสรรค์อาหารสำหรับแขก VIPs เป็นเวลาถึงสิบปี รวมทั้งเคยได้ทำงานกับโรงแรม Melia Madrid Princesa   หนึ่งในโรงแรมชั้นนำและเครือยักษ์ใหญ่ของกรุงแมดริด เชฟอัลแบร์โต้ มีสไตล์การปรุงอาหารที่โดดเด่น บวกกับประสบการณ์และเทคนิคที่แสนละเมียดละไม นอกจากอาหารสเปนแบบต้นตำรับที่เขารักเป็นชีวิตจิตใจ รวมถึงอาหารแนวเมดิเตอร์เรเนียน ด้วยสไตล์การทำอาหารที่เน้นความสดใหม่ของวัตถุดิบตามฤดูกาล เชฟอัลแบร์โต สร้างสรรค์เมนูที่สะท้อนเอกลักษณ์ของอาหารเมดิเตอร์เรเนียนแบบดั้งเดิม ผสมผสานกับแรงบันดาลใจจากการเดินทางและวัฒนธรรมอันหลากหลาย

D’Tapas by El Tapeo ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากร้าน El Tapeo บนสุขุมวิท 61 และ Paella House & Wine Bar by El Tapeo บนสุขุมวิท 26 ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องทาปาสต้นตำรับและบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา สร้างนิยามใหม่ของการลิ้มรสอาหารสเปนในแบบที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน เปิดประสบการณ์สุดพิเศษ ด้วยมื้ออาหารสเปนในสไตล์ Casual Fine Dining โมเดิร์นลักชูรี่ D’Tapas by El Tapeo ที่อยากให้มาลิ้มลอง ภายใต้ El Tapeo Group.

สัมผัสบรรยากาศอันหรูหราล้ำสมัย

ทันทีที่คุณย่างกรายก้าวเข้าสู่ D’Tapas by El Tapeo คุณจะดื่มด่ำกับบรรยากาศแห่งการต้อนรับอันอบอุ่นที่สะท้อนผ่านผนัง  สีขาวละมุนกับการตกแต่งด้วยไม้ในโทนอบอุ่น ผสมผสานการตกแต่งแบบโมเดิร์นเข้ากับกลิ่นอายความหรูหราในแบบสเปน   ในร้านมีการตกแต่งอย่างประณีตด้วยการออกแบบฝาผนังที่งดงาม ประดับประดาด้วยของตกแต่งสีเงินแวววาวนำเข้า จากสเปน รวมทั้งห้องเก็บไวน์ส่วนตัวที่มีไวน์ที่มีชื่อเสียงในแคว้นต่างๆจากสเปนให้เลือกมากกว่า 100 ชนิด กับบรรยากาศหรูหรา ในขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการเพลิดเพลินกับอาหารสเปนที่เยี่ยมที่สุด ในบรรยากาศอันปลอดโปร่งที่มีกลิ่นอายของความหรูหรา ผนวกกับการออกแบบสมัยใหม่และความงดงามแบบสเปนได้อย่างลงตัว

เกี่ยวกับ D’ Concept
D’ Concept: หมายถึงแหล่งความสมบูรณ์แบบ ที่ D’Tapas ตัวอักษร “D” สะท้อนถึงคุณภาพและความมุ่งมั่นในความเป็นเลิศ

  • D’ for Superb: การันตีมาตรฐานสูงสุดทั้งด้านรสชาติและการบริการ
  • D’ for Quality: ด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศนำเข้าจากประเทศสเปน เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพอันยอดเยี่ยม ถือเป็นหัวใจหลักของอาหารทุกจาน
  • D’ for Authentic Spanish Cuisine: นำเสนอรสชาติต้นตำรับแบบดั้งเดิมด้วยเทคนิคสมัยใหม่
  • D’ for Vibes: สัมผัสประสบการณ์ Casual Fine Dining ในบรรยากาศสุดชิคทันสมัย ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย
ป้าเจี๊ยบ

ป้าเจี๊ยบ เผยเคล็ดลับเลี้ยงลูกให้มีความมั่นใจ สไตล์แม่ชม  

Alternative Textaccount_circle
ป้าเจี๊ยบ
ป้าเจี๊ยบ

ป้าเจี๊ยบ เผยวิธีดูแล น้องแอบิเกล สไตล์แม่ชม  เคล็ดลับเลี้ยงลูกให้มีความกล้าแสดงออกและเข้าสังคมได้อย่างมั่นใจ

ชมพู่-อารยา ไม่เพียงเป็นซูเปอร์สตาร์ของวงการบันเทิงไทยเท่านั้น  แต่เธอยังเป็นคุณแม่ลูกสามสุดสตรอง แม้ว่าการเลี้ยงลูก 3 คน สายฟ้า-พายุ-แอบิเกล จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ชมพู่สามารถดูแลลูกๆ พร้อมกับทำงานที่เธอรักไปพร้อมได้ดี ทั้งยังเคยแบ่งปันเคล็ดลับการเลี้ยงลูกให้กับคุณแม่มือใหม่

เคล็ดลับเลี้ยงลูกเช่นการสร้างบรรยากาศอบอุ่นในครอบครัว ด้วยการใช้เวลาอยู่กับลูกๆ อย่างใกล้ชิด ทำกิจกรรมร่วมกัน และสร้างความทรงจำดีๆ ร่วมกัน, การให้ความสำคัญกับการศึกษา  ด้วยการเปิดโอกาสให้พวกเขาได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ เล่นเกม หรือทำกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งเสริมพัฒนาการ ,การปลูกฝังคุณธรรม สอนลูกๆ ให้ รู้จักแบ่งปัน เห็นอกเห็นใจผู้อื่น และมีน้ำใจ,การให้ความอิสระ ในการตัดสินใจและทำกิจกรรมที่ตนเองชอบ

ทั้งนี้ในงาน “COWAY Celebrate ที่สุดของแบรนด์ Subscription”  ที่จัดขึ้น ณ ชั้น 1 แฟชั่นฮอลล์ สยามพารากอน ป้าเจี๊ยบยังได้เผยอีกหนึ่งเคล็บลับการเลี้ยงลูกที่ดีของชมพู่

ขณะที่น้องแอบบิเกลกำลังแจกขนมให้กับพี่ๆ นักข่าว หลายคนไม่กล้าที่จะรับ แต่ ป้าเจี๊ยบ-อรพิน บอกว่า “ถ้าเด็กให้ของต้องรับนะ เพราะถ้าไม่รับเด็กจะหมดความมั่นใจไม่กล้าหยิบยื่นแบ่งปันให้กับคนอื่นๆ อีก”

อย่างไรก็ตาม ความมั่นใจในตัวเอง เป็นเหมือนเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งของเด็กได้เผชิญหน้ากับความท้าทาย กล้าแสดงออกและเข้าสังคมได้อย่างมั่นใจ ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญในอนาคตของเด็กๆ

@_copico1

ซิงเกิ้ลใหม่ “เจ๊เกล” จับปูดำ ไวรัลแน่ๆ วันนี้พี่เกลมาแบ่งขนมค่าาาาา #น้องเกล #แอบิเกล #ชมพู่อารยา #น้องแอบิเกล #เจ๊เกล #คอปเตอร์ไง

♬ children Have fun with Friends on the Beach – steven chau
COWAY Celebrate

สำหรับงาน “COWAY Celebrate ที่สุดของแบรนด์ Subscription” เป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ COWAY  DAZZIE เครื่องกรองน้ำไซซ์เล็ก สเปกครบ มอบความเรียบง่าย ผสานการใช้งานที่เต็มประสิทธิภาพกับดีไซน์แบบประหยัดพื้นที่ สามารถวางในบ้านทุกสไตล์ได้อย่างลงตัว มีให้เลือก 4 สีสวยโดนใจทั้ง Peach Pink, Ciel Blue, Pebble Gray และ Porcelain White มาพร้อมฟังก์ชันอัจฉริยะที่ตอบโจทย์ชีวิตสมัยใหม่ ทั้งการควบคุมอุณหภูมิและปริมาณน้ำ 4 ระดับ ด้วยเทคโนโลยี Coway NanotrapTM และยกระดับความสะอาดด้วยระบบการฆ่าเชื้อแสง UV ช่วยกำจัดแบคทีเรียได้ถึง 99.9% รวมถึงโหมดพักเครื่อง (Sleep mode) เพื่อลดการใช้พลังงาน และระบบล็อกเพื่อความปลอดภัยของเด็ก (Child Safety Lock) ช่วยป้องกันเด็กเล็กจากการโดนน้ำร้อนลวก และฟังก์ชันอื่น ๆ อีกมากมาย

