เปิดตัวที่แรกกับ Exclusive Talk วันนี้ แพรวดอทคอมพามารีวิวความสดใหม่ของขนมหวานชิ้นนี้ “เค้ก – นัทธวัชร์ แก้วบัวสาย”
แค่ชื่อก็ชวนน่ากิน แต่ถ้าจะให้ฟินยิ่งขึ้นก็ต้องมารู้จักตัวตนของ “เค้ก – นัทธวัชร์ แก้วบัวสาย” หลานชายของมาดามหัวใจเพชร “ตู่ – นันทิดา” หนุ่มน้อยวัย 23 ปี ที่อีกไม่นานกำลังจะเป็นพระเอกหน้าใหม่ของช่อง 3 ซะด้วย
ตอนนี้เห็นว่าเข้าช่อง 3 แล้ว จุดเริ่มต้นเป็นมายังไง
เค้ก – นัทธวัชร์ : จริงๆ น้องสาวผมเข้ามาก่อนครับ และพี่ผู้จัดการของน้องเขาเห็น ก็เลยชวน แต่ตอนนั้นผมอ้วนมากเลยนะ ช่วงนั้นก็มีได้ลองไปแคสต์งานละครด้วย ที่แรกคือของพี่หน่อย – บุษกร พอดีว่าพี่เขาจะเปิดกล้องละครเรื่องใหม่ ผมว่าฟลุคมากที่ได้ แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองยังไม่มีความพร้อม เลยออกมาเรียนการแสดงก่อนดีกว่า ส่วนผลงานที่จะมีในอนาคตก็คงต้องแล้วแต่ทางผู้ใหญ่พิจารณาครับ แต่ขออุบไว้ก่อน ตอนนี้ยังบอกไม่ได้นะครับ ความลับ…(ยิ้ม)
แล้วที่บอกว่าเคยอ้วนนี่ น้ำหนักขนาดไหน ทำไมตอนนี้ถึงผอมเพรียวหล่อได้ขนาดนี้
เค้ก – นัทธวัชร์ : มันก็เยอะมากครับ เอาเป็นว่าน้ำหนักผมลงมา 10 กิโลกรัมจากเมื่อก่อน และหน้าบวมมาก ช่วงนั้นวัยรุ่นด้วย เที่ยวด้วย ไว้หนวดเคราอีก
เซอร์เลยใช่ไหม
เค้ก – นัทธวัชร์ : ไม่เซอร์ครับ โทรมเลย (หัวเราะ)
แสดงว่าจริงๆ แล้วก็ไม่ได้คิดว่าจะเข้ามาตรงนี้แต่แรกหรือเปล่า ถึงปล่อยตัวเองขนาดนั้น
เค้ก – นัทธวัชร์ : ก็ประมาณนั้นครับ คือผมเรียนจบนิเทศศาสตร์ เอกโฆษณามา แล้วก็ไปเป็นกราวนด์อยู่ที่การบินไทย เพราะตั้งใจว่าพอสจ๊วร์ดเปิดรับสมัครก็จะไปทำงานด้านนั้น แต่พอได้รับโอกาสตรงนี้ ซึ่งมันก็น่าสนใจดี ก็อยากลองดูเหมือนกัน เลยลาออกจากที่นั่นมาเลย
แบบนี้เส้นทางการเป็นสจ๊วร์ดเรียกว่าปิดเลยหรือเปล่า
เค้ก – นัทธวัชร์ : ผมวางแผนเอาไว้คร่าวๆ บ้าง เพราะมีสัญญากับที่ช่องไว้ 3 ปี คือถ้าทำแล้วไม่ใช่ทางของผมก็คงออกมามูฟออน แต่คงไม่ได้มุ่งที่การเป็นสจ๊วร์ดแล้วครับ วันนั้นคงไปสมัครเรียนเป็นนักบินเลย ซึ่งก็ต้องคอยดูต่อไปว่างานในวงการบันเทิงมันจะเวิร์คสำหรับผมไหม
ทำไมถึงอยากเป็นนักบิน
เค้ก – นัทธวัชร์ : มันเท่ดีครับ และผมเองก็ชอบ คืออาชีพนี้มันยากนะ แต่ท้าทายดี และผมเองก็เห็นมาตั้งแต่เด็กๆ คุณพ่อก็อยู่การบินไทย มันคือความใฝ่ฝันที่อยากเป็นเลยก็ว่าได้ แต่ที่ไม่ได้เรียนมาโดยตรงก็เพราะหัวผมมันไม่ไปเลย โดยเฉพาะวิชาเลข ไม่ได้เลยครับ ถึงขั้นโง่ก็ว่าได้ (น้ำเสียงจริงจังมาก)
