ครั้งแรกในรอบ 200 ปี สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น จะทรงสละราชสมบัติ

สื่อแดนอาทิตย์อุทัยรายงานว่า กษัตริย์พระองค์ที่ 125  สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น จะทรงสละราชบัลลังก์เบญจมาศ ในวันที่ 31 มี.ค.2019

จากซ้าย สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ,เจ้าชายนะรุฮิโตะ มกุฎราชกุมาร,เจ้าหญิงมะซะโกะ มกุฎราชกุมารีและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ

เมื่อกลางปีที่ผ่านมารัฐบาลญี่ปุ่นได้ผ่านร่างกฎหมายการสละราชบัลลังก์ซึ่งถือเป็นการเปิดทางให้สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นกษัตริย์พระองค์ที่ 125   สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ พระชนม์ 83 พรรษา ซึ่งทรงมีพระประสงค์สละราชบัลลังก์เบญจมาศ เนื่องจากเห็นว่าพระองค์ทรงอยู่ในวัยชราภาพ ทำให้การปฏิบัติพระราชกรณียกิจเป็นไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงนับเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิองค์แรกของประเทศญี่ปุ่นในรอบเกือบ 200 ปี ที่ทรงมีพระราชประสงค์สละราชบัลลังก์ นับตั้งแต่สมเด็จพระจักรพรรดิโคกะกุ สละราชบัลลังก์ เมื่อปี ค.ศ.1817

สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ พระองค์ทรงเป็นที่เคารพเทิดทูนขอประชาชนชาวญี่ปุ่น

และเมื่อเร็วๆนี้ เอเอฟพี ได้รายงานเพิ่มเติมว่าหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น อาซาฮีชิมบุน อ้างแหล่งข่าวในรัฐบาล ซึ่งระบุว่า นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ จะต้องประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงและสมาชิกราชวงศ์ญี่ปุ่นในเดือน พ.ย. ก่อนที่จะประกาศวันอย่างเป็นทางการ ขณะที่พระโอรสองค์ใหญ่ เจ้าฟ้าชายนารุฮิโตะ มกุฎราชกุมารซึ่งมีพระชนมายุ 57 พรรษา จะเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระจักรพรรดิเหนือบัลลังก์เบญจมาศในวันที่ 1 เม.ย. ปี 2019 ซึ่งก็คือวันถัดไปนั่นเอง

ราชวงศ์ญี่ปุ่น

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 60 มีการเปิดเผยว่าหนังสือพิมพ์อาซาฮีชิมบุนถือเป็นสื่อเจ้าแรกที่ออกมาระบุวันสละราชสมบัติ แต่โฆษกสำนักพระราชวังญี่ปุ่นยืนยันกับเอเอฟพีว่า “ยังไม่มีการตัดสินใจเรื่องนี้” และปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม

ขณะที่มีการกล่าวอ้างก่อนหน้านี้ว่าสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะซึ่งมีพระชนมายุ 83 พรรษาเคยมีพระราชดำรัสไว้ว่า “ข้าพเจ้ารู้สึกโล่งใจอย่างยิ่งที่สมเด็จพระจักรพรรดิจะได้ทรงมีวันหยุดพักผ่อน ในขณะที่พระชนมายุมากแล้ว”

เติมดีเทลให้ชุดแต่งงาน กับ 10 ชุดสวยพร้อมมุกเม็ดงามสุดเลอค่า

account_circle

นอกจากลูกไม้เนื้อดีที่เหล่าดีไซเนอร์เลือกใช้มาประดับบนชุดแต่งงานกันมาทุกยุคแล้ว ยังมีวัสดุที่จะช่วยเพิ่มความเลอค่าให้กับชุดแต่งงานของคุณอีกหนึ่งอย่าง นั่นก็คือ ไข่มุก ซึ่งไม่ว่าจะเป็นมุกแท้ มุกเทียม เราบอกเลยว่า มองเข้าไปเมื่อไหร่ก็ให้อารมณ์หวานที่ดูละมุน แถมยังมีความกรุ่นในความหวานและน่าทะนุถนอมอีกด้วย

วันนี้ แพรว wedding จัดมาให้กับ 10 ชุดเจ้าสาวที่ใช้ไข่มุกมาประดับ ไม่ว่าจะเป็นช่วงแขน ลำตัว ผ้าคลุมไหล่ หรือแม้แต่ปูเต็มๆ บนลำตัว บอกเลยว่าสวยงามไม่แพ้ผ้าลูกไม้เนื้อดีแม้แต่น้อย

Victoria Kyriakides
Alexandra Grecco
Gracy Accad
Alexandra Grecco
Victoria Kyriakides
Alexandra Grecco
Viktor & Rolf
Lela Rose
Carolina Herrera
Alexandra Grecco
แม่ชีหนิง

แม่ชีหนิง สึกออกมาก็แซ่บเลย ลุยถ่ายแบบสวย เฉี่ยว เปรี้ยวได้แม้ไร้ผม

Alternative Textaccount_circle
แม่ชีหนิง
แม่ชีหนิง

สำเร็จไปอีกหนึ่งความตั้งใจดี ตั้งใจจริง จิตกุศลของแม่ชีหนิง “หนิง – ปณิตา ธรรมวัฒนะ” กับการร่วมอุปสมบทในโครงการบวชพุทธสาวิกาศีล 10…199 ชีวิตถวายพ่อ ที่เสถียรธรรมสถาน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ไปเมื่อวันที่ 13 ต.ค.60 ที่ผ่านมา

A post shared by Panita Tumwattana (@ningpanita) on

ล่าสุด เมื่อวาน (18 ต.ค.60) ถึงกำหนดการลาสึกของแม่ชีหนิง เจ้าตัวได้โพสต์ผ่านอินสตาแกรมไว้ว่า

“อีกหนึ่งความตั้งใจของการบวชครั้งนี้ เพื่อตอบแทนบุญคุณแม่ แม่เลี้ยงลูก 4 คนเพียงคนเดียว แม่ไม่มีลูกชาย เคยพูดไว้นานมากว่าจะบวชให้ ไม่มีโอกาสซักที ….ทุกสิ่งที่เป็นทางโลกที่ดีที่สุดทุกอย่างแค่ขอให้แม่บอกเราเราจะรีบทำทันทีและในวันนี้ได้ทำสิ่งสุดท้ายที่ตั้งใจที่จะทำให้แม่ครบแล้วในหน้าที่ของลูกที่ควรจะตอบแทนบุญคุณ กตัญญูและกตเวทิตา ไม่เคยเห็นแววตาแม่มีความสุขขนาดนี้ พูดกับตัวเองว่า ตายก็ไม่เสียชาติเกิดละ #เรื่องราวที่ดีที่สุดที่อยากแชร์#ฉันเกิดในแผ่นดินของรัชกาลที่๙#70ปี70ล้านความดีอนุสาวรีย์มีชีวิตถวายพ่อ”

และหลังจากสึกเสร็จเรียบร้อย สาวหนิงก็ลุยงานถ่ายแบบกับก๊วนเพื่อนซี้อย่าง เป้ย ปานวาด, กระแต ศุภักษร, เมย์ พิชญ์นาฏ ต่อเลยทันที ต้องยอมรับเลยว่าแม้สาวหนิงจะไร้ผม แต่ความสวยเฉี่ยวกับโดดเด่นไม่เป็นรองใคร โดยไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าแรงๆ แค่เมคอัพสุภาพโทนสีส้มน้ำตาลหรือสีอิฐก็ดูเปรี้ยวสวยสะกดตาแล้ว

เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม.
ภาพ IG : nan_pattanahirun / ppanward

กาแกน มาลิค พระเอกแดนภารตะเป็นเจ้าภาพจัดงานถวายไว้อาลัยในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่อินเดีย

กาแกน มาลิค พระเอกดังของแดนภาระตะเป็นเจ้าภาพจัดงานถวายไว้อาลัยในหลวงรัชกาลที่ ๙ ในอินเดีย

ภาพจากเรื่อง หนุมาน สงครามมหาเทพ

กาแกน มาลิค พระเอกชื่อดังของอินเดีย ซึ่งมีผลงานเป็นที่รู้จักมากมายไม่ว่าจะเป็นหนุมาน สงครามมหาเทพ,พระพุทธเจ้า ฯลฯ ซึ่งเคยเดินทางมาเมืองไทยหลายต่อหลายครั้ง ล่าสุดได้ได้ส่งข้อความผ่านแฟนเพจ India Actors Thailand FC.เป็นจดหมายแสดงความเสียใจต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  บรมนาถบพิตร ซึ่งแฟนคลับได้แปลเป็นภาษาไทยออกมาโดยมีข้อความว่า

“ในฐานะของพุทธศาสนิกชน ซึ่งเดินทางมาประเทศของคุณอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นผลมาจากคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทำให้ผมชื่นชมวัฒนธรรมไทยเป็นอย่างมาก พระพุทธองค์ทรงนำทางสู่ความสุขอันแท้จริง โดยถ่ายทอดผ่านพระสงฆ์ซึ่งเป็นสาวกของพระองค์ ผมได้รับประสบการณ์จริงจากประเทศที่สวยงามแห่งนี้ ทั้งความเมตตาและการต้อนรับที่ดีตลอดเวลาที่ผมมาเยือนที่นี่

ผมศรัทธาในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช อย่างที่ทราบกันว่าพระองค์คือกษัตริย์แห่งเหล่ากษัตริย์ทั้งปวง ในตลอดรัชสมัยการครองราชย์ 70 ปี พระองค์มีบทบาทสำคัญในการเป็นพุทธอัครศาสนปถัมภกและยังมีบทบาทสำคัญในการปลูกฝังความเป็นพุทธศาสนิกชนให้ประชาชนของท่านนอกเหนือจากการพัฒนาทางด้านอื่นๆ พระองค์ทรงเป็นผู้ริเริ่มโครงการพัฒนาต่างๆ เช่น โครงการชัยพัฒนา โครงการฝนหลวงพระราชทานและทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ ยังเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ เป็นเวลา 1 ปีแล้วที่พระองค์เสด็จสวรรคต ผมก็ยังเห็นความอาลัยและความรักอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อพระองค์มาจากทั่วโลกอย่างไม่ขาดสาย

