ปลดล็อกยกด้อม! 2-3 พ.ค.นี้ ราชมังฯ จะมี ก็อตเซเว่น “GOT7” แล้ว

Alternative Textaccount_circle

จะมีสักกี่คน? ที่ฝันไกล แล้วไปถึง! เอาเป็นว่าตรงนี้มีแน่ๆ แล้ว 7 คน ผู้พิชิตเป้าหมายพิสูจน์รักทรหดที่พวกเขา “ก็อตเซเว่น” (GOT7) #GOT7 ทำสำเร็จแล้วในการชุบชีวิตคอนเสิร์ตสเกลสเตเดียมสุดยิ่งใหญ่ โดยมีผู้จัดไทยอย่าง โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (Four One  One Entertainment หรือ 411ent) ของ กึ้ง-เฉลิมชัย มหากิจศิริ ทุ่มทุนสร้างครั้งประวัติศาสตร์จัดคอนเสิร์ต “2025 ก็อตเซเว่น คอนเสิร์ต <เนสต์เฟส> อิน แบงคอก” (2025 GOT7 CONCERT <NESTFEST> in BANGKOK) #GOT7_NESTFESTinBKK ผนึกกำลัง วันเดอร์ (WONDER) ประเทศเกาหลีใต้ นำพาหนุ่มๆ GOT7 กลับคืนสู่อ้อมอกของเหล่าไอก็อตเซเว่นชาวไทย (IGOT7 ชื่อแฟนคลับของวง GOT7 หรือที่นิยมเรียกกันว่าอากาเซ่) ซึ่งล่าสุดลงหลักปักวันแสดงเรียบร้อยแล้ว 2 รอบด้วยกันคือ วันศุกร์ที่ 2 และวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 2568 นี้ เวลา 19:00 น. ณ ราชมังคลากีฬาสถาน

เรียกว่าปลดล็อกยกด้อมทันที เพราะคอนเสิร์ต #GOT7_NESTFESTinBKK ครั้งนี้ทำเอาเหล่านกเซ่ชาวไทยแตกตื่นและตื้นตันใจกันทั้งประเทศกับข่าวดีที่รอคอยมายาวนานกว่า 5 ปี กำลังจะเป็นจริงแล้ว!! ซึ่งไม่เพียงแค่แฟนคลับที่ตื่นเต้นกับวาระแห่งชาตินี้ บรรดาสมาชิกGOT7 ทั้งลีดเดอร์ เจบี (JAY B), มาร์ค (MARK), แจ็คสัน (JACKSON), จินยอง (JINYOUNG), ยองแจ (YOUNGJAE), แบมแบม (BAMBAM) และ ยูคยอม (YUGYEOM) ก็ตื่นเต้นจนเก็บทรงไม่อยู่พอกัน ก่อนหน้านี้เมมเบอร์ชาวไทยอย่าง แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล เคยให้สัมภาษณ์อยู่เสมอว่า สมาชิก GOT7 ทุกคนรับรู้ว่าแฟนคลับไทยรอคอยคอนเสิร์ตครั้งนี้ที่ยังเป็นปมในใจของทุกๆ คน ด้าน 7 หนุ่มเองก็พยายามเต็มที่เพื่อปลดล็อกสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นได้จริงไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหน ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า GOT7 ตอนนี้ 7 คน ทำงาน 7 ค่าย แถมสมาชิกบางส่วนยังอยู่กันคนละประเทศ กว่าจะเคลียร์คิวที่แน่นเอี๊ยดมารวมตัวกันได้ลงตัว

ความพิเศษของคอนเสิร์ตครั้งนี้นอกจากจะเป็นการทำให้คอนเสิร์ตสเกลสเตเดียมของ GOT7 ที่เคยเกือบจะเกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีก่อนกลายเป็นจริงแล้ว ยังเป็นโอกาสฉลองครบรอบ 11 ปีของวง GOT7 อีกด้วย และเป็นคอนเสิร์ตที่จะได้ฟังเพลงจากอัลบั้มใหม่ล่าสุด “WINTER HEPTAGON” ที่หนุ่มๆ คัมแบ็กวงในรอบเกือบ 3 ปี โดยเฉพาะเพลงไตเติลอย่าง ‘PYTHON’ ที่แต่งโดยเมมเบอร์ชาวไทยคนเก่งอย่าง แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล ก็กลายเป็นไวรัลมีไอดอลทั้งเกาหลีและไทยเต้นชาเลนจ์กันสุดคึกคัก เตรียมรอชมสเตจนี้ของทั้ง 7 หนุ่มด้วยตาเนื้อกันได้เลยว่าจะเครซี่ขนาดไหน ที่สำคัญวันจัดคอนเสิร์ตรอบแรก (2 พ.ค.) ยังตรงกับวันคล้ายวันเกิดของแบมแบมพอดีเป๊ะ แถมพฤษภาคมยังเป็นเดือนเกิดของด้อมด้วยอีกหนึ่งวาระ (วันครบรอบของอากาเซ่ 9 พ.ค.)

แม้คำว่า “อากาเซ่” ในภาษาเกาหลี จะแปลว่า นกน้อย แต่รู้เลยงานนี้ “นกไทยจะไม่ยอมนก” เป็นแน่!!!!!!! หนุ่มๆ GOT7 ทั้ง 7 เดินทางคว้าฝันไป booking รอล่วงหน้าที่สนามราชมังฯ กันแล้ว แฟนคลับคนไหนจะได้ตามไปสมหวังถึงฝั่งฝันบ้าง? *** รอกดบัตรวัดชะตากัน วันเสาร์ที่ 5 เมษายน 2568 นี้ ผู้จัด โฟร์วันวันฯ จะเปิดจำหน่ายบัตรทาง ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ บัตรราคา 2,900 / 3,900 / 4,900 / 5,900 / 6,900 (นั่งและยืน) / 7,900 / 8,900 / 9,900 บาท *** ติดตามรายละเอียด #GOT7_NESTFESTinBKK เพิ่มเติมได้ทางออฟฟิเชียลโซเชียลมีเดียของผู้จัดงาน @411ent ทุกแพลตฟอร์ม

จากละครสู่ภาพยนตร์ เปิด 3 คาแร็คเตอร์ “นุ่น วรนุช – ก้อย อรัชพร – แก๊ป ธนเวทย์” ใน สุสานคนเป็น

Alternative Textaccount_circle

แพรว เสิร์ฟความร้อนแรง กับปก Digital Cover “น่น วรนุช , ก้อย อรัชพร และ แก๊ป ธนเวทย์” นักแสดงนำจากภาพยนตร์ สุสานคนเป็น

หากใครเป็นแฟนละครสยองขวัญ คงจำ “สุสานคนเป็น” ได้เป็นอย่างดี ซึ่งใน 2025 นี้ เรื่องราวความแค้นของคุณนายลั่นทมจะได้รับการเล่าใหม่ในรูปแบบภาพยนตร์ ผ่านฝีมือผู้กำกับ “วทัญญู อิงควิวัฒน์” ที่ได้ 3 นักแสดงมากความสามารถอย่าง นุ่น – วรนุช ภิรมย์ภักดี, ก้อย – อรัชพร โภคินภากร และแก๊ป – ธนเวทย์ สิริวัฒน์ธนกุล มารับบทนำ ก่อนไปสัมผัสความน่ากลัวในโรงภาพยนตร์ แพรวขอพาทุกคนมารู้จักกับทั้ง 3 ตัวละครไปด้วยกัน

“ลั่นทม” รับบทโดย นุ่น – วรนุช ภิรมย์ภักดี

นับเป็น 18 ปีเต็มที่ “นุ่น วรนุช” ได้กลับมาแสดงภาพยนตร์ และยังเป็นบทบาทที่นุ่นเอ่ยปากเองว่า “ผีในเรื่องนี้ ไม่เหมือนกับที่เคยแสดงมา” ซึ่งเธอได้รับบทเป็น คุณนาย “ลั่นทม” หญิงสาวที่เพียบพร้อมไปด้วยหน้าตา และฐานะ อีกทั้งยังบูชาความรักเหนือสิ่งอื่นใด แต่เธอกลับต้องเจอกับจุดจบที่กลายเป็นความแค้นในชีวิตหลังความตาย

“รสสุคนธ์” รับบทโดย ก้อย – อรัชพร โภคินภากร

เรียกว่าเป็นอีกบทบาทของ “ก้อย อรัชพร” ที่มาถ่ายทอดตัวละคร “รสสุคนธ์” พนักงานบัญชี ผู้ตามหาความสมบูรณ์แบบในชีวิต รวมถึงเรื่องความรัก เธอจึงปรารถนาที่จะได้แต่งงานกับผู้ชายฐานะดีเพื่อชีวิตสุขสบาย โดยไม่สนใจว่า ตัวเองอยู่ในฐานะมือที่สามก็ตาม ทั้งนี้ก้อยได้เผยความรู้สึกว่า “บทบาทรสสุคนธ์ค่อนข้างท้าทาย เพราะเป็นครั้งแรกที่มีโอกาสแสดงเป็นตัวละครที่มีด้านมืดซ่อนอยู่มากขนาดนี้”

“ชีพ” รับบทโดย “แก๊ป – ธนเวทย์ สิริวัฒน์ธนกุล”      

สำหรับ “แก๊ป – ธนเวทย์” รับบทบาทเป็น “ชีพ” สถาปนิกฐานะยากจนที่มีความทะเยอทะยาน ยอมทำทุกทางให้ชีวิตดีขึ้น แม้กระทั่งแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเพื่อเลื่อนสถานะทางสังคม เขาเผยว่า “ภาพยนตร์เรื่อง สุสานคนเป็น ไม่ได้นำเสนอเพียงความน่ากลัว แต่ยังสะท้อนเรื่องราวของความสัมพันธ์”

ความแค้นของ “สุสานคนเป็น” ในรูปแบบภาพยนตร์ จะหลอน สั่นประสาท และครบรสแค่ไหน รอติดตามชมได้ในวันที่ 24 เมษายนนี้ ณ โรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ


ช่างภาพ : ภาดร ขจรฤทธิ์
Digital Editor : Minim
สไตลิสต์ : Voc Hunarak
เรื่อง : Mild Wipada
เสื้อผ้า : Paul Smith (แก๊ป ธนเวทย์) Exhibit (นุ่น วรนุช)

GOOD BOY

GOOD BOY  ซีรีส์ที่สะท้อนชีวิตอดีตนักกีฬาเจ้าของเหรียญรางวัล

Alternative Textaccount_circle
GOOD BOY
GOOD BOY

เปิดตัวซีรีส์เกาหลี GOOD BOY ซึ่งนำแสดงโดย พัคโบกอม, คิมโซฮยอน, อีซังอี, ฮอซองแท, แทวอนซอก ซีรีส์ที่ผสมผสานเรื่องราวหลากแนวครบรส ทั้งคอเมดี้ แอ็กชั่น สืบสวนอาชญากรรม และความรัก บอกเล่าเรื่องราวของเหล่าอดีตนักกีฬาเจ้าของเหรียญรางวัลซึ่งผันตัวมาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และต่อสู้ในโลกที่เต็มไปด้วยอาชญากร เกิดเป็นการรวมตัวเพื่อจัดตั้งทีมเฉพาะกิจซึ่งประกอบด้วย ยุนดงจู (พัคโบกอม), จีฮันนา (คิมโซฮยอน), คิมจงฮยอน (อีซังอี), โกมันซิก (ฮอซองแท) และ ชินแจฮง (แทวอนซอก) โดยมีเป้าหมายเพื่อโค่นล้มอำนาจที่อยู่เบื้องหลังองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ ทั้งนี้ กู๊ดบอย เตรียมเสิร์ฟเสียงหัวเราะและแอ็กชั่นสุดมันส์ให้ผู้ชมทั่วโลกบน Prime Video ในมากกว่า 240 ประเทศและเขตแดนทั่วโลก ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2568

