เป็นบุคคลตัวอย่างที่ไม่ได้ทุ่มเทเฉพาะด้านการแสดง เพื่อแจกความบันเทิงให้คนดูเท่านั้น แต่ อเล็กซ์ เรนเดลล์ ยังมุ่งไปทำงานจิตอาสาด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ช่วยเหลือสัตว์ รวมถึงการช่วยเหลือ “ผู้พิการทางสายตา” อีกด้วย

อยู่ในช่วงถ่ายทำละครเรื่อง คมแฝก ทางช่อง 3 ที่มีนักแสดงแสดงร่วมกันอย่าง หมาก-ปริญ สุภารัตน์ และ คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ แต่งานช่วยเหลือสังคมเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ กับกิจกรรม EEC (Environmental Education Camp) หนุ่มอเล็กซ์ก็ยังเดินสายมุ่งมั่นทำอย่างต่อเนื่อง

หากใครยังจำเหตุการณ์สุดประทับใจและสุดสำคัญสำหรับช้างไทย เมื่อครั้น อเล็กซ์ เรนเดลล์ และสาวเต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ ได้ร่วมกันระดมทรัพย์ร่วมกับแฟนๆ ที่มีจิตอาสาร่วมทำบุญจนสามารถซื้อรถพยาบาลช้าง สำหรับใช้บริการรับ-ส่งขนช้างเพื่อไปรักษาที่โรงพยาบาลช้างได้อย่างสะดวกขึ้น บรรยากาศในวันนั้นได้สร้างความประทับใจแก่หลายคนไม่น้อย ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมของงานในวันนั้นก็คือ หนุ่มอเล็กซ์และสาวเต้ย ได้ร่วมร้องเพลงโดยมีเหล่าเด็กๆ ที่พิการทางสายตามาเล่นดนตรีให้ สร้างบรรยากาศสุดอบอุ่นที่เพลิดเพลินไปด้วยเสียงเพลงได้ดีเลยล่ะ และเป็นสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า เด็กๆ เหล่านี้แม้จะพิการทางสายตา แต่ความสามารถนั้นก็ไม่ด้อยไปกว่าใครเลย

ล่าสุด อเล็กซ์ เรนเดลล์ ที่นอกจากจะเป็นนักแสดงแล้วยังเป็นหนึ่งในทีมจิตอาสา EEC ได้จัดโครงการดีๆ ขึ้นร่วมกับพี่ๆ และเพื่อนๆ คือค่ายสิ่งแวดล้อมศึกษา สำหรับนักเรียนตาบอดและตาบอดพิการซ้ำซ้อน ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เขาใหญ่ โดยกิจกรรมที่หนุ่มอเล็กซ์ให้ความสำคัญกิจกรรมหนึ่งเลยคือ การสอนเด็กๆ ผู้พิการทางสายตาให้ว่ายน้ำและดำน้ำ เพื่อหากวันหนึ่งข้างหน้าเกิดกรณีประสบเหตุการณ์น้ำท่วม พวกเขาจะได้นำทักษะการฝึกฝนว่ายน้ำเหล่านี้ช่วยเหลือตัวเองให้รอดได้ ซึ่งนับเป็นความคิดอันดีที่เกิดขึ้นในคนรุ่นใหม่ ที่สำคัญยังเป็นประโยชน์มากอีกด้วย ซึ่งหนุ่มอเล็กซ์ ได้เผยข้อความผ่านอินสตราแกรมส่วนตัวถึงกิจกรรมการสอนเด็กพิการทางสายตาให้ว่ายน้ำและดำน้ำไว้ด้วยว่า

“เมื่อวานกับกิจกรรมดํานํ้ากับเด็กตาบอดเเละพิการซ้ำซ้อน คําถามที่เจอบ่อย… เพื่อ?
คําถามพวกนี้ทําให้เห็นว่า มนุษย์มักตัดสิน หรือด่วนสรุปโดยที่ยังไม่รู้ตัว หรือยังไม่ลองให้โอกาส… โดยธรรมชาติของเรา มันไม่ผิดหรอกที่จะเราจะมีความคิดเเบบนี้ แต่เพราะความคิดเรา เด็กๆหรือคนพิการ จึงไม่ได้รับโอกาสที่เขาควรจะได้ การพาเขาดํานํ้าไม่ได้แค่ให้ประสบการณ์เด็กๆ เเต่ทำให้ทุกคนรู้ว่า…..เขาทำได้ เเละเขาก็ทำอะไรได้หลายๆอย่างเหมือนที่คนตาดีทำ…” (IG @alexrendell)

