#ยุคดิจิทัลมา หน้าต้องเป๊ะ

อันที่จริงพัดชาก็เป็นสาวหน้าบานตามปกติคนหนึ่งที่รักในเรื่องความสวยความงาม จนมีมีโอกาสได้ทำงานในหน้าที่บรรณาธิการความงามให้นิตยสารระดับตำนานอย่าง “แพรว”

ทีนี้คง “ตำ” นานไปหน่อย เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน เมื่อโลกโซเชียลเข้ามามีบทบาทแบบหนักเว่อร์ๆ จากบรรณาธิการความงามที่ทำงานเบื้องหลังเหมือนคอลัมนิสต์ทั่วไป กลับต้องอัพเลเวลให้ไฉไล พ่วงความเป็น “BEAUTY BLOGGER” เข้าไปด้วย

แล้วยังไงๆๆๆๆ ก็น้องๆ ในวงการนี้ส่วนมากก็จะมีวัยสิบปลายๆ ถึงยี่สิบต้นๆ ซึ่งมันกระทบใจเจ้วัยสามสิบกลางๆ (อุ๊ปส์) อย่างเราที่ต้องเอาหน้าใหญ่ๆ ไปใกล้เหล่าชะนีน้อยแสนสวย

ข้อแม้ของสาวยุคใหม่ เทคนิคอัพหน้าเรียว ต้องเห็นผล vs ปลอดภัย vs ไม่พักฟื้นนาน

งานนี้สวดมนต์อย่างเดียวคงไม่ช่วย พัดชาจึงขอปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่าง “MERZ AESTHETICS” ผู้นำเข้าเทคโนโลยีความงามที่ใช้ในบิวตี้คลินิกที่มีชื่อเสียงเรื่องความน่าเชื่อถือในแวดวงความงาม ว่าจะทำอย่างไรกับปัญหานี้ดีคะ คือแบบ พัดชาไม่ใช่คนเรื่องมาก แต่มีข้อแม้เยอะนิดนึง

• ประการแรกคือ อยากปรับหน้าให้เรียวเล็กเข้ารูป กรอบหน้าชัดขึ้น ถ่ายรูปเป๊ะเว่อร์ ไม่เป็นภาระแก่แผนกรีทัช 
• แต่ๆๆๆๆ อิชั้นไม่มีเวลาพักฟื้นแม้แต่วันเดียว เนื่องจากมีอีเว้นต์และงานถ่ายรีวิวโปรดักท์ไม่เว้นวัน 
• และๆๆๆ เป็นสาวแอบบอบบาง ใจเสาะ กลัวเจ็บ มีแบบไม่เจ็บไหมคะคุณหมอ
• สุดท้ายคือ ยังมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยจากนวัตกรรมการเสริมสวย น้องยังไม่พร้อมไปนั่งคุยกับคุณพุทธ อภิวรรณ ณ อมรินทร์ทีวี ในหัวข้อ “ศัลยกรรมทำพิษ” ค่ะ

เมื่อ “MERZ AESTHETICS” ตอบกลับมาทันควันว่าเทคโนโลยีของเขาทำได้ตามที่ขอทุกประการ จะต้องรออะไรล่ะคะ ไปเริ่มอัพสวยกันเลย

ปัญหาของพัดชา

มาดูรูป BEFORE ก่อนเลย เมื่อก่อนก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะหน้าบานอะไรมาก แต่พอต้องมาถ่ายรูปหรือออกหน้ากล้องบ่อยๆ ถึงได้เพิ่งสำเหนียกว่า “เออ…มันบานว่ะ” แต่ที่เป็นปัญหากว่าความบานนั่นคือความหย่อนคล้อยของข้างแก้มที่เริ่มมาเป็นก้อนๆ ทำให้ดูมีอายุ (เยอะ) และกรอบหน้าดูไม่เป๊ะเข้ารูปอย่างที่ควรเป็น ซึ่งจุดนี้คุณหมอแนะนำว่าอัลเทอราจะเหมาะที่สุด

