จัดเต็มส่งท้ายปี! 3 หนุ่ม DPR โชว์สุดปังสมการรอคอย

Alternative Textaccount_circle

จบลงไปแล้วแบบสมการรอคอย กับคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 2 ปีของศิลปินคุณภาพ อย่าง “DPR” (Dream Perfect Regime) กับงาน “THE DREAM REBORN WORLD TOUR 2024 IN BANGKOK” ซึ่งถูกจัดขึ้นไปเมื่อวันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2567 ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5 DREAMers (ดรีมเมอร์: ชื่อกลุ่มแฟนคลับ) ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้การตอบรับเป็นอย่างดีเต็มพื้นที่จัดการแสดง

เปิดเวทีด้วยโชว์จาก “DPR ARTIC” (ศิลปินแนว House, Electronic และ Techno) กับบทเพลง “Dawning” / “SONIC” / “ESCAPE” และ“DREAM” ก่อนแวะพูดคุยทักทายแฟน ๆ ชาวไทย และก็เรียกเสียงกรี๊ดได้ทั้งฮอลล์กับสเตจเพลงที่แฟน ๆ อยากฟังมากที่สุดอย่าง “DO OR DIE” ในเวอร์ชั่น REMIX ถือเป็นการวอร์มเครื่องให้กับเหล่าดรีมเมอร์ได้เป็นอย่างดี

ก่อนส่งต่อเวทีให้กับอีกหนึ่งศิลปินคุณภาพอย่าง “DPR CREAM” (ศิลปินแนว Hiphop) ซึ่งก็จัดหนักจัดเต็มไม่แพ้กัน กับหลากหลายบทเพลงที่แฟน ๆ ร้องตามกันได้ อาทิ “HOW MANY DRINKS?” / “TEST DRIVE” / “UZUZ” / “DARLING” / “I MISS U (TOO BAD)” / “PUBERTY” และ “SAVAGE” เป็นต้น เรียกว่าจัดเต็มกันแบบนอนสต็อป ถือว่าเป็นอีกหนึ่งศิลปินคุณภาพที่ไม่ว่าจะอยู่เบื้องหน้าหรือเบื้องหลังก็ยังคงคุณภาพเช่นเดิม

และก็ถึงคิวของหนุ่มคนสุดท้ายกับตัวพ่อที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่าง “DPR IAN” (ศิลปินแนว Pop, R&B, Rock และ Electronica) เจ้าของบทเพลงฮิตมากมาย ซึ่งงานคอนเสิร์ตในครั้งนี้ก็ไม่ทำให้แฟนชาวไทยต้องผิดหวัง จัดเต็มด้วย SETLIST คุณภาพที่ผ่านการร้อยเรียงมาเป็นอย่างดี อาทิ “Welcome to the Otherside” และเพลงที่ประสบความสำเร็จอย่างมากอย่าง “Don’t go Insane” ต่อด้วย “BAD COLD” / “Peanut Butter & Tears” / “So Beautiful” ที่แฟน ๆ ร้องตามกันได้ทั้งฮอลล์ และก็ไม่ปล่อยให้ได้พัก จัดเต็มกับเพลงคุณภาพอีกมากมาย ทั้ง “Scaredy Cat” / “Nerves” และ “Ballroom Extravaganza” เป็นต้น

ก่อนเข้าสู่ช่วงท้ายของคอนเสิร์ตกับพาร์ทที่แฟน ๆ ทุกคนรอคอยกันมากที่สุด กับการแสดงร่วมกันของทั้ง 3 คนกับบทเพลงสุดฮิตอย่าง “DO OR DIE (DPR CREAM REMIX)” เรียกได้ว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้ฟินและเต็มอิ่มกันถ้วนหน้า สมมงกับชื่อคอนเสิร์ตอย่าง REBORN เพราะการกลับมาประเทศไทยในครั้งนี้ DPR เกิดใหม่อย่างแข็งแรงและเต็มไปด้วยคุณภาพจริง ๆ โดยตลอดทั้งคอนเสิร์ตได้มีวงแบนด์ และ บูธดีเจร่วมสร้างสรรค์ดนตรีสดตลอดทั้งงาน ส่งผลให้เวลาของคอนเสิร์ตได้จบลงไปอย่างรวดเร็ว ขอบคุณดรีมเมอร์ทุกคนที่ได้มาร่วมสร้างความทรงจำดี ๆ ส่งท้ายปีด้วยกัน สามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมและข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ Facebook และ X: @BEX_Concert จนกว่าจะพบกันใหม่

CR.BOON

ผิวดีข้ามปี! แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะวิธีฟื้นบำรุงและ ล็อคความเนียนนุ่มชุ่มชื้น

ผิวดีข้ามปี! แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะวิธีฟื้นบำรุงและ ล็อคความเนียนนุ่มชุ่มชื้น

Alternative Textaccount_circle
ผิวดีข้ามปี! แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะวิธีฟื้นบำรุงและ ล็อคความเนียนนุ่มชุ่มชื้น
ผิวดีข้ามปี! แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะวิธีฟื้นบำรุงและ ล็อคความเนียนนุ่มชุ่มชื้น

การมีผิวสวยสุขภาพดีช่วยเสริมความมั่นใจได้เป็นอย่างดี แต่บ่อยครั้งที่เราต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ มลภาวะ การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ รวมถึงการปรนนิบัติดูแลผิวแบบไม่ถูกวิธี อาจทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ส่งผลให้เกราะป้องกันตามธรรมชาติของผิวอ่อนแอลง ผิวจึงดูหมองคล้ำ ขาดชีวิตชีวา รวมถึงอาจเกิดปัญหาผิวอื่นๆ ตามมาได้อีกมากมาย แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและความงาม ‘ธัญ’ (THANN) ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แพทย์หญิงอณัฏฐ์ชา อัศดามงคล แนะวิธี “ฟื้นบำรุงและล็อคความเนียนนุ่มชุ่มชื้นด้วยเทคโนโลยี Double moist, Double lock”

ผิวที่มีความชุ่มชื้น คือ กุญแจสู่ผิวสวยสุขภาพดี เพราะผิวที่มีความชุ่มชื้นเพียงพอส่งผลให้ผิวมีความแข็งแรง ลดการเกิดปัญหาผิว ปกติแล้วผิวหนังของเราจะมีการสร้างมอยส์เจอร์ไรเซอร์ได้เองตามธรรมชาติ โดยจะสร้างสารที่เรียกว่า Natural Moisturizing Factors หรือ NMF คือ สารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในผิวหนังของเรา ทำหน้าที่เป็นตัวดึงความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้ผิวสามารถรักษาสมดุลของน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย NMF เป็นส่วนประกอบสำคัญของเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ที่ช่วยป้องกันผิวจากสิ่งสกปรกและมลภาวะ แต่ก็อาจมีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ระคายเคือง และอักเสบได้ง่าย

  • ปัจจัยภายใน
    • อายุที่มากขึ้น ส่งผลให้การผลิตน้ำมันตามธรรมชาติและไขมันที่ทำหน้าที่กักเก็บความชุ่มชื้นลดลง
    • พันธุกรรมเป็นตัวกำหนดปริมาณและคุณภาพของ NMF ในชั้นผิว
    • โรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis) โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) โรคต่อมไขมันอักเสบ (Seborrheic dermatits) เป็นต้น ส่งผลให้ร่างกายเสียสมดุลการสร้างไขมันใต้ชั้นผิวหนัง ผิวจึงขาดความชุ่มชื้น
    • การขาดสารอาหารอย่างขาดโอเมก้า-3 หรือวิตามินอีและซี ทำให้ผิวไม่สามารถรักษาความชุ่มชื้นได้
    • ความเครียด ส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่ไปรบกวนสมดุลของน้ำในผิว
  • ปัจจัยภายนอก
    • อากาศและสภาพแวดล้อมที่แห้ง เย็น หรือหนาวจัด รวมถึงการอยู่ในห้องปรับอากาศเป็นเวลานานก็ส่งผลให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย
    • แสงแดดและรังสียูวี ทำลายเกราะป้องกันผิวและลดความสามารถในการกักเก็บน้ำของผิว
    • การล้างหรือขัดผิวบ่อยเกินไป ทำให้เซลล์ผิวและน้ำมันที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นถูกทำลาย
    • ฝุ่น ควันและมลภาวะในอากาศจะกระตุ้นให้เกิดอาการระคายเคืองและลดความชุ่มชื้นในผิว
    • การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีความรุนแรง จะทำให้ผิวสูญเสียน้ำมันตามธรรมชาติไป
    • การอาบน้ำอุ่นจัดหรือน้ำร้อน ทำให้น้ำมันตามธรรมชาติบนผิวถูกชะล้างออกไป ผิวจึงแห้งตึง

ซึ่งเราสามารถเพิ่มระดับความชุ่มชื้นและป้องกันการสูญเสียน้ำของผิวได้ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่

  • ชนิดปิดกั้นไม่ให้น้ำซึมผ่าน(Occlusives) ทำหน้าที่เหมือนฟิล์มเคลือบผิวหนัง ป้องกันไม่ให้ความชื้นที่ผิวหนังระเหยไป มีประสิทธิภาพในการรักษาความชุ่มชื้นที่ผิวหนังได้ถึง 98% แต่เมื่อโดนน้ำก็จะละลายหรือหลุดออกง่าและต้องทาซ้ำอยู่บ่อยๆ อาจทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะและสร้างความรำคาญได้ ตัวอย่างเช่น Petrolatum, Mineral oil, Paraffin, Dimethicone เป็นต้น
  • ชนิดเคลือบผิวหนัง(Emollients) ลักษณะใกล้เคียงกับ Occlusives ต่างกันที่สามารถซึมลงสู่ชั้นผิวหนังได้ ทำหน้าที่ควบคุมระดับความชื้นของผิวให้กลับมาสู่สภาวะปกติ โดยจะเติมร่องผิวชั้นนอกช่วยให้ผิวเรียบเนียนนุ่มตัวอย่างเช่น Rice bran oil, Cocao butter, Ceramides เป็นต้น
  • ชนิดดูดซับน้ำจากอากาศ(Humectants) ทำหน้าที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังชั้นนอกด้วยการดักจับน้ำหรือความชื้นในอากาศหรือดึงน้ำจากผิวชั้นใน โดยมักจะใช้ร่วมกับส่วนผสมอื่น เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้น ตัวอย่างเช่น Myrothamnus (สารสกัดจากพืชทะเลทราย), Aloe vera เป็นต้น

นอกจากการเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวแล้ว ควรให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองเพิ่มเติมอย่างเหมาะสมควบคู่ไปด้วย อาทิ

  • ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ เพื่อทดแทนน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป สามารถคำนวณได้จากน้ำหนักตัว (ก.ก.) x 33 =… ซีซี (1,000 ซีซี = 1 ลิตร, 1 ลิตร = 4 แก้ว)
  • หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนนานเกินไป เพราะน้ำร้อนจะชะล้างน้ำมันตามธรรมชาติบนผิว ทำให้สูญเสียความชุ่มชื้นและผิวจะแห้งมากยิ่งขึ้น
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ปลาทะเล ผัก ผลไม้ ธัญพืช ผลไม้ตระกูลเบอรี่
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเองได้เต็มที่
  • ปกป้องผิวจากแสงแดด โดยทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30+ ทุกวัน เพื่อป้องกันรังสี UV ที่ทำลายผิว
  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวไม่มีสารเคมีรุนแรงและมีค่า pH ใกล้เคียงกับผิว

