เปิดคอนโดหรู “มัดหมี่ – พิมดาว” เติมพลังชีวิตตามศาสตร์ฮวงจุ้ยกับ “ซินแสสมปอง”

account_circle

ถือเป็นกรณีพิเศษจริงๆ ที่ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์ฮวงจุ้ย เจ้าของรายการ “ซินแสสมปอง – FuFengshui” ทางช่องยูทูบมาช่วยเผยเคล็ดลับความสมดุลของพลังชีวิต ที่ศาสตร์จีนโบราณเรียกขานกันว่า หยิน และ หยาง โดยนำหลักนี้มาใช้แก้ปัญหาองค์กร ชีวิตส่วนตัว ไปจนถึงเรื่องสุขภาพ

นอกจากนี้ “ซินแสสมปอง” ยังเป็นที่ปรึกษาด้านฮวงจุ้ย FuFengshui – The World Fengshui Solution Consultant ไขรหัสลับชีวิต พลิกฟื้นชะตา ด้วยการปรับฮวงจุ้ยตามศาสตร์ซานเหอและซานหยวน ที่ปรึกษาจัดฮวงจุ้ยระดับอาจารย์ ประสบการณ์นานกว่า 25 ปี ทำให้ฮวงจุ้ยเป็นเรื่องง่าย และพิสูจน์ได้จริงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งไทยและต่างประเทศ เช่น อเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ ญี่ปุ่น เป็นต้น

ครั้งนี้ แพรว ชวนสาวสวยมากความสามารถ “มัดหมี่ – พิมดาว พานิชสมัย” นักแสดงและเจ้าของธุรกิจ Digital & Event Creator ภายใต้ชื่อ Follow the star เปิดคอนโดหรู แล้วเชิญซินแสสมปองมาให้คำแนะนำ โดยเฉพาะด้านสุขภาพ ที่ระยะหลังถือว่ากระทบต่อการใช้ชีวิตของเธอพอสมควร

“ปีที่แล้วมัดหมี่เข้าโรงพยาบาล 3 รอบค่ะ จากที่ไม่เคยแอดมิดเลย ช่วงนั้นงานเยอะ มีวันหนึ่งต้องถ่ายละครท่ามกลางควันกว่า 6 ชั่วโมง จนต้องเข้าโรงพยาบาล ปรากฏว่าค่าเม็ดเลือดขาวขึ้นสองหมื่นกว่า แสดงให้รู้ว่าร่างกายกำลังอักเสบ ตามด้วยเป็นไข้หวัดใหญ่ พออาการดีขึ้นก็มีอาการไทรอยด์เป็นพิษอีก คือร่างกายพังมาก”

ซินแสสมปองไขข้อสงสัยนี้ว่า “หลักของฮวงจุ้ยคือ ความสมดุลระหว่างหยินกับหยาง ส่วนที่เหลือเป็นเรื่องของการนำมาใช้งาน ถ้าไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้ อาจไม่ทราบว่าพลังดีและพลังเสียอยู่ตรงไหนบ้าง โดยหลักพื้นฐานแล้วพลังเสียจะอยู่ที่ธาตุหยิน ถ้าเทียบตามหลักวิทยาศาสตร์ เช่น ห้องนอนอับชื้นซึ้งเป็นที่มาของเชื้อรา คือพลังหยิน พอเราไปอยู่อาศัย สุขภาพก็จะไม่ดี จึงต้องพยายามให้เป็นหยาง เพื่อทำให้พลังไม่ดีลดกำลังลง หรือแม้จำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่หยิน ก็จะไม่ป่วยหนักมาก

“หลายคนถามผมว่า ฮวงจุ้ยบ้านกับคอนโดมีความแตกต่างกันอย่างไร ความจริงไม่ได้ต่างกันจนเป็นนัยยะสำคัญ แต่คอนโดมีองค์ประกอบเยอะกว่า เราต้องดูตั้งแต่ประตูโครงการ ตัวตึกหันไปทางทิศไหน เมื่อเข้าไปภายในแล้ว โถงของคอนโดเป็นอย่างไร เดินไปที่ลิฟต์สะดวกไหม คับแคบ หรือเพดานต่ำไปไหม บางครั้งต้องดูไปถึงจำนวนลิฟต์ด้วยว่ามากน้อยอย่างไร คือทุกอย่างมีผลกระทบต่อคนอาศัยทั้งหมด ไม่ใช่แค่เจ้าของห้องใดห้องหนึ่งนะครับ อย่างคอนโดของคุณมัดหมี่ ทางเดินค่อนข้างกว้าง สว่าง ไม่อับลม แต่ถ้าสุดทางเดินทำเป็นช่องหน้าต่างเล็กๆ แล้วเปิดแง้มไว้ให้ระบายลม ก็จะช่วยให้พลังงานในแต่ละห้องดีขึ้นอีก”

ห้องนอน VS ห้องน้ำ

“เนื่องจากพื้นที่ห้องนอนของคุณมัดหมี่ เชื่อมติดกับห้องน้ำ โดยมีเพียง Walk in Closet คั่น เราต้องเข้าใจก่อนว่า ห้องน้ำเป็นพลังงานไม่ดี ขณะที่ห้องนอนควรมีแต่พลังงานสะอาด เพราะฉะนั้นห้องน้ำกับห้องนอนไม่ควรเชื่อมติดกัน เมื่อพลังที่ไม่ดีของห้องน้ำออกมาที่ตู้เสื้อผ้า แล้วไม่มีบานประตูปิดอย่างนี้ พลังไม่ดีก็จะตรงเข้าห้องนอนได้เลย กลายเป็นว่าตู้เสื้อผ้าคือประตูห้องน้ำไปโดยปริยาย แล้วยังชนกับเตียงพอดี ไม่ว่าจะโดนส่วนไหนของร่างกายก็จะมีอาการเจ็บป่วยตรงนั้น วิธีแก้ที่ดีที่สุดคือ การทำบานประตูปิด Walk in Closet

“อย่างที่ผมบอกเสมอว่า ถ้าฮวงจุ้ยแก้ได้ไม่สมบูรณ์ ตัวเราเองต้องช่วย อย่างเคสบ้านคุณมัดหมี่จะต้องเลือกว่า ถ้าแก้ไขตรงตู้เสื้อผ้าไม่ได้ ก็ต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น

“ในห้องนอนปิดม่าน ทำให้ห้องอับชื้น เกิดพลังหยิน แล้วกว่าจะกลับถึงบ้านก็มืดแล้ว ยิ่งเป็นการเพิ่มพลังหยินให้มากขึ้นไปอีก จนร่างกายอาจมีปัญหา นอกจากนี้ยังทำให้เฉื่อยชา หนักๆ เข้าจะแยกตัวออกจากสังคม

“ฉะนั้นเมื่อตื่นนอนตอนเช้า หลังจากทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ควรเปิดม่านหรือหน้าต่างเพื่อให้แสง ซึ่งเป็นพลังหยางได้ผ่านเข้ามา และยังช่วยให้อากาศถ่ายเท ถือเป็นหลักพื้นฐานของฮวงจุ้ยที่ทั้งคนอยู่บ้าน หรือคอนโดต้องทราบ

“สำหรับเตียงนอน เมื่อรวมกับพื้นที่ของห้องแล้ว ตำแหน่งเตียงจะมีดาวที่เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ เป็นเรื่องเกี่ยวกับภูมิแพ้ ระบบประสาทในร่างกาย และระบบไหลเวียนของหลอดเลือด ซึ่งส่วนใหญ่เราจะปิดจุดเสียด้วยการวางของสีแดง อย่างหมอน ภาพวาด แจกันดอกไม้ แต่ต้องเข้าใจว่า การวางของเป็นเพียงการปรับสมดุลของพลังเท่านั้น ไม่ได้ทำให้พลังไม่ดีหายไป แต่ถ้าไม่วางอะไรช่วยเลยในรอบ 360 วัน พลังก็แสดงตัวตลอด เมื่อเราวางไปแล้ว แม้การแสดงพลังยังอยู่ แต่จะสามารถ recover ร่างกายกลับมาได้”

ห้องครัวช่วยสร้างพลังหยาง

“อะไรก็ตามที่สร้างความร้อน ถือว่าเป็นพลังหยาง อย่างมุมครัวที่อยู่ภายในพื้นที่เดียวกับห้องนั่งเล่น ซึ่งเปิดแอร์ตลอดทั้งวัน ในทางฮวงจุ้ย เตาไฟจะส่งผลต่อธุรกิจการเงิน โชคดีที่เตาไฟอยู่ตำแหน่งที่ดีอยู่แล้ว ถ้าจะให้พลังเกิดความสมดุลควรเปิดเตาไฟเพื่อใช้งาน อย่างน้อยวันละ 1 – 2 ครั้ง จะต้มน้ำ ต้มบะหมี่ หรือทอดไข่ ได้หมด

“อย่างที่ผมพูดเสมอว่า การนำศาสตร์ฮวงจุ้ยมาใช้ได้ดีและเกิดประโยชน์ที่สุดคือการใช้เพื่อแก้ไขจุดเสีย หรือเปลี่ยนพลัง สร้างสมดุล ฮวงจุ้ย จึงไม่ได้เป็นแค่ความเชื่อ แต่เป็นภูมิปัญญาโบราณที่ส่งต่อกันมานับพันปี”

วันนี้ที่รอคอย! 'ฟลุค เกริกพล & นาตาลี' จัดฉลองมงคลสมรสสุดอลัง มี 'น้องนาตาชา' อบอุ่นครบทีม

วันนี้ที่รอคอย! ‘ฟลุค เกริกพล & นาตาลี’ จัดฉลองมงคลสมรสสุดอลัง มี ‘น้องนาตาชา’ อบอุ่นครบทีม

Alternative Textaccount_circle
วันนี้ที่รอคอย! 'ฟลุค เกริกพล & นาตาลี' จัดฉลองมงคลสมรสสุดอลัง มี 'น้องนาตาชา' อบอุ่นครบทีม
วันนี้ที่รอคอย! 'ฟลุค เกริกพล & นาตาลี' จัดฉลองมงคลสมรสสุดอลัง มี 'น้องนาตาชา' อบอุ่นครบทีม

หลังจากคู่รักสุดหวาน “ฟลุค เกริกพล มัสยวาณิช และ นาตาลี เจียรวนนท์” เข้าพิธีวิวาห์เมื่อปี 2563 แต่ต้องเลื่อนงานพิธีฉลองมงคลสมรสเนื่องจากสถานการณ์โควิด ซึ่งผ่านมากว่า 4 ปี ล่าสุดมีข่าวดีรับปีมังกรทอง ทั้งคู่ถือฤกษ์ดีจูงมือกันเข้าสู่พิธีฉลองมงคลสมรสในวันที่ 9 มีนาคม 2567 ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ถูกถ่ายทอดผ่านแฮชแท็ก #LeeFlukeEverAfterแสดงถึงความรักเรื่องราวของบ่าวสาว ความหมายคือเราก็จะอยู่ในความรู้สึกแบบนี้ตลอดไป รักกันตลอดไป ท่ามกลางบรรยากาศของความรักแสนอบอุ่น สไตล์สวนอังกฤษ เต็มไปด้วยดอกไม้โทนสีชมพูอ่อน สีโปรดของเจ้าสาว ความพิเศษของงานแต่งในครั้งนี้ก็คือการได้มีลูกสาวลูกชายของทั้งคู่ร่วมเป็นสักขีพยานทั้ง น้องนาตาชา และ น้องอชิ พร้อมหน้าพร้อมตา ซึ่งพิธีการฉลองมงคลสมรสในช่วงเย็น น้องอชิ นำขบวนเพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวเข้ามา และมี น้องนาตาชา รับหน้าที่โปรยดอกไม้ เจ้าสาว&เจ้าบ่าว (คุณพ่อและคุณแม่) สวยหล่อดุจดั่งเจ้าหญิงเจ้าชาย อบอุ่นสมกับเป็นงานแต่งในฝัน

สำหรับงานฉลองมงคลสมรสเจ้าบ่าวและเจ้าสาวได้เผยความรู้สึกว่า
นาตาลี : “ตื่นเต้นค่ะ เพราะเราตั้งใจจะจัดงานนี้มาตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว มีความจำเป็นต้องเลื่อนไปเนื่องจากโควิด ด้วยเวลามาลงตัวเป็นตอนนี้ รอคอยวันที่จะได้จัดมานาน สมความตั้งใจแล้ว เราสองคนพยายามทำให้เต็มที่หวังว่าทุกอย่างจะผ่านอย่างราบรื่น แขกทุกท่านแฮปปี้มีความสุขได้ฉลองไปกับเราค่ะ”
ฟลุค : “รอคอยมายาวนานจริงๆ ครับ แล้วก็เป็นวันที่น้องลีรอคอยมา 4 ปี แต่จริงๆ สำหรับผู้หญิงทุกคนที่เกิดมาบนโลกน่าจะเป็นความฝันของทุกคนที่รอคอยวันแต่งงาน อยากเป็นเจ้าสาว รู้สึกดีใจครับที่ได้ทำในสิ่งที่เค้าตั้งใจจะทำ เราก็เต็มที่กับงานแต่งจริงๆ ครับ”

(ภาพ “ฟลุค & นาตาลี” ช่วงแถลงข่าวเรื่องพิธีฉลองมงคลสมรสในวันนี้ (9 มีนาคม 2567) กับสื่อมวลชนที่มากันอย่างคับคั่ง ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ)

หลังจากใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมาแล้วเป็นอย่างไรบ้าง
นาตาลี : “เราค่อนข้างศึกษาดูใจกันมาเป็น 10 ปีเราเลยรู้จักกันและกันค่อนข้างเยอะมาก พอได้แต่งงานเมื่อสี่ปีที่แล้วแล้วได้ใช้ชีวิตอยู่กันจริงๆ แถมตอนนั้นเป็นโควิด หมายถึงว่าเป็นช่วงโควิดที่เค้ามีการกักตัวห้ามออกจากบ้าน คือช่วงเวลาที่เราแต่งงานเลยได้ใช้ชีวิตกันจริงๆ ก็คือดีนะคะ ไม่มีการทะเลาะใดๆ ก็รู้จักตัวตนกันมากขึ้นไปอีก เราค่อนข้างเป็นตัวเองกันอยู่แล้วเลยไม่มีอะไรให้เซอร์ไพรส์บวกกับเรามีลูกกันด้วยเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาก เหมือนเราดูแลลูกซะเยอะแล้วมาเจอโควิดอีก ชีวิตมันก็จะไม่ปกติมากเพิ่งจะมาปกติปีหลังๆ ที่แบบคนเริ่มชินกันแล้วก็..ถ้าถามว่าเปลี่ยนแปลงไหม ในความเป็นตัวเองก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง แต่มีความเป็นพ่อเป็นแม่มากขึ้น ห่วงลูกเยอะมาก เวลาของคนสองคนก็จะน้อยลงมากแล้วก็พยายามไปเติมความหวานด้วยกัน ออกไปเดทดินเนอร์กันบ้างที่มีสองคนหรือก็มีบ้างนานๆ ทีที่ไปทริป”

