ส่วนเล็กๆ แต่แสนภูมิใจ เซเลบ ผึ้ง – มธุนาฏ ซอโสตถิกุล จิตอาสาประดิษฐานพระบรมโกศ

แม้จะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ แต่เซเลบสาว ผึ้ง – มธุนาฏ ซอโสตถิกุล แสนภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นจิตอาสา เข้าไปช่วยประดิษฐ์ส่วนฐานพระบรมโกศ พระเมรุมาศสำหรับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร หรือในหลวงรัชกาลที่ 9 

ได้เป็นส่วนหนึ่งของจิตอาสาในระยะสั้นๆ เข้าร่วมประดิษฐ์ส่วนฐานพระบรมโกศ พระเมรุมาศพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งเซเลบสาว ผึ้ง – มธุนาฏ ซอโสตถิกุล ได้เผยกับแพรวดอทคอมว่า แม้เธอจะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ แต่เธอก็รู้สึกภูมิใจที่ได้มาทำถวายพระองค์ท่านเป็นครั้งสุดท้าย

การมาเป็นจิตอาสาครั้งนี้ คุณผึ้งเผยว่าไม่ได้ทำเพียงคนเดียว แต่ยังมีจิตอาสาคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นคุณน้าคุณป้าที่มีจิตสาธารณะ แรงกาย และแรงใจ มารวมตัวกันทำถวายเพื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 กันหลายคนด้วย นอกจากจะมีคุณผึ้งแล้ว ยังมีคุณจุ๋ง – ศรีวรา อิสสระ, ปลาเข็ม – กรัชเพชร อิสสระ และนี – ชาลิสา วีรวรรณ มาร่วมแรงร่วมใจช่วยกันประดิษฐ์ส่วนฐานพระบรมโกศ ไม่ว่าจะเป็นลอดลาย ช่วยกันจับ ตัดกระดาษ แปะกาวติดกระดาษ ซึ่งต้องใช้ความตั้งใจมากๆ เพื่อให้งานออกมาประณีตสวยงาม เพราะถ้าหากแปะกาวมากเกินไปจะทำให้กระดาษย่นและต้องรื้อแก้ทำใหม่

ทำส่วนเกล็ดนาค

หลังจากรับปากเพื่อน คุณปลาเข็ม – กรัชเพชร คุณผึ้งได้ตัดสินใจวางงานตัวเองทุกอย่างลง และได้เริ่มมาทำในวันศุกร์ที่ 29 กันยายน 2560 ช่วงบ่ายถึง 2 ทุ่ม และวันเสาร์ที่ 30 กันยายน 2560 ต้องทำให้เสร็จ ซึ่งคุณผึ้งได้เล่าว่า ตนสู้ทำถึงตี 2 แต่คุณป้าคุณน้าที่มานั้นสู้จนเสร็จถึง 6 โมงเช้าเลย ซึ่งสถานที่ทำนั้นไม่ได้มีแอร์หรือเก้าอี้ให้นั่งมาก บางคนรวมถึงตัวเธอต้องยืนประดิษฐ์ร่วมหลายชั่วโมง

“เขาอยากได้คนที่อยู่นานๆ เราก็โยนงานของเราเลย แล้วเข้าไป ขณะที่ทำก็ไม่ได้เดินออกไปข้างนอกเลย ต้องอยู่ในศาลาเท่านั้น ไม่ว่าเหนื่อยยังไงเราก็ทำเต็มที่ เพราะไม่ใช่ใครจะเข้ามาก็ได้ ต้องมีการส่งรายชื่อก่อน ซึ่งทุกคนก็ร่วมแรงร่วมใจกันทำ ส่วนอาหารจะมาถึงไม่เกิน 2 ทุ่ม ผึ้งไม่ได้นั่งเลย เพราะไม่มีเก้าอี้ ต้องให้คุณป้าที่มีอายุมากกว่านั่ง เรายืนทำหลายชั่วโมง ผึ้งต้องนั่งทานข้าวกล่องบนพื้น จนสุดท้ายไม่ไหว ต้องไปนั่งบนโต๊ะ”

ทำส่วนสาบหน้า

เมื่อถามถึงครอบครัวกับเรื่องจิตอาสา โดยเฉพาะคุณปู่กอบชัย คุณปู่ของสาวผึ้งที่หวงและห่วง โดยเฉพาะสุขภาพของหลานสาวคนนี้มากๆ ซึ่งถ้าย้อนไปสมัยเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือแม้เข้าสู่วัยทำงานแล้ว ถ้าเห็นหลานสาวทำงานหนัก แทบไม่นอน คุณปู่กอบชัยก็จะบอกให้คุณผึ้งรีบไปนอนทันที

“ที่บ้านก็สนับสนุนเต็มที่ จริงๆ คุณปู่ (คุณกอบชัย) หวง ตอนแรกผึ้งจะไปกับเพื่อน แต่เพื่อนไม่สะดวก ผึ้งก็นั่งแท็กซี่ไปเองเลย คุณปู่จึงโทร.ไปตามคนรถให้มารอรับผึ้งกลับบ้าน ก็เลยเป็นเหตุว่าทำไมผึ้งอยู่ไม่ถึง 6 โมง เพราะผึ้งก็เกรงใจคนรถที่มานั่งรอด้วย ไม่ว่าจะเรื่องเรียนหรือทำงาน คุณปู่จะห่วงสุขภาพผึ้งมาก เพราะตอนคุณปู่หนุ่มๆ คุณปู่ลุยทำงานหนัก ฝืนธรรมชาติ พอมีอายุ สุขภาพจึงรวน เลยมาใส่ใจสุขภาพกับหลานเต็มที่เลย การมาทำตรงนี้ผึ้งก็จะอัพเดตให้คุณปู่ทราบตลอด เพราะคุณปู่รักในหลวงมาก ภูมิใจ บ้านเราถูกหล่อหลอมให้รักราชวงศ์ รักในหลวง ผึ้งเองก็โตมาในโรงเรียนจิตรลดาด้วย ก็จะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระองค์ท่านค่ะ”

เรียกว่าแม้จะไม่ชอบให้หลานสาวทำงานหนัก กลับบ้านมืดค่ำ แต่เมื่อบอกว่าจะมาเพื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 คุณปู่กอบชัยปล่อยให้หลานสาว ผึ้ง – มธุนาฏ ซอโสตถิกุล ลุยทำเต็มที่ 

 

 

 


เรื่อง: บะหมี่กุ๊งกิ๊ง_แพรวดอทคอม
ภาพ: IG @cindypeung

เปลี่ยนน้ำตาเป็นน้ำใจ จอย – ศิริลักษณ์ ถือคติคิดถึงพ่อให้ทำความดี

จอย – ศิริลักษณ์ ลุกขึ้นมาสร้างประโยชน์ด้วยการแจกอาหารให้ประชาชนที่สนามหลวง พร้อมเพื่อนนักแสดง

รวมตัวเพื่อนๆ ไปแจกอาหาร

แม้จะรู้อยู่เต็มอก แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ ที่เปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ก็ทำเอาหลายคนเกิดความรู้สึกเศร้า เช่นเดียวกับจอย – ศิริลักษณ์ ผ่องโชค อดีตนางเอกชื่อดัง ที่เมื่อคืนวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา ก็รู้สึกเศร้าเหมือนกับประชาชนชาวไทยทุกคน

แม้คนไทยจะอยู่ในภาวะเศร้าและเครียด แต่จอยเลือกที่จะเปลี่ยนจากน้ำตาที่ต้องเสียเป็นน้ำใจที่จะมอบให้คนรอบข้างแทน โดยเธอได้เผยผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่า ในวันนี้เธอขอทำความดีแทนที่จะนั่งเฉยๆ เสียน้ำตาดีกว่า ได้นัดกับเพื่อนที่ร่วมงานกันในละครเทิดพระเกียรติ คนบนฟ้า รวมถึงเพื่อนสนิท อาทิ เอิร์ธ – ณัฐนันท์ คุณวัฒน์, แอ้ม – ศิรประภา สุขดำรงค์, ยุ้ย – ปัทมวรรณ เค้ามูลคดี ฯลฯ ออกมาแจกอาหารให้ผู้ที่เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ ๙

คนเยอะแค่ไหนก็ไม่หวั่น

“หลายเดือนแล้วที่ฉันตั้งใจหยุดร้องไห้ ท่องไว้ในใจว่า ‘คิดถึงพ่อให้ทำความดี’ ขณะนี้ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าเก็บกดความรู้สึกไว้มากมายเหลือเกิน…เมื่อรับรู้ว่าคืนนี้ได้หมดเวลาลงแล้วจริงๆ น้ำตาที่นองอยู่ข้างในก็ไหลออกมา ฉันเชื่อว่าหลายคนรู้สึกเช่นเดียวกัน ฉันจะปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ในคืนนี้ ใครจะร้องด้วยกันก็เชิญ #ฉันเกิดในรัชกาลที่๙”

ข้อความของจอย

เห็นหน้าสาวจอยคราวนี้ นอกจากจะได้สัมผัสเรื่องราวดีๆ แล้ว ยังได้ทราบอีกด้วยว่าเธอกำลังจะมีผลงานใหม่ในเร็วๆ นี้ แฟนคลับแฟนละครก็รอชมฝีมือของเธอได้ในละครเทิดพระเกียรติ คนบนฟ้า

งดงามลึกซึ้ง จิตรกรรมฝาผนังวิหารวัด ฝีพระหัตถ์ “พระองค์หริภา” ถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ หรือพระองค์หริภา มีพระอัจฉริยภาพในด้านศิลปะอย่างมาก ทรงสำเร็จการศึกษาทางด้านนี้โดยตรง อีกทั้งทรงนำความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการพัฒนางานศิลปกรรมของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบูรณปฏิสังขรณ์วัดในต่างจังหวัด

ในช่วงที่พระองค์ทรงศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยศิลปะ เสด็จไปทรงทัศนศึกษาที่วัดธาราทิพย์ชัยประดิษฐ์ จังหวัดเชียงใหม่ ทรงเห็นว่าวัดแห่งนี้มีความทรุดโทรมอย่างมาก จึงตั้งใจแน่วแน่ว่าหลังจากสำเร็จการศึกษาจะกลับมาบูรณะวัดนี้ให้สมบูรณ์สวยงามดังเดิม

“หลังจากข้าพเจ้าสำเร็จการศึกษาแล้ว จึงกลับมาทำการสำรวจสภาพของวิหารที่วัดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการบูรณะให้สมบูรณ์ ใช้งานได้ดีดังเดิม ความประสงค์ที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่ตั้งใจไว้คือ การใช้ความรู้ที่ได้จากการศึกษามาปฏิบัติงานเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านการทำนุบำรุงศิลปกรรมของชาติให้รุ่งเรือง และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวร่วมกับพสกนิกร เพื่อแสดงความจงรักภักดีที่พระองค์ทรงปกครองแผ่นดินให้ร่มเย็นเป็นสุขตลอดพระชนมพรรษายิ่งยืนนาน” (ที่มา : http://www.wattharathip.com/?lang=th#phra-viharn)

หลังจากนั้นวัดแห่งนี้จึงได้มีการเริ่มบูรณปฏิสังขรณ์ทั้งเรื่องการปรับภูมิทัศน์โดยรอบวัด รวมถึงวิหารและกุฏิ ซึ่งในส่วนของวิหารนั้น พระองค์หริภายังทรงเป็นผู้ออกแบบภาพจิตรกรรมฝาผนังด้านใน โดยมีพระดำริให้เขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังเพื่อรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเชื่อมโยงเกี่ยวกับเรื่องของพระมหาชนก

ส่วนฐานของภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นภาพที่บอกเล่าเรื่องราวความผูกพันของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่มีต่อสมเด็จย่า ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ซึ่งผนังนี้ทรงเลือกที่จะเขียนก่อน เพื่อน้อมเกล้าฯถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

ภาพ : FB @เรารัก “องค์หริภา” : Our Beloved Princess Siribhachudhabhorn

YouTube : @NBT Program รายการตามรอยพ่อ

พิธีถวายดอกไม้จันทน์

คู่มือการเข้าร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ตามจุดต่างๆ และการแต่งกายที่ถูกต้อง

