เช็คราคา! 7 น้ำหอม Louis Vuitton ลงสนามชิงมงฯความหอมคู่กาย เรื่องแพง ใครสน!

นับตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ Louis Vuitton ก็มุ่งมั่นเดินหน้าตามความฝันไปสู่ขอบฟ้าอันแสนไกล

หลังจากที่รังสรรค์กระเป๋าเดินทางทรงหีบที่ปัจจุบันกลายมาเป็นไอคอนของแบรนด์ Louis Vuitton ก็ได้ให้คำมั่นว่าจะอยู่เคียงข้างกายนักเดินทางไปทุกหนทุกแห่ง แต่บางครั้งแค่เพียงหลับตาเราก็จะสามารถเดินทางไปสู่อีกด้านหนึ่งของโลกได้

อุปมาได้ว่าการเดินทางนั้นไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทาง แต่เป็นความรู้สึก เป็นการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องที่ช่วยหล่อเลี้ยงร่างกายและจิตวิญญาณ เป็นความสั่นสะเทือนที่ทำให้หัวใจคุณเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ เป็นความทรงจำที่จะจารึกในใจตลอดไป เป็นอารมณ์ที่จะเปลี่ยนการเป็นอยู่ และบัดนี้ความรู้สึกที่ค้างคาเหล่านี้ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ผลิตภัณฑ์อันเลอค่านั่นคือ น้ำหอมหลุยส์ วิตตอง (Les Parfums Louis Vuitton)โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำหอม ฌาคส์ กาวาลิเยร์ แบลทรูด (Jacques Cavallier Belletrud) ซึ่งเป็นชาวเมืองกราส (Grasse) เมืองต้นกำเนิดน้ำหอมและเครื่องหนัง มาเป็นผู้รังสรรค์กลิ่น

ฌาคส์ กาวาลิเยร์ แบลทรูด ใช้เวลาหลายเดือนเดินทางไปทั่ว 5 ทวีป เพื่อเสาะหาความรู้สึกที่ไม่คาดหวังมาก่อน ความรู้สึกที่ได้จากการสูดกลิ่นหอมของวัตถุดิบสุดเอ็กโซติกที่มาจากต่างบ้านต่างเมืองและสุดจะหายาก จากนั้นเขาก็จินตนาการถึงการเดินทางแห่งการรับกลิ่นใน 7 รูปแบบ จนสามารถรังสรรค์ให้เป็น 7 เรื่องราวที่เอื้อให้เกิดแรงบันดาลใจจนกลายมาเป็นน้ำหอมสำหรับสุภาพสตรี เป็นที่มาของน้ำหอมหลุยส์วิตตอง 7 กลิ่น ที่ล้วนต่อเติมจินตนาการในห้วงการเดินทางที่ตอบทุกโจทย์ของผู้หญิงทุกคน ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหอมเบาสบายดังกลีบกุหลาบที่ลอยล่องกับ โรส เดส์ วองต์ส(Rose des Vents) แต่งเติมความเย้ายวน อันแสนหอมหวานจากดอกซ่อนกลิ่นอย่างตูร์บิวลองซ์ (Turbulences) ความปลาบปลื้มในค่ำคืนแรกกับ ด็องส์ ลา โป (Dans la Peau) การดื่มด่ำไปกับธรรมชาติกับ อะโปเช่ (Apogée) การเปิดเผยตัวตนกับ ก็งทร์ มัว (Contre Moi) ก่อนปิดท้ายสัมผัสแห่งอารมณ์ยามรัตติกาลไปกับ มาติแยร์ นัวร์ (Matière Noire) และการปะทุของประสาทสัมผัสไปกับ มิลล์ เฟอส์ (Mille Feux)
Louis Vuitton

แต่ขณะที่หลุยส์ วิตตอง ปราณีตกับกลิ่นน้ำหอมอย่างยิ่งยวด เรื่องของบรรจุภัณฑ์กลับเป็นสิ่งที่เข้าข่าย ‘สูงสุดคืนสู่สามัญ’ มิใช่ไม่ให้ความสำคัญ แต่คือมิติแห่งการคิดที่ผ่านการตกตะกอนมาแล้วเป็นอย่างดี ในยุคที่บางคนเชื่อว่าความหรูหรานั้นดูกันที่น้ำหนักของแก้ว แต่หลุยส์ วิตตองกลับออกแบบขวดน้ำหอมในมุมมองใหม่ ด้วยเชื่อว่าความหรูหราน่าจะอยู่ที่การทำให้ชีวิตประจำวันน่าอภิรมย์ขึ้นไม่ใช่หรือ
Louis Vuitton

ขวดใหม่นี้ออกแบบโดย มาร์ค นิวสัน (Marc Newson) ผู้เชื่อมั่นในความเรียบง่าย และขวดน้ำหอมขวดนี้คือสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ เส้นสายบนขวดนั้นเรียบง่ายและปราศจากการตกแต่ง ราวกับหยดน้ำ ประดับด้วยตัวหนังสือสีดำ แม้แต่การสลักแบรนด์ลงบนขวดก็ช่างดูเรียบง่าย จะมองเห็นก็เมื่อนิ้วสัมผัสหรือแสงตกกระทบเท่านั้น

ฝาขวดเป็นสีดำชวนให้คิดถึงผลงานโดยเอเมอรี่(Emery) ในศตวรรษก่อน แต่เมื่อถอดฝาที่ประดับด้วยตัวหนังสือ LV ออกมาก็จะเป็นหัวฉีดสเปรย์หรืออะตอมไมเซอร์(atomizer) อยู่ด้านใน และแม้จะเป็นการเชื่อมโยงกับอดีต ขวดน้ำหอมของหลุยส์วิตตอง ขวดนี้ก็เป็นการถ่ายทอดวิสัยทัศน์สำหรับอนาคตเช่นกัน

Louis Vuitton

เล่าเรื่องขวดบรรจุแล้ว ก็ขอต่อไปที่กล่องแพ็กเก็จจิ้ง จากภาพคงเห็นแล้วว่าตัวแพ็กเก็จจิ้งทำด้วยกระดาษสีขาวและทองนี้คล้ายกับรูปทรงกระบอกของ เฌอ ตู อิล (Je, Tu, Il) ซึ่งเป็นน้ำหอมของหลุยส์ วิตตองที่เปิดตัวในปีค.ศ. 1928 และไม่มีจำหน่ายแล้วในปัจจุบัน

และนี่คือราคาของน้ำหอมทั้ง 7 รุ่นของหลุยส์ วิตตอง  ซึ่งมีให้เลือกทั้งขนาด 200 มิลลิลิตร(13,200 บาท)และ 100 มิลลิลิตร(9,300 บาท)

Louis Vuitton

และเพื่อให้สมเครดิตแบรนด์นักเดินทาง ทางแบรนด์จึงมีขนาดสำหรับเดินทางบรรจุ 4 ขวด ขวดละ 7.5 มิลลิลิตร ที่ออกแบบมาให้ปิดฝาด้วยแม่เหล็ก และสามารถต่อกับหัวฉีดสเปรย์ได้พอดี ให้คุณเปลี่ยนขวดเล็ก ๆ เหล่านี้เป็นน้ำหอมสำหรับพกพาได้ทันที (9,300 บาท และรีฟิล 4 ขวด 5,200บาท)
Louis Vuitton

นอกจากนี้ หลุยส์ วิตตอง ยังได้รังสรรค์น้ำหอมเพื่อนักสะสมโดยเฉพาะ ด้วยการออกเซ็ท 7 กลิ่น ขนาดกระทัดรัด 10 มิลลิลิตรทั้งหมด 7 ขวด (9,300 บาท)

Louis Vuitton

พิเศษเหนือพิเศษ สำหรับเดอะ เลิฟเวอร์แบรนด์ตัวจริง นั่นคือกระเป๋าลายโมโนแกรม ซิกซ์เนเจอร์ของหลุยส์ วิตตอง ที่ดีไซน์ให้สามารถใส่น้ำหอมได้ครั้งละ 3 ขวด ให้ความรู้สึกเหมือนกระเป๋าใส่เครื่องสำอางของผู้หญิงในยุค 1920s (185,000 บาท)

Louis Vuitton

ขวดน้ำหอมของหลุยส์ วิตตองออกแบบมาให้เก็บได้นาน สามารถเป็นของขวัญให้รุ่นต่อ ๆ ไปได้ และสามารถนำไปเติมที่ร้านหลุยส์ วิตตองได้ ซึ่งที่ร้านจะมีเฟาน์เทนที่ออกแบบมาเพื่อขวดเหล่านี้โดยเฉพาะ เพียงกดครั้งเดียวก็สามารถเติมน้ำหอมใส่ขวดได้โดยไม่ต้องสัมผัสน้ำหอมโดยตรง ราวกับว่าเป็นแคปซูลจากอนาคต เพื่อเป็นการระลึกถึง เลส์ ฟงแตนส์ ปาร์ฟูเมส์ (Les Fontaines Parfumées) หรือ “น้ำพุน้ำหอม” โรงผลิตน้ำหอมของ ฌาคส์ กาวาลิเย่ร์ แบลทรูด ในเมืองกราสซึ่งให้บริการเติมน้ำหอมมากว่าศตวรรษ

มาถึงบรรทัดนี้ กับข้อมูลทั้งหมดที่เล่ามา เราแน่ใจว่าแม้ราคาที่ขานมาทั้งหมดจะเข้าข่ายใช้คำบัญญัติว่า ‘แพง’ ได้ แต่ถ้าเทียบกับความใส่ใจทุกขั้นทุกตอนที่ Louis Vuitton ทำการบ้านมา ที่สำคัญคือกระแสความ ‘อิน’ ที่พูดกันทั่วบ้านทั่วเมืองอยู่ในห้วงเวลานี้ เรื่องแพงจึงไม่ใช่ประเด็นที่สาวๆ ผู้นิยมความหอมจะต้องสนใจ จริงมั้ย?

(พร้อมจำหน่ายในไทย 15 กันยายน เฉพาะที่หลุยส์ วิตตอง ดิ เอ็มโพเรียม)

 

ภาพ : ลิขสิทธิ์แบรนด์

ตัวแม่ทวงบัลลังก์! งานประกาศรางวัล มายามหาชน MAYA AWARDS 2016

กลับมาอีกครั้งกับงานประกาศผลรางวัลอันทรงเกียรติ งานแห่งศักดิ์ศรีของคนบันเทิง เหล่านักแสดง ศิลปิน นักร้อง ดาราละคร ดาราภาพยนตร์ รวมไปถึงวงการข่าวทีวี รายการทีวี และ ทีวีดิจิตอล เรียกว่าเป็นเวทีแห่งเกียรติยศของคนในวงการบันเทิงทุกแขนงเลยก็ว่าได้ โดยผลโหวตมาจากคนไทยทั้งประเทศ อย่างงาน มายามหาชน MAYA AWARDS 2016 ซึ่งครบรอบ 15 ปี มายาแชนแนล ที่จัดขึ้น ณ หอประชุมใหญ่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ไปเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา (30 ส.ค. 2559)

โดยดารานำชายยอดเยี่ยมขวัญใจมหาชน ตกเป็นของพระเอกเบอร์หนึ่งวิกหมอชิต เวียร์ ศุกลวัฒน์ จากละครเรื่อง มรสุมสวาท ด้าน ดารานำหญิงยอดเยี่ยม ขวัญใจมหาชน นางเอกสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ กลับมาทวงบัลลังก์ตัวแม่แห่งบทบาท จากละครเรื่อง กำไลมาศ

ส่วนรางวัล ดาราสมทบหญิงยอดเยี่ยมขวัญใจมหาชน ได้แก่สาว หญิง-รฐา โพธิ์งาม จากละครเรื่อง กำไลมาศ เรียกว่าสองสาวเพื่อนสนิท “เจนี่ – หญิง” คว้ารางวัลใหญ่และรองกลับบ้านไปทั้งคู่ ขณะที่ ดาราสมทบชายยอดเยี่ยมขวัญใจมหาชน ได้แก่พระเอกตี๋อินเตอร์ อาเล็ก-ธีรเดช จากละครเรื่อง สะใภ้จ้าว

สำหรับรางวัลด้านละครนั้น รางวัลละครยอดนิยมขวัญใจมหาชนได้แก่ ซีรีส์ เลือดมังกร โดย พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ส่วนรางวัลผู้กำกับละครยอดเยี่ยมขวัญใจมหาชน ได้แก่ ป้อน นิพนธ์ ผิวเณร จากละครเรื่อง สงครามนางงาม นอกจากนี้ยังมี รางวัลละครสร้างสรรค์สังคมยอดเยี่ยม เสริมสร้างพลังรักในครอบครัว ได้แก่ วัยแสบสาแหรกขาด และรางวัลละครสร้างสรรค์สังคมดีเด่น สาขาปลุกจิตสำนึกไทยให้รักชาติ ได้แก่ ละครอตีตา

สำหรับรางวัลดารานำหญิง – ดารานำชาย ขวัญใจมหาชน สาขาภาพยนตร์ ตกเป็นของพระเอกหนุ่มหน้าคม เต้ย พงศกร จากเรื่อง พันท้ายนรสิงห์ ส่วนฝั่งหญิงได้แก่ ใหม่ ดาวิกา จากเรื่อง ฟรีแลนซ์ฯ

ขณะที่รางวัลทางด้านเพลงและดนตรี สาขารางวัลเพลงประกอบละครยอดนิยม ขวัญใจมหาชน ฝ่ายชายตกเป็นของหนุ่ม กัน-นภัทร จากบัลลังก์เมฆ “คนไม่สำคัญ” ส่วนฝ่ายหญิงตกเป็นของสาวน้อยร้อยล้าน พลอยชมพู

นอกจากนี้ยังมีรางวัลใหญ่ๆ รายบุคคล เช่น รางวัลดาราหญิงเจ้าเสน่ห์ แห่งปี2559 ที่ตกเป็นของนางเอกสาว ขวัญ อุษามณี , รางวัล ดาราสาว Sexy&Healthy ตกเป็นของสาว เกรซ กาญจน์เกล้า และรางวัล ดาราอุทิศตัวเพื่อสังคมดีเด่น แห่งปี 2559 ตกเป็นของ แพนเค้ก เขมนิจ

 

“เวียร์  – เจนี่” คว้าดารานำชาย-หญิงยอดเยี่ยม ขวัญใจมหาชน 

11
ภาพ : IG@janienineeleven

เจนี่ขอกลับมาทวงบัลลังก์แพร้บบบบ!

ภาพ : IG@janienineeleven
ภาพ : IG@janienineeleven
ภาพ : IG@janienineeleven

อาเล็ก-ธีรเดช  กับ รางวัลดาราสมทบชายยอดเยี่ยมขวัญใจมหาชน 

ภาพ : IG@lekteeradetch
ภาพ : IG@lekteeradetch

วัยแสบสาแหรกขาด กับรางวัลละครสร้างสรรค์สังคมยอดเยี่ยม เสริมสร้างพลังรักในครอบครัว

ภาพ : IG@masterone_official
ภาพ : IG@masterone_official
ภาพ : IG@masterone_official
ภาพ : IG@masterone_official

รางวัลสาขาภาพยนตร์

ใหม่ ดาวิกา กับรางวัลดารานำหญิงขวัญใจมหาชน

ภาพ :IG@davikah
ภาพ :IG@davikah
0
ภาพ :IG@davikah

เต้ย พงศกร กับรางวัล ดารานำชายขวัญใจมหาชน 

ภาพ : IG@toey_pongsakornclub
ภาพ : IG@toey_pongsakornclub

 

รางวัลด้านเพลง

 พลอยชมพู กับ รางวัลนักร้องสตริงหญิงยอดนิยม ขวัญใจมหาชน 

23
ภาพ : IG@jannineweigel/IG@jannine_weigel_fc

กัน-นภัทร กับรางวัลเพลงประกอบละครยอดนิยมขวัญใจมหาชน 

ภาพ : IG@thestarupdate
ภาพ : IG@thestarupdate

รางวัลรายบุคคล สุดปัง!

