คัมแบ็กแล้ว เป๊ก ผลิตโชค จัดแฟชั่นสไตล์โอปป้าในเอ็มวีตัวใหม่ สาดสีสันสุดคูลทั้งเพลง

หลังจากปล่อยทีเซอร์เพลงใหม่ให้แฟนๆ ได้ตามกรี๊ดและซ้อมร้องท่อนภาษาอังกฤษกันแล้ว ก็ถึงเวลาที่เอ็มวีตัวเต็มจะออกมาโลดแล่นบนยูทูบสักที ในชื่อเพลง โทษที่เอาแต่ใจ (Sorry) ซึ่งทางค่าย White Music ได้ปล่อยเอ็มวีตัวนี้เวลา 1 ทุ่มตรง

เพียงแค่ปล่อยไป 1 ชั่วโมง ยอดวิวก็พุ่งสู่ 1 แสนวิว ไม่ต่างจากทีเซอร์เลย กระแสไม่มีแผ่วจริงๆ และตอนนี้ก็ทะยานขึ้นสู่ 5 แสนกว่าวิวแล้ว นี่ยังไม่ถึง 24 ชั่วโมงเลยนะ ยอดยังขึ้นขนาดนี้ คิดว่าล้านวิวหรือร้อยล้านวิวที่แฟนๆ อยากมอบให้หนุ่มเป๊กคงไม่ยากเกินไปแล้ว

จริงๆ เมื่อวานก่อนค่าย White Music จะปล่อยเอ็มวีให้เห็นกันบนยูทูบ ก็มีรอบวีไอพีที่ได้ชมกันไปก่อนแล้ว เนื่องจากหนุ่มเป๊กมีงานเบิร์ธเดย์ซิงเกิ้ลใหม่ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งทำให้แฟนๆ หรือเหล่านุชทั้งหลายกรี๊ดแตก ไม่รู้ว่าเขิน ฟิน หรืออิจนางเอกกันนะ อิๆ เพราะในเอ็มวีนี่หวานไม่เบาเลย

แต่วันนี้แพรวดอทคอมจะมาพูดถึงแฟชั่นของหนุ่มเป๊กในเอ็มวีตัวใหม่กัน เพราะเห็นแล้วสีสันสะดุดตาอยู่หลายชุด แถมยังมีกลิ่นอายของยุค 90 ผสมอยู่ด้วย ไม่ว่าจะแฟชั่น แนวเพลง หรือแม้แต่อุปกรณ์ประกอบฉากก็ดูย้อนยุคหน่อยๆ เลยอยากชวนทุกคนมาซูมแฟชั่นของผลิตโชคกันชัดๆ ว่ามีสไตล์ไหนโดนใจกันบ้าง

 

เริ่มที่ชุดแรกเป็นเสื้อแขนยาวลายขวางสีขาว-น้ำเงิน ใส่คู่กับยีนส์สีเข้ม ตัดด้วยหมวกและรองเท้าสีขาว คุมโทนด้วยถุงเท้าสีเทา ถือโทรโข่งง้อสาวแบบนี้ก็น่ารักดีนะ


 

เอาสายไหมง้อสาวกันหน่อย ลุคนี้มาในโทนฟ้า-น้ำเงิน ฉากหลังและตัวพระ-นางในเอ็มวีสดใสสุดๆ หนุ่มเป๊กมาในมาดอเมริกันบอย สวมเสื้อฮู้ดสีน้ำเงิน มีลายคล้ายกับกางเกงขาสั้นที่ใส่คู่กัน สีของรองเท้าผ้าใบก็เข้ากับเสื้อ เป็นลุคที่ดูคิวต์มาก แต่ก็แอบมีความกวนเบาๆ


 

ต่อไปเป็นลุคที่ดูคล้ายนายแบบเกาหลีหรือโอปป้าในซีรีส์เลยนะ เพราะดูหล่อ เท่ แถมชิคด้วยดีไซน์ของเสื้อผ้า ทั้งโค้ตและเสื้อเชิ้ตด้านในก็ถูกออกแบบมาให้คู่กัน สีขาวครีมกับสีน้ำเงินบนเสื้อมันช่างละมุนและดูอบอุ่นจริงๆ


 

มาถึงชุดโปรโมตแล้ว ชุดนี้เป็นแจ็กเก็ตผ้ากำมะหยี่ที่มีทั้งสีน้ำตาลและสีส้ม ซึ่งเข้ากันได้อย่างลงตัว สำหรับกางเกงก็เป็นเฉดสีน้ำตาลอ่อนแถบสีส้ม ทำให้ลุคนี้ดูคูล แบดนิดๆ มีความคลาสสิกในตัว ให้อารมณ์ย้อนยุค เป็นชุดที่ใส่ออกมาเดินเล่นข้างนอกยากหน่อยนะ แต่พอใส่ในเอ็มวีก็ดูไม่ขัดตา ดีงาม



 

มาแนวเท่กันอีกสักลุค สำหรับเสื้อเชิ้ตซ้อนด้วยแจ็กเก็ต แถมคอเต่าไว้ด้านในสุดอีกชั้น ครั้งแรกที่เห็นลุคนี้บอกเลยว่าเห็นภาพโอปป้าเดินเล่นอยู่ฮงแด ไม่ก็เมียงดงจริงๆ เพราะชุดดูเข้ากับบรรยากาศของลมหนาว แต่ถูกเบรกความหนาวด้วยกางเกงยีนส์ขาดตรงเข่าดีไซน์เก๋ โดยรวมแล้วลุคนี้ดูดีมากค่า

ตัว K อยู่นี่ ตอนที่ทีเซอร์ออกมาแฟนๆ พากันหาว่าตัว K อยู่ไหน เพราะในทีเซอร์มีตัว P E C ขาดแค่ K ก็ได้ชื่อหนุ่มเป๊กแล้ว สรุปมาเฉลยในเอ็มวีว่าไม่ได้ถูกซ่อน แต่อยู่กับเจ้าตัวนั่นเอง เป็นกิมมิกน่ารักๆ ที่ทำให้ยิ้มตามได้เลย


 

เสื้อสูทพื้นขาวลวดลายหลากสีที่เป็นแบบเดียวกับฉากหลังก็มา ลุคนี้มีความสุภาพ แต่แอบแฝงไปด้วยความขี้เล่น ลุคนี้เป็นลุคแรกที่แฟนๆ ได้เห็นกัน เพราะเป็นลุคที่ถูกหยิบขึ้นมาอยู่ในทีเซอร์ท่อนภาษาอังกฤษนั่นเอง แต่ตอนนั้นมันออกจะมืด เลยไม่เห็นดีเทลของชุดว่าจริงๆ แล้วดูซุกซนแค่ไหน


 

ปิดท้ายด้วยฉากน่ารักๆ จากเอ็มวีกันหน่อย

ฉากกระซิบข้างหูพร้อมท่อนภาษาอังกฤษมันช่างกระชากใจเหล่านุชจริงๆ

มองซะตาหวาน เคลิ้มเลยนะคะ ใจเย็นๆ นุชเขาดูอยู่นะ อิๆ

ใกล้แค่ไหนถามใจดู ผมนางเอกเอ็มวีถึงได้ติดปากขนาดนั้น แต่เห็นแล้วก็เขินเนอะ

ดูเหมือนจะดี ง้อแบบจู่โจมด้วยการดึงนางเอกเข้ามาใกล้ๆ

สรุปคือดึงนางเอกเข้ามาเพราะจะกินสายไหมเหรอคะ เอ๊ะ! หรือจะง้อด้วยมุกขำๆ ฮาอะ

นั่นไง สายไหมกับป็อปคอร์นคงไม่อิ่ม จะกินมือเขาซะงั้น อิๆ

นี่คือกำลังง้ออยู่จริงๆ ใช่ไหม แล้วไปแย่งเกมเขามาทำไม แบบนี้จะหายงอนไหมคะเฮีย

สุดท้ายก็จบสวย นางเอกยอมเกี่ยวก้อยคืนดีด้วยแล้ว ถือว่าการง้อแบบกวนๆ ทำให้ผู้หญิงหัวเราะก็ใช้ได้อยู่

 

ต้องยอมรับว่าตั้งแต่เพลงออกมาก็มีกระแสสองด้าน คือ ดีมาก และยังไม่โดน แต่เรื่องเพลงก็เหมือนรสนิยมความชอบอย่างหนึ่ง ถูกจริตใครก็ชอบ ยังไม่โดนใจใครก็ไม่เป็นไร เพราะเพลงนี้บอกตัวตนของผลิตโชคได้ดี เป็นเพลงแนวอินดี้ ไม่ใช่แนวเพื่อตลาดทั่วไป แถมเนื้อเพลงยังเป็นการบอกความในใจที่จะส่งให้นุช (ชื่อเรียกแฟนคลับผู้หญิง) ใครที่ยังไม่ลองฟังก็กดเข้าไปดูได้เลย เอ็มวีสดใส เนื้อเพลงน่ารัก ท่อนภาษาอังกฤษยิ่งฟิน ส่วนเสียงร้องก็เพราะตามมาตรฐานของผลิตโชคอยู่แล้ว


 

ในเอ็มวีอาจจะเห็นหน้านางเอกแบบแว่บไปมา หาหน้าเต็มยากหน่อย ก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะหนุ่มเป๊กเขาเลือกให้นางเอกเข้ามาสร้างสีสันและเป็นตัวแทนนุช (ชื่อเรียกแฟนคลับผู้หญิง) ทุกคน จะคิดหรือมโนไปว่านางเอกคือตัวฉันก็ตามสบาย ประมาณว่า “พี่เป๊กเขาหนุนตัก เขาป้อนป็อปคอร์นฉัน” ก็ได้ หรือจะฉากไหนที่ฟินชวนจิ้นก็คิดกันตามสะดวกเลยนะ อิๆ

 

 

 

เรื่อง : Hana (ฮานะ)

ภาพ : youtube white music

 

 

แฟชั่นลายดอกยังแรง! ตามดู 7 เดรสสีสดสไตล์นางเอก สวยเริงร่าท่ามกลางแมกไม้

แฟชั่นต้องเป็นไปตามฤดูกาล ดูเหมือนจะใช้ไม่ได้กับเมืองไทยซะแล้ว เพราะตอนนี้เข้าช่วงฤดูฝน แต่ดูแดดบ้านเราสิเหมือนโกรธแค้นอะไรกันมา ถึงได้ส่องแผดเผาทำร้ายกันเหลือเกิน ทุกวันนี้พกร่มไว้กันแดดมากกว่ากันฝนซะอีก แต่เพราะอากาศบ้านเราร้อนอยู่เกือบทั้งปีนี่แหละ ทำให้แฟชั่นสีสันสดใสยังครองเมืองตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้ แทบไม่ต่างจากฮาวายเลยละ ที่จะสามารถเห็นแฟชั่นเดรสลายดอกสุดพลิ้วได้ทั่วไป

ตอนนี้ตามห้างหรือร้านค้าชั้นนำ เสื้อผ้าลายดอกถูกขนออกมาพรีเซ้นต์ให้สาวๆ นักช้อปได้เลือกกันเยอะมากๆ ถ้าจะบอกว่าตอนนี้แฟชั่นลายดอกกำลังกลับมาอีกครั้งก็คงไม่ผิด เพราะงั้นแล้วสาวๆ คนดังตัวแม่ทั้งหลายมีเหรอจะพลาด เราต้องตามส่องแฟชั่นลายดอกงามๆ ของเซเลบริตี้กันหน่อย เผื่อถูกใจ แล้วจะได้แต่งตามบ้าง เพราะจากที่แอบเห็นมาแต่ละชุดนี่เด็ดและสวยเริดมากกกก แต่แฟชั่นใครจะโดนใจสาวแพรวดอทคอมกันบ้างต้องดู

 

เต้ย – จรินทร์พร จุนเกียรติ

สวยขึ้นทุกวันเลยสำหรับสาวเต้ย ที่มาในเดรสลายดอกสุดโมเดิร์นปนคลาสสิกจากแบรนด์ Kloset ดูแล้วสดใส น่ารัก เป็นเต้ยมากๆ เพราะถึงจะเป็นลายดอกก็ไม่ได้ดูหวานเกินไป กลับมีความแอบเท่หน่อยๆ ด้วยดีไซน์และสีสันที่เลือกใช้ ถือว่าเป็นลุคที่ดูแล้วเพลินตามาก

 

รอบนี้มาในเดรสสีเขียวจากแบรนด์ Kloset เช่นกัน แม้ลายจะไม่ได้เป็นดอกไม้ แต่อารมณ์ของชุดและดีเทลก็ให้ความงามได้ไม่ต่างกัน ดูจากการประดับกระดุมที่ทำเป็นรูปดอกไม้ก็มีความโดดเด้งออกมาจากชุด หรือจะเป็นความพลิ้วเล็กๆ ของเดรส แถมด้วยกระเป๋าที่ปักเป็นลายดอกไม้พร้อมชื่อตัวเอง ก็ยิ่งทำให้ลุคนี้ดูสวยลงตัวสุดๆ


 

ขวัญ – อุษามณี ไวทยานนท์ 

เห็นช่วงนี้แซ่บๆ ก็ใช่ว่าจะหวานไม่เป็นนะ สำหรับนางเอกหน้าบาร์บี้ ขวัญ – อุษามณี ที่มาในเดรสลายดอกสีเหลืองจากแบรนด์ Kloset เป็นเดรสอีกหนึ่งลายที่ดีเทลดูสนุกสนาน มีระบายด้านล่าง ตัวเดรสเป็นเกาะอกที่ทำให้เผยความเซ็กซี่เล็กๆ ได้อยู่ ส่วนองค์ประกอบอื่นๆ ทั้งรองเท้าผ้าใบ กระเป๋า ผ้าผูกผม สร้อยคอ และแว่น เมื่อทุกอย่างถูกรวมเข้าด้วยกัน จากลุคหวานปกติก็ดูวินเทจขึ้นมาได้ มีกลิ่นอายย้อนยุคเบาๆ เป็นลุคที่มีเสน่ห์สุดๆ


 

ญาญ่า – อุรัสยา เสปอร์บันด์ 

มีชีวิตชีวาสุดๆ เมื่อสาวญาญ่าสวมเดรสลายดอกจากแบรนด์ MAX&Co. เดินเข้าสวนดอกไม้ เป็นลุคที่ให้ความชิล เบาสบายเหมือนกำลังจะล่องลอยเลย นี่ไม่ได้เว่อร์นะ เพราะเห็นภาพนี้แล้วรู้สึกแบบนั้นจริงๆ สาวญาญ่าเลือกเดรสที่ดีเทลไม่ได้เยอะ แต่ด้วยลวดลายและสีสันที่เข้ากันสุดๆ ของเดรสตัวนี้ กับการปล่อยตัวตามธรรมชาติอย่างการเผยหน้าสดหรือใส่แตะ ทำให้ลุคนี้น่ารักมากกกก ดูสดใสจากอินเนอร์และบรรยากาศจริงๆ


 

แพนเค้ก – เขมนิจ จามิกรณ์

เป็นนางเอกที่ใส่ลายดอกแล้วเข้ากันมาก ไม่ว่าจะมาในดีไซน์ไหนก็รอด แต่วันนี้สาวแพนเค้กเลือกเดรสดอกใหญ่จากแบรนด์ Wee จะบอกว่าหุ่นโมเดลใส่อะไรก็สวย เดรสจะยาวแค่ไหนก็เอาอยู่ ถึงเดรสไม่ได้รัดรูปอะไร แต่กลับทำให้เห็นความเพรียวของรูปร่างได้ชัดอยู่นะ

เดรสตัวนี้เป็นลายดอกสีน้ำเงินสดตัดกับสีเขียวของใบไม้ ดีไซน์ระบายตรงแขน มีโบผูกตรงคอดูคิวต์มาก และสาวแพนเค้กทำให้เห็นว่าเดรสลายดอกสีสดๆ ก็ใส่ออกงานได้หมือนกัน


 

ชมพู่ – อารยา เอ ฮาร์เก็ต

ติดทุกโพลเลยค่า สำหรับสาวชมพู่ อย่างว่าแหละเป็นแฟชั่นนิสต้าตัวแม่ก็ไม่แปลกที่จะมีเสื้อผ้าหลายแบบ อย่างชุดนี้เป็นของ BALENCIAGA เอาจริงๆ เป็นชุดที่ใส่ยากนะ แต่แม่ก็เลือกใส่ ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าออกมาดูดี น่ารักตามแบบฉบับอารยาอย่างเช่นเคย ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรมาแมตช์กันก็ผ่าน สำหรับเดรสดีไซน์เก๋นี้ ดูดีๆ จะมีความเป็นเบบี๋จากผ้าผูกผมอยู่นะ ยิ่งใส่กับผ้าใบยิ่งเข้ากัน ถือว่าเป็นลุคสนุกๆ ซนๆ แบบที่แม่ต้องการเลยละ

 

ชอบมาก ลงตัวมาก เดรสของ Kate Spade กับแม่ชม ดูหวานแบบไม่เลี่ยน ทุกอย่างช่างเข้ากัน ทั้งเดรส กระเป๋า และรองเท้า ไปในโทนเดียวกันหมด ถ้าวันไหนอยากสนุกแล้วแต่งตัวในโทนเดียวกันแบบนี้ เอาแม่เป็นแบบอย่างได้เลยนะ เพราะแม้ทุกไอเท็มจะเป็นดอกไม้หมดก็ไม่รกตา แค่เลือกโทนสีและดีไซน์ให้เข้ากันก็รอดแล้ว เป็นลุคที่คอมพลีตจริงๆ ยอมแล้ววว