“Siam Center X JAY B The 2nd Exhibition in Bangkok: RE LOAD” นิทรรศการแห่งความคิดถึงและความทรงจำระหว่าง JAY B และอากาเซ่

account_circle

สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ ศูนย์กลางแห่งจินตนาการและงานสร้างสรรค์ไร้ขีดจำกัด ของ ศิลปะ แฟชั่น เทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์ สร้างปรากฏการณ์แห่งปี ร่วมกับ “JAY B” (เจบี) ศิลปินเคป็อบชื่อดังจากวง GOT7 ศิลปินมากความสามารถที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก จัดนิทรรศการ “Siam Center X JAY B The 2nd Exhibition in Bangkok: RE LOAD” เพื่อส่งต่อความคิดถึงจาก JAY B สู่แฟนคลับผ่านภาพและเสียงที่เต็มไปด้วยความทรงจำ พร้อมเปิดพื้นที่ให้แฟนๆ ได้แชร์ช่วงเวลาพิเศษร่วมกัน และส่งความคิดถึงกลับไปถึงศิลปิน  ระหว่างวันที่ 13 มกราคม ถึง 3 กุมภาพันธ์ 2568 ณ เอเทรี่ยม1 ชั้น G สยามเซ็นเตอร์

นิทรรศการนี้เติมเต็มความอบอุ่นให้เหล่าแฟนคลับและอากาเซ่หัวใจฟู ในคอนเซ็ปท์ RE LOAD ที่สื่อถึงการหวนกลับคืนสู่สิ่งที่รักของศิลปินหนุ่มมากความสามารถอย่าง “JAY B” (เจบี) หลังจากห่างหายไปช่วงหนึ่ง นิทรรศการครั้งนี้จึงเป็นทั้งการตอบแทนแฟนๆ ที่เฝ้ารอการกลับมาของเขา และเป็นการเปิดพื้นที่แห่งความทรงจำและความคิดถึงระหว่างเขาและแฟนๆ

ก้าวเข้ามาในพื้นที่ของเจบี พบกับไฮไลท์เรื่องราวสตอรี่บอร์ดจากมิวสิกวิดีโอเพลงใหม่ล่าสุดของเขา ทั้งพรอพจากใน MV ภาพมุมต่างๆใน MV รวมไปถึงสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวที่ชวนให้แฟนๆ นึกถึงตัวตนของเจบี ศิลปินหนุ่มผู้รักการถ่ายรูป และเสียงเพลง ไม่ว่าจะเป็น หูฟัง กล้องฟิล์ม หรือเครื่องเล่นเทป            

เข้าสู่โซนแรก Familiar place พื้นที่ที่บ่งบอกถึงความเป็นเจบีที่แฟนตัวจริงต้องคุ้นเคยอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น Film camera lover corner ภาพถ่ายศิลปินหลากหลายสไตล์ ทั้งภาพฟิล์ม ภาพขาวดำ และ พร้อมฟินไปกับ Cat room corner ที่เต็มไปด้วยรูปถ่ายของน้องโนรา, น้องเค้ก และน้องเบลลึ แมวของศิลปินหนุ่มในอริยาบทน่ารักน่าชัง มุม Recording studio corner ที่ชวนอากาเซ่มาสัมผัสบรรยากาศการทำเพลงแบบคนเบื้องหลัง และมุม Vinyl corner แผ่นไวนิลที่ได้แรงบันดาลใจจากชื่อเพลงในอัลบั้มล่าสุดของ JAY B

ต่อด้วยโซน Memories & Melodies มุม Sound about และ Phone Booth ที่ JAY B ตั้งใจเตรียมไว้เพื่อสื่อสารกับแฟนๆ ด้วยตนเองผ่านข้อความเสียงสุด Exclusive ที่ตั้งใจบันทึกมาเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกของเขาถึงแฟนๆ

โซน Hide n Seek เปิดประตูตู้ล็อกเกอร์เพื่อค้นพบตัวตนอีกมุมนึงของ JAY B ทั้งสิ่งของและ ภาพถ่ายที่ตั้งใจเตรียมมาเพื่อแฟนๆ โดยเฉพาะ และ จุดเช็คอินแสดงตัวในฐานะ “เพื่อนรัก” ที่คิดถึงเจบีไม่แพ้ใครที่ Thermal photobooth กิมมิกสุดเก๋ที่เปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้มาบันทึกความทรงจำ และเขียนความรู้สึกฝากไว้ถึงนักร้องหนุ่มในดวงใจ

โซน Dark Room ดื่มด่ำกับบรรยากาศห้องล้างฟิล์ม ความอนาล็อกที่ JAY B หลงใหลพร้อมด้วยมุม Film slide ภาพฉายสุด chic and cool ตามสไตล์ของหนุ่มเจบีในอิริยาบทต่างๆ ที่เชิญชวนให้แฟนๆ ได้มาถ่ายภาพคู่เป็นที่ระลึก นอกจากนี้ยังมี Interactive massage wall พื้นที่สำหรับแฟนๆ ที่ให้มาฝากข้อความถึง JAY B กันได้อย่างเต็มที่ ปิดท้ายด้วยการรับชมคลิปสัมภาษณ์สุดพิเศษของเจบีเกี่ยวกับนิทรรศการนี้ และเบื้องหลังที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน

นอกจากนี้ยังมี POP-UP STORE พบกับสินค้าสุดพิเศษมากมาย อาทิ เสื้อ, MagSafe, ผ้าเช็ดหน้า, แผ่นน้ำหอม, พวงกุญแจ, Card holder, post card ระหว่างวันที่ 13 มกราคม – 16 กุมภาพันธ์ 2568 ณ IDEA AVENUE ชั้น G สยามเซ็นเตอร์ โดยรายได้ส่วนหนึ่งหลังหักค่าใช้จ่ายจากการจำหน่ายสินค้าใน POP-UP STORE นี้ จะร่วมสมทบทุนเพื่อการกุศลให้แก่ มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าในพระราชูปถัมภ์ฯ และมูลนิธิสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เหล่าอากาเซ่มีส่วนร่วมสร้างสรรค์สิ่งดีๆ กับ JAY B อย่างที่ศิลปินตั้งใจไว้ เหมือนที่ผ่านมา

ทั้งหมดนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่างสยามเซ็นเตอร์ และ JAY B ที่อยากมอบความพิเศษให้กับแฟนคลับและอากาเซ่ เพื่อเป็นของขวัญชิ้นพิเศษในการกลับมาครั้งนี้ สามารถร่วมสัมผัสนิทรรศการได้ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม ถึง 3 กุมภาพันธ์ 2568 ณ เอเทรี่ยม 1 ชั้น G สยามเซ็นเตอร์ สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook / X / Instagram : Siam Center

มารับความพิเศษไปกับเพื่อนสนิทของคุณ ในงาน Siam Center X JAY B The 2nd Exhibition in Bangkok: RE LOAD”  ได้ที่ สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์


ชุดแต่งงาน

สวยดุจเจ้าหญิง หมิง ชาลิสา ภายใต้ ชุดแต่งงาน สไตล์เวสเทิร์น

Alternative Textaccount_circle
ชุดแต่งงาน
ชุดแต่งงาน

ชุดเจ้าสาว เป็นมากกว่าแค่เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันสำคัญที่สุดในชีวิต มันคือตัวแทนของความฝัน ความโรแมนติก และความเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าสาวแต่ละคน การเลือกชุดเจ้าสาวจึงเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและความใส่ใจเป็นพิเศษ เช่นเดียวกับเจ้าสาวคนล่าสุด หมิง จิรกิติยา หรือ หมิง ชาลิสา บุญครองทรัพย์ นางสาวไทย ปี 2546 เธอได้เข้าพิธีสมรสกับแฟนหนุ่มนักธุรกิจที่มีอายุมากกว่า 5 ปี อรรถ-วิสุทธิ์ รังษิณาภรณ์ เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2568 และได้เลือกชุดในวันสำคัญอย่างพิถีพิถัน

สำหรับชุดนี้รังสรรค์ขึ้นใหม่โดยความร่วมมือระหว่าง ดร.สรรค์ สุดเกตุ และ (ว่าที่ ดร.) ณภัทร์ นิยมแย้ม ดีไซเนอร์มากฝีมือแห่งวนัชกูตูร์ โดยมีการออกแบบให้สะท้อนความหรูหราร่วมสมัยด้วย สไตล์เวสเทิร์น ด้านบนเป็นเสื้อแขนยาวโปร่งที่ตัดเย็บจาก ลูกไม้ฝรั่งเศสนำเข้า โชว์ความงามแบบอ่อนหวานและนุ่มนวล ช่วงลำตัวออกแบบเป็นลักษณะของ คอร์เซ็ต ที่ช่วยเน้นทรวดทรงและความสง่างามของว่าที่เจ้าสาวอย่างสมบูรณ์แบบ

ความพิเศษของกระโปรงทรงเอแบบเรียบหรู ตัดเย็บจาก ผ้าไหมคุณภาพสูง ที่ออกแบบมาอย่างประณีต สร้างความสง่างามและคลาสสิกให้กับผู้สวมใส่ พร้อมเสริมลุคให้เหมือนเจ้าหญิงในเทพนิยาย สมฐานะอดีตนางสาวไทยที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความสง่างาม