แพนเค้ก – เขมนิจ จามิกรณ์ กับรางวัล ดาราอุทิศตัวเพื่อสังคมดีเด่น แห่งปี 2559

25
ภาพ : IGkhemanito

ขวัญ อุษามณี กับรางวัลดาราหญิงเจ้าเสน่ห์แห่งปี2559

10
ภาพ :IG@kwanusa9
ภาพ :IG@kwanusa9
ภาพ :IG@kwanusa9

เกรซ-กาญจน์เกล้า กับรางวัล ดาราสาว Sexy&Healthy

ภาพ :IG@wechiiz
ภาพ :IG@wechiiz
7
ภาพ :IG@kwanusa9

นอกจากนี้ ยังมีดารานักแสดงมาร่วมงานพรมแดงอีกคับคั่ง

ภาพ : IG@camillakittivat,
ภาพ : IG@camillakittivat
15
ภาพ : IG@lindsay_magic
ภาพ :IG@ mo_amena/IG@tago_we_are_x

 

เรื่อง : redapple_แพรวดอทคอม

ดูดวงรายวัน ประจำวันพุธที่ 31 สิงหาคม 2559

ดูดวงรายวัน ประจำวันพุธที่ 31 สิงหาคม 2559 เช็คทุกวัน ทันทุกดวง กับ แพรวดอทคอม

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : เกิดความเปลี่ยนแปลงในองค์กร คนหนึ่งต้องทำได้หลายรูปแบบ เพื่อให้งานดำเนินต่อไปเป็นรายวัน ท่านต้องปรับตัวให้ได้ ไม่อย่างนั้นอาจตกงานได้

การเงิน : ได้รับความเกื้อหนุนจากผู้ใหญ่บ้าง

ความรัก : ใช้วาจาไม่ค่อยดีกันเลย ด่ากันแรงๆ ไม่ถนอมน้ำใจกัน ปล่อยวางบ้างจะได้ดีขึ้น คนโสด เหนื่อยใจ ยิ่งคบยิ่งเอาแต่ใจ ท่านพยายามตามใจทุกอย่าง แต่ยังไม่ได้ดังใจสักที เลิกเหอะ อยู่คนเดียวดีกว่า

สุขภาพ : ต้องหาเวลาไปนวดบ้าง คอ บ่า ไหล่ ตึงหมดแล้ว

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : สะดุดบ้าง ทำงานแล้วก็กลับมาแก้ไขใหม่ ทั้งที่ท่านไม่ได้ทำ คิดในทางที่ดีว่า ท่านมีศักยภาพจึงมีแต่คนเรียกไปช่วยแล้วกัน เพราะอย่างไรท่านไม่สามารถปฏิเสธได้

การเงิน : วิเคราะห์การลงทุนให้ดีว่าคุ้มไหม ระวังเสียเงินเปล่า

ความรัก : มีเรื่องยุ่งยากใจเยอะ ญาติพี่น้องและบุตรบริวารทำให้เครียด เช่น ของในบ้านหายก็โทษกันไปมา ซึ่งจริงๆ แล้วอาจเป็นคนนอกก็ได้ ค่อยๆ พูดกัน คนโสดจะได้พบคนต่างชาติ ต่างศาสนา ให้ศึกษากันก่อน เพราะเดี๋ยวนี้เชื่อใจยาก

สุขภาพ : คุมเบาหวาน ไขมันให้ดี เพราะจะกำเริบ

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน : อาจได้โยกย้ายตำแหน่ง ซึ่งท่านยังไม่คุ้นกับสถานที่ที่ทำงานใหม่ก็เลยไม่รู้ว่า ต้องเจอกับอะไรบ้าง ไม่ต้องกลัว เพราะงานมีรูปแบบอยู่แล้ว อาศัยเวลาปรับตัวนิดหนึ่ง เดี๋ยวก็ผ่านไป

การเงิน : ใช้เงินเยอะ อาจฝืดเคืองบ้าง

ความรัก : เป็นช่วงที่ต้องอยู่ห่างกัน ท่านหรือคู่อาจต้องไปทำงานไกลเป็นเดือนๆ แต่ให้รู้ว่า ใจไม่ห่างกัน คนโสด เจอคนถูกใจ แต่ก็ต้องทำใจว่า เขามาเพื่อหวังผลประโยชน์ ยอมได้ไหม

สุขภาพ : แพ้อาหารทะเล ทำให้ปวดท้องจนถึงท้องเสีย

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน : ชาวพุธมีดีที่คำพูด ขณะเดียวกันก็เสียเพราะคำพูดด้วยเช่นกัน ควรพูดดีๆ กัน เพราะเราไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ ยิ่งวันนี้ต้องทำงานกันเป็นทีมเวิร์ค เพราะฉะนั้นยอมบ้าง

การเงิน : ซื้อของขวัญให้ผู้ใหญ่

ความรัก : อยู่ในช่วงตั้งตัว ต่างคนต่างทำงานหนักจนไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน พยายามหาเวลาไปทานข้าว ไปเที่ยวต่างจังหวัดกันบ้าง คืนเวลาให้กับครอบครัว คนโสด คบไปเรื่อยๆ อย่าเพิ่งจริงจังกับใคร อยู่คนเดียวสบายกว่าการมีคู่

สุขภาพ : ระวังเรื่องสายตาจะมีโอกาสเป็นต้อได้

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : ทำงานอย่างไม่มีสมาธิ อาจเพราะเกร็งว่าได้รับมอบหมายงานใหญ่ ลองคิดว่า หากท่านไม่มีความสามารถ ผู้ใหญ่จะกล้ามอบหมายให้ท่านทำงานนี้หรือ ทำไปให้เต็มความสามารถ

การเงิน : ได้เงินเข้ามาประปรายจากการเล่นหุ้น เก็บเงินไว้ขยายกิจการ

ความรัก : เป็นวันครอบครัวพากันไปเที่ยว หรือพาลูกหลานไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ คนโสด มีคนแนะนำให้รู้จัก หากยังรับกันไม่ได้ ก็คบกันเป็นเพื่อนไปก่อนก็ได้

สุขภาพ : จะเกิดอุบัติเหตเกี่ยวกับน้ำ เช่น ลื่นล้ม หรือถูกน้ำร้อนลวก

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน : ถึงคิวชาวศุกร์ถูกกากบาท เป็นวันถูกหลอก ถูกโกงแห่งชาติ หากกำลังอยู่ในช่วงประมูลงาน ให้ระวังคนใกล้ชิดกลายเป็นศัตรู นำความในไปบอกคู่แข่ง ต้องวางระบบให้ดี อุดรอยรั่วให้หมด ควรไปปล่อยนกปล่อยปลา อธิษฐานจิตอุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรเยอะๆ จะได้ไม่จองเวรจองกรรมเรานานนัก

การเงิน : อย่าวางใจใครมากนัก จะถูกลูกน้องโกง

ความรัก : คุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะต่างคนต่างทุ่มเท ท่านทุ่มเทเรื่องงาน แต่แฟนกำลังทุ่มเทกับการจับผิด ระแวงว่าท่านมีกิ๊ก ควรอธิบายให้แฟนเข้าใจ ไม่อย่างนั้นเหนื่อยสองด้านเลย คนโสด อาจกำลังถูกเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด จนถูกบอกเลิกกระทันหัน

สุขภาพ : มีเส้นผ่าตัดพาดกลางฝ่ามือ ไปตรวจเช็คสุขภาพด้วย

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : วุ่นวายใจ เพราะงานเยอะโดยใช่เหตุ ต้องปฏิเสธคนบ้าง เพราะหากเป็นงานที่ท่านไม่ถนัด อย่าฝืนทำจะไม่ประสบความสำเร็จ

การเงิน : ใช้จ่ายเบาๆ มือหน่อย ต้นเดือนเองนะเนี่ย

ความรัก : ดูแลกันดีขึ้น เข้าใจกันดีขึ้น ยอมรับนิสัยของคู่ท่านได้แล้ว อย่าถือโทษโกรธกันมากแล้วจะมีความสุข คนโสด คนเกิดวันเสาร์หาคู่ยาก แต่ไม่เป็นไรหรอก หากมีแล้วไม่ดีก็ไม่ต้องมี เชื่อป้า

สุบภาพ : ท้องเสีย ท้องผูก ระวังเรื่องลำไส้ไม่ค่อยดี

สวย ใจใหญ่ ไม่แคร์กิ๊ก! เป้ย – ตุ๊กตุ่น เมียหลวงจิตแข็ง

ชีวิตไม่ใช่ละคร แต่มันก็อาจจะมีบางตอนที่ดันไปคล้ายกันบ้างในบางฉาก เช่นเดียวกับชีวิตของ 2 สาวเมียหลวงจิตแข็งที่กำลังตกเป็นข่าวอยู่ตอนนี้

ครอบครัวกำลังไปได้สวย พ่อแม่ลูกพร้อมหน้าพร้อมตา แต่ก็ไม่วายมีข่าวออกมาว่าทั้ง 2 สาวสวยอย่างเป้ย – ปานวาด และตุ๊กตุ่น – รจเรข กลับต้องมาอยู่ในสถานการณ์ชีวิตคู่กำลังมีปัญหา เหตุเรื่องการนอกใจเป็นเหตุ แต่อย่าคิดว่าจะได้เห็นน้ำตานองหน้าของ 2 สาวนี้นะจ๊ะ เพราะทั้งคู่ได้ออกมาเปิดใจแบบสตรองสุดๆ พร้อมกับความสวยแซ่บที่แสดงให้เห็นว่า ต่อให้ต้องเจอมรสุมครั้งใหญ่แค่ไหน กับเรื่องกิ๊กแค่นี้ไม่มีสะเทือนหรอกนะ

เมียหลวง เป้ย ปานวาด

มาเริ่มกันที่เมียหลวงอย่างสาวเป้ย – ปานวาด คนนี้ถึงจะเคยเป็นนางร้ายในละครที่ชอบแย่งพระเอกหลายต่อหลายเรื่อง ทุกวันนี้สาวเป้ยอาจจะทำงานในวงการบันเทิงไม่เยอะเหมือนสมัยก่อนแล้ว เพราะเวลานี้ สาวเป้ยเป็นคุณแม่ลูกอ่อนแสนสวย ทำหน้าที่เลี้ยงลูก ดูแลสามี เป็นหลัก

เมียหลวง เป้ย ปานวาด
ถึงอายุจะไม่ใช่วัยสาวเอ๊าะ แต่ดูซะก่อน จัดลุคสตรีทแวร์แบบนี้ ดูเด็กลงอย่างกับ 20 ต้นๆ
เมียหลวง เป้ย ปานวาด
เมียหลวงยุคใหม่ต้องจิตแข็ง ที่สำคัญต้องสวย

และพอหลังจากเกิดเรื่องมือที่สามเข้ามาในครอบครัว ผู้หญิงคนนี้ก็เลือกที่จะเงียบมากกว่าโวยวายกันไปมาเหมือนนางร้ายในละครที่เคยเล่น

เมียหลวง เป้ย ปานวาด
โหมดคุณแม่ในแบบสาวเป้ยก็ดูน่ารักอ่อนโยนมากๆ

หนำซ้ำยังออกมาพูดกับสื่อตรงๆด้วยว่า ครอบครัวมีปัญหากันจริง แต่ก็ยังเลือกที่จะเคลียร์กับสามีและหันหน้าเข้าหากันเหมือนเดิม แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก แต่สาวเป้ยให้อภัยทั้งหมด ตอนนี้แผลอาจจะยังสดไปซะหน่อย แต่เชื่อว่าอีกไม่นานครอบครัวที่แสนน่ารักของสาวเป้ยจะกลับมาเหมือนเดิมโดยเร็ว

เมียหลวง ตุ๊กตุ่น

อีกหนึ่งเมียหลวงคนเก่งอย่างตุ๊กตุ่น – รจเรข ภรรยาคนสวยของหนุ่มตั้ม The Star 10 หรือสุธน บู่สามสาย

คู่นี้ถูกจับตามองมาตั้งแต่สมัยที่หนุ่มตั้มประกวด The Star 10 เขาแจ้งเกิดอย่างรวดเร็วตั้งแต่เปิดตัวว่าไม่โสดแล้ว แถมภรรยาก็กำลังตั้งท้องในช่วงที่หนุ่มตั้มประกวด The Star พอดิบพอดี และกลายเป็นว่าหนุ่มตั้มได้ใจไปเต็มๆที่กล้าเปิดเผยเรื่องส่วนตัว ชีวิตครอบครัวก็ดูอบอุ่นสมบูรณ์ดี จนกระทั่งมีข่าวว่าฝ่ายชายไปติดพริตตี้ จนทั้งคู่ต้องตัดสินใจแยกกันอยู่มาได้ 2 สัปดาห์แล้ว

เมียหลวง เมียตั้ม the star
มีความเป๊ะของใบหน้า สวยคมที่สุด เครื่องหน้าแบบนี้ไม่ได้ศัลยกรรมมานะจ๊ะ
เมียหลวง เมียตั้ม the star
ยิ้มแบบเมียหลวง สวยธรรมชาติ ดีต่อใจจริงๆ

แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิง ยิ่งอยู่ในยุคที่ไม่ใช่ช้างเท้าหลังเดินตามสามี แน่นอนว่าสาวสวยอย่างตุ๊กตุ่นก็ยังยืนหยัดด้วยตัวเองได้ เธอยังคงทำงานเป็นผู้ประกาศข่าวในช่องทีวีดิจิทัล และเลี้ยงลูกๆเช่นเคย ส่วนเรื่องปัญหาครอบครัว แม้ว่าจะมีสื่อมาถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เจ้าตัวก็ยังไม่อยากพูดอะไรมาก ได้แต่หัวเราะเบาๆให้กับความจริงที่เจ็บปวด และรอให้หนุ่มตั้มมาเคลียร์ปมปัญหานี้ต่อหน้าสื่อเสียก่อน

เมียหลวง ตุ๊กตุ่น
ถึงเวลาทำงานก็ต้องจริงจัง สตรองเข้าไว้ เดี๋ยวทุกอย่างก็ผ่านไปได้

สวย เก่ง ไม่พอ ผู้หญิงยุคนี้เป็นเมียหลวงต้องจิตแข็งด้วย สตรองอย่างเดียวเท่านั้นถึงจะผ่านมันไปได้

 

ภาพ : ig@ppanward และig@tuk_toon

เจาะไอเท็มเด็ดหาดูยาก! แฟชั่นเริดๆสไตล์ “เซเลบ” สวย ดูแพง แบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดเท้า!

แฟชั่นสไตล์ “เซเลบ” แต่ละคนแซ่บเว่อร์!

“เซเลบ” เมืองไทยก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกเลยนะ โดยเฉพาะเรื่องของการแต่งตัว เรียกว่าหลายแนวหลากสไตล์ แต่ที่แน่ๆคือ แบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดเท้า! 

Untitled-1กลอเรีย มหาดำรงค์กุล มาในชุดเดรสของ  Alisa ส่วนเครื่องประดับเพชรที่นางใส่เป็นของ David Morris หรูเริดมาก

Untitled-2ลี พึ่งบุญพระ กับชุดเดรสของ ANCHAVIKA ขอบอกว่าเป็นคอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุดที่ยังไม่มีวางขายที่ไหน แต่ที่โดดเด่นและเป็นซิกเนเจอร์ของนางคงจะหนีไม่พ้นกระเป๋า hermès เท่านั้นยังไม่พอ คุณลียังเพิ่มความเยอะด้วยการแขวนกระเป๋าเต่าทองของ Judith Leiber เข้าไปอีก รวมแล้วมูลค่าเท่าไหร่ให้ทาย…

Untitled-3ยีนส์ – สิริโสภา จุลเสวก สวยมีดีเทลด้วยชุดพริ้นต์ลายดอกไม้สุดหวานของ Giambattista Valli Couture มาพร้อมกระเป๋าคลัตช์ Chanel เก๋ตรงเป็นรูปผีเสื้อ ส่วนรองเท้าเป็นของ Charlotte Olympia

IMG_4406นลินี วรวงศ์วสุ สวยหวานมาแต่ไกลด้วยชุดเดรสแบรนด์ Erden กระเป๋าคลัตช์ของ Charlotte Olympia

Untitled-4อินทิรา ธนวิสุทธิ์ เดรสพริ้นต์ลายที่มีกลิ่นอายของความเป็นเจแปนนิดๆของ Nagara  ส่วนกระเป๋าเป็นของ Judith Leiber 

บ่าวยอมล้าววว! “อเล็กซ์ เรนเดลล์” หล่อเนี้ยบละลายใจ ในมาดคุณชาย

หล่อหวีดกรี๊ดสลบไปเลยคร้าา…า กับการปรับลุคใหม่ของพระเอกลูกครึ่งไทย – อังกฤษ
อเล็กซ์ เรนเดลล์” ที่หล่อเนี้ยบละลายใจในมาดคุณชาย กับการแสดงละครพีเรียดเรื่องแรก “เลือดรักทระนง”

ถือเป็นนักแสดงมากความสามารถที่การแสดงของเขาเรียกได้ว่าเข้าถึงทุกบทบาท ไม่ว่าจะได้รับบทใดก็ตาม ไม่ว่าจะบทบาทหล่อใสๆวัยรุ่นชอบ  จนถึงบทบาทสุดดราม่า คุณหนูมีปม เกเร เก็บกด เสเพล จนโรคจิต อย่างในละครเรื่องสามี ที่ส่งให้หนุ่ม “อเล็กซ์” กลายเป็นเพชรเม็ดงามที่ผ่านการเจียระไนแล้วอย่างสมบูรณ์ จนคว้ารางวัลนาฏราช สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม และรางวัลโทรทัศน์ทองคำ สาขานักแสดงสนับสนุนชายดีเด่น ในปี พ.ศ.2556 มาล้าววววว

และครั้งนี้กับการแสดงละครพีเรียดเรื่องแรก “เลือดรักทระนง” โดย “อเล็กซ์” บอกว่าเรื่องนี้มีความท้าทายและต้องทำการบ้านหนักมาก เพราะต้องปรับลุคใหม่และต้องพูดภาษาไทยแบบสมัยก่อนด้วย!

