ROMONA KEVEZA ชุดสุดโรแมนติกจากลูกไม้ฝรั่งเศส

account_circle

Romona Keveza ได้ออกคอลเล็กชั่น ฤดูใบไม้ผลิ 2017 ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากจิตวิญญาณและความเข้มแข็งของสาวชาวฝรั่งเศส ทำให้ได้ชุดที่เต็มเปลี่ยมไปด้วยความโรแมนติกที่ได้จากลูกไม้แสนละเอียดอ่อน ทำให้ได้ลุคที่ดูเคร่งขรึม อีกทั้งชุดยังช่วยพลางสายตาด้วยชุดเกาะไหล่คอลึกที่มาคู่กับกระโปรงทรงบอลกาวน์

ROMONA KEVEZA
ROMONA KEVEZA
ROMONA KEVEZA
ROMONA KEVEZA
ROMONA KEVEZA
ROMONA KEVEZA
ROMONA KEVEZA

เรียบเรียงข้อมลูจาก : wwd.com

ขอบคุณรูปภาพจาก : wwd.com,ww.theknot.com

ม้า - อรนภา

ฉีกลุคเดิมๆ “ม้า – อรนภา” สลัดผมหน้าม้าชั่วคราว สวมวิกทำผมทรงใหม่ที่ไม่เคยเห็นเพียบ

Alternative Textaccount_circle
ม้า - อรนภา
ม้า - อรนภา

วันนี้เลื่อนฟีดอินสตาแกรมเพลินๆ ดันไปสะดุดตาทรงผมของ“พี่ม้า – อรนภา กฤษฎี” พิธีกรและนักแสดงตัวแม่แห่งวงการบันเทิงที่ปกติมักจะเห็นผมทรงหน้าม้าเป็นซิกเนเจอร์ประจำตัว เรียกได้ว่าคือลุคที่พี่ม้าเลือกแล้ว เพราะเคยบอกเอาไว้ว่าหน้าม้าเป็นทรงที่เหมาะกับตัวเองที่สุด แต่บังเอิญทรงผมที่ไปเห็นวันนี้ดันไม่ใช่ทรงหน้าม้าน่ะสิ เลยต้องขอเข้าไปแอบส่องเสียหน่อย ก็เลยถึงบางอ้อว่าผมทรงใหม่หลากหลายสไตล์ที่โพสต์ลงอินสตาแกรมนั้น มีที่มาจากละครเรื่องชายไม่จริง หญิงแท้ นั่นเอง

ซึ่งในเรื่องนี้พี่ม้า รับบทเป็นธนาหรือแทนนี่ เลยทำให้มีโอกาสได้ลองเปลี่ยนผมทรงใหม่ๆ แม้จะเป็นการสวมวิกก็ตาม ถือว่าเป็นลุคใหม่ๆ ที่พี่ม้ายอมแต่งเพื่อคนดูจะได้สนุกอินไปกับตัวละครนะจ้ะ แพรวดอทคอม เลยรวบรวมทรงผมพี่ม้าสไตล์ต่างๆ ในเรื่องนี้มาฝากค่ะ

 

ผมหน้าม้าเอกลักษณ์ประจำตัว ที่เห็นเพียงแค่แวบเดียวก็สัมผัสได้ว่านี่คือ ม้า – อรนภา

เก็บรวมผมเรียบร้อย แต่เพิ่มดีเทลปอยผมด้านหน้าด้วยเคิฟหนึ่งทีจบ ก็ทำให้ลุคดูสมาร์ทแล้ว

จัดไปด้วยผมทรงโมฮอกตั้งใหญ่สไตล์โมเดิร์น

Curly Hair ลอนสวยเด้งดูดีสไตล์เซเลบ แต่ต้องแต่งหน้าแต่งตัวให้เก๋หน่อย ไม่งั้นอาจพังดูเกินวัยได้
มีความคล้ายทรง Beachy Waves ให้ความสดใสในบางมุม

ยกระดับปรับเคิฟด้วยทรงผมย้อนยุคสไตล์วินเทจ Finger Wave แบบสั้น
ถือเป็นทรงที่นิยมกันในหมู่ดารา ละครหลายเรื่องก็ทำผมทรงนี้กันเยอะ

เอาไปเลย รูปเดียวแต่ 4 ลุค ไม่ซ้ำกัน แสกกลาง แสกข้าง ลอนหนัก ลอนเบา รวบเก็บมาหมดค่ะ

เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม
ภาพจาก IG : maornapa

ยิลเลตต์ จับมือ วอเนอร์ บราเดอร์ส เปิดตัว “ยิลเลตต์ จัสติส ลีก วีอาร์ บ็อกซ์เซ็ท” เพียง 10,000 กล่อง ทั่วประเทศ

ยิลเลตต์ ผลิตภัณฑ์โกนหนวดชั้นนำระดับโลก คว้า จัสติส ลีก ภาพยนตร์ ซูเปอร์ ฮีโร ฟอร์มยักษ์ โดยผู้สร้าง วอเนอร์ บราเดอร์ส ร่วมเป็นพันธมิตรส่งแคมเปญตอกย้ำแบรนด์ที่สามารถมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ชาย โดยเฉพาะหนุ่มๆ ผู้คลั่งไคล้ ซูเปอร์ ฮีโร เปิดตัว ยิลเลตต์ จัสติส ลีก วีอาร์ บ็อกซ์เซ็ท สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่มีจำหน่ายเพียง 10,000 กล่องเท่านั้น

โดย บ็อกซ์เซ็ท รุ่นลิมิเต็ด นี้มาพร้อมไอเทมชิ้นเด็ดอย่าง แว่นตา วีอาร์ (VR Headset) เพื่อให้หนุ่มๆ ได้สัมผัสประสบการณ์ซูเปอร์ ฮีโร เสมือนจริง โดยสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น “Justice League VR” จาก App Store หรือ Google Play Store ที่มาพร้อมคอนเทนท์ในรูปแบบของเกมส์สุดมันส์ลงในสมาร์ทโฟน ให้ผู้เล่นได้ลองสวมบทบาทเป็นเหล่าตัวละคร จัสติส ลีก ออกไปผจญภัยกับอุปสรรคต่างๆ อาทิ ซูเปอร์แมน, แบทแมน, วันเดอร์ วูแมน, เดอะแฟลช, ไซบอร์ก และ อควาแมน

นอกจากจะเพลิดเพลินไปกับความสนุกผ่าน แว่นตา วีอาร์ สุดล้ำแล้ว หนุ่มๆ ยังสามารถสัมผัสกับสุดยอดประสบการณ์การโกนหนวดด้วยเซ็ท ยิลเลตต์ มัคทรี เทอร์โบ ประกอบด้วยด้าม พร้อมหัวเปลี่ยนใบมีดโกน ถึง 3 ชิ้น ที่มอบความคมขั้นสุดในการโกนหนวดอย่างแนบสนิทและเกลี้ยงเกลา แต่ยังคงความนุ่มนวลต่อผิวหน้าอันบอบบางของผู้ชายอีกด้วย ทั้งนี้ ยิลเลตต์ จัสติส ลีก วีอาร์ บ็อกซ์เซ็ท จะวางจำหน่ายที่ เทสโก้ โลตัส, ท็อปส์ และ บิ๊กซี ทั่วประเทศ เท่านั้น ในราคาเพียง 599 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 เป็นต้นไป จนกว่าสินค้าจะหมด

นอกจากนี้ ยิลเลตต์ ยังได้จับมือกับ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ปล่อยโปรโมชั่นครั้งยิ่งใหญ่ มอบบัตรชมภาพยนตร์ถึง 33,000 ใบ รวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท เพียงเลือกซื้อมีดโกนหนวด ยิลเลตต์ รุ่น มัคทรี (189 บาท) และ มัคทรี เทอร์โบ (229 บาท) ที่มีสติ๊กเกอร์ “แจกตั๋วหนังฟรี ในแพ็ค” สามารถนำคูปองที่อยู่ในแพคไปแลกรับบัตรชมภาพยนตร์ จัสติส ลีก หรือภาพยนตร์เรื่องใดก็ได้ ที่โรงหนังในเครือ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ทั่วประเทศ วางจำหน่ายตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2560 เป็นต้นไป จนกว่าสินค้าจะหมด ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่https://www.facebook.com/GilletteThailand #GilletteThailand

โลกหลังความตายมักคล้ายกัน นิทรรศการ The Garden of God โดยเกรียงไกร กงกะนันทน์

นิทรรศการหมุนเวียนมาอีกครั้ง มาครั้งนี้พื้นที่แสดงผลงานศิลปะ DUKE Contemporary Art Space ได้จัดนิทรรศการ The Garden of God ผลงานของศิลปิน เกรียงไกร กงกะนันทน์ ระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน-12 ธันวาคม 2560 ณ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเกษรวิลเลจ 
เปิดให้ชมกันทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00-24.00 น. สำหรับนิทรรศการ The Garden of God ผลงานของศิลปิน เกรียงไกร กงกะนันทน์ ที่ได้นำเสนอมุมมองต่อโลกหลังความตายมาดีไซน์เป็นผลงานศิลปะ ซึ่งแต่ละคนล้วนมีภาพจินตนาการต่อโลกหลังความตายไปในทางคล้ายคลึงกันทั้งๆ ที่ไม่เคยพบมาก่อน โดยศิลปินได้เลือกนำเรื่องราวของเทพเจ้าที่มีมานานตามความเชื่อทางศาสนา มาใช้เป็นองค์ประกอบหลักในการสำรวจถึงความรู้สึกของผู้คนต่อดินแดนลึกลับที่จินตนาการขึ้น ซึ่งมีความอยากได้ อยากมี อยากเป็นไม่สิ้นสุด

