ปิดฉากรักหลังวิวาห์ไปเพียง 8 เดือน สำหรับนักแสดงและพิธีกร แตงโม-พงษ์พิสุทธิ์ ผิวอ่อน ลูกชายของนักฟุตบอลทีมชาติไทย ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน กับอดีตภรรยาแอร์โฮสเตสคนสวย เฟิร์น-เกวรินทร์ จิตตั้งตรง ที่หลังจากมีข่าวระหองระแหงเรื่องทะเลาะกัน เรื่องไม่สวมแหวนแต่งงานเหมือนเช่นเดิมออกมาก่อนหน้านี้ ในที่สุดฝ่ายชายก็ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อแล้วว่า ตนและภรรยาแยกทางกันแล้ว แต่ไม่มีเรื่องมือที่สามใดๆ ทั้งสิ้น

เพราะชีวิตหลังแต่งงานกับก่อนแต่งงานเหมือนอ่านหนังสือกันคนละเล่ม เมื่อแต่งงานต้องมาใช้ชีวิตร่วมกันจึงเป็นเรื่องที่ต้องปรับจูนความคิด ความเข้าใจให้ตรงกันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็ไม่ใช่คู่รักทุกคู่จะปรับแล้วสามารถเดินต่อไปด้วยกันได้ ดังเช่นอดีตคู่รักที่เคยสร้างความหวานให้แฟนๆ ได้ฟินกับโมเมนต์ครั้งสำคัญ ครั้งหนุ่มแตงโมคุกเข่าขอแฟนสาวนอกวงการแต่งงานสุดสวีทที่ต่างประเทศท่ามกลางอากาศหนาว ซึ่งเขาก็ใช้เวลาวางแผนถึง 197 วัน จนกระทั่งทั้งสองก็ได้ควงกันสละโสดแต่งงานไปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2559 แต่ท้ายที่สุดแล้วชีวิตคู่รักคู่นี้ก็ต้องถึงคราวแยกทางกัน เพราะชีวิตหลังแต่งปรับเข้ากันไม่ได้

แพรวดอทคอม คงไม่ขอเจาะไปยังเรื่องการเลิกราของทั้งคู่ แต่จะขอพาย้อนรอยไปดูเรื่องราวความรักของคู่นี้กันสักหน่อย เพราะก็ถือเป็นอีกหนึ่งอดีตคู่รักที่มักจะมีโมเมนต์หวานๆ ออกมาให้แฟนๆ ได้ชมกันอยู่เรื่อยๆ และความคิดที่ทั้งคู่ตัดสินใจคบกัน เพราะหนุ่มแตงโมก็นับว่ามีมาดหนุ่มเจ้าชู้ และสาวเฟิร์นก็เป็นแอร์โฮสเตสสาวสวยคนหนึ่ง

“ทุกสิ่งทุกอย่างมันพอดี ไม่มีคำว่ามากเกินไป น้อยเกินไป อะไรที่มันหนักหนาสาหัส เราก็ไม่คิด อะไรที่ยอมกันได้ก็ยอม ไม่เก็บทุกสิ่งทุกอย่างมาคิดแล้วทำให้มันบั่นทอนกัน”  

เป็นคำพูดที่หนุ่มแตงโมได้พูดถึงความรักระหว่างสาวเฟิร์นในรายการ น้ำผึ้งพระจันทร์ ในปี 2558 ทั้งคู่เจอกันครั้งแรกตอนที่อายุ 15 ปี โดยน้องชายของสาวเฟิร์นได้มาเตะฟุตบอลกับแตงโม จึงทำให้หนุ่มแตงโมสนใจสาวเฟิร์นและหาเบอร์ติดต่อ แต่สาวเฟิร์นก็มีแฟนอยู่ก่อนแล้ว ต่อมาแตงโมได้มีคนรักและเลิกรากัน ประกอบกับสาวเฟิร์นก็ได้เลิกรากับแฟนหนุ่มด้วย ทั้งคู่จึงมีโอกาสกลับมาพูดคุยและเริ่มศึกษาดูใจกัน