(ภาพ “ฟลุค & นาตาลี” ช่วงแถลงข่าวเรื่องพิธีฉลองมงคลสมรสในวันนี้ (9 มีนาคม 2567) กับสื่อมวลชนที่มากันอย่างคับคั่ง ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ)

ทั้งคู่มีอะไรอยากบอกซึ่งกันและกัน?
ฟลุค : “อยากขอบคุณที่เป็นภรรยาที่น่ารัก สม่ำเสมอ เป็นแม่ที่ดีกว่าที่หวังเอาไว้ด้วยซ้ำ รู้สึกโชคดีที่เราได้มีลูกที่น่ารักมาก แล้วลีก็เป็นแม่ที่น่ารักจริงๆ”
นาตาลี : “พี่ฟลุคเขาไม่ใช่คนที่หวานและก็โรแมนติก แต่เขาก็แสดงให้รู้ตลอดว่าเขารักนะ เขาห่วงนะ เขาก็จะมีวิธีดูแลเราในแบบของเขา ซึ่งไม่เหมือนใคร ทำให้เรารับรู้ได้ว่าเขารักแล้วห่วง ในขณะเดียวกันยิ่งตอนนี้เรามีลูก เราเป็นไม่ใช่แค่สามีภรรยาอย่างเดียว แต่เราเป็นพ่อและแม่ของลูกแล้ว ก็คือประทับใจว่าเขาก็เป็นพ่อที่น่ารักจริงๆ แล้วก็พยายามดูว่าเราขาดตรงไหนไหม เขาก็จะคอยดูแลเราแบบที่ไม่ได้หวานมากแต่รู้ว่าดูแล รวมถึงดูแลนาตาชาด้วย ก็ประทับใจที่ผ่านมาถ้านับจากวันที่คบกันจนวันนี้ก็ 14 ปีแล้ว เขาก็คือยังเป็นเขาคนเดิมที่ก็ทำให้เรารับรู้ได้ตลอดว่าเขารักเรานะด้วยวิธีของเขา ขอบคุณเค้ามากค่ะ”

ก่อนมาถึงวันนี้น้องนาตาชาตื่นเต้นไหม? เตรียมพร้อมยังไงบ้าง?
นาตาลี : “น้องนาตาชาก็ยังไม่รู้หรอกค่ะว่าการแต่งงานคืออะไร ก็บอกเขาตั้งแต่แรกแล้วค่ะว่านาตาชาจะไปงานแต่งงานของแม่แม่กับก่าก๊านะ ใส่ชุดสวยๆ สีขาวถือดอกไม้ ต้องทำแบบนี้นะ เราก็ไม่รู้ว่าเค้าจะทำได้แค่ไหน เป็นเด็กจะหวังอะไรมากก็ไม่ได้ เราตัดชุดให้นาตาชาให้คล้ายของแม่ที่สุด เอาไว้สองชุดซึ่งชุดแรกก็จะคล้ายแม่ได้มากหน่อยแต่ชุดที่สองที่เป็นชุดพิธีจะคล้ายมากไม่ได้เพราะชุดแม่มันหนักอลังการมาก ปักทั้งตัว ซึ่งจะให้นาตาชาใส่แบบนั้นคงไม่ไหว เพราะมันจะหนักและแบบไม่เหมาะกับเด็ก เราก็ดีไซน์ให้คล้ายเราให้มีความเป็นเด็กให้มากที่สุด ให้มีฟีลคล้ายๆ เรา ที่ลุ้นมากตอนนี้คือนาตาชาเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเองแล้วเค้าจะเลือกชุดเองอะไรเอง อยู่ดีๆ ช่วงหลังกลัวชุดฟู ไม่ใส่เลย เลยปรับแบบให้มินิมอลที่สุด หวังว่าเค้าจะใส่ เพราะเด็กบังคับไม่ได้ก็หวังว่าวันนี้จะราบรื่น แต่ก็ทำใจแล้วว่าอะไรจะเกิดก็เกิดอย่างน้อยเค้าก็ได้มาร่วมงานดีที่สุดแล้ว ไม่ได้บังคับใจเขาเกินไป ช่วยกันลุ้นหน่อยนะคะว่าจะได้ใส่ชุดที่เตรียมมาไว้หรือเปล่า”

น้องนาตาชาพูดเก่งน่ารักมาก เค้าบอกอะไรกับคุณพ่อคุณแม่ไหม?
นาตาลี : “ก็คือว่าพอรู้ว่าจะมีงานแต่งงานแม่แม่จะได้ใส่ชุดขาว จะได้ถือดอกไม้ เวลาที่บอกจากที่บ้าน เค้าก็จะตื่นเต้น ชาจะถือดอกไม้ ชาจะไปงานแม่แม่ แม่แม่จะต้องสวยสวย ชาจะต้องสวย ก๊าจะต้องหล่อมาก เพราะเราจะพูดแนวว่าไปงานเต้นรำ เพื่อบอกให้เค้าเห็นภาพว่าเป็นงานเต้นรำเป็นงานแต่งงาน เป็นงานพิเศษเพื่อจะบิวต์เค้า ให้เค้าใส่ชุดสวยๆ เค้าก็น่ารักทำเป็นตื่นเต้นใหญ่ ชาจะได้ไปงานจะได้ใส่ชุดสวย แม่จะสวย ก๊าจะหล่อ”

จะมีฮันนีมูนอีกไหม? จะมีน้องให้นาตาชาอีกไหม? (ถ้ามี) อยากได้ลูกสาวหรือลูกชาย อีกกี่คน? มีแพลนยังไง?
นาตาลี : “จะมีน้องให้นาตาชาอีกไหม อันนี้ยังเป็นเรื่องที่เรายังตกลงกันอยู่ เดี๋ยวถ้ายังไงถ้ามีจริงก็คงได้รู้อีกไม่นาน ถ้าไม่มีก็ไม่มีแล้วค่ะปีนี้ แต่ถ้าถามจำนวน ก็คือถ้าตกลงว่าจะมีก็จะมีอีกคนพอค่ะ ส่วนจะเป็นลูกชายหรือลูกสาวที่อยากได้ก็ไม่เลือกค่ะ ตอนแรกก่อนที่มีนาตาชาก็คิดไว้อยากมีลูกสองคนชายหนึ่งหญิงหนึ่งมันจะเฟอร์เฟคเลย แต่ว่าพอมีนาตาชามาปุ๊บ เหมือนเขาเติมเต็มมากจนเรารู้สึกว่ามีเขาคนเดียวก็พอแล้วเพราะเขาแบบสุดแล้วจริงๆ แล้วเอาเวลามาดูเขาเต็มที่ดีกว่าคนเดียว แต่ทีนี้คิดไปคิดมาควรมีน้องให้เขาไหมเขาจะเหงาไหม และถ้ามีจะมีผู้ชายผู้หญิง กลายเป็นว่าไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชายแล้วเพราะผู้หญิงก็น่ารักมาก ฉะนั้นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้ถ้าจะมี”
ฟลุค : “แพลนหลังจากนี้คือเรายุ่งมากจริงๆ คือเรากำลังจะเปิดร้าน ที่กำลังจะไปอเมริกา เราจะต้องไปเทรนนิ่งที่อเมริกา ไม่ได้มีแพลนอะไรเป็นพิเศษ เพราะเราค่อนข้างยุ่งจริงๆ โดยเฉพาะผมยุ่งมาก แพลนก็ไปทำงาน อาจจะมีโอกาสได้เที่ยวบ้างในบางวันที่หยุดพัก ก็ไปกับครอบครัวครับ น้องนาตาชาก็ไปด้วยครับ”


คาเพลลา แอนด์ เฟรนส์ ค่ำคืนอันแสนอบอุ่นริมแม่น้ำกับความอร่อยสไตล์อิตาเลียน

คาเพลลา แอนด์ เฟรนส์ ค่ำคืนอันแสนอบอุ่นริมแม่น้ำกับความอร่อยสไตล์อิตาเลียน

Alternative Textaccount_circle
คาเพลลา แอนด์ เฟรนส์ ค่ำคืนอันแสนอบอุ่นริมแม่น้ำกับความอร่อยสไตล์อิตาเลียน
คาเพลลา แอนด์ เฟรนส์ ค่ำคืนอันแสนอบอุ่นริมแม่น้ำกับความอร่อยสไตล์อิตาเลียน

โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ เปิดตัว “คาเพลลา แอนด์ เฟรนส์” งานสังสรรค์ยามเย็นครั้งแรกในวันศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2567 ณ สนามหญ้าอันร่มรื่นของรีสอร์ตริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยงานจัดขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่ให้ครอบครัวและเพื่อนฝูงมาพบปะสังสรรค์ คาเพลลา แอนด์ เฟรนส์ จึงเปรียบเสมือนการเฉลิมฉลองให้กับมิตรภาพและจิตวิญญาณของชุมชนท้องถิ่น อีกทั้ง งานนี้ยินดีต้อนรับแขกทุกวัย รวมถึงสัตว์เลี้ยงแสนรักของทุกท่าน มาร่วมดื่มด่ำไปกับอาหารชั้นเลิศและบรรยากาศกลางแจ้งอันแสนรื่นเริง

ใครเป็นสายชิมและหลงใหลอาหารอิตาเลียนต้องลอง เพราะทางโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ ร่วมมือกับเชฟและร้านอาหาร อิตาเลียนชั้นนำทั้ง 7 แห่งในกรุงเทพฯ เพื่อรังสรรค์ประสบการณ์แสนอร่อยที่เต็มไปด้วยความพิเศษตามฉบับอิตาเลียนแท้

  • Giglio (จิกริโอ) – ร้านอาหารทัสคานีแห่งนี้นำเสนอเสน่ห์เหนือกาลเวลา โดยเมนูพาสต้าปีซี่ฉบับโฮมเมดของ Giglio เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนในการแสดงความมุ่งมั่นที่จะปรุงอาหารตามฉบับดั้งเดิมอย่างแท้จริง
  • Italian Osteria (อิตาเลียน ออสทีเรีย) – นำโดยเชฟแอนนา บอร์ราซี ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องเมนูอาหารที่จะพานักชิมทุกท่านเดินทางไปทั่วทั้ง 20 ภูมิภาคของประเทศอิตาลี นำเสนอผ่านอาหารแต่ละจานที่เต็มไปด้วยศิลปะและเรื่องราวของมรดกทางวัฒนธรรมทางอาหาร
  • L’Oliva (โลลิว่า) –  ร้านอาหารอิตาลีแบบครอบครัวสไตล์อาบุซโซแห่งนี้นำเสนออาหารอันแสนอบอุ่นตั้งแต่ลาซานญ่าไปจนถึงปลากระพงขาวแสนอร่อยที่ห่อหุ้มด้วยเกลือสินเธาว์
  • Cetara (เซตาร่า) – ร้านอาหารแห่งนี้เปิดให้บริการในปี 2564 ตั้งใจเชิดชูการทำอาหารฉบับชายฝั่งอามาลฟีอันงดงาม นำเสนอผ่านสูตรอาหารทะเล สไตล์อิตาเลียนแท้ ที่เต็มไปด้วยความประณีต
  • Appia (แอพเพีย) – เชฟเปาโล วิตาเลตติ เจ้าของร้านนำรสชาติที่แท้จริงของอาหารอิตาเลียนสไตล์โรมันมาสู่กรุงเทพฯ ด้วยการนำเสนอเมนูที่คุ้นเคยและเต็มไปด้วยรสชาติสไตล์โรมันอย่างที่เขาเติบโตมา
  • Pizza Massilia (พิซซ่า มาซิเลีย) – พบกับพิซซ่าแสนอร่อยสไตล์อิตาเลียนร่วมสมัย ทุกคนจะได้ลิ้มรสเรื่องราวของประเทศอิตาลีผ่านวัตถุดิบที่ล้ำเลิศและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
  • Peppina  (เปปปิน่า)– เจ้าของตำแหน่งร้านพิซซ่าที่ดีที่สุดในประเทศไทย ร้านแห่งนี้รังสรรค์พิซซ่าด้วยความคราฟต์ โดยยึดถือขั้นตอนและกรรมวิธี ดั้งเดิมตามฉบับองค์กรพิซซ่านโปเลียน (Associazione Verace Pizza Napoletana) อย่างเคร่งครัด

ท่ามกลางบรรยากาศพระอาทิตย์ตกริมแม่น้ำ งานเฉลิมฉลองอันงดงามครั้งนี้จะพร่างพรายไปด้วยอาหารอิตาเลียนอันเลิศรส รวมถึงเมนูไฮไลต์หารับประทานยาก อาทิ พอร์เชตต้า (หมูสามชั้นอบสไตล์อิตาเลี่ยน), พิซซ่าหน้าฟินอคคิโอนา (ซาลามี่ผสมเมล็ดยี่หร่า), เนื้อแกะเสียบไม้สไตล์โรมัน และ สปาเก็ตตี้อัลลาชิตาร่า ซอสเนื้อ อีกทั้ง งานนี้ยังถือเป็นโอกาสพิเศษที่ทุกคนจะได้พบกับเชฟชาวอิตาลี ฝีมือดีจากทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งจะมายืนปรุงเมนูซิกเนเจอร์และอาหารจานพิเศษให้เห็นเองกับตา ณ ลานกว้างอันหรูหราของโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ โดยงานนี้มี ค่าเข้าร่วม 2,800 บาทสุทธิต่อท่าน พร้อมรับเมนูเรียกน้ำย่อยสไตล์อิตาเลียน หรือ Antipasti จากทีมห้องอาหารของโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ

และเพื่อยกระดับบรรยากาศสไตล์อิตาลีให้น่าเพลิดเพลินยิ่งขึ้น บาร์เทนเดอร์ รับเชิญชาวอิตาลีผู้มีชื่อเสียงจะมาร่วมผสมเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อยสุดคลาสสิก อย่าง เนโกรนี และ สปริตซ์ เพื่อเสิร์ฟให้กับทุกท่าน ก่อนพาทุกคนไปสัมผัส ประสบการณ์สไตล์อิตาลีอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ด้วยการแสดงสดและการจับรางวัลสุดพิเศษที่จะมาพร้อมกับรางวัลใหญ่ในช่วงค่ำ

