ออร์แกไนเซอร์มือทอง “ตือ – สมบัษร” กับชีวิตใน 1 วันไม่ธรรมดา! 

ออร์แกไนเซอร์มือทอง ตือ – สมบัษร หากใครติดตามอินสตาแกรมของสุดยอดนักออร์แกไนเซอร์คนนี้ จะพบว่าชีวิตในแต่ละวันมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ทั้งที่เกี่ยวกับงาน ชีวิต และศิลปะ วันนี้แพรวดอทคอมจึงขอชวนคุณๆ ออกเดินทางไปพร้อมกับตือแบบเต็มเวลา 24 ชั่วโมงกันเลย

“ตารางในแต่ละวันของตือค่อนข้างยุ่ง ถ้าเปรียบคงเหมือนด้ายที่พันกันเยอะๆ ต้องใช้เวลาแกะพอสมควร (หัวเราะ) แต่ความที่อาชีพเราเป็นนักจัดการ จึงไม่เคยไม่มีปัญหา หลักของตือคือ การเรียงลำดับสิ่งที่ต้องทำ โดยเรื่องที่ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกคือการประชุมกับลูกค้า ต่อด้วยการเคลียร์งานของตัวเอง ประชุมกับทีม และจัดเรื่องส่วนตัวเป็นอันดับสุดท้าย

“หลังจากตื่นนอน สิ่งแรกที่ตือทำทุกวันคือดื่มน้ำมะนาวสดแก้วโต เพื่อช่วยให้สดชื่นและปรับการทำงานของระบบร่างกาย ต่อด้วยการเดินยืดเส้นยืดสาย อ่านข่าวหนังสือพิมพ์ แล้วไปอาบน้ำพร้อมกับการเปิดเพลงเสียงดังๆ ซึ่งไม่ซ้ำแนว ขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นต้องออกไปทำอะไร ถ้ามีงานแฟชั่นจะเปิดเพลงสนุกๆ เพื่อบิลด์ตัวเอง แต่ถ้าไปประชุมจะเลือกเพลงสบายๆ ให้อารมณ์ดี

“พออาบน้ำเสร็จ ตือจะออกกำลังกายด้วยการเป่าลมออกจากปาก เพื่อเติมออกซิเจนให้ร่างกาย จากนั้นไหว้พระให้จิตใจสงบ แล้วกินผลิตภัณฑ์อาหารเสริม I-DEE ซึ่งเป็นตัวช่วยในการดูแลสมอง สายตา และร่างกายให้แข็งแรง ก่อนจะกินอาหารเช้า เช่น ขนมปังกับกาแฟ หรือข้าวเหนียวไก่ทอด ส่วนมื้อกลางวันก็ยังกินเมนูง่ายๆ อย่างก๋วยเตี๋ยว เพื่อทำเวลาในการทำงาน ตือจะกินหนักที่มื้อเย็น แต่ไม่ค่อยกินแป้ง จะเน้นอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้มากกว่า

“ก่อนออกจากบ้านตอนเช้า ตือจะนั่งที่โต๊ะทำงาน ไล่ตารางคิวกับพี่มงคลที่ช่วยขับรถพาตือไปยังที่ต่างๆ เราทำงานเป็นทีมแบบนี้ทุกวัน และพอขึ้นรถก็เป็นเวลาที่คุยโทรศัพท์สั่งงานลูกน้องหรือแก้ไขงานให้ลูกค้า กระทั่งถึงที่หมายก็เริ่มประชุมงาน

“วันไหนมีอีเว้นต์ตอนเย็น ตือจะไปตรวจงานล่วงหน้าประมาณ 6 ชั่วโมง เพื่อซ้อมคิวนางแบบ เช็กทุกอย่างว่าเป็นไปอย่างที่เตรียมไว้ไหม พอถึงเวลาเริ่มงาน ตือจะอยู่ตรงนั้นเพื่อดูแลและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า และรอจนถึงงานเลิกเพื่อส่งแขกที่มาร่วมงาน เสร็จจากนั้นอาจแวะไปกินข้าวกับลูกน้องนิดหน่อยแล้วกลับบ้าน

