บีบีดีโอ กรุงเทพ + Steps with Theera ชวนผู้ประกอบการร่วมผลิตสินค้าคอลเล็คชั่นพิเศษ ภายใต้แบรนด์ 1 IN 68 แบรนด์สินค้าที่เปลี่ยนอัตราการเกิดของผู้มีภาวะออทิสซึม ให้เป็นอัตราส่วนใหม่ในการผลิตสินค้า

แม้จะเป็นเรื่องน่ายินดีที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราการว่างงานต่ำติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก จากสถิติล่าสุดในเดือน ก.พ. 2559 ประเทศไทยมีอัตราว่างงานเพียงแค่ 0.94 แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ ในประเทศที่มีอัตราการว่างงานต่ำที่สุดนั้น กลับมีคนที่มีภาวะออทิสซึม ว่างงานกว่า 90 %

ในขณะที่อัตราการเกิดของผู้ที่มีภาวะออทิสซึม เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ข้อมูลจาก CDC (Centers for Disease Control and Prevention) พบว่าจากอัตราการเกิดโดยเฉลี่ยทุก ๆ 68 คน จะมี 1 คนที่ตรวจพบภาวะออทิสซึม ซึ่งแม้ปัจจุบันจะยังไม่มีการรักษาอาการดังกล่าวให้หายขาด แต่หากได้รับการบำบัดอย่างถูกวิธี ตั้งแต่วัยเยาว์ พวกเขาก็จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถทำงานและใช้ชีวิตอิสระได้อย่างคนทั่วไป

ล่าสุด BBDO BANGKOK บริษัทเครือข่ายของ BBDO Worldwide บริษัทโฆษณาชั้นนำระดับโลก ร่วมกับ Steps with Theera ศูนย์ฝึกอาชีพผู้มีภาวะออทิสซึม ที่มีจุดมุ่งหมายให้ผู้เรียนสามารถประกอบอาชีพ และพึ่งพาตัวเองในชีวิตประจำวันได้ เพื่อรับมือเรื่องการว่างงานอย่างตรงจุด สร้างสรรค์โครงการผลิตสินค้าระยะยาวที่เปลี่ยนอัตราการเกิดของผู้มีภาวะออทิสซึม ให้เป็นอัตราส่วนใหม่ในการผลิตสินค้า ภายใต้แบรนด์ “1 IN 68” พร้อมเชิญชวนกลุ่มผู้ผลิตทั้งรายเล็ก รายใหญ่ ร่วมโครงการผลิตสินค้าคอลเล็คชั่นพิเศษ โดยมีข้อจำกัดเดียวกัน คือ ในผู้ผลิต 68 คน ขอให้ผู้มีภาวะออทิสซึม 1 คนเป็นผู้ร่วมผลิตสินค้าดังกล่าว

           สุทธิศักดิ์ สุจริตตานนท์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสร้างสรรค์บริษัท บีบีดีโอ กรุงเทพ จำกัด กล่าวจุดเริ่มต้นในการสร้างแบรนด์ “1 IN 68” ร่วมกับ Steps with Theera โรงเรียนสอนทักษะชีวิตให้กับผู้มีภาวะออทิสซึม ที่มีจุดมุ่งหมายในการให้ผู้ที่มีภาวะออทิสซึม สามารถประกอบอาชีพ และใช้ชีวิตโดยไม่ต้องเป็นภาระกับครอบครัว ด้วยตระหนักถึงการมอบโอกาสให้กับผู้มีภาวะออทิสซึม ได้ดำรงชีพอย่างเท่าเทียมกันกับผู้คนในสังคม บีบีดีโอ กรุงเทพ จึงร่วมกับ โรงเรียนสอนทักษะชีวิต Steps with Theera โดยได้เปิดตัวโรงเรียนพร้อมกับแบรนด์สินค้า 1 IN 68 โดยนำอัตราการเกิดของผู้มีภาวะออทิสซึม คือ 1 ใน 68 คน มาเป็นอัตราส่วนในการจ้างงานเพื่อผลิตสินค้า ซึ่งโครงการนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากแบรนด์สินค้าชั้นนำในเมืองไทย อาทิ  Roots , Café de Tu, Greyhound, นันยาง และ If I were a carpenter ที่มาร่วมผลิตสินค้า 1 IN 68 โดยมีนักเรียนจาก Steps with Theera ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการผลิตสินค้า เพื่อแสดงให้เห็นว่าถ้าพวกเขาได้รับการฝึกฝนอย่างถูกต้อง รวมทั้งเปลี่ยนมุมมองของคนทั่วไป พวกเขาสามารถทำงานบางอย่างเหมือนคนทั่วไปได้เช่นกัน และคาดหวังว่า ในอนาคตจะมีผู้ประกอบการเลือกจ้างผู้มีภาวะออทิสซึม มากขึ้น ในอัตราส่วน 1 ใน 68 คนเช่นกัน

ร่วมสนับสนุนสินค้าภายใต้แบรนด์ 1 IN 68 ตามร้านที่ร่วมโครงการ และThe Commons ทองหล่อ ผู้ประกอบการที่สนใจร่วมโครงการผลิตสินค้า 1 IN 68 สามารถเช้าชมข้อมูลได้ที่www.stepswiththeera.com www.facebook.com/stepswiththeera

สลัดลุคแก่นเซี้ยวซ่า “ณิชา ณัฏฐณิชา” สวยสายดาร์กจิกตาแตก!

นางเอกสาวสวยหน้าหวาน “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” ที่เคยทำให้หลายคนหลงรัก
ในบท “ศรีจิตรา” จากละครเรื่อง “สะใภ้จ้าว” ก่อนจะสลัดลุคเรียบร้อย มาแก่นซ่าสุดเฮี้ยวในบท “นาง” จากละครเรื่อง “นางอาย”

โดยเจ้าตัวบอกว่า เป็นครั้งแรกที่ได้รับบทที่วัยใกล้ตัวเองมากที่สุด คือ สาวมัธยมวัย 17 ปี เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะได้รับบทที่โตกว่าตัวเองมาตลอด แต่ในเรื่องนี้บทกลับยากและท้าทายพอสมควร ซึ่งในเรื่องนี้ “ณิชา” รับบทเป็น “นาง” ลูกสาวคนเดียวของที่บ้านแต่ด้วยความที่ค่อนข้างแสบ จึงถูกพ่อกับแม่จับส่งไปอยู่โรงเรียนคอนแวนต์หญิงล้วนที่ปีนัง

คือจริงๆ ดูแล้วเหมือนตัวละครตัวนี้มันจะไม่มีอะไรนะคะ แต่ณิชาว่ามันยากและท้าทายพอสมควร เพราะด้วยความพัฒนาของตัวละคร ซึ่งมันมีความพัฒนาไปตลอด ตั้งแต่เป็นเด็กนักเรียน จนไปถึงตอนโตเป็นผู้ใหญ่ ไปถึงตอนแต่งงานเลยทีเดียวค่ะ รวมถึงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครมันก็จะโตขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาของตัวละครตอนเด็กก็อาจจะไม่ค่อยมีเรื่องใหญ่โตซักเท่าไหร่ แต่เมื่อไหร่ที่ถ่ายในตอนที่เราโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เราก็ต้องปรับบุคลิกการพูดจา และต้องสลัดคราบนักเรียนออก เล่นให้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ซึ่งบางครั้งก็มีสับสนบ้าง พี่เหมี่ยว (ปวันรัตน์ นาคสุริยะ) ก็จะคอยบอกคอยสอน และอธิบายให้เราได้เข้าใจมากขึ้น รวมถึงบางครั้งที่เป็นซีนดราม่า ที่ต้องร้องไห้หนักๆ พี่จ๋า (ยศสินี ณ นคร) ก็จะเข้ามาคอยช่วยบิ้วท์อารมณ์ให้เราด้วย ซึ่งมันก็ทำให้เราเล่นออกมาได้ง่ายขึ้น หนูดีใจและตื่นเต้นมากค่ะกับละคร ยังไงก็ฝากละคร นางอาย ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ หนูตั้งใจกับละครเรื่องนี้มากจริงๆ ค่ะ รับรองว่าทุกคนดูแล้วต้องยิ้ม และมีความสุขไปกับละครเรื่องนี้แน่นอนค่ะ”

ณิชา ณัฏฐณิชา
แก่นซ่าสุดเฮี้ยวในบท “นาง” จากละครเรื่อง “นางอาย”

ล่าสุด มีความเล่นหน้าเล่นตาทะเล้น หลายแอคชั่น จนมีสติ๊กเกอร์ไลน์ “นาง” ออกมาให้โหลดแล้วอ่ะคิดดู๊วววจน ณ จุดๆ นี้ หลายคนอาจติดตากับภาพลักษณ์ เด็กเปียสองข้าง เก่งเรื่องทำหน้าเป็น

แต่วันนี้ “แพรว” พาสาว “ณิชา” ลองไปแปรงร่างสลัดลุคปลุกความเป็นซูเปอร์โมเดลกันดูบ้าง เห็นใบหน้าละอ่อนแบบนี้ แต่ก็สวยสายดาร์กจิกตาแตกได้นะเออ!!

บอกลาความแบ้ว ความแสนซน มาสวยปล้นใจในลุคดาร์กๆ

ณิชา ณัฏฐณิชา

ณิชา ณัฏฐณิชา

n5

n3

n6

n7

ภาพ : นิตยสารแพรว ฉบับที่ 890

เอาซี่… มีความจิกกล้อง เลนส์แทบทะลุ!

เรื่อง : Red Apple_แพรวดอทคอม
ภาพ : นิตยสารแพรว ฉบับที่ 890

ชะนีแม่สีตัวจริง! “ไคลี เจนเนอร์” อวดผมสีใหม่ สวยเซ็กซี่ขยี้สิบแรงมือ!

นอกจากเรื่อง “ปากม๊วฟบวมเจ่อ” จนกลายเป็นเทรนด์ฮิตทั่วโลก สาว ไคลี เจนเนอร์ ทีนควีนวัย 19 ปี ยังเป็นผู้นำเทรนด์ “สีผม” เพราะจะหาใครในปฐพีนี้ที่ เปลี่ยนสีผมบ่อยเท่านางมิมีอีกแล้ว!

เรียกว่าเล่นมาแล้วเกือบทุกสี แต่เธอก็ยัง ผสมสีใหม่ ไปต่อได้อีกเรื่อยๆ จน “แพรว” ต้องหยิบ HairStyles ของเซเลบริตี้สาวแซ่บ แสบสุดแห่งบ้านคาร์ดาเชียนคนนี้มาให้ดูกัน ซึ่งที่ผ่านมา สาว ไคลี เจนเนอร์ ก็จัดสีสันตระการตามาให้ดูชมไปมากโข อาทิ สีส้มแปร๋น, สีน้ำเงินดั่งภูตสาว, สีฟ้าพาสเทล, สีชมพูดั่งตุ๊กตาบาร์บี้ ไปจนถึง ผมสีเขียวดั่งชะอม!

เฉพาะเมื่อปีที่แล้ว ก็สร้างความสะเทือนเลือนลั่นในงานเปิดตัวร้าน Sugar Factory ที่นิวยอร์ก
ด้วยการอวด “ผมสีเขียวมิ้นท์” ยาวดุจนางเหงือกเพิ่งขึ้นมาจากทะเลสาป ถามว่า she เอาอยู่มั้ย?
ตอบเลยว่า ถ้าจะมีชะนีนางใดที่สีผมฆ่าไม่ตาย ก็ต้อง ชะนีแม่สี” คนนี้แหละเธ๊อออ!!

ล่าสุด วันนี้ (7 ต.ค.) เปลี่ยนสีผมอีกแล้วจ้า หลังจากเมื่อ 4 วันก่อนเพิ่งจะเปลี่ยนสีผมมาหมาดๆ เรียกว่าเปลี่ยนสไตล์สีผมไวปาน 4G เสียอีกนะคะคุณขา
เพราะจาก สะบัดบ๊อบสั้นสีบลอนด์ เผลอแป๊ปๆ กลายเป็นผมยาวเฟื้อยกลางหลัง เดี๋ยวก็หดสั้นเหลือประบ่า จากนั้นกลับมายาวอีกรอบ ส่วนเรื่องเฉดสีนั้นก็ ไต่ระดับความบลอนด์ทอง ไปจนบลอนด์หม่นเทา ก่อนจะเปลี่ยนเป็นลุค ดุจนางพญาผมขาว และเมื่ออิฉันละสายตาไปไม่นาน วันนี้เธอกลับมาสั่นวงการแม่สีด้วย “ผมสีโรสโกลด์” สวยเซ็กซี่ขยี้สิบแรงมือ!

เรามาเริ่มไล่จากสีผมล่าสุดของเธอ สีโรสโกลด์ ไปถึงสีผมสุดท้าย
จนจบภารกิจล่านี้ อิฉันนับได้ประมาณ 16 เฉดสี! แล้วคุณล่ะ ลองนับดูเล่นๆ ได้กี่สีกันเอ่ย?

