ฝากไข่

‘ฝากไข่’ แผนมีลูกในอนาคตของสาวยุคใหม่ มีความจำเป็นแค่ไหน และเหมาะกับใครบ้าง?

Alternative Textaccount_circle
ฝากไข่
ฝากไข่

ยุคนี้คนรุ่นใหม่หลายคนเริ่มแต่งงานกันช้าลง เพราะหันมาทุ่มเททำงาน เก็บเงินจนรู้สึกว่ามั่นคงในระดับหนึ่ง แล้วจึงค่อยวางแพลนแต่งงานสร้างครอบครัว แล้วพอคิดจะมีลูก ก็อายุมากขึ้น ความเสี่ยงก็มากขึ้น ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีมาตอบโจทย์สาวๆ ยุคใหม่ที่อยากมีลูกในเวลาที่พร้อม และลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ ด้วยการฝากไข่ไว้ก่อน ในอนาคตเมื่อพร้อมและเวลาที่เหมาะสม ค่อยนำไข่ที่ฝากมาวางแผนมีลูกต่อไป แล้วการ ฝากไข่ มีความจำเป็นแค่ไหน และเหมาะกับใครบ้าง?

การฝากไข่ คือ การนำไข่ ซึ่งเป็นเซลล์สืบพันธุ์ของผู้หญิงออกมาเก็บรักษาโดยการแช่แข็งไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อนำมาใช้สำหรับการตั้งครรภ์ในอนาคต ทั้งนี้ไม่ได้มีข้อจำกัดของอายุที่ชัดเจน ขึ้นอยู่กับความพร้อมและปริมาณไข่ของแต่ละคน โดยอายุที่เหมาะสมในการฝากไข่คือ 28-35 ปี

แล้วใครที่มีความจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีการฝากไข่บ้าง

  • มีความต้องการมีบุตรในอนาคต หลังอายุ 35 ปี
  • มีโรคทางพันธุกรรมที่ส่งผลต่อการทำงานของรังไข่ (Tumer Syndrome, Fragile X Syndrome)
  • มีประวัติครอบครัวหมดประจำเดือนเร็ว
  • เคยได้รับการผ่าตัดรังไข่ หรือถุงน้ำรังไข่
  • มีความจำเป็นที่ต้องใช้ยาที่มีผลทำลายเซลล์ไข่ เช่น ยาเคมีบำบัด การฉายแสง

ข้อดีของการฝากไข่ คือ เพื่อเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ในอนาคต ซึ่งเป็นเวลาที่พร้อมตั้งครรภ์ แต่รังไข่ไม่พร้อม คือเหลือไข่ปริมาณน้อย และคุณภาพไม่ดี ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพไข่ขึ้นกับปัจจัยต่างๆ ทั้งอายุ ความเครียด การดูแลสุขภาพ การเลือกกินอาหาร การดื่มสุรา การสูบบุหรี่ การออกกำลังกาย หรือโรคต่างๆ เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

สำหรับสาวๆ ที่ต้องการฝากไข่ควรเตรียมตัวดังนี้

  1. ควรเตรียมสุขภาพให้แข็งแรง กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และกินกรดโฟลิคล่วงหน้าก่อนเก็บไข่อย่างน้อย 1 เดือน
  2. พบแพทย์เพื่อตรวจความพร้อม ตรวจเลือด และอัลตราซาวด์
  3. เริ่มกระบวนการของการกระตุ้นไข่ในวันที่ 1-3 ของรอบประจำเดือน โดยตรวจฮอร์โมน และอัลตราซาวด์นับจำนวนไข่
  4. ฉีดยากระตุ้นไข่ 8-10 วัน และตรวจอัลตราซาวด์เพื่อดูการตอบสนองของไข่
  5. นัดเก็บไข่ เมื่อไข่ได้ขนาดที่เหมาะสม

การฝากไข่สามารถแช่แข็งไว้ได้นานมากกว่า 10 ปี ปัจจุบันมีรายงานการตั้งครรภ์จากไข่ที่แช่แข็งไว้นานถึง 14 ปี แต่แนะนำให้นำไข่มาใช้ก่อนอายุ 50 ปี เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงขณะตั้งครรภ์ โดยเด็กที่เกิดจากไข่แช่แข็ง ไม่ได้มีความผิดปกติมากกว่าเด็กที่เกิดจากการตั้งครรภ์โดยธรรมชาติ

ทั้งนี้ข้อจำกัดในการฝากไข่ก็มี คือ

  • การกระตุ้นไข่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากภาวะที่ไข่ถูกกระตุ้นมากเกิน(Ovarian Hyperstimulation Syndrome) ซึ่งพบได้ในกรณีที่มีปริมาณไข่มีจำนวนมากกว่าปกติ
  • ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นขณะเก็บไข่ เช่น เลือดออกในช่องท้อง ท้องอืด ปวดหน่วงท้องน้อย
  • ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ค่าใช้จ่ายในการฝากไข่ประมาณ 150,000-200,000 บาท ต่อรอบ (ขึ้นอยู่กับปริมาณยาที่ใช้) และค่าแช่แข็งไข่รายปี = 1,000 บาท/ใบ
  • หากการกลับมาใช้ไข่ทำเด็กหลอดแก้วในอนาคต จำเป็นต้องมีทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายด้วย

หากอยากมีลูกในอนาคต เมื่อพร้อม การฝากไข่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของสาวๆ ในยุคนี้ ที่สำคัญควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้การฝากไข่มีประสิทธิภาพด้วยนะคะ

Source: พญ.รุ่งทิวา กมลเดชเดชา จากศูนย์การแพทย์นวบุตร ชั้น 2 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (อาคารคิวเฮ้าส์)
Photo: Pexels


LINE STICKERS CONTEST 2024 ชิงรางวัลทริปสุดยอดเอ็กซ์คลูซีฟ

account_circle

LINE STICKERS เชิญชวนเหล่านักสร้างสรรค์ ทั้งมือใหม่ และมือโปร เดินหน้าลงสนามแห่งความคิดสร้างสรรค์ ส่งผลงาน LINE STICKERS เข้าร่วมประกวดในกิจกรรม LINE STICKERS CONTEST 2024 ที่ในปีนี้เปิดให้ผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ทุกท่านร่วมประลองฝีมือ โดยสติกเกอร์ที่ตอบโจทย์ ตรงใจผู้ใช้งาน สร้างยอดดาวน์โหลดได้มากที่สุด 12  ลำดับแรก จะได้เป็นผู้ชนะรับสิทธิ์ร่วมทริปสร้างแรงบันดาลใจ เสริมทักษะความรู้ และชมสถานที่สุดครีเอทีฟ ประเทศญี่ปุ่น ฟรี! นักสร้างสรรค์ ครีเอเตอร์ ผู้สนใจ ห้ามพลาด !

LINE STICKERS CONTEST 2024 เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 โดยในปีนี้ LINE STICKERS ได้ปรับรูปแบบการประกวดให้นักสร้างสรรค์ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมือสมัครเล่นผู้ที่หลงใหลการขีดเขียน หรือเป็นผู้ใช้ความถนัดทางศิลปะได้อย่างมืออาชีพ ส่งผลงานการออกแบบสติกเกอร์เข้ามาประลองความคิดสร้างสรรค์บนสนามเดียวกัน ให้ผู้ใช้บริการ LINE ทั่วโลกได้เข้ามาชื่นชมและใช้ผลงานทีถูกสร้างสรรค์ขึ้น โดยผู้ใช้ LINE จะเป็นผู้ตัดสินผ่านยอดการดาวน์โหลดที่มากที่สุด โดยมีรายละเอียดการแข่งขันแบ่งเป็น 2 รอบ ดังนี้

  • การแข่งขันรอบที่ 1 ผู้ร่วมประกวดต้องส่งผลงาน ภายในวันที่ 1 มีนาคม 2567 เวลา 9:00 น. ถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 เวลา 23:59 น. และวางจำหน่ายเพื่อแข่งขันระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เวลา 9:00 น. ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 เวลา 23:59 น. โดยผู้ชนะจะต้องมียอดดาวน์โหลดตั้งแต่ 3,000 เซ็ตขึ้นไป สำหรับสติกเกอร์ภาพนิ่ง และ 1,500 เซ็ตขึ้นไปสำหรับสติกเกอร์ภาพเคลื่อนไหว
  • การแข่งขันรอบที่ 2 ผู้ร่วมประกวดต้องส่งผลงาน ภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2567 เวลา 9:00 น. ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 เวลา 23:59 น. และวางจำหน่ายเพื่อแข่งขันระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2567 เวลา 9:00 น. ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2567 เวลา 23:59 น. โดยผู้ชนะจะต้องมียอดดาวน์โหลดตั้งแต่ 4,000 เซ็ตขึ้นไป สำหรับสติกเกอร์ภาพนิ่ง และ 2,000 เซ็ตขึ้นไปสำหรับสติกเกอร์ภาพเคลื่อนไหว

ทั้งนี้ LINE STICKERS จะพิจารณายอดรวมดาวน์โหลดสติกเกอร์สูงที่สุดจำนวน 6 ท่านในแต่ละรอบการแข่งขัน โดยแบ่งออกเป็นประเภทสติกเกอร์ภาพนิ่ง จำนวน 3 ท่าน และประเภทสติกเกอร์ภาพเคลื่อนไหว จำนวน 3 ท่าน หากในการแข่งขันแต่ละรอบได้ผู้ชนะตามเกณฑ์ไม่ครบตามกำหนด จะเพิ่มจำนวนผู้ชนะในรอบต่อไปให้จำนวนรวมครบ 12 ท่าน ที่จะร่วมทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ สร้างแรงบันดาลใจด้านการสร้างสรรค์คาแรคเตอร์ ณ ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้

LINE STICKERS CONTEST 2024 เป็นกิจกรรมสำคัญสำหรับนักสร้างสรรค์ที่อยากเดินในสายอาชีพนี้ โดยมี LINE เป็นผู้สนับสนุนสำคัญในฐานะแพลตฟอร์มหลักที่จะนำพาครีเอเตอร์สู่ความเป็นมืออาชีพ และขยายโอกาสทางธุรกิจไปต่อยอดในธุรกิจเกี่ยวข้องที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าร่วมประกวด และเกณฑ์การตัดสินอย่างละเอียดได้ที่ https://lin.ee/lcVAuJq/sknj/pr สำหรับการแข่งขันรอบที่ 1 และ https://lin.ee/f2AcKWi/sknj/pr สำหรับการแข่งขันรอบที่ 2 และสามารถส่งผลงานเข้าประกวด LINE STICKERS CONTEST 2024 ได้ที่ creator.line.me

เนสเพรสโซเปิดตัว ‘คิม โกอึน’ แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับเอเชีย

account_circle

พร้อมพบกับจอร์จ คลูนีย์ แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกเป็นครั้งแรก

ในหนังโฆษณาชุดล่าสุด ‘The Unforgettable Taste’ นำเสนอเรื่องราวของรสชาติกาแฟที่ลืมไม่ลงจากกาแฟแคปซูลและเครื่องชงกาแฟ VERTUO

เนสเพรสโซเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับเอเชียอย่างเป็นทางการ คิม โกอึน (Kim Go-Eun) นักแสดงมากความสามารถจากประเทศเกาหลีใต้ โดยได้ร่วมปรากฏตัวในภาพยนตร์โฆษณาชุดล่าสุด ‘The Unforgettable Taste’ ที่นำเสนอเรื่องราวของรสชาติกาแฟที่ลืมไม่ลงจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Nespresso VERTUO ผ่านเนื้อเรื่องที่จอร์จ คลูนีย์ (George Clooney) แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลก และจูเลีย การ์เนอร์ (Julia Garner) นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง กำลังเดิมพันและทายรสชาติกาแฟแคปซูลว่าคิม โกอึนจะเลือกดื่มกาแฟชนิดใดอย่างสนุกสนาน

