ปักหมุดไว้เลย ฟู้ดลอฟท์ชวนอร่อยอิ่มบุญต้นตำรับอาหารร้าน ‘ติ่งฉู’

“ติ่งฉู” เป็นร้านโปรดของคนรักอาหารจีน เสิร์ฟอาหารทะเลปรุงสด อาหารจีนฮ่องกงยอดนิยม อาหารจีนพื้นบ้าน และติ่มซำ พิถีพิถันตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบที่ต้องสดใหม่ ลงมือปรุงตามขั้นตอนและกรรมวิธีดั้งเดิมของเชฟจีนฮ่องกง ปรุงกลมกล่อม ไม่กลบรสธรรมชาติของวัตถุดิบนั้นๆ ที่สำคัญตลอดเดือนตุลาคมนี้ ทางร้านมีช่วงเวลาพิเศษที่จัดมาให้ได้เราได้เลือกกันถึง 3 แบบ ไปดูกันเลยดีกว่าว่าแต่ละช่วงมีเมนูพิเศษอะไรกันบ้าง
เข้าสู่เดือนตุลาคมเริ่มต้นกับเมนู อิ่มอร่อยก่อนเทศกาลกินเจตั้งแต่วันที่ 1-11 ต.ค.นี้ เช่นเมนู จินจูไจ๋, ฟองเต้าหู้ยัดไส้กุ้ง, เต้าหู้ทอดพริกเกลือ, โจ๊กเป๋าฮื้อหมูหอม, ซุปไก่บ้านตุ๋นยาจีน, ซุปเซี่ยงไฮ้, ผักปวยเล้งน้ำมันหอยและกุ้งแม่น้ำเจี๋ยนซอส X.O. ฯลฯ

1
จินจูไจ๋ (เผือก / ถั่วแดง) ข้าวเหนียวคลุกงาทอด ไส้เผือก หรือ ถั่วแดง แป้งกรอบนอกนุ่มใน หอมกลิ่นงา
3
เต้าหู้ทอดพริกเกลือ เต้าหู้ทอดกรอบนอกนุ่มใน โรยด้วยพริก ต้นหอมซอย กระเทียมกรอบ และเกลือปรุงรสสูตรพิเศษ รสชาติเค็มเล็กน้อย หอมอร่อย
5
ซุปไก่บ้านตุ๋นยาจีน ซุปใส ไก่บ้านตุ๋นกับน้ำซุปและสมุนไพรจีนจนนุ่ม และได้น้ำซุปใสสีเหลืองทอง หอมกรุ่น รสชาติกลมกล่อม
8
กุ้งแม่น้ำเจี๋ยนซอส X.O. กุ้งแม่น้ำเจี๋ยนจนสุกและหอมกลิ่นกระทะ ราดด้วยซอส X.O. รสชาติเผ็ดเล็กน้อย

ที่สำคัญทางร้านยังเตรียมสุดยอดเมนูอาหารเจกับช่วง อิ่มกายอิ่มใจกับเทศกาลกินเจวันที่ 12-21 ต.ค. อาทิ ซุปฟักรวมมิตรเจ, ซุปเยื่อไผ่เห็ดหอมเจ, ผักซาโยเต้น้ำมันหอยเจ , เต้าหุ้น้ำแดงเจ, กุ้งผัดแปะก๊วยเจ, ปลาผัดเปรี้ยวหวานเจ, บะหมี่ผัดสิงคโปร์เจ, บะหมี่ผัดฮกเกี้ยนเจและหมี่ผัดซาโยเต้เจ ฯลฯ

9
ซุปฟักรวมมิตรเจ ซุปใส น้ำซุปหวานจากน้ำผักที่ต้มสกัดออกมา นำมาตุ๋นกับฟัก เห็ดหอม และใส่วัตถุดิบเจ เช่น แปะก๊วย ลูกเดือย ดอกขจร
11
เต้าหู้น้ำแดงเจ เต้าหู้ทอดกรอบนอกนุ่มใน พร้อมเห็ดหอม ราดด้วยน้ำมันหอยสูตรพิเศษ รสชาติกลมกล่อม
12
กุ้งผัดแปะก๊วยเจ กุ้งเจและแปะก๊วย ผัดให้เข้ากันจนหอมกลิ่นกระทะ รสชาติกลมกล่อมพอดี รับประทานเป็นกับข้าว
13
บะหมี่ผัดสิงคโปร์เจ เส้นบะหมี่เจ ปรุงรสด้วยผงกะหรี่ ใส่หมูแดงเจ พริกสามสี และถั่วงอก หอมอร่อย รสชาติเค็มเล็กน้อย

นอกจากนี้ ยังมีเมนูพร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนูกระทะร้อนและหม้อดิน หลังเทศกาลกินเจเริ่มตั้งแต่วันที่ 22-31 ต.ค. อาทิ เนื้อสัน หมูสันฮ่องกงกระทะร้อน, มะเขือยาวปลาเค็มหม้อดิน, ปีกเป็ดอบแห้งบะหมี่และเต้าหู้ซีฟู้ดหม้อดิน ฯลฯ

14
หมูสันฮ่องกงกระทะร้อน ราดด้วยซอสแดง รสชาติหวานอมเปรี้ยวกลมกล่อม เสิร์ฟคู่กับบร็อคโคลี่ ถั่วแขก และแครอทลวกสุก
16
ปีกเป็ดอบแห้งบะหมี่ บะหมี่ลวกอบกับเครื่องเทศ และซอสปรุงรสหอมอร่อย รสชาติเค็มเล็กน้อย ทานคู่กับปีกเป็ดตุ๋น

เอาเป็นว่าไม่ว่าคุณจะกินเจหรือไม่ ที่นี่ก็มีทุกเมนูรองรับในแต่ละช่วงเวลาที่สำคัญของคุณ ใครที่อยากจะไปพิสูจน์ความอร่อยของอาหารจีนฮ่องกงสูตรต้นฉบับกันที่ร้าน “ติ่งฉู” ก็สามารถไปได้ทุกสาขาที่สะดวกเลยนะ

เรื่อง : แพรวดอทคอม
ภาพ : ฟู้ดลอฟท์ ห้างเซ็นทรัลชิดลม

ตามรอย 6 ร้านอร่อยแซ่บ! แบบฉบับ ‘พลอย-เฌอมาลย์’

Screen Shot 2015-10-02 at 2.15.20 PM copyพลอยกินง่ายค่ะ กินได้ตั้งแต่ร้านข้างถนนจนถึงในห้าง ขอให้อร่อยจริง เคยไปกินร้านอาหารแพงเก๋ แต่รสชาติแย่ มื้อนั้นโกรธมากจริงๆ นะ เพราะฉะนั้นพลอยจึงชอบอาหารประเภทสตรีทฟู้ดที่เบสิกแต่อร่อย พลอยจะเปิดดูในแอพวงใน  (wongnai) ว่าช่วงนี้มีแนะนำร้านอาหารที่ไหนบ้างแล้วตามไปกิน รู้สึกมีความสุขเหมือนกำลังผจญภัย (หัวเราะ)

Screen Shot 2015-10-02 at 2.17.39 PM copyที่ไปบ่อยมีร้านเจ๊ไฝ ข้างๆ ผัดไทยประตูผี จานโปรดเลยคือ โจ๊กแห้ง เส้นใหญ่ผัดขี้เมา และไข่เจียวปูให้เนื้อแบบจริงจังมากอะ ถ้าไม่อิ่มก็ไปต่อที่ร้านเฮียตี๋เย็นตาโฟ รสชาติแซ่บจริง ปิดท้ายด้วยขนมปั้งปิ้งมนต์นมสด ถ้าเป็นอาหารจีนต้องร้าน ภ.คิทเช่น อยู่ระหว่างทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นต้นตำรับอาหารจีน อ่ร่อยแบบไม่ใส่ผงชูรส เมนูโปรดคือกั้งทอดกระเทียมอร่อยเลิศ ส่วนมื้อดึกอยากกินข้าวต้มอุ่นๆ ก็แวะร้านข้ามต้มเจ๊ไข่ตรงสนามเป้าค่ะ

_MG_5805rt copy

_MG_5872 copy _MG_5889 copyนอกจากนี้ยังมีร้าน Number 5 ตรงพระราม 5

_MG_5862 copy ชอบยำส้มโอรสชาติเปรี้ยวหวานเค็มคลุกเคล้าส้มโอกินได้เรื่อยๆ ไม่ต้องกลัวอ้วน

_MG_5858 copyไข่เจียวภูเขาไฟ นุ่มเว่อร์ มีทั้งหมูสับกับกุ้งสับแล้วทอดในหม้อกุ้งอบวุ้นเส้นเพื่อให้ออกมากลมๆ ป้อมๆ แปลกดี

_MG_5864 copyและน้ำพริกตาแดง ขอบร้านนี้เด็ดจริงค่ะ

เรื่อง/ภาพ : นิตยสารแพรว/คอลัมน์ชวนไปชิม/ปักษ์ 25 ก.ย.58

‘เลย์-ปัญญพัฒน์’ เมินสังคมแอนตี้รอยสัก…เผยใช่ว่าออกจากคลีนิคจะเป็นเน็ตไอดอลได้ทุกคน!

การมีรอยสัก หลายคนอาจมองว่าดูเลอะเทอะบ้าง แสดงถึงความก๋ากั่นบ้าง โดยเฉพาะกับผู้หญิง แต่เอาจริงๆ เราวัดกันแค่ภายนอกแบบนี้คงไม่ได้

ในสังคมของคนทำงานทั่วไปผู้หญิงคนนี้อาจไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ถ้าในโลกโซเซียลชื่อของ ‘เลย์-ปัญญพัฒน์ พงษ์ทรัพย์’ เป็นที่โด่งดังมากในฐานะเน็ตไอดอลนางฟ้าแห่งรอยสัก หลายคนต่างมองว่าเธอต้องเป็นเด็กเที่ยว เปรี้ยวแรงแน่นอน แต่บางทีรูปลักษณ์ภายนอกก็ไม่ได้เป็นตัวตัดสินทั้งหมดเสมอไป

_MG_0865 copy “ตอนนี้มีรอยสักทั้งหมด 11 จุดค่ะ แรกเริ่มมาจากเวลาสักลายไหนมาก็จะโพสต์รูปลงปกติธรรมดา แล้วบังเอิญมีคนเอารูปเราไปแชร์ เพจอื่นๆ ก็เอารูปไปลง จนหลังๆ เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ คนก็เริ่มติดตามมากขึ้น ชีวิตก็เปลี่ยนไปเยอะทั้งในทางที่ดีและไม่ดี กระแสแอนตี้ก็จะบอกว่าผู้หญิงที่มีรอยสักทำไมสังคมต้องให้ความสนใจมีดีอะไร ส่วนทางที่ดีก็คือ ด้วยความที่เลย์ไม่ใช่สายรีวิวสินค้า แต่จะเอาดีทางด้านร้องเพลงมากกว่าเลยมีผู้ใหญ่สนใจหยิบยื่นงานมาให้ เรียกไปร้องเพลง เพราะเขาเห็นว่าเราชอบอัดคลิปร้องเพลง จนเราได้มีโอกาสทำซิงเกิ้ลแรกของตัวเองโดยมีพี่ฟอร์ด สบชัย มาร่วมฟีเจอริ่งให้ด้วยค่ะ

มาร่วมลงชื่อสนับสนุนโครงการ ‘สัตว์ป่าไม่ใช่นักแสดง’ กันเถอะ

ณ ลาน Dazzle ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ในวันศุกร์ที่ 2 – อาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2558  พบกับ เล้ง ราชนิกร นักกายกรรมปีนผ้า ผู้ชนะการประกวดไทยแลนด์ก็อตทาเล้นท์ซีซั่น 2

ร่วมกิจกรรมยุติความรุนแรงต่อสัตว์ป่า (ในวันที่ 2 ตค.) นิทรรศการที่คนไทยอาจไม่เคยทราบ และเสวนาให้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่า รวมถึงกิจกรรมเพื่อสัตว์ป่าอื่นๆ อีกมากมาย

ลงชื่อสนับสนุนโครงการนี้ได้ในงานและออนไลน์ที่ http://www.worldanimalprotection.or.th/wildlife-not-entertainers

Giordano Ladies เปิดคอลเลกชั่นใหม่รับลมหนาวให้สาวๆ หลงใหลไปกับความมินิมอล

22

คอลเลกชั่นนี้เหล่าดีไซเนอร์ได้แรงบันดาลใจมาจากผู้หญิงสมัยใหม่ที่ต้องการความดูดีในทุกโอกาส จึงเกิดเป็นแนวคิดในการดีไซน์คอลเลกชั่นนี้ที่ต้องการให้ผู้หญิงสามารถดูดีได้ทั้งในโลกของการทำงานที่ต้องพบเจอผู้คน และในโลกของการใช้ชีวิตแบบส่วนตัว ผนวกกับการที่เราอยากจะให้ผู้หญิงที่สวมใส่ชุดของเรามีความสวยในสไตล์ของตนเอง คอลเลกชั่นนี้เราก็ยังมีความเป็นมินิมอล เพื่อให้สาวๆ ได้สนุกกับการมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้าได้เอง

โดยซีซั่นนี้ ‘จิออร์ดาโน่ เลดี้ส’ (Giordano Ladies) ก็ได้ตีความ ความงามของหญิงสาวออกมาเป็น 3 รูปแบบ ดังนี้
11