เรื่องราวของเทพเจ้าที่ปรากฎในนิทรรศการ The Garden of God ผลงาน เกรียงไกร กงกะนันทน์ ไม่เพียงทำให้เห็นถึงกิเลสอันท่วมท้นในตัวตนของมนุษย์ทุกคน แต่ยังเป็นสะพานเชื่อมเรื่องราวความต้องการของมนุษย์ที่มีมาอย่างยาวนาน ผ่านภาพของสัญลักษณ์มงคลต่างๆ ที่บอกเล่าหลายความปรารถนา อาทิ ภาพของ Pi xiu ที่เป็นตัวแทนของความมั่งคั่ง ร่ำรวยตามความเชื่อของชาวจีน หรือครุฑซึ่งเป็นตัวแทนของความเป็นอมตะและแข็งแรง เป็นต้น เมื่อรวมเข้าด้วยกันแล้วจึงพบเจอกับความบิดเบี้ยวภายในของมนุษย์อันมีที่มาจากความอยาก รวมตัวกันภายในพื้นที่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นภาพสะท้อนที่ใกล้เคียงกันกับภาพของนรกที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของมนุษย์เหล่านี้นี่เอง

หมายเหตุ ปิดนิทรรศการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน-3 ธันวาคม 2560 เนื่องจากพื้นที่ศิลปะปิดปรับปรุง

เรียบเรียงโดย: บะหมี่กุ๊งกิ๊ง_แพรวดอทคอม
ข้อมูลและภาพ: นิทรรศการ The Garden of God

เฉลยเหตุผลที่ควีนเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ ทรงแต่งฉลองพระองค์สีสดอยู่เสมอ

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงสวมฉลองพระองค์สีสันสดใสอยู่เสมอ ซึ่งเป็นภาพที่เราเห็นกันจนชินตา ไม่ว่าพระองค์จะเสด็จฯ ไปที่ไหน หรือทรงเข้าร่วมพิธีอะไร เราจะได้ชมฉลองพระองค์สีสันโดดเด่นแทบทุกครั้ง

แฟชั่นฉลองพระองค์สีสันลูกกวาดเหล่านี้ ถือเป็นซิกเนเจอร์ลุคของควีนเอลิซาเบธที่ 2 เลยก็ว่าได้ ทุกครั้งที่พระองค์เสด็จฯ ออกมาพบปะประชาชนจะทรงเลือกฉลองพระองค์สไตล์นี้เสมอ และที่พระองค์ต้องแต่งฉลองพระองค์สีสด ก็เพราะต้องการให้ประชาชนเห็นได้อย่างชัดเจน แม้ว่าจะอยู่ระยะไกลก็ตาม เนื่องจากโอกาสที่ประชาชนจะได้เห็นควีนของพวกเขาไม่ได้มีมากนัก และควีนเอลิซาเบธที่ 2 ยังเคยตรัสว่า “หากฉันใส่สีเบจ คงไม่มีใครรู้ว่าฉันเป็นใคร” ทั้งนี้ผู้ช่วยดูแลฉลองพระองค์สีสันสดใสให้แด่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ก็คือแองเจลา เคลลี นั่นเอง

ไม่ว่าจะฉลองพระองค์สีไหนก็พระสิริโฉม

นอกจากฉลองพระองค์สีสันเด่นสะดุดตาแล้ว พระองค์จะทรงพระมาลา (หมวก) พร้อมกับ ถุงพระหัตถ์ (ถุงมือ) ในยามออกงานอยู่เสมอ ซึ่งการทรงพระมาลาเป็นธรรมเนียมโบราณของอังกฤษว่า สุภาพสตรีที่ดีไม่ควรเผยเส้นผมในที่สาธารณะ ส่วนถุงพระหัตถ์ มีหน้าที่หลักๆ ในการป้องกันเชื้อโรคที่อาจจะได้รับมาจากบุคคลอื่น เพราะเมื่อเสด็จฯ ออกงานจะต้องพบปะและจับมือทักทายกับผู้คนจำนวนมาก ทั้งนี้ยังช่วยส่งเสริมให้ลุคของพระองค์ถูกเติมเต็มและพระสิริโฉมยิ่งขึ้น

วันนี้เรามีฉลองพระองค์สีสดของควีนเอลิซาเบธที่ 2 มาให้ดูกัน ตามด้านล่างนี้เลย

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ณ ประเทศแคนาดา

 

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เสด็จเยือนแคนาดา ในปี 2010

 

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เสด็จเยือนประเทศไอร์แลนด์ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว

 

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ในวันคริสมาสต์

 

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ในวันพระราชสมภพของเจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2015

 

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ในวันคริสมาสต์ที่โบสถ์ Sandringham Church ประเทศอังกฤษ

 

ลุคนี้ฉลองพระองค์สีเขียวมิ้นต์และสีชมพู ถูกคลุมทับฉลองพระองค์เดรสลายดอกไม้ทั้งคู่ ทรงพระมาลา และทรงสวมถุงพระหัตถ์ในแบบฉบับของพระองค์เอง

 

เรื่อง : Hana_แพรวดอทคอม (ฮานะ)

ภาพ : IG@katemidleton , @queen_elizabeth_fanpage

 

ผมเบาสบาย นุ่มดั่งขนนก พลิ้วสุดปลายผม กับ รีจอยส์ ครีมนวดปรับสูตรใหม่ที่ดีที่สุดในรอบ 20 ปี

ปัญหาของเส้นผมของผู้หญิงที่ต้องเผชิญในแต่ละวันมีมากมาย แม้จะดูแลทำความสะอาดเส้นผมอย่างหมดจด ให้ความรู้สึกนุ่มลื่นหลังสระแค่ไหน แต่สุดท้ายเมื่อต้องพบเจอกับสิ่งสกปรกหรือฝุ่นควันระหว่างการดำเนินชีวิตประจำวัน อาจก่อให้เกิดความมันบนเส้นผม ผมพันกันยุ่งเหยิง หรือถ้าอยากมีผมนุ่มลื่นพลิ้วสวย หากเลือกใช้ครีมนวดผมเข้มข้นก็กลัวว่าผมจะมัน ลีบแบน หมดสวย

รีจอยส์ (Rejoice) เข้าใจถึงปัญหาดังกล่าวจึงมุ่งค้นคว้าและพัฒนาสูตรการบำรุงที่เหนือกว่า ด้วยความสามารถในการรังสรรค์ครีมนวดผมอันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของรีจอยส์ ทำให้ครีมนวดผมสูตรปรับปรุงใหม่ถือกำเนิดขึ้น ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีลึกถึงระดับโมเลกุล ให้มีรูปร่างเหมือนแผ่นบางๆ คล้ายริบบิ้น ที่สามารถเคลือบเส้นผมได้อย่างสม่ำเสมอตั้งแต่โคนจรดปลาย อีกทั้งยังซึมซาบเข้าสู่เส้นผมได้อย่างง่ายดาย ลดการทิ้งสารตกค้างบนเส้นผม ช่วยให้เส้นผมรู้สึกเบาสบายหลังจากใช้ได้ดีกว่า เมื่อเทียบกับครีมนวดผมอื่นๆ ที่มีโมเลกุลรูปทรงที่แตกต่างกัน ทำให้ไม่สามารถเคลือบเส้นผมได้อย่างทั่วถึงตลอดทั้งเส้น แถมโมเลกุลยังเกาะยึดบนเส้นผมกันเป็นแพ ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาผมเหนียว หรือผมหนักลีบแบน

รีจอยส์ แชมพู และครีมนวดผม สูตรปรับปรุงใหม่ ถูกยกย่องให้เป็นสูตรการดูแลผมที่ดีที่สุดในรอบ 20 ปี

  • เหนือกว่าในการมอบความเรียบลื่นและเส้นผมไม่พันกันขณะผมเปียก
  • ทิ้งความมันและความรู้สึกเหนอะหนะบนเส้นผมและหนังศีรษะได้น้อยลง
  • ผมเรียบลื่นสม่ำเสมอตั้งแต่โคนจรดปลาย

โคนผมเบาสบาย นุ่มดั่งขนนก พลิ้วสุดปลายผมรีจอยส์ สมูทเนส เอ็กซ์เพิร์ท ริช ซอฟท์ สมูท ครีมนวดผม ใหม่ด้วยสมูทเซรั่ม บำรุงผมจากโคนจรดปลาย เพื่อผมเรียบสวย 3 มิติ* 1) ผมนุ่มลื่นขึ้น 3 เท่า* 2) เงางาม 3) เรียบตรง ปริมาณและราคา: 70มล. ราคา 20บาท, 170มล. ราคา 69บาท, 320มล. ราคา 99บาท, 450มล. ราคา 125บาท

 

ฉลอง 7 ปี “มูเกนได” เชิญเหล่าเชฟมือรางวัลจากแดนปลาดิบ บินตรงเสิร์ฟเมนูเด็ดถึงเมืองไทย