คิม โกอึน ถือเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในประเทศเกาหลีใต้ ผ่านผลงานการแสดงละครจากเรื่อง Guardian: The Lonely and Great God (2016), The King: Eternal Monarch (2020) และ Little Women (2022) ที่ทำให้ผู้ชมชาวไทยรู้จักเธอในวงกว้างมากขึ้น โดยเธอได้รับรางวัลทางการแสดงภายในประเทศมากมาย นอกจากความรักในการดื่มกาแฟของเธอแล้ว การช่วยเหลือสังคมของเธอที่เกี่ยวข้องกิจกรรมทางสิ่งแวดล้อม ยังสอดคล้องกับค่านิยมของเนสเพรสโซที่คำนึงถึงความยั่งยืน นี่จึงเป็นเหตุผลที่คิม โกอึนได้รับเลือกให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับเอเชียคนแรกของแบรนด์เนสเพรสโซ

ภาพยนตร์โฆษณาชิ้นนี้เปิดตัวครั้งแรกที่งานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ในปี 2023 ที่ผ่านมา และในปี 2024 มีการออกอากาศหลายครั้งในหลายประเทศ ซึ่งแรงบันดาลใจเกิดจากความมุ่งมั่นของเนสเพรสโซในการส่งมอบประสบการณ์กาแฟคุณภาพ พร้อมรสชาติที่ลืมไม่ลงเพียงปลายนิ้วสัมผัส โดยเนื้อเรื่องเปิดฉากด้วยจอร์จ คลูนีย์และจูเลีย การ์เนอร์อยู่ที่งานปาร์ตี้ กำลังเดิมพันว่าแขกแต่ละคนจะเลือกดื่มกาแฟรสชาติใด ทันใดนั้นคิม โกอึนก็เข้ามาเลือกกาแฟ จอร์จและจูเลียจึงแข่งกันคาดเดาว่า เธอจะเลือกกาแฟรสชาติใดกันแน่ “Intenso” จอร์จบอก ในขณะที่จูเลียค้านอย่างมั่นใจว่า “ไม่ เธอเลือกกาแฟเย็นแน่นอน” ทั้งสองลุ้นด้วยใจจดจ่อ และแล้วคิม โกอึนก็เผยตัวเลือกของเธอ “Ice Leggero” และเดินมาทักทายจอร์จพร้อมกาแฟแคปซูลด้วยประโยคที่ว่า “Don’t forget to recycle” หลังจากนั้น ภาพก็ตัดไปที่ปริศนาซึ่งถูกเฉลยว่าจูเลียกับคิม โกอึนนั้นร่วมมือกันหลอกจอร์จ พร้อมขับรถสุดหรูหลังชนะเดิมพันออกไป ทิ้งให้จอร์จขับสกู๊ตเตอร์วินเทจออกจากงาน ….

จอร์จ คลูนีย์ กล่าวระหว่างเบื้องหลังการถ่ายทำว่า “การทำงานกับนักแสดงทั้งสองนั้นยอดเยี่ยมมาก เราทุกคนมีโอกาสใส่ความเป็นตัวเองลงไปในโฆษณา ผมไม่ชอบทำตัวจริงจังมากเกินไป เลยไม่ติดใจที่โดนสองสาวเอาชนะแม้สุดท้ายจะเป็นผมเองที่ต้องใส่หมวกกันน็อคชมพูแปร๋นก็ตาม ผมว่าผมเอาอยู่!”

จูเลีย การ์เนอร์ กล่าวถึงการร่วมในงานโฆษณาเนสเพรสโซครั้งแรกของเธอว่า “การทำงานในแคมเปญร่วมกับคนเก่งๆขนาดนี้ถือเป็นฝันที่เป็นจริงเลยค่ะ! ฉันชอบความขี้เล่นของบทและโทนโดยรวมของหนังโฆษณา ซึ่งเหมือนจะตอบข้อสงสัยของฉันที่ว่า รสชาติกาแฟที่ฉันเลือกมักจะขึ้นอยู่กับอารมณ์ในขณะนั้นจริงๆ”

คิม โกอึน เสริมว่า “การถ่ายทำครั้งนี้สนุกมาก มีเสียงหัวเราะกันไม่ขาดเลยค่ะ ฉันชอบความผสมผสานที่ลงตัวของนักแสดงและความหรูหราในโฆษณาเนสเพรสโซชิ้นนี้มาก ที่สำคัญยังเน้นย้ำเรื่องการรีไซเคิลอีกด้วย!”

อีลีส ทัน (Eliz Tan) ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารเนสเพรสโซประเทศไทย กล่าวว่า “เราตื่นเต้นมากที่จะเปิดตัวแคมเปญใหม่ของเรา นำทีมโดยนักแสดงชาวเกาหลีใต้ที่ชาวไทยคุ้นเคยอย่างคิม โกอึน แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับเอเชียคนแรกของเนสเพรสโซ, จอร์จ คลูนีย์และจูเลีย การ์เนอร์ โดยโฆษณาชิ้นนี้แสดงให้เห็นถึงกาแฟคุณภาพระดับพรีเมียม หลากหลายรสชาติที่สามารถรังสรรค์ได้ด้วยเครื่องชงกาแฟ Nespresso VERTUO  ของเรา เพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มลองรสชาติกาแฟที่ลืมไม่ลง และหวังว่าโฆษณาชิ้นนี้จะเชื่อมโยงอารมณ์ของทุกคนกับสไตล์กาแฟที่ชื่นชอบ ในขณะเดียวกันเรายังเชิญชวนและกระตุ้นให้ลูกค้าของเรานำแคปซูลกาแฟเนสเพรสโซมารีไซเคิลอยู่เสมออีกด้วย”

#NespressoTH #TheUnforgettableTaste

กาแฟคุณภาพที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณ

Nespresso VERTUO มอบประสบการณ์กาแฟสุดพรีเมี่ยมให้กับคุณได้ทุกช่วงเวลา ด้วยกาแฟแคปซูลที่จะยกระดับประสบการณ์การดื่มกาแฟของคุณ ทั้งรสชาติ กลิ่นและสัมผัสที่เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพ จากเมล็ดกาแฟอาราบิก้าและโรบัสต้าชั้นดีที่มาจากแหล่งเพาะปลูกท้องถิ่นในหลากหลายประเทศ, เทคโนโลยีการสกัดกาแฟที่มอบเครม่าอันเนียนนุ่มและรสชาติกาแฟที่มีให้เลือกมากกว่า 30 รสชาติ พร้อมเสิร์ฟกาแฟให้คุณในหลากหลายสไตล์ตั้งแต่เอสเพรสโซ่ช็อต ไปจนถึงกาแฟอเมริกาโน่แก้วใหญ่ โดยคุณสามารถนำไปต่อยอดเป็นเมนูแก้วโปรดทั้งร้อนและเย็นได้อย่างสะดวกสบายเพียงปลายนิ้วสัมผัส โดย Nespresso VERTUO จะมอบไลฟ์สไตล์และช่วงเวลากาแฟอันมีความหมายที่ตรงกับรสนิยมการดื่มกาแฟของคุณ ไม่ว่าจะช่วงเวลากาแฟที่บ้านหรือระหว่างเดินทางก็ตาม รวมไปถึงการคำนึงถึงความยั่งยืนอย่างไม่มีสิ้นสุดด้วยกระบวนการรีไซเคิลอลูมิเนียมที่แบรนด์มีรองรับให้กับลูกค้าทุกคน

สำหรับลูกค้าที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์กาแฟคุณภาพพร้อมความสะดวกสบายภายในบ้าน เนสเพรสโซมีเครื่องชงกาแฟ Nespresso VERTUO หลากหลายรุ่นให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็น รุ่น VERTUO Pop สำหรับผู้ที่ชอบความกะทัดรัดและสีสัน, รุ่น VERTUO Next ที่เสิร์ฟเมนูกาแฟในหลากหลายคัพไซส์ไปจนถึงรูปแบบเหยือกและ VERTUO Lattissima ที่มอบประสบการณ์การเป็นบาริสต้าด้วยฟังก์ชั่นเครื่องทำนม โดยสามารถพบกับสินค้าจากเนสเพรสโซได้ที่บูติกทั้ง 9 สาขาได้แก่ สยาม พารากอน, เอ็มควอร์เทียร์, ไอคอน สยาม, เมกะ บางนา, เซ็นทรัล ลาดพร้าว, เซ็นทรัล อีสต์วิลล์, เซ็นทรัล เวสต์เกต, เซ็นทรัล ศรีราชา และเซ็นทรัล เชียงใหม่ ช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.nespresso.com และ Application : Nespresso พร้อมติดตามข่าวสารจากเนสเพรสโซได้ในโซเชียล มีเดียทุกช่องทาง ได้แก่ Line Official Account @nespressoth, Instragram : nespresso.th และ Facebook : www.facebook.com/nespresso.thailand

ลองได้จ้องแล้วจะหลง! ทำตาสวยเนียนกริบจับผิดไม่ได้ สไตล์ inZ Clinic กับการทำตาสองชั้นแบบดูเป็นธรรมชาติ

account_circle

กูรูด้านศัลยกรรมทั้งหลายต่างลงความเห็นตรงกันว่าการทำศัลยกรรมตาสองชั้นมีส่วนทำให้ใบหน้าดูเปลี่ยนไปได้ แต่งานนี้จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีหวานหยดสดใสจนใครก็ชม หรือจะไปในทางงง ๆ ถูกจับได้ตั้งแต่มองระยะไกลว่าไปทำตาสองชั้นมา อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของคุณหมอ

แพทย์หญิงวันวิสาข์ ตันศิริเจริญกุล หรือ ‘คุณหมอหลิน inZ Clinic’ จักษุแพทย์เฉพาะทาง ผู้มีความชำนาญการด้านการทำตาสองชั้นแบบดูเป็นธรรมชาติ ได้รับรางวัล PRAEW ICONIC BEAUTY ในปีที่ผ่านมาดีกรีแบบนี้แหละที่ควรค่าแก่การชี้เป้าให้คนที่กำลังอยากทำตาสองชั้นแบบม้วนเดียวจบได้ทำความรู้จัก

‘ศัลยกรรมตาสองชั้น’ เป็นได้มากกว่าความสวย

“ที่จริงการทำตาสองชั้นสามารถแก้ปัญหาตาได้หลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในวัยรุ่นไปจนถึงคนสูงวัย ส่วนมากจะเจอกับปัญหาตาดูตี่ ตาเล็ก มีตาสองชั้นหลบใน หรือดวงตาทั้งสองข้างไม่เท่ากัน การทำตาสองชั้นก็จะช่วยให้มีชั้นตาที่เข้ากับใบหน้า ดูสวยหวานได้ค่ะ รวมถึงผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก เบ้าตาลึก กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ตาปรือ ก็สามารถปรับดวงตาให้กลับมาดูกลมโตสดใสได้ ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นด้วย ซึ่งการทำตาสองชั้นนอกจะมีข้อดีในเรื่องของความสวยงาม ก็ยังช่วยปรับบุคลิกภาพของเรา เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับตัวเราเองอีกด้วยค่ะ”

คุณหมอหลิน inZ Clinic กับสไตล์เฉพาะตัวที่ต้องดู ไม่โป๊ะ

“สไตล์ของหมอจะเน้นที่ความเป็นธรรมชาติค่ะ ไม่อยากให้เน้นชั้นตาใหญ่เพียงอย่างเดียว ซึ่งบางทีอาจทำให้ตาดูปลิ้นและทำให้ตาปรือได้ ผู้ใช้บริการบางคนอาจคิดว่าการทำตาสองชั้นต้องทำชั้นตาใหญ่ ๆ ถึงจะดี แต่สำหรับหมอแล้วการศัลยกรรมต้องทำให้เหมาะสมกับโครงสร้างของดวงตาและใบหน้าด้วย ทั้งเพื่อความสวยงามและความปลอดภัยของตัวผู้ใช้บริการเอง หมอเชื่อว่า ‘ความสวยที่ไม่เคยตกเทรนด์ คือ ความงามที่ดูเป็นธรรมชาติ’”