ซึ่งแต่ละคนก็มีกำแพงสูงทีเดียว เพราะเจอรักครั้งก่อนที่ไม่สวยงามมากนัก จนทำให้หนุ่มแตงโมไม่ชอบการไปรับ-ส่งแฟนหรือทำอะไรที่ต้องมานั่งรอ แต่สาวเฟิร์นก็ชนะใจหนุ่มแตงโมได้ด้วยความจริงใจ ความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งหนุ่มแตงโมก็แพ้ใจให้กับสาวเฟิร์นเพราะเธออยู่ง่าย กินง่าย เข้าใจอะไรง่ายๆ สบายๆ อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ไม่ต้องพยายามทำอะไรให้มันเพอร์เฟ็คท์ เพราะมันเพอร์เฟ็คท์ในตัวอยู่แล้ว ส่วนสาวเฟิร์นนั้น แม้จะรู้ว่าหนุ่มแตงโมเป็นหนุ่มปากจัด ปากไว ร้ายใส่ เยอะใส่ แต่ก็เข้าใจและชอบที่เขาเอาใจใส่ เข้ากับที่บ้านและเพื่อนได้ รวมถึงเธอก็รู้สึกสบายใจ เป็นตัวของตัวเอง ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำให้เธอมากขนาดนี้ เลยคิดว่าคนนี้แหละที่จะฝากชีวิตไว้ด้วย

ฟังแล้วก็ดูเป็นคู่ที่น่ารักและน่าเสียดายมากๆ เลยใช่ไหมล่ะ อย่างน้อยแม้จะเลิกรากันไป แต่ทั้งคู่ก็เคยมีเรื่องราวดีๆ ต่อกันอยู่ ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทั้งสองฝ่ายด้วยละกันนะจ๊ะ

เรื่อง: Gingyawee_แพรวดอทคอม
ที่มา: รายการ น้ำผึ้งพระจันทร์ 14 ธันวาคม 2558
ภาพ: IG @tangmo.tangmo

บรรยากาศคึกคัก ใหญ่โต แต่อบอุ่นและอบอวลไปด้วยความสุขเสมือนดอกโบตั๋น ดอกไม้แห่งสิริมงคลที่กำลังผลิบาน ซึ่งก็เป็นกิมมิกสำคัญสำหรับงาน “เดอะ เกรท ไชนีส นิวเยียร์ 2017” จัดโดย ซีพีเอ็น ต้อนรับเทศกาลตรุษจีนปีระกา ซึ่งก็ได้นางเอกสาว มิน-พีชญา วัฒนามนตรี มาสวมชุดเป็นจักรพรรดินีบูเช็กเทียน ผู้ได้นำดอกโบตั๋นเข้าสู่เมืองยั่วหลางจนกลายเป็นนางพญาแห่งดอกไม้ที่งดงามที่สุดในแผ่นดิน ซึ่งภายในงานสาวมีนก็สวย เจิดจ้า อลังการเลยจริงๆ

พูดถึงช่วงวันตรุษจีน วันแห่งการจับจ่าย ไหว้ กิน เที่ยว รวมถึงสักการะองค์เทพเจ้าเพื่อเป็นสิริมงคลเสริมความมั่งคั่งให้แก่ชีวิตแบบนี้ ก็ย่อมเป็นเทศกาลที่มีบรรยากาศคึกคัก หน้าสดใสรับความสุขเป็นเรื่องธรรมดา ไหนๆ แล้ว เทศกาลตรุษจีนแบบนี้ แพรวดอทคอม ก็ขอพาไปทำความรู้จัก 5 เซเลบรุ่นใหม่ เชื้อสายจีน โปรไฟล์ดี ที่ได้มาเจอกันภายในงาน เดอะ เกรท ไชนีส นิวเยียร์ 2017 นี้กันซะหน่อยว่า ช่วงเทศกาลแบบนี้แต่ละคนเขาเตรียมการต้อนรับสิ่งมงคล หรือมีความเชื่อ การปฏิบัติเรื่องการแก้ปีชง ซื้อของ รวมถึงให้ความหมายกับเทศกาลนี้กันอย่างไรบ้าง

