เหล่าเซเลบริตี้ แชร์ทริค "ดูแลผิวกาย" นุ่มชุ่มชื้นรับมินิลมหนาว

เหล่าเซเลบริตี้ แชร์ทริค “ดูแลผิวกาย” นุ่มชุ่มชื้นรับมินิลมหนาว

Alternative Textaccount_circle
เหล่าเซเลบริตี้ แชร์ทริค "ดูแลผิวกาย" นุ่มชุ่มชื้นรับมินิลมหนาว
เหล่าเซเลบริตี้ แชร์ทริค "ดูแลผิวกาย" นุ่มชุ่มชื้นรับมินิลมหนาว

JOURNAL แบรนด์น้ำหอมสัญชาติไทย จัดเวิร์คช็อปเผยเคล็ดลับการ ดูแลผิวกาย รับมินิลมหนาว พร้อมชวนเหล่าเซเลบริตี้สาวผิวสวย อาทิ อภินรา ศรีกาญจนา, เอมษิกา โชติวิจิตร และธัญวรรณ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ร่วมกิจกรรมดูแลผิว พร้อมแชร์ทริคดูแลผิวและการเลือกของขวัญมอบให้คนสำคัญในช่วงเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี

เริ่มที่เวิร์คกิ้งวูแมน อภินรา ศรีกาญจนา เผยว่า “ปกติเราเป็นคนที่มีผิวกายค่อนข้างแห้งอยู่แล้ว พออายุเพิ่มขึ้นก็รู้สึกได้ว่าผิวมีความแห้งกร้านมากยิ่งขึ้น ก็จะไม่ละเลยการดูแลผิวกาย โดยเราจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนจากธรรมชาติมาใช้ โดยเฉพาะออยล์บำรุงผิวกายจะใช้เป็นขั้นตอนแรกหลังการอาบน้ำทันที เพราะจะช่วยบำรุงผิวอย่างล้ำลึกพร้อมเคลือบล็อกความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดี จะเลือกเป็นกลิ่น The Legacy เพราะมีกลิ่นหอมละมุนไม่ฉุน โดยส่วนตัวเราชอบกลิ่นแนวไม้หอม และกลิ่นนี้มีเบสโน้ตที่เป็นกลิ่นอะการ์วูด (Agarwood) จึงชอบเป็นพิเศษ ส่วนของขวัญชิ้นสำคัญเราคิดว่าการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอมมอบให้กับคนที่เรารักก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยจะเลือกกลิ่นให้เหมาะสมกับคาแรคเตอร์ของคนรับ”

ต่อมาที่สาวสังคม เอมษิกา โชติวิจิตร เล่าว่า “ส่วนตัวเราชื่นชอบการดูแลผิวให้มีความโกลว์ ดูสุขภาพดีทั้งผิวหน้าและผิวกาย เพราะสะท้อนว่าเราเป็นคนที่ใส่ใจในการดูแลตนเอง ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ขาดไม่ได้เลยคือ บอดี้ออยล์ กลิ่นแนวฟลอรัลหอมดอกไม้อย่าง First Love เป็นกลิ่นหอมละมุนที่เราชอบใช้นวดผิวกายอยู่เป็นประจำ เพราะนอกจากจะช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่ม ไม่แห้งกร้าน แต่ยังมีกลิ่นช่วยสร้างความผ่อนคลายขณะใช้ด้วย ส่วนของขวัญในช่วงเทศกาลเฟสทีฟปลายปีนี้ เราคิดว่าน้ำหอมหรือบอดี้ออยล์ที่มีกลิ่นหอม จะสามารถสร้างความประทับใจแก่ผู้รับได้เป็นอย่างดี โดยสามารถเลือกกลิ่นที่เหมาะกับคนที่จะมอบให้ หรือเลือกเป็นกลิ่นโทนกลางๆ อย่างออยล์กลิ่น Natura ที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ จากธรรมชาติก็เหมาะที่จะมอบให้กับผู้รับหลากหลายช่วงวัย”

ปิดท้ายที่สาวผิวสวย ธัญวรรณ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เผยว่า “เราเป็นคนที่ชอบการอาบน้ำอุ่นเป็นประจำและชอบอยู่ในห้องแอร์อยู่ตลอด จึงจะต้องดูแลผิวตัวเองไม่ให้แห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่จะใช้เป็นประจำคือ บอดี้ออยล์โดยจะใช้ทาผิวก่อนอาบน้ำ ช่วยล็อคความชุ่มชื้นไม่ให้แห้งกร้านจากการอาบน้ำอุ่น นอกจากนี้ยังจะใช้ทาแทนโลชั่นบำรุงผิวในระหว่างวันด้วย ที่ไม่เพียงช่วยบำรุงแต่ยังมีกลิ่นหอมช่วยทำให้เรามั่นใจมากยิ่งขึ้น ส่วนตัวเราชอบกลิ่น Nang Ram เพราะเป็นกลิ่นหอมที่มีเสน่ห์น่าดึงดูดใจ ส่วนของขวัญที่จะมอบให้คนพิเศษในช่วงเทศกาลแห่งความสุขปลายปีนี้ คิดว่าการมอบเครื่องหอมที่มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ จะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความสุขได้ด้วย”

โดย JOURNAL นั้น มี Essential Oil สกัดจากธรรมชาติ ทั้งจากไม้ ผลไม้ ดอกไม้และสมุนไพรนานาชนิด ซึ่งถูกเก็บเกี่ยวในช่วงเวลาที่เหมาะสม และยังลดการใช้ synthetic (สารสังเคราะห์) รวมถึงใช้ส่วนผสมหลักจากน้ำมันมะพร้าว เพื่อลดปริมาณแอลกอฮอล์ในส่วนผสม ที่สามารถช่วยลดการแพ้น้ำหอมในบุคคลได้ โดยกระบวนการและวิธีในการผลิตน้ำหอม “JOURNAL” ได้ใช้กรรมวิธีการผลิตแบบน้ำอบน้ำปรุงจากภูมิปัญญาของไทย โดยการสกัดกลิ่นจากวัตถุดิบธรรมชาติ ที่ต้องใช้เวลานานประมาณ 3-6 เดือน ทำให้เกิดกลิ่นหอมใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด จากนั้นนำมาผสมผสานกับการปรุงน้ำหอมแบบสมัยใหม่ที่พิถีพิถัน จนได้น้ำหอมที่มีคุณภาพควบคู่กับกลิ่นที่เป็นธรรมชาติ

บอดี้ออยล์สามารถใช้ได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อให้ผิวกายมีสุขภาพที่ดีและยังช่วยเสริมสร้างบรรยากาศด้วยกลิ่นหอม ซึ่งสามารถใช้ทาได้ทันทีหลังการอาบน้ำ โดยชโลมบนผิวขณะที่ผิวยังเปียกหมาด เพื่อให้ความชุ่มชื้นซึมลึกเข้าสู่ผิว หรือใช้ทาก่อนอาบน้ำ เพื่อช่วยป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นระหว่างการอาบน้ำจากน้ำอุ่น จะทำให้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัส สามารถใช้แทนโลชั่นบำรุงผิว ให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกแต่ไม่ทำให้ผิวเหนอะหนะ หรือจะใช้เป็นตัวกลางในการนวดผ่อนคลายทั้งช่วยบำรุงผิวและกลิ่นหอมช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลายขณะนวด รวมถึงสามารถใช้ก่อนฉีดน้ำหอม โดยแนะนำให้ใช้น้ำหอมที่เป็นกลิ่นเดียวกันคู่กับบอดี้ออยล์จะช่วยให้กลิ่นหอมนั้นกระจายตัวและติดทนยาวนาน มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้กลิ่นหอมแต่ละกลิ่นก็จะมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันออกไป


ปังส่งท้ายปี! Multy แบรนด์ดิ้งสดใสกว่าเคย พร้อมขยายสาขาสยามโลเคชั่นใหม่ แถมใหญ่จุใจกว่าเดิม

ปังส่งท้ายปี! Multy สาขาสยามโลเคชั่นใหม่ แถมใหญ่จุใจช้อปเพลินกว่าเดิม

Alternative Textaccount_circle
ปังส่งท้ายปี! Multy แบรนด์ดิ้งสดใสกว่าเคย พร้อมขยายสาขาสยามโลเคชั่นใหม่ แถมใหญ่จุใจกว่าเดิม
ปังส่งท้ายปี! Multy แบรนด์ดิ้งสดใสกว่าเคย พร้อมขยายสาขาสยามโลเคชั่นใหม่ แถมใหญ่จุใจกว่าเดิม

Multy ด้วยแบรนด์ดิ้งใหม่ดูสดใสกว่าเคย พร้อมขยับขยายสาขาสยามโลเคชั่นใหม่ใกล้โลเดิม แถมใหญ่กว่าเดิม ช้อปเพลินๆ ได้ง่ายขึ้น เอาใจชาวด้อมMulty lovers และพิเศษสุดๆ กับเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง นอกจากนี้ เป็นครั้งแรกของมัลตี้ที่ท้าเหล่า New Gen ออกมาโชว์สเต็ปกับศิลปินคนโปรดครั้งใหญ่ใจกลางสยามในงานMULTY Fandom Festa 2024

MULTY (มัลตี้) ต่อยอดความเป็น Trendsetter ในธุรกิจร้านค้าปลีกในตลาดความงาม ตั้งเป้าครองใจกลุ่มลูกค้า New Gen ก่อนใคร MULTY ร้านค้าปลีกเครื่องสำอางที่เป็นตัวเลือกแรกในใจเมื่อพูดถึงแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลี ผลิตภัณฑ์ความงามที่เป็นกระแส และหายาก กับก้าวใหม่ในการเป็นผู้นำเทรนด์ จึงมุ่งมั่นคัดสรรผลิตภัณฑ์จากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นสินค้า K-Beauty, J-Beauty, โดยเฉพาะแบรนด์ไทยที่กำลังไวรัลในโซเชียลมารวมไว้ที่MULTY ที่เดียว จนเกิดเป็นคอมมูนิตี้ผ่าน #รีวิวมัลตี้ ให้ได้ค้นพบตัวเองในแบบฉบับที่ดีขึ้นในทุกๆ วัน

นอกจากนี้ มัลตี้ ยังเปิดพื้นที่ให้กับทุกคนที่รักความงาม เตรียมขยายฐานคอมมูนิตี้ GEN Z ผ่านการจัดงานครั้งยิ่งใหญ่ใจกลางสยามในงาน MULTY Fandom Festa 2024 เป็นครั้งแรกของ T-POP x Random Dance Thailand ท้าเหล่า New Gen เหล่าแฟนด้อมมัลตี้ ออกมาโชว์สเต็ปกับศิลปินสุดโปรดที่ลานมัลตี้ (Block K) ในงานพบกับกิจกรรมสุดพิเศษจากมัลตี้กับกิจกรรม Meet & Geet ออม กรณ์นภัส งานนี้MULTYจับมือกับ Brand Partner อย่าง MILLE ส่ง ป๋อ ศุภการ และเจเจ รัชพล มาร่วมทำการแสดงโชว์สุดพิเศษ ภายในงานยังมีกิจกรรมจากบูธแบรนด์ดังมากมายเพื่อมอบประสบการณ์ความสนุกให้กับครอบครัวมัลตี้


ยูนิโคล่ เปิดตัว UT ลิมิตเต็ด เอดิชัน ส่ง สพันจ์บ็อบ สแควร์แพนส์ สุดกวนรับสิ้นปี

account_circle

ยูนิโคล่ เปิดตัวคอลเล็คชั่นความร่วมมือเสื้อยืด UT (UNIQLO T-shirt) ลายพิเศษจากการ์ตูนแอนิเมชันเรื่องดังที่ครองใจผู้คนทั่วโลก สพันจ์บ็อบ สแควร์แพนส์ (SpongeBob SquarePants) ร่วมกับแบรนด์เสื้อผ้าสุดเก๋แห่งยุคอย่าง แคตตัส แพลนท์ ฟลี มาร์เก็ต (Cactus Plant Flea Market) ที่มัดใจแฟนๆ ทั่วโลกผ่านผลงานที่โดดเด่นไม่เหมือนใครอยู่เสมอ

ยูนิโคล่ เปิดตัว UT ลิมิตเต็ด เอดิชัน ส่ง สพันจ์บ็อบ สแควร์แพนส์ สุดกวนรับสิ้นปี

ไอเท็มในคอลเล็คชั่นประกอบด้วยเสื้อยืด เสื้อฮู้ดดี้ หมวก และตุ๊กตา พร้อมวางจำหน่ายที่ร้านยูนิโคล่ทุกสาขาตั้งแต่วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคมนี้

คอลเล็คชั่นนี้โดดเด่นด้วยสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Cactus Plant Flea Market รวมถึงลวดลาย “ดับเบิลวิชัน” ที่นำมาใช้กับ สพันจ์บ็อบ (SpongeBob) แพทริค (Patrick) และตัวละครอื่นๆ จาก SpongeBob SquarePants คอลเล็คชั่นลิมิเต็ดเอดิชันจากความร่วมมือของทั้งสามฝ่ายถือเป็นการเฉลิมฉลองช่วงเวลาคลาสสิกของซีรีส์ที่ทำให้เแฟนๆ ทั่วโลกต่างเข้าใจซึ่งกันและกันผ่านแอนิเมชั่นเรื่องนี้ โดยให้ Cactus Plant Flea Market นำลายเส้นและอารมณ์ขันที่มีเอกลักษณ์มาเปลี่ยนโฉมเหล่าตัวละครของเมือง Bikini Bottom ลงบนเสื้อผ้าแบบต่างๆ

SpongeBob SquarePants ได้กลายเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่คนหลายรุ่นหลงรัก ซึ่งครั้งนี้ถูกตีความใหม่โดยศิลปินร่วมสมัย ผู้สร้างสรรค์ในวัฒนธรรมป๊อปยุคใหม่อย่าง Cactus Plant Flea Market โดยคอลเล็คชั่น UT สุดพิเศษนี้ วางจำหน่ายเฉพาะที่ยูนิโคล่เท่านั้น


อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม

Exclusive Talk อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม นักสนทนาธรรมผู้ไม่เคยตายไมค์!