“มูเกนได” (Mugendai) ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยม ที่ครองใจนักชิมคนไทยมาครบ 7 ปี โดยซีอีโอหนุ่ม คุณก้อง-กมลสุทธิ์ ทัพพะรังสี ฉลองวาระนี้ด้วยเมนูเด็ดฝีมือเชฟซูชิระดับท็อปจากร้านดังของญี่ปุ่น 6 ท่าน 6 ร้าน การันตีด้วยมิชลินสตาร์ มาตรฐานโลก และทาเบล็อก มาตรฐานญี่ปุ่น ที่บินตรงมาเสิร์ฟความอร่อยระดับตำนาน จากหลากหลายเมนูเด็ด เพื่อนักชิมชาวไทยโดยเฉพาะ ตลอดเดือนพฤศจิกายน 2560

การรวมตัวกันของเชฟมือหนึ่งจาก 3 ร้านดัง เพื่อสร้างสรรค์เมนูพิเศษในมื้อเดียวกันอย่างลงตัว ได้แก่ เชฟ Yoshiteru Ikegawa เจ้าของร้าน มิชลินสตาร์และโกลด์ทาเบล็อก Torishiki”, เชฟ Natsuko Shoji เจ้าของรางวัลซิลเวอร์ทาเบล็อกและเจ้าของร้านété” เชฟ Kentaro Nakahara เจ้าของรางวัลซิลเวอร์ทาเบล็อกและเจ้าของร้าน Sumibiyakiniku Nakahara รวมกัน ราคา 12,500++ บาท ระหว่างวันที่ 11-18 พฤศจิกายน 2560 ณ ร้านมูเกนได เพนท์เฮ้าส์ ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ชั้น 9

ร้าน Sushi Yoshitake นำเสนอโอมากาเสะซูชิคอร์ส คำเด็ดโดยเชฟเจ้าของร้านซูชิมิชลิน 3 ดาว ซึ่งเป็นเชฟซูชิญี่ปุ่นเพียง 1 ใน 3 คนที่ได้รับการการันตีนี้ ราคา 13,500++ บาท ระหว่างวันที่ 21-25 พฤศจิกายน 2560 ณ มูเกนได ฮอนเต็น ซ.ทองหล่อ 10

ร่วมสัมผัสรสชาติอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยมจากญี่ปุ่นขนานแท้ได้แล้ววันนี้ ที่ ร้านมูเกนได ฮอนเต็น ซ.ทองหล่อ 10 และ ร้านมูเกนได เพนท์เฮ้าส์ (Mugendai Penthouse) ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ชั้น 9 สามารถ สำรองที่นั่งได้ที่ 090-510-4555

หอมกลิ่นความรัก 6 คู่รักดารา-เซเลบ พาเหรดแต่งงานรับลมหนาว

พาเหรดวิวาห์หวาน รับลมหนาวปลายปีไล่เรียงกันมาหลายคู่ทีเดียว สำหรับ คู่รักดารา เซเลบไฮโซ ที่ทำให้ แพรวดอทคอม หอมกลิ่นความรักที่ลอยฟุ้งเต็มอากาศไปหมด เชื่อว่า มีพาเหรดงานมงคลออกมาถี่แบบนี้ หลายคนก็อาจจะอัพเดตกันไม่ทัน เพื่อให้เห็นความน่ารักของแต่ละคู่บ่าวสาวพร้อมๆ กัน จึงได้รวมกันมาให้ชมกันด้านล่างนี้แล้วจ้า…

ซงจุงกิ – ซงฮเคฮโย

ประเดิมกันที่คู่รักสะท้านโลก ซงซงคัพเพิล ที่ได้วิวาห์ไปเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2560 ที่โรงแรม The Shilla Seoul ประเทศเกาหลีใต้ งานมงคลของคู่นี้เป็นที่จับตาจากสาวๆ รวมถึงหนุ่มๆ หลายประเทศ ตั้งแต่ปล่อยการ์ดแต่งงาน สถานที่จัดงาน โดยเฉพาะเพื่อนเจ้าบ่าวที่มีดีกรีความหล่อไม่ธรรมดา แต่ถึงยังไงความพิเศษของงานก็คงไม่พ้นคู่บ่าวสาว ที่ทำให้แฟนๆ ได้เห็นช็อตมองตาอบอุ่น ช็อตจุ๊บสุดเขิน และเจ้าสาวซงฮเคโยในชุดสีขาวก็สวยราวนางฟ้าจริงๆ

เป๊ก เปรมณัช – นิว นภัสสร

ได้รับพระราชทานน้ำสังข์และถุงทองจากพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เพื่อความเป็นมงคลแก่การเริ่มต้นชีวิตคู่ โดยหลังจากนั้นงานแต่งสไตล์พื้นเมืองไทยเหนือของคู่รัก เป๊ก-นิว ก็ได้เริ่มขึ้นที่ผืนนา Brandnew Field Good ที่จ.เชียงใหม่ บ้านเกิดของเจ้าสาวในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 บรรยากาศภายในงานอบอุ่นพร้อมเพรียงเพื่อนๆ ทั้งขบวนขันหมาก รำฟ้อนไทยเหนือ เป็นงานแต่งที่น่ารักทีเดียว

ฟลุ๊ค-จิระ & แอปเปิ้ล-สีสะเหงียน

ลั่นระฆังวิวาห์คู่ต่อมา สำหรับคู่รักต่างเชื้อชาติ ฟลุ๊ค-แอปเปิ้ล ที่หลังจากคบกันมานานก็ได้จัดพิธีแต่งงานแบบไทย-จีน-ลาวในระหว่างวันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2560 โดยช่วงที่ทั้งคู่ถ่ายพรีเวดดิ้ง เจ้าบ่าวฟลุ๊คก็ได้พาแอปเปิ้ล แฟนสาวชาวลาวไปกราบในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วย สำหรับคู่นี้เป็นคู่ที่น่ารักอีกคู่หนึ่งของวงการ เพราะไม่ค่อยมีข่าวเสียหายและต่างคนต่างตั้งใจทำงาน และบรรยากาศภายในงานก็ได้มีครอบครัวและเพื่อนๆ เดินทางมายินดีกันอย่างคับคั่ง

พั้นช์-วรกาญจน์ & ปลั๊ก-อรรถกร

จำความได้ตั้งแต่สาวพั้นช์ เริ่มเข้าวงการเป็นนักร้องสาวตาดำๆ จนตอนนี้อดีตเด็กตาดำๆ ได้แต่งงานกับแฟนหนุ่มนอกวงการ ปลั๊ก-อรรถกร คูพัฒนาวิบูลย์ ที่คบกันมา 8 ปีแล้วในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2560 ซึ่งบรรยากาศงานแต่งก็ผสมระหว่างจีนและไทย โดยช่วงเช้าทำบุญตักบาตรที่วัดสามแก้ม จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านเกิดเจ้าบ่าว และมาแห่ขันหมากจัดพิธีแต่งงานต่อที่โรงแรม Loft Mania Boutioue Hotel งานนี้สาวพั้นช์ถึงกับน้ำตาซึมและขอบคุณทุกคน รวมไปถึงแฟนๆ ที่อยู่กันมาแทบทุกช่วงของชีวิต

อ้วน-รังสิต & ปาร์ค ฮยอนซอน

เผยภาพบรรยากาศงานแต่งของคู่รัก 2 เชื้อชาติ อ้วน-รังสิต และปาร์ค ฮยอนซอน นางแบบสาวเกาหลี ออกมาเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2560 ซึ่งได้จัดพิธีแต่งงานขึ้นที่ประเทศเกาหลี โดยจะกลับมาจัดงานแต่งแบบไทยตามลำดับ สำหรับคู่นี้เรียกว่า เป็นคู่รักที่หวานอีกคู่เพราะถ้าหากติดตามก็จะได้เห็นภาพโมเมนต์หวานๆ ออกมาตลอด รวมไปถึงภาพถ่ายพรีเวดดิ้งก็ได้มีทั้งแบบไทยและเกาหลีผสมกัน

ชาคริต แย้มนาม & แอน ภัททิรา

จัดปาร์ตี้เล็กๆ ก่อนเริ่มพิธีแต่งงานอย่างเรียบง่ายไปแล้วเช้าวันนี้ (8 พฤศจิกายน 2560) ที่ Peggy’s Cove Resort สำหรับคู่รัก ชาคริต แย้มนาม และแอน-ภัททิรา เลขานุการของบรู๊ค-ดนุพร หลังจากที่วานนี้หนุ่มชาคริตได้ออกมาแถลงข่าวตอบประเด็นหลายๆ เรื่องทั้งเรื่องสาวแอนท้อง 3 เดือน หลุดลูกแฝด ซึ่งทั้งคู่ก็เริ่มต้นความสัมพันธ์มาจากเพื่อนก่อนจะตัดสินใจใช้ชีวิตครอบครัวด้วยกัน โดยบรรยากาศภายในงานก็อบอุ่นไปด้วยพ้องเพื่อนและครอบครัว

เห็นแต่ละคู่แล้วน่ารักมากๆ และไม่ใช่มีเพียงเท่านี้ แต่ยังมีคู่รักอย่าง คู่รักไฮโซ โอบอุ้ม-รสรินทร์ ชุมสาย ณ อยุธยา & รองอั๋น พ.ต.ท.อรรถพล อิทธโยภาสกุล, เวฟ-สาริน บางยี่ขัน & บุ้ง สะธี ทายาทตึกใบหยก และมาร์กี้-ราศรี & ป๊อก-ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์ ที่คิวแต่งงานกำลังใกล้จะมาถึง ส่วนบรรยากาศงานวิวาห์เริ่มเมื่อไหร่ จะหวานขนาดไหน รอติดตามได้ที่ทางแพรวดอทคอมได้เลย…!


