ว่าที่บ่าวสาวห้ามพลาด! งาน “Marry Me at Marriott” เวดดิ้งโชว์เคสที่จะมาเติมเต็มไอเดียงานแต่งของคุณให้ตรงใจ

account_circle

งานแต่งถือเป็นภารกิจสำคัญของคู่รักหลายๆ คู่ ซึ่งในการเนรมิตงานแต่งให้ตรงใจตามที่วาดฝันไว้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไปหากคุณมีผู้ช่วยเบื้องหลังที่ดี ดังนั้น แพรว จึงอยากชวนว่าที่บ่าวสาวค้นหาไอเดียที่ใช่กันที่งาน “Marry Me at Marriott” เวดดิ้งโชว์เคสสุดพิเศษที่สร้างสรรค์โดย Marriott Bonvoy (แมริออท บอนวอย) ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ณ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ ในวันที่ 15-16 มีนาคม 2568 ซึ่งจัดเต็มกิจกรรมสุดพิเศษตลอดสองวัน

ความพิเศษของงาน “Marry Me at Marriott” นอกจากการได้สัมผัสกับโฉมใหม่ของสถานที่จัดงานแต่งริมแม่น้ำของโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ แล้ว ว่าที่บ่าวสาวยังจะได้พบกับโชว์เคสสุดว้าว ซึ่งรวบรวมทุกองค์ประกอบเกี่ยวกับงานแต่งเอาไว้อย่างครบถ้วน ทั้งงานหมั้น งานเลี้ยงฉลอง การถ่ายภาพ การตกแต่ง รวมถึงทริปฮันนีมูน ที่สามารถเนรมิตได้ ณ โรงแรมและรีสอร์ทในพอร์ตโฟลิโอของแมริออท บอนวอย ทั่วประเทศไทย 

ธีมสีของงานเวดดิ้งโชว์เคส “Marry Me at Marriott”  ในปีนี้สะท้อนความละมุนของเฉดสีน้ำตาลธรรมชาติอย่าง Mocha Moose ที่ให้ความรู้สึกเรียบหรู โดยงานจัดขึ้นที่ รอยัล ออคิด บอลรูม ห้องบอลรูมขนาด 985 ตารางเมตรที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ โดดเด่นด้วยจอ LED ขนาดใหญ่ 22 เมตร เวทีจัดแสดง และวิวพาโนรามาของแม่น้ำ สร้างบรรยากาศและประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจให้กับคู่รักที่กำลังเตรียมตัวลั่นระฆังวิวาห์

ภายในงาน “Marry Me at Marriott” จะได้พบกับตัวแทนจาก 39 โรงแรมและรีสอร์ทในพอร์ตโฟลิโอของแมริออท บอนวอย ทั่วประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วย 21 โรงแรมในเมือง และ 18 รีสอร์ท นำเสนอสถานที่หลากหลายรูปแบบสำหรับจัดงานแต่ง ตั้งแต่ห้องบอลรูมสุดหรูไปจนถึงสถานที่กลางแจ้ง ซึ่งรวมถึงชายหาดสุดโรแมนติก และพลาดไม่ได้กับแพ็กเกจสุดพิเศษที่มาพร้อมกับตัวเลือกที่สามารถออกแบบได้ตามใจ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่ง หรือเมนูอาหารสุดสร้างสรรค์

นอกจากนี้ภายในงาน “Marry Me at Marriott” ยังมีโซน One Stop Shop ที่รวมพันธมิตรด้านการจัดงานแต่งของแมริออท เช่น นักวางแผนงานแต่ง ร้านชุดแต่งงาน ร้านจิเวลรี่ ช่างแต่งหน้า สปาและบิวตี้เทอราปิส ระบบแสงสีเสียง ช่างภาพ ช่างวิดีโอ และอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมกิจกรรมไลฟ์สุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น Wedding Guru Talks การแสดงสดจากวงดนตรี และลุ้นรับรางวัลใหญ่จาก Lucky Draw อีกทั้งคู่รักที่จองแพ็กเกจภายในงานยังสามารถรับส่วนลดสูงสุดถึง 100,000 บาท*

เรียกว่าจัดเต็มความพิเศษเอาไว้มากมาย จนไม่อยากให้ว่าที่บ่าวสาวตกขบวน ไม่ว่าคุณจะเป็นคู่รักรูปแบบไหน คู่รักต่างเพศหรือคู่รักเพศเดียวกัน หากคุณกำลังวางแผนจัดงานวิวาห์ ต้องไม่พลาดมาเติมเต็มไอเดียงานแต่งในฝันกันที่งาน “Marry Me at Marriott” ณ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ ในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 15-16 มีนาคม 2568 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.marriott.com/en-us/marriott-brands/portfolio/Thailand_Wedding_Fair.mi

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด


10 ลุคพรมแดงของเซเลบริตี้ระดับเอลิสต์ บนเวที Oscars 2025

Alternative Textaccount_circle

จบลงอย่างสวยงามกับงานประกาศรางวัลระดับโลกที่คอภาพยนตร์ให้ความสนใจ The Academe Awards 2025 ครั้งที่ 97 หรือ Oscar 2025 ปีนี้ยังคงคึกคักไปด้วยเหล่าเซเลบริตี้เช่นเคย หนึ่งไฮไลท์ที่คนตั้งตารอคอยอยู่เสมอ คือลุคพรมแดงจากคนดังที่แต่งตัวจัดเต็มในหลากหลายคาแร็คเตอร์มาให้เราได้ชม

.

ในปีนี้เซเลบริตี้ที่คนไทยจับตามองเป็นพิเศษ ตกเป็นของ “ลิซ่า ลลิษา” ซึ่งเธอถือเป็นคนไทยคนที่สองบนเวทีแห่งนี้ ต่อจาก “แก้ม วิชญาณี“ ที่เคยร่วมร้องเพลง Into The Unknown จากแอนิเมชั่น Frozen ll บนเวทีประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 92 ในปี 2020

.

โดยเธอปรากฏตัวในลุคสุดเท่ แรงบันดาลใจจากทักซิโด้ที่นำมาครีเอทเป็นซิลลูเอตยาวลากพื้น มาพร้อมหูกระต่ายสีดำ แมตช์คู่กับกางเกงขายาว สั่งตัดพิเศษจาก @markgong_official 

.

ไม่เพียงเท่านั้นลุคของรายชื่อผู้เข้าชิง “นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม” ก็สะดุดตาไม่แพ้กัน เริ่มต้นด้วย “Cynthia Erivo” ที่มาในเดรสรังสรรค์จากผ้ากำมะหยี่ โดดเด่นด้วยแขนเสื้อรูปโบ และคอปกตั้ง จาก @louisvuitton ต่อด้วย “Demi Moore” ที่เปล่งประกายในเดรสหางปลาปักเลื่อมทั้งตัวจาก Giorgio Armani หรือดาวเด่นอย่าง “Mikey Madison” ผู้คว้ารางวัลนี้ไปครอง เธอปรากฏตัวในเดรสเกาะอกสีชมพู-ดำ มาพร้อมโบตกแต่งบริเวณใต้หน้าอก ให้ความรู้สึกเหมือนซิลลูเอตแฟชั่นยุครีเจนซี่เบาๆ โดยชุดดังกล่าวออกแบบโดย Dior ขณะที่ “Fernanda Torres” มาในเดรสลูกไม้สีดำ ตกแต่งด้วยขนนกบริเวณกระโปรง รังสรรค์จาก Chanel น่าเสียดายที่เราไม่เห็น “Karla Sofía Gascón” บนพรมแดงครั้งนี้

ส่วนผู้เข้าชิง “นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม” ลุคของพวกเธอก็โดดเด่นเช่นกัน โดยเฉพาะ “Zoe Saldana” ผู้ชนะรางวัล เธอปรากฏตัวบนพรมแดง ในลุคแดงชนแดง! แต่ไม่จม ด้วยซิลลูเอตกระโปรงบอลลูนสามชั้น พร้อมเกาะอกปักคริสตัล จึงทำให้ลุคสะดุดตามากขึ้น ซึ่งเดรสตัวนี้มาจาก Saint Laurent ขณะที่ลุคของ “Ariana Grande” เธอคนนี้ก็ไม่มีวันดร็อป เพราะลุคเกาะอก กระโปรงแมงกะพรุนก็ชวนสะดุดตากว่าใคร ด้วยการตัดเย็บจากแบรนด์ Schiaparelli

นอกจากนี้ยังมีอีก 3 ลุคเด่น นั่นคือ “Elle Fanning” ที่ปรากฏตัวบนพรมแดง Oscars 2025 ในเดรสลูกไม้ฝรั่งเศสสีขาวพร้อมโบสีดำบริเวณเอว ลุคดังกล่าวได้แรงบันดาลใจจากคอลเล็คชั่นแรกของ Hubert de Givenchy ที่ Ivy Nicholson เคยสวมใส่ ขณะที่ “Selena Gomez” มาในเดรสปาดไหล่ กระโปรงทรงหางปลา ปักประดับด้วยคริสตัลทั้งชุด ตัดพิเศษจาก @ralphlauren สุดท้าย “Emma Stone” ปรากฏตัวในเดรสปักเลื่อม จาก @louisvuitton 


Cr. Getty Images

เฉิดฉายบนเวที Oscars! 3 ลุคฉีกสไตล์เดิมของ “ลิซ่า ลลิษา”

Alternative Textaccount_circle

3 ลุคไม่มีซ้ำ! เปิดคอสตูมของ ลิซ่า ลลิษา บนเวทีประกาศรางวัลระดับโลก Oscars 2025

ติดตามผู้หญิงที่ชื่อ “ลิซ่า – ลลิษา มโนบาล” ยังไงก็ไม่มีผิดหวัง เพราะนอกจากความสามารถทางด้านดนตรี และการแสดงแล้ว เซ้นส์ด้านแฟชั่นของเธอก็ชวนติดตามไม่แพ้กัน ทุกครั้งที่ปรากฏตัวลุคของลิซ่าก็มักเป็นที่พูดถึงอยู่เสมอ เช่นเดียวกับ 3 ลุคในงานประกาศรางวัล The Academe Awards 2025 ครั้งที่ 97 หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า Oscars 2025 เธอก็มาในลุคที่คาแร็คเตอร์ต่างกัน สร้างภาพจำใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

Red Carpet

เริ่มต้นด้วยพรมแดง Oscars ครั้งแรกของลิซ่า เธอปรากฏตัวด้วยลุคสุดเท่ แรงบันดาลใจจากทักซิโด้ที่นำมาครีเอทเป็นซิลลูเอตยาวลากพื้น มาพร้อมหูกระต่ายสีดำ แมตช์คู่กับกางเกงขายาว สำหรับสไตลิสต์ไม่ใช่ใครอื่นใด ยังเป็น “คุณแนนนิสต์ – หทัยรัตน์ เพิ่มพูนธนาลาภ” ที่เลือกลุคนี้ให้สั่งตัดพิเศษจาก @markgong_official 

On Stage

ฉีกความเท่ในลุคแรกออกไป กลายเป็น Queen Lisa! สำหรับการแสดงในธีม James Bond ร่วมกับ Doja Cat และ RAYE เธอปรากฏตัวมาเป็นคนแรกในเพลง  Live and Let Die ด้วยเดรสลูกไม้สีดำ – แดง พร้อมดีเทลผ่าข้างเพิ่มความเซ็กซี่ และสะดวกตัวการเคลื่อนไหวไปตามจังหวะเพลง

Party Time

มาถึงลุคสุดท้ายของงานก็ไม่มีแผ่ว ลิซ่าปรากฏตัวในงาน The Vanity Fair Oscar Party พร้อมเดรสลูกไม้สีดำให้ความลึกลับ โรแมนติก ผสมผสานเข้ากับซิลลูเอตแปลกตา ลุคดังกล่าวสั่งตัดพิเศษจาก Miss Sohee


ภาพ: Getty Images

‘รักไม่เป็นพิษ มีดวงพบรักกับชายสูงวัยหรือต่างชาติ ใช่คุณไหม?? เช็กเลย!!’ดวงรายสัปดาห์ 3-9 มีนาคม 2568

Alternative Textaccount_circle

‘รักไม่เป็นพิษ มีดวงพบรักกับชายสูงวัยหรือต่างชาติ’

ดวงรายสัปดาห์ 3-9 มีนาคม 2568

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์          

การงาน  :   ชาวอาทิตย์เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ด้วยความร้อนแรง มีโอกาสที่คุณจะตกอยู่ท่ามกลางการแข่งขัน แย่งชิง ชิงดีชิงเด่น ในเรื่องของผลประโยชน์และตำแหน่งหน้าที่การงานอย่างบ้าคลั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายงานหรือธุรกิจที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ บ้าน ที่ดิน อาคารสำนักงาน และสิ่งก่อสร้างทุกชนิด ความที่คุณเชื่อมั่นในตัวเองสูงมากจึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดการขัดแย้งกันใหญ่โต เป็นไปได้ที่งานหรือธุรกิจจะสะดุดหยุดลงกลางคัน ทางที่ดีควรลดความเป็นตัวเอง พร้อมกับเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นให้มากๆ เพราะจริงๆ แล้ว ทั้งผู้ใหญ่ ผู้ร่วมงานและเจ้านาย ก็มีความเมตตาคุณอยู่นา

การเงิน  :   หากสัปดาห์นี้คุณได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ ก็อยากบอกว่าให้ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงที่คุณจะเสียเงินให้กับผู้สูงอายุในบ้าน  