นับว่าเป็นเรื่องราวที่ดีที่ได้เกิดขึ้นในสังคมไทยเลย เพราะเรื่องราวเช่นนี้ คนส่วนใหญ่หรือใครหลายๆ คนก็อาจไม่ทันได้นึกถึงและให้ความสำคัญมาก การมีคนรุ่นใหม่อย่าง อเล็กซ์ เรนเดลล์ รวมถึงเหล่าเพื่อนๆ เล็งเห็นความสำคัญและใส่ใจจัดกิจกรรมดีๆ ขึ้นมา ก็เป็นสัญญาณที่ดีที่น่าจะช่วยปลุกให้หลายคนนึกถึงประโยชน์ส่วนรวม คิดและลงมือทำความดีกันมากขึ้น

เรื่อง: Gingyawee_แพรวดอทคอม

หลังจากตกเป็นกระแสข่าวในโลกโซเชียล สำหรับคู่ของสาววุ้นเส้น – วิริฒิพา กับหนุ่มชาคริต แย้มนาม ว่าความรักของทั้งคู่นั้นถึงจุดที่ตัดขาดกันแล้ว หลังจากที่มีข่าวระหองระแหงกันมาหลายรอบ จนมีข่าวว่าทั้งคู่แอบนัดกันเพื่อเซ็นใบหย่า ปิดฉากชีวิตรัก 4 ปีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ถึงแม้จะยังไม่มีการยืนยันจากปากทั้งสองฝ่ายแต่อย่างใด คงต้องรอเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้ทั้งคู่ได้คอนเฟิร์มเรื่องนี้จากปากของพวกเขาเอง ถือเป็นอีกคู่ที่น่าเสียดายมากของวงการบันเทิง เป็นคู่รักคาสโนว่ากับคาสโนวี่ที่หลายคนลุ้นว่าสาววุ้นเส้นจะทำให้หนุ่มชาคริตหยุดอยู่ที่เธอคนเดียวจริงๆได้ไหม หลายคนคงจะจำได้ว่าก่อนที่ทั้งคู่จะแต่งงานกัน คู่นี้เขาเปิดตัวกันแรงมาก รักเร็วแถมยังหวานเว่อร์ จนกระทั่งทั้งคู่ประกาศแต่งงานกัน ก็มีกระแสว่าคู่นี้จะใช้ชีวิตแบบครอบครัวได้นานแค่ไหน เพราะต่างคนยังไม่ได้เรียนรู้นิสัยกันมากพอ