กาแกน มาลิค พระเอกแดนภารตะ

เพื่อให้ชาวอินเดีย ได้แสดงความอาลัยเพื่อแสดงความเคารพต่อพระองค์ และยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง 2 ประเทศ ผมได้จัดงาน “ถวายความอาลัยแก่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช” ขึ้น สถานที่จัดงานคือ Deshpande Hall เมือง Nagpur ประเทศอินเดีย ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 เวลา 18.00 น. (เวลาอินเดีย) โดยงานจะเป็นการถวายความอาลัยและความเคารพพระองค์ที่สวรรคต ขอให้พระองค์ทรงบรรลุความสุขสูงสุดของพระนิพพาน”

“กินเจ แบบไม่จำเจ” กับเมนูอาหารเจร้านดังใจกลางกรุง

ใครว่าอาหารเจหาทานยาก ไม่อร่อย มีแต่มันๆ กินแล้วอ้วน เราขอบอกว่าคุณคิดผิด วันนี้เราจะพาไปส่องเมนูอาหารเจใจกลางกรุง จากร้านดัง กับ เทศกาลอาหารเจ “Vegetarian Delights” ที่อีทไทย ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี และฟู้ดลอฟท์เซ็นทรัลชิดลม ซึ่งรวมสารพัดอาหารเจ…มาไว้ในที่เดียว รับรองว่ากินเจปีนี้ อร่อยไม่จำเจแน่นอน! จะมีเมนูเจอะไรบ้างตามไปดูกันเลย

เริ่มที่ Eathai” (อีทไทย) และ Eathai Cafe (อีทไทย คาเฟ่)  ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี กับเมนูเจจากร้านดังมากมาย อาทิ ครัวเจ๊ง้อ กับเมนู ซาลาเปาเห็ดรวมเจ ซาลาเปาไส้แน่นจากวัตถุดิบชั้นเลิศ ที่เจ๊ง้อคัดสรรค์มาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น หมี่กึงเนื้อเหนียวนุ่ม (ทำเอง) เห็ดหอม เห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดฟาง ที่มาพร้อมกับเครื่องปรุงและส่วนผสมหลากหลายชนิด ปรุงอย่างเชี่ยวชาญจนได้เป็นไส้เห็ดรวมเจ เข้มข้น หอม อร่อย หุ้มด้วยแป้งซาลาเปาเหนียวนุ่มที่ผ่านการนวดอย่างพิถีพิถันจากแป้งสาลีชั้นเยี่ยมและส่วนผสมต่างๆ สูตรพิเศษเฉพาะจากร้านครัวเจ๊ง้อ…อร่อยเว่อร์, ขนมจีนน้ำยาเจ เพราะกินเจก็อร่อยจัดจ้านได้! เมนูเด็ดที่ทางร้านนำเสนอมาพร้อมรสชาติที่จัดจ้าน ด้วยน้ำยาเจเข้มข้นจากเห็ดคุณภาพเยี่ยม ปรุงอย่างพิถีพิถันด้วยสมุนไพรและเครื่องปรุงนานาชนิด สุดยอดวัตถุดิบตามสไตล์ครัวเจ๊ง้อ เสิร์ฟพร้อมนขนมจีนเหนียวนุ่มและผักสด อร่อย มีประโยชน์ เสริมสุขภาพดี

ร้านแชมป์บ๊ะจ่าง  กับเมนู บะจ่างเจ  จากเครื่องอัดแน่นทั้ง เกาลัด แปะก๊วย พุทราเชื่อม และเนื้อเป็ดเจพริกไทยดำ,  กานาฉ่าย ที่เพิ่มความพิเศษใส่เห็ดหอมและไม่ใส่วัตถุกันเสียสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ไม่เป็นไขเพราะทางร้านเลือกใช้น้ำมันถั่วในการทำ

ร้านต้นกล้าฟ้าใส กับเมนู พล่าฟ้าใส ส้มโอรสหวานอมเปรี้ยว คลุกเคล้าเครื่องพล่าที่อุดมไปด้วยสมุนไพรหลากหลายชนิด เช่น ตะไคร้ซอย, หอมแดงซอยและใบมะกรูดซอยและยังมีดอกดาหลา ดอกอัญชันและกะหล่ำปลีม่วง รับประทานคู่กับน้ำยำรสชาติจัดจ้านเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ต้องลอง, ลาบอะโวคาโด หั่นชิ้นอะโวคาโดพอดีคำ มาพร้อมเทมเป้ ปรุงรสปสมผสานในรูปแบบอาหารอีสาน ด้วยอะโวคาโดมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว ซึ่งช่วยควบคุมระดับโคเลสเตอรอลในเลือดและเทมเป้ที่อุดมไปด้วสารอาหารนานาชนิด และข้าวคั่วที่โรยในเมนูนี้ก็ทำมาจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ เมนูนี้จึงทั้งอร่อย จัดจ้านและอุดมไปด้วยคุณประโยชน์เต็มๆจาน

ร้าน กินกินบะหมี่ต้มยำปู  เอาใจคนชอบรับประทานเส้น กับ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำเจ และเกาเหลาต้มยำเจ เครื่องแน่นทั้งกุ้งหัวบุก เต้าหู้ขาว หมูสับโปรตีนเกษตร  เห็ดหูหนูขาว เห็ดหูหนูดำ แปะก๊วยและเต้าหู้พวง  อร่อยจนลืมไปเลยว่าเป็นอาหารเจ

 ร้าน น้ำเต้าหู้ทรงเครื่องเยาวราช เมนู น้ำเต้าหู้ทรงเครื่อง  ทำสดใหม่ทุกวันคัดสรรวัตุดิบอย่างดีเพื่อน้ำเต้าหู้รสชาติกลมกล่อม พร้อมเครื่องให้เลือกใส่ 8 อย่าง อาทิ เม็ดแมงลัก, แปะก๊วย, สาคู, ถั่วแดง,รากบัว, มันเชื่อม, ลูกเดือและวุ้น

ร้าน Chicco Pudding  กับเมนู พุดดิ้งมะพร้าวอ่อน ที่สามารถเลือกทอปปิ้งเพิ่มได้ อาทิ แปะก๊วย มะพร้าว ลิ้นจี่และลูกตาล หรือจะเลือกเป็น พุดดิ้งลิ้นจี่, พุดดิ้งลูกตาล และพุดดิ้งแปะก๊วย

กล้วยปิ้ง จากร้านจับปิ้ง ที่คัดกล้วยน้ำว้ารสดีมาปิ้งจนหอมกรุ่น  , กล้วยทอดอีทไทย จากอีทไทย ทอดจากน้ำมันมะพร้าว ได้ทั้งความอร่อยและดีต่อสุขภาพ แถมดีต่อใจอีกด้วย

ร้าน Eathai Cafe (อีทไทย คาเฟ่) เมนูยำวุ้นเส้นเจ  เลือกใช้วุ้นเส้นอย่างดีเหนียวนุ่ม ยำคลุกเคล้ากับเห็ดหูหนูขาว เห็ดหูหนูดำที่คัดแต่ดอกใหญ่ๆ และกุ้งเจ ปลาหมึกเจจากเยาวราช เพิ่มความอร่อยด้วยแปะก๊วย รสชาติเมนูนี้ครบ 4 รส ทั้งเปรี้ยว-เผ็ด-เค็ม-หวาน อร่อยแซ่บๆ พร้อมด้วยประโยชน์มากมาย, เต้าหู้ทรงเครื่องน้ำแดง เต้าหู้อ่อนหั่นเป็นสามเหลี่ยมทอดจนได้สีสวย ราดด้วยเครื่องน้ำแดงที่มีส่วนผสมจาก เห็ดหอม แปะก๊วย พริก 3 สี รสชาติกลมกล่อมและหอมน้ำมันงา, ช่อม่วงไส้เห็ด  สีม่วงสวยจากดอกอัญชัญสด ไส้เห็ดหอมนำมาผัดกับน้ำตาลตโหนด ผัดเข้าด้วยกันจนหอม รสชาติกลมกล่อม ช่อม่วงจับขึ้นช่อสวยงาม ทานคู่กับผักกาดหอมและพริกขี้หนูสวนสด เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ห้ามพลาด

มาต่อกันที่ ฟู้ดลอฟท์ สาขาห้างเซ็นทรัลชิดลม ที่ยกขบวนอาหารเจนานาชาติมาให้ได้รับประทานกัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารเจสไตล์จีน, เกาหลี, เวียดนาม, อินเดีย ฯลฯ ให้คุณได้เลือกอร่อยกันแบบตื่นตาตื่นใจกับหลากหลายเมนูเจ ที่ต้องลอง!