Alternative Textaccount_circle
อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม
อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม

หนึ่งในกระแสของปีนี้ คือการปรากฏตัวของ อาจารย์เบียร์ ฅนตื่นธรรม อดีตหมอดูที่ผันตัวมาเป็นผู้ศึกษาและถ่ายทอดธรรมะด้วยการถาม-ตอบในลีลาเดือดดุ

แน่นอนว่าเมื่อเป็นเรื่องของศาสนาและความเชื่อ จึงเกิดหลายฟากความเห็น ฝั่งที่สนับสนุนบอกว่าสิ่งที่อาจารย์เบียร์พูดมีเหตุผลตรงไปตรงมา ขณะที่ฝ่ายไม่ชอบ บอกว่าขัดกับความเชื่อดั้งเดิม รวมถึงวิจารณ์ถึงการใช้ภาษาที่ไม่รื่นหู แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้คือ อย่างน้อยสังคมเกิดการ ‘ตื่น’ ที่จะใฝ่หาคำตอบเรื่องธรรม

ที่มาของสไตล์คนตื่นธรรม

“อาจารย์เคยฟังคำสอนของหลวงตามหาบัว สังเกตว่าที่คนฟังมากอาจเพราะท่านเล่าจากประสบการณ์ ไม่ใช่สอน อาจารย์จึงใช้วิธีนั้น ทำให้ถามไวตอบไว ผิดน้อย เพราะตอบจากใจและจากการฝึกของตัวเอง แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ผิดเลย ถ้าพลาด แล้วมีใครติง เตือน ก็ขอโทษ

“สำหรับสไตล์การพูด อาจารย์สังเกตว่า ขนาดท่านเป็นพระยังสอนหนักๆ ได้เลย เราเป็นฆราวาส สามารถรุนแรงได้มากกว่า จึงหยิบอาการนั้นมาใช้ สาเหตุมาจากเจตนาที่อยากให้คนฟัง ถ้าเราพูดดีมาตลอด วันหนึ่งเขาทำไม่ดีแล้วมาขอคำปรึกษา หากด่าไป โดยที่เขาไม่เคยเห็นโหมดอันตรายของเรามาก่อน เขาอาจคิดว่า ที่ผ่านมาสร้างภาพเหรอ เขาจะรับไม่ได้ แล้วหายไป ซึ่งนั่นคือเรื่องที่เคยเกิดขึ้นจริงสมัยที่อาจารย์พูดจาดี เพราะฉะนั้น ใครรับได้ก็ฟัง รับไม่ได้ก็ไม่ต้องฟัง ให้เกลียดตั้งแต่แรก ไม่ใช่ฟังไปสักพัก แล้วค่อยเกลียด  ที่สำคัญการสอนธรรมะไม่เกี่ยวกับวาจา แต่เกี่ยวกับหลักเนื้อความตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ว่าเนื้อธรรมของพระองค์ท่านคืออะไร”

อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม

บางคำสอนอาจขัดกับความเชื่อดั้งเดิม จนเกิดดราม่า เวลาเจอคำติ รับมืออย่างไร

 “ต้องทิ้งอารมณ์ คือถ้าเราฝึกมาแล้วว่า จะไม่ยินดี ยินร้ายกับอารมณ์ใด เพราะเรามีความเมตตาสงสารต่อการสั่งสอน อาจารย์หยิบยกกริยาอาการของการดุด่าว่ากล่าวเพื่อมาสั่งสอนให้เขารู้สึกตัวเร็วที่สุด เพราะฉะนั้นการทิ้งอารมณ์เหล่านี้ไม่ยากเพราะเราฝึกในการเจริญเมตตา

 “ถ้าถามว่ามีอารมณ์ขุ่นมัว โกรธบ้างไหม มีอยู่แล้วเพราะเราทุกคนยังมีความโกรธ แม้กระทั่งโสดาบันก็ยังมี แต่ไม่ได้โกรธภายใต้บริบทเบียดเบียนเขา ด้วยการผิดศีล 5 หรือการผิดกุศลกรรมบถ 10 (หลักธรรมแห่งความเจริญในชีวิต) เพราะฉะนั้นถ้ารู้ตัวว่าโกรธก็จะทิ้ง แล้วใช้สติสัมปชัญญะในการตอบคำถาม ดึงเข้าหมวดธรรม การสอนของอาจารย์ ไม่ได้ด่าเพื่อสนุก สะใจ ทำร้ายทำลายใคร แต่ด่าเพื่อติติงตามธรรม ให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเอง บางคนชอบถามว่าทะเลาะอะไรกัน อาจารย์โกรธใคร ซึ่งความจริงไม่ได้โกรธ เวลาด่าก็ด่าไป แต่พอหันมาที่คำถามใหม่ ถ้าสังเกตจะเห็นว่าเปลี่ยนเสียง เจตนาในการเปลี่ยนเพื่อให้เห็นว่า ตั้งใจกับเรื่องใหม่แล้ว สองไม่ได้โกรธกับอารมณ์นั้น แค่อาศัยอากัปกริยาและไม่ใช่ด่าตัวคน แต่ด่าคำถาม”

อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม

คิดอย่างไรกับชื่อเสียงขณะนี้

“ตอนที่มีดารามาขอถ่ายรูป ก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่า กูคือใครวะนี่ ทำไมเขาสนใจ มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต เราไม่รู้กระแสความดังของตัวเอง เพราะไม่ค่อยเล่นโซเชียล จะมีลูกศิษย์ส่งมาให้ แต่ก็พยายามรับรู้ว่า ของพวกนี้ไม่ได้มีประโยชน์ ไม่ได้ปลาบปลื้ม ปิติยินดี ไม่ได้รู้สึกว่า ดัง เพราะไม่ได้มีผลประโยชน์กับการเข้าไปดังตรงนั้น ถ้าอาจารย์ดังแล้วเกิดรายได้ ก็คงจะอิน ขวนขวายให้ได้ตังค์

“หลายคนถามว่า อาจารย์เป็นอินฟลูเอนเซอร์แล้วนะ ค่าตัวในการไปบรรยายธรรม ออกรายการกี่บาท  อาจารย์บอกเลยว่า อาจารย์ไม่มีค่าตัว ถ้าอยากให้ ให้ทำบุญเข้าบัญชีเงินกองกลางนะ ซึ่งเป็นบัญชีที่นำไปใช้ปฏิบัติธรรม อย่างล่าสุดงานกฐินก็ใช้เงินกองกลาง ประมาณ 140,000-150,000 เพื่อเป็นค่ารถบัส 19 คัน เพราะบางคนอยากมาฟังธรรม แต่ไม่มีปัจจัย เราอยากให้เขาได้ทำบุญ ได้ยิน ได้ฟังธรรม ก็ช่วยซัพพอร์ต หรือนำเงินไปซื้ออาสนะให้คนปฏิบัติธรรม ก็หมดไปเป็นหลักแสน อาจารย์ไม่หยิบมาใช้ จะแยกกับบัญชีส่วนตัวชัดเจน  จะมีแอดมินจะคอยจดบัญชีแชร์สลิปการใช้จ่ายเงินในเฟซบุ๊กอย่างละเอียด ซึ่งวันหนึ่งที่ต้องไปบวช อาจารย์ไม่สามารถเก็บอาสานะ ข้าวของต่างๆได้อยู่แล้ว ก็จะบริจาคให้วัดที่ขาดแคลน แต่ถ้าขอ อยากขอค่าน้ำมันให้คนขับรถ สามารถโอนให้เขาตรงได้เลย เพราะเขาสละเวลามาช่วยเต็มเวลาโดยที่ไม่มีรายได้”

การบวชปลายปีหน้า เตรียมตัวถึงไหนแล้วคะ

“เตรียมมานานแล้ว ถึงเวลาบวชก็บวชได้เลย และการบวชวัดป่าไม่วุ่นวาย แค่อยู่ในผ้าขาวครบ 1 เดือน แล้วรอครูบาอาจารย์อนุญาตให้บวช ทุกอย่างที่วัดมีให้ครบสมบูรณ์ ถ้าใครอยากบวชแต่ไม่มีเงินก็บวชได้ วัดจะจัดการให้ทั้งหมด คิดว่าจะเตรียมตัวอีกทีคือตอนบวช ไม่ได้เตรียมเพื่อตัวเองนะ แต่เตรียมเพื่อลูกศิษย์ที่ตามไปงานบวชด้วย”

“ที่วางแผนไว้คือบวชอย่างน้อย 5 ปี อยากปลีกวิเวก หลีกเร้น หลังจากนั้นจะออกมาบอกสอนในฐานะพระ ก็ค่อยว่ากันอีกที”

จุดมุ่งหมายในการบวชครั้งนี้คืออะไร

“อย่างเดียวที่อาจารย์ปรารถนาคือ สู่มรรคผลนิพพาน ต้องการไปให้ถึงตัวสุดท้าย คือการละสังโยชน์ (กิเลสที่ผูกมัดใจสัตว์) ทั้ง 10 ข้อให้จบสิ้น รวมถึงทำหน้าที่กิจการงานของตนให้จบ เพราะตอนนี้ยังอยู่แค่ในช่วงเบื้องต้นเท่านั้น พยายามจะไปบวชเพื่อทำความเพียรให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ ไม่ใช่ว่าปัจจุบันเราไม่ได้ทำ แต่ถ้าจะเอื้อให้ถึงประโยชน์ของการภาวนาได้ดีที่สุด”

“การเป็นอาจารย์จะสอนคนอื่น ตัวเราต้องทำให้ได้ก่อน อย่างอาจารย์พูดว่าต้องรักษาศีล ก็ต้องทำให้ได้ ดังนั้นจะทำอะไรให้ถึงที่สุด ก็ต้องทำให้ยิ่งขึ้นไป วันนี้อาจารย์สอนฆราวาส วันหน้าอาจารย์อยากจะสอนพระ เพราะพระเป็นเนื้อนาบุญโดยตรงในการสอนธรรม จะได้อยู่ในยุคที่พระกลับมาสอนธรรมะมากกว่าฆราวาส เพราะฉะนั้นถ้าจะสอนพระได้ก็ต้องเป็นพระก่อน นั่นคือจุดมุ่งหมาย เมื่อฆราวาสกับพระช่วยกันรวมเป็นหนึ่งเดียว ทำให้พระศาสนารุ่งเรืองอีกครั้ง”

“อาจารย์ไม่คิดอยากปรับปรุงระบบ เพราะคงทำไม่ได้ แต่อยากสร้างใหม่ อย่างปัจจุบันเราสร้างให้ฅนตื่นธรรม เลิกความเห็นผิด ก้าวเข้าสู่ความเห็นถูกต้อง คนก็หันกลับมาสนใจคำสอนของพระพุทธเจ้ามากขึ้น เพราะฉะนั้นสร้างใหม่ง่ายกว่าล้มล้างของเดิม”

สามารถติดตามอ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารแพรว ฉบับเดือน ธันวาคม 2567

เรื่อง Fai

ภาพ อิทธิศักดิ์

ผู้ช่วยช่างภาพ ศักดินนท์ ปิตะฝ้าย

Beyond The Vines

Beyond The Vines 3 ไอเท็มรุ่นพิเศษ เฉลิมฉลองเทศกาลวันหยุด

account_circle
Beyond The Vines
Beyond The Vines

ต้อนรับเทศกาลวันหยุดด้วยกระเป๋าคอลเล็คชั่นใหม่จาก Beyond The Vines ซึ่งครั้งนี้แบรนด์ส่งซีรีส์ Crunch Carryall และ Poofy รุ่นพิเศษที่มาพร้อมผ้าเนื้อเมทัลลิกที่มีพื้นผิวใหม่ สำหรับเทศกาลนี้โดยเฉพาะ

สำหรับกระเป๋า Holiday Poofy เป็นหนึ่งในไลน์ผลิตของกระเป๋า poofy ยอดฮิตของแบรนด์ และได้ผลิตออกมาต่อจากคอลเล็คชั่น Glazed Poofy ในเดือนกันยายน

โดย Holiday Poofy มาพร้อมกับตัวกระเป๋าที่มีความแวววาวด้วยผ้าเมทัลลิกที่มีพื้นผิวเงางามและสายสะพายที่ออกแบบใหม่เพื่อให้สะดวกสบายสำหรับทั้งการสะพายไหล่และสะพายข้าง เช่นเดียวกับกระเป๋า Poofy รุ่นก่อน Holiday Poofy มีการผสมผสานระหว่างการออกแบบและการใช้งานเข้าด้วยกัน เพื่อให้มีความง่ายต่อการใช้งานและมีขนาดที่พอเหมาะสำหรับใส่ของจำเป็นต่างๆ โดยมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Maroon, Navy และ Grey

อีกหนึ่งรุ่นที่ไม่ควรพลาด Holiday Round Pouch กระเป๋าขนาดกระทัดรัด ทำจากผ้าเมทัลลิก สามารถเก็บ AirPods, กุญแจ หรือ เหรียญได้อย่างง่ายดาย พร้อมช่องภายในที่มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย กระเป๋ามีห่วงข้อมือที่สามารถถอดออกได้ เพิ่มความสะดวกในการพกพา โดยมีให้เลือก 3 สี เช่นเดียวกับกระเป๋า Holiday Poofy ได้แก่ Maroon, Navy และ Grey

ปิดท้ายด้วยไอเท็มที่เหล่า BTV ควรจับจองเป็นเจ้าของ กระเป๋า Crunch Carryall ออกแบบมาสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งการใช้ได้ชีวิตประจำวันและใช้ในการเดินทาง โดยผลิตจากวัสดุไนลอนกันน้ำทนทาน ที่ตอบโจทย์กับทุกการใช้งาน มีฟังก์ชั่นหลากหลาย พร้อมช่องใส่ของภายในตัวกระเป๋า และสายสะพายที่ปรับได้ เพิ่มความคล่องตัวในการใช้งาน

สำหรับกระเป๋า Crunch Carryall มีให้เลือกด้วยกัน 3 ไซส์ Crunch Carryall 01, Crunch Carryall 02 และรุ่นใหม่ล่าสุดที่พึ่งเปิดตัวออกมา Crunch Carryall 03 กระเป๋าไซส์ใหญ่ มาพร้อมช่องสำหรับเสียบใส่กับกระเป๋าเดินทาง เพิ่มความสะดวกสบายให้กับการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลนี้ และมีให้เลือกหลากหลายสี ได้แก่ Lilac, Warm Olive, Turquoise, Cream, Sage และ Magenta

กระเป๋า Holiday Poofy และ Round Pouch รวมถึงกระเป๋า Crunch Carryall ในสีสันและฟังก์ชั่นใหม่ เหมาะกับการใช้งานในเทศกาลวันหยุด พิเศษสำหรับชาว BTV ทางร้านมีบริการบริการปักชื่อลงบนกระเป๋าแบบฟรีๆ ที่สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 25 ธันวาคมนี้ เท่านั้น


ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ

บทสัมภาษณ์ ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ นักแสดงที่ไม่หยุดพัฒนา

Alternative Textaccount_circle
ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ
ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ

นักแสดงสาวนัยน์ตาคมที่โด่งดังมาจากซีรีส์เกิร์ลเลิฟ “ทฤษฎีสีชมพู GAP The Series” (2565-2566) จนเป็นที่คลั่งไคล้ของแฟนๆ ทั้งไทยและต่างประเทศ “ฟรีน สโรชา” มีเสน่ห์น่าจับตามองมาตั้งแต่เป็นผู้เข้าประกวด “มิสทีนไทยแลนด์ 2016” โดยเข้ารอบ 15 คนสุดท้าย และได้รับ “ตำแหน่งหุ่นสวยสุขภาพดี” นอกจากนี้เธอยังมีความสามารถมากมายทั้งรำโขน, เต้น, ร้องเพลง, คทากร, พิธีกร, วาดภาพ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นนักแสดงสังกัด “Idol Factory” ของ “เซ้นต์ ศุภพงษ์” นักแสดงหนุ่มมากความสามารถ

ฟรีนมีผลงานการแสดงอันโดดเด่นหลากหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น “ยูเรนัส2324” (ภาพยนตร์, 2567), “แอบหลงรักเดอะซีรีส์” (ซีรีส์, 2565), “ทฤษฎีสีชมพู” (ซีรีส์, 2565-2566) และ “ปิ่นภักดิ์” (ซีรีส์, 2567)

ผลงานเพลงประกอบซีรีส์ “ทฤษฎีสีชมพู” ได้แก่ “ทฤษฎีรักนี้สีชมพู” (2565), “คำสั่งจากหัวใจ” (2565), “Whisper” (2565), “Marry Me” (2566) และ “No More Blues” (2566)

รวมไปถึงผลงานการแสดงมิวสิกวิดีโอ เช่น “ก่อนฤดูฝน” (THE TOYS, 2560), “Goodbye” (สิงโต นำโชค, 2561), “ผิดที่ฉันกอดเธอไม่แน่นพอ” (Playground feat. เรนิษรา, 2566) และ “มองหน้ากันไม่ติด” (โอ๊ต ปราโมทย์ feat. MAIYARAP, 2567)

และล่าสุดฟรีนมีภาพยนตร์สยองขวัญคอมเมดี้เรื่อง “ไรเดอร์” (สหมงคลฟิล์มฯ) ที่แสดงคู่กับ “มาริโอ้ เมาเร่อ” ในบทบาทหญิงสาวลึกลับที่แก๊งไรเดอร์ต้องออกตามหาจนเข้าไปปะทะเหล่าผีร้ายสุดวายป่วง