เริ่มที่ ยูกิ-อุณาวรรณ ตั้งคารวคุณ บอกว่า ช่วงเวลาตรุษจีนนอกจากจะมีการตระเตรียมเรื่องของไหว้ต่างๆ แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่คนไทยและคนไทยเชื้อสายจีนจะนึกถึงคือ “การแก้ชง” ตนเกิดปีชวด ซึ่งถือว่าชง 25% อาจจะไม่มาก แต่ความรู้สึกคือทำไมชงบ่อยจัง เนื่องจากเราก็ต้นปีซึ่งคาบเกี่ยวระหว่างปีชวดและฉลู เวลา 2 ปีนักษัตรนี้ชงเมื่อไหร่ก็ตรงกับเราทุกครั้ง ที่ผ่านมาก็จะไปแก้ชงที่วัดเล่งเน่ยยี่ เยาวราช แต่ปีนี้ยังไม่ได้ไป พอมางานที่ซีพีเอ็นเปิดแคมเปญตรุษจีนจึงรู้ว่าถ้ามาจับจ่ายที่เซ็นทรัลเวิลด์ครบ 800 บาทก็ได้รับจี้นักษัตรเสริมมงคล หรือครบ 1,200 บาทก็ได้รับแผ่นทององค์ไฉ่ซิงเอี้ยและจี้ปี่เซี๊ยะเสริมมงคล จากวัดแชกงหมิว นอกจากจะได้ของครบแล้วยังได้รับของมงคลอีก และส่วนตัวชอบดูโชว์เชิดมังกรทองเลยว่าชวนกันไปที่เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต ด้วย

ต่อกันที่สาวหมวย มิลค์กี้-จิราภา ลักษณวิศิษฏ์ บอกว่า ปกติคุณแม่จะเป็นคนจัดเตรียมของสำหรับไหว้บรรพบุรุษในช่วงเทศกาลตรุษจีน แต่ปีนี้ว่าจะชวนคุณแม่ไปช้อปของไหว้มงคลที่เซ็นทรัลเวิลด์ เพราะสนใจชุดไหว้ที่มาพร้อมกับของมงคลที่ผ่านพิธีศักดิ์สิทธิ์จากวัดแชกงหมิวโดยอ.ช้าง – ทศพร ศรีตุลา ได้แก่ ชุดไหว้โหงวแซจักรพรรดิ พร้อม “ไก่มงคลเรียกทรัพย์”, ชุดไหว้ซาแซเนเชอรัล พร้อม “องค์เทพเจ้าโชคลาภไฉ่ซิงเอี้ย”, ชุดผลไม้มงคลพรีเมี่ยม พร้อม “ปี่เซี๊ยะทองคู่สะสมทรัพย์”, ชุดกระเช้าส้มมั่งมีมงคล พร้อม “แผ่นทองไฉ่ซิงเอี้ยเทพเจ้าแห่งโชคลาภ เป็นต้น ซึ่งของไหว้แต่ละอย่างก็มีความหมายที่ดีอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นของที่มาพร้อมกับวัตถุมงคลที่ผ่านการพิธีแล้วจะยิ่งเป็นการเสริมความเฮงให้กับปีนี้ทั้งปีได้เป็นอย่างดี

สำหรับสาว พลอย-ปณิตา ศรไทยเทวา บอกว่า นอกจากจะรอรับอั่งเปาในช่วงตรุษจีนของทุกปีแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่ตั้งใจจะทำควบคู่ในเทศกาลนี้คือสร้างความสดชื่นให้กับบ้านด้วยการหาดอกไม้หรือของที่เกี่ยวกับดอกโบตั๋นมาประดับ เพราะได้ไปคุยกับศิลปินที่ปั้นและแกะสลักแป้งเป็นรูปดอกโบตั๋น ที่มาสาธิตงานที่เซ็นทรัลเวิลด์จึงเกิดแรงบันดาลใจขึ้น เพราะเขาบอกว่าได้เอาวัฒนธรรมของสมัยก่อนและสมัยนี้มารวมกันซึ่งทำออกมาได้น่ารักและเขายังบอกอีกว่าคนจีนนิยมซื้อให้เป็นของขวัญเพื่อส่งมอบความสุขให้กับคนที่มีความหมายกับเรา เพื่ออวยพรให้เขาเจริญรุ่งเรือง มีอำนาจ บารมี เลยตั้งใจจะซื้อให้ญาติผู้ใหญ่ และคนที่เรารัก เพราะเขาทำได้หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น กรอบรูป พวงกุญแจ ตุ๊กตาตั้งโชว์ และเครื่องประดับ เพื่อเป็นของขวัญเนื่องในวันตรุษจีน