หลังความสำเร็จที่เพิ่งจบไปสดๆ ร้อนๆ ในซีรีส์ When Life Gives You Tangerines พัคโบกอม จะกลับมาอีกครั้งในบทบาทใหม่ที่แตกต่าง แต่ชวนให้หลงรักเช่นเคย ในบท “ยุนดงจู” ชื่อของเขาถูกตั้งตามกวีผู้สูงส่ง แต่ดงจูกลับใช้ชีวิตตรงข้ามกับชื่อด้วยการมีเรื่องชกต่อยที่โรงเรียนเป็นประจำ ประสบการณ์จากการต่อสู้ทำให้ดงจูได้เรียนรู้การต่อยมวยอย่างจริงจัง ก่อนจะประสบความสำเร็จในฐานะนักมวยอาชีพและคว้าเหรียญทองมาได้ในท้ายที่สุด โชคไม่ดีที่ช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ของเขาต้องพังทลายลงเมื่อเขาถูกไล่ออกจากทีมอย่างไม่เป็นธรรม ดงจูเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งเมื่อได้รับโอกาสให้เข้าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านการคัดเลือกแบบพิเศษ เส้นทางการเป็นตำรวจของเขาไม่ได้ราบรื่นเหมือนสมัยเป็นนักมวยอาชีพ แต่ถึงอย่างนั้น การทำงานก็ทำให้ดงจูก็ได้พบกับจีฮันนาและตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจัง

GOOD BOY

นักแสดงสาวขวัญใจผู้ชมคิมโซฮยอน รับบท “จีฮันนา” อดีตนักกีฬายิงปืนซึ่งผันตัวมาเป็นตำรวจ เธอเป็นอัจฉริยะนักแม่นปืนมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น ครองตำแหน่งแชมป์โลกด้วยทักษะอันแม่นยำและได้รับการยกย่องจากแฟนจำนวนมาก แต่ยิ่งมีฐานแฟนคลับมากขึ้น ก็ยิ่งมีกลุ่มคนที่ไม่ประสงค์ดีกับเธอมากขึ้นด้วยเช่นกัน เมื่อคำวิจารณ์หลั่งไหลเข้ามาและความเข้าใจผิดสะสมขึ้นเรื่อยๆ ฮันนาจึงค่อยๆ ปิดตัวเองจากโลกภายนอก อุปสรรคที่เจอทำให้เธอไม่สามารถจดจ่อในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในอาชีพได้ สภาวะที่เกิดจากความเครียดทำให้เธอจำเป็นต้องเกษียณตัวเองจากอาชีพนักกีฬายิงปืนที่เคยรุ่งโรจน์ เธอสมัครเข้าโครงการคัดเลือกเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความฝันที่อยากจะเป็นตำรวจตามรอยพ่อ ฮันนาดีใจที่ผ่านการคัดเลือกเข้าทีมเฉพาะกิจ แม้ว่าจะต้องทำงานกับเพื่อนร่วมทีมอย่างดงจู ซึ่งคลั่งไคล้เธออย่างมาก และจงฮยอน แฟนเก่าของเธอ

อีซังอี นักแสดงนำจากซีรีส์ Spice Up Our Love และ No Gain No Love รับบท “คิมจงฮยอน” อดีตนักกีฬาฟันดาบเจ้าของเหรียญเงิน เขาทุ่มเทฝึกฝนอย่างหนักเพื่อจะรีบเรียนให้จบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ด้วยความตั้งใจว่าจะได้กลับมาเจอกับฮันนา แฟนเก่าของเขาอีกครั้ง ขณะที่ ฮอซองแท ซึ่งเป็นที่รู้จักจากบทบาทในซีรีส์ Squid Game และ Decoy จะสวมบทเป็นหัวหน้าทีม “โกมันซิก” ซึ่งนำทักษะล้ำค่าจากการฝึกซ้อมสมัยเป็นนักกีฬามวยปล้ำเหรียญทองแดงมาใช้ประโยชน์ในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ แทวอนซอก รับบทเป็น “ชินแจฮง” อดีตนักกีฬาขว้างจักรร่างใหญ่ใจดี เขาลังเลที่จะเข้าร่วมทีมเฉพาะกิจในตอนแรก แต่ปรากฏว่าความสามารถพิเศษของเขากลับกลายมาเป็นจุดแข็งที่มีค่าอย่างยิ่งของทีม

สำหรับซีรีส์GOOD BOY กำกับโดย ชิมนายอน ซึ่งเป็นที่รู้จักจากซีรีส์ยอดนิยมอย่าง Beyond Evil และ The Good Bad Mother เขียนบทโดย อีแดอิล ผู้สร้างสรรค์บทของ Life on Mars และ Bring It On, Ghost

5 เรื่องน่ารู้ “พระราชวังพระสันตะปาปาแห่งอาวีญง” รันเวย์ Louis Vuitton Cruise 2026

Alternative Textaccount_circle

Louis Vuitton ประกาศสถานที่สำหรับแฟชั่นโชว์คอลเล็คชั่น Cruise 2026 เป็นที่เรียบร้อย โดยหมุดหมายครั้งนี้อยู่ที่ Palais des Papes หรือพระราชวังพระสันตะปาปาแห่งอาวีญง ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งหลุยส์ วิตตองถือเป็นไฮแฟชั่นแบรนด์แรกที่ได้จัดโชว์ขึ้น ณ สถานที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้ และก่อนโชว์จะเริ่มขึ้นในวันที่ 22 พฤษภาคม แพรวขอพาทุกคนไปเปิดประตูวังเพื่อพบกับ 5 เรื่องน่ารู้ไปพร้อมกัน

ปราสาทบนโขดหิน

Palais Des Papes หรือพระราชวังพระสันตะปาปาแห่งอาวีญง ตั้งอยู่บนโขดหินที่เรียกว่า Rocher des Doms ซึ่งในยุคที่พระราชวังถูกสร้างขึ้น สถานแห่งนี้ถือเป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุด ณ ใจกลางเมืองอาวีญง ประเทศฝรั่งเศส

UNESCO

หนึ่งความพิเศษที่ตอกย้ำความพิเศษสำหรับสถานที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้ พระราชวังพระวันตะปาปาแห่งอาวีญงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ในปี ค.ศ. 1995 นอกจากนี้ในเมืองอาวีญง ยังมีสถานที่อีกหลายแห่งที่ได้รับการจดทะเบียนขึ้นเป็นมรดกโลก ไม่ว่าจะเป็น สะพานแซ็งต์-เบเนเซต์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ปงดาวีญง กำแพงปราการ พระราชวังเปอตีต์ มหาวิหารอาวีญง

พระราชวังโกธิกใหญ่ที่สุดในโลก

พระราชวังพระสันตะปาปาแห่งอาวีญงเป็นพระราชวังสไตล์โกธิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีพื้นที่ 15,000 ตารางเมตร เทียบเท่ากับมหาวิหารแบบโกธิก 4 มหาวิหาร

เบื้องหลังสวนในสมัยสันตะปาปา

ก่อนเป็นสวนที่เราเดินเยี่ยมชมในทุกวันนี้ ในสมัยพระสันตปาปาจอห์นที่ 22 นอกจากสวนจะเป็นพื้นที่ปลูกต้นไม้และสนามหญ้าแล้ว ยังเป็นที่อยู่อาศียของสัตว์เลี้ยงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ความมั่งคั่งและอำนาจของพระองค์ ไม่ว่าจะเป็น หมี สิงโต อูฐ หมูป่า กวาง แมวป่า และกระต่าย ซึ่งหลังจากนั้นผู้สืบทอดตำแหน่งก็ยังนำนกหลายชนิด  เช่น นกกระเรียน นกกระจอกเทศ และนกยูง มาเลี้ยงเพิ่ม แต่ในปัจจุบันเหลือแค่เพียงสวนเท่านั้น

Histopad

เมื่อโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัล เทคโนโลยีจึงสำคัญ ซึ่งพระราชวังแห่งนี้ได้มีบริการให้ยืมแท็บเล็ตสำหรับการเพิ่มประการณ์การเยี่ยมชม โดยสิ่งนี้จะช่วยให้ผู้เยี่ยมชมสามารถมองเห็นทั้ง 9 ห้องหลักได้เสมือนราวกับอยู่ในศตวรรษที่ 14 นอกจากนี้ยังมีคำบรรยายเสียงที่เสริมด้วยภาพประกอบดนตรีจะนำเสนอสถานที่และหน้าที่ของสถานที่นั้นๆ รวมถึงคำอธิบายข้อความเพื่ออธิบายเฟอร์นิเจอร์ งานศิลปะ และองค์ประกอบตกแต่งที่สร้างขึ้นใหม่อีกด้วย


ข้อมูล: palais-des-papes.com และ provence-alpes-cotedazur.com
รูปภาพ: palais-des-papes.com และ Instagram @palais_des_papes

Berry Makeup เทรนด์แต่งหน้าสายฟรุ๊ตตี้สุดเซ็กซี่ที่ครองซัมเมอร์นี้

Berry Makeup เทรนด์แต่งหน้าสายฟรุ๊ตตี้สุดเซ็กซี่ที่ครองซัมเมอร์นี้

Alternative Textaccount_circle
Berry Makeup เทรนด์แต่งหน้าสายฟรุ๊ตตี้สุดเซ็กซี่ที่ครองซัมเมอร์นี้
Berry Makeup เทรนด์แต่งหน้าสายฟรุ๊ตตี้สุดเซ็กซี่ที่ครองซัมเมอร์นี้

เข้าสู่ซัมเมอร์ทีไร วงการบิวตี้ก็ต้องมีลุคหวานๆ สดใส สไตล์ผลไม้โผล่มาท้าทายแสงแดดทุกปี ปีที่แล้วก็ Peach Makeup กับพีชโทนอบอุ่นเข้าครองทุกพาเลตต์ทั่วเมือง ส่วนปีก่อนหน้านั้นก็ Strawberry Makeup ลุคแก้มชมพูอมแดงฉ่ำๆ ก็ดังเปรี้ยงจนสาวๆ แห่แต่งกันทั่วโซเชียล และสำหรับฤดูกาลนี้ ถึงเวลาของ Berry Makeup ที่พร้อมพาสีโทนเบอร์รี่เข้มข้นแต่แฝงความเย้ายวนมาสร้างเสน่ห์แบบฉ่ำลึกให้ลุคหน้าร้อนนี้ดูเก๋ขึ้นอีกระดับ

Berry Makeup ชื่อก็บอกชัด ลุคนี้เน้นใช้โทนสีเบอร์รี่หลากเฉด ตั้งแต่พลัมเข้มไปจนถึงแบล็กเบอร์รี่ และราสป์เบอร์รี่ชมพูสด เกลี่ยบางๆ ลงบนแก้ม ริมฝีปาก และเล็บ จนได้ลุคหวานปนเซ็กซี่ดูสวยแบบไม่ต้องเยอะ แต่ตราตรึงสายตา

แม้เบอร์รี่จะเป็นเฉดสีที่คนส่วนใหญ่มักเชื่อมโยงกับลุคในฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว แต่ซัมเมอร์นี้ บรรดาแบรนด์เมคอัพชั้นนำของวงการบิวตี้ต่างพากันหยิบโทนนี้มาปรับลุคใหม่ให้ดูสดใสและเบาสบายขึ้น ด้วยเนื้อสัมผัสแบบ sheer, glossy, juicy ที่แตะเบาๆ ก็ให้ลุคฉ่ำแบบ “เพิ่งกินเบอร์รี่สด” จึงไม่แปลกเลยที่ไอคอนสายบิวตี้อย่าง Hailey Bieber จะขออินเทรนด์ก่อนใคร ด้วยการเปิดตัวบลัชเนื้อเจลและลิปทินต์เฉดเบอร์รี่สุดเย้ายวน รวมถึงแบรนด์ดังหลายแบรนด์ที่ทยอยกันออกบิวตี้ไอเท็มเฉดเบอร์รี่เช่นกัน

Berry Makeup ไม่จำเป็นต้องจัดเต็มหรือแต่งจนเข้มเสมอไป แค่เลือกผลิตภัณฑ์ที่เนื้อบางเบา ช่วยขับสีผิวให้ดูสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วค่อยเติมความวาวนิด ๆ ให้ริมฝีปากและพวงแก้ม ก็จะได้ลุคที่ทั้งหวานละมุนและดูแพงแบบไม่ต้องพยายาม

ทริคง่ายๆ ในการแต่งลุคนี้ เน้นงานผิวที่ฉ่ำวาวดูโกลว์สุขภาพดี ใช้ลิปเนื้อบาล์มหรือทินต์สีเบอร์รี่ที่ให้ความแวววาว ปัดแก้มแบบเบลนด์ฟุ้งด้วยโทนพลัมหรือราสป์เบอร์รี่ รวมถึงแมทช์เล็บสีเบอร์รี่เข้มๆ ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ลึกลับ ง่ายๆ กรุบกริบ หากใครร้อนนี้กำลังมองหาลุคใหม่ที่แต่งง่าย สวยฉ่ำ ดูน่าค้นหาแบบไม่ต้องจัดเต็ม Berry Makeup คือคำตอบที่ให้ทั้งความหวานและความเซ็กซี่ในลุคเดียว