 

เดรสลายดอกจะแต่งง่ายก็ง่าย จะยากก็ยาก แต่ดูจากแฟชั่นของเหล่านางเอกแล้ว ก็จับจุดได้ว่าชุดจะปังไม่ปังก็ขึ้นอยู่กับไอเท็มที่เราหยิบมามิกซ์แอนด์แมตช์ เพราะถ้าชุดดี แต่องค์ประกอบไม่ผ่าน ก็ทำให้ลุคดูเยอะ เพราะฉะนั้นจะแต่งเดรสลายดอกก็เลือกไอเท็มดีๆ นะ หรือไม่ก็เลือกสายชิลแบบสาวญาญ่าไปเลย ลุคน้อยๆ แต่สวยมากกก 

 

 

ภาพ : IG@celebs_spectator

 

 

ยังปักหลักช่องเดิม! แพนเค้ก อัพเดตบท บุษบาบรรณ์ ในซีรีส์ ศรีอโยธยา เผยมีงานพิธีกรแน่น

ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวนักแสดงจากสังกัดช่องใหญ่ผันตัวมาเป็นนักแสดงอิสระค่อนข้างมาก ซึ่งนักแสดง นางแบบสาว แพนเค้ก – เขมนิจ จามิกรณ์ ที่ปัจจุบันสังกัดช่อง True4U ก็โดนเหมารวมไปด้วยว่าจะฉีกสัญญาออกมาเป็นนักแสดงอิสระหรือเปล่า กระแสจะเป็นมาอย่างไร วันนี้ แพรวดอทคอม เลยขอพาไปฟังสาวแพนเค้กเคลียร์ชัดรวดเดียวจบ

อยู่ดีดี๊ก็มีกระแสข่าววิ่งใส่ต่างๆ นานา นักแสดงสาว แพนเค้ก – เขมนิจ จามิกรณ์ เลยขอมาเปิดใจผ่านทีมข่าวรายการ Smart News บันเทิงเช้า ทางช่อง True4u (ทรูโฟร์ยู) ช่อง 24 ว่ายังปักหลักทำงานกับช่องเดิมอยู่นะจ๊ะ ไม่ได้ย้ายไปไหน ซึ่งตอนนี้ก็กำลังขะมักเขม้นถ่ายทำซีรีส์อิงประวัติศาสตร์เรื่อง ศรีอโยธยา ที่ก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวทีมนักแสดงและผู้กำกับที่แค่เห็นรายชื่อและหน้าตาแล้ว ฝีมือการแสดงคัดเน้นๆ เลยจริงๆ ซึ่งตอนนี้ถ่ายทำไปถึงไหนแล้ว แพนเค้กมาอัพเดตให้ฟังแล้วจ้า

“ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และก็ยังไม่มีใครมาทาบทาม แพนคิดว่าน่าจะเป็นกระแสข่าวมากกว่า ก็ยังมีสัญญาอยู่กับทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 เป็นระยะเวลา 3 ปี นี่ก็ผ่านมาปีกว่าเอง ตอนนี้กำลังโฟกัสอยู่กับงานภาพยนตร์ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่เรื่อง ‘ศรีอโยธยา’ สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติคุณในองค์พระมหาบูรพกษัตราธิราชเจ้าทุกพระองค์ แพนรับบทเป็น บุษบาบรรณ์ นางอัปสรสวรรค์จากสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ผู้จุติมาเป็น ‘บุษบา’ มีหน้าที่อันยิ่งใหญ่คือ เป็นคนนำสาสน์ในสมัยอยุธยาตอนปลายมาส่งต่อให้คนยุคปัจจุบัน ซึ่งถ่ายทำไปค่อนข้างเยอะแล้ว และภาพที่ออกมานั้นสวยงามมาก สำหรับนักแสดงเอง การที่ได้มีส่วนร่วมแสดงศรีอโยธยานั้นเป็นอะไรที่มีคุณค่าจริงๆ

ไม่เพียงแค่มีผลงานการแสดงเท่านั้น แต่ในบทบาทสุดท้าทายอย่างการเป็นพิธีกร ที่สาวแพนเค้กต้องประกบกับพิธีกรมืออาชีพ เธอก็เผยว่าเล่นเอาเครียดเลยทีเดียว

“แพนยังมีงานพิธีกรกับพี่เอกกี้ (เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ) และพี่โบ (ธนากร ชินกูล) ในรายการซุปตาร์พาทัวร์ ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 1 ทุ่มตรง ซึ่งรายการนี้จะพาผู้ชมไปเปิดบ้านของเหล่าเซเลบคนดัง และเร็วๆ นี้แพนจะมีงานอ่านข่าวในรายการ Smart News บันเทิงเช้า จะมาอ่านข่าวแซ่บๆ กันแบบสดๆ ทุกเช้าวันศุกร์ เวลา 8.30 น. เริ่มวันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคมนี้ ซึ่งแพนก็ต้องเตรียมตัวมากขึ้น และทำการบ้านเยอะทีเดียวค่ะ”

คิวงานแน่น พร้อมมีความท้าทายใหม่ๆ ขนาดนี้ คงเคลียร์กันชัดๆ แล้วว่าสาวแพนเค้กยังไม่ย้ายช่องไปไหนนะจ๊ะ ส่วนใครที่ติดตามอยากจะชมศรีอโยธยา รอชมปลายปีเร็วๆ นี้กันได้เลย

 


เรื่อง: Gingyawee_แพรวดอทคอม
ภาพ: True4U, IG @khemanito

สารพัดวิธีบอกปัด SEX …เซย์โนแบบนี้ความรักยังอยู่

account_circle

อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของชีวิตคู่ คือ บางครั้งการมี sex อาจไม่ตอบโจทย์ชีวิตในแต่ละวัน โดยเฉพาะเวลาที่ทั้งเหนื่อยทั้งเพลียจากการทำงานหนักจนไม่มีแรงหรืออารมณ์จะร่วมรัก เอาจริงๆ แค่ถึงบ้านก็อยากพุ่งตัวไปหาหมอนแบบไม่อาบน้ำเลย!

แต่อย่างว่า คนรักกันก็ต้องทำการบ้านสิถึงจะถูก! สะกิดยิกๆ อยากทำรักให้สุขสม แบบนี้ถ้าเหนื่อยมากไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องมี say no กันบ้าง แต่จะพูดยังไงให้เข้าใจและไม่โกรธกัน ต้องมีเทคนิคปฏิเสธดีๆ สักหน่อย

วิธีบอกผ่าน sex กับคนรัก พูดกันดีๆ ไม่มีทะเลาะ

เซ็กส์
photo created by jcomp – freepik

สำหรับชายหนุ่มหญิงสาวโดยเฉพาะที่แต่งงานแล้ว การปฎิเสธเซ็กส์จากคู่ชีวิตเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมากถึงมากที่สุด เพราะเมื่อคุณเอ่ยออกไป หลายคำถามจะต้องมีมาแน่นอนตามประสาคนเคยค้าม้าเคยขี่ แต่ในเมื่อคุณไม่พร้อมจริงๆ แล้วจะทำไง ก็บอกเขาไปให้รู้สิคะ แต่ก่อนที่จะทำการบอกปัดเซ็กส์ที่ได้รับการร้องขอ คุณควรรู้ก่อนว่าอีกฝ่ายมักจะคิดอะไรบ้างหลังจากที่คุณเอ่ยปากปฎิเสธความต้องการของเขา

คิดว่ารักกันน้อยลง
ประเด็นนี้ส่วนใหญ่ฝ่ายหญิงจะชอบคิดกัน เพราะเมื่อเธอมีความต้องการแต่เขาเซย์โนทั้งๆ ที่ก็เคยๆ กันอยู่ ความคิดแง่ลบจะมาทันที เอ๊ะ? เกิดอะไรขึ้น? คนรักเปลี่ยนไป? สุดท้ายมาจบกับความคิดฟุ้งซ่านที่ว่า “เธอรักฉันน้อยลงใช่ไหม” ถ้าคุณพูดคำนี้ออกไปหนุ่มๆ จะเซ็งมากเพราะเหตุผลนี้มันไม่ใช่

เซ็กส์
Photo by Claudia Wolff on Unsplash

คิดว่าไปจัดเซ็กส์กับใครมาก่อนแล้วใช่ไหม!
อันนี้สาวๆ ก็ชอบคิดกันเพราะมีฐานความคิดเดิมว่า เวลาผู้ชายได้ระบายออกแล้วจะหมดอารมณ์จัดต่อ ยิ่งเป็นคู่ที่ไม่ค่อยได้อิ๊อ๊ะจิ๊จ๊ะกันเป็นประจำอยู่แล้ว พอโดนปฎิเสธขึ้นมาก็ไม่วายจะคิดแบบนี้ทั้งนั้น

คิดไปว่าลีลาเราไม่โดนใจใช่ไหม!
ประเด็นนี้ทั้งชายและหญิงต่างคิดกันทั้งนั้น ยิ่งถ้าโดนบอกปัดบ่อยๆ เข้า จะเริ่มเกิดเป็นปมในใจว่าเพราะลีลาไม่เด็ดสะระตี๋ เซ็กซี่ไม่ถึงขั้นสุด และไม่สามารถที่จะมัดใจคนรักไว้ได้ ทำให้อีกฝ่ายไม่อยากมีอะไรด้วย หรืออาจเป็นเพราะว่าเทคนิคท่วงท่ามันเดิมๆ จนเธอเบื่อแสนเบื่อกับความไม่เร้าใจ (แต่จะใช้ท่ายากมากไปก็กลัว!)

เซ็กส์
Photo by Francesca Zama from Pexels

ถ้าอย่างนั้นจะปฏิเสธยังไงให้รักยังอยู่ดีและเหนียวแน่นไม่เสื่อมคลาย มาเริ่มกันที่วิธีแรกกันเลย…

บอกปัดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน
พูดด้วยดีๆ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี แม้เรื่องที่ว่าจะกระเทือนกระแทกจิตใจแค่ไหน แต่เชื่อเถอะว่าการที่คุณใช้น้ำเสียงอ่อนโยนบอกปัดอีกฝ่ายจะช่วยทำให้สถานการณ์ดีขึ้นกว่าการบอกปัดแบบผ่านๆ หรือด้วยอารมณ์รำคาญแบบขอไปที

เซ็กส์
Photo by cottonbro from Pexels

บอกปัดด้วยเหตุผลและความจริง
บอกไปเลยว่าที่วันนี้ไม่พร้อมเพราะอะไร เช่น พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปทำงาน เหนื่อยจากการเดินทางมาไกลแสนไกล พ่อแม่มาค้างเดี๋ยวเสียงดังท่านจะตื่น หรือ เครียดจากประชุมงานที่ยาวนานและน่าปวดหัว หรือแม้กระทั่งเหตุผลที่ว่าอาวุธประจำกายมีปัญหา เช่น ไม่ดึ๋งดั๋งตั้งแข็งก็ให้พูดไปเลย จะได้ช่วยกันแก้ไข

บอกปัดด้วยการให้ความหวัง
อย่าเพิ่งมองว่าการให้ความหวังจะเป็นสิ่งไม่ดี วัวเคยค้า ม้าเคยขี่ ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกคืนมันต้องมีจัดหนักแน่นอน แต่วิธีนี้เป็นอีกหนทางที่คุณจะสามารถกำหนดความพร้อมของตัวเองได้ แถมยังทำให้อารมณ์งอแงหงุดหงิดของอีกฝ่ายเบาลง เพราะจริงๆ แล้วคุณก็แค่ขอผลัดไปก่อนไม่ได้บอกว่าจะไม่ทำ เพียงแต่ ณ ตอนนี้ยังไม่พร้อมจัดเซ็กส์นะจ้ะที่รัก ไว้วันหลังเดี๋ยวทบต้นทบดอกให้!

เซ็กส์
Photo by Andrea Piacquadio from Pexels

บอกปัดด้วยการแสดง
บางครั้งที่อีกฝ่ายดื้อแสนดื้อ ตื๊อเก่งงงง! คุณอาจต้องอาศัยการแสดงเข้ามาช่วยเพื่อให้รอดพ้นสถานการณ์ความต้องการสูงของอีกฝ่าย ลองทำเป็นว่าท้องเสีย เป็นไข้ พะอืดพะอม ลมตีขึ้น มึนหัว ปวดศีรษะ ฯลฯ อีกมากมาย (เลือกเอาว่าเล่นละครแบบไหนเก่ง) แต่ถ้าคุณเลือกใช้วิธีนี้ก็ต้องมีการจำกัดครั้งที่จะแสดงนะ ไม่ใช่เอะอะท้องเสีย เอะอะประจำเดือนมา บ่อยๆ เข้าเดี๋ยวเขาจะรู้ทัน

เห็นไหมคะว่ามีวิธีหลากหลายที่จะบอกปัดเซ็กส์ในขณะที่คุณไม่พร้อม แต่ควรเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสถานการณ์และคู่ของคุณ แต่ไม่ว่าจะยังไง บางครั้งบางทีต้องเจอกันครึ่งทางบ้าง แม้ใจจะไม่อยากแต่อาจต้องช่วยเหลืออีกฝ่ายให้ถึงเป้าหมาย เพราะอย่าลืมนะคะว่าเซ็กส์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคู่ ขาดสิ่งนี้ไปคงต้องได้เข้าวัดบวชชีบวชพระกันแน่ๆ!

ถ้าอยากรู้ว่า เซ็กส์มีความสำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน ตามไปอ่านกันได้เลย

เรื่อง : Madam Hong Hern

ภาพ : Freepik, Unsplash, Pixabay, www.bryaanbazaar.co.uk

บี - น้ำทิพย์

ที่มาของความสวยเป๊ะ หุ่นเพอร์เฟ็คท์ของควีนบี “บี – น้ำทิพย์” และ 3 บิวตี้บล็อกเกอร์ตัวแม่ที่ปังไม่แพ้กัน

Alternative Textaccount_circle
บี - น้ำทิพย์
บี - น้ำทิพย์

เมื่อวันก่อน แพรวดอทคอม ไปร่วมงาน B-finn เลยได้มีโอกาสสัมภาษณ์สาว บี – น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ นางแบบและนักแสดงมากความสามารถ ผู้ที่มีรูปร่างผอมเพรียว หุ่นเซ็กซี่ สวยเพอร์เฟ็คท์ตลอดกาล พร้อมกับเหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์และเมคอัพอาร์ติสต์แถวหน้าของเมืองไทย ถึงเคล็ดลับสตัฟฟ์ความสวย หุ่นเริด สุขภาพดีมาฝาก

บี – น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์

ช่วงนี้หากใครติดตามอินสตาแกรมของควีนบีก็คงได้เห็นภาพบิกินี่ที่เซ็กซี่ร้อนฉ่า เพิ่มองศาให้ฤดูฝนเดือดเลยทีเดียว ซึ่งสาวบีได้เผยเคล็ดลับความแซ่บแบบหมดเปลือกให้หายข้องใจว่าทำยังไงถึงได้สวยเผ็ดพริกหมดสวนขนาดนี้ “หลักๆ บีจะเน้นการออกกำลังกายและกินอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ และอาหารที่ปรุงเอง เพราะมั่นใจได้ว่าไม่มีส่วนผสมที่ทำให้อ้วนหรือไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ถ้าช่วงไหนบีไม่ค่อยมีเวลา ก็จะกินอาหารเสริมที่สกัดจากธรรมชาติแทน เป็นตัวช่วยที่ให้สารอาหารที่มีประโยชน์เหมือนกัน เทียบเท่าผักและผลไม้เลย กินง่าย ไม่ยุ่งยาก โดยบีจะใช้ใส่ลงไปในกาแฟ เป็นสารแทนความหวานที่มีประโยชน์สุดๆ ทำให้ไม่อ้วน รู้สึกสดชื่น ผิวพรรณเปล่งปลั่งค่ะ”

พิมพ์ผกา มณีไทย หรือ “ป้าพิม” (MissPimpaka)

บล็อกเกอร์สาวคนดังที่แม้จะเรียกตัวเองว่า “ป้า” แต่ความจริงไม่ป้าเลยสักนิด เพราะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี  “พิมเป็นคนชอบกินมาก แต่ก็พลาดเรื่องความงามไม่ได้เช่นกัน ก็จะหาเวลาไปออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่บางครั้งก็ไม่มีเวลา จึงต้องมีตัวช่วยดีๆ อย่างอาหารเสริมที่สกัดจากธรรมชาติ ที่ช่วยให้ทั้งสวยและอิ่มอร่อยแบบสบายใจ เพราะจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญได้ดียิ่งขึ้น ยิ่งสมัยนี้เรายังดัดแปลงนำไปปรุงอาหารเป็นสารแทนความหวาน โดยเฉพาะใส่ในขนมที่พิมชอบมากๆ”

พีรญา รชตสุวงศ์ ( Erk-Erk)

บิวตี้นิสต้าเจ้าของพ็อกเก็ตบุ๊กสวย 360 องศา เผยเคล็ดลับความงามแบบครบทุกองศาว่า “ผิวหนังของคนเราเป็นส่วนสำคัญที่บ่งบอกว่าเราดูสวยเปล่งปลั่งหรือว่าดูเหนื่อยล้า เพราะฉะนั้นเราจึงต้องดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ ทาครีมกันแดดทุกวัน หมั่นไปทำทรีตเมนต์ที่ร้าน หรือทำเองที่บ้านง่ายๆ ด้วยสมุนไพรต่างๆ และที่สำคัญเราต้องดูแลตัวเองจากภายใน เพื่อให้สวยออกมาสู่ภายนอก โดยเอิ๊กเลือกกินอาหารเสริมจากธรรมชาติ เป็นตัวช่วยในการดีท็อกซ์สารพิษในร่างกาย โดยนำมาคลุกเคล้ากับสลัดผลไม้ ทำให้กินง่ายขึ้น”

กัลญภัค โนแก้ว ( Jossy)

บิวตี้บล็อกเกอร์และเมคอัพอาร์ติสต์ผู้มีความสวยและมั่นใจ “จอสพยายามโฟกัสเรื่องเบสิกๆ อย่างเช่น การเข้ายิม การกินผัก ผลไม้ อาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะสมัยนี้มีอาหารเสริมที่สกัดจากธรรมชาติ ทำให้เราบำรุงตัวเองได้มากขึ้น กินเป็นกิจวัตรประจำวัน นำมาใส่ในน้ำผลไม้ ค็อกเทล และอาหารที่เราปรุงแทนสารความหวานก็ได้ จอสเชื่อว่าอะไรที่เบสิกและเราทำได้ง่ายๆ จะทำให้เราอยากดูแลตัวเองในทุกๆ วัน”

ใครอยากสวยแซ่บเหมือนควีนบีและเหล่ากูรูความงามก็อย่ารอช้า หมั่นดูแลตัวเองรัวๆ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจนะจ๊ะ!