ROUND 1 “อัลเธอร่า” ยกกระชับระดับเทพ 

พัดชาเลือกทำอัลเธอร่ากับ “MEKO CLINIC” หนึ่งในบิวตี้คลินิกระดับท็อป ซึ่งใช้เครื่องอัลเธอร่าที่นำเข้าโดย “MERZ AESTHETICS” แบรนด์ซึ่งเป็นที่ยอมรับในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย และเห็นผลแบบชัดเจนยาวนานกว่า

จุดนี้สาวๆ จะเกิดคำถามทันทีว่า “เราจะรู้ได้อย่างไรว่าไม่โดนหลอก” ที่ทำไปการันตีว่าจะได้ผลจริงสมราคาที่ลงทุนไป

อันนี้ไม่ยากเลยค่ะ สอบถามกับทางคลินิกโดยตรงว่าใช้เทคโนโลยีอัลเธอร่าจาก “MERZ AESTHETICS” หรือไม่ หรือสังเกตสัญลักษณ์รูปเพชรแบบนี้ที่ตัวเครื่อง และมีใบการันตีจาก U.S. FDA เป็นการรับประกันความอุ่นใจว่าได้ใช้เครื่องที่มีมาตรฐานผ่านการรับรอง

เขาลือกันว่าเจ็บจิกหมอน???

เขาว่ากันว่า “No Pain No Gain” แต่อันนี้ไม่ต้อง Pain อะไรมากก็ Gain ได้นะจ๊ะ การรักษาด้วยอัลเธอร่าได้ผลเหมือนการผ่าตัดดึงหน้า แต่ทีเด็ดคือไม่ต้องผ่าตัดนี่ละ

• ขั้นตอนเริ่มต้นที่ทายาชาแล้วนวดให้เข้าผิวเสียก่อน เพื่อความชาอย่างสาแก่ใจ
• จากนั้นคุณหมอจะใช้เครื่องคล้ายอัลตราซาวนด์ทาบลงบนผิวหน้าเพื่อสแกนชั้นผิว แล้วทำการปล่อยคลื่นเข้าสู่เนื้อเยื่อใต้ชั้นผิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จุดนี้จะรู้สึกจี๊ดๆ อุ่นๆ ในผิวชั้นลึก พัดชาเปรียบเทียบง่ายๆ ว่าเหมือนหน้าเรากำลังโดนสะกิดเบาๆ จากด้านใน ความรู้สึกนั้นเจ็บเล็กๆ ลึกๆ แบบทนได้ (ซึ่งอันนี้ขึ้นอยู่กับความอดทน เทคนิคของคุณหมอ และลักษณะปัญหาของแต่ละคนนะคะ) แต่ส่วนตัวขณะที่ทำการรีวิวอยู่นี้ พัดชาก็ยังเมาท์มอยกับคุณหมอได้อย่างเมามัน จนคุณหมอต้องเตือนว่า “อย่าเพิ่งคุยนะคะ” อ้าว…ซะงั้น

คุณหมอจะปล่อยคลื่นตามความเหมาะสมว่าควรจะเน้นหนัก เบา ลึก ตื้นตรงจุดไหน โดยควบคุมการทำผ่านหน้าจอของเครื่อง เห็นภาพชั้นผิวตลอดเวลา ซึ่งเครื่องของ “MERZ AESTHETICS” มีหน้าจอบอกอย่างละเอียด ทำให้มีความแม่นยำในการทำทรีตเมนต์ สมเป็นสุดยอดนวัตกรรม

ชมผลลัพธ์หลัง 3 เดือน

ยอมรับเลยว่าเป็นช่วงเวลาที่โดนทักว่าผอมลงหรือเปล่า หน้าเล็กลง ไปทำอะไรมาดูเป๊ะขึ้น บ่อยมากกก จากภาพที่เทียบให้ดู จะเห็นว่าผิวมีความกระชับมากขึ้น จนทำให้ใบหน้าดูได้รูปขึ้นกว่าเก่า

ผลลัพธ์ที่เห็นชัดเจนคือปัญหาที่ให้คุณหมอเน้นเป็นพิเศษ บริเวณพวงแก้มที่เคยมีความหย่อนคล้อยนั้นถูกลิฟต์ขึ้นไปอย่างน่าพอใจ ทำให้กรอบหน้าดูชัดเจนขึ้นแบบในภาพ หน้าเดฟทุกมุมแล้วค่ะซิส!!!!!!!!