ความรัก  :  ต้องระวังจะมีปากเสียงกับคู่ครองรุนแรง เพราะผู้ใหญ่เป็นต้นเหตุ เป็นไปได้ว่าประเด็นจะมาจากเรื่องการทำงาน เรื่องที่อยู่อาศัย คนโสด น่าจะเป็นสัปดาห์ที่คุณให้ความสำคัญกับการทำงาน แต่จะบอกว่าไม่สนใจความรัก ก็ไม่ได้ เพราะยังมีดวงแย่งชิงอย่างเผ็ดร้อน กับชายสูงวัยหรือไม่ก็ต่างชาติในที่ทำงาน

สุขภาพ  :  เดินดีๆ นะคะ เพราะสัปดาห์นี้คุณมีความเสี่ยงที่จะบาดเจ็บ อันเนื่องมาจากการตกบันได ลื่นล้ม ข้อเท้าพลิก/แพลง จนเส้นเอ็นอักเสบ บวม นอกจากนั้นยังต้องระวังพวกของมีคมด้วย

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  ทำใจหน่อยนะคะ เพราะชาวจันทร์เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ด้วยความเหนื่อยประมาณสายตัวแทบขาดเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อประสานงาน การบริหารจัดการ และการให้บริการคำปรึกษาแนะนำต่างๆ มีโอกาสที่คุณจะต้องใช้แรงกายแรงใจ เพื่อเอาชนะปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่จะมีเข้ามาตลอดทั้งสัปดาห์ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่พ้นความสามารถและความขยันของชาวจันทร์ไปได้ นอกจากนั้นผู้ใหญ่ เพื่อนร่วมงาน และเจ้านาย ก็ยังเป็นแรงสนับสนุนส่งเสริมที่ดีให้คุณ

การเงิน  :  เงินจะมาจากน้ำพักน้ำแรงของคุณที่มาอย่างโปร่งใส เพราะฉะนั้นไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงานหรือธุรกิจสีเทา ไม่ถูกต้อง หรือเสี่ยงโชค เพราะนอกจากจะเสียเวลาแล้วยังเสียชื่อเสียง เสียเงินอีกต่างหาก

ความรัก  :  เป็นสัปดาห์ที่คุณจะพลีกายพลีใจทำงานสร้างเนื้อสร้างตัว และเพื่อครอบครัว เพื่อผู้ใหญ่ในบ้าน ซึ่งก็ห้ามไม่ได้ที่คุณจะยึดตัวเองเป็นหลัก อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ปรึกษาคู่ครองเลย  คนโสด  สัปดาห์นี้รักไม่เป็นพิษ เพราะคุณจะเจ้าชู้ไปเรื่อย ซึ่งในไพ่ของคุณในสัปดาห์นี้มีชายสูงวัยทรงภูมิปรากฎอยู่ อาจเป็นชาวต่างชาติที่ทำงานด้วยกัน

สุขภาพ  :  ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะมาจากการทำงานหนัก ยิ่งสัปดาห์นี้น่าจะมีทั้งโรคและภัยเลย ต้องระวังโรคที่เกี่ยวกับหัวใจ พวกไขมันอุดตัน รวมถึงกระดูกสันหลัง จะมีอาการเจ็บหลังค่อนข้างมาก นอกจากนั้นอาจมีการลื่นล้ม ตกบันได ข้อเท้าพลิก/แพลง จนเส้นเอ็น กล้ามเนื้ออักเสบ

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน   สัปดาห์ใหม่ของชาวอังคารที่กำลังเป็นมือใหม่ในธุรกิจ พนักงานใหม่ จนถึงน้องใหม่ในสถานศึกษา คุณจะเริ่มต้นบรรยากาศใหม่ๆ อย่างเต็มเปี่ยมด้วยไฟในการทำงาน ความกระตือรือร้นที่อยากจะศึกษาสิ่งใหม่ๆ ซึ่งคุณก็ทำได้ดีด้วย แต่ก็ต้องระวังตัวไว้หน่อย เป็นไปได้ว่าทางสายใหม่นี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ อย่าเพิ่งเชื่อใจผู้ที่เดินร่วมทางไปกับคุณ เขาเข้ามาทำดีด้วย ใช่ว่าจะจริงใจตลอดไป เพราะสัปดาห์นี้คุณมีดวงที่จะถูกคนใกล้ตัวทรยศและหักหลัง เพราะฉะนั้นเป็นคนใหม่อย่าเพิ่งเด่น จะเป็นภัย อยู่เงียบๆ ก้มหน้าก้มตาทำงานไป แล้วผลที่กลับมาจะคุ้มค่ากับความเหนื่อย   

การเงิน  :  รายได้มาจากการทำงานเป็นหลัก ต้องเหนื่อยจึงจะได้เงิน เพราะฉะนั้นอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเส้นทางเงินที่ไม่ถูกต้อง มีความเสี่ยงที่คุณจะมัวหมองในหน้าที่การงานเลยทีเดียว  

ความรัก  :  หูหนักไว้นะคะ เพราะมีโอกาสที่คุณจะถูกโซเชียล หรือคลิปแอบถ่าย เล่นงานจนเสียศูนย์ กลายเป็นชวนทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง  คนโสด  ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ทำให้คุณเสียใจไม่แพ้กัน แล้วคุณก็ขี้เบื่อเสียดัวยสิ เพราะฉะนั้นสัปดาห์นี้ขอเลือกทางรักทุกคนดีกว่า   

สุขภาพ  :  ต้องระวังในเรื่องของการรับประทานอาหาร ควรเลือกอาหารที่ถูกสุขลักษณะ งดของสดของดองของดิบไว้ก่อน เพราะมีความเสี่ยงที่คุณจะอาหารเป็นพิษ ท้องเสีย และลำไส้อักเสบได้ นอกจากนั้นการรับประทานอาหารไม่เป็นเวลาก็มีโอกาสที่จะเกิดโรคกระเพาะอักเสบ และท้องผูกได้

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :  ชาวพุธเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ด้วยความอบอุ่นของงานหรือธุรกิจที่เกี่ยวกับแม่และเด็ก ความรักความผูกพันในครอบครัว เป็นไปได้ว่าคุณจะมีจินตนาการกว้างไกล มีความคิดสร้างสรรค์ล้ำเลิศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอยู่ในแวดวงโฆษณา สื่อสารมวลชน วงการบันเทิง นักร้องนักแสดง ประชาสัมพันธ์ด้วยแล้ว เป็นไปได้ที่คุณจะได้ใช้ทักษะความสามารถของตัวเองทำงานเต็มที่ นอกจากนั้นยังมีโอกาสได้เดินทางไปแสวงหาความรู้ที่ต่างถิ่นต่างแดน เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้วย

การเงิน  :  มีโอกาสได้รับความอุปถัมภ์จากผู้ใหญ่ผู้หญิงก้อนใหญ่เลยทีเดียว อาจไปถึงเขียนพินัยกรรมให้คุณเลยทีเดียว หรือหากเป็นธุรกิจ คุณควรทำคนเดียว อย่าดึงใครมาร่วมหุ้นร่วมทุนด้วย

ความรัก  :  มีโอกาสที่ครอบครัวจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันนะคะ ก็อย่าได้หวั่นไหว หรือมโนอะไรไปก่อนให้วุ่นวาย เพราะจากความสุขที่อยู่ตรงหน้าจะกลายเป็นต้องมานั่งทะเลาะกัน เสียบรรยากาศเปล่าๆ  คนโสด ความเนื้อหอมกับความโลเลก็ยังตามมาในสัปดาห์นี้ แม้จะอยู่ท่ามกลางความสุขและสมหวังก็ตาม เพราะฉะนั้นจึงควรศึกษาดูใจกันไปนานๆ อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจที่เป็นการผูกมัดตัวเอง

สุขภาพ   :  ต้องระวังเรื่องระบบน้ำย่อย กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี และต่อมน้ำเหลือง พยายามรับประทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ สารอาหารครบถ้วน นอกจากนั้นควรระวังเรื่องสุขอนามัยส่วนตัวในการใช้ชีวิตนอกบ้าน เดี๋ยวนี้โรคเยอะ

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :   ก็ยังอยู่กับโอกาสที่จะได้แสดงความรู้ ความสามารถ รวมถึงบารมีในการทำงานหรือดำเนินธุรกิจอยู่นะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวพฤหัสที่อยู่ในงานหรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข่าวสาร ข้อมูล การประชาสัมพันธ์ นักประพันธ์ นักข่าว ความที่คุณมีประสบการณ์สูง มีคอนเน็กชั่นมากมาย จึงทำให้คุณเกิดความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทำ แต่เพราะดวงสัปดาห์นี้ยังไม่ค่อยดี ไม่ว่าจะทำอะไรก็ขลุกขลักไปหมด มีความเสี่ยงที่จะถูกใส่ร้ายป้ายสี เอกสารผิดพลาด เป็นคดีความได้ทั้งทางแพ่งและอาญา ทางที่ดีควรหาเพื่อนที่รู้ใจมาช่วยทำงาน หรือปรึกษาผู้รู้ผู้มีความรู้ด้วย

การเงิน  :   จริงๆ คุณมีการวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่สัปดาห์นี้อาจมีเรื่องให้คุณต้องจ่ายเงินอยู่ตลอดๆ เรียกได้ว่าเข้ามือขวาออกมือซ้าย แต่อย่างไรก็ตามหากใครมาขอให้คุณช่วยค้ำประกัน เพื่อขอกู้เงินซื้อบ้าน ซื้อรถ ก็ควรปฏิเสธ เพราะมีความเสี่ยงที่คุณจะต้องรับผิดชอบหนี้สินแทน

ความรัก  :  เป็นเรื่องของสาวทำงานเก่งที่มีความเป็นตัวเองสูง มีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง ช่วงนี้หากจะให้ดีก็อย่าเพิ่งวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นที่เกี่ยวกับสังคมมาก เพราะมีโอกาสที่คุณกับคู่ครองจะเถียงกันบ้านแตกเลย  คนโสด  ในสายตาของสังคมมองคุณว่า เป็นสาวเก่ง มีบารมี ไม่กล้าไก่กาด้วย จึงเป็นไปได้มากว่าความรักของคุณน่าจะเริ่มต้นจากความเป็นเพื่อนมากกว่า

สุขภาพ   :  สัปดาห์นี้คุณมีพลังเยอะ ไม่ค่อยเจ็บไข้ได้ป่วยกับใครง่ายๆ แต่ก็อย่าประมาท พยายามดูแลรักษาหัวใจและโรคที่เกี่ยวกับหัวใจไว้ให้ดี นอกจากนั้นเรื่องสายตาก็ไม่ควรมองข้าม ตระกูลต้อกำลังมาเยือน

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :   สัปดาห์ใหม่ของชาวศุกร์ คุณก็ยังมีโอกาสที่ผู้ใหญ่จะให้การส่งเสริมและสนับสนุนในสิ่งที่ตั้งใจไว้ มีโอกาสได้เดินทางไปดูงาน อบรม สัมมนา ตลอดจนขยายสาขายังต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ซึ่งเส้นทางนี้ของคุณก็ยังคงไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เต็มไปด้วยความร้อนแรงของการแข่งขัน แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ทั้งในเรื่องของผลประโยชน์และหน้าที่การงาน มีความเสี่ยงที่ความคิดเห็นจะขัดแย้งกัน จนงานหรือธุรกิจมีความเสี่ยงที่จะสะดุดหยุดลงกลางคัน  

การเงิน  :  มีโอกาสได้เดินทางไปเจรจาธุรกิจยังต่างถิ่นต่างแดน เป็นไปได้ว่าผู้ใหญ่จะอุปถัมภ์ ดังนั้น ก่อนจะลงทุนอะไร ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจนะคะ ขณะเดียวกันคุณก็จ่ายแบบไม่อั้นเลยค่ะ

ความรัก :   มีดวงเดินทางนะคะ แต่เป็นไปได้ว่าคุณจะเอาแน่เอานอนไม่ได้ เดี๋ยวไป เดี๋ยวไม่ไป จนกลายเป็นสาเหตุให้คุณทะเลาะกันกับคู่ครองแบบโกโซบิ๊ก คนโสด  มีดวงได้พบคนถูกใจในระหว่างเดินทาง แต่ก็ไม่ง่าย เพราะเขามีคนหมายปองเยอะ สำหรับชาวศุกร์ที่มีคนรักอยู่แล้ว สัปดาห์นี้มีโอกาสได้เดินทางด้วยกัน

สุขภาพ  :   คำว่า อ้วน พูดเบาๆ ก็เจ็บนะคะ เพราะฉะนั้นก็ต้องระวัง นอกจากไขมัน ความดัน จะมาแล้ว โรคกระเพาะ ลำไส้ยังจะตามมาด้วย หากรับประทานอาหารไม่เป็นมื้อ ไม่ตรงเวลา  

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :  สัปดาห์ใหม่ของชาวเสาร์นี้ปรากฏเทพพระเสาร์ ซึ่งเป็นเทพประจำวันของคุณสถิตอยู่ นั่นหมายถึงคุณมีโอกาสที่จะได้ทำงานหรือธุรกิจที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบในการคิดพิจารณา ทบทวนตรวจทานงานค่อนข้างมาก โดยเป็นไปได้ที่คุณจะปรับตัวปรับใจรับกับเนื้อหางานที่มีความท้าทายและยุ่งยาก ลำบาก ต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะเห็นผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวกับสินค้าและบริการ การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ของตกแต่งบ้าน  ฯลฯ แม้จะมีปัญหาอุปสรรคเข้ามาเพียงไร ก็ขอให้อดทน เพราะความสำเร็จกำลังกวักมือเรียกคุณอยู่ในสัปดาห์นี้เหมือนกัน