“แต่ถ้าวันไหนมีเวลาว่าง กิจกรรมโปรดคือไปร้านหนังสือกับช็อปปิ้ง (หัวเราะ) นอกจากเป็นการให้รางวัลตัวเอง ยังทำให้เห็นว่าโลกนี้มีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นบ้าง ทั้งเรื่องของแฟชั่น เสื้อผ้า รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ หรือบางทีตือก็ไปงานแสดงเอกซิบิชั่นใหม่ๆ เพื่อเติมความรู้ด้วย

“อีกอย่างหนึ่งที่ชอบทำคือไปเดินห้างสรรสินค้า คุยกับพนักงานขาย เพื่อติดตามว่าตอนนี้อะไรขายดี เทรนด์ของผู้บริโภคเป็นอย่างไร การคุยกับพนักงานหน้าร้านจะได้ข้อมูลเหล่านี้เยอะ เพราะเขาได้เจอกับคนมากมายในแต่ละวัน

“พอกลับถึงบ้าน ก่อนปิดสวิตช์ทำงาน ตือจะดูสมุดคิวว่าพรุ่งนี้มีงานอะไร ต้องเตรียมตัวและเตรียมเสื้อผ้าอย่างไรบ้าง จากนั้นจะนั่งพัก ดูทีวี อ่านหนังสือ เล่นโทรศัพท์มือถือ และคุยกับเพื่อน เพื่อชาร์จพลังไว้สำหรับเรื่องดีๆ ที่จะเกิดขึ้นในวันต่อไป

“อ่านถึงตรงนี้ หลายคนอาจคิดว่าตือทำอะไรตั้งมากมาย (หัวเราะ) แต่ตือก็มีความสุขกับทุกเวลาของตัวเอง ทั้งเรื่องงานที่สามารถจัดการได้อย่างมีระเบียบ รวมถึงการมีสุขภาพที่ดี เนื่องจากมีตัวช่วยอย่าง I-DEE มาเป็นกำลังสนับสนุน

“สำหรับตือ เวลา 24 ชั่วโมงจึงทั้งสนุกและท้าทาย จึงอยากฝากให้ทุกคนดูแลสุขภาพ เพื่อที่เราจะพร้อมมีความสุขในทุกๆ ช่วงของชีวิต”

ชีวิตหลังแต่งงาน กัปตัน & เอ้ก เห็นเงียบๆ แต่หวานเว่อร์ จนน่าอิจฉา

ชีวิตหลังแต่งงาน กัปตัน & เอ้ก เห็นเงียบๆ แต่หวานเว่อร์นะจ๊ะ หลายคนบอกว่าพอแต่งงานกัน บางอย่างจะเปลี่ยนไป! ยิ่งคนที่คบกันมาก่อนหน้านี้นานๆจะเริ่มรู้สึกเบื่อ ไม่หวาน ไม่สวีต ไม่ตื่นเต้น แต่ไม่ใช่สำหรับคู่นี้ กัปตัน – ภูธเนศ และภรรยาสาว เอ้ก – บุษกร แม้จะควงกันเข้าสู่ประตูวิวาห์มาได้สักพัก แต่บอกเลยว่ายิ่งนานยิ่งรักมากขึ้นทุกวันจ้าา

ชีวิตหลังแต่งงานเปลี่ยนไปมากน้อยขนาดไหนคะ

เอ้กสารภาพว่าเปลี่ยนไปมาก “เพราะต้องย้ายบ้านมาไกลมาก สะดวกขึ้นก็จริง แต่เวลาไปทำงานต้องเผื่อเวลาเยอะขึ้น”

กัปตันอธิบายเพิ่ม “ส่วนมากเราต้องปรับตัวกันทุกวันอยู่แล้วครับ จากคนที่ไม่เคยอยู่ด้วยกันเลย ต่างคนต่างมีชีวิตของตัวเองมา 20 – 30 กว่าปี พอมาอยู่ร่วมกันก็ต้องปรับตัว ช่วงนี้มันเป็นช่วงเริ่มต้น เพิ่งสองเดือนกว่าเอง แต่เราค่อนข้างโชคดีตรงที่มีอะไรก็พูดกันตรงๆว่าอะไรที่ควรปรับ ชอบไม่ชอบอะไร ทำได้ไหม ทำได้ก็ดี ทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ต้องมาดูกันว่าทำได้แค่ไหน”

เอ้กเล่าต่อ “พี่กัปตันไม่บังคับ จะให้เราทำในจุดที่สบายใจ ข้อดีของการอยู่ร่วมกันคือ เราต้องคุยกันได้ ต้องกล้าคุยกัน บางอย่างการเลือกที่จะเงียบมันง่ายกว่าการเคลียร์กัน แต่ว่ามันไม่ได้แก้ปัญหา”