Alternative Textaccount_circle
พิธีถวายดอกไม้จันทน์
พิธีถวายดอกไม้จันทน์
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (4 ต.ค. 60) คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้มีแถลงกำหนดการ ขั้นตอน และวิธีการเข้าร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ระหว่างวันที่ 25 – 29 ตุลาคม พ.ศ. 2560 ดังนี้

การจัดสร้างพระเมรุมาศจำลอง เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถวายดอกไม้จันทน์ เป็นพื้นที่ที่ใกล้กับมณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยจัดสร้างในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ พระลานพระราชวังดุสิต จำนวน 1 แห่ง สี่มุมสนามหลวง จำนวน 4 แห่ง คือ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (เดิม) สวนนาคราภิรมย์ ลานปฐมบรมราชานุสรณ์รัชกาลที่ 1 (เชิงสะพานพุทธฯ) ลานคนเมืองหน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร และตามสี่มุมเมืองกรุงเทพมหานครอีก 4 แห่ง คือ สนามกีฬากองทัพอากาศ (ธูปะเตมีย์) พุทธมณฑล ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง นอกจากนี้ได้จัดสร้างซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ขนาดใหญ่และขนาดกลางตามวัดและสถานที่ต่างๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 104 แห่ง และในส่วนภูมิภาคดำเนินการจัดสร้างในจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด ทั่วประเทศ รวม 878 แห่ง ซึ่งทั้งหมดแล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2560

ทีนี้เมื่อทราบจุดต่างๆ ที่สามารถถวายดอกไม้จันทน์ได้แล้ว อีกเรื่องที่ต้องทราบก็คือ กำหนดการเข้าร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ พระเมรุมาศจำลอง หรือซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ต่างๆ จะเปิดให้เข้าช่วงแรกที่เวลา 9.00 น. – 16.30 น. (ยกเว้นบริเวณสวนนาคราภิรมย์เริ่ม 13.00 น.) สำหรับช่วงเวลา 16.30 น. – 18.30 น. ประชาชนหยุดถวายดอกไม้จันทน์ เพื่อเฝ้าฯรับเสด็จและร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ก่อนจะเริ่มเปิดให้ประชาชนเข้าร่วมถวายดอกไม้จันทน์อีกครั้งในช่วงเวลา 18.30 น. – 22.00 น.

ส่วนเรื่องการแต่งกายและการเตรียมความพร้อมเข้าร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีดังนี้

สุภาพบุรุษ
– 
เสื้อสีดำ หรือเชิ้ตสีดำ
– กางเกงขายาวสีดำ (ห้ามใส่กางเกงยีนส์ แม้จะเป็นยีนส์สีดำก็ไม่ควร)
– รองเท้าหุ้มส้นสีดำ

สุภาพสตรี
– 
เสื้อสีดำไม่รัดรูป
– ไม่ควรใส่เสื้อแขนกุดหรือสายเดี่ยว
– เพื่อความสุภาพ งดกางเกง ควรใส่กระโปรงยาวคลุมเข่าสีดำ
– รองเท้าหุ้มส้นสีดำ สำหรับผู้หญิงไม่จำเป็นต้องเป็นส้นสูง เพราะต้องเข้าแถวเป็นเวลานาน แนะนำให้ใส่ส้นเตี้ยสีดำแบบหุ้มส้น

สิ่งที่ควรเตรียมไปด้วย
– หากมีโรคประจำตัวควรพกยาไปด้วย
– บัตรประชาชนต้องมีติดตัวเสมอ
– ร่มกันแดด กันฝน (ถ้าเป็นไปได้อยากให้ใช้สีดำหรือเทา)และพัด ป้องกันไม่ให้เป็นลมไปซะก่อน
– ควรทานอาหารและเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย หรือติดน้ำขวดเล็กและแซนด์วิชที่พกพาง่ายมาด้วย

สิ่งที่จะขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคน
– ทิ้งขยะให้ถูกที่ หรือนำขยะไปทิ้งที่บ้าน ไม่ควรวางระเกะระกะ
– ไม่ควรพกของมีคม เช่น มีด กรรไกร
– หลีกเลี่ยงการใช้รถยนต์ส่วนตัว ควรใช้รถยนต์สาธารณะเป็นดีที่สุด
– เด็กและคนชราควรเขียนชื่อและเบอร์โทร.พกติดตัวไว้เสมอ

เมื่อเตรียมทุกอย่างเรียบร้อย ก็ถึงขั้นตอนและวิธีเข้าร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ในระหว่างวันที่ 25 – 29 ตุลาคม พ.ศ. 2560 โดยวันดังกล่าวเจ้าหน้าที่จะแบ่งประชาชนที่มารอถวายดอกไม้จันทน์ออกเป็น 9 แถว แบ่งเป็นแถวละ 9 คน และจะมีเจ้าหน้าที่คอยส่งดอกไม้จันทน์ให้ จากนั้นประชาชนจะเข้าประจำจุดถวายดอกไม้จันทน์ เพื่อถวายคำนับหนึ่งครั้ง แล้ววางดอกไม้จันทน์ที่พาน จากนั้นถวายคำนับอีกครั้งก่อนเดินแยกออกซ้าย – ขวา เพื่อรับแผ่นพับพระราชประวัติและหนังสือที่ระลึก

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : เพจสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
                                   : kingrama9.th/SandalwoodFlowers

สมเป็นนางเอกขวัญใจมหาชน แต้ว – ณฐพร ไม่ถือตัว ซับหน้าให้นางรำ

ช็อตนี้ที่ประทับใจ! ช่างภาพหนองคายเผยภาพ แต้ว – ณฐพร ขณะกำลังใช้ทิชชูซับเหงื่อให้นางรำที่ยืนอยู่ข้างๆ อย่างไม่ถือตัว

แต้วร่วมงานเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคโลก จังหวัดหนองคาย

ถ้าพูดถึงนางเอกที่ฮ็อตที่สุดในนาทีนี้คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก แต้ว – ณฐพร เตมีรักษ์ นักแสดงมากฝีมือ เป็นที่รู้จักของแฟนๆ ทั่วประเทศจากบทคำแก้ว/เจ้าแม่นาคี ในเรื่องนาคี และบทเจ้าแม้นเมือง ในเรื่องรากนครา แม้ละครทั้งสองเรื่องจะอวสานไปแล้ว แต่ชื่อของแต้วก็ยังเป็นที่พูดถึง โดยเฉพาะบทบาทของเจ้าแม่นาคี

แม้ละครเรื่องนาคีจะลาจอไปกว่าเกือบ 1 ปีแล้ว แต่เธอก็ยังต้องสวมบทบาทนี้อยู่เนืองๆ ล่าสุดเธอได้ไปร่วมงานเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคโลก จังหวัดหนองคาย ในฐานะผู้รำบวงสรวงบูชาพญานาคและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในแม่น้ำโขงร่วมกับอร – อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ ทั้งนี้ภายในงานมีผู้คนหลั่งไหลมาจากทั่วสารทิศ ซึ่งเธอแสดงการรำได้งดงามและอ่อนช้อยเป็นอย่างมาก

นอกจากจะสวยแล้ว ยังจิตใจดีอีกด้วย เมื่อช่างภาพเพจข่าวสารหนองคายจับภาพแต้วขณะกำลังใช้ทิชชูซับเหงื่อให้นางรำที่ยืนอยู่ข้างๆ อย่างไม่ถือตัวว่าเป็นนางเอกดัง ซึ่งความมีน้ำใจแบบนี้ คุณนิด – รวงทอง เตมีรักษ์ แม่ของแต้ว เคยให้สัมภาษณ์แพรวดอทคอมว่า ปกติแต้วเป็นคนที่เอาใจใส่และคิดถึงคนอื่นอยู่เสมอ

ความน่ารักและมีน้ำใจของแต้ว

สวย ดี และไม่ถือตัวแบบนี้นี่เอง ถึงทำให้ชื่อของแต้ว – ณฐพร เตมีรักษ์ เป็นนางเอกขวัญใจมหาชนแบบนี้


เรื่อง : SnowBlack

ภาพจาก : https://www.phonphisainongkhai.com/

มีติ่งเพราะครีเอท! 4 หนุ่มสาวคนธรรมดา ดังเพราะฟีดภาพ Instagram ไม่เหมือนใคร

โดยปกติ Instagram ฮิตๆ ที่มีคนฟอลโลว์กันมากๆ มักจะเป็นของดารา เซเลบริตี้ ที่มีฐานแฟนคลับจากโลก Non Social เป็นทุนเดิม แต่ทว่าก็ยังมีไอจีอีกกลุ่มที่ผู้คนเลือกจะตามดู ตามรู้ เพราะความเจ๋งของฟีดที่โพสต์

4 หนุ่มสาวต่อไปนี้ เป็นเจ้าของไอจีภาพชวน Amazing ที่มีความโดดเด่นในแง่ความสร้างสรรค์เหมือนกันอย่างหนึ่ง นั่นก็คือการใช้ตัวเองเป็น Influencer ในทุกภาพครีเอทีฟที่ปรากฏบนฟีด และไม่ว่ามันจะให้ผลทางความรู้สึกว่าสวยจนแทบหยุดหายใจ หรือขำจนอยากแชร์ต่อ แต่สิ่งที่ต้องยอมรับก็คือ ทำให้มีคนจดจำ

และสมัครใจเป็นติ่งตามเสพ Instagram ของพวกเขากันไม่น้อยจริงๆ

1.IG@muradosmann : 4.6 M followers

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป, ผู้คนกำลังนั่ง และ สถานที่ในร่มคนแรกถ้าไม่พูดถึงเขาคงเจอติ่งค้อนแน่ Murad Osmann ช่างภาพหนุ่มชาวรัสเซีย ที่เรียนจบสาขาวิศวกรรมโยธาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศอังกฤษ แต่เลือกเดินตามฝันของตัวเองด้วยการเป็นช่างภาพ ไอจีของเขามีเอกลักษณ์น่าสนใจจากภาพถ่ายชุด ‘Follow me to’ ซึ่งเป็นภาพที่ภรรยาคนสวย  Nataly Osmann Zakharova หันหลังยื่นมือข้างหนึ่งมาลากเขาไปตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก

ว่ากันว่าภาพชุดนี้เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญในขณะที่เขาและนาตาลี สมัยที่ยังเป็นแฟนกัน ชวนกันไปเที่ยวบาร์เซโลน่า เมื่อปี ค.ศ.2011 ระหว่างท่องเที่ยวฝ่ายหญิงเกิดอาการเซ็งที่ฝ่ายชายเอาแต่ถ่ายภาพ จึงเข้าไปจูงมือเขาให้เดินต่อ เขาเลยยกกล้องขึ้นแชะภาพช่วงจังหวะนั้นแล้วแชร์ลง IG ผลคือกลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนจนเกิดการแชร์ต่อๆ เป็นไวรัล ออสมานน์จึงเดินหน้าถ่ายภาพชุดนี้ต่อในประเทศต่างๆ

ผลจากการถ่ายภาพชุดสุดลือลั่นที่ยังคงเดินหน้าไม่จบสิ้นนี้ก็คือ วันนี้ออสมานน์กลายเป็นคนดังเต็มตัว และเป็น Executive Producer and Owner ของ Hypepro.tv รายการทีวีชื่อดังของรัสเซีย

2.IG@ninelly_ : 80.7 followers

ยังคงอยู่ที่รัสเซีย กับ Nina บล็อกเกอร์สาววัยเบญจเพศผู้สร้างสรรค์ภาพโปรเจ็คท์ #MyDressStories ที่หญิงสาวทั้งโลกเห็นแล้วต้องอิจ เพราะนางเล่นจัดเดรสชุดใหญ่ไปยืนโพสต์ท่าอยู่ในหลายๆ ประเทศ อาทิ นิวซีแลนด์ อินเดีย สก็อตแลนด์ อิตาลี ตุรกี อิสราเอล คาซัคสถาน