หฤทัย ไชยันต์ ณ อยุธยา, แพรวปรียา ชุมสาย ณ อยุธยา และฐานิดา มานะเลิศเรืองกุล

นอกจากนี้เหล่าเซเลบริตี้คนรักผิวยังได้ร่วมเผยเคล็ดลับการดูแลสุขภาพผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้น เพื่อให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์เริ่มที่ คุณแพรวปรียา ชุมสาย ณ อยุธยา เผยว่า “ช่วงปีใหม่นี้มายด์แพลนว่าจะไปเล่นสกีที่ประเทศญี่ปุ่น แน่นอนว่าจะต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเย็น และมายด์เองเป็นคนที่มีสภาพผิวผสมค่อนข้างแห้ง ทำให้ต้องใส่ใจเรื่องการดูแลบำรุงผิวมากเป็นพิเศษ โดยจะเน้นเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วย Earl Grey Infusion Rice Extract Body Milk จาก THANN ที่มีเทคโนโลยี Double moist, Double lock ช่วยเติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้เป็นอย่างดี ทำให้มั่นใจได้เลยว่าผิวยังคงความเนียนนุ่มชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี มาพร้อมกลิ่นหอมที่มอบความสดใสมีชีวิตชีวาด้วยส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติจาก Lavender, Bergamot, Clary sage และ Cardamom ค่ะ”

ต่อมาที่ คุณหฤทัย ไชยันต์ ณ อยุธยา เล่าว่า “ปอนด์เป็นคนที่มีผิวแห้งมาก เรียกได้ว่าถ้าไม่ได้บำรุงผิวก็จะแห้งแตกเป็นขุยได้ง่าย ทำให้ปอนด์ต้องใส่ใจในการดูแลผิวตัวเองเป็นพิเศษ โดยพยายามเลี่ยงการอาบน้ำร้อนจัด รวมถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติที่เน้นเรื่องการเพิ่มและคงความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วงปลายปีก็มีโอกาสไปท่องเที่ยวชมพิระมิดและมัมมี่ที่ประเทศอียิปต์ ทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจและสนุกมาก แต่ด้วยสภาพอากาศที่ค่อนข้างเปลี่ยนแปลงบ่อยในช่วงกลางวันที่ร้อนมากและอากาศจะหนาวเย็นในช่วงกลางคืน ส่งผลให้ผิวของปอนด์ยิ่งแห้งกร้านได้ง่ายกว่าปกติ แต่ปอนด์มีตัวช่วยอย่าง Earl Grey Infusion Rice Extract Body Milk ของ THANN ที่มีเทคโนโลยี Double moist, Double lock นอกจากจะช่วยให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้นแล้ว ยังช่วยล็อคความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้อีกด้วย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องผิวแห้งกร้านที่เกิดจากสภาพอากาศค่ะ”

ปิดท้ายที่ คุณฐานิดา มานะเลิศเรืองกุล เผยว่า “ช่วงนี้มีโอกาสได้เดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ เพื่อถ่ายทำคอนเทนต์ ล่าสุดก็มีโอกาสได้เดินทางไปประเทศนิวซีแลนด์ช่วงปลายปี เป็นช่วงที่อากาศดีมากแต่ก็ค่อนข้างหนาวเย็น แน่นอนว่าอากาศที่หนาวเย็นย่อมส่งผลให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ประกอบกับส่วนตัวพิมฐาเองก็เป็นคนที่ชอบอาบน้ำร้อนและอยู่ในห้องแอร์เป็นประจำ ยิ่งทำให้ผิวมีโอกาสที่จะแห้งกร้านได้มากกว่าปกติ จึงจำเป็นต้องดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายอยู่ตลอดเวลา โดยจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดและน้ำมันธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูและเติมเต็มความชุ่มชื้นสู่ผิวอย่าง Earl Grey Infusion Rice Extract Body Milk ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Double moist, Double lock ทำให้สามารถกักเก็บความเนียนนุ่มชุ่มชื้นได้ยาวนาน และยังมีกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติที่ช่วยสร้างความสดใสมีชีวิตชีวาที่ได้จาก Lavender, Bergamot, Clary sage และ Cardamom ด้วยค่ะ”


ส่งท้ายปี ฟอส – บุ๊ค – เพิร์ธ – แซนต้า – จูเนียร์ – มาร์ค ซีรีส์ สายรหัสเทวดา

account_circle

#PraewDigitalCover แพรว เสิร์ฟความฮ็อตกับภาพแฟชั่นเซ็ตพิเศษส่งท้ายปีของ “ฟอส – บุ๊ค – เพิร์ธ – แซนต้า – จูเนียร์ – มาร์ค” จากซีรีส์ “สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners”

กำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ สำหรับซีรีส์ “สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners” ที่นำแสดงโดย “ฟอส – จิรัชพงศ์ ศรีแสง, บุ๊ค – กษิดิ์เดช ปลูกผล, เพิร์ธ – ธนพนธ์ สุขุมพันธนาสาร, แซนต้า – พงศภัค อุดมโภชน์, จูเนียร์ – ปณชัย ศรีอาริยะรุ่งเรือง และ มาร์ค – จิรันธนิน ตรัยรัตนยนต์”

แพรว ขอเอาใจแฟนๆ เสิร์ฟความฮ็อตของ 6 นักแสดงนำ กับภาพแฟชั่นเซ็ตพิเศษส่งท้ายปี

Perfect 10 Liners

เรื่องราวในรั้วมหาวิทยาลัยอันแสนวุ่นวายของหนุ่มวิศวะ เมื่อมี สายรหัสเทวดา ที่รวมคนหน้าตาดีเข้ามาอยู่ด้วยกัน! น้องอาร์ม (รับบทโดย บุ๊ค กษิดิ์เดช) รับบทเป็นแอดมินเพจ Engineer Cute Boy แต่ดันลงรูปลุงรหัสที่เป็นสิ่งต้องห้ามคือ พี่อาร์ค (รับบทโดย ฟอส จิรัชพงศ์) “เทวดาสายโหด” ในขณะที่ กรรณ (รับบทโดย แซนต้า พงศภัค) มีปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับในที่มืด แต่มี “เทวดาสายลึกลับ” โยธา (รับบทโดย เพิร์ธ ธนพนธ์) น้องรหัสของอาร์มที่อาสายอมย้ายมาเป็นรูมเมทห้องเดียวกัน และสุดท้าย “เทวดาสายอาภัพ” น้องไวน์ (รับบทโดย มาร์ค จิรันธนิน) มีพี่รหัสอย่างโยธาที่ดันไม่มีเวลามาใส่ใจ กลับได้ พี่ไฟฟ้า (รับบทโดย จูเนียร์ ปณชัย) น้องชายของพี่รหัสมาดูแลแทน! ความสัมพันธ์และความรักทั้ง 3 คู่ ของสายรหัสเทวดาในรั้วคณะวิศวะจะเป็นอย่างไร

ติดตามพวกเขาได้ใน “สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners” ทุกวันอาทิตย์ เวลา 20:30 น. ทางช่อง GMM25 และรับชมพร้อมกันทาง Youtube : GMMTV OFFICIAL

  • Digital Editor & สไตล์ : Minim
  • ช่างภาพ : Vorason Dvi-vardhana
  • ผู้ช่วยช่างภาพ : ศักดินนท์ ปิตะฝ้าย
  • ผู้ช่วยสไตลิสต์ : ชัญญาภัค เขมหิรัญกิจ
  • เสื้อผ้า Fendi , Celine , Loewe , Zegna , Givenchy , Saint Laurent , Dolce & Gabbana

2 ไอเท็มสุดปัง! จาก Vivite โรลออนและบอดี้เซรั่มปรับผิวไบร์ทใน 7 วัน

account_circle

Praew Survey รอบนี้มาพร้อมกับการอวยยศ 2 ไอเท็มสุดปัง! จาก Vivite วีไวต์ที่ยืนหนึ่งเรื่องความกระจ่างใส Vivite Super Vitamin Niacinamide Body Serum และ Vivite Super Vitamin Charming Whitening Roll On คู่หูกู้ผิวไบร์ทที่คอนเฟิร์มความจึ้งจนมงลง! คว้ารางวัลจากเวทีความงามแห่งปี Praew Iconic Beauty 2024

โดย Vivite Super Vitamin Niacinamide Body Serum ได้รับรางวัลในสาขา Iconic Extra Brightening Body Serum ส่วน Vivite Super Vitamin Charming Whitening Roll On มาวินในสาขา Iconic Extra Brightening Roll On เรียกว่าเริ่ดคูณสอง ต้องปรบมือให้รัวๆ เลยค่ะ

สำหรับบอดี้เซรั่ม Vivite Super Vitamin Niacinamide Body Serum ช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสใน 7 วัน โดดเด่นด้วยส่วนผสมอย่าง Niacinamide Concentrated ที่ช่วยบูสต์ผิวคล้ำเสียให้กระจ่างใส บวกกับ Natural PHA สารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน อีกทั้งยังมี Encapsulated Kojic Acid ที่ช่วยให้ผิวไบรท์ และ Vitamin E เข้มข้นที่ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผิว นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับกลิ่นหอมติดทนด้วยน้ำหอมจาก Natural Essential Oil

ส่วนโรลออนก็จัดเต็มส่วนผสมเช่นกัน โดย Vivite Super Vitamin Charming Whitening Roll On ช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสใน 5 วัน พร้อมปกป้องกลิ่นได้ยาวนานถึง 72 ชั่วโมง มาพร้อมกับ Niacinamide 20X ที่ช่วยบูสต์ผิวใต้วงแขนให้กระจ่างใส และ Natural PHA สารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวใต้วงแขนอย่างอ่อนโยน อีกทั้งยังมี Nano White Technology สารสกัดที่มีอนุภาคเล็กระดับนาโน ช่วยให้ผิวกระจ่างใสได้ดียิ่งขึ้น และ 7 Botanical Skin Soothing สารสกัดเอกสิทธิ์เฉพาะจากเกาหลี ช่วยปรับผิวเรียบเนียน ชุ่มชื้น

เมื่อพูดถึงผิวใต้วงแขน ก็ต้องไม่ลืมเรื่องกลิ่นและความอับชื้น ซึ่ง Vivite Super Vitamin Charming Whitening Roll On ช่วยลดเหงื่อและปกป้องกลิ่นกาย 72 ชั่วโมงด้วย Triple Protect และมี Natural Odor Lock เทคโนโลยีที่ช่วยลดกลิ่นกายขั้นสุดด้วยสารสกัดธรรมชาติ ที่เริ่ดไปอีกคือมาพร้อมกับ Moment Serum Technology ที่มอบกลิ่นหอมละมุน ฟีลกลิ่นดอกไม้ ดังนั้นใครอยากอัพผิวใต้วงแขนให้ไบรท์และเสริมความมั่นใจตลอดวัน ขอบอกเลยว่าต้องมี!