อาทิ ราดหน้าฮ่องกงเจ, เต้าหู้เสฉวนเจ,ข้าวผัดหนำเลี๊ยบเจ และผัดหมี่ซั่วเจ อร่อยแบบจีนๆ รสชาติต้นตำหรับที่คุณไม่ควรพลาด ข้าวผัดกิมจิเจ, ข้าวยำเกาหลีเจ และ ผัดวุ้นเส้นเกาหลีเจ ให้ชวนโอปป้าได้มาอร่อยกัน ขนมจีนเวียดนาม และปอเปี๊ยะสดเต้าหู้ จัดเต็มกับผักสดๆ ให้ได้อิ่มแบบสุขภาพดี งานนี้สายเฮลตี้ได้ลองเป็นต้องถูกใจ เมนูเจสไตล์อินเดีย กับเมนูข้าวหมกไก่เจ และข้าวหมกกุ้งเจ กับเครื่องเทศแน่นๆ เต็มๆคำ และเพื่อเอาใจสายเฮลตี้ในช่วงเจ ขอแนะนำเมนูเจจากร้าน “สปา ฟู้ดส์” กับเมนู ไก่กรอบซอสมะนาว, ห่อหมกทูน่าพันตะไคร้, ลาบหมูทอด, อกไก่ตุ๋นกับไวน์แดง “คอก โค แวง”, ฟิลเลต์มิยองกับบัลซามิกซอส ฯลฯ  ที่บอกเลยว่าทุกจานเป็นอาหารมังสวิรัติที่ทำจากโปรตีนถั่วเหลือง รสชาติอร่อย จนลืมว่าเป็นอาหารเจไปเลยทีเดีย

เทศกาลกินเจปีนี้ เชิญมาอร่อยอิ่มบุญครบทั้งคาวหวาน แบบไม่จำเจกันได้ที่ Eathai” (อีทไทย) , Eathai Café (อีทไทยคาเฟ่) ที่ ชั้น LG ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี และ ฟู้ดลอฟท์ ชั้น 7ห้างเซ็นทรัลชิดลม ได้ตั้งแต่วันที่ 19 – 28 ต.ค. นี้ พร้อมบริการเดลิเวอรี่ส่งถึงบ้านคุณ !

หมายเหตุ :
“Eathai” (อีทไทย) ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี บริการเดลิเวอรี่ โทร.0 2160 5995
“FoodLoft” ฟู้ดลอฟท์ ชั้น 7ห้างเซ็นทรัลชิดลมสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.0 2793 7070
หรือสั่งเดลิเวอรี่ผ่านช่องทาง Application Line Man หรือ foodpanda

 

 

 

 

ส่งพ่อครั้งสุดท้าย! เผยภาพพระแท่นยกระดับ เตรียมรองรับการเสด็จของสมเด็จพระราชินี ในรัชกาลที่๙

ส่งพ่อครั้งสุดท้าย! เผยภาพ พระแท่นยกระดับ เตรียมรองรับการเสด็จของสมเด็จพระราชินี ในรัชกาลที่๙…

น้ำตาแห่งความโศกเศร้าของประชาชนที่ได้รับรู้เรื่องการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มากมายขนาดไหน แน่นอนว่าคู่ชีวิตของพระองค์อย่าง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราขินีนาถ ก็ทรงโทมนัสเช่นกัน แม้ว่าเราอาจจะไม่เคยเห็นน้ำพระเนตรของพระองค์ก็ตาม

ทั้งนี้ในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่๙ ทางเพจชมรมคนรักพระมหากษัตริย์ไทย ได้เผยภาพพระแท่นยกระดับที่ถูกติดตั้งกับพระเมรุมาศ ว่าเป็นแท่นยกระดับเพื่อรองรับการเสด็จพระราชดำเนินของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่๙

หากย้อนกลับไปเมื่อครั้งพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พระแท่นยกระดับก็เคยถูกติดตั้ง ณ พระเมรุ เช่นกัน เพื่อรองรับการเสด็จพระราชดำเนินของในหลวงรัชกาลที่๙ และพระบรมวงศานุวงศ์

ดังนั้นในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่๙ พระแท่นยกระดับที่มีภาพเผยออกมาจึงสันนิษฐานว่าน่าจะถูกนำมาใช้สำหรับการเสด็จพระราชดำเนินของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่๙ ที่จะมาส่งพ่อหลวงแห่งแผ่นดินวันที่ 26 ตุลาคม 2560  เป็นครั้งสุดท้าย แต่ในการเสด็จพระราชดำเนินครั้งนี้อาจไม่เป็นทางการ

 

 

รวมลุคสุดชิคของพี่น้องตระกูล “ฮาดิด” งานนี้ไม่ต้องโชว์ ก็สวยเลิศได้

นี่สินะที่เขาบอกว่า คนสวยจะทำอะไรก็สวยไปหมด ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรมาแต่งตัวก็เป๊ะเว่อร์ อย่างพี่น้องตระกูลฮาดิด ที่แปลงโฉมยังไงก็ถูกจับตามมองตลอด และอย่างที่รู้กันพวกเธอได้กลายเป็นแฟชั่นไอคอนของสาวๆ ทั่วโลกไปแล้ว แต่ปกติเราจะเห็นสองพี่น้องสุดแซ่บแต่งตัวเผยผิวอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเกาะอก สายเดี่ยว หรือแม้กระทั่งเสื้อกันหนาวแขนยาวบางครั้งยังโชว์หน้าท้องเลยจ้า

ถ้าพูดถึงลุคที่ไม่เผยผิวก็มีออกมาให้เห็นค่อนข้างน้อยถ้าเทียบกับรูปที่สาวๆ มักแต่งแบบหวาบหวิว แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย เพราะวันสบายๆ ของสองสาวนอกจากพวกเธอจะเลือกสายเดี่ยวหรือเกาะอกมาใส่แล้ว บางทีเสื้อยืดง่ายๆ กับยีนส์ก็เป็นลุคที่เราเห็นอยู่เรื่อยๆ หรือจะเป็นลุคจัดเต็มแต่ไม่หวือหวาก็มีออกมาเหมือนกัน วันนี้แพรวดอทคอมได้รวมลุคของพี่น้องบ้านฮาดิดที่แต่งตัวแบบไม่เน้นงานโชว์หุ่นโมเดล ไม่ต้องนุ่งน้อยห่มน้อย แต่ก็สวยชนะเลิศได้ แถมยังมีกลิ่นอายความชิคสไตล์นางแบบอยู่ในตัวอย่างเต็มพิกัด

 

เริ่มด้วยพี่สาวก่อนเลย จีจี้ ฮาดิด

 

เสื้อผ้าสไตล์นี้ที่ดูจะเป็นชุดลำลองกึ่งชุดนอนเบาๆ แต่สาวจีจี้ก็ครีเอตจนออกมาเป็นลุคชิคๆ ด้วยการเสริมไอเท็มอย่างแว่นกันแดดและรองเท้าบู๊ตสีขาวเข้าไป

 

เปรี้ยวเข็ดฟันได้แบบไม่ต้องพึ่งเสื้อผ้าโชว์สัดส่วนนะจ๊ะ เพราะแค่เลือกสีสันให้แสบแซ่บก็ได้ความเผ็ดแบบมีสไตล์แล้ว ลุคนี้เก๋มากกกก

1

ลุคนี้มีความล้ำสุดไรสุด เป็นลุคที่ให้ความเรียบโก้ แต่ด้วยสีเมทาลิคของกางเกง และแว่นสุดชิคทำให้เป็นลุคที่ความยูนีคพุ่งออกมาเลย

 

คนสวยทำอะไรก็สวย พูดแบบนี้เป็นร้อยรอบแล้ว ลุคนี้ก็ดูชิลๆ เสื้อยืดสีดำ แอบเห็นหน้าท้องนิดหน่อยพอกรุบกริบ กางเกงขาบานเล็กๆ ตรงปลาย และจีจี้เลือกกระเป๋ากับรองเท้าสีแดง เหมือนกับสีของลายเสื้อ คือเลิศเว่อร์

1

ลุคสาวเซอร์นางแบบคนนี้ก็สอบผ่าน แจ็กเก็ตหนัง กางเกงยีนส์ รองเท้าบู๊ต ส่งให้ลุคนี้เท่ขั้นสุดไปเลย

1

อีกลุคกับกางเกงยีนส์ สาวจีจี้เลือกแมตช์กับเสื้อสเวตเตอร์ ลุคนี้ค่อนข้างคุมโทน แต่ดูไม่กลืนเพราะยีนส์ที่เธอเลือกมีสีอ่อนซึ่งเข้ามาตัดกับสีดำได้อย่างลงตัว

 

ต่อกันด้วยน้องสาว เบลล่า ฮาดิด

1

เปิดตัวด้วยสีแจ่มกันเลย แต่ลุคนี้ปิดมิดชิดแบบไม่มีเห็นผิวสวยๆ ของสาวเบลล่า แต่ก็ได้ความชิคแบบโมเดลตัวท็อป เพราะสีสันระดับนี้ไม่แน่จริงก็เอาไม่อยู่หรอก

1

ครั้นจะปิดก็ปิดจริงๆ ลุคนี้ก็มิดชิดตั้งแต่คอจรดเท้ากันเลย แต่ด้วยความที่เป็นนางแบบ ถึงจะใส่เสื้อผ้าปกปิดแค่ไหน ความคอดของเอวและสัดส่วนงามๆ ก็ออกมาให้เห็นอยู่ดี

1

กรี๊ดกับลุคนี้มาก ชอบมาก เบลล่าสายหวาน น่ารัก ลูกคุณหนูผู้น่าปกป้อง ปกติจะเห็นเธอมาในลุคสาวแกร่ง เซ็กซี่สตรองซะมากกว่า พอมาเจอลุคนี้ละลายเลย ชุดเดรสสั้นพอประมาณ ดีไซน์ชิคๆ มันดีจริงๆ

1

บอกแล้วว่าถ้าไม่โชว์ความปังของหุ่น ก็ปิดเต็มแบบนี้แหละ แต่ก็ให้ความรู้สึกอีกแบบว่าแต่งอะไรก็รอดนะ ขนาดชุดง่ายๆ ธรรมดาๆ ยังเด่นเลย เสื้อฮู้ด กางเกงยีนส์ ร้องเท้าผ้าใบสีขาว ถ้าเราแต่งคงไม่เวิร์กแบบนี้แน่ๆ ฮาๆ

1

เดรสเชิ้ตก็ให้ความเท่ ลุยๆ ได้ดีเลย สาวเบลล่ามิกซ์แอนด์แมตช์เข้ากับหมวก และรองเท้าบู๊ตสีขาวได้เข้ากันมาก รสนิยมดีเว่อร์