Cappadocia, Turkey

Taj Mahal, India

Batumi Boulevard, Georgia

Jaisalmer Sunrise, India

Milano, Italy

ที่ทึ่งคือลีลาสบัดชุดสวยๆ ซึ่งมาจากฝีมือออกแบบตัดเย็บของเธอเกือบทุกชุด ทำให้ต้องเข้าไปดูประวัติ แล้วก็พบว่าเธอนี่เก่งรอบด้านเลยละ โดยหลังเรียนจบปริญญาตรีจาก Moscow State University ก็ทำงานเป็น choreographer และหัวหน้าคณะเต้นรำที่มีชื่อว่า “Silhouette” ให้กับมหาวิทยาลัยที่เรียนจบมา นอกจากนี้ยังเป็นนักเขียนที่เขียนได้ทั้งเรื่องแฟชั่น ท่องเที่ยว แก็ดเจ็ท และอาหาร ลงในบล็อกของตัวเอง ([email protected])

แถมประกาศว่ามีความสนใจในกีฬาปีนเขา เล่นเซิร์ฟ และโรลเลอร์ รวมทั้งชอบว่ายรูปกับเล่นเปียโนอีก แล้วจะไม่ให้บอกว่าเก่งรอบด้านได้ยังไง

3.IG@_bahamasgirl_ : 701K followers

ถ้าสองคนแรกคือตัวแทนของนักเดินทาง IG ของสาวน้อยคนนี้ก็คือตัวแทนของคนที่มีสำนึกรักบ้านเกิดอย่างเต็มเปี่ยม เพราะมันเต็มไปด้วยภาพถ่ายของเธอที่อยู่ใต้น้ำทะเลบาฮามาส บ้านเกิด โดยสาวน้อยที่งดงามดุจเมอร์เมดนี้คือ Sacha Kalis วัย 18 ปี ส่วนตากล้องก็ไม่ใช่ใครที่ไหน Elena Kalis คุณแม่ของเธอนั่นเอง

ซาช่าเกิดและเติบโตบนเกาะบาฮามาส เธอว่ายน้ำเป็นก่อนที่จะเดินได้ซะอีก เธอรักการอยู่ในทะเลเอามากๆ และแม่ของเธอก็เริ่มถ่ายภาพลูกสาวในท่วงท่าต่างๆ ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามใต้ท้องทะเลบาฮามาสไว้ตั้งแต่เธออายุเพียง 8 ปี และเพราะรักการเต้นมาตั้งแต่เด็ก เธอจึงสามารถโพสท่าสวยๆ ใต้น้ำได้อย่างงดงามราวกับเทพนิยาย Little Mermaid ยังไงยังงั้น

4.IG@averagerob : 178K followers

จากความสร้างสรรค์เชิงสวยงาม มารู้จักนักสร้างสรรค์เชิงขบขันสักคน Robert Van Impe เจ้าของไอจี@averagerob หรือ ร็อบสามัญชนคนธรรมดาที่โผล่เข้าไปอยู่ในภาพของเหล่าคนดังฮอลลีวู้ด ซุปตาร์โลก หรือแม้กระทั่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งคนก่อนและคนปัจจุบันในอากัปขำฮากลิ้ง

Celebrity Pic Photobomb

Celebrity Pic Photobomb

Celebrity Pic Photobomb

 

Celebrity Pic Photobomb

ร็อบเป็นหนุ่มเบลเยียมที่เรียนจบปริญญาตรีด้านโฆษณาและการตลาดจาก Coventry University แต่กลับไม่ทำงานตามไลน์ที่จบมา เพราะได้งานเป็นผู้สื่อข่าวของนิตยสาร Humo ซึ่งเป็นแมกกาซีนแนวขายหัวเราะของเบลเยียม

ด้วยความเป็นคนอามรณ์ดี ชื่นชอบการอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ กับมีความฝันว่าอยากกระทบไหล่คนดัง เขาจึงใช้ทักษะด้านดิจิตอลอาร์ติส ตกแต่งภาพตัวเองเข้าไปอยู่ในภาพของคนดัง คนสำคัญของโลก และด้วยฝีมือการตัดต่อที่มีคีย์เวิร์ดสำคัญคือ ‘เนียนแต่รู้’ เพราะท่าที่ล้นจนดูไม่ธรรมดา ทำให้ใครเห็นเป็นต้องอมยิ้ม

แน่นอนว่านี่คือเสน่ห์สำมะคัญที่ดักคนที่ชื่นชอบเสียงหัวเราะให้มาติดตามไอจีเขานั่นเอง

 

การที่พูดถึงในหลวง ร.๙ โดยไม่ร้องไห้เป็นเรื่องที่ยากที่สุดในชีวิต เบลล่า – ราณี

นางเอกลูกครึ่งที่เป็นไทยทั้งตัวและหัวใจ เบลล่า – ราณี แคมเปน กราบพ่อครั้งสุดท้าย ยังอยู่ในใจเสมอ

14 ต.ค. พิธีเคลื่อนพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ ๙ ออกจากโรงพยาบาลศิริราช

เมื่อคืนวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา เป็นวันสุดท้ายที่พระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งมีประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาเข้าคิวรอกราบถวายบังคมพระบรมศพอย่างไม่ขาดสาย

เบลล่า – ราณี แคมเปน นางเอกลูกครึ่งไทย-อังกฤษ แต่เป็นไทยทั้งตัวและหัวใจ ที่เคยมีโอกาสเดินทางไปกราบถวายบังคมพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้เผยถึงเรื่องราวความจงรักภักดี รวมถึงการกราบพ่อครั้งสุดท้ายที่ยังอยู่ในใจเสมอ

เบลล่า – ราณี แคมเปน

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2559 ในวันที่เบลล่าและประชาชนไทยรู้สึกใจสลายเหมือนกัน

“วันนั้นที่เดินทางไปคือเป็นความรู้สึกว่าเราอยากไปอยู่ในที่ตรงนั้น เรารู้อยู่แล้วว่าคนจะต้องเยอะ จะต้องร้อน อาจจะต้องเบียดกับคนเยอะมาก ความรู้สึกว่าพระองค์ท่านเป็นคนในครอบครัวของเรา เป็นคนที่เราเคารพมากๆ เลยรู้สึกว่าอยากจะไปอยู่ใกล้ๆพระองค์ท่านให้มากที่สุด คือมีหลายความรู้สึกมาก มีโมเมนต์ที่เงียบ ที่เศร้า และก็มีบางโมเมนต์ที่เราพยายามทำตัวปกติ ช่วยเหลือกันกับคนรอบข้าง แต่ตอนที่รถของพระองค์ท่านเคลื่อนผ่านมา ทุกอย่างมันนิ่งเงียบ และเราทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากยกมือกราบลงไป และก็อยู่อย่างนั้น คือไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองรถหรืออะไรเลย แค่รู้สึกว่าพระองค์ท่านผ่านไปแล้ว ข้างในรู้สึกหัวใจสลาย”

นางเอกช่อง 3 เผยเรื่องราวความจงรักภักดี รวมถึงการกราบพ่อครั้งสุดท้ายที่ยังอยู่ในใจเสมอ

ใจหายเหมือนกับคนไทยทุกคนที่อีกไม่กี่วันจะถึงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

“ก็ใจหาย และเวลามันผ่านไปเร็วมาก เราทุกคนก็คงคิดเหมือนกันว่าไม่อยากให้ถึงวันนี้จริงๆ แต่นี่ก็คือความจริง การที่พระองค์ท่านจากไป เราก็เชื่อว่าเดี๋ยวพระองค์ท่านก็อยู่บนสวรรค์และมองดูเราอยู่เหมือนเดิม”

ครอบครัวย้ายจากอังกฤษมาเมืองไทย รักประเทศไทยและรักวิถีชีวิตความเป็นไทย

“คือเรื่องคุณพ่อยังทำใจไม่ได้เลย แล้วต้องมาเจอเรื่องในหลวงรัชกาลที่ ๙ อีก ซึ่งครอบครัวเบลรักในหลวงรัชกาลที่ ๙มาก และการที่พ่อให้เราอยู่ในประเทศไทย เพราะว่าพระองค์นี่คือเหตุผลที่พ่อให้เบลเติบโตที่ประเทศไทย พ่ออยากให้เบลเป็นคนไทย หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่แต่งงานกันก็ย้ายไปอยู่ที่อังกฤษช่วงหนึ่ง พอตัดสินใจว่าจะมีลูกก็ย้ายกลับมาที่ไทย ด้วยความรักประเทศไทยและรักวิถีชีวิตความเป็นไทย และที่สำคัญที่สุดคือ รักในหลวงรัชกาลที่ ๙ คือคุณพ่อเคยมากรุงเทพฯตั้งแต่สมัยที่มีเกวียนอยู่เลย และในหลวงรัชกาลที่ ๙ เป็นคนที่ทำให้ประเทศไทยพัฒนามาจนถึงจุดนี้ได้ และเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน ไม่ใช่วัตถุนิยมหรือว่าอะไร”

น้ำตาภูมิใจที่ได้เกิดในแผ่นดินของในหลวงรัชกาลที่ ๙

ในหลวงรัชกาลที่ ๙ คือผู้มีพระมหากรุณาธิคุณสูงสุดในชีวิตเหมือนพ่อแม่

“คุณพ่อให้ดูสารคดีของพระองค์ท่านมาตั้งแต่เด็กๆ รวมถึงหนังสื่อเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจอะไรอย่างนี้ ทำให้เรารู้จักพระองค์ท่านเทียบกับคนรุ่นเดียวกันก็จะค่อนข้างเยอะ เพราะพ่อและแม่พูดทุกครั้ง เลยรู้สึกว่าเป็นความผูกพัน พระองค์ท่านมีพระมหากรุณาธิคุณที่สุดในชีวิตเหมือนพ่อแม่ของเราเลย”

เล่าถึงการกราบพ่อครั้งสุดท้ายที่ยังอยู่ในใจเสมอ

จดจำไม่ลืม ครั้งหนึ่งเคยมีโอกาสกราบในหลวงรัชกาลที่ ๙ ใกล้ที่สุดในชีวิต
“ถ้ากราบนอกกำแพง ไปหลายครั้ง แต่เข้าไปในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทครั้งเดียว ความรู้สึกเอาจริงๆก็เป็นความน่าเสียดายที่เราไม่เจอพระองค์ท่าน เสียดายเนอะ บุญเราไม่ถึงที่จะได้เจอพระองค์ท่าน แค่เราได้อยู่ในประเทศ ในผืนแผ่นดินไทย แค่นี้มันก็ดีมากพอแล้ว”

นางเอกช่อง 3

อย่างไรก็ตาม แม้เป็นการสัมภาษณ์สั้นๆแค่ 8 นาที แต่ใบหน้าของเบลล่าเต็มไปด้วยน้ำตาตั้งแต่นาทีแรก ซึ่งก็ทำให้มีช่วงที่ต้องเสียน้ำตาร่วมไปกับเธอ โดยภายหลังเสร็จสิ้นการสัมภาษณ์ เบลล่ายังได้กล่าวกับ แพรวดอทคอม ว่า อาจจะฟังยากหน่อย เพราะเมื่อพูดถึงเรื่องราวของในหลวงรัชกาลที่ ๙ เธอไม่เคยกลั้นน้ำตาของเธอได้เลย


เรื่อง : SnowBlack

ภาพ : แพรว

ขอบคุณสถานที่ : ร้าน Rio Bistro เควิลเลจ พระราม 4

ผ้าพอเพียง

ภาพถ่ายชุดพิเศษกับ “ผ้าพันคอพอเพียง” ถ่ายทอดแรงบันดาลใจแห่งการเป็นผู้ให้

Alternative Textaccount_circle
ผ้าพอเพียง
ผ้าพอเพียง
Soda แบรนด์แฟชั่นระดับตำนานของไทย ร่วมมือกับสยามเซ็นเตอร์ น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หรือประโยชน์ที่ยั่งยืนของในหลวงรัชกาลที่ ๙ สู่ผลงานสร้างสรรค์ “ผ้าพอเพียง” จำนวนจำกัด และจัดนิทรรศการภาพถ่ายของคนไทยหลากหลายอาชีพ เพื่อมอบรายได้และสนับสนุนมูลนิธิศูนย์มะเร็งเต้านมเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งกำลังสร้างบ้านพิงพักให้เป็นศูนย์ดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะสุดท้ายที่ขัดสนและยากไร้

