คิมจีวอน (Kim Ji Won)

คิมจีวอน (Kim Ji Won) นางรองสู่นางเอกเรตติ้งสูงสุดขวัญใจชาวเกาหลี

Alternative Textaccount_circle
คิมจีวอน (Kim Ji Won)
คิมจีวอน (Kim Ji Won)

กลายเป็นตำนานบทใหม่ที่สร้างประวัติศาสตร์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ Queen of Tears ผลงานล่าสุดของพระเอกค่าตัวแพง คิมซูฮยอน  กับนางเอกสาว คิมจีวอน ที่ล่าสุดสร้างสถิติใหม่ให้กับช่อง TVN ด้วยการทำเรตติ้งเฉลี่ยทั่วประเทศไปถึง  24.850 % ล้มแชมป์เก่า ซีรีส์ Crash Landing on You ผลงานของ ฮยอนบิน และ ซนเยจิน ซึ่งสถิติ 21.683 %

คิมจีวอน Queen of Tears

โดยที่ผ่านมา 5 ซีรีส์เรตติ้งสูงสุดตลอดกาล ช่อง tvN มีดังต่อไปนี้

อันดับ 1 Queen of Tears 24.850 %

อันดับ 2 Crash Landing on You 21.683 %

อันดับ 3 Reply 1988 18.803 %

อันดับ 4 Goblin 18.680 %

อันดับ 5  Mr. Sunshine 18.129 %

ขณะเดียวกันถ้าพูดถึง 5 ซีรีส์เรตติ้งสูงสุดตลอดกาลของช่องเคเบิ้ลทีวี Queen of Tears รั้งอันดับ 3 เป็นรอง The World of the Married 28.371  และ Reborn Rich 26.948 %  อันดับหนึ่งและสองตามลำดับ

คิมจีวอน (Kim Ji Won) จากนางรองสู่นางเอกเรตติ้งสูงสุดขวัญใจชาวเกาหลี

อีกหนึ่งเรื่องที่กลายเป็นปรากฏการณ์คือ การที่นางเอกของเรื่องนี้  คิมจีวอน  หรือ พี่สาวฮงแฮอิน กลายเป็นนักแสดงหญิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างสุดขีด งานพรเซนเตอร์เข้าแบบไม่พัก รวมถึงมีกองทัพสื่อและแฟนคลับจำนวนมากมาให้กำลังใจเธอหน้าที่จัดงานเลี้ยงปิดกล้อง ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำเอาเจ้าตัวเกือบน้ำตาไหล

คิมจีวอน  (Kim Ji Won)
คิมจีวอน  (Kim Ji Won)

กว่าที่จะประสบความสำเร็จไม่ง่าย คิมจีวอน เข้าวงการบันเทิงโดยเริ่มจากการถ่ายแบบโฆษณา มีผลงานเข้าตาและเป็นที่จดจำของแฟนๆ หลายตัวไม่ว่าจะเป็น โฆษณามือถือ LG’s Lollipop 2 ร่วมกับ Big Bang, ขนมเค้ก Tous Les Jours  กับ พระเอกดัง วอนบิน ร่วมถึงได้ร้องเพลง Pick A Star From The Sky โฆษณาของผลิตภัณฑ์ OranC จนกลายเป็นไวรัล

โฆษณามือถือ LG’s Lollipop 2

นอกจากนี้ยังเคยปรากฏตัวในมิวสิควิดีโอเพลง Gossip Boy ของ YOUNHA ทั้งยังเดินสายร่วมกับเธอในฐานะ JessicaK และมีผลงานเพลงประกอบซีรีส์ต่างๆ ออกมาอีกหลายชิ้น

คิมจีวอน เคยร่วมแสดงในซีรีส์ดังหลายเรื่อง อาทิ บท ราเชล ในผลงาน The Heirs วุ่นรักทายาทพันล้าน, รับบท นางรอง ในเรื่อง Descendants of the Sun ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ หลังจากนั้นก็ได้ขึ้นแท่นนางเอกในเรื่อง Arthdal ​​​​Chronicles , Lovestruck in the City  และ My Liberation Notes ตามลำดับ แต่ก็ยังไม่มีกระแสที่มากมายเท่าผลงานล่าสุด Queen of Tears ที่เพิ่งลาจอไปหมาดๆ

 Descendants of the Sun ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ
Descendants of the Sun ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ
DIOR LE BAUME

DIOR LE BAUME ลาย Houndstooth สีชมพู Limited Edition พร้อมเนื้อครีมนุ่มละมุนสูตรใหม่ ที่ควรค่าพกพาบำรุงระหว่างวัน

Alternative Textaccount_circle
DIOR LE BAUME
DIOR LE BAUME

บิวตี้นิสต้าขาช้อปแฟนดิออร์ต้องไม่พลาดไอเท็มนี้ DIOR LE BAUME ลาย Houndstooth สีชมพู Limited Edition วางจำหน่ายวันที่ 1 พ.ค. พร้อมกันทั่วประเทศ และออนไลน์ shop.dior.co.th

Dior Le Baume เนื้อครีมนุ่มละมุน เหมาะกับผิวหลากหลายประเภท แม้กระทั่งผิวที่บอบบางที่สุด ใช้บำรุงให้ความชุ่มชื้นผิวมือ ริมฝีปาก เล็บรวมไปถึงผิวกาย นอกจากนี้ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการออกแบบให้มีความโดดเด่น เข้าได้กับทุกการแต่งกายและทุกไลฟ์สไตล์ รูปทรงกลมพกพาสะดวกทาให้ใช้งานได้ง่าย เข้าถึงสูตรที่มอบความรู้สึกสบายผิวได้ทุกเวลา ภายในหนึ่งปี Dior Le Baume ได้ขึ้นแท่นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่กลายเป็นไอเท็มสำคัญในชีวิตประจาวัน เพื่อเป็นการฉลองการวางจำหน่ายครบ 1 ปีแรก Dior Le Baume กลับมาพร้อมกับการตกแต่งด้วยลวดลาย Houndstooth กูตูร์สีชมพูในรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น ที่แสดงออกถึงการเป็นเครื่องประดับแฟชั่นที่มาพร้อมกับความงามทรงพลังในรูปแบบที่พกพาสะดวก รวมถึงการเป็นที่ต้องการมากขึ้นกว่าที่เคย ฉีกทุกกฎเกณฑ์การดูแลผิวและเชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตร

Dior Le Baume มาพร้อมกับแคมเปญดิจิทัลใหม่ที่พร้อมสยบทุกความเคลื่อนไหว ขับเคลื่อนด้วยพลัง K-POP จากไอดอลสาวเกาหลีอย่าง JISOO เคียงข้างนักเทนนิส Emma Raducanu และนางแบบชั้นนำอย่าง Nonso นี่เป็นการสะท้อนไลฟ์สไตล์และความปรารถนาของคนรุ่นใหม่ที่ไม่หยุดนิ่งได้อย่างสมบูรณ์แบบ

รูปลักษณ์ใหม่ที่แต่งแต้มด้วยเฉดสีชมพูอ่อน ให้ความสดชื่นอ่อนวัย เฉดสีสดใสเปล่งประกายเผยลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของดิออร์ที่โอบล้อมผลิตภัณฑ์รูปทรงโค้งมน ลายตาราง Houndstooth ถูกขับเน้นให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยการประดับชื่อ Christian Dior ตัวพิมพ์ใหญ่ในโทนสีดำ นี่คือเสน่ห์ที่มาพร้อมกับการออกแบบที่พกพาได้สะดวกสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในเมือง อยู่ในรถหรือบนเครื่องบิน นอกจากนี้ Dior Le Baume ยังสอดรับกับแนวคิดความหรูหราที่มีความรับผิดชอบ เพราะตัวผลิตภัณฑ์ถูกบรรจุอยู่ในแพคเก็จจิ้งที่ทาจากวัสดุเพียงชนิดเดียว ง่ายต่อการรีไซเคิล ซึ่ง Dior Le Baume แล้ว Dior Science ได้พัฒนาสูตรพิเศษที่ทรงพลังด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติถึง 96% สะท้อนผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ที่พร้อมช่วยฟื้นบารุง มอบความรู้สึกสบายผิว เสริมความแข็งแรง ให้ความชุ่มชื้น และช่วยให้ผิวดูสวยขึ้นในทุกขณะของทุกๆวัน


FENTY SKIN CHERRY DUB BLAH 2 BRIGHT 5% AHA Face Mask เนื้อเจลลี่เชอร์รี่ฉ่ำๆ

FENTY SKIN CHERRY DUB BLAH 2 BRIGHT 5% AHA Face Mask เนื้อเจลลี่เชอร์รี่ฉ่ำๆ

Alternative Textaccount_circle
FENTY SKIN CHERRY DUB BLAH 2 BRIGHT 5% AHA Face Mask เนื้อเจลลี่เชอร์รี่ฉ่ำๆ
FENTY SKIN CHERRY DUB BLAH 2 BRIGHT 5% AHA Face Mask เนื้อเจลลี่เชอร์รี่ฉ่ำๆ

FENTY BEAUTY (เฟนตี้ บิวตี้) เปิดตัวโปรดักส์ใหม่จาก FENTY SKIN! Cherry Dub Blah 2 Bright 5% AHA Face Mask with Salicylic Acid + Vitamin C ผสานพลังจาก AHAs เอนไซม์ผลไม้และน้ำตาล ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวรวบรวมสามพลังเพื่อปรับสภาพผิว พร้อม Salicylic Acid + Vitamin C เพื่อผิวเรียบเนียนและมอบผิวโกลว์ มาส์กหน้าเนื้อเจลลี่มีสารสกัดหลักจาก Triple Cherry Complex และ Vitamin C ช่วยเพิ่มปรับสีผิวที่สม่ำเสมอ ในขณะที่ AHA 5% ช่วยปรับสภาพผิวให้ความรู้สึกนุ่มนวลและเรียบเนียนทันที พร้อมเปล่งประกายแลดูกระจ่างใสสุขภาพดี มาพร้อมกลิ่นหอมที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Barbados Cherry และสีแดงเชอร์รี่อันชุ่มฉ่ำ

“มาส์กนี้ทำได้ทุกอย่างจริงๆ มันช่วยปรับสีผิวของคุณให้สม่ำเสมอ ในขณะเดียวกันมันทำให้ผิวของฉันดูไบรท์อยู่เสมอไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม นอกจากนี้ ฉันหลงใหลไปกับกลิ่นของ Barbados Cherryที่มีสีแดงน่าลิ้มลอง และเนื้อสัมผัสแบบเยลลี่!” – ริฮานน่า


“มายด์ – ณภศศิ” พาซูมอิน 4 ลักซ์ชัวรี่แบรนด์สุดฮ็อต @ สยามพารากอน

account_circle

ซัมเมอร์ปีนี้ แพรว ขอสู้กับความร้อนแรงของอากาศ 40 องศา ด้วยการชวนเซเลบสาวสุดชิค “มายด์ – ณภศศิ” ไปปักหมุดพิกัดแอร์เย็นฉ่ำสุดหรูอย่าง “สยามพารากอน” ซึ่งถือเป็นสุดยอด Luxury Shopping Destination พิกัดช้อปปิ้งระดับโลกที่ครองใจทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะที่นี่รวบรวมลักซ์ชัวรี่แบรนด์ชั้นนำเอาไว้มากมาย โดยครั้งนี้สาวมายด์จะพาไปซูมอินพร้อมอัปเดตเทรนด์กันที่ 4 ลักซ์ชัวรี่แบรนด์สุดฮ็อต ได้แก่ Chopard, Piaget, Versace และ Fendi ที่มาพร้อมกับความปังแบบเหนือระดับ ขอบอกเลยว่าสายลักซ์ชูห้ามพลาดค่ะ  

Chopard

สตาร์ทพิกัดแรกกันที่ Chopard @ ชั้น M สยามพารากอน กับบูติกสุดลักซ์ชัวรี่ของแบรนด์นาฬิกาและเครื่องประดับระดับตำนานจากสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งละลานตาไปด้วยไอเท็มสุดเลอค่าจากคอลเล็คชั่นต่างๆ ที่พร้อมให้สาวกนาฬิกาและเครื่องประดับได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางบรรยากาศคลาสสิกและหรูหราอันเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ ดังนั้นหากใครเป็นสายลักซ์ชูที่หลงรักนาฬิกาหรูและจิเวลรี่ระดับโลก ต้องปักหมุดพิกัดนี้ให้ได้ค่ะ 

แน่นอนว่ามาเยือนบูติก Chopard ทั้งที สาวมายด์จึงไม่พลาดหยิบไอเท็มชิ้นเด็ดมาอัพลุคเริ่ดๆ ไม่ว่าจะเป็นกำไลข้อมือรุ่น Happy Hearts Bangle Tahiti MOP แมตช์กับสร้อยคอรุ่น Happy Hearts ONYX และต่างหู Happy Hearts Earrings ซึ่งโดดเด่นด้วยดีไซน์รูปหัวใจในโทนสีเรียบหรูดูแพง พร้อมคอมพลีทลุคด้วยไอเท็มชิ้นสำคัญอย่างนาฬิการุ่น Happy Sport ที่มีไฮไลท์เป็นเพชรกลิ้ง ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์​ อีกทั้งยังเลอค่าสุดๆ ด้วยตัวเรือนที่ทำจากทองล้อมด้วยเพชร

Piaget

เช็คอินความลักซ์ชูกันต่อเลยกับแบรนด์นาฬิกาและเครื่องประดับชั้นสูงจากสวิตเซอร์แลนด์ Piaget @ ชั้น M สยามพารากอน ซึ่งมาพร้อมกับความหรูหราของดีเทลการตกแต่งในทุกอณู ไม่ว่าจะเป็นการใช้สีน้ำเงินและสีทอง หรือลวดลายบนผนังที่สะท้อนงานหัตถศิลป์เก่าแก่ของแบรนด์ อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์ Salon Piaget ที่เป็นเอกลักษณ์ของบูติก Piaget ทั่วโลก โดยสะท้อนความหมายมาจากคำว่า Salon ในภาษาฝรั่งเศส ที่แปลว่าห้องนั่งเล่น ดังนั้นนอกจากการได้สัมผัสนาฬิกาและเครื่องประดับสุดหรูแล้ว บูติกแห่งนี้ยังพร้อมเป็นหมุดหมายในฝันของเหล่าคนรักนาฬิกาและเครื่องประดับระดับโลกอีกด้วย    