1

ลุคโทนฟ้าอ่อน มีความหวานพาสเทล ลุคนี้สวยนะ ดูเรียบๆ แต่ด้วยรูปร่างทำให้แอบแซ่บเบาๆ เรื่องการแมตช์ไอเท็มก็ไม่ต้องห่วง ไปได้สวยเลย

 

สาวๆ แต่งตัวแบบไม่เผยผิวก็สวยเหมือนเดิม หรือจะเป็นที่คนสวยจะใส่อะไรก็เกิด เพราะไม่ว่าจะสไตล์ไหนก็น่ามองไปหมด แต่งตัวมิดชิดยังไงก็ดูไม่ป้า เพราะสองสาวฮาดิดมีรสนิยมในการแต่งตัวขั้นเทพจริงๆ ไม่มีทางเสียชื่อโมเดลแถวหน้าแน่นอน แต่ละลุคที่จับมาแมตช์กันดูเหมือนจะง่ายๆ ไม่ต้องคิดเยอะ แต่ถ้ามองให้ลึกไปถึงดีเทล ดีไซน์ของไอเท็มแต่ละชิ้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแต่งแล้วออกมาดูดีขนาดนี้ เพราะการแต่งตัวแบบไม่หวาบหวิวบางทีก็ก่ำกึ้งว่าจะเฉิ่มได้ แต่สาวๆ กลับแต่งออกมาได้ดีเว่อร์ เห็นแล้วปลื้มมมม


 

เรื่อง : Hana_แพรวดอทคอม (ฮานะ)

ภาพ : Twitter@ThailandHadid

 

 

UT KAWS x PEANUTS กลับมาแล้ว! พฤศจิกายนนี้ วางขายทั่วโลก

กลับมาทีไรก็ฮือฮาทุกรอบสำหรับเสื้อยืดสุดคูลรุ่นพิเศษจากยูนิโคล่ที่ได้ศิลปินชื่อดังอย่าง Kaws มาร่วมออกแบบ โดยครั้งนี้จะเตรียมวางขายแล้วในเดือนพฤศจิกายน พร้อมกันทั่วโลก

KAWS ศิลปินสายสตรีทอาร์ทชื่อก้องแห่งนิวยอร์ก หวนจับมือกันอีกครั้งเพื่อสร้างสรรค์เสื้อยืดยูนิโคล่ “KAWS x PEANUTS” คอลเลคชั่นที่สอง หลังจากที่คอลเลคชั่นแรกได้รับการตอบรับที่ดีจากเหล่าสาวกทั่วทุกมุมโลกอย่างล้นหลาม โดยในคราวนี้ยังคงมาพร้อมกับไอเท็มสุดฮิต สำหรับผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก ที่มีลายสนูปปี้ซึ่งถูกออกแบบโฉมใหม่ด้วยสีดำล้วนสุดคูล ซึ่งมีให้เลือกหลายแบบเลยล่ะ

นอกจากเสื้อยืดสุดเก๋ที่เตรียมมายั่วให้สาวก Kaws อดใจไม่ไหวกันแล้ว ยังมีไอเท็มพิเศษที่เพิ่มเข้ามาเป็นครั้งแรกก็คือตุ๊กตาสนูปปี้ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก โดยมีเอกลักษณ์ของ KAWS อยู่ตรงที่การใช้สัญลักษณ์กากบาทแทนดวงตาทั้งสองข้าง รวมถึงเนื้อผ้าคุณภาพดีที่ KAWS เป็นผู้คัดสรรด้วยตัวเองอีกด้วย

 

ม.ล.ดิศปนัดดา ดิศกุล

ดูแลดอยตุงมานาน! ม.ล.ดิศปนัดดา ดิศกุล สานต่อ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง แทนคุณหญิงพวงร้อย

ม.ล.ดิศปนัดดา ดิศกุล
ม.ล.ดิศปนัดดา ดิศกุล

รับหน้าที่ต่อจาก คุณหญิงพวงร้อย ดิศกุล ณ อยุธยา สำหรับ คุณดุ๊ก-ม.ล.ดิศปนัดดา ดิศกุล ที่ทางคณะกรรมการ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ประกาศแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของมูลนิธิฯ อย่างเป็นทางการแทนคุณหญิง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไป

ม.ล.ดิศปนัดดา ดิศกุล
หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล

คลุกคลีอยู่กับการพัฒนาสังคม และช่วยให้ชาวเขา ชาวเผ่ามีอาชีพมั่นคงในการดำรงชีวิตมาเป็นเวลานาน สำหรับ หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล ลูกชายของ หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา ดิศกุล หลานชายของกรมพระยาดำรงชานุภาพ ซึ่งล่าสุดได้มีการอัพเดตจากทางคณะกรรมการมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ เรื่องแต่งตั้งให้คุณดุ๊ก รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Deputy Chief Executive Officer) ให้ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Chief Executive Officer) ของมูลนิธิฯ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไป แทนคุณหญิงพวงร้อย ดิศกุล ณ อยุธยา ที่รับหน้าที่ดูแลมูลนิธิฯ รวมถึงถวายงานสมเด็จย่ามาเป็นเวลานาน

ด้านประวัติการทำงาน หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล มีประสบการณ์การทำงานสายธุรกิจและการเงินก่อนเข้าทำงานที่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ในปี พ.ศ.2548 ในตำแหน่งผู้จัดการส่วนการตลาด รับผิดชอบการตลาดแบรนด์ “ดอยตุง” จากนั้นในปี พ.ศ.2550 ได้เข้ามาดูแลรับผิดชอบโครงการขยายผลการพัฒนาตามตำราแม่ฟ้าหลวง ทั้งในและต่างประเทศ ก่อนดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารในปี พ.ศ.2558 รับผิดชอบการบริหารงานธุรกิจเพื่อสังคม “ดอยตุง” ทั้งหมด

ในฐานะผู้บริหารรุ่นใหม่ หม่อมหลวงดิศปนัดดา อยู่แนวหน้าในการขับเคลื่อนขบวนการธุรกิจเพื่อสังคมในประเทศไทยมาโดยตลอด รวมทั้งมีบทบาทอย่างแข็งขันในการเผยแพร่การพัฒนาที่ยั่งยืนตามศาสตร์พระราชาสู่ระดับโลกตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดยจะนำมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ สานต่อพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน สมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคมและวัฒนธรรมต่อไป

ม.ล.ดิศปนัดดา ดิศกุล

สำหรับข้อมูลของ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์นี้ เดิมชื่อมูลนิธิส่งเสริมผลผลิตชาวเขาไทย ในพระราชูปถัมภ์ ก่อตั้งขึ้นตามพระราชดำริของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีในปี 2515 เพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและเพิ่มรายได้แก่ชาวเขา รวมถึงยังคอยส่งเสริมและหาตลาดงานด้านหัตถกรรมให้แก่ชาวเขาต่างๆ จนผลงานของชาวเขาได้รับความนิยม ส่งออกทั้งในและต่างประเทศ โดยไม่มีการเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง

 

 


เรียบเรียงโดย: บะหมี่กุ๊งกิ๊ง_แพรวดอทคอม
ข้อมูลและภาพ: ฝ่ายสื่อสารองค์กรมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ, http://www.maefahluang.org/index.php?lang=th

เจ้าชายอับดุล มาทีน

ส่องอิริยาบถ ‘เจ้าชายอับดุล มาทีน แห่งบรูไน’ หล่อ สมาร์ท พระปรีชาสามารถรอบด้าน

Alternative Textaccount_circle
เจ้าชายอับดุล มาทีน
เจ้าชายอับดุล มาทีน

วันนี้ แพรวดอทคอม จะพาสาวๆ ไปทำความรู้จักกับ ‘เจ้าชายอับดุล มาทีน แห่งบรูไน’ เจ้าชายที่ทรงติดอันดับหนึ่งในเชื้อพระวงศ์ที่ฮ็อตที่สุดในโลก เป็นพระราชบุตรในสมเด็จพระราชาธิบดีฮัสซานัล บลกียะห์ พระองค์ทรงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาวิชาการระหว่างประเทศ วิทยาลัยบูรพาคดีศึกษาและการศึกษาแอฟริกา มหาวิทยาลัยลอนดอน แถมยังมีพระปรีชาสามารถรอบด้าน จะมีอะไรบ้างที่สาวๆ อยากรู้ ตามมา..