“บรรณบริวัฒน์ เป็นหนุ่มนักเรียนนอกที่เพิ่งกลับมาเมืองไทย ด้วยความที่อยู่เมืองนอกมานาน เลยไม่ค่อยมีเพื่อน แล้วบังเอิญไปเจอนางเอกก็เกิดรักเขาขึ้นมา โดยมีราม (รับบทโดยโป๊ป – ธนวรรธน์) เราก็พยายามที่จะเอากระถิน (รับบทโดยเดียร์น่า ฟลีโป) มาเป็นภรรยาให้ได้ บทนี้จะไม่ถึงกับร้าย แต่ด้วยความที่เล่นเป็นหม่อมก็จะใช้อำนาจตรงนี้ให้ได้มาในสิ่งที่เราต้องการ เรื่องนี้เปลี่ยนแนวเลยครับ ต้องแต่งตัวเนี้ยบ ใส่แว่น ทำผมเรียบ อยากเปลี่ยนลุคไม่ให้ซ้ำกับที่เคยเล่นมา และที่ท้าทายคือเป็นละครแนวพีเรียด อุปสรรคคือภาษาที่ทำให้ผมไม่สามารถปล่อยออกมาได้หมด เพราะถ้าเราปล่อยมันออกไปก็จะกลายเป็นภาษาใหม่ตามที่เราเคยเล่นมา และการใช้มือไม้น้อยๆ อยู่นิ่งๆ มันเป็นอะไรที่ยากสำหรับผมมากครับ กับพี่โป๊ปก็เป็นการร่วมงานกันครั้งแรก แต่เราก็รู้จักกันมานานแล้ว ก็มีปรึกษาพี่โป๊ปบ้าง เพราะแนวนี้เขาถนัดอยู่แล้ว การแสดงครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี ทำให้ผมเปลี่ยนบทบาทการแสดงไปเรื่อยๆ ได้ลองเล่นบทใหม่ๆ รับรองไม่ผิดหวัง ทุกอย่างลงตัว บทสนุก ตัวละครเล่นกันได้ดีทุกคนจริงๆ พวกเราทุกคนโชคดีที่ได้เล่นเรื่องนี้ครับ”

 

อเล็กซ์ เรนเดลล์

อเล็กซ์ เรนเดลล์

อเล็กซ์ เรนเดลล์

อเล็กซ์ เรนเดลล์

เลือดรักทระนง

เลือดรักทระนง

เลือดรักทระนง

เลือดรักทระนง

บ่าวยอมล้าวว…ว!  ท่านชายบรรณบริวัฒน์

 

เรื่อง : redapple_แพรวดอทคอม
ภาพ :Thai TV3

ไม่เคยคิดโทษ เวรกรรม แม้ ‘ซันซัน’ ลูกฉันจะไม่เหมือนใคร (ตอนจบ)

เวรกรรม อาจเป็นคำปลอบใจเวลาที่คนเราเจอเรื่องหนักหนาสาหัสในชีวิต แต่ไม่ใช่คำที่ ‘ล้วน-กรวรา อัศวลาภนิรันดร’ จะนำมาใช้เพื่อจำนนต่ออาการของ ‘ซันซัน’ ลูกสาวที่เธอรักดังแก้วตาดวงใจ

วันที่หมอหมอฟันธงว่าลูกสาวมีปัญหาทางการได้ยิน  ความเหนื่อยทั้งหมดทำให้คุณแม่อย่างเธอจิตตก แต่นั่นก็เป็นเพียงชั่วแวบเดียว เพราะหลังจากนั้นเธอก็ตั้งปณิธานว่าจะจะสู้ไปพร้อมกับลูก โชคยังดีว่าท่ามกลางแสงมัวหม่น คุณหมอที่รักษาหนูซันซันก็ยังมีข่าวดีมาบอกกล่าวบ้าง

“หมอบอกว่าเรื่องการได้ยินสามารถรักษาหายได้ด้วยการฝังประสาทหูเทียม  แต่ซันซันพิเศษกว่านั้น  คือเส้นประสาทหูเขาเล็กกว่าปกติ  จึงไม่สามารถผ่าได้  ต้องรอให้น้ำหนักขึ้นถึง 6 กิโลกรัมก่อน  ซึ่งก็ไม่รู้ว่า เมื่อไหร่  มีอีกวิธีคือฝังประสาทหูที่ก้านสมอง  แต่ทั้งโลกเพิ่งมีแค่  50 ราย อัตราเสี่ยงสูงมาก  เมื่อเข้าตาจน  ล้วนส่งอีเมลรูปและผลการตรวจไปขอคำแนะนำหมอจากทั่วโลก  คิดว่าหากตอบมาสักคนก็ประสบความสำเร็จ ทำให้รู้ว่ายังมีน้ำใจอยู่รอบตัวพร้อมจะหยิบยื่นมาในยามที่ร้องขอ  เพราะมีหมออเมริกันที่มีชื่อเสียงตอบกลับมาว่าควรผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม

“ล้วนจึงนำมาปรึกษากับหมอที่เมืองไทย  ตัดสินใจทำพร้อมกับผ่าตัดเพดานโหว่  กระทั่งซันซัน 8 เดือนก็ยังไม่ชันคอ  ตัวอ่อนปวกเปียก  พอดีว่าล้วนต้องเดินทางไปดูงานที่เยอรมนี  นึกถึงว่าเคยฟังเรื่องราวของคุณวอลเตอร์ ลี  ในทีวี  เขาพาลูกที่ไม่มีแขนขาไปรักษาที่เยอรมนี  จึงเขียนอีเมลไปปรึกษา  อย่างน้อยจะได้ทำความรู้จักกับหมอ  ซึ่งคุณวอลเตอร์ก็กรุณาแนะนำให้ไปที่มหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์ก

“เมื่อเราได้รับน้ำใจที่ดี  จึงอยากตอบแทนน้ำใจนั้นกลับ  ด้วยการเสนอตัวทำงานกับมูลนิธิ ZMF (Zy Movement Foundation)  ทำให้เราเห็นว่าจากที่ทำเพื่อตัวเองมาตลอด  เราสามารถตอบแทนกลับสู่สังคมได้ กลายเป็นว่ายิ่งให้ยิ่งได้  เพราะภรรยาคุณวอลเตอร์ใช้เทคนิค ‘วอลต้า เทอราปี’ นวดน้องซายแล้วดีขึ้น  ล้วนจึงเริ่มมีความหวังว่าจะช่วยให้ซันซันเดินได้ ไหม  เพราะตอนนั้นเขา 8 เดือน  แต่พัฒนาการเท่ากับเด็ก 2 เดือน  วันหนึ่งหมอจากเยอรมนีมาดูงานที่ศูนย์สิรินธร  ล้วนจึงพาซันซันไปตรวจ  เป็นข่าวดีว่าสามารถรักษาได้  จึงเดินทางไปฝึกเทคนิควอลต้าที่เยอรมนี  หมอบอกว่าไม่ต้องบังคับให้เด็กเป็นไปตามพัฒนาการ  หากเขาพร้อมเมื่อไหร่ จะทำเอง  ซึ่งขัดกับที่เคยฝึกจากโรงพยาบาลในเมืองไทย

“ล้วนคิดว่าเราฝึกมาปีกว่าก็ยังไม่เห็นผล  หากช้าอีกนิดจะเป็นไร  จึงทิ้งที่เรียนทั้งหมดมาเริ่มต้นใหม่  ด้วยการกดจุดเพื่อกระตุ้นการรับรู้ของสมองให้เกิดปฏิกิริยากับกล้ามเนื้อโดยอัตโนมัติ  ตอนแรกเขาร้องไห้เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องอยู่เฉยๆ วันละ  4 ครั้ง  ล้วนจึงบอกเขาว่าเราต้องช่วยกันนะ  หนูจะได้นั่งได้ เดินได้  เขาอาจจะไม่เข้าใจ  แต่ก็ให้ความร่วมมือ  คิดดู  จากที่พาไปฝึกพัฒนาการที่โรงพยาบาลเป็นปี  ไม่สามารถชันคอได้  แต่เพียงแค่  3 เดือน สามารถชันคอได้เลย  สักพักตั้งศอกแล้วเริ่มถัดตัวมาข้างหน้า  จนสามารถตั้งศอกข้างหนึ่งเพื่อเอื้อมมือไปหยิบของเล่น  จนถึงนั่งได้  แม้เป็นตุ๊กตาล้มลุก  แต่ก็ทำให้เรามีความหวัง  จึงลุยเต็มที่

“พอซันซันผ่าตัดฝังประสาทหูเทียมแล้ว  เราก็พาไปฝึกพูด  เขาสามารถทำรูปปากได้  แต่ออกเสียงไม่ได้  มิสเตอร์ไป๋ซึ่งเป็นคนแนะนำหมอให้คุณวอลเตอร์  เราเจอเขาที่เยอรมนี  แฟนเขาเป็นหมอเชี่ยวชาญทางหู  คอ  จมูก  ได้ตรวจซันซัน  พบว่าเส้นประสาทจากหูไปสู่ประสาทส่วนกลางไม่ตอบสนอง  จึงไม่สามารถแปรเป็นเสียงได้  กระทั่งเขาอายุ  5 ขวบ  เริ่มหงุดหงิด  อยากได้อะไรก็บอกไม่ได้  เราเดาถูกบ้าง  ไม่ถูกบ้าง ไม่สบายตัว  หิว  เบื่อ  กลัว  เป็นอะไรก็สื่อสารไม่ได้  ที่ผ่านมาลูกก็ได้พยายามเต็มที่แล้ว  จึงเป็นหน้าที่ที่เราจะช่วยลูกบ้าง

“ล้วนจึงไปถามที่วิทยาลัยราชสุดา  มหาวิทยาลัยมหิดล  มีเปิดสอนภาษามือหลักสูตรปริญญาตรี 4 ปี  แต่กว่าจะสื่อสารกับลูกได้ต้องรอ  4 ปี คงไม่ทันกาล  ถึงอย่างไรก็ยังไม่หมดหวัง  ลองอ่านหนังสือที่เขาให้มา  ซึ่งมีแค่คำว่า  สวัสดี  ขอบคุณ  ขอโทษ  หิว  อิ่ม  ชอบ  ไม่ชอบ  นับ 1-20 คงไม่พอ  ลองเปิดเว็บไซต์ไทยก็พบแต่คำว่า Under Development ลองเสิร์ชหาเว็บภาษาอังกฤษ  สะดวกกว่ามาก  อยากรู้คำไหนสามารถเปิดดูได้เลย  โชคดีว่าภาษามือในภาษาอังกฤษเหมือนกับภาษามือของไทย 52 เปอร์เซ็นต์  ล้วนจึงสมัครออนไลน์  มีซีดีที่เราสามารถเปิดดูเมื่อไหร่ก็ได้  เริ่มต้นล้วนเลือกเรื่องใกล้ตัวที่จะทำให้ชีวิตลูกอยู่รอด  เช่น  สี  ผลไม้  น้ำ  นม  ข้าว  ไข่  คิดว่าจะเตรียมอุปกรณ์การสอนอย่างไร  หรือ พาเขาไปเจอสถานการณ์จริงอย่างไร  แล้วเรียนรู้ไปกับลูก

“ความที่เขาอยู่ท่ามกลางความเงียบ ทางเดียวที่ลูกจะรับรู้อารมณ์ความรู้สึกได้ก็จากสีหน้า และท่าทางของเรา  เพราะฉะนั้นจึงต้องสนุกให้มากกว่าปกติ  ตั้งเป้าหมายว่า ใน 1 สัปดาห์จะสอนลูกกี่คำ  ซึ่งซันซันไม่ทำให้ผิดหวัง  แค่เดือนกว่าเขาสามารถสื่อสารด้วยคำง่ายๆ  นับวันก็ยิ่งคุยเก่ง  เล่าเรื่องได้

“ตอนนี้ซันซันสามารถเดินโดยใช้ไม้เท้า หมอบอกไม่น่าเกิน 2 ปีจะเดินได้  เขากำลังเรียนเพื่อเตรียมพร้อมเข้าเรียน  บวกกับล้วนช่วยสอนลูกที่บ้านด้วย  ความที่เขาเป็นเด็กร่าเริงแจ่มใส  เราจึงไม่ทุกข์  หาความสุขง่าย ๆ ได้จากสิ่งรอบตัว  อยู่กับปัจจุบัน  อนาคตจะเป็นอย่างไรไม่รู้ ไม่คาดหวัง  พอเขาทำได้  เราแฮ็ปปี้  คุยกับสามีว่า  เขาไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร  คนทุกคนไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน

“พัฒนาการเขาอาจช้ากว่า แต่ลูกไม่จำเป็นต้องแข่งกับใคร  เขาทำได้แค่ไหนก็ต้องภูมิใจทั้งนั้น ที่สำคัญคืออย่ามัวไปโทษ ‘เวรกรรม’ เพราะมันจะไม่มีอะไรดีขึ้นมาได้เลย”

เรื่อง : แดนเจอร์

ภาพ : โยธา รัตนเจริญโชค

 

ไม่เคยคิดโทษ เวรกรรม แม้ ‘ซันซัน’ ลูกฉันจะไม่เหมือนใคร (ตอน1)

ไม่เคยคิดโทษ เวรกรรม แม้ ‘ซันซัน’ ลูกฉันจะไม่เหมือนใคร (ตอน 1)

ครอบครัวของ “ล้วน-กรวรา อัศวลาภนิรันดร” ที่พร้อมพรั่งทั้งทรัพย์สินเงินทอง ความรัก ความอบอุ่น กลับถูกโชคชะตาเล่นตลก เมื่อลูกน้อยเกิดมาไม่สมบูรณ์ เธอไม่โทษ เวรกรรม แต่ทุ่มเทให้ความรักกับเด็กหญิงมากเท่าที่แม่คนหนึ่งจะให้ลูกได้

“ล้วนใจร้อน ไฟแรง งานทุกอย่างต้องเป๊ะ แต่พอเจอเหตุการณ์เรื่องลูก ทำให้รู้เลยว่าเราไม่สามารถคอนโทรลทุกอย่างในชีวิต เพราะพอมีซันซัน (เด็กหญิงกัณชลิตาฐ์  หล่อวัฒนกิจชัย) ชีวิตล้วนช้าลงทันที” คุณล้วนเปิดใจ สายตาที่มองไปยังเด็กหญิงวัย 7 ขวบที่กำลังเกาะผนังเดินเตาะแตะเปี่ยมไปด้วยความรักยิ่งนัก 

“ก่อนหน้าจะมีซันซัน ล้วนแท้งมา 2 ครั้ง  จากครั้งแรกทิ้งไป ประมาณ 1 ปี  พอท้องอีกได้ประมาณ 5 เดือน  หมอตรวจพบว่าลูก เป็นโรค Anencephaly  คือกะโหลกศีรษะพัฒนาไม่สมบูรณ์  ตอนแรก ตั้งใจเก็บเขาไว้  แต่พอเสิร์ชข้อมูล  พบว่าเมื่อไม่มีกะโหลกศีรษะ  สมองจะโดนกดทับด้วยน้ำคร่ำตลอดเวลา  โอกาสรอดชีวิตมีน้อยมาก  บางคนคลอดมาอยู่ได้แค่ 10 – 20 นาทีก็จากไป  จึงตัดสินใจไม่เก็บไว้ ครั้งนั้นจึงเป็นครั้งที่ 2 ที่เราทำหน้าที่แม่ได้ไม่สมบูรณ์  แค่ให้เขาเกิดยังทำไม่ได้เลย  แม่คนอื่นคลอดแล้วมีลูกให้เลี้ยง  แต่เราคลอดลูกก็ไม่อยู่ทันที  ยังจำภาพที่หมออุ้มมาให้ได้เลยว่าเป็นเด็กผู้ชาย นอนหลับตาพริ้ม  ตัวใส  ตัวเขาเล็กเท่าฝ่ามือล้วน  ที่ศีรษะเห็นเนื้อสมองแดงๆ  บอกลูกว่าหากเราทำบุญมาด้วยกัน  ขอให้มาเกิดเป็นแม่ลูกกันอีกนะ