อาร์ทิสทิค โมโน (Artistic Mono) จุดเด่นของลุคนี้จะเห็นได้จากการนำโทนสีคลาสสิคอย่างขาว-ดำ มาใช้ถ่ายทอดเป็นลายพิมพ์กราฟฟิกกับสไตร์พที่ถูกนำเสนอในแบบของเสื้อสเวตเตอร์ คาร์ดิแกน กระโปรงยาวครึ่งแข่ง รวมไปถึงเสื้อเบลเซอร์กระดุม 2 แถว ที่ถือได้ว่าเป็นซิกเนเจอร์ของฤดูกาลนี้ นอกจากนี้ยังมีเทคนิคพิเศษของการใช้ผ้า 2 สีในการตัดเย็บกระโปรงที่ด้านนอกเป็นสีดำแต่ด้านในเป็นสีน้ำเงิน ซึ่งทำให้เกิดลูกเล่นในขณะการเคลื่อนไหว และไอเท็มเด่นของลุคนี้คงจะหนีไม่พ้นเสื้อสูทแขนกุดตัวยาวที่หยิบมาสวมใส่ครั้งใดก็ดูสง่าขึ้นมาเสมอ

2

โมเดิร์น เฮอริเทจ (Modern Heritage) ในสไตล์ ‘บอยอิช’ (Boyish) ผ่านการถ่ายทอดลงบนเสื้อแขนยาวทรงตรงจับคู่กับกางเกงทรง ‘คูลอตส์’ (Culottes) ใน ‘เดนิม ทวีต เซต’ (Denim Tweed Set) เพิ่มความเท่ห์ด้วยรองเท้าหนังหุ้มส้น แสดงถึงบุคลิกที่ดูเรียบง่ายแต่พร้อมในทุกสถานการณ์ นอกจากนี้ยังมีสไตล์ ‘เฟมินีน’ (Feminine) ให้เห็นในลุคนี้ โดยการตัดเย็บผ่านโครงร่างในรูปแบบของ ‘ฟิต แอนด์ แฟ’ (Fit&Fare) ซึ่งใช้ผ้า ‘ริบ’ (Rib) ในการตัดเย็บเพื่อความอุ่นให้การสวมใส่ในฤดูกาลนี้ ที่จะมีให้เห็นทั้ง ‘เดรส’ (Dress), ‘โอเวอร์โค้ช’ (Over Coat), ‘เทรนช์โค้ช’ (Trench Coat) ซึ่งเน้นโทนสีเทา และสีม่วงเข้ม

3

ซิมเปิ้ล ทรุท (Simple Truth) จุดเด่นของลุคนี้คือการใช้สีเอิร์ธโทน เช่น สีเทา สีคาเมล และสีข้าวโอ๊ต ซึ่งในลุคนี้จะเน้นการตัดเย็บที่ค่อนข้างเนี้ยบตามแบบเทเลอร์คัต มีไอเท็มเด่นอย่าง ‘เทรนช์โค้ช’ (Trench Coat) ที่ใช้ผ้า ‘วูล’ (Wool) 2 ชิ้นมาประกบกันเพื่อเพิ่มความหนาของเสื้อ และการสวมใส่ไม่ระคายเคืองผิว นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นพิเศษให้กับหญิงสาวสมัยใหม่ที่ชื่นชอบในการมิกซ์ แอนด์ แมทช์ ให้สามารถแยกชิ้นของ‘เทรนช์โค้ช’ (Trench Coat) ได้  จะใส่เป็นเสื้อโค้ชเพื่อเพิ่มความอุ่นให้ร่างกาย หรือถอดผ้าตรงช่วงแขนออกแล้วใส่เป็นเสื้อแขนกุดก็เพิ่มความเก๋ไปอีกแบบหนึ่ง

เรื่อง : แพรวดอทคอม
ภาพ : Giordano

วงการนางแบบสั่นสะเทือนเมื่อเจอความ ‘เซี๊ยะ เป๊ะ ปัง’ ของคุณยายวัย 59

นอกจากนี้ ความสาว ความสวยของเธอยังดังจนทำให้นิตยสาร และแบรนด์ดังต่างๆ ติดต่อเข้ามามากมาย เช่น Marks & Spencer และ Hermes เพราะแบบนี้นี่เอง หลายคนจึงยกให้เธอเป็นไอดอลของผู้หญิงยุคใหม่ที่ชื่นชอบการดูแลตัวเอง

ซึ่งเคล็ดลับความสวยและสุขภาพที่ดีของเธอนี้ ก็คือการเลือกทานอาหารออร์แกนิค หรืออาหารคลีน ที่สำคัญเธอยังเคยให้สัมภาษณ์กับหลายๆ สืออีกด้วยว่า “อะโวคาโด” คือสุดยอดของอาหารที่มีประโยชน์มากๆ และแน่นอนว่าเธอกินเป็นประจำ นอกจากนี้ก็ยังมีการออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย แถมเธอยังหมั่นดูแลความสวยความงามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเส้นผมที่เงางาม และผิวที่ดูเต่งตึง จนหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ต่อให้พึ่งมีดหมอ หรือโบท็อกซ์ ก็ยังเต่งตึงได้ไม่เท่าผิวธรรมชาติของเธออยู่ดี

วันนี้เราก็มีภาพของเธอมาฝาก ให้ได้ดูกันด้วย ไปดูกันเลยว่านี่คือภาพของผู้หญิงอายุ 59 จริงๆ หรือนี่

1 2 3 4 5 6 11850021_754010154728788_790103875_n 11906155_424212254446285_1766642888_nเห็นหุ่นของเธอแล้วเกิดความอิจฉาขึ้นมาทันที ถ้าใครอยากมีสุขภาพที่ดีแถมยังสวยเป็นอมตะแบบนี้ ก็ให้เริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้เลยนะ อย่าลืมว่าสุขภาพที่ดีนั้นเริ่มที่ตัวเรา ไม่ใช่ไปหวังพึ่งยา พึ่งมีดหมอให้เจ็บตัวล่ะ

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ : IG @yazemeenah

พฤติกรรมเนือยนิ่ง “ไลฟ์สไตล์ที่ต้อง” เซย์โน

พฤติกรรมเนือยนิ่ง “ไลฟ์สไตล์ที่ต้อง” เซย์โน

โครงการ Exercise is Medicine in Thailand โดยวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกมหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับสมาคมวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนจากกลุ่มธุรกิจโคคาโคลา ในประเทศไทย ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ “ พฤติกรรมเนือยนิ่ง ” รวมทั้งคำแนะนำต่างๆ สำหรับผู้ที่กำลังมีพฤติกรรมนี้

1

ประเทศไทยมีจำนวนประชากรที่มีภาวะอ้วนหรือน้ำหนักเกินเป็นอันดับที่ 2 ในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน รองจากมาเลเซีย เหตุเพราะทุกวันนี้คนไทยมีพฤติกรรมติดจอ ใช้เวลาอยู่หน้าจอโทรทัศน์หรือคอมพิวเตอร์นานกว่า 6 ชม.ต่อวัน หรืออาจจะนั่งเรียนนาน เล่นเกมคอมพิวเตอร์ และเล่นโทรศัพท์มือถือรวม 3.5 ชั่วโมงต่อวัน หรือมีกิจกรรมขยับร่างกายในระดับเบาโดยรวมไม่ถึง 6 ชั่วโมงต่อวัน หรือแม้แต่การนั่งในรถที่ติดนานๆ ถือเป็นความสุ่มเสี่ยงด้านสุขภาพที่ชัดเจน การที่เราอยู่นิ่งๆ นั่งนานๆ ไม่มีการขยับตัวเป็นเวลานานๆ ทำให้มีการใช้พลังงาน (ขาออก) ลดลง เกิดความไม่สมดุลกับพลังงาน (ขาเข้า) ที่ได้รับจากอาหารที่บริโภคไปในแต่ละวัน ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพในระยะสั้น ได้แก่ เหนื่อย หอบง่าย และส่งผลในระยะยาว ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 โรคอ้วน และมะเร็งบางชนิด ดังนั้น การมีกิจกรรมขยับร่างกายที่เพียงพอและบริโภคให้สมดุลในแต่ละวันจึงเป็นการแก้ไขปัญหาวิกฤติด้านพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้อย่างถูกต้อง

2

การสร้างอุปนิสัยในการออกกำลังกาย การเล่นกีฬา การปรับเพิ่มกิจกรรมทางกาย ได้ถูกนำมาใช้ในการชะลอปัญหากลุ่มอาการเสื่อมทางกายอย่างได้ผล ภายใต้หลักการ “การออกกำลังกายเป็นยาวิเศษ” (Exercise is medicine)

โดยกระตุ้นให้คนสนใจเรื่องการออกกำลังกายมากขึ้น หรือเพิ่มไลฟ์สไตล์แอ็คทีฟเข้าไปในกิจวัตรประจำวัน เช่น เดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟท์หรือบันไดเลื่อน การลุกขึ้นยืดเหยียด 5 นาทีในทุกชั่วโมง การเดินหรือปั่นจักรยานไปหน้าปากซอยแทนการนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เพิ่มการทำกายบริหาร หรือทำงานบ้าน ทำครัว ทำสวน กิจกรรมเหล่านี้หากทำอย่างต่อเนื่องก็เป็นการใช้ชีวิตแอ็คทีฟไลฟ์สไตล์หรือการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง

กายบริหารอย่างง่ายๆ เพื่อลดผลเสียต่างๆ ที่จะเกิดกับร่างกายจากกิจกรรมเนือยนิ่ง ดังต่อไปนี้

นั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์
ข้อเสีย: ถ้านั่งหน้าจอนานๆ จะเกิดการเกร็งค้างของกล้ามเนื้อคอ สะบักและไหล่ และอาจเกิดการกดทับเฉพาะที่บริเวณข้อมือ ศอกและแก้มก้น และอาจเกิดการแอ่นหรือบิดของกระดูกหลัง
– วิธียืดเส้นยืดสายหรือบริหารร่างกาย

3

นั่งอยู่ในรถท่ามกลางการจราจรติดขัด
ข้อเสีย: การนั่งในรถที่ติดเป็นเวลานานๆ ทำให้คอและไหล่ก้มมาข้างหน้า ส่งผลให้เกิดอาการปวดคอและสะบัก และก้นจมลึกเข้าไปในเบาะ มีการกดที่ต้นขาด้านหลัง
– วิธียืดเส้นยืดสายหรือบริหารร่างกาย

4

นั่งดูทีวีหลายๆ ชั่วโมง หรือแชทโทรศัพท์นานๆ
ข้อเสีย: การนั่งเล่นโทรศัพท์หรือแชทนานๆ จะทำให้นิ้วและข้อมือเกร็ง ไหล่ยกเกร็ง คอยื่นและก้มไปข้างหน้า
– วิธียืดเส้นยืดสายหรือบริหารร่างกาย

5

จะเห็นได้ว่าพฤติกรรมเนือยนิ่งที่เราเคยชินกันอยู่ทุกวันนี้ไม่ได้ส่งผลดีต่อร่างกายแม้แต่น้อย แถมยังเสี่ยงให้ร่างกายไม่แข็งแรงและเป็นโรคเรื้อรังต่างๆ ได้ ดังนั้น ลองหันมาใช้ชีวิตแอ็คทีฟพร้อมกับบริโภคอาหารอย่างสมดุลกันให้เป็นนิสัย ทีนี้ร่างกายของเราก็จะห่างไกลจากโรคร้ายที่มาคอยรบกวน เกิดความสุขทั้งกายและใจอย่างแน่นอน

ของดีจากแนวพระราชดำริ ‘ น้ำมันเมล็ดชา ‘ เนรมิตเมนูคาว-หวาน เทรนด์ใหม่ในอาหารคลีน

ของดีจากแนวพระราชดำริ ‘ น้ำมันเมล็ดชา ‘ เนรมิตเมนูคาว-หวาน เทรนด์ใหม่ในอาหารคลีน

น้ำมันเมล็ดชา คือทางเลือกใหม่ของการสร้างสรรค์เมนูด้วยวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ การเลือกวัตถุดิบที่จะนำมาใช้ในการปรุงอาหาร ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก และหลายคนก็ตั้งข้อจำกัดว่า ถ้าอยากทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ อาจจะต้องอดใจกับบางเมนูที่ชื่นชอบ โดยเฉพาะเมนูที่ต้องใช้น้ำมันเป็นส่วนประกอบ รวมถึงขนมหวานพวกเบเกอรี่

น้ำมันเมล็ดชา
น้ำสลัดโดยทั่วไป อาจใช้น้ำมันพืช แต่สำหรับสลัดผักถ้วยนี้ใช้น้ำมันเมล็ดชามาเป็นส่วนประกอบสำคัญในการปรุงอาหาร
น้ำมันเมล็ดชา
น้ำมันเมล็ดชา นำมาเป็นส่วนประกอบของการทำเค้กแครอท ได้รสชาติที่ดี เหมือนกับเค้กทั่วไป แต่ที่มากกว่าคือดีต่อสุขภาพ