 

ภาพจาก Instagram : beenamthipofficial, misspimpaka, wwwerkerkcom, babejossy

อินให้ “สุด” กับแฟชั่น มิว-นิษฐา แปลงโฉมเป็นสาวฮิปปี้ ในแพรว ฉบับ 909

แพรว ฉบับ 909 มันก็จะมิวมิวหน่อยๆ…กลับมาเจอกันอีกครั้งสำหรับนางเอกสาวหน้าหวาน มิว – นิษฐา จิรยั่งยืน แน่นอนว่าต้องพิเศษและไม่ธรรมดา ก็แพรวซะอย่างเนอะ เราไม่รอช้า จับมิวที่น่ารักสุดฤทธิ์มาแปลงโฉมให้เป็นสาวฮิปปี้ยุค 70 จากสาวผมยาวกลายเป็นสาวผมสั้นแบบเซอร์ๆ ที่ดูแล้วแปลกตา แต่สวยมีเสน่ห์ไม่แพ้ลุคเดิมจริงๆ

จัดเต็มหน้าผมกันไปแล้ว ก็มาถึงคราวเสื้อผ้าและเครื่องประดับกันบ้าง แฟชั่นเซตนี้เราได้เสื้อผ้าสไตล์โบฮีเมียนสุดชิคจาก Tory Burch คอลเล็คชั่น Pre-Fall 2017 ที่จับคู่เนื้อผ้าลักษณะเรียบง่ายเข้ากับพื้นผิวที่มีเท็กซ์เจอร์ โดดเด่นด้วยลวดลายเรขาคณิตและดอกไม้ ทั้งเสื้อเทรนช์โค้ตตัวยาว กระโปรงทรงเอไลน์ เดรสปักลาย ไปจนถึงกางเกงขาบาน แมตช์เข้ากับรองเท้าส้นสูงไม้แกะสลัก กระเป๋าคลัตช์ และต่างหูขนเม่น เรียกได้ว่าจัดเต็ม เปลี่ยนลุคให้สาวมิวอย่างครบเครื่องจริงๆ จ้า

แปลงโฉมเสร็จเรียบร้อย ทำเอามิวถึงกับตื่นเต้นที่เห็นตัวเอง เพราะเธอเอ่ยปากกับเราว่านี่เป็นครั้งแรกที่มิวได้เปลี่ยนลุคเป็นสาวยุค 70 เพราะอย่างที่เห็นมาตลอดว่าส่วนใหญ่จะเห็นมิวในลุคสาวหวาน ครั้งนี้แฟนๆ ก็จะได้เห็นมิวแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

นอกจากแฟชั่นที่จัดเต็มมาให้ดูกันอย่างเต็มตาแล้ว เรายังมี 9 เรื่องที่สุดของมิว อย่างโหดที่สุด โปรดสุด สุดของมิว มาให้แฟนๆ ได้ยิ้มสุดกับคำตอบของเธอ บอกเลยว่าเห็นหน้าหวานๆ แบบนี้ แต่เฮี้ยวไม่เบาเลยนะมิวจ๋า

สร้างปรากฏการณ์อีกแล้ว D&G ออกเสื้อยืดสกรีนหน้า “สเตฟาโน” บอกความเป็นผู้นำด้านแฟชั่น

Dolce & Gabbana เป็นแบรนด์ที่ไม่เคยหายไปจากสื่อเลยจริงๆ เพราะเห็นออกไอเท็มใหม่ๆ ให้สาวกใจเต้นรัวกันตลอด แม้จะไม่มีแฟชั่นโชว์สุดอลังการ ก็ออกแบบสินค้าที่สามารถใส่ได้ในชีวิตจริงมาเรื่อยๆ อย่างล่าสุดทางแบรนด์ก็ออกเสื้อยืดลายแปลกตา ซึ่งยังไม่เห็นแบรนด์ไหนทำ เมื่อเอาหน้าของผู้ก่อตั้งและดีไซเนอร์มือทองประจำแบรนด์สกรีนลงบนเสื้อยืดเนื้อดี ซึ่งถูกดีไซน์ให้สามารถใส่ได้ทั้งหญิงและชาย พูดง่ายๆ คือเป็นเสื้อยืดแบบ Unisex นั่นเอง

นอกจากเสื้อยืดสีขาวจะสกรีนหน้าของสเตฟาโนแล้ว ยังสกรีนชื่อแบรนด์ D&G และ #lamagadellamoda ลงไปด้วย และเมื่อ 18 ชั่วโมงที่แล้ว สเตฟาโน กาบบานา ได้ออกมาเล่นสนุกๆ ด้วยการใช้ไพ่ทำนายถึงอนาคตของวงการแฟชั่น ซึ่งพลังของการ์ดได้บอกว่าตอนนี้โชคลาภมาถึงร้านค้าออนไลน์แล้ว นั่นหมายความว่าเสื้อยืดลายล่าสุดนี้มีขายในเว็บออนไลน์แล้วเรียบร้อย เป็นการล้อแบบน่ารักๆ โดยเอาการทำนายเชื่อมโยงกับสถานที่จัดจำหน่าย

เรามาดูกันว่าการทำนายและเสื้อยืดสกรีนหน้าสเตฟาโนจะเป็นยังไง

 

 

 

เสื้อยืดสำหรับผู้หญิง T-SHIRT CON STAMPA #LAMAGADELLAMODA €300 หรือราคาประมาณ 11,658 บาท มีให้เลือกตั้งแต่ไซส์ XS ถึง L

 

ส่วนของผู้ชาย T-SHIRT CON STAMPA #LAMAGADELLAMODA €300  รือราคาประมาณ 11,658 บาท มีให้เลือกตั้งแต่ไซส์ S ถึง XL


 

เป็นเสื้อที่ใส่ได้ทั้งหญิงและชาย ถึงแม้ลายจะดูแปลกตาไปหน่อย แต่ก็เก๋ดี และเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นดีไซเนอร์ออกแบบเสื้อยืดโดยการเอาหน้าของตัวเองใส่ลงไปบนเสื้อ ถือเป็นการฉีกกฎแบบเดิมๆ ไปเลย เพราะปกติจะเห็นลายสกรีนหน้าคนดังด้านอื่นๆ อย่างนักแสดงหรือนักร้องเท่านั้น

เอาเป็นว่าใครที่เป็นแฟน D&G ก็เข้าไปสั่งซื้อเสื้อยืดในเว็บ http://bit.ly/2v4x5yW เพื่อสอยมาเป็นของตัวเองได้เลย ไม่แน่นะ อาจจะเป็นผู้นำแฟชั่นก่อนเซเลบริตี้เมืองไทยก็ได้

 

 

 

 

วิดีโอ : Twitter@dolcegabbana

ภาพ : store.dolcegabbana.com

 

 

ดูดวงรายวัน ประจำวันอังคารที่ 11 กรกฎาคม 2560

ดูดวงรายวัน ประจำวันอังคารที่ 11 กรกฎาคม 2560 เช็คทุกวัน ทันทุกดวงกับ แพรว ดอทคอม

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  โชคดีค่ะ งานวันนี้ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน รวมทั้งผู้บังคับบัญชาก็ให้ความเอ็นดูเป็นพิเศษ

การเงิน : หมดไปกับการช่วยเหลือ ทั้งญาติสนิทมิตรสหาย และคนใกล้ชิด

ความรัก : วันนี้ท่านกับคู่อาจต้องเข้าหาผู้ใหญ่เพื่อขอคำปรึกษาหารือ อุ่นใจได้ วันนี้ผู้ใหญ่รักและเมตตา คนโสด ผู้ใหญ่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือกคู่

สุขภาพ : ระวังหกล้ม หรือบาดเจ็บกล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นต่างๆ โดยเฉพาะช่วงขาและหลัง

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  ต้องระวังคนใกล้ตัวและเพื่อนร่วมงานจะแอบแทงข้างหลัง หรือเลื่อยขาเก้าอี้ รวมถึงติดต่อธุรกิจก็มีโอกาสถูกหลอกหรือถูกโกงได้

การเงิน :  ระวังถูกยืมเงินแล้วไม่คืน ทรัพย์สินมีโอกาสสูญหาย

ความรัก : วันนี้อาจมีเรื่องมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง ใจเย็นๆ ค่อยๆ พูดกันนะคะ อย่าใช้อารมณ์ คนโสด ที่ไหนมีรักที่นั่นมีทุกข์ค่ะ ความรักไม่สมหวัง

สุขภาพ : อย่าเครียดมาก จะทำให้ท่านเป็นโรคซึมเศร้า

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  :  ท่านเข้าสู่โหมดอารมณ์อย่างมาก เพราะฉะนั้นงานที่เกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์จะทำได้ดี

การเงิน :  หมดไปกับความสวยงามหรือสิ่งของหรูหราฟุ่มเฟือย

ความรัก : วันนี้ครอบครัวอบอุ่น อยู่กันเหมือนเพื่อน ให้ความช่วยเหลือกันในการทำงาน คนโสด ความสงสารวิ่งนำหน้าค่ะวันนี้

สุขภาพ : ระวังเรื่องความดัน หรือน้ำในหูไม่เท่ากัน

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :  ท่านยังอยู่ในโหมดของการเริ่มต้น บุกเบิก สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จสร้างชื่อเสียงให้กับท่านในอนาคต หลังจากที่ตรากตรำทำงานหนักมานาน

การเงิน   :  งานดี เงินมา

ความรัก : วันนี้ต่างคนต่างอยู่กับปัญหาของตัวเอง คิดเองคนเดียว ไหนๆ ก็มีคู่แล้ว ก็ใช้ประโยชน์ให้มากที่สุดสิคะ คนโสด เพิ่งอกหักก็เลยยังเข็ดอยู่

สุขภาพ : ระวังโหมงานหนักจนไม่ได้พักผ่อน  และรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา จนทำให้เป็นโรคกระเพาะ

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : ท่านอาจต้องเข้าไปขอคำปรึกษาจากผู้ใหญ่ หรือผู้รู้ที่มีประสบการณ์ กับสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ โดยที่ท่านเองก็ควรเก็บตัวอยู่เงียบๆ ดีที่สุด

การเงิน : ได้เงินตามเนื้องาน อาจได้รายได้พิเศษจากให้เช่าคอนโดบ้าง

ความรัก : วันนี้ชีวิตคู่อยู่ภายใต้ข้อแม้ หรือกฎเกณฑ์ต่างๆ มากมาย และทุกเรื่อง ทั้งวิถีชีวิต การงาน การเงิน และขนบธรรมเนียมประเพณี คนโสด มีโอกาสได้พบรักกับชาวต่างชาติ และรู้จักในที่ทำงาน หรือหากไม่ใช่ ท่านก็มีโอกาสอยู่เป็นโสดสูง

สุขภาพ :  เครียด จนเกิดอาการขวางหูขวางตาได้ง่าย ควรรู้จักปล่อยวางในเรื่องไร้สาระบ้าง

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : กลับมารักกันเหมือนเดิมแล้ว หรือได้ทำงานในสิ่งที่ท่านรัก ได้พบกับเพื่อนร่วมงานที่ถูกคอ จึงเกิดมิตรภาพที่ดี มีการประนีประนอมกันสูง

การเงิน :  มีความสุขกับวิถีชีวิตที่พอเพียง

ความรัก : วันนี้ท่านรู้สึกรักแฟนจังเลย เลิกงานไม่เถลไถล อยากกลับบ้านเร็วๆ เพื่อมาอยู่ด้วยกัน คนโสด ท่านมีความรักให้กับทุกๆ คน แต่ไม่จริงใจกับใครสักคน

สุขภาพ  :  ระวังอุบัติเหตุจากการเดินทาง ทั้งทางน้ำและทางบกนะคะ

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : ท่านต้องใช้คำพูดหรือวาทศิลป์ในการติดต่อประสานงาน เพื่อเริ่มต้นทำอะไรบางอย่างที่สร้างสรรค์ ท้าทายความสามารถในระยะเวลาอันใกล้นี้

การเงิน : หาเงินเก่ง แต่ก็ไม่สนใจเก็บเงิน ให้ญาติพี่น้องหมด

ความรัก :  วันนี้ท่านมีอารมณ์ไม่มั่นคง โลเล จนอาจเกิดความไม่มั่นใจว่า คนที่อยู่ด้วยกันทุกวัน รักและเข้าใจท่านจริงหรือเปล่าเนี่ย คนโสด วันนี้อย่าเพิ่งตัดสินใจคบใคร เพราะใจท่านยังไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

สุขภาพ :  วันนี้จะเกิดอาการปวดศีรษะ มึนงงบ่อย อย่าเครียด คิดมากหรือวิตกกังวลกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง

 

แต่งตัวไปงานแต่งธีม Fairy Tale แบบไม่ขโมยซีนเจ้าสาว!

account_circle

Fairy Tale เทพนิยายสุดคลาสสิกก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียเก๋ๆ ที่เจ้าสาวหลายคนเลือกมาเป็นธีมสำหรับงานวิวาห์ แล้ววาดฝันให้ตัวเองเป็นเจ้าหญิงแสนสวย แต่สำหรับแขกเหรื่อที่ได้รับเชิญอย่างเราๆ จะให้จัดเต็มแล้วไปกลบรัศมีเจ้าสาวของงานก็คงไม่ได้ เราเลยมีวิธีเลือกชุดสวยๆ ให้เข้ากับงานแต่ง ธีม Fairy Tale แบบไม่ขโมยซีนเจ้าสาวมาฝากกันค่ะ
1

สำหรับชุดที่จะเลือกใส่ไปงานแต่งธีมเทพนิยาย แนะนำว่าให้เป็นชุดราตรียาวไปเลยค่ะ (แต่ไม่ต้องหาง 3 เมตรนะ อันนั้นเว่อร์ไป!) เนื้อผ้าพลิ้วไหว ประดับลูกไม้ ติดลูกปัดให้มีประกายวิบวับฟรุ้งฟริ้งด้วยก็ดี จะสีพาสเทลหรือสีจัดจ้านก็จัดไปโลด จะเป็นชุดฟู่ฟ่องแต่ไม่ต้องบานมากก็ได้ และแนะนำว่าให้เลี่ยงชุดอลังการสีขาว ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะเจอเจ้าสาวส่งสายตามองแรงมาให้ก็ได้นะ แบบนี้ต้องระวังให้ดี

แถมให้อีกนิดสำหรับแก๊งเพื่อนเจ้าสาว หากว่าเจ้าสาวเธอตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่างานนี้เธอจะต้องโดดเด่นเป็นเจ้าหญิงแต่เพียงผู้เดียว แก๊งเพื่อนเจ้าสาวอย่างพวกคุณ ถ้าอยากลองแต่งเป็นสาวน้อยคอยรับใช้ (เรียกว่าคนใช้ก็ได้นะ!) สวมกระโปรงและมีผ้ากันเปื้อนเป็นพร็อบหลัก จะไม้ขนไก่ ถังน้ำ หรือว่าไม้ม็อบด้วยก็ได้ แบบนี้ก็แปลกดีเหมือนกันนะ อิอิ!