งานคาเพลลา แอนด์ เฟรนส์ ในครั้งแรกจะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2567 เวลา 18.00 – 22.30 น. บัตรเข้างานมีจำนวนจำกัด แนะนำให้จองล่วงหน้าผ่าน https://capella.life/capellaxfriends และเบอร์ 02-098-3888 


Jo Malone London introduces Scented Mementos.. คอลเล็คชั่นกลิ่นหอมรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น

Alternative Textaccount_circle

introduces Scented Mementos..  Brit Collection จาก Jo Malone London เผยโฉมคอลเล็คชั่นกลิ่นหอมรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่ได้แรงบันดาลใจจากผลงานการสร้างสรรค์อันเป็นเอกลักษณ์ที่เปี่ยมไปด้วยความทรงจำอันล้ำค่าจาก Antique Market ตลาดที่รวมของลํ้าค่าของประเทศอังกฤษ ในคอลเลคชั่นประกอบด้วย

  • Ginger Beer กลิ่นสไปซี่วู้ดดี้ที่ได้แรงบันดาลใจจากความมีชีวิตชีวาของเครื่องดื่มสไตล์อังกฤษ ที่มีความสดชื่นอัน เจิดจ้าจาก Ginger ที่ตัดกับสัมผัสของความอบอุ่นที่ปลอบประโลมของ Cinnamon และ Roasted Oak ที่น่าหลงใหล
  • Passiflora กลิ่นหอมของดอกไม้สีเหลืองอำพันที่ได้แรงบันดาลใจจากกลีบดอกไม้อันโดดเด่นเจิดจ้า ผสานไปกับกิ่งก้านสาขาอันอลังการของ ต้น Passiflora จากแดนไกล กลิ่นฟลอรัลที่นุ่มนวลดุจ รังไหมที่โดดเด่นขึ้นด้วยฮันนี่ซัคเคิลที่เปล่งประกาย และปิดท้าย ด้วยกลิ่นอัลมอนด์ที่รุ่มรวย อบอุ่น ของถั่วตองก้า
  • Emerald Thyme กลิ่นซีทรัสหอมกรุ่นที่ได้แรงบันดาลใจจากสวนพฤกษศาสตร์อันน่าหลงใหล กลิ่นของเลมอนที่สดใสเข้ากันได้อย่างลงตัวกับก้านของใบไทม์ และโรสแมรี่ ที่ส่งกลิ่นหอมนวลที่ถูกห่อหุ้มอยู่ภายในผืนมอสอันอบอุ่น
  • Musk Memento กลิ่นหอมสะอาดของมัสก์ที่ได้แรงบันดาลใจจากสบู่ก้อนแบบดั้งเดิมของชาวอังกฤษ กลิ่นอายของความทรงจำและสัมผัสอันแสนสบายถูกบันทึกไว้ในกลิ่นหอมสะอาดของมัสก์และอัลดีไฮด์ รวมทั้งกลิ่นหอมโปรยปรายของลาเวนเดอร์อังกฤษและซีดาร์วู้ดที่สง่างาม

กลิ่นหอมคอลเล็คชั่นนี้ได้แรงบันดาลใจจากประสบการณ์ทั้งหมดของการสะสมของโบราณ ที่ไม่ว่าคุณจะไปเยี่ยมชมร้านของเก่าระดับไฮเอนด์ หรือร้านขายรองเท้าบูตธรรมดาๆ การได้ค้นพบเรื่องราวที่แตกต่างกันไปตามเรื่องเล่า เบื้องหลังของของสะสมโบราณเหล่านี้

แต่ละกลิ่นหอมบรรจุในขวดน้ำหอม และกลิ่นหอมที่มีเอกลักษณ์ควรค่าแก่การสะสม ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากแนวคิดที่อยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์คอลเล็คชั่น และหากซื้อกลิ่นหอม สองกลิ่น หรือสี่กลิ่น จะได้รับกล่องของขวัญสไตล์วินเทจรุ่นพิเศษ อันน่าจดจำ


CHLOÉ เปิดตัว L’EAU DE PARFUM LUMINEUSE ผสานความหวานละมุนของดอกกุหลาบและวานิลลาได้อย่างลงตัว

CHLOÉ เปิดตัว L’EAU DE PARFUM LUMINEUSE ผสานความหวานละมุนของดอกกุหลาบและวานิลลาได้อย่างลงตัว

Alternative Textaccount_circle
CHLOÉ เปิดตัว L’EAU DE PARFUM LUMINEUSE ผสานความหวานละมุนของดอกกุหลาบและวานิลลาได้อย่างลงตัว
CHLOÉ เปิดตัว L’EAU DE PARFUM LUMINEUSE ผสานความหวานละมุนของดอกกุหลาบและวานิลลาได้อย่างลงตัว

CHLOÉ เผยโฉม น้ำหอม Signature L’Eau de Parfum Lumineuse ใหม่ล่าสุด ที่ผสานความอ่อนหวานและความเปล่งประกายของดอกกุหลาบเข้ากับความหอมอันหวานละมุนของวานิลลาไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ถ่ายทอดความเป็นดอกกุหลาบในตำนานของ Chloé ได้อย่างโดดเด่นในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ชวนให้นึกถึงจิตวิญญาณที่เปี่ยมไปด้วยอิสระของหญิงสาวผู้มีความงดงามตามธรรมชาติ

เป็นน้ำหอมวีแกน (vegan) ที่สร้างสรรค์ด้วยแอลกอฮอล์และน้ำที่ได้มาจากธรรมชาติเท่านั้น ปราศจากสารคัดกรอง หรือสารแต่งสีสังเคราะห์ใดๆ ผสานกลิ่นหอมสดชื่นของดอกกุหลาบอันโดดเด่น ผสมเข้ากันกับกลิ่นหอมอันอบอุ่นของวานิลลา พร้อมเผยความเปล่งประกายของกลิ่นหอมแบบฟลอรัลแอมเบอร์ ที่ผสานกลิ่นหอมของดอกบัลซามิก (Balsamic) และอำพัน (Amber) ผสมเข้ากับความนุ่มละมุนของดอกมะลิลา (Jasmine sambac) ที่มาช่วยเสริมความหอมนุ่มลึกระหว่างกลิ่นโทนหวานและกลิ่นดอกไม้ จนกลายมาเป็นน้ำหอมสุดพิเศษสำหรับผู้หญิงที่เปล่งประกายเจิดจรัส เหมาะสำหรับทุกโอกาส และยังติดทนนานตลอดวัน

บรรจุในขวดแก้วที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแนววินเทจที่งดงามเหนือกาลเวลา พร้อมฝาปิดสีเงินเรืองรอง ในขณะที่ดีไซน์แพคเก็จด้านนอกได้รับการออกแบบเป็นสีเบจ แซมด้วยลูกเล่นรายละเอียดสีเงิน สะท้อนกลิ่นหอมเปล่งประกายภายใน ส่วนคอขวดประดับด้วยริบบิ้นสีเบจ ผูกด้วยมือที่ดูแปลกตาไปจากเดิมด้วยการตัดเย็บสติตช์ด้ายสีชมพูละเอียดอ่อนที่มาช่วยเติมสีสัน ซึ่งถือเป็นการนำรหัสแฟชั่นอันโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของ Chloé มาปรากฏบนน้ำหอมเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ตัวขวดน้ำหอมยังผลิดจากแก้วรีไซเคิล 25% และตัวริบบิ้นยังผลิตจากผ้าโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 100% อีกด้วย


BFF จัดเสวนาเพื่อนสนิทสายบิวตี้ ตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้บุกเบิกร้านมัลติแบรนด์ความงามลักซ์ชัวรี่แห่งแรกในไทย

Alternative Textaccount_circle

“BFF” ร้านมัลติแบรนด์ ผู้จัดจำหน่ายสกินแคร์ เครื่องสำอาง และสินค้าไลฟ์สไตล์ นิช และลักซ์ชัวรี่แห่งแรกในประเทศไทย เปิดเวทีเสวนาพิเศษภายใต้หัวข้อ “BFF Bond with Beauty: เพื่อนสนิทสายบิวตี้” นำโดย ศจิกา ทองสุข ผู้ก่อตั้ง BFF พร้อมด้วยแขกรับเชิญพิเศษ ผู้ซึ่งสนใจและชื่นชอบการดูแลสุขภาพและความงามระดับลักชัวรี่ ร่วมการเสวนาดังกล่าวด้วย

ศจิกา ทองสุข ผู้ก่อตั้ง BFF เผยว่า “ปัจจุบัน BFF มีธุรกิจร้านมัลติแบรนด์ที่รวบรวมผลิตภัณฑ์สกินแคร์ เมคอัพ อาหารเสริม และสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับลักชัวรี่ ถึง 58 แบรนด์ชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลก อาทิ 111SKIN, Evidens de Beaute, CellCosmet, Philip B, Oribe และอีกมากมาย ซึ่งเปิดให้บริการมากถึง 8 สาขาทั่วกรุงเทพฯ รวมถึงช่องทางจัดจำหน่ายทางออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของ bffbangkok.com, นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังดำเนินธุรกิจคลินิกเพื่อสุขภาพ ความงาม และการชะลอวัย ภายใต้ชื่อ ‘The Wellness by BFF’ โดยมีการนำผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงต่างๆ ซึ่งจำหน่ายอยู่ในร้าน BFF มาใช้ในทรีทเม้นต์และโปรแกรมต่างๆ ภายในคลินิก เพื่อยกระดับประสบการณ์อันน่าประทับใจให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการของเรา”

สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับทุกคนในการดูแลผิวพรรณและสุขภาพความงามมีอยู่ 2 ส่วนด้วยกัน อย่างแรกคือการสังเกตตัวเอง เราจำเป็นจะต้องรู้ว่าสภาพผิวตัวเองเป็นแบบไหน มีปัญหาอะไรบ้างที่พบอยู่ประจำ เราจะได้ป้องกันได้ก่อนปัญหาจะเกิด และมีผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่เราแพ้หรือไม่ ในส่วนที่สองคือการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับศาสตร์ด้านความงามต่างๆ โดยในปัจจุบัน เราสามารถท่องอินเตอร์เน็ตเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างง่ายดาย การหาข้อมูลและวิเคราะห์ข้อเท็จจริงต่างๆ จึงสามารถทำได้ทุกเวลาในชีวิตประจำวัน และการที่เรายิ่งมีความรู้มากๆ เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ด้านความงาม หรือเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และส่วนผสมต่างๆ ก็จะช่วยเอื้อประโยชน์ให้เรานำความรู้เหล่านั้นมาประยุกต์ใช้กับการดูแลตัวเองและคนที่เรารักได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ข้อปฏิบัติพื้นฐานที่ใครๆ ก็รู้กันแต่ทำไม่ค่อยได้ ก็ยังเป็นสิ่งที่ใช้ได้อยู่เสมอ เช่น การหลีกเลี่ยงแสงแดด ทาครีมกันแดด พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่นอนดึก ทานอาหารที่ดี ออกกำลังกาย ดื่มน้ำให้เพียงพอ ล้างหน้าให้สะอาด และบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นเสมอ เป็นต้น ลองทำสิ่งเหล่านี้ให้เป็นกิจวัตรและจะเห็นได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของสุขภาพ ผิวพรรณ และอารมณ์ที่แจ่มใสขึ้นอย่างแน่นอน นอกจากนี้ การพบแพทย์เพื่อใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการดูแลตัวเอง รวมถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่ดีและรับประทานอาหารเสริม ก็จะยิ่งช่วยให้เราเป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของเราได้ค่ะ”

พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดตัววิดีโอชุดพิเศษ “นิยามของคำว่าเพื่อนสนิท เพื่อนสนิทสายบิวตี้ – BFF Best Friend Forever” ที่สร้างสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิดที่ว่า “เพราะเราเชื่อว่าทุกคนนั้นล้วนมีเพื่อนสนิทเรื่องความงามอยู่ใกล้ตัวเสมอ เพื่อนที่มาในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ความงาม เพื่อนที่มอบแต่สิ่งที่ดีให้ เพื่อนที่เข้าใจสิ่งที่คุณต้องการ และทุกคนต่างมองหาเพื่อนสนิทชิ้นถัดๆ ไป…BFF พร้อมจะยืนอยู่ตรงนั้นในฐานะเพื่อนสนิทของสาวๆ ทุกคน” ตอกย้ำภาพลักษณ์และศักยภาพอันแข็งแกร่งของ BFF ในฐานะผู้บุกเบิกร้านมัลติแบรนด์เพื่อความงามและไลฟ์สไตล์ครบวงจรระดับลักชัวรี่แห่งแรกในประเทศไทย


เจาะงานออกแบบสองผู้ผลักดันเฟอร์นิเจอร์และสถาปัตยกรรมไทยสู่เวทีนานาชาติ

Alternative Textaccount_circle

จากความสำเร็จของงาน บางกอก ดีไซน์ วีค 2024 ที่ได้รับความชื่นชมและการตอบรับรับจากผู้เข้าชมจำนวนมาก เวอร์เทียร์ แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ของคนไทย นำโดยคุณ วรวุฒิ จันทวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี เดคคอร์ จำกัด ได้ร่วมสร้างแรงขับเคลื่อนผ่านงานดีไซน์ “คนยิ่งทำ เมืองยิ่งดี” โดยเข้าใจบริบทถึงความหลากหลายในการเลือกใช้วัสดุ จึงเป็นที่มาของการออกแบบโต๊ะในชื่อ  “Asteriod” ที่ท้าทายงานดีไซน์จากการนำชิ้นส่วนของหินธรรมชาติที่เหลือจากการผลิตชิ้นงาน ที่มีความหลากหลาย ทั้งลวดลายของเส้นหินธรรมชาติและสีสันที่แตกต่าง มาเป็นแรงบันดาลใจในงานดีไซน์ครั้งนี้เพื่อแสดงให้เห็นว่า ชิ้นส่วนที่เหลือจากการผลิตก็สามารถนำมาสร้างคุณค่าเป็นชิ้นงานใหม่ที่สวยงามได้อีกครั้ง จึงเป็นที่มาของ  “Asteriod” อันหมายถึง ดาวเคราะห์น้อย เศษซากที่หลงเหลือจากการสร้างระบบสุริยะ ที่เมื่อรวมตัวกันแล้วก็เป็นอีกความงดงามหนึ่งในอวกาศได้เช่นกัน ด้วยแนวคิดการออกแบบภายใต้ Design Matters เพื่อ “สังคมน่าอยู่” โดยไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในประเทศไทย แต่คำนึงถึงบทบาทในการนำไปใช้ในฐานะ “พลเมืองโลก” หรือ “Global Citizen” ที่เห็นคุณค่าของานดีไซน์ตั้งแต่กระบวนการคิด ผลิต จนถึงการนำไปใช้พร้อมส่งต่อความยั่งยืนในแง่ศิลปะผ่านการออกแบบของ เวอร์เทียร์