จุดเริ่มต้นในการร่วมงานโปรเจกต์นี้

“พี่กังฟู” (ผู้กำกับ) เล่าให้ฟังว่าไปเห็น “ฟรีน” ในหนังเรื่องหนึ่งที่พี่เค้าเข้าไปดูการถ่ายทำซึ่งหนูอยู่ในเซต พอคัตเสร็จหนูก็มานั่งเฉยๆ กำลังพักอยู่ไม่คุยกับใคร เก็บเอเนอร์จีไว้เตรียมเข้าเซตต่อ พี่เค้ามาเห็นหนูตอนนั่งเหม่ออยู่คนเดียวพอดี แล้วก็มาเล่าให้หนูฟังทีหลังว่าวันนั้นพี่เจอหนูที่กองถ่ายนี้นะ แล้วรู้สึกว่าหนูเหมาะกับบทที่กำลังทำพอดี เลยติดต่อให้หนูลองไปแคสต์ให้หน่อย มาลองเป็น “พาย” ให้ดูหน่อย พี่ฟูส่งบทมาให้แล้วไปลองเล่นซีนหนึ่ง พี่ฟูดูเสร็จก็บอกขอบคุณมาก แล้วหนูยังไม่รู้ว่าจะได้เล่นหรือเปล่า เพราะระยะเวลาก็ห่างไปหลายอาทิตย์อยู่ แล้วพี่ฟูก็แจ้งกลับมาว่า โอเคเป็นหนูค่ะที่ได้เล่นบทนี้

ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ

บทบาท-คาแร็กเตอร์

เรื่องนี้หนูรับบทเป็น “พาย” เจ้าของร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือ เป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงมาก ชอบใส่หูฟังแล้วอยู่กับตัวเอง รักอิสระ อยากทำในสิ่งที่อยากทำ มีอะไรในใจค่อนข้างเยอะแต่ก็ไม่รู้จะพูดกับใคร ไม่รู้จะเล่าให้ใครฟัง เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ มีคาแร็กเตอร์น่าค้นหา ลึกๆ แล้วเป็นคนเฟรนด์ลีเข้ากับคนอื่นได้ นะถ้ารู้จักกันจริงๆ แต่อย่างที่บอกเขาโลกส่วนตัวสูง มีกำแพง ก็ยากที่ใครจะทำลายกำแพงเข้าไปได้ จนกระทั่งได้รู้จักกับ “นัท” (มาริโอ้ เมาเร่อ) ไรเดอร์ที่มาส่งของให้เรา จนนำไปสู่ความสัมพันธ์ทั้งโรแมนติกทั้งสยองทั้งฮาค่ะ

ก่อนถ่ายทำเรื่องนี้ พี่ทีมงานพาฟรีนไปเวิร์กชอปวิธีการซ่อมมือถือมาด้วย ดูว่าเขาไขน็อตตรงไหน แงะตรงไหน ขั้นตอนการเปลี่ยนหน้าจอต้องเริ่มจากอะไร เพื่อให้เวลาเราถ่ายทำจะไม่ต้องมาพะวงกับวิธีการตรงนี้ แล้วคิดว่าถ้าคนในกองถ่ายอยากเปลี่ยน หนูเปลี่ยนได้ละ แต่ต้องมีอะไหล่มาให้นะคะ เปิดทำเป็นรายได้เสริมได้เลย

การร่วมกับแก๊งไรเดอร์ “มาริโอ้-โน่-อาร์ต”

หนูยังไม่เคยร่วมงานกับพี่ๆ ทั้งสามคนมาก่อนเลยค่ะ สำหรับ “พี่โอ้” นี่หนูติดตามผลงานมาตั้งแต่ “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก” (2553) พี่โอ้เป็นคนเก่งมาก ติดตามผลงานของเขามาเสมอ และตื่นเต้นที่จะได้มาร่วมงานกับพี่โอ้พระเอกแถวหน้าของเมืองไทย ซึ่งหนูเพิ่งเข้ามาในวงการภาพยนตร์ใหม่ๆ รู้สึกยินดีมากที่ได้มีโอกาสร่วมงาน พี่โอ้เป็นพี่ชายที่น่ารักมากคนหนึ่ง เขาเข้าได้ดีกับทุกคนรอบตัวเลย ดูพี่เขาทำงานชิลๆ คงเพราะประสบการณ์เยอะ ตอนหนูกับพี่โอ้ไปเวิร์กชอปกัน พี่เค้าก็ทำให้เรารู้สึกอินไปกับตัวละครได้มากตั้งแต่ครั้งแรกเลย พอตอนเข้าเซตจริงๆ เราก็เอาความรู้สึกวันที่เราเวิร์กชอปมาใช้ได้เลย

“พี่โน่” หนูก็ไม่เคยร่วมงานมาก่อนเช่นกัน หนูไปทำการบ้านเลยว่าพี่โน่เป็นใคร ทำอะไรมาบ้าง พอตามดูพี่โน่ไปเรื่อยๆ ติดเลยทีนี้ พี่โน่มืออาชีพมาก เป็นคนนอกบทตลอด แต่ขำสุด มีพรสวรรค์ในด้านการแสดง และมีอะไรแปลกใหม่มาเซอร์ไพร์สเสมอ มีพี่โน่จะสนุกมาก ขำมาก เวลาอยู่ในกองถ่ายบรรยากาศมันน่ากลัว และถ่ายทำตอนกลางคืน หนูจะคอยชวนพี่โน่ไปนี่หน่อย ไปกินน้ำ ไปกินข้าวกัน เล่นกีตาร์ให้ฟังหน่อย อยู่ในกองหนูจะติดพี่โน่เหมือนกัน อุ่นใจเพราะพี่โน่ไม่กลัวผี

ส่วน “พี่อาร์ต” เก่งตรงที่ไม่หลุดขำออกมาได้ไง เพราะเวลาพวกพี่เขาเล่นด้วยกันมันตลกมาก พวกเขามีจังหวะในการแสดงได้ลงตัว เข้าออกถูกจังหวะกันเป๊ะๆ พี่อาร์ตจะเป็นสายแบบพี่เหนื่อยมาก พี่ไม่ไหว หนูก็จะทำหน้าที่กองเชียร์ พี่อาร์ตสู้ๆ พี่อาร์ตเก่งมาก คอยส่งกำลังใจให้ ถึงพี่อาร์ตจะบ่น ดูเหนื่อย แต่พอเข้าเซตคือทำได้ดีตลอด จนสงสัยว่าพี่อาร์ตเหนื่อยจริงหรือเปล่าเนี่ย อย่างมีอยู่ซีนหนึ่งพี่อาร์ตปวดท้องเข้าห้องน้ำทั้งวัน แล้วคืนนั้นมีหลายซีนมากถ่ายทำทั้งคืนจนตี 2 ลากยาวมาจนคิดว่าไม่น่าจะไหวแล้ว แต่พี่อาร์ตอยู่จนถึงซีนสุดท้าย สปิริตสูงมาก หนูรู้เลยว่าพี่อาร์ตเก่งมาก

ร่วมงานกับผู้กำกับ “กังฟู นิติวัฒน์” เป็นยังไงบ้าง

“พี่กังฟู” น่ารักมาก เป็นผู้กำกับที่ใจดี เวลาที่เราไม่เข้าใจอะไรก็เดินไปถาม เราก็จะได้คำตอบกลับมา แล้วไม่ใช่แค่ว่าเราเข้าใจเฉยๆ แต่มันเข้าใจลึกลงไปมากกว่านั้น พี่เขามีภาพในหัวที่คิดไว้หมดแล้วว่าอะไรจะอยู่ตรงไหน หรือควรเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งมันทำให้เราทำงานง่ายมากในการถ่ายทำ ไม่ใช่แค่หนู แต่กับทุกฝ่าย การถ่ายทำเลยรวดเร็วตามเวลาตามกำหนด พี่กังฟูใจดีมาก เป็นคนใจเย็น ทำงานสบายๆ แต่คุณภาพแน่นอนค่ะ

แต่ละโลเคชันในเรื่องนี้ทำเราหลอนบ้างไหม

มีหลอนหลายที่เลยค่ะ แต่ก็มีที่ไม่หลอนด้วยอย่าง “สะพานพุทธ” เป็นอะไรที่ใหม่สำหรับ “ฟรีน” เพราะหนูไม่เคยไปเดินเล่นแถวนั้นเลย ได้เห็นบรรยากาศทั้งกลางวัน กลางคืน มีคนเดินข้ามไปมาทั้งวัน มีร้านขายของ คนมานั่งชิล บรรยากาศดี วิวสวย ประทับใจที่นี่เพราะมันไม่เคยเกิดขึ้นกับเรามาก่อน

ส่วนที่หลอนสุดสำหรับหนูคือที่ “วัด” มันน่าขนลุกนิดนึง มีโบสถ์ และเจดีย์เก็บกระดูกเก่าแก่กว่าสี่ร้อยปี ตอนกลางวันสวยงามมาก ตกกลางคืนยอมรับเลยว่าน่ากลัว ทางเปลี่ยว ตรงเมรุตรงเจดีย์ไม่มีไฟเลย ตรงที่เราไปนั่งรอเข้าเซตก็อยู่ข้างเจดีย์เก็บกระดูกอันใหญ่ๆ แล้วเราถ่ายทำกันจนถึงตี 2 ในเซตที่เป็นป่าช้า เป็นป่าที่ทีมอาร์ตเซตขึ้นมาตรงลานหลังโบสถ์ แต่มันเหมือนของจริงมากจนเกิดความไม่แน่ใจ แล้วต้องมีการเล่นกับเรื่องราวของศพอีก น่ากลัวเลยค่ะ แล้วคุณแม่ที่มาแต่งเอฟเฟกต์เป็นศพ แกนั่งอยู่ในระยะที่มองเห็นกัน หนูกำลังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่ เงยหน้ามาแล้วเห็นแกแล้วตกใจสุด เพราะทั้งบรรยากาศทั้งมุมที่อยู่  ทุกอย่างมันเหมือนว่าเราตกอยู่ในสถานการณ์ในเรื่องของจริงเลยค่ะ

ส่วนตัว “ฟรีน” เป็นคนกลัวผีมากน้อยแค่ไหน

กลัวระดับสูงสุดค่ะ สมมติถ้าหนูต้องล้างหน้า หนูไม่สามารถล้างหน้าไปปิดตาไปได้ ใจมันจะคอยคิดว่าจะมีคนมาอยู่ข้างๆ กลัวขนาดนั้นเลยค่ะ แต่ส่วนใหญ่ หนูจะกลัวไปเองมากกว่า สมมติว่าได้กลิ่นหรือได้ยินเสียงแปลกๆ หนูจะคิดละว่าต้องมีผี ส่วนตัวเลยยังไม่เคยเจออะไรจังๆ แต่ก็กลัวอยู่ดี หนูมากองถ่ายนี้คุณแม่ก็ให้พระมาด้วย พกไว้อุ่นใจดีค่ะ แต่มาอยู่กองนี้ไม่เจอผีนะคะ ถึงแต่ละที่ที่ไปมันหลอนมากจริงๆ มันต้องมีแน่ๆ แต่สุดท้ายก็ไม่เจออะไรค่ะ

ส่วนตัวใช้บริการไรเดอร์บ้างไหม

ทุกวันนี้พี่ “ไรเดอร์” อยู่ในทุกช่วงเวลาของหนูเลย บางวันเราขี้เกียจจะออกไป รถติด เหนื่อย จะหิวข้าวสั่งข้าว เวลาป่วยสั่งยา ส่งของ พี่เขารันได้ทุกวงการ สะดวกสบายมากขึ้น แล้วเขาก็เก่งมากขี่มอเตอร์ไซค์ไปได้ทุกที่ทุกเวลา ฝนตกก็ไป เส้นทางที่อาจจะไม่เคยไป หรือเส้นทางแปลกๆ ก็ไป ต้องใช้ Google Map เป็น หนูว่าทุกอาชีพเลยนะที่ต้องใช้บริการเขา อาชีพเดียวรับจบได้ทุกอย่างจริงๆ

ประทับใจอะไรบ้างในการแสดงเรื่องนี้

ประทับใจที่การทำหนังเรื่องนี้ของ “ฟรีน” เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในหนังเรื่อง “ไรเดอร์” นี้ รู้สึกสนุก มีความสุขในทุกวันที่มาออกกอง พี่ๆ ทุกฝ่ายเก่งมากทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง รู้สึกว่ามันผ่านการวางแผนมาแล้ว มันเริ่มสนุกมาตั้งแต่เจอกันวันแรก ที่เราได้ฟิตติ้งกันจนถึงวันปิดกอง มาเล่นหนังผีที่มันน่ากลัวแต่บรรยากาศกองน่ารัก หนูได้รับประสบการณ์ทั้งการแสดงและเอนจอยกับทุกคนในกองมากๆ ค่ะ

ความน่าสนใจโดยรวมของเรื่องนี้ในมุมมองของฟรีน

ความเป็น “ไรเดอร์” ค่ะ เพราะทุกวันนี้เราใช้บริการพี่ไรเดอร์อยู่ตลอดเวลา หนูเป็นแค่ผู้ใช้บริการปกติธรรมดาทั่วไป แต่เราไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วไรเดอร์แต่ละคนเขาต้องเจอะเจอเรื่องราวอะไรมาบ้าง เจอลูกค้าแบบไหนมาก่อน เขาเคยไปรับออเดอร์หรือเคยเจอออเดอร์ประหลาด ลึกลับ สยองขวัญแบบในเรื่องนี้บ้างไหม ซึ่งหนูคิดว่าพอภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดอีกมุมหนึ่งของอาชีพไรเดอร์ มันก็จะทำให้เรารู้สึกแปลกใหม่แบบที่เราไม่เคยรู้มาก่อน อาชีพพี่เขาต้องไปทุกที่ บางสถานที่เราไม่รู้จักแต่พี่เขารู้ มันต้องมีอยู่แล้วกับเรื่องความน่าขนลุกระหว่างทำงาน การเอาอาชีพของไรเดอร์มาเป็นตัวเล่าเรื่อง เป็นตัวที่พาเราไปในที่หลอนๆ แค่นี้ก็สนุกน่าติดตามแล้วค่ะ

หนูก็ขอฝากผลงานเรื่อง “ไรเดอร์” ด้วยนะคะ พวกเราทั้งพี่ฟู, พี่โอ้,พี่โน่, พี่อาร์ต, หนู และทีมงานทุกคนเต็มที่กับหนังมาก อยากให้คนที่มาดูได้เดินออกจากโรงไปพร้อมกับรอยยิ้มและความสนุก อยากให้ทุกคนได้มาชมภาพยนตร์เรื่องนี้พร้อมๆ กันขอบคุณค่ะ

อู่เหลียงเย่ เฉิดฉายในงาน Michelin Guide 2025 ประเทศไทย

อู่เหลียงเย่ เฉิดฉายในงาน Michelin Guide 2025 ประเทศไทย

Alternative Textaccount_circle
อู่เหลียงเย่ เฉิดฉายในงาน Michelin Guide 2025 ประเทศไทย
อู่เหลียงเย่ เฉิดฉายในงาน Michelin Guide 2025 ประเทศไทย

อู่เหลียงเย่ (Wuliangye) แบรนด์ไป๋จิ่วชื่อดังจากประเทศจีน ในฐานะ Global Partner สร้างความโดดเด่นและน่าประทับใจในงาน Michelin Guide Ceremony 2025 Thailand หรือ ประกาศผลรางวัลร้านอาหารที่ได้รับคัดเลือกในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำ พ.ศ. 2568 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้

งานนี้ถือเป็นจุดสิ้นสุดของปีที่สำคัญสำหรับ Wuliangye ในฐานะ “พันธมิตรระดับโลก” ของ Michelin Guide ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ตั้งแต่ศิลปะการทำอาหารญี่ปุ่น ความประณีตของ อาหารอิตาเลียน การผสมผสานอาหารมาเลเซีย และรสชาติอันหลากหลายของอาหารไทย Wuliangye ได้แสดงให้เห็นถึงความลงตัวของไป๋จิ่วจีนกับอาหารระดับโลกผ่านพิธีประกาศผล Michelin Guide