ไคลี เจนเนอร์

09

11

ไคลี เจนเนอร์

14

13

07

06

05

ไสตล์ทรงผมของไคลี เจนเนอร์


มาดูแบบไล่เฉดสี ในกลุ่มสีเดียวกันบ้าง เริ่มจากสีเขียว… จะไปจบที่สีอะไรหนอ?

ไคลี ชะนีแม่สี

สีผมของไคลี

k11

222

ผมสีรุ้ง

อย่าไปเลือกเลยว่าจะทำสีไหนดี เอา “สีรุ้งพาสเทล” ไปเลยล๊าวกัน
เพราะนางคือ ชะนีแม่สีตัวจริง!

เรื่อง : Red Apple_แพรวดอทคอม
ภาพ : IG@kyliejenner

“พล-อลิสา อินทเสนี” คู่รักนักการเงิน เปิดบัญชีเผยเรื่องราว ชีวิตรุ่งเพราะมีตัวช่วยดูดทรัพย์ รับโชค!

คู่รักนักการเงิน “พล – อลิสา อินทเสนี “ เปิดบ้านโมเดิร์นสุดคลาสสิกเรียบหรู มาพร้อม น้องเกรซ ลูกสาววัย 2 ขวบ และอีกหนึ่งคนในครรภ์ เผยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่มีเรื่อง ฮวงจุ้ยดูดทรัพย์ ซึ่งเปรียบเสมือนกุญแจไขไปสู่ความสำเร็จในชีวิต

เปิดตำราฮวงจุ้ยดูดทรัพย์สไตล์นักการงาน ด้วยคู่รัก พอล-พล อินทเสนี ผู้ก่อตั้งและบริหาร Private Banking ที่สิงคโปร์ บริหารจัดการเงินให้ลูกค้าต่างๆ รวมถึง 15 ตระกูลใหญ่ในเมืองไทย อีกทั้งเป็นบริษัทคนไทยรายแรกที่เซ็นสัญญากับยักษ์ใหญ่ จัดตั้งกองทุน อสังหาริมทรัพย์ในประเทศเยอรมนี ส่วนคุณเอมี่-อลิสา อินทเสนี ฝ่ายภรรยาเป็นเจ้าของเวชสำอาง Aliz Paulin ที่มียอดขายในไทยและประเทศเพื่อนบ้านหลักร้อยล้าน และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการก่อตั้งบริษัทการเงินที่สามีดูแลอันเป็นที่มาของการพบกันระหว่างทั้งคู่

คู่รักนักการเงินชีวิตการงานและการใช้ชีวิตที่ประสบความสำเร็จเช่นนี้ นอกจากความคิด ความตั้งใจและพยายามของทั้งคู่แล้ว การมีเรื่อง ฮวงจุ้ย เข้ามาส่งเสริมก็เป็นสิ่งสำคัญและช่วยเสริมพลังในการชีวิตเช่นกัน ไม่เว้นแม้แต่ พลังของหินนำโชค ที่ไม่ได้ช่วยแค่เรื่องดูดทรัพย์เข้าบ้านเท่านั้น วันนี้แพรวจึงไปนั่งพูดคุยของคู่รักนักการเงินกันถึงที่บ้านของทั้งสองเสียหน่อย

คู่รักนักการเงิน
แชนเดอเลียร์คริสตัลสั่งทำพิเศษเพื่อห้องโถงบ้านโดยเฉพาะ

เรียบหรูด้วยเอิร์ธโทน คุณเอมี่และคุณพอลพบกับเราในเช้าที่อากาศกำลังสบาย แดดไม่ร้อนจนเกินไป พร้อมกับเชิญเราสู่โถงกลางที่มีแชนเดอเลียร์คริสตัล แวววาววิ้งวั้งจากอียิปต์ แหล่งผลิตคริสตัลซึ่งได้ชื่อว่ามีคุณภาพดีและให้แสงสวยที่สุดในโลก ด้วยดีไซน์สั่งทำพิเศษถูกหลักฮวงจุ้ย

“ตอนแรกอินทีเรียร์ดีไซน์แชนเดอเลียร์ให้มีรูปทรงคล้ายสายน้ำ แต่ความที่เราเชื่อฮวงจุ้ย น้ำอยู่เหนือหัวไม่ดี เหมือนเราอยู่ใต้น้ำ ซึ่งเชื่อกันว่าทำให้คุมการเงินลำบาก จึงเปลี่ยนดีไซน์ใหม่เป็นแบบนี้แทน แต่ถ้าทำห้างสรรพสินค้าหรือกาสิโน การออกแบบให้เหมือนมีน้ำอยู่เหนือหัวนั้นดี เพราะต้องการให้คนช็อปปิ้งจับจ่ายใช้สอย” คุณเอมี่เริ่มเรื่องฮวงจุ้ยแบบเบาๆ พอเป็นพิธี ก่อนถูกเราถาม

“ค่อนข้างเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยสิคะ” เธอยิ้มๆ ก่อนเปรยว่า “เอมี่เคยศึกษาเรื่องพลังของหินและฮวงจุ้ยบ้าง ซึ่งมองว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร แต่เอมี่เป็นสาวโมเดิร์นนะ” เธอหัวเราะน้อยๆ

คู่รักนักการเงิน
แชนเดอเลียร์ห้องอาหารสั่งทำไซส์พิเศษ พร้อมกับปรับเปลี่ยนดีไซน์จากที่ดูคล้ายสายน้ำมาเป็นอย่างที่เห็น เพื่อให้ถูกหลักฮวงจุ้ยบ้าน

คุณพอลซึ่งนั่งข้างๆ จึงเสริมว่า “เวลาพวกเราเดินทางไปทำงานต่างประเทศจะรู้ว่าอภิมหาเศรษฐีหรือคนมีเงินเยอะๆ อย่างที่สิงคโปร์ ฮ่องกง เขาเชื่อเรื่องฮวงจุ้ย และพลังงานของหินมาก พวกเขาเชื่อว่า การสะสมพลังธรรมชาติเป็นการสะสมความมั่งคั่ง ถ้าไปกาสิโนที่มาเก๊าจะรู้เลยว่า ที่นั่นเป็นเรื่องฮวงจุ้ยล้วนๆ ตั้งแต่เริ่มออกแบบก่อสร้าง” พร้อมกับส่งยิ้มให้คนนั่งข้างๆ

คุณเอมี่จึงเล่าต่อว่า “เราสองคนชอบตกแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์นคลาสสิกเรียบหรูไม่ค่อยมีดีเทลมาก โทนสีของบ้านจึงออกแนวเอิร์ธโทน นอกจากช่วยให้บ้านดูอบอุ่น แล้วยังเป็นโทนสีส่งเสริมธาตุของเราทั้งคู่ด้วย เพราะก่อนแต่งบ้านเราดูฮวงจุ้ยและดูดวงก่อนแล้ว ถึงรู้ว่าสีขาว สีเงิน สีทอง ในทางฮวงจุ้ยถือเป็นธาตุโลหะส่งเสริมเราทั้งคู่

คู่รักนักการเงิน
ส่วนเอนเตอร์เทนเม้นท์ของบ้าน เน้นโทนขาวและเงิน นอกจากให้ความหรูหราแล้ว ยังเสริมธาตุและเสริมฮวงจุ้ยให้บ้าน

จะสังเกตว่า ห้างสรรพสินค้าต่างๆ ที่ต้องการความลักชัวรี่และโชคลาภมักตกแต่งด้วยสีขาว สีทอง โดยส่วนตัวเอมี่ไม่อยากแต่งบ้านแนวฮวงจุ้ยจ๋าจนหลุดความเป็นบ้าน เพราะฉะนั้นเราขอมู้ดแอนด์โทนประมาณนี้ อาจเพิ่มกิมมิกบางห้องด้วยของตกแต่งเสริมและบาลานซ์ทุกอย่างโดยใช้สีช่วย ซึ่งแต่ละบ้านจะเสริมธาตุไม่เหมือนกัน บางบ้านอาจต้องเสริมธาตุไม้ บางบ้านอาจเสริมธาตุน้ำ ขึ้นอยู่กับดวงคนและดวงบ้าน

หลักการฮวงจุ้ยคือ ทิศทางและธาตุที่หมุนวนเปลี่ยนไปช่วยลดทอนสิ่งร้ายๆ คำว่า ‘ทิศ’ ของฮวงจุ้ยบ่งบอกทิศบ้านและทิศเจ้าของบ้านว่าเป็นอย่างไร ตกตำแหน่งไหน คนตระกูลใหญ่ๆ หรือคนทำการค้ามักดูฮวงจุ้ยหมด เหมือนการดูทิศทางลม หรือเพื่อกระตุ้นทิศนำโชค เป็นเรื่องของสนามแม่เหล็กที่เคลื่อนไปแต่ละปี ทำให้มีพลังบางอย่างหมุนเข้ามา จึงมีการเรียกศาสตร์ฮวงจุ้ยว่า ‘วิชาเฮง’ บางคนเก่งแต่ไม่เฮง บางทีคนเก่งสู้คนเฮงไม่ได้ ลิขิตคน ลิขิตบ้าน ลิขิตฟ้า ประกอบกันหลายอย่าง ถ้าเราดีอยู่แล้ว อยู่ในชัยภูมิที่ดี บ้านที่ดี ถูกทิศกับเรา ชีวิตก็ยิ่งดี อย่างที่บ้านเราจะมีอาจารย์ฮวงจุ้ยมาให้คำแนะนำทุกปี ว่าควรเสริมอะไร ตรงไหน อย่างไร สีสันแบบไหน อันนี้แล้วแต่ความเชื่อ”

ใช้ ‘พลังหิน’ ดูดทรัพย์ รับโชค คุณเอมี่ยังได้อธิบายด้วยว่า มีหินชนิด ช่วยเสริมในด้านอะไร

“ของสะสมของเอมี่คือหิน ได้มาจากหลายแหล่งซึ่งเชื่อถือได้อย่าง ตอนไปเมืองท่องเที่ยวของอังกฤษ Bourton on the Water เราเดินเข้าร้านหินอยู่หลายชั่วโมงเลย ขนหินกันออกมา (หัวเราะ) เป็นหินไพไรต์ เกาะตัวเป็นโลหะ ก้อนใหญ่ขนาดนี้หายากมาก ถ้าตั้งสมาธิดีๆ ใช้ฝ่ามือผ่านใกล้พื้นผิวหินจะเหมือนมีพลังงานบางอย่างที่สัมผัสได้ หินชนิดนี้ถูกน้ำไม่ได้ เพราะเป็นหินกลุ่มเหล็กช่วยดูดทรัพย์ แต่หินบางชนิด ต้องล้างน้ำทุกหนึ่งเดือนเพื่อสะสมพลังงานดีๆ

คู่รักนักการเงิน
(ภาพซ้าย) หน้าตาหินมาลาไคต์คล้ายมีกำมะหยี่ สีเขียวห่อหุ้ม นิยมวางบนตู้เซฟ เพื่อเรียกเงิน ดูดทรัพย์ เป็นก้อนที่เธอปลื้มมาก / (ขวาบน)หินไพไรต์ มีความมันวาวคล้ายโลหะช่วยดูดทรัพย์เช่นกัน/ (ขวาล่าง) เมื่อมองลวดลายหินก้อนนี้แล้ว ดูคล้ายผู้หญิงนั่งในถ้ำ มีไก่ยืนตรงหน้า จึงเป็นหิน ที่คุณเอมี่ชอบเป็นพิเศษ

“สังเกตว่าคนไหว้พระที่เชื่อเรื่องพลังของหินมักมีสร้อยลูกประคำติดตัว เพราะเชื่อว่าหินเป็นสื่อชนิดหนึ่ง บางชนิดช่วยให้นั่งสมาธิได้ดี หรือหินกลุ่มเฮมาไทต์ช่วยบำรุงเลือด เหมาะสำหรับคนเป็นโรคโลหิตจาง หรือเลือดน้อย หรือถ้าเป็นหินมีแร่ธาตุแคลไซต์และฟลูออไรต์รวมกัน จะช่วยเรื่องสุขภาพ ส่วน ‘หยก’ เป็นหินมีความเย็นสูง ใส่แล้วช่วยดูดความร้อน ทำให้สุขภาพดี ผู้หลักผู้ใหญ่เชื่อว่าช่วยป้องกันภัยและอันตราย ส่วนคนทำธุรกิจชอบสะสม ‘มาลาไคต์’ เป็นหินสีเขียว ดึงดูดโชคดีและเงินทอง ถ้าเราเน้นเรื่องฮวงจุ้ย ก็นำหินเหล่านี้มาวางโชว์ พลังหินจะทำงานของเขาเอง”

จึงไม่น่าแปลกใจที่เรามักเห็นหินรูปทรงสีสันต่างๆ ตั้งอยู่ตามมุมบ้าน นัยว่าเพื่อเสริมพลังและดูดทรัพย์ รับโชคนั่นเอง

 

ที่มา : นิตยสารแพรว ปักษ์ 890 วันที่ 10 ตุลาคม 2559 เรื่อง ๙ ลมหายใจ
ภาพ: โยธา รัตนเจริญโชค, เนาวพจน์ โพธิเกษม