ทั้งนี้มีการเปิดเผยว่า มูลค่าชุดเจ้าสาวในงานแถลงข่าวนี้มากถึง 500,000 บาท โดยดีไซน์เนอร์เผยว่า ผลงานที่แสดงถึงความทุ่มเทและความสามารถในการออกแบบของทีมงานวนัชกูตูร์ และยังสะท้อนถึงความละเอียดอ่อนในทุกกระบวนการสร้างสรรคค์

อย่างไรก็ตามเจ้าสาวชุดนี้ไม่เพียงสะท้อนความงดงามของตัวเจ้าสาว แต่ยังเป็นตัวแทนของความสง่างามและความพิถีพิถันของแบรนด์ “วนัชกูตูร์รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในทุกช่วงเวลาสำคัญของคุณหมิง ชาลิสา และเชื่อว่าความงดงามของทั้งสามชุดนี้จะถูกกล่าวขานในวงการแฟชั่นตลอดปี 2568”

ภาพจาก Cofeoto Official

เปิดบ้านสุดหรู! สะท้อนไลฟ์สไตล์ของ “คุณช้อนทอง – ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง”

Alternative Textaccount_circle

บ้านหลังใหม่ย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ของ “คุณช้อนทอง – ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง” นักธุรกิจระดับพันล้านในวัย 35 ปี กับ 20 ธุรกิจหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอ็มเอส เมดิคอล กรุ๊ป จำกัด เจ้าของคลินิกความงาม Mersi Clinic 20 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีบริษัทเครื่องมือแพทย์สำหรับคลินิกความงาม ธุรกิจเครื่องบินเจ็ตเช่าเหมาลำ จนถึงเจ้าของโรงงานผลิตปุ๋ยออร์แกนิก และล่าสุดกำลังจะเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมันบางจาก ตรงข้ามพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ จังหวัดอุดรธานี ด้วยทุกช่วงเวลาของชีวิตคือการทำงาน ทำให้คุณช้อนทองตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้เพื่อใช้รับรองแขกและต้อนรับเพื่อนฝูงคนสนิท

ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง

เปิดบ้านสุดหรู! สะท้อนไลฟ์สไตล์ของ “คุณช้อนทอง – ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง”

พื้นที่ส่วนตัว

“ความจริงผมมีบ้านอยู่ในชอยสุขุมวิท 39 ถือเป็นบ้านหลังแรก เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ แต่ดีไซน์ไม่ทันสมัยละ เพราะอยู่มาเป็นสิบปี ส่วนหลังนี้ถือเป็นบ้านตากอากาศแล้วกัน (หัวเราะ) ด้วยพื้นที่ 1 ไร่ ถือว่าใหญ่สุดในโครงการ และเป็นหลังเดียวที่มีสระว่ายน้ำ ซึ่งโครงการนี้สามารถทะลุถนนใหญ่ได้สองเส้นทางคือถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่กับถนนร่มเกล้า ถือเป็นโลเคชั่นที่ดีที่สุดในย่านนี้ แถมยังใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิด้วย เวลาหุ้นส่วนธุรกิจหรือลูกค้าเดินทางมา ผมจะเปิดบ้านหลังนี้ต้อนรับ ประกอบกับผมอยากช่วยอุดหนุนธุรกิจของเพื่อนซึ่งเป็นเจ้าของโครงการด้วย (ยิ้ม)

ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง

“เดิมบ้านหลังนี้มี 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ ไม่รวมห้องแม่บ้าน 2 ห้อง ผมต้องการให้พื้นที่แต่ละห้องใหญ่ขึ้น จึงปรับให้เหลือ 3 ห้องนอน ห้องนอนหลักของผมเน้นโหนสีครีมกับสีทอง เพราะชื่อช้อนทอง สังเกตว่าทุกอย่างในบ้านจะแซมด้วยสีทองแมตต์ เน้นความเป็น Timeless ผมให้โจทย์อินทีเรียร์ว่าอยากได้ห้องนอนที่เหมือนอยู่ในนิยาย ผนังตรงหัวเตียงทำเป็นเหมือนกรอบหนังสือ

ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง

“ห้องน้ำทุกห้องมีอ่างอาบน้ำ สำหรับห้องผมเลือกอ่างจากุซซี่ไซส์ใหญ่ เพราะการได้นอนแช่น้ำเหมือนเป็นการผ่อนคลายร่างกาย ถัดมาเป็นวอล์กอินคลอเสต สารภาพว่าตอนนี้บ้านสุขุมวิทที่เก็บเสื้อผ้าไม่พอ จนต้องขยายด้วยการรื้อห้องนอนหนึ่งห้อง แล้วยังล้นมาที่บ้านนี้ด้วย ยอมรับว่าเป็นมนุษย์ที่ชอบช้อบปิ้งเสื้อผ้ามาก

“ถัดมาเป็นห้องนอนเล็กสำหรับเพื่อนสนิทที่มาปาร์ตี้ ห้องหนึ่งทำสีชมพูสำหรับผู้หญิง อีกห้องตกแต่งโทนสีเข้มสำหรับเพื่อนผู้ชาย

ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง

“นอกจากนี้ยังปรับพื้นที่ที่เดิมทำเป็นห้องสปา แต่เนื่องจากผมบ้างาน แทบจะไม่มีเวลาได้ใช้ จึงเปลี่ยนเป็นห้องพระสำหรับนั่งสมาธิ วันหนึ่งประมาณ 10-15 นาที ก็ยังดี เพื่อต้องการฝึกจิตให้นิ่ง ช้อนเป็นชาวพุทธที่ทำบุญมาตั้งแต่เด็ก เพราะเชื่อว่าความสามารถ 70 เปอร์เซ็นต์ กุศลหนุนนำอีก 30 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้ชีวิตได้พบเจอสิ่งดีๆ พระประธานในห้องนี้ผมประมูลมาจากงานการกุศล ราคากว่าสองล้านบาท ทำจากบรอนซ์ ปั้นตามแบบพระพุทธรูปองค์แรกของโลก”

ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง

Must-Have Items

“สถาปนิกที่ออกแบบบ้านเป็นทีมเดียวกันกับที่ออกแบบพื้นที่ธุรกิจของผม เขาจึงรู้ใจว่าผมชอบหรือไม่ชอบอะไร เวลาผมไปเที่ยวต่างประเทศก็จะคอยดูรายละเอียดที่ชอบแล้วนำมาตกแต่งเพิ่ม อย่างบ้านหลังนี้อยากให้มีบันไดวน แชนเดอเลียร์ และเปียโน ซึ่งแชนเดอเลียร์ขนาดใหญ่นี้ผมสั่งนำเข้ามาจากฝรั่งเศส ส่วนบันไดวนบ้านส่วนใหญ่ทำจากอัลลอยด์ แต่ผมไม่ชอบ เพราะไม่เข้ากับบ้านสไตล์โมเดิร์น จึงเปลี่ยนให้เป็นกระจกดัดโค้ง ทำให้ดูโล่ง โปร่ง แล้วมีความ Timeless ยิ่งขึ้น

ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง

“สำหรับห้องรับประทานอาหารผมเลือกใช้เซตช้อนส้อมและจานชามแบรนด์ Hermes เพราะส่วนตัวชอบจานโมเสกแล้วมีสีทองแทรกอยู่ ส่วนแก้วน้ำ แจกันเป็นของแบรนด์ Baccarat เครื่องแก้วเจียระไนชั้นสูงของฝรั่งเศสที่มีอายุยาวนานกว่า 250 ปี ราคาจึงสูงมาก อย่างแก้วน้ำหนึ่งใบราคาประมาณ 2 หมื่นบาท แต่ก็สวยงามเข้ากันได้ดีกับเครื่องถ้วยชามของ Hermes

ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง

“ถัดไปเป็นห้องครัว ตั้งใจใช้โทนสีเข้มกว่าทุกห้องเพื่อง่ายต่อการดูแลรักษา และเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดสั่งทำบิลท์อินเป็นพิเศษ แต่สุดท้ายเวลาจะทานข้าวผมนั่งในห้องครัวนี้มากกว่า” (หัวเราะ)

ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง

Double Living Room

“ห้องรับแขกเรียกได้ว่าเป็น Double Living Room ส่วนแรกเป็นห้องรับแขกเดิมที่เฟอร์นิแจอร์ทั้งหมดเป็นของ MINOTTI ส่วนหมอนอิงใช้ของแบรนด์ Cartier ทั้งหมด ตั้งใจให้อิงกับลูกรักพันธุ์ปอมเมอเรเนียนชื่อว่าคาร์เทียร์กับโชพาร์ด

ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง

“ห้องด้านหลังของห้องรับแขกหลัก เดิมตั้งใจให้เป็นห้องทำงาน แต่ความที่มีเพื่อนเยอะ ชอบสังสรรค์ จึงปรับเป็นอีกห้องรับแขกสำหรับจัดปาร์ตี้ แล้วจัดห้องทำงานไว้ที่ชั้น 2 แทน เวลาเพื่อนหรือลูกค้ามารับประทานอาหารแล้วสามารถเดินมานั่งสังสรรค์กันต่อที่ห้องรับแขก ซึ่งผมทุบกำแพงเพื่อให้ชื่อมต่อไปยังห้องปาร์ตี้ แล้วยังสามารถเปิดกว้างไปยังพื้นที่ด้านนอกที่เป็นสระว่ายน้ำแบบน้ำล้น จุดนี้ผมสร้างเป็นพาวิลเลียนแบบกลาสเฮ้าส์สำหรับนั่งชิลรับลมด้วย ตั้งแต่สร้างเสร็จเคยใช้สระว่ายน้ำแค่ครั้งเดียว แล้วไม่ใช่ผมด้วยนะ เพื่อนใช้” (หัวเราะ)

ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง

เติมสีสันให้บ้าน

“จะเห็นว่ามีดอกไม้ ต้นไม้ประดับอยู่ทุกมุมของบ้าน เพราะผมชอบปลูกต้นไม้ บ้านที่อุดรธานีทำสวนมะนาวกับมะละกอแบบออร์แกนิก ซึ่งถ้าคิดเรื่องค่าปุย ค่าคนดูแล ซื้อกินน่าจะดีกว่า แต่ถือเป็นความสุขที่ได้เห็นผลผลิต เวลามีคนมาที่บ้านก็จะแบ่งให้ ถ้ามีเยอะๆ ก็นำไปถวายวัด ให้แม่ครัวที่วัดทำภัตตาหารถวายพระและเณร

“ส่วนดอกไม้ที่ผมชอบมากคือกล้วยไม้ ซึ่งสามารถอยู่ในร่มโดยไม่โรยเกือบสองสัปดาห์ ถ้าเป็นดอกไม้สดอื่นๆ ต้องเปลี่ยนทุกสัปดาห์ และถ้าใครมาบ้านแล้วถ่ายภาพไป เขาจะรู้เลยว่าที่นี่คือเมืองไทย เพราะเป็นดอกไม้ประจำชาติเรา

ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง

“บนโต๊ะอาหารผมชอบจัดแจกันด้วยดอกไฮเดรนเยียสีฟ้า เพราะชอบในสีสันและรูปทรง วันก่อนได้ฟังอาจารย์คฑา ชินบัญชร บอกทางทีวีว่าสีของดอกไม้นี้ถ้าจัดวางบนโต๊ะกินข้าวแล้วจะมีทรัพย์มั่งคั่งร่ำรวย ซึ่งผมจัดอย่างนี้นานแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญ (ยิ้ม)

“หลายคนเห็นการใช้ชีวิตของผมแล้วดูเต็มที่ในทุกอย่าง เพระความคิดของผมคือคนเราอาจมีชีวิตถึงประมาณ 60 ปี หลังจากนั้นคือกำไร จึงควรใช้ให้เต็มที่ ผมมีความสุขกับการซื้อเสื้อผ้า เครื่องเพชร แบบใช้จริง ไม่ใช่ให้ตู้เซฟใช้ อย่าไปคิดว่าจะเก็บไว้ให้ลูกหลาน ชีวิตใครชีวิตคนนั้น เกิดมาคนเดียว ไปก็คนเดียว ผมจึงตั้งใจใช้ชีวิตให้มีความสุข…Enjoy Life ครับ”


"ซงฮเยคโย" ขึ้นแท่น Guerlain Brand Ambassador เอเชียแปซิฟิก

“ซงฮเยคโย” ขึ้นแท่น Guerlain Brand Ambassador เอเชียแปซิฟิก

Alternative Textaccount_circle
"ซงฮเยคโย" ขึ้นแท่น Guerlain Brand Ambassador เอเชียแปซิฟิก
"ซงฮเยคโย" ขึ้นแท่น Guerlain Brand Ambassador เอเชียแปซิฟิก

จึ้งรับต้นปีไม่หยุด Maison Guerlain แต่งตั้ง “ซงฮเยคโย“ (Song Hye-Kyo) ขึ้นแท่น Guerlain Brand Ambassador เอเชียแปซิฟิกอย่างเป็นทางการ เป็นตัวแทนแห่งความงามเหนือกาลเวลาในด้านสกินแคร์และเมคอัพ พร้อมสะท้อนเอกลักษณ์และความสง่างามแบบปารีเซียง

“ฉันยินดีอย่างยิ่งที่จะได้ทำหน้าที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ของ Maison Guerlain บ้านแห่งนี้ คือ สัญลักษณ์ของความสง่างามที่ไม่เสื่อมคลาย โดยผสมผสานนวัตกรรมและธรรมเนียมตามแบบฉบับปารีเซียง ฉันตื่นเต้นที่จะเริ่มต้นการเดินทางนี้ร่วมกับ Guerlain” – Song Hye-Kyo

*(เอเชีย แปซิฟิก คือ คำจำกัดความทางการตลาดอันครอบคลุมเฉพาะประเทศ: เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, ฮ่องกง, มาเก๊า, สิงคโปร์, มาเลเซีย, ไทย, เวียตนาม, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์)


“หมอขนม – ดร.พญ.ภัทรชนน อัศววรฤทธิ์” RWC Clinic ขึ้นแท่นพิกัดทำสวยระดับ The Icon Legend

account_circle

ด้วยกระแสความนิยมของนวัตกรรมความงามที่มีให้เลือกสรรหลากหลาย Exclusive Talk ครั้งนี้ แพรว จึงไม่พลาดที่จะคว้าตัว “คุณหมอขนม – ดร.พญ.ภัทรชนน อัศววรฤทธิ์” (ว.48223) แห่ง RWC Clinic เจ้าของรางวัลสุดปังอย่าง The Icon Legend จากเวทีความงามแห่งปี Praew Iconic Beauty 2024 มาอัปเดตเทรนด์ความงามพร้อมแชร์ความรู้ดีๆ ให้กับคนรักสวยกันค่ะ

ความพิเศษของรางวัล The Icon Legend จาก Praew Iconic Beauty 2024 คือนับเป็นปีแรกที่มีการมอบรางวัลนี้สำหรับคลินิกความงามระดับตำนานที่ครองแชมป์ 5 ปีขึ้นไป ซึ่ง RWC Clinic ติดโผท็อปลิสต์ดังกล่าวด้วยการคว้ารางวัลสำคัญ 2 สาขา ต่อเนื่อง 5 ปีซ้อน ขึ้นแท่นระดับ Grand Honor ได้แก่ Premium Filler Center และ Facial Shape Transformation Specialist อีกทั้งยังได้รับรางวัล First Class In Service Clinic ติดต่อกัน 3 ปี ก้าวสู่ระดับ The Best เรียกว่ายืนหนึ่งยาวนานสมดีกรี

เดินหน้าพัฒนาไม่หยุดยั้ง

“RWC Clinic มุ่งมอบสิ่งที่ดีและสิ่งใหม่ๆ ให้กับผู้รับบริการตลอดระยะเวลา 7 ปี สำหรับปีที่ผ่านมาเราได้พัฒนาตัวเอง 3 ด้านหลักๆ หนึ่งคือการคัดสรรผลิตภัณฑ์ให้กับผู้รับบริการได้มีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น โดยเรามีการศึกษาเพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เห็นผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น ช่วยลดผลข้างเคียงระหว่างทำหัตถการ และใช้เวลาพักฟื้นหลังทำหัตถการน้อยลง ด้านที่สองคือการปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการ โดยมีการสำรวจและสอบถามความคิดเห็นของผู้รับบริการ พร้อมนำมาพัฒนา ปรังปรุง และหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อทำให้ผู้รับบริการเกิดความพึงพอใจและรู้สึกผ่อนคลาย เพราะสำหรับบางคนการทำหัตถการอาจทำให้รู้สึกกังวลใจ ดังนั้นเราจึงมีบริการที่พร้อมให้คำแนะนำต่างๆ เพื่อสร้างความผ่อนคลายให้กับเขา สุดท้ายด้านที่สามคือการพัฒนาทักษะและศักยภาพของแพทย์ผู้ให้บริการ โดยเราทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำความรู้ความสามารถมาใช้ในการสร้างสรรค์ผลลัพธ์ที่ดี นอกจากนี้ RWC Clinic ยังมีการพัฒนาและปรับปรุงในส่วนอื่นๆ อยู่เสมอด้วยค่ะ”

บทบาทคุณหมออินฟลูเอนเซอร์

“นอกจากการดูแลความงามภาคสนามที่ RWC Clinic แล้ว ปัจจุบันหมอยังช่วยดูแลความงามให้กับทุกคนผ่านโซเชียลมีเดียด้วยค่ะ โดยเนื้อหาหลักๆ คือการแชร์ความรู้ด้านความงาม นำเสนอผ่านคอนเท้นต์รูปแบบต่างๆ แพลตฟอร์มหลักคือยูทูป ชื่อช่อง หมอขนม Health Trends และเฟซบุ๊กใช้ชื่อเพจว่า หมอขนม Health Trends เหมือนกัน ซึ่งแรงบันดาลในการแชร์ความรู้ผ่านช่องทางออนไลน์ คืออยากเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงในการแบ่งปันความรู้ด้านความงาม อยากให้ผู้รับบริการได้รับความรู้ด้านความงามที่ถูกต้อง เพื่อเป็นข้อมูลที่ช่วยในการตัดสินใจก่อนเลือกทำหัตถการใดๆ เพราะปัจจุบันมีทางเลือกที่หลากหลายในการดูแลความงาม ทั้งผลิตภัณฑ์และเครื่องมือ หมอจึงอยากให้คอนเท้นต์ที่สื่อสารออกไปเกิดประโยชน์กับผู้รับบริการมากที่สุดค่ะ”

