การพักผ่อนเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกคน และไม่มีอะไรเทียบได้กับความรู้สึกของวันหยุดที่เราได้ออกออฟฟิศไปสำรวจสถานที่ใหม่ ๆ หรือกลับไปที่ที่เราชื่นชอบอีกครั้ง ไม่ว่าใช้เวลาในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือช่วงวันหยุดยาว ทุกคนควรได้เพลิดเพลินไปกับสภาพแวดล้อมและประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อผ่อนคลายจากความเหน็ดเหนื่อยของปีที่ผ่านมา

IHG Hotels & Resorts มอบประสบการณ์ที่หลากหลายในโรงแรมต่าง ๆ ทั่วภูมิภาค ตั้งแต่ความคึกคักของเมืองใหญ่ในเอเชียจนถึงความงามของชายหาด โดยเราได้คัดสรรสถานที่ที่น่าสนใจทั่วเอเชียมาให้คุณได้ติดตามและวางแผนการเดินทางครั้งต่อไป ด้วยเที่ยวบินเพียงเที่ยวเดียวจากกรุงเทพฯ คุณสามารถเดินทางไปยัง 5 จุดหมายปลายทางเหล่านี้ได้ในเวลาอันสั้น

ชิบูย่าย่านที่เต็มไปด้วยสไตล์
โรงแรมอินดิโก้โตเกียวชิบูย่า

จากหน้าต่างของโรงแรมอินดิโก้ โตเกียว ชิบูย่า คุณจะได้ชื่นชมวิวทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิ ที่โดดเด่นและสวยงาม พร้อมกับทิวทัศน์แบบพาโนรามาที่กว้างขวางมากกว่า 100 กิโลเมตร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังได้สัมผัสกับศิลปะและวัฒนธรรมของย่าน “ชิบูย่า” ที่สร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และถือเป็นการเฉลิมฉลองความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่ยกระดับศิลปะของย่านนี้ไปสู่อีกขั้น

คุณจะได้สัมผัสกับการออกแบบที่สร้างสรรค์และดนตรีที่ถูกคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะในห้องอาหารและบาร์ของหอศิลป์บนชั้น 11 ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากถนนที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยศิลปะของละแวกใกล้เคียง ที่นี่คุณจะได้ลิ้มลองอาหารเมดิเตอร์เรเนียนที่ผสมผสานกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างลงตัว และยังสามารถเดินออกไปที่ระเบียงเพื่อชมทิวทัศน์ที่สวยงามของย่านชิบูย่าที่มีความคึกคักและเปลี่ยนแปลงไปในทุกชั่วโมง

เสน่ห์ของกรุงโซล
Voco โซลกังนัม

voco โซล กังนัม ตั้งอยู่ใจกลางย่านกังนัมที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ใกล้กับคาเฟ่สุดแนวและร้านบูติกสุดหรูในกาโรซูกิล และถนนอัพกูจอง โรดิโอ และยังมีการเชื่อมต่อทางการคมนาคมที่สะดวกสบาย ทำให้การเดินทางปสู่ศูนย์การประชุม COEX และสวนสนุกลอตเต้เวิลด์เป็นเรื่องง่าย ห้องพักที่นี่ถูกออกแบบอย่างประณีตพร้อมห้องครัวส่วนกลางและเครื่องซักผ้าที่ให้บริการตนเองตลอด 24 ชั่วโมง การเข้าพักจะทำให้คุณรู้สึกประทับใจและสะดวกสบายเหมือนอยู่ที่บ้านของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางเพื่อการพักผ่อนหรือธุรกิจ

สำหรับใครที่ต้องการความผ่อนคลาย ที่นี่มีห้องพักที่มาพร้อมอ่างอาบน้ำและวิวที่สวยงามของเส้นขอบฟ้ากังนัม คุณยังสามารถสัมผัสประสบการณ์ในห้องอาบน้ำฮิโนกิ ซึ่งมีออนเซ็นเพื่อการผ่อนคลายและฟื้นฟูจากความเหนื่อยล้าหลังจากการสำรวจเมือง

ริเวียร่าแห่งเวียดนาม
ฮอลิเดย์อินน์รีสอร์ตโฮจัมบีช

ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ต โฮจัม บีช ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งของเมืองโฮจัมที่มีชื่อเสียงด้านความบันเทิงของเวียดนาม มอบความสดใส สนุกสนาน และความหรูหราในห้องพักและห้องสวีทจำนวน 502 ห้องภายในคอมเพล็กซ์ “เดอะ แกรนด์ โฮจัม สตริป” ซึ่งที่นี่คุณสามารถชื่นชมวิวทะเลแบบพาโนรามา ชายหาดที่สงบและยังสามารถพบกับกิจกรรมที่หลากหลาย นอกจากนี้ ยังมีสนามกอล์ฟระดับโลก คาสิโน สปา ร้านอาหารชั้นเลิศและการแสดงสุดพิเศษให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายที่เดอะ แกรนด์ โฮจัม สตริป

ห้องพักที่นี่ถูกออกแบบมาให้เต็มไปด้วยความสว่างและความโปร่งสบาย มีให้เลือกทั้งวิวทะเลตะวันออกและวิวป่า คุณสามารถเลือกจากห้องเตียงคิงไซส์ ห้องเตียงแฝด หรือห้องคาบาน่า โดยทุกห้องมีโทรทัศน์ขนาด 50 นิ้ว นอกจากนี้ ห้องสวีทยังมีพื้นที่นั่งเล่นและคาบาน่ากลางแจ้งที่เป็นจุดเด่นและดึงดูดใจ

สวิงเข้าสู่สิงคโปร์อย่างมีสไตล์
โรงแรมอินดิโก้สิงคโปร์กาตง 

โรงแรมอินดิโก้ สิงคโปร์ กาตง มอบประสบการณ์การอยู่อาศัยแบบคนท้องถิ่น โรงแรมบูติกแห่งนี้ตั้งอยู่ที่พื้นที่ของอดีตสถานีตํารวจสาขาจูเชียต ซึ่งมีการผสมผสานของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่กับเสน่ห์อันคลาสสิกและการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมเปอรานากัน ที่ปรากฏตั้งแต่ภาพจิตรกรรมฝาผนังไปจนถึงกระเบื้องภายในห้องพัก 131 ห้อง โดยทุกองค์ประกอบต่างสะท้อนถึงวัฒนธรรมของย่านนี้อย่างมีความเคารพ

