เจาะเทรนด์เฮลท์แคร์ระดับไฮเอนด์..ป้องกันสุขภาพในอนาคต ดีกว่ารอรักษา!!

ประโยคที่ว่า “การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” เนี่ย เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงเคยได้ยินกันบ่อยๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่รู้สึกเห็นด้วยมากที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ ลองคิดดูบางครั้งแค่เราเจ็บป่วยออดๆ แอดๆ เล็กน้อย ก็รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ทำอะไรก็ไม่ค่อยสะดวกสบายจนพาลหงุดหงิด แล้วหากคนที่ต้องต่อสู้กับโรคร้ายแรงหนักมากล่ะ เขาเหล่านั้นจะรู้สึกอย่างไร และจะต้องรับมือมากขนาดไหน ทั้งนี้ รวมถึงความชรา ความเสื่อมโทรมของวัยที่คืบคลานเข้ามาทีละนิดอย่างไม่รู้ตัว พาลทำให้ร่างกายอ่อนแออีกด้วย

แล้วมันจะดีกว่าหรือเปล่า ถ้าเราแข็งแรงกระฉับกระเฉงเหมือนวัยหนุ่มสาวไม่ต้องเป็นภาระใคร และจะเวิร์คกว่าไหม ถ้าเรารู้ทันโรคด้วยการป้องกันแต่เนิ่นๆ ไม่รอให้โรคมากล้ำกรายหรือต้องมารักษาทีหลัง “กันไว้ดีกว่าแก้” คำนี้ยังคงคลาสสิคเสมอ ใช้ได้กับทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม ยิ่งเรื่องสำคัญอย่างการเป็นโรคใดสักโรคหนึ่ง การป้องกันดีกว่าต้องรักษาเยอะเลยค่ะ เชื่อสิ!! เราผ่านมาแล้ว เรารู้

ซึ่งมีการป้องกันอีกรูปแบบหนึ่งที่ยังไม่ค่อยแพร่หลายเท่าไรนัก สำหรับกลุ่มสังคมคนเมืองที่นิยมเทรนด์รักสุขภาพ เพื่อสร้างความสมดุลในชีวิต ห่างไกลโรค และป้องกันการชะลอวัย จึงอยากมาแชร์ไว้เผื่อเป็นทางเลือกให้สุขภาพตัวเอง โดยเกิดจาก รพ. บำรุงราษฎร์ ได้เปิดให้บริการศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ (VitalLife) มานานแล้วเป็นระยะเวลา 16 ปี จนถึงปัจจุบัน ซึ่งในปีนี้ได้พัฒนาปรับภาพลักษณ์เป็นครั้งแรกและครั้งใหญ่ในรอบ 16 ปี เพื่อยกระดับการบริการแก่ผู้เข้ารับบริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แบบเฉพาะส่วนบุคคล (Personalized Medicine) ให้ได้อย่างตรงจุด ภายใต้มาตรฐานและคุณภาพระดับสากล

เกริ่นมาขนาดนี้หลายคนคงมีคำถามว่าแล้วศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ (VitalLife) คืออะไร งั้นให้กูรูมาตอบเลยดีกว่า เริ่มจาก ผศ. นพ. พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ ผอ.ด้านการแพทย์ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ เล่าว่า “ศูนย์ฯ ดังกล่าว ที่เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อ 16 ปีก่อน เพราะมองเห็นกระแสทั่วโลก ที่ผู้คนต่างหันมาดูแลสุขภาพรูปแบบใหม่ทั้งจากภายในและภายนอก จนถึงปัจจุบันพบว่ามีผู้เข้ามารักษาภายใต้การบริการต่างๆ ของศูนย์ฯ ที่มีจุดเด่นด้านการวินิจฉัยทางการแพทย์ เพื่อให้การดูแลตามหลักการวิทยาศาสตร์ที่ตรงจุดเฉพาะบุคคล พร้อมประสิทธิผลทางกายภาพที่เห็นได้อย่างชัดเจน สำหรับกระบวนการรักษา จะเริ่มตั้งแต่การทำนายสุขภาพในอนาคต การป้องกัน และการเพิ่มสมรรถภาพให้แข็งแรง รวมไปถึงการฟื้นฟูส่วนที่สึกหรอของร่างกาย หรือ “Future Health” Solution; predictive, preventive, regenerative, and revitalizing health care ภายใต้การแพทย์แบบผสมผสานเพื่อการชะลอวัยแห่งอนาคต พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ

สำหรับการเสื่อมสภาพของร่างกายมี 3 ทฤษฎี คือ 1.) การใช้งาน 2.) การใช้พลังงานที่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ และ 3.) ฮอร์โมนของร่างกายโดยเฉพาะ Growth Hormones จะยิ่งผลิตน้องลง เมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งจากความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ศาสตร์แห่งการชะลอวัยของศูนย์ฯ สามารถช่วยปรับสมดุลของร่างกายให้กับผู้เข้ารับบริการตั้งแต่การตรวจร่างกาย ตรวจระดับสารอาหาร ไปจนถึงแนวทางการป้องกันความชราจากภายในสู่การรักษาจากภายนอกอย่างครบวงจรและต่อเนื่อง เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคลในระดับไฮเอนด์ที่สามารถเชื่อมกับกระบวนการส่งต่อผู้ป่วยได้แบบไร้รอยต่อจาก รพ.บำรุงราษฎร์ ภายใต้ความต้องการดูแลสุขภาพร่วมกันระหว่างผู้เข้ารับบริการและทีมแพทย์ ที่เปลี่ยนจากตัวไอ หรือ อิลเนส (Illness) มาสู่ ตัววี หรือ เวลเนส (Wellness) ซึ่งเป็นแนวทางการรักษารุ่นใหม่

“นอกจากนี้ ศูนย์ฯ ยังให้ความสำคัญกับโรงพยาบาล 52 แห่งทั่วประเทศที่ร่วมลงนาม (เอ็มโอยู) ข้อตกลงการเป็นพันธมิตรเครือข่ายการให้บริการทางการแพทย์ในการส่งต่อผู้ป่วบแบบไร้รอยต่อร่วมกัน โดยศูนย์ฯ ไวทัลไลฟ์ รพ. บำรุงราษฎร์ ยังพร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางการให้บริการศาสตร์แห่งการชะลอวัยด้านต่างๆ ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลเครือข่ายพันธมิตร เพื่อปูทางไปสู่การเป็นสถาบันส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ในอนาคต โดยวางเป้าภายใน 5 ปีนับจากนี้”

ทั้งนี้ ภญ. อาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์ ผอ. ด้านการปฏิบัติการ รพ. บำรุงราษฎร์ ยังเล่าเสริมถึงจุดเด่นของศูนย์ฯ อีกว่า “ความแตกต่างของศูนย์ฯ จากผู้ให้บริการรายอื่น คือ การให้บริการทางการแพทย์เพื่อการชะลอวัยทั้งภายในและภายนอกด้วยหลักการวิทยาศาสตร์ พร้อมคุณภาพมาตรฐานระดับสากล อาทิ การวินิจฉัยโรคเพื่อการรักษาและป้องกันแบบเฉพาะบุคคล พร้อมจัดหาอาหารเสริม กลุ่มวิตามินต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมตามชีววิทยาของร่างกายมนุษย์ได้อย่างตรงจุดให้กับผู้เข้ารับบริการ และสำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักของศูนย์ฯ นี้ รองรับผู้เข้าบริการทุกระดับที่สนใจและตระหนักถึงการดูแลสุภาพของตัวเองเชิงป้องกัน เพื่อชีวิตที่ยืนยาวและมีชีวิตชีวา โดยสามารถเข้ารับการดูแลได้ตั้งแต่วัยเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ที่อายุจวนเจียนจะ 45-50 ปี ก็ยังไม่สาย สามารถบูสอัพร่างกายให้กลับมาฟิต มีชีวิตชีวา และอ่อนเยาว์ได้อีกครั้ง เพราะศาสตร์ของ Wellness ไม่ได้จะช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรงเพียงอย่างเดียว แต่ครอบคลุมไปถึงอายุที่ยืนยาวมากขึ้นด้วย ปัจจุบันมีกลุ่มเข้ารับบริการที่เป็นชาวไทย สัดส่วน 30% และชาวต่างชาติ สัดส่วน 70% ส่วนใหญ่เป็นชาวตะวันออกกลางจากกลุ่มประเทศอาหรับ และชาวจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน และฮ่องกง ที่นิยมเข้ามาใช้บริการและเข้ารับการดูแลด้านการชะลอวัยที่ศูนย์ฯ เป็นจำนวนมาก

“ในขณะที่แนวทางกลยุทธ์ของศูนย์ฯ มุ่งขยายฐานกลุ่มเป้าหมายใหม่ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งอย่างหลังจะทำการตลาดร่วมกับพันธมิตรที่นำนักท่องเที่ยวที่สนใจเดินทางมาประเทศไทยในรูปแบบของการเดินทาง เพื่อการพักผ่อนและดูแลสุขภาพไปพร้อมกัน พบว่าในช่วงที่ผ่านมา กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยอนาคตทางศูนย์ฯ เตรียมแผนขยายตัวเพื่อรองรับจำนวนผู้เข้ารับบริการ และเครื่องมือต่างๆ พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ยูวีออน (YOUVION) เพื่อเสริมบริการด้านความงามภายใต้เวชศาสตร์แห่งความงามอีกด้วย”

สำหรับเรื่องผลิตภัณฑ์ใหม่ ดร. แพทริค ชวาร์เซนทรูเบอร์ (Dr. Patrick Schwarzentruber) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร micros TECH AG-Solothurmerstrasse ได้ให้ข้อมูลกับเราไว้ว่า “ยูวีออน เป็นนวัตกรรมเครื่องสำอางคุณภาพสูงจากสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งมีคุณสมบัติให้การดูแล เพื่อปรนนิบัติ และฟื้นฟูผิวพรรณบนใบหน้าได้อย่างล้ำลึก ผลิตจากสารสกัดจากธรรมชาติ โดยมี 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ ยูวีออน อายแลช ซีรัม, ยูวีออน เฟซ ซีรัม และ ยูวีออน อาย ซีรัม โดย รพ. บำรุงราษฎร์ เป็นผู้รับสิทธิ์ทำตลาดในไทยแห่งแรกในเอเชีย สำหรับยูวีออน อายแลช ซีรัม (YOUVION Eyelash Serum) ซีรัมบำรุงขนตา สารสกัดสำคัญจากแบล็ค ซี ร็อด ออยล์ แหล่งธรรมชาติทางทะเลที่อุดมไปด้วยประการังคาริบเบียน มอบคุณสมบัติฟรีโฮร์โมน สังเคราะห์ผลิตกระตุ้นการเจริญเติบโตของขน สเต็มเซลล์ ที่ได้จากดอกไม้ป่า Edelweiss กลุ่มพืชอัลไพน์ที่พบได้เขตหนาวเทือกเขาแอลป์ ให้ความชุ่มชื่นพร้อมสารบำรุงวิตามินบี 7 บำรุงลึกไปถึงชั้นผิวหนังระดับสเต็มเซลล์ พร้อมปกป้องรังสียูวีเอและยูวีบี ซึ่งจากผลลัพธ์จริงที่ได้จากการทดสอบในสถาบันประเทศเยอรมัน โดยผู้เข้าทดสอบ 90% พบว่าขนตายาวขึ้น 56% (ประมาณ 4.2%) ในระยะเวลา 8 สัปดาห์ ขณะที่ ยูวีออน เฟซแอนด์อายซีรัม (Face & Eye Serum) ซีรัมบำรุงผิวหน้าและรอบดวงตา พร้อมคืนความอ่อนเยาว์ เพื่อการชะลอและลดริ้วรอย ให้ผลลัพธ์แห่งการดูแลพร้อมฟื้นฟูผิว เพื่อคืนความกระจ่างใสในระยะยาว ผ่านการทดสอบแล้วว่าปราศจากสารซิลิคอน สารก่อภูมิแพ้ และปลอดภัยสาหรับผิวแพ้ง่าย”

