Central x Made by Legacy Summer Fest Flea Market

วินเทจมาร์เก็ต Central x Made by Legacy Summer Fest Flea Market

Alternative Textaccount_circle
Central x Made by Legacy Summer Fest Flea Market
Central x Made by Legacy Summer Fest Flea Market

ห้างเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล แฟชั่นเดสติเนชันของเมืองไทย เอาใจแฟชั่นนิสต้าที่กำลังมองหาไอเทมสำหรับทริปซัมเมอร์’24  ด้วยการจับมือกับ “Made by Legacy” (เมดบายเลกาซี่) คอมมูนิตี้คนรักของวินเทจ งานคราฟต์ และเสียงเพลงผ่านรูปแบบของกิจกรรม ‘Flea Market’ ได้ฟีลตลาดนัดสุดชิคในหลายๆ ประเทศทั่วโลก เนรมิตวินเทจ มาร์เก็ต Central x Made by Legacy “Summer Fest” Flea Market จัดเต็มสินค้าแฟชั่นกว่า 1,000 แบรนด์พร้อมเหล่าเซเลบริตี้และอินฟูลเอนเซอร์ ที่มาร่วมแบ่งปันความหลงใหลในศิลปะ แฟชั่น งานฝีมือ อาหารนานาชาติ ดนตรี และไลฟ์สไตล์ ร่วมด้วยพันธมิตรแอปสตรีมมิงระดับโลก “Spotify” สนุกไปกับ AI แมตซ์สไตล์ให้กลายเป็นเพลงกับ Spotify Exclusive Central Playlist พร้อมเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงแบบอัปบีตจากดีเจตัวท็อป สร้างสีสัน จังหวะสนุกๆ และประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าของห้าง

Central x Made by Legacy Summer Fest Flea Market

ภายในงาน ได้รับเกียรติจากผู้บริหาร ห้างเซ็นทรัล คุณศิริพร ลิจุติภูมิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารสินค้าลักชูรี, Young Fashion และนาฬิกา และคุณสเตฟาน จูเบิร์ท ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายสื่อสารการตลาด ร่วมเปิดงาน พร้อมด้วย กอล์ฟ-พิชญะ นิธิไพศาลกุล ดาราหนุ่มสายแฟฯมาเช็คอินสร้างสีสันเพิ่มความฮอตให้ซัมเมอร์นี้ โดยงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญใหญ่ Central Summer Fest ที่จัดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกท่านได้ช้อปปิ้งพร้อมอัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ และแฮงเอาต์สนุกๆ แบบหาไม่ได้ที่ไหนเพราะเป็นการรวบรวมความสนุกจากหลากหลายไลฟ์สไตล์ ทั้งจากวงการรีเทล วงการศิลปะวินเทจ และวงการเพลง พร้อมร่วมค้นหาไอเทมการแต่งกายเก๋ๆ ในสไตล์ที่เป็นคุณ เป็นเดสติเนชันแห่งซัมเมอร์ ให้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสไตล์ มาช้อปสนุกกันได้ที่แผนกแฟชั่น ห้างเซ็นทรัล และมี 3 ไฮไลท์เพื่อสายนักช้อป คือ

1. The No.1 Fashion Destination พบกับอาณาจักรสินค้าแฟชั่นที่คัดสรรจากทุกหมวดหมู่ให้ครบครันและครอบคลุมตอบโจทย์ลูกค้าทุกสไตล์ ด้วยแนวคิด Contemporary Fashion พร้อมนำเสนอไอเทมสุดอินเทรนด์และมีให้ช้อปที่ห้างเซ็นทรัลเท่านั้น อาทิ Moschino, Vivienne Westwood, Maje, Sandro, Samo Ondoh, Staccato โดย 5 สินค้าตัวท็อปช่วงซัมเมอร์ได้แก่ 1. เสื้อยืด และกางเกงยีนส์  2. รองเท้า และรองเท้าแตะลำลอง 3. เครื่องประดับ 4. ชุดชั้นใน-ชุดว่ายน้ำ 5. นาฬิกาแฟชั่นสีสันสดใส

พลาดไม่ได้กับ Summer Market มุมพิเศษที่รวบรวมสินค้าแบรนด์ดังมาให้ช้อปสะดวกในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง เสื้อผ้าสตรี ชุดว่ายน้ำ รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับสตรี ของแต่งบ้าน และแกดเจ็ต อาทิ Shisedo, Tom Ford, Weekend Begin, Sue, Fitflop, Havaianas, Stuff Factory, Passa, Pearly Bath, Pho-neticsymbol, Happening & Co., Samo Ondoh และ Bang & Olufsen เป็นต้น

2. Your Source of Inspiration and Enjoyment นอกจากจะช้อปได้อย่างเพลิดเพลินแล้ว ลูกค้ายังได้อัปเดตเทรนด์และแรงบันดาลใจใหม่ๆ ผ่านทางวินโดว์ดิสเพลย์ของห้างเซ็นทรัล ที่เป็นเสมือนกระจกสะท้อนเทรนด์ต่างๆ ซึ่งสำหรับ Central Summer Fest ครั้งนี้ ตกแต่งในสไตล์ชนเผ่า (Tribal) ด้วยสีสันสดใส ทั้งสีเขียว สีแสด สีฟ้า และสีชมพู หยิบเอาวัสดุรีไซเคิลที่เป็นมิตรกับธรรมชาติมาเนรมิตห้างเช่นเคย รวมทั้งยังฟังเพลงจาก “Spotify” ที่สร้าง Playlist พิเศษช่วงซัมเมอร์ให้ลูกค้าห้างเซ็นทรัลได้ฟังกันชิล ๆ รวมถึงกิจกรรม Interactive ผสมผสานดนตรีเข้ากับแฟชั่น โดยลูกค้าสามารถหยิบไอเทมเสื้อผ้ามาทดลองสวมใส่หน้ากระจก จากนั้น AI จะเลือกแทร็กเพลงให้เข้ากับสไตล์การแต่งกายของคุณ เพิ่มโมเมนต์แห่งความสุข ให้แชร์ความสนุกบนโซเชียลด้วยกัน ผ่านแฮชแท็ก#CentralSummerFest

3. The Best Offers with Engaging Gamification พิเศษตลอดแคมเปญ ห้างเซ็นทรัลมอบเอ็กซ์คลูซีฟโปรโมชันด้วยส่วนลดสูงสุด 50% สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการ พร้อมขนแบรนด์ชั้นนำหมุนเวียนมาอัดดีลที่คุ้มที่สุด และเมื่อช้อปครบ 2,000 บาท รับทันทีคูปองเงินดิจิทัลมูลค่า 100 บาท และเมื่อช้อปครบ 20,000 บาท รับเพิ่มอีกต่อกับพัดลมพรีเมียมสุดคูลรุ่นลิมิเต็ดเอดิชันไว้ดับร้อน นอกจากนี้ ยังลดออนท็อปได้ด้วยคะแนนเดอะวัน  (The1) รับส่วนลดเพิ่ม 12.5% เป็นต้น

ช้อปสนุกตลอดซัมเมอร์กับ Central Summer Fest ที่ห้างเซ็นทรัลทุกสาขา หรือช้อปผ่านช่องทางสุดสะดวกของห้างอย่าง Central App, เว็บไซต์ www.central.co.th, Personal Shopper โทร. 1425 หรือจะช้อปผ่านโซเชียลคอมเมิร์ซที่ไลน์ Central Chat & Shop, Facebook หรือ TikTok : Central Department Store ครบครัน เติมเต็มประสบการณ์การช้อปได้อย่างไร้รอยต่อ

Pierpaolo Piccioli ประกาศอำลาตำแหน่ง ครีเอทีฟไดเรกเตอร์แห่ง Valentino

account_circle

ถือเป็นข่าวใหญ่ในวงการแฟชั่น เมื่อ Pierpaolo Piccioli ดีไซเนอร์ชาวอิตาเลียนประกาศอำลาตำหน่ง ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ หลังจากสร้างสรรค์ผลงานให้กับ Valentiono มานานถึง 25 ปี

ทั้งนี้ Piccioli ได้โพสต์ความรู้สึกผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @pppiccioli เป็นภาษาอิตาลี โดยมีใจความว่า

“ไม่ใช่ทุกเรื่องราวจะมีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด บางเรื่องราวยังคงดำเนินต่อไปแบบนิรันดร์และส่องประกายด้วยแสงอันเจิดจ้า แข็งแกร่ง ฉันอยู่กับบริษัทนี้มา 25 ปีแล้ว และ 25 ปีที่ได้อยู่ร่วมกับผู้คนที่ถักทอเรื่องราวอันสวยงามของฉัน และของพวกเรา ทุกสิ่งมีอยู่และยังคงดำรงอยู่ ขอบคุณผู้คนที่ฉันได้พบ ผู้ที่ฉันได้ร่วมงานด้วย ผู้ซึ่งฉันได้แบ่งปันความฝันและสร้างสรรค์ความงดงาม สร้างสรรค์บางสิ่งที่เป็นของทุกคน ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และจับต้องได้ มรดกแห่งความรัก ความฝัน ความงาม และความเป็นมนุษย์นี้ ฉันได้พกติดตัวมาด้วย วันนี้และตลอดไป” 

นอกจากนี้ Piccioli ยังได้กล่าวขอบคุณวาเลนติโน การาวานี, จานคาร์โล จิแอมเมตติ และทีมงานของเขาอีกด้วย

Pierpaolo Piccioli ร่วมงานกับ Valentino มาตั้งแต่ปี 1999 ร่วมกับ Maria Grazia Chiuri อดีตเพื่อนร่วมงานของเขา หลังจากออกแบบเครื่องประดับให้กับ Fendi มาเกือบทศวรรษ เขาได้สร้างสรรค์ผลงานให้กับ Valentino มานับไม่ถ้วน อีกทั้งยังได้รับรางวัลใหญ่มาแล้วอย่าง ดีไซเนอร์แห่งปีจากเวที Fashion Awards ในปี 2022

เป็นเรื่องที่น่าจับตามองมาว่าใครที่จะได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งนี้แทน Piccioli ส่วนเส้นทางใหม่ของเขาจะเป็นอย่างไร และจะไปอยู่กับแบรนด์ไหนต่อก็คงต้องติดตามกันต่อไป


เปิดตัว ‘ปิ่นโตฮับ’ ศูนย์รวมอาหารสตรีทฟู้ดจากร้านดังในตำนานทั่วไทย

account_circle

กลุ่มดุสิตธานี เอาใจฟู้ดดี้ส์ที่รักการกินเมนูเด็ดจากร้านดัง กับครั้งแรกของการปักหมุด 21 ร้านในตำนานทั่วไทย พาเหรดทุกเมนูที่ห้ามพลาดมาอยู่บน “ปิ่นโตฮับ” (PintoHub) ซึ่งเป็นศูนย์รวมอาหาร “สตรีทฟู้ด” เจ้าดังที่จะเสิร์ฟแบบพร้อมรับประทาน โดยสามารถสั่งพร้อมกันหลายเมนูได้ง่าย ๆ ในครั้งเดียวผ่านแอปพลิเคชัน “แกร็บ ฟู้ด” (Grab Food) หรือเลือกซื้อที่หน้าร้านจาก 10 จุดบริการทั่วกรุงเทพฯ เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้าถึงอาหารแนวสตรีทฟู้ดเจ้าดังได้อย่างรวดเร็ว และยังมีส่วนช่วยสนับสนุนธุรกิจร้านอาหารขนาดเล็กอีกด้วย