ผ่อนคลายในสระว่ายน้ำอินฟินิตี้บนชั้นดาดฟ้าของโรงแรม ที่นี่คุณจะได้ชมวิวมรดกของสิงคโปร์ในย่านกาตง ท่ามกลางบรรยากาศแสนโรแมนติกขณะพระอาทิตย์ตกดิน ย่านกาตงไม่เพียงแต่เป็นย่านที่มีชีวิตชีวาเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ตั้งของอาคารอนุรักษ์มากมายและเป็นแหล่งของอาหารที่คนท้องถิ่นชื่นชอบ

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด อย่าง มาริน่า เบย์, คลาร์ก คีย์ และสิงคโปร์ ฟลายเออร์ เข้ากันได้อย่างลงตัวกับสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมมากมาย และเมื่อคุณเข้าพักที่โรงแรมอินดิโก้ สิงคโปร์ กาตง คุณจะได้สัมผัสถึงประสบการณ์ที่แท้จริงของความเป็นสิงคโปร์ที่ล้อมรอบคุณ

ความงดงามของบาหลี
อินเตอร์คอนติเนนทัลบาหลีรีสอร์ต

อินเตอร์คอนติเนนทัล บาหลี รีสอร์ต ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนเขตร้อนเขียวชอุ่มและหาดทรายสีขาว ที่นี่คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศที่เงียบสงบของหมู่บ้านบาหลี ในฐานะหนึ่งในรีสอร์ตริมชายหาดที่มีชื่อเสียงและยั่งยืนที่สุดในอ่าวจิมบารัน ที่พักหรูระดับห้าดาวแห่งนี้เป็นแห่งแรกที่สร้างบนชายฝั่งอันงดงามของอ่าว พร้อมมอบวิวพระอาทิตย์ตกดินที่งดงามและน่าประทับใจ

รีสอร์ตแห่งนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสำหรับการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของบาหลี รวมถึงที่ราบสูงของอูบุดใจกลางเมือง ชายหาดโต้คลื่นที่บูกิตตอนใต้ กูตา และเซมินยัก นอกจากนี้ ที่คุณสามารถผ่อนคลายในห้องพักหรูหราของโรงแรมกว่า 425 ห้อง โดยห้องสวีทและวิลล่าส่วนตัวได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามใน 6 โซนที่แตกต่างกันที่มอบประสบการณ์ที่ผสานความสะดวกสบายทันสมัยกับองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมบาหลีแบบดั้งเดิม

ครอบครัวที่เดินทางมาพร้อมเด็ก ๆ จะได้สัมผัสบริการที่เอาใจใส่ที่คลับเด็ก Planet Trekkers ซึ่งเด็ก ๆ อายุระหว่าง 4-12 ปีสามารถเพลิดเพลินและสนุกสนานไปกับกิจกรรมทั้งในร่มและกลางแจ้ง นอกจากนี้ ยังมีทัวร์ปั่นจักรยานในยามเช้าที่จิมบารัน เพื่อให้คุณได้สำรวจพื้นที่ท้องถิ่น หรือหากต้องการความผ่อนคลาย คุณสามารถเข้าร่วมกิจกรรมโยคะริมทะเลเพื่อการฟื้นฟูและรีเซ็ต

ถึงเวลาที่คุณจะวางแผนและเลือกสถานที่พักผ่อนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ หากต้องการแรงบันดาลใจเพิ่มเติมสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศจาก IHG Hotels & Resorts คุณสามารถเข้าดูห้องพักได้ที่เว็บไซต์ www.ihg.com หรือเยี่ยมชมผ่านแอป IHG One Rewards เพื่อค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม

Hotel Indigo ภายใต้พอร์ตโฟลิโอ Luxury & Lifestyle ของ IHG เปิดตัวแคมเปญที่ให้ผู้เข้าพักสามารถ “หยิบยืม” สิ่งของจำเป็นประจําวันได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายระหว่างการเข้าพัก ภายใต้โปรแกรมที่มีชื่อว่า ‘Borrowed by Hotel Indigo’ ซึ่งเป็นการต่อยอดจากแคมเปญการตลาด ‘The World’s Neighbourhood Hotel’ ซึ่งเป็นแคมเปญที่ใหญ่ที่สุดของแบรนด์ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมกับชุมชน 

จากการสํารวจทั่วโลก* โดย Hotel Indigo พบว่า 73% ของผู้ตอบแบบสำรวจให้ความสำคัญกับโรงแรมที่มีความเชื่อมโยงกับย่านท้องถิ่น เนื่องจากสามารถกระตุ้นนักเดินทางให้ออกไปผจญภัยและเรียนรู้สิ่งใหม่มากขึ้น  ทั้งยังเปิดโอกาสในการพบปะกับผู้คนที่หลากหลายยิ่งขึ้น Hotel Indigo ในฐานะ ‘The World’s Neighbourhood Hotel’ ประกาศเชิญชวนผู้เข้าพักตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ในเมืองต่าง ๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ บาหลี กรุงเทพฯ ภูเก็ต สิงคโปร์ และกัวลาลัมเปอร์ ให้ยืมสิ่งของที่สะท้อนเอกลักษณ์ของย่านที่ตั้ง เพื่อนำไปในกิจกรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะย่านนั้น ๆ อย่างมีคุณค่าและเพลิดเพลินในระหว่างการเข้าพัก 