เรื่อง : JeenHuiBin

ภาพ : www.pinterest.com, www.pulptastic.com, www.dailymail.co.uk, www.wefollowpics.com, www.thenorthernbride.blogspot.com, http://www.lightinthebox.com

ปรากฏการณ์แห่งความคิดถึง คอนเสิร์ต “เรามีเรา” รำลึกถึง “แหวน-ฐิติมา” นักร้องในความทรงจำ

ผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้วสำหรับคอนเสิร์ต “รวมพี่ รวมน้อง ร่วมร้อง เรามีเรา” ที่จัดขึ้น ณ ร้านทองหล่อเล่นสดซอย 10 เพื่อหารายได้ช่วยเหลือค่ารักษาโรคมะเร็งของนักร้องสาวเสียงคุณภาพ “แหวน – ฐิติมา สุตสุนทร” แต่ได้เสียชีวิตไปก่อน แต่บรรดาพี่น้องและเพื่อนศิลปินยังคงจัดงานต่อไปเช่นเดิม เพื่อช่วยเหลือครอบครัวของนักร้องสาว

สำหรับบรรยากาศงานในวันนี้เรียกว่าเป็นปรากฏการณ์เลยทีเดียว เพราะมีศิลปินร่วมร้องเพลงกว่า 100 ชีวิต อาทิ ตู่ – นันทิดา, ดา อินคา, ต้าร์ มิสเตอร์ทีม, แมว – จิรศักดิ์, กบ วงแท็กซี่, ปู วงแบล็คเฮด, พลพล, อุ๊ – หฤทัย, ปนัดดา เรืองวุฒิ ฯลฯ ที่มาร่วมร้องเพลงด้วยใจ เพราะความรักที่มีต่อ “แหวน – ฐิติมา” ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าเคล้าน้ำตา เพราะทุกคนต่างอาลัยรักและคิดถึงนักร้องสาวผู้ล่วงลับ

และความพิเศษของคอนเสิร์ต “รวมพี่ รวมน้อง ร่วมร้อง เรามีเรา” มีความพิเศษในหลายช่วง แต่ไฮไลท์บีบหัวใจคงเป็นช่วงของการรวมตัวของรุ่นใหญ่ เหล่าดีว่ารุ่นใหญ่ “ตู่ – นันทิดา แก้วบัวสาย”, “ตุ๊ก – วิยะดา โกมารกุล ณ นคร”, “โอ๋ – บุปผา กิ่งชัชวาลย์” และ “ปันปัน – เต็มฟ้า กฤษณายุธ” ลูกสาวซึ่งถือเป็นตัวแทนเสียงร้องของ “แหวน – ฐิติมา” ร่วมร้องเพลงเมดเลย์ “ทรายกับทะเล”, “เธอบอกให้ลืม”, “ขอจันทร์” และ “ไดอารี่สีแดง”

ซึ่งตลอดระยะเวลาการแสดง ผู้ชมได้ร่วมร้องพร้อมกันจนกลายเป็นเสียงเพลงที่ดังกึกก้อง โดยเฉพาะ “ไดอารี่สีแดง” เพลงฮิตที่ทำให้ทุกคนรู้จักกับ “แหวน – ฐิติมา” ทำสาว “ปันปัน” น้ำตาไหลพราก เหล่าดีว่ารุ่นใหญ่ต้องคอยกอดปลอบอยู่เนืองๆ

จากนั้น “ปันปัน” ยังได้ร้องเพลง “Sometime When We Touch” ซึ่งเป็นเพลงที่ “แหวน – ฐิติมา” ใช้ร้องประกวดจนได้เข้ามาเป็นศิลปินเบอร์ 4 ของค่ายแกรมมี่ ทำให้ได้เจอกับคุณพ่อ “ปุ๊ – บรรเจิด กฤษณายุธ”

ทั้งนี้หลังจากการแสดงเสร็จสิ้น คู่พ่อลูกก็ได้ออกมาขอบคุณทุกๆคนด้วย สำหรับบรรยากาศทั้งหมด สามารถชมได้จากแฟนเพจ “รวมพี่ รวมน้อง ร่วมร้อง เรามีเรา”

เปิดใจ “ปันปัน” เล่าถึง “แหวน-ฐิติมา” คุณแม่ผู้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต

เรียกว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าและคราบน้ำตาเลย สำหรับพิธีรดน้ำศพ “แหวน -ฐิติมา สุตสุนทร” ร็อคเกอร์สาวคนแรกของเมืองไทย เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาลศิริราชฯจากการล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งกระดูก

ซึ่งหลังจากที่ตั้งศพเสร็จสิ้น “ปันปัน – เต็มฟ้า กฤษณายุธ” ลูกสาวของ “แหวน – ฐิติมา” ได้เข้าไปจับมือและหอมที่หน้าผากของมารดาเป็นครั้งสุดท้าย โดยในช่วงเช้าทายาทนักร้องชื่อดังยังได้สวมชุดครุยถ่ายภาพกับรูปหน้าศพของคุณแม่ ซึ่งถือเป็นภาพที่สะเทือนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

โดยวันนี้ (10 ก.ค. 2560) ณ ศาลา 4 ที่วัดธาตุทอง มีบุคลลในวงการบันเทิงมาร่วมรดน้ำศพเป็นจำนวนมาก อาทิ สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา, ตู่ – นันทิดา, ตั้ว – ศรัณยู, แอม – เสาวลักษณ์, ตุ๊ก – วิยะดา, อุ้ย – เกรียงไกร, ปู – ปริศนา, ติ๊ก ชิโร่, มอส – ปฏิภาณ, อ้อม – สุนิสา ฯลฯ นอกจากนี้เพื่อนของแหวน – ฐิติมาเมื่อสมัยเรียนที่สตรีวิทยา และเพื่อนๆ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ได้ร่วมกันกล่าวคำไว้อาลัยและร่วมร้องเพลง “เรามีเรา” ด้วย

ต่อมา “ปันปัน – เต็มฟ้า กฤษณายุธ” ได้ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาถึงการสูญเสียบุคคลสำคัญที่สุดในชีวิตว่า “สภาพจิตใจตอนนี้พยายามจะเข้มแข็งให้มากที่สุด เพราะคุณพ่อก็เสียใจจนถึงกับทรุด คุณพ่ออยู่กับคุณแม่มาตั้งแต่อยู่จุฬาฯ ปี 3 ตั้งแต่คุณแม่อายุ 19 เราจึงต้องพยายามแข็งแรงให้คุณพ่อเห็น และต่อจากนี้คงตั้งใจทำงานช่วยคุณพ่อ เพราะท่านอายุเยอะ จะ 80 แล้ว”

คุณแม่เลือกฝรั่งเศสเป็นที่บันทึกความทรงจำครั้งสุดท้าย
“ปันปัน” ยอมรับว่าเธอไม่เคยทราบเรื่องอาการป่วยมาก่อน เพราะคุณแม่ไม่อยากให้เครียด ทั้งยังเตรียมทริปครั้งสุดท้ายกับครอบครัวที่ฝรั่งเศสเอาไว้ด้วย

“ความจริงรู้ว่าคุณแม่จะไปอีกไม่นานตั้งแต่ไปเที่ยวที่ฝรั่งเศส เหมือนคุณแม่พาไปเพราะเหมือนจะเป็นทริปสุดท้ายที่ได้ไปด้วยกัน ตอนนั้นคุณแม่ก็ไม่ได้บอกอะไรมาก เพราะไม่อยากให้ลูกเครียด เสร็จแล้วพอไปที่นั่น คุณแม่ก็ได้บอกว่าเป็นมะเร็งระยะลุกลาม ก็เลยร้องไห้กัน และพยายามใช้เวลาให้มีคุณค่ามากที่สุด พอหลังจากกลับมาก็พยายามดูแลคุณแม่ให้ดีที่สุด”

“แม่แหวน” ฝาก “ปันปัน” ไว้กับแกรมมี่
เมื่อถามถึงคำสั่งเสียของคุณแม่ “ปันปัน” เผยว่า “เรื่องพินัยกรรม เพราะคุณแม่เป็นห่วงมาก เนื่องจาก ‘ปันปัน’ เป็นลูกคนเดียว ทำอะไรไม่ค่อยเป็น ท่านเลยห่วงว่าจะดูแลคุณพ่อได้ไหม นอกจากนี้ก็ได้มีการฝากเรากับแกรมมี่ไว้ และคุณแม่อยากให้เรียนปริญญาโท” (ร้องไห้)

เสียดายที่ไม่ได้มีโอกาสได้ถ่ายรูปในชุดครุยกับ “แม่แหวน”
“ปันปัน” กล่าวว่านอกจากคุณแม่เก่งและเป็นที่ยอมรับในเรื่องของงานแล้ว การดูแลเธอที่เป็นลูก “แม่แหวน” ก็ทำได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คุณแม่ไปรับไปส่งเธอตั้งแต่อยู่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย พอมาอยู่จุฬาฯ คุณแม่ก็ยังไปรับไปส่งเธอเหมือนเดิม ซึ่งต้องบอกว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเธอในวันนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากคุณแม่

โดยสาว “ปันปัน” ยังได้เผยเรื่องน่าเสียดายว่า “ความจริงนัดถ่ายรูปรับปริญญากับคุณแม่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จะเอาชุดรับปริญญาไปถ่ายกันที่โรงพยาบาล แต่ทว่าไม่ทัน เลยเอามาถ่ายที่นี่เมื่อเช้านี้ค่ะ”

ทั้งนี้ “ปันปัน” ยังได้กล่าวเสริมว่าเธออยากเข้าเรียนที่จุฬาฯเพราะคุณแม่อีกเหมือนกัน ซึ่งเธอยังบอกอีกว่าคุณแม่ดีใจมากๆ หลังจากที่ได้ทราบว่าเธอได้เป็นบัณฑิตเกียรตินิยม (ร้องไห้) “คุณแม่ดีใจมาก (ยิ้ม) คุณแม่ดีใจมาก และภูมิใจในตัวเรา ก็ขอบคุณแม่ที่ผลักดันเราและส่งเสริมให้เราได้เรียนดีขนาดนี้ คุณแม่บอกว่าอนาคตให้เราทำในสิ่งที่เราชอบ ไม่ว่าอะไรคุณแม่ก็สนับสนุนหมดทุกอย่าง”

ภูมิใจแทนคุณแม่ที่มีคนรักมากมายขนาดนี้
กับภาพในวันนี้ที่ได้เห็นคนรัก “แหวน – ฐิติมา” ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่ เพื่อน รุ่นน้อง รวมถึงแฟนคลับ ได้มารวมตัวกันส่งดวงวิญญาณของเธอ น่าจะเป็นสิ่งที่ย้ำว่าร็อคเกอร์สาวเป็นที่รักของหลายๆคน ซึ่ง “ปันปัน” ในฐานะลูกสาวคนเดียวได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า

“ขอบคุณแฟนคลับมากๆค่ะ ไม่คิดเลยว่าจะมีคนรักคุณแม่มากขนาดนี้ แล้วพอได้รู้ถึงกำลังใจที่ทุกคนให้มา ก็รู้สึกภูมิใจแทนคุณแม่มากๆ อันที่จริงคอนเสิร์ตที่จะจัดขึ้นในวันนี้ คุณแม่ไม่อยากให้จัดเลย ด้วยเพราะเกรงใจหลายๆฝ่าย แต่พี่ๆศิลปินคนอื่นยื่นมือเข้ามาช่วย ก็ขอบคุณมากๆค่ะ”

อยากจะเข้มแข็งให้ได้ครึ่งหนึ่งของ “แม่แหวน”
“ปันปัน” ได้เผยว่าไม่ว่าจะก่อนหรือหลังที่ได้รับรู้ว่าคุณแม่ป่วยเป็นมะเร็งระยะลุกลาม ไม่เคยได้ยินว่าท่านบ่นเจ็บเลยแม้แต่น้อย

“คุณแม่เข้มแข็งมาก แทบไม่เคยบ่นเจ็บเลย แม้ว่าคุณแม่เป็นมะเร็งกระดูกที่ลามไปตรงกระดูกเชิงกราน เวลานอนส่วนนั้นจะถูกกดทับ แต่คุณแม่ไม่เคยบ่น ทั้งยังพยายามเดินไปเข้าห้องน้ำด้วยตัวเอง ซึ่ง ‘ปันปัน’ คิดว่าถ้าหากเข้มแข็งและอดทนได้ครึ่งหนึ่งของคุณแม่ก็อดทนมากแล้ว”

โดยเรื่องราวเกี่ยวกับความอดทนของ “แหวน – ฐิติมา” ยังประทับใจ “ปันปัน” ลูกสาวของเธอในอีกหลายๆด้าน ซึ่ง “ปันปัน” ได้เปิดเผยว่า

“ตั้งแต่เด็ก คุณแม่ไม่ได้มีชีวิตที่สบาย ตอนที่เรียนที่จุฬาฯก็สู้มาตลอด ขึ้นรถเมล์ไปเรียน ลำบากมาก จนมาเจอคุณพ่อ จากนั้นสู้เป็นนักร้อง ทำงานหนักมาตลอด ‘ปันปัน’ เลยต้องเข้มแข็งและสู้เหมือนคุณแม่ เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในอนาคต สร้างความภาคภูมิใจให้คุณแม่ด้วย สุดท้ายอยากบอกว่า คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงเลย เพราะ ‘ปันปัน’ โตขึ้นแล้ว อาจจะดูเด็กในสายตาคุณแม่ตลอดเวลา แต่จะพยายามทำตัวให้โตขึ้น และเรียนรู้ทุกอย่างให้เป็นผู้ใหญ่ให้ได้ จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างเข้มแข็งให้คุณแม่ภูมิใจ คุณแม่จะได้ไม่เป็นห่วงค่ะ”

ทั้งนี้วันเดียวกันได้มีพิธีสวดพระอภิธรรมศพในเวลา 17.00 น. ที่ศาลา 4 วัดธาตุทอง และจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพต่อไปตั้งแต่วันที่ 11 – 16 กรกฎาคมนี้ ในเวลา 19.00 น. ก่อนจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคมนี้ เวลา 18.00 น. ที่วัดธาตุทอง เมรุหลัง ศาลาดำรงชัยธรรม

อนาคตไกล “ปันปัน – เต็มฟ้า” ดวงใจของแม่แหวน สวยเก่งรอบด้าน ความสามารถแน่น

ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการเพลงเมื่อแหวน – ฐิติมา สุตสุนทร ได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ด้วยโรคมะเร็ง และเป็นการสูญเสียผู้เป็นแม่ของสาวคนเก่งอย่าง ปันปัน – เต็มฟ้า กฤษณายุธ ลูกสาวของแหวน – ฐิติมา ซึ่งเป็นแม่ลูกที่สนิทกันมากและอยู่เคียงข้างกันมาตลอด เราจะเห็นทั้งคู่ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ มาวันนี้คงไม่มีภาพเหล่านั้นอีกแล้ว แต่เชื่อว่าสาวปันปันที่เป็นความภูมิใจของแหวน – ฐิติมา จะสามารถเผชิญหน้ากับสิ่งดีและร้ายที่ต้องเจอในอนาคตได้อย่างแน่นอน เพราะดูแล้วเป็นสาวแกร่งและเก่งไม่แพ้คุณแม่เลย

สาวปันปันได้โพสต์ข้อความระลึกถึงแหวน – ฐิติมา ด้วยความอาลัยรักและคิดถึง

คิดถึงแม่มากๆเลย ยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาเราไม่เคยจากกันนาน แต่ครั้งนี้ก็ไม่ต่างกัน เพราะปันเชื่อว่าใจของแม่ก็ยังคงอยู่กับปันเสมอ แม่เป็นผู้หญิงที่ใจดี เข้มแข็ง และเก่งที่สุดที่ปันรู้จัก และปันสัญญาว่าจะตั้งใจทำงานให้เก่งเหมือนแม่ ปันรักแม่นะคะ แล้วเราเจอกันนะแม่ ‍ I will always love you mommy ❤️

โพสต์ที่แชร์โดย Temfah Krisanayuth (@panpantemfah) เมื่อ

นักร้องในดวงใจของปัน ❤️

โพสต์ที่แชร์โดย Temfah Krisanayuth (@panpantemfah) เมื่อ

วันนี้แพรวดอทคอมเลยรวบรวมมุมต่างๆ ของลูกสาวแหวน – ฐิติมา มาให้ได้อ่านกัน มาดูกันว่าสาวปันปัน จะเก่งและน่ารักขนาดไหน

ความสามารถพิเศษ

เป็นอีกหนึ่งสาวที่มีความสามารถหลากหลาย เก่งรอบด้าน สาวปันปันสามารถเป็นตัวแทนเข้าแข่งขันยิมนาสติกระดับเยาวชนตั้งแต่อายุ 7 ขวบ สาวปันปันยังเคยได้ตำแหน่งราชินียิมนาสติก นักกีฬาดีเด่น และนักกีฬายิมนาสติกลีลาทีมชาติไทย นอกจากนี้ยังสามารถเต้นบัลเล่ต์ เล่นเปียโน และร้องเพลงได้อีกด้วย

การเรียน

สำหรับด้านการเรียน ปันปัน – เต็มฟ้า จบการศึกษาระดับมัธยมปลายจากโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ (Harrow International School Bangkok) ระดับปริญญาตรีที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะเศรษฐศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ (EBA Program) และจบด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง

ผลงาน

หลายคนจะรู้จักสาวปันปันจากงานแสดง ซึ่งงานแสดงที่มีชื่อเสียงได้แก่ บ่วงรัก , เรือนเสน่หา , อีสา-รวีช่วงโชติ และสลักจิต ทั้ง 4 เรื่องเป็นนางเอกและตัวละครเด่นต่างกันไป แต่ก็ได้โชว์ฝีมือการแสดงเต็มที่ ฉากดราม่าก็เค้นอารมณ์ได้สุดพลัง น้ำตาไหลอินเนอร์เต็ม เป็นคนที่ตั้งใจและทำผลงานออกมาได้ดีเลย

ส่วนผลงานเพลง สาวปันปันเคยออกซิงเกิ้ลเพลง ค้นหา (อัลบั้ม Frontage Luggage) (2556) และเพลง ซักกะนิด feat. ฮั่น เดอะสตาร์ อัลบั้ม Frontage Freeform ของค่าย Frontage Music Label (2557) มาแล้ว

นอกจากงานละครแล้วสาวปันปันยังเคยเป็นนางเอกเอ็มวีเพลง Look Like Love ของ บี้ เดอะสตาร์ (สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว) แถมงานเดินแบบ ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา สาวปันปันก็ลองทำมาหมดแล้ว

JOY #salakjit2016

โพสต์ที่แชร์โดย Temfah Krisanayuth (@panpantemfah) เมื่อ

 

จอย กับ อาเดียว on set today for #salakjit lakorn 🍂☕️🍮 #salakjit2015 @sornram_theappitak @bj17 🎬

โพสต์ที่แชร์โดย Temfah Krisanayuth (@panpantemfah) เมื่อ

 

❤️🐴

โพสต์ที่แชร์โดย Temfah Krisanayuth (@panpantemfah) เมื่อ

 

#haircoloristhenewmakeup

โพสต์ที่แชร์โดย Temfah Krisanayuth (@panpantemfah) เมื่อ

แฟชั่นสไตล์ปันปัน

สาวสวยหน้าหวานปันปัน – เต็มฟ้า เป็นอีกคนที่แต่งตัวดูดีอยู่ตลอด มีสไตล์เป็นของตัวเอง แต่งตัวได้หลากหลาย แต่ละลุคออกมาเหมาะสมตามกาลเทศะ มิกซ์เสื้อผ้าได้ลงตัว แต่งออกมาน่ามองและสวยแจ่มทุกลุค

The Galleria Vittorio Emanuele II.