การเงิน  : เหนื่อยนะคะ กว่าจะได้เงินมาแต่ละบาท ซึ่งสัปดาห์นี้ก็พอมองเห็นช่องทางสร้างรายได้ไม่ขาดล่ะ เก็บเงินไว้บ้างนะ เพราะเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เข้ามาเท่าไหร่ก็ออกไปเท่านั้น

ความรัก  :   อย่าเพิ่งคาดหวังกับคู่ครองกับชีวิตคู่มากเกินไป เป็นไปได้ที่คุณจะเครียดเพราะเขาไปได้ไม่ถึงในสิ่งที่คุณหวัง   คนโสด มีโอกาสได้พบคนถูกใจ แต่น่าจะเป็นความหลงมากกว่าความรัก เพราะเป็นไปได้ว่าคุณจะคบคนอื่นเพื่อนำมาเปรียบเทียบว่า ใครที่จะเหมาะสมกับคุณที่สุด

 สุขภาพ   :   ต้องระวังพวกโรคที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะช่วงขาและข้อต่างๆ เช่น เก๊า อัมพฤกษ์ อัมพาต หรือเส้นเอ็นฉีกขาด ที่สำคัญคือความเครียด ที่นอกจากจะทำให้คุณปวดศีรษะ ไมเกรนแล้ว ยังส่งผลกระทบที่ระบบย่อยอาหารด้วย

อารีอานา กรานเด

Ariana Grande (อารีอานา กรานเด) กับมาตรฐานความงามใหม่ที่ไม่ใช่เรื่องตายตัว

Alternative Textaccount_circle
อารีอานา กรานเด
อารีอานา กรานเด

นับตั้งแต่เดินสายโปรโมทภาพยนตร์มิวสิคัล ศิลปินสาว อารีอานา กรานเด (Ariana Grande) ก็มักถูกพูดถึงในประเด็นเรื่องรูปร่างที่เปลี่ยนไปว่า ผอมลงทุกครั้งที่ปรากฏตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงาน  BAFTA Film Awards ร่างกายของเธอแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง  จนกลายเป็นที่พูดถึงอย่างมาก มีความคิดเห็นต่างๆ นานา เธอดูผอมจนเห็นแต่กระดูก,ฉันแค่หวังว่าเธอจะโอเค,ทุกครั้งที่ฉันเห็นภาพใหม่ๆ ฉันก็ตกใจซ้ำไปซ้ำมา ซึ่งเรื่องนี้ทำให้แฟนคลับของ Ariana Grande  รู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของนักร้องสาว

ขณะเดียวกัน Pagesix.com วิเคราะห์ว่านับตั้งแต่เริ่มโปรเจ็กต์ Wicked รูปร่างของ Ariana Grande ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วงเดินสายโปรโมทภาพยนตร์ ในเวลาต่อมาแหล่งข่าววงในได้ออกมาเปิดเผยว่าเพราะตารางที่แน่นเกินไปทำให้เธอทำงานหนักจนกระทบกับสุขภาพ

ไม่เพียงแค่ Ariana Grande เท่านั้นถูกพูดถึงเรื่องรูปร่างที่เปลี่ยนไป เพราะ ซินเธีย เอริโว Cynthia Erivo อีกหนึ่งนักแสดงนำจากเรื่อง Wicked ก็ได้ถูกจับตาในประเด็นนี้เช่นเดียวกัน โดยสื่อแทบลอยด์ได้ตำหนิว่าพวกเธอแข่งกันผอม แทนที่จะไปเดินสายโปรโมทภาพยนตร์กลายเป็นการโปรโมทความซูบผอมแทน

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Ariana Grande ต้องเจอกับคำตำหนิของชาวเน็ต  เพราะเธอได้ให้สัมภาษณ์ว่า สังคมทุกวันนี้ มักวิจารณ์เรื่องรูปลักษณ์ของคนอื่นเสมอ ฉันคิดว่าเราไม่ควรทำอย่างนั้น เพราะคุณไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นต้องต่อสู้กับอะไรมาบ้าง ฉันคิดว่าไม่ว่าการแต่งหน้า การแต่งกายจะเป็นอย่างไร การวิจารณ์คนอื่นเพื่อความสบายใจของตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่สร้างความเสียหายรุนแรง”

อารีน่า แกรนด์เด
อารีน่า แกรนด์เด ในงาน ออสการ์ 2025
กชเบล ศรัณย์รัชต์

กชเบล ศรัณย์รัชต์ คว้ามงทอง “มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2025”

Alternative Textaccount_circle
กชเบล ศรัณย์รัชต์
กชเบล ศรัณย์รัชต์

ภูเก็ต B2B กชเบล ศรัณย์รัชต์ เผือกพิพัฒน์ คว้ามงทอง Miss Grand Thailand 2025 : A Star Is Born

ลุ้นสนุกทุกวินาที ชนิดที่บีบหัวใจสุดๆ สำหรับการประกวด Miss Grand Thailand 2025 : A Star Is Born แจ้งเกิดเป็นที่เรียบร้อย เมื่อนางงามตัวเต็งผู้ทำคะแนนนำโด่งในทุกรอบการแข่งขัน มิสแกรนด์ภูเก็ต “กชเบล ศรัณย์รัชต์ เผือกพิพัฒน์” คว้ามงทองมาครองได้สำเร็จ สมเป็นนางงาม 4B ที่ครบเครื่อง ทั้งความสวย รูปร่าง สมองที่ตอบคำถามได้แสบถึงทรวงผู้กระทำ และมีศักยภาพขับเคลื่อนธุรกิจองค์กร มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้อย่างที่ บอสณวัฒน์ ต้องการ ในขณะคู่จับมือหยุดโลกอย่าง มิสแกรนด์ขอนแก่น เฌอเอม ชญาธนุส ศรทัตต์ รั้งตำแหน่งรองอันดับ1 ไปอย่างฉิวเฉียด แฟนนางงามร้องสะใจลั่น MGI HALL ที่ได้ มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2025 คนที่ 13 ของประเทศไทย อย่างที่ใจเชียร์ กชเบล เตรียมขึ้นแท่นลูกรักให้ บอสณวัฒน์ อิสรไกรศีล ปั้นเป็น STAR สำหรับตำแหน่ง รองอันดับ 2 ได้แก่ มิสแกรนด์ลำปาง “หมอแจน ณัฏฐ์ฑินี ธนัตพรภิญโญ” ตำแหน่งรองอันดับ 3 ได้แก่ มิสแกรนด์ ลำพูน “โซแบม ปณิชดา คงสวรรยา” รองอันดับ 4 ได้แก่ มิสแกรนด์กรุงเทพมหานคร “คณา คณาพร พัฒนพันธ์” สำหรับตำแหน่งรองอันดับ 5 ได้แก่ มิสแกรนด์ กาฬสินธุ์ “ไอลิน แนบสุข “ มิสแกรนด์ สระแก้ว “นัวเนีย บวรรัตน์ มณีรัตน์” มิสแกรนด์ พัทลุง “มิเชล เบอร์แมนน์” มิสแกรนด์ สงขลา “มีน่า สุชิตา อ๊อกซ์แมน” มิสแกรนด์ ชุมพร “นิวหยก สุพรรณิการ์ นพรัตน์” และ และ มิสแกรนด์แพร่ “อาม ชุติมา โสดาภักดิ์” โดยทั้ง 11 ตำแหน่ง จะได้ทำงานภายใต้องค์กร มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ตลอด 1 ปี นับจากนี้

YETI Flagship Store

เปิดตัว YETI Flagship Store แห่งแรกในเอเชียที่ประเทศไทย

Alternative Textaccount_circle
YETI Flagship Store
YETI Flagship Store

Element 72 ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายแบรนด์ Urban Lifestyle และ Urban Outdoor ระดับพรีเมียมของประเทศไทย สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ! ด้วยการผนึกกำลังกับแบรนด์ Drinkware อันดับ 1 ของโลกอย่าง YETI แบรนด์คู่ใจสำหรับคนที่รักกิจกรรม Outdoor ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็น King Of Cooler จัดงาน Grand Opening เปิดตัวร้าน YETI FLAGSHIP STORE แห่งแรกในเอเชียที่ประเทศไทย อย่างเป็นทางการ บริเวณชั้น 2 โซน Parade ณ ศูนย์การค้า One Bangkok

แบรนด์ YETI ก่อตั้งขึ้นในปี 2006 โดยสองพี่น้อง Roy และ Ryan Seiders ผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์ และการตกปลาเป็นชีวิตจิตใจ ที่กำลังมองหาคูลเลอร์เก็บความเย็น และได้เจอกับคูลเลอร์จากโรงงานในไทย จากนั้นได้เปิดบริษัทนำเข้าคูลเลอร์จากไทย ต่อมาทั้งสองจึงอยากพัฒนาคูลเลอร์ให้ดีกว่าเดิม เพราะปัญหาคูลเลอร์ที่มีขายกันอยู่นั้นไม่แข็งแรงทนทานพอ จึงคิดที่จะทำให้ถังคูลเลอร์มีความแข็งแรงมากที่สุด จนได้มาเป็นคูลเลอร์ที่แข็งแรงมากจนใช้นั่งแทนเก้าอี้ได้ หรือไว้ยืนขึ้นเหยียบเวลาตกปลาโดยไม่ต้องกลัวพัง คูลเลอร์ของ YETI แข็งแรงมากถึงถึงขนาดหมีกริซลี่ก็ไม่สามารถทุบมันได้ และยังผ่านการทดสอบ และได้รับการอนุมัติจาก Interagency Grizzly Bear Committee และผลพลอยได้คือ มันดันเก็บความเย็นได้ดีกว่าคูลเลอร์ทั่วไป จึงเป็นที่มาที่ทำให้ทั้งสองคิดหาชื่อให้แบรนด์สินค้า จนสุดท้ายก็ออกมาเป็น YETI หรือสัตว์ประหลาดยักษ์หิมะ หลังจากนั้น YETI ก็ได้พัฒนาสินค้าออกมาอย่างมากมาย โดยเป็นสินค้าที่สามารถรองรับการผจญภัยที่ท้าทายที่สุด ตั้งแต่คูลเลอร์ไปจนถึงแก้วเก็บอุณหภูมิระดับพรีเมี่ยม YETI กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความทนทาน ประสิทธิภาพ ดีไซน์ที่เหมาะสมต่อการใช้งาน จนกลายเป็นแบรนด์ Drinkware ระดับพรีเมี่ยม

YETI Flagship Store

สำหรับ YETI FLAGSHIP STORE แห่งแรกในเอเชียที่ประเทศไทย พร้อมเดินหน้าสู่การมอบประสบการณ์เต็มรูปแบบจาก YETI ให้กับลูกค้า โดยจะนำเสนอสินค้าทุกรุ่นจาก YETI รวมถึงคอลเลกชั่นสุดพิเศษ ที่จะวางจำหน่ายเป็นที่แรกในประเทศไทย อาทิ Thailand Special Collection อย่าง YETI Rambler Tumbler Thailand’s Edition ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของประเทศไทย ที่มีจำกัดเพียง 150 ชิ้นเท่านั้น,YETI Sticker เวอร์ชั่นพิเศษ ลายธงชาติไทย, YETI V Series คูลเลอร์ระดับ Hi-End ที่ทำจาก Stainless Steel ทั้งใบ การันตีคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ที่ไม่เคยขายนอกประเทศสหรัฐอเมริกามาก่อน มีวางจำหน่ายที่นี่เป็นที่แรก, สินค้า Collection ใหม่อย่างสี Fire Fly Yellow, Big Sky Blue และที่พิเศษสุดๆคือ บริการ Customize ชื่อให้ฟรี แบบรอรับได้เลย ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาดของ YETI ในภูมิภาคเอเชียและประเทศไทย

โดยบรรยากาศงานเปิดตัว YETI FLAGSHIP STORE ได้รับเกียรติจากแขกรับเชิญสุดพิเศษ ป๋าเต็ด-ยุทธนา บุญอ้อม, น้าเน็ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา, ว่าน-ธนกฤต พานิชวิทย์ (Soloist), คุณเคน-นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ (The Standard), ฟรอยด์ ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์, เรย์ แมคโดนัล พร้อมเหล่าคนดัง มาร่วมสัมผัสประสบการณ์ระดับโลกที่ YETI Flagship Store แห่งแรกในเอเชียที่ประเทศไทย กันอย่างคับคั่ง ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งวันประวัติศาสตร์ของเหล่าสาวก YETI ที่จะได้สัมผัสประสบการณ์แห่งไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับอย่างแท้จริง

พบกับ YETI FLAGSHIP STORE แห่งแรกในเอเชียที่ประเทศไทย ที่ชั้น 2 โซน Parade ณ ศูนย์การค้า One Bangkok ได้แล้ววันนี้

สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ YETI.com และ Official Facebook / Instagram Account ของ YETI และ Element 72

PUMA เปิดตัวคอลเล็คชั่น SS2025 พร้อมดึง “วิน-ตู” ร่วมถ่ายทอดสไตล์

account_circle

หลังจากสร้างความฮือฮาด้วยคอลเล็คชั่น Spring Summer 2025 ไปเมื่อต้นปี PUMA ยังคงเดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านแฟชั่นสไตล์ไอคอนิค ด้วยการเปิดตัวไอเท็มใหม่ล่าสุดที่ได้สองแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่าง “วิน เมธวิน” และ “ตู ต้นตะวัน” มาร่วมถ่ายทอดสไตล์สุดล้ำ