“ในฐานะที่ รพ. บำรุงราษฎร์เป็นหนึ่งในผู้นำด้านบริการทางการแพทย์โรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในระดับภูมิภาคเอเชีย และเป็นที่ยอมรับจากผู้เข้ารับการบริการทางการแพทย์จากทั้งชาวไทยและต่างชาติ พร้อมทั้งมาตรฐานชั้นนำระดับสากลต่างๆ ที่ รพ. ได้รับ ซึ่งการรีแบรนด์ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ ครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของ รพ.บำรุงราษฎร์ ที่ได้ส่งมอบการดูแลเชิงป้องกัน และร่วมแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพร่วมกันกับผู้มาใช้บริการ เป็นการฟื้นฟูสุขภาพให้ดีขึ้น พร้อมช่วยยืดอายุขัยให้ยาวนานขึ้นอีกด้วย เห็นได้จากข้อมูลสถิติ พบว่าร่างกายของมนุษย์จะเริ่มเสื่อมลงตั้งแต่อายุ 30 – 35 ปี โดยเฉพาะผู้หญิง เมื่ออายุเกิน 35 ปีจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายอย่างชัดเจน และจะถดถอยอย่างรวดเร็วเมื่ออายุเข้าสู่ช่วง 45 – 50 ปี ซึ่งจากศาสตร์แห่งการชะลอวัยภายใต้หลักการทางวิทยาศาสตร์ของไวทัลไลฟ์ สามารถเสริมสร้างเพื่อชะลอความเสื่อมของร่างกาย (Boost up) ได้ในช่วง 50 ปี ที่ยังมีโอกาสฟื้นฟูร่างกายให้คืนกลับมามีชีวิตชีวาและอ่อนเยาว์ได้ ซึ่งแตกต่างไปจากที่อื่นอย่างเห็นได้ชัด” รศ.นพ. สมศักดิ์ เชาว์วิศิษฐ์เสรี ผอ. ด้านการบริหารและผอ. ด้านการแพทย์ สรุปปิดท้าย

ทราบข้อมูลลึกขนาดนี้แล้ว ยังจะรอความชราถามหากันอยู่หรือเปล่า เทรนด์รักสุขภาพเนี่ยแหละที่ไม่ควรละเลยเลยจริงๆ ลองไปปรึกษารับบริการที่นี่ดูแต่เนิ่นๆ ก็ดีนะ รับรองไม่มีใครกัดหรือตามจิกแม้จะไม่ซื้อคอร์สอย่างแน่นอน เพราะเราเคยไปลองขอคำปรึกษามาแล้ว ปรากฏว่าเรารู้ตัวเองว่าสุขภาพเราแย่อย่างไรบ้างทั้งปัจจุบันและในอนาคตที่กำลังถามหา รู้ว่าต้องดูแลตัวเอง และต้องใช้อะไร แม้จะไม่ได้เข้ารับบริการที่ศูนย์อย่างจริงจัง แค่ลองไปขอคำแนะนำผู้เชี่ยวชาญทุกคนที่นั่นยินดีให้ข้อมูลเราอย่างเต็มที่แล้ว เชื่อเราสิ ไม่ต้องกลัว อะไรที่ทำแล้วสุขภาพดีต้องมาเป็นที่หนึ่งนะ

มิติใหม่ของน้ำผลไม้จากมาลี ท้าเปิดประสบการณ์การดื่มน้ำผลไม้ ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน Malee Fruit Fresh สุดยอด Perfect Serve เพื่อความสุขทุกหยดในการดื่มน้ำผลไม้

ความสุขจากการได้ดื่มด่ำเครื่องดื่มที่เราชอบ ก็ถือเป็นความรื่นรมย์อย่างหนึ่งที่คนยุคนี้ตามหา โดยในแต่ละเครื่องดื่มนั้นก็ล้วนจะต้องมี Perfect Serve เพื่อให้ได้ถึงรสชาติและประสบการณ์ในการดื่มที่ดีที่สุด อย่างเช่น เวลาดื่มไวน์ ถ้าเป็นไวน์ขาวหรือแชมเปญจะต้องเสิร์ฟขณะเย็นๆ ส่วนไวน์แดงจะต้องเสิร์ฟที่อุณหภูมิห้อง ในขณะที่แก้วไวน์ ควรเป็นแก้วขนาดใหญ่ทรงกลม ที่ปากแก้วแคบเล็กน้อย เพื่อให้กลิ่นไวน์อบอวลอยู่ในแก้ว และหอมเตะจมูกของผู้ดื่มได้ และควรมีก้านแก้วยาว เพื่อไม่ให้อุณหภูมิของไวน์ในแก้วเพิ่มขึ้นเร็วเกินไปในขณะที่ดื่ม

ในขณะที่น้ำผลไม้เองนั้น ก็มี Perfect Serve เช่นกัน สำหรับความ Perfect Serve ของ Malee Fruit Fresh นั้น บอกเลยว่าอัดแน่นในทุกขั้นตอน ที่ ดูแลตั้งแต่ กระบวนการผลิต เพื่อกลิ่น รสชาติ ความสดให้ทุกหยดรื่นรมย์ โดยสัมผัสแรกของ Malee Fruit Fresh ที่เตะตาต้องใจเลยก็คือ ขวดโฉมใหม่ซึ่งมาในรูปแบบของขวดใส รูปทรงทันสมัยเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ อีกทั้งยังดูพรีเมี่ยมและสะอาดสะอ้าน สามารถมองเห็นสีสันของน้ำผลไม้ ชวนให้อยากดื่มด่ำกับความสดชื่นตั้งแต่แรกเห็นเลยทีเดียว จากนั้นเมื่อเปิดฝาออก สัมผัสต่อมาที่ได้รับก็คือ กลิ่นหอมหวานจากความสดใหม่ของผลไม้ที่ชวนให้ลิ้มรสชาติสุดๆ และที่สำคัญคือเป็นกลิ่นของความสดของผลไม้เพราะ Malee Fruit Fresh ผลิตผ่านกระบวนการที่เน้นความ Perfect Serve ด้วยการคงความสดใหม่ไว้ให้ได้มากที่สุด

อีกหนึ่งความ Perfect Serve ของ  Malee Fruit Fresh คือสัมผัสของรสชาติที่สดใหม่และอร่อยกลิ่นหอมหวานของความสดจากผลไม้ อีกทั้งยังได้คุณค่าของวิตามินอย่างเต็มที่ ผ่านนวัตกรรมใหม่ล่าสุดอย่าง Cold Pressure Processing ที่คงคุณค่าให้ถึงมือคุณด้วยกระบวนการผลิตที่ฆ่าเชื้อโดยไม่ต้องใช้ความร้อนแบบเดิมๆ เพื่อรักษาคุณค่าและความสดใหม่ของน้ำผลไม้ไว้ให้ได้มากที่สุด เรียกว่าการดื่ม  Malee Fruit Fresh ใกล้เคียงกับการรับประทานผลไม้สดๆ เลยทีเดียว

นอกจากคุณประโยชน์ของ Malee Fruit Fresh ที่จะได้รับแบบเต็มๆ และเน้นๆ แล้วนั้น ในทุกหยดยังสามารถเพิ่มความสดชื่นให้กับการดื่มน้ำผลไม้สุดพรีเมี่ยมนี้ได้อีก ด้วยเคล็ดลับง่ายๆ อย่างการดื่มแบบเพียวๆ ไม่ใส่น้ำแข็ง เพื่อให้ได้รสชาติและคุณค่าเต็มที่ หรือสำหรับคนที่ชอบแบบเย็นฉ่ำชื่นใจ ก็แช่ให้เย็นจัดๆ ก่อนดื่มได้ เพื่อกระตุ้นให้รสชาติอร่อยขึ้นอีก รวมถึงการดื่มแบบค่อยๆ จิบทีละน้อย ก็เป็นวิธีที่ทำให้วิตามินและแร่ธาตุจากน้ำผลไม้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปริมาณการดื่มที่ Perfect ในแต่ละครั้งคือ 1 แก้ว หรือ 200 มิลลิลิตร รับรองว่าฟินทั้งกลิ่นและรสชาติ และเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าแน่นอน

เรียกว่าเป็นมิติใหม่ของน้ำผลไม้ 100% ที่มาลีตั้งใจส่งตรงคุณค่าถึงมือคุณอย่างเต็มที่ เย้ายวนใจให้ลิ้มรสชาติและดื่มด่ำกับคุณค่ามากๆ ทั้งนี้ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ชอบหรือไม่ชอบดื่มน้ำผลไม้ก็ตาม ถ้าได้ลอง Malee Fruit Fresh รับรองว่าต้องเทใจให้แบบเต็มร้อยแน่นอน

Malee Fruit Fresh เตรียมความอร่อยไว้ให้คุณได้ Stay Fresh แล้วถึง 3 รสชาติ ได้แก่ ส้ม, แอปเปิ้ล และองุ่น สามารถทดลองประสบการณ์ Perfect Serve กันได้เลยวันนี้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วไป Tops Supermarket, Food Land, MaxValu, The Mall, Villa Market และ Big C  

เผยลุค “เอเรียล หลิน” นางเอก “แกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก” ในวัย 36 ปี น่ารักไม่เปลี่ยน

ลืมกันไปหรือยัง เพราะตอนนี้ก็ผ่านมา 13 ปีแล้ว ที่แฟนๆ ในไทยได้ดูซีรี่ส์ไต้หวันสุดป่วน แกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก โดยตัวละครที่คุ้นชื่อกันดีก็คือ หยวน เซียงฉิน (นางเอก) และ เจียง เจ๋อซู่ (พระเอก) หนุ่มหล่อโปรไฟล์ดี ผู้มีไอคิวถึงสองร้อยที่นางเอกสุดเปิ่นอย่างเซียงฉินหลงรัก แต่วันนี้เราไม่ได้จะพามาย้อนความหลัง เพราะแพรวดอทคอมจะมาอัพเดทลุคของนางเอกจอมโก๊ะ หยวน เซียงฉิน ที่รับบทโดย หลิน อีเฉิน หรือ เอเรียล หลิน ให้แฟนๆ ได้ชมกัน

แกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก ถือเป็นซีรี่ส์ไต้หวันอีกหนึ่งเรื่องที่ดังเปรี้ยงสุดๆ ในไทย แม้เวลาออกอากาศจะดึกแค่ไหน แต่แฟนๆ ก็ยังตามดูกันทุกตอน นอกจากนี้ยังถูกนำไปสร้างใหม่ในหลายเวอร์ชั่นทั้งญี่ปุ่น เกาหลี ไทย และไต้หวันเองก็นำไปรีเมคอีกครั้งเมื่อปี 2016 เชื่อว่าแฟนซีรี่ส์เรื่องนี้ต้องตกหลุมรักนางเอกอย่างแน่นอน เพราะเด็กสาวแสนซื่อ มองโลกในแง่บวก รักเดียวใจเดียว เป็นเสน่ห์ที่ทำให้ใครๆ ก็ต่างเอ็นดู

เจียง เจ๋อซู่ (พระเอก) หยวน เซียงฉิน (นางเอก) ชื่อในซีรี่ส์

 

เจียง เจ๋อซู่ (พระเอก) หยวน เซียงฉิน (นางเอก) ชื่อในซีรี่ส์

หลิน อีเฉิน หรือ เอเรียล หลิน ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากซีรี่ส์เรื่อง แกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก ที่แสดงคู่กับ เจิ้ง หยวนช่าง จนกลายเป็นรักนอกจอให้แฟนๆ ได้ชุ่มฉ่ำหัวใจ แต่สุดท้ายก็ต้องเลิกรา และถึงจะเป็นอย่างนั้น แต่ทั้งคู่ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ทั้งนี้ผลงานของเอเรียล หลิน ยังหลั่งไหลเข้ามาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะผลงานถ่ายมิวสิควิดีโอในเพลง ซวงเจี๋ยกุ้น ของ เจย์ โชว์ , เมคอะวิช ของ ไจ๋ไจ่ (วิค F4 หรือ โจว อวี๋หมิน) และเธอยังได้ร่วมถ่ายมิวสิควิดีโอในเพลงร่วมกับ ชเว ซีวอน  อี ดงแฮ สมาชิกวงซูเปอร์จูเนียร์ มาแล้วด้วย

อย่างที่ได้บอกไปว่าวันนี้เราจะนำลุคปัจจุบันของนางเอกสาวสุดน่ารักมาให้ได้ดูกัน ถ้าไม่บอกว่าอายุ 36 ปีแล้ว คงไม่มีใครเชื่อแน่ๆ เพราะหน้าเด็กเว่อร์ แถมความน่ารัก สดใสยังเปล่งประกายแบบสุดขั้ว ว่าแล้วก็มาอัพเดทลุคของเธอกันเลย

งานเข้ามาอย่างต่อเนื่องกับพรีเซ็นเตอร์นาฬิกาแบรนด์ดัง

1

หุ่นยังคงเอวเอสเหมือนเดิม รูปร่างดีไม่เปลี่ยนเลย

1

สดใส น่ารักสุดๆ ตั้งแต่หั่นผมสั้นก็ทำให้หน้าที่ดูเด็กอยู่แล้ว ยิ่งเด็กลงไปอีก

1

การแต่งตัวกับทรงผมแบบนี้ จะไม่ให้มองว่าเพิ่ง 20 ต้นๆ ได้ยังไงกัน คิ้วต์ๆ

1

ออกงานความโตก็อัพขึ้นมาหน่อย และเดรสเรียบหรูตัดกับเพชรที่ระยิบระยับได้อย่างดี
ไม่ว่ามองมุมไหน เอเรียลก็สวยยยย

1

ลุคสบายๆ เผยหน้าสดก็ไม่พัง แต่ยิ่งลดอายุลงไปอีก

1

ลุคนี้ดูเป็นสาววัยทำงาน และรอยยิ้มก็ทำให้โลกสดใสไปเลย

1

ลุคสุภาพ ที่ดูเป็นทางการ แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้หน้าตาเท่ากับอายุได้ เพราะหน้าเด็กจริงๆ พูดวนเป็นรอบที่ร้อย ฮาๆ

1

แม้แต่ตอนถ่ายโฆษณาก็ยังดูดี เดรสเรียบๆ สีชมพูอ่อนหวานๆ ก็เข้ากับเอเรียลได้ดี

1

การโพสท่าทางยังทะเล้นเหมือนเดิม คนอะไรสดใสได้ขนาดนี้

อายุเป็นเพียงตัวเลขก็คราวนี้แหละ เหมือนอายุของเอเรียลหยุดอยู่ที่ 20 ต้นๆ เพราะตอนนี้แม้จะ 36 กะรัตแล้ว แต่ทั้งการแต่งตัว ความสดใส และหน้าของเธอยังคงสะพรั่งเหมือนเด็กสาวไม่มีผิด และหวังว่าการนำเสนอลุคของเธอในครั้งนี้ จะทำให้แฟนๆ ของเซียงฉิน จากเรื่องแกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก หายคิดถึงนางเอกในดวงใจกันได้นะ


เรื่อง : Hana_แพรวดอทคอม (ฮานะ)

ภาพ : IG@linyichenn , www.weibo.com

 

หนาวนี้สาวกบิวตี้ไม่ควรพลาด! ช้อปฟิน จัดเต็ม กับงาน ‘Central Beauty Salebration’

หนาวนี้สาวกบิวตี้ไม่ควรพลาด! กับงาน ‘Central Beauty Salebration’  ที่ขนขบวนบิวตี้ไอเท็มจากแบรนด์ชั้นนำมาให้ช้อปฯ กันแบบฟินๆ ด้วยโปรสุดคุ้มลดสูงสุด 10-15% ตั้งแต่วันนี้ – 30 พ.ย. 60 ณ แผนกบิวตี้ แกเลอรีและพื้นที่โปรโมชั่น ชั้น 1 ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์

 

พร้อมพบกับบิวตี้บล็อกเกอร์สาว @ndmikkiholicc วันที่ 18 พ.ย. 60 เวลา 15.00 น. และ @florenceroom99 วันที่ 25 พ.ย. 60 เวลา 15.00 น. ที่จะมาสาธิตการแต่งหน้าลุคสวยแซ่บท้าลมหนาว ให้สาวๆ ได้ชมกันอย่างใกล้ชิด

แบรนด์ที่ร่วมรายการ : Dior, La Mer, Sulwhasoo, Three, Cle de Peau Beaute, Covermark, Revlon, Burt’s bee และ Bisous Bisous

#CentralBeautySalebration #BeautyGalerie #CentralDepartmentStore

สร้างขวัญกำลังใจให้เกษตรกร พระองค์ติ๊ด ทรงร่วมลงแขกเกี่ยวข้าว ฟ้อนรำกับชาวบ้าน

เป็นประเพณีไทยสืบทอดมาแต่โบราณ สำหรับประเพณีทำขวัญข้าว ที่มักจะจัดงานขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนของทุกปี โดยปี 2560 นี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ หรือ พระองค์ติ๊ด พระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จไปทรงร่วมพิธีทำขวัญข้าวและประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าวกับชาวนาที่ จ.สุรินทร์ 

มีความเชื่อมาแต่โบราณว่า แม่โพสพมีพระคุณต่อชาวนาที่คอยให้ความอุดมสมบูรณ์แก่ผืนนา ช่วยปกปักษ์รักษาต้นข้าวให้ผู้คนมีอยู่มีกินไม่ขาดแคลน โดยพิธีทำขวัญข้าวนี้จึงเป็นการขอขมาต่อต้นข้าว ขอบคุณแม่โพสพและขออภัยเนื่องจากบางทีอาจมีการกระทำต่อต้นข้าวในทางไม่ดีโดยไม่รู้ตัวหรือไม่ควรอย่างไร ซึ่งการทำพิธีนี้ทางชาวนายังมีความเชื่อด้วยว่า จะทำให้ผลผลิตข้าวอุดมสมบูรณ์ ช่วยสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ชาวนา รวมถึงยังเป็นพิธีที่ทำให้ชาวนาได้มารวมตัวกันเกี่ยวข้าวเพื่อแสดงความสามัคคีกันอีกด้วย

ปีนี้ชาวนาจังหวัดสุรินทร์ นับว่าได้รับขวัญและกำลังใจดีอย่างยิ่ง เมื่อพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ หรือ พระองค์ติ๊ด เสด็จไปยังศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร บ้านระไซร์ ตำบลตั้งใจ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ที่มีพื้นที่นาสำหรับเพาะปลูกข้าวรวม 12 ไร่ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2560 และทรงร่วมในพิธีทำขวัญข้าวและประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว เพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นขวัญกำลังใจให้แก่เกษตรกรชาวนา ทั้งยังร่วมมีความสัมพันธ์กับชาวเกษตรกรอย่างใกล้ชิด
โดยพระองค์ทรงได้ร่วมลงแขกเกี่ยวข้าว พันธุ์ข้าวหอมมะลิ พันธุ์ กข 15 ร่วมกับสมาชิกศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนจิตอาสาโครงการเราทำความดีด้วยหัวใจจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งสีหน้าของชาวบ้านที่ได้มารับเสด็จและร่วมทำกิจกรรมกับพระองค์นั้นต่างล้วนมีความสุข อีกทั้งพระองค์ยังทรงร่วมฟ้อนรำกับนางรำที่มาแสดงในงานด้วย นับเป็นภาพอันชื่นมื่นและนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

ข้อมูล: ประเพณีทำขวัญข้าวหรือประเพณีทำขวัญแม่โพสพ, Facebook-ศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร
ภาพ: Facebook-ศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร

งดงามไม่น่าเบื่อ…ดัชเชสเคท ในลุคผู้ดีอังกฤษกับทรงผม Faux Bob

สมกับเป็นเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์อังกฤษที่สาวๆ ทั่วโลกต่างยกย่องให้เป็นแฟชั่นไอคอน เพราะไม่ว่าจะปรากฏตัวครั้งใดพระองค์มีความเป๊ะในทุกลุค ซึ่งล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (ตามเวลาประเทศอังกฤษ) ดัชเชสเคท (ดังเชสแห่งเคมบริดจ์) ก็สร้างเซอร์ไพร้ส์อีกแล้ว

เข้าร่วมพิธี Remembrance Day ทุกปี เพื่อเป็นการรำลึกทหารนิรนามผู้เสียสละในสงคราม ร่วมกับบรรดาสมาชิกของราชวงศ์ ณ อนุสรณ์สถานไวท์ฮอลล์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

ขอขอบคุณภาพจาก IG@katemiddleton_kurdistan

ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2011 การแต่งกายของดัชเชสเคทในการเข้าร่วมพิธีนี้ ก็มักจะปล่อยผมยาวดัดลอน หรือไม่ก็เกล้าขมวดอย่างเรียบร้อย ส่วนชุดจะคุมโทนสีดำ เสริมด้วยเครื่องประดับเล็กๆน้อยๆ อย่างต่างหูและหมวก พร้อมกับติดดอกป๊อปปี้ที่บริเวณหน้าอกฝั่งซ้ายเสมอ