Hotel Indigo Phuket Patong ในประเทศไทยให้ผู้เข้าพักสามารถยืมถุงมือมวยแบรนด์ Hotel Indigo เพื่อทดลองเล่นมวยไทยบนเวทีมวยของโรงแรม ขณะที่ Hotel Indigo Bangkok Wireless Road ให้ผู้เข้าพักสามารถเลือกยืมสิ่งของจากสามชุดที่พร้อมให้บริการ ได้แก่ ชุดแสนสบาย (ชุดปิกนิก) ชุดเที่ยวตลอด (ชุดนักสำรวจ) และชุดสวยเริ่ด (ชุดช่างภาพ) ที่เหมาะกับการสำรวจและสัมผัสย่านต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ 

เพื่อให้ผู้เข้าพักสัมผัสกับวัฒนธรรมเปอรานากันอย่างแท้จริงในย่าน Katong ใจกลางสิงคโปร์ Hotel Indigo Singapore Katong พร้อมให้บริการกล่องทิฟฟินแบบดั้งเดิม เพื่อให้ผู้เข้าพักนำขนมหวานโนนย่ากลับไปทานที่ห้องพัก ในขณะเดียวกัน ที่ Hotel Indigo Bali Seminyak Beach ผู้เข้าพักสามารถแต่งกายด้วยชุดพิธีกรรมทำจากผ้าบาหลี (endek) หรือเลือกยืมเสื้อป้องกันสำหรับกิจกรรมโต้คลื่นสำรวจชายฝั่งที่เป็นเอกลักษณ์ของโรงแรม สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับรายการสิ่งในแต่ละที่ตั้ง สามารถตรวจสอบได้ที่ภาคผนวกด้านล่าง 

ปัจจุบัน โครงสร้างสังคมได้เปลี่ยนแปลงไป ทำให้การแบ่งปันสิ่งของในชุมชนและกับเพื่อนบ้านไม่เหมือนในอดีต ซึ่งจากการสำรวจล่าสุดของ Hotel Indigo* พบว่า ปฏิสัมพันธ์ของผู้คนกับเพื่อนบ้านลดน้อยลง โดยมีผู้ที่ไม่เคยขอยืมของจากเพื่อนบ้านถึง 59% ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเป็นปัญหาในอดีต สาเหตุหลักประกอบไปด้วยความเขินอาย (29%) ความไม่ต้องการเป็นการรบกวน (23%) และการไม่มีความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน (25%) อย่างไรก็ตาม ผลการพิสูจน์จาก Harvard Business School ระบุว่า การปฏิสัมพันธ์เล็ก ๆ อย่างการยืมของจากเพื่อนบ้านนั้นมีส่วนช่วยสร้างชุมชนที่มีความสุขได้ 

แคมเปญ ‘Borrowed by Hotel Indigo’ ถูกออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูพฤติกรรมวัฒนธรรมในการแบ่งบันกับเพื่อนบ้าน และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน โดย Hotel Indigo ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลียได้เริ่มแคมเปญนี้ โดยเชิญชวนผู้เข้าพักและคนท้องถิ่นในรหัสไปรษณีย์เดียวกันให้ยืมสิ่งของที่พบว่าเป็นสิ่งที่แบ่งปันกันมากที่สุดตามการสำรวจของแบรนด์** ได้แก่ น้ำตาล น้ำมันมะกอก เกลือ พริกไทย กาแฟและชา นอกจากนี้ การวิจัยยังพบว่าเกือบ 60 % ของนักเดินทางมีความตื่นเต้นที่จะลิ้มลองอาหารในแต่ละพื้นที่ ด้วยเหตุนี้ Hotel Indigo ในแต่ละที่ตั้งจึงนำเสนอสิ่งของพิเศษท้องถิ่น เช่น น้ำผึ้ง ซอสพริก ผงปรุงรสสำหรับย่างและปรุงอาหารทะเล เพื่อให้ผู้เข้าพักได้นำรสชาติของย่านท้องถิ่นกลับบ้านไป

หลายคนโสดมีวิธีในการจัดการกับ “ความเหงา” มีกิจกรรมทำไม่ขาด พบปะสังสรรค์เพื่อนฝูง สนุกกับการทำงาน ขณะที่คนโสดบางคนก็อาจยังไม่เจอวิธีจัดการกับความเหงาตัวเอง เพราะจะว่าไปแล้ว “ความเหงา” หรือ การอยู่อย่างโดดเดี่ยวเป็นเวลานานเป็นอันตรายต่อสุขภาพเทียบเท่าการสูบบุหรี่ 15 มวนต่อวันและเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพอื่นๆ อีกมากมาย เพราะล่าสุด ‘องค์การอนามัยโลก’ (WHO) ประกาศยกให้ ‘ความเหงา’ เป็นปัญหาน่ากังวลด้านสาธารณสุขของโลก เป็นอีกหนึ่งปัญหาด้านจิตใจและร่างกายของคนทุกเพศทุกวัย

LINE OpenChat แพลตฟอร์มคอมมูนิตี้ออนไลน์ที่ดันแนวคิด “เปิดตัวเองในพื้นที่สำหรับคุณ”​ ก็พบว่าห้องโอเพนแชทประเภท “คนโสด – หาเพื่อนคุย” เป็นแหล่งรวมกิจกรรมและมิตรภาพที่คึกคักสม่ำเสมอไม่ว่าวันทำงานหรือวันหยุดยาว ซึ่งมีห้องที่รวมตัวคนโสดมากถึง 300 กว่าห้อง

เราเลยอยากมาแนะนำ 7 กลุ่มห้องโอเพนแชทชวนเหล่าคนโสดทุกหมู่เหล่า ไม่ว่าจะโสดมืออาชีพ โสดขี้เหงา โสดอินโทรเวิร์ท หรือโสดเอ็กซ์โทรเวิร์ท ให้มาจอยกันแบบ “ขาดคนรัก ไม่ขาดคนทัก” ได้เรียลไทม์ตลอด 24 ชม. รับวันหยุดยาวเคาท์ดาวน์สิ้นปีนี้