โพสต์ที่แชร์โดย Temfah Krisanayuth (@panpantemfah) เมื่อ

 

exploring pearl harbor. ⛴🇺🇸🚢 cr: @kookparich

โพสต์ที่แชร์โดย Temfah Krisanayuth (@panpantemfah) เมื่อ

 

Urban Light. 🌝⭐️ cr: @kookparich

โพสต์ที่แชร์โดย Temfah Krisanayuth (@panpantemfah) เมื่อ

 

💙🌴 cr: @kookparich

โพสต์ที่แชร์โดย Temfah Krisanayuth (@panpantemfah) เมื่อ

 

sunny santa monica. 🌞😄🌴💙 cr: @kookparich

โพสต์ที่แชร์โดย Temfah Krisanayuth (@panpantemfah) เมื่อ

 

BROOKLYN. cr: @kookparich

โพสต์ที่แชร์โดย Temfah Krisanayuth (@panpantemfah) เมื่อ

ความสนิทระหว่างแม่ลูก

อย่างที่ทุกคนรู้ว่าสองแม่ลูกจะอยู่ด้วยกันตลอดและแสดงความรักกันแบบน่ารักๆ อยู่บ่อยครั้ง วันสำคัญต่างๆ ก็จะเห็นทั้งคู่ให้เวลากัน ด้วยความที่อยู่กันสองคน เลยทำให้สนิทกันมาก ไม่ว่ามีอะไรสาวปันปันจะบอก จะเล่าให้แม่ฟังตลอด และเธอเชื่อว่าแม้ตอนนี้คุณแม่แหวนจะจากไปแล้ว แต่แม่ก็ไม่ได้ไปไหน เพราะยังอยู่ในใจเธอเสมอ

หอมหน่อยยยย 🙂

โพสต์ที่แชร์โดย Temfah Krisanayuth (@panpantemfah) เมื่อ

 

Alcatraz, we have finally found you!

โพสต์ที่แชร์โดย Temfah Krisanayuth (@panpantemfah) เมื่อ

 

ช่วงเวลาที่มีค่าและหายาก love u @panpantemfah #เวลาไม่คอยใคร

โพสต์ที่แชร์โดย Thitima Sutsunthorn (@waenthitima) เมื่อ

 

Quality time with mom. 🍵🍪🍰💕

โพสต์ที่แชร์โดย Temfah Krisanayuth (@panpantemfah) เมื่อ

สาวปันปันยังคงเข้มแข็งและสู้ต่อไป เชื่อว่าแม่แหวนคงรับรู้ว่าลูกสาวคนเก่ง พยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเพื่อให้แม่ภูมิใจ ส่วนความสามารถด้านการแสดงของสาวปันปันก็ฉายแววออกมาเรื่อยๆ บอกเลยว่าอนาคตในวงการบันเทิงไปได้ไกลแน่นอน แพรวดอทคอมเป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ สู้ๆ

 

 

ภาพ : IG@panpantemfah , @waenthitima

 

 

เดือนแห่งการสูญเสีย รวม 6 คนดังบันเทิง แม้กายจากไป แต่คุณค่าผลงานและความดียังคงอยู่

ชีวิตเราย่อมมีวันโรยรา เป็นสัจธรรมของชีวิตที่เลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญเลยคือ เมื่อมีชีวิตอยู่ เราได้สร้างคุณงามความดีให้แก่ตัวเรา คนรอบข้าง และสังคมหรือเปล่า ดังเช่น 6 คนดังในวงการบันเทิงที่ได้จากไปไม่หวนกลับในเวลาไล่เลี่ยกันในเดือนกรกฎาคมนี้ นอกจากจะสร้างความเศร้าเสียใจแก่คนจำนวนมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ยังอยู่ของพวกเขา ให้พวกเราได้พูดถึงก็คือ ผลงาน คุณงามความดีที่พวกเขาได้สร้างเอาไว้

คุณยายอี๊ด – สินีนาฏ โพธิเวส

นักแสดงอาวุโสผู้มีผลงานในวงการบันเทิงมานานกว่า 60 ปี คุณยายอี๊ดเกิดเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2472 และได้เสียชีวิตลงด้วยวัย 89 ปี เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 ที่โรงพยาบาลพญาไท 1 โดยจะทำพิธีสวดพระอภิธรรมศพที่วัดตรีทศเทพวรวิหาร สำหรับคุณยายอี๊ดเปรียบเสมือนคนในครอบครัวของใครหลายคนไปแล้ว เนื่องจากบท อาม่า ในซิตคอม เฮง เฮง เฮง นั้นได้อยู่คู่ผู้ชมมาอย่างยาวนาน สำหรับชีวิตนักแสดง คุณยายอี๊ดถือเป็นรุ่นบุกเบิกตั้งแต่สมัยสถานีโทรทัศน์ไทยทีวี ช่อง 4 บางขุนพรหม และได้ประเดิมมีละครเรื่องแรกของช่องคือ ดึกเสียแล้ว จนกระทั่งมีผลงานชื่อดังมากมาย อาทิ ดอกโศก, สี่ยอดกุมาร, โนราห์, คมพยาบาท, แอบรักออนไลน์ ฯลฯ ส่วนด้านรางวัลชีวิต เมื่อปี 2548 คุณยายอี๊ดได้รับรางวัลเกียรติยศคนทีวีจาก “โทรทัศน์ทองคำ” และปี 2553 รางวัลบุคคลเกียรติยศทางด้านวิทยุโทรทัศน์จาก “นาฏราช”

เห็นเป็นนักแสดงอาวุโสที่มีผลงานออกมาให้ชมหลายปีขนาดนี้ แต่เมื่อย้อนไปยังช่วงแรก คุณยายอี๊ดต้องฝึกฝนการแสดงด้วยตัวเอง ทั้งต้องฝึกวินัย รักษาเวลา ขยันท่องบท เพราะมีผู้ใหญ่คอยสอนอยู่ไม่กี่ท่าน ซึ่งสิ่งเหล่านี้นักแสดงรุ่นหลังก็สามารถนำไปปฏิบัติตามเป็นแบบอย่างที่ดีได้

ป้าติ่ง – พิมพ์พรรณ บูรณะพิมพ์

เป็นนักแสดงอาวุโสฝีมือเก๋าที่น่าเคารพของนักแสดงรุ่นหลังอีกท่าน สำหรับป้าติ่ง – พิมพ์พรรณ ที่เสียชีวิตอย่างสงบด้วยวัย 71 ปี เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 โดยร่างของป้าติ่งได้ตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดป่าธรรมอุทยาน จังหวัดขอนแก่น ในด้านชีวิตการทำงาน ป้าติ่งมีผลงานออกมาตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี โดยผลงานแรกเริ่มที่ปี 2518 เป็นภาพยนตร์เรื่อง ประสาท ของผู้กำกับชื่อดัง เปี๊ยก โปสเตอร์ จนกระทั่งได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง สาขาตลกหญิงยอดเยี่ยม ในปี 2530 และผลงานที่เป็นที่จดจำต่อแฟนๆ กลุ่มวัยรุ่นมากขึ้นคือภาพยนตร์ รักแห่งสยาม โดยป้าติ่งยังมีผลงานดังอื่นๆ อีกจำนวนมาก อาทิ อาญารัก, รักเกิดในตลาดสด, ทองเนื้อเก้า, ซีรีส์เลือดมังกร ตอนสิงห์ ฯลฯ และถือเป็นนักแสดงตัวอย่างของหลายๆ คน ที่ยิ่งอยู่ในวงการมานานเท่าไหร่ ฝีมือยิ่งคมและพัฒนาตัวเองไม่ให้ตก

แหวน – ฐิติมา สุตสุนทร

ต่อสู้กับโรคมะเร็งมาอย่างยาวนาน สำหรับร็อคเกอร์สาวหัวใจแกร่ง แหวน – ฐิติมา จนกระทั่งช่วงบ่ายวันที่ 7 กรกฎาคม 2560 พี่แหวนเสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งกระดูกที่โรงพยาบาลศิริราชฯ ด้วยวัย 54 ปี โดยจะมีพิธีรดน้ำศพและสวดพระอภิธรรมที่วัดธาตุทอง ศาลา 4 จนถึงวันที่ 14 กรกฎาคม 2560 และฌาปนกิจวันที่ 15 กรกฎาคม 2560

สำหรับชื่อเสียงของแหวน – ฐิติมาในสายดนตรีนั้น หลายคนคงได้เห็นชัดกันมาตลอดอยู่แล้ว ด้วยหัวใจที่รักเสียงดนตรีและรักการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้พี่แหวนได้รับคัดเลือกเป็นนักแสดงละครเวทีและนักร้องสมัยเรียนอยู่ที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้เข้าประกวดร้องเพลงในเวทีต่างๆ จนชีวิตเริ่มเข้าสู่การเป็นนักร้องอย่างเต็มตัวเมื่อปี 2527 กับผลงานเพลงแจ้งเกิดคือการร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง วัยระเริง ในด้านผลงานตลอดมานั้น เพลงของพี่แหวนมักจะให้ความหมายที่ดี ปลุกพลัง ให้กำลังใจคนฟัง แม้แต่เพลงจังหวะสนุกให้โยกตามก็ยังคงมีการนำร้องในงานเลี้ยงต่างๆ จนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังมีลูกสาวคนเก่ง ปันปัน – เต็มฟ้า ที่ถอดความเก่งได้แม่ ทั้งเรียน ร้อง เต้น การแสดง ซึ่งพี่แหวนนั้นถือเป็นตัวอย่างของผู้หญิงและนักร้องหลายคนที่เก่งรอบด้าน มุ่งมั่นทำฝัน ทำในสิ่งที่รักให้สำเร็จ

เต้ย ไฮร็อก

ศิลปินไทยสูญเสียไปอีกคน เมื่อเต้ย ไฮร็อก หรือเต้ย – กิตติศักดิ์ เจริญคงสมัย อดีตมือกลอง หนึ่งในสมาชิกวงไฮร็อก (Hi-Rock) วงดนตรีแนวเฮฟวีเมทัล ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2560 ในขณะที่นักร้องนำอย่างเป้ – อนุวรรตน์กำลังจัดคอนเสิร์ตเพื่อหารายได้มาระดมทุนช่วยเหลือ สำหรับวงดนตรีจังหวะหนักๆ แนวเฮฟวีเมทัลอย่างไฮร็อก ถือเป็นวงดนตรีโปรดของกลุ่มผู้หลงรักดนตรีที่เริ่มเล่นดนตรี และอยากฉีกแนวจากป็อปใสๆ มาจังหวะร็อคหนักๆ ซึ่งวงนี้นับว่าเป็นวงดนตรีไทยวงแรกๆ ที่บุกเบิกฉีกแนวมาแนวนี้ และมีเพลงฮิตอย่างกว่าจะรู้สึก นางฟ้าหรือปีศาจ เมื่อผสมฝีมือดนตรีบวกกับการแต่งกายที่สีสันจัดจ้าน จึงทำให้วงดนตรีนี้โด่งดังและมีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำ แม้จะมีฝีมือทางด้านดนตรีหนักหน่วง แต่การดื่มหนักของเต้ยก็ทำให้สุขภาพเขาแย่ จนกระทั่งเสียชีวิตลง ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นตัวอย่างหรือบทเรียนให้คนที่มีชีวิตอยู่ได้หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพให้มากยิ่งขึ้น

แวว จ๊กมก

แวว จ๊กมก
แววกับหลานสาว เอ็ม – บุษราคัม

นักแสดงตลก แวว จ๊กมก หรือเทียมใจ วงษ์คำเหลา น้องสาวแท้ๆ ของนักแสดงตลกชื่อดัง หม่ำ จ๊กมก (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) ที่ได้ร่วมเดินทางออกจากบ้านเข้ามาทำงานเป็นนักแสดงตลกร่วมกับพี่ชาย โดยแววเสียชีวิตลงอย่างสงบเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2560 คาดว่าเกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน โดยพิธีสวดพระอภิธรรมศพจัดขึ้นที่วัดคงคา ย่านบางใหญ่ สำหรับผลงานในวงการนั้น แววมีทั้งผลงานการแสดงละครและแสดงตลกตามรอยพี่ชาย ซึ่งการจากไปครั้งนี้ก็มีเพื่อนสนิทในวงการตลกร่วมโพสต์แสดงความเสียใจต่อแวว รวมถึงภรรยาของหม่ำ จ๊กมก ที่เผยความรู้สึกว่า “ด้วยรักและอาลัย😭อย่างสุดซึ้ง เธอเป็นน้องสาวของสามีที่ดีที่สุด ใครจะคอยปกป้องดูแล ใครจะทำกับข้าวให้ฉันและสามีกิน หลับให้สบายน่ะอาแวว #เทียมใจ วงษ์คำเหลา” (IG @motjokmok

อาเดียร์ – ชุมพร เทพพิทักษ์

มีผลงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังมาให้ได้ติดตามกว่า 50 ปี สำหรับอาเดียร์ – ชุมพร เทพพิทักษ์ บิดาของนักแสดง หนุ่ม – ศรราม เทพพิทักษ์ ที่เสียชีวิตลงด้วยอาการเส้นเลือดใหญ่ในสมองตีบ ด้วยวัย 78 ปี เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2560 โดยพิธีสวดพระอภิธรรมศพจัดขึ้นที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ด้านเส้นทางเข้าสู่วงการบันเทิงนั้น อาเดียร์ได้รับการชักชวนจากลือชัย นฤนาท พระเอกตุ๊กตาทองคนแรกของเมืองไทย จนได้เริ่มมีผลงานแรกเป็นภาพยนตร์เรื่อง คมแสนคม ในปี 2507 กับบทตัวร้าย จึงทำให้ชื่อเสียงของเขาเริ่มเป็นที่กล่าวถึง พร้อมกับมีผลงานในบทร้ายๆ ต่อไปจนเรียกว่าเป็นดาราคิวทองในสมัยนั้นเลย ซึ่งผลงานชื่อดังอื่นๆ ก็มีมากมาย อาทิ ดาวพระศุกร์, มนต์รักลูกทุ่ง, ไอ้ม้าเหล็ก ฯลฯ และได้รับรางวัลเมขลา สาขานักแสดงประกอบชายดีเด่น จากละครเรื่อง เงาพราย รวมถึงผลงานผู้กำกับภาพยนตร์ อาเดียร์ก็ได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง แหกค่ายนรกเดียนเบียนฟู

จากประสบการณ์ที่โชกโชน ไม่ใช่แค่เขาจะเป็นบุคคลตัวอย่างในวงการบันเทิงของใครหลายคนเท่านั้น แต่ในมุมชีวิตระหว่างพ่อลูก อาเดียร์ก็ยังได้สอนการทำงานและการใช้ชีวิตให้แก่ลูกชาย หนุ่ม – ศรราม ด้วย

 

 


เรื่อง: Gingyawee_แพรวดอทคอม
ภาพ: IG @emmeemm @motjokmok @panpantemfah @sornram_theappitak ,แฟนเพจ Facebook – Toei HiRock Khongsamaiยาย ติ่ง, Duangta Tungkamani

หม่อมเจ้าการวิก

ใต้ร่มฉัตร เปิดเรื่องราวชีวประวัติ หม่อมเจ้าการวิก กับสงครามโลกครั้งที่ 2 ปะทุในไทย (ตอนที่15)

หม่อมเจ้าการวิก
หม่อมเจ้าการวิก

หม่อมเจ้าการวิก เข้าร่วมฝึกเป็นทหารเสรีไทย

หลังจากในหลวงรัชกาลที่ 7 สวรรคตแล้ว เหตุการณ์ทุกอย่างได้เปลี่ยนไป และสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ปะทุขึ้นทางฝั่งเอเชีย รวมทั้งประเทศไทย หม่อมเจ้าการวิกได้เห็นการจัดตั้งคณะเสรีไทย จึงตัดสินพระทัยกราบบังคมทูลสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ เพื่อขอเข้าร่วมฝึกเป็นทหารเสรีไทย

