NYX Professional

อัพเดตเทรนด์เมคอัพจากแอลเอ เน้นโครงหน้าเป๊ะสไตล์สาย ฝ. ถ่ายรูปขึ้นกล้อง ไม่ต้องพึ่งแอพฯ

Alternative Textaccount_circle
NYX Professional
NYX Professional
ครึ่งปีหลัง 2017 แล้วนะคะสาวๆ แพรวดอทคอม มีเทรนด์เมคอัพส่งตรงจากลอสแอนเจลิสมาให้อัพเดทกันค่ะ ล่าสุด NYX Professional Makeup จัดงาน “PRO DAY” แชร์เทคนิคการแต่งหน้าที่ไม่เคยเปิดเผยจากเซเลบริตี้เมคอัพอาร์ทิสต์มือโปรอย่างป้อม – วินิจ บุญชัยศรี” และอัพเดทเทรนด์เมคอัพระดับโลกจาก Roshar G. Sandage” เมคอัพอาร์ทิสต์ชื่อดังระดับอินเตอร์ผู้เชี่ยวชาญการแต่งหน้าแบบ Flawless Skin ที่บินลัดฟ้ามาจากแอลเอ

เริ่มด้วยการอัพเดทเทรนด์เมคอัพระดับโลกจาก Roshar เมคอัพอาร์ทิสต์มือโปรชื่อดังจากแอลเอและนิวยอร์ก ผู้มีฝีมือการแต่งหน้าที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์จนเป็นที่ยอมรับจากสื่อแฟชั่นทั่วโลก นอกจากผลงานด้านเมคอัพที่มีสไตล์อันน่าทึ่งแล้ว Roshar ยังรังสรรค์ผลงานด้านศิลปะ แฟชั่น การแสดง คอสตูมผ่านเมคอัพพรีเซ็นเทชั่นของเขาเองได้อย่างน่าอัศจรรย์ Roshar ยังได้ร่วมงานกับแบรนด์เมคอัพชื่อดังมากมายทั่วโลกจนได้รับขนานนามว่าเป็นเอ็กซ์เพิร์ตเรื่อง Flawless Skin (ผิวที่เนียนเรียบไร้ที่ติ) และเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการใช้ลายเส้น สี และการเก็บรายละเอียดได้อย่างยอดเยี่ยม โดยการมาทำงานร่วมกับ NYX Professional Makeup ครั้งนี้ Roshar ได้ให้เคล็ดลับการแต่งหน้ากับสาวๆ เมคอัพจังกี้ว่า “สิ่งที่สนุกที่สุดสำหรับการแต่งหน้าก็คือการอาศัยจินตนาการแบบไร้ขอบเขตสร้างสรรค์ลุคใหม่ๆ อย่างไร้ขีดจำกัด การครีเอทสิ่งใหม่นี่แหละคือการสร้างตัวตนที่ชัดเจนและสร้างคุณค่าให้ผลงานตัวเองและทีม และเทรนด์ของภาพถ่ายปัจจุบันก็ควรจะให้ความสำคัญกับการรีทัชให้น้อยที่สุดแต่ให้ความสำคัญกับเมคอัพที่ดูเรียลดูสมจริงมากที่สุด การเก็บรายละเอียดอย่างละเมียดละไมทุกองศาจึงสำคัญมากกับการแต่งหน้าแบบมือโปร”

“ลุคที่ฮอตสุดๆ สำหรับสาวแอลเอคือ งานหน้าเป๊ะเว่อร์แบบสายฝอ แน่นอนว่าสาวแอลเอกล้าที่จะลองเมคอัพที่มีความหลากหลายและแอพพลิเคชั่นที่มีความแปลกใหม่มากขึ้น เทรนด์เมคอัพที่มาแรงคือการเน้นโครงหน้าให้ชัดเจน เป๊ะทุกองศา การคอนทัวร์ให้หน้าดูเล็กลง งานเสกผิวเรียบเนียนปกปิดทุกจุดบกพร่องบนหน้าด้วยคอนซีลเลอร์ แต่ยังเน้นความโกลว์ให้กับบางส่วนของหน้า เช่น การเฉดดิ้งเน้นจมูกโด่ง งานไฮไลท์โกลว์ๆ ให้หน้าดูสวยแพง งานสโตรบที่ทำให้หน้าของสาวๆ ดูเงาและมีมิติ ไอเท็มที่แนะนำคือ Strobe of Genius Illuminating Stick ที่ช่วยเพิ่มความคมชัดและความวาวให้ใบหน้ามีความโฉบเฉี่ยว มั่นหน้าได้เลยเมื่อโดนแสง จะเซลฟี่มุมไหนก็แซ่บแบบสายเฟียซตัวจริง ส่วนงานตาพุ่งมีมิติสะพรึงขั้นสุดก็ต้องยกให้ Ultimate shadow palette พาเล็ตต์สีสดแซ่บ 4 เฉดสีในตลับเดียวมีตั้งแต่เฉดสีธรรมชาติไปจนถึงสีสันสดใส แน่นอนว่าสาวๆ ควรมีไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้ง”

นอกจาก Roshar จะแนะนำเทรนด์ Glow Getter ที่เน้นความโกลว์ ความวาวแบบมีมิติแล้ว เทรนด์เมคอัพที่กำลังมาแรงส่งตรงจากแอลเอก็คือเทรนด์ Matte & Metals ที่เน้นสีแบบเมทัลลิกแบบฟียซๆ, เทรนด์ Precision Power ที่เน้นความคมชัดทั้งคิ้ว ตา และปากให้ดูคมชัด พุ่งระดับสิบ มีพลังขั้นสุด, เทรนด์ Grungy Vinyl ที่มอบลุคโกลด์แบบแซ่บๆ สวยสะพรึงด้วยสีสันหลากหลาย และเทรนด์ Acid Trip ที่เน้นสีสันสดใส นีออน จี๊ดจ๊าดสะดุดตา

A post shared by Vinij Boonchaisri (@pom_vinij) on

พร้อมกันนี้ ยังพบกับเทคนิคการแต่งหน้าที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อนจากเซเลบริตี้เมคอัพอาร์ตติสมือโปรระดับเทพอย่าง “ป้อม – วินิจ บุญชัยศรี” ผู้อยู่เบื้องหลังความงามของดารา เซเลบระดับแถวหน้าของเมืองไทยและผู้มากความสามารถทั้งเรื่องเมคอัพ อาร์ต และแฟชั่น ซึ่งได้มาสาธิตการแต่งหน้าสไตล์ NYX อย่างมืออาชีพที่เน้นทั้งงานหน้าและงานคิ้วให้เป๊ะปังอลังเว่อร์จนต้องได้แฮชแทค #ลูกสาวสวยมาก กับ 10 สุดยอดผลิตภัณฑ์ NYX Professional Makeup ในดวงใจ หนึ่งในนั้นก็คือ Bright Idea Illuminating Stick ซึ่งเป็นไฮไลท์เพิ่มความโกลว์ให้ใบหน้า เพียงเบลนด์ในบริเวณจุดกระทบแสงของใบหน้าภายในไม่กี่วินาที สาวๆ ก็จะมีออร่าเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ

ถ้าอยากแต่งหน้าถ่ายรูปขึ้นกล้อง ต้องให้ความสำคัญกับผิว ซึ่งจะเน้นความเป็นธรรมชาติ ไม่หนาหนัก แต่ปกปิดรอยต่างๆ อย่างเนียนเรียบ ไพรเมอร์คือคีย์หลัก เพราะช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า อำพรางรูขุมขนให้แลดูเล็กลง และยังช่วยให้สีสันของเครื่องสำอางติดทนนานยิ่งขึ้น โดยแต้มในบริเวณกึ่งกลางหน้า แล้วทาเพียงแป้งฝุ่นบางๆ เท่านั้น ส่วนงานคิ้วเป๊ะ ถ้าจะเป็นสายฝรั่งเซ็กซี่ต้องเขียนคิ้วให้คมชัดและเบลนด์หัวคิ้ว ส่วนหางคิ้วก็โก่งเล็กน้อยและคมกริบ ที่สำคัญคือต้องเลือกที่เขียนคิ้วให้เหมาะกับสีผม 3D Brow Marker ก็เป็นอีกหนึ่งไอเท็มในดวงใจ เพราะดีไซน์มาเพื่อเขียนคิ้วแบบมือโปรโดยเฉพาะ”

8 จุดตื่นตัว กระตุ้นอารมณ์สวาท

account_circle

ถ้าอยากจัดเซ็กส์ให้ฟินต้องรู้จุดที่นำร่องไปสู่ความหฤหรรษ์แบบชัดๆ และสำหรับมือใหม่หัดจัดเซ็กส์หรือแม้แต่หนุ่มๆ ที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศฟิน ลองขยับมือไม้ในจุดเดิมๆ ไปสู่จุดใหม่บนเรือนร่างสาวๆ ดูไหม วันนี้มาดามมี 8 จุดที่คุณต้องไม่ลืมใช้กระตุ้นอารมณ์เซ็กส์ให้กับเธอมาย้ำกันอีกครั้ง

ถ้าพร้อมแล้วตามไกด์มืออาชีพอย่างมาดามพาคุณทัวร์ทั่วร่างหาจุดที่ว่ากันเลย

1. คลิตอริส

จุดนี้มาวิน ใครๆ ก็รู้กัน อันนี้นมาดามรู้ค่ะ แต่เรื่องนี้ก็ยังเป็นปัญหาเสมอ เพราะหนุ่มๆ หลายคนมักลืมว่าคอนเซ็ปต์การสะกิดต้องไม่ใช่จู่โจมแบบหน่วยสวาทที่ตะลุยอย่างไวและรุนแรง เพราะอันนั้นอ่ะ ไม่เสียวแต่เจ็บ!!

2. ช่องคลอด

บอกกันตรงๆ ว่าปากช่องคลอดสำหรับสาวบางนางรับความรู้สึกได้อย่างไว และบางนางชอบมากมายในจังหวะที่เจ้าหนูกำลังจ่อรอการเดินทางเข้าสู่ด้านใน พวกเธอจึงไม่เคยพลาดที่จะใช้เวลาว่างๆ ตอนนั่งทำงานออกกำลังกายด้วยการขมิบอยู่เสมอ

3. ปากและริมฝีปาก

จุดไฮไลน์ที่เริ่มต้นด้วยความโรแมนติกจาการสัมผัสที่ชายคนรักมอบให้ ลองนึกดูว่าถ้าคุณหลับตาพริ้มแล้วจูบกันอย่างค่อยเป็นค่อยไป ปล่อยให้มือไม้จะขยับไปสัมผัสส่วนต่างๆ จะรู้สึกดีแค่ไหนทริกเด็ดอีกอย่างที่มาดามขอเชียร์ให้คนรักกันได้ปฎิบัติคือ จูบอย่างดูดดื่มไปพร้อมกับการร่วมรัก การันตี…ฟินตาเยิ้ม!!

4. หู ท้ายทอยและหลังคอ

ไม่ค่อยมีคนรู้นะคะว่าจริงๆ แล้วบริเวณที่ว่านี้ สร้างความหฤหรรษ์ให้ได้ไม่แพ้ซอกคอที่เขาชอบซุกไซร้เหมือนเด็กซน แหม…แต่แค่นึกถึงลมหายใจแผ่วเบาที่พรมลงมากับปลายลิ้นที่จะลงสัมผัส มาดามว่า แค่คิดก็ขนลุกแล้วนะ

5. หน้าอก

ไม่ใช่ “หัวนม” นะคะ ย้ำ!! มาดามพูดถึงหน้าอกที่มีทั้งสองเต้าดึ๋งเลยนั่นล่ะค่ะ สังเกตไหมคะว่าเวลาจัดเซ็กส์กับคุณแฟนหรือคุณสามี เขาจะชอบเอามือมาลูบๆ คล้ำๆ บางครั้งก็ขย้ำบ้าง แล้วคุณสาวๆ รู้สึกยังไงล่ะ นั่นแหละค่ะคำตอบ อ่ะๆ สาวบางนางบอกว่าเขาลงแรงบีบจนเจ็บใช่ไหม แหม…บอกเขาสิคะ อย่าเอาแต่ตามใจ ชอบน้ำหนักไหน ควรแชร์ความเห็นนะคะ

6. หัวนม

ไมใช่ “หน้าอก” นะคะ ย้ำตรงนี้เลยอีกครั้ง เพราะหัวนมคือจุดรวมเส้นประสาทที่มาดามพูดมาหลายครั้งแล้ว ฉะนั้นหนึ่งในจุดหฤหรรษ์จะไม่มีจุดนี้ไม่ได้เลยเชียวล่ะ

7. ต้นขาด้านใน

จุดนี้สยิวจริง เพราะเนื้ออ่อนๆ ในข้อพับด้านในรับสัมผัสเบาๆ เมื่อไหร่ใจแทบละลาย จะลงสัมผัสด้วยมือหยาบๆ หรือริมฝีปากนุ่มๆ ก็ช่วยบิ้วให้หลายนางถุงจุดสุดยอดได้อย่างไม่น่าเชื่อ เอ้า!! ลองดูสักครั้งไหมล่ะ

8. หลังส่วนล่าง

เวลาเมื่อยหลังแล้วมีคนช่วยนวดคลึงให้บริเวณหลังส่วนหลังเนี่ยสบายมากๆ เลยจริงไหมคะ แต่มาดามจะกระซิบบอกให้นะคะว่า บริเวณเดียวกันนี้ดีงามกว่าแค่ใช้มือนวดให้คลายเมื่อยนะคะ อ่ะๆ ลองนึกแค่ว่าเขาเอามือมาจับเอวคุณ คุณก็สะดุ้งแล้วใช่ไหมล่ะ แล้วถ้าขยับไปด้านหลังลงล่างหมิ่นเหม่จะถึงร่องก้นจนจะรู้สึกฟินและได้รับการกระตุ้นแค่ไหน

เรื่อง : Madam Hong Hern

ภาพ : www.mensfitness.com, freepik.com

โชว์เจ๋ง! ไมร่า-มณีภัสสร แชมป์ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์คนแรก ทำเพลงแต่งเองชื่อ “แค่มีเธอ”

มีทั้งพรสวรรค์และพรแสวงสำหรับสาวน้อยมหัศจรรย์ ไมร่า-มณีภัสสร มอลลอย ผู้มีเสียงอันทรงพลังและเป็นผู้ชนะไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ (Thailand’s Got Talent) คนแรกของไทยในวัยเพียง 13 ปี และยังได้เข้ารอบ 6 คนสุดท้าย ในรายการประกวดร้องเพลง Rising Star ของสถานีโทรทัศน์ ABC ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2557 

ปัจจุบันไมร่ายังเป็นนักเรียนทุนของมหาวิทยาลัย Berklee College of Music ที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยสาขาที่ไมร่ากำลังตั้งใจเรียนเลยก็คือ สาขาเอกดนตรี และล่าสุดเธอก็ได้มีผลงานเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง เน็ต ไอ ดาย #สวยตายล่ะมึง! ของสตูดิโออารมณ์ดี และเอ็ม พิคเจอร์ ที่กำลังจะฉายวันที่ 17 สิงหาคม 2560 ความพิเศษของเพลงนี้คือ ไมร่าในวัย 19 ปี ได้แต่งคำร้อง ทำนอง และเรียบเรียงเองทุกขั้นตอน ในชื่อเพลง “แค่มีเธอ”