ที่ inZ Clinic เราใส่ใจเรื่องการคำปรึกษาแบบ case by case เพราะผู้ใช้บริการแต่ละคนก็มีความกังวลใจที่แตกต่างกันไป รวมถึงปัญหาไปจนถึงโครงสร้างรอบดวงตาก็มีความแตกต่างกันด้วย การวิเคราะห์อย่างละเอียดจะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดมากกว่า”

ชีวิตบีซี่จนไม่มีเวลาพักฟื้นนานเลยไม่กล้าบุ๊คคิวเสียที คุณหมอมีแบบหายไวๆ ไหมคะ

“สามารถทำได้แน่นอนค่ะ เพราะการทำตาสองชั้นกับหมอจะใช้เทคนิคที่ทำให้เกิดอาการบวมช้ำน้อย ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน แถมยังเข้าที่ไว บางคนวันรุ่งขึ้นก็ไปทำงานได้เลย และบางเทคนิคที่หมอทำก็ไม่มีรอยแผล หลังทำสามารถล้างหน้าแต่งหน้าได้ตามปกติ ตอบโจทย์ความกังวลใจในเรื่องการดูแลตัวเองหลังทำตาได้มากเลยค่ะ”

โดดเด่นด้วยเทคนิคใหม่ไร้รอยแผล

            “สำหรับคนที่แผลหายยาก ไม่อยากให้มีแผลหมอมีเทคนิคใหม่ที่มีความเฉพาะตัว โดยจะใช้ไหมชนิดพิเศษ ถักเป็นลักษณะร่างแหไปตามเปลือกตาด้านใน ได้ชั้นตาที่สวยดูเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์ไม่ต่างจากการทำแบบกรีดเลย เทคนิคนี้ต้องบอกว่ามีข้อดีและตอบโจทย์ผู้ใช้บริการหลาย ๆ คนมาก เพราะไม่มีแผล หลังทำสามารถล้างหน้าแต่งหน้าได้ทันที ไม่ต้องระวังอะไรมาก แถมไม่ต้องมากังวลเรื่องรอยแผลเป็น บางคนมีอาชีพที่ต้องออกกล้อง ออกงานตลอด พักการแต่งหน้าไม่ได้ ไม่อยากให้ใครรู้ว่าไปทำตามา ก็มักจะเลือกทำเทคนิคนี้ค่ะ”

แผลก็ไม่มี พักฟื้นก็น้อย แล้วจะอยู่ได้ถาวรไหมคะ?

“อยู่ได้ถาวรเลยค่ะ การทำตาสองชั้นกับหมอจะทำให้ผู้ใช้บริการมีชั้นตาที่สวยดูเป็นธรรมชาติ ตอบโจทย์คนอยากสวย ไม่ต้องเสียเวลากลับมาแก้อีก แต่หากผู้ใช้บริการเคยทำตาสองชั้นจากที่อื่นมาก่อน แล้วต้องการมาแก้กับหมอ ก็สามารถติดต่อเข้ามาขอรับคำปรึกษาก่อนก็ได้เหมือนกันนะคะ”

ฝากส่งท้ายถึงใครที่กำลังอยากทำตาสองชั้น

“การทำตาสองชั้นถือเป็นผลงานศิลปะที่มีความละเอียดอ่อน หากมีความผิดพลาดแล้วจะทำให้เกิดความเสียหายทั้งในแง่ความสวยงามและความปลอดภัย แถมยังแก้ไขได้ยากด้วยค่ะ ดังนั้นใครที่อยากทำตาสองชั้นจึงต้องเลือกแบบทำครั้งเดียวจบกับคลินิกที่มีชื่อเสียง ผ่าตัดโดยจักษุแพทย์เฉพาะทางเท่านั้นนะคะ”

“inZ Clinic คือ คลินิกที่มีความชำนาญการด้านการทำตาสองชั้น ทีมแพทย์ทุกท่านเป็นจักษุแพทย์เฉพาะทาง มีประสบการณ์และมีความชำนาญเกี่ยวกับโครงสร้างรอบดวงตาโดยตรง สามารถช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ใช้บริการได้อย่างครอบคลุมตรงจุด ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับทั้งความสวยงามและความปลอดภัยกลับไปค่ะ”

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://inz-clinic.com/ Line @inzclinic หรือ โทร. 081-925-2144 , 02-004-7778

‘TEN’ (เตนล์)

‘TEN’ (เตนล์) สร้างความประทับใจในแฟนคอนเดี่ยวครั้งแรกในไทย

Alternative Textaccount_circle
‘TEN’ (เตนล์)
‘TEN’ (เตนล์)

‘TEN’ (เตนล์) ขึ้นแท่นเป็นศิลปินชายเดี่ยวคนแรกของ SM Entertainment ที่จัดแฟนคอนเดี่ยว ได้สำเร็จ 2 รอบ และบัตรหมดเกลี้ยงทุกที่นั่ง

สมบูรณ์แบบเต็มสิบ ! เตนล์ เปิดฉากแฟนคอนเดี่ยวครั้งแรกในไทย 2024 TEN FIRST FAN-CON [1001] IN BANGKOK สร้างสถิติศิลปินชายเดี่ยวคนแรกของ SM ที่จัดแฟนคอนเดี่ยว ณ อิมแพ็ค อารีน่าได้สำเร็จ 2 รอบ และบัตรหมดเกลี้ยงรวมผู้ชม 17,000 คน

‘TEN’ (เตนล์)

‘เตนล์’ หรือ ชิตพล ลี้ชัยพรกุล ศิลปินชายสุดฮอตสัญชาติไทยหนึ่งเดียวจาก SM Entertainment บริษัทผู้นำธุรกิจบันเทิงแห่งเกาหลีใต้ เปิดฉากแฟนคอนเดี่ยวครั้งแรกในประเทศไทยแบบเต็มสิบใน ‘2024 TEN FIRST FAN-CON [1001] IN BANGKOK’ วันเสาร์ที่ 2 และอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2567 พร้อมพิสูจน์สถานะ ‘ตัวเลขที่สมบูรณ์แบบ’ ของ NCT และ WayV ด้วยการสร้างสถิติใหม่อันน่าภาคภูมิใจ ขึ้นแท่นเป็นศิลปินชายเดี่ยวคนแรกของ SM Entertainment ที่จัดแฟนคอนเดี่ยว ณ อิมแพ็ค อารีน่าได้สำเร็จ 2 รอบ และบัตรหมดเกลี้ยงทุกที่นั่ง รวมผู้ชมทั้งสิ้นกว่า 17,000 คน

ก่อนการแสดงรอบวันเสาร์ที่ 2 มีนาคม 2567 ผู้จัดและต้นสังกัดในประเทศไทยอย่าง SM True ได้จัดงานแถลงข่าวประกาศความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของ ‘เตนล์’ ซึ่งได้เข้าร่วมสัมภาษณ์ถึงการกลับมาเยือนบ้านเกิดในฐานะศิลปินเดี่ยวพร้อมกระแสตอบรับอันท่วมท้น, โซโล่มินิอัลบั้มแรก ‘TEN’ และผลงานอื่น ๆ โดยในช่วงท้ายของงานแถลงข่าว พิธีกร ดีเจ นุ้ย ได้เรียนเชิญคุณจองมิน ชเว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CEO บริษัท เอสเอ็ม ทรู จำกัด และ Chief Global Officer ของ SM Entertainment, และผู้สนับสนุนร่วมถ่ายภาพที่ระลึกกับศิลปิน

ตามคอนเซ็ปต์ของชื่องาน ‘1001’ ที่สื่อถึง ‘TEN’ กับ WayZenNi (เวย์เจินนี) และ NCTzen (เอ็นซีทีเซ็น) แฟนคลับที่มีความสำคัญเป็นอันดับ 1 แฟนคอนในครั้งนี้จึงอัดแน่นไปด้วยหลากหลายการแสดงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของหนึ่งเดียวคนนี้ ‘เตนล์’ ซึ่งเขาตั้งใจถ่ายทอดออกมาเพื่อสื่อสารกับแฟน ๆ อย่างเต็มที่ เริ่มตั้งแต่เพลงแนวป๊อปร็อก ‘Paint Me Naked’ ปลดปล่อยใจให้เป็นอิสระไปด้วยกัน ต่อด้วยช่วง ‘10 For 1’ ในธีมนิตยสารที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ ‘เตนล์’ ซึ่งเขาได้ทำท่าทางสุดน่ารักเพื่ออธิบายหัวข้อต่าง ๆ หรือแม้แต่การจำลองสถานการณ์สมมุติและถามตอบเพื่อเสาะหาตัวตนที่แท้จริง ตลอดจนช่วงเล่นเกมสนุก ๆ เพื่อเก็บแต้มให้ครบ ‘10 Points’ กับภารกิจตามล่ารูปในอดีต และการทำชาเลนจ์เต้นเพลงดัง ๆ มากมาย อีกทั้งเซอร์ไพรส์สุดประทับใจ กับการร่วมฉลองวันคล้ายวันเกิดของ ‘เตนล์’ ที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ยิ่งทำให้บรรยากาศอบอุ่น

ความสนุกยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังได้ตอกย้ำการได้รับการขนานนามว่า ‘ผู้แสดงที่มีศิลปะ’ ผ่านเวทีเพลงโซโล่แบบครบทุกเพลง นำเสนอสีสันทางดนตรีและแนวเพลงที่ไม่เหมือนใคร ศิลปินมากความสามารถที่ปรับเปลี่ยนไปตามทุกคอนเซ็ปต์ได้อย่างไร้ที่ติ พร้อมถ่ายทอดจิตวิญญาณการเต้นอันเปี่ยมไปด้วยความรู้สึก ได้แก่ เพลงไตเติลแนวป๊อปแดนซ์ ‘Nightwalker’ ที่คว้าความสนใจของผู้ชมไว้ในทันที ด้วยการผสมผสานจังหวะเร้าใจสุดติดหูเข้ากับการแสดงที่ทรงพลังและเสน่ห์อันดึงดูดเกินต้านทาน, เพลงแดนซ์ป๊อปละติน ‘Water’ สะกดทุกสายตาด้วยไลน์เต้นอันพลิ้วไหว, เพลงแนวป๊อปพังก์ ‘Dangerous’ โชว์สเต็ปการเคลื่อนไหวสุดเซ็กซี่, เพลงฮิปฮอป ‘ON TEN’ ครองเวทีตามสไตล์ตัวเองอย่างกล้าหาญและมั่นใจ, ‘Shadow’ เพลงที่พาลุ่มหลงในเสียงหลบอันไพเราะกับลวดลายการเต้นบนเก้าอี้ นอกจากนี้ ยังมีเพลงโซโล่ที่ผ่านมาอย่าง ‘夢中夢 (몽중몽; Dream In A Dream)’, ‘New Heroes’ และ ‘Birthday’ รวมถึงเพลงที่เรียกความรักจากผู้ฟังทั่วโลกได้ถล่มทลายของ WayV อย่าง ‘Love Talk’ ซึ่งนำมาเรียบเรียงใหม่เป็นเวอร์ชันแจ๊สสุดนุ่มนวลชวนละลายไปกับเนื้อเสียงหวาน ๆ ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีไฮไลท์ที่ชวนให้ซาบซึ้งกันทั้งฮอลล์ กับการร้องเพลงภาษาไทยที่มีความหมายดี ๆ อย่าง ‘Some Other Day’ ซึ่งเตรียมไว้เป็นเวทีพิเศษสำหรับประเทศไทยที่เดียวเท่านั้น