และแล้วก็เป็นดั่งที่ทุกคนคาดการณ์ไว้ วันที่ทั้งสองคนยุติความสัมพันธ์กันก็มาถึง สิ่งหนึ่งที่เราเชื่อว่าสาววุ้นเส้นเรียนรู้ได้จากเรื่องนี้ นอกจากเรื่องชีวิตคู่แล้วก็คือเรื่องความสัมพันธ์ของผองเพื่อน ในวันที่สาววุ้นเส้นมีปัญหา คนแรกๆที่อยู่เคียงข้างเธอคือกลุ่มแก๊งเพื่อนๆของเธอ และนี่ก็คือสิ่งที่เราอยากให้ทุกคนดูกรณีของสาววุ้นเส้นเป็นตัวอย่าง “แฟนเลิกกันไปก็เป็นคนอื่น แต่เพื่อนยังไงก็ตัดกันไม่ขาด” ถึงคุณจะมีแฟนก็อยากให้รักษาความสัมพันธ์ของเพื่อนๆไว้ด้วย เพราะเราจะรู้ว่าคนไหนที่รักเราและหวังดีกับเราจริงๆ ก็มักจะเห็นกันตอนที่มีปัญหานี่แหละ ซึ่งเท่าที่เห็นตอนนี้สภาพจิตใจของสาววุ้นเส้นกลับมาดีขึ้นมาก ยิ้มแย้มแจ่มใสได้เป็นปกติแล้ว นอกจากแก๊งนางฟ้าที่มีสาวเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ, คริส หอวัง, พอลล่า เทเลอร์, นานา – ไรบีนา, เจน – เจนสุดา ปานโต และแอน – อลิชา หิรัญพฤกษ์ ที่คบหาเป็นเพื่อนรักและรู้ใจกันมายาวนานเกิน 10 ปี คอยให้กำลังใจ แล้วก็ยังมีเพื่อนคนอื่นๆอีกมาก นอกจากจะมีเพื่อนๆและคนรอบข้างที่รักเราแล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดที่เราเห็นได้จากเรื่องนี้ก็คือ “การรักตัวเอง” เชื่อเถอะว่าทุกคนล้วนต้องเจอเรื่องแย่ๆเกิดขึ้นในชีวิตอยู่แล้ว ถ้าใครที่กำลังเจอปัญหาแบบสาววุ้นเส้น ก็ขอให้รักตัวเอง รักครอบครัว รักคนรอบข้างให้เยอะๆ เอาเป็นว่าต่อจากนี้ไปก็ขอให้สาววุ้นเส้นเจอแต่คนดีๆเข้ามาในชีวิตละกันนะ

เรื่อง : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : IG@vjwoonsen

หน้าหนาวปลายปีนี้เด็กๆชาวแม่ฮ่องสอนคงไม่ต้องรอให้ใครมากอดแล้ว เพราะญาญ่า – อุรัสยา นางเอกสาวตาหวาน ขนเสื้อกันหนาวที่ร่วมทำกับแฟนคลับขึ้นเหนือไปแจกกว่า 300 ตัว ทั้งยังร่วมเปิดอาคารเรียนที่สร้างขึ้นจากกำลังทรัพย์ที่สาวญาญ่าและแฟนคลับระดมทุนด้วยกันอีก งานนี้อุ่นทั้งกาย อุ่นทั้งใจ

ขึ้นชื่อว่าเป็นสาวรักการทำบุญไปแล้วเรียบร้อย ที่เมื่อเห็นสาวญาญ่าอยู่งานบุญไหน มักจะต้องเห็นคู่ขวัญ ณเดชน์ คูกิมิยะ อยู่ข้างกายด้วยเสมอ แต่รอบนี้ขอพักเบรกมาเติมความหวานและสร้างความดีร่วมกับแฟนๆคนรักญาญ่ากันเสียหน่อย ซึ่งสาวญาญ่าและเหล่าแฟนคลับก็ได้ร่วมระดมทรัพย์นำมาสร้างเป็นอาคาร “ไออุ่นรัก” อาคารเพื่อเด็กๆระดับอนุบาล ซึ่งก็ได้ทำพิธีเปิดอาคารอย่างเป็นทางการร่วมกับผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแม่ลิด จังหวัดแม่ฮ่องสอน ไปแล้วเรียบร้อย

ไม่เพียงเท่านั้น สาวญาญ่ายังได้รับความสุขจากเด็กๆส่งกลับมาด้วย เพราะเหล่าเด็กน้อยทั้งระดับชั้นอนุบาลและมัธยมศึกษาขนการแสดงมาโชว์อย่างเต็มที่ อีกทั้งสาวญาญ่ายังได้ไปแจกความสดใสด้วยรอยยิ้มแจ่มใสให้แก่เด็กๆในห้องเรียน รวมถึงทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการนั่งพูดคุย หรือแม้กระทั่งโชว์สเต็ปเต้นกับน้องๆไปตามเพลงโอ้ทะเลแสนงาม เรียกว่าทั้งคนให้และคนรับอบอุ่นหัวใจจนความหนาวเบาบางลงไปตามๆกัน

