หมดกันความน่ากลัวที่สะสมมา! คุณอุบลเวอร์ชั่นมุ้งมิ้งในสติ๊กเกอร์ไลน์ เตรียมโหลดเลยเจ้าค่ะ

เชื่อแล้วจ้าว่าพิษสวาทกันทั้งเมืองจริงๆ จะไม่ให้เชื่อได้ยังไงล่ะ ก็บทคุณอุบลในละครเรื่องพิษสวาทตอนนี้มีสติ๊กเกอร์ไลน์เป็นของตัวเองแล้วนะ ไม่ฮ็อตจริงทำไม่ได้นะเนี่ย

เรียกได้ว่ากระแสแรงไม่เกรงใจช่องใหญ่ๆเลยละ สำหรับละครพิษสวาททางช่อง one ที่สาวนุ่น – วรนุช ภิรมย์ภักดี รับบทนำเป็นคุณอุบล ที่เห็นในเรื่องสาวนุ่นได้กลายเป็นวิญญาณเฝ้าสมบัติ ซึ่งก็มีฉากที่ทำให้เรากลัวสาวนุ่นอยู่หลายฉากอยู่เหมือนกัน แต่ล่าสุดมีสติ๊กเกอร์ไลน์คุณอุบลออกมาในเวอร์ชั่นที่มุ้งมิ้งสุดๆ บอกเลยว่าเห็นแล้วขำจนเลิกกลัวคุณอุบลเลยละ

ซึ่งตอนนี้ก็เปิดให้โหลดเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะจ๊ะ ใครที่เป็นแฟนคลับคุณอุบลก็ไปหาโหลดมาเก็บกันละ อย่างวันนี้เราก็มีภาพตัวอย่างของสติ๊กเกอร์ไลน์คุณอุบลมาฝากกันด้วย อะ ไปดูกันเลยจ้า

14033577_195213607565892_1700698740_n

14063165_309067549453849_50221912

เรื่อง : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : IG@nuneworanuch, www.store.line.me

ฝ่าลมหนาวที่ DACHSTEIN @AUSTRIA (ตอนที่ 1)

ถ้าเอ่ยชื่อ ดัคชไตน์ (Dachstein) ขึ้นมาลอยๆ คงมีน้อยคนที่จะรู้จัก แต่ถ้าพูดต่อว่า นี่คือชื่อของเทือกเขาสูงใหญ่ซึ่งยืนตระหง่านอยู่ทางด้านหลังของเมืองมรดกโลก แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบชื่อเดียวกันว่า ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) ละก็ คงร้องอ๋อ…

03รู้จัก Dachstein

ดัคชไตน์ เป็นเทือกเขาหินปูนขนาดใหญ่ใจกลางประเทศ ออสเตรีย ครอบคลุมพื้นที่ถึงสามแคว้น ได้แก่ อัพเปอร์ ออสเตรีย สติเรีย และซาลซ์บูร์ก (Drei-Lãnder-Berg) คิดเป็นพื้นที่ถึง 60 ตารางกิโลเมตร ในเทือกเขานี้มีถึง 12 ยอด ที่สูงเกินกว่า 2,500 เมตร และมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางธรรมชาติบนเทือกเขาที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1997 คือ ถ้ำหินปูนใหญ่ที่สุดในออสเตรีย ถ้ำน้ำแข็งที่สวยที่สุดในออสเตรีย และธารน้ำแข็งใหญ่ยักษ์อีกถึงสามแห่ง

นอกจากนี้ยังเป็นสกีรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่มีหิมะหนาให้เล่นได้ตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่สร้างเสริมเพิ่มขึ้นมาบนยอดเขานี้เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดพิเศษอีกด้วย เช่น สะพานแขวนดัคชไตน์ (The Dachstein Suspension Bridge) บันไดสู่ความว่างเปล่า (Stairway to Nothingness) แพลตฟอร์มเหนือหน้าผาสูงลิ่วที่มีพื้นเป็นกระจกใส (The Dachstein Skywalk) แพลตฟอร์มรูปนิ้วมือห้านิ้วหรือแท่นไฟว์ฟิงเกอร์ส (Five Fingers) บนหน้าผาสูงสองกิโลเมตรเหนือทะเลสาบและเมืองฮัลล์สตัทท์ เป็นต้น

12
สะพานแขวนยาว 100 เมตรทอดข้ามหุบเขาสูง
11
สร้างให้ยื่นออกไปกลางอากาศ

เริ่มต้นการเดินทาง

เราเริ่มการเดินทางด้วยการขับรถไปตามถนนหน้าเมืองฮัลล์สตัทท์ วิ่งเลาะเลียบริมทะเลสาบไปสู่เมืองโอเบอร์โทรน (Obertraun) ด้วยระยะทางเพียง 3 กิโลเมตรเศษก็ถึงทางแยก ซึ่งถ้าวิ่งตรงไปจะเข้าเมือง แต่เราเลี้ยวตรงแยกทางขวามือไปจนสุดถนนที่สถานีเคเบิลคาร์ขึ้นเขา ขับตามป้ายนำทางไปไม่ไกลก็จะถึงลานจอดรถ

จอดรถแล้วก็ไปซื้อตั๋วซึ่งมีหลายแบบให้เลือก เช่น จะซื้อแค่ตั๋วขึ้นเคเบิลคาร์กับตั๋วเข้าชมถ้ำน้ำแข็งเพียงอย่างเดียว หรือรวมหมดทุกถ้ำ (บนเขายังมีถ้ำหินปูนอีกสองถ้ำให้เยี่ยมชม หากสนใจและมีเวลาพอ) หากแค่อยากไปเดินบนแท่นไฟว์ฟิงเกอร์สที่อยู่บนยอดเขาสูงกว่าถ้ำน้ำแข็งขึ้นไปอีกช่วงหนึ่งแล้วไม่อยากชมถ้ำอื่นต่อ ก็ซื้อเพียงตั๋วเคเบิลคาร์สำหรับขึ้นเขาเพิ่มอีกช่วงก็พอครับ (คุณผู้อ่านต้องสอบถามทำความเข้าใจให้ดีเสียก่อนจะซื้อตั๋วนะครับ) ส่วนจะเลือกว่าควรจะขึ้นเคเบิลคาร์รวดเดียวสองช่วงเพื่อไปเดินชมแท่นไฟว์ฟิงเกอร์สก่อน หรือจะหยุดที่สถานีแรกเพื่อไปเที่ยวถ้ำน้ำแข็งก่อนนั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ณ เวลาที่ท่านไปถึงเคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรด้านล่างสุด ซึ่งถ้าจะไปชมถ้ำน้ำแข็ง ท่านต้องแจ้งแก่เจ้าหน้าที่จำหน่ายบัตรตอนซื้อว่าต้องการเข้าไปชมถ้ำน้ำแข็งเวลาใดและภาษาใด (การเข้าชมจะมีไกด์นำชม)

แต่ถ้าเวลานั้นฟ้าใส อากาศดี ไม่มีเมฆหมอกเหมือนเช่นของคณะเราในครั้งนี้แล้ว ควรรีบขึ้นไปเที่ยวแท่นไฟว์ฟิงเกอร์สเสียก่อน เผื่อว่าอากาศด้านบนยอดเขาอาจแปรปรวนขึ้นมา โดยให้เผื่อเวลาไว้สัก 3 ชั่วโมงนะครับ เพราะเมื่อถึงสถานีช่วงที่สองด้านบนสุดแล้วยังต้องใช้เวลาเดินไปตามป้ายบอกทางทั้งไปและกลับอย่างเดียวอีกราวหนึ่งชั่วโมง แต่วิวระหว่างทางเดินบนเขาสูงไปแท่นนี้งดงามแปลกตาชวนให้ถ่ายรูปได้ไม่รู้เบื่อทางเดินนั้นบางช่วงเวลาอาจจะมีหมอกหนาลอยลงมาปกคลุมจนมองเห็นทางเดินได้ไม่ไกลนัก แต่ไม่ต้องกังวลเพราะหมอกหนา ๆ เหล่านั้นคลุมอยู่ไม่นาน เดี๋ยวลมก็พัดจางหายไป แต่อาจลอยกลับมาคลุมใหม่อีก เป็นเช่นนี้ตลอดเวลา

13
ตรงจุดนี้ทำไว้ให้หวาดเสียวอีกเช่นกัน สังเกตตรงมุมทางเดินที่คนยืนจะไม่มีราวเหล็กกั้น เป็นแค่กระจกใสสองด้านเท่านั้น

ถึงแล้วแท่น Five Fingers เดินตามป้ายบอกทางจนสุดทางเดินก็เห็นโครงเหล็กรูปนิ้วมือทั้งห้านิ้วยื่นลอยออกไปจากหน้าผาสูงเกือบ 2,000 เมตร มองดูแข็งแรงบึกบึนดี นักท่องเที่ยวสามารถเลือกยืนชมวิวสวย ๆ ชวนตะลึงของเมืองฮัลล์สตัทท์และทะเลสาบที่แลเห็นอยู่เบื้องล่างไกลลิบๆ หรือถ่ายภาพจากในแต่ละนิ้วมือ ซึ่งมีความแตกต่างกัน โดยหนึ่งในนั้นมีพื้นเป็นกระจกใส ท่านสามารถมองทะลุลงไปยังด้านล่างที่เห็นลึกลงไปไกลลิบ ๆ จนชวนให้รู้สึกหวิวๆ ได้… เมื่อยืนชมวิวตรงนี้จนพอแก่ความต้องการแล้ว ก็เดินกลับไปยังสถานีเคเบิลคาร์ ตรงหน้าสถานีบนเขานี้ หากเดินแยกไปทางขวามือ

DACHSTEIN
จุดที่ใช้เป็นสถานที่สำหรับเริ่มต้นเล่นร่มร่อน

จะเป็นหน้าผาสูงที่ทอดลาดลงไปด้านล่าง เป็นจุดที่นักกีฬาร่มร่อน (Paragliding) ใช้เป็นจุดสตาร์ทออกตัวเล่นร่มร่อนกันครับ เราเดินตามนักเล่นร่มร่อนกลุ่มหนึ่งซึ่งเดินอยู่ข้างหน้า ไปยืนดูเขาเล่นกันอย่างเพลิดเพลิน พลางนึกว่ามนุษย์นั้นก็สามารถลอยไปบนท้องฟ้าได้ราวกับนกเหมือนกัน ดูอยู่นานพอสมควร เราก็ลงไปยังสถานีด้านล่างกันอีกครั้งหนึ่ง (บนเขานี้ก็มีสัญญาณ WiFi แรงตลอดเส้นทางครับ) บุกเข้าถ้ำน้ำแข็งดัคชไตน์

จุดหมายต่อมา เราเข้าไปเที่ยวชมภายในถ้ำน้ำแข็งดัคชไตน์ ซึ่งเป็นถ้ำน้ำแข็งที่สวยที่สุดในออสเตรียกัน ปากทางเข้าถ้ำนั้นอยู่สูงจากตัวสถานีช่วงแรกขึ้นไปราว 500 – 600 เมตร ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าจะเดินขึ้นเนินไปจนถึง แต่ทางเดินขึ้นไปยังปากถ้ำนี้ลาดยางเรียบ(เข็นรถเข็นเด็กได้) ตรงปากทางเข้าถ้ำน้ำแข็งนั้นมีไกด์มารอรับนักท่องเที่ยวเพื่อพาเข้าชมด้านในตามรอบเวลา พร้อมแนะนำและสรุปข้อห้ามต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวทราบ ก่อนจะพานักท่องเที่ยวเข้าชมภายใน

DACHSTEINทางเดินในถ้ำน้ำแข็งดัคชไตน์นั้น จัดว่าสะดวกสบายสำหรับการเดินเที่ยวค่อนข้างมาก เพราะติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างไว้อย่างดีตลอดเส้นทางโดยไกด์จะเป็นผู้เปิดและปิดไฟให้นักท่องเที่ยวได้ชมความสวยงามของถ้ำเป็นระยะไปตลอดทาง ที่พิเศษมากๆ อีกอย่างคือ ถ้ำน้ำแข็งดัคชไตน์นี้อนุญาตให้ถ่ายรูปได้เต็มที่ อย่าลืมนำกล้องถ่ายรูปดีๆ ติดตัวไปเก็บภาพสวยงามน่าประทับใจของน้ำแข็งงอกและน้ำแข็งย้อยนะครับ แต่ควรระวังว่าอย่าเพลินและเดินช้าไปจนไฟดับก็แล้วกัน (เพราะจะมืดสนิท) แสงสว่างของดวงไฟที่ถูกจัดวางไว้อย่างดีเยี่ยมนั้นช่วยส่งเสริมความสวยงามของน้ำแข็งรูปแบบต่างๆ ภายในถ้ำนั้นให้สวยงามยิ่งขึ้น ทำให้เดินชมกันอย่างเพลิดเพลินตลอดเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง จนลืมความเมื่อยล้าและความหนาวเย็นติดลบภายในถ้ำนี้ไปได้เลยครับ

06เมื่อถึงเวลา ไกด์ก็เปิดประตูชั้นแรกนำนักท่องเที่ยวเข้าไปข้างในซึ่งเป็นถ้ำหินปูนธรรมดา อุณหภูมิราว 8 องศาเซลเซียส ไม่หนาวมากและยังไม่มีน้ำแข็ง ไกด์เล่าว่า ได้ค้นพบโครงกระดูกของหมีหลายตัว ซึ่งเคยอาศัยอยู่ในถ้ำนี้เมื่อนานมาแล้ว พร้อมบรรยายถึงเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ จากนั้นจึงเปิดประตูชั้นที่สองนำเดินลึกเข้าไปด้านใน อากาศเริ่มหนาวมากขึ้น ไกด์พาเดินพร้อมอธิบายถึงการเกิดของถ้ำน้ำแข็งว่าถ้ำน้ำแข็งนั้นคือ ถ้ำหินปูนบนยอดเขาสูง หินปูนของผนังและหลังคาถ้ำนั้นมีรูพรุนเล็กๆ อยู่ทั่วไป ทำให้น้ำฝนหรือน้ำจากหิมะละลายทางด้านบนไหลซึมลงมาในถ้ำได้ เมื่อไหลลงมาพบกับอากาศเย็นจัดในถ้ำเข้า จึงเกิดเป็นน้ำแข็งมีทั้งงอกและย้อยสะสมเรื่อยมาอย่างนี้เป็นเวลายาวนานนับหมื่นปี