สำหรับร้านอาหารที่อยู่ใน “ปิ่นโตฮับ” จะเป็นเป็นการรวบรวมจานซิกเนเจอร์ของร้านดังจากทั่วประเทศไทยที่ทุกคนนึกถึง นำเสนอเมนูเด็ดเป็นตำนานที่สามารถสั่งได้ง่าย ๆ จากที่บ้านนั้น อาทิ ข้าวพระรามลงสรง จากร้านอาแปะ ซึ่งขายมานานกว่า 60 ปี และมีเพียงไม่กี่ร้านในประเทศไทยที่จำหน่ายเมนูนี้ ผัดหมี่โบราณ จากร้านบ้านยี่สาร โดยเชฟ ตุ๊กตาผู้มีดีกรีเป็นแม่ครัวจากรั้ววัง และดำเนินกิจการร้านอาหารไทยมานานเกือบ 20 ปี ข้าวซอยไก่ จากร้านข้าวซอยซอกกำแพงดินในจังหวัดเชียงใหม่ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ข้าวซอยลุงปัน ผู้รับช่วงต่อในการปรุงสูตรต้นตำรับสไตล์จีนฮ่อ หรือจะเป็น ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา จากร้านเจ๊เฮียงก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ซึ่งปั้นลูกชิ้นปลาสด ๆ ลูกต่อลูก จนกลายเป็นตำนานความอร่อยของย่านโบ๊เบ๊มานานกว่า 50 ปี นอกจากนี้ยังมีเมนูเด็ดจากร้านดังอีกมากมายที่ท่านสามารถสั่งได้ในครั้งเดียว อาทิ ขาหมูเลิศรส, ก๋วยจั๊บกำลังภายใน, น่ำเทียน, เส็งบะหมี่ปูแปลงนาม, ไวกิ้งเป็ดย่าง, ข้าวซอยลำดวนฟ้าฮ่าม, โจ๊กสดใส, ครัวจงจิต, ผัดไทยประดู่ 28 เป็นต้น

ใครที่นึกถึงรสชาติอันเป็นตำนานของจานไหน หรืออยากลิ้มลองความอร่อยดูสักครั้งแบบไม่ต้องเดินทางไปถึงที่ สามารถสั่งทุกเมนูเด็ดได้ง่าย ๆ ผ่าน “ปิ่นโตฮับ” ที่อยู่ใน “แกร็บฟู้ด” ซึ่งจะส่งอาหารพร้อมรับประทานถึงหน้าบ้านทันที จากจุดให้บริการในการกระจายสินค้า 10 แห่งในกรุงเทพฯ เช่น เยาวราช, ประตูน้ำ, สามย่าน, พระราม 3, รัชดาภิเษก, ศาลาแดง, สุทธิสาร, สขุมวิท, และศรีนครินทร์  นอกจากนี้  ปิ่นโตฮับ ยังเตรียมพร้อมที่จะเปิดร้านปิ่นโตฮับ ที่เป็นร้านอาหารจานด่วน ที่สถานีให้บริการน้ำมัน ปตท สุทธิสาร ในเร็วๆ นี้  รวมถึงยังวางแผนที่จะขยายจุดให้บริการในการกระจายสินค้าไปยังต่างจังหวัดครอบคลุม 50 แห่งทั่วประเทศไทยในปีหน้า

ติดตามความเคลื่อนไหวของ ปิ่นโตฮับ อาทิ โปรโมชั่น ร้านใหม่ที่เข้าร่วม หรือรายละเอียดของเมนูเด็ดได้จากโซเชียลมีเดียของ ปิ่นโตฮับ ทั้ง Facebook, Instagram และ TikTok หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “แกร็บ ฟู้ด” เพื่อเริ่มสั่งได้ทันทีที่ https://www.grab.com/th/download/ ทั้งระบบ Android และ IOS

เปิดตัวกระเป๋า Signature ดีไซน์ใหม่จาก GENTLEWOMAN

account_circle

GENTLEWOMAN แบรนด์แฟชั่นที่สนับสนุนให้ผู้หญิงทุกคนได้เผยเสน่ห์ที่น่าหลงใหลของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่และมั่นใจอยู่เสมอ ด้วยดีไซน์ที่หลากหลาย ทันสมัย แปลกใหม่ และน่าตื่นเต้น ตอบโจทย์ผู้หญิงสมัยใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายได้อย่างลงตัว และกล้าที่จะเปิดเผยตัวตนผ่านแฟชั่น และสไตล์การแต่งตัวอย่างไร้ขอบเขต

พบกับ “GENTLEWOMAN Dumpling Bag” ในคอนเซ็ปต์ร้านเกี๊ยวสุดแฟนซีที่เสิร์ฟเกี๊ยวพรีเมี่ยมในรสชาติต่างๆที่ถูกถ่ายทอดผ่านกระเป๋าทั้ง 8 สี ตั้งแต่สีดำ ครีม ฟ้า ชมพู ม่วง เขียว แดง และเงิน ตัวกระเป๋าเป็นผ้าไนลอนน้ำหนักเบา พร้อม Signature เชือกด้านข้างของกระเป๋าที่สามารถรูดออกเป็นทรงเกี๊ยวได้ ให้สาว ๆ สนุกไปกับการแมตช์เป็น Everyday Bag ตอบโจทย์ Lifestyle ที่เร่งรีบในยุคสมัยใหม่ ที่ถึงแม้จะเร่งรีบแค่ไหน ก็จะขาดรสชาติและสีสันไปไม่ได้

ช่อง 3 เปิดตัว Merchandising จากละคร เพื่อการโปรโมท มัดใจผู้ชม และเพิ่มรายได้

account_circle

ช่อง 3 เปิดตัวน้ำหอมชุด ‘เซนส์ ออฟ เทวพรหม เพอร์ฟูม คอลเลกชัน’ ผลิตภัณฑ์ที่มาจากแนวคิดของละครชุด “ดวงใจเทวพรหม” ที่ถูกนำมาต่อยอดด้วยการดึงจุดเด่นของละครมาโปรโมทให้ผู้ชมได้รู้จักละครมากขึ้น โดยใช้กลิ่นและความหอมจากในละครเป็นตัวเชื่อมกับผู้ชม เปิดโอกาสให้แฟนละครสามารถสัมผัสได้ถึง ‘กลิ่น’ ของละคร การนำ Merchandising จากละครมาโปรโมทพร้อมไปกับละครเป็นแนวทางการโปรโมทใหม่ที่จะทำให้ละครได้รับความน่าสนใจ น่าติดตาม และเกิดความผูกพันกับผู้ชม รวมถึงการขายสินค้าก็เป็นการสร้างรายได้ให้กับละครเพิ่มขึ้นอีกด้วย

คุณตู่ ปิยวดี มาลีนนท์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่ม บมจ. บีอีซี เวิลด์ ได้กล่าวถึงการเปิดตัวน้ำหอมชุด ‘เซนส์ ออฟ เทวพรหม เพอร์ฟูม คอลเลกชัน’ นี้ว่า “น้ำหอมชุดนี้เกิดมาจากการรวมกันของ ‘ความคิดสร้างสรรค์’ หรือ Creativity และ ‘การสร้างรายได้’ หรือ Commercial โดยเป็นการใช้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในละครมาต่อยอดธุรกิจด้วยการผลิตเป็นสินค้าตัวใหม่ที่มีความเกี่ยวพันกับละคร ออกมาจำหน่ายภายใต้ภาพลักษณ์ของละครชุด เรื่อง ดวงใจเทวพรหม ที่มีถึง 5 เรื่องภายใต้จักรวาลดวงใจเทวพรหม”

น้ำหอมชุด ‘เซนส์ ออฟ เทวพรหม เพอร์ฟูม คอลเลกชัน’ มี 5 กลิ่น ที่มีความหอมเป็นเอกลักษณ์ตามละครแต่ละเรื่อง ได้แก่ LAORCHAN “ลออจันทร์” การบอกเล่าพื้นเพความเป็นตระกูลเก่าแก่ของทั้งเทวพรหมและจุฑาเทพผ่านกลิ่นไม้ที่มีความสุขุม หรูหรา ผสานกับกลิ่นที่เพิ่มความน่าค้นหาของไม้กฤษณาและไอริสตามเส้นเรื่องลออจันทร์และภูธเนศรวมถึงความลึกลับของพญานาค ส่วน KWANRUETAI “ขวัญฤทัย” สื่อมาจาก ความจิตใจดี เปิดกว้าง ของฉัตรเกล้าและขวัญฤทัย ตัวละครหลักในเรื่อง ถูกเล่าผ่านกลิ่นที่โปร่ง สดชื่น เปิดเผย อย่างอิตาเลี่ยนเบอร์กามอท นำมาเล่าคู่กับกลิ่นดอกไม้ ป่าไม้ ใบไม้สด และกลิ่นของสายน้ำ ทำให้ได้สัมผัสถึงความสดชื่นและพลังของความรัก ต่อด้วย JAIPISUT “ใจพิสุทธิ์” บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ของรณจักรและใจพิสุทธิ์ผ่านกลิ่นอายของดอกกุหลาบที่เป็นตัวแทนของความรัก นำมาผสานกับความสดใสของผลไม้ที่บอกเล่าถึงบุคลิกที่ร่าเริง ตัดกับกลิ่นปลายของอำพันทะเลเพื่อเพิ่มมิติและความน่าค้นหา และ มาถึงกลิ่น DUJUPSORN “ดุจอัปสร” จะเป็นแนวโน้ตไม้และถั่วตองก้า สื่อสารถึงตัวตนของอศิร ชายผู้สุขุมนุ่มลึก และมะลิที่บอกเล่าความสดใสอันแฝงไว้ด้วยความหอมที่คาดไม่ถึงของดุจอัปสร ผสานด้วย metallic notes เพื่อสื่อสารรักที่บริสุทธิ์ที่ต้องฝ่าฟันกว่าจะมีวันที่สมใจ และกลิ่นสุดท้าย กับ PONCHEEWAN “พรชีวัน” กลิ่นที่บอกเล่าความสดชื่นของอากาศที่ยุโรป เพราะเรื่องนี้ใช้สถานที่ถ่ายทำที่เมืองนอก ควบคู่ไปกับบุคลิกร่าเริงของชีวัน ผสานกลิ่นโปร่งสะอาดของไวโอเล็ตและเจราเนียม เพื่อเผยตัวตนความสุขุมของสรุจที่เล่าผ่านองค์ประกอบไม้แซนดัลวู้ดและเวอร์จีเนียซีดาร์วู้ด

“การตลาดแบบ Merchandising เป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้ แบรนด์ C3 (ซี-ทรี) มาจาก Channel 3 Shop โดย ซี-ทรี จะเป็นร้านค้าจำหน่ายสินค้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากละครช่อง 3 เพื่อให้ลูกค้าและแฟนละครได้ช้อปปิ้งกันตลอดทั้งปี การตลาดแบบ Merchandising นอกจากจะเป็นการตลาดแบบใหม่ของช่อง 3 แล้ว ยังเป็นวิธีการที่