กัปตันเปิดใจ “บางอย่างผมก็อยากให้เขาทำเองบ้าง หรือให้เขารู้จักความลำบาก เพราะถ้าเราสปอยเขาตั้งแต่ต้น แล้ววันหนึ่งเกิดไม่มีมันจะลำบาก  คือเรารู้แล้วว่าอยู่บ้านเขาไม่เคยทำหรอก ด้วยความที่เขาเป็นน้องเกือบคนสุดท้อง มีพี่สาวหลายคน มีพ่อแม่ ทุกคนต่างก็โอ๋ ดูแลเขาอย่างดี แล้วถ้าผมโอ๋อีกคน ผมว่าต่อไปเขาจะไม่มีภูมิคุ้มกัน บางทีเหมือนเราโหดร้าย  เพราะผมดูแลตัวเองมาตั้งแต่เด็กๆ ดังนั้นพอมาอยู่ด้วยกันก็ต้องคุยตกลงกันว่าอยากให้เขาทำหรือดูแลอะไรบ้าง ไม่ใช่เอาเขามาลำบาก แต่ถ้าวันหนึ่งเขามีความรับผิดชอบ เข้มแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ เราก็จะเป็นพ่อแม่ที่มีคุณภาพ”

เอ้กแอบบ่น “พี่กัปตันดุมาก บางทีลืมปิดไฟห้องน้ำ หรือลืมล็อกประตูบ้าน ก็จะโดนคาดโทษไว้เลยว่าถ้าลืมอีกจะเก็บครั้งละ 100 บาท หลังจากนั้นปิดตลอด ไม่เคยลืมอีกเลย” (หัวเราะ)

กัปตันขออธิบาย “เราไม่ได้มาตั้งโทษกันว่าใครผิดใครถูก ทุกคนปรับตัวได้ แต่เรื่องลืมล็อกประตู บางทีไม่ปิดหน้าต่าง หรือออกไปนอกบ้านแล้วเปิดมุ้งลวดทิ้งไว้  มันอันตรายมากถูกไหมครับ”

เอ้กพูดน้ำเสียงงอนๆ “พี่ไม่ได้กินตังค์น้องหรอก”

แล้วเอ้กมีบทโหดบ้างไหม

กัปตันรีบเมาท์ “จะบอกว่าเห็นหน้าหวานๆอย่างนี้ จริงๆเอ้กโหดมากเลยนะ คือเขาเป็นคนตรง ชัดเจน ซึ่งถือเป็นข้อหนึ่งที่ทำให้ผมอยู่กับเขาได้ ทำให้เราเข้าใจกัน ถ้าเกิดว่าเขามีนิสัยผู้หญิงมากๆ ผมก็คงไม่ไหว แต่บางทีการที่เขาตรงก็ทำให้ปะทะกันบ่อย แต่ไม่ได้ทะเลาะกันนะ แค่อธิบายเหตุผลว่าทำไมถึงคิดอย่างนี้ แต่ส่วนมากผมก็แพ้นะ พี่วิลลี่สอนไว้ครับว่า อย่าไปหาเหตุผลกับเมีย เพราะว่าไม่มีทางชนะ ยอมไปเถอะ”  (หัวเราะ)

เรื่องฝีมือปลายจวักของภรรยาคนนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ

กัปตันมองหน้าภรรยาแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม “ผมชอบให้เขาทำกุ้งผัดพริกเกลือราดข้าว ผัดกะเพราก็อร่อย เขาก็ทำง่ายๆ เอาสิ่งที่มีในบ้านอย่างกุ้ง กระเทียม แล้วเขาก็ชอบทำขนมหวาน แต่ผมไม่กล้าทานเยอะ เพราะมีทั้งช็อกโกแลต มาร์ชแมลโลว์ เนย ครีม อย่างเค้กกล้วยหอมสอดไส้ช็อกโกแลตแบบอัดแน่น ถ้าผมเอ็นจอยมากมีหวังแย่แน่ๆ”