เมนาท นันทขว้าง และหลานสาว วาสิรี หิรัณยเลขา ร่วมมือออกแบบผ้าพอเพียงนี้ ผลงานล่าสุดที่ must have สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้เป็นประโยชน์และช่วยสนับสนุนมูลนิธิ ก่อตั้งโดย รศ.ดร.กฤษณ์ จาฏามระ และผลิตในจำนวนจำกัด วางจำหน่ายที่ร้าน Soda และ Absolute Siam Pop Up Store ยังมีบุคคลหลากหลายบุคลิกที่เป็นตัวแทนจากหลากหลายอาชีพของสังคมไทย ตั้งแต่คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง คนขับแท็กซี่ พนักงานขายของ นักเรียน รวมทั้งนักร้อง นักแสดง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคนไทยที่อาสามาเป็นแบบถ่ายรูป จากการตีความผ้าผืนนี้ในแบบของตัวเอง ซึ่งภาพเหล่านี้จะจัดแสดงในนิทรรศการภาพถ่าย “พอเพียง” ณ ชั้น G สยามเซ็นเตอร์ ตั้งแต่วันที่ 9 – 31 ตุลาคม ศกนี้ และจะมีพิธีเปิดงานนิทรรศการในวันที่ 9 ตุลาคม นี้ เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ณ เอเทรียม 1 ชั้น G สยามเซ็นเตอร์

ก่อนหน้านี้เมนาท นันทขว้าง ได้พิมพ์เสื้อยืด Staying Alive จำหน่ายเพื่อการกุศล ช่วยผู้ป่วยมะเร็งเต้านม และมอบรายได้ให้แก่ รศ.ดร.กฤษณ์ จาฏามระ เพื่อสนับสนุนมูลนิธิศูนย์มะเร็งเต้านมเฉลิมพระเกียรติมาแล้ว

โดยกล่าวว่า “ปีนี้คิดว่าน่าจะเป็นผ้าพันคอ ใช้ได้หลากแบบหลายวิธี ใครๆ ก็ใช้ได้ หรือแม้แต่จะแขวนติดผนังก็ยังได้ วาสิรีวาดลายงานดีไซน์ด้วยมือ เป็นภาพช้างน่ารัก มาลัยดอกไม้แสนสวย และชาวบ้านที่กำลังยิ้มแย้ม (รวมทั้งภาพพอร์เทรตของเมนาทและวาสิรีที่ซ่อนอยู่ในนั้นด้วย) สำหรับงานดีไซน์ได้แรงบันดาลใจมาจากงานลายไทย โดยเฉพาะจากภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังพื้นบ้าน ความง่ายที่ดูสง่างามสอดคล้องกันได้ดีที่สุด กับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หรือประโยชน์ที่ยั่งยืนของในหลวงรัชกาลที่ ๙“

“ตอนนี้มะเร็งเต้านมเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของผู้หญิงไทย ผู้หญิง 1 ใน 10 มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ และทุกๆ 2 ชั่วโมงจะมีผู้หญิงไทยเสียชีวิตเพราะโรคนี้” รศ.ดร.กฤษณ์ชี้ให้เห็น

รศ.ดร.กฤษณ์ จาฏามระ ซึ่งทิ้งตำแหน่งใน Royal College of Surgenons of England ที่ประเทศอังกฤษ เพื่อกลับมาก่อตั้งพัฒนามูลนิธิศูนย์มะเร็งเฉลิมพระเกียรติ เพื่อช่วยผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะสุดท้ายที่ขัดสนและยากไร้ “บ้านพิงพัก” ของมูลนิธิจะเป็นศูนย์ดูแลผู้ป่วยและศูนย์วินิจฉัยโรคมะเร็งเต้านมอย่างครบวงจร โดยปราศจากการแสวงหาผลกำไร ดำเนินงานโดยทีมแพทย์ พยาบาล จิตแพทย์ นักสังคมสงเคราะห์ เภสัชกร นักโภชนาการ และอาสาสมัคร

“ความฝันของผมคืออยากยกระดับการดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านมให้มีมาตรฐานระดับนานาชาติ และให้ทั่วถึงสำหรับผู้หญิงทุกคน” รศ.ดร.กฤษณ์ จาฏามระ กล่าว รายได้จากการขายผ้าพอเพียงมอบให้โครงการยิ่งใหญ่เปี่ยมน้ำใจนี้ และเพื่อให้สาธารณชนตระหนักและให้ความสำคัญกับมะเร็งเต้านมด้วย

ผ้าพอเพียงผลิตด้วยผ้าฝ้ายและผ้าไหม 100% จากประเทศอินเดีย พิมพ์ลายกราฟิกขาวดำ ราคาเริ่มต้น 999 บาท มีจำนวนจำกัด วางจำหน่ายพร้อมกันตั้งแต่วันที่ 9 – 31 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไป ที่ Absolute Siam Pop Up Store ชั้น G สยามเซ็นเตอร์ และร้าน Soda ทุกสาขา

มารี เบิร์นเนอร์

เคล็ดลับส่วนตัวของ “มารี เบิร์นเนอร์” ถึงการดูแลผิวให้ดูดีมีออร่าแบบเร่งด่วน

Alternative Textaccount_circle
มารี เบิร์นเนอร์
มารี เบิร์นเนอร์
สวยวันสวยคืนจริงๆ สำหรับนักแสดงสาวสวย มารี เบิร์นเนอร์ ที่บังเอิ้ญบังเอิญไปพบกันในงานเฉลิมฉลองครบรอบ 1 ปี สถาบันแพทย์ผิวหนังและความงาม ด็อกเตอร์ แททออฟ” ซึ่งแพรวดอทคอมเห็นว่าช่วงนี้ดาราสาวดูผิวดีออร่าจับขึ้นแยะ เลยถือโอกาสซักไซ้ถึงเคล็ดลับการดูแลผิวให้ดูดีแบบเร่งด่วนมาฝากสาวๆบิวตี้นิสต้ากัน

“ถ้าอยากมีผิวที่ดูดี ต้องเริ่มดูแลจากขั้นพื้นฐานก่อน ซึ่งก็ต้องทาครีมบำรุงเป็นประจำอยู่แล้ว จะเน้นการทามอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำทุกคืนก่อนนอน แล้วก็มีทำทรีตเมนต์นวดหน้า เพิ่มคอลลาเจนให้กับผิวบ้าง เพราะกลัวแก่ (หัวเราะ) บางช่วงก็จะชอบดื่มน้ำเปล่าผสมมะนาว ดื่มเป็นหลักทั้งวันแทนน้ำเปล่าเลยนะ ดื่มติดต่อกันประมาณหนึ่งสัปดาห์ ผิวจะใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะมันจะช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายหมดเลย จนรู้สึกสดชื่นอย่างเห็นได้ชัด เป็นเคล็ดลับเร่งผิวสวยส่วนตัวเลยค่ะ”

ภาพ IG : marie_broenner

รู้ไว้ใช้ให้ถูกต้อง กรมศิลปากรจัดทำหนังสือรวมคำศัพท์งานพระราชพิธีพระบรมศพ อ่านฟรีทางออนไลน์ได้แล้ว

ทุกวินาทีต่อจากนี้ล้วนเป็นประวัติศาสตร์ที่ชาติไทยจะต้องจารึกเอาไว้ เพื่อเป็นคลังความรู้ให้แก่คนรุ่นหลังในอนาคต ดังนั้นการจัดทำ หนังสือรวมคำศัพท์งานพระราชพิธีพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงเป็นอีกหนึ่งผลงานสำคัญที่ควรค่าแก่การอ่านอย่างยิ่ง

ภายในหนังสือรวมคำศัพท์ฉบับนี้มีทั้งหมด 50 หน้า โดยกระทรวงวัฒนธรรมเป็นผู้มอบหมายให้ทางกรมศิลปากรเป็นผู้จัดทำและรวบรวมข้อมูลทั้งหมด ประกอบด้วยเรื่องราวของคำศัพท์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับงานพระราชพิธีพระบรมศพทั้งหมด อีกทั้งยังมีรายละเอียดให้ผู้อ่านสามารถสะกดคำศัพท์ให้อ่านได้อย่างถูกต้อง

หนังสือเล่มนี้นอกจากจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ต่างๆ แล้ว ยังเป็นการได้ศึกษาขนบธรรมเนียมตามโบราณราชประเพณีเกี่ยวกับพระราชพิธีสำคัญของชาติได้อย่างครบถ้วน ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับคนไทยและคนรุ่นหลัง โดยผู้สนใจสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ http://www.m-culture.go.th/th/ebook/Glossary_about_HM_King_Bhumibol_Adulyadej’s_Funeral/mobile/index.html#p=1

เพื่ออ่านหนังสือรวมคำศัพท์งานพระราชพิธีพระบรมศพได้ฟรี เสมือนกับการเปิดหนังสือจริงๆ

 

สุมณี คุณะเกษม

ไฮโซหมื่นล้าน “สุมณี คุณะเกษม” เปิด 7 ภาพความทรงจำครั้งได้รับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระบรมวงศานุวงศ์

สุมณี คุณะเกษม
สุมณี คุณะเกษม

ไฮโซสาวหมื่นล้านเจ้าของฉายา บาร์บี้เมืองไทย จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “สุมณี คุณะเกษม” ไฮโซเซเลบชื่อดัง เจ้าของคฤหาสน์หมื่นล้าน และเป็นนักสะสมของเก่าจากทั่วโลกมูลค่าหลายพันล้านบาท โดยได้มีโครงการจะจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ภายใต้การบริหารงานของมูลนิธิมณีมณฑ์ชา

คุ้นหน้าตามสื่อสังคมไฮโซชั้นสูงกันอยู่แล้ว สำหรับสุมณี คุณะเกษม หรือที่หลายคนยกให้เป็นบาร์บี้เมืองไทย ด้วยวัยที่เกินเลข 7 แต่ใบหน้ายังคงมีความอ่อนเยาว์อยู่ ด้านชีวิตครอบครัวของคุณสุมณีนั้น ได้เริ่มต้นใช้ชีวิตคู่กับสามี ดร.ประชา คุณะเกษม (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) ซึ่งดร.ประชา สามีของคุณสุมณีนั้น อดีตเคยดำรงตำแหน่งเป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำสหประชาชาติ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคไทยรักไทย ซึ่งทั้งคู่ได้รับพระราชทานน้ำสังข์จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และภายหลังจึงได้มีบุตรชายร่วมกัน

ก่อนหน้านี้หลายคนคงได้เห็นภาพที่เป็นเกียรติในชีวิตของเหล่าคนมีชื่อเสียง เมื่อครั้งได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชินี หรือแม้แต่พระบรมวงศานุวงศ์พระองค์อื่นๆ ซึ่งนับเป็นความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน รวมถึงชีวิตไฮโซบาร์บี้เมืองไทยอย่างคุณสุมณี คุณะเกษม ด้วยเช่นกัน ที่ในชีวิตของคุณสุมณี รวมถึงครอบครัว คนสนิทของเธอนั้นมีโอกาสเข้าเฝ้าฯรับเสด็จพระบรมวงศานุวงศ์อย่างใกล้ชิดเรื่อยมา และในยามที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต คุณสุมณีก็ได้ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวและเผยภาพเหล่านี้ผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัวของคุณสุมณีด้วย

7 ภาพบันทึกความทรงจำของไฮโซ “สุมณี คุณะเกษม” ที่ชีวิตในแผ่นดินรัชกาลที่ 9 เมื่อได้มีโอกาสรับเสด็จพระบรมวงศานุวงศ์อย่างใกล้ชิดนั้นจะมีอะไรบ้าง “แพรว” นำมาให้ชมกันแล้ว