ไอเท็มเด็ดจาก Chanel กระเป๋าใบจิ๋วสุดเลิฟสำหรับใส่โทรศัพท์ของสาวๆโดยเฉพาะ

พักหลังมานี้จะเห็นได้ชัดว่าแบรนด์ดังอย่าง Chanel เริ่มจะปล่อยคอลเล็คชั่นกระเป๋าไซส์มินิมาตีตลาดอยู่บ่อยๆ ล่าสุดก็มีไอเท็มตัวใหม่อย่าง Chanel Tweed Phone Holders มินิแบ็กสำหรับใส่โทรศัพท์มือถือที่ตอนนี้กลายเป็นไอเท็มสุดฮิตของสาวๆเป็นที่เรียบร้อย

1

Chanel Tweed Phone Holders เป็นไอเท็มเด็ดประจำคอลเล็คชั่น Fall/Winter 2016 เมื่อ Chanel ตั้งใจออกแบบให้มีกระเป๋าใบเล็กแบบพกพาง่ายสำหรับใส่โทรศัพท์มือถือ แต่สาวๆจะเอามาใส่อย่างอื่นก็ได้นะ สามารถสะพายไปเที่ยวไหนก็ได้ เพราะที่ผ่านมาต่อให้เป็นกระเป๋ารุ่นที่เล็กที่สุดของ Chanel ก็ยังมีความเข้าถึงยากต่อการใช้งาน ด้วยรูปลักษณ์ที่อาจจะดูหรูหราเกินไป ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้บ่อยๆ แต่มินิแบ็กใบนี้มีขนาดแค่ 8.1 x 5.3 x 2.2 นิ้ว มาพร้อมสายยาวที่สามารถสะพายข้างได้ ถึงแม้รูปทรงจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมโค้งมนธรรมดา แต่เพิ่มความโดดเด่นด้วยผ้าทวีดที่ใช้ห่อหุ้มกระเป๋า ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของ Chanel เลยแหละ

ทำให้กระเป๋าใบนี้กลายเป็นไอเท็มที่สามารถใช้งานง่าย เข้ากับทุกสถานการณ์ แม้ในวันสบายๆ หรือต้องออกงานก็สามารถใช้ใบนี้ได้ มีหลายสีหลายรูปแบบให้เลือก บอกไว้ก่อนเลยนะว่าถึงแม้กระเป๋าใบเล็กลง แต่บอกไว้ก่อนนะจ๊ะ ราคาก็ไม่ได้ลดลงตามเลย ถ้าใครชอบและเงินถึงก็จัดเลย!

3

2
Phone Holder Tweed & Light Gold Metal and Silver ราคา 69,000 บาท

 

Phone Holder Tweed & Gold Metal Fuchsia ราคา 81,500
Phone Holder Tweed & Gold Metal Fuchsia ราคา 81,500 บาท

 

Phone Holder Tweed & Light Gold Metal Pink and Black ราคา 81,500
Phone Holder Tweed & Light Gold Metal Pink and Black ราคา 81,500 บาท
Tablet Holder Tweed & Light Gold Metal Black ราคา 96,000 บาท
Tablet Holder Tweed & Light Gold Metal Black ราคา 96,000 บาท

เรื่อง : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : www.chanel.com

เป็นตายไม่ทิ้งกัน! พี่น้องหัวใจแกร่ง เราจะสู้ มะเร็ง ไปด้วยกัน

เชื่อว่าคนส่วนใหญ่น่าจะเคยได้ยิน ได้ฟัง หรือได้อ่านประสบการณ์การต่อสู้กับโรคร้ายโน่นนี่นั่นไหนมาบ้างไม่มากก็น้อย และท่ามกลางการต่อสู้นั้น เราเชื่ออีกเช่นกันว่าคุณจะได้พบกับคำๆ หนึ่งที่เปรียบเสมือนพรวิเศษ ปัดเป่าโรคร้ายที่น่ากลัวต่างๆให้หมดสิ้นไป คำๆ นั้นก็คือ ‘กำลังใจ’

ลิสต์นี้เราเลยมีเรื่องราวความรักของพี่น้อง 2 คู่  เป็นพี่น้องที่ในยามปกติอาจรัก  หรืองอน และมีเป้าหมายในชีวิตที่แตกต่างกัน แต่เมื่อวันหนึ่งโชคชะตาส่งสาส์นท้าทายที่ชื่อว่า มะเร็ง  มาตรงหน้า สิ่งที่พวกเธอเลือกทำคือ ยิ้มรับและจับมือสู้ไปด้วยกัน

มะเร็งหนึ่งในล้าน  อีกก้าวที่ต้องสู้ของเบลล์-บีม

f04

หลังจากผ่านมรสุมชีวิตลูกใหญ่  ทั้งการสูญเสียคุณพ่อดี๋  ดอกมะดัน   อดีตตลกชื่อดังของเมืองไทย และเป็นหนี้นับสิบล้านไปไม่กี่ปี  แต่เหมือนชีวิตของสองพี่น้อง บีม-วรานิษฐ์ และเบลล์- ชยานิษฐ์ ยังต้องเจอกับบททดสอบอีกหลายด่าน  และ ‘มะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน’ ที่ทางการแพทย์บอกว่ามีโอกาสเกิดขึ้นแค่หนึ่งในล้านคนของเอเชียเท่านั้น ก็เป็นบททดสอบอีกเรื่อง

เรื่องเริ่มต้นตั้งแต่สมัยเบลล์เรียนประถม เธอสังเกตว่าตัวเองมีแผลฟกช้ำสีม่วง ขนาดประมาณหนึ่งข้อนิ้วก้อยตรงต้นแขนด้านซ้าย  ลักษณะแผลค่อนข้างแปลก  มีเส้นเลือดฝอยอยู่ในแผลด้วย  ทุกครั้งที่ไปหาหมอผิวหนัง  มักได้รับคำตอบว่า  น่าจะเป็นความผิดปกติของเซลล์คล้ายกับปานจึงไม่คิดอะไร  พอโตขึ้นแผลที่ว่ายังคงอยู่  เวลาใครเห็นมักจะถามว่า เป็นแผลอะไร  เธอก็ได้แต่บอกว่าไม่รู้  เนื่องจากไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆ

เบลล์ใช้ชีวิตที่มีแผลฟกช้ำอย่างนั้นจนเรียนจบและทำงาน  กระทั่งสี่ปีที่แล้วเธอสังเกตว่าแผลมีขนาดใหญ่ขึ้น  จากหนึ่งข้อ นิ้วก้อยกลายเป็นใหญ่เท่าข้อนิ้วโป้ง  แม้จะไม่รู้สึกเจ็บปวด  แต่รู้สึกคาใจว่าผิดปกติหรือเปล่า  จึงนัดหมอผิวหนังที่รู้จักกันช่วยตรวจให้  หมอบอกว่าดูด้วยตาเปล่าไม่ได้  ต้องสะกิดเนื้อเยื่อไปตรวจในแล็บ  “ตอนที่หมอเดินมาบอกผลตรวจ  หน้าดูกังวลมาก  จนเบลล์รู้สึกว่าต้องมีอะไรผิดปกติแน่นอน  เขาใช้คำว่าเนื้อเยื่อชิ้นนี้เป็นเนื้อดุ เกินความสามารถที่เขาจะรักษาได้  ต้องส่งเคสของเบลล์ไปให้หมออีกท่านตรวจ”

มะเร็งผลที่ออกมาทำเอาเธอแทบช็อคด้วยไม่ทันเตรียมใจไว้จริงๆ “คุณหมอบอกว่ามะเร็งที่เบลล์เป็นมีชื่อเรียกทางการแพทย์ว่า  มะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน  ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นแค่หนึ่งในล้านคนของเอเชีย  มะเร็งตัวนี้ร้ายมาก เพราะจะกินเนื้อดีของเราไปเรื่อยๆ  และแม้แผลจะเท่านิ้วโป้ง  แต่มีรากที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น  หรือสแกนดูก็เห็นได้ไม่หมด  เพราะฉะนั้นเวลาผ่าจะต้องผ่าลึกลงไปเป็นสิบเท่าของแผลโดยไม่เย็บแผลปิด  ต้องเปิดไว้เพื่อคอยสะกิดตรงริมแผลดูว่า  ยังมีเนื้อร้ายอีกหรือไม่  ปัญหาคือเนื้อบริเวณแขนมีไม่มาก  เมื่อคว้านออกไปก็ต้องใช้เนื้อที่ต้นขามาโปะแทน  ซึ่งเบลล์ฟังแล้วก็รู้สึกกลัวและกังวลมาก”

เธอตัดสินใจบอกข่าวร้ายให้แม่กับพี่สาวทราบ “ตอนที่ได้ยินว่าน้องเป็นมะเร็ง บีมตกใจมาก  เพราะได้ชื่อว่าเป็นโรคร้าย แล้วเราก็ไม่รู้จักโรคที่ว่านี้เลยด้วย แต่ก็ยังพอใจชื้นขึ้นเมื่อคุณหมอบอกว่ามะเร็งชนิดนี้จะไม่ลุกลามไปที่อื่น”

ห้วงเวลานั้นแม้คนเป็นพี่จะห่วงน้องมาก  แต่ก็ไม่ถึงกับทุกข์ท้อใจนักเพราะประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านเรื่องราวหนักๆ มาหลายครั้งได้กลายเป็นภูมิคุ้มกันชั้นดีจนเธอไม่ได้คิดว่าเจอปัญหาชีวิตอีกแล้ว แต่กลับว่ามองว่านี่คืออีกหนึ่งบททดสอบว่าครอบครัวเธอ จะเข้มแข็งพอที่จะหาทางผ่านไปได้หรือไม่ “บีมให้กำลังใจน้อง แม่ และตัวเองตลอดว่า เราต้องผ่านมันไปให้ได้  ดังนั้นเบลล์จึงมีกำลังใจดีตลอด”

มะเร็ง

หากนับความรักในครอบครัว การจับมือสู้ไปด้วยกันคือความดี ก็ถึงเวลาที่ความดีนี้ได้รับผลตอบแทนเสียที นั่นคือข่าวที่คุณหมอแจ้งว่าเธอไม่มีเนื้อร้ายอีกแล้ว  และมีเปอร์เซ็นต์เพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่จะกลับมาเป็นอีกครั้ง

“โชคดีที่เบลล์เป็นมะเร็งหลังจากที่บ้านไม่มีภาระเรื่องหนี้สินแล้ว  คนภายนอกบางคนอาจมองว่าบ้านนี้ดราม่า  ทั้งที่จริงแล้วบ้านเบลล์เข้มแข็งมาก  ถ้ามีคนหนึ่งอ่อนแอ  อีกคนจะเข้มแข็งทันที และจะไม่ร้องไห้ให้ใครเห็น  อย่างตอนคุณพ่อป่วย เบลล์ร้องไห้แค่ครั้งเดียวแล้วก็สู้ใหม่  เพราะเศร้าไปก็ไม่ได้อะไร  พอตัวเองเป็นมะเร็งจึงไม่ฟูมฟายนัก  คงเพราะได้ภูมิคุ้มกันจากเรื่องพ่อดี๋และ เรื่องหนี้มาแล้ว  ที่สำคัญเบลล์ไม่เคยคิดว่าทำไมเรื่องร้ายๆ ต้องเกิดกับครอบครัวเราด้วย  แต่กลับรู้สึกขอบคุณทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  เพราะทำให้เราเติบโตมากขึ้น  และช่วยให้ผ่านช่วงเวลาเลวร้ายได้ง่ายกว่าคนอื่น”

อ่านต่อหน้า 2 : เมื่อ 2 พี่น้องศรัทธาทิพย์ผนึกกำลังสู้กับมะเร็ง

My melody x Kloset กระเป๋าสะพายสายแบ๊ว

เปิดรับAutumn/Winter 2016 กันซะหวานเจี๊ยบ ในคอลเล็คชั่นการ์ตูนซานริโอ้ที่ร่วมมือกับแฟชั่นแบรนด์์ชั้นนำของไทยอย่าง Kloset  ‘ My melody x Kloset ‘ ซึ่งเป็นการผุดงานดีไซน์ใหม่ๆ ให้กับกระเป๋า และข้าวของต่างๆ

ในคอลเล็คชั่นนี้ได้ดึงเอาคาแรกเตอร์ของ มายเมโลดี้ (My melody) กับ คลอเส็ท (Kloset) มาผสมผสานกัน จนเป็นชื่อว่า “มายเมโลดี้ เอ๊กซ์ คลอเส็ท” (My melody x Kloset) โดยได้นำคาแรกเตอร์กระต่ายน้อยมายเมโลดี้และผองเพื่อน ที่สะท้อนมิตรภาพและความน่ารัก ผสานกับความหวานเก๋ ของ คลอเส็ท ให้ได้จับจองหลายไอเท็มไม่ว่าจะเป็น แจ็คเก็ต, กระเป๋า, หมอนรองคอ และสมุดโน้ต