สำหรับในปีนี้การแต่งตัวของดัชเชสเคทก็ยังคงคุมโทนเหมือนปีก่อนๆ แต่ที่สะดุดตามากขึ้นก็คือ ทรงผม Faux Bob ที่ใช้เทคนิคการม้วนและมัดรวบผมชั้นในเก็บขึ้นให้ดูเหมือนผมสั้น ซึ่งเป็นอีกลุคที่ทรงพระสิริโฉมและอ่อนเยาว์มาก แม้ว่าจะทรงพระครรภ์เป็นครั้งที่ 3 แล้วก็ตาม

อีกเรื่องที่ต้องพูดถึงก็คือ ฉลองพระองค์ที่ทรงเลือก เป็นเสื้อโค้ทสีดำเรียบๆ ประดับด้วยกระดุมสีทองของแบรนด์ Dolce & Gabbana  ทรงใส่ต่างหูรูปดาวกระจายประดับมุกของแบรนด์ Oscar de la Renta และหมวกของ Philip Treacy ซึ่งพระองค์เคยนำมาแมตช์กับเสื้อโค้ทสีแดงแบรนด์ Armani เมื่อปี 2006 ด้วย

 

ภาพ : IG@katemiddleton_kurdistan   

 

 

 

ต้องรีบแล้ว! สนีกเกอร์สุดล้ำราคาหลักพันจาก ASICS มีขายเพียง 18 คู่ในไทย

มาอีกแล้ว สาวกสนีกเกอร์ต้องกรีดร้อง เมื่อ ASICS เปิดโฉมคอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุด โดยครั้งนี้ได้ร่วมมือกับแบรนด์ดังในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น Mita Sneaker ซึ่งความพิเศษของคอลเล็คชั่นนี้มีชื่อว่า GEL- KENUN SHINKAI เป็นการนำรุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของ ASICS อย่าง GEL- KENUN ในรูปแบบเดิมมาผสมผสานการดีไซน์เข้ากับเจ้ามหาสมุทรอย่างฉลามยักษ์เมกาโลดอน (Megalodon shark)

คุณชิเกยูกิ คูนี่ ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบและสร้างสรรค์ของ Mita Sneakers กล่าวว่า “เดิมทีผมวางดีไซน์สีไว้ให้เสมือนกับสีท้องฟ้าอันสดใส ที่รายล้อมไปด้วยก้อนเมฆ ซึ่งในภาษาญี่ปุ่น เราเรียกว่า Kenun (เคนหยุ่น) แต่พอได้ลองวางแบบดีไซน์มันกลับทำให้ผมรู้สึกอยากใส่อะไรที่มีความท้าทายมากกว่านี้ ผมจึงลองนึกสีของท้องฟ้า ดิ่งลงมาสู่สีน้ำเงินเข้มดั่งใต้ท้องทะเลลึก ที่มีฉลามยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดอย่าง เมกาโลดอน (Megalodon shark)ในตำนานแหวกว่ายอยู่

สำหรับการดีไซน์รองเท้ารุ่น GEL- KENUN SHINKAI ในเฉดสีน้ำทะเลลึก หรือเรียกว่า SHINKAI (ชินไค) ซึ่งเป็นสีน้ำเงินเข้ม คือการนำลวดลายของครีบปลาฉลามมาเป็นลูกเล่นให้กับรองเท้ารุ่นพิเศษนี้ และอีกหนึ่งความพิเศษคือพื้นรองเท้าที่สามารถเปลี่ยนสีได้ แถมตัวรองเท้ามีความคงทน และแข็งแรงเสมือนฟันของปลาฉลาม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์สำคัญของรองเท้า Mita Sneaker ส่วนหน้าผ้าของรองเท้ารุ่นนี้ ASICS ได้นำลวดลายของฟันปลาฉลามเข้ามาเป็นเอกลักษณ์เด่น สำหรับผู้ที่ชอบความสง่างามดั่งปลาฉลามยักษ์

ถึงแม้การดีไซน์ในคอลเล็คชั่นนี้จะแตกต่างจากคอลเล็คชั่นอื่น แต่สิ่งหนึ่งที่ ASICS ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่องคือ ความยืดหยุ่นในทุกๆ แรงกระทบ อีกทั้งการระบายที่ดีป้องกันการอับชื้น และสามารถรู้สึกได้ถึงความยืดหยุ่นในการสวมใส่จากเนื้อผ้าไนลอน ด้วยนวัตกรรม GEL- KENUN

รองเท้ารุ่นนี้จัดวางจำหน่ายแล้วจำกัดเพียงแค่ 18 คู่ในประเทศไทย ในราคา 5,900 บาทที่ร้าน ASICS สาขาเมกาบางนาเท่านั้น โอ้โห! เป็นอีกหนึ่งแรร์ไอเท็มที่หายากเลย เพราะฉะนั้นใครเป็นแฟนสนีกเกอร์แบรนด์นี้ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

 

 

เปิดตัวเอ็มวีเกาหลีของนางเอกพันล้าน ใหม่ –ดาวิกา โฮร์เน่

เปิดตัวทีเซอร์มินิอัลบั้มชุดที่ 5 ของอลินักร้องชื่อดังของเกาหลี สเปเชี่ยลสุดๆ ใหม่ –ดาวิกา โฮร์เน่ บินไปเป็นนางเอกเอ็มวี

หลังจากหายหน้าไปเกือบ 1 ปี ดีว่าสาวเสียงดีแห่งวงการบันเทิงเกาหลี อลิ(Ali)ได้ฤกษ์เปิดตัวมินิอัลบั้มชุดที่ 5 Expand โดยเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมาต้นสังกัดนักร้องดังได้ปล่อยทีเซอร์0.29วินาทีออกมาโปรโมท และพิเศษสุดคืองานนี้เธอได้นางเอกพันล้านของเมืองไทย ใหม่ -ดาวิกา โฮร์เน่ มาเล่นเอ็มวีให้ ซึ่งจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลย

 

สเต็ปผู้ดี๊ผู้ดี! เชอรี่ เข็มอัปสร หวนคืนรันเวย์ หลังห่างไปนาน 10 ปีเต็ม (มีคลิป)

ถึงแฟนๆละครจะบ่นคิดถึง เพราะไม่ได้เห็นผลงานการแสดงของนางเอกสาวสวย เชอรี่ เข็มอัปสร สิริสุขะ มานานแล้ว แต่เจ้าตัวก็ยังมีงานช่วยเหลือสังคมให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ

เชอรี่ เข็มอัปสร สิริสุขะ นางเอกแถวหน้าของวงการบันเทิงที่วางตัวดี มีผลงานการแสดงถูกอกถูกใจใครหลายคน ซึ่งพักหลังอาจไม่ได้เห็นเธอทางหน้าจอละครเหมือนก่อน แต่สาวเชอรี่ก็ไม่ได้ห่างหายไปไหน

ล่าสุดยังหวนคืนสู่รันเวย์เพื่อเดินแฟชั่นโชว์์ให้กับกระเป๋าแบนด์ PHYA ในคอลเล็คชั่นพิเศษ “ณพัฒน์” และถึงแม้จะออกตัวว่าไม่ได้เดินแบบมา 10 ปีแล้ว แต่ต้องขอชมเลยว่าสเต็ปการเดินแฟชั่นโชว์ชุดนี้ สาวเชอรี่ก็ยังทำได้เป๊ะ บวกกับเสื้อผ้า หน้าผมก็ลงตัว ไม่มากไม่น้อยและดูแพงสุดๆ

 

เครื่องผลิตออกซิเจนสำคัญเช่นไร? “ปั๊ป โปเตโต้” พา “ใบเตย” ช่วยต่อลมหายใจชาวชนบท

เป็นเดือนเกิดที่ไม่อยากสร้างสุขให้ตัวเองเพียงส่วนเดียว เพราะนักร้องหนุ่ม ปั๊ป โปเตโต้ หรือ ปั๊ป-พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข ได้พาแฟนสาว ใบเตย-สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ ดีกรีนางเอกเอ็มวีร้อยล้าน ที่พบรักกันกลางกองถ่ายมิวสิควิดีโอเพลงดัง ทิ้งไว้กลางทาง เดินทางไป จ.เชียงราย เพื่อช่วยต่อลมหายใจให้ผู้ป่วยในชนบท

ปั๊ป โปเตโต้

เดือนพฤศจิกายนปีนี้ นักร้องหนุ่ม ปั๊ป โปเตโต้ อายุ 36 ปีแล้ว นอกจากจะพาแฟนสาว ใบเตย-สุวพิชญ์ นักแสดงดาวรุ่งไปกราบนมัสการพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธ หรือท่านว.วชิรเมธ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่การเติบโตอีกปีหนึ่ง รวมถึงได้ใช้เวลาพักผ่อนหลังทำงานร่วมกับสาวใบเตยแล้ว หนุ่มปั๊ปยังได้มีโอกาสทำบุญด้วยการเดินทางไปที่โรงพยาบาลแม่ลาว อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย เพื่อมอบเครื่องผลิตออกซิเจนไฟฟ้า

ปั๊ป โปเตโต้

โดยสิ่งนี้จะนำไปใช้ประโยชน์ให้กับผู้ป่วย โดยเฉพาะคนวัยชราที่เป็นโรคหอบหืดไว้ใช้ติดบ้าน ติดเตียงนอน ด้วยยิ่งเข้าสู่ช่วงหน้าหนาวปลายปีเช่นนี้ จะพบว่าอากาศมีความเปลี่ยนแปลงมากและมีผลต่อระบบหายใจ การมอบเครื่องผลิตออกซิเจนจึงมีประโยชน์ช่วยเหลือคนที่อยู่ตามต่างจังหวัดได้เป็นอย่างมาก รวมถึงยังช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ป่วยไว้สามารถใช้ที่บ้านได้เลย โดยไม่ต้องเดินทางมาเติมออกซิเจนที่โรงพยาบาล

ปั๊ป โปเตโต้ ปั๊ป โปเตโต้

นอกจากนี้ หนุ่มปั๊บยังได้มีโอกาสไปเยือน เฮือนชมจันทร์ ของ ซัน-ชยานนท์ ปัญญาธีรพงษ์ ที่ทำให้ได้ทราบว่า บนโลกนี้ยังมีเรื่องราวดีๆ อีกมากซุกซ่อนอยู่ ด้วยเฮือนชมจันทร์ ที่ตั้งอยู่บ้านป่าแดง ตำบลจอมหมอกแก้ว อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงรายนี้ คุณซันได้สร้างบ้านไว้ให้คุณพ่ออยู่ และยังเปิดให้น้องๆ ชาวเผ่าบีซู ที่ชนเผ่ามีจำนวนคนเหลืออยู่ในประเทศไทยไม่ถึงร้อยกว่าชีวิตให้มาเรียนดนตรีพื้นเมืองจากคุณพ่อ ซึ่งหนุ่มปั๊ปและสาวใบเตยยังได้ชมการแสดงของน้องๆ เผ่าบีซูวง เมล็ดพันธุ์พบดิน มาเล่นดนตรีพื้นเมืองเพราะๆ ให้ฟังด้วย

ถือเป็นการช่วยเหลือผู้คนที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้หลายคนได้ทราบ และการส่งต่อความสุขไปเรื่อยๆ ก็ทำให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้นมากทีเดียว..