สุมณี คุณะเกษมคุณสุมณี คุณะเกษม และดร.ประชา คุณะเกษม (อดีตสามี) ได้รับพระราชทานน้ำสังข์ในพิธีสมรสจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งเป็นเกียรติและเป็นศิริมงคลอย่างยิ่งต่อการเริ่มต้นชีวิตคู่

สุมณี คุณะเกษมคุณสุมณีมีบุตรชายชื่อว่า นายวชิระมณฑ์ คุณะเกษมธนาวัฒน์ ซึ่งมีชื่อเดิมคือ ประมณฑ์ คุณะเกษม อดีตโฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 17 (ลาดพร้าว) เมื่อลูกชายอยู่ในวัยเด็กก็มีโอกาสได้ร่วมรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ร่วมกับคุณสุมณีด้วย

สุมณี คุณะเกษมคุณสุมณี คุณะเกษม ได้เล่าถึงภาพนี้ว่า โง ดินห์ เดียม ประธานาธิบดีเวียดนามใด้รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขณะที่คุณพ่อของคุณสุมณีทำงานตำแหน่งหัวหน้าคณะทูตประจำประเทศเวียดนาม

สุมณี คุณะเกษมคุณสุมณีเหมือนผู้หญิงทั่วไปที่ชอบแต่งตัว ชอบเรื่องความสวยความงาม และชอบเต้นรำ หนึ่งในนั้นคือบัลเลต์ ซึ่งคุณสุมณีเคยแสดงบัลเลต์ “มโนราห์” พระราชทาน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯมาทอดพระเนตรการแสดงครั้งนี้ด้วย นับเป็นเกียรติอย่างยิ่ง

สุมณี คุณะเกษม(ภาพซ้าย) คุณสุมณีร่วมกับสามี ดร.ประชา คุณะเกษม เฝ้าฯรับเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และ (ภาพขวา) คุณสุมณีได้บรรยายว่า สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี กับยายเพียร แม่ครัวของดิฉัน ที่ทำเนียบทูตที่เจนีวา

สุมณี คุณะเกษมคุณสุมณี คุณะเกษม ได้เล่าถึงภาพนี้ว่า เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2525 ได้มีโอกาสรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อครั้งเสด็จฯเยือนทำเนียบในนครเจนีวา ในภาพนี้มีคุณแม่ของคุณสุมณีเฝ้าฯรับเสด็จด้วย

สุมณี คุณะเกษมภาพนี้คุณสุมณี คุณะเกษม และสามี ดร.ประชา คุณะเกษม ได้เข้าเฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา


เรื่อง: Gingyawee_แพรวดอทคอม
ภาพ: IG @sumanee_kunakasem

ความหมายที่ซ่อนอยู่ของ “ไม้จันทน์หอม” ที่ถูกใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

หลังจากมีการประกอบพิธีตัดไม้จันทน์หอมจำนวน 12 ต้น สำหรับนำไปใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หลายคนคงจะสงสัยว่าทำไมต้องเป็นไม้จันทน์หอม? และมีวิธีเลือกจากอะไร? วันนี้เรามีคำตอบมาเฉลยกัน

ต้องบอกก่อนว่าไม้จันทน์หอมเป็นต้นไม้หายาก จัดเป็นไม้มงคลชั้นสูง ซึ่งจะใช้ประกอบพระราชประเพณีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว โดยเฉพาะพระราชประเพณีเกี่ยวกับพระบรมศพ โดยวิธีการเลือกไม้จันทน์หอมก็มีอยู่หลายขั้นตอน เพราะไม้จันทน์หอมที่จะนำมาประกอบในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพนั้น ต้องเป็นไม้จันทน์หอมที่ยืนต้นตายเองตามธรรมชาติ ซึ่งเนื้อไม้จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ มีลำต้นลักษณะยาวตรง โดยขนาดที่เลือกไปใช้นั้นมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 1 เมตรเท่าๆกันทุกต้น เปลือกสีเทาอมขาวหรือสีเทาอมน้ำตาล เนื้อไม้ข้างในเป็นสีขาวบริสุทธิ์ โดยเปรียบไม้จันทน์เหมือนกับคน ถึงแม้จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ความดีที่ทำมาจะยังคงอยู่ตลอดไป เหมือนกับไม้จันทน์หอมที่ถึงแม้จะตายไปแล้ว แต่ก็ยังมีกลิ่นหอมอยู่นั่นเอง

3

ตามปกติแล้วไม้จันทน์หอมจะขึ้นตามป่าดงดิบและป่าเบญจพรรณขึ้นทั่วไป ซึ่งไม่ได้มีมากนัก และไม้จันทน์หอมที่นำมาประกอบในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพนั้น เลือกมาจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ซึ่งเป็นแหล่งอนุรักษ์สายพันธุ์ตามธรรมชาติของไม้จันทน์หอม ซึ่งจะนำมาใช้สร้างพระรองประดับพระโกศพระบรมศพ ตลอดจนใช้ทำฟืนหรือดอกไม้จันทน์ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ที่ผ่านมาสำนักพระราชวังได้คัดเลือกไม้จันทน์หอมยืนต้นจากป่าเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรีแห่งนี้ไปใช้ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ รวมถึงงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ก็จะจัดสร้างโดยใช้ไม้จันทน์หอมจากป่านี้ด้วยเช่นกัน

5

ซึ่งขั้นตอนการตัดนั้นก็มีหลายขั้นตอน ต้องมีพิธีบวงสรวง หลั่งน้ำเทพมนตร์ เจิมด้วยแป้งเจิมบริเวณต้นจันทน์ แล้วใช้ขวานทองฟันที่ต้นจันทน์เพื่อเป็นปฐมฤกษ์ สำหรับขวานทองที่ใช้ตัดต้นไม้เป็นปฐมฤกษ์ เป็นขวานที่ทำจากโลหะพ่นสีทอง เมื่อเสร็จสิ้นพิธีแล้ว ต้องให้ช่างสิบหมู่กรมศิลปากรเป็นผู้กำหนดจำนวนการใช้ต้นจันทน์อีกครั้ง จึงจะแจ้งมายังกรมอุทยานแห่งชาติกุยบุรีให้ตัดต้นจันทน์ ก่อนส่งมอบให้สำนักพระราชวัง

2 4 1

เรื่อง : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : รายการทุบโต๊ะข่าว, IG@we_love_king_rama9, maenangtoo

 

 

‘มือที่สามรีเทิร์น จากเคยเป็นหนึ่งกลายเป็นสองซะงั้น’ เช็คเลย ดวงวันที่ 6 ตุลาคม 2560

ดูดวงรายวัน ประจำวันศุกร์ที่ 6 ตุลาคม 2560 เช็คทุกวัน ทันทุกดวงกับ แพรว ดอทคอม

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  วันนี้ท่านก็ยังข้องเกี่ยวกับงานต่างประเทศ การเดินทาง หรือเครื่องมือสื่อสารไฮเทค ซึ่งมีการแข่งขันกันรุนแรง ระวังอารมณ์ของท่านกับอารมณ์ของเจ้านาย ต่างแรงด้วยกันทั้งคู่ ท่านอาจถูกกดดันว่าต้องทำให้ได้ในสิ่งที่เขาปรารถนา โดยไม่สนใจเหตุผล

การเงิน : หาเงินได้ก็หมดไปกับการช่วยเหลือผู้คนรอบข้าง บริวาร ญาติพี่น้อง

ความรัก : ช่วงนี้อารมณ์ท่านกับคู่ไม่ค่อยดี หงุดหงิดง่าย จากที่เคยหันหน้าปรึกษากันกลับกลายเป็นทะเลาะกันรายวัน ควรหาเวลาเดินทางไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง คนโสด เสน่ห์แรง มีคนชอบท่านเยอะ แต่หากไม่ถูกสเป๊ค ต่อให้ดีกับท่านแค่ไหน ก็ไม่สนใจ

สุขภาพ :  เตรียมยาหม่อง ยาหอมไปด้วย เพราะอาจมีอาการหน้ามืดตาลาย

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : หากท่านมีแผนการณ์จะส่งลูกไปเรียนพิเศษต่างประเทศในช่วงระยะเวลาสั้นๆ อาจต้องเล่นเส้นผู้ใหญ่บ้าง จึงจะผ่านฉลุย

การเงิน  : จะหมดเงินไปกับการเดินทาง และช่วยเหลือคนอื่น

ความรัก :  วันนี้หากท่านวางโครงการอะไรไว้ให้ดูอารมณ์ของผู้ใหญ่เป็นหลัก หรืออาจต้องบนบานศาลกล่าวบ้างจึงจะได้มา คนโสด หากจะไปขอแต่งงาน ดูทางหนีทีไล่ให้ดี เพราะมีผู้ใหญ่เจ้าอารมณ์นั่งดักอยู่

สุขภาพ :  ระวังอวัยวะตั้งแต่สะโพกไปจนถึงขา

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  :  ท่านได้มอบหมายให้ริเริ่มและบุกเบิกกิจการใหม่ในเวลาอันใกล้นี้ แต่ระวังเกิดการขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน จากความคิดเห็นที่ไม่เหมือนกันเลย โดยที่ท่านอาจเสี่ยงต่อการเป็นแพะรับบาปได้

การเงิน :  มีความผันผวน ขึ้นลงตลอด อย่าคิดลงทุนแบบใจใหญ่ ควรฟังคนอื่นด้วย

ความรัก : วันนี้มีความขัดแย้ง เพราะทัศนคติไม่เหมือนกันสักอย่าง แต่เมื่อท่านเลือกที่จะอยู่กับเขาแล้วก็ต้องค่อยๆ ปรับความเข้าใจ เพื่ออยู่กันให้ได้ คนโสด ระวังคนที่ท่านชอบ อาจมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศโดยที่ท่านไม่รู้

สุขภาพ : ระวังระบบหมุนเวียนน้ำในร่างกายมีปัญหา

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  : ท่านสวมหัวใจจิตอาสาช่วยงานทางด้านพุทธศาสนา ซึ่งท่านจะได้รับความช่วยเหลือและสนับสนุนจากคนข้างตัว ผู้ใหญ่ และบริวาร

การเงิน   :  ควรหาบริวารหรือลูกน้องที่ดีจะช่วยให้งานเจริญก้าวหน้า

ความรัก : วันนี้ท่านเริ่มเข้าสู่โหมดปลงกันมากขึ้น อยู่ด้วยกันเหมือนเพื่อน คอยดูแลกัน อาจชวนกันเข้าวัดทำบุญ คนโสด ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ เข้าใจตรงกันนะ

สุขภาพ : ระวังตามใจปากจะทำให้ลำบากทีหลัง ท้องอืด ท้องเฟ้อ ตามกันมาเลย

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน :  แบกรับหน้าที่ที่หนักหนาสาหัสเพื่อครอบครัวที่ตัวเองรัก ซึ่งบางทีท่านอาจไม่สนใจว่าเป็นงานอะไร ขอให้ค่าตอบแทนสูงไว้ก่อน ซึ่งบางครั้งอาจเป็นงานที่ไม่ถูกกฎหมาย

การเงิน :  ทรัพย์สินอาจสูญหาย หรือถูกคนสนิททรยศหักหลัง

ความรัก : วันนี้ระวังมีเรื่องมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง คนโสด ท่านแอบไปรักแฟนใครหรือเปล่า เพราะคนที่ท่านรัก จริงๆ แล้วไม่ได้โสดอย่างที่บอก

สุขภาพ : ระวังเกิดบาดแผลจากถูกของมีคมบาด

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : บริวารจะสร้างปัญหาให้ท่าน ซึ่งท่านเองต้องรับศึกหลายด้าน อย่าพยายามไฟล์ททั้งๆ ที่รู้ว่าไม่ชนะ เปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ

การเงิน : ชอบช่วยเหลือผู้อื่นจนตัวเองเดือดร้อน

ความรัก : วันนี้อยากบอกว่าคู่ท่านอารมณ์รุนแรง อาจมีตีลูกและตีท่านด้วย อยู่ห่างๆ ไว้หน่อย คนโสด หากชิงสุกก่อนห่าม ระวังพลาดนะคะ