ไมร่าได้เผยไอเดียเกี่ยวกับการทำเพลงนี้ว่า “จากที่ไมร่าได้ทราบเรื่องราวคร่าวๆของภาพยนตร์เรื่องเน็ต ไอ ดาย #สวยตายล่ะมึง! เพื่อเป็นไอเดียในการแต่งเพลงนี้ ไมร่าจึงเลือกมุมความรักของคู่สามีภรรยาในเรื่องที่แสดงโดยพี่พิชญ์-กาไชย และพี่มีน-สรัลธร มาถ่ายทอด คือความรักที่เค้ามีให้กันและกัน ความเชื่อใจและพึ่งพากันได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเค้าก็ยังมีกันและกัน ด้วยความที่เป็นหนังแนวสยองขวัญ จึงกลายเป็นเพลงรักแบบโหยหวนๆน่ะค่ะ ให้คนฟังได้ฟังเพลงแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่เพลงรักธรรมดานะ จะได้มาหาคำตอบกันในภาพยนตร์”

ส่วนขั้นตอนการทำงานที่ไมร่าทำด้วยตัวเองทุกขั้นตอนนั้น เธอก็ได้เล่าให้ฟังว่า

“พอถึงเวลามานั่งลงเขียนเนื้อเพลง ก็ใช้เวลาไม่นานมากค่ะ เพราะมีไอเดียทำนองเพลงที่คิดเอาไว้ในหัวมาอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งเพลงนี้ตอนแรกได้แต่งเนื้อเป็นภาษาอังกฤษค่ะ พอได้เนื้อเพลงแล้วก็มานั่งที่เปียโนแล้วก็ลองเล่นคอร์ดลองร้องดูว่าอะไรฟังดูเหมาะและก็เพราะที่สุดน่ะค่ะ แล้วค่อยๆเพิ่มเสียงเครื่องดนตรีต่างๆลงไป ให้ได้อารมณ์ตามที่เราคิดเอาไว้ให้เข้ากับเนื้อเพลงและหนังค่ะ กับผลงานครั้งนี้ไมร่าเองก็พยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ หวังว่าผู้ฟังและผู้ชมคงชอบนะคะ อย่างที่ไมร่าบอกน่ะค่ะ ไมร่าแต่งเพลงให้เข้ากับหนัง ถ้าใครฟังเพลงแล้วอยากมาดูหนัง ไมร่าก็จะดีใจมากๆเลยค่ะ”

ผลงานเพลง แค่มีเธอ (Still have you) ของไมร่า

 


เรื่อง: Gingyawee_แพรวดอทคอม
ภาพ: IG @myramolloy

ดูดวงรายวัน ประจำวันศุกร์ที่ 4 สิงหาคม 2560

ดูดวงรายวัน ประจำวันศุกร์ที่ 4 สิงหาคม 2560 เช็คทุกวัน ทันทุกดวงกับ แพรว ดอทคอม

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  ท่านมีความสามารถทำงานได้หลากหลาย จะมีงานพิเศษด้วย โดยเฉพาะงานที่ต้องติดต่อประสานงาน พูดคุยและทำความรู้จักกับลูกค้าหรือบุคคลทั่วไป ท่านจะทำได้ดี

การเงิน : หาเงินคล่อง เหมาะกับการลงทุนในระยะสั้น

ความรัก : วันนี้จะได้เข้าไปดูแลผลประโยชน์ให้กับธุรกิจของครอบครัว ซึ่งจะทำให้เจริญรุดหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว คนโสด ท่านกำลังตกอยู่ในห้วงความรัก อาจแบบเด็กหลงรักผู้ใหญ่หลงละเมอเพ้อฝัน แบบฉาบฉวย

สุขภาพ : ระวังวูบนะคะ อันเนื่องมาจากขาดสารอาหาร เตรียมยาหม่อง ยาอม ยาดม ไปด้วย

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว มีจิตใจที่เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยวเยือกเย็น เพื่อพิจารณาทบทวนตรึกตรองและใคร่ครวญ ก่อนจะตัดสินใจลงมือทำอะไรบางอย่าง ขอให้เชื่อเซ้นส์ตัวเองค่ะ

การเงิน : ท่านต้องหมุนเงินอย่างหนัก เพื่อแก้วิกฤติที่จะเกิดขึ้นจากการลงทุน

ความรัก :  วันนี้ท่านมีความประนีประนอมสูง ไม่ว่าอะไรยอมได้หมด ขออย่างเดียวอย่ามาจำกัดอิสรภาพ  คนโสด มีเสน่ห์กับเพศตรงข้ามมากมาย  

สุขภาพ : ควรทานอาหารให้เป็นเวลาและนอนหลับให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการทานยาปฎิชีวนะ ยานอนหลับ ยาแก้ปวดลดไข้ในปริมาณที่มากเกินปกติ

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  :  โชคดีกับการทำงาน ราบรื่น ราบเรียบ ไม่มีอุปสรรคใดๆ ผู้ใหญ่คนใกล้ชิดให้ความรัก ให้การสนับสนุน และช่วยเหลือเป็นอย่างดี

การเงิน :  จะได้ลาภจากผู้ใหญ่และบริวาร ทำอาชีพส่วนตัวจะมีโอกาสสำเร็จมากกว่างานประจำ

ความรัก :  วันนี้อารมณ์ท่านปรวนแปรไม่แน่นอน เดี๋ยวก็อ่อนหวานเอาใจดี แต่เดี๋ยวก็ให้ความสนใจเรื่องอื่นจนเฉยเมย จึงต้องปรับความเข้าใจกันอย่างมากถึงมากที่สุด คนโสด โลเล อ่อนไหว ยังไม่พร้อมที่จะอยู่กับใครจ้า

สุขภาพ : ระวังทานอาหารตามใจปากจะทำให้โรคอ้วนมาเยือน หรือไขมันอุดตันในเส้นเลือด

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :  งานด้านการติดต่อสื่อสาร ธุรกิจนำเข้าส่งออกจะโดดเด่น เดินทางทั้งวัน ควรระวังเรื่องการปกครองลูกน้อง เพราะท่านใจดีเกิน จนลูกน้องเลยเถิด จึงต้องใช้ทั้งพระเดชและพระคุณ

การเงิน   : ไม่พอใช้ จนบุพการีมาช่วยเสริมการเงินให้ตลอดเวลา

ความรัก : วันนี้ใจคุณเหมือนลม หวั่นไหว แปรปรวน วุ่นวายใจมาครบ พรุ่งนี้ก็หยุดแล้วควรหาเวลาไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้างจะได้มีความสุขขึ้น คนโสด ท่านตั้งความหวังไว้สูงมาก เฝ้ารอร้อรอไปก็ยังไม่มาค่ะ

สุขภาพ : จะมีปัญหาหน้ามืด ตาลาย อันเกิดจากความดันโลหิต

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : วันนี้งานช่างมาค่ะ ช่างทุกอย่างโดดเด่นหมด จะมีโอกาสได้สร้างนวัตกรรมใหม่กันเลยทีเดียว แต่ระวังด้วยนะคะ เพราะชื่อเสียงไม่ใช่สิ่งคงทน วันนี้ท่านเป็นดาว พรุ่งนี้อาจตกลงมาได้

การเงิน :   ทำงานเพื่ออุดมคติ ไม่ค่อยคิดถึงเรื่องเงินทองมากนัก แต่ยิ่งให้ก็ยิ่งได้

ความรัก : วันนี้ท่านอาจวางแผนเซอร์ไพร์ส หรือสร้างสิ่งของให้กับคนรัก ด้วยฝีมือท่านเอง  คนโสด  ความรักของท่านหนักไปในทางลุ่มหลงงมงาย แต่ถึงอย่างไรก็เป็นรักแท้และบริสุทธิ์ จึงต้องเลือกดูดีๆ

สุขภาพ : จะมีอาการปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : ท่านอาจมีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับงานที่ผิดกฎหมายและอบายมุข เช่น สถานบันเทิงยามค่ำคืน ควรหลีกเลี่ยง เพราะมีแต่สร้างปัญหามากกว่าจะสำเร็จ

การเงิน : หาเงินเก่ง หมุนเงินเป็น มีโชค แต่ไม่มีลาภลอย เพราะฉะนั้นการพนันเล่นไปก็มีแต่เสีย

ความรัก : วันนี้วันศุกร์ ท่านอาจไปเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อน จนไม่ใส่ใจครอบครัวเท่าที่ควร อาจนำพาให้ต้องเลิกราหรือหย่าร้างได้ คนโสด ใช้ชีวิตโสดให้เต็มที่ก่อน เพราะท่านยังชอบสังสรรค์ ปาร์ตี้กับเพื่อนอยู่เลย

สุขภาพ  :  ระวังความร้อน และการขับรถ อย่าประมาทนะคะ

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : มีงานใหม่เข้ามาอีกแล้ว ท่านก็มีโอกาสประสบความสำเร็จ แต่ต้องใช้เวลานิดหนึ่ง

การเงิน : สร้างงานจนมีชื่อเสียง

ความรัก :  วันศุกร์แล้วค่ะ จะเตรียมวางแผนไปไหน ป้าสนับสนุน เพราะตลอดอาทิตย์ท่านอยู่กับตัวเองมากไป ควรจะมีเวลาสำหรับครอบครัวกันบ้าง คนโสด อกหักมาหนัก จึงทำให้ท่านรู้สึกเข็ดกับความรัก

สุขภาพ :  ระวังโหมงานหนักโดยไม่รู้ตัว จะทำให้เกิดโรคเรื้อรังรักษาไม่หาย

URBAN DECAY

สวยจิกกล้องแตก! แจกเมคอัพทริค 3 สไตล์ของเหล่าเน็ตไอดอล เน้นลุคเปรี้ยวเท่ มีเสน่ห์น่าดึงดูด

Alternative Textaccount_circle
URBAN DECAY
URBAN DECAY

สวัสดีค่าสาวๆ แพรวดอทคอม มีเมคอัพทริคมาฝากอีกแล้วววว รอบนี้ได้มีโอกาสไปเก็บตกภาพเบื้องหลังแฟชั่นสุดแซ่บแบบเอ็กซ์คลูซีฟของแบรนด์ URBAN DECAY ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดจากการเปิดตัว Naked Palette พาเล็ตต์แต่งหน้าสารพัดสีทั้ง 5 รุ่น รวมไปถึง Vice Lipstick ลิปสติกเฉดวาไรตี้ทั้ง 100 เฉด ที่ได้รับความนิยมพร้อมยอดขายอย่างท่วมท้นทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก จึงจัดคอลเล็คชั่นภาพถ่ายของเหล่าเน็ตไอดอลสาวน้อยสุดซ่าสวยระดับนางฟ้าที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในโลกดิจิตอลขณะนี้เป็นลิสต์ถึง “7 นางเฟี๊ยซ” ที่มีความเปรี้ยวซ่าแสบสันต์ตรงตามคาแรคเตอร์ของแบรนด์

@shrln.a  /  @pingydaooh  /  @katheryn_lee /  @pinenerize  /  @meww_  /  @nieabtrinn   /  @jaynithinun
ซึ่ง แพรวดอทคอม ได้คัดเมคอัพทริคมาแชร์ให้สาวๆ แต่งตามกันถึง 3 ลุค 3 สไตล์ของ “3 ใน 7 นางเฟี๊ยซ” รับรองว่าสวย เปรี้ยวซ่าส์ แซ่บซี้ดส์ โดนใจสุด แถมแต่งตามได้ไม่ยากเลยค่ะ ไม่เชื่อลองดู..

เมคอัพทริคของลุคน้องเนี๊ยบ: @nieabtrinn

  

Concept เป็นผู้หญิงเปรี้ยว เผ็ด กล้า แก่นเซี้ยว คือมีความ “Dangerous & Fun Yet Feminine” ลุคอันตราย แต่ยังคงความสวยแบบผู้หญิง

ลุคที่แต่งเริ่มใช้อายแชโดว์พาเล็ตต์ Naked Smoky Palette ไล่จากอ่อนไปเข้มขึ้น แล้วเพิ่มจุดเด่นบริเวณกลางตา และบริเวณกลางริมฝีปากและรอยหยักริมฝีปากบนด้วย Liquid Moondust Eyeshadow ซึ่งสามารถให้ทาลงบนปากที่ทาลิปสติกแล้วได้เหมือนกัน และเพื่อให้เมคอัพลุคติดทนนานที่สุด ใช้ AllNighter Setting Spray ฉีดบริเวณหน้า และรวมไปถึงผิวตัวด้วย ทำให้ทุกอย่างอยู่ทนมากยิ่งขึ้น


เมคอัพทริคของลุคน้องเจย์: @jaynithinun

ด้วย concept ที่ต้องมีความธรรมชาติแต่ซุกซน ในส่วนของดวงตาไม่เน้นแต่งแบบสร้างโครงตามาก แต่เน้นที่งานผิวและสีลิปสติก จึงใช้เพียง Naked Palette #1 ในการเบลนสีตาให้ดูเบาๆ เพียง1สีเท่านั้น ให้น้ำหนักโดยรวมของหน้าไม่หนักมากเกินไป

นอกจากการใช้รองพื้น Naked Skin Weightless Ultra Definition Skin Liquid Foundation แล้ว ยังเพิ่มจุดเด่นให้กับผิวด้วย Naked Skin Highlighting Fluid สี Aura ให้ผิวดูเปล่งปลั่งอมชมพูดูสุขภาพดี และอีกหนึ่งจุดเด่นที่จะขาดเสียไม่ได้สำหรับงานผิว คือ บริเวณหน้าแก้ม สันจมูก และรอยหยักริมฝีปาก

สำหรับปาก Vice Liquid Lipstick สี Disturb จะไม่ทาเน้นขอบปากให้ดูคมชัด เทคนิคการให้ขอบปากไม่ดูคมชัดคือ การใช้คัตตันบัตเกลี่ยขอบปากให้ดูเบลอ เพื่อเพิ่มความเซ็กซี่อวบอิ่มอินเทรนด์เข้าไปอีก


เมคอัพทริคของลุคน้องหมิว: @meww_

มาในมาดสวยเท่ห์ น้องหมิวเน้นแต่งดวงตาให้ดูโฉบเฉี่ยว ต้องสร้างกระบอกตาให้ดูมีมิติ ดังนั้นจึงใช้ Naked Ultimate Basics Palette ซึ่งเป็นเนื้อแมตต์ทั้งหมดในการคัดเบ้ากระบอกตาให้ดูลึกขึ้น และยกหางตาให้เชิด ซึ่งเทคนิคในการทำให้เบ้าตาดูคมชัดนั้น ต้องอาศัย Setting Spray ในการสเปรย์ลงบนปลายแปรง ประหนึ่งการแต่งตาแบบชุบน้ำ เพื่อสร้างความอินเทรนด์และเบลนได้ละเอียดมีมิติมากยิ่งขึ้น

อีกจุดที่สำคัญสำหรับลุคของน้องหมิวคือ การคอนทัวร์ เนื่องจากน้องหมิวมีโหนกแก้มที่สวยงามและดูไฮแฟชั่น ฉะนั้น จึงบรรจงสร้างโครงหน้าด้วยการคอนทัวร์โดยใช้สีใน Naked Flushed Palette เฉด #Sesso รวมทั้งยังใช้สีไฮไลท์ในตลับเดียวกันแต่งแต้มลงบริเวณโหนกแก้มเพื่อความชัด และโฉบเฉี่ยวของโครงหน้ามากยิ่งขึ้น

เป็นไงบ้างคะสาวๆ แต่งตามได้ ไม่ยากเกินไปใช่ไหม  ^o^

เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม
ภาพ : URBAN DECAY

“มิว-นิษฐา” สาวฮ็อตเนื้อหอมฟุ้ง ไม่รีบร้อนมีหนุ่มคนใหม่เพราะความรักต้องใช้เวลา

ช่วงนี้นอกจากเรื่องงานจะรุ่งแล้ว ก็มีหนุ่มๆเข้าคิวแจกขนมจีบยาวเหยียด สำหรับนางเอกสาว“มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน”ทั้งกับหนุ่มในวงการ“เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี”ที่แฟนคลับยังตามเชียร์ไม่เลิกหลังร่วมงานกันในภาพยนตร์เรื่อง “พรจากฟ้า” ล่าสุดมีภาพไปเจอกันโดยมี “ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์”ถึงแม้จะไปกันหลายคนแต่ก็ยังถูกจับตามองไม่เลิก ล่าสุดยังตกเป็นข่าวกิ๊กกั๊กกับ “ไฮโซพก-ประธานวงศ์ พรประภา รุมจีบ” ด้วย งานนี้เมื่อมีโอกาสเจอเธอในงาน “Alive Now byไฮยีน เอ็กซ์เพิร์ท แคร์ ไลฟ์เซ้นท์”ที่ลานควอเทียร์ อเวนิว ดิ เอ็มควอเทียร์ จึงไม่พลาดสอบถามเรื่องนี้กับเลย

“มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน

เห็นว่าจะมีแฟนมีตติ้งเร็วๆนี้?