ไฮไลท์แรกอยู่ที่รองเท้า PUMA Palermo Premium รองเท้าสไตล์เทอเรซสุดคลาสสิกที่โดดเด่นด้วยดีไซน์หัวรองเท้าแบบ T-toe อันเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมการตัดสีที่สะดุดตาและวัสดุระดับพรีเมียม

โดยวินและตูได้นำเสนอรองเท้าคู่นี้ในลุคสุดเท่ด้วยการแมทช์กับเสื้อแจ็คเก็ตหนัง โดยตูเลือกสวมแจ็คเก็ตนักแข่งรุ่น PUMA ARCHIVE SEASONAL Relaxed Racer Jacket สี Glacial Gray และสะพายกระเป๋า PUMA Hobo สี Frosted Dew

ต่อมาคือรองเท้า Palermo Weathered Unisex Sneakers ที่วินมาในลุควินเทจด้วยแจ็คเก็ตสีขาวและเสื้อยืด PUMA คอมพลีทลุคด้วยรองเท้าสี Green Moon-Sunny Yellow ส่วนตูมาในลุคทอลล์ลุคด้วยแจ็คเก็ตยีนส์ เสื้อคอร์เซ็ต Dare To สี Alpine Snow กระโปรงพลีทผ้าทอจากคอลเลคชั่น ROAD TO UNITY Midi AOP และรองเท้า Palermo Weathered สี Green Moon-Sunny Yellow

นอกจากนี้ PUMA ยังเอาใจสายสปอร์ตด้วยชุดออกกำลังกายสีดำและสีเขียวที่วินและตูสวมใส่ พร้อมรองเท้า PUMA x HYROX Velocity NITRO™ 3 สี White-Green Glare ที่มาพร้อมเทคโนโลยี NITROFOAM™ และ PUMAGRIP เพื่อการตอบสนองและการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม

คอลเล็คชั่น Spring Summer 2025 ของ PUMA ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงสไตล์ที่โดดเด่น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว


Coccinelle

Coccinelle Fall/Winter 2025 ความสมดุลแห่งความหรูหราผ่านแนวคิด Lagom

account_circle
Coccinelle
Coccinelle

Coccinelle เปิดตัวคอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2025 ที่ Terrazza Martini โดยใช้แรงบันดาลใจจากแนวคิด “Lagom” ซึ่งเน้นความสมดุลและความเรียบง่าย แต่หรูหราและลงตัว การออกแบบมุ่งมั่นผสมผสานระหว่างความงามและการใช้งานอย่างลงตัว คอลเล็คชั่นนี้นำเสนอวัสดุประณีตและสีสันหรูหราที่สะท้อนถึงสไตล์ที่มีความทันสมัยและความคลาสสิก โดยเฉพาะกระเป๋าและเครื่องประดับที่ออกแบบมาเพื่อผู้หญิงที่มีชีวิตชีวาและรักแฟชั่น

งานนี้เปิดในช่วง Milan Fashion Week และจัดขึ้นในสถานที่ที่มีวิวที่สวยงามของมิลาน ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างนวัตกรรม ความสง่างาม และประเพณี ด้วยการต้อนรับแขกพิเศษจากวงการแฟชั่น ก่อนปิดงานด้วยค็อกเทลที่ชั้นบนสุดของ Terrazza Martini พร้อมบรรยากาศจาก DJ Curly Brothers

Coccinelle Fall/Winter 2025 ความสมดุลแห่งความหรูหราผ่านแนวคิด Lagom

แรงบันดาลใจของ “Lagom”

คอลเล็คชั่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากปรัชญาสแกนดิเนเวียน “Lagom” ซึ่งเชื่อในความสมดุลที่ไม่มากไปหรือน้อยเกินไป โดยมุ่งเน้นความหรูหราที่เรียบง่ายและยั่งยืน กระเป๋าและเครื่องประดับมีการออกแบบที่หรูหราแต่ใช้วัสดุคุณภาพสูง พร้อมกับรูปทรงที่เหนือกาลเวลา

วัสดุและการออกแบบ

คอลเลคชั่นนี้มีการใช้วัสดุที่ผสมผสานสีและลวดลายที่สวยงาม เช่น สี Greenery, Ribes, Arctic Blue และ Cognac พร้อมกับงานฝีมือที่ประณีต ผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นมุ่งเน้นการใช้งานที่หลากหลายและสะท้อนถึงความเรียบง่าย แต่มีความซับซ้อนในรายละเอียด

  • Coccinelle Double Beat: กระเป๋าที่สามารถใช้งานได้หลายแบบ ทั้งสะพายข้างหรือไหล่ พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ทันสมัย
  • Coccinelle Beat: กระเป๋าสไตล์ดนตรีร็อกยุค 1970 ที่สะท้อนความสบายและความเท่
  • รองเท้า Coccinelle: สไตล์หลากหลายที่ตอบโจทย์ความสะดวกสบายและความสง่างาม เช่น รองเท้าบูท C-Saddle Vintage, รองเท้าโลฟเฟอร์ C-Penny และรองเท้าบูท Coccinelle Nora ที่ผสมผสานการออกแบบคลาสสิกและทันสมัย

คอลเลคชั่นนี้เป็นการเชิญชวนให้ผู้หญิงกอดรับความหรูหราและความงามของสิ่งที่จำเป็นอย่างมีสไตล์และความตั้งใจ


Tiffany & Co.

Bird on a Pearl เมื่อ Tiffany & Co. นำตำนานมาสู่มิติใหม่ของความงาม

account_circle
Tiffany & Co.
Tiffany & Co.

ในโลกแห่งเครื่องประดับชั้นสูง มีเพียงไม่กี่ชิ้นที่สามารถกลายเป็นตำนานได้ และ Bird on a Rock ของ Jean Schlumberger คือหนึ่งในนั้น ปี 2025 นี้ Tiffany & Co. ได้เผยโฉม Bird on a Pearl คอลเล็คชั่นเครื่องประดับสุดวิจิตรที่นำไข่มุกน้ำเค็มธรรมชาติอันหายาก มาผสานเข้ากับดีไซน์เหนือกาลเวลา ภายใต้การนำของ Nathalie Verdeille Chief Artistic Officer แห่ง Tiffany & Co.

จากตำนานสู่บทใหม่ของความงดงาม

Bird on a Pearl ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องประดับ แต่เป็นบทพิสูจน์ถึงความเป็นเลิศทางศิลปะของ ทิฟฟานี่ แอนด์ โค โดยยังคงจิตวิญญาณแห่ง Jean Schlumberger ไว้อย่างครบถ้วน นกตัวจิ๋วที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาถูกนำมาถ่ายทอดใหม่ ให้โฉบเฉี่ยวขึ้น ล้ำลึกขึ้น และที่สำคัญคือผสานเข้ากับไข่มุกน้ำเค็มธรรมชาติที่ได้รับการคัดสรรอย่างพิถีพิถันจาก Hussein Al Fardan นักสะสมไข่มุกระดับโลกจากภูมิภาคอ่าวอาหรับ ซึ่งมีคลังไข่มุกธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก

การจับคู่กันระหว่างงานศิลปะและสมบัติจากท้องทะเลทำให้คอลเล็คชั่นนี้งดงามเหนือจินตนาการ บางชิ้นถ่ายทอดภาพนกเกาะอยู่บนไข่มุกทรงบาโรก บางชิ้นเชื่อมไข่มุกเข้ากับโครงสร้างของนกโดยตรง สีสันของไข่มุกไล่เฉดอ่อนโยนราวกับสะท้อนฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลง ไล่ตั้งแต่แสงแดดอบอุ่นของฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงโทนนุ่มนวลของฤดูใบไม้ร่วง

การตีความใหม่ผ่านดีไซน์ระดับมาสเตอร์พีซ

Bird on a Pearl ไม่ใช่แค่คอลเล็คชั่นเดียว แต่เป็นจักรวาลของแรงบันดาลใจที่ถูกแบ่งออกเป็นบทต่าง ๆ ซึ่งสะท้อนธรรมชาติและงานออกแบบใน archive ของ Jean Schlumberger ได้แก่

Acorn & Oak Leaf – ดีไซน์ที่นำความสง่างามของธรรมชาติมาสู่เครื่องประดับ สร้อยคอและต่างหูชุดนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากลูกโอ๊กและใบโอ๊กอันวิจิตร โดยมีไข่มุกน้ำเค็มธรรมชาติเป็นหัวใจหลัก เติมเต็มด้วยงานฝังเพชรสุดประณีต

Cascade – แรงบันดาลใจจากความอสมมาตรของธรรมชาติที่งดงาม หนึ่งในไฮไลต์ของเซ็ตนี้คือแหวนไข่มุกสีเทาทรงหยดน้ำที่ดูราวกับลอยอยู่ท่ามกลางใบไม้ประดับเพชร นอกจากนี้ ยังมีต่างหูที่ผสานระหว่างไข่มุกสีขาวและสีเทา กับงานฝังเพชรสุดละเมียด

Ribbons – ถ่ายทอดความหลงใหลในสิ่งทอของ Jean Schlumberger ผ่านสร้อยคอสุดตระการตา สร้อยคอไข่มุกน้ำเค็มสีครีมอ่อนถูกร้อยประดับด้วยริบบิ้นฝังเพชร พร้อมเสริมด้วยเพชรสีน้ำตาลคอนญัก Fancy Pink, Fancy Yellow และเพชรขาว สร้างมิติที่งดงามและเต็มไปด้วยรายละเอียด

เมื่อศิลปะและธรรมชาติหลอมรวมเป็นหนึ่ง

คอลเล็คชั่น 2025 Bird on a Pearl เป็นมากกว่าความงาม แต่คือการหลอมรวมกันของงานศิลปะและธรรมชาติในระดับที่หาใครเทียบได้ โดยแต่ละชิ้นเป็นผลงานมาสเตอร์พีซที่สะท้อนถึงจุดสูงสุดของความเชี่ยวชาญของ ทิฟฟานี่ แอนด์ โคไม่ใช่เพียงเครื่องประดับที่ประดับกาย แต่คือบทกวีที่บอกเล่าเรื่องราวของไข่มุกอันหายาก ผ่านการออกแบบที่งดงามเหนือกาลเวลา นี่คือ Bird on a Pearl มรดกแห่งงานศิลป์ที่ถูกตีความใหม่ ให้สง่างามและเป็นอมตะไปอีกนานเท่านาน


The White Lotus Season 3

เปิดที่มายูนิฟอร์ม “น้องมุก” หรือ “ลิซ่า” ใน The White Lotus Season 3

account_circle
The White Lotus Season 3
The White Lotus Season 3

เปิดที่มายูนิฟอร์ม “น้องมุก” หรือ “ลิซ่า” ใน The White Lotus Season 3 ใช้ผ้าจากแบรนด์ไทย! “จิม ทอมป์สัน” อวดลวดลายผ้าสุดไอคอนิกโลดแล่นในซีรีส์ระดับโลก

หลังจากที่ออนแอร์ไปแล้ว 2 อีพี น้องมุก ที่รับบทโดย ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล ซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกจากเมืองไทยที่ได้มาโลดแล่นอยู่บนซีรีส์ The White Lotus Season 3 ด้วยความเป็นลิซ่าหยิบจับอะไรก็เป็นกระแส และแน่นอนว่าอีกหนึ่งทอปปิกที่ใครก็สนใจคือเสื้อผ้าที่ลิซ่าใส่ในซีรีส์เรื่องนี้ ซึ่งวงในวงการแฟชั่นเล่าว่าลิซ่าไม่ได้เพียงรับบทที่สำคัญใน
ซีรีส์แต่ยังสวมใส่ชุดที่เสนอศิลปะที่มีเรื่องราวไม่ธรรมดาอยู่เบื้องหลัง แฟนซีรีส์หลายคนคงจะสะดุดตากับลายเสื้อบนยูนิฟอร์ม น้องมุกในบทพนักงานโรงแรม The White Lotus Thailand

โดยเบื้องหลังของลายผ้าสีเหลืองนี้เป็นผลงานจากแบรนด์ไทยอย่าง จิม ทอมป์สัน โดยนำผ้าลวดลายระดับตำนาน DUQUETTERIE ในเฉดสี “Sunflower” ผลงานคอลแลบระหว่างจิม ทอมป์สันและดีไซเนอร์ชั้นครูอย่าง โทนี่ ดูเกตต์ (Tony Duquette) ศิลปินและดีไซเนอร์ชื่อดังผู้แต่งแต้มชีวิตชีวาให้วงการออกแบบทั่วโลกด้วยสไตล์แม็กซิมัลลิสต์ นำมาคัสตอมเป็นยูนิฟอร์มของตัวละครหลักอย่าง มุก และ พรชัย ที่รับบทโดย ดอม เหตระกูล

ล่าสุด! จิม ทอมป์สัน ได้ปล่อยคอลเล็คชั่น The Sunflower Limited-Edition Collection ที่นำแรงบันดาลใจจากลวดลายผ้า DUQUETTERIE ในเฉดสี “Sunflower” มารังสรรค์เป็นหลากหลายแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ไอเท็มที่ฉีกกฎความเรียบง่ายแบบเดิม ๆ ทั้งยังแฝงบรรยากาศสไตล์ทรอปิคัลสุดรีแล็กซ์ไว้ได้อย่างลงตัว