สุขภาพ  :  ระวังติดเชื้อไวรัสในกระแสเลือด

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : ท่านอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะด้วยการทำงานที่ผิดพลาด ซึ่งท่านก็ไม่สามารถลงจากหลังเสือได้ ทางที่ดีต้องเข้าไปคุยกับผู้ใหญ่ หรือเจ้านาย เพราะเขาช่วยท่านอยู่แล้ว

การเงิน : เงินที่ให้หยิบยืมไปจะไม่ได้คืน

ความรัก : วันนี้ท่านแยกกันอยู่กับคนรัก แต่ด้วยความหยิ่งมีมากกว่า แม้ท่านจะคร่ำครวญอย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่กลับมา คนโสด แตกต่างกันจนไม่สามารถลงเอยกันได้  

สุขภาพ : ระวังโรคหัวใจ หรือไขมันอุดตัน

 

สวยมีสไตล์กับ 20 ชุดแต่งงานทรงเชลธ์

account_circle

นอกจากสไตล์การจัดงานแต่งงานที่แขกทุกคนล้วนให้ความสนใจแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่มักจะเป็นจุดสนใจไม่แพ้กันก็คือ ชุดแต่งงานที่บรรดาว่าที่เจ้าสาวอย่างคุณๆ ทั้งหลายล้วนใส่ใจสรรหาสารพัดไอเดียมากมายทำเอาคุณตาลายไปหมด วันนี้เราอาสาเป็นตัวช่วยคัดทรงชุดเจ้าสาวที่น่าสนใจอย่างทรงเชลธ์มาให้ลองชม สำหรับคุณที่ไม่ชอบความซับซ้อนมากนัก ชุดทรงนี้เหมาะกับคุณมากเลยค่ะ

ชุดแต่งงานทรงเชลธ์ (Sheath) นั้นใส่แล้วสบายสุดๆ เน้นความงามแบบเรียบง่ายที่ไม่ได้เน้นลูกเล่นมากนักแต่แฝงไปด้วยความเป็นโมเดิร์นสูง ซึ่งทรงของชุดนี้จะทิ้งตัวลงมาอย่างหลวมๆ และด้วยความที่เป็นชุดทรงตรงไม่รัดรูปและสัดส่วนมากนัก ชุดทรงนี้จึงเหมาะกับสาวๆ ที่รูปร่างไม่เป๊ะนัก อาจจะผอมหรืออวบไปสำหรับชุดทรงอื่นๆ เป็นทรงที่ใส่แล้วปลอดภัยสุดๆ แถมดูดีไม่แพ้ชุดทรงอื่นๆ ลยละค่ะ ลองมาดู 20 ชุดแต่งงานสวยทรงเชลธ์ที่เราคัดมาให้เป็นไอเดียกันค่ะ

เรื่อง : ณัฐมล

ภาพ : Pinterest

อัพเดต 5 เทรนด์เล็บเจ้าสาวต้องรู้ในปี 2018

account_circle

แม้เรื่องของ เล็บเจ้าสาว จะดูเป็นสิ่งเล็กๆ และมักไม่ค่อยได้รับการพูดถึงนัก ทำให้เจ้าสาวลืมที่จะโฟกัสเล็บของตัวไป แต่อย่าลืมนะคะว่าการที่เจ้าสาวมีเล็บที่สวยงามนั้น จะทำให้ช่วงเวลาสำคัญขณะที่เจ้าบ่าวบรรจงสวมแหวนให้เจ้าสาว พร้อม ๆ กับจังหวะที่ช่างภาพลั่นชัตเตอร์เพื่อเก็บภาพแห่งความทรงจำ ภาพที่ออกมาจะต้องดูเลอค่าและน่าจดจำมากยิ่งขึ้นด้วยเล็บสวยๆ นี่แหละค่ะ

ถ้าอย่างนั้นอย่ารอช้า ได้เวลามาเติมแต่งเล็บให้สวยกันแล้ว กับเทรนด์เล็บเจ้าสาวในปี 2018 ที่จะมีความสนุกขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา เพื่อรับกับสีแพนโทนประจำซีซั่นหน้าที่จะมีความแซ่บอย่าบอกใคร งานนี้ แพรว wedding รวบรวมมาฝากเป็นไอเดียให้ว่าที่เจ้าสาวได้เติมแต่งเล็บกันได้สวยแบบไม่ต้องกลัวตกเทรนด์

Red Nail Art

เล็บเจ้าสาวเทรนด์สีแดงที่โดดเด่นจากแพนโทน 2018 สีแดงจะช่วยขับผิวให้ดูโดดเด่นขึ้น แต่ควรเลือกเป็นสีแดงเรดไวน์ สีแดงเชอรี่ หรือสีแดงกุหลาบนะคะ เพราะเป็นโทนสีแดงที่ให้ความหรูและดูคลาสสิกอยู่เสมอ และนอกจากจะช่วยขับผิวให้โดดเด่นขึ้นแล้ว เล็บสีแดงยังตัดกับชุดเจ้าสาวสีขาว ทำให้ดูสวยเด่นขึ้นอีกเป็นกองเลยล่ะค่ะ หรือจะเลือกทาสีกากเพชรที่เป็นสีทองหรือสีเงินมาแต่งแต้มเพื่อเบรคให้ซอฟท์ลงก็ดีงามไปอีกแบบ

Glitter Nail Art

ยังคงได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องสำหรับการเติมแต่งเล็บเจ้าสาวให้ระยิบระยับแวววับด้วยกลิตเตอร์ ที่รับรองว่าจะต้องเจิดจรัสอย่างแน่นอน กลิตเตอร์ที่สะท้อนแสงวิบวับจะช่วยเพิ่มลุคแพงให้กับเจ้าสาวได้ แถมสีก็มีให้เลือกทั้งโทนสีเงิน สีทอง สีชมพู  หรือสีเมทัลลิกอื่น ๆ แต่ไม่ว่าจะเลือกสีไหนก็รับประกันเลยว่าจะต้องโดดเด่นจับตาแน่นอน

3D Nail Art

การตกแต่งเล็บในแนว 3 มิติด้วยการนำเอาวัสดุตกแต่งอื่น ๆ มาติดลงไปบนเล็บ โดยวัสดุที่นำมาตกแต่ง อาจจะเลือกใช้เป็นไข่มุก เพชร คริสตัล โบว์ ดอกไม้ปั้นนูน ฯลฯ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมิติให้เล็บมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นค่ะ

Flower Nail Arts

เทคนิคนี้นอกจากเล็บจะสวยปังแล้วยังเพิ่มความอ่อนโยนและอ่อนหวานให้เจ้าสาวขึ้นไปอีก แต่งแต้มเล็บลายดอกไม้ต่าง ๆ ที่มีสีสันและลวดลายแตกต่างกันออกไป โดยสามารถเลือกสีทาเล็บให้เเข้ากับสีผิวและชุดเจ้าสาวที่สวมใส่ ไม่ว่าจะเลือกสีชมพูหวาน ๆ หรือสีสันสดใสรับซัมเมอร์ ก็สวยแจ้งเกิดอย่างแน่นอน

Nude Color Nail Art

เทรนด์คลาสสิกอย่าง Nude Color Nail Art ที่ฆ่าไม่ตาย แม้จะไม่ได้ระยิบระยับแวววับเหมือนกลิตเตอร์ หรือมีการแต่งแต้มวัสดุอื่นุๆ ลงไปบนเล็บ แต่ก็สามารถสวยดูแพงแบบไม่ต้องพยายามอะไรมาก แม้จะเป็นโทนเรียบ ๆ แต่ก็ซ่อนความหรูหราเอาไว้ ทำให้คุณกลายเป็นเจ้าสาวเล็บสวยที่ดูหรูหรา มีระดับ แต่ยังคงความคลาสสิกไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้สีนู้ดยังสามารถแมทช์กับสีผิวได้หลายโทน แถมขั้นตอนการทายังไม่ยุ่งยาก ดีงามมากๆ เลยล่ะค่ะ

เรื่อง : ชวลิดา

Cr. instyle.com, theimpression.com, weddingku.com

พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ เสด็จร่วมงาน Paris Fashion Week ทรงพระสิริโฉมทุกอิริยาบถ

พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ เจ้าหญิงดีไซเนอร์ของไทย เสด็จเข้าร่วม Paris Fashion Week Spring/Summer 2018 ครั้งล่าสุดนี้ด้วย แฟชั่นฉลองพระองค์ทรงพระสิริโฉมและสง่างามทุกลุค

จบลงไปอย่างสวยงามสำหรับ Paris Fashion Week Spring/Summer 2018 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 กันยายน ถึง 3 ตุลาคม 2560 ซึ่งพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จเข้าร่วมงานแฟชั่นโชว์ระดับโลกในครั้งนี้เหมือนกับปีที่ผ่านๆมา โดยพระองค์หญิงทรงได้รับการ์ดเชิญจากแบรนด์ชั้นนำเพื่อให้เข้าร่วมชมโชว์อยู่แล้วทุกครั้งที่มีการจัดขึ้น

เมื่อพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จออกมาพร้อมแฟชั่นอันงดงาม สื่อต่างชาติเองก็ไม่รอช้าที่จะบันทึกภาพเจ้าหญิงไทยไว้ และเผยแพร่ภาพของพระองค์หญิงด้วยความชื่นชมในพระปรีชาสามารถของพระองค์ ทั้งในเรื่องที่ทรงเป็นดีไซเนอร์และการแต่งพระองค์ที่พระสิริโฉมสะดุดตาเข้ากับพระองค์เองได้อย่างสมบูรณ์แบบ

วันนี้แพรวดอทคอมก็ขอย้อนรอยนำเสนอแฟชั่นฉลองพระองค์ของพระองค์หญิงที่ทรงเสด็จไปทอดพระเนตรปารีสแฟชั่นวีคในครั้งนี้มาให้ดูกัน

 

เริ่มด้วยฉลองพระองค์ในวันแรกของแฟชั่นโชว์ พระองค์หญิงทรงใส่เดรสจาก Christian Dior ภาพ : AFP PHOTO / Patrick KOVARIK

1

โชว์ของ Chloé พระองค์หญิงทรงแต่งด้วยฉลองพระองค์สีขาว การแต่งพระพักตร์ที่มีความหวานละมุน เข้ากันได้อย่างลงตัวกับฉลองพระองค์

1

เจ้าหญิงไทยทรงสวมชุดจาก Sirivannavari แบรนด์ของพระองค์เอง ทรงสง่างามมาก

1

พระองค์หญิงทรงเลือกชุดที่ทะมัดทะแมง คล่องตัว เพื่อเสด็จทอดพระเนตรโชว์ของ Balmain

1

พระองค์หญิงทรงเลือกฉลองพระองค์ในลุคนี้ได้เข้ากันมาก

1

วันสุดท้ายพระองค์หญิงเสด็จทอดพระเนตรโชว์ของ Chanel ซึ่งมาในฉลองพระองค์แบบเรียบง่าย แต่พระสิริโฉมมาก ภาพ : AFP PHOTO / FRANCOIS GUILLOT

 

ไม่ว่าจะเสด็จไปทอดพระเนตรแฟชั่นโชว์ของแบรนด์ไหน พระองค์หญิงก็มีพระสิริโฉมงดงามเสมอ แพรวดอทคอมเห็นแล้วประทับใจทุกลุค เพราะออกมาดีจริงๆ และรอติดตามตลอดว่าวันต่อไปพระองค์หญิงจะทรงแต่งพระองค์แบบไหน และทุกครั้งก็เป็นไปตามคาด ดีงามเหลือเกินนน

 

เรื่อง : Hana_แพรวดอทคอม (ฮานะ)

ภาพ : IG@sirivannavari_shop , AFP PHOTO Patrick KOVARIK

 

พระเมรุมาศ ในหลวงรัชกาลที่ 9

พระเมรุมาศบุษบก 9 ยอด: โอฬารสมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9