“ใช่ค่ะ เป็นปีที่5 แล้วจะจัดในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งปีนี้มีออกแบบเสื้อแจ๊คเก็ตเองเพื่อให้แฟนคลับใส่มาในงานซึ่งรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปทำบุญด้วย สำหรับแขกพิเศษก็ไม่น่ามีนะคะ กับ “พี่เต๋อ”เองก็ยังไม่ได้ชวนเลย ยังไม่ชวนใครเลยค่ะ ไม่รู้ว่าหรือเปล่าเราก็เกรงใจค่ะ จริงๆงานนี้เพราะเป็นการจัดขึ้นเพื่อนที่ “มิว”อยากจะเจอแฟนคลับ เลยไม่คิดว่าจะต้องมีคนอื่นมาด้วย”

เห็นว่าเพิ่งเจอเต๋อกับซันนี่?

“ใช่ค่ะเพิ่งนัดกินข้าวกัน”

แฟนคลับยิ่งกระหน่ำเชียร์ในไอจี?

“ไม่มีอะไรปกติก็นัดทานข้าวกันอยู่แล้ว ความสัมพันธ์ก็ยังเหมือนเดิมค่ะ เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมปกติ”
“ซันนี่”แซวไหม? “ทุกคนแซวกันหมดเลยไม่ว่าจะไปไหน คนจะถามว่าความสัมพันธ์เป็นอย่างเนี้ยะ ก็ยอมรับว่าคนเชียร์เยอะค่ะแต่ตอนนี้เป็นเพื่อนกันอยู่ไม่ได้มีอะไรคืบหน้าหรือคุยอะไรกันเป็นพิเศษ”

จะมีโอกาสไปกันส่วนตัวกับ “เต๋อ”สองคนไหม?

“ก็คงไม่มีหรอกค่ะ ถ้ามียังไงก็ต้องมีคนอื่นไปด้วยอยู่แล้ว”

ที่ยังไม่พัฒนาเพราะเรามีหนุ่มนอกวงการหรือเปล่า?

“ก็ยังไม่มีเหมือนกัน ตอนนี้ไม่มีใครเลยโล่งมากว่างเปล่า”

กับหนุ่มๆไฮโซที่เป็นข่าวยังได้คุยกันไหม?

“ก็ยังเจอกันบ้างเพราะอยู่ในวงเพื่อนเดียวกันซึ่งตอนนี้แซวเรื่องเขาเป็นไฮโซ ก็ตลกดี”

โอเคไหมกับการที่คนมองว่าเป็นสาวฮ็อต?

“ก็โอเคไม่ติดอะไรนะ แต่กลัวคนที่เขารับฟังข่าวเข้าใจผิดคิดว่าเป็นจริงหรือเปล่า”

เลือกให้ดีก่อนค่อยเปิดตัวหรือเปล่า?

“เรื่องพวกนี้ต้องใช้เวลามากๆเลยค่ะ อย่างสเป๊คอาจจะใช่แล้วแต่เราต้องมาดูว่านิสัยดีหรือไม่ดีอีก ไลฟ์สไตล์เข้ากันได้ไหม มันมีหลายๆอย่างที่เราต้องดูเยอะมากเลยค่ะ กว่าที่เราจะสามารถคบใครคนนึงได้”

ตอนนี้มีคนที่คุยอยู่จริงๆบ้างไหม ?

“ก็ยังไม่มีค่ะเพราะทุกคนเราคุยเป็นเพื่อนหมด ยังไม่ได้คัยกับใครป็นพิเศษขนาดนั้น”

เพราะคนจับตาเยอะเลยทำให้เราไม่อยากเปิดตัวเรื่องความรักหรอเปล่า?

“ก็ด้วยค่ะ แต่ถึงคนไม่จับตามองมิวก็ไม่ชอบที่จะมาเปิดเผยเรื่องนี้เท่าไหร่ตั้งแต่แรกเลย มิวมองว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวแต่ถ้ามีแน่ๆแล้วเราก็คงจะบอก คงไม่ปิดบังอะไร ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องใช้เวลา

เมนูกระชากวัยเอาใจสามี

account_circle

ปัจจัยหลายอย่างในชีวิตประจำวันมักส่งผลร้ายต่อสุขภาพและความงามของเรานะคะสาวๆ ไม่ว่าจะเป็นความเครียดเรื่องงานหรือเรื่องอื่นๆ จนอาจทำให้ผิวหน้าดูโทรมและแก่กว่าวัย อุ๊ยตายยแบบนั้นสามีไม่ปลื้มแน่ วันนี้น้องพลอยจึงหาข้อมูลอาหารสารพัดชนิด ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและความงามมาฝากสาวๆ รับรองทานประจำหน้าเด็กชัวร์

ปลาแซลมอน

สาวๆ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีริ้วรอยบนใบหน้าคือผิวของคุณแห้งค่ะ ซึ่งเมนูเด็ดที่จะมาช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวของคุณคือการทานปลาแซลมอนค่ะ คุณควรเลือกกินปลาแซลมอนจะปรุงสุกหรือกินดิบๆ แบบซาซิมิก็ได้เช่นกัน ซึ่งเนื้อของปลาชนิดนี้มีกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายของคนเราไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้นั้นก็คือโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 นั้นเองค่ะ ซึ่งประโยชน์ของเจ้าสองตัวนี้จะช่วยบำรุงให้ผิวของคุณชุ่มชื่น ผิวเด้งใสเหมือนเด็กเลยแหละ

มะเขือเทศ

ในมะเขือเทศ 1 ลูกมีทั้งวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินเอ วิตามินซี รวมทั้งสารไลโคปีน ซึ่งเป็นสารที่มีประโยชน์มว๊ากกก คุณประโยชน์เหล่านี้จะช่วยบำรุงผิวพรรณของคุณได้มากมายเช่น มีฤทธิ์ต่อต้านสารอนุมูลอิสระที่จะช่วยยับยั้งริ้วรอยก่อนวัย โอ๊ยเลิศค่ะ นอกจากนี้ยังทำให้ผิวแลดูขาวอมชมพูดูมีเลือดฝาดด้วยนะจ๊ะ ส่วนจะเอามะเขือเทศมาเป็นเมนูไหน ขอบอกว่าตามสะดวกเลยค่ะ ไม่ว่าจะปั่นหรือสกัดกินแบบสดๆ รับรองได้รับวิตามินไปเต็มๆ

สตรอว์เบอร์รี่

หากคุณสาวๆ อยากมีผิวขาวอมชมพู กระชับเต่งตึง ให้เลือกกินสตรอว์เบอร์รี่นะคะ เพราะผลไม้ชนิดนี้ประกอบไปด้วยวิตามินซี สารแอนโทไซยานิน ฟลาโวนอยด์ กรดฟีโนลิก ที่จะมาช่วยกระตุ้นผิวสร้างคอลลาเจนส่งผลให้ผิวแข็งแรง อีกทั้งยังมีสารช่วยต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย ซึ่งหากคุณสาวๆ กินสตอรว์เบอร์รี่วันละ 1 ถ้วยตวงร่างกายของเราก็จะได้รับวิตามินซีมากถึง 130% โอโหเยอะมากมายอ่ะ

ถั่ว

ไม่ว่าจะถั่วลันเตา ถั่วเหลือง ถั่วแระ ถั่วแดง ถั่วดำ หรือถั่วชนิดอื่นๆ คุณก็สามารถเลือกกินได้ทั้งหมดเลยนะคะ เพราะว่าในถั่วทุกชนิดมีสารไอโซฟลาโวน หรือที่เรียกกันว่าอะไกลโคน ที่จะมาช่วยบำรุงผิวพรรณของคุณเพื่อชะลอริ้วรอยแห่งวัย นอกจากนี้ยังมีสารไฟโตเอสโตรเจนช่วยในเรื่องของการฟื้นฟูสภาพผิวให้ดีขึ้นอีกด้วย อ่ะๆ ฝากเกร็ดความรู้เล็กน้อยนะคะ เพราะล่าสุดมีรายงานการวิจัยจากห้องปฏิบัติการ Asia-Pacific Skin Testing Center พบว่า โฟมล้างหน้าสูตรถั่วเหลืองสกัด สามารถช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นได้ในเวลาเพียง 14 วัน และช่วยบำรุงสุขภาพผิวได้อีกด้วย

อะโวคาโด

บอกเลยว่าประโยชน์จากอะโวคาโดนั้นเยอะมากมายค่ะคุ๊ณ โดยเฉพาะในเรื่องของการกินเพื่อดูแลความงาม เพราะในเนื้ออะโวคาโดมีไขมันดีที่จะช่วยดูดซึมสารแคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นตัวช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระอันทรงพลังได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นไลโคปีน เบตาแคโรทีน หรือลูทีนในผักผลไม้ต่าง ๆ บำรุงผิวพรรณและเส้นผมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีผิวแห้ง ซึ่งจะช่วยทำให้คุณมีผิวพรรณที่ชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง มีชีวิตชีวาได้ อีกทั้งยังช่วยลดน้ำหนัดอีกด้วย

เชื่อได้เลยว่าถ้าหากสาวๆ เลือกกินตามคำแนะนำของน้องพลอย คุณจะดูเด็กลงแถมยังมีผิวพรรณที่สวยงามอีกด้วยนะ ออที่สำคัญยังเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์มัดใจสามีให้อยู่หมัดด้วย

เรื่อง : พลอยน้องใหม่

ภาพ : http://www.lemonade.tv/wp-content/uploads/2015/10/FreeGreatPicture.com-51567-the-beauty-in-front-of-fruits-and-vegetables.jpg

30 เซตแหวนหมั้นประกบแหวนแต่งงานเก๊เก๋

account_circle

อ่านไม่ผิดหรอกค่ะสำหรับหัวข้อที่ตั้งไว้ เพราะ 30 แบบแหวนเซตที่แพรว Wedding นำมาฝากคือการจับคู่กันระหว่างแหวนหมั้นกับแหวนแต่งงานตามธรรมเนียมฝรั่งที่เวลาหนุ่มๆ คุกเข่าขอสาวแต่งงานมันจะเตรียมแหวนเพชรมาให้ โดยนิยมเป็นแหวนตัวเรือนเกลี้ยงๆ มีเพชรประดับที่หัวแหวน ส่วนเวลาที่เข้าโบสถ์ทำพิธ๊ก็จะเตรียมแหวนเกลี้ยงทั้งวงแบบที่เรียกว่า Wedding Band มาสวมต่อหน้าสักขีพยานล้านแปดชีวิต

ปัจจุบันการจับคู่เป็นแหวนเซตนี้กำลังมาแรงในหมู่บ่าวสาวชาวไทยด้วยนะคะ โดยดีไซน์ของแหวนเกลี้ยงจะเริ่มปรับเปลี่ยนไปให้มีการใส่รายละเอียดมากขึ้น โดยเอาแหวนเพชรรอบวงอย่าง Eternity Ring มาจับคู่แทนที่จะเป็นแหวนทองเพียวๆ ซึ่งหน้าที่การใช้งานก็ไม่ต่างกันค่ะ อันนึงเป็นแหวนหมั้นอันนึงเป็นแหวนแต่งงาน สะดวกแบบไหนก็ว่ากันไป แต่ตอนนี้เนี่ย แพรว Wedding สะดวกมากที่จะนำแบบแหวนเซต 30 แบบมาให้คุณได้เก๊ตไอเ้ดียกันมากขึ้น

ภาพ : http://www.weddingforward.com และ https://media.blingjewelry.com

ทอม Room39

ทอม Room39 เปิดภาพลับตะมุตะมิ 9 ขวบ มาดูกันว่าอะไรในตัวเขาที่ไม่เปลี่ยน

ทอม Room39
ทอม Room39

นาทีนี้ใครไม่รู้จัก ทอม Room39 อิศรา กิจนิตย์ชีว์ ก็ให้สันนิษฐานว่าช่วงที่ผ่านมาคงไปเที่ยวดาวอังคาร

ก็แหม… หนุ่มหน้ากากทุเรียน แชมป์ซีซั่นแรกของรายการ The Mask Singer แกฮิตติดลมบนมาตั้งแต่ป่านนั้น จนตอนนี้งานก็ยังดกตลอด ตลอด

อย่างที่รู้ๆ กันว่าหนุ่มทอมเข้าวงการบันเทิงมาตั้งแต่ยี่สิบปีก่อน ตอนเขาอายุราวๆ 8-9 ขวบ ด้วยการเป็นนักแสดงเด็ก ในบท ‘ส้มฉุน’  ละครเรื่อง ‘เรือนมยุรา’ จากนั้นก็โลดแล่นอยู่ในวงการอยู่หลายปี กระทั่งไปเรียนต่อสหรัฐอเมริกาจึงเงียบหายไปช่วงหนึ่ง กระทั่งรวมตัวกับเพื่อนๆ ตั้งวง Room39 เพื่อคัฟเวอร์เพลงดังลงบนยูทูบ ผลคือยอดวิวล้นหลาม จนไปสะดุดตาพี่บอย โกสิยพงษ์ กระทั่งดึงตัวมาเซ็นสัญญาจับเป็นศิลปินในสังกัด มีซิงเกิลแรก คือเพลง ‘หน่วง’

ทอมเล่าว่าการทำซิงเกิลทำให้เขามีงานโชว์ตัวประมาณหนึ่ง มีคนรู้จักก็เป็นแบบเฉพาะกลุ่ม แต่พอเขาสวมหน้ากากทุเรียนเข้าร่วมแข่งขันรายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง ช่วงที่คนคาดเดาพาดพิงว่าใช่เขาไหม กระแสความสนใจในตัวเขาก็มากขึ้น กระทั่งได้เป็นแชมป์ เปิดหน้ากาก ตอนนั้นแหละที่เรตติ้งความสนใจพุ่งทะยาน ห้วงเวลานั้นเรียกว่าสถาบันกูเกิล www.google.co.th  มีคนเสิร์จชื่อ เสิร์จภาพหนุ่มทอมกระหน่ำ จนติด Top Search Google Trends ประจำเดือนมีนาคม และคำที่ถูกใช้เพื่อค้นหามากที่สุดก็คือคำว่า “ประวัติ ทอม Room39”

นั่นน่าจะสื่อว่า แฟนๆ อยากเห็นแอนด์รู้เรื่อง ทอม Room39 เวอร์ชั่นอดีต ใช่ไหม

ถ้าใช่ วันนี้แพรวมีภาพลับวันวานของทอมมากำนัล บอกเลยน่ารักตะมุตะมิมาก แต่ที่เริ่ดกว่านั้นคือสไตล์จ้า มีความหมวก Beanie หมวกแก๊ป แจ็กเก็ต สายซัสเพนเดอร์ และสนีกเกอร์ มาตั้งแต่ตอน 9 ขวบ จนตอนนี้อายุเต็ม 29 ปีไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เรียกว่ายี่สิบปีผ่านทุกความที่เป็นสไตล์ยังอยู่ครบ

ทอม Room39

แจ็กเก็ตยีนส์ หมวกไหมพรม 

ทอม Room39

สวมหมวกแก้ปกลับหลัง

ทอม Room39

ทีเชิ๊ต กางเกงลาย รองเท้าสนีกเกอร์ มาครบ

ทอม Room39

เอาให้ชัด สนีกเกอร์คือสไตล์

ทอม Room39

สายซัสเพนเดอร์มีมาแต่วัยเยาว์

ทอม Room39

หมวกไหมพรม เสื้อสีสด ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

เทียบให้เห็นชัดๆ แบบนี้ หวังว่าติ่งทอมคงถูกใจ

 

ที่มาภาพ : IG@tom_reckless/ นิตยสารแพรว ฉบับที่ 431

จ๋า - ยศสินี

เปิดใจหญิงเก่ง จ๋า – ยศสินี ผู้จัดฯเพลิงบุญ เล่าถึงนักแสดง ชีวิตแบบครบเซต

จ๋า - ยศสินี
จ๋า - ยศสินี

ถูกจับตามองไม่แพ้นักแสดงแถวหน้า สำหรับผู้จัดละครหญิงเก่ง จ๋า – ยศสินี ณ นคร โดย “เพลิงบุญ” ภายใต้การดูแลของเธอ ที่แฟนละครใกล้จะได้ชมตอนแรกในวันที่ 3 สิงหาคม 2560 นั้น แค่ปล่อยทีเซอร์ละครออกมาก็ให้อารมณ์เผ็ด แซ่บ และได้รับความสนใจจากแฟนๆ ไปไม่น้อย

แพรวดอทคอมมีโอกาสเจอคุณจ๋าในงานฉลองครบรอบ 4 ปี แบรนด์ THREE ในประเทศไทย จึงไม่พลาดคว้าตัวเธอมานั่งพูดคุยถึงละครเรื่องเพลิงบุญ รวมถึงนักแสดงหลักของเรื่องอย่างเบลล่า – ราณี, เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ, ป้อง – ณวัฒน์ และหลุยส์ สก๊อต ว่าการทำงานเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งก็ทำให้รู้ว่าคุณจ๋าเตรียมละครเรื่องนี้มานานถึง 8 ปีทีเดียว!