น้ำมันเมล็ดชาเป็นผลผลิตจากแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ได้พระราชทานพระราชดำริเมื่อปี 2547 ให้ทางสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา ดำเนินการศึกษาและทดลองปลูกต้นชาน้ำมันสายพันธุ์ Camellia Oleifera จากประเทศจีน และมีการตั้งศูนย์วิจัยพัฒนาชาน้ำมัน และพืชน้ำมัน เพื่อเป็นโรงงานผลิตน้ำมันคุณภาพสูงสำหรับการบริโภค และทำผลิตภัณฑ์อื่นๆ ต่อไป โดยน้ำมันเมล็ดชาที่ผลิตขึ้นนั้น มีประโยชน์มากมายจนได้ชื่อว่าเป็น “น้ำมันมะกอกแห่งโลกตะวันออก” เพราะมีองค์ประกอบของไขมันที่ดีต่อร่างกายไม่ด้อยไปกว่าน้ำมันมะกอก และไม่มีกรดไขมันทรานส์ ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินเอ ดี อี เค ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดตีบ อัมพาต ความดันโลหิต เบาหวาน และโรคหัวใจ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และสารคาเทชิน ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของน้ำมันให้นานขึ้นด้วย

น้ำมันเมล็ดชา
เมล็ดชาที่ยังไม่ถูกสกัดเป็นน้ำมัน

นอกจากนี้ตัวน้ำมันเมล็ดชายังมีจุดเดือดสูงมากกว่า 250 องศาเซลเซียส จึงสามารถนำมาใช้ประกอบอาหารได้ทั้งทอด ผัด หมัก หรือเป็นส่วนประกอบของน้ำสลัด และการทำเบเกอรี่ จึงถือเป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพที่ได้รับการรับรองคุณภาพจากองค์การอาหารและยา และมูลนิธิโรคหัวใจให้ใช้ตราสัญลักษณ์ “อาหารรักษ์หัวใจ” ในสินค้าน้ำมันเมล็ดชาอีกด้วย

น้ำมันเมล็ดชาสำหรับผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อน้ำมันเมล็ดชาได้ที่งานเทศกาลน้ำมันเมล็ดชา ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน 2558 ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน และที่ร้านภัทรพัฒน์ ทั้ง 5 สาขา คือ สาขาสนามเสือป่า สาขาพระราม 8 สาขาพระราม 9 (ตึก อสมท.) สาขาโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และสาขาพาซิโอทาวน์ รามคำแหง หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ มูลนิธิชัยพัฒนา 0-2447-8585

น้ำมันเมล็ดชาเรื่อง/ภาพ : แพรวดอทคอม

InfoGraphic : มูลนิธิชัยพัฒนา

 

Twitter : sriploi17

 

 

 

 

 

 

เปลือยหัวใจ ‘อ้อม – กานต์พิศชา’ เล่าเรื่องชีวิต อีโรติกแค่ในจอ

ทราบมาว่าอ้อมเริ่มต้นจากการประกวดนางงามมาก่อน

อ้อม : ใช่ค่ะ ตอนนั้นมีพี่ที่รู้จักกัน เขาเห็นว่าเรามีแววไปได้ก็เลยชวนให้ไปประกวด ตอนนั้นอ้อมอายุประมาณ 22 ปี เราก็ยังไม่ค่อยรู้เรื่องในวงการอะไรมากด้วย ก็ไปแบบงูๆ ปลาๆ มาก ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเลย พอไปประกวดที่เวที Miss Thailand World ก็ได้ตำแหน่งรองมาค่ะ

talk-maebia8สวยถึงขั้นมีคนชวนไปประกวด แบบนี้สมัยเรียนก็น่าจะฮอตไม่น้อย

อ้อม : (หัวเราะ) ไม่ถึงขนาดนั้น (เสียงสูง) อ้อมเป็นรองดาวคณะเฉยๆ ค่ะ ไม่ถึงขั้นเป็นสาวฮอตอะไรเลย และที่ได้เป็นก็เพราะอาจารย์พาไปประกวด ไม่ได้ตั้งใจจะไปเองเหมือนกัน

หลังจากที่ได้ตำแหน่งในเวที Miss Thailand World แล้ว ได้เขยิบเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงบ้างหรือเปล่า

อ้อม : พอจบการประกวดอ้อมก็มีสัญญาอยู่กับทางบีอีซีค่ะ ช่วงนั้นก็มีโอกาสได้ไปทำงานเพื่อสังคมกับทางกองประกวด และตอนนั้นก็ยังเรียนหนังสืออยู่ด้วย เลยยังไม่ได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิงเต็มตัว ก่อนหน้านี้ก็มีถ่ายแบบบ้าง แต่ไม่ได้ขึ้นปกเหมือนทุกวันนี้ และมีไปทำรายการกับพี่อ้วนให้เราไปลองฝึกพูด พี่อ้วนนี่เหมือนเป็นคุณแม่เลยค่ะ (หัวเราะ) เขาเคยเห็นอ้อมจากการประกวด และเป็นคนที่พาอ้อมให้ได้เข้าไปเซ็นสัญญากับทางสหมงคลฟิล์มด้วย

talk-maebia1

ผลงานเรื่องแรกหลังจากที่เซ็นสัญญากับค่ายหนัง จริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องแม่เบี้ยใช่ไหม

อ้อม : ใช่ค่ะ จริงๆ แล้วพออ้อมมาอยู่ที่นี่ ก็ได้ไปเรียนการแสดงกับหม่อมน้อย ไปเป็นลูกศิษย์ของหม่อม ช่วงนั้นเลยมีโอกาสได้ไปลองเล่นเรื่องจันดาราอยู่ 1 ซีน ถือเป็นการลงไปสอบสนามจริงก่อนค่ะ

จบเรื่องจันดาราไปแล้ว เรารู้มาก่อนไหมว่าเดี๋ยวจะต้องมาเล่นเรื่องแม่เบี้ย

อ้อม : ไม่ทราบเลยค่ะ แต่พอรู้ว่าหม่อมจะให้อ้อมเล่น อ้อมก็รีบตอบตกลงเลย คืออ้อมดีใจมาก โดยที่ยังไม่รู้ด้วยว่าจะเป็นไง ไม่ได้คิดว่าเป็นอีโรติกหรืออะไรเลย รีบรับก่อนเดี๋ยวหม่อมเปลี่ยนใจ เพราะส่วนใหญ่หม่อมเขาทำงานกับคนที่มีชื่อเสียง ทำงานกับนักแสดงชั้นนำมาเยอะ ถ้าอ้อมได้มีโอกาสได้เล่นหนังของหม่อม อ้อมว่ามันเป็นโอกาสที่คงหาที่ไหนไม่ได้แล้ว เพราะเราก็จะได้พัฒนาฝีมือการแสดงของตัวเองด้วย

talk-maebia4ทำงานกับหม่อมน้อยเป็นอย่างไรบ้าง ดุไหม

อ้อม : ท่านเป็นคนจริงจัง และซีเรียสกับงานมากกว่าค่ะ คือพอถึงเวลาทำงานก็คือทำงานต้องเป๊ะ ตามที่ท่านวางไว้ แต่เวลาท่านสอนการแสดงในฐานะของครูท่านก็ใจดีกับลูกศิษย์ทุกคนค่ะ

ตอนนี้กระแสของแม่เบี้ยมีคนวิจารณ์ค่อนข้างเยอะ ตัวเราเองรู้สึกอย่างไรบ้าง

อ้อม : จริงๆ เราทำใจตั้งแต่เริ่มเรียนการแสดงตั้งแต่เวิร์คชอปแล้วค่ะ ว่ามันเป็นหนังแนวนี้ แล้วตัวอ้อมเองก็กดดันด้วยที่ทุกคนจับตามองว่าใครจะมาเล่นบทเมขลาตั้งแต่มีข่าวออกมา ด้วยคาแร็กเตอร์ของเมขลาเวอร์ชั่นนี้ก็ค่อนข้างซับซ้อนทั้งอารมณ์และความคิด และเรายังใหม่ มารับบทเป็นนักแสดงนำอย่างเต็มตัวเรื่องแรก บางทีเลยกดดันเหมือนกันเพราะเราไม่รู้ว่าตัวเองจะทำได้ดี เหมือนที่คนอื่นจับตาและคาดหวังไหม

talk-maebia7

กับนักแสดงท่านอื่นๆ ทุกคนน่ารักค่ะ ให้กำลังใจกัน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นลูกศิษย์หม่อมอยู่แล้วด้วย เลยสนิทกัน ทำงานอยู่ด้วยกันตั้งแต่ตอนเวิร์คชอป ทุกคนน่ารักเป็นกันเอง แต่พอถึงเวลาทำงานก็คือทำงานไม่มีเล่นกันเลย

คนรอบข้างเรารู้สึกอย่างไรบ้าง หลังจากที่ได้เห็นเราแสดง

อ้อม : ถ้ารอบตัวเรา ทุกคนโอเคค่ะ เพื่อนพี่ให้กำลังใจเราดีมาก รวมถึงคนที่ติดตามเราตั้งแต่เป็นนางงามทุกคนให้กำลังใจเราตลอด แต่ในส่วนของรอบนอก กระทู้ต่างๆ อ้อมยังไม่อยากอ่าน รอให้หนังเข้าฉายให้เสร็จก่อนดีกว่า อ้อมขอรับแต่อะไรที่เป็นบวกๆ ดีกว่า เพราะด้วยตอนถ่ายมันเครียดมากแล้ว ตอนนี้อยากรีแลกซ์สมองมากกว่า

จากบทที่ได้รับ ส่วนตัวคิดไหมว่าเพราะอะไรถึงได้มาเล่นบทนี้

อ้อม : คิดว่าน่าจะดูมีความเป็นไทยเยอะนะคะ เพราะใครเห็นก็จะทักว่าอ้อมหน้าคม ดุ ผมตรงยาว อาจจะดูตรงกับคาแร็กเตอร์ที่หม่อมวางไว้ค่ะ

talk-maebia3

ภาพที่ทุกกคนเห็นตอนนี้ อ้อมเป็นสวยสวยพ่วงตำแหน่งนางเอกสุดเซ็กซี่อีก ตัวตนจริงๆ เป็นแบบนั้นหรือเปล่า

อ้อม : เป็นผู้หญิงปกติธรรมดาเลยค่ะ คืออยากจะบอกว่ายิ่งตอนเด็กๆ นี่ ไม่ใช่แบบนี้เลย ปีนต้นไม้ กระโดดยาง คือเล่นทะโมนมาก และเราเป็นเด็กต่างจังหวัด หน้าตา้บ้านๆ ขี้เหร่มากด้วย (หัวเราะ) แต่เราชอบคิดว่าตัวเองสวย พอตอนนี้กลับไปดูรูป เรารู้สึกแบบ เฮ้ยตอนนั้นเราคิดอะไรอยู่ ถึงกล้าบอกว่าตัวเองสวย (หัวเราะ)

แสดงว่าแววความสวยเพิ่งมาชัดเอาตอนโต

อ้อม : ก็พอเริ่มเป็นสาว เราก็หันมาดูแลตัวเองมากขึ้นค่ะ ตอนขึ้นปีหนึ่งแต่งหน้าบ้าง ก็เออแววสวยเราเริ่มมาเหมือนกันนะ (หัวเราะ)

talk-maebia5

เรื่องนี้ไม่ถามไม่ได้ สวยขนาดนี้ มีแฟนหรือยัง

อ้อม : ไม่มีเลยค่ะ โสดสนิท หัวใจยังว่างมาก

ยังไม่มีแฟน แล้วสเป็กหนุ่มๆ ที่ชอบเป็นแบบไหน

อ้อม : ขอคนตัวสูงหน่อย เพราะอ้อมสูง ถ้าคบผู้ชายเตี้ยกว่าเขาคงไม่กล้าเข้ามาหรอก ส่วนเรื่องนิสัยก็ขอเทคแคร์ดูแลผู้หญิงดีตามปกติแหละค่ะ แต่ที่สำคัญเลยไม่เจ้าชู้นะคะ (ยิ้ม)

จบจากเรื่องแม่เบี้ยแล้ว หลังจากนี้จะได้เห็นผลงานอะไรอีกบ้าง

อ้อม : ก็มีภาพยนตร์เรื่องขุนพันธ์ค่ะ ถ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ก็มีถ่ายแมกกาซีนบ้าง ส่วนละครอาจจะต้องดูบทอีกทีค่ะ ยังไงก็ต้องขอฝากให้ติดตามผลงานของอ้อมต่อไปด้วยนะคะ

talk-maebia9

เรื่อง : SRIPLOI

ภาพ : ธีรพงษ์ กูลแก้ว

 

 

 

ตระเวณชม ตะลอนชิมเมือง มาเก๊า แบบจัดเต็ม

ตระเวณชม ตะลอนชิมเมือง มาเก๊า แบบจัดเต็ม

พื้นที่บนคาบสมุทร มาเก๊า เป็นเขตเมืองเก่า โรงแรมบูติก ส่วนเกาะไทปาและโคโลอานเกิดจากการ ถมทะเล จึงเป็นแหล่งรวมความทันสมัย ไม่ว่าจะโรงแรม ขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้า กาสิโนระดับโลก ปี 2005 ศูนย์ประวัติศาสตร์มาเก๊าประกอบด้วยอนุสรณ์สถานโบราณ 20 แห่งและจัตุรัสใจกลางเมือง ได้รับเลือกให้เป็นมรดก โลก เนื่องจากช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 ชาวโปรตุเกสมา ตั้งรกรากที่มาเก๊า ส่งผลให้สถาปัตยกรรม ศิลปะ ศาสนา ประเพณีรวมไปถึงอาหารการกินมีการผสมผสานกัน จึงไม่ต้องแปลกใจถ้าเห็น ป้ายถนนมีทั้งภาษาโปรตุเกสและภาษาจีนกวางตุ้ง