เรียกว่าช่วยเปิดโหมดไบร์ทให้ผิวได้แบบทำถึง! จึ้งสุดทั้งบอดี้เซรั่มและโรลออน สมดีกรีเจ้าของรางวัลบิวตี้แบบไม่มีผิดหวัง 


Oakley

Oakley ‘Born to Rewild’ ปลุกจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยให้กลับมาอีกครั้ง

account_circle
Oakley
Oakley

Oakley คอลเล็คชั่น ‘Born to Rewild’ หลุดพ้นจากความน่าเบื่อของเมืองใหญ่ ปลุกจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยให้กลับมาอีกครั้งด้วยแว่น Plantaris และ Latitude Flex Vest รุ่นใหม่ล่าสุด

เมื่อโลกที่กีฬาและไลฟ์สไตล์มาบรรจบกัน Oakley จึงภูมิใจนำเสนอ Born to Rewild คอลเล็คชั่นแห่งอนาคตที่ถือกำเนิดจากวิวัฒนาการอันไร้กรอบจำกัดคอลเล็คชั่นนี้จะเดินรอยตามลิขิตในการพลิกฟื้นความเชื่อมโยงกับธรรมชาติแต่ก่อนเก่า โดยเป็นสัญลักษณ์ถึงการเตรียมพร้อมเผชิญสิ่งเหนือคาดฝัน และความทุ่มเทในการรักษาจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยเอาไว้ในทุกแง่มุมของชีวิตตัวชูโรงในคอลเล็คชั่นนี้คือแว่นตา Plantaris และ Latitude Flex Vest ที่ท้าทายแนวทางวิศวกรรมและการออกแบบเดิมๆ โดยปรับให้เข้ากับผู้สวมใส่ที่กำลังสำรวจโลกกว้างแม้จะเป็นในเมืองอันแสนจำเจคอลเล็คชั่นนี้เป็นตัวแทนอนาคตที่ดีกว่าในทรรศนะของ Oakley นั่นคือการฉีกกรอบเดิมๆ เพื่อเปิดรับเรื่องราวแปลกใหม่ในชีวิต

แว่นตา Plantaris แหวกขนบเดิมๆ โดยขยับธรรมชาติเข้ามาใกล้ตัวผู้สวมใส่ด้วยเฉดสี Matte Trans Fern/Matte Dark Brush เติมเต็มด้วย เลนส์ Prizm Tungsten การออกแบบเลนส์คู่ให้โค้งสูงได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดไบโอมิเมติกส์และรูปทรงที่พบเห็นได้ในธรรมชาติ ถือเป็นวิวัฒนาการหนึ่งจากแว่นตาในช่วงปี 2000 ต้นๆที่ปรับตัวเพื่อเพิ่มประโยชน์ใช้สอยและความสบายในการสวมใส่กรอบที่มีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์และปลายขาที่เป็นแกนสายซิลิโคนเลียนแบบมาจากขากบ ช่วยให้กรอบแว่นยึดเกาะศีรษะได้ยาวนานโดยแทบจะไร้น้ำหนักสัมผัส แถบป้องกันจมูกแบบถอดออกได้ช่วยเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานทั้งยังเปลี่ยนรูปลักษณ์ของแว่นให้เหนือความคาดหมายและสารพัดประโยชน์ได้ในทันที กรอบยังวางจำหน่ายในสีอื่นๆ ได้แก่ Matte Stonewash, Matte Black และ Matte Sand

ในทางกลับกัน แว่นตา Lateralis ยังคงการออกแบบเชิงประติมากรรมที่พบใน Plantaris ด้วยเช่นกัน แต่มาในรูปแบบที่เรียบง่ายมากขึ้นเพื่อให้เหมาะกับผู้สวมใส่ในวงกว้างซึ่งการออกแบบตัวขาแว่นนั้นก็ยังคงความสวยงามในแบบเดียวกันLatitude Flex Vest เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคใหม่ของเครื่องแต่งกายจาก Oakley โดยมีจุดเด่นที่รูปแบบ ฟังก์ชัน และประโยชน์ใช้สอย โดยเป็นตัวชูโรงของคอลเล็คชั่น Latitude ไลน์เสื้อนอกสำหรับการใช้งานเฉพาะที่ได้รับอิทธิพลจากการเคลื่อนไหว เสื้อกั๊กรุ่นนี้ออกแบบมาเป็นพิเศษให้ใส่ได้หลายชั้นตามสภาพอากาศกลางแจ้งโดยอัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติให้พร้อมลุยไปทุกที่และมีช่องเก็บสิ่งของมากมาย

นอกจากมีประโยชน์แล้ว เสื้อกั๊กรุ่นนี้ยังปรับเปลี่ยนได้สารพัด โดยมีระบบกระเป๋าอเนกประสงค์พร้อมสายรัดด้านข้างที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อปรับให้พอดีและพกพาได้สะดวก มีกระเป๋าตาข่ายแน่นหนา 3 มิติเพื่อใส่แว่นตา และกระเป๋าซิปขนาดใหญ่ที่ด้านหลัง ให้จัดเก็บและจัดระเบียบสิ่งของจำเป็นได้ดียิ่งขึ้นโดยไม่เทอะทะ ซิปโลหะกันน้ำแบบย้อนกลับและตะเข็บเชื่อมติดซึ่งเย็บและใส่แผงป้องกันการเสียดสี ช่วยเพิ่มการปกป้องในทุกสภาพอากาศ ปิดท้ายด้วยตัวล็อกแม่เหล็กที่สายรัดหน้าอกเพื่อให้ปิดได้ง่าย ก้าวจากชีวิตคนเมืองไปผจญภัยได้ทุกที่ เพราะเสื้อกั๊กรุ่นนี้สามารถแปลงร่างเป็นกระเป๋าเป้สะพายหลังที่มีหูหิ้วในตัวได้เลย


พฤติกรรมยอดแย่

ฟาดไม่เลี้ยง! เกาหลีใต้ประกาศรายชื่อ คนดัง พฤติกรรมยอดแย่

Alternative Textaccount_circle
พฤติกรรมยอดแย่
พฤติกรรมยอดแย่

หากจะพูดว่านี่คือรางวัลที่ไม่มีใครอยากรับก็คงไม่ผิดนัก! เพราะล่าสุด Raspberry Film Festival ครั้งที่ 8 ซึ่งรวบรวมข้อมูลโดย  Sports Kyunghyang จากกนักข่าวภาพยนตร์ 51 คน จากสื่อชั้นนำ ได้ประกาศรางวัล ภาพยนตร์ยอดแย่, การแสดงยอดแย่ และ พฤติกรรมยอดแย่ ของคนดังในปี 2024  

ภาพยนตร์ยอดแย่

โดยภาพยนตร์ยอดแย่ได้แก่ The Plot, Amazon Bullseye, Project Silence

The Plot

การแสดงยอดแย่

ขณะที่การแสดงยอดแย่ตกเป็นของ 4 พระเอกดังที่เคยถูกชื่นชมเรื่องฝีมืออันยอดเยี่ยม คังดองวอน จากเรื่อง The Plot,จูจีฮุน จากเรื่อง Project Silence ,ซงจุงกิ จากเรื่อง My Name is Loh Kiwan  และ ซงซึงฮยอน จากเรื่อง Hidden Face

พฤติกรรมยอดแย่

แต่ใดๆ ดูเหมือนว่ารางวัลที่ไม่มีใครอยากรับมากที่สุดคงเป็นรางวัล  พฤติกรรมยอดแย่ โดย 22 เสียงโหวต มอบให้  จองอูซอง พระเอกเกาหลีต้นตำหรับสไตล์อบอุ่นจาก A Moment to Remember ที่ล่าสุดตกเป็นประเด็นฉาวจากการปฏิเสธไม่รับเป็นพ่อเด็ก ของนางแบบสาว มุนกาบี ซึ่งทำให้ชื่อเสียงที่สั่งสมมา 30 ปี ลายลงภายใน 3 วัน

พฤติกรรมยอดแย่

ขณะที่ 18 เสียงโหวตตกเป็นของ ยุนยูจอง นักแสดงชาวเกาหลีใต้คนแรกที่ชนะรางวัลสมทบหญิงยอดเยี่ยมบนเวทีระดับโลก ออสการ์ เนื่องจากที่ผ่านมา าเธอมีพฤติกรรมหยาบคายระหว่างให้สัมภาษณ์

อย่างไรก็ตาม  4 เสียงโหวต ตกเป็นของ ดาราแม่เหล็กแห่งเกาหลีใต้  จอนโดยอน ซึ่ง  ไปออกรายการ You Quiz on the Block ของพิธีกรดัง ยูแจซอก เพื่อโปรโมทภาพยนตร์แต่กลับไม่รับมุข อย่างไรก็ตามชาวเน็ตให้ความเห็นว่าในฐานะนักแสดงเธอควรรับผิดชอบโปรโมตด้วยพฤติกรรมที่เหมาะสม

จางนารา

ทวงบัลลังก์ตัวแม่ ! จางนารา คว้ารางวัลใหญ่แดซัง จากซีรีส์ Good Partner

Alternative Textaccount_circle
จางนารา
จางนารา

นางเอกเกาหลี จางนารา คว้ารางวัลใหญ่แดซังจากซีรีส์ทนายเรตติ้งปังแห่งปี Good Partner

กวาดรางวัลฉ่ำสมศักดิ์ศรี ซีรีส์ตัวแม่ตัวมัมส่งท้ายปี สำหรับ ‘Good Partner – คู่หูทนายตัวแม่’ โดยล่าสุดกระแสความแรงของซีรีส์ ยังคงสร้างความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยการกวาดรางวัลจากเวทีสุดยิ่งใหญ่ 2024 SBS Drama Awards ที่จัดขึ้นเป็นประจำส่งท้ายปีอย่างต่อเนื่อง มากถึง 7 สาขา รวมถึงสาขาใหญ่สุดอย่าง รางวัลแดซัง (หรือ Grand Prize) ที่ตกเป็นของจางนารานักแสดงนำของเรื่อง ผู้ถ่ายทอดบทบาท ‘อึนคยอง’ ทนายหย่าแห่งชาติ หญิงแกร่งแห่งกรุงโซล ที่มีอัตราการชนะคดีอย่างต่อเนื่อง แทบจะไม่เคยแพ้แม้แต่เคสเดียว ด้วยพลังการแสดงที่ไม่ธรรมดา ตรึงผู้ชมได้ในทุกตอน ทำให้คณะกรรมการต่างเทคะแนน มอบรางวัลใหญ่สุดแห่งปี ประจำช่อง SBS ให้กับเธอ ในขณะที่นักแสดงหญิงมากฝีมืออย่าง ‘นัมจีฮยอน’ เจ้าของบท ยูริ ทนายมือใหม่ที่เข้าร่วมในสำนักงานกฏหมายเดียวกับ อึนคยอง ที่เป็นเหมือนคู่หูตัวแม่ตัวลูกประจำสำนักกฏหมายแห่งนี้ ก็คว้ารางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม Top Exellence Awards (Human or Fantasy Mini Series) ไปครอง สมฐานะสองทนายหญิงคนเก่งเสียจริง ๆ