ในขณะเดียวกันภาพความเป็นสาวทำงานของคุณจ๋าก็ยังมีมุมการใช้ชีวิต เติมความสุขและดูแลตัวเองด้วย รวมถึงมุมความรักระหว่างคุณแม่จิ๋ม – มยุรฉัตร ประสิทธิเวช และสามี เปิ้ล – ณัฐบูร ไตรณัฐี เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไปฟังเรื่องราวของคุณจ๋าพร้อมๆ กันเลยค่ะ…

จ๋า - ยศสินี

ตัวอย่างละครเพลิงบุญ หลังจากปล่อยออกมาค่อนข้างดูแรงและแซ่บ แต่ก็ได้รับความสนใจจากแฟนละครมากเหมือนกัน คืนนี้ (3 ส.ค. 2560) จะได้ชมกันตอนแรกแล้ว พูดถึงละครเรื่องนี้หน่อย

จ๋า : กระแสตอบรับก็ดีค่ะ เพราะต้องบอกว่าทีวีตอนนี้ต้องสู้กันนิดนึงนะคะ ด้วยการแข่งขันค่อนข้างดุเดือด จริงๆ ถ้าถามในส่วนของทีเซอร์ ตั้งแต่ทำละครมา ทีเซอร์ตัวนี้น่าจะแรงสุด แต่มันก็คือการรวมความแซ่บของละครตั้งไม่รู้กี่ตอนเอามาไว้ในหนึ่งนาทีอะเนอะ มันก็ค่อนข้างเข้มข้นนิดนึง

จริงๆ แล้วละครไม่ได้มุ่งเน้นที่จะขายเรื่องบนเตียงอะไรอย่างนี้ มันไม่ใช่อย่างนั้น เป็นละครที่พอเข้ามาถึงเนื้อละคร มันเป็นเรื่องของการใช้ชีวิตคู่ เป็นเรื่องของการฟาดฟันกันของเพื่อนสนิทผู้หญิง 2 คน ที่พอผู้หญิงเป็นเพื่อนกันก็จริง แต่ก็จะมีการแข่งขัน การเอาชนะกันอยู่หน่อยๆ เพราะฉะนั้นในละครจะมีเรื่องราวเหล่านี้เข้ามา เพียงแต่ต้องยอมรับว่าด้วยทีเซอร์ ภาพมันแซ่บดีอะเนอะ เราก็คัดมาแล้วแหละ เอาซีนเด็ดๆ มา แต่ละครก็เข้มข้นจริงๆ พลาดไม่ได้ตั้งแต่ตอนแรกเลย เพราะนักแสดงเขาตั้งใจมาก

จ๋า - ยศสินี

พูดถึงการโคจรมาร่วมงานกันครั้งแรกของเจนี่ – เบลล่า สองสาวเป็นอย่างไรกันบ้าง และคุณจ๋าได้ช่วยหรือแนะนำอะไรสองคนนี้บ้างหรือเปล่า

จ๋า : ใช่ค่ะ มาร่วมงานกันครั้งแรก จริงๆ ต้องบอกว่าแต่ละคนทำการบ้านมาดี เบลล่าอ่านนิยายจบตั้งแต่วันฟิตติ้ง เพราะฉะนั้นเขาจะมีจิตวิญญาณของพิมาลา คือตัวละครที่เขาเล่นเต็มที่ เขาจะรู้ จะเข้าใจที่มาที่ไปของตัวละครอย่างที่สุด ในขณะที่เจนี่เองเป็นคนที่ต่อสู้กับบทของใจเริงมานาน ที่ตอนแรกติดต่อไปแล้วปฏิเสธ เพราะเขารู้สึกว่ายังเล่นไม่ได้ เขายังไม่กล้าพอ ด้วยความที่เรื่องนี้เตรียมงานกันมาค่อนข้างนาน ละครเรื่องนี้อยู่กับจ๋ามา 8 ปีกว่าจะได้เปิดกล้อง เจนี่เองก็ผ่านอะไรในชีวิตมาเยอะ จนวันหนึ่งเขาก็เดินมาบอกว่าเขาพร้อมแล้วนะที่จะเล่นเป็นใจเริง พี่มีความรู้สึกว่าเขามีทั้งประสบการณ์ชีวิต ทั้งความพร้อมในฐานะนักแสดง เขามีของที่พร้อมจะปล่อย มีเรื่องที่จะเล่า เพราะฉะนั้นต้องบอกเลยว่าเจนี่ทำมากกว่าที่พี่คาดหวังว่าเขาจะทำเพื่อละครเรื่องหนึ่ง

ในส่วนของเบลล่า คือเบลล่ายังเด็กนะคะ เขาก็ไม่เคยผ่านการแต่งงานหรือการเป็นภรรยา แล้วในเรื่องต้องเป็นภรรยา เป็นเมียหลวงที่โดนเพื่อนสนิทแย่งสามีไป พี่ก็จะให้คำแนะนำแค่ในส่วนความรู้สึกของคนที่แต่งงานแล้ว หรือความรู้สึกของคนที่เป็นเมียว่าเป็นอย่างไร แต่แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย พี่มีความรู้สึกว่าเบลล่าเป็นนักแสดงที่มีเซ้นส์ดี เซ้นส์ในการใช้ชีวิต เป็นคนเข้าใจชีวิตพอสมควรเลย เพราะฉะนั้นผู้หญิง 2 คนเขาเล่นละครเหมือนไม่ได้เล่น เบลล่าเพิ่งให้สัมภาษณ์ไป แล้วเป็นคำนิยามที่ดี คือมันเหมือนเรียลิตี้ของชีวิตจริง เพลิงบุญคือเรียลิตี้ชีวิตแต่งงานของคนจริงๆ

เจนี่ - เบลล่า - จ๋า

ถามถึงพระเอก ป้อง – ณวัฒน์ เพราะถือว่าเป็นผู้ชายที่มีเซ็กซ์แอพพีลสูง และคนมักจะติดภาพหนุ่มป้องเล่นฉากเลิฟซีนหนัก ซึ่งในเรื่องนี้ก็มีด้วย

จ๋า : เลิฟซีนก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแต่งงาน คนแต่งงานแล้วก็ต้องมีเลิฟซีนในชีวิตอะเนอะ แล้วพอมีเรื่องของการแย่งกัน ก็ต้องมีส่วนประกอบของเลิฟซีนเข้ามาอยู่แล้วค่ะ แต่เลิฟซีนเรื่องนี้ผู้ชายเป็นตัวที่โดนผู้หญิง 2 คนเล่นเกมกันอยู่พอสมควร เพราะจริงๆ แล้วไม่ได้เกี่ยวกับการแย่ง เจนี่เองก็ไม่ได้แย่งพี่ป้องมาด้วยความพิศวาส เพราะจริงๆ เคยทิ้งมาแล้ว แต่แย่งมาเพื่อเอาชนะเพื่อนของตัวเอง เพราะฉะนั้นไดรฟ์ของเลิฟซีนจะไม่เหมือนเรื่องอื่น ในขณะที่เรื่องอื่นที่ผ่านมาจะเป็นการตั้งใจแย่งผู้ชาย แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ มันจะเป็นการเอาชนะกันของผู้หญิง 2 คนมากกว่า

ป้อง - หลุยส์ - จ๋า

เพลิงบุญ

ด้านหลุยส์ สก๊อต ในเรื่องนี้เห็นว่าสร้างความเซอร์ไพร้ส์ให้คุณจ๋ามาก เพราะฝีมือการแสดงที่จัดว่าดูแล้วรู้สึกพีคแบบที่ไม่เคยเห็นเล่นที่ไหนมาก่อน

จ๋า : พี่ว่าหลุยส์เขาเหมือนอยู่ในวัยของทหารที่ผ่านสงครามมาแล้วรอด คือพูดง่ายๆ ผู้ชายในวัยนี้เป็นวัยที่รู้แล้วว่าเป็นยังไง รู้จักชีวิต พอเขาซึ่งเป็นคนที่รู้จักชีวิตจริงๆ มาเล่น เมื่อได้บทที่ส่งอารมณ์เขาจริงๆ มันมหัศจรรย์มากเลย พี่นั่งดูหลุยส์เล่นละครเรื่องนี้แล้วแบบหลุยส์เล่นได้ยังไงวะ มันเรียลมาก

ตัวละครของหลุยส์จะเป็นตัวละครที่เรียนรู้ความทุกข์ของชีวิตและเอาชนะมันได้เป็นคนแรกของเรื่อง เขาจะเอาชนะ เขาจะเจออุปสรรคแล้วเอาตัวรอดขึ้นมาได้ตั้งแต่สามตอนแรก แล้วหลังจากนั้น เมื่อปัญหาของคนอื่นเริ่ม หลุยส์จะเป็นตัวที่คอยสังเกตการณ์และเข้าไปช่วยเหลือ เพราะฉะนั้นเราจะเห็นฝีมือการแสดงของหลุยส์ที่พี่รู้สึกว่ายังไม่เคยเห็นหลุยส์เล่นที่ไหนมาก่อนเลย แล้วพีคมาก อยากให้ดูหลุยส์ สก๊อต จริงๆ เรื่องนี้ (ยิ้ม)

จ๋า - ยศสินี

จ๋า - ยศสินี

ความโดดเด่นและความแตกต่างของละครเพลิงบุญจากละครเรื่องอื่นๆ คิดว่าเป็นอย่างไร

จ๋า : บางทีในละครช่วงที่ผ่านมา พี่มีความรู้สึกว่าผู้หญิงเราไปโทษว่าผู้ชายเลว ผู้หญิงถึงต้องทนทุกข์ โดยที่เราลืมมองตัวเองว่าบางทีสิ่งที่มันเกิด มันเกิดจากความสะเพร่า มันเกิดจากความเลินเล่อ หรือว่ามันเกิดจากผู้หญิงเองต่างหาก เพลิงบุญไม่ใช่แปลความหมายออกมาแล้วเป็นการแย่งผู้ชายในชีวิตคู่นะคะ ไม่ใช่เลย ความหมายของเพลิงบุญ คือ ผู้หญิงคนหนึ่ง คือพิมาลา ก็คือนางเอก เหมือนผู้หญิงสมัยนี้ที่คิดดี ลองนึกภาพผู้หญิงสมัยนี้ที่ชอบแชร์คำคม หรือถ่ายรูปตัวเองลงไอจีเวลาไปวัด ไปปฏิบัติธรรม แล้วก็คิดดี มีความรู้สึกว่าทำดีแล้วฉันจะเป็นคนดี โดยบางทีก็ลืมไปว่าไอ้ที่ทำเนี่ย มันดีจริงหรือเปล่า จะทำให้ตัวเองเดือดร้อนหรือเปล่า

คำว่าเพลิงบุญคือ คนที่ทำบุญด้วยเพลิง การทำบุญด้วยเพลิง สุดท้ายไฟก็เผาตัวเอง เพราะฉะนั้นเป็นการเรียนรู้ชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องรู้จักบาลานซ์ชีวิตให้ได้ว่า ณ วันนี้กับคนคนนี้ เราดีได้แค่ไหน ณ วันนี้กับคนคนนี้ เราอาจจะต้องไม่ดีกับเขามาก หรือดึงตัวออกมา เพื่อให้ชีวิตของเราผ่านพ้นไปได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่เรื่องการแย่งผู้ชายด้วยความใคร่หรือตัณหาอย่างเดียว

สตรีมีคลาส (StreeMeClass) สตรีมีคลาส (StreeMeClass)

พูดถึงรายการใหม่ของคุณจ๋า สำหรับรายการสตรีมีคลาส มีประโยคที่บอกว่า ให้เด็กรุ่นใหม่เรียนรู้ รู้จักกาลเทศะ และผู้ใหญ่หัวโบราณเองก็ให้รู้จักปรับตัวด้วย แฟนๆ จะได้เรียนรู้อะไรจากรายการนี้บ้าง

จ๋า : สำหรับสตรีมีคลาส พี่มีความรู้สึกว่าเราชอบอ้างคำว่าหนังสือสมบัติผู้ดี โดยที่ไม่มีใครได้เห็นหนังสือสมบัติผู้ดีนี้มานานแค่ไหนแล้ว แต่เราพูดถึงมันโดยที่พูดไปงั้นอะ ไม่ได้มีความเข้าใจ เพราะฉะนั้นพี่กับโมเม (นภัสสร บุรณศิริ) มาเจอกันแล้วพูดว่า เฮ้ย คนสมัยนี้ใช้ชีวิตไปด้วยความรู้สึกที่ไม่แน่ใจว่าอันนี้ดีไหม ผู้ใหญ่ก็ว่าเด็ก เด็กก็ว่าผู้ใหญ่ โดยที่ไม่มีใครลุกขึ้นมาบอกว่าตรงกลางที่มันพอดีหรือที่เรียกว่าสมบัติผู้ดีคืออะไร แล้วเราก็มานั่งอ่านสมบัติผู้ดี ในวันนี้คนที่ยึดสมบัติผู้ดีเป็นหลักอาจจะเอาชีวิตไม่รอดก็ได้

ในสมัยนี้เด็กก็ต้องเข้าหาผู้ใหญ่ ในขณะเดียวกันผู้ใหญ่ก็ต้องเข้าใจเด็กด้วยว่าในการที่เราจะอยู่อย่างมีมารยาท เข้าใจกันได้ในสังคมสมัยนี้ มันต้องมีตรงกลางที่เราต้องพยายามหาร่วมกัน ก็จะเป็นรายการที่เรารู้สึกว่ามาหาตรงกลางกันเถอะ แทนที่จะด่ากันไปด่ากันมาว่าเด็กสมัยนี้ไม่ได้เรื่องเลย ทำไมผู้ใหญ่ถึงได้หัวโบราณขนาดนี้ แทนที่จะพูดกันอยู่แบบนี้ ก็หยุด แล้วมาทำความเข้าใจกันมากกว่า จ๋า - ยศสินี กับคุณแม่ จิ๋ม - มยุรฉัตร