เรื่อง: บะหมี่กุ๊งกิ๊ง_แพรวดอทคอม
ภาพ: IG @punch0509 @auan_rangsit @browncart @aun_pol @obeoom @badkoy
 @pisuttinee @kaefriday @onepennottwopen @appleminiberry

“ล้ง 1919”ท่าประวัติศาสตร์ศิลป์ไทย-จีนแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ

ฉลองเปิด “ล้ง 1919” (LHONG 1919) ท่าประวัติศาสตร์ศิลป์ไทย-จีน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตระการตาจาก “มรดกหวั่งหลี” อายุ 167 ปี สู่ศักดิ์ศรี “มรดกแผ่นดิน”จุดหมายใหม่ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

​ด้วยหัวใจรักและตระหนักถึงคุณค่าของมรดกที่บรรพบุรุษสร้างไว้ในอดีตจนเจริญมั่นคงในปัจจุบัน อันมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรมที่ถือเป็นมรดกของชาติด้วย ตระกูล “หวั่งหลี” ในฐานะผู้ถือครองจึงริเริ่มโครงการ “ล้ง 1919” (LHONG 1919) ท่าประวัติศาสตร์ศิลป์ไทย-จีน ริมแม่น้ำพระยา  โดย บริษัท ชิโน พอร์ท จำกัด ในฐานะผู้บริหารโครงการฯ ได้จัดงานเปิดโครงการอย่างเป็นทางการ โดยมี คุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน

ภายในงานยังได้รับเกียรติจากแขกผู้มีเกียรติ ผู้หลงใหลในศิลปวัฒนธรรมจีนจากหลากหลายวงการร่วมงานคับคั่ง อาทิ คุณใหม่ – สิริกิติยา เจนเซน, ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี, ม.ล.ภูมิใจ ชุมพล,ธีรวัฒน์ – สมพร กนกกุล, นวลพรรณ ล่ำซำ, พรนภา จันศิริ, ฐาปน – ปภัชญา สิริวัฒนภักดี,ทศ จิราธิวัฒน์, อารยา จิตตโรภาส, ปรมา  ไรวา, ไกรสิงห์ วอน บูเรน, กรณ์วิภา โชติกเสถียร,สิรินิจ โชคชัยฤทธิกุล, ดิฐวัฒน์ อิสสระ, สรรพฤทธิ์ ปัญจะ, สายวิภา ปัญจะ, ณริช พารานุลักษา, ศิวะศิษฐ์ เลาหพงศ์ชนะ, ประกาศิต พรประภา, ดร.พรเทพ พรประภา, นภัสนันท์ พรประภา,นิภาภรณ์ ศิริพงษ์, สิรินิจ โชคชัยฤทธิกุล ฯลฯ พร้อมด้วยครอบครัวตระกูลหวั่งหลี ที่ทำหน้าที่เจ้าบ้านให้การต้อนรับ อาทิ สุกิจ หวั่งหลี, วุฒิชัย หวั่งหลี, สุจินต์ หวั่งหลี, ธรรมนูญ หวั่งหลี, สุชาติ หวั่งหลี,สุเทพ หวั่งหลี, รุจิราภรณ์ หวั่งหลี, ชลันต์ หวั่งหลี, พิมพ์ประไพ พิศาลบุตร, ดร.ศรัณฐ์ หวั่งหลี, อนรรฆ หวั่งหลี, ฯลฯ

ประวัติความเป็นมา

ชื่อ “ล้ง” มาจากชื่อเดิมของสถานที่แห่งนี้ ที่มาชื่อว่า “ฮวย จุ่ง ล้ง” เป็นภาษาจีน เขียนว่า  火 船 廊  หมายถึง “ท่าเรือกลไฟ” ซึ่งทุกวันนี้รู้จักในนามโกดังบ้าน “หวั่งหลี”  ตั้งอยู่ ณ สุดถนนเชียงใหม่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี ตรงข้ามกับย่านตลาดน้อย – เยาวราช สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2393 (ค.ศ.1850)  โดย พระยาพิศาลศุภผล (ชื่น พิศาลบุตร) ต้นตระกูลพิศาลบุตร ซึ่งเป็นคนจีนที่เกิดบนแผ่นดินสยาม  โดยบรรพบุรุษของท่านได้เดินทางจากเมืองจีนมาค้าขายและตั้งรกรากอยู่ในเมืองไทยตั้งแต่ต้นรัตนโกสินทร์ ท่าเรือนี้มีพื้นที่ประมาณ 6 ไร่ พร้อมพื้นที่อาคาร 6,800 ตารางเมตร

ท่าเรือ “ฮวย จุ่ง ล้ง” คือท่าเรือกลไฟ ซึ่งคือเรือโดยสารหรือบรรทุกสินค้าที่ใช้ฟืนเป็นต้นเชื้อเพลิงมีขนาดใหญ่กว่าเรือไฟ นิยมใช้แล่นในทะเลหรือมหาสมุทร โดยชาวจีนในอดีตนิยมใช้เดินทางทางทะเลเพื่อเข้ามาค้าขายหรือย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากที่ประเทศไทย และได้มาเทียบท่าเรือขึ้นฝั่งที่ท่าแห่งนี้

นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งการค้าธุรกิจ โดยตัวอาคารท่าเรือเป็นร้านค้าและโกดังเก็บสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ เช่น  จีน สิงคโปร์ ฮ่องกง ฯลฯ

ต่อมาเมื่อการท่าเรือแห่งประเทศไทยเข้ามามีบทบาทในการค้ากับต่างชาติมากขึ้น ท่าเรือ ฮวย จุ่ง ล้ง ค่อยๆ ลดบทบาทลง ในปี พ.ศ. 2462 (ค.ศ.1919) ตระกูล “หวั่งหลี” โดยนาย ตัน ลิบ บ๊วย จึงได้เข้ารับช่วง             เป็นเจ้าของต่อจากตระกูลพิศาลบุตร และได้ปรับท่าเรือดังกล่าวให้กลายเป็นอาคารสำนักงาน และโกดังเก็บสินค้าสำหรับกิจการการค้าด้านการเกษตรของตระกูลหวั่งหลี ที่ขนส่งมาทางแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นที่อยู่อาศัย              ให้เช่าราคากันเองสำหรับพนักงานของตระกูลหวั่งหลี รวมถึงเก็บรักษาศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว (คลองสาน)                 ที่ประดิษฐานอยู่คู่กับท่าเรือ ฮวย จุ่ง ล้ง มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน

สำหรับ “เจ้าแม่หม่าโจ้ว” (คลองสาน) หรือ MAZU ที่ประดิษฐานอยู่คู่ ฮวย จุ่ง ล้ง มีมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน เป็นเจ้าแม่หม่าโจ้วโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ทำจากไม้มี 3 ปาง ได้แก่ ปางเด็กสาว (ปางจุ้ยบ๋วยเนี้ย) ตำนานเล่าว่าท่านชอบปฏิบัติธรรม ในตอนเช้าจะไปเก็บน้ำค้าง มารักษาผู้คน ส่วนปางที่สองคือ ปางผู้ใหญ่ (ปางให่ตั้งหม่า) ให้พรในด้านการค้าขายเงินทอง และปางที่สามคือ ปางเทพ (ปางเทียนโหวเซี่ยบ้อ) ซึ่งเชื่อว่าท่านเป็นเทพประทับอยู่บนสวรรค์ มีเมตตาจิตสูง ซึ่งเจ้าแม่หม่าโจ้ว ทั้ง 3 ปางนี้ เป็นองค์ที่ชาวจีนนำขึ้นเรือเดินทางมาจากเมืองจีน เมื่อมาถึงเมืองไทยจึงอัญเชิญประดิษฐานที่ศาลแห่งนี้ อายุเก่าแก่มากกว่า 167 ปี เวลาคนจีนเดินทางจากโพ้นทะเลมาถึงฝั่งประเทศไทยก็จะมากราบสักการะท่านเพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยคุ้มครองให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ และเมื่อจะเดินทางกลับไปประเทศจีนก็จะมากราบลาเจ้าแม่ที่นี่เช่นกัน “เจ้าแม่หม่าโจ้ว” (คลองสาน) จึงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนจีนในแผ่นดินไทย ซึ่งคนจีนที่ทำการค้าในไทยจนเจริญร่ำรวยเป็นเศรษฐีก็ล้วนก่อร่างสร้างตัวมาจากที่นี่

รูปแบบสถาปัตยกรรม

“ฮวย จุ่ง ล้ง” ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมจีนซึ่งเป็นที่นิยมในสมัยรัชกาลที่ 3 ตัวอาคารก่ออิฐถือปูนพื้นสร้างจากไม้ หลังคาสร้างจากกระเบื้อง เป็นหมู่อาคารแบบ “ซาน เหอ ย่วน” ( ) ซึ่งเป็นการออกแบบวางผังอาคารในแบบจีนโบราณ ลักษณะอาคาร 3 หลังเชื่อมต่อกัน 3 ด้าน เป็นผังรูปทรงตัว U มีพื้นที่ว่างตรงกลางระหว่างอาคารทั้งสามหลังเป็นลานอเนกประสงค์

ตัวอาคารถูกใช้สำหรับหลายวัตถุประสงค์ อาคารด้านในที่ตั้งขนานกับแม่น้ำเป็นอาคารประธานเป็นที่ตั้งของ “ศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว” (คลองสาน) ส่วนอาคารอีก 2 หลังที่ตั้งฉากกับแม่น้ำ ใช้สำหรับเป็นอาคารสำนักงานและโกดังสินค้า ภายหลังมีการสร้างโกดังเพิ่มเติมที่ริมฝั่งแม่น้ำ ต่อจากอาคารทั้ง 2 ข้าง เพื่อรองรับการเก็บสินค้าจำนวนมาก และการเปลี่ยนแปลงของอาคารดั้งเดิมที่กลายเป็นที่อยู่อาศัยของพนักงานหวั่งหลี