 

 


เรื่อง: บะหมี่กุ๊งกิ๊ง_แพรวดอทคอม
ภาพ: IG @pup_potato @iiitoei

คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน เจอร์รี่ รีเทิร์นรักหลินจือหลิงแฟนเก่าที่เลิกไปนับ10ปี

ไม่ต้องไปตามหาหัวใจที่ไหนอีกต่อแล้ว เจอร์รี่ เหยียน รีเทิร์นรัก หลินจือหลิง อีกครั้ง หลังเลิกรากันไปนานนับ10ปี แฟนๆร่วมอวยพรถ้าคู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกัน

ภาพความหวานในอดีต

เป็นที่ทราบดีว่า 3 หนุ่มตำนาน F4 ไต้หวัน แวนเนส วู, วิค โจว และ เคน จู”ได้สละโสดไปหมดแล้ว จะเหลือก็แต่หนุ่ม เหยียน”ที่ยังครองความโสดแม้อายุจะขึ้นเลข4 สร้างความกังวลใจให้กับคนที่รักเขาเป็นอย่างมาก ยิ่งหลังจากเลิกรากับนางแบบรุ่นน้อง “จางซีเอน”เจ้าตัวก็เอาแต่โฟกัสงานจนเหมือนกับปลงๆเรื่องนี้ไปแล้ว ทว่าล่าสุดดูเหมือนว่าหัวใจของเขาจะกลับมาเป็นสีชมพูอีกครั้ง เมื่อสำนักข่าวท้องถิ่นรายงานว่าพบเจอร์รี่และหลินจือหลิงดาราสาวคนดังของไต้หวัน ที่โรงแรมMandarin Oriental กรุงกัวลาลัมเปอร์อยู่ด้วยกันสร้างความประหลาดใจให้กับหลายๆคนมาก เมื่อคู่รักที่เลิกรากันไปนับ10ปีแล้วหวนกลับมาเจอกัน ท่ามกลางกระแสข่าวลือถ่านไฟเก่าคุกรุ่น

ทั้งนี้หลินจื้อหลิงและเจอร์รี่มีข่าวด้วยและต่างฝ่ายก็ต่างยอมรับว่าคบหากันในฐานะแฟน ทั้งสองคบหากันได้ไม่นานก็ต้องเลิกรากันเพราะต่างทำงานเยอะมาก โดยเฉพาะหลินจื้อหลิงนั้นกำลังเป็นดาวรุ่งสุดฮ็อต ซึ่งนี่เองเป็นจุดเริ่มต้นทำให้ทั้งคู่ไม่มีเวลาให้กันและเลิกรากันไปในที่สุด แต่ก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีกันได้ และเมื่อปี 2015 “เจอร์รี่”เคยออกมาให้ข่าวว่า เขาเองยังคิดถึงเธอเพราะช่วงเวลาที่เป็นแฟนกันนั้นมีแต่เรื่องราวดีๆ

“หลินจือหลิง”เคยเปิดใจว่าเธอเคยถูกหนุ่มทิ้ง ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเป็น“เจอร์รี่ F4”

ทั้งนี้นับเมื่อต้นปีที่ผ่านมามีคนจับสังเกตว่าทั้งคู่เริ่มสานสัมพันธ์รักอีกครั้งเมื่อมีคนเห็นภาพคล้ายๆ หลานของเจอร์รี่ในเฟซบุ๊คของ หลินจือหลิง ตามมาด้วยข่าวที่ว่าทั้งสองควงกันไปไหว้พระ แต่ฝ่ายชายก็ยังยืนกรานปฏิเสธ อย่างไรก็ตามตอนนั้นเขาก็ยังเปรยว่าสุดท้ายแล้วเรื่องอนาคตของความรักครั้งนี้ คงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ “หลินจือหลิง” เป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม Apple Dailyได้เผยบทสัมภาษณ์เมื่อเร็วๆนี้ของดาราหนุ่มโดยเขาบอกว่า “ผมยินดีที่ได้กลับไปติดต่อกับเธออีก เราดูแลกันและกัน ผมเองได้อ่านข่าวแล้ว และอยากจะขอความเป็นส่วนตัวจากทุกคนด้วยครับ”

กว่าจะลงตัวได้ก็ใช้เวลาไปนานจนอายุขึ้นเลข4กันหมดแล้ว รักลงล็อคแบบนี้แล้วก็ลั่นระฆังวิวาห์เลยอย่ารีรอ เพราะเดี๋ยวจะตามเพื่อนๆไม่ทัน

“หลินจือหลิง”

Miss Universe กับชุดประจำชาติยอดเยี่ยมยุค 2K ดูสิไทยมีสิทธิ์ชนะกี่เปอร์เซ็นต์?

Miss Universe หรือนางงามจักรวาล ที่คนไทยเรียกกัน ซึ่งปี 2017 นี้ถือเป็นการประกวดครั้งที่ 66 แล้ว และมีกำหนดการจัดงานในวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่แพลเน็ตฮอลลีวู้ดรีสอร์ทแอนด์คาสิโน ในลาสเวกัส รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐฯ

แน่นอนว่าเป้าหมายสูงสุดของสาวงามผู้ทุกประเทศต้องหวังที่จะได้ครองมงกุฎนางงามจักรวาลอยู่แล้ว แต่อีกหนึ่งรางวัลที่นางงามและกองเชียร์เฝ้าลุ้นสูสีกันมาทุกปีก็คือรางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม ซึ่งก่อนจะไปร่วมลุ้นกันว่า ชุด CHASING THE LIGHT เมขลาล่อแก้ว ที่มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 ใส่ขึ้นเวทีจะสามารถคว้ารางวัล The Best ได้หรือไม่ แพรวขอพาคุณย้อนกลับไปดูชุดประจำชาติยอดเยี่ยมยุค 2000s หรือที่เรียกอย่างย่อว่า ยุค 2K เพื่อวิเคราะห์ว่าสิ่งใดหรืออะไรเป็นตัวยึดโยงความโน้มเอียงในการตัดสินของกรรมการบ้าง

Best National Costume ปี 2000 : Leticia Murray นางงามจากเม็กซิโก

ปี 2000 : Leticia Murray นางงามจากเม็กซิโก

Best National Costume ปี 2001 : Kim Sa-rang นางงามจากเกาหลี

ปี 2001 : Kim Sa-rang นางงามจากเกาหลี

Best National Costume ปี 2002 : Vanessa Mendoza นางงามจากโคลอมเบีย

ปี 2002 : Vanessa Mendoza นางงามจากโคลอมเบีย

Best National Costume ปี 2003 : Amelia Vega Polanco นางงามสาธารณรัฐโดมินิกัน

ปี 2003 : Amelia Vega Polanco นางงามสาธารณรัฐโดมินิกัน DOMINICAN REPUBLIC

Best National Costume ปี 2004 : Jessica Rodriguez นางงามจากปานามา

ปี 2004 : Jessica Rodriguez นางงามจากปานามา

Best National Costume ปี 2005 : ชนันภรณ์ รสจันทร์ นางงามไทย ในชุดที่มีแรงบันดาลใจจาก “ศิราภรณ์” ถักด้วยทองคำของไทย ออกแบบโดย ธีรพันธ์ จันทร์เจริญ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องผ้าไทย

ปี 2005 : ชนันภรณ์ รสจันทร์ นางงามไทย

Best National Costume ปี 2006 : Kurara Chibana นางงามจากญี่ปุ่น

ปี 2006 : Kurara Chibana นางงามจากญี่ปุ่น

ปี 2007 ไม่มีสาวงามคว้ารางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม บนเวทีประกวด Miss Universe

Best National Costume ปี 2008 : กวินตา โพธิจักร นางงามไทย ในชุดที่ได้แรงบันดาลใจจาก “ชุดมวยไทยโบราณ”

ปี 2008 : กวินตา โพธิจักร นางงามไทย

Best National Costume ปี 2009 : Diana Broce นางงามจากปานามา

ปี 2009 : Diana Broce นางงามจากปานามา

Best National Costume ปี 2010 : ฝนทิพย์ วัชรตระกูล นางงามไทย ในชุด “สยามไอยรา” ที่ได้แรงบันดาลใจจากเครื่องทรงผสมผสานกับรูปแบบการตัดเย็บแบบผ้าไทยให้ละม้ายคล้ายสตรีในสมัยรัชกาลที่ 5 ออกแบบโดย ผลิน อภิญญากุล

ปี 2010 : ฝนทิพย์ วัชรตระกูล นางงามไทย

Best National Costume ปี 2011 : Sheldry Saez นางงามจากปานามา

ปี 2011 : Sheldry Saez นางงามจากปานามา

Best National Costume ปี 2012 : Ji Dan Xu นางงามจากจีน

ปี 2012 : Ji Dan Xu นางงามจากจีน

Best National Costume ปี 2013 : Nastassja Bolivar นางงามจากนิการากัว

ปี 2013 : Nastassja Bolivar นางงามจากนิการากัว

Best National Costume ปี 2014 : Elvira Devinamira นางงามจากอินโดนิเซีย

ปี 2014 : Elvira Devinamira นางงามจากอินโดนิเซีย

Best National Costume ปี 2015 : อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ นางงามไทย จากชุด “ตุ๊กตุ๊ก ไทยแลนด์” ผลงานการออกแบบของหิรัญกฤษฏิ์ ภัทรพิบูลย์กุล นักวิชาการวัฒนธรรมชื่อดังของไทย

ปี 2015 : อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ นางงามไทย

Best National Costume ปี 2016 : Htet Htet Htun นางงามจากเมียนมาร์ จากชุดที่มีน้ำหนักกว่า 40 กิโลกรัม ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากหุ่นละครเชิด นาฎยกรรมชั้นสูงของประเทศเมียนมาร์

ปี 2016 : Htet Htet Htun นางงามจากเมียนมาร์

เมื่อไล่ดูเฉพาะยุค 2K หรือ 17 ปีที่ผ่านมา สังเกตได้ว่าเกณฑ์การตัดสินว่าจะมอบรางวัล The Best National Costume นั้น ยังคงมาจากปัจจัยหลักที่ว่าชุดประจำชาตินั้นๆ เมื่อไปอยู่บนเวทีประกวดระดับโลกแล้วสามารถสะท้อนถึง ‘เอกลักษณ์ของประเทศ’ ได้เพียงไหน แต่สิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมาอย่างโดดเด่นคือความคิดสร้างสรรค์ที่แต่ละประเทศจะกลมกล่อมไอเดียให้เข้าไปอยู่ในชุดแต่งกายประจำชาติอย่างไร แล้วได้ผลเป็นความน่าทึ่ง และเข้าใจในระดับสากล