แม่จิ๋ม - มยุรฉัตร

ใกล้วันแม่แล้ว หลังจากคุณจ๋าแต่งงานใช้ชีวิตคู่ ความรักระหว่างคุณจ๋ากับคุณแม่จิ๋มแตกต่างไปจากเดิมหรือเปล่า และท่านมีคำแนะนำในการใช้ชีวิตคู่หรือเวลามีปัญหาอย่างไร

จ๋า : อืม…ความรักกับแม่ไม่เปลี่ยนอยู่แล้วค่ะ ไม่ว่าจะแต่งงานหรือไม่แต่งงาน (ยิ้ม) คนที่เป็นแม่ลูกกัน ความรักที่มีต่อกันคือที่สุดแล้วละ คือคนที่เป็นครึ่งหนึ่งของกันและกันจริงๆ เพราะครึ่งหนึ่งของชีวิตพี่ก็คือแม่ แม่เป็นคนที่ปั้นมา ในส่วนของชีวิตคู่ จริงๆ แม่สอนตั้งแต่ยังไม่มีชีวิตคู่แล้วนะ แม่จะสอนว่า เราต้องมีชีวิตที่มีความสุขให้ได้ด้วยตัวเราเอง แต่ในขณะเดียวกันแม่ก็บอกมาตลอดว่า ถ้าเรารู้สึกว่ายังตามหาคู่ชีวิตของเรา ตราบใดที่เรายังไม่เจอ ชีวิตเราก็จะยังไม่ค่อยลงตัว เวลาไปไหนก็จะชะเง้อว่า เอ๊…คนนี้ไหมนะ จะเป็นคนนี้ได้ไหมนะ เราจะมองหาความเป็นไปได้ในชีวิตตลอดเวลา แต่ ณ วันหนึ่งที่เราเจอคนที่เป็นคู่ชีวิตของเราแล้วจริงๆ แม่เขาก็จะมีความรู้สึกว่า อย่าลืมว่านี่คือชีวิตที่ดีแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาจะทำอะไร เราก็ต้องคิดถึงคนที่อยู่ข้างๆ เราให้มากๆ

แล้วในการใช้ชีวิตคู่กับคนอีกคนหนึ่ง บางทีก็มีเรื่องที่อาจจะไม่ถูกใจบ้าง แต่แม่ก็จะสอนว่า อย่าทำอะไรที่จะเป็นแผลในใจต่อกันและกัน เพราะสิ่งสุดท้ายถ้าเราสองคนแต่งงานกัน ตัดสินใจแล้วว่าเราสองคนจะอยู่ด้วยกันจนตาย อย่าทำลายน้ำใจกันโดยไม่จำเป็น ซึ่งมันสำคัญ เพราะบางทีเวลาเราทะเลาะกันแล้วจะพูดอะไรไม่ดี หรือว่าพี่เปิ้ลไปเจอใครที่สนุกชั่ววูบอะไรอย่างนี้ ก็จะมีการหยุดตัวเองว่า ถ้าจะสนุกชั่ววูบ แต่มันสร้างแผลให้พี่ไปตลอดชีวิต ก็อย่าทำเลย เพราะสุดท้ายวันหนึ่งที่เราจะอยู่ด้วยกันตลอดชีวิต ในวันที่คนใดคนหนึ่งป่วย ก็จะมีกันอยู่แค่สองคนนี้แหละที่จะดูแลกัน เพราะฉะนั้นถ้าเราจะใช้ความรักทั้งชีวิตดูแลกันไปจนตาย อย่าทำลายน้ำใจซึ่งกันและกัน

จ๋า - ยศสินี กับสามี เปิ้ล - ณัฐบูร

ถามถึงเรื่องทายาทกันบ้าง ถ้าย้อนไปช่วงแต่งงาน คุณจ๋าบอกไว้ว่า หลังแต่ง 2 ปีค่อยมี

จ๋า : ค่ะ จริงๆ แล้วก็พูดไปเพราะว่าเป็นการตอบตัดบทที่ง่ายดี พูดจริงๆ นะ (หัวเราะ) เป็นการตัดบทที่จะได้ไม่ถามต่อ แต่ว่าจริงๆ พี่กับพี่เปิ้ลตกลงกันมาตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้วว่าไม่ได้อยากมีลูก ทั้งคู่ไม่ได้อยากมีทายาทค่ะ ด้วยความที่เราสองคนคุยกันแล้วว่าชีวิตเราพร้อมตายทุกนาที เราเจอกัน โอเค เรามีความสุข แต่ว่าเราพร้อมตาย ตายเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่มีห่วง ไม่มีภาระ เรารู้สึกว่าเราแฮ็ปปี้ดีแล้วกับตรงนี้ แล้วเราเตรียมตัวที่จะอยู่กันสบายๆ สองคน แต่สมมติว่าท้องจริงๆ เราก็ได้ ก็เลี้ยง ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงแต่ถ้าถามจริงๆ แล้ว คุยกันไว้ตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้วว่าไม่ได้อยากจะมีลูก

จ๋า - ยศสินี จ๋า - ยศสินี กับสามี เปิ้ล - ณัฐบูร

พูดถึงไลฟ์สไตล์คุณจ๋า เห็นออกกำลังกายบ่อย มีชวนคุณเปิ้ลมาออกกำลังกายด้วยกันบ่อยหรือเปล่า

จ๋า : พี่เป็นคนออกกำลังกายตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย เพราะฉะนั้นเป็นคนออกกำลังกายมาโดยตลอด เพราะว่าพี่เปิ้ลเองก็เป็นคนออกกำลังกาย แล้วเราสองคนเห็นความสำคัญตรงนี้ เพราะเรารู้สึกว่าตราบใดที่เรายังอยู่ เราไม่อยากเป็นภาระใคร ไม่ว่าจะเป็นต่อกันและกัน เราก็อยากให้ตัวเองมีชีวิตที่อยู่ง่าย สบาย อยากไปไหนก็ลุกขึ้นมาแล้วไปได้ให้ได้นานที่สุด เพราะฉะนั้นการออกกำลังกายก็เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันเลยว่าวันนี้ตื่นมาวิ่งนะ ถ้าวิ่งไม่ได้ ทำอันนี้ได้ไหม ให้มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เพื่อให้ร่างกายเราได้สูบฉีด ได้สตาร์ตเครื่องขึ้นมา จะได้กระฉับกระเฉง อยู่กันไปได้สบายๆ ไม่ต้องเป็นภาระซึ่งกันและกัน หรือไม่ต้องเป็นภาระของใครเลย

ฟังความคิดผู้จัดฯสาวเก่ง จ๋า – ยศสินี ก็ทำให้ได้เห็นหลายมุมของเธอและเข้าใจความคิด การใช้ชีวิต การทำงานของผู้หญิงคนนี้มากขึ้นเหมือนกันนะ ใครที่เป็นแฟนผลงานผู้จัดฯสาวคนนี้ ก็อย่าลืมติดตามและสนับสนุนละ...

จ๋า - ยศสินี กับสามี เปิ้ล - ณัฐบูร

จ๋า - ยศสินี


เรื่อง : Gingyawee_แพรวดอทคอม
ภาพ : Saranya Inplum, IG @yossiebistro

รู้ไว้ก่อนตกเป็นเหยื่อ! 4 เทคนิคจับผิดแบงก์ปลอม

เรื่องแบงก์ปลอมจริงๆระบาดมาทุกยุค และก็เริ่มทำกันเนียนมากขึ้นจนแทบจะจับผิดไม่ได้ วันนี้มาดูวิธีสังเกตแบงก์ปลอมกันว่าต้องดูยังไง กับ 4 เทคนิคจับผิดแบงก์ปลอม จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อนะจ๊ะ

วิธีการสังเกตแบงก์ปลอมด้วยตัวเองง่ายๆ สามารถดูได้จาก ลายพิมพ์เส้นนูน ด้วยการสัมผัสตัวเลขและตัวอักษร หากเป็นของปลอมจะมีความเรียบ ซึ่งต่างจากของจริงที่มีความนูนกว่า

ถัดมาคือการสังเกต ลายน้ำ หากเป็นของจริงแล้วยกส่องลายน้ำพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ และตัวเลข “๑๐๐๐” จะขึ้นอย่างชัดเจน แต่ถ้าเป็นของปลอม ในบางฉบับจะไม่สามารถทำตัวเลข “๑๐๐๐” ได้

ต่อมาคือการดูจาก แถบสี่เหลี่ยมเส้นประด้านข้างธนบัตร ด้วยการพลิกแถบธนบัตรขึ้นลงจะเห็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดเล็กสีม่วงแดงเคลื่อนไหวไปมา และเปลี่ยนสลับจากสีม่วงแดงเป็นสีเขียว ภายในแถบจะมีข้อความ “๑๐๐๐ บาท” ในขณะที่ของปลอมจะมีแถบที่ลวดลายแตกต่างกัน หรือเป็นสีของธนบัตรชนิดอื่น

วิธีสังเกตสุดท้ายคือ ภาพซ้อนทับของตัวเลข ให้ยกธนบัตรส่องกับแสงสว่างจะมองเห็นเป็นตัวเลข “1000” ที่มุมบนซ้ายสมบูรณ์ โดยมีตัวเลขด้านหน้าและด้านหลังตรงกัน แต่ในขณะเดียวกันตัวเลขของธนบัตรปลอมจะมีการเหลื่อมกัน

 

ทุกครั้งที่รับธนบัตรมาก็อย่าลืมที่จะสังเกตจุดต่างๆตามที่ได้บอกไปข้างต้น แต่ขั้นตอนเหล่านี้ก็เป็นเพียงวิธีเบื้องต้นที่เหมาะกับคนที่มีเงินผ่านมือครั้งไม่มาก ซึ่งหากใครที่บ้านมีธุรกิจที่เงินสดต้องหมุนเวียนสูง โอกาสในการเจอแบงก์ปลอมก็จะมากขึ้น ก็ควรเลือกใช้เครื่องตรวจแบงก์เพื่อความชัวร์จะดีกว่าจะนะ

 

ข้อมูล / ภาพ : GLORY: GFS-120

 

ชวนบริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศลในหลวง ร.๙ พร้อมรับเมล็ดพันธุ์ดอกดาวเรือง

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย  ร่วมกับ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ขอเชิญประชาชนร่วมบริจาคโลหิต ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันอังคารที่ ๘ สิงหาคม นี้ในกิจกรรม“M  Heart สายโลหิต สายใจ สายแห่งความผูกพัน”

กิจกรรม“M  Heart สายโลหิต สายใจ สายแห่งความผูกพัน” เป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้โครงการ “M Heart สายโลหิต สายใจ” ซึ่งศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย  ร่วมกับ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ได้ร่วมดำเนินงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๙ ในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ในหลวง ร.๙  และจนถึงปัจจุบันภายใต้โครงการ ฯ มีโลหิตสนับสนุนศูนย์บริการโลหิตแล้วกว่า ๓๐๐ ล้านซีซี ทั้งจากการจัดกิจกรรมพิเศษ และบริการพิเศษที่ห้องรับบริจาคโลหิต ๓๖๕ วัน ที่เดอะมอลล์ บางกะปิ, งามวงศ์วาน , บางแค และโคราช

และเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงขอเชิญประชาชนร่วมบริจาคโลหิต ถวายเป็นพระราชกุศล ในวันอังคารที่ ๘ สิงหาคม นี้ ตั้งแต่เวลา ๑๑.๐๐ น. –๑๘.๐๐ น. ที่บริเวณห้อง MCC Hall ชั้น ๔ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน

พร้อมรับเมล็ดพันธุ์ดอกดาวเรือง ที่เดอะมอลล์ กรุ๊ป ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร รณรงค์ประชาชนปลูกดอกดาวเรืองให้บานสะพรั่งในเดือนตุลาคม  โดยประชาชนสามารถมารับเมล็ดพันธุ์ภายในงานหลังจากบริจาคโลหิตรวมถึงขอรับได้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ เดอะมอลล์ ทุกสาขา ,เอ็มโพเรียม ,เอ็มควอเทียร์ และพารากอนระหว่างวันที่ ๔-๖สิงหาคม๒๕๖๐

 

ปุ๊ก - อาภัสรา

รักนี้ยิ่งกว่าจักรวาล…แม่ปุ๊กเล่าถึงลูกชาย 2 พี่น้องต่างสไตล์ สายเลือดเดียวกัน

ปุ๊ก - อาภัสรา
ปุ๊ก - อาภัสรา

อยู่ในช่วงเดือนวันแม่แบบนี้ ถ้าจะให้พูดถึงครอบครัวที่มีชื่อเสียงและแสนจะอบอุ่น บ้านของคุณแม่คนสวยระดับนางงามจักรวาล “ปุ๊ก – อาภัสรา หงสกุล ก็เป็นอีกครอบครัวที่ดูแลลูกชายทั้งสองได้น่ารักมาก

ปุ๊ก - อาภัสรา

ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2552 เป็นอีกครั้งที่แพรวได้เข้าไปเยี่ยมถึงบ้านของนางงามจักรวาลคนแรกของประเทศไทย “ปุ๊ก – อาภัสรา หงสกุล” พร้อมกับลูกชายสุดหล่อทั้งสองคน คือ หม่อมโจ้ – ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร และหนุ่มป๊อก – ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์ งานนี้เลยได้เห็นภาพความอบอุ่นของสามคนแม่ลูก พร้อมเรื่องน่ารักๆ ที่คุณแม่คนสวยเล่าถึงลูกชายทั้งสองว่า ถึงจะอายุห่างกัน แต่ทั้งคู่ก็มีนิสัยบางอย่างที่คล้ายกันมากทีเดียว

ป๊อก - ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์ และ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร
ป๊อก – ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์ และ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร

“ลูกชายสองคนเป็นคนใจดี อ่อนโยน และคิดถึงคนอื่นก่อนเสมอ มั่นใจในตัวเอง มีเหตุผล และยังชอบศิลปะเหมือนกันด้วย ปุ๊กเลี้ยงลูกแบบเป็นทั้งแม่และเพื่อน เขาเลยเชื่อใจ เราใช้หลักความจริง ความยุติธรรม ความถูกต้องมาสอนลูก”

หม่อมโจ้ - ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร
หม่อมโจ้ – ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร

“ส่วนเรื่องความรัก ในฐานะแม่ก็เป็นห่วง แต่การเลี้ยงลูกต้องปล่อยให้เป็นตัวเขาเอง ปุ๊กสอนเขาเสมอเรื่องการเป็นสุภาพบุรุษ ต้องช่วยเหลือสนับสนุนกันไปในทางที่ดี”

ปุ๊ก - อาภัสรา

ทุกวันนี้เชื่อว่าแม่ปุ๊กก็คงสบายใจขึ้นแล้ว เพราะลูกชายคนโตก็แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาไปเรียบร้อย ส่วนลูกชายคนเล็กอย่างหนุ่มป๊อก สิ้นปีนี้ก็จะได้ฤกษ์ดีแต่งงานกับนางเอกสาวมาร์กี้เช่นกัน ต่อไปแม่ปุ๊กคงได้เตรียมตัวเลี้ยงหลานอีกรอบแน่นอน

และนี่อาจจะเป็นเคล็ดลับอีกอย่างของคุณแม่นางงามจักรวาลวัย 70 ก็ได้นะ เพราะชีวิตลงตัวแฮ็ปปี้มาก ลูกชายทั้งสองก็ดี แถมมีลูกสะใภ้ได้ดั่งใจอีก

 