1. ห้องหาเพื่อนคุย
   เรียกได้ว่า “ขาดคนรัก ไม่ขาดคนทัก” ที่แท้จริง เพราะจะเป็นกลุ่มห้องที่มีคนพร้อมจะพูดคุยจิปาถะกับคุณตลอดทั้งวัน มีห้องย่อยให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะส่งเพลงให้ฟังได้ไม่เบื่อ อัปเดตเพลงฮิตจากนักร้องคนโปรดใหม่ๆ พร้อมคำคมที่ไม่ว่าจะอยู่ในอารมณไหน ก็มีเพื่อนคอยซัพพอร์ท รวมถึงการปรึกษาปัญหาชีวิตที่อาจจะได้มุมมองใหม่ๆ จากคนไกลตัว หรือใครอยากคุยกับคนโสดตามช่วงวัย ตั้งแต่กลุ่มอายุ 20 30 ไปจนถึง 40 ขึ้นไปให้เลือกพูดคุยถูกจริตกับคนวัยเดียวกัน อย่างเช่นห้อง โสดให้สุดแล้วหยุดที่เรา เหงา หาเพื่อนคุยเล่น ระบาย ความรัก, สถานีคนโสด โหมดเหงาใจ หาเพื่อน ปรึกษาปัญหา, คนโสดไม่โสดเรามาคุยกัน และ คนโสดคนเหงา30+

ลิงก์รวมห้องคนโสด : https://openchat.line.me/scp/8204/39124

2. ห้องท่องเที่ยว
หลายคนกำลังหาไอเดียและทิปการท่องเที่ยวรับปีใหม่ โดยเฉพาะคนโสดที่อยากเที่ยวคนเดียว ขอแนะนำให้ลองตามห้องเหล่านี้ อย่าง คนเดียวก็เที่ยวได้, เที่ยวด้วยกันมั้ยเธอ: Travel With You และ เดินทางกางเต็นท์ เผลอๆ ได้เพื่อนร่วมทริปหน้าใหม่จากในนี้นี่แหละ

3. ห้องแนะนำร้านอาหาร
คนโสดสายฟู้ดดี้ห้ามพลาด เพราะหลายครั้งนอกจากจะอัปเดตลงโซเชียลว่าวันนี้ไปกินอะไรอร่อยๆ มา ก็มาแบ่งปัน เป็นตัวพ่อตัวแม่สายกินในกลุ่มไปพร้อมๆ กันได้ เช่น เพื่อนใหม่​ใจ​บุฟเฟต์​ (I love buffet)และ เที่ยวไป กินไป คุยไป จะได้เพื่อนใหม่ไปตะลุยกินก็คราวนี้

4. ห้องฝึกภาษา
การเรียนรู้และฝึกหัดภาษาที่ดีที่สุด ก็คือการพาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทำให้เราได้ใช้ภาษานั้นๆ การจอยกลุ่มเรียนภาษาก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยได้เช่นกัน ห้องแนะนำ ได้แก่ ฝึกภาษาในชีวิตประจำวันEDULIVE: พูดอังกฤษได้ไม่อายใคร, ภาษาเกาหลี everyday ฉบับมือใหม่, ครอบครัว Easy Korean, English talk และ Learn Japanese เรียนรู้ภาษาญี่ปุ่น

5. ห้องออกกำลังกาย – สุขภาพ
โสดแล้ว จะให้ดีต้องสุขภาพดีสร้าง self-esteem ให้ตัวเอง เป็นอีกหนึ่ง new year resolution รับปีใหม่อย่างการเริ่มต้นออกกำลังกายและหันมาดูแลสุขภาพ ในห้องเหล่านี้นี้จะมีกลุ่มคนที่เชี่ยวชาญและคนที่อยากได้คำแนะนำอยู่ร่วมกัน เช่นห้อง  อาหารเพื่อสุขภาพ, ลูกกลิ้งสร้างซิกแพคbyโค้ชแก้ว, และ 42.195Kclub เราจะไปมาราธอน

6. ห้องดูดวง
กลุ่มที่รวบรวมห้องประเภทดูดวงและความเชื่อสายมูแขนงต่างๆ มาไว้ในที่เดียว ชวนคนโสดมาเปิดคำทำนายต้อนรับปีใหม่ ความรัก การเงิน สุขภาพ หรือปีหน้าจะมีใครเข้ามาไหม ต้องไปที่ห้องเหล่านี้ ดูดวงรายวัน, ด้อมกีวี่, ดูดวงกับพี่หมอบอม และ เทวาลัยพระแม่ จุ๋มมิรันตี เป็นต้น

7. ห้องดูหนัง ซีรีส์
การสะสมลิสต์หนัง – ซีรีส์แล้วเอาไว้ดูยาวๆ ช่วงวันหยุดกลายเป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมยอดฮิตของคนโสด หากยังไม่มีลิสต์ที่ว่า จะแนวฝรั่ง เกาหลี จีน ดูแล้วเม้าท์ต่อได้ในห้องนี้ วันนี้ดู Netflix เรื่องอะไรดีวะ, กลุ่มนี้ชอบดูหนังผี, คนบ้าหนัง (ภาพยนตร์) และ คอหนังโหด ฯลฯ

พิมพ์ชื่อห้องเหล่านี้ บนแถบ “ค้นหา” บนหน้าแรกบน LINE OpenChat ได้เลยที่ https://lin.ee/V7SsVR8/gyjp

ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ช่วงปลายปี Glenfiddich ได้เปิดตัวป๊อปอัพสุดอลังการกับประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อร่วมฉลองเทศกาลแห่งการส่งต่อความสุขอย่างเหนือระดับปลายปีนี้ภายใต้แคมเปญ A GIFT FOR BLOSSOMING
FUTURES ที่ถูกออกแบบมาสำหรับปีมังกรทอง 2024 โดยเฉพาะพร้อมพื้นที่สำหรับการลิ้มรสวิสกี้หรือ “วิสกี้เทสติ้ง” และจุดสลักขวดสุดพิเศษโดยในงานเปิดตัวป๊อปอัพนี้แขกผู้มีเกียรติได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าหลงใหลกับการจับคู่
เมนูอาหารจีนสุดพรีเมียมจากร้านอาหารจีนร่วมสมัยที่กำลังจะเปิดตัวอย่าง Maison Rouge โดยเชฟกันน์-สรวิศแสงวณิชเชฟชื่อดังนายแบบและผู้เข้าแข่งขันจาก Top Chef Thailand ซีซั่น 2 ที่ได้มาร่วมรังสรรค์เมนูสุดพิเศษนี้เข้าคู่
กันอย่างลงตัวกับ Glenfiddich 12 ปี Glenfiddich 15 ปี Glenfiddich 18 ปีและ Glenfiddich ซีรีส์รุ่นลิมิเต็ด Gran Reserva 21 ปี