Photo: haileybieber, rawannx3


 

‘ติดเทรนด์โลกใบที่สองกับเขาด้วยนะ ชาวอาทิตย์’ ดวงรายสัปดาห์ 21-27 เมษายน 2568

Alternative Textaccount_circle

‘ไม่ใช่แค่ชาวอาทิตย์ที่ติดเทรนด์ อยากรู้ว่าใคร ต้องเช็กแล้ว’

ดวงรายสัปดาห์ 21-27 เมษายน 2568

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์          

การงาน  :   ก็ยังคงเครียดไม่เลิกรานะคะชาวอาทิตย์ สำหรับสัปดาห์นี้จะเป็นในลักษณะที่อึดอัดกับการปรับตัวเพื่อรับมือกับสภาพการณ์ที่จะมาถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจกับครอบครัว คนรู้จัก หรือคนรัก เป็นไปได้ว่าคุณยังติดอยู่กับอีโก้ของตัวเอง จนไม่เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น เพราะฉะนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง จนงานหรือธุรกิจจะสะดุดหยุดลงกลางคันไปต่อก็ไปไม่ถึง เปลี่ยนใจหันหลังกลับก็ไม่ได้แล้ว  

การเงิน  :  เข้ามือขวาออกมือซ้ายเลยทีเดียว รวมถึงรายจ่ายก็ยังมีอยู่จนเงินไม่พอใช้ แต่ก็ไม่ถึงกับเดือดร้อน ยังพอมีเงินค่าขนมจากผลงานหรือเงินปันผลจากธุรกิจของครอบครัวอยู่

ความรัก  :  หากกำลังพอใจใครอยู่ก็ควรต้องชั่งใจเยอะๆ เพราะคุณมีคู่ครองแล้ว แต่หากเลือกที่จะปล่อยตัวปล่อยใจให้เป็นไปตามความต้องการของตัวเองแล้วล่ะ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดปัญหาโลกใบที่สอง คนโสด  สัปดาห์นี้หัวใจของชาวอาทิตย์สะออนมากค่ะ สามารถที่จะตกหลุมรักคนง่ายมาก เห็นปุ๊บรักปั๊บ แล้วก็อินเทรนด์มาก เพราะคุณมีความเสี่ยงกับการเป็นโลกใบที่สองมากเลย

สุขภาพ  :   สัปดาห์นี้ต้องระวังช่วงขา เส้นเอ็น กล้ามเนื้อที่จะสร้างปัญหาให้ พวกโรคเก๊า อัมพฤกษ์ อัมพาต เส้นเอ็นตึง จนเสี่ยงที่จะเดินกะเผลกได้เลย นอกจากนั้นเลือดลมก็จะหมุนเวียนไม่ดี เกิดอาการหน้ามืด มึนศีรษะ จนถึงวูบบ่อยๆ ต้องรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงเลือดเยอะๆ

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  สำหรับสัปดาห์ปลายเดือนของชาวจันทร์นี้ มีโอกาสจะได้เข้าไปข้องเกี่ยวกับงานหรือธุรกิจในทางสายบุญ สายธรรมะ หรืองาน CSR เพื่อสังคม เป็นไปได้ว่าจะเป็นงานที่ตรงกับความถนัดของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเชิงประวัติศาสตร์ ศาสนา ปรัชญา จนถึงหมอดู หรือแม้จะไม่ถนัด แต่สัปดาห์นี้สัมผัสที่ 6 ในตัวแรงมาก ซึ่งจะส่งผลให้ความคิดและจินตนาการของคุณกว้างไกลมากจนร่วมงานกับคนอื่นได้ยาก ทางที่ดีจึงควรรับงานเองหรือทำธุรกิจของตัวเองจะเหมาะกว่า เพราะคุณก็ไม่ชอบทำงานที่ซ้ำซากจำเจด้วย

การเงิน  :  ใช้เงินเก่งพอๆ กับหาเงินเก่งเลยนะคะ ซึ่งสัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าคุณจะหมดไปกับการทำบุญ ทำทาน การบริจาคให้กับสังคม ซึ่งมีทั้งจากความสมัครใจและไม่ตั้งใจ ก็คือถูกหลอกอะนะ เพราะฉะนั้นก่อนจะให้ใครก็ควรมีสติหน่อย อย่าใจดีมาก

ความรัก  :   จริงๆ จะบอกว่าเป็นสัปดาห์แห่งความโรแมนติกของคุณก็ว่าได้ อยากจะหวานแหววกับคู่ครองตลอดๆ แต่ในความเป็นจริงคุณไม่สามารถทำได้ เพราะติดที่ผู้ใหญ่อยู่ด้วย จึงอาจเป็นไปในทางหาเรื่องออกนอกบ้านกันบ่อยขึ้น  คนโสด  มีโอกาสที่คุณจะได้พบรักแล้วก็หลงมากด้วย แต่ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ตามใจนัก เพราะผู้ใหญ่คอยตามตลอด ดังนั้น บางทีคุณก็จะนำเรื่องงานมาอ้างบ้าง

สุขภาพ  :   มีโอกาสที่จะเจ็บป่วยไม่สบายหรือได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติงานหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการภูมิแพ้กำเริบ ซึ่งน่าจะมาจากฝุ่นละอองทั้งหลาย รวมถึงอากาศที่มีความเสี่ยงทำให้ป่วยไข้ได้

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน    สัปดาห์ปลายเดือนของชาวอังคารมีโอกาสที่จะอยู่กับงานอาสา งานบริการ ที่ต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวสูง เช่น ทหาร ตำรวจ งานราชการ ฯลฯ ด้วยความสามารถเฉพาะตัวที่คุณสามารถเข้าไปแทนได้ทุกตำแหน่ง แล้วนับว่าเจ้านายหรือผู้บริหารระดับสูงของคุณก็ได้เล็งเห็นถึงความสามารถพิเศษของคุณนี้ พร้อมทั้งมอบหมายงานสำคัญและเสี่ยงที่จะผิดพลาดสูงมาก ก็ทำใจไว้หน่อยว่าจะเป็นงานที่คุณไม่ถนัด ไม่ชอบ แต่ด้วยความรับผิดชอบคุณก็ต้องทำ ก็อย่าวางใจคนใกล้ชิดมาก เพราะเขาจะเปลี่ยนท่าทีจากที่เคยเชื่อใจกันกลายเป็นไม่จริงใจ ส่งผลให้งานผิดพลาดได้

การเงิน  :   เก็บเงินไม่อยู่ ขึ้นๆ ลงๆ เข้าๆ ออกๆ กว่าจะรอดถึงปลายเดือนก็เฉียดฉิวทุกที ก็นับเป็นข่าวดีว่าสัปดาห์นี้คุณจะมีรายได้เข้ามามากขึ้นและง่ายขึ้น แต่ก็ไม่ควรให้ใครยืมเงิน กู้เงิน หรือค้ำประกันใครในทุกๆ กรณี

ความรัก  :   สำหรับสัปดาห์นี้ว่าด้วยความสัมพันธ์ที่ไปๆ มาๆ ไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดๆ ซึ่งคุณเองก็อาจอึดอัดกับความสัมพันธ์นี้ จนอยากจะเข้าตามตรอกออกตามประตูให้ถูกต้อง แต่ก็เป็นไปได้ว่าอีกฝ่ายพอใจกับความสัมพันธ์แบบนี้  คนโสด เพราะความซื่อสัตย์จึงทำให้คุณไม่สามารถตัดใจได้ขาด ครั้นจะไปต่อกับรักใหม่ก็ยาก แต่จะกลับไปอยู่กับคนเก่าก็ไม่ไหว

สุขภาพ  :  ไม่ควรกลั้นปัสสาวะนะคะ เพราะมีความเสี่ยงที่กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะจะติดเชื้อ หากในกรณีรุนแรงมีโอกาสที่เชื้อจะเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่ายมาก  

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :   ต้องบอกว่าชาวพุธเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ด้วยความระแวง ไม่เป็นสุข  โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เพิ่งได้รับตำแหน่งใหม่หรือเปิดธุรกิจใหม่ เพราะเป็นไปได้ว่าท่ามกลางข่าวที่น่ายินดีนั้นก็ยังมีพวกที่คอยอิจฉาริษยา ไม่หวังดี คอยจ้องแทงข้างหลัง หรือเลื่อยขาเก้าอี้คุณอยู่ หรือหากในเชิงธุรกิจก็จะพบกับคู่แข่งที่ไม่ได้เล่นตามเกม ใช้วิธีสกปรกฟาดใส่ แล้วหากตอบโต้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม คุณนั่นล่ะ ที่จะเป็นทุกข์กับการกระทำของตัวเอง จนถึงขั้นโทษโชคชะตาเลยทีเดียว ทางที่ดีควรใช้สติ ความเข้มแข็ง และใจเย็น ค่อยๆ แก้ไขปัญหา อย่าใช้กำลังหรือมีทิฐิมานะ เพราะอาจเกิดความผิดพลาดเสียหายยากเกินกว่าจะแก้ไข

การเงิน  :  เหนื่อยกว่าคุณจะหาเงินมาได้แต่ละบาท จึงประหยัด มัธยัสถ์มากขึ้น ถึงอย่างไรสัปดาห์นี้ยังไม่เหมาะกับการเจรจาผลประโยชน์ มีความเสี่ยงที่จะถูกหลอก ถูกโกง จนถึงถูกขโมยทรัพย์สิน

ความรัก  :  มีโอกาสที่เสน่ห์จะนำความเดือดร้อนมาสู่ชีวิตคู่ของคุณนะคะ เพราะฉะนั้นหากเป็นไปได้ก็ไม่ควรโอภาปราศรัยกับใครมาก ขอแค่เนื้อๆ แล้วตัดจบ ไม่เช่นนั้น มีโอกาสที่อีกฝ่ายจะคิดว่าคุณพอใจเขา ถึงตอนนั้นแล้วจบไม่สวยแน่   คนโสด  สัปดาห์นี้ก็ยังปิดจ้อบไม่ได้อีกล่ะค่ะ ซึ่งคราวนี้มีแววเครียดหนักขึ้นอีก เพราะต้องเคลียร์กับคนข้างๆ ของเขาด้วย

สุขภาพ   :   มาจากความเครียดล้วนๆ เลยค่ะ จนส่งผลกระทบไปหมด ทั้งระบบประสาท ความดัน ไมเกรน และระบบย่อยอาหาร จนท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูก โรคกระเพาะ ลำไส้ อาหารเป็นพิษ มีวิธีเดียวคือ ปล่อยวางแล้วพักผ่อนเยอะๆ

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :   ก็ยังคงรุ่งพุ่งแรงอยู่นะคะ สำหรับชาวพฤหัสบดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัปดาห์นี้ผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจทางด้านการติดต่อประสานงาน นักบริหาร นักต่อรอง จะได้เข้าไปรับผิดชอบในโครงการทางด้านการเกษตร การออกแบบตกแต่งสวน ศิลปวัฒนธรรม สินค้าโอท้อป ซึ่งคุณต้องใช้เทคนิค สติปัญญาและความสามารถอย่างสูงในการเจรจา และหากคุณไม่ยึดติดกับความคิดเห็นของตัวเองมากก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จสูง ดังนั้น จึงควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้ร่วมงานด้วย

การเงิน  :  มีโอกาสที่คุณจะร่ำรวยจากที่ดินที่นา สวนมะม่วง สวนทุเรียน ฯลฯ  ซึ่งสัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าคุณจะหมดเงินไปกับการเดินทาง ท่องเที่ยว และการเข้าสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสงเคราะห์ผู้ที่เดือดร้อนจนกลายเป็นรายจ่ายหลักไปแล้ว

ความรัก  :  สัปดาห์นี้ว่าด้วยความรัก ความสัมพันธ์ และความเข้าใจกันดีของชีวิตคู่ ที่อาศัยเวลาในการบ่มเพาะกันจนต่างฝ่ายต่างยอมรับในความรับผิดชอบของตัวเอง  คนโสด  มีความเป็นไปได้ที่ความใกล้ชิดจะเปลี่ยนจากคนใกล้ตัวกลายเป็นคนรัก แล้วเป็นคนรักที่ดีด้วยสิ

