มีความน่ารำคาญรุกหนักกระจายทุกพื้นในหมู่บ้านดอนไม้ป่า! นาทีนี้ต้องยกให้ สาวๆ นักศึกษาโบราณคดี ในละครเรื่อง นาคี ที่เล่นดี อินเนอร์ถึง!! เบียดนางร้ายหมายเลข1 อย่าง “อุ้ม ลักขณา” ที่รับบท “ล่ำเจียก” ไปเลยคร๊า…า กลายเป็นนางร้ายคลื่นความถี่ที่มาทีไร อยากเปลี่ยนช่องหนีทู้กก-กที!

โดยเฉพาะดาราใหม่อย่าง “น้องแคลร์ ฉัตรฑริกา สิทธิพรม” ดีกรีรองอันดับ 2 มิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2014 ที่แจ้งเกิดทันทีกับบทบาทของ พิมพ์พร นักศึกษามหาวิทยาลัย คิดถึงแต่ความรู้สึกของตัวเองไม่เคยคิดถึงหัวอกของคนอื่น แถมตามติดพระเอก “เคน ภูภูมิ” ดั่งเป็นเงา! งานนี้กระแสตอบรับจากแฟนละครแรงเว่อร์จนเจ้าตัวถึงกับบอกว่า

“ตอนแรกที่เล่นก็ไม่คิดว่าคนดูจะเกลียดเราได้ขนาดนี้ ก็พยายามตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด แต่ด้วยน้ำเสียง และการกระทำเราหลายๆ อย่างที่ไปอยู่ต่างจังหวัด แต่ก็ทำตัวเหมือนอยู่ในเมือง ไม่ปรับตัวให้เข้ากับคนอื่น แถมยังมีเรื่องตบตี แย่งชิงผู้ชายกับคนอื่น ยิ่งทำให้คนเกลียดแคลร์มากเลยค่ะ เพราะจริงๆ แล้วบทของแคลร์จะเป็นลูกคุณหนูอยู่แล้ว ความที่โดนพ่อแม่ตามใจก็เลยทำให้เราเอาแต่ใจตัวเอง คิดถึงแต่ความรู้สึกของตัวเองไม่เคยคิดถึงหัวอกของคนอื่น อยากได้อะไรก็ต้องได้ยิ่งทำให้คนดูเกลียดเรา ความร้ายกาจมันก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยค่ะ 

ยังไม่หมดแค่นี้ ยิ่งเห็นพระเอกเป็นของคนอื่นไปแต่งงานกับนางเอก ความรักก็เปลี่ยนเป็นความแค้นหนักเข้าไปอีกค่ะ กับแต้วณฐพรเราร้ายกับเขามาก แต่เราจะเป็นคนที่ไม่กลัวงูไม่กลัวพญานาค คือเห็นแต่ก็ไม่กลัวด้วยความที่เรารักพระเอกมาก อะไรก็ฉุดไม่อยู่ต่อให้นางเอกจะน่ากลัวขนาดไหนเจ้าแม่นาคีอะไรเราก็ไม่กลัว จะหาวิธีมากำจัดมาสู้ให้ได้

กับการแสดงในละครเรื่องนาคี ถือว่าค่อนข้างยากเพราะว่าเราก็ถือว่าใหม่เหมือนกัน อาจจะเคยเรียนการแสดงมาบ้างแล้ว แต่ว่าไม่เคยเล่นละครเต็มตัว พอมาทำงานก็ได้เรียนรู้ไปด้วยกัน เพราะจะมีทั้งพาร์ท ความรัก ความหึงหวง กับพระเอกนางเอก แล้วก็จะมีแบบเล่นกันสนุกๆ กับเพื่อนๆ ที่ไปออกค่ายด้วยกัน มันมีหลายอารมณ์ปะปนซึ่งมันก็ทำให้แคลร์ค่อยๆ ปรับตัวทั้งกับการแสดง และเพื่อนๆ ที่เข้าฉากด้วยกัน ส่วนมากเรื่องนี้ก็จะไปตกระกำลำบากอยู่ต่างจังหวัดเสียส่วนใหญ่ ความที่เราเรียนโบราณคดีต้องศึกษาเกี่ยวกับวัตถุโบราณการขุดค้นพบ ซึ่งการทำงานทำให้แคลร์ได้สนุกไปกับการถ่ายทำกับสถานที่ใหม่ๆ ที่แคลร์ไม่อยากไป ทำให้การทำงานเรื่องนี้สนุกมาก กับเพื่อนๆ พี่ๆนักแสดงและเราก็ค่อยๆ ปรับตัวไป ก็ดีใจนะคะที่คนดู ดูแล้วอินไปกับละคร แต่จะบอกว่าตัวจริงแคลร์ไม่ได้ร้ายแบบนั้นนะคะ ฝากติดตามละครเรื่องนาคี เป็นกำลังใจให้แคลร์ด้วยค่ะ”