 

พระองค์ใช้ชีวิตเช่นปกติชน โปรดที่จะแต่งพระองค์อย่างเรียบง่าย หากจะแต่งกายอย่างเป็นทางการก็เมื่อออกงานเท่านั้น โปรดฟังแนวเพลงป็อป ทรงตีกลองและเล่นกีตาร์ได้ พระองค์โปรดเสวยอาหารไทยรสจัด โดยเฉพาะลาบ ว้าว…ชอบทานลาบเหมือนกันเลยนะเพคะ ^^

พระองค์สนพระทัยด้านการกีฬาเป็นอย่างยิ่ง ทรงเป็นนักฟุตบอลของทีมเอเอ็มกันเนอส์เอฟซี (AM Gunners FC) และประทานเงินอุปถัมภ์ด้วย ทรงมีเดวิด เบคแคม เป็นนักฟุตบอลที่ชื่นชอบ และเป็นแฟนของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด นอกจากนี้พระองค์ชื่นชอบกีฬาเอกซ์ตรีม และกำลังฝึกศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานโดยเฉพาะมวยไทย

ทรงโปรดเล่นกีฬาโปโลร่วมกับสมาชิกพระราชวงศ์ด้วย โดยพระองค์เข้าแข่งขันกีฬาดังกล่าวครั้งแรกในเดือนมกราคม พ.ศ. 2559 ในรายการออลเอเชียคัพ 2016 (All Asia Cup 2016) ที่จัดขึ้นในประเทศไทย และในเดือนกุมภาพันธ์ปีเดียวกัน ทรงเข้าร่วมโปโลการกุศลริชาร์ดมิลล์โปโลแชริตี 2016 ณ บันดาร์เซอรีเบอกาวัน ซึ่งจัดขึ้นเพื่อระดมทุนเข้ามูลนิธิผู้ป่วยมะเร็งในเด็ก ร่วมกับริชาร์ด มิลล์ แบรนด์นาฬิกาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยทีมของพระองค์รับรางวัลรองชนะเลิศ ซึ่งพ่ายทีมของพระราชบิดาเพียงหนึ่งคะแนน

นอกจากนี้ พระองค์ยังมีความสนพระทัยและพระปรีชาสามารถอีกหลายด้าน เอาไปว่าไม่ขอพูดเยอะ ให้ภาพเล่าเรื่องเลยแล้วกันค่ะ

 

 

แถมพระองค์ยังรักสัตว์ด้วย ><

  

 

ข้อมูล : wikipedia
ภาพจาก IG : tmski

พระราชวงศ์-ผู้นำทั่วโลก เตรียมเสด็จร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิง รัชกาลที่๙

เผยรายพระนามพระราชวงศ์ รวม 14 ประเทศ เสด็จเยือนไทย ร่วมพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ รัชกาลที่๙ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

การสวรรคตของ รัชกาลที่๙ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร นำมาซึ่งความเศร้าโศกของพสกนิกร รวมไปถึงมีผู้นำทั่วโลกออกมาแสดงความอาลัยต่อการสูญเสียครั้งสำคัญ และตามกำหนดการในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 จะเป็นวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ณ พระเมรุมาศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ซึ่งล่าสุดนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเผยว่าจะมีสมาชิกพระราชวงศ์ ผู้นำ และผู้แทนประเทศที่มางานพระราชพิธีถวายพระเพลิงรวม 32 ประเทศ

รายพระนามพระราชวงศ์ รวม 14 ประเทศ


1.สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีแห่งเลโซโท


2.สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และสมเด็จพระราชินีเจตซุน เปมา วังชุกแห่งภูฏาน


3.สมเด็จพระราชาธิบดีตูโปอูที่ 6 และ สมเด็จพระราชินีนานาซีเปาอู ตูกูอาโฮแห่งราชอาณาจักรตองกา


4.สมเด็จพระราชินีซิลเวียแห่งสวีเดน


5.สมเด็จพระราชินีแม็กซิมาแห่งเนเธอร์แลนด์


6.สมเด็จพระราชินีมาตีลด์แห่งเบลเยียม


7.สมเด็จพระราชินีโซเฟียแห่งสเปน


8.เจ้าฟ้าชายเฟรเดอริก มกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์ก


9.มกุฎราชกุมารฮากอน แม็กนุส แห่งนอร์เวย์


10.เจ้าชายกีโยม แกรนด์ดยุกรัชทายาทแห่งลักเซมเบิร์ก


11.สุลต่านนัชริน มูอิชชัดดิน ชาห์แห่งรัฐเประก์ มาเลเซีย และตวนกู ชาร่า ชาลิม รายา ปะไหมสุหรี


12.เจ้าชายแอนดรูว์ดยุกแห่งยอร์ก


13.เจ้าชายอากิชิโนและเจ้าหญิงคิโกะ พระชายาแห่งญี่ปุ่น


14.เจ้าหญิงมาร์กาเรธาแห่งลิกเตนสไตน์

อย่างไรก็ตามนอกจากนี้ยังมีรายนามบุคคลสำคัญต่างประเทศ รวม 18 ประเทศได้แก่ ประธานาธิบดีติน จ่อ แห่งเมียนมา และภริยา,นายบุนยัง วอละจิตประธานประเทศ แห่งสปป.ลาว,ประธานาธิบดีสิงคโปร์ และคู่สมรส,เซอร์ปีเตอร์ คอสโกรฟ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ฯ แห่งออสเตรเลียและภริยา,มาดามจูลี พาแย็ต ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ฯ แห่งแคนาดา,นายโจเซฟ ไดสส์ อดีตประธานาธิบดีแห่งสมาพันธรัฐสวิส,นายคริสเตียน วูล์ฟฟ์ อดีตประธานาธิบดีสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

นายดัง ธิ ง็อก ธินห์ รองประธานาธิบดีเวียดนาม,นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา,นายบาร์นาบาส ซิบูซิโว ดลามินี นายกรัฐมนตรีสวาซิแลนด์,นายฌอง-มาร์ก อายโรลต์ อดีตนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส และภริยา,นายพัก จู-ซุน รองประธานรัฐสภาสาธารณรัฐเกาหลี,นายเจมส์ เอ็ม แมตทิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา, นายอลัน ปีเตอร์ แคเยตาโน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฟิลิปปินส์,นายทิลัก มาราพานา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงนโยบายและแผนศรีลังกา และภริยา,นายคาวาจา มูฮัมเหม็ด อาซิฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศปากีสถาน และภริยา,นายเอ็ม. เจ. อักบาร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อินเดียและ อาร์กบิชอป กิอัมบัตติสตา ดีควัตโตร เอกอัครสมณทูตนครรัฐวาติกันประจำสาธารณรัฐอินเดียและสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล

ภาพลวงตา!!! วันนี้มายั่วให้รักแล้วก็จากไป’ เช็คเลย ดวงวันที่ 20 ตุลาคม 2560

ดูดวงรายวัน ประจำวันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม 2560 เช็คทุกวัน ทันทุกดวงกับ แพรว ดอทคอม

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  ท่านที่กำลังคิดจะไปศึกษาต่อเพิ่มพูนวิทยาการในต่างประเทศ หรือสอบเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จ แต่ท่านยังมีห่วง ทำให้ไปไม่ได้ไกลอย่างที่คิด

การเงิน : ควรทำด้านต่างประเทศ หรือเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์จะรวย

ความรัก : วันนี้ท่านอยากปลีกวิเวกจากบ่วงรักที่อึดอัดด้วยกฎเกณฑ์ หรือจากความจำใจ เพื่อมาปฎิบัติธรรม หรือศึกษาหาความรู้  คนโสด  ระวังคนไม่หวังดีจะมายั่วให้รักแล้วก็จากไป

สุขภาพ : ภาพรวมถือว่าแข็งแรงดี แต่ท่านไม่ค่อยดูแลสุขภาพ เวลาไม่สบายจึงหนัก

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : นักเขียน นักประพันธ์ งานด้านสื่อสารมวลชนมีโอกาสสำเร็จในระยะเวลาอันใกล้ แต่ไม่ง่าย ท่านต้องทุ่มเททั้งกายและใจ เพราะจะมีปัญหาเข้ามามากมาย แต่ก็จะมีผู้ใหญ่ผู้หญิงคอยแบคอัพท่านอยู่

การเงิน  : อย่าหวังลาภลอยจากการพนัน หรือเสี่ยงโชค เพราะไม่มีดวงด้านนี้

ความรัก :  วันนี้วันศุกร์ อาจเป็นวันรวมญาติ จะได้อยู่พร้อมหน้าครอบครัว คนโสด ท่านยังติดเที่ยว และเจ้าชู้อยู่นะ จะมีคนมาจีบและติดพันค่อนข้างมาก

สุขภาพ : ระวังโรคเกี่ยวกับการย่อยอาหาร การเจ็บป่วยในช่องท้องและลำไส้ให้มาก

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  : ชีพจรลงเท้า อยู่ไม่ติดที่ รับอาสาไปโน้นนี่ตลอดเวลา ท่านกำลังมีโครงการที่จะทำธุรกิจวันนี้เหมาะกับด้านอสังหาริมทรัพย์ เกี่ยวกับพืชพันธุ์ทางการเกษตร หรือสมุนไพรก็ได้ แต่ป้าแนะนำว่า ท่านควรทำคนเดียว

การเงิน : ใช้เงินในการลงทุน แต่ให้ระวังการติดต่อประสานงาน ดูให้ดีก่อนเซ็นสัญญา

ความรัก : วันนี้อยู่ด้วยกัน เพื่อช่วยกันหาเงิน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับอารมณ์ท่านด้วย หากท่านรักก็รักปานกลืนกิน แต่หากเบื่อหน้าก็แทบไม่อยากมอง คนโสด คนที่เข้ามาวันนี้ คิดจะเคลมท่านอย่างเดียวเลยค่ะ

สุขภาพ :  ระวังเรื่องลำไส้อักเสบ ระบบย่อยอาหาร และกระเพาะอาหาร

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  : สิ่งที่ท่านหรือหุ้นส่วนเคยทะเลาะแย่งชิงกันอย่างดุเดือด วันนี้ก็ยังไม่สามารถตัดสินใจ หรือหาทางออกได้จนท่านไม่รู้จะไปทางไหนแล้ว ระวังความกดันจะทำให้ตัดสินใจผิดพลาด

การเงิน : ติดขัด เก็บเงินไม่อยู่ ไหลออกทุกทิศทางจากความใจดีของท่าน

ความรัก : วันนี้ขอให้ปล่อยสบายๆ อย่าจู้จี้ขี้บ่นกัน เพราะจะทำให้เกิดการทะเลาะกันได้ คนโสด ท่านยังอยากอยู่กับสังคมมากกว่าอยู่กันตามลำพัง เรื่องคู่เก็บไว้ก่อน

สุขภาพ : ให้ระวังเกี่ยวกับโรคเลือดและต่อมน้ำเหลืองต่างๆ

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : ท่านที่ทำงานเกี่ยวกับผู้หญิง หรือความสวยความงามจะเกิดปัญหา ไม่สามารถตัดสินใจได้ เนื่องจากเดาใจผู้ใหญ่ไม่ถูก ทำให้ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบกว่าจะผ่านไปได้