หลังจากสร้างความประทับใจแบบเต็มสิบไปแล้ว ทางด้านแฟนคลับ WayZenNi และ NCTzen ที่แทนถึงตัวเลข 01 ก็รวมใจทำโปรเจกต์อันมีความหมายมากมาย แสดงพลังแห่งความรักที่มั่นคงและยืนหยัดเพื่อหนึ่งเดียวในใจของพวกเขาเสมอมา ตั้งแต่แบนเนอร์ประโยคให้กำลังใจ “CONGRATS TEN ♥ ALWAYS PROUD OF YOU. WE’RE NOW TOGETHER IN YOUR NEW CHAPTER.” “WE KNOW HOW YOU GOT THERE. WE CARE FOR YOUR DREAM” “WE ALWAYS HAVE YOUR BACK”, การแปรอักษรจากกล่องไฟ ‘1♥+♥1’ ‘TEN ♥ LEE’ ไปจนถึงการใส่หูแมวที่ ‘TEN’ ชื่นชอบ ก่อนจะจบด้วยเพลงสุดท้าย ‘Lie With You’ แนวป๊อปจังหวะปานกลางกับท่าเต้นน่ารัก ๆ และเนื้อเพลงสุดโรแมนติกของคู่รักที่อยากนอนเคียงข้างกระซิบคำว่ารักให้กัน จากการคำนวณตัวเลขในแฟนคอนครั้งนี้ ได้ผลสรุปออกมาว่า ‘TEN’และแฟนคลับสามารถทำให้ ‘10’ และ ‘01’ กลายเป็นตัวเลขคู่กันที่ลงตัวที่สุดตลอดกาลอย่างแท้จริง ผ่านช่วงเวลาอันล้ำค่ากว่า 2 ชั่วโมง 30 นาที ทั้งสานสัมพันธ์และรู้จักกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น พร้อมตื่นตาตื่นใจไปกับแต่ละเวทีที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์มาเพื่อเติมเต็มทุกจำนวนความคิดถึงให้สมการรอคอย ร่วมด้วยโปรดักชันสุดอลังการกว่าที่ไหน ๆ เหนือสิ่งอื่นใด ‘เตนล์’ ได้ยืนยันถึงสถานะตัวเลขที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงการได้รับความนิยมในฐานะสมาชิกของ NCT และ WayV เท่านั้น แต่ยังเปล่งประกายอย่างเจิดจรัสในฐานะศิลปินเดี่ยวได้อย่างเต็มภาคภูมิ

แกร็บ เปิดตัวแคมเปญ #WomenWelcome ฉลองวันสตรีสากล มุ่งสร้างโอกาส-พัฒนาศักยภาพพาร์ทเนอร์คนขับผู้หญิง

Alternative Textaccount_circle

แกร็บ ประเทศไทย เปิดตัวแคมเปญ #WomenWelcome เพื่อฉลองวันสตรีสากลประจำปี 2567 ตอกย้ำพันธกิจในการสร้างโอกาสทางอาชีพและพัฒนาศักยภาพให้กับคนทุกกลุ่ม ซึ่งรวมถึงกลุ่มผู้หญิง ผ่านแพลตฟอร์มของแกร็บ โดยมุ่งเน้นใน 3 ประเด็นหลัก คือ การส่งเสริมอาชีพให้กับผู้หญิงเพื่อสร้างรายได้จากการให้บริการเรียกรถผ่านแอปฯ และบริการเดลิเวอรี โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนพาร์ทเนอร์คนขับผู้หญิง การส่งเสริมความรู้และพัฒนาศักยภาพภายใต้โครงการ GrabAcademy ด้วยการพัฒนา 5 คอร์สอบรมออนไลน์ที่ออกแบบมาเพื่อพาร์ทเนอร์คนขับผู้หญิงโดยเฉพาะ และการสร้างความอุ่นใจในการให้บริการผ่านการพัฒนาฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและการสร้างเครือข่ายในกลุ่มคนขับผู้หญิงเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์

แคมเปญ #WomenWelcome ถือเป็นส่วนหนึ่งของ “โครงการส่งเสริมศักยภาพผู้หญิง” (Grab’s Women Programme) ซึ่งแกร็บได้ริเริ่มในปีนี้และจะผลักดันให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมทั่วทั้งภูมิภาค ครอบคลุมทั้งประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม รวมถึงไทย เพื่อมุ่งสร้างโอกาสและพัฒนาศักยภาพให้กับพาร์ทเนอร์คนขับและร้านค้าที่เป็นผู้หญิงโดยเฉพาะ ครอบคลุมประเด็นต่างๆ อาทิ การเปิดโอกาสในการสร้างอาชีพและรายได้อย่างเท่าเทียมผ่านแพลตฟอร์มของแกร็บ การส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย และการพัฒนาความรู้ ตลอดจนทักษะต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้หญิง สำหรับในประเทศไทย แกร็บจะมุ่งเน้นไปที่ 3 ประเด็นหลัก คือ

  • การส่งเสริมอาชีพให้กับผู้หญิงเพื่อสร้างรายได้ผ่านแพลตฟอร์มของแกร็บ: โดยในปีนี้แกร็บจะให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้หญิงไทยมีทางเลือกในการหารายได้เสริมจากการให้บริการเรียกรถผ่านแอปฯ และบริการเดลิเวอรีของแกร็บ ผ่านการทำแคมเปญเพื่อประชาสัมพันธ์และเชิญชวนผ่านกลุ่มคอมมูนิตี้คนขับทั่วประเทศและช่องทางโซเชียลมีเดียพร้อมมีทีมงานที่คอยให้คำปรึกษา  โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนพาร์ทเนอร์คนขับผู้หญิงในประเทศไทยให้มากขึ้น นอกจากนี้ แกร็บยังเตรียมมอบสิทธิประโยชน์อื่นๆ เพิ่มเติมให้กับพาร์ทเนอร์คนขับผู้หญิงตลอดทั้งปี อาทิ แพคเกจตรวจสุขภาพสำหรับผู้หญิงจาก Doctor Anywhere ส่วนลดพิเศษสำหรับการซื้อสินค้าประเภทความงามผ่านแอปพลิเคชัน Lazada ชุดของขวัญจากแบรนด์เครื่องสำอางศรีจันทร์ เป็นต้น
  • การส่งเสริมความรู้และพัฒนาศักยภาพพาร์ทเนอร์คนขับผู้หญิง:ที่ผ่านมาแกร็บได้พัฒนาคอร์สอบรมออนไลน์ต่างๆ เพื่อให้ความรู้และพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่อการประกอบอาชีพให้กับทั้งพาร์ทเนอร์คนขับและพาร์ทเนอร์ร้านค้าอย่างต่อเนื่องภายใต้โครงการ GrabAcademy สำหรับในปีนี้ แกร็บเตรียมพัฒนาและเปิดตัว 5 คอร์สอบรมใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อพาร์ทเนอร์คนขับผู้หญิงโดยเฉพาะ ซึ่งประกอบด้วย คอร์สสอนวิธีการดูแลรักษาและซ่อมรถยนต์และรถจักรยานยนต์เบื้องต้น คอร์สเสริมสร้างบุคลิกภาพและหัวใจบริการ โดยครูน้ำฝน ภักดี จาก Pronality Academy คอร์สสอนเทคนิคการแต่งหน้าเบื้องต้น คอร์สการรับมือกับภัยคุกคามบนท้องถนนและในที่สาธารณะ โดยลอรีอัล ประเทศไทย และคอร์สสอนศิลปะการป้องกันตัวสำหรับผู้หญิง 
  • การสร้างความอุ่นใจในการทำงานให้กับพาร์ทเนอร์คนขับผู้หญิง: นอกจากการพัฒนาฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย อาทิ Safety Centre (ศูนย์รวมฟีเจอร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของแกร็บ) และ Trip Monitoring (ระบบตรวจสอบการเดินทางแบบเรียลไทม์ผ่าน GPS และระบบแผนที่อัจฉริยะ) ที่ช่วยลดความกังวลและสร้างความมั่นใจในการให้บริการกับพาร์ทเนอร์คนขับผู้หญิงแล้ว ในปีนี้แกร็บยังได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ในแอปพลิเคชันของพาร์ทเนอร์คนขับที่ชื่อ “Women Passenger Preferred BETA” เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับพาร์ทเนอร์คนขับผู้หญิงที่อาจมีความกังวลใจในการให้บริการ โดยสามารถเลือกให้บริการกับผู้โดยสารที่เป็นผู้หญิงเป็นหลักได้ ซึ่งจะเริ่มทดลองใช้ในจังหวัดขอนแก่นและโคราช และขยายไปในจังหวัดอื่นๆ ต่อไป นอกจากนี้ แกร็บยังเตรียมสร้างเครือข่ายพาร์ทเนอร์คนขับผู้หญิงภายใต้ชื่อ “Grab SUPER SHERO” ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียและการจัดกิจกรรมออฟไลน์เพื่อเป็นโอกาสให้ผู้หญิงในสายอาชีพเดียวกันได้ทำความรู้จักกัน พร้อมแลกเปลี่ยนความรู้ ตลอดจนประสบการณ์เพื่อเป็นประโยชน์ในการให้บริการและการพัฒนาตัวเอง

กระเป๋า Pic Trunk

เตรียม Sold Out! ซูมอิน กระเป๋า Pic Trunk ของลิซ่า ในโชว์ LV Fall 2024

account_circle
กระเป๋า Pic Trunk
กระเป๋า Pic Trunk

เตรียมไปจัดกันให้ไวก่อน Sold Out ซูมอิน “กระเป๋า Pic Trunk” ของลิซ่า BLACKPINK ในโชว์ Louis Vuitton Fall 2024 ที่ Paris Fashion Week

เรียกว่าเป็นไอคอนแห่งยุคเลยก็ว่าได้ หลังจากที่ค่ำคืนที่ผ่านมา ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ได้ปรากฏตัวที่โชว์ของ หลุยส์ วิตตอง คอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ร่วง 2024 ซึ่งเธอยังนั่งฟอร์ตโรว์ร่วมกับ โซฟี เทอร์เนอร์ Global Brand Ambassador งานนี้จึงมีการคาดการณ์ว่า ในเร็วๆ นี้ ลิซ่าอาจได้ร่วมงานกับ LV อย่างแน่นอน และกระแสที่ว่ายังคงมาแรงอย่างต่อเนื่องทั้งวัน โดยชื่อของลิซ่าได้ติดเทรนด์ X (#LISAxLVFW24) อันดับ 1 เหมือนเช่นเคย

เตรียม Sold Out! ซูมอินกระเป๋า Pic Trunk ของลิซ่า ในโชว์ LV Fall 2024

(Photo by Kristy Sparow/Getty Images)

ลิซ่าปรากฏตัวในลุคที่โดดเด่น โดยเธอสวมเสื้อโค้ทยาว​ผ้าแจ็คการ์ดปักลาย​ดอกไม้จากคอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ผลิปี 2018 แมชต์ด้วยเสื้อครอปผูกคอสีไอวอรี่ และกางเกงขาสั้นหนังสีดำสุดฮ็อต สวมถุงน่องโคนขาสุดเซ็กซี่ คอมพลีทลุคด้วยกระเป๋ารุ่น Pic Trunk ลวดลายโมโนแกรม จากแบรนด์ หลุยส์ วิตตอง ซึ่งลิซ่าได้เล่นกับกระเป๋าเสมือนว่าเธอกำลังใช้กล้องถ่ายรูป เป็นโมเมนต์ที่ช่างภาพกดชัตเตอร์กันรัวๆ ซึ่งทำให้กระเป๋ารุ่นนี้มีความน่าสนใจขึ้นอีกหลายเท่า

สำหรับกระเป๋ารุ่น Pic Trunk เป็นอีกหนึ่งผลงานสร้างสรรค์ของแบรนด์จากโชว์ในคอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อนปี 2024 โดยตัวกล้องนั้นเป็นกระเป๋าทรง Minaudière ที่ออกแบบให้เป็นกล้องวินเทจ ตัวกระเป๋าทำจากหนัง Cowhide ลวดลายโมโนแกรม ด้านหน้าตกแต่งด้วยฝาปิดเลนส์กล้องประดับโลโก้ LV สีทอง ขณะที่เคสด้านนอกทำจากหนังลูกวัว (Calf Leather) สีคอนยัค มาพร้อมกับสายสะพายกระเป๋าบุนวม สามารถคล้องคอ สะพายไหล่ หรือจะสะพายแบบครอสบอดี้สายสั้น