เอ้กแซว “ถ้าไม่รักกันจริงไม่ใส่ให้ขนาดนี้นะพี่ตัน แต่เราต้องถามเขาก่อนว่าอยากกินอะไร แล้วก็รีเสิร์ชข้อมูล เปิดเน็ตดูวิธีการทำ คือเราก็ไม่ได้ทำเป็นหรอกค่ะ”

กัปตันปากหวาน “ทานหมดทุกทีอะ ไม่อย่างนั้นมีเรื่อง (หัวเราะ) คือจริงๆผมรู้ว่าเขาพยายามที่จะปรับตัว พยายามที่จะทำให้เรา เขาก็สนุกด้วย เพราะเขาชอบซื้ออุปกรณ์เครื่องครัวมาทำขนม ทำกับข้าวให้ เราก็เหมือนได้รับอานิสงส์ไปด้วย เราได้กิน เขาก็ได้เล่น ไม่ถึงขนาดต้องทำเป็นหน้าที่ทุกวัน เขาทำเพราะความสนุก วันไหนนึกครึ้มอกครึ้มใจก็จะลุกขึ้นมาทำให้เรากินเป็นบางกรณี แค่เขาทำให้ผมทานก็ดีใจแล้วครับ”

เอ้กขอเล่าถึงคุณสามีบ้าง “พี่ตันเขาก็ทำอาหารได้นะ ส่วนมากจะเป็นเมนูง่ายๆ พวกขนมปังเนยถั่ว มีวันหนึ่งตื่นเช้ามาแล้วทาเป็นรูปหัวใจ มีช็อกโกแลตราดตรงกลาง แอบทำหวานใส่ บางทีก็ทำพวกไข่คน มีเมนูหนึ่งชื่อว่าไข่แซสซี่ เป็นเมนูที่เราทานในกองถ่ายแล้วคนทำชื่อแซสซี่ คล้ายออมเล็ต แต่แห้งกว่า แล้วแยกไข่ขาวกับไข่แดง พี่กัปตันเลยแอบก๊อปสูตรมาทำให้กิน อร่อยมาก จัดเป็นเมนูเด็ดประจำตัวเขาเลย”

กัปตันรีบคุย “คือจริงๆผมทำกับข้าวได้นะ แต่จะไม่ค่อยบอก ไม่อย่างนั้นเราก็ต้องเป็นคนทำ เหมือนเราแกะปู จะไม่บอกว่าแกะเป็น เพราะไม่งั้นเราก็ต้องแกะให้เขาตลอด ซึ่งเขาเองก็แกะเก่งอยู่” (หัวเราะ)

โหมดพ่อบ้านแม่บ้านเป็นยังไงกันบ้างคะ

เอ้กรีบตอบทันที “พี่กัปตันเป็นคนสะอาดมาก แล้วก็เนี้ยบทุกกระเบียดนิ้ว ผ้าปูเตียงนี่ต้องตึง เขาบอกว่าถ้าผ้าตึงแล้วจะนอนหลับสบาย แล้วกวาดพื้นเองด้วยนะคะ”

กัปตันรีบชี้แจง “ต้องเข้าใจว่าเราทำงานในกองถ่ายมาทั้งชีวิต ไปนั่งอยู่ข้างถนนบ้าง อยู่ข้างป่าบ้าง ไปอยู่ในโรงแรมบ้าง บางทีเลือกไม่ได้ก็ต้องนอนในรถ ดังนั้นผมจึงรู้สึกว่าการที่เรามีบ้านจะต้องเป็นสิ่งที่สบายที่สุด และความสบายของผมคือความสะอาด เราแค่ทำให้มันดูโอเคแค่นั้นเอง ก็ไม่ได้ถึงขนาดเป๊ะเว่อร์ เวลาเหนื่อยๆก็มีรกบ้าง แต่พอมีพลังก็จะกลับมาทำความสะอาดเอง แล้วโชคดีที่ผมกับเอ้กไม่ชอบสะสมข้าวของอะไรมากมาย จะมีของน้อยชิ้นเฉพาะที่ต้องใช้จริงๆ”

เอ้กเสริม “หรือบางทีเห็นเก้าอี้ไม่เข้าที่นี่ไม่ได้เลย คือเก้าอี้ซ้ายขวาต้องเรียงเท่ากัน โซฟาต้องชิดผนัง หมอนต้องสะบัด ตบ แล้วก็ต้องเรียงเป็นองศา พรมที่พื้นไม่ตรงก็ไม่ได้นะ ใครเตะเบี้ยวเห็นแผ่นรองพรมโผล่ออกมานิดเดียวไม่ได้เลย ต้องเข้าไปจัด บางทีก็ตัดให้มันเท่ากันซะเลย”