ส่วนคำถามว่า ทำไมอุณหภูมิในถ้ำนี้จึงเย็นจัดจนติดลบได้เสมอแม้ในฤดูร้อน ไกด์บอกว่า เพราะเจ้าหน้าที่ทั้งหลาย ซึ่งก็คือ ไกด์ทุกคนนั้นจะคอยดูแลประตูทางเข้าถ้ำ (ซึ่งหนาราวประตูตู้เย็นและซีลไว้เป็นอย่างดี) ทั้งด้านนอกและด้านในทุกบาน โดยจะเปิดไว้ในเวลากลางคืนกับในฤดูหนาว (ถ้ำปิดการเข้าชมในฤดูหนาว) และจะปิดในฤดูร้อนกับตอนกลางวัน (ส่วนถ้ำเองในสมัยก่อนจะมีการค้นพบและเปิดให้เข้าชมนั้นเป็นระบบปิดสนิท ขังเอาอากาศเย็นไว้ภายในไม่ให้ไหลออกได้) เมื่อเราเดินชมสิ่งที่น่าสนใจต่าง ๆ เรื่อยไปจนจบการนำทัวร์จนถึงประตูทางออกสู่ภายนอกถ้ำ ซึ่งอยู่สูงกว่าปากทางเข้าถ้ำที่เราเดินเข้าในตอนเริ่มต้นราวร้อยเมตรแล้ว ไกด์จึงได้กล่าวอำลานักท่องเที่ยว

สถานีเคเบิลคาร์ เปิดให้บริการตลอดปี
สถานีเคเบิลคาร์ เปิดให้บริการตลอดปี

เราเดินลงจากปากถ้ำไปตามทางสู่สถานีเคเบิลคาร์ เพื่อกลับลงสู่ด้านล่างยังลานจอดรถ (หรือจะขึ้นสูงต่ออีกขั้นไปที่แท่นไฟว์ฟิงเกอร์สสำหรับผู้ที่เลือกมาเที่ยวที่ถ้ำน้ำแข็งนี้ก่อน) แต่สำหรับเราที่เดินเที่ยวกันมาหลายชั่วโมง ในตอนนี้เป็นเวลาบ่ายแก่ ๆ และทุกคนต่างเมื่อยล้าจากการเดินแล้ว จึงตกลงกันว่าจะกลับเข้าโรงแรมที่พัก

ผมจองโรงแรมล่วงหน้าไว้ก่อนเดินทางมา จึงขอแนะนำว่าควรเลือกพักโรงแรมแถวริมทะเลสาบฮัลล์สตัทท์ที่เมืองโอเบอร์โทรนนี่ละครับ สะดวกสุด เพราะท่านสามารถจอดรถแล้วขนกระเป๋าลงที่หน้าโรงแรมได้เลย ขณะที่ในตัวเมืองฮัลล์สตัทท์นั้น ห้ามรถภายนอกเข้าไป ท่านเองจะได้รีบพักผ่อนสบาย ๆ ได้เร็ว ทั้งยังจะได้สัมผัสและชื่นชมกับบรรยากาศสวยสงบของทะเลสาบเมืองมรดกโลกฮัลล์สตัทท์ทั้งในยามเช้าและยามเย็นได้อย่างเป็นส่วนตัวสุดๆ ครับ

 

ที่มา : นิตยสารแพรว ปักษ์ 882 วันที่ 25 พฤษภาคม 2559 คอลัมน์สารคดีท่องเที่ยว

อ่านต่อตอน 2 เร็วๆ นี้

ฮิวโก้หวนคืนเพลงไทย เนื้อร้องแต่งจากชีวิตรักตัวเอง เปิดใจตรงๆว่าผู้หญิงเจ้าชู้ “อย่ามาให้เห็น!”

เป็นที่ถูกอกถูกใจของสาวๆกันถ้วนหน้าสำหรับนักร้องหนุ่มมาดเท่ ฮิวโก้ – จุลจักร จักรพงษ์ ที่ไม่ได้มีดีที่หน้าตาเพียงอย่างเดียว แต่เพราะความคิด ความสามารถ และการเป็นคนตรงๆของเขานี่แหละที่ได้ใจสาวๆไปเต็มๆ แถมยังกลายเป็นไอดอลของผู้ชายหลายคนอีกด้วย

14052562_295009674190285_2068894353_n

ล่าสุดเจ้าตัวก็ยอมออกเพลงไทยมาให้แฟนคลับได้ฟังซะที หลังจากมีเสียงเรียกร้องจากแฟนคลับหลายๆ คน ในชื่อเพลง “อย่ามาให้เห็น” ซึ่งเพลงนี้ได้หนุ่มเป้ – อารักษ์ อมรศุภศิริ มาช่วยเรียบเรียงเนื้อร้อง และได้หนุ่มเจ – มณฑล จิรา มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้อีกด้วย! บอกเลยว่าแค่ฟังชื่อแต่ละคนก็รู้แล้วว่าเพลงต้องดี๊ดีมากแน่ๆ แต่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือเนื้อเพลงนี้แหละจ้า เจ้าตัวยอมรับว่าเพลงนี้แต่งมาจากชีวิตของตัวเองที่เห็นผู้หญิงหลายๆคนชอบใส่คอนแท็คท์เลนส์ แล้วมันทำให้ปิดบังสายตาที่แท้จริง กลายเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเพลง ซึ่งเปรียบเหมือนการปิดบัง การไม่จริงใจต่อกันนั่นเอง

13388492_1615953688732654_614915496_n

นอกจากการแต่งเพลงจากชีวิตจริงแล้ว ที่ต้องกรี๊ดดด! หนักมากก็คือ ใน MV เพลงนี้มีเซอร์ไพร้ส์ตรงที่หนุ่มฮิวโก้ได้ชวนภรรยาคนสวยอย่างฮาน่า – ทัศนาวลัย จักรพงษ์ มาเป็นแขกรับเชิญใน MV ด้วย! ทำให้สาวๆครึ่งประเทศอิจฉาสาวฮาน่าสุดๆที่มีสามีดี๊ดี ล้อหล่อแบบนี้ ว่าแล้วก็ตามไปดูไปฟังเพลงใหม่และ MV ของหนุ่มฮิวโก้กันเลยจ้า

13658874_1439860372705361_2034558337_n13658438_1814538072099117_40163007_n13557021_1108496392567343_622740184_n11931061_1004993126209898_572515749_n

เรื่อง : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : IG@hugolek, hanahugo

นางร้ายตัวแม่ “ธัญญ่า” คืนสู่บทบาทที่คนดู “เกลียด” ทั้งบ้านทั้งเมือง!

ไต่ระดับความร้ายถึงเลเวลสูงสุดจริงจริ๊ง สำหรับ “ธัญญ่า – ธัญญาเรศ เองตระกูล” ที่กลับมาทวงบัลลังก์ในบทบาท “นางร้ายตัวแม่” ที่เล่นแล้วคนดูคล้อยตามจนต้องเปล่งเสียงออกมาอยู่หน้าจอเลยว่า “เกลียดดด…ด!”

ถ้าย้อนเวลาไป ตัวแม่เจ้าบทบาท “ธัญญ่า” ในวันนี้คือ “นางเอกหน้าใสเนื้อหอมแห่งยุค 90’s” ที่ผ่านงานละครมาแล้วนับไม่ถ้วน แถมยังเล่นภาพยนตร์มาแล้วถึง 14 เรื่อง แต่กระโดดมารับบทนางร้ายเรื่องแรกในปี พ.ศ. 2544  โดยรับบทเป็น “สายน้ำผึ้ง” ปะทะอารมณ์เชือดเฉือนนางเอกฝีมือไม่ด้อยไปกว่ากันอย่าง “แอน ทองประสม” ในเรื่อง “สามีตีตรา” ใครที่ไม่ทันเวอร์ชั่น “แอน ปะทะ ธัญญ่า” นี้ แพรวขอบอกเลยว่าต้องไปหาดูย้อนหลังด่วน เพราะแม่ก็คือแม่จริงๆ ร้ายจนคว้ารางวัลไปการันตีจากหลายสำนัก แค่นึกถึงบางฉากก็ขนลุกล๊าววว

หลังจากนั้น “ธัญญ่า” ก็กลับคืนสู่บทบาทของ “นางเอก” ไปอีกหลายเรื่อง
ก่อนจะมาปลดปล่อยความแซ่บแสบถึงทรวงอีกครั้งในเรื่องเรือนรักเรือนทาส ซึ่งก็คว้ารางวัลดาราสมทบหญิงยอดเยี่ยมไปหลายสำนัก ก่อนจะสลับมารับบทนางเอก จากนั้นกลับมาบทนางร้ายในเรื่องถึงร้ายก็รัก, สาปภูษา (เล่นทั้งบทร้ายและบทดี), หน้ากากดอกซ่อนกลิ่น ตามด้วยแรงเงา ที่ร้ายเข้าถึงบทบาทระดับเด็กเห็นยังต้องร้องไห้ จนกวาดไปทั้งรางวัลนาฏราช, รางวัลโทรทัศน์ทองคำ, รางวัลพิฆเนศวร และรางวัลอื่นๆทั่วทุกสำนัก เรียกว่าต้องซื้อตู้ใหม่ใส่ถ้วยรางวัล!

สกิลอ่อยจากเรื่องหน้ากากดอกซ่อนกลิ่น

gallery_1248064479

สกิลตบไต่ระเบียงจากเมียหลวงลวงสังหาร เรื่องแรงเงา

11

สกิลสั่นประสาทนางเอกของสายน้ำผึ้ง เรื่องสามีตีตรา

ธัญญ่า

 

แต่ขึ้นชื่อตัวแม่เจ้าบทบาท เล่นบทใดก็ทำให้คนดูเชื่อได้ สาว “ธัญญ่า” ก็กระโดดกลับไปสวมบทนางเอกอีกครั้ง และบทอื่นๆหลายเรื่องต่อมา จนกระทั่งกลับมาร้ายแซ่บในตามรักคืนใจ 

และล่าสุดร้ายแบบทวีคูณขึ้นไปอีกกับเรื่องเลือดรักทระนง ตั้งแต่ฉากเปิดตัวกระแทกอารมณ์คนดูของ “พุดกรอง” แล้วยิ่งเรื่องราวดำเนินไป แม่ม่ายสาวสวยรวยเสน่ห์ก็เริ่มทำเอาคนดูเกลียดกันทั้งบ้านทั้งเมืองเลยทีเดียว! ความร้ายกาจถึงเลเวลไหน สาว “ธัญญ่า” บอกว่า

“พุดกรอง แม่ม่ายสาวสวยรวยเสน่ห์ แต่เป็นคนที่มีความทะเยอทะยาน ไม่รู้จักพอ ฟุ้งเฟ้อ เห็นอะไรที่ดีกว่าก็พร้อมที่จะไปหา จนได้เข้ามาเป็นภรรยาใหม่ของคุณพระศานต์ (รับบทโดย ดอม เหตระกูล) มาเป็นคุณผู้หญิงของบ้าน คอยเจ้ากี้เจ้าการ แต่ก่อนหน้านี้เราก็มีสามีมาแล้วหลายคน มีลูกที่เกิดกับสามีเก่าที่เป็นเจ้าของโรงละครก็คือ “สร้อยสน” (รับบทโดย มิ้นท์ – ณัฐวรา) เป็นลูกที่เรารัก เพราะเขาเกิดจากพ่อที่เป็นคนมีฐานะ ส่วน “กระถิน” (รับบทโดย เดียร์น่า ฟลีโป) เป็นลูกของ “เสือกาจ” (รับบทโดย ต้น – จักรกฤษณ์ ) ที่เรามารู้ทีหลังว่าเป็นโจร เลยเกลียดชังเขามาก ไม่มีความรักให้ลูกคนนี้เลย มองเหมือนเป็นคนใช้ ใส่ร้ายลูกตัวเอง พุดกรองเป็นแม่ที่แย่ เพราะสอนแต่สิ่งไม่ดีให้ลูก อย่างสร้อยสนเราก็สอนให้จับผู้ชายรวยๆ วันๆ คิดแต่จะจับผู้ชายรวย แต่พอโตแล้วสร้อยสนเขาก็คิดได้ มีแต่ตัวเราเองที่ทำให้เรื่องมันวุ่นวาย เป็นตัวต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ละครมีเนื้อเรื่องที่เข้มข้นมาก มีความเผ็ดในสไตล์ของละครพีเรียด ก็อยากฝากให้ติดตามชมค่ะ”

สกิลด่ารัวราวกับกระสุน เรื่องเลือดรักทระนง

เลือดรักทระนง

นางร้ายตัวแม่ "ธัญญ่า"

ณ จุดนี้แพรวบอกได้คำเดียว กลัวล๊าววว-ว

เรื่อง : redapple_แพรวดอทคอม

ภาพ : Thai TV3

ชมมนต์เสน่ห์ทะเลอ่าวไท ประตูสู่แดนใต้พร้อมกับลิ้มรสของดีที่ ชุมพร

1

2

ชุมพร เป็นจังหวัดที่ไม่ว่าใครได้แวะเวียนมาเป็นอันต้องหลงไหลในมนต์เสน่ห์ของทะเลอ่าวไท เต็มไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ อาหารอร่อยประจำท้องถิ่น และภูมิปัญญาดีๆ จากคนในชุมชน  ด้วยธรรมชาติที่งดงาม และวิถีชีวิตของคนในชุมชนจะช่วยสร้างความสุขและความชื่นใจให้กับผู้ที่ได้เข้ามาเยี่ยมเยือนอย่างแน่นอน