พิมพ์พร (ชาติปัจจุบัน)

พระธิดาพิมพาวดี (ในอดีตชาติ)

ส่วน “น้องมุก สิรินรัตน์ วิทยพูม” เน็ตไอดอลรอยยิ้มสว่างใสที่กำลังเป็นคลื่นลูกใหม่ของช่อง 3 โดยผลงานละครก่อนหน้านี้คือ ซีรีส์เลือดมังกร ตอนแรด รับบทเป็น มนสิชา ขณะที่ในเรื่อง นาคี “น้องมุก” มารับบทเป็น รัตนาวดี นักศึกษาโบราณคดี ที่ต้องไปพบกับเรื่องราวลี้ลับ เจ้าตัวเผย บทยากกว่าที่ผ่านมา และใช้จินตนาการในการแสดงมากกว่าที่เคย

“เรื่องนี้ในส่วนของมุกในบทของรัตนาวดี ก็มีทั้งในส่วนของปัจจุบันและอดีตเลยค่ะ ในอดีตก็จะติดตามเจ้านายไปในที่ต่างๆ ที่สำคัญ เคยทำบาปเอาไว้หนักเลยก็คือการฆ่างู พอมาชาตินี้ก็เลยโดนเปรตงูตามล่า ตอนเล่นบอกตามตรงเลยว่าเป็นอะไรที่ยากมาก ต้องใช้จินตนาการล้วนๆ ในเรื่องของการแสดง อย่างตอนในอดีตที่ตีงูตายก็ตีงูปลอม ต้องใส่อารมณ์แบบสุดๆ พอมาถึงพาร์ทปัจจุบัน ก็ต้องถูกผีเข้าสิงเพื่อมาเอาชีวิตอีก จะมีทั้งอารมณ์กลัวอารมณ์สับสนต้องหนีทุกอย่าง แล้วมุกก็ต้องจินตนาการไปด้วยว่า เปรตงูเป็นยังไง เราก็นึกไม่ออก พอโดนสิงร่างมุกก็ต้องเลื้อย ต้องดิ้นทุรนทุราย ไม่เคยรู้เลยว่าเราจะต้องต่อสู้ หรือเอาชีวิตรอดจากเปรตงูได้ยังไง มันเป็นอะไรที่ยากมากเลยค่ะ ยิ่งโดยปกติแล้วมุกเป็นคนแข็งแรง และไม่ค่อยกลัวอะไร แต่มาเรื่องนี้คาแรคเตอร์ก็จะดูอ่อนแอกว่าตัวจริง ขี้กลัวมากกว่าปกติค่ะ

การเล่นละครก็จะได้รับบทที่ยากขึ้น มีพัฒนาการของตัวละครมากขึ้น ต้องเล่นกับสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติ เล่นกับภูตผี ก็รู้สึกว่าบทของรัตนาวดีเป็นอะไรที่ท้าทายมากๆ เลยค่ะ ตอนที่เล่นก็มีปรึกษาพี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ผู้กำกับว่าเราจะต้องกลัวประมาณไหนต้องต่อสู้กับอะไร พี่อ๊อฟก็จะคอยแนะนำให้นึกถึงตอนที่เรากลัวอะไรสักอย่างว่าเรารู้สึกอย่างไร การเอาตัวรอดในภาวะที่เราคับขันมีความกลัวเข้าครอบงำเป็นอย่างไร ซี่งนอกจากในส่วนนี้แล้วก็จะมีบทสนุกๆ บ้าง เวลาที่เข้าฉากกับเพื่อนๆ แต่คนดูออกจะหมั่นไส้เราหน่อย เพราะจะทำตัวน่าเบื่อน่ารำคาญกันทั้งแก๊งค์เลยค่ะ ถือว่าเป็นบทที่มีสีสันของเรื่อง ถึงแม้ว่าบทของมุกจะมีให้เห็นไม่เยอะมากจะมีแค่ตอนแรกๆ เพราะสุดท้ายก็ถูกฆ่าตายในที่สุด แต่ก็ขอบอกว่าสนุกแน่ๆ ค่ะเรื่องนี้ฝากติดตามด้วยนะคะ”