เริ่มต้นคอร์สแรกด้วย ไก่รูลาด ที่จับคู่อย่างประณีตกับ Glenfiddich 12 ปีที่ให้กลิ่นอายของความสดชื่นและความฟรุ้ตตี้จากลูกแพร จับคู่กับไก่รูเลดหมักใน Glenfiddich 12 ปี พร้อมสลัดสาลี่และแตงกวา ที่มีความกรอบและหวานในตัว เข้ากันอย่างลงตัวกับน้ำสลัดงาหม่าล่ารสเผ็ด

ตามมาด้วยคอร์สที่สองกับ กุ้งห่อฟองเต้าหู้ทอดกับทรัฟเฟิล เสิร์ฟพร้อมซอสวานิลลาพลัม ที่เสิร์ฟคู่กับ Glenfiddich 15 ปี กับรสชาติที่มีความซับซ้อนน่าค้นหา พร้อมกลิ่นอายความหอมวานิลลาที่เข้ากันอย่างที่สุด

ถัดมาในคอร์สที่สามกับ เป็ดปักกิ่งแบบฉบับ Maison Rouge ที่มาพร้อมกับมะม่วง ลิ้นจี่ เครปบัควีท และซอสฮอยซินสูตรพิเศษ เพื่อสร้างมนต์เสน่ห์ที่ลงตัว เมื่อเสิร์ฟควบคู่กับรสสัมผัสอันนุ่มลึกและความหอมอบอวลจากไม้โอ๊คของ Glenfiddich 18 ปี

สำหรับดาวเด่นประจำซีรีส์ อย่าง Gran Reserva 21 ปี ที่มีกลิ่นอายความหอมสโมคกี้และสัมผัสรสชาติที่มีความซับซ้อนเข้มข้น ได้ถูกจับคู่กับคอร์สหมูกรอบ แยมขิง มัสตาร์ดโฮลเกรน และบัตเตอร์นัทสควอช ที่รสชาติเข้ากันและลงตัวเป็นอย่างยิ่ง

มากไปกว่านั้น เพื่อตอกย้ำความพิเศษของปีมังกรทองที่กำลังจะมาเยือน Glenfiddich ยังได้ร่วมมือกับศิลปินชื่อดังระดับโลกอย่าง Raku Inoue เพื่อสร้างคอลเลกชันของขวัญรุ่นลิมิเต็ดเอดิชัน โดยผลงานของ Raku แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของ Glenfiddich โดยเขาได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติอันแสนวิจิตร ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้กับซีรีส์สุดพิเศษนี้ เพื่อให้คุณได้ร่วมสร้างประสบการณ์สุดพิเศษที่หน้าจดจำกับคนที่คุณรักในวันปีใหม่ที่จะถึงนี้

Raku เกิดที่ญี่ปุ่นและใช้ชีวิตอยู่ที่แคนาดา โดยการเดินทางด้านศิลปะของเขา นำไปสู่ความเชี่ยวชาญด้านการวาดภาพ งานหัตถกรรม และการถ่ายภาพทั้งนี้ความเข้าใจในการจัดองค์ประกอบภาพ ได้ช่วยผลักดันให้ Raku เกิดความหลงไหลในการทำงานกับวัสดุออร์แกนิก รวมถึงดอกไม้ ใบไม้ และพืชพรรณนานาชนิด

Raku ได้นำสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของเขามารังสรรค์บรรจุภัณฑ์ให้แก่ Glenfiddich Lunar New Year รุ่นลิมิเต็ดเอดิชัน ให้มีชีวิตชีวา ด้วยการผสมผสานกวางที่เป็นสัญลักษณ์ของ Glenfiddich เข้ากับมังกรไม้อันงดงาม ผ่านวิสัย
ทัศน์ทางศิลปะอันเชี่ยวชาญของเขา โดยมังกรไม้นับเป็นสิ่งมีชีวิตในตำนาน ที่มีจิตวิญญาณของความเป็นผู้นำที่ชวนให้นึกถึงผู้บุกเบิกอย่าง Glenfiddich โดยไม้เป็นธาตุดินที่แสดงถึงการเจริญเติบโตและการเบ่งบานของชีวิตใหม่ ดังนั้น
เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อสิ่งมีชีวิตในตำนานนี้ กวางประจำแบรนด์ Glenfiddich จึงได้รับแรงบันดาลใจมาจากมังกรไม้ – ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของอนาคตอันเป็นมงคลที่เบ่งบานอย่างสะพรั่ง 

Raku Inoue กล่าวว่า “ปีใหม่เปรียบเสมือนการเริ่มต้นใหม่และการเติบโต คงไม่มีสัญลักษณ์ไหนที่จะเหมาะไปกว่าธรรมชาติที่เบ่งบาน เป้าหมายของผมคือการพาคุณออกไปท่องเที่ยวและดื่มด่ำท่ามกลางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และความงดงามบนโลกของเรา Fu Lu หรือกวาง Glenfiddich ถูกสร้างขึ้นและบรรจบกันจากกลีบดอกไม้ และองค์ประกอบจากวัสดุธรรมชาติอย่างประณีต เพื่อสร้างความสวยงามที่คู่ควรกับช่วงเวลาอันเป็นมงคลนี้”  

ซีรีส์รุ่นลิมิเต็ดเอดิชันนำโดย Glenfiddich Reserva Rum Cask 21 ปี และกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ Glenfiddich
12 ปี Glenfiddich 12 ปี เสร็จในถังเชอร์รี่ Glenfiddich 15 ปี และ Glenfiddich 18 ปี จะมาเป็นชุดของขวัญพร้อมแก้ววิสกี้