พระเมรุมาศ ในหลวงรัชกาลที่ 9
พระเมรุมาศ ในหลวงรัชกาลที่ 9
ในห้วงแห่งความโศกเศร้าครั้งยิ่งใหญ่ที่ยังคงอยู่ สนามหลวง อันเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีสำคัญ โดยมีฉากหลังเป็นภาพความวิจิตรงดงามของพระบรมมหาราชวังอันตระการตากำลังปรับพื้นที่เพื่อเป็น ทุ่งพระเมรุสำหรับประดิษฐาน พระเมรุมาศท่ามกลางคราบน้ำตาของคนไทยที่ยังไม่เหือดแห้ง

ตามธรรมเนียมที่สืบทอดกันมา การสร้าง “พระเมรุมาศ” จะถูกเตรียมการทันทีที่พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต โดยมีข้อกำหนดตามโบราณราชประเพณีที่สืบต่อยาวนาน มีพัฒนาการในแต่ละยุคสมัยภายใต้คติ ความเชื่อ และวัฒนธรรมอันซับซ้อน ที่ปรากฏออกมาเป็นผลงานทางศิลปะและสถาปัตยกรรมอันงดงามและยิ่งใหญ่แห่งยุคสมัย

เนื่องในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานพิธีบวงสรวงยกเสาเอกพระเมรุมาศที่ท้องสนามหลวงไปแล้วเรียบร้อย วันนี้ แพรวดอทคอม จึงขอนำสาระน่ารู้เกี่ยวกับการเตรียมการพระเมรุมาศบุษบก 9 ยอด เพื่องานถวายพระเพลิงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 มาให้ได้รับทราบกัน

แบบพระเมรุมาศบุษบก 9 ยอด พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา รัฐบาลได้เปิดเผยแบบพระเมรุมาศ งานถวายพระเพลิงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 หลังจากที่กรมศิลปากรรับผิดชอบการออกแบบ โดยใช้เวลาประมาณเดือนเศษนับแต่วันเสด็จสวรรคต ผ่านการเสนอคณะรัฐมนตรี และผ่านการทูลเกล้าฯถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อทรงพระวินิจฉัย แล้วสรุปรูปแบบพระเมรุมาศที่ดำเนินการก่อสร้างในครั้งนี้เป็นรูปทรงบุษบกตามแบบตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แต่พระเมรุมาศครั้งนี้มี 9 ยอด ยิ่งใหญ่โอฬารกว่าที่ผ่านมา

นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการจัดสร้างพระเมรุมาศ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการออกแบบครั้งนี้ว่า ได้กำหนดกรอบแนวคิดตามอย่างโบราณราชประเพณีไว้ 3 ประการ คือ

1. ต้องสมพระเกียรติ เพราะครั้งนี้เป็นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ซึ่งพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระมหากษัตริย์ครั้งล่าสุด คือเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2493 คือพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 และตลอดรัชสมัยที่ผ่านมาก็มีเพียงงานพระเมรุของสมเด็จพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นผู้ใหญ่

2. ออกแบบตามหลักราชประเพณีโบราณ โดยยึดแบบสมัยรัตนโกสินทร์ เพราะแบบของสมัยอยุธยานั้นไม่มีรูปแบบที่เป็นหลักฐาน จึงดูแบบพระเมรุมาศของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8

3. การออกแบบครั้งนี้ยึดหลักไตรภูมิตามคัมภีร์พระพุทธศาสนาและความเชื่อว่า พระมหากษัตริย์คือสมมุติเทพตามระบบเทวนิยม ซึ่งจาก 3 แนวคิดหลักนี้ได้ปรากฏเป็นแบบพระเมรุมาศในครั้งนี้ คือ แบบทรงยอดบุษบก องค์หลักจะอยู่กึ่งกลาง อันหมายถึงเขาพระสุเมรุ อีก 8 มณฑปที่อยู่รายรอบนั้นหมายถึงเขาสัตบริภัณฑ์ อันหมายถึงระบบจักรวาล

สำหรับในส่วนงานสถาปัตยกรรมที่ต้องก่อสร้างอาคารแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ

1. กลุ่มอาคารในมณฑลพิธี ณ ท้องสนามหลวง ประกอบด้วย พระเมรุมาศ เป็นประธานในมณฑลพิธี ออกแบบโดยยึดถือคติตามโบราณราชประเพณีรูปแบบเฉพาะสำหรับพระมหากษัตริย์ เป็นพระเมรุมาศทรงบุษบก สูงถึง 50.49 เมตร มีชั้นเชิงกลอน 7 ชั้น ผังพื้นที่ใช้งานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดกว้างด้านละ 60 เมตร มีบันไดทั้งสี่ด้าน ฐานยกพื้นสูงมี 7 ชั้น ชั้นบนที่มุมทั้งสี่ ประกอบด้วยสำซ่างทรงบุษบก ชั้นเชิงกลอน 5 ชั้น สำหรับพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม ฐานชั้นที่ 2 ประกอบด้วยซุ้มทรงบุษบกรูปแบบเดียวกัน รวมสิ่งก่อสร้างมีเครื่องยอดนับรวมได้ 9 ยอด

พระที่นั่งทรงธรรม เป็นอาคารชั้นเดียวยกฐานสูงขนาด 44.50 เมตร ยาว 155 เมตร ตั้งอยู่กึ่งกลางด้านทิศตะวันตกของพระเมรุมาศ สำหรับเป็นที่ประทับและบำเพ็ญพระราชกุศลในการพระราชพิธี และเป็นที่สำหรับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เฝ้า โดยเตรียมพื้นที่สำหรับผู้เข้าร่วมพระราชพิธีประมาณ 2,800 ที่นั่ง ซึ่งเป็นพระที่นั่งที่มีขนาดใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพื่อรองรับพระราชอาคันตุกะและอาคันตุกะที่จะเดินทางมาร่วมพระราชพิธีจำนวนมาก

นอกจากนั้นยังมี ศาลาลูกขุน เป็นที่เฝ้าของข้าราชการ ทับเกษตร ใช้เป็นที่สำหรับข้าราชการที่มาในพระราชพิธีพักและฟังสวดพระอภิธรรม และ ทิม สำหรับเจ้าพนักงาน พระสงฆ์ แพทย์หลวงพัก และใช้เป็นที่ตั้งเครื่องประโคมและทำเป็นห้องสุขา

2. กลุ่มอาคารนอกมณฑลพิธี ได้แก่ เกยลา บริเวณกำแพงแก้ว พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พลับพลาหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พลับพลาหน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท และพลับพลายกหน้ามณฑลพิธีท้องสนามหลวง ส่วนลวดลายประกอบ ทั้งที่เป็นชั้นฐาน หรือประติมากรรมที่ประกอบในพระเมรุมาศ ทั้งหมดจะสะท้อนถึงเรื่องระบบจักรวาลที่มีเขาพระสุเมรุเป็นศูนย์กลาง ไม่ว่าจะเป็นชั้นครุฑ ชั้นเทพ หรือเทวดา รวมถึงสัตว์หิมพานต์

นอกจากนี้สิ่งที่เป็นพิเศษในครั้งนี้คือ เสาโคมจะใช้เป็นเสาครุฑ เพราะครุฑคือพาหนะของพระนารายณ์ โดยแนวคิดสมมุติเทพนั้น พระนารายณ์อวตารลงมาเป็นพระมหากษัตริย์ ซึ่งงานพระเมรุที่ผ่านมาล้วนเป็นเสาหงส์ สำหรับการออกแบบภูมิทัศน์จะมีการศึกษาเรื่องที่เกี่ยวกับโครงการต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เช่น กังหันชัยพัฒนา เครื่องดันน้ำ การปลูกหญ้าแฝก ฯลฯ จะถูกนำมาใช้ในการออกแบบและปรับปรุงภูมิทัศน์ ด้านงานเรื่องศิลปกรรม ไม่ว่าจะเป็นเทพ เทวดา สัตว์หิมพานต์ สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะยึดตามคติความเชื่อของระบบจักรวาล อันเกี่ยวกับสมมุติเทพทั้งหมด ซึ่งเป็นไปตามราชประเพณีที่มีมาตั้งแต่อดีต

อย่างไรก็ตาม สำหรับการสร้างพระโกศจันทน์และพระโกศทองคำที่จะบรรจุพระบรมอัฐินั้น แบบเสร็จเรียบร้อยทั้งหมด และได้ลงมือดำเนินการแล้ว ซึ่งเป็นไปตามราชประเพณีทุกประการ ขั้นตอนที่ได้ดำเนินการต่อมาคือ พิธีบวงสรวงบูรณปฏิสังขรณ์พระราชรถและพระราชยานมาศ เพื่อใช้ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2559 และมีพิธียกเสาเอก พิธีตอกหมุดจุดกึ่งกลางพระเมรุมาศ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม และล้อมรั้วเพื่อเริ่มก่อสร้างพระเมรุมาศเมื่อวันที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งทุกอย่างกำหนดไว้ว่าต้องแล้วเสร็จก่อนเดือนกันยายน 2560

นั่นหมายถึงว่า พระราชพิธีครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งคนไทยทั้งมวลไม่อยากให้มาถึง จะเกิดขึ้นภายในสิ้นปีนี้

 

ภาพรวมพระเมรุมาศและสิ่งปลูกสร้างประกอบ เมื่อมองจากทิศตะวันออก ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
ผังบริเวณพระเมรุมาศและสิ่งปลูกสร้างประกอบ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
ทางด้าน นายก่อเกียรติ ทองผุด นายช่างศิลปกรรม สำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร ผู้ออกแบบพระเมรุมาศองค์ประวัติศาสตร์นี้ได้เล่าว่า

“แรกสุดที่ผมได้รับการประสานงานจากนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม และนายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ รองอธิบดีกรมศิลปากร ให้ออกแบบพระเมรุมาศ ผมได้สเก็ตช์ภาพพระเมรุมาศยอดบุษบกไว้ 3 รูปแบบ คือ 1. พระเมรุมาศทรงบุษบกยอดเดียว 2. พระเมรุมาศทรงบุษบก 5 ยอด และ 3. พระเมรุมาศทรงบุษบก 9 ยอด สาเหตุที่สเก็ตช์ไว้หลายแบบเพราะ พล.อ.ต.อาวุธ เงินชูกลิ่น อดีตอธิบดีกรมศิลปากรและศิลปินแห่งชาติที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งผมได้ทำงานใกล้ชิดกับท่านมาตลอด ท่านสอนไว้ว่า การออกแบบให้เจ้านายนั้นควรเตรียมทางออกไว้หลายๆ ทาง เพื่อตอบคำถาม ดังนั้นผมจึงสเก็ตช์ภาพพระเมรุมาศยอดบุษบกที่เคยมีมาในอดีตทั้งหมด นั่นคือ พระเมรุมาศทรงบุษบก 5 ยอด คล้ายกับพระเมรุมาศของรัชกาลที่ 5 พระเมรุมาศทรงบุษบกยอดเดียว คล้ายกับของรัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 8 แต่สำหรับพระเมรุมาศทรงบุษบก 9 ยอดนั้นไม่เคยมีในประวัติศาสตร์มาก่อน

“ส่วนตัวผมชอบทรงบุษบก 9 ยอดมากที่สุด เพราะสื่อถึงรัชกาลที่ 9 แต่ตอนเขียนแบบคืนนั้น หลังจากเขียนเสร็จแล้วยังรู้สึกไม่สุดใจ จนใกล้รุ่งราวตี 4 สายตาเหลือบไปเห็นภาพพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ปักหมุดไว้ข้างฝาในห้องทำงาน ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของหม่อมราชวงศ์มิตรารุณ เกษมศรี เห็นแล้วขนลุก และเกิดไอเดียในการจัดวางยอดที่ให้ความรู้สึกว่าเป็นอิสระ

“เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีรับสั่งให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นแม่งานในการออกแบบพระเมรุ ท่านอธิบดีได้นำผมเข้ากราบบังคมทูลถวายรายงานในวันที่ 15 ตุลาคม เพื่อทรงพระวินิจฉัย พระองค์ท่านรับสั่งว่า สวยหมดทุกแบบ แต่ทรงปรารภว่า ‘ไม่ให้เหมือนที่เคยมีมา’ ถึง 3 ครั้ง ท้ายที่สุดทรงเลือกทรงบุษบก 9 ยอดนี้ รับสั่งว่า ‘อิสระ ลดหลั่น สวยงาม’ แล้วมีรับสั่งถามผมว่า แล้วคนออกแบบชอบแบบไหน ผมกราบบังคมทูลตอบว่า ชอบแบบ 9 ยอดครับ พูดราชาศัพท์ผิดๆ ถูกๆ เพราะตื่นเต้น