รุ่งขึ้นหลังจากพักผ่อนเต็มอิ่มที่โรงแรมสไตล์โคโลเนียลระดับ 4 ดาว Harbourview Hotel เราฝ่า ฝนฤดูมรสุมมุ่งสู่เกาะโคโลอาน พื้นที่ ธรรมชาติขนาดใหญ่ที่สุดของมาเก๊า สถานที่แรกที่ แพรว มาเยือนคือ สวน เซียคไปวาน ที่ตั้งของศูนย์อนุรักษ์แพนด้า ยักษ์มาเก๊า เขาทุ่มงบไปกว่า 3 – 4 พันล้าน เหรียญมาเก๊าสร้างเป็นโดมขนาดใหญ่ ภายใน ทำเหมือนภูเขา เพื่อให้เป็นบ้านแสนสุขของคู่ หมีแพนด้า เพศผู้ชื่อไคไค เพศเมียชื่อซิมซิม ทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกของพี่เลี้ยง ทั้งสองก็ ค่อย ๆ ปรากฏตัวออกมาหม่ำต้นไผ่โชว์เหมือน รู้คิวเป็นอย่างดีเมื่อมาเยือนเกาะโคโลอานต้องมาสักการะ วัดทัมคุง (Tam Kung Temple) อันเป็นที่เคารพนับถือของชาว โคโลอาน ภายในเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าที่ดูแล ท้องทะเล ฉะนั้นก่อนออกเรือทุกครั้งชาวประมงจะต้องมา

มาเก๊า
สักการะเทพเจ้าแห่งท้องทะเลที่วัดทัมคุง

ไหว้ขอพรด้วยผลไม้มงคล 5 ชนิด คือ ส้ม องุ่น แอ๊ปเปิ้ล สับปะรด และกล้วยไปกันต่อที่ โบสถ์เซนต์ฟรานซิส ซาเวียร์ (St. Francis Xavier Church) โบสถ์แห่งเดียวบนเกาะโคโลอาน สร้าง ปี 1928 โดยใช้ชื่อของนักบุญผู้เผยแผ่ศาสนาคริสต์มายัง ประเทศจีน และยังเป็นสถานที่เก็บกระดูกแขนของเซนต์ฟรานซิส ซาเวียร์ ด้วย สถาปัตยกรรมสไตล์บาโรกบวกสีสัน เชื่อว่า ผู้ที่ชื่นชอบถ่ายรูปต้องไม่พลาด เพราะด้วยตัวโบสถ์สีเหลือง ตัดกับประตูสีฟ้า กลายเป็นจุดถ่ายรูปสำคัญชักเริ่มหิว ไกด์บอกว่ามาถึงมาเก๊าทั้งทีต้องไป Lord Stow’s Bakery ต้นตำรับทาร์ตไข่แสนอร่อย ที่นี่เป็นทั้ง โรงงานทำขนมและเป็นหน้าร้านด้วย เราจึงมีโอกาสได้ชม ขั้นตอนการผลิตโดยเชฟสไตล์อินดี้ ซึ่งขั้นตอนดูไม่ยุ่งยาก แต่อร่อยกลมกล่อมสมคำร่ำลือพอมีแรงแล้วก็ลุยกันต่อที่ จัตุรัสดอกบัว (Lotus Square) ที่รัฐบาลจีนสร้างขึ้นเป็นของขวัญให้ชาวมาเก๊า เพื่อระลึกถึงการที่โปรตุเกสส่งคืนมาเก๊ากลับสู่จีนอันเป็น แผ่นดินแม่ในวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 1999 ซึ่งดอกบัวนั้น มีความหมายถึงความบริสุทธิ์และความดี ว่ากันว่า เป็นแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวชาวจีนทุกคนต้องขอมายล

มาเก๊า
จัตุรัสเซนาโด้

และเพียงเราเดินข้ามถนนมาก็จะพบกับ พิพิธภัณฑ์กรังด์ปรีซ์ ใครชอบความเร็วไม่ควร พลาดอย่างยิ่ง ภายในจัดแสดงรถแข่งอันเป็น ตำนาน รวมทั้งนักแข่งที่เคยร่วมรายการมาเก๊า กรังด์ปรีซ์ โดยนักแข่งระดับตำนานอย่างแอสตัน เซน่า, ไมเคิล ชูมัคเกอร์ พร้อมกับได้รู้จักกับ Mr.Grand Prix แห่งมาเก๊า คือเทดดี้ ยิป มหาเศรษฐีระดับเจ้าพ่อที่มีส่วนสำคัญในนำการ แข่งขันกรังด์ปรีซ์เข้ามาในมาเก๊า และรถบางส่วน ก็ได้จากมหาเศรษฐีคนนี้ หนุ่ม ๆ เดินชมกันเพลิน เลยละจากนั้นแวะเสริมความรู้ที่ พิพิธภัณฑ์ การสื่อสาร (Communications Museum) เขา ต้องการให้ผู้เข้าชมโดยเฉพาะเด็ก ๆ ได้สัมผัส เรียนรู้ถึงเรื่องราวเทคโนโลยี ของการสื่อสารตั้งแต่ยุคโทรเลขจนมาถึงยุคสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ทุกอย่าง ในพิพิธภัณฑ์นี้สามารถจับต้องและทดลองกับการสื่อสารได้เต็มที่ไม่มีหวง

มาเก๊า
ป้อมปราการเกีย

อีกสถานที่ที่น่าแวะนั่งชิลคือ สวนคาร์โมส (Camoes Garden) ที่ถือว่าเป็นปอดของคนมาเก๊า เดิมเป็นของมานูแอล เปเรรา พ่อค้า ชาวโปรตุเกส ภายในสวนมีรูปปั้นของกวีชาวโปรตุเกส หลุยส์ คาร์โมส (Luìs de Camôes) ที่หนีจากประเทศโปรตุเกสมาอาศัยอยู่ในสวนแห่งนี้ จนสามารถเขียนบทกวีโด่งดังที่ชื่อ Os Lusìadas (Soul of Portugal) หลังจากที่สวนแห่งนี้ตกเป็นของรัฐบาล จึงได้ตั้งชื่อสวนเพื่อรำลึกถึง กวีโปรตุเกสผู้นี้

มาเก๊า
พิพิธภัณฑ์มาเก๊า

ถึงเวลาเดินเท้าเพื่อเข้าชม ปาตีโอ ดา อีแตร์นา เฟลิซิดาด (Pàtio da Eterna Felicidade) พื้นที่ของเขตอนุรักษ์ศูนย์ประวัติศาสตร์มาเก๊า ไปดูภาพความเป็นอยู่ของชุมชนจีนในอดีต ที่เกิดจากการอนุรักษ์อย่าง จริงจังของรัฐบาล เราเดินเข้าตรอกเล็ก ๆ ชื่อทราแวซซา ดา ปายเชา (Travessa da Paixâo) คำว่า Paixâo ในภาษาโปรตุเกสหมายถึง Passion แปลเป็นภาษาจีนว่า ความรัก จึงเรียกกันติดปากว่าตึกคู่รัก ซึ่งมักจะมีคู่บ่าว – สาวมาถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง และเคยใช้เป็นฉากของละคร และหนังหลายเรื่อง อีก 2 – 3 ปีข้างหน้ารัฐบาลมาเก๊ามีแผนพัฒนา อุตสาหกรรมภาพยนตร์ โดยจะใช้บ้านบางหลังจัดสร้างโรงภาพยนตร์ แนวศิลปะ และปรับปรุงให้เป็นโลเกชั่นถ่ายหนังได้

มาเก๊า
พิพิธภัณฑ์บ้านไทปา

มาเก๊า

เราเดินขึ้นบันไดไปตามทางกำแพงเมืองโบราณ (Section of Old City Wall) หรือแนวป้องกันเมืองที่ล้อมรอบแหล่งตั้งถิ่นฐานของ ชาวโปรตุเกส เดินไปตามแนวกำแพงจะเข้าสู่ชุมชนเล็กเก่าแก่ “ปาตีโอ โด อีสปินโญ” (Pàtio do Espinho) ที่ชาวคาทอลิกมากมายเคยอาศัยอยู่ เดินต่อมาไม่กี่ก้าวเป็นที่ตั้งของ ศาลเจ้านาจา สร้างขึ้นเมื่อปี 1888 ในช่วง ที่มาเก๊าเกิดโรคไข้หวัดใหญ่ระบาดจนผู้คนล้มตายจำนวนมากชาวบ้านจึงอัญเชิญเทพนาจามาช่วยคุ้มครอง

ใกล้ ๆ กันเป็นอีกแลนด์มาร์คสำคัญของ มาเก๊า ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul’s) หลังจากที่โบสถ์เซนต์ปอลสร้างเสร็จ สมบูรณ์ เกิดไฟไหม้ในปี ค.ศ. 1595 และ ค.ศ. 1601 จากนั้นบาทหลวงเยซูอิตได้สร้าง โบสถ์ขึ้นใหม่เมื่อ ค.ศ. 1602 แล้วเสร็จ ค.ศ. 1644 แต่แล้วในปี ค.ศ. 1835 เกิดไฟไหม้อีกครั้ง สิ่งที่หลงเหลือมีเพียงประตูทางเข้าโบสถ์ ที่มีรูปแกะสลักนูนต่ำลวดลายต่าง ๆ ที่ช่วยยืนยัน ถึงความยิ่งใหญ่ในอดีต ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ แฮ้งเอ๊าต์ของวัยรุ่นชาวมาเก๊า เพราะจากบันได โบสถ์สามารถเดินไปยัง จัตุรัสเซนาโด้ (Senado Square) แหล่งช็อปปิ้ง ท่ามกลางตึกสไตล์นีโอคลาสสิกที่มีทุกสิ่งให้นักช็อปได้เลือกสรร

อีกหนึ่งมรดกโลกแห่งมาเก๊าที่ต้องนั่งเคเบิลคาร์เพื่อไปชมความงามของป้อมปราการเกีย (Guia Fortess) จุดชมวิวสูงที่สุด ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงบนคาบสมุทรมาเก๊า สามารถมองเมืองมาเก๊าแบบพานอรามา ป้อมแห่งนี้สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1622 – 1638 เพื่อใช้เป็นหอคอยสังเกตการณ์ผู้รุกรานต่างชาติ ความสำคัญอีกอย่างของป้อมปราการแห่งนี้คือ ประภาคารเกียใช้เป็นที่แขวนสัญลักษณ์บอกถึงความแรงของพายุ ให้ชาวมาเก๊าได้เตรียมตัวรับมือตั้งแต่ระดับ 1 – 10 ถือเป็นโชคดี ของคณะเรา วันที่เราไปตรงกับช่วงฉลองครบรอบ 150 ปี ประภาคารเกีย จึงมีการมอบแม็กเน็ตประภาคารเกียให้เป็นที่ระลึกด้วย

ถ้าอยากรู้จักตัวตนของชาวมาเก๊าให้ถึงแก่น แนะนำว่าต้องไปที่พิพิธภัณฑ์มาเก๊า (Museum of Macau) อยู่ทางฝั่งตะวันตกของซาก ประตูโบสถ์เซนต์ปอล ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แสดงถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชุมชนต่าง ๆ ในอดีต ประกอบด้วยช่วง อารยธรรมจีนดั้งเดิม ก่อนการเข้ามาของชาวโปรตุเกสในปากแม่น้ำเพิร์ล ในศตวรรษที่ 16 การแสดงประวัติของมาเก๊า ศิลปะ และประเพณี ดั้งเดิมของชาวมาเก๊า ฯลฯ

เราวางแผนมาตั้งแต่กรุงเทพฯแล้วว่า มาคราวนี้ต้องไปเยือนเกาะไทปา ที่ขึ้นชื่อเรื่องสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ทั้งจีนและโปรตุเกส ทุกตึกทุกมุม สวยจนต้องค่อย ๆ ละเมียดชม โดยเฉพาะที่ พิพิธภัณฑ์บ้านไทปา (The Taipa House Museum) เป็นตึกสีเขียว 5 หลัง สถาปัตยกรรม แมงกานีสผสานกับโปรตุกีส สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1921 เดิมเคยเป็นบ้านของข้าราชการชั้นสูงของชาวมาเก๊า ปลายยุค 90 รัฐบาล ตัดสินใจปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ โดยแต่ละหลัง จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ เครื่องแต่งกายของชาวมาเก๊า และโปรตุเกส ได้ความรู้สึกเหมือนเป็นแขกพิเศษที่ สามารถเดินชมทั่วทั้งหลัง ไม่เว้นแม้แต่ห้องน้ำ แวะไปชมได้ตั้งแต่ 10.00 น. – 18.00 น. ปิดทุกวันจันทร์ www.iacm.gov.mo/museum

ถ้าพูดถึงความงดงามของสถาปัตยกรรมแบบจีนต้องมีชื่อ บ้าน แมนดาริน (Mandarin House) ที่สร้างในปี ค.ศ. 1869 เป็นบ้านแบบ จีนโบราณของนักประพันธ์ชื่อเฉิง กวนยิง ผสมผสานระหว่างราย- ละเอียดอ่อนอย่างจีนกับความเป็นตะวันตก อย่างการใช้อิฐสีเทาประดับ ตรงโค้งประตู นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพต้องมาเยือน เพราะสวยทุกมุม