ความพิเศษอีกหนึ่งสิ่งที่สาวญาญ่าและแฟนคลับร่วมกันจัดทำขึ้นเพื่อมอบให้แก่เด็กๆโรงเรียนบ้านแม่ลิด รวมถึงคุณครูในโรงเรียนด้วย นั่นก็คือเสื้อกันหนาวที่ด้านหลังมีการปักชื่อ urassaya ซึ่งเป็นชื่อจริงเวอร์ชันภาษาอังกฤษของสาวญาญ่าไว้ เพื่อหน้าหนาวปลายปีนี้รวมถึงปีต่อๆไป เด็กๆจะได้สวมใส่เพิ่มความอบอุ่นคลายหนาวไปได้นานๆ ซึ่งสาวญาญ่าเองก็ได้บอกไว้ด้วยว่า แม้จะมีฝนตกตลอดวัน แต่เธอก็มีความสุขที่ได้มา เหมือนกลับมาบ้าน และสิ่งนี้ก็จะเป็นประสบการณ์ที่ดีของเธอด้วย

ส่องญาญ่า – อุรัสยาแจกความอบอุ่นแก่เด็กๆและคุณครู โรงเรียนบ้านแม่ลิด จังหวัดแม่ฮ่องสอน กันหน่อย เห็นแล้วน่ารัก-ก-ก!!

เรื่อง: Gingyawee_แพรวดอทคอม
ภาพ: IG @urassaya @urassayaclubdotcom

แม้จะเป็นเพียงแค่ไม่กี่วินาที แต่ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้มีโอกาสรับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 คงได้สร้างความประทับใจและความทรงจำไม่รู้ลืมต่อใครๆไม่น้อย ไม่เว้นแม้แต่ 5 คนดังเหล่านี้ที่แม้เวลาผ่านมานานหลายปี แต่ภาพในวันนั้นก็ยังคงแจ่มแจ้งและชัดเจน

ชีวิตในวัยนิสิต – นักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยที่ต้องพากเพียรเรียนหนังสือ ทำรายงานวิจัย ทำกิจกรรมร่วมสนุกไปกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คงเป็นอีกหนึ่งห้วงความทรงจำที่เมื่อได้นึกย้อนไปทีไร ไม่ว่าใครต้องมีรอยยิ้มและคิดถึงเรื่องราวเก่าๆ กันอยู่บ้าง โดยเฉพาะวันสำคัญในช่วงสุดท้ายของชีวิตในมหาวิทยาลัย ที่เหล่านิสิต – นักศึกษาทั้งหลายได้กลายเป็นบัณฑิต เตรียมเข้าสู่พิธีพระราชทานปริญญาบัตร ซึ่งครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้เกิดมาในรัชกาลที่ 9 มีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นพระมหากษัตริย์ปกครองแผ่นดินนี้ การได้มีโอกาสรับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ของพระองค์ท่าน จึงได้สร้างความพิเศษและความประทับใจครั้งหนึ่งในชีวิตเป็นอย่างมาก ดังเช่น 5 คนดังที่ได้นำภาพวันรับปริญญาของตนมาเผยแพร่ส่งต่อความทรงจำดีๆ

เปิ้ล – นาคร ศิลาชัย

เป็นหนึ่งในนิสิตจากรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ได้มีโอกาสเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 สำหรับคุณพ่อลูกสี่สุดอารมณ์ดี เปิ้ล – นาคร ศิลาชัย ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขานฤมิตศิลป์ ซึ่งเปิ้ล – นาครได้เผยความรู้สึกถึงวันนั้นว่า “อีกกี่ 100 ชาติก็ไม่มีวันลืม…พ่อผู้ให้ทุกอย่าง…#ภูมิใจที่ลูกได้เกิดมาในรัชกาลที่9 #ทุกสิ่งที่พ่อสอนลูกจะทำให้พ่อเห็น #ศิลาชัยรักพ่อหลวง” (IG @ple_nakorn) ซึ่งเปิ้ลก็เป็นบุคคลในวงการบันเทิงที่ได้สร้างผลงานดีๆ สร้างความสุขมอบให้แฟนๆโดยตลอดมา

