เส้นทางชิงมงกุฎสุดแสนลำบาก ของ มารี เอสเธอร์ บังกูรา มิสเซียร์ราลีโอน

มิสเซียร์ราลีโอน มารี เอสเธอร์ บังกูรา สาวงามคนสุดท้ายในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ได้เดินทางมาถึงเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อย ท่ามกลางประสบการณ์การเดินทางมาชิงมงกุฎที่สุดแสนจะลำบาก

ก่อนหน้านี้ แพรวดอทคอม ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับ “มารี เอสเธอร์ บังกูรา” มิสเซียร์ราลีโอน 2018 ไปแล้วครั้งหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องที่ว่า เธอไม่มารายงานตัวในกิจกรรมเก็บตัวมิสยูนิเวิร์ส 2018 ที่เมืองไทย และถึงแม้ว่าทางกองประกวดจะอะลุ่มอล่วยยืดกำหนดออกไป แต่ก็ยังคงไร้วี่แววการมาของเธอ ทว่าล่าสุดเธอได้เดินทางมาถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้ถึง 6 วัน

มารี เอสเธอร์ บังกูรา ได้รับตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์ส เซียร์ราลีโอน 2018 เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เธอมีเวลาเพียง 15 วันเพื่อเดินทางมารายงานตัวที่กรุงเทพมหานคร ตามกำหนดจริงในวันที่ 2 ธันวาคม และทางกองประกวดได้ยืดเวลาเป็นกรณีพิเศษให้ถึงวันที่ 3 ธันวาคม ทว่าเธอไม่สามารถมาทันตามกำหนด

ล่าสุดมีการเปิดเผยถึงเหตุผลที่เธอเดินทางมาไม่ทันตามกำหนดว่า หลังจากที่เธอได้รับตำแหน่ง เธอรีบดำเนินเรื่องเพื่อเข้าร่วมประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ทันที ทว่าในประเทศของเธอนั้นไม่มี สถานเอกอัครราชทูตของไทยอยู่ เธอถึงต้องเดินทางไปขอวีซ่ายังประเทศข้างเคียง แต่ก็ต้องเจอกับปัญหาเที่ยวบินยกเลิก อีกทั้งเที่ยวบินอื่นๆ ที่ออกนอกประเทศก็มีจำนวนน้อยมากๆ

แม้การเดินทางจะลำบาก เธอกลับยังพยายามที่จะหอบสัมภาระลงเรือเพื่อเดินทางไปยังประเทศไนจีเรีย แล้วขึ้นเครื่องบินลงที่เอธิโอเปีย และเดินทางมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2561 จึงเป็นผู้เข้าประกวดคนสุดท้ายที่เดินทางมาถึง

ทั้งนี้มีกระแสข่าวว่า เธออาจจะถูกตัดสิทธิ์เนื่องจากมาไม่ทันกำหนดรายงานตัว ทว่าเรื่องนี้ยังไม่มีการคอนเฟิร์มจากกองประกวดอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตามความพยายามและความทุ่มเทของเธอช่างกินใจแฟนนางงาม และมีการให้กำลังใจให้เธออย่างท่วมท้นเลยทีเดียว