สุขภาพ   :  จริงๆ คุณรักษาสุขภาพตัวเองอย่างดี เพราะไม่ชอบไปหาหมอ แต่หากใครที่ต้องทำงานหรือทำกิจกรรมที่ยืนและเดินนานๆ สัปดาห์นี้ให้ระวังอาการปวดเมื่อยตั้งแต่สะโพกจนถึงขา อาจเป็นโรคข้อหรือเอ็นเสื่อมได้  

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :   สำหรับชาวศุกร์จะเป็นสัปดาห์ปลายเดือนที่คุณจะได้ใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ของตัวเองอย่างเต็มที่เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ บ้าน ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง อาคารสำนักงาน ฯลฯ คุณจะมีโอกาสที่ได้ติดต่อประสานงาน ไม่ว่าจะโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อสารมวลชน หรืองานทางด้านภาษา อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นไปได้ที่ความมั่นใจของคุณที่ไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่นจะทำให้ตัดสินใจผิดพลาด ซึ่งส่งผลให้งานหรือธุรกิจผิดพลาดเสียหายอย่างไม่น่าเกิดขึ้น  

การเงิน  :   คุณสามารถหาเงินได้มากจากความสามารถของตัวเอง และมีการวางแผนการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสัปดาห์นี้มองเห็นว่ามีเรื่องซื้อบ้าน ผ่อนบ้าน แต่งบ้าน ไว้สำหรับเป็นเรือนหอ อยู่เป็นหนึ่งในลิสต์ด้วยนะเนี่ย

ความรัก :   คาดว่าสัปดาห์นี้คุณจะมองถึงอนาคตของครอบครัวให้เป็นปึกแผ่นขึ้น เช่นว่า ซื้อบ้าน ผ่อนบ้าน หรือวางแผนว่าจะมีทายาท อะไรทำนองนั้น  คนโสด  กำลังมีความรักนะคะเนี่ย หรือไม่ก็กำลังเป็นที่รักของใครหลายๆ คน ซึ่งคุณก็ไม่ใช่เสือปืนไว ชอบกับการที่ต้องศึกษากันนานๆ

สุขภาพ  :   จริงๆ คุณพลังเยอะ ไม่ค่อยเจ็บป่วยกับใครง่ายๆ นะคะ แต่ก็อย่าประมาท เพราะหากล้มหมอนนอนเสื่อทีก็หมายถึงเคสใหญ่เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัปดาห์นี้ต้องระวังอุบัติเหตุด้วย ขับขี่รถอย่าประมาท

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :  ก็ยังคงเหนื่อยอยู่นะคะสำหรับชาวเสาร์ แต่สำหรับสัปดาห์นี้เป็นความเหนื่อยระดับผู้บริหาร หัวหน้างาน หรือเจ้าของธุรกิจ ซึ่งจะเหนื่อยใจกับลูกน้อง เหนื่อยสมองกับการบริหารงานที่ไม่เป็นไปอย่างที่วางแผนไว้ เพราะฉะนั้นสัปดาห์นี้คุณจึงมีโอกาสที่จะได้ใช้สติปัญญาความสามารถเฉพาะตัวค่อนข้างสูง โดยเกี่ยวข้องกับงานต่างประเทศด้วย  เพื่อขับเคลื่อนให้งานหรือธุรกิจผ่านไปได้ด้วยดี  

การเงิน  :  ขยันทำงาน หางานเก่ง ทั้งงานประจำและงานเสริม ซึ่งสัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าคุณมีการวางแผนการเงินได้ดีขึ้น ประหยัดมากขึ้น

ความรัก  :  ก็ยังคงพลีชีพให้กับการทำงานอยู่ สำหรับสัปดาห์นี้คุณมีโอกาสได้เดินทางไปต่างประเทศด้วยแต่อย่างไรก็ตามช่วงที่คุณไม่อยู่ ก็เตรียมพร้อมงานบ้าน/คนที่บ้านไว้อย่างเป็นระเบียบเป๊ะ  คนโสด  มีโอกาสได้พบกับคนถูกใจในระหว่างการทำงาน คาดว่าน่าจะเป็นต่างชาติ แต่จะพัฒนาต่อได้ไหม ต้องดูว่าเขายอมรับในความต่างทางเชื้อชาติและขนบธรรมเนียมประเพณีได้มากแค่ไหน

สุขภาพ   :    มีโอกาสที่จะเกิดปัญหาในเรื่องของระบบปัสสาวะ อันเป็นผลมาจากการทำงานหนักและความเครียด ทางที่ดีไม่ควรกลั้นปัสสาวะจนเป็นนิสัย เพราะมีโอกาสที่กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะจะติดเชื้อได้  

Hyper Knife

4 เหตุผลที่ไม่ควรพลาด Hyper Knife ซีรีส์สำรวจด้านมืดของวงการแพทย์

Alternative Textaccount_circle
Hyper Knife
Hyper Knife

4 เหตุผลที่ควรดู Hyper Knife ซีรีส์ที่สำรวจด้านมืดของวงการแพทย์ไปกับ ‘อาจารย์หมอผู้เก่งกาจ-ลูกศิษย์อัจฉริยะ”

เดินทางมาจนถึงบทสรุปกับ Hyper Knife(하이퍼 나이프)  ซีรีส์ออริจินัลจาก Disney+ Hotstar ที่ได้นักแสดงมากฝีมืออย่าง “พัคอึนบิน” และ “ซอลคยองกู” มาประกบคู่เป็นอาจารย์หมอผู้เก่งกาจกับลูกศิษย์อัจฉริยะ อีกทั้งธีมการแพทย์ระทึกขวัญ และพล็อตเรื่องที่สดใหม่ถูกใจแฟน ๆ ทำให้ได้รับเสียงตอบรับจากผู้ชมอย่างล้นหลาม

ในโลกของซีรีส์การแพทย์ที่เต็มไปด้วยความหวัง ความเสียสละ และอุดมการณ์เพื่อรักษาชีวิตคนไข้ Hyper Knife(하이퍼 나이프) คือมีดเล่มหนึ่งที่บาดลึกลงไปในหัวใจของนิยามเหล่านั้น เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้น พาทุกคนดำดิ่งสู่ความดำมืดของวงการแพทย์ เต็มอิ่มกับเส้นเรื่องดราม่า ฉากผ่าตัดที่สมจริง

Hyper Knife

หากใครยังไม่ได้ดู และนี่คือ 4 เหตุผลว่าทำไมคุณถึงไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่องนี้โดยเด็ดขาด

สำรวจ “อีกด้าน” ของวงการแพทย์ที่ไม่เคยถูกพูดถึง

ผลงานซีรีส์เรื่องนี้แตกต่างจากซีรีส์การแพทย์ที่คุณเคยรู้จัก เพราะแทนที่จะเล่าเรื่องของชีวิตหมอและปัญหาความท้าทายที่ต้องเผชิญในแต่ละวันแต่ละสถานการณ์ ซีรีส์เรื่องนี้ บอกเล่าเรื่องของแพทย์ผู้มีความหลงใหลวิชาชีพและความสมบูรณ์แบบของฝีมือตัวเอง ตลอดจนพาคุณไปสำรวจแนวคิดที่ว่า ‘มีด เครื่องมือเพื่อช่วยชีวิต หรืออาวุธเพื่อฆ่า’ คิมจองฮยอน ผู้กำกับซีรีส์เผยว่าทันทีที่เขาเห็นบทเขารู้ได้ทันทีเลยว่า “นี่คือตัวละครและโครงสร้างเรื่องราวที่ไม่เคยมีมาก่อนในวงการซีรีส์เกาหลี” และเขาตัดสินใจได้ในทันทีว่าต้องกำกับซีรีส์เรื่องนี้ให้ได้ สิ่งนี้การันตีถึงความสดใหม่ของ Hyper Knife เรื่องแรกของซีรีส์การแพทย์ระทึกขวัญจากเกาหลีที่คุณไม่ควรพลาด

การพลิกบทบาทครั้งสำคัญของ “พัคอึนบิน” และ “ซอลคยองกู” ในฐานะแพทย์

ถือเป็นครั้งแรกสำหรับสองนักแสดงมากฝีมือ “พัคอึนบิน” และ “ซอลคยองกู” ในบทบาทศัลยแพทย์ระบบประสาทสำหรับซีรีส์ซึ่งทั้งสอง ต่างงัดเอาความสามารถด้านการแสดงออกมาอย่างเต็มที่ พร้อมด้วยเคมีสุดเดือดที่ถูกนำเสนอออกมาในมิติใหม่ระหว่างครูและศิษย์ที่ไม่ลงรอยกัน โดยนักแสดงทั้งสอง ตั้งใจตีความและรังสรรค์ผลงานการแสดงของซีรีส์เรื่องนี้ออกมาอย่างโดดเด่น แตกต่าง และน่าประทับใจ

นักแสดงนำหญิงอย่างพัคอึนบิน เผยว่า “ฉันคิดอยู่เสมอว่าหากฉันยังคงรับงานแสดงต่อไปเรื่อย ๆ ซักวันหนึ่งน่าจะต้องได้เล่นบทหมอแน่ และถ้าหากได้รับบทหมอจริง ๆ ฉันก็อยากรับบทเป็นศัลยแพทย์ระบบประสาท แล้วพอรู้ว่าจะได้เล่นบทนี้จริง ๆ ในซีรีส์ก็เลยตื่นเต้นมากค่ะ ตัวละครจองเซอ๊กมีความลึกซึ้งกว่าแพทย์ทั่วไปตามที่เห็นในละครมาก ทำให้ฉันรู้สึกท้าทายและอยากทำความเข้าใจตัวตนของเธอให้ลึกยิ่งขึ้นว่าเซอ๊กมีความคิดอย่างไร หรือถ้าเซอ๊กเจอเรื่องราวแบบนี้เธอจะทำอย่างไร”

ด้านซอลคยองกู เล่าว่า “ซีรีส์เรื่องนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ผมได้แสดงในซีรีส์ธีมการแพทย์ โดยตลอด 30 ปีในที่ผ่านมาในสายอาชีพการแสดง ผมไม่เคยรับบทหมอมาก่อนเลย พูดติดตลกนะ ผมว่าผมใส่เสื้อกาวน์แล้วรู้สึกเหมือนช่างตัดผมมากกว่า ผมว่าครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของผมในบทบาทหมอก็ได้ มันแตกต่างออกไปจากเรื่องอื่น ๆ ที่ผมเคยแสดงมา แต่แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่น่าจดจำ หวังว่าผู้ชมจะสนุกไปกับบทบาทของผมพร้อม ๆ กับเส้นเรื่องที่ค่อยเผยปริศนา”

ความสัมพันธ์ของอาจารย์กับลูกศิษย์ที่เปรียบเสมือน “สองด้านของเหรียญเดียวกัน”

ผู้กำกับคิมจองฮยอนเผยถึงความพิเศษของตัวละครเซอ๊กกับด็อกฮี ว่าไม่ใช่แค่ศิษย์กับอาจารย์ แต่พวกเขาคือแรงผลักและแรงดึงซึ่งกันและกัน เป็นเหมือนเหรียญสองด้านที่มีพลังทำลายสูง  โดยในช่วงแรก ผู้ชมอาจรู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครทั้งสองนั้นผิดปกติ แต่เมื่อเรื่องดำเนินไปเรื่อย ๆ จะพบว่าความบิดเบี้ยวนี้มีเหตุผลและเบื้องลึกเบื้องหลักจากอดีตของทั้งสองตัวละคร

ความสัมพันธ์แบบอาจารย์-ลูกศิษย์ที่ถ่ายทอดในซีรีส์เรื่องนี้ไม่เหมือนกับสิ่งที่เคยเห็นในทีวีมาก่อนเลย ด้วยความแหวกแนวในหลาย ๆ ด้านของเรื่องนี้โดยเฉพาะในแง่ของการวางคาแรกเตอร์ของลูกศิษย์ เซอ๊กแสดงพฤติกรรมที่เคียดแค้นหลายอย่าง ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นไม่เหมือนใคร และอาจทำให้ผู้ชมที่คุ้นเคยกับความสัมพันธ์แบบอาจารย์-ลูกศิษย์แบบดั้งเดิมรู้สึกตกใจได้ ถ้าผู้ชมลองสำรวจเบื้องลึกเบื้องหลังของทั้งคู่เมื่อเรื่องราวดำเนินไป จะค่อย ๆ เข้าใจและซึมซับความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดานี้ได้เอง