และด้วยกรุงเทพมหานคร ถูกจัดเป็น “เมืองท่องเที่ยว” อันดับต้นของโลก การสานต่อเพื่อสนับสนุนงานดีไซน์ของไทยสู่สายตาชาวต่างชาติ จึงจับมือกับโรงแรม 137 พิลลาร์ โฮเทล สวีทแอนด์เรสซิเดนท์ กรุงเทพฯ เพื่อนำเสนอผลงานสุดพิเศษชิ้นนี้อีกครั้ง โดยนำมาจัดแสดงตรงบริเวณล็อบบี้ของทางโรงแรม  เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นและมีอัตลักษณ์ที่ชัดเจนใจกลางสุขุมวิท โดยได้รับเกียรติจากคุณ นิดา วงศ์พันเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้จัดการทั่วไป เครือโรงแรม 137 พิลลาร์ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ผู้ซึ่งเข้าใจและเล็งเห็นถึงงานดีไซน์ของไทยมาอย่างยาวนาน หลังจากได้มีโอกาสเดินทางไปศึกษาดูงานโรงแรมบูทีคทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออก จึงเห็นโอกาสในการสร้างแบรนด์ของคนไทย โดยมีจุดกำเนิดมาจากบ้านไม้สักอายุร่วมร้อยปีในจังหวัดเชียงใหม่และถือเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจโรงแรมของครอบครัว คือ โรงแรม 137 พิลลาร์ เฮ้าส์ เชียงใหม่ ซึ่งเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555

หลังจากโรงแรมได้รับความนิยมสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับลักซ์ชัวรี่และประสบความสำเร็จในตลาดนานาชาติ เพื่อต่อยอดงานบริการของไทยที่มีเอกลักษณ์และเสน่ห์ของงานดีไซน์ท้องถิ่นจากเรือนไม้สักที่ได้รับการกล่าวถึงไปทั่วโลก จึงเป็นแรงผลักดันในการสร้างโรงแรมแห่งที่สองใจกลาง สุขุมวิท โดยมีคาแรคเตอร์ของความเป็นเมืองแต่ยังคงเรื่องราว เสน่ห์และอัตลักษณ์ของแบรนด์ 137 พิลลาร์ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ไว้อย่างชัดเจน

เริ่มแล้ว “THE MALL LIFESTORE SUMMER-CATION HEATWAVE HITTING” เปิดฤดูกาลซัมเมอร์ 2024

account_circle

เปิดงานอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ “THE MALL LIFESTORE SUMMER-CATION HEATWAVE HITTING” งานที่รวบรวมซัมเมอร์คอลเล็คชั่นเพื่อสายแฟตัวจริง โดยงานนี้เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ได้ร่วมกับ นิตยสารแพรวนำทีมโดยครีเอทีฟ ไดเร็คเตอร์ “มิลิน ยุวจรัสกุล” ได้มารังสรรค์โชว์พิเศษเปิดฤดูกาลซัมเมอร์ 2024 จากแบรนด์ชั้นนำให้ร้อนไปทั้งรันเวย์

ยกขบวนแฟชั่นโชว์กว่า 100 ลุคมาสะเทือนรันเวย์ประกอบด้วย 3 คอนเซปต์สุดร้อนแรงของแฟชั่นโชว์ SUMMER-CATION HEATWAVE HITTING

1.Solar Sunkissed ดูดี รู้สึกดี เป็นตัวเองในเวอร์ชั่นดีที่สุดจุดพลังแห่งความสดใสและเร่าร้อนของฤดูร้อนนี้  เติมเอนเนอจี้ดีๆ เสริมความมั่นใจ  สร้างความเปล่งประกายแก่ผู้ส่วมใส่ให้ซัมเมอร์นี้เฉิดฉายแบบไม่ตกเทรนด์ ผ่านความเบาสบายของเสื้อผ้าที่ใส่ได้ในชีวิตประจำวัน อาทิ เสื้อผ้าที่พริ้วไหว เติมด้วยดีเทลสีเอิร์ธโทนผสานความสดใส แอ็กเซสซอรี่ หมวกและแว่นตา เสื้อเชิ้ตลินิน ไปจนถึงลายฮาวาย การแต่งหน้าแบบเนเชอรัลลุคและกลิ่นอายของแสงแดด

2.Electric flare สะท้อนเอเนอจี้อย่างมีชีวิตชีวาสุดขีดด้วยสีสันที่สดใส เพิ่มความสนุกของการมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้าด้วยลวดลาย และการผสมสีของเสื้อผ้า เนื้อผ้า วัสดุเมทัลลิกผสานเข้ากับซิลลูเอทที่ฉีกกฎ และวัสดุที่ฉีกกรอบแฟชั่นในแบบเดิมๆ ตลอดจนเสื้อผ้าสปอร์ตแวร์และแอ็กเซสซอรี่สีนีออน เสริมด้วยไอเท็มผ้าพันคอ แว่นตากันแดดที่เพิ่มกิมมิคให้กับลุค พร้อมเมคอัพสีสันฉูดฉาดบนเปลือกตาและริมฝีปาก

3.Mirage maker ปรากฎการณ์ที่มักเกิดขึ้นในวันที่แสงแดดร้อนแรง สะท้อนภาพลวงตา สะกดทุกคนให้คนหลงใหล ด้วยความเย้ายวน ผ่านเสื้อผ้าที่เน้นความแกลม ซิลูเอทเผยสัดส่วนและเรือนร่างของทั้งหญิงและชาย แฝงความมิลเลนเนี่ยม สีเมทัลลิกและโทนสีดำที่ชวนน่าค้นหา พร้อมด้วยกลิ่นอายของเมคอัพแบบกลิตเตอร์บนใบหน้า และความโกลว์ของผิว

เปิดโชว์ด้วยความยิ่งใหญ่ของรันเวย์ที่ร้อนแรงที่สุดรับซัมเมอร์ 2024  คอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุด และ ลิมิเต็ด อิดิชั่นจากแบรนด์แฟชั่นชั้นนำในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้ากลุ่มเคอะมอลล์ รวมกว่า 120 แบรนด์ อาทิ ADIDAS, ALDO, CHARLES & KEITH, CC DOUBLE O, CPS CHAPS, FOOT LOCKER, GENTLEWOMAN, H&M, HLA CONCEPT STORE, JASPAL, JELLY BUNNY,JD SPORTS, LYN AROUND, MISTY MYNX, NEW BALANCE, POMELO, SUITCUBE, STEVE MADDEN, UNIQLO, URBAN REVIVO 

นำโดย “กลัฟ–คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์” พระเอกหนุ่มหล่อสายแฟในงานนี้  และยังเป็นครั้งแรกที่รวมคนดังตัวท็อปจาก 5 เวทีประกวดใหญ่ระดับประเทศ  ไม่ว่าจะเป็น Miss Thailand Universe 2023, Next Universe 2023, นางสาวไทย 2567 , Mister International 2023 และ Miss Trans Thailand 2023 มาร่วมเดินแฟชั่นโชว์ในเวทีเดียวกัน นำโดย แอนโทเนีย โพซิ้ว Miss Universe Thailand 2023 และ 1st Runner Up Miss Universe 2023 , นลิน-ฉัตร์ณลิณ โชติจิรวราฉัตร 1st Runner Up Miss Universe Thailand 2023 และ Miss Intercontinental 2023, อลิน-สุเมธารัตน์ โกเมซ Next Universe Junior 2023 , เมแกน แมคโดนัล Next Universe Teenage 2023, ดินสอสี-พนิดา เขื่อนจินดา นางสาวไทย 2567, คิม-ธิติสรรค์ กู๊ดเบิร์น Mister International 2023 ,ดร.พอลลี่-ณฑญา เป้ามีพันธ์ Miss Trans Thailand 2023 ร่วมด้วยดารานักแสดงและโมเดลมากมาย

ปิดท้ายรันเวย์ในวันนี้ด้วยมินิคอนเสิร์ตสุดอบอุ่นจาก กลัฟ-คณาวุฒิ งานนี้เต็มไปด้วยเสียงกรี๊ด และแรงซัพพอร์ทของแฟนคลับที่มาส่งกำลังใจให้กับแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของ M Card อย่างล้นหลาม

ได้อินสไปเรชั่นจากรันเวย์ในวันนี้แล้ว อย่าลืมไปช้อปกันให้ฉ่ำ ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม – 16 เมษายน 2567 ที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ , งามวงศ์วาน , บางแค , บางกะปิ และเดอะมอลล์ โคราช

#TheMallLifestoreSummerCationHeatwaveHitting #TheMallLifestore #SUMMERCATION #ThemallThailand #Praewmag


อาดิดาส เผยโฉมไลน์อัพ SUPERNOVA รองเท้าวิ่ง ล่าสุด ในคอนเซ็ปต์ Everyday Running Shoes

อาดิดาส เผยโฉมไลน์อัพ SUPERNOVA รองเท้าวิ่งล่าสุด ในคอนเซ็ปต์ Everyday Running Shoes

Alternative Textaccount_circle
อาดิดาส เผยโฉมไลน์อัพ SUPERNOVA รองเท้าวิ่ง ล่าสุด ในคอนเซ็ปต์ Everyday Running Shoes
อาดิดาส เผยโฉมไลน์อัพ SUPERNOVA รองเท้าวิ่ง ล่าสุด ในคอนเซ็ปต์ Everyday Running Shoes

อาดิดาส เปิดตัว รองเท้าวิ่ง รุ่นใหม่ในแฟรนไชส์ SUPERNOVA ที่มาพร้อมเฉดสีสดใสที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความสนุกของการวิ่ง รองเท้าวิ่งในตระกูล SUPERNOVA ได้รับการออกแบบเพื่อกำหนดมาตรฐานใหม่ของความสบายเพื่อตอบสนองความต้องการในด้านการเป็นรองเท้าวิ่งที่แสนสบายและสามารถใส่วิ่งได้ทุกวัน โดยครั้งนี้มาในโฉมใหม่ โดดเด่น สะดุดตาด้วยสีส้ม Orange Spark โทนสีแห่งปีที่จะปรากฎในทุกผลิตภัณฑ์ของอาดิดาสตลอดปีนี้ ซึ่งไลน์อัพอันน่าตื่นเต้น นอกเหนือจากรองเท้าวิ่งที่ได้รับรางวัลอย่าง SUPERNOVA RISE แล้ว อาดิดาสยังได้เปิดตัวรองเท้าวิ่งรุ่นใหม่ที่เปิดวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกควบคู่กันอีก 2 รุ่น ได้แก่ SUPERNOVA SOLUTION และ SUPERNOVA STRIDE โดยโครงสร้างของรองเท้าทั้ง 3 รุ่นมาพร้อมกับ Dreamstrike+ ซูเปอร์โฟมที่ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมใหม่ ด้วยแรงบันดาลใจที่ได้รับมาจากโฟม LIGHTSTRIKE PRO ที่มีในรองเท้าตระกูล ADIZERO พร้อมนำมาต่อยอดพัฒนาให้สามารถมอบความสบายและความสามารถในการรองรับการกระแทกที่เหนือระดับ

นอกจากนี้ รองเท้าวิ่งทั้ง 3 รุ่นยังมาพร้อมกับคุณสมบัติต่างๆ มากมายดังนี้

SUPERNOVA RISE

  • SUPPORT RODS: พื้นรองเท้าของรุ่น Rise ทุกคู่ได้รับการบุโฟมหนาสำหรับมอบการซัพพอร์ตตั้งแต่ส้นจนถึงปลายเท้าอย่างเสมอกัน เพื่อการส่งแรงที่นุ่มนวลและลื่นไหลให้กับเหล่านักวิ่งทุกคน
  • COMFORT HEEL FIT: การผสมผสานกันระหว่างโฟมกันกระแทกและสัมผัสที่นุ่มนวลของผ้าในรุ่น Rise ทำงานร่วมกันเพื่อมอบความสบายให้กับนักวิ่งผ่านการโอบอุ้มส้นเท้า

#PraewReview “หลังจากได้ลองใส่วิ่งมาสักพัก ส่วนตัวชอบในความเบาและไม่บีบเท้า ด้วยความที่เป็นคนหน้าเท้ากว้างและเท้าอวบ เนื่องจากเป็นคนน้ำหนักตัวเยอะ แต่รุ่นนี้ใส่แล้วรองรับน้ำหนักได้ดี ทำให้วิ่งสนุก เพราะพื้นรองเท้าบุโฟมหนาก็ให้ความรู้สึกเบาหวิวจนแทบไม่รู้สึกถึงแรงกระแทกระหว่างวิ่งเลย ด้านข้างก็โอบอุ้มรูปเท้าได้ดีไม่บีบรัด”

SUPERNOVA STRIDE

  • CARRIER EVA: พื้นรองเท้าในส่วนหน้าได้รับการบุโฟม EVA เพื่อเพิ่มการรองรับแรงกระแทกให้เหล่านักวิ่งได้เคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างมีไดนามิก
  • ADIWEAR OUTSOLE: นวัตกรรมพื้นรองเท้าชั้นล่างที่ผลิตขึ้นมาจากวัสดุยางที่ทนทาน มาพร้อมการเจาะรูซึ่งเป็นดีไซน์ที่ได้รับการออกแบบเชิงกลยุทธ์เพื่อมอบความสามารถในการยึดเกาะพื้นถนนที่ดีที่สุดให้กับเหล่านักวิ่ง

SUPERNOVA SOLUTION

  • STABILITY SUPPORT RODS: รองเท้าวิ่งในรุ่น SOLUTION มาพร้อมกับแท่ง Support Rods ที่มีความหนาแน่นด้วยกันถึง 2 คู่ อีกทั้งยังถูกปรับรูปทรงให้อยู่ในตำแหน่งตรงกลางที่เหมาะสมเพื่อมอบการซัพพอร์ตที่ดีกว่าเดิมให้กับเหล่านักวิ่งได้ในเวลาที่ต้องการ
  • ADIWEAR OUTSOLE: นวัตกรรมพื้นรองเท้าชั้นล่างที่ผลิตขึ้นมาจากวัสดุยางที่ทนทาน มาพร้อมการเจาะรูซึ่งเป็นดีไซน์ที่ได้รับการออกแบบเชิงกลยุทธ์เพื่อมอบความสามารถในการยึดเกาะพื้นถนนที่ดีที่สุดให้กับเหล่านักวิ่ง

อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาระดับโลกล่าสุดที่อาดิดาสได้ทำการสำรวจนักวิ่งกว่า 2,674 คน ในกว่า 11 เมืองทั่วโลกพบว่าปัญหาที่พบมากที่สุด และเป็นอุปสรรคของนักวิ่งซึ่งส่งผลต่อการสร้างประสบการณ์การวิ่งที่ดีและความสนุก คือ การสวมใส่รองเท้าวิ่งที่ไม่สบาย (47%) อากาศที่ร้อนเกินไป (45%) หรือหนาวเกินไป (43%) ความรู้สึกขาดแรงบันดาลใจในการวิ่ง (38%) และพื้นผิวถนนที่ลื่นหรือไม่เรียบ (37%)

ทั้งนี้ เกือบ 1 ใน 4 หรือกว่า 23% ของนักวิ่งตัดสินใจที่จะไม่ออกไปวิ่งออกกำลังกายจากปัจจัยเหล่านี้ แต่อย่างไรก็ตามยังมีนักวิ่งบางกลุ่มที่มีใจรักในการวิ่งอย่างมาก พวกเขายังคงวิ่งต่อไป ถึงแม้ว่ากว่า 4 ใน 10 หรือกว่า 37% จะลดระยะทางการวิ่งของตนเองลง ในขณะที่ 1 ใน 3 ของนักวิ่งกล่าวว่าปัจจัยเหล่านี้มีผลกระทบต่ออารมณ์ของพวกเขา อีกทั้งกว่า 33% ของนักวิ่งตัดสินใจที่จะเปลี่ยนเส้นทางการวิ่งของพวกเขาเพื่อให้ได้รับความสบายที่เพิ่มขึ้น

รองเท้าวิ่งรุ่น SUPERNOVA RISE และ SUPERNOVA SOLUTION วางจำหน่ายแล้วในราคา 4,700 บาท ในขณะที่รองเท้ารุ่น SUPERNOVA STRIDE วางจำหน่ายในราคา 3,600 บาท ที่ อาดิดาส แบรนด์ เซ็นเตอร์, อาดิดาส สปอร์ต เพอร์ฟอร์แมนซ์, อาดิดาส แอปพลิเคชัน, อาดิดาส ออนไลน์ สโตร์ www.adidas.co.th, LINE Shopping: @adidasthailand, ซูเปอร์สปอร์ต และร้านค้าอุปกรณ์กีฬาชั้นนำทั่วประเทศ


วันสตรีสากล

วันสตรีสากล ASICS ชวนผู้หญิงทุกคนออกกำลังกาย ส่งผลบวกสุขภาวะทางจิต

account_circle
วันสตรีสากล
วันสตรีสากล

เนื่องใน วันสตรีสากล ASICS ได้เผยถึงผลการวิจัยระดับโลกเกี่ยวกับช่องว่างในการออกกำลังกายระหว่างชายและหญิง เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างระดับการออกกำลังกายของผู้หญิงกับสุขภาวะทางจิตของพวกเธอ จากรายงานพบว่าผู้หญิงมีความสุขมากขึ้น 52% รู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น 50% รู้สึกมั่นใจมากขึ้น 48% เครียดน้อยลง 67% และรู้สึกหงุดหงิดน้อยลง 80% เมื่อออกกำลังกายเป็นประจำ**

วันสตรีสากล ASICS ชวนผู้หญิงทุกคนออกกำลังกาย ส่งผลบวกสุขภาวะทางจิต

อย่างไรก็ตาม การวิจัยในคนจำนวน 24,959 คน ซึ่งจัดทำโดย ASICS และนำการค้นคว้าโดยนักวิชาการที่มีชื่อเสียงอย่าง ดร.ดี ดลูกอนสกี (Dr. Dee Dlugonski) และผู้ช่วยศาสตราจารย์เบรนดอน สตับส์ (Assoc. Prof. Brendon Stubbs) กลับพบผลที่น่าตกใจว่าผู้หญิงมากกว่าครึ่งจากทั่วโลกกำลังห่างหายและเลิกออกกำลังกายมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของพวกเธอ และเพื่อสนองต่อผลการวิจัยเหล่านั้น ASICS ต้องการที่จะเปิดโอกาสและช่วยขยายผลเชิงบวกให้กับบุคคลและองค์กรระดับท้องถิ่นที่กำลังตั้งใจลดอุปสรรคในการเล่นกีฬาและออกกำลังกายของผู้หญิง เพื่อช่วยซัพพอร์ต ผลักดัน และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงเหล่านั้นหันมาออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น

ผลการวิจัยระดับโลกเผยให้เห็นว่าผู้หญิงมากกว่าครึ่งไม่พึงพอใจกับระดับการออกกำลังกายของตนเอง โดยผู้หญิงทุกคนกำลังเผชิญกับอุปสรรคในการออกกำลังกายตลอดทั้งช่วงชีวิตของพวกเธอ ตั้งแต่ความกดดันด้านเวลา (74%) ความไม่มั่นใจในตนเอง (35%) ไปจนถึงสภาพแวดล้อมที่ทำให้รู้สึกว่าถูกคุมคาม (44%) หรือรู้สึกว่าตนเองไม่เหมาะกับการเล่นกีฬา (42%) ยิ่งไปกว่านั้น เกือบ 2 ใน 3 (61%) ของเหล่าคุณแม่ระบุว่าความเป็นแม่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้พวกเธอห่างหายจากการออกกำลังกายประจำ แสดงให้เห็นถึงผลกระทบของความรับผิดชอบในการเลี้ยงดูลูกที่มีต่อระดับการทำกิจกรรมของผู้หญิง ผู้เข้าร่วมการสนทนากลุ่ม (Focus Group) กล่าวถึงความคาดหวังของสังคมที่มีต่อบทบาททางเพศ รวมถึงความคิดที่ว่าผู้หญิงควรมีหน้าที่หลักในการดูแลคนในครอบครัว และรับผิดชอบหน้าที่ต่าง ๆ ในครัวเรือน ซึ่งล้วนเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้พวกเธอเลิกออกกำลังกาย

ในทางกลับกัน การรับรู้ของผู้ชายเกี่ยวกับความท้าทายที่ผู้หญิงต้องเผชิญนั้นแตกต่างไปจากความเป็นจริง มีผู้ชายเพียง 34% เท่านั้นที่ยอมรับว่าการไม่มีเวลาเป็นอุปสรรคในการออกกำลังกายสำหรับผู้หญิง แม้ว่าผู้หญิงจำนวน 3 ใน 4 (74%) จะพูดถึงปัญหานี้ก็ตาม แต่ผู้ชายกลับคิดว่าความไม่มั่นใจในร่างกายเป็นปัญหาสำคัญ โดยผู้ชาย 58% บอกว่าสิ่งนี้เป็นอุปสรรคหลักเทียบกับจำนวนผู้หญิง 36% ความจริงแล้วอุปสรรคห้าอันดับแรกของการออกกำลังกายที่ผู้ชายรับรู้ มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น คือ ปัจจัยเรื่องค่าใช้จ่าย ที่ปรากฏอยู่ในลิสต์อุปสรรคที่พบบ่อยที่สุดซึ่งตอบโดยผู้หญิง ยิ่งเน้นให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างการรับรู้ของผู้ชายกับความเป็นจริงในแต่ละวันที่ผู้หญิงทั่วโลกรู้สึก

อย่างไรก็ตาม จากงานวิจัยพบว่าผู้หญิงกว่า 1 ใน 3 กล่าวว่าเพื่อนของพวกเธอคือผู้ที่มีอิทธิพลที่สำคัญที่สุดในการออกกำลังกาย พวกเธอมีแรงจูงใจที่จะออกกำลังกายโดยผู้หญิงแบบเดียวกับตนเองมากกว่าคนที่มีชื่อเสียง อีกทั้งพ่อแม่และคนรักก็ถือเป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพลเช่นกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าเพศหญิงหรือชายก็สามารถส่งผลต่อการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในการออกกำลังกายได้ เมื่อถามว่าทำไมพวกเธอถึงออกกำลังกาย โดยทั่วไปแล้ว ผู้หญิงกล่าวว่าเพื่อสุขภาพจิต (92%) และสุขภาพกาย (96%) มากกว่าการมีรูปร่างที่สวยงาม ดร. ดี ดลูกอนสกี ผู้นำการวิจัยและผู้ช่วยศาสตราจารย์จากสถาบันวิจัยเวชศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยเคนทักกี กล่าวว่า

“งานวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่าช่องว่างการออกกำลังกายระหว่างชายและหญิงเป็นความท้าทายที่ซับซ้อนซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นได้ในชั่วข้ามคืน และเพราะไม่ได้เกิดขึ้นจากเพียงสาเหตุเดียว จึงไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีเดียว แต่ถ้าถามว่าอะไรสามารถช่วยได้ ผู้หญิงตั้งข้อสังเกตว่าการทำให้การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้มากขึ้น ทำให้พวกเธอรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งและถูกยอมรับในทุกรูปแบบกิจกรรม ในขณะที่ท้าทายความคาดหวังของสังคมที่มีต่อบทบาทของผู้หญิงไปด้วยเป็นสิ่งที่ช่วยผลักดันให้พวกเธอออกกำลังกายได้มากกว่าเดิมรวมถึงกิจกรรมการออกกำลังกายที่เน้นไปยังตัวของผู้หญิงและตอบโจทย์ความต้องการของพวกเธอ เช่น มีการช่วยดูแลเด็ก (Childcare) และการจัดเลี้ยงรื่นเริงต่าง ๆ กิจกรรมที่มีความเหมาะสมกับงานที่พวกเธอทำ มีความสนุกสนานสามารถเข้าถึงได้ ให้ความรู้สึกปลอดภัยโดยไม่มีอคติต่อกัน วิธีการทั้งหมดนี้แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่สามารถเกิดผลสะท้อนได้อย่างเด่นชัด และจากการศึกษานี้เราจึงได้พบว่ามีผู้คนและองค์กรอีกหลายพันรายทั่วโลกที่กำลังขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้”

ในปัจจุบันมีผู้คนและองค์กรอีกมากมายที่กำลังสร้างความแตกต่างไปในทิศทางที่ดีขึ้นอยู่ทั่วโลก และในวันสตรีสากลนี้กลุ่มคนเหล่านั้นกำลังเชิญชวนให้ผู้คนส่งเรื่องราวและบอกเล่าประสบการณ์ของตนเอง เพื่อให้ผู้หญิงรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง ได้รับการสนับสนุนและได้รับแรงบันดาลใจ อีกทั้ง ASICS ก่อตั้งขึ้นจากความเชื่อที่ว่ากีฬาและการออกกำลังกายมีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจ จึงเป็นที่มาของ ASICS : ‘Anima Sana in Corpore Sano’ หมายถึง ‘การมีจิตใจที่แจ่มใส ในร่างกายที่สมบูรณ์’ แม้ว่างานวิจัยของเราจะพบว่าผู้หญิงจำนวนมากไม่พอใจกับระดับการ


เบอร์เบอรี่ประกาศแต่งตั้ง แบร์รี่ คีโอแกน ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด

account_circle

หลังจากร่วมงานกับ เบอร์เบอรี่ มาเป็นเวลานานล่าสุด แบร์รี่ คีโอแกน ได้ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างเป็นทางการ

Photo by: Dave Benett

แบร์รี่ คีโอแกน เป็นนักแสดงผู้โด่งดังและได้รับการยอมรับจากทั่วโลกด้วยบทบาทในภาพยนตร์สงครามโลกครั้งที่สองของ คริสโตเฟอร์ โนแลนด์ อย่าง ‘Dunkirk’

นอกจากนี้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างชื่นชมการแสดงของเขาในภาพยนตร์เรื่อง ‘The Killing of a Sacred Deer’ อีกทั้งยังได้รับรางวัล BAFTA จากการแสดงภาพยนตร์เรื่อง ‘Banshees of Inisherin’ และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล BAFTA จากภาพยนตร์เรื่อง ‘Saltburn’ อีกด้วย

ในช่วงปีที่ผ่านมา แบร์รี่ได้เข้าร่วมชมแฟชั่นโชว์ของเบอร์เบอรี่ในคอลเล็คชั่นฤดูร้อน 2024 และร่วมงาน Met Gala ในฐานะแขกคนสำคัญของเบอร์เบอรี่

นอกจากนี้ยังคงเห็นเขาสวมใส่ชุดเบอร์เบอรี่บ่อยครั้ง ทั้งงานเปิดตัวซีรีส์ ‘Masters of the Air’ ของ Apple TV+ รอบปฐมทัศน์ที่ยุโรป และงาน BAFTA Film Awards ประจำปี 2024 เขายังได้เข้าร่วมชมแฟชั่นโชว์ของเบอร์เบอรี่รอบล่าสุดในคอลเล็คชั่นฤดูหนาว 2024 อีกด้วย

‘ผมเป็นแฟนคลับของเบอร์เบอรี่มาตลอดหลายปี มรดกอันเป็นเอกลักษณ์พร้อมนวัตกรรมสมัยใหม่ถือเป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์ อีกทั้งยังมีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนศิลปะและวัฒนธรรม ผมรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในบทต่อไปของเบอร์เบอรี่’แบร์รี่ คีโอแกน กล่าว

‘ผมรู้จักแบร์รี่มานานกว่า 5 ปี และเฝ้าดูเขาเติบโตจนกลายเป็นนักแสดงมากความสามารถที่สุดคนหนึ่งในเจเนอเราชั่นของเขา รวมถึงพรสวรรค์อันน่าประทับใจของเขา ความสามารถอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งได้สร้างแรงบันดาลใจ และสะท้อนถึงจิตวิญญาณของแบรนด์เราได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผมภูมิใจอย่างยิ่งที่จะได้ต้อนรับเขาสู่ครอบครัวเบอร์เบอรี่’แดเนียล ลี ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของเบอร์เบอรี่ กล่าว


อนันท์ อัมบานี

7 เรื่องสุดปังในงานปาร์ตี้ก่อนงานแต่งงานของ อนันท์ อัมบานี ลูกชายมหาเศรษฐีอันดับ 1 เอเชีย

account_circle
อนันท์ อัมบานี
อนันท์ อัมบานี

เรียกได้ว่าเป็นงานเฉลิมฉลองที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับงานปาร์ตี้ก่อนงานแต่งงานของ อนันท์ อัมบานี ลูกชาย มูเกซ อัมบานี มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย และบุคคลร่ำรวยที่สุดอันดับที่ 11 ของโลก

หลายคนคงจำกันได้สำหรับงานแต่งงานของ ไอชา อัมบานี ลูกสาวคนโตของ มูเกซ และ นิต้า อัมบานีที่จัดขึ้นแบบอลังการงานสร้างเมื่อปี 2018 โดยงานนี้ถูกขนานนามว่าเป็นวิวาห์พันล้าน ถัดมาในปี 2019 ตระกูลอัมบานีได้จัดงานวิวาห์ขึ้นอีกครั้ง โดยเป็นงานของ อากาช อัมบานี ลูกชายคนกลาง ซึ่งงานนี้ก็จัดอย่างยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน

มาในปี 2024 ก็ได้ฤกษ์ที่ลูกชายคนเล็ก อากาช อัมบานี จะสละโสด โดยว่าที่เจ้าสาวของเขาคือ Radhika Merchant ลูกสาวของ Viren Merchant ซีอีโอ Encore Healthcare ซึ่งทั้งคู่จะเข้าพิธีแต่งงานในเดือนกรกฎาคม 2024

แต่ตามธรรมเนียมของชาวอินเดียนั้น โดยเฉพาะสมาชิกตระกูลอัมบานีก่อนที่พวกเขา และเธอจะเข้าพิธีวิวาห์จะต้องมีพิธีการมงคลต่างๆ ซึ่งเมื่อวันที่ 1 มีนาคม มีการจัดงานเลี้ยงก่อนงานแต่งงานขึ้น ต้องบอกเลยว่ายิ่งใหญ่สมฐานะ และความพิเศษของงานนี้คือ มีการจ้างนักร้องสาว แม่ค้า No.1 ริฮานน่า มาแสดงมินิคอนเสิร์ตแบบย่อมๆ อีกด้วย

7 เรื่องสุดปังในงานปาร์ตี้ก่อนงานแต่งงาน ลูกชายมหาเศรษฐีอันดับ 1 เอเชีย

เจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ ให้กับชาวเมืองในรัฐคุชราต 51,000 คน

ก่อนวันปาร์ตี้ อากาช และว่าที่เจ้าสาวได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหาคค่ำให้กับชาวเมืองในรัฐคุชราต นครจัมนาการ์ จำนวน 51,000 คน ที่หมู่บ้าน Jogwad มีการเผยว่าการแจกอาหารให้ชาวเมืองในช่วงมงคลของครอบครัวเป็นประเพณีของตระกูลอัมบานีที่มีอย่างมายาวนาน

ริฮานน่าขึ้นแสดงโชว์แบบจัดเต็มครั้งแรกในรอบ 8 ปีที่งานปาร์ตี้

แม่ก็คือแม่ แม้จะไม่ได้ออกอัลบั้มมาเป็นแรมปี แต่ขึ้นคอนเสิร์ตก็จัดเต็มขนเพลงฮิตตั้งแต่อัลบั้มแรกจนอัลบั้มสุดท้ายมาโชว์ที่งานนี้ถึง 19 เพลง อาทิ “Umbrella” “Diamonds” และ “Work” นอกจากนี้ยังเอาใจเจ้าภาพสวมชุดส่าหรีขึ้นโชว์อีกด้วย

ทั้งนี้ ริฮานน่ายังได้อวยพรบ่าวสาว โดยเธอกล่าวว่า “ฉันมาที่นี่ ค่ำคืนนี้ เพื่อเป็นเกียรติแก่อนันต์และราธิกา ขอบคุณที่ให้ฉันมาที่แห่งนี้ ขอพระเจ้าอวยพรทั้งคู่ ฉันขอให้พวกคุณพบเจอแต่สิ่งดีๆ ยินดีด้วยค่ะ”

นอกจากนี้ ริฮานน่ายังให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวขณะเดินทางออกจากสนามบินชัมนาการ์ว่า “งานนี้ยอดเยี่ยมมาก ฉันไม่ได้แสดงแบบจริงๆ มา 8 ปีแล้ว”

ต้องบอกเลยว่า ริฮานน่าไม่ใช่ศิลปินระดับโลกคนแรกที่มาแสดงคอนเสิร์ตให้ในงานปาร์ตี้ก่อนแต่งงานของสมาชิกตระกูลอัมบานี โดยในปี 2018 ได้มีการจ้างบียอนเซ่มาแสดงคอนเสิร์ตให้ในงานของ  Isha Ambani และ Anand Piramal ขณะที่ในปี 2019 งานวิวาห์ของ Akash Ambani Shloka Mehta ได้จ้าง Chris Martin นักร้องนำวง Coldplay และ The Chainsmokers มาแสดงคอนเสิร์ต รวมถึงให้ อดัม เลอวีน มาแสดงในงานฉลองหลังงานแต่งงานอีกด้วย

คลาคล่ำไปด้วยแขกจำนวน 1,200 คน

ในบรรดาแขกที่มางานแต่งงานของสมาชิกตระกูลอัมบานีนั้นไม่ธรรมดาสักคนทั้ง คนดัง มหาเศรษฐี และนักธุรกิจจากหลากหลายวงการ เช่น อิวานกา ทรัมป์, มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก, บิลล์ เกตส์ (ซีอีโอ Microsoft), สุนทร ปิจาอี (ซีอีโอ Goolgle) และ บ็อบ อีเกอร์ (ซีอีโอ Disney)

 งานเลี้ยงค็อกเทลสุดอลังการ เดินเล่นท่ามกลางธรรมชาติ

ก่อนจะถึงงานปาร์ตี้ก่อนงานแต่งงาน เหล่าบรรดาแขก VIP ก็ได้ร่วมงานเลี้ยงค็อกเทลที่จัดขึ้นแบบหรูหราท่ามกลางโดมแก้วที่ประดับประดาไปด้วยดอกไม้นานาชนิด

ถัดจากนั้น แขกทุกคนถูกเชิญไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Reliance เพื่อ “เดินเล่นในป่า” ชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ซึ่งมีช้างกว่า 200 เชือก และสัตว์น้อยใหญ่อีกนานาชนิด

เอกสาร 9 หน้า พร้อมด้วยเมคอัพ ช่างผม พร้อมด้วยเสื้อ

ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือนจะมีเจ้าภาพคนไหนที่เตรียมช่างแต่งหน้า ทำผม พร้อมด้วยเสื้อผ้าให้กับแขก VIP ซึ่งพวกเขาและเธอจะได้เอกสารที่บรรยายถึงคอสตูมในงานต่างๆ แต่ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะทางอัมบานีได้จัดเสื้อให้ พร้อมช่างหน้า ผมให้เสร็จสรรพ

ตระกูลอัมบานีสร้างวัด 14 แห่งในชัมนครก่อนงานแต่งงาน

นอกจากเลี้ยงอาหารให้กับชาวเมืองแล้ว นิต้า อัมบานี  ผู้ก่อตั้งและประธานมูลนิธิ Reliance Foundation แม่ของลูกๆ ทั้ง 3 คน ยังสร้างวัดถึง 14 แห่ง มงคลแล้ว มงคลเข้าไปอีก

130 เที่ยวบินเดินทางมาถึงสนามบินจัมนาการ์ เพื่องานเลี้ยงเฉลิมฉลอง

มีรายงานว่า เมื่อวันเสาร์ที่สนามบินจัมนาการ์ มีเที่ยวบินประมาณ 130 เที่ยวของแขกเพื่อมาร่วมงานเฉลิมฉลองของ อากาช อัมบานี และ Radhika Merchant

งานเลี้ยงเฉลิมฉลองก่อนงานแต่งงานยังหรูหราขนาดนี้ หากเป็นวันจริงจะยิ่งใหญ่ อลังการเบอร์ไหน ก็คงดูได้จากงานวิวาห์ของ ไอชา และ อากาช อัมบานีได้เลย


เฮอร์ชีย์ ประเทศไทย ฉลองวันสตรีสากล ผ่านแพ็คเกจลิมิเต็ดอิดิชัน

account_circle

แพ็คเกจลิมิเต็ดอิดิชัน เฉลิมฉลองให้กับสตรีผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ ในอาเซียน เนื่องในวันสตรีสากล

วันนี้ บริษัทเฮอร์ชีย์ ประเทศไทย เปิดตัวแคมเปญพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองวันสตรีสากลประจำปี สนับสนุนพลังสตรี ยกย่อง ชื่นชมสตรีไทย และสตรีจากประเทศในอาเซียน ที่สร้างสรรค์สิ่งดีๆให้กับสังคม และเป็นแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ ด้วยการชื่นชมเธอ โดยให้เกียรติเธอเหล่านั้น ขึ้นมาปรากฏตัวบนแพ็คเกจลิมิเต็ดอิดิชัน พร้อมบอกเล่าเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจผ่านลวดลายบนแพ็คเกจ เพื่อส่งต่อพลังใจให้กันและกัน

กิจกรรมการเฉลิมฉลอง ต่อยอดไปบนแพลตฟอร์มออนไลน์ผ่าน https://celebratehershe.com/th-th  เชิญชวนทุกท่านมาร่วมปลุกพลัง และเฉลิมฉลองให้กับ ‘(S)HERO’ ทั้งในตัวเรา และ (S)HERO ที่อยู่รอบตัวเรา เพราะเฮอร์ชีย์เชื่อว่า ทุกคนล้วนมีพลังบวกในตัวเอง และทุกคนมี (S)HERO คนสำคัญ ที่คอยเป็นแรงใจให้ขับเคลื่อนต่อไปข้างหน้าอย่างมีความหวัง การจุดประกายครั้งนี้ต้องการที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กันและกัน เพื่อสานต่อการสร้างผลลัพธ์เชิงบวกอย่างไร้ขีดจำกัด ภายใต้ธีม “#เปิดโหมดปัง ปลุกพลัง SHERO เฮอร์ชีย์ตั้งเป้าที่จะใช้แพลตฟอร์มตนเองเพื่อเป็นกระบอกเสียงในการตอกย้ำว่า ผู้หญิงทุกคนสามารถเข้าถึงศักยภาพสูงสุดของตัวเองได้เมื่อได้รับการยอมรับ และได้รับการส่งเสริมทางศักยภาพ คำชื่นชม และกำลังใจที่ส่งถึงกัน จึงเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นพลังใจอันยิ่งใหญ่ เฮอร์ชีย์ ประเทศไทย รู้สึกยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญวันสตรีสากลระดับโลกในปีนี้

คุณลุยจิ มิร์ริ (Luigi Mirri) ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายปฏิบัติการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และอินเดียของเฮอร์ชีย์ กล่าวว่า “บริษัทใช้ช็อคโกแลตแท่งอันเป็นอัตลักษณ์ของเฮอร์ชีย์ในการเฉลิมฉลองตลอดทั้งเดือน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการให้เกียรติ และแสดงความรู้สึกขอบคุณต่อสตรีทั้งหลายที่สร้างแรงบันดาลใจ และมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน ในช่วงของเดือนแห่งวันสตรีสากล”

เฉลิมฉลองให้กับผู้หญิงที่สร้างผลลัพธ์เชิงบวกในประเทศไทย

ในปีนี้ ประเทศไทยร่วมเฉลิมฉลองวันสตรีสากลที่จัดขึ้นทั่วโลก โดยปลุกกระแสแคมเปญ #HerShe ที่เคยได้รับรางวัลให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เฮอร์ชีย์ ประเทศไทย ได้เปิดพื้นที่เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนพลังบวก ชื่นชมสตรีที่ทำคุณงามความดี เพื่อส่งต่อกำลังใจทั้งในระดับครอบครัว ชุมชน ประเทศ และทั่วโลก

เฮอร์ชีย์ ประเทศไทย และประเทศในภูมิภาคอื่น ๆ ที่ร่วมในแคมเปญนี้ ได้ประสานพลังกับ เกิร์ล อัพ (Girl Up) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ช่วยพัฒนาทักษะ มอบสิทธิและโอกาสให้แก่เด็กผู้หญิงในการเป็นผู้นำ เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้ผู้หญิงทุกคนทั่วโลกได้มีโอกาสสร้างความแตกต่างเชิงบวก

ต่อยอดแคมเปญเฉลิมฉลองสู่แพลตฟอร์มบนโลกโซเชียล แฮชแท็ก #CelebrateShero #เปิดโหมดปังปลุกพลังSHERO บนดิจิทัลแพลตฟอร์มได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจในการทำคุณงามความดีตลอดทั้งเดือน โดยส่งเสริมให้ผู้บริโภคทุกคนร่วมเสนอชื่อ และชื่นชม (S)HERO รอบตัว พร้อมบอกเล่าเรื่องราวว่าชื่นชมเธออย่างไร และยังกระตุ้นให้ตระหนักถึงพลังบวก ที่มีอยู่ภายในบุคคลทุกคน ด้วยการสร้างดิจิทัลแพลตฟอร์มที่ทุกคนสามารถเข้ามาค้นหาจุดเด่นของตัวเอง เพื่อเฟ้นหาว่าเป็น (S)HERO แบบไหน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและตอกย้ำว่า ‘ทุกคนเป็น (S)HERO ได้’

แพ็คเกจลิมิเต็ดอิดิชันเฉลิมฉลองให้กับสตรีผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ในอาเซียน เนื่องในวันสตรีสากล

สแกน QR code เพื่อเข้าสู่เว็บไซต์ https://celebratehershe.com/th-th

ขอเชิญทุกคนร่วมส่งแรงบันดาลใจให้กันและกัน ด้วยการชื่นชม (S)HERO เธอผู้เป็นแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ บอกกับเธอว่าชื่นชมเธออย่างไร ผ่านการ์ดชื่นชมดิจิทัล ที่สามารถดาวน์โหลด และแชร์ต่อให้กับ (S)HERO ที่ต้องการชื่นชม หรือแชร์ในโซเชียลแพลตฟอร์มของคุณ เพื่อแสดงความรู้สึกขอบคุณ และส่งต่อพลังใจให้กัน พร้อมติดแฮชแท็ก #CelebrateShero #เปิดโหมดปังปลุกพลังSHERO

การ์ดชื่นชมบุคคลที่สามารถเลือกคำชื่นชม อัพโหลดรูปภาพ หรือสร้างอวาตาร์ของบุคคลที่อยากชื่นชมได้ตามใจชอบ

นอกจากแพลตฟอร์มบนโลกโซเชียล เฮอร์ชีย์ ประเทศไทย ขอเชิญชวนทุกคนเข้าร่วมกิจกรรม ในวันสตรีสากล 8 มีนาคมนี้ที่ อาคาร ซีพี ทาวเวอร์ ชั้น 1 หน้า 7-Eleven และวันที่ 9 มีนาคมที่ สยามสแควร์วัน เพื่อร่วมเฟ้นหาพลัง (S)HERO ที่ซ่อนอยู่ภายในคุณ พร้อมถ่ายรูป 360 องศา ในเวอร์ชัน ซุปเปอร์ (S)HERO พร้อมร่วมลุ้นรับของรางวัลในงานอีกมากมาย 