ป๊อปอัพสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ เกษร วิลเลจจะเปิดให้เยี่ยมชมจนถึงวันที่ 10 มกราคม 2567 พร้อมพื้นที่สำหรับการลิ้มรส
วิสกี้ หรือ “วิสกี้เทสติ้ง” และจุดสลักขวดสุดพิเศษ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ A Gift for Blossoming Futures สามารถติดตาม www.Glenfiddich.com หรือ @valleyofthedeer.th บน Instagram  

PIPATCHARA แบรนด์แฟชั่นเครื่องหนังสัญชาติไทยโกอินเตอร์ ที่ให้คุณค่าในเรื่องความยั่งยืน เปิดตัวคอลเลกชันล่าสุด “INFINITUDE WHITE BALANCE COLLECTION” สร้างสรรค์ผลงานเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ที่ให้ความสำคัญกับการปรับสมดุลสีขาวที่เป็นเครื่องหมายของทุกชีวิต โดยการ Up-Cycled เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับฝาขวดน้ำสีขาวจากน้ำดื่มสิงห์ ผสานความสมดุลทางศิลปะเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมเผยโฉมครั้งแรกในงาน PIPATCHARA WHITE BALANCE ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ที่บ้านตรอกถั่วงอก  

“เพชร” ภิพัชราแก้วจินดา ผู้อำนวยการสร้างสรรค์แบรนด์ PIPATCHARA  เผยถึงแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์คอลเลกชันล่าสุด ว่า “คอลเลกชัน INFINITUDE มาจากคำว่า INFINITE หรือการรีไซเคิลแบบไม่สิ้นสุด ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเราได้ใช้กระบวนการ redone, re-produce และ recycle มาจากขยะกำพร้า ที่ทุกคนคิดว่าไม่มีประโยชน์แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ขวดน้ำพลาสติก ฝาขวดน้ำ และกล่องใส่อาหารต่างๆ เรานำพวกนี้มาเข้ากระบวนการ และนำมาปั๊มขึ้นรูปเป็นรูปทรงธรรมชาติจากท้องทะเลอย่างปะการัง และหิน เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของธรรมชาติ ยิ่งไปกว่านั้น ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นของเราเป็นงานฝีมือจากคนในชุมชน เพราะเราอยากสนับสนุนให้คนในชุมชนมีรายได้และเติบโตไปด้วยกัน” 

 ในงานคอลเลกชันล่าสุด “INFINITUDE WHITE BALANCE COLLECTION” จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ WHITE BALANCE คือการกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของความสมดุลระหว่าง แฟชั่น และศิลปะเพื่อชุมชน ความสมดุลที่เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะ และเป็นประโยชน์ต่อสังคม 

โดยมีพันธมิตรสำคัญอย่าง บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด องค์กรที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการรับผิดชอบดูแลสังคม รวมถึงการใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด  “องค์กร ชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม ต้องมีความสุขร่วมกันอย่างยั่งยืน” ที่ให้การสนับสนุนฝาขวดน้ำสิงห์จากโครงการ RECYCLE BANK เพื่อนำมารังสรรค์เป็นกระเป๋าในคอลเลกชันพิเศษสุดนี้   

 สำหรับการรังสรรค์คอลเลกชัน INFINITUDE WHITE BALANCE มีการเพิ่มลูกปัด ให้มีความสนุกสนานมากขึ้นในช่วงเทศกาลวันหยุดส่งท้ายปลายปีที่กำลังจะถึงนี้ โดยประดับตกแต่งใน INFINITUDE BAG เพื่อสะท้อนถึงการสร้างสมดุลให้กับทุกชีวิต ให้มีความสุขุม อ่อนโยน พร้อมกับความสนุกสนานอย่างยั่งยืน 

ชมและช้อปไอเท็มสุดเก๋ทุกคอลเลกชันของ PIPATCHARA แบรนด์แฟชั่นเครื่องหนังของไทยที่ก้าวไกลในระดับสากล ได้ที่โชว์รูม PIPATCHARA ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ หรือติดตามได้ทาง https://pipatchara.com/home / facebook: pipatchara / instagram: @pipatchara 

PETCHPLOY แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นที่เผยความสง่างามของผู้หญิงยุคใหม่แบบฟูลเทิร์น 360 องศา โดยสองดีไซเนอร์ไทย ผู้ก่อตั้งแบรนด์ “คุณเพชร–เพชรรัตน์ ศฤงคารเจษฎา” และ “คุณพลอย–สุอาภา อังควิศาลพงศ์” เปิดตัว FLAGSHIP
STORE แห่งใหม่ เต็มรูปแบบ ที่อัดแน่นไปด้วยแรงบันดาลใจ และสเต็ปการเติบโตขึ้นไปอีกขั้นของแบรนด์ โดยมี มิลลี่ คามิลล่า, มายด์ ณภศศิ, โอปอล์ ปานหทัย และหมิว กมลพร มาร่วมฉลองเปิดร้านสาขาใหม่ ณ ร้าน PETCHPLOY
FLAGSHIP STORE สาขาสามย่าน