“ผมไม่ได้ภูมิใจที่ทรงเลือกแบบที่ผมเขียน เพราะไม่มีใครหรอกที่อยากจะให้มีการใช้พระเมรุมาศเกิดขึ้น เพราะการออกแบบพระเมรุแต่ละครั้งหมายถึงการสูญเสียพระมหากษัตริย์หรือเจ้านายแต่ละองค์ไป แต่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเป็นหน้าที่ของคนกรมศิลป์ที่ต้องถวายงานในการออกแบบให้ดีที่สุด ในตอนนั้นผมยังได้กราบบังคมทูลถามเกี่ยวกับศิลปกรรมที่จะใช้ตกแต่งพระเมรุมาศ พระองค์ท่านรับสั่งว่า ให้เป็นจินตนาการของศิลปิน

“หลังการเข้าเฝ้าฯ ผมกลับมาปรับแบบให้สอดคล้องกับการใช้ประโยชน์มากขึ้น เพราะต้องมีหีบพระบรมศพและพระบรมโกศประดิษฐานบนจิตกาธานด้วย โดยต้องมีเตาน้ำมันวางซ่อนอยู่ในจิตกาธาน ทั้งนี้ที่ไม่ใช้เตาไฟฟ้า เพราะควบคุมการไหม้ยาก ไม่สะดวกต่อการใช้งาน และการใช้เตาไฟฟ้ายังปลอดภัยน้อยกว่าเตาน้ำมันด้วย

“หลังจากนี้การลงมือก่อสร้างพระเมรุมาศก็จะคืบหน้าไปเรื่อยๆ ซึ่งทุกฝ่ายที่รับผิดชอบในหน้าที่ต่างๆ ก็ดำเนินการไปอย่างเต็มที่ บางคนอาจคิดว่า ทำไมทำพระเมรุมาศของพระองค์ท่านใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา โดยไม่คิดถึงพระราชดำริในเรื่องความพอเพียง ซึ่งผมอยากบอกว่า พระองค์ท่านไม่เคยมีรับสั่งในเรื่องการทำพระเมรุ แต่การออกแบบพระเมรุมาศคือการเฉลิมพระเกียรติ และเป็นที่รู้กันดีว่าพระองค์ท่านทรงเป็น ‘คิงออฟเดอะคิงส์’

“ดังนั้นพวกเราจึงตั้งใจทำถวายให้สมพระเกียรติที่สุด”

 


ที่มา: นิตยสารแพรว ปักษ์ 898 วันที่ 25 มกราคม 2560 คอลัมน์ บทความพิเศษ

ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์

ไม่ได้ดีแค่เรื่องเดียว จัด 5 ผลงานเด่น ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์ ที่กำลังขโมยใจคนดูใน นายฮ้อยทมิฬ

ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์
ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์

แสดงเก่งขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์ วัชรตระกูล นักแสดงสาวสวยคมสังกัดช่อง 7 ดีกรีมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สประจำปี พ.ศ. 2553 และตัวแทนสาวไทยเข้าร่วมประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2010 ที่สหรัฐอเมริกา

มีผลงานละครเรื่อง “นายฮ้อยทมิฬ” กำลังออนแอร์ประกบคู่พระเอก ไมค์-ภัทรเดช สงวนความดี ทางช่อง 7 ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30-22.40 น. อยู่ตอนนี้ ซึ่งฉายไปเพียงไม่กี่ตอนก็ได้รับกระแสดี เรตติ้งพุ่งสูงแตะเกินเลข 7 ตลอด โดยละครเรื่องนี้เป็นผลงานของผู้กำกับ ธงชัย ประสงค์สันติ แห่งค่ายพอดีคำ เอ็นเทอร์เทนเมนต์

หากใครได้ติดตามผลงานของปุ๊กลุกอย่างใกล้ชิด หรือแม้จะติดตามห่างๆ ช่วงที่ผ่านมาหลายคนน่าจะคุ้นชื่อเธอกันมากขึ้น จากจุดเริ่มต้นฝีมือแสดงอาจไม่ได้เฉิดฉายมากนัก แต่เพราะความไม่หยุดพัฒนาตัวเองและความตั้งใจจริงในอาชีพนักแสดง ก็ทำให้สาวปุ๊กลุกมีผลงานแสดงเด่นขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถคว้ารางวัลนักแสดงหญิงแห่งปี Nine Entertain Awards 2016 ได้สำเร็จ รวมถึงยังมีผลงานละครดีๆออกมาให้แฟนๆได้ชมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้ละครของเธอที่หลายคนจับตาเลยก็คือ แม่อายสะอื้น ที่นางเอกรุ่นพี่ นุ่น-วรนุชเคยสร้างตำนานเอาไว้

ปัจจุบันชื่อของปุ๊กลุกได้กลายเป็นเครื่องการันตีความสนุกของละครไปแล้ว ซึ่งก็มีเสียงจากแฟนละครว่า รู้ตัวอีกทีถ้าละครมีชื่อของปุ๊กลุกก็จะเตรียมชมทันที จนล่าสุดเรื่องนายฮ้อยทมิฬ เธอก็ไม่ได้ทำให้แฟนๆผิดหวัง เพราะนอกจากการแสดงจะเป็นธรรมชาติแล้ว การพูดภาษาอีสานทั้งเรื่องแม้ไม่ใช่คนอีสานแท้ ปุ๊กลุกก็ทำได้ดีมากๆ จนรู้เลยว่าเธอทำการบ้านมาหนักทีเดียว

วันนี้แพรวดอทคอมจึงขอพาไปย้อนชมผลงานละครเด่นของ ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์ ที่ได้รับการพูดถึงมากเป็นพิเศษ บอกเลยว่า ไม่ได้มีดีแค่เรื่องเดียวจริงๆ 

เรือนกาหลง 

ไม่ใช่ละครเรื่องแรก แต่เรื่องนี้ทำให้หลายคนหลงรักปุ๊กลุกอย่างมาก ซึ่งเธอได้รับคำชื่นชมไปในทางเดียวกันว่าเล่นได้พอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป ทั้งสายตา อารมณ์ ก็เล่นได้เข้าใจว่ารู้สึกโกรธ เศร้า รัก ร้องไห้ได้มีอินเนอร์ การพูดจาก็พูดได้เป็นธรรมชาติไม่เหมือนท่องบทมา รวมถึงเมื่อหน้าคมไทยๆสวมชุดไทยในเรื่องก็ทำให้ปุ๊กลุกแจ้งเกิดขึ้นมาอีก เรื่องนี้ปุ๊กลุกรับบทกาหลง ประกบคู่นิว-วงศกร

รอยรักแรงแค้น

ขึ้นแท่นนางเอกเจ้าน้ำตาในรอยรักแรงแค้น รับบทมุกริน ประกบพระเอก ไมค์-ภัทรเดช และโบว์-ธัญญะสุภางค์ เรื่องนี้ถือเป็นอีกเรื่องที่ปังสุดของเธอเลยก็ได้ โดยเฉพาะฉากดราม่าที่มีแฟนๆชมปุ๊กลุกว่าร้องไห้เก่ง ซึ่งนางเอกตาคมก็พยายามเต็มที่ ไม่อยากให้ดูเป็นการเค้นน้ำตา แต่เลือกทำความเข้าใจบทและตัวละครจนร้องไห้ตามอินเนอร์ออกมา นอกจากนี้เรื่องภาพ บรรยากาศ เนื้อเรื่องของละครก็ส่งให้ปุ๊กลุกด้วย เป็นผลงานที่ได้รับคำชื่นชมมากทีเดียว

เพื่อนแพง

เรตติ้งตอนจบคว้าไปถึง 13.8 สูงมาก พร้อมแฮชแท็กลา #ร้องไห้หนักมาก ที่ทำให้แฟนละครร้องไห้น้ำตาท่วมจอตามกันหลายคน โดยเฉพาะตอนจบที่ปุ๊กลุกรับบทแพง แท้งตายไปพร้อมกับลูกที่เกิดกับเจ้าลอ (เวียร์-ศุกลวัฒน์) ก่อนที่เจ้าลอจะฆ่าตัวตายตามเพื่อยืนยันคำสาบานที่มีต่อเพื่อนและเสียใจที่เป็นเหตุทำให้แพงตาย เรื่องนี้เป็นเรื่องราวโศกนาฏกรรมรักสามเส้าระหว่างเจ้าลอกับลูกสาวสองคนของพ่อเฒ่า คือ เพื่อน (ยุ้ย-จีรนันท์) และแพง (ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์) ด้วย

อตีตา

โด่งดังข้ามประเทศไปถึงจีน ด้วยแฟนคลับจีนของพระเอกอ๋อม-อรรคพันธ์ ได้นำโปสเตอร์ละครไทยเรื่องอตีตา บทประพันธ์ของทมยันตีไปช่วยโปรโมต ทำให้ฐานแฟนคลับของคู่พระนาง อ๋อม-ปุ๊กลุก ขยายเพิ่มไปอีก เรื่องนี้เป็นเรื่องประวัติศาสตร์ศึกบางระจัน ในสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา ที่นำเสนอเรื่องการเดินทางต่างภพระหว่างอดีตและปัจจุบันมาบรรจบกัน และเป็นอีกเรื่องที่ปุ๊กลุกรับบทกาหลง/ลติกา แสดงได้ดี ได้รับคำชื่นชมมาก ซึ่งภาพโดยรวมไม่ว่าจะเนื้อเรื่อง ทีมงาน ทีมนักแสดงจากเรื่องนี้ก็ถือว่ากลมกล่อมลงตัวอย่างมาก

นายฮ้อยทมิฬ

ส่งท้ายด้วยนายฮ้อยทมิฬ ที่กำลังออนแอร์อยู่ตอนนี้ ซึ่งฉายไปเพียงไม่กี่ตอน เสียงคำชื่นชมก็พุ่งขึ้นเรื่อยๆแล้ว โดยเฉพาะเนื้อเรื่องที่นำเสนอชีวิตชาวบ้านในพื้นที่ จ.สกลนคร ก่อนปี 2500 ที่มีความแห้งแล้ง นักแสดงทุกคนต้องพูดภาษาอีสาน ซึ่งนางเอกตาคมอย่างปุ๊กลุก ที่รับบทคำแก้ว แม้จะไม่ใช่คนอีสานแท้ แต่กลับพูดภาษาอีสานได้เป็นธรรมชาติและไหลลื่นมากๆ จึงทำให้รู้ว่าเธอได้ทำการบ้านมาหนักทีเดียว ซึ่งผลตอบรับก็เรียกว่าคุ้มค่ากับหยาดเหงื่อที่ลงแรงไป เรื่องนี้ปุ๊กลุกประกบคู่ไมค์-ภัทรเดช รับบทนายฮ้อยเคน นายฮ้อยค้าควายผู้เก่งกาจ ทั้งดูแลคนในทัพ ปราบโจร สัตว์ ผีสางนางไม้ และในเรื่องเป็นสามีของพี่สาวปุ๊กลุก ที่ภรรยาเสียชีวิตเพราะโดนศัตรูบุกฆ่า การเคียงบ่าเคียงไหล่ สู้รบกับความลำบาก กับคนที่มีทั้งความโลภ ความเห็นแก่ตัว ก็ทำให้ปุ๊กลุกและไมค์เกิดความเห็นใจต่อกันจนพัฒนาเป็นความรัก

ตัวอย่างคลิปวิดีโอปุ๊กลุกเว้าอีสานในนายฮ้อยทมิฬ


เรื่อง: บะหมี่กุ๊งกิ๊ง_แพรวดอทคอม
ภาพ: IG @pooklook_fonthip #อตีตา #รอยรักแรงแค้น , https://pantip.com/topic/31302784, https://pantip.com/topic/33861325

keyboard_arrow_up