ถามถึงอาหารการกิน มาเก๊าอุดมสมบูรณ์ไม่แพ้กัน มีความอร่อย หลากสัญชาติให้เลือกสรร ไม่ว่าจะอาหารจีน โปรตุกีส สเปน ฯลฯ แพรว ขอแนะนำพอเป็นออร์เดิร์ฟกับอาหารโปรตุกีสระดับเชฟมิชิลิน ร้าน Antonio Restaurant อันเป็นชื่อของเชฟและเจ้าของร้าน เปิดมาตั้งแต่ ปี 2008 เมนูที่ต้องชิมคือไส้กรอก การปรุงนั้นไม่ธรรมดา พนักงาน จะมาจุดไฟย่างไส้กรอกให้ที่โต๊ะเลยทีเดียว อีกจานเด็ดคือ Wet Seafood Rice “Antonio” Style หน้าตาประมาณข้าวต้มซีฟู้ด ส่วนของหวานของเขาก็แสนอลังการ เชฟอันโตนิโอมาโชว์ การทำเครป พร้อมกับบทเพลงโปรตุกีสจากนักดนตรี ประจำร้านที่สะพายกีตาร์มาเล่นให้ฟังสด ๆ

มาเก๊า
เชฟอันโตนิโอแห่งร้านAntonio Restaurant กำลังปรุงเครป

หรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งร้านอาหาร สเปนสไตล์ฟาสต์ฟู้ด L.B.Superpollo ภายใต้สโลแกน Slow Cooking & Healthy เปิดมาตั้งแต่ 2013 มีทั้งหมด 3 สาขา เรามาเยือนสาขาต้นตำรับ ขอบอกว่า อร่อยทุกเมนูจริง ๆ น่าจะถูกปากชาวไทยที่ชื่นชอบอาหาร รสจัดจ้าน โดยเฉพาะเมนูข้าวผัดสเปน Spanish Paellas ที่ชนะเลิศได้ใจ

มาเก๊า
ทาร์ตไข่ต้นตำรับจากร้านLord Stow’s Bakery

สารภาพว่ายังมีอีกหลายแห่งที่ไม่สามารถเขียนบรรยายได้ ครบ ไม่ว่าจะเป็น โบสถ์เซนต์อันโทนี (St. Anthony’s Church) ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของมาเก๊า โบสถ์แม่พระคาร์เมล โบสถ์ คาทอลิกแห่งเดียวบนเกาะไทปา อายุกว่าร้อยปี ถนนสาย อาหาร Rua do Cunha สถานที่ช็อปของฝากขึ้นชื่ออย่างคุกกี้ อัลมอนด์และหมูแผ่น รวมทั้งโชว์สายน้ำสุดอลังการ (จริง ๆ) The House of Dancing Water ที่ City of Dreams ฯลฯ

มาเก๊าทริปแรกในชีวิตจึงเต็มอิ่มไปด้วยความงดงามของศิลปะ วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรม ที่ได้ชื่อว่าเป็นมรดกโลกอันล้ำค่าที่ชาว มาเก๊าอยากอวดให้มิตรประเทศอย่างคนไทยได้มาชื่นชม

ที่มา : เรื่อง กิดานันท์ ภาพ เนาวพจน์ คอลัมน์รายงานพิเศษ นิตยสารแพรว ฉบับ 866 ปักษ์ 25 กันยายน 2558

La Boutique พร้อมโบยบินอย่างอิสระเหมือนผีเสื้อแสนสวย ในคอลเลกชั่นออทั่ม/วินเทอร์ 2015

1
สำหรับคอลเลกชั่นออทั่ม/วินเทอร์ 2015 เอ สปิริต ออฟ บัตเตอร์ฟลาย’ (A Spirit of Butterfly) โตพัชรวัฒน์ ตระกาลสันติกูล ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ ได้กล่าวถึงแนวคิดหลักครั้งนี้ว่า “ในคอลเลกชั่นนี้เราเปรียบผู้หญิงเป็นดั่งผีเสื้อ ผู้หญิงที่ต้องใช้ชีวิตในเมืองที่เร่งรีบวุ่นวาย แต่ในขณะเดียวกันพวกเธอก็รักในความอิสระเสรี และเมื่อถึงเวลาเธอก็พร้อมจะสยายปีกเผยความงามให้ทุกสายตาได้จับจ้อง ไอเดียนี้ถือเป็นตัวผลักดันการดีไซน์เสื้อผ้าของคอลเลกชั่นนี้ให้ออกมาตอบโจทย์ผู้หญิงที่ชื่นชอบในความเย้ายวน ลึกลับน่าค้นห้า เปรียบเหมือนผีเสื้อที่โบยบินในยามราตรี”

2

ภาพรวมของคอลเลกชั่นนี้ทีมดีไซน์ได้ออกแบบลายพิมพ์ ‘เลฟเฟปาปิยง’ (L’effetPapillon) เพื่อสร้างสรรค์ผีเสื้อในหลายเฉดสีบนแมกซี่เดรสสีดำ ซึ่งถือเป็นชิ้นเด่นประจำคอลเลกชั่นนี้ โดยสวนหนึ่งได้แรงบันดาลใจจากงานศิลปะของ ‘เดเมียนเฮิร์สต’ (Damien Hirst) ที่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะแบบจัดวางแสดงวงจรชีวิตของผีเสื้อได้อย่างประทับใจ และน่าจดจำ

3

นอกจากนี้ยังมีการนำกลิ่นอายของ ‘โบฮีเมียน’ (Bohemian) มาสะท้อนภาพความงามของเวลากลางคืนที่แสงและเงาเข้ามามีบทบาทกับการใช้ชีวิตของมนุษย์ ผ่านการดีไซน์เสื้อผ้าที่มีความพิถีพิถันในทุกฝีเข็ม ลูกเล่นในการตัดเย็บแบบสมัยใหม่ จะปรากฏให้เห็นใน ‘ซิลลูเอท’ (Silhouette) อันโดดเด่นจากยุค ‘เซเว่นตี้’ (70’s) ทั้ง ‘แมกซี่เดรส’ (Maxi dress), กางเกงขายาวทรง ‘คูลอตส์’ (Culottes) ที่หยิบมาสวมใส่ครั้งใดก็เพิ่มความหรูหราได้เสมอ และ‘จั๊มสูท’ (Jumpsuit) ที่มีจุดเด่นอยู่ที่การจับคู่ของเนื้อผ้าต่างวัสดุที่ทำให้ชุดเดรสมีมิติที่น่าสนใจ และยังเพิ่มผิวสัมผัสโดยการตกแต่งด้วยลูกปัดคริสตัลรูปผีเสื้อ รวมไป ถึง กางเกงขาสั้น และเดรสทรงเอจากยุค ‘ซิกตี้’ (60’s) ที่ถูกดีไซน์มาเพื่อตอบโจทย์ทุกรูปร่างของหญิงสาวด้วย ‘ผ้าซีทรู’ (See through) อันเป็นซิกเนเจอร์หลักของแบรนด์ รวมไปถึงเทคนิคการซ้อนเลเยอร์ของ ‘ผ้าออร์แกนซ่าซาติน’ (Organza satin) และลูกไม้ที่ทำให้เกิดสีสันอ่อนหวาน ส่วนของสีในของคอลเลกชั่นนี้ คือกลุ่มสีคลาสสิคอย่างขาว-ดำ และเพิ่มความโดดเด่นด้วยเฉดสีเหลือง ‘เลม่อน เซสต์’ (Lemon Zest), เฉดสีเขียว ‘เมจิก เอมเมอรัล’ (Magic Emerald) และสีน้ำเงินเข้ม (Midnight Blue) ให้หญิงสาวดูน่าค้นหา แต่ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความอ่อนหวานด้วยลวดลายผีเสื้อได้อย่างลงตัว

 

1 45

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ : ลาบูทีคส์

ดูกันชัดๆ! น้อง ‘กาย่า’ ลูกสาว ‘เปิ้ล-นิว’ แจกความสดใส ทะเล้นเล่นกล้อง น่ารักชะมัด!

Screen Shot 2015-09-30 at 10.33.01 PM copy Screen Shot 2015-09-30 at 10.34.35 PM copy Screen Shot 2015-09-30 at 10.34.50 PM copy Screen Shot 2015-09-30 at 10.35.02 PM copy Screen Shot 2015-09-30 at 10.36.41 PM copy Screen Shot 2015-09-30 at 10.36.51 PM copyหลังจากพักฟื้นจากการคลอดลูกคนแรกมาได้สักพัก ตอนนี้สาวเปิ้ลแข็งแรงแล้วจ้า เลยตัดสินใจกับสามีว่าจะเลี้ยงน้องกาย่าเอง โดยขอพักงานประมาณ 3 เดือน ถึงช่วงนี้จะค่อนข้างเหนื่อย แต่ทั้งคู่ก็ดูมีความสุขมากจริงๆ แถมน้องกาย่ายังอ้วนท้วนสมบูรณ์แก้มเป็นกระติกน่าหยิกจริงๆ

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ : ple_tanyatanas

 

เย็นระห่ำกับ Everest หนังดราม่าแอดเวนเจอร์จากชีวิตจริง

แม้ว่าพวกเขาจะขึ้นไปสู่ยอดเขาได้สำเร็จ แต่ขากลับ กลับต้องเผชิญกับพายุหิมะครั้งใหญ่ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล ซึ่งพวกเขาจะกลับลงมาได้สำเร็จไหมต้องไปลุ้นกัน วาระนี้ต้องยอมใจ ผกก. ที่นำเสนอแนวทางของหนังได้ปลุกเร้าอารมณ์ดีเยี่ยม และโดดเด่นด้วยการเนรมิตฉากหลังของเอเวอเรสต์ออกมาได้สมจริง ชวนให้รู้สึกเย็นจับขั้วหัวใจตามได้เลย #แอร์ในโรงหนังหนาวมาก

everest-2ที่โดดเด่นอีกอย่างคือ การนำเสนอเรื่องจริงที่คนส่วนใหญ่รู้บทสรุปแล้วออกมาได้น่าติดตาม ไม่น่าเบื่อ ชวนให้ลุ้นระทึก อาจจะยังไม่ถึงขั้นสุด แต่ก็ไม่รู้สึกสะดุด เนื่องจากหนังเก็บรายละเอียดแบบค่อยเป็นค่อยไปได้เป็นอย่างดี เล่าไปทีละสเต็ป น่าจะถูกใจนักเดินทางหรือนักผจญภัยเป็นพิเศษ เพราะเราจะรู้สึกเสมือนได้เดินทางเกาะติดไปกับพวกเขา ฟีลหนังจึงออกแนวกึ่งๆ สารคดีท่องเที่ยวประเทศเนปาลที่มีตัวละคร มีเส้นเรื่องให้ชวนติดตามและใคร่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ที่เสริมทัพให้หนังออกมาดีคือการได้นักแสดงชั้นดีไล่ตั้งแต่เจสัน คลากส์ จอส โบรลิน ไคร่า ไนต์ลีย์ แซม วอชิงตัน เอมิลี่ วัตสัน และเจค กิลเลนฮัล เป็นต้น มาประชันบทบาทกัน เรียกว่าดีงามสุดๆ ซึ่งแต่ละคนก็เล่นได้อย่างเป็นธรรมชาติและเข้าถึงบท ติดอยู่ตรงที่ ผกก. ยัดเยียดซีนดราม่าเข้าไปมากเกินไปหน่อย จนอาจจะทำให้รู้สึกว่าความเรียลมันลดลงไปในซีนท้ายๆ ทั้งๆ ที่เกือบตลอดทั้งเรื่องดูสมจริงมาโดยตลอด หากแต่ข้อดีคือเราจะได้เห็นอารมณ์ของคาแร็กเตอร์ตัวละครอย่างเด่นชัดขึ้น

everest-1ถ้าถามว่าหนังสนุกไหม ก็ตอบแบบเสียงแผ่วๆ ว่าสนุกนะ แต่อาจจะไม่ถึงจุดพีคเหมือนอย่างที่ตัวละครในเรื่องทำได้ เพราะว่ากันตามตรงคือหนังจะโฟกัสประเด็นไหนเป็นหลักยังไม่แน่ใจ อาจจะเรียกว่าครบรสก็ไม่เชิง ที่นำหน้ามาเลยคือหนังได้ทำให้เราได้รู้จักกิจกรรมปีนยอดเขาเอเวอร์เรสต์มากขึ้น ไม่ใช่แบบผิวเผินที่รู้แค่ว่ามันสูงที่สุดของโลก มันเสี่ยงอันตรายแค่ไหน เพราะขั้นต่อไปคือหนังจะพาเราไปเห็นภาพความยากลำบากที่ว่า ซึ่งก็ดูสมจริงดีแท้ และที่เสี่ยงตายน่ะมันเสี่ยงขนาดนั้น ซึ่งหนังจะตอบโจทย์ให้รู้ว่าทำไมยอดเขาเอเวอร์เรสต์ถึงมีเสน่ห์บางอย่างชวนให้คนที่ไปถึงที่นั่นแล้วต้องขึ้นไปยอดเขาให้จงได้

ไปๆ มาๆ จุดที่เราโฟกัสไม่ได้ว่าหนังจะสื่อถึงการปีนเขาหรือดราม่าของตัวละครกันแน่ พอมารวมกันแล้วกลับทำให้เราเห็นถึงจุดหมายปลายทางที่ ผกก. ต้องการสื่อให้เรารับรู้ว่า ความมุ่งมั่นอย่างตั้งใจจริงจะทำให้เราประสบความสำเร็จ และเราจะไม่มีวันเป็นผู้นำที่ดีได้ ถ้าไม่ใส่ใจคนที่ตามหลัง เพราะปลายทางข้างหน้า คนที่อยากก้าวไปถึงไม่ได้มีแค่เราเพียงคนเดียว หากเปรียบอุปสรรคทั้งหลายคือระหว่างทางในการปีนเขา และความสำเร็จคือยอดเขาเอเวอร์เรสต์แล้ว การประคับประคองเอาตัวเองลงมาต่างหากที่ยากและน่าหวั่นเกรงกว่า สำหรับใครที่ชอบหนังที่สร้างจากประวัติบุคคลจริงอย่าง American Sniper หรือ 127 Hours ไม่ควรพลาดเรื่องนี้เลยเด็ดขาด 9/10

everest-3

 

เรื่อง : คิมคานา

Credit Picture:

http://www.theguardian.com/film/2015/sep/02/everest-review-star-studded-adventure-proves-a-difficult-summit

http://www.dailymotion.com/video/x30neyi

http://www.movienewz.com/everest/

 

ดูดวง 12 ราศี ประจำวันที่ 25 ก.ย. – 10 ต.ค. 58

Praew-Payakon-1

13 เม.ย. – 13 พ.ค.