ด้านเซเลบหนุ่มนักธุรกิจ จีฟ-พงศธร ธรรมวัฒนะ บอกว่า ตอนเด็กๆ เวลาตรุษจีนก็จะคิดถึงช่วงเวลาแห่งการรับซองอั่งเปาจากผู้ใหญ่ แต่พอเราโตแล้วก็จะนึกถึงการได้อยู่กันอย่างพร้อมหน้ากับญาติๆ ที่จะมีการนัดมาทานข้าวร่วมกัน อาหารก็จะเป็นของไหว้ที่ทำพิธีแล้วในตอนเช้า เพราะเราก็จะถือว่ากินแล้วดี กินแล้วเฮงและปีนี้ก็ตั้งใจที่จะให้อั่งเปากับคุณแม่ให้เยอะกว่าเดิม และจะขยันทำงานหาเงินให้มากกว่าปีที่แล้วด้วย ถึงแม้ว่าที่บ้านจะไม่เคร่งกับธรรมเนียมที่เรียกว่าวันถือสักเท่าไหร่ แต่สำหรับตนแล้วก็มีเคล็ดในการจับจ่ายซื้อเสื้อผ้าใหม่มารับตรุษจีนสักหน่อย เสร็จแล้วก็เที่ยวต่อในวันเที่ยว

ปิดท้ายที่เซเลบหนุ่ม โก้-ศุภกฤต มหาดำรงค์กุล บอกว่าที่บ้านตนจะเป็นศูนย์รวมญาติๆ มาไหว้บรรพบุรุษกันในตอนเช้า จากนั้นก็ทานอาหารร่วมกัน พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ตรุษจีนจึงเป็นเทศกาลที่ทำให้ญาติพี่น้องที่ไม่มีโอกาสได้เจอกันบ่อยมารวมกัน แต่ละปีก็จะมีการเปลี่ยนเมนูมงคลในการไหว้ไม่ให้ซ้ำกัน ซึ่งของหลักๆ จะมีอยู่แล้ว แต่อาจจะเพิ่มเมนูใหม่ๆ หรือหาร้านใหม่ๆ ซื้อดู ซึ่งปีนี้ตั้งใจซื้อของวันจ่ายที่ท็อปส์ ซูเปอร์มาเก็ต เพราะอยากซื้อเมล่อนโชคดีมีรูปเด็กกับกุ้งล็อปสเตอร์เพราะที่บ้านก็ชอบทานกันอยู่แล้ว และการที่ศูนย์การค้าอย่างซีพีเอ็นจัดแคมเปญตรุษจีนต่อเนื่องทุกๆ ปี ไม่ว่าจะเป็นการจัดชุดไหว้เจ้าให้จับจ่าย อัญเชิญองค์เทพเจ้ามาให้สักการะ นำศิลปะวัฒนธรรมจีนมาให้ชม ก็เป็นการปลูกฝังให้คนรุ่นใหม่ได้รู้ธรรมเนียม วิถีปฏิบัติได้อีกทางหนึ่ง

ฟังความคิดแต่ละคนแล้ว แม้จะเป็นเด็กรุ่นใหม่ แต่ก็ให้ความสำคัญกับคนในครอบครัว ญาติๆ รวมถึงยังคิดและทำสิ่งดีๆ เพื่อคนอื่นๆ ที่นอกจากตัวเองอีกด้วย ดีจริงๆ เชียว..