ออฟ-นพณัช ผู้อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์ซีรีส์วาย

account_circle

“ทุกคนคู่ควรกับการมีความรักที่ดี” คือแนวคิดในสร้างสรรค์ผลงานของ “ออฟ – นพณัช ชัยวิมล” ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ ซีรีส์วาย

ออฟ – นพณัช ชัยวิมล” ผู้อำนวยการฝ่าย Content Production GMMTV คือผู้อยู่เบื้องหลัง ซีรีส์วาย ที่สร้างหลายปรากฏการณ์ อาทิ เขามาเชงเม้งข้างๆ หลุมผมผมครับ, เพราะเรา (ยัง) คู่กัน, นิทานพันดาว, แค่เพื่อนครับเพื่อน, พระจันทร์มันไก่ และล่าสุด Last Twilight…ภาพนายไม่เคยลืม ฯลฯ ส่งให้ออฟคว้ารางวัลมากมาย อาทิ Best LGBTO+ Programme Media in Asia จากเวที Content Asia Awards 2023 ติดต่อกัน 4 ปี ผู้กำกับ ซีรีส์วาย แห่งปี FEED Y Capital Awards 2022 ผู้กำกับซีรีส์ยอดเยี่ยม Y Universe Awards 2023

ขณะที่เส้นทางชีวิตก็น่าสนใจไม่แพ้กับ เขาตัดสินใจคัมเอาต์กับครอบครัวตอนอายุ 38 เพราะอยากเข้าใจความรู้สึกของตัวละคร รวมถึงความตั้งใจที่จะสร้างค่านิยมว่า ความรักของ LGBTQ+ ไม่จำเป็นต้องลงเอยด้วยโศกนาฎกรรม

ออฟ - นพณัช ชัยวิมล

เริ่มสนใจงานกำกับการแสดงตั้งแต่เมื่อไหร่คะ

            “ต้องเล่าก่อนว่า เราโตมากับการอ่านหนังสือ ดูหนัง ดูละคร เป็นความบันเทิงที่ฮีลใจตั้งแต่เด็ก และเป็นองค์ประกอบสำคัญที่หล่อหลอมให้เป็นตัวเองในวันนี้ ที่บ้านมีหนังสือเยอะ จำได้ว่า มีนิยายโรแมนซ์เรื่องหนึ่งที่เปิดโลกมาก เสียดายจำชื่อไม่ได้ เป็นเรื่องราวการสลับตัวของฝาแฝด ที่คนหนึ่งไปทำภารกิจและเสียชีวิตในทะเล ส่วนแฝดที่ยังอยู่ ถูกคนรักของแฝดที่ตายเข้าใจผิด คิดว่าเป็นแฟน อ่านแล้วรู้สึกประทับใจกับการคิดพล็อตเรื่อง พร้อมกับที่ได้รู้ว่า นิยายมีองค์ประกอบสำคัญนอกจากคาแร็คเตอร์ของตัวละครคือ พล็อต, การพลิกปมต่างๆ จากนั้นก็ติดหนังสือมาตลอด ส่วนภาพยนตร์ก็ดูทุกประเภท จนมาถึงเหตุการณ์ที่ทำให้รู้ตัวว่าอยากทำงานสายนี้ คือตอนที่โรงเรียนจัดละครเวที แล้วเราอยากมีส่วนร่วมมาก มันเหมือนมีพลังงานบางอย่างดึงดูด กระทั่งม.ปลาย ก็ได้ทำสมใจ พอรู้ตัวว่าสนใจงานแนวนี้ จึงตัดสินใจเรียนสายนิเทศศาสตร์”

เข้ามาสู่เส้นทางการเป็นผู้กำกับอย่างไรคะ

            “เราเริ่มงานแรกที่ GMMTV มีโอกาสทำงานหลายส่วน ทั้งอีเวนท์ การตลาด ฝ่ายสถานี จนรู้ว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่ตัวเรา จึงคุยกับพี่ถา (สถาพร พานิชรักษาพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GMMTV) ว่า ผมทำงานสายนี้ได้นะ แต่วันหนึ่งคงลาออก พี่ถาถามว่า งั้นอยากทำอะไร ผมตอบว่า ซีรีส์ ทั้งที่ไม่เคยทำ

            “พอพี่ถาอนุญาต ก็เริ่มจากทำหนังสั้น ‘รักจริงปิ้งเก้อ’ ที่คล้ายรายการคลับฟรายเดย์ คือนำเรื่องที่ทางบ้านโทรมาเล่า มาทำเป็นหนัง จากนั้นขยับไปเป็นผู้ช่วยผู้กำกับ เขียนบท กระทั่งได้กำกับเต็มตัวเรื่องแรกใน ‘เขามาเชงเม้งข้างๆ หลุมผมครับ’ โดยได้สิงโต-ปราชญา และโอม ภวัต มาแสดงนำ”

งานกำกับฯยากไหมคะ

            “ความรู้สึกโดยรวมคือไม่ยาก ทั้งที่ไม่เคยกำกับ ไม่รู้เหมือนกันว่ามั่นมาจากไหน (หัวเราะ) แต่ตอนนั้นพร้อมกระโจน อยากทำมาก ทำทุกอย่าง นอกจากกำกับเอง ยังเป็นโค้ชแอ็คติ้ง และเขียนบทเองด้วย มันทำให้รู้ว่าตัวเองต้องการสื่ออะไร และใช้ทุกประสบการณ์จากการดูหนัง ฟังเพลง มาสร้างซีรีส์ ซึ่งเราเล่นของยากตั้งแต่แรก คือเลือกแนวแฟนตาซี สืบสวนสอบสวน มีผี ซึ่งความยากก็คือฉากซีจีนี่แหละ

             “ความที่ไม่ได้จบด้านฟิล์ม พอเจอฉากเทคนิค เช่น ผีต้องตัวโปร่งแสง หรือหายตัว ก็หาคนเก่งๆ มาช่วยให้ภาพในหัวเป็นจริง เขาแนะนำว่า ฉากนี้ต้องถ่ายสิงโตคนเดียวก่อน แล้วค่อยถ่ายน้องโอม จากนั้นค่อยมาแมตช์กัน นั่นกลายเป็นเรื่องยากของเรา เพราะถ้าน้องๆ ไม่ได้ถ่ายด้วยกัน ก็ต้องหาเครื่องมือมาช่วยให้อารมณ์นักแสดงต่อเนื่อง แม้จะถ่ายคนละเทคก็ตาม เป็นความยากที่สนุกด้วย”

ย้อนกลับไปตรงจุดเริ่มที่อยากกำกับซีรีส์วายหน่อยนะคะ

            “ในฐานะคนในสังคมของ LGBTQ+ เราเข้าใจความโรแมนติกของผู้ชายกับผู้ชายเป็นอย่างดี บวกกับได้ทำซีรีส์ในช่วงที่ตลาดวายกำลังเติบโต จึงเหมือนได้ทำเรื่องที่ตัวเองเข้าใจดีที่สุด”

            “ช่วงที่เรามาทำงานตรงนี้ เริ่มมีซีรีส์วายออกมาบ้างแล้ว แน่นอนว่าอาจจะมีบางคนที่ยังไม่ชินกับภาพที่ผู้ชายรักกันแล้วสับสน เกิดการตั้งคำถามว่า ซีรีส์วายคือซีรีส์เกย์หรือเปล่า โดยส่วนตัวคิดว่าไม่ว่าจะซีรีส์วายหรือเกย์ ก็สามารถอยู่ในหมวดเดียวกันได้ ทฤษฎีของความเป็นวาย รากเหง้ามาจากการ์ตูนมังงะ (สำหรับคำว่า วาย (Y) ย่อมาจากคำว่า ยาโอย (Yaoi) เป็นคำจากภาษาญี่ปุ่น หมายถึงชายรักชาย) ที่เล่าถึงความรักของผู้ชาย-ผู้ชาย ในประเด็นโรแมนติก เนื้อหาเบา ย่อยง่าย แต่ขณะเดียวกันก็สื่อสารประเด็นบางอย่างออกไป เช่น  กฎหมาย การกดทับในครอบครัว หรือการคัมเอาท์ โดยเนื้อหาต้องไม่หนักเกินไป เราสามารถใช้ซีรีส์วายมาเล่าประเด็นของ LGBTQ+ให้สังคมเข้าใจมากขึ้น ทั้งการสมรสเท่าเทียม ตัวตน ครอบครัว การบูลลี่ต่างๆ โดยไม่เสียความโรแมนติกไป”

มีประเด็นที่อยากสอดแทรกในงานเป็นพิเศษไหมคะ

            “การยอมรับตัวตนของกลุ่ม LGBTQ+ ทั้งจากตัวเอง ครอบครัวและสังคม ซึ่งต้องชั่งน้ำหนักอีกทีว่าแต่ละเรื่อง สามารถใส่ได้แค่ไหน อย่างน้อยที่สุด ต้องสื่อว่าคนกลุ่มนี้สามารถมีความรักที่ดีได้ มีปลายทางที่สว่างไสว เพราะเมื่อก่อนละครมักพรีเซนต์กลุ่ม LGBTQ+ ผ่านตัวละครตลก เป็นช่างแต่งหน้า ช่างทำผม หากมีความรัก สุดท้ายมักไม่สมหวัง ฆ่าตัวตายบ้าง หรือไม่ก็ถูกจับแต่งงานกับผู้หญิง ซึ่งเราเชื่อว่าซีรีส์วายจะเข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ ชี้ให้เห็นว่า ผู้ชายกับผู้ชายมีความรักที่ดี สมบูรณ์และสวยงามได้ ทุกวันนี้เราคิดว่า คนเริ่มชินแล้วกับการเห็นผู้ชายเดินจับมือกัน  เพราะเขาก็เคยเห็นจากซีรีส์ ขณะเดียวกันการที่ประเทศถูกผลักดันเดินมาถึงวันที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่านร่างพรบ.ก็คิดว่า ส่วนหนึ่งมาจากกระแสของซีรีส์วายที่ทำหน้าที่บอกสังคมทางอ้อมให้เห็นความสำคัญของความรักและความเท่าเทียมด้วย”

ในยุคที่มีซีรีส์วายมากมาย คุณออฟคิดว่าปัจจัยอะไรที่จะทำให้ซีรีส์ประสบความสำเร็จ

“เนื้อเรื่องสนุก โปรดักชั่นดี แคสติ้งตัวละครได้น่าสนใจ และวิธีการกำกับที่สามารถใช้วัตถุดิบที่มีออกมาได้ตรงใจคนดู แต่สุดท้ายเราไม่สามารถตอบได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า จะดัง หรือถูกใจคนดูหรือไม่ ส่วนตัวคิดว่า นักแสดงมีผลอย่างมาก คู่นี้เคมีดีมากจนฉันอยากดู ฉันเริ่มเชื่ออะไรบางอย่างจากคู่นี้ จากนั้นเขาจะไปสวมบทบาทไหน เรื่องสนุกยังไง ก็เป็นองค์ประกอบถัดไป”

มีวิธีประเมินเคมีนักแสดงยังไงคะ

“ต้องเริ่มจากดูบทว่า คาแร็คเตอร์ในเรื่องว่านิสัยเป็นยังไง แล้วดูนักแสดงในค่ายว่าใครน่าจะเหมาะกับบท สิ่งที่ยากกว่านั้นคือเคมี เพราะไม่มีสูตรตายตัว ต้องใช้ประสบการณ์ เนื่องจากเคมีไม่ได้ขึ้นกับความสามารถเพียงอย่างเดียว มีนักแสดงหลายคนที่แสดงเก่งมาก แต่อยู่ด้วยกันแล้วอาจไม่มีเคมีเลย หรือบางคู่ แสดงยังไม่เก่ง แต่เวลาอยู่ด้วยกัน มีเคมีที่เชื่อว่าไปด้วยกันได้

“อย่าง ไบรท์ – วิน เริ่มจากรูปถ่าย พอวางรูปคู่กันก็เจอพลังงานบางอย่างที่รู้สึกว่า อยู่ด้วยกันแล้วน่าจะดี จากนั้นก็ให้น้องมาแคสติ้ง พูดคุยว่า นิสัยตัวละครเป็นยังไง ที่สำคัญคือ เวลาเขาอยู่ด้วยกัน เราจิ้นหรือเปล่า (ยิ้ม) คือเราต้องเชื่อก่อนว่า เขาจะจีบกันได้ เป็นแฟนกันได้ สามารถจินตนาการต่อได้ว่า หากคู่นี้ไปกินข้าวกันสองคน แล้วจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง ซึ่งคู่นี้แม้ตอนแรกจะมีกระแสดราม่าบ้าง ว่าวินไม่เหมาะกับบทของไทน์ เพราะรูปร่างใหญ่กว่าพระเอก แต่เพราะการแสดงที่ดี บทดี เคมีดี ก็สามารถสร้างปรากฏการณ์ได้

            “เต – นิว ก่อนจะมาแสดงเรื่อง Dark Blue Kiss เขามีเคมีความเป็นเพื่อนอยู่แล้ว พอมาอยู่ด้วยกันเราก็รู้สึกถึงอะไรบ้างอย่าง หรือคู่ เอิร์ท – มิกซ์ ในเรื่อง นิทานพันดาว เราแคสติ้งได้เอิร์ธมาก่อน พอถึงบทครูเทียน ผ่านไปหลายสิบคนก็ยังไม่เจอที่ใช่ กระทั่งได้เจอมิกซ์ พอเขาอยู่ด้วยกันแล้วเคมีมันใช่ ซึ่งมารู้ทีหลังว่า เขาเป็นเพื่อนมาก่อนเข้าวงการ

            “ส่วน เจมีไนน์ – โฟร์ท คู่นี้เข้าวงการมาพร้อมกัน พอมาทำเวิร์คช็อป เห็นเลยว่าเขามีพลังงานบางอย่างที่ดึงดูด แต่จำได้ว่า วันแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์ ‘แฟนผมเป็นประธานนักเรียน’ ไม่มีใครสนใจ กระทั่งถึงวันออนแอร์เพียงสองตอนแรก ก็รู้เลยว่าคู่นี้มาแน่นอน”

การจะสร้างซีรีส์ ใช้เกณฑ์การเลือกเรื่องอย่างไรให้ปัง

            “มีสองอย่าง อย่างแรกถ้าเป็นเรื่องที่มีไอเดีย อยากทำ ก็แต่งขึ้นมาใหม่เลย เช่น Last Twilight ก็แต่งใหม่ทั้งหมด กับอีกแบบคือ อ่านจากนิยายแล้วสนุก เห็นภาพว่าสามารถเป็นซีรีส์ได้ หรือมีพล็อตบางอย่างที่น่าสนใจ ก็จะหยิบจุดนั้นมาพูด เช่น ตอนที่อ่านนิยายเรื่อง ‘หลังม่าน’ เจอพล็อตที่น่าสนใจมากคือ เด็กสองคนเป็นเพื่อนสนิท แต่ครอบครัวเกลียดกัน สุดท้ายเด็กก็ต้องเกลียดกันไปด้วย รู้สึกประเด็นนี้แข็งแรง จึงหยิบมาพัฒนาต่อ จนกลายเป็นซีรีส์ ‘แค่เพื่อนครับเพื่อน’