น่าดีใจว่าภายใน 17 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยสามารถคว้ารางวัลนี้มาครองได้ถึง 4 ครั้ง ซึ่งนับว่ามากโขถ้านับตั้งแต่มีการประกวดมิสยูนิเวิร์สครั้งแรก เมื่อปี 1952 โดยก่อนยุค 2K นางงามไทยที่ได้รางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยมมีเพียง 2 คนเท่านั้นคือ คุณแสงเดือน แม้นวงศ์ นางสาวไทยปี 1969 และคุณภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก นางสาวไทยปี 1988

นั่นเท่ากับว่ายุคหลังนี้ไทยตีโจทย์ The Best National Costume ได้ตรงใจ ตรงประเด็น และตรงวัตถุประสงค์ของเวทีการประกวดระดับโลกเวทีนี้สุดๆ แม้บางปีจะมีเสียงกระแนะกระแหนถึงความล้ำประหลาดไปบ้าง แต่กาลเวลาก็พิสูจน์แล้วว่า 17 ปี 4 รางวัล เฉลี่ยแล้วเท่ากับ 2-4 ปีไทยจะได้รางวัลนี้หนึ่งครั้ง

ปี 2017 : มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017

ดังนั้นชุดเมขลาล่อแก้วที่มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 ที่เปี่ยมด้วยหนึ่ง ความคิดสร้างสรรค์ สอง สื่อเอกลักษณ์ไทยครบเครื่อง สาม เวทีประกวดปีนี้อยู่ที่ลาสเวกัส เมืองที่นิยมงานโชว์อลังการ สี่ สถานที่นี้เคยตัดสินให้ชุดประจำชาติคว้าชัยมาแล้ว 2 ครั้ง คือปี 2010 กับชุด “สยามไอยรา” ของปุ๊กลุก-ฝนทิพย์ และปี 2015 ในชุด “ตุ๊กตุ๊ก ไทยแลนด์” ที่แนท-อนิพรณ์ใส่ และห้า ผลสำรวจโพลชุดประจำชาติจาก International_Poll ที่ให้ไทยได้รับคะแนนโหวตมาเป็นอันดับ 1 เมื่อเอาความ 5 ข้อมารวมกัน ชุดของไทยจึงมีสิทธิ์สูงมากถึง 90% ที่จะคว้ารางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม (จริงๆ อยากให้ 100% เต็มด้วยซ้ำหลังจากตามส่องชุดของสาวชาติต่างๆ แต่เกรงกรรมการจะคิดมากว่าไทยเพิ่งเว้นวรรคจากรางวัลนี้ไปเพียงปีเดียว)

ที่สำคัญเธอยังอาจจะเจริญรอยตามรุ่นพี่  คุณปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ ไซมอน คือคว้าทั้งรางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยมและมงมิสยูนิเวิร์ส 2017 ก็ได้

เอ้า… เชียร์

 

ที่มาภาพ : gettyimages/ Missosology / Rappler

 

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี

ช่วยกันสวดมนต์ให้ข้าพเจ้าด้วย ข้าพเจ้าคงจะดีขึ้น พระราชดำรัส “เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ”

Alternative Textaccount_circle
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
เมื่อวันอาทิตย์ (12 พ.ย.60) ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสดูข่าวในพระราชสำนักขณะที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ตรัสว่า “ขอความกรุณาว่า..ช่วยกันสวดมนต์ให้ข้าพเจ้าด้วย” ซึ่งประจวบเหมาะกับที่เพจ ที่ตรงนี้ มีกำลังใจ โดย กลุ่มจิตอาสา ใต้ร่มพระบารมี ได้โพสต์ข้อความที่ ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ ได้ตรัสไว้ครบถ้วน

แพรวดอทคอม จึงขออนุญาตนำมาแชร์ต่อ เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมช่วยกันสวดมนต์เพื่อพระองค์ท่านฯ โดยใจความที่พระองค์ได้ตรัสไว้ มีดังนี้

“เป็นห่วง คิดถึงชาว พอ.สว.มาก ยังไม่อยากทิ้งไป ข้าพเจ้า ถ้าข้าพเจ้าทำได้ ถ้ามันอยู่ในอำนาจของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ไม่อยากจากพวกท่านไป ข้าพเจ้ามาทำงาน พอ.สว. นี่ก็ 8 ปีแล้ว แต่ข้าพเจ้าก็ยังรู้สึกว่ามันยังน้อยไป น้อยไป ข้าพเจ้าก็ทราบว่า พี่น้องชาว พอ.สว. ทุกคนก็เมตตาต่อพี่มาก พี่น้อง พอ.สว.ช่วยกันสวดมนต์ให้ข้าพเจ้าหายดี ข้าพเจ้าคงจะดีขึ้น ก็ขอความกรุณาว่า ช่วยกันสวดมนต์ให้ข้าพเจ้าด้วย เพราะว่ายังไงๆ ข้าพเจ้าก็ยังอยากทำงานกับ พอ.สว. อยากอยู่กับมูลนิธิ พอ.สว. อีกต่อให้นานๆ… ”

พระราชดำรัส สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
โรงเรียนหนองบัวพิทยาคาร ตำบลลำภู อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู ทรงเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี วันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๐

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

พุทธัง ธาราธนัง กะโลมิ ธรรมมัง อาราธนัง กะโลมิ สังฆัง อาราธนัง กะโลมิ


▶️
 บทสวดโพชฌังคปริตร

โพชฌังโคสะติสังขาโต ธัมมานัง วิจะโย ตะถา วิริยัมปีติปัสสัทธิ โพชฌังคา จะตะถาปะเร สะมาธุเปกขะโพชฌังคา สัตเต เต สัพพะทัสสินา มุนินา สัมมะทักขาตา ภาวิตา พะหุลีกะตา

สังวัตตันติ อะภิญญายะ นิพพานายะ จะ โพธิยา เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯเอกัสะมิง สะมะเย นาโถ โมคคัลลานัญจะ กัสสะปัง คิลาเน ทุกขิเต ทิสะวา โพชฌังเค สัตตะ เทสะยิ เต จะ ตัง อะภินันทิตะวาโรคา มุจจิงสุ ตังขะเณ

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ เอกะทา ธัมมะราชาปิ เคลัญเญนาภิปีฬิโต จุนทัตเถเรนะ ตัญเญวะ ภะณาเปตะวานะ สาทะรัง สัมโมทิตะวา จะ อาพาธา ตัมหา วุฏฐาสิ ฐานะโส เอเตนะ สัจจะวัชเชนะโสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ

ปะหีนา เต จะ อาพาธา ติณณันนัมปิ มะเหสินัง มัคคาหะตะกิเลสาวะ ปัตตานุปปัตติธัมมะตัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะโสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ
………………………………………………………………..

▶️
 คำแปล
โพชฌงค์ 7 ประการ คือ สติสัมโพชฌงค์ ธรรมวิจยะสัมโพชฌงค์ วิริยะสัมโพชฌงค์ ปีติสัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ สมาธิสัมโพชฌงค์ และอุเบกขาสัมโพชฌงค์ 7 ประการเหล่านี้ เป็นธรรมอันพระมุนีเจ้า ผู้ทรงเห็นธรรมทั้งปวงตรัสไว้ชอบแล้ว อันบุคคลเจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ และเพื่อนิพพาน

ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ ในสมัยหนึ่ง พระโลกนาถเจ้า ทอดพระเนตรเห็นพระโมคคัลลานะ และพระมหากัสสปะเป็นไข้ ได้รับความลำบาก จึงทรงแสดงโพชฌงค์ 7 ประการ ให้ท่านทั้งสองฟัง ท่านทั้งสองนั้น ชื่นชมยินดียิ่ง ซึ่งโพชฌงคธรรม โรคก็หายได้ในบัดดล

ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ ในครั้งหนึ่ง องค์พระธรรมราชาเอง (พระพุทธเจ้า) ทรงประชวรเป็นไข้หนัก รับสั่งให้พระจุนทะเถระ กล่าวโพชฌงค์นั้นนั่นแลถวายโดยเคารพ ก็ทรงบันเทิงพระหฤทัย หายจากพระประชวรนั้นได้โดยพลัน

ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ ก็อาพาธทั้งหลายนั้น ของพระผู้ทรงคุณอันยิ่งใหญ่ทั้ง ๓ องค์นั้น หายแล้วไม่กลับเป็นอีก ดุจดังกิเลส ถูกอริยมรรคกำจัดเสียแล้ว ถึงซึ่งความไม่เกิดอีกเป็นธรรมดา ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ…

ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมสวดมนต์บทนี้ถวายแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ขอพระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง และหายจากอาการประชวรและหายจากโรคภัยทั้งปวงโดยเร็วพลันเทอญฯ สาธุ สาธุ สาธุ

‘หนักแน่นไว้ เจอแต่พวกเมาท์มอยซอยเท้า’ เช็คเลย ดวงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2560

ดูดวงรายวัน ประจำวันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน 2560 เช็คทุกวัน ทันทุกดวงกับ แพรว ดอทคอม

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : ระวังเรื่องมุมมองความคิดเห็นไม่ตรงกับผู้บังคับบัญชา หรือเพื่อนร่วมงาน ซึ่งท่านก็ไม่จำเป็นที่จะต้องแสดงหลักการอะไร เพราะผู้บังคับบัญชาย่อมถูกเสมอ มีทางเดียวคือต้องพยายามพิสูจน์ด้วยผลงาน โดยเลือกบริวารที่ดีมาร่วมงาน

การเงิน : มีเหตุให้ต้องใช้จ่ายอย่างไม่คาดคิด เช่น เพื่อนฝูง หรือญาติพี่น้องมาขอความช่วยเหลือ

ความรัก : วันนี้ท่านตัดกันไม่ขาด แม้ทดลองแยกกันอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีเหตุให้ต้องกลับมาอยู่ด้วยกัน แสดงว่ายังไม่หมดกรรมต่อกัน คนโสด มีความสุข ได้เจอคนแนวเดียวกัน อาจเริ่มจากการทำงานแล้วใกล้ชิดจนกลายเป็นความรัก

สุขภาพ : ระวังจะเกิดอุบัติเหตุโดยไม่คาดคิดในชีวิตประจำวัน ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่เอวลงมา

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : ท่านมาเต็มร้อย ทั้งกำลังกาย กำลังใจที่จะเริ่มต้นทำงานและฟันฝ่าอุปสรรคนานัปการ ร่วมกับทีมงาน ซึ่งงานวันนี้ต้องอาศัยชั้นเชิง พลิกแพลงกลยุทธ์ ปรับกระบวนเกมจึงจะไปได้

การเงิน  : อาจต้องเตรียมเงินเพื่อออกรถป้ายแดง

ความรัก : วันนี้ขอให้เชื่อใจกันไว้ใจกันจะสามารถเอาชนะทุกสิ่ง คนโสด  ยิ่งคบยิ่งเห็นแก่ตัว หากหาคนดีไม่ได้ก็อยู่คนเดียวมีความสุขกว่า