ยกที่ 2 เติมเต็มส่วนขาดด้วย “Colorful Filler”

3 เดือนหลังเห็นผลจากการทำอัลเธอร่าอย่างชัดเจน พัดชาก็มาอัพสวยยกที่ 2 ซึ่งยอมรับว่าสารเติมเต็ม “ฟิลเลอร์” นั้นเป็นเทคโนโลยีอัพสวยที่พัดชายังรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ ด้วยได้ยินมาเยอะถึงหลายคนที่มีประสบการณ์ฟิลเลอร์ไม่ยอมสลายตัว จับตัวเป็นก้อน หรือไหลไปอยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง ทำให้ต้องคิดนานว่าจะลองดีหรือไม่

แต่เมื่อมีการการันตีจนมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์จาก “MERZ AESTHETICS” นั้นมีคุณสมบัติพิเศษ ไม่เหมือนฟิลเลอร์ชนิดอื่น และจะไม่เจอปัญหาที่ว่าแน่นอน วันนี้เลยตรงดิ่งไปที่ Awika Clinic เอสพลานาด รัชดา เพื่อพิสูจน์ให้รู้กันไป

“Colorful Filler” คืออะไร

“Colorful Filler” นำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์โดย “MERZ AESTHETICS” มีส่วนประกอบของ “ไฮยาลูโรนิกแอซิด” ซึ่งเป็นองค์ประกอบธรรมชาติชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในร่างกาย ตัวนี้เองเป็นส่วนสําคัญในการมอบความแนบเนียนเข้ากับผิวอย่างลงตัว เติมเต็มให้ผิวเรียบเนียน ดูเต่งตึงอย่างเป็นธรรมชาติ

เรื่องความปลอดภัยนั้น ผ่านการพัฒนาและผลิตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงที่ได้รับสิทธิบัตร “Dynamic Cross-Linking Technology” (หรือ DCLT) การันตีถึงการควบคุมคุณสมบัติการไหล จึงทําให้สามารถตอบสนองความต้องการของชั้นผิวที่เฉพาะเจาะจงได้ ที่เจ๋งอีกอย่างคือเป็นสูตรที่ผสมลิโดเคน (Lidocaine) ยาชาเฉพาะที่ช่วยลดความเจ็บเวลาฉีด เหมาะกับสาวใจเสาะดีแท้

ส่วนปัญหาหนักของพัดชานั้นอยู่ที่ใต้ตาโหลๆ บวมๆ ที่ทำให้หน้าดูเหนื่อยเพลียอยู่ตลอดเวลา แถมยังทำให้ดูมีอายุ แบบนี้คอนซิลเลอร์ดีอย่างไรก็ช่วยไม่ได้ จะได้รับการนอนอย่างเต็มอิ่มอย่างไรก็ไม่หาย ซึ่งงานนี้ต้องใช้ “Colorful Filler” สูตร SOFT ฉีดเติมบริเวณที่มีความพร่องให้ดูเต็มอิ่มฟู

ชมผลลัพธ์หลังทำทันที

เทียบกันไปเลยชัดๆ ใต้ตาตุ่ยๆ นั้นถูกเติมให้เต็มทันทีหลังจากที่คุณหมอค่อยๆ ฉีด “Colorful Filler” เข้าไป สังเกตได้ว่าแค่ใต้ตาที่ดูสดใสขึ้นนี่ก็ช่วยให้วัยดูลดลงไปทันที