ด้วยคุณค่าเชิงประวัติศาสตร์ของ “ฮวย จุ่ง ล้ง” ซึ่งเป็นอาคารหมู่เรือนแถวไม้ที่ออกแบบด้วยการวางผังสถาปัตยกรรม “ซาน เหอ ย่วน” แบบจีนโบราณ เป็นเพียงไม่กี่หลังที่ยังหลงเหลืออยู่บนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา งดงามด้วยจิตรกรรมฝาผนังลวดลายอันเป็นมงคลและภาพวิถีชีวิต ที่เป็นเรื่องราวมาจากนวนิยายจีนโบราณ             เรื่องดัง บนผนังปูนรอบหน้าต่างและประตู ซึ่งมีอายุเก่าแก่มากกว่า 167 ปี “ฮวย จุ่ง ล้ง” จึงถูกยกฐานะ            เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ตามกฎหมายการอนุรักษ์ของประเทศไทย ลูกหลานของตระกูลหวั่งหลี             ผู้เป็นเจ้าของถือครองจึงมีเจตนารมณ์ที่จะรักษามรดกของบรรพบุรุษชิ้นนี้ไว้ให้คงอยู่ตราบนาน โครงการบูรณะท่าเรือ “ฮวย จุ่ง ล้ง” ขึ้น จึงได้ริเริ่มขึ้น

โครงการ “ล้ง 1919” (LHONG 1919) ท่าประวัติศาสตร์ศิลป์ไทย-จีน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่สุดถนนเชียงใหม่ เขตคลองสาน เปิดให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2560 เป็นต้นไป เปิดบริการทุกวัน โซนศาลเจ้าแม่ + Art & Craft Shop (อาร์ต แอนด์ คราฟท์ ช็อป) เปิดเวลา 8.00-20.00 น. Eatery Zone (อีทเธอรี่ โซน) เปิดเวลา 10.00-22.00 น. ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ LHONG 1919 หรือ สอบถามข้อมูลได้ที่ โทร. 091-187-1919

 

Shu x Mario Holiday 2017

Shu x Mario Holiday 2017 คอลเลคชั่นเก็บแต้มสวยน่ารักที่เหล่าบิวตี้เกมเมอร์สาวต้องสะสม

Alternative Textaccount_circle
Shu x Mario Holiday 2017
Shu x Mario Holiday 2017
ใกล้สิ้นปี ทัพเครื่องสำอางแบรนด์ดังหลากหลายแบรนด์ต่างก็ทยอยออกคอลเลคชั่นพิเศษมาให้ได้ฟินไม่ขาดสาย ล่าสุด Shu Uemura ร่วมกับ SUPER MARIO BROS. พิชิตความจืดชืดผจญความสวยด้วยคอลเล็คชั่นมาริโอ้ ภารกิจเก็บแต้มความสวยน่ารักที่เกมเมอร์สาวต้องสะสม ขุมสมบัติแห่งความงามสำหรับเจ้าหญิงพีชทุกคน!

ฉีกกรอบการสร้างสรรค์เมคอัพด้วยความร่วมมือที่แหวกแนว โดยมาริโอ้และตัวละครต่างๆ ถูกทำให้เป็นจุดภาพหรือพิกเซลมาปรากฏบนผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและผลิตภัณฑ์แต่งหน้าสีสันสดใสที่ดูสนุกสนานเพื่อเกมความงามที่สุดยอด มาริโอ้พาสาวๆ สู่การเดินทางอันกล้าหาญ เพื่อช่วยเหลือเจ้าหญิงพีช (Princess Peach) โดยการคุ้มกันเมคอัพอันเป็นสมบัติล้ำค่าของอาณาจักรเห็ด ซึ่งระหว่างทางก็รวบรวมคลีนซิ่งออยล์และเมคอัพสีสันสดใสของชู อูเอมูระ เพื่อต่อสู้กับเบาเซอร์ 555+ ร่ายยาวมาขนาดนี้ สาวๆ น่าจะอยากรู้แล้วว่าคอลเลคชั่นจะน่ารักน่าสอยขนาดไหน ตามมาค่ะ

“แพรวดอทคอม จะพาสาวๆ ไปผจญภัยในโลกแห่งความงามกันค่ะ” 

 

ลิปสติก rouge unlimited sheer shine เนื้อเชียร์วาวใส 2 เฉดสี


ลิปสติก rouge unlimited supreme matter เนื้อแมตต์ไม่แห้ง 5 เฉดสี


ลิปสติก tint in balm เน้นให้ความชุ่มชื่นพร้อมสีสันสดใส 2 เฉดสี


ลิปบาล์ม depsea hydrability moisturizing lip balm


พาเล็ตต์ Peach’s eye and cheek


ไพรเมอร์ทาบริเวณเปลือกตา stage performer eye primer


ดินสอเขียนขอบตา drawing pencil 4 เฉดสี


ที่เขียนคิ้ว brow:comb รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่นนี้ สีเบจอ่อนๆ ทอประกายเหลือบรุ้งแบบไข่มุก


คลีนซิ่งออยล์ ultime8 ทำความสะอาดผิวหน้า พร้อมบำรุงไปในตัวกับน้ำมันจากพืชสมุนไพร 8 ชนิด


ปัดแก้มคุชชั่น fresh cushion blush 2 เฉดสี


 

ที่ดัดขนตา invincible superstar premium curler


ชุดพู่กันและแปรงแต่งหน้ารุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น Peach’s favorite premium brush set


กระเป๋าเมคอัพใส่อุปกรณ์แต่งหน้า dive into adventure makeup box


แถมทริคเมคอัพจากคอลเลคชั่นนี้มาฝากสาว 2 ลุค ลองแต่งตามกันดูนะคะ

แจกกล้วย สละ ลำไย! ชาคริต – แอน วิวาห์โอทอป เรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์

พระเอก ชาคริต แย้มนาม ควงแฟนสาว แอน ภัททิรา จัดพิธีแต่งงานตามธรรมเนียมไทยอย่างเรียบง่าย ที่หาดคุ้งวิมานจ.จันทบุรี โดยของชำร่วยนั้นเป็นผลไม้ชื่อดังของจังหวัดซึ่งนำมาจากสวนของฝ่ายหญิง

(more…)

185 ปี Longines เปิดตำนานอมตะเรือนเวลา งานวิจิตรศิลป์จากสวิตเซอร์แลนด์

“Longines 185th anniversary” เฉลิมฉลองครบรอบ 185 ปีแห่งความภาคภูมิใจ ส่งตรงนาฬิกาโบราณอันเป็นตำนานของ Longines กว่า 29 เรือนจากพิพิธภัณฑ์ลองจินส์มาจัดแสดงในประเทศไทย เพื่อให้ทุกท่านได้ร่วมสัมผัสกับตำนานอมตะของเรือนเวลาที่สั่งสมความงามมาถึง 185 ปี จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ภายในงาน Longines 185th Anniversary นี้นำเสนอประวัติศาสตร์อันยาวนานของ Longines ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1832 ณ เมือง Saint-lmier (แซงติมิเยร์) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แรกเริ่มเดิมที กิจการของ Auguste Agassiz (ออกุสต์ อกาสซีส์) ผู้ก่อตั้ง มีลักษณะเป็นเคาน์เตอร์ (comptoir)  โดยรับประกอบนาฬิกาตามใบสั่ง โดยในเวลานั้น ผู้ผลิตนาฬิกาจะประกอบชิ้นงานหรือผลิตชิ้นส่วนนาฬิกาอยู่ที่บ้าน เมื่อประกอบเสร็จแล้วจึงส่งมอบงานให้กับอกาสซีส์ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1867 Ernest Francillon (แอร์เนสต์ ฟรองซิญง) ผู้เป็นหลานซึ่งเข้ารับช่วงกิจการต่อต้องการผลิตชิ้นส่วนกลไกและทำการประกอบในโรงงานเดียวกันเพื่อให้สามารถประกอบนาฬิกาได้อย่างครบวงจรในจำนวนมากขึ้น จึงได้ตัดสินใจซื้อที่ดินเพิ่มเติมและตั้งโรงงานบนที่ดินหุบเขาริมแม่น้ำที่เรียกกันว่า “Es Longines” (Long Medows) และได้กลายมาเป็นชื่อแบรนด์อย่างเป็นทางการในเวลาต่อมา

ผลงานมากมายที่ออกจากโรงงานแห่งนี้คือนิยามของความคลาสสิก และสะท้อนให้เห็นประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของ Longines ได้เป็นอย่างดี  ดังเช่น ผลงานเก่าแก่หาชมได้ยากจากพิพิธภัณฑ์ซึ่งนำมาจัดแสดงให้ได้ชมอย่างใกล้ชิด โดยจำแนกออกเป็นหัวข้อต่างๆ ดังนี้