3

4

พิกัดการเดินทางก็ไม่ยากเลยค่ะ ให้ตั้งพิกัดไว้ที่ เกาะเตียบ ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จากรุงเทพเดินทางมาทางถนนเพชรเกษม สามแยกบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มุ่งหน้ามาทางจังหวัดชุมพรจนถึงกิโลเมตรที่ 426 เลี้ยวซ้ายที่สามแยกห้วยสัก ขับตรงมาจนเจอแยกบางเบิดให้เลี้ยวขวาแล้วขับไปประมาณ 10 กิโลเมตร ก็จะเจอวัดแก้วประเสริฐ ขับไปอีกประมาณ 8 กิโลเมตรเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนเกาะเตียบประมาณ 5 กิโลเมตรก็จะถึงชุมชนบ้านเกาะเตียบแล้วค่ะ

5

6

ชุมชนแรกที่เราจะพาไปชื่นใจในวันนี้คือชุมชนบ้านเกาะเตียบ ซึ่งอยู่บริเวณทะเลอ่าวไทตอนกลางโดยปกติแล้วนักท่องเที่ยวจะนิยมมาเที่ยวที่เกาะพระ เพื่อกราบพระ ก่อนที่จะไปเยี่ยมเยียนศูนย์เพาะพันธุ์สัตว์น้ำ และธนาคารปูม้าบ้านเกาะเตียบ นอกจากนี้ยังมีเกาะเวียงที่เป็นแหล่งดำน้ำของนักท่องเที่ยวแถมยังเดินชมธรรมชาติบนเขาได้อีกด้วย

7

ระหว่างทางที่เรานั่งเรือเที่ยวก็จะเห็นวิถีชีวิตของชาวประมงที่เริ่มออกเรือ แถมยังได้จับปลาหมึกตัวใหญ่ๆ สดๆ แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลที่นี่ได้เป็นอย่างดี

8

8.1

นอกจากที่นี่จะมีเรือประมงมากมายแล้ว ที่นี่ยังมีธนาคารกลางน้ำอีกด้วย ไม่ใช่ธนาคารฝากเงินนะคะ แต่เป็นธนาคารฝากปู ที่เป็นจุดวางไข่สำหรับแม่ปูที่อีกด้วย

9

จริงๆ แล้วเกาะเตียบเพี้ยนมาจากคำว่าเกาะเสียบ ซึ่งมีลักษณะเป็นแท่ง ชาวบ้านจะนับถือเกาะเตียบมาก เวลามีงานประเพณีแข่งเรือชาวบ้านจะวนรอบลูกเตียบสามรอบก่อนจะเริ่มการแข่งเรือ ซึ่งถือว่าเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใของคนในชุมชน ใครที่มีโอกาสแวะมาอย่าลืมถ่ายรูปกับเกาะเตียบกันด้วยนะ เพราะนี่คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ไม่ควรพลาด

10

11

หลังจากนี้เราจะมุ่งหน้าไปสู่เกาะยอ ซึ่งเราจะได้เห็นการเพาะพันธุ์สัตว์ทะเลท่ามกลางวิวทะเล 360 องศา และกินปูสดๆ แบบห้อยขากลางทะเลเลย จุดนี้ทำขึ้นมาเพืออนุรักษ์สัตว์และพันธ์พืช และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายรูปกับธรรมชาติสวยๆ ทั้งวิวทะเล และวิวภูเขาได้อีกด้วย

12

13

14

แต่สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากที่สุดในเกาะนี้คือการกินปูห้อยขา ท่ามกลางวิวทะเลแบบพาโนราม่า โต๊ะก็จะเป็นกระจกใสให้เห็นน้ำทะเล และที่ฟินที่สุดคงจะเป็นปูสดๆ ที่ถูกคัดสรรค์มาเป็นอย่างดี รวมถึงเมนูอาหารทะเลรสเด็ดได้ลิ้มรสกันอีกเพียบ

15

จากชุมชนเกาะเตียบ เลี้ยวซ้ายออกมาประมาณ 8 กิโลเมตร ก็จะเจอวัดแก้วประเสริฐ ขับตรงไปเรื่อยๆ จนเจอสามแยกบางเบิดให้เลี้ยวซ้ายและขับไปต่ออีกประมาณ 10 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายไปตามสามแยกห้วยสัก มุ่งหน้าไปตามถนนเพชรเกษม 30 กิโลเมตร ก็จะถึง ต .สลุย อ.ท่าแซะ ซึ่งเป็นพิกัดชื่นใจแห่งที่ 2 ของวันนี้ค่ะ

16

17

หลังจากที่ฟินกับอาหารทะเลสดๆ และเห็นความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลกันไปแล้วตอนนี้เรามาดูของกินบนบกกันบ้าง นั่นก็คือสวนทุเรียนของลุงเกษม ซึ่งต้นทะเรียนของลุงเกษมแต่ละต้นก็มีขนาดใหญ่ แถมลูกดกจนต้องเอาไม้ไผ่มาช่วยค้ำกิ่งเอาไว้อีกด้วย บอกเลยว่าทุเรียนที่สวนของลุงเกษมมีความกรอบนอก นุ่มใน หวาน หอม เนื้อแน่นสมกับเป็นของดีเมืองชุมพรเลยค่ะ

18

19

20

และอีกหนึ่งของดีเมืองชุมพรที่ถ้าไม่แวะมา ถือว่ามาไม่ถึงนั่นก็คือสะตอ ที่นี่มีทั้งสะตอหนังที่มีรสชาติหวานมัน สะตอข้าว และสะตอดานซึ่งมีเม็ดใหญ่ เมื่อได้เก็บสะตอเม็ดโตๆ จากสวนแล้วก็ถึงเวลาเข้าครัวเพื่อที่จะรังสรรค์เมนูปักษ์ใต้เลิศรสกันแล้วค่ะ ทั้งต้มกะทิใบเหลียง หมูผัดกะปิ กุ้งผัดสะตอ และปิดท้ายด้วยกล้วยเล็บมือนางซึ่งเป็นอีกหนึ่งของดีของชุมชนพ่อตาหินช้าง

21

22

หากใครมีโอกาสได้แวะมาเที่ยวที่ชุมชนพ่อตาหินช้าง ก็อย่าลืมแวะศาลพ่อตาหินช้างที่ตั้งโดดเด่นอยู่ริมถนนเพชรเกษม ที่ศาลนี้จะมีทั้งนักท่องเที่ยวและคนในชุมชนมาสักการะ ขอพร จุดประทัดอยู่ตลอดทั้งวัน

23

จากนั้นเรามาบุกที่สวยกล้วยเล็บมือนางที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของที่นี่ เป็นทั้งแหล่งปลูกกล้วย และแปรรูปกล้วย ที่สำคัญจนกล้วยเล็บมือนางถูกบรรจุอยู่ในคำขวัญจังหวัดชุมพรเลยทีเดียว

24

25

วิธีสังเกตกล้วยที่ถึงกำหนดตัดไปขายหรือแปรรูปก็ดูง่ายๆ เลยค่ะ คือกล้วยจะต้องมีลูกกลม ปลายเล็บต้องดำ ถึงแม้ว่ากล้วยเล็บมือนางจะมีลูกเล็กๆ เรียวๆ แต่เต็มไปด้วยสารอาหารไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาล กลูโคส ฟรุกโตส และซูโครส ซึ่งให้พลังงานกับนักกีฬา และผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายนั่นเอง แถมยังมีธาตุเหล็กที่ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง และมีโปรแทสเซียมสูง เกลือต่ำ ซึ่งจะไปช่วยบำรุงสมองของเราให้ดีขึ้นนั่นเอง อีกทั้งยังมีโปรตีนที่ชื่อว่า Tryptophan ที่จะช่วยให้เรานอนหลับสบาย ไม่เป็นโรคซึมเศร้า ได้อีกด้วย เห็นลูกเล็กๆ แบบนี้แต่ประโยชน์เยอะเกินตัวจริงๆ ค่ะ

26

27

หลังจากที่ไปบุกสวนกล้วยมาแล้ว ก็ถึงเวลาแปรรูปกล้วยโดยกลุ่มแม่บ้านของที่นี่ มีตั้งแต่กล้วยอบ กล้วยฉาบ กล้วยชุบแป้งทอด และกล้วยเคลือบช็อกโกแลต ซึ่งถือว่ากลุ่มแม่บ้านที่นี่ทำกันเป็นกลุ่มแรก และยังขายดีมากอีกด้วย

28

29

เบื้องหลังความอร่อยของกล้วยเล็บมือนาง นอกจากจะมาจากกล้วยสภาพดีแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือความร่วมแรงร่วมใจกันของชาวบ้านในชุมชนพ่อตาหินช้าง แถมยังมีโรงเรือนอบกล้วยประหยัดพลังงานให้ทุกครัวเรือนเข้ามาใช้กันแบบฟรีๆ อีกด้วย

30

32.1

31

32

ซึ่งวันนี้ทางทีมงานชื่นใจไทยแลนด์ก็ได้ร่วมมือกับนักออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อช่วยพัฒนาและประชาสัมพันธ์ให้สินค้าของชุมชนดังไกลไปถึงระดับประเทศ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วทางทีมงานก็จัดทำร้านขายของฝากเคลื่อนที่ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งหน้าตา สีสัน และสะดุดตาไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะไปตั้งที่ไหนก็ต้องมีคนเห็นแน่นอน สัญลักษณ์รูปช้างและลวดลายของใบกล้วยที่ชาวบ้านร่วมมือร่วมใจช่วยกันวาดขึ้นมาให้เป็นตัวแทนของชุมชน รวมถึงการวางผลิตภัณฑ์ต่างๆ ชัดเจนมากขึ้น มีชั้นวางของ มีจุดแขวนขายกล้วย และมีล้อเล็กๆ ที่ช่วยให้การขายกล้วยไม่ต้องอยู่ในที่เดิมๆ อีกต่อไป ซึ่งทั้งหมดก็น่าจะช่วยเป็นไอเดียในการต่อยอดให้กับการขายกล้วยของชุมชนพ่อตาหินช้างได้ไม่น้อยเลยค่ะ

33

1

และนี่คืออีกหนึ่งความชื่นใจที่เกิดขึ้นจากการมาเยี่ยมเยียนจังหวัดชุมพร ทั้งชุมชนประมงที่บ้านเกาะเตียบ และชุมชนชาวสวนที่บ้านพ่อตาหินช้าง ทำให้ได้พบว่าจังหวัดนี้ช่างเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ ทั้งทรัพยากร อาหาร ภูมิปัญญา และที่สำคัญอุดมไปด้วยความสุขของคนในชุมชนที่เห็นแล้วก็พาชื่นใจ

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จากอมรินทร์ทีวี ร่วมกับโครงการพลังประชารัฐและไทยเบฟเวอเรจ
ขอบคุณภาพสวยๆ จากรายการชื่นใจไทยแลนด์ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา  21:30 น. ช่อง 34 อมรินทร์ทีวี

ติดต่อเยี่ยมชมชุมชน
กลุ่มแม่บ้านธนาคารปูม้าชุมชนบ้านเกาะเตียบ โทร.093-651-2268
สวนสะตอบ้านพ่อตาหินช้าง โทร.081-893-3704
กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรพ่อตาหินช้าง โทร.081-893-3704, 081-477-0053

Calvin Klein ใช้ขนสัตว์เทียมแทนขนจริงทำชุดฤดูหนาวพิมพ์ลายหมาป่า แมวป่า และตัวสกั๊งค์!

เป็นปัญหาดราม่ามาอย่างยาวนานสำหรับเรื่องแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำต่างๆ มักจะใช้หนังสัตว์หรือขนจริงมาทำเสื้อผ้า จนเกิดเรื่องต่อต้านกันขึ้นของกลุ่มองค์กรพิทักษ์สัตว์มาหลายต่อหลายครั้ง คอลเล็คชั่นฤดูหนาวนี้ Calvin Klein จึงแก้ปัญหาใช้ขนสัตว์เทียมทำทั้งหมด!