"1.กระเป๋า My Melody Kloset Daria ราคา 2,150 บาท"
“1.กระเป๋า My Melody Kloset Daria
ราคา 2,150 บาท”
"3.กระเป๋าสะพาย My Melody Klose Joyce bag ราคา 2,150 บาท"
“3.กระเป๋าสะพาย My Melody Klose Joyce bag
ราคา 2,150 บาท”
"4.กระเป๋า My Melody Kloset Mini Tote ราคา 1,950 บาท "
“4.กระเป๋า My Melody Kloset
Mini Tote
ราคา 1,950 บาท “
"11.กระเป๋า My Melody Kloset Clueless ราคา 2,550 บาท "
“11.กระเป๋า My Melody Kloset Clueless
ราคา 2,550 บาท “
"6.กระเป๋า My Melody Kloset Speedy (S) ราคา 2,150 บาท กระเป๋า My Melody Kloset Speedy (M) ราคา 2,450 บาท "
“6.กระเป๋า My Melody Kloset Speedy (S) ราคา 2,150 บาท
กระเป๋า My Melody Kloset Speedy (M) ราคา 2,450 บาท

สายแบ๊วที่ชออบการ์ตูนซานริโอทั้งหลาย เตรียมตัวไปช้อปกันได้เลย บอกไว้ก่อนว่ารุ่นนี้มีจำนวนจำกัด ใครอยากได้ต้องรีบไปดูแล้วซะแล้ว

 

ภาพ : Central

ส่องแฟชั่นสุดสะพรึง! ของเหล่าคนดังในงาน Paris Fashion Week 2017

จบไปแล้วสำหรับงานแฟชั่นโชว์ระดับโลกอย่าง Paris Fashion Week 2017 เป็นธรรมเนียมของเราที่จะต้องมีการกล่าวถึงแฟชั่นของเหล่าดาราซึ่งถือเป็นการทิ้งทวนของงานนี้

เวทีระดับโลกอย่างงาน Paris Fashion Week 2017 ปีนี้มีเรื่องให้ได้จับตามองและเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์อยู่ตลอด ตั้งแต่เรื่องโชว์บนรันเวย์ของแบรนด์ต่างๆ ที่ฟาดฟันกันสุดฤทธิ์ ด้านข้างเวทีก็ร้อนแรงไม่แพ้กันเพราะเหล่าคนดังที่มาร่วมงานแต่ละคนมีแต่ตัวเด็ดๆ ทั้งนั้น แต่ละคนก็แสดงความเป็นเจ้าแม่แฟชั่นกันด้วยชุดและการแต่งตัวที่สวมใส่มาในงาน แต่บอกเลยงานนี้ใครมาสวยๆ เริ่ดๆ น่ะมันธรรมดาเกินไป ไม่ค่อยเกิด เพราะครั้งนี้เราพุ่งเป้าไปที่แฟชั่นสุดสะพรึงของเหล่าคนดังทั้งหลายที่มาร่วมงาน มีทั้งสวยสะพรึง แซ่บสะพรึง และแปลกจนสะพรึง จะมีใครบ้างนั้นตามไปดูกันเลย

PARIS, FRANCE - SEPTEMBER 29: Kim Kardashian attends the Balmain show as part of the Paris Fashion Week Womenswear Spring/Summer 2017 on September 29, 2016 in Paris, France. (Photo by Pascal Le Segretain/Getty Images)

PARIS, FRANCE - SEPTEMBER 29: Kim Kardashian attends the Balmain show as part of the Paris Fashion Week Womenswear Spring/Summer 2017 on September 29, 2016 in Paris, France. (Photo by Pascal Le Segretain/Getty Images)

Kim Kardashian

เริ่มที่ขุ่นแม่ Kim Kardashian ผู้ครองแชมป์ความแซ่บ! มาหลายสมัย และในงาน Paris Fashion Week  ปีนี้เธอก็เป็นอีกคนหนึ่งถูกกล่าวถึงมากที่สุด! ซึ่งเราได้นำลุคแซ่บสะพรึงของเธอมาพูดถึง 3 ชุด ชุดแรกมาในชุดตาข่ายสุดสยิวที่ข้างในเซฟมาอย่างดี ตากล้องคนไหนก็อย่าหวังว่าจะซูมแล้วได้เห็นของดีของขุ่นแม่นะจ๊ะ

PARIS, FRANCE - OCTOBER 02: Kim Kardashian attends the Givenchy show as part of the Paris Fashion Week Womenswear Spring/Summer 2017 on October 2, 2016 in Paris, France. (Photo by Pascal Le Segretain/Getty Images)

PARIS, FRANCE - OCTOBER 02: Kim Kardashian attends the Givenchy show as part of the Paris Fashion Week Womenswear Spring/Summer 2017 on October 2, 2016 in Paris, France. (Photo by Pascal Le Segretain/Getty Images)

Kim Kardashian 

ถ้าใครไม่เข้าใจแฟชั่นคงจะนึกว่าขุ่นแม่ Kim Kardashian ลุกจากที่นอนแล้วมาดูโชว์เลยใช่ไหม? ก็เล่นใส่เดรสซีทรูกับเสื้อคลุมสีขาวผ้าซาตินแบบนี้นี่มันคือชุดนอนชัดๆ! แต่บอกเลยว่าเนี่ย มันคือเทรนด์แฟชั่นที่กำลังฮิตมากๆ นะขอบอกกก!

5

6

Kim Kardashian

ตอนแรกดูแค่ข้างบนยังไม่เท่าไหร่ก็สวยๆ เผ็ชๆ ตามสไตล์ Kim Kardashian แต่! เมื่อเลื่อนสายตามาดูข้างล่างนั้นก็คงต้องร้องขุ่นพระ! นี่มันคือแฟชั่นอะไรคะขุ่นแม่! เข้าใจว่าขุ่นแม่ชอบโชว์ของดีแต่นี่เหมือนเอาสก็อตเทปมาแปะน้องสวยยังไงยังงั้น แต่โชคดีไปที่ขุ่นแม่เซฟด้วยการใส่กางเกงในไว้แล้ว แต่ก็อดสะพรึงในความแซ่บของขุ่นแม่ไม่ได้จริงๆ

Gold Obsession Party - L'Oreal Paris : Photocall - Paris Fashion Week Womenswear Spring/Summer 2017

Gold Obsession Party - L'Oreal Paris : Photocall - Paris Fashion Week Womenswear Spring/Summer 2017

Nicola Peltz

มาถึงฝั่งนักแสดงสาวอย่าง Nicola Peltz กันบ้าง ชุดนี้ให้กี่คะแนนดี? เชื่อไหมว่าชุดนี้ของเธอหลายสื่อลงความเห็นด้านบวกมากกว่าด้านลบนะจ๊ะ ถึงจะเป็นชุดซีทรูที่ค่อนข้างเปิดเผยม๊ากกกไปหน่อย แต่ด้วยหุ่นของเธอที่แป๊ะนั้นกลับทำให้ลุคนี้หลายเป็นลุคสุดสะพรึงอีกชุดหนุ่งที่น่ามองเลยแหละ

Emporio Armani : Front Row At Studio Marcel Cerdan - Paris Fashion Week Womenswear Spring/Summer 2017

Emporio Armani : Front Row At Studio Marcel Cerdan - Paris Fashion Week Womenswear Spring/Summer 2017

Anna Dello Russo

ส่วนเจ้าแม่แฟชั่นอย่าง Anna Dello Russo เธอก็ไม่พลาดที่จะติดอันดับนี้ไปด้วย แค่เห็นชุดเราก็ยอมเธอแล้วค่ะคุ๊ณณ ต้องใช้ความมั่นใจมากแค่ไหนในการใส่ชุดขนเฟอร์รูปหัวใจนี้มาออกงาน บอกเลยว่าถ้าไม่กล้า ไม่บ้าพอ ใส่ไม่ได้นะจ๊ะ เพราะคนที่ใส่ชุดนี้มีแต่ตัวแม่ทั้งนั้น แม้แต่รีฮันน่ายังเคยใส่มาแล้วเลย

Moncler Gamme Rouge : Front Row - Paris Fashion Week Womenswear Spring/Summer 2017

Moncler Gamme Rouge : Front Row - Paris Fashion Week Womenswear Spring/Summer 2017

Elephant Dee

นักร้องสาว Elephant Dee ก็เป็นอีกคนที่เลือกใส่ชุดขนเฟอร์ฟรุ๊งฟริ๊ง มันก็ดูน่ารักอยู่หรอกนะ แต่ทำไมให้ความรู้สึกว่าชุดนี้มันดูแปลกๆ เพราะตั้งแต่หัวจรดเท้าดูไม่มีความเข้ากันเอาซะเลย ถ้าเป็นคนอื่นใส่อาจไม่รอดแต่ด้วยความตัวเล็กของ Elephant Dee มันเลยทำให้ลุคนี้กลายเป็นอีกลุคหนึ่งที่น่ารักใสใสขึ้นมา

Emporio Armani : Front Row At Studio Marcel Cerdan - Paris Fashion Week Womenswear Spring/Summer 2017

PARIS, FRANCE - OCTOBER 03: Clara Paget attends the Emporio Armani show as part of the Paris Fashion Week Womenswear Spring/Summer 2017 on October 3, 2016 in Paris, France. (Photo by Pascal Le Segretain/Getty Images)

Clara Paget

กลับมาที่ฝั่งฮอลลีวูดต่อกับนักแสดงและนางแบบสาว Clara Paget กับชุดสีเขียวกำมะหยี่ นี่ก็เป็นอีกชุดหนึ่งที่เราว่าค่อนข้างใส่ยากเลยทีเดียวเพราะสีเขียวเนี่ยแทบจะเป็นสีต้องข้ามของนักแฟชั่นมือใหม่เลยนะ นั่นก็เพราะมันใส่ยากแต่สาว Clara Paget เธอเอาอยู่จ้า ใส่ลุคนี้ได้แบบมั่นใจมาก ดูมีความหรูหราและความแพงขึ้นมาทันที

PARIS, FRANCE - OCTOBER 03: Petite Meller attends the Emporio Armani show as part of the Paris Fashion Week Womenswear Spring/Summer 2017 on October 3, 2016 in Paris, France. (Photo by Pascal Le Segretain/Getty Images)

PARIS, FRANCE - OCTOBER 03: Petite Meller attends the Emporio Armani show as part of the Paris Fashion Week Womenswear Spring/Summer 2017 on October 3, 2016 in Paris, France. (Photo by Pascal Le Segretain/Getty Images)

Petite Meller

คนสุดท้ายที่ไม่พูดถึงไม่ได้นั่นก็คือ Petite Meller นักร้องนักแต่งเพลงชาวฝรั่งเศส สาวผิวขาวซีดคนนี้นี่แหละ คือบอกก่อนว่าเธอเป็นศิลปินที่ค่อนข้างสุดโต่งมาก โดยเฉพาะแฟชั่นการแต่งตัวของเธอจะมีความเป็นเอกลักษณ์ ซิกเนเจอร์ของเธอก็คือการปัดแก้มแดงให้เหมือนกับลูกตำลึง แถมด้วยแฟชั่นสุดล้ำอย่างการนำซุ่มมาเป็นพร็อบสวมไว้ข้างบนหัว โถ่ แม่คุ๊ณถ้าจะลำบากถึงขั้นต้องให้คนจูงลงบันไดขนาดนี้เปลี่ยนชุดไหม?

เรื่อง : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : [email protected], celebrityglamcam, theparisanderson

PANTONE สีเสื้อผ้าหน้าหนาว

11 สี PANTONE หนาวนี้ไม่อยากเอ้าท์รีบจัดด่วน

PANTONE สีเสื้อผ้าหน้าหนาว
PANTONE สีเสื้อผ้าหน้าหนาว

งานนี้ลิลี่ขอข้ามสีดำที่ยังไงก็ยืนพื้นมาทุกซีซั่น มาที่เฉดสีไฮไลท์ห้ามกระพริบตาที่จะมาจุดไฟให้การแต่งตัวของสาวดูฮ็อตสวนอุณหภูมิลมหนาว ด้วย 11 สี PANTONE

1. BLUETASTIC

01012013
สตาร์ทที่สีน้ำเงินเนวี่จนถึงน้ำเงินสดโคบอลล์บลูยึดพื้นที่หลักของแฟชั่นฤดูหนาวแต่ใช่ว่าจะทั้งหมด มู้ดสีฟ้าสบายตาที่ทำให้นึกถึงเวลามองผืนน้ำใสของทะเลสาบหรือท้องฟ้าสีสวยในวันฟ้าเปิดก็มาทำให้อารมณ์ของคุณคูลดาวน์ลงไปอีกเสต็ป และเมื่อหยิบโทนสีเหล่านี้มาจับยำรวมกันโททัลลุคในการแต่งตัวสไตล์ Monochromatic คุณจะได้ลุคมาดมั่น ดึงดูดและแยบคาย ชนิดที่อากาศอันหนาวเหน็บไม่อาจฉุดรั้งดีกรีความซี้ดไปได้