ข้อมูลบางส่วนจากบทสัมภาษณ์คอลัมน์ Style Exclusive

นิตยสารแพรว ฉบับที่ 718 ปักษ์ 25 กรกฎาคม 2552

ภาพ : IG @pokmindset

นิตยสารแพรว ฉบับที่ 620 ปักษ์ 25 มิถุนายน 2548

 

 

 

หม่อมเจ้าการวิก

ใต้ร่มฉัตร เปิดเรื่องราวชีวประวัติ หม่อมเจ้าการวิก ฝึกปฏิบัติการหลากรูปแบบ (ตอนที่25)

หม่อมเจ้าการวิก
หม่อมเจ้าการวิก

หม่อมเจ้าการวิก รสชาติชีวิตที่ได้จากการฝึก 

หม่อมเจ้าการวิก และคณะเพื่อนนายทหารเสรีไทย ยังคงฝึกปฏิบัติการต่อไปในหลากหลายวิชา ทั้งการปฏิบัติวิชาสงครามจิตวิทยา  การจารกรรม การโฆษณาชวนเชื่อ การใช้อาวุธปืนและระเบิดจริง ขณะที่ดร.ป๋วย  อึ๊งภากรณ์ กับเพื่อนอีกสองคน ได้เตรียมตัวลักลอบเข้าเมืองไทยเป็นคณะแรก

หลักสูตรของโรงเรียนนี้ พวกเราได้เรียนวิชาจารกรรมและโจรกรรมอย่างละเอียดมาก จนเกือบจะใช้ประกอบอาชีพได้ ไม่ว่าวิธีจัดระบบหน่วยสืบราชการลับ การรักษาความลับ การสะกดรอย การวางแผนและทำลายขวัญข้าศึกในประเทศที่ถูกยึดครอง การยุให้ประชาชนต่อต้านผู้รุกราน ผู้เข้าอบรมต้องฝึกหัดล้วงความลับตามจุดยุทธศาสตร์ เช่น ท่าเรือและสนามบิน ทำแผนผังและรายงานเสนอสำนักงาน ต้องเรียนรู้หลักเกณฑ์ของระบบรหัสต่างๆ วิธีถอดรหัส วิธีเขียนหนังสือที่มองไม่เห็น ฯลฯ ในวิชาสงครามจิตวิทยา พวกเราต้องฝึกหัดทำใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อเพื่อปลุกใจประชาชนในประเทศที่ถูกญี่ปุ่นยึดครองและบั่นทอนกำลังใจของทหารญี่ปุ่น ครูผู้ฝึกสอนก็ล้วนแต่เป็นผู้ที่มีความชำนาญและผลงานดีเด่นตามเฉพาะสาขาของตนมาแล้วทั้งนั้น

คราวหนึ่งในการฝึกปฏิบัติวิชาสงครามจิตวิทยา ผมทำหนังสือพิมพ์ ‘เมฆทูต’ (เป็นตัวอักษรบรรจงภาษาไทย เหมือนขึ้นแท่นพิมพ์) และเขียนการ์ตูนประกอบ ในเล่มมีเรื่องปลุกใจคนไทย ล้อเลียนญี่ปุ่นและมีบทความแสดงว่า ทหารญี่ปุ่นถูกมอมเมาโดยนายทุนญี่ปุ่นซึ่งมุ่งหวังแต่ผลประโยชน์ทางการค้า พันตรี รอย ชอบมาก ถึงกับขอเอาไว้ดูเป็นตัวอย่างแก่นักเรียนรุ่นต่อๆ มา

(พันตรี รอย ยังสอนหลักสงครามจิตวิทยาว่า ควรใช้สมอง ปัญญา ปฏิภาณและไหวพริบในการปฏิบัติงานชักจูงให้ผู้อื่นเห็นด้วยกับฝ่ายเราในการต่อต้านศัตรู รู้จักการเก็บความลับ ไม่อวดเก่ง ไม่ทำตัวแปลกจากคนอื่น และพยายามอย่าใช้อาวุธแก้ปัญหาในยามคับขัน)

การปฏิบัติงานอีกคราวหนึ่ง พันตรี รอย สั่งให้พวกเราไปเขียนคำขวัญปลุกระดมขับไล่คนอังกฤษออกจากอินเดีย ตามสถานที่ซึ่งมีคนผ่านไปมามากๆ การปฏิบัติงานอย่างนี้เสี่ยงพอควร เพราะถ้าเราถูกจับขณะกำลังเขียนคำขวัญ อาจจะถูกขังฟรีคืนหนึ่ง ก่อนที่หน่วยงานต่อต้านจารกรรมจะรู้จากฤาษีครอสเล่ย์ว่า พวกเรามาฝึกปฏิบัติงาน ไม่ใช่จารชนญี่ปุ่น เพราะในอินเดียตอนนั้นมีกลุ่มต่อต้านอังกฤษที่เคยปลุกระดมแบบนี้มาแล้ว และถูกขังคุกกันไปนับร้อย มหาตมะคานธีและเยาวฮาร์ลาล เนห์รู ผู้นำสำคัญในการเรียกร้องเอกราชของอินเดียก็ถูกสั่งขังอยู่หลายปี

หม่อมเจ้าการวิก ทรงชุดนายทหารอังกฤษ

หลังได้รับคำสั่ง เที่ยงวันหนึ่งผมชวนเพื่อนอีก 2 คนไปเขียนคำขวัญบนกำแพงภัตตาคารหรูชื่อเฟอร์โป (FIRPO) ซึ่งมักมีนายทหารอังกฤษมานั่งดื่มน้ำชากันมาก ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ถนนเชาว์ริงกี (CHOWRINGHEE) เป็นถนนสายธุรกิจสำคัญของกัลกัตตา พวกเราทั้งสามแต่งตัวปอนๆทำท่าเป็นกุลี ผมถือกระป๋องสีและแปรงทาสี อีกสองคนถือกระป๋องน้ำและผ้าขี้ริ้ว ที่กำแพงด้านข้างของร้านมีตำรวจแขกคนหนึ่งยืนทำหน้าเซ็งอยู่ เพื่อนสองคนถือกระป๋องกรากเข้าไปเช็ดถูกำแพงทำให้แกหายเบื่อ เพราะนิสัยแขกชอบดูคนอื่นทำงานอยู่แล้ว

เมื่อผมเห็นตำรวจแขกคนนี้ทำท่าสนใจ เลยพยักพเยิดกับเขาให้มีส่วนร่วมโดยช่วยถือกระป๋องสี แล้วผมเอาแปรงจุ่มสีเขียนคำว่า INDIA ก่อน เขาชอบใจมาก แสดงท่าทีเต็มใจที่จะร่วมงานด้วย จึงเขยิบเข้ามายืนใกล้ๆให้ผมจุ่มสีสะดวกขึ้น ผมเขียนคำว่า QUIT เติมลงไปข้างหน้า รวมความเป็น QUIT INDIA หมายถึงให้ฝรั่งออกไปเสียจากอินเดีย

เสร็จแล้วผมใช้ชอล์กเขียนอักษรตัวขนาดย่อมไว้ใต้คำนั้นอีกว่า WISH WE COULD (ถ้าเป็นไปได้ก็ดีน่ะสิ) เป็นการสมมติแทนความรู้สึกของทหารอังกฤษที่เบื่ออินเดียและคิดถึงบ้านเต็มทน ปรากฏว่าครูชอบใจมากที่สามารถเขียนแทนความรู้สึกของทั้งสองฝ่าย

อีกคราวหนึ่ง ในขณะนั้นเกิดความขาดแคลนอาหารในกัลกัตตา มีคนอดอยากนอนรอความตายกันนับร้อย ครูรอยก็ให้ไปเขียนคำขวัญโจมตีรัฐบาลว่า เมื่อไม่สามารถปันส่วนอาหารให้ทั่วถึงคนทุกชั้นได้ก็ควรลาออกไปเสีย หลายคนใช้คำว่า ‘RATION OR RESIGN’ จงปันส่วนอาหาร ไม่ก็ลาออกไป)

พวกเรากลุ่มหนึ่งเขียนคำขวัญไว้ที่ฐานอนุสาวรีย์ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง แล้วเขียนคำแถมไว้ใต้นั้นด้วยภาษาที่ไม่ควรใช้ในสังคมชั้นสูงอีกว่า ‘SHARE FOOD RAIRLY OR FUCK OFF FAST’ (จงปันอาหารอย่างยุติธรรม ไม่งั้นไสหัวไปให้พ้น)

คำว่า FUCK OFF เป็นคำหยาบมากและแสดงความสะใจได้ดี ทหารอังกฤษชอบใช้แทนคำว่า GO AWAY ซึ่งครูชอบใจเป็นพิเศษสำหรับงานนี้

กิจกรรมพรรค์นี้มีอีกครั้งที่ทำให้พวกเราพลาดท่าถูกจับติดคุกแขกคือ ครูรอยสั่งให้ไปทำจารกรรมด้วยการเขียนป้ายคำขวัญในที่แห่งหนึ่ง และห้ามนำหลักฐานประจำตัวหรือสิ่งอื่นใดติดตัวไป ยกเว้นเงินจำนวน 20 รูปี ซึ่งเงินจำนวนนี้ไม่สามารถเอาไปเช่าโรงแรมนอนได้ พวกเราจึงต้องหลบไปนอนกันที่สถานีรถไฟชานเมืองเล็กๆ ปรากฏว่ามีสารวัตรทหารมาตรวจและขอหลักฐาน ก็ไม่มีแสดงให้ดู พวกเราเลยถูกจับไปนอนคุกกันครบทุกคน ในข้อหาเร่ร่อนพเนจรเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย แม้พวกเราจะบอกว่าเป็นคนจีนและเป็นนักเรียน ก็ไม่มีใครเชื่อ ซึ่งพวกเราถูกสั่งห้ามบอกว่าเป็นคนไทยและอยู่ในกองกำลัง 136 เด็ดขาด มิฉะนั้นอาจเกิดอันตรายและความลับรั่วไหล เป็นอันว่าต้องนอนถูกเห็บกัดในคุก 1 คืน แสนทรมาน รุ่งเช้าถึงมีนายทหารมาติดต่อรับตัวกลับ มารู้ทีหลังว่าครูฝึกเขาแกล้ง เพราะอยากให้พวกเรารู้ว่า รสชาติของการติดคุกนั้นเป็นอย่างไร

ในเรื่องผลงานการปฏิบัติงานล้วงความลับที่ผมประทับใจคือ ผมจับสลากได้คำสั่งให้ไปปฏิบัติงานล้วงความลับและทำรายงานเกี่ยวกับสนามบิน ซึ่งค่อนข้างเป็นเรื่องทำได้ยาก เพราะมีการตรวจบัตรคนเข้า-ออกเข้มงวด ทีแรกผมคิดว่าจะทำบัตรปลอมเป็นคนงานแขกเข้าไปดังที่เคยทำมาก่อนหลายหน แต่คราวนี้ไม่กล้าใช้วิธีเดิม เพราะเห็นคนงานแขกถูกตรวจค้นอย่างละเอียด และเห็นป้ายติดรั้วไว้หลายแห่ง มีข้อความข่มขวัญว่า

“ถ้าใครเข้ามาใกล้รั้วกว่า 100 หลา เราจะยิงก่อนแล้วสอบถามภายหลัง”

ผมจึงต้องเลิกล้มความคิดที่จะหาทางลอดรั้วหนามเข้าไป ได้แต่สังเกตการณ์อยู่ห่างๆรอบๆสนามบิน ไม่มีพุ่มไม้หรือพงหญ้าสำหรับซ่อนดูเหตุการณ์ มีแต่โรงงานร้างขนาดใหญ่อยู่ทางด้านตะวันออกของสนามบิน มีปล่องก่อด้วยอิฐสามปล่อง ผมเดินเข้าไปสำรวจโรงงานแล้วรู้สึกท้อใจ เพราะไม่สามารถมองเห็นอะไรมากนัก แต่ผมต้องส่งรายงานภายใน 7 วัน คิดไม่ตกว่าจะเข้าไปได้อย่างไร ขณะที่ผมเดินคอตกออกจากประตูโรงงาน พลันแหงนหน้าขึ้นไปดูปล่องโรงงาน ก็สังเกตพบว่าปล่องหนึ่งมีช่องโหว่อยู่ไม่สูงกว่าโคนปล่องนัก ผมตื่นเต้นมากรีบย้อนกลับเข้าไป และหาทางปีนขึ้นไปบนโคนปล่องจนได้ จากจุดโหว่นี้สามารถมองเห็นบริเวณสนามบินชัดเจนมาก

ผมใช้ปล่องนี้เป็นจุดสังเกตการณ์ 4 วัน บันทึกความเคลื่อนไหวและอาคารสถานที่อย่างละเอียด ได้แก่ ที่พักทหาร โรงอาหาร โรงเก็บรถดับเพลิง คลังน้ำมัน คลังอาวุธ โรงเก็บเครื่องบินทิ้งระเบิด โรงเก็บเครื่องบินขับไล่ โรงเก็บยานพาหนะ หอบังคับการ ที่ตั้งปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน รังปืนกล จำนวนปืนใหญ่ ท่าขนของจากแม่น้ำฮุกลี ฯลฯ ผมร่างแผนผังสนามบินได้ครบถ้วน และบันทึกกิจกรรมของแผนกต่างๆ นับจำนวนเครื่องบินแบบต่างๆ ได้เห็นเครื่องบินทิ้งระเบิดชนิด BLENHEIM ออกไปปฏิบัติการบันทึกเวลาเปลี่ยนยาม สังเกตการณ์การตรวจคนงานเข้าออก ฯลฯ โดยผมเขียนแผนที่และรายงานอย่างละเอียดประณีต และใช้สีระบายเป็นสัญลักษณ์แต่ละแผนกด้วย

หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี

เมื่อครบกำหนดเวลา พวกเราได้แสดงผลงานและอธิบายวิธีการหาข้อมูลในห้องเรียนกัน หลายคนมีวิธีอันน่าทึ่ง พันตรี ครอสเล่ย์ได้นำรายงานและแผนผังสนามบินที่ผมทำไปให้ผบ.สนามบินดู เมื่อเขากลับมาได้เล่าให้ฟังว่า ในห้องผบ.สนามบินนั้นมีแผนผังสนามบินแผ่นใหญ่แขวนอยู่บนผนัง มีรายงานเกือบเหมือนแผนผังที่ผมทำขึ้น รวมทั้งสีสันก็ใกล้เคียงกันมาก ท่านผบ.เห็นแล้วหน้าซีดพูดว่า “IMPOSSIBLE” และมีคำสั่งให้รีบมาอุดปล่องโรงงานร้างเสียโดยเร็ว ฟังความเก่งของผมแล้วคงต้องหารนิดหน่อย

เมื่อครบกำหนดในการฝึกอบรมที่โรงเรียนนี้แล้ว พวกเราได้รับอนุญาตให้ลาพักผ่อนราวสัปดาห์หนึ่ง แต่ละคนต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย จากนั้นจึงกลับมารายงานตัวที่สำนักงานใหญ่ของกองกำลัง 136 ในกัลกัตตา พันโท พอยน์ตันสั่งให้พวกเราเดินทางกลับมายังค่ายคารัควัสลา เพื่อซ้อมรบใหญ่ร่วมกันอีกครั้ง ที่นั่นพวกเราได้พบกับป๋วย ประทาน และสำราญ ถึงทราบว่าทั้งสามคนได้กลับจากการเดินทางโดยเรือใต้น้ำชื่อ แท็กติเชียน (TACTICIAN) ในแผนปฏิบัติการที่เรียกว่า ‘พริตชาร์ด’ (PRITCHARD) ร่วมกับไอ้เฟิ้มและร้อยโทไวท์ลอว์ และเจ้าหน้าที่ประจำเรือจำนวนหนึ่งในระหว่างที่พวกเราฝึกอบรมอยู่