วางแผนตอบโจทย์เทรนด์ความงาม

“เทรนด์ความงามปีนี้ หัตถการที่ช่วยเรื่องการปรับสภาพผิวค่อนข้างมาแรง ซึ่งหมอมองว่าจะได้รับความนิยมต่อเนื่องไปถึงปี 2025 รวมถึงคาดว่าจะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในส่วนนี้มากขึ้น อย่างล่าสุดทางบริษัท Allergan Aesthetics หนึ่งในผู้นำด้านเวชศาสตร์ความงามจากสหรัฐอเมริกา ก็จะเปิดตัวสารเติมเต็มกลุ่มกระตุ้นคุณภาพผิวในประเทศไทยช่วงต้นปีหน้า ซึ่งแน่นอนว่าสามารถติดตามได้ที่ RWC Clinic เพราะเราวางแผนที่จะตอบโจทย์เทรนด์ความงามอย่างเต็มที่ค่ะ

“สำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ RWC Clinic คัดสรรมาให้กับผู้รับบริการ เราจะมีการศึกษาอย่างละเอียดและทดลองใช้จริงก่อนเสมอ แม้จะมีงานวิจัยรองรับจากต่างประเทศ แต่เราจะคำนึงถึงสภาพผิวของคนเอเชียเป็นหลัก เพราะสภาพผิวของคนยุโรปกับคนเอเชียมีความแตกต่างกัน ดังนั้นเราจึงต้องมีการทดสอบด้วยตัวเอง เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ เหมาะสมกับสภาพผิวของคนไทยจริงๆ

“ที่สำคัญอีกอย่างคือด้านการให้บริการ ซึ่งเราเตรียมความพร้อมในการรองรับผู้รับบริการอย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นห้องทำทรีตเม้นต์ที่มีหลายห้อง หรือห้องพักรับรองเเบบไพรเวท นอกจากนี้เรายังมีการทำแบบสำรวจความพึงพอใจของผู้รับบริการทุกครั้ง ทั้งจากการให้บริการของแพทย์และพนักงาน เพื่อนำฟีดแบ็กคำติชมและคำแนะนำต่างๆ มาพัฒนาปรับปรุงบริการให้ดีขึ้น รวมถึงเพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการมอบผลลัพธ์และประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้รับบริการต่อไป”

ความสำเร็จ 5 ปีซ้อน! บนเวที Praew Iconic Beauty

“ไม่ว่าจะเป็นการได้รับรางวัลใดๆ ก็ตาม ทุกรางวัลล้วนเป็นความภาคภูมิใจ เพราะตลอดระยะเวลา 7 ปี เรามุ่งมั่นในการรักษามาตรฐานคุณภาพให้ดี ทั้งพัฒนาและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามยุคสมัย แต่ที่ภูมิใจเป็นพิเศษคือปีนี้ Praew Iconic Beauty 2024 ได้มอบรางวัล The Icon Legend ให้กับ RWC Clinic ด้วย ถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่มอบเป็นปีแรกสำหรับคลินิกความงามที่คว้ารางวัลต่อเนื่อง 5 ปี ซึ่งสะท้อนถึงความทุ่มเทของเรา ทั้งด้านการใช้สารเติมเต็มและการปรับรูปหน้า เราจึงรู้สึกขอบคุณทุกความไว้วางใจและดีใจมากๆ ค่ะ

“เคล็ดลับความสำเร็จนั้นง่ายมาก แค่เราตั้งเป้าหมายด้วยการนึกถึงผู้รับบริการเป็นหัวใจสำคัญเสมอ ซึ่งทำให้เราต้องขยันศึกษาค้นคว้าเพื่ออัปเดตความรู้ใหม่ๆ พร้อมพัฒนาและปรับปรุงการให้บริการ รวมถึงการคิดแทนผู้รับบริการเสมอว่าเขาน่าจะต้องการอะไร อยากได้รับการบริการแบบไหน ถ้าเราเริ่มต้นทุกอย่างด้วยการยึดความต้องการของผู้รับบริการเป็นที่ตั้ง สุดท้ายเราก็จะเจอแนวทางที่นำไปสู่การพัฒนาตัวเองในทุกๆ ด้าน โดยเราสัญญาว่าจะมุ่งมั่นพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการให้บริการต่อไป เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีและทำให้ผู้รับบริการรู้สึกคุ้มค่าที่ตัดสินใจเลือก RWC Clinic”

ติดต่อ RWC Clinic

Facebook : https://www.facebook.com/Drkanomaesthetic

Website : https://doctorpatchanon.com/

Youtube : https://www.youtube.com/@drkanom


แฟชั่นสนามฟุตบอล! เปิดดีเทลรองเท้า Louis Vuitton ของ ลิซ่า ลลิษา

Alternative Textaccount_circle

มีวงการไหนอีกบ้างที่ ‘ลิซ่า ลลิษา‘ ยังไม่ไปเยือน เมื่อวงการเพลง ภาพยนตร์ และวาไรตี้กลายเป็นเรื่องเบสิกไปแล้ว เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอได้มีโอกาสไปร่วมงานมากมาย ไม่ว่าขะเป็นการร่วมคิดสูตรน้ำกับแบรนด์ยอดฮิตอย่าง Erewhon ที่มีชื่อว่า ‘Thai Up the World’ และเมื่อกลางปีที่แล้ว ลิซ่า ยังเคยได้รับเกียรติทำหน้าที่โบกธงตาหมากรุก ในศึกรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก หรือ เอฟวัน รายการ ไมอามี่ ที่สนาม ไมอามี อินเตอร์เนชันแนล ออโตโดรม เมืองไมอามี ฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา อีกด้วย

จนมาถึงอีเวนต์ล่าสุดที่  ‘ลิซ่า ลลิษา’ ได้รับให้ทำหน้าที่โยนเหรียญเสี่ยงทายเปิดเกมการแข่งขันพรีเมียร์ลีกระหว่าง ‘อาร์เซนอล’ และ ‘ท็อตแนม ฮอตสเปอร์’ ที่ Emirates Stadium ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เรียกว่ารันทุกวงการจริงๆ

โดยลิซ่าปรากฏตัวในเสื้อลายทางสีเหลือง – น้ำเงิน และกระโปรงสั้น พร้อมรองเท้าผ้าใบ LV Footprint Soccer สีขาว ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากกีฬาฟุตบอลและเปิดตัวครั้งแรกในแฟชั่นโชว์คอลเล็คชั่น Spring-Summer 2025 มาในดีไซน์เพรียวกระชับโดดเด่นด้านข้าง ตกแต่งอักษรย่อ LV มีชีวิตชีวา เสริมลิ้นรองเท้าประดับสัญลักษณ์ Lvers United ที่ได้แรงบันดาลใจจากทีมฟุตบอล อีกทั้งพื้นรองเท้ายางด้านนอกยังตกแต่งสัญลักษณ์เมซงหลายรูปแบบอีกด้วยค่ะ ราคาอยู่ที่ 43,400 บาท เห็นแรงบันดาลใจของรองเท้าคู่นี้แล้วต้องยอมรับจริงๆ ว่าเซนส์ด้านแฟชั่นของลิซ่านั้นไม่ธรรมดา เพราะสามารถเลือกแฟชั่นไอเท็มมาใช้ได้ถูกต้องตามสถานการณ์


ภาพ: Getty Image และ Louis Vuitton

ไขความลับ ‘กุหลาบสีน้ำเงิน’ ในวันเกิดทุกปีของเจนนี่ BLACKPINK

Alternative Textaccount_circle

รู้หรือไม่? ใครเป็นเจ้าของ ‘กุหลาบสีน้ำเงิน’ ในวันเกิดทุกปีของ เจนนี่ BLACKPINK พร้อมเปิดความหมายดอกไม้ช่อนี้

มาตามนัดทุกปี ‘ดอกกุหลาบสีน้ำเงิน’ ที่ส่งถึงหน้าประตูบ้าน เจนนี่ BLACKPINK ในทุกวันเกิด (18 มกราคม โดยปีนี้เจนนี่อายุ 29 ปี) เจ้าของดอกไม้ช่อนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น ‘คุณแม่ของเจนนี่’ นั่นเอง โดยในปีนี้เจนนี่ก็ได้แชร์รูปดอกไม้ลงบนโซเชียลเช่นเคยพร้อมแคปชั่น ‘You know what this means’