บ๊วย – เชษฐวุฒิ วัชรคุณ

เป็นอีกหนึ่งคนดังในวงการบันเทิงที่ได้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 สำหรับบ๊วย – เชษฐวุฒิ ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมที่หนุ่มบ๊วยได้ทำในรั้วมหาวิทยาลัยขณะเป็นนักศึกษาคือ เคยเป็นนักกีฬารักบี้ฟุตบอลทีมชาติ ซึ่งภายหลังหนุ่มบ๊วยก็ได้ศึกษาระดับปริญญาโทต่อที่มหาวิทยาลัยมหิดลเช่นเดิม ในคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ สาขาการจัดการทางการกีฬา โดยบ๊วยได้เผยความรู้สึกถึงวันนั้นว่า “#เสียใจและลงมือทำ” (IG @khunbuay) ซึ่งแม้เราจะสูญเสียพ่อหลวงของแผ่นดินไป แต่ก็ต้องใช้ชีวิตและลงมือทำความดีกันต่อไป

แนน – ชลิตา เฟื่องอารมย์

เป็นคุณแม่ลูกหนึ่งแล้ว สำหรับแนน – ชลิตา คุณแม่ของน้องธัชช ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้มีโอกาสเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อสาวแนนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ ซึ่งภายหลังเมื่อศึกษาต่อระดับปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาวแนนก็ได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แทน ซึ่งสาวแนนได้เผยถึงความรู้สึกในวันนั้นว่า

“ชื่อมหาวิทยาลัยของท่านคือ “จุฬาลงกรณ์” จะติดตัวท่านไปด้วยเสมอ ไม่ว่าจะประพฤติดีหรือประพฤติชั่ว ฉะนั้นทุกๆครั้งที่ท่านจะกระทำการสิ่งใดลงไป จงคิดแล้วคิดอีก… พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 23 พ.ค. 2493 ลูกจะจำคำพ่อสอนไปตลอดชีวิต และนี่คงเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ได้เข้าเฝ้าฯและเห็นพระพักตร์ สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดไม่ได้ ข้าพระพุทธเจ้า น.ส.ชลิตา เฟื่องอารมย์ 🙏🙏🙏” (IG @nan_chalita)

ตุ๊ยตุ่ย – พุทธชาด พงศ์สุชาติ

สาวอารมณ์ดีที่ช่วงหลังหันตนไปเข้าวัดศึกษาธรรมะ ตุ๊ยตุ่ย – พุทธชาด หรือที่มักคุ้นปากเรียกว่า อาตุ๊ยตุ่ย ก็เป็นอีกหนึ่งคนดังในวงการบันเทิงที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยอาตุ๊ยตุ่ยได้เผยความทรงจำอันตื่นเต้นในวันนั้นว่า “คือระยะแขนไม่ถึง ตอนซ้อมอาจารย์ส่งมาระยะเอื้อมถึง ตอนรับจริงแขนอาไม่ถึง ตื่นเต้นตกใจมาก มือยื่นไปไม่ถึงปริญญาบัตร อาตกกะใจ อาทำเสียจังหวะ ภาพนี้คือยืดตัวยืดแขนสุดตัว ตาก็มองพระองค์ท่านไปอีก วินาทีก่อนจะเข้าไปรับปริญญาบัตรตื่นเต้นหัวใจเต้นโครมๆๆๆๆๆๆ หูอื้อตาลายไปหมด ยังจำความรู้สึกได้จนถึงวันนี้เลย” (IG @rtuitui) อีกทั้งยังน้อมนำพระบรมราโชวาทของพระองค์ท่านมาเตือนใจอีกด้วย

“การรู้จักประมาณตน ได้แก่ การรู้จักและยอมรับว่าตนเองมีภูมิปัญญาและความสามารถด้านไหน เพียงใด และควรจะทำงานด้านไหน อย่างไร การรู้จักประมาณตนนี้ จะทำให้คนเรารู้จักใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่ได้ถูกต้อง เหมาะสมกับงาน และได้ประโยชน์สูงสุดเต็มตามประสิทธิภาพ ทั้งยังทำให้รู้จักขวนขวายศึกษาหาความรู้ และเพิ่มพูนประสบการณ์อยู่เสมอ เพื่อปรับปรุงส่งเสริมศักยภาพที่มีอยู่ในตนเองให้ยิ่งสูงขึ้น” พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๔๑ (IG @rtuitui)