ปัจจุบันกระเป๋ารุ่น Pic Trunk ในประเทศไทยยังคงมีจำหน่ายในเว็บไซต์ https://th.louisvuitton.com/ สนนราคา 385,000 บาท แต่แอบกระซิบว่า กระเป๋ารุ่นนี้มีความต้องการสูงมาก ซึ่งคาดว่าเตรียมที่จะ Sold Out แน่นอน เนื่องด้วยพลังของลิซ่าที่ใช้ไอเท็มไหน ชิ้นนั้นเป็นต้อง Sold Out หายาก หรือ โดนรีเซลในราคาที่แสนแพง ซึ่งกระเป๋าที่เธอถือในวันนี้ก็คาดว่าจะเป็นแบบนั้น เช่นกัน


ภาพ : Getty Image, Instagram (@lalalalisa_m)

วอเตอร์เมล่อน

โลชั่นบำรุงผิวผสมสารป้องกันแสงแดดสูตรไฮบริด “แจ๊บส์ โลชั่นกันแดด วอเตอร์เมล่อน สมูทตี้ ไบร์ทเทนสกิน”

Alternative Textaccount_circle
วอเตอร์เมล่อน
วอเตอร์เมล่อน

ด้วยสภาพอากาศของฝั่งเอเชียโดยเฉพาะบ้านเราค่อนข้างออกไปทางร้อนมากกว่าหนาวเย็น กันแดดจึงจำเป็นอย่างมากสำหรับทุกคนโดยเฉพาะสาวๆ ที่มีความกังวลเรื่องของผิวคล้ำเสียง่าย แจ๊บส์ จึงแนะนำนวัตกรรมโลชั่นบำรุงผิวผสมสารป้องกันแสงแดดสูตรไฮบริดใหม่ล่าสุด “แจ๊บส์ โลชั่นกันแดด วอเตอร์เมล่อน สมูทตี้ ไบร์ทเทนสกิน” ที่ไม่เพียงแค่ปกป้องผิวจากการทำลายของแสงแดด แต่ยังช่วยปกป้องเซลล์ผิวถึงระดับขั้นสุด และยังช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ถูกทำลายให้กลับมีสุขภาพดี

เนื้อโลชั่นบางเบา เกลี่ยง่าย ให้ความรู้สึกสบายผิวไม่เหนียวเหนอะหนะ ด้วย SPF 50+ PA+++ ที่นอกจากจะช่วยปกป้องผิวสูงสุดจากรังสี UVA และ UVB ยังพร้อมบำรุงผิวด้วย Lingostem นวัตกรรมสารสกัดจาก Stem cell ของ Lingonberry ซุปเปอร์ฟรุตที่ช่วยในการปกป้องและฟื้นฟูผิวจาก UV IR และ Blue light ไม่ให้ผิวเกิดริ้วรอยก่อนวัยจากแสงแดด ด้วยคุณค่าของสารสกัดจากผลเคเปอร์, ไฮยาลูรอนิค 8 ชนิด และสารสกัดแตงโม จึงช่วยปรับสภาพผิวให้สมดุล จากมลภาวะ และช่วยเติมน้ำให้ผิวได้อย่างยาวนานยิ่งขึ้น เหมาะกับทุกสภาพผิวที่ต้องการปกป้องและบำรุงเป็นพิเศษในหนึ่งเดียว


Doctor Mek Clinic สาขา Stadium One กลับมาผงาดดั่งนกฟีนิกซ์ พร้อมนวัตกรรมความงามจัดเต็ม

Doctor Mek Clinic สาขา Stadium One กลับมาผงาดดั่งนกฟีนิกซ์ พร้อมนวัตกรรมความงามจัดเต็ม

Alternative Textaccount_circle
Doctor Mek Clinic สาขา Stadium One กลับมาผงาดดั่งนกฟีนิกซ์ พร้อมนวัตกรรมความงามจัดเต็ม
Doctor Mek Clinic สาขา Stadium One กลับมาผงาดดั่งนกฟีนิกซ์ พร้อมนวัตกรรมความงามจัดเต็ม

กลับมาทวงบัลลังก์ #หมอของดารา อย่างยิ่งใหญ่อลังการ สำหรับ Doctor Mek Clinic สาขา Stadium One ของสองผู้ก่อตั้ง อาจารย์หมอเมฆ – นายแพทย์วัชพล ธนมิตรามณี และคุณหมอแอร์ – แพทย์หญิงพิชญานิน สื่อมโนธรรม ที่ได้เนรมิตงาน Grand Reopening Ceremony Doctor Mek Clinic ในคอนเซปต์ Timeless Blue Phoenix ซึ่งสื่อถึงการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่และทรงพลังมากที่สุด เปรียบเสมือนนกฟีนิกซ์ที่เกิดใหม่ได้จากเถ้าถ่านเดิม โดยนกฟีนิกซ์สีแดงจะเล่าแทนเรื่องราวหรือปัญหาที่ผ่านมา ส่วนนกฟีนิกซ์สีน้ำเงิน จะสื่อถึงการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง เป็นการทรานส์ฟอร์มสู่นกฟีนิกซ์ในเวอร์ชันที่เจิดจรัสที่สุด จากการได้รับรางวัลอันดับ 1 ยอดฉีดสารเติมเต็ม สูงสุดในเอเชีย 2023 นอกจากนี้ การดีไซน์ภายในของแต่ละห้อง รวมถึงการตกแต่งบริเวณหน้าคลินิก ยังสื่อให้เห็นถึงพัฒนาการของคลินิกจากเดิม เพื่อให้กลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กใหม่ ที่ใครๆ ก็อยากมาใช้บริการ

นายแพทย์วัชพล ธนมิตรามณี อาจารย์แพทย์ผิวหนังมากประสบการณ์ด้านสารเติมเต็มและร้อยไหม เจ้าของฉายา #หมอของดารา ผู้ก่อตั้งคลินิก กล่าวว่า “Doctor Mek Clinic เรามีความโดดเด่นและวางจุดยืนชัดเจนว่าเป็น Home of Filler ซึ่งสารเติมเต็มถือเป็นศาสตร์และศิลป์ที่ต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญเฉพาะด้านสูง เพราะจะต้องใช้ศาสตร์ในการวิเคราะห์ปัญหา ประเมินรูปหน้า และศิลป์แห่งสารเติมเต็มเพื่อออกแบบ คำนวณการฉีดในตำแหน่งต่างๆ เป็นการปรับแก้บริเวณที่บกพร่อง โดยยังคงลักษณะเดิมของใบหน้าเอาไว้ ให้เป็นคุณในเวอร์ชันที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้อย่างเป็นธรรมชาติที่สุด  และทั้งหมดนี้จึงเชื่อมโยงกันออกมาเป็นทั้งตัวงาน โปรแกรมหัตถการ และการตกแต่ง ภายใต้ Key Concept: “Rewarding Your Life at Doctor Mek Clinic” ซึ่งที่ผ่านมาก็นับว่ามีจำนวนการยืนยันความประทับใจจากคนไข้จริงที่มาเข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก รวมถึงยังช่วยแนะนำบอกต่อให้กับคลินิกของเราอีกด้วย”

สำหรับการกลับมาในครั้งนี้ เล็งเห็นความสำคัญกับการดีไซน์พื้นที่ให้มีความสวยงาม สดใส มีชีวิตชีวา เพื่อเป็นสถานที่เติมออกซิเจนให้กับคนไข้ในทุกครั้งที่ได้เข้ามาใช้บริการกับเรา และยังเป็นการสร้างแลนด์มาร์ก เปิดพื้นที่ถ่ายรูป Check-in สุดเก๋ ที่ไม่ว่าใครต่างก็อดใจไม่ไหวที่จะหยิบกล้องขึ้นมาเซลฟี่หรือถ่ายคลิปน่ารักๆ กับหลากหลายมุมที่มีความแตกต่างกันของคลินิก การออกแบบตกแต่ง “Doctor Mek Clinic” ในครั้งนี้ เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด “Gallery of Art” โดยเราได้เนรมิตตึกเก่าอายุ 30 ปีให้กลายเป็น “แกลลอรี่” แสดง “ผลงานศิลปะ”  โดยจะเปรียบคุณหมอผู้มากประสบการณ์ของ Doctor Mek Clinic ให้เสมือนกับศิลปินที่จะมารังสรรค์ความงดงามให้กับใบหน้าของแต่ละคน โดยคลินิกของเรายังได้รับรางวัล INTERNATIONAL PROPERTY AWARDS 2023-2024 ในกลุ่ม ASIA PACIFIC สาขา Public Service Interior for Thailand จากประเทศอังกฤษ อีกด้วย”

แพทย์หญิงพิชญานิน สื่อมโนธรรม ผู้ร่วมก่อตั้ง Doctor Mek Clinic กล่าวว่า “เราเป็น Single Clinic ที่ได้รับรางวัลยอดฉีดสารเติมเต็มอันดับ 1 ของแต่ละแบรนด์สารเติมเต็มมากที่สุด ถือว่าเป็นที่เดียวเลย ที่ได้รางวัลครบจากทุกแบรนด์ คุณหมอของเราทุกคนต่างก็มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ ผ่านเคสมาแล้วเป็นจำนวนมาก และนอกจากโปรแกรมสารเติมเต็ม โปรแกรมการฉีดสารลดเลือนริ้วรอย สำหรับปรับรูปหน้าแล้ว ทางคลินิกเราก็ยังมีบริการอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงเรายังเลือกใช้เครื่องเลเซอร์ในระดับมาตรฐานอย่างถูกต้อง ที่ผ่าน FDA ของอเมริกา ยุโรป ซึ่งได้รับการยอมรับทั้งในยุโรป อเมริกา และเอเชีย เรามีโปรแกรมยกกระชับอย่าง Ulthera, Thermage FLX, EverFirm Lift, โปรแกรมลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ PicoSure,  โปรแกรมปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด Mini Face Lift, โปรแกรมทรีทเมนต์เพื่อการดูแลผิวพรรณ PCT, Vitamin Drip, โปรแกรมดูแลจุดซ่อนเร้น โดยสูตินรีแพทย์ Mini Repair, Lady O Shot  รวมถึงโปรแกรมการดูแลรูปร่างและสัดส่วนอย่าง SculpSure ซึ่งถือว่าคลินิกของเราพร้อมให้บริการเรื่องความงามอย่างครบครัน ครบจบในที่เดียว”

ภาพบรรยากาศงาน Grand Reopening Ceremony Doctor Mek Clinic เหล่าเซเลบริตี้ร่วมยินดีคับคั่ง

สำหรับงานนี้เรียกว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากดารา เซเลบริตี้ และคนดังในวงการบันเทิง เพราะนอกจากเป็นคลินิกที่ดาราเลือกตามฉายา #หมอของดารา เหล่าเซเลบริตี้ทั่วฟ้าเมืองไทยก็เลือก Doctor Mek Clinic เช่นกัน จัดงาน Reopening ทั้งที เลยมีเหล่า เซเลบริตี้และ CEO คนดัง มาร่วมแสดงความยินดีคับคั่ง อาทิ โบ เมลดา, กวาง เดอะเฟซ, ดาต้า -ดรัลชรัส ศุขีวิริยะ, พลอย-ฉัตรนภา เตตานทร์สกุล, ณัฐชา ชุณหะ, มิกกี้-วันชนะ เอี่ยมพิกุล, มิ้นท์ – ณิชชา บุณยากร, ดร. กมลกนก เกียรติศักดิ์ชัย, ป้อ – กรกนก สว่างรวมโชค, แนนนี่-แพรธารา อมรศักดิ์, พั้นช์-ภัคญดา ชุติดนัยกุล, เม-ณปภัช วรปัญญาสถิต, เพชร-เพชรรัตน์ ศฤงคารเจษฎา, อิ๊งค์ – ดวงพร ต๊ะปัญญา และ ออม-พัณณ์ชิตา เกื้อกูลพิทักษ์ ฯลฯ

Doctor Mek Clinic ตั้งอยู่บริเวณโครงการสเตเดียม วัน ถนนพระราม 1 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://doctormek.com/ , https://bestfillerclinic.com/ , https://drmekclinic.com/ , https://www.facebook.com/doctormekclinic และเบอร์โทร 06-444-55-666