โดย ‘ดอกกุหลาบสีน้ำเงิน’ เป็นสีที่แปลกตา และหายาก (ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ต้องใช้เทคนิคพิเศษเพื่อเปลี่ยนสีดอกกุหลาบ) ซึ่งมาพร้อมความหมายที่สื่อถึง “ความรักอันยั่งยืน ล้ำค่า และเพราะกระบวนการที่พิถีพิถันกว่าจะได้ดอกไม้สีนี้มายังทำให้สื่อถึงความตั้งใจในการมอบให้กับผู้รับ และในบางประเทศยังหมายถึงความรักที่ไม่มีใครเทียบได้อีกด้วย ” เพราะเป็นสิ่งที่มอบให้กับลูกสาวสุดที่รักทั้งที ดอกไม้ช่อนี้จึงเป็นของขวัญแทนใจของผู้เป็นแม่ได้เป็นอย่างดี

อีกหนึ่งความพิเศษสำหรับปีนี้ เจนนี่ได้โพสต์รูปภาพในห้องอัดเสียงบนอินสตาแกรมส่วนพร้อมทั้งข้อความ ‘COMMING SOON FOR YOU ALL’ หรือที่แปลว่า เร็วๆ นี้สำหรับทุกคน เซอร์ไพรส์ครั้งนี้ของเธอจะเป็นอะไรต้องมารอติดตามกันค่ะ

สุดท้าย แพรวขออวยพรวันเกิดให้เจนนี่ของเราได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกๆ วันนะคะ


ข้อมูล: flowerlabstudio

ภาพ: Instagram @jennierubyjane

อิมเซรยอง

อิมเซรยอง นักธุรกิจกลุ่มแชโบล หวานใจตัวจริง 456 จาก Squid Game

Alternative Textaccount_circle
อิมเซรยอง
อิมเซรยอง

ทำความรู้จัก อิมเซรยอง (Lim Se Ryung) นักธุรกิจหญิงคนเก่ง รองประธานบริหารของกลุ่ม Daesung ธุรกิจใหญ่ในเกาหลีใต้ ดีกรีหวานใจตัวจริงของ อีจองแจ (Lee Jung Jae) หรือ หมายเลข 456 จาก Squid Game

Squid Game ถือเป็นผลงานมาสเตอร์พีชที่สร้างชื่อเสียงให้กับ อีจองแจ (Lee Jung Jae) นักแสดงชายมากฝีมือของเกาหลีใต้ ด้วยฝีมือการแสดงของเขาที่โดดเด่น สามารถถ่ายทอดบทบาทได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้ผู้ชมเชื่อในตัวละครที่เขาแสดง บวกกับความนิยมที่ไม่เคยตกยุค ทำให้เขากลายเป็นนักแสดงที่หลายคนต้องการตัวมากที่สุด

และปัจจุบันเขาความนิยมของอีจองแจพุ่งขึ้นถึงขีดสุด จนกลายเป็นนักแสดงชายที่ค่าตัวแพงที่สุดในเกาหลีใต้ โดยสื่อท้องถิ่นได้รายงานว่า รายได้จากการแสดงของเขาสูงถึง  1 พันล้านวอนต่อตอน หรือ ประมาณ  20-30 ล้านบาท

ไม่เพียงความนิยมในบ้านเกิดเกาหลีใต้หรือในเอเชียเท่านั้น  เพราะตอนนี้สื่อฝั่งอเมริกาก็ดูจะให้ความสนใจกับนักแสดงวัย 52 ปี คนนี้ไม่น้อย เนื่องจากล่าสุดปาปารัสซี่ต่างชาติได้ซุ่มถ่ายภาพเขาที่ Saint-Barthélemy  เกาะยอดฮิตในทะเลแคริบเบียน ของประเทศฝรั่งเศส โดยสาวสวยที่อยู่กับเขาคือ นักธุรกิจหญิงวัย 47 ปี อิมเซรยอง (Lim Se Ryung) แฟนสาวที่คบหาดูใจกันมายาวนานถึง 10 ปี

Lim Se Ryung คือใคร?

ชื่อของ Lim Se Ryung ไม่ได้เป็นที่รู้จักในฐานะแฟนของนักแสดงชื่อดังเท่านั้น แต่เธอคือทายาทนักธุรกิจ “กลุ่มแชโบล”(ตระกูลธุรกิจที่เป็นเสาหลักของประเทศเกาหลีใต้) โดยเธอเป็นลูกสาวคนโตของ  แดซัง กรุ๊ป (Daesang Group) หนึ่งในบริษัทชั้นนำด้านอาหารของเกาหลีใต้ที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมอาหารทั่วโลก ผลิตสินค้าหลากหลายประเภท เช่น เครื่องปรุงรส ซอสปรุงรส อาหารหมักดอง และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปอื่นๆ ปัจจุบันเป็นบริษัทข้ามชาติที่มีสาขาในกว่า 25 ประเทศทั่วโลก

Lim Se Ryung จบการศึกษา สาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยยอนเซ 1 ใน 3 ของมหาวิทยาลัยชั้นนำในเกาหลีใต้ ก่อนจะเดินเดินทางไปเรียนต่อที่ New York University สหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2021 Lim Se Ryung ได้เข้าดำรงตำแหน่งรองประธานของ Daesang Group

อดีตสะใภ้ Samsung

ชีวิตของ Lim Se Ryung เคยผ่านทั้งเรื่องดีเรื่องร้ายมาหนักหนาพอสมควร แต่ประเด็นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคงหนีไม่พ้นการเป็น อดีตสะใภ้ Samsung ย้อนกลับไปในอดีต อิมเซรยองได้แต่งงานกับอีแจยอง ประธานซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อปี 1998 โดยทั้งคู่ใช้ชีวิตในต่างประเทศ และมีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นชายหนึ่งคนชื่อ  อีจีโฮ หญิงหนึ่งคนชื่อ  อีวอนจู แต่ต่อมาในปี 2009 สื่อท้องถิ่นก็ได้รายงานข่าวการฟ้องหย่า โดย Lim Se Ryung เรียกร้องค่าเลี้ยงดูเป็นจำนวนเงิน 70 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 2,418 บาท

ความรักเบ่งบานอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามเธอได้รับโอกาส ความรักของเธอเบ่งบานขึ้นอีกครั้งในปี 2015 กับ อีจองแจ โดยทั้งคู่ได้เปิดตัวกันอย่างเป็นทางการในปี 2010 แม้ว่าทั้งคู่จะมีความแตกต่างกันในหลายๆ ด้าน แต่ความรักของพวกเขาก็มั่นคงและยาวนาน และถึงจะถูกจับตามองจากสาธารณชนอย่างใกล้ชิดแต่ทั้งสองก็สบายใจที่จะเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างเป็นทางการ เราจึงมักเห็นภาพของทั้งคู่ร่วมงานอีเว้นต์  หรือไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกันอยู่บ่อยๆ  เติมความหวานสม่ำเสมอแบบนี้ไม่แปลกใจเลยที่ความรักยืนยาว

อิมเซรยอง

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ทายาทมหาเศรษฐีเกาหลีใต้ อีวอนจู เจ้าหญิงน้อยแห่งตระกูล Samsung

ทำตามฝัน แฮมยอนจี ทายาทแชโบล เศรษฐีเกาหลีใต้ สู่การเป็นนักแสดงมิวสิคเคิล

เรื่องจริงไม่จ้อจี้! อีอีคยอง ลูกชายแท้ๆ ประธาน LG Innotek แห่งเกาหลีใต้

พัคจีฮยอน กำลังได้รับความสนใจว่ามีความคล้ายคลึง ทายาทแชโบล

สังคมเกาหลีตั้งคำถาม ไฮโซสาว ฮวางฮานา เล่นไอจีได้แม้ขณะถูกจับ

จบชีวิตลูกคุณหนู ฮวางฮานา หมดสภาพไฮโซเกาหลี ถูกจับข้อหาเสพและค้ายา

ซีรีส์เกาหลี

10 ซีรีส์เกาหลี น่าจับตามอง 2025 การกลับมาของพระเอก-นางเอก A-List

Alternative Textaccount_circle
ซีรีส์เกาหลี
ซีรีส์เกาหลี

ปี 2025 เป็นอีกปีที่แฟน ซีรีส์เกาหลี ต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพราะมีซีรีส์เรื่องใหม่ ๆ ที่น่าสนใจมากมายรอให้ได้ติดตาม ทั้งแนวโรแมนติก ดราม่า แอ็คชั่น และแฟนตาซี แถมปีนี้ยังเป็นการกลับมาของเหล่า พระเอกเกาหลี นางเอกเกาหลี ระดับเอลิสต์ ที่โดดเด่น และน่าดึงดูด รวมถึงมีผลงานที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ทำให้พวกเขากลายเป็นขวัญใจของผู้ชมทั้งในและต่างประเทศ เช่นนั้นเรามาลองส่องดูกันว่ามีซีรีส์เรื่องไหนน่าสนใจบ้าง