กรุงเทพประกันภัยร่วมกับกรมสุขภาพจิต รณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจให้คนไทยห่างไกลภาวะซึมเศร้า

account_circle

กรุงเทพประกันภัยและกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เห็นความสำคัญของปัญหาด้านสุขภาพจิต โดยเฉพาะสถานการณ์ของผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้นและกำลังเป็นปัญหาทางสังคมที่ต้องได้รับการแก้ไขและป้องกันไม่ให้ขยายวงกว้าง จึงร่วมจัดงานแถลงข่าวพร้อมร่วมเสวนาในหัวข้อการส่งเสริมสุขภาพใจ ใส่ใจสุขภาพจิต เพื่อการป้องกันอย่างยั่งยืน เน้นสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับภาวะซึมเศร้าให้แก่ประชาชนทั่วไป รวมถึงการสร้างองค์ความรู้ให้คนรอบข้างและครอบครัวสามารถดูแลผู้ที่อยู่ในภาวะซึมเศร้าได้อย่างเข้าใจด้วยวิธีที่ถูกต้องและเหมาะสม พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาที่สะท้อนถึงภาวะซึมเศร้าซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาทางจิตใจแต่เป็นโรคที่รักษาหายได้จากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต ผ่านการถ่ายทอดเรื่องราวโดยนายปองกูล สืบซึ้ง (ป๊อบ-ปองกูล) ศิลปินอารมณ์ดี และยังมีนายนที เอกวิจิตร (อุ๋ย บุดด้าเบลส) ร่วมเผยประสบการณ์ในฐานะนักบำบัด ณ เดอะ กลาสเฮ้าส์ ปาร์คนายเลิศ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2567

นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุขกล่าวถึงสถานการณ์ภาวะซึมเศร้าของไทยว่า “แม้โลกจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ให้เข้ามามีส่วนช่วยในทุกระบบ แต่พบว่าคนไทยยังคงเผชิญกับภาวะปัญหาทางสุขภาพจิตเพิ่มขึ้น ประชาชนใช้ชีวิตท่ามกลางความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า เจ็บป่วยด้วยปัญหาสุขภาพจิตและยาเสพติด จะเห็นได้จากจำนวนผู้ป่วยทางจิตเวชในไทย เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า จาก 1.3 ล้านคน ในปี 2558 เป็น 2.3 ล้านคน ในปี 2564 จากข้อมูลล่าสุดบนระบบรายงาน HDC ของกระทรวงสาธารณสุขปี 2566 พบว่าผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดที่รักษาแบบผู้ป่วยนอก เพิ่มขึ้นกว่า   3 แสนรายหรือคิดเป็นร้อยละ 12.09 รวมถึงประมาณการณ์ว่าคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ป่วยด้วยโรคซึมเศร้า ถึง 1.5 ล้านคน และอาจมีเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่เข้ารับการบำบัดดูแล ซึ่งหากไม่ได้รับการดูแลอย่างทันท่วงทีอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตที่รุนแรงขึ้น เนื่องจากพบสถิติว่าโรคซึมเศร้าเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักนำไปสู่การ   ฆ่าตัวตายของคนไทยและผู้ป่วยซึมเศร้ามีแนวโน้มการฆ่าตัวตายสูงกว่าคนทั่วไป และมีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตก่อนวัยอันควรถึงร้อยละ 70 โดยพบว่าอัตราส่วนจิตแพทย์ 1.25 คน ต้องดูแลคนไทยถึง 1 แสนคน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนจะขยับเข้ามามีส่วนร่วมในช่วยเหลือให้คนไทยมีสุขภาวะทางจิตที่ดีอย่างถ้วนหน้า โดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นภาคส่วนที่มาจากด้านสาธารณสุขเพียงอย่างเดียว แต่อาจมาจากภาคเอกชนที่มีความสนใจและใส่ใจในการมีสุขภาวะทางจิตที่ดีของสังคมไทย การมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่างๆ จะทำให้เกิด ผลลัพธ์ที่แตกต่างไปจากการดำเนินงานด้านสุขภาพจิตในปัจจุบัน ช่วยให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งสิ่งนี้อาจเป็นคำตอบของการมีสุขภาวะทางจิตที่ดีและความสุขของสังคมไทยอย่างยั่งยืน กรมสุขภาพจิต รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นทางบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้เข้ามีส่วนสนับสนุนและผลักดันให้เกิดการสร้างความตระหนักและรอบรู้ด้านสุขภาพจิต โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับโรคซึมเศร้าซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยผู้ป่วยและครอบครัวที่กำลังต่อสู้กับปัญหาเหล่านี้
ยังเป็นการร่วมมือครั้งสำคัญที่สะท้อนภาพว่า เรื่องสุขภาพจิตไม่เป็นเพียงแค่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของคนไทยทุกคน”

ด้าน ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ด้วยนโยบายด้านการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (ESG) ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่ยึดมั่นหลักธรรมาภิบาล การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีคุณภาพ คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ควบคู่ไปกับการสนับสนุนส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนในสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการให้ความร่วมมือกับองค์กรเครือข่ายต่างๆ โดยให้การสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมเพื่อดูแลช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนพร้อมการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาสังคมอย่างแท้จริง”

“และจากสภาพสังคมที่เปราะบางด้วยปัญหาและปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ส่งผลให้คนในสังคมไทยประสบกับสภาวะทางความเครียดสะสม มีความอ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจจนเกิดเป็นภาวะซึมเศร้า ทั้งที่แบบรู้ตัวและไม่รู้ตัว ส่งผลให้เกิดภาพในจินตนาการต่อตนเองในแง่ลบ และหากไม่ได้รับการแนะนำหรือการดูแลอย่างเหมาะสมหรือถูกวิธี อาจจะนำไปสู่การทำร้ายตนเอง และเลวร้ายที่สุดคือการฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นการสูญเสียทรัพยากรที่มีค่าของสังคมอย่างน่าเสียดาย โดยในปัจจุบันผู้ที่มีภาวะซึมเศร้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรุงเทพประกันภัยจึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนช่วยรณรงค์เพื่อลดปัญหาดังกล่าว กอปรกับการร่วมส่งเสริมด้านสุขภาพจิตที่ดีเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันได้อย่างยั่งยืน จึงเป็นที่มาของความร่วมมือกับกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ในการสร้างองค์ความรู้และความเข้าใจให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพจิต โดยเฉพาะกับผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า และคนรอบข้างที่ต้องดูแลผู้ที่มีอาการอย่างใกล้ชิด เพราะภาวะซึมเศร้าถือเป็นอาการของโรคอย่างหนึ่งที่สามารถรักษาให้หายได้โดยการรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต บริษัทฯ จึงได้จัดทำสื่อรณรงค์ในรูปแบบภาพยนตร์โฆษณาเพื่อการสื่อสารได้อย่างทั่วถึง ตลอดจนยังมีแผนการจัดกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งปี เพื่อให้คนไทยเข้าใจถึงปัญหาและรับรู้ถึงแนวทางการดูแลผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า ไม่ใช่เพียงแต่ผู้ที่มีอาการซึมเศร้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้คนรอบข้าง ทั้งครอบครัวและเพื่อนๆ เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นได้เข้าใจ สามารถสื่อสารและดูแลผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าได้อย่างเหมาะสม พร้อมทั้งยังมีส่วนช่วยป้องกันปัญหาได้ในระยะยาว”

            โดยในงานแถลงข่าว กรุงเทพประกันภัยและกรมสุขภาพจิตได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาสร้างความรู้และความเข้าใจให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับภาวะซึมเศร้าที่ถือว่าเป็นอาการของโรคที่สามารถรักษาได้ เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าภาวะซึมเศร้าเป็นความอ่อนแอ ไม่จำเป็นต้องพบแพทย์ แต่จริงๆ แล้วภาวะซึมเศร้าเป็นอาการที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ต่างจากโรคทางกายอื่นๆ ซึ่งสาเหตุเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ทางกาย ด้านจิตใจ และสภาวะแวดล้อมต่างๆ  โดยสิ่งที่ภาพยนตร์โฆษณาต้องการจะสื่อคือการสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชนรับรู้ว่า ภาวะซึมเศร้าเป็นอาการของโรคที่ไม่ได้เกิดจากความอ่อนแอหรือไม่ใช่แค่ความรู้สึก และอยากให้เขาเหล่านั้นได้เข้าไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี ซึ่งสามารถขอคำปรึกษาได้ที่สายด่วนกรมสุขภาพจิต โทร. 1323 โดยเล่าเรื่องราวนี้ผ่านนายปองกูล สืบซึ้ง (ป๊อบ-ปองกูล)ศิลปินอารมณ์ดี

ทั้งนี้ ภายในงานยังมีแขกรับเชิญมาร่วมเสวนาในหัวข้อ การส่งเสริมสุขภาพใจ ใส่ใจสุขภาพจิต เพื่อการป้องกันอย่างยั่งยืน โดยมี ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ที่มาให้ความรู้ในเรื่องการดูแลผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า กล่าวว่า “สถานการณ์ของผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้นและกำลังเป็นปัญหาทางสังคมที่ต้องได้รับการแก้ไขและป้องกันอย่างเร่งด่วนนั้น มีทางออกแรกที่ทุกคนสามารถช่วยกันทำได้และไม่ใช่เรื่องยาก เพราะการให้ผู้ที่อยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว ได้มีโอกาสที่จะเล่าระบายความในใจ ที่สำคัญต้องสร้างบรรยากาศของการเป็นพื้นที่ปลอดภัยในการบอกเล่า เพียงเท่านั้นก็สามารถคลี่คลายได้อย่างมาก ส่วนการให้คำแนะนำว่า สู้ๆ สามารถทำได้  แต่ต้องเข้าใจว่าผู้ที่มีภาวะซึมเศร้ากำลังสู้กับอะไร ฟังก่อนว่ากำลังทุกข์ใจเรื่องอะไร มีคนบอกว่า อย่าพูดว่า สู้ๆ แต่ที่จริงแล้วคำว่า สู้ๆ สามารถพูดได้ ก็ต่อเมื่อเรารู้ว่าเขากำลังสู้อยู่กับอะไร ถ้าเราฟังเขาจนเข้าใจแล้วรู้ว่า เขากำลังสู้อยู่กับปัญหาอะไร ปัญหาแบบนี้ในมุมมองของเขาเป็นอย่างไร ความเข้าใจและรับรู้ถึงสถานการณ์ก่อนจึงสามารถให้กำลังใจได้อย่างเหมาะสม หรือว่าบางทีการนั่งอยู่เฉยๆ เพื่อรับฟังก็ถือว่าเป็นการให้กำลังใจได้อีกช่องทางหนึ่งหรือที่เรียกว่า แค่เล่าก็เบาแล้ว เพราะคนเราไม่ได้โชคดีที่จะมีคนรับฟัง แต่ถ้าคุณสามารถเป็นคนคนหนึ่งที่รับฟังใครสักคนได้นั่นถือเป็นการช่วยเหลือที่ดีมากที่สุดแบบหนึ่งทีเดียว”

นอกจากนี้ นายปองกูล สืบซึ้ง (ป๊อบ-ปองกูล) นักร้อง และพรีเซนเตอร์ภาพยนตร์โฆษณาชุดดังกล่าว ร่วมด้วยนายนที เอกวิจิตร (อุ๋ย บุดด้าเบลส) พิธีกร ศิลปิน นักบำบัด ยังได้ร่วมเสวนาเพื่อสร้างความตระหนักรู้ พร้อมทั้งเผยประสบการณ์ที่มีต่อผู้เกิดภาวะซึมเศร้าว่าเราควรปฏิบัติหรือดูแลเอาใจใส่เขาเหล่านี้อย่างไร และจะทำอย่างไรเพื่อให้ตัวเราห่างไกลจากภาวะซึมเศร้าได้

ทั้งนี้ สามารถติดตามชมภาพยนตร์โฆษณาเพื่อเข้าใจผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าได้มากยิ่งขึ้นทางสื่อ Social Media ต่างๆ และสื่อโทรทัศน์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และหากต้องการคำปรึกษาด้านสุขภาพจิตสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมสุขภาพจิต โทร. 1323

Kristen Stewart

แกะบิวตี้ลุค Kristen Stewart จากงาน 74th Berlin International Film Festival

Alternative Textaccount_circle
Kristen Stewart
Kristen Stewart

แกะบิวตี้ลุค Kristen Stewart จากงาน 74th Berlin International Film Festival สวยคมแต่งตามได้ง่ายๆ ด้วยเมคอัพไอเท็ม 6 ชิ้นนี้


ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์และเดอะมอลล์ ปลุกความร้อนแรงรับซัมเมอร์ จัดงาน “THE MALL LIFESTORE SUMMER-CATION HEATWAVE HITTING” ช้อปให้ฉ่ำ ปะทะคลื่นความร้อนแรง

account_circle

ซัมเมอร์นี้ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์และเดอะมอลล์ ร่วมกับ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย , Bangkok
Bank M , บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จํากัด (มหาชน) , บริษัท แคนนอน       มาร์เก็ตติ้ง (ไทย
แลนด์) จำกัด และพันธมิตรร้านค้าแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ในศูนย์การค้า จัดงาน “THE MALL LIFESTORE SUMMER-
CATION HEATWAVE HITTING” ช้อปให้ฉ่ำ ปะทะคลื่นความร้อนแรง ปลุกดีกรีความฮอต  จัดเต็มกิจกรรมสุดสนุก
พร้อมมอบโปรโมชั่นพิเศษในซัมเมอร์นี้ งานจัดระหว่างวันที่ 8 มีนาคม – 16 เมษายน 2567  ที่ศูนย์การค้า
เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ , งามวงศ์วาน , บางแค , บางกะปิ และเดอะมอลล์ โคราช