ปักษ์นี้คุณดำเนินตามเป้าหมายไปตามขั้นตอน อย่าเพิ่งหวังผลได้ที่จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทันใจจะได้ไม่กังวลและคุณอย่าทุ่มเททำอะไรโดย ไม่คิดถึงผลได้เสียคุณจะสมหวังในสิ่งที่ทำตามขั้นตอน การงานกำลังขยายตัวเป็นงานใหญ่โดยเฉพาะงานด้านการค้าจะได้เดินทางไกล เพราะธุรกิจการงาน คู่ครองที่เหมาะต้องมีอายุแก่กว่าเป็นคนมีหน้ามีตาในวงสังคมอาจเป็นข้าราชการหรือทำงานที่มีหลักฐานมั่นคงจะต้องมีตำแหน่งหน้าที่การงาน มีการศึกษาและฐานะสูงจากช่วงนี้เชื่อได้ว่าจะมีวิถีชีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลงในทางดี

Praew-Payakon-2

14 พ.ค. – 13 มิ.ย.

การงานและการศึกษาหรือการฝึกอบรมเพื่อ ส่งเสริมฐานของตนเองมีผลดีไม่น้อย ระยะนี้ สิ่งที่น่าแคลงใจก็หายห่วง มีเกณฑ์รับเชิญไปงานฌาปนกิจของผู้ใหญ่ที่เคยมีอุปการคุณ คุณจะมีโครงการแปลกใหม่แหวกแนวที่จะขยับขยายกิจการ เช่น ความแปลกใหม่ในเชิง โฆษณา บุคคลในวงงานใกล้ชิดหรือหุ้นส่วน จะพบปะประชุมจัดระบบงานใหม่ หลังกลาง ปักษ์อาจมีลาภจากผู้ใหญ่หรือเพื่อนฝูงสำหรับคนที่ยังอยู่ในวัยแสวงหาควรเลิกนึกถึงเรื่องรักใคร่สักพัก เพราะถึงจะคบหาสมาคมไป ไม่ช้าจะรู้สึกเบื่อหน่าย เนื่องจากฝ่ายนั้นเอาแต่ได้ท่าเดียว

Praew-Payakon-3

14 มิ.ย. – 14 ก.ค.

ระวังถูกฟ้องร้องหรือถูกใส่ร้าย มีเกณฑ์จ่ายเงิน ก้อนใหญ่เพื่อซื้อหาของต้องใจที่หมายตามานาน ปักษ์นี้นับเป็นช่วงที่ชะตามีกำลังอ่อน เพราะเป็นช่วงที่ศัตรูคู่แข่งมีพลังเหนือกว่า ผู้ใหญ่ยังให้ความอุปถัมภ์ค้ำจุนดี หากรับราชการอาจได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เกี่ยวพันกับการ รวบรวมตรวจสอบหรือการค้นคว้าวิจัย ความรักของคนโสดจะเป็นแบบรักใคร่หลงใหลร้อนแรง คนใกล้ชิดมีบทบาทมากในระยะนี้ อย่าด่วน ตัดสินใจมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับใครเลย หรือหา หลักประกันอันเป็นประโยชน์ต่อตนเองบ้าง

Praew-Payakon-415 ก.ค. – 16 ส.ค.

จะได้รับลาภผลจากคนรักทั้งที่เป็นทรัพย์สินและความสุขทางใจ บรรยากาศที่อยู่อาศัยสดชื่นรื่นเริงอาจมีการจัดงานหรือปรับปรุงตกแต่ง ให้สะดวกสบายกว่าเดิม การงาน มีจังหวะดีการริเริ่มงานใหม่มีลู่ทางแจ่มใส การเงินจะคล่องมือมีเกณฑ์ได้ลาภผลจากการเสี่ยงโชคและ ลงทุนในธุรกิจการค้าทั้งปวง แต่ปลายปักษ์หาก กำลังประกอบกิจกรรมใดควรชั่งใจให้ดี เพื่อ ให้การเปลี่ยนแปลงเป็นการปฏิรูปที่เป็นมงคลต่อ ชีวิต อาจมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็เป็นได้ ความรู้สึกนึกคิดจะเต็มไปด้วยพลังแห่งความ กระปรี้กระเปร่า อาจต้องเดินทางสัญจรไม่ว่างเว้น

Praew-Payakon-517 ส.ค. – 16 ก.ย.

มีจังหวะดีได้เลื่อนยศตำแหน่งสูงกว่าเดิมการสอบชิงทุนหรือสอบแข่งขันหรือเรียนต่อในระดับสูงขึ้นไปจะได้รับการสนับสนุนจากผู้บังคับ บัญชา ปักษ์นี้จะได้สัมผัสหรือพบเห็นเรื่องแปลกประหลาดซึ่งไม่เคยนึกฝันมาก่อน เรื่องเป็นได้ทั้งดีและร้ายทางหนึ่งอาจเจ็บป่วยด้วยโรคเก่ากำเริบอาจพลั้งเผลอจนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งจะขัดแย้งกับคนรักผิดจากนั้นอาจหมายถึงการพลั้งเผลออารมณ์ทั้งที่มีคู่ครองอยู่แล้วยังปล่อยตัวแอบไปมีสัมพันธ์ซ้ำซ้อนระวังอย่าให้มีเรื่องน่าอับอายเช่นนี้เลย

Praew-Payakon-617 ก.ย. – 16 ต.ค.

การงานและการศึกษาดูเหมือนยังมีภาระให้ต้องติดตาม ถึงจะดีขึ้นกว่าแต่ก็อย่าได้เที่ยวเตร่จนหลงลืมธุรกิจการงานดูดีมีลาภผลแต่การจับจ่ายยังมากพอกับปักษ์ก่อนมีเกณฑ์ต้องเดินทางระยะใกล้บ่อยครั้งมีเกณฑ์ได้พบปะมิตรสหายเก่าแก่ที่ไม่เจอกันนานในทางดีโยคเกณฑ์ในลักษณะนี้จะส่งผลให้มีประสิทธิภาพสูงในการเริ่มงานด้านวิจัยค้นคว้า ความรักช่วงนี้ ทำให้คุณดูนิ่มนวลอ่อนหวาน มักพูดจานิ่มหู ไม่แข็งโป๊กเหมือนไม้กระดาน ไม่หวือหวาจนบรรดาตะเข้ตะโขงมองตาเป็นมัน

Praew-Payakon-717 ต.ค. – 16 พ.ย.

ควรงดเว้นจากการพนันทุกชนิด โดยปกติทั่วไป จะทรงตัวทั้งด้านการงานและการเงินเหมือนปักษ์ก่อนอาจเกิดอุบัติเหตุในการเดินทางที่เกี่ยวพันในธุรกิจการงานจะเกิดหนี้สินรุงรังเป็นที่น่าวิตก ห่วงใย บางรายดวงอาจกำลังจู๋มากอาจถูกขับไล่เนรเทศหรืออาจถูกให้ออกหรือปลดจากตำแหน่งจะใช้จ่ายเงินทองเปลืองมากในเรื่องฉาบฉวยจะได้พบคู่แท้ดูเหมือนเป็นผู้มาจากแดนไกล อาจเป็นชาวต่างชาติหรือถือกำเนิดจากวงศ์สกุลที่มีฐานันดรสูงกว่าอาจเคยเป็นเพื่อนร่วมสถานศึกษาได้พบปะมักคุ้นกันเพราะหน้าที่การงาน หรืออาจได้รู้จักจนเกิดความชอบพอรักใคร่

Praew-Payakon-817 พ.ย. – 15 ธ.ค.

ระวังจะสูญเสียพี่น้อง เพื่อนบ้าน เดินทาง ระยะใกล้จะเกิดอันตราย การงานอาจถูกผู้มี อิทธิพลสูงกว่าบังคับให้ทำตามอำเภอใจทั้งที่ คุณเองไม่อยากทำระวังจะเกิดปัญหาร้ายแรง ขึ้นกับธุรกิจการงานและการศึกษาดีกว่านั้นอาจหมายถึงต้องติดต่อทำธุระกับชาวต่างชาติเรื่องราวเกี่ยวกับการเงินดูค่อนข้างติดลบความสัมพันธ์กับคู่ครองและผู้ใกล้ชิดอาจมีเรื่องขัดแย้งกะทันหันอาจมีปากเสียงกับคนรัก อาจได้รับข่าวอันน่าสลดใจของเพื่อนสนิทซึ่งเคยรู้จักมานาน

Praew-Payakon-916 ธ.ค. – 15 ม.ค.

การงานและการศึกษา แถวต้นปักษ์ดูชุลมุน ลาภผลและกระแสการเงินดูนิ่งสนิท มีเกณฑ์ต้องเดินทางสัญจรด้วยภารกิจการงานสำหรับผู้ที่ยังตกงานระยะนี้มีเกณฑ์ดีในการขอความร่วมมือกับผู้อื่นเชื่อกันว่าจะมีผู้อาวุโสซึ่งมีระดับความเป็นอยู่สูงกว่าให้ความอุปถัมภ์ระวังอุบัติเหตุ ระวังเจ็บไข้ได้ป่วยหรืออาจนึกคิดสับสนเพราะเรื่องราวประหลาดมากระทบความรู้สึกสาวโสดตลอดปลายปักษ์มีหนุ่มร่างดีหน้าตาร่าเริงแจ่มใสเข้ามาก้อร่อก้อติก ถ้าได้ลักษณะนี้คุณหาตัวมาไว้เถอะ

Praew-Payakon-1016 ม.ค. – 12 ก.พ.

ควรรอจังหวะและโอกาสดี สิ่งที่น่าหวาดระแวงหายห่วงได้คุณเริ่มมีหลักการและเหตุผลที่ดีจะตัดสินใจในสิ่งที่มุ่งหวังอย่างถูกต้อง เรื่องที่ ควรซ่อมแซมคือความลุ่มหลงง่ายคิดจะทำสิ่งใดก็ไม่แคร์คนอื่นระวังมิตรสหายที่ใกล้ชิดจะตั้งตนเป็นศัตรู อาจมีปากเสียงเกิดความคิดเห็นขัดแย้งรุนแรง หรืออาจได้รับข่าวน่าสลดใจของ มิตรสหายที่เคยสนิทมาก่อน ใครเขาก็รู้ว่าคุณกำลังหวานชื่นกับความรักนัดหมายปรับความเข้าใจ หรือจะทำอะไรที่นึกอยากทำหรืออยากให้เขาทำ มีเกณฑ์ว่าจะดำเนินไปได้ด้วยดี

Praew-Payakon-1113 ก.พ. – 13 มี.ค.

มีเกณฑ์ได้รับลาภผลคล่องมือแต่รายจ่ายเหมือนจะรอก่อนแล้วมีเกณฑ์ไปพักผ่อนบ่อยครั้งอาจได้สัมผัสอากาศบริสุทธิ์แถบชานเมือง ได้เตร็ดเตร่ซื้อหาสิ่งของต้องใจระวังญาติผู้ใหญ่ป่วยไข้ได้ทุกข์รุนแรงเป็นช่วงเวลาที่ควรอยู่กับผองเพื่อนมิตรสหายเป็นช่วงเวลาที่ควรคบหากับคนร่วมงาน อยู่ในบรรยากาศรื่นเริงมีเกณฑ์พบปะเพื่อนฝูงพร้อมหน้าหรืออาจต้องเข้าร่วมประชุมสังสรรค์กับผู้คนแปลกหน้าซึ่งอาวุโสสูงกว่า สำหรับสาวโสดที่ผิดหวังในรักอย่าปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับอดีต ใส่ตะกร้าล้างน้ำแต่งองค์เริ่ดต่อไปได้

Praew-Payakon-1214 มี.ค. – 12 เม.ย.