1.When the Stars Gossip

เรียกว่าเป็นการโคจรมาเจอกันได้อย่างเซอร์ไพร้ส์จริงๆ สำหรับ ดาวระยิบกระซิบรัก (When the Stars Gossip) ผลงานล่าสุดของ กงฮโยจิน ยอดหญิงรอมคอม และ  อีมินโฮ  พระเอกคอมเมดี้ โดยดาวระยิบกระซิบรัก (When the Stars Gossip) เป็นซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่จะผลักดันขีดจำกัดของเรื่องราวรักโรแมนติกอย่างแท้จริง เพราะตัวละครจะต้องออกไปสู่อวกาศเบื้องบน โดยเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างนักบินอวกาศหญิงผู้ไม่ชอบความผิดพลาด (รับบทโดยกงฮโยจิน) กับสูตินรีแพทย์หนุ่มที่ออกมาท่องเที่ยวนอกโลก (รับบทโดย อีมินโฮ) ซีรีส์เรื่องนี้จะพาผู้ชมไปสัมผัสประสบการณ์ความรักที่เกิดขึ้นในสถานที่ที่ไม่คาดคิดที่สุด นั่นก็คือ สถานีอวกาศในวงโคจรต่ำของโลก (Low Earth Orbit) รับชมตอนใหม่ได้ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ Netflix

ซีรีส์เกาหลี

2.My Youth

หลังจากผลงาน Reborn Rich ซงจุงกิ ก็ยังไม่มีซีรีส์ให้แฟนคลับได้ติดตามเลย แต่ในปีนี้เขาจะกลับมาพร้อมกับผลงานใหม่ My Youth (ชื่ออย่างไม่เป็นทางการ) ประกบคู่กับนางเอก ชอนอูฮี สำหรับเรื่องนี้เป็นซีรีส์โรแมนติกที่ให้ ข้อคิดเกี่ยวกับชีวิต ความรัก และการเติบโต ซีรีส์สอนให้เราเรียนรู้ที่จะให้อภัย และให้โอกาสตัวเองได้เริ่มต้นใหม่ เล่าถึงเรื่องราวของสองคนที่เคยมีความผูกพันกันในวัยเด็ก รักแรกหวานชื่น แต่ต้องพลัดพรากจากกัน และได้กลับมาพบกันอีกครั้งในวัยผู้ใหญ่ ซึ่งซีรีส์จะพาเราไปสัมผัสกับความรัก ความผูกพัน และการเติบโตของตัวละครทั้งสองพร้อมสร้างช่วงเวลาที่สวยงามอีกครั้ง

My Youth

3.Slowly and Intensely

“Slowly and Intensely  เป็นซีรีส์โปรเจกต์ยักษที่ทุ่มทุนสร้างกว่า 1,600 ล้านบาท นำแสดงโดย 2 นักแสดงระดับแม่เหล็กของวงการ  “กงยู” และ “ซงฮเยคโย” ซุปตาร์ระดับแนวหน้าของเกาหลีใต้ ซีรีส์เล่าถึงชีวิตของเหล่าคนดังบนเวทีและชีวิตของผู้คนเบื้องหลังความสำเร็จของพวกเขาในยุคทองของวงการบันเทิงเกาหลีใต้ โดยกงยูและซงฮเยคโย จะมาสวมบทบาทเป็นนักแสดงในยุคนั้น ซึ่งทั้งคู่ต้องเผชิญหน้ากับทั้งความรัก ความเจ็บปวด และความกดดันในวงการบันเทิงที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน

Slowly and Intensely

4.Knock-Off

อีกหนึ่งซีรีส์เกาหลีสุดปังที่คุณต้องจับตามอง! Knock-Off ซีรีส์ดราม่าของพระเอกหนุ่มสุดฮ็อตขวัญใจสาวๆ คิมซูฮยอน และนักแสดงหญิงมากความสามารถ โจโบอา โดยเล่าถึงด้านมืดของสินค้าลอกเลียนแบบ Knock-Off เล่าเรื่องราวของ Sungjun ชายผู้ชีวิตพังทลายหลังวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย ในปี 2540 เขาพยายามสร้างชีวิตใหม่ด้วยการไต่เต้าขึ้นสู่วงการสินค้าลอกเลียนแบบ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในโลกที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงและการหลอกลวง ออกอากาศทาง Disney+ Hotstar

Knock-Off

5.Unmasked

อีกหนึ่งเรื่องที่ออกอากาศให้แฟนๆได้ชมกันแล้ว แถมได้รับกระแสดจากแฟนๆ Unmasked นำแสดงโดยขวัญใจมหาชน คิมฮเยซู ร่วมด้วย จองซองอิล และ จูจงฮยอก Unmasked เป็นเรื่องราวของทีมผู้สื่อข่าวเชิงสืบสวนที่กำลังเผชิญกับอนาคตที่ไม่แน่นอนของรายการพวกเขา หลังการออกอากาศข่าวที่ได้สร้างความขัดแย้งอย่างรุนแรง เมื่อเวลาของพวกเขาในอาชีพนี้เหลือน้อยลงทุกที และหากต้องการรักษางานของตัวเองเอาไว้ ทีมงานนี้จะต้องเอาชนะอุปสรรคและความท้าทายด้วยโอกาสที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ นั่นคือการไขคดีปริศนาที่ถูกปิดตายมานานถึงยี่สิบปี ซึ่งเกี่ยวข้องกับนักแสดงชื่อดังที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ออกอากาศทาง Disney+ Hotstar

Unmasked

6.The Trauma Code: ชั่วโมงโกงความตาย (The Trauma Code: Heroes on Call)

และซีรีส์ที่กำลังจ่อคิวออกอากาศ The Trauma Code: ชั่วโมงโกงความตาย (The Trauma Code: Heroes on Call)  ซีรีส์เกาหลีแนวการแพทย์ ที่เข้มข้นทั้งแอคชั่น ดราม่า และความฮา  นำแสดงโดย จูจีฮุน รับบทเป็น แพคคังฮยอก ศัลยแพทย์อัจฉริยะที่มีประสบการณ์ในสมรภูมิยาวนาน หลังจากทำงานกับหน่วยทหารรับจ้าง Black Wings แพคคังฮยอกถูกเชิญมาเป็นอาจารย์แพทย์ด้านศัลยศาสตร์อุบัติเหตุในโรงพยาบาลชั้นนำของเกาหลี แพคคังฮยอกยึดมั่นในหลักการช่วยชีวิตผู้ป่วยเป็นอันดับแรก มิใช่เพื่อเงินหรือเกียรติยศใดๆ แต่เขาต้องเผชิญกับปัญหาเมื่อศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉินของเขาเผชิญกับการตัดงบประมาณเพราะใช้เงินมากเกินไป มาร่วมลุ้นระทึกไปกับเส้นทางการสร้างศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉินในประเทศเกาหลี ซึ่งยังไม่มีศัลยศาสตร์อุบัติเหตุอย่างเป็นทางการ ออกอากาศวันที่ 24 มกราคม 2025  รับชมได้ทาง Netflix

The Trauma Code

7.KARMA

KARMA ซีรีส์เกาหลีแนวแฟนตาซี-โรแมนติกที่กำลังมาแรงและได้รับความสนใจอย่างมากจากแฟนซีรีส์เกาหลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการกลับมาของนางเอกสาวสวย ชินมินอา ที่กลับมาพร้อมกับบทบาทที่ท้าทายและแตกต่างจากผลงานก่อนหน้านี้ โดย KARMA เป็นซีรีส์แฟนตาซีและโรแมนติก ที่มีความน่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มคนที่ชีวิตผูกพันกันด้วยโชคชะตาอันเลวร้าย โดยแต่ละคนต่างมีปมในใจและความลับที่ซ่อนอยู่ เมื่อเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับอดีตที่ตามหลอกหลอน และค้นหาความจริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง

KARMA

8.All the Love You Wish For

นับเป็นการกลับมาพบกันในรอบ 8 ปี หลังจากร่วมงานกันในซีรีส์ Uncontrollably Fond สำหรับคู่พระนางที่แฟนๆ รอคอยมากที่สุด คิมอูบิน และ ซูจี ซึ่งการรวมตัวของทั้งคู่ครั้งนี้ ทำให้แฟนๆ ต่างตั้งตารอที่จะได้เห็นเคมีที่น่าสนใจระหว่างซูจีในบทบาทหญิงสาวผู้ไร้อารมณ์ และคิมอูบินในบทบาทจินนี่สุดป่วน “All The Love You Wish For” เป็นซีรีส์รอมคอม โรแมนติก แฟนตาซี เรื่องราวเกี่ยวกับจินนี่ผู้มีอารมณ์อ่อนไหวที่ติดอยู่ในตะเกียงเป็นเวลาพันปี และผู้หญิงที่ช่วยให้เขาพ้นจากการถูกลงทัณฑ์ ซึ่งจะนำไปสู่เรื่องราวความรักที่แสนโรแมนติกและความฮาปนประหลาดใจ