รัตนาวดี (ชาติปัจจุบัน)

แพน (ในอดีตชาติ)

เรื่อง : Red Apple_แพรวดอทคอม
ภาพ : Thai TV3

จากความศรัทธาในบทประพันธ์ จนกลายมาเป็นละครที่คนพูดถึงมากที่สุด ณ ตอนนี้ 
เผยมุมมองของผู้จัดละครและผู้กำกับมือทอง ที่ปั้นละครเรื่องไหนก็ปังทุกเรื่องอย่าง อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง นอกจากนี้เรายังพาไป แอบดูภาพ เบื้องหลังละครนาคี ที่ทีมนักแสดงไปปักหลักถ่ายทำกันที่ ปราสาทเมืองสิงห์, น้ำตกเอราวัณ ในจ.กาญจนบุรี และ ถ้ำพุหวาย วนอุทยาถ้ำเขาวง จ.อุทัยธานี กันด้วย!

ซึ่งในส่วนของการทำละครเรื่องนี้ “พี่อ๊อฟ” ถึงที่มาว่า

“ละครเรื่องนาคีเป็นอะไรที่ผมประทับใจ ผมมีความเชื่อตั้งแต่ตอนที่อ่านเป็นนิยาย เพราะถ้าพี่จะหยิบนิยายสักเรื่องมาทำเป็นละคร เราต้องมีความรัก ความศรัทธาก่อน ถึงจะทำละครเรื่องนั้นได้ออกมาดี นาคี เป็นเรื่องของความรักของคนกับนาคในอดีตชาติ ซึ่งผูกพันมาถึงจนปัจจุบันนี้ อดีตชาติคืออะไร เชื่อหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่เรื่องสมมุติที่เราทำอยู่ตอนนี้มันมีอดีตชาติ พระไตรปิฎกก็บอกกล่าว ถ้าเชื่อก็ลองดู ลองฟังบทประพันธ์ของคุณตรี อภิรุม ท่านก็ทำละครภาพยนตร์หลายเรื่อง แล้วเรื่องนี้ในนวนิยายก็สนุกมาก แล้วได้คนเขียนบทละครโทรทัศน์ที่เข้าใจในมุมของเรื่องศาสนา เข้าใจในความรัก เราได้นักแสดงที่มีฝีมือ เราได้ผู้จัดที่เข้าใจ แล้วเชื่อในเรื่องตรงนี้ สนุกแน่นอนครับ นักแสดงแทบทุกคนจะถูกเชื่อมโยงกันด้วยอดีตและปัจจุบัน”

“ละครเรื่องนี้จะเป็นแนวความเชื่อของคนอีสาน เกี่ยวกับพญานาค พี่เคยทำละครเรื่องคุณชายรัชชานนท์ ตอนนั้นก็เป็นอีสานเหมือนกัน แต่เรื่องนาคีจะเป็นอีสานแถวจังหวัดอุบลราชธานี ภาษาการพูดก็เป็นอีกแบบหนี่ง โชคดีพี่ได้นักแสดงที่มีฝีมือ ทุกคนตั้งใจมาก มีไม่กี่คนที่เป็นคนอีสานจริงๆ แต่คนที่ไม่ใช่คนอีสานก็พยายามฝึกฝน ตั้งใจพูดอีสานกันมาก ตรงนี้ผมนับถือจริงๆ อย่าง แต้ว เขาเป็นคนที่มีความพยายามในการพูดอีสานมาก ทั้งท่องทั้งอ่านทั้งเขียนทำทุกอย่างให้ดีที่สุด บทของคำแก้วจะเป็นอะไรที่ดราม่า น่าสงสารมาก ทุกครั้งที่เกิดเรื่องกับตัวเองมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้ ก็จะขึ้นไปที่เทวาลัย ซึ่งเรากำหนดขึ้นให้ว่าเทวาลัยคือ ปล่องพลังงานพญานาค ที่มันดิ่งไปยังเมืองบาดาล ทำให้มาแล้วไม่สบายก็จะหาย แต่ทุกครั้งที่คำแก้วเกิดความทุกข์ก็จะมานั่งร้องไห้อยู่ที่เทวาลัย ไม่เคยโทษใครแต่จะถามตัวเองตลอดเวลาว่าทำอะไรผิด ชีวิตถึงต้องเจอเรื่องราวแบบนี้ ก็จะมีภาคระลึกชาติทั้งหมดให้เห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้น จะทำให้เห็นว่าตัวละครแต่ละตัวมีความผูกพันมีที่มา มีกรรมมีเวรผูกพันกันมายังไง สนุกครับสนุก พูดให้ฟังได้ไม่หมด แต่ขอบอกว่าต้องติดตามกันตั้งแต่ต้นจนจบนะครับ ผมตั้งใจทำเต็มที่ ติชมกันได้ตลอดเวลาครับ”