เราสร้างให้เกิดการจดจำละคร สร้างความผูกพันกับตัวละคร ซึ่งถือเป็นการโปรโมทละครรูปแบบใหม่ และที่สำคัญการมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกับละครก็เป็นการต่อยอดรายได้ของธุรกิจ โดยใช้ “ละคร” ซึ่งเป็นทรัพยากรที่ช่อง 3 มีอยู่ มาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีความพรีเมี่ยม สามารถใช้ได้ตลอดไปถึงแม้ละครจะจบ แต่สินค้านั้นยังสามารถใช้ต่อไปได้ เรียกว่าเสริมทั้งอรรถรสการรับชมละครและเป็นการสร้างรายได้เพิ่มให้กับละคร โดยทั้งสองอย่างจะส่งเสริมซึ่งกันและกัน Merchandising จึงเป็นการตลาดอย่างหนึ่ง ที่ทั้งส่งเสริมละครทำให้ผู้ชมอยากจะดูละครและนักแสดงจากเรื่องนั้นมากขึ้น และละครจะส่งเสริม Merchandising ให้มีคุณค่ามากกว่าที่เป็นแค่สิ่งของเฉย ๆ”

ไอคอนสยามทุ่มงบจัดมหาสงกรานต์เฟสติวัลระดับโลก 10-21 เม.ย. 2567

account_circle

ไอคอนสยาม จับมือภาครัฐและเอกชน ยกระดับจัดงาน “ไอคอนสยาม มหัศจรรย์เจ้าพระยามหาสงกรานต์ ๒๕๖๗” ให้เป็นเทศกาลเฟสติวัลระดับโลก  ขานรับเทศกาลสงกรานต์ขึ้นทะเบียนยูเนสโกเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก ด้วยแนวคิด “THAICONIC SONGKRAN CELEBRATION: รื่นเริงมหาสงกรานต์ สานต่อตำนานมรดกโลก” เชิดชูเอกลักษณ์ไทยผสมผสานการละเล่นและวัฒนธรรมบันเทิงร่วมสมัย อัดแน่นประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ จัดยิ่งใหญ่เต็มทุกพื้นที่ในไอคอนสยาม ตั้งแต่วันที่ 10-21 เมษายน 2567 นี้  ชูไฮไลต์มากมาย อาทิ

  • ขบวนแห่นางสงกรานต์มโหธรเทวี 7 วันกับ 7 นางเอกและศิลปินชื่อดัง นำโดย แอฟ ทักษอร, พาย รินรดา, เบลล่า ราณี, เบ็คกี้ รีเบคก้า, ใหม่ ดาวิกา และเดียร์น่า ฟลีโป พร้อมอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญกับ “มินนี่ ณิชา” ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทยหนึ่งในสมาชิกวง (G)I-DLE โด่งดังไกลระดับสากล ที่จะมาแปลงโฉมเป็นนางสงกรานต์นำความวิจิตรงดงามของไทยปรากฏสู่สายตาชาวโลก
  • เสริมสิริมงคลสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์จำลอง ที่อัญเชิญมาจากวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้ขอพรและสรงน้ำเนื่องในวันปีใหม่ไทย
  • สนุกสนานรื่นเริงกับการละเล่นสาดน้ำสงกรานต์สุดมหัศจรรย์ที่ Water Splash Landmark ท่ามกลางทัศนียภาพอันงดงามริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งเดียวในไทย ภายใต้มาตรฐานความสะอาด ปลอดภัย ตลอดจนความสนุกสนานกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินดัง
  • นอกจากนี้ชวนสนุกกับกิจกรรมสาวน้อยตกน้ำออนไลน์ จาก TikTok Shop และความรื่นเริงต้อนรับเทศกาลสงกรานต์อีกมากมายจากเมืองสุขสยาม 
  • พบกับโปรโมชั่น THAICONIC Songkran Celebration ช็อปฉ่ำใจ กับโปรสุดเบิกบานรับสงกรานต์ เพียงซื้อสินค้าและบริการภายในไอคอนสยาม และสยาม ทาคาชิมายะ ครบตามเงื่อนไข รับเสื้อลายดอกคอลเลคชั่นพิเศษ ผลงานการออกแบบของดีไซน์เนอร์ชื่อดัง เอก ทองประเสริฐ

ขอเชิญร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมหาสงกรานต์ของประเทศไทย  “ไอคอนสยามมหัศจรรย์เจ้าพระยามหาสงกรานต์ ๒๕๖๗”ตั้งแต่วันที่ 10 – 21 เมษายน นี้ ณ ไอคอนสยาม ได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย โดยสามารถติดตามรายละเอียดและเงื่อนไขการรับสิทธิ์เข้าร่วมงานได้ทาง www.iconsiam.com หรือ Facebook: ICONSIAM

“MIDO” อวดโฉม 6 คอลเล็คชั่นน่าสะสมแห่งปี ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Inspired By New Visions’

account_circle

 MIDO Novelties Presentation 2024 งานเปิดตัวเรือนเวลาไฮไลท์คอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุดประจำปี 2024 เผยโฉม 6 คอลเล็คชั่นดีไซน์ล่าสุดที่จะถูกวางจำหน่ายในปีนี้ ที่ผสมผสานกลิ่นอายสไตล์วินเทจเข้ากับเทคโนโลยีอันทันสมัย ถ่ายทอดสู่เรือนเวลาที่โดดเด่นด้านงานดีไซน์และฟังก์ชั่นที่สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้สวมใส่เอาไว้ได้เป็นอย่างดี

สำหรับ 6 คอลเล็คชั่นเรือนไฮไลท์ประจำปี 2024 ภายในงาน “MIDO Novelties Presentation 2024” ประกอบด้วย คอลเล็คชั่น “มัลติฟอร์ต ทีวี บิ๊ก เดท” (Multifort TV Big Date) ที่ต่อยอดความสำเร็จหลังจากการเปิดตัวในปี 2023 ที่ผ่านมา

โดยครั้งนี้มาพร้อมกับ 2 เฉดสีใหม่ ได้แก่ ‘มัลติฟอร์ต ทีวี บิ๊ก เดท โรส โกลด์ พีวีดี’ (Multifort TV Big Date – Rose Gold PVD) มาในกรอบตัวเรือนสแตนเลสสตีลเคลือบ PVD สีโรสโกลด์สุดหรูเข้ากับสายนาฬิกายางสีน้ำตาลเข้มเข้ากันได้เป็นอย่างดี ด้านหน้าปัดมีการไล่เฉดสีน้ำตาลไปจนเป็นสีดำเข้มบริเวณขอบได้อย่างสวยงาม และ ‘มัลติฟอร์ต ทีวี บิ๊ก เดท แบล็ก พีวีดี’ (Multifort TV Big Date – Black PVD) ที่มีตัวเรือนสแตนเลสสตีลเคลือบ PVD สีดำเข้มทั้งกรอบตัวเรือนและสายสแตนเลสสตีล มาพร้อมกับหน้าปัดไล่เฉดสีในโทนสีดำที่ตัดกับสีของหมุดบอกเวลา เข็มนาฬิกา และตัวเลขวันที่ในโทนสีส้มอันเป็นสีเอกลักษณ์ของมิโดได้อย่างงดงาม

โดยทั้ง 2 ตัวเรือนนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 80 (Caliber 80) ที่สามารถสำรองพลังงานได้สูงสุด 80 ชั่วโมง พร้อมบาลานซ์สปริงที่ผลิตจากนิวาครอง (Nivachron™) ช่วยเสริมกลไกให้แข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทกและสนามแม่เหล็กด้วย ด้านหน้าปัดมีช่องแสดงวันที่ขนาดใหญ่ (Big Date) ตรงตำแหน่ง 12 นาฬิกา ครอบทับด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน พร้อมเข็มนาฬิกาและหมุดบอกเวลาที่ถูกเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนวา (Super-luminova®) ช่วยอ่านเวลาในยามค่ำคืนหรือบริเวณแสงน้อย โดยบริเวณด้านหลังตัวเรือนแสดงให้เห็นกลไกอันทรงพลังผ่านกระจกใสสุดโดดเด่น 

นอกจากนี้มิโดยังเพิ่มความสมบูรณ์แบบให้กับนาฬิกาจากตระกูลคอลเล็คชั่นมัลติฟอร์ต ทีวี ที่ตอบโจทย์เหล่าหญิงสาวที่มีสไตล์ด้วยขนาดตัวเรือนใหม่กับคอลเล็คชั่น “มัลติฟอร์ต ทีวี 35” (Multifort TV 35) มาในตัวเรือนสแตนเลสสตีลขนาดหน้าปัดเส้นผ่านศูนย์กลาง 35 มิลลิเมตร

โดยหน้าปัดตัวเรือนถูกตกแต่งด้วยเปลือกหอยมุกแท้โทนสีขาวสุดหรู (Mother of pearl)  พร้อมเพชรน้ำงามจำนวน 6 เม็ด ที่ถูกจัดวางแทนหมุดบอกเวลาตรงตำแหน่ง 1, 2, 4, 5, 7, 8, 10 และ 11 นาฬิกา เพิ่มความหรูหราได้อย่างลงตัว  ด้านบริเวณตำแหน่ง 12 นาฬิกา ถูกแทนด้วยช่องแสดงวันที่ (Date) ส่วนเข็มนาฬิกาถูกเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนวา (Super-luminova®) ช่วยอ่านเวลาในยามค่ำคืนหรือบริเวณแสงน้อย พร้อมการขับเคลื่อนตัวเรือนด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 72 (Caliber 72) ที่มีบาลานซ์สปริงผลิตจากนิวาครอง (Nivachron™) เพิ่มความแข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทกและสนามแม่เหล็ก และสามารถสำรองพลังงานได้ถึง 72 ชั่วโมง

ซึ่งในตระกูลมัลติฟอร์ต ทีวี 35 รุ่นใหม่นี้ นอกจากหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีขาวแล้วยังมีรุ่นหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีฟ้าประดับเพชร รุ่นตัวเรือนและสายสีโรสโกลด์ หน้าปัดสีน้ำตาลให้ลุคหรูหรา พร้อมตัวเลือกหน้าปัดสีดำและน้ำเงินไล่เฉด ที่มาพร้อมสายสแตนเลสแท้สีเงินที่ให้ลุคสมาร์ทแต่มีระดับ

ถัดมาที่คอลเล็คชั่น “โอเชี่ยน สตาร์ จีเอ็มที สเปเชียล อีดิชั่น” (Ocean Star GMT Special Edition) นาฬิกาดำน้ำดีไซน์ใหม่ล่าสุดที่ได้เฉลิมฉลองครอบรอบ 80 ปี กับคอลเล็คชั่นโอเชี่ยน สตาร์ (Ocean Star) มาในตัวเรือนที่มีการติดตั้งฟังก์ชัน GMT ที่เหมาะสำหรับนักเดินทาง ในหน้าปัดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40.5 มิลลิเมตร แสดงเวลาสองไทม์โซนที่แตกต่างกัน ได้แก่ เวลาของเมืองที่เดินทางมา (Home Time) และเวลาของเมืองที่เดินทางมาถึง (Local Time)