สำหรับฤดูกาลนี้ คาลวิน ไคลน์ เน้นไปที่ความเย้ายวนของเสื้อผ้าต่อเนื่องจากช่วงฤดูใบไม้ร่วงไปจนถึงฤดูหนาวแต่ชุดสูทก็ยังคงมาแรงประกอบกับแจ็คเก็ตซึ่งตัดเย็บอย่างพิถีพิถันกับกางเกงทรงขากว้างที่ตัดด้วยผ้าเนื้อนุ่ม ยังมีชุดเดรสเบาสบายได้รับการเติมความเย้ายวนน่าหลงใหลเข้าไปด้วยการผ่าคอเสื้อให้ลึกลงเป็นรูปตัววีและปล่อยชายกระโปรงรุ่ย ธรรมชาติอันอิสระทั้งของความเป็นเมืองและป่าดงพงไพรคือแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้คอลเล็คชั่นนี้

12

มีรายละเอียดที่คาดไม่ถึงเพิ่มเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นลายสก็อต ลายตาราง Prince of Wales และลายเส้น รวมถึงไฮไลท์ของคอลเล็คชั่นนี้เสื้อโอเวอร์ไซส์และถุงมือที่ทำจากขนสัตว์เทียม ลายพิมพ์สุนัขป่า แมวป่า และตัวสกั๊งค์ ชุดเดรสที่โดดเด่นในคอลเล็คชั่นใช้วิธีการประดับด้วยพลอยและหินสีที่ช่วยให้เห็นภาพชัดของการแมทช์ธรรมชาติเข้ากับความหรูหราและพิถีพิถันของการสร้างสรรค์เสื้อผ้าอย่างกลมกลืน

345

เรื่อง : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : Calvin Klein

ดูดวงรายวัน ประจำวันศุกร์ที่ 2 กันยายน 2559

ดูดวงรายวัน ประจำวันพุธที่ 2 กันยายน 2559 เช็คทุกวัน ทันทุกดวง กับ แพรวดอทคอม

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : ระงับอารมณ์ ระวังเรื่องคำพูด ไม่พอใจอะไรก็เงียบไว้ เพราะคำพูดบางคำจะทำลายภาพลักษณ์ที่เราสร้างมานาน ทำงานอย่างสงบ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป

การเงิน : มีเรื่องให้ต้องใช้จ่าย ไม่มีเก็บ

ความรัก : ท่านกำลังหาช่องทางวิ่งเต้นตำแหน่งการงานให้กับคู่ครอง คิดว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะดวงคู่กำลังเอื้อกัน คนโสด ยังคาใจอยู่ว่า จะคบกับใครแล้วจะจริงจังกันแค่ไหน สำหรับท่าน ไม่ว่าคบกับใครก็เป็นรองเขาอยู่ร่ำไป

สุขภาพ : พักผ่อนน้อย ระวังหน่อยนะ

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : เปลี่ยนระบบงานใหม่ ท่านต้องแก้ปมปัญหาให้กับคนอื่น คิดในทางที่ดีว่า เพราะท่านเก่งจึงมีแต่คนอยากให้ท่านช่วย

การเงิน : สะดุดบ้าง หมดเงินกับญาติพี่น้องป่วยไข้

ความรัก : หากกำลังรอคอยทายาทมานาน วันนี้จะได้ชื่นชมยินดีกับข่าวดี คนโสด เส้นอกหักเยอะ คบใครได้ไม่เกิน 5-6 เดือนก็ต้องเลิก ทำใจไว้บ้าง

สุขภาพ : โรคประจำตัวกำเริบ

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน : งานโดดเด่นทีเดียว มีงานเข้ามามาก ท่านคิดว่าเอาอยู่ แต่พอถึงเวลาจริงๆ กลับเอาไม่อยู่ เพราะฉะนั้นอย่ากอดงานไว้คนเดียว ส่งต่อให้คนอื่นบ้าง

การเงิน : ได้โชคลาภจากผู้ใหญ่ ใครยืมเงินไปก็ทวงบ้าง เดี๋ยวจะไม่ได้คืน

ความรัก : มีเรื่องทุกข์ร้อนควรปรึกษาหารือกัน อย่าเก็บไว้คนเดียวจะได้ผ่านจุดวิกฤติไปได้ คนโสด เดินทางบ่อยอาจได้เจอคู่ทางไกล ขอให้ดูดีๆ เพราะอาจถูกหลอกลวงได้

สุขภาพ : ให้ระวังแพ้อากาศ ทำให้เจ็บคอ เจ็บทอลซิล

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน : ก่อนไปทำงาน เตรียมใจให้พร้อมว่า วันนี้งานเยอะ แต่อย่าท้อ ทุกอย่างจะผ่านไปได้

การเงิน : มีโชคลาภเข้ามาแบบฟลุ๊คๆ

ความรัก : สะดุดบ้าง แต่ก็ยังไปได้ดี คุยกันได้ดี เริ่มมีเหตุผล มีความสุขกัน รักษาความสัมพันธ์แบบนี้ไว้นานๆ คนโสด ช่วงนี้ยังยุ่งอยู่กับงาน ก็เลยไม่สนใจเรื่องคู่

สุขภาพ : ภูมิแพ้กำเริบจะคัดจมูก และมีปวดกระดูกด้วย

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : ทำงานด้วยความกระวนกระวายใจ อาจมีกังวล ไม่กล้าตัดสินใจบางอย่าง ต้องใช้ความละเอียด ควรปรึกษาผู้รู้บ้าง เพราะหากผ่านจะเป็นตัวชี้วัดให้ท่านได้ก้าวหน้าขึ้นอีกขั้น

การเงิน : นำเงินที่เก็บออมไว้ไปลงทุนให้คนอื่น

ความรัก : ทะเลาะกันเป็นธรรมดา แต่อย่าขุดคุ้ยเรื่องเก่าๆ จะทำให้งอนไม่คุยกันยาวเลย คนโสด ยังไม่มีใครเลย โสดไปอีกวันนะ

สุขภาพ : จะมีปัญหาเรื่องฟัน ปวดฟัน หรือผ่าฟันคุด

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน : ถึงคิวชาวศุกร์ถูกกากบาทในวันศุกร์ งานเยอะ ระบายไม่ทัน อย่าอุ้มงานไว้คนเดียว ท่านอาจถูกตำหนิได้ ทั้งที่ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ก็ต้องทำใจและยอมรับความจริง

การเงิน : ใครชวนลงทุนทำอะไร อย่าเด็ดขาด เก็บกระเป๋าเงินให้ดีๆ เพราะเงินอาจหายได้

ความรัก : มีเรื่องที่ต้องตัดสินใจว่าจะรับญาติ หรือลูกหลานมาอยู่ด้วยดีไหม ค่อยๆ ปรึกษากัน เพราะอย่างไรต้องมีสมาชิกมาเพิ่มอยู่แล้ว คนโสดมีเรื่องเข้ามากวนใจ คบแล้ว เริ่มเห็นแก่ตัว หรืออยู่ๆ ก็มีปรากฏเจ้าของมาประกาศตัว

สุขภาพ : ระวังช่องท้อง หรือลำไส้ อาจเป็นไส้ติ่งอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : เรื่อยๆ ยังมีอะไรต้องทำอีกเยอะ วางระบบหน่อย อย่าให้งานคั่งค้าง

การเงิน : มีรายได้เข้ามาฟลุ๊คๆ

ความรัก : ญาติพี่น้องป่วยควรพาครอบครัวไปเยี่ยม ให้กำลังใจกันบ้าง คนโสด เข้ามาก็ยังไม่ใช่ อย่าเพิ่งเลือกเลยวันนี้

สุบภาพ : ทานอะไรให้ระวังจะปวดท้อง ลำไส้ไม่ดี

สวยออริจินัลตัวจริง! 6 นางแบบไทย ตัวเจ๊ อดีตเคยปัง ปัจจุบันยังเป๊ะ! งามคงทนไม่มีย้วย!

นางแบบไทย ตัวแม่ สวยไม่มีย้วยแบบนี้ซิของจริง!

นางแบบไทย หรือดาราไทยเดี๋ยวนี้แทบจะหาคนสวยมีเอกลักษณ์ไม่ตามกระแสยากขึ้นทุกวัน เพราะมองไปทางไหนก็พิมพ์เดียวกันหมด สวยดูดีได้ในระยะสั้นๆ หลายคนพอแก่ตัวไปก็เห็นย้วยกันหมด แต่ไม่ใช่กับอดีตซูเปอร์โมเดลแถวหน้าของไทย ขอบอกว่าของจริง เวลาไม่สามารถทำลายความสวยของพวกนางได้เลย  

 

อาภาศิริ นิติพน

นางแบบไทย อาภาศิริ นิติพน

อุ๋ม นางแบบไทย อาภาศิริ นิติพนอุ๋มสาวหน้าเก๋ที่เคยเป็นสุดยอดนางแบบในช่วงยุค 90 แม้เวลาจะผ่านไปกี่ปีแต่นางยังคงบล็อคหุ่นไว้ให้สลิมเหมือนเดิม ซึ่งนางเคยให้สัมภาษณ์ว่า เคล็ดลับหุ่นสวย และหน้าเด็กนั้นง่ายนิดเดียว เพียงแค่ดื่มน้ำให้มากๆ เติมความสดชื่นให้ผิว และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนางแบบไทย อาภาศิริ นิติพน

นางแบบไทย อาภาศิริ นิติพน

นางแบบไทย อาภาศิริ นิติพนปัจจุบันอุ๋มยังคงเดินแบบอยู่เช่นเดิมไม่เคยหายจากวงการแฟชั่น และยังทำหน้าที่เป็นครูสอนทักษะเดินแบบ-ถ่ายแบบให้กับผู้เข้าประกวดเวที “ไทยซุปเปอร์โมเดล” ทางช่อง 7 อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีผลงานละคร รวมทั้งหนังให้ได้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ

ภาพ : @ rpasiri

นาตาชา เปลี่ยนวิถี  

นางแบบไทย นาตาชา เปลี่ยนวิถีแขวนส้นสูงอำลาวงการนางแบบไปนานแล้ว แต่คุณแม่ยังสวยอย่างแอนนาก็ยังคงรับงานเดินแบบเฉพาะกิจ หรือออกงานอีเว้นท์ให้ได้เห็นหน้าค่าตา คลายความคิดถึงกันไปบ้าง แต่เวลาส่วนใหญ่ตอนนี้นางเป็นแม่บ้านเต็มตัว อยู่บ้านเลี้ยงไตตั้น(ลูกชาย)อย่างเดียว

นางแบบไทย นาตาชา เปลี่ยนวิถี เรียกว่าตัวติดกันตลอด 24 ชั่วโมง เลยทำให้ไม่สามารถไปทำอะไรของตัวเองได้เลย แต่นางก็ยังไม่ลืมที่จะดูแลตัวเอง สร้างหุ่นเป๊ะ คงสภาพเดิมราวกับสมัยที่เป็นนางแบบแรกรุ่น ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วทำบุญมาด้วยอะไร ถึงโชคดีตรงที่ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องรูปร่าง เพราะกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่เล่นเทนนิสอย่างเดียว เป็นคนที่น่าอิจฉาม๊าก

ภาพ : tuipptitan,นิตยสาร secret

จอวราลักษณ์

จอย วราลักษณ์ นางแบบไทย

จอย วราลักษณ์ นางแบบไทย

จอย วราลักษณ์ นางแบบไทย เป็นอีกหนึ่งนางแบบแถวหน้าที่เคยโด่งดังมาก สำหรับจอย วราลักษณ์คนนี้มีลูก 2 คนแล้วแต่หุ่นยังดีมากบอกเลยว่าสวยได้ เพราะโยคะกับพิลาทีส

จอย วราลักษณ์ นางแบบไทย ณ ตอนนี้นางได้หันหลังให้วงการนางแบบอย่างถาวรแล้วไปใช้ชีวิตเงียบสงบกับลูกและสามีชาวต่างชาติที่ต่างประเทศ นอกจากนี้ยังชอบนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม เคล็ดลับความงามที่มาจากภายในล้วนๆ

ภาพ : joyvaraluk

29 แปรงแต่งหน้า อาวุธคู่กายยามเมคอัพกับความต่างของฟังก์ชัน (ตอน 1)

Alternative Textaccount_circle

ไม่ว่าจะเป็นช่างแต่งหน้าหรือเป็นแค่ผู้หลงใหลการแต่งหน้าก็ย่อมทราบดีว่า แปรงแต่งหน้า ที่เหมาะสมมีส่วนช่วยอย่างมากให้ผลการแต่งหน้าออกมาดี Urban Decay จึงแนะนำ UD Pro Brushes ให้สาวๆได้ทำความรู้จักแปรงแต่งหน้าถึง 29 ชนิด เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างรูปลักษณ์และฟังก์ชันการใช้งาน พู่กันและแปรงคุณภาพระดับมืออาชีพ แค่มองก็เพลินแล้ว!
ตั้งแต่ลงรองพื้นไปจนถึงปัดแก้ม ไล้อายแชโดว์ไปจนถึงลงไฮไลท์  ครอบคลุมทุกความต้องการด้านการแต่งหน้า ไม่ว่าจะเป็นการผสม ปกปิด หรือคอนทัวร์ พู่กันและแปรงคู่ชีพเหล่านี้ทำได้หมด!  โอ้ย แอดมินเห็นแล้วยังอยากได้เลยคร้า จะเอาๆๆอะ  (>.<)

 

 

3605971258169_udpro_brushes_contourdefinitionแปรงแต่งหน้า

(Blush / Highlight / Contour)

CONTOUR DEFINITION BRUSH
แปรงแต่งหน้า เหมาะสำหรับแรเงาและคอนทัวร์โลว์ไลท์ แปรงปลายเฉียง ช่วยขจัดครีมส่วนเกินและเกลี่ยแป้ง เพื่อสร้างโหนกแก้มและเพิ่มความชัดเจนของแนวกราม จมูก และคาง

 

3605971258121_udpro_brushes_flatopticalblurringแปรงแต่งหน้า

(Foundation)

FLAT OPTICAL BLURRING BRUSH
ใช้สำหรับเกลี่ยรองพื้นให้กลมกลืน เพื่อภาพลักษณ์ที่ดูละมุนละไม และใช้ลงไพรเมอร์ได้ด้วย

 

3605971258084_udpro_brushes_diffusingblushแปรงแต่งหน้า

(Blush / Highlight / Contour)

DIFFUSING BLUSH BRUSH
แปรงปลายเฉียงนุ่มฟู เกลี่ยสีได้อย่างละมุนละไม ปลายที่เฉียงยังช่วยให้ปัดแต่งโหนกแก้มได้ดีเยี่ยมอีกด้วย

 

3605971258046_udpro_brushes_diffusinghighlighterแปรงแต่งหน้า

(Blush / Highlight / Contour)

DIFFUSING HIGHLIGHTER BRUSH
ออกแบบมาเพื่อไฮไลท์ที่โปร่งบาง หรือเพิ่มแสงบนผิว รูปทรงที่เล็กช่วยให้ลงสีได้แม่นยำ