สุขภาพ : ระวังจะได้รับอุบัติเหตุจากการทำงาน ของตกใส่

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  : ท่านมีภาวะผู้นำสูง จะได้เดินทางไปทำงานต่างที่ต่างถิ่น อาจมีปัญหาขลุกขลักบ้าง ซึ่งท่านต้องยอมปรับเปลี่ยนท่าทีบ้างจึงจะผ่านไปได้ อย่าโมโหจะปิดบังปัญญาทำให้ไปต่อไม่ได้

การเงิน : จะได้โชคลาภแบบฟลุ๊คๆ แต่ก็จะหมดไปกับการช่วยเหลือคน

ความรัก :  วันนี้หากท่านสามารถปรับในเรื่องของความหึงหวงที่มากเกินไปได้ ก็จะเพอร์เฟ็คท์  คนโสด ใครเข้ามาวันนี้ ท่านควรออกฤทธิ์เดชให้เต็มที่ เพื่อดูว่าเขาจะรับได้หรือเปล่า

สุขภาพ : ระวังพักผ่อนไม่เต็มที่จะทำให้เลือดจาง

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  : หากท่านเป็นผู้รับเหมา หรือการก่อสร้าง นวัตกรรมใหม่ๆ ที่ท่านคิดค้นจะสามารถสร้างเงินและชื่อเสียงให้ แต่ต้องคุมงานให้ดี เพราะลูกน้องอาจทำให้งานล่าช้า

การเงิน : ไม่ได้มาเป็นก้อนใหญ่ แต่จะเป็นลักษณะเก็บดอกผลจากผลงาน

ความรัก : วันนี้ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหน้าจะออกหน้าส่งเสริมการงานของสามี และหาเงินทองให้กับครอบครัวด้วย คนโสด ต้องมั่นคงหนักแน่นนะคะ อย่าเชื่อคำคนอื่นเยอะ เมาท์มอยทั้งนั้น

สุขภาพ : ความอ้วนมาแล้วจ้า โรคต่างๆ ก็มาด้วย

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : ท่านยังมิวายที่จะวิตกกังวล หรือเครียด เพราะอาจด้วยความที่ท่านต้องเป็นผู้นำหรือเป็นหลักให้กับทีมงาน ฉะนั้นควรหาบริวารที่มีศักยภาพมาช่วยแบ่งเบา

การเงิน : ระวังเงินที่คาดหวังไว้อาจถูกประวิงเวลาออกไป

ความรัก : วันนี้ท่านต้องนิ่ง อย่าเอาชนะกัน อย่าพยายามรื้อฟื้นอดีตขึ้นมาให้ทะเลาะกันอีก คนโสด เจอคนที่คิดว่าใช่ แต่พอคบกันไปแล้วไม่ใช่ สืบดูดีๆ

สุขภาพ : ระวังเรื่องระบบหมุนเวียนเลือด ความดัน ระบบน้ำเหลืองและต่อมไร้ท่อต่างๆ

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : วันนี้ตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อตเลย เพราะเหมือนท่านค้างงานไว้มาก แล้วสะสางงานไม่ทัน คนนั้นก็ทวง คนนี้ก็ทวง แต่อย่างไรก็คงต้องเลือกงานตัวเองไว้ก่อน

การเงิน : มีโอกาสได้ทำงานเสริมแล้วได้เงินก้อนด้วย

ความรัก : วันนี้อย่าพยายามขัดแย้งกัน เพราะท่านต้องเตรียมรับมือกับปัญหาลูกหลานดื้อ ให้เวลากับเขามากๆ คนโสด กำลังคบหาดูใจกันอยู่ แต่มีเหตุให้เห็นผิดเป็นชอบ ชิงสุกก่อนห่ามจะทำให้มีเรื่องอื้อฉาวได้

สุขภาพ  :  ควรระวังปวดหลัง ปวดตามข้อ และข้อเท้า

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน :  สำหรับท่านที่เป็นผู้บริหาร จะเหน็ดเหนื่อยกับการปกครองบริวาร มีปัญหามากมาย  ควรใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหามากกว่าใช้อารมณ์ตัดสิน ลดอัตตาตัวเองลงบ้าง เปิดรับฟังความคิดเห็นของลูกน้องด้วย

การเงิน : รอโชคลาภ ความหวัง เรื่องการค้าขายที่ดิน

ความรัก : วันนี้คุยกันให้รู้เรื่อง อย่างอนกันโดยไม่มีสาเหตุ จะทำให้เครียด ควรชวนกันไปพักผ่อนต่างอากาศหรือย้ายที่นั่งทำงานบ้าง จะทำให้ดีขึ้น คนโสด รักๆ เลิกๆ เตรียมหาคู่ใหม่ได้

สุขภาพ : ระวังหน้ามืด เวียนศีรษะ ติดเชื้อภูมิแพ้จากการเปลี่ยนสถานที่และอากาศ

เขยสะใภ้จีนดูไว้ 2 สไตล์ชุดแต่งงานจีนสีมงคลต้องใส่

account_circle

ชุดแต่งงาน จีนตามธรรมเนียมดั่งเดิมมีอยู่ด้วยกันหลายแบบหลายสไตล์ ว่าแต่ชุดแบบไหนที่ได้รับความนิยมในหมู่บ่าวสาวชาวไทยมากที่สุด มาดูกัน

1

ชุดเจ้าสาวชาวจีนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่เจ้าสาวคนไทย ได้แก่ ชุดกี่เพ้า หรือที่คนจีนเรียกว่า Cheongsam (chèuhngsāam) โดยชุดชนิดนี้ มีจุดเด่นอยู่ที่เป็นชุดยาวคลุมขา ขนาดพอดีตัว และมีการผ่าด้านข้าง เพื่อให้สามารถเดินได้สะดวกยิ่งขึ้น แต่ชุดที่เราเห็นในปัจจุบันเป็นชุดที่ได้รับการพัฒนาในช่วงปี 1920  โดยกลุ่มสตรีชั้นสูง ที่ได้รับอิทธิพลชุดแบบตะวันตกออกแบบให้ชุดมีความแนบกับลำตัวมากยิ่งขึ้น เพื่อเน้นทรวดทรงองค์เอวของผู้สวมใส่ อีกทั้งชุดแบบนี้ยังเป็นแฟชั่นในหมู่ชนชั้นสูงปลายสมัยราชวงศ์ชิงอีกด้วย

(ซ้าย) ชุดแบบ Changshan (ขวา) ชุดแบบ Mao Suit
(ซ้าย) ชุดแบบ Changshan                                                                                                 (ขวา) ชุดแบบ Mao Suit

มาดูกนต่อ กับชุดเจ้าบ่าวชาวจีนกันบ้าง ขอบอกเลยว่า ถ้าคุณคิดว่าเจ้าบ่าวชาวจีนต้องลุคเหมือนจอมยุทธ คุณคิดผิด เพี่ะชุดเจ้าบ่าวที่ได้รับความนิยมมีอยู่ 2 แบบ คือ ชุดแบบ Changshan กับชุดสูทเหมา (Mao Suit) แบบประยุกต์ ซึ่งทั้งสองชุดมีความคล้ายกันตรงที่เป็นชุดคอปีน แขนยาว สวมคู่กับกางกาง แต่ต่างกันเล็กน้อย ตรงกระดุมกับเนื้อผ้า โดยชุดแบบ Changshan จะใช้กระดุมห่วงแบบจีน และตัดจากผ้าไหม ส่วนชุดแบบเหมา จะใช้กระดุมกลมแบบตะวันตก และใช้ผ้า Polyester ในการตัดเย็บ ทั้งนี้หากคุณหนุ่มๆ อยากได้ชุดแต่งงานสไตล์จีนดั้งเดิม เลดี้ขอแนะนำชุดแบบ Changshan ส่วนใครที่อยากได้ชุดที่ดูสากล แต่ยังให้กลิ่นอายจีนนิดๆ บวกกับไม่อยากเสียเวลาติดกระดุม ก็สามารถเลือกชุดสูทเหมาได้เช่นกันนะจ๊ะ

ทั้งหมดนี้ คือ ชุดบ่าวสาวสไตล์จีนยอดนิยมทั้ง 3 แบบ ที่เลดี้นำมาฝาก ส่วนใครจะเหมาะกับแบบไหนนั้น ขอแนะนำให้ไปลองกันดูเลยจ้า เพื่อความเป๊ะ สวย หล่อ ในวันงานนั่นเอง และที่สำคัญ ว่าที่บ่าวสาวทั้งหลาย อย่าลืมที่จะเลือกชุดแต่งงานสีมงคลด้วยนะจ๊ะ ชีวิตคู่จะได้แฮปปี้แบบสุดๆ

ภาพ : www.easyweddings.com

ลบคำสบประมาท“อั๋น”ประกาศปั๊มลูกเป็น! ภรรยาตั้งท้องแล้ว 3 เดือน

ลั่นปั๊มลูกเป็น“อั๋น -ภูวนาท คุณผลิน”เปิดใจหืดขึ้นคอกว่าจะได้เป็นพ่อคน เผยภรรยา“จ๋า-อลิสา”ท้อง 3 เดือนแต่ยังระบุเพศไม่ได้แต่คาดน่าจะเป็นเพศชาย

หลังจากเมื่อต้นปีที่ผ่านมาดีเจ.หนุ่ม“อั๋น-ภูวนาท คุณผลิน”ได้ควงแฟนสาวนักธุรกิจ “จ๋า-อลิสา”เข้าประตูวิวาห์พร้อมประกาศอยากมีลูกด้วยกันทันที และเมื่อเร็วๆนี้คู่รักคู่หวานก็สมหวังเสียทีเมื่อภรรรยาของดีเจ.หนุ่มตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน หลังจากที่ใช้สารพัดวิธีทั้งธรรมชาติและพึ่งวิวัฒนาการทางการแพทย์

ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ในรายการเมาท์มันส์บันเทิง “อั๋น” ได้เปิดใจในฐานะว่าที่คุณพ่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่ง”อั๋น”เผยว่าก่อนท้องนี้เคยหลุดมาแล้วครั้งนึง แต่ตนไม่ได้ออกมาเปิดเผยเพราะหลังจากที่หลุดก็ทำใหม่ทันที ซึ่งไข่ที่ติดใบนี้เป็นไข่ที่ภรรยาเก็บมาตั้งแต่เมื่ออายุ39 ปี

พิธีกรหนุ่มยังเผยว่าที่ผ่านมาปรึกษาแพทย์มาโดยตลอดตั้งแต่ก่อนที่จะแต่งงาน โดยก่อนที่ตัดสินใจใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ตนก็เคยลองแบบวิธีธรรมชาติมาแล้ว แต่นั่นก็ลำบากมากเพราะเมื่อไข่ตกเรามีเวลาไม่กี่ชั่วโมงที่จะสำเร็จ บางครั้งต้องยกเลิกนัดแล้วนั่งมอเตอร์ไซค์กลับบ้านเพื่อปฎิบัติกิจเป็นอะไรที่ทรมาณมาก

ในส่วนของเพศลูกนั้น “อั๋น”เผยว่าครรภ์ยังอายุน้อยเกินไป  ส่วนตัวอยากมีลูกไม่เกิน 2 คนถ้าเป็นผู้ชายก็อาจจะหยุดเลย ถ้าเป็นผู้หญิงก็ขออีกคน แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวว่าเพศไหน เอาแข็งแรงก่อนโตเขาก็เลือกเพศเอง