สำหรับลุค Piaget ของสาวมายด์ มาพร้อมกับหลากหลายไอเท็มจากคอลเล็คชั่น Piaget Sunlight ซึ่งโดดเด่นด้วยงานโรสโกลด์สุดประณีต เริ่มตั้งแต่ต่างหู สร้อยคอ สร้อยข้อมือ และแหวน พร้อมอัพลุคให้จึ้งสุดๆ ด้วยนาฬิการุ่น Limelight Gala Watch ตัวเรือนทำจากโรสโกลด์ 18K ประดับเพชรเจียระไนแบบเหลี่ยมเกสร 62 เม็ด หรือประมาณ 1.65 กะรัต เรียกว่าเป็นลุคที่เจิดจรัสสุดๆ

Versace

อัปเดตเทรนด์หรูกันต่อแบบจัดเต็มกับบูติก Versace @ ชั้น M สยามพารากอน อีกหนึ่งลักซ์ชัวรี่แบรนด์สัญชาติอิตาลีที่สายแฟ (ชั่น) ตัวท็อปห้ามพลาด เพราะขอบอกเลยว่าที่นี่รวบรวม ready-to-wear รองเท้า กระเป๋า และแอคเซสซอรี่สไตล์โก้หรูเอาไว้อย่างครบครัน อีกทั้งยังดีงามด้วยบรรยากาศคลาสสิกและร่วมสมัยที่เกิดขึ้นจากอัตลักษณ์การตกแต่งบูติกของแบรนด์ ซึ่งเลือกใช้วัสดุพรีเมียมในการสร้างบรรยากาศสุดหรู ไม่ว่าจะเป็นผ้าไหม เซรามิก ไม้ หรือโลหะสีทอง ใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์ช้อปแบบลักซ์ชู ต้องมาค่ะ

โดยไอเท็มจาก Versace คอลเล็คชั่นล่าสุด Spring/Summer 2024 มาพร้อมกับความสดใสและความละมุนของโทนสีพาสเทลและเฉดสีที่อ้างอิงจากธรรมชาติ เช่น สีทราย สีเทาประกายมุก สีแดงทับทิม อีกทั้งยังดีงามด้วยการเน้นเนื้อผ้าบางเบาใส่สบาย นอกจากนี้ยังมีกระเป๋ารุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Medusa ’95 ที่โดดเด่นด้วยฮาร์ดแวร์เมดูซาจากปี 1995 ขอบอกเลยว่าสวยคลาสสิกสมดีกรีลักซ์ชัวรี่แบรนด์จริงๆ ค่ะ

Fendi

มาถึงอีกหนึ่งพิกัดหรูที่สาวมายด์ไม่อยากให้ตกขบวนกัน คือบูติก Fendi @ ชั้น M สยามพารากอน ที่พร้อมเสิร์ฟคอลเล็คชั่นใหม่จากลักซ์ชัวรี่แบรนด์สัญชาติอิตาลี โดยบูติกแห่งนี้โดดเด่นด้วยความโก้หรูในทุกตารางนิ้ว พร้อมสะท้อนความเหนือระดับตามแบบฉบับของแบรนด์ด้วยงานดีไซน์และเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเป็นผลงานที่ผสานความลงตัวของนักออกแบบรุ่นใหม่และช่างฝีมือชั้นสูง เรียกว่าสมกับเป็นบูติกของลักซ์ชัวรี่แบรนด์ระดับโลกจริงๆ ค่ะ

โดยสาวมายด์ขอส่งท้ายมิชชั่นนี้ด้วยลุคเรียบโก้จาก Fendi คอลเล็คชั่น Spring/Summer 2024 ซึ่งโดดเด่นด้วยดีไซน์ชิคเก๋ตามแบบฉบับของแบรนด์ แต่ขณะเดียวกันก็ยังเป็นดีไซน์ที่สามารถสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน อีกทั้งคอลเล็คชั่นนี้ยังโดดเด่นด้วยการเล่นกับสีสันแบบพองาม ซึ่งเพิ่มดีกรีความสนุกสนานให้กับสไตล์ได้อย่างลงตัว

นอกจาก 4 ลักซ์ชัวรี่แบรนด์นี้ที่สาวมายด์พาไปเช็คอินแล้ว ขอบอกเลยว่า “สยามพารากอน” ยังรวบรวมแบรนด์ชั้นนำระดับโลกเอาไว้อีกเพียบกว่า 70 แบรนด์ ดังนั้นใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์ช้อปสุดหรู ก็ตามไปปักหมุดกันได้เลย @ ชั้น M และชั้น 1 สยามพารากอน หรือติดตามอัปเดตเทรนด์และกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ Facebook : Siam Paragon เลยค่ะ

แสบจารชนคนพลิกโลก

เปิด 8 เกร็ดมันส์ ก่อนมุ่งหน้าสู่ยุทธการบ้าระห่ำ แสบจารชนคนพลิกโลก

Alternative Textaccount_circle
แสบจารชนคนพลิกโลก
แสบจารชนคนพลิกโลก

เปิด 8 เกร็ดมันส์ ก่อนมุ่งหน้าสู่ยุทธการบ้าระห่ำพลิกประวัติศาสตร์ใน “The Ministry of Ungentlemanly Warfare แสบจารชนคนพลิกโลก”

ใกล้เข้ามาทุกทีกับความมันส์เต็มพิกัดในภาพยนตร์สงครามโลกบล็อกบัสเตอร์ “The Ministry of Ungentlemanly Warfare แสบจารชนคนพลิกโลก”ผลงานดีเดือดโดยผู้กำกับ “กาย ริตชี” และผู้สร้าง Top Gun: Maverick “เจอร์รี
บรักไฮเมอร์”กับเรื่องราวของเหล่าทหารเสี่ยงตายผู้ทำภารกิจบ้าระห่ำนอกรีตเพื่อโค่นทัพนาซี นำทีมอภินันทนาการฆ่าไม่ยั้งโดย “เฮนรี คาวิลล์” (Man of Steel), “อลัน ริตช์สัน” (ซีรีส์ Reacher) “เอซา กอนซาเลซ” (Baby Driver), “อเล็กซ์
เพตตีเฟอร์” (I Am Number Four) และ “เฮนรี โกลดิง” (Crazy Rich Asians)

วันนี้ “มงคลเมเจอร์” ขอเร่งอะดรีนาลีนให้สูบฉีดขึ้นไปอีกกับ “8 เกร็ดสังหารโคตรเดือด”ที่จะทำให้ครั้งนี้คือการสร้างหนังสงครามโลกที่มันส์ที่สุดแห่งปี

1.หนังสงครามโลกเรื่องแรกในชีวิตของผู้กำกับมือมันส์ “กาย ริตชี”หลังจากสร้างชื่อและลายเซ็นการกำกับในหลากหลายผลงาน เช่นSherlock Holmes, The Gentlemenคราวนี้เขายกระดับไปอีกขั้นกับการเนรมิตสงครามโลกสุดยิ่งใหญ่ให้คอหนังได้มันส์กันถ้วนหน้า

แสบจารชนคนพลิกโลก

2.เปิด “ยุทธการโพสต์มาสเตอร์” แผนลับจากประวัติศาสตร์จริงบนจอใหญ่นี่จะเป็นครั้งแรกที่ทั้งโลกจะได้เห็นแผนที่เสมือนทั้งความบ้าและอัจฉริยะบนจอภาพยนตร์ ซึ่งคิดค้นโดยนายกรัฐมนตรี “วินสตัน เชอร์ชิล”

3.ปฏิบัติการจริงสู่นิยายสายลับก้องโลก “เจมส์ บอนด์” โดยในเวลานั้น “เอียนเฟลมมิง” ได้รับหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของกองทัพเรือและได้เห็นปฏิบัติการความคลั่งนี้จนเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เขาจรดปลายปาก
กาสร้างนิยายสายลับเจมส์ บอนด์ขึ้นมา

4.เป้าหมายหลักคือกำจัดเรือดำน้ำของเยอรมนีจัดการแขนขากองกำลังฮิตเลอร์ รวมทั้งถล่มคลังแสงให้ระเบิดบึ้มกันไปข้าง

5.ถ่ายทำในทะเลจริง เนรมิตความมันส์บนน้ำแบบโคตรเรียลโดยทีมงานได้ยกกองถ่ายไปที่ทะเลแถบประเทศตุรกีเพราะฉะนั้นฉากกองเรือรบในน้ำนั้นทีมงานตั้งใจจะใช้ซีจีให้น้อยที่สุด

6.มหึมาเรือรบขนกันมาล้นจอ! ทีมงานใช้เรือจริงในการถ่ายทำ 12 ลำมีทั้งเรือรบ เรือลาดตระเวนและเรือลากจูงที่ขนมาซัดกันให้กระหน่ำจออย่างแน่นอน

7.ถ่ายทำในเมืองอันตาลยา หนึ่งในเมืองตากอากาศที่งดงามที่สุดของตุรกีแม้ว่าเรื่องราวจริงจะเกิดขึ้นในแถบเมดิเตอเรเนียนและแอฟริกาตะวันตกแต่ทีมสร้างพาโลเคชันที่ใกล้เคียงที่สุดอย่างตุรกีเพราะเต็มไปด้วยซากอารยธรรมต่างๆ ที่ทั้งสวยงามและอลังการ

8.สร้างหอสังเกตการณ์และระเบิดทิ้งจริง!โปรดจับตาซีนใหญ่นี้ให้ดีกับภารกิจบุกฝ่าดงกองทัพนาซีนำโดย “กัสมาร์ช-ฟิลลิปส์”ซึ่งทีมงานเล่นใหญ่โดยการสร้างหอสังเกตการณ์และระเบิดทิ้งบึ้มจริงให้สมกับหนังสงครามโลกบล็อกบัสเตอร์แห่งปี

แฟนหนังชาวไทยเตรียมเข้าสู่สมรภูมิสงครามโลกครั้งที่มันส์ที่สุดจัดเต็มความเดือดถึงสองชั่วโมงเต็มใน “The Ministry of UngentlemanlyWarfare แสบจารชนคนพลิกโลก” 1 พฤษภาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ทั้งเสียงไทยและอังกฤษ

อีจางอู

‘อีจางอู’ เผยวิธีลดน้ำหนักลง 22 โล ภายใน 3 เดือน เป็นการหักดิบที่ไม่แนะนำ เพราะไม่ดีต่อสุขภาพ

Alternative Textaccount_circle
อีจางอู
อีจางอู

ก่อนหน้านี้ นักแสดง อีจางอู (Lee Jang-woo) เคยมีกระแสไวรัลเกี่ยวกับน้ำหนักของเขาที่จู่ๆ ก็ทำให้ภาพลักษณ์ที่เคยหล่อเหลากลับดูอวบอ้วนต่างไปจากเดิม ล่าสุด เขาก็ทำให้ทุกคนประหลาดใจผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ด้วยรูปร่างที่ผอมลงกลับมาหล่อเป๊ะเหมือนเดิม

ซึ่งเขาได้เล่าว่าในยุคเสื้อแจ็คเก็ตบุนวมสีเขียวอันโด่งดังจนเห็นเหนียงใต้คาง เขาหนัก 108 กิโลกรัม แต่ปัจจุบันที่น้ำหนักเขาลดลง ตอนนี้ใบหน้าและแนวสันกรามเขาดูชัดขึ้น ซึ่งเขาเปิดเผยเคล็ดลับของการอดอาหารและออกกำลังกายว่า “ฉันเคยกินมาก ซึ่งนำไปสู่ปัญหาทางเดินอาหารและอาการเริ่มแรกของโรคเบาหวาน ทำให้ในตอนที่ฉันรู้สึกหิวเกินไป ฉันต่อต้านสิ่งล่อใจต่างๆ ด้วยการกินมะเขือเทศเชอรี่เป็นของว่างแทน ” ทำให้จากน้ำหนัก 108 กก. ตอนนี้ลดลงเหลือ 86 กก. โดยสามารถลดไขมันในร่างกายได้ทั้งหมด 22 กก. ภายใน 3 เดือน “แต่วิธีนี้ค่อนข้างหักโหมเกินไป และไม่ดีต่อสุขภาพ แม้แต่หมอก็ยังห้ามการอดอาหารอย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้ผมกลับมาดูแลตัวเองและมีสุขภาพแข็งแรงแล้ว การลดน้ำหนักเป็นเรื่องเกี่ยวกับการควบคุมอาหารมากกว่าการออกกำลังกาย แต่การทำทั้งสองอย่างควบคู่กันไปจะดีที่สุด แต่ที่สำคัญไม่ควรอดอาหารแบบหักดิบเกินไป”

ซึ่งการลดน้ำหนักแบบหักดิบแบบรวดเร็ว คือการงดอาหารทุกประเภทที่เคยกินมาแล้วเปลี่ยนไปสู่อาหารใหม่ทันที จะทำให้ร่างกายอาจปรับสภาพไม่ทัน จนอาจเกิดอาการโยโย่ที่ตีกลับมาสู่การกินเพิ่มมากขึ้นได้ จึงควรระวัง ป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพภายหลังด้วย

Photo: leejangwoo4


คุณมณีสุดา ศิลาอ่อน รับมอบใบประกาศเกียรติคุณ เนื่องในวันสตรีสากล ประจำปี 2567

account_circle

คุณมณีสุดา ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่สำนักพัฒนาความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) (กลาง) รับมอบใบประกาศเกียรติคุณ ”สตรีนักบริหารดีเด่น สาขาสตรีผู้บริหารภาคเอกชนดีเด่น สถานประกอบกิจการขนาดใหญ่ ประจำกรุงเทพมหานคร“ เนื่องในวันสตรีสากล ประจำปี 2567 มอบโดย ว่าที่ร้อยตรี สมศักดิ์ พรหมดำ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน (ที่ 2 จากซ้าย) เพื่อประกาศเกียรติคุณให้แก่สตรีไทยที่มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ยอมรับของบุคคล ชุมชน และสังคม โดยคุณมณีสุดา เป็นผู้นำองค์กรที่ให้การสนับสนุนและส่งเสริมโครงการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมทั้งสนับสนุนการสร้างงาน สร้างอาชีพแก่ชุมชน ด้วยความตระหนักถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน ความเสมอภาค และการเป็นหนึ่งเดียวกันในสังคม นอกจากนี้ยังร่วมขับเคลื่อนโครงการด้านสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ตลอดจนผลักดันองค์กรให้ได้รับรางวัลด้านความยั่งยืนจากตลาดหลักทรัพย์ และรางวัลระดับเอเชียจาก Enterprise Asia องค์กรอิสระที่สนับสนุนส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคเอเชีย

สำหรับ “รางวัลสตรีนักบริหารดีเด่น” สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการทำงานจนประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับในสังคม โดยยกย่องให้เป็นสตรีต้นแบบสร้างสรรค์งานที่มีคุณค่า ตลอดจนเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคม เศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป โดยมี คุณวรรณี  จุลลวาทีเลิศ นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ(ซ้ายสุด) ร่วมแสดงความยินดีณ สำนักอธิบดี กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน เมื่อเร็วๆ นี้

เพราะเหตุใด? The Row Margaux จึงกลายเป็นว่าที่กระเป๋าคลาสสิกแห่งยุค

Alternative Textaccount_circle

แว่วๆ จนเริ่มหนาหู เมื่อวงการแฟชั่นเริ่มพูดถึง The Row Margaux จะกลายเป็นกระเป๋าคลาสสิกแห่งยุคต่อจาก Hermès Birkin

อย่างที่รู้กันดีว่าตั้งแต่ปี 2023 เทรนด์ ‘Quiet Luxury’ มาแรงจนถึงตอนนี้ ทำให้ความต้องการซื้อของแบรนด์ดังกล่าวพุ่งสูงขึ้นชนิดฉุดไม่อยู่ หนึ่งในนั้นคือ The Row แฟชั่นแบรนด์สัญชาติอเมริกัน ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2006 โดย Ashley Olsen และ Mary-Kate Olsen โดยดีไซน์ของไอเท็มส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางเรียบง่าย คลาสสิก เน้นวัสดุที่มีคุณภาพสูง พร้อมการตัดเย็บอย่างประณีต

สำหรับไอเท็มยอดฮิต และเป็นภาพจำมากที่สุดนช่วงเวลานี้คงเป็นกระเป๋ารุ่น Margaux ที่คนในวงการแฟชั่นพากันจับตามองว่าจะขึ้นแท่นเป็นกระเป๋าคลาสสิกแห่งยุค ต่อจาก Hermès Birkin เหตุแรกเป็นเพราะมาจากดีไซน์ของกระเป๋าที่ออกแบบมาอย่างเรียบง่าย ไม่มีโลโก้ที่ชัดเจนว่าเป็นแบรนด์อะไร แต่ถ้าหากใครสังเกต หรือชอบเรื่องแฟชั่นอู่แล้ว มองปราดเดียวก็ดูออกว่าเป็นไอเท็มจาก ‘The Row’ ตามวาทกรรมของ ‘Quiet Luxury’ ที่คนพูดกันว่า ‘If you know, you know’ เช่นเดียวกับ Birkinที่แม้จะไม่มีโลโก้เด่นหรา แต่เห็นสายเข็มขัดที่ขาดอยู่บนกระเป๋าก็มองออกทันทีว่าเป็น Hermès แน่นอน

แต่ในทางกลับกันยังมีการถกเถียงถึงเรื่องมูลค่าว่าการที่ Margaux จะขึ้นแท่นแทน Birkin ยังคงเป็นไปได้ยากเพราะเมื่อเทียบกันแล้ว Birkin ยังคงเป็นกระเป๋าที่ไม่ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่ หรือถูกส่งต่อจากรุ่นสูรุ่น ราคากระเป๋าเฉลี่ยยังคงสูงขึ้นเสมอ แต่ Margaux เมื่อส่งเข้าตลาดมือสอง ราคากลับลดลงไปถึง 20% เลยทีเดียว

ด้วยเหตุผลนี้จึงยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัดว่า The Row Margaux จะสามารถแทนที่ Hermès Birkin ได้หรือไม่

อย่างไรก็ตามยังถือว่าเป็นประเด็นที่น่าจับตามองต่อไป เพราะถ้าหากพูดถึงเรื่องดีไซน์แล้ว Margaux ก็คงความคลาสสิกได้เป็นอย่างดี ส่วนเรื่องมูลค่าอาจต้องรอคำตอบในอนาคต


ข้อมูล: Highsnobiety, The Business of fashion
รูป: The Row

ยลโฉม Blue Book 2024: Tiffany Céleste ความหรูหราจากห้วงอวกาศ

Alternative Textaccount_circle

ถึงเวลาเปิดตำรา Blue Book 2024: Tiffany Céleste ยลโฉมความงามแสนหรูหรา ส่งต่อแรงบันดาลใจจากห้วงอวกาศ

เมื่อไม่นานนี้ Tiffany & Co. ได้จัดนิทรรศกาลเครื่องประดับสุดยิ่งใหญ่เปิดตัว Blue Book 2024: Tiffany Céleste ณ Beverly Eatate ใน Los Angeles โดยมีคนสำคัญของแบรนด์มาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น Anya Taylor-Joy, Caroline Daur, Laura Harrier, Adria Arjona และอีกมากมาย ถึงแม้เราไม่ได้เห็นคอลเล็คชั่นนี้ด้วยตาเนื้อของตัวเอง แพรวขอเป็นตัวแทนเปิดกล่องอัญมณีสีฟ้า ถ่ายทอดเรื่องราวความหรูหราให้ทุกคนได้สัมผัสไปพร้อมกัน

เครื่องประดับจากทั่วมุมโลกมักหยิบสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาเป็นแรงบันดาลใจ เช่นเดียวกับ Blue Book 2024: Tiffany Céleste ที่มีห้วง ‘อวกาศ’ และ Jean Schlumberger นักออกแบบระดับตำนานเป็นจุดกำเนิด นำลวดลายบนท้องฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์ของเขากลับมาตีความใหม่ โดยในคอลเล็คชั่นแบ่งเป็นทั้งหมด 4 ไลน์

Wings

ว่าด้วย ‘ปีก’ เป็นเอกลักษณ์ของนักออกแบบซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการบินและจินตนาการ แปลงร่างเป็นเรื่องราวอันเจิดจ้าซึ่งแสดงด้วยเพชรและแซฟไฟร์ที่ยังไม่ได้ปรับปรุง จี้รูปปีกเป็นงานฝีมือจากการหล่อในรูปแบบที่ชวนให้นึกถึงฟากฟ้า โดยชิ้นที่อลังการที่สุดคือสร้อยคอ ‘The Wings’ ชิ้นนี้ที่ใช้เวลารังสรรค์กว่า 1,732 ชั่วโมง โดดเด่นด้วยเพชรสี D ซึ่งเป็นเพชรทรงรีไร้ตำหนิมีน้ำหนักกว่า 20 กะรัต เพชรเจียระไนรวมกว่า 2 กะรัต เพชรทรงบาแกตต์เจียระไนแบบสั่งทำพิเศษ 131 เม็ด รวมกว่า 14 กะรัต และเพชรทรงกลม 1,841 เม็ด รวมกว่า 58 กะรัต

Arrow

ลวดลายลูกศรถูกมองว่าเป็นลวดลายที่ซับซ้อนชวนให้นึกถึงความรวดเร็ว ราวกับทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ชิ้นพิเศษของไลน์นี้ยังคงเป็น ‘สร้อยคออัญมณีสีเขียว’ ซึ่งประกอบด้วยมรกตเจียระไนมรกตโคลอมเบียที่ไม่ได้รับการปรุงแต่ง ซึ่งมีน้ำหนักรวมกว่า 12 กะรัต

Ray of Light

สำหรับ Ray of Light ได้รับแรงบันดาลใจจากเข็มกลัด Jean Schlumberger ในตำนานเลียนแบบแสงตะวัน การออกแบบเหล่านี้โดดเด่นด้วยดีไซน์เหมือนกับลำแสงที่เข้าใจยาก เช่นเดียวกับสร้อยคอเส้นนี้ที่แสดงออกผ่านรายละเอียดทอง 18k ซึ่งยื่นออกไปด้านนอกจากสปิเนลสีแดงและสีชมพู

Apollo

เมื่อพูดถึงอวกาศคงขาด ‘Apollo’ ไปไม่ได้ โดยชิ้นเอกของคอลเล็คชั่นนี้ทำจากทอง 18k สร้างขึ้นด้วยความใส่ใจในรายละเอียดอย่างพิถีพิถัน ประกอบด้วยเพชรสีเหลืองและขาว โดยแต่ละส่วนถูกสร้างแยกกัน ก่อนนำมารวมกันอย่างลงตัว ซึ่งอัญมณีแต่ละเม็ดมีการเจียระไนแบบไม่สม่ำเสมอ เป็นไปตามเค้าโครงของเพชรแบบพาเว่นั่นเอง


ภาพและข้อมูล: Tiffany & Co.

นีเวีย ชวนสร้างพลังใจแบ่งความห่วงใยผ่านโครงการ นีเวีย ชวนแชร์ ส่งต่อความห่วงใยสร้างพลังใจแก่ผู้ป่วยมะเร็ง NIVEA Supporting Moment of Care

account_circle

เมื่อการดูแลยามเจ็บไข้ไม่ใช่เพียงการรักษาทางการแพทย์ แต่ยังรวมถึงการดูแลและการแสดงถึงความเข้าใจและห่วงใย โดยเฉพาะ “มะเร็ง” โรคที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของประชากรทั่วโลก นีเวีย ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวระดับโลก ที่ได้รับความไว้วางใจในการดูแลผิวจากคนไทยมากว่าสามสิบปี ห่วงใยและเข้าใจถึงความต้องการของผู้ป่วย มุ่งหวังให้พวกเขาได้เข้าถึงการดูแลสุขภาพใจควบคู่ไปกับการรักษาเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า จึงได้เปิดโครงการ “นีเวีย ชวนแชร์ ส่งต่อความห่วงใยสร้างพลังใจแก่ผู้ป่วยมะเร็ง” (NIVEA Supporting Moment of Care) มอบรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์นีเวีย หนึ่งบาทต่อหนึ่งชิ้น รวมสูงสุดสามล้านบาท ผ่านร้านค้าพันธมิตรที่ร่วมรายการทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ถึง 24 มิถุนายน 2567 โดยจะมอบให้แก่มูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง เพื่อใช้ในกิจกรรมการดูแลและสนับสนุนผู้ป่วยมะเร็งและครอบครัวให้ตระหนักรู้และเข้าใจโรคมะเร็ง สามารถดูแลรักษาตนเองได้อย่างถูกต้อง รวมถึงกิจกรรมที่สร้างกำลังใจให้ผู้ป่วยและผู้ดูแลผู้ป่วยมะเร็ง ให้มีแรงใจสามารถต่อสู้กับโรคมะเร็งต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง

โครงการนี้เป็นหนึ่งในปฏิญาณและภารกิจระดับโลกของ ไบเออร์สด๊อรฟ ที่เล็งเห็นถึงปัญหาในองค์กรจึงต้องการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีและส่งเสริมความคิดเชิงบวกในองค์กรเพื่อให้พนักงานเหล่านั้นได้มีกำลังใจและรับมือกับโรคร้ายได้อย่างเข้มแข็ง เพราะการสำรวจของบริษัทพบว่า 46% ของพนักงานไบเออร์สด๊อรฟได้รับผลกระทบจากภาวะเจ็บป่วยวิกฤตอย่างโรคมะเร็ง และเลือกจะไม่เปิดเผยให้ที่ทำงานรู้ และ 64% ของพนักงานเชื่อว่าภาวะเจ็บป่วยวิกฤตเป็นเสมือนตราบาปในที่ทำงาน จึงทำให้ไบเออร์สด๊อรฟต้องการหาวิธีที่จะช่วยสร้างสมดุลระหว่างงานและชีวิตให้กับพนักงานและบุคคลแวดล้อมที่ได้รับผลกระทบ

ในวันมะเร็งโลกประจำปี 2566 (World Cancer Day 2023) ไบเออร์สด๊อรฟ ได้ทำงานร่วมกันเหล่าพันธมิตรในการริเริ่ม “ปฏิญาณว่าด้วยการทำงานร่วมกับมะเร็ง” (Working with Cancer Pledge) ขึ้นและได้ออกเป็นนโยบาย “ภาวะเจ็บป่วยวิกฤตระดับโลก” (Global Critical Illness Policy) ในอีกหนึ่งปีให้หลัง โดยมีการกำหนดมาตรฐานขั้นพื้นฐานสำหรับพนักงานไบเออร์สด๊อรฟทุกคนทั่วโลก โดยทางองค์กรจะให้การสนับสนุนพนักงานและสมาชิกครอบครัวของพนักงานที่ได้รับการวินิจฉัยเป็นมะเร็งหรือโรคอื่นที่คุกคามถึงชีวิตให้มีสิทธิได้รับสวัสดิการและความคุ้มครองในการทำงานอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม เช่น การรักษาสถานภาพงานเป็นเวลาหนึ่งปี พร้อมรับเงินค่าจ้างเต็มจำนวน

นายวินเซนต์ วอร์เนอรี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ จำกัด กล่าวว่า “ที่ไบเออร์สด๊อรฟ สุขภาวะและสุขภาพที่ดีของพนักงานเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด การเจ็บป่วยที่คุกคามชีวิตเป็นประสบการณ์ที่ไม่ว่าใครย่อมไม่อยากถูกทอดทิ้งและกังวลถึงสถานะหน้าที่การงาน หรือความมั่นคงทางการเงิน นอกเหนือจากที่ต้องเผชิญกับการรับการรักษาแล้ว ผมรู้สึกดีใจที่นโยบาย “ภาวะเจ็บป่วยวิกฤตระดับโลก” ช่วยให้เราสามารถแบ่งเบาความกังวลของพนักงานเราทั่วโลกที่ประสบภาวะเจ็บป่วยวิกฤตในช่วงเวลาที่ยากลำบากและช่วยให้พวกเขาได้ใช้เวลาไปกับการรักษาตัวอย่างเต็มที่ คำว่า Care ที่ไบเออร์สด๊อรฟ มีความหมายเกินกว่าการดูแลผิวพรรณ และมันยังฝังรากลึกอย่างแข็งแกร่งในวัฒนธรรมองค์กรของพวกเรา การยอมรับและแบ่งปันความห่วงใยซึ่งกันและกันไม่ใช่เป็นสิ่งที่ต้องทำ แต่มันเป็นการแสดงให้เห็นถึงมนุษยธรรม ซึ่งความเห็นอกเห็นใจนี้เป็นแรงบันดาลใจให้เราอยู่เคียงข้างกันเสมอ”