ไฮไลต์ไอเท็ม ได้แก่ Obi Belt เข็มขัดผ้าดีไซน์เก๋แบบ Unisex, Oversized Tote กระเป๋าโท้ตใบใหญ่ในทรงสุดคลาสสิก และ Cushion Covers ปลอกหมอนอิงสีเหลืองทานตะวัน แค่ยูนิฟอร์มยังมีเรื่องราวมากมายขนาดนี้ เหล่าแฟชั่นนิสต้า นักสะสมที่หลงใหลงานดีไซน์ และแฟน ๆ ของซีรีส์ต้องรอติดตามว่าซีรีส์จะเผยความงดงามของศิลปะและแฟชั่นอะไรให้ผู้ชมได้ดูกันต่อ


สยาม ทาคาชิมายะ อวดโฉม “Beauty Garden” อัตลักษณ์ใหม่แห่งความงามจุดประกายความงามจากภายในสู่ภายนอก

account_circle

“สยาม ทาคาชิมายะ” ห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่นขนานแท้แห่งเดียวในไทย ณ ไอคอนสยาม เนรมิตโซนความงามสุดหรู “Beauty Garden” ยกเอาบรรยากาศสวนดอกไม้ที่รายล้อมด้วยบิวตี้แบรนด์ระดับโลกมากมายมาไว้บนชั้น 1 ให้คนรักความงามได้สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษในการช็อปปิงผลิตภัณฑ์และบริการความงามแบบเหนือระดับ ท่ามกลางความสวยตระการตาของบรรดาดอกไม้หลากสีสัน พร้อมจัดแคมเปญโปรโมชั่นแบบจัดเต็ม ฉลองการเปิดโซนใหม่อย่างยิ่งใหญ่

มร.อัตสึชิ โอะคูโมริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม ทาคาชิมายะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “Beauty Garden เป็นโซนความงามใหม่ล่าสุด บนพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร ของชั้น 1 ที่รวบรวมเครื่องสำอาง น้ำหอมและชุดชั้นในสตรีมาไว้ด้วยกันมากกว่า 40 แบรนด์ ภายใต้การออกแบบพื้นที่โดยบริษัท Urban Architects ที่เคยสร้างชื่อระดับโลกจากการออกแบบโครงการไอคอนสยาม จนคว้ารางวัล World Retail Awards 2019 ในสาขา Best Store Design of the Year จากสภาการค้าปลีกโลก โดย “Beauty Garden” ออกแบบภายใต้คอนเซปต์ “Be Enchanted” ที่ศิลปิน คุณสันติพงษ์ คงรักษ์ นำปรากฏการณ์แสงเหนือ (Aurora) มาเป็นแรงบันดาลใจในการตกแต่ง โดยใช้ดอกไม้ประดับหลากสีสันสร้างเป็นเส้นสายที่มีมิติ มีความเคลื่อนไหวและไหลลื่น ดูร่วมสมัย ด้วยโทนสีอบอุ่นอ่อนหวานแบบเฟมินีน โดยมีไฮไลต์เป็นพื้นที่ตรงกลางที่เปรียบเหมือนสวนดอกไม้ขนาดยักษ์กว่า 500 ตารางเมตร รายล้อมด้วยบิ้วตี้แบรนด์ชั้นนำ เพื่อให้ผู้มาเยือนได้เพลิดเพลินไปกับความงดงามของดอกไม้ สื่อถึงผลิตภัณฑ์อันเปี่ยมด้วยเสน่ห์และน่าหลงใหลที่ให้บริการในพื้นที่แห่งนี้” นอกจากการออกแบบและตกแต่งที่สุดอลังการ ภายในโซน “Beauty Garden” ยังรวบรวมผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการเกี่ยวกับความงามมาให้เลือกสรรอย่างครบครัน ทั้งแผนกเครื่องสำอางและชุดชั้นในสตรี ยังมีความพิเศษที่การออกแบบร้านค้าแผนกเครื่องสำอางในรูปแบบ Shop In Shop มาพร้อมห้องทรีตเมนต์ให้สามารถบริการได้ครบจบในพื้นที่เดียว โดยมีสินค้าครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิว, เครื่องสำอาง, ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม, แอคเซสซอรี่ และน้ำหอม รวมกว่า 50,000 รายการ รวมถึงเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์จากญี่ปุ่นอย่าง “HAKUHODO” แปรงแต่งหน้าระดับช่างมืออาชีพ ที่เปิดสาขาในประเทศไทยครั้งแรกอย่างเป็นทางการ

พบกับความเอ็กซ์คลูซีฟ อาทิ แบรนด์ “TOM FORD” ที่เปิดตัวช็อปในคอนเซปต์ใหม่ สาขาแรกของประเทศไทย ณ “Beauty Garden” สยาม ทาคาชิมายะ โดยผนวกรวมผลิตภัณฑ์บิวตี้และอายแวร์เข้าไว้ด้วยกัน พร้อมพื้นที่ให้คำปรึกษาส่วนตัวจาก Tom Ford Specialist และยังเปิด Runway Table Animation เป็นครั้งแรก เพื่อมอบประสบการณ์ The World of Tom Ford อย่างแท้จริง ด้าน “LA MER” นำเสนอประสบการณ์การช็อปปิงสุดหรูหราด้วยการออกแบบช็อปที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความงามของมหาสมุทร พร้อมเชิญสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษที่ Spa de La Mer ห้องทรีตเมนต์ที่จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายขั้นสูงสุด ด้วยบรรยากาศและเทคนิคการนวดอันเป็นเอกลักษณ์ของ La Mer และอีกหนึ่งแบรนด์ที่ไม่อยากให้พลาดคือ “JO MALONE” ที่รังสรรค์คอนเซปต์ร้านใหม่เพื่อตอกย้ำความงามเลอค่าสไตล์อังกฤษ ด้วยการตกแต่ง Cologne Intense Bay และจุดทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ Bath & Body Sink Bay ให้หรูหรา ยกระดับการค้นหากลิ่นหอมที่ไม่เหมือนใคร

สุดยอดแห่งการรอคอย! “CHARLOTTE TILBURY” แบรนด์เครื่องสำอางระดับโลกจากอังกฤษที่ได้รับรางวัลมากมายยกขบวนบิวตี้ไอเทมระดับตำนาน ทั้งเมคอัพหลากสีสันไปจนถึง สกินแคร์ตัวท็อปเตรียมเสิร์ฟให้สาวกบิวตี้ระดับลักชูรีได้ทดลอง เลือกใช้ และรับบริการความงามที่เสกลุคคุณให้ดูสวยเจิดจรัส และเปล่งประกายด้วยผลิตภัณฑ์ความงามระดับเวิลด์คลาส จากการสร้างสรรค์ของเมคอัพอาร์ทิสต์ชื่อดังระดับโลก Charlotte Tilbury MBE ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปีในการแต่งหน้าให้เหล่าซุปเปอร์สตาร์ เซเลบริตี้ และนางแบบชั้นนำ พร้อมสัมผัสความหรูหราเหนือระดับกับ “ESTEE LAUDER” ที่เปิด Skin Longevity Institute Concept ELX ครั้งแรกในประเทศไทย รวมถึง Facial Room ดีไซน์ใหม่ที่เรียบง่ายและมีระดับมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับ “L’OCCITANE” ซึ่งเปิด New Concept Shop-in-Shop แห่งแรกในไทย โดยออกแบบให้มีความหรูหราและมินิมัลลิสติก ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เข้าถึงง่าย และอบอุ่น สะท้อนถึงความเป็น Provence ต้นกำเนิดของแบรนด์ ส่วน “BALMAIN PARIS HAIR COUTURE” แบรนด์ทรงอิทธิพลระดับโลกที่มีมรดกตกทอดมายาวนานกว่า 50 ปี รังสรรค์ผลิตภัณฑ์สำหรับแส้นผมเปิด GLAM STATION ชวนสัมผัสประสบการณ์พิเศษกับ COUTURE STYLE EXPERIENCE บริการจัดแต่งทรงผมโดยช่างทำผมผู้เชี่ยวชาญ

นอกจากนี้ยังมี “POLA” แบรนด์เครื่องสำอางระดับเพรสทีจจากญี่ปุ่น กับ POLA Flagship Store แห่งแรกที่พร้อมจะพาทุกคนดำดิ่งสู่ความนิ่งสงบและเป็นส่วนตัว พร้อมคืนความงามให้ผิวพรรณและจิตใจอย่างสมดุลด้วยผลิตภัณฑ์อันเลอค่าและศาสตร์การนวดแบบฉบับของโพลา รวมถึง “SISLEY” ผู้นำผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม เมคอัพ และน้ำหอม จากประเทศฝรั่งเศส กับสุดยอดบริการการปรนนิบัตรผิวขั้นสุดและ HAIR RITUAL SERVICE เต็มรูปแบบเร็วๆ นี้ ด้านผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในสตรีนำโดยแบรนด์ระดับท็อป “WACOAL” ที่ยกเอา LINGERIE SALON โฉมใหม่ภายใต้คอนเซปต์ The Beauty Of Lines มาไว้ใน “Beauty Garden” พร้อมคอลเลกชันหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์สำหรับทุกคน ทุกวัย และพบกับความพิเศษจากแบรนด์ชั้นนำอีกมากมาย อาทิ CLE DE PEAU BEAUTE, DECORTE, HOURGLASS, LAVELIER, M.A.C, TRIUMPH, SABINA, GUY LAROCHE และ VINTEL

และเพื่อเป็นการฉลองเปิดโซนใหม่ “Beauty Garden” สยาม ทาคาชิมายะ มอบโปรโมชั่น 5 ต่อ ระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม 2568

  • ต่อที่ 1 ลดสูงสุด 20% (เฉพาะแบรนด์ที่ร่วมรายการ)
  • ต่อที่ 2 สำหรับสมาชิก สยาม ทาคาชิมายะ รับ E-Coupon สูงสุด 12% เมื่อช็อปทุก 4,000 บาท รับ E-Coupon
    มูลค่า 200 บาท, ช็อปทุก 15,000 บาท รับ E-Coupon มูลค่า 1,000 บาท, ช็อปทุก 40,000 บาท รับ E-Coupon
    มูลค่า 3,500 บาท, ช็อปทุก 65,000 บาท รับ E-Coupon มูลค่า 6,500 บาท และช็อปทุก 100,000 บาท รับ E-
    Coupon มูลค่า 12,000 บาท
  • ต่อที่ 3 สำหรับสมาชิก ONESIAM รับ SIAM GIFT CARD สูงสุด 2,000 บาท เมื่อช็อป 100,000 บาทขึ้นไป
  • ต่อที่ 4 รับทันที บัตรกำนัลสยาม ทาคาชิมายะ สูงสุด 3,800 บาท เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตสยาม ทาคาชิมายะ (เฉพาะแบรนด์ที่ร่วมรายการ)
  • ต่อที่ 5 พิเศษ ช็อปครบ 4,000 บาท ขึ้นไป รับเพิ่มฟรี! เครื่องดื่มมัทฉะชาเขียวญี่ปุ่นจากร้าน BOTANICO มูลค่า 200 – 240 บาท จำนวน 1 แก้ว (จำกัด 800 สิทธิ์ ตลอดรายการ วันที่ 14 ก.พ. – 31 มี.ค. 68)

มาเพลิดเพลินไปกับสวนแห่งความงามที่จะมอบความสุขและความสวยให้กับทุกคนได้ที่โซน “Beauty Garden” ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้า สยาม ทาคาชิมายะ ไอคอนสยาม ไม่อยากพลาดข้อมูลดี ๆ ติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้ที่ Facebook: SIAM Takashimaya


“PRIME Skin Recovery Concentrate” โปรแกรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก THE KLINIQUE และ LA MER

account_circle

เริ่มต้นปี 2025 ด้วยงานผิวระดับไฮเอนด์กับ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) หนึ่งในผู้นำเรื่องการดูแลผิวพรรณของเอเชีย ซึ่งชวนเปิดประสบการณ์ลิฟต์ผิวด้วยโปรแกรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ Ulthera PRIME Recovery Concentrate และการบำรุงผิวอย่างล้ำลึกหลังทำหัตถการด้วย LA MER สูตรพิเศษเฉพาะที่ THE KLINIQUE

THE KLINIQUE เปิดตัวโปรแกรมยกกระชับผิวล่าสุดที่มาพร้อมกับนวัตกรรมอัปเดตใหม่ Ulthera PRIME ที่จะเปลี่ยนประสบการณ์ในการลิฟต์ผิวและปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับได้ดียิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการดูแลผิวหลังการรักษาด้วย The NEW Night Recovery Concentrate จาก LA MER ที่มีนวัตกรรม Barrier Wrap ทำหน้าที่โอบอุ้มผิวที่มีความเปราะบางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยปลอบประโลมผิวและฟื้นบำรุงผิวหลังการทำหัตถการได้อย่างล้ำลึก ซึ่งพบกับความเอ็กซ์คลูซีฟนี้ได้เฉพาะที่ THE KLINIQUE เท่านั้น เรียกว่าเป็นพิกัดหนึ่งเดียวของไทย