โดยนอกจากสองนักแสดงนำเจ้าของบทบาท ‘คู่หูทนายตัวแม่’ แล้ว เหล่านักแสดงสมทบที่ล้วนสร้างสีสันให้กับซีรีส์ ‘Good Partner’ จนขาดไม่ได้ ก็ตบเท้ากันกวาดรางวัลจนล้นเวที ประกอบด้วย คิมจุนฮัน และ พโยจีฮุน สองทนายฝ่ายชายประจำสำนักกฎหมาย ก็คว้ารางวัล นักแสดงชายยอดเยี่ยม Exellence Awards (Human or Fantasy Mini Series) มาได้แบบแท็กทีมสองคนเลย

ในขณะที่ทั้ง 4 คนเมื่อเข้าฉากด้วยกัน ก็รับส่งบทพูดและอารมณ์ได้อย่างลื่นไหล จนคณะกรรมการมอบรางวัลในสาขา รางวัลทีมเวิร์กยอดเยี่ยม (หรือ Best Teamwork Award) ให้ไปอีกสาขา ในขณะที่นักแสดงหญิงน่าจับตาอย่าง ฮันแจอี ที่สวมบทเลขาส่วนตัวของอึนคยอง ก็คว้ารางวัลการแสดงยอดเยี่ยม (หรือ Best Performance Award) มาครองได้สำเร็จ ฝั่งของ จีซึงฮยอน ผู้ถ่ายทอดบทสามีของอึนคยอง ก็ชนะรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม Best Supporting Actor (Human or Fantasy Mini Series) ปิดท้ายด้วย ยูนา นักแสดงเด็กวัย 13 ปี เจ้าของบทลูกสาวของอึนคยอง ก็คว้ารางวัลนักแสดงเด็กยอดเยี่ยม Best Young Actor มาได้สำเร็จ เรียกว่าแทบกวาดทุกสาขาเลยทีเดียว

สำหรับซีรีส์ ‘Good Partner – คู่หูทนายตัวแม่’ นั้นกระแสแรงตั้งแต่ออกฉายช่วงกลางปี ด้วยการกวาดเรตติ้งในเกาหลี สูงถึง 17.7% ติด Top 5 ซีรีส์เกาหลีเรตติ้งปังสุดประจำปี 2024 เล่าถึงอึนคยอง ทนายหย่าแห่งชาติผู้เป็นมือหนึ่งในวงการ ต้องมาเจอกับ ยูริ ทนายมือใหม่ที่เข้าร่วมงานกับสำนักงานกฎหมายแทจองในฐานะผู้สมัครตัวท็อป ซึ่งเธออยากทำงานในแผนกองค์กร แต่กลับได้รับมอบหมายให้ไปอยู่แผนกคดีหย่าร้าง ซึ่งเป็นแผนกที่เธออยากเลี่ยงสุด ๆ ทั้งสองตัวละครดูจะเข้ากันไม่ได้ในตอนแรกเริ่ม แต่พวกเธอต้องมาทำงานด้วยกันเพื่อบรรลุเป้าหมายนั่นคือการชนะคดี แต่ท้ายที่สุดแล้วทั้งสองจะสู้เพื่อชัยชนะได้หรือไม่ ติดตามใน ‘Good Partner – คู่หูทนายตัวแม่’ ซีรีส์แห่งปีที่คุณไม่ควรพลาด สตรีมแบบพากย์ไทยครบทั้ง 16 ตอนได้แล้วในแอป Viu ที่เดียวเท่านั้น

เทรนด์สุขภาพและความงามปี 2025 เน้นป้องกัน-ดูแลสุขภาพกายใจองค์รวมแบบยั่งยืน

เทรนด์สุขภาพและความงามปี 2025 เน้นป้องกัน-ดูแลสุขภาพกายใจองค์รวมแบบยั่งยืน

Alternative Textaccount_circle
เทรนด์สุขภาพและความงามปี 2025 เน้นป้องกัน-ดูแลสุขภาพกายใจองค์รวมแบบยั่งยืน
เทรนด์สุขภาพและความงามปี 2025 เน้นป้องกัน-ดูแลสุขภาพกายใจองค์รวมแบบยั่งยืน

เทรนด์สุขภาพและความงามปี 2025 ผลสำรวจโดย Mintel เผยว่า จากแนวโน้มระดับการศึกษาที่สูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคยุคใหม่ฉลาดเลือกสรรผลิตภัณฑ์และบิวตี้รูทีนมากขึ้น โดยผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับการ “ป้องกัน” มากกว่าการซ่อมแซม พร้อมเปิดรับความเรียบง่าย โดยการเริ่มต้นกิจวัตรการดูแลตนเองตั้งแต่วัยหนุ่มสาว มุ่งเน้นในการสรรหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับตัวเอง มีประสิทธิภาพผ่านการทดสอบทางวิทยาศาสตร์และมีนวัตกรรมที่น่าเชื่อถือ ใช้แล้วเห็นผลลัพธ์ได้จริงมากขึ้น พร้อมเน้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมควบคู่ไปกับสุขภาพจิตใจที่ดี และการมีผิวสุขภาพดีในระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจจาก Euromonitor International ที่รายงานว่าผู้คนมีความตั้งใจที่จะปรับเปลี่ยนกิจวัตรการดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะมีชีวิตที่มีสุขภาพดีขึ้นและยืนยาวขึ้น

ในขณะเดียวกัน Statista เผยสถิติที่น่าสนใจว่า ตลาดความงามและตลาดผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว คาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 3.07% ต่อปี (CAGR 2025-2029) ซึ่งคลีนบิวตี้ (Clean Beauty) ที่รวมถึงเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าและผิวกาย ที่ปราศจากสารเคมีรุนแรงจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปีหน้า

จากเทรนด์ดังกล่าว สอดคล้องกับคำแนะนำจากเภสัชกรของบู๊ทส์ ประเทศไทย ที่ให้คำแนะนำด้านการดูแลสุขภาพ รวมถึงเรื่องสุขภาพผิวรับปีใหม่ว่า “เพื่อสร้างสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม แนะนำให้ใช้ครีมบำรุงผิวที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว พร้อมกับปกป้องผิวด้วยการใช้ครีมกันแดดเพื่อป้องกัน UVA & UVB โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว แดดยิ่งแรงเป็นพิเศษ แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของเปปไทด์ จะยิ่งช่วยให้ครีมกันแดดมีประสิทธิภาพ ทั้งบำรุงและปกป้องในเวลาเดียวกัน ในช่วงที่ฝุ่น PM 2.5 สูง ควรล้างหน้าให้สะอาดหมดจด โดยใช้คลีนซิ่งที่ช่วยทำความสะอาด ขจัดสิ่งสกปรกบนผิวได้อย่างได้ล้ำลึก แต่ยังคงอ่อนโยนต่อสภาพผิว โดย แนะนำให้ใส่หมวกและหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่กลางแจ้ง เพื่อป้องกันแสงแดดและฝุ่น รวมถึงพกสเปรย์น้ำแร่สำหรับฉีดหน้าไว้เติมความชุ่มชื้นให้ผิวระหว่างวัน”

และเพื่อเป็นการต้อนรับปีใหม่ แบบผิวสวยสุขภาพดี ให้ได้ปรับลุคใหม่เป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น บู๊ทส์ ประเทศไทย
จึงได้ชวนทุกคนมาเตรียมต้อนรับปี 2568 ไปกับ “ลิสต์ของขวัญแห่งความสุข ชอปสนุกส่งท้ายปีที่บู๊ทส์” พบกับผลิตภัณฑ์คุณภาพครบครันทั้งสกินแคร์และบอดี้แคร์สำหรับตัวคุณและคนที่คุณรัก พร้อมตอบโจทย์เทรนด์
สุขภาพและความงามในปัจจุบันอย่างลงตัว กับชุดของขวัญแห่งความสุขจาก 4 แบรนด์ยอดนิยม ได้แก่ No7 /
Soap & Glory / Ted Baker London / A Little Something พิเศษเฉพาะที่ร้านบู๊ทส์ ซึ่งมาในแพ็คเกจสุดแกลม
ในกลุ่มราคาที่หลากหลายตั้งแต่ 279 – 3,399 บาท ให้คุณเลือกช้อปได้ตามใจ เตรียมสร้างโมเม้นต์ดีๆ กับคนที่คุณ
รักหรือจะซื้อให้ตัวเองเป็นของขวัญเริ่มต้นปีใหม่


Drag Race Thailand Season 3

แฟรงกี้ วองก้า คว้าตำแหน่ง Thailand’s Next Drag Superstar

Alternative Textaccount_circle
Drag Race Thailand Season 3
Drag Race Thailand Season 3

รายการเรียลลิตี้ระดับโลก Drag Race Thailand Season 3 ปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ในงาน “Drag Race Thailand Season 3 – The Finale Xclusive Viewing Party” ซึ่งจัดขึ้น ณ SF Central World กรุงเทพฯ โดยได้รับการสนับสนุนจาก World of Wonder (WOW), Yellow Channel, SF Corporation และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ซึ่งมุ่งหวังส่งเสริมวัฒนธรรมแดร็กในการยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยสู่เวทีโลก

Drag Race Thailand Season 3

นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า “วัฒนธรรมแดร็กสะท้อนความคิดสร้างสรรค์และพลังอันยิ่งใหญ่ของคนรุ่นใหม่ การร่วมมือในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ยกระดับแดร็กไทยสู่เวทีโลก แต่ยังช่วยเสริมเสน่ห์ใหม่ให้การท่องเที่ยวไทย พร้อมสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสมุมมองที่แตกต่างของไทย ตอบรับแคมเปญการท่องเที่ยวปี 2025 – Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year ของ ททท. ที่ต้องการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางมาสัมผัสประสบการณ์กิจกรรมท่องเที่ยว 5 Must – Do in Thailand ประกอบด้วย ต้องชิม (Must Taste) ต้องลอง (Must Try) ต้องช้อป (Must Buy) ต้องแสวงหา (Must Seek) และ ต้องชม (Must See)”

โดยผู้คว้าตำแหน่ง Thailand’s Next Drag Superstar คนที่ 3 คือ แฟรงกี้ วองก้า (Frankie Wongka) ที่โดดเด่นด้วยความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ ได้รับรางวัลเงินสด 650,000 บาท ผลิตภัณฑ์จาก Anastasia Beverly Hills ฟรีตลอดปี และมงกุฎคฑาประจำตำแหน่ง ขณะที่ซีพี (Zeepee) ได้รับตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง

สำหรับซีซั่นนี้เต็มไปด้วยการแข่งขันที่ดุเดือดจากเหล่าแดร็กควีน 11 คนที่มาพร้อมความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ ได้แก่ Benza Diva, Frankie Wongka, Gawdland, Gigi Ferocious, Kara Might, Nane Sephera, Siam Phusri, Shortgun, Spicy Sunshine, Srirasha Hotsauce และ Zeepee ท่ามกลางเสียงชื่นชมจากผู้ชมและกรรมการมากมาย

และหนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือการประกาศว่า แฟรงกี้ วองก้า, ซีพี และโฮสต์หลักของรายการ แพนไจนา ฮีลส์ (Pangina Heals) จะเป็นตัวแทนประเทศไทยร่วมงาน RuPaul’s DragCon UK ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษในเดือนมกราคม 2568 ซึ่งถือเป็นเทศกาลสำคัญระดับโลกที่รวบรวมเหล่าแดร็กควีนชื่อดังจากหลากหลายซีซั่นมาร่วมเฉลิมฉลองวัฒนธรรมแดร็ก เปิดโอกาสให้แฟนๆ ทั่วโลกได้สัมผัสเบื้องหลังและแรงบันดาลใจของพวกเขา

นอกจากนี้ภายในงานเฉลิมฉลอง The Finale Xclusive Viewing Party มีการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจจากเหล่าแดร็กควีนทุกซีซั่น พร้อมแฟชั่นโชว์สุดพิเศษ และการปรากฏตัวของแขกรับเชิญชื่อดัง เช่น ติช่า กันติชา, ซิลวี่ ภาวิดา และ มิ้น มิณฑิตา รวมถึงทีมกรรมการหลักของรายการอย่าง คุณช่า บันทึกของตุ๊ด, คุณอ๊าท อารยา และ คุณป๋อมแป๋ม นิติ บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยพลังแห่งการเฉลิมฉลองและแรงบันดาลใจ เพราะการจัดงานในครั้งนี้ไม่เพียงเฉลิมฉลองแดร็กคัลเจอร์ในประเทศไทย แต่ยังเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยผลักดันประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางที่เปิดกว้างและหลากหลาย พร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกด้วยประสบการณ์ที่แตกต่างและน่าจดจำ

Praew X’mas Gift

Praew X’mas Gift มอบความสุข แจกของขวัญส่งท้ายปี มูลค่ากว่า 2 แสน

Alternative Textaccount_circle
Praew X’mas Gift
Praew X’mas Gift

Praew X’mas Gift ซานตาแพรว มอบความสุขให้แฟนๆ แจกของขวัญส่งท้ายปี มูลค่ารวมกว่า 2 แสนบาท!

กติกา
▪️เพียงโพสรูปคู่กับปกนิตยสารแพรวที่คุณชอบ (เฉพาะนิตยสารแพรว ฉบับ ม.ค. 67 – ธ.ค. 67) พร้อมแคปชั่นบรรยายความรู้สึก และติดแฮชแทค #PraewXmasGift2024 ทาง Facebook และ IG
▪️ นิตยสารแพรว จะคัดเลือกผู้โชคดีจากแฮชแทค จำนวน 24 รายชื่อ (ทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกของรางวัล)
▪️ ร่วมสนุกได้ ตั้งแต่ วันที่ 25 – 31 ธ.ค. 67
▪️ ประกาศรางวัลผู้โชคดี วันที่ 6 ม.ค. 68 ทาง www.praew.com (จัดส่งของรางวัลเฉพาะที่อยู่ในประเทศไทยเท่านั้น)

ลำโพง Mania จาก Devialet มูลค่า 39,000 บาท / จำนวน 1 รางวัล
Praew X’mas Gift
ลำโพง Stanmore III และหูฟัง Motif A.N.C. จาก Marshall มูลค่า 25,980 บาท / จำนวน 1 รางวัล
บัตรที่พัก 1 คืน ห้อง Ayutthaya Suite พร้อมอาหารเช้า และเซต Afternoon Tea สำหรับ 2 ท่าน จาก 137 Pillars Bangkok มูลค่า 24,130 บาท / จำนวน 2 รางวัล
เซตสกินแคร์ มูลค่า 6,600 บาท / จำนวน 6 รางวัล
น้ำหอม Chérie จาก Kate Spade มูลค่า 5,200 บาท / จำนวน 1 รางวัล
น้ำหอม Le Sel d’Issey จาก Issey Miyake มูลค่า 4,400 บาท / จำนวน 1 รางวัล
แว่นตาชั้นนำจาก EssilorLuxottica มูลค่ากว่า 3,000 บาท / จำนวน 6 รางวัล
บัตรรับประทานอาหารจาก KFC มูลค่า 2,500 บาท / จำนวน 2 รางวัล
บัตรรับประทานอาหารจาก MK Restaurants มูลค่า 2,500 บาท / จำนวน 2 รางวัล
บัตรรับประทานอาหารจาก Salad Factory มูลค่า 2,500 บาท / จำนวน 2 รางวัล

PraewXmasGift2024 #Praewmag

แชร์พิกัดไม่ลับเนรมิตฟันสวย Bangkok International Dental Center ศูนย์ทันตกรรมเพื่อความงามครบวงจรที่ช่วยให้ยิ้มกว้างได้อย่างมั่นใจในแบบซุปตาร์

account_circle

ไม่ว่าเราจะอยู่ในวัยใด วัยเด็ก วัยผู้ใหญ่ วัยเรียน วัยทำงาน สุขภาพของช่องปากมักเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ แล้วยิ่งถ้าเป็นวัยทำงานที่ต้องพบปะพูดคุยมากขึ้น ยิ่งต้องมีบุคลิกภาพที่ดี เพราะความประทับใจแรก เริ่มต้นที่รอยยิ้ม นอกจากไม่ควรมีปัญหาเรื่อง กลิ่นปาก ฟันผุ เหงือกอักเสบ ฟันเหลือง ฟันแตก ฟันบิ่น ฯลฯ ที่อาจส่งผลให้ขาดความมั่นใจในตนเองแล้ว การมีฟันเรียงสวยและขาวสะอวดน่ามองก็ย่อมเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ แต่ชีวิตประจำวันในวัยทำงานบางครั้งของใครหลายคนก็อาจทำให้หลงลืมดูแลสุขภาพช่องฟันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ มักจะมีพฤติกรรมการกินจุบกินจิบ หรือการอมลูกอมทำให้เสี่ยงต่อการฟันผุ ละเลยการแปรงฟันทำให้เกิดโรคเหงือกอักเสบได้ การเคี้ยวฟันโดยไม่รู้ตัวขณะเครียดเสี่ยงต่อการเกิดฟันบิ่นหรือแตกหัก บางคนดื่มชากาแฟทุกวันทำให้ฟันมีคราบสีเกาะติดตามผิวฟันและซอกฟันดูแล้วไม่สวยงามเวลายิ้ม ปัญหาภายในช่องปากหลายๆ ประการก็ถือเป็นสาเหตุของกลิ่นปากและทำให้เสียบุคลิกภาพได้

แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะ Praew Survey จะพาไปทัวร์ศูนย์ทันตกรรม บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล เดนทัล เซ็นเตอร์ (Bangkok International Dental Center (BIDC)) ที่มุ่งเน้นการทำทันตกรรมเพื่อความงาม ออกแบบ และสร้างรอยยิ้มให้สวยงาม พร้อมเพิ่มความมั่นใจ โดยใช้เทคโนโลยี และทันตกรรมดิจิทัลที่ทันสมัย เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาพร้อมมีแลปทันตกรรมรองรับ สำหรับการทำวีเนียร์และครอบฟันเซรามิก เพื่อให้การบริการเป็นไปอย่างรวดเร็วและคุณภาพสูง ศูนย์ทันตกรรม BIDC ตั้งอยู่ย่านธุรกิจ เดินทางสะดวก รัชดาภิเษก อาคาร 7 ชั้น ห้องตรวจรักษากว่า 20 ห้อง ด้วยความชำนาทญการและการให้บริการระดับมืออาชีพ ศูนย์ทันตกรรม BIDC จึงเป็นผู้นำด้านทันตกรรมอันดับต้นๆ ในประเทศไทย

โดยที่ศูนย์ทันตกรรม BIDC เป็นศูนย์ทันตกรรมแห่งแรก ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก Joint Commission International (JCI) ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากลในการดูแลผู้ป่วยและความปลอดภัย ตั้งแต่ปี 2012 ต่อเนื่องยาวนานจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ BIDC ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO และรางวัลอื่นๆ อาทิ รางวัลนายกรัฐมนตรีจากรัฐบาลไทย และ Thailand Trustmark จากกระทรวงพาณิชย์ รวมถึง Global Health & Travel Awards ที่ทำให้ BIDC เป็นศูนย์ทันตกรรมที่มีความเป็นเลิศ

สำหรับคนที่สนใจอยากทำวีเนียร์เพื่อปรับบุคลิกภาพให้ดีขึ้น ขอแนะนำวีเนียร์เซรามิกหรือที่เรียกว่า “Hollywood Smile Makeover” เป็นการรักษาที่ได้รับความนิยมจากนักแสดง คนดัง และผู้รับบริการที่เข้ามาฟื้นฟูรอยยิ้ม โดยแก้ไข ฟันที่แตก บิ่น รูปร่างฟันที่ไม่สวย ฟันเหลือง ไปจนถึงปรับรอยยิ้ม โดยใช้วีเนียร์ซึ่งเป็นแผ่นเซรามิกบางๆ ติดทับบนผิวฟัน นอกจากนี้ยังสามารถเลือกระดับความขาวของฟันได้ ออกแบบรูปร่างของวีเนียร์ ร่วมกันกับทันตแพทย์เฉพาะทาง เพื่อรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยที่ศูนย์ทันตกรรม BIDC ไม่ได้โดดเด่นแค่การทำวีเนียร์เซรามิกเพียงอย่างเดียว แต่มีบริการทันตกรรมเพื่อความสวยงามแบบครบวงจรอาทิ เช่น วีเนียร์เซรามิก ครอบฟันเซรามิก การจัดฟันแบบใส รากฟันเทียม และฟอกสีฟัน โดยใช้เทคโนโลยีการฟอกสีฟันจากสหรัฐอเมริกาแบบ Zoom! ซึ่งสามารถทำให้ฟันที่เหลือง ดูขาวขึ้นและดูเป็นธรรมชาติในครั้งเดียว

สำหรับการครอบฟันเซรามิก จะช่วยบูรณะฟันธรรมชาติที่เสียหาย พร้อมทั้งสามารถแก้ปัญหาด้านการบดเคี้ยว สบฟัน ด้วยการเคลื่อนฟัน โดยการจัดฟันแบบใส ( Invisalign ) ร่วมด้วย ซึ่งศูนย์ทันตกรรม BIDC เป็นผู้ให้บริการที่ได้รับรางวัล Invisalign Black Diamond ดูแลรอยยิ้มมากกว่า 400 เคส และอีกหนึ่งทางเลือกคือการจัดฟันติดเครื่องมือ (Braces) โดยใช้วัสดุที่สีเหมือนฟัน เพื่อความสวยงามที่ยังคงดูเป็นธรรมชาติ