 

3605971258008_udpro_brushes_opticalblurringแปรงแต่งหน้า

(Foundation)

OPTICAL BLURRING BRUSH
รูปทรงที่อัดแน่น เกลี่ยรองพื้นอย่างสม่ำเสมอ ปัดแต่งเพื่อผลการรองพื้นที่นุ่มนวล เป็นธรรมชาติราวกับแอร์บรัช เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคอนทัวร์ ปัดแก้ม หรืออะไรก็ตามที่ให้ดูพร่าเลือน

 

3605971257964_udpro_brushes_finishingpowderแปรงแต่งหน้า

(Powder)

FINISHING POWDER BRUSH
ขนแปรงเบาและบาง เพื่อผลการแต่งผิวที่โปร่งใส เหมาะสำหรับการลงแป้งที่บางเบา ดูเนียนละเอียดเป็นพิเศษ และการลงบรอนเซอร์ทั่วพื้นที่

 

3605971172298_udpro_brushes_largetaperedpowderแปรงแต่งหน้า

(Powder)

LARGE TAPERED POWDER BRUSH
เกลี่ยแป้งในปริมาณที่เหมาะสม สีผิวจึงดูสว่างใส เนียนสวยสมบูรณ์แบบ

 

3605971172250_udpro_brushes_largepowderแปรงแต่งหน้า

(Powder)

LARGE POWDER BRUSH       
แปรงขนาดใหญ่ รูปทรงคล้ายแปรงทาสี ลงแป้งได้เนียนลื่น เพื่อเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าให้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ

 

3605971172212_udpro_brushes_largetaperedfoundationแปรงแต่งหน้า

(Foundation)

LARGE TAPERED FOUNDATION BRUSH
รูปทรงที่แน่นและหนา มอบการปกปิดเต็มอัตราและสม่ำเสมอ ใช้เกลี่ยและผสมรองพื้นเนื้อลิควิด เนื้อครีม หรือเนื้อแป้งได้อย่างง่ายดาย

 

3605971258282_udpro_brushes_angledlipแปรงแต่งหน้า

(Lip)

ANGLED LIP BRUSH
ลงสีปากได้สวยเนี้ยบเฉียบคม

 

เดี๋ยวก่อน!!! อย่าเพิ่งปิดนะสาวๆ ยังมีแปรงแต่งหน้าอีกหลายชนิดเลย
กดตามต่อในหน้า 2 จ้า

ดาวพระศุกร์นอกจอ “แนท – อนิพรณ์” ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย!

จากแม่ค้าขายหมูทอด พนักงานขายของในห้าง รับจ้างเดินแบบ สู่นางงามเวทีระดับโลก
ปัจจุบันเป็นนางแบบมืออาชีพ และเป็นพิธีกรรายการท่องเที่ยว การเดินทางไกลของ
“แนท – อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์”

 

อีกหนึ่งสาวสู้ชีวิตแถมคิดบวกที่กว่าจะมีวันนี้ไม่ง่าย ประหนึ่งนางเอกจากนวนิยาย ดาวพระศุกร์ ออกมาโลดแล่นมีชีวิตอยู่ในโลกความเป็นจริง “น้องแนท อนิพรณ์” MISS UNIVERSE THAILAND 2015
ที่ล่าสุด แม้จะอำลาตำแหน่ง อำลามงฯ ไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้หายหน้าไปจากวงการบันเทิง เพราะนอกจากจะมีงานเดินแบบ ออกอีเว้นท์ให้ได้เห็นอยู่บ่อยๆ ยังกระโดดมาเป็นหนึ่งในพิธีกรซีรีส์ท่องเที่ยวไทยใน “Journey The Series แก๊งเฟี้ยวเที่ยวทั่วไทย ทางช่อง3 อีกด้วย แต่ใครจะรู้ว่า เส้นทางชีวิตก่อนจะมีวันนี้ของสาว “แนท” ต้องสู้ฟัดปาดน้ำตามาแค่ไหน

โดยเจ้าตัวเคยเล่าให้ฟังว่า จากเด็กสาวตัวเล็กๆ วิ่งเล่นแถววัดในหมู่บ้านวังหม้อ จังหวัดลำปาง
จำความได้คุณพ่อคุณแม่ก็แยกทางกันแล้วตัวเองและพี่สาวต้องอยู่กับคุณตาคุณยาย เพราะคุณแม่ทำงานอยู่เชียงใหม่คอยส่งเงินมาให้ เมื่อสาว “แนท” สอบติดคณะสังคม-สงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ ส่วนพี่สอบติดคณะวิทยา-ศาสตร์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงย้ายมาเช่าหออยู่ด้วยกันที่กรุงเทพ

ระหว่างที่อยู่กรุงเทพสาว “แนท” สามารถเลี้ยงตัวเองได้และยังคอยส่งเงินไปให้ตายายที่ลำปางด้วยการ ขายหมูทอดหลังเลิกเรียน ซึ่งเจ้าตัวลงทุนซื้อเตาแก๊ส กระทะ เพื่อทอดหมูขายทุกวัน ได้กำไรวันละ 200-300บาท ก่อนที่จะต้องเลิกขายเพราะนิสัยชอบแถมให้ลูกค้าจนขาดทุนยับ!
หลังจากนั้นผลันตัวเองไปทำงานในห้าง โดยสมัครงานตำแหน่ง แคชเชียร์ แต่ถูกโยกให้ไปทำตำแหน่งพนักงาน แต่งตัวเป็นซานตี้ขายกระเช้าปีใหม่

“ตอนทำงานในห้างร้องไห้บ่อย เหมือนกัน มีช่วงหนึ่งกินบะหมี่กึ่ง-สำเร็จรูปทุกวัน แต่บอกที่บ้านว่า
ที่ห้างมีอาหารแจก ไม่ต้องห่วงช่วงเรียนปี 1 ใหม่ๆ เพื่อนมองว่าแนทดูดีจัง ต้องมีฐานะแน่ๆ
มาเรียนอย่างไร ใครมาส่งหรือเราก็บอกว่านั่งรถตู้วินมา”

05

ดาวพระศุกร์ยามใกล้โลกนั้นส่องสว่างสวยงามเปล่งประกายที่สุด

ชีวิตของสาว “แนท” ก็เช่นกัน เพราะหลังจากนั้น เธอได้มีโอกาสเดินแบบให้ “ป้าตือ” นักจัดอีเว้นต์ชื่อดัง
แต่ใช่ว่าชีวิตจะผลิกราวหน้ามือเป็นหลังมือเสียทีเดียว เพราะแฟชั่นโชว์ไม่ได้มีอาทิตย์ละ 2 – 3 วัน
บางเดือนแทบไม่มี แต่โชคดีที่สาวคนนี้เก็บเงินเก่ง โดยเธอบอกว่า จะแบ่งเงินเป็น 3 ส่วน คือ เก็บออม ค่าใช้จ่าย และส่งให้ตากับยาย

“ส่งให้ท่านมีเงินเก็บไว้จะได้ไปไหนมาไหนสบาย มีเงินเติมน้ำมันรถ กินข้าว ซื้อของที่ถนนคนเดินบ้าง
แนทบอกตลอดว่าเงินที่ส่งไปไม่ต้องเก็บนะ เพราะแนทเก็บอยู่แล้ว อยากได้หรืออยากกินอะไรให้ใช้เลย แม้เราไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็อยากให้ทั้งสองท่านสุขสบายบ้าง”

ดาวพระศุกร์ไม่มีวันอับแสง

สาว “แนท” เคยประกวดไทยซูเปอร์โมเดลคอนเทสต์ แล้วต่อมาตัดสินใจเข้าประกวดเวทีมิสยูนิเวิร์สที่เป็นรายการใหญ่ เธอก็เตรียมร่างกายล่วงหน้าเป็นปีๆ แม้มีงานเดินแบบเลิก 5 ทุ่ม แต่ก็ตื่นไปวิ่งที่สวนจตุจักรตอน 7 โมงเช้าทุกวันแล้วค่อยไปเรียนมหาวิทยาลัย ความพร้อมทั้งร่างกายจิตใจของเธอเต็มเปี่ยมจนในที่สุดก็คว้ามงฯ มาได้สำเร็จ

page2

page1

 

กว่าจะเป็นดาวฉายแสงลอยเด่นอย่างทุกวันนี้ไม่ง่ายจริงๆ

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับที่ 864  คอลัมน์ Talk Around by MR. PRAEW
ภาพ : IG@potter_natt

(ต่อตอน 2) 29 แปรงแต่งหน้า อาวุธคู่กายยามเมคอัพกับความต่างของฟังก์ชัน

Alternative Textaccount_circle

จากที่ตอนแรกเราได้ทำความรู้จักชนิดของ แปรงแต่งหน้า กันไปแล้วถึง 15 ชนิด ส่วนใหญ่จะเป็นสำหรับลงรองพื้น แป้ง แก้ม และปาก มาถึงตอนนี้เราจะพาไปท่องโลกแปรงแต่งหน้าสำหรับดวงตากันต่ออีก 14 ชนิด รับรองเมคอัพเลิฟเวอร์จะอยากได้มาครอบครองให้แบบครบๆอย่างแน่นอน

 

 

3605971172052_udpro_brushes_angledeyelinerแปรงแต่งหน้า

(Liner)

ANGLED EYELINER BRUSH
วาดได้ทั้งเส้นบางๆและเส้นหนาชัด

3605971172014_udpro_brushes_tightlineแปรงแต่งหน้า

(Liner)

TIGHTLINE BRUSH
เข้าถึงและเน้นแนวโคนขนตาได้อย่างแม่นยำ

3605971171970_udpro_brushes_detailedsmudgerแปรงแต่งหน้า

(Shadow)

DETAILED SMUDGER BRUSH
เกลี่ยและผสมสีอย่างแม่นยำ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสร้างลุคแบบสโมกกี้ตามแนวโคนขนตา

3605971171932_udpro_brushes_eyeshadowcontourแปรงแต่งหน้า

(Shadow)

EYESHADOW CONTOUR BRUSH                      
มีรูปทรงที่เหมาะสมและขนาดที่พอเหมาะ เพื่อการเน้นรอยพับเปลือกตาที่เนี้ยบ

3605971171895_udpro_brushes_moondustแปรงแต่งหน้า

(Shadow)

MOONDUST BRUSH
พู่กันขนแน่นนี้ออกแบบมาสำหรับใช้แบบเปียกร่วมกับอายแชโดว์ Moondust เพิ่มความเปล่งประกายและลดการฟุ้งกระจายของเนื้อฝุ่น

3605971171857_udpro_brushes_taperedblendingแปรงแต่งหน้า

(Shadow)

TAPERED BLENDING BRUSH
ช่วยให้เข้าถึงรอยพับเปลือกตาได้ง่ายและเกลี่ยสีให้กลมกลืนไร้รอยต่อ

3605971171819_udpro_brushes_smokysmudgerแปรงแต่งหน้า

(Shadow)

SMOKY SMUDGER BRUSH
ใช้ผสมไฮไลท์หรือสร้างเอฟเฟ็กต์แบบสโมกกี้ โดยเฉพาะในพื้นที่เล็กๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผสมอายแชโดว์

เดี๋ยวก่อน!!! อย่าเพิ่งปิดนะสาวๆ ยังมี แปรงแต่งหน้า เหลืออีก  7 ชนิดนะจ๊ะ กดตามต่อในหน้า 2 เลยจ้า

“โอ๊ต เฉลิมพล” นักข่าวไทย แห่งนิวยอร์ก กว่าจะไปยืนระดับแถวหน้าได้ ไม่มีคำว่าง่าย!

โอ๊ต – เฉลิมพล ฤทธิชัย นักข่าวไทย ทำงานอยู่ ณ มหานครนิวยอร์กมาร่วม 20 ปี ตะลุยงานสื่อมาแล้วหลายแขนง ทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ เว็บไซต์ ส่วนรายชื่อคนดังที่เขาเคยยื่นไมค์สัมภาษณ์ก็แค่ อดัม เลอวีน, ฮิวจ์ แจ็คแมน, มาร์ค วอห์ลเบิร์ก, วิน ดีเซล, ไคลี มิโนก, วีร่า แวง ฯลฯ

อ่านแค่นี้อาจดูสวยหรู แต่กว่าที่ โอ๊ต – เฉลิมพล จะฝ่าฟันไปถึงจุดนั้น เขาเคยทำงานที่หนังสือพิมพ์เล็กๆ แลกเงินชั่วโมงละ 8 เหรียญ มีหลายช่วงที่อาหารมื้อหลักคือไข่ต้ม พยายามทำพอร์ตสวยๆ ให้พีอาร์สนใจ จนที่สุดวันนี้เขาคือ นักข่าวคนหนึ่งที่ได้เข้าไปทำงานในอีเว้นต์บันเทิงขนาดใหญ่แทบทุกงานของนิวยอร์ก

แล้วทำไมชีวิตนักข่าวของคุณจึงไปเริ่มต้นที่นิวยอร์กครับ

จุดเปลี่ยนในชีวิตเกิดสมัยเรียนมัธยมที่โรงเรียนสาธิตประสานมิตร ตอนนั้นผมสอบโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน ได้ไปเรียนที่รัฐแอละแบมา ประเทศสหรัฐอเมริกา พอกลับมาเมืองไทยผมก็โหยหาความเป็นอเมริกัน รู้สึกถูกจริต อีกเหตุผลคือ สมัยนั้นสังคมไทยมีค่านิยมที่ไม่รู้ใครสร้างขึ้นมาว่า คนไทยสู้ฝรั่งหรืออเมริกันไม่ได้หรอก ผมรู้สึกว่าถ้าอยากเจ๋งต้องสู้ฝรั่งให้ได้ แต่วิธีการของผมอาจดูแปลกสักหน่อย และไม่ควรยึดเป็นแบบอย่าง นั่นคือตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัย จริงๆ ผมสอบเทียบได้ตั้งแต่ ม.4 แล้ว แต่ตอนเอนทรานซ์ตัดสินใจไปสอบแค่วิชาเดียว เพราะกลัวสอบติดแล้วต้องเรียนที่เมืองไทย