เพื่อถ่ายทอดความแตกต่างผ่านมุมมองภาพ ผู้กำกับและทีมสร้างใช้เทคนิคทางองค์ประกอบศิลป์ถ่ายทอด “ความแตกต่างที่ชัดเจน” ระหว่างสองตัวละคร เฉดสีแดง สำหรับตัวละครจองเซอ๊ก สะท้อนถึงพลังอารมณ์ที่ปะทุและการแสดงออกที่ตรงไปตรงมา และ เฉดสีน้ำเงิน สำหรับชเวด็อกฮี สะท้อนความเยือกเย็น สุขุม และการเก็บซ่อนความคิดทุกอย่างไว้ภายในตัวเอง ทั้งสองสีตัดกันแต่ก็สร้างไดนามิกที่น่าสนใจ โดยเซอ๊กและด็อกฮีเป็นเหมือน “สองด้านของเหรียญเดียวกัน” ซึ่งในช่วงท้ายของเรื่อง ผู้กำกับและทีมสร้างพยายามสื่อถึงจุดร่วมของพวกเขาผ่านเทคนิคต่าง ๆ เช่น การใช้มุมกล้องที่คล้ายกัน เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าพวกเขาอาจไม่แตกต่างกันอย่างที่คิด

ความสมจริงของการแพทย์ใน Hyper Knife(하이퍼 나이프)ไม่ได้มาโดยบังเอิญ

ทุกฉากผ่าตัดในซีรีส์มีการร่วมงานกับแพทย์จากโรงพยาบาลจริง ๆ ที่ให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด ทั้งในด้านการออกแบบฉากห้องผ่าตัด ท่าทางของนักแสดง และใช้เครื่องมือผ่าตัดของจริงในกองถ่าย ไม่ว่าจะเป็นกล้องจุลทรรศน์ หรือคีมสองขั้ว (bipolar forceps) ที่มีมูลค่ากว่าหนึ่งแสนบาท โดยทีมผู้สร้างเผยว่าคุณหมอบางท่าน ถึงขั้นลางานเพื่อให้คำปรึกษากับทีมงานในกองถ่ายตั้งแต่เช้าถึงเย็นในหลายวัน เพื่อดูแลทุกรายละเอียด แม้แต่การขยับมือของนักแสดงในขณะผ่าตัด อีกทั้งทีมงาน ยังสร้างโมเดลสมองและใบหน้าที่เหมือนจริงขั้นสุด โดยใช้เทคนิค CG ช่วยเสริมภาพของเนื้อเยื่อ สมอง และอวัยวะต่าง ๆ เพื่อให้ฉากผ่าตัดสมองออกมาสมจริงที่สุดในประวัติศาสตร์ซีรีส์เกาหลี

“แข็งแกร่งและอ่อนโยน” คู่ขนานที่บรรจบกันใน Spring/Summer 2025 จาก SIRIVANNAVARI

Alternative Textaccount_circle

สำรวจรันเวย์ SIRIVANNAVARI Spring/Summer 2025 คอลเล็คชั่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะหลากแขนงระหว่างยุคฟื้นฟูวิทยาการของอิตาลี

ปิดฉากอย่างสวยงามสำหรับคอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 จาก SIRIVANNAVARI โดนครั้งนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปะหลายแขนงระหว่างยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการของอิตาลี (Italian Renaissance) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นงานสร้างสรรค์ยกย่องสรีระอันอ่อนช้อยของผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็น ประติมากรรมหินอ่อนขนาดเท่าคนจริงของมิเกลันเจโล ไปจนถึงการใช้เฉดสีอ่อนโยนในจิตรกรรม ‘กำเนิดวีนัสง ของซานโดร บ็อตติเช็ลลิ ไปจนถึงงานฝังโมเสกปูลายระยิบระยับ ซึ่งงานศิลปะที่กล่าวถึงทั้งหมดล้วนอาศัยเส้นโค้งเว้า ตัดกับเหลี่ยมมุมกราฟิก เน้นลูกเล่นโปร่งแสง ในเฉดสีขาว เป็นภาพสะท้อนแห่งความคู่ขนานระหว่างความแข็งแกร่งกับความอ่อนโยน

แรงบันดาลใจจากองค์ประกอบของงานประติมากรรมหินอ่อน ทั้งรูปทรง วัสดุธรรมชาติที่ใช้ในการปั้นหรือแกะสลัก โดดเด่นเป็นหนึ่งด้วยลายเส้นภายในเนื้อวัตถุหรือเม็ดทรายที่แสนบอบบาง เสมือนเปลี่ยนรูปทรงไปตามกระแสลม กระนั้นกลับมีความทนทานอย่างเหลือเชื่อ นำมาซึ่งงานออกแบบเครื่องแต่งกายแต่ละชุดในคอลเล็คชั่นนี้ โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ ได้ใช้หลากเทคนิคงานฝีมือสัญลักษณ์ประจำแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นงานจับเดรป, งานพันผ้าพับทบ, งานอัดพลีทจับจีบ ไปจนถึงงานถักโครเชต์ มัดปม เพื่อให้บรรดาสิ่งทอเนื้อโปร่ง บางเบาอย่างเจอร์ซีย์และชีฟอง จุดประกายจินตนาการถึงพลิ้วระลอกคลื่นน้ำตามแรงลม

และหักมุมด้วยการตัดเย็บร่วมกับวัสดุซึ่งมีเนื้อสัมผัสตรงข้าม เช่น หนังฟอกเนื้อนุ่ม ,กระจก, ผ้าลูกไม้, ผ้าฝ้ายเดนิม อีกทั้งยังมีการใช้กรรมวิธีเคลือบเรซินพิเศษกับสิ่งทอ  จำลองลีลาพริ้วไหวของแพรพรรณบนประติมากรรมหินอ่อน เช่นเดียวกับงานฝีมือถักโครเชต์ มอบความหลากหลายในลวดลายน่าตื่นตา

จากการสังเกตคอลเล็คชั่น Spring 2025  โดดเด่นในโทนสีขาวเป็นหลัก ตามด้วยสีโทนกลางอย่างสีทราย และสีเบจต่างเฉด รองรับความสลับซับซ้อนของลายพิมพ์ประจำฤดูกาล ในโทนชมพูผสมม่วงอ่อนให้บรรยากาศเบิกบานผ่อนคลายของฤดูร้อน อันมีต้นแบบมาจากภาพวาดลายเส้นฝีพระหัตถ์ขององค์นักออกแบบ ผสานภาพตัดต่อภาพ และลายสเก็ตช์  ซึ่งสื่อถึงอิทธิพลเชิงศิลป์จากรายละเอียดสำคัญส่วนต่างๆ ของผลงานประติมากรรมชิ้นสำคัญทางประวัติศาสตร์นั่นเอง


หลักพันถึงแสน! เปิดดีเทล 4 กระเป๋าแมตช์ลุค Coachella 2025 ของ ลิซ่า ลลิษา

Alternative Textaccount_circle

สำหรับเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่อย่าง Coachella 2025 หนึ่งศิลปินที่สร้างปรากฏการณ์เช่นเคย หนีไม่พ้น “ลิซ่า ลลิษา” จริงๆ เพราะนอกจากการแสดงจัดเต็ม คอสตูมแต่ละลุคของเธอยังเป็นที่พูดถึง โดยเฉพาะชุดสัตว์เลื้อยคลานที่ได้ดีไซเนอร์คนเก่งอย่าง  Asher Levine (แอชเชอร์ เลวีน) มาเป็นผู้ออกแบบให้ และอย่างเป็นที่รู้กันว่าโคเชลล่าเป็นเทศกาลที่คนดังหลายคนจะแต่งตัวมาประชัน ชนิดไม่มีใครยอมใคร ฉะนั้นลุคลิซ่าในโหมดพักจากการแสดงก็ยังเป็นที่น่าจับตา ซึ่งล่าสุดเธอได้โพสต์รูปภาพลงบนอินสตาแกรมส่วนตัว ทำให้เราเห็นแฟชั่นไอเท็มชัดๆ ว่าโททัลลุคของเธอในแต่ละวันเป็นอย่างไร บอกเลยว่าแค่กระเป๋าก็มีถึง 4 ใบ และที่สำคัญมีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงแสนเลยทีเดียว เราจะมาเปิดดีเทลแต่ละใบไปพร้อมกัน

Sculptor – Faux Suede String Hobo Bag (Brick Red)

สำหรับใบแรกเริ่มต้นด้วยราคาเบาๆ เพียงหลักพันกับ Faux Suede String Hobo Bag จาก Sculptor กระเป๋าทรงโฮโบขนาดใหญ่ที่พร้อมจุสัมภาระทุกอย่างได้เท่าที่ต้องการ มาในดีไซน์โบฮีเมียนที่เพิ่มความน่าดึงดูดด้วยระบายข้างๆ ตกแต่งด้วยอะไหล่สีเงินเพื่อความชิค กระเป๋าใบนี้ราคาอยู่ที่ 7,462 บาท แอบกระซิบว่า ในเว็บไซต์ออฟฟิเชียลขึ้น Sold Out เป็นที่เรียบร้อย ใครที่อยากได้คงต้องเฝ้าหน้าจอไว้ให้ดีเผื่อไอเท็มจะรีสต็อคค่ะ

Rabanne – Nano 1969 embroidered raffia Bag

กระเป๋าสานก็มาเช่นกันกับ Nano 1969 embroidered raffia Bag จาก Rabanne ที่หากใครรู้จักแบรนด์นี้อยู่แล้วคงคุ้นกับโลหะที่ประดับอยู่บนกระเป๋า เพราะแผ่นเล็กๆ นี้สะท้อนซิกเนเจอร์ของแบรนด์ได้อย่างดีทีเดียว แต่ความพิเศษของใบที่ลิซ่าถืออยู่มีใช้เชือกราเฟียสีดำมาสานให้เป็นรูปทรงกระเป๋าสะพายไหล่ และเพิ่มความน่าสนใจด้วยโลหะชิ้นดังกล่าว ถือเป็นไอเท็มที่ใช้ได้ทั้งในวันชิลๆ และโอกาสสำคัญ ราคาอย่ที่ประมาณ 26,000 บาท

Fendi – Nano Peekaboo (Green)

ใบที่สามอยู่กับ Nano Peekaboo จาก Fendi ที่โดดเด่นด้วยการตกแต่งภายในบุหนัง มีสองช่องที่คั่นด้วยฉากกั้น ซึ่งสามารถถอดออกได้ นอกจากนี้ยังมีตัวล็อคบิดแบบคลาสสิกให้ความรู้สึกหรูหรา และไร้กาลเวลา โดยกระเป๋าใบนี้ยังสามารถถือด้วยมือหรือ Crossbody ก็ได้เช่นกัน เพราะมาพร้อมสายโลหะอีกเส้น เห็นดีเทลระบายข้างๆ แบบนี้แล้ว นึกถึงใบแรกจาก Sculptor เหมือนกันนะคะ อาจเป็นเพราะกระเป๋าสไตล์นี้เหมาะกับเทศกาลดนตรีสุดฮิปแห่งนี้ก็ว่าได้ ส่วนราคาใบนี้อยู่ที่ 62,000 บาท

Louis Vuitton – LV x TM Speedy Bandoulière 25

ใบสุดท้ายเป็นกระเป๋าถือรุ่น Speedy Bandoulière 25 จากคอลเล็คชั่น Louis Vuitton x Murakami ที่ปรับลุค Monogram แคนวาสสุดไอคอนิกของเมซงด้วยลาย Cherry Blossom แสนสดใสซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของศิลปินชื่อดัง รวมถึงยังมาพร้อมชาร์มห้อยกระเป๋า Cherry Blossom ที่ถอดออกได้ และหูจับคู่ Toron สุดหรูและสายสะพายแบบถอดออกได้ โดดเด่นสะดุดตาในหนังคาวไฮด์ธรรมชาติ ราคาอยู่ที่ 102,000 บาท ไม่เพียงเท่านั้นเมื่อลิซ่าเป็นหนึ่งในสาวกที่คลั่งรักอาร์ตทอย นอกจากเจ้า Crybaby ที่แขวนอยู่แล้ว ยังมีพวงกุญแจ LV x TM Cherry Blossom Bag Charm เพิ่มความคิวต์อีกด้วย ซึ่งราคาความน่ารักนี้อยู่ที่ 28,000 บาท ค่ะ