“ถึงอย่างไรผู้ใหญ่ของครอบครัวล้วนและสามี(จีระ  หล่อวัฒนกิจชัย)ก็อยากมีหลาน  หมอแนะนำให้ฉีดน้ำเชื้อทำกิฟต์  ตอนนั้นจากผู้หญิงทำงานที่แอ๊คทีฟตลอดเวลา  ล้วนยอมนอนอยู่บ้านเฉยๆ ตามหมอสั่ง หลายวันเข้าก็เริ่มอึดอัด  เราไม่ใช่คนป่วย  ต้องอยู่เฉยขนาดนี้เลยหรือ หนำซ้ำพอไปตรวจก็ไม่สำเร็จ  ฉีดซ้ำก็ไม่สำเร็จอีก  บอกสามีว่าปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติเถอะ  แล้วขับรถไปเที่ยวเชียงใหม่กัน  กลับมา ประจำเดือนขาด  พอซื้อแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์มาตรวจ  ปรากฏว่าท้อง แต่ความที่มีประวัติการแท้งมา 2 ครั้ง  หมอจึงขออัลตร้าซาวนด์ทุกเดือน ผลเป็นปกติมาตลอด  แต่พอใกล้คลอด  ตรวจอัลตราซาวนด์สี่มิติพบว่าจากปกติรกมี 3 เส้น  ของล้วนมี 2 เส้น  น้ำหนักลูกจึงไม่ขึ้น  พยายามโด๊ปเต็มที่  ทั้งที่ไม่ชอบปลา  พยายามทานปลาตัวย่อมๆ ให้ได้วันละตัว แต่ก็ยังส่งไปไม่ถึงลูก  หมอสันนิษฐานว่ารกเสื่อม  นอกจากอาหาร ออกซิเจนก็อาจส่งไปไม่ถึง  เพราะฉะนั้นล้วนต้องนับจำนวนครั้งที่ลูกดิ้นด้วย  ทำให้ยิ่งใกล้คลอดยิ่งวิตกจริต “แล้ววันนั้นก็มาถึง  ลูกไม่ดิ้น  ล้วนเขย่าท้องทั้งคืนแต่ก็เงียบ พอเช้าถึงค่อยดิ้น  ล้วนปรึกษาหมอว่าหากเป็นอย่างนี้ทุกคืนสุขภาพคงแย่ จึงตัดสินใจผ่าคลอดก่อนกำหนดประมาณ 2-3 วัน  ตัวเขาเล็กมาก น้ำหนักแค่ 1,890 กรัม  ต้องอยู่ในตู้อบ  หมอแจ้งว่ากล้ามเนื้อที่หน้า ทำงานไม่สมดุลกัน  และเพดานอ่อนที่อยู่ติดกับลิ้นโหว่  ซึ่งรักษาไม่หาย เพราะลำพังแค่ทำศัลยกรรมให้ยิ้มได้ก็ต้องใช้เส้นประสาทที่นิ้วก้อยเท้ามาเชื่อมต่อ  ใช้เวลาในการผ่าตัด 6 ชั่วโมง  ปลูกถ่ายเส้นประสาทก่อน เราคิดว่าการดมยาสลบคงไม่ดีต่อเด็กอ่อนขนาดนั้น  รอเขาโตก่อนค่อยทำศัลยกรรม  ระหว่างนั้นก็กระวนกระวายใจ  ทำไมเขาไม่พาลูกมาให้เราให้นม ให้สามีไปถ่ายรูปลูก  ภาพแรกที่เห็นก็แปลกใจว่าทำไมต้องมีสายใส่เข้าไปในจมูก  หมอบอกแต่เพียงว่าเขายังดูดกลืนนมเองไม่ได้

“ก่อนกลับบ้านพยาบาลสอนวิธีการนวดลิ้น  นวดกระพุ้งแก้ม นวดหน้า  เพื่อกระตุ้นการกลืน  พอกลับบ้านจึงรู้ความจริง  ความที่หน้าลูกไม่สมดุลจึงไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อหน้าเพื่อดูดนมได้  ความยากอยู่ที่ต้องใช้ซิรินจ์  ช้อน  หรือดร็อปเปอร์ป้อนนมลูก  โดยตั้งคอลูกขึ้น หยดนมใส่ปากทีละหยด  ต้องระวังไม่ให้สำลัก  เพราะเพดานอ่อนโหว่ ไม่เช่นนั้นอาจติดเชื้อที่ปอด  จากเด็กปกติใช้เวลากินนมแค่  10 นาที  แต่ ซันซันใช้เวลาครั้งละ 1 ชั่วโมง  ขณะเดียวกันล้วนต้องปั๊มนมเพื่อเตรียม ป้อนรอบต่อไปในอีก  2 ชั่วโมง  สลับกับสามี  เรียกว่าไม่ได้นอนเลย

“ระหว่างนั้นเราสังเกตพัฒนาการเขาว่าทำไมลูกยังชันคอไม่ได้ ตัวอ่อนปวกเปียก  จึงพาไปฝึกกายภาพที่โรงพยาบาล  ตื่นตั้งแต่ตี 5 จัดเตรียมทุกอย่าง  ตั้งแต่น้ำแข็งแช่นม  เครื่องปั๊มนม  ของใช้ลูก  ออกจากบ้านหกโมง  ไปถึงโรงพยาบาล สามีไปหาที่จอดรถ  ล้วนอุ้มลูกพร้อมสัมภาระลงไปยื่นบัตรคิว  แล้วรอที่ห้องกายภาพ  กว่าจะได้ทำกายภาพก็สายมาก  ลูกง่วงนอน  เราคัดนมต้องไปปั๊มนม  บางทีต้องไปปั๊มนมใน ห้องน้ำ  วันไหนที่พบหลายหมอต้องอุ้มลูกกระเตงสัมภาระขึ้น-ลงลิฟต์ หลายรอบ  พอได้ยินหมอฟันธงว่าเขามีปัญหาทางการได้ยิน  ความเหนื่อยทั้งหมดทำให้จิตตก  ที่เราคุยกับเขามาตลอดตั้งแต่อยู่ในท้องกลายเป็นว่า ลูกไม่ได้ยินเสียงเราเลย  แล้วจะคุยกันอย่างไร  หรือหากเขาอยากได้อะไร จะบอกเราอย่างไร  ล้วนกลับถึงบ้านกอดลูกร้องไห้  เชื่อไหม  เขายกมือ น้อยๆ มาเช็ดน้ำตาให้เรา  ล้วนรู้สึกผิดมาก  ไม่น่าร้องไห้ให้ลูกเห็นเลย ลูกคงเสียใจที่เขาเกิดมาทำให้แม่เหนื่อย  จากนั้นตั้งปณิธานเลยว่าจะไม่ร้องไห้อีก  บอกลูกว่าเราจะสู้ไปด้วยกัน”

‘เราจะสู้ไปด้วยกัน’ คำที่สร้างความรู้สึกฮึกเหิม ทรงพลัง ทว่าในความเป็น ‘แม่’ ที่ต้องเห็นความเจ็บปวดของลูกทุกโมงยาม จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะก้าวข้ามภาวะทุกข์ตรมนี้ไปได้

ติดตามเรื่องของคุณแม่นักสู้ และหนูน้อยซันซัน ได้ในตอนหน้า… ไม่เคยคิดโทษ เวรกรรม แม้ ‘ซันซัน’ ลูกฉันจะไม่เหมือนใคร  (ตอนจบ)

เรื่อง : แดนเจอร์

ภาพ : โยธา  รัตนเจริญโชค

จากแม่สู่ลูก “น้องเนย” ลูกไม้ใต้ต้นของ “กวาง – กมลชนก” ดาวค้างฟ้าแห่งยุค 80’s

ใครที่เกิดทันยุค 80’s จนถึงวัยรุ่นยุค 90’s คงไม่มีใครไม่รู้จักนางเอกหน้าหวานรอยยิ้มตรึงหัวใจแห่งยุคคนนี้แน่นอน “กวาง – กมลชนก” หรือ “อังศุมาลิน” จาก “คู่กรรม” เวอร์ชั่นละครโทรทัศน์ในปี พ.ศ. 2533 โดยแสดงคู่กับ โกโบริแห่งยุคสมัย  “เบิร์ด – ธงไชย แมคอินไตย์ที่สร้างชื่อเสียงให้ทั้งคู่โด่งดังราวกับพลุแตก

แม้ “คู่กรรม” จะถูกนำไปสร้างใหม่หลายต่อหลายครั้ง  โดยได้รับการนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์ตั้งแต่ พ.ศ. 2513 จนถึงปัจจุบัน รวม 6 ครั้งแล้ว และนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ถึง 4 ครั้ง (ในปี พ.ศ. 2516, พ.ศ. 2531, พ.ศ. 2538 และ พ.ศ. 2556) แต่ทุกครั้งที่นวนิยายแนวโศกนาฏกรรมของความรักท่ามกลางสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้ถูกนำมารีเมคใหม่ หลายคนก็ยังไม่ลืมภาพของ “อังศุมาลิน” ที่เป็นใบหน้าของ “กวาง – กมลชนก” ขณะกำลังนั่งตีขิมเพลงนางครวญ ภาพจำที่ลอยผ่านมาเรียกว่าเป็นดั่งโลโก้ “อังศุมาลิน” ก็ไม่ปาน

แน่นอนว่ารวมไปถึงกลายเป็น “ต้นแบบ” ที่มักถูกนักวิจารณ์ในโซเชียลหยิบมาเปรียบเทียบกับนักแสดงรุ่นหลังอยู่เสมอ

99

77

การเดินทางบนถนนสายบันเทิงของนางเอกดาวค้างฟ้ายุค 80’s ที่ไม่ได้เลือนหายไปตามสีของภาพถ่าย

27

 

“กวาง – กมลชนก” เข้าวงการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 นางเอกเจ้าบทบาทแห่งยุค 80’s คนนี้ แสดงมาแล้วแทบทุกเรื่องของนวนิยายขึ้นหิ้ง ไม่ว่าจะเป็นมณีร้าว, ละครเร่, เรือนแรม, แววมยุรา, ปลายฝนต้นหนาว, ขัง 8, ชีวิตเปื้อนฝุ่น, รักฝันนิรันดร, อาญารัก, พันท้ายนรสิงห์, เรือนนพเก้า, ไทรโศก ฯลฯ รวมไปถึงละครสั้น ภาพยนตร์

แล้วในยุคที่การเป็นนักร้องออกอัลบั้มไม่ใช่เรื่องง่าย สาว “กวาง – กมลชนก” ก็ยังทำมาแล้วถึง 3 อัลบั้ม (อัลบั้มฝากฝัน, อัลบั้มหัวใจยิ้มได้ สังกัดแกรมมี่, อัลบั้ม Dear Knot) กับอีก 1 อัลบั้มพิเศษ เพลงประกอบภาพยนตร์ ค่าของคน

19

page01

ดาวค้างฟ้าแห่งยุค 80s
ละครเวที “ลูกทาส”
ดาวค้างฟ้าแห่งยุค 80s
เรือนแรม ทางช่อง 7 ละครเรื่องแรกที่สร้างชื่อให้ “วิลลี่” พระเอกสุดฮ็อตหล่อขั้นเทพในยุคนั้น
กวาง กมลชนก
ละครเรื่องขัง8

ล่าสุดเธอกำลังจะมีผลงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังออกมาให้แฟนๆอีกครั้ง โดยขึ้นแท่นผู้จัดผลิตละคร “เมื่ออายุ 16” ป้อนให้กับช่อง True4U และกำลังจะมีผลงานผ่านหน้าจอในเรื่อง “ราชินีหมอลำ” ของช่อง one ที่ใกล้ออนแอร์เร็วๆนี้

ส่วนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ลูกไม้ใต้ต้น ที่ความสามารถถอดแบบมาจากแม่จริงๆ อย่าง “น้องเนย” ด.ญ.เนตรทราย เขมะโยธิน ลูกสาวของนางเอกดาวค้างฟ้าแห่งยุค 80’s “กวาง – กมลชนก” ที่ฉายแววเด่นทั้งดนตรีไทยอย่างขิม และดนตรีสากล ทั้งเปียโน กีตาร์ รวมทั้งการรำไทย โดย “กวาง” ได้โพสต์ภาพตนเองและลูกสาวพร้อมแคปชั่นว่า

“ภูมิใจในความเป็นไทย…จึงสอนให้ลูกรักษาความเป็นไทยเอาไว้บ้าง ศิลปวัฒนธรรมไทยเราควรช่วยกันอนุรักษ์นะคะ ดีใจที่น้องเนยทำได้”

1
จากแม่สู่ลูก

8

16

28

66
วันชิลๆของคุณแม่ กับดนตรีไทยและดนตรีสากลที่ไม่เคยแยกจากกัน
กวาง กมลชนก ในมาดผู้จัดละคร
กวาง – กมลชนกในมาดผู้จัดละคร
3
น้องเนยมาคุมงานแทนคุณแม่เหรอจ๊ะ!!
ค้างฟ้าแห่งยุค 80s
มาทำงานกันทั้งครอบครัวเขมะโยธิน “น้องเน็ต – น้องเนย” ลูกไม้ใต้ต้นของ “พ่อน็อต – แม่กวาง”

แพรวบอกเลอ อนาคตมีดาวดวงใหม่มาประดับวงการบันเทิงแน่นอน!

เรื่อง : redapple_แพรวดอทคอม
ภาพ : [email protected]

เพราะผู้หญิงมีหลายคาแร็คเตอร์ COCCINELLE กระเป๋าที่ออกแบบมาเพื่อสาวหวาน สาวร็อค สาวลุย!

COCCINELLE จับความงามของธรรมชาติและความงามของรูปทรงของสถาปัตยกรรมแบบร่วมสมัยมาเป็นองค์ประกอบหลักในคอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ร่วง 2016/2017 การผสมผสานองค์ประกอบที่แตกต่างกันแต่สามารถนำมารวมเข้ากันได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกที่สดใส แปลกใหม่ และสวยงามยิ่งกว่าเดิม

อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับความไม่คงที่ของนิสัยส่วนตัวผู้หญิงที่มีอยู่หลากหลายคาแร็คเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นแนวทันสมัยแบบคนชาวเมือง แนวร็อค ความอ่อนไหวที่แฝงในตัวผู้หญิง หรือผู้หญิงที่มีสองบุคลิก ทั้งแบบออกแนวลุยๆแบบผู้ชาย ความเท่ ทั้งหมดนี้คืออารมณ์และความรู้สึกของผู้หญิงที่ทางแบรนด์นำมาใส่ไว้เป็นดีเทลของกระเป๋าในคอลเล็คชั่นนี้ ซึ่งกระเป๋ารุ่นไอคอนของทางแบรนด์ก็สามารถบ่งบอกถึงผู้หญิงนับพันที่มีความแตกต่างกัน

1

ผู้หญิงทุกคนแฝงไปด้วยความร้ายกาจ จากการใช้ชีวิตในแต่ละวันของเธอ ซึ่งแบรนด์ COCCINELLE สามารถบ่งบอกถึงตัวเธอในทุกช่วงเวลาในแต่ละวัน อย่างเช่นกระเป๋ารุ่นอาเลททิส (Arlettis) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนักแสดงละครเวที อาเลทตี้ (Arletty) กระเป๋าสะพายไหล่ กระเป๋าเป้สะพายหลัง และกระเป๋าคลัตช์ บ่งบอกถึงจิตวิญญาณความเป็นผู้ชายและผู้หญิงในแต่ละบุคคล ที่ถูกปกปิดด้วยที่ปิดโลหะบักเก็ตสีทอง การสลับเปลี่ยนทิศทางของตัวอักษรซีในภาษาอังกฤษ (C) เพราะว่าการยั่วยวนด้วยบุคลิกลักษณะของแต่ละบุคคลถือว่าเป็นความหรูหราอย่างหนึ่ง ส่วนกระเป๋าขนาดกะทัดรัดมีที่ปิดแม่เหล็กก็สามารถบ่งบอกได้ถึงรายละเอียดใหม่ที่ทางแบรนด์ได้ความคิดมาจากกระเป๋าเครื่องสำอางสมัยยุค 60

2

การนำรูปทรงที่แตกต่างกันมารวมไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว กระเป๋าโท้ตโบโฮ กระเป๋าทรงนิ่มและมีความเบา ไว้ใช้สำหรับเดินช็อปปิ้ง กระเป๋าโบว์ลิ่งที่มีรายละเอียดตัดเย็บมืออันแสนประณีต การตัดต่อหนัง (Patchwork) ที่ดูเก๋แต่ยังให้ความเรียบง่าย กระเป๋าที่ตกแต่งด้วยกระเป๋าใบเล็กแอบไว้ด้านนอก เพิ่มความสวยงามด้วยซิปสองชั้นและที่ปิดกระเป๋าที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ของทางแบรนด์ นอกจากนี้ยังมีกระเป๋าไซส์มินิที่กลับมาใหม่พร้อมรูปทรงต่างๆมากมาย ทั้งแบบรูปทรงทรั้งซ์ (trunk bag) ที่จุของได้เยอะ กระเป๋าเป้สะพายหลังใบจิ๋ว กระเป๋ารูปทรงบักเก็ต (Bucket bag) และกระเป๋าเล็กรูปทรงใหม่ๆที่ออกมาเพิ่มสีสันให้กับคอลเล็คชั่นนี้

3

ขนาดของกระเป๋าไซส์มินินี้พกพาง่าย เหมาะสำหรับไปสถานที่ต่างๆ ทางแบรนด์ได้ศึกษากระเป๋ารูปทรงต่างๆอย่างละเอียดเพื่อทางแบรนด์จะได้ออกแบบรูปทรงกระเป๋าให้ผู้ถือสามารถใช้ได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น มีลักษณะและรูปทรงที่สวยงาม มีพื้นที่ให้สำหรับใส่ของ เหมาะสำหรับถือในทุกๆวัน

4

กระเป๋าที่ทำมาจากหนังคุณภาพสูง ทางแบรนด์เลือกใช้หนังกลับ หนังม้าขนาดเล็ก และที่ขาดไม่ได้คือหนังวัวคุณภาพสูง เพราะหนังวัวคือจุดเด่นของทางแบรนด์ ความแปลกใหม่ของคอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ร่วงนี้คือการใช้หนังพิมพ์ลายมาเป็นองค์ประกอบ ส่วนโทนสีของคอลเล็คชั่นนี้ทางแบรนด์ได้แรงบันดาลใจจากสีเอิร์ทโทนอย่างสีทราย สีน้ำตาล สีกากี และสีหนังธรรมชาติ เพิ่มลูกเล่นให้ดูสนุกยิ่งขึ้นด้วยสีที่ตัดกันอย่างสีชมพูสด สีน้ำเงินไชน่าบลู สีฟ้าอ่อน สีแดง สีเทา และสีเงิน

เรียบเรียงโดย : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : COCCINELLE

ดีแทค แอคเซเลอเรทโชว์ผลงาน 14 สตาร์ทอัพไทย สุดเจ๋ง!