นักข่าวไทยก้าวแรกที่นิวยอร์กเป็นอย่างไรครับ

วันแรกๆ ตรงกับที่ภาพยนตร์เรื่อง You’ve Got Mail ฉาย ตอนนั้นผมเดินเข้าร้านขายซีดีเพลง Virgin Megastore ในไทม์สแควร์ แล้วเปิดฟังซาวนด์แทร็กภาพยนตร์เรื่องนั้น มีเพลงหนึ่งชื่อ I Guess The Lord Must Be In New York City เนื้อหาประมาณว่า ทำไมเมืองนิวยอร์กจึงศิวิไลซ์อย่างนี้ พระเจ้าคงอยู่นิวยอร์กแน่ๆ ระหว่างที่ฟังผมก็มองออกไปยังไทม์สแควร์แล้วคิดว่า ในที่สุดฝันก็เป็นจริง ฉันอยู่ที่นิวยอร์กแล้วจริงๆ แต่ลั้นลาอยู่ได้แค่ 2 อาทิตย์เงินหมด (หัวเราะ)

หลังจากตกงาน 6 สัปดาห์ ผมเห็นหนังสือพิมพ์เล็ก ๆ เกี่ยวกับ Performing Artist และ Broadway ชื่อ Show Business Weekly เปิดรับสมัครผู้ช่วยกองบรรณาธิการ เดชะบุญว่าผมเคยเป็นคอลัมนิสต์ให้หนังสือพิมพ์ของมหาวิทยาลัย และเขียนรีวิวบรอดเวย์เรื่อง The King and I จึงส่งผลงานนั้นแนบไปพร้อมใบสมัคร แล้วผมก็ได้งานทำเสียที

นักข่าวไทย
สัมภาษณ์วีร่า แวง ที่งานแฟชั่นวีค

ได้ทำงานอะไรบ้างครับ

หน้าที่ผมตอนนั้นเป็นงานเล็กๆ คอยตรวจว่าบรอดเวย์เรื่องไหนเปิด เรื่องไหนปิด โทร.ถามว่าดาราคนนั้นยังเล่นอยู่ไหม ถ้าเปรียบเทียบกับหนังสือพิมพ์ฉบับใหญ่ๆ ก็เป็นคอลัมน์เล็กๆ อย่างการรายงานสภาพอากาศประจำวัน ซึ่งหลายคนอาจไม่ได้อ่านด้วยซ้ำ แต่ขอให้รู้ว่ามีคนทำหน้าที่นั้นอยู่ เหมือนผมที่คอยเช็กความเป็นไปของบรอดเวย์นี่ละเป็นส่วนที่เล็กที่สุดของหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ตอนนั้นได้ค่าตอบแทนชั่วโมงละ 8 เหรียญ เป็นค่าแรงขั้นต่ำก็ไม่พอใจหรอก ด้วยความเด็กอีกแล้วที่ทำให้คิดว่า ทำไมเราไม่ได้ทำงานที่หนังสือพิมพ์เล่มนั้นเล่มนี้ แต่พอวันนี้มองย้อนกลับไปแล้วรู้สึกโชคดีมากที่เขารับเราเพียงเพราะบทความชิ้นเดียว คนที่ให้โอกาสครั้งแรกนี่สำคัญมากจริงๆ นอกเหนือจากนั้น นายจ้างเราคือ บริษัทอเมริกันนะ ไม่ใช่คนไทย ทำให้รู้สึกเหมือนได้รับการยอมรับเล็กๆ

นักข่าวไทยครอบครัวที่เมืองไทยรู้ไหมครับ

ไม่ครับ ที่บ้านเลิกส่งเงินให้ตั้งแต่เรียนจบ แล้วผมรบกวนคุณพ่อคุณแม่มา 5-6 ปีแล้ว วัยรุ่นอเมริกันก็เป็นแบบนั้น ไม่มีใครเรียนจบแล้วมาแบมือขอเงินพ่อแม่หรอก ขนาดมาดอนน่า ตอนที่เธอมานิวยอร์กก็มีเงินแค่ 30 เหรียญ ต้องใช้ชีวิตยากลำบากเหมือนกัน แล้วก็ยังมีคนจนกว่าเราอีกเยอะแยะที่สามารถเอาตัวรอดในนิวยอร์กได้

ตอนนั้นเป็นช่วง 1999 ที่สื่อยังไม่ตื่นตัวเรื่องออนไลน์เท่าไร ผมเห็นช่องว่างตรงนี้จึงเข้าไปคุยกับหนังสือพิมพ์หลายแห่งที่ยังไม่มีเว็บไซต์ว่า ฉันทำให้ฟรีเอาไหม แต่ขอเครดิตนะ หลายบริษัทตอบตกลง หลังจากนั้นผมได้ทำงานลักษณะนี้อีกหลายครั้ง ถือเป็นโอกาสฝึกงานไปในตัวด้วย พอมีประสบการณ์มากขึ้นก็สามารถเรียกค่าจ้างได้เป็นชั่วโมงละ 40 – 50 เหรียญ แล้วในช่วงเวลานั้น ผมโชคดีที่ได้ไปงานปาร์ตี้ของนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่ง ได้เจอ บ.ก.หนังสือพิมพ์ออนไลน์ใหม่ที่เพิ่งเปิดได้ 6 เดือน ผมจึงตัดสินใจลาออกจากบริษัทเก่าเพื่อไปทำงานที่นั่น

นักข่าวไทย
สัมภาษณ์อดัม เลอวีน ที่ Tribeca Film Festival

เว็บไซต์นั้นคือ

Gotham Gazette นำเสนอข่าวการเมืองท้องถิ่นของนิวยอร์ก ซึ่งสื่อขนาดใหญ่อย่าง The New York Times ไม่ลงมาทำอยู่แล้ว แต่นั่นกลายเป็นโอกาสที่ทำให้เราหาข่าวในเชิงลึก โดยนิวยอร์กมีเขตเลือกตั้งท้องถิ่นอยู่ 52 เขต เราต้องเจาะหาข้อมูลของนักการเมืองทุกคน ความที่ทั้งบริษัทมีพนักงานแค่ 6 คน ทุกคนต้องช่วยกันทำทุกหน้าที่ ตั้งแต่ออกแบบเว็บจนถึงหาข่าว สิ่งสำคัญของโลกออนไลน์คือ ความรวดเร็ว ต้องพร้อมสแตนด์บายในการอัพข่าวลงเว็บตลอดเวลา คืนวันศุกร์ไม่ต้องแพลนไปไหน เพราะเป็นวันปิดต้นฉบับ ถือเป็นช่วงที่ผมถูกเคี่ยวหนักมาก จำได้ว่าครั้งแรกที่ถูกเจ้านายติเรื่องงาน ผมเดินออกจากห้องแบบหน้าเสีย ทำไมต้องโหดขนาดนั้น แต่พอถึงวันนี้ต้องขอบคุณเขาที่ช่วยให้ผมมีระเบียบวินัยในการทำงาน มีลูกเล่นในการใช้ภาษา การเขียนหัวข้อหรือทีเซอร์ให้น่าสนใจ

นักข่าวไทย
ถ่ายภาพกับคิม คาร์เดเชียน

เริ่มได้สัมภาษณ์ดาราระดับท็อปเมื่อไรครับ

หลังออกมาเป็นนักข่าวฟรีแลนซ์ สมัยทำงานที่ PIX11 ส่วนใหญ่จะได้สัมภาษณ์ดาราทีวีกับเรียลิตี้โชว์ ถ้ามีดาราเกรดเอมาสถานี ทุกคนจะแย่งกัน ซึ่งผมมักไม่ได้ เพราะอายุงานยังน้อย แต่ตอนนั้นผมเข้าใจกระบวนการทำงานทั้งหมดแล้ว มั่นใจว่าถ้าออกไปเป็นนักข่าวอิสระ น่าจะสร้างโอกาสในการทำงานได้มากขึ้น สิ่งสำคัญคือ เราต้องมีความสามารถและมีคอนเน็กชั่นที่ดีอย่างงานพรมแดง ซึ่งเป็นศูนย์รวมของดาราและเซเลบริตี้ชื่อดัง ซึ่งไม่ใช่ว่านักข่าวทุกคนจะได้รับเชิญ โอเคว่าถ้าเป็น เดอะนิวยอร์กไทมส์ไม่ว่างานอะไร คุณก็ได้ไป จะเรียกมาดอนน่าให้เดินเข้ามาสัมภาษณ์เองยังได้ แต่ถ้าไม่ใช่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีคอนเน็กชั่นกับบริษัทพีอาร์ดีขนาดไหน ซึ่งบริษัทที่จัดการเรื่องงานพรมแดงมีอยู่ไม่กี่แห่ง ถ้างานนั้นต้องการสื่อมากก็อาจได้ไปกันเยอะ แต่ถ้าเป็นงานสำคัญที่มีการเลือกว่าฉบับนี้ฉันไม่เอา เว็บนี้ไม่ได้ ก็ต้องพยายามติดต่อทุกคอนเน็กชั่นเพื่อขอที่ตั้งกล้องในพรมแดงนั้นให้ได้

นักข่าวไทย
สัมภาษณ์ฮิวจ์ แจ็คแมน

หนึ่งอีเว้นต์ใหญ่ที่คุณได้ไปทำข่าวคือ Met Gala

งานนี้ผมใฝ่ฝันมาก ยังจำได้ว่า ในวันงานเมื่อหลายปีก่อน ผมนั่งกินข้าวอยู่กับเพื่อนแล้วบอกว่า วันนี้ทั้งนักการเมือง คนแฟชั่น หรือบันเทิงอย่างมาดอนน่า บียอนเซ่ หรือโอปราห์ วินฟรีย์ ไป Met Gala กันหมด แล้วทำไมฉันมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ตรงนี้ การไม่ได้อยู่ตรงนั้นหมายความว่า เราก็ nobody ผมคิดตลอดว่า สักวันต้องไปทำข่าวที่งานนั้นให้ได้ ซึ่งผมใช้เวลาอีกเกือบ 3 ปี ความฝันจึงเป็นจริง

นักข่าวไทย
ถ่ายภาพกลอเรีย เอสเตฟาน

เรื่องราวระหว่างบทสนทนาในร้านก๋วยเตี๋ยวถึงวันที่ได้ยืนอยู่บนพรมแดงเป็นอย่างไรครับ

อันดับแรก ผลงานหรืออีเว้นต์ต่างๆ ที่เคยไปร่วมถือเป็นพอร์ตที่สำคัญ อันดับต่อมาคือ นักข่าวที่ได้ไป Met Gala ต้องเคยทำข่าวเกี่ยวกับแฟชั่นมาบ้าง แต่ตอนนั้นผมแทบไม่มีโอกาสคุยกับคนในแวดวงนั้นเลย สารภาพตรงๆ ว่าความรู้เกี่ยวกับแฟชั่นก็มีไม่มาก ตอนสัมภาษณ์ดีไซเนอร์รู้ตัวทันทีว่าความรู้ยังอ่อน หลังจากนั้นผมจึงซื้อหนังสือเกี่ยวกับแฟชั่นกลับมาอ่านที่บ้านหลายเล่ม บางเล่มหนา 300 หน้าก็ต้องอ่านให้จบ แม้เราจะไม่ใช่คนแฟชั่นจริงๆ แต่จะไม่ยอมเป็นมือสมัครเล่นในสิ่งที่ทำ การเป็นนักข่าวไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องหรอก แต่ต้องฉลาดพอที่จะตั้งคำถามที่ฉลาดได้ หลังจากนั้นพอกลับไปสัมภาษณ์ดีไซเนอร์อีกครั้ง ผมก็ได้บทสัมภาษณ์ที่ดีขึ้น รวมถึงได้เข้าไปทำข่าวในงานนิวยอร์กแฟชั่นวีคด้วย

นักข่าวไทย
สัมภาษณ์คนเหล็ก อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์

วงการสื่อที่นิวยอร์กแข่งขันกันดุเดือดขนาดไหน มีแนวใช้พลังมืดไหม

มีอยู่แล้ว เวลาผมทำงานยังต้องวางแผน แล้วทำไมคนอื่นเขาจะไม่ทำ ฝรั่งก็มีหลายแบบ พวกประจบเจ้านายก็มี หรือที่เป็นข่าวให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ เช่น แย่งตัวดาราไปสัมภาษณ์โดยการติดสินบน พอเรื่องแดงออกมาก็กลายเป็นข่าวใหญ่ เพราะฉะนั้นเบื้องหลังต้องมีเรื่องที่ลึกกว่านั้นอยู่แล้ว ผมเองก็ต้องใช้คอนเน็กชั่นที่มีเพื่อให้ได้งาน บางครั้งอาจต้องวางแผนบ้าง แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องไม่ผิดจรรยาบรรณการเป็นนักข่าว

คุณวางเป้าหมายเรื่องต่อๆ ไปบนถนนสายนี้อย่างไร

ตอนนี้ไม่มีเป้าว่าอยากไปงานนั้น หรือสัมภาษณ์ดาราคนนี้ ผมอายุ 40 ปีแล้ว เป้าหมายสำคัญคือ อยากทำงานในวงการนี้ต่อไปเรื่อยๆ แต่ในอนาคตอาจไม่จำกัดตัวเองอยู่แค่สายบันเทิงหรือแขนงใดแขนงหนึ่ง วันหนึ่งผมอาจเขียนหนังสือเกี่ยวกับการเมืองหรือด้านอื่นๆ ก็ได้ ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปต่อที่จุดไหน แต่สิ่งหนึ่งที่มั่นใจมาตลอดคือ ผมเกิดมาเพื่อทำงานสื่อสารมวลชน เพราะทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ใหญ่ๆ ผมจะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง อยากอยู่ตรงนั้นเพื่อเก็บเรื่องราวมาเล่าต่อให้คนอื่นฟัง นิสัยผมเป็นแบบนี้มาตลอด