หรือแม้กระทั่งใครที่สูญเสียฟันธรรมชาติไป ก็สามารถทดแทนด้วยการทำรากฟันเทียม มีความแข็งแรง ทนทาน สามารถใช้งานได้ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ และยิ้มกว้างได้อย่างมั่นใจ เพราะที่ศูนย์ทันตกรรม BIDC ทำการรักษาปักรากฟันเทียมจำนวนมากที่สุดในประเทศไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยใช้รากฟันเทียมจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ทั่วโลกยอมรับ สำหรับการฝังรากฟันเทียมทั้งปาก (full jaw dental implants) ศูนย์ทันตกรรมยังเป็นพันธมิตรกับโรงพยาบาลทันตกรรม กรุงเทพ อินเตอร์เนชั่นแนล (BIDH) ตั้งอยู่สุขุมวิท ซอย 2 ย่านเพลินจิตซึ่งเป็นโรงพยาบาลฟันที่มีศักยภาพรองรับการรักษาทางทันตกรรมแบบซับซ้อน ภายใต้การให้ยาคลายความกังวลจนถึงการดมยาสลบ อีกทั้งการให้ยาสลบทางหลอดเลือดดำ หรือก๊าซไนตรัสออกไซด์ (ก๊าซหัวเราะ) ในห้องผ่าตัดใหญ่ โดยมีทีมทันตแพทย์และวิสัญญีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่กลัวและมีความกังวลในการทำฟัน

อีกทั้งที่ ศูนย์ทันตกรรม BIDC มีทันตแพทย์ระดับชั้นนำ ทั้งทีมทันตแพทย์ที่ BIDC ได้รับใบอนุญาตจากทันตแพทย์สภา แห่งประเทศไทย โดยส่วนใหญ่จบการศึกษาจากต่างประเทศ จากสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย หรือยุโรป หลายคนเป็นศาสตราจารย์หรืออาจารย์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำ และมีความโดดเด่นในด้านการออกแบบรอยยิ้มให้สวยงามได้ โดยใช้เทคโนโลยีการสแกนฟันดิจิทัล การถ่ายภาพทันตกรรม และการออกแบบรอยยิ้มที่ปรับแต่งได้ ในการให้บริการด้านทันตกรรมความงาม โดยมีห้องปฏิบัติการทันตกรรมดิจิทัลในสถานที่ที่ใช้ CAD/CAM เพื่อความแม่นยำและการรักษาที่รวดเร็ว และด้วยรีวิวจากผู้รับบริการ มากกว่า 10,000 รอยยิ้มจากทั่วโลก ที่ได้แบ่งปันประสบการณ์การดูแลสุขภาพฟันกับศูนย์ทันตกรรม BIDC บนช่อง YouTube ตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา ก็ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงคุณภาพการบริการทันตกรรมระดับมืออาชีพได้เป็นอย่างดี ฉะนั้น อยากมีฟันเรียงสวย สะอาด น่ามองแบบซุปตาร์อย่าลืมปรึกษาที่ BIDC แล้วคุณอาจจะมีรอยยิ้มได้กว้างมากที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน


แจ็คสัน หวัง

จิตวิญญาณของกีฬาพา แจ็คสัน หวัง ขึ้นแท่นพันธมิตร Nike และ Jordan

Alternative Textaccount_circle
แจ็คสัน หวัง
แจ็คสัน หวัง

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา ครอบครัว Nike และ Jordan ได้ประกาศต้อนรับสมาชิกใหม่อย่างเป็นทางการ แจ็คสัน หวัง ในฐานะพันธมิตรระดับโลกของ Nike และ Jordan

โดย แจ็คสัน หวัง จะนำพลังและมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ของเขามาเติมเต็มให้กับแบรนด์ โดยทั้งสองแบรนด์จะร่วมกันสำรวจการผสานรวมระหว่างกีฬาแฟชั่นและวัฒนธรรม พร้อมเปิดบทใหม่ที่ผสมผสานจิตวิญญาณของกีฬาและความคิดสร้างสรรค์

แจ็คสัน หวัง

สำหรับ “แจ็คสัน หวัง” นั้นเคยเป็นนักกีฬาที่แข่งขันในเวทีระดับโลกในฐานะตัวแทนทีมฟันดาบฮ่องกงของจีน ซึ่งจิตวิญญาณและความคิดสร้างสรรค์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกีฬา ได้ฝังลึกอยู่ในเส้นทางชีวิตของเขา ไม่ว่าจะเป็นในสนามกีฬาในฐานะนักกีฬา หรือบนเวทีในฐานะศิลปิน คำขวัญ “JUST DO IT” กลายเป็นแนวคิดสำคัญที่ “แจ็คสัน หวัง” ยึดถือเสมอมา ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของแบรนด์ Nike และ Jordan

แจ็คสัน หวัง

ซึ่งก่อนหน้านี้ ในฐานะผู้อำนวยการสร้างสรรค์ “แจ็คสัน” ได้สร้างโชว์การแสดงพิเศษสำหรับการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของ Cartier Trinity และจัดการประมูลงานศิลปะส่วนตัวร่วมกับ Joopiter แพลตฟอร์มประมูลของ Pharrell ในฐานะผู้บุกเบิก เขาจะนำการผสมผสานระหว่างกีฬาและความคิดสร้างสรรค์ไปสู่อีกระดับ มาร่วมติดตามการเดินทางอันสร้างสรรค์ที่น่าตื่นเต้นนี้ไปพร้อมกัน

#Jacksonwang #nike #jordan

อั้ม-พัชราภา

อ.ช้าง ทักแรง! อั้ม-พัชราภา ดวงรักเด่น! ปีหน้ามีสิทธิ์สละโสด

Alternative Textaccount_circle
อั้ม-พัชราภา
อั้ม-พัชราภา

เรียกว่าเป็นข่าวฮือฮากันเลยทีเดียว เมื่อ “อาจารย์ช้าง ทศพร ศรีตุลา” ผนึกกำลังแบรนด์ LUCKANA (ลัคนา)   เปิดตัวคอลเลคชั่น ZEN Collection  เครื่องประดับสายมูต้อนรับปีมะเส็ง2568 ตามวันเกิดแบบ 7วัน 7สี ที่มูวัดเซ็นโคจิ ไดคันจิ จากประเทศญี่ปุ่นโดยงานนี้ หมอช้าง ได้เผยถึงข่าวดีมีเฮ ทำเอาเหยี่ยวข่าวบันเทิงที่ไปร่วมงาน ถึงกับตาลุกวาว เพราะปีหน้า 2568 ดวงของนางเอกซุปตาร์ตาวค้างฟ้า อั้ม-พัชราภา มีเกณฑ์สละโสดกับผู้ชายรถไฟความเร็วสูง

อั้ม-พัชราภา

“ปีหน้าเป็นปีที่ดีมาก ของ อั้ม-พัชราภา ไม่ใช่รถไฟขบวนสุดท้าย แต่เป็นรถไฟความเร็วสูง อั้นนี้ขอทายไว้ก่อน ถ้ามันไม่เกิดก็โทษอั้ม เพราะแต่ละนโยบายความรักของคนไม่เหมือนกัน บางคนอยู่กับเพื่อนแล้วมีความสุข บางคนดวงจะสละโสดมีโอกาสเข้ามา แต่วันๆ อยู่แต่กับหมา อยู่กับไรเดอร์ส่งอาหาร ก็ขึ้นอยู่กับคนแล้วแหละ เพราะถ้าขึ้นอยู่กับดวง ราศีพิจิกของอั้ม จะมีดวงเรื่องข่าวดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงาน ความรัก พื้นฐานอั้มมีสิทธิ์สละโสด แต่เพื่อนเค้าเยอะ ก็ต้องผ่ากำแพงยากนิดนึง เพราะกรรมการเยอะ แต่ด้วยในทางดวง ราศีเปิด ฟ้าเปิดโอกาสที่ดีก็มีเข้ามา แต่ต้องออกจากบ้านด้วย ไปเจอผู้คนบ้าง เพราะความรัก ไม่ได้หล่นลงมาจากฟากฟ้า บางทีอั้มเค้าออกจากบ้านก็ไปเจอแต่เพื่อนๆ กลุ่มเดิมไม่ได้เจอใครใหม่ๆ  ปีหน้าน่าจะเป็นปีที่มีข่าวดีครับ ถามว่าได้มีโฮกาสแนะนำอั้มมัย ก็แนะนำ ไปแล้ว และต่อจากนี้ว่าจะไปดีลิต App ช้อปปิ้งออนไลน์ของเค้าออกให้หมด เค้าจะได้ออกไปซื้อของนอกบ้านบ้าง ไปเจอคนอื่นๆ บ้าง”

และนอกจากนี้ปีหน้า 2568  อาจารย์ช้าง ทศพร ศรีตุลา นักโหราศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ย  ชื่อดังของประเทศไทย ในฐานะนักโหราศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ย และศาสตร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเป็นวิทยากรและผู้ให้คำปรึกษาฯ  เผยว่าจะเป็นปีที่ ทั้งดาวราหูและดาวเสาร์มีการย้ายราศีครั้งใหญ่ โดยเฉพาะครึ่งปีแรกทั้งราหู ดาวเสาร์ ดาวพฤหัส จะมีการเปลี่ยนราศีจำนวนมาก จะส่งผลค่อนข้างเยอะต่อดวง 12 ราศี ซึ่งเทรนด์การผสมผสานระหว่างศาสตร์แห่งการเสริมดวงสร้างแรงบันดาลใจเครื่องประดับสายมูที่สวยงามผนวกกับการเสริมสร้างพลังบวกให้กับชีวิต ที่ผ่านดีไซน์ที่งดงามจะได้รับความนิยม

และผมอยากจะแนะนำว่ากลุ่มคนที่สนใจเรื่องศาสตร์ความเชื่อ สายมู หรือ กลุ่มคนที่ต้องการเสริมสิริมงคล เสริมดวง เสริมความมั่นใจ เสริมพลังชีวิต กลุ่มคนที่ชอบเครื่องประดับแฟชั่น อยากเสริมลุคให้ดูโดดเด่น กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่สนใจเครื่องประดับที่มีความหมาย และชื่นชอบตามกระแสอินฟลูเอนเซอร์ ฯลฯ

อาจารย์ช้าง ทศพร ศรีตุลา แนะทริคง่ายๆ เลือกสีตามวันเกิดเสริมความปัง

วันอาทิตย์ สีส้ม (Carnelian) สื่อถึงพลังงาน ความมั่นใจ และแรงบันดาลใจ

วันจันทร์ สีขาว (Magnesite)  สื่อถึงความสงบ ความผ่อนคลาย และการลดความเครียด

วันอังคาร สีชมพู (Rose Quartz) เป็นหินแห่งความรัก ความเมตตา และการเยียวยาทางอารมณ์

วันพุธ สีเขียว (Green Aventurine) เชื่อมโยงกับโชคลาภ ความสำเร็จ และการเปิดรับโอกาสใหม่

วันพฤหัสบดี  สีเหลือง (Yellow Quartzite) ช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ ความกระจ่างในจิตใจ และเพิ่มพลังงาน