สำหรับรุ่นสเปเชียล อีดิชั่นครั้งนี้มาในดีไซน์หน้าปัดสีน้ำเงินเข้มอันเป็นเอกลักษณ์ เสริมด้วยการตกแต่งบริเวณหมุดบอกเวลาในรูปทรงฟันปลาฉลามอันแหลมคม พร้อมกรอบเบเซิลอลูมิเนียมสีน้ำเงินเข้มที่สามารถหมุนได้ 2 ทิศทาง ด้านตัวหมุดบอกเวลาและเข็มนาฬิกาเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนวา (Super-luminova®) ช่วยอ่านเวลาในยามค่ำคืนหรือบริเวณแสงน้อย มีช่องบอกวันที่ (Date) ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกา ครอบทับด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อนทั้งสองด้านทรงกลาสบ็อกซ์

โดยตัวกลไกขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 80 (Caliber 80) สามารถสำรองพลังได้สูงสุด 80 ชั่วโมง พร้อมบาลานซ์สปริงที่ผลิตจากนิวาครอง (Nivachron™) เพิ่มความแข็งแรงทนต่อแรงกระแทกและสนามแม่เหล็ก นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับสายนาฬิกา 2 สไตล์ ได้แก่ สายแสตนเลสสตีลแบบถักที่มีตัวล็อคแบบพับได้ พร้อมส่วนต่อขยายสำหรับทำกิจกรรมดำน้ำ และสายนาโต้สีน้ำเงินเข้มที่มีความทนทานสามารถสวมใส่ได้ในทุกโอกาส และความสามารถในการกันลึก 20 บาร์ / 200 เมตร

ต่อมาที่คอลเล็คชั่น “มัลติฟอร์ต แพทริโมนี  พาวเวอร์ไวด์” (Multifort Patrimony Powerwind) นาฬิกาดีไซน์สไตล์วินเทจที่ถูกออกแบบให้มีความโดดเด่นสะดุดตาด้วยตัวเรือนหน้าปัดวงกลมสแตนเลสสตีลขัดซาตินขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มิลลิเมตร เข้าคู่กับสายสแตนเลสสตีลแบบถักให้ลุคที่ดูคลาสสิกเรียบโก้

โดยคอลเล็คชั่นนี้มีสีหน้าปัดที่หลากหลายสามารถเลือกเสริมลุคได้ตามความชอบ ได้แก่ สีเงิน, สีดำแอนทราไซต์, สีน้ำเงิน และสีเขียว บนหน้าปัดตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกาถูกแทนด้วยช่องแสดงวันที่ (Date) ตัวเข็มนาฬิกาและหมุดบอกเวลาถูกเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนวา (Super-luminova®) ช่วยอ่านเวลาในยามค่ำคืนหรือบริเวณแสงน้อย ครอบทับด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ทรงกลาสบอกซ์ที่เป็นซิกเนเจอร์ และบริเวณด้านหลังตัวเรือนเผยโชว์กลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 80 (Caliber 80) สามารถสำรองพลังได้สูงสุด 80 ชั่วโมง  พร้อมความสามารถในการกันลึก 5 บาร์ / 50 เมตร

คอลเล็คชั่นถัดมา “มัลติฟอร์ต เอ็ม ฟรีซ” (Multifort M Freeze) เรือนเวลาดีไซน์สปอร์ตมาในตัวเรือนหน้าปัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยหน้าปัดไล่เฉดสีฟ้าที่ชวนให้นึกถึงความเย็นยะเยือกของน้ำแข็งบนพื้นผิวขัดลายซาตินแนวตั้งชวนให้นึกถึงลวดลาย Côtes de Genève ด้านเข็มนาฬิกาทั้งเข็มชั่วโมง เข็มนาที และหมุดบอกเวลาถูกเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์-ลูมิโนวา (Super-LumiNova®) ช่วยอ่านเวลาในยามค่ำคืนหรือบริเวณแสงน้อย ส่วนกระจกหน้าปัดผลิตจากคริสตัลแซฟไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อนทั้ง 2 ด้าน

มาพร้อมกระจกใสบริเวณหลังตัวเรือนที่โชว์ให้เห็นถึงกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 80 (Caliber 80) อันโดงดัง ที่สามารถสำรองพลังได้สูงสุด 80 ชั่วโมง ผสานกับบาลานซ์สปริงที่ผลิตจากนิวาครอง (Nivachron™) เพิ่มความแข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทกและสนามแม่เหล็ก พร้อมความสามารถในการกันน้ำลึก 10 บาร์/ 100 เมตร

ปิดท้ายที่คอลเล็คชั่น “คอมมานเดอร์ เลดี้” (Commander lady) สะท้อนเอกลักษณ์ความเฟมินีน สู่เรือนเวลาดีไซน์เหนือกาลเวลาที่มาในตัวเรือนสแตนเลสสตีลเคลือบ PVD สีเหลืองทองที่โดดเด่น มีขนาดหน้าปัดเส้นผ่าศูนย์กลาง 35 มิลลิเมตร พร้อมการตกแต่งหน้าปัดด้วยการขัดซันเรย์ซาตินรูปทรงเกลียวในโทนสีแชมเปญสุดหรู

โดยมีช่องบอกวันที่ (Date) ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกา ครอบทับด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 72 (Caliber 72) ที่มีบาลานซ์สปริงผลิตจากนิวาครอง (Nivachron™) เพิ่มความแข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทกและสนามแม่เหล็ก และสามารถสำรองพลังงานได้ถึง 72 ชั่วโมง พร้อมความสามารถในการกันน้ำลึก 5 บาร์/ 50 เมตร


“Colors of Buriram” โชว์นิทรรศการผ้าไทยเทียบชั้นมหาอำนาจวงการแฟชั่นโลก

account_circle

จังหวัดบุรีรัมย์ สร้างเซอร์ไพรส์ร่ายมนต์สะกดคนเข้าชมงาน ตะลึงความงดงามนิทรรศการแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไทยครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี Colors of Buriram เชิดชูภูมิปัญญาชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยเรียงเรื่องราวอารยธรรมเส้นทางสายไหมในวันวาน สู่งานหัตถศิลป์พื้นถิ่น บอกเล่าวัฒนธรรมความเป็นไทยผ่านลวดลายอันวิจิตรบรรจงบนพื้นผ้าทอนานาชนิดและงานศิลปหัตถกรรมอันทรงคุณค่าหลากหลายชิ้นงาน สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมแก่นักท่องเที่ยวและประชาชนชาวบุรีรัมย์ที่ให้ความสนใจเข้าร่วมชมงานมากกว่า 20,000 คน ตลอดระยะเวลา 3 วัน  

นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า  งาน “Colors of Buriram” เป็นการจัดนิทรรศการแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไทยและงานหัตถกรรมภูมิปัญญาชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด โดยเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2567   สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จมาทอดพระเนตรนิทรรศการ กระบวนการทอผ้าและจัดแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไหม (เป็นการส่วนพระองค์) ณ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษบ้านนาโพธิ์ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (กลุ่มผ้าตุ้มทอง) ตำบลนาโพธิ์ อำเภอนาโพธิ์ และที่ว่าการอำเภอนาโพธิ์ หลังเสด็จกลับแล้ว จังหวัดบุรีรัมย์จึงมีการจัดงาน Colors of Buriram ต่อเนื่องอีก เป็นระยะเวลา 3 วัน คือวันที่ 19 – 21 มีนาคม 2567

“ความสำเร็จของงาน “Colors of Buriram” ในครั้งนี้เกิดจากความร่วมใจของชาวบุรีรัมย์กว่า 3,000 คน  บนพื้นที่ 6,000 กว่าตารางเมตร หรือขนาดเท่า 1 สนามฟุตบอล จัดในโดมติดแอร์ขนาดมหึมา บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอนาโพธิ์  มี Exhibition Wall นิทรรศการผ้า ที่จัดแสดงและงานหัตถกรรมผ้า 2,000 กว่าชิ้น ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด ผลิตภัณฑ์ที่คัดสรรมาจากทั้ง 23 อำเภอ โดยเฉพาะผ้าไหมของชาวบุรีรัมย์ที่มีการพัฒนาต่อยอดให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความทันสมัย ใส่ได้ทุกเพศทุกวัย ถักทอด้วยความประณีต ออกแบบและตัดเย็บสวยงาม เพื่อสืบสานพระราชปณิธาน ผ้าไทยใส่ให้สนุกให้คงอยู่คู่กับชุมชนและชาวบุรีรัมย์  สืบสานอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทย และสนับสนุนกลุ่มอาชีพผลิตภัณฑ์ OTOP ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น”

งานในครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากนักท่องเที่ยวและประชาชนที่สนใจมากกว่า 20,000 คน ร่วมเรียนรู้ขั้นตอนการผลิตผ้าไหมไทยที่ละเอียดอ่อนตั้งแต่ต้นจนจบ ตระหนักถึงศักยภาพและความสามารถในการผลิตและจำหน่ายสินค้าชุมชน ที่ปัจจุบันมีการพัฒนารูปแบบให้มีความทันสมัยใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยมีเหล่านักแสดง, เซเลบริตี้ และอินฟลูเอนเซอร์เบอร์ท็อปต้นๆ ของเมืองไทย มาร่วมสร้างสีสันประชันความสวยงามอลังการ ได้แก่ อาร์ต-พศุตม์ บานแย้ม, ป้าตือ สมบัษร, ปิงปอง-ธงชัย ทองกันทม รวมทั้ง สยาม แยปป์ แนวรุกสุดหล่อ นักเตะลูกครึ่งไทย-อังกฤษ วัย 19 ปี จากสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดยอดทีมแชมป์ไทยลีก 8 สมัย โดยเป็นครั้งแรกกับการผนึกความเป็นเมืองกีฬาและวัฒนธรรมนำเสนอการแต่งกายด้วยผ้าไหมลายผ้าพระราชทานผสมผสานกับผ้าไทยลวดลายเอกลักษณ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นบุรีรัมย์ เพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์สู่ตลาดแฟชั่นของคนรุ่นใหม่และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันผ้าไหมไทยในเวทีโลกอีกด้วย

ภายในงานมีการจัดแสดง-จำหน่าย ของดีของขึ้นชื่อมากมาย และกิจกรรมที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ กิจกรรมสาธิต การเขียนผ้าบาติก, การเขียนทอง, การทอเสื่อกกยกขิด, มัดหมี่ลายพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์”, การปักผ้า (นกกะเรียน), การย้อมสีธรรมชาติ และงานผ้าอีโค ปริ้นต์ เป็นต้น รวมทั้งลายผ้าพระราชทานตามแนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ที่ทำให้เกิดการจุดพลังการขับเคลื่อนงานหัตถกรรมในทุกมิติ เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ผ้าพื้นถิ่นให้ร่วมสมัย คนนิยมใส่ผ้าไทยมากขึ้น จนสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่างครบวงจร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดบุรีรัมย์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-4466-651

เบคกี้ รีเบคก้า

ฟรีน สโรชา และ เบคกี้ รีเบคก้า พบนายกฯ เจราจาผลักดันซอล์ฟพาวเวอร์

Alternative Textaccount_circle
เบคกี้ รีเบคก้า
เบคกี้ รีเบคก้า

เรียกว่างานรุม งานแน่นแบบ 7 วันเลยทีเดียว สำหรับ 2 สาวคู่จิ้นสุดฮอต “ฟรีน สโรชา” และ “เบคกี้ รีเบคก้า” ไม่ว่าจะเป็นซีรี่ย์ หรือาภพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง ยูเรนัส 2324 ที่ทั้ง 2 สาวทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ ถ่ายทำอย่างเต็มที่กับบทบาทที่ได้รับ บอกเลยว่าถึงขั้นมีเสียน้ำตา