นักข่าวไทยแสดงว่าการเป็นสื่อเติมเต็มบางอย่างให้ชีวิต คุณจึงเลือกทำงานนี้ต่อ

ใช่…มีคนพูดว่า โลกนี้เป็นของผู้ชายรวยกับผู้หญิงสวย ฟังดูแล้วเหมือนเป็นเรื่องจริงนะ แต่สิ่งที่อาชีพนักข่าวเติมเต็มให้ผมคือ ประสบการณ์ล้ำค่า ถ้าไม่ได้ยึดอาชีพนี้คงไม่ได้นั่งติดกับฮิลลารี คลินตัน ได้อยู่ในอีเว้นต์เดียวกับประธานาธิบดีโอบามา หรือมาดอนน่าที่เจอมา 4 – 5 รอบ สิ่งเหล่านี้เป็นประสบการณ์ชีวิตที่ผมเล่าได้ยันตาย

เมื่อถึงวันนั้น สิ่งที่ผมเหลือทิ้งไว้อาจไม่ใช่เงินมรดก แต่เป็นประสบการณ์ดี ๆ ที่น้อยคนจะได้สัมผัส แพรวขอชื่นชม
นักข่าวไทย คนนี้เลยจริงๆ

 

เรียบเรียงโดย : Gingyawee_แพรวดอทคอม
ที่มา : นิตยสารแพรว ปักษ์ 882 วันที่ 25 พฤษภาคม 2559 เรื่อง ปารัณ เจียมจิตต์ตรง
ภาพ : วรสันต์ ทวีวรรธนะ

ฉีกกฎของกางเกงยีนส์ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเดนิมไม่ใช่กางเกงยีนส์สุดเซอร์อีกต่อไป?

กางเกงยีนส์เป็นไอเท็มที่ต้องมีติดตู้เสื้อผ้ากันทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ฤดูกาลนี้ Diesel (ดีเซล) จะพาทุกคนไปก้าวข้ามทุกขีดจำกัดของเดนิม จากปกติที่เราเห็นว่าเดนิมมักจะนำมาผลิตเป็นกางเกงยีนส์เท่ๆ เซอร์ๆ นั้น ตอนนี้มันได้เปลี่ยนไปแล้ว!

กลายเป็๋นเดนิมนำมาจับคู่ผสานกับเสื้อผ้าสไตล์สปอร์ต ซึ่งทำให้ได้ผลลัพธ์อันเป็นรสชาติใหม่ของ Diesel ที่เปี่ยมด้วยพลังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยการคิดค้นนวัตกรรมเนื้อผ้าแบบใหม่ จนได้ผลิตภัณฑ์ที่น่าทึ่งอย่าง JoggJeans ไอเท็มเดนิมที่ยืดหยุ่นสวมใส่สบายทุกสถานการณ์

1

ซึ่งกลายเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าเดนิมเลิฟเวอร์ทั่วโลกมาแล้ว ล่าสุดนี้ Diesel ได้พัฒนาเนื้อผ้าชนิดใหม่ที่ให้ความรู้สึกบางเบาขึ้นกว่าเดิมแถมสัมผัสนุ่มสบายเหมือนผ้าไหมในรูปลักษณ์ที่ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยว เพิ่มความพิเศษขึ้นอีกขั้นกับคอลเลคชั่น MOTION DIVISION ที่นับเป็นอีกก้าวสำคัญของ JoggJeans ที่ให้ทั้งความเท่ แฟชั่น และได้การเคลื่อนไหวอย่างมีอิสระอย่างลงตัว ด้วยการออกแบบตามสรีระร่างกายผสานเนื้อผ้าที่ให้ความสบายสูงทว่ายังคงความรู้สึกของยีนส์ได้อย่างครบถ้วน เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แอคทีฟของคนที่ชื่นชอบการเคลื่อนไหวอย่างมีอิสระ และที่สำคัญคือสามารถสวมใส่เพื่อออกกำลังกายได้จริงเทียบเท่าเสื้อผ้าสปอร์ตแวร์ชั้นนำอีกด้วย โอ้โห แบบนี้ต้องจัดสักตัวแล้วแหละเพื่อนๆ ว่าไหม?

4

2

3

เรียบเรียงโดย : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : ดีเซล

ภาพสุดประทับใจ สมเด็จพระเทพรัตนฯ ทรงขริบผมน้องปริม ลูกสาวมิค-เบนซ์

นำความปลื้มปิติมายังครอบครัวหิรัญยัษฐิติอย่างมาก หลังจากที่คุณพ่อป้ายแดง มิค บรมวุฒิโพสต์พระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเทพรัตนฯ ขณะทรงอุ้มน้องปริมด้วยพระเมตตา

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งภาพประวัติศาสตร์ที่ทำให้ครอบครัวของมิค บรมวุฒิและสาวเบนซ์ พรชิตา ถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ที่ได้เห็นลูกสาวสุดที่รัก “น้องปริม” ได้รับพระเมตตาจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โอกาสนี้พระองค์ทรงอุ้มน้องปริมอยู่ในอ้อมพระหัตถ์ พร้อมกับทรงขริบผมไฟให้ พร้อมกับพระราชทานสร้อยทองคำและพระทองคำคล้องให้กับน้องปริมเพื่อเป็นการรับขวัญอีกด้วย

2ทั้งนี้พระองค์ทรงพระราชทานพระราชวโรกาสให้ครอบครัวหิรัญยัษฐิติ เฝ้าทูลละอองพระบาท พร้อมร่วมฉายพระฉายาลักษณ์อีกด้วย ซึ่งทางด้านของคุณพ่อป้ายแดง หนุ่มมิค บรมวุฒิ ที่เดิมทีก็หลงลูกสาวคนแรกมากอยู่แล้ว ถึงกับปลื้มปิติย่างมาก และได้โพสต์พระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเทพรัตนฯ ทรงอุ้มน้องปริม พร้อมกับพิมพ์ข้อความบรรยายถึงความรู้สึกว่า

Untitled2

“เป็นรูปที่หาคำอธิบายถึงความปลื้มปิติไม่ได้จริงๆครับ ปริมลูก หนูทั้งมีบุญและโชคดีมากๆจำไว้นะคะ ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ขอเป็นข้าพระบาททุกชาติไป”

 

เห็นแล้วก็ปลื้มไปด้วย เด็กคนนี้มีบุญมากจริงๆ ที่ได้รับพระเมตตาจากพระองค์อย่างใกล้ชิดขนาดนี้

Calvin Klein Color นาฬิกาสีสด HOT ปัง ขึ้นแท่นเรือนเลิฟของคนดัง

จะหาของสักชิ้นที่ถูกใจว่ายากแล้ว ยิ่งหาของเซอร์ไพร์สให้คนอื่นอีกยิ่งคิดหนักๆ

ลิลี่มั่นใจว่านี่แอบเป็นปัญหาของหลายคนและรวมถึงเพื่อนเจ้าจำไมของลิลี่ด้วย จู่ๆ ไลน์คุณเธอก็เด้งมาปรึกษากลางดึกแบบยาวเหยียด แต่ขอข้ามรายละเอียดคุณสมบัติของถี่ยิบยืดยาวที่ถูกร่ายมา สรุปหลักๆ คือกำลังหานาฬิกาสีสดใสแบบ Unisex ใส่ง่ายราคาเป็นมิตร

อ่ะก็เข้าทางสิ เพราะตอนนี้ลิลี่กำลังง่วนหาข้อมูลทำเรื่องเทรนด์สี ไม่เฉพาะกับแฟชั่นเสื้อผ้าเท่านั้นแต่พวกเจ้าสีสวยสดยังไล่ลามมาถึงแอ็กเซสซอรี่ส์และนาฬิกาก็อยู่ในแก๊งค์กับเขาด้วย จุดนี้รุ่น Color ของ Calvin Klein ที่ออกใหม่ล่าสุดน่าจะตอบโจทย์ ทั้งฟังก์ชั่นใช้งานสีสันคลิ๊กกับคนรุ่นใหม่ และรุ่นนี้เป็นรุ่นฮิตขายดีของ Calvin Klein ตั้งแต่เปิดตัวปี 2014

Calvin Klein Colorเสียงตอบรับล้นหลามจากแฟนคลับที่ชอบดีไซน์กึ่งสปอร์ตทำให้ปีนี้ได้ออกมาเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ปรับโฉมใหม่ด้วยการจับคู่กันระหว่างตัวเรือนที่มีรูปทรงเรียบง่ายกับสีสันสดใสที่ดูมีชีวิตชีวา สีของหน้าปัดและสายมาในโทนสีเดียวกัน ซึ่งยิ่งสร้างคาแร็คเตอร์ให้นาฬิกาเรือนนี้ดูเด่นเด้งไปอีก

Calvin Klein Color

ความพิเศษที่ลิลี่ยังชอบและต้องบอกต่ออยู่ที่ตัวเรือนอลูมิเนียมน้ำหนักเบา! แต่มีความทนทานแข็งแรง ตัวเรือนที่เห็นสีดำมาดเข้มผ่านกระบวนการเป่าทราย ซึ่งมาตัดขับให้สีหน้าปัดและสายเด่นขึ้นไปอีกตามสไตล์ Color Bold สายซิลิโคนยืดหยุ่นสวมใส่สบายไม่พอ ไฮไลท์ยังอยู่ที่โลโก้ Calvin Klein เด่นสะดุดตาแต่ดูกลมกลืนไปกับภาพรวมของดีไซน์ทั้งหมด แถมกันน้ำได้ลึก 50 เมตรอีก

SPOTTED THEIR WATCH

ขนาดมาร์ช กวาง ยังเลิฟดูสิ

Calvin Klein Color

 

Calvin Klein Colorไล่คุณสมบัติมาถึงสีบ้าง มีสีอะไรเอ่ย Calvin Klein Color เอาใจความชอบทุกรูปแบบ เริ่มตั้งแต่สีเรียบเข้าเสื้อผ้าง่ายที่สีขาวและสีดำ ถ้าชอบสีสดมีทั้งเหลือง ชมพู เขียวและฟ้าให้เลือกมิกซ์แอนด์แมทช์ตามสไตล์

สนนราคา 6,300 บาท ดี๊ดีครบแบบนี้ใครจะอดใจไหว

LOCATION : ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิลด์, ชั้น M สยามพารากอนดีพาร์ทเม้นต์สโตร์ โทร 0-2610-0261-3

PHOTO : Vorason,  instidy.com

S&P เปิดเทศกาลไหว้พระจันทร์ด้วย “พรพระจันทร์จากใจ”

บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) จัดงานแถลงข่าวเทศกาลไหว้พระจันทร์  เปิดตัว “S&P Mooncake 2016” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “พรพระจันทร์จากใจ” เพื่อมอบสิ่งดีๆ แทนความรู้สึกพร้อมส่งต่อพรล้ำค่าแก่คนที่คุณรักและห่วงใย ผ่านขนมไหว้พระจันทร์หลากหลายรสชาติจากเอสแอนด์พี

S&P (1)

พร้อมกันนี้ได้เปิดตัวขนมไหว้พระจันทร์ 3 รสชาติใหม่ ได้แก่ ขนมไหว้พระจันทร์ไส้หมอนทองคาราเมล ขนมไหว้พระจันทร์ไส้คัสตาร์ดลาวา และขนมไหว้พระจันทร์ไส้คัสตาร์ด โดยมี ภัทรา ศิลาอ่อน  ประธานกรรมการ และเกษสุดา ไรวา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. เอส แอนด์ พี ซินดิเคท เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยไฮไลท์พิเศษ แนะนำวิธีขอพรจากพระจันทร์ โดย หมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา และร่วมเขียนคำอวยพรมงคลด้วยพู่กันจีน โดย ซินแสจิวแป๊ะทง พร้อมทีมผู้บริหาร และดาราพิธีกร บอย-พิษณุ มิ้นท์-มิณฑิตา ร่วมดำเนินรายการ ณ โซนลิฟต์แก้ว ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 3

S&P (4) ภัทรา ศิลาอ่อน ประธานกรรมการ บมจ.เอส แอนด์ พี ซินดิเคท กล่าวเปิดงานว่า “เพื่อส่งต่อพรจากพระจันทร์และความปรารถนาดีแก่คนที่รักผ่านการไหว้พระจันทร์ ในปีนี้ ‘เอส แอนด์ พี’ ได้รังสรรค์ขนมไหว้พระจันทร์รสชาติใหม่สูตรเฉพาะของเอส แอนด์ พี ที่เป็นไฮไลท์ คือ ‘ขนมไหว้พระจันทร์ไส้หมอนทองคาราเมล’ ‘ขนมไหว้พระจันทร์ไส้คัสตาร์ดลาวา’ และ ‘ขนมไหว้พระจันทร์ไส้คัสตาร์ด’ รวมทั้งยังมีรสชาติอื่นๆ ให้ทุกท่านได้ลองอีก 10 รสชาติ (19 ไส้) สำหรับกิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อสนับสนุน อนุรักษ์ และสานต่อประเพณีอันดีงามของคนเชื้อสายจีน และเพื่อขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนเอส แอนด์ พีด้วยดีเสมอมา นอกจาก เอส แอนด์ พี ยังมีขนมไหว้พระจันทร์ของแบรนด์ในเครือ ทั้ง มังกรทอง และ Vanilla มาพร้อมกับโปรโมชั่นสุดพิเศษ