วันศุกร์ สีน้ำเงิน (Lapis Lazuli)  เป็นหินแห่งปัญญา ความจริง และการสื่อสาร

วันเสาร์ สีดำ (Onyx)  เป็นหินแห่งการปกป้อง เสริมความกล้า และป้องกันพลังงานลบ 

สำหรับ แบรนด์ LUCKANA (ลัคนา) คอลเลคชั่น ZEN Collection  เครื่องประดับสายมูต้อนรับปีมะเส็ง2568 ตามวันเกิดแบบ 7วัน 7สี ที่มูวัดเซ็นโคจิ ไดคันจิ จากประเทศญี่ปุ่น โดยการใช้หลัก THE ZEN ซึ่งเป็นศาสตร์และศิลป์แห่งความเรียบง่าย ความงามในความเรียบง่าย ยอมรับความงามตามธรรมชาติ (Wabi-Sabi) ความเรียบง่าย (Simplicity) ความเป็นธรรมชาติ (Naturalness) ความสงบและสมดุล (Tranquility and Balance) ความสวยงามในแบบที่แตกต่าง (Impermanence) การตระหนักรู้ในปัจจุบัน (Mindfulness in Creation)

วิวอลังฯ ของหวานอร่อย The Ritz-Carlton Bangkok ฉลองเทศกาลความสุขด้วย ชุดน้ำชายามบ่าย โดยเชฟซิลแวง กงสตองส์

วิวอลังฯ ของหวานอร่อย The Ritz-Carlton Bangkok ฉลองเทศกาลความสุขด้วย ชุดน้ำชายามบ่าย โดยเชฟซิลแวง กงสตองส์

Alternative Textaccount_circle
วิวอลังฯ ของหวานอร่อย The Ritz-Carlton Bangkok ฉลองเทศกาลความสุขด้วย ชุดน้ำชายามบ่าย โดยเชฟซิลแวง กงสตองส์
วิวอลังฯ ของหวานอร่อย The Ritz-Carlton Bangkok ฉลองเทศกาลความสุขด้วย ชุดน้ำชายามบ่าย โดยเชฟซิลแวง กงสตองส์

โรงแรม เดอะ ริทซ์คาร์ลตัน กรุงเทพฯ (THE RITZ–CARLTON, BANGKOK) มอบประสบการณ์การบริการและวัฒนธรรมที่แตกต่างอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน กับการเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขด้วย ชุดน้ำชายามบ่าย ที่รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน โดยเชฟซิลแวง กงสตองส์ (Sylvain Constans) ด้วยขนมหวาน สโคน และแซนด์วิชในธีมเทศกาล พร้อมจับคู่กับชาที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ รวมถึง Signature Blend และชา Seasonal Festive Blend จาก Araksa เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น หรือสามารถเพิ่มเติมความหรูหราด้วยแชมเปญสำหรับยามบ่ายสุดพิเศษ

ไฮไลต์จากชุดน้ำชาประกอบด้วยช็อกโกแลต ล็อก (Chocolate Log), แบล็คเคอร์แรนท์มงบล็อง (Blackcurrant Mont Blanc) และ เค้กคาราเมล และยูซุ รูดอล์ฟ (Caramel and Yuzu Rudolph Cake) ที่แสนละเมียดละไม ก่อนปิดท้ายด้วยรถเข็นขนมหวานซิกเนเจอร์ที่รวบรวมของหวานในธีมเทศกาล เพื่อเพิ่มเสน่ห์และความอบอุ่นในช่วงเวลาแห่งความสุขนี้

Caleō ซึ่งมาจากภาษาละตินที่หมายถึง ‘การตกหลุมรัก’ แสดงถึงแก่นแท้ของการดื่มด่ำและความโรแมนติก ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน เลานจ์สุดหรูนี้ชวนแขกให้เพลิดเพลินกับชุดน้ำชายามบ่ายที่สง่างาม หรือค็อกเทลยามค่ำที่มีความโดดเด่นและเต็มไปด้วยเสน่ห์อย่างมีศิลปะ พร้อมมอบความสุขหลากมิติให้กับประสาทสัมผัส

Caleō Festive Afternoon Tea ตั้งแต่วันนี้ – 5 มกราคม 2568 ณ ชั้น L, โรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ ราคา 1,600++ บาทต่อคน สำรองโต๊ะหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ www.theritzcarltonbangkok.com


เจาะความปัง iblanc สกินแคร์แบรนด์ไทยคุณภาพจึ้ง! ของสาวเก่ง “ทัฬห์ชญานี ลำพูนพงศ์”

account_circle

Exclusive Talk ครั้งนี้ แพรว ขอเอาใจคนรักผิวด้วยการพาไปพูดคุยกับ “คุณแคน – ทัฬห์ชญานี ลำพูนพงศ์” ซีอีโอสาวสวยเก่งเจ้าของแบรนด์ iblanc ซึ่งสร้างชื่อในวงการสกินแคร์ด้วยไอเท็มฮ็อตอย่าง iblanc Langsat White Honey Cream หรือ “ครีมลางสาด” ที่ล่าสุดขึ้นแท่นเจ้าของรางวัล Iconic Acne Control Facial Cream จากเวทีความงามแห่งปี Praew Iconic Beauty 2024 ถือเป็นสกินแคร์แบรนด์ไทยคุณภาพแน่นที่คว้ารางวัลอย่างต่อเนื่อง

จัดเต็มคุณภาพจนชนะใจคนรักผิว

“ถ้าให้พูดถึง iblanc ก็ต้องบอกว่าเราเป็นแบรนด์สกินแคร์ที่เติบโตมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ช่วยดูแลปัญหาผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัยได้มาตรฐาน สามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัยและทุกสภาพผิว ที่สำคัญคือมาพร้อมกับราคาที่จับต้องได้ โดยเรามุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ดูแลปัญหาสิวสำหรับทุกสภาพผิว แม้ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ค่ะ

“คอนเซ็ปต์ดังกล่าวสอดคล้องกับแนวคิดการทำงานในฐานะซีอีโอของแคน ซึ่งเน้นการทำงานอย่างซื่อสัตย์ ไม่หลอกลวงผู้บริโภค ยึดถือความจริงใจเป็นคีย์หลักของแบรนด์ iblanc เพราะแคนมองว่าหัวใจสำคัญของการทำงานในวงการสกินแคร์อย่างยั่งยืน คือการมอบความจริงใจให้กับลูกค้า สินค้าต้องมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และที่สำคัญคือต้องปลอดภัย”

ไอเท็มสู้สิวชนะใจกรรมการ Praew Iconic Beauty 2024

“สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมก็ต้องยกให้กับ iblanc Langsat White Honey Cream เลยค่ะ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘ครีมลางสาด’ ซึ่งจุดเด่นคือช่วยดูแลปัญหาสิวและรอยสิวโดยเฉพาะ ประกอบด้วยสารสกัดที่ดีต่อผิวอย่างน้ำผึ้งขาว ใบมินต์ป่า เมล็ดคำแสด Peptovitae Clear และ DN Aura ที่สำคัญยังอ่อนโยน ผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้

“อีกทั้งปีนี้ครีมลางสาดยังได้รับรางวัลจาก Praew Iconic Beauty 2024 ในสาขา Iconic Acne Control  Facial Cream ด้วยค่ะ รู้สึกดีใจและภูมิใจมากๆ เพราะแคนและทีมงาน iblanc ทุกคนตั้งใจพัฒนาแบรนด์อย่างเต็มที่ และรู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ที่นิตยสารแพรวเล็งเห็นถึงความตั้งใจตรงนี้ของเรา”

รักษาคุณภาพพร้อมเดินหน้าสร้างสรรค์

“ในการพัฒนาแบรนด์ เราให้ความสำคัญกับการรักษามาตรฐานคุณภาพและการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ โดยมีการเก็บฟีดแบ็กของลูกค้าที่ใช้จริงมาปรับใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่เสมอ เพราะเราให้ความสำคัญมากๆ กับความพึงพอใจของลูกค้า ทั้งในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์

“สำหรับในอนาคตมีแพลนที่จะแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมปัญหาผิวยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องสิว ตั้งใจว่าอยากมีทั้งสกินแคร์และเครื่องสำอาง เพื่อตอบโจทย์คนที่มีปัญหาสิว และอยากเพิ่มช่องทางการกระจายสินค้าทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แคนอยากให้ iblanc เป็นสกินแคร์ที่ช่วยดูแลผิวให้กับทุกคนค่ะ”


เปิดกล่องของขวัญ! ไอเท็มฮอลิเดย์ 4 แบรนด์ดัง ชิ้นไหนบ้างน่าซื้อ

Alternative Textaccount_circle

ฤดูเทศกาลแบบนี้มีของขวัญกันหรือยัง? Praew Survey นำไกด์ไลน์ไอเท็มฮอลิเดย์น่าซื้อจาก 4 แบรนด์ดังมาให้ทุกคนได้เลือกช้อป

เดือนธันวาคมเหมือนเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่เต็มไปด้วยเทศกาลมากมายไม่ว่าจะคริสต์มาส หรือวันปีใหม่ ที่รอให้เราได้เฉลิมฉลอง พร้อมมอบของขวัญแก่คนสำคัญ แต่กว่าจะเลือกของได้สักชิ้นมันไม่ง่ายเลยใช่มั้ยคะ เดินเข้าช้อปนู้นออกช้อปนี้ เปิดเข้าเว็บไซต์เป็นสิบแต่ก็เลือกไม่ได้สักที แพรวเซอร์เวย์เลยขอคัดไอเท็ม 4 แบรนด์ดังที่คนรับได้ไปไม่มีผิดหวังแน่นอน!

GUCCI

เริ่มต้นด้วย 4 ไอเท็มไฟน์จิเวลรี่ Horsebit จาก Gucci ที่แสนคลาสสิกเหนือกาลเวลา ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากกีฬาขี่ม้าสะท้อนผ่านสัญลักษณ์ห่วงและบาร์คู่บนสร้อยคอ สร้อยข้อมือ ต่างหู และแหวน รับรองว่าเป็นของขวัญที่เหมาะกับทุกช่วงอายุ และถูกใจคนรับค่ะ

Dior

ของขวัญสำหรับสาวหวาน ขาด Dior ไปไม่ได้ บอกเลยว่าปีนี้แบรนด์ก็จัดไอเท็มชิ้นเด็ดใส่ไว้ใน Holiday Gift ไว้เรียบเราเลยหยิบมาทั้งหมด 3 ชิ้น ตั้งแต่ต่างหูไข่มุกซิกเนเจอร์ประจำแบรนด์ ‘Dior Tribales Earrings’ ที่เพิ่มความพิเศษด้วยสีชมพูหวานแหวว ต่อมาเป็นสร้อยข้อมือ ‘Petit CD Double Bracelet’ สุดคิวต์ที่ซ่อนความ Festive ไว้บนดวงดาว และสุดท้ายหากให้ชิ้นนี้ใช้ได้นานๆ กระเป๋าตังค์ใบเล็กสีดำ ‘My Dior Glycine Wallet’ ก็ตอบโจทย์

MIU MIU

ความน่ารักยังไปกันต่อกับ MIU MIU ที่มีทั้งที่คาดผมหนังแก้วสุดคลาสสิกสีน้ำตาลโดดเด่นด้วยอะไหล่โลโก้สีทอง, ต่างหูวงกลมสไตล์มินิมอลตกแต่งด้วยโลโก้ตัวอักษร Miu Miu ตรงกลาง และสุดท้ายแว่นตากันแดดที่แมตช์เข้ากับลุคไหนก็ช่วยทวีคูณความเก๋หลายเท่า