โดยทั้ง “ฟรีน และ เบคกี้”  เผยว่า แต่ละฉากมี่ความยากเหมือนกันหมด ด้วยศัพท์ คำพูด หรือการต้องเล่นกับจิตนาการกับฉากซีจี ที่ต้องใช้พลังเยอะ รวมไปถึงการดำน้ำในสถานที่จริงที่ทั้งมืด และลึก อีกทั้งยังมืดสนิทจนมองอะไรไม่เห็น ทำให้แอบกลัวไปต่างๆนาๆ แต่ก็สามารถผ่านไปได้ และหวังว่าแฟนๆจะได้สนุกและตื่นเต้นไปกับเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้ ส่วนในเรื่องของซีรี่ย์ก็ยังคงเดินหน้าถ่ายทำเช่นกัน เรียกว่าทำงานกันแน่น 7 วันแทบไม่มีเวลาพัก และกลัวว่าจะกระทบกับสุขภาพ แต่ว่าก็พยายามดูแลตัวเองให้ดีที่สุด

ทั้งนี้ “ฟรีน – เบคกี้” ตื่นเต้นสุดๆอีกเรื่อง คือก่อนหน้านี้มีโอกาสได้เข้าพบท่านนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมช่วยผลักดัน Solf Power ให้อุตสหกรรมบันเทิงไทยไปไกลในระดับโลก ซึ่งรู้สคกดีใจและเป็นเกียรติมากๆที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในดปรเจ็กต์นี้  และจะทำให้เต็มที่ที่สุด

เบคกี้ รีเบคก้า

ได้เจอท่านนายกฯไปทำอะไร?

ฟรีน : ไปเข้าประชุมค่ะ เกี่ยวกับซอฟต์พาวเวอร์จะมีสินค้าอะไรที่สามารถไทอินถึงประเทศไทย มีกิจกรรมอะไรบ้างก็เป็นเรื่องน่าตื่นเต้น ตั้งแต่เด็กไม่เคยเข้าธรรมเนียบรัฐบาล(หัวเราะ) หนูไม่เคยต่อแถวได้เลยคนเยอะมาก

เหมือนจะผลักดันซีรีส์ด้วย?

ฟรีน : ใช่ค่ะ อย่างในเรื่องที่เราถ่ายมันมีความเป็นไทยเยอะมากๆ เพราะในซีนเรานั่งทำขนมกันจริงจังมาก อย่างอาทิตย์หน้าน้อง(เบคกี้)มีถ่ายผ้าไหม แฟนๆ น่าจะได้เห็นวัฒนธรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเยอะมากขึ้น” เบคกี้ “เวลาใครได้มาเที่ยวไทยก็จะรู้ว่าอันนี้อร่อยนะ อันนี้น่าลอง

หลังจากคุยแล้ว ได้มาปรึกษากับเพื่อนๆ ว่ามันเป็นสิ่งที่ควรนำเสนอต่อ?

ฟรีน-เบค : จริงๆ คุยกันเยอะ แต่ละวันที่พวกหนูถ่ายมันจะมีซีนที่ต้องทำกับข้าวทำขนม หรือเล่นม้าก้านกล้วย แต่เราไม่รู้จักเลย แฟนๆต่างชาติน่าจะเอ็นจอยกับมันอยู่ ในกองก็คุยกันว่าอันนี้คืออะไร เล่นแล้วจอยมากสนุกมาก

Dior Addict ขึ้นแท่นไอคอนแห่งลิปสติกที่มีแวววาว

Dior Addict ขึ้นแท่นไอคอนแห่งลิปสติกที่มีประกายแวววาว ออก 5 เฉดสีใหม่ พร้อม Fashion Case รุ่นลิมิเต็ด แรงบันดาลใจจากแฟชั่นกูตูร์

Alternative Textaccount_circle
Dior Addict ขึ้นแท่นไอคอนแห่งลิปสติกที่มีแวววาว
Dior Addict ขึ้นแท่นไอคอนแห่งลิปสติกที่มีแวววาว

Praew Survey รอบนี้ขอพาไปป้ายยา ของมันต้องมีที่แท้ทรู ล่าสุด Dior Addict ได้ขึ้นแท่นเป็นไอคอนแห่งลิปสติกที่มีความเปล่งประกายแวววาว นอกจากได้รับการออกแบบให้เป็นเครื่องประดับแฟชั่นแล้ว ปีเตอร์ ฟิลลิปส์ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์และภาพลักษณ์ประจำแผนก Dior Makeup ยังได้แปลงโฉมเมคอัพชิ้นนี้เชิญชวนผู้หญิงมาเปิดเผยตัวตนในหลากหลายแง่มุมให้เฉิดฉายยิ่งขึ้น

และล่าสุด Dior Addict พร้อมเล่าเรื่องราวบทใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานแฟชั่นของดิออร์ ด้วย 5 เฉดสีใหม่สุดเปล่งประกายที่ผสมผสานความพาสเทลเข้ากับสีสันสดใสและส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ 90% ซึ่งถูกรังสรรค์ขึ้นโดย ปีเตอร์ ฟิลลิปส์ นอกจากนี้ ลิปสติกยังมาพร้อมกับคอลเล็คชั่นปลอกแบบลิมิเต็ด อิดิชั่น 3 รูปแบบใหม่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเทรนด์การออกแบบล่าสุดของดิออร์ ดูโดดเด่นไม่แพ้ปลอกแลคเกอร์สีดำแบบดั้งเดิม

ซึ่งในแคมเปญล่าสุด Ambassador ของดิออร์อย่าง Jisoo และ Anya Taylor-Joy เฉิดฉายอย่างสดใสร่าเริงและเปี่ยมไปด้วยพลังในฐานะพรีเซ็นเตอร์ของ Dior Addict โฉมใหม่

“ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ชื่นชอบสีสัน ชอบความแวววาว หรือชอบความแฟชั่น ลิปสติกใหม่นี้มาพร้อมกับการผสมผสานสีสันที่สดใสเข้ากับเฉดสีอันน่าดึงดูด เพื่อให้เข้ากับทุกเมคอัพลุคในทุกสภาวะอารมณ์” ปีเตอร์ ฟิลลิปส์ ได้ตีความเฉดสีพาสเทลใหม่ด้วยการรังสรรค์ 5 เฉดสีสดใสที่เผยความป๊อบเข้ากับมุมมองใหม่ที่ดูอ่อนหวาน ในจักรวาลที่เต็มไปด้วยสีสันของ Dior Addict เฉดสี 546 Dolce Vita พร้อมช่วยแต่งแต้มริมฝีปากให้ดูสดใส ส่วนสีชมพูเปล่งประกายอย่าง 362 Rose Bonheur ช่วยขับเน้นสีพีชอ่อนให้ดูโดดเด่น เฉดสี 391 Dior Lilac แต่งแต้มสีชมพูของดอก Lilac ให้ริมฝีปากดูสดชื่นเปล่งประกาย นอกจากเฉดสีที่ดูสดใสแล้ว ยังมีสีโทนเข้มอย่าง 481 Désir สีชมพูราสเบอร์รี่ และ 616 Nude Mitzah สีน้ำตาลธรรมชาติ เข้ามาเพิ่ม เฉดสีใหม่ทั้ง 5 นี้มาพร้อมกับเม็ดสีเข้มข้นที่จะช่วยเติมเต็มเมคอัพลุคที่หลากหลายให้ดูลงตัวยิ่งขึ้น

นี่คือ 5 เฉดสีใหม่ที่จะช่วยเติมเต็มคอลเล็คชั่นนี้ให้โดดเด่นยิ่งกว่าที่เคย มาพร้อมกับเฉดสีที่อ่อนหวาน ผสมผสานความเป็นสีพาสเทลลงไป โดยเฉดสีทันสมัยเหล่านี้ถูกเพิ่มเข้าไปในเรื่องเล่าบทใหม่ของ Dior Addict ซึ่งรวมๆ แล้วตอนนี้ มีมากกว่า 40 เฉดสีให้เลือกสรร รวมไปถึงสีโรสวู้ดอย่าง 667 Diormania ที่ได้ชื่อมาจาก Dior Oblique ลวดลายตกแต่งปลอกลิปสติกอันโด่งดัง นี่คือเฉดสีชมพูใหม่ที่ทันสมัยและมาพร้อมความฉ่ำวาวสูงสุด ดูแตกต่างจากโทนสีชมพูเดิมอย่างสิ้นเชิง มีหลากสีให้เลือกสรร และสร้างความเปล่งประกายแวววาวจากการทาเพียงครั้งเดียว

โดย Dior Addict ลิปสติกเนื้อแวววาวของดิออร์ เปิดตัวครั้งแรกจากความร่วมมือทางเทคนิคภายในห้องปฏิบัติการของดิออร์ ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ 90% และผสานคุณค่าการดูแลจากดอกไม้ ช่วยให้สีติดทนนาน 2 เม็ดสีกระจายตัวสม่ำเสมอ และมอบสีสันที่เข้มข้นสดใส เพียงทาแค่ครั้งเดียว

และสูตรของ Dior Addict ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ริมฝีปากได้อย่างยาวนาน ผสานแว็กซ์จากดอกมะลิเข้ากับกรดไขมัน เพิ่มความรู้สึกเบาสบายและรักษาความชุ่มชื้น รวมถึงน้ำมันพลัมที่มีคุณสมบัติช่วยฟื้นบำรุงและมอบความรู้สึกไม่เหนอะหนะ นอกจากนี้ Dior Addict ยังอุดมไปด้วยน้ำมันนานาชนิดที่ช่วยเพิ่มแสงสะท้อนและมอบความฉ่ำวาวอย่างเหนือชั้น สูตรนี้มาพร้อมสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ของดิออร์ และเกลี่ยได้อย่างง่ายดายเพราะเนื้อผลิตภัณฑ์จะซึมลงอย่างรวดเร็วในทันทีเมื่อสัมผัสกับผิว หลงเหลือไว้เพียงเนื้อฟิล์มที่บางเบาและไร้น้ำหนักเคลือบบางๆ ที่ริมฝีปากปริมาณส่วนผสมคำนวณบนมาตรฐาน

คอลเล็คชั่นปลอกลิปสติกสุดกูตูร์ใหม่ที่ Mix & Match ได้ เป็นแบบรีฟิล ได้รับแรงบันดาลใจจากองค์ประกอบพื้นฐานของความกูตูร์จากแบรนด์ เครื่องประดับที่ขาดไม่ได้ของซีซั่นนี้มาพร้อมเฉดสีพาสเทลที่ดูอ่อนโยนและสว่างสดใส

พร้อมเฉดสีใหม่ให้ Mix and Match เพื่อลุคที่สดใสโดดเด่นและเปล่งประกาย โดย 3 โทนสีสดใสและเป็นธรรมชาติ Pink Lilac สีม่วงอ่อน Poppy Coral สีชมพูอมส้มสว่าง และ Bronzed Glow สีน้ำตาลอบอุ่น

จำหน่าย 14 มีนาคม 2567 ที่ Dior Addict Pop-up สยามพารากอน ชั้น M โซน Beauty Hall และ ออนไลน์ shop.dior.co.th เท่านั้น และวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศ 1 เมษายน 2567 ที่ Dior Beauty ทุกสาขา และ ออนไลน์ shop.dior.co.th