ดีแทค แอคเซเลอเรท โชว์แผนงานจาก 14 ทีม สตาร์ทอัพไทย ที่ฮอตที่สุดในวงการ

สตาร์ทอัพไทย สุดเจ๋ง ล่าสุด ดีแทค แอคเซอเลอเรท จัดเดโมเดย์ ปี 4 (Demo Day batch 4) อย่างยิ่งใหญ่ โชว์แผนงานจาก 14 ทีมสตาร์ทอัพไทยที่ฮอตที่สุดในวงการ ต่อหน้าคณะกรรมการนักลงทุน VC และผู้มีชื่อเสียงในวงการสตาร์ทอัพ ทั้งภาครัฐและเอกชนที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง

dtac1พร้อมได้คัดเลือกผู้ชนะเลิศ 2 ทีมจากสตาร์ทอัพดาวรุ่งรุคกี้ (rookie) หน้าใหม่ในโครงการ ปี 4 รับรางวัล BlackBox Connect เข้าคอร์สบ่มเพาะสตาร์ทอัพ 1 ในคอร์สที่ดีที่สุดในซิลิคอนวัลเล่ย์ สหรัฐอเมริกา และรางวัลร่วมงาน เว็บ ซัมมิท (Web Summit 2016) งานแสดงผลงานของเหล่าสตาร์ทอัพระดับโลก ที่กรุงลิสบอน โปรตุเกส

โดยสตาร์ทอัพในโครงการดีแทค แอคเซอเลอเรทปี 4 ทั้ง 10 ทีมได้เข้าอบรมในบูธแคมป์ตลอดทั้ง 4 เดือนอย่างเข้มข้นผ่านเวิร์คช้อป 24 คอร์ส จากวิทยากรชั้นเลิศ ที่บินตรงมาสอนทั้งจากซิลิคอนวัลเล่ย์ และจากทั่วโลกมากถึง 27 คน ปัจจุบันทีมสตาร์ทอัพในโครงการดีแทค แอคเซอเลอเรท batch 4 ได้เติบโตขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง

IMG_4389ดีแทค แอคเซอเลอเรท ยังได้สนับสนุนเชิงพาณิชย์ โดยมี 5 ทีมในโครงการที่ได้ตกลงความร่วมมือเป็นพาร์ทเนอร์กับดีแทค คือ ทีม FABbrigade , Finnomena, Fastwork, PlanforFit และ Eventpass และการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายในรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์ เช่น การมอบสิทธิพิเศษไปสู่ลูกค้าดีแทคทั้ง 25 ล้านราย และโปรโมทผ่าน dtac Line official ซึ่งมีผู้ติดตามถึง 35 ล้านราย ความร่วมมือในกลุ่มสตาร์ทอัพที่อยู่ในโครงการด้วยกัน (Cross sale) เช่น ความร่วมมือระหว่าง สกู๊ตตาร์ (Skootar)  และ Fastwork ในการให้ส่วนลดจ้างฟรีแลนซ์สำหรับลูกค้า Skootar เป็นต้น ตลอดจนถึงการช่วยประชาสัมพันธ์ ในแต่ละทีม เพื่อผลักดันให้สตาร์ทอัพทุกทีมให้เป็นที่รู้จัก สามารถดำเนินธุรกิจเติบโตและขยายสเกลไปสู่ลูกค้าในวงกว้าง นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรทางด้านเทคโนโลยี และการตลาด เช่น ไมโครซอฟท์ เฟซบุ๊ก

IMG_4390นอกจากนี้สตาร์ทอัพในโครงการยังมีรางวัลจากการเข้าประกวดเสนอแผนงาน หรือพิชชิ่งจากเวทีสำคัญๆ เช่น ล่าสุด สตาร์ทอัพในครอบครัวดีแทค แอคเซอเลอเรทได้รับรางวัลชนะเลิศทั้ง 3 เวทีคือ เวที Early Stage ทีม Freshket เวที Growth Stage คือ ทีมจิสติค (GizTix) และ เวทีสำหรับผู้ประกอบธุรกิจสุภาพสตรี โดยมีรางวัลที่ 1 ทีม เทคฟาร์ม (Tech Farn) รางวัลที่ 2 ได้แก่ ทีม Freshket และรางวัลที่ 3 ได้แก่ทีม Skootar
ดีแทค แอคเซอเลอเรทได้ช่วยผลักดันให้สตาร์ทอัพเติบโตขยายสเกลและสามารถแข่งขันกับสตาร์ทอัพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในระดับโลก ดีแทค แอคเซอเลอเรทมีความโดดเด่น ทางด้านความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น กับนักลงทุนชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังช่วยสนับสนุนให้สตาร์ทอัพได้ออกไปจัดโรดโชว์ เช่นงาน เทคอินเอเชีย (Tech in Asia 2016)  ในประเทศสิงคโปร์ เราเป็นพันธมิตร กับ เฟซบุ๊ก ไลน์ กูเกิล ไมโครซอฟท์ อเมซอนเว็บเซอร์วิส และอีกมากมาย เพื่อให้สตาร์ทอัพในโครงการของเราได้รับความรู้และการสนับสนุนให้ได้มากที่สุด

dtac_accelerate_batch4_001นอกจากนี้นายแอนดริว กวาลเซท รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม Strategy และ Innovation บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็สคอมมูนิเคชั่น จำกัด มหาชน หรือดีแทค ได้กล่าวว่า “ ระบบนิเวศวงการสตาร์ทอัพไทยในปีนี้ แตกต่างไปจากปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจน ชุมชนของเหล่าสตาร์ทอัพเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เห็นได้จากแผนงานที่เสนอเข้าร่วมโครงการโตขึ้นถึง 3 เท่า มีความตื่นตัวในหมู่สตาร์ทอัพในจังหวัดใหญ่ๆ ทุกภูมิภาค ทั่วประเทศ ผู้ก่อตั้งมีคุณภาพ มีความมุ่งมั่นตั้งใจจริง มี passion มีความอดทนฝ่าฟันไปถึงเป้าหมายให้ได้ รู้ลึกรู้จริงในอุตสาหกรรมที่ตัวเองทำอยู่”

ปีนี้มีสตาร์ทอัพที่ดีที่สุด ร้อนแรงที่สุดมาเข้าร่วมในโครงการ ดีแทค แอคเซอเลอเรท ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ว่า โครงการได้รับการยอมรับ มีหลักสูตรการบ่มเพาะที่มีคุณภาพ มาตรฐาน เติบโตบนเส้นทางสู่ความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง และยังครองตำแหน่งเบอร์หนึ่ง โครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพ ในประเทศไทย ตราบใดที่สตาร์ทอัพไทยเราไม่หยุด ทางดีแทคก็จะไม่หยุดที่จะช่วยสนับสนุน ให้สตาร์ทอัพไทยเกิดแล้วโตไปด้วยกัน

เรื่อง : แพรวดอทคอม

 

ซึ้งเวอร์! 7 ดาราสาวคนดังปาร์ตี้สละโสด ก่อนเป็นเจ้าสาวสักครั้งให้ชุ่มฉ่ำหัวใจ

ใกล้ลั่นระฆังวิวาห์ เตรียมตัวเป็นเจ้าสาวสักครั้งในชีวิต ย่อมเป็นช่วงเวลาสำคัญที่แก๊งเพื่อนสนิท พี่น้อง คนที่รักเราและเรารักจะได้มารวมพลปาร์ตี้สละโสด บันทึกความทรงจำดีๆ พร้อมทั้งนั่งย้อนนึกถึงเรื่องราวต่างๆ ทุกช่วงวัย ก่อนที่จะแต่งงานและเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่

เห็นดาราคนดังส่วนใหญ่ก่อนจะแต่งงาน มักมีภาพปาร์ตี้สละโสดออกมาให้แฟนๆ ได้ชม บางคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงต้องมี ใช้เงินฟุ่มเฟือยกันไปหรือเปล่า จริงๆ แล้ว ปาร์ตี้สละโสด จัดว่าเป็นงานสำคัญที่บรรดาเพื่อนว่าที่เจ้าสาว-เจ้าบ่าวป้ายแดงเขาเต็มใจจัดให้ เพื่อที่จะได้เก็บโมเมนต์ดีๆ นั่งนึกถึงความทรงจำร่วมกันตั้งแต่วัยเด็ก วัยเรียน วัยทำงานที่ผ่านอะไรมาด้วยกัน เพราะเมื่อเราโตขึ้น ภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบนั้นก็มีมาก การจะหาเวลามานัดมีตติ้งเจอชาวแก๊งพร้อมหน้าจึงยาก! ซึ่งปาร์ตี้สละโสดนั้นก็แยกฝั่งว่าที่เจ้าสาวกับเจ้าบ่าวนะ วันนี้แพรวเลยขอรวมโมเมนต์ปาร์ตี้สละโสดทางฝั่งเจ้าสาวมาให้ดูกัน เห็นแล้วก็ซึ้งตามเลยนะเนี่ย

เนย โชติกา วงศ์วิลาส – ไฮโซอาร์ม

ปาร์ตี้สละโสด

ปาร์ตี้สละโสดแก็งค์โรงเรียนประจำ รักจังเลยยย ❤️ #เดี๋ยวจะจัดรียูเนี่ยนนอนคุยกันดีกว่า #noeyhenparty

ปาร์ตี้สละโสดFinally!!!! เค้าก็มี Hen night ด้วย ขอบคุณแก็งค์เพื่อนเจ้าสาวทุกนางค่ะ รักมากมายก่ายกอง ยอมใจในความแน่น ของทุกคน #noeyhenparty

ปาร์ตี้สละโสดแพรวขอแสดงความยินดีก่อนเลย!! สำหรับสาว เนย โชติกา ที่เพิ่มจัดปาร์ตี้สละโสดไปสดๆ ร้อนๆ และได้ปล่อยภาพบรรยากาศสุดซึ้งที่มีเพื่อนๆ สุดที่รักรายล้อมมาร่วมยินดีในวันนี้ (30 สิงหาคม 2559) ซึ่ง noeyhenparty ก็มาในธีม Flapper ย้อนยุคสวยๆ และถ้าใครยังจำโมเมนต์สุดโรแมนติกที่ ไฮโซอาร์ม แฟนหนุ่มนอกวงการคุกเข่าขอสาวเนยแต่งงานในวันเกิดครบรอบ 31 ปีเมื่อ 15 กรกฎาคม ปีที่แล้วได้ นั่นก็เป็นสัญญาณที่ดีที่นอกจะบอกให้สาวเนยเตรียมตัวลั่นระฆังวิวาห์แล้ว ยังทำให้แฟนๆ ต่างปลื้มและยินดีไปด้วย ส่วนสาวเนยจะสวมชุดเจ้าสาวในวันแต่งงานสวยมากขนาดไหนนั้น ก็ต้องรอติดตามกันแล้วล่ะจ้า

 

เอ้ก บุษกร ตันติภนา – กัปตัน ภูธเนศ หงษ์มานพ

egg_01Goodmorning from underthesea from me and my mermaid sisiters. #eggmermaidnight #ฟินแค่ไหนดูจากหน้า 55555 #ท่าไม่ต้องซ้อม #อินเนอล้วนๆ

egg_02มาถึงจุดนี้ เริ่มรู้สึกเพื่อนๆน่ากลัว@captainpu #MookEggUncensored

egg_03Thank you everyone for this precious memory #MookEggUncensored

egg_04Thank you Jimlim babies. สุดสเต็ป #จากไข่สู่แม่ไก่ #eggbecomeshen#eggshennight #แม่ไก่ไม่มีกระดูก

egg_05“แฟนแก่ take care; หล่อจีบเยอะแต่ไม่เอา เอาคนดี ลูกชายก่อนลูกสาว” ตรงมากตรงแฟนแก่ แต่ข้างหลังไม่ตรง เพราะของเราทั้งหล่อทั้งดี5555 @captainpu #อย่าสบประมาท #แม่หมอมาแตร์ #ตรงทุกนาง

egg_06eggbusakorn #eggcaptain2016@sixtysixvisual @doooodgroup@balloonions

เจ้าสาวป้ายแดง เอ้ก บุษกร ที่เพิ่งจัดงานแต่งงานกับ กัปตัน ภูธเนศ ไปเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2559 หลังจากที่ทั้งคู่คบหากันมาเป็นเวลานานเมื่อแสดงละครร่วมกันในซิกคอม บ้านนี้มีรัก บรรยากาศปาร์ตี้สละโสดของสาวเอ้กกับแก๊งเพื่อนสมัยเรียนที่โรงเรียนมาร์แตเดอีนั้นดูน่ารักและซึ้งสุดๆ มีทั้งแต่งตัวเป็นแอเรียล นางเงือกน้อย ในการ์ตูนดิสนี่ย์ แต่งชุดโทนชมพูสุดฟรุ้งฟริ้ง ทั้งยังได้เผยเรื่องสมัยเรียนที่สาวเอ้กโดนเพื่อนทำนายว่าจะได้แต่งงานกับ แฟนแก่คอยเทคแคร์ซะด้วย แหม แม่นจริงๆ นะ ซึ่งงานแต่งก็มาในธีมย้อนยุคหวานหยาดเยิ้มสุดๆ

 

เจน เจนสุดา ปานโต – พอล สิริสันต์

jen_01#สละโสดเจนสุ #janesudahen

jen_02#janesudahen

jen_03Had such an amazing time last time. Love love love everyone in this photo.

jen_04janienineeleven Janesuda’s hen night ❤️#สละโสดเจนสุ #janesudahen

jen_05janesuda Moment of happiness.#jspchapterone cr.photo @peduckk@jspchapterone

ปาร์ตี้สุดเรียบง่าย แต่เหนียวแน่นไปด้วยมิตรภาพสำหรับแก๊งนางฟ้าที่ถึงคิวสละโสดของสาว เจนสุดา ก่อนจะลั่นระฆังวิวาห์กับหวานใจ ไฮโซพอล ในงานแต่ง ปาร์ตี้สละโสดมาในชื่อ Jane’ Hen Night สาวเจนก็ได้สวมใส่ชุดเจ้าสาวสุดเซ็กซี่ จัดกิจกรรมเล่นเกมฮาเฮกับแก๊งเพื่อนไม่ว่าจะเป็นพอลล่า, คริส หอวัง, วุ้นเส้น วิริฒิพา, เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ฯลฯ ดูแล้วก็สัมผัสได้ว่า เป็นปาร์ตี้ก็ฟุ้งกลิ่นความรักจริงๆ

 

มัดหมี่ พิมดาว พานิชสมัย – สัว ศุภชัย กาญจนศักดิ์ชัย

mee_01auane_napasra Bridesmaids อยากแต่งบ้างค่ะ #MutmeesHenNight

mee_02ms_limthongkul Love is a gift from heart to heart. I’m so glad that you’re part of my life to share joys and sorrows. I love you x#MutmeesHenNight#ifyouthinkimcrazyyoushouldseemyfriends

mee_03mutmeepimdao สุด!!! #mutmeeshennight#throwback #sunday #อะไรจะสนุกขนาดนี้#มีอีกไหม #เลิฟเลย #ฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งแมว credit@mint_vanillaphoto

mee_04mutmeepimdao My girl @mutmookpraedao#MutmeesHenNight decorated by@roselynflowershop

mee_05mutmeepimdao #MutmeeAndSua#งานจบรูปไม่จบ credit @great_est

ฝั่งสาวหัวใจอาร์ต มัดหมี่ พิมดาว ก่อนจะถึงวันแต่งงานกับแฟนหนุ่ม สัว ศุภชัย ในบรรยากาศไทยๆ สุดเรียบง่าย ก็ได้รับพลังความรัก ความอบอุ่นจากแก๊งเพื่อนที่รวมตัวกันจัดปาร์ตี้สละโสดในธีมโบฮีเมียนให้ สีสันภายในงานทั้งคอสตูม เมคอัพนี่เชิญชวนให้สนุกสุดๆ ภายในงานมัดหมี่มีทั้งใส่ชุดโบฮีเมียนและชุดเจ้าสาว และโมเมนต์ประทับใจที่ มัดมุก แพรดาว น้องสาวที่ห่างกัน 2 ปี ก็ได้ร้องเพลงให้พี่สาวในงานปาร์ตี้นี้ด้วย เป็นปาร์ตี้สละโสดที่เต็มไปด้วยคนที่รักสาวมัดหมี่จริงๆ

เจาะลึก 7 น้ำหอม Louis Vuitton นาทีนี้ไม่ฉีดมีเอ้าท์!