พูดจาตรงไปตรงมาขนาดนี้ ลึกๆ แล้วบุคลิกเป็นคนแบบไหน
เค้ก – นัทธวัชร์ : ก็ค่อนข้างมีโลกส่วนตัวเหมือนกัน คือผมเป็นคนประเภทชอบอยู่คนเดียว ถ้าได้ไปอยู่ในที่ธรรมชาติ อยู่ป่า จะมีความสุขมาก เมื่อก่อนที่เรียนจบมาใหม่ๆ เคยไปอยู่ปายคนเดียวเกือบเดือนเลย ไปขี่จักรยาน พอตกกลางคืนก็ไปเสิร์ฟอาหารในบาร์ ได้ค่าแรง 100 – 200 บาท ช่วงนั้นในหัวไม่ได้คิดอะไรเลยครับ มันคือความอยากไป เวลาผมไปจะไม่ได้แบบอยากไปวันนี้ ต้องกลับวันนี้นะ คือจะอยู่จนกว่าจะอยากกลับ ตอนนั้นรู้สึกเบื่อรถติด เบื่อเมืองใหญ่ ก็เลยขึ้นไปอยู่เกือบเดือน
เป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยเด็กๆ เลยหรือเปล่า
เค้ก – นัทธวัชร์ : ก็น่าจะมีส่วนครับ เพราะผมโตมากับการอยู่ในโรงเรียนประจำที่วชิราวุธฯ ส่วนใหญ่ชีวิตก็จะอยู่กับเพื่อนและโรงเรียนมากกว่า ตอนเด็กๆ ผมเองก็ไม่ใช่ว่าจะถูกตามใจนะ แต่ก่อนที่เรียนอยู่โรงเรียนประจำก็จะบู๊มาก แผลเต็มตัว แขนหักก็เคย เพราะเล่นรักบี้ด้วย คือแผลเต็มตัวเลยครับ (หัวเราะ)

ตอนนั้นคิดว่าเด็กไปไหมที่ต้องออกมาอยู่โรงเรียนประจำตั้งแต่ยังเด็ก
เค้ก – นัทธวัชร์ : ไม่นะครับ เพราะมันเป็นความที่ผมอยากเข้าเอง คือผมกับพี่ชายอายุห่างกันเยอะเหมือนกัน เห็นเวลาที่พ่อต้องไปส่งพี่ชายที่โรงเรียนนี้ เลยได้เห็นบรรยากาศที่นั่น เห็นว่าเขาเล่นกีฬากัน ซึ่งมันเป็นตัวผมอยู่แล้วด้วย ก็เลยชอบ ผมก็บอกแม่เลยว่าน่าเรียน อยากเรียนที่นี่ ตอนนั้นแม่ก็ถามว่าแน่ใจนะ เพราะตอนแรกผมเรียนอยู่สาธิตเกษตรฯก่อน พอ ป.4 เลยเข้าไปอยู่ที่วชิราวุธฯยาวเลย วันแรกๆ ก็มีโหวงๆ เหมือนกัน มันก็ยากนะ มีร้องไห้ด้วย (หัวเราะ) ร้องจนไม่รู้จะร้องยังไง เพราะว่าเด็กมาก
ที่นั่นสอนอะไรเค้กบ้าง
เค้ก – นัทธวัชร์ : สอนให้ผมใช้ชีวิต ให้รู้จักเอาตัวรอดได้ครับ การเอาตัวรอดในสังคมและการเอาตัวรอดในชีวิตประจำวันที่ไม่มีพ่อแม่ เราต้องทำยังไง การเข้าสังคมอะไรต่างๆ คือผมได้อะไรจากโรงเรียนนี้เยอะมาก-ก-ก-ก
พาร์ตที่อยู่กับครอบครัว เค้กจะนิ่งหรือโลกส่วนตัวสูงด้วยหรือเปล่า
เค้ก – นัทธวัชร์ : ก็ค่อนข้างมีความคิดเป็นของตัวเอง แต่ผมไม่ดื้อเงียบนะ จะดื้อให้เห็นเลย (หัวเราะ) แต่ตอนนี้ผมก็เปลี่ยนแปลงตัวเองไปเยอะมากหลังจากที่ได้มาทำงานในวงการนี้
เคยมีคนสงสัยไหมว่าทำไมเราถึงนามสกุลเดียวกันกับคุณตู่ – นันทิดา