THE KLINIQUE เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงความงาม ที่ประสบความสำเร็จในการสร้างความประทับใจในการรักษาปัญหาผิวพรรณ รูปร่างและสุขภาพให้กับเหล่าคนรักสวย รวมถึงเซเลบและดารา ต่อเนื่องมากกว่า 15 ปี จนได้รับมอบรางวัลระดับนานาชาติมากมาย เช่น The Winner of Golden Records Award: ASIA PACIFIC Highest Achievement for Ulthera และครั้งนี้ THE KLINIQUE ยังคงเดินหน้าในการเป็นผู้นำด้วยการเปิดตัว Ulthera PRIME นวัตกรรมการกระตุ้นคอลลาเจน เพื่อการยกกระชับผิวและปรับรูปหน้าใหม่ส่งตรงจากสหรัฐอเมริกา ซึ่ง Ulthera PRIME เป็น The Newest Generation ที่ได้รับการรับรองประสิทธิภาพและความปลอดภัยจาก US FDA นับว่า THE KLINIQUE เป็นกลุ่มแรกในภูมิภาคเอเชียที่ได้รับการเปิดตัวต่อจากสหรัฐอเมริกาทันที นำหน้าประเทศชั้นนำอื่นๆ ในเอเชียอย่างเกาหลี โดยจุดเด่นของโปรแกรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟนี้ ได้แก่

  • แพทย์ให้พลังงานลงลึกได้แม่นยำกว่า ด้วยจอแสดงผลของระบบ Real-Time Visualization ที่ใหญ่ขึ้น 35% แสดงภาพที่คมชัดจากทุกมุมระดับ Full HD ทำให้แพทย์กำหนดความลึกในการรักษาถึงชั้น SMAS ได้จำเพาะมากขึ้น
  • แพทย์รักษาได้รวดเร็วขึ้น ด้วยระบบประมวลผลและการทำงานที่เร็วขึ้น 20% ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและเจ็บน้อยลง ทำให้มีประสบการณ์ที่ดีในการรักษา
  • ผู้รับบริการได้รับการออกแบบการรักษาตามหลักสรีรศาสตร์ (Ergonomic design) เมื่อผสานกับเทคนิคในการรักษาที่ถูกออกแบบโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์เฉพาะทางของ THE KLINIQUE ให้มีความเหมาะสมกับปัญหาผิวและความกังวลของแต่ละคน นำไปสู่ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจยิ่งขึ้น

การดูแลผิวหลังทำหัตถการเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่าการรักษาด้วยนวัตกรรมที่ดีที่สุด เพราะการดูแลผิวอย่างเหมาะสมจะเป็นส่วนสำคัญที่สามารถเร่งการฟื้นฟูของเซลล์ผิวได้ดียิ่งขึ้น นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนานยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งการปรนนิบัติผิวหลังทำ Ulthera PRIME ด้วย The NEW Night Recovery Concentrate ที่มี Barrier Wrap นวัตกรรมขั้นสูงในการบำรุงผิวใหม่ล่าสุดของ LA MER จะช่วยโอบอุ้มผิวที่มีความเปราะบางได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมีคุณสมบัติที่ช่วยปลอบประโลมผิวและช่วยฟื้นฟูผิวหลังทำหัตถการได้เร็วยิ่งขึ้น โดยมีผลการทดสอบแล้วว่า The NEW Night Recovery Concentrate มีคุณสมบัติดังนี้

  • +116% ฟื้นบำรุงผิวหลังการทำหัตถการได้ดีขึ้น*    
  • 89% รู้สึกว่ารอยแดงดูลดเลือนทันที**
  • ฟื้นบำรุงผิวที่มีรอยแดงได้ 19% และช่วยปลอบประโลมผิวมากขึ้น 2 เท่า

*ผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการในกลุ่มอาสาสมัครหญิง 36 ราย โดยวัดค่าการสูญเสียน้ำจากชั้นผิว (TEWL) เมื่อใช้ La Mer The Night Recovery Concentrate ภายใน 24 ชั่วโมงหลังการทำ Derm Skincare  เป็นเวลา 1 วัน (เช้าและเย็น) เปรียบเทียบกับการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทั่วไป

**ผลการทดสอบความพึงพอใจในกลุ่มอาสาสมัครหญิง 151 ราย หลังการใช้ผลิตภัณฑ์เพียง 1 ครั้ง

*** ผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการในกลุ่มอาสาสมัครหญิง 26 ราย หลังการใช้ La Mer The Night Recovery Concentrate ร่วมกับ La Mer The Concentrate เพียง 1 ครั้ง เปรียบเทียบกับการใช้ La Mer The Night Recovery Concentrate เพียงอย่างเดียว

ความเอ็กซ์คลูซีฟในการดูแลผิวตามแบบฉบับของ THE KLINIQUE ไม่เพียงเน้นการสร้างความประทับใจในผลลัพธ์หลังการทำหัตถการด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลร่วมกับเทคนิคเฉพาะโดยทีมแพทย์ชำนาญการ แต่ยังให้ความสำคัญกับการดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง การฟื้นบำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ เพราะการดูแลผิวหลังทำหัตถการเป็นสิ่งที่ THE KLINIQUE ใส่ใจ และ LA MER “The NEW Night Recovery Concentrate” ถือเป็นอีกหนึ่งการดูแลผิวที่ THE KLINIQUE แนะนำ


Tom Dixon  เยือนประเทศไทยครั้งแรกพร้อมเปิดตัว Tom Dixon Experience  ถ่ายทอดวิสัยทัศน์แห่งดีไซน์ระดับโลก

account_circle

MOTIF ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแบรนด์ Tom Dixon ไลท์ติ้งเฟอร์นิเจอร์ ในประเทศไทยมากว่า 13 ปี เปิดบ้านต้อนรับ Tom Dixon ดีไซน์เนอร์ชื่อดังระดับโลกสู่กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก ซึ่งการเยือนครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ดีไซเนอร์ชื่อก้องโลกจะได้พบปะกับเหล่าคนรักงานออกแบบชาวไทย พร้อมเปิดตัว Tom Dixon Experience แห่งแรกในประเทศไทย นำเสนอเฟอร์นิเจอร์ โคมไฟ และของแต่งบ้านดีไซน์โดดเด่นจากหลากหลายคอลเลคชั่นมาให้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ณ  MOTIF ชั้น 4 ศูนย์การค้า Central Embassy  ที่ออกแบบภายใต้แนวคิดของความคิดที่ร่วมสมัยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

Tom Dixon Experience ที่ประเทศไทยนี้ นับเป็นพื้นที่แห่งที่ 2 ในเอเชียที่จะรวบรวมดีไซน์โปรดักส์ของทอม ดิกซัน ดีไซน์เนอร์หัวขบถแห่งวงการเฟอร์นิเจอร์มาไว้ด้วยกัน เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านได้พบกับชิ้นงานที่ถูกดีไซน์มาเป็นอย่างดีด้วยตนเอง มาประกอบกับการจัดวางเฟอร์นิเจอร์จากแต่ละคอลเลคชั่น ไม่ว่าจะเป็น MELT Lights, ที่เป็นที่หนึ่งในใจของทุกคน PLUMP Sofa, UNBEATEN Lights, SLAB Lounge Chair และ GROOVE Outdoor Furniture ที่หลายคนรอคอย อีกทั้งยังถือเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดตัวพื้นที่ของการโชว์ระดับโลกที่ออกแบบ ที่มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์เลือกซื้อที่แปลกใหม่และดื่มด่ำไปกับดีไซน์สุดล้ำ

นอกจากการเปิดตัว Tom Dixon Experience แล้ว การมาเยือนเมืองไทยของผู้ก่อตั้งแบรนด์ออกแบบชั้นนำระดับโลกจากประเทศอังกฤษครั้งนี้  ซึ่งในปี 2025 ทางแบรนด์เลือกปักหมุดในโซนเอเชียเพื่อจัดกิจกรรม Tom Dixon’s 48 Hours และเลือกประเทศไทยเป็นหมุดหมายแรกสำหรับการเดินทางครั้งใหม่ เพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งนักออกแบบไทยและผู้ที่ชื่นชอบงานดีไซน์ทุกคน ได้รับประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟผ่านการร่วมพูดคุยภายใต้บรรยากาศช่วง Design Talk ที่ทุกคนจะได้แลกเปลี่ยนแนวคิดในการออกแบบ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจนำไปต่อยอดไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ต่อด้วยช่วง Cocktail Reception ที่มาพร้อมเมนูเครื่องดื่มสุดพิเศษ รังสรรค์โดย Tom Dixon

โดยอีเว้นต์นี้ได้เกิดขึ้นกับเมืองใหญ่ทั่วโลกที่มีทั้งความเป็นดีไซน์ และ ความเป็นเมืองสำคัญ เช่น Tom Dixon’s 24 Hours ที่เคยจัดขึ้น ณ เมืองอันเป็นศูนย์กลางการออกแบบทั่วโลกอย่าง โคเปนฮาเกน ปารีส มิลาน สตอล์กโฮล์ม และเซี่ยงไฮ้ ในส่วนของผลงานจากแบรนด์ที่กลายเป็นไอคอนในวงการออกแบบคือ S Chair ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1980s ซึ่งนำโครงสร้างของเก้าอี้แบบดั้งเดิมมาตีความใหม่ให้โค้งเว้าเป็นรูปตัว S จนกลายเป็นซิกเนเจอร์อันโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ผสมผสานความ

เรียบง่ายแต่มีพลัง และรองรับสรีระของผู้นั่งได้อย่างสมบูรณ์ จนถูกนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ระดับโลก เช่น Museum of Modern Art (MoMA) ในนิวยอร์ก รวมถึงเคยรังสรรค์ S-CHAIR Special Edition จากผ้าลายราชวัตรโบราณทอหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ผลงานชิ้นเดียวในโลกสำหรับนิตยสาร Vogue ประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมประมูลในงาน Vogue Gala ที่จัดขึ้นเพื่อสืบสานผ้าไทยตามรอยพระราชปณิธานของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และ MELT Pendant Light โคมไฟที่มีพื้นผิวสะท้อนแสงราวกับกำลังหลอมละลาย ก็เป็นอีกหนึ่งชิ้นงานที่สร้างปรากฏการณ์ในวงการออกแบบแสงไฟและได้รับความนิยมไปทั่วโลก

ยิ่งไปกว่านั้น Tom Dixon ตอกย้ำความเป็น Design Icon ของโลกเบอร์ต้นๆ  กับการร่วมมือกับแบรนด์ระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบขวดสำหรับ Johnnie Walker Blue Label ที่ถ่ายทอดทั้งความหรูหรา  หรือการร่วมมือกับ Adidas ในการสร้างสรรค์คอลเลคชั่นเสื้อผ้า ฟังก์ชันนอลแวร์ และเฟอร์นิเจอร์แบบพกพาสุดล้ำที่สะท้อนแนวคิดนวัตกรรมการออกแบบและความยั่งยืน (Sustainability) ที่เขาให้ความสำคัญมาตลอด นอกจากนี้ เขายังเคยทำงานร่วมกับ Tesla ในการออกแบบเก้าอี้รุ่นลิมิเต็ดที่เรียกว่า HYDRO chair ที่สะท้อนปรัชญาของแบรนด์ด้านเทคโนโลยีอลูมิเนียม ที่พัฒนาขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์เพื่อผลิตรูปทรงที่ลึกและซับซ้อน

นอกจากนี้ผลงานของเขายังปรากฏอยู่ในโปรเจ็กต์โรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ทั่วโลก เช่น Mondrian Hotel London และล่าสุดกับโครงการที่พักสุดหรูริมชายหาดสุดตระการตาบนหมู่เกาะดูไบทั้ง 108 หลังอย่าง Villa del DIVO ที่ออกแบบโดย Mr. Eight Development ซึ่งเป็นผลงานเหล่าที่ตอกย้ำถึงเอกลักษณ์ของ Tom Dixon ที่ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นความสวยงาม แต่ยังให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและแนวคิดที่ล้ำสมัย ทำให้ชื่อของเขาเป็นที่ยอมรับในฐานะหนึ่งในนักออกแบบชั้นนำของโลก

และสำหรับตัวผลงานชิ้นเด่นที่ขึ้นชื่อในประเทศไทยที่ใคร ๆ ก็อยากจับจอง จนกลายเป็นหนึ่งในคอลเลคชั่น Best Seller ตลอดกาลของ MOTIF นั้น ได้แก่ MELT โคมไฟซึ่งเปิดตัวครั้งแรกที่ Milan Fair ในปี 2015 ที่เกิดจากการร่วมมือระหว่าง Tom Dixon และ FRONT กลุ่มนักออกแบบจากสวีเดน จากไอเดียที่ต้องการสร้างโคมไฟที่ดูเหมือนรูปร่างไม่สมบูรณ์ เพื่อให้ใกล้เคียงกับความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากกระจกหลอมละลาย ธารน้ำแข็ง และภาพจากอวกาศ ถ่ายทอดผ่านเทคนิคการผลิตที่ซับซ้อน โดยนำวัสดุประเภทพลาสติกมาตีความใหม่ เติมลูกเล่น พร้อมสอดแทรกความคิดสร้างสรรค์จนสามารถเพิ่มมูลค่าให้ทัดเทียมกับเหล่าโคมไฟที่ทำจากแก้วได้อย่างน่าสนใจ และกลายเป็นที่ยอมรับของสายเฟอร์นิเจอร์ทั่วโลกตลอดมา