            “และที่สำคัญคือ ก่อนจะสร้างซีรีส์ต้องทำการบ้านเยอะ อย่างตอนทำเรื่อง ‘เขามาเชงเม้งข้างๆ หลุมผมครับ’  ตัวละครเรียนนิติศาสตร์  ก็ต้องไปสัมภาษณ์เด็กที่เรียนสาขานี้ ว่ามีวิธีคิดยังไง บุคลิกเป็นแบบไหน เช่น เด็กเรียนกฎหมายต้องอ่านหนังสือเยอะ สิ่งที่ต้องมีในกระเป๋าคือปากกาไฮไลท์ โพสต์อิท ฯลฯ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ต้องมีในตัวละคร หรืออย่างเรื่อง นิทานพันดาว ตัวละครเป็นคุณครูอาสา ตอนนั้นก็โพสต์ทวิตเตอร์เลยว่า มีใครเป็นครูอาสาบ้าง อยากขอสัมภาษณ์ เราก็ได้ข้อมูลเยอะว่าเขาไปเผชิญความลำบากยังไง ต้องปรับตัวเยอะขนาดไหน เรียกว่าเป็นข้อมูลชั้นดีที่ไม่มีทางนั่งเขียนได้ ถ้าไม่ได้รู้จากตัวบุคคลจริงๆ

            “อย่างล่าสุด Last Twilight ตัวละครต้องเล่นเป็นคนที่กำลังจะตาบอด เราก็ต้องหาข้อมูลจากคนที่ตาเพิ่งบอด กับบอดแต่กำเนิดให้เขามาทำเวิร์คช็อปกับนักแสดง เพื่อให้น้องๆ เห็นความต่างและได้เข้าใจว่าคนตาบอดได้รับการดูแลยังไง มีวิธีมองโลกและคิดแบบไหน โดยให้นั่งกินข้าว พูดคุยกัน เพื่อให้เขาได้ทำความรู้จักจริงๆ”

มีฟีดแบคจากผู้ชมที่ประทับใจบ้างไหมคะ

            “มีคุณแม่ท่านหนึ่ง ส่งข้อความมาหลังจากได้ดูซีรีส์ Dark Blue Kiss ว่า เข้าใจแล้วว่าลูกกำลังเผชิญกับอะไร แล้วเขาจะเป็นแม่แบบไหนเพื่อให้ลูกมีความสุข ขอบคุณมากที่ได้ดู เพื่อรู้ว่าจะคุยกับลูกยังไง อ่านแล้วภูมิใจมาก ไม่น่าเชื่อ  ณ วันนั้นที่ทำซีรีส์ ไม่ได้คิดหรอกว่าจะสร้างอิมแพคได้ขนาดนี้ และรู้สึกดีใจกับครอบครัวของน้อง ที่อย่างน้อยเขาจะได้รับความเข้าใจจากครอบครัว ซีรีส์วายกลายเป็นช่องทางที่ทำให้คนเข้าใจง่ายขึ้นว่า ความรักเหล่านี้มีอยู่จริงๆ กับที่บ้านของตัวเองก็เข้าใจเรื่องเหล่านี้มากขึ้น ก่อนที่พ่อจะเสีย มีวันหนึ่งเรากับพ่อไปนั่งกินข้าวในห้าง เห็นเด็กผู้ชายจูงมือกัน พ่อบอกว่า เหมือนในซีรีส์ที่ลูกทำเลยนะ จึงรู้สึกว่างานเราช่วยทำให้คนเข้าใจและมองว่านี่คือเรื่องปกติ”

ทราบว่า คุณออฟก็คัมเอาท์ตอนอายุ 38

            “ใช่ครับ เป็นการสารภาพกับที่บ้านครั้งแรก คิดว่าเขาน่าจะรู้อยู่แล้วล่ะ แต่ที่ไม่ได้เปิดเพราะเราก็เหมือนคนทั่วไป ที่รู้สึกถูกกดทับว่าสิ่งที่เราเป็นนั้นผิด พ่อแม่จะเสียใจ ต้องผ่านการพิสูจน์ตัวเองมากมาย เพราะเราถูกหล่อหลอมโดยสื่อต่างๆ จนไม่สามารถเป็นตัวเอง สุดท้ายก็ตัดสินใจปลดล็อคตัวเอง ตอนนั้นกำลังจะเขียนบทเรื่อง ‘เขามาเชงเม้งข้างๆ หลุมผมครับ’ แล้วต้องเขียนฉากคัมเอาท์ ที่ผ่านมาเวลาเราดูหนัง ก็รู้ว่าตัวละครต้องพูดประมาณไหน แต่เป็นการรู้ในฐานะคนนอก ซึ่งเราอยากเข้าใจจริงๆ จึงตัดสินใจคัมเอาท์กับครอบครัว เพื่อให้เจอโมเมนต์ว่าตัวละครรู้สึกยังไง

            “ตอนนั้นวางแผนพาแม่ไปเที่ยวญี่ปุ่น แล้วสารภาพบนเครื่องบินขากลับ เป็นการเลือกสถานที่ที่หนีไปไหนไม่ได้ (ยิ้ม) บอกแม่ว่า รู้ใช่ไหมว่าผู้ชายที่เราคุยไม่ใช่เพื่อน แม่บอกว่ารู้แหละ เราก็เลยสารภาพออกไปทั้งหมด ความรู้สึกตอนนั้นทั้งกลัวแม่เสียใจ กังวล สับสน อยากจะร้องไห้ เหมือนเราแบกก้อนอะไรใหญ่ๆ ไว้กับตัว ฟังดูไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่คือการก้าวข้ามครั้งยิ่งใหญ่ที่อยากปลดล็อคสิ่งนี้ ตอนนั้นแม่บอกว่า ลูกเป็นอะไร แม่ก็รัก ขอแค่ให้มีความสุข ซึ่งแม่ไม่ได้ขอให้เราเป็นคนดีด้วยนะ ปกติเวลาเราดูละคร เขามักจะพูดประโยคว่า ลูกเป็นอะไรก็ได้ ขอให้เป็นคนดี แต่แม่กลับบอกว่า ขอให้มีความสุขกับตัวเองก็พอ รู้สึกชอบประโยคนี้มากจึงนำความรู้สึกไปถ่ายทอดให้นักแสดงฟัง ใช้ในซีรีส์ไปเลย แล้วก็กลายเป็นซีนที่ได้รับคำชื่นชมอย่างมาก ตัวเราเองก็รู้สึกถูกปลดล็อคด้วยเช่นกัน”

“แต่ส่วนตัวคิดว่าการคัมเอาท์ไม่จำเป็นขนาดนั้นนะ เพราะใช่ว่าทุกคนจะมีโอกาสทำ และบางคนก็ไม่อยากพูด แต่เขาอาจจะโดนคนอื่นกดดันว่า ต้องบอกๆ ฉะนั้นถ้าใครสบายใจที่จะเป็นอะไรก็ตามโดยไม่ต้องออกมาประกาศ ก็เป็นสิทธิ์ของเขา”

อยากทำซีรีส์แนวไหนอีกคะ

            “อยากทำคอนเซ็ปต์หลากหลายช่วงวัย เพราะเชื่อว่าแต่ละวัยมีความโรแมนติกที่ต่างกัน ที่ผ่านมา เราทำ ซีรีส์วาย ที่ตัวละครอยู่ในวัยมัธยม หรือไม่ก็มหาวิทยาลัย อยากทำเนื้อหาเกี่ยวกับคนวัยทำงานหรือคนที่อายุ 40-50 บ้าง เพราะเชื่อว่าความโรแมนติกยังมีอยู่ในทุกช่วงวัย และเป็นการตอกย้ำสิ่งที่เราเชื่อด้วยว่า

LGBTQ+ มีความรักที่ดีได้ ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหนก็ตาม”

วิตามินซีเซรั่ม จาก OBAGI MEDICAL คว้ารางวัล Iconic Antioxidant & Brightening Vitamin C Serum ตอกย้ำความผู้ช่วยผิวโกลว์สวย

account_circle

ในแง่ความงามถ้าพูดถึง ‘วิตามินซี’ หลายคนคงทราบกันดีเรื่องการช่วยปรับผิวพรรณให้แลดูกระจ่างใสและสุขภาพดี ทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ แต่หลายคนมักมองข้าม เพราะอนุมูลอิสระคืออีกหนึ่งตัวการร้ายที่ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าก่อนวัย ซึ่งจะเข้ามาทำลายเซลล์ผิวจนเสื่อมสภาพ ยิ่งในคนที่มีผิวแห้งมากจนเป็นขุย แต่งหน้าไม่ค่อยติด ควรต้องมีผู้ช่วยสำคัญที่จะทำให้ผิวหน้าเปล่งปลั่งอย่าง วิตามินซีเซรั่ม เพื่อนคู่ใจของคนอยากมีผิวแลดูกระจ่างใส แลดูอ่อนเยาว์ เป็นอีกไอเท็มชิ้นที่มีในท้องตลาดเยอะจนเลือกยาก แถมหากเลือกไม่ดีอาจจะแพ้และไม่เห็นผลลัพธ์อีกด้วย และวิตามินซีเซรั่มชิ้นโดดเด่นแห่งปีต้องยกให้นั่นคือ Obagi Medical Professional-C Serum 20% จากแบรนด์เวชสําอางลักชัวรี่ที่แพทย์ผิวหนังจากสหรัฐอเมริกาแนะนํา ที่หลังจากเข้าไทยได้ไม่นาน แฟนๆ ก็ยกใจให้ แถมยังเริ่มกวาดรางวัลทางความงามแบบรัวๆ

แต่ที่ชนะใจกรรมการเพราะประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดแต่ยังมีความอ่อนโยนต่อผิว แถมผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังและได้รับการรับรองจากแพทย์เพื่อการเปลี่ยนแปลงและผลลัพธ์ที่ต้องการ ด้วยอนุพันธ์วิตามินซี L-Ascorbic Acid เข้มข้นสูงสุดถึง 20% ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ยอมรับและเชื่อถือได้สูงสุดของวิตามินซีที่ใช้ทางการแพทย์ ที่มีความบริสุทธิ์ เข้มข้น และประสิทธิภาพสูงด้วยความเสถียรขั้นสุด ไม่เปลี่ยนสีแม้ในอุณหภูมิสูง มีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรง กระจ่างใส และชุ่มชื้น

บำรุงผิวครั้งหน้าอย่าลืมเพิ่มวิตามินซีเซรั่มจาก Obagi Medical เข้าไปลิสต์สกินแคร์ที่ต้องทาทุกเช้าควบคู่กับเซรั่มวิตามินบี เพียงแค่หยดวิตามินซีเซรั่มบนฝ่ามือ 5-7 หยด วอร์มเนื้อผลิตภัณฑ์เบาๆ ก่อนลงให้ทั่วผิวหน้า เนื้อเซรั่มให้สัมผัสที่บางเบา ซึมง่าย ไม่เหนอะหนะ และยังช่วยต้านอนุมูลอิสระให้กับผิว แนะนำให้ใช้คู่กับ Daily Hydro-Drops Facial Serum ที่อุดมไปด้วย Niacinamide และน้ำมันบำรุงผิวจากดอกไม้หลากหลายชนิด ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนาน โดยใช้เซรั่มทั้งสองสูตรควบคู่กันเป็นประจำทุกๆ เช้า เพื่อผลลัพธ์ผิวฉ่ำโกลว์

จึงไม่น่าแปลกใจที่ Obagi Medical Professional-C Serum 20% จะครองรางวัล Iconic Antioxidant & Brightening Vitamin C Serum เป็นวิตามินซีเซรั่มที่น่าประทับใจแห่งปี ด้วยผลลัพธ์ที่ให้ทั้งการปกป้องผิวพร้อมต้านอนุมูลอิสระ L-Ascorbic Acid บริสุทธิ์ เพิ่มความชุ่มชื้นด้วย Sodium Hyaluronate ที่ทําให้ผิวนุ่มฟูดูอ่อนเยาว์ บวกกับการตอบโจทย์ผลลัพธ์ผิวแลดูกระจ่างใสด้วยเนื้อสัมผัสที่ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็ว บางเบา ไม่รู้สึกเหนอะหนะ ถือเป็นวิตามินซีเซรั่มที่ทําให้ชีวิตง่าย เบาใจเรื่องอาการแพ้ แต่ยังคงผลลัพธ์แบบเลิศจัดเต็ม

นอกจากทริคดูแลผิวฉ่ำโกลว์ด้วยผู้ช่วยตัวตึงอย่าง Obagi Medical Professional-C Serum 20% ที่สามารถใช้เป็นสกินแคร์รูทีน ถ้าอยากรู้ว่าผิวของคุณเหมาะกับเซรั่ม Obagi Medical Professional-C Serum สูตร 10% หรือ 15% สามารถเข้ามาตรวจเช็กสภาพผิวหน้าได้ที่เคาน์เตอร์ Obagi Medical สาขาBeauty Hall ชั้น M Paragon Department Store และBeauty Galerie ชั้น G Central Chidlom


เปิดประสบการณ์ใหม่กับกลิ่นหอมซีรีส์สุดพิเศษกับผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้น เดอ ปารี จากแรงบันดาลใจแห่งเมืองน้ำหอมฝรั่งเศส

account_circle

เปิดประสบการณ์ใหม่กับกลิ่นหอมซีรีส์สุดพิเศษกับผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้น เดอ ปารี พาคุณเดินทางไปฝรั่งเศสในมุมใหม่ ผ่านความหอมที่รังสรรค์จากแรงบันดาลใจของ 3 เมืองแห่งเสน่ห์ 

  • กราซ (Grasse) เมืองหลวงแห่งน้ำหอมที่อบอวลด้วยกลิ่นดอกไม้ กลิ่นหอมที่เต็มไปด้วยความละเอียดอ่อนและเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากดอกไม้นานาชนิด เช่น กุหลาบและมะลิ ที่ผสานกันอย่างลงตัว ให้ความรู้สึกสงบและหรูหรา เหมือนได้เดินเล่นในสวนดอกไม้แห่งกราซ  
  • โพรวองซ์ (Provence) ดื่มด่ำกับความสดชื่นของทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่กว้างไกล พร้อมกลิ่นสมุนไพรอย่างโรสแมรี่และไทม์ภายใต้แสงแดดอันอบอุ่น ที่ช่วยผ่อนคลายจิตใจและเติมพลังในทุกลมหายใจ 
  • เฟร้นช์ริเวียร่า (French Riviera) สัมผัสกลิ่นแห่งชีวิตหรูหราริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ผสานกลิ่นผลไม้ซิตรัสสดใสจากเลมอนและเบอร์กาม็อท กลิ่นหอมสดชื่นจากท้องทะเล สะท้อนความสดใสและมีชีวิตชีวา 

ปลุกทุกประสาทสัมผัสของคุณด้วยกลิ่นที่บอกเล่าเรื่องราวของแต่ละเมืองราวกับคุณได้เดินทางไปเอง กับ De PARIS Limited Edition ทั้ง 3 กลิ่นใหม่ Blooming Grasse, Provence Dream และ Mediterranean Sense 

เดอ ปารี รังสรรค์โดยนักปรุงน้ำหอมสไตล์ฝรั่งเศส Luxury French Perfume Style ได้รับแรงบันดาลใจจากเมืองในฝัน กลั่นเป็นน้ำหอมของเสื้อผ้า ผสานเทคโนโลยี Solar Dry Perfume สดชื่นหอมแดด แม้ตากในที่ร่ม ล็อกความหอมโดดเด่นยาวนาน 30 วัน* ด้วยสารสกัดธรรมชาติ^ Natural Scent พร้อมถนอมผ้าให้นุ่มลึกถึงเส้นใย ให้ผ้าคุณรีดง่าย ยับยาก ช่วยลดกลิ่นอับ มีผลทดสอบการระคายเคืองผิว**  

ดื่มด่ำกับกลิ่นหอมที่พาคุณหลีกหนีจากความวุ่นวาย สู่การเดินทางสุดผ่อนคลายใน 3 เมืองฝรั่งเศสที่เต็มไปด้วยเสน่ห์กับผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้นพิเศษ De PARIS ได้แล้ววันนี้ทางช่องทางออนไลน์ 