รูปภาพ: Louis Vuitton, Fendi, Sculptor, Rabanne และ Instagram @lalalalisa_m

องซองอู

เปิดประวัติแฟนหนุ่มแห่งชาติจากเกาหลีใต้ องซองอู (Ong Seong Wu)

Alternative Textaccount_circle
องซองอู
องซองอู

เปิดประวัติ องซองอู  (Ong Seong Wu) นักร้อง นักแสดง มากความสามารถ เจ้าของฉายา Boyfriend Material แฟนหนุ่มแห่งชาติจากเกาหลีใต้

ถ้าหากพูดถึงชื่อนักแสดงหรือศิลปินแถวหน้าของวงการของเอเชีย เชื่อว่าจะต้องมีชื่อของ “องซองอู” หรือ “พี่อง” ของแฟน ๆ ชาวไทยติดอยู่ในโผอย่างแน่นอน “องซองอู” ถือเป็นอีกหนึ่งศิลปินคุณภาพที่ได้รับการยอมรับจากทั้งในและนอกประเทศ ด้วยความสามารถโดดเด่นในผลงานทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นผลงานเพลงหรือการแสดง  เช่นนั้นวันนี้เราจะไปรู้พร้อมกันเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นเส้นทางการเติบโตในวงการบันเทิงไปจนถึงที่มาของงฉายา Boyfriend Material แฟนหนุ่มแห่งชาติจากเกาหลีใต้

1.  จุดเริ่มต้นเส้นทางการเติบโตในวงการบันเทิง

เส้นทางในวงการบันเทิงขององซองอูเริ่มต้นด้วยการเข้าแข่งขันใน Produce 101 รายการเซอร์ไวเวอร์ชื่อดังจากประเทศเกาหลี ซึ่งในรายการนี้ เขาได้พิสูจน์ความสามารถ งัดทุกศักยภาพ จนคว้าอันดับที่ 5 มาได้ และได้เดบิวต์เป็นหนึ่งในสมาชิกของวง Wanna One หลังจากเปิดตัว วง Wanna One ก็ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย และได้ชื่อว่าเป็นบอยแบนด์ที่ดีที่สุดวงหนึ่งของเกาหลี

องซองอู

2.  เพชรเม็ดงามของวงการการแสดง

องซองอูถือเป็นศิลปินที่ครบเครื่องที่สุด เพราะนอกจากการร้องเพลงแล้ว ฝีมือการแสดงของเขาก็โดดเด่นเช่นกัน เริ่มด้วยผลงานแจ้งเกิดอย่างเรื่อง At Eighteen ซีรีส์ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตวัยรุ่นในช่วงอายุ 18 ปี และยังมีผลงานคุณภาพให้แฟน ๆ ได้รับชมอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น More Than Friends, Life Is Beautiful และสำหรับผลงานเรื่องล่าสุด ซึ่งองซองอูรับบทเป็นตำรวจหนุ่ม “คังฮีชิก” ในซีรีส์เรื่อง Strong Girl Nam Soon นั้น ก็ได้รับการยอมรับจากแฟน ๆ ให้เป็นหนึ่งในบทบาทที่ดีที่สุดของเขา

3.  การันตีความสามารถด้วยรางวัลอันทรงเกียรติ

ด้วยความสามารถด้านการแสดงที่ยอดเยี่ยม เขาได้รับสองรางวัลใหญ่จากงานประกาศรางวัล Korea Drama Awards ประจำปี 2019 อันได้แก่รางวัล Best New Actor Award และรางวัล Hallyu Star Award จากผลงานแจ้งเกิดอย่าง At Eighteen และซีรีส์เรื่องเดียวกันยังทำให้เขาคว้ารางวัล Most Promising Actor จากงานประกาศรางวัล StarHub Night of Stars ประจำปี 2019 และรางวัล Rookie Actor Award จากงานประกาศรางวัล Asia Artist Awards ประจำปี 2019 มาได้อีกด้วย นอกจากนี้ องซองอูยังได้รับรางวัล New Wave Award จากงานประกาศรางวัล Grand Bell Awards ประจำปี 2022 จากผลงานภาพยนตร์ Life Is Beautiful ถือเป็นการการันตีความสามารถและพรสวรรค์ด้านการแสดงของเขาอย่างชัดเจน

4.  Boyfriend Material สมฉายาแฟนหนุ่มแห่งชาติ

นอกจากความสามารถทางด้านการร้องเพลงและการแสดงของเขาที่เป็นที่ประจักษ์แล้ว ดาราหนุ่มยังเล่นเครื่องดนตรีเป็นอีกด้วย โดยเขามีสกิลการตีกลองที่นับว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้น เขายังชื่นชอบการถ่ายภาพด้วย เรียกว่าคุณสมบัติครบถ้วน สมกับฉายาแฟนหนุ่มแห่งชาติของแฟนคลับ จริง ๆ

Ong Seong Wu  นับเป็นดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ความสามารถ ทั้งยังความทุ่มเทในทุกบทบาท ตั้งแต่เริ่มต้นจากการเป็นที่รู้จักในรายการ Produce 101 จนมาเป็นศิลปินเดี่ยวและนักแสดงมากฝีมืออย่างทุกวันนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีแฟนคลับมากมายทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ รวมถึงในประเทศไทยด้วย

Liu Xue Yi

พระเอกหนุ่มสุดฮอตจากแดนมังกร หลิวเสวียอี้ Liu Xue Yi

Alternative Textaccount_circle
Liu Xue Yi
Liu Xue Yi

หากพูดถึงนักแสดงจีนที่มาแรงที่สุดในช่วงนี้ ชื่อของ “หลิวเสวียอี้” Liu Xue Yi คงติดอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน ด้วยฝีมือการแสดงที่โดดเด่น คาแรกเตอร์ที่หลากหลาย ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจแฟนซีรีส์ทั่วเอเชียอย่างรวดเร็ว ล่าสุดหลิวเสวียอี้ได้สร้างปรากฏการณ์อีกครั้งกับซีรีส์จีนแนวพีเรียด – แฟนตาซีกระแสแรงอย่าง “ขณะหนึ่งชั่วนิจนิรันดร์” (A Moment But Forever) ซึ่งได้มาประกบคู่กับนางเอกตัวแม่อย่าง “ถังเยียน” ด้วยพล็อตเรื่องสุดเข้มข้น งานภาพ แสง สี เสียง และโปรดักชันสุดตระการตา พร้อมด้วยทัพทีมงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังคุณภาพ ส่งผลให้ซีรีส์ได้ทะยานขึ้นสู่ซีรีส์ที่มาแรงอันดับ 1 อย่างรวดเร็ว วันนี้เราขอพาทุกคนมาตามเก็บลิสต์ผลงานสุดฮอตของหลิวเสวียอี้บนแอป iQIYI (อ้ายฉีอี้) ที่แฟน ๆ ห้ามพลาด ใครที่ยังไม่เคยดู หรืออยากย้อนดูอีกครั้ง เตรียมกดเพิ่มเข้าลิสต์ได้เลย

ขณะหนึ่งชั่วนิจนิรันดร์ (A Moment But Forever)

เรื่องย่อ : บอกเล่าเรื่องราวเมื่อในโลกเกิดสงครามครั้งใหญ่ระหว่างเหล่าเทพและเหล่ามาร ท่ามกลางความวุ่นวาย ทำให้ของวิเศษบางอย่างจากสวรรค์สูญหายไปอย่างลึกลับ เทพธิดาอู๋ซวง (รับบทโดย ถังเยียน) ได้รับภารกิจในการตามหาของวิเศษที่หายไป โดยเชื่อว่าของที่หายไปอยู่กับ หยวนจ้ง (รับบทโดย หลิวเสวียอี้) มหาปุโรหิตเผ่าจิ้งจอก เรื่องราวที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อทั้งสองกลับตกหลุมรักกัน เรื่องราวความรักของพวกเขาจึงเริ่มต้นขึ้น

นำแสดงโดย : หลิวเสวียอี้ และ ถังเยียน

สยบรักจอมเสเพล (Destined)

เรื่องย่อ : บอกเล่าเรื่องราวของ หลิ่วอวี้หรู (รับบทโดย ซ่งอี้) หญิงสาวผู้อาภัพในโชคชะตา และกู้จิ่วซือ (รับบทโดย ไป๋จิ้งถิง) หนุ่มเสเพลชื่อดังในเมืองหยางโจว เมื่อหลิ่วอวี้หรูที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากแม่เลี้ยงใจร้าย เธอถูกครอบครัวหมายหมั้นแต่งงานกับกู้จิ่วซือ หนุ่มเสเพลที่ไม่เป็นการทำอะไร ใช้ชีวิตแบบวันต่อวันไร้จุดหมายปลายทาง ถึงแม้ว่าในตอนแรกทั้งสองเริ่มต้นไม่ค่อยดีนัก เจอปัญหาต่างๆ รายล้อม ไม่ว่าจะเป็นจากในครอบครัวและในสังคม แต่ท้ายที่สุดทั้งสองก็ได้จับมือเขียนเส้นเรื่องราวใหม่ของชีวิตให้กันและกัน

นำแสดงโดย : ซ่งอี้, ไป๋จิ้งถิง, หลิวเสวียอี้, จางฮ่าวเหวย ฯลฯ

Liu Xue Yi

รัตติกาลรัก (Love At Night)

เรื่องย่อ : บอกเล่าเรื่องราวของ สวีชิงโหย่ว (รับบทโดย จางอวี่ซี) หญิงสาวแกร่งที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่กลับต้องผิดหวังในความรักเมื่อพบว่าแฟนหนุ่มที่คบกันมานานนอกใจ ขณะหัวใจอ่อนล้า เธอได้พบกับโม่หลิงเจ๋อ (รับบทโดย หลิวเสวียอี้) ชายหนุ่มมาดนิ่ง ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงที่ดูเหมือนไม่แยแสโลก แต่กลับค่อย ๆ ละลายกำแพงหัวใจของเธอ ความสัมพันธ์ที่เริ่มจากความไม่ตั้งใจ กลับกลายเป็นความรู้สึกจริงที่ทั้งสองไม่อาจปฏิเสธได้ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปต้องติดตามรับชม

นำแสดงโดย : หลิวเสวียอี้ และ จางอวี่ซี

Jimmy Choo x Malbon 2.0

Jimmy Choo x Malbon 2.0 เมื่อสนามกอล์ฟกลายเป็นรันเวย์

account_circle
Jimmy Choo x Malbon 2.0
Jimmy Choo x Malbon 2.0

Jimmy Choo และ Malbon ประกาศการร่วมมือกันเป็นครั้งที่สอง นำเสนอคอลเล็คชั่นแห่งการปฏิรูปไอเทมกอล์ฟเข้าสู่ดีไซน์ใหม่ ผสานสไตล์รันเวย์เข้าสู่สนาม เชิดชูมรดกล้ำค่าของ Malbon ด้วยชุดกอล์ฟดีไซน์ร่วมสมัย ยกระดับไอเทมกอล์ฟด้วยความสง่างามในแบบ Jimmy Choo

Jimmy Choo x Malbon 2.0 เมื่อสนามกอล์ฟกลายเป็นรันเวย์

Jimmy Choo / Malbon 2.0 แคปซูลคอลเล็คชั่น ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ในผลงานจากคอลเลกชันแรก แต่เพิ่มความสะดุดตาด้วยเฉดสีและรายละเอียดใหม่ๆ ผนวกกับการออกแบบ JC Monogram Jacquard สีใหม่อย่าง “Malbon Green” และ “Malbon Pink” นอกจากนี้ยังมีมาสคอตเวอร์ชันพิเศษของ Malbon อย่าง ‘Buckets’ ที่เพิ่มความเก๋ด้วยการใส่หมวก ประดับเข้ากับหมวกไวเซอร์แต่งลายโลโก้ JC เพิ่มความสดใหม่ให้กับคอลเลกชัน พร้อมมอบสไตล์หรูหราแต่แฝงไปด้วยฟังก์ชันสำหรับการลงสนามกอล์ฟ