เช่นเดียวกับการเส้นทางการออกแบบตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ในปี 2025 นี้ Tom Dixon ยังคงมุ่งสร้างสรรค์ผลงานที่จะสะเทือนวงการงานออกแบบต่อไป โดยจะให้ความสำคัญไปที่ Upholstery Furniture หรือเฟอร์นิเจอร์ที่มีการบุผ้า หนัง หรือวัสดุอื่น ๆ เช่น โซฟา เก้าอี้ที่มีเบาะ หรืออาร์มแชร์ ดังที่หลายคนเคยเห็นกับคอลเลคชั่น PLUMP อีกทั้งยังมีคอลเลคชั่นเฟอร์นิเจอร์เอาท์ดอร์อื่น ๆ อย่าง GROOVE ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลาย ปี 2024 นั่นเอง

ฟ่านปิงปิง

จริงหรือไม่? เกิดเป็น ฟ่านปิงปิง (Fan Bing Bing)  ทำอะไรก็ผิด

Alternative Textaccount_circle
ฟ่านปิงปิง
ฟ่านปิงปิง

ถึงแม้ ฟ่านปิงปิง จะพ้นข้อกล่าวหา การเลี่ยงภาษี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอยังคงได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในอดีตที่ติดตัวมา เห็นได้ชัดจากการที่ดาราสาวไม่สามารถเข้าร่วมในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์ของจีนได้ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา

ฟ่านปิงปิง

ซึ่งไม่เพียงแค่เส้นทางวงการบันเทิงจะเต็มไปด้วยขวากหนาม แต่งานใหม่เช่นการขายผลิตภัณ์ความงามบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซก็ยังถูกสกัดดาวรุ่ง นั่นจึงทำให้เธอหันไปมุ่งเน้นการทำงานในระดับนานาชาติมากขึ้นเพื่อขยายฐานแฟนคลับและเปิดโอกาสให้ตัวเองได้กลับมาโลดแล่นในวงการบันเทิงอีกครั้ง

ฟ่านปิงปิง

และเมื่อปี 2023 นักแสดงสาว Fan Bing Bing ได้กลับมาเฉิดฉายบนพรมแดงอีกครั้ง จากผลงานภาพยนตร์แนว  Feminist Thriller เรื่อง Green Night โดยฟ่านปิงปิงทุ่มเทอย่างมากในการโปรโมทภาพยนตร์ ด้วยการร่วมเดินสายไปโชว์ตัวในเทศกาลต่างๆ จนทำให้ผลงานเรื่องนี้เป็นที่กล่าวถึง ทว่าแม้จะเป็นผลงานคัมแบ็คเรื่องแรกของอดีตซูเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของจีน แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจเลย

ล่าสุดเป็นเรื่องน่าเซอร์ไพร้ส์เมื่อ Fan Bing Bing ได้รับเลือกให้เป็นกรรมการที่เป็นชาวเอเชียเพียงคนเดียวสำหรับงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน โดยดาราสาวกล่าวว่า “นี่เป็นโอกาสในการเรียนรู้ที่ยอดเยี่ยม ฉันรอคอยที่จะได้ชมภาพยนตร์และการแสดงที่มีความหมาย”

อย่างไรก็ตามแม้ที่ผ่านมาสื่อจีนจะไม่สนใจ Fan Bing Bing เลย แต่ล่าสุดกลับให้ความสนใจเกี่ยวกับลุคบนพรมแดงของเธออีกครั้ง แต่ในแง่มุมที่ว่า “ลุคที่น่าอับอาย”

HK01 ได้พูดถึงชุดล่าสุดของ Fan Bing Bing ว่าดีไซน์นี้ทำให้เลือดพลุ่งพล่าน โดยเฉพาะเมื่อเคลื่อนไหวทำให้เปิดเผยให้เห็นผิวเนื้อซึ่งไม่น่าดู

ขณะเดียวกับมีการเปิดเผยว่าชุดล่าสุดของ Fan Bing Bing ที่ถูกพูดถึงในขณะนี้เป็นผลงานใหม่ของ Stéphane Rolland ดีไซน์เนอร์ฝรั่งเศส โดเด่นวัสดุแบบ Threaded ผสมผสานกับกระโปรงเข้ารูปที่เน้นสรีระของเธอได้อย่างสง่างาม

แม้เส้นทางในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์ของจีนจะมืดมนแต่ Fan Bing Bing ก็พยายามต่อสู้ และในเร็วๆ นี้ Fan Bing Bing กำลังจะมีผลงานใหม่ ภาพยนตร์เรื่อง “Earth Mother” ที่กำกับโดยผู้กำกับชาวมาเลเซีย จางเจี้ยน โดยในเรื่องนี้เธอต้องเพิ่มน้ำหนัก 6 กิโลกรัม สำหรับการรับบทเป็นหญิงชาวนาผู้ขับไล่ปีศาจ นอกจากนี้ในฤดูร้อนนี้ เธอจะร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องใหม่ “Diary of a Mad Old Man” ที่กำกับโดย หวังหยิง และร่วมงานกับนักแสดงชาวอังกฤษ กาเบรียล เบิร์น ซึ่งเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เธอจะได้ท้าทายในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับนานาชาติ

3 น้ำหอม แบรนด์ดังสุดยูนีค ช่วยเพิ่มเสน่ห์ แถมบิ้วอารมณ์ให้สดชื่น

3 น้ำหอม แบรนด์ดังสุดยูนีค ช่วยเพิ่มเสน่ห์ แถมบิ้วอารมณ์ให้สดชื่น

Alternative Textaccount_circle
3 น้ำหอม แบรนด์ดังสุดยูนีค ช่วยเพิ่มเสน่ห์ แถมบิ้วอารมณ์ให้สดชื่น
3 น้ำหอม แบรนด์ดังสุดยูนีค ช่วยเพิ่มเสน่ห์ แถมบิ้วอารมณ์ให้สดชื่น

#PraewSurvey #ItemsOfTheWeek อีซี่ๆ และเห็นผลที่สุดเมื่อต้องการปรับอารมณ์ให้แฮปปี้สดใสคือการใช้ น้ำหอม กลิ่นที่สดชื่น สะอาด มีความโปร่งเบาไม่ชวนให้ถอยหนี วีคนี้เลยเซอร์เวย์น้ำหอมกลิ่นใหม่ล่าสุดจาก 3 แบรนด์ดังอย่าง Aesop และ NONFICTION สองนิชแบรนด์สุดคูล ตามด้วย divana แบรนด์สปาลักซ์ชัวรี่ มาเติมความหอมละมุนฟุ้งๆ เบาๆ เข้าใจง่าย ปลอบประโลมใจให้เรื่องหนักๆ ในวีคนี้ได้เบาลง และแน่นอนโลกของน้ำหอมยุคนี้แล้ว เปิดกว้างด้วยกลิ่นแบบไม่จำกัดเพศ ความหอมแบบใดก็ได้ที่แสดงออกถึงตัวตนอันมีเอกลักษณ์ นาทีนี้กุหลาบก็ไม่ใช่แค่สำหรับผู้หญิง และมัสก์ก็ไม่ใช่แค่สำหรับผู้ชายอีกต่อไป แต่คือไอเท็มเพิ่มเสน่ห์ที่บ่งบอกถึงเทสหรือรสนิยมของคนนั้นๆ ได้ดี และเผื่อใครกำลังมองหาน้ำหอมที่มีความเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ต้องรีบไปเปิดซิงค์กลิ่นใหม่นี้ด่วนๆ เลย

AESOP Aurner Eau de Parfum (50 ml. / 6,300 THB)
หอมฟุ้งไปด้วยกลิ่นฟลอรัลที่ไม่เหมือนใคร ต่างจากกลิ่นฟลอรัลทั่วไปที่มักนุ่มนวลและสุภาพ ผ่านการปรุงกลิ่นหอมที่แตกต่างกันอย่างลงตัวจากเครื่องเทศที่เจือด้วยสมุนไพรเขียวสดชื่นอย่างคาร์ดามอมและพริกไทยชมพู คลุ้งด้วยโรมันคาโมมายล์ ก่อนจะเข้าสู่กลิ่นหอมฟลอรัลเข้มข้น สดชื่นเพียงชั่วครู่ก็พาสู่ความหนักแน่นของฮาร์ทโน้ตกลิ่นดอกไม้ และกลิ่นหอมของใบแมกโนเลียผสานเจอราเนียม ขณะที่คาร์ดามอมแฝงด้วยกลิ่นไม้หอมที่เด่นขึ้นในตอนท้าย ส่วนชื่อ Aurner มาจากภาษาเยอรมันยุคแรก มีความหมายว่า “การประดับประดาด้วยดอกไม้” สะท้อนถึงกลิ่นหอมที่แต่งแต้มอยู่บนผิวกาย

อีกหนึ่งความพิเศษของน้ำหอม Aurner กลิ่นล่าสุดนี้ Aesop และ Patcharavipa ได้ร่วมรังสรรค์ไอเท็มต่างหูหนีบ (ear cuff) จำกัดจำนวน ได้แรงบันดาลใจมาจากความบานสะพรั่งของดอกแมกโนเลีย ซึ่งผลิตจากวัสดุโรเดียม 925 Sterling Silver ทำมือโดยช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญที่่ส่งผ่านความชำนาญมาจากรุ่นสู่รุ่น เกิดเป็นชิ้นงานเครื่องประดับที่สวยยูนีค

NONFICTION The New Musk Collection EDPTHE BEIGE | THE GREY (30 ml. / 3,100 THB I 100 ml. / 6,300 THB)
สองกลิ่นหอมใหม่จากคอลเล็คชั่น ‘NONFICTION Musk Collection’ กลิ่นซิกเนเจอร์ THE BEIGE | THE GREY ที่มาพร้อมเรื่องราวที่เป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของ NONFICTION แบรนด์น้ำหอมสายคลีนจากเกาหลี ผสานแรงบันดาลใจจากกลิ่นหอมที่รังสรรค์โดยปรมาจารย์ด้านการปรุงน้ำหอมมอริส รูแซล (Maurice Roucel) ที่เล็งเห็นว่า “โน้ตกลิ่นมัสท์” เป็นสื่อกลางสำคัญของคอลฯ นี้ เขาใช้ความแตกต่างของไวท์มัสก์เเละดาร์กมัสก์ในการรังสรรค์ THE BEIGE ซึ่งมีกลิ่นหอมนุ่มนวลและอบอุ่นชวนให้หลงไหล และ THE GREYมีเสน่ห์ลุ่มลึกละเอียดอ่อนชวนให้ค้นหา ซึ่งเสน่ห์ตราตรึงของน้ำหอมมัสก์ทั้งสองสไตล์นี้ยังมาพร้อมผลิตภัณฑ์ Hand Cream ไอเท็มสุดฮิตของแบรนด์กับสองกลิ่นเหมือนกันเป๊ะ ลองสัมผัสได้ที่ NONFICTION Pop-Up Store ชั้น 2, Central Embassy

divana Perfume Oil (95 ml. / 4,350 THB)
น้ำหอมแบบออยล์จากคอลเล็คชั่นพิเศษฉลองครบรอบ 25 ปี divana ผสานกลิ่นหอมละมุน พร้อมส่วนผสมของออยล์ธรรมชาติ ทั้ง น้ำมันมะกอก น้ำมันโจโจบา น้ำมันเมล็ดองุ่น และน้ำมันอะโวคาโด ช่วยบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้นไปในตัว ทั้งยังอ่อนโยนต่อผิวตอบโจทย์คนที่มีผิวแพ้ง่าย มีให้เลือกถึง 5 กลิ่นใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ ได้แก่ Sunriseกลิ่นหอมสดชื่นที่กักเก็บความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติในยามเช้า Queen of The Nightหอมเย้ายวนจากดอกไม้ที่บานในยามค่ำคืน ผสานความสดชื่นของผลส้มSnow Drop สดชื่นจากเกล็ดหิมะแรกLaguna สัมผัสความสงบและความกลมกลืนของธรรมชาติ Foresta หอมจากผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์และยั่งยืน เป็นน้ำหอมที่ไม่ได้เพียงมอบกลิ่นหอมอย่างเดียวแต่ยังมาจากส่วนผสมธรรมชาติ เพียงสเปรย์แล้วนวดเบาๆ ที่จุดชีพจร นอกจากจะให้กลิ่นหอม ยังผ่อนคลายและกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตด้วยคุณสมบัติจากธรรมชาติ


สำรวจ 5 เทรนด์แฟชั่นพรมแดงในงาน SAG Awards 2025

Alternative Textaccount_circle

เวลานี้คงเป็นช่วงที่ชุกชุมไปด้วยงานประกาศรางวัลมากที่สุด ล่าสุด SAG Awards หรือ Screen Actors Guild Awards ประจำปี 2025 ก็เพิ่งจัดขึ้นไปหมาดๆ มอบรางวัลให้กับนักแสดงมากมายเพื่อเป็นเกียรติ และขวัญกำลังใจต่อการสร้างสรรค์ผลงานทางการแสดง

แน่นอนว่างานสำคัญ เหล่าคนดังก็ต้องจัดเต็มลุคพรมแดงมาให้เราได้ชมอีกเช่นเคย เมื่อส่องดูแล้วเราพบ 5 เทรนด์แฟชั่นที่อยู่บนชุดราตรีของบรรดาเซเลบริตี้ มีอะไรบ้างตามไปดู

Sparkle

ความวิบวับที่ชวนให้ทุกคนหันมอง สำหรับงานที่ต้องการความโดดเด่น ดีเทลคริสตัลเล่นแสงไฟเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ที่สุด เหมือนที่ Anna Sawai, Moeka Hoshi และ Marissa Bode สวมใส่มาในงาน

Off-Shoulder

นี่แหละคือความเคล็ดลับเผยเสน่ห์ของผู้หญิง เพราะไหปลาร้าเป็นหนึ่งในจุดที่ชวนหลงใหลมากที่สุด และการสวมเดรสหรือเสื้อปาดไหล่นั้น ยังมีความลึกลับ ประมาณว่าจะเซ็กซี่ก็ใช่ แต่ก็ไม่ทั้งหมด เหมือนชวนให้ค้นหาตัวตนที่แท้จริงของผู้สวมใส่ โดยงานนี้ก็เดรสเปิดไหล่ก็มีหลักหลายแบบ ทั้งข้างเดียว และเปิดทั้งสองข้าง

Floral

ความโรแมนติกได้รวมตัวไว้ที่ตรงนี้ ดอกไม้ละลานตาปักอยู่บนเดรสออกงานของเซเลบริตี้หลายคน ส่วนใหญ่ลุคที่ได้มักถ่ายทอดผ่านผู้หญิงที่มีคาแร็คเตอร์อ่อนหวาน ล้นเหลือด้วยความเฟมีนิน

Classy, Black & Red!