S&P (9)

ภายในงานได้จำลองบรรยากาศจีนที่งดงาม สะท้อนคุณค่าของขนมไหว้พระจันทร์และประเพณีอันดีงาม พร้อมกิจกรรมที่น่าสนใจตลอด 3 วัน เพื่อเสริมสิริมงคล สร้างสีสัน และยังสร้างความสุขให้แก่ทุกท่าน”

หมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา แนะนำวิธีขอพรจากพระจันทร์ว่า “ดวงจันทร์เป็นตัวแทนของความมีเสน่ห์และอายุมั่นขวัญยืน สำหรับการไหว้ขอพรจากพระจันทร์ สิ่งที่ต้องเตรียม ได้แก่ ธูป เทียน ดอกไม้สดหลากสี ผลไม้ที่มีความหมายดี ส่วนขนมไหว้พระจันทร์ถือเป็นหัวใจหลักสำคัญ หากขนมไหว้พระจันทร์มีคำมงคลอยู่ด้วยก็จะยิ่งเหมาะสม และที่ต้องมีสีสันหลากหลายเพราะวันไหว้พระจันทร์เปรียบเสมือนเทศกาลเฉลิมฉลอง โดยส่วนมากนิยมไหว้ขนมเป็นจำนวนเลขคู่ ส่วนทิศในการไหว้ คือ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก และเริ่มไหว้ช่วงหัวค่ำเป็นช่วงที่พระจันทร์เพิ่งขึ้น สำหรับของไหว้อื่นๆ ที่แนะนำ ได้แก่ เครื่องสำอาง แป้ง น้ำหอม หรือน้ำสะอาดวางไว้คู่ใบทับทิม เพราะน้ำเป็นสื่อคู่กับพระจันทร์ที่สามารถรับพลังจากดวงจันทร์ได้ จากนั้นก็นำมาประพรมบนตัวเราเพื่อให้เกิดเสน่ห์เมตตามหานิยม”

S&P (10)ทั้งนี้ ภายในงานมีการจำลองบรรยากาศจีนที่งดงาม สะท้อนคุณค่าของขนมไหว้พระจันทร์และประเพณีอันดีงาม พร้อมกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ อาทิ การแสดง “มังกรมงคล ขึ้นเสาไหว้พระจันทร์” “ระบำดอกเหมยมงคล” “ดนตรีจีนมงคล” กิจกรรมบอกเล่าความหมายของคำมงคลแบบจีนและเขียนคำมงคลด้วยพู่กันจีน กิจกรรมสาธิตการทำขนมไหว้พระจันทร์ โดย เชฟจาก S&P กิจกรรมการ Mix & Match ระหว่างขนมไหว้พระจันทร์กับเครื่องดื่มชนิดต่างๆ พร้อม Mini Concert จากวงสินเจริญบราเธอร์ส

นอกจากนี้ ผู้สนใจยังสามารถร่วมกิจกรรม “พรพระจันทร์จากใจ” บนเฟซบุ๊คแฟนเพจของ S&P ได้อีกด้วย

‘เอสแอนด์พี’ ผู้นำตลาดขนมไหว้พระจันทร์หลากหลายรสชาติ อาทิ ไส้หมอนทอง ไส้แปดเซียน ไส้แครนเบอรี่&เอิร์ลเกรย์ ไส้มัจฉะเรดบีน ไส้เกาลัดล้วน ไส้หมอนทองแมคคาเดเมีย ไส้บัวแมคคาเดเมียไข่ ไส้บัวล้วนไข่ ไส้โหงวยิ้งล้วนไข่ และไส้งาดำล้วน นอกจากรสชาติความอร่อยแล้ว เอสแอนด์พียังให้ความสำคัญกับบรรจุภัณฑ์ดีไซน์คลาสสิคของดอกโบตั๋น ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของความมงคล และรูปหญิงสาวผู้งดงามซึ่งถือเป็นตัวแทนแห่งดวงจันทร์ พร้อมคำจีนมงคลบนกล่องบรรจุขนมไหว้พระจันทร์ นั่นคือ ‘ฝู’ หมายถึง บุญวาสนา บนกล่องสีชมพู ‘โซ่ว’ หมายถึง มีอายุยืน บนกล่องสีเขียว ‘ฝู่’ หมายถึง ร่ำรวย บนกล่องสีทอง และ ‘กุ้ย’ หมายถึง สูงส่ง บนกล่องสีแดง อันจะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้รับได้เป็นอย่างดียิ่ง

พบกับโปรโมชั่นสุดพิเศษ ซื้อ 4 ชิ้น ฟรี 1 ชิ้น ตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 15 กันยายน 2559 ณ ร้าน S&Pเอสแอนด์พีที่ร่วมรายการ

ว่าที่Hipsterตัวแม่ ‘รถเมล์ คะนึงนิจ’ แอดติจูดดีกับชีวิตโสดป้ายแดง

รถเมล์ คะนึงนิจ เปลี่ยนลุคซะลืมภาพสาวเรียบร้อยไปเลย ตั้งแต่โสดสนิทแยกทางใครทางมันกับหนุ่มนอกวงการ ‘ไฮโซแม็ก’ กลายมาเป็นสาวมั่นหั่นผมสั้น แถมการแต่งตัวก็เก๋เป็นฮิปสเตอร์ตัวแม่ไปซะแล้ว

ใครว่าความรักไม่สมหวังจะทำให้ผู้หญิงต้องเอาแต่ทำตัวโทรมๆ คิดผิดแล้วล่ะ เพราะเท่าที่เห็นความเคลื่อนไหวของสาวรถเมล์ คะนึงนิจ ในอินสตาแกรมตอนนี้ ดูแล้วแฮปปี้มากๆ แถมยังมาในลุคใหม่ผมสั้นซะเปรี้ยวจี๊ด การแต่งตัวก็เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะหยิบชุดไหนมาใส่ก็จะหนีบสนีกเกอร์มาแมทช์ด้วยตลอด

ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ กลายเป็นว่าลุคนี้ของสาวรถเมล์ คะนึงนิจ ดูแล้วเก๋และแซ่บขึ้นเยอะ แลดูยิ่งมีเสน่ห์มากกว่าเดิมอีก

รถเมล์ คะนึงนิจ ผมสั้น

นุ่งผ้าไทยใส่เสื้อครอป แมทช์กับสนีกเกอร์ก็สวยไปอีกแบบ

รถเมล์ คะนึงนิจ ผมสั้น

งานจับคู่เดรสกระโปรงยาวกับสนีกเกอร์ก็มา

รถเมล์ คะนึงนิจ

คุมโทนในลุคน้ำเงิน ฟ้า ขาว ทั้งชุด ดูเรียบง่ายแต่แมทช์ออกมาได้ลงตัวมากทั้งเสื้อ กระโปรง หมวก และรองเท้า

รถเมล์ คะนึงนิจ แฟน

หยิบผ้าไทยมาแมทช์กับเสื้อท็อปแขนกุดได้เข้ากันมากๆ ชุดนี้ใส่กับร้องเท้าผ้าใบก็ยังดูเก๋ สวยไปอีกแบบ

รถเมล์ คะนึงนิจ แฟน

ทุกอย่างแลดูเรียบง่าย เครื่องประดับไม่ต้องเยอะแยะ แต่ยิ่งดูยิ่งมีเสน่ห์มาก

สาวๆ ทั้งหลายใครที่ปล่อยตัวให้แห้งเหี่ยวอยู่ล่ะก็ ลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเองได้แล้ว ยิ่งโสดยิ่งต้องแซ่บ จะได้แฮปปี้เหมือนสาวรถเมล์ คะนึงนิจ ยังไงล่ะ

 

ภาพ : IG@rodmayaloha

ดราม่าหลบไป! Taylor Swift ซุป’ตาร์ใจบุญ บริจาคเงินช่วยเหลือ “น้องลีโอ” ลูกทูนหัวของเพื่อนซี้ “เจมี่ คิง”

ก่อนหน้านี้ เทย์เลอร์ สวิฟต์ – Taylor Swift นักร้องสาวซูเปอร์สตาร์ จัดว่าโดนกระแสข่าวด้านลบพัดโหมกระหน่ำ จนเกิดดราม่าร้อนระอุเต็มพื้นที่โซเชียลแบบหายใจไม่ทันพัก ไล่มาตั้งแต่กรณีดราม่าเพลง This Is What You Came For ของอดีตแฟนหนุ่ม คาลวิน แฮร์ริส ที่สาวเทย์ผิดสัญญาที่ตกลงไว้กันแต่แรกว่าจะไม่เปิดเผยว่าตนมีส่วนร่วมแต่งเพลงนี้

ตามมาติดๆกับดราม่าเนื้อเพลง Famous ของแร็พเปอร์หนุ่มชื่อดัง คานเย เวสต์ กับท่อน I feel like me and Taylor might still have sex. Why? I made that b**ch famous. ที่มีเนื้อหากล่าวถึงสาวเทย์แบบเสียๆหายๆ โดยคานเยออกมาพูดว่า เทย์รู้มาก่อนและอนุญาตแล้ว ซึ่งสาวเทย์ก็ออกมาโต้กลับว่า เธอไม่เคยรู้เรื่องท่อนเพลงนี้เลย จนเป็นเหตุให้ คิม คาร์เดเชียน ออกโรงมาปกป้องสามี ปล่อยคลิปเสียงที่สามีเธอคุยตกลงกับเทย์ถึงเพลงนี้ โดยมีโปรดิวเซอร์ Rick Rubin อยู่เป็นพยาน ซึ่งเทย์ก็โต้กลับว่า ท่อนแรกอะเธอรู้นะ แต่ท่อนหลังนี่สิ คานเยไม่เคยส่งมาให้เธอดูก่อนเลยสักนิด เกิดเป็นดราม่าเดือดโต้ตอบกันไปมาโดยติดแฮชแท็ก #KimExposedTaylorParty

taylor_05แม้จะมีดราม่าออกมาจนแฟนคลับมีหวั่นว่าสาวเทย์จะอยู่รอดในวงการนี้ไปได้อีกนานไหม แต่ถ้าพูดถึงผลงานเพลงและอีกมุมชีวิตของการเป็น “สาวใจบุญ ก็คงพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเธอเป็นเพชรแท้ที่ครองใจใครหลายคนไปได้อีกนาน

taylor_03
เจมี่ คิง – น้องลีโอ – เทย์เลอร์ สวิฟต์ 

อย่างล่าสุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (31 ส.ค. 2559) เจมี่ คิง นักแสดงและนางแบบอเมริกัน เพื่อนสนิทของเทย์เลอร์ สวิฟต์ – Taylor Swift ก็ได้ออกมาโพสต์เกี่ยวกับการบริจาคเงินที่สาวเทย์ได้บริจาคให้แก่โรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือชีวิตของ
Leo Thames Newman

ลูกชายคนที่ 2 ของเธอกับแฟนหนุ่ม ไคล์ นิวแมน ให้เข้ารับการผ่าตัดหัวใจที่พิการมาแต่ตั้งแต่เด็ก ซึ่งลีโอก็เป็นลูกชายทูนหัวที่สาวเทย์เข้ามาดูแลตั้งแต่ยังอยู่ในท้องของสาวคิง

taylor_04
เทย์เลอร์กับลูกชายทูนหัว น้องลีโอ
taylor_02
ครอบครัวเจมี่ คิง กับสามี ไคล์ นิวแมน และลูกชายทั้งสอง เจมส์ ไนท์ (เสื้อขาวแดง) และลีโอ (เสื้อเทา) ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจพิการแต่เด็ก

การบริจาคนี้ไม่เพียงแค่ช่วยลีโอเท่านั้น แต่ยังสามารถไปช่วยผู้ป่วยเคสเดียวกันนี้อีกหลายๆคนด้วย ซึ่งสาวเทย์ได้บริจาคไปเมื่อวันเกิดครบรอบ 1 ปีของลีโอ โดยเป็นการบริจาคช่วยเหลือแบบเงียบๆ ซึ่งทางโรงพยาบาลนี่แหละที่ได้ส่งจดหมายมาบอกเจมี่ คิง ให้รับทราบ ซึ่งลีโอก็จะได้เข้ารับการผ่าตัดในเร็วๆนี้

taylor_01
จดหมายจากโรงพยาบาลที่เจมี่ คิง ได้รับ

นี่ไม่ใช่กรณีแรกที่สาวเทย์บริจาคนะจ๊ะ เพราะตลอดปีที่ผ่านมา เทย์เลอร์ก็ขึ้นชื่อเป็นสาวใจบุญ ทั้งคอยจัดแสดงคอนเสิร์ตการกุศล และบริจาคเงินช่วยเหลือองค์กรต่างๆ ทั้งช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ช่วยเหลือซ่อมแซมส่วนต่างๆของโรงเรียนแต่ละที่ บริจาคเงินเพื่อสร้างห้องสมุดสาธารณะ รวมถึงยังช่วยเหลือเกี่ยวกับศูนย์โรงพยาบาลสุขภาพเด็กมานับไม่ถ้วน

taylor_06นี่ก็เป็นมุมดีๆของ Taylor Swift ที่แพรวว่าเป็นเรื่องน่ายินดีที่ควรบอกต่อ เพราะนอกจากความสุขจากการสร้างเพลงให้แฟนๆฟัง ความสุขอีกอย่างหนึ่งของเทย์ก็คงเป็นการช่วยเหลือคนนี่แหละ

 

เรื่อง : Gingyawee_แพรวดอทคอม
ข้อมูล : http://www.nydailynews.com/entertainment/gossip/taylor-swift-donates-hospital-heart-surgery-godson-article-1.2773444
ภาพ : IG @taylorswift @kyle_newman @jaime_king

keyboard_arrow_up