หลังเปิดตัวสาขาแรก ณ เซนทรัล ปิ่นเกล้า กับเครื่องแต่งกาย และรองเท้า ที่มีเอกลักษณ์ในหลายคอลเลกชั่นจนมีไอเท็ม WISH LIST แบบขึ้นหิ้งติดลมบน ครั้งนี้กับการก้าวขึ้นอีกขั้นกับ FLAGSHIP STORE สาขาสามย่าน บนถนนสี่พระยา
กับสเปซที่กว้างขึ้น พร้อมรองรับผู้หญิงจากทุกมุมโลกเพื่อให้เขาเหล่านั้นได้รับประสบการณ์ที่ดีเมื่อเดินเข้ามาสัมผัส และยังรู้สึกเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ ดั่งธีมคอนเซ็ปต์ของร้านสาขาใหม่ “MORE AT STORE MORE YOU CAN BE,
MORE SPACE, MORE STYLE, MORE CONFIDENT ทุกคนสามารถมีทางเลือกที่ใช่” ซึ่งการตกแต่งร้านยังคงสไตล์ความ QUIET LUXURY ปราณีต เรียบง่าย แต่ทันสมัย ตามติดเทรนด์ ในเวอร์ชั่นของแบรนด์ที่เติบโตขึ้น นอกจากนี้ยัง
เปิดตัว คอลเลกชั่นใหม่ ที่เพิ่มความ CASUAL อย่างมีมิติ ใส่ได้ในหลากหลายโอกาสมากขึ้น ไม่ว่าจะ ลุคทำงาน หรือลุควันสบายๆ ซึ่งยังคงไลเซนส์ความเอเลแกนซ์ในแบบฉบับผู้หญิง PETCHPLOY และไอเทมแต่ละชิ้นยังสามารถนำมา
MIX&MATCH เพิ่มความสนุกในการแต่งตัวใน EVERYDAY LOOK ได้อย่างลงตัว รวมถึงไอเทมหลายหลายแคทตากอรี่ที่ครีเอทขึ้นเพื่อผู้หญิงยุคใหม่ SECRET ไอเทมเสริมความมั่นใจ แก้ไขข้อบกพร่องของสรีระผู้หญิง ACCESSORIES,
UNDERWEAR, SHAPEWEAR, SHOES ภายใต้ธีม EVERYWEAR และอีกหลายหลายหมวด อาทิ BEAUTY, HOME DECORATION

ธีมคอนเซ็ปต์สาขาใหม่ ในครั้งนี้ PETCHPLOY ยังคงซัพพอร์ต ความฝันของผู้หญิงอย่างเต็มที่ในมุมที่เติบโตขึ้น เพราะเราเชื่อเสมอว่า POSITIVE ENERGY และ SELF CONFIDENCE เป็นสิ่งที่ผลักดันให้ทุกคนสามารถสร้างผลลัพธ์ในชีวิต
และเป็นสิ่งสามารถสร้างบิวต์มันขึ้นมาเองได้ ฉะนั้นเพื่อตอกย้ำว่าในสิ่งที่เราอยากเป็น อยากใส่เสื้อผ้าสไตล์ไหนก็ได้ โดยไม่ต้องห่วงเรื่องรูปร่าง เสื้อผ้าของเรา จะช่วยพลางเพราะเสริมส่วนที่บกพร่อง ออกมาเป็นคุณที่เพอร์เฟ็คได้ ซึ่งเรา
มักมีคำถามกับตัวเองเสมอว่าอะไรจะช่วยให้คนเราดูดี มั่นใจขึ้นในทุกๆ วัน ได้ เพื่อเอาไปพัฒนาให้แบรนด์ก้าวไปพร้อมกับสาวๆ ของ PETCHPLOY อยู่ตลอด”

สำหรับการเปิด FLAGSHIP STORE สาขานี้ ยังได้มีการเปิดตัวระบบ MEMBERSHIP เป็นครั้งแรก เพื่อที่จะให้สิทธิพิเศษและผลประโยชน์ที่มากขึ้นสำหรับ ROYALTY CUSTOMER และเมื่อสมาชิกสะสมถึงระดับ BLACK DIAMOND ในเดือน
ของ GRAND OPENING  จะได้รับคลาส WORKSHOP พัฒนาบุคลิกภาพสุด EXCLUSIVE และโปรโมชั่นเดือนเปิดร้านที่มีการแจกความพิเศษด้วย VOUCHER ส่วนลด ณ หน้าร้าน ยังไม่รวม WELCOME GIFT สำหรับ NEW MEMBER ที่
เป็น LIMITED EDITION เฉพาะสาขานี้ และความพิเศษ 3 ต่อสำหรับ PETCHPLOY MEMBERSHIP ที่สมัครสาขาใหม่ในเดือน GRAND OPENING

1. เปิด MEMBERSHIP รับเครดิตวงเงินในการช็อปปิ้งเพิ่ม
   – เมื่อเปิด MEMBERSHIP จำนวน 5,000 บาท รับเครวิตวงเงินเพิ่มเป็น 6,000 ทันที บาท
   – เปิด MEMBERSHIP จำนวน 15,000 รับเครวิตวงเงินเพิ่มเป็น 20,000 บาท และ รับของขวัญพิเศษ! PP SIGNATURE BOW HAIR CLIP 1 อัน (มูลค่า 990 บาท)
   – เปิด MEMBERSHIP จำนวน 50,000 บาท รับเครวิตวงเงินเพิ่มเป็น 75,000 และยังได้รับเชิญ เข้าร่วม PERSONALITY WORKSHOP สุด EXCLUSIVE พิเศษสำหรับ 10 ท่านแรกเท่านั้น

2. โปรโมชั่น EXCLUSIVE สำหรับหน้าช็อปและออนไลน์ สุดพิเศษในเดือนธันวาคมนี้ เฉพาะเมื่อซื้อเดรสรุ่นใดก็ได้* ชิ้น
ที่ 1 ในราคาปกติ จะได้รับส่วนลดถึง 50% สำหรับชิ้นที่ 2 ที่ลูกค้าเลือก (เดรสหรือรองเท้า) *เฉพาะเดรสรุ่น LUCIANO เท่านั้นที่ไม่ร่วมรายการและสินค้าที่ลดราคาต้องเป็นสินค้าที่ราคาต่ำที่สุด และ PETCHPLOY BEAUTY ลดสูงสุดถึง 60%

3. สะสมแต้มเพื่อแลกสินค้าพรีเมี่ยม แลกรับสินค้ามูลค่าสูงสุดกว่า 3,700 บาทได้ทันที

            พบกับ PETCHPLOY FLAGSHIP STORE แห่งใหม่ สาขา สามย่าน ถนนสี่พระยา พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นมากมาย หรือ HTTPS://PETCHPLOYBRAND.COM/TH/ และ INSTAGRAM,FACEBOOK: @PETCHPLOYBRAND