การที่ Louis Vuitton ก้าวเข้าสู่อาณาจักรใหม่ ซึ่งก็คืออาณาจักรแห่งน้ำหอม ย่อมไม่ใช่เรื่องที่ใครจะมามองบนด้วยอาการปรามาสได้

เพราะนับตั้งแต่มีข่าวว่า Louis Vuitton เตรียมออกไลน์น้ำหอม กระทั่งรู้ว่าทางแบรนด์ได้ ฌาคส์ กาวาลิเยร์ แบลทรูด (Jacques Cavallier Belletrud) เพอร์ฟูเมอร์ผู้มากประสบการณ์มาเป็นคนรังสรรค์กลิ่น ผู้คนก็อื้ออึง เพราะแค่ลำพังชื่อของ มร.แบลทรูด ก็การันตีความหอมรัญจวนแบบเอ็กซ์คลูซีฟไปแล้วเกินครึ่ง

หลังจากนั้นน่ะเหรอ ไม่ว่าจะข่าวหลุยส์ วิตตองเปิดเวิร์กชอปน้ำหอมที่ใจกลางเมืองกราส รัฐโพรวองซ์ ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเมืองหลวงแห่งน้ำหอมของโลก แต่นั่นยังไม่สร้างแพชชั่นให้คนเฝ้าติดตามข่าวน้ำหอมของหลุยส์ วิตตองได้เท่ากับการได้รู้ว่า ณ ที่แห่งนี้คือบ้านเกิดของ มร.แบลทรูด ด้วย

แต่หากคุณกำลังคิดว่านักผลิตน้ำหอมคนนี้จะฝังตัวทำงานอยู่แต่ในบ้านเกิดของเขาละก็  ผิดแล้วล่ะ มร.แบลทรูดใช้เวลาตลอดหลายเดือนที่เขาจับมือกับหลุยส์ วิตตอง ทำงานในเวิร์กชอปสลับกับเดินทางไปตามที่ต่างๆ  ไม่ใช่แค่ในประเทศ แต่เป็นทวีปต่างๆ มากถึง 5 ทวีปด้วยกัน  ทั้งนี้ก็เพื่อให้สมกับการทำงานภายใต้แบรนด์ที่ได้ชื่อว่าเป็นเบอร์หนึ่งเรื่องการเดินทางนั่นเอง

และตอนนี้ Les Parfums Louis Vuitton น้ำหอมติดแบรนด์หลุยส์ วิตตอง ก็พร้อมก้าวขึ้นสังเวียนชิงมงฯความหอมคู่กายของสาวๆ แล้ว ที่เด็ดคือการเปิดตัวในคราเดียวกันถึง 7 กลิ่นหอม ที่อุปมาว่าหากหญิงสาวคนใดก็ตามได้ใช้  เธอจะ ‘รู้สึก’ ราวกับได้ออกเดินทางไปยังที่ต่างๆ ยังไงยังงั้นเลยทีเดียว

โรส เดส์ วองต์ส (Rose des Vents) 

Louis Vuitton

ภายใต้ความเป็นเพอร์ฟูเมอร์ มร.แบลทรูด ยังสนใจเรื่องเทคโนโลยีด้วย และครั้งนี้เขาได้นำการสกัดด้วยคาร์บอนไดออกไซด์มาใช้เป็นครั้งแรก  มันเป็นการสกัดกลิ่นโดยไม่ต้องใช้ความร้อน แต่ใช้วิธีรมด้วยก๊าซเย็นแทน  และเนื่องจากกลีบดอกไม้ไม่ได้สัมผัสกับความร้อน มันจึงไม่สูญเสียความหอมใดๆ โดยเขาใช้วิธีนี้มาทดลองกับดอกกุหลาบเซนทิโฟเลีย(Centifolia Rose) หรือเมย์โรส กุหลาบแห่งเดือนพฤษภาที่บานสะพรั่งในเมืองกราส จนได้น้ำมันหอมระเหยที่มีกลิ่นหอมบางเบาดุจแพรไหม เมื่อนำไปผสมกับน้ำมันเอสเซ้นส์ของกุหลาบตุรกี (Turkish rose) และน้ำมันเอสเซ้นส์ของกุหลาบบุลกาเรีย (Bulgarian rose) แล้วยังเติมฟลอเรนไทน์ ไอริสFlorentine iris) เวอร์จิเนียร์ ซีดาร์ (Virginia cedar) แถมเพิ่มความสไปซี่และมันวาวด้วยพริกไทย ทำให้กลิ่นหอมมีมิติมากยิ่งขึ้น ชวนให้รู้สึกเหมือนยืนอยู่กลางทุ่งกุหลาบ อาบด้วยสีทองอร่ามราวกับแสงแรกในยามเช้า ดุจจะบอกว่าเราพร้อมแล้วที่จะเพื่อนร่วมทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกๆ การเดินทาง

ตูร์บิวลองซ์ (Turbulences)

Louis Vuitton

นอกจากกุหลาบแล้ว มร.แบลทรูดยังใช้การสกัดด้วยคาร์บอนไดออกไซด์กับมะลิแกรนดิฟลอรัม ซึ่งหาได้ยากยิ่งในกราส โดยผสมเข้ากับดอกไม้ที่เปรียบประหนึ่งรักแรกพบของเขา นั่นก็คือดอกซ่อนกลิ่น หรือทิวบ์โรส(Tuberose) ห้วงเวลานั้นเขากับพ่อที่เป็นนักปรุงน้ำหอมเช่นกันกำลังเดินผ่านประตูเข้าไปในสวน พลันก้าวเดินของทั้งคู่ก็ต้องชะงักเพราะสะดุดกับกลิ่นหอมเย้ายวนที่ผสมผสานกันของกลีบดอกไม้สีขาว 2 ชนิด เป็นเรื่องยากที่จะแยกกลิ่นของดอกทิวบ์โรสออกจากกลิ่นของพุ่มมะลิในสวน  แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ มร.แบลทรูดทำไม่ได้ เขาใช้เวลาหลังจากนั้นอีกหลายเดือนเลือกสรรกลีบดอกทิวบ์โรส และดอกจัสมิน แกรนดิฟลอรัม (jasmine grandiflorum) จากเมืองกราสส์ ที่เหมาะสำหรับสร้างความทรงจำนั้นขึ้นอีกครั้ง เมื่อผสมผสานเข้ากับดอกเมย์ โรสMay rose)ดอกแมกโนเลียจีน(Chinese magnolia) และน้ำมันหอมระเหยจากดอกมะลิแซมบัค ที่ถูกปลูกเพื่อเพิ่มความหอมให้แก่ชาจีน สินค้าส่งออกยอดนิยมของจีน เจือด้วยกลิ่นหนังอ่อนๆ เพื่อสร้างมิติให้น่าหลงใหล เปรียบดังการเดินทาง แม้ว่าห่างหายไปก็ทำให้เกิดความปรารถนาแรงกล้าที่อยากจะแพ็คกระเป๋าออกเดินทางอีกครั้ง

ด็องส์ ลา โป (Dans la Peau)

Louis Vuitton

แน่นอนว่ามีน้ำหอมหลายกลิ่นที่ชวนให้นึกถึงเครื่องหนัง แต่ มร.แบลทรูด ได้สร้างกลิ่นพิเศษขึ้นใหม่หลังจากได้ไปเยี่ยมชมเวิร์กช็อปของหลุยส์ วิตตองมาหลายครั้ง ในบรรดากลิ่นหอมของหนังที่เขาได้ทดลอง กลิ่นที่เขาชอบที่สุดคือกลิ่นหอมเบาๆ ของหนังธรรมชาติ ซึ่งเป็นหนังสีเบจอ่อนที่ใช้หุ้มหูและทำสายกระเป๋าเดินทาง ด้วยว่ามันหอมคล้ายดอกไม้ เขาจึงมอบหมายให้เวิร์กช็อปสกัดกลิ่นนี้ออกมา โดยนำหนังไปแช่แอลกอฮอล์จนได้เป็นเรซินอยด์สีเข้ม หลังจากนั้นก็นำสารนี้มาทำให้ใสอีกครั้งจนได้กลิ่นหอมที่ต้องการ เมื่อสัมผัสผิวแล้วจะให้กลิ่นหอมที่โดดเด่นและแตกต่าง ซึ่งออกจะเย้ายวนเกินไปเหมือนยามได้กลิ่นหนังเป็นครั้งแรก ดังนั้นเขาจึงเบรกความเข้มข้นด้วยความหอมหวานของผลแอพริคอท ความละมุนของดอกมะลิจากเมืองกราส และมะลิแซมบัคจากจีน ขณะเดียวกันก็เติมกลิ่นดอกนาร์ซิสซัส ดอกไม้เดี่ยวที่ทำให้นึกถึงทั้งยาเส้น ทั้งความเขียวของก้านดอกไม้ที่เพิ่งตัดใหม่ๆ กลิ่นของมันสามารถเร้าอารมณ์เพศได้อย่างแรง ตามด้วยกลิ่นของกลุ่มมัสก์ (musks) ที่มีความเย้ายวนที่สุดกลุ่มหนึ่ง ก่อเกิดเป็นมิติของกลิ่นที่เต็มไปด้วยเสน่หา เพื่อตอกย้ำว่าการเดินทางที่ขับเคลื่อนด้วยแรงปรารถนานั้นน่าประทับใจเพียงใด

Kenneth Cole ชวนทุกคนให้กล้าเผชิญหน้ากับปัญหาผ่านเรื่องราวของ 4 ผู้สร้างแรงบันดาลใจ

แคมเปญโฆษณาประจำฤดูใบไม้ร่วง 2016 ของเคนเนท โคล (Kenneth Cole) นำเสนอเรื่องราวของกลุ่มคนภายใต้ชื่อ The Courageous Class ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ทางแบรนด์ได้คัดสรรมาเป็นอย่างดีว่ามีความเด็ดเดี่ยว เผชิญหน้ากับความท้าทายมากมายในชีวิต เป็นคนที่มีความกล้าหาญ น่ายกย่อง สามารถเป็นแบบอย่างและสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนในสังคมได้

รวมถึงสามารถจุดพลังให้กับผู้สวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์เคนเนท โคล (Kenneth Cole) สัมผัสได้ถึงคำว่า “ดูดี เพื่อสิ่งที่ดี” หรือ “Look Good, For Good.” ถ่ายโดยช่างภาพชื่อดังอย่างบู จอร์จ (Boo George) นำเสนอบุคคลที่มีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวแตกต่างกันออกไปตามแต่ละบุคคล ทั้งหมด  4 คน ได้แก่ อาร์เจ มิตต์ (RJ Mitte), ลิย่า เคเบเด (Liya Kebede), เคนนา (Kenna) และลอว์เรน วาสเซอร์ (Lauren Wasser)

RJ Mitte
อาร์เจ มิตต์ (RJ MITTE)

ทุกคนรู้จักอาร์เจ มิตต์ (RJ Mitte) จาก Walter “Flynn” White Jr. จากภาพยนตร์เรื่อง “Breaking Bad” ที่ได้รับรางวัลมานับไม่ถ้วน มิตต์ป่วยเป็น CP ซึ่งย่อมาจาก Cerebral Palsy หมายถึง การพิการทางสมอง ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีการเคลื่อนไหวร่างกายที่ผิดปกติ การขยับแขน ขา ลำตัว ใบหน้า ลิ้น รวมถึงการทรงตัวที่ผิดปกติ เนื่องจากเขามีปัญหาเรื่องการหายใจตั้งแต่แรกเกิด จึงส่งผลกระทบไปถึงสมองของเขา มิตต์ได้รับบทในภาพยนตร์และได้แสดงเป็นผู้ป่วยโรคพิการทางสมอง และเขาสามารถทำออกมาได้ดีมาก เขาได้เรียนรู้การฝึกเดินและพูดจาในบทของเขา ซึ่งสร้างความท้าทายให้กับตัวเขาเป็นอย่างมาก นอกจากอาชีพนักแสดงแล้ว มิตต์ได้ผันตัวมาเป็นโปรดิวเซอร์อีกด้วยในปัจจุบัน ที่ผ่านมามิตต์เป็นบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจมากมายให้กับเพื่อนฝูงของเขา ด้วยความฝันที่อยากเป็นนักแสดงและอยู่ในวงการบันเทิง เขาได้ดำเนินชีวิตตามความฝันของเขาโดยทิ้งปัญหาสุขภาพกายไปอย่างสิ้นเชิง เขาสามารถต่อสู้เพื่อเอาชนะข้อบกพร่องของตนเองได้สำเร็จ จากที่โดนล้อและโดนติเรื่องข้อจำกัดของตนเอง มิตต์ได้พิสูจน์ความสามารถของเขาโดยการเป็นทูตของโรงพยาบาล United Cerebral Palsy และ Shriners Hospitals for Children อีกทั้งยังเป็นตัวแทนในแคมเปญต่างๆ อีกมากมาย เพราะมิตต์คือแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้ รวมถึงคนอื่นๆในสังคมอีกด้วย

ลีย่า เคเบเด (LIYA KEBEDE)
ลีย่า เคเบเด (LIYA KEBEDE)

ลีย่า เคเบเด (Liya Kebede) คือนางแบบ นักแสดง ผู้ที่ช่วยเหลือและส่งเสริมสุขอนามัยของแม่และลูก เธอได้ขึ้นปกนิตยสารโว้กทั้งของอเมริกันและของต่างประเทศ เดินแบบและถ่าบแบบโฆษณามากมายให้กับดีไซเนอร์ดังทั่วโลก รวมทั้งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับผลิตภัณฑ์ลอรีอัล (L’Oréal) อีกด้วย ลีย่าได้ก่อตั้งมูลนิธิในปี 2015 ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ก่อตั้งเพื่อต้องการช่วยเหลือลดอัตราการเสียชีวิตของแม่เด็ก เธอเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจงาม ในปี 2007 เธออุทิศตนเองทำงานเพื่อสังคมและบำเพ็ญประโยชน์ต่างๆมากมาย ซึ่งทำให้เธอติดอันดับ 1 ใน 100 ของบุคคลที่มีอิทธิพลจากนิตยสารไทม์ (Time Magazine) ในปี 2010

เคนนา (Kenna)
เคนนา (KENNA)