ส่องภาพ เบื้องหลังละครนาคี

ด้านหน้าถ้ำที่เป็นทางเข้าของเทวาลัย พี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ผู้กำกับและผู้จัด นำทีมนักแสดงไปถ่ายทำกันที่ ปราสาทเมืองสิงห์ จังหวัดกาญจนบุรี

ซึ่งบรรยากาศก็สมกับเป็นเมืองโบราณจริงๆ เพราะรายล้อมไปด้วยมนต์ขลังต่างๆ มากมาย แต่เมื่อย่างก้าวเข้าไปด้านในถ้ำ ยิ่งทำให้ขนลุกเพราะมากไปด้วยมนต์ขลัง และความงดงาม ที่ถ้ำพุหวาย วนอุทยาถ้ำเขาวง จ.อุทัยธานี ภายในน้ำงดงามตระการจนไม่มีที่ติ ทั้งแต้ว และ เคน ต่างตะลึงในความงามของถ้ำในแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ถึงแม้ด้านในจะมืดมาก แต่ก็มีอากาศผ่านให้หายใจได้อย่างดี และที่นี่เอง เคนได้พบกับแต้ว และทำให้เคนระลึกถึงอดีต ที่ทั้งคู่เคยพลอดรักกันที่น้ำตก แล้วเคนก็สัญญาว่า จะกลับมารักกับแต้วอีกครั้ง หลังจากที่ต้องออกไปรบก่อนพอถึงฉากนี้ พี่อ๊อฟ ก็ย้ายไปถ่ายทำกันที่น้ำตกเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี เรียกว่านักแสดงเรื่องนี้ ได้เที่ยวทั่วไทยกันจริงๆ ฉากต่อเนื่องกันฉากเดียว ไปถ่ายทำถึง 3สถานที่ด้วยกัน

อ่านต่อ
ย้อนรอยรุ่นเดอะ! กาญจนา จินดาวัฒน์ ในบท เจ้าแม่นาคี
ชีวิตไม่มีอะไรที่ง่าย! อีกบทบาทของ “แต้ว ณฐพร” ที่ต้องทุ่มสุดตัว
ปรากฏการณ์สนั่นโซเชียลของ “นาคี” ละครกระแสดี ที่เปรี้ยงปังตั้งแต่ยังไม่ออนแอร์!

เรื่อง : Red Apple_แพรวดอทคอม
ภาพ : Thai TV3

ถือเป็นครั้งแรกของ เจ้าสัวระดับหมื่นล้าน กวีพันธ์ – ศุภานวิต เอี่ยมสกุลรัตน์ เจ้าของอาณาจักรคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ และเดอะคริสตัล ช็อปปิ้งมอลล์ ยอมเปิดห้องสมบัติที่เก็บสะสมของมงคลล้ำค่ามาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ

เบื้องหลังความสำเร็จในวันนี้เริ่มต้นจาก “ความชอบ” ของคุณพ่อเกียรติ เอี่ยมสกุลรัตน์ เจ้าสัวธุรกิจกลุ่มสุราทิพย์ แล้วส่งผ่านทางสายเลือดสู่รุ่นลูกคุณกวีพันธ์ เอี่ยมสกุลรัตน์