การเงิน :  มีคนอุปถัมภ์ มีโอกาสได้ทรัพย์มรดก แต่ดูดีๆ อาจมีอะไรแอบแฝง หลีกเลี่ยงเงินที่ไม่ถูกกฏหมายนะจ๊ะ

ความรัก :  วันนี้คู่จะช่วยเสริมบารมี เป็นที่พึ่งของครอบครัวได้ทุกเรื่อง คนโสด วันนี้ท่านอาจพบตัวเองว่า จริงๆ แล้วชอบเพศเดียวกัน

สุขภาพ : อย่าเครียด ไมเกรนจะถามหา โรคกระเพาะก็จะตามมาติดๆ

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : ระวังเพื่อนร่วมงาน หรือคนใกล้ตัวให้ดี จะเกิดการทรยศ หรือแทงข้างหลัง ท่านต้องใช้ความรู้ความสามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ให้ได้ ด้วยจิตใจที่ให้อภัย อย่าอาฆาตแค้น

การเงิน :  จะเกิดการทะเลาะกันเรื่องการโกงเงิน

ความรัก :  ขอให้ปลง เพราะจะมีปัญหาเรื่องรักสามเส้าเข้ามาในครอบครัว จะจริงหรือไม่ค่อยๆ คุยกัน คนโสด ท่านอาจมีต่างชาติมาจีบ แต่เจ้าชู้มากมาย ดูดีๆ

สุขภาพ  :  ระวังจะเกิดบาดแผลจากของมีคม

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : เป็นวันแห่งการเริ่มต้น งานที่เกี่ยวกับการเดินทางทุกประเภท รวมถึงการเรียนต่อ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าเอกชนหรือราชการจะประสบความสำเร็จ อาจได้ยวดยานพาหนะใหม่ด้วย

การเงิน : ระวังถูกหลอกด้วยคำพูดที่ไพเราะ

ความรัก :  วันนี้ท่านอาจมีการตกลงอะไรบางอย่าง ในการที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันให้มีความสุข เพราะท่านไม่ชอบให้คู่มาจำกัดอิสระในการใช้ชีวิต หรือการเดินทาง แล้วเวลาทะเลาะกันก็ไม่เบาเลย คนโสด ไม่ควรรีบแต่งงาน อายุที่เหมาะสมน่าจะอยู่ที่ 35-40

สุขภาพ : ระวังจะมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตา ไปตรวจเช็คบ้าง

ชัดเจน อาเล็ก – ธีรเดช ประกาศคบ เต้ย – จรินทร์พร หยอดหวานทุกอย่างมีแต่ความจริงใจ

อาเล็ก – ธีรเดช ยิ้มไม่หุบหลังเปิดปากเรื่อง เต้ย – จรินทร์พร ยอมรับคุยกันมานาน 6 เดือนแล้ว น่ารักให้คำปรึกษาดี โนสนคนวิจารณ์เพราะทุกอย่างมีแต่ความจริงใจ

คนมีความรักหน้าตาจะเป้นแบบนี่เอง ภาพจาก @iampassword

หลังถูกควงกันไปปฏิบัติธรรมด้วยกันที่หัวหิน จนถูกตามองว่าแอบซุ่มคบหาดูใจ ล่าสุดพระเอก อาเล็ก – ธีรเดช เมธาวรายุทธ ได้ออกมายอมรับแล้วว่ากำลังสานสัมพันธ์นางเอกร่างเล็ก เต้ย – จรินทร์พร จุนเกียรติ โดยในงาน เดอะมอลล์ เจทั่วทิศ กุศลจิตทั่วไทย ที่จัดขึ้น ณ ลานด้านหน้าศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ อาเล็ก ได้ให้สัมภาษณ์ว่าตนมีความรู้สึกดีๆกับสาวเต้ยเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน

“ก็คุยๆ กันอยู่ครับผม ผมก็มีความรู้สึกดีๆ เป็นกัลยาณมิตรต่อกัน จริงๆก็ระยะเวลาสักพักแล้วครับ ประมาณ 5-6 เดือนแล้ว ส่วนคลิ๊กกันได้อย่างไรนั้นมันเป็นเรื่องของความรู้สึกเนอะ อย่าไปลงดีเทลมันเลยเราเองไม่รู้และไม่ตั้งใจว่ามันจะเกิดความรู้สึกอย่างนี้ขึ้นมาอย่างที่ทุกคนทราบว่าเต้ยเขาเป็นคนน่ารัก เป็นคนดี มีความคิดดี มีความเป็นผู้ใหญ่ ปรึกษาได้ ชอบชวนเราทำอะไรดีๆ ด้วยแหละ เพราะก่อนหน้านี้เราเหมือนไม่ค่อยได้ทำอะไรดีๆ”

เต้ย – จรินทร์พร จุนเกียรติ ภาพจาก @toeyjarinporn

เมื่อถามว่ากังวลไหมเพราะก่อนหน้านี้เต้นยมีข่าวกับบอย – ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ เพื่อนสนิทของ อาเล็ก กับเรื่องนี้นักแสดงหนุ่มกล่าวว่าไม่อยากให้คิดกันไปแบบนั้น
“ไม่อยากให้คิดอย่างนั้นครับ เพราะว่าทั้งเล็ก พี่บอย และเต้ยเอง ก็เป็นพี่น้องที่สนิทกันอยู่แล้ว ผมรู้สึกว่าการพูดแบบนั้นมันเหมือนไม่ให้เกียรติพี่บอย ซึ่งอันที่จริงแล้วพี่บอยเป็นคนแรกๆ ที่รู้ ซึ่งเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ มันเป็นเรื่องของคนสองคน ส่วนเรื่องที่เขาถูกจับคู่เป็นข่าวกับเต้ย เราก็ไม่ได้พูดกันถึงเรื่องนั้นครับ”

ในขณะที่เมื่อสื่อข่าวถามว่านอกจากมีข่าวกับบอยแล้ว อเล็กซ์ เรนเดล เพื่อนในก๊วน อาเล็ก ก็เป็นแฟนเต้ยมาก่อนส่วนตัวรู้สึกเป็นกังวลไหม ซึ่งอาเล็กได้ปฏิเสธโดยบอกว่าเรื่องนี้มันเซ้นซิทีฟมาก แต่ไม่หนักใจอะไรเพราะอเล็กซ์เป็นคนแรกที่รู้
“เรื่องนี้มันเซ้นซิทีฟมากครับ ผมเองก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดอย่างนี้ขึ้นมา แต่พอมันเกิดขึ้นมาแล้ว และเรารู้ว่าอเล็กซ์เป็นลูกผู้ชาย แมนๆ ที่ค่อนข้างโตและมีเหตุผลมากๆ เลยไม่อยากให้เขาไปรับรู้เรื่องนี้จากคนอื่น หรือจากในข่าว ซึ่งตอนนี้เขาก็ได้รับรู้แล้ว และเข้าใจ เราเจอกัน คุยกันได้ปกติ โดยไม่มีอะไรหนักใจครับ ซึ่งอเล็กซ์เป็นคนแรกที่รู้เรื่องนี้ครับ”

นี่!!!อาเล็ก – ธีรเดช เมธาวรายุทธ

อย่างไรก็อาเล็กได้เผยสถานะของเต้ยกับเขาว่าในตอนนี้ว่าเป็นคนที่ตมรู้สึกดีด้วยมากๆ
“เรียกว่าเป็นคนที่ผมรู้สึกดีด้วยครับ ยอมรับว่าไม่ได้ป่าวประกาศกับใครเลย คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องให้ใครรู้ก็ได้แต่ก็แล้วแต่โอกาสดีกว่า ดูที่ความเหมาะสมเพราะเราต้องปกป้องเขาด้วย เพราะเขาเป็นผู้หญิงอย่างที่บอกว่าไม่ได้ตั้งใจว่าจะต้องบอกให้ใครต้องรับรู้ ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงพระราชพิธีด้วย เราไม่ได้ต้องการจะป่าวประกาศ มันไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศมันเป็นความบังเอิญที่มีรูปออกมาแล้วคนก็สงสัยกันครับ


ภาพจาก @iampassword,@eve_mathuon

เผยชุดภาพพระบรมฉายาลักษณ์ทรงค่า… ครั้งหนึ่งที่สองพระองค์เสด็จฯ ภูกระดึง

ภูกระดึง แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดเลยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ณ ที่แห่งนี้ เมื่อราวๆ กว่า 70 ปีก่อน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เคยเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 มาแล้ว

และนี่คือภาพพระบรมฉายาลักษณ์ทรงค่า เป็นบันทึกประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวเมื่อครั้งทั้งสองพระองค์เสด็จฯ ภูกระดึง ซึ่งในหนังสือ ‘ประมวลพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พุทธศักราช ๒๔๘๙-๒๕๑๐’ ได้มีการบันทึกว่า ทั้งสองพระองค์เสด็จฯ ภูกระดึง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ.2498 ก่อนที่สถานที่แห่งนี้จะได้รับการประกาศให้เป็นอุทยาทแห่งชาติ 4 ปี

โดยเช้าวันนั้น เวลา 9.00 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ไปที่สนามหน้าโรงเรียนประจำจังหวัดขอนแก่น เพื่อประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งของกองทัพอากาศ ไปภูกระดึง จังหวัดเลย

บนเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง

แม้ระยะเวลาบินจะเป็นเพียงสั้นๆ แต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งไม่โปรดการใช้เวลาแบบสูญเปล่าจึงทรงงานเอกสารไปด้วย ระหว่างนั้นเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งได้บินผ่านท้องที่อำเภอภูเวียงและอำเภอวังสะพุง

ทรงงานบนเฮลิคอปเตอร์

เฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งบินถึงยอดภูกระดึง ณ เวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เสด็จฯขึ้นประทับบนหลังช้างเพื่อทอดพระเนตรภูมิประเทศ