เคนนา (Kenna) คือนักดนตรี ผู้ผลิตภาพยนตร์ ผู้คิดค้นเทคโนโลยี และยังเป็นคนใจบุญอีกด้วย เขาเริ่มต้นชีวิตทำงานในวงการบันเทิงด้วยการเป็นครีเอทีฟโปรดิวเซอร์ที่มีอายุน้อยที่สุดของช่องที่ผลิตรายการเกี่ยวกับครอบครัว หลังจากนั้นเขาได้เปลี่ยนมาทำงานในสายดนตรี ได้เสนอเข้าชิงรางวัลต่างๆมากมาย และมีผลงานร่วมกับศิลปินชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฟาเรล (Pharrell), แชด ฮิวโก้ ออฟ เดอะ เนปจูน (Chad Hugo of the Neptunes), คิงส์ ออฟ ลีออน (Kings of Leon), ลูป เฟียสโค (Lupe Fiasco), โจโจ้ (Jojo), ลิงคิน ปาร์ค (Linkin Park) และจัสติน ทิมเบอร์เลค (Justin Timberlake) ที่ผ่านมาเคนนาได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของน้ำและพลังของสตรี (Women Empowerment) และศิลปะ เขาได้สร้าง Summit on the Summit ขึ้นมา เพื่อช่วยรัฐบาลสหรัฐฯแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำสะอาด นอกจากนี้เขายังมีชื่อเสียงในเรื่องของศิลปะและเทคโนโลยีอีกด้วย ปัจจุบันเคนนากำลังทำอัลบั้มเพลงใหม่ของเขาชื่อ One-for-One Artist และจะบริจาคกำไรที่ได้รับจากการทำเพลงนี้ครึ่งหนึ่งให้องค์กรหรือมูลนิธิต่างๆตามคำเรียกร้องของแฟนเพลง สามารถติดตามเคนนาได้ที่เว็บไซต์ kenna.com

ลอร์เรน วาซเซอร์ (Lauren Wasser)
ลอว์เรน วาสเซอร์ (LAUREN WASSER)

ลอว์เรน วาสเซอร์ (Lauren Wasser) เติบโตในวงการแฟชั่น เธอได้ถ่ายแบบครั้งแรกลงนิตยสารโว้ก อิตาลีด้วยวัยเพียง 5 เดือนเท่านั้น กับแม่ของเธอ พาเมลา คุก (Pamela Cook) ซึ่งเป็นนางแบบอยู่ในขณะนั้น เธอได้ทำงานอยู่ในวงการบันเทิงด้วยการเป็นนางแบบและนักแสดงจนถึงอายุ 24 ปี ที่ชีวิตของเธอได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เธอทรมานกับการป่วยจากการได้รับสารเคมีจากการใช้ผ้าอนามัยแบบแทมปอนจนเกือบเสียชีวิต แต่เธอก็ผ่านมาได้ แต่ต้องแลกกับการสูญเสียขาขวาและนิ้วโป้งเท้าซ้ายของเธอไป ชีวิตของเธอได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เธอไม่สามารถเดินได้ปกติ จึงทำให้เธอต้องเจอกับสภาวะตึงเครียดจนคิดฆ่าตัวตาย แต่เธอก็ได้ผ่านมันมาได้โดยได้รับความช่วยเหลือจากเจนนิเฟอร์ โรเวอโร (Jennifer Rovero) ช่างภาพที่ใช้การถ่ายภาพช่วยบำบัดเธอให้หลุดพ้นจากสภาวะอันตึงเครียดของชีวิต และในปี 2015 ทั้งสองได้แชร์เรื่องราวชีวิตกับไวซ์ (Vice) จนกลายเป็นเรื่องที่มีคนกล่าวขานเป็นอย่างมาก โดยมียอดผู้เข้าชมกว่า 6 ล้านครั้ง ทั้งสองนำเสนอเรื่องความสวยงามและเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิง หลังจากนั้นจึงทำให้เธอได้รับงานอีกครั้งร่วมกับนอร์ดสตรอม (Nordstrom), รีไฟเนอรี่ 29 (Refinery 29) และนอยซี่ เมย์ (Noisy May) ด้วยลุคใหม่ของเธอและการที่เธอจะได้เป็นตัวแทนให้คนตระหนักถึงโรคที่เกี่ยวกับสารพิษ ล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2016 เธอได้เข้าร่วมเดินแบบแบรนด์โครแมท (Chromat) ในช่วงนิวยอร์กแฟชั่นวีคอีกด้วย

เรียบเรียงโดย : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : Kenneth Cole

อยู่มานานแต่เพิ่งปัง 9 ดาราดาวดัง ผลงานเด่น เกินซีนซุปตาร์

มีดาราหน้าใหม่ วัยรุ่นแจ้งเกิดมากมายในปีนี้ แต่เห็นทีความฮ็อตของดาราที่อยู่ในวงการบันเทิงมานานหลายคนก็เหมือนได้เกิดใหม่ กลับมาดังเปรี้ยงอีกครั้ง ถ้าเอ่ยชื่อแล้วรับรองว่าต้องกรี๊ด

รัดเกล้า อามระดิษ

MG_3004-copy
ชื่อเสียงทางด้านการร้องเพลงก็เป็นตัวแม่ ส่วนเรื่องการแสดงก็โดดเด่น แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่ปังสักเท่าไหร่ จนกระทั่งมารับบทบาทเป็นอีแย้มในละครเรื่องสุดแค้นแสนรัก ทางช่อง 3 ชื่อของพี่ต๊งเหน่งก็ถูกพูดถึงในฐานะนักแสดงเจ้าบทบาทที่ตีบทแตกกระจุยสุดๆ ปีนี้ถ้าไม่มีชื่อของรัดเกล้าก็คงไม่ได้จริงๆ

เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา

2
ดาราสาวรุ่นเล็ก เอสเธอร์ ปีนี้ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน เพราะหลังจากที่อยู่กับช่องน้อยสี รับบทเพื่อนนางเอกบ้าง ตัวร้ายบ้างมานาน ก็ตัดสินใจย้ายบ้านไปอยู่กับช่องดิจิตอลฝั่งอโศก ใครจะไปคาดคิดว่าการย้ายค่ายครั้งนี้ของสาวเอสเธอร์กลับเปลี่ยนชีวิตในวงการบันเทิงไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะเพียงแค่ละครเรื่องเล่ห์รตี ที่เจ้าตัวได้แสดงเป็นนางเอกเรื่องแรกกับหนุ่มฌอห์น จินดาโชติ ก็ทำเอาคนติดกันทั่วบ้านทั่วเมือง แถมยังได้ตำแหน่งนางเอกเบอร์หนึ่งของช่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ลูกเกด – เมทินี กิ่งโพยม

8
อยู่วงการบันเทิงมากว่า20 ปี เป็นทั้งนางงาม นางแบบ นักแสดงมาครบหมดแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ชื่อของลูกเกด- เมทินี จะถูกพูดถึงในฐานะ Top Model ซะเป็นส่วนใหญ่ แต่พอได้มาเป็นเมนเทอร์ให้กับรายการเรียลลิตี้ชื่อดังอย่าง The face Thailand ตั้งแต่ซีซั่นแรกจนมาถึงปีนี้ ลูกเกด เมทินีก็ได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะด้วยลีลาการสอนลูกทีม รวมถึงการมีวลีเด็ดต่างๆ ที่ออกอากาศในรายการเป็นที่ถูกอกถูกใจบรรดาขาเม้าท์ในโลกโซเชียล ปรากฏการณ์ทีมลูกเกดจึงเกิดขึ้น รวมถึงคำที่เจ้าตัวพูดไว้ก็ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง ทั้งสตรอง!,พี่ไม่ได้มาเล่นๆ,พี่เกดไม่เข้าใจอ่ะ…
ความฮอตของลูกเกดยังไม่หมดแค่ในรายการ The face Thailand เท่านั้นนะ เพราะโปรเจ็คท์ใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเวทีการประกวด The Star 12 ก็มีชื่อของเธอเป็นหนึ่งในคณะกรรมการที่จะคัดเลือกผู้เข้ารอบสุดท้ายด้วย แถมยังมีละครสงครามนางงามอีกหนึ่งเรื่อง เรียกว่าแต่ละผลงานของสาวเก่งคนนี้มีแต่เรื่องแซ่บๆ ทั้งนั้น
ไก่ – อัญชุลีอร บัวแก้ว

kai2
เคยเป็นถึงผู้ชนะการประกวดร้องเพลงในเวทีระดับประเทศอย่างสยามกลการมาก่อน และมีผลงานออกอัลบั้มมาแล้ว แต่ในยุคนั้นก็เป็นเพียงความสำเร็จในฐานะนักร้องประกวด ส่วนงานในฐานะศิลปินกลับแทบไม่มีใครพูดถึงมากนัก จนกระทั่งหายเงียบไปจากวงการพักใหญ่ พอมาในปีนี้กับการประกวดร้องเพลงในรายการ The voice Thailand season4 การกลับมาของป้าไก่ไม่ธรรมดาเลย เพราะทุกรอบที่ทำการแสดง เหมือนค่อยๆ ปล่อยพลังที่เก็บไว้มานานหลายปีออกมาให้ทุกคนได้เห็นความสามารถมากขึ้นเรื่อยๆ จนมาพีคสุดๆ กับการโชว์ในรอบ Knock Out กับเพลงเจ็บนี้จำจนตาย และตั้งแต่นั้นมา ก็ถือเป็นการคัมแบ็คชื่อของนักร้องคุณภาพอย่างป้าไก่ได้อีกครั้ง แถมยังมีแฟนคลับเทคะแนนโหวตให้เพียบ ถึงแม้ว่าในรอบสุดท้ายป้าไก่จะไม่ได้เป็นแชมป์ก็ตาม แต่เชื่อว่าหลังจากนี้คงได้เห็นผลงานของป้าไก่มากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน

อู๋ – ธนากร โปษยานนท์

5
ผู้ชายหนึ่งเดียวที่ติดโผเข้ามา แต่ขอบอกว่าเลอค่ามากๆ สำหรับพี่อู๋ เพราะตั้งแต่เริ่มเข้าวงการเป็นนายแบบ พระเอกมิวสิควิดิโอ จนกระทั่งมาเป็นพระเอกละครเต็มตัวให้กับช่องสาม เขาก็สามารถสร้างผลงานให้แฟนๆ เป็นที่จดจำมาโดยตลอด แต่ช่วงนั้นก็ยังไม่ถึงขั้นที่ทำให้สาวๆ คลั่งไคล้ได้เท่าตอนนี้ทั้งที่ไม่ได้รับบทพระเอกนำเหมือนสมัยก่อนก็ตาม เอาแค่สองเรื่องที่เล่นในปีนี้อย่าง ซีรีส์เลือดมังกรตอน สิงห์ รับบท ‘อาอัน’ และล่าสุดที่กำลังออนแอร์อยู่อย่างตามรักคืนใจ ในบท ‘น้าราม’ ก็เล่นเอาสาวรุ่น สาวใหญ่กรี๊ดกันสลบมากกว่าพระเอกนำในเรื่องเสียอีก ถึงขั้นมี #ทีมน้าราม หน้าฟีดในโซเชียลเน็ตเวิร์คเต็มไปหมด ซีนไหนมีพี่อู๋ออกมา รับรองฟินกระจาย จนแย่งซีนพระเอกไปซะดื้อๆ

4 หนุ่มรุ่นใหญ่จากละครพิษสวาท

ไม่ใช่แค่ละคร หรือพระนางที่ถูกพูดถึงกันสนั่นโซเชียล ดารารุ่นใหญ่อย่าง อุ้ย – เกรียงไกร, ต้น – อธิวัฒน์ ,วิทย์ – ภูธฤทธิ์ รวมถึง ปรเมศร์ น้อยอ่ำ ก็ได้รับความสนใจจากสาวน้อย สาวใหญ่อยู่มากทีเดียว

dara_web     อุ้ย – เกรียงไกร อุณหะนันทน์

ฝีมือของนักแสดงวัย 60 ปีคนนี้เรียกว่าคุณภาพเต็ม เพราะผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก อย่างเรื่องพิษสวาท ไม่ว่าจะบทพระโหราจารย์ หรือพลโทอัครา ก็ให้ลุคคุณชาย ผู้ดี ยิ่งฉากสวมสูทรวมกับนักแสดงรุ่นใหญ่คนอื่นในงานกุศลที่นุ่นต้องเสี่ยงทายด้วยแล้ว ดีต่อใจสาวๆจริงๆ เพราะออร่าทะลุจอจนเกือบลืมหนุ่มป้อง พระเอกของเรื่องเลย

ต้น – อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา

ดารารุ่นใหญ่วัย 50 ปี ซึ่งเคยอยู่สังกัดกันตนามาก่อน เขามีผลงานออกมาให้เราได้เห็นหน้าตาและฝีมือ ตลอด ทั้งละคร ภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นทายาทอสูร, ปู่โสมเฝ้าทรัพย์, ชาติเจ้าพระยา ฯลฯ จนมาถึงพิษสวาท ที่รับบทเป็นพระยาพลเทพ และดนัย ตัวร้ายทั้งสมัยอดีตและปัจจุบัน ซึ่งความเป็นทหาร นักการเมืองในบทเรื่องนี้ก็ทำให้ต้น – อธิวัฒน์เป็นดารารุ่นใหญ่ที่ดูหล่อ ภูมิฐาน เข้าตากรรมการคนหนึ่งเลยล่ะ

วิทย์ – ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล

อายุ 46 ปี แต่ไม่ได้ทำให้ความหล่อและรูปร่างที่ดีของวิทย์ – ภูธฤทธิ์ด้อยไปเลยสักนิด กลับยิ่งอายุมากยิ่งดูดี ดูภูมิฐาน จนสาวรุ่นเล็กแอบปันใจให้เลยก็มี ผู้ชายคนนี้เข้าสู่วงการบันเทิงมาจากการประกวดนายแบบ Man of the Year ปี พ.ศ.2533 ได้ตำแหน่งรองอันดับ 1 ซึ่งได้แจ้งเกิดในบทพันเรือง จากภาพยนตร์เรื่องบางระจัน (พ.ศ.2543) และได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง นักแสดงประกอบชายยอดเยี่ยมด้วย และมีผลงานละครเรื่อยมาอย่างปู่โสมเฝ้าทรัพย์ ที่มีวลีฮิต “หนักนะ เอาไหม” แม้ในเรื่องพิษสวาทจะต้องเสียชีวิตไปก่อน แต่น้ำเสียงทุ้มหนัก พูดจาหนักแน่น ชัดเจน ให้สมกับบทณรงค์ นักการเมือง ก็กินขาดมากๆ

       ปลาย – ปรเมศร์ น้อยอ่ำ

นักโฆษณาหนุ่มใหญ่วัย 50 ปี ปรเมศร์ น้อยอ่ำ รับบทเป็นสุนทร นักการเมืองที่ต้องปะทะคารมกับดนัย เขาแจ้งเกิดในภาพยนตร์เรื่องบอดี้ศพ 19 และได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ไทย ชมรมวิจารณ์บันเทิง สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม และต่อมาได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่องสามชุก แม้ในเรื่องพิษสวาทจะต้องเป็นนักการเมืองไร้คุณธรรม แต่ด้วยเรื่องที่ต้องสวมชุดสูทคุมลุคให้ดูน่าเชื่อถือสมเป็นนักการเมือง ก็ทำให้ปลาย – ปรเมศร์เป็นดารารุ่นใหญ่ที่ดีต่อใจสาวๆอีกคนหนึ่ง

dara_06บอกแล้วว่าของแบบนี้ไม่ต้องเป็นถึงซูเปอร์สตาร์ เพราะถ้าความสามารถโดดเด่น ผลงานที่ออกมาก็โดดเด้งโดนใจผู้ชมแล้ว

 

 

ภาพ : FB@thevoicethailand,IG@charmarmy,@metinee,@esthersupree

ล้มลุกคลุกฝุ่นแต่มีต้นทุนคือฝันที่รอ ‘โตโน่’ ลูกผู้ชายหัวใจหล่อมาก กับประโยคบาดใจที่ต้องรักผู้ชายคนนี้!