นายวินเซนต์ วอร์เนอรี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ จำกัด

โครงการ “นีเวีย ชวนแชร์ ส่งต่อความห่วงใยสร้างพลังใจแก่ผู้ป่วยมะเร็ง” (NIVEA Supporting Moment of Care)  เกิดขึ้นเพราะต้องการช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ป่วยและครอบครัวของผู้ป่วยมะเร็งทุกประเทศในอาเซียน และยังเป็นการต่อยอดจากนโยบายของบริษัท ไบเออร์สด๊รอฟ จำกัด ประเทศเยอรมนี เจ้าของแบรนด์นีเวีย อีกด้วย สำหรับประเทศไทย นีเวีย จะมอบรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นีเวียทุกประเภท หนึ่งบาทต่อหนึ่งชิ้น รวมสูงสุดสามล้านบาทแก่มูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง เพื่อนำไปจัดทำกิจกรรมสร้างสรรค์ต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพใจแก่ผู้ป่วยมะเร็งและครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น อาสาสมัครร่วมในกลุ่มไลน์อาสาเพื่อนมะเร็ง  เวิร์กชอปเรียนรู้และเข้าใจการดูแลรักษามะเร็ง กลุ่มพูดคุยแนะแนวและสร้างกำลังใจโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและผู้ป่วยมะเร็ง  และเวิร์กชอปทำงานแฮนด์เมดเป็นของให้กำลังใจผู้ป่วยมะเร็ง นอกจากนี้ นีเวียยังร่วมสนับสนุนในการดูแลผู้ป่วยด้วยการช่วยเหลือในการเดินทางไปรับการรักษา และมอบผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณนีเวีย ได้แก่ นีเวียครีมตลับสีฟ้า จำนวน 2,000 ชิ้น นีเวียแฮนด์ครีม จำนวน  5,000 ชิ้น และนีเวียลิปแคร์ จำนวน 5,000 ชิ้น แก่ผู้ป่วยมะเร็งในความดูแลของมูลนิธิเครือข่ายมะเร็งและพันธมิตรอีก 11 แห่ง ทั่วประเทศ

นางสาวสเตฟานี แบร์โรล รองประธานกรรมการอาวุโส ภูมิภาคอาเซียน บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ กล่าวเสริมว่า“โครงการ นีเวีย ชวนแชร์ ส่งต่อความห่วงใยสร้างพลังใจแก่ผู้ป่วยมะเร็ง (NIVEA Supporting Moment of Care) เป็นอีกบทพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นถึงพันธกิจของเราอย่าง Care Beyond Skin ที่เป็นมากกว่าแค่การส่งมอบผลิตภัณฑ์ดูแลผิวคุณภาพเยี่ยม แต่ยังเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน ทั้งสำหรับผู้บริโภค สิ่งแวดล้อม และสังคม ซึ่งสอดรับกับนโยบาย “ภาวะเจ็บป่วยรุนแรง” ที่เป็นสวัสดิการให้แก่พนักงานของ ไบเออร์สด๊อรฟ ทั่วโลก และต่อยอดมาสู่เพื่อนร่วมสังคมทั้งในระดับอาเซียน และในประเทศไทย เพราะนีเวียไม่เพียงดูแลแค่ผิวกายภายนอก แต่เรายังดูแลถึงจิตใจภายใน โดยเฉพาะช่วงเวลาเจ็บป่วย และเผชิญโรคร้าย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนต้องการพลังใจ รวมทั้งอยากได้ความห่วงใยและความเข้าใจจากคนรอบตัว โครงการนี้นอกจากมุ่งหวังที่จะช่วยแบ่งปัน ความห่วงใยไปยังผู้ป่วยมะเร็งและผู้ดูแลให้ได้รับความรู้ในการดูแลรักษามะเร็งอย่างถูกต้องแล้ว เรามุ่งหวังที่จะช่วยเสริมสร้างกำลังใจให้ผู้ป่วยสามารถเผชิญโรคร้ายด้วยพลังใจที่เข้มแข็ง ให้สามารถก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาที่อยากลำบากไปได้ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไปในอนาคต”

นางสาวสเตฟานี แบร์โรล รองประธานกรรมการอาวุโส ภูมิภาคอาเซียน บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ

ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างกำลังใจและส่งต่อความห่วงใยถึงผู้ป่วยมะเร็ง  ให้มีพลังใจในการก้าวเดินต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง พร้อม ๆ กับการดูแลผิวให้สวยสุขภาพดีไปกับนีเวียได้อย่างง่ายดาย เพียงซื้อผลิตภัณฑ์     นีเวียจากร้านค้าพันธมิตรที่ร่วมรายการทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 24 มิถุนายน 2567 โดย นีเวีย บริจาค หนึ่งบาทต่อหนึ่งชิ้น เพื่อสมทบทุนมูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง เพื่อส่งกำลังใจให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งและครอบครัวให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากได้อย่างเข้มแข็ง

ด้วยตระหนักถึงปัญหาด้านคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีของผู้คน นอกจากโครงการนี้ นีเวีย ภายใต้ บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) ยังได้ดำเนินโครงการสนับสนุนด้านการแพทย์และสาธารณสุขในประเทศมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ สมทบทุนการทำวิจัยและพัฒนาวัคซีนไวรัสโควิด-19 แก่ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การสนับสนุนแอลกอฮอล์มาตรฐานการแพทย์ จำนวน 20,000 ลิตร แก่โรงพยาบาลทั่วประเทศกว่า 1,000 แห่ง และนีเวีย ครีม ตลับสีฟ้า รุ่นพิเศษ จำนวน 86,000 ชิ้น แก่บุคลากรทางการแพทย์ และสถานพยาบาล ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกด้วย

พรุ่งนี้ดวงเปลี่ยน! เช็คดวง 12 ราศี ประจำปี 2024 โดยอาจารย์ช้าง-ทศพร ศรีตุลา

Alternative Textaccount_circle

วันที่ 30 เมษายนจะมีการเปลี่ยนของดวงพฤหัส ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดและดีที่สุด คำพยากรณ์ที่เราพูดถึงในบทสัมภาษณ์นี้ จะเริ่มต้นขึ้นในเดือนพฤษภาคม

             “ผมขอไล่ตามราศีที่เป็นบวก ราศีเบอร์ 1 ของปีนี้คือ ราศีพฤษภ เพราะดาวพฤหัสมาโคจรในราศีนี้พอดี ในปีที่ผ่านมา ราศีนี้โดนดาวมฤตยูเข้า ทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงหลายเรื่อง จึงเหมือนคนป่วยติดเชื้อ แต่ปีนี้สิ่งเลวร้ายจะหายไป ที่เด่นมากคือโชคลาภ โดยเฉพาะการได้อะไรมาโดยไม่คาดฝัน ทั้งงาน  ความรัก รวมถึงโชคลาภของนักเสี่ยงโชค ถ้าอยากจะทำอะไร บอกเลยว่าฟ้าเปิดแล้ว แต่ขอย้ำว่าความสำเร็จไม่ได้เกิดจากดวงดาว แต่เกิดจากตัวคุณเอง ต้องตั้งใจให้สมกับที่ฟ้ามอบให้ และขอเตือนว่า เหตุการณ์ดีๆ แบบนี้จะเกิดทุกๆ 12 ปีเท่านั้น ซึ่งมันเคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อ 12 ปีที่แล้ว และจะเกิดขึ้นอีกครั้ง 12 ปีข้างหน้า ถ้าอยากทำอะไร ลงมือทำตอนนี้เลยครับ

            “ราศีที่สองคือ ราศีพิจิก เป็นราศีที่ได้รับพลังบวกจากดาวพฤหัสเช่นกัน จะเห็นผลในเชิงความรักเป็นเรื่องแรก เพราะปกติราศีพิจิกอยู่ในกลุ่มที่มีคู่ยาก ถ้าคุณยังโสดร้อยเปอร์เซ็นต์ ปีนี้จะมีคนที่ดีเข้ามา ถ้าหากมีคู่ครอง ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี หากอยากจะแต่งงาน สร้างครอบครัว นี่คือจังหวะที่ดีเช่นกัน นอกจากความรักดี การเงินก็ดีด้วย ถ้าคาดหวังอยากจะลงทุนหรือได้ผลกำไร คุณจะสมหวัง ชีวิตจะมั่นคงมากขึ้น สำหรับคนที่ไม่ต้องการชีวิตคู่ คุณจะได้งานจากการเซ็นสัญญา หรือมีพาร์ทเนอร์ใหม่ๆ

            “ราศีที่สามคือ ราศีเมษ ตั้งแต่ต้นปีเจอแต่เรื่องดีๆ มาต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเงินที่ดีมาก แต่เงินจะเข้ามาก็ต่อเมื่อทำงานโดยใช้ความสัมพันธ์กับทางไกล เช่น ส่งออกหรือนำเข้าสินค้าจากที่ไกลๆ คนที่เกิดราศีนี้จะได้เดินทางบ่อยขึ้น ทั้งไปต่างจังหวัด ต่างประเทศ

            “อีกราศีที่ดีไม่แพ้กันคือ กรกฎ เป็นราศีที่เพิ่งพ้นเคราะห์ช่วงปีที่ผ่านมา ก่อนหน้าเดือนเมษายนชีวิตอาจจะลุ่มๆ ดอนๆ บ้าง แต่หลังเดือนพฤษภาชีวิตจะดีขึ้น เป็นช่วงเวลาที่จบจากการพักฟื้นและเตรียมพร้อมเดินหน้าต่อ ปีนี้จะสำเร็จทั้งเรื่องงาน เพราะได้รับการซัพพอร์ตจากผู้ใหญ่ ทั้งเจ้านาย ลูกค้า ที่ให้ความเมตตาอุปสรรคจะลดน้อยลง และยังเด่นในเรื่องของโชคลาภ ปีนี้คุณควรตั้งเป้าหมายให้สูงขึ้น อย่าประเมินตัวเองต่ำเกินไป เพราะมีโอกาสได้ในสิ่งที่เกินคาด

            “ราศีมังกร เป็นราศีที่เพิ่งพ้นเคราะห์เช่นกัน ช่วงที่ผ่านมา ชีวิตวุ่นวายเรื่องการเงินเยอะ แต่นับจากนี้มังกรจะโดดเด่นที่สุดในเรื่องการลงทุน คุณจะมีรายได้เข้ามาหลายทาง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องรับผิดชอบงานหลากหลายด้าน เหนื่อยขึ้นเป็นเงาตามตัว นอกจากนี้ดวงคุณยังเด่นเรื่องบุตรและบริวาร และธุรกิจมีการเติบโต ขยับขยายมากขึ้น รวมถึงได้ลุ้นเรื่องความรัก แม้อายุจะไม่สมดุลนัก เพราะคนๆ นั้นค่อนไปทางอายุอ่อนกว่า

            “ราศีมีน ได้อานิสงค์ที่ดีจากดาวพฤหัส แม้ราหูจะไม่ย้ายไปไหน ชีวิตเจอแต่ความวุ่นวาย ทั้งปัญหาสุขภาพ อุบัติเหตุ ผ่าตัด แต่ดาวพฤหัสจะช่วยทำให้ราศีมีนสบายตัวมากขึ้น สิ่งที่เด่นสุดคืออาชีพที่เกี่ยวข้องกับจากการเจรจา ทั้งนายหน้า เซลล์ จะปิดการขายได้ มีรายได้ดีขึ้น ราศีมีนอยู่ในกลุ่มที่ต้องเปลี่ยนแปลงการทำงาน เช่น ย้ายงาน สมัครงานใหม่ โดยเฉพาะงานออนไลน์ ซึ่งมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดี แต่ที่อยากเตือนคือ พระราหูอยู่ทั้งปี ดังนั้นมีโอกาสที่จะมีปัญหาเชิงสุขภาพ หรือคดีความ ส่วนเรื่องความรัก ใครที่โสดก็โสดต่อไป ใครที่มีอยู่แล้วให้ระวังปัญญาภายในครอบครัว

            ราศีกุมภ์ เป็นราศีที่พระเสาร์เข้าเมื่อปีที่แล้ว และจะอยู่ประมาณ 2 ปีครึ่ง แล้วช่วงต้นปีบางคนจะเจอปัญหาความขัดแย้ง มีเรื่องอึดอัดใจ สูญเสีย หลังจากพฤษภาไปแล้ว อาจมีข่าวดีเข้ามาบ้าง โดยเฉพาะเรื่องของครอบครัว คุณอาจจะได้ที่อยู่ใหม่ รถคันใหม่ หรืออาจจะเป็นในแง่ซ่อมแซม ต่อเติม ราศีนี้โดดเด่นมากในการทำธุรกิจ เพราะมีดวงพาร์ทเนอร์ที่โดดเด่น อาจจะมีคนชวนคุณลงทุน หากไม่มีทุน ลงแรงก็ได้ ข้อระหวังคือดาวเสาร์เป็นสัญลักษณ์ของการถูกโกงด้วย เพราะฉะนั้นต้องเอาใจใส่เรื่องกฎหมาย ธุรกรรม การเซ็นสัญญาให้มากเป็นพิเศษ

            “อีกราศีที่ดาวพฤหัส มีผลค่อนข้างเยอะคือ ธนู เพราะดาวพฤหัสเป็นดาวประจำราศีธนู ราศีนี้จะได้พบกับเส้นทางใหม่ของชีวิต ชีวิตจะพลิกไปอีกเส้นทาง จะได้ทำสิ่งที่ไม่ถนัด ไม่คุ้นเคย เหมาะกับการออกจากคอมฟอร์ดโซน ถ้าใครอยากบุกเบิก ทำอะไรใหม่ๆ นี่คือจังหวะที่ดีมาก สิ่งที่แถมมาคู่กันคืออุปสรรค ที่ต้องเรียนรู้ ปรับตัวมากขึ้น แนะนำว่า ต้องหาความรู้เพิ่มเติมเพราะกำลังไปเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย เรื่องที่ต้องเตือนคืออย่าพยายามสร้างศัตรูเยอะ เราอาจจะไม่คิดร้ายกับใคร แต่อาจจะมีคนมาหาเรื่อง แค่เรื่องเล็กน้อย อาจจะดราม่าใหญ่โตได้ สิ่งที่เริ่มทำในตอนนี้ อาจจะไม่เห็นผลลัพธ์ แต่พอเข้าปี 2025 ข่าวดีจะตามมา ส่วนเรื่องการเงิน นับว่าดี ไม่ผันผวน แต่ขอเตือนเรื่องสุขภาพว่าต้องเอาใจใส่ตัวเองให้มากขึ้น