ถึงขณะนี้ยังต้องทำมาหากินด้วยตนเองให้ได้รับความลำบากระวังเรื่องทุกข์ใจด้วยสุขภาพของญาติผู้ใหญ่หรืออาจมีเหตุขัดใจระหว่างวงศาคณาญาติ ปักษ์นี้ควรลืมเรื่องที่ก่อให้เกิดทุกข์ควรจดจำในเรื่องราวที่ส่งผลให้จิตใจของเราสงบไม่ควรย้อนคิดถึงอดีตประหวั่นพรั่นพรึงต่อความเป็นอยู่ภายหน้าเพราะสิ่งเหล่านั้นยังมาไม่ถึง หมั่นไตร่ตรองถึงผลดีผลเสียให้รอบคอบ ไม่ปล่อยตัวตามตัณหาหากมีคู่อยู่ก่อนแล้วเกรงจะมีปากเสียงเนื่องจากเรื่องจุกจิกอันเกิดจากอารมณ์แข็งกร้าวที่ไม่ยอมลงใครของคุณเอง

เรื่อง :โสรัจ

ที่มา : คอลัมน์ แพรวพยากรณ์ นิตยสารแพรว ฉบับ 866 ปักษ์ 25 กันยายน 2558

CATHERINE, DUCHESS OF CAMBRIDGE เจ้าหญิงผู้ล่องหน

England v Fiji - Group A: Rugby World Cup 2015

The Middleton Rules

แว่วว่าตอนนี้ในพระราชวังบักกิงแฮมมีการบัญญัติ ศัพท์ใหม่ นั่นคือ The Middleton Rules อ้างอิงจาก ข้าราชบริพารหลายคนที่เห็นรูปแบบใหม่ของราชวงศ์ ซึ่งเริ่มกลมกลืนเข้ามานับตั้งแต่พิธีเสกสมรสของดยุค และดัชเชสแห่งเคมบริดจ์

รูปแบบใหม่นี้ได้ครอบคลุมทุกทิศทางในชีวิตของ ครอบครัวดยุคและดัชเชสในเมืองนอร์โฟล์ค ซึ่งทั้ง เจ้าชายวิลเลียมและเคทตั้งใจจะให้เจ้าชายจอร์จและ เจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ทรงเติบโตขึ้นที่นี่ ห่างไกลจากสายตา อยากรู้อยากเห็นของคนอื่น

หลังจากคบหาดูใจกันมานานถึง 8 ปี เจ้าชายวิลเลียม ก็ทรงประกาศหมั้นหมายกับเคท หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าชายวิลเลียมทรงยืนยันกับพระคู่หมั้นว่า เธอจะไม่ได้ รับการปฏิบัติแบบเดียวกับที่เจ้าหญิงไดอาน่าเคยได้รับ ซึ่งผู้สังเกตการณ์บอกว่านี่คือการใช้รูปแบบใหม่ หรือ ที่เรียกว่ากฎของมิดเดิลตันเป็นครั้งแรก

ประเด็นสำคัญคือปกป้องความเป็นส่วนตัวของ เคท ซึ่งเจ้าหญิงไดอาน่าในวัยสาวไม่เคยได้รับการปกป้อง เช่นนั้นเลย และนี่คือข้อตกลงอย่างไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ที่เจ้าชายวิลเลียมทรงมีกับไมเคิล มิดเดิลตัน บิดาของ เคท ซึ่งพระองค์ทรงสนิทสนมคุ้นเคยมากขึ้นกว่าเมื่อ ครั้งเจอกันช่วงแรก ๆ

The Christening Of Princess Charlotte Of Cambridge

นอกจากจะมีมาตรการป้องกันพวกปาปารัซซี่แล้ว ยังว่าจ้างบรรดาทนายความด้านมีเดียค่าตัวแสนแพง และวางหมายกำหนดการออกงานต่าง ๆ ล่วงหน้าอย่าง พิถีพิถัน รวมทั้งวางแผนการเลี้ยงดูลูก ๆ เพื่อปกป้อง ครอบครัวอย่างเข้มข้นสุด ๆ

ว่ากันว่าเจ้าชายวิลเลียมทรงนำคุณค่าของความ เป็นชนชั้นกลางมาก่อร่างสร้างครอบครัวของพระองค์ ซึ่ง เป็นสิ่งที่พระองค์ทรงชื่นชมเป็นอย่างมาก จากการที่ พระองค์ได้เห็นในช่วงที่ทรงคบหามานานปีกับเคท หญิงสาว ซึ่งมาจากครอบครัวชนชั้นกลางที่อบอุ่นและมีความสุข ซึ่งตลอดเส้นทางจากสถานภาพแฟนสาวขึ้นมาเป็นดัชเชส เคทก็ไม่เคยละทิ้งความเป็นชนชั้นกลางของตัวเอง

เจ้าชายวิลเลียมทรงป้องกันพระชายาไม่ให้ถูกผูกมัด แน่นหนาด้วยกฎระเบียบของราชวงศ์ เคทได้รับอนุญาต ให้รักษาสมดุลระหว่างหน้าที่ในฐานะภรรยาและแม่ กับ ความคาดหวังว่าเคทจะรับออกงานตามหน้าที่ของเชื้อพระวงศ์

แหล่งข่าวบอกว่า กฎต่าง ๆ เหล่านี้เจ้าชายวิลเลียม ทรงเคยนำเสนอแด่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบทที่ 2 และเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เรียบร้อยแล้ว โดยไม่ได้เป็นการขออนุญาต แต่เป็น การบอกกล่าวให้รับรู้ว่าพระองค์ดำเนินการเรื่องเหล่านี้ไปแล้ว ซึ่งทุกอย่าง ก็ดูราบรื่นดี มีแค่ข้าราชบริพารหัวเก่าบางคนเท่านั้นที่กังวลใจว่ารูปแบบใหม่ นี้จะเวิร์คจริงหรือ

Day Nine: The Championships - Wimbledon 2015

ล่องหนเป็นประจำ

จากกฎของมิดเดิลตันที่กล่าวมาแล้ว บวกกับสถานภาพแม่ลูกอ่อน ที่มีลูกเล็ก ๆ ถึงสองคน ก็ยังพอเข้าใจการที่เคทหายหน้าหายตา ไม่ค่อย เห็นตามงานต่าง ๆ ได้ แต่เริ่มมีคนสังเกตเห็นว่าเจ้าชายวิลเลียมทรง ฉายเดี่ยวออกงานตลอดในช่วงหลัง

เอาเป็นว่าเจ้าหญิงเคทเบี้ยว 4 งานวิวาห์ 1 พิธีรับศีลจุ่ม และอีก 1 งานศพ ซึ่งล้วนแต่เป็นงานสำคัญทั้งสิ้น งานวิวาห์ทั้ง 4 งานเป็นงานของพระสหายสนิทสมัยเรียนของ เจ้าชายวิลเลียม โดยเฉพาะงานล่าสุดเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ซึ่งแหล่งข่าว บอกว่าเจ้าหญิงเคทเบี้ยวงานนาทีสุดท้าย เพราะชื่อของพระองค์ยังอยู่ในแผนผัง ที่นั่งในงานอยู่เลย ถ้ามีการแจ้งล่วงหน้าก็ยังถอดชื่อออกทัน เล่นเอาเจ้าบ่าว เจ้าสาวน้อยอกน้อยใจ แขกในงานเมาท์เรื่องนี้ข้ามวันกันเลยทีเดียว

Trooping The Colour

อย่างไรก็ตาม งานที่เจ้าหญิงเคทไม่ไปร่วมงานและถือว่าเป็นการเบี้ยวงาน ครั้งมโหฬารคือ พิธีรับศีลจุ่มของมีอา บุตรสาวของซารา ฟิลลิปส์ อย่าลืมว่าซาราเป็นแม่ทูนหัวของเจ้าชายจอร์จ แหล่งข่าวบอกว่า 3 วัน ก่อนหน้าพิธีรับศีลจุ่มยังมีคนเห็นเจ้าหญิงเคทช็อปปิ้งอย่างมีความสุข ยิ่งเติมเชื้อไฟให้ขาเมาท์ทำงานกันหนักยิ่งขึ้น

สำหรับงานศพที่เจ้าหญิงเคทไม่ไปคือ งานของอดีตพระพี่เลี้ยงซึ่ง เจ้าชายวิลเลียมทรงผูกพันตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์ แต่เจ้าหญิงเคทก็ ไม่ได้ไปยืนไว้อาลัยเคียงข้างเจ้าชายในพิธีศพแต่อย่างใด

จากการเบี้ยวสารพัดงานของเคททำให้ขาเมาท์สายเตียงหักวิเคราะห์ ว่ามีเหตุผลมากมายที่ไม่ไปร่วมงานต่าง ๆ เช่น เป็นไปได้ว่าเจ้าชาย จอร์จและเจ้าหญิงชาร์ล็อตต์อาจประชวร แต่เบี้ยวงานถี่ขนาดนี้ เหตุผล ฟังดูไม่ขึ้น และดูเหมือนว่าตั้งแต่เป็นชายาของเจ้าชายวิลเลียม พระองค์ก็ ปฏิเสธการออกงานเสียเป็นส่วนใหญ่

หรือนี่อาจส่อเค้าว่ามีเบื้องหลังเบื้องลึกในชีวิตแต่งงานของเจ้าหญิงเคท และเจ้าชายวิลเลียม ถ้าอ้างอิงจากข่าวลือว่าทั้งสองพระองค์เคยมี เรื่องทะเลาะขัดใจกันในช่วงที่เจ้าหญิงทรงพระครรภ์เจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ รุนแรงถึงขนาดหอบกระเป๋าไปพักที่บ้านแครอล แม่ของพระองค์เลยเชียว ซึ่งเป็นช่วงที่ทั้งสองไม่พบหน้ากันนานเกือบ 1 เดือน จนกระทั่งสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบทที่ 2 ทรงเป็นกาวใจให้ทั้งสองปรับความเข้าใจกัน

ภาระของแม่ลูกอ่อน

ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานา บรรดาเพื่อนฝูง คนสนิทของเจ้าหญิงเคทยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า พระองค์เหนื่อยอ่อน กับการเลี้ยงดูเจ้าชายจอร์จมาก่อนหน้านี้แล้ว แถมยังมามีเจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ อีก ความเหนื่อยสะสมจึงบวกเป็นสองเท่า ไม่ใช่เรื่องเตียงหักแน่นอน คนที่ วิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบดูเหมือนจะใจร้ายไปหน่อยนะ

เหตุผลนี้ฟังดูเข้าเค้า เพราะเจ้าหญิงเคทซึ่งยังให้นมแม่แก่เจ้าหญิง ชาร์ล็อตต์อยู่ คงไม่อยากให้ภารกิจประจำวันในการเลี้ยงดูลูกต้องสะดุด และการต้องหอบลูกวัยแบเบาะเดินทางไปร่วมงานวิวาห์ด้วยระยะทางไป กลับถึง 650 ไมล์ก็ไม่สนุกเสียเลย

The Christening Of Princess Charlotte Of Cambridge

นอกจากต้องให้นมลูกคนเล็กเป็นเวลาแล้ว เจ้าชายจอร์จก็ทรง อยู่ในวัยซนอีกด้วย อีกเหตุผลที่ฟังดูเข้าท่าคือ หากเสด็จไปร่วมงาน ความสนใจก็จะพุ่งมาที่พระองค์แทนที่จะเป็นเจ้าสาว ด้วยเหตุผลนี้เพียง ข้อเดียวคงทำให้เข้าใจได้ว่าทำไมจึงเบี้ยวงานเหล่านั้น

จริง ๆ แล้วจะกล่าวหาเจ้าหญิงเคทองค์เดียวก็ไม่ถูก เจ้าชายวิลเลียมก็ ทรงหายหน้าหายตาไปบ้างเหมือนกัน ข่าวว่าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบท ทรงชินแล้วกับการที่เจ้าชายวิลเลียมทรงไม่มาร่วมงานพิธีสำคัญหลายงาน ตั้งแต่เสกสมรส และดูเหมือนทรงเต็มพระทัยที่จะเพิกเฉยต่อการ “หายตัว” ของเจ้าชายวิลเลียม (และเจ้าหญิงเคท) ซึ่งเจ้าชายก็ไม่ได้หนีไปเที่ยว เล่นที่ไหน พระองค์ทรงอยู่กับครอบครัวและทรงงานเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์ นั่นแหละ

กระแสวิพากษ์วิจารณ์อาจจะมาจากความผิดหวังที่ไม่ค่อยเห็น เจ้าหญิงเคทปรากฏตัวให้เห็นตามงานต่าง ๆ เหมือนสมัยก่อน แฟนคลับ ของพระองค์จึงคิดกันไปใหญ่โต โดยลืมนึกถึงสถานภาพแม่ลูกอ่อน

แต่ถึงอย่างไรเจ้าหญิงเคทก็ยังครองตำแหน่งขวัญใจมหาชน อย่างเหนียวแน่น ยังเป็นสมาชิกราชวงศ์ที่มีคนรักและชื่นชมมากมาย ป็อปปูลาร์สุด และยังไม่มีใครแย่งตำแหน่งไปได้

เรื่อง : ชนาฉัตร

ภาพ : Getty Images

ที่มา : คอลัมน์ ROYAL UPDATE นิตยสารแพรว ฉบับที่ 866 ปักษ์วันที่ 25 กันยายน 2558

เจ้าหญิงดิสนีย์ VS ปริ้นเซสโลกแห่งความจริง เหมือนจนนึกว่าหลุดออกมาจากในการ์ตูน

เจ้าหญิงดิสนีย์ VS ปริ้นเซสโลกแห่งความจริง เหมือนจนนึกว่าหลุดออกมาจากในการ์ตูน

อะอะอย่าเพิ่งตกใจไปมันแค่เป็นความบังเอิญและเรื่องขำๆ สุดน่ารักเท่านั้น เพราะมีคนตาดีบังเอิญไปเห็นว่า ตัวการ์ตูน เจ้าหญิงดิสนีย์ มีส่วนคล้ายเจ้าหญิงในโลกแต่งความจริงหลายพระองค์เลยทีเดียว เห็นรูปแล้วถึงกับต้องอึ้งเพราะว่าเหมือนจนคิดว่าเจ้าหญิงในการ์ตูนได้หลุดออกมาสู่โลกแห่งความจริงแล้วแน่ๆ ไปดูกันเลย