ประทับบนหลังเพื่อทอดพระเนตรภูมิประเทศ

จากนั้นพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ราษฎรที่เดินเท้าขึ้นมาจากเชิงเขาได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท

ในโอกาสนี้ทั้งสองพระองค์ได้ประทับเสวยพระกระยาหารกลางวันบนภูกระดึง ก่อนเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรน้ำตกธารสวรรค์ และทรงปลูกต้นสนเพื่อเป็นอนุสรณ์ในการเสด็จพระราชดำเนินครั้งนี้

ทรงปลูกต้นสนเพื่อเป็นอนุสรณ์ในการเสด็จพระราชดำเนิน

ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ ทั้งสองพระองค์ทรงจุดธูปเทียนนมัสการพระพุทธรูปบนยอดภูกระดึงด้วย

ทรงจุดธูปเทียนนมัสการพระพุทธรูปบนยอดภูกระดึง
ราษฎรเดินเท้าขึ้นมาจากเชิงเขาเพื่อเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทบนยอดภูกระดึง

แม้จะเป็นการเสด็จพระราชดำเนินเพื่อทรงงาน แต่พระอิริยาบถที่น้อยคนนักจะเคยเห็นแบบต่อเนื่อง ก็ทำให้แพรวเชื่อว่าผู้ใดที่ได้ยลพระบรมฉายาลักษณ์ชุดนี้ ต้องรู้สึกเป็นบุญตาแน่นอน

สวยพุ่งมีลุ้นมงฯ ชุดประจำชาติ 2017 เมขลาล่อแก้วพร้อมส่งมารีญาไปสู่จักรวาล ))))

ส่อง มารีญา พูลเลิศลาภ เตรียมความพร้อมก่อนไปชิงมงกุฎนางงามจักรวาล ที่สหรัฐอเมริกา เผยชุดประจำชาติเมขลาล่อแก้ว เกือบเสร็จสมบูรณ์ 

ชุดประจำชาติไทย เมขลาล่อแก้ว ภาพจาก @prapakas

อีกไม่ถึงหนึ่งเดือนแล้วที่ มารีญา พูลเลิศลาภ  หรือ มารีญา ลินน์ เอียเรียน ตัวแทนสาวงามประเทศไทย ที่จะเดินทางไปประกวด  มิสยูนิเวิร์ส 2017 ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งในระหว่างนี้เธอได้เข้าฝึกความพร้อมอย่างหนัก ทั้งรูปร่างที่ต้องหมั่นออกกำลังกายเพื่อความฟิตแอนด์เฟิร์มอยู่เสมอ, การแต่งหน้า, การทำผม, ชุดต่างๆ รวมถึงการทำจิตใจให้สงบเพื่อสติที่มั่นคงในการตอบคำถาม

ล่าสุดเมื่อเร็วๆนี้ แพรวดอทคอม ได้มีโอกาสพูดคุยกับสาว มารีญา ซึ่งเธอได้เปิดเผยแผนการเตรียมความพร้อมให้ได้ฟังกันด้วย โดยบอกว่าที่ผ่านมาเธอฝึกซ้อมเกินร้อยทุกวัน ยิ่งใกล้วันประกวดยิ่งตื่นเต้น ยอมรับว่ามีการแอบไปส่องคู่แข่งประเทศอื่นเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่คิดอะไรเพราะอยากโฟกัสในสิ่งที่เรารับผิดชอบให้เต็มที่มากกว่า

ในส่วนของความคืบหน้าของชุดนั้น สาวงามเผยว่าตอนนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ก็จะมีงานแถลงข่าวเปิดตัวชุดที่จะนำไปใช้เก็บตัวและโชว์ตัวบนเวที มิสยูนิเวิร์ส 2017 ในส่วนของชุดนั้นคร่าวๆก็น่าจะเยอะเหมือนกัน ส่วนเรื่องการแต่งหน้าและทำผมนั้น เมื่อเร็วๆนี้ก็มีโอกาสที่ได้ไปเรียนรู้เทคนิคต่างๆจากพี่ๆมืออาชีพ

มารีญา พูลเลิศลาภ

หากถามว่าส่วนไหนที่ยังกังวลและไม่มั่นใจอยู่นั้น มารีญาบอกว่าน่าจะเป็นเรื่องของสมาธิ ตอนนี้คุณแม่เลยให้ไปนั่งปฏิบัติธรรมที่เชียงใหม่ ซึ่งส่วนตัวก็รู้สึกว่าต้องการเติมเต็มในส่วนนี้ เป็นอะไรที่ต้องการจริงๆเนื่องจากไม่ว่าเราเตรียมตัวขนาดไหนถ้าบนเวทีไม่มีสมาธิก็จะลงทะเลไปเลย

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวยังได้ถามว่าปีนี้ทางกองประกวดให้มีการพรีเซนต์ชุดประจำชาติด้วย ซึ่งสาวงามได้อธิบายว่า ใช่ค่ะเลยต้องมีการซ้อมการแสดงโขน ยอมรับว่าไม่เคยสัมผัสมาก่อน แต่พอได้มีโอกสาสเรียนจึงรู้สึกว่าสง่าและยิ่งใหญ่จนอยากให้ชาวต่างชาติได้เห็น ซ้อมหนักมีความเมื่อย เพราะนอกจากจะต้องพรีเซนต์ชุดแล้ว มารีญาต้องถือหุ่นกระบอกด้วยซึ่งมีน้ำหนักมากจึงอยากเพิ่มความแข็งแรงให้แขนมากกว่านี้

อย่างไรก็ตามล่าสุดมีการเผยภาพบางส่วนของชุดเมขลาล่อแก้ว (CHASING THE LIGHT)ออกมาแล้วซึ่งแม้จะยังไม่เสร็จสมบูรณ์แต่ก็เห็นถึงความปราณีตและพิถีพิถัน นอกจากนี้ยังมีคลิปมารีญาฟิตติ้งชุดที่จะนำใส่ในการประกวดออกมาด้วย โดยคลิปหลังกลายเป็นที่ฮือฮาเพราะนอกจากความสวยจพุ่งจนฉุดไม่อยู่แล้ว กับการนำผ้ามัดหมี่ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ มาตัดโค้ททันสมัยสไตล์ยุโรป มีเอกลักษณ์โดดเด่นแบบ2วัฒนธรรมกลิ่นอายแบบตะวันตกและตะวันออก ซึ่งบอกเลยว่าสวยเด็ดจริงๆ

‼️SNEAK PEAK‼️Fitting Day 2 ✔️ Thai IKAT Silk: The Foundation for the Promotion of Supplementary Occupations and Related Technique of Her Majesty Queen Sirikit of Thailand #SUPPORT Wearing; #EverydayKarmakamet #PhyaBag #Kloset •••Thai silk is so beautiful and I believe sometimes underestimated…so excited to be wearing lots of Thai Silk in #Vegas!••• หนึ่งในชุดสำหรับใช้ในการประกวด #Miss #Universe ซึ่งใช้ผ้ามัดหมี่จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตัดเย็บและออกแบบโดยหลากหลายดีไซน์เนอร์แบรนด์ชั้นนำของไทย #missuniverse #missuniverse2017 #roadtomissuniverse #missuniversethailand #marialynnehren #mariapoonlertlarp #thaisilk #ThaiIKATSilk #Thailand

A post shared by Maria Poonlertlarp (@marialynnehren) on

 


ภาพจาก : Miss Universe Thailand,คิดบวกสิปป์,IG @prapakas

เปิดผังทีวีทุกช่อง พร้อมใจถ่ายทอดสดมหรสพสมโภช ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

การแสดงมหรสพสมโภชที่จะเกิดขึ้นในพระราชพิธถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นอีกหนึ่งธรรมเนียมที่มีมาแต่โบราณที่จะเกิดขึ้นในช่วงงานออกพระเมรุพระบรมอัฐิ ซึ่งเป็นแบบแผนที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา

การจัดมหรสพสมโภชยังถือเป็นเป็นการแสดงพระกฤดาธิการของพระมหากษัตริย์ โดยในสมัยกรุุงรัตนโกสินทร์ได้มีการจัดมหรสพสมโภชงานออกพระเมรุตามแบบแผนประเพณีเป็นครั้งแรกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชในงานออกพระเมรุพระบรมอัฐิ สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก พ.ศ. 2339 ต่อมาในรัชสมัยรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการรื้อฟื้น การประโคมดนตรีและการมหรสพอีกครั้งในการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พ.ศ. 2539 และกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบมา

ทั้งนี้ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร กระทรวงวัฒนธรรมได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ให้จัดการแสดงมหรสพสมโภช โดยในครั้งนี้มีกำหนดการเตรียมการแสดงทั้งหมด 3 เวที  บริเวณสนามหลวงด้านทิศเหนือ ประกอบด้วย

เวทีที่ 1 การแสดงมหรสพ จัดแสดงหนังใหญ่ และโขนเรื่องรามเกียรติ์ ตั้งแต่ตอนพระนารายณ์อวตาร ถึงศึกรบชนะทศกัณฑ์

เวทีที่  2 การแสดงละคร หุ่นหลวง หุ่นกระบอก เรื่องพระมหาชนก อิเหนา มโนห์รา

เวทีที่ 3 การแสดงดนตรีสากล บรรเลงและขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์เพลงเทิดพระเกียรติ และบทเพลงถวายอาลัย

ทุกเวทีกำหนดเวลา เริ่มแสดง 18.00 น. ในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จนถึงเวลา 06.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยการแสดงของทุกเวทีจะหยุดการแสดงเมื่อมีพระราชพิธีในพระเมรุมาศ

นอกจากการแสดงทั้ง 3 เวทีแล้ว ยังได้กำหนดการแสดงที่สำคัญยิ่งคือ การแสดงหน้าพระที่นั่งทรงธรรม หรือพระเมรุมาศ ที่เรียกันว่า โขนหน้าไฟ จัดการแสดงโขนเรื่อง รามเกียรติ์ ชุดพระรามข้ามสมุทร-ยกรบ-รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอีกด้วย