            “ถัดมาคือกลุ่มราศีที่ต้องการเอาใจใส่เป็นพิเศษ คือ ราศีเมถุน มีเกณฑ์เปลี่ยนแปลงเรื่องงานสูง เพราะถูกสั่งให้เปลี่ยน โยกย้ายโดยไม่ทันตั้งตัว ถ้าใครที่ทำธุรกิจส่วนตัว คุณอาจจะย้ายทำเลใหม่ๆ เพื่อลดความรุนแรงลง หากอยู่ที่เดิมจะมีความวุ่นวายเข้ามา อีกวิธีที่ช่วยได้คือจัดโต๊ะทำงานบ่อยๆ สร้างบรรยากาศทำงานใหม่ๆ เพื่อลดความแรงของดวงดาว สองคืออย่าพยายามกดดันตัวเองเยอะ ราศีนี้เป็นราศีของนักคิด หากกดดันมากไป ความคิดสร้างสรรค์อาจจะกลายเป็นความเครียดได้ ราศีเมถุนอาจจะมีปัญหากับผู้ใหญ่ ยกเว้นว่าคุณเป็นฟรีแลนซ์ ไม่ยุ่งกับใครมาก ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะฉะนั้นอยากแนะนำงานเบื้องหลัง ที่ไม่ต้องอกหน้าโดยตรง เรื่องที่ต้องเตือนคือความสัมพันธ์เพราะอยู่ในจุดที่อันตราย ต้องเอาใจใส่มากขึ้น รวมถึงอาจจะมีเรื่องเจ็บป่วยของคนในบ้าน ฟังแล้วอาจจะไม่มีอะไรดี แต่ข่าวดีมากๆ จะรอคุณในปีหน้า

            “ราศีสิงห์ การเปลี่ยนแปลงจะส่งผลเรื่องงาน คืองานเพิ่มขึ้น ต้องทำหลายหน้าที่ เพิ่มความรับผิดชอบ ที่เหนื่อยขึ้น เพราะดาวเสาร์ยังไม่จากไปไหน แต่ข้อดีคือดาวพฤหัสเข้ามา ช่วยลดความแรงลงได้ และราศีที่มีพลังในการทำงานอยู่แล้ว คุณจะไม่มีปัญหากับการทำงานใหม่ๆ แต่ที่อยากเตือนคือความรักและการเงิน ปีนี้ไม่เหมาะกับความรัก จะมีปัญหาจุกจิกกวนใจ หากจะมีแฟนให้เป็นเพื่อนไปก่อน จะช่วยต่ออายุความรักได้ เรื่องเงินก็ต้องระวัง เพราะดาวเสาร์เกี่ยวกับการคดโกง เอาเปรียบ โดยเฉพาะสัญญาที่ไม่เป็นธรรม นอกจากนี้ควรออกกำลังให้มาก ขึ้น ถ้าไม่อยากให้ชีวิตเหนื่อยเกินไป ควรทุ่มพลังให้เหนื่อยกับกีฬาแทน

            “ราศีกันย์ เป็นราศีที่พระราหูเข้า แต่หลังพฤษภาไปคุณจะก้าวหน้าในเรื่องการเลื่อนตำแหน่ง เลื่อนขั้น จะเป็นที่รู้จักในงานที่ต้องการชื่อเสียง มีสังคมที่กว้างขึ้น และมีโชคในการศึกษา ไม่ว่าจะอยู่วัยไหน การหาความรู้ใหม่ๆ จะช่วยพัฒนาตัวเองและงาน และยังมีโชคด้านอสังหาริมทรัพย์ ใครอยากจะซื้อบ้าน คอนโด อยากทำอะไรเกี่ยวกับการขยับยายที่อยู่อาศัยจะเป็นจังหวะที่ดี ส่วนความรัก จะมีอุปสรรคเยอะ คนรักใหม่จะมีความแตกต่างกันมาก ทั้งเชื้อชาติ สังคม ถ้าเป็นคนโสด จะเจอจากการเดินทาง จะมีเรื่องระยะทางเข้ามาเกี่ยวข้อง

            “สุดท้ายคือราศี ตุลย์ เป็นราศีที่ดวงผันผวน ปีที่ผ่านมาค่อนข้างดีเพราะพระราหูย้ายออกไปแล้ว ดาวที่ดีก็มีเข้ามา แต่พอหลังพฤษภา ราศีตุลย์เหมือนกับดาวร้ายก็ไม่มี ดาวดีไม่ปรากฏ ถ้าอยากเริ่มอะไรใหม่ๆ หลังเดือนพฤษภาคมถือว่ายาก เพราะไม่มีดวงดาวสนับสนุน เหมาะกับการสานต่อสิ่งที่ทำมาแล้วมากกว่า ในช่วงหลังจากนี้มีบททดสอบความรักเยอะ ถ้าหากดวงคุณไม่ดี แต่แฟนอยู่ในราศีที่ดีก็จะช่วยประคับประคองไปได้  เรื่องงานเป็นดีในเชิงต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการเงินที่มีอานิสงค์ดี ถ้าใครเจอเรื่องวุ่นวาย อยากหลุดจากปัญหาทั้งหมดต้องข้ามไปปีหน้า ซึ่งเป็นปีแห่งความก้าวหน้า สุดท้ายอยากเตือนเรื่องสุขภาพคนในครอบครัว ระวังการเจ็บป่วยของผู้ใหญ่ พี่น้องครับ”


เรื่อง: Fai

ภาพ: อิทธิศักดิ์, ผู้ช่วยช่างภาพ: ภูริณัฐ ต๋าอ่อน

‘รักที่จะรักซ้อน ก็ต้องเตรียมรับทุกข์ที่ยืนกวักมือรอ ใช่คุณไหม?? เช็กเลย!!’ ดวงรายสัปดาห์ 29 เมษายน-5พฤษภาคม 2567

Alternative Textaccount_circle

‘รักที่จะรักซ้อน ก็ต้องเตรียมรับทุกข์ที่ยืนกวักมือรอ ใช่คุณไหม??’

ดวงรายสัปดาห์ 29 เมษายน-5พฤษภาคม 2567

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์          

การงาน  :   สัปดาห์นี้ดูเหมือนคุณจะโดดเด่นทั้งบุ๋นและบู๊เลยทีเดียว มีความเป็นผู้นำ ลุย กล้าได้กล้าเสีย หากได้เริ่มต้นงานอะไรแล้ว ใครอย่าได้ขวาง คุณพร้อมบวก ขณะเดียวกันเรื่องอารมณ์ความรู้สึกจินตนาการก็ยังคงเด่นอยู่ พวกงานหรือธุรกิจที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน บันเทิง ดีไซเนอร์ มัณฑนศิลป์ รวมถึงทางด้านวิชาการ เช่น นักเขียน นักประพันธ์ พยาบาล สังคมสงเคราะห์ ฯลฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องระวังการตัดสินใจที่รวดเร็ว ขาดสติ และบริวารที่ไม่ซื่อสัตย์ ส่งผลให้งานหรือธุรกิจผิดพลาดล้มเหลวได้อย่างไม่น่าเกิดขึ้น

การเงิน  :  หากกำลังมีรายจ่ายจากทุกทิศทุกทางจนตึง สัปดาห์นี้คุณพร้อมเสี่ยง กล้าได้กล้าเสีย คาดหวังที่อยากจะได้รายรับสูง เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ จึงมีโอกาสผันผวนสูงมาก ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่ว่า…จะไม่มีโชคลาภเลย งวดนี้ลองเสี่ยงโชคไว้บ้าง ก็ดีนะ

ความรัก  :  สัปดาห์นี้มีหลากหลายอารมณ์มาก ทั้งร้อนแรง อ่อนไหว โลเล ไม่มั่นใจ เหวี่ยงแบบสุดโต่ง แม้จะพยายามประนีประนอมถึงที่สุดแล้ว แต่สุดท้ายคุณมีโอกาสสูงมากที่จะพ่ายแพ้กับอารมณ์ของตัวเอง ฉันอยากทำอะไรก็ทำ ไม่แคร์  คนโสด สัปดาห์นี้คุณจะโดดเด่นในความมีเสน่ห์ ร้อนแรง หากอยากจะทำอะไร คุณก็ทำโดยไม่แคร์ว่าจะถูกต้องหรือเปล่า ภายนอกดูมั่นใจ แต่สุดท้ายแล้วคุณจะโลเล ไม่กล้าตัดสินใจใดๆ

 สุขภาพ  :  อากาศร้อนจัดขนาดนี้ ควรหลีกเลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ ของหมักดอง รสจัด ไม่สะอาดถูกสุขลักษณะ เพราะมีโอกาสที่คุณจะท้องเสีย อาหารเป็นพิษ รวมถึงมีพยาธิ์ในลำไส้ นอกจากนั้นควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาปฏิชีวนะในปริมาณที่มากกว่าปกติ เพราะอาจส่งผลให้เกิดโรคอื่นตามมา  

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจในสายเอ็นเทอร์เทน เช่น นักร้อง นักดนตรี พิธีกร พริตตี้ สถานบันเทิง รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือหากใครที่กำลังส่ายหน้า สัปดาห์นี้มีโอกาสที่คุณจะได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับงานหรือธุรกิจทางด้านนี้ มีโอกาสที่คุณจะเป็นหัวหน้าทีม หัวหน้าชุดปฏิบัติงาน ไปทำงานที่ต้องใช้ความสามารถทางการติดต่อประสานงาน การโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน งานขาย ก็อย่ายึดแต่ความคิดของตัวเองจนไม่คิดถึงความรู้สึกของคนอื่น เพราะมีโอกาสที่จะเกิดความขัดแย้ง จนงานสะดุดลงได้ง่ายๆ   

การเงิน  :  มีโอกาสได้เงินงามๆ จากงานหรือธุรกิจสีเทา แต่ก็เป็นไปได้ว่าคุณจะมีภาระและความรับผิดชอบอยู่เบื้องหลังอีกเยอะ เป็นไปได้ว่าเงินที่หามาได้ก็เพื่อพวกเขาเลยทีเดียว  

ความรัก  :  ระวังนะคะ ไม่คุณหรือคู่ครองนี่ล่ะมีโอกาสที่จะหวั่นไหวกับสิ่งเย้ายวนภายนอก เป็นไปได้สูงมากที่คุณจะจูงมือไปกับมิตรใหม่อย่างไม่ทันได้คิดหน้าคิดหลัง ซึ่งคาดว่างานจะเข้าด้วยสิ คนโสด  มาไวเคลมไวก็ยังใช้กับคุณได้อยู่ แต่จะไม่มีปัญหาเลย หากคุณไม่มาไว เคลมไว กับแฟนคนอื่น

สุขภาพ  :  สัปดาห์นี้คาดว่าคุณจะต้องเสียเงินเพื่อดูแลฟัน ไม่ว่าจะอุด ถอน ขูดหินปูน นอกจากนั้นหากคุณเป็นประเภท work hard play hard ก็ควรเตรียมเงินเพื่อซ่อมแซมตับไตไส้พุงที่เป็นผลจากการดื่มหนัก เที่ยวกลางคืน รวมถึงทำงานหนักอย่างไม่บันยะบันยัง

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน   ก็ยังมีผู้ใหญ่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรอยู่นะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้ใหญ่เอ็นดูคุณวางใจให้ไปทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่สำคัญแทน ก็อย่าได้วางใจเพื่อนร่วมงาน แม้กระทั่งเพื่อนสนิท เพราะความอิจฉาริษยาไม่เข้าใครออกใคร มีโอกาสที่เขาจะทำอะไรที่คุณคาดไม่ถึง เช่น เลื่อยขาเก้าอี้ หรือแทงข้างหลัง เพื่อให้งานหรือธุรกิจที่คุณได้รับมอบหมายมาเสียหาย หรือเกิดความผิดพลาด จนผู้ใหญ่ผิดหวังในตัวคุณ  

การเงิน  :  จะว่ามีโชคในเรื่องของการลงทุนและดำเนินธุรกิจ มีกำไรก็ได้ แต่ก็อย่าประมาท เพราะสัปดาห์ชนเดือนแบบนี้มีความเสี่ยงสูงที่การตกลงเรื่องผลประโยชน์จะไม่ลงตัว หนี้สินจะสูญ จนถึงขั้นถูกขโมยทรัพย์สิน เรียกว่าเหนื่อยเลยล่ะกว่าจะรอดพ้นสัปดาห์นี้ไปได้

ความรัก  :  จริงๆ แล้วคุณโรแมนติก อ่อนไหว อารมณ์สุนทรี แต่หากอยู่กับคู่ครองบรรยากาศชีวิตคู่ก็คงจะสดชื่น แต่เป็นไปได้ว่าสัปดาห์นี้คุณจะรู้สึกอ่อนไหวกับผู้อื่น แล้วมีโอกาสที่เรื่องจะแดงด้วย งานเข้าสิคะ รออะไร คนโสด  สัปดาห์นี้ใจคุณสะออนมากเลย แถมเจ้าชู้สุดๆ ก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้หน่อยว่า…เรื่องชู้สาว มือที่สาม และความหึงหวงมาแน่

สุขภาพ  :  อย่ากลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน เพราะเป็นไปได้ว่ากรวยไตและกระเพาะปัสสาวะจะติดเชื้อ หากเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดล่ะก็ อันตรายสุดๆ นอกจากนั้นยังต้องระวังจะได้รับบาดเจ็บจากอาวุธ ของมีคมต่างๆ   

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน   :  ความโชคดีก็ยังอยู่กับชาวพุทธต่อเป็นสัปดาห์ที่สาม คราวนี้เป็นทีของกลุ่มธุรกิจทางการเกษตร เกษตรกร นักออกแบบตกแต่งสวน ศิลปวัฒนธรรม สินค้าโอทอป โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย หากกำลังคิดค้น วิจัย ทดลองนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสังคมมานานมาก ไม่เสร็จเสียที รวมถึงนักเขียน นักประพันธ์ สัปดาห์นี้มีเฮ นอกจากผลงานจะออกสู่สายตาชาวโลกแล้ว ยังมีช่องทางใหม่ๆ เข้ามาให้คุณได้มีโอกาสทดลองด้วย เป็นไปได้ว่าจะประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงด้วยล่ะ  