ภาพบรรยากาศภายในงาน

เรื่อง: Gingyawee_แพรวดอทคอม
ภาพ: งาน แคมเปญเดอะเกรทไชนิสนิวเยียร์ 2017ช้อปสนุก โชคผลิบาน อลังการตรุษจีน

เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็พูดถึงเรื่องสุขภาพ เรื่องออกกำลังกายกันทั้งนั้น เช่นเดียวกับ 3 เซเลบริตี้ สายเฮลตี้ที่อินกับการเบิร์น แบบสุดหัวใจ แต่ก็ไม่วาย พ่วงความฮาแบบเฮลตี้มาด้วย

ไปยดา มหิทธนันท์ #ชีวิตต้องบาลานซ์

ฟอว์น – ไปยดา เวิร์คกิ้งวูแมนหุ่นสวย หุ้นส่วนร้านอาหาร Hyde & Seek คติชีวิตคือ ทำงานหนักต้องไม่ลืมดูแลตัวเอง“ฟอว์นบังคับตัวเองให้ออกกำลังกาย ทุกสัปดาห์ ฟิตเนส เล่นพิลาทีส แต่ชอบ ต่อยมวยที่สุด เพราะได้ออกกำลังทุกส่วน ทุกครั้งที่ไปโรงแรมต่างจังหวัดจึงพกนวมไปด้วย คิดว่าไปพักผ่อนก็ต้องออกกำลังกายนะ เวลาต่อยกับนักมวยอาชีพยิ่งสนุกค่ะ เพราะแต่ละคนมีเทคนิคไม่เหมือนกัน แต่ด้วยความโก๊ะ บางครั้งฟอว์นจะต่อยเขาแต่กลับ ลื่นล้มเสียเอง จริง ๆ เจ็บมากนะคะ แต่ต้องทำหน้าแบบโอเค ไม่เป็นไร รักษาฟอร์มไว้ก่อน (หัวเราะ)“แต่ถึงจะพยายามฟิตแอนด์เฟิร์มขนาดไหนก็แพ้ของกินอยู่ดีค่ะ เพราะมีความสุขกับการกินขนมมาก…ก เวลาอยู่ที่ฟิตเนสสาว ๆ คนอื่นเลือกกินกราโนล่าหรือซีเรียลบาร์เป็นของว่าง แต่ฟอว์นกลับหยิบขนมหรือช็อกโกแลต ทั้งก่อนเล่น ช่วงพัก และหลังเล่นเสร็จ เป็นแบบนี้แทบทุกครั้ง“เดี๋ยวนี้เวลาไปฟิตเนสพอเทรนเนอร์เห็นฟอว์นจะแซวว่า ‘Her favorite machine at the gym is the snack.’ ประมาณว่า เครื่องขายขนมคือสิ่งที่ฟอว์นชอบที่สุดในฟิตเนส (หัวเราะ) และทำหน้าเอือม ๆ ว่าเล่นไปก็เท่านั้นแหละ ถ้ายังกินขนาดนี้ (หัวเราะ) แต่ฟอว์นเชื่อว่าชีวิตต้องบาลานซ์ค่ะ“ทั้งกิน ทั้งเฟิร์มไปได้พร้อม ๆ กัน”

นนท์ อัลภาชน์ #เล่นใหญ่

มิกกี้ เทรนเนอร์หล่อหุ่นแซ่บ หนึ่งในกูรูด้านการออกกำลังกาย ที่สาว ๆ ต่างเทใจให้ “ผมอยู่ในวงการกีฬามาตลอด ประมาณว่าอยู่ในฟิตเนสมาก กว่าไปเดินห้างเสียอีก อย่างที่รู้กันว่าเดี๋ยวนี้ผู้คนหันมาดูแลสุขภาพ ตัวเองกันมากขึ้น ในฟิตเนสจึงมีเรื่องราวสารพัด“ที่เจอบ่อยสุดคือเวลายกเวตแล้วใส่ลูกเหล็กน้ำหนักไม่เท่ากันสองข้าง จังหวะที่ยกขึ้นตัวจะเซ อันนี้ผมก็เคยเป็น โชคดีว่ายังยกขึ้นไม่สูงจึงไม่เป็นอันตรายแต่อายมากกว่า เพราะเวลาผมเล่นคนก็มุงดูกันเยอะ และเป็นเทรนเนอร์แต่กลับเสียฟอร์มเสียเอง “บางครั้งลนลานไปหน่อย หยิบลูกเหล็กไม่ระวัง พลาดทำหล่น ใส่เท้า ในใจตอนนั้นอยากร้องไห้ แต่ต้องฝืนยิ้มสู้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ประมาณว่าเรื่องเล็ก ๆ ไม่เป็นไร แล้วค่อยหลบไปห้องน้ำ ขอทำใจสักครู่ (หัวเราะ) “ที่เจอบ่อย ๆ ช่วงนี้คือกลุ่มคนเล่นใหญ่ (ยิ้ม) ประมาณว่า ตอนที่ยกน้ำหนักหน้าตาเจ็บปวด ดูเหมือนหนักมาก…ก ผมตกใจ รีบวิ่งเข้าไปดู แต่พอเช็กที่ลูกเหล็ก มันไม่ได้หนักขนาดนั้น ผม จึงทำเป็นขยับลูกเหล็กออกและบอกน้ำหนักเขาไปใหม่ ปรากฏว่าคราวนี้ยกได้คล่องเลยทั้งที่หนักเท่าเดิม คือจริง ๆ เป็นเรื่องจิตวิทยาครับ เพราะถ้าเขาคิดว่ามันหนักก็จะยกไม่ได้ แต่แบบนี้ยังดีกว่าแบบที่รู้ทั้งรู้แต่แกล้งทำท่าว่าหนักมาก “ประมาณว่าเล่นใหญ่หวังมัดใจสาว”