เรือใต้น้ำของพวกเขาได้แล่นอยู่ในน่านน้ำบริเวณระนองและพังงาเป็นเวลา 1 สัปดาห์เพื่อรอดูสัญญาณตามที่กองกำลัง 136 ได้แจ้งให้ฝ่ายต่อต้านญี่ปุ่นในประเทศไทยทำไว้ แต่ได้รับความผิดหวัง จึงต้องเดินทางกลับและไม่ได้ขึ้นฝั่งไปเหยียบผืนแผ่นดินไทย ยกเว้นไอ้เฟิ้มกับไวท์ลอว์ที่ได้ขึ้นฝั่งและไม่พบใคร จึงเก็บเอาก้อนกรวดจากริมหาดกลับมาอวดพวกเรา

ในช่วงที่ป๋วยและเพื่อนเดินทางเข้าน่านน้ำไทย ทางสวัสดิ์ ศรีสุข และจุ๊นเคง (พัฒพงศ์) รินทกุล ได้รับเลือกเข้าอยู่ในแผนกประสานงานระหว่างหน่วย (INTERSERVICE LIAISON DEPARTMENT-ISLD) ตั้งแต่ตอนที่มาถึงอินเดียใหม่ๆ หน่วยงานนี้เป็นหนึ่งในหน่วยสืบราชการลับของอังกฤษ (BRITISH INTELLIGENCE SERVICE) ทั้งสองได้รับคำสั่งให้ไปฝึกอบรมการสืบราชการลับ และเดินทางเข้าเมืองไทยอีกสายหนึ่งทางเรือใต้น้ำ เท็มพลาร์ (TEMPLAR) ในช่วงเวลาเดียวกัน และได้เข้าเมืองไทยที่อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา เป็นคณะแรก ก่อนคณะของกลุ่มช้างเผือก โดยมีหน้าที่สืบสภาพทั่วๆไปในประเทศไทย เช่น การคมนาคม ค่าครองชีพ การใช้บัตรประจำตัว สินค้าที่ขาดแคลน ความรู้สึกที่ประชาชนมีต่อทหารญี่ปุ่น กำลังทหารญี่ปุ่นในเขตปัตตานีถึงชุมพร เป็นต้น จนกระทั่งเข้ากรุงเทพฯ และถูกจับในภายหลัง

ในระหว่างเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2486 ก่อนที่แผนการลักลอบเข้าเมืองไทยจะเริ่มขึ้น ทั้งสองฝ่ายต่างได้พบกันโดยบังเอิญในเมืองกัลกัตตา แต่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่เปิดเผยว่า ตนทำอะไรที่ไหน และจะไปที่ใด เพราะถูกอบรมกันมาว่าควรเก็บเรื่องที่ควรรู้เฉพาะตัว และแยกย้ายกันไปโดยต่างฝ่ายก็ไม่รู้ว่ากำลังจะไปลอดใต้มหาสมุทรอินเดียเหมือนกัน

ที่ค่ายคารัควัสลา พวกเราออกซ้อมรบนอกสถานที่ตลอดเวลารวม 5 วัน วันสุดท้ายขึ้นเขาสิงหะและอยู่ค้างคืนบนนั้น แต่ไม่มีอะไรมาสร้างความแปลกใจอีก จากนั้นต่างแยกย้ายกันไปเข้ารับการฝึกอบรมตามศูนย์ฝึกต่างๆ รวมทั้งการฝึกใช้อาวุธปืนและระเบิด (ของจริง) รวมทั้งกระสุนส่องวิถีในสมรภูมิจำลองเหมือนจริง ทั้งนี้เพื่อให้เคยชินกับสภาพการรบที่แท้จริง

ก่อนจะจบหลักสูตร พวกเราทุกคนได้รับคำสั่งจากสำนักงานใหญ่ให้เดินทางกลับมารวมกันเพื่อเตรียมตัวฝึกขั้นตอนสำคัญที่สุดสำหรับการที่จะเข้าปฏิบัติงานในเมืองไทย คือ

การกระโดดร่มจากเครื่องบิน…!

 

 

โจมตีให้ถูกที่ จุดไหนคือโซนลับ ของทั้งชายและหญิง

account_circle

“ถ้าเล้าโลมไม่ตรงจุดเมื่อไหร่จะเห็นประตูสวรรค์” ปัญหานี้หนุ่มสาวหลายคนเจอกันมานักต่อนัก ก็จุดนำสยิวของแต่ละคนเหมือนกันซะที่ไหน บางจุดบนเรือนร่างไม่น่าจะพีคได้ แต่ใครจะรู้ว่านั่นแหละไฮไลต์เลยเหอะขอบอก ถ้าคุยกันแบบเป็นการเป็นงานหน่อย จุดพวกนั้นเรียกว่า “Potential Zones” ซึ่งเป็นจุดที่เมื่อถูกกระตุ้นจะทำให้เกิดความตื่นตัวในอารมณ์ จึงส่งผลให้น้องชายน้องสาวคึกคักปึ๋งปั๋งนั่นเอง

เริ่มต้นที่การโจมตี 3 จุดเด็ดจากด้านหลังกันก่อน บอกเลยว่า 3 จุดต่อไปนี้ รับประกันความระทวยจนประตูสวรรค์แง้มออกมาแน่นอน เริ่มตั้งแต่ต้นคอด้านหลัง, หลังใบหูและแนวกระดูกสันหลังบริเวณบั้นเอว เหตุผลที่สามจุดนี้สยิวจริงเพราะความที่อยู่ด้านหลัง คุณไม่มีทางรู้เลยว่า อีกฝ่ายเอาอะไรมาสัมผัส ทำให้ใจกระเจิงนำไปก่อน ประมาณว่าแค่เอามือเปล่ามาเฉียดโดน ใจก็ระรัวไม่เป็นจังหวะ

ลีลาการโจมตีแบบนำร่องที่ถือเป็นไม้เด็ดคือใช้การนวดที่มีมานานให้เกิดประโยชน์ ด้วยเทคนิกง่ายๆ แค่ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้ลูบหรือนวดริมหู (โดยเว้นติ่งหูไว้เพราะเป็นจุดที่ไม่ไวต่อสิ่งเร้า ต่อให้เน้นย้ำแค่ไหนก็เสียแรงเปล่า) จากนั้นค่อยนัวเนียตามสไตล์ รับรองพีคแน่

ทีนี้มาดูจุดสยิวที่ด้านหน้ากันบ้าง ไล่ลงไปตั้งแต่หัวจรดเท้าเริ่มตั้งแต่ สันกราม, ลำคอ, เนินอก, ปลายหัวนม ลงไปที่หน้าท้องแล้วออกนอกเส้นทางนิดๆ ที่ด้านข้างลำตัวบริเวณเอวก่อนจะไต่ไล่ลงไปที่หน้าขา โดยทั้งหมดนี้ มาดามขอ Recommend อาวุธเด็ดหนึ่งเดียวที่ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน นั่นคือ การใช้ริมฝีปากละเลียดลงไปเบาๆ เพราะริมฝีปากควบคุมไม่ยาก สั่งได้อย่างใจ และคุณอาจเพิ่มความเร้าใจด้วยตัวช่วยอย่างน้ำแข็งหรือช็อกโกแลตเหลวเพื่อเป็นตัวนำทาง จากนั้นค่อยลงลิ้นพิฆาต อ้อ….อย่าลืมงับเบาๆ ที่ทุกจุดแบบหยอกเอินหน่อยๆ บางจุดน่ะนะ แค่ถอนหายใจกระเส่าๆ รดลงไปก็…เรียบร้อย อิอิ

อ่ะๆ อีกนิด ถ้าคุณคิดว่า จุดที่ว่ามานี้ธรรมดาเกินไป ขอให้ลองที่บริเวณรักแร้ แต่ต้องสำรวจก่อนว่าเกลี้ยงเกลาไร้เส้นขนแน่ๆ นะ ไม่ก็ข้อมือด้านใน ซึ่งเป็นจุดที่เต็มไปด้วยประสาทรับความรู้สึกที่ไวมาก บางนางโดนแตะเบาๆ ก็ทำเอาเธอขนลุกซู่ ฉะนั้นอย่าลืมลงลิ้นเลียข้อมือและเป่าเบาๆให้รู้สึกเย็นแบบวาบหวิว

แถมให้อีก 2 จุดปิดท้ายความสยิวที่บริเวณฝ่ามือและข้อพับเข่า เพราะฝ่ามือเต็มไปด้วยเส้นประสาทรับความรู้สึก ซึ่งจะกระตุ้นอารมณ์ใคร่ได้ดีอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน ไม่เชื่อลองเทสต์ดูก็ได้ เช่นกำลังจับมือเดินห้างก็ใช้นิ้วโป้งลากขึ้นลงหรือเขี่ยๆ สักนิด แค่นี้ก็เกิดอาการชะงัก แต่รับรองว่าเธอจะไม่ชักมือหนีอย่างแน่นอน ส่วนข้อพับเข่า ที่แม้ตอนแรกจะรู้สึกจั๊กจี้ ไม่เกิดอารมณ์ แต่ถ้าอดทนอีกนิด มุ่งมั่นลูบไล้จากหลังโคนขามาจนถึงน่องแล้วอ้อมไปที่ข้อพับ รับรองได้ว่า จุดสยิวเหล่านี้พาคุณฟินแน่ มาดามคอนเฟิร์ม

เรื่อง : Madam Hong Hern

cr : pexels, freepik.com

สิ้นเรื่องสิ้นราว แพท-ณปภา บริสุทธิ์ อัยการยกเลิกคำสั่งฟ้องข้อหาสมคบฟอกเงิน

จากกรณีที่นักแสดงสาว แพท-ณปภา ตกเป็นข่าวขึ้นโรงขึ้นศาลในคดีฟอกเงินและสมคบฟอกเงิน ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. พบว่าสามีนักแข่งรถ “เบนซ์ เรซซิ่ง-อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช” ผู้ต้องหาในคดีเดียวกันโอนเงินเข้าบัญชีของเธอ 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ส.ค. 60 ได้มีคำตัดสินออกมาแล้ว

“แพท-ณปภา”

โดยอัยกายกเลิกคำสั่งฟ้อง “แพท” แม้ว่าเธอจะเป็นภรรยาของ “เบนซ์ เรซซิ่ง” และมีการรับโอนเงินจากสามีในช่วงเดือน เม.ย. ปี 2559-2560 จำนวนทั้งหมด 18 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งเป็นการทำธุรกรรมผ่านบัญชีธนาคาร ในยอดเงินหลักหมื่นและหลักแสนเท่านั้น ถือเป็นพฤติกรรมเลี้ยงดูอุปการะตามปกติที่สามี-ภรรยาพึงกระทำต่อกันได้ และเป็นการโอนแบบเปิดเผย สามารถตรวจสอบได้ง่าย ประกอบกับเป็นบัญชีที่ “แพท” เปิดใช้งานตามปกติมานานแล้วและมีเงินอยู่ในบัญชีหลายล้านบาท โดยยังมีเงินคงค้างในบัญชีที่ไม่มีการเบิกถอน ทั้งยังมีปรากฏหลักฐานว่าเงินบางส่วนเป็นเงินที่ได้มาจากการรับจ้างเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าตามปกติ อัยการจึงมีคำสั่งไม่ฟ้อง และมีคำร้องขอให้ศาลอาญามีหมายปล่อยตัวในวันนี้

ยินดีด้วยจ้า

ภาพจาก @ pat_napapa

จับกระแสละครสะท้อนสังคมไทย 3 พล็อตละครไม่จรรโลง กราบว่าอย่ารีเมค

กระแสละครไทย ถ้าจะทำให้ได้รับการพูดถึง มีเรตติ้งพุ่งสูง 1 ใน 2 องค์ประกอบหลักคงหนีไม่พ้นนักแสดงและพล็อตละคร ถึงแม้ว่าสังคมไทยจะมีค่านิยมสนับสนุนให้คนลดใช้ความรุนแรง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพล็อตละครที่เห็นส่วนใหญ่และเข้าถึงคนดูได้มากนั้นมักจะมีฉากที่ใช้ความรุนแรงอย่างการตบตี ด่าทอ แย่งผู้ชายคนเดียวกัน หรือแม้แต่พระเอกข่มขืนนางเอก ก็กลับมีภาพลักษณ์ที่ทำให้แฟนละครโดยเฉพาะสาวๆ ชื่นชอบและไม่รู้สึกผิดแปลกอะไร

จริงอยู่ที่ละครทำขึ้นมาเพื่อสะท้อนสังคม คนดูสามารถแยกแยะได้ และดูละครก็เพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่ก็มีอีกกลุ่มหนึ่งอยู่ไม่น้อยที่มีพฤติกรรมเลียนแบบความรุนแรงตามแบบละคร เพราะมองว่าเป็นเรื่องปกติ ใครๆ ก็ทำได้ ซึ่งก็มีเสียงเสนอแนะขึ้นมาว่า ทำละครเพื่อสะท้อนสังคมไทย แล้วสังคมไทยมีเพียงแค่มุมลักษณะนี้หรือที่ควรนำมาชูโรงให้สำคัญและเรียกเรตติ้งจากแฟนๆ ซึ่งจุดนี้ถ้าจะให้กล่าวโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเลยก็คงไม่ได้ เพราะละครที่ขายได้ เรตติ้งกระฉูด โดนใจแฟนๆ ก็มักจะมีพล็อตเรื่องไม่จรรโลงและดูแรงเช่นนี้ แต่ละครที่ทำขึ้นมาเชิงสร้างสรรค์ ให้พลังงานบวก กระแสกลับไม่พุ่ง ไม่ปังอย่างที่คิดเอาไว้ ซึ่งถ้าจะหวังให้แนวละครในสังคมไทยค่อยๆ ปรับเปลี่ยนไป ผู้ผลิตก็คงต้องทำการบ้านมากขึ้น กล้าฉีกจากกฎเดิมๆ และผู้เสพละครก็ต้องเลือกเสพด้วยเช่นกัน โดยวันนี้ แพรวดอทคอม เลยนำตัวอย่าง 3 พล็อตละครไม่จรรโลง ไม่ควรนำมารีเมคมาให้ได้ชมกันตามด้านล่างนี้

1. เพื่อนเราเผาเรือน

พล็อตละครแนวเพื่อนซี้ เพื่อนรัก แต่ต้องมาแตกหักเพราะรักชายคนเดียวกัน ซึ่งก็แตกประเด็นย่อยไปได้อีก ไม่ว่าจะแย่งแฟนเพื่อน หรือแย่งสามีเพื่อนจนทำให้ครอบครัวร้าวฉาน ซึ่งแน่นอนละว่าพล็อตเรื่องแนวนี้สอนให้รู้ว่าการทำผิดศีลธรรม แย่งของคนอื่นมาเป็นของตน และไม่รู้ทันความรัก โลภ โกรธ หลง เป็นสิ่งที่ไม่ดี ซึ่งก็มีละครหลายเรื่องทีเดียวที่มีพล็อตละครลักษณะนี้ รวมถึงขายฉากเรียกเรตติ้งด้วยฉากเลิฟซีนร้อนแรงหรือฉากปะทะคารมสุดเดือด เช่น

สามีตีตรา

สามีตีตรา บทประพันธ์ นาวิกา มีการนำมารีเมคใหม่ถึง 3 ครั้ง โดยเวอร์ชั่นแรกปี 2531 ได้พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง รับบท คุณชาย, จริยา แอนโฟเน่ รับบท กั้ง, รัญญา ศิยานนท์ รับบท ผึ้ง เวอร์ชั่นปี 2544 ธนากร โปษยานนท์, แอน ทองประสม, ธัญญาเรศ เองตระกูล และเวอร์ชั่นปี 2557 ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ, เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์, วรัทยา นิลคูหา