2. GREYANOTOMY

04042
ทุกครั้งของการปรากฏของพาเลตต์สีเทา นี่เป็นเวลาทองที่ทำให้เราได้สนุกกับการทดลองหยิบส่วนผสมของเฉดเทาต่างๆ มาจับคู่ จะว่าไปสีเทาเป็นสีที่แต่งง่ายในชีวิตประจำวัน ให้ลุคทางการที่ไม่เคร่งขรึมเกินไปเหมือนสีดำ ฉะนั้นสีเทาจึงขึ้นแท่นเป็นสีในดวงใจของดีไซเนอร์เสมอ
#TIP ความสนุกของการผสมเฉดเทาในการแต่งตัว ไม่หยุดเฉพาะแค่การหยิบโทนสีอ่อนเข้มมาแมทช์ในลุค แต่คือการหยิบเนื้อผ้าที่มีเท็กซ์เจอร์ต่างกันมาครีเอทลุคใหม่ต่างหาก
ในลุคที่ร้อนแรงขึ้น ลองเหยาะเฉดแดงเบอร์กันดีเข้าไปสิแบบลุคของ Marissa Webb หรืออีกขั้ว เติมความสบายตาขึ้นแค่จับคู่กับเฉดฟ้าตามแบบ Michael Kors

3. AURORA RED

06062
เฉดแดงสดปนก่ำนิดๆ ที่ดูไม่ธรรมดาและน่าค้นหากว่าสีแดงเบอร์กันดีหรือสีแดงเด้งอย่างสีแดงสการ์เล็ต จะว่าไปสีแดงเฉดนี้เข้ากับทุกสีผิว ถ้าแต่งแล้วจะทำให้ดูหรูออร่าจับก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

4. BUBBLEGUM PINK

08PARIS, FRANCE - MARCH 08: Models walk the runway during the Chanel show as part of the Paris Fashion Week Womenswear Fall/Winter 2016/2017 on March 8, 2016 in Paris, France. (Photo by Pascal Le Segretain/Getty Images)

มองไปที่รันเวย์แบรนด์หลักไหนจะ Gucci, Chanel, Dior, Dolce&Gabbana สีที่ขาดไม่ได้ไม่น่าเชื่อว่าคือสีชมพูที่ไล่มาตั้งเฉดหวานซอล์ฟละมุนถึงชมพูมาร์เจนต้าอมม่วงที่ให้ลุคสตรองขึ้นอีกระดับ นี่ละนะพลังแห่งคลื่นเฟมินีนฉีกทุกกฏสีเข้มขรึมของฤดูหนาวไปซะแล้ว

5. WARM TAUPE

10
สีน้ำตาลอมเทาหรือน้ำตาลหม่นในเฉดที่ดูอุ่นขึ้นไม่อมเทาจนเกินไป กลายเป็นเฉดเนชัลรัลที่มาแรงของหลายรันเวย์ โทนสีแบบนี้ให้อารมณ์โก้เนี้ยบหรูแบบมินิมอลได้เหมาะเจาะจริงๆ

ความงดงามจากยอดเขาสู่ใต้ทะเล พร้อมตามรอยเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ณ 4 ตำบล ของเมืองชุมพร

1

ถ้าจะให้นึกถึงการท่องเที่ยวล่องเมืองใต้ “ชุมพร” คงเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ไม่ควรพลาด เพราะนอกจากทะเลสวย วิวดี อาหารทะเลสดๆ แล้วยังมีอีกหนึ่งการท่องเที่ยวตามรอยเส้นทางอนุรักษ์ที่น่าติดตามของ 4 ตำบลอย่าง ต.บางสน ต.สะพรี ต.ปากคลอง และต.ชุมโค ซึ่งแต่ละสถานที่ก็จะมีกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวแตกต่างกันออกไปว่าแต่จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปดูกันเลย!!

2

พิกัดสถานที่ชื่นใจแรกในวันนี้จะพาไปสักการะพระพุทธรูปสีทององค์ใหญ่ที่วัดเขาเจดีย์ ซึ่งเราจะเดินทางโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 3201 จากนั้นตรงมาตามป้ายบอกทางถึงสามแยกท่าแซะให้เลี้ยวซ้ายจนกว่าจะผ่านที่ว่าการอ.ปะทิว จากนั้นตรงมาอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะมองเห็นพระพุทธรูปสีทององค์ใหญ่ซึ่งประดิษฐานอยู่บนยอดเขาค่ะ

3

4

วัดเขาเจดีย์มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือบนยอดเขามีเจดีย์ที่เก่าแก่ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอุธยา และบริเวณใกล้กันยังเป็นที่ประดิษฐานพระบูรพาบรรพต พระพุทธรูปปางห้ามสมุทร ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีศาลาให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสักการะรอยพระทุทธบาทจำลองอีกด้วย

5

หลังจากที่ได้ไหว้พระและชุมวิวมุมสูงของ อ.ปะทิวกันไปแล้ว สถานที่ชื่นใจต่อมาก็คือถ้ำนางทอง ซึ่งการเดินทางจากวัดเขาเจดีย์ ขับรถไปตามถนนหมายเลข 3201 ตรงไปตามป้ายบอกทางเข้าเมืองชุมพรประมาณ 5 กิโลเมตร ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่หมู่บ้านบางเสียบก็จะเจอป้ายบอกทางไปถ้ำนางทองค่ะ

6

7

ถ้ำนางทองแห่งนี้เป็นถ้ำที่มีขนาดไม่ลึกมาก ด้านในจะมีโถงถ้ำถึงสองโถงพื้นของถ้ำจะเป็นทรายซะส่วนใหญ่ ส่วนตามผนังและเพดานถ้ำนั้นจะเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยซึ่งมีลักษณะและรูปร่างแตกต่างกันออกไป

8

และจากถ้ำนางทองเราไปต่อกันที่โฮมเสตย์ที่ ต.บางสน ซึ่งเป็นโฮมเสตย์ที่ตั้งอยู่ริมคลองบางสนมีวิวป่าโกงกางแบบใกล้ๆ บ้าน เรียกได้ว่าชิลสุดๆ เลยค่ะ

9

รับแสงอาทิตย์ยามเช้ากันที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติ เขาดินสอ เป็นจุดชมวิวที่สามารถมาเที่ยวได้ทั้งปี นอกจากจะเป็นจุดชุมวิวแล้วยังเป็นศูนย์ศึกษาธรรมชาติอีกด้วยโดยเฉพาะคนที่ชอบการดูนกในช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไปถือว่าเป็นไฮไลท์ของเขาดินสอเลยค่ะ

10

11

12

หลังจากที่ได้เช็คอินและชมวิวสวยๆ ของเขาดินสอแล้วก็ไปต่อกันที่ตำบลชุมโค เพื่อมาดำน้ำดูความงามของโลกใต้ทะเล ชมหอยมือเสือตัวใหญ่ๆ ที่มีสีสันสวยงามแตกต่างกันออกไป ที่เกาะไข่แห่งนี้ยังมีชายหาดที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปพักเหนื่อยจากการดำน้ำ หรือจะขึ้นไปว่ายน้ำเล่นบริเวณหน้าเกาะก็ได้เช่นกัน และอีกหนึ่งความอันซีนคือชายหาดที่เห็นอยู่นี้ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปจะมีกระแสลมตะวันตกเฉียงเหนือพลัดพาให้หาดทรายและคลื่นเปลี่ยนทิศทาง ซึ่งหาดทรายนี้จะค่อยๆ คลายและหายไปเนื่องจากลมมรสุมเปลี่ยนทิศทาง แต่เมื่อถึงเดือนกุมภาพันธ์หาดทรายแห่งนี้ก็จะกลับมาอีกครั้งวนเวียนกันอยู่แบบนี้ทุกปี ซึ่งช่วงที่หาดนั้นจะกว้างและสวยที่สุดก็คือช่วงเดือนตุลาคมนี่แหละค่ะ

13

14

นอกจากกิจกรรมดำน้ำตื้นแล้ว ที่เกาะไข่แห่งนี้ยังมีแหล่งดำน้ำลึกอีกด้วย ซึ่งเมื่อดำน้ำลงไปใต้ทะเลจะพบว่ามีโครงเหล็กที่มีปลาเล็กปลาน้อยแหวกว่ายอยู่นั้น จริงๆ แล้วเป็นซากรถประจำทางเก่าซึ่งชาวบ้านร่วมกับภาครัฐและเอกชนนำมาวางไว้ใต้ทะเลเพื่อทำเป็นบ้านปลาและทำเป็นแหล่งดำน้ำโดยใช้ชื่อว่า “มัจฉาสตรีท”

15

16

17

อีกหนึ่งหาดสวยๆ คือหาดทุ่งวัวแล่นชายหาดที่มีชื่อเสียงของอำเภอปะทิวที่เหมาะแก่การพักผ่อนของใครหลายๆ คน และหลังจากชมวิวทะเล เที่ยวเขา เที่ยวถ้ำ ดำน้ำแล้วกิจกรรมของเราก็ยังไม่จบเพียงเท่านี้เพราะคืนนี้เราจะออกไปตกหมึกกันค่ะ เมื่อเราแล่นเรือไปกลางทะเลได้ทำเลที่เหมาะๆ เราก็จะเริ่มเปิดไฟ ซึ่งความสว่างของแสงไฟจะทำให้ลูกปลาต่างๆ เห็นแพลงตอนได้อย่างชัดเจนแล้วก็เข้ามากินแพลงตอน ส่วนหมึกก็จะเข้ามากินปลาอีกทีทำให้เราได้ปลาหมึกสดๆ มาเพียบเลยค่ะ

18

หนึ่งความร่วมมือของชาวบ้านในการดูแลทรัพยากรในท้องถิ่นก็คือการทำบ้านปลา โดยนักท่องเที่ยวที่มาที่นี่สามารถมาทำกิจกรรมร่วมกับคนในชุมชนได้ด้วย การทำบ้านปลาจะเริ่มจากการเจาะกระบอกไม้ไผ่ให้เป็นรูปพอที่จะสอดเชือกเข้าไปได้ จากนั้นก็จะร้อยเชือกแล้วนำมาผูกต่อกับทางมะพร้าวคล้ายกับก้างปลา และอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือทุ่นจมที่ทำจากปูนสำหรับถ่วงน้ำหนักนั่นเอง เสร็จแล้วก็พร้อมนำไปโยนลงทะเลได้เลยค่ะ

20

19

21

อีกหนึ่งของดีของอร่อยที่ขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือการแปรรูปอาหารทะเลจากกลุ่ม OTOP บ้านหน้าทับ สินค้าของที่นี่ก็มีหลากหลายแต่สิ่งที่โดดเด่นก็คือกะปิหน้าทับ นอกจากนี้ยังมีปลาแห้งซึ่งมีความสดใหม่ และสะอาดปลอดภัยไร้แมลงวันรบกวนแน่นอน

22

23

24

นอกจากนี้ยังมีสถานที่ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาอาชีพของชาวบ้านในชุมชนคือโครงการพัฒนาส่วนพระองค์ จังหวัดชุมพร นอกจากจะเปิดให้นักท่องเที่ยวศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของป่าชายหาดแบบดั้งเดิมแล้ว ยังเป็นศูนย์เรียนรู้และส่งเสริมอาชีพให้กับเกษตรใกล้เคียงในการปรับใช้ดินและทรัพยากรต่างๆ ในพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย อีกทั้งยังส่งเสริมให้ชาวบ้านเลี้ยงดอกหน้าวัว เพราะดอกหน้าวัวที่นี่ไม่ได้ปลูกในดินแต่ใช้ถ่านผสมกับเศษวัสดุทางการเกษตรทำให้ถึงแม้ว่าพื้นที่จะเป็นดินทรายก็สามารถที่จะปลูกดอกหน้าวัวได้เช่นกัน

25

26

27

28

29

อาชีพต่อมาที่ทางโครงการส่งเสริมให้เป็นรายได้เสริมคือการทำสเปรย์ปรับอากาศจากใบเสม็ด โดยเลือกเด็ดเฉพาะใบที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป จากนั้นก็นำมาปั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนที่จะนำไปต้มในหม้อต้มกลั่น ซึ่งการต้มกลั่นจะแยกระหว่างใบเสม็ดชุนขาวและใบมะกรูดเพื่อไม่ให้น้ำมันหอมระเหยที่ได้มานั้นปะปนกัน ซึ่งเราจะใช้ในส่วนของน้ำกลั่นใบมะกรูดและน้ำกลั่นใบเสม็ดนำมาผสมกับแอลกอฮอล์ตามสัดส่วนที่เหมาะสมเพียงเท่านี้เราก็จะได้สเปรย์ปรับอากาศกลิ่นธรรมชาติแล้วค่ะ แต่เรื่องราวความหอมยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องของกาแฟขี้ชะมดที่มีความหอม กลมกล่อม เหมาะกับบรรยากาศทะเลชิลๆ อย่างมากเลยค่ะ

30

31

32

และกิจกรรมปิดทริปในครั้งนี้เราจะฟินกับอาหารทะเลโดยการร่องแพ กินลมชมวิวป่าโกงกางที่ขึ้นยาวตลอดแนว ไปจนถึงจุดที่มาจอดแพบริเวณปากอ่าวก็จะเห็นวิวทะเลแบบกว้างไกลแบบสุดลูกหูลูกตา และยังสามารถชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นได้ฟินสุดๆ ไปเลย เอาเป็นว่าใครที่อยากลองมาสัมผัสเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แบบนี้ อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพรแห่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจมากทีเดียวค่ะ

 