เมื่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคตแล้ว เหตุการณ์ในพระตำหนักคอมพ์ตันเฮ้าส์ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลง พระองค์จิรศักดิ์ฯและครอบครัวทรงย้ายออกมาประทับที่ตำหนักดอนฮิลล์ (DAWN HILL) ของพระองค์ท่านตามเดิม ส่วนผมได้ย้ายจากตำหนักหม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์ฯกลับมาอยู่ถวายการรับใช้สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีพระบรมราชินี ตามที่ผมได้ปฏิญาณไว้

สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ ระหว่างประทับในต่างประเทศ

…ผมอยากจะเล่าเสริมไว้ ณ ที่นี้ว่า เมื่อผมนึกย้อนถึงสมัยที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯทรงรับพวกเราเด็กๆเข้าไปชุบเลี้ยงในวังนั้น แต่ละองค์แต่ละคนก็นับว่าอยู่ในวัยที่ซนเป็นทโมน คงจะสร้างความรำคาญพระทัยแก่สมเด็จพระบรมราชินีบ้าง แต่ผมก็ไม่เคยเห็นว่าทรงมีพระอาการรำคาญ หรือขัดเคืองแต่อย่างใด ผมเองแอบเฝ้าดูอยู่ห่างๆ และนึกเห็นพระทัยพระองค์ท่านเสมอที่ต้องทรงอดทนกับพวกเรา จึงตั้งใจว่าสักวันหนึ่งจะหาทางเข้าไปถวายการรับใช้อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเมื่อคราวที่ผมได้ตามเสด็จไปทรงสกีที่สวิตเซอร์แลนด์ ปีพ.ศ.2480 ผมก็พยายามเข้าไปอยู่ใกล้ๆพระองค์ท่าน

เมื่อผมกลับไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศสก็รู้สึกคิดถึงพระองค์ท่านมาก จึงเขียนจดหมายไปกราบบังคมทูลพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินี ซึ่งสมเด็จพระบรมราชินีก็ทรงมีพระราชหัตถเลขาตอบพระราชทานกลับมาด้วย สร้างความชุ่มชื่นใจแก่ผมยิ่ง และเท่ากับเป็นการแสดงให้เห็นถึงพระเมตตาที่พระราชทานแก่ผม ผมจึงตั้งมั่นว่าจะขอถวายการรับใช้จวบจนชีวิตจะหาไม่นับแต่นั้น…

ราวกลางปีพ.ศ.2484 นั้นเอง พระองค์เจ้าจิรศักดิ์ฯก็ทรงไปสมัครงานที่องค์การเอ.ที.เอ. (A.T.A. AIR TRANSPORT AUXILIARY) ซึ่งเป็นกองบินอิสระ อันเป็นหน่วยสาขาหน่วยหนึ่งของกองทัพอากาศอังกฤษ (ROYAL AIR FORCE) ได้เปิดรับสมัครนักบินทุกวัยที่สามารถขับเครื่องบินได้ หน้าที่ของนักบินนี้คือ ขับเครื่องบินใหม่จากโรงงานไปส่งตามสนามบิน หรือนำส่งที่ท่าเรือ เพื่อบรรทุกไปส่งประเทศที่เป็นสัมพันธมิตร หรือขับเครื่องบินที่ชำรุดจากการสู้รบจากสนามบินกลับสู่โรงงาน หรือโรงซ่อมเครื่องบิน แล้วก็ขับเครื่องบินที่ซ่อมเสร็จกลับไปสนามบิน ทั้งนี้ก็เป็นเพราะพระประสงค์ที่จะทรงใช้ชีวิตให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมโดยเฉพาะในยามสงคราม

ญี่ปุ่นถล่อมเพิร์ล ฮาร์เบอร์

สถานการณ์สงครามในกลางปีพ.ศ.2484 ในอังกฤษดูจะสงบกว่าช่วงแรกๆ เพราะเยอรมันได้ย้ายแผนการไปบุกเข้าประเทศสหภาพโซเวียตแทน นานๆจึงจะมีสัญญาณเตือนภัยทางอากาศสักครั้ง แต่ในราวเดือนธันวาคมของปีเดียวกัน เหตุการณ์สงครามครั้งใหญ่ได้ระเบิดขึ้นในอีกซีกโลกหนึ่ง และลุกลามขยายไปทั่วโลก นั่นคือในคืนวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ.2484 ประเทศญี่ปุ่นได้ส่งเครื่องบินและเรือดำน้ำเข้าบุกฐานทัพของสหรัฐอเมริกา ในด้านตะวันออกที่เพิร์ลฮาร์เบอร์(PEARL HARBOUR) มลรัฐฮาวาย อย่างกะทันหันโดยมิได้ประกาศสงครามก่อนทำให้ทางฝ่ายอเมริกาสูญเสียเรือรบ เครื่องบินและกำลังทหารไปมากมาย เพราะไม่ทันได้ป้องกันตัวเอง แผนการจู่โจมของญี่ปุ่นครั้งนี้กระทำพร้อมกันหลายจุด รวมถึงการยกพลขึ้นบกในเมืองไทย เพื่อใช้เป็นทางผ่านไปยังมลายู สิงคโปร์ พม่า และอินเดีย ซึ่งเป็นอาณานิคมของอังกฤษในขณะนั้น รัฐบาลไทยก็จำเป็นต้องยอมเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับญี่ปุ่น เพราะกำลังทหารที่มีอยู่นั้นไม่อาจจะต่อต้านการรุกรานได้

ต่อมาญี่ปุ่นได้ประกาศสงครามกับสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ สหภาพแอฟริกาใต้ ขณะที่เยอรมันกับอิตาลีก็ได้ประกาศสงครามกับสหรัฐอเมริกาด้วย ซึ่งรัฐบาลของประเทศไทยที่ถูกญี่ปุ่นบุกเข้ามามีอิทธิพลในขณะนั้น จำต้องร่วมประกาศสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตรในวันที่ 25 มกราคม พ.ศ.2485 อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง การที่ไทยประกาศสงครามนี้ ทำให้คนไทยในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษตกอยู่ในสถานะชนชาติศัตรูทันที (ENEMY ALIEN) แต่ทว่าคนไทยอีกจำนวนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในสองประเทศมหาอำนาจนี้ต่างไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลไทยเข้าข้างญี่ปุ่นโดยการประกาศสงคราม จึงรวมกลุ่มกันก่อตั้งคณะเสรีไทยขึ้น ทำนองเดียวกับผู้รักชาติจากประเทศต่างๆที่ถูกเยอรมันยึดครอง ทั้งนี้เพื่อหาทางต่อต้านผู้รุกรานต่อไป

ขณะนั้นมีข่าวจากสหรัฐอเมริกาว่า หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช อัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ประกาศไม่รับคำสั่งของรัฐบาลไทยหลังจากญี่ปุ่นรุกราน เพราะถือว่าเป็นรัฐบาลที่ถูกบีบบังคับ ไม่รับรู้การประกาศสงครามของไทยต่อสหรัฐฯ หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ได้แถลงเป็นภาษาอังกฤษและภาษาไทยว่า คณะเสรีไทยถือว่าพวกตนปฏิบัติหน้าที่ของคนไทยตามพระราชบัญญัติ ลงวันที่ 11 กันยายน พ.ศ.2484 กำหนดให้คนไทยต่อต้านศัตรูผู้รุกรานโดยทุกวิถีทาง

สำหรับในอังกฤษ มีนักเรียนไทยจำนวนหนึ่งมีความร้อนใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและเห็นด้วยกับการประกาศของท่านอัครราชทูตไทยในอเมริกา ที่ไม่ยอมรับคำสั่งรัฐบาลไทยอีกต่อไป จึงเห็นควรชักชวนคนไทยในอังกฤษให้ร่วมกันก่อตั้งคณะเสรีไทยขึ้นเช่นเดียวกับคนไทยในอเมริกา ซึ่งกลุ่มนักเรียนไทยที่รวมตัวครั้งแรกนั้นเป็นผู้ที่กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ได้แก่ คุณเสนาะ ตันบุญยืน คุณเสนาะ นิลกำแหง คุณยิ้มยล คุณบุปผา คุณอนงค์ แต้สุจิ หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี หม่อมหลวงจิรายุ นพวงศ์ และนักศึกษาไทยที่ถูกย้ายจากมหาวิทยาลัยลอนดอนมาที่เคมบริดจ์เพื่อหลบภัยจากลูกระเบิดที่ลงมาในช่วงก่อนหน้าอย่างหนัก คือ คุณเปรมและคุณรจิต บุรี คุณวิวรรธน์ ณ ป้อมเพชร์ หม่อมราชวงศ์กิตินัดดา กิติยากร คุณเทพ เสมถิติ คุณสว่าง สามโกเศศ และคุณป๋วย อึ๊งภากรณ์ รวมทั้งหมด 14 คน เป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด ตอนหลังจึงมีนักเรียนไทยที่มาจากมหาวิทยาลัยหัวเมืองเช่น เบอร์มิงแฮม แมนเชสเตอร์ ลิเวอร์พูล เชฟฟิลด์ เร็ดดิ้ง และเซ้าธ์แฮมพ์ตัน ฯลฯ รวมถึงคนไทยที่ไม่ได้อยู่ในฐานะนักเรียนมารวมกลุ่มด้วย

ในการประชุมครั้งแรกของคณะเสรีไทยในอังกฤษ ที่ประชุมเห็นว่าการเข้าข้างฝ่ายรุกราน แม้จะเป็นฝ่ายชนะก็น่าอับอาย เชื่อว่าคนไทยทั้งมวลไม่เห็นชอบด้วยแน่ แม้ว่าสัมพันธมิตรจะพ่ายแพ้ และขบวนการเสรีไทยจะล้มเหลว เพื่อนร่วมชาติคงจะเห็นว่าทุกคนได้พยายามทำหน้าที่ของคนไทยที่รักความเป็นไทแล้ว หากฝ่ายสัมพันธมิตรเป็นผู้ชนะ เขาก็จะเห็นอกเห็นใจว่าคนไทยในต่างแดนได้ต่อต้านกับฝ่ายเผด็จการอย่างเต็มกำลัง และในที่ประชุมยังเห็นว่า พระมนูเวทวิมลนาท (เพียน สุมาวงศ์) อัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอนในขณะนั้น เป็นผู้เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำขบวนการเสรีไทย เช่นเดียวกับหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เป็นหัวหน้าเสรีไทยในอเมริกา จึงควรจะส่งผู้แทนไปเชิญท่าน

ส่วนตัวผม เมื่อทราบข่าวว่ามีนักเรียนไทยรวมตัวกันที่เคมบริดจ์ก็ตัดสินใจที่จะขอร่วมด้วย เพราะผมตระหนักว่านี่เป็นโอกาสหนึ่งที่ผมจะทำประโยชน์เพื่อชาติได้ จึงติดต่อผ่านทางหม่อมเจ้ากอกษัตริย์ สวัสดิวัตน์ ซึ่งท่านทรงรู้จักกับคุณป๋วย เพราะเคยเป็นนักเรียนที่โรงเรียนอัสสัมชัญด้วยกัน และทางคณะเสรีไทยก็ยินดีรับผมเป็นสมาชิกอีกคนหนึ่ง โดยก่อนหน้านั้นผมได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระอนุญาตจากสมเด็จพระบรมราชินี ซึ่งก็โปรดเกล้าฯพระราชทานและรับสั่งว่า

“ไปรบเถอะ ถ้าฉันเป็นผู้ชายก็จะสมัครกับเขาเหมือนกัน แต่นี่เป็นผู้หญิงก็จะอยู่ที่นี่ ไม่ต้องเป็นห่วง ไปรบตามหน้าที่เถอะ” ซึ่งถ้าไม่ทรงส่งเสริมสนับสนุนแล้ว ผมก็เป็นห่วงพระองค์ และไม่กล้ามาแน่ เพราะข้าราชบริพารของพระองค์ท่านเหลืออยู่ไม่กี่คน

 

 

 

เชียร์ - ฑิฆัมพร

ฟินถอนตัวไม่ขึ้น “เชียร์” อยากสุขเหมือน “ซงซงคัพเพิล” ชักหวั่นไหว “เต้ย” ทำใจเต้นแรง

เชียร์ - ฑิฆัมพร
เชียร์ - ฑิฆัมพร

ชีวิตคนเราคล้ายกับจังหวะดนตรีที่มีทั้งตัวโน้ตสูงและต่ำให้ได้ตื่นเต้นเร้าใจอยู่เป็นระยะ เช่นเดียวกับนางเอกสาว “เชียร์ – ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์” นักแสดงสาวที่อยู่ในวงการมานานถึง 14 ปี ผ่านความสำเร็จและวิกฤติมานับไม่ถ้วน

ล่าสุดแจ้งเกิดปังๆ ดังเป็นพลุแตกอีกครั้งกับการประเดิมผลงานเรื่องแรกกับทางช่อง 3 ภายหลังจากที่ผันตัวเป็นนักแสดงอิสระ โดยในซีรี่ส์ “The Cupids บริษัทรักอุตลุด ตอน ซ่อนรักกามเทพ” เรื่องนี้ “เชียร์” แสดงบท “เจ้ออย” ออกมาได้น่ารัก แถมเคมีเข้ากันกับพระเอกรุ่นน้อง “เต้ย – พงศกร เมตตาริกานนท์” แบบสุดกระดิ่ง จนแฟนละครลุ้นให้เปลี่ยนจากสถานะคู่จิ้นเป็นคู่จริงซะเลย

เชียร์ - ฑิฆัมพร

และขอบอกว่าไม่ใช่แค่แฟนละครเท่านั้นที่คิด เพราะล่าสุดในรายการ “3 แซ่บ” ที่เพิ่งออกอากาศไปสดร้อนๆ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พิธีกรคนเก่ง “กาละแมร์ – พัชรศรี เบญจมาศ” ยังประกาศตัวเป็นหัวหน้าแก๊งลูกหมี (แฟนคลับคู่จิ้น เต้ย – เชียร์) ที่มีพ่อหมีเป็นหนุ่ม “เต้ย” และแม่หมีเป็นสาว “เชียร์” แถมยังจัดเกมให้คู่จิ้นได้ใกล้ชิดแบบจมูกชนจมูก ทำเอากองทัพแฟนคลับนับร้อยที่มาเป็นสักขีพยานฟินตายไปเลย

ซึ่งวันนี้ แพรวดอทคอม Exclusive Talk มีโอกาสได้คุยกับเธอ เลยไม่พลาดที่จะขอเจาะลึกหัวใจของสาวคนนี้ซะเลย กับคำถามที่หลายคนสงสัยว่าเป็นแค่คู่จิ้นหรือคู่จริงกันแน่!

เต้ย  - เชียร์
“เชียร์ – เต้ย” ในซีรี่ส์ “The Cupids บริษัทรักอุตลุด ตอน ซ่อนรักกามเทพ”

ดูเหมือนว่าซีรี่ส์ “The Cupids บริษัทรักอุตลุด ตอน ซ่อนรักกามเทพ” จะเป็นการกลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งของ “เชียร์”?

เชียร์มองว่าตัวเองโชคดีนะ โชคดีหลายอย่าง ทั้งจังหวะและโอกาสมันพอเหมาะพอดีจริงๆ ทุกวันนี้เวลาไปไหนมาไหน คนมาหาเยอะมาก ไม่ได้คิดเข้าข้างว่าเขามาหาเรา แต่เรารู้สึกว่ามีคนรักเราเยอะขึ้น มีคนอยากมาหาเราขนาดนั้นเลยเหรอ ทำให้เรานึกถึงบรรยากาศแรกๆ ช่วงที่เราเข้าวงการ บางคนที่อยู่กันมาตั้งนาน แบบเฉยๆ กับเราบ้าง อยากมาหา แต่ไม่มีโอกาส แต่ตอนนี้เหมือนกับมันดันให้ทุกคนมาหาและมาเจอเราให้ได้ เชียร์อยากขอบคุณมากๆ เลยสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง เชียร์รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ดีมากๆ ในชีวิต”

ล่าสุดสตูดิโอโพลีพลัสแตก เพราะเหล่าลูกหมีแห่ไปให้กำลังใจเยอะมาก?

“จริงๆ โมเมนต์นี้เคยเจอตอนที่เข้าวงการแรกๆ ตอนที่เราเข้าวงการใหม่ๆ ถึงบอกไงว่ามันทำให้เราย้อนไปถึงบรรยากาศเก่าๆ จังเลย ซึ่งจริงๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อน บรรยากาศ ณ ตอนนั้น เชียร์มองว่ามันอาจจะเกิดขึ้นได้ เพราะว่ายังไม่มีโซเชียล ยังไม่มีโลกอะไรที่ทำให้เราได้ติดต่อแบบเห็นหน้าค่าตา แต่ทุกวันนี้บางคนเราเห็นหน้ากันประจำ ไอจีเราก็มี โซเชียลเราก็มี ทุกอย่างไวหมด แต่เขาก็ยังมาหาเรา มันเจ๋งนะ เชียร์ว่าเหมือนเขาอยากมาเจอเราจริงๆ”

เชียร์ - ฑิฆัมพร

รู้สึกยังไงกับคำที่ว่าคืนชีพหรือเกิดใหม่?