การเงิน  :   หากใครที่กำลังจะซื้อ-ขาย หรือให้เช่าที่ดินทางการเกษตร มีโอกาสที่ลูกค้าจะเข้ามารัวๆ แต่ก็เป็นไปได้ว่าเงินจะไม่ได้มาแบบฉ่ำๆ แต่มาแบบเอื่อยๆ มีแต่กล่องมากกว่า  

ความรัก  :   ความสัมพันธ์กับคู่ครองคู่ชีวิตของคุณจะเป็นไปด้วยดี สัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าจะมีวาระพิเศษ แอบทำเซอร์ไพร์สกันด้วยนะ  คนโสด  นับว่าสัปดาห์นี้คุณโชคดีในเรื่องความรัก เพราะมีโอกาสได้พบกับคนที่รักคุณอย่างจริงใจ จะบอกว่าถึงขั้นบูชาความรักเลยก็ได้นะ คบกันไปยาวๆ   

 สุขภาพ  :  หากคุณกำลังทำงานหนัก นั่งอยู่ในท่าเดิมนานๆ สัปดาห์นี้ต้องระวังออฟฟิศซินโดรมมาเยือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหลัง คอ บ่า ไหล่ ที่จะยึดตึงไปทั้งร่าง นอกจากนั้นจากความเครียดก็จะส่งผลไปถึงกระเพาะและลำไส้ รวมถึงนอนไม่หลับ หากเป็นอยู่แล้วจะกลายเป็นโรคเรื้อรัง

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจกับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงินการธนาคาร ประกัน วงการสาธารณสุข การแพทย์ หากคุณมั่นใจในตำแหน่งงานหรือธุรกิจที่คุณรับผิดชอบอยู่ สัปดาห์นี้ต้องระวัง เพราะจะมีบุคคลที่ไม่หวังดีกำลังคิดหาวิธีที่จะแทงข้างหลัง หรือเลื่อยขาเก้าอี้คุณอยู่ จนเป็นไปได้ว่าคุณจะเปลี่ยนสายงานหรือธุรกิจมาอยู่ในขั้วของการสร้างสรรค์ เช่น งานบันเทิง ออกแบบ สถาปัตย์ฯ เสริมสวย สปา ฯลฯ ก็ไม่ต้องรีรอ เพราะคุณจะได้รับความช่วยเหลือและโอกาสที่ดี สามารถสร้างชื่อเสียงและความมั่นคงในอาชีพได้เลย  

การเงิน  :  สถานะทางการเงินของคุณมั่นคงได้จากการอดออม และการทำงานหนัก ซึ่งสัปดาห์นี้อย่าประมาท เพราะมีโอกาสที่คุณจะตกลงเรื่องผลประโยชน์ไม่ลงตัว ทวงหนี้ไม่ได้ จนถึงทรัพย์สินสูญหาย นอกจากนั้นยังเกิดจากตัวคุณเองที่เที่ยวหนักจนเก็บเงินไม่อยู่ด้วย

ความรัก  :  สัปดาห์นี้คุณจะโดดเด่นในเรื่องของความมีเสน่ห์ มีอารมณ์ศิลปะศิลปินอยู่ในตัว และก็มีโอกาสที่จะนำภัยมาสู่ตัวเองเช่นกัน เพราะเป็นไปได้ว่าจะมีปัญหาเรื่องมือที่สาม จนกลายเป็นความหึงหวง คนโสด เช่นกัน คุณจะโดดเด่นในเรื่องของความอบอุ่นชวนฝัน ยิ่งร้องเพลงเพราะด้วย ยิ่งใช่เลย ใครๆ ก็อยากเข้ามาคุยกับคุณ รวมถึงคนที่มีแฟนแล้ว ซึ่งคุณก็คุยทุกคน รักทุกคน จึงมีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นมือที่สามสูงมาก  

สุขภาพ   :  เป็นไปได้ว่าคุณจะเอ็นจอยกับการดื่มและรับประทาน มีปาร์ตี้บ่อย ทั้งกับเพื่อนที่ทำงาน ที่บ้าน และคนรัก จึงเป็นไปได้ที่น้ำหนักจะขึ้น  จนกลายเป็นปัญหาสุขภาพ ทั้งไขมันในเส้นเลือด โรคหัวใจ เบาหวาน น้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :  เช่นกัน คุณก็ยังโดดเด่นในเรื่องของปฏิภาณไหวพริบ ซึ่งสัปดาห์นี้จะเน้นที่เทคนิคและแทกติก การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ต่างๆ การใช้ความสามารถทางวาทศิลป์ในการติดต่อประสานงาน การโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ การขาย ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านการเกษตรหรือเกี่ยวข้อง เช่น เกษตรกร นักออกแบบตกแต่งสวน ศิลปวัฒนธรรม สินค้าโอทอป ซึ่งคุณสามารถจับแพะชนแกะได้ถูกขาถูกคู่ จนมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ สร้างชื่อเสียงอย่างงดงาม  

การเงิน  :   คุณหาเงินเก่งและก็ใช้เงินเก่งด้วย ใจดีอีกต่างหาก ใครขอก็ให้เขาอย่างง่ายดาย ซึ่งสัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าคุณจะมีโชคในเรื่องของการซื้อ-ขาย หรือให้เช่าที่ดินทางเกษตร ตลาดเก็บเงินไว้บ้างก็ดีนะ  

ความรัก :   สัปดาห์นี้คุณจะโดดเด่นในเรื่องความร้อนแรงและโรแมนติก รักง่าย ขณะเดียวกันก็หึงหวง ชอบแสดงความเป็นเจ้าของสูง แต่จริงๆ แล้วไม่ต้องพรีเซ้นท์ให้เหนื่อย เพราะตอนนี้เขาก็รักคุณหลงคุณจนไม่มองใครแล้ว คนโสด  สัปดาห์นี้หากคุณตัดสินใจเลือกใครมาเป็นแฟน มีโอกาสถูกรางวัลใหญ่ เพราะได้คนที่รักและจริงใจกับคุณจริงๆ  

สุขภาพ  :   มีโอกาสที่คุณจะเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติงาน รวมถึงการรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา และดื่มแอลกอฮอล์ ที่จะเป็นสาเหตุของโรคอื่นๆ ด้วย นอกจากนั้นเป็นไปได้ว่าฟัน จะสร้างความรำคาญใจให้จนต้องไปหาหมอ  

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :   สำหรับใครที่กำลังร้อนรุ่มหรืออึดอัดกับบรรยากาศการทำงาน เพื่อนร่วมงาน จนกระทั่งเจ้านาย จนอยากลาออกให้รู้แล้วรู้รอดไป สัปดาห์คาบเกี่ยวสิ้นเดือนและต้นเดือนแบบนี้ หากใครที่ทนไม่ไหว ส่งใบลาออกไปแล้ว ก็ไม่ต้องกังวล มีโอกาสที่คุณจะได้เริ่มงานใหม่ เพียงแต่จะไม่ตรงกับที่เลือกไว้ หรือความถนัด ความชอบ แต่เป็นไปได้ว่าคุณก็ต้องทำ เพราะติดที่สัญญาหรือข้อตกลง เงื่อนไข ที่ทำไว้จะด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม  

การเงิน  :   รายจ่ายเยอะ และจะงอกมาเรื่อยๆ จนถึงขั้นร้อนเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัปดาห์นี้ไม่ควรให้ใครกู้เงิน หรือรับประกัน เพราะมีโอกาสที่คุณจะต้องรับผิดชอบ แบกรับภาระหนี้สินนั้นแทน

ความรัก  :  ยิ่งกว่านั้นสัปดาห์นี้มีโอกาสที่คุณจะจับได้ว่า คู่ครองมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ ซึ่งเป็นไปได้อย่างมากว่า จะมีพวกปากหอยปากปูช่วยส่องเฟซส่องไลน์แทน คนโสด ระวังนะคะ หากคุณคิดที่จะชอบแฟนคนอื่น ทุกข์ กวักมือรออยู่ข้างหน้าแล้ว เพราะเป็นไปได้ว่าคุณจะตัดเขาไม่ขาด ไม่ว่าจะอยากหรือไม่อยาก

 สุขภาพ   :   อากาศว่าร้อนจัดจนโลกเกือบถึงจุดระเบิดแล้ว แต่สัปดาห์นี้คุณมีโอกาสจะหัวร้อนกว่าอีก ซึ่งสาเหตุจะมาจากความหึงหวง ความโกรธแค้น ไม่พึงพอใจ ซึ่งจะนำมาซึ่งโรคภัย เพราะฉะนั้นควรปล่อยวาง อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด รักตัวเองไว้ก่อน

มาย ภาคภูมิ Guerlain

งานผิวคืออย่างเป๊ะ! ‘มาย ภาคภูมิ’ และเหล่าเซเลบผิวสวย พร้อมใจป้ายยาสกินแคร์ไลน์ Abeille Royale ตัวใหม่ และแป้งไข่มุกในตำนาน Météorites 2024 จาก GUERLAIN

Alternative Textaccount_circle
มาย ภาคภูมิ Guerlain
มาย ภาคภูมิ Guerlain

สายผิวฉ่ำสวยโกลว์ต้องปักหมุดตามมา! แพรวจะพาไปอัพเดตไอเท็มใหม่ล่าสุดที่ทั้งจึ้งและปึ้งมากในนาทีนี้ แบบรวบตึงตัวเด็ดทั้งเมคอัพและสกินแคร์ที่ BeeLab ป็อปอัพสโตร์ของ GUERLAIN แบรนด์ความงามสุดหรูสัญชาติฝรั่งเศส ที่จัดขึ้นว่าด้วยแนวคิด Pass the Beauty Forward ซึ่งภายในงานรวมตัวแม่เหล่าเซเลบริตี้ และหนุ่มหล่อหน้าใส มาย ภาคภูมิ Friend of Guerlain Thailand ที่ต่างก็ใจตรงกัน พร้อมใจบุกมาชมความปังของงานที่มีกิจกรรมมากมาย ณ BeeLab ป็อปอัพสโตร์ ชั้น1 โซนบีคอน เซ็นทรัลเวิลด์ ใครไม่อยากพลาดรีบไปตั้งแต่วันนี้ – 1 พ.ค. 67 เท่านั้น

ซึ่งไอเท็มชิ้นใหม่ที่ว่านี้ถือเป็นไฮไลท์แห่งปีด้วยสกินแคร์ที่หนุ่มมาย ภาคภูมิ การันตีว่าผิวดีขนาดนี้ ต้องยกเครดิตให้สกินแคร์คู่สร้างคู่สม Abeille Royale Double Clarify & Repair Essence and Cream เพราะมีส่วนทำให้บิวตี้รูทีนของหนุ่มมายง่ายขึ้น เป็นชิ้นที่ทรงประสิทธิภาพจากเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ มีส่วนผสมเลอค่าอย่าง ‘น้ำผึ้งขาว’ ที่ช่วยป้องกันการเกิดของเม็ดสีใหม่ในอนาคต ไม่ต้องมากชิ้น ไม่ต้องซับซ้อนเสียเวลา ผิวก็อ่อนเยาว์สมบูรณ์แบบได้

ซึ่งไม่ใช่แค่หนุ่มมายเท่านั้นที่โดนตก เพราะทางด้านคู่เซเลปสวยเก่งอย่าง คุณนันทมาลี ภิรมย์ภักดี ควงคู่ลูกสาวคนสวย วรณัน ภิรมย์ภักดี และคู่พี่น้อง ฝันดาว แบ้สกุล กับ เหมือนฝัน แบ้สกุล ต่างก็มาร่วมสัมผัสเนื้อเอสเซ้นท์และครีมสุดบางเบา เนียนนุ่มของ Guerlain Abeille Royale Double Clarify & Repair Essence and Cream สกินแคร์คู่ใหม่ที่สามารถสร้างตำนานผิวเนียนนุ่มกระจ่างใสใน 8 สัปดาห์ ด้วย Dynamic Black Bee Repair Technology ที่ช่วยซ่อมแซมสภาพผิวที่เสียหาย ซึ่งเซเลบริตี้ทั้งสองคู่แอบกระซิบว่าเป็นแฟนตัวยงของ Guerlain มาอย่างยาวนาน และต่างหลงรักในส่วนผสมจากน้ำผึ้งขาวอันเป็นเอกลักษณ์ เมื่อถามถึงสกินแคร์ที่ดีจนต้องบอกต่อจึงเป็นแบรนด์ไหนไปไม่ได้นอกจาก GUERLAIN

และอีกโปรดักส์ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เด็ดขาด นั่นคือเมคอัพไอเท็มในตำนานจาก GUERLAIN ที่คัมแบ็กมาใหม่อย่าง Météorites แป้งเม็ดไข่มุกสีพาสเทลแสนสวยที่ตกสองสาวเพื่อนซี้เพชรพลอย เพชรรัตน์ ศฤงคารเจษฎา กับ สุอาภา อังควิศาลพงศ์ และคู่พี่น้องแห่งบ้านปวโรดมอย่าง ชวมณฑน์ ปวโรดม กับ ภณภิสา ปวโรดม ได้แบบอยู่หมัด เพราะนอกจากภาพลักษณ์ภายนอกจะงดงามด้วยบรรจุภัณฑ์ที่หรูหราราวกับจิเวลรี่ประดับโต๊ะเครื่องแป้งแล้ว ยังมาพร้อมคุณสมบัติที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติถึง 95% และเป็นแป้งตลับเดียวที่ปิดจบฟินิชชิ่งงานผิวได้ครบทุกด้าน ทั้งเป็นการเซ็ตรองพื้น ,ปรับสภาพผิวอำพรางริ้วรอย, ลดความมันเพิ่มความแมตต์ได้ถึง 8 ชม. และช่วยเติมแสงเพิ่มความสว่างสดใส แป้งไข่มุกสีหวานเนื้อแมตต์และเหลือบมุก การันตีออร่าความกระจ่างใสของผิวได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมงอีกด้วย ความเริ่ดคือมาใน 4 เฉดสีใหม่ครบครัน นับเป็น Versatile Must have Item ที่คนสวยขาทั้งหลายต้องมี! ไว้ใช้เป็นไอเท็มไม้ตายเวลาที่ต้องการเซ็ตผิวสวยแบบด่วนๆ

ย้ำอีกทีว่าภายในงานมีกิจกรรมและโปรฯ เริ่ดๆ รออยู่มากมาย รีบพุ่งตัวไปด่วนที่ BeeLab ป็อปอัพสโตร์ของ Guerlain ณ ชั้น1 โซนบีคอน เซ็นทรัลเวิลด์ ใครไม่อยากพลาดรีบไปตั้งแต่วันนี้ – 1 พ.ค. 67 เท่านั้น แต่ถ้าไม่ทันสามารถไปลองสัมผัสไอเท็มใหม่ที่ได้เคาน์เตอร์ Guerlain ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทุกสาขา ถ้าอยากผิวเป๊ะ..ก็อย่าพลาด!!