‘โตโน่’ ลูกผู้ชายหัวใจหล่อมาก

‘โตโน่’ ในหัวข้อที่มียอดไลค์ถล่มทลายเห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องความรัก แต่ขณะที่ชีวิตในแง่มุมอื่นๆของโตโน่ที่อาจไม่ได้เรียกยอดไลค์ แต่ก็สามารถเป็นแรงบันดาลใจและบทเรียนให้ใครหลายคน บอกเลยว่าผู้ชายคนนี้มีชีวิตและมุมมองความคิดที่ไม่ธรรมดา แอบคิดเล่นๆว่า ถ้ามีผู้ชายคิดอย่าง ‘โตโน่’ เยอะๆก็คงดีเนอะ

 

'โตโน่'ตอนอายุ 16–18 ปี เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของ ‘โตโน่’ เลย เพราะตอนนั้นพ่อเสียชีวิตด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตก แม่จึงต้องเป็นเสาหลักทํางานหนักเพื่อดูแลครอบครัวแทน ส่วนโตโน่ก็พยายามหารายได้พิเศษช่วยอีกทาง ตั้งแต่ปั่นจักรยานแจกโบรชัวร์ ขายของเก่า รวมทั้งทําอาชีพสีเทาด้วยการเป็นเด็กเดินหวย “ที่บอกเพราะต้องการหารายได้มาช่วยที่บ้าน และก็ไม่ได้อยากโกหกใครว่านั่นเป็นโลกที่ผมเติบโตขึ้นมาจริงๆ”

'โตโน่'‘โตโน่’ เคยไปทํางานร้านอาหารที่ประเทศเยอรมนี ตอนนั้นยืมเงินญาติ 50,000 บาทเป็นค่าทําวีซ่ากับค่าตั๋วเครื่องบิน ต้องแอบทํางานเป็นโรบินฮู้ดอยู่ 3 เดือนในร้านอาหาร ทั้งเสิร์ฟ ล้างจาน และขัดห้องน้ํา เบ็ดเสร็จได้เงินกลับมา 180,000 บาท พอจ่ายหนี้ให้ญาติแล้วเหลือ 130,000 บาทก็เก็บไว้เองส่วนหนึ่ง อีกก้อนก็ให้แม่

'โตโน่'ตั้งแต่เป็น The Star จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ 6 ปีแล้ว ไวเหมือนโกหก แต่สิ่งที่เหมือนเดิมมาตลอดคือ ความฝันของโตโน่ที่อยากให้แม่กับน้องสบาย ไม่ว่าจะเป็นอะไรหรือทํางานอะไรก็ตาม ทั้งคู่ต้องได้ในสิ่งที่ควรได้ “ช่วงที่เป็นข่าวหนักๆ คุณแม่ได้พูดประโยคหนึ่งว่า ถ้าเต็มที่แล้วก็กลับบ้านเรา ถ้าวันหนึ่งไม่มีใครรักก็กลับบ้าน ผมจึงรู้สึกว่า จริงด้วย ผมไม่เคยลืมว่าตัวเองมาจากบ้านนอก ถ้าวันหนึ่งเวลาในวงการบันเทิงหมดลง ผมก็แค่กลับบ้าน ที่นั่นยังมีผู้หญิงอีกสองคนที่รักเรามากที่สุด คือ สุดลมโชยกับแสงระวี (คุณแม่กับน้องสาว) ผมไม่เคยกลัวเลยว่าจะอยู่ในวงการได้นานแค่ไหน จะดังหรือไม่ดัง ไม่สนใจ วันนี้มีหน้าที่อะไรก็ทําให้เต็มที่”

'โตโน่'

'โตโน่'‘โตโน่’ เลือกทําตามความฝันด้วยการออดิชั่นวงแบบเงียบๆ ในที่สุดได้สมาชิกทั้งหมด 5 คน ตั้งชื่อวงว่า The Dust ในช่วงแรกต้องผ่านอุปสรรคเยอะ เริ่มซ้อมกันท่ามกลางแรงกดดันที่บอกว่าวงไปไม่รอดหรอก แต่ตอนนั้นโตโน่ไม่สนใจ ไม่หาทางรอดคนเดียว ถ้ามีงานจ้างเดี่ยวให้ไปร้องเพลงคนเดียวก็เซย์โนทันที “ผมมีสัญชาตญาณดิบอยู่ในตัว หลายครั้งที่ทําอะไรตามความรู้สึก ทําสิ่งที่ออกมาจากใจจริงๆ ถ้าไม่ใช่ ถึงได้เงินก็ไม่ทํา ไม่มีใครสั่งผมได้ว่าต้องทําอย่างนี้ หรือต้องพูดแบบนั้น แต่ผลของการดื้อครั้งนั้นคือแทบไม่มีกิน (หัวเราะ) เพราะคนยังไม่รู้จักว่า The Dust คืออะไร”

5 เรื่องสุดว้าว! ‘มหานคร’ แลนด์มาร์กใจกลางกรุง สูงที่สุดในไทย

เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ใครๆ ก็ต้องเห็นภาพของตึกสูงระฟ้ามหานครส่องแสงสว่างไปทั่วเมืองกรุง ความอลังการของตึกนี้ไม่ใช่เพียงความสูงที่ว่า มหานคร เป็นที่หนึ่งในประเทศไทยเท่านั้น แต่ได้รวมเอาความที่สุดอีกหลายอย่างที่ทำเอาตาค้างกันเลยทีเดียว

ตึกมหานคร
การแสดงไลท์ โชว์ (Light Show) แสง สี แสง สุดตระการตา โชว์ความอลังการของตึกที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย

1. มหานคร ถูกออกแบบให้โอบล้อมด้วยพิกเซล หรือริบบิ้นสามมิติตลอดความสูงของตัวอาคาร ทำให้ตัวโครงสร้างมีความโดดเด่นสะดุดตา และมีรูปลักษณ์พิเศษ ตัวพื้นผิวของอาคารเป็นกระจกทั้งหมด ทำให้รู้สึกเหมือนกับลอยอยู่บนฟ้า และเห็นทิวทัศน์รอบกรุงแบบพาโนรามา อีกทั้งยังมีพื้นที่ใช้สอยภายนอกและภายในอาคารที่กว้างขวาง และเทอเรซที่กว้างใหญ่สำหรับรับลมสูดอากาศบริสุทธิ์ และทำให้รู้สึกว่าส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ใกล้ชิดท้องฟ้าแค่ปลายมือเอื้อมเท่านั้น

ตึกมหานคร
2. ตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทยแห่งนี้ ถือเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ งบการก่อสร้างจึงมหาศาลมากๆ ซึ่งมีมูลค่าโครงการสูงถึง 21,000 ล้านบาทเลยทีเดียว

มหานคร
เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก

3. แลนด์มาร์กสำคัญแห่งนี้ ยังเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ในรูปแบบ Mix – use ประกอบด้วยที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ลักชัวรี่แบรนด์อย่าง ‘เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน’ บูติคโฮเต็ล แบรนด์ ‘บางกอกเอดิชั่น’ บริหารโดยเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน ที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ลักชัวรี่จำนวน 209 เรสซิเดนซ์ ซึ่งทุกเรสซิเดนซ์ล้อมรอบด้วยกระจก สร้างบรรยากาศราวกับลอยอยู่บนฟ้า

มหานคร
เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการบริการระดับ 5 ดาวในมาตรฐาน เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน โดยเรสซิเดนซ์ โดยมีขนาดตั้งแต่ 125 – 844 ตารางเมตร (2-5 ห้องนอน) ราคาต่อเรสซิเดนซ์ในขณะนี้เริ่มตั้งแต่ 45 ไปจนถึง 300 ล้านบาท!!!

มหานคร
4. ที่พักสุดหรูที่อยู่ในตึกนี้เป็น บูติคโฮเต็ล แบรนด์ บางกอก เอดิชั่น ที่ใช้มาตรฐานการบริการเดียวกับ เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน โฮเทล คอมปะนี จำนวนกว่า 150 ห้อง ซึ่งเป็นแบรนด์โรงแรมน้องใหม่ในเครือแมริออท อินเตอร์เนชันแนล และในประเทศไทยนั้นถือเป็นแห่งที่ 6 ของโลก ความพิเศษนั้นอยู่ที่มีจุดชมวิว 360 องศา บนชั้น 77 ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทิวทัศน์ของกรุงเทพมหานครแบบพาโนราม่า 360 องศา บนความสูง 314 มีไคลแมกซ์อยู่ที่พื้นกระจกใส (Sky Tray) ยื่นออกจากตัวอาคาร เพื่อให้นักท่องเที่ยวรู้สึกเหมือนลอยอยู่บนฟ้า

มหานคร
มหานคร คิวบ์

5. มหานคร คิวบ์ อีกหนึ่งอาคารที่มีความน่าสนใจ เป็นอาคารไลฟ์สไตล์รีเทล 7 ชั้น รวบรวมร้านอาหารชั้นนำที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประเทศไทย อาทิ ร้านอาหารโดยเชฟมิชลินสตาร์มากที่สุดในโลกอย่าง “ลัตเตอลิเย เดอ โจเอล โรบูชง กรุงเทพฯ” ร้านอาหารในเครือกอง เด้ นาสต์ เรสเตอรองแห่งแรกในไทย, “โว้ก เลาจน์” ,แบรนด์อาหารและเครื่องดื่มกูร์เม่ต์ระดับไอคอนของนิวยอร์ก “ดีน แอนด์ เดลูก้า” , ร้านอาหารจีนที่รังสรรค์เมนูอาหารอย่างปราณีตบรรจง โดย เชฟแมน “เอ็ม ครับ” และร้านอาหารญี่ปุ่นโดย เชฟกระทะเหล็กชื่อดังของอเมริกา “โมริโมโตะ

มหานคร
ภายในมหานครคิวบ์ แหล่งรวมร้านอาหารระดับโลกที่มากที่สุดในประเทศไทย

มีความหรูหราไปทุกส่วนทั้งเรื่องการออกแบบและการบริการที่ทำเอาตาค้าง อีกทั้งยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทั้งที่พัก กิน เที่ยวไว้ครบถ้วน

มหานคร จึงเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่เอาใจเหล่าเศรษฐีกระเป๋าหนักได้อยู่หมัด และทั้งนี้ทั้งนั้นด้วยความสูงมากขนาดนี้บวกกับการดีไซน์พื้นที่ใช้สอยที่เน้นให้ดูกลมกลืนเปรียบเสมือนอยู่ลอยบนฟ้าได้แทบทุกพื้นที่แบบนี้ คนที่กลัวความสูง คงต้องมีขาสั่นกันบ้างล่ะ

ภาพ : MahaNakhon

ดูดวงรายวัน ประจำวันอังคารที่ 30 สิงหาคม 2559

ดูดวงรายวัน ประจำวันอังคารที่ 30 สิงหาคม 2559 เช็คทุกวัน ทันทุกดวง กับ แพรวดอทคอม

 

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : งานของท่านจะไม่มีแต่งานประจำอีกต่อไป ต้องทำให้ได้ทุกรูปแบบ อาจต้องเดินทางบ้าง เพราะมีคนตามตัวท่านไปใช้ตลอด บอกได้คำเดียวว่า เหนื่อย

การเงิน : ระมัดระวังหน่อย อาจถูกหลอกให้ลงทุน

ความรัก : ระวังคำพูดจากเรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เอาแต่ใจตัว แล้วครอบครัวจะมีความสุขได้อย่างไร คนโสด ไม่แน่ใจอะไรบางอย่างในตัวคนที่ท่านคบอยู่ ต้องศึกษากันไปก่อน อุปสรรคเยอะ งานเลี้ยงยังอีกยาวไกล

สุขภาพ : ทานของย่อยง่ายๆ จะมีอาการท้องอืด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : วุ่นวายทั้งวัน ทั้งงานเร่งด่วน มีงานเสริมเข้ามาอีก ระวังเพื่อนร่วมงาน หรือคนที่ท่านคิดว่า ไว้ใจได้ จะทำให้งานล่าช้าไปอีก

การเงิน : ใช้จ่ายเกี่ยวกับบุตรหลาน มีภาระหนักรออยู่

ความรัก : อย่าฟังคนอื่นมาก ให้เชื่อมั่นในสถานบันครอบครัวของเรา แล้วปัญหาหรืออุปสรรคก็จะผ่านไปได้ คนโสด ยังไม่มีวี่แววมีคู่เลย ยิ่งวิ่งหาก็ยิ่งวิ่งหนี ต้องอยู่เฉยๆ ให้เขามาเอง

สุขภาพ : พกยาแก้แพ้ติดไปด้วย เพราะจะเกิดโรคผื่นแพ้

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน : ชาวอังคารถูกกากบาทซ้อนเสียแล้ว งานจะถาโถมเข้ามาเยอะ ต้องอาศัยศักยภาพหรือความสามารถส่วนตัว เพราะปฏิเสธคนไม่เป็น ระวังผิดพลาดเรื่องเอกสาร ตัวเลข จะเดือดร้อนถึงขั้นเป็นคดีความ ควรไปถวายสังฆทาน ปล่อยปลา หรือทำบุญชำระหนี้สงฆ์

การเงิน : ได้มาใช้ไป หมดกับลูกน้องบ้าง หากได้คืนก็เป็นเบี้ยหัวแตก

ความรัก : ผู้ใหญ่อาจไม่ค่อยปลื้มคู่ของท่าน ขณะเดียวกันคู่ก็เข้าผู้ใหญ่ไม่เป็นด้วย ก็เลยยิ่งไม่กันใหญ่ ท่านเป็นคนกลางต้องหมั่นเตือนคู่ให้เห็นถึงความสำคัญของผู้ใหญ่ คนโสด มีคนเข้ามา แต่ก็ยังไม่ใช่ ดูดีๆ เพราะท่านมีคู่ยาก และมีภาวะผู้นำสูง เลือกคนที่ยอมและเข้าใจเรา

สุขภาพ : ระวังจะมีปัญหาภายในช่องปาก และโรคเครียดกำเริบ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน : เหมือนงานราบรื่น แต่อย่าเพิ่งวางใจเพราะเหมือนมีนัยยะแอบแฝง อาจโดนเพื่อนร่วมงานเอาเปรียบ หรือเจ้านายจ้องจับผิด ระวังตัว แต่อย่าใส่ใจ หากงานดี ใครก็ทำอะไรท่านไม่ได้

การเงิน : ได้โชคลาภจากผู้ใหญ่ แต่ก็เก็บเงินไม่อยู่เลย

ความรัก : วุ่นวายใจเกี่ยวกับบุตรหลาน คุยกันไม่รู้เรื่องเลย ลูกกำลังดื้อ และอยู่ไกลหูไกลตา พยายามติดต่อสื่อสารกันบ่อยๆ คุยกันดีๆ คนโสด ยิ่งคบก็ยิ่งไม่ใช่ อย่าฝืน เพราะไม่ใช่แค่เรื่องความรักความเข้าใจ แต่เป็นเรื่องของมีวาสนามาคู่กันไหมจึงอยู่ร่วมกันได้

สุขภาพ : ระวังเรื่องเจ็บคอ ทอลซิน

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : สบายใจเรื่องงาน เริ่มลื่นไหล ยิ่งหัวหน้าใหม่ปลื้มท่านด้วย ยิ่งฉลุยเลย

การเงิน : จะมีคนมาขอยืมเงิน ให้ตามสมควรนะ

ความรัก : ดูแลกันดีขึ้น พูดจากันดีขึ้น แต่ยังไม่ถึงที่สุด หากไม่ใช่เรื่องใหญ่โตก็ยอมๆ กันบ้าง จะได้สงบสุข คนโสด หาคู่ยากนะ รอไปอีกหนึ่งวัน

สุขภาพ : สำไส้จะมีปัญหา ระวังไส้ติ่งอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน : ได้มีโอกาสเดินทางไปอบรมสัมมนาก็ขอให้รับความรู้มาเต็มที่ เพื่อให้สมกับที่หัวหน้าวางใจว่า ท่านมีความสามารถนำความรู้กลับมาพัฒนาองค์กร

การเงิน : ตั้งใจเด็ดเดี่ยวว่าจะเก็บเงินซื้อบ้านหรือรถ ได้อยู่แล้ว

ความรัก : ครอบครัววุ่นวาย อาจมีญาติผู้ใหญ่เจ็บป่วย ช่วงนี้อะไรลืมได้ก็ลืมไปก่อน อย่าขุดคุ้ย เพราะจะทำให้ไม่สบายใจกันเข้าไปอีก คนโสด อาจรับแรงกดดันจากผู้ใหญ่ หรือเพื่อนๆ ที่อยากเห็นท่านมีคู่เสียที เป็นที่ท่านเองหรือเปล่าที่เลือกมากไป ลองคิดดู

สุขภาพ : ออฟฟิศซินโดรมมาครบ แถมนิ้วล็อค กับปวดตาด้วย

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : ช่วงนี้เกเรงานบ่อย เพราะเหนื่อยสะสม จึงอยากพักผ่อน ถึงเวลากลับมาตั้งใจทำงานเหมือนเดิม เพราะงานคือเงิน คือความสุขของตัวท่านเอง

การเงิน : ปฏิเสธคนไม่เป็น ใครมาขอก็ให้ แต่ก็ให้อย่างสมควร เพราะท่านก็มีครอบครัวต้องดูแล

ความรัก : ค่อนข้างขัดแย้งกันบ่อย โต้แย้งกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง ควรมองข้ามไปบ้างจึงจะอยู่กันได้ คนโสด ชาวเสาร์ดวงแข็งหาคู่ยาก ที่ดีจะไม่ได้ ที่ได้ก็จะไม่ดี อย่าเพิ่งรับรักใครนะ ดวงอกหักรออยู่

สุบภาพ : อืดท้อง แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย

keyboard_arrow_up