“อย่างที่ทราบว่าตระกูลของผมเป็นครอบครัวคนจีน ส่วนใหญ่คนจีนจะชอบสะสมของที่มีความหมายมงคล อย่างเจ้าแม่กวนอิม ฮก ลก ซิ่ว พระยิ้ม เรือสำเภา ม้าแปดตัว ต้นลูกท้อ หรือหยก คุณพ่อท่านชอบของโบราณโดยเฉพาะจากประเทศจีน เก็บสะสมมาตั้งแต่ 30 – 40 ปีก่อน แล้วผมก็รับหน้าที่ดูแลและสะสมต่อกันมา

“ส่วนใหญ่คุณพ่อจะได้ของพวกนี้จากการเดินทางไปต่างประเทศ ถ้าที่เมืองไทยก็ได้จากร้านขายของเก่าเจ้าประจำที่ไว้ใจได้ ซึ่งเมื่อก่อนมีร้านขายของอย่างนี้เยอะ น่าเสียดายว่าปัจจุบันคนทำธุรกิจอิมพอร์ตของโบราณน้อยลงจนแทบไม่เหลือ อาจเพราะของแท้หายากขึ้นทุกวัน ส่วนใหญ่อยู่ตามบ้านเศรษฐีระดับเจ้าสัว หมดสิทธิ์ที่จะหลุดออกมาวางขายในตลาด”

บ้านหลังนี้ (ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกับบ้านคุณกวีพันธ์) จึงดีไซน์ออกมาให้ดูกึ่งๆ เป็นพิพิธภัณฑ์ โดยออกแบบตู้ไม้กระจกให้สามารถเก็บของมงคลเหล่านี้ได้ครบถ้วน

“ผมเห็นของเหล่านี้มาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ถามว่าชอบไหม ชอบนะ แต่ไม่ถึงกับตามล่าหาซื้อมาครอบครองขนาดนั้น เดี๋ยวนี้ชิ้นใหม่ๆ จะได้จากการเดินทาง โดยมีหลักการตัดสินใจซื้อง่ายๆ คือ ถ้าสวย ชอบ และใช่ ก็ซื้อเลย

“วิธีดูของแท้หรือเทียม สมัยก่อนเวลาจะซื้อของโบราณชิ้นใหญ่ๆ เราจะหาผู้รู้มาช่วย หรือของบางอย่าง เช่น แจกัน สามารถตรวจสอบเนื้อกระเบื้องได้ว่าอยู่ในยุคสมัยไหน ยิ่งถ้าของราคาแพงมากๆ เวลาซื้อจะต้องมีใบรับรองว่าเป็นของแท้ แต่ตอนหลังไม่ค่อยซื้อมาเพิ่มเพราะไม่มีที่วางแล้ว เพราะถ้าซื้อมาแล้วเก็บอยู่ในกล่องคงไม่มีความหมาย หรือจะวางแทนชิ้นที่วางอยู่ ก็ไม่รู้จะหยิบชิ้นไหนออกไป”

ถามถึงสามของมงคลชิ้นโปรดในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คุณกวีพันธ์ยกอันดับหนึ่งให้ต้นลูกท้อหยกที่ตั้งอยู่ในห้องทำงาน

“เป็นต้นลูกท้อไซส์ใหญ่ ลูกท้อถือเป็นอาหารมงคลมีความหมายให้อายุยืน แล้วทำจากหยก ซึ่งเป็นเครื่องประดับมงคล ด้านความมั่งคั่ง ร่ำรวย ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างของราชวงศ์จีนจะทำมาจากหยกทั้งสิ้น แม้แต่ตราแผ่นดินหยกเป็นธาตุเย็น เชื่อว่าจะนำพาความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์มาให้ ปัจจุบันหยกหายากมาก การที่จะหาชิ้นใหญ่ขนาดนี้มาสร้างงานยากยิ่งกว่า ผมได้ต้นนี้มาหลายสิบปีแล้ว แต่อายุจริงๆ น่าจะมากกว่านั้นมาก”

ถัดมาเป็นเครื่องลายครามจากราชวงศ์หมิง ที่มีให้ตื่นตาอยู่ในทุกห้อง

“สมัยนั้นเครื่องลายครามจะใช้แต่สีธรรมชาติ ยังไม่มีสีสันฉูดฉาด ซึ่งผมจะจัดวางอยู่ทั่วบ้าน มีตั้งแต่โถ ถ้วยชามไปจนถึงขวดยานัตถุ์ ส่วนแจกันสเกลใหญ่ขนาด 2 เมตร คุณพ่อท่านเก็บ ส่วนผมมีหน้าที่ดูแลรักษา เดี๋ยวช่วงปิดซัมเมอร์นี้จะให้ลูกชายหาข้อมูลทำประวัติ (หัวเราะ) โดยเฉพาะลูกคนโต (กวินทร์ เอี่ยมสกุลรัตน์) เขาสนใจพวกของเก่าของโบราณล้ำค่า”

