ทำดีด้วยหัวใจ… ปอ-ศีกัญญา ลุยซ่อมอุโมงค์ดอกไม้ปากคลองฯถวาย ‘พ่อหลวง’

จัดว่าเป็นสาวไฮโซสาวคุณภาพตัวจริง ปอ-ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์ ทายาทกิจการโรงแรมดัง เรอเนซองส์ ในเครือแมริออท และผู้บริหารแบรนด์  Kilping Thailand ย้อนกลับไปเมื่อปีก่อน ช่วงที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคตไม่นาน ตอนนั้นประชาชนต่างหลั่งไหลเข้าไปในพื้นที่ท้องสนามหลวงอย่างเนืองแน่น เพื่อรอเข้าสักการะพระบรมศพ หลายคนน่าจะยังจำภาพ สาวปอ ที่ลงลุยเป็นจิตอาสาคอยแจกพัดให้แก่คนที่มารอเข้าแถวยาวสุดลูกหูลูกตาได้ แล้วอีกแพร้บเธอก็ไปถอยรถตุ๊กๆ ออกมาขับบริการรับ-ส่งผู้ที่ต้องการจะเข้าไปในพื้นที่แบบฟรีๆ  พอมีคนไม่ยอมนั่งฟรี  จ่ายเงินให้ เธอก็นำเงินทั้งหมดนั้นไปมอบให้มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ซึ่งถือเป็นความใจที่น่ายกย่องสุดๆ และล่าสุด ก่อนพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ชาวแม่ค้าปากคลองตลาดรวมตัวกับจิตอาสา ช่วยกันจัดงาน ‘ดอกไม้เพื่อพ่อ’ ถนนดอกไม้ยาว 400 เมตร ช่วงระหว่างวันที่ 21-27 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการถวายสักการะแด่ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ปรากฏว่าหลังจากเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้เพียง 2 วัน อุโมงค์ดอกไม้ที่ทุกแรงกายแรงใจช่วยกันทุ่มเทจัดอย่างสวยงามอลังการก็มีเหตุชำรุดจากจำนวนคนที่เข้าชมเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องประกาศหาจิตอาสาเข้าช่วยซ่อมแซมเป็นการด่วน และหนึ่งในจิตอาสาที่ลงพื้นที่ซ่อมแซมอุโมงค์ดอกไม้ท่ามกลางสายฝนก็คือไฮโซสาว ปอ-ศีกัญญา คนสวยนี่เอง โดยมีคุณสามี กอล์ฟ-ณชนก รัตนทารส  คอยช่วยอยู่ข้างๆ บอกตรงๆ ว่าเห็นภาพในไอจีแล้วตื้นตันกับใจที่เธอมีเหลือเกิน ยิ่งอ่านแคปชั่นของภาพๆ นึงที่เธอโพสต์ โอ้ย…น้ำตาปริ่ม   “พวกเราจะทำความดีให้มากกว่านี้ พวกเราจะรักและสามัคคีกันไปจนวันสุดท้าย […]

อยู่ดี กินดี สองคำสั้นๆ ที่เขียนง่าย แต่ทำได้ยาก โดยเฉพาะถ้าโจทย์นั้นคือ ทำให้คนทั้งประเทศ