  WATCHMAKING – POCKET WATCHES ตั้งแต่ค.ศ. 1832 จนถึงทศวรรษที่ 1930 Longines ผลิตนาฬิกาพกเป็นส่วนใหญ่    โดยในช่วงแรกเน้นนาฬิกาพกที่แข็งแกร่งทนทานสำหรับใช้งานก่อนจะเริ่มผลิตนาฬิกาที่มีกลไกและตัวเรือนขนาดบาง ซึ่งบางรุ่นตกแต่งประดับประดาอย่างงดงามไม่ต่างจากเครื่องประดับอัญมณีเลยทีเดียว นาฬิกาในยุคนี้ที่นำมาจัดแสดงให้ชมมีทั้งสิ้น 3 เรือน คือ นาฬิกาพกที่มีการสลักเสลาและเพนต์ลายภาพทิวทัศน์ลงบนหน้าปัดอย่างวิจิตรบรรจง (ค.ศ. 1892) นาฬิกาพกเทคนิคถมทองเป็นลวดลายดอกไม้        (ค.ศ. 1915) และนาฬิกาพกหน้าปัดสีขาวแสดงเวลา 24 ชั่วโมง (ค.ศ. 1917)

ELEGANCE – WOMEN WATCHES เมื่อโลกเข้าสู่ยุคนาฬิกาข้อมือในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ผลงานของ Longines ก็โดดเด่นไม่แพ้ใคร โดยเฉพาะนาฬิกาข้อมือสำหรับสุภาพสตรี โดยแต่ละเรือนสะท้อนถึงความเรียบง่าย ความสมบูรณ์แบบ และความสง่างามซึ่งถือเป็นหัวใจของแบรนด์ รวมถึงกลไกอันงดงามด้วย ดังเช่นผลงาน 3 รุ่นที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ คือ นาฬิกาตัวเรือนทองทรงตอนโนเรียบๆ ทำงานด้วยกลไกไขลาน (ค.ศ. 1917) นาฬิกาตัวเรือนทองทรงกลม ทำงานด้วยกลไกไขลาน (ค.ศ. 1959) และนาฬิกาตัวเรือนทรงเหลี่ยมสไตล์อาร์ตเดโคฝังเพชร ทำงานด้วยกลไกไขลาน ( ค.ศ.1931) ทั้งสามเรือนนี้ล้วนสะท้อนถึงความงามอันไร้กาลเวลาของนาฬิกา Longines ได้เป็นอย่างดี

FLAGSHIP อีกหนึ่งคอลเลกชั่นนาฬิกาข้อมือที่เป็นไฮไลท์ของ Longines และมีประวัติศาสตร์ยาวนานก็คือ Flagship ซึ่งออกแบบขึ้นในช่วงปลายปีค.ศ. 1956 จดลิขสิทธิ์ชื่อและวางจำหน่ายในปีค.ศ. 1957 เหตุที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะในยุคแรกๆ ฝาหลังตัวเรือนมีการแกะสลักหรือแสตมป์ภาพเรือธงซึ่งทำหน้าที่บังคับบัญชากองเรือ (Flagship) คอลเลกชั่นนี้สะท้อนถึงความความสง่างามคลาสสิกแบบนาฬิกาเดรส และได้รับความนิยมมาจนถึงยุคปัจจุบัน โดยในนิทรรศการนี้ ได้มีการนำผลงานในตระกูล Flagship มาจัดแสดงถึง 3 เรือนด้วยกัน คือ รุ่นตัวเรือนทองทรงกลมหน้าปัดสีน้ำเงิน ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ (ค.ศ. 1963) รุ่นตัวเรือนสตีลทรงกลม หน้าปัดขาว ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ       (ค.ศ. 1960) และรุ่นตัวเรือนสตีลทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ทำงานด้วยกลไกไขลาน (ค.ศ. 1972)

 PIONEERS & AVIATION  หากพูดถึง Longines แล้ว ไม่กล่าวถึงจิตวิญญาณของนักบุกเบิกและโลกการบินก็คงจะไม่ได้ ด้วยประสิทธิภาพความแม่นยำและการพัฒนานวัตกรรมกลไกใหม่อยู่เสมอ ทำให้นาฬิกาของ Longines เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักบุกเบิกและนักผจญภัยซึ่งออกเดินทางไปสำรวจโลกในช่วงครึ่งแรกศตวรรษที่ 20 โดย Longines ได้พัฒนานาฬิกาที่ช่วยคำนวณตำแหน่งและพิกัดการเดินทางได้อย่างแม่นยำไม่ว่าจะเป็นการเดินทางทางอากาศหรือทางทะเล ดังเช่นผลงานที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ ซึ่งมีทั้งนาฬิกาแสดงพิกัดทางอากาศ ผลิตจากอะลูมิเนียมทำงานด้วยกลไกไขลานรวมสองรุ่น (ค.ศ. 1933 และ 1939)  และนาฬิกามารีนโครโนมิเตอร์สำหรับเรือเดินสมุทร ทำหน้าที่แสดงเส้นลองติจูด (ค.ศ.1918) โดยตัวนาฬิกาติดตั้งอยู่บนฐานวงแหวนซึ่งทำหน้าที่ล็อกให้นาฬิกาอยู่ในแนวระนาบ และบรรจุอยู่ในกล่องไม้

 WRIST-CHRONOGRAPHS  อีกหนึ่งหัวข้อประวัติศาสตร์อันโดดเด่น คือสายสัมพันธ์แนบแน่นระหว่าง Longines กับโลกกีฬา    ดังจะเห็นได้จากการให้ความสำคัญกับการพัฒนานาฬิกาจับเวลา นับตั้งแต่ผลิตนาฬิกาพกโครโนกราฟเมื่อปีค.ศ.1878  การพัฒนาคาลิเบอร์  13.33Z (ค.ศ. 1913) ซึ่งเป็นกลไกโครโนกราฟรุ่นแรกของแบรนด์ที่ออกแบบมาเพื่อนาฬิกาข้อมือ รวมทั้งการพัฒนานาฬิกาโครโนกราฟเปี่ยมประสิทธิภาพรุ่นต่างๆมากมายจนเป็นที่นิยมทั้งในวงการกีฬาอาชีพและมือสมัครเล่น ดังเช่น นาฬิกาข้อมือโครโนกราฟทั้ง  2 เรือนที่จัดแสดงในครั้งนี้ นั่นคือ นาฬิกาข้อมือโครโนกราฟ คาลิเบอร์ 13.33Z (ค.ศ. 1930) และนาฬิกาข้อมือโครโนกราฟ คาลิเบอร์ 12.68Z  (ค.ศ. 1946)

COUNTERS ส่วนนาฬิกากดจับเวลาในวงการกีฬาอาชีพก็ถือเป็นความโดดเด่นของ Longines เช่นกัน โดยในปี ค.ศ. 1939 Longines ได้เปิดตัวกลไกคาลิเบอร์ใหม่ที่ออกแบบเพื่อการจับเวลาในวงการกีฬาโดยเฉพาะ กลไกใหม่นี้ซึ่งรวมถึงคาลิเบอร์ 260 ซึ่งใช้เทคโนโลยีทันสมัยที่สุดที่ช่วยให้สามารถอ่านค่าเวลาได้ง่ายขึ้น ทั้งยังตอบสนองความต้องการด้านการจับเวลาที่แม่นยำและละเอียด     สำหรับการแข่งขันกีฬาแบบมืออาชีพ

QUARTZ นอกจากนาฬิกาจักรกลแล้ว ในนิทรรศการนี้ ยังได้จัดแสดงนาฬิกาควอตซ์ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญที่เปลี่ยนโฉมหน้าของโลกนาฬิกาในยุค 1970s หนึ่งในนั้นคือ นาฬิกาตั้งโต๊ะไม้มะฮอกกานี ทำงานด้วยเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ควอตซ์ คาลิเบอร์ 800 ซึ่งพัฒนาขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1965 ที่เที่ยงตรงกว่านาฬิกาจักรกลใดๆ และคาลิเบอร์ 6512 หรือที่เรียกกันว่า Ultra-Quartz สำหรับนาฬิกาข้อมือซึ่งพัฒนาขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1969 การให้ความสำคัญกับการวิจัยพัฒนาของ Longines ได้นำไปสู่การพัฒนาผลงานรุ่นใหม่ๆที่ทันสมัย แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาคุณภาพการผลิตและความคลาสสิกที่ยากหาแบรนด์ใดเหมือน โดยยังคงความหรูหรา มีรสนิยม และตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าเป็นอย่างดี

 

นอกจากนิทรรศการนาฬิกาโบราณอันเป็นตำนานของ Longines แล้ว ภายในงานยังถูกเนรมิตเป็นค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองอย่างสวยงามตระการตา โดยมีแฟชั่นโชว์สุดอลังการจากนางเอกสาวคนดัง ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ ควงคู่หนุ่มฮอต ฟิลลิปส์-ณัทธนพล ทินโรจน์ (The Face Men Thailand) มาถ่ายทอดความงดงามแห่งเรือนเวลา

พบกับบทพิสูจน์ตำนานอมตะ 185 ปีของนาฬิกา Longines ได้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป และ www.facebook.com/LonginesThailand

ช่วยน้องรับการผ่าตัดฟรี “ศรีริต้า-ออม สุชาร์” จิตอาสาช่วยเหลือเด็กปากแหว่งเพดานโหว่

เพราะรอยยิ้มเป็นสิ่งที่ทำให้โลกใบนี้สดใส และการเข้าช่วยเหลือน้องๆ ปากแหว่งเพดานโหว่ ให้ได้รับโอกาสที่ดีในการผ่าตัดรักษาเพื่อสร้างรอยยิ้มให้น้องๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม (Operation Smile Thailand) ดำเนินการมาถึงทุกวันนี้