เตรียมพบกับ ปรากฎการณ์แฟชั่นโชว์ยิ่งใหญ่ที่ร้อนแรงที่สุดรับซัมเมอร์ 2024  อัพเดทเทรนด์แฟชั่นผู้ชาย-ผู้
หญิงคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุด และลิมิเต็ด อิดิชั่นจากแบรนด์แฟชั่นชั้นนำในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้ากลุ่มเดอะ
มอลล์ รวมกว่า 120 แบรนด์ อาทิ ADIDAS, ALDO, CHARLES & KEITH, CC DOUBLE O, CPS CHAPS, FOOT
LOCKER, GENTLEWOMAN, H&M, HLA CONCEPT STORE, JASPAL, JELLY BUNNY,JD SPORTS, LYN AROUND,
MISTY MYNX, NEW BALANCE, POMELO, SUITCUBE, STEVE MADDEN, UNIQLO, URBAN REVIVO   และครั้ง
แรกกับการเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของ M Card “กลัฟ –คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์” พระเอก
หนุ่มหล่อสายแฟในงานนี้  นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่รวมคนดังตัวท็อปจาก 5 เวทีประกวดใหญ่ระดับ
ประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Miss Thailand Universe 2023, Next Universe 2023, นางสาวไทย 2567 , Mister
International 2023 และ Miss Trans Thailand 2023มาร่วมเดินแฟชั่นโชว์ในเวทีเดียวกัน นำโดย แอนโทเนีย โพ
ซิ้ว Miss Universe Thailand 2023 และ 1st Runner Up Miss Universe 2023 , นลิน-ฉัตร์ณลิณ โชติจิรวรา
ฉัตร 1st Runner Up Miss Universe Thailand 2023 และ Miss Intercontinental 2023, อลิน-สุเมธารัตน์ โก
เมซ Next Universe Junior 2023 , เมแกน แมคโดนัล Next Universe Teenage 2023, ดินสอสี-พนิดา เขื่อน
จินดา นางสาวไทย 2567, คิม-ธิติสรรค์ กู๊ดเบิร์น Mister International 2023 ,ดร.พอลลี่-ณฑญา เป้ามี
พันธ์ Miss Trans Thailand 2023 ร่วมด้วยดารานักแสดงและโมเดลมากมาย บอส-บูลเศรษฐ์ ภูสินโชควงศา, ไดร์
ม่อน-ณรกร ณิชกุลธนโชติ, เอิร์ท-ธนกฤต ตาละโสภณ ,วิน- ทรงสิน ใจพันธ์, ปลื้ม-ธยศทรณ์ ไวยฉัยยา, พิม-
พิมพ์ลภัส จึงสุระ , ผิงผิง-ณิชา ปิยะวัฒนานนท์, กราฟิค-รัชวิศน์ จันทร์รุ่งอนันต์, ยู-ยูซึเกะ มาซาโอกะ , อัน
ดา อนันตา เตียวิรัตน์ ,นุ่น-ธัญญพัทธ์ อินยาวิเลิศ ,แพรวา-พุทธิชา บุญมาศ , จา พชร สวนศรี ,พี พีรวิชญ์
พลอยนำพล ,จาว่า พบธรรม หรรษา, ไนน์ วชิราภรณ์ โยสิทธิ์ โดยมี คุณมีมี่-มิลิน ยุวจรัสกุล และนิตยสารแพรว
ร่วมรังสรรค์โชว์แฟชั่นสุดพิเศษเพิ่มดีกรีความร้อนแรงทั้งรันเวย์ และเติมเต็มความสนุกด้วยมินิคอนเสิร์ตพิเศษ
จาก กลัฟ-คณาวุฒิ  โดยจะจัดงานพิธีเปิดในวันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2567 เวลา 16.30 น. ที่บริเวณ M GRAND
HALL ชั้น G เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ  และต่อเนื่องด้วยแฟชั่นโชว์ซัมเมอร์สุดพิเศษจากแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ
อาทิ Men Intrend & Ladies Boutique , Lingerie Salon , BP World , Dapper ในวันที่ 9-10 มีนาคม 2567 ตั้งแต่
เวลา 13.00 น. เป็นต้นไปที่บริเวณ M GRAND HALL ชั้น G เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ

นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรมสุดพิเศษ ร่วมกับ นิตยสารแพรว แบรนด์นิตยสารแฟชั่นแถวหน้าของไทย

·    Fashion Mission เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ X แพรว เพื่อเฟ้นหาสุดยอดนักสร้างสรรค์คอนเทนต์  ครีเอเตอร์ที่ต้องมาร่วมทำภารกิจสร้างคอนเทนต์ภายใต้โจทย์สุดท้าทาย Mix & Match Summer Look จาก  แบรนด์แฟชั่น ไลฟ์สไตล์
สุดฮอตภายในศูนย์ฯ เพื่อชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 100,000 บาท โดยจะเปิดรับสมัครวันที่ 1 – 20 มีนาคม 2567 และประกาศผลผู้ชนะวันที่ 31 มีนาคม 2567 ที่ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค

·        EXCLUSIVE STYLING WORKSHOP ปรับลุคแปลงโฉมให้กับลูกค้า 50  ท่านแรก ที่มียอดช้อปสะสม ใน
ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ระหว่างวันที่ 8 – 21 มีนาคม 2567 ครบ 5,000 บาทขึ้นไป รับสิทธิ์เข้า
ร่วม  WORKSHOPกับ คุณมิลิน ยุวจรัสกุล ในวันที่ 31 มีนาคม 2567 ที่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค ที่จะมาสไตลิ่งชุด
ต่างๆ จากแบรนด์สุด HOT ในศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ให้กับทั้ง 50 ท่านในแบบ Exclusive ปรับ Heat Look ให้
ปังพร้อมรับแรงปะทะของคลื่นความร้อนและ รับบัตรกำนัลจากแบรนด์ชั้นนำในศูนย์ฯ มูลค่า 10,000 บาท

·       WEEKEND STYLING โดยสไตลิสต์จากแพรว ที่จะมามิกซ์แอนด์แมตช์แฟชั่นในธีมซัมเมอร์ให้แก่นักช้อปสายแฟ
ที่มียอดช้อปร้านค้าในศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ครบ 800 บาท  ที่จะเปลี่ยนคุณให้เป็นนางแบบ-นายแบบสุด
ฮอต พร้อมถ่ายภาพโดยช่างภาพมืออาชีพ ในวันที่ 9 – 10 มีนาคม 2567 เวลา 13.00 น. – 16.00 น. ที่ M Grand
Hall เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ และวันที่ 30 – 31 มีนาคม 2567 เวลา 13.00 น. – 16.00 น. ที่ M Fashion
1 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค

            รวมทั้งจัดเต็มกิจกรรมคลายร้อนมากมายตลอดซัมเมอร์นี้ อาทิ Workshop คลายร้อน เพ้นท์หมวก เพ้นท์พัด
สุดชิค , REFRESHING BAR คลายร้อนกับเมนูพิเศษ , HEAT WAVE MARKET ช้อปคลายร้อน เพลิดเพลินกับช้อป
ไอเท็มต้องมีรับซัมเมอร์ ระหว่างวันที่ 9 – 17 มีนาคม 2567 ที่ M Grand Hall เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ
และ 28 มีนาคม – 3 เมษายน 2567, M Fashion 1 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค , แชะภาพซัมเมอร์สุดฮอต พร้อม
ปริ้นรูป กับ CANON เมื่อใช้จ่ายในศูนย์ฯและห้างฯ ครบ 300 บาท / ใบเสร็จ พิเศษ ชวนสายแฟถ่ายรูป Photo
Booth สุดชิคอวดแฟชั่น ท่ามกลางบรรยากาศสุดฮอต วันที่ 28 มีนาคม – 3  เมษายน 2567 ที่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์
บางแคและพลาดไม่ได้ฟินคลายร้อนกับมินิคอนเสิร์ตจากกองทัพศิลปินนักร้องชื่อดัง ที่จะหมุนเวียนมามอบความ
สนุกตลอดซัมเมอร์

9 มีนาคม PIXXIE ที่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ และ Whal & Dolph ที่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน

10 มีนาคม BOWKYLION ที่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ และ QLER ที่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน

23 มีนาคม Bean-Napason 24 มีนาคม Serious Bacon ที่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ

28 มีนาคม Tilly Bird , 29 มีนาคมJETSET’ER , 30 มีนาคม ส้ม-มารี ที่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์  บางแค

งานจัดระหว่างวันที่ 8 – 17 มีนาคม 2567 ที่ M Lifestyle Hall ชั้น G เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน และ M Grand
Hall ชั้น G เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ , วันที่ 21 – 26 มีนาคม 2567 ที่ EVENT 2 ชั้น 2 เดอะมอลล์ โคราช , วัน
ที่ 23 – 31 มีนาคม 2567 ที่ M Lifestyle Hall ชั้น B เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ และวันที่ 28 มีนาคม –
3 เมษายน 67 ที่ M Grand Hall และ M Fashion 1 ชั้น G เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค

นอกจากนี้ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์และเดอะมอลล์ ยังได้ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจและร้านค้าในศูนย์ฯ แจกรวม
กว่า 6.4 ล้านบาท พร้อมโปรโมชั่นพิเศษมากมายสำหรับลูกค้าธนาคารยูโอบี ประเทศไทย , Bangkok Bank M , บริษัท
อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จํากัด (มหาชน) , บริษัท แคนนอน   มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด  รายละเอียดเพิ่ม
เติม  https://tmg.click/49hAy0e

ช้อปให้ฉ่ำ ปะทะคลื่นความร้อนแรง ท้าความฮอตสุดปังของซัมเมอร์นี้ ในงาน “THE MALL LIFESTORE
SUMMER-CATION HEATWAVE HITTING” งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 มีนาคม – 16 เมษายน 2567  ที่
ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ , งามวงศ์วาน , บางแค , บางกะปิ และเดอะมอลล์ โคราช   ติดตาม
รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook The Mall Thailand และ https://tmg.click/49i00D5

#TheMallLifestoreSummerCationHeatwaveHitting #TheMallLifestore

#SUMMERCATION #ThemallThailand

ฝากไข่

‘ฝากไข่’ แผนมีลูกในอนาคตของสาวยุคใหม่ มีความจำเป็นแค่ไหน และเหมาะกับใครบ้าง?

Alternative Textaccount_circle
ฝากไข่
ฝากไข่

ยุคนี้คนรุ่นใหม่หลายคนเริ่มแต่งงานกันช้าลง เพราะหันมาทุ่มเททำงาน เก็บเงินจนรู้สึกว่ามั่นคงในระดับหนึ่ง แล้วจึงค่อยวางแพลนแต่งงานสร้างครอบครัว แล้วพอคิดจะมีลูก ก็อายุมากขึ้น ความเสี่ยงก็มากขึ้น ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีมาตอบโจทย์สาวๆ ยุคใหม่ที่อยากมีลูกในเวลาที่พร้อม และลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ ด้วยการฝากไข่ไว้ก่อน ในอนาคตเมื่อพร้อมและเวลาที่เหมาะสม ค่อยนำไข่ที่ฝากมาวางแผนมีลูกต่อไป แล้วการ ฝากไข่ มีความจำเป็นแค่ไหน และเหมาะกับใครบ้าง?

การฝากไข่ คือ การนำไข่ ซึ่งเป็นเซลล์สืบพันธุ์ของผู้หญิงออกมาเก็บรักษาโดยการแช่แข็งไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อนำมาใช้สำหรับการตั้งครรภ์ในอนาคต ทั้งนี้ไม่ได้มีข้อจำกัดของอายุที่ชัดเจน ขึ้นอยู่กับความพร้อมและปริมาณไข่ของแต่ละคน โดยอายุที่เหมาะสมในการฝากไข่คือ 28-35 ปี

แล้วใครที่มีความจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีการฝากไข่บ้าง

  • มีความต้องการมีบุตรในอนาคต หลังอายุ 35 ปี
  • มีโรคทางพันธุกรรมที่ส่งผลต่อการทำงานของรังไข่ (Tumer Syndrome, Fragile X Syndrome)
  • มีประวัติครอบครัวหมดประจำเดือนเร็ว
  • เคยได้รับการผ่าตัดรังไข่ หรือถุงน้ำรังไข่
  • มีความจำเป็นที่ต้องใช้ยาที่มีผลทำลายเซลล์ไข่ เช่น ยาเคมีบำบัด การฉายแสง

ข้อดีของการฝากไข่ คือ เพื่อเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ในอนาคต ซึ่งเป็นเวลาที่พร้อมตั้งครรภ์ แต่รังไข่ไม่พร้อม คือเหลือไข่ปริมาณน้อย และคุณภาพไม่ดี ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพไข่ขึ้นกับปัจจัยต่างๆ ทั้งอายุ ความเครียด การดูแลสุขภาพ การเลือกกินอาหาร การดื่มสุรา การสูบบุหรี่ การออกกำลังกาย หรือโรคต่างๆ เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

สำหรับสาวๆ ที่ต้องการฝากไข่ควรเตรียมตัวดังนี้

  1. ควรเตรียมสุขภาพให้แข็งแรง กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และกินกรดโฟลิคล่วงหน้าก่อนเก็บไข่อย่างน้อย 1 เดือน
  2. พบแพทย์เพื่อตรวจความพร้อม ตรวจเลือด และอัลตราซาวด์
  3. เริ่มกระบวนการของการกระตุ้นไข่ในวันที่ 1-3 ของรอบประจำเดือน โดยตรวจฮอร์โมน และอัลตราซาวด์นับจำนวนไข่
  4. ฉีดยากระตุ้นไข่ 8-10 วัน และตรวจอัลตราซาวด์เพื่อดูการตอบสนองของไข่
  5. นัดเก็บไข่ เมื่อไข่ได้ขนาดที่เหมาะสม

การฝากไข่สามารถแช่แข็งไว้ได้นานมากกว่า 10 ปี ปัจจุบันมีรายงานการตั้งครรภ์จากไข่ที่แช่แข็งไว้นานถึง 14 ปี แต่แนะนำให้นำไข่มาใช้ก่อนอายุ 50 ปี เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงขณะตั้งครรภ์ โดยเด็กที่เกิดจากไข่แช่แข็ง ไม่ได้มีความผิดปกติมากกว่าเด็กที่เกิดจากการตั้งครรภ์โดยธรรมชาติ

ทั้งนี้ข้อจำกัดในการฝากไข่ก็มี คือ

  • การกระตุ้นไข่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากภาวะที่ไข่ถูกกระตุ้นมากเกิน(Ovarian Hyperstimulation Syndrome) ซึ่งพบได้ในกรณีที่มีปริมาณไข่มีจำนวนมากกว่าปกติ
  • ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นขณะเก็บไข่ เช่น เลือดออกในช่องท้อง ท้องอืด ปวดหน่วงท้องน้อย
  • ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ค่าใช้จ่ายในการฝากไข่ประมาณ 150,000-200,000 บาท ต่อรอบ (ขึ้นอยู่กับปริมาณยาที่ใช้) และค่าแช่แข็งไข่รายปี = 1,000 บาท/ใบ
  • หากการกลับมาใช้ไข่ทำเด็กหลอดแก้วในอนาคต จำเป็นต้องมีทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายด้วย

หากอยากมีลูกในอนาคต เมื่อพร้อม การฝากไข่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของสาวๆ ในยุคนี้ ที่สำคัญควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้การฝากไข่มีประสิทธิภาพด้วยนะคะ

Source: พญ.รุ่งทิวา กมลเดชเดชา จากศูนย์การแพทย์นวบุตร ชั้น 2 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (อาคารคิวเฮ้าส์)
Photo: Pexels


keyboard_arrow_up