เค้ก – นัทธวัชร์ : ผมก็ไม่แน่ใจ แต่คิดว่าน่าจะมีครับ ส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครทราบ เพราะว่าผมผิวดำ (หัวเราะ)
ได้ข่าวว่าชื่อเล่นของเค้ก คุณอาตู่ก็เป็นคนตั้งให้ด้วย
เค้ก – นัทธวัชร์ : ใช่ครับ ชื่อนี้มาตั้งแต่เกิดเลย และครอบครัวผม อย่างพี่สาวกับพี่ชาย (คนละแม่) คือพี่เนย พี่แยม และก็มาเป็นผม ส่วนน้องสาวชื่อพาย
แสดงว่าก็ต้องสนิทกับคุณอาตู่มากเหมือนกัน
เค้ก – นัทธวัชร์ : สนิทครับ ก็เจอกันบ่อย มีช่วงหนึ่งที่ไม่ได้เจอเพราะคุณอางานเยอะ
คุณอามีแนะนำหรือสอนอะไรบ้างไหม พอเข้ามาทำงานในวงการ
เค้ก – นัทธวัชร์ : เขาก็บอกว่าให้ผมกับน้องทำเต็มที่ครับ เพราะการที่ผมกับน้องเข้ามาตรงนี้คือเข้ามาด้วยตัวเองจริงๆ ไม่ได้เข้ามาด้วยคำว่า “แก้วบัวสาย” หรือ “ตู่ – นันทิดา” ให้เข้ามา ซึ่งคุณอาบอกว่าขอให้ทั้งสองคนทำตรงนี้ให้เต็มที่และให้ภูมิใจว่าทำด้วยตัวเอง
เตรียมรับแรงกดดันว่าเราเป็นหลานของ “นันทิดา แก้วบัวสาย” ไว้ยังไงบ้าง
เค้ก – นัทธวัชร์ : จริงๆ ผมกดดันมากนะ เพราะผมไม่ชอบที่คนบอกว่าผมเป็นแก้วบัวสายหรืออะไรก็ตาม ขนาดเพื่อนผมยังพูดเลยว่าผมเข้ามาช่อง 3 ได้เพราะอาของผม ซึ่งไม่ใช่และไม่เกี่ยวเลย ผมก็บอกไปว่าถ้าผมจะเข้าวงการจริงๆ ทำไมผมไม่เซ็นกับแกรมมี่ไปเลย ในเมื่อคุณอาอยู่ที่นั่น บางทีผมรู้สึกว่าความสามารถผมไม่มีเลยเหรอ ถึงโดนเรื่องนี้มาตลอด โดนจนไม่ใส่ใจมันแล้วครับ คือเราไปนั่งไล่พูดกับทุกคนไม่ได้หรอกว่าเราเข้ามาเองนะ ก็ทำให้เขาเห็นดีกว่าว่าเราเข้ามาได้เพราะความสามารถ
คุณพ่อคุณแม่รู้สึกอย่างไรบ้างที่เข้ามาทำงานตรงนี้
เค้ก – นัทธวัชร์ : พ่อชอบแน่นอนครับ เพราะพ่อยังอยู่กับภาพของอา แล้วก็ยังเป็นอยู่จนทุกวันนี้ ยิ่งพอผมกับน้องได้เข้ามาก็ยิ่งดีใจครับ คุณแม่ก็ไม่เคยคิดว่าผมกับน้องจะมาอยู่ตรงนี้เหมือนกัน เพราะไม่น่าจะเข้ามาได้เลยด้วยซ้ำ เป็นเรื่องที่ไกลตัวมาก และแม่ก็ต้องเปลี่ยนการใช้ชีวิตตัวเองเหมือนกัน ทุกวันนี้น้องถ่ายละครก็ขับรถให้น้อง เพราะด้วยอะไรหลายๆ อย่าง แม่ก็เริ่มเปลี่ยนความคิดกับวงการนี้ ตอนแรกก็ไม่ชอบ ผมก็ไม่ชอบ น้องก็ไม่ชอบ แต่พอได้ลองเข้ามาทำแล้ว มันก็ไม่ได้เป็นเหมือนที่เราคิดซะทุกอย่าง ทำไมนักแสดงเขาสบายจัง เขารวยกันจัง น้องผมที่เข้ามาทำก่อนก็บอกว่ารู้แล้วว่าทำไมเขาได้ผลตอบแทนขนาดนั้น เพราะมันเหนื่อยมาก
เรื่อง : SRIPLOI
ภาพ : วาระ สุทธิวรรณ
สถานที่ : ร้านอาหาร Parlour Restaurant & Bar at CDC