Photo : นิตยสารแพรว


ราคาเอาเรื่อง! เจาะ 4 ไอเท็มลุคฟรอนต์โรว์ ‘เตนล์ ชิตพล’ จาก Saint Laurent

Alternative Textaccount_circle

เรียบหรูสมราคา! เปิดดีเทล 4 ไอเท็มลุคฟรอนต์โรว์ ‘เตนล์ ชิตพล‘ ในแฟชั่นโชว์ Fall/Winter จาก Saint Laurent

เป็นอีกครั้งที่ลุคยังคงตราตรึง เมื่อ ‘เตนล์ ชิตพล‘ หนึ่งในสมาชิกจาก NCT และ WayV ได้รับเชิญให้เป็นแขกคนสำคัญร่วมชมแฟชั่นโชว์คอลเล็คชั่นสุภาพบุรุษ Fall/Winter 2024 ของ Saint Laurent ซึ่งในครั้งนี้เขาปรากฏตัวในลุคที่ถอดแบบมาจากรันเวย์ Spring 2024 ที่ประกอบไปด้วยไอเท็มเพียง 4 ชิ้นที่เมื่อนำมารวมกันแล้วก็สามารถสะกดทุกสายตาให้อยู่หมัดด้วยความเก๋และเรียบหรูตามแบบฉบับของแบรนด์ โดยทั้งสี่ชิ้นที่ว่าจะมีอะไรและราคาเท่าไหร่บ้าง เรามาทราบไปพร้อมๆ กันดีกว่าค่ะ

เริ่มต้นด้วยคีย์ไอเท็มชิ้นแรกกับ Lavalliere-Neck Top in Dotted เสื้อคล้องคอลายจุดที่โดดเด่นไปด้วยการผูกโบไทด์และ Cape ในเทคนิคการจับเดรป สำหรับราคาอยู่ที่ 143,000 บาท ชิ้นต่อมาคอนทราสต์ลายจุดด้วยลายทางของกางเกง High-Waisted Pants in Pinstripe Wool Felt ราคา 53,000 บาท ไอเท็มชิ้นที่ 3 เป็นเครื่องประดับเพียงชิ้นเดียวนั่นคือเข็มขัด LA 66 Buckle Thin Belt in Shiny Leather สนนราคา 20,550 บาท และคอมพลีทลุคทั้งหมดด้วยความเรียบง่ายแต่ยังแฝงไปด้วยความเก๋ในรองเท้าสนสูง Rainer Zipped Boots in Patent Leather ราคา 47,250 บาท เมื่อนำมาเคาะเครื่องคิดเลขรวมแล้ว โททัลลุคของเตนล์มีมูลค่าสูงถึง 263,800 บาทเลยทีเดียว

เป็นลุคที่ไม่ประหยัดทั้งความหล่อและเงินในกระเป๋าเลยจริงๆ


รูปภาพ: Getty, Saint Laurent และ Instagram @tenlee_1001

ข้อมูล: Saint Laurent

สมมง CHANEL ICON เปิด 7 ลุคฟรอนต์โรว์ ‘เจนนี่ BLACKPINK’

Alternative Textaccount_circle

ไม่ว่ากี่ลุคก็เป็นไวรัล! สมฐานะ CHANEL ICON เปิด 7 ลุคฟรอต์โรว์ในแฟชั่นโชว์แต่ละคอลเล็คชั่นของ ‘เจนนี่ BLACKPINK

เรื่องอิทธิพลในวงการแฟชั่นยังไงก็ต้องยกให้ ‘เจนนี่ BLACKPINK’ เพราะทุกครั้งที่ปรากฏตัวลุคของเธอก็มักถูกพูดถึงอยู่เสมอ แน่นอนว่าใน Paris Fashion Week ครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อเธอได้รับเชิญให้เข้าร่วมชมแฟชั่นโชว์คอลเล็คชั่น Fall/Winter 2024 ของ CHANEL ผู้คนก็เตรียมรอชมว่าเธอจะมาในลุคอะไร

สำหรับครั้งนี้เจนนี่เลือกเป็นลุค All Black ตั้งแต่หัวจรดเท้าโดยมีคีย์ไอเท็มหลักเป็นมินิเดรสสีดำจากคอลเล็คชั่นโอต์ กูตูร์ Spring/Summer 2024 นอกจากนี้ไม่ใช่แค่เพียงเสื้อผ้าที่ถูกพูดถึง แต่องค์ประกอบเล็กๆ อย่างการแต่งหน้าและทรงผมก็ถูกพูดถึงตามไปด้วย โดยเฉพาะการติมชาร์มสัญลักษณ์ CHANEL ไว้บนปรอยผม ทำให้เราได้ไอเดียแฟชั่นใหม่ๆ ที่คาดว่าหลังจากนี้คงเป็นกระแสให้คนได้ทำตามกันทั่วบ้านทั่วเมืองอีกแน่นอน

หลังจากลุคดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปคนในโลกโซเชียลพากันลงความเห็นกันว่าไม่แปลกใจที่ทำไมเธอถึงได้ฉายาว่าเป็น ‘CHANEL ICON’ เพราะถ้าในตอนนี้หากพูดถึงชาเนลแล้วให้พูดถึงอะไรสักอย่างหากไม่ใช่ Coco Chanel, กระเป๋ารุ่นดังอย่าง Chanel ฺBoy, แจ็กเก็ตผ้าทวีต, Karl Lagerfeld หรือดอกคามิลเลีย ‘เจนนี่’ นี่แหละคงเป็นชื่อต่อไปที่คนนึกถึง เพราะลุคระหว่างเธอของชาเนลสร้างความตราตรึงมานับครั้งไม่ถ้วน เราจึงรวบรวมอีก 6 ลุคในตำนานฟรอนต์โรว์มาฝากทุกคนกัน


ภาพ: Instagram @jennierubyjane

บันทึกลงประวัติศาสตร์! ลิซ่า BLACKPINK ปรากฏตัวครั้งแรกในโชว์ Louis Vuitton

Alternative Textaccount_circle

ปังตั้งแต่ลุคแรก! เมื่อ ลิซ่า BLACKPINK ปรากฏตัว ณ แฟชั่นโชว์ LOUIS VUITTON Fall/Winter 2024 ก็ได้รับความสนใจจากสื่อทั่วโลก

ช่วงหลังมานี้เราคงได้เห็น ‘ลิซ่า BLACKPINK’ เริ่มใช้แฟชั่นไอเท็มจากหลากหลายมาพอสมควร แม้ยังเป็นข้อสงสัยว่าทำไมเธอถึงใช้ได้แต่ก็ปฏิเสธความจริงที่ว่า ‘ทุกชิ้นที่เธอถือจะถูกพูดถึงและกลายเป็นไวรัลในอีกไม่ช้า’ ไปไม่ได้ หนึ่งหนึ่งในนั้นคือ LOUIS VUITTON ซูเปอร์แบรนด์ระดับโลกอันมีประวัติศาสตร์ยาวนานที่ช่วงหลังมานี้ลิซ่าก็หยิบไอเท็มมาสวมใส่อยู่หลายครั้ง จนในที่สุดเธอก็ได้รับเชิญให้เป็นแขกคนสำคัญร่วมชมแฟชั่นโชว์คอลเล็คชั่น Fall/Winter 2024

แน่นอนว่าการปรากฏตัวของเธอมักเรียกแสงเฟลชจากทุกสื่อได้เป็นอย่างดี และครั้งนี้ก็ยังเป็นไปตามคาด ทันทีที่ลิซ่าก้าวลงมาจากรถความสนใจจะตกไปเป็นของเธอเพียงคนเดียว โดยเธอเลือกแจ็กเก็ตจากคอลเล็คชั่น Spring 2018 ลายปักสะดุดตามาเป็นคีย์ไอเท็มลุคแรกอย่างเป็นทางการของ LOUIS VUITTON นอกจากนี้ไอเท็มชิ้นดังกล่าวยังเคยถูกจัดแสดงในนิทรรศการ Crown to Couture ปี 2023 ที่พระราชวังเคนซิงตันที่พำนักเก่าของเจ้าหญิงไดอาน่า

ก่อนส่งท้ายความปังลุค After Party อีกครั้งกับเดรสยาวลายพริ้นต์กราฟิกที่ซ่อนลูกเล่นไว้ในดีเทลผ่าหน้าจนมาถึงต้นขา เรียกได้ว่าเจ้าลิซของเราเดินเกมมาดีจริงๆ เพราะเป็นสองลุคที่แตกต่างและคงสร้างภาพจำให้คนทั้งโลกไม่น้อยเลยทีเดียว


ภาพ: Getty, Louis Vuitton

นิสสันจัด Nissan Skill Contest 2023 ให้พนักงานโชว์ศักยภาพ

account_circle

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นิสสัน ประเทศไทย จัดกิจกรรม การแข่งขันทักษะระดับประเทศ ประจำปี 2023 (Nissan Skill Contest 2023) เปิดเวทีให้พนักงานทั้งฝ่ายบริการ ฝ่ายขาย ฝ่ายอะไหล่ จากผู้จำหน่ายทั่วประเทศประลองฝีมือโชว์ศักยภาพและพัฒนาทักษะตามความมุ่งมั่นในการยกระดับความพึงพอใจของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

Nissan Skill Contest เป็นกิจกรรมพิเศษที่นิสสัน ประเทศไทย จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีมาถึง 12 ปีแล้ว เพื่อส่งเสริมการพัฒนาความรู้และทักษะในหน้าที่ของพนักงานทุกส่วน และการสร้างความสัมพันธ์กับผู้จำหน่ายทั่วประเทศ ตอกย้ำแนวคิดการให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และความมุ่งมั่นพัฒนาผู้จำหน่ายอย่างจริงจัง

มาซาโอะ สึสึมิ รองประธานสายงานการตลาด การขาย บริการหลังการขาย และพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่าย นิสสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “นิสสัน ประเทศไทย ขอแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งทั้งกับผู้ชนะ และทุกท่านที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้ เนื่องจาก Nissan Skill Contest เป็นเวทีที่ให้ทุกท่านได้ฝึกฝนและแสดงฝีมือ เราเห็นว่าในปีนี้มีผู้เข้าแข่งขันที่เคยเข้าแข่งขันแล้ว และกลับมาร่วมเข้าแข่งขันในประเภทใหม่ ไม่ซ้ำกับที่เคยเข้าร่วมแข่งขันมา ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจทั้งในด้านการพัฒนาตนเอง การเรียนรู้และเพิ่มเติมความสามารถใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง นิสสันชื่นชมกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ หวังว่าเราจะสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นไปให้แก่ลูกค้าของเราในอนาคต”

ในปีนี้ มีการแข่งขันทั้งสิ้น 8 รายการ แบ่งตามลักษณะงาน ได้แก่  ที่ปรึกษาการขาย ที่ปรึกษาด้านบริการ ลูกค้าสัมพันธ์ด้านขายและบริการ ที่ปรึกษาด้านอะไหล่ ช่างเทคนิควิเคราะห์ปัญหา รวมถึงพนักงานระดับผู้จัดการขายและศูนย์บริการ โดยมีผู้จำหน่ายทั่วประเทศส่งพนักงานกว่า 1,300 คนเข้าร่วมแข่งขัน และมีการคัดจนเหลือเพียง 73 คนที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ

ผู้ชนะในแต่ละประเภทได้แก่

  1. ลูกค้าสัมพันธ์ด้านขาย – น.ส. จีรนันต์ พรหมจันทร์ สยามนิสสัน พระราม 2 สำนักงานใหญ่
  2. ลูกค้าสัมพันธ์ด้านบริการ – น.ส. กมลวรรณ ปัญจบุศย์ สยามนิสสัน ชลบุรี สาขา พัทยา
  3. ที่ปรึกษาการขาย – นายธนะวิชย์ พิทยาวงศ์อานนท์ สยามนิสสัน กรุงไทย สำนักงานใหญ่
  4. ผู้จัดการขาย – นายสมศักดิ์ เฉลิมธารานุกูล สยามนิสสันเซลส์ สาขา ปุณณวิถี
  5. ที่ปรึกษาด้านอะไหล่ – นายภูวไนย ทัพเจริญ สยามนิสสันเชียงใหม่ สาขา ลำพูน
  6. ผู้จัดการศูนย์บริการ – น.ส. เบญจพร ลิ้มเทียมรัตน์ ช.เอราวัณมอเตอร์ นครปฐม สำนักงานใหญ่
  7. ที่ปรึกษาด้านบริการ – นายจตุรงค์ ไชยแก้ว สยามนิสสันเชียงใหม่ สำนักงานใหญ่
  8. ช่างเทคนิควิเคราะห์ปัญหา – นายณัฐกรณ์ บุญมาก สยามนิสสัน ชลบุรี สาขา ศรีราชา