ธนาคาร ยูโอบี ประเทศไทย ยกระดับการให้บริการทางการเงินด้วยการเปิดตัวบัตรเครดิต Co brand ร่วมกับ 5 แบรนด์ชั้นนำ ได้แก่ แกร็บ ลาซาด้า แม็คโคร เมอร์เซเดส-เบนซ์ และไทยรอยัล ออร์คิด พลัส การเปิดตัวบัตรเครดิต Co brand ทั้ง 5 นี้ เกิดขึ้นหลังการเข้าซื้อกิจการธนาคารลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปเมื่อต้นปี พ.ศ. 2565 ซึ่งทำให้ธนาคารมีจำนวนลูกค้ารายย่อยเกือบแปดล้านรายทั่วภูมิภาคอาเซียน และสามารถมอบสิทธิประโยชน์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างหลากหลายมากขึ้น
นางสาวสุพรทิพย์ พงศาชำนาญกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ Head of Card Business ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นกับความร่วมมือครั้งนี้มาก เพราะจะทำให้ธนาคารมอบบริการทางการเงินที่หลากหลายเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และความสนใจของลูกค้าที่แตกต่างกัน ความร่วมมือครั้งนี้ช่วยให้เรามอบบริการด้านการเงินที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะแต่ในประเทศไทยเพียงอย่างเดียว แต่ครอบคลุมถึงภูมิภาคอาเซียน และนี่เป็นสิ่งทำให้ธนาคารยูโอบีมีความโดดเด่นและแตกต่าง”
การเปิดตัวบัตร Co brand ทั้ง 5 นี้ แสดงถึงความมุ่งมั่นของธนาคาร ในการทำให้ธนาคารเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของลูกค้า บัตรแต่ละใบได้รับการออกแบบเพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้ตรงใจกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน
บัตร UOB Grab เพื่อการใช้ชีวิตแบบคนเมือง
บัตร UOB Grab ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ที่สมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาทเกือบจะในทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน อาทิ การชำระเงิน การแชร์รถ และการสั่งอาหาร ที่ผ่านมาผู้ถือบัตรยูโอบีมีการทำธุรกรรมบน Grab เกือบหนึ่งล้านรายการในแต่ละเดือน บัตร UOB Grab ใบนี้จะนำเสนอบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบดิจิทัลอย่างราบรื่น และมอบสิทธิประโยชน์เหนือระดับและความสะดวกสบายให้กับผู้ถือบัตร
บัตร UOB Lazada เพื่อนักช้อปออนไลน์ตัวยง
การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของผู้ถือบัตรยูโอบีในการซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นร้อยละ 37 ในปี 2566 ความร่วมมือกับ Lazada แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของยูโอบีในการมอบด้านโซลูชันทางการเงินที่ออกแบบตามความชอบของลูกค้าที่มาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มมากขึ้นจากการซื้อสินค้าออนไลน์ ผู้ถือบัตร UOB Lazada จะได้รับคะแนนสะสมเพิ่มขึ้น 10 เท่าเมื่อซื้อสินค้าในลาซาด้า และรับคะแนนโบนัส 30 เท่าในเดือนเกิด และข้อเสนอที่ดีที่สุดในช่วงเมกะแคมเปญของลาซาด้า บัตร UOB Lazada ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่เป็นนักช้อปออนไลน์ตัวยง

บัตร UOB Makro สำหรับนักช้อปที่มองหาความคุ้มค่า
จากผลการศึกษาความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอาเซียนปี 2566 พบว่าร้อยละ 30 ของคนไทยมีความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการซื้อของใช้ที่จำเป็น บัตร UOB Makro จึงตอบโจทย์สำหรับผู้ประกอบการและลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าในการจับจ่ายโดยมอบคะแนนสะสมสำหรับการซื้อทุกครั้ง ซึ่งสามารถแลกบัตรกำนัลแม็คโครหรือแลกรับเงินคืนจากยอดซื้อที่แม็คโคร
บัตร UOB Mercedes สำหรับคนที่ชื่นชอบความหรูหรา
การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของยูโอบีมากกว่าร้อยละ 40 มาจากลูกค้าที่มีรายได้ค่อนข้างสูง บัตร UOB Mercedes จึงได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความหรูหรา โดยเฉพาะความหรูหราแห่งยานยนต์ บัตรใบนี้มอบสิทธิประโยชน์พิเศษ อาทิ ส่วนลดจากตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการ และการสะสมคะแนนคูณ 8 เมื่อจองรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ และคะแนนคูณ 2 เมื่อใช้จ่ายในหมวดอื่นๆ
บัตรยูโอบี ไทย รอยัล ออร์คิด พลัส (UOB ROP) สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทาง
ในปี 2566 การใช้จ่ายในหมวดการเดินทางของบัตรเครดิตยูโอบีมีสัดส่วนค่อนข้างสูง โดยมียอดใช้จ่ายตั๋วเครื่องบิน คิดเป็นร้อยละ 37 ของยอดใช้จ่ายผ่านบัตร บัตรเครดิต UOB ROP จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อนักเดินทางที่ต้องเดินทางเป็นประจำ พร้อมมอบสิทธิประโยชน์สุดพิเศษ เช่น การได้รับสถานะสมาชิกบัตรทองอย่างรวดเร็วในโปรแกรมรอยัล ออร์คิด พลัส และการแปลงการใช้จ่ายเป็นไมล์สายการบินที่คุ้มค่า
บัตรเครดิต Co brand ทั้ง 5 ใบของธนาคารยูโอบีนี้ เป็นบัตรที่เพิ่มมาจากบัตรเครดิตหลักทั้ง 5 ใบ ที่ทางธนาคารคัดสรรมาเป็นพิเศษเพื่อตอบสนองความต้องการที่ชาญฉลาด โดยมอบสิทธิประโยชน์พิเศษที่ออกแบบมาเพื่อความชอบที่แตกต่างกันของลูกค้า