ณ ปัจจุบัน หลายเดือนผ่านไปหลังจากฉีด พัดชาก็ยังไม่พบปัญหาว่า “Colorful Filler” จะจับตัวเป็นก้อนหรือมีอะไรน่ากังวล เลยแนะนำว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สวยไวราวกับเนรมิต แต่ขอให้เลือกใช้ของแท้เท่านั้นเป็นอุ่นใจ

ROUND 3 เก็บรายละเอียดด้วย “Diamond Toxin”

ในพาเหรดอัพหน้าเรียวของเรานั้นจะขาดน้องโบฯไปได้อย่างไร พัดชาตั้งใจจะให้คุณหมอเก็บรายละเอียดด้วยการลิฟต์กรอบหน้าและริ้วรอยเล็กๆ บนหน้าผาก แต่มีข้อแม้อยู่ว่า คุณหมอคะ ขอแบบเห็นผลชัดเจน ไม่เจ็บตัวฟรี หน้าเป๊ะแต่แสดงอารมณ์ได้ ไม่เอาสวยแบบเย็นชาหน้านิ่งนะคะคุณหมอ (ขอเยอะไปไหม)

คุณหมอ “ผึ้ง – อวิกา” คนสวย เจ้าของ “Awika Clinic” แนะนำทันทีว่าอยากได้คุณสมบัติแบบนี้ต้องเป็นตัวนี้เลยจ้า

“Diamond Toxin” คืออะไร

อาการแบบที่พัดชาบอกว่าฉีดแล้วไม่เห็นผลนั้น เรียกว่า “ดื้อโบท็อกซ์” ค่ะ หมายถึงสาวๆ หลายคนที่ลองโบท็อกซ์มาหลากหลายชนิด แต่ฉีดครั้งหลังๆ อย่างไรก็ไม่ส่งผลเหมือนครั้งแรกที่ฉีด “Diamond Toxin” โบท็อกซ์จากประเทศเยอรมนี มีความพิเศษตรงความบริสุทธ์ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยโบท็อกซ์ทั่วไปมีสิทธิ์ที่จะผสมโปรตีนแปลกปลอม ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดภูมิต้านทานในร่างกายที่ทำให้เกิดอาการ “ดื้อ”

แต่เจ้า “Diamond Toxin” เป็นหัวโบท็อกซ์สูตรบริสุทธิ์แท้จริง ได้รับการออกแบบให้ปราศจากโปรตีนตัวนี้ จึงเบาใจได้ในเรื่องดื้อยา และไม่ต้องเพิ่มโดสในการฉีดครั้งต่อไป จึงเหมาะทั้งกับคนที่มีอาการ “ดื้อโบท็อกซ์” และคนที่คิดจะฉีดครั้งแรก เริ่มจากตัวนี้แล้วใช้ยาวๆ ไป รับรองว่าเลี้ยงง่าย ไม่ดื้อเด็ดขาด

จุดขายอีกอย่างคือความเป็นธรรมชาติ เหมาะกับสาว “อารมณ์ล้วนๆ” อย่างเราที่ต้องการหน้ามูฟได้ แสดงอารมณ์ได้ ไม่ดูแข็ง คุณหมอแนะนำว่า “Diamond Toxin” ตอบโจทย์ที่สุด

ผลลัพธ์

ภาพเหล่านี้ถ่ายหลังจากฉีด “Diamond Toxin” ไปได้ราว 4 – 5 เดือน ซึ่งส่วนตัวแล้วพัดชารู้สึกพอใจมาก เพราะริ้วรอยเล็กๆ ที่หายไปอย่างชัดเจน ทำให้ผิวดูใสขึ้น กรอบหน้าดูชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อทำร่วมกับอัลเทอรา และที่สำคัญแสดงสีหน้าได้ดี๊ด๊าตามปกติอย่างที่เห็น โพสท่าไหนก็ไม่หน้าแข็ง แฮ็ปปี้ค่ะ

มีแต่คนทักว่าไปทำอะไรมา หน้าเป๊ะขึ้น

พี่แค่นอนเยอะๆ และคิดบวกค่ะคุณน้อง หุๆ

เรื่อง:  PADCHA_PRAEWNISTA

ภาพ: เนาวพจน์