Lion Shop Online : https://bit.ly/3D5IgQc 

Lazada : https://bit.ly/4ilOPy4 

​Shopee : https://bit.ly/3BjQ8Nh 

TikTok Shop : https://bit.ly/49oorzn 

หรือ Line Official @LIONFAMILY 

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และโปรโมชั่นพิเศษ  

ทาง Facebook Page: @DePARISThailand 

*เมื่อเก็บผลิตภัณฑ์ไว้ในตู้ 

**จากผลทดสอบการระคายเคืองจากบริษัท Green Leaf Chemical CO.,LTD. ในกลุ่มตัวอย่าง 27 คน ผิวสุขภาพดี อายุระหว่าง 18-60 ปี ในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2567 

^น้ำหอมมีส่วนผสมที่สกัดจากธรรมชาติ 


“มายด์ – ณภศศิ” เช็คอินงานฉลอง 19 ปี “สยามพารากอน” สุดปังสมกับเป็น World Class Luxury Destination

account_circle

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งงานใหญ่ส่งท้ายช่วงปลายปีที่สายช้อปและสายลักซ์ชูต้องมาเช็คอินจริงๆ ค่ะ สำหรับโอกาสฉลองความสำเร็จครบรอบ 19 ปีสุดยิ่งใหญ่ของ “สยามพารากอน” กับงาน “Siam Paragon 19th Anniversary : The Magical Celebration” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 10 ธันวาคม 2567 ชวนทุกคนมาฟินกับมหกรรมอีเว้นต์และเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ พร้อมจัดเต็มโปรโมชั่นสุดพิเศษเอาใจนักช้อปเพียบ ทั้งศูนย์ฯและห้างฯ รวมถึงยังมีของที่ระลึกมอบให้ในโอกาสพิเศษนี้ด้วย เพื่อตอกย้ำการเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ทั้งในฐานะ Luxury Destination และ World Class Shopping Destination ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ครองใจลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเลยทีเดียว

ที่สำคัญคือมีเซอร์ไพร้ส์สุดอลังการเมื่อค่ำคืนวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่ง แพรว ชวนสาวฮ็อตแห่งโลกโซเชียลอย่าง “มายด์ – ณภศศิ” ไปเช็คอินพร้อมเปิดวาร์ปความสุดปังของงาน “Siam Paragon 19th Anniversary : The Magical Celebration” ที่จัดเต็มมหกรรมแห่งความสุขทั่วทุกพื้นที่มาฝากทุกคนกันตรงนี้เลยค่ะ 

พิกัดแรกที่สายคอนเท้นต์อย่างสาวมายด์ไม่พลาด คือการถ่ายรูปเช็คอินต้นคริสต์มาสสุดลักซ์ชัวรี่จากคาเทียร์ ที่สูงเด่นเป็นสง่าสุดๆ และส่องแสงเปล่งประกายเจิดจ้า ณ บริเวณอุโมงค์ Cascade ชั้น M รอให้ทุกคนมาถ่ายรูปสวยๆ พร้อมแชร์โมเม้นต์ประทับใจ อีกทั้งยังตระการตาไปกับการตกแต่งจากแบรนด์ดังระดับโลกที่เนรมิตให้ทั่วพื้นที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งความสุข และพิเศษสุดสำหรับค่ำคืนนี้ที่ช็อปของหลากหลายแบรนด์ดังได้เตรียมเซอร์ไพร้ส์มอบเป็นของขวัญให้กับลูกค้าคนพิเศษโดยเฉพาะ

มาถึงความฟินเมื่อค่ำคืนวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา กับมหกรรมความบันเทิงสุดยิ่งใหญ่ โดย “สยามพารากอน” ได้ขนทัพศิลปินสุดฮ็อตนับ 100 คน มาร่วมเดิน Black Carpet เพื่อนำทุกคนเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความประทับใจ ณ บริเวณ Cascade ชั้น M เช่น หลิงหลิง-ออม, ต่อ-ธณภพ, อแมนด้า, แจม-รชตะ, ฟิล์ม-ธนภัทร, ไบร์ท-นรภัทร, ออฟโรด-กันตภณ, เฟิร์น-นพจิรา, พีพี-ปุญญ์ปรีดี, จูเนียร์-กรวิชญ์, ฟลุ๊คจ์-พงศภัทร์, เทศน์ ไมรอน, อุ้ม-อิษยา, ซี-พฤกษ์, จูเนียร์-แทด-มิวอ้อน จาก ATLAS และศิลปินจาก one TRANIEE เป็นต้น อีกทั้งยังมีโชว์พิเศษจาก ญาญ่า-อุรัสยา สเปอร์บันด์, พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร, แก้ม-วิชญาณี เปียกลิ่น และ บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ ที่มอบความฟินให้กับทุกคนบริเวณ แฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1

และอีกหนึ่งความพิเศษที่รับรองว่าถูกใจสายช้อป นั่นคือสิทธิประโยชน์เหนือระดับสำหรับลูกค้าคนสำคัญที่ “สยามพารากอน” จัดเต็มให้แบบสุดปัง กับดีลพิเศษสุดฉลอง 9 วันมหัศจรรย์ ทั้งศูนย์ฯและห้างฯ ผนึกกำลังมอบส่วนลดและสิทธิประโยชน์มากมายทุกชั้นทุกแผนก ระหว่างวันที่ 2 – 10 ธันวาคม 2567 เช่น ส่วนลดสูงสุด 70%  พร้อมสินค้าราคาพิเศษสำหรับร้านค้าที่ร่วมรายการ ช้อปครบตามเงื่อนไขที่กำหนดภายในศูนย์ฯ แลกรับ SIAM GIFT CARD มูลค่าสูงสุด 6,900 บาท และ Cash Coupon มูลค่าสูงสุด 1,000 บาท (สำหรับใช้ซื้อสินค้าภายในห้างฯตามเงื่อนไขที่กำหนด ยกเว้น POWER MALL และ GOURMET MARKET) 

นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นพิเศษจากร้านค้าแฟชั่น บิวตี้ ไลฟ์สไตล์ ร้านอาหาร เป็นต้น พร้อมโปรโมชั่นจัดเต็มจาก 9 บัตรเครดิตชั้นนำที่ร่วมรายการ พิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิตวันสยามกสิกรไทย และบัตรเครดิตกสิกรไทย รับสิทธิประโยชน์เพิ่มมากมาย เช่น ส่วนลดพิเศษเพิ่มเติม, ONESIAM COINS, รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 17% และ บัตรจอดรถฟรี สยามพารากอน 1 ปี พิเศษเฉพาะสมาชิกใหม่ ONESIAM SuperApp ใช้จ่าย 1,900 บาท รับ 190 ONESIAM COINS ตั้งแต่วันที่ 1 – 10 ธันวาคม 2567 เท่านั้น

อีกทั้งยังมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับพารากอน ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ รับ M Point  9,000 คะแนน เมื่อช้อปสะสมภายในห้างฯครบ 19,000 บาท ขึ้นไป/วัน (รวม POWER MALL และ GOUMET MARKET) และพิเศษยิ่งกว่า ลูกค้า ONESIAM SuperApp รับเพิ่ม E-Cash Coupon มูลค่า 900 บาท รวมถึงยังมีความความพิเศษอื่นๆ ที่จัดเต็มทุกชั้นทุกแผนกตลอด 9 วัน

ขอบอกเลยว่า “สยามพารากอน” ฉลองครบรอบ 19 ปี แบบเล่นใหญ่แบบทำถึงสุดๆ จัดเต็มความฟินเอาไว้เพียบจริงๆ ชนิดที่ทุกคนต้องมา! สำหรับงาน “Siam Paragon 19th Anniversary : The Magical Celebration” ซึ่งสามารถพุ่งตัวมาได้เลยตั้งแต่วันนี้ – 10 ธันวาคม 2567 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-610-8000 หรือติดตาม Facebook และ Instagram : SiamParagon ได้เลยค่ะ


“ศิรินุช ประสาทชัย” เผยความสำเร็จ WHERY WELL PROTEIN คว้ารางวัลแห่งความภาคภูมิใจ

account_circle

ด้วยเทรนด์รักสุขภาพที่มาแรง ทำให้อาหารเสริมอย่างเวย์โปรตีนขึ้นแท่นไอเท็มฮ็อต ดังนั้น Exclusive Talk ครั้งนี้ แพรว จึงขอพาไปพูดคุยกับ “คุณลี – ศิรินุช ประสาทชัย” ซีอีโอสาวเก่งเจ้าของแบรนด์ WHERY WELL PROTEIN ที่ล่าสุดคว้ารางวัล Iconic Innovative Protein Supplement จากเวทีความงามแห่งปี Praew Iconic Beauty 2024 

เวย์โปรตีนรสชาติดี

“คอนเซ็ปต์หลักของ WHERY WELL PROTEIN คือการเป็นเวย์โปรตีนที่ทานง่าย อร่อย ไม่ฝืดคอ ลบภาพจำเรื่องรสชาติของเวย์โปรตีนแบบเดิมๆ ไปได้เลยค่ะ รวมถึงเรายังเน้นการนำเสนอคอนเท้นต์เกี่ยวกับการดูแลรูปร่างด้วยการทานเวย์โปรตีน ทำให้ผู้บริโภคทั้งวัยรุ่นและวัยทำงานหันมาสนใจการดูแลสุขภาพกันมากยิ่งขึ้น

“การดูแลรูปร่างโดยใช้เวย์โปรตีนเป็นตัวช่วยได้รับความนิยมมากขึ้น จนเกิดเป็นกระแสการทานเวย์โปรตีน ซึ่งด้วยรสชาติที่เราพัฒนาและสร้างสรรค์ขึ้นมา ทำให้คนที่ไม่ชอบทานอาหารเสริมเพราะรสชาติไม่ดี สามารถทานได้ง่ายขึ้น โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะซื้อ WHERY WELL PROTEIN ไปทานแทนน้ำหวาน เพราะรสชาติอร่อย ทานง่าย และได้รับคุณประโยชน์จากสารอาหาร เรียกว่าได้รักสุขภาพอย่างมีความสุขนั่นเองค่ะ”

มุ่งตอบโจทย์เทรนด์รักสุขภาพ

“ในมุมมองของลี ปัจจุบันคนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่อายุยังน้อย ทั้งเรื่องการออกกำลังกายและอาหารการกิน รวมถึงอาหารเสริมที่ได้รับความสนใจมากขึ้น ดังนั้น WHERY WELL PROTEIN จึงตอบโจทย์ ทั้งในแง่ของการเป็นอาหารเสริมที่ทานง่าย มีรสชาติหลากหลาย ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น บวกกับเราเลือกใช้สารสกัดที่ดี ผลิตกับโรงงานพาร์ทเนอร์ที่ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบเพื่อความมั่นใจได้ ซึ่งเราตั้งใจแสดงความโปร่งใส เพื่อทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจ

“สำหรับในปี 2025 ลีคาดว่าคนจะหันมาดูแลสุขภาพมากกว่าเดิม และเลือกทานอาหารเสริมบำรุงร่างกายมากขึ้น ที่สำคัญคือเลือกซื้อสินค้าจากข้อมูลมากขึ้น ไม่ซื้อตามกระแส ดังนั้นลีจึงวางแผนให้กับ WHERY WELL PROTEIN โดยจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้น และพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพแนวใหม่ๆ ออกมา เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุดค่ะ”

ทำถึง! ขึ้นแท่นเจ้าของรางวัลสุดปัง

“การได้รับรางวัล Iconic Innovative Protein Supplement จาก Praew Iconic Beauty 2024 ถือเป็นความภาคภูมิใจ ลีรู้สึกดีใจมากๆ เพราะเราตั้งใจพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้มากๆ รวมถึงทุกผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ ซึ่งล้วนเกิดจากความตั้งใจที่อยากให้ผู้บริโภคได้ทานอาหารเสริมดีๆ ในราคาที่จับต้องได้ 

“แม้ว่า WHERY WELL PROTEIN จะได้รับรางวัลแล้วก็ตาม แต่ลีและทีมก็จะไม่หยุดพัฒนาแบรนด์และผลิตภัณฑ์ โดยเราจะใส่ใจกับทุกคอมเม้นต์และฟีดแบ็กจากลูกค้าเหมือนเดิม เพื่อพัฒนาแบรนด์ให้ดีกว่าเดิม พร้อมรักษามาตรฐานให้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ขั้นตอนการคิดค้น การผลิต ไปจนถึงการจัดส่งถึงมือผู้บริโภค ลีขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่สนับสนุนเราตลอดมา ทำให้ WHERY WELL PROTEIN มาถึงจุดนี้ได้ ลีสัญญาว่าจะไม่หยุดพัฒนาอย่างแน่นอนค่ะ”


พาลูกวิ่งดะ Obstacle & Trail 2024 Little Zoo Keeper Run คีปเปอร์ตัวจิ๋วตะลุยด่านอุปสรรค

account_circle

ครั้งแรก!! กับการวิ่งฝ่าด่านอุปสรรค พร้อมประสบการณ์เป็นคีปเปอร์จิ๋วสุด exclusive แบบที่คนทั่วไปไม่มีโอกาสทำมาก่อนสมัครก่อนมีสิทธิ์ลุ้นให้อาหารสัตว์สุด exclusive เฉพาะงานพาลูกวิ่งดะ เท่านั้น เช่น  ปั้น EMบอล ให้พี่ช้าง พ่นแคทนิปสิงโตขาว ป้อนอาหารสิงโตขาว นกกาบบัว และยังมีให้อาหารเหล่าเพื่อนสัตว์ไม่ว่าจะเป็นสิงโตขาว คาปิบาร่า ม้าแคระ เม่น คู่แม่ลูกแรดขาว นกกาบบัว นกพิราบหงอนวิกตอเรีย นกชาปิไหน นกเขาเขียว ละมั่ง ฮิปโป แรดขาว ยีราฟ และช้าง

ครั้งนี้ เพิ่มระยะทาง เพิ่มด่านอุปสรรค เพิ่มความท้าทาย !เพิ่มประสบการณ์ใหม่สไตล์คีปเปอร์จิ๋ว คุ้มสุดๆ วิ่งวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2567 ณ โซน Wildlife Wonderland สวนสัตว์เปิดเขาเขียว อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

รุ่นนักวิ่งและระยะ แบ่งเป็น 2 รุ่น

  • รุ่น Little Keeper ระยะ 4K เส้นทางวิ่งในสวนสัตว์ 4 KM กับ 13 ด่านอุปสรรค
  • รุ่น Big Keeper ระยะ 5.5K เส้นทางวิ่งในสวนสัตว์ 4 .5 KM กับ 13 ด่านอุปสรรค และเส้นทางธรรมชาติ (Jungle Trail) 1 KM กับ 2 ด่านอุปสรรค

ภายในงานมีกิจกรรมสนุกๆ จากผู้ใหญ่ใจดีในพื้นที่ส่วนกลางของงาน อาทิ เช่น ธนาคารออมสิน  : เป็นลูกค้าธนาคารออมสินเท่ากับช่วยสังคม ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อสังคม มีกิจกรรมให้ชาวคีปเปอร์จิ๋วได้ร่วมสนุก กดไลค์ กดเเชร์เพจธนาคาร รับกระปุกออมสิน ไอเทมสุดคิ้วท์ที่ต้องมีจากธนาคารออมสินไปเลย Vitamilk Champ แจกนมไวตามิ้ลค์แชมป์ และ ไวตามิ้ลค์ นมถั่วเหลืองสำหรับเด็ก แคลเซียมสูง สนุกกับกิจกรรมเล่นเกมส์ ลุ้นรับของรางวัล  นมแมกโนเลียยูเอชที  : นมแมกโนเลียยูเอชที นมดีดี อร่อยชัวร์ ท้าให้ลอง มาที่บูธวันนี้ได้อร่อยแล้ว ยังเล่นเกมจิกซอร์ลูกเต๋ารับของรางวัล สวนสัตว์เปิดเขาเขียว: เด้งดังจนฉุดไม่อยู่แล้ว !!  เปิดรับสมัครสมาชิกรายปี บัตร Guest pass เที่ยวสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ดูหมูเด้งฟรี 1 ปีไปเลย