ผู้แสดงประกอบด้วย นาฏศิลปิน สำนักการสังคีต นักเรียน นักศึกษา วิทยาลัยนาฏศิลป ทั่วประเทศ 12 แห่ง และสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ผู้แสดง ผู้พากย์ – เจรจา ผู้บรรเลง ขับร้องและผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง ประมาณ 300 คน

ทั้งนี้สำหรับประชาชนที่เฝ้าดูพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพที่บ้าน นอกจากจะชมการถ่ายทอดสดตั้งแต่เริ่มพระราชพิธีจนจบแล้ว ในส่วนของมหรสพสมโภชก็จะมีการถ่ายทอดสดตามสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ด้วย ดังนี้

โขนและหนังใหญ่ ถ่ายทอดสดทางช่อง9,ช่อง5,ช่องTNN,TGNหรือ Thai Global Network,PPTV,Voice TV,Spring News,Amarin TV และ Nation Channel

หุ่นและละครใน ถ่ายทอดสดทางช่อง3,Thai PBS,New TV,Workpoint,Thairath TV,Now TV,โทรทัศน์รัฐสภาและTrue4U

ดนตรีสากลและบัลเล่ต์ ถ่ายทอดสดทางช่องNBT,ช่อง 7,ช่อง 8, MONO29,Bright TV,ช่องวัน และ GMM25

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.kingrama9.th

 

ต้องมาดู 99 ภาพเขียนจากศิลปิน ถ่ายทอดผลงานกลั่นจากใจเพื่อ ‘พ่อหลวง’

ภาพของ ‘พ่อหลวง’ ล้วนมีความหมาย 

 ‘พ่อหลวง’ ยังอยู่ในใจคนไทยทุกคน  ‘เซ็นทรัลเวิลด์’ จึงขอเชิญชวนร่วมงาน ‘STILL ON MY MIND ในดวงใจนิรันดร์’ ซึ่งภายในงานมีนิทรรศการต่างๆ ที่น่าสนใจมาก หนึ่งในนั้นคือ นิทรรศการภาพเขียน 99 ภาพจาก 60 ศิลปินที่พร้อมใจกันทำเพื่อน้อมรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่9  

นับเป็นการรวมความทรงจำสุดล้ำค่าเกี่ยวกับ ‘ในหลวงรัชกาลที่9’ ที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านมุมมองของศิลปินไทย

อาทิผลงานของ คุณศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี, จิตต์สิงห์ สมบุญ , ป๊อด โมเดิร์นด็อก, อ.เกริกบุระ ยมนาค , เริงศักดิ์ บุณยวาณิชย์กุล และศิลปินท่านอื่นๆ อีกมากมาย ที่นำผลงานสุดเลอค่ามาสู่สายตาประชาชนชาวไทย ให้ได้ชมตลอดงาน Still on my mind “ในดวงใจนิรันดร์”

งานจัดแสดงตั้งแต่วันนี้-31 ตุลาคม 2560 ณ โซนอีเดน 3 รีบไปดูกันนะจ๊ะ

 

 

เรื่องเล่าจากฝาบ้าน : ความทรงจำของลุงหล้าครั้งเมื่อรับเสด็จฯ ในหลวงร.9

ภาพกาดริมทางขึ้นดอยอินทนนท์ซึ่งคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินเลือกชาและผลไม้อบแห้งหลากชนิด และทิวต้นพญาเสือโคร่งสองข้างถนนลาดยางทันสมัย คงเป็นภาพคุ้นตาของหลายคน แต่ท่ามกลางความเจริญที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมโดยรอบ บ้านขุนกลาง จังหวัดเชียงใหม่

บ้านไม้เล็กๆ หลังหนึ่งในหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง ที่สร้างขึ้นอย่างเรียบง่ายยังคงสภาพไม่ต่างกับเมื่อเกือบ 40 ปีก่อน อะไรทำให้เจ้าของบ้านหลังนี้ไม่รื้อถอนหรือแม้แต่ต่อเติมใดๆ แม้ว่าเพื่อนบ้านใกล้เคียงจะหันไปสร้างบ้านจากอิฐและปูนที่แข็งแรงและทันสมัยขึ้น เจ้าของบ้าน วิโรจน์ พนากำเนิด หรือ ลุงหล้า เล่าว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 เคยเสด็จฯ มาที่บ้านหลังนี้ และเขาตั้งใจจะดูแลรักษามันอย่างดีไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด

วิโรจน์ พนากำเนิด หรือ ลุงหล้า ขณะรอกราบพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่ 9

ลุงหล้า เล่าถึงความประทับใจครั้งนั้นว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินมาที่หมู่บ้าน เพื่อทรงศึกษาเกี่ยวกับปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเขา ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จฯ มาที่บ้านของลุงหล้า ทรงสอบถามเรื่องการประกอบอาชีพในบริเวณนี้ พร้อมทั้งพระราชทานคำแนะนำเกี่ยวกับการทำเกษตรแผนใหม่ ภาพที่ในหลวงทรงร่วมพิธีผูกดวงชะตาตามวิถีชาวเขาบริเวณหลังบ้าน และทรงพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ยังคงแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำของลุงหล้า หลายครั้งที่หันไปมองผนังไม้ในห้องนั่งเล่น ก็ยังเห็นภาพพระองค์ประทับบนพื้นไม้ตรงนั้นซ้อนทับขึ้นมา ราวกับเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน

ปัจจุบัน ชาวเขาในหมู่บ้านมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมาก สถานีวิจัยโครงการหลวงดอยอินทนนท์ ที่ในหลวงโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งเมื่อปี 2522 (ปัจจุบันคือสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์) เปลี่ยนเนินเขาที่เต็มไปด้วยดอกฝิ่น ให้กลายมาเป็นไร่ที่เต็มไปด้วยไม้ดอก ไม้ประดับ พืชผัก ไม้ผล หลากหลายชนิด จากการทำไร่เลื่อนลอยเป็นอาชีพหลักก็กลายมาเป็นการทำเกษตรแบบถาวร ซึ่งช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับชาวเขา ในขณะที่เด็กๆ ก็ได้มีการศึกษา ได้นำความรู้ที่ได้มาพัฒนาท้องถิ่น และมีความภาคภูมิใจในบ้านเกิดของตน

ลุงหล้ามักเล่าให้ลูกหลานฟังเรื่องเหตุการณ์เมื่อเกือบ 40 ปีก่อนที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงนี้อยู่เสมอๆ และหวังว่าจะได้พบกับพระองค์ท่านอีกครั้ง แม้ว่าในวันนี้อาจจะทำได้แค่มากราบลาก็ตาม

ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา คณะผู้บริหารกรุงศรี ออโต้ได้เดินทางไปที่ชุมชนม้งเพื่อศึกษาถึงเส้นทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เคยเสด็จฯ ไป ตลอดจนโครงการหลวงที่พระองค์ท่านทรงริเริ่มไว้เมื่อ 30 กว่าปีก่อน จึงมีโอกาสได้พบกับลุงหล้าและสอบถามถึงชีวิตความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ ด้วยความรู้สึกประทับใจที่ลุงหล้าถ่ายทอดออกมา คณะผู้บริหารจึงได้ชวนคุณลุงและครอบครัวมากราบพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่กรุงเทพฯ

ลุงหล้าซึ่งไม่เคยมากรุงเทพฯ และไม่เคยขึ้นเครื่องบินเลยสักครั้ง ได้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ทั้งพูดคุยกับลูกหลานที่เคยเดินทางบ่อยๆ แต่คืนก่อนที่จะเดินทาง ลุงหล้าก็ยังคงนอนไม่หลับ เพราะความตื่นเต้นและตื้นตันเต็มแน่นอยู่ในหัวใจ เพราะพรุ่งนี้ลุงหล้าจะได้ร่วมส่งเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 สู่สวรรคาลัยแล้ว

ลุงหล้าและครอบครัวเดินทางมาถึงบริเวณหน้าพระบรมมหาราชวังแต่เช้าตรู่ของวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา ในมือถือพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 มองเผินๆ แล้วอาจดูเหมือนภาพพระราชกรณียกิจทั่วไป แต่หากดูโดยละเอียดแล้วจะพบว่า ชายในชุดชาวเขาเผ่าม้งที่ยืนฟังพระองค์อยู่ตรงกลางรูปนั้นคือลุงหล้าในวัยหนุ่ม คุณลุงและครอบครัวได้บอกเล่าเรื่องราวความประทับใจครั้งนั้นให้ผู้คนที่มาร่วมกราบพระบรมศพฟังด้วยสีหน้าปลื้มปิติ รู้ตัวอีกทีก็ได้เดินมาถึงหน้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทแล้ว

แม้ว่าภายในพระที่นั่งจะเต็มไปด้วยพสกนิกรนับร้อย แต่บรรยากาศกลับสงบนิ่ง ลุงหล้าหันไปมองคนรอบข้างที่ต่างมาที่นี่ด้วยความตั้งใจหนึ่งเดียว ก่อนจะก้มตัวลงกราบเบื้องหน้าพระบรมโกศ พร้อมอธิษฐานในใจว่า “ในหลวงเปิ้นอยู่บนสวรรค์แล้ว ขอให้ท่านส่องแสงลงมา ให้ลูกหลานมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี”

ภาพเมื่อเกือบ 40 ปีก่อนแวบเข้ามาในความทรงจำอีกครั้ง ลุงหล้าถือพระบรมฉายาลักษณ์ไว้แน่น พร้อมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะนำกลับไปแขวนที่ผนังบ้าน และเล่าลูกหลานฟังถึงเหตุการณ์วันนั้นอีกครั้ง เหตุการณ์ที่ทำให้ชีวิตของพวกเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล

keyboard_arrow_up