Praew Survey ชวนดื่มด่ำ ชิมกาแฟหอมกรุ่น ณ SIRIVANNAVARI Artelier Open House

account_circle

สุดสัปดาห์นี้ หลบร้อนมาดื่มด่ำกับบรรยากาศร่มรื่น คลาสสิคของบ้านโบราณที่มีอายุกว่าร้อยปีที่งาน SIRIVANNAVARI Artelier Open House ซึ่งเปิดให้เข้าชมเพียง 3 วันนี้เท่านั้น

บ้านเลขที่ 1 เป็นอาคารเก่าแก่ อายุกว่าร้อยปี ตั้งอยู่ในซอยเจริญกรุง 30 หรือตรอกกัปตันบุช ลักษณะของอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรปยุคนีโอคลาสสิค เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนสองชั้น หลังคาทรงปั้นหยา ออกแบบเป็นหน้าจั่วตรงกลางด้านหน้าอาคาร ผนังทาสีเหลือง หน้าต่างทาสีเขียวมะกอกตัดขอบขาว ประตูหน้าต่างเป็นทรงโค้งสวยงามแบบโรมัน ถือเป็นอาคารอนุรักษ์และโบราณสถานแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร

พร้อมช็อปคอลเล็คชั่น สปริง/ซัมเมอร์ 2024 แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI และชมงานปักระดับกูตูร์ จาก ทีมงาน “SIRIVANNAVARI Artelier”

และชิมกาแฟหอมกรุ่น จาก VE/LA pop up café ณ House No.1 ซ.เจริญกรุง 30 ในวันศุกร์-อาทิตย์ที่ 22 -24 มีนาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 18.00 น.ชวนคนสนิท มิตรรู้ใจมาเพลิดเพลินกับสุดสัปดาห์นี้ ณ ที่บ้านเลขที่๑ กันค่ะ


ลภัสรดา เลิศภานุโรจ

เจาะลึกตัวตน CEO หญิงเก่ง “ดาว มาสเตอร์พีช” ลภัสรดา เลิศภานุโรจ

Alternative Textaccount_circle
ลภัสรดา เลิศภานุโรจ
ลภัสรดา เลิศภานุโรจ

“ประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาทั้งชีวิต ดาวได้ทำงานเกี่ยวกับบัญชีแค่ 4 เดือน เท่านั้น ทั้งที่ตัวเองเรียนจบด้านการบัญชีมาโดยตรง”

บทสนทนาช่วงหนึ่งเปิดโอกาสให้เราได้รู้จักตัวตนของหญิงเก่งแห่ง MASTER ‘ดาว – ลภัสรดา เลิศภานุโรจ’ หรือที่หลายคนรู้จักในนาม ‘ดาว มาสเตอร์พีช’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หญิงเก่งแห่งวงการอุตสาหกรรมแพทย์ความงาม ที่เพิ่งขึ้นแท่นรับตำแหน่ง CEO นำทัพ MASTER ต่อยอดความสำเร็จแบบเดินหน้าตะลุยเหมือนที่เคยผลักพา MASTER เข้า IPO สำเร็จ เป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมเจ้าแรกในตลาดหลักทรัพย์ mai

ลภัสรดา เลิศภานุโรจ

โดยก่อนหน้าที่จะมาร่วมงานกับ หมอเส – นพ.ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล Group CEO MASTER ดาว – ลภัสรดา เคยทำงานเป็นที่ปรึกษาของบริษัทแห่งหนึ่งที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการพาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีประสบการณ์ความสำเร็จไม่ต่ำกว่า 20 บริษัท

“ประสบการณ์การทำงานด้านตรวจสอบภายในทำให้ดาวรู้ภาพรวม จำได้ว่าเจ้านายคนแรกๆ เห็นแวว และบอกกับดาวว่า จริงๆ แล้วมูลค่าของคุณอยู่ตรงนี้ ประกอบกับมีโอกาสได้ศึกษาต่อปริญญาโทด้านการกำกับดูแลกิจการ (Corporate Governance) ก็ยิ่งช่วยขยายมุมมองการทำงานให้กว้างมากยิ่งขึ้น 

“กระทั่งมีโอกาสได้ร่วมงานกับ MASTER นี่เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่เปลี่ยนตัวเองจากที่ปรึกษามาเป็นผู้บริหารอุตสาหกรรมแพทย์ความงาม ซึ่งดาวใช้เวลาในการพูดคุยเกี่ยวกับ Vision Mission กับคุณหมอเสเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น แต่เป็น 1 ชั่วโมงที่ได้เห็นโลกใบใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในอีกด้านหนึ่ง”

ลภัสรดา เลิศภานุโรจ

เจาะลึกตัวตน CEO หญิงเก่ง “ดาว มาสเตอร์พีช” ลภัสรดา เลิศภานุโรจ

CEO หญิงเก่งแห่ง MASTER เล่าว่า จากคนที่เป็น Hard Skills 100% โดยมีความเชื่อว่าผลลัพธ์เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้แต่ละบุคคลมีคุณค่า มาเป็นการฝึกสมดุลระหว่าง Hard Skills และ Soft Skills และมีชุดความเชื่อใหม่ว่า “เมื่อเกิดปัญหาให้แก้ที่คนก่อนแก้ที่งาน พวกเราชาว MASTER ที่เรียกตัวเองว่า Professional Sports Team ได้สร้างตำนานการเติบโตในแบบที่แตกต่างด้วยความแข็งแกร่ง และผ่านการพิสูจน์มาแล้วด้วยผลลัพธ์ของการเติบโตแบบก้าวกระโดด”

ในฐานะผู้นำ ดาว – ลภัสรดา เลิศภานุโรจ มีหลักในการบริหารงานและบริหารคนที่น่าสนใจ “คนเราเวลาโตขึ้น มีอำนาจ ถ้าใช้แค่ตำแหน่งคนจะไม่ Trust จะไม่เกิดความรู้สึกช่วยกันทำงาน ไม่เป็นทีมนักกีฬา การไปให้ถึงจุดหมายจำเป็นต้องมีบารมีก็จริงอยู่ แต่เป็นบารมีที่ไม่ได้มาด้วยการแจกจ่าย ดาวเชื่อในเรื่องการช่วยกันทำงาน นำพาให้น้องๆ ไปถึงเป้าหมายและมีภาพสำเร็จเดียวกัน ที่สำคัญคือทุกคนต้องทำงานด้วยความสุขและสนุก”

ลภัสรดา เลิศภานุโรจ

เมื่อถามถึงธุรกิจอุตสาหกรรมแพทย์ความงาม ณ จุดที่ยืนอยู่นี้ มีเป้าหมายสูงสุดคืออะไร

“หลังจาก MASTER ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ซึ่งเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามรายแรกของประเทศไทย เราชูจุดแข็งที่มีคุณหมอแบบ Full Time จำนวน 47 ท่าน เรียกได้ว่ามากที่สุดของโรงพยาบาลศัลยกรรมในประเทศไทย และก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ Specialty Hospital อันดับหนึ่งในเอเชีย ความสำเร็จนี้คือความภาคภูมิใจที่อยากให้คนทั่วโลก เมื่อเขาพูดถึงเรื่องศัลยกรรม จะต้องนึกถึงประเทศไทย อยากให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของศัลยกรรมความงาม รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นใจกับลูกค้าชาวต่างชาติ และแพทย์ไทยที่เก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก

“โดยเฉพาะที่ MASTER เราใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และได้มาตรฐาน พร้อมทีมแพทย์ที่มากประสบการณ์ และบริการที่ครบวงจร ดังนั้น ลูกค้าสามารถมั่นใจในมาตรฐานและความปลอดภัย ภายใต้คำนิยาม เปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ Be a Better You ซึ่งเราไม่ได้มาเปลี่ยนใครให้กลายเป็นคนอื่น แต่เปลี่ยนเป็นเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิม นี่ยังคงเป็นสิ่งที่ยึดมั่นเสมอ”

ลภัสรดา เลิศภานุโรจ

ภาพรวมของอุตสาหกรรมแพทย์ความงามยังคงเติบโตแบบต่อเนื่อง เพราะยิ่งเทคโนโลยีทางการแพทย์พัฒนาไปไกลมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของการใช้บริการธุรกิจประเภทนี้ตามไปด้วย และหากวิเคราะห์จากข้อมูลนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในประเทศไทยหลังจากเปิดประเทศ รวมไปถึงพฤติกรรมของคนไทยที่ชื่นชอบความสวยความงาม บอกได้เลยว่า เทรนด์ความงามติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้เห็นถึงโอกาสของการเติบโตในธุรกิจนี้อย่างชัดเจน

“โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช เป็นโรงพยาบาลด้านศัลยกรรมชั้นแนวหน้าของประเทศไทย ที่ดำเนินกิจการมากว่า 10 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2556 ด้วยชื่อเสียงและประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ทำให้ลูกค้ามั่นใจในการใช้บริการตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ประกอบกับการเตรียมความพร้อมด้วยการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นการทำงานแบบ High Performance Organization ทำให้ผลประกอบการของ MASTER เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด”

ลภัสรดา เลิศภานุโรจ

โรคหืด เป็นผลจากการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม

อาการอะไรที่ต้องเฝ้าระวังว่าจะเป็น ‘โรคหืด’ และใครคือกลุ่มเสี่ยง?

Alternative Textaccount_circle
โรคหืด เป็นผลจากการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม
โรคหืด เป็นผลจากการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม

โรคหืด เป็นผลจากการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม โดยแสดงอาการได้หลายรูปแบบ เช่น ไอ แน่นหน้าอก หอบเหนื่อย หายใจเสียงหวีด ซึ่งอาการโรคหืด มักมีความแตกต่างในแต่ละบุคคล ทั้งในด้านอาการแสดง และความรุนแรง อาการอาจกลับเป็นซ้ำ หรือกำเริบ เมื่อมีปัจจัยกระตุ้น เช่น การติดเชื้อ การสัมผัสสิ่งกระตุ้นที่แพ้ หรือสารที่ทำให้เกิดการระคายเคือง ซึ่งผู้ป่วยหอบหืด มีลักษณะหลอดลมไวต่อสิ่งกระตุ้น ดังนั้นเมื่อสัมผัสสารกระตุ้น หรือภาวะที่กระตุ้น จะทำให้เกิดภาวะหลอดลมตีบเฉียบพลันรุนแรง และอาจเสียชีวิตได้ หากได้รับการรักษาไม่ทันท่วงที

อาการอะไรที่ต้องเฝ้าระวังว่าจะเป็นโรคหืด? ถ้ามีอาการดังต่อไปนี้ ควรเฝ้าระวังว่าจะมีโอกาสเป็นโรคหืด

  • อาการของระบบทางเดินหายใจมากกว่าหนึ่งอย่าง เช่น ไอ แน่นหน้าอก หอบเหนื่อย หายใจเสียงหวีด
  • อาการแย่ลงช่วงกลางคืน หรือ ช่วงเช้า
  • อาการและความรุนแรงมีความแปรปรวนตามเวลา
  • อาการหอบหืด ถูกกระตุ้นโดยบางปัจจัย เช่น การติดเชื้อไข้หวัด การสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ สารก่อระคายเคือง สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง การออกกำลังกาย