9.Can This Love Be Translated

หลังจากประสบความสำเร็จกับบทบาทในซีรีส์ Hometown Cha-Cha-Cha คิมซอนโฮ ที่จะกลับมาสร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ อีกครั้งในบทบาทล่ามหนุ่มสุดอัจฉริยะที่สามารถพูดได้หลายภาษา กับเรื่อง Can This Love Be Translated ซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ เล่าเรื่องราวของ จูโฮจิน (คิมซอนโฮ) ล่ามหนุ่มอัจฉริยะที่สามารถพูดได้หลายภาษา เขาได้มาเป็นล่ามส่วนตัวให้กับ ชามูฮี (โกยุนจอง) นักแสดงสาวชื่อดัง ทั้งคู่ต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคและความเข้าใจผิดมากมาย เนื่องจากความแตกต่างทางภาษาและไลฟ์สไตล์ รับชมได้ทาง Netflix

Can This Love Be Translated

10.Mercy For None

Mercy For None ซีรีส์เกาหลี แนวอาชญากรรม ดราม่า ที่แฟนๆ ต่างรอคอย นำแสดงโดยนักแสดงมากฝีมือ โซจีซบ ที่จะกลับมาสู่บทบาทอันตรายอีกครั้งในฐานะอดีตนักเลงที่ต้องการแก้แค้น เล่าถึงเรื่องราวของ นัมกีจุน (โซจีซบ) อดีตนักเลงผู้แข็งแกร่งที่เคยผ่านการต่อสู้มาอย่างโชกเลือดโชกเนื้อ เมื่อน้องชายของเขาที่เข้าร่วมแก๊งคู่แข่งเสียชีวิตอย่างปริศนา กีจุนจึงตัดสินใจกลับเข้าสู่วงการอันตรายอีกครั้ง เพื่อตามหาความจริงและแก้แค้นให้กับน้องชาย รับชมได้ทาง Netflix

Mercy For None

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

กงฮโยจิน ยอดหญิงรอมคอม และ อีมินโฮ พระเอกคอมเมดี้

ย้อนดูฉาก Kiss Scene ในตำนานของ อีมินโฮ พระเอกจูบสมจริง

เปิดเครื่องบินเจ็ท “นิตา อัมบานี” พร้อมห้องนอนสุดอลังฯ 2,300 ล้านบาท!

account_circle

เมื่อพูดถึงความหรูหราระดับมหาเศรษฐี หนึ่งในคนที่เราจะนึกถึงทันทีคือ นิตา อัมบานี ภรรยาของมูเกช อัมบานี เจ้าของตำแหน่งมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในเอเชีย แน่นอนว่าทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอนั้นต้องไม่ธรรมดา โดยเฉพาะของขวัญวันเกิดชิ้นใหญ่จากสามีสุดที่รักอย่าง เครื่องบินเจ็ทส่วนตัว Airbus 319 ที่เรียกได้ว่าทำให้การเดินทางกลายเป็น “โรงแรมห้าดาวติดปีก” ไปเลยทีเดียว

ของขวัญวันเกิดที่ทำให้ทุกคนต้องตะลึง

(Photo by JoanValls/Urbanandsport /NurPhoto via Getty Images)

ในปี 2007 มูเกชจัดเต็มความเซอร์ไพรส์ด้วยเจ็ตลำนี้ มูลค่ากว่า 2,300 ล้านบาท! ภายในถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายขั้นสุด มีที่นั่งรองรับ 10-12 คน พร้อมห้องนอนหลักสุดหรูที่มาพร้อมห้องน้ำส่วนตัว ครบจบในที่เดียว เหมาะสำหรับการเดินทางไกลที่ต้องการความสบายแบบจัดเต็ม

เจ็ตลำนี้ไม่ได้มีไว้โชว์!

นอกจากใช้เดินทางไปทำงานหรือท่องเที่ยว เจ็ตลำนี้ยังถูกใช้งานจริงจังในโอกาสพิเศษ เช่น งานแต่งของลูกชายคนเล็ก อนันต์ อัมบานี ซึ่งกลายเป็นไฮไลต์หนึ่งในงานเมื่ออนันต์ถึงกับส่งเครื่องบินไปรับ ธีเรนทรา ศาสตรี นักเทศน์ชื่อดังที่เขาเคารพ แม้ว่าศาสตรีจะลังเลเพราะงานแน่นมาก แต่เมื่อเจอการดูแลระดับ VIP ที่อบอุ่นขนาดนี้ ก็ต้องยอมใจและมาร่วมงานจนได้

หรูหราเกินใคร!

(Photo by Prodip Guha/Getty Images)

นอกจากเครื่องบินแล้ว เธอยังเป็นที่รู้จักในฐานะสาวสายแฟชั่นและนักสะสมอัญมณีตัวแม่ที่มักจะอวดโฉมด้วยเครื่องเพชรระดับตำนาน เช่น มรดกจากยุคโมกุล ซึ่งทุกครั้งที่เธอปรากฏตัว ก็จะกลายเป็นที่จับตามองทั้งวงการ

จะว่าไปแล้ว ของขวัญจาก มูเกช อัมบานีคนนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ เพราะเขาไม่ได้ซื้อแค่เป็นของขวัญ แต่ยังคิดถึงความสะดวกสบายของภรรยาในทุกๆ รายละเอียด นี่สิ! ความรักที่หรูหราแบบฉบับคนรวยตัวจริง


CHUANG Asia Season 2

เปิดตัว 5 เมนเทอร์สุดปัง! CHUANG Asia Season 2

Alternative Textaccount_circle
CHUANG Asia Season 2
CHUANG Asia Season 2

แบมแบม – ญาญ่า – เจฟ-สวีหมิงฮ่าว-เทีย เรย์ เปิดตัว 5 เมนเทอร์สุดปัง! CHUANG Asia Season 2 พร้อมรับชมทั่วโลก 2 ก.พ.

เซอร์ไพร์สแรงๆเปิดตัวอย่างเป็นทางการ รายการรายการเซอร์ไวเวอร์ดังระดับโลก “CHUANG ASIA Season 2” เรียกเสียงฮือฮาทั้งโลกออนไลน์ ปล่อยหมัดเด็ดภาพโปรโมตอย่างเป็นทางการรายการ

เปิดตัว 5 เมนเทอร์ระดับแนวหน้าที่จะมาร่วมสร้างสีสันและดึงศักยภาพของเด็กฝึกให้เฉิดฉายบนเวทีระดับโลก ซึ่งประกอบไปด้วยศิลปินและผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายวงการ ได้แก่ “THE 8 (Xu Minghao) “สวีหมิงฮ่าว” ไอดอล K-POP เชื้อสายจีนจากวง SEVENTEEN และ ซุปเปอร์สตาร์ชาวไทยสุดฮอตอย่าง “แบมแบม – กันต์พิมุกต์” รวมไปถึงการกลับมาเป็นเมนเทอร์อีกครั้ง ของศิลปินหนุ่มหล่อเสน่ห์แรง อย่าง “เจฟ ซาเตอร์” , ดีว่าสาวเสียงดี สายทรงพลังจากประเทศจีน “TIA RAY” (เทีย เรย์)

และปิดท้ายด้วยเซอร์ไพรส์จากขวัญใจของคนไทย “ญาญ่า – อุรัสยา” นางเอกสาวคนเก่ง ที่ได้พลิกบทบาทครั้งสำคัญมานั่งแท่นเป็นเมนเทอร์ในรายการนี้เป็นครั้งแรก พร้อมร่วมสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เข้าแข่งขันด้วยความสง่างามและพรสวรรค์ที่เต็มเปี่ยม ที่ไม่เพียงแค่เป็นตัวแทนของความเป็นไทยในเวทีระดับเอเชีย แต่ยังเป็นต้นแบบของความพยายามและความอ่อนโยนที่พร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับเด็กฝึก 

CHUANG Asia Season 2

เรียกได้ว่าโปรดิวเซอร์และเมนเทอร์ซีซั่นนี้สร้างความฮอตในโลกออนไลน์อย่างมาก เต็มไปด้วยข้อความคอมเมนต์ในทันทีที่รายชื่อเมนเทอร์ถูกเผยแพร่ ได้รับกระแสตอบรับจากแฟนๆ ในโซเชียลมีเดียทั่วเอเชียก็ร้อนแรงเกินคาด รวมไปถึงแฮชแท็กที่เกี่ยวกับรายการติดเทรนด์อันดับ 1 ในหลายประเทศภายในไม่กี่ชั่วโมง แสดงถึงความคาดหวังและความตื่นเต้นของผู้ชมที่รอชมความเข้มข้นของซีซั่นใหม่นี้

รายการเซอร์ไวเวอร์ดัง “CHUANG Asia Season 2” พร้อมปักหมุดพบกันทุกเย็นวันอาทิตย์ เวลา 16.50 น. จะเริ่มออกอากาศในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ทางช่อง 33 HD และรับชมแบบเต็มอิ่มเต็มอารมณ์ Full Version ทาง WeTV

keyboard_arrow_up