รองเท้าในคอลเล็คชั่นนี้ประกอบด้วย รองเท้ารุ่น JC/Malbon Diamond Trainers ที่สามารถใส่ได้ทั้งชายและหญิง โดยมาพร้อมแผ่นแปะรองเท้าที่ถอดออกได้ และเชือกรองเท้า 2 คู่ พร้อมการกลับมาอีกครั้งของรองเท้ารุ่น JC/Malbon Unisex Slide ด้วยสีใหม่ Latte/Malbon Green และลายโมโนแกรมรุ่นล่าสุด อีกทั้งยังมีรองเท้ารุ่น Diamond Maxi ที่นำพื้นรองเท้าอันเป็นเอกลักษณ์มาปรับโฉมใหม่ ด้วยการแต่งปุ่มรองเท้าทรงเพชร สร้างการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม เพื่อมอบประสิทธิภาพในการเล่นกอล์ฟ แต่ยังคงมีสไตล์

นอกจากรองเท้าแล้ว คอลเล็คชั่นนี้ยังมาพร้อมกับแอคเซสซอรีที่เลือกสรรมาอย่างพิถีพิถัน ด้วยดีไซน์ร่วมสมัยและโทนสีที่หรูหรา ถุงกอล์ฟประสิทธิภาพสูงถูกนำกลับมาอีกครั้งในเฉด Malbon Pink และ Malbon Green พร้อมดีเทลปักโลโก้คู่กันอันเป็นเอกลักษณ์ของทั้งสองแบรนด์ เพิ่มด้วยไอเทมอย่าง JC/Malbon Duffle Bag, Tote Bag และชุด Club Cover ที่สามารถใส่เข้าชุดกันได้อย่างลงตัว

ความสนุกสนานยังถ่ายทอดเข้ามาอย่างไม่รู้จบในคอลเล็คชั่น ด้วยไอเท็มอย่าง พวงกุญแจลูกกอล์ฟ ที่สามารถช่วยเติมความมีชีวิตชีวาให้กับการแต่งตัวได้ดี โดยมาในสีคลาสสิก Malbon Pink และ Malbon Green ตัดด้วยดีเทลสีเงินสุดหรู ช่วยปรับลุคให้โดดเด่นไม่ซ้ำใคร อีกทั้งยังเสริมด้วยด้วยการเปิดตัวผ้าขนหนูสองสีเข้าชุดกัน และปิดท้ายด้วยสินค้าไลน์หมวกหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่หมวกไวเซอร์แบบผูกด้านหลัง ไปจนถึงหมวกบักเก็ตทรงเก็ต

คอลเล็คชั่นนี้ที่สองของ Jimmy Choo / Malbon นี้จะวางจำหน่ายเฉพาะที่ Jimmy Choo Emporium boutique เท่านั้น โดยจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2025 เป็นต้นไป


 

คิมเบอร์ลี่ – ตู ต้นตะวัน ร่วมชมโชว์ Dior Women’s Fall 2025 ที่โตเกียว

Alternative Textaccount_circle

จบลงอย่างสวยงามสำหรับแฟชั่นโชว์ Dior Women’s Fall 2025 ท่ามกลางดอกซากุระ ที่จัดขึ้น ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งภายในงานก็เต็มไปด้วยแอมบาสเดอร์ประจำแบรนด์และคนดังมากมาย โดยตัวแทนจากประเทศไทยมี “คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส” และ “ตู ต้นตะวัน” เข้าร่วมชมโชว์ครั้งนี้ พร้อมโททัลลุคจากคอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ผลิ 2025 ส่วนไฮไลท์ของโชว์จะมีอะไรแพรวได้รวบรวมมาให้ชมค่ะ

กลิ่นอาย “ญี่ปุ่น” ใน Dior Fall 2025

แน่นอนว่า การเลือกสถานที่จัดแฟชั่นโชว์เป็น GARDEN OF TOJI ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ไม่ใช่อาการทึกทักที่อยากจัดที่ไหนขึ้นมาก็ได้ แต่เป็นความตั้งใจของ Maria Grazia Chiuri ที่ต้องการหล่อหลอมลักษณะการสวมใส่เสื้อผ้าในวัฒนธรรมทั่วโลก อย่างครั้งนี้เธอได้เลือกวัฒนธรรมจากประเทศญี่ปุ่นมานำเสนอ เราจึงเห็นว่าเสื้อผ้าของ Dior คอลเล็คชั่นนี้เต็มไปด้วยซิลลูเอท และลวดลายที่แสดงออกถึงญี่ปุ่นอย่างชัดเจน

ไม่ว่าจะเป็นการนำเอกลักษณ์ของกิโมโนเข้ามาผสมผสานกับไอเท็ม เช่น พัฒนาแจ็กเก็ตและเสื้อโค้ทเป็นรูปทรงหลวมสบายและโอบล้อมร่างกายอย่างลงตัว บางครั้งอาจสวมคู่กับเข็มขัด หรือกางเกงขายาวทรงบานและกระโปรงยาวก็กลมกลืนกับทุกย่างก้าว ทำให้เคลื่อนไหวสะดวก ในขณะเดียวกันก็ยังงดงาม 

อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงของคอลเล็คชั่นนี้ มีการนำสีดำ มาถ่ายทอดเรื่องราวอันน่าหลงใหลของลายพิมพ์ดอกไม้ ที่โดดเด่นด้วยลายปักสีทองนั่นเอง


ภาพและข้อมูล: Dior

มาร์ค & โอม เสิร์ฟความฟิน กับเคมีสุดลงตัว

account_circle

ทำแฟนๆ ฟินสุดๆ กับซีรีส์  “แฟนที่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ Sweet Tooth, Good Dentist” ที่นำแสดงโดย “มาร์ค – ภาคิน และ โอม – ฐิภากร ”

ครั้งนี้แพรว ขอชวน “มาร์ค – ภาคิน คุณาอนุวิทย์ และ โอม – ฐิภากร  ฐิตะฐาน” มาแชร์เรื่องราวตั้งแต่รู้จักกัน ทำงานด้วยกัน รวมถึงความสนิทรู้ใจที่เป็นมากกว่าเพื่อนร่วมงาน

ยังจำตอนเจอกันครั้งแรกได้ไหมคะ

          มาร์ค   “เราเจอกันครั้งแรกตอนที่แคสติ้งตัวละครครับ ตอนนั้นทางค่ายต้องการหาแสดงมาเล่นคู่กับผม จึงเรียกหลายๆ คนมาแคสติ้ง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผมเจอโอม”

           โอม      “ใช่ครับ แต่ครั้งแรกที่เห็นพี่มาร์คก็ตกใจนะครับ เพราะเขาเซอร์มาก ตอนนั้นไว้ผมยาวหยิกๆ ไว้หนวด แต่งตัววินเทจ”

มาร์ค หัวเราะ  “คือถ้าช่วงที่ผมไม่ได้มีถ่ายซีรีส์หรืออีเวนต์ ผมจะไม่ตัดผม ไม่โกนหนวด แล้ววันนั้นรู้สึกว่ามาเวิร์คช็อปเฉยๆ ก็เลยแต่งตัวชิลๆ (หัวเราะ) และเวลาผมเจอใครครั้งแรก ด้วยความอินโทรเวิร์ตผมจะไม่ค่อยเข้าไปคุยก่อน แต่จะชอบสังเกตว่าเขาเป็นยังไง บุคลิกท่าทางเป็นคนแบบไหน

“ซึ่งครั้งแรกที่เจอโอม เขาดูมั่นใจนะ แบบออกมาทางดวงตาเลย คือรู้เลยว่าเด็กคนนี้มีความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีนะครับ เพราะพอได้เข้าคลาสแสดงด้วยกัน ผมรู้สึกเลยว่าเขาคิดนอกกรอบและน่าสนใจมากครับ”

โอม      “สำหรับผมนอกจากลุคเซอร์ๆ ของพี่มาร์ค อีกอย่างคือผมรู้สึกว่าเขามีของ เขาสามารถแสดงอารมณ์ สื่อสารความรู้สึกออกมาได้ดี และแสดงละเอียดมาก ตอนที่ผมแสดงคู่กับเขาครั้งแรก ใจหนึ่งก็รู้สึกว่าเบาใจได้เลย เพราะเขาเก่ง แต่อีกใจก็แอบกังวล กดดันตัวเอง กลัวจะทำไม่ได้เท่าครึ่งหนึ่งของเขา และกลัวเขาจะรู้สึกไม่ดีกับเรา”

พอได้รู้จักกันจริงๆ คิดว่าอีกคนเป็นอย่างไรคะ

มาร์ค   “จริง ๆ เราสองคนมีอะไรคล้ายกันหลายอย่างครับ ทั้งความชอบ รสนิยมต่างๆ และยิ่งพอทำงานด้วยกัน คุยกัน รู้จักกันมากขึ้นก็ยิ่งสบาย เพราะความที่เราคล้ายกัน ผมจึงรู้ว่าแบบนี้โอมจะไม่ชอบ แบบนี้โอมจะไม่โอเค มันจึงเหมือนเป็นการตัดสินใจแทนกันได้นิดหนึ่ง ถ้าสมมติว่าอีกคนหนึ่งอึดอัดที่จะพูด เราก็สามารถพูดแทนได้ เพราะรู้ว่าเขาจะรู้สึกเหมือนเรา (ยิ้ม)

“เราจึงใช้เวลาปรับตัวเข้าหากันไม่นาน เพราะเวลาทำความรู้จักใครสักคน เวลาเราพูดเรื่องอะไรไปแล้วเขาเก็ตทันที สามารถคุยกับเราต่อได้ มันเป็นอะไรที่ดีมากๆ”

โอม “เราคุยภาษาเดียวกันครับ (ยิ้ม) อย่างที่พี่มาร์คบอกเลยครับ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องคอมมอนเซนส์ และเรารู้ว่าอีกฝ่ายจะคิดยังไง จะรู้สึกแบบไหน หรือเรื่องความชอบ อย่างสีของโลโก้คู่เราก็เลือกตรงกันแบบอัตโนมัติเลย เราชอบอะไรที่ดูไม่เยอะเกิน ไม่น้อยเกิน ดูแบบไม่ตะโกน ดูเข้าใจง่าย เข้าถึงง่าย ประมาณนั้นครับ

“ผมรู้สึกว่าเราคือความสบายใจของกันและกันครับ ทุกความคิด ทุกการตัดสินใจ มีความสบายใจเข้ามามีส่วนร่วมทุกอย่าง และเราคุยกันแบบไม่ต้องเม็ด” (ไม่มีอะไรปิดบัง)

            มาร์ค   “คือชอบหรือไม่ชอบอะไรก็แชร์ออกมา และเราจะไม่โยนสิ่งที่เราต้องการไปให้อีกฝ่ายแบบ 100% แต่เราจะโยนไป 50% คุณแชร์มา 50% แล้วหาตรงกลางร่วมกัน ซึ่งเราไม่มีอีโก้ทั้งคู่ จึงง่ายทั้งการทำงานและพูดคุยกัน

  “ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องงานนะ อย่างเรื่องชีวิต ครอบครัว เราก็ปรึกษากันและกัน การตัดสินใจงานต่าง ๆ เราคุยกันทุกเรื่องเลย”

โอม      “ใช่ครับ ความจริงคนที่คล้ายพี่มาร์คมาก ๆ มาก คือคุณแม่ผม ทั้งนิสัย วิธีการคิด ผมจึงรู้สึกว่าไม่แปลกเลยที่ทำให้เราสนิทกัน” (ยิ้ม)

ชมภาพแฟชั่นและอ่านบทสัมภาษณ์เพิ่มเติมได้ในคอลัมน์ Praew Favor นิตยสารแพรว เม.ย. 68

  • Digital Editor & Style : Minim    
  • ภาพ : วรสันต์   
  • ผู้ช่วยช่างภาพ : รัฐวรรธน์, กิตติญา
  • ผู้ช่วยสไตลิสต์ : ชัญญาภัค เขมหิรัญกิจ
  • เสื้อผ้า : Painkiller Atelier , Moo Bangkok และ Shone Puipia
Coachella 2025

เจนนี่จัดเต็ม Coachella 2025! ลุคเวทีเดี่ยวสุดเวสต์เทิร์น-แกลม

account_circle
Coachella 2025
Coachella 2025

ขึ้นเวทีเดี่ยวครั้งแรกในชีวิตทั้งที เจนนี่ก็ไม่ปล่อยให้แฟน ๆ ผิดหวัง! เธอระเบิดเวที Outdoor Theatre ที่ Coachella 2025 ด้วยลุคสไตล์ “เวสต์เทิร์นแกลม” ที่ผสานความเท่แบบคาวบอยเข้ากับความหรูแบบตัวแม่แฟชั่นนิสต้า