ภาพ : นิตยสารแพรว


CELINE เผยน้ำหอมกลิ่นใหม่ 'ZOUZOU' หวานละมุนคล้ายคาราเมล

CELINE เผยน้ำหอมกลิ่นใหม่ ‘ZOUZOU’ หวานละมุนคล้ายคาราเมล หนึ่งในไลน์ CELINE HAUTE PARFUMERIE

Alternative Textaccount_circle
CELINE เผยน้ำหอมกลิ่นใหม่ 'ZOUZOU' หวานละมุนคล้ายคาราเมล
CELINE เผยน้ำหอมกลิ่นใหม่ 'ZOUZOU' หวานละมุนคล้ายคาราเมล

‘ZOUZOU’ น้ำหอมกลิ่นใหม่ล่าสุดในคอลเล็คชั่นน้ำหอม CELINE HAUTE PARFUMERIE ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 โดยเข้ามาเติมเต็มคอลเล็คชั่นที่มีอยู่เดิม 11 กลิ่น รังสรรค์โดย HEDI SLIMANE ซึ่งน้ำหอมทั้งหมดล้วนได้รับแรงบันดาลใจจากขนบของ “น้ำหอมจากห้องเสื้อชั้นสูง” (Couturier Parfumeur) และสะท้อนความเป็นเลิศของน้ำหอมชั้นสูงสไตล์ฝรั่งเศสอย่างแท้จริง

ปัจจุบันคอลเล็คชั่น CELINE HAUTE PARFUMERIE ประกอบด้วยน้ำหอมทั้งหมด 12 กลิ่น โดย “ZOUZOU” จัดอยู่ในกลุ่มน้ำหอมสำหรับกลางวัน (Day Collection) ได้รับแรงบันดาลใจมาจากไดอารี่กลิ่นหอมของ HEDI SLIMANE ที่บันทึกเรื่องราวเบื้องหลังการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นใหม่นี้รวมถึงที่มาของชื่อด้วย ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา HEDI SLIMANE ได้ถ่ายทอดมุมมองด้าน “วัยหนุ่มสาว” ผ่านทั้งผลงานภาพถ่ายและการออกแบบเสื้อผ้าของเขา ซึ่งกลายเป็นแก่นสำคัญในผลงานการสร้างสรรค์น้ำหอมชิ้นนี้

กลิ่น ZOUZOU สะท้อนภาพเหล่าสาวน้อยผู้ร่าเริงเบิกบานอย่างอิสระเสรี น้ำหอมกลิ่นแอมเบอร์และมัสค์นี้ มีความโดดเด่นด้วยกลิ่นหอมหวานละมุนคล้ายคาราเมล สร้างสรรค์ขึ้นจากการผสมผสานกำยาน BENZOIN และตองก้าบีน กลิ่นหอมนี้ยังสะท้อนภาพสไตล์นีโอคลาสสิกทวิสต์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ โดยมีแพทชูลีและแลบดานัม ช่วยขับเน้นความหรูหราของกลิ่นอำพัน ขณะที่มัสค์และวานิลลา ช่วยขยายกลิ่นแป้งเบาบางในช่วงท้ายให้ยาวนานขึ้น ซึ่งเป็นกลิ่นเอกลักษณ์อันนุ่มนวลที่ปรากฏอยู่ในน้ำหอมทุกกลิ่นของ CELINE เมื่อกลิ่นต่างๆ ค่อยๆ ฟุ้งออกมา กลิ่นอายอันแสนบริสุทธิ์ของหญิงสาววัยรุ่นชาวปารีเซียนจะค่อยๆ ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน

ดีไซน์ขวดทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าได้รับการออกแบบโดย HEDI SLIMANE FOR CELINE สืบสานมรดกอันทรงคุณค่าของงานเป่าแก้วฝรั่งเศส โดยตั้งใจตอกย้ำถึงความหรูหรา ผ่านน้ำหนักอันล้ำค่าของเนื้อแก้วและแลคเกอร์สีดำ ขวดน้ำหอมในคอลเล็คชั่น CELINE HAUTE PARFUMERIE ประดับลวดลายร่องขีดคมชัดทั้งสองด้าน พร้อมฝาปิดทรงเหลี่ยมเคลือบแลคเกอร์สีดำ ซึ่งเป็นสุนทรียศาสตร์ที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะแบบนีโอคลาสสิซิสม์ปลายศตวรรษที่ 17 ความโดดเด่นของสไตล์มินิมอลลิสต์อันเป็นเอกลักษณ์นี้ ผสานความทันสมัยแบบอาร์ตเดโคเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เส้นสายที่เรียบง่ายเพรียวบาง การแต่งแต้มด้วยแลคเกอร์สีดำ ตัดกับเนื้อแก้วใส ฝีมือการผลิตอันประณีต และประกายสีทองอมอำพันของน้ำหอม ช่วยขับเน้นมิติความวิจิตรอันแยบยลของกลิ่นน้ำหอมแต่ละกลิ่นในคอลเลคชั่นนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ รวมถึงกล่องบรรจุภัณฑ์และลาเบลที่ทำจากกระดาษที่มีเนื้อสัมผัสแบบผ้า “GRAIN DE POUDRE” ตกแต่งด้วยลายพิมพ์ยุคศตวรรษที่ 17 ที่ได้รับอิทธิพลจากลายพื้นไม้ใน HÔTEL COLBERT DE TORCY ซึ่งเป็นที่ตั้งของ CELINE COUTURE HOUSE ณ เลขที่ 16, RUE VIVIENE กรุงปารีส ด้านบนกล่องบรรจุภัณฑ์สลักสัญลักษณ์ “TRIOMPHE” อันเป็นเอกลักษณ์ประจำเมซง ซึ่งถูกรังสรรค์ขึ้นเป็นครั้งแรกโดยผู้ก่อตั้งแบรนด์ CELINE ที่สังเกตเห็นอักษรตัว C สองตัวติดกันบนห่วงโซ่ที่อยู่ล้อมรอบประตูชัย ARC DE TRIOMPHE โดยสัญลักษณ์นี้เชื่อมโยงเข้ากับประวัติศาสตร์ของกูตูร์เฮาส์แห่งนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ



JACKSON WANG

BIBI แท็คทีม JACKSON WANG ปล่อยซิงเกิล “FEELING LUCKY”

Alternative Textaccount_circle
JACKSON WANG
JACKSON WANG

หลังจากการแสดงสุดเซอร์ไพรส์ที่เทศกาลดนตรี Coachella BIBI ศิลปินสาวเจ้าแม่ไอทีสัญชาติเกาหลีใต้ และซุปเปอร์สตาร์ระดับโลก Jackson Wang ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆด้วยการปล่อยซิงเกิล พร้อมมิวสิกวิดีโอใหม่ที่มีชื่อว่า “Feeling lucky” การร่วมงานที่น่าตื่นเต้นนี้ ได้เปิดตัวจนได้รับกระแสชื่นชมอย่างล้นหลามมาแล้วที่เทศกาลดนตรี Coachella 2024 ด้วยเสียงร้องที่มีเสน่ห์ของ BIBI ผสมผสานไปกับการแสดงอันทรงพลังของ Jackson Wang ในเพลงป็อบอันร้อนแรง

มิวสิกวิดีโอเพลง “Feeling lucky” ซึ่งกำกับโดย Jason Ano นั้น เปิดมาด้วยภาพ BIBI และ Jackson  กอดกันอย่างเย้ายวนและร้องเพลงไปด้วย เมื่อวีดีโอถูกปล่อยออกมาเคมีของพวกเขามันช่างลงตัว แฟนตัวจริงที่รอติดตามจะได้เห็น BiBi และ Jason ยอมจำนนต่อความปรารถนาอันล้ำลึกของพวกเขา ตอกย้ำเนื้อเพลงที่ว่า “The way you think about me, I think about you, I do, it’s true” (คุณคิดถึงฉันแบบนั้น ฉันก็คิดถึงคุณ มันใช่เลย)   

BIBI ต่อยอดความสำเร็จอันน่าประทับใจของเธอด้วยเพลง “Feeling lucky” หลังจากที่ก่อนหน้านี้เพลง Bam Yang Gang ได้เข้าสู่ท็อปชาร์ตเกาหลี อีกทั้งยังทะลุเข้าสู่ชาร์ต US top 40 ได้อีกด้วย นับเป็นศิลปินหญิงเดี่ยวชาวเกาหลีคนแรกที่ทำได้ ในขณะเดียวกัน Jackson  ก็ประสบความสำเร็จอย่างมากกับอัลบั้มล่าสุด “MAGIC MAN” ที่เปิดตัวได้ในลำดับที่ 15 ของชาร์ต Billboard 200 และคว้าอันดับ 3 ใน Top Album Sales รวมไปถึงเวิลด์ทัวร์ที่บัตรหมดเกลี้ยง การโคจรมาคู่กันก็เหมือนการเตรียมพร้อมที่จะก้าวข้ามผ่านไปยังเวทีระดับโลก

BIBI เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง และนักแสดงในเกาหลีใต้ ถือว่าเป็นหนึ่งดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดคนหนึ่งของเกาหลี เธอมียอดผู้ฟังรายเดือนสะสมกว่า 5 ล้านคนบน Spotify อีกทั้งยังเป็นศิลปินหญิงเดี่ยวอาร์แอนด์บีคนแรกที่สามารถเข้าสู่ชาร์ตวิทยุ US Top 40 ได้สำเร็จ และยังทะลุไปสูงถึง ลำดับที่ 30 (ลำดับสูงที่สุดคือ 29) สำหรับซิงเกิลฮิตอย่างเพลง “BIBI Vengeance” จากอัลบั้มเดบิวต์ของเธอที่ชื่อ Lowlife: Princess Noir มียอดสตรีมบน Spotify กว่า 118 ล้านครั้ง และมียอดเข้าชมกว่า 47 ล้านบนยูทูบ ส่วนเพลงก่อนหน้านี้อย่างเพลง “The Weekend” ติดชาร์ต All Access Top 40/Mainstream Cool Music ด้วยอันดับสูงสุดถึงอันดับที่ 3 อีกทั้งยังถูกเปิดตามคลื่นวิทยุไปทั่วประเทศ รวมถึง KIIS LA, Ryan Seacrest’s “America’s Top #40,” Most Requested Live, และ iHeart Radio’s “The Vibe” ในปี2023 BIBI ได้ร่วมงานกับศิลปินเจ้าของรางวัลมากมายอย่าง Becky G ในซิงเกิลที่ได้รับความนิยมชื่อ Amigos ซึ่ง  PEOPLE called มีคนกล่าวว่ามันเป็นความยั่วยวนที่ทำให้ก้าวข้ามความรู้สึกผิดและการล่อลวง

Jackson Wang นักแสดงมากความสามารถสัญชาติจีนตอกย้ำตำแหน่งซุปเปอร์สตาร์ในระดับนานาชาติด้วยการปล่อยอัลบั้มที่ 2 MAGIC MAN ในปี2022 ตามมาด้วย MAGIC MAN World Tour ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่ได้รับการกล่าวถึงอย่างล้นหลาม เปิดตัวด้วยอันดับที่15 บนชาร์ต Billboard 200 และอันดับ 3 บน Billboard’s Top Album Sales Chart อีกทั้ง Jackson ยังสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นศิลปินจีนคนแรกที่ได้ขึ้นแสดงที่เทศกาลดนตรี Coachella ถึง 3 ครั้ง นอกจากนี้แล้ว Jackson ยังเป็นทั้ง นักออกแบบแฟชั่น , หัวหน้าครีเอทีฟ และผู้ก่อตั้ง TEAM WANG ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 100 ล้านคนบนโลกโซเชียลอีกด้วย

“พญ.วรวรรณ เตชะสมบูรณ์” KKC Clinic เผยทริคอัพงานผิวปัง!

account_circle

กระแสความงามที่ฟีเวอร์สุดๆ ในช่วงนี้ หลายคนลงความเห็นว่ายังคงต้องยกให้กับ “เทรนด์งานผิว” ที่ถือว่ามาแรงต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2023 จนถึงปี 2024 และคาดว่าจะยังคงติดลมบนแบบฉุดไม่ลง ดังนั้น Exclusive Talk ครั้งนี้ แพรว จึงขอพาคนรักผิวไปพูดคุยกับ “พญ.วรวรรณ เตชะสมบูรณ์” หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “คุณหมอเปิ้ล KKC Clinic” ซึ่งได้แชร์ความรู้เกี่ยวกับหัตถการอัพงานผิวที่กำลังได้รับความสนใจสุดๆ อย่าง Collagen Stimulator เอาไว้แบบแน่นๆ งานนี้ขอบอกเลยว่า คนรักผิวต้องเซฟทริคเลยค่ะ     

2024 เทรนด์งานผิวต้องมา!