สมปิติ เอื้อวิทยา #สตรองตัวจริง

เกด – สมปิติ หนุ่มเฟิร์มวัย 40 ปีที่หลงรักการออกกำลังกาย แบบถอนตัวไม่ขึ้น อะไรที่ดีมีประโยชน์เขาไม่พลาด “ผมออกกำลังกายมาตั้งแต่อายุ 25 ปี จนถึงตอนนี้กว่า 20 ปี แล้ว เรียกว่าติดการออกกำลังกายมาก ๆ เวลาไปต่างประเทศ สิ่งแรกที่หยิบใส่กระเป๋าคือชุดออกกำลังกาย แต่ความจริงที่ต้องยอมรับก็คือ ร่างกายในวัย 40 ปีย่อมไม่เหมือนกับตอนวัยรุ่น บางท่าที่เคยเล่นแล้วเวิร์คตอนนี้อาจไม่เหมาะ จึงต้องปรับวิธีการออกกำลังกายให้เข้ากับตัวเอง “เวลาอยู่ในฟิตเนสผมมักจะเล่นท่าไม่ค่อยเหมือนคนอื่นเท่าไหร่ เพราะเคยบาดเจ็บที่หัวเข่า ทำให้ออกกำลังกายไม่ได้ 3 เดือน ทรมานมาก ฉะนั้นอะไรที่เซฟได้ต้องปลอดภัยไว้ก่อน “เมื่อก่อนขาเล็ก ผมจึงต้องบริหารช่วงขาและสะโพก ฉะนั้นท่าในการออกกำลังส่วนใหญ่จะเป็นการย่อ ลุกนั่ง หรือรวมสองท่าไว้ด้วยกัน บางครั้งก็ผสมผสานกับโยคะด้วย พอคนอื่นเห็นก็หัวเราะ ขำ รวมทั้งเทรนเนอร์ด้วย เขาคงคิดว่าเราเล่นไม่เป็น หรือบางคน มาคุยแบบข่ม ๆ ว่า คุณเล่นท่าอะไรของคุณ แต่พอทำตามเรา ปรากฏว่าล้มหงายท้อง ทำไม่ได้อย่างเรา (หัวเราะ) ฉะนั้นอย่าไปสนใจครับ ต้องมั่นใจในตัวเอง “ชุดออกกำลังกายก็เช่นกัน เมื่อก่อนที่ใส่เสื้อกล้าม กางเกง แต่เดี๋ยวนี้ต้องจัดเต็ม เพื่อความปลอดภัย ใส่เป็นชุดรัดรูปทั้งตัว ที่มองเผิน ๆ ราวกับกัปตันอเมริกา (หัวเราะ) แน่นอนว่าชุดจัดเต็มขนาดนี้ เวลาเข้าไปในฟิตเนสเราย่อมต้องเป็นดาวเด่นเป็นจุดรวมสายตา บางคนเข้ามาถามด้วยความอยากรู้จริง ๆ แต่บางคนหัวเราะใส่เลย “ถ้าอยากเฮลตี้ จิตต้องสตรอง”

ที่มา : คอลัมน์ 108 คำถาม นิตยสารแพรว ฉบับที่ 888