เจ้าหญิงดิสนีย์
1. เจ้าหญิงจัสมิน จากเรื่องอะลาดิน กับ เจ้าหญิง Ameera al-Taweel จากซาอุดีอาระเบีย

เจ้าหญิงดิสนีย์
2. โพคาฮอนทัส กับ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณวรีนารีรัตน์ จากประเทศไทยของเราเองจ้า

เจ้าหญิงดิสนีย์
3. ซินเดอเรลล่า กับ เจ้าหญิง Charlene จากประเทศโมนาโก

เจ้าหญิงดิสนีย์
4. เบลล์ จากเรื่องโฉมงามกับเจ้าชายอสูร กับ เจ้าหญิงแคทเธอรีน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์

เจ้าหญิงดิสนีย์
5. มู่หลาน กับ สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา แห่งภูฏาน


เจ้าหญิงดิสนีย์
6. เอลซ่า ราชินีหิมะ จากเรื่อง frozen กับ เจ้าหญิง Mette-Marit ประเทศนอร์เวย์

เจ้าหญิงดิสนีย์
7. เจ้าหญิงเมอริด้า จากเรื่อง brave กับเจ้าหญิง Lalla Salma ประเทศโมร็อกโก
เจ้าหญิงดิสนีย์
8. ราพันเซล กับ อดีตเจ้าหญิง Alexandra von Furstenberg

เจ้าหญิงดิสนีย์
9. สโนว์ไวท์ กับ ชาร์ล็อตต์ คาซิรากี้ แห่งประเทศโมนาโก

เจ้าหญิงดิสนีย์ 10. เจ้าหญิงแอเรียลจากเรื่อง Little Mermaid กับเจ้าหญิงเบียทริซ แห่งยอร์ก

เรื่อง : แพรวดอทคอม
ภาพ : www.gettyimages.com, www.popsugar.com, disney

 

ติดตามอัพเดตเรื่องราวต่างๆจากนิตยสารแพรวให้สนุกยิ่งขึ้นได้ที่

www.facebook.com/praewmagazine

Instagram : @praewmag

และติดตามอ่าน แพรว E-Magazine ได้แล้ววันนี้เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น

  • Praew E-magazine
  • NaiinPann
  • Ookbee

EVERYDAY SUPER WHITE LOOK แมทช์แฟชั่นสีขาว อัดแน่นความว้าว…ตลอด 7 วัน

LOOK 1

WHITE SHIRT : เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกระโปรงทรงสอบสีน้ำตาลคาเมล ให้ลุคโก้เฉียบกำลังดีเสื้อเชิ้ตลูกไม้ Thea by Thara 4,650 บาท กระโปรงทรงสอบ Banana Republic 3,590 บาท

กระเป๋าสตางค์พร้อมกำไลข้อมือ Charles & Keith 2,150 บาท

รองเท้าหัวแหลมส้นตัน Charles & Keith 2,150 บาท

LOOK 2

SLEEVELESS WHITE BLOUSE : เสื้อแขนกุดสีขาวใส่สบายในลุคแคชวลแมทช์ลงตัวกับสีพาสเทลและสีเขียวขี้ม้าที่มาแรงในช่วงปลายปีเสื้อแขนกุดสีขาว Banana Republic 2,990 บาท

แจ็กเก็ตสีนู้ด Banana Republic 5,590 บาท

กางเกงสีเขียวขี้ม้า Gap 2,490 บาท

กระเป๋าเป้สีน้ำเงิน Charles & Keith 3,650 บาท

รองเท้าสลิปเปอร์ลายท้องฟ้า Charles & Keith 2,450 บาท

LOOK 3

LACE SHIRT : ครีเอตลุคใหม่ให้เสื้อเชิ้ตลูกไม้ด้วยการจับคู่เลเยอร์กับเดรสเมแทลลิกสีแชมเปญ

เสื้อเชิ้ตลูกไม้ Gap 1,790 บาท

เดรสเมแทลลิก Banana Republic 4,990 บาท

หมวก Gap 1,490 บาท

รองเท้าส้นสูงสีดำ Charles & Keith 2,650 บาท

LOOK 4

WHITE DENIM JACKET : สนุกไปกับสีสัน แจ็กเก็ตยีนสีขาวดูไม่ธรรมดาเมื่อถูกหยิบมาแมทช์กับเดรสพิมพ์ลายมากสีสัน

เดรสพิมพ์ลาย Gap 2,990 บาท

แจ็กเก็ตยีนสีขาว Gap 3,990 บาท

กระเป๋าสีขาวแต่งหนังสีเขียวนีออน Charles & Keith3,550 บาท

รองเท้าส้นเตี้ยสีน้ำเงิน Charles & Keith 2,150 บาท

LOOK 5

WHITE T-SHIRT : ยกระดับเสื้อสีขาวให้แต่งสนุกขึ้นด้วยอารมณ์คอนทราสต์ จับคู่แฟชั่นที่แตกต่างมามิกซ์เข้าด้วยกัน อย่างแจ็กเก็ตฮู้ดสปอร์ตี้กับกระโปรงทรงเอ แล้วเหยาะด้วยแอ๊กเซสซอรี่ส์บลิ๊งบลั๊งดูหรูเบา ๆ

เสื้อยืดฉลุลายสีขาว Gap 2,990 บาท

แจ็กเก็ตฮู้ดสีเทา Gap 2,490 บาท

กระโปรงทรงเอสีดำ Gap 2,490 บาท

กระเป๋าสายสะพายยาวสีชมพูเมแทลลิกแต่งคริสตัล Charles & Keith 2,450 บาท

ต่างหู NOOKNICK + ME 590 บาท

รองเท้าสีดำ Charles & Keith 2,650 บาท

LOOK 6

WHITE LACE : แฟชั่นเสื้อลูกไม้มีกลิ่นอายเฟมินีน นำมาแต่งในโททัลลุค ยังคงเป็นสไตล์ที่เก๋ยิงยาวได้ถึงซีซั่นหน้า

เสื้อลูกไม้ Thea by Thara 7,250 บาท

กางเกงลูกไม้ Thea by Thara 9,450 บาท

แว่นตา Charles & Keith 2,150 บาท

ต่างหู NOOKNICK + ME 450 บาท

รองเท้าส้นตันสีเบจ Charles & Keith 2,250 บาท

LOOK 7

WHITE BLAZER : เติมกลิ่นอายแมสคิวลีนด้วยเบลเซอร์สีขาว และกรูมมิ่งลุคให้น่าสนใจขึ้นด้วยสไตล์สีโมโนโครมขาวดำ

เสื้อตัวสั้นลูกไม้สีดำ Thea by Thara 4,850 บาท

กางเกงขาสั้นลูกไม้ Thea by Thara 4,250 บาท

เบลเซอร์แต่งลูกไม้สีขาว Thea by Thara 7,850 บาท

สร้อยคอห้อยจี้ NOOKNICK + ME 550 บาท

รองเท้าหัวแหลมส้นตัน Charles & Keith 2,150 บาท

WHERE TO SHOP

Thea by Thara ชั้น 1 สยามพารากอน, ชั้น 1 ดิ เอ็มโพเรียม, ชั้น 2 เซน, ชั้น 2 เซ็นทรัล ลาดพร้าว, ชั้น 3 สยามสแควร์ วัน โทร. 0-2117-9313 Banana Republic ชั้น 1 ตึก A ดิ เอ็ม- ควอเทียร์ โทร. 0-2003-6090 Charles & Keith ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิลด์ โทร. 0-2613-1170, ชั้น 2 สยามเซ็นเตอร์ โทร. 0-2658-1133 GAP ชั้น 1 สยามพารากอน โทร. 0-2690-1000 NOOKNICK + ME โทร. 08-3624-6545, Facebook และ IG: nooknickplusme

 

 

ย้อนดูชุดวิวาห์แสนเก๋ของเจ้าสาวคนดัง สวยมีสไตล์ ไม่ธรรมดาสักคน

สิ่งหนึ่งที่สาวๆ หลายคนติดตามก็คือ ชุดวิวาห์ที่บรรดาเจ้าสาวคนดังนั้นสวมใส่ จะว่าเป็นแบบเรียบๆ ชุดราตรีสีขาว ก็คงจะดูกันจนชินแล้ว วันนี้มาฟากบรรดาเจ้าสาวคนดังที่มีสไตล์การแต่งตัวเป็นของตัวเองกันบ้าง ขนาดว่าแต่งตัวออกจากบ้านยังไม่ธรรมดา กับชุดแต่งงานคงไม่พลาดที่จะใส่ไอเดียความเป็นตัวเองลงในชุดแน่นอน

8 งานฉลองมงคลสมรสเพิ่งจะจบไปหมาดๆ บรรยากาศในงานแต่งงานก็แสนจะเก๋สุดๆ สำหรับคู่บ่าวสาวป้ายแดง เพชร –รัตนารัตน์ เอื้อทวีกุล กับแฟนหนุ่มบีท – ชวิทย์ เสรีวัฒโนภาส งานนี้เจ้าสาวเป็นคนที่แต่งตัวมีสไตล์อยู่แล้ว เลยจัดชุดแต่งกายแบบที่ตัวเองชอบในลุคเจ้าสาววินเทจ ซีทรูแขนยาว ผสมผสานกับงานปักลายดอกไม้สุดน่ารัก

9

แต่งงานไปก่อนน้องสาวฝาแฝดไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ความเก๋ของชุดเจ้าสาวในงานแต่งของสาวพลอย รัตนรัตน์ เอื้อทวีกุล ก็ไม่ใช่ย่อย ถ้าใครจำได้เมื่อคราวที่สาวพลอยแต่งงานนั้น มาในชุดราตรีเปิดไหล่สไตล์สาวฮิปปี้ มีดีเทลเก๋ๆ ที่การเพิ่มเลเยอร์สร้างลูกเล่นให้กระโปรงดูพลิ้วไหวสุดๆ ชุดนี้ดูเรียบง่าย และเข้ากับสาวพลอยมากๆ เลยล่ะ

11

มาที่ชุดแต่งงานของสาวเบ๊นซ์ – พรชิตา ณ สงขลา กับหนุ่มมิกซ์ บรมวุฒิ หิรัญยัษฐิติ ซึ่งชุดที่สาวเบ๊นซ์สวมใส่ ที่เห็นแล้วเตะตามากๆ นอกจากชุดไทยที่ใช้ในพิธีช่วงเช้าแล้ว อีกชุดที่หลายคนพูดถึงก็คือ ตอนที่เจ้าสาวสุดสวยกลายร่างเป็นสาวโบฮีเมียน ในชุดแขนกุดที่เพิ่มความเก๋ด้วยการใส่เฮดพีซ ที่รับกับทรงผมลอนได้พอดี ลุคนี้ดูสบายๆ แต่สวยมีสไตล์ไม่เบา

6

เป็นงานแต่งงานที่น่ารักเรียบง่ายที่สุดอีกหนึ่งคู่ สำหรับนางแบบสาวลูกครึ่ง มาริสา แอนนิต้า กับแฟนหนุ่มนักบิน เบิร์ท – อัตตพล ศิริศุขสกุลชัย ซึ่งงานแต่งงานของทั้งคู่มีเพียงครอบครัว และเพื่อนสนิทที่มาร่วมงานเท่านั้น โดยเจ้าสาวมาในชุดสีขาวสไตล์โบฮีเมียน แถมทั้งคู่ยังทำเท่ด้วยการสวมรองเท้าผ้าใบดูสบายๆ บอกเลยว่างานแต่งของคู่นี้เป็นอีกหนึ่งความทรงจำของหลายๆ คนที่อยากจะจัดงานแต่งงานแบบเรียบง่าย และน่ารักได้ขนาดนี้

523

ขาดสาวคนนี้ก็คงไม่ได้ สำหรับแฟชั่นนิสต้าตัวแม่อย่างสาวชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต เราอาจจะได้เห็นชุดที่เจ้าตัวสวมใส่อยู่หลายแบบ ทั้งหรูหรา อลังการ จากอินเตอร์แบรนด์ระดับโลก แต่ถ้าจะเอาให้คนพูดถึงมากที่สุด นอกจากชุดตอนงานฉลองสมรสแลล้ว ก็คงเป็นชุดAfter Party สุดเก๋ จาก Christian Dior ที่สาวชมใส่คู่กับรองเท้าผ้าใบสีขาว เพราะมันช่างพร้อมกับการที่จะให้เจ้าสาวออกลีลาให้แด๊นซ์กระจายมากๆ

1314

 

นี่อาจจะเป็นไอเดียที่ดี สำหรับสาวๆ ที่กำลังเตรียมจะสละโสด บางทีอย่าไปยึดติดกับภาพเจ้าหญิงในนิยายกันมาก เลือกใส่ในสิ่งที่เป็นตัวเองนั่นแหละดีที่สุดแล้ว

 

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ : FB@VinBuddyWedding/IG@sa_marisanita,@petchnla,@ployaurthaveekul,@chomismaterialgirl

 

 

Twitter : sriploi17

 

 

 

keyboard_arrow_up