ติดต่อเยี่ยมชมชุมชน
ท่องเที่ยวโดยชุมชนประมงชายฝั่ง โทร. 080-779-1650
โฮมเสตย์บ้านไม้ชายคลอง โทร. 080-779-1650
กลุ่ม OTOP บ้านหน้าทับ โทร. 089-873-8535
โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ โทร. 089-292-2814

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงงดงามหลากสไตล์ ณ ปารีส แฟชั่นวีค

เป็นที่รู้กันในแวดวงแฟชั่นว่า ช่วงตั้งแต่เดือนกันยายนต่อไปถึงต้นเดือนตุลาคมคือฤดูกาลของ Fashion Week Spring/Summer โดยโลเกชั่นหลักก็จะจัดไล่กันไปจากนิวยอร์ก ลอนดอน มิลาน กระทั่งมาจบที่ปารีส เป็นอย่างนี้ทุกปี

และที่ปารีส แฟชั่นวีค นี้เองที่ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์  หรือ เจ้าหญิงแห่งวงการแฟชั่น จะทรงมีหมายกำหนดการเสด็จทอดพระเนตรงานแฟชั่นโชว์แบรนด์ดังๆ เป็นประจำทุกปี ปีนี้ก็เช่นกัน กับรันเวย์โชว์คอลเล็คชั่น Spring/Summer 2017 พระองค์ท่านก็ได้ทรงทำให้ผู้คนทั่วโลกตะลึงไปกับพระสิริโฉมสุดงดงาม และฉลองพระองค์หลากสไตล์ ทั้งผ้าไทย แบรนด์เทศ อีกครั้งหนึ่ง

ในโอกาสนี้แพรวขออัญเชิญพระฉายาลักษณ์ในฉลองพระองค์ พระพักตร์ และพระเกศา ต่างๆ ของพระองค์ท่านมารวมกันไว้ในลิสต์นี้ เพื่อให้พสกนิกรไทยได้ร่วมกันชื่นชม และเพื่อเป็นการย้ำว่า พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงเป็นเจ้าหญิงแห่งวงการแฟชั่น ตัวจริงเสียงจริง

PARIS, FRANCE - SEPTEMBER 29: Princess Sirivannavari Nariratana attends the Chloe show as part of the Paris Fashion Week Womenswear Spring/Summer 2017 on September 29, 2016 in Paris, France. (Photo by Pascal Le Segretain/Getty Images)

วันที่ 29 กันยายน เสด็จทอดพระเนตรแฟชั่นโชว์ Chloé SS17 ทรงดูเท่ทะมัดทแมงด้วยฉลองพระองค์เชิ๊ตขาวปักลายแบรนด์ The Kooples พระสนับเพลาขาวแต่งหมุดจาก Chloé คลุมด้วยฉลองพระองค์เคปสีดำขลิบขาวแบรนด์ Burberry และรองพระบาทแบรนด์ Y-3 ทรงปล่อยพระเกศายาวสยาย และแต่งพระพักตร์โดยเลือกให้มีสีโดดเด่นที่พระโอษฐ์เท่านั้น (Photo : Pascal Le Segretain/Getty Images)

PARIS, FRANCE - SEPTEMBER 29: Princess Sirivannavari Nariratana attends the Balmain show as part of the Paris Fashion Week Womenswear Spring/Summer 2017 on September 29, 2016 in Paris, France. (Photo by Pascal Le Segretain/Getty Images)

ค่ำวันเดียวกัย(29 กันยายน) พระองค์ท่านได้เสด็จทอดพระเนตรแฟชั่นโชว์ Balmain SS17 โดยทรงฉลองพระองค์โททัลลุคสีเบจ ประกอบด้วยเดรสสั้นแบรนด์ Azzedine Alaïa แจ็กเก็ตติดพู่แบรนด์ Balmain และรองพระบาทส้นสูงสไตล์กลาดิเอเตอร์แบรนด์ Versace ทรงรวบพระเกศาเผยพระพักตร์ที่แต่งด้วยเมคอัพคลุมโทนเดียวกับฉลองพระองค์ (Photo : Pascal Le Segretain/Getty Images)

อ่านต่อหน้า 2

4 ขั้นตอนปัดเป่าหน้าโทรมให้กลายเป็นโฉมงาม

Alternative Textaccount_circle

ใต้ตาดำปิ๊ดปี๋เป็นหมีแพนด้า คือ ปัญหาใหญ่ใจความที่ทำให้หน้าดูโทรมไร้ความสดใส มารู้เทคนิคแต่งหน้าที่จะไล่แพนด้าให้ถอยไปไกลๆ กันสักนิดดีไหม

 

 

Step 1ลงไพรเมอร์ทั่วหน้าเพื่อปรับสภาพผิว ไพรเมอร์ช่วยให้เครื่องสำอางติดทนขึ้น

Step 2 : แต้มคอนซีลเลอร์ใต้ตา เลือกสีใกล้เคียงสีผิว แต้มเป็นรูปสามเหลี่ยมหัวคว่ำเพื่อกระจายแสง ใช้นิ้วมือเกลี่ยให้เนียน

Step 3 : แต้มรองพื้นให้ทั่วใบหน้า แล้วใช้นิ้วมือเกลี่ยให้เรียบเนียน เกลี่ยบริเวณลำคอให้สีกลมกลืนกับหน้า

Step 4 : ลงแป้งผสมรองพื้นให้ทั่วใบหน้า ใช้พัฟฟ์กดย้ำบริเวณที่ต้องการปกปิด

 

 

เครดิต
นางแบบ : ฐิติชญา บุญหลง (Zomticha Beauty Blogger)
ทำผม : สัญห์สมร ตันติโชติรัตนา


บทความบิวตี้อื่นๆ ที่น่าสนใจ
คมกริบสะกิดใจ แต่งตาโทนม่วงแดงฉับไวแค่นาทีเดียว!!
3 สเต็ปไลเนอร์แซ่บ เฉี่ยว เปรี้ยว จิก สไตล์นางร้าย
กรีดอายสไตล์นางเอก 3 สเต็ปเสร็จง่ายหวานใสไม่ถึงนาที!!
เมคอัพสไตล์โมเดิร์นเผยผิวสุดแกลม..แซ่บเปรี้ยวฉบับสาวฮอลลีวู้ด
สายหวานสวยแบ๊ว”เทคนิคแต่งตา”กลมโตเยี่ยงบาร์บี้
3 สเต็ปเสร็จเร็ว…แต่งคิ้วระดับมือโปร!!
7 Steps แต่งหน้าง่ายๆ ออร่าพุ่งสไตล์ “ชมพู่ – อารยา”

แล้วคุณจะรัก “เต่าทะเล” มากขึ้น! ตามนางเอกร้อยล้าน “มิว นิษฐา” เปิดอาณาจักรเต่าทะเล Turtle Fest

ตามนางเอกร้อยล้าน มิว นิษฐา จิรยั่งยืน และนักแสดงคู่ขวัญรุ่นจิ๋ว น้องรถบัส ด.ช. ภคพล ตัณฑ์พาณิชย์ และ น้องมาเรีย ด.ญ.ทิพย์รดา ไมเออร์ เปิดอาณาจักรเต่าทะเล Turtle Fest ณ อควาเรียมระดับโลก ซีไลฟ์ แบงคอก โอเชี่ยน เวิร์ล

ตอนนี้เข้าสู่ช่วงปิดเทอมพอดี ผู้ปกครองที่กำลังหากิจกรรมต้อนรับปิดเทอมให้ลูกหลาน แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะ พาไป… เรียนแต่งหน้า นั่งสมาธิ ดำน้ำ ปลูกปะการัง ทำอาหาร นวดสปา …!???
วันนี้แพรวเลยจัดความสนุกรับปิดเทอมมาเสิร์ฟด่วนๆ จ้า เป็นอีกทางเลือกสำหรับวันหยุดของครอบครัว กับแคมเปญแห่งปี “Turtle Fest…เปิดอาณาจักรเต่าทะเล” ณ อควาเรียมระดับโลก ซีไลฟ์ แบงคอก โอเชี่ยน เวิร์ล ที่บอกเลยว่า แล้วคุณจะรัก เต่าทะเล มากขึ้น!

ภายใต้ความร่วมมือกับ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จะมีการนำ “เต่าตนุ” มาจัดแสดง
โดยคุณจะได้เดินทางสู่อาณาจักรเต่าทะเล ดูวงจรชีวิตที่แท้จริงของเต่าทะเล สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติตนเพื่อนำไปสู่การอนุรักษ์เต่าทะเลอย่างยั่งยืนผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น

การจัดแสดงเต่าทะเล,จำลองวงจรชีวิตเต่าทะเล, ละครเพลง, โชว์ให้อาหารเต่าทะเล (โดยเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์น้ำ), กิจกรรมระบายสี, เล่นเกมส์ และกิจกรรมขุดฟอสซิล ให้เด็กๆ ได้เสริมสร้างจินตนาการผ่านการลงมือทำจริง

SEA_LIFE_Turtle_Fest13

 

ใครที่อยากช่วยเหลือเต่าทะเล ง่ายๆ เพียงซื้อ ริสแบนด์ (Wristband) “I Am a Sea Turtle Protector”
ราคาเพียงชิ้นละ 80 บาท รายได้ทั้งหมดมอบให้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อช่วยเหลือเต่าทะเลที่บาดเจ็บและพิการโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ

 

SEA_LIFE_Turtle_Fest04

SEA_LIFE_Turtle_Fest01

SEA_LIFE_Turtle_Fest02

มิว นิษฐา จิรยั่งยืน


กิจกรรมเปิดโลกแห่งการเรียนรู้

1. กิจกรรมขุดฟอสซิล สวมบทบาทนักโบราณคดี ร่วมไขความลับจากซากฟอสซิลโบราณ
2. กิจกรรมระบายสี (Arts & Crafts) เสริมสร้างจินตนาการผ่านศิลปะ
3. เกมส์ตอบคำถาม (Quiz Trail) สอดแทรกความรู้ผ่านบททดสอบ

SEA_LIFE_Turtle_Fest09

Turtle Fest

โชว์ให้อาหารเต่าทะเล (Talks & Feeds) พร้อมให้ความรู้อย่างใกล้ชิด โดยเจ้าหน้าที่ ซีไลฟ์ แบงคอก โอเชี่ยน เวิร์ล ณ แท็งค์ “เต่าทะเล” มีตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นปี โชว์ทุกวัน วันละ 2 รอบ เวลา 11.15 และ 16.15น.

ส่วนการแสดง “ละครเพลง” มีทั้งหมด 4 รอบ ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 12.15 น. 13.30 น. 15.45 น. และ 17.00 น. ณ ซีไลฟ์ แบงคอก โอเชี่ยน เวิร์ล ชั้น บี1-บี2 สยามพารากอน

มิว นิษฐา เต่าทะเล

เต่าทะเล

SEA_LIFE_Turtle_Fest08

SEA_LIFE_Turtle_Fest07

Turtle Fest

แล้วคุณจะรัก “เต่าทะเล” มากขึ้น!

เรื่อง : Red Apple_แพรวดอทคอม
ภาพ : ซีไลฟ์ แบงคอก โอเชี่ยน เวิร์ล

“สุวิทย์ – ดิเรก” 2 ศิลปิน ฝีมือเทพ แท็คมือสาดสีน้ำ เผยภาพการเดินทางทั่วเอเชีย-ยุโรป ในสีสันแห่งชีวิต

สุวิทย์ ใจป้อมดิเรก กิ่งนอก 2 ศิลปิน ฝีมือแม่เหล็ก แท็คมือรังสรรค์ผลงานศิลปะ บันทึกความทรงจำ ชีวิต เรื่องราว ผู้คน การเดินทาง ผ่านการวาดและระบายสีน้ำจนเกิดเป็นนิทรรศการจิตรกรรมสีน้ำ 200 ผลงาน ในนามว่า Wonder Life สีสัน…แห่งชีวิต

เพราะชีวิตการเดินทางไม่ได้บันทึกผ่านภาพถ่ายได้เพียงสิ่งเดียว แต่ยังบันทึกโมเมนต์หรือภาพที่ดวงตามองเห็นภาพตรงหน้าผ่านงานจิตรกรรมสีน้ำ ที่สองศิลปินชื่อดัง สุวิทย์ ใจป้อม และ ดิเรก กิ่งนอก ได้แสดงฝีมือใน Wonder Life สีสัน…แห่งชีวิต นิทรรศการจิตรกรรมสีน้ำ 200 ผลงาน ที่จะจัดขึ้น ณ ห้องแสดงงานชั้น 1 ขัวศิลปะ จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม – 11 พฤศจิกายน 2559 เวลา 10.00-19.00 น. ทุกวันโดยไม่มีค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมผลงานศิลป์ทั้งศิษย์ และอาจารย์ที่มีจิตใจรักงานศิลปะตลอดที่ผ่านมาอีกด้วย