น้ำเซาะทราย

น้ำเซาะทราย บทประพันธ์ กฤษณา อโศกสิน มีการนำมารีเมคถึง 7 ครั้ง และได้ทำขึ้นทั้งรูปแบบละครและภาพยนตร์ โดยเวอร์ชั่นแรกเริ่มเมื่อปี 2516 ผู้รับบท ภีม, วรรณนรี และพุดกรอง ตามลำดับ ได้แก่ กำธร สุวรรณปิยะศิริ, สุพรรณ บูรณะพิมพ์ และอารีย์ นักดนตรี ซึ่งเวอร์ชั่นล่าสุดปี 2560 ที่เพิ่งจบไป ได้นักแสดงนำฝีมือดี ศรราม เทพพิทักษ์, สุวนันท์ ปุณณกันต์ และโสภิตนภา ชุ่มภาณี มาแสดง

พล็อตละครไม่จรรโลงอ
เพลิงบุญ

เพลิงบุญ บทประพันธ์ กฤษณา อโศกสิน มีการนำมารีเมค 2 ครั้ง โดยเวอร์ชั่นแรกสร้างขึ้นเมื่อปี 2539 นักแสดงผู้มารับบท พิมาลา, ฤกษ์ และใจเริง ตามลำดับ ได้แก่ แอน ทองประสม, ฉัตรชัย เปล่งพานิช และบุษกร วงศ์พัวพันธ์ และเวอร์ชั่นล่าสุดปี 2560 ที่จะได้ดูเร็วๆ นี้ ได้ราณี แคมเปน, ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ และเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ มาสร้างสีสัน

2. สามคนผัวเมีย 

พล็อตละครสามคนผัวเมีย หรือมากผัว หลายเมีย ก็มีมาให้เห็นมากเช่นกัน ซึ่งตัวละครบางตัวก็ยอมเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ให้สามีพาภรรยาน้อยเข้ามาอยู่ในบ้านหรือพบปะกับภรรยาหลวงได้ตามปกติ แน่นอนละว่าขึ้นชื่อว่าผู้หญิง ไม่มีคำว่าธรรมดาแน่นอน ยิ่งเมื่อคนรักเป็นสามีของเราถูกต้องตามกฎหมายด้วย ก็จะมีการเชือดเฉือนอารมณ์ใส่กัน อย่างตบตี ด่าทอเจ็บๆ โดยจุดนี้ถ้าแฟนละครได้คิดตามและรู้ว่าไม่ควรประพฤติตามก็จะเป็นสิ่งที่ดี แต่อีกทางก็มักจะเน้นชมเพื่อเน้นความมัน ความสนุก หรือความสะใจมากกว่า โดยแต่ละตัวละครก็จะได้รับบทลงโทษของตัวเอง เช่น

เมียหลวง ปี 2552
เมียหลวง ปี 2560

เมียหลวง บทประพันธ์ กฤษณา อโศกสิน เรื่องนี้มีการนำมารีเมคถึง 7 ครั้งเลยทีเดียว โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสามีภรรยาครอบครัวหนึ่ง คือ ดร.อนิรุทธิ์ และดร.วิกันดา ที่เพียบพร้อมด้วยฐานะ หน้าตา และชื่อเสียงทางสังคม แต่สามีเป็นคนเจ้าชู้ มีภรรยาน้อย ซึ่งฝั่งภรรยาก็รับรู้และเสียใจ จนกระทั่งมีภรรยาน้อยชื่อ อรอินทร์ เข้ามาแทรกถึงกลางบ้านกลางครอบครัว โดยเวอร์ชั่นปี 2552 ผู้ที่รับบท ดร.อนิรุทธิ์, ดร.วิกันดา และอรอินทร์ ตามลำดับ คือ ธีรภัทร์ สัจจกุล, ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์ และพัชราภา ไชยเชื้อ จะเป็นเวอร์ชั่นที่ได้รับเสียงประทับใจมาก และเวอร์ชั่นล่าสุดคือปี 2560 ได้ทีมนักแสดง กฤษฎา พรเวโรจน์, วรัทยา นิลคูหา และคริส หอวัง มาแสดง

3. ข่มขืนแต่คู่กัน

ส่งท้ายด้วยพล็อตละครพระเอกข่มขืนกลายเป็นวีรบุรุษ ชายผู้พิชิตใจนางเอกได้ซะงั้น ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าพล็อตละครแนวนี้พบมากทีเดียวในละครไทย และเรื่องหนึ่งก็มีการนำไปรีเมคบ่อยครั้ง ด้วยกระแสที่ทำกี่ครั้งก็ยังได้เรตติ้งที่ดี รวมถึงคว้าพระ-นางระดับพ่อเหล็ก-แม่เหล็กมาเสริมทัพด้วย จึงยิ่งได้รับความสนใจจากฐานแฟนคลับถาโถม เช่น

สวรรค์เบี่ยง
สวรรค์เบี่ยง

สวรรค์เบี่ยง บทประพันธ์ กฤษณา อโศกสิน ที่รีเมคละครมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ยังดังเปรี้ยงปร้าง ได้รับการพูดถึงจำนวนมาก ทั้งกระแสละคร นักแสดง และเพลงประกอบละคร แม้จะมีฉากพระเอกทำร้ายนางเอกแรงขนาดไหนก็ตาม ซึ่งเรื่องนี้รีเมคมาแล้ว 5 ครั้ง อย่างเวอร์ชั่นแรกเริ่มปี 2514 นักแสดงผู้มารับบทพระ-นาง คาวี – นาริน คือ สายัณห์ จันทรวิบูลย์ และนันทวัน เมฆใหญ่ เวอร์ชั่นปี 2541 คู่พระ-นาง ดนุพร – สุวนันท์ ปุณณกันต์ และเวอร์ชั่นล่าสุดปี 2551 ได้ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ ประกบแอน ทองประสม ซึ่งความหล่อแต่ร้ายของเคนก็ทำให้แฟนละครเกลียดคาวีไม่ลงเลย

จำเลยรัก
จำเลยรัก

จำเลยรัก บทประพันธ์ ชูวงศ์ ฉายะจินดา มีการนำมาทำเป็นละคร 5 ครั้ง และภาพยนตร์ 2 ครั้ง ถือเป็นละครฮิตที่แฟนๆ ชื่นชอบอย่างมาก โดยละครจำเลยรักเวอร์ชั่นก่อนๆ นั้นยังไม่มีฉากตบจูบ จนกระทั่งมาปรับเพิ่มบทในเวอร์ชั่นล่าสุด คือปี 2551 ที่ได้พระ-นาง อั้ม – อธิชาติ ชุมนานนท์ รับบท หฤษฏิ์ ประกบคู่ แอฟ – ทักษอร เตชะณรงค์ รับบท โศรยา ซึ่งเรื่องนี้เรียกว่าสาวแอฟเปลืองตัวเลยก็ว่าได้ เพราะมีทั้งฉากพระเอก (ในมาดผู้ร้าย) จับตัวมาปลุกปล้ำ ลากไปอยู่เกาะ แต่กระแสโด่งดังอย่างมาก รวมถึงเพลงประกอบละครจำเลยรักที่มีเนื้อเพลง “เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย ฉันทำอะไรให้เธอเคืองขุ่น ปรักปรำฉันเป็นจำเลยของคุณ นี่หรือพ่อนักบุญ แท้จริงคุณคือคนบาป…” ก็ติดหูกันทั่วบ้านทั่วเมือง

หลงเงาจันทร์

หลงเงาจันทร์ บทประพันธ์ สิรภัทร ที่ได้สร้างชื่อแจ้งเกิดให้สเตฟาน – สันติ วีระบุญชัย ที่รับบท ธนาคิม โด่งดังเป็นพลุแตก พร้อมกับมอบฉายาเจ๊ดันให้แก่นางเอกเจ้าน้ำตา กบ – สุวนันท์ ที่รับบท พิมพ์ชนก พร้อมประโยคในเรื่องว่า “พิมพ์ไม่สู้ค่ะ” เรื่องนี้ถือว่าบทพระเอกโหดร้ายกับนางเอกมาก คอยแกล้งและทำร้ายนางเอกสารพัด ทั้งทางกายและจิตใจด้วยความเกลียดชัง เพราะเข้าใจผิดว่านางเอกมาหลอกให้เพื่อนรักของเขารักและทิ้งเพื่อนเขาไป ซึ่งกบก็แสดงได้น่าสงสารมาก แม้พระเอกจะทำร้ายนางเอกจนคนดูเกลียดพระเอกไปเลย แต่เรื่องนี้ก็ได้นำตัวละครคุณย่าสาวกบที่แสดงโดยดวงดาว จารุจินดา มาคอยแทรกคอยสอนให้ข้อคิดในการใช้ชีวิต โดยเรื่องนี้ยังไม่มีการนำมารีเมค ซึ่งก็มีแฟนๆ บางส่วนที่ไม่อยากให้นำมารีเมค เพราะยังติดภาพเวอร์ชั่นสาวกบและสเตฟาน

 


เรื่อง: Gingyawee_แพรวดอทคอม
ภาพ: IG @jaruxmemories @broadcastthaitv @maker_family @nart_nada

“Valentino” ดีไซน์ลายพราง เทรนด์แห่งโลกแฟชั่น เมื่อไหร่ก็ไม่มีเอ๊าต์

วันนี้แพรวดอทดอมมีแฟชั่นไอเท็มมาอัพเดตกันอีกแล้วค่า คราวนี้เป็นแบรนด์เด่นจากหมุดร็อคสตัด อย่าง Valentino (วานเลนติโน) ที่หลายคนจะรู้กันอยู่แล้วว่าเอกลักษณ์ของแบรนด์คือหมุด แต่ครั้งนี้งานของวาเลนติโนไม่ได้เน้นที่ตัวหมุด กลับออกแบบให้โดดเด่นด้วยลาย “คามูว์ฟลาจ” (Camouflage) หรือ “ลายพรางทหาร” ซึ่งเป็นลายคลาสสิกยอดฮิตตลอดกาล และไม่มีทีท่าว่าจะเอ๊าต์ได้ง่ายๆ ด้วยความเรียบจากโทนสีเขียวหลากเฉด ผสมความสนุกจากลูกเล่นของการสลับลายอย่างไร้กฎเกณฑ์ ผสานด้วยความหมายอันกล้าแกร่งจากการเป็นสัญลักษณ์ของทหาร

สร้างพลังอันแข็งแกร่งต่อยอดมาถึงงานดีไซน์ของแบรนด์แฟชั่นระดับโลก ฉีกตำราแฟชั่นเก่าๆที่แบ่งแยกเพศ ด้วยการนำสไตล์มัสคิวลีน (Masculine) ความเป็นชายจากลายทหารมาโลดแล่นในโลกแฟชั่น ทำให้สาวๆได้สนุกกับไอเท็มเด็ด อย่างการวางลายคามูว์ฟลาจลงบนรองเท้าส้นสูงให้ฟีลเซ็กซี่แบบดิบๆและไม่รู้สึกขัดเขิน ด้วยเสน่ห์ของลายคามูว์ฟลาจที่ครองใจผู้คนทุกรุ่น ทุกเพศ ทุกวัยมาอย่างยาวนาน ทำให้ดีไซเนอร์ชื่อก้องโลกจากหลายหลากแบรนด์ระดับตำนาน ต่างไม่พลาดที่จะเลือกมาเป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ไอเท็มแฟชั่นเทรนด์ใหม่ เพื่อสนองความต้องการของแฟชั่นนิสต้าผู้แสวงหาความแปลกใหม่อย่างไม่สิ้นสุด

 

รุ่น Rock Be

 

รุ่น Rock Be

ลายคามูว์ฟลาจถูกนำมาเล่าผ่านบริบทใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า และทุกครั้งก็สามารถสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการแฟชั่น เกิดเป็นโทนสีหลากอารมณ์ ได้แก่ โทนสี Army Green Brush Wood (อาร์มี่ กรีน บรัช วูด) โทนสี Army Green Dark Green (อาร์มี่ กรีน ดาร์ก กรีน) และมัลติคัลเลอร์โทนสี Psychedelic (ไซเคเดลิก) ที่เกิดจากการนำสีสันแห่งคอลเล็คชั่นสปริงซัมเมอร์ของสุภาพสตรี เมื่อปี ค.ศ. 2015 มาสร้างสรรค์ใหม่ ซึ่งประกอบด้วยสีเหลืองเมเปิ้ล สีเขียวนกแก้ว และสีส้มเข้ม

รุ่น Uomo Camupsychedelic Rock Be

คามูว์ฟลาจกลายเป็นเทรนด์แห่งโลกแฟชั่นที่ต้องบอกว่าแฟชั่นนิสต้าตัวจริงไม่ควรพลาด โดยเฉพาะแฟชั่นนิสต้าสายสนีกเกอร์ต้องมี “ร็อครันเนอร์” (Rockrunner) คู่โปรด ในโทนสีถูกใจไว้เป็นรองเท้าผ้าใบคู่ใจไปด้วยกัน ด้วยเสน่ห์อันทรงพลังของลายเท่สุดมันที่ครองตำแหน่งความคลาสสิกตลอดกาลอย่าง คามูว์ฟลาจ ที่แบรนด์พรีเมียมระดับโลกอย่าง “วาเลนติโน” (Valentino) หยิบมาบอกเล่าด้วยบริบทใหม่ ด้วยการผสานกับหมุดร็อคสตัด ลายเซ็นสำคัญของแบรนด์ ยิ่งทำให้คามูว์ฟลาจกลายเป็นเอกลักษณ์อันเลอค่าที่ใครเห็นเป็นต้องรู้ในวินาทีแรกว่าเป็นแบรนด์วาเลนติโน

รองเท้ารุ่น Rockrunner

 

องเท้า Rockrunner และหมุด Rockstud เอกลักษณ์วาเลนติโน

นอกจากแวดวงสนีกเกอร์แล้ว คามูว์ฟลาจยังไปวาดลวดลายบนไอเท็มสำคัญอันดับต่อมาอย่างกระเป๋าสารพัดทรง ไล่ตั้งแต่กระเป๋าใส่นามบัตร กระเป๋าเงิน กระเป๋าสะพานใบใหญ่จุใจ ไปจนถึงกระเป๋าเป้เท่ๆ ด้วยทรงอมตะ เพื่อตอบโจทย์สาวกคามูว์ฟลาจทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ให้ได้สนุกกับการแต่งตัวเข้าธีมตั้งแต่หัวจรดเท้า สะท้อนตัวตนของคนพันธุ์ร็อคอย่างสร้างสรรค์และไม่มีวันเอ๊าต์

กระเป๋ารุ่น Uomo Bag คอลเล็คชั่น Spring 2017

 

 

กระเป๋ารุ่น Uomo Camupsychedelic Bag

 

กระเป๋ารุ่น Uomo Backpack

กระเป๋ารุ่น Uomo Bag

 

อยากบอกว่าฮิตจริงไรจริงนะจ๊ะ เพราะคนดังระดับโลกใส่กันเพียบ

Alex Rodriguez

Joe Jonas

Usher

Will Smith


กกก

ลายพรางอาจจะดูแมนสำหรับสาวๆไปหน่อย แต่กระเป๋าบางลายก็แต่งเป็นสไตล์สาวเท่ได้เลยนะ หรืออย่างรองเท้ารุ่นร็อครันเนอร์ ผู้หญิงอย่างเราก็ใส่ได้สบายๆ ออกแนวสปอร์ตเกิร์ลหน่อยๆ แฟชั่นมันอยู่ที่เราจะแมตช์แหละเนอะ ไอเท็มที่มีความเป็นผู้ชายก็ปรับให้เข้ากับผู้หญิงได้เหมือนกัน

ส่วนคุณผู้ชายคงยิ้มแก้มปริกับคอลเล็คชั่นนี้ไปแล้ว เพราะลายพรางบวกกับดีไซน์เท่ๆ ใส่ละหล่อโฮกไปเลยจ้าาา

 

 

 

 

keyboard_arrow_up