สองสาวคนดังผู้เป็นเจ้าของรอยยิ้มสวย ศรีริต้า เจนเซ่น และ ออม-สุชาร์ มานะยิ่ง ก็ขอเป็นส่วนหนึ่งเล็กๆ เข้ามาเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือน้องๆ ปากแหว่งเพดานโหว่ให้ได้รับการผ่าตัด โดยสาวริต้าเผยว่า เธอได้ออกหน่วยช่วยเหลือการผ่าตัดรักษาน้องๆ ปากแหว่งเพดานโหว่กับมูลนิธิสร้างรอยยิ้มที่โรงพยาบาลแม่สอด ส่วนสาวร่างเล็ก ออม-สุชาร์ ได้เผยว่า ได้นำของเล่นที่มีคนนำมาบริจาคมาให้น้องๆ เล่น ซึ่งเธอเองก็ได้เล่นกับน้องๆ ด้วย เพื่อให้น้องได้รู้สึกผ่อนคลายระหว่างรอผ่าตัด โดยใบหน้าน้องๆ ต่างสดใสกันมากทีเดียว

สำหรับโครงการ มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ.2540 โดยมีทีมแพทย์นานาชาติอาสาสมัครเข้ามาช่วยผ่าตัด ปัจจุบันก็ยังมีการรับทีมแพทย์อาสาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นด้าน วิสัญญีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับชีวิตเด็ก ทันตแพทย์ นักโสตนาสิกลาริงว์วิทยา (ผู้เชี่ยวชาญหู จมูก และคอ) ศัลยแพทย์พลาสติก เจ้าหน้าที่บำบัดรักษาเกี่ยวกับการพูด เป็นต้น หรือใครที่อยากจะเป็นอาสาสมัครชุมชนอย่าง สาวศรีริต้า หรือสาวออม ก็เปิดรับเช่นกัน หรืออีกทางหนึ่งก็สามารถร่วมบริจาคสมทบทุนสร้างรอยยิ้มกับมูลนิธิสร้างรอยยิ้มได้ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารีย์ บัญชีเลขที่ 127-435422-2

การดำเนินการรักษายังคงมีต่อเนื่องมาเรื่อยๆ และไม่ใช่เพียงรักษาน้องๆ ปากแหว่งเพดานโหว่ที่ไทยเท่านั้น แต่ยังขยายไปยังประเทศลาว พม่า ซึ่งปัจจุบันน้องๆ หลักหมื่นคนได้รับการช่วยเหลือผ่าตัดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นับว่าเป็นการแบ่งปันรอยยิ้มที่ทำให้โลกของเราสดใสขึ้นได้มากจริงๆ

 

 

 

 

 


เรื่อง: บะหมี่กุ๊งกิ๊ง_แพรวดอทคอม
ข้อมูลบางส่วน: www.operationsmile.or.th
ภาพ: IG @sriritajensen @aom_sushar

มารีญา เหินฟ้าสู่ลาสเวกัส หมายมั่นปั้นมือมงกุฎสาวงามแห่งจักรวาล

กองเชียร์ชาวไทยแห่ส่ง มารีญา พูลเลิศลาภ ล้นสนามบินสุวรรณภูมิ หลังเตรียมตัวไปประกวดMiss Universe Thailand 2017 รอบตัดสิน ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา

มารีญา และ คุณแม่

เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 60 ที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 ออกเดินทางจากประเทศไทย สู่ลาสเวกัส รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ เที่ยวบิน JL 708 ออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเวลา 08.15 น. โดยมี ชิชญาสุ์ กรรณสูต ผู้จัดการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ คุณแม่ชนกสรวง พูลเลิศลาภ พร้อมเหล่าแฟนคลับมาส่งและให้กำลังใจกันอย่างคึกคัก

กองเชียร์ชาวไทยมาให้กำลังใจล้นสนามบินสุวรรณภูมิ

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเวลา 05.30 น. ในชุดเดินทางทรงออกแบบที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณประทานจาก พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เป็นชุดสูทกางเกงสีดำ พร้อมรองเท้า และพาสปอร์ตแจ็คเก็ต แบรนด์ SIRIVANNAVARI ส่วนกระเป๋าถือจากพญา (Phya)  ซึ่งจัดทำขึ้นโดยพิเศษจากอุสรา (Ausara) และเป็นลิมิเต็ดอิดิชั่นที่จัดทำเพื่อการเดินทางของมารีญาในวันนี้

มารีญา พร้อมออกเดินทางไปลาสเวกัส

ถือเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดของมารีญา ที่ได้สวมชุดของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ซึ่งมีความสวยงามมาก แสดงออกถึงความเป็นไทย และมีความเท่ เชื่อว่าต่างชาติจะต้องตื่นตากับชุดที่พระองค์หญิงทรงออกแบบประทานให้ทั้ง 3 ชุด นอกจากนี้ยังมีชุดไทยจากแบรนด์อื่นๆ ที่มารีญาตั้งใจไว้ว่าอยากจะนำชุดไทยไปโชว์ความงามให้ชาวต่างชาติรู้จัก

ถ่ายภาพร่วมกับแฟนนางงาม

มารีญา มีกำหนดต้องรายงานตัวต่อกองประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 ในวันที่ 11 พ.ย. จากนั้นร่วมกิจกรรมเก็บตัวของกองประกวด ร่วมกับสาวงามกว่า 100 ประเทศทั่วโลก สำหรับการประกวดรอบชุดประจำชาติจะมีขึ้นในวันที่ 18 พ.ย. การประกวดรอบพรีลิมมินารีในวันที่ 20 พ.ย. และการประกวดรอบตัดสินในวันที่ 27 พ.ย. (ตามเวลาประเทศไทย) โดยสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ถ่ายทอดการประกวดรอบตัดสินจากแพลเน็ทฮอลลีวู้ด เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ทางช่อง 3 SD ช่อง 28 เวลา 07.00-10.00 น. แพร่ภาพอีกครั้งทางช่อง 3 ออริจินัลและช่อง 3 HD ช่อง 33 เวลา 23.15 น. หลังรายการข่าว 3 มิติ โดยมี อลิซาเบธ แซดเลอร์ ลีลานุไชย และสุผจญ กลิ่นสุวรรณ บรรยายสด

การประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 เป็นการประกวดสาวงามระดับโลกครั้งที่ 66 นับตั้งแต่ก่อตั้งองค์กรมิสยูนิเวิร์ส (MOU) ในปี ค.ศ. 1952 และเป็นการจัดประกวดครั้งที่ 3 ภายใต้ผู้บริหารใหม่คือ บริษัท WME/IMG ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจด้านกีฬา บันเทิง และแวดวงแฟชั่น ซึ่งมีบริษัทในเครือและสาขาอยู่ 25 ประเทศทั่วโลก

ชุดเดินทางทรงออกแบบที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณประทานจาก พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เป็นชุดสูทกางเกงสีดำ พร้อมรองเท้า และพาสปอร์ตแจ็กแก็ต แบรนด์ SIRIVANNAVARI

ร่วมเป็นกำลังใจให้กับ มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 สาวงามจากประเทศไทย ในการสู้ศึกบนเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017    และร่วมลุ้นรางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม “เมขลาล่อแก้ว” ชุดที่สาวงามจากประเทศไทยจะได้ประกาศให้โลกรู้ถึงความรุ่งเรืองทางวัฒนธรรม ความประณีตวิจิตรบรรจงของงานดีไซน์และช่างศิลป์ไทย ที่ไม่มีที่ใดในโลกเสมอเหมือน

ความวิ้งกระแทกตา! ส่องรองเท้าสุดเลอค่า ราคาหลักแสนของ “เคนดัลล์ เจนเนอร์”

วาววับ ระยิบระยับแยงตามากค่าาา สำหรับรองเท้าคู่โปรดล่าสุดของสาวเคนดัลล์ เจนเนอร์ โมเดลระดับท็อปของโลก งานนี้บู๊ตคู่ใจทำให้ลุคตัวแม่เด่นมาแต่ไกล เพราะความเล่นแสง ความวิ้ง ความวิบวับของเจ้ารองเท้าบู๊ต ใครไม่เห็นก็ให้รู้ไปสิ และด้วยความอลังของรองเท้าคู่นี้ก็ไม่น่าแปลกที่ราคาจะฟาดไปสามแสนกว่าบาท 

เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2560 ที่ผ่านมา เป็นวันเกิดของสาวเคนดัลล์ ปีนี้เธออายุครบ 22 ปีแล้ว และความสวยสะพรั่งยังคงเบ่งบานอย่างต่อเนื่อง ไม่มีทีท่าว่าความฮ็อตปรอทแตกในตัวจะลดน้อยลงเลย สำหรับงานวันเกิดในครั้งนี้ก็มีครอบครัวคาร์เดเชียนและเจนเนอร์เข้าร่วมฉลองพร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างอบอุ่น และจากภาพที่ปาปารัสซี่แชะได้ สาวเคนดัลล์มาในลุคเบาๆ เสื้อกล้ามครอปอวดความเอวเอสและกางเกงยีนส์ แต่ที่จัดเต็มและเล่นใหญ่ก็รองเท้าบู๊ตสูงที่มีความระยิบยับเข้าตาแบบจังๆ กระแทกเข้าอย่างแรง เรียกว่าเห็นรองเท้ามาก่อนเลย เลิศไปอีก

 