ถือเป็นโชคดีของทีม แพรว ระหว่างเซอร์เวย์สถานที่ได้พบกับท่านประธาน คุณเกียรติ เอี่ยมสกุลรัตน์ วัยกว่าแปดสิบปี กรุณาพาชมทั่วบ้านด้วย ระหว่างนั้น แพรว เลียบๆ เคียงๆ ถามถึงราคาแต่ละชิ้น

คุณกวีพันธ์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ของพวกนี้ราคาไม่ถูกครับ!” มาทางฟากศรีภรรยาคนสวย คุณตุ๋ม-ศุภานวิต เอี่ยมสกุลรัตน์ ด้วยความเป็นผู้หญิง เธอจึงหลงใหลในของตกแต่งบ้าน โดยเฉพาะที่ดีไซน์เป็นรูปสัตว์อย่างไก่ นก ด้วยเพราะเธอเกิดปีระกา นอกจากนี้ของทุกชิ้นมีความหมายและคุณค่าทางจิตใจไม่ต่างกัน

“เพราะเราทำธุรกิจด้าน Property Development เวลาเดินทางไปต่างประเทศจะชอบไปดูพิพิธภัณฑ์ สถาปัตยกรรมของอาคารต่างๆ และศิลปะของประเทศนั้นๆ โดยก่อนเดินทางจะทำการบ้านศึกษาหาความรู้ว่าประเทศนั้นๆ มีศิลปะที่โดดเด่น สถานที่ที่ขาดไม่ได้ในโปรแกรมทุกทริปคือ พิพิธภัณฑ์ ถ้าทริปไหนมีเวลาก็จะชวนกันไปบุกถึงโรงงานผลิต เพื่อจะได้เห็นถึงวิธีการทำที่ละเอียดอ่อน แล้วเลือกซื้อชิ้นงานที่ประทับใจกลับมาเป็นที่ระลึก ซึ่งต้องบอกก่อนว่าของแต่งบ้านแทบทุกชิ้นที่สะสม นอกจากเป็นความทรงจำแห่งความสุขที่ทำให้นึกถึงการเดินทางครั้งนั้นๆ แล้วยังมีความหมายและเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคล

“ส่วนตัวดิฉันชอบสะสมคริสตัลสวารอฟสกี้เป็นพิเศษ ต้นกำเนิดอยู่ที่เมืองวัทเทนส์ ประเทศออสเตรีย ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการเจียระไนคริสตัลที่เป็นของสะสมยอดนิยม ทั้งห้าชิ้นนี้เป็น Miniature Collection จุดเด่นของคอลเล็คชั่นนี้คือ ลำแสงตกกระทบแล้วสะท้อนทำให้เกิดประกายสวยงามเหมือนสายรุ้ง”

ถือเป็นครั้งแรกที่คุณตุ๋มนำของรักของหวงเหล่านี้มาให้เก็บภาพซึ่งเธอย้ำกับ แพรว ตลอดว่า “ของมงคลเหล่านี้ทุกชิ้นมีคุณค่าทางจิตใจ ถ้ามีเงินเราอาจซื้อหาของราคาแพงได้ แต่ของเหล่านี้นับวันยิ่งหายาก”

เช่นเดียวกับคุณกวีพันธ์ที่ทิ้งท้ายถึงสมบัติมงคลเหล่านี้ว่า

“ผมเชื่อว่าเวลานำของมงคลเข้ามาในบ้าน ชีวิตเราก็จะมีแต่สิ่งดีๆ เข้ามา อันดับแรกเลยคือความสุข อย่างคุณตุ๋มมีความสุขกับการสะสมของแต่งบ้านที่สวยงามและมีความหมายดีๆ ส่วนผมก็มีความสุขที่ได้มองของโบราณที่มีอายุหลายร้อยปี บางชิ้นเป็นพันปี ซึ่งหาไม่ได้ง่ายๆ แต่เรามี ฉะนั้นต้องเก็บรักษาไว้อย่างดี