เมื่อไหร่ควรสงสัยว่าเป็นโรคหืด? การวินิจฉัยต้องประกอบด้วย 2 ส่วน

  • อาการที่เข้าได้กับโรคหืด โดยอาการอาจเป็นๆ หายๆ ไม่จำเป็นต้องแสดงอาการตลอดเวลา อาจมีความหลากหลายของอาการในช่วงวัน หรือฤดูกาล
  • ตรวจพบการแปรปรวนของการอุดกั้นหลอดลมในช่วงขาออก ซึ่งต้องวินิจฉัยโดยแพทย์

ใครคือกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะเป็นโรคหืด?
เนื่องจากโรคหืด สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรม และพบว่าสัมพันธ์กับภาวะภูมิแพ้บางอย่าง ดังนั้น หากมีประวัติอาการระบบทางเดินหายใจช่วงวัยเด็ก ประวัติเยื่อบุจมูกอักเสบจากภาวะภูมิแพ้ หรือภูมิแพ้ผิวหนัง ของทั้งตัวเองและคนในครอบครัว อาจต้องเฝ้าระวังสังเกตอาการระบบหายใจที่เข้าได้กับอาการแสดงของโรคหืด

เมื่อสงสัยว่าเป็นโรคหืดควรทำอย่างไร?
พิจารณาเข้าพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัย และให้การรักษาอย่างเหมาะสม อีกทั้งควรได้รับคำแนะนำในการปฎิบัติตัว เรียนรู้การรักษาภาวะเบื้องต้นหืดกำเริบเฉียบพลัน

คนไข้โรคหืดอาการแบบไหน? ที่ควรรีบพ่นยา และมาพบแพทย์
หากผู้ป่วยโรคหืด รู้สึกว่าอาการหืดกำเริบเฉียบพลันรุนแรง อันได้แก่

  • เหนื่อยจนไม่สามารถพูดเป็นประโยคได้
  • กระสับกระส่าย
  • หมดสติ หน้าเขียว ออกซิเจนตก

แนะนำให้พ่นยาขยายหลอดลมพ่นสูดชนิดออกฤทธิ์เร็ว และรับนำส่งโรงพยาบาลทันที โดยพิจารณาพ่นยาซ้ำทุก 15 นาที จนกว่าจะถึงโรงพยาบาล

กรณีที่อาการกำเริบน้อยถึงปานกลาง เช่น ไอ เหนื่อย แน่นหน้าอก แต่ยังพูดคุยได้เป็นประโยค ไม่มีอาการแสดงของหืดกำเริบเฉียบพลันรุนแรง อาจพิจารณาปรับยาตามที่แพทย์ประจำตัวเคยแนะนำไว้ หรือพ่นยาขยายหลอดลมพ่นสูดชนิดออกฤทธิ์เร็ว ทุก 15-20 นาที หากพ่นยาติดต่อกัน 3 ครั้ง อาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์

ข้อมูล: พญ.พวงรัตน์ ตั้งธิติกุล แพทย์เฉพาะทางด้านอายุรศาสตร์โรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤตโรคระบบการหายใจ ศูนย์อายุรกรรม โรงพยาบาลนวเวช


ซูมอินกระเป๋า Prada Re-Nylon สีเขียวใบใหม่ของ แจฮยอน NCT

Alternative Textaccount_circle

โกลบอลแอมบาสเดอร์ของ Prada มาโปรโมททั้งที แล้วเราจะไม่ซื้อกระเป๋า Prada Re-Nylon ตามจองแจฮยอนได้ยังไง

กลับมาอีกครั้งกับเฉดสีใหม่ในดีไซน์คุ้นเคยในกระเป๋า Prada Re-Nylon ที่มาในสีคล้ายกับ Army Green โดยดีเทลต่างๆ ยังคงเหมือนเดิม นั่นคือเป็นกระเป๋าสะพายไหล่ที่มาพร้อมช่องใส่ของและช่องกระเป๋าขนาดใหญ่ ทำจาก Re-Nylon หรือขยายความให้เข้าใจมากขึ้นว่าเป็นการใช้เส้นด้ายไนลอนที่ผลิตขึ้นมาใหม่ (ECONYL®) จากพลาสติกรีไซเคิลที่ทำให้บริสุทธิ์ เก็บรวบรวมในมหาสมุทร อวนจับปลา และเศษเส้นใยสิ่งทอ เสริมดีไซน์ด้วยกระเป๋าแบบถอดออกได้ ซึ่งเป็นเครื่องประดับที่โดดเด่นของคอลเล็คชั่นของ Prada สำหรับสีใหม่ยังรู้ราคาไม่แน่ชัด แต่หากเทียบจากสีดำออริจินอลที่ Out of Stock ไปบนเว็บไซต์แล้วอยู่ที่ 76,000 บาท คาดว่าราคาคงไม่หนีจากกันมากนัก


ภาพ: Instagram @_jeongjaehyun

พ่อโย่ง

พ่อโย่ง & แม่ก้อย ลูกคือพลังบวก ช่วยเติมเต็มพลังชีวิต

Alternative Textaccount_circle
พ่อโย่ง
พ่อโย่ง

ต้าวความน่ารัก น้องอบเชย ลูกสาวสุดที่รักของ พ่อโย่ง & แม่ก้อย ที่เผยว่าลูกคือพลังบวก ช่วยเติมเต็มพลังชีวิต

ต้องใช้คำว่า “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” จริง ๆ สำหรับ น้องอบเชย ลูกสาวสุดที่รักของคุณพ่อโย่ง อนุสรณ์ มณีเทศ หรือ โย่ง อารม์แชร์ และ คุณแม่ก้อย วลัยลักษณ์ หรือ ก้อย แซทเทอร์เดย์ เซโกะ Seiko ได้เข้าเติมเต็มคำว่าครอบครัวที่สมบูรณ์แบบหลังรอมา 9 ปี ตอนนี้เผลอไม่ทันไรจากเบบี๋ตัวน้อย ต้าวน้องอบเชย ก็เริ่มโตขึ้นทุกวันเรื่องหน้าตาคงไม่ต้องพูดถึง เพราะความน่ารักได้ ดีเอ็นเอ คุณพ่อคุณแม่มาเต็มๆเลยทีเดียว อีกทั้งไม่ว่าใครที่ได้อยู่ใกล้ก็อยากจะเข้าหาต้าวหนูอบเชยก็ยินดีต้อนรับเมื่อพอถูกอุ้มปั๊บเจ้าตัวก็ยิ้มหวานให้หนึ่งกรุบทันที จนถูกตั้งฉายาสุดคิ้วส์ให้ว่า ต้าวหนูอบเชย “ยิ้มเปิดพอร์ท” ใครได้อยู่ใกล้ชิดหลงรักจนเทให้หมดทั้งใจ

งานนี้ คุณพ่อโย่งและคุณแม่ก้อย เผยว่าตั้งแต่ที่ครอบครัวได้ต่อจิ๊กซอว์จนครบเพราะมีน้องอบเชยเข้ามาเติมเต็มทุกอย่าง ทำให้ครอบครัวสมบูรณ์แบบแล้ว ที่บ้านตอนนี้ก็สดใส สดชื่นมีแต่เสียงหัวเราะให้ทุกๆวันและที่สำคัญลูกคือพลังบวก ช่วยเติมเต็มพลังชีวิตของเราทั้งคู่มากๆ

ข้อมูลจาก GFC (Genesis Fertility Center)   ศูนย์รวมบริการทางการแพทย์

สลิม เดอ’แอร์เมส

สลิม เดอ’แอร์เมส แรงบันดาลใจจากผ้าพันคอไหม สู่ตัวแทนแห่งฤดูกาล

account_circle
สลิม เดอ’แอร์เมส
สลิม เดอ’แอร์เมส

แอร์เมส เผยโฉมเรือนเวลา สลิม เดอ’แอร์เมส เลอ ซาคเครอ เด เซซองส์ (Slim d’Hermès Le Sacre des saisons) นำเสนอความโดดเด่นจากหลากหลายทักษะอันเชี่ยวชาญและเป็นที่ต้องการสูงสุดผ่านผลงานเรือนเวลาอันน่าทึ่ง โดยผลงานแต่ละรุ่นยังเป็นตัวแทนของแต่ละฤดูกาล พร้อมทั้งรูปสัตว์สี่ชนิดที่ดึงแรงบันดาลใจมาจากผ้าพันคอไหมของ แอร์เมส (Hermès)

เลอ ซาคเครอ เด เซซองส์ (Le Sacre des saisons) เป็นผลงานออกแบบโดยศิลปิน ปิแอร์ แมรี (Pierre Marie) มาพร้อมกับสัตว์สี่ชนิดได้แก่

สิงโตด้วยแผงคอรัศมีอาทิตย์ นกอินทรีกับปีกขนสีเขียวหนาที่สยายออก หมาป่าผู้สวมมงกุฎน้ำแข็ง และม้าที่ห่มไว้ด้วยอาภรณ์ดอกไม้โปรยปราย สัตว์แต่ละตัวนั้นล้วนเป็นสัญลักษณ์ของแต่ละฤดูกาล และเป็นตัวแทนถึงการพรรณนาถึงจักรวาลและความมหัศจรรย์สไตล์บาโรกอันแสนวิเศษของนักออกแบบชาวฝรั่งเศส ความสวยงามของธรรมชาติ (Nature) และมิติแห่งเวลาที่ถูกสะท้อนผ่านความรุ่มรวยของลวดลายต่าง ๆ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของเหล่านักเต้นบัลเลต์ชาวฝรั่งเศสและรัสเซียในยุคศตวรรษที่ 17 และศตวรรษที่ 20 ได้มาปรากฏอยู่บนหน้าปัดอันงดงามประณีตที่ห้อมล้อมอย่างสง่างามด้วย   

วินเทอร์ (WINTER)

สำหรับฤดูหนาว หมาป่าหิมะได้ผ่านการรังสรรค์ขึ้นด้วยงานลงยาแบบไพลอนเน่และกระโจนอย่างสง่างามภายใต้ตัวเรือนไวท์โกลด์ ประดับด้วยเพชรบาแกตต์คัต 52 เม็ด โดยเทคนิคอันละเอียดอ่อนนี้ประกอบด้วยการแทรกเกล็ดทองหรือเงินไว้ระหว่างชั้นของงานลงยาต่าง ๆ เพื่อสร้างสรรค์เป็นการเล่นกับแสง ความโปร่งใสและมิติแห่งภาพ

สปริง (SPRING)

ห้อมล้อมด้วยความงดงามของตัวเรือนโรสโกลด์ ประดับด้วยเพชร 66 เม็ด ผลงานรุ่นสปริงสำหรับฤดูใบไม้ผลินี้ตกแต่งด้วยภาพของม้าที่ห่มด้วยอาภรณ์ดอกไม้อันหรูหรา ซึ่งถือกำเนิดจากสัมผัสอันอุตสาหะของศิลปินช่างผู้บรรจงใช้พู่กันในการวาดภาพย่อส่วนชั้นต่าง ๆ ลงบนหินเลมอน คริสโซเพรส 

ซัมเมอร์ (SUMMER)