ในงาน “พาลูกวิ่งดะ Obstacle & Trail 2024 Little Zoo Keeper Run คีปเปอร์ตัวจิ๋วตะลุยด่านอุปสรรค” เหล่านักวิ่งคีปเปอร์จิ๋วจะได้พบกับกิจกรรมสนุกๆจากผู้ใหญ่ใจดีในพื้นที่ส่วนกลางของงาน ทั้งเพลินทั้งสนุกกลับบ้านกันทุกครอบครัว


ชุดแต่งงานไทย

ชุดแต่งงานไทย สี Cherry Blossom Pink แรงบันดาลใจจาก นกฟลามิงโก้

Alternative Textaccount_circle
ชุดแต่งงานไทย
ชุดแต่งงานไทย

ชมชุดแต่งงานไทย สไตล์สาวหวาน ของ นักแสดงเจ้าบทบาท เบนซ์-ปุณยาพร พูลพิพัฒน์ สี Cherry Blossom Pink แรงบันดาลใจจาก นกฟลามิงโก้

เป็นพิธีหมั้นที่เรียบง่ายแต่อบอุ่น สำหรับงานมงคลของนักแสดงสาว เบนซ์-ปุณยาพร พูลพิพัฒน์ ที่ถือฤกษ์ดีวันที่ 7 ธันวาคม 2567 โดยแฟนหนุ่มนักธุรกิจ แก๊ป-วิทนาถ วรรธนะกุล ได้แห่ขันหมากสู่ขอเจ้าสาว เข้าพิธีหมั้น โดยจัดงานตามแบบประเพณีไทยในช่วงเช้า และเข้าพิธีสมรสทางศาสนาคริสต์ในช่วงบ่าย ท่ามกลางครอบครัวญาติมิตรและเพื่อนสนิทร่วมเป็นสักขีพยาน อบอวลไปด้วยความสุข

พิธีหมั้นในช่วงเช้าจัดขึ้นที่ โรงแรมรอยัล คลิฟ พัทยา ชลบุรี ช่วงเวลา 08.30 น. ตามเวลาฤกษ์มงคล ฝั่งว่าที่เจ้าบ่าว แก๊ป วิทนาถ พร้อมญาติผู้ใหญ่และประธานในพิธี ได้นำขบวนขันหมากไปสู่ขอ

ชุดแต่งงานไทย

สำหรับในพิธีนี้เจ้าสาว เบนซ์ ปุณยาพร งดงามภายใต้ชุดที่ไทยศิวาลัยประยุกต์ จากห้องเสื้อ AMATA โดยชุดนี้เป็น ชุดไทยศิวาลัยประยุกต์แบบนุ่งสดโบราณ สี Cherry Blossom Pink ที่ทางเราได้แรงบันดาลใจจาก ”นกฟลามิงโก้“ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความรักที่มั่นคง รักเดียวใจเดียว และความซื่อสัตย์ อันดูสอดคล้องกับบุคลิกลักษณะของเจ้าสาว

ด้วยลักษณะความสวยหวาน ดูน่ารักสดใสรักสนุก ทางห้องเสื้อจึงเลือกใช้โทนสีชมพูเป็นสีหลักในการออกแบบ บนรูปทรงแบบชุดไทยศิวาลัย(ประยุกต์) เพื่อให้เข้ากับอิโมชั่นเนลที่ดูหรูหรา คลาสซี่ และสวยเด่นแบบเป็นเอกลักษณ์ของคุณเบนซ์ให้ได้มากที่สุด โดยดีไซน์ตัวเสื้อเป็นลูกไม้ฝรั่งแขนยาว ดีเทลจับจีบบริเวณหัวไหล่แขนหมูแฮม แลปักโปรยกระจายทั่วลายลูกไม้ ลำตัว แขนเสื้อ และเชิงขอบอย่างละเอียดละออดูหวานฉ่ำชวนละมุนตา พร้อมคาดห่มสไบแบบหน้าเรียวเล็กเข้าลำตัวงานแฮนด์คราฟต์ ที่วาดปักลวดลายดั่งเลียนคล้ายท่าสยายปีกของนกฟลามิงโก้

ด้านล่างแบบนุ่งห่มสดโบราณ ด้วยผ้าไหมอินเดียสีชมพูอ่อนสว่างแบบไล่สี (การย้อมแบบสไลด์สี) โดยไล่จากสีชมพูนู้ดอ่อนลงไปหาเข้ม ที่มัดย้อมแบบวิธีโบราณด้วยสีจากธรรมชาติบริสุทธิ์ จึงทำให้ได้สีที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นชัดเจนไม่มีใครเหมือน พร้อมการนุ่งพกจับจีบชายพกแบบด้ามพัดจิ่วที่เรียงตัวชดช้อยอย่างไล่ระดับ ที่ดูอ่อนช้อยหวานละมุนตา พร้อมทั้งปักประดับเน้นบริเวณชายพก หน้านาง และขอบเชิงปลายกระโปรง ด้วยวัสดุแล่งปักโทนสีชมพูเงินปรอทกว่า 42 ชนิด และคริสตัล Swarovski ที่ช่วยเพิ่มให้ดูมิติอย่างเด่นชัด พร้อมด้วยเครื่องประดับทองโบราณสี Pink Gold ที่ประดับตกแต่งลงยาด้วยเพชรประดับสีชมพูทับทิม ที่ช่างสวยงดงามดูชวนฝัน ที่ไม่ว่าใครเห็นเป็นต้องพิ้มเพลิดประณีตวิจิตรอย่างตระการตา

ข้อมูลจาก ห้องเสื้อ AMATA

Wedding Dress

4 ลุค วุ้นเส้น-วิริฒิพา ในชุด Wedding Dress สไตล์เรียบหรูสวยแบบแพง ๆ

Alternative Textaccount_circle
Wedding Dress
Wedding Dress

ตามส่อง 4 ลุคเจ้าสาว ของ วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์ ภายใต้ชุด Wedding Dress  สไตล์เรียบหรูรันตีสวยแบบแพง ๆ

แม้จะเคยจัดงานวิวาห์ที่ฝรั่งเศสไปแล้ว แต่งานแต่งงานที่ประเทศไทยก็อลังการไม่น้อยหน้าเลย สำหรับงานแต่งงานสุดตื่นตาตื่นใจ ที่เนรมิตสวนดอกกุหลาบและไฮเดรนเยียฮอลแลนด์มาไว้กลางโรงแรม ของ วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์ กับ นิกม์ ธนะภูมิ ซึ่งจัดขึ้น ณ ห้องนภาลัย เเกรนด์บอลรูม โรงเเรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ

โดยนอกจากการเตรียมงานที่สุดแสนจะเพอร์เฟคแล้ว ชุดเจ้าสาว ในวันนี้ยังเต็มไปด้วยความน่าสนใจ ซึ่งขอแอบกระซิบว่างานนี้ จัดหนักจัดเต็มมีชุดเจ้าสาวมากถึง 4 ชุดเลยทีเดียว

โดยวุ้นเส้นกล่าวว่า “วันนี้มี 4 ชุดค่ะ หนึ่งในนั้นก็คือชุดแถลงข่าว ชุดนี้ตั้งใจไปเอาจากฮ่องกง คือวุ้นบอกนิกม์ว่าไม่ได้อยากจะซื้อแพง แต่ขอให้สวย คือเรามีเพื่อนที่เป็นดีไซน์เนอร์เยอะ บางคนก็ตัดให้เรา บางคนก็ให้เป็นของขวัญ เราก็จะได้ประหยัดงบตรงนี้นิดนึง เพราะว่าเราใส่ชุดแค่วันเดียว”

4 ลุคเจ้าสาว Wedding Dress  สไตล์เรียบหรูรันตีสวยแบบแพง ๆ

เริ่มต้นที่ชุดแถลงข่าว ของแบรนด์ เอลอน ลิฟเน่ ไวท์ (Alon Livne White)  จาก ฮ่องกง สวมสร้อยคอ เครื่องประดับ จากแบรนด์ chopard ต่างหู แหวน สร้อยคอ รวม 110 กะรัต มูลค่า 38 ล้าน

ชุดที่สองสำหรับถ่ายรูปหน้าแบคดรอฟ จากแบรนด์ Vera Wang เครื่องประดับ Kavantsharart

ชุดที่สาม ชุดพิธี  จากแบรนด์ asava ตัดเย็บพิเศษเป็นของขวัญวันแต่งงานจาก หมู อาซาว่า น้ำหนักชุดเวอร์วังถึง 10 กิโลกรัม พร้อมเครื่องประดับจาก Gemspavilion

และชุดที่ 4 ชุด After Party สั่งตัดพิเศษจากแบรนด์ไทย Peace by Silsupa พร้อมเครื่องประดับจากแบรนด์ scintilla

Wedding Dress

‘ขึ้นต้นด้วยแย่งชิงและหึงหวง แต่ลงท้ายด้วยความสุข ใช่คุณไหม?? ต้องเช็กแล้ว!!’ ดวงรายสัปดาห์ 9-15 ธันวาคม 2567

Alternative Textaccount_circle

‘ขึ้นต้นด้วยแย่งชิงและหึงหวง แต่ลงท้ายด้วยความสุข’

ดวงรายสัปดาห์ 9-15 ธันวาคม 2567

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์          

การงาน  :  ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ ดวงของชาวอาทิตย์ก็ยังคงมีฝุ่นตลบอบอวลอยู่ ยังหาทางออกไม่เจอ มีโอกาสตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ต้องรับผิดชอบในความผิดที่ไม่ได้ก่อ หรือต้องทำงานที่งอกออกมาจากที่รับปากไว้ แล้วไม่เพียงเท่านั้น เพราะเป็นไปได้ว่าคุณยังตกอยู่ในช่วงของการพิจารณาความดีความชอบอีก หากกำลังรอว่างานหรือโครงการจะผ่านการพิจารณาหรือไม่ หรือกำลังรอโบนัสปลายปีอยู่ทางที่ดีควรเตรียมแผนสองไว้รอเลย อีกทั้งพยายามเข้าหาผู้ใหญ่ผู้หญิงไว้ เพราะท่านเมตตาสูง สามารถส่งเสริมและสนับสนุนให้คุณก้าวหน้าในหน้าที่การงานหรือธุรกิจ รวมถึงสิ่งที่รออยู่ได้เลย  

การเงิน  :   ก็ยังมองเห็นเงินเข้ามาเรื่อยๆ อยู่ได้โดยไม่เดือดร้อน คาดว่ามาจากครอบครัวและผู้ใหญ่ที่อุปถัมภ์คุณอยู่ ขณะเดียวกันยิ่งใกล้เทศกาลคริสต์มาส-ปีใหม่ เป็นไปได้ว่าคุณจะสั่งซื้อของขวัญของฝากให้กับผู้ใหญ่ที่เคารพ มิตรสหาย จนมีโอกาสที่เงินจะไม่พอใช้ได้นะ  

ความรัก  :  สัปดาห์นี้ยังมีวันหยุดอีก 1 วัน แล้วหากใครลาพักร้อนด้วยก็หยุดยาวกันมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว จึงเป็นสัปดาห์ที่คุณจะได้มีโอกาสอยู่พร้อมหน้าครอบครัวกันยาวๆ จนกลายเป็นไม่อยากไปทำงานซะงั้น คนโสด  สัปดาห์นี้คุณเสน่ห์แรงกับเพศตรงข้ามมากนะเนี่ย แล้วมีโอกาสที่จะเกิดความพอใจแบบปุบปับ แค่มองตาก็ขอเป็นแฟนเลย ซึ่งคาดว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบไม่จีรังยั่งยืน

สุขภาพ  :  เทศกาลเฉลิมฉลองใกล้เข้ามา หากใครที่มีงานปาร์ตี้สังสรรค์บ่อยๆ ก็ต้องระวังโรคที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนั้นยังต้องระวังโรคที่เกี่ยวกับการย่อยอาหาร การเจ็บป่วยในช่องท้องและลำไส้ รวมถึงการอักเสบของแผลในช่องท้อง และแผลจากการคลอดบุตร

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ สำหรับดวงของชาวจันทร์จะบอกว่ายังมีผู้ใหญ่และคนใกล้ชิดคอยสนับสนุนและส่งเสริมให้คุณได้ทำงานหรือธุรกิจที่อยากทำอยู่ แต่หากใครที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับบ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ อาคารสำนักงาน สิ่งปลูกสร้างทุกชนิดด้วยแล้ว ต้องบอกว่าทางยังไม่โล่ง เพราะเป็นไปได้ว่าคุณกำลังตกอยู่ในช่วงการพิจารณาความดีความชอบ โครงการที่เสนอไปมีโอกาสที่จะยังไม่ผ่านการพิจารณาสูงมาก เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรเชื่อมั่นในตัวเองมาก มีโอกาสที่จะตัดสินใจผิดพลาดได้ง่ายๆ ทางที่ดีควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นด้วย

การเงิน  :  ก็ยังคงมีผู้ใหญ่ให้การสนับสนุนเงินๆ ทองๆ อยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัปดาห์นี้มีโอกาสได้ซื้อ-ขายบ้านและที่ดิน แต่ก็มีความเสี่ยงที่รายจ่ายจะไม่พอกับรายได้ หรือได้มาแบบไม่คุ้มทุน

ความรัก  :  ก็ยังคงหาความแน่นอนให้กับชีวิตตัวเองไม่ได้ เป็นไปได้ว่าหากคุณหลงใหลอะไรจะทุ่มเทให้สุดๆ ไปเลย แล้วคาดว่าสัปดาห์นี้คุณมีโอกาสหลงอยู่กับบ้านและการทำงาน จนคนรอบข้างเอาใจไม่ถูกเลยทีเดียว  คนโสด  เช่นกันค่ะ ยังเอาแน่กับตัวเองไม่ได้ มีความหลงในกิจกรรมบางอย่าง รวมถึงบุคคล แต่ก็แค่ชั่วครั้งชั่วคราว เพราะถึงที่สุดแล้วคุณก็ยังคงถือหลักการ ‘โน มันนี่ โน ทอล์ค’ อยู่

สุขภาพ  :  ก็ยังคงมีความเสี่ยงที่น้ำหนักจะขึ้นอยู่ ยิ่งสัปดาห์นี้ยังรวมถึงภัยจากการดื่มแอลกอฮอล์ด้วย หากใครที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางระบบต่อมน้ำเหลือง ยิ่งต้องระวังพวกเนื้องอกและเนื้อร้าย

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน   ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ สำหรับสัปดาห์นี้ของชาวอังคารควรระวังตัวให้หนักเลยนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจในสายบริการ เช่น ร้านอาหาร เครื่องดื่ม โรงแรม การท่องเที่ยว สปา และสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวกับเด็ก รวมถึงงานหรือธุรกิจที่ต้องใช้วาทศิลป์ในการติดต่อสื่อสาร ประสานงาน งานส่งเสริมการขายทุกประเภท เพราะมีโอกาสที่คุณจะตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับการทำงานหรือธุรกิจที่ผิดพลาด ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะส่งผลให้ผู้บริหารไม่ให้ความสำคัญคุณอีกต่อไป ขณะเดียวกันรุ่นน้องก็ไม่เกรงใจ นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงที่เพื่อนร่วมงานจะชิงลาออกโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้าอีก ที่สำคัญคุณจะอ่อนไหวกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มากด้วย

การเงิน  :   มีโอกาสที่คุณจะเสียเงินให้กับเรื่องของเด็กๆ และบริวารในบ้านอย่างไม่รู้ตัวมาก่อน คาดว่าน่าจะเป็นเหตุกะทันหัน แต่ก็ไม่ต้องวิตกกังวลเกินไปนัก เพราะมีโอกาสที่คุณจะสามารถหาเงินได้จากหลายๆ ช่องทาง