ศิลปิน

สีสันแห่งชีวิต เป็นบทบันทึกการเดินทางของสองศิลปิน สุวิทย์ ใจป้อม และดิเรก กิ่งนอก ที่บอกเล่าเรื่องราวความรู้สึกประทับใจในชีวิตผู้คนที่ได้พบ ณ สถานที่ต่างๆ ตั้งแต่ยุโรป จนมาถึงประเทศเพื่อนบ้าน อย่างมาเลเซีย จีน เวียดนาม และเชียงราย โดยถ่ายทอดผ่านงานจิตรกรรมสีน้ำกว่า 200 ผลงาน

ศิลปินสำหรับศิลปินท่านแรก อย่าง สุวิทย์ ใจป้อม นั้นเกิดที่จังหวัดเชียงราย เป็นอดีตนักโฆษณาที่ผันตัวมาเป็นศิลปินเต็มเวลาและเป็นวิทยากรพิเศษทางด้านศิลปะ ผลงานที่โดดเด่นเป็นการวาดภาพเหมือนบุคคล และสุวิทย์ยังมีความสามารถในการสร้างสรรค์งานศิลปะได้หลากหลายเทคนิคอีกด้วย

ศิลปินส่วนศิลปินอีกคน ดิเรก กิ่งนอก เป็นคนจังหวัดนครราชสีมา จบการศึกษาทางด้านศิลปะจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ในสาขาจิตรกรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปัจจุปันเป็นศิลปินอิสระ อาศัยอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น ดิเรกมีความเชี่ยวชาญในเทคนิคสีน้ำ ผ่านการแสดงงานในเทศกาลสีน้ำต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เรียกว่า ฝีมือของทั้งสองศิลปินต่างการันตีคุณภาพของงานเลยจริงๆ

ผลงานของ 2 ศิลปิน ฝีมือแม่เหล็กจะออกมาสวย จับใจขนาดไหน วันนี้แพรวได้นำภาพบางส่วนที่จะเตรียมแสดงในนิทรรศการ สีสัน…แห่งชีวิต มาให้ได้ชมกัน

ผลงานศิลปะ สุวิทย์ ใจป้อม

ศิลปิน
สุวิทย์ ใจป้อม
ศิลปิน
สุวิทย์ ใจป้อม
ศิลปิน
สุวิทย์ ใจป้อม
ศิลปิน
สุวิทย์ ใจป้อม

ผลงานศิลปะ ดิเรก กิ่งนอก

ศิลปิน
ดิเรก กิ่งนอก
ศิลปิน
ดิเรก กิ่งนอก
ศิลปิน
ดิเรก กิ่งนอก
ศิลปิน
ดิเรก กิ่งนอก

 

ส่วนใครที่กำลังคิดว่า เอ…ถ้าชมผลงานศิลปะในนิทรรศการนี้แล้ว อยากศึกษาและเข้าใจงานศิลปะอย่าง เทคนิคสีน้ำ ภายในนิทรรศการยังมีกิจกรรมพิเศษเพื่อการเรียนรู้และเข้าใจเทคนิคสีน้ำใน Workshop : สีสัน…แห่งชีวิต เรียนรู้เทคนิคสีน้ำกับสองศิลปิน สุวิทย์ ใจป้อม และดิเรก กิ่งนอก ในวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม 2559 เวลา 10.00 -16.00 น. ณ ขัวศิลปะ เชียงราย อีกด้วย


เรื่อง : Gingyawee_แพรวดอทคอม
ภาพ : www.facebook.com/artbridgechiangrai
Facebook : artbridgechiangrai , Suwit Jaipom, Direk Kingnok

สวยวันสวยคืน แก้ว FKK อดีตหวานใจ ป้อง – ณวัฒน์ กับแฟชั่นลุคใหม่สไตล์โคเรียเกิร์ล

จะมีลุ้นกลับมารีเทิร์นกันอีกครั้งรึเปล่านะสำหรับคู่ของหนุ่มป้อง – ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ กับอดีตแฟนสาวแก้ว – จริญญา ศิริมงคลสกุล หรือแก้ว FFK ที่ตอนนี้ทั้งคู่กำลังมีข่าวว่าเริ่มกลับมาคุยกันอีกครั้ง แต่ในฐานะพี่น้อง

ส่วนจะพัฒนาไหม ก็คงต้องดูต่อไปยาวๆ แต่ที่แน่ๆพอเราได้เห็นสาวแก้วแล้ว อยากจะเตือนหนุ่มป้องว่าอย่าใจเย็นมากนะ เพราะสาวแก้วเธอสวยวันสวยคืนแบบนี้ มีหนุ่มๆมาขายขนมจีบให้ตลอด เดี๋ยวจะหาว่าแพรวไม่เตือนนะจ๊ะ และวันนี้เราก็มีแฟชั่นของสาวแก้วมาฝากกันด้วย

ตั้งแต่ครั้งที่เลิกกับหนุ่มป้องไปจนถึงตอนนี้ ต้องบอกว่าสาวแก้วเธอโตเป็นสาวเต็มตัวแล้วจริงๆ ดูออร่าความสวยสะพรั่งสไตล์เกาหลีที่หาได้ในตัวดาราคนอื่นๆยากมาก เพราะสาวแก้วเนี่ยสวยธรรมชาติ ไม่ได้ศัลยกรรมเลยนะจ๊ะ ของจริงล้วนๆ มิน่าล่ะครั้งหนึ่งถึงเคยกุมหัวใจของหนุ่มป้องได้อยู่หมัด เอาเป็นว่าจะสวยใสสไตล์โคเรียเกิร์ลสักแค่ไหนไปชมกันเลยค่า

2

3

4

5

6

7

8

9

10

13

เรื่อง : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : IG@kaewjarin

 

วิธีเลือกประกัน

เลือกประกันที่ใช่…ในสไตล์คุณ

วิธีเลือกประกัน
วิธีเลือกประกัน

การทำประกันชีวิตเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเพิ่มความมั่นคงและมั่นใจให้ทั้งกับตัวเองและคนที่คุณรัก เดี๋ยวนี้มีประกันชีวิตมากมายหลายรูปแบบให้เลือก ซึ่งการทำประกันให้ได้ประโยชน์สูงที่สุด คือ คุณจะต้องเลือกประกันให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ และความคุ้มครองที่คุณต้องการมากที่สุด แล้วประกันแบบไหนหล่ะที่ถึงจะเรียกว่าเหมาะกับคุณ? หรือ ประกันมีมากมาย แตกต่างกันยังไงเลือกไม่ถูก? วันนี้เรามีวิธีในการเลือกซื้อประกันชีวิตให้เหมาะกับคุณมาฝากค่ะ

ประกันชีวิต แบ่งเป็น 4 แบบด้วยกัน ซึ่งแต่ละแบบจะเหมาะกับวัตถุประสงค์และความต้องการในการทำประกันชีวิตที่แตกต่างกัน

แบบที่ 1 แบบตลอดชีพ เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการคุ้มครองครอบครัว หรือ มีมรดกเงินก้อนให้ลูกหลาน มีข้อดี คือ เบี้ยประกันต่ำ คุ้มครองผู้ถือกรมธรรม์ตลอดชีพ และจ่ายทุนประกันให้กับผู้รับประโยชน์หรือผู้เอาประกันภัย แต่หากผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่จนถึงอายุครบ 90/95 หรือ 99 ปี (ตามกรมธรรม์กำหนด) บริษัทฯ จะจ่ายเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ให้แก่ผู้เอาประกันภัย

shutterstock_84505216

แบบที่ 2 แบบชั่วระยะเวลา เหมาะกับ ผู้ที่ไม่อยากให้ภาระหนี้สินตกอยู่กับครอบครัวหรือคนที่รักในยามที่เราจากไป เช่น หนี้สินเชื่อบ้าน บริษัทจะจ่ายเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ให้แก่ผู้รับประโยชน์ ถ้าหากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตภายในระยะเวลาที่กำหนด ข้อดี คือ เบี้ยประกันต่ำกว่า แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีเงินเก็บ หรือออมเงิน เพราะไม่มีการสะสมทรัพย์รวมอยู่ด้วย

shutterstock_317335256

แบบที่ 3 แบบสะสมทรัพย์ เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการรับเงินก้อนเพื่อใช้จ่ายในอนาคต เช่น เป็นทุนการศึกษาของลูก ถ้าผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตก่อนครบกำหนดสัญญา หรือ มีชีวิตอยู่จนถึงวันครบกำหนดสัญญาบริษัทจะจ่ายเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ให้แก่ผู้รับประโยชน์ และระหว่างที่อยู่ในสัญญามีความคุ้มครองให้ ข้อดี คือ สามารถเป็นเงินออมเก็บไว้ใช้ในอนาคตได้

shutterstock_260188988

แบบที่ 4 แบบบำนาญ เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการมีเงินเพื่อใช้จ่ายยามเกษียณ บริษัทจะจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเป็นประจำให้แก่ผู้เอาประกันภัย เมื่อมีชีวิตอยู่ถึงวันที่กำหนดในสัญญา โดยจะได้รับเงินเป็นรายงวดจากประกัน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าหลังเกษียณจะมีเงินใช้ตามระยะเวลาที่กำหนด

สำหรับประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 1 แสนบาท โดยประกันชีวิตแบบบำนาญสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 3 แสนบาท

 

ขึ้นชื่อว่า “ชมพู่ – อารยา” ธรรมดาไม่เป็น! กับแฟชั่นสุดล้ำที่ไม่ใช่ใครใส่ก็ได้

เดินสายออกงานแฟชั่นเป็นว่าเล่นสำหรับนักแสดงสาวชมพู่ – อารยา เอ ฮาร์เก็ต ที่ครั้งนี้ได้ไปชมแฟชั่นโชว์ไกลถึงเมืองผู้ดีอย่างงาน Paris Fashion Week 2017

ถือเป็นอีกครั้งที่สาวชมทำเอาวงการแฟชั่นต้องสั่นสะเทือนกับความกล้าบ้าบิ่นในแฟชั่นการแต่งตัวของเธอ เพราะเราบอกเลยว่าแต่ละลุคเนี่ย ถ้าไม่ใช่ชมพู่ – อารยา ก็อย่าหวังเลยว่าจะได้เกิด! และแน่นอนว่าคอลัมน์ Fashion of the Week ของเราสัปดาห์นี้จะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่สาวชมพู่ ซึ่งครั้งนี้เราได้รวบรวมลุคที่หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอกล้ามากที่ใส่ชุดนี้ แต่ถึงจะดูแปลกหรือไม่ชินตายังไง กระแสที่ได้รับกลับมาก็มีแต่ด้านบวกทั้งนั้นนะ เพราะเรามองว่าความกล้าผสมผสานแฟชั่นต่างๆของสาวชมนี่แหละ คือเครื่องยืนยันว่าเธอเป็นตัวแม่ด้านแฟชั่นจริงๆ

ชุดจากแบรนด์ Dior

เป็นชุดแรกที่ปล่อยออกมา แล้วก็ได้สร้างความฮือฮาให้กับทุกคนเลยทีเดียว เพราะนี่เป็นชุดที่เธอเลือกใส่ไปชมแฟชั่นโชว์ของ Dior ไม่แน่ใจว่าลุคแรกที่สาวชมใส่นั้นมันดูธรรมดาไปหรือยังไง เพราะจู่ๆสาวชมก็เปลี่ยนจากกระโปรง นำมาสวมทับเสื้อกลายเป็นเดรสแทน! ใช่ค่ะ ฟังไม่ผิด จากลุคเรียบร้อยๆในตอนแรกก็เปลี่ยนเป็นลุคที่ดูสนุกสนานขึ้นในพริบตา

2

1

ชุดจากแบรนด์ Giambattista Valli Couture
เป็นอีกลุคหนึ่งที่สาวชมชอบมากแน่ๆ เพราะโดยปกติแล้วสาวชมจะชอบแต่งตัวสไตล์ Haute Couture และแฟชั่นโชว์ที่สาวชมไปชมครั้งนี้ก็คือแบรนด์ Giambattista Valli Couture และแน่นอนว่าแบรนด์นี้เสื้อผ้าจะเป็นสไตล์ Haute Couture อยู่แล้ว ทำให้น่าจะถูกใจสาวชมสุดๆ โดยลุคนี้สาวชมมาในชุดเดรสสั้นสีชมพูพองฟูช่วงปลายกระโปรง ดูเป็นสาวหวานสุดๆ ลุคนี้คงจะไม่ดูแปลกตาเท่าไหร่ถ้าไม่มีถุงน่องตาข่าย ช่วยให้ลุคนี้ดูไม่ธรรมดาขึ้นมาทันที เพราะจะมองว่าเป็นสาวหวานก็ได้ แต่ถ้ามองช่วงล่างตรงถุงน่องจะดูเซ็กซี่ ก็ไม่ผิด เป็นการผสมกันของสองแฟชั่นได้อย่างลงตัว แปลกใหม่ดี

ชุดจากแบรนด์ Gucci
เพิ่งจะใส่ชุดสีชมพูหวานจ๋อย แป๊บๆเปลี่ยนมาเป็นสไตล์เรโทรย้อนยุคอีกละ ทำเอาคนดูทางบ้านอย่างเราบอกเลยว่าปรับอารมณ์ไม่ทัน เพราะมันเหนือความคาดหมายมาก ไม่คิดว่าสาวชมจะสนุกสนานได้ขนาดนี้ โดยชุดนี้บอกเลยว่าถ้าไม่ใช่สาวชมใส่ หรือแมตช์กันได้ไม่ลงตัวพอ อาจจะถูกมองว่าเป็นป้าก็ได้นะ แต่สาวชมกลับทำออกมาได้ลงตัว ทั้งการนำเบลเซอร์สีแดงที่แต่งด้วยดอกไม้ตรงกลางหน้าอกมาแมตช์กับกระโปรงพลีต ผลรวมออกมาดูน่าพอใจมากๆ ถือเป็นอีกลุคหนึ่งที่ไม่ง่ายเลยจริงๆ

5

6

ชุดจากแบรนด์ CHANEL
สุดท้ายก็คือชุดจาก CHANEL ซึ่งเป็นแบรนด์โปรดของสาวชม และเป็นอีกลุคที่ทิ้งท้ายการมาเยือน Paris Fashion Week 2017 ได้อย่างน่าจดจำ เพราะตั้งแต่ผมจรดปลายเท้าไม่มีอะไรที่เบาเลยจริงๆ สาวชมจัดเต็มมากสำหรับลุคนี้ โดยตัวชุดที่ใส่เป็นเสื้อคลุมลายพริ้นต์จัดเต็มทั้งตัว! บวกกับกระเป๋าและทรงผมดัดลอนเล็กทั้งหัว ดูแปลกตาขัดแย้งไปหมด แต่ก็นั่นแหละ พอเป็นสาวชมแต่งปุ๊บ! มันทำให้รู้สึกว่า เฮ้ย แก นางไม่ธรรมดาเลยนะที่กล้าแต่งแบบนี้ คิดดูสิจะมีใครกล้าแต่งแบบนี้แล้วยังสวยอยู่บ้างคะ ถ้าไม่ใช่สาวชม?