อย่างไรก็ตามพิธีกรหนุ่มยังได้ทิ้งท้ายว่าที่ออกมาเปิดเผยแบบหมดเปลือกเพราะตนก็ไม่รู้จะปิดทำไม “ก็ไม่รู้จะปิดทำไมเราไม่ได้มีปัญหา จะบอกว่าทำเองไม่ได้ เราก็ทำเองอยู่ ผมทำเองได้ครับ ถูกรู ยังฟิตอยู่(หัวเราะ)”อั๋นกล่าว

 

ไปสู่จักรวาล! รวมแฟชั่น “มารีญา” ประชันนางงามทั่วโลกก่อนขึ้นเวที

มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 ถือเป็นนางงามที่ถูกตั้งความหวังด้วยแรงรักและแรงเชียร์ให้มงฯ ลงสุดๆ เพราะคุณสมบัติครบ ไม่ว่าจะมองด้านไหนก็เลิศ และเมื่อสาวมารีญาบินไปถึงลาสเวกัส แน่นอนว่าชุดที่จะใส่ในกองประกวดก็พร้อม เรียกได้ว่าทำการบ้านหนักไม่ต่างจากชุดอื่นๆ ที่ต้องใส่ขึ้นเวทีกันเลย เพราะฉะนั้นวันนี้แพรวดอทคอมจะพาทุกคนไปตามส่องแฟชั่นตอนเก็บตัวของสาวมารีญากัน ลุคไหนจะปัง ลุคไหนจะเกิด ต้องดู!

เริ่มด้วยลุคแรก บอกก่อนว่าลุคนี้ยังไม่เข้ารายงานตัวที่กองประกวดนะ อันนี้แค่แต่งออกมาเดินเที่ยวชิลๆ เป็นไงล่ะ เก๋เว่อร์

เสื้อคลุม : Sirivannavari
กระโปรง : Sirivannavari
ต่างหู : Ek thongprasert
กระเป๋า : Chloe
รองเท้า : Sirivannavari

 

เข้ารายงานตัวกับกองประกวด และฮือฮาสุดๆ เพราะได้ช่างผมฝีมือดีอย่างวินเซ้นต์ มาทำผมทรงฟาร่าสไตล์นางงามให้ แถมยังได้ถ่ายไลฟ์ ทาง OFFICIAL IG missuniverse เป็นคนแรกอีกด้วย งานนี้แฟนคลับนางงามหลายคนต่างโพสว่า ถ้าช่างผมคนนี้ได้เนรมิตทรงผมสวยให้ใคร คนนั้นมงฯ จะลง โอ้ว! ขนลุกแล้วววว

วินเซ้นต์และมารีญา

เสื้อ : Poem
กระโปรง : Surface
โค้ต : Vatanika
ต่างหู : Ek thongprasert
เครื่องประดับ : Prive jewelry
กระเป๋า : Jimmychoo
รองเท้า : Jimmychoo

 

ลุคต่อไป เป็นลุคที่แต่งเพื่อถ่ายรูปให้กับสินค้าของสปอนเซอร์ รวมถึงถ่ายวีทีอาร์ ซึ่งลุคนี้ให้ความงามดั่งเจ้าหญิงในเทพนิยาย มีความผู้ดี ดูแพง และน่ารักในเวลาเดียวกัน

แจ็กเก็ต : Sirivannavari
เสื้อเชิ้ต : Senada thailand
เครื่องประดับ : Ek thongprasert
กระเป๋า : Jimmychoo
รองเท้า : Jimmychoo

 

ลุคนี้กินข้าวเช้าเบาๆ และเป็นอีกวันที่ต้องถ่ายชู้ตติ้ง แต่กางเกงเอวสูงและเสื้อสีดำพื้นๆ ไม่มีลาย ก็ยังทำให้มารีญาสวยเด่นได้

เสื้อ : Poem , Dry clean only
กางเกง : Everyday Karmakamet

 

จบกันที่ลุคล่าสุด เป็นเดรสผ้าไหมไทย ที่เมื่อใส่แล้วดูโมเดิร์น อินเตอร์ อินเนอร์นางงามกินขาด เป็นอีกลุคที่ส่งให้มารีญาดูงามสง่า และช่วยให้ร่างบางๆ ดูเต็มขึ้น

เดรส : Wisharawish
เครื่องประดับ : Prive jewelry
รองเท้า : Jimmychoo

ย้ำกันอีกครั้ง อยากร่วมลุ้นมงฯ ไปพร้อมกัน สามารถติดตามการถ่ายทอดสดการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2560 เวลา 07.00 – 10.00 น. ทางช่อง 3SD ช่อง 28 และชมเทปบันทึกภาพในเวลา 23.15 น ทางช่อง 3HD ช่อง 33


 

เรื่อง : Hana_แพรวดอทคอม (ฮานะ)

ภาพ : IG@sirivannavari_shop , @marialynnehren  , @missuniversethailand

 

ว้าวๆ นิชคุณ โอปป้ารับคุยสาวอุบตอบหวานใจในอนาคตเกาหลีVSสาวไทย?

หนุ่มฮ็อตแดนกิมจิ นิชคุณ ลัดฟ้ากลับไทยบวงสรวงภาพยนตร์ Brother & Sister วางแผนปีหน้ามีงานที่ไทยเยอะขึ้น ส่วนสถานะหัวใจโสดมาพักใหญ่ รับมีสาวคุยแต่ยังไม่จริงจัง

“นิชคุณ หรเวชกุล”

ภายหลังจากที่ อ๊คแทคยอน วงทูพีเอ็ม(2PM) อำลาวงการไปปฏิบัติภารกิจรับใช้ชาติ เพื่อนๆสมาชิกทูพีเอ็มคนอื่นๆก็เริ่มลองชิมลางงานเดี่ยวกันทีละคนสองคน ซึ่ง นิชคุณ หรเวชกุล นักร้องหนุ่มสัญชาติไทยได้วางแผนเกี่ยวกับผลงานในอนาคตไว้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นซีรี่ส์,แฟนมีตติ้งเดี่ยว รวมถึงการกลับมาเล่นภาพยนตร์ไทยอีกครั้งในรอบหลายปี

โดยเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมาหนุ่มนิชคุณได้เดินทางมาร่วมบวงสรวงเปิดกล้องภาพยนตร์ โรแมนติก คอมเมอดี้ Brother & Sister ของผู้กำกับ บอล-วิทยา ทองอยู่ยง ทำเอาบรรดาแฟนคลับต่างตื่นเต้นกันยกใหญ่ ซึ่งภายหลังจากพิธีบวงสรวงเปิด โอปป้าเกาหลีก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความเป็นมาและเป็นไป พร้อมอัพเดทผลงานใหม่ รวมถึงเรื่องหัวใจที่แฟนๆฟังแล้วต้องร้องว้าวแน่นอน

ห่างหายงานแสดงภาพยนตร์ไทยไปนานนักร้องหนุ่มเลยต้องเคาะสนิมเยอะ
“ใช้เวลาตัดสินใจสั้นมาก หลังจากตัดสินใจว่าเล่นทางผู้จัดการส่วนตัวก็เคลียร์คิวให้ เพราะบ้านนี้ก็คือบ้านที่คุ้นเคย รู้จักมาก่อนอยู่แล้ว สบายใจครับ ที่ได้กลับมาทำงานที่บ้าน แต่ก็กดดันนิดนึง เพราะผมไม่ได้เป็นนักแสดงเต็มตัว และที่ผ่านมาไม่ได้แสดงอะไรเยอะแยะอะไรขนาดนั้น กลับมาครั้งนี้ก็มาเวิร์คชอปแบบเต็มที่ เริ่มตั้งแต่เมื่อ2วันที่แล้ว เคาะสนิมเริ่มนับตั้งแต่ 0 เลย เหนื่อยนิดนึงแต่ว่าก็สู้ครับผม เพราะอยากให้หนังเรื่องนี้ออกมาให้ดีที่สุด อยากให้ผู้ชมคนไทยประทับใจ ในตัวละครของผมและการแสดงของผม”

หนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆ

กลับมาลุยงานที่ไทยมากขึ้น
“เยอะครับ ปีนี้ก็อยากมาลุยมากกว่านี้ แต่ด้วยเวลาและหลายอย่างเลยดีเลย์ไปนิดนึง อย่างหนังเรื่องนี้ ผมว่าทุกคนน่าจะชอบ มันไม่ใช่แค่ตลก แค่โรแมนติกอย่างเดียว มันเป็นเรื่องของความรัก อย่างหนังเรื่องนี้ชื่อหนังผมว่ามันเป็นความรักไม่ใช่แค่แบบหนุ่มสาวโรแมนติก แต่ว่าเป็นรักแบบครอบครัวด้วย เป็นเนื้อเรื่องที่ฟังดูแล้วอบอุ่น”

แฟนๆรอชมผลงานใหม่ๆทั้งงานแสดงและแฟนมีตติ้ง
“ผมเพิ่งไปถ่ายละครที่จีนมา และเร็วๆนี้จะมีงานแฟนมีตติ้งที่ประเทศเกาหลีใต้และญี่ปุ่น2รอบ ส่วนเมืองไทยปีหน้ามาจัดแน่นอนตอนนี้กำลังหาวันอยู่ ผมก็คนไทย ก็ต้องกลับมาเจอแฟนๆอยู่แล้ว”

เป็นเรื่องยากที่จะกลับมาอยู่เมืองไทยถาวร
“คือต้นสังกัดผมอยู่ที่เกาหลีครับ แต่ก็มีเรียกร้องมาหลายประเทศมาก การกลับมาอยู่ไทย เลยอาจจะยากนิดนึง เพราะว่าผมต้องบินไปบินมาอยู่บ่อยๆ แต่บ้านผมก็คือเมืองไทยอยู่แล้ว มาเมื่อไรก็เหมือนกลับเมืองไทยอยู่แล้ว

“นิชคุณ”วง “ทูพีเอ็ม”

สถานะหัวใจโสดกะปริบกะปรอย
“ก็สักพักนึงแล้วครับ ใครจะจีบหรือครับ (หัวเราะ) จริงๆมันก็ต้องมีบ้างใช่ไหมครับ ผมก็เป็นคน แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรมาก ช่วงนี้โฟกัสงานมากกว่า”

อุบตอบถ้ามีแฟนจะเลือกใครระหว่าง สาวเกาหลีใต้หรือสาวไทย
“ให้เป็นกันเองแล้วกันครับ”

เอาเป็นว่าเรื่องหัวใจพักไว้ก่อนเพราะอนาคตยังไม่มีอะไรแน่นอน แต่ส่วนที่แน่ๆคือผลงาน Brother & Sister เริ่มถ่ายทำแล้วมีคิวเข้าฉายในปี2561 แฟนคลับแฟนไม่คลับอย่าลืมไปให้กำลังใจหนุ่มคนนี้กันด้วยนะจ๊ะ

keyboard_arrow_up