ความรัก  :  สัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าอารมณ์คุณจะหวั่นไหวง่ายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกๆๆ และบริวารในบ้าน เพราะมีความเสี่ยงที่คุณจะโหยหาพวกเขามากๆ อยากให้มาอยู่ใกล้ๆ แบบไม่มีเหตุผล  คนโสด  เป็นไปได้ว่าสัปดาห์นี้จะหลงเด็กเสียแล้วสิเนี่ย แล้วก็โรแมนติกสุดๆ ขอบอกค่ะว่า แม้อยากได้เขามากแค่ไหน แต่เป็นเด็กน้อยเกินไปไม่เหมาะสมกับคุณเลย

สุขภาพ  :   ต้องระวังความเจ็บไข้ได้ป่วยจากโรคที่อยู่เงียบๆ มานาน โดยไม่มีอาการหรือลางบอกเหตุใดๆ เลย ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะเกี่ยวกับสมองและจิตใจที่ได้รับการกระทบกระเทือนอย่างฉับพลัน รวมถึงโรคที่เกี่ยวข้องกับการหมุนเวียนเลือดที่ผิดปกติ

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :   ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์สำหรับเดือนสุดท้ายของปี อยากบอกชาวพุธว่า สัปดาห์นี้ขอให้อดทนสักนิด เพราะจริงๆ แล้วดวงคุณดีมีผู้ใหญ่และคนใกล้ชิดส่งเสริมสนับสนุนให้ทำงานหรือดำเนินธุรกิจในสิ่งที่ตั้งใจไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเกี่ยวกับงานการเกษตร เรือกสวนไร่นา นักออกแบบตกแต่งสวน ศิลปวัฒนธรรม สินค้าโอทอป ด้วยแล้ว จะไปได้ดี แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้นเป็นไปได้ว่าคุณจะอึดอัดและร้อนรุ่ม ทั้งกับบรรยากาศการทำงาน เพื่อนร่วมงาน จนถึงเจ้านาย จนอยากจะลาออกให้รู้แล้วรู้รอดไป เพราะฉะนั้นขอให้อดทนจนผ่านตรงนี้ไปให้ได้

การเงิน  :  เช่นกันกับการงาน ก็คือจริงๆ แล้วคุณมีผู้ใหญ่อุปถัมภ์อยู่ แต่หากมีโครงการที่จะซื้อ-ขายที่ดินทางการเกษตร หรือแต่งสวน หรือทำอะไรที่เกี่ยวกับเรือกสวนไร่นา มีโอกาสที่คุณจะได้ผลตอบแทนไม่คุ้มกับที่ลงทุนไป แต่หากไม่ได้เงินก้อนนี้มาก็อาจเดือดร้อนกว่านี้  

ความรัก  :  ก็ยังไม่แน่นอนอีกล่ะ สำหรับใจของคุณ เพราะคาดว่าสัปดาห์นี้คุณจะจับได้ว่า คู่คุณมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ แอบคบใครอยู่โดยที่คุณไม่รู้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า จากเหตุการณ์นี้จะเป็นโอกาสให้คุณได้พบคนใหม่ที่ดีกว่าก็ได้นะ   คนโสด  เป็นไปได้ว่าดวงความรักของคุณจะเริ่มต้นด้วยความร้อนแรง เต็มไปด้วยความหึงหวงและแย่งชิง แต่มีโอกาสที่จะลงท้ายด้วยความสุข เพราะฉะนั้นก็ทนหน่อยนะ

สุขภาพ   :   ก็ยังมีโอกาสที่จะถูกโรคอ้วนทำลายสุขภาพนะคะ พวกไขมัน เบาหวาน ความดัน เพราะฉะนั้นอย่าตามใจปากมากนัก นอกจากนั้นยังมีพวกอารมณ์ลบต่างๆ เช่น ความหึงหวง โกรธแค้น อาฆาต ที่จะส่งผลให้ปวดศีรษะ ไมเกรนได้นะ  

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์สำหรับเดือนสุดท้ายของปี อยากจะบอกชาวพฤหัสว่า คุณมีดวงที่จะไม่ได้ไปต่อนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานหรือธุรกิจที่ต้องใช้สติปัญญาและความจำค่อนข้างสูง รวมถึงเซ้นส์ด้วย หากกำลังมีความมุ่งมั่นปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะประสบความสำเร็จแล้วล่ะก็ ยิ่งคาดหวังมากเท่าไหร่ คุณมีโอกาสที่จะผิดหวังมากเท่านั้น เพราะเป็นไปได้ว่าในช่วงสัปดาห์นี้จะมีปัญหาขลุกขลักตลอดๆ  มีโอกาสถูกใส่ร้ายป้ายสี หรือเอกสารทางราชการมีความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาด กลายเป็นคดีความทั้งทางแพ่งและอาญา ทางที่ดีควรหาเพื่อนร่วมงานที่ไว้ใจได้มาช่วยกันทำงาน หรือปรึกษาผู้รู้ผู้มีประสบการณ์ด้วย  

การเงิน  :  มีโอกาสที่คุณจะใช้เงินเกินตัว เช่น หมดไปกับการเลี้ยงเพื่อนฝูง ผู้ใต้บังคับบัญชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีความเสี่ยงที่จะสูญเงินไปกับการค้ำประกัน และการให้กู้ยืม หากเป็นไปได้ในช่วงสัปดาห์นี้งดให้กู้เงิน หรือเซ็นค้ำประกันให้ใครอย่างเด็ดขาดเลยนะคะ

ความรัก  :  สัปดาห์นี้มีโอกาสที่คุณจะแสดงความหึงหวงคู่ครองอย่างออกนอกหน้าเลยทีเดียว จนมีความเสี่ยงที่จะทำให้ความรักความสัมพันธ์ของคุณนั้นแย่ลง แล้วแต่ละคนก็ทิฐิเยอะเกินกว่าจะหันหน้าเข้ามาคุยกันได้อีกแล้ว คนโสด  หากคุณกำลังทุ่มเทให้กับความรักอย่างมากมาย ก็ควรถอนตัวถอนใจออกมาบ้างนะ เพราะมีโอกาสไม่สมหวังสูงมาก

สุขภาพ   :  อย่าประมาท เพราะมีโอกาสที่คุณจะได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย อันเป็นผลจากการปฏิบัติงาน นอกจากนั้นยังต้องระวังหัวใจและโรคที่เกี่ยวกับหัวใจทุกชนิด รวมถึงสายตาด้วย พวกตระกูลต้อกำลังมาเยือน

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :   ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์สำหรับเดือนสุดท้ายปลายปี ก็ต้องแสดงความยินดีกับชาวศุกร์ด้วยที่มีโอกาสได้ริเริ่มหรือบุกเบิกงานหรือธุรกิจใหม่ๆ อีกแล้ว แล้วเป็นไปได้ที่คุณจะได้เป็นถึงระดับหัวหน้างาน หัวหน้าโครงการ หรือหัวหน้าทีม ซึ่งจะเกี่ยวกับงานบุญ การกุศล หรืองานเพื่อสังคม ทางด้านสาธารณะประโยชน์ สาธารณะกุศล จิตอาสา มูลนิธิ ก็ควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นด้วยนะคะ เพราะมีความเสี่ยงที่งานหรือธุรกิจจะไปไม่ถึงฝัน เพราะสะดุดหยุดลงกลางคันอย่างน่าเสียดาย

การเงิน  :   เป็นไปได้ว่าคุณจะสามารถจัดสรรการเงินได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพ ดังนั้น จึงเปิดโอกาสให้สัปดาห์นี้คุณสามารถทำงานที่เน้นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน คิดถึงผลงานมากกว่าผลตอบแทน

ความรัก :  เป็นไปได้ที่สัปดาห์นี้คุณจะให้เวลากับงานจนไม่มีเวลาให้กับครอบครัว ขณะเดียวกันในเรื่องของจิตใจคุณยังโหยหาความสนใจและความอบอุ่นจากครอบครัวอยู่เสมอ  คนโสด  ความมีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามก็ยังคงไม่เลือนหายไปจากชาวศุกร์ง่ายๆ นะคะ แม้งานจะยุ่ง แต่ใจก็ยังโหยหาอ้อมกอดอยู่ไม่คลาย  

สุขภาพ  :  ก็ยังคงอยู่กับเรื่องของอาหาร การรับประทานอยู่นะคะ เป็นไปได้ว่ายิ่งเครียดก็ยิ่งหิว ยิ่งรับประทานก็ยิ่งเอ็นจอย จนมีความเสี่ยงที่น้ำหนักจะขึ้นได้โดยไม่รู้ตัว นอกจากนั้นยังต้องระวังโรคที่เกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ต่อมทอนซิลอักเสบ และหลอดลมอักเสบ ด้วย  

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :   ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ของเดือนสุดท้าย สำหรับชาวเสาร์ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ เช่น นักแสดง ศิลปิน นักร้อง ดีไซเนอร์ งานสารพัดช่าง หรือหากใครที่กำลังทำงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสังคมแล้วล่ะก็ หากตลอดมาคุณใช้ทักษะและความสามารถและความเชี่ยวชาญอย่างหนักมาเป็นเวลานาน เป็นไปได้ที่คุณมาถึงจุดที่ต้องพัก ทั้งเกิดจากความตั้งใจของตัวเอง หรือจากสถานการณ์บังคับก็ได้ทั้งนั้น  

การเงิน  :  มีโอกาสได้โชคหรือลาภลอย แต่เป็นไปได้ว่าคุณจะไม่ใส่ใจ ยกให้เป็นของสังคมหมด แต่หากอยากจะลงทุนสำหรับสัปดาห์นี้ควรทำคนเดียว ไม่ควรร่วมหุ้นกับคนอื่น

ความรัก  :  ก็ยังมีโอกาสที่ยังมีการคุมความประพฤติกันอยู่ เป็นไปได้ว่าจะสลับตำแหน่ง เพราะคนที่จะถูกคุมคราวนี้คือคุณ จนมีความเสี่ยงที่จะเกิดความคิดเห็นขัดแย้งกันได้ง่ายๆ  คนโสด จิตใจอ่อนไหวตามสไตล์ศิลปินเลยค่ะสำหรับชาวเสาร์สัปดาห์นี้ มีโอกาสที่จะบูชาความรักอยู่เหนือสิ่งอื่นใด แต่สุดท้ายแล้วมีความเสี่ยงที่จะไปไม่ถึงฝั่งฝันด้วยทิฐิและความคิดแบบเด็กๆ  

สุขภาพ   :  หากคุณนั่งทำงานอยู่ในท่าเดิมๆ มาตลอดสัปดาห์ หรือตลอดปี สัปดาห์นี้มีความเสี่ยงที่ออฟฟิศซินโดรมจะถามหา ปวดเนื้อเมื่อยตัวไปหมด ทางที่ดีควรลุกขึ้นเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ หรือบริหารกาย ทำโยคะ หรือหากจะไปให้หมอนวดแก้อาการ ก็เว้นท่าบิดคอ บิดหลัง หรือท่าที่มีความเสี่ยงสูงด้วยนะคะ  

“AESLA” จัดงาน “A NIGHT OF STELLAR HONORS - AESLA AWARDS 2024”

“AESLA” จัดงาน “A NIGHT OF STELLAR HONORS – AESLA AWARDS 2024” มอบรางวัลแก่แพทย์ความงามระดับแนวหน้า พร้อมเปิดไลน์อัพนวัตกรรมใหม่

account_circle
“AESLA” จัดงาน “A NIGHT OF STELLAR HONORS - AESLA AWARDS 2024”
“AESLA” จัดงาน “A NIGHT OF STELLAR HONORS - AESLA AWARDS 2024”

AESLA ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ด้านความงามและเวชสำอางชั้นนำระดับโลก มาตรฐาน U.S.FDA และ Gold Standard ภายใต้การบริหารของ คุณวรุตม์ สุทธินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสล่า จำกัด จัดงาน “A NIGHT OF STELLAR HONORS – AESLA AWARDS 2024” เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติแพทย์ชั้นแนวหน้าของประเทศไทย ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมและขับเคลื่อนวงการแพทย์ด้านความงามในประเทศ  

ภายในงานได้รับเกียรติจากบรรดาแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ นิวัติ พลนิกร, นายแพทย์ วิชัย หงส์จารุ, ศาสตราจารย์ แพทย์หญิง รังสิมา วณิชภักดีเดชา, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิง มาริษา พงศ์พฤฒิพันธ์, นายแพทย์ สมิทธิ์ อารยะสกุล ตลอดจนเซเลบริตี้ “ไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” และ “มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง” นอกจากนี้ยังมีบรรดาแขกกิตติมศักดิ์ “มะนาว-ศรศิลป์ มณีวรรณ์, จินนี่-เอมษิกา โชติวิจิตร, นายแพทย์ ณัฐภัทร มีนชัยนันท์, ใบปอ-ยิ่งรัก พัวถาวรสกุล” มาร่วมงาน พร้อมด้วยนักร้อง “บี-พีระพัฒน์ เถรว่อง” และ “จูน-สาวิตรี
โรจนพฤกษ์” รับหน้าที่เป็นพิธีกรดำเนินงาน  

นอกจากนี้ภายในงานยังมี Innovative Exhibition สำหรับจัดแสดงนวัตกรรมทางการแพทย์ด้านความงามจากแบรนด์ระดับโลกต่างๆ พร้อมด้วยหนึ่งในไฮไลต์ของงานคือการเปิดตัวสารเติมเต็ม ได้แก่ Dermal Filler จากแบรนด์ Revanesse ประเทศแคนาดา และPolynucleotide จากแบรนด์ Plinest ประเทศอิตาลี  

ปัจจุบัน บริษัท เอสล่า จำกัด เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ทางด้านความงามและเวชสำอางชั้นนำอย่างครบวงจร ได้แก่ Asclepion, biotec italia, capillus, Cynosure Lutronic, GME, Human Med, Hydrafacial, NoIR, SoftFil, Syris Scientific, Venus, Zimmer และ Product ในกลุ่มของสารเติมเต็มอย่าง Plinest และ Revanesse 



วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์

วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภายใต้ลุคเจ้าสาวแสนหวานปนเซ็กซี่แบบมินิมอลมินิใจ

Alternative Textaccount_circle
วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์
วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์

วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์ ภายใต้ลุคเจ้าสาวแสนหวานปนเซ็กซี่แบบมินิมอลมินิใจ จากแบรนด์ฮ่องกง เอลอน ลิฟเน่ ไวท์ (Alon Livne White)

หลังจากจัดงานแต่งงานที่ประเทศฝรั่งเศส ล่าสุดถือฤก์ดีวันที่ 7 ธันวาคม 2567 จัดงานฉลองวิวาห์ที่ประเทศไทย สำหรับคู่รักคู่หวาน “วุ้นเส้น วิริฒิพา ภักดีประสงค์” กับนักธุรกิจ “นิกม์ ธนะภูมิกุล” ห้องนภาลัย เเกรนด์บอลรูม โรงเเรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ

โดยในวันนี้ตกแต่งธีมงานอาร์ตหรูหรา Art Nouveau แต่งเต็มด้วยดอกกุหลาบหลากชนิดหน้าประตูทางข้าง ภายในงานประดับด้วยดอกไฮเดรนเยียฮอลแลนด์สุดตระการตา

ทั้งนี้นอกจากการจัดงานที่อลังการแล้วความสาวยของเจ้าสาวก็ย่งใหญ่ไม่แพ้กัน ด้วยลุคเจ้าสาวแสนหวานปนเซ็กซี่แบบมินิมอลมินิใจ ซึ่งชุดของวุ้นเส้นมาจาก แบรนด์ฮ่องกง เอลอน ลิฟเน่ ไวท์ (Alon Livne White) สวมสร้อยคอ เครื่องประดับ จากแบรนด์ chopard ต่างหู แหวน สร้อยคอ รวม 110 กะรัต มูลค่าถึง 38 ล้านบาท

วุ้นเส้น-วิริฒิพา
keyboard_arrow_up