PRADA

มาถึง PRADA กับไอเท็มที่ไม่ควรพลาดอย่าง หมวกบักเก็ต Re-Nylon ที่เวลาผ่านไปเท่าไหร่ก็ยังไม่ Out! ครั้งนี้มาในสีเบจตกแต่งด้วยอะไหล่สีทองช่วยเพิ่มความหรูหรา ถัดมาเป็น Card Holder สีชมพูพาสเทลยุคนี้ใครไม่ค่อยพกกระเป๋าตังค์ไอเท็มชิ้นนี้ล่ะคือคำตอบ! ปิดท้ายด้วยพวงกุญแจน้องหมีสุดคิวต์ ไหนๆ ช่วงนี้คนก็ฮิตแขวน Art Toys กันเต็มกระเป๋า สายแฟ(ชั่น) อย่างเราเขยิบมาห้อยลูกหมี Prada คงเป็นที่ตื่นตาแน่นอน


ภาพ: Dior, Gucci, Miu Miu และ Prada

เติมความสุขส่งท้ายปีกับ HUUYAOW Box of Joy ของขวัญแห่งการแบ่งปัน

account_circle

ต้อนรับเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความสุข กับคาแรคเตอร์สุดคิ้วท์อย่างหูยาวและเมลโล่ Classis Christmas ในโปรเจกต์ HUUYAOW Box of Joy ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของเซ็นทรัลปิ่นเกล้าที่นำคาแรคเตอร์สุดคิ้วท์มามอบความสุขและความน่ารักให้กับทุกคน

โปรเจกต์ HUUYAOW Box of Joy ได้รับแรงบันดาลใจจากความเชื่อของเด็ก ๆ ทั่วโลกเกี่ยวกับกล่องของขวัญจากซานตาคลอส HUUYAOW Box of Joy จึงไม่ได้เป็นเพียงงานศิลปะ แต่เป็นเครื่องเตือนใจว่า ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราจะมอบให้กันได้คือการแบ่งปันทุกสิ่งที่เรามี ทั้งความหวัง ความรัก และความฝันที่ยิ่งใหญ่

สัมผัสความสุขและความน่ารักได้ที่ ชั้น 5 Central Pinklao ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. 2024 – 31 ม.ค. 2025

#CentralPinklao #เซ็นทรัลปิ่นเกล้า

#HUUYAOWxCentralPinklao

#HUUYAOWBoxofJoy #BoxofJoy


เจาะแนวคิดทันตกรรมเพื่อความงาม Bangkok International Dental Center (BIDC)

account_circle

ด้วยเทรนด์ความงามในปัจจุบันที่การทำฟันไม่ใช่แค่เพื่อสุขภาพที่ดีของช่องปากเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องความสวยความงามเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพื่อสร้างรอยยิ้มสวยเติมเต็มความมั่นใจ ดังนั้น Exclusive Talk ครั้งนี้ แพรว จึงพาไปพูดคุยกับทีมทันตแพทย์ของ Bangkok International Dental Center (BIDC) ได้แก่ ทันตแพทย์หญิง จุฑาสินี พรพลศรัณย์, ทันตแพทย์ กิตินันท์ ตฤษณวสุนธรา และทันตแพทย์ จิรัชญ์ สวัสดิพงษ์ ซึ่งเป็นเจ้าของรางวัล Iconic Aesthetic Expert Dental Center จากเวทีความงามแห่งปี Praew Iconic Beauty 2024

โดดเด่นด้วยการรักษาแบบองค์รวม

ทพ.จิรัชญ์ : “คอนเซ็ปต์การทำงานของศูนย์ทันตกรรม BIDC เราจะมุ่งเน้นไปที่การรักษาแบบ Comprehensive Assessment ซึ่งหมายถึงการรักษาแบบองค์รวม โดยเราเป็นศูนย์ทันตกรรมขนาดใหญ่ที่เปิดมานานกว่า 15 ปี ได้รับรางวัลมากมายทั้งในไทยและต่างประเทศ นอกจากนี้เรายังได้รับการรับรองคุณภาพจากทั้ง ISO และ JCI ว่าเป็น US Standard โดยการรักษาของเราจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างทันตแพทย์เฉพาะทางจากหลายสาขา ทำให้ผู้รับบริการได้รับการรักษาที่ดีและปลอดภัย รวมถึงมั่นใจได้ในความเป็นมืออาชีพของเราครับ”

ทพญ.จุฑาสินี : “จุดเด่นของศูนย์ทันตกรรม BIDC คือเราเป็นศูนย์ทันตกรรมครบวงจร หรืออาจเรียกว่าเป็น One Stop Dental Center ขนาดใหญ่ที่มีทันตแพทย์เฉพาะทางครบทุกสาขา เพราะฉะนั้นหากมีเคสที่ซับซ้อน ทันตแพทย์ก็จะมีการปรึกษาหารือกัน เพื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะกับผู้รับบริการแต่ละคน ซึ่งจะเป็น Comprehensive Dental Treatment Planning ที่เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการของผู้รับบริการอย่างแท้จริง ในส่วนของการรักษาแต่ละขั้นตอนเราจะมีการส่งต่อไปให้กับสเปเชียลลิสต์ในแต่ละสาขานั้นๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้รับบริการว่าจะได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพที่ดีค่ะ”

ทพ.กิตินันท์ : “ศูนย์ทันตกรรม BIDC มีการรักษาทุกรูปแบบ ตั้งแต่การตรวจประเมินอย่างง่ายไปจนถึงการทำงานในลักษณะคอนเซาท์ระหว่างสาขาในกรณีที่เคสมีความซับซ้อน ดังนั้นบริการของเราจึงมีความครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการทำตัวครอบฟัน การทำรากฟันเทียม หรือการทำฟันเพื่อความสวยงาม เช่น การจัดฟันทั้งแบบลวดและแบบใส การทำ Veneer การทำ Astra Tech ซึ่งทุกการรักษาของเราจะเริ่มต้นจากการตรวจประเมินอย่างละเอียดและเหมาะสม รวมถึงเรายังมีทางเลือกการรักษาที่หลากหลายตามความสะดวกของผู้รับบริการด้วยครับ”

ตอบโจทย์เทรนด์ทันตกรรมเพื่อความงาม

ทพ.กิตินันท์ : “การทำทันตกรรมเพื่อความงาม ถือเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เพราะความสวยในนิยามของแต่ละคนมักมาจากความพึงพอใจ ความชอบ หรือรสนิยมที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นหากผู้รับบริการเข้ามาปรึกษาเรา เราก็จะถามก่อนเลยว่าต้องการแก้ไขอะไร หรืออยากได้รอยยิ้มแบบไหน เพื่อวิเคราะห์แล้วแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด โดยบางคนอาจต้องแก้ไขมากกว่าหนึ่งอย่าง บางคนอยากได้รอยยิ้มที่สวยอย่างเป็นธรรมชาติ บางคนชอบลักษณะที่เป็น Smile Makeover หรือรอยยิ้มอวดฟันขาวแบบดาราฮอลลีวู้ด เราก็จะนำความต้องการหรือปัญหานั้นๆ มาวิเคราะห์ เพื่อวางแผนการรักษาให้ตอบโจทย์ ซึ่งปัจจุบันเรามีการนำเทคโนโลยีด้านดิจิทัลเข้ามาเป็นตัวช่วยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการประเมิน การพยากรณ์ หรือการดีไซน์รอยยิ้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการประมวลผลการรักษาให้ผู้รับบริการได้เห็นก่อนการรักษาจริง“

ทพ.จิรัชญ์ : “ในการรักษาด้วยเทคโนโลยีด้านดิจิทัล ศูนย์ทันตกรรม BIDC จะมีการอัปเดตอยู่ตลอดเวลา โดยเรามีหลากหลายเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน เช่น เครื่อง Intra Oral Scanner เครื่อง CT Scan เครื่อง CAD/CAM เครื่อง 3D Printer ซึ่งช่วยในการวิเคราะห์และวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม ยกตัวอย่างการทำ Digital Smile Design ที่มีการใช้เทคโนโลยีด้านดิจิทัลเข้ามาช่วยในการออกแบบรอยยิ้มใหม่ให้กับผู้รับบริการ ซึ่งสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ก่อนการรักษาจริง โดยสิ่งสำคัญในการนำเทคโนโลยีด้านดิจิทัลมาใช้ในการทำทันตกรรม คือการสื่อสารกันระหว่างทันตแพทย์กับผู้รับบริการ และระหว่างทันตแพทย์กับทีมช่างแลปทางทันตกรรม ซึ่งจะช่วยให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพและรวดเร็วครับ”

ทพญ.จุฑาสินี : “หัวใจสำคัญของการทำทันตกรรมเพื่อความงาม คือการที่ทันตแพทย์สามารถเข้าใจความต้องการของผู้รับบริการได้ดี แล้วถ่ายทอดออกมาเป็นผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ให้มากที่สุด เพื่อสร้างรอยยิ้มที่สวยงาม รวมถึงเข้ากับใบหน้าหรือบุคลิกของผู้รับบริการอย่างตรงใจ”

คว้ารางวัลสำคัญ 2 ปีซ้อน

ทพ.จิรัชญ์ : “รางวัล Iconic Aesthetic Expert Dental Center จาก Praew Iconic Beauty 2024 ถือเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจของศูนย์ทันตกรรม BIDC พวกเรารู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรอยยิ้มที่สวยงามให้กับทุกคน อีกทั้งยังดีใจที่ได้รับรางวัลนี้เป็นปีที่สองแล้วด้วยครับ”

ทพ.กิตินันท์ : “การได้รับรางวัลต่อเนื่องแสดงให้เห็นถึงคุณภาพของเราที่มีการรักษามาตรฐาน ซึ่งนอกจากการดำรงไว้แล้ว เรายังต้องทำให้ดีขึ้นด้วย ดังนั้นเราจึงมุ่งเน้นการพัฒนาในทุกแง่มุม ทั้งเรื่องประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและความรวดเร็วยิ่งขึ้นของผลงาน รวมถึงความพร้อมของเครื่องมือและการเลือกใช้เครื่องมืออย่างเหมาะสมกับแต่ละเคส”

ทพญ.จุฑาสินี : “พวกเรารู้สึกขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนและทุกความไว้วางใจ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบรอยยิ้มให้กับดารา เซเลบริตี้ หรือใครก็ตามที่อยากมีรอยยิ้มสวยๆ นอกจากนี้ยังมีผู้รับบริการชาวไทยที่อยู่ต่างแดนและผู้รับบริการชาวต่างชาติที่ตั้งใจเดินทางมารักษากับเราที่นี่ สำหรับเป้าหมายต่อไปของเราคือการมุ่งมั่นในการรักษามาตรฐานและพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น เพื่อก้าวไปสู่การเป็นผู้นำศูนย์ทันตกรรมเพื่อความงามที่มีคุณภาพของเอเชียแปซิฟิกค่ะ”


keyboard_arrow_up