เชียร์มองว่ามันกลับมาด้วยความสดใสอีกครั้งแล้วกันค่ะ จริงๆ อยากขอบคุณหลายๆ อย่าง ขอบคุณพี่หน่อง – อรุโณชา ภาณุพันธุ์ และบริษัทบรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด เพราะในวันที่เราเลือกตัดสินใจเป็นอิสระ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเราไม่รู้จริงๆ ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง แต่วันนั้นที่เราออกมาปุ๊บ มือแรกที่ยื่นเข้ามาคือพี่หน่อง อยากขอบคุณเป็นพิเศษด้วยซ้ำที่เลือกให้เรามาลงตรงนี้พอดี และทำให้ทุกอย่างกลับมาสว่างสดใสอีกครั้งนึง”

วันที่เลือกออกมาจากช่องเก่า แล้วไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นยังไง มันลุ้นไหม?

“คือพูดตรงๆ ว่ามันก็พอจะมีสิ่งที่เราคาดการณ์ พอจะวางแผนไว้แล้วว่าเป็นยังไง แต่ไม่ได้มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเราไม่ได้คิดอะไรเลย เพียงแค่เรารู้สึกว่ามันถึงจุดนึงที่เราอยากจะเดินออกมา อยากไปค้นหาอะไรใหม่ สัมผัสอะไรที่เราไม่เคยเจอมาก่อน แล้วอีกอย่างนึงเราเลือกที่จะกึ่งๆ มาทางธุรกิจของเรา ฉะนั้นพูดตรงๆ ว่าเราไม่ได้คาดหวังอะไรอย่างนั้นเลยจริงๆ”

เชียร์ - ฑิฆัมพร

มีดาราจากช่องเก่าไม่กี่คนที่ย้ายช่องแล้วประสบความสำเร็จได้ แต่หนึ่งในนั้นก็คือ “ชมพู่” และ “เชียร์”?

“ไม่ขนาดพี่ชมพู่หรอกค่ะ เรียกว่ามีคนรักเราเยอะขึ้นแล้วกัน บางคนที่อาจจะอยู่ต่างพื้นที่กัน อาจจะไม่มีโอกาสได้เจอกัน แต่ตอนนี้เราเดินทางออกมาเจอเขา แล้วโชคดีที่เขาโอเคและรู้สึกดีกับเรา แต่ขนาดพี่ชมพู่ไหม คงไม่หรอกค่ะ อันนั้นรุ่นใหญ่”

เต้ย  - เชียร์

ในรายการ 3 แซ่บเป็นอย่างไร ใกล้ขนาดนั้นรู้สึกอย่างไรบ้าง?

“ไม่ได้ใกล้รอบเดียวนะคะ ใกล้หลายรอบ”

หลังจากที่ถ่ายละครจบ ก่อนที่ละครจะออนแอร์ ได้เจอกันบ้างไหม?

“ไม่ได้เจอกันสักพักนึงเลยค่ะ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่อยู่คู่กันแล้วได้มาเจอแฟนๆ ซึ่งอึ้งมากที่คนเยอะจนตกใจ นึกว่าใครมาประท้วง คือเห็นแล้วแบบงง และได้ทราบว่าแฟนบางคนมากันตั้งแต่ 8 โมงเช้า ซึ่งเราชัดเจนอยู่แล้วว่าไปอัดตอน 4 – 5 โมง แต่เขามากันตั้งแต่ 8 โมง ก็งงว่าเขามากันทำไม หลังจากนั้นเลยได้ทราบว่าเขามาจองที่กัน”

ในละครเวลาเข้าฉากกันก็ใกล้ชิดประมาณนึง แต่ครั้งนี้ต่อหน้าแฟนๆนับร้อย รู้สึกอย่างไรบ้าง?

“หลังไมค์นี่เต้ยตื่นเต้นมากเลยนะคะ เขาบอกว่าตื่นเต้นมาก และบอกว่าทำอะไรพลาดไม่ได้เลย เชียร์เองก็ใจเต้นแรงที่เห็นบรรดาลูกหมีมากันเยอะ ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง แต่พอไปอัดรายการ ทุกอย่างมันก็เป็นไปตามธรรมชาติ ก็มีความสุขดี”

ใจเต้นแรงกับ “ลูกหมี” แล้วใจเต้นแรงกับ “พ่อหมี” ไหม?

“เขินสิ ดูเล่นเกมสิ อื้อหือ” (ยิ้ม)

เต้ย  - เชียร์

เกมต่างๆ ที่เล่น เขาได้บอกเราให้เตรียมใจมาก่อนล่วงหน้าบ้างไหม?

“เขาบอกว่าจะให้ถ่ายรูปคู่กัน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะออกมาเป็นรูปไหน แล้วพิธีกรเอะอะก็ผลักตลอด ยิ่งพี่แมร์ (กาละแมร์ – พัชรศรี เบญจมาศ) นี่เต็มที่มาก เชียร์ก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงอินคู่เราขนาดนี้ คือวันที่ตกใจมากคือวันที่ Live แล้วเขาเข้ามาหาเราใน Live เข้ามาคุยแบบจริงจังมาก หลังจากนั้นเขาอยากให้เราไปรายการมาก บางทีก็ไปเมนต์เต้ย บางทีมาเมนต์เชียร์ ประหนึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ที่ต้องติดต่องานเอง แบบทุ่มทุนสร้างมาก เราถามเขานะว่า ‘พี่ขนาดนี้จริงๆ เหรอคะ’ แต่เราดีใจนะ เพราะใครจะไปคิดว่าคุณกาละแมร์เขาจะทุ่มทุนแบบนี้ เพราะตัวเขาเองงานเยอะอยู่แล้ว ไม่คิดว่าเขาจะมาสนใจลูกกรอกอย่างเรา มันไม่น่าเชื่อ ชงเข้มมาก และรู้หมดยิ่งกว่าแฟนคลับอีก”

เชียร์ - ฑิฆัมพร

พอรายการออกอากาศไป คนอาจจะฟินจิกหมอนกระจุยยิ่งกว่าเดิม?

“ไม่อยากคิดเลยว่ารายการจะตัดออกมาเป็นยังไง ไม่กล้าดูเลยพูดจริงๆ ตัวอย่างยังไม่กดดูเลยตอนนี้”

ถ้าไม่เกี่ยวกับความจิ้น การมาเจอกันท่ามกลางคนเชียร์เยอะๆ ขนาดนี้ ใจต้องนิ่งนะ?

(ยิ้ม) “เดี๋ยวว่าจะไปปฏิบัติธรรมสักหน่อย เพราะตอนนี้ใจไม่ค่อยนิ่งเท่าไหร่” (หัวเราะ)

สาเหตุที่คนจิ้นไปไกลขนาดนี้ อาจเพราะเวลาเจอกันเรามีสีหน้าแววตาอะไรที่ทำให้คนคิดหรือเปล่า?

“ปกติเจอกันก็แกล้งกันอะไรอย่างนี้อยู่แล้ว นั่นอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนจิ้น เพราะเอะอะก็แกล้งกัน บวกกับคนอาจจะไม่ค่อยเห็นภาพเต้ยแกล้งใคร ดูแสบ ดูซน”

เหมือน “เชียร์” ได้ดึงส่วนนั้นของ “เต้ย” ออกมา?

“ดึงดาร์กไซด์เหรอคะ (หัวเราะ) ถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะทำงานเราก็อยากทำให้สนุก ยิ่งเล่นเป็นคู่รักด้วย ถ้าสมมุติว่าอยู่ในกองไม่คุยกันเลย แล้วพอเข้าฉากต้องแสดงว่ารักกันมากเหลือเกิน มันไม่ได้นะ มันต้องสนิทกันสิ พอหน้ากองมันต้องมีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงอะไรบางอย่าง”

ก่อนหน้านี้ “เชียร์” เองมีนักแสดงหนุ่มที่เป็นคู่จิ้นมาเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่า “เต้ย” จะเป็นคนที่พีคที่สุดเลย?

“พีคไหมไม่รู้ แต่รู้สึกว่าคนบนไว้เยอะมาก อย่างตอนไปรายการ 3 แซ่บ เขาบนว่าถ้าพี่แมร์ทำสำเร็จ จะใช้รูปทวิตเตอร์เป็นรูปพี่แมร์กัน ซึ่งทุกคนใช้รูปพี่แมร์เป็นดิสเพลย์หมด คือมันดูมีพลังในทุกการกระทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่”

ซงซงคัพเพิล
แฟนคลับ “เชียร์ – เต้ย” ทำรูปเปรียบเทียบความเหมือนของคู่ “ซงซง” และ “พงเชียร์”

จะมีโอกาสเป็นแบบ “ซงจุงกิ” และ “ซงฮเยคโย” ไหม?

“นั่นไง! เราเห็นเราก็อยากมีความสุขแบบเขานะ เอาจริงๆ (หัวเราะ) เชียร์เคยมองไว้ว่าโพสิชั่นเวลาที่เชียร์กับเต้ยเป็นอย่างคู่ซงซง (SongSong Couple) ได้ก็จะดี (เสียงสูง) อันนี้คือมองไว้ก่อนที่เขาจะประกาศนะ คือมองว่ามันเป็นเพื่อนการแสดง เป็นพาร์ตเนอร์ที่ดูห่วงใย ดูเทคแคร์กันดี น่ารักอะ คือรู้สึกว่าถ้าเรามีพระเอกแบบซงจุงกิที่เป็นอย่างนี้ก็คงจะดีเนอะ (ยิ้ม) ก่อนที่เขาจะประกาศแต่งงาน (ย้ำชัดเจน) เราเคยรู้สึกว่าอยากเป็นแบบนี้”

คนเชียร์ขนาดนี้ ยั้งใจตัวเองได้จริงๆ ไหม?

“เขินนะ พูดตรงๆ ว่าส่วนนึงเวลาเล่นมันรู้สึกเขินอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้แรงยุแบบอื้อหือ เอาง่ายๆ จากคนที่ไม่เคยคิดอะไร จากคนที่สัมภาษณ์ด้วยกันปกติ มันทำให้เรารู้สึกว่าแรงผลักดันเราเยอะ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นมันต้องมีหลายๆ อย่างประกอบกัน”

อะไรบ้างที่คิดว่า “เชียร์” และ “เต้ย” เหมือนกัน?

“มีหลายอย่าง หลายมุม หลายเรื่องที่เราประทับใจในตัวเต้ย ความน่ารักอย่างหนึ่งเลย เชียร์คิดว่าผู้ชายที่รักครอบครัวมากๆ อย่างนี้ เช่น จุ๊บปากพ่อ พูดจริงๆ เราไม่ค่อยเห็น ยิ่งคนสมัยใหม่ การแสดงมุมอย่างนี้กับครอบครัวหายากนะ และเชียร์มีความรู้สึกว่าเต้ยก็เป็นนักแสดง เป็นดาราที่ทำงานมาประมาณนึงแล้ว แต่ยังดูมีความสมถะ ดูมีความขี้งก ไม่ชอบสิ้นเปลืองกับการใช้จ่าย ดูเป็นคนประหยัด อันนี้เชียร์ชอบนะ คล้ายๆ เชียร์ เพราะเชียร์ค่อนข้างเป็นคนที่รู้คุณค่าของเงิน เลยรู้สึกชอบ”

มีโมเมนต์อะไรไหมที่ดูหยอกๆ กันแบบพิเศษ?

 “คือตอนนี้เชียร์ว่ามันดีแล้วนะ มันดีตรงที่ว่าเราทำผลงานแล้วมีคนมารักมาชอบขนาดนี้ ในหลายๆ ส่วนที่คิดว่าจะมองไปไกลขนาดนั้นไหม อย่างที่ทุกคนอยากให้เป็น คือจริงๆ แล้วถ้ามันจะเป็นอย่างนั้นได้จริงๆ เชียร์ไม่ได้ปฏิเสธนะว่าจะดีหรือไม่ดียังไง แต่จะเป็นขนาดนั้นเลยไหม มันคอมมิตไม่ได้จริงๆ แต่ตอนนี้ดีแล้ว ทำอะไรมีแต่คนรักและเอ็นดู แค่นี้เกินที่เราคาดไว้แล้ว เสพโมเมนต์ปัจจุบัน ทำอะไรดีๆ ต่อกันพอแล้ว”

เชียร์ - ฑิฆัมพร

เห็นว่าตอนนี้จะเป็นนักธุรกิจพันล้านแล้ว?

“เป็นแพลนที่เราตั้งเป้าไว้อยู่แล้วว่าจะทุ่มงบ 20 เปอร์เซ็นต์จากยอดขายเพิ่มไลน์คอสเมติก บวกกับตอนนี้จะรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้นในกลุ่มอาเซียน ในรูปแบบจับมือกับโลคัลพาร์ตเนอร์ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง จีน เวียดนาม หลังจากนั้นก็มีแผนที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ค่ะ”

เห็นว่าจะมีไปออกทริปกับ “เต้ย” ด้วย?

“เป็นช่วงที่ประจวบเหมาะกับที่เราวางแผนไว้ว่าจะทำอะไร มีแคมเปญฉลองครบรอบ 7 ปีของชาเม่ มีการแจกรางวัลขอบคุณลูกค้า มีทั้งแจกโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งพาผู้โชคดีไปท่องเที่ยว ล่องเรือ ที่พักศรีพันวากับเชียร์ – เต้ย ซึ่งที่พาเต้ยไปด้วย เพราะในแคมเปญนี้เรามองว่าไหนๆ เราทั้งคู่ช่วงนี้คนเอ็นดูเยอะขึ้น เลยจัดเป็นกิจกรรมพิเศษขึ้นมาขอบคุณแฟนๆ ด้วย คาดว่าจะไปในช่วง ต.ค. – พ.ย. นี้ค่ะ”

คิดเผื่อไหม ถ้าวันนึงคนไม่ได้จิ้นเราเยอะเท่านี้ แล้วเราสองคนจะยังไง?

“อย่างที่บอกคือทุกสิ่งทุกอย่างมันดีกับทั้งสองคนอยู่แล้ว ธรรมชาติของเราทั้งสองคน ไม่ใช่ว่าตั้งใจทำหรือมาปั้นมาแต่งเพื่อให้ได้อะไรมา ฉะนั้นแล้วตอนนี้สิ่งที่เกิดขึ้นมันดีเกินกว่าที่เราตั้งใจทำงานไปอีก เกินกว่าธรรมชาติของเราทั้งสองคนที่ก่อเกิดเป็นความน่ารักและมิตรภาพที่ดี ฉะนั้นถ้าวันนึงกลุ่มคนเหล่านี้เขาอาจจะหายไป ถ้าเชียร์กับเต้ยไม่ได้เจอกันในผลงานบ่อยๆ สำหรับเชียร์ไม่เป็นไร เพราะแค่นี้ก็มากเกินพอแล้วจริงๆ มันคุ้มค่าแล้วละ”

ช่วงนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีหนุ่มๆ คนอื่นเข้ามาเลย เพราะข่าวหรือเปล่า?

“ต้องบอกอย่างนี้ว่า เชียร์ไม่ได้ปิดกั้นนะ กับการที่ใครจะเข้ามา เพราะสถานะตอนนี้เราโสดจริงๆ แต่ว่าเราจะไปลงตัวกับใคร มันก็เป็นอีกเรื่องนึง”

เต้ย  - เชียร์
สตูดิโอโพลีพลัสแทบแตกเมื่อ “แก๊งลูกหมี” แฟนคลับ “เต้ย  – เชียร์” แห่ไปให้กำลังใจทั้งสอง

สุดท้ายอยากบอกอะไรกับบรรดาลูกหมีบ้าง?