ความคลาสสิกเป็นสิ่งอมตะที่สุด และคงเป็นดีเทลไหนไม่ได้ ถ้าใช่สีแดงและดำ แม้ผู้สวมใส่จะมาในซิลลูเอตที่เรียบง่ายหรือสะดุดตามากแค่ไหน ก็รับรองได้ว่าผ่านไปกี่ปีลุคนี้ก็ไม่มีทางเอ้าท์

Like a Bird

นี่แหละลุคของนางพญา ใครอยากเล่นใหญ่ในงานไหน ขนนกคือคำตอบ เพราะเป็นสิ่งที่จะสร้างความโดดเด่นให้กับลุคได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังถ่ายทอดวามสนุกสนาน และความเป็นแฟชั่นนิสต้าในตัวผู้สวมใส่ออกมาได้เป็นอย่างดี


ภาพ: Getty Image

ตามเทรนด์งานผิวปี 2025 พร้อมเจาะทริคดูแลผิวปัง! กับ “หมอหยก Merz Aesthetics Med Friend”

account_circle

ด้วยเทรนด์การดูแลผิวสวยแลดูเป็นธรรมชาติมาแรงข้ามปี ดังนั้นจึงต้องตามกันต่อกับหัตถการยอดนิยมที่ช่วยดูแลผิวสวยอย่างยั่งยืน แพรว จึงพาไปอัปเดตความรู้และทริคดีๆ กับ “คุณหมอหยก – พญ.ฉัตรบงกช เขมาชีวะกุล” (ว.35619) Merz Aesthetics Med Friend เพื่อนหมอของเมิร์ซ ที่หลายคนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดีทางโซเชียลมีเดีย เพราะคุณหมอหยกเป็น KOL และเทรนเนอร์ของ Merz Aesthetics ในการให้คำแนะนำการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างถูกต้องแก่เหล่าแพทย์ความงาม รวมถึงยังประจำหน้าจอเพื่อแชร์ความรู้และคอยตอบคำถามให้กับคนรักสวย ติดตามได้ที่ TikTok : @merzaestheticsthailand สำหรับครั้งนี้คุณหมอหยกจะมาแชร์ทริคการดูแลผิวด้วยหัตถการตัวเด็ด! เพื่อเป็นไอเดียให้กับคนรักผิวก่อนตัดสินใจทำสวยในปี 2025

เทรนด์ผิวสวยยั่งยืน

“ในมุมมองของหมอ คาดว่าปีนี้ผู้คนน่าจะหันมาสนใจในเรื่องของความงามที่ยั่งยืนและแลดูเป็นธรรมชาติกันมากขึ้น ซึ่งจริงๆ แล้วเทรนด์ดังกล่าวเป็นกระแสนิยมมาหลายปีแล้ว โดยส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่แนวคิด The best version of me หรือการเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด พร้อมให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว ดังนั้นในส่วนของเทรนด์การดูแลผิวจึงเน้นไปที่การเสริมโครงสร้างผิวให้แข็งแรง การปรับปรุงคุณภาพผิว ซึ่งเป็นการดูแลผิวตามกระบวนการธรรมชาติ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว”

ทริคดูแลผิว…เริ่มง่ายๆ ด้วยตัวเอง

“วิธีการดูแลผิวของหมอที่ปฏิบัติจริงมาตลอด และมักจะแนะนำกับผู้รับบริการอยู่เสมอ หลักๆ จะมี 3 อย่างด้วยกัน อย่างแรกคือดูแลเรื่องการใช้ชีวิตในประจำวัน ตั้งแต่การพักผ่อนให้เพียงพอ นอนอย่างน้อยวันละ 7 – 9 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมระบบภายใน ส่วนอีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือการออกกำลังกาย เพื่อเสริมสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีจากภายในสู่ภายนอก เช่น คาร์ดิโอที่เน้นการเสริมความแข็งแรงของหัวใจและปอดให้สามารถนำออกซิเจนมาใช้ได้มากขึ้น เวทเทรนนิ่งที่ช่วยในการลดน้ำหนักและลดไขมัน แต่ทั้งนี้ก็ต้องเป็นการออกกำลังกายแบบบาลานซ์ ไม่ควรที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งหนักมากเกินไป เพราะอาจส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อยได้ง่าย

“อย่างที่สองคือการใช้สกินแคร์อย่างสม่ำเสมอ หลักๆ ที่ห้ามขาดคือมอยเจอร์ไรเซอร์และกันแดด สำหรับมอยเจอร์ไรเซอร์จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เมื่อผิวชุ่มชื้นก็จะแข็งแรง เต่งตึง เรียบเนียน ช่วยลดปัญหาริ้วรอย ส่วนกันแดดถือเป็นสิ่งจำเป็นที่สุด เพราะแสงแดดเป็นสาเหตุของปัญหาผิวทั้งความหมองคล้ำ จุดด่างดำ และริ้วรอย อีกทั้งนอกจากแสงแดดแล้ว สมัยนี้ผู้คนยังใช้เวลาอยู่กับหน้าจอต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ หรือโทรทัศน์ ซึ่งแสงจากหน้าจอเหล่านี้สามารถทำร้ายผิวของเราได้เช่นกัน ดังนั้นจึงควรเลือกกันแดดที่มีคุณสมบัติป้องกันแสงสีฟ้าด้วย

“อย่างที่สามคือเรื่องอาหารการกิน โดยสิ่งที่เน้นคือการรับประทานโปรตีนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย สัดส่วนโปรตีน 1 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เพราะโปรตีนเป็นตัวตั้งต้นในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิว ซึ่งหลายคนน่าจะทราบกันดีว่าคอลลาเจนเป็นองค์ประกอบสำคัญของผิว แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าเราต้องซื้ออาหารเสริมโปรตีนมาทาน แค่เน้นการทานอาหารจำพวกโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม ให้ได้สัดส่วนตามที่ร่างกายต้องการก็เพียงพอแล้วค่ะ”

หัตถการงานผิว…ต้องปักหมุด!

“นอกจากการดูแลผิวขั้นพื้นฐานด้วยตัวเองแล้ว ผู้คนยุคนี้ยังเลือกอาศัยตัวช่วยอย่างหัตถการที่เป็นอีกหนึ่งทางลัดในการดูแลผิวกันมากขึ้น ซึ่งหัตถการที่หมอมองว่าช่วยดูแลผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์เรื่องความคุ้มค่าด้วยผลลัพธ์ที่ยั่งยืน เรียกว่าจะไม่พูดถึงไม่ได้คือ สารกระตุ้นคอลลาเจน ฟิลเลอร์งานผิว สารลดเลือนริ้วรอย และเครื่องยกกระชับใบหน้า เพราะถือเป็นหัตถการงานผิวยอดนิยมแห่งยุค และมีหลากหลายให้เลือก ดังนั้นในการเลือกทำจึงต้องศึกษาให้ดีๆ  

“สำหรับสารกระตุ้นคอลลาเจน หมอขอแนะนำให้เลือกตัวที่สามารถช่วยซ่อมแซมฟื้นฟูโครงสร้างผิวได้ครบทั้ง 5 ประการคือ คอลลาเจนชนิดที่ 1 , คอลลาเจนชนิดที่ 3 , อีลาสติน , หลอดเลือดเล็กๆ ที่นำสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ผิว และสารน้ำหล่อเลี้ยงผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เพราะสารกระตุ้นคอลลาเจนบางตัวจะกระตุ้นแค่คอลลาเจนอย่างเดียว แต่ความจริงแล้วโครงสร้างผิวของเรามีองค์ประกอบมากกว่านั้น

“ถ้าเน้นเรื่อง Skin Quality ก็ต้องฟิลเลอร์งานผิวที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและช่วยเสริมโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ซึ่งควรเลือกตัวที่มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid และ Glycerol เพราะ Glycerol จะช่วยให้โครงตาข่ายคอลลาเจนแข็งแรงขึ้น และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว โดยช่วยดึงน้ำจากสิ่งแวดล้อมบริเวณรอบๆ ทำให้ผิวฉ่ำวาวแบบกลาสสกิน

“มาถึงสารลดเลือนริ้วรอยที่หลายคนรู้จักกันดี  เรื่องต้องรู้คือถ้าร่างกายของเราได้รับโปรตีนที่ผสมอยู่ในสารลดเลือนริ้วรอยเข้าไปเรื่อยๆ ร่างกายจะเกิดการกระตุ้นการสร้างภูมิต้านทาน ทำให้สารลดเลือนริ้วรอยแสดงผลลัพธ์น้อยลง เช่น ปกติอยู่ได้ 4 – 6 เดือน แต่ตอนนี้อยู่ได้เพียง 2 เดือน หรือเรียกว่าการดื้อโบนั่นเอง ดังนั้นสำหรับผู้รับบริการที่ทำหัตถการนี้มานานแล้วไม่ค่อยเห็นผล หรือผู้รับบริการมือใหม่ เดี๋ยวนี้เรามีทางเลือกอย่างโบเจนเนอเรชั่นใหม่ที่ปราศจาก Complexing Protein ซึ่งช่วยลดการกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายจากสิ่งแปลกปลอม และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะดื้อโบ

“สุดท้ายคือเครื่องยกกระชับใบหน้า ซึ่งในปัจจุบันมีเยอะมากและมีหลากหลายช่วงคลื่น แต่เครื่องยกกระชับใบหน้าที่ดีควรจะได้รับการรับรองว่าเป็น Gold Standard คือการยอมรับทางการแพทย์ว่าที่ดีที่สุดภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม และควรจะสามารถยกกระชับได้ทั้งชั้นผิวและชั้นกล้ามเนื้อใต้ผิว ที่สำคัญควรมีหน้าจอแสดงผลแบบ Real-time Visualization เพื่อให้แพทย์สามารถวิเคราะห์ผิวได้ตรงจุด เพราะแต่ละคนมีลักษณะชั้นผิวที่ต่างกัน การมีหน้าจอแสดงผลแบบเรียลไทม์ช่วยให้สามารถปรับคลื่นให้ลึกตามความเหมาะสมกับชั้นผิวของแต่ละคน ทำให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพมากขึ้น แม่นยำ ตรงจุด และอยู่ได้นานประมาณ 1 – 2 ปี โดยขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของแต่ละคน”

เช็กชัวร์…ก่อนทำสวย

“สิ่งสำคัญในการดูแลตัวเองด้วยหัตถการความงามใดๆ ก็ตาม ข้อแรกคือควรศึกษาหาข้อมูลก่อนว่าหัตถการหรือผลิตภัณฑ์นั้นๆ คืออะไร ช่วยตอบโจทย์ปัญหาของเราได้อย่างไร เพราะการมีความรู้เบื้องต้นก่อนเข้าไปปรึกษาแพทย์จะทำให้เราตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น   

“ข้อสองคือระมัดระวังของปลอม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือหรือผลิตภัณฑ์ ซึ่งในการตรวจเช็กว่าเป็นของแท้หรือไม่ เราสามารถดูได้จากตัวเครื่องมือหรือกล่องผลิตภัณฑ์นั้นๆ ที่จะมีคิวอาร์โค้ดให้สแกนตรวจสอบที่มาที่ไปว่าเป็นเครื่องมือหรือผลิตภัณฑ์ที่ซื้อจากบริษัทผู้นำเข้าจริงหรือไม่ รวมถึงสามารถเข้าไปเช็กในเว็บไซต์ของบริษัทผู้นำเข้า ซึ่งจะระบุการรับรองสถานบริการที่ซื้อเครื่องมือหรือผลิตภัณฑ์นั้นๆ เอาไว้

“ข้อสามคือการเลือกสถานบริการที่ได้รับมาตรฐาน มีแพทย์ที่มีความสามารถเฉพาะทาง และเรายังสามารถตรวจสอบว่าเป็นแพทย์จริงหรือไม่ ซึ่งสามารถเช็กได้ในเว็บไซต์ของแพทยสภา รวมถึงควรตรวจสอบประวัติการทำงานและความเชี่ยวชาญของแพทย์ เช่น ได้รับการอบรมจากบริษัทผู้นำเข้าเครื่องมือหรือผลิตภัณฑ์นั้นๆ ยิ่งถ้าได้รับประกาศนียบัตรรับรองการอบรมก็จะยิ่งดี เรียกว่าถือเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้การใช้เครื่องมือหรือผลิตภัณฑ์เป็นไปอย่างถูกต้องและเหมาะสม ซึ่งจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีนั่นเองค่ะ”


keyboard_arrow_up