“เพราะเป็นคุณค่าที่ตีราคาไม่ได้”

ที่มา : นิตยสารแพรว ปักษ์ 882 วันที่ 25 พฤษภาคม 2559 คอลัมน์ UNEXPECTED เรื่อง กิดานันท์
ภาพ: วรสันต์ ทวีวรรธนะ, โยธา รัตนเจริญโชค

ได้ฤกษ์ลงจอเช็คเรทติ้งกันไปแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ย.) สำหรับละคร นาคี ที่ร่ายอาถรรพณ์ใส่คนดูได้สมกับเป็น ละครพีเรียดแนวแฟนตาซี ไสยศาสตร์ ที่ถ่ายทอดความเชื่อและปริศนาของพญานาค หรือ “เจ้าแม่นาคี” พร้อมสอดแทรกเรื่องราวความรักสุดโรแมนติกดราม่าเข้าไปจนเอาคนอยู่หมัดตั้งแต่ตอนแรก! โดยเฉพาะนางเอกที่ปล่อยของอวดฝีมือการแสดงไม่ยั้งอย่าง “แต้ว ณฐพร” (ย้อนอ่าน ชีวิตไม่มีอะไรที่ง่าย! อีกบทบาทของ “แต้ว ณฐพร” ที่ต้องทุ่มสุดตัว) 

ขณะที่กระแสของ “นาคี” เวอร์ชั่นปัจจุบัน ได้รับความนิยมล้นหลามทั้งก่อนและหลังออนแอร์ (ย้อนอ่าน ปรากฏการณ์สนั่นโซเชียลของ “นาคี” ละครกระแสดี ที่เปรี้ยงปังตั้งแต่ยังไม่ออนแอร์!)

วันนี้แพรวเลยจะพาไปย้อนรอยส่องนางเอกนาคีรุ่นเดอะ! ผู้ที่มารับบทเป็น “คำแก้ว” รุ่นแรก บอกเลยว่า เกิดไม่ทัน !!

“นาคี” เป็นบทประพันธ์ของ “ตรี อภิรุม” เริ่มแรกถูกหยิบนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ เมื่อปี พ.ศ. 2522
นำแสดงโดย “เบญจวรรณ บุญญกาศ” ประกบคู่ “ทินกร ปฏิพัฒน์”

ต่อมาถูกนำมาดัดแปลงสร้างในรูปแบบละคร ดำเนินงานผลิตโดย กรุณาโปรดักชั่น จำกัด ซึ่งบทโทรทัศน์ เขียนโดย ม.ล.เทพรัตน์ เทวกุลฯ เมื่อ พ.ศ. 2531 ผู้รับบทเป็น “คำแก้ว” หรือ “เจ้าแม่นาคี”
คือ นางเอกสุดฮอตในยุคนั้นอย่าง กาญจนา จินดาวัฒน์ และพระเอกแห่งยุค เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์

กาญจนา จินดาวัฒน์

กาญจนา จินดาวัฒน์ ดารานางเอกรุ่นใหญ่วัย 57 กะรัต ที่เริ่มมีผลละครตั้งแต่พ.ศ. 2524 รวมผ่านผลงานละครตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน (มีคิวละครรอสำหรับปีหน้าด้วย) เล่นมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 100 เรื่อง!!

คำแก้ว ยุคปัจจุบัน ปะทะ คำแก้ว รุ่นเดอะ

ตื่นตะลึงกันไม่น้อย กับฉากที่สาว “แต้ว” เล่นกับงู (CG) เพื่อนรัก
งานนี้แพรวเลยจับภาพ ตอน คำแก้ว รุ่นเดอะ เล่นกับงูเพื่อนรัก (ตัวเป็นๆ สัมผัสเน้นๆ) บ้าง เอาซี่…!!!!!!!!!!!!!!

 คำแก้ว มีความสุขมากอะไรมาก…!!

ภาพเปิดละคร นาคี พ.ศ. 2531

รูปปั้นเจ้าแม่นาคี จากละคร เวอร์ชั่นปัจจุบัน

งานนี้แพรวขอบอกสั้นๆ เลยว่า ขนลุกล๊าววว-ว!

เรื่อง : Red Appple_แพรวดอทคอม