“ขอบคุณจริงๆ นะคะ รักมาก ไม่ต้องให้อะไรเยอะหรอก เพราะแค่ได้เห็นพลังของพวกคุณขนาดนี้เราดีใจแล้ว ไม่จำเป็นต้องซัพพอร์ตอะไรที่เป็นรูปธรรมเลย แค่สิ่งที่ส่งมาให้พวกเรา แค่นี้ก็ชื่นใจจะแย่แล้ว อยากจะบอกนะคะว่าติดตามตลอดว่าพวกคุณคุยอะไรกัน เราแฮ็ปปี้ที่เห็นพวกคุณมีความสุข แต่อย่าคาดหวังว่าจะต้องมาคู่กันสิ ผลงานต้องมีออกมา คือทุกอย่างมันมีหลายองค์ประกอบรวมกัน เพราะฉะนั้นรักเราพอแล้ว ถ้าโชคดีคงได้เห็นผลงานอีก ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่ลุ้น ที่บนกัน ก็ให้ลุ้นกันด้วยความตื่นเต้นไป อย่าถึงขนาดกดดันจนตัวเองไม่มีความสุขนะคะ

…เอาเป็นว่าลุ้นกันแบบพอเหมาะพอดี ปล่อยไปตามธรรมชาติอย่างที่สาว “เชียร์” ว่าแล้วกันนะจ๊ะ…

 

กรี๊ด! “บี้-สุกฤษฎิ์” ทำเซอร์ไพร้ส์อาจารย์สาว มอบเพชร 2.10 กะรัต ฉลอง 39 ปี นิตยสาร “แพรว”

เห็นภาพแล้วอย่าเพิ่งตกใจว่าหนุ่ม “บี้ – สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว” ทำเซอร์ไพร้ส์ขอสาวที่ไหนแต่งงาน เพราะจริงๆแล้วภาพที่เห็นคือกิจกรรม “แพรวฉลองก้าวสู่ปีที่ 39 แจกแหวนเพชร” จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ณ ห้องอาหารบางกอก ไฮทส์ ชั้น 39 โรงแรมเดอะ คอนทิเน้นท์ กรุงเทพฯ

โดยเมื่อเดินทางมาถึงปุ๊บ หนุ่ม “บี้” ตรงดิ่งไปที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่มเพื่อปรุงกาแฟรสกลมกล่อมทันที ทั้งยังฟุ้งว่าสูตรนี้เป็นสูตรของครอบครัวที่ทำขายและได้รับความนิยมมาก และหลังจากทำเสร็จเรียบร้อย บาริสต้าหนุ่มได้ยกมาเสิร์ฟด้วยตัวเอง ซึ่งทันทีที่พ้นประตู “คุณสิริพร ฑิตะลำพูน” อาจารย์สาวมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด ผู้โชคดีของกิจกรรมนี้ มีท่าทีที่ตกใจมาก ก่อนจะกล่าวขอบคุณศิลปินหนุ่มที่อุตส่าห์ลงแรงชงกาแฟให้ด้วยตัวเอง ขณะที่หนุ่ม “บี้” ก็ตกใจเช่นกัน เมื่อได้ทราบว่าอาจารย์สาวผู้โชคดีเดินทางจากหัวหินเพื่อมารับรางวัล พร้อมกล่าวแสดงความยินดีกับเธอด้วย

“บี้” มอบแหวนให้ผู้โชคดีในกิจกรรม “แพรวฉลองก้าวสู่ปีที่ 39 แจกแหวนเพชร”

จากนั้นหนุ่ม “บี้” ได้หยิบกล่องแหวนเพชรแบรนด์ “พรีเมียร่า” (Premiera) ซึ่งทำจากพิ้งค์โกลด์และไวท์โกลด์ ประดับด้วยเพชรงามน้ำหนัก 2.10 กะรัต มูลค่า 590,000 บาท มาสวมให้ผู้โชคดี ซึ่ง “บี้” ได้เผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้เป็นตัวแทนมาส่งมอบสิ่งที่มีค่า ส่วนตัวคิดว่าสนุกดี เหมือนได้ลองซ้อมขอสาวแต่งงาน

สุดท้ายหนุ่ม “บี้” ยังได้กล่าวอวยพรการฉลองก้าวสู่ปีที่ 39 ของ “นิตยสารแพรว” ว่า “ถ้าให้เปรียบอายุของ ‘แพรว’ ตอนนี้ก็สามารถเรียกแม่ได้เลย ก็ขอให้ทีมงานทุกคน รวมถึงผู้อ่านทุกท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง และขอให้รักษาสุขภาพด้วยนะครับ”

“คุณสิริพร ฑิตะลำพูน” ถ่ายรูปร่วมกับ “บี้ – สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว”

ขณะที่ “คุณสิริพร ฑิตะลำพูน” อาจารย์สาวมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด ผู้โชคดีที่ได้รับแหวนเพชรวงแรกจากแบรนด์ “พรีเมียร่า” (Premiera) กล่าวว่า “ขอบคุณนิตยสารแพรวที่มีกิจกรรมดีๆแบบนี้ ไม่รู้จะอธิบายยังไง เราไม่ได้ทำอะไรให้มากมาย แต่แพรวทำให้ขนาดนี้ ต้องขอขอบคุณจริงๆค่ะ”

สำหรับกิจกรรม “แพรวฉลองก้าวสู่ปีที่ 39 แจกแหวนเพชร” ยังเหลือแหวนเพชรสุดหรูอีก 2 วง จาก “ยูบิลลี่ ไดมอนด์” (JUBILEE DIAMOND) และ “บิวตี้ เจมส์” (Beauty Gems) โดยแหวนวงที่ 2 “ยูบิลลี่ ไดมอนด์” (JUBILEE DIAMOND) มูลค่า 590,000 บาท มีกติการ่วมสนุกและลุ้นรับรางวัลง่ายๆ เพียงตัดคูปองของแบรนด์แหวนเพชรที่คุณชื่นชอบในนิตยสารแพรวให้ครบ 6 ฉบับ  ตั้งแต่ฉบับที่ 10 มิ.ย. – 25 ส.ค. 2560 พร้อมเขียนเรื่องราวความผูกพันของคุณกับ “แพรว” ติดลงบนไปรษณียบัตร ระบุชื่อ – นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล เฟซบุ๊ก และหมายเลขสมาชิก (ถ้ามี) และส่งมาที่ นิตยสารแพรว 378 ถนนชัยพฤกษ์  แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 หรือติดตามความพิเศษเพิ่มเติมได้ที่ “นิตยสารแพรว” รวมถึงทางเฟซบุ๊ก “นิตยสารแพรว” และ praew.com

ดูดวงรายวัน ประจำวันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม 2560

ดูดวงรายวัน ประจำวันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม 2560 เช็คทุกวัน ทันทุกดวงกับ แพรว ดอทคอม

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  วันนี้จะมีคนเข้ามาขอคำปรึกษา แต่พยายามฟังหูไว้หู เพราะคนที่มีจิตใจดีมักตกเป็นเหยื่อหลอกลวงของผู้ที่จิตใจไม่ดีได้ง่าย

การเงิน : ท่านใช้จ่ายทรัพย์เพื่อช่วยคนอื่น จนตัวเองเดือดร้อน ควรช่วยเท่าที่ช่วยได้ค่ะ

ความรัก : วันนี้ราบรื่นดี ติดนิดเดียวตรงที่ท่านใจน้อย แสนงอนก็เลยมีหงุดหงิดเสียอารมณ์บ้าง คนโสด  หากมีแฟนแล้ว วันนี้ท่านจะอยู่ชิดติดกัน ไม่ไปไหนเลยทีเดียว

สุขภาพ : ควรงดอาหารที่มีน้ำตาล ไขมัน เพราะคอเรสเตอรอลท่านพุ่งกำลังสูง

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  ท่านสามารถทำงานได้ในทุกๆ ตำแหน่งที่ได้รับมอบหมาย และมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะทำให้สำเร็จ จึงไม่แปลกใจเลย หากจะเป็นที่โปรดปรานของผู้บังคับบัญชา

การเงิน :  ผ่านไปได้อย่างเฉียดฉิวทุกครั้ง

ความรัก : วันนี้ความรักของท่านลุ่มหลง และฉาบฉวย แสดงความเป็นเจ้าของต่อหน้าธารกำนัล จนทำให้มีปากเสียงกันกลางสาธารณะ คนโสด ท่านไม่ได้เป็นที่หนึ่ง แต่ท่านกำลังอยู่ในการแข่งขันเพื่อให้ได้เป็นที่หนึ่ง

สุขภาพ : ควรระวังเรื่องลำไส้อักเสบ ระบบย่อยอาหาร ท้องอืด ท้องเฟ้อ

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  :  ท่านจะได้ทำงานที่เกี่ยวกับการสงเคราะห์ และช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก หรือไม่ก็เป็นงานที่เกี่ยวพันกับธุรกิจระหว่างประเทศ หากท่านมุ่งมั่นทำแต่คุณงามความดีก็จะนำพาให้ชีวิตมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง

การเงิน :  จะหมดกับการทำบุญทำทาน ซึ่งผลบุญในวันนี้จะตอบแทนท่านในวันหน้า

ความรัก : วันนี้ไม่ค่อยมีความสุข เพราะท่านคำนึงถึงความถูกต้องทางสังคมมากกว่าความพึงพอใจของกันและกัน คนโสด วันนี้ต้องผ่านด่านเครือญาติก่อนนะคะ

สุขภาพ : ระวังโรคไซนัส จากการแพ้อากาศหรือฝุ่นละออง

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :  ยังอยู่ไม่ติดที่ ชีพจรยังลงเท้าตลอดเวลา วันนี้ท่านอาจเกี่ยวพันกับธุรกิจอิเลคทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ หรือนำเข้าส่งออกทุกประเภท แต่อาจติดขัดที่บริวาร จะไม่เกรงใจท่าน

การเงิน   :  หมดกับการลงทุน และเรื่องของความรัก

ความรัก : วันนี้เริ่มเบื่อๆ เซ็งๆ ยังเป็นวันหยุดอยู่ ก็ชวนกันไปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศ น่าจะดีขึ้น คนโสด เบื่อๆ อยากๆ พอมีแฟนแล้วท่านก็คาดหวังสูง จนกลายเป็นไม่อยากมีแล้ว

สุขภาพ : พกยาอม ยาดม ยาหม่องไปด้วย ระวังวูบ

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : ขอกากบาท ให้ระวัง เหตุการณ์เปลี่ยนไป วันนี้ท่านมีทิฐิมานะสูงจนไม่สนใจความรู้สึกของเพื่อนร่วมงาน จากมิตรเมื่อวานก็ได้กลายเป็นศัตรู ท่านอาจถูกใส่ร้ายจนตกเป็นแพะรับบาปโดยไม่รู้ตัว

การเงิน : หลีกเลี่ยงการเข้าไปข้องเกี่ยวกับเงินที่ผิดกฎหมาย จะทำให้ท่านล้มละลายได้

ความรัก : วันนี้ท่านอาจพบกับความสะเทือนใจ จากการถูกคนรักหลอกลวง มีความรักแบบซ่อนเร้น อย่าเพิ่งคิดเยอะ รอให้ผ่านวันนี้ไปก่อน คนโสด เตรียมใจไว้หน่อย ท่านอาจอกหักกลางอากาศ

สุขภาพ :  ระวังโรคที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงและผู้ชาย

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : อะไรก็ไม่แน่นอน เมื่อวานดวงสมบูรณ์ทุกอย่าง แต่วันนี้ท่านต้องระวังเพื่อนร่วมงาน และคนใกล้ชิดจะเลื่อยขาเก้าอี้ หรือแทงข้างหลัง ระวังการติดต่อธุรกิจด้วย อาจถูกหลอกหรือโกง

การเงิน :  ระวังทะเลาะเรื่องการหยิบยืมเงิน หรือถูกคนใกล้ชิดโกง

ความรัก : วันนี้อาจมีเรื่องมือที่สามมาเกี่ยวข้อง เข้มแข็งไว้ หากเขาเป็นของเรา อย่างไรก็ต้องอยู่กับเรา คนโสด คนเข้ามาวันนี้ เชื่อใจไม่ได้นะคะ

สุขภาพ  :  ระวังจะเกิดบาดแผลจากของมีคม

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : ท่านมีเกณฑ์ได้เดินทางไปทำงานต่างประเทศ รวมไปถึงทำงานในสถานบันเทิงกลางคืนหรือบ่อนการพนัน

การเงิน : ระวังถูกหลอก หรือตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพ

ความรัก :  วันนี้ท่านอาจถูกบังคับหรือฝืนใจที่จะต้องร่วมทางกับคนที่ท่านไม่ได้อยากไป อาจติดว่าขัดผู้ใหญ่ไม่ได้ คนโสด ระวังคนมาหลอกให้รักนะคะ เพื่อต้องการผลประโยชน์

สุขภาพ :  ระวังจะมีปัญหาเกี่ยวกับโรคเลือด

 

70+ ชุดแต่งงานแบบสั้น ซื้อครั้งเดียวใส่ได้หลายโอกาส

account_circle

ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ เจ้าสาวจะใช้เงินแต่งสวยทั้งทีต้องคิดแล้วคิดอีกจริงไหมคะ โดยเฉพาะเวลาจะควักเงินจ่ายค่าชุดแต่งงานที่แพงแสนแพง แต่ส่วนใหญ่ใช้ครั้งเดียวก็แขวนลืม ถ้าอย่างนั้นจะดีกว่าไหม ถ้าคุณควักเงินจ่ายแค่ครั้งเดียว แล้วได้ชุดแต่งงานที่สามารถใส่ต่อได้อีกหลายโอกาส ซึ่งชุดที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างต่อเนื่องที่ เราขอนำเสนอให้เป็นแนวทางพิจารณาคือ ชุดเจ้าสาวแบบสั้น เหตุเพราะคุณไม่ต้องลากชายกระโปรงกรุยกรายให้กังวล ไม่มีใครเม้าว่าเว่อร์วัง บางชุดใส่เข้าประชุมก็ดูสุภาพ ใส่เข้าพบผู้ใหญ่ก็ไม่ผิดหวัง แถมวันพระยังหยิบมาใส่เข้าวัดทำบุญได้ด้วยนะ

ทั้งหมดนี้ถ้าคุณกังวลเหลือเกินว่าใส่ไปจะรอดไหม บอกเลยตรงนี้ว่า ชุดเจ้าสาวแบบสั้นมีหลากหลายให้เลือกนะคะ แล้วบอกเลยว่าไม่ต้องกังวลว่าขาใหญ่ ขาลายขาไม่เรียวแล้วจะยืนสวยเพียวโชว์ชุดกันไม่ได้ ก็แหม..สมัยนี้ตัวช่วยเพียบ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรองเท้าส้นสูงมาเสริมสง่า ถุงน่องเนื้อดีที่เกิดมาเพื่อพรางจุดบกพร่อง แต่สำคัญกว่านั้นคือ สไตล์ชุดเจ้าสาวแบบนั้นที่แค่เลือกตรงกับรูปร่างก็สวยจบได้ในหลายโอกาส ซึ่งวันนี้เราไม่สรรหาคำเรียกยากๆ มาให้จำ แต่จะบอกสไตล์ชุดเจ้าสาวง่ายๆ ให้คุณคิดภาพตามและบอกต่อได้สบาย ตามนี้เลยค่ะ

ชุดเจ้าสาวแนวกระโปรงมินิสเกิร์ต 

คือชุดเจ้าสาวแบบกระโปรงสั้นลักษณะสอบเข้ารูป ไม่ต่างอะไรกับกระโปรงมินิสเกิร์ตที่คุณใส่เที่ยวเล่น ชุดแบบนี้ให้ความน่ารักอยู่ในที ซึ่งถ้าคุณเป็นสาวตัวเล็กจะยิ่งน่าทนุถนอม แต่ถ้าเป็นเจ้าสาวร่างโย่งจะได้ความเซ็กซี่ทันที เพราะสั้นๆ แบบนี้ได้โชว์ช่วงขายังไงล่ะ แต่ชุดแนวนี้ก็มีข้อพึงระวังคือ ชั้นในที่เลือกมาใส่ต้องเซฟตี้มากๆ นะคะ เพราะด้วยความสั้นที่ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบสั้นสอบหรือสั้นพองๆ ความวาบหวิวจากชั้นในก็เป็นอะไรที่ต้องเตรียมการให้ดี

ชุดเจ้าสาวแบบสั้น
CHEERS CYNTHIA ROWLEY
HAYLEY PAIGE
HAYLEY PAIGE
Christian Siriano for Kleinfeld, Bridal Spring 2017, April 18 2016, New York
CHRISTIAN-SIRIANO

ชุดเจ้าสาวแบบสั้นแนวเข้ารูปยาวประมาณนึง 

ชุดเจ้าสาวแบบนี้เป็นลักษณะกึ่งๆ เดรสใส่ไปทำงานเลยนะคะ ส่วนใหญ่เป็นแบบเข้ารูปแล้วเพิ่มบูกเล่นเล็กๆ เช่นบริเวณชายกระโปรงอาจมีระบายแบบๆ หรืออาจมีกระโปรงผ้าโปรงคลุมอีกชั้นเพิ่มความมีอะไร หรือแม้แต่เจ้าสาวบางคนเลือกหาเสื้อคลุมมาจับคู่ เพื่อความสุภาพบวกๆ พอเข้าสู่ปาร์ตี้ก็สลัดทิ้งพร้อมเปรี้ยวซ่าได้ทันท่วงที

sarah-seven
SARAH SEVEN
Oscar de la Renta, Bridal Spring 2017, New York, April 15 2016
OSCAR DE LA RENTA1
austin-scarlett
AUSTIN SCARLETT

ชุดเจ้าสาวแบบกระโปรงทรงสุ่ม 

จริงๆ แล้วกระโปรงของชุดเจ้าสาวแบบนี้เห็นกันเยอะมากขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่จะเป็นการเรียกกันว่ากระโปรงบัลเล่ต์บ้างล่ะ กระโปรงทูทู่บ้างล่ะ จุดเด่นคือความยาวจะเลยเข่าลงมาครึ่งน่องล่าง ไม่ใช่ยาวถึงตาตุ่ม ตัวกระโปรงจะมีความพองฟู่จากการจับจีบที่ช่วงเอวหรือเพิ่มชั้นกระโปรงก็ว่ากันไป

sareh-nouri
SAREH NOURI
Naeem Khan, Bridal Spring 2017, New York, April 16 2016
NAEEM KHAN4
christos-costarellos2
CHRISTOS COSTARELLOS

ส่วนว่าชุดไหนเหมาะกับคุณหรือเปล่า บอกเลยว่างานนี้ต้องลองค่ะ เพราะแม้คุณจะชอบชุดเจ้าสาวแบบสั้นมินิสเกิ๊ต พอลองใส่จริงอาจไม่เหมาะ หรื้อแม้แต่แนวกระโปรงสุ่มที่คุณคิดว่าแลดูหวานไป เมื่อมาอยู่บนตัวคุณแล้วอาจเซย์เยสในทันทีใครจะรู้ จริงไหมคะ

keyboard_arrow_up