อยู่ดี กินดี สองคำสั้นๆ ที่เขียนง่าย แต่ทำได้ยาก โดยเฉพาะถ้าโจทย์นั้นคือ ทำให้คนทั้งประเทศ หากนั่นคือภารกิจสำคัญที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงทำมาตลอดพระชนม์ชีพ โดยหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ทรงเลือกใช้ คือ การประมง ซึ่งหากหมุนเข็มนาฬิกาย้อนกลับไป เมื่อ 60 ปีก่อน ยังไม่ค่อยมีใครพูดถึงเท่าใดนัก ทั้งที่มีประชาชนในพื้นที่ห่างไกลจำนวนมาก เข้าไม่ถึงแหล่งโปรตีนที่สำคัญนี้ ก้าวสำคัญของประมงไทย ในช่วงแรกของรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงตระหนักว่าประชาชนยากจนที่อยู่ในพื้นที่ชนบทยังขาดสารอาหารโปรตีน สัตว์น้ำจำพวกปลาน้ำจืดมีจำนวนไม่เพียงพอกับประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะชาวบ้านในภาคเหนือและภาคอีสานที่อยู่ห่างไกลจากแหล่งน้ำ ขณะที่หนองบึงหลายแห่งก็เผชิญกับปัญหาน้ำเน่าเสีย จึงมีพระบรมราโชบายส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการประมงอย่างครบวงจร ทั้งด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การวิจัย การอนุรักษ์สัตว์น้ำ รวมถึงการบริหารและการพัฒนาทรัพยากรด้านการประมง พระราชกรณียกิจเกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเริ่มต้นเมื่อกรมประมงแห่งเมืองปีนังส่งปลาหมอเทศให้กรมประมงไทยมาทดลองเพาะเลี้ยงเมื่อพ.ศ.2492 ปรากฏว่าเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย โตเร็ว ทนต่อโรคและขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว เมื่อความทราบถึงในหลวงรัชกาลที่9 จึงมีพระราชดำริให้กรมประมงนำพันธุ์ปลาหมอเทศมาทดลองเลี้ยงในพระที่นั่งอัมพรสถานเมื่อปีพ.ศ.2495 หลังจากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านจากทั่วประเทศเข้ารับพระราชทานพันธุ์ปลาหมอเทศเพื่อนำไปเลี้ยงต่อ เหตุการณ์ในครั้งนั้นนับเป็นก้าวสำคัญในการวางรากฐานเพื่อการพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ทำให้คนไทยได้เรียนรู้และสนใจการเลี้ยงปลาอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ หลังจากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้มีกิจกรรมการศึกษาวิจัยด้านการจัดการทรัพยากรประมงน้ำจืด ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้ง 6 แห่ง(ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี, ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดฉะเชิงเทรา, ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่างคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดจันทบุรี, ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดสกลนคร, ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่และศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดนราธิวาส) โดยทรงเน้นให้ทำการทดลองที่สามารถใช้ในท้องที่ได้จริงเพื่อเป็นสะพานเชื่อมโยงระหว่างวิชาการชั้นสูงกับเกษตรกรทุกคน หลากหลายพระราชดำริด้านการประมง […]

ความจริงจากชั้น 16 รพ.ศิริราช ในหลวง ร.๙ ทรงรับสั่งกับ ดร.สุเมธ เมื่อครั้งผ่าตัดใหญ่

ตลอด 70 ปีที่ ในหลวงร.๙ ทรงครองราชย์ ดูแลทุกข์สุขของประชาชน คนไทยได้รับทราบเรื่องพระราชกรณียกิจต่างๆ รวมถึงความเคลื่อนไหวจากแถลงการณ์ต่างๆ ในยามที่พระองค์ต้องเสด็จไปรักษาพระวรกาย

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ตรัสถึงสิ่งที่ทำให้ พ่อหลวง ทรงพระสำราญ คือการทอดพระเนตรเห็นคนไทยรักกัน

แม้มีเรื่องโศกเศร้าอันยิ่งใหญ่จนหัวใจคนไทยแทบสลาย แต่คำสอนที่ พ่อหลวง พ่อของแผ่นดิน หรือในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พึงตรัสให้คนไทยตระหนักรู้ถึงหน้าที่ของตัวเองนั้น ก็เป็นสิ่งที่ทำให้คนไทยหลายๆ คน ยังคงเดินหน้า ใช้ชีวิตต่อไป และหากจะเปลี่ยนแปลงบ้างก็คงเป็นเรื่องที่ คนไทยหันมาให้ความสำคัญต่อพระบรมราโชวาทของพ่อหลวง และได้นำมาปรับใช้กับชีวิตของตนเองเพื่อก่อประโยชน์สูงสุดทั้งต่อตนเองและสังคมกันมากขึ้น

ชม 6 ศูนย์ศึกษาฯอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ชี้ชัดใครกันที่ อยู่ดี กินดี เพราะมี ในหลวงรัชกาลที่ 9

ในหลวงรัชกาลที่ 9… พ่อหลวง… พ่อของแผ่นดิน… ไม่ว่าใครจะเรียกพระองค์ว่าอย่างไร แต่ในใจคนไทยล้วนหมายถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พระเจ้าแผ่นดินที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก

keyboard_arrow_up