ผู้จำหน่ายที่ได้รับรางวัลซูเปอร์แชมป์ประจำปี 2023 มี 2 ราย ได้แก่ สยามนิสสัน เชียงใหม่ และ สยามนิสสัน ชลบุรี ซึ่งแต่ละบริษัทสามารถคว้าชัยชนะในการแข่งขัน 2 ประเภท และได้รับถ้วยเงินเกียรติยศจากนิสสันไปครองในปีนี้

นาย จตุรงค์ ไชยแก้ว สยามนิสสันเชียงใหม่ สำนักงานใหญ่ ผู้ชนะการแข่งขันประเภทที่ปรึกษาด้านบริการ ซึ่งได้รับรางวัลนี้สองปีซ้อน กล่าวว่า “ยินดีและขอบคุณสยามนิสสัน เชียงใหม่ ที่ได้สนับสนุนให้ผมได้มีโอกาสเข้าแข่งขันตลอดมา  หลังจากได้รับรางวัลครั้งแรกในปีที่แล้ว ปีนี้ผมตั้งใจที่จะต้องรักษาแชมป์ไว้ให้ได้ ถือว่าเป็นงานยากที่ต้องอาศัยวินัยและความมุ่งมั่นอย่างมากที่จะพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง  แต่ผมเชื่อว่าถ้าทุกคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจจริง ก็มีโอกาสเป็นแชมป์หลายๆ ปีต่อเนื่องได้เช่นเดียวกันกับผม”  

ซีซั่นนี้ต้องเริ่ด! ชวนสายแฟปักหมุดงาน World Fashion Trend Spring/Summer 2024

account_circle

ถ้าจะพูดถึง Luxury Destination สุดฮ็อตของเมืองไทย ที่ถือเป็นพิกัดดีต่อใจสายแฟ (ชั่น) แบบครบจบจึ้ง เชื่อว่านาทีนี้เหล่าแฟชั่นนิสต้าได้ปักหมุด “สยามพารากอน” เอาไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะอย่างที่ใครๆ ก็รู้กันดีว่า ที่นี่ได้รวบรวมหลากหลายลักซ์ชัวรี่แบรนด์ระดับโลกเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Balenciaga, Boss, Burberry, Casablanca, Celine, Coach, Dolce & Gabbana, Fendi, Givenchy, Loewe, Longchamp, Louis Vuitton, MAX MARA, MCM, Miu Miu, Off-White, Prada, Roger Vivier, Saint Laurent, Tory Burch หรือ Valentino เรียกว่าเยอะแบบละลานตา รวมถึงยังครบครันสำหรับสายแฟทุกเพศทุกวัย และอัพเดทคอลเล็คชั่นใหม่รวดเร็วทันใจ เหล่าแฟชั่นนิสต้าช้อปสนุกแบบไม่ตกเทรนด์ หรือใครอยากช้อปลักซ์ชัวรี่แบรนด์ ถ้ามาที่นี่ก็รับรองว่าไม่ผิดหวัง

อีกทั้งล่าสุด สยามพารากอน ยังได้ตอกย้ำความเป็น Luxury Destination ระดับโลก สร้างสุดยอดปรากฏการณ์แฟชั่น กับแฟชั่นอีเว้นท์แห่งปี “World Fashion Trend Spring/Summer 2024” ที่จะยกทัพเหล่านางแบบนายแบบและศิลปินดาราสุดฮ็อตมาร่วมอัพเดทคอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนประจำปี 2024 จากลักซ์ชัวรี่แบรนด์ระดับโลก ทั้งไอเท็มฮ็อตและ Must Have Items โดยงานจะจัดขึ้นในวันที่ 6 มีนาคม 2567 ที่ พาร์ค พารากอน สยามพารากอน เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป

ความปังของงาน World Fashion Trend Spring/Summer 2024 นอกจากการอัพเดทคอลเล็คชั่นใหม่แล้ว สายแฟยังจะได้พบกับเหล่าคนดังที่จะมาร่วมเป็นแขกคนสำคัญในค่ำคืนแห่งแฟชั่น เช่น ไบรท์ – วชิรวิชญ์ ชีวอารี, ริว – วชิรวิชญ์ วัฒนภักดีไพศาล, บลู พงศ์ทิวัตถ์ ตั้งวันเจริญ, นานิ – หิรัญกฤษฎิ์ ช่างคำ,  ออฟ – จุมพล อดุลกิตติพร, ดัง – ณัฎฐ์ฐชัย บุญประเสริฐ, ฟอส – จิรัชพงศ์ ศรีแสง, ฟรีน- สโรชา จันทร์กิมฮะ, แพต – ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช, จูเน่ – เพลินพิชญา โกมลารชุน และหนุ่มๆ วง BUS (Because of You, I Shine) อย่าง               ภีม – วสุพล พรพนานุรักษ์, ขุนพล – ปองพล ปัญญามิตร และ ภู – ธัชชัย ลิ้มปัญญากุล พร้อมด้วย                       แร็ปเปอร์ชื่อดัง โต้ง TWOPEE – พิทวัส พฤกษกิจ ที่จะมาร่วมเติมสีสันและอัพเลเวลความสนุกสนานด้วยเสียงเพลง

นอกจากนี้ สยามพารากอน ยังเอาใจสายแฟด้วยกิจกรรมแฟชั่นจากเหล่าลักซ์ชัวรี่แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Pop-Up สุดพิเศษ, Private Viewing และอื่นๆ อีกมากมายตลอดเดือนมีนาคมนี้ พร้อมมอบสิทธิประโยชน์สุดพิเศษมากมายให้เหล่าแฟชั่นนิสต้าได้ช้อปไอเท็มโปรดอย่างจุใจและคุ้มค่าตลอดหนึ่งเดือนเต็มที่สยามพารากอน กับแคมเปญ Siam Paragon World Fashion Trend Spring/Summer 2024 รับ Siam Gift Card สูงสุด 10,000 บาท เมื่อช้อป ณ ร้านลักซ์ชัวรี่แฟชั่นที่ร่วมรายการ ระหว่าง 6 มีนาคม 2567 – 4 เมษายน 2567 พร้อมรับสิทธิพิเศษจากธนาคารกสิกรไทย สำหรับผู้ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตวันสยามกสิกรไทย รับ Siam Gift Card เพิ่มอีกมูลค่า 1,000 บาท

งานนี้ขอบอกเลยว่า ทำสายแฟใจฟูหนักมากแน่นอน โดยใครที่อยากสัมผัสสุดยอดปรากฏการณ์แฟชั่น ก็สามารถติดตามอัพเดทกิจกรรมต่างๆ ของงาน World Fashion Trend Spring/Summer 2024 ได้ที่ Facebook และ Instagram : Siam Paragon เลยค่ะ

PALM ANGELS X HAAS F1 TEAM CAPSULE COLLECTION กลับมาอีกครั้ง!

account_circle

ปาล์ม แองเจิลส์  (Palm Angels) แบรนด์ไฮสตรีทสัญชาติอิตาลี กลิ่นอายอเมริกัน ได้สานต่อความสำเร็จอีกครั้ง กลับการร่วมมือกับทีมมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก MoneyGram Haas F1 จากจุดกำเนิดเริ่มต้นที่อาบูดาบีในเดือน พฤศจิกายน ในปี 2022 วาระที่ไร้ซึ่งการคาดเดาสู่การร่วมมือกันระหว่างสองแบรนด์ ปาล์ม แองเจิลส์ ผสานจิตวิญาณ แห่งการปลดปล่อยเข้ากับโลกฟอร์มูลาวันของทีม Haas อันโดดเด่นจากอเมริกาซึ่งมีสตูดิโอร่วมกันอยู่ในอิตาลี ต่างร่วม กันบ่มเพราะความท้าทายผ่านงานออกแบบที่ไม่มีใครเทียบได้ สร้างสรรค์สิ่งพิเศษที่ขนานนามว่า “Right on Track” แม่นยำในเส้นทาง สร้างความเตะตา ผลงานออกแบบเชิงบวก นำพาเข้าสู่สนามทั้งในเชิงกายภาพและสัญญะ โดยต่างตั้ง อยู่บนความประณีตและคุณภาพสอดคล้องกับการเปิดตัว คลอกเลกชั่นในครั้งนี้ควบคู่ไปกับการเปิดการแข่งขันในสนามฟอร์มูลาวัน คงความเป็น “Right on Track” ได้อย่างชัดเจนที่สุด

โดยในการกลับมาครั้งนี้ไดเรคเตอร์คนดัง ฟรานเชสโก้ รากาสซี่ (Francesco Ragazzi) ได้ปล่อยผลงาน แคปซูล คอลเลกชั่น (Capsule Collection) ออกมาให้แฟน ๆ ได้ตื่นเต้นอีกครั้ง โดยได้เปิดเผยมุมมองครั้งสำคัญผ่านมุมมองความเสรี ของเสื้อผ้ากีฬาสตรีท  ผสานเข้ากับโลกของยานยนต์และความเร็ว กลายมาเป็น คอลเลกชั่น ปาล์มแองเจิลส์ เรซซิ่ง (The Palm Angels Racing) ในฤดูกาล ร้อน/ฤดูกาล ใบไม้ผลิ ประจำปี 2024 โดยอาศัยการขับเคลื่อนของเสื้อผ้าในคอลเลกชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งไอเทมเด่นอย่างเสื้อยืดและเสื้อสเวตเตอร์ ที่ถูกนำเสนอ ผ่านลายกราฟฟิก เทคนิคอันโดดเด่น การปะติดปะต่อของแพทเทิร์นสีดำแบบใหม่ตัดกับลายโมแกรมสีแดงถูกประทับ ลงบนเสื้อผ้า รวมถึงชุดแทร็คสูทที่ถูก ตัดแต่งด้วยสีสันผสมผสานกับความเป็นเรขาคณิตและหลักการเคลื่อนที่อันแม่นยำที่หวนให้นึกถึงบรรยากาศของขอบ สนาม รวมไปถึงไอเทมกางเกงขาสั้นและหมวกแก็ปประดับตราสัญลักษณ์สร้างความตื่นเต้นเหมือนการก้าวเข้าสู่สนามแข่ง

เพิ่มเติมสำหรับ คอลเลกชั่น เรซซิ่ง (Racing Collection) ที่ถูกนำเสนอตัวตนอันเด่นชัดของโลโก้ ปาล์ม แองเจิลส์ และ ลาย โมโนแกรมสีแดงประจำทีม Haas F1 นอกจากนี้ยังเพิ่มความเซอไพรซ์ด้วยความพิเศษของเเคปซูล คอลเลกชั่น กับ เสื้อยืด 13 รุ่นพิเศษ มอบให้กับหัวเมืองหลักที่เข้าร่วมการเปิดกาแข่งขันฟอร์มูลาวันในครั้งนี้ โดยเริ่มต้นที่เมืองมานามา, ไมอามี่, มอนติคาร์โล, ซิลเวอร์สโตน และ มอนซา เป็นต้น โดยจุดเด่นของเสื้อแต่แบบละจะถูกแทนด้วยสีเฉพาะ ตัวรวมถึงรายละเอียดด้านหลังลวดลาย กราฟฟิกที่ออกแบบแสดงลายพิมพ์ที่ตั้งและรายการแข่งขันเพื่อสานต่อช่วง เวลาที่สำคัญให้กลายมาเป็นไอเทมที่ระลึก เต็มไปด้วยความท้าทาย ความเร็ว และ ชัยชนะ เป็นโอกาสพิเศษสําหรับแฟน ๆ ของแบรนด์และมอเตอร์สปอร์ต ไม่ควรพลาด