ฤดูร้อนนี้ได้ถ่ายทอดผ่านสัญลักษณ์ของสิงโตกับรัศมีแห่งแผงคออันเปล่งประกาย จากงานแกะสลักลงบนกระจกคริสตัลแซฟไฟร์และการวาดภาพจากพื้นหลังของหน้าปัด กระบวนการนี้ได้มอบซึ่งมิติและความแวววาวเจิดจรัสของภาพที่ย้ำความเป็นประกายแวววาวเจิดจรัสด้วยตัวเรือนไวท์โกลด์ ประดับเพชร 66 เม็ด

ออทัมน์ (AUTUMN)

และท้ายสุด ในรุ่นออทัมน์สำหรับฤดูใบไม้ร่วงได้สร้างรูปอันประณีตขึ้นภายใต้ร่องและมิตินูนต่ำของงานแกะสลักทอง พร้อมทั้งรูปสลักซึ่งใช้เครื่องมือแบบดั้งเดิม อย่าง เหล็กปลายแหลมและสิ่วในการรังสรรค์งาน ขณะที่ภาพวาดด้วยมือและมิติความลุ่มลึกต่าง ๆ นั้นได้เผยเป็นรูปของนกอินทรีสีสันสดใส พร้อมสยายปีกอย่างสง่าผ่าเผยภายใต้ตัวเรือนไวท์โกลด์อันเพรียวบาง

นาฬิกาอันน่าทึ่งทั้งสี่รุ่นนี้ล้วนขับเคลื่อนภายในด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ แมนูแฟคเจอร์ เอช1950 (Manufacture H1950) บางพิเศษ แต่ละรุ่นยังผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียงรุ่นละ 12 เรือน และจับคู่มาพร้อมกับสายหนังจระเข้แบบด้านหรือแบบเรียบเนียนที่รังสรรค์ขึ้นภายใต้ช่างฝีมือของแอร์เมส


แพร-แพรเพชร

แพร-แพรเพชร อุดมศาสตร์พร ยูทูบเบอร์สายเกาหลีเกาใจ

Alternative Textaccount_circle
แพร-แพรเพชร
แพร-แพรเพชร

นับเป็นสาวสวยมากความสามารถที่น่าจับตามองมากๆ สำหรับ แพร แพรเพชร ที่เรียกได้ว่าเป็นสาวสวยที่เหล่าแฟนคลับ K-Pop ที่มีความสนใจอยากเรียน อยากศึกษาภาษาเกาหลี เรียนรู้วัฒนธรรมของเกาหลีต้องรู้จักเธอกันอย่างแน่นอน เพราะนอกจากความรู้ความสามารถทางด้านภาษาเกาหลีแล้ว เธอยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ แบมแบม GOT7 อีกด้วย

แพร เป็นที่รู้จักในช่วงแรกจากการที่เธอเข้าประกวด มิสทีน ไทยแลนด์ 2015 และหลังจากที่เธอเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยที่เกาหลีใต้นั้นเธอก็เรียกว่ากลายเป็นที่รู้จักจากการที่เธอได้ทำช่อง Youtube ชื่อ Hi Prae ที่มีผู้ติดตามมากกว่าเจ็ดแสนคน ซึ่งเธอก็ใช้พื้นที่ตรงนี้นำเสนอความเป็นไทยให้กับชาวเกาหลี และก็นำเสนอความเกาหลีให้กับชาวไทยได้ติดตาม อีกทั้งเธอยังนำเกร็ดความรู้ข้อมูลเรื่องราวน่ารู้ต่างๆ เกี่ยวกับการใช้ภาษาเกาหลีเป็นวิดีโออยู่บ่อยๆ จึงทำให้เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ หลายๆ คนที่สนใจภาษาเกาหลีและอยากมีความรู้เพิ่มเติมติดตามเธอเป็นจำนวนมาก

แพร-แพรเพชร อุดมศาสตร์พร

โดยผลงานล่าสุดของ สาวแพร ทำเอาแฟนๆฮือฮาเลยทีเดียว เมื่อแฟนๆได้เห็นฝีไม้ลายมือการแสดงของ สาวแพร ใน โปรเจ็กต์ วิว ออริจินัล กับซีรีส์ “Close Friend โคตรแฟน 3 โซจู บอมบ์” ที่ร่วมแสดงกับ 5 หนุ่มนิวเจน เบสท์ – ชลสวัสดิ์ , เอิร์ธ – นันทวัฒน์ , ดัง – ธีระทัศน์  ,  วิน – ศุภวิชญ์  และ อู๋ – ภัทรพล ซึ่งยกกองไปถ่ายทำที่เกาหลีแบบ 100 % สำหรับเรื่องราวของ 5 หนุ่มที่อยู่ใน Project T ที่ต้องไปเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อเป็นศิลปินแต่กลับถูกค่ายเทจนบังเกิดความวายป่วง ในเรื่องนี้ สาวแพร สวมบท ซูยอง ผู้จัดการวง รักการทำงานมากๆ เป็นคนเคร่งครัดในกฎเกณฑ์ต่างๆอยู่เสมอ แล้วเธอจะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างไร ติดตามกันที่ได้ Close Friend3 Soju Bomb รับชมพร้อมกันทุกวัน พุธ  เวลา 20.00 น. สามารถรับชมได้ : Viu Application

ซึ่งต้องบอกเลยว่า แพร แพรเพชร เธอคือสาวสวยที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตาเท่านั้น แต่โปรไฟล์คือพกพาความสามารถมาแบบจัดเต็มและเธอยังเต็มไปด้วยพลังบวกที่ใครได้อยู่ด้วยก็มีแต่ความสบายใจ

แพร-แพรเพชร อุดมศาสตร์พร

รักนี้ไม่มีถั่วฝักยาว

Boy Love Series รักนี้ไม่มีถั่วฝักยาว นิยายออนไลน์ระดับปรากฏการณ์

Alternative Textaccount_circle
รักนี้ไม่มีถั่วฝักยาว
รักนี้ไม่มีถั่วฝักยาว

หลังจากประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามสำหรับ Boy Love Series เรื่องแรกภายใต้โปรเจกต์ CHANGE2561 ORIGINAL จากนิยายออนไลน์ระดับปรากฏการณ์ “Pit Babe The Series” โดยได้รับกระแสตอบรับอย่างรุนแรงครองใจแฟนๆทั้งในไทยและระดับสากลไปทั่วโลก โดยการันตีจากการติดเทรนด์ทวิตเตอร์ (x) อันดับ 1

มาตลอดพร้อมกับติดอันดับสูงๆในอีกหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของ พี่ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Chief Executive Officer (CEO) และ เอส วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท CHANGE2561

ล่าสุดได้สร้างสีสันสำคัญอีกครั้งให้วงการซีรีส์วาย โดยเมื่อวัน พุธ ที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ บริเวณล็อบบี้ ตึกจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์ BOYS LOVE นิยายออนไลน์ “รักนี้ไม่มีถั่วฝักยาว (This Love Doesn’t Have Long Beans)” นวนิยายที่ได้รับรางวัลจากงาน WebNovel Spirity Award 2022 ที่จัดขึ้นโดย WebNovel

รักนี้ไม่มีถั่วฝักยาว

ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มนวนิยายออนไลน์ขนาดใหญ่ระดับนานาชาติที่มีผู้อ่านกว่า 170 ล้านคน และในปี2022 จากผู้เข้าแข่งขันกว่า 99,000 คน แต่มีผู้ชนะ Top Winner แค่ 3 คนเท่านั้น และ 1 ในนั้นก็คือเรื่องรักนี้ไม่มีถั่วฝักยาวของนักเขียนไทยที่ใช้นามปากกาว่า Ninepinta ( นายพินต้า) พร้อมเปิดเหล่าตัวละครซีรีส์ที่ออกมาโลดแล่นบนจอเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ สำหรับซีรีส์นี้เรื่องนี้เรียกว่าน่าจับตามองทีเดียว

เพราะได้รับกระแสตอบรับจากสาววายตั้งแต่ยังไม่ทันได้เปิดตัวทำให้ #รักนี้ไม่มีถั่วฝักยาว พุ่งขึ้นติดเทรนด์ทวิตเตอร์ (x) อันดับ 1 ประเทศไทย

ซึ่งบรรยากาศในงานแถลงข่าว “รักนี้ไม่มีถั่วฝักยาว (This Love Doesn’t Have Long Beans)”แฟนๆต่างพร้อมใจกันถือป้ายไฟ หอบดอกไม้เงินช่อโตมาเป็นกำลังใจกันอย่างคึกคักเริ่มต้นโชว์เรียกน้ำย่อยสร้างโมเมนต์ให้แฟนๆใจฟูเบอร์แรงกับโมเม้นต์สุดจิ้นของคู่เคมีเคใจ สายลับ เหมวิช , ภณ ธนภณ ที่มารับบท พระเอก&นายเอก เป็นครั้งแรก

พร้อมยังส่งความหวานผ่านเพลงประกอบซีรีส์ ห้ามไม่ทัน ทำเอาแฟนๆฟินในความจิ้นกรี๊ดกันสนั่น จากนั้นพิธีกรอารมณ์ดี เป้ วิศวะ ได้กล่าวเปิดงานพร้อมเชิญ พี่ฉอด สายทิพย์ , เอส วรฤทธิ์ และ หนุ่ย ศุทธสิทธิ์ ผู้กำกับเจ้าของผลงานคุณภาพมากมายและเป็นการกำกับ Boy Love Series ครั้งแรก และ 9 นักแสดงนำ สายลับ เหมวิช , ภณ ธนภณ , เบนซ์ อัทธ์ธนิน , กาฟิวส์ พันธุ์ธัช , ไมเคิล เกียรติศักดิ์ ,ลี อัสรี , ไทเกอร์ ธนวัต , อ้น กษมา และ เบลเล่ จิรัชญา ขึ้นกล่าวทักทายแนะนำตัวและการสัมภาษณ์ที่ใกล้ชิดเป็นกันเองแบบ

พร้อมประกาศแคมเปญพิเศษเชิญชวนผู้ที่มีกะเพราสูตรเด็ดทั่วประเทศเข้าร่วมการแข่งขันกะเพรา CHALLENGE โดยมีกติกาการรับสมัครแข่งขันกะเพรา CHALLENGE โจทย์คือทำผัดกะเพราสูตรเด็ดโดยใช้วัตถุดิบใดก็ได้แต่ “ห้ามมีถั่วฝักยาว” ซึ่งจะเปิดรับสมัครทางออนไลน์จากทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม – 20 เมษายน 2567 ไม่จำเพศ อายุ

ผู้สมัคร เพียงแต่ต้องสามารถเดินทางมาแข่งขันรอบตัดสินในวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 ที่ลานหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัล 50,000 บาทและสูตรผัดกะเพราที่ชนะเลิศจะถูกนำไปใช้ในซีรีส์ ส่งหลักฐานการสมัครผ่านทาง
https://forms.gle/PgMFxAAoWF9mKCjV8 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม Line :@KapraoChallenge

ส่วนใครที่อดใจไม่ไหวอยากชมซีรีส์ “รักนี้ไม่มีถั่วฝักยาว (This Love Doesn’t Have Long Beans)” จากโปรเจกต์ CHANGE2561 ORIGINAL แล้วบอกได้เลยว่าอีกไม่นานเกินรอเตรียมรับชมพร้อมกันได้เร็วๆนี้ ทางช่องวัน 31

keyboard_arrow_up