9
เรื่อง : saipiroon_แพรวดอทคอม
ภาพ : IG@hwanjeabjeab, mercedesbenzthailand, chomismaterialgirl, www.gettyimages.com

เปิดศึกจอมเวทย์ “คริส วู” อดีตหัวหน้าวงเกาหลี Exo สู่วงการภาพยนตร์ บันไดแจ้งเกิดในเวทีระดับโลก

คริส วู หนุ่มหล่อแดนมังกร อดีตหัวหน้าวงและแร็ปเปอร์สุดฮ็อต แห่งบอยแบนด์เกาหลีชื่อดัง Exo ที่ตอนนี้กำลังเติบโตอีกขั้นไปกับสายงานภาพยนตร์และกำลังเตรียมแจ้งเกิดในเวทีระดับโลก exo

คุ้นเคยใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตรออกมาจากนวนิยายกันเป็นอย่างดี สำหรับ คริส วู หรือ อู๋อี้ฝาน หนุ่มชาวจีนแดนมังกร แต่ไปโด่งดังเป็นพลุแตกกับการเป็นหนึ่งในสมาชิกวงบอยแบนด์เกาหลีชื่อดังนามว่า Exo ผู้รั้งตำแหน่งหัวหน้าวง และแร็ปเปอร์ เพื่อคว้าหัวใจของสาวๆ โดยเฉพาะไม่เว้นแม้แต่สาวกเคป๊อบอย่างสาวไทยก็ยกใจให้ จนกระทั่งหนุ่มน้อยวัย 26 ปีคนนี้ได้ตัดสินใจลาออกจากวง เพื่อมาทุ่มเทให้กับการแสดง ซึ่งคริสก็ได้ฝากผลงานนักแสดงในวงการภาพยนตร์จีน อย่าง Somewhere Only We Know, Sweet Sixteen

exoexoและในปี 2017 ที่จะถึงนี้ ถือเป็นปีทองเตรียมแจ้งเกิดให้คริสสู่วงการภาพยนตร์ระดับฮอลีวู้ดแบบเต็มตัวเลยก็ว่าได้ เพราะคริสจะได้เล่นภาพยนตร์ฮอลีวู้ดถึง 2 เรื่อง นั่นคือ Valerian and the City of a Thousand Planets และ XXX : Return of Xander Cage 

สำหรับปีนี้ คริส วู ได้นำผลงานด้านภาพยนตร์มาฝากแฟนๆ เช่นกัน กับภาพยนตร์จีน “L.O.R.D : Legend of Ravaging Dynasties สงคราม 7 จอมเวทย์” แนวแอคชั่น-แฟนตาซี ที่ถ่ายทำด้วยเทคนิค โมชั่น-แคปเจอร์ ตลอดทั้งเรื่องเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งจะบอกเล่าเรื่องราวของสงครามการต่อสู้ของจอมเวทย์ทั้ง 7 และเหล่าสาวก

exoเมื่อ ประกายเงิน หรือ อิ๋นเฉิน (รับบทโดย คริส วู) อาสาชี้นำเด็กหนุ่มไร้ประสบการณ์แต่แฝงไว้ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่อย่าง ฉีหลิง (เฉินเสวี่ยตง) ในการเดินทางสุดอัศจรรย์ เพื่อจะเป็นสาวกแห่งลอร์ด แต่กลับพบความจริงว่า แท้จริงแล้วอดีตอาจารย์ของประกายเงินยังไม่ตาย และสงครามระหว่างบรรดาลอร์ดก็กำลังจะเกิดขึ้น อีกทั้งยังเป็นตัวแปรสำคัญแห่งประวัติศาสตร์เมื่อสงครามแห่งเหล่าผู้วิเศษได้อุบัติขึ้น ผู้แข็งแกร่งและมีไหวพริบที่สุดเท่านั้นจึงจะคู่ควรกับตำแหน่งมหาจอมเวทย์

คริส วู ได้เผยว่า ตัวเขาเองมีส่วนคล้ายอิ๋นเฉินอยู่ไม่น้อย เป็นคนหน้านิ่งจนคนชอบคิดว่าเป็นพวกเย็นชา แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนอบอุ่น ขี้เล่น และนั่นก็เป็นเหตุที่ผู้กำกับเลือกเขามารับบทนี้

ไหนๆ แล้ว เพื่อความเข้มข้นระหว่างรอชมฝีมือนักแสดงของ
คริส วู แพรวก็ขอพาไปทำความรู้จักกับเขามากขึ้นผ่านบทสัมภาษณ์ด้านล่างนี้

exoคริสรับบทเป็น อิ๋นเฉิน เขาเป็นใคร

คริส วู : เขาเป็นลอร์ดคนที่ 7 ของอาณาจักรแอชแลนด์ครับ ซึ่งเขาเคยเป็นสาวกของลอร์ดคนที่ 1 มาก่อน ผู้ที่ได้รับคำสั่งจากนักบวชสีเงินให้มาชี้นำเป็นอาจารย์ให้เด็กไม่เอาถ่านอย่างฉีหลิง ให้เรียนรู้ถึงวิถีแห่งลอร์ด ภายนอกเขาอาจจะดูแข็งกร้าวเย็นชา แต่ภายในเขาเต็มไปด้วยความอบอุ่นห่วงใย พร้อมจะเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องลูกศิษย์ โดยที่ต้องสืบหาความจริงเกี่ยวกับลอร์ดคนที่ 1 คนก่อน ซึ่งเป็นอาจารย์ของเขาที่มีข่าวลือว่ายังไม่ตาย

exoนี่เป็นครั้งแรกที่คริสได้แสดงในหนังที่ใช้เทคนิคโมแค็ป ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง 

คริส วู : มันเหมือนเป็นการทดสอบจินตนาการของคุณเลยล่ะครับ ก่อนถ่ายแต่ละซีน ผู้กำกับจะอธิบายว่าเรากำลังอยู่ที่ไหน เพื่อทำอะไร มีอะไรอยู่รอบๆ พวกเราบ้าง จากนั้นเราต้องคิดต่อเอง เพราะรอบตัวเราไม่มีอะไรเลย ทุกอยากขึ้นอยู่กับความคิดของคุณ มันเลยยากหน่อย ต้องใช้เวลาปรับตัวในการถ่ายทำเรื่องนี้พอสมควร มีหมวกติดกล้องที่ผมต้องใส่หนักพอสมควรครับ เหมือนมีอะไรกดหัวคุณอยู่ ช่วงแรกๆ เวลาหันซ้ายหันขวาเลยดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไหร่ ผมปรับตัวยังไม่ค่อยได้ใน 2-3 วันแรกของการถ่าย แต่หลังๆ เริ่มดีขึ้น ผมชอบเต้นตอนใส่ชุดโมแค็ปนะ มันมีโมเดลที่ขยับตามพวกเราในมอนิเตอร์ที่ให้ผู้กำกับดู มันตลกดีครับที่ได้เห็นลอร์ดในชุดเต็มยศ เต้นท่าเคป๊อป (หัวเราะ)

exo

ได้ข่าวว่าคริสเป็นแฟนงานเขียนตัวยงของกั้วจิ้งหมิง

คริส วู : ใช่เลยครับ ผมอ่านนิยายของเขาเยอะมากตั้งแต่ผมเป็นวัยรุ่น ตั้งแต่ Tiny Times, Cry Me A Sad River จนถึง L.O.R.D ผมชอบอ่านงานของเขานะ ผมคิดว่ามันมีเสน่ห์ เพราะผลงานของเขาแทบทุกเรื่องมักจะมีกลิ่นความเศร้าอยู่ ถึงแม้จะเต็มไปด้วยตัวละครหนุ่มหล่อสาวสวย มองผ่านๆ เหมือนจะสมบูรณ์แบบ แต่พวกเขากลับต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรม ผมเป็นชอบอ่านอะไรเศร้าๆ อยู่แล้วด้วยครับ

ได้บอกกับเจ้าตัวบ้างไหม 

คริส วู : เคยครับ แต่ไม่ได้เสนอไอเดียอะไรมากเพราะอย่างที่รู้เขาเขียนมันเสร็จตั้งนานแล้ว เอาเป็นว่าถ้าเขาเขียนเรื่องต่อไปผมคงคุยกับเขา พยายามให้เขาไม่ฆ่าตัวละครที่ผมเล่นทิ้งแล้วกันครับ (หัวเราะ)

exo

นอกจากได้ทำงานกับกั้วจิ้งหมิงแล้ว ยังได้ทำงานกับผู้กำกับระดับโลกคนอื่นอย่าง ลุค เบซง โจวซิงฉือ ฉีเคอะ เทียบกับคนอื่นแล้วการทำงานของกั้วจิ้งหมิงมีเอกลักษณ์อย่างไรบ้าง

คริส วู : สำหรับผู้กำกับของเราแล้ว อย่างแรกเลยเรื่องภาพลักษณ์ตัวละครเป็นเรื่องสำคัญมากครับ นอกจากทีมนักแสดงต้องมีฝีมือแล้ว พวกเขายังต้องดูดีไม่แพ้กัน อีกอย่างหนึ่งคือเขาเป็นคนเขียนเรื่องนี้เอง มันสร้างจากหนังสือของเขา ทำให้เขาเป็นคนเข้าใจเรื่องมากที่สุด เขารู้ความเป็นมาของตัวละคร เขารู้รูปแบบที่อยากให้นักแสดงถ่ายทอดออกมานั้นเป็นข้อได้เปรียบของเขาเลยล่ะครับ

exoถึงแม้ว่าอิ๋นเฉินภายนอกจะดูหยิ่งยโส แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนจิตใจงดงาม ตัวละครนี้คล้ายกับตัวคริสเองด้านไหนบ้าง

คริส วู : คงคล้ายกันอยู่บ้างนะ ไม่งั้นผู้กำกับคงไม่เลือกผมมาเล่นหรอก (หัวเราะ) อาจจะตรงที่หยินเฉินภายนอกดูเย็นชาเหมือนเขาควบคุมตัวเองได้ตลอดเวลาครับ แต่จริงๆ แล้วภายใจเขากับร้อนรุ่ม หลายๆ คนบอกว่าถ้าไม่รู้จักผมดูหยิ่งมาก แต่ถ้าได้รู้จักแล้วตัวจริงผมร่าเริงจะตาย

เมื่อได้เห็นเทรลเลอร์ครั้งแรกรู้สึกอย่างไร

คริส วู : จริงแล้วๆ ผมเห็นพร้อมกันกับคนที่ดูตัวอย่างครับ มันเจ๋งมาก อย่างที่ผมนึกไม่ถึงเหมือนกัน เราเห็นตัวละครของเราแค่ในอาร์ทเวิร์ค แล้วก็โมเดลหยาบๆ ที่เคลื่อนไหวตามเราในกองเท่านั้น พอมาเห็นงานที่เสร็จแล้ว แน่นอนมันน่าประทับใจมาก

สำหรับใครที่อยากชมฝีมือการแสดงของพ่อหนุ่ม คริส วู ก็เตรียมชมกันได้ในวันที่ 20 ตุลาคมที่จะถึงนี้

ตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง “L.O.R.D : Legend of Ravaging Dynasties สงคราม 7 จอมเวทย์”


เรียบเรียงโดย : Gingyawee_แพรวดอทคอม
ภาพ : สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, IG @galaxy_fanfan

keyboard_arrow_up