เจนนี่จัดเต็ม Coachella 2025! ลุคเวทีเดี่ยวสุดเวสต์เทิร์น-แกลม

ลุคนี้ Jennie เลือกใส่แจ็กเก็ตลายหนังจระเข้คู่กับบราท็อปเข้าชุดจากคอลเล็คชั่น Fall 2025 ของ Georges Hobeika เสริมความเผ็ชด้วยกางเกงขาสั้นไซซ์จิ๋วคัสตอมเฉพาะตัว ก่อนจะจัดเต็มด้วยบู๊ตหนังทรงโอเวอร์ไซซ์สูงเสียดฟ้าจาก Didu คอลเล็คชั่น Spring 2025 คอมพลีตลุคด้วยเข็มขัดหนังลายจระเข้สีแดงเบอร์กันดีรุ่น Threesome จาก Kate Cate และแว่นกันแดดทรงไซไฟสุดคูลจาก Acne Studios

เบื้องหลังลุคสุดปังคือ Park Min Hee สไตลิสต์มือทองที่ดูแลสไตล์ของ BLACKPINK มาตั้งแต่ปี 2017 และเคยเนรมิตลุค Mugler สั่งตัดให้สาว ๆ บนเวที Coachella 2023 มาแล้ว


ลิซ่า ลลิษา

เผยเบื้องหลังลุคสัตว์เลื้อยคลานสุดล้ำของ “ลิซ่า-ลลิษา” บนเวที Coachella

account_circle
ลิซ่า ลลิษา
ลิซ่า ลลิษา

ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล ปรากฏตัวบนเวที Sahara ในเทศกาลดนตรี Coachella ด้วยลุคสุดปัง สวมเสื้อคลุมพัฟเฟอร์สีดำขนาดใหญ่ ก่อนจะเผยให้เห็นบอดี้สูทแนบเนื้อที่เต็มไปด้วยลวดลายเกล็ดสัตว์เลื้อยคลานจากหัวจรดเท้า ดีไซน์โดย Asher Levine (แอชเชอร์ เลวีน) ดีไซเนอร์สายแฟชั่นแห่งโลกอนาคตผู้เคยร่วมงานกับ Lady Gaga, Grace Jones, Doja Cat และ Grimes

เผยเบื้องหลังลุคสัตว์เลื้อยคลานสุดล้ำของ “ลิซ่า-ลลิษา” บนเวที Coachella

แอชเชอร์ เผยว่าเขาได้รับโจทย์ออกแบบชุดให้ลิซ่าทั้งหมดภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนก่อนขึ้นโชว์ โดยใช้เทคโนโลยีสุดล้ำ ทั้งการสแกนรูปร่างลิซ่าแบบ 3 มิติเพื่อปรับทรงเสื้อผ้าให้พอดีตัวอย่างแม่นยำ และการออกแบบลายเกล็ดที่ได้แรงบันดาลใจจากสัตว์เลื้อยคลาน โดยใช้ AI ช่วยสร้างลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ ก่อนนำไปขึ้นรูปชิ้นต่อชิ้นอย่างประณีต จนกลายเป็นชุดที่ผสานทั้งเทคโนโลยี ศิลปะ และแรงบันดาลใจจากธรรมชาติได้อย่างลงตัว

นอกจากลุคสัตว์เลื้อยคลานแล้ว ลิซ่ายังมีอีกลุคที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ บอดี้สูทซีทรูพร้อมเส้นใยเรืองแสงกว่า 20 ชิ้นที่กระจายแสงสีฟ้าและชมพูทั่วร่าง ชุดนี้ แอชเชอร์ได้แรงบันดาลใจจากแมลงที่สามารถเปล่งแสงได้ในธรรมชาติ เขาเรียกมันว่า “ความเอ็กโซติกเวอร์ชั่นใหม่” ที่นำพาแฟชั่นไปไกลกว่าแค่ลายดอกไม้หรือลายสัตว์

แอชเชอร์ ไม่ใช่แค่ดีไซเนอร์ แต่เป็นนักทดลองที่ผสมผสานนวัตกรรมเข้ากับแฟชั่น เขาเริ่มเล่นกับการฝังไฟในเสื้อผ้าตั้งแต่ปี 2011 และเคยทำให้ศิลปินอย่าง Will.i.am, Lady Gaga และ Grimes สวมชุดที่เปล่งแสงได้จริงบนเวที

แม้งานของเขาจะล้ำและเฉพาะทาง แต่ แอชเชอร์ก็มีเป้าหมายชัดเจนในการสร้างแฟชั่นแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ศิลปินที่กล้าแตกต่าง เขาเชื่อว่าแฟชั่นสามารถพัฒนาไปสู่ยุคที่ไม่ต้องเบียดเบียนสัตว์ โดยเขาตั้งเป้าสร้างวัสดุเลียนแบบหนังสัตว์ที่ไม่ต้องใช้สัตว์จริง

“เราควรก้าวไปไกลกว่าการฆ่าสัตว์เพื่อแฟชั่น นี่คือวิวัฒนาการ และนี่คือลูกค้าของผม คนที่กล้าจะเป็นอย่างอื่น และกล้าที่จะล้ำหน้า”


เรียบเรียงจาก : https://edition.cnn.com/2025/04/12/style/lisa-coachella-asher-levine-reptile-outfit/index.html

 

ย้อนรอย 5 โมเมนต์ “แอลลี่ อชิรญา” สู่แบรนด์แอมบาสเดอร์ CHANEL

Alternative Textaccount_circle

กลายเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจ แอลลี่ อชิรญา ก้าวสู่บทบาทใหม่ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ประจำ CHANEL

หลังจากร่วมงานกับชาเนลมานาน ในที่สุด “แอลลี่ อชิรญา” ก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ประจำ CHANEL เรียบร้อย โดยเธอนับเป็นคนที่สี่ถัดจาก ออกแบบ ชุติมณฑน์, หมาก ปริญ และเบ็คกี้ รีเบคก้า เรียกว่าเป็นคนที่ช่วยเสริมทัพตัวแทนจากประเทศไทยได้เป็นอย่างดี แต่กว่าจะถึงข่าวดีวันนี้ แพรวขอพาไปย้อนดู 5 โมเมนต์ระหว่างแอลลี่กับชาเนลฉลองก้าวความสำเร็จนี้ไปด้วยกัน

Since 2018

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 กรุงเทพมหานครได้รับเลือกให้เป็นหมุดหมายของการจัดแฟชั่นโชว์ประจำคอลเล็คชั่น CRUISE 2018 โดยแอลลี่ อชิรญา ก็เป็นหนึ่งในเซเลบริตี้ที่ได้การ์ดเชิญให้ร่วมชมโชว์ดังกล่าว ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นให้เธอได้สานต่อการทำงานกับชาเนลในเวลาต่อมา

COCO CRUSH

การร่วมงานระหว่างแอลลี่กับชาเนลชัดเจนขึ้นเมื่อปี 2023 เมื่อเธอปรากฏตัวในอีเวนต์เอ็กซ์คลูซีฟของไฟน์จิเวลรี่ คอลเล็คชั่นไอคอนิกอย่าง COCO CRUSH หลังจากนั้นก็มีโอกาสได้เห็นภาพแฟชั่นเซ็ตระหว่างแอลลี่และไลน์เครื่องประดับนี้บ่อยขึ้น จนถึงต้นปี 2025 ที่ผ่านมา ชาเนลจัดงาน CRUSH Story ณ สยามพารากอน แอลลี่ก็ยังคงเป็นหนึ่งในเซเลบริตี้ที่ได้รับเชิญ

CHANEL BEAUTY

ไม่ใช่เพียงพาร์ทแฟชั่นเท่านั้น เพราะแอลลี่ก็ยังร่วมงานกับ CHANEL BEAUTY อยู่เป็นประจำ ตั้งแต่ในปี 2023 ที่เธอได้ไปเยี่ยมชมสวนดอกไม้ที่เมืองกราส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นโอกาสที่เธอได้พบปะกับ Olivier Polge นักปรุงน้ำหอมของชาเนล ถัดมาในปี 2024 แอลลี่ได้เดินทางไปยัง Open-Sky Laboratory ที่หมู่บ้านโกฌักค์ ซึ่งเป็นสถานที่เพาะพันธุ์ดอกคามิลเลียที่ใช้เป็นส่วนผสมสำคัญของสกินแคร์ต่างๆ และในปีเดียวกันแอลลี่ยังได้ไปร่วมงาน The Colour of Allure ประเทศอังกฤษ งานนี้เธอยังได้ร่วมเฟรมคู่กับ มินจี NewJeans แบรนด์แอมบาสเดอร์ประจำแบรนด์อีกด้วย

Fashion Week, First Time

ใครที่ได้ไป Fashion Week ครั้งแรกคงตื่นเต้นไม่แพ้กัน ไม่เว้นแม้กระทั่งแอลลี่ที่เธอได้รับเชิญให้เป็นแขกคนสำคัญร่วมชมแฟชั่นโชว์ Spring/Summer 2025 ณ Grand Palais ที่ปารีส ซึ่งหลังการปรากฏตัวก็ทำให้เธอกลายเป็นที่จับตามองสำหรับตำแหน่ง แบรนด์แอมบาสเดอร์คนถัดไป

Today

หลังจากการปรากฏตัวของแอลลี่ในงาน CHANCE Eau Splendide ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่นที่ผ่านมา เธอก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแอมบาสเดอร์ประจำ CHANEL อย่างเป็นทางการ

บทบาทในเส้นทางใหม่ของ แอลลี่ อชิรญา ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร มารอติดตามและเป็นกำลังใจให้เธอไปด้วยกันนะคะ


ภาพ: allynitibhon

ย้อนรอย 2 ชุดวิวาห์สุดอลังการของ “ฮโยมิน” แร็ปเปอร์แห่งวง T-ara

Alternative Textaccount_circle

สวยงามดุจเจ้าหญิง เผยดีเทล 2 วิวาห์สุดอลังการของ ฮโยมิน T-ara

ต้องยอมรับว่าหากใครเป็นแฟนคลับ K-POP มาตั้งแต่เจนเนอเรชั่นที่ 2 ช่วงนี้ก็เป็นเวลาที่สมาชิกในวงหลายคนได้ก้าวไปอีกพาร์ทหนึ่งของชีวิตนั่นคือ การแต่งงาน และมีครอบครัว ซึ่งไม่นานนี้แร็ปเปอร์แห่งวง T-ara อย่าง ฮโยมิน ก็มีข่าวดี จับมือแฟนหนุ่มนอกวงการเข้าสู่ประตูวิวาห์เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งนอกจากความอลังการของฉากหลังที่เป็นที่พูดถึงแล้ว ชุดแต่งงานที่เธอสวมใส่ในพิธียังหรูหราไม่แพ้กัน เรียกว่าไม่มีทางจมท่ามกลางฉากดอกไม้แน่นอน

โดยชุดสำหรับเดินเข้าพิธี ฮโยมินเลือกเป็นชุดทรงบอลกาวน์ที่เน้นความอลังการ และด้วยความที่เป็นผ้าพลีทตลอดทั้งชุดจึงให้ความอ่อนหวาน แต่ก็ดูโมเดิร์นจากเครปหลายชั้นบริเวณกระโปรงด้วยเช่นกัน สุดท้ายดีไซเนอร์เลือกเพิ่มความน่ารักด้วยดอกไม้สามมิติ ซึ่งเดรสวิวาห์ดังกล่าวมาจาก SARAMRAD

อีกชุดสำหรับช่วงปารตี้ ดีเทลก็อลังการไม่แพ้กัน แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือความเซ็กซี่จากชุดคอร์เซ็ตพร้อมกระโปรงทรงหางปลา และผ้าลูกไม้ซีทรูที่ให้ทั้งความหรูหราและอ่อนหวาน ซึ่งชุดดังกล่าวเป็นผลงานจาก Tal Kedem สำหรับรองเท้าของทั้งสองชุดฮโยมินเลือกใส่คู่กับส้นสูงสีขาวที่มีบัคเคิลประดับเพชรและไข่มุกจาก Roger Vivier


ภาพ: @hyominnn และ @tal.kedem.bridal

keyboard_arrow_up