“เทรนด์ความงามปีนี้ยังคงล้อกับปีที่แล้ว นั่นคือเรื่องการดูแลผิวและการปรับรูปหน้า ซึ่งหลายคนให้ความสำคัญควบคู่กันไป โดยเฉพาะเรื่องการดูแลสุขภาพผิวให้แลดูอ่อนเยาว์ที่ได้รับความสนใจมากๆ ซึ่งไม่ใช่แค่ผิวหน้าเท่านั้น แต่ในปัจจุบันการดูแลผิวกายก็ได้รับความนิยมเช่นกันค่ะ 

“หากพูดถึงหัตถการที่ช่วยเรื่องผิว เมื่อก่อนคนส่วนใหญ่จะคุ้นกับสารลดเลือนริ้วรอย สารเติมเต็ม การร้อยไหม แต่ปัจจุบันมีอีกหนึ่งหัตถการที่กำลังมาแรง นั่นคือ Collagen Stimulator เพราะคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับความเป็นธรรมชาติกันมากขึ้น นอกจากนี้ Collagen Stimulator ยังเวิร์กตรงที่สามารถใช้ได้กับผิวส่วนอื่นๆ ที่ต้องการการดูแล เช่น คอ หลังมือ หน้าท้อง หน้าอก ทำให้จากที่เมื่อก่อนเราจะโฟกัสกันแค่ผิวหน้า ตอนนี้หลายคนก็หันมาใส่ใจผิวส่วนอื่นๆ กันมากขึ้น”

Collagen Stimulator ตอบโจทย์งานผิวปัง

“Collagen Stimulator คือการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวเราใสขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ
รวมถึงช่วยเรื่องริ้วรอย เพราะอย่างที่หลายคนรู้กันว่าตอนเด็กๆ ร่างกายเรามีการสร้างคอลลาเจนอยู่เรื่อยๆ
ในปริมาณที่เพียงพอ แต่เมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะคนวัย 40+ ร่างกายจะสร้างคอลลาเจนได้น้อยลง หรือหยุดการสร้างไปในที่สุด ดังนั้น Collagen Stimulator จึงมาช่วยตอบโจทย์ในจุดนี้ได้ดี

“ที่สำคัญอีกอย่างคือ Collagen Stimulator เป็นคอลลาเจนที่ร่างกายสร้างขึ้นเอง ไม่ใช่การใส่สารแปลกปลอมเข้าไปในร่างกาย เปรียบเสมือนการเลียนแบบการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ ดังนั้น หากเราเริ่มใช้ Collagen Stimulator ตั้งแต่อายุยังน้อยๆ ก็จะถือเป็นการ Prevention ผิวอีกทางหนึ่ง ซึ่งตอบโจทย์คนที่ต้องการดูแลผิวตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาหรือลดการใช้สารลดเลือนริ้วรอย สารเติมเต็ม รวมถึงคนที่กังวลเรื่องความไม่เป็นธรรมชาติ เพราะ Collagen Stimulator เน้นเรื่องความเป็นธรรมชาติและความปลอดภัยเป็นหลักเลยค่ะ”

ทริคต้องรู้ + เลือกให้เป็น   

“หลายคนเข้าใจว่า Collagen Stimulator ทำครั้งเดียวอยู่ได้นานเป็นปี ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะความจริงแล้วการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนไม่สามารถทำครั้งเดียวได้ โดยปกติแพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ทำซ้ำประมาณ 3 – 4 ครั้ง ภายในระยะเวลา 1 ปี ขึ้นอยู่กับช่วงอายุและปัญหาผิวของแต่ละคน บางคนมีปัญหาผิวเยอะ ก็ต้องทำหลายครั้งและถี่หน่อย จากนั้นจึงค่อยๆ เว้นระยะห่าง เช่น จากเดิมทำปีละ 4 ครั้ง พอปีถัดมาก็ลดความถี่ลงได้

“เรื่องที่จำเป็นต้องรู้อีกอย่าง คือในท้องตลาดปัจจุบันมีสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอยู่หลายชนิด ตัวที่หมอนำมาพูดถึงให้รู้จักกันในครั้งนี้ คือสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่เป็นนวัตกรรม Fully Liquid PCL ซึ่งเป็น Polycaprolactone ที่ไม่เกิดปฏิกิริยากับร่างกาย และลดความเสี่ยงที่จะเกิดก้อนในอนาคต เรียกว่าเป็นสาร PCL ที่ใช้ในวงการแพทย์มานาน มีความปลอดภัย นอกจากนี้ Fully Liquid PCL ยังมีจุดเด่นอยู่ที่ลักษณะของตัวยา ซึ่งเป็นของเหลว จึงกระจายตัวได้ดี ทำให้ไม่ต้องทำหลายจุด และลดโอกาสการอุดตันในเส้นเลือด

“พอรู้จักชนิดแล้ว ก็มาถึงเรื่องแบรนด์กันต่อเลยค่ะ เพราะสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่เป็น Fully Liquid PCL ที่ KKC Clinic เลือกใช้ จะเป็นแบรนด์ที่มี PCL ถึง 21% นำเข้าโดย บริษัท อีเด็นคัลเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งผ่าน อย. ของไทย หรือ TFDA รวมถึงได้รับการยอมรับในระดับสากล มีงานวิจัยรองรับชัดเจน มีการใช้อย่างแพร่หลายและยาวนาน

“สุดท้ายก่อนตัดสินใจทำอะไรก็ตาม หมออยากให้ทุกคนลองเข้ามาปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจให้กระจ่าง ประเมินปัญหา และวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุดค่ะ”


ติดต่อ KKC Clinic : www.kkcclinic.com/gouri/
ข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม : www.edencolors.co.th/th/blog/gouri-collagen-stimulator-result
เว็บไซต์ : www.edencolors.co.th
เฟซบุ๊ก : www.facebook.com/edencolorsthailand
ไลน์ : @edencolors
โทร. 061-553-6615

ลองจินส์ MINI DOLCEVITA ดีไซน์เก๋ พร้อมสายรัดข้อมือแบบพันสองรอบ

account_circle

หลังเปิดตัวครั้งแรกในปี 2023 ล่าสุดในปีนี้คอลเล็คชั่น MINI DOLCEVITA จากลองจินส์ ได้รับการเติมเต็มด้วยโมเดลใหม่ที่โดดเด่นด้วยสายรัดข้อมือแบบพันสองรอบ (double tour) ดีไซน์พิเศษเฉพาะของลองจินส์ รังสรรค์ขึ้นจากหนังนัปปา (Nappa leather) ซึ่งมีให้เลือกหลากสีสัน อาทิ สีดำ, สีทองเบจ, สีชมพู, สีแดง, สีส้ม และสีเขียว โอบล้อมข้อมืออย่างอ่อนโยน

โดยนาฬิกาโดดเด่นด้วยตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าอันเป็นเอกลักษณ์ รุ่นใหม่ของ MINI DOLCEVITA ที่กลับมาตอกย้ำอีกครั้งว่าความสง่างามนั้นแอบแฝงอยู่แม้ในรายละเอียดเล็กน้อย และเนื่องในโอกาสเปิดตัว ลองจินส์ได้ร่วมมือกับ เคท วินสเล็ต Ambassador of Elegance ในแคมเปญสุดพิเศษที่บอกเล่าเรื่องราววิสัยทัศน์ที่เธอมีต่อเวลา

มินิ โดลเชวิต้า (Mini DolceVita) โดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบหรู เพรียวบาง และสไตล์คลาสสิกเหนือกาลเวลา ผสานความทันสมัย สะท้อนความหรูหราสง่างามอย่างมีระดับอันเป็นเอกลักษณ์ของลองจินส์ นับเป็นนาฬิกาเครื่องประดับที่มีความร่วมสมัยอย่างแท้จริงที่ขยายออกมาจากตระกูล โดลเชวิต้า (DolceVita) ของลองจินส์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิการะดับตำนานที่แบรนด์สร้างสรรค์ขึ้นในปี 1927

นาฬิกามินิ โดลเชวิต้า ด้วยสายหนังดีไซน์พิเศษที่มีให้เลือกสรรหลากหลายขนาดและสีสัน สวมใส่สบาย กระชับข้อมืออย่างอ่อนโยน รูบนสายหนังประทับตัวเลขตั้งแต่ 1 ถึง 6 ด้วยวิธีการกดด้วยความร้อน ซึ่งเป็นการสื่อถึงความผูกพันที่ลองจินส์มีต่อโลกกีฬาขี่ม้า โดยเลขหมายเหล่านี้เปรียบเหมือนกับรูบนสายหนังสำหรับรั้งเท้า ซึ่งทำหน้าที่เชื่อมโยงอานม้ากับสายรั้งนั่นเอง นาฬิกาทุกเรือนมาในตัวเรือนสแตนเลสสตีลทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด 21.50 x 29.00 มิลลิเมตร สามารถกันน้ำที่ระดับ 3 บาร์ (30 เมตร) ขับเคลื่อนด้วยกลไกควอทซ์ L178 ที่มีความแม่นยำสูง โดยโมเดลของ มินิโดลเชวิต้าใหม่ มีให้เลือกถึง 6 แบบ ที่ผสมผสานความสง่างามและเอกลักษณ์อย่างลงตัว

ทั้ง 3 เวอร์ชั่นงดงามด้วยหน้าปัดโรมันสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีเงิน มีเอกลักษณ์ด้วยการตกแต่งลวดลาย flinqué ลวดลายเรขาคณิตอันประณีตเหล่านี้ โดดเด่นด้วยมิติสัมผัส คล้ายลายกิโยเช่ (guilloche) ตัวเลขโรมันและเข็มนาฬิกาสตีลสีน้ำเงินเข้ามาเติมเต็มดีไซน์ของหน้าปัดให้สมบูรณ์แบบ หน้าปัดย่อยแสดงวินาทีแบบสี่เหลี่ยมอยู่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา สายรัดข้อมือรังสรรค์จากหนังนัปปาดีไซน์แบบพันสองรอบ (double tour) มีให้เลือกหลายสี ทั้งสีดำ, สีทองเบจพร้อมตะเข็บด้ายสีงาช้าง และสีชมพู โดยรุ่นสองสีหลังประดับเพชร Top Wesselton 38 เม็ด

อีก 3 รุ่น มาพร้อมหน้าปัดกลมสีเงินปัดผิวทราย (sand-blasted) สไตล์ “Cosmo” เข็มบอกชั่วโมงสีขาวด้าน แยกส่วนนอกทรงสี่เหลี่ยมออกจากวงกลมด้านใน ดีไซน์หน้าปัดโดดเด่นด้วยหน้าปัดย่อยแสดงวินาทีทรงกลมสีขาวด้านอยู่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ตัวเลขโรมันสีและอินเด็กซ์ทรงยาว พร้อมด้วยเข็มนาฬิกาสตีลสีน้ำเงิน สร้างความคอนทราสต์ตัดกับโทนสีอ่อนของหน้าปัดที่เรียบง่าย มาพร้อมสายหนังนัปปาที่มีให้เลือกหลายสี ไม่ว่าจะเป็นสีแดง, สีส้ม หรือ สีเขียว สะท้อนความสง่างามร่วมสมัยของคอลเล็คชั่นได้เป็นอย่างดี


ร้อนนี้พร้อมสดชื่น! แม็กนั่ม เปิดตัว ‘ไอศกรีมรสชาติใหม่’ อร่อยฟินให้สุดทุกช่วงเวลา

Alternative Textaccount_circle

Magnum (แม็กนั่ม) กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมพาทุกคนสนุกไปกับซัมเมอร์นี้ ด้วยการจัดงานอีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่แห่งปี “Magnum All Day All Night Paradise PARTY” ภายใต้คอนเซ็ปต์ ฟินให้สุดทุกช่วงเวลากับแม็กนั่ม ตอกย้ำความเป็นที่สุดของไอศกรีมแบบพรีเมียม ให้ทุกคนได้ดื่มด่ำสิ่งที่ดีที่สุดที่แม็กนั่มคัดสรรมาให้ พร้อมพาไปลิ้มลองไอศกรีมรสชาติใหม่อย่าง “MANGO YOGHURT PARFAIT (แมงโก้ โยเกิร์ต พาร์เฟต์)” ปลุกความฟิน สดชื่น ด้วยไอศกรีมโยเกิร์ตสุดเข้มข้นผสานกับซอสมะม่วง เคลือบด้วยไวท์ช็อกโกแลตจากเบลเยียม หนา กรอบ และเสริมทัพซัมเมอร์นี้กับอีกความอร่อยเหนือกาลเวลาอย่างรส “CHOCOLATE LUXE (ช็อกโกแลต ลักซ์)” ที่มาช่วยเติมเต็มท้ายวันให้พิเศษยิ่งกว่าเดิมกับรสสัมผัสนุ่ม เข้มข้น ของไอศกรีมช็อกโกแลตและซอสคุกกี้ พร้อมเคลือบช็อกโกแลตจากเบลเยียม ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ได้ลิ้มลองทั้งสองรสชาตินี้ ก็ชวนให้สัมผัสได้ถึงโมเม้นต์สุดฟิน ราวกับได้เติมเต็มความสุขทุกช่วงเวลากันแบบ All day all night ความพิเศษของงานนี้คือการเนรมิตบาร์สุดชิคแห่งใหม่ TRIBE Sky Beach Club บนห้างหรูใจกลางเมืองอย่าง THE EmSphere ให้กลายเป็นซัมเมอร์ปาร์ตี้ภายใต้ธีม SUMMER BOHO เมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา

รสชาติใหม่ในครั้งนี้้ ไม่เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา ผ่านการคิดและและสำรวจมาแล้วว่าใน SEA หรือแม้แต่ตลาดในประเทศไทย ผู้บริโภคให้ความสนใจและชื่นชอบรสชาติของผลไม้หน้าร้อนเป็นอย่างมาก magnum Mango yoghurt parfait ถือเป็นรสชาติใหม่ที่แม็กนั่มได้คิดค้นขึ้นมาและเหมาะกับช่วงซัมเมอร์เป็นอย่างมาก ด้วยความสดชื่นของไอศกรีมโยเกิร์ตผสานกับความเปรี้ยวอมหวานของซอสมะม่วง เคลือบด้วยไวท์ช็อกโกแลตจากเบลเยียม หนา กรอบ และ วานิลลาครัมบ์เบิ้ล ถือเป็นความสดชื่นที่ช่วยดับร้อนได้เป็นอย่างดี และเพื่อเป็นการตอกย้ำคอนเซ็ปต์ ฟินให้สุดทุกช่วงเวลากับแม็กนั่ม “Chocolate luxe” เป็นอีกรสชาติที่จะช่วยเติมเต็มท้ายวันให้พิเศษมากกว่าเดิม ด้วยรสสัมผัสนุ่ม เข้มข้นของไอศกรีมช็อกโกแลตผสานกับซอสคุกกี้ ต้องลองชิม เพื่อฟินให้สุดทุกช่วงเวลากันแบบ All day all night ตลอดซัมเมอร์นี้


keyboard_arrow_up