1

ดูเหมือนจะเป็นบู๊ตลูกรักไปแล้ว เพราะหลังจากวันเกิด วันต่อมา 4 พ.ย. 2560 นางฟ้าวิกตอเรียซีเคร็ท ก็สวมรองเท้าคู่นี้ไปชมการแข่งขันบาสเก็ตบอลในลอสแองเจลิสด้วยจ้า ซึ่งรองเท้าบู๊ตสุดโปรดมาจากแบรนด์ Yves Saint Laurent ราคา £7,500 หรือประมาณ 326,423 บาท ราคานี้คงไม่กระทบกระเทือนนางแบบดังอยู่แล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสาวเคลดัลล์ใส่แล้วออกมาดูดีมากกกก สวยเลิศ คูลจริงไรจริง

1

 

 


 

เรื่อง : Hana_แพรวดอทคอม (ฮานะ)

ภาพ : Twitter@GirlsGoneWildTH

 

‘อุ๊ต๊ะ!!! ใครหนอที่ได้เจอ ป๋าคนนี้นั้นมีแต่ให้’ เช็คเลย ดวงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2560

ดูดวงรายวัน ประจำวันพุธที่ 8 พฤศจิกายน 2560 เช็คทุกวัน ทันทุกดวงกับ แพรว ดอทคอม

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  งานจะประสบความสำเร็จด้วยดี ที่เคยขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงานหรือเจ้านายก็จะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น รวมทั้งผู้ใหญ่ก็ให้การสนับสนุนส่งเสริม

การเงิน :  เพลาๆ การลงทุนกับช่วยเหลือผู้อื่นบ้าง

ความรัก : วันนี้ท่านอาจเกิดความขัดแย้งกันเรื่องลูกหลาน หรือลูกหลานทำตัวเดือดร้อน จนต้องมีผู้ใหญ่เข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย คนโสด อาจต้องเลือกระหว่างผู้ใหญ่ หรือเด็กนะคะ

สุขภาพ :  ระวังอาจมีปัญหาเรื่องการแท้งบุตร หรือศัลยกรรมเป็นพิษ

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : เครียดหน่อยนะคะวันนี้ เพราะท่านมีเกณฑ์จะเป็นคดีความ ขึ้นโรงขึ้นศาล อย่าใช้กำลังในการตัดสินปัญหา และควรหลีกเลี่ยงงานที่เกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมายหรืออบายมุข

การเงิน  : เสียเหงื่อจึงได้มา ไม่มีโชคจากการเสี่ยง

ความรัก :  วันนี้เหมือนท่านกำลังชั่งใจเลือกระหว่างครอบครัวกับงาน หรือจะอยู่ด้วยกันต่อหรือแยกกัน เพราะยังอยากเที่ยว ไม่พร้อมรับผิดชอบชีวิตใคร คนโสด คนที่ชอบอาจไม่ได้มีท่านคนเดียว

สุขภาพ : อย่ากลั้นปัสสาวะ เพราะจะมีปัญหาเรื่องกรวยไต อาจมีเกณฑ์ผ่าตัด

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  : งานจะมีการเปลี่ยนแปลง ท่านต้องพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ เพื่อรับมือกับการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

การเงิน : จะได้โชคลาภแบบฟลุ๊คๆ เช่น ได้มรดก ได้ที่ดิน

ความรัก :  สั้นๆ ค่ะ ราบรื่น มีความสุข คนโสด มีคนเข้ามาทำความรู้จักมากมาย ระวังจะเจอประเภทป๋าคนนี้นั้นมีแต่ให้นะคะ

สุขภาพ : ระวังมีปัญหาตั้งแต่ทอนซิลอักเสบ หลอดลมอักเสบ จนถึงระบบย่อยอาหาร

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  : หากท่านทำงานเกี่ยวกับการก่อสร้าง งานช่าง งานฝีมือ จะมีปัญหาขัดแย้งกับผู้ร่วมงาน มีความคิดเห็นต่างกัน ซึ่งท่านอาจเอาแต่ใจ เพราะฉะนั้นควรแยกทำคนเดียวดีกว่า

การเงิน : หากกำลังรอเงิน มีเกณฑ์ว่ายังไม่ได้ในเร็ววันนี้

ความรัก : ท่านกำลังมีโครงการที่จะก่อสร้างบ้าน หรือตกแต่ง แต่ยังตัดสินใจกันไม่ได้ อาจมีเรื่องเด็ก ลูกหลาน เข้ามาเกี่ยวข้อง คนโสด ท่านจะมีโครงการแต่งงานเร็วกว่าที่คิด

สุขภาพ : ระวังภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด หรือประสบอุบัติเหตุในการทำงาน

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน :  ท่านกำลังรอคอยทีมงานหรือหุ้นส่วนที่มีความรู้ เพื่อมาริเริ่มโครงการใหม่ด้วยกัน อาจเกี่ยวกับที่พักอาศัย หรืออสังหาริมทรัพย์ อย่าเชื่อมั่นในตัวเองสูงมากจะทำให้เลือกคนผิดได้ หรือมองธุรกิจผิด

การเงิน :  อย่าไว้ใจหรือให้ความช่วยเหลือคนอื่นมาก เพราะท่านจะเดือดร้อน

ความรัก : วันนี้ความรักความสัมพันธ์คือการเติมเต็มและช่วยเหลือกันและกัน ช่วยกันทำมาหากินสร้างหลักฐาน คนโสด เจ้าชู้ แต่เลือกที่จะเป็นโสดก่อนค่ะ

สุขภาพ : ระวังเรื่องการย่อยอาหารแปรปรวน โรคกระเพาะ และลำไส้

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : วันนี้ให้ระวังเพื่อนร่วมงาน หรือคนใกล้ชิดจะไม่จริงใจ แอบเลื่อยขาเก้าอี้ท่านอยู่ ควรยึดหลักความเมตตาเพื่อให้สถานการณ์ที่กำลังคุกรุ่น เบาลง

การเงิน : มีปากเสียงเรื่องการหยิบยืมเงิน หรือท่านจับได้ว่า ถูกเพื่อนโกง

ความรัก :  วันนี้อาจมีปากเสียงกัน เพราะคู่ท่านมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ ควรใช้เหตุผลคุยกัน ใจเย็นๆ คนโสด  จะรักหรือชอบใครให้คิดเยอะๆ อาจเกิดรัก 3 เศร้าได้

สุขภาพ  :  ระวังเกิดบาดแผลจากของมีคม หรือมีเกณฑ์ผ่าตัด

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน :  ท่านจะรู้สึกร้อนรุ่มอึดอัด จากที่ผู้ใหญ่ให้ความเมตตาเอ็นดู เพื่อนร่วมงานก็ให้ความช่วยเหลือกลายเป็นเปลี่ยนไป จนท่านอาจถึงกับอยากเปลี่ยนงานเลยทีเดียว ใจเย็นๆ ก่อนค่ะ

การเงิน : ได้เงินมาแบบร้อนๆ หรือเป็นร้อนที่ไม่ค่อยถูกต้องนัก

ความรัก :  วันนี้อย่าใจร้อนกันนะคะ ค่อยๆ คุยกัน หากตัดสินไม่ได้ก็ขอร้องให้ผู้ใหญ่มาไกล่เกลี่ย คนโสด ท่านจะเจอคนเจ้าชู้ ปากหวาน อาจอยู่กันก่อนแต่ง

สุขภาพ : ระวังอย่าดื่มหรือสูบหนัก จะเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยแบบกระทันหัน

Sweet Bijoux เครื่องประดับน่าใส่ตาม ถ้าอยากให้งานแต่งงานมีความปัง!!

account_circle

แพรว wedding จัดมาให้เต็มๆ กับเครื่องประดับเพชรสวยมากจากร้านเพชร Sui Hua ที่ไม่ได้มาแค่เพชรบนตัวเรือนทองคำขาว แต่มาพร้อมตัวเรือนทองชมพูสุดอินเทรนด์ และบอกตรงนี้เลยว่า ไม่ว่าคุณจะเลิฟเครื่องประดับทรงไหน จะทรงกลมสุดคลาสิค หยดน้ำแฝงความหวาน หรือเป็นแนวสาวมั่นด้วยทรงเหลี่ยม แฟชั่นชุดนี้ตอบโจทย์ครบและให้ไอเดียแบบเต็มๆ ค่ะ

Sui Hua Diamond ถนนเจริญกรุง 8 โทร. 0-2221-7229, 0-2222-8641 เฟซบุ๊ก : SUI HUA Diamond ไอจี : @suihuadiamond ไลน์ : @suihuadiamond

OSCAR DE LA RENTA ชุดเจ้าสาวแห่งความหรูหราละเอียดอ่อน

account_circle

คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ 2017 จาก OSCAR DE LA RENTA ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์มีความต้องการชุดที่ดูเป็นผู้หญิง มีความสดใส จึงออกแบบชุดที่มีการตกแต่งอย่างละเอียดอ่อนและหรูหรา อีกทั้งทางแบรนด์ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบชุดเกาะอกด้วยการผสมผสานความสวยงามของลูกไม้เลื่อม และลูกปัดที่ถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่าย ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่แหละคือความน่ารักของวัยสาวจริงๆ

OSCAR DE LA RENTA
OSCAR DE LA RENTA
OSCAR DE LA RENTA
OSCAR DE LA RENTA
OSCAR DE LA RENTA
OSCAR DE LA RENTA
OSCAR DE LA RENTA
OSCAR DE LA RENTA
OSCAR DE LA RENTA
OSCAR DE LA RENTA

 

เรียบเรียงข้อมลูจาก : www.theknot.com

ขอบคุณรูปภาพจาก : wwd.com, www.theknot.com

keyboard_arrow_up