พบกับคอลเลกชั่นใหม่พร้อมจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้แล้ววันนี้ ณ ร้านปาล์ม แองเจิลส์ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ ชั้น 1 LINE : @palmangelsbkk

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Line: @palmangelsbkk, Instagram: @ppgroupthailand, Facebook: ppgroupthailand

จากประติมากรรม “อับเฉาเรือ” อยุธยา สู่ชุดไทยนางสงกรานต์ ‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’

Alternative Textaccount_circle

เปิดดีเทลชุด “มโหธรเทวี” ของ แอนโทเนีย โพซิ้ว นางสงกรานต์ประจำปี 2567 คนแรกของประเทศไทย แรงบันดาลใจจาก “อับเฉาเรือ” สมัยอยุธยา

แอนโทเนีย โพซิ้ว ได้รับเลือกอย่างเป็นทางการจากกระทรวงวัฒนธรรม ณ หอประชุมใหญ่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ว่าให้เป็น ‘นางมโหธรเทวี’ นางสงกรานต์ประจำปี 2567 โดยเธอได้เปิดตัวอย่างสง่างามโดยชุดไทยจากแบรนด์ผ้าไทยชื่อดังอย่าง ‘ภูษาผ้าลายอย่าง’ ที่ออกแบบและแต่งตัวให้คนดังทั่วฟ้าเมืองไทยมาแล้ว ซึ่งหลังจากจบงานทางเพจออฟฟิเชียลได้ออกมาโพสต์ถึงรายละเอียดเครื่องแต่งกายว่า

“ครั้งนี้ ภูษาผ้าลายอย่าง ออกแบบเครื่องแต่งกายอ้างอิงตามประติมากรรม “อับเฉาเรือ” ในสมัยอยุธยา ซึ่งเป็นไปตามศิลปนิยม “งามอย่างเทวสตรี” ผสานเข้ากับจินตนิยมของผู้ออกแบบและผู้สวมใส่ ที่ต้องการให้เห็นถึงความสง่างาม แสดงถึงพลังที่มีอยู่ภายในของสตรีเพศ จึงได้นำความงามที่หลากหลายของการแต่งกายในสมัยอยุธยา มาร้อยเรียงขึ้นเป็นชุดนี้ โดยสวมศิราภรณ์ อันเรียกว่า “เทริด” เครื่องประดับศรีษะของชนชั้นสูง พร้อมด้วยใส่อาภรณ์แก้วนิลรัตน์ (เครื่องประดับอัญมณีสีดำหรือบางตำราว่าสีน้ำเงินเข้มเกือบดำ) นุ่งผ้าลายอย่าง “ลายสร้อยสามหาว” สีม่วงดอกผักตบ ที่ออกแบบรังสรรค์ขึ้นใหม่ โดย อ.ธนิต พุ่มไสว เพื่อให้เป็นลวดลายเฉพาะสำหรับนางสงกรานต์ประจำปีนี้”

เป็นอีกครั้งที่ ภูษาผ้าลายอย่าง ได้นำศิลปะอีกแขนงมาประยุกต์เป็นเครื่องแต่งกายได้อย่างลงตัวและทำให้นางสงกรานต์ มโหธรเทวี ประจำปี 2567 สง่างามอย่างไร้ที่ติ


ข้อมูล: Facebook: ภูษาผ้าลายอย่าง

ภาพ: โอ๊ต ปัญจรุจน์

นาฬิกาแอร์เมส

นาฬิกาแอร์เมส “เปติต ลูน เซียล เอทวาล” ความงดงามของผืนฟ้ายามราตรี

account_circle
นาฬิกาแอร์เมส
นาฬิกาแอร์เมส

นาฬิกาแอร์เมส อาร์โซ (Arceau) ออกแบบขึ้นโดย อองรี ดอริญี (Henri d’Origny) ในปี ค.ศ. 1978 จากการผสมผสานทั้งความเรียบง่ายคลาสสิกเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ ที่รังสรรค์ภายใต้รูปทรงอันกลมมนเหนือเอกลักษณ์แห่งรูปทรงโกลนซึ่งเชื้อชวนให้หวนนึกถึงรากเหง้าที่เชื่อมโยงกับการขี่ม้าของแบรนด์

นาฬิกาแอร์เมส “เปติต ลูน เซียล เอทวาล” ความงดงามของผืนฟ้ายาม ราตรี

โดยตัวเรือนสตีลของรุ่นยังถ่ายทอดทั้งเอกลักษณ์ของหูตัวเรือนแบบอสมมาตรและเม็ดมะยมประดับอัญมณี รวมถึงการประดับตกแต่งด้วยเพชร 70 เม็ดบนขอบตัวเรือน ผ่านเทคนิคการฝังแบบคัตดาวน์ (cut-down) ซึ่งย้ำถึงมิติและเหลี่ยมเจียระไนอันหลากหลายของเพชร

เทคนิคการประดับฝังนี้ได้มอบกรอบอันงดงามให้กับหน้าปัดซึ่งจำลองภาพของผืนฟ้ายามราตรีที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันสะกดสายตา ภายใต้การเล่นกับมิติแห่งการใช้แสงเงา ที่หน้าปัดลวดลายเปลือกหอยมุกนี้ยังได้เผยซึ่งความแตกต่างแม้เพียงเล็กน้อย รวมถึงมิตินูนต่ำภายในเฉดต่างๆ ของแล็กเกอร์สีน้ำเงิน ขณะที่ดวงจันทร์ยังปรากฏโฉมใต้แสงแวววาวเรืองรอง ส่วนกลุ่มดาวของเพชรเจ็ดเม็ดนั้นส่องประกายแสงเจิดจรัสท่ามกลางความมืดที่รายล้อม เคลื่อนตัวเหนือขึ้นไปนั้นคือเข็มชี้รูปทรงใบไม้อันเพรียวบาง ที่จักรวาลซึ่งเรืองรองไปด้วยแสงแห่งดวงดาวนี้ได้ถูกปลุกให้มีชีวิตชีวาขึ้น

โดยการขับเคลื่อนของกลไกจักรกล แมนูแฟคเจอร์ แอร์เมส เอช1837 (Manufacture Hermès H1837) เพื่อแสดงเวลาชั่วโมงและนาที เช่นเดียวกับฟังก์ชันแสดงข้างขึ้น-ข้างแรมที่ปรากฏ ณ ตำแหน่งระหว่าง 10 และ 11 นาฬิกา ส่วนฝาหลังกระจกแซฟไฟร์ได้เผยให้เห็นการตกแต่งอันประณีตของลวดลายเกรนวงกลม ลายขดก้นหอย และงานขัดด้านแบบซาติน เช่นเดียวกับลวดลาย ‘สปริงกลิ้ง ออฟ เอชส์’ (‘sprinkling of Hs’) ที่ตกแต่งบนสะพานจักรและโรเตอร์ขึ้นลาน 

เรือนเวลานี้มาพร้อมกับเหลือบสีเข้มอันชวนหลงใหล โดยการประกอบเข้ากับสายหนังจระเข้สีน้ำเงินแซฟไฟร์ที่รังสรรค์ขึ้นอย่างสอดคล้องกับความเชี่ยวชาญด้านเครื่องหนังและการทำอานม้าของแบรนด์


เจ้าแม่คอนเนคชั่น! เปิด 9 รายชื่อท็อปสตาร์ คนรู้จักของลิซ่า BLACKPINK

Alternative Textaccount_circle

ลิซ่า BLACKPINK ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘ผู้ทรงอิทธิพล’ ก็ไม่แปลก เมื่อเซเลบริตี้ที่เธอรู้จักมีแต่ระดับท็อปสตาร์ จะมีใครบ้าง ตามไปดู!

หลังจากปรากฏตัวร่วมชมคอนเสิร์ตระดับโลก The Eras Tour ของ Taylor Swift ที่ประเทศสิงคโปร์ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ก็ได้คอนเนคชั่นเพิ่มมาอีกหนึ่ง ซึ่งความพิเศษของความสัมพันธ์ครั้งนี้เจ้าลิซของเราได้รับเชิญให้มาชมการแสดงเป็นพิเศษ เพราะหากสังเกตโซนที่นั่งของเธอแล้วมีไว้ให้เฉพาะแขกที่รับเชิญเท่านั้น นอกจากนี้หลังจบคอนเสิร์ตลิซ่ายังโพสต์รูปคู่กับเทย์เลอร์ สวิฟต์ลงบนอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานก็กลายเป็นไวรัลที่แฟนๆ หวังว่าสตาร์ฝั่งตะวันตกและตะวันออกจะได้ร่วมงานด้วยกัน

อีกทางหนึ่งก็เริ่มพูดถึงคอนเนคชั่นของเธอที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน เราจึงขอรวบรวมเซเลบริตี้ที่ลิซ่าเคยร่วมงานหรือรู้จักมาให้ทุกคนได้ดูกัน

เริ่มต้นกันที่ปี 2017 ลิซ่าและ 3 สาว BLACKPINK มีโอกาสได้ร่วมงานกับศิลปินระดับโลก Dua Lipa ในซิงเกิล Kiss and Make Up ซึ่งหลังจากเพลงปล่อยออกมาก็ได้รับกระแสการตอบรับเป็นอย่างดี และในปี 2018 ลิซ่าและเจนนี่ก็ได้รับเชิญให้ไปดูคอนเสิร์ตเดี่ยวของ Dua Lipa ที่ประเทศเกาหลีใต้ด้วย

เมื่อพูดถึงเรื่องทำงานร่วมกันแล้วในปี 2020 BLAKPINK ได้ปล่อยเพลงแนวน่ารัก เซ็กซี่และขี้เล่นอย่าง ‘Ice Cream’ ออกมา โดยเพลงดังกล่าวได้นักร้องสุดฮ็อตอย่าง Selena Gomez มาร่วมคอลาบอเรชั่นด้วย ซึ่งไมเพียงมีแต่เสียงร้องเท่านั้นแต่ทั้งหมดยังปรากฏอยู่ในมิวสิกวีดีโออีกด้วย

มาที่งานแฟชั่นโชว์ของ CELINE ครั้งหนึ่งลิซ่าเคยได้ร่วมเฟรมกับนักแสดงนำภาพยนตร์ชื่อดัง ‘Fantastic Beasts and Where to Find Them ‘ อย่าง Edward John David Redmayne ทันทีที่ภาพเผยแพร่ออกไปแฟนคลับที่เป็นแฟนภาพยนตร์อยู่ด้วยถึงกับฟินไปตามๆ กัน

ถัดจากแฟชั่นแบรนด์ขยับมาไฮจิเวลรี่อย่าง BVLGARI อีกหนึ่งแบรนด์สำคัญที่ขยายคอนเนคชั่นของลิซ่าให้กว้างขวาง เพราะอีเวนต์ต่างๆ ทำให้เธอได้เจอ Global Ambassador จากทั่วมุมโลกมากมายไม่ว่าจะเป็น Anne Hathaway หรือ Zendaya ภาพคู่แต่ละรูปออร่ากินกันไม่ลงเลยทีเดียว

นอกจากนี้ในเทศกาลเพลงระดับโลก Coachella ที่สาวๆ BLACKPINK ได้ขึ้นแสดง หลังเวทีก็เป็นพื้นที่ให้เหล่าศิลปินได้พบปะทักทาย ซึ่งเป็นโอกาสเดียวกันกับที่ลิซ่าได้ถ่ายรูปกับ Ariana Grande ในปี 2019 และ Billie Eilish และ Dominic Fike ปี 2023

และสุดท้ายโมเมนต์ที่เพิ่งผ่านไปไม่นานคืองานดินเนอร์การกุศล ‘Le Gala Des Pièces Jaunes 2024’ ที่ลิซ่าได้รับเชิญ ทำให้เธอได้พบและทำความรู้จักกับ Rihanna นักร้องระดับตำนานอีกด้วย

บอกเลยว่านี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เรารวบรวมมาได้เท่านั้น ต่อไปในอนาคตจะมีใครอีก รอติดตามกันไว้ให้ดีนะคะ


ภาพ: lalalalisa_m

keyboard_arrow_up