วู้ดดี้ – วุฒิธร มิลินทจินดา

ส่งท้ายที่พิธีกรคนเก่ง วู้ดดี้ – วุฒิธร ก็เป็นอีกหนึ่งคนดังที่ได้มาเปิดเผยความทรงจำที่ดี ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งวู้ดดี้สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาในหลักสูตรเศรษฐศาสตรบัณฑิต (ภาคภาษาอังกฤษ) จากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในปี 2540 แม้จะผ่านมานานหลายปีแล้ว แต่วู้ดดี้ก็ยังจำวันนั้นได้ไม่ลืม โดยได้เผยถึงความรู้สึกในวันนั้นว่า “ยังคงจำวันนั้นไม่ลืม #ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป” (IG @woodytalk)

นับว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ยากจะลืมเลยจริงๆ

เรื่อง: Gingyawee_แพรวดอทคอม
ภาพ: IG @khunbuay @rtuitui @nan_chalita @ple_nakorn @woodytalk

ถ้าพูดชื่อ “คริสตี้ ชุง” อาจจะจำกันไม่ได้ แต่ถ้าพูดว่าเธอคือคนที่รับบทเป็น “คุณบุญเลื่อง” จากภาพยนตร์เรื่องจันดาราล่ะก็ หลายคนคงจะจำกันได้ดี เธอคือนักแสดงสาวชาวฮ่องกงสุดเซ็กซี่ที่เล่นฉากเปลือยหลังถูน้ำแข็งสุดสยิวในภาพยนตร์เรื่องจันดารา พ.ศ. 2544 นั่นเอง

หลังจากที่หายหน้าหายตาไปนาน วันนี้เรามีข่าวที่น่ายินดีของเธอมาอัพเดตกันค่ะ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เธอได้เข้าพิธีวิวาห์หวานกับนายแบบหนุ่ม “จาง หลุนซั่ว” ซึ่งอายุอ่อนกว่าถึง 12 ปี ที่กรุงปักกิ่ง โดยก่อนหน้านี้จาง หลุนซั่ว แฟนหนุ่มรุ่นน้องได้คุกเข่าขอเธอแต่งงานกลางกองถ่ายรายการเรียลิตี้โชว์

นี่ถือเป็นการเข้าประตูวิวาห์รอบที่ 3 ของเธอ โดยก่อนหน้านี้เธอแต่งงานกับจอน เยน สามีคนที่สองไปเมื่อปี 2011 หลังอยู่กินกันมา 8 ปี และมีลูกมาแล้วถึง 3 คน แต่ก็ได้เลิกลากันไป จนได้มาพบกับแฟนหนุ่มรุ่นน้องชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่อายุน้อยกว่าเธอ แต่ถึงจะอายุห่างกันก็ดูไม่เป็นอุปสรรคใดๆต่อความรักของทั้งคู่ เพราะจาง หลุนซั่ว ก็รักและดูแลลูกๆทั้งสามคนของเธอได้เป็นอย่างดี ถึงจะอายุน้อยกว่า 12 ปี แต่เขาก็ทำหน้าที่พ่อได้ดี แหม่ อิจฉาคริสตี้ ชุง จริงๆที่ได้เคี้ยวหญ้าอ่อนขนาดนี้ แต่ก็ไม่แปลกใจว่าทำไมเธอถึงคว้าใจเด็กหนุ่มได้ ก็ถึงแม้เธอจะอายุ 44 ปี แล้ว แต่ยังสวยเซี๊ยะ! ดูเหมือนสาวๆอยู่เลย เอ๊ะ หรือว่าการกินเด็กจะเป็นอมตะอย่างที่เขาว่ากันจริงๆ เอาเป็นว่าขออวยพรให้ความรักของทั้งคู่ยืนยาวก็แล้วกันนะ หวังว่านี่จะเป็นการแต่งงานครั้งสุดท้ายของเธอ ว่าแล้วก็ไปดูภาพพรีเวดดิ้งหวานๆของพวกเขากันเลยดีกว่า

เรื่อง : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : china.org.cn