กัปตันพยายามบอกข้อดี “พอเห็นแล้วมันดูสบายใจสบายตาครับ ผมว่าเป็นข้อดีนะ ถ้าบ้านเราเป็นระเบียบ พอมีอะไรผิดปกติเราจะรู้ทันที อย่างเช่น ของเคยวางอยู่ตรงนี้ แล้ววันนี้ทำไมไปวางอยู่ตรงนั้น ถ้าไม่ใช่เราย้าย แสดงว่าต้องเป็นคนอื่น ผมว่านี่เป็นข้อดีของการมีระเบียบ แล้วก็หาของง่ายด้วย  เพราะเราจะรู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน”

แอบทราบมาว่าทั้งคู่ใส่ใจเรื่องอาหารการกินเอามากๆ

หนุ่มกัปตันขอขยายความ “พอโตขึ้นรู้สึกเลยว่าเรื่องกินสำคัญ เพราะผมผ่านช่วงเวลาที่สุขภาพย่ำแย่มาแล้ว ผมเคยตัวบวมจากปัญหาเรื่องไตตั้งแต่เด็กๆ เมื่อก่อนกินรสจัดมาก กินก๋วยเตี๋ยวเรือชามเล็กๆ 5 บาท 10 บาท แต่ใส่น้ำปลา ใส่พริกเป็นช้อนโต๊ะเลย ทานเกือบทุกวัน คิดว่าเป็นแค่อาหาร   จนรู้สึกว่าทำไมป่วยบ่อย ร่างกายไม่แข็งแรงเลย พอลองปรับเปลี่ยนวิธีการกินก็รู้สึกว่าชีวิตดีขึ้น เจ็บป่วยน้อยลงจริงๆ ดื่มน้ำมากๆ ผมจะดื่มน้ำมาก บางทีดื่มเป็นลิตร”

เอ้กเล่าบ้าง “เป็นเหมือนพี่ตันเลยค่ะ สมัยเรียนตั้งแต่มัธยมจนถึงมหาวิทยาลัย ไม่มีใครมานั่งบังคับให้เราต้องกินข้าว ก็เลยเลือกกินในสิ่งที่อยากกิน เช่น ติดกินไอศกรีมวันละ 3 แท่งจนรู้สึกอิ่ม  หรือถ้าหิวก็ซื้อน้ำโกโก้ปั่นกินแทนข้าว วิปครีมนี่สั่งซื้อเป็นถ้วยมากินเปล่าๆเลย คือกินแย่มาก จนกระทั่งป่วยโรคผู้หญิง จะปวดท้องรอบเดือนมากๆ กินยาแก้ปวดบ่อยมากจนดื้อยา เลยไปหาหมอตรวจภายใน ก็พบว่าเป็นเยื้อบุมดลูกเจริญผิดที่ ต้องปรับเรื่องการกิน ให้ลดอาหารที่ปรุงแต่งสำเร็จรูป ขนมหวาน ไอศกรีม กาแฟ ต้องงดทั้งหมด ปรากฏว่าร่างกายกลับมาแข็งแรงมาก คือไม่มีปัญหาอีก พอกลับไปตรวจก็หาย หลังจากนั้นรอบเดือนก็ปกติ รู้สึกว่าเวิร์คมาก เลยทำมาตลอด”

สุดท้ายแล้วทั้งคู่ได้แพลนเรื่องทายาทไว้บ้างหรือเปล่าคะ

กัปตันอาสาตอบ “ถ้ามีได้ก็อยากมีเลย เพราะว่าผมก็อายุเยอะแล้ว กลัวเดี๋ยวจะตามเขาไม่ไหว”

เอ้กเล่าบ้าง “อยากเป็นแม่ที่อายุใกล้ๆลูก อยากคุยกันรู้เรื่อง ไม่อยากทิ้งนาน มีฮารุเป็นไอดอล ตอนนี้ลูกสาม ลูกตัวจะเท่าแม่แล้ว

“ตอนนี้ก็คงได้แต่รอลุ้นว่าเขาจะมาเมื่อไหร่”

เรื่อง : FAI ภาพ : Apinya 

ภาพ : วรสันต์,eggbusakorn,captainpu